• ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน
    .
    ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด
    .
    ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ
    .
    หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน
    .
    ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น
    .
    ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้
    .
    ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว
    .
    ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว
    .
    หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน
    .
    ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา
    .
    ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ
    .
    ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น..
    .
    การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์
    .
    Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ
    .
    เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว...
    .
    พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง
    .
    หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น
    .
    ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว
    .
    แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย
    .
    เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected"
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) -
    .
    https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน . ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด . ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ . หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน . ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น . ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้ . ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว . ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว . หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน . ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา . ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ . ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น.. . การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์ . Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ . เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว... . พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง . หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น . ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว . แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย . เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected" . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) - . https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น
    .
    ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ
    .
    อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้
    .
    ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน
    .
    [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้]
    .
    เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus)
    .
    นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี
    .
    อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland
    .
    เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่
    .
    ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่
    .
    และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก
    .
    ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย)
    .
    ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด
    .
    คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน?
    .
    บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน
    .
    หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า
    .
    ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน
    .
    เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก
    .
    สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน
    ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้
    .
    คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที
    .
    เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น
    ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี
    ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“
    แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม
    .
    นี่รู้ไหม...
    มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า?
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    .
    เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น . ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ . อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้ . ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน . [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้] . เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus) . นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี . อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland . เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่ . ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่ . และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก . ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย) . ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด . คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน? . บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน . หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า . ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน . เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก . สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้ . คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที . เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“ แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม . นี่รู้ไหม... มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า? . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] - .
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • เชียงราย – น้ำสายทะลักท่วมระลอกล่าสุด แม้ลดแล้ว แต่ชาวบ้านยิ่งวิตกสารพิษปนเปื้อนเพิ่ม..ภาค ปชช.เดินหน้านัดรวมตัวปลุกพลังเรียกร้องรัฐบาล 3 ชาติ ทั้งไทย-เมียนมา-จีน รวมทั้งว้าแดง แก้ปัญหาเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ-แมงกานิส ต้นน้ำทิ้งสายหนู/โลหะหนัก ปนเปื้อนน้ำกก-น้ำสาย-น้ำรวก ยันน้ำโขง
    .
    ขณะที่น้ำสายขุ่นคลั่ก ทะลักล้นพนัง-บิ๊กแบ็ค เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่ต้นฤดูฝนปีนี้แล้ว 2 รอบ ยิ่งทำให้ผู้คนในลุ่มน้ำกก-น้ำสาย-น้ำรวก รวมถึงน้ำโขงลุ่มสามเหลี่ยมทองคำ บางส่วน ยิ่งวิตกกับปัญหาสารพิษในน้ำ แต่ละสายที่ขุ่นมากผิดปกติมาตั้งแต่ต้นปี 68 รวมทั้งมีการตรวจพบสารหนู-โลหะหนัก ปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ซึ่งเชื่อกันว่า เกิดจากการทำเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ ในพื้นที่ต้นแม่น้ำเขตว้าแดงตอนใต้ของกลุ่มทุนจีน
    .
    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/local/detail/9680000048747
    .
    #MGROnline #เชียงราย #สารพิษปนเปื้อน
    เชียงราย – น้ำสายทะลักท่วมระลอกล่าสุด แม้ลดแล้ว แต่ชาวบ้านยิ่งวิตกสารพิษปนเปื้อนเพิ่ม..ภาค ปชช.เดินหน้านัดรวมตัวปลุกพลังเรียกร้องรัฐบาล 3 ชาติ ทั้งไทย-เมียนมา-จีน รวมทั้งว้าแดง แก้ปัญหาเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ-แมงกานิส ต้นน้ำทิ้งสายหนู/โลหะหนัก ปนเปื้อนน้ำกก-น้ำสาย-น้ำรวก ยันน้ำโขง . ขณะที่น้ำสายขุ่นคลั่ก ทะลักล้นพนัง-บิ๊กแบ็ค เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนชายแดนแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่ต้นฤดูฝนปีนี้แล้ว 2 รอบ ยิ่งทำให้ผู้คนในลุ่มน้ำกก-น้ำสาย-น้ำรวก รวมถึงน้ำโขงลุ่มสามเหลี่ยมทองคำ บางส่วน ยิ่งวิตกกับปัญหาสารพิษในน้ำ แต่ละสายที่ขุ่นมากผิดปกติมาตั้งแต่ต้นปี 68 รวมทั้งมีการตรวจพบสารหนู-โลหะหนัก ปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ซึ่งเชื่อกันว่า เกิดจากการทำเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ ในพื้นที่ต้นแม่น้ำเขตว้าแดงตอนใต้ของกลุ่มทุนจีน . คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/local/detail/9680000048747 . #MGROnline #เชียงราย #สารพิษปนเปื้อน
    MGRONLINE.COM
    น้ำขุ่นคลั่กทะลักยิ่งวิตกเพิ่ม!ภาค ปชช.เดินหน้าปลุกพลังรวมตัวจี้รัฐ 3 ชาติ-ว้า ปิดเหมือง/แก้ปมสารพิษปนเปื้อน
    เชียงราย – น้ำสายทะลักท่วมระลอกล่าสุด แม้ลดแล้ว แต่ชาวบ้านยิ่งวิตกสารพิษปนเปื้อนเพิ่ม..ภาค ปชช.เดินหน้านัดรวมตัวปลุกพลังเรียกร้องรัฐบาล 3 ชาติ ทั้งไทย-เมียนมา-จีน รวมทั้งว้าแดง แก้ปัญหาเหมืองทอง-แรร์เอิร์ธ-แมงกานิส ต้นน้ำทิ้งสายหน
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • แพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะมาแทน “ดิจิทัลวอลเล็ต” จะได้ข้อสรุป สิ้น พ.ค.นี้ เหตุต้องแข่งกับเวลางบประมาณรายจ่าย 68 ที่เหลือแค่ 4-5 เดือน เพื่อดันเม็ดเงิน 1.57 แสนล้านบาท เข้าไปกระตุ้นทันปีนี้ กำหนดกรอบโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ-คมนาคม ,ท่องเที่ยว, ลดผลกระทบส่งออก ,พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
    แพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะมาแทน “ดิจิทัลวอลเล็ต” จะได้ข้อสรุป สิ้น พ.ค.นี้ เหตุต้องแข่งกับเวลางบประมาณรายจ่าย 68 ที่เหลือแค่ 4-5 เดือน เพื่อดันเม็ดเงิน 1.57 แสนล้านบาท เข้าไปกระตุ้นทันปีนี้ กำหนดกรอบโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ-คมนาคม ,ท่องเที่ยว, ลดผลกระทบส่งออก ,พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 676 Views 26 0 Reviews
  • อบจ.นนทบุรี ต้อนรับคณะศึกษาดูงาน OTOP จากเนปาล แลกเปลี่ยนองค์ความรู้พัฒนาสินค้าชุมชน
    https://www.thai-tai.tv/news/18862/
    อบจ.นนทบุรี ต้อนรับคณะศึกษาดูงาน OTOP จากเนปาล แลกเปลี่ยนองค์ความรู้พัฒนาสินค้าชุมชน https://www.thai-tai.tv/news/18862/
    0 Comments 0 Shares 48 Views 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!
    .
    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
    .
    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”
    .
    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ
    .
    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา
    .
    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! . อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ . #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” . โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ . และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา . #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 313 Views 1 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!
    .
    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ
    .
    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”
    .
    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ
    .
    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา
    .
    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! . อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ . #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” . โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ . และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา . #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 233 Views 3 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!

    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ

    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”

    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ

    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !!

    อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ

    #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป”

    โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ

    และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดหนัก!! 4 ปี มอบทุนฯ ทะลุ 13.9 ล้านบาท ช่วยเหลือนักเรียนยากจนและด้อยโอกาส ร่วม 5,235 คน “เพราะโอกาสทางการศึกษา” มีความหมายต่ออนาคตเด็ก !! อบจ.โคราช มอบทุนการศึกษาต่อเนื่องยาว 4 ปี หนุนเด็กเก่ง เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือ ด้อยโอกาส ร่วม 5 พันคน กว่า 13.9 ล้านบาท เน้นการ “สร้างคน” ผ่านระบบการศึกษาที่ดี เพื่ออนาคตที่ดี ของเด็กนักเรียนที่จะเติบโตไปเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา กล่าวว่า “ทุนการศึกษา ทุกทุน มีความหมาย เพราะผู้ที่ได้รับทุนจะสามารถนำเงินไปใช้จ่ายด้านการศึกษา ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง ฉะนั้น ต้องขอแสดงความยินดีกับนักเรียนทั้งในสังกัด และนอกสังกัด ที่ได้รับโอกาสในวันนี้ เพราะโอกาสทางการศึกษา จะส่งผลดีต่อตัวผู้เรียนในอนาคต ปัจจุบัน ระบบการศึกษาก้าวล้ำไปมาก มีความทันสมัย มีการนำนวัตกรรมมาใช้พัฒนาระบบการเรียนการสอน ส่วนสถานศึกษาเองก็มีการพัฒนาเพื่อกระตุ้นให้เด็กอยากเข้ามาเรียน สร้างความมั่นคง สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง ชุมชน กล้าที่จะให้บุตรหลานเข้ามาเรียนในโรงเรียนของ อบจ. มากขึ้น อีกทั้งการศึกษาดี เศรษฐกิจก็จะดีตามไปด้วย เพราะการศึกษาจะเป็นก้าวแรกของการ “สร้างคน” ต่อยอดไปจนถึง “สร้างเศรษฐกิจ” ฉะนั้น นักเรียนจะต้องไม่หยุดแสวงหาความรู้ รู้ว่าตนเองถนัดสายวิชาการ สายศิลป์ หรือ สายอาชีพ ก็นำพาตนเองเข้าไปเรียนตรงนั้น ทุกคนก็จะประสบความสำเร็จ สร้างความภาคภูมิใจให้กับครอบครัวต่อไป” โดยทุนการศึกษาที่ อบจ.ได้มอบให้กับนักเรียนนั้น เน้นให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ หรือด้อยโอกาส เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา บรรเทาความยากจน เพราะเล็งเห็นปัญหาจากความยากจน ส่งผลให้เด็กไม่ได้เรียนต่อเป็นจำนวนมาก อบจ. จึงได้จัดโครงการฯ ขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 4 ปี จำนวน 5,235 คน เป็นเงิน 13,872,840 บาท แบ่งเป็น ทุนสำหรับนักเรียนโรงเรียนในสังกัดฯ ซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาส ของ อบจ. ระดับ ม.ปลาย, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ., ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบไม่ต่อเนื่อง, ทุนสำหรับนักศึกษาซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. แบบต่อเนื่อง ในสาขาที่ขาดแคลน, ทุนการศึกษาช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือผู้ด้อยโอกาสของ อบจ. สำหรับนักเรียนนอกสังกัดฯ และในวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 อบจ.นครราชสีมา ได้จัดพิธีมอบทุนช่วยเหลือนักเรียนซึ่งเป็นผู้ยากจนหรือด้อยโอกาสของ อบจ. ปีการศึกษา 2568 ระดับ ม.ปลาย โรงเรียนในสังกัด อบจ. และ โรงเรียนนอกจากสังกัด อบจ. จำนวน 1,400 คน คนละ 2,000 บาท เป็นเงิน 2,800,000 บาท โดยได้รับเกียรติจาก นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. เป็นประธานในพิธีมอบทุนดังกล่าว พร้อมทั้งแสดงความยินดีกับนักเรียนที่ได้รับทุนทั้ง 1,400 คน ณ หอประชุมโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า นครราชสีมา #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • ระหว่างการมาเยือนสหรัฐของประธานาธิบดีซิริล รามาโฟซาแห่งแอฟริกาใต้เมื่อวันพุธ ทรัมป์สั่งให้หรี่ไฟเพื่อเปิดวิดีโอที่ จูเลียส มาเลมา ผู้นำฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงในแอฟริกาใต้พยายามปลุกปั่นความรุนแรง เรียกร้องให้สังหารสมาชิกในชุมชนคนผิวขาวที่มีจำนวน 4.5 ล้านคนของประเทศ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 7.3% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งทรัมป์กล่าวว่านี่เป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ


    👉นี่เป็นเพียง "คำพูดปลุกปั่น" ของนักการเมืองหัวรุนแรง ในขณะที่อิสราเอลลงมือสังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วเกือบหกหมื่นราย รวมถึงนักการเมืองอิสราเอลหัวรุนแรงมากมาย ประกาศทำลายชาวปาเลสไตน์ และต้องการยึดครองดินแดนของพวกเขา แต่ทรัมป์กลับนิ่งเฉย!!!
    ระหว่างการมาเยือนสหรัฐของประธานาธิบดีซิริล รามาโฟซาแห่งแอฟริกาใต้เมื่อวันพุธ ทรัมป์สั่งให้หรี่ไฟเพื่อเปิดวิดีโอที่ จูเลียส มาเลมา ผู้นำฝ่ายซ้ายหัวรุนแรงในแอฟริกาใต้พยายามปลุกปั่นความรุนแรง เรียกร้องให้สังหารสมาชิกในชุมชนคนผิวขาวที่มีจำนวน 4.5 ล้านคนของประเทศ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 7.3% ของประชากรทั้งหมด ซึ่งทรัมป์กล่าวว่านี่เป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ 👉นี่เป็นเพียง "คำพูดปลุกปั่น" ของนักการเมืองหัวรุนแรง ในขณะที่อิสราเอลลงมือสังหารชาวปาเลสไตน์ไปแล้วเกือบหกหมื่นราย รวมถึงนักการเมืองอิสราเอลหัวรุนแรงมากมาย ประกาศทำลายชาวปาเลสไตน์ และต้องการยึดครองดินแดนของพวกเขา แต่ทรัมป์กลับนิ่งเฉย!!!
    0 Comments 0 Shares 152 Views 8 0 Reviews
  • ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า,
    ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย.
    ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก.

    .
    รัฐบาลใหญ่
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!


    โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!

    พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน!

    หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา

    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง!


    สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด
    โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้
    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ


    สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร
    เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ
    คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว



    พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส
    คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?!
    หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย
    เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ
    ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”]



    แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น
    ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย!
    ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ
    คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น
    ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์
    พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด


    เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง
    ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ
    บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง
    หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น)
    นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต


    CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย
    ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
    และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ
    รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ


    ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ
    อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง:
    “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...”
    นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล


    คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส
    นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้●
    คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้
    ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ?
    ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว!

    ..
    ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า, ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย. ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก. . รัฐบาลใหญ่ เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849 เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน! หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง! สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้ สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?! หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”] แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย! ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์ พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น) นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง: “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...” นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้● คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้ ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ? ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว! ..
    0 Comments 0 Shares 279 Views 0 Reviews
  • รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2

    งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2:

    ℹ️ การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic

    - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้.

    - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น.

    - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์.

    ℹ️ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา

    - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง.

    - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล.

    - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11.

    ℹ️ Microsoft 365 และ Copilot
    ➡️ Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง:

    - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน.
    - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ.
    - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA).
    - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน.
    - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้.

    ➡️ Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น:
    - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม.
    - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program).
    - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program).
    - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program).

    ℹ️ ความร่วมมือและนวัตกรรม
    - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์.

    - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine).

    ℹ️ ความปลอดภัยและการจัดการ
    - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI.

    ℹ️ บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว
    - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2 งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2: ℹ️ การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้. - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น. - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์. ℹ️ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง. - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล. - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11. ℹ️ Microsoft 365 และ Copilot ➡️ Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง: - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน. - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ. - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA). - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน. - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้. ➡️ Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น: - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม. - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program). - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program). - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program). ℹ️ ความร่วมมือและนวัตกรรม - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์. - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine). ℹ️ ความปลอดภัยและการจัดการ - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI. ℹ️ บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • Red Hat และ AMD ร่วมมือกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AI ในศูนย์ข้อมูล

    Red Hat ผู้ให้บริการโซลูชันโอเพ่นซอร์สชั้นนำของโลก และ AMD ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนา AI และเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริง โดยมุ่งเน้นไปที่ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ AI และการลดต้นทุนการดำเนินงานในระบบคลาวด์แบบไฮบริด

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Red Hat และ AMD
    ✅ Red Hat และ AMD ผสานเทคโนโลยี AI กับสถาปัตยกรรมประมวลผลของ AMD
    - ใช้ AMD Instinct GPUs บน Red Hat OpenShift AI เพื่อรองรับงาน AI ที่มีประสิทธิภาพสูง

    ✅ AMD Instinct MI300X GPUs รองรับการประมวลผล AI บน Microsoft Azure ND MI300X v5
    - ช่วยให้ สามารถปรับขนาดโมเดล AI ได้ดีขึ้นโดยใช้ GPU หลายตัวบน VM เดียว

    ✅ Red Hat และ AMD ร่วมมือกันในชุมชน vLLM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AI inference
    - ปรับปรุง การสื่อสารระหว่าง GPU และเพิ่มความเร็วในการประมวลผลโมเดล AI

    ✅ Red Hat AI Inference Server รองรับ AMD Instinct GPUs โดยตรง
    - ทำให้ องค์กรสามารถใช้ AI บนฮาร์ดแวร์ที่ผ่านการทดสอบและปรับแต่งแล้ว

    ✅ AMD EPYC CPUs ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์ AI และลดต้นทุนการดำเนินงาน
    - รองรับ การทำงานร่วมกับ GPU เพื่อเพิ่ม ROI ของแต่ละเซิร์ฟเวอร์

    https://www.techpowerup.com/337080/red-hat-amd-strengthen-strategic-collaboration-leading-to-more-efficient-genai
    Red Hat และ AMD ร่วมมือกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AI ในศูนย์ข้อมูล Red Hat ผู้ให้บริการโซลูชันโอเพ่นซอร์สชั้นนำของโลก และ AMD ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อพัฒนา AI และเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริง โดยมุ่งเน้นไปที่ การปรับปรุงประสิทธิภาพของ AI และการลดต้นทุนการดำเนินงานในระบบคลาวด์แบบไฮบริด 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Red Hat และ AMD ✅ Red Hat และ AMD ผสานเทคโนโลยี AI กับสถาปัตยกรรมประมวลผลของ AMD - ใช้ AMD Instinct GPUs บน Red Hat OpenShift AI เพื่อรองรับงาน AI ที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ AMD Instinct MI300X GPUs รองรับการประมวลผล AI บน Microsoft Azure ND MI300X v5 - ช่วยให้ สามารถปรับขนาดโมเดล AI ได้ดีขึ้นโดยใช้ GPU หลายตัวบน VM เดียว ✅ Red Hat และ AMD ร่วมมือกันในชุมชน vLLM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ AI inference - ปรับปรุง การสื่อสารระหว่าง GPU และเพิ่มความเร็วในการประมวลผลโมเดล AI ✅ Red Hat AI Inference Server รองรับ AMD Instinct GPUs โดยตรง - ทำให้ องค์กรสามารถใช้ AI บนฮาร์ดแวร์ที่ผ่านการทดสอบและปรับแต่งแล้ว ✅ AMD EPYC CPUs ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเซิร์ฟเวอร์ AI และลดต้นทุนการดำเนินงาน - รองรับ การทำงานร่วมกับ GPU เพื่อเพิ่ม ROI ของแต่ละเซิร์ฟเวอร์ https://www.techpowerup.com/337080/red-hat-amd-strengthen-strategic-collaboration-leading-to-more-efficient-genai
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Red Hat & AMD Strengthen Strategic Collaboration - Leading to More Efficient GenAI
    Red Hat, the world's leading provider of open source solutions, and AMD today announced a strategic collaboration to propel AI capabilities and optimize virtualized infrastructure. With this deepened alliance, Red Hat and AMD will expand customer choice across the hybrid cloud, from deploying optimi...
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • 7-Eleven ในญี่ปุ่นเริ่มทดลองใช้หุ่นยนต์ส่งของอัตโนมัติ

    7-Eleven เริ่มทดลองใช้หุ่นยนต์ส่งของอัตโนมัติในเขตชานเมืองโตเกียวเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีนี้ในประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับโครงการทดลองหุ่นยนต์ส่งของของ 7-Eleven
    ✅ หุ่นยนต์ส่งของถูกพัฒนาโดย Suzuki และ Lomby
    - เป็น หุ่นยนต์แบบมีล้อที่สามารถเคลื่อนที่บนทางเท้าได้เอง

    ✅ สามารถส่งสินค้าไปยังบ้านของลูกค้าได้โดยใช้แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน
    - หุ่นยนต์ เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 6 กม./ชม. และสามารถรับรู้สัญญาณจราจรได้

    ✅ มีระบบควบคุมระยะไกลโดยมนุษย์เพื่อช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน
    - หากหุ่นยนต์ติดขัด ผู้ควบคุมสามารถสื่อสารกับคนรอบข้างผ่านไมโครโฟน

    ✅ โครงการทดลองนี้จะดำเนินไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2026
    - เพื่อ ประเมินความสามารถของหุ่นยนต์ในการช่วยลดภาระงานของพนักงานส่งของ

    ✅ พื้นที่ทดลองอยู่ในเขต Minami-Osawa ซึ่งมีภูมิประเทศที่ท้าทายสำหรับผู้สูงอายุ
    - 7-Eleven ต้องการทดสอบว่าหุ่นยนต์สามารถช่วยเหลือชุมชนที่มีประชากรสูงวัยได้หรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/japan039s-7-eleven-trials-autonomous-delivery-robots
    7-Eleven ในญี่ปุ่นเริ่มทดลองใช้หุ่นยนต์ส่งของอัตโนมัติ 7-Eleven เริ่มทดลองใช้หุ่นยนต์ส่งของอัตโนมัติในเขตชานเมืองโตเกียวเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ในการใช้เทคโนโลยีนี้ในประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงาน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับโครงการทดลองหุ่นยนต์ส่งของของ 7-Eleven ✅ หุ่นยนต์ส่งของถูกพัฒนาโดย Suzuki และ Lomby - เป็น หุ่นยนต์แบบมีล้อที่สามารถเคลื่อนที่บนทางเท้าได้เอง ✅ สามารถส่งสินค้าไปยังบ้านของลูกค้าได้โดยใช้แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน - หุ่นยนต์ เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 6 กม./ชม. และสามารถรับรู้สัญญาณจราจรได้ ✅ มีระบบควบคุมระยะไกลโดยมนุษย์เพื่อช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน - หากหุ่นยนต์ติดขัด ผู้ควบคุมสามารถสื่อสารกับคนรอบข้างผ่านไมโครโฟน ✅ โครงการทดลองนี้จะดำเนินไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2026 - เพื่อ ประเมินความสามารถของหุ่นยนต์ในการช่วยลดภาระงานของพนักงานส่งของ ✅ พื้นที่ทดลองอยู่ในเขต Minami-Osawa ซึ่งมีภูมิประเทศที่ท้าทายสำหรับผู้สูงอายุ - 7-Eleven ต้องการทดสอบว่าหุ่นยนต์สามารถช่วยเหลือชุมชนที่มีประชากรสูงวัยได้หรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/21/japan039s-7-eleven-trials-autonomous-delivery-robots
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Japan's 7-Eleven trials autonomous delivery robots
    Japan's 7-Eleven began trialling autonomous delivery robots in a Tokyo suburb for the first time on May 19 to test their viability in the rapidly ageing country.
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • ..วิถีพึ่งพาตนเอง,พึ่งพาภายในประเทศตนเองสำคัญมากๆ สามารถยืนด้วยรากฐานตนเองอย่างมั่นคงได้จริง,อัดด้วยวิถีพอเพียง&ตังพอเพียง&เศรษฐกิจพอเพียงในแต่ละคนไทย,เราจะกระจายตังกระจายเศรษฐกิจภายในประเทศไทยตนเองอย่างสมดุลได้,สำคัญคือผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจในประเทศไทยเราจริงๆในยุคนี้ต้องกำเนิดเกิดขึ้นจริงทันที มิเหี้ยกากๆแบบปัจจุบัน แก้เกมส์วิถีโลกไม่ทัน นำพาประเทศไทยปรับตัวไม่ทันก็ด้วย,มิใช่ผีบ้าตามอุตสาหกรรมหรือเอไอล้ำๆ,แต่คือการเจริญจิตวิญญาณคู่ขนานวิถีโลก,เราคนไทย&ประเทศไทยจึงจะตั้งมั่นดำรงมาตุภูมิตนเองรอด,มีกำแพงมีรั่ว มีโดม มีบารมี มีพลังมีฤทธิ์มีรัศมีเป็นเกราะพลังป้องกันภัยอันตรายจากโลกมากระทำประเทศไทยและคนไทยได้,ทั่วประเทศสมดุลหมด,พอดีพอดีหมด,ไม่ขาดไม่เกินไม่ทิ้งๆขว้างๆในอาหารในทรัพยากรตนที่ผลิตได้,ไม่ละโมบโลภแสวงหาตังเกินงาม ดิ้นรนบ้าคลั่งในสถานะต่างๆกดดันบีบบังคับเช่นสถานะการเป็นหนี้มีหนี้เป็นต้น จนทั่วทั้งสังคมชุมชนนั้นๆเกิดสภาพผิดปกติไปทางไม่ดีต่างๆเป็นต้นแบบเสียสมดุลควบคุมภาวะต่างๆไม่ได้ในใครในมันทั่วไทย,โกลาหลวุ่นวายไม่สงบสุขจึงตามมาง่ายๆ,เมื่อผู้นำเราดีมีสติปัญญามองทะลุหมากทั้งกระดานปกป้องชาติไทยก่อนในยุคสงครามตังสงครามเศรษฐกิจที่มีตังคือตัวสำคัญ จะสามารถแก้ปัญหาตรงจุดของเหตุนั้นๆได้ทันที,ทรัมป์เอาอเมริกาประเทศมันต้องมาก่อน,ไทยโดยผู้นำคนใหม่ ต้องประเทศไทยมาก่อน,ต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดทุกๆกรณีต้องออกจากประเทศไทยทันที จะเหลือแต่คนไทยสัญชาติไทยล้วนๆแล้วตรวจสอบคนสัญชาติไทยที่ได้มาอย่างไม่สุจริตอีกทีย่อมทำได้,ทรัมป์มันสร้างกำแพงกั้นคนต่างชาติโน้น,เราประเทศต้องมาก่อนหรือคืนทรัพยากรมีค่าทั้งหมดเอากลับมา&คืนสู่สามัญเพื่อเป็นวัตถุดิบจริงในการพัฒนาชาติ,
    ..ภายในเดือนนีัจริงๆต้องมีนายกฯภาคพิเศษจริงๆมิใช่มาจากเช่นปัจจุบันเพราะผลงานเห็นชัดเจนว่า ไม่ซื่อสัตย์เลย,มีแต่จะนำพาชาติไทยสู่หายนะแล้วจะเอาไว้ให้เนินนานทำไมอีก,ชาติไม่ใช่เด็กๆเล่นของเล่น&เล่นขายของง่ายๆแบบนััน,

    https://youtu.be/RrqDbet02gI?si=K-ijO8wYuiMdifl4
    ..วิถีพึ่งพาตนเอง,พึ่งพาภายในประเทศตนเองสำคัญมากๆ สามารถยืนด้วยรากฐานตนเองอย่างมั่นคงได้จริง,อัดด้วยวิถีพอเพียง&ตังพอเพียง&เศรษฐกิจพอเพียงในแต่ละคนไทย,เราจะกระจายตังกระจายเศรษฐกิจภายในประเทศไทยตนเองอย่างสมดุลได้,สำคัญคือผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจในประเทศไทยเราจริงๆในยุคนี้ต้องกำเนิดเกิดขึ้นจริงทันที มิเหี้ยกากๆแบบปัจจุบัน แก้เกมส์วิถีโลกไม่ทัน นำพาประเทศไทยปรับตัวไม่ทันก็ด้วย,มิใช่ผีบ้าตามอุตสาหกรรมหรือเอไอล้ำๆ,แต่คือการเจริญจิตวิญญาณคู่ขนานวิถีโลก,เราคนไทย&ประเทศไทยจึงจะตั้งมั่นดำรงมาตุภูมิตนเองรอด,มีกำแพงมีรั่ว มีโดม มีบารมี มีพลังมีฤทธิ์มีรัศมีเป็นเกราะพลังป้องกันภัยอันตรายจากโลกมากระทำประเทศไทยและคนไทยได้,ทั่วประเทศสมดุลหมด,พอดีพอดีหมด,ไม่ขาดไม่เกินไม่ทิ้งๆขว้างๆในอาหารในทรัพยากรตนที่ผลิตได้,ไม่ละโมบโลภแสวงหาตังเกินงาม ดิ้นรนบ้าคลั่งในสถานะต่างๆกดดันบีบบังคับเช่นสถานะการเป็นหนี้มีหนี้เป็นต้น จนทั่วทั้งสังคมชุมชนนั้นๆเกิดสภาพผิดปกติไปทางไม่ดีต่างๆเป็นต้นแบบเสียสมดุลควบคุมภาวะต่างๆไม่ได้ในใครในมันทั่วไทย,โกลาหลวุ่นวายไม่สงบสุขจึงตามมาง่ายๆ,เมื่อผู้นำเราดีมีสติปัญญามองทะลุหมากทั้งกระดานปกป้องชาติไทยก่อนในยุคสงครามตังสงครามเศรษฐกิจที่มีตังคือตัวสำคัญ จะสามารถแก้ปัญหาตรงจุดของเหตุนั้นๆได้ทันที,ทรัมป์เอาอเมริกาประเทศมันต้องมาก่อน,ไทยโดยผู้นำคนใหม่ ต้องประเทศไทยมาก่อน,ต่างชาติต่างด้าวทั้งหมดทุกๆกรณีต้องออกจากประเทศไทยทันที จะเหลือแต่คนไทยสัญชาติไทยล้วนๆแล้วตรวจสอบคนสัญชาติไทยที่ได้มาอย่างไม่สุจริตอีกทีย่อมทำได้,ทรัมป์มันสร้างกำแพงกั้นคนต่างชาติโน้น,เราประเทศต้องมาก่อนหรือคืนทรัพยากรมีค่าทั้งหมดเอากลับมา&คืนสู่สามัญเพื่อเป็นวัตถุดิบจริงในการพัฒนาชาติ, ..ภายในเดือนนีัจริงๆต้องมีนายกฯภาคพิเศษจริงๆมิใช่มาจากเช่นปัจจุบันเพราะผลงานเห็นชัดเจนว่า ไม่ซื่อสัตย์เลย,มีแต่จะนำพาชาติไทยสู่หายนะแล้วจะเอาไว้ให้เนินนานทำไมอีก,ชาติไม่ใช่เด็กๆเล่นของเล่น&เล่นขายของง่ายๆแบบนััน, https://youtu.be/RrqDbet02gI?si=K-ijO8wYuiMdifl4
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน

    วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง

    “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน”

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน” #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน

    วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง

    “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน”

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    อบจ.โคราช จัดตั้งเพิ่มอีก 8 แห่ง “ศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน” ร่วมภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตชาวโคราชอย่างยั่งยืน วันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ที่ โรงแรมโคราชโฮเต็ล #นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา ในฐานะประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ จ.นครราชสีมา เป็นประธานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ MOU และมอบป้ายให้กับหน่วยงาน รวมถึงแนวทางการจัดบริการศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้านให้ยั่งยืน นับเป็นการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างความเข้าใจถึงหลักเกณฑ์การดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพสุขใจใกล้บ้าน และ ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการฯ ที่จะช่วยให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายได้รับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพในระดับชุมชนและที่บ้านอย่างทั่วถึง โดยในปีงบประมาณ 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ สุขใจใกล้บ้าน จำนวน 8 แห่ง ศูนย์สาธิตและยืมอุปกรณ์ฯ จำนวน 1 แห่ง “อบจ.นครราชสีมา คาดหวังด้านการดูแลคุณภาพชีวิตประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการ MOU ร่วมกับภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 9 นครราชสีมา, อำเภอ , ท้องถิ่นอำเภอ , สาธารณสุขอำเภอ , ผู้อำนวยการโรงพยาบาล , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อจัดบริการฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพในชุมชนสำหรับคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่อยู่ในระยะกึ่งเฉียบพลัน และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิง เราจะจับมือพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อขับเคลื่อนคุณภาพชีวิตของประชาชนชาว จ.นครราชสีมา อย่างยั่งยืน” #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • Microsoft เปิดซอร์ส Windows Subsystem for Linux (WSL) ฉลองครบรอบ 10 ปี

    Microsoft ประกาศเปิดซอร์ส Windows Subsystem for Linux (WSL) ในงาน BUILD 2025 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรัน Linux ภายใน Windows ได้โดยไม่ต้องใช้ Virtual Machine การเปิดซอร์สครั้งนี้ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถมีส่วนร่วมในการปรับปรุง WSL ผ่าน GitHub

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปิดซอร์ส WSL
    ✅ WSL เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักพัฒนา
    - ช่วยให้ สามารถใช้เครื่องมือ Linux เช่น bash, grep, awk และ sed บน Windows ได้

    ✅ ก่อนหน้านี้ WSL ถูกแจกจ่ายภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Microsoft
    - แต่ตอนนี้ โค้ดของ WSL พร้อมให้เข้าถึงและปรับปรุงบน GitHub

    ✅ WSL เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการใช้ Linux บน Windows
    - โดยเฉพาะ ในด้าน Data Science และ Web Development ที่บางเครื่องมือรองรับเฉพาะ Linux

    ✅ Microsoft เปิดซอร์ส GitHub Copilot ใน Visual Studio Code พร้อมกับ WSL
    - แสดงให้เห็นว่า บริษัทต้องการให้ชุมชนนักพัฒนามีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องมือเหล่านี้

    ✅ WSL เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ Linux โดยไม่ต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการแยกต่างหาก
    - สามารถ ทดลองใช้ Linux Command Line ได้อย่างปลอดภัยบน Windows

    https://www.neowin.net/news/microsoft-open-sources-windows-subsystem-for-linux-ahead-of-10-year-anniversary/
    Microsoft เปิดซอร์ส Windows Subsystem for Linux (WSL) ฉลองครบรอบ 10 ปี Microsoft ประกาศเปิดซอร์ส Windows Subsystem for Linux (WSL) ในงาน BUILD 2025 ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรัน Linux ภายใน Windows ได้โดยไม่ต้องใช้ Virtual Machine การเปิดซอร์สครั้งนี้ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถมีส่วนร่วมในการปรับปรุง WSL ผ่าน GitHub 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปิดซอร์ส WSL ✅ WSL เปิดตัวครั้งแรกในปี 2016 และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักพัฒนา - ช่วยให้ สามารถใช้เครื่องมือ Linux เช่น bash, grep, awk และ sed บน Windows ได้ ✅ ก่อนหน้านี้ WSL ถูกแจกจ่ายภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Microsoft - แต่ตอนนี้ โค้ดของ WSL พร้อมให้เข้าถึงและปรับปรุงบน GitHub ✅ WSL เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการใช้ Linux บน Windows - โดยเฉพาะ ในด้าน Data Science และ Web Development ที่บางเครื่องมือรองรับเฉพาะ Linux ✅ Microsoft เปิดซอร์ส GitHub Copilot ใน Visual Studio Code พร้อมกับ WSL - แสดงให้เห็นว่า บริษัทต้องการให้ชุมชนนักพัฒนามีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องมือเหล่านี้ ✅ WSL เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ Linux โดยไม่ต้องติดตั้งระบบปฏิบัติการแยกต่างหาก - สามารถ ทดลองใช้ Linux Command Line ได้อย่างปลอดภัยบน Windows https://www.neowin.net/news/microsoft-open-sources-windows-subsystem-for-linux-ahead-of-10-year-anniversary/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft open-sources Windows Subsystem for Linux ahead of 10-year anniversary
    Microsoft has made its Windows Subsystem for Linux open source. The announcement was made as its BUILD 2025 developer conference.
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลประกาศขยายปฏิบัติการภาคพื้นตอนเหนือ-ใต้ของกาซา ส่วนหนึ่งของ “ปฏิบัติการรถศึกของกิเดียน” (Gideon’s Chariots)

    อิสราเอลตั้งชื่อการโจมตีในฉนวนกาซาครั้งนี้ว่า “ปฏิบัติการรถศึกของกิเดียน” เพื่อ "ยึดครอง" ฉนวนกาซาอย่างถาวร โดยนำชื่อมาจากหนังสือวันพิพากษาโดยตรง ซึ่งกิเดียนเป็นผู้นำการสังหารหมู่ที่พระเจ้าทรงอนุมัติจำนวน 120,000 คน

    ปฏิบัติการรถศึกของกิเดียนเป็นปฏิบัติการทางทหารที่วางแผนไว้และได้รับการอนุมัติจากสภาสงครามอิสราเอลเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2025

    นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่าปฏิบัติการกิเดียนเป็นปฏิบัติการกวาดล้างชาติพันธุ์ที่เคยดำเนินการโดยกลุ่มฮากานาห์ในปี 1948 ในช่วงนัคบา

    คาดว่าปฏิบัติการนี้จะดำเนินการเป็นขั้นตอน ซึ่งอาจรวมถึงการเตรียมการ การกวาดล้างและยึดครองพื้นที่ หลังจากนั้นจะเป็นการสร้างชุมชนผู้ยึดครองใหม่ของชาวยิวในฉนวนกาซา


    รายงานชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตรวมล่าสุดมากว่า 400 ราย ในระยะเวลาเพียง 5 วันที่ผ่านมา
    อิสราเอลประกาศขยายปฏิบัติการภาคพื้นตอนเหนือ-ใต้ของกาซา ส่วนหนึ่งของ “ปฏิบัติการรถศึกของกิเดียน” (Gideon’s Chariots) อิสราเอลตั้งชื่อการโจมตีในฉนวนกาซาครั้งนี้ว่า “ปฏิบัติการรถศึกของกิเดียน” เพื่อ "ยึดครอง" ฉนวนกาซาอย่างถาวร โดยนำชื่อมาจากหนังสือวันพิพากษาโดยตรง ซึ่งกิเดียนเป็นผู้นำการสังหารหมู่ที่พระเจ้าทรงอนุมัติจำนวน 120,000 คน ปฏิบัติการรถศึกของกิเดียนเป็นปฏิบัติการทางทหารที่วางแผนไว้และได้รับการอนุมัติจากสภาสงครามอิสราเอลเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2025 นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลว่าปฏิบัติการกิเดียนเป็นปฏิบัติการกวาดล้างชาติพันธุ์ที่เคยดำเนินการโดยกลุ่มฮากานาห์ในปี 1948 ในช่วงนัคบา คาดว่าปฏิบัติการนี้จะดำเนินการเป็นขั้นตอน ซึ่งอาจรวมถึงการเตรียมการ การกวาดล้างและยึดครองพื้นที่ หลังจากนั้นจะเป็นการสร้างชุมชนผู้ยึดครองใหม่ของชาวยิวในฉนวนกาซา รายงานชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตรวมล่าสุดมากว่า 400 ราย ในระยะเวลาเพียง 5 วันที่ผ่านมา
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • เหรียญพ่อท่านนิ่ม รุ่น1 วัดชลธาราวาส วัดร่อน จ.นราธิวาส ปี2545
    เหรียญพ่อท่านนิ่ม รุ่น1 พิมพ์ใหญ่ วัดชลธาราวาส วัดร่อน ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ปี2545 // พระดีพิธีใหญ่ พระประสบการณ์สูง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบทุกด้าน แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาอุด สุดยอดนิรันตราย ทำมาค้าขายดี เมตตามหานิยม โชคลาภ รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >>

    ** วัดชลธาราวาสมีชื่อเดิมว่าวัดร่อน ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนที่มีลำคลองไหลผ่านมาจากคลองโต๊ะโม๊ะ อำเภอสุคีรินและชาวบ้านได้ทำการร่อนหาแร่ทองในลำคลองดังกล่าว วัดแห่งนี้ก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน โดยพระอธิการแดง เมื่อปี พ.ศ.2426 ต่อมาได้รับอนุญาตให้สร้างวัด เมื่อปี พ.ศ.2440 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2468 เป็นวัดที่เป็นศูนย์ รวมใจของพุทธศาสนิกชน ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และกิจกรรมต่างๆ
    เพื่อสืบสานพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพ่อท่านนิ่ม รุ่น1 วัดชลธาราวาส วัดร่อน จ.นราธิวาส ปี2545 เหรียญพ่อท่านนิ่ม รุ่น1 พิมพ์ใหญ่ วัดชลธาราวาส วัดร่อน ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จ.นราธิวาส ปี2545 // พระดีพิธีใหญ่ พระประสบการณ์สูง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบทุกด้าน แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาอุด สุดยอดนิรันตราย ทำมาค้าขายดี เมตตามหานิยม โชคลาภ รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >> ** วัดชลธาราวาสมีชื่อเดิมว่าวัดร่อน ซึ่งเป็นที่ตั้งของชุมชนที่มีลำคลองไหลผ่านมาจากคลองโต๊ะโม๊ะ อำเภอสุคีรินและชาวบ้านได้ทำการร่อนหาแร่ทองในลำคลองดังกล่าว วัดแห่งนี้ก่อตั้งเป็นสำนักสงฆ์มาก่อน โดยพระอธิการแดง เมื่อปี พ.ศ.2426 ต่อมาได้รับอนุญาตให้สร้างวัด เมื่อปี พ.ศ.2440 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2468 เป็นวัดที่เป็นศูนย์ รวมใจของพุทธศาสนิกชน ตำบลตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และกิจกรรมต่างๆ เพื่อสืบสานพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • KDE เตรียมเปิดตัว "Karton" ระบบจัดการเครื่องเสมือนแบบเนทีฟ

    KDE กำลังพัฒนา Karton ซึ่งเป็น Virtual Machine Manager (VMM) ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใน Plasma Desktop โดยโครงการนี้เริ่มต้นจาก Aaron Rainbolt ที่พัฒนา QEMU frontend และต่อมาถูกพัฒนาโดย Harald Sitter ในโครงการ Google Summer of Code (GSoC) ปัจจุบัน Derek Lin นักศึกษาจาก University of Waterloo กำลังพัฒนา Karton ใน GSoC 2025

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Karton
    ✅ Karton ใช้ Qt Quick และ Kirigami เพื่อให้เข้ากับ KDE Plasma
    - ทำให้ UI มีความสวยงามและใช้งานง่าย

    ✅ ใช้ libvirt API ในการจัดการเครื่องเสมือน
    - รองรับ การตั้งค่า VM อย่างละเอียดและสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้

    ✅ พัฒนา SPICE viewer แบบกำหนดเองโดยใช้ Qt Quick
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถดูและโต้ตอบกับ VM ได้โดยไม่ต้องใช้ virt-viewer

    ✅ เพิ่มฟีเจอร์ snapshot เพื่อให้สามารถกู้คืนสถานะก่อนหน้าได้
    - ทำให้ การสำรองข้อมูลและการกู้คืน VM ทำได้ง่ายขึ้น

    ✅ รองรับการติดตั้ง OS ผ่าน libosinfo แทน virt-install CLI
    - ช่วยให้ สามารถตรวจจับ OS images และสร้าง libvirt XML ได้แม่นยำขึ้น

    ✅ มี UI ที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายและรองรับอุปกรณ์พกพา
    - อ้างอิงดีไซน์จาก MacOS UTM และปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของชุมชน KDE

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับ QEMU hypervisor ทั้งแบบ session (user) และ system (root)
    - GNOME Boxes รองรับเฉพาะ session แต่ Karton จะเพิ่มการรองรับ system เพื่อให้ใช้งานกับ Hyper-V และ bhyve ได้

    https://www.neowin.net/news/kde-is-finally-getting-a-native-virtual-machine-manager-called-karton/
    KDE เตรียมเปิดตัว "Karton" ระบบจัดการเครื่องเสมือนแบบเนทีฟ KDE กำลังพัฒนา Karton ซึ่งเป็น Virtual Machine Manager (VMM) ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใน Plasma Desktop โดยโครงการนี้เริ่มต้นจาก Aaron Rainbolt ที่พัฒนา QEMU frontend และต่อมาถูกพัฒนาโดย Harald Sitter ในโครงการ Google Summer of Code (GSoC) ปัจจุบัน Derek Lin นักศึกษาจาก University of Waterloo กำลังพัฒนา Karton ใน GSoC 2025 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Karton ✅ Karton ใช้ Qt Quick และ Kirigami เพื่อให้เข้ากับ KDE Plasma - ทำให้ UI มีความสวยงามและใช้งานง่าย ✅ ใช้ libvirt API ในการจัดการเครื่องเสมือน - รองรับ การตั้งค่า VM อย่างละเอียดและสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ ✅ พัฒนา SPICE viewer แบบกำหนดเองโดยใช้ Qt Quick - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถดูและโต้ตอบกับ VM ได้โดยไม่ต้องใช้ virt-viewer ✅ เพิ่มฟีเจอร์ snapshot เพื่อให้สามารถกู้คืนสถานะก่อนหน้าได้ - ทำให้ การสำรองข้อมูลและการกู้คืน VM ทำได้ง่ายขึ้น ✅ รองรับการติดตั้ง OS ผ่าน libosinfo แทน virt-install CLI - ช่วยให้ สามารถตรวจจับ OS images และสร้าง libvirt XML ได้แม่นยำขึ้น ✅ มี UI ที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายและรองรับอุปกรณ์พกพา - อ้างอิงดีไซน์จาก MacOS UTM และปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของชุมชน KDE ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับ QEMU hypervisor ทั้งแบบ session (user) และ system (root) - GNOME Boxes รองรับเฉพาะ session แต่ Karton จะเพิ่มการรองรับ system เพื่อให้ใช้งานกับ Hyper-V และ bhyve ได้ https://www.neowin.net/news/kde-is-finally-getting-a-native-virtual-machine-manager-called-karton/
    WWW.NEOWIN.NET
    KDE is finally getting a native virtual machine manager called "Karton"
    For years, KDE users had to use Virtual Machine Managers outside the KDE ecosystem, like GNOME Boxes. Now that's changing with a new native VMM in development for KDE.
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • กิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)
    วันนี้(15พ.ค.68) นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดกิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)เพื่อยกระดับมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชให้มี ความ
    พร้อมในการให้บริการอย่างมีคณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้อง
    กับแนวทางของ ยูเนสโก้ โกบอล จีโอพาร์ค แนวทางดังกล่าวเน้นการอ
    ทรัพยากรทางธรณี การมีส่วนร่วมของ ชุมชน และการผสมผสานอัตลักษณ์
    ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ท่องเที่ยวในพื้นที่
    เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยมีผู้อำนวยการอุทยาน ธรณีโคราช คณะผู้บริหารโคราชจีโอพาร์คโลก ชุมชน
    ต้นแบบโคราชจีโอพาร์ค ผู้ประกอบการในพื้นที่ อุทยานธรณีโคราชร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา
    กิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner) วันนี้(15พ.ค.68) นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดกิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)เพื่อยกระดับมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชให้มี ความ พร้อมในการให้บริการอย่างมีคณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้อง กับแนวทางของ ยูเนสโก้ โกบอล จีโอพาร์ค แนวทางดังกล่าวเน้นการอ ทรัพยากรทางธรณี การมีส่วนร่วมของ ชุมชน และการผสมผสานอัตลักษณ์ ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ท่องเที่ยวในพื้นที่ เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยมีผู้อำนวยการอุทยาน ธรณีโคราช คณะผู้บริหารโคราชจีโอพาร์คโลก ชุมชน ต้นแบบโคราชจีโอพาร์ค ผู้ประกอบการในพื้นที่ อุทยานธรณีโคราชร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • กิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)
    วันนี้(15พ.ค.68) นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดกิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)เพื่อยกระดับมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชให้มี ความ
    พร้อมในการให้บริการอย่างมีคณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้อง
    กับแนวทางของ ยูเนสโก้ โกบอล จีโอพาร์ค แนวทางดังกล่าวเน้นการอ
    ทรัพยากรทางธรณี การมีส่วนร่วมของ ชุมชน และการผสมผสานอัตลักษณ์
    ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ท่องเที่ยวในพื้นที่
    เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยมีผู้อำนวยการอุทยาน ธรณีโคราช คณะผู้บริหารโคราชจีโอพาร์คโลก ชุมชน
    ต้นแบบโคราชจีโอพาร์ค ผู้ประกอบการในพื้นที่ อุทยานธรณีโคราชร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา
    กิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner) วันนี้(15พ.ค.68) นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดกิจกรรม การพัฒนามาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว และ สถานประกอบการด้านท่องเที่ยวภูมิศาสตร์เชิงสร้างสรรค์ ตามแนวทาง จีโอพาร์คพาร์ทเนอร์ (Geopark Partner)เพื่อยกระดับมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว และสถานประกอบการในพื้นที่อุทยานธรณีโคราชให้มี ความ พร้อมในการให้บริการอย่างมีคณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสอดคล้อง กับแนวทางของ ยูเนสโก้ โกบอล จีโอพาร์ค แนวทางดังกล่าวเน้นการอ ทรัพยากรทางธรณี การมีส่วนร่วมของ ชุมชน และการผสมผสานอัตลักษณ์ ทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อให้ท่องเที่ยวในพื้นที่ เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยมีผู้อำนวยการอุทยาน ธรณีโคราช คณะผู้บริหารโคราชจีโอพาร์คโลก ชุมชน ต้นแบบโคราชจีโอพาร์ค ผู้ประกอบการในพื้นที่ อุทยานธรณีโคราชร่วมกิจกรรม ณ โรงแรมสีมาธานี จ.นครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • Scattered Spider ขยายเป้าหมายโจมตีจากสหราชอาณาจักรไปยังสหรัฐฯ

    กลุ่มแรนซัมแวร์ Scattered Spider ซึ่งเคยมุ่งเป้าโจมตีบริษัทในสหราชอาณาจักร กำลังขยายการโจมตีไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจค้าปลีก ตามรายงานของ Google Threat Intelligence Group

    ✅ Scattered Spider กำลังมุ่งเป้าโจมตีบริษัทค้าปลีกในสหรัฐฯ
    - Google เตือนว่า ธุรกิจค้าปลีกควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย

    ✅ กลุ่มนี้กลับมาเคลื่อนไหวหลังจากหยุดไปนาน
    - มีการโจมตีหลายบริษัทในปี 2025 หลังจากหายไปช่วงหนึ่ง

    ✅ Scattered Spider ไม่ใช่กลุ่มที่มีโครงสร้างแน่นหนาเหมือน LockBit หรือ Cl0p
    - เป็นกลุ่มที่ ดำเนินการภายในชุมชนแฮกเกอร์ที่ใหญ่กว่า

    ✅ ใช้เทคนิคหลากหลาย เช่น Social Engineering และ SIM Swapping
    - นอกจากแรนซัมแวร์ ยังมีการใช้ เทคนิคอื่น ๆ ในการโจมตี

    ✅ บริษัทที่ตกเป็นเป้าหมายในปี 2025 ได้แก่ Chick-fil-A, Forbes, Instacart, Nike, Twitter/X และ T-Mobile
    - รวมถึง Marks & Spencer, Co-op และ Harrods ในสหราชอาณาจักร

    https://www.techradar.com/pro/security/scattered-spider-moves-beyond-the-uk-places-crosshairs-on-us-companies
    Scattered Spider ขยายเป้าหมายโจมตีจากสหราชอาณาจักรไปยังสหรัฐฯ กลุ่มแรนซัมแวร์ Scattered Spider ซึ่งเคยมุ่งเป้าโจมตีบริษัทในสหราชอาณาจักร กำลังขยายการโจมตีไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจค้าปลีก ตามรายงานของ Google Threat Intelligence Group ✅ Scattered Spider กำลังมุ่งเป้าโจมตีบริษัทค้าปลีกในสหรัฐฯ - Google เตือนว่า ธุรกิจค้าปลีกควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ✅ กลุ่มนี้กลับมาเคลื่อนไหวหลังจากหยุดไปนาน - มีการโจมตีหลายบริษัทในปี 2025 หลังจากหายไปช่วงหนึ่ง ✅ Scattered Spider ไม่ใช่กลุ่มที่มีโครงสร้างแน่นหนาเหมือน LockBit หรือ Cl0p - เป็นกลุ่มที่ ดำเนินการภายในชุมชนแฮกเกอร์ที่ใหญ่กว่า ✅ ใช้เทคนิคหลากหลาย เช่น Social Engineering และ SIM Swapping - นอกจากแรนซัมแวร์ ยังมีการใช้ เทคนิคอื่น ๆ ในการโจมตี ✅ บริษัทที่ตกเป็นเป้าหมายในปี 2025 ได้แก่ Chick-fil-A, Forbes, Instacart, Nike, Twitter/X และ T-Mobile - รวมถึง Marks & Spencer, Co-op และ Harrods ในสหราชอาณาจักร https://www.techradar.com/pro/security/scattered-spider-moves-beyond-the-uk-places-crosshairs-on-us-companies
    WWW.TECHRADAR.COM
    Scattered Spider moves beyond the UK, places crosshairs on US companies
    Google is warning that the UK is no longer the only target
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • ดินแดนแห่งหนึ่งเป็นเกาะชื่ออาโอเตียอะรัว มีชนเผ่าที่อาศัยอยู่มานานกว่าสองหมื่นปีมีชื่อเรียกว่า เมาริ พูดภาษาออสโตรนีเชียน-โพลีนีเชียน มียีนเดียวกับคนเอเชียอย่างเราคือวายโครโมโซมแฮพโลกรุ๊ป โอ.. มียีนแม่เป็นออสตราอะบอริจิ้นคือไมโตคอนเดรียล บี และ เอ็ม
    .
    วันหนึ่งมีพวกอังกฤษ นำมาก่อนโดยกัปตันชื่อคุ๊ก บุกมายึดดินแดนที่อุดมไปด้วยทรัพยากรแห่งนี้ ขนเอาคนยุโรปมาแย่งแผ่นดินและกดขี่ปกครองพวกเมาริ เปลี่ยนชื่อดินแดนของพวกเขาใหม่ว่า New Zealand "แผ่นดินทะเลใหม่"!! ปล้นไปอย่างไร้ยางอาย และบีบบังคับให้ชาวเมารินับถือศาสนาคริสต์ ยกเลิกธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่ต่างๆ
    .
    เวลาผ่านไปมาจนถึงปัจจุบัน คนพื้นเมืองเมาริพวกนี้ก็ยังเป็นประชาชนชั้นสอง ไม่ได้มีเกียรติศักดิ์ฐานะเช่นฝรั่งผิวขาวเลย บนดินแดนที่ได้ถูกอ้างใหม่ว่าเป็นสิทธิแห่งพระราชินีของจักรวรรดิ์อังกฤษ บ้านเกิดของพวกเขากลายเป็นดินแดนของโจรล่าอาณานิคม ไม่เคยมีการแสดงออกถึงความสำนึกในบาปนี้ แม้เคยมีการแสดงออกมาขอโทษ แต่ก็กระทำอย่างไม่จริงใจ ในขณะที่การเหยียดเชื้อชาติยังดำเนินอยู่ในชนชั้นปกครองและคนยุโรปที่มีฐานะ พวกเมาริไม่เคยมีสิทธิในการบริหารประเทศ นอกจากได้ที่นั่งไม่กี่ที่ในรัฐสภา โดยที่ความเห็นและข้อเรียกร้องต่างๆ ถูกเมินเฉยไม่แยแสเสมอ
    .
    พวกเขาเป็นพี่น้องของเราทุกท่าน
    พวกเขายังคงถูกกดให้ต้อยต่ำ
    เป็นบทเรียนที่เราต้องไตร่ตรองให้ดี
    ว่าการที่บุรพกษัตริย์ของเรา พาเรารอดพ้นจากการเป็นอาณานิคมนั้น
    เป็นพระมหากรุณาธิคุณเอนกอนันต์เพียงใด
    .
    =================================================
    หัวข้อข่าวจาก THE STATES TIMES (15 พ.ค. 68)
    .
    สื่ออังกฤษ เดอะการ์เดียน รายงานว่า ฮานา-ราวิตี ไมปี-คลาร์ก สส.ชาวเมารีจากนิวซีแลนด์ อาจถูกลงโทษพักงาน 1 สัปดาห์ ฐานดูหมิ่นรัฐสภาและข่มขู่สมาชิกคนอื่น จากเหตุการณ์เต้นฮากาและฉีกเอกสารร่างกฎหมายกลางสภาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์
    .
    ขณะเดียวกัน คณะกรรมการจริยธรรมของรัฐสภายังเสนอพักงาน ราไวรี ไวติติ และเดบบี้ งาเรวา-แพคเกอร์ หัวหน้าร่วมพรรคเมารี เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ฐานความผิดเดียวกัน โดยชี้ว่าแม้การเต้นฮากาเคยเกิดขึ้นในสภามาก่อน แต่กรณีนี้ถือว่าผิดกาลเทศะและขัดขวางการลงมติร่างกฎหมายสำคัญ
    .
    ทางคณะกรรมการระบุว่า การลงโทษครั้งนี้แม้จะรุนแรง แต่จำเป็นเพื่อรักษามารยาทในสภา และเน้นย้ำว่าการข่มขู่หรือคุกคามสมาชิกคนอื่นไม่ใช่พฤติกรรมที่ยอมรับได้
    .
    พรรคเมารีออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า การลงโทษนี้เป็น “บทลงโทษสูงสุด” ที่สะท้อนถึงการกดทับเสียงต่อต้านอำนาจอาณานิคม พร้อมระบุว่าร่างกฎหมายที่เป็นชนวนเหตุ ซึ่งตีความสนธิสัญญากับชาวเมารีใหม่นั้น เป็นการพยายามลิดรอนสิทธิของชุมชนชาวพื้นเมือง แม้ท้ายที่สุดร่างดังกล่าวจะถูกโหวตคว่ำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
    .
    ==================================================
    .
    เพื่อให้เข้าใจบริบทของการประท้วงที่เกิดขึ้นในนิวซีแลนด์ ขออธิบายว่า ในปัจจุบัน เอกสารรัฐธรรมนูญที่สำคัญที่สุดของนิวซีแลนด์คือสนธิสัญญา Waitangi ซึ่งตกลงกันในปี 1840 ในฐานะหุ้นส่วนระหว่างชาวเมารีและราชวงศ์อังกฤษ เอกสารดังกล่าวรับรองการคุ้มครองบางประการแก่ชาวเมารี (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินและทรัพยากร) ในขณะที่อนุญาตให้จัดตั้งรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันคือรัฐบาลนิวซีแลนด์
    .
    ในความเป็นจริง ตั้งแต่ปี 1840 รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ละเมิดการคุ้มครองที่ระบุไว้ในสนธิสัญญา Waitangi ในประวัติศาสตร์ล่าสุดของนิวซีแลนด์ มีการกำหนดหลักการทางกฎหมายและสถาบันเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยาวนานเพื่อพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้และผลลัพธ์ทางสังคม ร่างกฎหมายฉบับปัจจุบันทำลายกระบวนการเหล่านี้
    .
    โดยพื้นฐานแล้ว ชาวเมารีไม่ได้รับการปรึกษาหารือก่อนที่จะมีการเสนอร่างกฎหมายที่ขัดแย้งโดยตรงกับอนุสัญญาที่มีมายาวนานและเป็นที่ยอมรับในนิวซีแลนด์ รวมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาในฐานะหุ้นส่วน ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการเสนอโดยพรรคการเมืองเล็ก (ซึ่งมีที่นั่งในรัฐสภาถึง 8%) เนื่องมาจากกระบวนการเลือกตั้ง MMP ในปัจจุบัน ซึ่งมักส่งผลให้พรรคการเมืองใหญ่ต้องเจรจาข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเล็กเพื่อให้ได้เสียงข้างมากในสภา
    .
    เป็นการปล้นซ้ำ ในยุคที่จิตสำนึกอุบาทย์แบบอาณานิคมกำลังเติบโตขึ้นอีกครั้ง
    .
    ดินแดนแห่งหนึ่งเป็นเกาะชื่ออาโอเตียอะรัว มีชนเผ่าที่อาศัยอยู่มานานกว่าสองหมื่นปีมีชื่อเรียกว่า เมาริ พูดภาษาออสโตรนีเชียน-โพลีนีเชียน มียีนเดียวกับคนเอเชียอย่างเราคือวายโครโมโซมแฮพโลกรุ๊ป โอ.. มียีนแม่เป็นออสตราอะบอริจิ้นคือไมโตคอนเดรียล บี และ เอ็ม . วันหนึ่งมีพวกอังกฤษ นำมาก่อนโดยกัปตันชื่อคุ๊ก บุกมายึดดินแดนที่อุดมไปด้วยทรัพยากรแห่งนี้ ขนเอาคนยุโรปมาแย่งแผ่นดินและกดขี่ปกครองพวกเมาริ เปลี่ยนชื่อดินแดนของพวกเขาใหม่ว่า New Zealand "แผ่นดินทะเลใหม่"!! ปล้นไปอย่างไร้ยางอาย และบีบบังคับให้ชาวเมารินับถือศาสนาคริสต์ ยกเลิกธรรมเนียมประเพณีเก่าแก่ต่างๆ . เวลาผ่านไปมาจนถึงปัจจุบัน คนพื้นเมืองเมาริพวกนี้ก็ยังเป็นประชาชนชั้นสอง ไม่ได้มีเกียรติศักดิ์ฐานะเช่นฝรั่งผิวขาวเลย บนดินแดนที่ได้ถูกอ้างใหม่ว่าเป็นสิทธิแห่งพระราชินีของจักรวรรดิ์อังกฤษ บ้านเกิดของพวกเขากลายเป็นดินแดนของโจรล่าอาณานิคม ไม่เคยมีการแสดงออกถึงความสำนึกในบาปนี้ แม้เคยมีการแสดงออกมาขอโทษ แต่ก็กระทำอย่างไม่จริงใจ ในขณะที่การเหยียดเชื้อชาติยังดำเนินอยู่ในชนชั้นปกครองและคนยุโรปที่มีฐานะ พวกเมาริไม่เคยมีสิทธิในการบริหารประเทศ นอกจากได้ที่นั่งไม่กี่ที่ในรัฐสภา โดยที่ความเห็นและข้อเรียกร้องต่างๆ ถูกเมินเฉยไม่แยแสเสมอ . พวกเขาเป็นพี่น้องของเราทุกท่าน พวกเขายังคงถูกกดให้ต้อยต่ำ เป็นบทเรียนที่เราต้องไตร่ตรองให้ดี ว่าการที่บุรพกษัตริย์ของเรา พาเรารอดพ้นจากการเป็นอาณานิคมนั้น เป็นพระมหากรุณาธิคุณเอนกอนันต์เพียงใด . ================================================= หัวข้อข่าวจาก THE STATES TIMES (15 พ.ค. 68) . สื่ออังกฤษ เดอะการ์เดียน รายงานว่า ฮานา-ราวิตี ไมปี-คลาร์ก สส.ชาวเมารีจากนิวซีแลนด์ อาจถูกลงโทษพักงาน 1 สัปดาห์ ฐานดูหมิ่นรัฐสภาและข่มขู่สมาชิกคนอื่น จากเหตุการณ์เต้นฮากาและฉีกเอกสารร่างกฎหมายกลางสภาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งคลิปดังกล่าวกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ . ขณะเดียวกัน คณะกรรมการจริยธรรมของรัฐสภายังเสนอพักงาน ราไวรี ไวติติ และเดบบี้ งาเรวา-แพคเกอร์ หัวหน้าร่วมพรรคเมารี เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ฐานความผิดเดียวกัน โดยชี้ว่าแม้การเต้นฮากาเคยเกิดขึ้นในสภามาก่อน แต่กรณีนี้ถือว่าผิดกาลเทศะและขัดขวางการลงมติร่างกฎหมายสำคัญ . ทางคณะกรรมการระบุว่า การลงโทษครั้งนี้แม้จะรุนแรง แต่จำเป็นเพื่อรักษามารยาทในสภา และเน้นย้ำว่าการข่มขู่หรือคุกคามสมาชิกคนอื่นไม่ใช่พฤติกรรมที่ยอมรับได้ . พรรคเมารีออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า การลงโทษนี้เป็น “บทลงโทษสูงสุด” ที่สะท้อนถึงการกดทับเสียงต่อต้านอำนาจอาณานิคม พร้อมระบุว่าร่างกฎหมายที่เป็นชนวนเหตุ ซึ่งตีความสนธิสัญญากับชาวเมารีใหม่นั้น เป็นการพยายามลิดรอนสิทธิของชุมชนชาวพื้นเมือง แม้ท้ายที่สุดร่างดังกล่าวจะถูกโหวตคว่ำไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา . ================================================== . เพื่อให้เข้าใจบริบทของการประท้วงที่เกิดขึ้นในนิวซีแลนด์ ขออธิบายว่า ในปัจจุบัน เอกสารรัฐธรรมนูญที่สำคัญที่สุดของนิวซีแลนด์คือสนธิสัญญา Waitangi ซึ่งตกลงกันในปี 1840 ในฐานะหุ้นส่วนระหว่างชาวเมารีและราชวงศ์อังกฤษ เอกสารดังกล่าวรับรองการคุ้มครองบางประการแก่ชาวเมารี (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสิทธิในที่ดินและทรัพยากร) ในขณะที่อนุญาตให้จัดตั้งรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันคือรัฐบาลนิวซีแลนด์ . ในความเป็นจริง ตั้งแต่ปี 1840 รัฐบาลนิวซีแลนด์ได้ละเมิดการคุ้มครองที่ระบุไว้ในสนธิสัญญา Waitangi ในประวัติศาสตร์ล่าสุดของนิวซีแลนด์ มีการกำหนดหลักการทางกฎหมายและสถาบันเพื่อดำเนินการตามกระบวนการยาวนานเพื่อพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้และผลลัพธ์ทางสังคม ร่างกฎหมายฉบับปัจจุบันทำลายกระบวนการเหล่านี้ . โดยพื้นฐานแล้ว ชาวเมารีไม่ได้รับการปรึกษาหารือก่อนที่จะมีการเสนอร่างกฎหมายที่ขัดแย้งโดยตรงกับอนุสัญญาที่มีมายาวนานและเป็นที่ยอมรับในนิวซีแลนด์ รวมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาในฐานะหุ้นส่วน ร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการเสนอโดยพรรคการเมืองเล็ก (ซึ่งมีที่นั่งในรัฐสภาถึง 8%) เนื่องมาจากกระบวนการเลือกตั้ง MMP ในปัจจุบัน ซึ่งมักส่งผลให้พรรคการเมืองใหญ่ต้องเจรจาข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเล็กเพื่อให้ได้เสียงข้างมากในสภา . เป็นการปล้นซ้ำ ในยุคที่จิตสำนึกอุบาทย์แบบอาณานิคมกำลังเติบโตขึ้นอีกครั้ง .
    0 Comments 0 Shares 343 Views 9 0 Reviews
More Results