• รูปหล่อหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท
    รูปหล่อหลวงปู่ศุข เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท //พระเก่า พศ.ลึก สถาพสวยย // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณจะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง กันเสนียดจัญไร คงกะพันชาตรี เมตตามหานิยม ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพิ่มพูนเมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก. >>

    หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านได้ตัดสินใจอุปสมบทเพื่อทดแทนบุญคุณบิดามารดา ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์ทองล่าง จังหวัดนนทบุรี ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ท่านได้ธุดงธ์เข้าเขตชัยนาทมาจำพรรษาอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน ท่านได้บูรณะซ่อมแซมเสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรมขึ้นมาใหม่ ชาวบ้านต่างพากันเลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติและพระเวทวิทยาคมของท่าน ท่านได้ศิษย์เอกคือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยได้ถ่ายทอดวิชาอาคมต่าง ๆ ให้พระองค์จนหมด รวมถึงมีตำนานเกี่ยวกับกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ที่ได้นำผ้าเจียดจากหลวงปู่ศุขไปแจกให้แก่ทหารเรือ เพื่อทำการทดลองอาคม โดยมียัง หาญทะเล ซึ่งเป็นทหารคนสำคัญ เป็นผู้รับอาสาทดลอง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท รูปหล่อหลวงปู่ศุข เนื้อกะไหล่ทอง วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท //พระเก่า พศ.ลึก สถาพสวยย // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณจะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง กันเสนียดจัญไร คงกะพันชาตรี เมตตามหานิยม ค้าขายดีและเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง เพิ่มพูนเมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก. >> หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านได้ตัดสินใจอุปสมบทเพื่อทดแทนบุญคุณบิดามารดา ณ พัทธสีมาวัดโพธิ์ทองล่าง จังหวัดนนทบุรี ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ท่านได้ธุดงธ์เข้าเขตชัยนาทมาจำพรรษาอยู่ที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าซึ่งเป็นบ้านเกิดของท่าน ท่านได้บูรณะซ่อมแซมเสนาสนะที่ชำรุดทรุดโทรมขึ้นมาใหม่ ชาวบ้านต่างพากันเลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติและพระเวทวิทยาคมของท่าน ท่านได้ศิษย์เอกคือพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยได้ถ่ายทอดวิชาอาคมต่าง ๆ ให้พระองค์จนหมด รวมถึงมีตำนานเกี่ยวกับกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ที่ได้นำผ้าเจียดจากหลวงปู่ศุขไปแจกให้แก่ทหารเรือ เพื่อทำการทดลองอาคม โดยมียัง หาญทะเล ซึ่งเป็นทหารคนสำคัญ เป็นผู้รับอาสาทดลอง >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรือประมงเวียดนามหันหัวพุ่งชน "เรือหลวงเทพา" กองทัพเรือพังเสียหาย หลังพยายามเข้าไปจับกุมรุกลํ้าน่านนํ้าไทยเข้ามาทำประมงนับ 10 ลำ ก่อนจับเรือได้ 1 ลำ ผู้ต้องหา 4 คน ที่เหลือหลบหนีไปได้
    .
    เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่บริเวณท่าเรืออเนกประสงค์ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เรือหลวงเทพา และเรือต.246 ลากเรือประมงต่างชาติ 1 ลำ พร้อมลูกเรือประมงจำนวน 4 คน มาเทียบท่าเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ หลังถูกจับกุมได้ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย เมื่อเช้าวันนี้ โดยมี พล.ร.ท.อาภา ชพานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วย พล.ร.ต.ไชยนันท์ ชูใหม่ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 และคณะ ร่วมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนที่มาติดตามสถานการณ์
    .
    พล.ร.ท.อาภา เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) บูรณาการร่วมกับ ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.) รวมถึงการประสานงานด้านการข่าวร่วมกับ กรมข่าวทหารเรือ (ขว.ทร.) จากการปฏิบัติการด้านการข่าวนำไปสู่การจับกุมเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้าทำการประมงในเขตน่านน้ำไทยจำนวน 1 ลำ
    .
    โดยเมื่อ 24 ก.พ. ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว กรณีตรวจพบเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย โดยตรวจพบเป็นกลุ่มเรือประมงต่างชาติ จำนวนประมาณ 10 ลำ ประกอบด้วยเรือประมงลากคู่ เรืออวนล้อม และเรือไดปั่นไฟ เข้ามาทำการประมงอยู่ในน่านน้ำไทย บริเวณพิกัด ละติจูด 11 องศา 06 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 26 ลิปดาตะวันออก ลงไปจนถึง ละติจูด 10 องศา 58 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 25 ลิปดาตะวันออก อย่างต่อเนื่อง และมีพฤติการณ์รุกล้ำเข้ามาทำประมงในห้วงเวลากลางคืนในพื้นที่ดังกล่าว และจะออกจากพื้นที่วิ่งลงใต้ไปจอดพักคอยในเวลากลางวัน เพื่อรอทำการประมงในห้วงกลางคืนของทุกวัน
    .
    จากปัจจัยพื้นที่และเวลา ศรชล.ภาค 1 จึงขอรับการสนับสนุนเรือในบัญชีกำลัง ศรชล.ภาค 1 จาก กปช.จต. โดยเป็นเรือใน มชด./1 และอากาศยานจาก มวบ.กปก.ทรภ.1 ในการตรวจสอบในพื้นที่และกลุ่มเรือประมงดังกล่าว ซึ่ง กปช.จต. ให้การสนับสนุน ร.ล.เทพา และ เรือ ต.264 พร้อมด้วย ทรภ.1 จัด บ.ตช.1 สนับสนุน ศรชล.ภาค 1 และผลการปฏิบัติ จับกุมเรือประมงต่างชาติ ได้จำนวน 1 ลำ พร้อม ลูกเรือจำนวน 4 คน ส่วนที่เหลือเร่งเครื่องและหันทิศทางหนีออกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทยไปได้
    .
    พล.ร.ท.อาภา ตอบคำถามสื่อมวลชนเพิ่มเติมกรณีที่มีเรือประมงเวียดนามทำการชนเรือหลวงเทพา ว่า ระหว่างทำการจับกุมนั้น เรือประมงเวียดนามหลายลำได้เร่งเครื่องยนต์และหลบหนีไปนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่มีเรือประมงเวียดนามอีกลำที่หลบหนีไม่ทัน ได้หันหัวเรือพุ่งเข้าชนเรือหลวงเทพาที่บริเวณด้านข้างเรือด้านขวา ทำให้ยุบไปส่วนหนึ่ง แต่ไม่มากนัก แต่สุดท้ายถูกจับได้พร้อมลูกเรือ 4 คน ส่วนก่อนการจับกุมได้ทำการยิงปืนเอ็ม 16 ขู่ เพื่อให้หยุดการหลบหนี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ดำเนินการตามหลักสากล
    .
    ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป โดยก่อนหน้านี้ เรือประมงเวียดนามได้เข้ามาลักลอบทำประมงในเขตน่านน้ำไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ทัพเรือภาค 2 หรืออ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งได้มีการจับกุมบ่อยครั้ง และครั้งนี้ ได้เข้ามายังพื้นที่ทัพเรือภาค 1 ซึ่งเหนือขึ้นมา และครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในปี 2568 ที่มีการจับกุมได้ของพื้นที่ทัพเรือภาค 1 ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะได้ทำหนังสือแจ้งไปยังรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศให้ประสานไปยังรัฐบาลเวียดนามในการดูแลในเรื่องนี้ต่อไป
    .
    สุดท้ายศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า “ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 นั้น เราจะปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทย”
    ---------
    ที่มา : เดลินิวส์
    ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/4436420/
    เรือประมงเวียดนามหันหัวพุ่งชน "เรือหลวงเทพา" กองทัพเรือพังเสียหาย หลังพยายามเข้าไปจับกุมรุกลํ้าน่านนํ้าไทยเข้ามาทำประมงนับ 10 ลำ ก่อนจับเรือได้ 1 ลำ ผู้ต้องหา 4 คน ที่เหลือหลบหนีไปได้ . เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ที่บริเวณท่าเรืออเนกประสงค์ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด เรือหลวงเทพา และเรือต.246 ลากเรือประมงต่างชาติ 1 ลำ พร้อมลูกเรือประมงจำนวน 4 คน มาเทียบท่าเรืออเนกประสงค์คลองใหญ่ หลังถูกจับกุมได้ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย เมื่อเช้าวันนี้ โดยมี พล.ร.ท.อาภา ชพานนท์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1/ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมด้วย พล.ร.ต.ไชยนันท์ ชูใหม่ รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 และคณะ ร่วมให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนที่มาติดตามสถานการณ์ . พล.ร.ท.อาภา เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) บูรณาการร่วมกับ ทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) หมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.) รวมถึงการประสานงานด้านการข่าวร่วมกับ กรมข่าวทหารเรือ (ขว.ทร.) จากการปฏิบัติการด้านการข่าวนำไปสู่การจับกุมเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้าทำการประมงในเขตน่านน้ำไทยจำนวน 1 ลำ . โดยเมื่อ 24 ก.พ. ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าว กรณีตรวจพบเรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในเขตน่านน้ำไทย โดยตรวจพบเป็นกลุ่มเรือประมงต่างชาติ จำนวนประมาณ 10 ลำ ประกอบด้วยเรือประมงลากคู่ เรืออวนล้อม และเรือไดปั่นไฟ เข้ามาทำการประมงอยู่ในน่านน้ำไทย บริเวณพิกัด ละติจูด 11 องศา 06 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 26 ลิปดาตะวันออก ลงไปจนถึง ละติจูด 10 องศา 58 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 102 องศา 25 ลิปดาตะวันออก อย่างต่อเนื่อง และมีพฤติการณ์รุกล้ำเข้ามาทำประมงในห้วงเวลากลางคืนในพื้นที่ดังกล่าว และจะออกจากพื้นที่วิ่งลงใต้ไปจอดพักคอยในเวลากลางวัน เพื่อรอทำการประมงในห้วงกลางคืนของทุกวัน . จากปัจจัยพื้นที่และเวลา ศรชล.ภาค 1 จึงขอรับการสนับสนุนเรือในบัญชีกำลัง ศรชล.ภาค 1 จาก กปช.จต. โดยเป็นเรือใน มชด./1 และอากาศยานจาก มวบ.กปก.ทรภ.1 ในการตรวจสอบในพื้นที่และกลุ่มเรือประมงดังกล่าว ซึ่ง กปช.จต. ให้การสนับสนุน ร.ล.เทพา และ เรือ ต.264 พร้อมด้วย ทรภ.1 จัด บ.ตช.1 สนับสนุน ศรชล.ภาค 1 และผลการปฏิบัติ จับกุมเรือประมงต่างชาติ ได้จำนวน 1 ลำ พร้อม ลูกเรือจำนวน 4 คน ส่วนที่เหลือเร่งเครื่องและหันทิศทางหนีออกนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทยไปได้ . พล.ร.ท.อาภา ตอบคำถามสื่อมวลชนเพิ่มเติมกรณีที่มีเรือประมงเวียดนามทำการชนเรือหลวงเทพา ว่า ระหว่างทำการจับกุมนั้น เรือประมงเวียดนามหลายลำได้เร่งเครื่องยนต์และหลบหนีไปนอกเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่มีเรือประมงเวียดนามอีกลำที่หลบหนีไม่ทัน ได้หันหัวเรือพุ่งเข้าชนเรือหลวงเทพาที่บริเวณด้านข้างเรือด้านขวา ทำให้ยุบไปส่วนหนึ่ง แต่ไม่มากนัก แต่สุดท้ายถูกจับได้พร้อมลูกเรือ 4 คน ส่วนก่อนการจับกุมได้ทำการยิงปืนเอ็ม 16 ขู่ เพื่อให้หยุดการหลบหนี ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ดำเนินการตามหลักสากล . ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป โดยก่อนหน้านี้ เรือประมงเวียดนามได้เข้ามาลักลอบทำประมงในเขตน่านน้ำไทยบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ทัพเรือภาค 2 หรืออ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งได้มีการจับกุมบ่อยครั้ง และครั้งนี้ ได้เข้ามายังพื้นที่ทัพเรือภาค 1 ซึ่งเหนือขึ้นมา และครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในปี 2568 ที่มีการจับกุมได้ของพื้นที่ทัพเรือภาค 1 ทั้งนี้ ทางกองทัพเรือจะได้ทำหนังสือแจ้งไปยังรัฐบาล และกระทรวงการต่างประเทศให้ประสานไปยังรัฐบาลเวียดนามในการดูแลในเรื่องนี้ต่อไป . สุดท้ายศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 ขอขอบคุณพี่น้องชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด และขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนและชาวประมงไทยว่า “ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 นั้น เราจะปกป้อง และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ โดยมิยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่กับลูกหลานของคนไทย” --------- ที่มา : เดลินิวส์ ที่มา : https://www.dailynews.co.th/news/4436420/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารเรือ ร่วมฝ่ายปกครองและหน่วยงานท้องถิ่นใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แยกดำเนินคดีนายทุนบุกรุกแผ้วถาง ขุดภูเขาและปริมณฑลเขาในที่ดินทรงสงวน พบสร้างเป็นอาณาจักร มีทั้งการก่อสร้างอาคารในพื้นที่ความปลอดภัยทางทหาร และสร้างอาคารเลี้ยงจระเข้โดยไม่ได้รับอนุญาต

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015277

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทหารเรือ ร่วมฝ่ายปกครองและหน่วยงานท้องถิ่นใน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แยกดำเนินคดีนายทุนบุกรุกแผ้วถาง ขุดภูเขาและปริมณฑลเขาในที่ดินทรงสงวน พบสร้างเป็นอาณาจักร มีทั้งการก่อสร้างอาคารในพื้นที่ความปลอดภัยทางทหาร และสร้างอาคารเลี้ยงจระเข้โดยไม่ได้รับอนุญาต อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015277 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1183 มุมมอง 0 รีวิว
  • 122 ปี ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง: ฝ่าอิทธิพลจักรวรรดินิยม รักษาเอกราช ทวงคืนอธิปไตยจันทบุรี

    📅 ย้อนกลับไปเมื่อ 122 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 (ค.ศ. 1903) ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 เมื่อไทยและฝรั่งเศส 🇫🇷 ลงนามในสัญญาปักปันเขตแดน ระหว่างไทย-กัมพูชา และเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นดินแดน ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ของฝรั่งเศสในขณะนั้น

    ภายใต้ข้อตกลงนี้ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ที่อยู่ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับการถอนทหารฝรั่งเศส ออกจากจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถูกยึดครองมา ตั้งแต่เหตุการณ์ วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 หรือสงครามฝรั่งเศส-สยาม (พ.ศ. 2436)

    อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแรงกดดัน จากจักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไทยต้องเผชิญกับ การบีบบังคับทางการเมืองเพิ่มเติม จนต้องยอมเสียเมืองตราด และหมู่เกาะใกล้เคียง เพื่อแลกกับการได้จันทบุรีคืน 📌

    🌍 กระแสล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ในอินโดจีน 🔹
    ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศส ได้ขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว ในภูมิภาคอินโดจีน โดยสามารถยึดครองเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ได้สำเร็จ ทำให้ไทยกลายเป็นรัฐกันชน ที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากฝรั่งเศส ทางด้านตะวันออก

    💡 ฝรั่งเศสต้องการควบคุมดินแดน แถบลุ่มแม่น้ำโขงทั้งหมด เพื่อสร้างเส้นทางการค้าจากจีน ลงมาสู่อินโดจีนของตน ในขณะที่ไทย ต้องพยายามรักษาเอกราช และดินแดนของตนไว้

    🇹🇭 ไทยภายใต้รัชกาลที่ 5 พยายามรักษาเอกราช
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักถึงภัยคุกคาม จากจักรวรรดินิยม และพยายามใช้นโยบายการทูตเชิงรุก เพื่อรักษาความเป็นอิสระของไทย ทรงดำเนินแผนการ ปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย เพื่อลดข้ออ้างของมหาอำนาจตะวันตก ในการเข้ามาแทรกแซง

    อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสใช้ข้ออ้างเรื่องอธิปไตย เหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง เป็นเหตุผลในการเรียกร้องดินแดนเพิ่มเติมจากไทย

    🔹 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 จุดเริ่มต้นของการเสียเปรียบทางดินแดน
    📍 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) เป็นเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศส ใช้กำลังทหารเรือ บุกรุกปากแม่น้ำเจ้าพระยา และปะทะกับทหารไทย จนเป็นเหตุให้รัฐบาลไทย ต้องยอมลงนามในสนธิสัญญา ที่เสียเปรียบ

    📜 ข้อกำหนดสำคัญของสนธิสัญญา ร.ศ. 112
    ✔ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงทั้งหมด รวมถึงลาว ให้แก่ฝรั่งเศส
    ✔ ฝรั่งเศสเข้ายึดจังหวัดจันทบุรี เป็นหลักประกันบังคับให้ไทย ปฏิบัติตามสัญญา
    ✔ ไทยต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล ให้ฝรั่งเศส

    🛑 นี่เป็นครั้งแรกที่ไทย ต้องเสียดินแดนจำนวนมาก ให้แก่จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส และทำให้สถานการณ์ของไทยในภูมิภาคนี้ ล่อแหลมยิ่งขึ้น

    🔹 สนธิสัญญา พ.ศ. 2446 การทวงคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วยดินแดนเพิ่ม
    หลังจากไทย ถูกฝรั่งเศสยึดครองจันทบุรี ไว้นานถึง 10 ปี รัฐบาลไทยพยายามเจรจา ขอคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วย การยอมมอบดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ที่ตรงข้ามกับเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส

    📌 สนธิสัญญานี้ ลงนามเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ทำให้ไทยได้รับจันทบุรีคืน แต่ฝรั่งเศสกลับยื่นเงื่อนไข ให้ไทยต้องยกเมืองตราด และหมู่เกาะอื่นๆ แทน

    🌏 ผลลัพธ์ของสนธิสัญญานี้
    ✅ ไทยได้จันทบุรีคืนจากฝรั่งเศส
    ❌ ไทยเสียเมืองตราด และหมู่เกาะให้ฝรั่งเศส
    ✅ ไทยยังสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ แต่ต้องจำยอมต่ออำนาจ ของมหาอำนาจตะวันตก

    🔹 ไทยทวงคืนเมืองตราดสำเร็จในปี พ.ศ. 2450
    4 ปี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2450 (ค.ศ. 1907) ไทยสามารถทวงคืนเมืองตราด กลับมาได้สำเร็จ โดยแลกกับดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ที่อยู่ทางฝั่งกัมพูชา ให้ฝรั่งเศสแทน

    นี่เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่ไทยต้องเสียสละดินแดน เพื่อให้สามารถปกป้อง เอกราชของตนเองเอาไว้

    🧐 จากเหตุการณ์ ปักปันเขตแดนในปี พ.ศ. 2446 ไทยได้เรียนรู้ว่า
    ✔ อำนาจทางการทูต มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไทยสามารถใช้การเจรจา เพื่อลดความเสียหายได้ แม้ว่าจะต้องยอมเสียดินแดนบางส่วน
    ✔ จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไม่เคยหยุดกดดันไทย ต้องอาศัยนโยบายเชิงรุก เพื่อรักษาเอกราช
    ✔ ไทยต้องพัฒนาประเทศให้ทันสมัย เพื่อป้องกันการถูกรุกรานในอนาคต

    🎯 แม้ว่าไทยจะต้องยอม สูญเสียดินแดนบางส่วน แต่ก็สามารถรักษา ความเป็นเอกราชเอาไว้ได้ ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ตกเป็นอาณานิคม ของจักรวรรดินิยมในช่วงเวลานั้น

    🔹 122 ปี แห่งความเปลี่ยนแปลงทางดินแดน และอธิปไตยของไทย
    🌏 ผ่านไป 122 ปี นับตั้งแต่สนธิสัญญา ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของไทย 🇹🇭

    📌 ถึงแม้ไทยจะเสียดินแดนไปบางส่วน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไทยยังคงรักษาเอกราชไว้ได้ ไม่ต้องตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน 💬

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131208 ก.พ. 2568

    #ประวัติศาสตร์ไทย #ไทยฝรั่งเศส #อธิปไตย #วิกฤติการณ์รศ112 #เอกราชไทย
    122 ปี ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง: ฝ่าอิทธิพลจักรวรรดินิยม รักษาเอกราช ทวงคืนอธิปไตยจันทบุรี 📅 ย้อนกลับไปเมื่อ 122 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 (ค.ศ. 1903) ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭 เมื่อไทยและฝรั่งเศส 🇫🇷 ลงนามในสัญญาปักปันเขตแดน ระหว่างไทย-กัมพูชา และเมืองหลวงพระบาง ซึ่งเป็นดินแดน ที่อยู่ภายใต้การปกครอง ของฝรั่งเศสในขณะนั้น ภายใต้ข้อตกลงนี้ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งขวาของแม่น้ำโขง ที่อยู่ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส เพื่อแลกกับการถอนทหารฝรั่งเศส ออกจากจังหวัดจันทบุรี ซึ่งถูกยึดครองมา ตั้งแต่เหตุการณ์ วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 หรือสงครามฝรั่งเศส-สยาม (พ.ศ. 2436) อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของแรงกดดัน จากจักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไทยต้องเผชิญกับ การบีบบังคับทางการเมืองเพิ่มเติม จนต้องยอมเสียเมืองตราด และหมู่เกาะใกล้เคียง เพื่อแลกกับการได้จันทบุรีคืน 📌 🌍 กระแสล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ในอินโดจีน 🔹 ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิฝรั่งเศส ได้ขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว ในภูมิภาคอินโดจีน โดยสามารถยึดครองเวียดนาม ลาว และกัมพูชา ได้สำเร็จ ทำให้ไทยกลายเป็นรัฐกันชน ที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากฝรั่งเศส ทางด้านตะวันออก 💡 ฝรั่งเศสต้องการควบคุมดินแดน แถบลุ่มแม่น้ำโขงทั้งหมด เพื่อสร้างเส้นทางการค้าจากจีน ลงมาสู่อินโดจีนของตน ในขณะที่ไทย ต้องพยายามรักษาเอกราช และดินแดนของตนไว้ 🇹🇭 ไทยภายใต้รัชกาลที่ 5 พยายามรักษาเอกราช พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงตระหนักถึงภัยคุกคาม จากจักรวรรดินิยม และพยายามใช้นโยบายการทูตเชิงรุก เพื่อรักษาความเป็นอิสระของไทย ทรงดำเนินแผนการ ปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย เพื่อลดข้ออ้างของมหาอำนาจตะวันตก ในการเข้ามาแทรกแซง อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสใช้ข้ออ้างเรื่องอธิปไตย เหนือดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง เป็นเหตุผลในการเรียกร้องดินแดนเพิ่มเติมจากไทย 🔹 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 จุดเริ่มต้นของการเสียเปรียบทางดินแดน 📍 วิกฤติการณ์ ร.ศ. 112 (พ.ศ. 2436) เป็นเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศส ใช้กำลังทหารเรือ บุกรุกปากแม่น้ำเจ้าพระยา และปะทะกับทหารไทย จนเป็นเหตุให้รัฐบาลไทย ต้องยอมลงนามในสนธิสัญญา ที่เสียเปรียบ 📜 ข้อกำหนดสำคัญของสนธิสัญญา ร.ศ. 112 ✔ ไทยต้องยกดินแดน ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงทั้งหมด รวมถึงลาว ให้แก่ฝรั่งเศส ✔ ฝรั่งเศสเข้ายึดจังหวัดจันทบุรี เป็นหลักประกันบังคับให้ไทย ปฏิบัติตามสัญญา ✔ ไทยต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวนมหาศาล ให้ฝรั่งเศส 🛑 นี่เป็นครั้งแรกที่ไทย ต้องเสียดินแดนจำนวนมาก ให้แก่จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส และทำให้สถานการณ์ของไทยในภูมิภาคนี้ ล่อแหลมยิ่งขึ้น 🔹 สนธิสัญญา พ.ศ. 2446 การทวงคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วยดินแดนเพิ่ม หลังจากไทย ถูกฝรั่งเศสยึดครองจันทบุรี ไว้นานถึง 10 ปี รัฐบาลไทยพยายามเจรจา ขอคืนจันทบุรี แต่ต้องแลกด้วย การยอมมอบดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ที่ตรงข้ามกับเมืองหลวงพระบาง ให้แก่ฝรั่งเศส 📌 สนธิสัญญานี้ ลงนามเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 ทำให้ไทยได้รับจันทบุรีคืน แต่ฝรั่งเศสกลับยื่นเงื่อนไข ให้ไทยต้องยกเมืองตราด และหมู่เกาะอื่นๆ แทน 🌏 ผลลัพธ์ของสนธิสัญญานี้ ✅ ไทยได้จันทบุรีคืนจากฝรั่งเศส ❌ ไทยเสียเมืองตราด และหมู่เกาะให้ฝรั่งเศส ✅ ไทยยังสามารถรักษาเอกราชไว้ได้ แต่ต้องจำยอมต่ออำนาจ ของมหาอำนาจตะวันตก 🔹 ไทยทวงคืนเมืองตราดสำเร็จในปี พ.ศ. 2450 4 ปี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2450 (ค.ศ. 1907) ไทยสามารถทวงคืนเมืองตราด กลับมาได้สำเร็จ โดยแลกกับดินแดนพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ที่อยู่ทางฝั่งกัมพูชา ให้ฝรั่งเศสแทน นี่เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่ไทยต้องเสียสละดินแดน เพื่อให้สามารถปกป้อง เอกราชของตนเองเอาไว้ 🧐 จากเหตุการณ์ ปักปันเขตแดนในปี พ.ศ. 2446 ไทยได้เรียนรู้ว่า ✔ อำนาจทางการทูต มีความสำคัญอย่างยิ่ง ไทยสามารถใช้การเจรจา เพื่อลดความเสียหายได้ แม้ว่าจะต้องยอมเสียดินแดนบางส่วน ✔ จักรวรรดินิยมฝรั่งเศส ไม่เคยหยุดกดดันไทย ต้องอาศัยนโยบายเชิงรุก เพื่อรักษาเอกราช ✔ ไทยต้องพัฒนาประเทศให้ทันสมัย เพื่อป้องกันการถูกรุกรานในอนาคต 🎯 แม้ว่าไทยจะต้องยอม สูญเสียดินแดนบางส่วน แต่ก็สามารถรักษา ความเป็นเอกราชเอาไว้ได้ ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ตกเป็นอาณานิคม ของจักรวรรดินิยมในช่วงเวลานั้น 🔹 122 ปี แห่งความเปลี่ยนแปลงทางดินแดน และอธิปไตยของไทย 🌏 ผ่านไป 122 ปี นับตั้งแต่สนธิสัญญา ปักปันเขตแดนไทย-กัมพูชา-เมืองหลวงพระบาง เหตุการณ์นี้ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ทางประวัติศาสตร์ของไทย 🇹🇭 📌 ถึงแม้ไทยจะเสียดินแดนไปบางส่วน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไทยยังคงรักษาเอกราชไว้ได้ ไม่ต้องตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก เหมือนประเทศเพื่อนบ้าน 💬 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131208 ก.พ. 2568 #ประวัติศาสตร์ไทย #ไทยฝรั่งเศส #อธิปไตย #วิกฤติการณ์รศ112 #เอกราชไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 536 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงว่าแล้วววว .... กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการใช้แพลตฟอร์ม AI ของจีนที่ชื่อว่า DeepSeek บนเรือของตน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและจริยธรรมในการใช้งาน

    DeepSeek เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่แสดงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับโมเดลชั้นนำของ OpenAI และบริษัทอเมริกันอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการฝึก AI ที่สูงเกินไปทำให้เกิดการขายหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทศูนย์ข้อมูลลดลงหลายพันล้านดอลลาร์

    กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งอีเมลถึงทหารเรือและสมาชิกบริการอื่นๆ เพื่อเตือนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโมเดล AI นี้ และชี้ให้เห็นถึงความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมในการใช้งาน โดยระบุว่า "ความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับแหล่งที่มาและการใช้งานของโมเดลนี้" ทำให้ต้องห้ามการใช้งานโดยสมาชิกบริการทั้งในงานที่เกี่ยวข้องกับงานและการใช้งานส่วนตัว

    อีเมลยังขอให้ผู้รับ "งดการดาวน์โหลด ติดตั้ง หรือใช้งานโมเดล DeepSeek ในทุกกรณี" การห้ามนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพเรือได้สั่งห้ามการใช้แอปพลิเคชันของจีน เช่น TikTok เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยในการเก็บข้อมูล

    การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีแหล่งที่มาจากจีน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของชาติ

    ผู้ใช้ธรรมดาในสหรัฐจะโดนห้ามและ Block การเข้าถึงเป็นรายต่อไป... ลุงฟันธง!!

    https://wccftech.com/chinas-deepseek-ai-faces-first-us-ban-after-navy-email-tells-members-to-stop-using-it/
    ลุงว่าแล้วววว .... กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการใช้แพลตฟอร์ม AI ของจีนที่ชื่อว่า DeepSeek บนเรือของตน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและจริยธรรมในการใช้งาน DeepSeek เป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลังจากที่แสดงประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับโมเดลชั้นนำของ OpenAI และบริษัทอเมริกันอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการฝึก AI ที่สูงเกินไปทำให้เกิดการขายหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทศูนย์ข้อมูลลดลงหลายพันล้านดอลลาร์ กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งอีเมลถึงทหารเรือและสมาชิกบริการอื่นๆ เพื่อเตือนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของโมเดล AI นี้ และชี้ให้เห็นถึงความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมในการใช้งาน โดยระบุว่า "ความกังวลด้านความปลอดภัยและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับแหล่งที่มาและการใช้งานของโมเดลนี้" ทำให้ต้องห้ามการใช้งานโดยสมาชิกบริการทั้งในงานที่เกี่ยวข้องกับงานและการใช้งานส่วนตัว อีเมลยังขอให้ผู้รับ "งดการดาวน์โหลด ติดตั้ง หรือใช้งานโมเดล DeepSeek ในทุกกรณี" การห้ามนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพเรือได้สั่งห้ามการใช้แอปพลิเคชันของจีน เช่น TikTok เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยในการเก็บข้อมูล การตัดสินใจนี้สะท้อนถึงความกังวลของรัฐบาลสหรัฐฯ เกี่ยวกับการใช้ซอฟต์แวร์ที่มีแหล่งที่มาจากจีน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อความปลอดภัยของชาติ ผู้ใช้ธรรมดาในสหรัฐจะโดนห้ามและ Block การเข้าถึงเป็นรายต่อไป... ลุงฟันธง!! https://wccftech.com/chinas-deepseek-ai-faces-first-us-ban-after-navy-email-tells-members-to-stop-using-it/
    WCCFTECH.COM
    China's DeepSeek AI Faces First Ban After Navy Email Tells Members To Stop Using It
    In a striking but unsurprising move, the United States Navy has banned the use of China's DeepSeek AI platform on its vessels. DeepSeek took the AI world by storm this month after it demonstrated performance similar to leading models by OpenAI and other American firms. However, the model's true shock came after NVIDIA and other data center stocks led a multi-billion dollar stock market wipeout yesterday over investor concerns about overblown AI training costs. The Navy's ban was first reported by CNBC, which confirmed its authenticity through a spokesperson for the armed forces branch. Related Story OpenAI CEO Sam Altman […]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 354 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาแล้ว! เรือ USS Carl Vinson บรรทุกทหารเรืออเมริกัน 5,400 นาย ขึ้นบก ณ ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองพัทยา เป็นเวลา 5 วัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008389

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มาแล้ว! เรือ USS Carl Vinson บรรทุกทหารเรืออเมริกัน 5,400 นาย ขึ้นบก ณ ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี เพื่อท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองพัทยา เป็นเวลา 5 วัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000008389 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Wow
    7
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1030 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ในอดีต 19 ธันวาคม 2423 วันประสูติ “เสด็จเตี่ย-กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์”พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอลำดับที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมารดาคือ เจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาม พ.ศ.2423พระองค์ทรงได้รับถวายพระสมัญญาจากกองทัพเรือว่าเป็น “พระบิดาของกองทัพเรือไทย” และต่อมาได้แก้ไขเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย” เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2544 จากพระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงวางรากฐานและพัฒนาปรับปรุงทหารเรือสยามให้เจริญก้าวหน้าตามแบบประเทศตะวันตก
    วันนี้ในอดีต 19 ธันวาคม 2423 วันประสูติ “เสด็จเตี่ย-กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์”พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอลำดับที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมารดาคือ เจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ ไวยวัฒน์ ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาม พ.ศ.2423พระองค์ทรงได้รับถวายพระสมัญญาจากกองทัพเรือว่าเป็น “พระบิดาของกองทัพเรือไทย” และต่อมาได้แก้ไขเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย” เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2544 จากพระกรณียกิจของพระองค์ที่ทรงวางรากฐานและพัฒนาปรับปรุงทหารเรือสยามให้เจริญก้าวหน้าตามแบบประเทศตะวันตก
    Love
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • พังงา - เมียเจ้าของเรือเครียด ปิดปากเงียบไม่ขอพูดอะไร กลัวพม่าเคืองไม่ปล่อยตัวสามีและลูกเรือกลับบ้าน ด้านลูกน้องเฝ้ารอเมื่อไหร่จะได้กลับมาออกเรือ

    จากกรณีทหารเรือพม่าไล่ยิงเรือประมงไทย และจับเรือประมงไทย จำนวน 1 ลำ พร้อมไต๋เรือ และลูกเรือประมง รวม 31 คน โดยในจำนวนนั้นมีคนไทยอยู่ด้วย 4 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) มีรายงานว่าศาลเกาะสอง ประเทศพม่าได้ตัดสินจำคุกเจ้าของเรือประมง รวม 6 ปี และลูกเรือคนไทย คนละ 4 ปี ในความผิดหลายข้อหาหนัก รุกล้ำน่านน้ำ ทำประมงและลักลอบเข้าประเทศ และลดโทษเหลือเพียงรอลงอาญา จะปล่อยตัวคนไทยกลับหลังปีใหม่

    ล่าสุด เมื่อเช้าวันนี้ (17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แพปลา ส.ธนาพร บ้านน้ำเค็ม หมู่ที่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ลูกเรือประมงที่ถุกทางการพม่าจับ มานั่งรอการกลับมาของนายจ้าง คือ นายวิโรจน์ สะพานทอง ณ นคร อายุ 69 ปี เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 พร้อมลูกเรือชาวไทยและ ลูกเรือพม่า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/south/detail/9670000120980

    #MGROnline #พังงา #ทหารเรือพม่า #ไล่ยิง #เรือประมงไทย #จับเรือประมงไทย #รุกล้ำน่านน้ำ #ทำประมง #ลักลอบเข้าประเทศ
    พังงา - เมียเจ้าของเรือเครียด ปิดปากเงียบไม่ขอพูดอะไร กลัวพม่าเคืองไม่ปล่อยตัวสามีและลูกเรือกลับบ้าน ด้านลูกน้องเฝ้ารอเมื่อไหร่จะได้กลับมาออกเรือ • จากกรณีทหารเรือพม่าไล่ยิงเรือประมงไทย และจับเรือประมงไทย จำนวน 1 ลำ พร้อมไต๋เรือ และลูกเรือประมง รวม 31 คน โดยในจำนวนนั้นมีคนไทยอยู่ด้วย 4 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) มีรายงานว่าศาลเกาะสอง ประเทศพม่าได้ตัดสินจำคุกเจ้าของเรือประมง รวม 6 ปี และลูกเรือคนไทย คนละ 4 ปี ในความผิดหลายข้อหาหนัก รุกล้ำน่านน้ำ ทำประมงและลักลอบเข้าประเทศ และลดโทษเหลือเพียงรอลงอาญา จะปล่อยตัวคนไทยกลับหลังปีใหม่ • ล่าสุด เมื่อเช้าวันนี้ (17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แพปลา ส.ธนาพร บ้านน้ำเค็ม หมู่ที่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ลูกเรือประมงที่ถุกทางการพม่าจับ มานั่งรอการกลับมาของนายจ้าง คือ นายวิโรจน์ สะพานทอง ณ นคร อายุ 69 ปี เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 พร้อมลูกเรือชาวไทยและ ลูกเรือพม่า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9670000120980 • #MGROnline #พังงา #ทหารเรือพม่า #ไล่ยิง #เรือประมงไทย #จับเรือประมงไทย #รุกล้ำน่านน้ำ #ทำประมง #ลักลอบเข้าประเทศ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทหารเรือ #ราชนาวี ซ้อม #รบ หนักเพื่อ #ความชำนาญ #ความพร้อม ของ #กำลังพลในการ #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย #ชาติไทย #ประเทศไทย ส่งภาพขึ้นเพจทุกวันเลย
    #ทหารเรือ #ราชนาวี ซ้อม #รบ หนักเพื่อ #ความชำนาญ #ความพร้อม ของ #กำลังพลในการ #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย #ชาติไทย #ประเทศไทย ส่งภาพขึ้นเพจทุกวันเลย
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย ออกฝึกทาง #ทะเล พื้นที่ #อ่าวไทย เพื่อเสริมความ #ชำนาญ #แข็งแกร่ง พร้อมดูแล #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย ของ #ประเทศไทย ตามแผนที่ใน #พระบรมราชโองการ และ #สคส #พระราชทาน ปี 2547
    #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย ออกฝึกทาง #ทะเล พื้นที่ #อ่าวไทย เพื่อเสริมความ #ชำนาญ #แข็งแกร่ง พร้อมดูแล #ปกป้อง #รักษา #อาณาเขต #อธิปไตย ของ #ประเทศไทย ตามแผนที่ใน #พระบรมราชโองการ และ #สคส #พระราชทาน ปี 2547
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยกเลิก #MOU2544 #JC2544 แล้วให้ #บริษัทไทย ลุยขุดเจาะ #น้ำมัน #หาปลา ไปเลย #ทหารเรือ พร้อม ดูแล ปกป้อง #พื้นที่ไทย อยู่แล้ว ของของเราคือของของเรา ไม่ต้องแบ่งใคร #ทรัพยากรทางทะเล ของ #ชาติไทย #ประเทศไทย #คนไทย #ประชาชน ต้องมี #สิทธิ และ ใช้ #ประโยชน์ ได้อย่างเต็มที่
    https://www.youtube.com/live/-nCd_Qnfo48
    ยกเลิก #MOU2544 #JC2544 แล้วให้ #บริษัทไทย ลุยขุดเจาะ #น้ำมัน #หาปลา ไปเลย #ทหารเรือ พร้อม ดูแล ปกป้อง #พื้นที่ไทย อยู่แล้ว ของของเราคือของของเรา ไม่ต้องแบ่งใคร #ทรัพยากรทางทะเล ของ #ชาติไทย #ประเทศไทย #คนไทย #ประชาชน ต้องมี #สิทธิ และ ใช้ #ประโยชน์ ได้อย่างเต็มที่ https://www.youtube.com/live/-nCd_Qnfo48
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 598 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝึก #นาวิกโยธิน #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย #ประเทศไทย
    คลิปในเพจ #เสียงทหารเรือ
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1028909262613570&id=100064835162905
    ฝึก #นาวิกโยธิน #ทหารเรือ #ราชนาวี #ชาติไทย #ประเทศไทย คลิปในเพจ #เสียงทหารเรือ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1028909262613570&id=100064835162905
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวัน ยกระดับเตือนภัย หลังจีนประกาศพื้นที่สงวนทางอากาศ รวมถึงประจำการเรือกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในสิ่งที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเรียกว่าเป็นการซ้อมรบทางทหารครั้งแรก ที่ครอบคลุมทั่วน่านน้ำอันกว้างขวางในภูมิภาคแถบนี้
    .
    เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของไต้หวัน บอกว่าจีนมีเรือของกองทัพเรือและเรือยามชายฝั่งเกือบ 90 ลำ อยู่ใกล้กับไต้หวัน หมู่เกาะต่างๆทางใต้ของญี่ปุ่น ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งราวๆ 2 ใน 3 เป็นเรือของกองทัพเรือ
    .
    กระทรวงกลาโหมของปักกิ่งยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้
    .
    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความคาดหมายว่า จีน ที่กล่าวอ้างว่า ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จะทำการซ้อมรบอีกรอบ ตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เดินทางเยือนแปซิฟิก ในนั้นรวมถึงหยุดพักในฮาวายและกวม ดินแดนของสหรัฐฯ รอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคง
    .
    จีน กำหนดพื้นที่สงวนทางอากาศชั่วคราวจนถึงวันพุธ(11ธ.ค.) ครอบคลุมมณฑลต่างๆทางตะวันออกอย่างเช่นฟูเจี้ยนและเจ้อเจียง กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในถ้อยแถลง
    .
    ปกติแล้วพื้นที่ลักษณะดังกล่าวเป็นการจัดสรรไว้สำหรับใช้งานอย่างเจาะจงในช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ แต่เครื่องบินอื่นๆก็อาจสามารถบินผ่านไปได้หากได้รับอนุญาต ภายใต้กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ
    .
    ประกาศแจ้งภารกิจทางอากาศที่ออกโดยจีน ได้ให้พิกัด 7 พื้นที่ ซึ่งใน 2 ในนั้น อยู่ในมณฑลฟูเจี้ยน ที่หันหน้าเข้าให้ไต้หวัน แต่มันอยู่ใกล้กับชายฝั่งของจีน ส่วนที่เหลืออยู่ตามแนวชายฝั่งของมณฑลเจ้อเจียงและนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ในทะเลจีนตะวันออก
    .
    อย่างไรก็ตาม จีน ไม่แถลงอย่างเจาะจงเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธใดๆหรือขอบเขตปฏิบัติการทางทหาร หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2022 พวกเขารัวยิงขีปนาวุธเป็นชุดลงสู่น่านน้ำรอบๆไต้หวัน ระหว่างการซ้อมรบ เพื่อประท้วงกรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น เดินทางเยือนกรุงไทเป
    .
    ในความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯบอกว่าพวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด ต่อความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนใกล้ไต้หวัน
    .
    "เรายังคงเรียกร้องสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ดำเนินการด้วยความอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำต่างๆที่อาจบ่อนทำลายสนติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคในวงกว้าง การแวะพักตามปกติของประธานาธิบดีไล่ ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างสำหรับแรงกดดันทางทหาร" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุ
    .
    เจ้าหน้าที่ไต้หวัน ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าการประจำการเรือครั้งนี้ของจีน ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่มากกว่าการซ้อมรบใหญ่รอบๆไต้หวัน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ในปีนี้
    .
    "เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเล็งเป้าหมายแนวสายโซ่หมู่เกาะทั้งหมด" แหล่งข่าวระบุ อ้างถึงพื้นที่ที่ทอดยาวจากญี่ปุ่นไปจนถึงไต้หวัน ฟิลิปปินส์และเกาะบอร์เนียว ปิดล้อมทะเลต่างๆที่อยู่รอบชายฝั่งของจีน "มันมีเจตนาโดยรวมเพื่อบรรลุเป้าหมายข่มขู่ทางทหาร ด้วยการจัดวางกำลังเพื่อควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสายโซ่หมู่เกาะ"
    .
    "พฤติกรรมยั่วยุแต่เพียงฝ่ายเดียวและไม่มีเหตุผล อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สันติภาพและเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก และไม่เป็นที่ยินดีของประชาคมนานาชาติ" กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ
    .
    ปักกิ่ง เคยตราหน้า "ไล่" ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน และปฏิเสธเสียงเรียกร้องของเขาซ้ำๆที่ขอให้มีการเจรจา ส่วนทางไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างด้านอธิปไตยของปักกิ่งเช่นกัน บอกว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง
    .
    การสำแดงสรรพกำลังของจีนรอบๆไต้หวันและในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ได้โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้ง
    .
    ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯบอกกับทหารเรืออเมริกาในญี่ปุ่น ว่าจีนเป็นเพียงประเทศที่มีเจตนาและมีแสนยานุภาพเพิ่มมากขึ้น ที่จะท้าทายระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎกติกาเป็นรากฐาน "ดังนั้น เราจึงต้องการเห็นภูมิภาคแถบนี้ พื้นที่นี้ ยังคงเปิดกว้างสำหรับเสรีภาพในการล่องเรือ และสามารถบินเหนือบนท้องฟ้าและน่านฟ้าสากลตามที่เราต้องการ"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118435
    ..............
    Sondhi X
    ไต้หวัน ยกระดับเตือนภัย หลังจีนประกาศพื้นที่สงวนทางอากาศ รวมถึงประจำการเรือกองทัพเรือและยามชายฝั่ง ในสิ่งที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเรียกว่าเป็นการซ้อมรบทางทหารครั้งแรก ที่ครอบคลุมทั่วน่านน้ำอันกว้างขวางในภูมิภาคแถบนี้ . เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงระดับสูงของไต้หวัน บอกว่าจีนมีเรือของกองทัพเรือและเรือยามชายฝั่งเกือบ 90 ลำ อยู่ใกล้กับไต้หวัน หมู่เกาะต่างๆทางใต้ของญี่ปุ่น ในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งราวๆ 2 ใน 3 เป็นเรือของกองทัพเรือ . กระทรวงกลาโหมของปักกิ่งยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อรายงานข่าวนี้ . ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นท่ามกลางความคาดหมายว่า จีน ที่กล่าวอ้างว่า ไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จะทำการซ้อมรบอีกรอบ ตอบโต้กรณีที่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ เดินทางเยือนแปซิฟิก ในนั้นรวมถึงหยุดพักในฮาวายและกวม ดินแดนของสหรัฐฯ รอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวด้านความมั่นคง . จีน กำหนดพื้นที่สงวนทางอากาศชั่วคราวจนถึงวันพุธ(11ธ.ค.) ครอบคลุมมณฑลต่างๆทางตะวันออกอย่างเช่นฟูเจี้ยนและเจ้อเจียง กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในถ้อยแถลง . ปกติแล้วพื้นที่ลักษณะดังกล่าวเป็นการจัดสรรไว้สำหรับใช้งานอย่างเจาะจงในช่วงเวลาหนึ่งที่กำหนดไว้ แต่เครื่องบินอื่นๆก็อาจสามารถบินผ่านไปได้หากได้รับอนุญาต ภายใต้กฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ . ประกาศแจ้งภารกิจทางอากาศที่ออกโดยจีน ได้ให้พิกัด 7 พื้นที่ ซึ่งใน 2 ในนั้น อยู่ในมณฑลฟูเจี้ยน ที่หันหน้าเข้าให้ไต้หวัน แต่มันอยู่ใกล้กับชายฝั่งของจีน ส่วนที่เหลืออยู่ตามแนวชายฝั่งของมณฑลเจ้อเจียงและนอกชายฝั่งเซี่ยงไฮ้ ในทะเลจีนตะวันออก . อย่างไรก็ตาม จีน ไม่แถลงอย่างเจาะจงเกี่ยวกับการทดสอบอาวุธใดๆหรือขอบเขตปฏิบัติการทางทหาร หลังจากก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม 2022 พวกเขารัวยิงขีปนาวุธเป็นชุดลงสู่น่านน้ำรอบๆไต้หวัน ระหว่างการซ้อมรบ เพื่อประท้วงกรณีที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ ณ ขณะนั้น เดินทางเยือนกรุงไทเป . ในความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯบอกว่าพวกเขากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด ต่อความเคลื่อนไหวทางทหารของจีนใกล้ไต้หวัน . "เรายังคงเรียกร้องสาธารณรัฐประชาชนจีน ให้ดำเนินการด้วยความอดทนอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำต่างๆที่อาจบ่อนทำลายสนติภาพและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคในวงกว้าง การแวะพักตามปกติของประธานาธิบดีไล่ ไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างสำหรับแรงกดดันทางทหาร" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุ . เจ้าหน้าที่ไต้หวัน ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกว่าการประจำการเรือครั้งนี้ของจีน ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่มากกว่าการซ้อมรบใหญ่รอบๆไต้หวัน 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ในปีนี้ . "เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเล็งเป้าหมายแนวสายโซ่หมู่เกาะทั้งหมด" แหล่งข่าวระบุ อ้างถึงพื้นที่ที่ทอดยาวจากญี่ปุ่นไปจนถึงไต้หวัน ฟิลิปปินส์และเกาะบอร์เนียว ปิดล้อมทะเลต่างๆที่อยู่รอบชายฝั่งของจีน "มันมีเจตนาโดยรวมเพื่อบรรลุเป้าหมายข่มขู่ทางทหาร ด้วยการจัดวางกำลังเพื่อควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของสายโซ่หมู่เกาะ" . "พฤติกรรมยั่วยุแต่เพียงฝ่ายเดียวและไม่มีเหตุผล อาจก่อความเสียหายร้ายแรงแก่สันติภาพและเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก และไม่เป็นที่ยินดีของประชาคมนานาชาติ" กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุ . ปักกิ่ง เคยตราหน้า "ไล่" ว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน และปฏิเสธเสียงเรียกร้องของเขาซ้ำๆที่ขอให้มีการเจรจา ส่วนทางไทเปปฏิเสธคำกล่าวอ้างด้านอธิปไตยของปักกิ่งเช่นกัน บอกว่ามีเพียงประชาชนชาวไต้หวันเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง . การสำแดงสรรพกำลังของจีนรอบๆไต้หวันและในพื้นที่พิพาททะเลจีนใต้ ได้โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้ง . ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯบอกกับทหารเรืออเมริกาในญี่ปุ่น ว่าจีนเป็นเพียงประเทศที่มีเจตนาและมีแสนยานุภาพเพิ่มมากขึ้น ที่จะท้าทายระเบียบระหว่างประเทศที่มีกฎกติกาเป็นรากฐาน "ดังนั้น เราจึงต้องการเห็นภูมิภาคแถบนี้ พื้นที่นี้ ยังคงเปิดกว้างสำหรับเสรีภาพในการล่องเรือ และสามารถบินเหนือบนท้องฟ้าและน่านฟ้าสากลตามที่เราต้องการ" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000118435 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1123 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ถ้วยรางวัลภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 36 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงรับรางวัลชนะเลิศ

    วันนี้ (6 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.01 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ ห้องกานดา ฮอลล์ โรงแรมบียอนด์ กะตะ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงานฯ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงานฯ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ฯ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานฯ และกราบบังคมทูลเบิก พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย

    จากนั้นพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเควินรอเบิร์ต วิทคร๊าฟท์ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ กราบบังคมทูลเบิก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เข้ารับรางวัลชนะเลิศ ในนามทีมเรือใบวายุ และเบิกผู้ชนะการแข่งขัน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัลต่างๆ และผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขัน ฯเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่ที่ระลึกตามลำดับ

    ต่อจากนั้น เสด็จออกจากห้องกานดา ฮอลล์ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000117522

    #MGROnline #ในหลวง #พระราชินี #ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า #เรือใบ #ทีมวายุ #หาดกะตะ #ภูเก็ต
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ถ้วยรางวัลภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า” ครั้งที่ 36 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงรับรางวัลชนะเลิศ • วันนี้ (6 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.01 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ ห้องกานดา ฮอลล์ โรงแรมบียอนด์ กะตะ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยฯ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงานฯ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรการจัดงานฯ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ฯ กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานฯ และกราบบังคมทูลเบิก พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย • จากนั้นพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเควินรอเบิร์ต วิทคร๊าฟท์ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ กราบบังคมทูลเบิก สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เข้ารับรางวัลชนะเลิศ ในนามทีมเรือใบวายุ และเบิกผู้ชนะการแข่งขัน เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรางวัลต่างๆ และผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขัน ฯเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานโล่ที่ระลึกตามลำดับ • ต่อจากนั้น เสด็จออกจากห้องกานดา ฮอลล์ สมควรแก่เวลา จึงประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานภูเก็ต อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000117522 • #MGROnline #ในหลวง #พระราชินี #ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า #เรือใบ #ทีมวายุ #หาดกะตะ #ภูเก็ต
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 698 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปสาระสไลด์สำคัญทั้งเนื้อหาและแผนที่ ในการบรรยายพิเศษของกรมยุทธศึกษาทหารเรือวันนี้ ไม่มี “เส้นอื่น”
    สรุปสาระสไลด์สำคัญทั้งเนื้อหาและแผนที่ ในการบรรยายพิเศษของกรมยุทธศึกษาทหารเรือวันนี้ ไม่มี “เส้นอื่น”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวง ทรงมีพระราชดำรัสให้ทหารทุกนายร่วมแรงร่วมใจกับทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

    วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 18.11 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับยืน รองผู้บังคับกองผสมสั่งหมู่เชิญธง ทรงรับการถวายเคารพ แล้วประทับพระราชอาสน์

    จากนั้นพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลอากาศเอกพันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลโทอชิรวิชญ์ ศรีไพบูลย์ ที่ปรึกษาพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทบ เข้าประจำแถวหน้าพลับพลาที่ประทับ แล้วพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล พร้อมนำกำลังพลสวนสนามฯกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน

    “ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตาย เพื่อรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ แห่งพระมหากษัตริย์เจ้า
    ข้าพระพุทธเจ้า จักจงรักภักดี และถวายความปลอดภัย ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่
    ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจะปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทุกประการ ข้าพระพุทธเจ้า ขอรับด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ” เมื่อกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนจบ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ปืนใหญ่ยุงสลุตเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่กำลังพลสวนสนามทุกทั้ง 11 กองพัน ดังสรุปใจความว่า “ ขอให้ทหารทุกนายปฎิบัติตามคำสัตย์ปฏิญาณด้วยใจจริง..และขอให้ร่วมแรงร่วมใจกับทุกฝ่ายในบ้านเมือง..อันจะนำมาซึ่งความผาสุกของบ้านเมือง..”

    เมื่อพระราชทานพระบรมราโชวาทจบ กำลังพลสวนสนามฯ และผู้ร่วมในพิธี ร่วมกันร้องเพลงราชสวัสดิ์ถวาย รองผู้บังคับกองผสมสั่ง กองผสมถวายความเคารพธงชัยเฉลิมพล หมู่เชิญธงชัยเฉลิมพลจัดแถว และเดินกลับเข้าประจำแถวทหาร

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังรถยนต์พระที่นั่ง เพื่อประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จออกจากพระลานพระราชวังดุสิตกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ระหว่างที่รถพระที่นั่งกำลังเคลื่อนเข้าสู่ทางประตูภูธรลีลาศนั้น รองผู้บังคับกองผสมนำกำลังพลสวนสนามฯ และผู้ร่วมในพิธีเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วพระลานพระราชวังดุสิต

    นำมาซึ่งภาพแห่งความประทับใจยิ่ง ที่หน่วยทหารรักษาพระองค์จากเหล่าทัพต่าง ๆ พร้อมใจกันกระทําพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนเพื่อถวาย ความเคารพต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นการแสดงให้ประชาชนชาวไทยได้ประจักษ์ว่า ทหารรักษาพระองค์จะปฏิบัติหน้าที่ ดํารงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ และถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่พระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต ความผาสุกร่มเย็นของราชอาณาจักรไทยนี้ มีขึ้นได้ด้วยการหลอมรวมใจของ คนไทยทั้งแผ่นดิน โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมของจิตใจโดยแท้จริง

    #MGROnline #พิธีสวนสนาม #ถวายสัตย์ปฏิญาณ #ทหารราชวัลลภฯ
    ในหลวง ทรงมีพระราชดำรัสให้ทหารทุกนายร่วมแรงร่วมใจกับทุกฝ่าย เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน • วันนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 18.11 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ประทับยืน รองผู้บังคับกองผสมสั่งหมู่เชิญธง ทรงรับการถวายเคารพ แล้วประทับพระราชอาสน์ • จากนั้นพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลเรือเอกจิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พลอากาศเอกพันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ พลโทอชิรวิชญ์ ศรีไพบูลย์ ที่ปรึกษาพิเศษกองบัญชาการกองทัพไทบ เข้าประจำแถวหน้าพลับพลาที่ประทับ แล้วพลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ถวายดอกไม้ธูปเทียนแพ แล้วกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล พร้อมนำกำลังพลสวนสนามฯกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตน • “ข้าพระพุทธเจ้า จักยอมตาย เพื่อรักษาไว้ ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ แห่งพระมหากษัตริย์เจ้า ข้าพระพุทธเจ้า จักจงรักภักดี และถวายความปลอดภัย ต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จนชีวิตหาไม่ ข้าพระพุทธเจ้า จักเชิดชูและรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศ เกียรติศักดิ์ ของทหารรักษาพระองค์ ทั้งจะปฏิบัติตนให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทุกประการ ข้าพระพุทธเจ้า ขอรับด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ” เมื่อกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณตนจบ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ปืนใหญ่ยุงสลุตเฉลิมพระเกียรติ 21 นัด • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่กำลังพลสวนสนามทุกทั้ง 11 กองพัน ดังสรุปใจความว่า “ ขอให้ทหารทุกนายปฎิบัติตามคำสัตย์ปฏิญาณด้วยใจจริง..และขอให้ร่วมแรงร่วมใจกับทุกฝ่ายในบ้านเมือง..อันจะนำมาซึ่งความผาสุกของบ้านเมือง..” • เมื่อพระราชทานพระบรมราโชวาทจบ กำลังพลสวนสนามฯ และผู้ร่วมในพิธี ร่วมกันร้องเพลงราชสวัสดิ์ถวาย รองผู้บังคับกองผสมสั่ง กองผสมถวายความเคารพธงชัยเฉลิมพล หมู่เชิญธงชัยเฉลิมพลจัดแถว และเดินกลับเข้าประจำแถวทหาร • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังรถยนต์พระที่นั่ง เพื่อประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จออกจากพระลานพระราชวังดุสิตกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ระหว่างที่รถพระที่นั่งกำลังเคลื่อนเข้าสู่ทางประตูภูธรลีลาศนั้น รองผู้บังคับกองผสมนำกำลังพลสวนสนามฯ และผู้ร่วมในพิธีเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วพระลานพระราชวังดุสิต • นำมาซึ่งภาพแห่งความประทับใจยิ่ง ที่หน่วยทหารรักษาพระองค์จากเหล่าทัพต่าง ๆ พร้อมใจกันกระทําพิธีสวนสนามและถวายสัตย์ปฏิญาณตนเพื่อถวาย ความเคารพต่อหน้าพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นการแสดงให้ประชาชนชาวไทยได้ประจักษ์ว่า ทหารรักษาพระองค์จะปฏิบัติหน้าที่ ดํารงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ และถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่พระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต ความผาสุกร่มเย็นของราชอาณาจักรไทยนี้ มีขึ้นได้ด้วยการหลอมรวมใจของ คนไทยทั้งแผ่นดิน โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมของจิตใจโดยแท้จริง • #MGROnline #พิธีสวนสนาม #ถวายสัตย์ปฏิญาณ #ทหารราชวัลลภฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 718 มุมมอง 0 รีวิว
  • เร่งประสานช่วยคนไทย มั่นใจเมียนมาแค่ยิงเตือน เชื่อปัญหาไม่บานปลาย
    .
    เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ภายหลังศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) เปิดเผยว่า ศรชล.ภาค 3 ได้รับแจ้งข่าวจากเรือประมงชื่อเรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 บริเวณพื้นที่ทับซ้อนไทย-เมียนมา ขณะทำการหาปลากับกลุ่มเรือประมงในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้ร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกเรือรบเมียนมาทำการใช้อาวุธ โดยตัวเรือได้รับความเสียหายน้ำเข้าเรือปริมาณมาก มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 2 ราย และเรือรบเมียนมาได้เข้าจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 1 ลำ คือเรือ ส.เจริญชัย 8 มีลูกเรือจำนวน 31 คน โดยถูกจับกุมไปยังเกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา
    .
    พล.ร.ท.สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 (ผบ.ทรภ.3) และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ผอ.ศรชล.ภาค 3) ได้รับรายงานว่ามีการดำเนินการจับกุมเรือประมงไทยจริง เนื่องจากมีกลุ่มเรือประมงไทยเข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำลึกเข้าไปในเขตประเทศเมียนมา ประมาณ 4-5.7 ไมล์ และผลจากการประสาน ได้รับแจ้งจาก ผบ.สน.เรือ 58 เกาะย่านเชือก ว่าจะส่งมอบเรือประมงและลูกเรือที่ถูกจับกุมไปยังสถานีประมงเกาะสอง ในอีกประมาณ 2 วันข้างหน้า
    .
    ทั้งนี้ สรุปผลการเข้าให้การช่วยเหลือ เรือดวงทวีผล 333 (เรือในกลุ่มเรือประมงในที่เกิดเหตุ) โดยเรือ ต.274 เข้าทำการค้นหาและช่วยเหลือลูกเรือได้ครบทั้งหมด โดยเสียชีวิต 1 ราย คาดว่าเกิดจากการสำลักน้ำขณะโดดน้ำหนี นอกจากนี้ เรือ ต.274 ได้นำลูกเรือประมงชื่อเรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 จำนวน 2 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บมาส่งท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดระนอง นำส่งผู้บาดเจ็บให้กับ รพ.ระนอง เพื่อทำการรักษาต่อ
    .
    พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้อาวุธและอำนาจของเมียนมาว่าเกินขอบเขตหรือไม่ และเรามีอำนาจเข้าไปป้องกันมากน้อยเพียงใด ที่สำคัญคือต้องดูว่าพื้นที่เกิดเหตุอยู่ตรงไหน จุดใด มีกฎหมายใดบังคับใช้ เราเข้าไปรุกล้ำเขา หรือเขาเข้ามาใช้อำนาจเกินขอบเขต หากเป็นอย่างหลังจะมีการตอบโต้อย่างชัดเจน
    .
    ด้านนาย​ภูมิธรรม​ เวชย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ ​รมว.กลาโหม​ ยอมรับว่า เรือรบเมียนมายิงเรือประมงของไทยจริง​ แต่เป็นการยิงสัญญาณเตือน ไม่ใช่การทำร้าย​ และมีบางส่วนกระเจิดกระเจิง​และตกใจตกน้ำไป​ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานว่าเหตุการณ์​ดังกล่าวนั้นเป็นเช่นไร​
    .
    "ในเบื้องต้นทางกองทัพเรือได้มีการเจรจากับทางการเมียนมา​ เนื่องจากเจตนาในเบื้องต้นไม่ใช่ต้องการรุกล้ำน่านน้ำแต่อย่างใด​ และจะไม่ลุกลามเป็นปัญหาระหว่างสองประเทศ​ มองว่ายังไม่ถึงขั้นที่ต้องทำหนังสือเตือนระหว่างรัฐบาล" รมว.กลาโหมกล่าว
    .
    พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทยว่า มองว่าการกระทำของเรือรบเมียนมา จะต้องมีการประท้วง ตามช่องทางของกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงคณะกรรมการชายแดน หรือ TBC ว่าได้กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ และเท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้น เรือรบเมียนมา ยิงเข้าไปตัวเรือประมงไทย ไม่ใช่จุดที่เป็นที่อยู่ของลูกเรือ ซึ่งกรณีผู้เสียชีวิต เกิดจากการกระโดดน้ำและจมน้ำเสียชีวิต แต่เรื่องนี้ทางการไทยไม่ยอม จะประท้วงตามช่องทางที่ทำได้ และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ต่อไป
    ..................
    Sondhi X
    เร่งประสานช่วยคนไทย มั่นใจเมียนมาแค่ยิงเตือน เชื่อปัญหาไม่บานปลาย . เกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ภายหลังศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ศรชล.ภาค 3) เปิดเผยว่า ศรชล.ภาค 3 ได้รับแจ้งข่าวจากเรือประมงชื่อเรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 บริเวณพื้นที่ทับซ้อนไทย-เมียนมา ขณะทำการหาปลากับกลุ่มเรือประมงในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้ร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกเรือรบเมียนมาทำการใช้อาวุธ โดยตัวเรือได้รับความเสียหายน้ำเข้าเรือปริมาณมาก มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 2 ราย และเรือรบเมียนมาได้เข้าจับกุมเรือประมงไทยจำนวน 1 ลำ คือเรือ ส.เจริญชัย 8 มีลูกเรือจำนวน 31 คน โดยถูกจับกุมไปยังเกาะย่านเชือก ประเทศเมียนมา . พล.ร.ท.สุวัจ ดอนสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 (ผบ.ทรภ.3) และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 (ผอ.ศรชล.ภาค 3) ได้รับรายงานว่ามีการดำเนินการจับกุมเรือประมงไทยจริง เนื่องจากมีกลุ่มเรือประมงไทยเข้าไปทำการประมงในเขตน่านน้ำลึกเข้าไปในเขตประเทศเมียนมา ประมาณ 4-5.7 ไมล์ และผลจากการประสาน ได้รับแจ้งจาก ผบ.สน.เรือ 58 เกาะย่านเชือก ว่าจะส่งมอบเรือประมงและลูกเรือที่ถูกจับกุมไปยังสถานีประมงเกาะสอง ในอีกประมาณ 2 วันข้างหน้า . ทั้งนี้ สรุปผลการเข้าให้การช่วยเหลือ เรือดวงทวีผล 333 (เรือในกลุ่มเรือประมงในที่เกิดเหตุ) โดยเรือ ต.274 เข้าทำการค้นหาและช่วยเหลือลูกเรือได้ครบทั้งหมด โดยเสียชีวิต 1 ราย คาดว่าเกิดจากการสำลักน้ำขณะโดดน้ำหนี นอกจากนี้ เรือ ต.274 ได้นำลูกเรือประมงชื่อเรือ มหาลาภธนวัฒน์ 4 จำนวน 2 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บมาส่งท่าเทียบเรือน้ำลึกจังหวัดระนอง นำส่งผู้บาดเจ็บให้กับ รพ.ระนอง เพื่อทำการรักษาต่อ . พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า กองทัพเรือจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการใช้อาวุธและอำนาจของเมียนมาว่าเกินขอบเขตหรือไม่ และเรามีอำนาจเข้าไปป้องกันมากน้อยเพียงใด ที่สำคัญคือต้องดูว่าพื้นที่เกิดเหตุอยู่ตรงไหน จุดใด มีกฎหมายใดบังคับใช้ เราเข้าไปรุกล้ำเขา หรือเขาเข้ามาใช้อำนาจเกินขอบเขต หากเป็นอย่างหลังจะมีการตอบโต้อย่างชัดเจน . ด้านนาย​ภูมิธรรม​ เวชย​ชัย​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ ​รมว.กลาโหม​ ยอมรับว่า เรือรบเมียนมายิงเรือประมงของไทยจริง​ แต่เป็นการยิงสัญญาณเตือน ไม่ใช่การทำร้าย​ และมีบางส่วนกระเจิดกระเจิง​และตกใจตกน้ำไป​ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานว่าเหตุการณ์​ดังกล่าวนั้นเป็นเช่นไร​ . "ในเบื้องต้นทางกองทัพเรือได้มีการเจรจากับทางการเมียนมา​ เนื่องจากเจตนาในเบื้องต้นไม่ใช่ต้องการรุกล้ำน่านน้ำแต่อย่างใด​ และจะไม่ลุกลามเป็นปัญหาระหว่างสองประเทศ​ มองว่ายังไม่ถึงขั้นที่ต้องทำหนังสือเตือนระหว่างรัฐบาล" รมว.กลาโหมกล่าว . พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีเรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทยว่า มองว่าการกระทำของเรือรบเมียนมา จะต้องมีการประท้วง ตามช่องทางของกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงคณะกรรมการชายแดน หรือ TBC ว่าได้กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุหรือไม่ และเท่าที่ได้รับรายงานเบื้องต้น เรือรบเมียนมา ยิงเข้าไปตัวเรือประมงไทย ไม่ใช่จุดที่เป็นที่อยู่ของลูกเรือ ซึ่งกรณีผู้เสียชีวิต เกิดจากการกระโดดน้ำและจมน้ำเสียชีวิต แต่เรื่องนี้ทางการไทยไม่ยอม จะประท้วงตามช่องทางที่ทำได้ และเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ต่อไป .................. Sondhi X
    Like
    Angry
    Sad
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1236 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธินัด 2 ธ.ค. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ จี้ชี้แจงเอ็มโอยู 44
    .
    สนธิ ลิ้มทองกุล เตรียมยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณีเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2544 ชี้เรื่องนี้เรื่องใหญ่ จ่อสูญเสียอธิปไตยเช่นเดียวกรณีปราสาทพระวิหาร ชี้มีพระบรมราชโองการ รัชกาลที่ 9 ยึดหลักกฎหมายทะเลสากล
    .
    วันนี้ (25 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ คุยทุกเรื่องกับสนธิ กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 2567 เวลา 10.30 น. ตนและนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต จะไปยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้นายกฯ ชี้แจงกรณีเอ็มโอยู ไทย-กัมพูชา 2544 ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทางทะเล 12 ไมล์ทะเลโดยรอบเกาะกูด จ.ตราด หลังจากที่นายภูมิธรรม เวชยะชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อ้างว่าเกาะกูดยังเป็นของไทย และเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2544 ไม่สามารถยกเลิกได้
    .
    โดยนายสนธิเห็นว่าการที่นายภูมิธรรมพูด แสดงว่าไม่เข้าใจว่าเอ็มโอยูเป็นข้อตกลงเบื้องต้น ไม่ใช่สนธิสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น เป็นสิทธิของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่หากไม่พอใจข้อตกลงก็สามารถถอนตัวได้ พร้อมกันนี้ ถ้าหากรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมั่นใจในข้อมูล ก็อยากจะเสนอให้นายภูมิธรรมมาออกรายการโทรทัศน์สาธารณะ ซึ่งฝั่งตนจะอธิบายและคัดค้านด้วยหลักฐานและข้อเท็จจริง นอกจากนี้ตนขอถามว่า การที่ผู้บัญชาการทหารเรือสั่งทหารเรือหยุดลาดตระเวนโดยรอบเกาะกูดเป็นคำสั่งของนายภูมิธรรมหรือไม่ ถ้าสั่งจริงก็เหมือนกับจะยกพื้นที่ให้กับกัมพูชาใช่หรือไม่
    .
    สำหรับที่มาที่ไปของเอ็มโอยู 2544 คนที่ลงนามเป็นคนแรกคือ นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นผู้รับรอง เคยมีความพยายามยกเลิกในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ไม่ทันนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา กระทั่งสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการนำเรื่องเอ็มโอยู 2544 ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในขณะนั้น การที่ยอมรับเอ็มโอยู 2544 เท่ากับเป็นการยอมรับกัมพูชาลากเส้นทางทะเลรุกล้ำเขตแดนฝั่งไทย ทั้งที่สมัยรัชกาลที่ 9 เคยมีพระบรมราชโองการและหลักฐานชัดเจนว่าถ้าจะมีการเจรจาให้ยึดกฎหมายทะเลสากลเป็นหลัก แต่ไม่มีใครพูดถึง
    .
    “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องของการสูญเสียอธิปไตยไป เราสูญเสียเขาพระวิหารให้เขมรแล้ว ยุคนั้นเขมรไปฟ้องศาลโลก เราเตือนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์แล้วว่าอย่าไป เพราะเราไม่ยอมรับศาลโลก แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์แสดงว่ายอมรับความเป็นสากล ผลปรากฎว่าเราแพ้ วันนี้เราใช้กฎหมายทะเลสากล เขมรก็ไม่ยอมรับตรงนี้ แต่กลับกันสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์กลับยอมรับศาลโลกได้ มันเป็นความขัดแย้งที่เลวร้ายมาก คนๆ หนึ่งจะตัดสินใจคนละแบบได้อย่างไร ถ้าเราจะเจรจากับเขมรด้วยหลักการเอ็มโอยู 2544 เราจะสูญเสียอธิปไตยอย่างแน่นอน ประชาชนรับได้หรือไม่ที่นายทักษิณพูดว่า ช่างมันเถอะ แบ่งผลประโยชน์กัน 50-50 คุณทักษิณพูดแต่เรื่องผลประโยชน์ แต่ไม่พูดเรื่องอธิปไตยของชาติ“ นายสนธิ กล่าว
    .
    นายสนธิ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ นายภูมิธรรม รวมทั้งนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่พูดถึงพระบรมราชโองการของรัฐบาลที่ 9 ซึ่งประกาศออกมาในปี 2516 ว่ามีหลักการแบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะพระบรมราชโองการเมื่อประกาศออกมาแล้ว ถือว่าเป็นคำสั่งของจอมทัพ ของประมุขประเทศ คนอื่นจะไปทำเป็นอย่างอื่นย่อมทำไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เป็นเรื่องใหญ่
    ........
    Sondhi X
    สนธินัด 2 ธ.ค. ยื่นหนังสือถึงนายกฯ จี้ชี้แจงเอ็มโอยู 44 . สนธิ ลิ้มทองกุล เตรียมยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาล ให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณีเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2544 ชี้เรื่องนี้เรื่องใหญ่ จ่อสูญเสียอธิปไตยเช่นเดียวกรณีปราสาทพระวิหาร ชี้มีพระบรมราชโองการ รัชกาลที่ 9 ยึดหลักกฎหมายทะเลสากล . วันนี้ (25 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ คุยทุกเรื่องกับสนธิ กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ทางยูทูบ Sondhitalk ระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 2567 เวลา 10.30 น. ตนและนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต จะไปยื่นหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้นายกฯ ชี้แจงกรณีเอ็มโอยู ไทย-กัมพูชา 2544 ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ทางทะเล 12 ไมล์ทะเลโดยรอบเกาะกูด จ.ตราด หลังจากที่นายภูมิธรรม เวชยะชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม อ้างว่าเกาะกูดยังเป็นของไทย และเอ็มโอยูไทย-กัมพูชา ปี 2544 ไม่สามารถยกเลิกได้ . โดยนายสนธิเห็นว่าการที่นายภูมิธรรมพูด แสดงว่าไม่เข้าใจว่าเอ็มโอยูเป็นข้อตกลงเบื้องต้น ไม่ใช่สนธิสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น เป็นสิทธิของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่หากไม่พอใจข้อตกลงก็สามารถถอนตัวได้ พร้อมกันนี้ ถ้าหากรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยมั่นใจในข้อมูล ก็อยากจะเสนอให้นายภูมิธรรมมาออกรายการโทรทัศน์สาธารณะ ซึ่งฝั่งตนจะอธิบายและคัดค้านด้วยหลักฐานและข้อเท็จจริง นอกจากนี้ตนขอถามว่า การที่ผู้บัญชาการทหารเรือสั่งทหารเรือหยุดลาดตระเวนโดยรอบเกาะกูดเป็นคำสั่งของนายภูมิธรรมหรือไม่ ถ้าสั่งจริงก็เหมือนกับจะยกพื้นที่ให้กับกัมพูชาใช่หรือไม่ . สำหรับที่มาที่ไปของเอ็มโอยู 2544 คนที่ลงนามเป็นคนแรกคือ นายสุรเกียรติ เสถียรไทย รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นผู้รับรอง เคยมีความพยายามยกเลิกในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่ไม่ทันนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภา กระทั่งสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการนำเรื่องเอ็มโอยู 2544 ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในขณะนั้น การที่ยอมรับเอ็มโอยู 2544 เท่ากับเป็นการยอมรับกัมพูชาลากเส้นทางทะเลรุกล้ำเขตแดนฝั่งไทย ทั้งที่สมัยรัชกาลที่ 9 เคยมีพระบรมราชโองการและหลักฐานชัดเจนว่าถ้าจะมีการเจรจาให้ยึดกฎหมายทะเลสากลเป็นหลัก แต่ไม่มีใครพูดถึง . “เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องของการสูญเสียอธิปไตยไป เราสูญเสียเขาพระวิหารให้เขมรแล้ว ยุคนั้นเขมรไปฟ้องศาลโลก เราเตือนรัฐบาลนายอภิสิทธิ์แล้วว่าอย่าไป เพราะเราไม่ยอมรับศาลโลก แต่รัฐบาลอภิสิทธิ์แสดงว่ายอมรับความเป็นสากล ผลปรากฎว่าเราแพ้ วันนี้เราใช้กฎหมายทะเลสากล เขมรก็ไม่ยอมรับตรงนี้ แต่กลับกันสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์กลับยอมรับศาลโลกได้ มันเป็นความขัดแย้งที่เลวร้ายมาก คนๆ หนึ่งจะตัดสินใจคนละแบบได้อย่างไร ถ้าเราจะเจรจากับเขมรด้วยหลักการเอ็มโอยู 2544 เราจะสูญเสียอธิปไตยอย่างแน่นอน ประชาชนรับได้หรือไม่ที่นายทักษิณพูดว่า ช่างมันเถอะ แบ่งผลประโยชน์กัน 50-50 คุณทักษิณพูดแต่เรื่องผลประโยชน์ แต่ไม่พูดเรื่องอธิปไตยของชาติ“ นายสนธิ กล่าว . นายสนธิ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ นายภูมิธรรม รวมทั้งนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ไม่พูดถึงพระบรมราชโองการของรัฐบาลที่ 9 ซึ่งประกาศออกมาในปี 2516 ว่ามีหลักการแบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด เพราะพระบรมราชโองการเมื่อประกาศออกมาแล้ว ถือว่าเป็นคำสั่งของจอมทัพ ของประมุขประเทศ คนอื่นจะไปทำเป็นอย่างอื่นย่อมทำไม่ได้อยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เป็นเรื่องใหญ่ ........ Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    12
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1721 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ทร. ลงพื้นที่เกาะกูด ย้ำปกป้องอธิปไตยชาติ มั่นใจปัญหาไม่บายปลาย
    .
    เรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา กลายเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงอย่างมากในสังคมเวลานี้ โดยเฉพาะท่าทีขององค์กรภาคประชาชนและพรรคการเมืองฝ่ายค้านอย่างพรรคพลังประชารัฐที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าประเทศไทยมีความสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดน ซึ่งเป็นเหตุผลที่สืบเนื่องมาจากการที่ไทยยังไม่ยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักไทยทย-กัมพูชา เกี่ยวกับอ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย ปี พ.ศ. 2544 (MOU 2544)
    .
    ในเรื่องนี้มีท่าทีจากฝ่ายกองทัพออกมาแสดงความคิดเห็น โดยพล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด พร้อมรับฟังบรรยายสรุปถึงการปฏิบัติงานของหน่วย และการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพล และประสิทธิภาพของหน่วย เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ห่างไกลต่อไป โดยมี พล.ร.ต.ชรัมม์ภากร พรหมภากร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด คณะผู้บังคับบัญชาและกำลังพลของหน่วย ให้การต้อนรับ
    .
    ทั้งนี้ พล.ร.อ. จิรพล ระบุว่า หน้าที่ของกองทัพเรือ คือการดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติ รัฐบาลไทยได้ประกาศเขต เอาไว้แล้วเมื่อปี พุทธศักราช 2516 เราจะดูแลพื้นที่ตามเขตแดนที่รัฐบาลประกาศไว้ ส่วนความคืบหน้าหรือข้อตกลงอะไรนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ที่จะดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้กับประชาชน
    .
    “ขอให้มั่นใจกองทัพเรือดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติ และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่ ยืนยันความสัมพันธ์ ทั้งสองประเทศ พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ไม่มีความขัดแย้งใดๆ”
    .
    สำหรับกรณีที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวนั้น ผบ.ทร. กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่ากองทัพเรือจะดูแลพื้นที่ตรงนี้ได้ ไม่ต้องเดินทางไกลมาถึงที่นี่ ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนฝั่ง และบนเกาะมีความมั่นใจกับกองทัพเรืออยู่แล้ว อย่างไรก็ตามพื้นที่ของเรามีความสงบ ปลอดภัย ชาวประมงสามารถทำมาหากินได้ปกติ ขณะที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีความเข้าใจ และก็หากินในพื้นที่ของตนเอง ส่วนเราก็ทำมาหากินในพื้นที่ของเราไม่มีความขัดแย้งใดๆ
    ..............
    Sondhi X
    ผบ.ทร. ลงพื้นที่เกาะกูด ย้ำปกป้องอธิปไตยชาติ มั่นใจปัญหาไม่บายปลาย . เรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา กลายเป็นประเด็นที่มีการพูดถึงอย่างมากในสังคมเวลานี้ โดยเฉพาะท่าทีขององค์กรภาคประชาชนและพรรคการเมืองฝ่ายค้านอย่างพรรคพลังประชารัฐที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าประเทศไทยมีความสุ่มเสี่ยงต่อการเสียดินแดน ซึ่งเป็นเหตุผลที่สืบเนื่องมาจากการที่ไทยยังไม่ยกเลิกบันทึกความเข้าใจระหว่างราชอาณาจักไทยทย-กัมพูชา เกี่ยวกับอ้างสิทธิทับซ้อนทางทะเลในอ่าวไทย ปี พ.ศ. 2544 (MOU 2544) . ในเรื่องนี้มีท่าทีจากฝ่ายกองทัพออกมาแสดงความคิดเห็น โดยพล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด พร้อมรับฟังบรรยายสรุปถึงการปฏิบัติงานของหน่วย และการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตกำลังพล และประสิทธิภาพของหน่วย เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่กำลังพลที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่ห่างไกลต่อไป โดยมี พล.ร.ต.ชรัมม์ภากร พรหมภากร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด คณะผู้บังคับบัญชาและกำลังพลของหน่วย ให้การต้อนรับ . ทั้งนี้ พล.ร.อ. จิรพล ระบุว่า หน้าที่ของกองทัพเรือ คือการดูแลรักษาผลประโยชน์ของชาติ รัฐบาลไทยได้ประกาศเขต เอาไว้แล้วเมื่อปี พุทธศักราช 2516 เราจะดูแลพื้นที่ตามเขตแดนที่รัฐบาลประกาศไว้ ส่วนความคืบหน้าหรือข้อตกลงอะไรนั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล เราทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ที่จะดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้กับประชาชน . “ขอให้มั่นใจกองทัพเรือดูแลเขตแดนอธิปไตยของชาติ และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มที่ ยืนยันความสัมพันธ์ ทั้งสองประเทศ พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ไม่มีความขัดแย้งใดๆ” . สำหรับกรณีที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวนั้น ผบ.ทร. กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจ ว่ากองทัพเรือจะดูแลพื้นที่ตรงนี้ได้ ไม่ต้องเดินทางไกลมาถึงที่นี่ ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนฝั่ง และบนเกาะมีความมั่นใจกับกองทัพเรืออยู่แล้ว อย่างไรก็ตามพื้นที่ของเรามีความสงบ ปลอดภัย ชาวประมงสามารถทำมาหากินได้ปกติ ขณะที่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านมีความเข้าใจ และก็หากินในพื้นที่ของตนเอง ส่วนเราก็ทำมาหากินในพื้นที่ของเราไม่มีความขัดแย้งใดๆ .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1241 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยคอมมานโดอิสราเอลลักพาตัวเจ้าหน้าที่ทหารเรือของกองทัพเรือเลบานอน

    ภาพเหตุการณ์ขณะที่ทหารอิสราเอลประมาณ 25 นาย แอบลักลอบเข้ามาในเมืองบาตรูนด้วยเรือเร็ว เพื่อบุกจับกุมตัวอัมฮาซ และรีบกลับออกไปอย่างรวดเร็ว

    "อาลี ฮามิเอห์" รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเลบานอนยืนยันว่า อัมฮาซ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพ และเป็นเพียงเจ้าหน้าที่เดินเดินเรือทางทะเลของพลเรือน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ UNIFIL รับรองการบังคับใช้มติ 1701 ตลอดแนวชายฝั่งเลบานอน เนื่องจากเหตุการณ์นี้ถือเป็นการลักพาตัวพลเรือนของเลบานอนโดยเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ

    แหล่งข่าวกองทัพเลบานอนเปิดเผยว่า อิมัด อัมฮาซ ซึ่งถูกจับตัวไปในเมืองบาตรูน กำลังเรียนหลักสูตรกัปตันเรือที่สถาบันการเดินเรือ ซึ่งเป็นสถาบันเอกชนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานความมั่นคงของเลบานอน

    ทางด้านสื่ออิสราเอลอ้างว่า "อัมฮาซ" เป็นสมาชิกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
    หน่วยคอมมานโดอิสราเอลลักพาตัวเจ้าหน้าที่ทหารเรือของกองทัพเรือเลบานอน ภาพเหตุการณ์ขณะที่ทหารอิสราเอลประมาณ 25 นาย แอบลักลอบเข้ามาในเมืองบาตรูนด้วยเรือเร็ว เพื่อบุกจับกุมตัวอัมฮาซ และรีบกลับออกไปอย่างรวดเร็ว "อาลี ฮามิเอห์" รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเลบานอนยืนยันว่า อัมฮาซ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกองทัพ และเป็นเพียงเจ้าหน้าที่เดินเดินเรือทางทะเลของพลเรือน พร้อมทั้งเรียกร้องให้ UNIFIL รับรองการบังคับใช้มติ 1701 ตลอดแนวชายฝั่งเลบานอน เนื่องจากเหตุการณ์นี้ถือเป็นการลักพาตัวพลเรือนของเลบานอนโดยเจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศ แหล่งข่าวกองทัพเลบานอนเปิดเผยว่า อิมัด อัมฮาซ ซึ่งถูกจับตัวไปในเมืองบาตรูน กำลังเรียนหลักสูตรกัปตันเรือที่สถาบันการเดินเรือ ซึ่งเป็นสถาบันเอกชนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานความมั่นคงของเลบานอน ทางด้านสื่ออิสราเอลอ้างว่า "อัมฮาซ" เป็นสมาชิกของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารเรือพร้อมรบ 100%
    ทหารเรือพร้อมรบ 100%
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • เกาะกูด เป็นของใคร ? วันนี้ผมมีคำตอบครับ #กองทัพเรือ #ประเทศไทย #เกาะกูด #ตราด #ประวัติศาสตร์น่ารู้ #ทหารเรือ #รัชกาลที่5 #วันปิยมหาราช
    เกาะกูด เป็นของใคร ? วันนี้ผมมีคำตอบครับ #กองทัพเรือ #ประเทศไทย #เกาะกูด #ตราด #ประวัติศาสตร์น่ารู้ #ทหารเรือ #รัชกาลที่5 #วันปิยมหาราช
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • ชมการฝึกซ้อมใหญ่ครั้งที่ ๑ ขบวนพยุหยาตรา ณ กรมอู่ทหารเรือ ธนบุรี
    ชมการฝึกซ้อมใหญ่ครั้งที่ ๑ ขบวนพยุหยาตรา ณ กรมอู่ทหารเรือ ธนบุรี
    Love
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 41 0 รีวิว
  • ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก กรมกิจการพลเรือนทหารเรือครับ #คนไทยปลอดภัย

    @บ้านแกงไทย
    ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก กรมกิจการพลเรือนทหารเรือครับ #คนไทยปลอดภัย @บ้านแกงไทย
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 43 0 รีวิว
  • “สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม” การอัญเชิญเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และการจัดนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติฯ ณ บริเวณท่าราชวรดิฐ #เรือพระที่นั่ง #เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ #กองทัพเรือ #เรือพระราชพิธี #ฝีพายตัวดํา #ทหารเรือ #bangkok #thailand
    “สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพียงหงส์ทรงพรหมมินทร์ ลินลาศเลื่อนเตือนตาชม” การอัญเชิญเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และการจัดนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติฯ ณ บริเวณท่าราชวรดิฐ #เรือพระที่นั่ง #เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ #กองทัพเรือ #เรือพระราชพิธี #ฝีพายตัวดํา #ทหารเรือ #bangkok #thailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 634 มุมมอง 28 0 รีวิว
Pages Boosts