• เรื่องเล่าจากโลก LLMs: พาไปส่องโครงสร้างภายในของโมเดล AI ยักษ์ยุคใหม่

    7 ปีผ่านไปจาก GPT-2 ถึงวันนี้ แม้โมเดลจะดูคล้ายกันมาก แต่ภายใต้ “กลไกเล็ก ๆ” กลับมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องประสิทธิภาพและหน่วยความจำ เช่น:
    - เปลี่ยนจาก Multi-Head Attention (MHA) เป็น Grouped-Query Attention (GQA)
    - ใช้ Multi-Head Latent Attention (MLA) ในบางโมเดล เช่น DeepSeek V3
    - การใช้ Mixture-of-Experts (MoE) เพื่อเพิ่มพารามิเตอร์โดยไม่เพิ่มต้นทุน inference
    - การปรับตำแหน่งของ Normalization Layer เพื่อให้โมเดลเสถียรขึ้น
    - ใช้ Sliding Window Attention และ QK-Norm เพื่อประหยัด KV cache และเร่งการเรียนรู้
    - ลดขนาดโมเดลโดยยังให้ความสามารถสูง เช่น SmolLM3 กับ Gemma 3n

    DeepSeek V3 ใช้ Multi-Head Latent Attention (MLA) แทน GQA เพื่อประหยัด KV cache
    ขณะเดียวกันยังให้ผลลัพธ์ดีกว่า MHA และใช้พารามิเตอร์น้อยลง
    MLA แม้มีผลดี แต่ยังใหม่และซับซ้อนในการ implement
    ต้องใช้การบีบอัดและ projection ซึ่งเพิ่มขั้นตอนในการ inference

    DeepSeek V3 ใช้ Mixture-of-Experts (MoE) ที่มี 256 expert layers
    ใช้เพียง 9 expert ต่อ token ขณะ inference ทำให้ประหยัดพลังงาน
    การใช้ MoE ทำให้ parameter ทั้งหมดเยอะมาก แม้จะใช้จริงเพียงส่วนน้อย
    หากระบบ routing ไม่ดีหรือไม่เสถียร อาจเกิด undertraining ในบาง expert

    OLMo 2 ใช้ Post-Norm แบบใหม่ และเพิ่ม QK-Norm ภายใน attention block
    ช่วยเสถียรภาพในการฝึกและลด loss
    QK-Norm และการสลับ Pre/Post-Norm ต้องทดลองอย่างระวัง
    ถ้าใช้ผิดจังหวะอาจทำให้ training loss แปรปรวน

    Gemma 3 ใช้ Sliding Window Attention เพื่อลดการใช้หน่วยความจำ
    ลดขนาด window เหลือ 1024 token และมี Global Attention เฉพาะบางชั้น
    Sliding Window Attention ลด memory แต่ไม่ลด latency เสมอไป
    เพราะยังต้องประมวลผลแบบ local ซึ่งไม่สามารถใช้ FlashAttention ได้เต็มที่

    Gemma 3n ใช้ Per-Layer Embedding เพื่อให้ inference บนอุปกรณ์เล็ก
    แยก parameter บางส่วนไว้บน CPU หรือ SSD แล้วโหลดตามต้องการ
    Per-Layer Embedding ทำให้พารามิเตอร์ถูกสตรีมจากอุปกรณ์ภายนอก
    ถ้า bandwidth หรือ latency สูงเกินไปจะกระทบต่อการ inference อย่างหนัก

    Mistral Small 3.1 เลิกใช้ Sliding Attention เพื่อรองรับ FlashAttention แบบเต็ม
    ทำให้ inference เร็วขึ้นแม้จะมีพารามิเตอร์ใกล้เคียงกับ Gemma 3

    Llama 4 ใช้ MoE แบบ alternated (สลับชั้น MoE กับ Dense)
    Active parameter มีแค่ 17B แม้ model จะมี 400B

    Qwen3 มีรุ่น dense ขนาดเล็กมาก (เช่น 0.6B) และ MoE ขนาดใหญ่ถึง 235B
    รุ่น MoE ไม่มี shared expert แต่ยังใช้ GQA เหมือนรุ่นก่อน

    SmolLM3 ใช้ NoPE (No Positional Embeddings) แบบไม่ระบุตำแหน่งเลย
    แสดงให้เห็นว่าไม่ต้องใช้ embedding ก็สามารถเรียนรู้ลำดับได้บางส่วน
    การไม่มี Positional Embedding (เช่น NoPE) อาจกระทบโมเดลใน task ที่ต้องอิงลำดับ
    เช่นการสรุปเนื้อหายาว หรือการจัดเรียงข้อมูลตามเวลา

    https://magazine.sebastianraschka.com/p/the-big-llm-architecture-comparison
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลก LLMs: พาไปส่องโครงสร้างภายในของโมเดล AI ยักษ์ยุคใหม่ 7 ปีผ่านไปจาก GPT-2 ถึงวันนี้ แม้โมเดลจะดูคล้ายกันมาก แต่ภายใต้ “กลไกเล็ก ๆ” กลับมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องประสิทธิภาพและหน่วยความจำ เช่น: - เปลี่ยนจาก Multi-Head Attention (MHA) เป็น Grouped-Query Attention (GQA) - ใช้ Multi-Head Latent Attention (MLA) ในบางโมเดล เช่น DeepSeek V3 - การใช้ Mixture-of-Experts (MoE) เพื่อเพิ่มพารามิเตอร์โดยไม่เพิ่มต้นทุน inference - การปรับตำแหน่งของ Normalization Layer เพื่อให้โมเดลเสถียรขึ้น - ใช้ Sliding Window Attention และ QK-Norm เพื่อประหยัด KV cache และเร่งการเรียนรู้ - ลดขนาดโมเดลโดยยังให้ความสามารถสูง เช่น SmolLM3 กับ Gemma 3n ✅ DeepSeek V3 ใช้ Multi-Head Latent Attention (MLA) แทน GQA เพื่อประหยัด KV cache ➡️ ขณะเดียวกันยังให้ผลลัพธ์ดีกว่า MHA และใช้พารามิเตอร์น้อยลง ‼️ MLA แม้มีผลดี แต่ยังใหม่และซับซ้อนในการ implement ⛔ ต้องใช้การบีบอัดและ projection ซึ่งเพิ่มขั้นตอนในการ inference ✅ DeepSeek V3 ใช้ Mixture-of-Experts (MoE) ที่มี 256 expert layers ➡️ ใช้เพียง 9 expert ต่อ token ขณะ inference ทำให้ประหยัดพลังงาน ‼️ การใช้ MoE ทำให้ parameter ทั้งหมดเยอะมาก แม้จะใช้จริงเพียงส่วนน้อย ⛔ หากระบบ routing ไม่ดีหรือไม่เสถียร อาจเกิด undertraining ในบาง expert ✅ OLMo 2 ใช้ Post-Norm แบบใหม่ และเพิ่ม QK-Norm ภายใน attention block ➡️ ช่วยเสถียรภาพในการฝึกและลด loss ‼️ QK-Norm และการสลับ Pre/Post-Norm ต้องทดลองอย่างระวัง ⛔ ถ้าใช้ผิดจังหวะอาจทำให้ training loss แปรปรวน ✅ Gemma 3 ใช้ Sliding Window Attention เพื่อลดการใช้หน่วยความจำ ➡️ ลดขนาด window เหลือ 1024 token และมี Global Attention เฉพาะบางชั้น ‼️ Sliding Window Attention ลด memory แต่ไม่ลด latency เสมอไป ⛔ เพราะยังต้องประมวลผลแบบ local ซึ่งไม่สามารถใช้ FlashAttention ได้เต็มที่ ✅ Gemma 3n ใช้ Per-Layer Embedding เพื่อให้ inference บนอุปกรณ์เล็ก ➡️ แยก parameter บางส่วนไว้บน CPU หรือ SSD แล้วโหลดตามต้องการ ‼️ Per-Layer Embedding ทำให้พารามิเตอร์ถูกสตรีมจากอุปกรณ์ภายนอก ⛔ ถ้า bandwidth หรือ latency สูงเกินไปจะกระทบต่อการ inference อย่างหนัก ✅ Mistral Small 3.1 เลิกใช้ Sliding Attention เพื่อรองรับ FlashAttention แบบเต็ม ➡️ ทำให้ inference เร็วขึ้นแม้จะมีพารามิเตอร์ใกล้เคียงกับ Gemma 3 ✅ Llama 4 ใช้ MoE แบบ alternated (สลับชั้น MoE กับ Dense) ➡️ Active parameter มีแค่ 17B แม้ model จะมี 400B ✅ Qwen3 มีรุ่น dense ขนาดเล็กมาก (เช่น 0.6B) และ MoE ขนาดใหญ่ถึง 235B ➡️ รุ่น MoE ไม่มี shared expert แต่ยังใช้ GQA เหมือนรุ่นก่อน ✅ SmolLM3 ใช้ NoPE (No Positional Embeddings) แบบไม่ระบุตำแหน่งเลย ➡️ แสดงให้เห็นว่าไม่ต้องใช้ embedding ก็สามารถเรียนรู้ลำดับได้บางส่วน ‼️ การไม่มี Positional Embedding (เช่น NoPE) อาจกระทบโมเดลใน task ที่ต้องอิงลำดับ ⛔ เช่นการสรุปเนื้อหายาว หรือการจัดเรียงข้อมูลตามเวลา https://magazine.sebastianraschka.com/p/the-big-llm-architecture-comparison
    MAGAZINE.SEBASTIANRASCHKA.COM
    The Big LLM Architecture Comparison
    From DeepSeek-V3 to Kimi K2: A Look At Modern LLM Architecture Design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: 7 แนวทางความปลอดภัยที่ควรเลิกใช้ ก่อนที่มันจะทำร้ายองค์กร

    ในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็ว การยึดติดกับแนวทางเก่า ๆ อาจกลายเป็นจุดอ่อนร้ายแรงขององค์กร บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 7 แนวทางด้านความปลอดภัยที่ล้าสมัยและควรเลิกใช้ทันที พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ

    1️⃣ การพึ่ง perimeter-only security
    ไม่เพียงพอในยุค cloud และ hybrid work ต้องใช้แนวคิด Zero Trust

    2️⃣ การเน้น compliance มากกว่าความปลอดภัยจริง
    การตรวจสอบตามข้อกำหนดไม่ช่วยป้องกันภัยคุกคามที่แท้จริง
    ทีมงานอาจมัวแต่ตอบ audit แทนที่จะป้องกันภัยจริง

    3️⃣ การใช้ VPN แบบเก่า (legacy VPNs)
    ไม่สามารถรองรับการทำงานแบบ remote และขาดการอัปเดตที่ปลอดภัย
    เสี่ยงต่อการโจมตีและการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

    4️⃣ การคิดว่า EDR เพียงพอแล้ว
    ผู้โจมตีสามารถหลบเลี่ยง EDR โดยโจมตีผ่าน cloud, network หรือ API
    เช่น การใช้ OAuth token หรือการโจมตีผ่าน IoT

    5️⃣ การใช้ SMS เป็นวิธี 2FA
    เสี่ยงต่อการถูกโจมตีผ่าน SIM swapping และช่องโหว่ของเครือข่ายโทรศัพท์
    ไม่ปลอดภัยสำหรับการป้องกันบัญชีสำคัญ

    6️⃣ การใช้ SIEM แบบ on-premises
    เสียค่าใช้จ่ายสูงและไม่สามารถตรวจจับภัยในระบบ cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    เสี่ยงต่อการพลาดข้อมูลสำคัญจากระบบ cloud

    7️⃣ การปล่อยให้ผู้ใช้เป็นผู้รับแบบ passive ในวัฒนธรรมความปลอดภัย
    ต้องสร้างการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกัน phishing และ social engineering
    การขาดการฝึกอบรมทำให้ phishing และ social engineering สำเร็จง่ายขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/4022848/7-obsolete-security-practices-that-should-be-terminated-immediately.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: 7 แนวทางความปลอดภัยที่ควรเลิกใช้ ก่อนที่มันจะทำร้ายองค์กร ในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงเร็ว การยึดติดกับแนวทางเก่า ๆ อาจกลายเป็นจุดอ่อนร้ายแรงขององค์กร บทความจาก CSO Online ได้รวบรวม 7 แนวทางด้านความปลอดภัยที่ล้าสมัยและควรเลิกใช้ทันที พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ 1️⃣ การพึ่ง perimeter-only security ➡️ ไม่เพียงพอในยุค cloud และ hybrid work ต้องใช้แนวคิด Zero Trust 2️⃣ การเน้น compliance มากกว่าความปลอดภัยจริง ➡️ การตรวจสอบตามข้อกำหนดไม่ช่วยป้องกันภัยคุกคามที่แท้จริง ⛔ ทีมงานอาจมัวแต่ตอบ audit แทนที่จะป้องกันภัยจริง 3️⃣ การใช้ VPN แบบเก่า (legacy VPNs) ➡️ ไม่สามารถรองรับการทำงานแบบ remote และขาดการอัปเดตที่ปลอดภัย ⛔ เสี่ยงต่อการโจมตีและการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต 4️⃣ การคิดว่า EDR เพียงพอแล้ว ➡️ ผู้โจมตีสามารถหลบเลี่ยง EDR โดยโจมตีผ่าน cloud, network หรือ API ⛔ เช่น การใช้ OAuth token หรือการโจมตีผ่าน IoT 5️⃣ การใช้ SMS เป็นวิธี 2FA ➡️ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีผ่าน SIM swapping และช่องโหว่ของเครือข่ายโทรศัพท์ ⛔ ไม่ปลอดภัยสำหรับการป้องกันบัญชีสำคัญ 6️⃣ การใช้ SIEM แบบ on-premises ➡️ เสียค่าใช้จ่ายสูงและไม่สามารถตรวจจับภัยในระบบ cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ⛔ เสี่ยงต่อการพลาดข้อมูลสำคัญจากระบบ cloud 7️⃣ การปล่อยให้ผู้ใช้เป็นผู้รับแบบ passive ในวัฒนธรรมความปลอดภัย ➡️ ต้องสร้างการมีส่วนร่วมและการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกัน phishing และ social engineering ⛔ การขาดการฝึกอบรมทำให้ phishing และ social engineering สำเร็จง่ายขึ้น https://www.csoonline.com/article/4022848/7-obsolete-security-practices-that-should-be-terminated-immediately.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    7 obsolete security practices that should be terminated immediately
    Bad habits can be hard to break. Yet when it comes to security, an outdated practice is not only useless, but potentially dangerous.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดอกไม้สำคัญในศาสนาพุทธ : สัญลักษณ์และความหมายทางจิตวิญญาณ
    ดอกดาวเรือง : สัญลักษณ์แห่งแสงสว่าง
    ในพิธีกรรมต่างๆทางพุธศาสนา ดอกดาวเรื่องมักนำมาใช้เพื่อตกแต่งแท่นบูชาและบริเวณโดยรอบวัดวาอารมหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ด้วยความที่ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ที่มีสีสันสดใส จึงเปรียบเสมือนแสงสว่างของชีวิต ปัญญา และเส้นทางสู่การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ความหมายและความเชื่อมโยงทางสัญลักษณ์ระหว่างดอกดาวเรืองและแนวคิดทางพุทธศาสนา คือ ปัญญา ความเห็นอกเห็นใจ แต่การเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
    ดอกไม้สำคัญในศาสนาพุทธ : สัญลักษณ์และความหมายทางจิตวิญญาณ ดอกดาวเรือง : สัญลักษณ์แห่งแสงสว่าง ในพิธีกรรมต่างๆทางพุธศาสนา ดอกดาวเรื่องมักนำมาใช้เพื่อตกแต่งแท่นบูชาและบริเวณโดยรอบวัดวาอารมหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ด้วยความที่ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ที่มีสีสันสดใส จึงเปรียบเสมือนแสงสว่างของชีวิต ปัญญา และเส้นทางสู่การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ความหมายและความเชื่อมโยงทางสัญลักษณ์ระหว่างดอกดาวเรืองและแนวคิดทางพุทธศาสนา คือ ปัญญา ความเห็นอกเห็นใจ แต่การเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักเรียนไทยยุค AI: อยู่รอดอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม?
    โลกยุคใหม่ไม่ได้รอใครอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อนวัตกรรมอย่าง AI เข้ามามีบทบาทในแทบทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่การเรียน ไปจนถึงการทำงานในอนาคต และนักเรียนไทยจะต้องไม่ใช่แค่ “ปรับตัว” แต่ต้อง “เปลี่ยนวิธีคิด” เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในโลกที่ AI ครองเวที

    แล้วนักเรียนต้องพัฒนาอะไรบ้าง?
    1️⃣. AI Literacy – ทักษะความรู้เรื่อง AI
    ไม่ใช่แค่ใช้ ChatGPT ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร มีข้อดี ข้อจำกัด และ “อคติ” อย่างไรบ้าง นักเรียนต้องฝึกคิดแบบวิพากษ์ ไม่เชื่อทุกอย่างที่ AI บอกมา ต้องกล้าตั้งคำถาม และตรวจสอบแหล่งข้อมูลให้เป็น

    2️⃣. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
    AI เก่งในเรื่อง “การจำและประมวลผล” แต่การตั้งคำถาม การตีความ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ยังเป็นทักษะของมนุษย์ นักเรียนควรฝึกคิดในเชิงลึก ฝึกตั้งสมมุติฐาน ทดลอง และปรับปรุง ไม่ใช่แค่หาคำตอบเร็วๆ จากอินเทอร์เน็ต

    3️⃣. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)
    AI ช่วยเราคิดได้ แต่ไม่สามารถ “คิดแทนเราได้หมด” การสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เขียนเรื่องราว แต่งเพลง ทำโครงการนวัตกรรม หรือผลงานศิลปะ ยังคงต้องใช้พลังความคิดของมนุษย์อย่างแท้จริง

    4️⃣. การทำงานร่วมกันกับ AI และมนุษย์
    นักเรียนในยุคนี้ต้องทำงานเป็นทีม ทั้งกับคนและกับเทคโนโลยี ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ AI ช่วย และเมื่อไรควรใช้หัวใจของมนุษย์ เช่น การฟังเพื่อน ความเข้าใจอารมณ์ หรือการทำโปรเจกต์ร่วมกัน

    5️⃣. จริยธรรมและความรับผิดชอบ
    การใช้ AI อย่างถูกจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ไม่คัดลอกเนื้อหาที่ AI สร้างมาโดยไม่เข้าใจ การเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น และรู้เท่าทัน Deepfake หรือข้อมูลบิดเบือนที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน

    AI คือเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู
    หลายคนกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน หรือทำให้คนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง AI คือ “เครื่องมือ” ที่ดีมาก ถ้าเราใช้เป็น มันจะช่วยให้เราเก่งขึ้น ไม่ใช่ถูกแทนที่

    เช่น:
    - นักเรียนสามารถใช้ AI ช่วยสรุปบทเรียน ติวสอบ หรือสร้างไอเดียสำหรับโปรเจกต์
    - ครูสามารถใช้ AI ช่วยตรวจข้อสอบ วางแผนบทเรียน และมีเวลาสอนนักเรียนแบบใกล้ชิดขึ้น
    - โรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มใช้ AI อย่าง SplashLearn, ChatGPT หรือ Writable เพื่อช่วยให้การเรียนสนุกและเข้าถึงได้มากขึ้น

    แต่อย่าลืมความเสี่ยง
    แม้ว่า AI จะช่วยได้มาก แต่ก็มีความท้าทาย เช่น:
    - ความเครียดจากการอยู่กับหน้าจอนานๆ
    - ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติจาก AI
    - ความเหลื่อมล้ำเรื่องอุปกรณ์และทักษะในบางพื้นที่ของประเทศ

    ดังนั้น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และภาครัฐต้องร่วมมือกัน สร้างระบบการเรียนรู้ที่ปลอดภัย เท่าเทียม และพัฒนาความรู้รอบด้านไปพร้อมกัน

    สรุปง่ายๆ สำหรับนักเรียนไทยในยุค AI:
    - อย่าใช้ AI แค่ “ให้มันทำให้” แต่ต้อง “ใช้มันเพื่อให้เราเก่งขึ้น”
    - พัฒนาให้รอบด้าน ทั้งสมอง จิตใจ และจริยธรรม
    - ฝึกเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีจะไม่หยุดรอเราแน่นอน

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🎓 นักเรียนไทยยุค AI: อยู่รอดอย่างไรในโลกที่เปลี่ยนเร็วกว่าเดิม? โลกยุคใหม่ไม่ได้รอใครอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อนวัตกรรมอย่าง AI เข้ามามีบทบาทในแทบทุกด้านของชีวิต ตั้งแต่การเรียน ไปจนถึงการทำงานในอนาคต และนักเรียนไทยจะต้องไม่ใช่แค่ “ปรับตัว” แต่ต้อง “เปลี่ยนวิธีคิด” เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตในโลกที่ AI ครองเวที ✅ แล้วนักเรียนต้องพัฒนาอะไรบ้าง? 1️⃣. AI Literacy – ทักษะความรู้เรื่อง AI ไม่ใช่แค่ใช้ ChatGPT ได้ แต่ต้องเข้าใจว่า AI ทำงานอย่างไร มีข้อดี ข้อจำกัด และ “อคติ” อย่างไรบ้าง นักเรียนต้องฝึกคิดแบบวิพากษ์ ไม่เชื่อทุกอย่างที่ AI บอกมา ต้องกล้าตั้งคำถาม และตรวจสอบแหล่งข้อมูลให้เป็น 2️⃣. ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา AI เก่งในเรื่อง “การจำและประมวลผล” แต่การตั้งคำถาม การตีความ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ยังเป็นทักษะของมนุษย์ นักเรียนควรฝึกคิดในเชิงลึก ฝึกตั้งสมมุติฐาน ทดลอง และปรับปรุง ไม่ใช่แค่หาคำตอบเร็วๆ จากอินเทอร์เน็ต 3️⃣. ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) AI ช่วยเราคิดได้ แต่ไม่สามารถ “คิดแทนเราได้หมด” การสร้างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เขียนเรื่องราว แต่งเพลง ทำโครงการนวัตกรรม หรือผลงานศิลปะ ยังคงต้องใช้พลังความคิดของมนุษย์อย่างแท้จริง 4️⃣. การทำงานร่วมกันกับ AI และมนุษย์ นักเรียนในยุคนี้ต้องทำงานเป็นทีม ทั้งกับคนและกับเทคโนโลยี ต้องรู้ว่าเมื่อไรควรใช้ AI ช่วย และเมื่อไรควรใช้หัวใจของมนุษย์ เช่น การฟังเพื่อน ความเข้าใจอารมณ์ หรือการทำโปรเจกต์ร่วมกัน 5️⃣. จริยธรรมและความรับผิดชอบ การใช้ AI อย่างถูกจริยธรรมเป็นเรื่องใหญ่ เช่น ไม่คัดลอกเนื้อหาที่ AI สร้างมาโดยไม่เข้าใจ การเคารพความเป็นส่วนตัวของคนอื่น และรู้เท่าทัน Deepfake หรือข้อมูลบิดเบือนที่อาจเจอในชีวิตประจำวัน 📌 AI คือเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู หลายคนกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน หรือทำให้คนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป แต่ในความเป็นจริง AI คือ “เครื่องมือ” ที่ดีมาก ถ้าเราใช้เป็น มันจะช่วยให้เราเก่งขึ้น ไม่ใช่ถูกแทนที่ เช่น: - นักเรียนสามารถใช้ AI ช่วยสรุปบทเรียน ติวสอบ หรือสร้างไอเดียสำหรับโปรเจกต์ - ครูสามารถใช้ AI ช่วยตรวจข้อสอบ วางแผนบทเรียน และมีเวลาสอนนักเรียนแบบใกล้ชิดขึ้น - โรงเรียนหลายแห่งก็เริ่มใช้ AI อย่าง SplashLearn, ChatGPT หรือ Writable เพื่อช่วยให้การเรียนสนุกและเข้าถึงได้มากขึ้น 🚨 แต่อย่าลืมความเสี่ยง แม้ว่า AI จะช่วยได้มาก แต่ก็มีความท้าทาย เช่น: - ความเครียดจากการอยู่กับหน้าจอนานๆ - ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือมีอคติจาก AI - ความเหลื่อมล้ำเรื่องอุปกรณ์และทักษะในบางพื้นที่ของประเทศ ดังนั้น นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และภาครัฐต้องร่วมมือกัน สร้างระบบการเรียนรู้ที่ปลอดภัย เท่าเทียม และพัฒนาความรู้รอบด้านไปพร้อมกัน 💡 สรุปง่ายๆ สำหรับนักเรียนไทยในยุค AI: - อย่าใช้ AI แค่ “ให้มันทำให้” แต่ต้อง “ใช้มันเพื่อให้เราเก่งขึ้น” - พัฒนาให้รอบด้าน ทั้งสมอง จิตใจ และจริยธรรม - ฝึกเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเทคโนโลยีจะไม่หยุดรอเราแน่นอน #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปรากฎการณ์พระร่วง กิเลสหนา-ไม่ทันโลก สีกากอล์ฟป่วนวงการสงฆ์ ตำรวจสอบเส้นทางเงิน 4 วัดดัง พบโอนกว่า 11 ล้านบาท ชี้ช่องโหว่ กม.เปิดทางพระรวยผิดปกติ แนะปฏิรูปการเรียนสงฆ์ เน้นปฏิบัติควบคู่ปริยัติ สกัดกิเลส-ทันโลกยุคใหม่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065962

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ปรากฎการณ์พระร่วง กิเลสหนา-ไม่ทันโลก สีกากอล์ฟป่วนวงการสงฆ์ ตำรวจสอบเส้นทางเงิน 4 วัดดัง พบโอนกว่า 11 ล้านบาท ชี้ช่องโหว่ กม.เปิดทางพระรวยผิดปกติ แนะปฏิรูปการเรียนสงฆ์ เน้นปฏิบัติควบคู่ปริยัติ สกัดกิเลส-ทันโลกยุคใหม่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065962 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา!

    ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10%

    สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี

    นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้

    การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024  
    • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)  
    • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า

    ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7

    ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:  
    • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%)

    ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022)

    โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก

    การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี)

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา! ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10% สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้ ✅ การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024   • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)   • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า ✅ ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7 ✅ ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:   • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%) ✅ ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022) ✅ โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก ✅ การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี) https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลออสเตรเลียตั้งเป้าจะ “ถอดบัญชีโซเชียลมีเดียของเยาวชนอายุ 10–15 ปีมากกว่า 1 ล้านบัญชี” → โดยตั้งกฎหมายใหม่ให้ “ผู้ใช้ต้องมีอายุอย่างน้อย 16 ปี” จึงจะใช้งานโซเชียลมีเดียได้ → ถ้าฝ่าฝืน บริษัทแพลตฟอร์มจะถูกปรับถึง A$30 ล้าน (≒ 820 ล้านบาท!)

    แต่ปัญหาคือ…กฎหมายผ่านแล้ว แต่ขั้นตอนปฏิบัติยังไม่ชัดเจน → จะนิยามว่า “โซเชียลมีเดีย” ว่าอะไรบ้าง? เช่น YouTube จะนับรวมไหม? → จะยืนยันอายุผู้ใช้แบบไหน? ใช้ AI, เอกสาร หรือการตรวจสอบโดยมนุษย์? → หากใช้ VPN เปลี่ยนที่อยู่ จะรับมือยังไง?

    หลายแพลตฟอร์มอย่าง YouTube ออกมาคัดค้าน → เพราะมองว่า “ตัวเองไม่ใช่โซเชียล แต่เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอเพื่อการเรียนรู้” → กว่า 80% ของครูออสเตรเลียใช้ YouTube ในห้องเรียน → แต่หน่วยงานความปลอดภัยยืนยันว่าต้องรวม YouTube เพราะเด็กใช้มากที่สุดและมีฟีเจอร์ like, share, comment

    ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงหารือกับบริษัทเทคโนโลยี → ต้องตกลงให้ได้ว่าบริษัทต้องทำอะไรเพื่อแสดงว่า “กำลังพยายามป้องกันไม่ให้เด็กต่ำกว่า 16 มีบัญชี” → รวมถึงต้องมีช่องให้ครู–ผู้ปกครองแจ้งบัญชีต้องสงสัย และมีวิธีป้องกันการหลบหลีกผ่าน VPN ด้วย

    ออสเตรเลียเตรียมใช้กฎหมายใหม่ที่ “ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย” เริ่ม ธ.ค. 2025  
    • มีบทลงโทษแพลตฟอร์มละเมิดสูงถึง A$30 ล้าน  
    • คาดว่าจะกระทบบัญชีเยาวชนมากกว่า 1 ล้านราย

    แพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบอาจรวมถึง YouTube, Instagram, TikTok, X, Facebook ฯลฯ  
    • YouTube เคยคาดว่าจะถูกยกเว้น แต่ถูกบอกว่าต้องรวม เพราะเด็กใช้มากและมีฟีเจอร์ “เสพติด”

    ยังไม่มีแนวทางชัดเจนว่าจะ “ยืนยันอายุผู้ใช้” อย่างไร  
    • ทดลองระบบยืนยันอายุแล้ว แต่ยังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการ  
    • อยู่ระหว่างหารือกับบริษัทเทคโนโลยีเรื่องแนวทางปฏิบัติ

    ประเทศอื่นๆ เริ่มเดินตามแนวคิดนี้ เช่น นิวซีแลนด์ และฝรั่งเศส  
    • ฝรั่งเศสเตรียมห้ามเด็กต่ำกว่า 15 ใช้โซเชียลเช่นกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/07/australia-wants-to-bar-children-from-social-media-can-it-succeed
    รัฐบาลออสเตรเลียตั้งเป้าจะ “ถอดบัญชีโซเชียลมีเดียของเยาวชนอายุ 10–15 ปีมากกว่า 1 ล้านบัญชี” → โดยตั้งกฎหมายใหม่ให้ “ผู้ใช้ต้องมีอายุอย่างน้อย 16 ปี” จึงจะใช้งานโซเชียลมีเดียได้ → ถ้าฝ่าฝืน บริษัทแพลตฟอร์มจะถูกปรับถึง A$30 ล้าน (≒ 820 ล้านบาท!) แต่ปัญหาคือ…กฎหมายผ่านแล้ว แต่ขั้นตอนปฏิบัติยังไม่ชัดเจน → จะนิยามว่า “โซเชียลมีเดีย” ว่าอะไรบ้าง? เช่น YouTube จะนับรวมไหม? → จะยืนยันอายุผู้ใช้แบบไหน? ใช้ AI, เอกสาร หรือการตรวจสอบโดยมนุษย์? → หากใช้ VPN เปลี่ยนที่อยู่ จะรับมือยังไง? หลายแพลตฟอร์มอย่าง YouTube ออกมาคัดค้าน → เพราะมองว่า “ตัวเองไม่ใช่โซเชียล แต่เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอเพื่อการเรียนรู้” → กว่า 80% ของครูออสเตรเลียใช้ YouTube ในห้องเรียน → แต่หน่วยงานความปลอดภัยยืนยันว่าต้องรวม YouTube เพราะเด็กใช้มากที่สุดและมีฟีเจอร์ like, share, comment ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงหารือกับบริษัทเทคโนโลยี → ต้องตกลงให้ได้ว่าบริษัทต้องทำอะไรเพื่อแสดงว่า “กำลังพยายามป้องกันไม่ให้เด็กต่ำกว่า 16 มีบัญชี” → รวมถึงต้องมีช่องให้ครู–ผู้ปกครองแจ้งบัญชีต้องสงสัย และมีวิธีป้องกันการหลบหลีกผ่าน VPN ด้วย ✅ ออสเตรเลียเตรียมใช้กฎหมายใหม่ที่ “ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย” เริ่ม ธ.ค. 2025   • มีบทลงโทษแพลตฟอร์มละเมิดสูงถึง A$30 ล้าน   • คาดว่าจะกระทบบัญชีเยาวชนมากกว่า 1 ล้านราย ✅ แพลตฟอร์มที่ได้รับผลกระทบอาจรวมถึง YouTube, Instagram, TikTok, X, Facebook ฯลฯ   • YouTube เคยคาดว่าจะถูกยกเว้น แต่ถูกบอกว่าต้องรวม เพราะเด็กใช้มากและมีฟีเจอร์ “เสพติด” ✅ ยังไม่มีแนวทางชัดเจนว่าจะ “ยืนยันอายุผู้ใช้” อย่างไร   • ทดลองระบบยืนยันอายุแล้ว แต่ยังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการ   • อยู่ระหว่างหารือกับบริษัทเทคโนโลยีเรื่องแนวทางปฏิบัติ ✅ ประเทศอื่นๆ เริ่มเดินตามแนวคิดนี้ เช่น นิวซีแลนด์ และฝรั่งเศส   • ฝรั่งเศสเตรียมห้ามเด็กต่ำกว่า 15 ใช้โซเชียลเช่นกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/07/australia-wants-to-bar-children-from-social-media-can-it-succeed
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Australia wants to bar children from social media. Can it succeed?
    A law that restricts social media use to people 16 and over goes into effect in December, but much about it remains unclear or undecided.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศใต้

    เดือนนี้ ครอบครัวพบแต่ความสุขสงบราบรื่น รักใคร่ ปรองดองกันดี มีโอกาสได้เดินทางไกลไปท่องเที่ยวต่างแดน หากเป็นนักคิดนักวางแผนสมองปราดเปรื่อง ไหวพริบดี ผลงานที่สรรค์สร้างไว้ จะเสร็จสำเร็จลุล่วงได้ ธุรกิจการงานจะประสบความสำเร็จได้รับผลประโยชน์กำไรงาม โดยเฉพาะธุรกิจนวดแผนโบราณ สปา จะได้ รับข่าวดี อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยจะได้รับการพิจารณา หรือหากรับราชการจะได้ปรับเลื่อนตำแหน่ง ขั้น จะโชคดีทั้งการเงินและการงานเจริญก้าวหน้า ส่วนงานการศึกษา ด้านงานวิชาการ ด้านงานการทหาร และ ด้านงานกีฬา จะมีชื่อมีเสียงเป็นที่ยอมรับ นักเรียน นักศึกษา สมาธิจะนิ่ง สติปัญญาจึงเกิด ส่งผลให้ขยันขันแข็ง ตั้งใจเรียนมากขึ้น ทำให้การเรียนได้รับการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศใต้ เดือนนี้ ครอบครัวพบแต่ความสุขสงบราบรื่น รักใคร่ ปรองดองกันดี มีโอกาสได้เดินทางไกลไปท่องเที่ยวต่างแดน หากเป็นนักคิดนักวางแผนสมองปราดเปรื่อง ไหวพริบดี ผลงานที่สรรค์สร้างไว้ จะเสร็จสำเร็จลุล่วงได้ ธุรกิจการงานจะประสบความสำเร็จได้รับผลประโยชน์กำไรงาม โดยเฉพาะธุรกิจนวดแผนโบราณ สปา จะได้ รับข่าวดี อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยจะได้รับการพิจารณา หรือหากรับราชการจะได้ปรับเลื่อนตำแหน่ง ขั้น จะโชคดีทั้งการเงินและการงานเจริญก้าวหน้า ส่วนงานการศึกษา ด้านงานวิชาการ ด้านงานการทหาร และ ด้านงานกีฬา จะมีชื่อมีเสียงเป็นที่ยอมรับ นักเรียน นักศึกษา สมาธิจะนิ่ง สติปัญญาจึงเกิด ส่งผลให้ขยันขันแข็ง ตั้งใจเรียนมากขึ้น ทำให้การเรียนได้รับการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออก

    เดือนนี้ ลูกหลานขยันขันแข็ง ฉลาด สติปัญญาดี ส่งผลในเรื่องของการเรียน การศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวจึงมีความสุขสงบ อีกทั้งจะมีคนดีๆไปมาหาสู่ และมีโอกาสโชคดีถูกหวยรวยหุ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวคิดริเริ่มธุรกิจกิจการใหม่ๆ เพราะมีความคิดสร้างสรรค์ กิจการงานก้าวหน้า ความสำเร็จนานัปการจะไหลหลั่งเข้าอย่างต่อเนื่อง งานที่ติดต่อก็จะประสบความสำเร็จ เงินทองไหลมาเทมา ร่ำรวยอย่างไม่รู้ตัว หากรับราชการเป็นข้าราชการ ข้าของแผ่นดินจะได้ปูนบำเน็จบำนาญอย่างสมฐานะ ตำแหน่งเกียรติยศ เป็นเพราะดาวแห่งชื่อเสียง ความสำเร็จรุ่งโรจน์ และความรู้จรมาสู่ ส่งผลให้ความคิดอ่าน ประการใดก็จะเสร็จกิจลุล่วงได้ งานวิชาการ งานสวยงาม จะมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอย่างดี

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออก เดือนนี้ ลูกหลานขยันขันแข็ง ฉลาด สติปัญญาดี ส่งผลในเรื่องของการเรียน การศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวจึงมีความสุขสงบ อีกทั้งจะมีคนดีๆไปมาหาสู่ และมีโอกาสโชคดีถูกหวยรวยหุ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีแนวคิดริเริ่มธุรกิจกิจการใหม่ๆ เพราะมีความคิดสร้างสรรค์ กิจการงานก้าวหน้า ความสำเร็จนานัปการจะไหลหลั่งเข้าอย่างต่อเนื่อง งานที่ติดต่อก็จะประสบความสำเร็จ เงินทองไหลมาเทมา ร่ำรวยอย่างไม่รู้ตัว หากรับราชการเป็นข้าราชการ ข้าของแผ่นดินจะได้ปูนบำเน็จบำนาญอย่างสมฐานะ ตำแหน่งเกียรติยศ เป็นเพราะดาวแห่งชื่อเสียง ความสำเร็จรุ่งโรจน์ และความรู้จรมาสู่ ส่งผลให้ความคิดอ่าน ประการใดก็จะเสร็จกิจลุล่วงได้ งานวิชาการ งานสวยงาม จะมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับอย่างดี ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การเรียนปริยัติ มิใช่การรู้อริยสัจ
    สัทธรรมลำดับที่ : 1042
    ชื่อบทธรรม :- การเรียนปริยัติ มิใช่การรู้อริยสัจ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1042
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --การเรียนปริยัติ มิใช่การรู้อริยสัจ
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลเปรียบด้วย เมฆฝน ๔ จำพวก เหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก.
    สี่ อย่างไรเล่า? สี่ คือ &บุคคลเปรียบเหมือนเมฆฝน
    http://etipitaka.com/read/pali/21/136/?keywords=วลาหกา
    ๑.ที่คำรามแล้วไม่ตก
    ๒.ที่ตกแต่ไม่คำราม
    ๓.ทั้งไม่คำรามและไม่ตก
    ๔.ทั้งคำรามทั้งตก
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ เล่าเรียนธรรม คือ
    สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ
    แต่เขาไม่รู้ตามที่เป็นจริงว่า
    “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ ”
    ดังนี้
    : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่าเปรียบด้วยเมฆฝนที่คำรามแล้วไม่ตก.
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ไม่ได้เล่าเรียนธรรม คือ
    สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ
    แต่เขารู้ชัดตามเป็นจริงว่า
    “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ”
    ดังนี้
    : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่าเปรียบด้วยเมฆฝนที่ตกแต่ไม่คำราม.
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ไม่ได้เล่าเรียนธรรม คือ
    สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ
    และไม่รู้ชัดตามเป็นจริงว่า
    “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ”
    ดังนี้
    : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่าเปรียบด้วยเมฆฝนที่ทั้งไม่คำรามและไม่ตก.
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ เล่าเรียนธรรม คือ
    สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ ด้วย;
    และเขารู้ชัดตามเป็นจริงว่า
    “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ,
    ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ”
    ดังนี้ด้วย
    : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่าเปรียบด้วยเมฆฝนที่ทั้งคำรามทั้งตก.-
    (
    ในสูตรอื่น (๒๑/๑๓๘/๑๐๓)
    http://etipitaka.com/read/pali/21/138/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%93
    ตรัสเปรียบลักษณะอาการสี่อย่างแห่งข้อความข้างบนนี้
    ด้วย &หม้อสี่ชนิด คือ
    http://etipitaka.com/read/pali/21/138/?keywords=กุมฺภา
    หม้อเปล่า – ปิด เปรียบด้วยภิกษุ ไม่รู้อริยสัจแต่ มีสมณสารูป ;
    หม้อเต็ม – เปิด เปรียบด้วยภิกษุ รู้อริยสัจแต่ ไม่มีสมณสารูป ;
    หม้อเปล่า – เปิด เปรียบด้วยภิกษุ ไม่รู้อริยสัจและไม่มีสมณสารูป ;
    หม้อเต็ม – ปิด เปรียบด้วยภิกษุ รู้อริยสัจและมีสมณสารูป.

    --ในสูตรอื่น (๒๑/๑๔๐/๑๐๔)
    http://etipitaka.com/read/pali/21/140/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    ตรัสเปรียบด้วย &ห้วงน้ำสี่ชนิด คือ
    http://etipitaka.com/read/pali/21/140/?keywords=อุทกรหทา
    ห้วงน้ำตื้น เงาลึก = ไม่รู้อริยสัจแต่มีสมณสารูป ;
    ห้วงน้ำลึก เงาตื้น = รู้อริยสัจ แต่ไม่มีสมณสารูป ;
    ห้วงน้ำตื้น เงาตื้น = ไม่รู้อริยสัจ และไม่มีสมณสารูป;
    ห้วงน้ำลึก เงาลึก = รู้อริยสัจและมีสมณสารูป.

    --ในสูตรอื่น (๒๑/๑๔๒/๑๐๕)
    http://etipitaka.com/read/pali/21/142/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%95
    ตรัสเปรียบด้วย &มะม่วงสี่ชนิด คือ
    http://etipitaka.com/read/pali/21/142/?keywords=อมฺพานิ
    มะม่วงดิบ สีเหมือนสุก ได้แก่ ไม่รู้อริยสัจ แต่มีสมณสารูป ;
    มะม่วงสุก สีเหมือนดิบ ได้แก่ รู้อริยสัจ แต่ไม่มีสมณสารูป;
    มะม่วงดิบ สีเหมือนดิบ ได้แก่ ไม่รู้อริยสัจและไม่มีสมณสารูป ;
    มะม่วงสุก สีเหมือนสุก ได้แก่ รู้อริยสัจและมีสมณสารูป.
    --ผู้สนใจในส่วนรายละเอียด ดูได้จากที่มานั้นๆ
    ).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทสสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/103/102.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/103/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๓๖/๑๐๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/136/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1042
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=91&id=1042
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=91
    ลำดับสาธยายธรรม : 91 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_91.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การเรียนปริยัติ มิใช่การรู้อริยสัจ สัทธรรมลำดับที่ : 1042 ชื่อบทธรรม :- การเรียนปริยัติ มิใช่การรู้อริยสัจ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1042 เนื้อความทั้งหมด :- --การเรียนปริยัติ มิใช่การรู้อริยสัจ --ภิกษุ ท. ! บุคคลเปรียบด้วย เมฆฝน ๔ จำพวก เหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่ อย่างไรเล่า? สี่ คือ &บุคคลเปรียบเหมือนเมฆฝน http://etipitaka.com/read/pali/21/136/?keywords=วลาหกา ๑.ที่คำรามแล้วไม่ตก ๒.ที่ตกแต่ไม่คำราม ๓.ทั้งไม่คำรามและไม่ตก ๔.ทั้งคำรามทั้งตก --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ แต่เขาไม่รู้ตามที่เป็นจริงว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ ” ดังนี้ : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่าเปรียบด้วยเมฆฝนที่คำรามแล้วไม่ตก. --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ไม่ได้เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ แต่เขารู้ชัดตามเป็นจริงว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่าเปรียบด้วยเมฆฝนที่ตกแต่ไม่คำราม. --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ไม่ได้เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ และไม่รู้ชัดตามเป็นจริงว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่าเปรียบด้วยเมฆฝนที่ทั้งไม่คำรามและไม่ตก. --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ ด้วย; และเขารู้ชัดตามเป็นจริงว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ด้วย : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่าเปรียบด้วยเมฆฝนที่ทั้งคำรามทั้งตก.- ( ในสูตรอื่น (๒๑/๑๓๘/๑๐๓) http://etipitaka.com/read/pali/21/138/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%93 ตรัสเปรียบลักษณะอาการสี่อย่างแห่งข้อความข้างบนนี้ ด้วย &หม้อสี่ชนิด คือ http://etipitaka.com/read/pali/21/138/?keywords=กุมฺภา หม้อเปล่า – ปิด เปรียบด้วยภิกษุ ไม่รู้อริยสัจแต่ มีสมณสารูป ; หม้อเต็ม – เปิด เปรียบด้วยภิกษุ รู้อริยสัจแต่ ไม่มีสมณสารูป ; หม้อเปล่า – เปิด เปรียบด้วยภิกษุ ไม่รู้อริยสัจและไม่มีสมณสารูป ; หม้อเต็ม – ปิด เปรียบด้วยภิกษุ รู้อริยสัจและมีสมณสารูป. --ในสูตรอื่น (๒๑/๑๔๐/๑๐๔) http://etipitaka.com/read/pali/21/140/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 ตรัสเปรียบด้วย &ห้วงน้ำสี่ชนิด คือ http://etipitaka.com/read/pali/21/140/?keywords=อุทกรหทา ห้วงน้ำตื้น เงาลึก = ไม่รู้อริยสัจแต่มีสมณสารูป ; ห้วงน้ำลึก เงาตื้น = รู้อริยสัจ แต่ไม่มีสมณสารูป ; ห้วงน้ำตื้น เงาตื้น = ไม่รู้อริยสัจ และไม่มีสมณสารูป; ห้วงน้ำลึก เงาลึก = รู้อริยสัจและมีสมณสารูป. --ในสูตรอื่น (๒๑/๑๔๒/๑๐๕) http://etipitaka.com/read/pali/21/142/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%95 ตรัสเปรียบด้วย &มะม่วงสี่ชนิด คือ http://etipitaka.com/read/pali/21/142/?keywords=อมฺพานิ มะม่วงดิบ สีเหมือนสุก ได้แก่ ไม่รู้อริยสัจ แต่มีสมณสารูป ; มะม่วงสุก สีเหมือนดิบ ได้แก่ รู้อริยสัจ แต่ไม่มีสมณสารูป; มะม่วงดิบ สีเหมือนดิบ ได้แก่ ไม่รู้อริยสัจและไม่มีสมณสารูป ; มะม่วงสุก สีเหมือนสุก ได้แก่ รู้อริยสัจและมีสมณสารูป. --ผู้สนใจในส่วนรายละเอียด ดูได้จากที่มานั้นๆ ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทสสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/103/102. http://etipitaka.com/read/thai/21/103/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๓๖/๑๐๒. http://etipitaka.com/read/pali/21/136/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1042 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=91&id=1042 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=91 ลำดับสาธยายธรรม : 91 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_91.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - การเรียนปริยัติ มิใช่การรู้อริยสัจ
    -การเรียนปริยัติ มิใช่การรู้อริยสัจ ภิกษุ ท. ! บุคคลเปรียบด้วย เมฆฝน ๔ จำพวก เหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่ อย่างไรเล่า? สี่ คือ บุคคลเปรียบเหมือนเมฆฝนที่คำรามแล้วไม่ตก ๑ ที่ตกแต่ไม่คำราม ๑ ทั้งไม่คำรามและไม่ตก ๑ ทั้งคำรามทั้งตก ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ แต่เขาไม่รู้ตามที่เป็นจริงว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ ” ดังนี้ : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่า เปรียบด้วยเมฆฝนที่คำรามแล้วไม่ตก. ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ไม่ได้เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ แต่เขารู้ชัดตามเป็นจริงว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่า เปรียบด้วยเมฆฝนที่ตกแต่ไม่คำราม. ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ไม่ได้เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ และไม่รู้ชัดตามเป็นจริงว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่า เปรียบด้วยเมฆฝนที่ทั้งไม่คำรามและไม่ตก. ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ เล่าเรียนธรรม คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ ด้วย; และเขารู้ชัดตามเป็นจริงว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขสมุทัย เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธ เป็นอย่างนี้ๆ, ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ด้วย : ภิกษุ ท. ! เราเรียก บุคคลนี้ ว่า เปรียบด้วยเมฆฝนที่ทั้งคำรามทั้งตก.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้บริษัทต่าง ๆ จะลงเงินลงทุนมหาศาลเพื่อนำ “AI Assistant” มาช่วยงานในคอลเซนเตอร์ ทั้งในแง่การถอดเสียงพูดเป็นข้อความ สรุปการสนทนา หรือช่วยตรวจจับอารมณ์ของลูกค้า → แต่ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจีนและบริษัทพลังงานที่ใช้ระบบนี้จริง กลับเผยว่า AI สร้าง “ปัญหามากกว่าความช่วยเหลือ” สำหรับพนักงานแนวหน้าอย่างแท้จริง

    ตัวอย่างปัญหาที่เจอ:
    - ถอดเสียงพูดเป็นข้อความแบบผิด ๆ
    - อ่านเบอร์โทรศัพท์จากเสียงผิดพลาด
    - เข้าใจคำพ้องเสียง (homophones) ผิด
    - สรุปบทสนทนาไม่ตรงประเด็น
    - ตรวจจับอารมณ์คนผิด (เช่น แค่พูดเสียงดัง → ถูกตีความว่าโกรธ)

    แม้จะลดงานพิมพ์เอกสารได้นิดหน่อย แต่พนักงานต้องเสียเวลาตรวจ–แก้เนื้อหาเกือบทั้งหมด บางคนถึงขั้นบอกว่า “AI ไม่ได้ฉลาดอย่างที่คิดเลย” และสุดท้ายต้องทำเองแทบทั้งหมดอยู่ดี

    AI Assistant สำหรับคอลเซนเตอร์ ถูกประเมินว่า “ช่วยบางเรื่อง แต่อยู่ไกลจากคำว่าอัจฉริยะ”  
    • ประสิทธิภาพยังไม่ถึงขั้นแทนที่การทำงานของพนักงานได้จริง

    ถอดเสียง (Speech-to-Text) มีความผิดพลาดสูง  
    • ฟังสำเนียงหลากหลายไม่ออก  
    • ถอดหมายเลขผิด ทำให้ต้องกรอกเอง

    เข้าใจคำพ้องเสียงผิด (เช่น knew vs. new)  
    • ทำให้ความหมายในบทสนทนาเพี้ยน

    Emotion Detection มีความคลาดเคลื่อน  
    • แยกแยะอารมณ์ได้แค่ไม่กี่แบบ  
    • เข้าใจผิดว่า “เสียงดัง = โกรธ” ทั้งที่ผู้พูดแค่เสียงใหญ่  
    • พนักงานส่วนใหญ่เลือก “มองข้าม” แท็กอารมณ์จาก AI

    AI ช่วยลดงานพิมพ์นิดหน่อย แต่ผลลัพธ์ยังไม่พร้อมใช้ทันที  
    • ต้องแก้ไขสรุปการสนทนาเยอะ  
    • มักพลาดข้อมูลสำคัญจากลูกค้า

    การศึกษาชี้ว่า AI เพิ่ม “ภาระการเรียนรู้” ให้พนักงานมากกว่าที่คาด  
    • ต้องเรียนรู้วิธีแก้ข้อมูลจาก AI  
    • ทำให้ไม่ได้ประหยัดเวลาจริงเท่าไร

    Gartner คาดการณ์ว่าเกิน 40% ของโปรเจกต์ Agentic AI จะถูกยกเลิกภายในปี 2027  
    • และกว่า 50% ขององค์กรที่ตั้งใจใช้ AI แทนคน จะ “ทบทวนแผน”

    https://www.techspot.com/news/108547-call-center-workers-their-ai-assistants-create-more.html
    แม้บริษัทต่าง ๆ จะลงเงินลงทุนมหาศาลเพื่อนำ “AI Assistant” มาช่วยงานในคอลเซนเตอร์ ทั้งในแง่การถอดเสียงพูดเป็นข้อความ สรุปการสนทนา หรือช่วยตรวจจับอารมณ์ของลูกค้า → แต่ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจีนและบริษัทพลังงานที่ใช้ระบบนี้จริง กลับเผยว่า AI สร้าง “ปัญหามากกว่าความช่วยเหลือ” สำหรับพนักงานแนวหน้าอย่างแท้จริง ตัวอย่างปัญหาที่เจอ: - ถอดเสียงพูดเป็นข้อความแบบผิด ๆ - อ่านเบอร์โทรศัพท์จากเสียงผิดพลาด - เข้าใจคำพ้องเสียง (homophones) ผิด - สรุปบทสนทนาไม่ตรงประเด็น - ตรวจจับอารมณ์คนผิด (เช่น แค่พูดเสียงดัง → ถูกตีความว่าโกรธ) แม้จะลดงานพิมพ์เอกสารได้นิดหน่อย แต่พนักงานต้องเสียเวลาตรวจ–แก้เนื้อหาเกือบทั้งหมด บางคนถึงขั้นบอกว่า “AI ไม่ได้ฉลาดอย่างที่คิดเลย” และสุดท้ายต้องทำเองแทบทั้งหมดอยู่ดี ✅ AI Assistant สำหรับคอลเซนเตอร์ ถูกประเมินว่า “ช่วยบางเรื่อง แต่อยู่ไกลจากคำว่าอัจฉริยะ”   • ประสิทธิภาพยังไม่ถึงขั้นแทนที่การทำงานของพนักงานได้จริง ✅ ถอดเสียง (Speech-to-Text) มีความผิดพลาดสูง   • ฟังสำเนียงหลากหลายไม่ออก   • ถอดหมายเลขผิด ทำให้ต้องกรอกเอง ✅ เข้าใจคำพ้องเสียงผิด (เช่น knew vs. new)   • ทำให้ความหมายในบทสนทนาเพี้ยน ✅ Emotion Detection มีความคลาดเคลื่อน   • แยกแยะอารมณ์ได้แค่ไม่กี่แบบ   • เข้าใจผิดว่า “เสียงดัง = โกรธ” ทั้งที่ผู้พูดแค่เสียงใหญ่   • พนักงานส่วนใหญ่เลือก “มองข้าม” แท็กอารมณ์จาก AI ✅ AI ช่วยลดงานพิมพ์นิดหน่อย แต่ผลลัพธ์ยังไม่พร้อมใช้ทันที   • ต้องแก้ไขสรุปการสนทนาเยอะ   • มักพลาดข้อมูลสำคัญจากลูกค้า ✅ การศึกษาชี้ว่า AI เพิ่ม “ภาระการเรียนรู้” ให้พนักงานมากกว่าที่คาด   • ต้องเรียนรู้วิธีแก้ข้อมูลจาก AI   • ทำให้ไม่ได้ประหยัดเวลาจริงเท่าไร ✅ Gartner คาดการณ์ว่าเกิน 40% ของโปรเจกต์ Agentic AI จะถูกยกเลิกภายในปี 2027   • และกว่า 50% ขององค์กรที่ตั้งใจใช้ AI แทนคน จะ “ทบทวนแผน” https://www.techspot.com/news/108547-call-center-workers-their-ai-assistants-create-more.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Call center workers say their AI assistants create more problems than they solve
    A study carried out by researchers from several Chinese universities and a Chinese power company looked at what impact AI assistants were having on the plant's customer...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP23 | ต้นแบบ “คืนคนดีสู่สังคม” หมู่บ้านปูลารายอ ชุมชนกาแลตาแป จ.นราธิวาส

    หมู่บ้านปูลารายอ ชุมชนกาแลตาแป จังหวัดนราธิวาส คือหนึ่งในตัวอย่างของพื้นที่ที่มีการขับเคลื่อนแนวทาง “คืนคนดีสู่สังคม” อย่างเป็นรูปธรรม

    จากพื้นที่ที่เคยมีความขัดแย้ง กลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง เต็มไปด้วยความหวังและความร่วมมือของคนในท้องถิ่น การให้โอกาสผู้หลงผิดได้กลับตัว กลายเป็นพลังสำคัญในการสร้างสันติสุขและความมั่นคงให้กับพื้นที่

    ชุมชนกาแลตาแปไม่เพียงเป็นบ้านของผู้คนหลากหลายศรัทธา แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับการเรียนรู้ ให้อภัย และการเยียวยาทางสังคมและจิตใจ

    ติดตามเรื่องราวของผู้คนในหมู่บ้านปูลารายอ กับกระบวนการฟื้นฟูชีวิตที่สะท้อนให้เห็นว่า การให้โอกาสคือรากฐานของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

    #สลามเมืองไทย #EP23 #คืนคนดีสู่สังคม #หมู่บ้านปูลารายอ #ชุมชนกาแลตาแป #นราธิวาส #ThaiMuslimCommunity #สันติภาพชายแดนใต้ #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP23 | ต้นแบบ “คืนคนดีสู่สังคม” หมู่บ้านปูลารายอ ชุมชนกาแลตาแป จ.นราธิวาส หมู่บ้านปูลารายอ ชุมชนกาแลตาแป จังหวัดนราธิวาส คือหนึ่งในตัวอย่างของพื้นที่ที่มีการขับเคลื่อนแนวทาง “คืนคนดีสู่สังคม” อย่างเป็นรูปธรรม จากพื้นที่ที่เคยมีความขัดแย้ง กลายเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง เต็มไปด้วยความหวังและความร่วมมือของคนในท้องถิ่น การให้โอกาสผู้หลงผิดได้กลับตัว กลายเป็นพลังสำคัญในการสร้างสันติสุขและความมั่นคงให้กับพื้นที่ ชุมชนกาแลตาแปไม่เพียงเป็นบ้านของผู้คนหลากหลายศรัทธา แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างสำหรับการเรียนรู้ ให้อภัย และการเยียวยาทางสังคมและจิตใจ ติดตามเรื่องราวของผู้คนในหมู่บ้านปูลารายอ กับกระบวนการฟื้นฟูชีวิตที่สะท้อนให้เห็นว่า การให้โอกาสคือรากฐานของการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน #สลามเมืองไทย #EP23 #คืนคนดีสู่สังคม #หมู่บ้านปูลารายอ #ชุมชนกาแลตาแป #นราธิวาส #ThaiMuslimCommunity #สันติภาพชายแดนใต้ #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เคยมีอาจารย์มหาวิทยาลัยในชิคาโกให้เด็กเขียนประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเห็นการเลือกปฏิบัติ (discrimination) — แต่กลับมีนักศึกษาหลายสิบคนเขียนเรื่องเดียวกันว่า “Sally เป็นผู้หญิงที่เจอเหตุการณ์นี้”

    ฟังดูแปลกไหมครับ?

    อาจารย์จับได้ว่า...เด็กใช้ ChatGPT และ “Sally” คือชื่อที่ AI มักสุ่มมาใช้อัตโนมัติ เพราะเป็นชื่อผู้หญิงยอดนิยมทั่วไป

    แปลว่าเด็กไม่ได้เขียนเรื่องจริงของตัวเอง — ไม่คิด ไม่เชื่อมโยงประสบการณ์ — แต่ปล่อยให้ AI คิดแทนทั้งหมด ซึ่งสะท้อนปัญหาใหญ่ว่า “เด็กกำลังเรียนรู้ผ่านกระบวนการลัด”

    งานวิจัยล่าสุดจาก MIT จึงลองทดสอบอย่างเป็นระบบ โดยให้ผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งเขียนเรียงความ 20 นาที แบ่งเป็น 3 กลุ่ม:
    - กลุ่มใช้ ChatGPT
    - กลุ่มใช้ search engine
    - กลุ่มใช้ความรู้จากสมองตัวเองล้วน ๆ

    ผลคือ: กลุ่มใช้สมองเขียนได้คะแนนดีที่สุด + การเชื่อมโยงสมองผ่าน EEG ดีกว่า กลุ่มใช้ ChatGPT ไม่สามารถจำได้แม้แต่สิ่งที่ตัวเองเพิ่งเขียน! อาจารย์อ่านแล้วบอกว่าเรียงความจาก AI “ไร้จิตวิญญาณ” — เขียนดีแต่ไม่ลึกซึ้ง

    อย่างไรก็ดี นักวิจัยก็ไม่ได้สรุปทันทีว่า AI “ทำให้คนโง่ลง” เพียงแต่เตือนว่า “ควรหาวิธีใช้ AI อย่างมีกลยุทธ์” — เพื่อให้ยังเกิดการคิด เรียนรู้ และพัฒนา

    อาจารย์พบว่านักศึกษาใช้ ChatGPT เขียนงาน โดยไม่ได้คิดหรือเขียนจากประสบการณ์ของตัวเอง  
    • ตัวอย่างคือใช้ชื่อ “Sally” ซ้ำกันเพราะ AI มักสุ่มชื่อนี้มาเอง  
    • ทำให้งานเขียนขาดตัวตนและการสะท้อนความคิด

    ผลวิจัยจาก MIT พบว่า กลุ่มที่ใช้ ChatGPT เขียนเรียงความ มีคะแนนต่ำกว่ากลุ่มที่ใช้สมองตัวเอง  
    • วัดผ่าน EEG แล้วพบว่าสมองเชื่อมต่อกันน้อยกว่า  
    • 80% ของกลุ่ม ChatGPT จำไม่ได้เลยว่าเพิ่งเขียนอะไร

    อาจารย์ประเมินว่าเรียงความจาก AI “แม้เขียนดี แต่ไร้วิญญาณ”  
    • ขาดความคิดสร้างสรรค์ บริบทส่วนตัว และมุมมองลึก

    แม้ AI จะมีประโยชน์ เช่นใช้สรุปโน้ต ช่วยระดมไอเดีย  
    • แต่นักศึกษาหลายคนใช้เกินเลยไปถึงจุดที่ “ไม่เกิดการเรียนรู้จริง”

    ผู้วิจัยเสนอให้มีการออกแบบการเรียนแบบใหม่ เพื่อใช้ AI เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้แทนการคิด

    สถานศึกษากำลังเผชิญภาวะสับสน เพราะบางวิชา “อนุญาตให้ใช้ AI” บางวิชา “ห้ามเด็ดขาด”  
    • ทำให้นักเรียนไม่แน่ใจว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/02/039writing-is-thinking039-do-students-who-use-chatgpt-learn-less
    เคยมีอาจารย์มหาวิทยาลัยในชิคาโกให้เด็กเขียนประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเห็นการเลือกปฏิบัติ (discrimination) — แต่กลับมีนักศึกษาหลายสิบคนเขียนเรื่องเดียวกันว่า “Sally เป็นผู้หญิงที่เจอเหตุการณ์นี้” ฟังดูแปลกไหมครับ? อาจารย์จับได้ว่า...เด็กใช้ ChatGPT และ “Sally” คือชื่อที่ AI มักสุ่มมาใช้อัตโนมัติ เพราะเป็นชื่อผู้หญิงยอดนิยมทั่วไป แปลว่าเด็กไม่ได้เขียนเรื่องจริงของตัวเอง — ไม่คิด ไม่เชื่อมโยงประสบการณ์ — แต่ปล่อยให้ AI คิดแทนทั้งหมด ซึ่งสะท้อนปัญหาใหญ่ว่า “เด็กกำลังเรียนรู้ผ่านกระบวนการลัด” งานวิจัยล่าสุดจาก MIT จึงลองทดสอบอย่างเป็นระบบ โดยให้ผู้ใหญ่กลุ่มหนึ่งเขียนเรียงความ 20 นาที แบ่งเป็น 3 กลุ่ม: - กลุ่มใช้ ChatGPT - กลุ่มใช้ search engine - กลุ่มใช้ความรู้จากสมองตัวเองล้วน ๆ ผลคือ: 🧠 กลุ่มใช้สมองเขียนได้คะแนนดีที่สุด + การเชื่อมโยงสมองผ่าน EEG ดีกว่า 📉 กลุ่มใช้ ChatGPT ไม่สามารถจำได้แม้แต่สิ่งที่ตัวเองเพิ่งเขียน! 🧾 อาจารย์อ่านแล้วบอกว่าเรียงความจาก AI “ไร้จิตวิญญาณ” — เขียนดีแต่ไม่ลึกซึ้ง อย่างไรก็ดี นักวิจัยก็ไม่ได้สรุปทันทีว่า AI “ทำให้คนโง่ลง” เพียงแต่เตือนว่า “ควรหาวิธีใช้ AI อย่างมีกลยุทธ์” — เพื่อให้ยังเกิดการคิด เรียนรู้ และพัฒนา ✅ อาจารย์พบว่านักศึกษาใช้ ChatGPT เขียนงาน โดยไม่ได้คิดหรือเขียนจากประสบการณ์ของตัวเอง   • ตัวอย่างคือใช้ชื่อ “Sally” ซ้ำกันเพราะ AI มักสุ่มชื่อนี้มาเอง   • ทำให้งานเขียนขาดตัวตนและการสะท้อนความคิด ✅ ผลวิจัยจาก MIT พบว่า กลุ่มที่ใช้ ChatGPT เขียนเรียงความ มีคะแนนต่ำกว่ากลุ่มที่ใช้สมองตัวเอง   • วัดผ่าน EEG แล้วพบว่าสมองเชื่อมต่อกันน้อยกว่า   • 80% ของกลุ่ม ChatGPT จำไม่ได้เลยว่าเพิ่งเขียนอะไร ✅ อาจารย์ประเมินว่าเรียงความจาก AI “แม้เขียนดี แต่ไร้วิญญาณ”   • ขาดความคิดสร้างสรรค์ บริบทส่วนตัว และมุมมองลึก ✅ แม้ AI จะมีประโยชน์ เช่นใช้สรุปโน้ต ช่วยระดมไอเดีย   • แต่นักศึกษาหลายคนใช้เกินเลยไปถึงจุดที่ “ไม่เกิดการเรียนรู้จริง” ✅ ผู้วิจัยเสนอให้มีการออกแบบการเรียนแบบใหม่ เพื่อใช้ AI เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ผู้แทนการคิด ✅ สถานศึกษากำลังเผชิญภาวะสับสน เพราะบางวิชา “อนุญาตให้ใช้ AI” บางวิชา “ห้ามเด็ดขาด”   • ทำให้นักเรียนไม่แน่ใจว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/02/039writing-is-thinking039-do-students-who-use-chatgpt-learn-less
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Writing is thinking': do students who use ChatGPT learn less?
    "Writing is thinking, thinking is writing, and when we eliminate that process, what does that mean for thinking?"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • ม.ราชภัฏโคราช ปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ NRRU BOOST START 2025
    เปิดพลังใหม่ เติมไฟแห่งการเรียนรู้
    .
    กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา “NRRU BOOST START 2025 เปิดพลังใหม่ เติมไฟแห่งการเรียนรู้” เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ณ หอประชุมราชภัฏรังสฤษฎ์ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดี เป็นประธานกล่าวต้อนรับนักศึกษาใหม่ พร้อมแนะนำคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย จากนั้นเป็นการบรรยาย เรื่อง NRRU Smart Teaching, Smart Learning, การบรรยาย เรื่อง Happy University, การบรรยาย เรื่อง NRRU Good Health Good Life, การบรรยาย เรื่อง NRRU Smart Love, Safe Love, กิจกรรมพบผู้นำนักศึกษา, สนุกสนามกับการแสดงจากนักศึกษาสาขาวิชานาฏศิลป์ไทย ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ต NRRU BOOST START โดย วงซัมเมอร์ นักศึกษาสาขาวิชาดนตรีศึกษา
    .
    การจัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ทราบแนวทางการวางแผนการเรียน รูปแบบการจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย และให้นักศึกษาได้ทราบแนวทางในการดำเนินกิจกรรมรวมถึงสิทธิและสวัสดิการของนักศึกษา ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาปฏิบัติตนได้ถูกต้องและบังเกิดผลดีต่อการศึกษา โดยในปีการศึกษา 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 3 เข้าใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 4,547 คนม.ราชภัฏโคราช ปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ NRRU BOOST START 2025
    เปิดพลังใหม่ เติมไฟแห่งการเรียนรู้
    .
    กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา “NRRU BOOST START 2025 เปิดพลังใหม่ เติมไฟแห่งการเรียนรู้” เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ณ หอประชุมราชภัฏรังสฤษฎ์ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดี เป็นประธานกล่าวต้อนรับนักศึกษาใหม่ พร้อมแนะนำคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย จากนั้นเป็นการบรรยาย เรื่อง NRRU Smart Teaching, Smart Learning, การบรรยาย เรื่อง Happy University, การบรรยาย เรื่อง NRRU Good Health Good Life, การบรรยาย เรื่อง NRRU Smart Love, Safe Love, กิจกรรมพบผู้นำนักศึกษา, สนุกสนามกับการแสดงจากนักศึกษาสาขาวิชานาฏศิลป์ไทย ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ต NRRU BOOST START โดย วงซัมเมอร์ นักศึกษาสาขาวิชาดนตรีศึกษา
    .
    การจัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ทราบแนวทางการวางแผนการเรียน รูปแบบการจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย และให้นักศึกษาได้ทราบแนวทางในการดำเนินกิจกรรมรวมถึงสิทธิและสวัสดิการของนักศึกษา ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาปฏิบัติตนได้ถูกต้องและบังเกิดผลดีต่อการศึกษา โดยในปีการศึกษา 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 3 เข้าใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 4,547 คน
    ม.ราชภัฏโคราช ปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ NRRU BOOST START 2025 เปิดพลังใหม่ เติมไฟแห่งการเรียนรู้ . กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา “NRRU BOOST START 2025 เปิดพลังใหม่ เติมไฟแห่งการเรียนรู้” เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ณ หอประชุมราชภัฏรังสฤษฎ์ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดี เป็นประธานกล่าวต้อนรับนักศึกษาใหม่ พร้อมแนะนำคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย จากนั้นเป็นการบรรยาย เรื่อง NRRU Smart Teaching, Smart Learning, การบรรยาย เรื่อง Happy University, การบรรยาย เรื่อง NRRU Good Health Good Life, การบรรยาย เรื่อง NRRU Smart Love, Safe Love, กิจกรรมพบผู้นำนักศึกษา, สนุกสนามกับการแสดงจากนักศึกษาสาขาวิชานาฏศิลป์ไทย ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ต NRRU BOOST START โดย วงซัมเมอร์ นักศึกษาสาขาวิชาดนตรีศึกษา . การจัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ทราบแนวทางการวางแผนการเรียน รูปแบบการจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย และให้นักศึกษาได้ทราบแนวทางในการดำเนินกิจกรรมรวมถึงสิทธิและสวัสดิการของนักศึกษา ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาปฏิบัติตนได้ถูกต้องและบังเกิดผลดีต่อการศึกษา โดยในปีการศึกษา 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 3 เข้าใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 4,547 คนม.ราชภัฏโคราช ปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ NRRU BOOST START 2025 เปิดพลังใหม่ เติมไฟแห่งการเรียนรู้ . กองพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา “NRRU BOOST START 2025 เปิดพลังใหม่ เติมไฟแห่งการเรียนรู้” เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ณ หอประชุมราชภัฏรังสฤษฎ์ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดี เป็นประธานกล่าวต้อนรับนักศึกษาใหม่ พร้อมแนะนำคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย จากนั้นเป็นการบรรยาย เรื่อง NRRU Smart Teaching, Smart Learning, การบรรยาย เรื่อง Happy University, การบรรยาย เรื่อง NRRU Good Health Good Life, การบรรยาย เรื่อง NRRU Smart Love, Safe Love, กิจกรรมพบผู้นำนักศึกษา, สนุกสนามกับการแสดงจากนักศึกษาสาขาวิชานาฏศิลป์ไทย ปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ต NRRU BOOST START โดย วงซัมเมอร์ นักศึกษาสาขาวิชาดนตรีศึกษา . การจัดปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ภาคปกติ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษาใหม่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัย ทราบแนวทางการวางแผนการเรียน รูปแบบการจัดการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัย และให้นักศึกษาได้ทราบแนวทางในการดำเนินกิจกรรมรวมถึงสิทธิและสวัสดิการของนักศึกษา ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาปฏิบัติตนได้ถูกต้องและบังเกิดผลดีต่อการศึกษา โดยในปีการศึกษา 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 และชั้นปีที่ 3 เข้าใหม่ จำนวนทั้งสิ้น 4,547 คน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี้ก็อีกตัว สมควรยึดคืนทั้งหมดเลย,เปิดเป็นสาธารณะฟรีๆแก่คนไทยทั้งประเทศ,คนไทยสัญชาติไทยสามารถลงทะเบียนใช้ฟรี,ติดต่อค้าขายฟรี,เข้าสืบค้นหาความรู้ฟรี,ชาติส่งเสริมมิให้คนไทยมีภาระอีก,การเรียนการสอนจะไร้ขีดจำกัด,หลากหลายมิติทางดีงามจะต่อยอดสร้างสรรค์เป็นอันมา,ทำตังหาเงินหารายได้เข้าประเทศรัฐส่งเสริมเต็มที่ผ่านช่องทางนี้,ไทยจะรุ่งโรจน์แบบก้าวกระโดดทันทีในยุคล้ำด้านเทคโนโลยีนี้,เด็ดขาดนายกฯคนใหม่ต้องผลักดันจริง,เวลาเหมาะสมไม่ต้องต่ออายุสัมปทานใดๆ,ไม่ผิดสัญญาด้วย นี้คือฝีมือที่กากมานาน เราต้องปฏิวัติใหม่ด้วย,1บัตรประชาชน1เบอร์มือถือแค่นั้น,ระบบรันอัตโนมัตืชื่อนามสกุลคนโทรเข้ามาว่าคือใคร,มิใช่โชว์แค่ตัวเลขเบอร์อีกต่อไป,เราต้องล้ำจริงด้วย.,ดาวเทียมเน็ตก็ด้วย,มือถือควอนตัมอีกแจกฟรีเลย.



    https://youtu.be/YyJzBbnOZMc?si=etMiToFGpB-3jOP6
    นี้ก็อีกตัว สมควรยึดคืนทั้งหมดเลย,เปิดเป็นสาธารณะฟรีๆแก่คนไทยทั้งประเทศ,คนไทยสัญชาติไทยสามารถลงทะเบียนใช้ฟรี,ติดต่อค้าขายฟรี,เข้าสืบค้นหาความรู้ฟรี,ชาติส่งเสริมมิให้คนไทยมีภาระอีก,การเรียนการสอนจะไร้ขีดจำกัด,หลากหลายมิติทางดีงามจะต่อยอดสร้างสรรค์เป็นอันมา,ทำตังหาเงินหารายได้เข้าประเทศรัฐส่งเสริมเต็มที่ผ่านช่องทางนี้,ไทยจะรุ่งโรจน์แบบก้าวกระโดดทันทีในยุคล้ำด้านเทคโนโลยีนี้,เด็ดขาดนายกฯคนใหม่ต้องผลักดันจริง,เวลาเหมาะสมไม่ต้องต่ออายุสัมปทานใดๆ,ไม่ผิดสัญญาด้วย นี้คือฝีมือที่กากมานาน เราต้องปฏิวัติใหม่ด้วย,1บัตรประชาชน1เบอร์มือถือแค่นั้น,ระบบรันอัตโนมัตืชื่อนามสกุลคนโทรเข้ามาว่าคือใคร,มิใช่โชว์แค่ตัวเลขเบอร์อีกต่อไป,เราต้องล้ำจริงด้วย.,ดาวเทียมเน็ตก็ด้วย,มือถือควอนตัมอีกแจกฟรีเลย. https://youtu.be/YyJzBbnOZMc?si=etMiToFGpB-3jOP6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องศาสตร์ทองแดง ช่วยร่างกาย จิตวิญญาณ อากาศและพลังงานแวดล้อม สายเมฆเคมเทรล พลังงานฟรี รวมไปถึงการเกษตร กลุ่มเราเคยคุยกันมานานแล้ว วันนี้ผมตัดสินใจสร้างโน้ตนี้มาเพื่อให้ทุกท่านได้เป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพ(และจิตวิญญาณ) โดยที่พวกเขารู้เรื่องเหลือเชื่อหลายอย่างในยุคตื่นรู้นี้ ลองเปิดใจศึกษาแต่ถ้าไม่เชื่อก็ให้โฟกัสแต่เรื่องศาสตร์ทองแดงครับ

    ) ความรู้ลวดทองแดง Tensor ring
    แหล่งเรียนรู้ศาสตร์ทองแดง
    เพจอาจารนย์แอมป์
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61556460088155
    เพจอาจารย์นุ
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61571183996461

    รายการ I KNOW YOU KNOW โดย คุณพีท ทองเจือ
    https://youtu.be/W0HjzDUPUH4?si=hfc5jaYwJCwBTPXU

    แจกไฟล์หนังสือของปู่สลิม
    เพื่อการเรียนรู้และการตื่นรู้
    Slim Spurling (ต้นฉบับภาษาอังกฤษพร้อมฉบับแปลไทย) และ
    ไฟล์หนังสือที่พวกยอดพีระมิดไม่อยากให้เราอ่านมากที่สุด Book of Wisdom เล่มที่ 1
    (ส่วนเล่มที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการแปล)
    .
    ด้วยความเคารพในเจตนารมณ์ของปู่ และเพื่อส่งต่อภูมิปัญญาที่มีคุณค่าต่อโลกและจิตวิญญาณ เราขอแบ่งปันไฟล์แปลไทยฉบับนี้ให้ผู้สนใจศึกษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

    ไฟล์นี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น
    ห้ามนำไปจำหน่ายหรือใช้ในเชิงพาณิชย์เด็ดขาด
    ผู้ใดสนใจเรียนรู้ต่อเชิงลึก เรามีแหล่งเรียนรู้และกลุ่มแลกเปลี่ยนพลังงาน เปิดไว้ให้เสมอ

    หากท่านได้รับพลังดี ๆ จากหนังสือนี้ ขอเพียงส่งต่อด้วยหัวใจบริสุทธิ์
    ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการคืนความรู้สู่โลกใบนี้
    .
    สามารถเข้าร่วมกลุ่มเพื่อรับไฟล์ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง
    กรุณาใช้ชื่อและรูปโปรไฟล์จริงในการเข้าร่วมกลุ่มนะคะ

    คลิปนี้ที่ช่างนุพูดถึงหนังสือ Book of wisdom มีความเชื่อมโยงกับศาสตร์ Tensor ring
    ซึ่งหนังสือ Book of wisdom เป็นหนังสือที่พวกยอดพีระมิดไม่อยากให้เราอ่านมากที่สุด https://www.facebook.com/share/v/16spx4SGEj/

    .
    #SlimSpurling #แจกหนังสือฟรี #พลังงานศักดิ์สิทธิ์ #วงแหวนทองแดง #เส้นทางแห่งแสง
    .
    โอเพ้นแชท "แจกไฟล์หนังสือเท่านั้น" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้
    https://line.me/ti/g2/1NHxxPqu48s2daAQoWqPtYTAb8ncFHKvi4wo2g?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    เรื่องศาสตร์ทองแดง ช่วยร่างกาย จิตวิญญาณ อากาศและพลังงานแวดล้อม สายเมฆเคมเทรล พลังงานฟรี รวมไปถึงการเกษตร กลุ่มเราเคยคุยกันมานานแล้ว วันนี้ผมตัดสินใจสร้างโน้ตนี้มาเพื่อให้ทุกท่านได้เป็นทางเลือกหนึ่งในการดูแลสุขภาพ(และจิตวิญญาณ) โดยที่พวกเขารู้เรื่องเหลือเชื่อหลายอย่างในยุคตื่นรู้นี้ ลองเปิดใจศึกษาแต่ถ้าไม่เชื่อก็ให้โฟกัสแต่เรื่องศาสตร์ทองแดงครับ ✍️) ความรู้ลวดทองแดง Tensor ring แหล่งเรียนรู้ศาสตร์ทองแดง เพจอาจารนย์แอมป์ https://www.facebook.com/profile.php?id=61556460088155 เพจอาจารย์นุ https://www.facebook.com/profile.php?id=61571183996461 รายการ I KNOW YOU KNOW โดย คุณพีท ทองเจือ https://youtu.be/W0HjzDUPUH4?si=hfc5jaYwJCwBTPXU 📖 แจกไฟล์หนังสือของปู่สลิม 📚 เพื่อการเรียนรู้และการตื่นรู้ 💚Slim Spurling (ต้นฉบับภาษาอังกฤษพร้อมฉบับแปลไทย) และ 💚 ไฟล์หนังสือที่พวกยอดพีระมิดไม่อยากให้เราอ่านมากที่สุด Book of Wisdom เล่มที่ 1 (ส่วนเล่มที่ 2 กำลังอยู่ระหว่างการแปล) . ด้วยความเคารพในเจตนารมณ์ของปู่ และเพื่อส่งต่อภูมิปัญญาที่มีคุณค่าต่อโลกและจิตวิญญาณ เราขอแบ่งปันไฟล์แปลไทยฉบับนี้ให้ผู้สนใจศึกษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น 🔸 ไฟล์นี้จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้เท่านั้น ห้ามนำไปจำหน่ายหรือใช้ในเชิงพาณิชย์เด็ดขาด‼️ ผู้ใดสนใจเรียนรู้ต่อเชิงลึก เรามีแหล่งเรียนรู้และกลุ่มแลกเปลี่ยนพลังงาน เปิดไว้ให้เสมอ 📎 หากท่านได้รับพลังดี ๆ จากหนังสือนี้ ขอเพียงส่งต่อด้วยหัวใจบริสุทธิ์ 💛 ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของการคืนความรู้สู่โลกใบนี้ . 🌀สามารถเข้าร่วมกลุ่มเพื่อรับไฟล์ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง 🧑‍🦱กรุณาใช้ชื่อและรูปโปรไฟล์จริงในการเข้าร่วมกลุ่มนะคะ 📌คลิปนี้ที่ช่างนุพูดถึงหนังสือ Book of wisdom มีความเชื่อมโยงกับศาสตร์ Tensor ring ซึ่งหนังสือ Book of wisdom เป็นหนังสือที่พวกยอดพีระมิดไม่อยากให้เราอ่านมากที่สุด 👉https://www.facebook.com/share/v/16spx4SGEj/ . #SlimSpurling #แจกหนังสือฟรี #พลังงานศักดิ์สิทธิ์ #วงแหวนทองแดง #เส้นทางแห่งแสง . โอเพ้นแชท "🧙แจกไฟล์หนังสือเท่านั้น🌈🙏" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้ https://line.me/ti/g2/1NHxxPqu48s2daAQoWqPtYTAb8ncFHKvi4wo2g?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮุนเซน ไม่ติดหนี้อะไรไทยจริงหรอ?

    ทั้งที่เคย ทูลขอไปยังเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร(พระยศขณะนั้น)ให้ทรงช่วยเหลือกัมพูชาด้านสาธารณสุข และการศึกษาต่อไป” สำนักข่าวซึ่งเป็นของรัฐบาล กล่าว

    พล.อ.วาภิรมย์ นายทหารเกษียนราชการวัย 65 ปี ได้ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการ โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่กัมพูชาด้านการศึกษา โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธาน

    โครงการนี้ได้ช่วยกัมพูชาก่อสร้างโรงเรียนมัธยมกัมปงเฌอเตียล (Kampong Chheuteal) ใน จ.กัมปงธม ตามแนวพระราชดำริ โดยเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2543 พระองค์เสด็จฯ กัมพูชาหลายครั้งมาตั้งแต่นั้น รวมทั้งเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนในเดือน พ.ย.2548 ร่วมกับ นรม.กัมพูชา

    โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างเป็นทางการ มาตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 และจากชื่อเดิม คือ โรงเรียนมัธยมปราสาทซอมบอร์ ได้กลายมาเป็นโรงเรียนมัธยมกัมปงเฉอเตียลและเป็นวิทยาลัยกัมปงเฌอเตียลในปัจจุบัน

    ในแต่ละปีวิทยาลัยกัมปงเฌอเตียล รับนักเรียนเข้าเรียนกว่า 1,000 คน สอนตามหลักสูตรของกัมพูชาโดยครูอาจารย์ทั้งชาวไทยและชาวเขมร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดหาอุปกรณ์และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นต่างๆ ตลอดมา

    กัมปงเฌอเตียล ได้กลายเป็นสถานศึกษาตัวอย่าง ซึ่งนอกจากจะฝึกสอนวิชาการแล้วยังเน้นการอบรมนักเรียนด้านความสะอาด การรักษาสุขภาพอนามัย การมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม

    และเนื่องจากประชาคมแห่งนั้นเป็นที่ตั้งของปราสาทซอมบอร์ (Sambor Prey Kuk) ที่สร้างมาก่อนยุคเมืองพระนคร (นครวัด) การเรียนการสอนจึงเน้นในด้านการอนุรักษ์โบราณสถานอีกด้วย
    ฮุนเซน ไม่ติดหนี้อะไรไทยจริงหรอ? ทั้งที่เคย ทูลขอไปยังเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร(พระยศขณะนั้น)ให้ทรงช่วยเหลือกัมพูชาด้านสาธารณสุข และการศึกษาต่อไป” สำนักข่าวซึ่งเป็นของรัฐบาล กล่าว พล.อ.วาภิรมย์ นายทหารเกษียนราชการวัย 65 ปี ได้ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินการ โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่กัมพูชาด้านการศึกษา โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นประธาน โครงการนี้ได้ช่วยกัมพูชาก่อสร้างโรงเรียนมัธยมกัมปงเฌอเตียล (Kampong Chheuteal) ใน จ.กัมปงธม ตามแนวพระราชดำริ โดยเริ่มมาตั้งแต่ต้นปี 2543 พระองค์เสด็จฯ กัมพูชาหลายครั้งมาตั้งแต่นั้น รวมทั้งเสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนในเดือน พ.ย.2548 ร่วมกับ นรม.กัมพูชา โรงเรียนได้เปิดการเรียนการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอย่างเป็นทางการ มาตั้งแต่ปีการศึกษา 2549 และจากชื่อเดิม คือ โรงเรียนมัธยมปราสาทซอมบอร์ ได้กลายมาเป็นโรงเรียนมัธยมกัมปงเฉอเตียลและเป็นวิทยาลัยกัมปงเฌอเตียลในปัจจุบัน ในแต่ละปีวิทยาลัยกัมปงเฌอเตียล รับนักเรียนเข้าเรียนกว่า 1,000 คน สอนตามหลักสูตรของกัมพูชาโดยครูอาจารย์ทั้งชาวไทยและชาวเขมร และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดหาอุปกรณ์และสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นต่างๆ ตลอดมา กัมปงเฌอเตียล ได้กลายเป็นสถานศึกษาตัวอย่าง ซึ่งนอกจากจะฝึกสอนวิชาการแล้วยังเน้นการอบรมนักเรียนด้านความสะอาด การรักษาสุขภาพอนามัย การมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบต่อสังคมและส่วนรวม และเนื่องจากประชาคมแห่งนั้นเป็นที่ตั้งของปราสาทซอมบอร์ (Sambor Prey Kuk) ที่สร้างมาก่อนยุคเมืองพระนคร (นครวัด) การเรียนการสอนจึงเน้นในด้านการอนุรักษ์โบราณสถานอีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • ม.ราชภัฏโคราช จับมือ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ Mancool Technology ร่วมสร้างสรรค์สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยนวัตกรรม E-Bike สู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว
    .
    วันที่ 26 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ บริษัท Mancool Technology จำกัด สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และบริษัท Mancool Technology จำกัด จัดให้มีโครงการลดคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมี รศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวเปิดงาน นายธนกร สิริบุญสุข อุปนายกสมาคมการค้าไทย - จีนกวางตุ้ง มอบเสื้อที่ระลึก จากนั้นเป็นการการทดลองใช้รถจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) มาใช้ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษ และสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นภายในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
    .
    ทั้งนี้ บริษัท Mancool Technology จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรยานไฟฟ้า เป็นผู้สนับสนุนจักรยานไฟฟ้า เพื่อให้บริการแก่นักศึกษา บุคลากร และผู้มาเยือน การนำ E-Bike มาใช้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางภายในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    .
    มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และสมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันความร่วมมือครั้งนี้ให้เกิดขึ้น โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ในสถาบันการศึกษา ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคต โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตภายในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้และเมืองสีเขียวอย่างแท้จริง การนำนวัตกรรม E-Bike มาใช้ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมลดคาร์บอน ลด
    ม.ราชภัฏโคราช จับมือ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ Mancool Technology ร่วมสร้างสรรค์สังคมคาร์บอนต่ำ ด้วยนวัตกรรม E-Bike สู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว . วันที่ 26 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และ บริษัท Mancool Technology จำกัด สมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง และบริษัท Mancool Technology จำกัด จัดให้มีโครงการลดคาร์บอน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขับเคลื่อนสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยมี รศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวเปิดงาน นายธนกร สิริบุญสุข อุปนายกสมาคมการค้าไทย - จีนกวางตุ้ง มอบเสื้อที่ระลึก จากนั้นเป็นการการทดลองใช้รถจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่สีเขียวอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) มาใช้ภายในพื้นที่มหาวิทยาลัย ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ยานพาหนะที่ก่อให้เกิดมลพิษ และสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและน่าอยู่มากยิ่งขึ้นภายในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา . ทั้งนี้ บริษัท Mancool Technology จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีจักรยานไฟฟ้า เป็นผู้สนับสนุนจักรยานไฟฟ้า เพื่อให้บริการแก่นักศึกษา บุคลากร และผู้มาเยือน การนำ E-Bike มาใช้จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางภายในมหาวิทยาลัย อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการออกกำลังกายและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก . มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และสมาคมการค้าไทย-จีนกวางตุ้ง มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันความร่วมมือครั้งนี้ให้เกิดขึ้น โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของการนำเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาปรับใช้ในสถาบันการศึกษา ซึ่งจะเป็นต้นแบบที่ดีสำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในอนาคต โครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตภายในมหาวิทยาลัย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันให้จังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้และเมืองสีเขียวอย่างแท้จริง การนำนวัตกรรม E-Bike มาใช้ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสรรค์สังคมลดคาร์บอน ลด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ
    1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย
    2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน
    3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง"
    .
    "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น
    - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที
    - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ
    - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน
    -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ
    - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR
    - กิจกรรมบนเวที
    * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025
    * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ coverdance
    * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่
    * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *"
    .
    นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี"
    .
    ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!!
    .
    สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้
    ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ
    .
    ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!!

    26 มิถุนายน 2568
    1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ
    2. การจัดช่อตุ๊กตา
    3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน
    4. สายคล้องโทรศัพท์
    5. กรอบลอยโฟโต้
    6. ลูกประคบสมุนไพร
    7. ขนมเปียกปูนกะทิสด
    8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย
    9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
    11. ปังป๊อบคาราเมล
    12. ขนมชั้นแฟนซี
    13. เค้กไข่ไต้หวัน
    14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี
    15. ทาร์ตผักโขมอบชีส
    16. กุยช่ายแฟนซี
    17. ขนมปังหน้าหมู
    18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช
    19. คัพเค้ก
    20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน

    27 มิถุนายน 2568
    1. พวงกุญแจหนังแท้
    2. การจัดช่อดอกไม้สด
    3. ต่างหูจากเชือกเทียน
    4. พวงกุญแจจากลูกปัด
    5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส
    6. สมุนไพรตารับดม
    7. แซนด์วิชห่มผ้า
    8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย
    9. น้ำยำสร้างอาชีพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง
    11. ช็อกโกแลตฟองดู
    12. ขนมปุยฝ้าย
    13. แซนด์วิชโรล
    14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด
    15. โดนัทจิ๋วแฟนซี
    16. ตะโก้เผือก
    17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ
    18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน
    19. บานอฟฟี่
    20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม
    .
    รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ
    รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
    .
    ⚡️กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา
    งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ
    ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ)
    ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา
    พบกันได้ที่งาน
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา
    งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
    ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ 1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย 2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน 3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง" . "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR - กิจกรรมบนเวที * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025 * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ coverdance * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่ * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *" . นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี" . ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!! . สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ . ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!! 26 มิถุนายน 2568 1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ 2. การจัดช่อตุ๊กตา 3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน 4. สายคล้องโทรศัพท์ 5. กรอบลอยโฟโต้ 6. ลูกประคบสมุนไพร 7. ขนมเปียกปูนกะทิสด 8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย 9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ 10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน 11. ปังป๊อบคาราเมล 12. ขนมชั้นแฟนซี 13. เค้กไข่ไต้หวัน 14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี 15. ทาร์ตผักโขมอบชีส 16. กุยช่ายแฟนซี 17. ขนมปังหน้าหมู 18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช 19. คัพเค้ก 20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน 27 มิถุนายน 2568 1. พวงกุญแจหนังแท้ 2. การจัดช่อดอกไม้สด 3. ต่างหูจากเชือกเทียน 4. พวงกุญแจจากลูกปัด 5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส 6. สมุนไพรตารับดม 7. แซนด์วิชห่มผ้า 8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย 9. น้ำยำสร้างอาชีพ 10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง 11. ช็อกโกแลตฟองดู 12. ขนมปุยฝ้าย 13. แซนด์วิชโรล 14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด 15. โดนัทจิ๋วแฟนซี 16. ตะโก้เผือก 17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ 18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน 19. บานอฟฟี่ 20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม . รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น . ⚡️💥🌈กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน JOB FAIR 2025 @โคราช จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ) ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา 👇👇👇พบกันได้ที่งาน👇👇👇 <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 💥💥💥 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 💥💥💥
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 632 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ
    1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย
    2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน
    3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง"
    .
    "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น
    - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที
    - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ
    - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน
    -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ
    - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR
    - กิจกรรมบนเวที
    * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025
    * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ Cover dance
    * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่
    * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *"
    .
    นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี"
    .
    ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!!
    .
    สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้
    ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ
    .
    ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!!

    26 มิถุนายน 2568
    1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ
    2. การจัดช่อตุ๊กตา
    3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน
    4. สายคล้องโทรศัพท์
    5. กรอบลอยโฟโต้
    6. ลูกประคบสมุนไพร
    7. ขนมเปียกปูนกะทิสด
    8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย
    9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
    11. ปังป๊อบคาราเมล
    12. ขนมชั้นแฟนซี
    13. เค้กไข่ไต้หวัน
    14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี
    15. ทาร์ตผักโขมอบชีส
    16. กุยช่ายแฟนซี
    17. ขนมปังหน้าหมู
    18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช
    19. คัพเค้ก
    20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน

    27 มิถุนายน 2568
    1. พวงกุญแจหนังแท้
    2. การจัดช่อดอกไม้สด
    3. ต่างหูจากเชือกเทียน
    4. พวงกุญแจจากลูกปัด
    5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส
    6. สมุนไพรตารับดม
    7. แซนด์วิชห่มผ้า
    8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย
    9. น้ำยำสร้างอาชีพ
    10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง
    11. ช็อกโกแลตฟองดู
    12. ขนมปุยฝ้าย
    13. แซนด์วิชโรล
    14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด
    15. โดนัทจิ๋วแฟนซี
    16. ตะโก้เผือก
    17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ
    18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน
    19. บานอฟฟี่
    20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม
    .
    รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ
    รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
    .
    ⚡️กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา
    งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    .
    ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ
    ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ)
    ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา
    พบกันได้ที่งาน
    <<<<<<<<<<<<<<<<<<<
    JOB FAIR 2025 @โคราช
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น.
    ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช
    พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ
    รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา
    งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา
    ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ
    สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี!
    คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ
    การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ
    เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR)
    นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน
    นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ
    จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ
    การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค
    การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
    การประกวด Cosplay และ Cover Dance
    เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
    ขอเชิญร่วมงาน "JOB FAIR 2025 @KORAT 26 - 27 มิถุนายน 2568 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . - นางสาวบุปผา เรืองสุด รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า "การจัดงาน “JOB FAIR 2025 @ โคราช” มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ คือ 1. เพื่อส่งเสริมการมีงานทำ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย 2. เพื่อเพิ่มโอกาสให้แก่ประชาชน ผู้ว่างงาน นักเรียน นักศึกษา ได้มีโอกาส สมัครงานและสัมภาษณ์กับนายจ้างโดยตรง ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานให้กับ ธุรกิจต่างๆ และลดปัญหาการว่างงานของประชาชน 3. เพื่อสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา วัยกำลังแรงงาน ผู้ว่างงาน ทหารที่ปลดประจำการ ผู้ถูกเลิกจ้าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และประชาชนทั่วไป ที่พร้อมจะทำงาน ได้รับท ข้อมูลแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต โลกอาชีพในยุคปัจจุบัน ข้อมูลด้านการศึกษา ตลอดจ ทราบความถนัดของตนเอง สามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพอย่างเหมาะสม และได้ทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระจากผู้ประกอบอาชีพอิสระโดยตรง" . "การจัดงานในครั้งนี้ มีกำหนดจัดงาน 2 วัน ระหว่างวันที่ 26-27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 16.30 น. ซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น - กิจกรรมรับสมัครงาน จากนายจ้าง/สถานประกอบการ จากบริษัทชั้นนำกว่า ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา อาทิเช่น บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ประเทศไทย), บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท ซีพี เอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน), จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยมิตซูวา จำกัด (มหาชน) และบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค จำกัด โดยผู้สมัครงานจะได้สมัครงานและสัมภาษณ์งานทันที - กิจกรรมการฝึกและสาธิตอาชีพอิสระ วันละ 20 อาชีพ - คลินิกอาชีพ/การให้คำปรึกษาด้านอาชีพบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ - การให้บริการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน -การแนะแนวการศึกษาต่อ แนะนำเส้นทางสู่อาชีพ - การเรียนรู้อาชีพเสมือนจริง ผ่านแว่น Virtual Reality VR - กิจกรรมบนเวที * AI และการปรับตัวของแรงงานไทย จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร อาชีพยุคใหม่ “อินฟลูเอนเซอร์” โดย เจ๊นุกชอบพูดโคราช * “S-Commerce ทางรุ่งอาชีพ 2025 * การประกวดแข่งขัน Cosplay และ Cover dance * การแสดงวงดนตรีจากเรือนจำกลางคลองไผ่ * การจำหน่ายสินค้าของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ/สินค้า อิสระ และสินค้า OTOP หนึ่งตำบล หนึ่งอาชีพ *" . นางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า "สำนักงานจัดหางาน จังหวัดนครราชสีมาร่วมกับศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จัดงาน “JOB FAIR 2025 @โคราช” ระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 - 16.30 น. ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เพื่อเปิดโลกทัศน์และจุดประกายความคิดทางอาชีพให้แก่ประชาชน นักเรียน และนักศึกษา ให้มีโอกาสได้รู้จักอาชีพและ ลักษณะการทำงาน การประกอบอาชีพที่หลากหลายและทันสมัย ได้รับทราบข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน ข้อมูลด้านอาชีพ ข้อมูลด้านการศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม ได้มีโอกาสเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระที่ตนเองสนใจสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาหรือต่อยอดให้เป็นประโยชน์ในการประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่ประสงค์จะหางานได้เลือกตำแหน่งงานที่ตรงกับความรู้ ความสามารถ ความถนัด ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้สมัครงานให้มีโอกาสพบและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง เพิ่มโอกาสการมีงานทำ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี" . ภายในงานมีกิจกรรรมต่างๆ ดังนี้การรับสมัครงานจากนายจ้าง/สถานประกอบการ จำนวน 51 แห่ง ตำแหน่งงานมากกว่า 3,000 อัตรา การให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนผู้ประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ การสาธิตและฝึก ปฏิบัติอาชีพอิสระ จำนวน 40 อาชีพ บริการคลินิกอาชีพ/ให้คำปรึกษาด้านอาชีพ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ นิทรรศการและการให้บริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนว เส้นทางสู่อาชีพและการเรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality VR การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของกลุ่ม ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้สูงอายุ/สินค้า OTOP การออกร้านและให้คำแนะนำสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค การบรรยาย พิเศษจาก Influencer ชื่อดัง การประกวด Cosplay และการประกวด Cover Dance การร่วมสนุกแลกคูปองชิงรางวัลกว่า 2,000 รางวัล และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น!! . สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชวนผู้ว่างงาน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนงานใหม่ ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพอิสระ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำ โทร. 044 355 265 - 7, 081-967 8114, 088 584 3586 ในวันและเวลาราชการ . ตารางสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ ฟรี !!! 26 มิถุนายน 2568 1. กระเป๋าสตางค์หนังใส่เหรียญ 2. การจัดช่อตุ๊กตา 3. สร้อยข้อมือจากเชือกเทียน 4. สายคล้องโทรศัพท์ 5. กรอบลอยโฟโต้ 6. ลูกประคบสมุนไพร 7. ขนมเปียกปูนกะทิสด 8. ขนมปังสังขยาชาไทย/ใบเตย 9. สมูทตี้ผลไม้เพื่อสุขภาพ 10. ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน 11. ปังป๊อบคาราเมล 12. ขนมชั้นแฟนซี 13. เค้กไข่ไต้หวัน 14. ข้าวเหนียวมูน 3 สี 15. ทาร์ตผักโขมอบชีส 16. กุยช่ายแฟนซี 17. ขนมปังหน้าหมู 18. น้ำพริกหมูสูตรโคราช 19. คัพเค้ก 20. ก๋วยเตี๋ยวเรือเดินกิน 27 มิถุนายน 2568 1. พวงกุญแจหนังแท้ 2. การจัดช่อดอกไม้สด 3. ต่างหูจากเชือกเทียน 4. พวงกุญแจจากลูกปัด 5. การเคลือบรูปลงผ้าแคนวาส 6. สมุนไพรตารับดม 7. แซนด์วิชห่มผ้า 8. ข้าวปั้นญี่ปุ่นห่อสาหร่าย 9. น้ำยำสร้างอาชีพ 10. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง 11. ช็อกโกแลตฟองดู 12. ขนมปุยฝ้าย 13. แซนด์วิชโรล 14. มะม่วงน้ำปลาหวานพริกสด 15. โดนัทจิ๋วแฟนซี 16. ตะโก้เผือก 17. ก๋วยเตี๋ยวแห้งโบราณ 18. เต้าฮวยมะพร้าวอ่อน 19. บานอฟฟี่ 20. ม้าฮ่อโบราณผลไม้รวม . รอบการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ รอบที่ 1 เวลา 10.30 – 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 13.30 – 15.00 น. ณ เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช เรียนเสร็จได้ชิ้นงานกลับบ้าน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น . ⚡️💥🌈กลับมาอย่างยิ่งใหญ่กับงานที่ทุกคนรอคอย <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 50 บูธ ตำแหน่งงานกว่า 2,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช . ลิสต์รายชื่อสถานประกอบการ ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่รับสมัครในงาน JOB FAIR 2025 @โคราช จำนวนทั้งสิ้น 54 แห่ง (51 บูธ) ตำแหน่งงาน 317 ตำแหน่ง 3,174 อัตรา 👇👇👇พบกันได้ที่งาน👇👇👇 <<<<<<<<<<<<<<<<<<< 🚩JOB FAIR 2025 @โคราช🚩 >>>>>>>>>>>>>>>>>>> 📅 วันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2568 🕙 เวลา 10.00 - 16.30 น. 📍 ณ เทอร์มินอล ฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช พบกับโอกาสดี ๆ สำหรับคนหางาน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่อยากเปลี่ยนสายอาชีพ ✅ รับสมัครงาน 51 บูธ 54 บริษัท ตำแหน่งงานกว่า 3,000 อัตรา ✅ งานคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้พ้นโทษ นักเรียน นักศึกษา ✅ ให้คำปรึกษาและรับลงทะเบียนไปทำงานต่างประเทศ ✅ สาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ 40 อาชีพ ฟรี! ✅ คลินิกอาชีพ :: บริการให้คำปรึกษาด้านอาชีพ ✅ การบริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ ✅ เรียนรู้อาชีพเสมือนจริงผ่านแว่น Virtual Reality (VR) ✅ นิทรรศการและบริการของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ✅ นิทรรศการแนะแนวการศึกษาต่อ นิทรรศการแนะแนวอาชีพ ✅ จัดแสดงและจำหน่ายสินค้ากลุ่มรับงานไปทำที่บ้าน/ผู้สูงอายุ ✅ การแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์ และฟู้ดทรัค ✅ การบรรยายพิเศษเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ✅ การประกวด Cosplay และ Cover Dance 💥💥💥 เข้าร่วมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย 💥💥💥
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 507 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เป็นวันที่ 2 แห่งการโละทิ้งของที่ไม่ค่อยได้ใช้แล้วและไม่จำเป็น เริ่มต้นนับ 1 ใหม่ จากการละกิเลสจาก "กลุ่มถ้วยเดียว" เพื่อเดินทางเข้าสู่การเรียนรู้เกี่ยยวกับ ขันธ์ 5 จะว่าไปช่องที่ติดตามนานแล้วแต่ไม่ค่อยได้เข้าก็เหมือนสมบัติบ้าที่สะสมอย่างไร้สาระและไร้เหตุผม สุดท้ายก็ต้องโละออก
    วันนี้เป็นวันที่ 2 แห่งการโละทิ้งของที่ไม่ค่อยได้ใช้แล้วและไม่จำเป็น เริ่มต้นนับ 1 ใหม่ จากการละกิเลสจาก "กลุ่มถ้วยเดียว" เพื่อเดินทางเข้าสู่การเรียนรู้เกี่ยยวกับ ขันธ์ 5 จะว่าไปช่องที่ติดตามนานแล้วแต่ไม่ค่อยได้เข้าก็เหมือนสมบัติบ้าที่สะสมอย่างไร้สาระและไร้เหตุผม สุดท้ายก็ต้องโละออก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง

    ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด

    หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ
    พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้  

    มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข
    AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม

    การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม
    AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา  

    สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ
    การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้  

    AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน
    แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)  

    การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก
    AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ  

    หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI
    ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI  

    นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  

    พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม

    มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม
    แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม

    ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา
    คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง  

    เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม
    ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต  

    ความยึดมั่นถือมั่นและมายา
    แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้  

    ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม
    มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา  

    นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"  

    สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน

    จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:  

    1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว  

    2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง  

    3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น  

    4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา  

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด ☸️☸️ หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้   🤖 มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา   👓 สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้   🙆‍♂️ AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)   🧪 การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ   ☸️ หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI   นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด   พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม ‼️ มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม 👿 ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง   🛣️ เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต   🍷 ความยึดมั่นถือมั่นและมายา แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้   🤥 ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา   นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"   สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:   1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว   2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง   3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น   4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา   #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 548 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มโนเลยว่า,วัคซีนโควิดมันออกฤทธิ์แล้ว,คนไทยหลายคนทำการรักษาบำบัดแบบไม่เป็นข่าวจำนวนมากและสารพัดโรคมีมาแปลกๆด้วย คนเดียวเป็นมากกว่า1โรคหรือ2โรคซึ่งผิดปกติก่อนมีโควิดมากและก่อนคนไทยจะเริ่มรับวัคซีนโควิด,
    ..หากได้นายกฯคนใหม่แบบมาทางพิเศษฉุกเฉินหรือสุดซอยยึดอำนาจโดยประขาชนโดยมาทหารยืนเคียงข้างร่วมกัน แล้วประกาศชัดอย่างเป็นทางการว่า วัคซีนโควิดที่คนไทยรับไปคือภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพคือภาวะสงครามชีวภาพฉุกเฉินเพื่อเยี่ยวบาดแผลและพิษร้ายของอาวุธได้ตรงจุดรับมือถูกทางด้วย.,การรักษาก็จะมารอบด้านสาระพัดทางเพื่อกำจัดโรคร่วมกันในคนไทยเราด้วยผู้นำผู้ปกครองนายกฯที่มาจากภาคประชาชนรักคนไทยจริงมิใช่รักอำนาจทางการเมืองเพื่อคตโกงทุจริตตังแผ่นดินและสัญญาข้อตกลงต่างๆให้ตนได้มาซึ่งผลประโยชน์อันมหาศาลในภาวะอำนาจตำแหน่งที่ตนถือครองเพื่อกระทำชั่วเลวทั้งแบบอ้างกฎหมายอย่างชอบธรรมเพราะกูสั่งให้เขียนกฎหมายเข้าข้างกูเองเปิดทางให้กูเอง,กฎหมายมากมายจึงต้องฉีกทิ้งด้วยอำนาจพืเศษทันทีได้เช่นกัน,หากอำนาจปกติด้วยสันดานนิสัยเดิมของสถาบันนักการเมืองฝันไปเลยมันจะแก้ไขเพราะเจ้าสัวเอย นายใหญ่มันเองในระบบราชการไทยที่ส่งคนของมันแบบมันคุมจะจัดการสมุนแบบกูแน่,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เช่นผู้ปกครองสั่งนำเข้าวัคซีนโควิดมาฉีดในไทยนี้ล่ะ,กัญชาเสรียังวิจัยพิษภัยถึง5ปี,เหี้ยวัคซีนไม่มีงานวิจัยว่าปลอดภัยอะไร100%เลย,ปัจจุบันความจริงมากมายแฉออกมาทั่วโลกแต่รัฐบาลไทยกลับทำตาบอดหูหนวกขององค์รูรอบรู้จากข่าวสารจริงทั่วโลก ไม่บอกกล่าวความจริงอะไรแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการผ่านอำนาจรัฐตน,พิษวัคซีนมีคดีความที่ชนะในแต่ละประเทศมากมาย,บริษัทวัคซีนก็ยอมรับผิดจริงเป็นข่าวออกมาแล้ว,วงการแพทย์ไทยก็ปล่อยปะละเลยไม่ยอมรับต้นเหตุของสารก่อโรคจริง,ระบุแค่สภาวะโรคที่เกิดหลังคนไทยตายจริงไปแล้ว,น่าอนาถบนวิถีผู้นำผู้ปกครองที่กากในอดีตสิ้นดี,ทรยศคนไทยจริง เป็นภัยคุกคามในชีวิตคนไทยจริงด้วย คนไทยตายหมดแผ่นดินนี้ก็จะถูกยึดครองโดยคนชาติอื่นทันทีและเสียอธิปไตยแบบไม่ต้องรบเลยก็ได้ เดินมายึดเนียนก็ยังได้กว่าเขมรปะทะพรมแดนไทยในขณะนี้อีก,โรคมากมายมาจากต่าวด้าว คนไทยภูมิคุ้มกันตกต่ำก็เป็นสาระพัดโรคได้สบาย,ปัจจุบันพ่อแม่เสียชีวิตก่อนเด็กเยาวชนได้เป็นไม่น้อย เจ็บป่วยทำงานปกติลำบากพักงานลาพักตรึมสูญเสียงานสูญเสียรายได้มาจ่ายค่าอาหารค่าข้าวค่าน้ำค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะสังคมเมืองเงินคือปัจจัยจำเป็นสำคัญสิ่งแรกนอกจากตังมารักษาตนเองจากสาระพัดโรคต่างๆ,เอดส์ มะเร็ง ฝีดาษ งูสวัด และอีก1,291โรคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากกำแพงป้องกันอ่อนแอคือnkcellตนตกต่ำลง,ชาวบ้านประชาชนคือเหยื่อผู้บริสุทธิ์ในสงครามนี้,ผู้นำนายกฯที่สั่งฉีดวัคซีนยุคนั้นๆและถึงปัจจุบันต้องรับผิดชอบเพราะสมคบคิดกันชัดเจนเจตนาก้าวข้ามศพคนไทยเหยียบย่ำความเจ็บป่วยคนไทยไม่เยียวยาดูแลให้ถูกทางเพื่อกำจัดโรค,ตัดงบประมาณมากมายอีก ทำกำไรหารายได้ค้าความตายค้ายาค้าชีวิตคนด้วยการเจ็บป่วยของคนไทย,หากไม่เกิดเรื่องพรมแดน เรื่องถีบกระบวนการรักษาคนไทยที่ฟรีจะเริ่มถูกกำจัดทิ้ง คนไทยจะเริ่มเสียตังเป็นอันมากเองเพื่อรักษาตัวเอง,กำไรมหาศาลจะตกแก่กิจการบริษัทยาและโรงพยาบาลที่เป็นทั้งของรัฐและเอกชน ยิ่งเอกชนในตลาดหุ้นยิ่งยินดีมากรายได้กำไรจะทวีคูณทันที,
    ..แค่เรามีนายกฯคนใหม่จะพลิกทันที,ระบบการรักษาสามารถฟรีตลอดชีพทุกๆโรคก็ได้,อย่าลืมว่าสมุนไพรไทยมันสกัดทางยาเทียบคุณภาพทางเคมีได้สบาย,ทำให้สะดวกต่อการรักษาหลากหลายวิธี,คนไทยมีสุขภาพดี มีแรงสร้างชาติไทยร่วมกันมีแรงทำงานมีแรงค้าขายมีสมองร่างกายไม่เจ็บป่วย ลูกหลายไม่กำพร้าพ่อแม่จากการเสียชีวิต อยู่ร่วมในครบหน้าพร้อมครอบครัวอย่างมีความสุขเบิกบานร่าเริง การเรียนวิชาก็เล่าเรียนฟรีสูงสุดในระบบยุคล้ำๆได้ เด็กๆเล่าเรียนไร้ภาวะค่าเล่าเรียนค่าใช้จ่ายใดๆ,ผู้ปกครองมีทุนสัมมาอาชีพกู้ยืมไร้ดอกเบี้ยมีแหล่งตังอหล่งเงินทุนไปประกอบอาชีพได้อิสระ,ทั้งประเทศขับเคลื่อนได้หมด,มิใช่แบบปัจจุบันนี้ทั้งตายผ่อนส่งบาดเจ็บด้วยโรคภัยจากอาวุธชีวะภาพอักเสบทั้งทางร่างกายและจิตใจของตนเองและคนที่ตนรักตนห่วงหรือรักษาตน,กังวลค่ารักษาพยาบาลตังไม่มีไปหาหมอเดินทางออกจากบ้านก็ใช้ตังหมด,รถรับส่งสาธารณะฟรีๆก็ไม่มีในแต่ละชุมชนหมู่บ้านสู่ตัวเมืองตัวจังหวัดซึ่งเราประเทศต้องมีบริการแล้ว,แม้ใครจะมีรถเป็นของตนเองก็ตาม,สุดท้ายทุกๆคนมาใช้บริการฟรีๆรับส่งสาธารณะเข้าตัวจังหวัดอำเภอ เชื้อเพลิงก็ประหยัดเป็นภาพรวม.รถไฟฟ้าพลังกลจลน์ศักย์ไอน้ำไฮโดรเจนหรือแม่เหล็กมอเตอร์ลมแสงอาทิตย์ฟรีๆตรึมมีอันมาก นี้คือวิสัยทัศน์ของผู้นำผู้ปกครองมิใช่กระตุ้นการทำกำไรสร้างรายได้ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคณะใดคณะหนึ่งบริษัทกิจการผูกขาดใดผูกขาดหนึ่ง,ที่ผ่านมาประเทศเรามีวิถีปกครองที่ล้มเหลว,วัคซีนคือสงครามชีวภาพก็นำมาฆ่ามาทำลายคนไทยตนเองมันอำมหิตมาก.

    https://youtu.be/ddHrCkhNABY?si=zC0Gcs5TnYylt_TU
    ..มโนเลยว่า,วัคซีนโควิดมันออกฤทธิ์แล้ว,คนไทยหลายคนทำการรักษาบำบัดแบบไม่เป็นข่าวจำนวนมากและสารพัดโรคมีมาแปลกๆด้วย คนเดียวเป็นมากกว่า1โรคหรือ2โรคซึ่งผิดปกติก่อนมีโควิดมากและก่อนคนไทยจะเริ่มรับวัคซีนโควิด, ..หากได้นายกฯคนใหม่แบบมาทางพิเศษฉุกเฉินหรือสุดซอยยึดอำนาจโดยประขาชนโดยมาทหารยืนเคียงข้างร่วมกัน แล้วประกาศชัดอย่างเป็นทางการว่า วัคซีนโควิดที่คนไทยรับไปคือภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพคือภาวะสงครามชีวภาพฉุกเฉินเพื่อเยี่ยวบาดแผลและพิษร้ายของอาวุธได้ตรงจุดรับมือถูกทางด้วย.,การรักษาก็จะมารอบด้านสาระพัดทางเพื่อกำจัดโรคร่วมกันในคนไทยเราด้วยผู้นำผู้ปกครองนายกฯที่มาจากภาคประชาชนรักคนไทยจริงมิใช่รักอำนาจทางการเมืองเพื่อคตโกงทุจริตตังแผ่นดินและสัญญาข้อตกลงต่างๆให้ตนได้มาซึ่งผลประโยชน์อันมหาศาลในภาวะอำนาจตำแหน่งที่ตนถือครองเพื่อกระทำชั่วเลวทั้งแบบอ้างกฎหมายอย่างชอบธรรมเพราะกูสั่งให้เขียนกฎหมายเข้าข้างกูเองเปิดทางให้กูเอง,กฎหมายมากมายจึงต้องฉีกทิ้งด้วยอำนาจพืเศษทันทีได้เช่นกัน,หากอำนาจปกติด้วยสันดานนิสัยเดิมของสถาบันนักการเมืองฝันไปเลยมันจะแก้ไขเพราะเจ้าสัวเอย นายใหญ่มันเองในระบบราชการไทยที่ส่งคนของมันแบบมันคุมจะจัดการสมุนแบบกูแน่,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เช่นผู้ปกครองสั่งนำเข้าวัคซีนโควิดมาฉีดในไทยนี้ล่ะ,กัญชาเสรียังวิจัยพิษภัยถึง5ปี,เหี้ยวัคซีนไม่มีงานวิจัยว่าปลอดภัยอะไร100%เลย,ปัจจุบันความจริงมากมายแฉออกมาทั่วโลกแต่รัฐบาลไทยกลับทำตาบอดหูหนวกขององค์รูรอบรู้จากข่าวสารจริงทั่วโลก ไม่บอกกล่าวความจริงอะไรแก่ประชาชนอย่างเป็นทางการผ่านอำนาจรัฐตน,พิษวัคซีนมีคดีความที่ชนะในแต่ละประเทศมากมาย,บริษัทวัคซีนก็ยอมรับผิดจริงเป็นข่าวออกมาแล้ว,วงการแพทย์ไทยก็ปล่อยปะละเลยไม่ยอมรับต้นเหตุของสารก่อโรคจริง,ระบุแค่สภาวะโรคที่เกิดหลังคนไทยตายจริงไปแล้ว,น่าอนาถบนวิถีผู้นำผู้ปกครองที่กากในอดีตสิ้นดี,ทรยศคนไทยจริง เป็นภัยคุกคามในชีวิตคนไทยจริงด้วย คนไทยตายหมดแผ่นดินนี้ก็จะถูกยึดครองโดยคนชาติอื่นทันทีและเสียอธิปไตยแบบไม่ต้องรบเลยก็ได้ เดินมายึดเนียนก็ยังได้กว่าเขมรปะทะพรมแดนไทยในขณะนี้อีก,โรคมากมายมาจากต่าวด้าว คนไทยภูมิคุ้มกันตกต่ำก็เป็นสาระพัดโรคได้สบาย,ปัจจุบันพ่อแม่เสียชีวิตก่อนเด็กเยาวชนได้เป็นไม่น้อย เจ็บป่วยทำงานปกติลำบากพักงานลาพักตรึมสูญเสียงานสูญเสียรายได้มาจ่ายค่าอาหารค่าข้าวค่าน้ำค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะสังคมเมืองเงินคือปัจจัยจำเป็นสำคัญสิ่งแรกนอกจากตังมารักษาตนเองจากสาระพัดโรคต่างๆ,เอดส์ มะเร็ง ฝีดาษ งูสวัด และอีก1,291โรคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาหากกำแพงป้องกันอ่อนแอคือnkcellตนตกต่ำลง,ชาวบ้านประชาชนคือเหยื่อผู้บริสุทธิ์ในสงครามนี้,ผู้นำนายกฯที่สั่งฉีดวัคซีนยุคนั้นๆและถึงปัจจุบันต้องรับผิดชอบเพราะสมคบคิดกันชัดเจนเจตนาก้าวข้ามศพคนไทยเหยียบย่ำความเจ็บป่วยคนไทยไม่เยียวยาดูแลให้ถูกทางเพื่อกำจัดโรค,ตัดงบประมาณมากมายอีก ทำกำไรหารายได้ค้าความตายค้ายาค้าชีวิตคนด้วยการเจ็บป่วยของคนไทย,หากไม่เกิดเรื่องพรมแดน เรื่องถีบกระบวนการรักษาคนไทยที่ฟรีจะเริ่มถูกกำจัดทิ้ง คนไทยจะเริ่มเสียตังเป็นอันมากเองเพื่อรักษาตัวเอง,กำไรมหาศาลจะตกแก่กิจการบริษัทยาและโรงพยาบาลที่เป็นทั้งของรัฐและเอกชน ยิ่งเอกชนในตลาดหุ้นยิ่งยินดีมากรายได้กำไรจะทวีคูณทันที, ..แค่เรามีนายกฯคนใหม่จะพลิกทันที,ระบบการรักษาสามารถฟรีตลอดชีพทุกๆโรคก็ได้,อย่าลืมว่าสมุนไพรไทยมันสกัดทางยาเทียบคุณภาพทางเคมีได้สบาย,ทำให้สะดวกต่อการรักษาหลากหลายวิธี,คนไทยมีสุขภาพดี มีแรงสร้างชาติไทยร่วมกันมีแรงทำงานมีแรงค้าขายมีสมองร่างกายไม่เจ็บป่วย ลูกหลายไม่กำพร้าพ่อแม่จากการเสียชีวิต อยู่ร่วมในครบหน้าพร้อมครอบครัวอย่างมีความสุขเบิกบานร่าเริง การเรียนวิชาก็เล่าเรียนฟรีสูงสุดในระบบยุคล้ำๆได้ เด็กๆเล่าเรียนไร้ภาวะค่าเล่าเรียนค่าใช้จ่ายใดๆ,ผู้ปกครองมีทุนสัมมาอาชีพกู้ยืมไร้ดอกเบี้ยมีแหล่งตังอหล่งเงินทุนไปประกอบอาชีพได้อิสระ,ทั้งประเทศขับเคลื่อนได้หมด,มิใช่แบบปัจจุบันนี้ทั้งตายผ่อนส่งบาดเจ็บด้วยโรคภัยจากอาวุธชีวะภาพอักเสบทั้งทางร่างกายและจิตใจของตนเองและคนที่ตนรักตนห่วงหรือรักษาตน,กังวลค่ารักษาพยาบาลตังไม่มีไปหาหมอเดินทางออกจากบ้านก็ใช้ตังหมด,รถรับส่งสาธารณะฟรีๆก็ไม่มีในแต่ละชุมชนหมู่บ้านสู่ตัวเมืองตัวจังหวัดซึ่งเราประเทศต้องมีบริการแล้ว,แม้ใครจะมีรถเป็นของตนเองก็ตาม,สุดท้ายทุกๆคนมาใช้บริการฟรีๆรับส่งสาธารณะเข้าตัวจังหวัดอำเภอ เชื้อเพลิงก็ประหยัดเป็นภาพรวม.รถไฟฟ้าพลังกลจลน์ศักย์ไอน้ำไฮโดรเจนหรือแม่เหล็กมอเตอร์ลมแสงอาทิตย์ฟรีๆตรึมมีอันมาก นี้คือวิสัยทัศน์ของผู้นำผู้ปกครองมิใช่กระตุ้นการทำกำไรสร้างรายได้ให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งคณะใดคณะหนึ่งบริษัทกิจการผูกขาดใดผูกขาดหนึ่ง,ที่ผ่านมาประเทศเรามีวิถีปกครองที่ล้มเหลว,วัคซีนคือสงครามชีวภาพก็นำมาฆ่ามาทำลายคนไทยตนเองมันอำมหิตมาก. https://youtu.be/ddHrCkhNABY?si=zC0Gcs5TnYylt_TU
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ตอนนี้นักเรียนแทบทั้งหมดใช้ AI ช่วยทำงาน” หนึ่งในคุณครูที่ออกมาแชร์คือ Gary Ward จากโรงเรียน Brookes Westshore High School ในแคนาดา เขาบอกว่ามีเด็กบางคน “ที่ถ้าไม่มี AI ก็คงนั่งเหม่อลอยไม่รู้จะเริ่มทำยังไง” และตอนนี้เขาเชื่อว่า “เกือบทุกคนในห้องใช้ AI” แล้วจริง ๆ

    เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ครูหลายคนเริ่ม “หัน AI มาสู้ AI” โดยใช้เครื่องมืออย่าง ChatGPT ช่วยออกแบบคำถามหรือการบ้านให้มีความ “เฉพาะตัว” และ “ต่อต้านการลอกแบบอัตโนมัติ” เช่น ทำให้โจทย์ซับซ้อนขึ้น ต้องอิงจากประสบการณ์ส่วนตัว หรือให้วิเคราะห์เชิงวิจารณ์มากขึ้น

    ที่อังกฤษ Richard Griffin จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ก็ใช้ระบบ AI ของทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบว่า “การบ้านแบบนี้ถูก AI ทำแทนได้ง่ายไหม” พร้อมคำแนะนำว่าควรทำให้ยากขึ้นตรงไหน เช่น เพิ่มโจทย์แบบอัตนัย หรือให้เชื่อมโยงกับเนื้อหาที่ไม่ได้อยู่ในเน็ต

    อีกเทคนิคคือ “หวนคืนสู่กระดาษ” — การให้ส่งการบ้านแบบเขียนมือ หรือจัดสอบแบบ discussion ตัวต่อตัวมากขึ้น แม้จะใช้เวลาให้ครูตรวจมากขึ้น แต่ช่วยมั่นใจว่าเป็นงานนักเรียนจริง ๆ

    ครูพบว่านักเรียนใช้ AI อย่างแพร่หลายในงานเขียน–การบ้าน  
    • มีนักเรียนบางกลุ่ม “พึ่งพา AI ตลอดเวลา”  
    • ครูเริ่มสังเกตได้จากเนื้อหาที่ดูสมบูรณ์ผิดปกติ

    บางโรงเรียนและมหาวิทยาลัยใช้ AI มาช่วยตรวจสอบระดับ “ความง่ายต่อการโกงด้วย AI”  
    • เช่น ระบบของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์  
    • ให้คำแนะนำว่าโจทย์ควร “ส่วนตัวขึ้น/ลึกขึ้น” ตรงไหน

    เทคนิคการประเมินใหม่ เช่น การเขียนด้วยมือและการสอบปากเปล่าถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง  
    • บางที่ให้น้ำหนักการสอบแบบเขียนมือมากขึ้นในระบบเกรด  
    • ใช้การพูดคุยแทนรายงาน เพื่อลดโอกาสใช้ AI แทน

    บางหลักสูตร เช่น ธุรกิจ เริ่มเน้น “การประเมินแบบมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า” มากขึ้น  
    • เพื่อลดโอกาสใช้ AI ทำงานแทนในการประเมิน

    การพึ่งพา AI ตั้งแต่อายุยังน้อยอาจทำลายความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ของเด็ก  
    • เสี่ยงทำให้จินตนาการ–ตรรกะ–การเขียนถดถอย

    หากไม่มีระบบวัดผลที่ดี อาจเกิด “คนรุ่นใหม่ที่ไม่สามารถทำงานได้จริงโดยไม่ใช้ AI”  
    • เป็นผลสะสมจากการฝึกคิดที่ถูกแทนด้วยระบบอัตโนมัติ

    การปิดกั้น AI โดยไม่สอนการใช้ “อย่างมีวิจารณญาณ” อาจสร้างผลตรงข้าม  
    • เด็กบางคนจะใช้ AI ซ่อน ๆ โดยไม่มีความเข้าใจเรื่องจริยธรรมหรือคุณภาพเนื้อหา

    การประเมินเฉพาะด้วย “การเขียนด้วยมือ” หรือ “การพูด” อาจทำให้นักเรียนบางกลุ่มเสียเปรียบ  
    • โดยเฉพาะผู้ที่มีความแตกต่างด้านการเรียนรู้ (learning differences)

    https://www.techspot.com/news/108379-how-teachers-fighting-ai-cheating-handwritten-work-oral.html
    “ตอนนี้นักเรียนแทบทั้งหมดใช้ AI ช่วยทำงาน” หนึ่งในคุณครูที่ออกมาแชร์คือ Gary Ward จากโรงเรียน Brookes Westshore High School ในแคนาดา เขาบอกว่ามีเด็กบางคน “ที่ถ้าไม่มี AI ก็คงนั่งเหม่อลอยไม่รู้จะเริ่มทำยังไง” และตอนนี้เขาเชื่อว่า “เกือบทุกคนในห้องใช้ AI” แล้วจริง ๆ เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ครูหลายคนเริ่ม “หัน AI มาสู้ AI” โดยใช้เครื่องมืออย่าง ChatGPT ช่วยออกแบบคำถามหรือการบ้านให้มีความ “เฉพาะตัว” และ “ต่อต้านการลอกแบบอัตโนมัติ” เช่น ทำให้โจทย์ซับซ้อนขึ้น ต้องอิงจากประสบการณ์ส่วนตัว หรือให้วิเคราะห์เชิงวิจารณ์มากขึ้น ที่อังกฤษ Richard Griffin จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ก็ใช้ระบบ AI ของทางมหาวิทยาลัยตรวจสอบว่า “การบ้านแบบนี้ถูก AI ทำแทนได้ง่ายไหม” พร้อมคำแนะนำว่าควรทำให้ยากขึ้นตรงไหน เช่น เพิ่มโจทย์แบบอัตนัย หรือให้เชื่อมโยงกับเนื้อหาที่ไม่ได้อยู่ในเน็ต อีกเทคนิคคือ “หวนคืนสู่กระดาษ” — การให้ส่งการบ้านแบบเขียนมือ หรือจัดสอบแบบ discussion ตัวต่อตัวมากขึ้น แม้จะใช้เวลาให้ครูตรวจมากขึ้น แต่ช่วยมั่นใจว่าเป็นงานนักเรียนจริง ๆ ✅ ครูพบว่านักเรียนใช้ AI อย่างแพร่หลายในงานเขียน–การบ้าน   • มีนักเรียนบางกลุ่ม “พึ่งพา AI ตลอดเวลา”   • ครูเริ่มสังเกตได้จากเนื้อหาที่ดูสมบูรณ์ผิดปกติ ✅ บางโรงเรียนและมหาวิทยาลัยใช้ AI มาช่วยตรวจสอบระดับ “ความง่ายต่อการโกงด้วย AI”   • เช่น ระบบของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์   • ให้คำแนะนำว่าโจทย์ควร “ส่วนตัวขึ้น/ลึกขึ้น” ตรงไหน ✅ เทคนิคการประเมินใหม่ เช่น การเขียนด้วยมือและการสอบปากเปล่าถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง   • บางที่ให้น้ำหนักการสอบแบบเขียนมือมากขึ้นในระบบเกรด   • ใช้การพูดคุยแทนรายงาน เพื่อลดโอกาสใช้ AI แทน ✅ บางหลักสูตร เช่น ธุรกิจ เริ่มเน้น “การประเมินแบบมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า” มากขึ้น   • เพื่อลดโอกาสใช้ AI ทำงานแทนในการประเมิน ‼️ การพึ่งพา AI ตั้งแต่อายุยังน้อยอาจทำลายความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ของเด็ก   • เสี่ยงทำให้จินตนาการ–ตรรกะ–การเขียนถดถอย ‼️ หากไม่มีระบบวัดผลที่ดี อาจเกิด “คนรุ่นใหม่ที่ไม่สามารถทำงานได้จริงโดยไม่ใช้ AI”   • เป็นผลสะสมจากการฝึกคิดที่ถูกแทนด้วยระบบอัตโนมัติ ‼️ การปิดกั้น AI โดยไม่สอนการใช้ “อย่างมีวิจารณญาณ” อาจสร้างผลตรงข้าม   • เด็กบางคนจะใช้ AI ซ่อน ๆ โดยไม่มีความเข้าใจเรื่องจริยธรรมหรือคุณภาพเนื้อหา ‼️ การประเมินเฉพาะด้วย “การเขียนด้วยมือ” หรือ “การพูด” อาจทำให้นักเรียนบางกลุ่มเสียเปรียบ   • โดยเฉพาะผู้ที่มีความแตกต่างด้านการเรียนรู้ (learning differences) https://www.techspot.com/news/108379-how-teachers-fighting-ai-cheating-handwritten-work-oral.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    How teachers are fighting AI cheating with handwritten work, oral tests, and AI
    Speaking about AI-cheat students, Gary Ward, a teacher at Brookes Westshore High School in Victoria, British Columbia, told Business Insider, "Some of the ones that I see...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าบรรเทาทุกข์จากสภาวะอากาศร้อนแก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร รุดส่งมอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น พร้อมค่าพาหนะ ค่าติดตั้งพัดลม แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนเพิ่มอีก 5 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 9 แสนบาท
    .
    ระหว่างวันที่ 13 -19 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก พร้อมด้วย นายชูเดช เตชะไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการฯ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่มอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น ในโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร ครั้งที่ 2 ให้แก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร ประกอบด้วยจังหวัดสมุทรสาคร เพชรบุรี ระยอง ตราด และสระแก้ว รวม 5 จังหวัด 25 โรงเรียน พร้อมมอบค่าพาหนะให้แก่โรงเรียนๆ ละ 2,000 บาท และค่าติดตั้งพัดลมแก่โรงเรียนๆ ละ 3,000 บาท นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้มอบชุดนักเรียน ให้แก่นักเรียนทั้ง 25 โรงเรียน รวม 750 ชุด รวมงบประมาณทั้งสิ้น 987,050 บาท (เก้าแสนแปดหมื่นเจ็ดพันห้าสิบบาทถ้วน) เพื่อลดสภาวะอากาศร้อนภายในโรงเรียน ให้นักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนได้คลายร้อนและมีสมาธิในการเรียนการสอน โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี
    .
    โครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ห่วงใยนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษาถิ่นทุรกันดารที่ขาดแคลนพัดลม จึงมอบหมายให้คณะกรรมการมูลนิธิฯ จัดทีมฝ่ายสังคมสงเคราะห์ เร่งดำเนินการโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร นำร่องเมื่อปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา โดยมอบชุดพัดลมแก่สถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี รวม 5 จังหวัด 25 โรงเรียน และได้ขยายพื้นที่บรรเทาทุกข์ต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2568 รวมการดำเนินการโครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดารแล้ว 10 จังหวัด 50 โรงเรียน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินหน้าบรรเทาทุกข์จากสภาวะอากาศร้อนแก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร รุดส่งมอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น พร้อมค่าพาหนะ ค่าติดตั้งพัดลม แก่โรงเรียนที่ขาดแคลนเพิ่มอีก 5 จังหวัด รวมมูลค่ากว่า 9 แสนบาท . ระหว่างวันที่ 13 -19 มิถุนายน พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก พร้อมด้วย นายชูเดช เตชะไพบูลย์ ผู้ช่วยกรรมการฯ นางศิริพร กระจ่างหล้า ผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ นางสาวดวงชุตา ติยะพจนพรกุล ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ และ นางสาวศุภรัตน์ สมบัติเจริญไทย หัวหน้าแผนกส่งเสริมการศึกษาและอาชีพ ลงพื้นที่มอบชุดพัดลมเพดาน แขวนผนัง และตั้งพื้น ในโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร ครั้งที่ 2 ให้แก่สถานศึกษาในถิ่นทุรกันดาร ประกอบด้วยจังหวัดสมุทรสาคร เพชรบุรี ระยอง ตราด และสระแก้ว รวม 5 จังหวัด 25 โรงเรียน พร้อมมอบค่าพาหนะให้แก่โรงเรียนๆ ละ 2,000 บาท และค่าติดตั้งพัดลมแก่โรงเรียนๆ ละ 3,000 บาท นอกจากนี้มูลนิธิฯ ยังได้มอบชุดนักเรียน ให้แก่นักเรียนทั้ง 25 โรงเรียน รวม 750 ชุด รวมงบประมาณทั้งสิ้น 987,050 บาท (เก้าแสนแปดหมื่นเจ็ดพันห้าสิบบาทถ้วน) เพื่อลดสภาวะอากาศร้อนภายในโรงเรียน ให้นักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนได้คลายร้อนและมีสมาธิในการเรียนการสอน โดยมี ผู้แทนจากหน่วยงานรัฐเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย มูลนิธิฯ / สมาคมจีนประจำจังหวัดต่างๆ เป็นผู้ประสานงานและร่วมในพิธี . โครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการ ห่วงใยนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษาถิ่นทุรกันดารที่ขาดแคลนพัดลม จึงมอบหมายให้คณะกรรมการมูลนิธิฯ จัดทีมฝ่ายสังคมสงเคราะห์ เร่งดำเนินการโครงการ พัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดาร นำร่องเมื่อปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา โดยมอบชุดพัดลมแก่สถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี รวม 5 จังหวัด 25 โรงเรียน และได้ขยายพื้นที่บรรเทาทุกข์ต่อเนื่องในปี พ.ศ. 2568 รวมการดำเนินการโครงการพัดลมคลายร้อน สร้างสุข เพื่อน้องถิ่นทุรกันดารแล้ว 10 จังหวัด 50 โรงเรียน คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts