• มอเตอร์เวย์กาญจนบุรี ทำติดท็อปไฟว์เคานต์ดาวน์

    ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 น่าสนใจกับชุดข้อมูลการเคลื่อนที่ของประชากรจากโทรศัพท์มือถือ (Mobility Data) ของสองค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ เอไอเอส และทรู-ดีแทค เปิดเผยจังหวัดที่นักท่องเที่ยวเดินทางช่วงปีใหม่ และใช้งานข้อมูลมือถือ (Data) สูงสุด หากไม่นับกรุงเทพฯ พบว่ามี 3 จังหวัดที่มีการใช้งานมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา กาญจนบุรี และเชียงใหม่

    โดยเอไอเอสเปิดเผยจังหวัดที่มีการใช้งานข้อมูลมือถือสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 2. นครราชสีมา 3. เชียงใหม่ 4. กาญจนบุรี และ 5. ชลบุรี โดยโซเชียลมีเดียที่นิยมใช้งานมากที่สุด ได้แก่ 1. เฟซบุ๊ก 2. ติ๊กต็อก 3. ยูทูบ 4. อินสตาแกรม 5. ไลน์ ด้านทรู-ดีแทค เปิดเผยนักท่องเที่ยวเดินทางและกลับภูมิลำเนาช่วงปีใหม่มากสุด 10 อันดับ คือ 1. นครราชสีมา 2. เพชรบูรณ์ 3. อุบลราชธานี 4. ศรีสะเกษ 5. กาญจนบุรี 6. ขอนแก่น 7. เชียงใหม่ 8. บุรีรัมย์ 9. นครสวรรค์ 10. สุรินทร์

    กล่าวถึงจังหวัดกาญจนบุรี แม้จะไม่ได้จัดงานเคานต์ดาวน์อย่างยิ่งใหญ่ แบบชนิดที่ว่าประชันกันระดับประเทศ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร จากปกติเปิดเฉพาะด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก (ถนนมาลัยแมน) ถึงด่านกาญจนบุรีเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างนนทบุรีและปทุมธานีสนใจทดลองใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก

    นับตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2567 ถึง 2 ม.ค. 2568 พบว่าช่วงบางใหญ่-นครปฐม มีปริมาณการจราจรรวม 276,316 คัน ส่วนช่วงนครปฐม-กาญจนบุรี มีปริมาณการจราจรรวม 219,181 คัน แบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนเพชรเกษม ช่วง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้ถึง 23% และถนนแสงชูโต ช่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้ถึง 43% ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี คาดการณ์ว่าเทศกาลปีใหม่ 2568 จะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ที่ช่วยลดเวลาการเดินทาง รวมทั้งอากาศเย็น 16-18 องศาเซลเซียส

    อย่างไรก็ตาม ในการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ระยะแรก เกิดการจราจรติดขัดบริเวณแยกวังสารภี ซึ่งรับรถมาจากด่านกาญจนบุรี รวมทั้งยังมีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกวังสารภีและแยกแก่งเสี้ยน คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2570 ส่วนกรมทางหลวงเปิดใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 81 ชั่วคราว ระหว่างด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ถึงด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 51 กิโลเมตร ทุกวันศุกร์ เวลา 15.00 น. ถึงวันจันทร์ เวลา 12.00 น. จนกว่างานระบบ O&M จะแล้วเสร็จ

    #Newskit
    มอเตอร์เวย์กาญจนบุรี ทำติดท็อปไฟว์เคานต์ดาวน์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 น่าสนใจกับชุดข้อมูลการเคลื่อนที่ของประชากรจากโทรศัพท์มือถือ (Mobility Data) ของสองค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ เอไอเอส และทรู-ดีแทค เปิดเผยจังหวัดที่นักท่องเที่ยวเดินทางช่วงปีใหม่ และใช้งานข้อมูลมือถือ (Data) สูงสุด หากไม่นับกรุงเทพฯ พบว่ามี 3 จังหวัดที่มีการใช้งานมากที่สุด ได้แก่ นครราชสีมา กาญจนบุรี และเชียงใหม่ โดยเอไอเอสเปิดเผยจังหวัดที่มีการใช้งานข้อมูลมือถือสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1. กรุงเทพมหานคร 2. นครราชสีมา 3. เชียงใหม่ 4. กาญจนบุรี และ 5. ชลบุรี โดยโซเชียลมีเดียที่นิยมใช้งานมากที่สุด ได้แก่ 1. เฟซบุ๊ก 2. ติ๊กต็อก 3. ยูทูบ 4. อินสตาแกรม 5. ไลน์ ด้านทรู-ดีแทค เปิดเผยนักท่องเที่ยวเดินทางและกลับภูมิลำเนาช่วงปีใหม่มากสุด 10 อันดับ คือ 1. นครราชสีมา 2. เพชรบูรณ์ 3. อุบลราชธานี 4. ศรีสะเกษ 5. กาญจนบุรี 6. ขอนแก่น 7. เชียงใหม่ 8. บุรีรัมย์ 9. นครสวรรค์ 10. สุรินทร์ กล่าวถึงจังหวัดกาญจนบุรี แม้จะไม่ได้จัดงานเคานต์ดาวน์อย่างยิ่งใหญ่ แบบชนิดที่ว่าประชันกันระดับประเทศ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวมาเยือนอย่างมหาศาล ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96 กิโลเมตร จากปกติเปิดเฉพาะด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก (ถนนมาลัยแมน) ถึงด่านกาญจนบุรีเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลอย่างนนทบุรีและปทุมธานีสนใจทดลองใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก นับตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2567 ถึง 2 ม.ค. 2568 พบว่าช่วงบางใหญ่-นครปฐม มีปริมาณการจราจรรวม 276,316 คัน ส่วนช่วงนครปฐม-กาญจนบุรี มีปริมาณการจราจรรวม 219,181 คัน แบ่งเบาปริมาณจราจรบนถนนเพชรเกษม ช่วง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้ถึง 23% และถนนแสงชูโต ช่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ได้ถึง 43% ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี คาดการณ์ว่าเทศกาลปีใหม่ 2568 จะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเป็นผลมาจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ที่ช่วยลดเวลาการเดินทาง รวมทั้งอากาศเย็น 16-18 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตาม ในการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ระยะแรก เกิดการจราจรติดขัดบริเวณแยกวังสารภี ซึ่งรับรถมาจากด่านกาญจนบุรี รวมทั้งยังมีการก่อสร้างสะพานข้ามแยกวังสารภีและแยกแก่งเสี้ยน คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2570 ส่วนกรมทางหลวงเปิดใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 81 ชั่วคราว ระหว่างด่านนครปฐมฝั่งตะวันตก ถึงด่านกาญจนบุรี ระยะทาง 51 กิโลเมตร ทุกวันศุกร์ เวลา 15.00 น. ถึงวันจันทร์ เวลา 12.00 น. จนกว่างานระบบ O&M จะแล้วเสร็จ #Newskit
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศร้า! เด็กนักเรียนชาย 5 ขวบ เหยื่อข้าราชการเกษียณ อดีตเกษตรจังหวัดโคราช เมาแล้วขับ ชนอาการโคม่า ล่าสุด ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจแล้ว ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รวมเสียชีวิต 2 ศพ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000125166

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เศร้า! เด็กนักเรียนชาย 5 ขวบ เหยื่อข้าราชการเกษียณ อดีตเกษตรจังหวัดโคราช เมาแล้วขับ ชนอาการโคม่า ล่าสุด ทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจแล้ว ที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา รวมเสียชีวิต 2 ศพ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000125166 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Like
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1330 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ประชาชนเดินทางกลับบ้านปีใหม่ต่อเนื่อง ภาพมุมสูงสภาพการจราจรถนน 304 จากภาคตะวันออกมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ผ่านโคราชปริมาณรถหนาแน่น ชะลอตัวเป็นช่วงๆ ขณะถนนมิตรภาพมีปริมาณรถเยอะต่อเนื่อง แต่รถยังเคลื่อนตัวได้ดี คาดช่วงเย็นและคืนนี้ติดหนัก

    วันนี้ ( 28 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรผ่านพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีประชาชนจำนวนมาก ทยอยเดินทางกลับไปฉลองช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2568 กันอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 304 เดินทางจากจังหวัดทางภาคตะวันออก ผ่าน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มา อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพื่อมุ่งหน้าไปจังหวัดทางภาคอีสาน ซึ่งมีปริมาณรถค่อนข้างมาก แต่ยังเคลื่อนตัวได้ดี มีชะลอตัวเป็นช่วงๆ เพราะสภาพทางลาดชัน ขึ้น-ลงเขา โดยเฉพาะช่วงทางโค้งฉลาดปรุ รอยต่อเขต ต.วังน้ำเขียว กับ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ปริมาณรถหนาแน่น เคลื่อนตัวได้ช้า เนื่องจากเป็นช่วงทางโค้งที่มีความลาดชันสูง ทำให้ต้องชะลอความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่

    ส่วนบรรยากาศบริเวณถนนมิตรภาพ ช่วงผ่าน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าไป จ.ขอนแก่นและ จังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน พบว่า ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา ประชาชนที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครและ จังหวัดทางภาคตะวันออก แห่เดินทางกลับไปฉลองปีใหม่ในจังหวัดทางภาคอีสานกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณรถหนาแน่นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านส้ม อ.โนนสูง ต้องมาช่วยอำนวยการจราจรเร่งระบายรถไม่ให้ติดสะสม โดยเฉพาะในช่วงที่มีทางร่วม-ทางแยก และช่วงที่มีปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีประชาชนบางส่วนได้แวะพักรถ-พักคนภายในปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางตลอดทั้งคืน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000124692

    #MGROnline #ถนน304 #ตะวันออก #อีสาน
    ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ประชาชนเดินทางกลับบ้านปีใหม่ต่อเนื่อง ภาพมุมสูงสภาพการจราจรถนน 304 จากภาคตะวันออกมุ่งหน้าสู่ภาคอีสาน ผ่านโคราชปริมาณรถหนาแน่น ชะลอตัวเป็นช่วงๆ ขณะถนนมิตรภาพมีปริมาณรถเยอะต่อเนื่อง แต่รถยังเคลื่อนตัวได้ดี คาดช่วงเย็นและคืนนี้ติดหนัก • วันนี้ ( 28 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรผ่านพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีประชาชนจำนวนมาก ทยอยเดินทางกลับไปฉลองช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ 2568 กันอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เส้นทางถนนทางหลวงหมายเลข 304 เดินทางจากจังหวัดทางภาคตะวันออก ผ่าน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มา อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เพื่อมุ่งหน้าไปจังหวัดทางภาคอีสาน ซึ่งมีปริมาณรถค่อนข้างมาก แต่ยังเคลื่อนตัวได้ดี มีชะลอตัวเป็นช่วงๆ เพราะสภาพทางลาดชัน ขึ้น-ลงเขา โดยเฉพาะช่วงทางโค้งฉลาดปรุ รอยต่อเขต ต.วังน้ำเขียว กับ ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ปริมาณรถหนาแน่น เคลื่อนตัวได้ช้า เนื่องจากเป็นช่วงทางโค้งที่มีความลาดชันสูง ทำให้ต้องชะลอความเร็วและเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ • ส่วนบรรยากาศบริเวณถนนมิตรภาพ ช่วงผ่าน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าไป จ.ขอนแก่นและ จังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน พบว่า ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมา ประชาชนที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานครและ จังหวัดทางภาคตะวันออก แห่เดินทางกลับไปฉลองปีใหม่ในจังหวัดทางภาคอีสานกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ปริมาณรถหนาแน่นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงบ้านส้ม อ.โนนสูง ต้องมาช่วยอำนวยการจราจรเร่งระบายรถไม่ให้ติดสะสม โดยเฉพาะในช่วงที่มีทางร่วม-ทางแยก และช่วงที่มีปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีประชาชนบางส่วนได้แวะพักรถ-พักคนภายในปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทางตลอดทั้งคืน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000124692 • #MGROnline #ถนน304 #ตะวันออก #อีสาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมทางหลวงชนบท ชวนนักท่องเที่ยวเยือนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย แวะกางเต็นท์รับลมชมดาว ริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนสาย นม.3052 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

    นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท โดยหมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว สังกัดแขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ชวนนักท่องเที่ยวเยือนอีสาน สัมผัสอากาศหนาวเย็น พร้อมจัดบริการพื้นที่กางเต็นท์ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนทางหลวงชนบทสาย นม.3052 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

    อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นดั่งสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยความสวยงามทางธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพงหรืออ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 ที่ใสสะอาดสะท้อนกับฉากหลังสีเขียวจากหุบเขาน้อยใหญ่สลับกับพื้นที่ลาดชันที่รายล้อมโดยรอบ จึงเกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีหมอกบาง ๆ ลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำและปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งเหมาะแก่การแวะพักเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ หมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว จึงได้จัดเตรียมพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000124209

    #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท #อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง
    กรมทางหลวงชนบท ชวนนักท่องเที่ยวเยือนสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย แวะกางเต็นท์รับลมชมดาว ริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนสาย นม.3052 อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา • นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า กรมทางหลวงชนบท โดยหมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว สังกัดแขวงทางหลวงชนบทนครราชสีมา ชวนนักท่องเที่ยวเยือนอีสาน สัมผัสอากาศหนาวเย็น พร้อมจัดบริการพื้นที่กางเต็นท์ฟรีสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง บนถนนทางหลวงชนบทสาย นม.3052 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา • อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นดั่งสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยความสวยงามทางธรรมชาติของอ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพงหรืออ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 1 ที่ใสสะอาดสะท้อนกับฉากหลังสีเขียวจากหุบเขาน้อยใหญ่สลับกับพื้นที่ลาดชันที่รายล้อมโดยรอบ จึงเกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะในช่วงเช้าจะมีหมอกบาง ๆ ลอยอยู่เหนืออ่างเก็บน้ำและปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นที่ ซึ่งเหมาะแก่การแวะพักเพื่อดื่มด่ำบรรยากาศเป็นอย่างมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศ หมวดบำรุงทางหลวงชนบทวังน้ำเขียว จึงได้จัดเตรียมพื้นที่ริมอ่างเก็บน้ำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000124209 • #MGROnline #กรมทางหลวงชนบท #อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวร้ายโทลล์เวย์ขึ้นราคา ข่าวดีเคาะมอเตอร์เวย์ M5

    แม้ว่าทางด่วนอัปยศอย่างทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ผู้ประกอบการขึ้นราคาตามสัญญาสัมปทาน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2567 ช่วงดินแดง-ดอนเมือง จาก 80 เป็น 90 บาท รถมากกว่า 4 ล้อ จาก 110 เป็น 120 บาท และช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน จาก 35 เป็น 40 บาท มากกว่า 4 ล้อ จาก 45 เป็น 50 บาท จะเรียกเสียงบ่นแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน แต่วันที่ 22 ธ.ค.2572 หรืออีก 5 ปีข้างหน้าจะขึ้นราคาอีกรอบ ช่วงดินแดง-ดอนเมือง จาก 90 เป็น 100 บาท รถมากกว่า 4 ล้อ จาก 120 เป็น 130 บาท และช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน จาก 40 เป็น 45 บาท มากกว่า 4 ล้อ จาก 50 เป็น 55 บาท

    สัญญาสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์เป็นที่วิจารณ์จากสังคมถึงการขูดเลือดขูดเนื้อผู้ใช้รถใช้ถนน เริ่มต้นเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2532 สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน เป็นนายกรัฐมนตรี และมีนายมนตรี พงษ์พานิช เป็น รมว.คมนาคม เดิมมีอายุ 25 ปี ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2532 ถึง 20 ส.ค.2557 แต่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงหลายรัฐบาล ฉบับล่าสุดเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และมี พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ เป็น รมว.คมนาคม ขยายสัมปทาน 27 ปี ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.2550 ถึง 11 ก.ย.2577 เพื่อแลกกับการยกเลิกแผนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเอกชน

    ที่ผ่านมากรมทางหลวงพยายามไม่เก็บค่าผ่านทางช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิต เพื่อบรรเทาเสียงด่าจากประชาชน ส่งผลทำให้กลายเป็นด่านร้าง มาถึงยุคนี้แม้มีความพยายามจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม จะเจรจากับนายสมบัติ พานิชชีวะ เจ้าของบริษัทดอนเมืองโทลล์เวย์ ให้ลดค่าผ่านทางเพื่อแลกกับการต่อสัญญาสัมปทาน แต่เจอเสียงก่นด่าจากสังคมว่าเอื้อประโยชน์ให้เอกชนอีกแล้วหรือ ในที่สุดกรมทางหลวงจึงประกาศว่าไม่ลดราคาเพราะไม่คุ้มทุน ยอมให้สัมปทานหมดแล้วทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของกรมทางหลวง ระหว่างนั้นเริ่มศึกษารูปแบบบริหารตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ไปด้วย

    จากข่าวร้ายมาถึงข่าวดี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2567 มีมติอนุมัติโครงการลงทุนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 5 รังสิต-บางปะอินของกรมทางหลวง ในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ประเภท Gross Cost วงเงินลงทุนรวม 79,916.78 ล้านบาท ระยะทาง 22 กิโลเมตร เริ่มต้นจากปลายทางยกระดับอุตราภิมุข บริเวณโรงกษาปณ์ สิ้นสุดโครงการบริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีทางขึ้น-ลง 7 จุด และปลายทางเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา คาดว่าลงนามสัญญาปี 2569 เปิดให้บริการปี 2572

    #Newskit
    ข่าวร้ายโทลล์เวย์ขึ้นราคา ข่าวดีเคาะมอเตอร์เวย์ M5 แม้ว่าทางด่วนอัปยศอย่างทางยกระดับอุตราภิมุข หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ผู้ประกอบการขึ้นราคาตามสัญญาสัมปทาน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2567 ช่วงดินแดง-ดอนเมือง จาก 80 เป็น 90 บาท รถมากกว่า 4 ล้อ จาก 110 เป็น 120 บาท และช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน จาก 35 เป็น 40 บาท มากกว่า 4 ล้อ จาก 45 เป็น 50 บาท จะเรียกเสียงบ่นแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน แต่วันที่ 22 ธ.ค.2572 หรืออีก 5 ปีข้างหน้าจะขึ้นราคาอีกรอบ ช่วงดินแดง-ดอนเมือง จาก 90 เป็น 100 บาท รถมากกว่า 4 ล้อ จาก 120 เป็น 130 บาท และช่วงดอนเมือง-อนุสรณ์สถาน จาก 40 เป็น 45 บาท มากกว่า 4 ล้อ จาก 50 เป็น 55 บาท สัญญาสัมปทานดอนเมืองโทลล์เวย์เป็นที่วิจารณ์จากสังคมถึงการขูดเลือดขูดเนื้อผู้ใช้รถใช้ถนน เริ่มต้นเมื่อวันที่ 21 ส.ค.2532 สมัยรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน เป็นนายกรัฐมนตรี และมีนายมนตรี พงษ์พานิช เป็น รมว.คมนาคม เดิมมีอายุ 25 ปี ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2532 ถึง 20 ส.ค.2557 แต่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงหลายรัฐบาล ฉบับล่าสุดเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และมี พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ เป็น รมว.คมนาคม ขยายสัมปทาน 27 ปี ตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย.2550 ถึง 11 ก.ย.2577 เพื่อแลกกับการยกเลิกแผนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเอกชน ที่ผ่านมากรมทางหลวงพยายามไม่เก็บค่าผ่านทางช่วงอนุสรณ์สถาน-รังสิต เพื่อบรรเทาเสียงด่าจากประชาชน ส่งผลทำให้กลายเป็นด่านร้าง มาถึงยุคนี้แม้มีความพยายามจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม จะเจรจากับนายสมบัติ พานิชชีวะ เจ้าของบริษัทดอนเมืองโทลล์เวย์ ให้ลดค่าผ่านทางเพื่อแลกกับการต่อสัญญาสัมปทาน แต่เจอเสียงก่นด่าจากสังคมว่าเอื้อประโยชน์ให้เอกชนอีกแล้วหรือ ในที่สุดกรมทางหลวงจึงประกาศว่าไม่ลดราคาเพราะไม่คุ้มทุน ยอมให้สัมปทานหมดแล้วทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของกรมทางหลวง ระหว่างนั้นเริ่มศึกษารูปแบบบริหารตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ไปด้วย จากข่าวร้ายมาถึงข่าวดี ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2567 มีมติอนุมัติโครงการลงทุนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 5 รังสิต-บางปะอินของกรมทางหลวง ในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน (PPP) ประเภท Gross Cost วงเงินลงทุนรวม 79,916.78 ล้านบาท ระยะทาง 22 กิโลเมตร เริ่มต้นจากปลายทางยกระดับอุตราภิมุข บริเวณโรงกษาปณ์ สิ้นสุดโครงการบริเวณทางแยกต่างระดับบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา มีทางขึ้น-ลง 7 จุด และปลายทางเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา คาดว่าลงนามสัญญาปี 2569 เปิดให้บริการปี 2572 #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 463 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครชัยแอร์เปิดนครสวรรค์ เชื่อมเหนือ-กทม.-ตะวันออก

    นับตั้งแต่ที่กลุ่มของนายคีรี กาญจนพาสน์ รับช่วงต่อกิจการเดินรถ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด จากครอบครัววงศ์เบญจรัตน์ มาตั้งแต่ปี 2566 ได้พยายามเปลี่ยนแปลงรูปแบบการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เปิดสาขานครราชสีมา พร้อมกับห้องรับรองผู้โดยสาร เปิดให้สำรองที่นั่งช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และเปิดบริการรถเชื่อมต่อจากอุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ สกลนคร ไปชลบุรี อ่าวอุดม พัทยา และระยอง โดยเปลี่ยนรถที่นครราชสีมา

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2567 เปิดสาขานครสวรรค์ อยู่ในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมกับห้องรับรองผู้โดยสาร และเปิดให้สำรองที่นั่งช่วงกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ 5 เที่ยว รวมทั้งผู้โดยสารจากนครสวรรค์สามารถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หรือไปยังปลายทางภาคเหนือ ได้แก่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เด่นชัย ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ งาว ม.พะเยา พะเยา แม่ใจ พาน เชียงราย และภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี อ่าวอุดม พัทยา บ้านฉาง ระยอง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00​ ถึง 02.30 น.

    อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นรถเป็นรถผ่านเข้ารับ สำรองที่นั่งได้ทาง Call Center 1624 เปิดเวลา 07.00-22.00 น. หรือ NCA Social Booking ผ่านไลน์และเฟซบุ๊ก เปิดเวลา 09.00-18.00 น. และเคาน์เตอร์นครชัยแอร์ทุกสาขา เปิดเวลา 08.00-22.00 น. ส่วนบางเส้นทางต้องซื้อวันต่อวันเท่านั้น ที่หน้าช่องขายตั๋วก่อนรถออก 1 ชั่วโมง

    กรุงเทพฯ ไปนครสวรรค์ มีเที่ยวเวลา 08.30, 09.00 (First Class), 10.00 (First Class), 18.30 และ 20.31 น. ส่วนนครสวรรค์ไปกรุงเทพฯ มีเที่ยวเวลา 14.05 (First Class), 15.15, 16.37 (First Class), 01.55 และ 02.50 น. ค่าโดยสาร Gold Class 252 บาท และ First Class 336 บาท

    นครสวรรค์ไปชลบุรี อ่าวอุดม พัทยา บ้านฉาง ระยอง มีเที่ยวเวลา 11.00, 23.40, 23.45, 01.18, 01.51 และ 02.48 น. ค่าโดยสาร Gold Class ไประยอง 458 บาท ไปชลบุรี อ่าวอุดม พัทยา 372 บาท

    นครสวรรค์ไปเชียงใหม่ มีเที่ยวเวลา 12.05, 13.45 (First Class), 22.05, 23.56, 00.00 และ 01.00 น. ค่าโดยสาร Gold Class 473 บาท และ First Class 630 บาท

    นครสวรรค์ไปเชียงราย มีเที่ยวเวลา 00.30 น. ค่าโดยสาร 536 บาท

    นครสวรรค์ไปลำปาง มีเที่ยวเวลา 12.52 (First Class), 00.00 และ 01.00 น. ค่าโดยสาร Gold Class 385 บาท และ First Class 504 บาท

    นครสวรรค์ไปอุตรดิตถ์ มีเที่ยวเวลา 00.00, 00.30, 01.00 และ 03.00 น. ค่าโดยสาร Gold Class 254 บาท

    นครสวรรค์ไปพิษณุโลก มีเที่ยวเวลา 15.50, 00.00, 00.30, 01.00 และ 01.55 น. ค่าโดยสาร Gold Class 147 บาท

    #Newskit
    นครชัยแอร์เปิดนครสวรรค์ เชื่อมเหนือ-กทม.-ตะวันออก นับตั้งแต่ที่กลุ่มของนายคีรี กาญจนพาสน์ รับช่วงต่อกิจการเดินรถ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด จากครอบครัววงศ์เบญจรัตน์ มาตั้งแต่ปี 2566 ได้พยายามเปลี่ยนแปลงรูปแบบการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เปิดสาขานครราชสีมา พร้อมกับห้องรับรองผู้โดยสาร เปิดให้สำรองที่นั่งช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา และเปิดบริการรถเชื่อมต่อจากอุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ สกลนคร ไปชลบุรี อ่าวอุดม พัทยา และระยอง โดยเปลี่ยนรถที่นครราชสีมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2567 เปิดสาขานครสวรรค์ อยู่ในสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมกับห้องรับรองผู้โดยสาร และเปิดให้สำรองที่นั่งช่วงกรุงเทพฯ-นครสวรรค์ 5 เที่ยว รวมทั้งผู้โดยสารจากนครสวรรค์สามารถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ หรือไปยังปลายทางภาคเหนือ ได้แก่ พิษณุโลก อุตรดิตถ์ เด่นชัย ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ งาว ม.พะเยา พะเยา แม่ใจ พาน เชียงราย และภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี อ่าวอุดม พัทยา บ้านฉาง ระยอง เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00​ ถึง 02.30 น. อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นรถเป็นรถผ่านเข้ารับ สำรองที่นั่งได้ทาง Call Center 1624 เปิดเวลา 07.00-22.00 น. หรือ NCA Social Booking ผ่านไลน์และเฟซบุ๊ก เปิดเวลา 09.00-18.00 น. และเคาน์เตอร์นครชัยแอร์ทุกสาขา เปิดเวลา 08.00-22.00 น. ส่วนบางเส้นทางต้องซื้อวันต่อวันเท่านั้น ที่หน้าช่องขายตั๋วก่อนรถออก 1 ชั่วโมง กรุงเทพฯ ไปนครสวรรค์ มีเที่ยวเวลา 08.30, 09.00 (First Class), 10.00 (First Class), 18.30 และ 20.31 น. ส่วนนครสวรรค์ไปกรุงเทพฯ มีเที่ยวเวลา 14.05 (First Class), 15.15, 16.37 (First Class), 01.55 และ 02.50 น. ค่าโดยสาร Gold Class 252 บาท และ First Class 336 บาท นครสวรรค์ไปชลบุรี อ่าวอุดม พัทยา บ้านฉาง ระยอง มีเที่ยวเวลา 11.00, 23.40, 23.45, 01.18, 01.51 และ 02.48 น. ค่าโดยสาร Gold Class ไประยอง 458 บาท ไปชลบุรี อ่าวอุดม พัทยา 372 บาท นครสวรรค์ไปเชียงใหม่ มีเที่ยวเวลา 12.05, 13.45 (First Class), 22.05, 23.56, 00.00 และ 01.00 น. ค่าโดยสาร Gold Class 473 บาท และ First Class 630 บาท นครสวรรค์ไปเชียงราย มีเที่ยวเวลา 00.30 น. ค่าโดยสาร 536 บาท นครสวรรค์ไปลำปาง มีเที่ยวเวลา 12.52 (First Class), 00.00 และ 01.00 น. ค่าโดยสาร Gold Class 385 บาท และ First Class 504 บาท นครสวรรค์ไปอุตรดิตถ์ มีเที่ยวเวลา 00.00, 00.30, 01.00 และ 03.00 น. ค่าโดยสาร Gold Class 254 บาท นครสวรรค์ไปพิษณุโลก มีเที่ยวเวลา 15.50, 00.00, 00.30, 01.00 และ 01.55 น. ค่าโดยสาร Gold Class 147 บาท #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ปูนบำเหน็จ ตำรวจ รองสารวัตรจราจร โคราชเหยื่อลุงเมาซิ่ง ซีอาร์วี ชน เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่หน้าโรงเรียน เผยเพิ่มเงินเดือน 3 ขั้น และปูนบำเหน็จ 3 ชั้นยศ จาก “ร.ต.ท” เป็น “พ.ต.ท” ส่วนผู้ขับขี่ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก โทษจำคุก 3-10 ปี และ ค้านประกันตัว

    วันนี้ ( 24 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุ นายสมศักดิ์ อาศรัยจ้าว อายุ 75 ปี ข้าราชการเกษียณ ซึ่งรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ ทะเบียน ขง 2408 นครราชสีมา พุ่งชนตำรวจจราจร เด็กนักเรียน ผู้ปกครอง แม่ค้า ประชาชนและรถยนต์คันอื่นๆ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนโรงเรียนบ้านดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคลา ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ ร.ต.ท.วิมุตต์ แทนสุโพธิ์ อายุ 57 ปี รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา และ มีผู้บาดเจ็บอีก 9 คน เป็นแม่ค้า 1 คน ผู้ปกครอง 4 คน และ เด็กนักเรียนอีก 4 คน ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ซึ่ง ผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นายสมศักดิ์คนขับรถพบว่าสูงถึง 197 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 23 ธ.ค.) นั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000123395

    #MGROnline #นครราชสีมา #ปูนบำเหน็จ #ตำรวจ #รองสารวัตรจราจร #โคราช #เหยื่อลุงเมาซิ่ง
    ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ปูนบำเหน็จ ตำรวจ รองสารวัตรจราจร โคราชเหยื่อลุงเมาซิ่ง ซีอาร์วี ชน เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่หน้าโรงเรียน เผยเพิ่มเงินเดือน 3 ขั้น และปูนบำเหน็จ 3 ชั้นยศ จาก “ร.ต.ท” เป็น “พ.ต.ท” ส่วนผู้ขับขี่ตำรวจแจ้งข้อหาหนัก โทษจำคุก 3-10 ปี และ ค้านประกันตัว • วันนี้ ( 24 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุ นายสมศักดิ์ อาศรัยจ้าว อายุ 75 ปี ข้าราชการเกษียณ ซึ่งรถยนต์ ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์ ทะเบียน ขง 2408 นครราชสีมา พุ่งชนตำรวจจราจร เด็กนักเรียน ผู้ปกครอง แม่ค้า ประชาชนและรถยนต์คันอื่นๆ ที่บริเวณหน้าโรงเรียนโรงเรียนบ้านดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคลา ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ ร.ต.ท.วิมุตต์ แทนสุโพธิ์ อายุ 57 ปี รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา และ มีผู้บาดเจ็บอีก 9 คน เป็นแม่ค้า 1 คน ผู้ปกครอง 4 คน และ เด็กนักเรียนอีก 4 คน ในจำนวนนี้มีเด็กนักเรียนได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย ซึ่ง ผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์นายสมศักดิ์คนขับรถพบว่าสูงถึง 197 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกิดเหตุเมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 23 ธ.ค.) นั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000123395 • #MGROnline #นครราชสีมา #ปูนบำเหน็จ #ตำรวจ #รองสารวัตรจราจร #โคราช #เหยื่อลุงเมาซิ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 271 มุมมอง 0 รีวิว
  • จังหวะนรก ก่อนถึงความสูญเสีย

    อุบัติเหตุรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน พุ่งชนตำรวจจราจร ประชาชน และนักเรียนที่กำลังเลิกเรียน บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคลา ต.หัวทะเล อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 23 ธ.ค. 2567 เป็นเหตุให้ ร.ต.ท.วิมุต แท่นสุโพธิ์ รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา เสียชีวิต บาดเจ็บอีก 9 คน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ถูกชนได้รับความเสียหายนับสิบคัน คนขับรถคันดังกล่าวคือ นายธเนศ อาศรัยเจ้า สภาพมึนเมาพูดคุยไม่รู้เรื่อง เมื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบพุ่งสูงขึ้นถึง 194 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

    เหตุการณ์นี้นอกจากจะเกิดความสูญเสียที่เป็นผลมาจากเมาแล้วขับโดยตรงแล้ว อาจเป็นจังหวะนรกของคนบางกลุ่ม

    เพราะเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2567 ตัวแทนภาคเอกชน 14 องค์กรในจังหวัดนครราชสีมาเข้าพบ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อมอบกระเช้าแสดงความยินดี และหารือเรื่องความเดือดร้อนของผู้ประกอบการสถานบันเทิง ร้านอาหาร และประชาชนในพื้นที่ อ้างว่ามาตรการการตั้งด่านทำให้ประชาชนไม่กล้าออกมาใช้บริการ เศรษฐกิจในพื้นที่ซบเซา ซึ่ง พล.ต.ท.วัฒนา รับปากว่าจะกำชับให้ลดตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ แต่ให้เน้นการตั้งด่านบนถนนสายหลักเพื่อป้องกันอาชญากรรม และสิ่งของผิดกฎหมายเท่านั้น

    จากโศกนาฎกรรมดังกล่าว ทำให้เฟซบุ๊กเพจ "เพื่อนตำรวจ" กระบอกเสียงของตำรวจชั้นผู้น้อย ระบุว่า ผู้ประกอบการเพิ่งตบเท้าเข้าพบ ผบช.ภาค 3 ให้ลดการตั้งด่านเมาเเล้วขับ โดยอ้างเหตุผลว่าเศรษฐกิจซบเซาเพราะตำรวจตั้งด่านกวดขัน วันนี้ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา เสียชีวิตเพราะคนเมาเเล้วขับ 14 องค์กรภาคเอกชนจะรับผิดชอบยังไง?

    จังหวะนรกก่อนหน้านี้ เมื่อเช้าวันที่ 1 ต.ค. 2567 สมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด ยื่นข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรีให้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหารถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะระเบียบของกรมการขนส่งทางบกที่กำหนดให้รถตู้โดยสารที่มีอายุ 13 ปี จะต้องเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสทั้งหมด ซึ่งผู้ประกอบการรถตู้มองว่าไม่คุ้มทุน จากต้นทุนเชื้อเพลิงของรถมินิบัสสูงกว่ารถตู้ แต่คนที่ใช้บริการเป็นประจำทราบดีว่า รถตู้ส่วนหนึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิง

    ปรากฎว่า ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน เกิดโศกนาฎกรรมเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาบนถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ จ.ปทุมธานี ทำให้นักเรียนและครูเสียชีวิต 23 ราย ภายหลังสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า สาเหตุมาจากการรั่วไกลของก๊าซเอ็นจีวีบริเวณส่วนหน้าของรถ และพบว่ามีการติดถังถังก๊าซเอ็นจีวีมากกว่าที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด

    #Newskit
    จังหวะนรก ก่อนถึงความสูญเสีย อุบัติเหตุรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน พุ่งชนตำรวจจราจร ประชาชน และนักเรียนที่กำลังเลิกเรียน บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคลา ต.หัวทะเล อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา เมื่อเวลา 16.15 น. วันที่ 23 ธ.ค. 2567 เป็นเหตุให้ ร.ต.ท.วิมุต แท่นสุโพธิ์ รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา เสียชีวิต บาดเจ็บอีก 9 คน รถยนต์ รถจักรยานยนต์ถูกชนได้รับความเสียหายนับสิบคัน คนขับรถคันดังกล่าวคือ นายธเนศ อาศรัยเจ้า สภาพมึนเมาพูดคุยไม่รู้เรื่อง เมื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบพุ่งสูงขึ้นถึง 194 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เหตุการณ์นี้นอกจากจะเกิดความสูญเสียที่เป็นผลมาจากเมาแล้วขับโดยตรงแล้ว อาจเป็นจังหวะนรกของคนบางกลุ่ม เพราะเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2567 ตัวแทนภาคเอกชน 14 องค์กรในจังหวัดนครราชสีมาเข้าพบ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เพื่อมอบกระเช้าแสดงความยินดี และหารือเรื่องความเดือดร้อนของผู้ประกอบการสถานบันเทิง ร้านอาหาร และประชาชนในพื้นที่ อ้างว่ามาตรการการตั้งด่านทำให้ประชาชนไม่กล้าออกมาใช้บริการ เศรษฐกิจในพื้นที่ซบเซา ซึ่ง พล.ต.ท.วัฒนา รับปากว่าจะกำชับให้ลดตั้งด่านตรวจแอลกอฮอล์ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจ แต่ให้เน้นการตั้งด่านบนถนนสายหลักเพื่อป้องกันอาชญากรรม และสิ่งของผิดกฎหมายเท่านั้น จากโศกนาฎกรรมดังกล่าว ทำให้เฟซบุ๊กเพจ "เพื่อนตำรวจ" กระบอกเสียงของตำรวจชั้นผู้น้อย ระบุว่า ผู้ประกอบการเพิ่งตบเท้าเข้าพบ ผบช.ภาค 3 ให้ลดการตั้งด่านเมาเเล้วขับ โดยอ้างเหตุผลว่าเศรษฐกิจซบเซาเพราะตำรวจตั้งด่านกวดขัน วันนี้ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา เสียชีวิตเพราะคนเมาเเล้วขับ 14 องค์กรภาคเอกชนจะรับผิดชอบยังไง? จังหวะนรกก่อนหน้านี้ เมื่อเช้าวันที่ 1 ต.ค. 2567 สมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด ยื่นข้อเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรีให้แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหารถโดยสารสาธารณะ โดยเฉพาะระเบียบของกรมการขนส่งทางบกที่กำหนดให้รถตู้โดยสารที่มีอายุ 13 ปี จะต้องเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสทั้งหมด ซึ่งผู้ประกอบการรถตู้มองว่าไม่คุ้มทุน จากต้นทุนเชื้อเพลิงของรถมินิบัสสูงกว่ารถตู้ แต่คนที่ใช้บริการเป็นประจำทราบดีว่า รถตู้ส่วนหนึ่งใช้ก๊าซธรรมชาติเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิง ปรากฎว่า ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน เกิดโศกนาฎกรรมเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาบนถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ จ.ปทุมธานี ทำให้นักเรียนและครูเสียชีวิต 23 ราย ภายหลังสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า สาเหตุมาจากการรั่วไกลของก๊าซเอ็นจีวีบริเวณส่วนหน้าของรถ และพบว่ามีการติดถังถังก๊าซเอ็นจีวีมากกว่าที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุโมงค์ผาเสด็จ เปิดแบบไม่ได้ตั้งใจ

    แม้การเปิดใช้อุโมงค์ผาเสด็จและอุโมงค์หินลับ อ.แก่งคอย และ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จะต้องเลื่อนออกไป จากเดิมเปิดใช้เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2567 ก่อนที่จะยกเลิกเพราะปัญหาฝุ่นฟุ้งกระจาย แล้วให้รถไฟทุกขบวนใช้ทางรถไฟเดิมทั้งหมด แต่เมื่อคืนวันที่ 15 ธ.ค. 2567 เวลา 21.25 น. เกิดอุบัติเหตุขบวนรถสินค้าที่ 512 หินลับ-เชียงรากน้อย ตกรางที่สถานีผาเสด็จ กีดขวางการเดินรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ปลายทางนครราชสีมา หนองคาย และอุบลราชธานีทั้งหมด เดิมการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้อ้อมไปใช้ทางรถไฟชุมทางแก่งคอย-ชุมทางบัวใหญ่-นครราชสีมา ทำให้ขบวนรถถึงปลายทางล่าช้าประมาณ 3 ชั่วโมง

    แต่ปรากฎว่าเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. 2567 การรถไฟฯ ประกาศเปลี่ยนเส้นทางขบวนรถใช้อุโมงค์ผาเสด็จเป็นการชั่วคราว เหตุขบวนรถสินค้าตกรางขวางเส้นทางเดินรถ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ผลก็คือขบวนรถโดยสารและขบวนรถสินค้าสายอีสานทุกขบวน ได้มีโอกาสใช้อุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับอย่างไม่ได้ตั้งใจ เสียงสะท้อนจากผู้ใช้บริการรถไฟหลายคนระบุว่าไม่เห็นฝุ่น หากเปิดใช้งานเป็นประจำทุกวันฝุ่นก็จะจางลง ดีกว่าปิดอุโมงค์แล้วมีฝุ่นสะสม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทั้งสองอุโมงค์อยู่ระหว่างปรับปรุงระบบและทดสอบการแก้ปัญหาฝุ่นภายในอุโมงค์

    ก่อนหน้านี้การรถไฟฯ มีแผนจะเปิดใช้ทั้งสองอุโมงค์อีกครั้งในวันที่ 12 ส.ค. 2567 แต่ปรากฎว่ายังคงมีกลิ่นควันที่เกิดจากไอเสียของเครื่องยนต์ ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดใช้อุโมงค์ออกไปเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แม้จะมีแผนเปิดใช้ในวันที่ 3 ธ.ค. 2567 แต่ก็เลื่อนออกไปอีก อย่างไรก็ตาม การเปิดใช้อุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับเป็นการชั่วคราว หากเดินทางด้วยตู้โดยสารพัดลม ชั้น 2 และชั้น 3 แนะนำให้สวมใส่หน้ากากอนามัยที่กันฝุ่น PM 2.5 และปิดหน้าต่างเมื่อรถขาออกกรุงเทพฯ ผ่านสถานีมาบกะเบา หรือรถขาเข้ากรุงเทพฯ ผ่านสถานีมวกเหล็ก เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ

    สำหรับอุโมงค์ผาเสด็จ เป็นอุโมงค์รถไฟยาวที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ระหว่างสถานีมาบกะเบากับสถานีหินลับ มีระยะทาง 5.41 กิโลเมตร ลักษณะเป็นอุโมงค์คู่ทางเดี่ยว กว้าง 7.50 เมตร สูง 7 เมตร ส่วนอุโมงค์หินลับ ตั้งอยู่ระหว่างสถานีหินลับกับสถานีมวกเหล็ก เป็นอุโมงค์เดี่ยวทางคู่ ระยะทาง 265 เมตร กว้าง 11 เมตร สูง 7.30 เมตร อยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2561 ปัจจุบันโครงการยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากรอการเวนคืนที่ดิน บริเวณทางลงทางรถไฟยกระดับของสถานีมวกเหล็กใหม่

    #Newskit
    อุโมงค์ผาเสด็จ เปิดแบบไม่ได้ตั้งใจ แม้การเปิดใช้อุโมงค์ผาเสด็จและอุโมงค์หินลับ อ.แก่งคอย และ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี จะต้องเลื่อนออกไป จากเดิมเปิดใช้เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2567 ก่อนที่จะยกเลิกเพราะปัญหาฝุ่นฟุ้งกระจาย แล้วให้รถไฟทุกขบวนใช้ทางรถไฟเดิมทั้งหมด แต่เมื่อคืนวันที่ 15 ธ.ค. 2567 เวลา 21.25 น. เกิดอุบัติเหตุขบวนรถสินค้าที่ 512 หินลับ-เชียงรากน้อย ตกรางที่สถานีผาเสด็จ กีดขวางการเดินรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ปลายทางนครราชสีมา หนองคาย และอุบลราชธานีทั้งหมด เดิมการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้อ้อมไปใช้ทางรถไฟชุมทางแก่งคอย-ชุมทางบัวใหญ่-นครราชสีมา ทำให้ขบวนรถถึงปลายทางล่าช้าประมาณ 3 ชั่วโมง แต่ปรากฎว่าเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. 2567 การรถไฟฯ ประกาศเปลี่ยนเส้นทางขบวนรถใช้อุโมงค์ผาเสด็จเป็นการชั่วคราว เหตุขบวนรถสินค้าตกรางขวางเส้นทางเดินรถ จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง ผลก็คือขบวนรถโดยสารและขบวนรถสินค้าสายอีสานทุกขบวน ได้มีโอกาสใช้อุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับอย่างไม่ได้ตั้งใจ เสียงสะท้อนจากผู้ใช้บริการรถไฟหลายคนระบุว่าไม่เห็นฝุ่น หากเปิดใช้งานเป็นประจำทุกวันฝุ่นก็จะจางลง ดีกว่าปิดอุโมงค์แล้วมีฝุ่นสะสม อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันทั้งสองอุโมงค์อยู่ระหว่างปรับปรุงระบบและทดสอบการแก้ปัญหาฝุ่นภายในอุโมงค์ ก่อนหน้านี้การรถไฟฯ มีแผนจะเปิดใช้ทั้งสองอุโมงค์อีกครั้งในวันที่ 12 ส.ค. 2567 แต่ปรากฎว่ายังคงมีกลิ่นควันที่เกิดจากไอเสียของเครื่องยนต์ ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดใช้อุโมงค์ออกไปเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แม้จะมีแผนเปิดใช้ในวันที่ 3 ธ.ค. 2567 แต่ก็เลื่อนออกไปอีก อย่างไรก็ตาม การเปิดใช้อุโมงค์ผาเสด็จ และอุโมงค์หินลับเป็นการชั่วคราว หากเดินทางด้วยตู้โดยสารพัดลม ชั้น 2 และชั้น 3 แนะนำให้สวมใส่หน้ากากอนามัยที่กันฝุ่น PM 2.5 และปิดหน้าต่างเมื่อรถขาออกกรุงเทพฯ ผ่านสถานีมาบกะเบา หรือรถขาเข้ากรุงเทพฯ ผ่านสถานีมวกเหล็ก เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ สำหรับอุโมงค์ผาเสด็จ เป็นอุโมงค์รถไฟยาวที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ระหว่างสถานีมาบกะเบากับสถานีหินลับ มีระยะทาง 5.41 กิโลเมตร ลักษณะเป็นอุโมงค์คู่ทางเดี่ยว กว้าง 7.50 เมตร สูง 7 เมตร ส่วนอุโมงค์หินลับ ตั้งอยู่ระหว่างสถานีหินลับกับสถานีมวกเหล็ก เป็นอุโมงค์เดี่ยวทางคู่ ระยะทาง 265 เมตร กว้าง 11 เมตร สูง 7.30 เมตร อยู่ในโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2561 ปัจจุบันโครงการยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากรอการเวนคืนที่ดิน บริเวณทางลงทางรถไฟยกระดับของสถานีมวกเหล็กใหม่ #Newskit
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 512 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อกระเทียมพริกไทย ยุคใหม่แบรนด์เกียกกาย

    สินค้ายอดนิยมที่จำหน่ายในงานกาชาด ของสภากาชาดไทย เป็นประจำทุกปี คือ เนื้อกระเทียมพริกไทย ของกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก โดยปกติจะใช้สนับสนุนให้กับหน่วยงานของกองทัพบกในการปฏิบัติภารกิจเท่านั้น ไม่ได้ผลิตเพื่อจำหน่าย ฉลากเป็นกระดาษมันสีเหลืองเข้มและเขียว มาถึงปี 2567 จำหน่ายในรูปโฉมใหม่ สกรีนกระป๋องอย่างดีสีแดง ภายใต้แบรนด์เกียกกาย SINCE 1943 พร้อมข้อความ "สูตรดั้งเดิม เสบียงทหาร" ผลิตโดย บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด ของกลุ่มไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป โรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร

    แม้จะมีน้ำหนักสุทธิ 120 กรัมต่อกระป๋องเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่างของกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก กับแบรนด์เกียกกาย ที่ผลิตโดยโรงงานไทยรวมสิน ก็คือราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 55 บาทเป็น 70 บาท และปริมาณลดลงจากเดิมเนื้อ 85 กรัม เครื่องปรุงรสและน้ำ 35 กรัม ประกอบด้วย กระเทียม พริกไทย น้ำมันถั่วเหลือง และเกลือ กลายเป็นน้ำหนักเนื้อ 72 กรัม ส่วนประกอบโดยประมาณ เนื้อวัว 60% ซอสกระเทียมพริกไทย 40% (น้ำ กระเทียม น้ำมันถั่วเหลือง ผงพริกไทยขาว เกลือบริโภคไม่เสริมไอโอดีน และผงกระเทียม) ส่วนอายุการเก็บรักษา 2 ปีเช่นเดิม

    สิ่งที่เพิ่มเติมบนกระป๋องก็คือ ข้อมูลโภชนาการ 1 กระป๋องให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี่ ไขมันทั้งหมด 2 กรัม (3%) ไขมันอิ่มตัว 1 กรัม (5%) คอเลสเตอรอล 60 มิลลิกรัม (20%) โปรตีน 26 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0 กรัม (0%) น้ำตาลทั้งหมด 0 กรัม โซเดียม 480 มิลลิกรัม (24%) และโพแทสเซียม 260 มิลลิกรัม (7%) สำหรับตัวเลข 1943 หรือ พ.ศ.2486 คาดว่าเป็นเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทหารไทยบริโภคเนื้อกระเทียมพริกไทย ในช่วงกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา

    เมื่อเปิดกระป๋องจะพบกับเนื้อวัวในน้ำปรุงรสกระเทียมพริกไทย หากใครไม่ชอบไขมันที่ลอยมา สามารถนำไปใส่ภาชนะแล้วอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟก่อนรับประทานได้ รสชาติเค็มๆ มันๆ สามารถเติมพริกและกระเทียมซอยเพื่อเพิ่มรสชาติ หรือนำไปปรุงอาหาร เช่น ผัดกะเพราเนื้อ หรือเติมลงในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ได้เช่นกัน

    สำหรับกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก มีโรงงานผลิตเสบียง ผลิตอาหารออกมาได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัดอเมริกัน เนื้อวัวทากระเทียมพริกไทย เนื้อนกกระจอกเทศทากระเทียมพริกไทย เนื้อไก่งวงทากระเทียมพริกไทย และไก่ทากระเทียมพริกไทย เป็นต้น ได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาล เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2546 สามารถผลิตเสบียงกระป๋องภายใต้เครื่องหมายฮาลาลถึง 40 รายการ (61 ผลิตภัณฑ์) ปัจจุบันโรงงานตั้งอยู่ที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

    #Newskit
    เนื้อกระเทียมพริกไทย ยุคใหม่แบรนด์เกียกกาย สินค้ายอดนิยมที่จำหน่ายในงานกาชาด ของสภากาชาดไทย เป็นประจำทุกปี คือ เนื้อกระเทียมพริกไทย ของกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก โดยปกติจะใช้สนับสนุนให้กับหน่วยงานของกองทัพบกในการปฏิบัติภารกิจเท่านั้น ไม่ได้ผลิตเพื่อจำหน่าย ฉลากเป็นกระดาษมันสีเหลืองเข้มและเขียว มาถึงปี 2567 จำหน่ายในรูปโฉมใหม่ สกรีนกระป๋องอย่างดีสีแดง ภายใต้แบรนด์เกียกกาย SINCE 1943 พร้อมข้อความ "สูตรดั้งเดิม เสบียงทหาร" ผลิตโดย บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด ของกลุ่มไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป โรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร แม้จะมีน้ำหนักสุทธิ 120 กรัมต่อกระป๋องเหมือนกัน แต่ความแตกต่างระหว่างของกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก กับแบรนด์เกียกกาย ที่ผลิตโดยโรงงานไทยรวมสิน ก็คือราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 55 บาทเป็น 70 บาท และปริมาณลดลงจากเดิมเนื้อ 85 กรัม เครื่องปรุงรสและน้ำ 35 กรัม ประกอบด้วย กระเทียม พริกไทย น้ำมันถั่วเหลือง และเกลือ กลายเป็นน้ำหนักเนื้อ 72 กรัม ส่วนประกอบโดยประมาณ เนื้อวัว 60% ซอสกระเทียมพริกไทย 40% (น้ำ กระเทียม น้ำมันถั่วเหลือง ผงพริกไทยขาว เกลือบริโภคไม่เสริมไอโอดีน และผงกระเทียม) ส่วนอายุการเก็บรักษา 2 ปีเช่นเดิม สิ่งที่เพิ่มเติมบนกระป๋องก็คือ ข้อมูลโภชนาการ 1 กระป๋องให้พลังงาน 130 กิโลแคลอรี่ ไขมันทั้งหมด 2 กรัม (3%) ไขมันอิ่มตัว 1 กรัม (5%) คอเลสเตอรอล 60 มิลลิกรัม (20%) โปรตีน 26 กรัม คาร์โบไฮเดรต 0 กรัม (0%) น้ำตาลทั้งหมด 0 กรัม โซเดียม 480 มิลลิกรัม (24%) และโพแทสเซียม 260 มิลลิกรัม (7%) สำหรับตัวเลข 1943 หรือ พ.ศ.2486 คาดว่าเป็นเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง ที่ทหารไทยบริโภคเนื้อกระเทียมพริกไทย ในช่วงกรณีพิพาทอินโดจีนและสงครามมหาเอเชียบูรพา เมื่อเปิดกระป๋องจะพบกับเนื้อวัวในน้ำปรุงรสกระเทียมพริกไทย หากใครไม่ชอบไขมันที่ลอยมา สามารถนำไปใส่ภาชนะแล้วอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟก่อนรับประทานได้ รสชาติเค็มๆ มันๆ สามารถเติมพริกและกระเทียมซอยเพื่อเพิ่มรสชาติ หรือนำไปปรุงอาหาร เช่น ผัดกะเพราเนื้อ หรือเติมลงในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ได้เช่นกัน สำหรับกองเกียกกาย กรมพลาธิการทหารบก มีโรงงานผลิตเสบียง ผลิตอาหารออกมาได้หลายเมนู เช่น ข้าวผัดอเมริกัน เนื้อวัวทากระเทียมพริกไทย เนื้อนกกระจอกเทศทากระเทียมพริกไทย เนื้อไก่งวงทากระเทียมพริกไทย และไก่ทากระเทียมพริกไทย เป็นต้น ได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาล เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2546 สามารถผลิตเสบียงกระป๋องภายใต้เครื่องหมายฮาลาลถึง 40 รายการ (61 ผลิตภัณฑ์) ปัจจุบันโรงงานตั้งอยู่ที่ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 0 รีวิว
  • นปส.นครราชสีมา รวบ 4 พ่อค้ายาขนยาบ้า4,000,000 เม็ด รับจากบึงกาฬส่งสระบุรี โดยมีนายทุนสั่งการจาก สปป.ลาว เตรียมสืบขยายผลต่อ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000117594

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นปส.นครราชสีมา รวบ 4 พ่อค้ายาขนยาบ้า4,000,000 เม็ด รับจากบึงกาฬส่งสระบุรี โดยมีนายทุนสั่งการจาก สปป.ลาว เตรียมสืบขยายผลต่อ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000117594 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1168 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทีดี ตะวันแดง" ฟ้องหมิ่นอดีตพาร์ทเนอร์ "ร้านถูกดี" อ้างใส่ความทำให้เสียหาย
    .
    บริษัท ทีดี ตะวันแดง จํากัด ฟ้องอดีตพาร์ทเนอร์หมิ่นประมาทและข้อหาอื่นๆ หลังนำผู้เสียหาย 270 รายร้องเรียนดีเอสไอ พร้อมเรียกค่าเสียหายร้านค้า 7 รายแรกที่ขายนอก POS และไม่นำส่งเงินยอดขาย อ้างระบบ POS มีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และยังคงมีพาร์ทเนอร์ดำเนินธุรกิจกว่า 3,000 ราย พร้อมวอนสื่อหลีกเลี่ยงเผยแพร่ข่าวที่อ้างว่าเป็นข้อมูลเท็จ
    .
    วันนี้ (4 ธ.ค.) จากกรณีที่มีผู้เสียหายจากการร่วมธุรกิจเป็นพาร์ทเนอร์ร้านโชห่วยที่ชื่อว่า "ร้านถูกดี มีมาตรฐาน" ของบริษัท ทีดี ตะวันแดง จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งในกลุ่มบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ประมาณ 270 ราย ร้องเรียนต่อมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ว่ามีปัญหาหลายประการ ทั้งระบบขัดข้องคิดบิลซ้อนกัน 2 ใบใน 2 วินาที ถูกแจ้งว่าสินค้าหายไปจากสต็อก ถูกเรียกเก็บเงินย้อนหลัง บังคับให้ต้องสต็อกสินค้าเข้าร้านตามที่บริษัทกำหนด ต้องทำยอดขายให้ได้ 1 หมื่นบาทต่อวัน ต้องเปิดร้านตั้งแต่ 07.00-20.00 น. ทุกวัน และต้องส่งเงินเข้าบริษัทภายในเวลาทุกคืน ทำให้ถูกบริษัทฯ ริบเงินประกัน 200,000 บาท ถูกยกเลิกสัญญา และเป็นคดีความ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท และได้พาไปร้องเรียนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา
    .
    ล่าสุด บริษัท ทีดี ตะวันแดง จํากัด ออกแถลงการณ์กรณีการกล่าวอ้างข้อมูลเท็จเกี่ยวกับ “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน" ฉบับที่ 2 ระบุว่า ตามที่มีกลุ่มบุคคลรวมตัวร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีการกล่าวหาว่าบริษัทฯ หลอกลวงให้ร่วมลงทุนในธุรกิจร้านโชห่วยจนเกิดความเสียหาย และมีการเผยแพร่ข่าวสารผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดีย จนทําให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง สร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” และก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจและชื่อเสียงของบริษัทฯ นั้น
    .
    บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯ ดําเนินการร้านค้าถูกดี มีมาตรฐาน กับผู้ประกอบการ (พาร์ทเนอร์) โดยทําสัญญาว่า บริษัทฯ ตกลงจัดส่งสินค้าไปให้พาร์ทเนอร์วางจําหน่าย จัดหาอุปกรณ์ที่ใช้ในร้านและระบบการจัดการร้านค้าให้พาร์ทเนอร์ โดยมิได้เรียกเก็บค่าแรกเข้าและยังไม่ต้องชําระค่าสินค้า ทําให้พาร์ทเนอร์มีสินค้าจําหน่ายโดยไม่ต้องลงทุนค่าสินค้า การขายสินค้าทุกรายการต้องทําผ่านเครื่องคิดเงินอัตโนมัติ (POS) ของบริษัทฯ เพื่อบันทึกประวัติการขาย ยอดขาย และจํานวนสินค้าคงเหลือให้ถูกต้อง และพาร์ทเนอร์จะนําส่งเงินรับจากการขายให้บริษัทฯ ภายในวันทําการธนาคารถัดไป จากนั้นทุกสิ้นเดือน บริษัทฯ จะสรุปรายได้จากการขายหักด้วยต้นทุนสินค้า และโอนส่วนกําไร 85% ให้พาร์ทเนอร์ และบริษัทฯ ได้รับค่าตอบแทน 15% ของกําไร พาร์ทเนอร์ในฐานะเจ้าของร้านค้า และบริษัทฯ ต่างมีหน้าที่ชําระภาษีตามกฎหมาย
    .
    ระบบที่ใช้บริหารจัดการในร้านค้าเป็นระบบที่มีมาตรฐาน มีการจัดเก็บข้อมูลการใช้งาน สามารถทวนสอบได้ ในการทํารายการต่างๆ ต้องผ่านเครื่องคิดเงินอัตโนมัติ (POS) ซึ่งตั้งอยู่ที่ร้านค้าของพาร์ทเนอร์ และต้องใช้รหัสผ่านส่วนตัวของพาร์ทเนอร์สําหรับการเข้าใช้งานเท่านั้น
    .
    บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ ดําเนินธุรกิจด้วยความสุจริตมาตั้งแต่ปี 2561 และยังคงดําเนินธุรกิจกับพาร์ทเนอร์กว่า 3,000 ราย ด้วยรูปแบบการดําเนินธุรกิจเดียวกัน ข้อกล่าวอ้างของกลุ่มบุคคลที่ใส่ความบริษัทฯ ดังกล่าว เป็นการกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยและปราศจากมูลความจริง การใส่ความบริษัทฯ ผ่านสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อธุรกิจ ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านถูกดี มีมาตรฐาน
    .
    ดังนั้น เพื่อปกป้องชื่อเสียงและสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ บริษัทฯ ได้แจ้งความดําเนินคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทและข้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว รวมทั้งเรียกค่าเสียหายจากผลกระทบทางธุรกิจและการเสื่อมเสียชื่อเสียงกับกลุ่มบุคคลที่ใส่ความบริษัทฯ 7 รายแรก เช่น ร้านค้าในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอื่นที่ปรากฏหลักฐานขายนอกโพสต์จํานวนมาก จนสินค้าสูญหายมูลค่ากว่า 160,000 บาท ถึงเกือบ 400,000 บาท ร้านค้าในจังหวัดกําแพงเพชรและจังหวัดอื่น ที่ไม่นําส่งเงินรับจากการขายให้บริษัทฯ มูลค่าความเสียหายกว่า 50,000 บาทถึงกว่า 100,000 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างดําเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดําเนินคดีกับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องหรือกรณีการกระทําผิดอื่น เพื่อปกป้องชื่อเสียงและสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และเพื่อป้องปรามมิให้เกิดการกระทําอันเป็นการละเมิดสิทธิของบริษัทฯ ต่อไป
    .
    บริษัทฯ ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและบุคคลทั่วไปในการหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ หรือสนับสนุนข้อมูลเท็จดังกล่าว เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลที่มุ่งสร้างความเสียหายแก่บริษัทฯ
    ..............
    Sondhi X
    "ทีดี ตะวันแดง" ฟ้องหมิ่นอดีตพาร์ทเนอร์ "ร้านถูกดี" อ้างใส่ความทำให้เสียหาย . บริษัท ทีดี ตะวันแดง จํากัด ฟ้องอดีตพาร์ทเนอร์หมิ่นประมาทและข้อหาอื่นๆ หลังนำผู้เสียหาย 270 รายร้องเรียนดีเอสไอ พร้อมเรียกค่าเสียหายร้านค้า 7 รายแรกที่ขายนอก POS และไม่นำส่งเงินยอดขาย อ้างระบบ POS มีมาตรฐาน ตรวจสอบได้ และยังคงมีพาร์ทเนอร์ดำเนินธุรกิจกว่า 3,000 ราย พร้อมวอนสื่อหลีกเลี่ยงเผยแพร่ข่าวที่อ้างว่าเป็นข้อมูลเท็จ . วันนี้ (4 ธ.ค.) จากกรณีที่มีผู้เสียหายจากการร่วมธุรกิจเป็นพาร์ทเนอร์ร้านโชห่วยที่ชื่อว่า "ร้านถูกดี มีมาตรฐาน" ของบริษัท ทีดี ตะวันแดง จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งในกลุ่มบริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG ประมาณ 270 ราย ร้องเรียนต่อมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ว่ามีปัญหาหลายประการ ทั้งระบบขัดข้องคิดบิลซ้อนกัน 2 ใบใน 2 วินาที ถูกแจ้งว่าสินค้าหายไปจากสต็อก ถูกเรียกเก็บเงินย้อนหลัง บังคับให้ต้องสต็อกสินค้าเข้าร้านตามที่บริษัทกำหนด ต้องทำยอดขายให้ได้ 1 หมื่นบาทต่อวัน ต้องเปิดร้านตั้งแต่ 07.00-20.00 น. ทุกวัน และต้องส่งเงินเข้าบริษัทภายในเวลาทุกคืน ทำให้ถูกบริษัทฯ ริบเงินประกัน 200,000 บาท ถูกยกเลิกสัญญา และเป็นคดีความ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท และได้พาไปร้องเรียนกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา . ล่าสุด บริษัท ทีดี ตะวันแดง จํากัด ออกแถลงการณ์กรณีการกล่าวอ้างข้อมูลเท็จเกี่ยวกับ “ร้านถูกดี มีมาตรฐาน" ฉบับที่ 2 ระบุว่า ตามที่มีกลุ่มบุคคลรวมตัวร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยมีการกล่าวหาว่าบริษัทฯ หลอกลวงให้ร่วมลงทุนในธุรกิจร้านโชห่วยจนเกิดความเสียหาย และมีการเผยแพร่ข่าวสารผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดีย จนทําให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง สร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการร้าน “ถูกดี มีมาตรฐาน” และก่อให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจและชื่อเสียงของบริษัทฯ นั้น . บริษัทฯ ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯ ดําเนินการร้านค้าถูกดี มีมาตรฐาน กับผู้ประกอบการ (พาร์ทเนอร์) โดยทําสัญญาว่า บริษัทฯ ตกลงจัดส่งสินค้าไปให้พาร์ทเนอร์วางจําหน่าย จัดหาอุปกรณ์ที่ใช้ในร้านและระบบการจัดการร้านค้าให้พาร์ทเนอร์ โดยมิได้เรียกเก็บค่าแรกเข้าและยังไม่ต้องชําระค่าสินค้า ทําให้พาร์ทเนอร์มีสินค้าจําหน่ายโดยไม่ต้องลงทุนค่าสินค้า การขายสินค้าทุกรายการต้องทําผ่านเครื่องคิดเงินอัตโนมัติ (POS) ของบริษัทฯ เพื่อบันทึกประวัติการขาย ยอดขาย และจํานวนสินค้าคงเหลือให้ถูกต้อง และพาร์ทเนอร์จะนําส่งเงินรับจากการขายให้บริษัทฯ ภายในวันทําการธนาคารถัดไป จากนั้นทุกสิ้นเดือน บริษัทฯ จะสรุปรายได้จากการขายหักด้วยต้นทุนสินค้า และโอนส่วนกําไร 85% ให้พาร์ทเนอร์ และบริษัทฯ ได้รับค่าตอบแทน 15% ของกําไร พาร์ทเนอร์ในฐานะเจ้าของร้านค้า และบริษัทฯ ต่างมีหน้าที่ชําระภาษีตามกฎหมาย . ระบบที่ใช้บริหารจัดการในร้านค้าเป็นระบบที่มีมาตรฐาน มีการจัดเก็บข้อมูลการใช้งาน สามารถทวนสอบได้ ในการทํารายการต่างๆ ต้องผ่านเครื่องคิดเงินอัตโนมัติ (POS) ซึ่งตั้งอยู่ที่ร้านค้าของพาร์ทเนอร์ และต้องใช้รหัสผ่านส่วนตัวของพาร์ทเนอร์สําหรับการเข้าใช้งานเท่านั้น . บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ ดําเนินธุรกิจด้วยความสุจริตมาตั้งแต่ปี 2561 และยังคงดําเนินธุรกิจกับพาร์ทเนอร์กว่า 3,000 ราย ด้วยรูปแบบการดําเนินธุรกิจเดียวกัน ข้อกล่าวอ้างของกลุ่มบุคคลที่ใส่ความบริษัทฯ ดังกล่าว เป็นการกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยและปราศจากมูลความจริง การใส่ความบริษัทฯ ผ่านสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อธุรกิจ ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านถูกดี มีมาตรฐาน . ดังนั้น เพื่อปกป้องชื่อเสียงและสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ บริษัทฯ ได้แจ้งความดําเนินคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทและข้อหาอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว รวมทั้งเรียกค่าเสียหายจากผลกระทบทางธุรกิจและการเสื่อมเสียชื่อเสียงกับกลุ่มบุคคลที่ใส่ความบริษัทฯ 7 รายแรก เช่น ร้านค้าในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอื่นที่ปรากฏหลักฐานขายนอกโพสต์จํานวนมาก จนสินค้าสูญหายมูลค่ากว่า 160,000 บาท ถึงเกือบ 400,000 บาท ร้านค้าในจังหวัดกําแพงเพชรและจังหวัดอื่น ที่ไม่นําส่งเงินรับจากการขายให้บริษัทฯ มูลค่าความเสียหายกว่า 50,000 บาทถึงกว่า 100,000 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างดําเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดําเนินคดีกับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องหรือกรณีการกระทําผิดอื่น เพื่อปกป้องชื่อเสียงและสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ และเพื่อป้องปรามมิให้เกิดการกระทําอันเป็นการละเมิดสิทธิของบริษัทฯ ต่อไป . บริษัทฯ ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและบุคคลทั่วไปในการหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ หรือสนับสนุนข้อมูลเท็จดังกล่าว เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลที่มุ่งสร้างความเสียหายแก่บริษัทฯ .............. Sondhi X
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 959 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจ บช.ก. เปิดปฏิบัติการทลายแก๊ง “ไฮบริดสแกม” หลอก-รัก-ลวง-ลงทุน เสียหายนับร้อยล้านบาท

    วันนี้ ( 3 ธ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.ต.ธนนชัยย์ ศรีบุญจันทร์, ว่าที่ พ.ต.ต.ศุภเดช ธนชัยศิริ สว.บก.ปอท. แถลงผลเปิดปฏิบัติการ “Annihilate Hybrid Scam” ทลายแก๊ง หลอก-รัก-ลวง-ลงทุน สร้างความเสียหายกว่า 46 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 20 ราย ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบ, ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันเป็นอั้งยี่” ได้ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่, เชียงราย,มุกดาหาร, สุรินทร์ ,กทม. ,สมุทรปราการ,อุทัยธานี ,นครราชสีมา , กาญจนบุรี,ปราจีนบุรีและ พระนครศรีอยุธยา

    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000116317

    #MGROnline #ไฮบริดสแกม
    ตำรวจ บช.ก. เปิดปฏิบัติการทลายแก๊ง “ไฮบริดสแกม” หลอก-รัก-ลวง-ลงทุน เสียหายนับร้อยล้านบาท • วันนี้ ( 3 ธ.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท.พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผบก.ปอท. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.ต.ธนนชัยย์ ศรีบุญจันทร์, ว่าที่ พ.ต.ต.ศุภเดช ธนชัยศิริ สว.บก.ปอท. แถลงผลเปิดปฏิบัติการ “Annihilate Hybrid Scam” ทลายแก๊ง หลอก-รัก-ลวง-ลงทุน สร้างความเสียหายกว่า 46 ล้านบาท จับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 20 ราย ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบ, ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันเป็นอั้งยี่” ได้ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่, เชียงราย,มุกดาหาร, สุรินทร์ ,กทม. ,สมุทรปราการ,อุทัยธานี ,นครราชสีมา , กาญจนบุรี,ปราจีนบุรีและ พระนครศรีอยุธยา • คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000116317 • #MGROnline #ไฮบริดสแกม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 436 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 ที่เที่ยววังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    วังน้ำเขียวเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครราชศรีมาที่มีพื้นที่เที่ยวดีๆ มากมาย แถมยังมีความหลากหลายที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกแนว ไม่ว่าจะสายถ่ายรูป สายกิน สายธรรมชาติ สายซื้อ สายบุญ หรือสายความรู้ สำหรับใครที่กำลังทำทริปวังน้ำเขียว แล้วไม่รู้จะเที่ยวที่ไหนดี บทความนี้ได้เตรียมรวบรวมที่เที่ยวดีๆ มารอเสิร์ฟไว้แล้ว

    1.เขาแผงม้า
    เขาแผงม้าเป็นอีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาในบริเวณนี้นิยมมาเที่ยวกันมากๆ ยิ่งกับคนที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ถ่ายรูป ส่องสัตว์ยิ่งจะชอบเขาแผงม้าเข้าไปอีก

    จุดเด่น
    บริเวณเขาแผงม้าจะมีรั้วที่ใช้กั้นฝูงกระทิงป่าจากเขตชุมชน ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาก็จะสามารถเข้าชมส่องดูฝูงกระทิงได้ ซึ่งจุดที่ได้รับความนิยม ก็จะเป็นบริเวณจุดสกัดเขาสูง เขาแผงม้า ที่จะสามารถเห็นฝูงกระทิงที่ปัจจุบันมีจำนวนสูงกว่า 300 ตัว ออกมาหากินหญ้าบริเวณทุ่งหญ้ากว้างได้อย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเขาและชมวิวทิวทัศน์ระหว่างรอดูฝูงกระทิงได้อีกด้วย สำหรับคนที่ต้องการนอนค้างคืนกางเตนท์ก็สามารถมาขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ได้

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน มีค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

    วิธีเดินทาง : การเดินทางไปเขาแผงม้า สามารถเดินทางจากอำเภอวังน้ำเขียวมุ่งหน้าเข้าสู่เขาแผงม้า กม.ที่ 83 โดยใช้เส้นทางถนนศาลเจ้าพ่อ-วังหมี แล้วจึงตรงไปอีก 7 กิโลเมตร ก็จะเจอเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะเจอจุดชมกระทิงนี้เอง

    2. ผาเก็บตะวัน
    ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นจุดชมวิวเหนือหน้าผาที่มีธรรมชาติสวยงามและนิยมมาถ่ายภาพ เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ คือ ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกอ่อนๆ และยังอาจจะได้เห็นคนท้องถิ่นจำนวนมากมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการปิกนิกใกล้หน้าผา เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจากส่วนอื่นๆ ของประเทศไทย

    จุดเด่น
    ผาเก็บตะวันมีสายหมอกบางๆ ในยามเช้า ยิ่งในช่วงเวลาบางเดือนของปีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยก็อาจจะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกัน ในวันมีแดดแรงก็จะได้เห็นป่าไม้อันอุมดมสมบูรณ์สีเขียวชอุ่ม หรือจะในช่วงเย็นใกล้อาทิตย์ตกดิน แสงของท้องฟ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูสร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกราวกับอยู่ในนิยายให้ได้เห็นกัน นอกจากชมวิวและถ่ายรูปแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมยิงหนังสติ๊กปลูกป่าที่มีทั้ง เมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน หรือ ลูกลาน

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.00-18.00 น. มีค่าเข้าชมอยู่ที่ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

    วิธีเดินทาง : ผาเก็บตะวันตั้งอยู่ในตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

    3.อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง
    อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง หรือ เขื่อนลำพระเพลิง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ ซึ่งก็จะอยู่ในบริเวณเดียวกับเขาแผงม้าเช่นกันด้วย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค แต่ถูกพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์และถ่ายรูปได้ในภายหลัง

    จุดเด่น
    อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีการพัฒนาให้มีความเป็นสวนสาธารณะมากขึ้น เช่น เลนจักรยานที่ขนานไปกับถนน และ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง สำหรับปั่นจักรยานท่ามกลางวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม มีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุด ตามบริเวณทางเดิน จุดชมวิว และบริเวณหน้า ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมมาในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เพราะจะเป็นช่วงที่แดดไม่แรงและวิวกำลังถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน

    วิธีเดินทาง : สามารถเดินทางผ่านทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) กลับรถเข้าสู่ถนนลาดยางสาย นม. 3060 จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถนนโยธาธิการ ก็จะเจอกับอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง

    4.น้ำตกม่านฟ้า
    น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่สวยงามไหลลงมาจากภูเขา น้ำที่ไหลออกมาจากโขดหินในที่ต่างๆ บuแอ่งน้ำที่สามารถแช่ตัวและคลายร้อนในวันที่อากาศร้อนได้ เป็นหนึ่งในน้ำตกที่หลายคนจะผ่านไปเมื่อมีทริปวังน้ำเขียวกัน

    จุดเด่น
    น้ำตกม่านฟ้าจะมีน้ำมากในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม ผู้คนมักนิยมเดินทางมาชมวิวทิวทัศน์น้ำตกที่ตกจากผาสูง ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งสายธรรมชาติและสายถ่ายรูปนิยมไปที่นี่กันเป็นอย่างมาก

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่อยู่เหนือน้ำตกห้วยใหญ่ ขึ้นไปอีกเพียง 100 เมตร โดยมีทางเดินจากบริเวณน้ำตกห้วยใหญ่ไปได้ เปิดทำการทุกวันในเวลา 06:00 – 18:00

    5.ทุ่งลาเวนเดอร์
    ในบริเวณวังน้ำเขียวยังมีทุ่งดอกไม้ที่มีความพิเศษอย่างมาก เพราะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์แห่งเดียวในเมืองไทย ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและถ่ายภาพได้ เพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้สีม่วงอันแสนงดงาม

    จุดเด่น
    ที่ทุ่งลาเวนเดอร์ก็จะมีจุดเด่นอย่างดอกลาเวนเดอร์ที่สวยงาม ในช่วงเวลาที่แดดอ่อนๆ ส่องสว่างและสายลมพัดผ่านก็จะเป็นวิวทิวทัศน์ที่นำความสงบมาสู่จิตใจได้ไม่น้อย นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิวหรือถ่ายรูป ดื่มด่ำไปกับความงามของโลก โดยช่วงเวลาที่มีดอกไม้ให้ชมก็จะเป็น ปลายมกราคม – มีนาคม

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้บริการเมื่อ 07:00 – 18:00 น. ของทุกวัน

    วิธีเดินทาง : ทุ่งลาเวนเดอร์อยู่ในสวน Chateau Chili
    5 ที่เที่ยววังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา วังน้ำเขียวเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครราชศรีมาที่มีพื้นที่เที่ยวดีๆ มากมาย แถมยังมีความหลากหลายที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกแนว ไม่ว่าจะสายถ่ายรูป สายกิน สายธรรมชาติ สายซื้อ สายบุญ หรือสายความรู้ สำหรับใครที่กำลังทำทริปวังน้ำเขียว แล้วไม่รู้จะเที่ยวที่ไหนดี บทความนี้ได้เตรียมรวบรวมที่เที่ยวดีๆ มารอเสิร์ฟไว้แล้ว 1.เขาแผงม้า เขาแผงม้าเป็นอีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาในบริเวณนี้นิยมมาเที่ยวกันมากๆ ยิ่งกับคนที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ถ่ายรูป ส่องสัตว์ยิ่งจะชอบเขาแผงม้าเข้าไปอีก จุดเด่น บริเวณเขาแผงม้าจะมีรั้วที่ใช้กั้นฝูงกระทิงป่าจากเขตชุมชน ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาก็จะสามารถเข้าชมส่องดูฝูงกระทิงได้ ซึ่งจุดที่ได้รับความนิยม ก็จะเป็นบริเวณจุดสกัดเขาสูง เขาแผงม้า ที่จะสามารถเห็นฝูงกระทิงที่ปัจจุบันมีจำนวนสูงกว่า 300 ตัว ออกมาหากินหญ้าบริเวณทุ่งหญ้ากว้างได้อย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเขาและชมวิวทิวทัศน์ระหว่างรอดูฝูงกระทิงได้อีกด้วย สำหรับคนที่ต้องการนอนค้างคืนกางเตนท์ก็สามารถมาขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ได้ เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน มีค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท วิธีเดินทาง : การเดินทางไปเขาแผงม้า สามารถเดินทางจากอำเภอวังน้ำเขียวมุ่งหน้าเข้าสู่เขาแผงม้า กม.ที่ 83 โดยใช้เส้นทางถนนศาลเจ้าพ่อ-วังหมี แล้วจึงตรงไปอีก 7 กิโลเมตร ก็จะเจอเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะเจอจุดชมกระทิงนี้เอง 2. ผาเก็บตะวัน ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นจุดชมวิวเหนือหน้าผาที่มีธรรมชาติสวยงามและนิยมมาถ่ายภาพ เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ คือ ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกอ่อนๆ และยังอาจจะได้เห็นคนท้องถิ่นจำนวนมากมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการปิกนิกใกล้หน้าผา เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจากส่วนอื่นๆ ของประเทศไทย จุดเด่น ผาเก็บตะวันมีสายหมอกบางๆ ในยามเช้า ยิ่งในช่วงเวลาบางเดือนของปีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยก็อาจจะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกัน ในวันมีแดดแรงก็จะได้เห็นป่าไม้อันอุมดมสมบูรณ์สีเขียวชอุ่ม หรือจะในช่วงเย็นใกล้อาทิตย์ตกดิน แสงของท้องฟ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูสร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกราวกับอยู่ในนิยายให้ได้เห็นกัน นอกจากชมวิวและถ่ายรูปแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมยิงหนังสติ๊กปลูกป่าที่มีทั้ง เมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน หรือ ลูกลาน เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.00-18.00 น. มีค่าเข้าชมอยู่ที่ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท วิธีเดินทาง : ผาเก็บตะวันตั้งอยู่ในตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา 3.อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง หรือ เขื่อนลำพระเพลิง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ ซึ่งก็จะอยู่ในบริเวณเดียวกับเขาแผงม้าเช่นกันด้วย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค แต่ถูกพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์และถ่ายรูปได้ในภายหลัง จุดเด่น อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีการพัฒนาให้มีความเป็นสวนสาธารณะมากขึ้น เช่น เลนจักรยานที่ขนานไปกับถนน และ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง สำหรับปั่นจักรยานท่ามกลางวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม มีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุด ตามบริเวณทางเดิน จุดชมวิว และบริเวณหน้า ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมมาในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เพราะจะเป็นช่วงที่แดดไม่แรงและวิวกำลังถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน วิธีเดินทาง : สามารถเดินทางผ่านทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) กลับรถเข้าสู่ถนนลาดยางสาย นม. 3060 จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถนนโยธาธิการ ก็จะเจอกับอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 4.น้ำตกม่านฟ้า น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่สวยงามไหลลงมาจากภูเขา น้ำที่ไหลออกมาจากโขดหินในที่ต่างๆ บuแอ่งน้ำที่สามารถแช่ตัวและคลายร้อนในวันที่อากาศร้อนได้ เป็นหนึ่งในน้ำตกที่หลายคนจะผ่านไปเมื่อมีทริปวังน้ำเขียวกัน จุดเด่น น้ำตกม่านฟ้าจะมีน้ำมากในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม ผู้คนมักนิยมเดินทางมาชมวิวทิวทัศน์น้ำตกที่ตกจากผาสูง ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งสายธรรมชาติและสายถ่ายรูปนิยมไปที่นี่กันเป็นอย่างมาก เวลาทำการและวิธีเดินทาง น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่อยู่เหนือน้ำตกห้วยใหญ่ ขึ้นไปอีกเพียง 100 เมตร โดยมีทางเดินจากบริเวณน้ำตกห้วยใหญ่ไปได้ เปิดทำการทุกวันในเวลา 06:00 – 18:00 5.ทุ่งลาเวนเดอร์ ในบริเวณวังน้ำเขียวยังมีทุ่งดอกไม้ที่มีความพิเศษอย่างมาก เพราะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์แห่งเดียวในเมืองไทย ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและถ่ายภาพได้ เพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้สีม่วงอันแสนงดงาม จุดเด่น ที่ทุ่งลาเวนเดอร์ก็จะมีจุดเด่นอย่างดอกลาเวนเดอร์ที่สวยงาม ในช่วงเวลาที่แดดอ่อนๆ ส่องสว่างและสายลมพัดผ่านก็จะเป็นวิวทิวทัศน์ที่นำความสงบมาสู่จิตใจได้ไม่น้อย นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิวหรือถ่ายรูป ดื่มด่ำไปกับความงามของโลก โดยช่วงเวลาที่มีดอกไม้ให้ชมก็จะเป็น ปลายมกราคม – มีนาคม เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้บริการเมื่อ 07:00 – 18:00 น. ของทุกวัน วิธีเดินทาง : ทุ่งลาเวนเดอร์อยู่ในสวน Chateau Chili
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 484 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่างศูนย์เบนซ์เผยรถ “พี่อ้อย” ถูกแอบติด GPS จากภายนอก ไม่ใช่ที่ศูนย์ฯ เพราะ “ทนายตั้ม” ซื้อจากเกรย์มาร์เก็ต ระบุหากติดตั้งที่ศูนย์ฯ ต้องมีชื่อผู้ใช้ตรงกับเจ้าของรถ แต่กรณีนี้กลับเป็นชื่อทนายตั้ม แถมระหว่างตัดสัญญาณพบภรรยาทนายตั้มเข้ามาดูพิกัดรถ ตำรวจเรียกช่างมาเป็นพยานแล้ว

    จากกรณี น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศส แจ้งความดำเนินคดีต่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทั้งหมด 4 คดี คือฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาทในการทำแพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์, หลอกให้โอนเงิน 39 ล้านบาท อ้างว่าเพื่อชดเชยความเสียหายจากการโอนเงินคริปโตฯ แทนพี่อ้อย, ฉ้อโกงเงินส่วนต่างค่าซื้อรถเบนซ์ G400d 1.5 ล้านบาท,ฉ้อโกงค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาทนั้น ต่อมายังมีความน่าสงสัยกรณีการติดตั้ง GPS ที่รถเบนซ์ G400d ซึ่งทนายตั้มเป็นคนติดเอง โดยในสัญญาติดตั้ง GPS ใช้ชื่อนายษิทรา ทำสัญญารายปี และมีหลักฐานว่านายษิทราและภรรยาเคยแอบดูข้อมูลการเดินทางของรถเบนซ์คันดังกล่าวของพี่อ้อยด้วย

    ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา รายการทุบโต๊ะข่าว ทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ลูกน้องของพี่อ้อยได้นำรถเบนซ์คันดังกล่าวไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่ง บนถนนพระรามที่ 3 พบว่ารถมีการติดตั้ง GPS ติดตามรถคันนี้ นายษิทราอ้างว่าได้มาจากบริษัทนำเข้ารถยนต์ที่ต่างประเทศ เนื่องจากรถรุ่นนี้หายาก จึงต้องไปซื้อที่ตลาดผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต เพื่อให้พี่อ้อยใช้ เมื่อนำรถไปที่ศูนย์บริการที่ถนนพระรามที่ 3 ซึ่งไม่ใช่ศูนย์ที่ซื้อ เพื่อตรวจสภาพหลังจากได้รับรถคืนจากทนายตั้มและพบว่าเลขไมล์รถสูงหลักหมื่นกิโลเมตร ปรากฎว่าพนักงานแจ้งว่ารถคันนี้ติดตั้ง GPS โดยที่ลูกน้องของพี่อ้อยไม่เคยทราบมาก่อน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000112789

    #MGROnline #GPS #รถเบนซ์ #G400d
    ช่างศูนย์เบนซ์เผยรถ “พี่อ้อย” ถูกแอบติด GPS จากภายนอก ไม่ใช่ที่ศูนย์ฯ เพราะ “ทนายตั้ม” ซื้อจากเกรย์มาร์เก็ต ระบุหากติดตั้งที่ศูนย์ฯ ต้องมีชื่อผู้ใช้ตรงกับเจ้าของรถ แต่กรณีนี้กลับเป็นชื่อทนายตั้ม แถมระหว่างตัดสัญญาณพบภรรยาทนายตั้มเข้ามาดูพิกัดรถ ตำรวจเรียกช่างมาเป็นพยานแล้ว • จากกรณี น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ฝรั่งเศส แจ้งความดำเนินคดีต่อนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ทั้งหมด 4 คดี คือฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาทในการทำแพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์, หลอกให้โอนเงิน 39 ล้านบาท อ้างว่าเพื่อชดเชยความเสียหายจากการโอนเงินคริปโตฯ แทนพี่อ้อย, ฉ้อโกงเงินส่วนต่างค่าซื้อรถเบนซ์ G400d 1.5 ล้านบาท,ฉ้อโกงค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาทนั้น ต่อมายังมีความน่าสงสัยกรณีการติดตั้ง GPS ที่รถเบนซ์ G400d ซึ่งทนายตั้มเป็นคนติดเอง โดยในสัญญาติดตั้ง GPS ใช้ชื่อนายษิทรา ทำสัญญารายปี และมีหลักฐานว่านายษิทราและภรรยาเคยแอบดูข้อมูลการเดินทางของรถเบนซ์คันดังกล่าวของพี่อ้อยด้วย • ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา รายการทุบโต๊ะข่าว ทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34 ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ลูกน้องของพี่อ้อยได้นำรถเบนซ์คันดังกล่าวไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการแห่งหนึ่ง บนถนนพระรามที่ 3 พบว่ารถมีการติดตั้ง GPS ติดตามรถคันนี้ นายษิทราอ้างว่าได้มาจากบริษัทนำเข้ารถยนต์ที่ต่างประเทศ เนื่องจากรถรุ่นนี้หายาก จึงต้องไปซื้อที่ตลาดผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต เพื่อให้พี่อ้อยใช้ เมื่อนำรถไปที่ศูนย์บริการที่ถนนพระรามที่ 3 ซึ่งไม่ใช่ศูนย์ที่ซื้อ เพื่อตรวจสภาพหลังจากได้รับรถคืนจากทนายตั้มและพบว่าเลขไมล์รถสูงหลักหมื่นกิโลเมตร ปรากฎว่าพนักงานแจ้งว่ารถคันนี้ติดตั้ง GPS โดยที่ลูกน้องของพี่อ้อยไม่เคยทราบมาก่อน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000112789 • #MGROnline #GPS #รถเบนซ์ #G400d
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจ “นักเรียนเลว” เผยประเด็นครูกล้อนผมนักเรียนหญิง แม้ทางโรงเรียน เคยย้ำในระเบียบ ว่าครูมีอำนาจในการตัดผมเด็กนักเรียน ซึ่งครูมีสิทธิถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือถูกสอบสวนวินัยได้

    เมื่อวันที่ 19 พ.ย. เพจ “นักเรียนเลว” ได้นำเสนอประเด็นครูกล้อนผมนักเรียนหญิง แม้ทางโรงเรียน เคยย้ำในระเบียบ ว่าครูมีอำนาจในการตัดผมเด็กนักเรียน โดยทางเพจระบุว่า “เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2567 ที่ รร. แห่งหนึ่ง ใน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ครูที่ปรึกษาบังคับนักเรียนหญิงนั่งพื้นปล่อยผม จับตัดผมเรียงคนจนเสียทรง แม้โรงเรียนเคยย้ำในระเบียบว่าครูไม่มีอำนาจตัดผมนักเรียน

    ผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า ครูคนดังกล่าวได้เรียกนักเรียนมาพบในคาบว่าง ครูได้ให้นักเรียนหญิงทุกคนปล่อยผมเพื่อดูความยาว ก่อนใช้อุปกรณ์กรรไกรตัดผมนักเรียนทีละคน โดยไม่มีการแจ้งหรือขออนุญาตล่วงหน้า แม้นักเรียนบางคนเพิ่งตัดผมมาสั้นมากแล้ว ก็ยังถูกบังคับให้ตัดเพิ่มเติม

    นักเรียนคนหนึ่งพยายามปฏิเสธเพราะต้องไปงานสำคัญในเย็นวันนั้น ครูกลับเพิกเฉยต่อเหตุผล และยังกล่าวตำหนิ โยงถึงพ่อแม่ และพฤติกรรมในอดีตของนักเรียนคนนั้น ขณะที่นักเรียนที่เหลือไม่ยินยอมให้ครูตัดผมด้วย

    เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความอับอายและไม่สบายใจแก่ผู้เรียน โดยมีนักเรียนหญิงที่ถูกตัดผมรวมประมาณ 11 - 12 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000111759

    #MGROnline #เพจนักเรียนเลว #กล้อนผม #นักเรียนหญิง
    เพจ “นักเรียนเลว” เผยประเด็นครูกล้อนผมนักเรียนหญิง แม้ทางโรงเรียน เคยย้ำในระเบียบ ว่าครูมีอำนาจในการตัดผมเด็กนักเรียน ซึ่งครูมีสิทธิถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายหรือถูกสอบสวนวินัยได้ • เมื่อวันที่ 19 พ.ย. เพจ “นักเรียนเลว” ได้นำเสนอประเด็นครูกล้อนผมนักเรียนหญิง แม้ทางโรงเรียน เคยย้ำในระเบียบ ว่าครูมีอำนาจในการตัดผมเด็กนักเรียน โดยทางเพจระบุว่า “เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2567 ที่ รร. แห่งหนึ่ง ใน อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา ครูที่ปรึกษาบังคับนักเรียนหญิงนั่งพื้นปล่อยผม จับตัดผมเรียงคนจนเสียทรง แม้โรงเรียนเคยย้ำในระเบียบว่าครูไม่มีอำนาจตัดผมนักเรียน • ผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่า ครูคนดังกล่าวได้เรียกนักเรียนมาพบในคาบว่าง ครูได้ให้นักเรียนหญิงทุกคนปล่อยผมเพื่อดูความยาว ก่อนใช้อุปกรณ์กรรไกรตัดผมนักเรียนทีละคน โดยไม่มีการแจ้งหรือขออนุญาตล่วงหน้า แม้นักเรียนบางคนเพิ่งตัดผมมาสั้นมากแล้ว ก็ยังถูกบังคับให้ตัดเพิ่มเติม • นักเรียนคนหนึ่งพยายามปฏิเสธเพราะต้องไปงานสำคัญในเย็นวันนั้น ครูกลับเพิกเฉยต่อเหตุผล และยังกล่าวตำหนิ โยงถึงพ่อแม่ และพฤติกรรมในอดีตของนักเรียนคนนั้น ขณะที่นักเรียนที่เหลือไม่ยินยอมให้ครูตัดผมด้วย • เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความอับอายและไม่สบายใจแก่ผู้เรียน โดยมีนักเรียนหญิงที่ถูกตัดผมรวมประมาณ 11 - 12 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นนักเรียนที่มีความหลากหลายทางเพศ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000111759 • #MGROnline #เพจนักเรียนเลว #กล้อนผม #นักเรียนหญิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง "ทนายตั้ม" ทำตัวผู้จัดการมรดก ส่อง GPS รถเบนซ์ เปิดแผนลวงเข้าป่า-ล่องแพ
    .
    รายการสนธิเล่าเรื่องเช้านี้ พบทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก เขียนพินัยกรรมเอง ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ พบให้พยานเซ็นเฉพาะหน้าสุดท้าย ไม่คืนคู่ฉบับ ซื้อรถเบนซ์คุณอ้อย ติด GPS ดูทุกความเคลื่อนไหว แถมชักชวนไปเที่ยวไกลๆ ไปเชียงราย แม้กระทั่งไปเขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฎร์ธานี ไม่มีสัญญาณมือถือ ผวาหากตายไปอ้างได้ว่าอุบัติเหตุ สุดท้ายทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองสกัดกั้น
    .
    วันนี้ (20 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไฮไสต์สำคัญอยู่ที่การที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก โดยสรุปดังนี้
    .
    - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มต้องการเป็นผู้จัดการมรดกในการเขียนพินัยกรรม พอได้รับการแต่งตั้งก็พยายามชวนคุณอ้อยไปเที่ยวไกลๆ เช่น เขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครคาดคิด หากคุณอ้อยเสียชีวิต ทนายตั้มจะได้เป็นผู้จัดการมรดก มีอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว แต่โชคดีที่คุณอ้อยไหวตัวทัน
    .
    - ก่อนหน้านี้บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ได้รับว่าจ้างจากคุณอ้อยเดือนละ 300,000 บาทให้เป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ธุรกิจ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นทนายตั้มอาศัยความไว้ใจจากพี่อ้อยช่วยเหลือดำเนินการ เช่น ยกลูกตัวเองคนหนึ่งให้เป็นลูกบุญธรรม แต่ลูกชายคุณอ้อยไม่เห็นด้วย
    .
    - เมื่อรู้ว่าคุณอ้อยร่ำรวยเป็นหมื่นล้านบาท และการศึกษาน้อย ร่ำรวยจากการเสี่ยงโชค คุณอ้อยพลาดตรงที่หาทนายความจากเฟซบุ๊ก เห็นว่าทนายตั้มหน้าตาดี เป็นทนายความเพื่อประชาชน แต่คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ นึกไม่ถึงว่าเป็นคนเลวถึงขนาดนั้น
    .
    - พอได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแค่ 9 วัน ทนายตั้มก็คิดจะฮุบเงินฮุบทอง ทำพินัยกรรมที่สำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม มีทั้งหมด 7 ข้อ โดยมีทนายตั้มเป็นผู้เขียนและพิมพ์พินัยกรรม คุณเดวิดสามีคุณอ้อย และคุณน้อย เป็นพยาน ทีแรกไม่ผิดสังเกต แต่ภายหลังพบว่าทนายตั้มไม่ได้ทำงานสมค่าจ้าง ยกครอบครัวเที่ยวหรูอยู่สบาย รวมทั้งสำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จัดทริปพาพนักงาน 20 คนเที่ยวญี่ปุ่น ก็ขอเงินคุณอ้อยหลายล้านบาท และขอเงินยิบย่อย
    .
    - ผ่านไป 1 ปี คุณอ้อยเห็นว่าทำงานไม่คุ้ม ไม่ไหว เลยยกเลิกสัญญาเป็นที่ปรึกษา แต่ทนายตั้มยังตื้อขอต่อสัญญาอีก 1 ปี พร้อมข้อเสนอการลงทุนตามมา เป็นที่มาของเงิน 2 ล้านยูโร ทำแอปฯ นาคี ต่อด้วยคดีสมคบกับนายนุวัฒน์และ น.ส.สาลินีหลอกลวงว่าถูกแฮกคริปโตฯ สูญ 39 ล้านบาท ฉ้อโกงเขียนแบบโรงแรม และอื่นๆ
    .
    - ทนายตั้มร่างพินัยกรรมคุณอ้อยฉบับใหม่ ทำที่บ้านชีวา ลงวันที่ 7 ส.ค. 2566 แก้ไขจากฉบับแรก แต่พินัยกรรมมีปัญหารายละเอียดสำคัญว่า สินทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศให้ลูกชายคนเดียว แต่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ ติด GPS เอาไว้ โดยทนายตั้มติดเอง แสดงว่าจะตามว่ารถคันนี้ไปที่ไหนบ้าง จึงสงสัยว่าทำไมถึงติด GPS เอาไว้ แต่ทนายตั้มยังโกหก
    .
    - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มเคยชวนไปเชียงราย อ้างว่าทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง แต่ไม่ไปเพราะไกล เป็นห่วงความปลอดภัยของแฟน และไม่ได้รู้จักคนทางโน้น และชวนไปล่องแพที่ภาคใต้ เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่ไปเพราะกลัวเป็นน้ำ ไปลำบากเลยปฎิเสธ ไม่ได้คิดเบื้องหน้าเบื้องหลัง พอรู้จากคนใกล้ชิดก็กลัวว่าอยู่ใต้แพ
    .
    - ในสัญญาติดตั้ง GPS ใช้ชื่อทนายตั้ม ทำสัญญารายปี และมีหลักฐานว่าทนายตั้มแอบดูข้อมูลการเดินทางว่าไปไหนบ้าง เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาหลังมีเรื่อง นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้มยังแอบเข้าไปดู GPS ว่ารถคุณอ้อยเดินทางไปที่ไหน
    .
    - คุณอ้อยและคุณน้อยพบว่า หลังทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 ทนายตั้มยังชักชวนไปเที่ยวแพที่เขื่อนรัชประภา อ้างว่าจะพาไปรู้จักนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งเป็นคนใต้ คือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือโจ๊ก เหมือนกับที่ไปฮ่องกง ไปเจอนายอนุทิน ชาญวีรกุล และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แต่คุณอ้อยไม่อยากไป เพราะไม่อยากลำบาก และไม่อยากรู้จักใคร
    .
    - เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน เหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต ใครจะทำอะไรก็ไม่มีใครรู้ สมมติกรณีที่จัดการกับเจ้าของมรดกก็ไม่มีใครรู้ อ้างได้ว่าอุบัติเหตุทางน้ำ
    .
    - หลังจากทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 คุณอ้อยและคุณน้อยพยายามทวงถามพินัยกรรมคู่ฉบับก็ไม่นำมาให้ กระทั่งแตกหักเรื่องรถเบนซ์ ได้ทำหนังสือทวงถามพินัยกรรม แต่ทนายตั้มตอบกลับว่า ทำลายไปหมดแล้ว ทั้งที่ไม่ได้ถามหรือทำลายต่อหน้า และพบว่าสัญญามีช่องโหว่ อีกทั้งให้ลงนามเฉพาะหน้าสุดท้าย แทนที่จะลงนามสัญญาทุกหน้า เพราะฉะนั้นเป็นพินัยกรรมปลอมและพินัยกรรมสอดไส้
    .
    - ต้นปี 2567 หลังจากคุณอ้อยใจสลาย ก็ได้ยกเลิกพินัยกรรมกับทนายตั้มทุกฉบับ แล้วไปทำพินัยกรรมฝ่ายเมือง จัดทำที่อำเภอ มีเจ้าหน้าที่รัฐรับรอง
    ..............
    Sondhi X
    สนธิเล่าเรื่อง "ทนายตั้ม" ทำตัวผู้จัดการมรดก ส่อง GPS รถเบนซ์ เปิดแผนลวงเข้าป่า-ล่องแพ . รายการสนธิเล่าเรื่องเช้านี้ พบทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก เขียนพินัยกรรมเอง ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ พบให้พยานเซ็นเฉพาะหน้าสุดท้าย ไม่คืนคู่ฉบับ ซื้อรถเบนซ์คุณอ้อย ติด GPS ดูทุกความเคลื่อนไหว แถมชักชวนไปเที่ยวไกลๆ ไปเชียงราย แม้กระทั่งไปเขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฎร์ธานี ไม่มีสัญญาณมือถือ ผวาหากตายไปอ้างได้ว่าอุบัติเหตุ สุดท้ายทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองสกัดกั้น . วันนี้ (20 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไฮไสต์สำคัญอยู่ที่การที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก โดยสรุปดังนี้ . - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มต้องการเป็นผู้จัดการมรดกในการเขียนพินัยกรรม พอได้รับการแต่งตั้งก็พยายามชวนคุณอ้อยไปเที่ยวไกลๆ เช่น เขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครคาดคิด หากคุณอ้อยเสียชีวิต ทนายตั้มจะได้เป็นผู้จัดการมรดก มีอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว แต่โชคดีที่คุณอ้อยไหวตัวทัน . - ก่อนหน้านี้บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ได้รับว่าจ้างจากคุณอ้อยเดือนละ 300,000 บาทให้เป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ธุรกิจ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นทนายตั้มอาศัยความไว้ใจจากพี่อ้อยช่วยเหลือดำเนินการ เช่น ยกลูกตัวเองคนหนึ่งให้เป็นลูกบุญธรรม แต่ลูกชายคุณอ้อยไม่เห็นด้วย . - เมื่อรู้ว่าคุณอ้อยร่ำรวยเป็นหมื่นล้านบาท และการศึกษาน้อย ร่ำรวยจากการเสี่ยงโชค คุณอ้อยพลาดตรงที่หาทนายความจากเฟซบุ๊ก เห็นว่าทนายตั้มหน้าตาดี เป็นทนายความเพื่อประชาชน แต่คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ นึกไม่ถึงว่าเป็นคนเลวถึงขนาดนั้น . - พอได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแค่ 9 วัน ทนายตั้มก็คิดจะฮุบเงินฮุบทอง ทำพินัยกรรมที่สำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม มีทั้งหมด 7 ข้อ โดยมีทนายตั้มเป็นผู้เขียนและพิมพ์พินัยกรรม คุณเดวิดสามีคุณอ้อย และคุณน้อย เป็นพยาน ทีแรกไม่ผิดสังเกต แต่ภายหลังพบว่าทนายตั้มไม่ได้ทำงานสมค่าจ้าง ยกครอบครัวเที่ยวหรูอยู่สบาย รวมทั้งสำนักงาน ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จัดทริปพาพนักงาน 20 คนเที่ยวญี่ปุ่น ก็ขอเงินคุณอ้อยหลายล้านบาท และขอเงินยิบย่อย . - ผ่านไป 1 ปี คุณอ้อยเห็นว่าทำงานไม่คุ้ม ไม่ไหว เลยยกเลิกสัญญาเป็นที่ปรึกษา แต่ทนายตั้มยังตื้อขอต่อสัญญาอีก 1 ปี พร้อมข้อเสนอการลงทุนตามมา เป็นที่มาของเงิน 2 ล้านยูโร ทำแอปฯ นาคี ต่อด้วยคดีสมคบกับนายนุวัฒน์และ น.ส.สาลินีหลอกลวงว่าถูกแฮกคริปโตฯ สูญ 39 ล้านบาท ฉ้อโกงเขียนแบบโรงแรม และอื่นๆ . - ทนายตั้มร่างพินัยกรรมคุณอ้อยฉบับใหม่ ทำที่บ้านชีวา ลงวันที่ 7 ส.ค. 2566 แก้ไขจากฉบับแรก แต่พินัยกรรมมีปัญหารายละเอียดสำคัญว่า สินทรัพย์ที่อยู่ต่างประเทศให้ลูกชายคนเดียว แต่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ ติด GPS เอาไว้ โดยทนายตั้มติดเอง แสดงว่าจะตามว่ารถคันนี้ไปที่ไหนบ้าง จึงสงสัยว่าทำไมถึงติด GPS เอาไว้ แต่ทนายตั้มยังโกหก . - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มเคยชวนไปเชียงราย อ้างว่าทำบุญที่วัดห้วยปลากั้ง แต่ไม่ไปเพราะไกล เป็นห่วงความปลอดภัยของแฟน และไม่ได้รู้จักคนทางโน้น และชวนไปล่องแพที่ภาคใต้ เขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานี แต่ไม่ไปเพราะกลัวเป็นน้ำ ไปลำบากเลยปฎิเสธ ไม่ได้คิดเบื้องหน้าเบื้องหลัง พอรู้จากคนใกล้ชิดก็กลัวว่าอยู่ใต้แพ . - ในสัญญาติดตั้ง GPS ใช้ชื่อทนายตั้ม ทำสัญญารายปี และมีหลักฐานว่าทนายตั้มแอบดูข้อมูลการเดินทางว่าไปไหนบ้าง เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมาหลังมีเรื่อง นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้มยังแอบเข้าไปดู GPS ว่ารถคุณอ้อยเดินทางไปที่ไหน . - คุณอ้อยและคุณน้อยพบว่า หลังทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 ทนายตั้มยังชักชวนไปเที่ยวแพที่เขื่อนรัชประภา อ้างว่าจะพาไปรู้จักนายตำรวจคนหนึ่งซึ่งเป็นคนใต้ คือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือโจ๊ก เหมือนกับที่ไปฮ่องกง ไปเจอนายอนุทิน ชาญวีรกุล และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ แต่คุณอ้อยไม่อยากไป เพราะไม่อยากลำบาก และไม่อยากรู้จักใคร . - เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน เหมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ต ใครจะทำอะไรก็ไม่มีใครรู้ สมมติกรณีที่จัดการกับเจ้าของมรดกก็ไม่มีใครรู้ อ้างได้ว่าอุบัติเหตุทางน้ำ . - หลังจากทำพินัยกรรมฉบับที่ 2 คุณอ้อยและคุณน้อยพยายามทวงถามพินัยกรรมคู่ฉบับก็ไม่นำมาให้ กระทั่งแตกหักเรื่องรถเบนซ์ ได้ทำหนังสือทวงถามพินัยกรรม แต่ทนายตั้มตอบกลับว่า ทำลายไปหมดแล้ว ทั้งที่ไม่ได้ถามหรือทำลายต่อหน้า และพบว่าสัญญามีช่องโหว่ อีกทั้งให้ลงนามเฉพาะหน้าสุดท้าย แทนที่จะลงนามสัญญาทุกหน้า เพราะฉะนั้นเป็นพินัยกรรมปลอมและพินัยกรรมสอดไส้ . - ต้นปี 2567 หลังจากคุณอ้อยใจสลาย ก็ได้ยกเลิกพินัยกรรมกับทนายตั้มทุกฉบับ แล้วไปทำพินัยกรรมฝ่ายเมือง จัดทำที่อำเภอ มีเจ้าหน้าที่รัฐรับรอง .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    10
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1832 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายการสนธิเล่าเรื่องเช้านี้ พบทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก เขียนพินัยกรรมเอง ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ พบให้พยานเซ็นเฉพาะหน้าสุดท้าย ไม่คืนคู่ฉบับ ซื้อรถเบนซ์คุณอ้อย ติด GPS ดูทุกความเคลื่อนไหว แถมชักชวนไปเที่ยวไกลๆ ไปเชียงราย แม้กระทั่งไปเขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฎร์ธานี ไม่มีสัญญาณมือถือ ผวาหากตายไปอ้างได้ว่าอุบัติเหตุ สุดท้ายทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองสกัดกั้น

    วันนี้ (20 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไฮไสต์สำคัญอยู่ที่การที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก โดยสรุปดังนี้

    - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มต้องการเป็นผู้จัดการมรดกในการเขียนพินัยกรรม พอได้รับการแต่งตั้งก็พยายามชวนคุณอ้อยไปเที่ยวไกลๆ เช่น เขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครคาดคิด หากคุณอ้อยเสียชีวิต ทนายตั้มจะได้เป็นผู้จัดการมรดก มีอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว แต่โชคดีที่คุณอ้อยไหวตัวทัน

    - ก่อนหน้านี้บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ได้รับว่าจ้างจากคุณอ้อยเดือนละ 300,000 บาทให้เป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ธุรกิจ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นทนายตั้มอาศัยความไว้ใจจากพี่อ้อยช่วยเหลือดำเนินการ เช่น ยกลูกตัวเองคนหนึ่งให้เป็นลูกบุญธรรม แต่ลูกชายคุณอ้อยไม่เห็นด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000111671

    #MGROnline #ทนายตั้ม #ผู้จัดการมรดก #พินัยกรรม #พี่อ้อย
    รายการสนธิเล่าเรื่องเช้านี้ พบทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก เขียนพินัยกรรมเอง ก่อนเริ่มซื้อรถเบนซ์ พบให้พยานเซ็นเฉพาะหน้าสุดท้าย ไม่คืนคู่ฉบับ ซื้อรถเบนซ์คุณอ้อย ติด GPS ดูทุกความเคลื่อนไหว แถมชักชวนไปเที่ยวไกลๆ ไปเชียงราย แม้กระทั่งไปเขื่อนเชี่ยวหลาน สุราษฎร์ธานี ไม่มีสัญญาณมือถือ ผวาหากตายไปอ้างได้ว่าอุบัติเหตุ สุดท้ายทำพินัยกรรมฝ่ายเมืองสกัดกั้น • วันนี้ (20 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ถึงความคืบหน้าคดีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ไฮไสต์สำคัญอยู่ที่การที่ทนายตั้มเป็นผู้จัดการมรดก โดยสรุปดังนี้ • - คุณอ้อยกล่าวว่า ทนายตั้มต้องการเป็นผู้จัดการมรดกในการเขียนพินัยกรรม พอได้รับการแต่งตั้งก็พยายามชวนคุณอ้อยไปเที่ยวไกลๆ เช่น เขื่อนรัชประภา หรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งอะไรก็เกิดขึ้นได้โดยไม่มีใครคาดคิด หากคุณอ้อยเสียชีวิต ทนายตั้มจะได้เป็นผู้จัดการมรดก มีอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว แต่โชคดีที่คุณอ้อยไหวตัวทัน • - ก่อนหน้านี้บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จำกัด ได้รับว่าจ้างจากคุณอ้อยเดือนละ 300,000 บาทให้เป็นที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ธุรกิจ เมื่อ 2 ปีก่อน หลังจากนั้นทนายตั้มอาศัยความไว้ใจจากพี่อ้อยช่วยเหลือดำเนินการ เช่น ยกลูกตัวเองคนหนึ่งให้เป็นลูกบุญธรรม แต่ลูกชายคุณอ้อยไม่เห็นด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000111671 • #MGROnline #ทนายตั้ม #ผู้จัดการมรดก #พินัยกรรม #พี่อ้อย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 734 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 529 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 520 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 512 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 507 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 495 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,583วันอังคาร: แรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรงวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (19 November 2024)สร้างพระอุโบสถ 10 วัด เป็นเงิน 200 บาท01. วัดภูกรงไก่ธรรมราม อ.นาแห้ว จ.เลย02. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี03. วัดมัคคสัญจาราม อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร04. วัดสุวรรณรัตนาราม อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์05. วัดหนองแจง อ.หันคา จ.ชัยนาท06. วัดกาหรำ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา07. วัดหนองหว้าน้อย อ.คง จ.นครราชสีมา08. วัดกุมแป อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช09. วัดใหม่ประทานพร อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์10. วัดพระธาตุศรีชุม อ.เชียงคำ จ.พะเยา#โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 85 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 494 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts