• แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3)
    คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ
    นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้
    รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล
    นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า
    ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ
    เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3) คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้ รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : เปิดหน้ากำนันลี ผู้มีอิทธิพลเขมรต่ำ ที่จนท.ไทยยังศิโรราบ

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #กำนันลี #เขมร #เปิดหน้ากำนันลี
    Newsstory : เปิดหน้ากำนันลี ผู้มีอิทธิพลเขมรต่ำ ที่จนท.ไทยยังศิโรราบ #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #กำนันลี #เขมร #เปิดหน้ากำนันลี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Newsstory : ประเทศไทยอาจล่มสลาย ถ้าคนระดับกำนันจะใหญ่กว่าคนกลุ่มนี้

    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล
    #กำนัน
    Newsstory : ประเทศไทยอาจล่มสลาย ถ้าคนระดับกำนันจะใหญ่กว่าคนกลุ่มนี้ #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #กำนัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 2
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (2)
    ขณะที่เขียนนิทานนี้ การขับไล่รัฐบาลนังมารร้าย ของมวลมหาประชาชนยังไม่สำเร็จ มะม่วงแม้จะขั้วเน่า จุดดำขึ้นเต็มลูก ก็ยังไม่ร่วงหล่น ลุงกำนันใช้ลมปากเท่าใดก็ไม่เป็นผล และแม้จะมีนักวิชาการดาหน้ากันมาบอกว่า การเป็นรัฐบาลรักษาการของรัฐบาลนังมารร้ายได้สิ้นสุดไปแล้ว ก็เหมือนพูดกับคนหูหนวก ไม่รู้เรื่อง แถมนังมารร้ายออกมาพูดจาเลอะเทอะ ทำน้ำตาคลอ ดูอาการเหมือนคนใกล้จะวิปลาส และแม้จะมีศาลจะออกมาชี้มูลความผิด หรือแม้ว่าจะมีคุณหมอคนใดจริงใจและใจถึงออกมาบอกว่า นังมารร้ายวิปลาสไปแล้ว หล่อนก็ยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาวเกาะเก้าอี้ห้อยต่องแต่งต่อไป จำเป็นจะต้องรอให้มีปัจจัยอื่น ที่จะมาปลิดมะม่วงให้หล่น
    ปัจจัยภายในคือคุณพี่ทหาร ซึ่งขณะนี้ได้แสดงท่าทีว่าจวนจะหาจุดยืนถูก “ที่” แล้ว รออีกสักหน่อย ตอนนี้ยังยุ่งกับการแต่งบังเกอร์ให้หวานแหววอยู่ ส่วนปัจจัยภายนอกคือนักล่า ซึ่งได้ปล่อยข่าวผ่านสำนักหมอ ดู CSIS (Centre for Strategic and International Studies) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ไปแล้วว่า มันควรต้องมีการประนีประนอมด้วยการเจรจา และตกลงตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เลือกเอาจากที่ผู้คนยอมรับนับถือแบบนายอานันท์ ปันยารชุน
    แหม ! ข่าวแบบนี้เล่นเอาร้านตัดเสื้องานเข้า เขาว่ามีคนแอบไปตัดชุดขาวหลายคน (แอบลุ้นกันทั้งนั้น) บางคนก็เอาชุดเดิมไปแก้ เพราะว่าคอมันคับไป แก่แล้ว น้ำหนักมันขึ้น (ฮา)
    แม้เราจะยังไม่แน่ใจว่า นักล่าจะเล่นไพ่ใบไหน มันกะล่อนจะตาย จะเชื่อกันง่าย ๆ ก็ ฉ.ห. กันหมด แต่เมื่อลองไปแกะรอย ตามดูว่านักล่าเดินไปทางไหน มันก็พอจะบอกอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง
    อเมริกามีหน่วยงานหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปของแต่ละประเทศแต่ละเหตุการณ์ในโลก เพื่อส่งให้สภาสูง เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา เหมือนคุณครูประจำชั้นเขียนสมุดพก ประจำตัวนักเรียนแต่ละคน รายงานผู้ปกครอง สมัยเราเรียนหนังสือนั่นละ หน่วยงานที่ออกสมุดพกพวกนี้เรียกว่า Congressional Research Services (CRS) คุณครูจะออกสมุดพกของแต่ละประเทศ เป็นรายปีในกรณีปกติ หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับเหตุการณ์และความสำคัญ เช่นถ้าอเมริกากำลังวิ่งเล่นโยนระเบิดอยู่แถวอิรัค สมุดพกของอิรัคอาจออกเป็นรายชั่วโมง (ฮา) หรือของยูเครนตอนนี้คงออกเป็นรายครึ่งวัน เพราะลงทุนส่งสมุนไปปลุกเศกการปฏิวัติประชาชนซะจนประเทศเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง
    สำหรับประเทศไทย ที่เปิดเผยคือสมุดพกออกเป็นราย ปี แต่ที่ปกปิด ตามรายงานของคุณนายฑูต อาจออกเป็นรายวัน ดูสมัยเสื้อแดงเผาเมือง ฑูตสมัยนั้นรายงานทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร (อ่านจาก Wikileaks ที่ได้อภินันทนาการแจกกันทั่วโลกครับ) สมุดพกที่ว่านี้ปรกติของนักเรียนไทยแต่ละปี จะออกช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่สำหรับปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา ผ่านไปครึ่งปีคุณครูคงยังไม่สามารถสรุป ความประพฤติของนักเรียนไทยได้ เพราะเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีการโดดเรียน หรือเริ่มมั่วสุมนอกห้องเรียน เพราะหงุดหงิดจากพวกแก๊งขี้โกงเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าไปพิจารณาในสภา คุณครู CRS เลยถ่วงเวลามาออกเอาเดือนสุดท้ายของปี คือออกรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013
    รายงานคราวนี้ยาวกว่าปรกติ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ด้านการเมือง คุณครูรายงานถี่ยิบ ใส่ทุกเรื่องทุกฝ่าย
    รายงานส่วนที่สำคัญบอกว่า ไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ. 1954 (นานจัง) และได้รับการชื่นชมมาโดยตลอดว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการดำรงความเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย (อ้าว ! ไหนประนามกันเรื่อยว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เดี๋ยวฟ้องคุณครูเลย ! ) สัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแน่นแฟ้นในช่วงสงครามเย็น และได้ขยายไปทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา และการที่อเมริกาสามารถเข้าไปใช้บริการ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพไทย (เช่น สนามบิน ! ) ทำให้ประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในการจะดำรงคงอยู่ในภูมิภาค Asia Pacific นี้ได้ (แหม ! จะหลอกใช้สนามบินของเค้าอีกแล้ว)
    คุณครูบอกว่าความมั่นคงและความเจริญเติบโตของประเทศไทย เริ่มสั่นคลอนหลังจากรัฐประหารในไทย เมื่อ ค.ศ. 2006 สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างร้าวลึกและยาวนาน และขณะนี้ได้ลุกลามไปจนกลายเป็น การประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และให้มีการปกครอง ที่มีบางส่วนอาจมองได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองของประเทศ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของไทย ก็ยังเติบโตแม้จะมีวิกฤติการเมือง และยังเป็นประเทศที่รายได้ของชนชั้นกลาง ยังมีการขยายต่อได้อีก และยังเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของอเมริกา (แปลว่าเรื่องกระเป๋าตังค์นี่ เป็นประเด็นที่นักล่าสนใจนะ)
    ประเทศไทยที่สงบและมีความมั่นคง มีนัยอย่างสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา เพราะประเทศไทยซึ่งมีสถานะเป็นพันธมิตรของอเมริกา ตั้งอยู่บนพื้นแผ่นดินในบริเวณที่เหมาะสมของภูมิภาคอาเซียอาคเณย์นี้ (จุดได้เปรียบของไทย จำกันไว้ให้ดี !)
    คุณครูรายงานต่อไปว่า สภาสูงของอเมริกากำลังลำบากใจที่ต้องเผชิญกับภาวะที่ดูไม่ประชาธิปไตยของไทย และจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร กับประเด็นการดุลอำนาจระหว่างพลเรือนและทหารที่เป็นอยู่ในสังคมไทย (พูดง่าย ๆ ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาพลเรือนนำทหาร หรือจะเอาทหารนำพลเรือนใช่ไหมคุณครู) นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายรายบอกว่า การที่ไทยมัววุ่นอยู่กับปัญหาภายในประเทศของตนนานเกินไป ทำให้อิทธิพลของตนเองที่เคยมีอยู่ในภูมิภาคนี้ด้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามแม้ในระดับการปฏิบัติการร่วมกัน ยังคงราบรื่นอยู่ แต่การริเริ่มใหม่ ๆ ดูเหมือนจะเฉื่อยชาไป (แหม ! นายท่านพวกกระผม กำลังวุ่นกับการไล่รัฐบาลโจร จะให้มัวไปเช็ดรองเท้าพวกท่านก็กรุณารอก่อนนะขอรับ ขอโทษครับ ขอเขียนแดกพวกขี้ข้าฝรั่งหน่อย อดไม่ได้)
    เมื่อรัฐบาล Obama ประกาศเปลี่ยนแปลงดุลยภาพของอเมริกา (Rebalancing) โดยให้ความสำคัญกับ Asia Pacific เป็นอันดับสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนร่วมมือจากประเทศที่เรียกว่าเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้ด้วยนั้น เห็นชัดว่าอเมริกากับไทย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ และประเทศไทยก็ไม่ได้ เข้าเป็นคู่สัญญาในการริเริ่มขบวนการตาม Trans Pacific Partnership (TPP) (ไทยตกรถไฟขบวน TPP น่าจะแปลว่าดีกับไทยนะ เพราะยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับไทยเลย !)
    แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการเมืองไทย ที่อเมริกาเป็นห่วง คือโอกาสที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในประเทศไทย มีมากน้อยเพียงใด (แปลว่าไม่อยากได้ทักษิณใช่ไหม ทักษิณเป็นตัวปัญหาใช่ไหม คุณครู) เพราะทักษิณยังเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ และตัวทักษิณเองได้พูดไปทั่วว่า ตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากคนไทยอยู่มาก และจะกลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมที่จะล้างผิดให้ทักษิณเป็นต้นเหตุ ให้เกิดการประท้วงใหญ่ ตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา
    อีกประเด็นที่สำคัญคือคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระชนมายุ 86 แล้ว และมีรายงานว่าไม่ทรงแข็งแรง พระองค์ทรงเป็นที่เคารพอย่างสูงสุด ของประชาชนมาตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา และสถาบันกษัตริย์เป็นที่ยอมรับว่า เป็นสถาบันที่มั่นคงที่สุดในไทย แต่ขณะนี้คำถามเกี่ยวกับการสืบสันตติวงศ์เริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งทำให้ความมั่นคงของไทยในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ห่วงกันอยู่
    สาเหตุหลักที่อเมริกาจะต้องพยายามรักษาสัมพันธ์กับประเทศไทยไว้ คือ การแข่งขันในการมีอิทธิพลในอาเซียอาคเณย์ระหว่างอเมริกากับจีน (ฮั่นแน่ ! เรื่องสำคัญ มาแอบอยู่ตรงนี้เองแหละ) ไทยมีชื่อเสียงมานานในความสามารถรักษาสัมพันธ์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าด้านธุรกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ไทยสามารถจัดการได้ดีทั้งกับจีนและอเมริกา
    ประเทศไทยที่แข็งแรง และมองออกไปนอกตัวเองมากขึ้น จะช่วยให้ได้รับการสนับสนุน ในการเข้าร่วมกระบวนการ “Rebalancing” ของอเมริกา วิกฤตการเมืองของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสอย่างมาก เพราะเมื่อรัฐบาล Obama ประกาศนโยบายต่างประเทศ Rebalancing ของอเมริกามาทางเอเซีย ไทยไม่ได้รับบทบาทสำคัญ (ไม่ได้เป็นพระเอก) และวอชิงตันได้มองไปที่ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และคบหุ้นส่วนใหม่ เช่น อินโดนีเซีย และเวียตนาม (พวกตัวประกอบผักชีโรยหน้า)
    อย่างไรก็ตามฝ่ายกองทัพของสหรัฐ ยังอยากที่จะคบค้าสานสัมพันธ์กับกองทัพไทยต่อไป (Mil to Mil relationship) โดยเฉพาะการสามารถเข้าไปใช้เครื่องมือเครื่องใช้อำนวยความสะดวก รวมทั้งฐานทัพของไทย ในกรณีที่เกิดปัญหาความตึงเครียดในภูมิภาคนี้
    นักวิเคราะห์ระดับภูมิภาคประโลมใจว่า แม้ประเทศไทยจะไม่วิเศษสมบูรณ์ แต่พันธมิตรที่เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาค มีความสำคัญยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ (คุณนายฑูตคริสตี้ ช่วยอ่านรายงานคุณครู CRS ตอนนี้ให้เข้าไปในหัวหน่อย และถ้าคุณนายซึ่งเป็นฑูตตัวแทนประเทศตัวเอง แล้วยังตั้งหน้าตอแหลบิดเบือนต่อไปอีก ครูใหญ่ Obama ช่วยเรียกตัวกลับไปกวาดพื้นโรงเรียนประถมในอเมริกา จะเหมาะสมกับคุณนายมากกว่า และอาจจะทำให้อเมริกาถูกรังเกียจน้อยลงไปบ้าง)
    ขณะเดียวกัน มีผู้ท้วงติงว่า การที่อเมริกาพยายามจะให้ไทยใช้วิธีการบริหารประเทศ โดยให้พลเรือนควบคุมกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล ดูจากเหตุการณ์ไม่กี่ปีที่ผ่านมา (แปลว่าอยากได้ทหารเป็นผู้บริหารประเทศ มากกว่าพลเรือนหรือไง ?) และแม้ว่าการจะใช้สนามบินของไทยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองทัพอเมริกา ก็มีผู้สงสัยเช่นกันว่า ไทยจะยอมให้ใช้หรือไม่ หากมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น (เริ่มจะรู้ตัวแล้วหรือนักล่า ว่าสมันน้อยก็มีเขี้ยวเล็บเหมือนกัน)

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (2) ขณะที่เขียนนิทานนี้ การขับไล่รัฐบาลนังมารร้าย ของมวลมหาประชาชนยังไม่สำเร็จ มะม่วงแม้จะขั้วเน่า จุดดำขึ้นเต็มลูก ก็ยังไม่ร่วงหล่น ลุงกำนันใช้ลมปากเท่าใดก็ไม่เป็นผล และแม้จะมีนักวิชาการดาหน้ากันมาบอกว่า การเป็นรัฐบาลรักษาการของรัฐบาลนังมารร้ายได้สิ้นสุดไปแล้ว ก็เหมือนพูดกับคนหูหนวก ไม่รู้เรื่อง แถมนังมารร้ายออกมาพูดจาเลอะเทอะ ทำน้ำตาคลอ ดูอาการเหมือนคนใกล้จะวิปลาส และแม้จะมีศาลจะออกมาชี้มูลความผิด หรือแม้ว่าจะมีคุณหมอคนใดจริงใจและใจถึงออกมาบอกว่า นังมารร้ายวิปลาสไปแล้ว หล่อนก็ยังคงไม่รู้ร้อนรู้หนาวเกาะเก้าอี้ห้อยต่องแต่งต่อไป จำเป็นจะต้องรอให้มีปัจจัยอื่น ที่จะมาปลิดมะม่วงให้หล่น ปัจจัยภายในคือคุณพี่ทหาร ซึ่งขณะนี้ได้แสดงท่าทีว่าจวนจะหาจุดยืนถูก “ที่” แล้ว รออีกสักหน่อย ตอนนี้ยังยุ่งกับการแต่งบังเกอร์ให้หวานแหววอยู่ ส่วนปัจจัยภายนอกคือนักล่า ซึ่งได้ปล่อยข่าวผ่านสำนักหมอ ดู CSIS (Centre for Strategic and International Studies) เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ไปแล้วว่า มันควรต้องมีการประนีประนอมด้วยการเจรจา และตกลงตั้งนายกรัฐมนตรีคนกลาง เลือกเอาจากที่ผู้คนยอมรับนับถือแบบนายอานันท์ ปันยารชุน แหม ! ข่าวแบบนี้เล่นเอาร้านตัดเสื้องานเข้า เขาว่ามีคนแอบไปตัดชุดขาวหลายคน (แอบลุ้นกันทั้งนั้น) บางคนก็เอาชุดเดิมไปแก้ เพราะว่าคอมันคับไป แก่แล้ว น้ำหนักมันขึ้น (ฮา) แม้เราจะยังไม่แน่ใจว่า นักล่าจะเล่นไพ่ใบไหน มันกะล่อนจะตาย จะเชื่อกันง่าย ๆ ก็ ฉ.ห. กันหมด แต่เมื่อลองไปแกะรอย ตามดูว่านักล่าเดินไปทางไหน มันก็พอจะบอกอะไรเพิ่มเติมได้บ้าง อเมริกามีหน่วยงานหนึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ ทำรายงานเกี่ยวกับความเป็นไปของแต่ละประเทศแต่ละเหตุการณ์ในโลก เพื่อส่งให้สภาสูง เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอเมริกา เหมือนคุณครูประจำชั้นเขียนสมุดพก ประจำตัวนักเรียนแต่ละคน รายงานผู้ปกครอง สมัยเราเรียนหนังสือนั่นละ หน่วยงานที่ออกสมุดพกพวกนี้เรียกว่า Congressional Research Services (CRS) คุณครูจะออกสมุดพกของแต่ละประเทศ เป็นรายปีในกรณีปกติ หรือมากกว่านั้น ขึ้นกับเหตุการณ์และความสำคัญ เช่นถ้าอเมริกากำลังวิ่งเล่นโยนระเบิดอยู่แถวอิรัค สมุดพกของอิรัคอาจออกเป็นรายชั่วโมง (ฮา) หรือของยูเครนตอนนี้คงออกเป็นรายครึ่งวัน เพราะลงทุนส่งสมุนไปปลุกเศกการปฏิวัติประชาชนซะจนประเทศเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง สำหรับประเทศไทย ที่เปิดเผยคือสมุดพกออกเป็นราย ปี แต่ที่ปกปิด ตามรายงานของคุณนายฑูต อาจออกเป็นรายวัน ดูสมัยเสื้อแดงเผาเมือง ฑูตสมัยนั้นรายงานทุกวัน 3 เวลาหลังอาหาร (อ่านจาก Wikileaks ที่ได้อภินันทนาการแจกกันทั่วโลกครับ) สมุดพกที่ว่านี้ปรกติของนักเรียนไทยแต่ละปี จะออกช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน แต่สำหรับปีค.ศ. 2013 ที่ผ่านมา ผ่านไปครึ่งปีคุณครูคงยังไม่สามารถสรุป ความประพฤติของนักเรียนไทยได้ เพราะเริ่มมีอาการปวดหัว ตัวร้อน มีการโดดเรียน หรือเริ่มมั่วสุมนอกห้องเรียน เพราะหงุดหงิดจากพวกแก๊งขี้โกงเสนอร่างพรบ.นิรโทษกรรมเข้าไปพิจารณาในสภา คุณครู CRS เลยถ่วงเวลามาออกเอาเดือนสุดท้ายของปี คือออกรายงานเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 2013 รายงานคราวนี้ยาวกว่าปรกติ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ด้านการเมือง คุณครูรายงานถี่ยิบ ใส่ทุกเรื่องทุกฝ่าย รายงานส่วนที่สำคัญบอกว่า ไทยแลนด์เป็นพันธมิตรเก่าแก่ของอเมริกา ตั้งแต่ ค.ศ. 1954 (นานจัง) และได้รับการชื่นชมมาโดยตลอดว่าเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการดำรงความเป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย (อ้าว ! ไหนประนามกันเรื่อยว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย เดี๋ยวฟ้องคุณครูเลย ! ) สัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแน่นแฟ้นในช่วงสงครามเย็น และได้ขยายไปทั้งด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคง ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอเมริกา และการที่อเมริกาสามารถเข้าไปใช้บริการ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของกองทัพไทย (เช่น สนามบิน ! ) ทำให้ประเทศไทยเป็นส่วนสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกาในการจะดำรงคงอยู่ในภูมิภาค Asia Pacific นี้ได้ (แหม ! จะหลอกใช้สนามบินของเค้าอีกแล้ว) คุณครูบอกว่าความมั่นคงและความเจริญเติบโตของประเทศไทย เริ่มสั่นคลอนหลังจากรัฐประหารในไทย เมื่อ ค.ศ. 2006 สร้างความแตกแยกในสังคมไทยอย่างร้าวลึกและยาวนาน และขณะนี้ได้ลุกลามไปจนกลายเป็น การประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก และให้มีการปกครอง ที่มีบางส่วนอาจมองได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองของประเทศ อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจของไทย ก็ยังเติบโตแม้จะมีวิกฤติการเมือง และยังเป็นประเทศที่รายได้ของชนชั้นกลาง ยังมีการขยายต่อได้อีก และยังเป็นพันธมิตรที่มั่นคงของอเมริกา (แปลว่าเรื่องกระเป๋าตังค์นี่ เป็นประเด็นที่นักล่าสนใจนะ) ประเทศไทยที่สงบและมีความมั่นคง มีนัยอย่างสำคัญทางยุทธศาสตร์ของอเมริกา เพราะประเทศไทยซึ่งมีสถานะเป็นพันธมิตรของอเมริกา ตั้งอยู่บนพื้นแผ่นดินในบริเวณที่เหมาะสมของภูมิภาคอาเซียอาคเณย์นี้ (จุดได้เปรียบของไทย จำกันไว้ให้ดี !) คุณครูรายงานต่อไปว่า สภาสูงของอเมริกากำลังลำบากใจที่ต้องเผชิญกับภาวะที่ดูไม่ประชาธิปไตยของไทย และจะมีปฏิกิริยาตอบรับอย่างไร กับประเด็นการดุลอำนาจระหว่างพลเรือนและทหารที่เป็นอยู่ในสังคมไทย (พูดง่าย ๆ ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอาพลเรือนนำทหาร หรือจะเอาทหารนำพลเรือนใช่ไหมคุณครู) นอกจากนี้ยังมีนักวิเคราะห์หลายรายบอกว่า การที่ไทยมัววุ่นอยู่กับปัญหาภายในประเทศของตนนานเกินไป ทำให้อิทธิพลของตนเองที่เคยมีอยู่ในภูมิภาคนี้ด้อยลงด้วย อย่างไรก็ตามแม้ในระดับการปฏิบัติการร่วมกัน ยังคงราบรื่นอยู่ แต่การริเริ่มใหม่ ๆ ดูเหมือนจะเฉื่อยชาไป (แหม ! นายท่านพวกกระผม กำลังวุ่นกับการไล่รัฐบาลโจร จะให้มัวไปเช็ดรองเท้าพวกท่านก็กรุณารอก่อนนะขอรับ ขอโทษครับ ขอเขียนแดกพวกขี้ข้าฝรั่งหน่อย อดไม่ได้) เมื่อรัฐบาล Obama ประกาศเปลี่ยนแปลงดุลยภาพของอเมริกา (Rebalancing) โดยให้ความสำคัญกับ Asia Pacific เป็นอันดับสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องมีการขับเคลื่อนร่วมมือจากประเทศที่เรียกว่าเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้ด้วยนั้น เห็นชัดว่าอเมริกากับไทย ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ และประเทศไทยก็ไม่ได้ เข้าเป็นคู่สัญญาในการริเริ่มขบวนการตาม Trans Pacific Partnership (TPP) (ไทยตกรถไฟขบวน TPP น่าจะแปลว่าดีกับไทยนะ เพราะยังไม่เห็นประโยชน์อะไรกับไทยเลย !) แต่ประเด็นที่เป็นปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการเมืองไทย ที่อเมริกาเป็นห่วง คือโอกาสที่ทักษิณจะกลับมาอยู่ในประเทศไทย มีมากน้อยเพียงใด (แปลว่าไม่อยากได้ทักษิณใช่ไหม ทักษิณเป็นตัวปัญหาใช่ไหม คุณครู) เพราะทักษิณยังเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ และตัวทักษิณเองได้พูดไปทั่วว่า ตนเองยังได้รับการสนับสนุนจากคนไทยอยู่มาก และจะกลับบ้านในเร็ว ๆ นี้ ร่างกฎหมาย นิรโทษกรรมที่จะล้างผิดให้ทักษิณเป็นต้นเหตุ ให้เกิดการประท้วงใหญ่ ตั้งแต่ตุลาคม ค.ศ. 2013 เป็นต้นมา อีกประเด็นที่สำคัญคือคำถามเกี่ยวกับพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระชนมายุ 86 แล้ว และมีรายงานว่าไม่ทรงแข็งแรง พระองค์ทรงเป็นที่เคารพอย่างสูงสุด ของประชาชนมาตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา และสถาบันกษัตริย์เป็นที่ยอมรับว่า เป็นสถาบันที่มั่นคงที่สุดในไทย แต่ขณะนี้คำถามเกี่ยวกับการสืบสันตติวงศ์เริ่มใกล้เข้ามา ซึ่งทำให้ความมั่นคงของไทยในส่วนนี้ เป็นเรื่องที่ห่วงกันอยู่ สาเหตุหลักที่อเมริกาจะต้องพยายามรักษาสัมพันธ์กับประเทศไทยไว้ คือ การแข่งขันในการมีอิทธิพลในอาเซียอาคเณย์ระหว่างอเมริกากับจีน (ฮั่นแน่ ! เรื่องสำคัญ มาแอบอยู่ตรงนี้เองแหละ) ไทยมีชื่อเสียงมานานในความสามารถรักษาสัมพันธ์กับทุกฝ่าย ไม่ว่าด้านธุรกิจ การเมือง และวัฒนธรรม ไทยสามารถจัดการได้ดีทั้งกับจีนและอเมริกา ประเทศไทยที่แข็งแรง และมองออกไปนอกตัวเองมากขึ้น จะช่วยให้ได้รับการสนับสนุน ในการเข้าร่วมกระบวนการ “Rebalancing” ของอเมริกา วิกฤตการเมืองของไทย ทำให้ไทยเสียโอกาสอย่างมาก เพราะเมื่อรัฐบาล Obama ประกาศนโยบายต่างประเทศ Rebalancing ของอเมริกามาทางเอเซีย ไทยไม่ได้รับบทบาทสำคัญ (ไม่ได้เป็นพระเอก) และวอชิงตันได้มองไปที่ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และคบหุ้นส่วนใหม่ เช่น อินโดนีเซีย และเวียตนาม (พวกตัวประกอบผักชีโรยหน้า) อย่างไรก็ตามฝ่ายกองทัพของสหรัฐ ยังอยากที่จะคบค้าสานสัมพันธ์กับกองทัพไทยต่อไป (Mil to Mil relationship) โดยเฉพาะการสามารถเข้าไปใช้เครื่องมือเครื่องใช้อำนวยความสะดวก รวมทั้งฐานทัพของไทย ในกรณีที่เกิดปัญหาความตึงเครียดในภูมิภาคนี้ นักวิเคราะห์ระดับภูมิภาคประโลมใจว่า แม้ประเทศไทยจะไม่วิเศษสมบูรณ์ แต่พันธมิตรที่เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาค มีความสำคัญยิ่งในการแสดงให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของอเมริกาในภูมิภาคนี้ (คุณนายฑูตคริสตี้ ช่วยอ่านรายงานคุณครู CRS ตอนนี้ให้เข้าไปในหัวหน่อย และถ้าคุณนายซึ่งเป็นฑูตตัวแทนประเทศตัวเอง แล้วยังตั้งหน้าตอแหลบิดเบือนต่อไปอีก ครูใหญ่ Obama ช่วยเรียกตัวกลับไปกวาดพื้นโรงเรียนประถมในอเมริกา จะเหมาะสมกับคุณนายมากกว่า และอาจจะทำให้อเมริกาถูกรังเกียจน้อยลงไปบ้าง) ขณะเดียวกัน มีผู้ท้วงติงว่า การที่อเมริกาพยายามจะให้ไทยใช้วิธีการบริหารประเทศ โดยให้พลเรือนควบคุมกองทัพ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผล ดูจากเหตุการณ์ไม่กี่ปีที่ผ่านมา (แปลว่าอยากได้ทหารเป็นผู้บริหารประเทศ มากกว่าพลเรือนหรือไง ?) และแม้ว่าการจะใช้สนามบินของไทยเป็นเรื่องสำคัญสำหรับกองทัพอเมริกา ก็มีผู้สงสัยเช่นกันว่า ไทยจะยอมให้ใช้หรือไม่ หากมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น (เริ่มจะรู้ตัวแล้วหรือนักล่า ว่าสมันน้อยก็มีเขี้ยวเล็บเหมือนกัน) คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย)
    นักล่า คิดหลายมิติ เล่นไพ่ทีละหลายใบ เดินหมากทีละหลายตัว แล้วเราจะวิเคราะห์แบบมิติเดียวเช่นนั้นหรือ
    ขบวนการไล่โจรร้ายเกมชิงเมือง ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ใครกำลังได้ ใครกำลังเสีย แน่นอน นักล่าอยากเคี้ยวไทยแลนด์แดนสมันน้อยเต็มแก่ พวกเขาหลอกใช้หมาไนเป็นเหยื่อล่อ หมาไนหลงคิดว่าตนเองได้เปรียบ มีสิงห์โตอยู่ข้างหลัง หมาไนผงาดพองขน เอาโลกมาล้อมประเทศ ชะล่าใจทำการใหญ่จะไปให้สุดซอย คาบกระดูกเนื้อติดมันไปหลายชิ้น คือพรบ.นิรโทษกรรม ที่ชาวเรามองเห็นกันชัด แต่ที่มันพ่วงไปด้วย โดยชาวเราอาจไม่ทันสนใจ คือ การแก้ไข รธน. ม.190
    ม. 190 ใคร ๆ ก็อยากให้แก้ ยกเว้นคนไทยตาดำ ๆ หมาไนบอก ถ้าแก้ได้ต่อไปนี้ จะทำอะไรไม่ต้องเห็นหัวใคร ไม่ต้องควักกระเป๋าเวลาลงคะแนน ประหยัดกระเป๋าไปโข นักล่าผมทอก็ชอบ จะเอาอะไรล่ะ ย้ายฐานทัพมาตั้งให้ทั่วราชอาณาจักรไทย ใครจะมาขวาง จะขุดทรัพยากรเอาไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ นักล่าหน้าใหม่ผมดำตาตี่ บอกอย่างนี้อาเฮียอยากแลกข้าวกับรถไฟ ไม่น่ามีปัญหา
    เกมชิงเมือง ใครจะเลือกเดินทางใด ลองคิดกันดู
    – นักล่า ดูท่าทางคงจะคุยกับรัฐบาลน้องสาวแสนโง่ไปไม่ได้อีกนาน แม้จะได้เปรียบ และได้ประโยชน์ แต่การพูดกับคนโง่มาก ๆ นี่มันเหนื่อยนะ แล้วถ้ากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เอาไข่มุกทุกเม็ดในยูเรเซียมาร้อยเป็นสร้อยงามน่ะ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง สายสร้อยอาจขาดง่าย ๆ ยอมหรือ
    การเจรจาให้เปลี่ยนตัว จึงน่าจะมี หมาไนโจรร้าย จึงจำเป็นต้องเล่นให้สุดซอย เพื่อกลับมาบงการเอง เอง! หรือว่าจะมี “การปฏิบัติการอื่น” เปลี่ยนไพ่ใบใหม่ เดินหมากตัวใหม่ ก็น่าสนใจ แล้วจะเอาไพ่ใบไหนมาเล่น เอาหมากตัวไหนมาเดินล่ะ คุณทหารหวานใจเก่า หรือเหล่าดาราอินเตอร์ที่ CFR ส่งเข้ามาประกวด
    – หมาไนโจรร้าย ทางเลือกมีอยู่ 2 ทาง ถอยดีกว่า กลับไปตั้งหลักก่อน หรือจะใช้คติประจำใจหมาไน ข้าไม่ได้กิน พวกเอ็งก็อย่าหวัง เซียนแถวสำนักงานของชาติแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งถูกมือดีปลดป้ายทิ้ง โทษฐานไม่เป็นสำนักงานของชาติ แต่เป็นของตระกูล กระซิบบอกมาว่า หมาไนครับลุง หมาไนไม่เคยเปลี่ยนสันดาน เอ้ย นิสัย ! (เดี๋ยวจะว่าหยาบคาย)
    – คุณทหาร โดนสื่อฟอกย้อม โยกซะศูนย์เสีย เดินเซอยู่นาน ไม่รู้ตอนนี้ศูนย์จะเข้าที่หรือยัง แต่ทหารก็มีหลายหน่วย หลายระดับ ทหารใหญ่บางคนที่คิดผิด เขาว่าไม่มีโอกาสคิดใหม่นะ แถมโอกาสจะอยู่บ้านเดิมอาจจะไม่มี ต้องหาที่เร่ร่อนเหมือนกัน (เวรกรรมมีจริง ! ) แต่เติบใหญ่มาจนบัดนี้ ปฎิญาณตนภายใต้ธงชัยเฉลิมพลมาหลายรอบ ไม่รู้ที่ยืน ตั้งศูนย์ไม่ตรง ก็ไปขายเต้าฮวยดีกว่า (ถ้ายังมีโอกาส) นะครับ
    – นางสาวแสนโง่ ไม่เขียนถึงเดี๋ยวจะน้อยใจ ทางเลือกหนูไม่มีมากหรอก อย่าไปเชื่อพวกพี่เลี้ยงใจร้ายเลยหนู ร่อนเร่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวพุงโตหมดนะ หนุ่ม ๆ เขาฝากติงมา อยู่ในคุกมันไม่สนุกนะคะ เสื้อผ้าหน้าผม ใครจะไปตบแต่งให้เช้งกะเด๊ะได้ทั้งวัน ไอ้นั่นมันคุกในหนังนะคะ คิดให้ดีนะหนู
    – เอ้า ! หมดแล้วหรือยัง ตัวเอกของเกมชิงเมือง แล้วกันลืมลุงกำนัน ลืมได้ยังไง เดินซะหน้ามะเมื่อมขนาดนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก ดูการปราศัยของลุงกำนันแล้ว แกเอาตัวรอดทุกรายการหรอกน่า พูดงี้จับใจคนไปหมด ทั้งหนุ่ม ทั้งสาวจริง สาวปลอม แย่งกันกอด เฮอ! มวลมหาประชาชนนี่น่ารักจริง ๆ ขอให้รอดปลอดภัยแล้วกันนะลุงกำนัน ตัดสินใจเดินทางนี้แล้ว ต้องให้กำลังใจกันหน่อย อย่าตกร่องระหว่างทาง อย่าติดลมบนจนลงไม่เป็นก็แล้วกัน
    – แต่ในเกมชิงเมือง ตัวเอกสำคัญ ตัวเอก ที่ขาดไม่ได้คือมวลมหาประชาชน โปรดกลับไปอ่านบทความ มวลมหาประชาชนอีกรอบนะครับ อ่านซ้ำ ๆ ให้รู้จักมวลมหาประชาชน จริง ๆ ถ้าเราไม่มีมวลมหาประชาชน จำนวนมหาศาล เช่นนี้ มีจิตใจและการแสดงออกเช่นนี้ ในทุกเวที เรามาไม่ถึงตรงนี้นะครับ มวลมหาประชาชนมีเอกลักษณ์ และเป็นปัจจัยสำคัญในสงครามชิงเมือง ซึ่งทำให้ทั้งนักล่า หมาไน และยายแสนโง่ นั่นมันไปไม่เป็นเดินเซกันเป็นแถว
    ขณะที่เขียนนี้ ยังไม่รู้ว่าใครจะเลือกเล่นบทไหน จะจบอย่างไร แต่ไม่ว่าบทไหน และจะจบอย่างไร มันแค่จบ season แรกเท่านั้นเอง มวลมหาประชาชนยังจะต้องเดินทางอีกไกล สู่การปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปบ้านเมืองอย่างแท้จริง จะต้องไม่เพียงมีความกล้าหาญอดทน ออกมาขับไล่โจรร้ายเท่านั้น season ต่อไปมันจะหนักขึ้น ต้องเตรียมตัวทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านเราและบ้านเขา อย่างชัดเจน มีเวลาก็หาหนังสือพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกมาอ่านกันนะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 มค 57
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 5 (ตอนสุดท้าย) นักล่า คิดหลายมิติ เล่นไพ่ทีละหลายใบ เดินหมากทีละหลายตัว แล้วเราจะวิเคราะห์แบบมิติเดียวเช่นนั้นหรือ ขบวนการไล่โจรร้ายเกมชิงเมือง ที่กำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ ใครกำลังได้ ใครกำลังเสีย แน่นอน นักล่าอยากเคี้ยวไทยแลนด์แดนสมันน้อยเต็มแก่ พวกเขาหลอกใช้หมาไนเป็นเหยื่อล่อ หมาไนหลงคิดว่าตนเองได้เปรียบ มีสิงห์โตอยู่ข้างหลัง หมาไนผงาดพองขน เอาโลกมาล้อมประเทศ ชะล่าใจทำการใหญ่จะไปให้สุดซอย คาบกระดูกเนื้อติดมันไปหลายชิ้น คือพรบ.นิรโทษกรรม ที่ชาวเรามองเห็นกันชัด แต่ที่มันพ่วงไปด้วย โดยชาวเราอาจไม่ทันสนใจ คือ การแก้ไข รธน. ม.190 ม. 190 ใคร ๆ ก็อยากให้แก้ ยกเว้นคนไทยตาดำ ๆ หมาไนบอก ถ้าแก้ได้ต่อไปนี้ จะทำอะไรไม่ต้องเห็นหัวใคร ไม่ต้องควักกระเป๋าเวลาลงคะแนน ประหยัดกระเป๋าไปโข นักล่าผมทอก็ชอบ จะเอาอะไรล่ะ ย้ายฐานทัพมาตั้งให้ทั่วราชอาณาจักรไทย ใครจะมาขวาง จะขุดทรัพยากรเอาไปเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ นักล่าหน้าใหม่ผมดำตาตี่ บอกอย่างนี้อาเฮียอยากแลกข้าวกับรถไฟ ไม่น่ามีปัญหา เกมชิงเมือง ใครจะเลือกเดินทางใด ลองคิดกันดู – นักล่า ดูท่าทางคงจะคุยกับรัฐบาลน้องสาวแสนโง่ไปไม่ได้อีกนาน แม้จะได้เปรียบ และได้ประโยชน์ แต่การพูดกับคนโง่มาก ๆ นี่มันเหนื่อยนะ แล้วถ้ากำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม เอาไข่มุกทุกเม็ดในยูเรเซียมาร้อยเป็นสร้อยงามน่ะ ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่อง สายสร้อยอาจขาดง่าย ๆ ยอมหรือ การเจรจาให้เปลี่ยนตัว จึงน่าจะมี หมาไนโจรร้าย จึงจำเป็นต้องเล่นให้สุดซอย เพื่อกลับมาบงการเอง เอง! หรือว่าจะมี “การปฏิบัติการอื่น” เปลี่ยนไพ่ใบใหม่ เดินหมากตัวใหม่ ก็น่าสนใจ แล้วจะเอาไพ่ใบไหนมาเล่น เอาหมากตัวไหนมาเดินล่ะ คุณทหารหวานใจเก่า หรือเหล่าดาราอินเตอร์ที่ CFR ส่งเข้ามาประกวด – หมาไนโจรร้าย ทางเลือกมีอยู่ 2 ทาง ถอยดีกว่า กลับไปตั้งหลักก่อน หรือจะใช้คติประจำใจหมาไน ข้าไม่ได้กิน พวกเอ็งก็อย่าหวัง เซียนแถวสำนักงานของชาติแห่งหนึ่ง ที่เพิ่งถูกมือดีปลดป้ายทิ้ง โทษฐานไม่เป็นสำนักงานของชาติ แต่เป็นของตระกูล กระซิบบอกมาว่า หมาไนครับลุง หมาไนไม่เคยเปลี่ยนสันดาน เอ้ย นิสัย ! (เดี๋ยวจะว่าหยาบคาย) – คุณทหาร โดนสื่อฟอกย้อม โยกซะศูนย์เสีย เดินเซอยู่นาน ไม่รู้ตอนนี้ศูนย์จะเข้าที่หรือยัง แต่ทหารก็มีหลายหน่วย หลายระดับ ทหารใหญ่บางคนที่คิดผิด เขาว่าไม่มีโอกาสคิดใหม่นะ แถมโอกาสจะอยู่บ้านเดิมอาจจะไม่มี ต้องหาที่เร่ร่อนเหมือนกัน (เวรกรรมมีจริง ! ) แต่เติบใหญ่มาจนบัดนี้ ปฎิญาณตนภายใต้ธงชัยเฉลิมพลมาหลายรอบ ไม่รู้ที่ยืน ตั้งศูนย์ไม่ตรง ก็ไปขายเต้าฮวยดีกว่า (ถ้ายังมีโอกาส) นะครับ – นางสาวแสนโง่ ไม่เขียนถึงเดี๋ยวจะน้อยใจ ทางเลือกหนูไม่มีมากหรอก อย่าไปเชื่อพวกพี่เลี้ยงใจร้ายเลยหนู ร่อนเร่ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวหน้าเหี่ยวพุงโตหมดนะ หนุ่ม ๆ เขาฝากติงมา อยู่ในคุกมันไม่สนุกนะคะ เสื้อผ้าหน้าผม ใครจะไปตบแต่งให้เช้งกะเด๊ะได้ทั้งวัน ไอ้นั่นมันคุกในหนังนะคะ คิดให้ดีนะหนู – เอ้า ! หมดแล้วหรือยัง ตัวเอกของเกมชิงเมือง แล้วกันลืมลุงกำนัน ลืมได้ยังไง เดินซะหน้ามะเมื่อมขนาดนั้น ไม่ต้องห่วงหรอก ดูการปราศัยของลุงกำนันแล้ว แกเอาตัวรอดทุกรายการหรอกน่า พูดงี้จับใจคนไปหมด ทั้งหนุ่ม ทั้งสาวจริง สาวปลอม แย่งกันกอด เฮอ! มวลมหาประชาชนนี่น่ารักจริง ๆ ขอให้รอดปลอดภัยแล้วกันนะลุงกำนัน ตัดสินใจเดินทางนี้แล้ว ต้องให้กำลังใจกันหน่อย อย่าตกร่องระหว่างทาง อย่าติดลมบนจนลงไม่เป็นก็แล้วกัน – แต่ในเกมชิงเมือง ตัวเอกสำคัญ ตัวเอก ที่ขาดไม่ได้คือมวลมหาประชาชน โปรดกลับไปอ่านบทความ มวลมหาประชาชนอีกรอบนะครับ อ่านซ้ำ ๆ ให้รู้จักมวลมหาประชาชน จริง ๆ ถ้าเราไม่มีมวลมหาประชาชน จำนวนมหาศาล เช่นนี้ มีจิตใจและการแสดงออกเช่นนี้ ในทุกเวที เรามาไม่ถึงตรงนี้นะครับ มวลมหาประชาชนมีเอกลักษณ์ และเป็นปัจจัยสำคัญในสงครามชิงเมือง ซึ่งทำให้ทั้งนักล่า หมาไน และยายแสนโง่ นั่นมันไปไม่เป็นเดินเซกันเป็นแถว ขณะที่เขียนนี้ ยังไม่รู้ว่าใครจะเลือกเล่นบทไหน จะจบอย่างไร แต่ไม่ว่าบทไหน และจะจบอย่างไร มันแค่จบ season แรกเท่านั้นเอง มวลมหาประชาชนยังจะต้องเดินทางอีกไกล สู่การปฏิวัติประชาชน ปฏิรูปบ้านเมืองอย่างแท้จริง จะต้องไม่เพียงมีความกล้าหาญอดทน ออกมาขับไล่โจรร้ายเท่านั้น season ต่อไปมันจะหนักขึ้น ต้องเตรียมตัวทำความเข้าใจกับสิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านเราและบ้านเขา อย่างชัดเจน มีเวลาก็หาหนังสือพระราชนิพนธ์ พระมหาชนกมาอ่านกันนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 มค 57
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีบดูด่วน เปิดหน้าครั้งแรก “กำนันลี” ตัวแสบตัวงาบหนองจาน (29/8/68)

    #TruthFromThailand
    #กำนันลี
    #หนองจาน
    #ThaiTimes
    #news1
    #shorts
    #ข่าวด่วน
    #ThailandPolitics
    #ชายแดนไทย
    #BorderConflict
    #scambodia
    รีบดูด่วน เปิดหน้าครั้งแรก “กำนันลี” ตัวแสบตัวงาบหนองจาน (29/8/68) #TruthFromThailand #กำนันลี #หนองจาน #ThaiTimes #news1 #shorts #ข่าวด่วน #ThailandPolitics #ชายแดนไทย #BorderConflict #scambodia
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 555,อ.วีระสุดยอดมาก ถ้าส่วนตัวเป็นนายกฯนะ จะให้อำนาจเป็นผู้ตรวจการมือขวาของนายกฯสำเร็จราชการแทนด้านปฏิวัติที่ดินทั่วประเทศเลย,นายกฯให้อำนาจเต็มที่ในการสั่งบัญชาการปฏิวัติและปฏิรูปที่ดินบนแผ่นดินไทยทั้งหมด,ให้ประชาชนคนไทยอยู่ดีมีสุขไม่โดยเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนค้าที่ดินทุกๆประเภท อาทิ นอมินีนาปรังของต่างชาติ ฉีกทิ้งกฎหมายให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ที่ดินอธิปไตยไทยทั้งหมด,ต่างชาติทุกๆคนไม่มีสิทธิถือครองและเป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินไทยทัังหมด สงวนให้เด็ดขาดเพื่อคนไทยสัญชาติไทยเท่านั้น แม้เช่าที่ดินบนแผ่นดินไทยก็มิได้,เป็นเพียงผู้เข้าอาศัยชั่วคราว ไปกลับเท่านั้น.และกรณีสาระพัดที่เกี่ยวกับที่ดิน มีเดอะทีมเฉพาะกาลจัดการทางตรงได้ รายงานที่หลังให้นายกฯทราบได้,แต่ถ้านายกฯเห็นสมควรแก้ไข จบที่นายกฯทั้งหมด.,
    ..ชัดเจนว่าไร้ความจริงใจใดๆ สามารถดำเนินการทางอาญาแก่หน่วยงาน และข้าราชการรัฐทั้งหมดในพื้นที่เกิดเหตุการณ์นี้ได้ โดน ม.157ทุกๆตัว ทั้งหน่วยงานที่ดินด้วย,นั่งแช่มากี่ปีแล้ว ตั้งแต่อ.วีระเดินเรื่องคือ2553 ก่อนยึดอำนาจปี57อีก,หลังยึดอำนาจ อำนาจเต็มมือเต็มตีน เป็นที่พึ่งแก่ประชาชนทั้งพื้นที่รับผิดชอบทั่วพรมแดนเขมรอีก,ย่อมาบ้านหนองจานยิ่งสามารถดำเนินการแก้ทุกข์ร้อนปัญหาของชาวบ้านได้ทันที ขับคนเขมรออกจากบ้านหนองจานได้ด้วยเพราะสงครามภายในเขมรฆ่าล้างเผ่าพันธ์มันยุติแล้วจะมาอยู่หาโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงทำไมอีกบนแผ่นดินไทย ก็สมควรกลับเขมรดินแดนตนซึ่งไร้สงครามฆ่าล้างเผ่าเขมรมรึงกันเองแล้ว,ข้าราชการไทยท้องถิ่นติดพื้นที่ ค่าจริงเป็นอย่างไรจริงต้องดำเนินการบนแนวทางที่เหมาะสม สมควรเป็นไปให้ถูกทางถูกต้องชอบธรรมแก่ชาวบ้าน,ขี้หมาขี้แมวแต่มีใบ ทบ. เขาก็เสมือนมีสิทธิ์ชอบธรรมแล้ว ปู่ย่าตายายเขาถางป่าปักเขตดินแดนตนไว้ ชาวบ้านกันเองเขารู้เห็นกันเองหมดล่ะว่าที่ดินนี้ของใคร ใครปักใครจองใครเป็นเจ้าของแล้ว ตรงไหนของส่วนรวมในชุมชนเช่นหนองคลองบึงก็ว่า สาธารณะเขาก็รู้หมด,สรุปข้าราชการท้องถิ่นตลอดนายอำเภอ อบต.อบท. ผญบ.กำนัน ผู้ว่าฯ ย่อมรู้เห็นในค่าจริงหมด,ทหารภาค1ทั้งภาคก็ผิดด้วย ตำรวจพื้นที่นี้ก็ผิดด้วย ,และ.
    ..จริงๆ ผบ.ทบ.สูงสุด หรือ ผบ.เหล่าทัพสูงสุด สมควรออกหนังสือราชการทางทหาร สั่งย้ายแม่ทัพภาค1และทีมงานส่วนหัวทั้งหมดทันที,เข้าไปส่วนกลางเพื่อพิจารณาวินัยทหาร,ตลอดตำรวจในภาคนีัและพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด ต้องถูกสั่งย้ายเข้าส่วนกลางเช่นกัน เพราะอ.วีระ หรือกูรูมากมาย ต่างเชื่อว่ามีการค้าขายสาระพัดเถื่อนตรงจุดนี้อย่างโคตรไม่ธรรมดานั้น,เพื่อกำจัดอำนาจอิทธิพลเดิมตนที่รากงอกมากมายเป็นฐานผู้มีอิทธิพลใหญ่ก็สามารถตีความได้จากกูรูมากมายชี้เป้าแล้วย่อมมีมูล,แม่ทัพทหารสูงสุดควบคุมทุกๆเหล่าทัพ หรือผบ.เหล่าทัพ หรือ ผบ.ทบ.สูงสุงของทหารบก ท่านต้องสั่งการเรื่องอย่างเด็ดขาด เพราะเชื่อมโยงถึงอธิปไตยของแผ่นดินไทยด้วยแล้วอย่างเด่นชัด,ย้ายแม่ทัพภาค1พ้นตำแหน่งเข้าส่วนกลางก่อน,ย้ายแม่ทัพภาค3-4มาแทนก็ได้ทั้งทีมงานสนิทท่านมาจัดการความไม่สงบสุขและดินแดนอธิปไตยไทยเรากับเขมรให้เด็ดขาดอย่างจริงจัง.,หรือให้รองแม่ทัพภาค2เลื่อนขั้นมาคุมกำลังภาค1เฉพาะกาลไปก่อน ,ผลงานดีเช่นยึดพื้นที่คืนแบบแม่ทัพภาค2ได้11จุด สามารถขึ้นดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาค1ได้ทันที,ตามผลงาน,เรา..ประชาชนต้องการไว้วางใจทหารที่รักชาติรักบ้านรักเมืองทั้งทางกายและใจจริงมิใช่ทางปาก,พฤติกรรมการแสดงออกในการเด็ดขาดจริงจังจริงใจเพื่อถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดช่วงวันที24-28ก.ค.2568แม่ทัพภาค1ในปัจจุบันถือว่าไม่เป็นที่ไว้วางใจแก่เรา..ประชาชนคนไทยทั้งชาติแล้ว มิอาจทำใจยอมรับได้ด้วยทหารเราตลอดแนวพรมแดนเช่นอีสานใต้ต่อสู้ในแลกเป็นแลกตาย ตายจริงพิการจริง ทุ่มพละกำลังทั้ง้ลือดเนื้อชีวิตแม้แค่พลทหาร ทั้งทหารสมัครใหม่ต่างเต็มที่สุดกำลังจนยึดพื้นที่จากเขมรสำเร็จเป็นอันมากจากเขมรยึดครองไปกว่า17ปีอย่างบัดสบของฝีมือรัฐบาลในอดีต,แต่เมื่อหันมามองฝั่งแม่ทัพภาค1จากที่เราคาดหวังเป็นอันมากและเข้าใจว่าเด็ดขาดแม้ไร้สื่อออกช่องใดๆต้องปฏิบัติการถีบเขมรออกจากแผ่นดินทั้งหมดในทุกๆตารางนิ้วได้แน่เพราะเขตแดนชัดเจนกว่าอีสานใต้ไร้หลักหมุดขนาดนั้นก็ว่าในระยะเวลา24-28ก.ค.68นี้ แต่เป็นการน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง,ไม่สมที่เรา..ประชาชนคนไทยคาดหวังสูงว่าจะถีบคนเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดได้จริง,ซึ่งภาระกิจหน้าที่ทหารพรมแดนตลอดแนวต้องเข้าใจตรงกันในหน้าที่ทหารองค์รวมร่วมการศึกนี้,แม่ทัพภาค1ไม่สมควรเป็นอีกต่อไปจากผลงานนี้ ไร้ความซื่อสัตย์จริงใจจริงต่อการกำจัดภัยคุกคามรุกรานอธิปไตยชาติไทยตนหรือตกประเมินติดลบทั้งทีมงานและคณะภาค1ทั้งหมด,เสียเกียรติทหารหาญลูกหลานของประชาชนคนไทยที่เข้าไปเป็นทหารด้วยวิธีทั้งเกณฑ์ทหารคัดเลือก ทั้งสมัครเต็มใจเพื่อรับใช้ชาติ ท่านมิคู่ควรเป็นแม่ทัพ นำทัพทหารใดๆสู่สมรรบกับข้าศึกศัตรูไทยเลย,ทั้งกองทัพและไพร่พลทหารเราอาจเสียชีวิตทั้งหมดในสนามรบกับศัตรูได้.เราคาดหวังสูงมากเชื่อมั่นเชื่อใจสูงด้วย,ท่านทรยศน้ำใจเรา..ประชาชนคนไทย,เรา..ไม่ต้องการส่งต่อสงครามนี้แก่คนไทยรุ่นต่อไปอีกแล้ว ต้องจบที่รุ่นเรา.,เด็ดขาดเขมรสันดานพระยาละแวกต้องสิ้นชาติเขมรด้วยมิอาจให้ทวนกระแสมาสร้างภัยพิบัติทางสงครามแก่ประเทศไทยเราได้อีก,เขมรต้องถูกกำจัดนั้นเอง,ไม่ใช่วิสัยไทยต้องปกป้องชาติเขมรที่เป็นภัยรุกรานเราจริงในเวลานี้คุกคามชีวิตประชาชนเราจริงจนยิงระเบิดใส่จริงทำให้เด็กๆผู้บริสุทธิ์เราพลเมืองเราเสียชีวิตและนอกรัศมีแนวรบด้วย,จิตใจท่านต้องเป็นอธิปไตยไทยเท่านั้น เขมรคือสิ่งที่ต้องทำลายให้สิ้นซากเช่นนั้นเมื่อมันเจตนาทำแบบครั้งแรกได้ย่อมมีครั้งต่อๆไปแน่นอน,เขมรจึงต้องสิ้นชาติสถานะเดียว ตีงูมิใช่ตีให้หลังหักต้องฆ่าด้วย.,เขมรก็เช่นกัน มันต้องการฆ่ายึดทำลายเราชัดเจน เก็บไว้จ่งไว้เฮ็ดหยัง!!!.

    https://youtube.com/watch?v=NAhHUXaDS_8&si=l2a5IudsifBLmhiK
    555,อ.วีระสุดยอดมาก ถ้าส่วนตัวเป็นนายกฯนะ จะให้อำนาจเป็นผู้ตรวจการมือขวาของนายกฯสำเร็จราชการแทนด้านปฏิวัติที่ดินทั่วประเทศเลย,นายกฯให้อำนาจเต็มที่ในการสั่งบัญชาการปฏิวัติและปฏิรูปที่ดินบนแผ่นดินไทยทั้งหมด,ให้ประชาชนคนไทยอยู่ดีมีสุขไม่โดยเอารัดเอาเปรียบจากนายทุนค้าที่ดินทุกๆประเภท อาทิ นอมินีนาปรังของต่างชาติ ฉีกทิ้งกฎหมายให้ต่างชาติมีกรรมสิทธิ์ที่ดินอธิปไตยไทยทั้งหมด,ต่างชาติทุกๆคนไม่มีสิทธิถือครองและเป็นกรรมสิทธิ์ในที่ดินไทยทัังหมด สงวนให้เด็ดขาดเพื่อคนไทยสัญชาติไทยเท่านั้น แม้เช่าที่ดินบนแผ่นดินไทยก็มิได้,เป็นเพียงผู้เข้าอาศัยชั่วคราว ไปกลับเท่านั้น.และกรณีสาระพัดที่เกี่ยวกับที่ดิน มีเดอะทีมเฉพาะกาลจัดการทางตรงได้ รายงานที่หลังให้นายกฯทราบได้,แต่ถ้านายกฯเห็นสมควรแก้ไข จบที่นายกฯทั้งหมด., ..ชัดเจนว่าไร้ความจริงใจใดๆ สามารถดำเนินการทางอาญาแก่หน่วยงาน และข้าราชการรัฐทั้งหมดในพื้นที่เกิดเหตุการณ์นี้ได้ โดน ม.157ทุกๆตัว ทั้งหน่วยงานที่ดินด้วย,นั่งแช่มากี่ปีแล้ว ตั้งแต่อ.วีระเดินเรื่องคือ2553 ก่อนยึดอำนาจปี57อีก,หลังยึดอำนาจ อำนาจเต็มมือเต็มตีน เป็นที่พึ่งแก่ประชาชนทั้งพื้นที่รับผิดชอบทั่วพรมแดนเขมรอีก,ย่อมาบ้านหนองจานยิ่งสามารถดำเนินการแก้ทุกข์ร้อนปัญหาของชาวบ้านได้ทันที ขับคนเขมรออกจากบ้านหนองจานได้ด้วยเพราะสงครามภายในเขมรฆ่าล้างเผ่าพันธ์มันยุติแล้วจะมาอยู่หาโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงทำไมอีกบนแผ่นดินไทย ก็สมควรกลับเขมรดินแดนตนซึ่งไร้สงครามฆ่าล้างเผ่าเขมรมรึงกันเองแล้ว,ข้าราชการไทยท้องถิ่นติดพื้นที่ ค่าจริงเป็นอย่างไรจริงต้องดำเนินการบนแนวทางที่เหมาะสม สมควรเป็นไปให้ถูกทางถูกต้องชอบธรรมแก่ชาวบ้าน,ขี้หมาขี้แมวแต่มีใบ ทบ. เขาก็เสมือนมีสิทธิ์ชอบธรรมแล้ว ปู่ย่าตายายเขาถางป่าปักเขตดินแดนตนไว้ ชาวบ้านกันเองเขารู้เห็นกันเองหมดล่ะว่าที่ดินนี้ของใคร ใครปักใครจองใครเป็นเจ้าของแล้ว ตรงไหนของส่วนรวมในชุมชนเช่นหนองคลองบึงก็ว่า สาธารณะเขาก็รู้หมด,สรุปข้าราชการท้องถิ่นตลอดนายอำเภอ อบต.อบท. ผญบ.กำนัน ผู้ว่าฯ ย่อมรู้เห็นในค่าจริงหมด,ทหารภาค1ทั้งภาคก็ผิดด้วย ตำรวจพื้นที่นี้ก็ผิดด้วย ,และ. ..จริงๆ ผบ.ทบ.สูงสุด หรือ ผบ.เหล่าทัพสูงสุด สมควรออกหนังสือราชการทางทหาร สั่งย้ายแม่ทัพภาค1และทีมงานส่วนหัวทั้งหมดทันที,เข้าไปส่วนกลางเพื่อพิจารณาวินัยทหาร,ตลอดตำรวจในภาคนีัและพื้นที่รับผิดชอบทั้งหมด ต้องถูกสั่งย้ายเข้าส่วนกลางเช่นกัน เพราะอ.วีระ หรือกูรูมากมาย ต่างเชื่อว่ามีการค้าขายสาระพัดเถื่อนตรงจุดนี้อย่างโคตรไม่ธรรมดานั้น,เพื่อกำจัดอำนาจอิทธิพลเดิมตนที่รากงอกมากมายเป็นฐานผู้มีอิทธิพลใหญ่ก็สามารถตีความได้จากกูรูมากมายชี้เป้าแล้วย่อมมีมูล,แม่ทัพทหารสูงสุดควบคุมทุกๆเหล่าทัพ หรือผบ.เหล่าทัพ หรือ ผบ.ทบ.สูงสุงของทหารบก ท่านต้องสั่งการเรื่องอย่างเด็ดขาด เพราะเชื่อมโยงถึงอธิปไตยของแผ่นดินไทยด้วยแล้วอย่างเด่นชัด,ย้ายแม่ทัพภาค1พ้นตำแหน่งเข้าส่วนกลางก่อน,ย้ายแม่ทัพภาค3-4มาแทนก็ได้ทั้งทีมงานสนิทท่านมาจัดการความไม่สงบสุขและดินแดนอธิปไตยไทยเรากับเขมรให้เด็ดขาดอย่างจริงจัง.,หรือให้รองแม่ทัพภาค2เลื่อนขั้นมาคุมกำลังภาค1เฉพาะกาลไปก่อน ,ผลงานดีเช่นยึดพื้นที่คืนแบบแม่ทัพภาค2ได้11จุด สามารถขึ้นดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาค1ได้ทันที,ตามผลงาน,เรา..ประชาชนต้องการไว้วางใจทหารที่รักชาติรักบ้านรักเมืองทั้งทางกายและใจจริงมิใช่ทางปาก,พฤติกรรมการแสดงออกในการเด็ดขาดจริงจังจริงใจเพื่อถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดช่วงวันที24-28ก.ค.2568แม่ทัพภาค1ในปัจจุบันถือว่าไม่เป็นที่ไว้วางใจแก่เรา..ประชาชนคนไทยทั้งชาติแล้ว มิอาจทำใจยอมรับได้ด้วยทหารเราตลอดแนวพรมแดนเช่นอีสานใต้ต่อสู้ในแลกเป็นแลกตาย ตายจริงพิการจริง ทุ่มพละกำลังทั้ง้ลือดเนื้อชีวิตแม้แค่พลทหาร ทั้งทหารสมัครใหม่ต่างเต็มที่สุดกำลังจนยึดพื้นที่จากเขมรสำเร็จเป็นอันมากจากเขมรยึดครองไปกว่า17ปีอย่างบัดสบของฝีมือรัฐบาลในอดีต,แต่เมื่อหันมามองฝั่งแม่ทัพภาค1จากที่เราคาดหวังเป็นอันมากและเข้าใจว่าเด็ดขาดแม้ไร้สื่อออกช่องใดๆต้องปฏิบัติการถีบเขมรออกจากแผ่นดินทั้งหมดในทุกๆตารางนิ้วได้แน่เพราะเขตแดนชัดเจนกว่าอีสานใต้ไร้หลักหมุดขนาดนั้นก็ว่าในระยะเวลา24-28ก.ค.68นี้ แต่เป็นการน่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง,ไม่สมที่เรา..ประชาชนคนไทยคาดหวังสูงว่าจะถีบคนเขมรออกจากแผ่นดินไทยทั้งหมดได้จริง,ซึ่งภาระกิจหน้าที่ทหารพรมแดนตลอดแนวต้องเข้าใจตรงกันในหน้าที่ทหารองค์รวมร่วมการศึกนี้,แม่ทัพภาค1ไม่สมควรเป็นอีกต่อไปจากผลงานนี้ ไร้ความซื่อสัตย์จริงใจจริงต่อการกำจัดภัยคุกคามรุกรานอธิปไตยชาติไทยตนหรือตกประเมินติดลบทั้งทีมงานและคณะภาค1ทั้งหมด,เสียเกียรติทหารหาญลูกหลานของประชาชนคนไทยที่เข้าไปเป็นทหารด้วยวิธีทั้งเกณฑ์ทหารคัดเลือก ทั้งสมัครเต็มใจเพื่อรับใช้ชาติ ท่านมิคู่ควรเป็นแม่ทัพ นำทัพทหารใดๆสู่สมรรบกับข้าศึกศัตรูไทยเลย,ทั้งกองทัพและไพร่พลทหารเราอาจเสียชีวิตทั้งหมดในสนามรบกับศัตรูได้.เราคาดหวังสูงมากเชื่อมั่นเชื่อใจสูงด้วย,ท่านทรยศน้ำใจเรา..ประชาชนคนไทย,เรา..ไม่ต้องการส่งต่อสงครามนี้แก่คนไทยรุ่นต่อไปอีกแล้ว ต้องจบที่รุ่นเรา.,เด็ดขาดเขมรสันดานพระยาละแวกต้องสิ้นชาติเขมรด้วยมิอาจให้ทวนกระแสมาสร้างภัยพิบัติทางสงครามแก่ประเทศไทยเราได้อีก,เขมรต้องถูกกำจัดนั้นเอง,ไม่ใช่วิสัยไทยต้องปกป้องชาติเขมรที่เป็นภัยรุกรานเราจริงในเวลานี้คุกคามชีวิตประชาชนเราจริงจนยิงระเบิดใส่จริงทำให้เด็กๆผู้บริสุทธิ์เราพลเมืองเราเสียชีวิตและนอกรัศมีแนวรบด้วย,จิตใจท่านต้องเป็นอธิปไตยไทยเท่านั้น เขมรคือสิ่งที่ต้องทำลายให้สิ้นซากเช่นนั้นเมื่อมันเจตนาทำแบบครั้งแรกได้ย่อมมีครั้งต่อๆไปแน่นอน,เขมรจึงต้องสิ้นชาติสถานะเดียว ตีงูมิใช่ตีให้หลังหักต้องฆ่าด้วย.,เขมรก็เช่นกัน มันต้องการฆ่ายึดทำลายเราชัดเจน เก็บไว้จ่งไว้เฮ็ดหยัง!!!. https://youtube.com/watch?v=NAhHUXaDS_8&si=l2a5IudsifBLmhiK
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเปิดเดือด ดีลลับมาก ลุงกำนัน-ลุงตู่!!! (25/8/68)

    #TruthFromThailand
    #สนธิลิ้มทองกุล
    #ลุงกำนัน
    #ลุงตู่
    #ดีลลับการเมือง
    #ThaiTimes
    #news1
    #shorts
    #ThailandPolitics
    #ข่าวการเมือง
    #ดราม่าการเมือง
    สนธิเปิดเดือด ดีลลับมาก ลุงกำนัน-ลุงตู่!!! (25/8/68) #TruthFromThailand #สนธิลิ้มทองกุล #ลุงกำนัน #ลุงตู่ #ดีลลับการเมือง #ThaiTimes #news1 #shorts #ThailandPolitics #ข่าวการเมือง #ดราม่าการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (1)
    เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1974 นาย Henry Kissinger ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง รมว.กลาโหม รมว. การเกษตร ผอ. สำนักงานข่าวกรอง (CIA) ผช.รมว. กลาโหม และผู้บริหารหน่วยงานพัฒนาด้านต่างประเทศ (AID) เกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศ เนื่องมาจากการเจริญเติบโตของประชากรโลก
    หนังสือดังกล่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดี Nixon สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยใช้วิธีการประมาณการหลายๆ แบบ ในแต่ละแบบจะต้องมีการประเมินถึงอัตราการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะของประเทศที่ยากจน ความต้องการของอเมริกาเกี่ยวกับ การส่งออกสินค้าประเภทอาหาร ปัญหาเกี่ยวกับการค้า ที่อเมริกาอาจจะต้องเผชิญ เนื่องจากการแข่งขันด้านทรัพยากร และความเป็นไปได้ที่การเจริญเติบโตของประชากรดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคกับ นโยบายต่างประเทศ และความไม่มั่นคงระหว่างประเทศ
    การศึกษาดังกล่าวจะต้องเสนอวิธีดำเนินการที่เป็นไปได้ สำหรับอเมริกาในการจัดการปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยต้องให้ความสำคัญ ในประเด็นต่อไปนี้ด้วย
    – อเมริกาจำเป็นต้องคิดวิธีการใหม่ ๆ หรือไม่ ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว
    – เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คิดขึ้นมา เพื่อลดการเจริญเติบโต จะต้องได้ผลดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่
    – อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือในด้านนี้ ผ่านหน่วยงานใด และควรจะเป็นสนธิสัญญาแบบใด คู่สัญญา 2 ฝ่าย หลายฝ่าย หรือแบบลับเฉพาะ
    เขียนมาซะยาว สรุปสั้น ๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงว่า การที่ประเทศจนๆ จะมีอัตราการขยายตัวของพลเมืองเพิ่มสูงเกินไป จะมีผลกระทบกับทรัพยากรของประเทศนั้น และทำให้เป็นปัญหากับความไม่มั่นคงของอเมริกา
    เอะ! เรื่องมันก็ดูธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย แล้วจะมาเล่าให้เมื่อยมือคนเขียน เมื่อยตาคนอ่านทำไม
    เมื่อได้รับคำสั่งจากนาย Kissinger สภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา (United States National Security) ก็รีบทำการศึกษาวิจัย กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาที่ประธานาธิบดี Nixon หลุดจากตำแหน่ง เพราะคดี Watergate ไปเสียแล้ว นาย Gerald Ford ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน มาถึงก็รีบรับไม้ต่อ เอาข้อเสนอตาม บันทึกลับ NSSM 200 ไปประกาศใช้เป็นนโยบายความมั่นคงของประเทศในปี ค.ศ. 1975 และให้อยู่ใต้การกำกับดูแลของนาย Kissinger ซึ่งก็ยังทำหน้าที่เป็น ครมว.ตปท. อยู่เหมือนเดิมร่วมกับนาย Brent Scowcroft (ซึ่งภายหลังได้มาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศแทนนาย Kissinger) และมี ผอ. CIA ชื่อ นาย George Bush (ตัวพ่อ) เป็นผู้ร่วมทีมกำกับการแสดงกับ รมว.การคลังรมว.กลาโหม และ รมว.การเกษตร
    ประเทศเป้าหมาย ที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของ NSSM 200 มี 13 ประเทศ คือ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ ตุรกี ไนจีเรีย อียิปต์ เอธิโอเปีย เมกซิโก โคลัมเบีย และบราซิล (ไง! เริ่มตาลุกขึ้นมาหน่อยละซี พอเห็นชื่อไทยแลนด์ สมันน้อยตื่นเร็ว!)
    อะไรทำให้นาย Kissinger คิดเรื่องนี้ เสนอนโยบายนี้ และในภายหลังได้กลายเป็นนโยบายระดับประเทศด้านความมั่นคงของอเมริกา อย่างปิดลับถึง 15 ปี และทำไมสมันน้อยถึงได้เข้ารอบไปอยู่ใน 13 ประเทศ กับเขาด้วย อ่านต่อไปน่าพี่น้อง ขืนบอกกันง่ายๆ เดี๋ยวคนอ่านหายหมด เดี๋ยวนี้กว่าจะได้คนอ่านนิทานไม่ง่ายนะ เขาไปร่วมไล่โจรกับลุงกำนันกันหมดแล้ว

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่ิองจริง เรื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 2 : NSSM 200 เอกสารลับซุกลึก (1) เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ.1974 นาย Henry Kissinger ได้มีหนังสือแจ้งไปยัง รมว.กลาโหม รมว. การเกษตร ผอ. สำนักงานข่าวกรอง (CIA) ผช.รมว. กลาโหม และผู้บริหารหน่วยงานพัฒนาด้านต่างประเทศ (AID) เกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคง และผลประโยชน์ของอเมริกาในต่างประเทศ เนื่องมาจากการเจริญเติบโตของประชากรโลก หนังสือดังกล่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดี Nixon สั่งให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ ทำการศึกษาเรื่องดังกล่าว โดยใช้วิธีการประมาณการหลายๆ แบบ ในแต่ละแบบจะต้องมีการประเมินถึงอัตราการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะของประเทศที่ยากจน ความต้องการของอเมริกาเกี่ยวกับ การส่งออกสินค้าประเภทอาหาร ปัญหาเกี่ยวกับการค้า ที่อเมริกาอาจจะต้องเผชิญ เนื่องจากการแข่งขันด้านทรัพยากร และความเป็นไปได้ที่การเจริญเติบโตของประชากรดังกล่าวจะเป็นอุปสรรคกับ นโยบายต่างประเทศ และความไม่มั่นคงระหว่างประเทศ การศึกษาดังกล่าวจะต้องเสนอวิธีดำเนินการที่เป็นไปได้ สำหรับอเมริกาในการจัดการปัญหาเรื่องการเจริญเติบโตของประชากรโลก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา โดยต้องให้ความสำคัญ ในประเด็นต่อไปนี้ด้วย – อเมริกาจำเป็นต้องคิดวิธีการใหม่ ๆ หรือไม่ ในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว – เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คิดขึ้นมา เพื่อลดการเจริญเติบโต จะต้องได้ผลดีกว่าสภาพที่เป็นอยู่ – อเมริกาจะให้ความช่วยเหลือในด้านนี้ ผ่านหน่วยงานใด และควรจะเป็นสนธิสัญญาแบบใด คู่สัญญา 2 ฝ่าย หลายฝ่าย หรือแบบลับเฉพาะ เขียนมาซะยาว สรุปสั้น ๆ ว่า อเมริกาเป็นห่วงว่า การที่ประเทศจนๆ จะมีอัตราการขยายตัวของพลเมืองเพิ่มสูงเกินไป จะมีผลกระทบกับทรัพยากรของประเทศนั้น และทำให้เป็นปัญหากับความไม่มั่นคงของอเมริกา เอะ! เรื่องมันก็ดูธรรมดาๆ ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้นเลย แล้วจะมาเล่าให้เมื่อยมือคนเขียน เมื่อยตาคนอ่านทำไม เมื่อได้รับคำสั่งจากนาย Kissinger สภาความมั่นคงแห่งชาติของอเมริกา (United States National Security) ก็รีบทำการศึกษาวิจัย กว่าจะเสร็จก็เป็นเวลาที่ประธานาธิบดี Nixon หลุดจากตำแหน่ง เพราะคดี Watergate ไปเสียแล้ว นาย Gerald Ford ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน มาถึงก็รีบรับไม้ต่อ เอาข้อเสนอตาม บันทึกลับ NSSM 200 ไปประกาศใช้เป็นนโยบายความมั่นคงของประเทศในปี ค.ศ. 1975 และให้อยู่ใต้การกำกับดูแลของนาย Kissinger ซึ่งก็ยังทำหน้าที่เป็น ครมว.ตปท. อยู่เหมือนเดิมร่วมกับนาย Brent Scowcroft (ซึ่งภายหลังได้มาเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประเทศแทนนาย Kissinger) และมี ผอ. CIA ชื่อ นาย George Bush (ตัวพ่อ) เป็นผู้ร่วมทีมกำกับการแสดงกับ รมว.การคลังรมว.กลาโหม และ รมว.การเกษตร ประเทศเป้าหมาย ที่อยู่ภายใต้การดำเนินการของ NSSM 200 มี 13 ประเทศ คือ อินเดีย บังคลาเทศ ปากีสถาน อินโดนีเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ ตุรกี ไนจีเรีย อียิปต์ เอธิโอเปีย เมกซิโก โคลัมเบีย และบราซิล (ไง! เริ่มตาลุกขึ้นมาหน่อยละซี พอเห็นชื่อไทยแลนด์ สมันน้อยตื่นเร็ว!) อะไรทำให้นาย Kissinger คิดเรื่องนี้ เสนอนโยบายนี้ และในภายหลังได้กลายเป็นนโยบายระดับประเทศด้านความมั่นคงของอเมริกา อย่างปิดลับถึง 15 ปี และทำไมสมันน้อยถึงได้เข้ารอบไปอยู่ใน 13 ประเทศ กับเขาด้วย อ่านต่อไปน่าพี่น้อง ขืนบอกกันง่ายๆ เดี๋ยวคนอ่านหายหมด เดี๋ยวนี้กว่าจะได้คนอ่านนิทานไม่ง่ายนะ เขาไปร่วมไล่โจรกับลุงกำนันกันหมดแล้ว คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญสมเด็จพระศรีนพรัตน์ธนบดี หลวงพ่อใหญ่ รุ่น1 วัดนพรัตนาราม จ.ปทุมธานี
    เหรียญสมเด็จพระศรีนพรัตน์ธนบดี หลวงพ่อใหญ่ รุ่น1 วัดนพรัตนาราม อำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี //พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากมายหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม ทำให้เป็นที่รักแก่คนทั่วไป แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจ และสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และส่งเสริมความสำเร็จในด้านต่างๆ นำความสุข ความเจริญ และความสำเร็จมาสู่ชีวิต >>

    ** วัดนพรัตนาราม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470 กำนันตำบลศาลาคุ ณ ขณะนั้น เป็นผู้ชักชวนชาวบ้านสร้างวัด ร่วมกันมอบที่ดินให้คนละ 2 งานบ้าง 3 งานบ้าง รวมแล้วได้ที่ดินเนื้อที่ 26 ไร่ 77 ตารางวา บางคนถวายเรือน บ้านทรงไทย ให้มาปลูกสร้างเป็นกุฏิ ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2470 ได้มีการประชุมของกลุ่มผู้สร้างวัดเพื่อหารือชื่อของวัด โดยมีนายเต่า ปักครึก เสนอชื่อว่า "วัดนพรัตนาราม" หลายคนพอใจและเห็นด้วยกับชื่อนี้ จากนั้นได้เสนอของตั้งวัดในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยใช้ชื่อวัดนพรัตนารามนับแต่บัดนั้น >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญสมเด็จพระศรีนพรัตน์ธนบดี หลวงพ่อใหญ่ รุ่น1 วัดนพรัตนาราม จ.ปทุมธานี เหรียญสมเด็จพระศรีนพรัตน์ธนบดี หลวงพ่อใหญ่ รุ่น1 วัดนพรัตนาราม อำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี //พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากมายหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม ทำให้เป็นที่รักแก่คนทั่วไป แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจ และสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และส่งเสริมความสำเร็จในด้านต่างๆ นำความสุข ความเจริญ และความสำเร็จมาสู่ชีวิต >> ** วัดนพรัตนาราม อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2470 กำนันตำบลศาลาคุ ณ ขณะนั้น เป็นผู้ชักชวนชาวบ้านสร้างวัด ร่วมกันมอบที่ดินให้คนละ 2 งานบ้าง 3 งานบ้าง รวมแล้วได้ที่ดินเนื้อที่ 26 ไร่ 77 ตารางวา บางคนถวายเรือน บ้านทรงไทย ให้มาปลูกสร้างเป็นกุฏิ ต่อมาในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2470 ได้มีการประชุมของกลุ่มผู้สร้างวัดเพื่อหารือชื่อของวัด โดยมีนายเต่า ปักครึก เสนอชื่อว่า "วัดนพรัตนาราม" หลายคนพอใจและเห็นด้วยกับชื่อนี้ จากนั้นได้เสนอของตั้งวัดในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยใช้ชื่อวัดนพรัตนารามนับแต่บัดนั้น >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อดีตชาติหลวงพ่อฤาษี 13 ชาติ..

    #ที่เกิดตั้งแต่สมัยโยนกนคร #จนถึงรัตนโกสินทร์

    ลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็นปึกแผ่น และเพื่อช่วยเหลือคนไทย และช่วยให้พระพุทธศาสนามีอายุครบ 5000 ปี

    #วาระที่ 1 เกิดเป็นพระเจ้ามังราย รัชกาลที่ 2 แห่งโยนกนคร เป็นลูกชายพระเจ้าอชุตราช ในชาตินั้นท่านเป็นผู้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ดอยตุง โดยการนำมาของพระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์

    #วาระที่ 2 เกิดสมัยโยนก เป็นเณรน้อยอายุ 7 ปีทรงฌานสมาบัติ แต่ได้ถูกขอมดำกระทำย่ำยี เวลานั้นขอมดำมายึดเมืองโยนกนครได้แล้ว แล้วทำการกดขี่ข่มเหงรังแกคนไทย
    เณรจึงเข้าฌานสมาบัติ ตั้งจิตอธิษฐานว่า เกิดคราวหน้าขอให้ได้เกิดมาเป็นคนไทย และได้ช่วยคนไทยทุกแง่ทุกมุม
    มิไม่ใช่เฉพาะการรบ การเศรษฐกิจ การปกครอง แม้แต่การรบทุกอย่างให้ครบถ้วน ให้คนไทยพ้นจากความเป็นทาส "พอตั้งจิตอธิษฐานก็ไม่ถอนจากฌานสมาบัติ ก็นั่งทรงฌานอย่างนั้นจนตาย แล้วไปเกิดเป็นพรหม ชั้นที่ 11

    #การเกิดครั้งที่3 หลังจากตายจากเณรน้อย ไปเป็นพรหมชั้นที่11ได้เพียง1ปีเศษ ก็ลงมาเกิดเป็น "พระเจ้าพรหม มหาราช" เป็นโอรสของพระเจ้าพังคราช รัชกาลที่ 37 ในสมัยโยนกนคร มีพี่ชายชื่อทุกภิขะ( บริเวณพระธาตุจอมกิตติ ดอยตุง เป็นเขตเมืองโยนกนคร) เกิดพร้อมสหชาติที่เป็นพรหม เทวดา ลงมาเกิดพร้อมกัน 250 คน ทั้ง 250 คน เกิดเป็นผู้ชายทั้งหมด พรหมอีกองค์นึงเกิดเป็นช้างประกายแก้ว ช้างคู่บารมีพระเจ้าพรหม ลงมาเกิดเพื่อกู้ชาติให้พ้นความเป็นทาสจากขอมดำ และทำสำเร็จด้วย ทุกวันนี้วันอาสาฬหบูชาที่วัดท่าซุงก็มีการแห่ชัยชนะพระเจ้าพรหมทุกๆปี

    #การเกิดในวาระที่4 หลังจากที่ตายจากการเป็นพระเจ้าพรหมสมัยโยนก แล้วเข้าฌาณตาย กลับไปเป็นพรหม เวลาผ่านไปอีก 800 ปีลงมาเกิดเป็นพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตอนเด็กมีนามว่าอรุณกุมาร เป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก มีวิชาอาคม มีวาจาสิทธิ์ สามารถเสกขอมให้เป็นหินได้ และขยายอาณาเขตของประเทศไทย (ตอนนั้นยังไม่เป็นเทศไทย )กว้างใหญ่ไพศาล ยึดมอญ พม่าขอมไว้ได้หมด อาณาจักรยาวเหยียด เวลานั้นคือก่อนเมืองสุโขทัย 700 ปีเศษ ก่อนหน้าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ 700ประมาณปีเศษ

    #วาระที่5 เกิดเป็น"พ่อขุนศรีเมืองมาน"( เป็นพ่อของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ แห่งอณาจักรสุโขทัย) ตายจากพระร่วงโรจนฤทธิ์ก็เข้าฌานตาย กลับไปเป็นพรหมเช่นเดิม กลับมาเกิดวาระที่5 เป็นพ่อขุนศรีเมืองมาน มีสหชาติเกิดมาด้วยคือ พ่อขุนน้าวนําถมลงมาช่วยกู้ชาติไทยจากขอมดำ ขยายอาณาเขตประเทศไทยไปถึงสิงคโปร์ มีภรรยาชื่อพรรณวดีศรีโสภาศ เป็นเมียเอก และมีเมียราษฏร์อีก 29 คน พอเมียเอกตาย ก็บวชไม่สึกอีกเลย เข้าฌานตายแล้วไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม

    #วาระที่6 "ขุนหลวงพระงั่ว" รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาคนไทยเกิดแบ่งเป็น 2 พวก จึงต้องลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็น1เดียว ลงมาเกิดในราชวงศ์อู่ทอง เป็น"ขุนหลวงพระงั่ว" มาปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ จึงนิมนต์พระสงฆ์มาร่าง"ไตรภูมิพระร่วง
    ไตรภูมิพระร่วง พระร่วงไม่ได้ทำ
    ท่านเป็นเพียงแต่ศาสนูปถัมภ์
    ไตรภูมิพระร่วง เป็นการร่วมมือกันระหว่างสุโขทัยและกรุงศรี
    และยังได้ร่วมกันสร้างพระพุทธชินราชพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศากยมุนีขึ้นมาเป็นมิ่งขวัญของเมืองไทย เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าประเทศไทยจะทรงตัวได้ด้วยเหตุ 3 อย่างด้วยกัน
    คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    พระพุทธชินราช หมายถึง พระมหากษัตริย์ พระพุทธชินสีห์ หมายถึง พระศาสนา พระศากยมุนี หมายถึง ชาติ
    การสร้างครั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของท้าวโกสีย์สักกะเทวราชให้พระวิษณุกรรมมาช่วย ขุนหลวงพระงั่วได้มารวมสุโขทัยกับอยุธยาเป็นประเทศเดียวกัน

    #เกิดวาระที่7 ต่อมาลงมาเกิดในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงศรีฯ ครั้งนี้เป็นลูกชาวบ้าน แต่เป็นลูกมหาเศรษฐี มีแม่ชื่อปิ่นทอง พ่อชื่อกองแก้ว ท่านเองเป็นลูกชายชื่ออำไพ ลงมาช่วยคน ให้เงินให้ทอง ให้ที่ทำกิน ช่วยการเกษตร ช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง ให้การศึกษา จนคนไทยเป็นปึกแผ่นแน่นหนาพอ ประชาชนมีความสุข และท่านก็ตายไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม

    #วาระที่ 8 เกิดมาในตระกูลของแม่ทัพสมเด็จพระพันวสา คือสมเด็จพระอินทราธิราช มีนามว่า "ขุนไกร" (#ขุนแผน) เป็นอันว่าชาตินี้ขุนแผนต้องรวบรวมไทยอาศัยที่มีวิชาการมาก เป็นนักรบเก่ง
    ล่องหนหายตัวได้ สะเดาะกลอนได้
    ทำหุ่นพยนต์ได้ ทำอะไรได้แปลกๆ
    การยกทัพไปก็ไม่ต้องใช้กำลังคนมาก
    ก็สามารถจะสู้ข้าศึกได้

    #วาระที่ 9 เกิดมาเป็นลูกกษัตริย์ มีนามว่าพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อพระบรมไตรโลกนาสวรรนคตก็ไปเป็นพรหมตามเดิมไม่ช้าไม่นานก็ต้องเสด็จลงมาเกิดอีก

    #วาระที่10 เกิดสมัยพระนารายณ์ ท่านลงมาเกิดเป็น"ขุนเหล็ก"
    หรือพระยาโกษาเหล็ก เกิดควบคู่กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นเพื่อนเล่นกัน ขุนเหล็กมีน้องชายชื่อว่าขุนปาน หรือพระยาโกษาปาน ทั้งสองพระองค์ เป็นที่ไว้วางใจของสมเด็จพระนารายณ์มาก
    #บั้นปลายชีวิตลากิจราชการไปจำศีลเจริญภาวนาวิปัสสนาญาณ ให้ทาน ตายจากเจ้าพระยาโกษาเหล็ก ก็เข้าฌานกลับไปเป็นพรหมตามเดิม
    (#ท่านไม่ได้ตายตามประวัติศาสตร์เขียนไว้หรอกนะ)

    #วาระที่11 ลงมาเกิดมาเป็นขุนดาบคู่ใจของพระเจ้าตากสินมหาราช คือพระยาศรีสิทธิสงคราม อยู่ในกองทัพหลวงประจำองค์พระเจ้าตากสินมหาราชสมัยกรุงธนบุรี ก่อนกรุงศรีจะแตก เป็นกำนันจัน ชื่อว่า #จันหนวดเขี้ยว เป็นที่รักของประชาชน ต่อมาค่ายบางระจันแตก
    #นายจันหนวดเขี้ยวไม่ได้ตายไปตามประวัติศาสตร์ที่เขียน
    นายจันหนวดเขี้ยวจึงมารวมกำลังกับพระเจ้าตากสินกู้ชาติ ต่อมาพระเจ้าตากสินจึงเปลี่ยนชื่อให้จากกำนันจัน มาเป็นพระยาศรีสิทธิสงคราม ประจำกองทัพหลวง (ด้วง- นายจันหนวดเขี้ยว- พระยาศรีสิทธิสงคราม -เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก-และ #สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก

    #วาระที่12 มาเกิดเป็น รัชกาลที่ 5 แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์

    #วาระที่13 ชาติสุดท้ายเกิดมาเป็น
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

    หนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ
    พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)​
    คัดลอกแบ่งปันเป็นธรรมทานโดย
    จิตหนึ่งประภัสสร สุดยอดคือพระนิพพาน
    ⚜️ #อดีตชาติหลวงพ่อฤาษี 13 ชาติ..⚜️ 🔱#ที่เกิดตั้งแต่สมัยโยนกนคร #จนถึงรัตนโกสินทร์🔱 ลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็นปึกแผ่น และเพื่อช่วยเหลือคนไทย และช่วยให้พระพุทธศาสนามีอายุครบ 5000 ปี ✴️ #วาระที่ 1 เกิดเป็นพระเจ้ามังราย รัชกาลที่ 2 แห่งโยนกนคร เป็นลูกชายพระเจ้าอชุตราช ในชาตินั้นท่านเป็นผู้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่ดอยตุง โดยการนำมาของพระมหากัสสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ✴️ #วาระที่ 2 เกิดสมัยโยนก เป็นเณรน้อยอายุ 7 ปีทรงฌานสมาบัติ แต่ได้ถูกขอมดำกระทำย่ำยี เวลานั้นขอมดำมายึดเมืองโยนกนครได้แล้ว แล้วทำการกดขี่ข่มเหงรังแกคนไทย เณรจึงเข้าฌานสมาบัติ ตั้งจิตอธิษฐานว่า เกิดคราวหน้าขอให้ได้เกิดมาเป็นคนไทย และได้ช่วยคนไทยทุกแง่ทุกมุม มิไม่ใช่เฉพาะการรบ การเศรษฐกิจ การปกครอง แม้แต่การรบทุกอย่างให้ครบถ้วน ให้คนไทยพ้นจากความเป็นทาส "พอตั้งจิตอธิษฐานก็ไม่ถอนจากฌานสมาบัติ ก็นั่งทรงฌานอย่างนั้นจนตาย แล้วไปเกิดเป็นพรหม ชั้นที่ 11 ✴️ #การเกิดครั้งที่3 หลังจากตายจากเณรน้อย ไปเป็นพรหมชั้นที่11ได้เพียง1ปีเศษ ก็ลงมาเกิดเป็น "พระเจ้าพรหม มหาราช" เป็นโอรสของพระเจ้าพังคราช รัชกาลที่ 37 ในสมัยโยนกนคร มีพี่ชายชื่อทุกภิขะ( บริเวณพระธาตุจอมกิตติ ดอยตุง เป็นเขตเมืองโยนกนคร) เกิดพร้อมสหชาติที่เป็นพรหม เทวดา ลงมาเกิดพร้อมกัน 250 คน ทั้ง 250 คน เกิดเป็นผู้ชายทั้งหมด พรหมอีกองค์นึงเกิดเป็นช้างประกายแก้ว ช้างคู่บารมีพระเจ้าพรหม ลงมาเกิดเพื่อกู้ชาติให้พ้นความเป็นทาสจากขอมดำ และทำสำเร็จด้วย ทุกวันนี้วันอาสาฬหบูชาที่วัดท่าซุงก็มีการแห่ชัยชนะพระเจ้าพรหมทุกๆปี ✴️ #การเกิดในวาระที่4 หลังจากที่ตายจากการเป็นพระเจ้าพรหมสมัยโยนก แล้วเข้าฌาณตาย กลับไปเป็นพรหม เวลาผ่านไปอีก 800 ปีลงมาเกิดเป็นพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตอนเด็กมีนามว่าอรุณกุมาร เป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก มีวิชาอาคม มีวาจาสิทธิ์ สามารถเสกขอมให้เป็นหินได้ และขยายอาณาเขตของประเทศไทย (ตอนนั้นยังไม่เป็นเทศไทย )กว้างใหญ่ไพศาล ยึดมอญ พม่าขอมไว้ได้หมด อาณาจักรยาวเหยียด เวลานั้นคือก่อนเมืองสุโขทัย 700 ปีเศษ ก่อนหน้าพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ 700ประมาณปีเศษ ✴️ #วาระที่5 เกิดเป็น"พ่อขุนศรีเมืองมาน"( เป็นพ่อของพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ แห่งอณาจักรสุโขทัย) ตายจากพระร่วงโรจนฤทธิ์ก็เข้าฌานตาย กลับไปเป็นพรหมเช่นเดิม กลับมาเกิดวาระที่5 เป็นพ่อขุนศรีเมืองมาน มีสหชาติเกิดมาด้วยคือ พ่อขุนน้าวนําถมลงมาช่วยกู้ชาติไทยจากขอมดำ ขยายอาณาเขตประเทศไทยไปถึงสิงคโปร์ มีภรรยาชื่อพรรณวดีศรีโสภาศ เป็นเมียเอก และมีเมียราษฏร์อีก 29 คน พอเมียเอกตาย ก็บวชไม่สึกอีกเลย เข้าฌานตายแล้วไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม ✴️ #วาระที่6 "ขุนหลวงพระงั่ว" รัชกาลที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา ต่อมาคนไทยเกิดแบ่งเป็น 2 พวก จึงต้องลงมาเกิดเพื่อรวมไทยให้เป็น1เดียว ลงมาเกิดในราชวงศ์อู่ทอง เป็น"ขุนหลวงพระงั่ว" มาปลุกจิตสำนึกคนไทยให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ จึงนิมนต์พระสงฆ์มาร่าง"ไตรภูมิพระร่วง ไตรภูมิพระร่วง พระร่วงไม่ได้ทำ ท่านเป็นเพียงแต่ศาสนูปถัมภ์ ไตรภูมิพระร่วง เป็นการร่วมมือกันระหว่างสุโขทัยและกรุงศรี และยังได้ร่วมกันสร้างพระพุทธชินราชพระพุทธชินสีห์ และพระศรีศากยมุนีขึ้นมาเป็นมิ่งขวัญของเมืองไทย เป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าประเทศไทยจะทรงตัวได้ด้วยเหตุ 3 อย่างด้วยกัน คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พระพุทธชินราช หมายถึง พระมหากษัตริย์ พระพุทธชินสีห์ หมายถึง พระศาสนา พระศากยมุนี หมายถึง ชาติ การสร้างครั้งนี้ก็เป็นหน้าที่ของท้าวโกสีย์สักกะเทวราชให้พระวิษณุกรรมมาช่วย ขุนหลวงพระงั่วได้มารวมสุโขทัยกับอยุธยาเป็นประเทศเดียวกัน ✴️ #เกิดวาระที่7 ต่อมาลงมาเกิดในสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงศรีฯ ครั้งนี้เป็นลูกชาวบ้าน แต่เป็นลูกมหาเศรษฐี มีแม่ชื่อปิ่นทอง พ่อชื่อกองแก้ว ท่านเองเป็นลูกชายชื่ออำไพ ลงมาช่วยคน ให้เงินให้ทอง ให้ที่ทำกิน ช่วยการเกษตร ช่วยทุกสิ่งทุกอย่าง ให้การศึกษา จนคนไทยเป็นปึกแผ่นแน่นหนาพอ ประชาชนมีความสุข และท่านก็ตายไปเกิดเป็นพรหมตามเดิม ✴️ #วาระที่ 8 เกิดมาในตระกูลของแม่ทัพสมเด็จพระพันวสา คือสมเด็จพระอินทราธิราช มีนามว่า "ขุนไกร" (#ขุนแผน) เป็นอันว่าชาตินี้ขุนแผนต้องรวบรวมไทยอาศัยที่มีวิชาการมาก เป็นนักรบเก่ง ล่องหนหายตัวได้ สะเดาะกลอนได้ ทำหุ่นพยนต์ได้ ทำอะไรได้แปลกๆ การยกทัพไปก็ไม่ต้องใช้กำลังคนมาก ก็สามารถจะสู้ข้าศึกได้ ✴️ #วาระที่ 9 เกิดมาเป็นลูกกษัตริย์ มีนามว่าพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อพระบรมไตรโลกนาสวรรนคตก็ไปเป็นพรหมตามเดิมไม่ช้าไม่นานก็ต้องเสด็จลงมาเกิดอีก ✴️ #วาระที่10 เกิดสมัยพระนารายณ์ ท่านลงมาเกิดเป็น"ขุนเหล็ก" หรือพระยาโกษาเหล็ก เกิดควบคู่กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นเพื่อนเล่นกัน ขุนเหล็กมีน้องชายชื่อว่าขุนปาน หรือพระยาโกษาปาน ทั้งสองพระองค์ เป็นที่ไว้วางใจของสมเด็จพระนารายณ์มาก #บั้นปลายชีวิตลากิจราชการไปจำศีลเจริญภาวนาวิปัสสนาญาณ ให้ทาน ตายจากเจ้าพระยาโกษาเหล็ก ก็เข้าฌานกลับไปเป็นพรหมตามเดิม (#ท่านไม่ได้ตายตามประวัติศาสตร์เขียนไว้หรอกนะ) ✴️ #วาระที่11 ลงมาเกิดมาเป็นขุนดาบคู่ใจของพระเจ้าตากสินมหาราช คือพระยาศรีสิทธิสงคราม อยู่ในกองทัพหลวงประจำองค์พระเจ้าตากสินมหาราชสมัยกรุงธนบุรี ก่อนกรุงศรีจะแตก เป็นกำนันจัน ชื่อว่า #จันหนวดเขี้ยว เป็นที่รักของประชาชน ต่อมาค่ายบางระจันแตก ✴️ #นายจันหนวดเขี้ยวไม่ได้ตายไปตามประวัติศาสตร์ที่เขียน นายจันหนวดเขี้ยวจึงมารวมกำลังกับพระเจ้าตากสินกู้ชาติ ต่อมาพระเจ้าตากสินจึงเปลี่ยนชื่อให้จากกำนันจัน มาเป็นพระยาศรีสิทธิสงคราม ประจำกองทัพหลวง (ด้วง- นายจันหนวดเขี้ยว- พระยาศรีสิทธิสงคราม -เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก-และ #สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ✴️ #วาระที่12 มาเกิดเป็น รัชกาลที่ 5 แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ ✴️ #วาระที่13 ชาติสุดท้ายเกิดมาเป็น หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง 🖋️📚หนังสือเรื่องจริงอิงนิทานพิเศษ ⚜️พระราชพรหมยานเถระ (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)​⚜️ 🖋️📚คัดลอกแบ่งปันเป็นธรรมทานโดย 🧘จิตหนึ่งประภัสสร สุดยอดคือพระนิพพาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 652 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ รุ่น1 วัดเกาะลังตา จ.กระบี่ ปี2557
    เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ รุ่น1 (ตอกโค็ด ส.) วัดเกาะลังตา จ.กระบี่ ปี2557 // พระดีพิธีใหญ่ ผ้าป่าสมทบทุนสร้างอาคารเรียน โรงเรียนวัดเกาะลังตา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้าน แคล้วคาด เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย โภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย ดีนัก เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงาน คุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** วัดเกาะลันตาเป็นวัดเก่าแก่ แห่งแรกเพียงแห่งเดียวของเกาะลันตาที่มีวิสุคามสีมา และลานสำหรับนั่งวิปัสสนาปฏิบัติกรรมฐาน วัดนี้เริ่มต้นจากการจัดตั้งสำนักสงฆ์ในปี พ.ศ. 2475 (สมัยรัชกาลที่ 7) โดยมีพระกลัน พินธุกำนันเต็งฮั้ว ตุลารักษ์ ผู้ใหญ่เชวง ตุลารักษ์ นายวิลาส โปตะการักษ์ ศึกษาธิการอำเภอ และประชาชนชาวไทยพุทธและชาวจีนในย่านชุมชนเก่าศรีรายา ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวพุทธ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ รุ่น1 วัดเกาะลังตา จ.กระบี่ ปี2557 เหรียญกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ รุ่น1 (ตอกโค็ด ส.) วัดเกาะลังตา จ.กระบี่ ปี2557 // พระดีพิธีใหญ่ ผ้าป่าสมทบทุนสร้างอาคารเรียน โรงเรียนวัดเกาะลังตา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้าน แคล้วคาด เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย โภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย ดีนัก เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงาน คุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** วัดเกาะลันตาเป็นวัดเก่าแก่ แห่งแรกเพียงแห่งเดียวของเกาะลันตาที่มีวิสุคามสีมา และลานสำหรับนั่งวิปัสสนาปฏิบัติกรรมฐาน วัดนี้เริ่มต้นจากการจัดตั้งสำนักสงฆ์ในปี พ.ศ. 2475 (สมัยรัชกาลที่ 7) โดยมีพระกลัน พินธุกำนันเต็งฮั้ว ตุลารักษ์ ผู้ใหญ่เชวง ตุลารักษ์ นายวิลาส โปตะการักษ์ ศึกษาธิการอำเภอ และประชาชนชาวไทยพุทธและชาวจีนในย่านชุมชนเก่าศรีรายา ร่วมกันสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวพุทธ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..น่าเสียดายนะ,ทำลายคุณค่าตนเอง,ภาพที่สร้างมามากมาย.,แหกตาถึงที่สุด.จนคนสิ้นสงสัยไปเอง,อ๋อเป็นแบบนี้ล่ะพะนะ.
    ..อนาคตกองเชียร์ใดๆหมายให้เป็นนายกฯจะรุ่นพ.ศ.ไหนๆคงตกไป,อาสนธิและคณะประท้วงที่ผ่านๆมายังสามารถเชิญคนไทยทั่วประเทศที่มากมายองค์รอบรู้มาจัดตั้งทีมตั้งกองทัพพิเศษต่างๆหน่วยรบย่อยๆไม่มากมายสบายลงไปหน้างานจริงแก้ไขปัญหาจริงแก้ประชาชนทั่วถึงได้,ไม่มานั่งห้องแอร์ติดหรูโชว์ภาพดูดีหรอก,ของจริงคือหน้างาน เข้าถึงยิงตรงจุดแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านทันทีทันกู้ชีพ,ไม่มาลีลาอะไรหรอก,ขนาดแค่ตัดสินใจเรื่องอธิปไตยยังเชื่องช้าขนาดนี้,ปัญหาชาติมีมากมายจะเชื่องช้าขนาดไหน นี้โคตรสุดยอดปัญหาแล้วยังไร้ภาวะผู้นำกล้าหาญเด็ดขาดสั่งการ อะไรดีอะไรชั่ว อะไรผิดอะไรถูก อะไรสมควร ไม่สมควร โตๆกันแล้ว นี้มาเล่นการเมืองอีก,จึงไม่แปลกใจว่าผลงานที่ได้รับมอบหมายจึงไม่ให้ค่าต่อคนต้องจะสั่งมอบคือคนสั่งจะใช้งานเขาไม่เห็นในสายตา,ไม่มีฝีมือในสายตาเขานั้นล่ะ,ผลงานที่ประชาชนเห็นๆที่ผ่านๆมาจึงไม่สุดซอยอะไรเลย ครึ่งๆกลางๆปฏิบัติไม่ได้จริงมีปัญหาเมื่อลงมือทำ สร้างปัญหาให้ชาวบ้านอีกไม่ราบรื่นไม่สะดวกไม่ชัดเจน,ดูๆเอาก็แล้วกัน ในข่าวมีตรึม.
    ..สรุป ปฏิวัติยึดอำนาจคือหนทางเดียวและคือทางออก เพื่อเขียนรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์จริงๆออกมาให้ประชาชนลงมติอย่างภาคภูมิใจเสียที,อาทิ เดิมประชาชนขุดพบของมีค่าบนที่ดินตัวเอง รัฐก็เข้ามายึดไปเองเสีย,ที่ดินเขียนใหม่ห้ามต่างชาติถือครองยึดครองทุกๆกรณีหรือเช่าห้ามเกิน10ปี,นอมินีห้ามทุกๆกรณี,ปฏิรูปที่ดินใหม่เขียนกฎหมายใหม่,ห้ามคนไทยสัญชาติไทยต่อคนถือที่ดินเกิน100ไร่,ในนามกิจการบริษัทไม่เกิน200ไร่รวมกันทุกๆแปลงทั่วประเทศ,นี้จะตัดตอนการเก็งกำไรในที่ดินทันที,ทหารที่ปฏิวัติรัฐประหารต้องเด็ดขาดแบบนี้,ใครเดือดร้อนแน่นอนศักดินาเก่าเดิมทั้งหมด,นักการเมืองและเจ้าสัวทั้งหมด,ประชาชนคนธรรมดาทั่วไปไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก,พอมีพอกินปฏิวัติปฏิรูประบบเศรษฐกิจพอเพียงแบบสไตล์ไทยเราก็ได้สบาย,ปฏิวัติปฏิรูประบบกองทุนร้านชุมชนประจำหมู่บ้านก็ได้เป็นตลาดชุมชนตำบลอำเภอจังหวัดที่แข็งแกร่งได้,ฮับอำเภอฮับจังหวัดตลาดกองทุนร้านชุมชนเป็นเครือข่าย80,000กว่าหมู่บ้านทั่วประเทศก็ได้ ประชาชนสามารถฝากขายสินค้าผ่านตลาดร้านค้ากองทุนชุมชนตนได้ทั้งแบบหน้าร้านออฟไลน์และออนไลน์ให้ตลาดหมู่บ้านอำเภอจังหวัดเป็นฮับขนส่งกระจายสินค้ารับส่งแก่ผู้ซื้อผู้ขายได้ตลอดเวลา คนก็มีช่องทางจำหน่ายมีตลาดของตนเองเพื่อไว้ค้าขายเอง,ทำอะไรค้าอะไรหาที่ขายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศเรียลไทม์สร้างระบบเตรียมรองรับช่วยเหลือประชาชนคนไทยเต็มที่ก็จบ ตังจะหมุนเวียนจริงภายในชุมชน,รัฐมีอัดส่งเสริมสนับสนุนโครงการอะไรก็โปร่งใส่สะอาดเช่นโอนสนับสนุนทุนสัมมาอาชีพแก่ประชาชนในหมู่บ้านนั้นๆต่างๆทั่วประเทศไทยไร้ดอกเบี้ยยืมได้ที่กองทุนร้านค้าชุมชนตนโอนหมู่บ้านละ10ล้านนำร่อง,40,000หมู่บ้านงวดแรกปีแรก,ปีต่อไปอีกหมู่บ้านละ10ล้านบาทอีก40,000หมู่บ้านที่เหลือและอัดลงไปหลากหลายประเภทอีก,ตังจะหมุนเวียนจริงในชุมชนนั้นๆใครมีเหลือสร้างรายได้มีกำไรเหลือค้าขายก็ฝากที่กองทุนร้านค้าชุมชนตนลิ้งก์มารวมที่ส่วนกลางสำนักงานใหญ่อาจกว่า10ล้านล้านบาทต่อปี,สามารถบริหารสภาพคล่องเป็นแหล่งเงินทุนฟรีๆไร้ดอกเบี้ยแก่ประชาชนได้แข็งขันต่างชาติได้สบาย,ขายออฟไลน์ออนไลน์อีกอาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีส่งออกทั่วโลกและภายในประเทศทั้งระดับบุคคลธรรมดาและระดับกิจการรวมกลุ่มจะมากมายขนาดไหน,ต้นทุนน้ำมันขนส่งขายถูกๆภายในอีก ขนส่งค้าขายกระจายบันเทิงทั่วไทย ลิตรละ1-2บาททั้งดีเชลเบนซินอีกจะขนาดไหน,แข่งขันต่างชาติสบายแน่นอน,นี้แค่ตลาดกองทุนร้านค้าชุมชนนะ 11/7ไม่เข้าล่ะ ซื้อเครดิตในกองทุนร้านค้าชุมชนก็ได้อีก ถูกที่หน่วยละ9บาทซึ่งปกติร้านชำทั่วไปอาจหน่วยละ10บาทก็ว่า,ซื้อที่ร้านกองทุนเราประหยัดตังได้1บาทโน้นโดยรัฐดูแลใส่ใจจริงเพื่อเราคนไทยสามารถยืนด้วยขาตนเองได้เดียวกันทุกๆคน เรา..ไม่ทิ้งใครข้างหลังไว้ ไปไหนเราไปด้วยกันหมด.,ร่ำรวยเราร่ำรวยไปด้วยกันนั่นคือชาติไทยเราร่ำรวยด้วยมั่นคงด้วยบวกกินอยู่สมถะพอเพียงอีกใช้ชีวิตเรียบง่ายสบายๆเจริญคู่ขนานด้วยจิตวิญญาณศีลธรรมคุณธรรมงามใจด้วยเลิศขนาดไหนก็ว่า.
    ..นายกฯต้องมาจากระบบพิเศสคือยึดอำนาจรัฐประหารเขียนรัฐธรรมนูญใหม่,นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้งทางตรงของประชาชน,สส.สว.กำนันผู้ใหญ่.ผู้ว่านายอำเภอก็ด้วย,ตัดทิ้งอบต.อบจ.ทันทีเสียของค้านอำนาจอะไรไร้สาระ,สิ้นเปลืองงบประมาณชาติ,เอาเงินมาพัฒนาสัมมาอาชีพสัมมาชีวิตคนไทยดีกว่า,หน้าที่อำเภอต้องจัดกำลังพลแตกหน่วยงานพร้อมบริการประชาชน รัศมีบวกลบไม่เกิน20กม.ต่ออำเภอก็ดูแลสบายมาก,ทางถนนต้องเข้าถึงทุกๆหมู่บ้านสะดวกรวดเร็วทันกาลเมื่อมีเหตุภัย,สำนักงานผู้ใหญ่ประจำหมู่บ้านต้องมีการก่อสร้างชัดเจนมิใช่เหี้ยใช้บ้านที่อยู่อาศัยผู้ใหญ่บ้านคือสำนักงาน.,มีเจ้าหน้าที่ประจำวันประจำสำนักงานเพื่อประสานงานชุมชน,เมื่อทำให้ระบบพร้อมใช้งานมันก็รื่นไหล,นี้เหี้ยไปหมดจริงๆในปัจจุบัน แดกประเทศจนพังพินาศเข้าสันดานในชนชั้นเลือกตั้งทั้งระบบทั้งประเทศ.


    ..https://youtu.be/I_qD2Hwu1A8?si=Lwn433J95w3oiCTx
    ..น่าเสียดายนะ,ทำลายคุณค่าตนเอง,ภาพที่สร้างมามากมาย.,แหกตาถึงที่สุด.จนคนสิ้นสงสัยไปเอง,อ๋อเป็นแบบนี้ล่ะพะนะ. ..อนาคตกองเชียร์ใดๆหมายให้เป็นนายกฯจะรุ่นพ.ศ.ไหนๆคงตกไป,อาสนธิและคณะประท้วงที่ผ่านๆมายังสามารถเชิญคนไทยทั่วประเทศที่มากมายองค์รอบรู้มาจัดตั้งทีมตั้งกองทัพพิเศษต่างๆหน่วยรบย่อยๆไม่มากมายสบายลงไปหน้างานจริงแก้ไขปัญหาจริงแก้ประชาชนทั่วถึงได้,ไม่มานั่งห้องแอร์ติดหรูโชว์ภาพดูดีหรอก,ของจริงคือหน้างาน เข้าถึงยิงตรงจุดแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านทันทีทันกู้ชีพ,ไม่มาลีลาอะไรหรอก,ขนาดแค่ตัดสินใจเรื่องอธิปไตยยังเชื่องช้าขนาดนี้,ปัญหาชาติมีมากมายจะเชื่องช้าขนาดไหน นี้โคตรสุดยอดปัญหาแล้วยังไร้ภาวะผู้นำกล้าหาญเด็ดขาดสั่งการ อะไรดีอะไรชั่ว อะไรผิดอะไรถูก อะไรสมควร ไม่สมควร โตๆกันแล้ว นี้มาเล่นการเมืองอีก,จึงไม่แปลกใจว่าผลงานที่ได้รับมอบหมายจึงไม่ให้ค่าต่อคนต้องจะสั่งมอบคือคนสั่งจะใช้งานเขาไม่เห็นในสายตา,ไม่มีฝีมือในสายตาเขานั้นล่ะ,ผลงานที่ประชาชนเห็นๆที่ผ่านๆมาจึงไม่สุดซอยอะไรเลย ครึ่งๆกลางๆปฏิบัติไม่ได้จริงมีปัญหาเมื่อลงมือทำ สร้างปัญหาให้ชาวบ้านอีกไม่ราบรื่นไม่สะดวกไม่ชัดเจน,ดูๆเอาก็แล้วกัน ในข่าวมีตรึม. ..สรุป ปฏิวัติยึดอำนาจคือหนทางเดียวและคือทางออก เพื่อเขียนรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์จริงๆออกมาให้ประชาชนลงมติอย่างภาคภูมิใจเสียที,อาทิ เดิมประชาชนขุดพบของมีค่าบนที่ดินตัวเอง รัฐก็เข้ามายึดไปเองเสีย,ที่ดินเขียนใหม่ห้ามต่างชาติถือครองยึดครองทุกๆกรณีหรือเช่าห้ามเกิน10ปี,นอมินีห้ามทุกๆกรณี,ปฏิรูปที่ดินใหม่เขียนกฎหมายใหม่,ห้ามคนไทยสัญชาติไทยต่อคนถือที่ดินเกิน100ไร่,ในนามกิจการบริษัทไม่เกิน200ไร่รวมกันทุกๆแปลงทั่วประเทศ,นี้จะตัดตอนการเก็งกำไรในที่ดินทันที,ทหารที่ปฏิวัติรัฐประหารต้องเด็ดขาดแบบนี้,ใครเดือดร้อนแน่นอนศักดินาเก่าเดิมทั้งหมด,นักการเมืองและเจ้าสัวทั้งหมด,ประชาชนคนธรรมดาทั่วไปไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก,พอมีพอกินปฏิวัติปฏิรูประบบเศรษฐกิจพอเพียงแบบสไตล์ไทยเราก็ได้สบาย,ปฏิวัติปฏิรูประบบกองทุนร้านชุมชนประจำหมู่บ้านก็ได้เป็นตลาดชุมชนตำบลอำเภอจังหวัดที่แข็งแกร่งได้,ฮับอำเภอฮับจังหวัดตลาดกองทุนร้านชุมชนเป็นเครือข่าย80,000กว่าหมู่บ้านทั่วประเทศก็ได้ ประชาชนสามารถฝากขายสินค้าผ่านตลาดร้านค้ากองทุนชุมชนตนได้ทั้งแบบหน้าร้านออฟไลน์และออนไลน์ให้ตลาดหมู่บ้านอำเภอจังหวัดเป็นฮับขนส่งกระจายสินค้ารับส่งแก่ผู้ซื้อผู้ขายได้ตลอดเวลา คนก็มีช่องทางจำหน่ายมีตลาดของตนเองเพื่อไว้ค้าขายเอง,ทำอะไรค้าอะไรหาที่ขายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศเรียลไทม์สร้างระบบเตรียมรองรับช่วยเหลือประชาชนคนไทยเต็มที่ก็จบ ตังจะหมุนเวียนจริงภายในชุมชน,รัฐมีอัดส่งเสริมสนับสนุนโครงการอะไรก็โปร่งใส่สะอาดเช่นโอนสนับสนุนทุนสัมมาอาชีพแก่ประชาชนในหมู่บ้านนั้นๆต่างๆทั่วประเทศไทยไร้ดอกเบี้ยยืมได้ที่กองทุนร้านค้าชุมชนตนโอนหมู่บ้านละ10ล้านนำร่อง,40,000หมู่บ้านงวดแรกปีแรก,ปีต่อไปอีกหมู่บ้านละ10ล้านบาทอีก40,000หมู่บ้านที่เหลือและอัดลงไปหลากหลายประเภทอีก,ตังจะหมุนเวียนจริงในชุมชนนั้นๆใครมีเหลือสร้างรายได้มีกำไรเหลือค้าขายก็ฝากที่กองทุนร้านค้าชุมชนตนลิ้งก์มารวมที่ส่วนกลางสำนักงานใหญ่อาจกว่า10ล้านล้านบาทต่อปี,สามารถบริหารสภาพคล่องเป็นแหล่งเงินทุนฟรีๆไร้ดอกเบี้ยแก่ประชาชนได้แข็งขันต่างชาติได้สบาย,ขายออฟไลน์ออนไลน์อีกอาจกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีส่งออกทั่วโลกและภายในประเทศทั้งระดับบุคคลธรรมดาและระดับกิจการรวมกลุ่มจะมากมายขนาดไหน,ต้นทุนน้ำมันขนส่งขายถูกๆภายในอีก ขนส่งค้าขายกระจายบันเทิงทั่วไทย ลิตรละ1-2บาททั้งดีเชลเบนซินอีกจะขนาดไหน,แข่งขันต่างชาติสบายแน่นอน,นี้แค่ตลาดกองทุนร้านค้าชุมชนนะ 11/7ไม่เข้าล่ะ ซื้อเครดิตในกองทุนร้านค้าชุมชนก็ได้อีก ถูกที่หน่วยละ9บาทซึ่งปกติร้านชำทั่วไปอาจหน่วยละ10บาทก็ว่า,ซื้อที่ร้านกองทุนเราประหยัดตังได้1บาทโน้นโดยรัฐดูแลใส่ใจจริงเพื่อเราคนไทยสามารถยืนด้วยขาตนเองได้เดียวกันทุกๆคน เรา..ไม่ทิ้งใครข้างหลังไว้ ไปไหนเราไปด้วยกันหมด.,ร่ำรวยเราร่ำรวยไปด้วยกันนั่นคือชาติไทยเราร่ำรวยด้วยมั่นคงด้วยบวกกินอยู่สมถะพอเพียงอีกใช้ชีวิตเรียบง่ายสบายๆเจริญคู่ขนานด้วยจิตวิญญาณศีลธรรมคุณธรรมงามใจด้วยเลิศขนาดไหนก็ว่า. ..นายกฯต้องมาจากระบบพิเศสคือยึดอำนาจรัฐประหารเขียนรัฐธรรมนูญใหม่,นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้งทางตรงของประชาชน,สส.สว.กำนันผู้ใหญ่.ผู้ว่านายอำเภอก็ด้วย,ตัดทิ้งอบต.อบจ.ทันทีเสียของค้านอำนาจอะไรไร้สาระ,สิ้นเปลืองงบประมาณชาติ,เอาเงินมาพัฒนาสัมมาอาชีพสัมมาชีวิตคนไทยดีกว่า,หน้าที่อำเภอต้องจัดกำลังพลแตกหน่วยงานพร้อมบริการประชาชน รัศมีบวกลบไม่เกิน20กม.ต่ออำเภอก็ดูแลสบายมาก,ทางถนนต้องเข้าถึงทุกๆหมู่บ้านสะดวกรวดเร็วทันกาลเมื่อมีเหตุภัย,สำนักงานผู้ใหญ่ประจำหมู่บ้านต้องมีการก่อสร้างชัดเจนมิใช่เหี้ยใช้บ้านที่อยู่อาศัยผู้ใหญ่บ้านคือสำนักงาน.,มีเจ้าหน้าที่ประจำวันประจำสำนักงานเพื่อประสานงานชุมชน,เมื่อทำให้ระบบพร้อมใช้งานมันก็รื่นไหล,นี้เหี้ยไปหมดจริงๆในปัจจุบัน แดกประเทศจนพังพินาศเข้าสันดานในชนชั้นเลือกตั้งทั้งระบบทั้งประเทศ. ..https://youtu.be/I_qD2Hwu1A8?si=Lwn433J95w3oiCTx
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ควงแขน
    นายอำเภอเมืองลพบุรี รำวง
    ทั้งสองลีลา
    ไม่ธรรมดา
    ในงานแถลงข่าว เทศกาลกระท้อนหวาน สินค้า GI และของดีเมืองลพบุรี ครั้งที่ 32
    ประจำปี 2568

    //////////////////////

    เพลงขึ้น ทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นมารำวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ควงแขนในอำเภอเมืองลพบุรี นายอำเภอเมืองหัวใจเพชร รำวงอย่างสนุกสนาน
    ในงาน แถลงข่าว เทศกาลกระท้อนหวาน สินค้า GI และของดีเมืองลพบุรี ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน – 2 กรกฎาคมนี้
    วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ตลอดจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกัน แถลงข่าวเทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรี ครั้งที่ 32 ณ สวนกระท้อนผู้ใหญ่อนุวัชร โตสวัสดิ์ (ผู้ใหญ่หนึ่ง) หมู่ที่ 7 ตำบลตะลุง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ซึ่งในงานแถลงข่าวยังได้มีการเปิดตัว การแปรรูปผลผลิตกระท้อน มากมาย รวมถึง เมนูใหม่ การทำยำกระท้อนทอดกรอบ ซึ่งมีรสชาติที่อร่อย และ สีสันชวนน่ารับประทาน ให้แก่ผู้ร่วมงานได้ลิ้มรส ด้วย
    โดยมีนายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

    สำหรับการจัดงานเทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรี ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 32 กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2568 ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ภายในงานจะมีผลกระท้อนสด จากชาวสวนกระท้อน มาจำหน่าย หลากหลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์ปุยฝ้าย พันธุ์อีล่า พันธุ์นิ่มนวล พันธุ์ทองกำมะหยี่ พันธุ์ทับทิม ซึ่งเป็นสินค้า GI ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดลพบุรี และยังมีกระท้อนแปรรูป ได้แก่ กระท้อนลอยแก้ว กระท้อนกวน กระท้อนทรงเครื่อง มาวางจำหน่าย เพื่อให้เลือกซื้อหาไปรับประทาน และเป็นของฝากจากลพบุรี ให้ได้เลือก ชิม ช้อป ด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “รำวงย้อนยุค” โดยชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน การแสดงของชาติพันธุ์ การแสดงดนตรี ลูกทุ่ง และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึง การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดลพบุรี การจัดแสดงพันธุ์ไม้ และสินค้าของดีเมืองลพบุรี

    สำหรับ กระท้อนของลพบุรี เป็นกระท้อน ที่มีชื่อเสียงจะอยู่ใน 3 ตำบลของอำเภอเมืองลพบุรี ได้แก่ ตำบลตะลุง ตำบลโพธิ์เก้าต้น และตำบลงิ้วราย ของอำเภอเมืองลพบุรี มีลักษณะภูมิประเทศที่พิเศษไม่เหมือนที่ใด คือ เป็นพื้นที่น้ำไหลทรายมูล เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำลพบุรี เหมาะสมกับการผลิตกระท้อนคุณภาพดี จนกระท้อนจังหวัดลพบุรี ได้รับการรับรองเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ในชื่อ “กระท้อนตะลุง” จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องจาก กระท้อนมีคุณภาพดี รสชาติหวาน อมเปรี้ยว อร่อย ถูกใจผู้บริโภค แตกต่างจากระท้อนที่อื่น ซึ่งจะมีผลผลิตในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฎาคม แต่จะมีผลผลิตมากสุดในเดือนมิถุนายน

    มีเกษตรกรผู้ปลูกกระท้อนจำนวน 154 ราย ในพื้นที่ 464 ไร่เศษ ทั้งนี้ กระท้อนลพบุรีได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI ) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 66 ราย ในพื้นที่ 271 ไร่ ซึ่งปีนี้จะมีผลผลิตออกมาจำหน่ายอยู่ที่ ประมาณ 425,090 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับ ราคากระท้อนสดจะจำหน่าย 35-100 บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับขนาดของผล โดยจะมีช่องทางการจำหน่ายผ่านตลาดออนไลน์ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี สำนักงานเกษตรจังหวัดลพบุรี และชาวสวนกระท้อนเอง นอกจากนี้ยังเปิดจำหน่ายที่บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรีและริมทางถนนลพบุรี-บ้านแพรก ซึ่งกระท้อนลพบุรีมีลักษณะพิเศษคือ กลมแป้น เปลือกบาง รสหวาน เนื้อปุย หวานสะดุ้ง กระท้อนตะลุงลพบุรี

    ไฮไลท์ ก่อนที่จะมีการแถลงข่าว รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ควงแขนนายอำเภอเมืองลพบุรี นายอำเภอเมืองหัวใจเพชร ลีลาไม่ธรรมดารำวง อย่างสุดสนานทำให้บรรดาผู้ร่วมแถลงข่าวต้องลุกมารำเช่นกันและจบการรำเสร็จลีลายำกระท้อนและหยิบหยิบช้อนป้อนให้
    นายอำเภอเมืองลพบุรีชิม
    นายอำเภอเมืองลพบุรีบอกว่าอร่อยจริงฝีมือขั้นเทพ
    รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ควงแขน นายอำเภอเมืองลพบุรี รำวง ทั้งสองลีลา ไม่ธรรมดา ในงานแถลงข่าว เทศกาลกระท้อนหวาน สินค้า GI และของดีเมืองลพบุรี ครั้งที่ 32 ประจำปี 2568 ////////////////////// เพลงขึ้น ทนไม่ไหว ต้องลุกขึ้นมารำวง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ควงแขนในอำเภอเมืองลพบุรี นายอำเภอเมืองหัวใจเพชร รำวงอย่างสนุกสนาน ในงาน แถลงข่าว เทศกาลกระท้อนหวาน สินค้า GI และของดีเมืองลพบุรี ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน – 2 กรกฎาคมนี้ วันที่ 11 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น. นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วย นายรพีทัศน์ อุ่นจิตตพันธ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ตลอดจน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกัน แถลงข่าวเทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรี ครั้งที่ 32 ณ สวนกระท้อนผู้ใหญ่อนุวัชร โตสวัสดิ์ (ผู้ใหญ่หนึ่ง) หมู่ที่ 7 ตำบลตะลุง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ซึ่งในงานแถลงข่าวยังได้มีการเปิดตัว การแปรรูปผลผลิตกระท้อน มากมาย รวมถึง เมนูใหม่ การทำยำกระท้อนทอดกรอบ ซึ่งมีรสชาติที่อร่อย และ สีสันชวนน่ารับประทาน ให้แก่ผู้ร่วมงานได้ลิ้มรส ด้วย โดยมีนายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย สำหรับการจัดงานเทศกาลกระท้อนหวานและของดีเมืองลพบุรี ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 32 กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ ระหว่างวันที่ 21 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2568 ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ภายในงานจะมีผลกระท้อนสด จากชาวสวนกระท้อน มาจำหน่าย หลากหลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์ปุยฝ้าย พันธุ์อีล่า พันธุ์นิ่มนวล พันธุ์ทองกำมะหยี่ พันธุ์ทับทิม ซึ่งเป็นสินค้า GI ที่สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดลพบุรี และยังมีกระท้อนแปรรูป ได้แก่ กระท้อนลอยแก้ว กระท้อนกวน กระท้อนทรงเครื่อง มาวางจำหน่าย เพื่อให้เลือกซื้อหาไปรับประทาน และเป็นของฝากจากลพบุรี ให้ได้เลือก ชิม ช้อป ด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “รำวงย้อนยุค” โดยชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน การแสดงของชาติพันธุ์ การแสดงดนตรี ลูกทุ่ง และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึง การแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จังหวัดลพบุรี การจัดแสดงพันธุ์ไม้ และสินค้าของดีเมืองลพบุรี สำหรับ กระท้อนของลพบุรี เป็นกระท้อน ที่มีชื่อเสียงจะอยู่ใน 3 ตำบลของอำเภอเมืองลพบุรี ได้แก่ ตำบลตะลุง ตำบลโพธิ์เก้าต้น และตำบลงิ้วราย ของอำเภอเมืองลพบุรี มีลักษณะภูมิประเทศที่พิเศษไม่เหมือนที่ใด คือ เป็นพื้นที่น้ำไหลทรายมูล เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำลพบุรี เหมาะสมกับการผลิตกระท้อนคุณภาพดี จนกระท้อนจังหวัดลพบุรี ได้รับการรับรองเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI ในชื่อ “กระท้อนตะลุง” จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เนื่องจาก กระท้อนมีคุณภาพดี รสชาติหวาน อมเปรี้ยว อร่อย ถูกใจผู้บริโภค แตกต่างจากระท้อนที่อื่น ซึ่งจะมีผลผลิตในช่วงเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกรกฎาคม แต่จะมีผลผลิตมากสุดในเดือนมิถุนายน มีเกษตรกรผู้ปลูกกระท้อนจำนวน 154 ราย ในพื้นที่ 464 ไร่เศษ ทั้งนี้ กระท้อนลพบุรีได้รับการรับรองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI ) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา จำนวน 66 ราย ในพื้นที่ 271 ไร่ ซึ่งปีนี้จะมีผลผลิตออกมาจำหน่ายอยู่ที่ ประมาณ 425,090 กิโลกรัม ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมา สำหรับ ราคากระท้อนสดจะจำหน่าย 35-100 บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับขนาดของผล โดยจะมีช่องทางการจำหน่ายผ่านตลาดออนไลน์ของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดลพบุรี สำนักงานเกษตรจังหวัดลพบุรี และชาวสวนกระท้อนเอง นอกจากนี้ยังเปิดจำหน่ายที่บริเวณที่ว่าการอำเภอเมืองลพบุรีและริมทางถนนลพบุรี-บ้านแพรก ซึ่งกระท้อนลพบุรีมีลักษณะพิเศษคือ กลมแป้น เปลือกบาง รสหวาน เนื้อปุย หวานสะดุ้ง กระท้อนตะลุงลพบุรี ไฮไลท์ ก่อนที่จะมีการแถลงข่าว รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ควงแขนนายอำเภอเมืองลพบุรี นายอำเภอเมืองหัวใจเพชร ลีลาไม่ธรรมดารำวง อย่างสุดสนานทำให้บรรดาผู้ร่วมแถลงข่าวต้องลุกมารำเช่นกันและจบการรำเสร็จลีลายำกระท้อนและหยิบหยิบช้อนป้อนให้ นายอำเภอเมืองลพบุรีชิม นายอำเภอเมืองลพบุรีบอกว่าอร่อยจริงฝีมือขั้นเทพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 493 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • หน่อย พร้อมด้วย นายรชตะ ด่านกุล สส.นครราชสีมา เขต 15 ร่วมประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนัน ประจำเดือนมิถุนายน 2568 เพื่อประชาสัมพันธ์และการปฏิบัติงานระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัด กับหน่วยงานในพื้นที่ และภารกิจโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นส่งเสริมด้านการศึกษา เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และการบริการด้านคุณภาพชีวิต อันเป็นประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ณ วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อ.ด่านขุนทด
    .
    ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล
    นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
    4 มิถุนายน 2568
    #หน่อยยลดา
    #นายกหน่อย
    #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    หน่อย พร้อมด้วย นายรชตะ ด่านกุล สส.นครราชสีมา เขต 15 ร่วมประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนัน ประจำเดือนมิถุนายน 2568 เพื่อประชาสัมพันธ์และการปฏิบัติงานระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัด กับหน่วยงานในพื้นที่ และภารกิจโครงการต่างๆ ที่มุ่งเน้นส่งเสริมด้านการศึกษา เศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐาน และการบริการด้านคุณภาพชีวิต อันเป็นประโยชน์ของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ณ วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อ.ด่านขุนทด . ดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา 4 มิถุนายน 2568 #หน่อยยลดา #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568
    คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568
    คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 4 0 รีวิว
  • ผู้ว่าโคราชเป็นประธานเตรียมความพร้อมจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568
    .
    วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานการประชุมการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเชื่อมความ สามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 โดยมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตประธานสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา ดร.ประทุม พรรณพิสุทธิ์ รองประธานสโมสรฯ คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ดร.บรรทม พิมพ์ทองครบุรี ผอ.โรงเรียนบ้านนางหริญ นางสาวรพีพรรณ วิเศษ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ จังหวัดนครราชสีมา นายวีระวัฒน์ (ปรีชา) มิตรสูงเนิน นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด นายอนุชา ศิริโภคานนท์ กำนันตำบลหนองระเวียง นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา ที่ปรึกษาสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา นายณัฐวุฒิ เดินสันเทียะ เลขานุการสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา และนายมนต์ ช่วยพิมาย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ร่วมงานแถลงข่าวด้วย
    .
    เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน มีอัตรากำลังกำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสิ้น 12,768 คน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอัตรากำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มากที่สุดในประเทศไทย ในจำนวนนี้ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่เป็นสุภาพสตรี ถึง 4,538 คน ดังนั้น เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทั้ง 32 อำเภอได้พบปะและจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2567 สมาคมได้จัดแข่งขันกีฬา ฟุตบอลชายเชื่อมความสามัคคี ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับใน พ.ศ. 2568 สมาคมจึงได้กำหนด ให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ ตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขึ้น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 2 สาย รวม 8 สาย ๆ ละ 4 อำเภอ รวม 32 อำเภอ (ทีม) โดยดำเนินการจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ซึ่งกำหนดแข่งขันรอบแรกในระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2568 รวม 6 วัน ๆ ละ 8 คู่ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาวอลเลย์บอลศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชั้น 4

    ทั้งนี้ สมาคมได้ดำเนินการจับสลากแบ่งสายในการแข่งขันรอบแรกเรียบร้อยแล้ว จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมเป็น กําลังใจ ร่วมชมและเชียร์ทีมนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน
    ผู้ว่าโคราชเป็นประธานเตรียมความพร้อมจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 . วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานการประชุมการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเชื่อมความ สามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 โดยมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตประธานสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา ดร.ประทุม พรรณพิสุทธิ์ รองประธานสโมสรฯ คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ดร.บรรทม พิมพ์ทองครบุรี ผอ.โรงเรียนบ้านนางหริญ นางสาวรพีพรรณ วิเศษ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ จังหวัดนครราชสีมา นายวีระวัฒน์ (ปรีชา) มิตรสูงเนิน นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด นายอนุชา ศิริโภคานนท์ กำนันตำบลหนองระเวียง นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา ที่ปรึกษาสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา นายณัฐวุฒิ เดินสันเทียะ เลขานุการสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา และนายมนต์ ช่วยพิมาย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ร่วมงานแถลงข่าวด้วย . เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน มีอัตรากำลังกำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสิ้น 12,768 คน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอัตรากำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มากที่สุดในประเทศไทย ในจำนวนนี้ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่เป็นสุภาพสตรี ถึง 4,538 คน ดังนั้น เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทั้ง 32 อำเภอได้พบปะและจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2567 สมาคมได้จัดแข่งขันกีฬา ฟุตบอลชายเชื่อมความสามัคคี ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับใน พ.ศ. 2568 สมาคมจึงได้กำหนด ให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ ตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขึ้น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 2 สาย รวม 8 สาย ๆ ละ 4 อำเภอ รวม 32 อำเภอ (ทีม) โดยดำเนินการจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ซึ่งกำหนดแข่งขันรอบแรกในระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2568 รวม 6 วัน ๆ ละ 8 คู่ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาวอลเลย์บอลศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชั้น 4 ทั้งนี้ สมาคมได้ดำเนินการจับสลากแบ่งสายในการแข่งขันรอบแรกเรียบร้อยแล้ว จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมเป็น กําลังใจ ร่วมชมและเชียร์ทีมนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 609 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ว่าโคราชเป็นประธานเตรียมความพร้อมจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568
    .
    วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานการประชุมการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเชื่อมความ สามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 โดยมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตประธานสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา ดร.ประทุม พรรณพิสุทธิ์ รองประธานสโมสรฯ คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ดร.บรรทม พิมพ์ทองครบุรี ผอ.โรงเรียนบ้านนางหริญ นางสาวรพีพรรณ วิเศษ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ จังหวัดนครราชสีมา นายวีระวัฒน์ (ปรีชา) มิตรสูงเนิน นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด นายอนุชา ศิริโภคานนท์ กำนันตำบลหนองระเวียง นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา ที่ปรึกษาสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา นายณัฐวุฒิ เดินสันเทียะ เลขานุการสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา และนายมนต์ ช่วยพิมาย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ร่วมงานแถลงข่าวด้วย
    .
    เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน มีอัตรากำลังกำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสิ้น 12,768 คน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอัตรากำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มากที่สุดในประเทศไทย ในจำนวนนี้ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่เป็นสุภาพสตรี ถึง 4,538 คน ดังนั้น เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทั้ง 32 อำเภอได้พบปะและจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2567 สมาคมได้จัดแข่งขันกีฬา ฟุตบอลชายเชื่อมความสามัคคี ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับใน พ.ศ. 2568 สมาคมจึงได้กำหนด ให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ ตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขึ้น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 2 สาย รวม 8 สาย ๆ ละ 4 อำเภอ รวม 32 อำเภอ (ทีม) โดยดำเนินการจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ซึ่งกำหนดแข่งขันรอบแรกในระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2568 รวม 6 วัน ๆ ละ 8 คู่ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาวอลเลย์บอลศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชั้น 4

    ทั้งนี้ สมาคมได้ ดำเนินการจับสลากแบ่งสายในการแข่งขันรอบแรกเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดประกฏตามโปรแกรมการ แข่งขันแนบท้ายเอกสารนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมเป็น กําลังใจ ร่วมชมและเชียร์ทีมนักกีฬาที่เข้าแข่งขันตามกำหนดการดังกล่าว
    ผู้ว่าโคราชเป็นประธานเตรียมความพร้อมจัดแข่งวอลเลย์บอลหญิง สานสามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 . วันนี้ (4 มิถุนายน 2568) เวลา 10.00 น. ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการ จังหวัดนครราชสีมา ได้เป็นประธานการประชุมการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเชื่อมความ สามัคคี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2568 โดยมีนายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตประธานสโมสรกีฬาวอลเลย์บอลจังหวัดนครราชสีมา ดร.ประทุม พรรณพิสุทธิ์ รองประธานสโมสรฯ คุณปพิญชา ณ นครพนม ผู้อำนวยการศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ดร.บรรทม พิมพ์ทองครบุรี ผอ.โรงเรียนบ้านนางหริญ นางสาวรพีพรรณ วิเศษ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์ จังหวัดนครราชสีมา นายวีระวัฒน์ (ปรีชา) มิตรสูงเนิน นายกเทศมนตรีตำบลโคกกรวด นายอนุชา ศิริโภคานนท์ กำนันตำบลหนองระเวียง นายศักดิ์ชัย ชาติพุดซา ที่ปรึกษาสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา นายณัฐวุฒิ เดินสันเทียะ เลขานุการสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา และนายมนต์ ช่วยพิมาย นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา ร่วมงานแถลงข่าวด้วย . เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดใหญ่ แบ่งการปกครองออกเป็น 32 อำเภอ 287 ตำบล 3,743 หมู่บ้าน มีอัตรากำลังกำนันผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งสิ้น 12,768 คน ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอัตรากำลังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ มากที่สุดในประเทศไทย ในจำนวนนี้ มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ที่เป็นสุภาพสตรี ถึง 4,538 คน ดังนั้น เพื่อเสริมสร้างความสามัคคี ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ทั้ง 32 อำเภอได้พบปะและจัดกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2567 สมาคมได้จัดแข่งขันกีฬา ฟุตบอลชายเชื่อมความสามัคคี ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี สำหรับใน พ.ศ. 2568 สมาคมจึงได้กำหนด ให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลหญิงเพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำ ตำบล สารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ขึ้น โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 กลุ่ม ๆ ละ 2 สาย รวม 8 สาย ๆ ละ 4 อำเภอ รวม 32 อำเภอ (ทีม) โดยดำเนินการจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 18 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 ซึ่งกำหนดแข่งขันรอบแรกในระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2568 รวม 6 วัน ๆ ละ 8 คู่ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไป ณ สนามกีฬาวอลเลย์บอลศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ชั้น 4 ทั้งนี้ สมาคมได้ ดำเนินการจับสลากแบ่งสายในการแข่งขันรอบแรกเรียบร้อยแล้ว รายละเอียดประกฏตามโปรแกรมการ แข่งขันแนบท้ายเอกสารนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงได้ร่วมเป็น กําลังใจ ร่วมชมและเชียร์ทีมนักกีฬาที่เข้าแข่งขันตามกำหนดการดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 565 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เข้าสู่ฤดูฝน เรายังเคียงข้างประชาชน พร้อมช่วยเหลือในทุกโอกาส"
    .
    กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 จัดกำลังพล พร้อมยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในการติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำเชิญไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายหมู่บ้าน
    .
    มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่
    •ตำบลวังสวาบ: บ้านหนองแห้ว ม.3, บ้านวังมน ม.4, บ้านเขาวง ม.5, บ้านโนนเตาเหล็ก ม.10
    •ตำบลนาฝาย: บ้านสะแกเครือ ม.1, บ้านสองคอน ม.3, บ้านนาท่าลี่ ม.4, บ้านนาฝายเหนือ ม.5
    •ตำบลโนนคอม: บ้านเซินเหนือ ม.2, บ้านเซินใต้ ม.3
    .
    โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทางน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หน่วยจึงได้เร่งให้การช่วยเหลือโดยการกรอกกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด
    .
    #กองพลทหารราบที่3
    #กองทัพภาคที่2
    #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    "เข้าสู่ฤดูฝน เรายังเคียงข้างประชาชน พร้อมช่วยเหลือในทุกโอกาส" . กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 8 จัดกำลังพล พร้อมยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ ลงพื้นที่ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ในการติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่เอ่อล้นตลิ่งลำน้ำเชิญไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในหลายหมู่บ้าน . มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ •ตำบลวังสวาบ: บ้านหนองแห้ว ม.3, บ้านวังมน ม.4, บ้านเขาวง ม.5, บ้านโนนเตาเหล็ก ม.10 •ตำบลนาฝาย: บ้านสะแกเครือ ม.1, บ้านสองคอน ม.3, บ้านนาท่าลี่ ม.4, บ้านนาฝายเหนือ ม.5 •ตำบลโนนคอม: บ้านเซินเหนือ ม.2, บ้านเซินใต้ ม.3 . โดยประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ทางน้ำได้รับผลกระทบจากน้ำหลากไหลเข้าท่วมบ้านเรือน หน่วยจึงได้เร่งให้การช่วยเหลือโดยการกรอกกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำ ยกสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด . #กองพลทหารราบที่3 #กองทัพภาคที่2 #กองทัพบกRoyalThaiArmy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 438 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง,
    ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี.

    https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    ..ยอมรับว่าเบื่อหน่ายทัังระบบข้าราชการพลเรือนและข้าราชการแบบส่วนท้องถิ่นมา อบต.อบท.อบจ.เหี้ยหมด ตลอดผู้ใหญ่บ้านก็ด้วย ซื้อเสียงหมด พรรคการเมืองระดับชาติคุมหมด,กำนันผีบ้าก็ไม่เลือกตั้งตรงอีก,สมบัติชาติ ทรัพยากรระดับท้องถิ่นใครมันสมควรไปสร้างประโยชน์สาธารณะระดับประเทศแบบบ่อน้ำมันในพื้นที่ อบต.อบท.อบจ.อำเภอ จังหวัดนั้นๆอะไรจะไม่เห็นจริงได้ไง,นำพาประชาชนเรียกร้องห้ามเปืดสัมปทานยกให้ต่างชาติสิ,เอาสื่อหลักมาตีแผ่ความจริงก็ไม่ทำ ทั้งผู้ว่า นายอำเภอนั้นๆ ปิดปากเงียบร่วมกับอบต.อบท.อบจ.นัันๆอีก,ไม่รวมบ่อทองคำด้วย,ถ้าค่ายบางระจันมีจริง แต่ละอบต.อบท.อบจ.นายอำเภอผู้ว่านั้นๆต้องเปิดค่ายบางระจันรบเลย เต็มตรึมทั่วบนแผ่นดิน สร้างกองทัพมวลชนปลุกคนไทยพื้นที่อื่นๆมารู้จะมากมายขนาดไหน,นี้คือวิถีปกครองที่ผิดพลาดและล้มเหลว,ชาติไทยดำรงมั่นคงดักดานในความยากจนเกินพอแล้วจริงๆ ร.5เราคือตัวอย่างที่ดีชัดเจน จนต่างชาติหวาดกลัวในภูมิภาคนี้ เกินหน้าชาติใดๆก็ว่า เกาหลีใต้ยังขี้เล็บเราเลยสมัยนั้น.,ฝรั่งมันกลัวเราจึงตัดขาเราทุกๆรูปแบบ.จึงฝรั่งได้มุกสำเร็จในยุคกบฎคณะ2475 ประชุมกองโจรกบฎก็ทำที่ชาติฝรั่งมันอำนวยสถานที่ทัังประสานงานและก่อการอำนวยสร้าง, ..แม้ข้ามเดือนนี้ไปก็ไม่ต้องการข้าม ถีบๆลงไปเถอะทั้งหมดพวกหนักแผ่นดินไทย.,ทุบทิ้งกลางเดือนนี้ยิ่งดี. https://youtube.com/shorts/NLiCRW-2iG4?si=9YNOkJvL7sfljW3Y
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ 14 พ.ค. 2568 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมาย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา สนง.ปภ จังหวัดนครราชสีมา , อำเภอเมืองนครราชสีมา , องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ เทศบาลตำบลตลาด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายสถานีรถไฟบ้านเกาะ และเจ้าหน้าที่นายตรวจทางรถไฟ ลงพื้นที่ตรวจสอบอุโมงค์ทางลอดรถไฟ บริเวณบ้านหนองกะดังงา ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา กรณีน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกหนัก เนื่องจากถูกขโมยตัดสายไฟที่ต่อไปยังเครื่องสูบน้ำ
    จากการตรวจสอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแก้ไขในระยะเร่งด่วน ดังนี้
    1. การรถไฟ ได้ต่อสายไฟเข้ากับเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากอุโมงค์ คาดว่าในช่วงบ่ายจะสามารถระบายน้ำออกได้แล้วเสร็จ
    2. องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ และเทศบาลตำบลตลาด จะได้นำรถไถ และรถบรรทุกน้ำ เข้าล้างทำความสะอาดอุโมงค์
    3. การรถไฟ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขโมยสายไฟ กับสถานีตำรวจภูธรจอหอ เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิด
    4. อำเภอเมืองนครราชสีมา ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรจอหอ ออกตรวจร้านขายของเก่าในพื้นที่ และแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักขโมยสายไฟ
    ระยะยาว นายตรวจทางรถไฟ ได้ของบประมาณจากการรถไฟ เพื่อวางสายไฟใต้ดินเชื่อมกับเครื่องสูบน้ำ และติดตั้งกล้องวงจรปิด ในบริเวณดังกล่าว
    วันนี้ 14 พ.ค. 2568 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมาย ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา สนง.ปภ จังหวัดนครราชสีมา , อำเภอเมืองนครราชสีมา , องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ เทศบาลตำบลตลาด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายสถานีรถไฟบ้านเกาะ และเจ้าหน้าที่นายตรวจทางรถไฟ ลงพื้นที่ตรวจสอบอุโมงค์ทางลอดรถไฟ บริเวณบ้านหนองกะดังงา ตำบลจอหอ อำเภอเมืองนครราชสีมา กรณีน้ำท่วมขังจากฝนที่ตกหนัก เนื่องจากถูกขโมยตัดสายไฟที่ต่อไปยังเครื่องสูบน้ำ จากการตรวจสอบ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการแก้ไขในระยะเร่งด่วน ดังนี้ 1. การรถไฟ ได้ต่อสายไฟเข้ากับเครื่องสูบน้ำ เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากอุโมงค์ คาดว่าในช่วงบ่ายจะสามารถระบายน้ำออกได้แล้วเสร็จ 2. องค์การบริหารส่วนตำบลจอหอ และเทศบาลตำบลตลาด จะได้นำรถไถ และรถบรรทุกน้ำ เข้าล้างทำความสะอาดอุโมงค์ 3. การรถไฟ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขโมยสายไฟ กับสถานีตำรวจภูธรจอหอ เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิด 4. อำเภอเมืองนครราชสีมา ร่วมกับสถานีตำรวจภูธรจอหอ ออกตรวจร้านขายของเก่าในพื้นที่ และแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ออกตรวจพื้นที่ เพื่อป้องกันการลักขโมยสายไฟ ระยะยาว นายตรวจทางรถไฟ ได้ของบประมาณจากการรถไฟ เพื่อวางสายไฟใต้ดินเชื่อมกับเครื่องสูบน้ำ และติดตั้งกล้องวงจรปิด ในบริเวณดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำนันหนองหอย พาลูกบ้านชาวเชียงใหม่กว่าครึ่งร้อย ขึ้นโรงพักแม่ปิง แจ้งความร้องทุกข์ หลังเลือกตั้งถูกโพสต์ดูหมิ่นเหยียดหยาม ระบุข้อความกล่าวหาทั้งซื้อสิทธิ์ขายเสียง-กินหญ้า ฯลฯ ประหนึ่งว่าชาวบ้านเป็นควาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000044704

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กำนันหนองหอย พาลูกบ้านชาวเชียงใหม่กว่าครึ่งร้อย ขึ้นโรงพักแม่ปิง แจ้งความร้องทุกข์ หลังเลือกตั้งถูกโพสต์ดูหมิ่นเหยียดหยาม ระบุข้อความกล่าวหาทั้งซื้อสิทธิ์ขายเสียง-กินหญ้า ฯลฯ ประหนึ่งว่าชาวบ้านเป็นควาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000044704 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 824 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ

    “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน…

    ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต

    “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้

    หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น

    จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน

    ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน

    วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก”

    “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา

    ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย

    ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง

    จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ

    “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

    วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต

    อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก"

    ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ
    หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง

    “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์

    คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย"

    คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า…

    - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง?
    - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา?
    - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย?

    เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน

    “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่”

    "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น"

    ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568

    #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์

    15 ปี สิ้น “จ่าเพียร ขาเหล็ก” ผู้กำกับนักสู้แห่งเทือกเขาบูโด ตำนานย้ายยากเย็น เซ่นสลับบัญชี โชคร้ายตายก่อนขึ้นรองผู้การ 🚔 “คงอยากจะขอยศพันตำรวจเอกให้ผม ตอนที่ผมตายแล้ว” คำพูดที่ยังคงก้องในหัวใจคนไทยหลายคน… 🕊️ 🌿 ตำนานที่ยังไม่ลืม ผ่านมากว่า 15 ปี แล้ว... แต่เรื่องราวของ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” หรือ พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ภ.จว.ยะลา ยังถูกเล่าขานในฐานะ “นักสู้แห่งเทือกเขาบูโด” ผู้ทุ่มเทชีวิตเพื่อความสงบสุขของแผ่นดินปลายด้ามขวาน 🗡️ แม้จะแลกด้วยความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวด และสุดท้าย... ชีวิต 👮‍♂️ “สมเพียร เอกสมญา” หรือชื่อเล่นว่า “เนี้ยบ” เกิดเมื่อปี 2493 ในครอบครัวยากจนที่จังหวัดสงขลา ชีวิตในวัยเด็กเต็มไปด้วยความลำบาก ต้องช่วยพ่อแม่กรีดยาง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว แต่ความยากจน ไม่สามารถปิดกั้นความฝันได้ 🎓 หลังเรียนจบชั้นประถมปีที่ 4 สมเพียรตัดสินใจเป็นศิษย์วัดเพื่อเรียนต่อ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเรียนตำรวจ ต้องเปลี่ยนนามสกุลจาก “แซ่เจ่ง” เป็น “เอกสมญา” เพื่อเข้ารับราชการในยุคนั้น จุดเริ่มต้นของนักรบแดนใต้ ปี 2513 สมเพียรเริ่มต้นอาชีพตำรวจที่ สถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ภ.จว.ยะลา ในช่วงเวลาที่ภาคใต้ร้อนระอุ จากความขัดแย้งของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) และกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดน ชีวิตของสมเพียร ไม่ใช่แค่การจับผู้ร้ายทั่วไป แต่ต้องเผชิญหน้ากับสงครามกองโจร และการลอบสังหารเกือบทุกวัน 😔 🔥 วีรกรรมและตำนาน “ขาเหล็ก” เหตุการณ์ปะทะที่เกือบเอาชีวิตไม่รอด ปี 2519 ขณะที่ครองยศ "จ่าสิบตำรวจ" ได้เข้าปะทะกับขบวนการก่อการไม่สงบ ที่จับตำรวจและครอบครัวเป็นตัวประกัน บนเขาเจาะปันตัง เหตุการณ์นั้นทำให้ จ่าเพียรเกือบเสียขาข้างซ้าย ต้องใส่เหล็กดามขามาตลอดชีวิต จนได้ฉายาว่า “จ่าเพียร ขาเหล็ก” 🦿 🦾 “ผมไม่อยากเป็นวีรบุรุษ และจะไม่ขอตายในชุดนักรบ” พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา 🦅 ปฏิบัติการ “ยูงทอง” ชุดปฏิบัติการปราบปราม กลุ่มก่อการไม่สงบในบันนังสตา มีชื่อเสียงอย่างมากภาย ใต้การนำของจ่าเพียร เคยนำทีมเข้าปะทะกองกำลังกว่า 30 คน ในปี 2526 แม้ตัวเองจะโดนยิงที่ต้นขาขวา แต่ยังสู้ไม่ถอย ✊ 🏡 ความฝันสุดท้ายของจ่าเพียร อยากกลับบ้าน...แค่ใช้ชีวิตกับครอบครัว ในช่วงสุดท้ายของชีวิต พ.ต.อ.สมเพียร ยื่นเรื่องขอย้ายกลับไปอยู่ สภ.กันตัง จ.ตรัง บ้านเกิดของภรรยา เพื่อใช้ชีวิตเงียบสงบช่วง 18 เดือนก่อนเกษียณ แต่การโยกย้ายกลับไม่เกิดขึ้น แม้ว่าจะมีชื่อติดในโผโยกย้ายตั้งแต่แรก แต่ในขั้นตอนสุดท้าย กลับถูกสับเปลี่ยนชื่อ สลับบัญชี เพื่อหลีกทางให้คนของนักการเมือง 🍃 จ่าเพียรไม่ยอมรับโผอัปยศ จึงเดินทางจากชายแดนใต้สู่กรุงเทพฯ ไปทวงถามความเป็นธรรม ถึงทำเนียบรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งได้รับคำปลอบใจว่า จะเยียวยาโดยให้ขึ้นตำแหน่ง "รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด" ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ 💬 “ไม่มีการแต่งตั้งตำรวจครั้งไหนที่แย่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว” แม้ว่าจ่าเพยีจะพูดด้วยน้ำตา แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 💔 วันแห่งความสูญเสีย ปฏิบัติการสุดท้ายที่บ้านทับช้าง ในเช้าวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม 2553 จ่าเพียร พร้อมด้วยลูกน้อง 4 นาย และ อส.คนสนิทอีก 1 นาย นั่งรถยนต์ปิกอัพ โตโยต้าไฮลักซ์วีโก้ 4 ประตู สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กข 9302 ยะลา และอส.คนสนิท อีก 1 นาย ออกลาดตระเวนในพื้นที่บ้านทับช้าง แต่ถูกกลุ่มก่อการไม่สงบ กดระเบิด และกราดยิงด้วยอาวุธสงครามอย่างหนัก จ่าเพียรได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา ลูกน้องได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 นาย และอีก 1 นายเสียชีวิต 🔫 ⚰️ อายุ 59 ปี สิ้นสุดเส้นทางของนักรบผู้ภักดีต่อหน้าที่ บทเรียนชีวิตและความจริงที่เจ็บปวด การต่อสู้ของจ่าเพียร ไม่ใช่แค่ศึกในสนามรบ แต่ยังเป็นศึกในระบบราชการที่ซับซ้อน และมีปัญหาเรื่องอุปถัมภ์ จ่าเพียรไม่ได้รับโอกาสเลื่อนยศหรือโยกย้าย จนกว่าจะเสียชีวิตแล้ว ถึงได้เลื่อนยศ 7 ขั้น เป็น "พลตำรวจเอก" 🕊️ ⚖️ ระบบที่ควรตอบแทนคนทุ่มเท กลับถูกแทนที่ด้วยสายสัมพันธ์และอำนาจ มรดกและแรงบันดาลใจ หลังจากการเสียชีวิตของจ่าเพียร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มอบเงินช่วยเหลือครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท และรับผิดชอบการศึกษาของลูก จนจบปริญญาตรี แต่สิ่งที่จ่าเพียรทิ้งไว้ไม่ใช่แค่เงินทอง ❤️ “จ่าเพียร ขาเหล็ก” กลายเป็นสัญลักษณ์ของตำรวจที่ทุ่มเท และไม่ยอมแพ้ต่ออุปถัมภ์ 🗣️ คำพูดสุดท้ายที่ยังตราตรึง "ผมไม่ได้อยากย้ายเพื่อความก้าวหน้า แต่อยากกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมทำงานมา 40 ปี แทบไม่มีเวลาให้พวกเขาเลย" ❓ คำถามที่ยังไร้คำตอบ แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปี แต่เรื่องราวของจ่าเพียร ยังเป็นกระจกสะท้อนปัญหาระบบราชการไทย หลายคนยังสงสัยว่า… - ทำไมตำรวจน้ำดี ต้องตายก่อนจึงได้รับการยกย่อง? - ทำไมระบบโยกย้าย ถึงเต็มไปด้วยข้อครหา? - ใครจะปกป้องผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่ไม่มีเส้นสาย? 🤝 เสียงจากคนในพื้นที่ “จ่าเพียรกลับมาแล้ว” ไม่ใช่แค่ตำรวจ แต่เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน 🕊️ “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยะลา ปัตตานี นราธิวาส รู้จักจ่าเพียรในฐานะคนที่ไม่เคยทิ้งพื้นที่” 🌳 "คนที่เคยเป็นเยาวชนไม่มีอนาคต กลายมาเป็นอาสาสมัครในทีมของจ่าเพียร ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น" 🕯️ ตำนานที่ไม่ควรจางหาย ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ชื่อ "สมเพียร เอกสมญา" ไม่ได้ตายเพราะกระสุนหรือระเบิด แต่เพราะระบบที่ล้มเหลวในการดูแลคนดี 💐 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121155 มี.ค. 2568 #จ่าเพียรขาเหล็ก #ฮีโร่แดนใต้ #ผู้กำกับนักสู้ #สมเพียรเอกสมญา #ชายแดนใต้ #นักรบแห่งบูโด #ตำรวจไทย #ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ #วีรบุรุษแดนใต้ #ระบบอุปถัมภ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1765 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงยหน้าไม่อายฟ้า
    ก้มหน้าไม่อายดิน

    ผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ แต่ไมได้เป็นกำนัน เพราะไมจ่ายเงินซื้อเสียง
    เงยหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน 😊 ผู้ใหญ่บ้านแหนบทองคำ แต่ไมได้เป็นกำนัน เพราะไมจ่ายเงินซื้อเสียง 🤣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts