• กลุ่มฮามาสลงโทษ "ประหารชีวิต" ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุปล้นสะดมหลายราย หลังพบว่ามีกลุ่มชายฉรรจ์นำอาวุธบุกปล้นร้านขายอาหารและครัวประจำชุมชนหลายแห่งในกาซาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000041862

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กลุ่มฮามาสลงโทษ "ประหารชีวิต" ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุปล้นสะดมหลายราย หลังพบว่ามีกลุ่มชายฉรรจ์นำอาวุธบุกปล้นร้านขายอาหารและครัวประจำชุมชนหลายแห่งในกาซาเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000041862 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    8
    0 Comments 0 Shares 282 Views 0 Reviews
  • นครนิวยอร์กกำลังทดลองใช้ AI และกล้องวงจรปิด เพื่อ ตรวจจับอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดินก่อนที่มันจะเกิดขึ้น โดยหน่วยงานขนส่งนครนิวยอร์ก (MTA) กำลังทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์

    ระบบนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถ ตอบสนองต่อพฤติกรรมที่น่าสงสัยได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การผลักคนลงไปบนรางรถไฟ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม New York Civil Liberties Union ได้ออกมาเตือนว่า AI อาจมีความลำเอียงและอาจนำไปสู่การเฝ้าระวังที่มากเกินไป โดยระบุว่า "ความปลอดภัยที่แท้จริงมาจากการลงทุนในชุมชน ไม่ใช่จากการเฝ้าระวังตลอดเวลา"

    ✅ MTA กำลังพัฒนา AI เพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย
    - วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์
    - แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ก่อนเกิดเหตุการณ์

    ✅ เป้าหมายของระบบ AI
    - ลดอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดิน
    - ป้องกันเหตุการณ์รุนแรง เช่น การผลักคนลงรางรถไฟ

    ✅ ข้อจำกัดของระบบ
    - ไม่ใช้ การจดจำใบหน้า แต่เน้นการตรวจจับพฤติกรรม
    - ยังอยู่ในช่วงทดลองและพัฒนา

    ✅ ตัวอย่างการใช้ AI ในประเทศอื่น
    - สหราชอาณาจักรกำลังพัฒนา อัลกอริธึมทำนายคดีฆาตกรรม
    - เกาหลีใต้กำลังทดลองใช้ Dejaview ซึ่งเป็นระบบ AI ที่วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิด

    https://www.techspot.com/news/107741-new-york-wants-use-ai-cameras-detect-subway.html
    นครนิวยอร์กกำลังทดลองใช้ AI และกล้องวงจรปิด เพื่อ ตรวจจับอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดินก่อนที่มันจะเกิดขึ้น โดยหน่วยงานขนส่งนครนิวยอร์ก (MTA) กำลังทำงานร่วมกับบริษัทเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ ระบบนี้จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถ ตอบสนองต่อพฤติกรรมที่น่าสงสัยได้ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น การผลักคนลงไปบนรางรถไฟ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม New York Civil Liberties Union ได้ออกมาเตือนว่า AI อาจมีความลำเอียงและอาจนำไปสู่การเฝ้าระวังที่มากเกินไป โดยระบุว่า "ความปลอดภัยที่แท้จริงมาจากการลงทุนในชุมชน ไม่ใช่จากการเฝ้าระวังตลอดเวลา" ✅ MTA กำลังพัฒนา AI เพื่อตรวจจับพฤติกรรมที่น่าสงสัย - วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดแบบเรียลไทม์ - แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ก่อนเกิดเหตุการณ์ ✅ เป้าหมายของระบบ AI - ลดอาชญากรรมในระบบรถไฟใต้ดิน - ป้องกันเหตุการณ์รุนแรง เช่น การผลักคนลงรางรถไฟ ✅ ข้อจำกัดของระบบ - ไม่ใช้ การจดจำใบหน้า แต่เน้นการตรวจจับพฤติกรรม - ยังอยู่ในช่วงทดลองและพัฒนา ✅ ตัวอย่างการใช้ AI ในประเทศอื่น - สหราชอาณาจักรกำลังพัฒนา อัลกอริธึมทำนายคดีฆาตกรรม - เกาหลีใต้กำลังทดลองใช้ Dejaview ซึ่งเป็นระบบ AI ที่วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิด https://www.techspot.com/news/107741-new-york-wants-use-ai-cameras-detect-subway.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New York wants to use AI and cameras to detect subway crime before it happens
    MTA Chief Security Officer Michael Kemper said (via The Gothamist) that the agency is working with AI companies to develop the software that can analyze real-time subway...
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ทั่วซีเรีย โดยโจมตีกรุงดามัสกัส รวมทั้งบริเวณใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีของซีเรีย


    นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล และรัฐมนตรีกลาโหม "อิสราเอล แคตซ์" ประกาศชัดเจนว่าการโจมตีครั้งนี้ เพื่อตอบโต้โจลานี ผู้นำซีเรียที่ส่งกองกำลังของเขาเข้าปราบปรามชุมชนชาวดรูซทางตอนใต้ของซีเรีย ที่ต้องการผนวกรวมเข้ากับอิสราเอล

    เนทันยาฮูประกาศว่า “อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้มีการส่งกองกำลังไปทางใต้ของดามัสกัสหรือคุกคามชุมชนดรูซอีกต่อไป” การโจมตีครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงรัฐบาลซีเรียจากอิสราเอล เพื่อป้องกันสิ่งที่เรียกว่า “การคุกคามจากกองกำลังทหาร”

    การโจมตีครั้งนี้ยังรวมถึงพื้นที่ชนบท เดอรา ฮามา ลาตาเกีย อิดลิบ และพื้นที่อื่นๆอีกด้วย
    อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ทั่วซีเรีย โดยโจมตีกรุงดามัสกัส รวมทั้งบริเวณใกล้ทำเนียบประธานาธิบดีของซีเรีย นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล และรัฐมนตรีกลาโหม "อิสราเอล แคตซ์" ประกาศชัดเจนว่าการโจมตีครั้งนี้ เพื่อตอบโต้โจลานี ผู้นำซีเรียที่ส่งกองกำลังของเขาเข้าปราบปรามชุมชนชาวดรูซทางตอนใต้ของซีเรีย ที่ต้องการผนวกรวมเข้ากับอิสราเอล เนทันยาฮูประกาศว่า “อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้มีการส่งกองกำลังไปทางใต้ของดามัสกัสหรือคุกคามชุมชนดรูซอีกต่อไป” การโจมตีครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนถึงรัฐบาลซีเรียจากอิสราเอล เพื่อป้องกันสิ่งที่เรียกว่า “การคุกคามจากกองกำลังทหาร” การโจมตีครั้งนี้ยังรวมถึงพื้นที่ชนบท เดอรา ฮามา ลาตาเกีย อิดลิบ และพื้นที่อื่นๆอีกด้วย
    0 Comments 1 Shares 169 Views 0 Reviews
  • ..ใกล้เข้ามาแล้ว การเลือกตั้งท้องถิ่น ระดับเทศบาล,ก่อนหน้านั้นก็อบต. ,จะเป็นแบบใด เอาจริงๆนะ ล้วนล้มเหลวการบริหารการปกครองหมด,กอบโกย คตโกงกันตรึมทั้งหมด แปลงานๆทั้งเดอะแก๊งมีสาระพัดมุกสาระพัดวิธีแดกตังหลวงแดกงบประมาณขององค์กรตนเอง,ส่งตังส่งงานให้เดอะแก๊งใครมันล่ะ ร่ำรวยผิดหูผิดตากันเลย,นั่งๆฟังกันในค่าจริง การซื้อเสัยงแจกตังมันปกติจริงๆ,คุณภาพชาวบ้านไทบ้านเราต่ำ ขาดจิตสำนึก ผู้เฒ่าผู้แก่พ่อใหญ่แม่ใหญ่ไทบ้านคนชราแก่แต่ผม งอกขาวเต็มหัวเฉยๆเป็นอันมากต่างไร้สำนึก&ยินยอมพร้อมรับตังใครคนไหนแจกตังล่ะ,สมควรถูกลดประชากรจริงๆพูดคุยสนุกปากไร้ละอายใจ,คนลงสมัครก็พร้อมลงทุนหามาแจก,นายทุนจึงควบคุมสิ้น ถ้าระดับชาติถ้าผมคือdeep stateใช้เศษตังไม่กี่ล้านล้านบาทซื้อการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมดแบบสบายๆใจมากในไทยและพร้อมลงทุนในระดับชาติแบบสส.สว.ด้วย.จากนัันยึดสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินไทยทั้งหมดสิ้นอย่างสบายๆ,อยากได้อะไรปั่นป่วนแบบไหนสั่งลงไปแค่นั้นให้เปิดทางให้เขียนกฎหมายตีตรากดขี่บังคับคนไทยทั้งประเทศแบบไหนก็ได้ระดับชาติหรือท้องถิ่นจะยึดแบบไหน ปิดหูปิดตาประชาชนแบบใด มันง่ายจริงๆ,คนไทยเรายากจนไม่พอ ไร้ศักดิ์ศรีด้วย ทั้งรัฐบาลเองรุมเหยียบศักดิ์คนไทยด้วยเพราะไม่สร้างสำนึกดี ส่งเสริมสำนึกดี สนับสนุนสำนึกดี นำพาการสำนึกดีกระตุ้นเติมเต็มส่วนที่ขาดคือความร่ำรวยให้เขาร่ำรวยจริงคู่ขนานสำนึกจิตใจดีงามด้วย,มิทำให้ชาวบ้านยากจน จนพร้อมขายเสียงขายสิทธิพึงได้มากมายไปตลอดสิทธิมิให้ใครเหยียบย่ำกดขี่ในลักษณะหมากมุกแผนการเลวชั่วใดๆก็ด้วยได้,
    ..แต่ในปัจจุบันนี้หน้างาน ชาวบ้านไทบ้านโดยมากรอตัวคนสมัครมาแจกอย่างมากก็ว่า โคตรขาดสำนึกดี มีแต่สำนึกไม่ดีแทนแล้ว ชาติได้จึงไม่เจริญวิบัติอัปรีย์เพราะผู้เฒ่าผู้เฒ่าระยำมากมายเต็มหมู่บ้านชุมชนนั้นๆ แล้วก็เลือกหาให้คนซื้อเสียงนั้นได้ไป การโกงกินอย่างชอบธรรมหมายเอาคืนจึงเริ่มต้นในแต่ละท้องที่ ความเหี้ยบรรลัยมากมายหลายสถานะจึงบังเกิด,เพราะคนส่วนใหญ่นีัขาดคุณภาพ อาจรอให้คนเฒ่าอยู่นานผมงอกเหล่านี้ตายหมดก่อนมั้งชาติไทยจึงเจริญต่อไปได้,แต่ก็อนาถอีกเพราะคนรุ่นปัจจุบันมันพากันชูสามนิ้วกะแต่จะล้มสถาบันอีกกับเด็กๆเยาวชนรุ่นใหม่ๆนี้,และอาจเป็นเดอะแก๊งพร้อมรับตังพร้อมขาดจิตสำนึกเหมือนผู้เฒ่าผู้แก่ไทบ้านอีก.,
    ..มองไปวงการไหน มันสิ้นอนาคตจริงๆพร้อมพังพินาศสิ้นชาติของแท้ตลอดเวลา,เลือกตั้งท้องถิ่นทั้งที่ผ่านมาและกำลังมีขึ้นสมควรยกเลิก&ระงับทั้งหมดเลย,สอบแข่งขันแต่งตั้งจากส่วนกลางไปก่อน,เหมือนยุติบทบาทนักการเมืองทั้งสภานั้นล่ะหรือนายกฯและทั้งคณะยุติบทบาทตนลง พักงานไปเองก่อนจึงบังคับให้พักงานด้วยทหารเหมือนยึดอำนาจที่ผ่านๆมาซึ่งเป็นทหารที่ไม่ใช่deep stateบังคับบัญชาแบบในอดีตที่เคยๆผ่านมา, อบต.อบท.อบจ.สมควรยุติบทบาทด้วยจริงๆยุบทั้งหมดเลย,ไปที่อำเภอในแต่ละอำเภอแทน,พักงานเพื่อกวาดล้างทำความสะอาดกันใหม่จริงๆ,งบลงมา100ล้าน ถึงหน้างานเนื้องานจริงแค่10-20ล้านเป็นต้น,บางแห่งอาจแดกแรงก็นี้ก็ว่า,เทศบาลเมือง เทศบาลนครอีกจะขนาดไหน,เดอะแก๊งอิทธิพลเจ้าถิ่นใครมันตรึมล่ะ,คิดเล่นๆอาจต้องใช้ระบบการเงินควอนตัมQFSดิจิดัลจริงๆหรือนี้,ตรวจสอบธุรกรรมการเงินเรียลไทม์เลย โกงทันที รู้ทันทีด้วย ตรวจสายตังต้นทางถึงปลายทางได้หมด,คนจะคตโกงหมดสิทธิแน่นอนเพราะอะไรๆที่เกี่ยวกับตัง QFSจัดการตัวเดียวจบเลย,เพราะงบสาระพัดจะลงไปเนื้องานไหน ผ่านมือใครจนถึงจบเนื้องานทำงานสำเร็จหรือกลับคืนเป็นใต้โต๊ะหรือทุจริตสไตล์ใดๆไม่รอดก็ว่า,แต่ต้องแลกด้วยอิสระภาพการใช้จ่ายแบบเดิมๆคือตังกระดาษทั้งหมดทั่วไทย,ไม่มีตังกระดาษอีกต่อไป,ไม่มีคนโกง,แต่AIจะควบคุมมนุษย์แบบเราๆในคอกเป็นทาสระบบมันอย่างง่ายดายเช่นกันด้วย,หรือเผด็จการAIในอนาคตแน่นอน,กฎหมายทั้งหมดAIจะเขียนเองล่ะ รวดเร็วโคตรๆเรียลไทม์ก็ได้,ยกเลิกตอนไหนก็ไม่รู้,มีใหม่ออกมาใช่ตอนไหนก็ไม่ทราบอีก,ไม่ต่างจากกระทรวงทบวงกรมที่พากันนั่งห้องแอร์ร่างเขียนมติที่ประชุมออกมาบังคับใช้หรอก,แต่มันรวดเร็วอาจไม่กี่นาทีก็ใช้บังคับได้เลยล่ะ,
    ..ช่วงจังหวะเวลานี้ยอมรับจริงๆ อบต.อบท.อบจ. ไม่มีก็ได้,จะมาค้านอำนาจนายอำเภอผู้ว่าทำไม,มันคือการสร้างความแตกแยกแตกต่าง 2ระบบจนสับสนเอง,อดีตไม่มีอบต.อบท.อบจ.ค่าครองชีพหรือราคาน้ำมันยังไม่แพงแบบนี้เลย,มีก็เสียของ,บ่อน้ำมันติดจมูกพื้นที่ท้องถิ่นตนเองยังไม่ร่วมประสานอบต.อบท.อบจ.ทั่วประเทศลงชุมชนใครมันบอกค่าจริงความจริงแก่ประชาชนร่วมกันตีแผ่ตื่นรับรู้ เสริมสติปัญญาสาระพัดทางแก่ชาวบ้าน อาทิทำไมมีน้ำมันมากมายหลายบ่อขนาดนี้ แล้วไม่ทำเองขุดเองเจาะดูดขายเองในราคาถูกๆ ดูดข้อมูลทั่วโลกประชุมแบบสมัยคอมมิวนิสต์ว่าค่าจริงดีแบบไหน ค่าเท็จปกปิดทำไมเพื่อใคร ใครคือข้าศึกศัตรูความมั่งคั่งร่ำรวยประชาชนคนไทย เครือข่าย อบต.อบท.อบจ.ทำซากอะไร บ่อน้ำมันบนบกก็อยู่บนดินมิใช่ในอากาศ ขยายองค์รอบรู้อีกสู่อ่าวไทยและอันดามัน, นี้ไง เรามีอบต.อบท.อบจ.เสียของ ค้านอำนาจห่าอะไร ถ้านายอำเภอผู้ว่าร่วมกันปกปิดค่าจริงประชาชนก็ค้านนายอำเภอผู้ว่า รักษาสิทธิการทำความร่ำรวยมั่งคั่งจากบ่อน้ำมันให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศสิ,,เรามีวิถีปกครองที่กาก ผู้ปกครองที่เหี้ยกระจอกหวาดกลัวประชาชนตนเองมีอยู่มีกินสุขสบายร่ำรวย แล้วปกครองยาก ซื้อเสียงแจกตังแจกของจะสร้างบุญคุณให้คนไทยหมายสำนึกต่อบุญคุณที่ตนกระทำลงไปไม่ได้ดีพอแบบเต็มที่ในสำนึกเหมือนตอนยากจนขาดแคลนลำบากก็ว่า,มันร่ำรวยแล้วเงินทองสิ่งของเหี้ยซื้อใจมันไม่ได้ก็ว่า,กูทำชั่วทำเลว มันถีบกูลงจากตำแหน่งปกครองแน่นอนเพราะผิดคุณธรรมการเป็นผู้นำก็ว่าแบบไม่ซื่อสัตย์ คตโกงเช่นในยุคปัจจุบัน.

    https://m.youtube.com/watch?v=-pGKd9-dgMY
    ..ใกล้เข้ามาแล้ว การเลือกตั้งท้องถิ่น ระดับเทศบาล,ก่อนหน้านั้นก็อบต. ,จะเป็นแบบใด เอาจริงๆนะ ล้วนล้มเหลวการบริหารการปกครองหมด,กอบโกย คตโกงกันตรึมทั้งหมด แปลงานๆทั้งเดอะแก๊งมีสาระพัดมุกสาระพัดวิธีแดกตังหลวงแดกงบประมาณขององค์กรตนเอง,ส่งตังส่งงานให้เดอะแก๊งใครมันล่ะ ร่ำรวยผิดหูผิดตากันเลย,นั่งๆฟังกันในค่าจริง การซื้อเสัยงแจกตังมันปกติจริงๆ,คุณภาพชาวบ้านไทบ้านเราต่ำ ขาดจิตสำนึก ผู้เฒ่าผู้แก่พ่อใหญ่แม่ใหญ่ไทบ้านคนชราแก่แต่ผม งอกขาวเต็มหัวเฉยๆเป็นอันมากต่างไร้สำนึก&ยินยอมพร้อมรับตังใครคนไหนแจกตังล่ะ,สมควรถูกลดประชากรจริงๆพูดคุยสนุกปากไร้ละอายใจ,คนลงสมัครก็พร้อมลงทุนหามาแจก,นายทุนจึงควบคุมสิ้น ถ้าระดับชาติถ้าผมคือdeep stateใช้เศษตังไม่กี่ล้านล้านบาทซื้อการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมดแบบสบายๆใจมากในไทยและพร้อมลงทุนในระดับชาติแบบสส.สว.ด้วย.จากนัันยึดสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินไทยทั้งหมดสิ้นอย่างสบายๆ,อยากได้อะไรปั่นป่วนแบบไหนสั่งลงไปแค่นั้นให้เปิดทางให้เขียนกฎหมายตีตรากดขี่บังคับคนไทยทั้งประเทศแบบไหนก็ได้ระดับชาติหรือท้องถิ่นจะยึดแบบไหน ปิดหูปิดตาประชาชนแบบใด มันง่ายจริงๆ,คนไทยเรายากจนไม่พอ ไร้ศักดิ์ศรีด้วย ทั้งรัฐบาลเองรุมเหยียบศักดิ์คนไทยด้วยเพราะไม่สร้างสำนึกดี ส่งเสริมสำนึกดี สนับสนุนสำนึกดี นำพาการสำนึกดีกระตุ้นเติมเต็มส่วนที่ขาดคือความร่ำรวยให้เขาร่ำรวยจริงคู่ขนานสำนึกจิตใจดีงามด้วย,มิทำให้ชาวบ้านยากจน จนพร้อมขายเสียงขายสิทธิพึงได้มากมายไปตลอดสิทธิมิให้ใครเหยียบย่ำกดขี่ในลักษณะหมากมุกแผนการเลวชั่วใดๆก็ด้วยได้, ..แต่ในปัจจุบันนี้หน้างาน ชาวบ้านไทบ้านโดยมากรอตัวคนสมัครมาแจกอย่างมากก็ว่า โคตรขาดสำนึกดี มีแต่สำนึกไม่ดีแทนแล้ว ชาติได้จึงไม่เจริญวิบัติอัปรีย์เพราะผู้เฒ่าผู้เฒ่าระยำมากมายเต็มหมู่บ้านชุมชนนั้นๆ แล้วก็เลือกหาให้คนซื้อเสียงนั้นได้ไป การโกงกินอย่างชอบธรรมหมายเอาคืนจึงเริ่มต้นในแต่ละท้องที่ ความเหี้ยบรรลัยมากมายหลายสถานะจึงบังเกิด,เพราะคนส่วนใหญ่นีัขาดคุณภาพ อาจรอให้คนเฒ่าอยู่นานผมงอกเหล่านี้ตายหมดก่อนมั้งชาติไทยจึงเจริญต่อไปได้,แต่ก็อนาถอีกเพราะคนรุ่นปัจจุบันมันพากันชูสามนิ้วกะแต่จะล้มสถาบันอีกกับเด็กๆเยาวชนรุ่นใหม่ๆนี้,และอาจเป็นเดอะแก๊งพร้อมรับตังพร้อมขาดจิตสำนึกเหมือนผู้เฒ่าผู้แก่ไทบ้านอีก., ..มองไปวงการไหน มันสิ้นอนาคตจริงๆพร้อมพังพินาศสิ้นชาติของแท้ตลอดเวลา,เลือกตั้งท้องถิ่นทั้งที่ผ่านมาและกำลังมีขึ้นสมควรยกเลิก&ระงับทั้งหมดเลย,สอบแข่งขันแต่งตั้งจากส่วนกลางไปก่อน,เหมือนยุติบทบาทนักการเมืองทั้งสภานั้นล่ะหรือนายกฯและทั้งคณะยุติบทบาทตนลง พักงานไปเองก่อนจึงบังคับให้พักงานด้วยทหารเหมือนยึดอำนาจที่ผ่านๆมาซึ่งเป็นทหารที่ไม่ใช่deep stateบังคับบัญชาแบบในอดีตที่เคยๆผ่านมา, อบต.อบท.อบจ.สมควรยุติบทบาทด้วยจริงๆยุบทั้งหมดเลย,ไปที่อำเภอในแต่ละอำเภอแทน,พักงานเพื่อกวาดล้างทำความสะอาดกันใหม่จริงๆ,งบลงมา100ล้าน ถึงหน้างานเนื้องานจริงแค่10-20ล้านเป็นต้น,บางแห่งอาจแดกแรงก็นี้ก็ว่า,เทศบาลเมือง เทศบาลนครอีกจะขนาดไหน,เดอะแก๊งอิทธิพลเจ้าถิ่นใครมันตรึมล่ะ,คิดเล่นๆอาจต้องใช้ระบบการเงินควอนตัมQFSดิจิดัลจริงๆหรือนี้,ตรวจสอบธุรกรรมการเงินเรียลไทม์เลย โกงทันที รู้ทันทีด้วย ตรวจสายตังต้นทางถึงปลายทางได้หมด,คนจะคตโกงหมดสิทธิแน่นอนเพราะอะไรๆที่เกี่ยวกับตัง QFSจัดการตัวเดียวจบเลย,เพราะงบสาระพัดจะลงไปเนื้องานไหน ผ่านมือใครจนถึงจบเนื้องานทำงานสำเร็จหรือกลับคืนเป็นใต้โต๊ะหรือทุจริตสไตล์ใดๆไม่รอดก็ว่า,แต่ต้องแลกด้วยอิสระภาพการใช้จ่ายแบบเดิมๆคือตังกระดาษทั้งหมดทั่วไทย,ไม่มีตังกระดาษอีกต่อไป,ไม่มีคนโกง,แต่AIจะควบคุมมนุษย์แบบเราๆในคอกเป็นทาสระบบมันอย่างง่ายดายเช่นกันด้วย,หรือเผด็จการAIในอนาคตแน่นอน,กฎหมายทั้งหมดAIจะเขียนเองล่ะ รวดเร็วโคตรๆเรียลไทม์ก็ได้,ยกเลิกตอนไหนก็ไม่รู้,มีใหม่ออกมาใช่ตอนไหนก็ไม่ทราบอีก,ไม่ต่างจากกระทรวงทบวงกรมที่พากันนั่งห้องแอร์ร่างเขียนมติที่ประชุมออกมาบังคับใช้หรอก,แต่มันรวดเร็วอาจไม่กี่นาทีก็ใช้บังคับได้เลยล่ะ, ..ช่วงจังหวะเวลานี้ยอมรับจริงๆ อบต.อบท.อบจ. ไม่มีก็ได้,จะมาค้านอำนาจนายอำเภอผู้ว่าทำไม,มันคือการสร้างความแตกแยกแตกต่าง 2ระบบจนสับสนเอง,อดีตไม่มีอบต.อบท.อบจ.ค่าครองชีพหรือราคาน้ำมันยังไม่แพงแบบนี้เลย,มีก็เสียของ,บ่อน้ำมันติดจมูกพื้นที่ท้องถิ่นตนเองยังไม่ร่วมประสานอบต.อบท.อบจ.ทั่วประเทศลงชุมชนใครมันบอกค่าจริงความจริงแก่ประชาชนร่วมกันตีแผ่ตื่นรับรู้ เสริมสติปัญญาสาระพัดทางแก่ชาวบ้าน อาทิทำไมมีน้ำมันมากมายหลายบ่อขนาดนี้ แล้วไม่ทำเองขุดเองเจาะดูดขายเองในราคาถูกๆ ดูดข้อมูลทั่วโลกประชุมแบบสมัยคอมมิวนิสต์ว่าค่าจริงดีแบบไหน ค่าเท็จปกปิดทำไมเพื่อใคร ใครคือข้าศึกศัตรูความมั่งคั่งร่ำรวยประชาชนคนไทย เครือข่าย อบต.อบท.อบจ.ทำซากอะไร บ่อน้ำมันบนบกก็อยู่บนดินมิใช่ในอากาศ ขยายองค์รอบรู้อีกสู่อ่าวไทยและอันดามัน, นี้ไง เรามีอบต.อบท.อบจ.เสียของ ค้านอำนาจห่าอะไร ถ้านายอำเภอผู้ว่าร่วมกันปกปิดค่าจริงประชาชนก็ค้านนายอำเภอผู้ว่า รักษาสิทธิการทำความร่ำรวยมั่งคั่งจากบ่อน้ำมันให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศสิ,,เรามีวิถีปกครองที่กาก ผู้ปกครองที่เหี้ยกระจอกหวาดกลัวประชาชนตนเองมีอยู่มีกินสุขสบายร่ำรวย แล้วปกครองยาก ซื้อเสียงแจกตังแจกของจะสร้างบุญคุณให้คนไทยหมายสำนึกต่อบุญคุณที่ตนกระทำลงไปไม่ได้ดีพอแบบเต็มที่ในสำนึกเหมือนตอนยากจนขาดแคลนลำบากก็ว่า,มันร่ำรวยแล้วเงินทองสิ่งของเหี้ยซื้อใจมันไม่ได้ก็ว่า,กูทำชั่วทำเลว มันถีบกูลงจากตำแหน่งปกครองแน่นอนเพราะผิดคุณธรรมการเป็นผู้นำก็ว่าแบบไม่ซื่อสัตย์ คตโกงเช่นในยุคปัจจุบัน. https://m.youtube.com/watch?v=-pGKd9-dgMY
    0 Comments 0 Shares 207 Views 0 Reviews
  • นักพัฒนา NSG650 ได้สร้างโปรเจ็กต์ LinuxInExcel ซึ่งทำให้สามารถรัน Linux ภายใน Microsoft Excel ได้ โดยใช้ RISC-V emulator และ Microsoft VBA macro เพื่อเรียกใช้งานอีมูเลเตอร์ใน DLL และแสดงผลในเซลล์ของสเปรดชีต

    แม้ว่าการรัน Linux ใน Excel จะเป็นไปได้ แต่ก็มีข้อจำกัดด้าน ประสิทธิภาพและเสถียรภาพ โดย NSG650 ยอมรับว่าโปรเจ็กต์นี้ "มีบั๊กเยอะมาก" และทำขึ้นเพื่อความสนุกเป็นหลัก

    นอกจากนี้ Enderman ซึ่งเป็น YouTuber ได้เพิ่ม ระบบรองรับอินพุต ให้กับ LinuxInExcel ทำให้สามารถโต้ตอบกับระบบได้มากขึ้น และเผยแพร่วิดีโอสาธิตการติดตั้งและใช้งานบน YouTube

    ✅ การรัน Linux ใน Microsoft Excel
    - ใช้ RISC-V emulator และ Microsoft VBA macro
    - แสดงผลในเซลล์ของสเปรดชีต

    ✅ ข้อจำกัดของโปรเจ็กต์
    - ประสิทธิภาพต่ำและมีบั๊กจำนวนมาก
    - ทำขึ้นเพื่อความสนุกเป็นหลัก

    ✅ การพัฒนาเพิ่มเติมโดย Enderman
    - เพิ่มระบบรองรับอินพุตให้กับ LinuxInExcel
    - เผยแพร่วิดีโอสาธิตการติดตั้งและใช้งาน

    ✅ ความสนใจจากชุมชนออนไลน์
    - โปรเจ็กต์ถูกอัปโหลดบน GitHub และได้รับความสนใจจากนักพัฒนา

    https://www.tomshardware.com/software/linux/developer-gets-linux-running-inside-microsoft-excel-mostly-for-fun
    นักพัฒนา NSG650 ได้สร้างโปรเจ็กต์ LinuxInExcel ซึ่งทำให้สามารถรัน Linux ภายใน Microsoft Excel ได้ โดยใช้ RISC-V emulator และ Microsoft VBA macro เพื่อเรียกใช้งานอีมูเลเตอร์ใน DLL และแสดงผลในเซลล์ของสเปรดชีต แม้ว่าการรัน Linux ใน Excel จะเป็นไปได้ แต่ก็มีข้อจำกัดด้าน ประสิทธิภาพและเสถียรภาพ โดย NSG650 ยอมรับว่าโปรเจ็กต์นี้ "มีบั๊กเยอะมาก" และทำขึ้นเพื่อความสนุกเป็นหลัก นอกจากนี้ Enderman ซึ่งเป็น YouTuber ได้เพิ่ม ระบบรองรับอินพุต ให้กับ LinuxInExcel ทำให้สามารถโต้ตอบกับระบบได้มากขึ้น และเผยแพร่วิดีโอสาธิตการติดตั้งและใช้งานบน YouTube ✅ การรัน Linux ใน Microsoft Excel - ใช้ RISC-V emulator และ Microsoft VBA macro - แสดงผลในเซลล์ของสเปรดชีต ✅ ข้อจำกัดของโปรเจ็กต์ - ประสิทธิภาพต่ำและมีบั๊กจำนวนมาก - ทำขึ้นเพื่อความสนุกเป็นหลัก ✅ การพัฒนาเพิ่มเติมโดย Enderman - เพิ่มระบบรองรับอินพุตให้กับ LinuxInExcel - เผยแพร่วิดีโอสาธิตการติดตั้งและใช้งาน ✅ ความสนใจจากชุมชนออนไลน์ - โปรเจ็กต์ถูกอัปโหลดบน GitHub และได้รับความสนใจจากนักพัฒนา https://www.tomshardware.com/software/linux/developer-gets-linux-running-inside-microsoft-excel-mostly-for-fun
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • ..ประเทศไทยนี้เป็นสถานที่เลี้ยงดูต่างด้าวจริงๆ,เงินมากมายมหาศาลสมควรเลี้ยงดูลูกหลานตนเองคือเยาวชนไทย,มาทำงานสามารถหอบพ่อแม่ลูกเมียมาด้วยได้หรือคนติดตามได้,คนไทยไปทำงานต่างประเทศมากมายหอบพ่อแม่ลูกเมียไปอยู่ด้วยมั้ยนะ,นี้คือการปกครองในระบบสภาที่ยกมือให้ต่างด้าวมีสิทธิในไทยเกินขอบเขต ทำลายความมั่นคงมากมายชัดเจนในมิตินัยยะต่างๆมากมาย ต่างด้าวล้นชุมชนนั้นๆล้นเขตแขวงนั้นๆล้นหมู่บ้านนั้นๆล้นอำเภอล้นจังหวัดนั้นๆมันใช่เหรอ,สมควรผลักดันออกจากประเทศไทยอย่างจริงจังทั้งหมด กวาดล้างจริงจังได้แล้ว ,แย่งพื้นที่ทำกิน แย่งพื้นที่อาศัย มันถูกต้องที่ไหน,พอเถอะกับกฎหมายเปิดทางมากมายให้สะดวกเข้าประเทศไทยเรา ทั้งที่คนไทยเราเองแท้ๆภายในยังลำบากมากมายอยู่,จะมาลักษณะเงินหนาหรือค้าแรงงานใดๆมาอาศัยอยู่ไทยทั้งหมด ถึงเวลาผลักดันไปประเทศอื่นหรือประเทศเขาเองได้แล้ว,ปัญหาทั้งหมดเกิดจากกิจการเอกชนไทย โรงงานที่ตั้งขึ้นมากมายในไทยหรือภาคอุตสาหกรรมนี้เองคือภัยต้นเรื่องสร้างความไม่มั่นคงของชาติ พิจารณาแค่การจ้างใช้งานแรงงานต่างด้าวก็จบที่ต้นเหตุแล้ว,ส่วนสงครามภายใน หน้าที่เราก็ไม่ใช่ คือปัญหาบ้านเขา อาจส่งต่อไปชาติอื่นทันทีด้วย,อาจอาหรับหรือส่งไปอยู่จีนหรือแอฟริกาหรือตะวันตกไปเลย.
    ..มันคือภัยด้านจิตใจคนในชุมชนชัดเจน หวาดระแวงคนที่ไม่ใช่คนไทยด้วยกันแน่นอนที่มาอยู่บริเวณใกล้ๆ ขนาดคนไทยด้วยกันเอง ยังมีภัยได้เพราะใช่คนดีหมดเหมือนกัน,คนไทยไม่ดีก็มาก แบบกิจการต่างๆนั้นล่ะ ยิ่งมิใช่คนไทยถือครอง100%มันจึงพยายามสร้างเงื่อนให้มีสิทธิแก่คนลักษณะแบบมันล่ะ จึงเป็นช่องนำเข้าต่างด้าวแบบยกครัวได้ ,และเจ้าหน้าที่เราเองที่ไม่ดีก็ร่วมมือดีด้วยจนปล่อยมาเกิดเหตุได้.,ดีที่ยังมีเจ้าหน้าที่ดีๆเราอยู่นะนี้.

    https://youtube.com/watch?v=Zn6Ov-0OOIQ&si=uY65HOhOCc1TL-S9
    ..ประเทศไทยนี้เป็นสถานที่เลี้ยงดูต่างด้าวจริงๆ,เงินมากมายมหาศาลสมควรเลี้ยงดูลูกหลานตนเองคือเยาวชนไทย,มาทำงานสามารถหอบพ่อแม่ลูกเมียมาด้วยได้หรือคนติดตามได้,คนไทยไปทำงานต่างประเทศมากมายหอบพ่อแม่ลูกเมียไปอยู่ด้วยมั้ยนะ,นี้คือการปกครองในระบบสภาที่ยกมือให้ต่างด้าวมีสิทธิในไทยเกินขอบเขต ทำลายความมั่นคงมากมายชัดเจนในมิตินัยยะต่างๆมากมาย ต่างด้าวล้นชุมชนนั้นๆล้นเขตแขวงนั้นๆล้นหมู่บ้านนั้นๆล้นอำเภอล้นจังหวัดนั้นๆมันใช่เหรอ,สมควรผลักดันออกจากประเทศไทยอย่างจริงจังทั้งหมด กวาดล้างจริงจังได้แล้ว ,แย่งพื้นที่ทำกิน แย่งพื้นที่อาศัย มันถูกต้องที่ไหน,พอเถอะกับกฎหมายเปิดทางมากมายให้สะดวกเข้าประเทศไทยเรา ทั้งที่คนไทยเราเองแท้ๆภายในยังลำบากมากมายอยู่,จะมาลักษณะเงินหนาหรือค้าแรงงานใดๆมาอาศัยอยู่ไทยทั้งหมด ถึงเวลาผลักดันไปประเทศอื่นหรือประเทศเขาเองได้แล้ว,ปัญหาทั้งหมดเกิดจากกิจการเอกชนไทย โรงงานที่ตั้งขึ้นมากมายในไทยหรือภาคอุตสาหกรรมนี้เองคือภัยต้นเรื่องสร้างความไม่มั่นคงของชาติ พิจารณาแค่การจ้างใช้งานแรงงานต่างด้าวก็จบที่ต้นเหตุแล้ว,ส่วนสงครามภายใน หน้าที่เราก็ไม่ใช่ คือปัญหาบ้านเขา อาจส่งต่อไปชาติอื่นทันทีด้วย,อาจอาหรับหรือส่งไปอยู่จีนหรือแอฟริกาหรือตะวันตกไปเลย. ..มันคือภัยด้านจิตใจคนในชุมชนชัดเจน หวาดระแวงคนที่ไม่ใช่คนไทยด้วยกันแน่นอนที่มาอยู่บริเวณใกล้ๆ ขนาดคนไทยด้วยกันเอง ยังมีภัยได้เพราะใช่คนดีหมดเหมือนกัน,คนไทยไม่ดีก็มาก แบบกิจการต่างๆนั้นล่ะ ยิ่งมิใช่คนไทยถือครอง100%มันจึงพยายามสร้างเงื่อนให้มีสิทธิแก่คนลักษณะแบบมันล่ะ จึงเป็นช่องนำเข้าต่างด้าวแบบยกครัวได้ ,และเจ้าหน้าที่เราเองที่ไม่ดีก็ร่วมมือดีด้วยจนปล่อยมาเกิดเหตุได้.,ดีที่ยังมีเจ้าหน้าที่ดีๆเราอยู่นะนี้. https://youtube.com/watch?v=Zn6Ov-0OOIQ&si=uY65HOhOCc1TL-S9
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • Wikipedia กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของ AI โดย Wikimedia Foundation ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่ในการใช้ AI เพื่อช่วยเหลืออาสาสมัครในการดูแลและปรับปรุงเนื้อหา แทนที่จะใช้ AI เพื่อแทนที่มนุษย์

    AI จะถูกนำมาใช้เพื่อ ลดภาระงานที่ซ้ำซาก เช่น การตรวจสอบบทความ การแปลภาษา และการช่วยให้ข้อมูลสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ AI ยังจะช่วยในการฝึกอบรมอาสาสมัครใหม่ผ่านระบบ mentorship อัตโนมัติ

    อย่างไรก็ตาม Wikimedia Foundation ยืนยันว่า AI จะไม่แทนที่มนุษย์ เนื่องจากชุมชนอาสาสมัครเป็นหัวใจสำคัญของ Wikipedia และการสร้างเนื้อหาต้องอาศัยการพิจารณาและการตัดสินใจร่วมกัน

    ✅ การใช้ AI เพื่อช่วยเหลืออาสาสมัคร
    - ลดภาระงานที่ซ้ำซาก เช่น การตรวจสอบบทความและการแปลภาษา
    - ปรับปรุงการค้นหาข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ การฝึกอบรมอาสาสมัครใหม่
    - ใช้ AI เพื่อช่วยให้การ onboarding ของอาสาสมัครมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ระบบ mentorship อัตโนมัติช่วยให้ผู้ใช้ใหม่เข้าใจการทำงานของ Wikipedia

    ✅ การรักษาบทบาทของมนุษย์
    - Wikimedia Foundation ยืนยันว่า AI จะไม่แทนที่มนุษย์
    - การสร้างเนื้อหาต้องอาศัยการพิจารณาและการตัดสินใจร่วมกัน

    ✅ แผนการดำเนินงาน
    - กลยุทธ์ AI จะถูกนำมาใช้ในช่วงสามปีข้างหน้า
    - มีการทบทวนแผนงานเป็นรายปีเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม

    https://www.neowin.net/news/wikipedia-announces-new-ai-strategy-but-it-wont-sacrifice-human-editors/
    Wikipedia กำลังเข้าสู่ยุคใหม่ของ AI โดย Wikimedia Foundation ได้ประกาศกลยุทธ์ใหม่ในการใช้ AI เพื่อช่วยเหลืออาสาสมัครในการดูแลและปรับปรุงเนื้อหา แทนที่จะใช้ AI เพื่อแทนที่มนุษย์ AI จะถูกนำมาใช้เพื่อ ลดภาระงานที่ซ้ำซาก เช่น การตรวจสอบบทความ การแปลภาษา และการช่วยให้ข้อมูลสามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ AI ยังจะช่วยในการฝึกอบรมอาสาสมัครใหม่ผ่านระบบ mentorship อัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม Wikimedia Foundation ยืนยันว่า AI จะไม่แทนที่มนุษย์ เนื่องจากชุมชนอาสาสมัครเป็นหัวใจสำคัญของ Wikipedia และการสร้างเนื้อหาต้องอาศัยการพิจารณาและการตัดสินใจร่วมกัน ✅ การใช้ AI เพื่อช่วยเหลืออาสาสมัคร - ลดภาระงานที่ซ้ำซาก เช่น การตรวจสอบบทความและการแปลภาษา - ปรับปรุงการค้นหาข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ การฝึกอบรมอาสาสมัครใหม่ - ใช้ AI เพื่อช่วยให้การ onboarding ของอาสาสมัครมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ระบบ mentorship อัตโนมัติช่วยให้ผู้ใช้ใหม่เข้าใจการทำงานของ Wikipedia ✅ การรักษาบทบาทของมนุษย์ - Wikimedia Foundation ยืนยันว่า AI จะไม่แทนที่มนุษย์ - การสร้างเนื้อหาต้องอาศัยการพิจารณาและการตัดสินใจร่วมกัน ✅ แผนการดำเนินงาน - กลยุทธ์ AI จะถูกนำมาใช้ในช่วงสามปีข้างหน้า - มีการทบทวนแผนงานเป็นรายปีเพื่อปรับปรุงให้เหมาะสม https://www.neowin.net/news/wikipedia-announces-new-ai-strategy-but-it-wont-sacrifice-human-editors/
    WWW.NEOWIN.NET
    Wikipedia announces new AI strategy but it won't sacrifice human editors
    Wikipedia is working on a new AI strategy, but it won't replace the humans who built the platform for over 25 years.
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • วันที่ 20 ก.ค 1969 นีล อาร์มตรอง และบัซ อัลดรินลงเหยียบดวงจันทร์ ก่อนหน้านี้การสำรวจนั้นหลายเดือน นีกบินอวกาศนานอพอลโล 11 ต้องฝึกอยู่ในทะเลทรายที่ห่างไกลทางด้านตะวันตกของสหรัฐฯอเมริกาซึ่งท่ลักษณะคล้ายดวงจันทร์ พื้นที่ดังกล่าวเป็นบ้านของชุมชนอเมริกันพื้นเมืองหลายกลุ่ม และก็มีเรื่องราวหรือตำนานที่เผชิญหน้าระหว่างนักบินอวกาศกับคนท้องถิ่น
    วันหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังฝึกกันอยู่นั้น พวกนักบินอวกาศเดินผ่านคนอเมริกันพื้นเมืองอายุมากคนหนึ่ง ขายผู้นั้นถามว่า ทำอะไรกันอยู่ พวกเขาตอบแบบสั้นๆว่า ที่ทำอยู่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจวิจัยซึ่งกำลังเดินทางไปดวงจันทร์ เมื่อชายแก่ได้ยินเช่นนั้น เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนขอให้นักบินอวกาศช่วยทำอะไรให้สักอย่าง
    "จะให้พวกเราทำอะไรครับ?" พวกเขาถาม
    "เอ่อ" ชายแก่พูดตอบ "คนในเผ่าของข้าเชื่อว่ามีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่บนดวงจันทร์ ข้าเลยสงสัยว่า พวกท่านจะช่วยส่งข้อความสำคัญจากคนของข้าไปให้พสกเขาได้หรือไม่"
    "ข้อความใดครับ" นักบินอวกาศถาม
    ชายผู้นั้นกล่าวบางอย่างออกมาเป็นภาษาประจำเผ่าของตน จากนั้นจึงขอให้นักบินอวกาศกล่าวทวนซ้ำๆ จนมั่นใจว่าจดตำได้อย่างถูกต้องแม่นยำแล้ว
    "แล้วข้อความนี้หมายความว่าเช่นไร" นักบินอวกาศถาม
    "โอว ข้าบอกพวกท่านไม่ได้หรอก มันเป็นความลับเฉพาะของคนในเผ่าเรา และวิญญาณบนดวงจันทร์เท่านั้นที่จะรู้ได้"
    พวกนั้นกลับมาถึงฐานปฎิบัติการ นักบินอวกาศพยายามหาคนที่จะพอพูดภาษาประจำเผ่า ซึ่งแม้หาไม่ได้ง่ายนัก แต่พวกเขาก็หาพบจนได้ แล้วจึงขอให้ชายผู้นั้นแปลข้อความลับนั้น เมื่อพวกเขาท่องข้อความนั้นออกมา ล่ามก็หัวเราะเสียงดังอยู่นาน จนเมื่อเขาสงบลงแล้ว พวกนักบินอวกาศถามเขาว่า ข้อความหมายความเช่นไรกันแน่ ชายผู้นั้นอธิบายว่า ประโยคที่พวกเขาตั้งใจท่องจำมานั้นหมายความว่า *** อย่าไปเชื่อคำพูดที่คนพวกนี้บอกท่านแม่แต่คำเดียว พวกเขามาเพื่อขโมยแผ่นดินของพวกท่าน***
    วันที่ 20 ก.ค 1969 นีล อาร์มตรอง และบัซ อัลดรินลงเหยียบดวงจันทร์ ก่อนหน้านี้การสำรวจนั้นหลายเดือน นีกบินอวกาศนานอพอลโล 11 ต้องฝึกอยู่ในทะเลทรายที่ห่างไกลทางด้านตะวันตกของสหรัฐฯอเมริกาซึ่งท่ลักษณะคล้ายดวงจันทร์ พื้นที่ดังกล่าวเป็นบ้านของชุมชนอเมริกันพื้นเมืองหลายกลุ่ม และก็มีเรื่องราวหรือตำนานที่เผชิญหน้าระหว่างนักบินอวกาศกับคนท้องถิ่น วันหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังฝึกกันอยู่นั้น พวกนักบินอวกาศเดินผ่านคนอเมริกันพื้นเมืองอายุมากคนหนึ่ง ขายผู้นั้นถามว่า ทำอะไรกันอยู่ พวกเขาตอบแบบสั้นๆว่า ที่ทำอยู่นั้นเป็นส่วนหนึ่งของการสำรวจวิจัยซึ่งกำลังเดินทางไปดวงจันทร์ เมื่อชายแก่ได้ยินเช่นนั้น เขาเงียบไปชั่วครู่ ก่อนขอให้นักบินอวกาศช่วยทำอะไรให้สักอย่าง "จะให้พวกเราทำอะไรครับ?" พวกเขาถาม "เอ่อ" ชายแก่พูดตอบ "คนในเผ่าของข้าเชื่อว่ามีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่บนดวงจันทร์ ข้าเลยสงสัยว่า พวกท่านจะช่วยส่งข้อความสำคัญจากคนของข้าไปให้พสกเขาได้หรือไม่" "ข้อความใดครับ" นักบินอวกาศถาม ชายผู้นั้นกล่าวบางอย่างออกมาเป็นภาษาประจำเผ่าของตน จากนั้นจึงขอให้นักบินอวกาศกล่าวทวนซ้ำๆ จนมั่นใจว่าจดตำได้อย่างถูกต้องแม่นยำแล้ว "แล้วข้อความนี้หมายความว่าเช่นไร" นักบินอวกาศถาม "โอว ข้าบอกพวกท่านไม่ได้หรอก มันเป็นความลับเฉพาะของคนในเผ่าเรา และวิญญาณบนดวงจันทร์เท่านั้นที่จะรู้ได้" พวกนั้นกลับมาถึงฐานปฎิบัติการ นักบินอวกาศพยายามหาคนที่จะพอพูดภาษาประจำเผ่า ซึ่งแม้หาไม่ได้ง่ายนัก แต่พวกเขาก็หาพบจนได้ แล้วจึงขอให้ชายผู้นั้นแปลข้อความลับนั้น เมื่อพวกเขาท่องข้อความนั้นออกมา ล่ามก็หัวเราะเสียงดังอยู่นาน จนเมื่อเขาสงบลงแล้ว พวกนักบินอวกาศถามเขาว่า ข้อความหมายความเช่นไรกันแน่ ชายผู้นั้นอธิบายว่า ประโยคที่พวกเขาตั้งใจท่องจำมานั้นหมายความว่า *** อย่าไปเชื่อคำพูดที่คนพวกนี้บอกท่านแม่แต่คำเดียว พวกเขามาเพื่อขโมยแผ่นดินของพวกท่าน***
    1 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews

  • ..นี้ก็ด้วย
    ..แผนสร้างความแตกแยก
    ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม.
    ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว,
    ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน,
    ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้.
    ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว,

    ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ.

    https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5

    ..นี้ก็ด้วย ..แผนสร้างความแตกแยก ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม. ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว, ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน, ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้. ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว, ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ. https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5
    0 Comments 0 Shares 260 Views 0 Reviews
  • แม่น้ำกกป่วยเพราะสารพิษหนักเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่าใครจะเป็นหมอรักษา (ตอนที่ 5)
    .................
    มหากาพย์แร่หายากกำลังเป็นฝีแตกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพราะทำให้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และจะส่งผลต่อแม่น้ำโขงป่วยหนักขึ้น การบริโภค การใช้แม่น้ำที่มีวิญญาณของความเป็นแม่ ถูกความโลภ อำนาจ เผาผลาญ และเอากากความความโลภทิ้งลงแม่น้ำ แล้วทุนแร่หายากในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้กำลังสร้างตำนานซ้ำซากที่เกิดขึ้นในแอฟริกา เป็นกระบวนการถลุงแร่ธาตุ เพื่อให้เป็นเลือด
    .................
    สัญญาณแรก ประมงจังหวัดเชียงราย แถลงเมื่อ 25 เม.ย.68 ระบุพบปลากลุ่มตัวอย่างพบโลหะหนัก เช่น สารหนูและปรอท ไม่เกินค่ามาตรฐาน ก็อาจจะไม่ให้เราเบาใจและปล่อยปละละเลย และแสดงความกังวลว่าปลาลดน้อยลงมาก เพราะแม่น้ำเสื่อมโทรม ตั้งแต่ความตื้นเขิน น้ำมีตะกอนดินทั้งปี

    สัญญาณที่สอง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ก็หวั่น ๆ ว่า ผลสรุปการตรวจสอบคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำแม่น้ำกก บริเวณ อ.แม่อาย และอ.เมือง จ.เชียงราย พบมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน อาจจะเกิดอันตรายต่อสัตว์หน้าดินที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เช่น ปลา จะทำให้จำนวนหรือประเภทของสัตว์หน้าดินลดลง ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศลดลง สัตว์น้ำลดจำนวนลง และชาวบ้านจับสัตว์น้ำได้น้อยลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่กินสัตว์น้ำ แต่ไม่แน่ว่าหากมีการสะสมในปลา ถ้าชาวบ้านบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย เช่น ชาที่ปลายมือปลายเท้า (ไข้ดำ: ผิวหนังหนาและเข้ม) มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ

    สัญญาณที่สาม 30 เมษายน ผลตรวจสารหนูเบื้องต้นในแม่น้ำ อ.แม่สาย - อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่า มีหมายเหตุ ผลดังกล่าวเป็นเพียงผลการตรวจเบื้องต้นทางทีมวิจัยจะนำตัวอย่างน้ำส่งตรวจใน Lab มาตรฐานต่อไป
    .................
    แรงกระเพื่อมต่อถึงทำเนียบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุม ติดตามสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล องค์ประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ

    ในการประชุม กระจายหน้าที่แต่ละกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เร่งสั่งการการประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปา พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลสารปนเปื้อนในน้ำ แนวทางการกรองน้ำเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัย รวมถึงการเร่งตรวจสอบแหล่งน้ำในพื้นที่อย่างเข้มข้น

    ประธานในการประชุมมีข้อสั่งการด้านการแก้ไขปัญหา 6 ประเด็น ดังนี้ 1. มอบหมายกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการร่วมกัน เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้าน ใช้กลไกความร่วมมือทุกระดับเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดภายนอกประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก

    2. มอบหมายสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติใช้กลไกลุ่มน้ำโขงเหนือ บริหารจัดการปริมาณน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ เพิ่มน้ำต้นทุนเข้าสู่แม่น้ำกก

    3. มอบหมายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ใช้นวัตกรรมดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ช่วยประเมินความขุ่น สารแขวนลอยในแม่น้ำกกทั้งในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

    4. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก

    5. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก และลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง

    6. มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรม จัดทำแนวทางการลดผลกระทบจากการทำเหมืองและประสานความร่วมมือในการเผยแพร่ให้ประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ
    คำถามที่ท้าทาย จะปล่อยให้ภาวะสะสมเกิดกับประชาชนชาวเชียงราย และประชาชนลุ่มน้ำสาย กก โขงแบบนี้เรื่อย ๆ ใช่หรือไม่

    .................
    เสียงประชาชนต้องดังกว่านี้ เครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก (ค.อ.ก) ก็ได้จัดเวทีความร่วมมือเตือนภัยน้ำกกหลากท่วมปี 2568 โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ “ครูแดง” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พชภ. เป็นประธานการประชุม โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินงานในพื้นที่แม่น้ำกก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอ ถึงนายกรรัฐมนตรี

    1.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในแหล่งกำเนิดมลพิษ ระหว่างทาง และผู้รับผลพิษ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำในจังหวัดเชียงราย
    2. เปิดเผยและซักซ้อมมาตรการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำกก และลุ่มน้ำสาย อย่างเป็นระบบ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพ
    3. สร้างความร่วมมือกับประเทศเมียนมา หรือกองกำลังที่ดูแลในพื้นที่ เพื่อเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสารปนเปื้อน ตลอดลำน้ำกก น้ำสาย ทั้ง พื้นที่ต้นน้ำ ก่อนเหมืองในรัฐฉาน
    4 .สร้างระบบสื่อสารสาธารณะที่โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจุบัน
    5. ขยายขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นการลุกล้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสาย
    6. เปิดการเจรจา 4 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา กองกำลังชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่สัมปทานเหมือง และประเทศจีน เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ

    สรุปคือการส่งเสียงว่ารัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การทำเหมืองทองต้องกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐไปเจรจา ทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล สื่อมวลชน ชาวบ้าน ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าระดับประเทศแก้ไม่ได้ก็ต้องเป็นระดับอาเซียน ภูมิภาค หรือระดับนานาชาติร่วมกันแก้ไข ต้องคุยกับรัฐบาลพม่ารวมถึงรัฐบาลจีน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มว้า เป็นการเมืองระหว่างประเทศ

    เปิดพื้นที่ผ่านการเล่าเรื่องของแม่น้ำกกระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับสิทธิของแม่น้ำ และ การเจรจาระหว่างรัฐกับธรรมชาติ ข้ามเขตแดนรัฐและแนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน (Transboundary Environmental Governance)”
    .................

    ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้แนวคิดการทูตสิ่งแวดล้อมสร้างความร่วมมือแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ต้องเสนอให้เมียนมาเข้าใจด้วยว่า เหมืองแร่อยู่ในเขตควบคุมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่การเจรจาสันติภาพในเมียนมา ต้องหยิบยกเอาประเด็นมลพิษข้ามพรมแดนเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาด้วย

    น.ส.เพียงพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) และผู้อำนวยการฝ่ายรณรงรงค์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) กล่าวว่า ทั้งแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ โดยมีต้นน้ำอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า การสร้างเหมืองทองที่บริเวณต้นน้ำ ทำให้ประชาชนและระบบนิเวศท้ายน้ำซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งหาทางยุติการทำเหมืองและเปิดหน้าดินในวงกว้างให้ได้ เพราะนอกจากส่งผลในเรื่องการปนเปื้อนสารโลหะหนักลงแม่น้ำแล้ว ยังส่งผลต่ออุทกภัยที่มีดินโคลนปนมาด้วย กลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่คนท้ายน้ำต้องเผชิญและหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา

    ก่อนหน้านี้กระแสกระเพื่อมขึ้นในพื้นที่ที่ดีมาก ที่ทาง พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ร่วมรับฟังปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย

    เนื้อหาจึงเจาะประเด็นเชิงความมั่นคงทันทีในมิติของผลกระทบข้ามแดน ตามที่ได้นำเสนอในตอนต้น ๆ เป็นเรื่องของกระบวนการขุมเหมืองแร่สีเลือกเพื่อนำผลประโยชน์มาห่ำหั่นกันทางการเมือง ที่รัฐบาลทหารพม่า อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ต่าง ๆ ในรัฐฉาน ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจีน แต่ก็มีประเทศออสเตรเลีย รัสเซีย และอิตาลีด้วย เหมืองทั้งหมดอยู่เหนือน้ำกก น้ำสาย น้ำรวก
    .................

    มิติทางแม่น้ำระหว่างประเทศ เป็นวิกฤติมลพิษข้ามแดนที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับฝุ่นควันข้ามแดน ที่มีปลายทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองอยู่เบื้องหลัง ต้องใช้เวลาเกลี่ย ล๊อบบี้ กดดัน การตีโอบ เพื่อกระทบ อันจะให้การกดดันทุน และอำนาจรัฐเข้ามาเร่งรัดจัดการปัญหาข้ามพรมแดนไมว่าจะเป็น การทำระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ต้องเพิ่มต้นทุนก็ต้องทำ กรองน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อน

    การให้ความสำคัญมิติ สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การเกษตร การสื่อสาร กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสัมพันธ์และความเข้าใจนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทุกฝ่ายต่อการโต้ตอบเหตุสารเคมีปนเปื้อน เพื่อสื่อสารและการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาการจัดทำรายงานนำเสนอต้นสังกัดและรัฐบาลในการดำเนินการงานร่วมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาต่อไป

    แม่น้ำกกป่วยเพราะสารพิษหนักเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่าใครจะเป็นหมอรักษา (ตอนที่ 5) ................. มหากาพย์แร่หายากกำลังเป็นฝีแตกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพราะทำให้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และจะส่งผลต่อแม่น้ำโขงป่วยหนักขึ้น การบริโภค การใช้แม่น้ำที่มีวิญญาณของความเป็นแม่ ถูกความโลภ อำนาจ เผาผลาญ และเอากากความความโลภทิ้งลงแม่น้ำ แล้วทุนแร่หายากในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้กำลังสร้างตำนานซ้ำซากที่เกิดขึ้นในแอฟริกา เป็นกระบวนการถลุงแร่ธาตุ เพื่อให้เป็นเลือด ................. สัญญาณแรก ประมงจังหวัดเชียงราย แถลงเมื่อ 25 เม.ย.68 ระบุพบปลากลุ่มตัวอย่างพบโลหะหนัก เช่น สารหนูและปรอท ไม่เกินค่ามาตรฐาน ก็อาจจะไม่ให้เราเบาใจและปล่อยปละละเลย และแสดงความกังวลว่าปลาลดน้อยลงมาก เพราะแม่น้ำเสื่อมโทรม ตั้งแต่ความตื้นเขิน น้ำมีตะกอนดินทั้งปี สัญญาณที่สอง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ก็หวั่น ๆ ว่า ผลสรุปการตรวจสอบคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำแม่น้ำกก บริเวณ อ.แม่อาย และอ.เมือง จ.เชียงราย พบมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน อาจจะเกิดอันตรายต่อสัตว์หน้าดินที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เช่น ปลา จะทำให้จำนวนหรือประเภทของสัตว์หน้าดินลดลง ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศลดลง สัตว์น้ำลดจำนวนลง และชาวบ้านจับสัตว์น้ำได้น้อยลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่กินสัตว์น้ำ แต่ไม่แน่ว่าหากมีการสะสมในปลา ถ้าชาวบ้านบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย เช่น ชาที่ปลายมือปลายเท้า (ไข้ดำ: ผิวหนังหนาและเข้ม) มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ สัญญาณที่สาม 30 เมษายน ผลตรวจสารหนูเบื้องต้นในแม่น้ำ อ.แม่สาย - อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่า มีหมายเหตุ ผลดังกล่าวเป็นเพียงผลการตรวจเบื้องต้นทางทีมวิจัยจะนำตัวอย่างน้ำส่งตรวจใน Lab มาตรฐานต่อไป ................. แรงกระเพื่อมต่อถึงทำเนียบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุม ติดตามสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล องค์ประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุม กระจายหน้าที่แต่ละกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เร่งสั่งการการประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปา พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลสารปนเปื้อนในน้ำ แนวทางการกรองน้ำเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัย รวมถึงการเร่งตรวจสอบแหล่งน้ำในพื้นที่อย่างเข้มข้น ประธานในการประชุมมีข้อสั่งการด้านการแก้ไขปัญหา 6 ประเด็น ดังนี้ 1. มอบหมายกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการร่วมกัน เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้าน ใช้กลไกความร่วมมือทุกระดับเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดภายนอกประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก 2. มอบหมายสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติใช้กลไกลุ่มน้ำโขงเหนือ บริหารจัดการปริมาณน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ เพิ่มน้ำต้นทุนเข้าสู่แม่น้ำกก 3. มอบหมายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ใช้นวัตกรรมดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ช่วยประเมินความขุ่น สารแขวนลอยในแม่น้ำกกทั้งในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 4. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก 5. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก และลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง 6. มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรม จัดทำแนวทางการลดผลกระทบจากการทำเหมืองและประสานความร่วมมือในการเผยแพร่ให้ประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ คำถามที่ท้าทาย จะปล่อยให้ภาวะสะสมเกิดกับประชาชนชาวเชียงราย และประชาชนลุ่มน้ำสาย กก โขงแบบนี้เรื่อย ๆ ใช่หรือไม่ ................. เสียงประชาชนต้องดังกว่านี้ เครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก (ค.อ.ก) ก็ได้จัดเวทีความร่วมมือเตือนภัยน้ำกกหลากท่วมปี 2568 โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ “ครูแดง” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พชภ. เป็นประธานการประชุม โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินงานในพื้นที่แม่น้ำกก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอ ถึงนายกรรัฐมนตรี 1.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในแหล่งกำเนิดมลพิษ ระหว่างทาง และผู้รับผลพิษ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำในจังหวัดเชียงราย 2. เปิดเผยและซักซ้อมมาตรการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำกก และลุ่มน้ำสาย อย่างเป็นระบบ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพ 3. สร้างความร่วมมือกับประเทศเมียนมา หรือกองกำลังที่ดูแลในพื้นที่ เพื่อเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสารปนเปื้อน ตลอดลำน้ำกก น้ำสาย ทั้ง พื้นที่ต้นน้ำ ก่อนเหมืองในรัฐฉาน 4 .สร้างระบบสื่อสารสาธารณะที่โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจุบัน 5. ขยายขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นการลุกล้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสาย 6. เปิดการเจรจา 4 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา กองกำลังชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่สัมปทานเหมือง และประเทศจีน เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ สรุปคือการส่งเสียงว่ารัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การทำเหมืองทองต้องกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐไปเจรจา ทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล สื่อมวลชน ชาวบ้าน ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าระดับประเทศแก้ไม่ได้ก็ต้องเป็นระดับอาเซียน ภูมิภาค หรือระดับนานาชาติร่วมกันแก้ไข ต้องคุยกับรัฐบาลพม่ารวมถึงรัฐบาลจีน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มว้า เป็นการเมืองระหว่างประเทศ เปิดพื้นที่ผ่านการเล่าเรื่องของแม่น้ำกกระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับสิทธิของแม่น้ำ และ การเจรจาระหว่างรัฐกับธรรมชาติ ข้ามเขตแดนรัฐและแนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน (Transboundary Environmental Governance)” ................. ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้แนวคิดการทูตสิ่งแวดล้อมสร้างความร่วมมือแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ต้องเสนอให้เมียนมาเข้าใจด้วยว่า เหมืองแร่อยู่ในเขตควบคุมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่การเจรจาสันติภาพในเมียนมา ต้องหยิบยกเอาประเด็นมลพิษข้ามพรมแดนเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาด้วย น.ส.เพียงพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) และผู้อำนวยการฝ่ายรณรงรงค์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) กล่าวว่า ทั้งแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ โดยมีต้นน้ำอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า การสร้างเหมืองทองที่บริเวณต้นน้ำ ทำให้ประชาชนและระบบนิเวศท้ายน้ำซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งหาทางยุติการทำเหมืองและเปิดหน้าดินในวงกว้างให้ได้ เพราะนอกจากส่งผลในเรื่องการปนเปื้อนสารโลหะหนักลงแม่น้ำแล้ว ยังส่งผลต่ออุทกภัยที่มีดินโคลนปนมาด้วย กลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่คนท้ายน้ำต้องเผชิญและหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้กระแสกระเพื่อมขึ้นในพื้นที่ที่ดีมาก ที่ทาง พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ร่วมรับฟังปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย เนื้อหาจึงเจาะประเด็นเชิงความมั่นคงทันทีในมิติของผลกระทบข้ามแดน ตามที่ได้นำเสนอในตอนต้น ๆ เป็นเรื่องของกระบวนการขุมเหมืองแร่สีเลือกเพื่อนำผลประโยชน์มาห่ำหั่นกันทางการเมือง ที่รัฐบาลทหารพม่า อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ต่าง ๆ ในรัฐฉาน ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจีน แต่ก็มีประเทศออสเตรเลีย รัสเซีย และอิตาลีด้วย เหมืองทั้งหมดอยู่เหนือน้ำกก น้ำสาย น้ำรวก ................. มิติทางแม่น้ำระหว่างประเทศ เป็นวิกฤติมลพิษข้ามแดนที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับฝุ่นควันข้ามแดน ที่มีปลายทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองอยู่เบื้องหลัง ต้องใช้เวลาเกลี่ย ล๊อบบี้ กดดัน การตีโอบ เพื่อกระทบ อันจะให้การกดดันทุน และอำนาจรัฐเข้ามาเร่งรัดจัดการปัญหาข้ามพรมแดนไมว่าจะเป็น การทำระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ต้องเพิ่มต้นทุนก็ต้องทำ กรองน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อน การให้ความสำคัญมิติ สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การเกษตร การสื่อสาร กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสัมพันธ์และความเข้าใจนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทุกฝ่ายต่อการโต้ตอบเหตุสารเคมีปนเปื้อน เพื่อสื่อสารและการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาการจัดทำรายงานนำเสนอต้นสังกัดและรัฐบาลในการดำเนินการงานร่วมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาต่อไป
    0 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมจำนวน 41 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 17 ชุด รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 186,000 บาท (หนึ่งแสนแปดหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ธีระกิตติวัฒนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถาน เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณตลาดเก่าพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา
    .
    โดยวานนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมแผนกสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอัคคีภัยบริเวณชุมชนใกล้สำนักงานเขตธนบุรี แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ รวมจำนวน 42 คน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว จำนวน 14 ชุด และรายบุคคล จำนวน 3 ชุด ในการนี้ มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล ร่วมมอบเงินสด คนละ 400 บาท และ พุทธสมาคมปทุมรังษี ร่วมมอบข้าวสาร คนละ 10 กิโลกรัม รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้ง 3 องค์กรทั้งสิ้น 211,700 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
    .
    รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 397,700 บาท (สามแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน)
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418
    #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง บรรเทาทุกข์ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ มอบเงินช่วยเหลือพร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 3 แสนบาท . วันนี้ (วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและเหรัญญิก พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีม แผนกสาธารณภัย ฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมจำนวน 41 คน โดยมอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 17 ชุด รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้งสิ้น 186,000 บาท (หนึ่งแสนแปดหมื่นหกพันบาทถ้วน) โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ธีระกิตติวัฒนา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฉะเชิงเทรา ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถาน เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี ณ บริเวณตลาดเก่าพนมสารคาม อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา . โดยวานนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) นายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิฯ พร้อมด้วย นายรัชพร ประสงค์ทรัพย์ หัวหน้าแผนกสาธารณภัย นำทีมแผนกสาธารณภัย ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุอัคคีภัยบริเวณชุมชนใกล้สำนักงานเขตธนบุรี แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ รวมจำนวน 42 คน โดยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบเงินสดคนละ 3,500 บาท พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภครายครอบครัว จำนวน 14 ชุด และรายบุคคล จำนวน 3 ชุด ในการนี้ มูลนิธิไกรสิทธิการกุศล ร่วมมอบเงินสด คนละ 400 บาท และ พุทธสมาคมปทุมรังษี ร่วมมอบข้าวสาร คนละ 10 กิโลกรัม รวมมูลค่าการช่วยเหลือทั้ง 3 องค์กรทั้งสิ้น 211,700 บาท (สองแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) . รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัยทั้งในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ เป็นเงินทั้งสิ้น 397,700 บาท (สามแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ดังปณิธาน มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” #แอปพลิเคชัน และ #สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 192 Views 0 Reviews
  • A2 Hosting ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Hosting.com พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่และแผงควบคุมการโฮสต์ที่อัปเดต โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการเติบโตของบริษัทและมุ่งเน้นการสร้างชุมชนที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกเพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้และการเชื่อมต่อ

    CEO Seb De Lamos กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นการละทิ้งรากฐานเดิม แต่เป็นการขยายและพัฒนาธุรกิจในระดับโลก โดย Hosting.com ยังคงรักษาค่านิยมหลัก เช่น ความน่าเชื่อถือ ความเร็ว และความพึงพอใจของลูกค้า

    นอกจากนี้ Hosting.com ยังได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนความต้องการของลูกค้า และมีการเปลี่ยนแปลงชื่อผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ในแผนการโฮสต์

    ✅ การเปลี่ยนชื่อและเว็บไซต์ใหม่
    - A2 Hosting เปลี่ยนชื่อเป็น Hosting.com พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่
    - มีแผงควบคุมการโฮสต์ที่อัปเดตและฟีเจอร์ใหม่

    ✅ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
    - Hosting.com ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนความต้องการของลูกค้า
    - มีการเปลี่ยนแปลงชื่อผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ในแผนการโฮสต์

    ✅ ค่านิยมหลักที่ยังคงอยู่
    - Hosting.com ยังคงรักษาความน่าเชื่อถือ ความเร็ว และความพึงพอใจของลูกค้า
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นการละทิ้งรากฐานเดิม แต่เป็นการขยายและพัฒนา

    ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง
    - สร้างชุมชนที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกเพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้และการเชื่อมต่อ

    https://www.techradar.com/pro/a2-hosting-rebrands-as-hosting-com
    A2 Hosting ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Hosting.com พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่และแผงควบคุมการโฮสต์ที่อัปเดต โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการเติบโตของบริษัทและมุ่งเน้นการสร้างชุมชนที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกเพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้และการเชื่อมต่อ CEO Seb De Lamos กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นการละทิ้งรากฐานเดิม แต่เป็นการขยายและพัฒนาธุรกิจในระดับโลก โดย Hosting.com ยังคงรักษาค่านิยมหลัก เช่น ความน่าเชื่อถือ ความเร็ว และความพึงพอใจของลูกค้า นอกจากนี้ Hosting.com ยังได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนความต้องการของลูกค้า และมีการเปลี่ยนแปลงชื่อผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ในแผนการโฮสต์ ✅ การเปลี่ยนชื่อและเว็บไซต์ใหม่ - A2 Hosting เปลี่ยนชื่อเป็น Hosting.com พร้อมเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ - มีแผงควบคุมการโฮสต์ที่อัปเดตและฟีเจอร์ใหม่ ✅ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน - Hosting.com ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีเพื่อสนับสนุนความต้องการของลูกค้า - มีการเปลี่ยนแปลงชื่อผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ในแผนการโฮสต์ ✅ ค่านิยมหลักที่ยังคงอยู่ - Hosting.com ยังคงรักษาความน่าเชื่อถือ ความเร็ว และความพึงพอใจของลูกค้า - การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นการละทิ้งรากฐานเดิม แต่เป็นการขยายและพัฒนา ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง - สร้างชุมชนที่เชื่อมโยงกันทั่วโลกเพื่อเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้และการเชื่อมต่อ https://www.techradar.com/pro/a2-hosting-rebrands-as-hosting-com
    WWW.TECHRADAR.COM
    A2 Hosting rebrands as Hosting.com
    Goodbye A2 Hosting, hello Hosting.com
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • ประชุม เวทีนโยบายสาธารณะระบบสุขภาพปฐมภูมิภาคชุมชน ของ กขป.เขตพื้นที่ 9
    วันนี้(29 เมษายน 2568) นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธาน เปิดการประชุม เวทีนโยบายสาธารณะระบบสุขภาพปฐมภูมิภาคชุมชน ของ กขป.เขตพื้นที่ 9 โดยกระบวนการสมัชชาสุขภาพจังหวัดนครราชสีมา
    ทั้งนี้เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็น ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ระบบสุขภาพปฐมภูมิภาคชุมชน ของ กขป.เขตพื้นที่ 9 พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในประเด็น กลไกขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบบูรณาการ การจัดการสิ่งปฏิกูลป้องกันปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี และวัดเป็นฐานชุมชนเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อน NCDs ในเวทีสมัชชาสุขภาพจังหวัด โดยมีกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 200 คน ประกอบด้วย อนุคณะกรรมการ กขป.เขตพื้นที่ 9 สมัชชาสุขภาพจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์วิชาการเขตสุขภาพที่ 9 องค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สื่อมวลชน และเครือข่ายร่วมขับเคลื่อนระบบสุขภาพปฐมภูมิภาคชุมชนจังหวัดนครราชสีมา ณ ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนสีคิ้วสวัสดิ์ผดุงวิทยา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
    ประชุม เวทีนโยบายสาธารณะระบบสุขภาพปฐมภูมิภาคชุมชน ของ กขป.เขตพื้นที่ 9 วันนี้(29 เมษายน 2568) นายสุรพันธ์ ศิลปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาเป็นประธาน เปิดการประชุม เวทีนโยบายสาธารณะระบบสุขภาพปฐมภูมิภาคชุมชน ของ กขป.เขตพื้นที่ 9 โดยกระบวนการสมัชชาสุขภาพจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมรับฟังความคิดเห็น ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ระบบสุขภาพปฐมภูมิภาคชุมชน ของ กขป.เขตพื้นที่ 9 พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในประเด็น กลไกขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบบูรณาการ การจัดการสิ่งปฏิกูลป้องกันปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี และวัดเป็นฐานชุมชนเป็นศูนย์กลางขับเคลื่อน NCDs ในเวทีสมัชชาสุขภาพจังหวัด โดยมีกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 200 คน ประกอบด้วย อนุคณะกรรมการ กขป.เขตพื้นที่ 9 สมัชชาสุขภาพจังหวัดนครราชสีมา ศูนย์วิชาการเขตสุขภาพที่ 9 องค์การบริหารส่วนจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สื่อมวลชน และเครือข่ายร่วมขับเคลื่อนระบบสุขภาพปฐมภูมิภาคชุมชนจังหวัดนครราชสีมา ณ ห้องประชุมอาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนสีคิ้วสวัสดิ์ผดุงวิทยา อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • บทความนี้เล่าถึงความสำเร็จของนักพัฒนาที่สามารถนำโมเดล Llama 2 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) มาทำงานบนระบบปฏิบัติการ DOS ซึ่งเป็นระบบที่เก่าแก่ โดยใช้เวลาเพียงสุดสัปดาห์เดียวในการพัฒนา แม้จะเป็นความท้าทายที่ยากลำบาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเทคโนโลยี AI ในการปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

    นักพัฒนาชื่อ Yeo Kheng Meng ได้ใช้โค้ดโอเพ่นซอร์สจากโปรเจกต์ llama2.c เพื่อปรับแต่งให้โมเดล Llama 2 สามารถทำงานบน DOS ได้ โดยเขาต้องปรับปรุงกระบวนการคอมไพล์และเลือก DOS extender ที่เหมาะสมเพื่อเข้าถึงหน่วยความจำที่ใหญ่ขึ้น

    Meng ได้ทดสอบระบบบนคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่เครื่องเก่าอย่าง Toshiba Satellite 315CDT (1996) ไปจนถึงเครื่องใหม่ที่ใช้ซีพียู Ryzen โดยผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเครื่องใหม่สามารถประมวลผลได้เร็วกว่าอย่างชัดเจน

    ✅ การใช้โค้ดโอเพ่นซอร์ส
    - ใช้โค้ดจากโปรเจกต์ llama2.c เพื่อปรับแต่งให้ทำงานบน DOS
    - ต้องปรับปรุงกระบวนการคอมไพล์และเลือก DOS extender ที่เหมาะสม

    ✅ การทดสอบบนคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น
    - ทดสอบบนเครื่องเก่า เช่น Toshiba Satellite 315CDT (1996)
    - ทดสอบบนเครื่องใหม่ที่ใช้ซีพียู Ryzen

    ✅ ผลลัพธ์ที่ได้
    - เครื่องใหม่สามารถประมวลผลได้เร็วกว่าเครื่องเก่าอย่างชัดเจน
    - แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ AI ในการปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

    ✅ การสนับสนุนจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    - Meng ขอบคุณ Andrej Karpathy ที่เปิดโค้ด llama2.c ให้ใช้งาน

    https://www.techspot.com/news/107718-programmer-develops-method-run-llama-2-locally-dos.html
    บทความนี้เล่าถึงความสำเร็จของนักพัฒนาที่สามารถนำโมเดล Llama 2 ซึ่งเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) มาทำงานบนระบบปฏิบัติการ DOS ซึ่งเป็นระบบที่เก่าแก่ โดยใช้เวลาเพียงสุดสัปดาห์เดียวในการพัฒนา แม้จะเป็นความท้าทายที่ยากลำบาก แต่ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของเทคโนโลยี AI ในการปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย นักพัฒนาชื่อ Yeo Kheng Meng ได้ใช้โค้ดโอเพ่นซอร์สจากโปรเจกต์ llama2.c เพื่อปรับแต่งให้โมเดล Llama 2 สามารถทำงานบน DOS ได้ โดยเขาต้องปรับปรุงกระบวนการคอมไพล์และเลือก DOS extender ที่เหมาะสมเพื่อเข้าถึงหน่วยความจำที่ใหญ่ขึ้น Meng ได้ทดสอบระบบบนคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น ตั้งแต่เครื่องเก่าอย่าง Toshiba Satellite 315CDT (1996) ไปจนถึงเครื่องใหม่ที่ใช้ซีพียู Ryzen โดยผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเครื่องใหม่สามารถประมวลผลได้เร็วกว่าอย่างชัดเจน ✅ การใช้โค้ดโอเพ่นซอร์ส - ใช้โค้ดจากโปรเจกต์ llama2.c เพื่อปรับแต่งให้ทำงานบน DOS - ต้องปรับปรุงกระบวนการคอมไพล์และเลือก DOS extender ที่เหมาะสม ✅ การทดสอบบนคอมพิวเตอร์หลากหลายรุ่น - ทดสอบบนเครื่องเก่า เช่น Toshiba Satellite 315CDT (1996) - ทดสอบบนเครื่องใหม่ที่ใช้ซีพียู Ryzen ✅ ผลลัพธ์ที่ได้ - เครื่องใหม่สามารถประมวลผลได้เร็วกว่าเครื่องเก่าอย่างชัดเจน - แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ AI ในการปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มที่หลากหลาย ✅ การสนับสนุนจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส - Meng ขอบคุณ Andrej Karpathy ที่เปิดโค้ด llama2.c ให้ใช้งาน https://www.techspot.com/news/107718-programmer-develops-method-run-llama-2-locally-dos.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Developer ports compact Llama 2 LLM to DOS in weekend hackathon
    Yeo Kheng Meng, a programmer previously known for creating a DOS client for ChatGPT, has recently embarked on a new AI-related project focused on the prompt-based computing...
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มุ่งสู่จังหวัดที่ 20 ของภาคอีสาน สร้างโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวยโสธร มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี
    .
    วันนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดยโสธร (จังหวัดที่ 20 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน จำนวน 31 ครัวเรือน และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวยโสธรในครั้งนี้ทั้งสิ้น 802,240 บาท (แปดแสนสองพันสองร้อยสี่สิบบาทถ้วน) นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ผู้แทนอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อดีตอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี พร้อมด้วย อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายนพดล ทรงแสง (จิ้ม ชวนชื่น) นายสวิช เพชรวิเศษศิริ (บี๋) ร่วมในพิธี และสร้างสีสันภายในงาน โดยมี ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ หอประชุมจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร
    .
    โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมา ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มุ่งสู่จังหวัดที่ 20 ของภาคอีสาน สร้างโอกาส สร้างชีวิต แก่ชาวยโสธร มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน มอบจักรยานให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ชนบท พร้อมนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ออกบริการประชาชนฟรี . วันนี้ (วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ พร้อมด้วย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ และนางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ และนางสาวเนาวรัตน์ วรรณศิริ หัวหน้าแผนกหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมลงพื้นที่จังหวัดยโสธร (จังหวัดที่ 20 ของทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้แก่ครัวเรือนยากจน จำนวน 31 ครัวเรือน และมอบรถจักรยานแก่โรงเรียนชนบทที่ขาดแคลน จำนวน 2 โรงเรียน รวมจำนวน 20 คัน เพื่อให้นักเรียนที่ประสบปัญหาในการเดินทางได้ยืมเรียน รวมถึงเป็นการแบ่งเบาภาระค่าพาหนะแก่ผู้ปกครองได้อีกทางหนึ่ง อีกทั้งยังเสริมสร้างให้นักเรียนได้ออกกำลังกาย เรียนรู้กฎจราจร เรียนรู้การแบ่งปัน และดูแลรักษาสาธารณสมบัติร่วมกัน รวมมูลค่าการดำเนินการช่วยเหลือชาวยโสธรในครั้งนี้ทั้งสิ้น 802,240 บาท (แปดแสนสองพันสองร้อยสี่สิบบาทถ้วน) นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้จัดหน่วยแพทย์สงเคราะห์ชุมชน นำทีมแพทย์อาสาฯ เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์ ทีมบรรเทาสาธารณภัย (กู้ชีพ) และอาสาสมัครลงพื้นที่ให้บริการประชาชนฟรี ประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป จ่ายยา ทันตกรรม คัดกรองเบาหวาน กิจกรรมนันทนาการ ตรวจวัดสายตาพร้อมแจกแว่น บริการตัดผม ฯลฯ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยมี นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมด้วย นางสาวนิภา ทองก้อน ผู้อำนวยการสำนักเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน ผู้แทนอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อดีตอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานร่วมในพิธี และคณะมูลนิธิรวมสามัคคียโสธร เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี พร้อมด้วย อาสาสมัครศิลปินมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายนพดล ทรงแสง (จิ้ม ชวนชื่น) นายสวิช เพชรวิเศษศิริ (บี๋) ร่วมในพิธี และสร้างสีสันภายในงาน โดยมี ประชาชน เยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ หอประชุมจังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร . โครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้สนับสนุนอุปกรณ์ประกอบอาชีพ ช่วยเหลือครัวเรือนยากจน ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแก้ไขปัญหาความยากจน ระหว่างกรมการพัฒนาชุมชนและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดงบประมาณดำเนินการเพื่อจัดหาวัสดุอุปกรณ์การประกอบอาชีพมอบให้แก่ครัวเรือนยากจน ให้สามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว โดยในกลุ่มเป้าหมายแรกดำเนินการในพื้นที่ภาคกลาง 17 จังหวัด รวม 98 ครัวเรือน ต่อมา ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดทางภาคเหนือ 17 จังหวัด รวม 230 ครัวเรือน ซึ่งได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะได้พิจารณาพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 20 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครราชสีมา อุดรธานี มุกดาหาร หนองบัวลำภู บึงกาฬ ยโสธร ศรีสะเกษ มหาสารคาม ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ สกลนคร เลย หนองคาย และ นครพนม . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลายทาง เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION FOOD FEST 2025🌞
    ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68 ที่ GRAND HALL ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช
    .
    👉พบกับสินค้าหัตกรรม และสินค้า OTOP จากชุมชน อาทิ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย เครื่องจักสาน เครื่องเงิน และสินค้าอหารแปรรูป จากร้าน ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น , โหราศาสตร์ไทยประยุกต์ , SEECHA , HOMI HOME , ชิ้นปลาสนุก , เจ๊พริกกุยช่ายตลาดพลู , แซลม่อนย่าง กุ้งแช่น้ำปลา , หมึกเจี๊ยวจ๊าว , หวานพอดีสวีท คาเฟ่ , ริมปิง , กรอบแก้วโคราช , รุ่งเรืองการแว่น , COWAY , จิวแกลลอรี่ , ราชาเกี๊ยวต้ม , สามพี่น้องปากหม้อกุ่ยช่าย , หมูยอวชาลิสา , Ricco ลาซานญ่า , เจ้าสัวแต่เตี้ยม , ปลาแดดเดียว แม่สำรวย , KUNNOOK ORANGEJUICE , ข้าวเกรียบเฮเดย์ฟาร์ม , ไอติมปากช่อง , มีนาผ้าไทย , THE QUEEN ,ผ้าใยชากัญชง , ฮงเยาวราช , หยกมณี ก๋วยจั๊บญวน , อินากะซูชิ , MOCHI FACTORY , ครบเครื่องปูหลน , รุ่งลัดดา , DUCK DUCK , ขนมเบื้องป้าใหญ่ , ชามสุข , กุ๊กไก่ก๋วยเตี๋ยวเรือ เขาใหญ่ มาจัดรายการพิเศษ
    .
    🔥 ซัมเมอร์นี้ ชีเสิร์ฟเมนูอร่อยคลายร้อนมากมาย ที่รอทุกคนอยู่
    🗓️ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68
    📍 GRAND HALL ชั้น 1 #เดอะมอลล์โคราช
    #TheMallKorat
    #TheMallGroup
    #TheMallThailand
    #Themallshoppingcenter
    THE MALL LIFESTORE SUMMER-CATION FOOD FEST 2025🌞 ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68 ที่ GRAND HALL ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช . 👉พบกับสินค้าหัตกรรม และสินค้า OTOP จากชุมชน อาทิ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย เครื่องจักสาน เครื่องเงิน และสินค้าอหารแปรรูป จากร้าน ผ้าปูที่นอนกันไรฝุ่น , โหราศาสตร์ไทยประยุกต์ , SEECHA , HOMI HOME , ชิ้นปลาสนุก , เจ๊พริกกุยช่ายตลาดพลู , แซลม่อนย่าง กุ้งแช่น้ำปลา , หมึกเจี๊ยวจ๊าว , หวานพอดีสวีท คาเฟ่ , ริมปิง , กรอบแก้วโคราช , รุ่งเรืองการแว่น , COWAY , จิวแกลลอรี่ , ราชาเกี๊ยวต้ม , สามพี่น้องปากหม้อกุ่ยช่าย , หมูยอวชาลิสา , Ricco ลาซานญ่า , เจ้าสัวแต่เตี้ยม , ปลาแดดเดียว แม่สำรวย , KUNNOOK ORANGEJUICE , ข้าวเกรียบเฮเดย์ฟาร์ม , ไอติมปากช่อง , มีนาผ้าไทย , THE QUEEN ,ผ้าใยชากัญชง , ฮงเยาวราช , หยกมณี ก๋วยจั๊บญวน , อินากะซูชิ , MOCHI FACTORY , ครบเครื่องปูหลน , รุ่งลัดดา , DUCK DUCK , ขนมเบื้องป้าใหญ่ , ชามสุข , กุ๊กไก่ก๋วยเตี๋ยวเรือ เขาใหญ่ มาจัดรายการพิเศษ . 🔥 ซัมเมอร์นี้ ชีเสิร์ฟเมนูอร่อยคลายร้อนมากมาย ที่รอทุกคนอยู่ 🗓️ 24 เม.ย. 68 – 30 เม.ย. 68 📍 GRAND HALL ชั้น 1 #เดอะมอลล์โคราช #TheMallKorat #TheMallGroup #TheMallThailand #Themallshoppingcenter
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • Ruby เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมแบบไดนามิกและโอเพ่นซอร์สที่ออกแบบมาเพื่อให้การเขียนโค้ดเป็นเรื่องที่ทรงพลังและสนุกสนาน ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางปี 1990 โดย Yukihiro “Matz” Matsumoto ในประเทศญี่ปุ่น โดย Ruby ได้รับแรงบันดาลใจจากภาษาโปรแกรมที่เขาชื่นชอบ เช่น Perl, Smalltalk, Eiffel, Ada และ Lisp

    Ruby มีจุดเด่นที่สำคัญคือการเป็นภาษาเชิงวัตถุ (Object-Oriented) ที่ทุกอย่างในภาษาเป็นวัตถุ รวมถึงตัวเลขและข้อความ ทำให้โค้ดมีความยืดหยุ่นและอ่านง่าย นอกจากนี้ Ruby ยังมีชุมชนผู้ใช้งานที่เข้มแข็งและทรัพยากรที่หลากหลาย เช่น RubyGems ซึ่งเป็นตัวจัดการแพ็กเกจที่ช่วยเพิ่มความสามารถของภาษา

    ในปี 2025 Ruby ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการอัปเดตที่สำคัญ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพ การปรับปรุงความปลอดภัย และการรองรับ Unicode รุ่นใหม่

    ✅ คุณสมบัติของ Ruby
    - เป็นภาษาเชิงวัตถุที่ทุกอย่างเป็นวัตถุ
    - มีไวยากรณ์ที่อ่านง่ายและเป็นธรรมชาติ

    ✅ การใช้งานและความนิยม
    - ใช้ในงานพัฒนาเว็บ เช่น Ruby on Rails
    - ใช้ในงานอัตโนมัติ การประมวลผลข้อมูล และ DevOps

    ✅ การพัฒนาในปี 2025
    - Ruby 3.5.0-preview1 เพิ่มการรองรับ Unicode 15.1.0 และปรับปรุงประสิทธิภาพ
    - Ruby 3.4.3 และ 3.3.8 แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

    ✅ ชุมชนและทรัพยากร
    - ชุมชนผู้ใช้งานที่เข้มแข็งและทรัพยากรฟรี เช่น Ruby Weekly และ GoRails

    https://computercity.com/software/ruby-computer-language-explained
    Ruby เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมแบบไดนามิกและโอเพ่นซอร์สที่ออกแบบมาเพื่อให้การเขียนโค้ดเป็นเรื่องที่ทรงพลังและสนุกสนาน ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงกลางปี 1990 โดย Yukihiro “Matz” Matsumoto ในประเทศญี่ปุ่น โดย Ruby ได้รับแรงบันดาลใจจากภาษาโปรแกรมที่เขาชื่นชอบ เช่น Perl, Smalltalk, Eiffel, Ada และ Lisp Ruby มีจุดเด่นที่สำคัญคือการเป็นภาษาเชิงวัตถุ (Object-Oriented) ที่ทุกอย่างในภาษาเป็นวัตถุ รวมถึงตัวเลขและข้อความ ทำให้โค้ดมีความยืดหยุ่นและอ่านง่าย นอกจากนี้ Ruby ยังมีชุมชนผู้ใช้งานที่เข้มแข็งและทรัพยากรที่หลากหลาย เช่น RubyGems ซึ่งเป็นตัวจัดการแพ็กเกจที่ช่วยเพิ่มความสามารถของภาษา ในปี 2025 Ruby ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการอัปเดตที่สำคัญ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพ การปรับปรุงความปลอดภัย และการรองรับ Unicode รุ่นใหม่ ✅ คุณสมบัติของ Ruby - เป็นภาษาเชิงวัตถุที่ทุกอย่างเป็นวัตถุ - มีไวยากรณ์ที่อ่านง่ายและเป็นธรรมชาติ ✅ การใช้งานและความนิยม - ใช้ในงานพัฒนาเว็บ เช่น Ruby on Rails - ใช้ในงานอัตโนมัติ การประมวลผลข้อมูล และ DevOps ✅ การพัฒนาในปี 2025 - Ruby 3.5.0-preview1 เพิ่มการรองรับ Unicode 15.1.0 และปรับปรุงประสิทธิภาพ - Ruby 3.4.3 และ 3.3.8 แก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ✅ ชุมชนและทรัพยากร - ชุมชนผู้ใช้งานที่เข้มแข็งและทรัพยากรฟรี เช่น Ruby Weekly และ GoRails https://computercity.com/software/ruby-computer-language-explained
    COMPUTERCITY.COM
    Ruby Computer Language Explained
    Ruby is a dynamic, open-source programming language that’s designed to make coding not just powerful, but joyful. Created by Yukihiro "Matz" Matsumoto in
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • ..อันตรายมากยุคนี้,แม้แต่รัฐบาลก็ต้องพิจารณา&คิดมากๆ.
    ..ช่วงเวลานี้ใครจะยืมตัง&กู้เงิน ระวังโคตรๆนั้นดี,ยิ่งเห็นภาคเกษตรเร่งรีบให้คนเกษตรเป็นหนี้ในหลายๆระดับชั้นยิ่งน่าสงสัยมาก,นัยยะแฝงตรึมแน่นอน,ผลเป้าหมายสุดท้ายคือคนไทยจะไม่ใช่เจ้าของที่ดินตนเองอีกต่อไป,ใช้หนี้ตังด้วยการถูกยึดที่ดินที่อยู่อาศัยนั้นล่ะ,ดิ้นรนหาตังมาใช้นี้แบบมุกทาสคนเกษตรแทนคนกินเงินเดือนอีกมุม,จากชีวิตปกติไม่ดิ้นรนมากนัก ใช้ชีวิตสมถะ เมื่อไปกู้หนี้เขานายทุนมาจะแบงค์ที่อ้างตนว่ารัฐสนับสนุนก็เถอะ มันก็หนี้นี้ล่ะ และเข้าเองยังอยากเข้าตลาดหุ้นด้วยล่ะเพื่อให้ต่างชาติมาเป็นเจ้าของผ่านการซื้อหุ้นแบบถูกต้องด้วยโน้น ไม่รวมมุกซื้อหนี้หรือตั้งบริษัทในนามเอกชนมาบริหารจัดการหนี้คนเกษตรอีก,สุดท้ายหมายยึดที่ดินคนไทยนั้นล่ะ,เร่งให้คนเกษตรเป็นหนี้เยอะโน้น ผ่านผู้นำชุมชน อสม.ระดับล่างเลยล่ะ,แต่ตลาดขายออกสร้างตังมันไม่สนใจหาให้นะ,กะกู้มากๆ พังล้มเหลวเร็วๆเนียนๆจะได้จ่ายหนี้คืนไม่ได้นั้นล่ะคือเป้าหมายมัน,ปล่อยกู้เรื่องของแบงค์,ใช้หนี้คืนเรื่องของคนกู้,เมื่อทำลายกลไกคนที่มีกำลังปานกลางได้ คือระดับคนมีเงินเดือนตำแหน่งพอจ่ายได้ยึดครองหรือสร้างสถานะเป็นหนี้ได้แล้วคนพวกนี้ก็จะถูกควบคุมทันที,ถูกทำให้อ่อนแอ ผู้นำชุมชนอ่อนแอเมื่อไร จัดการคนอื่นๆชาวบ้านคนเกษตรจะง่ายขึ้นๆ,ยึดที่ดิน ปล่อยกู้ตังให้คนอื่นมาซื้อมาทำเกษตรแทน ต่างชาติมีตังเยอะ ได้สิทธิถือครองที่ดินได้แล้วอีกจากกฎหมายไปเปิดช่องให้,พากันกู้กันซื้อที่ดินยึดเนียนๆใต้ดินลับๆสบายล่ะ,เดอะแก็งปล่อยกู้สุมหัวกับเดอะแก็งข้ามชาติทำทีมาทำเกษตรในไทยนอมินีคนไทยก็ว่า ง่าบสบายมาก อ.ปาย อิสราเอลเต็มพื้นที่ยังมาแบบเงียบๆได้ คิดสิ,นี้คือแผนการที่อันตรายมากๆ,ถ้าแบงค์ธกส.จะดีๆต่อคนไทย ไม่ต้องคิดดอกเบี้ยเขาแพงก็ได้,ยุบธกส.ยุบตึกทำงานเอกสาร,เก็บตังมหาศาลไม่หวังกำไร,ย้ายไปทำเอกสารที่ทำการอำเภอแต่ละอำเภอก็ได้ ใช้ชื่อว่าคลินิกเงินทุนสัมมาอาชีพชาวเกษตรไทยสิ,คนจะเดินทางไปลงทะเบียนเต็ม,ตังหมุนเวียนในอำเภอจริงด้วย,ชาวเกษตรก็เสียค่ายืมตังแค่ค่าธรรมเนียมไร้ดอกเบี้ย ส่งแค่เงินต้น,เราบริหารผิดทาง,สร้างแหล่งทุนตังช่วยคนไทยตนเองแต่มุ่งหวังประโยชน์จึงสร้างจุดเริ่มต้นที่ผิด,ยิ่งเข้าตลาดหุ้น ก็จะมุ่งหวังกำไรมากๆหนักข้อไปอีก,และไม่ควรตั้งเป็นกิจการเอกชนเพื่อบริหารจัดการหนีัเลย.เอกชนคือเอกชน ไม่ใช้รัฐฐะ รัฐฐะคือรัฐฐะเพื่อสุขประชาชนสาธารณะ,เอกชนมันหวังเพื่อตนเอง,จึงผิดเช่นกัน.

    https://youtube.com/watch?v=TB-7v46bJLo&si=74NoyntDAmjV69gO
    ..อันตรายมากยุคนี้,แม้แต่รัฐบาลก็ต้องพิจารณา&คิดมากๆ. ..ช่วงเวลานี้ใครจะยืมตัง&กู้เงิน ระวังโคตรๆนั้นดี,ยิ่งเห็นภาคเกษตรเร่งรีบให้คนเกษตรเป็นหนี้ในหลายๆระดับชั้นยิ่งน่าสงสัยมาก,นัยยะแฝงตรึมแน่นอน,ผลเป้าหมายสุดท้ายคือคนไทยจะไม่ใช่เจ้าของที่ดินตนเองอีกต่อไป,ใช้หนี้ตังด้วยการถูกยึดที่ดินที่อยู่อาศัยนั้นล่ะ,ดิ้นรนหาตังมาใช้นี้แบบมุกทาสคนเกษตรแทนคนกินเงินเดือนอีกมุม,จากชีวิตปกติไม่ดิ้นรนมากนัก ใช้ชีวิตสมถะ เมื่อไปกู้หนี้เขานายทุนมาจะแบงค์ที่อ้างตนว่ารัฐสนับสนุนก็เถอะ มันก็หนี้นี้ล่ะ และเข้าเองยังอยากเข้าตลาดหุ้นด้วยล่ะเพื่อให้ต่างชาติมาเป็นเจ้าของผ่านการซื้อหุ้นแบบถูกต้องด้วยโน้น ไม่รวมมุกซื้อหนี้หรือตั้งบริษัทในนามเอกชนมาบริหารจัดการหนี้คนเกษตรอีก,สุดท้ายหมายยึดที่ดินคนไทยนั้นล่ะ,เร่งให้คนเกษตรเป็นหนี้เยอะโน้น ผ่านผู้นำชุมชน อสม.ระดับล่างเลยล่ะ,แต่ตลาดขายออกสร้างตังมันไม่สนใจหาให้นะ,กะกู้มากๆ พังล้มเหลวเร็วๆเนียนๆจะได้จ่ายหนี้คืนไม่ได้นั้นล่ะคือเป้าหมายมัน,ปล่อยกู้เรื่องของแบงค์,ใช้หนี้คืนเรื่องของคนกู้,เมื่อทำลายกลไกคนที่มีกำลังปานกลางได้ คือระดับคนมีเงินเดือนตำแหน่งพอจ่ายได้ยึดครองหรือสร้างสถานะเป็นหนี้ได้แล้วคนพวกนี้ก็จะถูกควบคุมทันที,ถูกทำให้อ่อนแอ ผู้นำชุมชนอ่อนแอเมื่อไร จัดการคนอื่นๆชาวบ้านคนเกษตรจะง่ายขึ้นๆ,ยึดที่ดิน ปล่อยกู้ตังให้คนอื่นมาซื้อมาทำเกษตรแทน ต่างชาติมีตังเยอะ ได้สิทธิถือครองที่ดินได้แล้วอีกจากกฎหมายไปเปิดช่องให้,พากันกู้กันซื้อที่ดินยึดเนียนๆใต้ดินลับๆสบายล่ะ,เดอะแก็งปล่อยกู้สุมหัวกับเดอะแก็งข้ามชาติทำทีมาทำเกษตรในไทยนอมินีคนไทยก็ว่า ง่าบสบายมาก อ.ปาย อิสราเอลเต็มพื้นที่ยังมาแบบเงียบๆได้ คิดสิ,นี้คือแผนการที่อันตรายมากๆ,ถ้าแบงค์ธกส.จะดีๆต่อคนไทย ไม่ต้องคิดดอกเบี้ยเขาแพงก็ได้,ยุบธกส.ยุบตึกทำงานเอกสาร,เก็บตังมหาศาลไม่หวังกำไร,ย้ายไปทำเอกสารที่ทำการอำเภอแต่ละอำเภอก็ได้ ใช้ชื่อว่าคลินิกเงินทุนสัมมาอาชีพชาวเกษตรไทยสิ,คนจะเดินทางไปลงทะเบียนเต็ม,ตังหมุนเวียนในอำเภอจริงด้วย,ชาวเกษตรก็เสียค่ายืมตังแค่ค่าธรรมเนียมไร้ดอกเบี้ย ส่งแค่เงินต้น,เราบริหารผิดทาง,สร้างแหล่งทุนตังช่วยคนไทยตนเองแต่มุ่งหวังประโยชน์จึงสร้างจุดเริ่มต้นที่ผิด,ยิ่งเข้าตลาดหุ้น ก็จะมุ่งหวังกำไรมากๆหนักข้อไปอีก,และไม่ควรตั้งเป็นกิจการเอกชนเพื่อบริหารจัดการหนีัเลย.เอกชนคือเอกชน ไม่ใช้รัฐฐะ รัฐฐะคือรัฐฐะเพื่อสุขประชาชนสาธารณะ,เอกชนมันหวังเพื่อตนเอง,จึงผิดเช่นกัน. https://youtube.com/watch?v=TB-7v46bJLo&si=74NoyntDAmjV69gO
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • สลามเมืองไทย EP17 | วิวัฒนาการดนตรีมุสลิม

    "จากเสียงสวดสู่บทเพลงแห่งศรัทธา... ดนตรีมุสลิมกับเส้นทางที่เปลี่ยนแปลงแต่ไม่ทิ้งรากเหง้า"

    EP นี้จะพาคุณไปรู้จักกับ วิวัฒนาการของดนตรีในชุมชนมุสลิมไทย ที่มีความหลากหลายทั้งในรูปแบบดั้งเดิม เช่น ซิกิร ซอลาวาต อะนาชีด จนถึงดนตรีร่วมสมัยที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมสากล

    ดนตรีมุสลิมไม่เพียงแค่ให้ความบันเทิง แต่ยังสะท้อนถึง ศรัทธา ความสามัคคี และการส่งต่อคุณค่าทางศาสนาและสังคม ไปสู่คนรุ่นใหม่ ผ่านเครื่องดนตรี เสียงร้อง และท่วงทำนองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

    ร่วมเดินทางผ่านกาลเวลากับเสียงเพลงของพี่น้องมุสลิม ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งหัวใจของศรัทธา

    #สลามเมืองไทย #EP17 #วิวัฒนาการดนตรีมุสลิม #MuslimMusic #ซอลาวาต #ซิกิร #อะนาชีด #ศรัทธาและเสียงเพลง #IslamicCulture #MuslimCommunity #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP17 | วิวัฒนาการดนตรีมุสลิม "จากเสียงสวดสู่บทเพลงแห่งศรัทธา... ดนตรีมุสลิมกับเส้นทางที่เปลี่ยนแปลงแต่ไม่ทิ้งรากเหง้า" EP นี้จะพาคุณไปรู้จักกับ วิวัฒนาการของดนตรีในชุมชนมุสลิมไทย ที่มีความหลากหลายทั้งในรูปแบบดั้งเดิม เช่น ซิกิร ซอลาวาต อะนาชีด จนถึงดนตรีร่วมสมัยที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมสากล ดนตรีมุสลิมไม่เพียงแค่ให้ความบันเทิง แต่ยังสะท้อนถึง ศรัทธา ความสามัคคี และการส่งต่อคุณค่าทางศาสนาและสังคม ไปสู่คนรุ่นใหม่ ผ่านเครื่องดนตรี เสียงร้อง และท่วงทำนองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ร่วมเดินทางผ่านกาลเวลากับเสียงเพลงของพี่น้องมุสลิม ที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่ยังคงไว้ซึ่งหัวใจของศรัทธา #สลามเมืองไทย #EP17 #วิวัฒนาการดนตรีมุสลิม #MuslimMusic #ซอลาวาต #ซิกิร #อะนาชีด #ศรัทธาและเสียงเพลง #IslamicCulture #MuslimCommunity #ThaiTimes
    0 Comments 0 Shares 207 Views 8 0 Reviews
  • ประเทศที่ตายไปแล้ว แต่ฟื้นขึ้นมาด้วยทฤษฎีหญ้าหน้าบ้าน

    ในโลกที่ข่าวร้ายเดินทางเร็วเฉียดแสง เราอาจไม่ทันได้ยินข่าวดีของประเทศเล็กๆ ที่ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากเถ้าถ่านด้วยความเงียบและสง่างามอย่าง“รวันดา“ ชาติที่เคยถูกสาปจากโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อปี ค.ศ.1994 แต่วันนี้กลับกลายเป็นประเทศสะอาด สงบ โปร่งใส และก้าวหน้าเร็วที่สุดแห่งหนึ่ง

    และที่น่าทึ่งคือ พวกเขาไม่ได้เริ่มจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เริ่มจาก “ใจ”

    ใจที่ไม่ยอมฝากความหวังไว้กับการล้างแค้น แต่เลือกจะรักษาความเป็นมนุษย์ให้กันและกัน

    ในวันที่สงครามจบลง รวันดามีผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กว่าครึ่งล้านคน ซึ่งถ้าใช้ระบบศาลแบบตะวันตกที่ต้องพิจารณาคดีทีละคน รวันดาคงต้องใช้เวลาเป็นร้อยปี

    แล้วพวกเขาทำยังไง

    พวกเขาหยิบความยุติธรรมแบบดั้งเดิมกลับมาใช้ ที่เรียกกันว่า“กาชาชา” (Gacaca) ถ้าแปลแบบตรงตัวก็แปลว่าหญ้าหน้าบ้าน

    ในอดีต เวลาคนในหมู่บ้านมีข้อขัดแย้งกัน เขาจะไม่ไปฟ้องศาล ไม่จ้างทนาย แต่จะนั่งล้อมวงกลางแจ้งบนหญ้าเตียนๆ คุยกันตรง ๆ ด้วยคำพูดของคนธรรมดา เพื่อหาทางคืนดี

    ฟังดูเรียบง่าย แต่อาจได้ผลงดงามยิ่งกว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ

    กาชาชา ไม่ได้เน้น “พิพากษา” แต่มุ่ง “เยียวยา” ผู้กระทำผิดที่สารภาพจะได้รับโอกาสขอขมา เปิดใจฟังผู้เสียหาย และร่วมฟื้นฟูชุมชนด้วยมือของตนเอง เช่น ปลูกต้นไม้ ซ่อมบ้านเหยื่อ หรือช่วยงานสาธารณะ ส่วนผู้เสียหายก็ได้รับโอกาสพูดสิ่งที่อยู่ในใจท่ามกลางชุมชน

    มันไม่ใช่การล้างแค้น แต่มันคือล้างใจ

    วันนี้รวันดาถูกนับได้ว่าเป็นประเทศที่สะอาดมากประเทศหนึ่ง ที่ไม่ใช่เพราะงบ แต่เพราะผู้คนลุกขึ้นมากวาด

    รวันดาแบนพลาสติกแบบไม่มีข้อยกเว้นตั้งแต่ปี 2008 ถุงพลาสติกเข้าประเทศไม่ได้ แม้แต่ในกระเป๋าเดินทาง

    และในวันเสาร์สุดท้ายของทุกเดือน จะเป็นวันอูมูกันดา ที่คนทั้งประเทศออกมาทำความสะอาดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคนทำสวนหรือประธานาธิบดี ทุกคนลงมือร่วมกัน (Umuganda แปลว่า การร่วมแรงร่วมใจ)

    ผลลัพธ์คือ “คิกาลี”เมืองหลวงของรวันดากำลังจะกลายเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ทั้งที่รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่ำกว่าประเทศร่ำรวยหลายสิบเท่า

    นอกจากนี้ รวันดายังสร้างปรัชญาใหม่ให้กับสังคมขึ้นมาว่า “ค่าความอดทนต่อคอร์รัปชันคือศูนย์”

    พวกเขาทำจริงจัง ใครโกงถูกปลดทันที และดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับไหน ไม่ใช่แค่กฎหมายที่เข้มงวด แต่คือ “บรรยากาศของความเชื่อมั่น” ที่ผู้คนรู้สึกว่า กฎหมายไม่ได้มีไว้ลงโทษเฉพาะคนจน แต่เอื้อมถึงคนมีอำนาจด้วย

    หลังสงครามจบ รวันดาลงทุนกับการศึกษาแบบสุดทาง เด็กทุกคนได้เรียนฟรีจนถึงมัธยม และมีทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัย พวกเขารู้ว่าโลกจากนี้ไปต้องเน้นไปด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

    แต่สิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือ เขาเพิ่มวิชาสันติภาพ วิชาการอยู่ร่วมกัน และวิชาการคิดวิเคราะห์เข้าไปในหลักสูตร เพื่อสร้างพลเมืองใหม่ที่ไม่ถูกหลอกด้วย“วาทกรรมชิงชัง”ซ้ำอีก

    ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ผ่านมาของรวันดา ฝ่ายหนึ่งจะเรียกอีกฝ่ายหนึ่งว่าแมลงสาบ นั่นคือเมื่อคำพูดแปะฉลากคนอื่นว่าไม่ใช่มนุษย์ ความโหดร้ายก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา

    รวันดาในวันนี้ จึงไม่เพียงแค่ควบคุมสื่อให้รับผิดชอบ แต่ยังสอนเด็กให้รู้จักพลังของภาษาว่า “คำพูดสามารถสร้างคนได้ และคำพูดก็สามารถฆ่าคนได้ในเวลาเดียวกัน“

    แน่นอน รวันดายังไม่ใช่ประเทศที่เพียบพร้อม ประเทศนี้ยังต้องการการแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาอีกมาก แต่บทเรียนของเขาสำคัญตรงนี้

    บางครั้ง ทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่การยกระบบของใครมาทั้งดุ้น แต่เป็นการกลับมาดู“หญ้าหน้าบ้าน”ของตัวเอง


    cr:fw.line
    ประเทศที่ตายไปแล้ว แต่ฟื้นขึ้นมาด้วยทฤษฎีหญ้าหน้าบ้าน ในโลกที่ข่าวร้ายเดินทางเร็วเฉียดแสง เราอาจไม่ทันได้ยินข่าวดีของประเทศเล็กๆ ที่ค่อยๆ ลุกขึ้นมาจากเถ้าถ่านด้วยความเงียบและสง่างามอย่าง“รวันดา“ ชาติที่เคยถูกสาปจากโศกนาฏกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อปี ค.ศ.1994 แต่วันนี้กลับกลายเป็นประเทศสะอาด สงบ โปร่งใส และก้าวหน้าเร็วที่สุดแห่งหนึ่ง และที่น่าทึ่งคือ พวกเขาไม่ได้เริ่มจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่เริ่มจาก “ใจ” ใจที่ไม่ยอมฝากความหวังไว้กับการล้างแค้น แต่เลือกจะรักษาความเป็นมนุษย์ให้กันและกัน ในวันที่สงครามจบลง รวันดามีผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์กว่าครึ่งล้านคน ซึ่งถ้าใช้ระบบศาลแบบตะวันตกที่ต้องพิจารณาคดีทีละคน รวันดาคงต้องใช้เวลาเป็นร้อยปี แล้วพวกเขาทำยังไง พวกเขาหยิบความยุติธรรมแบบดั้งเดิมกลับมาใช้ ที่เรียกกันว่า“กาชาชา” (Gacaca) ถ้าแปลแบบตรงตัวก็แปลว่าหญ้าหน้าบ้าน ในอดีต เวลาคนในหมู่บ้านมีข้อขัดแย้งกัน เขาจะไม่ไปฟ้องศาล ไม่จ้างทนาย แต่จะนั่งล้อมวงกลางแจ้งบนหญ้าเตียนๆ คุยกันตรง ๆ ด้วยคำพูดของคนธรรมดา เพื่อหาทางคืนดี ฟังดูเรียบง่าย แต่อาจได้ผลงดงามยิ่งกว่าศาลอาญาระหว่างประเทศ กาชาชา ไม่ได้เน้น “พิพากษา” แต่มุ่ง “เยียวยา” ผู้กระทำผิดที่สารภาพจะได้รับโอกาสขอขมา เปิดใจฟังผู้เสียหาย และร่วมฟื้นฟูชุมชนด้วยมือของตนเอง เช่น ปลูกต้นไม้ ซ่อมบ้านเหยื่อ หรือช่วยงานสาธารณะ ส่วนผู้เสียหายก็ได้รับโอกาสพูดสิ่งที่อยู่ในใจท่ามกลางชุมชน มันไม่ใช่การล้างแค้น แต่มันคือล้างใจ วันนี้รวันดาถูกนับได้ว่าเป็นประเทศที่สะอาดมากประเทศหนึ่ง ที่ไม่ใช่เพราะงบ แต่เพราะผู้คนลุกขึ้นมากวาด รวันดาแบนพลาสติกแบบไม่มีข้อยกเว้นตั้งแต่ปี 2008 ถุงพลาสติกเข้าประเทศไม่ได้ แม้แต่ในกระเป๋าเดินทาง และในวันเสาร์สุดท้ายของทุกเดือน จะเป็นวันอูมูกันดา ที่คนทั้งประเทศออกมาทำความสะอาดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นคนทำสวนหรือประธานาธิบดี ทุกคนลงมือร่วมกัน (Umuganda แปลว่า การร่วมแรงร่วมใจ) ผลลัพธ์คือ “คิกาลี”เมืองหลวงของรวันดากำลังจะกลายเป็นเมืองที่สะอาดที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ทั้งที่รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่ำกว่าประเทศร่ำรวยหลายสิบเท่า นอกจากนี้ รวันดายังสร้างปรัชญาใหม่ให้กับสังคมขึ้นมาว่า “ค่าความอดทนต่อคอร์รัปชันคือศูนย์” พวกเขาทำจริงจัง ใครโกงถูกปลดทันที และดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าหน้าที่ระดับไหน ไม่ใช่แค่กฎหมายที่เข้มงวด แต่คือ “บรรยากาศของความเชื่อมั่น” ที่ผู้คนรู้สึกว่า กฎหมายไม่ได้มีไว้ลงโทษเฉพาะคนจน แต่เอื้อมถึงคนมีอำนาจด้วย หลังสงครามจบ รวันดาลงทุนกับการศึกษาแบบสุดทาง เด็กทุกคนได้เรียนฟรีจนถึงมัธยม และมีทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัย พวกเขารู้ว่าโลกจากนี้ไปต้องเน้นไปด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แต่สิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้นคือ เขาเพิ่มวิชาสันติภาพ วิชาการอยู่ร่วมกัน และวิชาการคิดวิเคราะห์เข้าไปในหลักสูตร เพื่อสร้างพลเมืองใหม่ที่ไม่ถูกหลอกด้วย“วาทกรรมชิงชัง”ซ้ำอีก ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ผ่านมาของรวันดา ฝ่ายหนึ่งจะเรียกอีกฝ่ายหนึ่งว่าแมลงสาบ นั่นคือเมื่อคำพูดแปะฉลากคนอื่นว่าไม่ใช่มนุษย์ ความโหดร้ายก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา รวันดาในวันนี้ จึงไม่เพียงแค่ควบคุมสื่อให้รับผิดชอบ แต่ยังสอนเด็กให้รู้จักพลังของภาษาว่า “คำพูดสามารถสร้างคนได้ และคำพูดก็สามารถฆ่าคนได้ในเวลาเดียวกัน“ แน่นอน รวันดายังไม่ใช่ประเทศที่เพียบพร้อม ประเทศนี้ยังต้องการการแก้ไข ปรับปรุง พัฒนาอีกมาก แต่บทเรียนของเขาสำคัญตรงนี้ บางครั้ง ทางออกที่ดีที่สุด ไม่ใช่การยกระบบของใครมาทั้งดุ้น แต่เป็นการกลับมาดู“หญ้าหน้าบ้าน”ของตัวเอง … cr:fw.line
    0 Comments 0 Shares 183 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการดัดแปลง GPU รุ่นเก่า Voodoo4 ให้สามารถใช้งานในแล็ปท็อปได้ โดยนักดัดแปลงฮาร์ดแวร์ Daniel Simionescu ได้พัฒนา PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB และเชื่อมต่อกับแล็ปท็อป Dell Precision M4800 ผ่านโมดูล MXM (Mobile PCI Express Module) การดัดแปลงนี้ต้องใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler เพื่อให้ GPU รุ่นเก่าสามารถทำงานร่วมกับมาตรฐานปัจจุบันได้

    การทดสอบในระบบปฏิบัติการ Windows 98 พบปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Windows XP และไดรเวอร์ VBE (VESA BIOS Extensions) ก็สามารถใช้งานได้บางส่วน เช่น การรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed

    แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการค้า แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานสามารถพัฒนาต่อได้ในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส

    ✅ การออกแบบและการดัดแปลง
    - ใช้ PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB
    - เชื่อมต่อกับแล็ปท็อปผ่านโมดูล MXM

    ✅ การแก้ปัญหาความเข้ากันได้
    - ใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler
    - ใช้ไดรเวอร์ VBE เพื่อแก้ปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS

    ✅ ผลการทดสอบ
    - สามารถรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed บน Windows XP

    ✅ เป้าหมายของการดัดแปลง
    - เปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานพัฒนาต่อในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/legendary-voodoo4-gpu-modded-into-laptop-benchmarks-work-with-windows-xp
    บทความนี้กล่าวถึงการดัดแปลง GPU รุ่นเก่า Voodoo4 ให้สามารถใช้งานในแล็ปท็อปได้ โดยนักดัดแปลงฮาร์ดแวร์ Daniel Simionescu ได้พัฒนา PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB และเชื่อมต่อกับแล็ปท็อป Dell Precision M4800 ผ่านโมดูล MXM (Mobile PCI Express Module) การดัดแปลงนี้ต้องใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler เพื่อให้ GPU รุ่นเก่าสามารถทำงานร่วมกับมาตรฐานปัจจุบันได้ การทดสอบในระบบปฏิบัติการ Windows 98 พบปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS แต่เมื่อเปลี่ยนไปใช้ Windows XP และไดรเวอร์ VBE (VESA BIOS Extensions) ก็สามารถใช้งานได้บางส่วน เช่น การรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อการค้า แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานสามารถพัฒนาต่อได้ในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส ✅ การออกแบบและการดัดแปลง - ใช้ PCB ที่ติดตั้ง GPU Voodoo4 พร้อมหน่วยความจำ SDR ขนาด 64MB - เชื่อมต่อกับแล็ปท็อปผ่านโมดูล MXM ✅ การแก้ปัญหาความเข้ากันได้ - ใช้ FPGA, ตัวเชื่อมต่อ LVDS/eDP และ RealTek Scaler - ใช้ไดรเวอร์ VBE เพื่อแก้ปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของ BIOS ✅ ผลการทดสอบ - สามารถรัน 3DMark 2001 และเกม Need for Speed: Porsche Unleashed บน Windows XP ✅ เป้าหมายของการดัดแปลง - เปิดโอกาสให้ชุมชนผู้ใช้งานพัฒนาต่อในรูปแบบโอเพ่นซอร์ส https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/legendary-voodoo4-gpu-modded-into-laptop-benchmarks-work-with-windows-xp
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • 27 เม.ย.2568-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน   เป็นวันที่ 3 

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง  จากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ  ทิมพู    ไปยังพระราชวังลิงคานา (Lingkana Palace Ground)  เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน  ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน  จัดถวาย  ได้แก่ การแสดงศิลปะการยิงธนู กีฬาพื้นบ้าน   ในการนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ทรงแนะนำวิธีการยิงธนูของภูฏานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมยิงธนูอันเป็นกีฬาประจำชาติของชาวภูฏาน สำหรับกีฬายิงธนูเป็นกีฬาประจำชาติอัตลักษณ์ของภูฏาน นิยมเล่นตลอดทั้งปี เป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สร้างความรักสามัคคีของชุมชน มักเป็นส่วนหนึ่งการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศ ชาวภูฏานเชื่อว่า กีฬานี้ช่วยสร้างสมาธิและการควบคุมอารมณ์ สะท้อนถึงปรัชญาในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสุขุม ตลอดจนเป็นกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่สนใจ คันธนูและลูกธนูของภูฏานแตกต่างจากกีฬายิงธนูในการแข่งขันโอลิมปิก ภูฏานใช้ธนูทำจากไม้ไผ่ หรือในบางครั้งอาจใช้เส้นใยไฟเบอร์กลาส ส่วนลูกธนูทำจากต้นฮีมา (Hema) ซึ่งเป็นพืชที่พบในเชิงเขาของภูฏาน

    จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน  ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู  (Kaja Throm)  ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง  และร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร  

    ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และจะเสด็จพระราชดำเนินกลับในวันที่ 28 เมษายน 2568
    27 เม.ย.2568-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน   เป็นวันที่ 3  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง  จากโรงแรมที่ประทับเพมาโกะ  ทิมพู    ไปยังพระราชวังลิงคานา (Lingkana Palace Ground)  เพื่อทอดพระเนตรการแสดงศิลปวัฒนธรรมของภูฏาน  ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และสมเด็จพระราชินีแห่งภูฏาน  จัดถวาย  ได้แก่ การแสดงศิลปะการยิงธนู กีฬาพื้นบ้าน   ในการนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ทรงแนะนำวิธีการยิงธนูของภูฏานแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงร่วมยิงธนูอันเป็นกีฬาประจำชาติของชาวภูฏาน สำหรับกีฬายิงธนูเป็นกีฬาประจำชาติอัตลักษณ์ของภูฏาน นิยมเล่นตลอดทั้งปี เป็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมพื้นบ้านที่สร้างความรักสามัคคีของชุมชน มักเป็นส่วนหนึ่งการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลสำคัญของประเทศ ชาวภูฏานเชื่อว่า กีฬานี้ช่วยสร้างสมาธิและการควบคุมอารมณ์ สะท้อนถึงปรัชญาในการใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสุขุม ตลอดจนเป็นกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่สนใจ คันธนูและลูกธนูของภูฏานแตกต่างจากกีฬายิงธนูในการแข่งขันโอลิมปิก ภูฏานใช้ธนูทำจากไม้ไผ่ หรือในบางครั้งอาจใช้เส้นใยไฟเบอร์กลาส ส่วนลูกธนูทำจากต้นฮีมา (Hema) ซึ่งเป็นพืชที่พบในเชิงเขาของภูฏาน จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทอดพระเนตรงานหัตถกรรมผ้าและสิ่งทอของราชอาณาจักรภูฏาน  ต่อมาเสด็จพระราชดำเนินไปยังตลาดกลางประจำกรุงทิมพู  (Kaja Throm)  ทรงรับฟังการบรรยายสรุปและทอดพระเนตรนิทรรศการของโครงการอาสาสมัครเดซุง  และร้านค้าจำหน่ายพืชผลทางการเกษตร   ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินเยือนราชอาณาจักรภูฏานอย่างเป็นทางการ (State Visit) ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน และจะเสด็จพระราชดำเนินกลับในวันที่ 28 เมษายน 2568
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • ..คนยุคน้ำหมากเราก็เหนื่อยเป็นนะ,จะมั่วแต่มาออกมาไล่มาชุมนุมประกาศความชั่วเลวเป็นตัวแทนความดีเหี้ยนี้ไม่นานหรอก,มันบ่งบอกถึงระบบมันชั่วเลวชัดเจนจึงควบคุมคนชั่วเลวไม่ได้จริง,ระบบปกครองล้มเหลวจนเดือดร้อนประชาชนตนดำๆทั่วประเทศต้องมาทวงคืนความเป็นธรรมแทนคนไทยร่วมกันแทน,ในขณะตัวแทนพวกกาเลทอกตั้งอวดอวยตนกราบไหว้ก่อนกาเลือกบอกว่าจะเป็นตัวแทนที่ดีเสือกกระทำชั่ว,คนในระบบแบบคนข้าราชการก็ไม่ทำอะไรสร้างดุลความยุติธรรม,มองตาปริบๆในวงราชการตนเองนั่งคาตำแหน่งอำนาจกระจายเต็มแผ่นดินไทยตั้งแต่ระดับผู้ว่า,นายอำเภอคนราชการท้องถิ่นซึ่งชัดเจนว่าอยุติธรรมเต็มแผ่นดินเพียงใดในปัญหาประจำท้องถิ่นตนแต่ล่ะที่ พบเจอค่าจริงมากมาย แต่หดเป็นเต่าไม่บอกความจริงประชาชนเลยก็คนราชการนี้ล่ะ,บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายเต็มประเทศระดับผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.รับรู้หมดล่ะ,อะไรไม่ดีก็ไม่คิดอ่านส่งเสริมให้ดี,อะไรดีก็ตัดตอนทำให้แย่,มันคือการปกครองแบบใด,บ่อนพนันเลวๆรู้ว่าชั่ว มีผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.กี่คนออกมาประกาศจุดยืนปกป้องประเทศให้พ้นอบายมุขในสิ่งชั่ว,นึกเล่นๆสิผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.ร่วมกันตีแผ่บอกค่าจริงที่เลวชั่วสาระพัดร่วมกัน ใครประชาชนที่ไหนจะมืดบอดอีก ตนในฐานะพ่อเมืองพ่อบ้านที่อวดอวยอ้างนักกลับไม่ออกมาสู้ อ้างผิดวิถีคนใต้ปกครองพะนะ ถ้าวิถีปกครองเหี้ยๆนี้ปิดปากให้อบายมุขสิ่งเลวชั่วเจริญรุ่งเรืองก็อย่ามีวิถีปกครองแบบนำพาประชาชนให้มืดบอดเลย บรรลุรู้เองพะนะ คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ว่านายเภออบต.อบจ.ประดับแผ่นดินไทยสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศที่แม้ความชั่วเลวก็ออกมาสู้รบกับข้าศึกชั่วเลวนี้แบบเปิดเผยชี้บอกเลวชั่วต่อทหารตนไม่ได้ว่ารบกับข้าศึกทำไม สู้เพื่ออะไรในนานแม่ทัพนำหน้ารบ,เสือกหลบมืดใต้ดินที่เกรงกลัวข้าศึกศัตรูแต่พอเงินเดือนออกสวัสดิโบนัสมารีบเร่งเบิกเร่งรับโอนเต็มๆ มันใช้ไม่ได้นะ,เราต้องล้างทุบทำลายวิถีปกครองที่ส่งเสริมความชั่วเลวเถอะ,ตนถูกปล้นก็ไม่สู้กลับเอาคืน,ตนถูกหลอกก็ไม่บอกความจริงให้หายโง่ไม่พาคนตามโง่ไปด้วย ฉีกความโง่ทิ้ง,แบบฉีกสัญญาทาสฉีกกฎหมายเลวชั่วที่ปล้นบ่อน้ำมันเราไปแบบฉีกรัฐธรรมนูญที่ทหารยึดอำนาจแล้วทำเสียของมาก,ไม่เป็นประโยชน์จริงอะไรต่อการสร้างชาติ นึกว่าจะเอาวัตถุดิบสร้างชาติคืนทั้งหมดได้เช่นสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายทีีเอกชนต่างชาติผูกขาดไปและคนทรยศเอกชนไทยเองยึดเอาผูกขาดเอาไปก็ด้วยให้ตกเป็นของกลางสร้างชาติจริงในอนาคตต่อยอดสิ่งต่างๆมากมายต่อไป,กาก&กระจอกมาก,ฝีมือไม่ถึง,เสียเวลาและเสียของจนก่อปัญหาไม่จบสิ้นถึงปัจจุบัน,ปัญหาทั้งหมดคือพวกปกครองพวกได้อำนาจไปปกครองที่ไร้ฝีมือ นำพาประเทศสู่ความฉิบหายทั่วประเทศ เจริญแบบเป็นทาสขี้ข้าวัตถุต่างชาติ เขาทุบทำลายตนเมื่อใดก็ไร้ความเจริญเพราะเจริญแบบปลอมๆ,ไม่สร้างรากฐานความเจริญที่แท้จริงจากคนของแผ่นดินไทยตนก่อน,ทุกๆคนไทยเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ ยืนด้วยขาตนเองจริง ร่ำรวยทางวัตถุแม้ไม่มากแต่ความว่าสิ้นชาติไทยจะไม่มีบนแผ่นดินไทยต่อคนไทยเราทุกๆคนและพลิกสู่เจริญวัตถุธาตุร่ำรวยทั้งทางกายและจิตวิญญาณที่ดีงามฝ่ายเดียวด้วยคู่ขนานโลกยุคล้ำๆต่างๆปรับเข้าลงตัวต่อโลกได้อย่างสบาย.
    ..ปัจจุบันสมควรจบจริง ภาคนักการเมืองแบบนี้และแบบภาคก่อนคณะกบฎ2475ก็คงรับการปกครองแบบนั้นไม่ได้ในสไตล์ศักดินาขี้ข้าทาสไพร่รับใช้แบบนั้น,วิถีปกครองเราต้องธรรมาธิปไตยสไตล์ธรรมะฝ่ายกุศลธรรมนำหน้าจริงๆจึงพอก้าวต่อไปได้,ทุกๆคนไทยจะมีธรรมดีปกครองในใจใครมันบนจริตสันดานปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆร่วมกันได้,ตรงข้ามทุกๆคนไทยขาดธรรมดี วุ่นวายทั้งชุมชนสังคมแบบในปัจจุบันนี้แน่นอน ทำร้ายกันแบบไร้สติคิดอ่านล่ะ,จึงต้องเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว,ใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยต้องถีบออกจากประเทศไทยทั้งหมดทันที ความโกลาหลจากคนต่างบ้านต่างเมืองจะหมดไปจะเหลือแค่จัดการกันเองภายในล้วนๆ, นโยบายเร่งด่วนคือใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยกรุณาบินกลับประเทศตนเองทั้งหมดทันที,สนับสนุนส่งไปเกาะใดๆพักคนพวกนี้ได้,หรือติดต่อประเทศที่สามรับไปดูแลแทนแบบพวกสงครามพม่า,ไม่ใช่ภาระเราต้องแบกรับปัญหาที่บ้านเมืองมันเองก่อการกันเอง.แล้วมาสร้างความไม่สงบสุขแก่คนของแผ่นดินไทยในบ้านเมืองไทยเราด้วย,กิจการไหนเสียดายต่างด้าวกรุณาย้ายฐานการผลิตไปตั้งโรงงานที่ประเทศต่างด้าวนั้นเลยบวกตัดเครดิตในภาครัฐทั้งหมดที่รัฐส่งเสริมสนับสนุนทิ้งทั้งหมด ข้อหาส่งเสริมต่างด้าวสร้างภัยความมั่นคงไม่สงบต่อชุมชนสังคมรอบกิจการโรงงานและคนไทยร่วมทั้งประเทศ,
    ..แม้ฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆจะอาศัยต่างด้าวสร้างเป็นมือที่สามหรือใดๆจะก่อการลำบากหรือยากหรือไม่ได้เป็นเพียงอาศัยคนทรยศคนไทยอย่างเดียวแล้วแค่นั้นหรือมันก่อการเองของต่างชาตินั้นๆ.ตัดตอนปัญหาสาระพัดเลยล่ะหรือหมอพยาบาลที่ดูแลต่างด้าวมากกว่าคนไทย งบมากมาย ทรัพยากรจำกัดหลากหลายที่ต่างชาติต่างด้าวนี้มาแย่งชิงการใช้ขณะดำรงชีวิตไม่ให้ตายในไทยจะลดลงมหาศาลเป็นจำนวนมากทันที,ฝ่ายการเมืองเลวชั่วจะใช้ต่างด้าวมาปั่นป่วนใดๆก็จบเกมส์ด้วย,ความสงบสุขมากมายที่ผิดปกติไปเพราะต่างชาติต่างด้าวนี้ล่ะคือตัวปัญหาซึ่งคนชั่วสามารถวางสนุ็คใช้ในแผนการต่างๆมันได้,กิจการที่อาศัยทาสแรงงานต่างด้าวค้ากำไรจะตายลงไป,คนกิจการจริงจะอาศัยสัมมาครอบครัวใครมันทำการค้าขายแต่พอดีตามกำลังแรงตนใครมันไม่เอาเปรียบกันก็ว่า,สัมมาอาชีพมากมายจะค้าขายกันพอดีกำลังไม่กอบโกยรวบเอามากองแต่หน้าตักตนเอง,แรงตนกับคนในครอบครัวปกติทำรายได้10-100ล้าน โลภอยากได้มากๆตัดสัมมาอาชีพคนอื่นที่สามารถทำได้ไปยึดผูกขาดทำเองหมดจนตังกว่าแสนล้านหรือล้านล้านบาทจากแรงงานต่างด้าวนำเข้าหรือใครคนอื่นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้,ตนครอบครัวใครมันทำได้เท่าไรก็เอาแต่พอดี ปล่อยคนอื่นๆร่ำรวยมีสุขบ้างในแต่ละท้องที่ จรรโจงชุมชนสังคมทั่วไทย ยืนร่วมกันด้วยขาตนเองร่วมกันในสัมมาอาชีพต่างๆบนแผ่นดินไทยตน,ซึ่งปัจจุบันเหี้ยภายในไม่พอ ไปเชิญชวนต่างชาติมายึดครองแผ่นดินไทยตนด้วย,แล้วฉลาดอวดโง่ว่านำพานักลงทุนมาลงแดกเต็มประเทศไทยได้.,วิถีปกครองนี้เลวชั่วและคือภัยความมั่นคงของประเทศไทยเราอย่างชัดเจน.

    https://m.youtube.com/watch?v=9krnTyEP7pQ
    ..คนยุคน้ำหมากเราก็เหนื่อยเป็นนะ,จะมั่วแต่มาออกมาไล่มาชุมนุมประกาศความชั่วเลวเป็นตัวแทนความดีเหี้ยนี้ไม่นานหรอก,มันบ่งบอกถึงระบบมันชั่วเลวชัดเจนจึงควบคุมคนชั่วเลวไม่ได้จริง,ระบบปกครองล้มเหลวจนเดือดร้อนประชาชนตนดำๆทั่วประเทศต้องมาทวงคืนความเป็นธรรมแทนคนไทยร่วมกันแทน,ในขณะตัวแทนพวกกาเลทอกตั้งอวดอวยตนกราบไหว้ก่อนกาเลือกบอกว่าจะเป็นตัวแทนที่ดีเสือกกระทำชั่ว,คนในระบบแบบคนข้าราชการก็ไม่ทำอะไรสร้างดุลความยุติธรรม,มองตาปริบๆในวงราชการตนเองนั่งคาตำแหน่งอำนาจกระจายเต็มแผ่นดินไทยตั้งแต่ระดับผู้ว่า,นายอำเภอคนราชการท้องถิ่นซึ่งชัดเจนว่าอยุติธรรมเต็มแผ่นดินเพียงใดในปัญหาประจำท้องถิ่นตนแต่ล่ะที่ พบเจอค่าจริงมากมาย แต่หดเป็นเต่าไม่บอกความจริงประชาชนเลยก็คนราชการนี้ล่ะ,บ่อน้ำมันบ่อทองคำมากมายเต็มประเทศระดับผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.รับรู้หมดล่ะ,อะไรไม่ดีก็ไม่คิดอ่านส่งเสริมให้ดี,อะไรดีก็ตัดตอนทำให้แย่,มันคือการปกครองแบบใด,บ่อนพนันเลวๆรู้ว่าชั่ว มีผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.กี่คนออกมาประกาศจุดยืนปกป้องประเทศให้พ้นอบายมุขในสิ่งชั่ว,นึกเล่นๆสิผู้ว่านายอำเภออบต.อบจ.ร่วมกันตีแผ่บอกค่าจริงที่เลวชั่วสาระพัดร่วมกัน ใครประชาชนที่ไหนจะมืดบอดอีก ตนในฐานะพ่อเมืองพ่อบ้านที่อวดอวยอ้างนักกลับไม่ออกมาสู้ อ้างผิดวิถีคนใต้ปกครองพะนะ ถ้าวิถีปกครองเหี้ยๆนี้ปิดปากให้อบายมุขสิ่งเลวชั่วเจริญรุ่งเรืองก็อย่ามีวิถีปกครองแบบนำพาประชาชนให้มืดบอดเลย บรรลุรู้เองพะนะ คงไม่จำเป็นต้องมีผู้ว่านายเภออบต.อบจ.ประดับแผ่นดินไทยสิ้นเปลืองงบประมาณประเทศที่แม้ความชั่วเลวก็ออกมาสู้รบกับข้าศึกชั่วเลวนี้แบบเปิดเผยชี้บอกเลวชั่วต่อทหารตนไม่ได้ว่ารบกับข้าศึกทำไม สู้เพื่ออะไรในนานแม่ทัพนำหน้ารบ,เสือกหลบมืดใต้ดินที่เกรงกลัวข้าศึกศัตรูแต่พอเงินเดือนออกสวัสดิโบนัสมารีบเร่งเบิกเร่งรับโอนเต็มๆ มันใช้ไม่ได้นะ,เราต้องล้างทุบทำลายวิถีปกครองที่ส่งเสริมความชั่วเลวเถอะ,ตนถูกปล้นก็ไม่สู้กลับเอาคืน,ตนถูกหลอกก็ไม่บอกความจริงให้หายโง่ไม่พาคนตามโง่ไปด้วย ฉีกความโง่ทิ้ง,แบบฉีกสัญญาทาสฉีกกฎหมายเลวชั่วที่ปล้นบ่อน้ำมันเราไปแบบฉีกรัฐธรรมนูญที่ทหารยึดอำนาจแล้วทำเสียของมาก,ไม่เป็นประโยชน์จริงอะไรต่อการสร้างชาติ นึกว่าจะเอาวัตถุดิบสร้างชาติคืนทั้งหมดได้เช่นสมบัติทรัพยากรมีค่ามากมายทีีเอกชนต่างชาติผูกขาดไปและคนทรยศเอกชนไทยเองยึดเอาผูกขาดเอาไปก็ด้วยให้ตกเป็นของกลางสร้างชาติจริงในอนาคตต่อยอดสิ่งต่างๆมากมายต่อไป,กาก&กระจอกมาก,ฝีมือไม่ถึง,เสียเวลาและเสียของจนก่อปัญหาไม่จบสิ้นถึงปัจจุบัน,ปัญหาทั้งหมดคือพวกปกครองพวกได้อำนาจไปปกครองที่ไร้ฝีมือ นำพาประเทศสู่ความฉิบหายทั่วประเทศ เจริญแบบเป็นทาสขี้ข้าวัตถุต่างชาติ เขาทุบทำลายตนเมื่อใดก็ไร้ความเจริญเพราะเจริญแบบปลอมๆ,ไม่สร้างรากฐานความเจริญที่แท้จริงจากคนของแผ่นดินไทยตนก่อน,ทุกๆคนไทยเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ ยืนด้วยขาตนเองจริง ร่ำรวยทางวัตถุแม้ไม่มากแต่ความว่าสิ้นชาติไทยจะไม่มีบนแผ่นดินไทยต่อคนไทยเราทุกๆคนและพลิกสู่เจริญวัตถุธาตุร่ำรวยทั้งทางกายและจิตวิญญาณที่ดีงามฝ่ายเดียวด้วยคู่ขนานโลกยุคล้ำๆต่างๆปรับเข้าลงตัวต่อโลกได้อย่างสบาย. ..ปัจจุบันสมควรจบจริง ภาคนักการเมืองแบบนี้และแบบภาคก่อนคณะกบฎ2475ก็คงรับการปกครองแบบนั้นไม่ได้ในสไตล์ศักดินาขี้ข้าทาสไพร่รับใช้แบบนั้น,วิถีปกครองเราต้องธรรมาธิปไตยสไตล์ธรรมะฝ่ายกุศลธรรมนำหน้าจริงๆจึงพอก้าวต่อไปได้,ทุกๆคนไทยจะมีธรรมดีปกครองในใจใครมันบนจริตสันดานปรับปรุงตนให้ดีขึ้นเรื่อยๆร่วมกันได้,ตรงข้ามทุกๆคนไทยขาดธรรมดี วุ่นวายทั้งชุมชนสังคมแบบในปัจจุบันนี้แน่นอน ทำร้ายกันแบบไร้สติคิดอ่านล่ะ,จึงต้องเคลียร์พื้นที่อย่างรวดเร็ว,ใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยต้องถีบออกจากประเทศไทยทั้งหมดทันที ความโกลาหลจากคนต่างบ้านต่างเมืองจะหมดไปจะเหลือแค่จัดการกันเองภายในล้วนๆ, นโยบายเร่งด่วนคือใครที่ไม่ใช่คนไทยสัญชาติไทยกรุณาบินกลับประเทศตนเองทั้งหมดทันที,สนับสนุนส่งไปเกาะใดๆพักคนพวกนี้ได้,หรือติดต่อประเทศที่สามรับไปดูแลแทนแบบพวกสงครามพม่า,ไม่ใช่ภาระเราต้องแบกรับปัญหาที่บ้านเมืองมันเองก่อการกันเอง.แล้วมาสร้างความไม่สงบสุขแก่คนของแผ่นดินไทยในบ้านเมืองไทยเราด้วย,กิจการไหนเสียดายต่างด้าวกรุณาย้ายฐานการผลิตไปตั้งโรงงานที่ประเทศต่างด้าวนั้นเลยบวกตัดเครดิตในภาครัฐทั้งหมดที่รัฐส่งเสริมสนับสนุนทิ้งทั้งหมด ข้อหาส่งเสริมต่างด้าวสร้างภัยความมั่นคงไม่สงบต่อชุมชนสังคมรอบกิจการโรงงานและคนไทยร่วมทั้งประเทศ, ..แม้ฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆจะอาศัยต่างด้าวสร้างเป็นมือที่สามหรือใดๆจะก่อการลำบากหรือยากหรือไม่ได้เป็นเพียงอาศัยคนทรยศคนไทยอย่างเดียวแล้วแค่นั้นหรือมันก่อการเองของต่างชาตินั้นๆ.ตัดตอนปัญหาสาระพัดเลยล่ะหรือหมอพยาบาลที่ดูแลต่างด้าวมากกว่าคนไทย งบมากมาย ทรัพยากรจำกัดหลากหลายที่ต่างชาติต่างด้าวนี้มาแย่งชิงการใช้ขณะดำรงชีวิตไม่ให้ตายในไทยจะลดลงมหาศาลเป็นจำนวนมากทันที,ฝ่ายการเมืองเลวชั่วจะใช้ต่างด้าวมาปั่นป่วนใดๆก็จบเกมส์ด้วย,ความสงบสุขมากมายที่ผิดปกติไปเพราะต่างชาติต่างด้าวนี้ล่ะคือตัวปัญหาซึ่งคนชั่วสามารถวางสนุ็คใช้ในแผนการต่างๆมันได้,กิจการที่อาศัยทาสแรงงานต่างด้าวค้ากำไรจะตายลงไป,คนกิจการจริงจะอาศัยสัมมาครอบครัวใครมันทำการค้าขายแต่พอดีตามกำลังแรงตนใครมันไม่เอาเปรียบกันก็ว่า,สัมมาอาชีพมากมายจะค้าขายกันพอดีกำลังไม่กอบโกยรวบเอามากองแต่หน้าตักตนเอง,แรงตนกับคนในครอบครัวปกติทำรายได้10-100ล้าน โลภอยากได้มากๆตัดสัมมาอาชีพคนอื่นที่สามารถทำได้ไปยึดผูกขาดทำเองหมดจนตังกว่าแสนล้านหรือล้านล้านบาทจากแรงงานต่างด้าวนำเข้าหรือใครคนอื่นแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้,ตนครอบครัวใครมันทำได้เท่าไรก็เอาแต่พอดี ปล่อยคนอื่นๆร่ำรวยมีสุขบ้างในแต่ละท้องที่ จรรโจงชุมชนสังคมทั่วไทย ยืนร่วมกันด้วยขาตนเองร่วมกันในสัมมาอาชีพต่างๆบนแผ่นดินไทยตน,ซึ่งปัจจุบันเหี้ยภายในไม่พอ ไปเชิญชวนต่างชาติมายึดครองแผ่นดินไทยตนด้วย,แล้วฉลาดอวดโง่ว่านำพานักลงทุนมาลงแดกเต็มประเทศไทยได้.,วิถีปกครองนี้เลวชั่วและคือภัยความมั่นคงของประเทศไทยเราอย่างชัดเจน. https://m.youtube.com/watch?v=9krnTyEP7pQ
    0 Comments 0 Shares 295 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร.สั่งสอบสาเหตุเครื่องบินตำรวจตกทะเล รอตรวจกล่องดำ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 15 วัน เผยเครื่องบินเพิ่งเข้าประจำการเมื่อปี 64 คนขับเป็นระดับครูฝึกบิน ขณะเกิดเหตุพยายามบังคับเครื่องเลี่ยงชุมชนจนตกทะเล เสนอปูนบำเหน็จพร้อมสวัสดิการอย่างสมเกียรติ ส่วนตำรวจ 1 นาย ที่รอดชีวิตบาดเจ็บสาหัสยังไม่ฟื้นสติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038895

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร.สั่งสอบสาเหตุเครื่องบินตำรวจตกทะเล รอตรวจกล่องดำ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 15 วัน เผยเครื่องบินเพิ่งเข้าประจำการเมื่อปี 64 คนขับเป็นระดับครูฝึกบิน ขณะเกิดเหตุพยายามบังคับเครื่องเลี่ยงชุมชนจนตกทะเล เสนอปูนบำเหน็จพร้อมสวัสดิการอย่างสมเกียรติ ส่วนตำรวจ 1 นาย ที่รอดชีวิตบาดเจ็บสาหัสยังไม่ฟื้นสติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000038895 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 615 Views 0 Reviews
  • 78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅

    เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า?

    เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥

    เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก

    "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ"

    “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี

    😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5”

    ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน

    แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨

    ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป

    สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน

    🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️

    “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ”

    🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน

    เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ

    “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ”

    🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง

    จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน”

    สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา

    📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก...

    ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌

    แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล”

    😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร

    “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้

    เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ

    🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร

    🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ

    🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่...

    เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า”

    คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓

    ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ?

    ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง?

    ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว?

    🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ
    แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี

    เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568

    📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    78 ปี วิสามัญ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ จากผู้ใหญ่บ้าน สู่ขุนโจรผู้ยิ่งใหญ่ เมื่อตำรวจน่ากลัวกว่าเสือ จึงถูกหลอกซ้ำซาก ล่อติดคุก-ลวงยิงทิ้ง 🐅 เมื่อผู้ใหญ่บ้าน กลายเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่รัฐกลัวที่สุด ย้อนตำนาน “เสือฝ้าย” จอมโจรผู้เลื่องชื่อแห่งเมืองสุพรรณ กับบทสรุปที่กลายเป็นปริศนา เสือจริงหรือตำรวจคือภัยร้ายกว่า? เรื่องราวของ “เสือฝ้าย” จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้กล้าท้าทายอำนาจรัฐ ด้วยเหตุแห่งความอยุติธรรม กลายเป็นตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ ที่ชาวบ้านรัก และตำรวจหวาดกลัว 🕵️‍♂️🔥 เมื่อความอยุติธรรม สร้างตำนานโจรผู้ยิ่งใหญ่ หากพูดถึง "เสือ" ในตำนานไทย หลายคนอาจนึกถึง “เสือใบ”, “เสือดำ” หรือ “เสือมเหศวร” แต่มีอีกหนึ่งชื่อ ที่ไม่อาจมองข้ามได้เลยคือ “เสือฝ้าย” 🐯 จอมโจรเมืองสุพรรณ ผู้ที่ไม่ได้เริ่มต้นจากการเป็นโจร แต่กลับกลายเป็นตำนาน ด้วยความเจ็บแค้นที่ถูกระบบรังแก "เสือฝ้าย" หรือ "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 ตำบลเดิมบาง เป็นนักรบเสรีไทย และเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่อยากทำดีเพื่อบ้านเกิด แต่เมื่อความดี ถูกตอบแทนด้วยความอยุติธรรม จึงเลือกหนทางของ "เสือ" “เมื่อรัฐเล่นตลกกับข้า ข้าก็จะสร้างเสียงหัวเราะให้พวกมัน!” เสือฝ้าย กล่าวไว้ หลังพ้นโทษจำคุก 8 ปี 😇👉😈 "นายฝ้าย เพ็ชนะ" เกิดเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2431 ที่ตำบลเดิมบาง อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นลูกของชาวนา ครอบครัวมีพี่น้อง 8 คน เติบโตมาอย่างเรียบง่าย กระทั่งช่วงวัย 20 ต้น ๆ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าใหญ่ หมู่ที่ 5” ระหว่างสงครามโลก ครั้งที่สอง เสือฝ้ายมีบทบาทสำคัญใน “ขบวนการเสรีไทย” ต่อต้านทหารญี่ปุ่น และได้รับฉายา “จอมพลฝ้าย” จากประชาชน แต่เรื่องราวกลับเปลี่ยนไป เมื่อถูกใส่ร้ายจากหลานเขย ผู้มีสายสัมพันธ์กับตำรวจ ถูกตัดสินให้ติดคุกถึง 8 ปี ทั้งที่ไม่มีความผิด นี่คือจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง 🧨 ✊ เสือฝ้ายผู้รักความยุติธรรม แม้จะถูกตราหน้าว่าเป็น “โจร” แต่เสือฝ้ายไม่เหมือนโจรทั่วไป สิ่งที่ “ปล้น” ไม่ใช่เพื่อความร่ำรวยส่วนตัว เสือฝ้ายตั้งเป้าเล่นงานเฉพาะ “ผู้มีอำนาจที่ฉ้อโกง” ไม่ปล้นคนจน ไม่แตะต้องชาวบ้าน แจกจ่ายทรัพย์สินที่ปล้นมา ให้กับผู้ยากไร้ในชุมชน 🔥 ชาวบ้านจึงเปรียบเสือฝ้ายเสมือน “ฮีโร่” มากกว่า “ผู้ร้าย” ❤️ “ชาวบ้านรักเสือฝ้าย เพราะไม่เคยทำร้ายใครที่ไม่มีอำนาจ” 🏴‍☠️ ชุมโจรที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย เสือฝ้ายไม่ใช่โจรเดี่ยว นำกองกำลังชุมโจรที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่ไทยเคยมี สมุนไม่ต่ำกว่า 100-200 คน เทียบกับกลุ่มโจรทั่วไปในยุคนั้น ที่มีเพียง 10-20 คน เสือฝ้ายใช้เส้นทางป่าในเขตเดิมบางนางบวช ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขาและป่าทึบ เป็นที่หลบซ่อนและตั้งฐานปฏิบัติการ “บางคนว่าทั้งสุพรรณบุรี คือบ้านของเสือฝ้าย เพราะทุกคนต่างพร้อมใจ ให้การช่วยเหลือ” 🌆 เมืองสุพรรณยุคโจรครองเมือง 🧧 ย้อนกลับไปในยุคต้นรัชกาลที่ 6 เมืองสุพรรณฯ เต็มไปด้วยข่าวปล้น คนจีนอพยพมาตั้งตลาด หอดูโจรถูกสร้างไว้ทั่วเมือง จนมีคำพูดติดปากว่า “ใครไปรับราชการที่สุพรรณฯ ต้องเตรียมหม้อใส่กระดูกกลับบ้าน” สุพรรณกลายเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในแง่ลบ แต่ก็เป็นบ้านของวีรบุรุษนอกกฎหมาย ที่ชาวบ้านศรัทธา 📜 การลวงฆ่าเสือฝ้าย ความจริงที่ไม่เคยเปิดเผยอย่างเป็นทางการ 🔫 วันศุกร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2490 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก... ตำรวจกองปราบหลอกเสือฝ้ายว่า จะพาไปรับรางวัลที่กรุงเทพฯ แล้วนำตัวไปพักที่โรงแรมศรีธงชัย ปัจจุบันคือธนาคารกรุงศรีฯ แต่รุ่งเช้ากลับมีข่าวว่า เสือฝ้ายถูกยิงตายที่ป่าช้าบ้านบางกะโพ้น ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยอ้างว่า “กระโดดน้ำหนี” ❌ แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ เพราะ “ไม่มีทางที่เสือฝ้ายจะหนี ทั้งที่เชื่อว่ากำลังจะได้รางวัล” 😰 ปากคำชาวบ้าน ตำรวจน่ากลัวกว่าโจร “ตำรวจกองปราบน่ากลัวกว่าเสือเสียอีก พวกเขาอำพรางข่าว หลอกลวง และฆ่าคนบริสุทธิ์” ยายเกียด ทรัพย์จีน กล่าวไว้ เธอเผยว่าเคยต้องปลอมตัว เอาโคลนทาทั่วตัว เพื่อส่งเสบียงให้ชุมโจรแบบลับ ๆ 🧘‍♂️ เสือฝ้ายกับขุนพันธ์ ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมรับสินบน ⚖️ เสือฝ้ายเคยพยายามติดสินบน “ขุนพันธ์” นายตำรวจผู้ปราบโจรในตำนาน แต่ขุนพันธ์ปฏิเสธ ด้วยเหตุผลว่า "ไม่ใช่พื้นที่รับผิดชอบ" และไม่ยอมลดศักดิ์ศรีของตำรวจ ด้วยการรับสินบนจากโจร 🐯 เสือฝ้ายในโลกภาพยนตร์ 🎬 เสือฝ้ายยังเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับภาพยนตร์หลายเรื่อง โดยเฉพาะในภาพยนตร์ "ขุนพันธ์ ภาค 2" แสดงโดย ผู้พันเบิร์ด "พันโทวันชนะ สวัสดี" เพิ่มความเหนือธรรมชาติ เช่น วิชานะจังงัง, รอยสักยันต์ช้างเอราวัณ และยันต์ท้าวเวสสุวรรณ 🔥 ความตายที่กลายเป็นตำนาน แม้เสือฝ้ายจะถูกฆ่าตาย แต่ตำนานของเขายังอยู่... เสือฝ้ายเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ถูกระบบกดขี่ แล้วลุกขึ้นมาต่อสู้ เป็นเสียงของผู้ไร้เสียง และเป็นเสือที่ถูกฆ่าโดย “สัตว์ที่ร้ายกว่า” คำถามที่ยังไม่มีคำตอบ ❓ ใครสั่งวิสามัญเสือฝ้ายจริง ๆ? ตำรวจเพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือมีเจตนาแอบแฝง? ทำไมข่าวถูกกลบอย่างรวดเร็ว? 🐾 เสือที่ยังคงคำรามในประวัติศาสตร์ 📚 เรื่องราวของเสือฝ้าย ไม่ใช่เพียงเรื่องของโจร หรือเรื่องของตำรวจ แต่คือ “ภาพสะท้อนของสังคม” ที่ยังคงเป็นจริงแม้ผ่านไป 78 ปี เสือฝ้ายคือผู้ที่ระบบผลักให้กลายเป็นโจร แต่ชาวบ้านกลับยกย่องว่า “วีรบุรุษ” และตราบใดที่ความอยุติธรรมยังมีอยู่ เสียงคำรามของ “เสือฝ้าย” ก็ยังดังก้องในใจของคนรุ่นหลัง ✊ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251009 เม.ย. 2568 📢 #เสือฝ้าย #ตำนานเสือสุพรรณ #จอมโจรไทย #ประวัติศาสตร์โจร #ขุนพันธ์ #เสรีไทย #วิสามัญฆาตกรรม #สุพรรณบุรี #วีรบุรุษโจร #เสือฝ้ายผู้ยิ่งใหญ่
    0 Comments 0 Shares 335 Views 0 Reviews
More Results