• “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นัดประชุม “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รับมือภาษีทรัมป์ เห็นตรงกันเรื่องความไม่แน่นอนของตลาดโลกและไทยมีสูง เตรียมมาตราการรองรับ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036016

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นัดประชุม “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รับมือภาษีทรัมป์ เห็นตรงกันเรื่องความไม่แน่นอนของตลาดโลกและไทยมีสูง เตรียมมาตราการรองรับ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000036016 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    7
    0 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • สหรัฐวางแผนใช้การเจรจาภาษีศุลกากรโดยจะเสนออัตราภาษีที่ต่ำกว่าให้กับ 70 กว่าประเทศ เพื่อแลกกับการตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน

    ภายใต้ข้อเสนอของรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ผู้รับหน้าที่เป็นแกนนำในการเจรจาทางการค้ากับประเทศเหล่านั้น โดยสหรัฐจะขอให้:

    — ห้ามไม่ให้สินค้าจีนผ่านพรมแดนของตน
    — ห้ามบริษัทจีนตั้งโรงงาน
    — หลีกเลี่ยงการนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมราคาถูกของจีน
    สหรัฐวางแผนใช้การเจรจาภาษีศุลกากรโดยจะเสนออัตราภาษีที่ต่ำกว่าให้กับ 70 กว่าประเทศ เพื่อแลกกับการตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน ภายใต้ข้อเสนอของรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ผู้รับหน้าที่เป็นแกนนำในการเจรจาทางการค้ากับประเทศเหล่านั้น โดยสหรัฐจะขอให้: — ห้ามไม่ให้สินค้าจีนผ่านพรมแดนของตน — ห้ามบริษัทจีนตั้งโรงงาน — หลีกเลี่ยงการนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมราคาถูกของจีน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ กระทรวงการคลัง เตรียมเชิญนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการ เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035704

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 16-17 เม.ย.นี้ กระทรวงการคลัง เตรียมเชิญนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการ เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในหลายมิติ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035704 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 534 Views 0 Reviews
  • เจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 เม.ย.) ว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่ามาตรการรีดภาษีคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกัดเซาะความเชื่อถือศรัทธาที่ชาติพันธมิตรมีต่ออเมริกา และนักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ

    เยลเลน ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นกำลังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะทำให้โลก “ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในสินทรัพย์ของสิ่งซึ่งเคยเป็นรากฐานของระบบการเงินโลก ซึ่งก็คือกระทรวงการคลังสหรัฐฯ”

    “ดิฉันไม่ได้มองว่า เรากำลังเห็นความผิดปกติในแง่ของการสูญเสียสภาพคล่องในตลาดไปอย่างสิ้นเชิง แต่สัญญาณที่เตือนว่าทั่วโลกกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความปลอดภัยของสินทรัพย์อันเป็นรากฐาน คือสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า”

    อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (14) หลังจากที่รัฐบาล ทรัมป์ ประกาศระงับการรีดภาษีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากจีนอย่างน้อยก็ชั่วคราว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีลดลง 8 จุดตั้งแต่วันศุกร์ (11) ลงมาอยู่ที่ 4.41% แต่ก็ยังสูงกว่าตัวเลข 3.99% ณ วันที่ 4 เม.ย.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035641

    #MGROnline #เจเน็ตเยลเลน
    เจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุวานนี้ (14 เม.ย.) ว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่ามาตรการรีดภาษีคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกัดเซาะความเชื่อถือศรัทธาที่ชาติพันธมิตรมีต่ออเมริกา และนักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ • เยลเลน ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นกำลังเป็นปัญหาใหญ่ เพราะทำให้โลก “ตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในสินทรัพย์ของสิ่งซึ่งเคยเป็นรากฐานของระบบการเงินโลก ซึ่งก็คือกระทรวงการคลังสหรัฐฯ” • “ดิฉันไม่ได้มองว่า เรากำลังเห็นความผิดปกติในแง่ของการสูญเสียสภาพคล่องในตลาดไปอย่างสิ้นเชิง แต่สัญญาณที่เตือนว่าทั่วโลกกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นในนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ และความปลอดภัยของสินทรัพย์อันเป็นรากฐาน คือสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า” • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มปรับตัวลดลงในวันจันทร์ (14) หลังจากที่รัฐบาล ทรัมป์ ประกาศระงับการรีดภาษีสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากจีนอย่างน้อยก็ชั่วคราว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปีลดลง 8 จุดตั้งแต่วันศุกร์ (11) ลงมาอยู่ที่ 4.41% แต่ก็ยังสูงกว่าตัวเลข 3.99% ณ วันที่ 4 เม.ย. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035641 • #MGROnline #เจเน็ตเยลเลน
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • เจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่ามาตรการรีดภาษีคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกัดเซาะความเชื่อถือศรัทธาที่ชาติพันธมิตรมีต่ออเมริกา และนักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035643

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes

    เจเน็ต เยลเลน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่ารู้สึกกังวลอย่างยิ่งว่ามาตรการรีดภาษีคู่ค้าและนโยบายอื่นๆ ของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังกัดเซาะความเชื่อถือศรัทธาที่ชาติพันธมิตรมีต่ออเมริกา และนักลงทุนบางส่วนเริ่มเทขายสินทรัพย์ของสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035643 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    13
    0 Comments 1 Shares 763 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามจากแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่แฝงตัวเข้ามาในบริษัทต่างๆ ทั่วโลกผ่านการสมัครงานในตำแหน่ง IT โดยใช้ ข้อมูลปลอมและเทคโนโลยี Deepfake เพื่อหลอกลวงนายจ้าง

    ✅ กลยุทธ์ของแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ
    - ใช้ข้อมูลปลอม เช่น ชื่อและเอกสารของพลเมืองสหรัฐฯ
    - ใช้ Deepfake เพื่อปลอมแปลงใบหน้าระหว่างสัมภาษณ์งาน

    ✅ ภัยคุกคามต่อบริษัทต่างๆ
    - แฮกเกอร์ไม่ได้โจมตีระบบโดยตรง แต่ใช้สิทธิ์การเข้าถึงของพนักงาน
    - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามนี้ตั้งแต่ปี 2022

    ✅ ตัวอย่างเหตุการณ์จริง
    - Christina Chapman ช่วยให้แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และสมัครงานในบริษัทกว่า 300 แห่ง
    - Oleksandr Didenko ขายบัญชีปลอมให้แฮกเกอร์เพื่อใช้สมัครงาน

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยขององค์กร
    - แฮกเกอร์สามารถใช้สิทธิ์ของพนักงานเพื่อเปิดทางให้กับการโจมตีไซเบอร์
    - บริษัทที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลพนักงานอย่างละเอียดอาจตกเป็นเป้าหมาย

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับการป้องกัน
    - ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครงานอย่างละเอียด รวมถึงการสัมภาษณ์แบบวิดีโอ
    - ใช้ระบบตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบเอกสารและที่อยู่

    https://www.csoonline.com/article/3497138/how-not-to-hire-a-north-korean-it-spy.html
    ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามจากแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่แฝงตัวเข้ามาในบริษัทต่างๆ ทั่วโลกผ่านการสมัครงานในตำแหน่ง IT โดยใช้ ข้อมูลปลอมและเทคโนโลยี Deepfake เพื่อหลอกลวงนายจ้าง ✅ กลยุทธ์ของแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ - ใช้ข้อมูลปลอม เช่น ชื่อและเอกสารของพลเมืองสหรัฐฯ - ใช้ Deepfake เพื่อปลอมแปลงใบหน้าระหว่างสัมภาษณ์งาน ✅ ภัยคุกคามต่อบริษัทต่างๆ - แฮกเกอร์ไม่ได้โจมตีระบบโดยตรง แต่ใช้สิทธิ์การเข้าถึงของพนักงาน - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามนี้ตั้งแต่ปี 2022 ✅ ตัวอย่างเหตุการณ์จริง - Christina Chapman ช่วยให้แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และสมัครงานในบริษัทกว่า 300 แห่ง - Oleksandr Didenko ขายบัญชีปลอมให้แฮกเกอร์เพื่อใช้สมัครงาน ℹ️ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยขององค์กร - แฮกเกอร์สามารถใช้สิทธิ์ของพนักงานเพื่อเปิดทางให้กับการโจมตีไซเบอร์ - บริษัทที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลพนักงานอย่างละเอียดอาจตกเป็นเป้าหมาย ℹ️ คำแนะนำสำหรับการป้องกัน - ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครงานอย่างละเอียด รวมถึงการสัมภาษณ์แบบวิดีโอ - ใช้ระบบตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบเอกสารและที่อยู่ https://www.csoonline.com/article/3497138/how-not-to-hire-a-north-korean-it-spy.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How not to hire a North Korean IT spy
    CISOs are urged to carry out tighter vetting of new hires to ward off potential ‘moles’ — who are increasingly finding their way onto company payrolls and into their IT systems.
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • เปิดภาพ พิธีลงนามสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ โดยมีนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงนามในสัญญา กับ กิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงาน ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการและการจ่ายเงินค่าจ้างเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นระยะเวลาควบคุมงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ (3 ปี) และระยะที่ 2 เป็นระยะเวลาควบคุมงานสำหรับงานรับประกันความชำรุดบกพร่องของผู้รับจ้างก่อสร้าง (2 ปี) ทำให้มีระยะเวลาผูกพันตามสัญญาจ้างเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง3 บริษัท ควบคุมงาน ตึก สตง. เอกชนที่ได้รับงานควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.วงเงิน 74.65 ล้านบาท 1. บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 8,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 63/123 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย ปฏิวัติ ศิริไทย นาง พรรณนภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567 นาย ปฏิวัติ ศิริไทย ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พรรณภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ 2.บริษัท ว.และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2526 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 4,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 55 ซอยรามคำแหง 18 (แม้นเขียน 3) ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค ที่เกี่ยวข้อง ปรากฏชื่อ นาย โชควิชิต ลักษณากร นาย พลเดช เทอดพิทักษ์วานิช นาง ปราณีต แสงอลังการ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นาย โชควิชิต ลักษณากร ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พิมลดา ลักษณากร นาย วิชัย ลักษณากร นาย วิทู รักษ์วนิชพงศ์3. บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/2 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล นางสาว พนิดดา พิทักษ์เกียรติยศหลังจากมีการขยายสัญญา ครม.ชุดปัจจุบันนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน และโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง.. จนเกิดเหตุกาณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มดังกล่าว .ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
    เปิดภาพ พิธีลงนามสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม 2564 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้จัดให้มีพิธีลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงานก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (แห่งใหม่) พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ โดยมีนายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงนามในสัญญา กับ กิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้ชนะการยื่นข้อเสนองานจ้างควบคุมงาน ในวงเงิน 74.65 ล้านบาท ณ ห้องดำริอิศรานุวรรต สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ดำเนินการจัดทำร่างขอบเขตของงานจ้างควบคุมงานโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่ โดยกำหนดระยะเวลาดำเนินการและการจ่ายเงินค่าจ้างเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 เป็นระยะเวลาควบคุมงานก่อสร้างจนแล้วเสร็จ (3 ปี) และระยะที่ 2 เป็นระยะเวลาควบคุมงานสำหรับงานรับประกันความชำรุดบกพร่องของผู้รับจ้างก่อสร้าง (2 ปี) ทำให้มีระยะเวลาผูกพันตามสัญญาจ้างเป็นระยะเวลาทั้งหมด 5 ปี และได้ดำเนินการจัดหาผู้ให้บริการควบคุมงานก่อสร้างตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยวิธีคัดเลือกผู้ให้บริการควบคุมงานจ้างก่อสร้าง3 บริษัท ควบคุมงาน ตึก สตง. เอกชนที่ได้รับงานควบคุมงานก่อสร้างอาคาร สตง.วงเงิน 74.65 ล้านบาท 1. บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2554 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 8,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 63/123 ตำบลบางแม่นาง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย ปฏิวัติ ศิริไทย นาง พรรณนภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567 นาย ปฏิวัติ ศิริไทย ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พรรณภา ศิริไทย นาย นัฏพร กฤษฎานุภาพ 2.บริษัท ว.และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2526 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 4,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 55 ซอยรามคำแหง 18 (แม้นเขียน 3) ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจกิจกรรมงานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค ที่เกี่ยวข้อง ปรากฏชื่อ นาย โชควิชิต ลักษณากร นาย พลเดช เทอดพิทักษ์วานิช นาง ปราณีต แสงอลังการ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2567 นาย โชควิชิต ลักษณากร ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาง พิมลดา ลักษณากร นาย วิชัย ลักษณากร นาย วิทู รักษ์วนิชพงศ์3. บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2548 ทุนจดทะเบียนล่าสุด 2,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 76/2 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี จังหวัดกรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ปรากฏชื่อ นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ วันที่ 30 เมษายน 2567 นาย กฤตภัฏ ปล่องกระโทก ถือหุ้นใหญ่สุด หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย ศิริศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ นาย มนตรี สุดรักษ์ นาย ณัฐวุฒิ เลิศศรีดำรงค์กุล นางสาว พนิดดา พิทักษ์เกียรติยศหลังจากมีการขยายสัญญา ครม.ชุดปัจจุบันนี้เพิ่งอนุมัติเพิ่มวงเงินค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคาร เป็นวงเงิน 84.3 ล้าน มีการแก้ไขแบบก่อสร้าง จำเป็นขยายระยะเวลาก่อสร้าง 155 วัน จาก 1,080 วัน เป็น 1,235 วัน และโครงการอยู่ใน “ข้อตกลงคุณธรรม” รัฐ-ผู้รับเหมา-ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง.. จนเกิดเหตุกาณ์แผ่นดินไหว ตึกถล่มดังกล่าว .ที่มา : ศูนย์ปฏิบัติการSTRONGประเทศไทย
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • สถานทูตจีนในสหรัฐ โพสต์ภาพการ์ตูนเสียดสีสหรัฐได้เจ็บแสบ เกี่ยวกับมาตการภาษีของทรัมป์ โดยอ้างอิงคำพูดของ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ 

    "อย่าตอบโต้ อยู่เฉยๆ และยอมรับมัน คุณจะได้รับสิ่งตอบแทน ไม่งั้นอาจเลวร้ายไปกว่าเดิม"
    สถานทูตจีนในสหรัฐ โพสต์ภาพการ์ตูนเสียดสีสหรัฐได้เจ็บแสบ เกี่ยวกับมาตการภาษีของทรัมป์ โดยอ้างอิงคำพูดของ สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ  "อย่าตอบโต้ อยู่เฉยๆ และยอมรับมัน คุณจะได้รับสิ่งตอบแทน ไม่งั้นอาจเลวร้ายไปกว่าเดิม"
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 1 Shares 208 Views 0 Reviews
  • เยอรมนี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Jörg Kukies ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้ทางภาษีที่อาจเกิดขึ้นจาก EU หากการเจรจาระหว่างสองฝ่ายล้มเหลว โดยเฉพาะการพิจารณาภาษีใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายประเทศใน EU เช่น ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก มีความกังวล เนื่องจากเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ

    ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าทุกมาตรการยังคงอยู่บนโต๊ะ รวมถึงการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ Google

    ✅ การเรียกร้องของเยอรมนี
    - เยอรมนีเรียกร้องให้ EU ใช้ความระมัดระวังในการตอบโต้ทางภาษี
    - รัฐมนตรี Jörg Kukies เน้นถึงความสำคัญของการพิจารณาผลกระทบในแต่ละอุตสาหกรรม

    ✅ การพิจารณาภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล
    - ฝรั่งเศสเสนอการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์
    - ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี

    ✅ การลดภาษีชั่วคราว
    - สหรัฐฯ ลดภาษีจาก 20% เหลือ 10% ในช่วง 90 วัน
    - การลดภาษีนี้อาจถูกยกเลิกหาก EU ตอบโต้ทางภาษี

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง EU และสหรัฐฯ
    - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

    ℹ️ ผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี
    - การเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัลอาจเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทเทคโนโลยี
    - บริษัทในไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กอาจได้รับผลกระทบโดยตรง

    https://wccftech.com/germany-pushes-for-caution-on-tariffs-retaliation/
    เยอรมนี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Jörg Kukies ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการตอบโต้ทางภาษีที่อาจเกิดขึ้นจาก EU หากการเจรจาระหว่างสองฝ่ายล้มเหลว โดยเฉพาะการพิจารณาภาษีใหม่ในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายประเทศใน EU เช่น ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์ก มีความกังวล เนื่องจากเป็นที่ตั้งของบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน ฝรั่งเศสได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนว่าทุกมาตรการยังคงอยู่บนโต๊ะ รวมถึงการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ Google ✅ การเรียกร้องของเยอรมนี - เยอรมนีเรียกร้องให้ EU ใช้ความระมัดระวังในการตอบโต้ทางภาษี - รัฐมนตรี Jörg Kukies เน้นถึงความสำคัญของการพิจารณาผลกระทบในแต่ละอุตสาหกรรม ✅ การพิจารณาภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล - ฝรั่งเศสเสนอการเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัล เช่น การโฆษณาออนไลน์ - ไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กแสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี ✅ การลดภาษีชั่วคราว - สหรัฐฯ ลดภาษีจาก 20% เหลือ 10% ในช่วง 90 วัน - การลดภาษีนี้อาจถูกยกเลิกหาก EU ตอบโต้ทางภาษี ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่าง EU และสหรัฐฯ - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ℹ️ ผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี - การเก็บภาษีในอุตสาหกรรมดิจิทัลอาจเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัทเทคโนโลยี - บริษัทในไอร์แลนด์และลักเซมเบิร์กอาจได้รับผลกระทบโดยตรง https://wccftech.com/germany-pushes-for-caution-on-tariffs-retaliation/
    WCCFTECH.COM
    Germany Pushes for Caution on EU Tariff Retaliation
    In response to proposed retaliation on the tariffs on the EU, Germany has pushed for caution on what actions may be taken.
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ตอบโต้สเปนอย่างรุนแรงว่า หากพวกเขาเข้าข้างจีนจะเหมือนปาดคอตัวเอง


    ก่อนหน้านี้ เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน เสนอให้อียูทบทวนความสัมพันธ์การค้ากับจีน โดยบอกว่าสหภาพยุโรปจะได้ประโยชน์ถ้าคบกับจีน เพราะนโยบายการค้าของสหรัฐไม่มีความแน่นอน และยังทำร้ายพันธมิตรด้วยการประกาศขึ้นภาษียุโรป

    เบสเซนต์ ออกมาตอบโต้สเปนทันที โดยเตือนว่าสหภาพยุโรปจะเหมือนกับปาดคอตัวเองหากหันไปใกล้ชิดจีนแทนที่จะรักษาความสัมพันธ์กับสหรัฐต่อไป

    เบสเซนต์ยังกล่าวอีกว่านโยบายการค้าของจีนมีแต่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโลก และชี้ว่าอียูต้องไม่เลือกข้างผิดในสงครามการค้า
    สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ ตอบโต้สเปนอย่างรุนแรงว่า หากพวกเขาเข้าข้างจีนจะเหมือนปาดคอตัวเอง ก่อนหน้านี้ เปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน เสนอให้อียูทบทวนความสัมพันธ์การค้ากับจีน โดยบอกว่าสหภาพยุโรปจะได้ประโยชน์ถ้าคบกับจีน เพราะนโยบายการค้าของสหรัฐไม่มีความแน่นอน และยังทำร้ายพันธมิตรด้วยการประกาศขึ้นภาษียุโรป เบสเซนต์ ออกมาตอบโต้สเปนทันที โดยเตือนว่าสหภาพยุโรปจะเหมือนกับปาดคอตัวเองหากหันไปใกล้ชิดจีนแทนที่จะรักษาความสัมพันธ์กับสหรัฐต่อไป เบสเซนต์ยังกล่าวอีกว่านโยบายการค้าของจีนมีแต่ส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโลก และชี้ว่าอียูต้องไม่เลือกข้างผิดในสงครามการค้า
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 259 Views 24 0 Reviews
  • นายกฯ ชี้ "ทรัมป์" ชะลอรีดภาษีสินค้านำเข้า 90 วัน มีเวลาทำแผนเจรจาให้ดีขึ้น เผยสหรัฐฯ ตอบรับให้ "พิชัย" เจรจาแล้ว แต่ยังไม่ได้คิวเวลา ระบุถ้าประเทศอาเซียนจับมือแล้วมีพลังมากกว่าก็เป็นเรื่องดี

    วันนี้(10 เม.ย.) เมื่อเวลา 9.05 น.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ชะลอการเก็บภาษีตอบโต้ทางการค้าออกไปเป็นเวลา 90 วัน ว่า ช่วงเวลา 90 วันถือว่าได้ทั้งหมดเกือบทุกประเทศ และคิดว่าเป็นเรื่องเวลาแต่ละประเทศต้องต่อคิวกันคุย เพราะมีจำนวนมาก ซึ่งแผนของเรา ที่จะทำในประเทศ ต้องเตรียมให้ดีขึ้น เรามองทุกมิติ และค่อนข้างที่จะครบอยู่แล้ว เหลือเวลาที่จะเข้าไปคุย

    ผู้สื่อข่าวถามว่านายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเดินทางไปพูดคุยวันไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ายังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน ทางสหรัฐฯ ตอบรับมาแล้วแต่ยังไม่ได้คิวพูดคุย

    เมื่อถามว่าการที่แต่ละประเทศต่อคิวคุยกันคุย กับการที่ประเทศพันธมิตรในกลุ่มอาเซียนจับมือไปคุยจะมีพลังมากกว่าหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราทำทุกรูปแบบ ทุกอย่างที่จะช่วยทั้งประเทศ เราและอาเซียน ถ้าจับกับอาเซียนแล้วมีพลังกว่าก็เป็นเรื่องดีแต่เราต้องทำ ของประเทศเราด้วยและคิดว่าทุกประเทศทำเช่นนี้

    เมื่อถามว่ากรณีที่นักวิชาการสหรัฐฯ ถูกแจ้งข้อหาในไทย จะเป็นเงื่อนไขในการเจรจาพูดคุยยากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราคุยด้วยความแฟร์ โดนัลด์ ทรัมป์เปิดการเจรจา ด้วยความแฟร์อยู่แล้ว เราก็ต้องคุยด้วยความแฟร์

    #MGROnline #ภาษีสินค้านำเข้า #สหรัฐอเมริกา
    นายกฯ ชี้ "ทรัมป์" ชะลอรีดภาษีสินค้านำเข้า 90 วัน มีเวลาทำแผนเจรจาให้ดีขึ้น เผยสหรัฐฯ ตอบรับให้ "พิชัย" เจรจาแล้ว แต่ยังไม่ได้คิวเวลา ระบุถ้าประเทศอาเซียนจับมือแล้วมีพลังมากกว่าก็เป็นเรื่องดี • วันนี้(10 เม.ย.) เมื่อเวลา 9.05 น.นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ชะลอการเก็บภาษีตอบโต้ทางการค้าออกไปเป็นเวลา 90 วัน ว่า ช่วงเวลา 90 วันถือว่าได้ทั้งหมดเกือบทุกประเทศ และคิดว่าเป็นเรื่องเวลาแต่ละประเทศต้องต่อคิวกันคุย เพราะมีจำนวนมาก ซึ่งแผนของเรา ที่จะทำในประเทศ ต้องเตรียมให้ดีขึ้น เรามองทุกมิติ และค่อนข้างที่จะครบอยู่แล้ว เหลือเวลาที่จะเข้าไปคุย • ผู้สื่อข่าวถามว่านายพิชัย ชุณหวชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะเดินทางไปพูดคุยวันไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่ายังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน ทางสหรัฐฯ ตอบรับมาแล้วแต่ยังไม่ได้คิวพูดคุย • เมื่อถามว่าการที่แต่ละประเทศต่อคิวคุยกันคุย กับการที่ประเทศพันธมิตรในกลุ่มอาเซียนจับมือไปคุยจะมีพลังมากกว่าหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราทำทุกรูปแบบ ทุกอย่างที่จะช่วยทั้งประเทศ เราและอาเซียน ถ้าจับกับอาเซียนแล้วมีพลังกว่าก็เป็นเรื่องดีแต่เราต้องทำ ของประเทศเราด้วยและคิดว่าทุกประเทศทำเช่นนี้ • เมื่อถามว่ากรณีที่นักวิชาการสหรัฐฯ ถูกแจ้งข้อหาในไทย จะเป็นเงื่อนไขในการเจรจาพูดคุยยากขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราคุยด้วยความแฟร์ โดนัลด์ ทรัมป์เปิดการเจรจา ด้วยความแฟร์อยู่แล้ว เราก็ต้องคุยด้วยความแฟร์ • #MGROnline #ภาษีสินค้านำเข้า #สหรัฐอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ กล่าวว่าทรัมป์ไม่ได้หวังแค่จะขึ้นภาษีเท่านั้น แต่เขากำลังวางกับดักไว้ นี่คือกลยุทธ์ของประธานาธิบดีและจีนก็เดินเข้าไปหาทันที

    ตลาดกำลังฟื้นตัวหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 125% ในขณะที่ให้เวลา 90 วันกับประเทศอื่นๆ

    ผลลัพธ์ที่ได้คือ จีนต้องยืนอยู่เพียงลำพัง “ผมกับทรัมป์เราใช้เวลาหารืออย่างยาวในวันอาทิตย์ และนี่คือกลยุทธ์ของเขามาตลอด”


    “หากคุณไม่ตอบโต้ คุณจะได้รับสิ่งตอบแทน ดังนั้นทุกประเทศในโลกต้องการเข้าร่วมการเจรจา เรายินดีที่จะรับฟังคุณ เราจะลดภาษีศุลกากรพื้นฐานของเราต่อพวกเขาลงเหลือ 10% และเนื่องจากจีนยืนกรานที่จะยกระดับสงครามการค้า ภาษีศุลกากรของพวกเขาจึงจะเพิ่มขึ้นเป็น 125%”
    สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ กล่าวว่าทรัมป์ไม่ได้หวังแค่จะขึ้นภาษีเท่านั้น แต่เขากำลังวางกับดักไว้ นี่คือกลยุทธ์ของประธานาธิบดีและจีนก็เดินเข้าไปหาทันที ตลาดกำลังฟื้นตัวหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 125% ในขณะที่ให้เวลา 90 วันกับประเทศอื่นๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือ จีนต้องยืนอยู่เพียงลำพัง “ผมกับทรัมป์เราใช้เวลาหารืออย่างยาวในวันอาทิตย์ และนี่คือกลยุทธ์ของเขามาตลอด” “หากคุณไม่ตอบโต้ คุณจะได้รับสิ่งตอบแทน ดังนั้นทุกประเทศในโลกต้องการเข้าร่วมการเจรจา เรายินดีที่จะรับฟังคุณ เราจะลดภาษีศุลกากรพื้นฐานของเราต่อพวกเขาลงเหลือ 10% และเนื่องจากจีนยืนกรานที่จะยกระดับสงครามการค้า ภาษีศุลกากรของพวกเขาจึงจะเพิ่มขึ้นเป็น 125%”
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 271 Views 28 0 Reviews
  • สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์หลังจากจีนตอบโต้การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 84% จากเดิมเมื่อ 4 วันก่อนเพิ่งประกาศขึ้นมาอยู่ที่ 34%  โดยกล่าวแสดงความผิดหวังต่อสิ่งที่จีนกำลังทำอยู่ขณะนี้ ซึ่งมันจะทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียหาย จากการที่จีนมีระบบเศรษฐกิจที่ไร้สมดุลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกสมัยใหม่


    “พวกเขาเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับเรา เพราะฉะนั้นการตอบโต้แบบนี้จะทำให้พวกเขาเจ็บตัวมากกว่า” เมื่อมองในมุมของสัดส่วนผลกระทบ จีนจะเป็นฝ่ายที่ได้รับความเสียหายมากกว่าสหรัฐฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


    นอกจากนี้ เบสเซนต์ ยังขู่อีกว่าจะถอดหุ้นจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ และเรียกร้องให้จีนกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาแทนการตอบโต้กันไปมา โดยระบุว่า “ทุกทางเลือกอยู่บนโต๊ะ” ซึ่งการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการถอดหุ้นจีนจะขึ้นอยู่กับตัวการตัดสินใจของทรัมป์



    เบสเซนต์ยังเน้นย้ำว่า จีนควรเปิดกว้างต่อการเจรจากับสหรัฐ พร้อมส่งสัญญาณเปิดช่องไว้ว่าหนทางทางการทูตและเศรษฐกิจยังเป็นไปได้ หากจีนเลือกการเจรจาแทนที่จะใช้มาตรการตอบโต้



    การตอบโต้ของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมรวมทุกครั้งแล้วเป็น 104%
    สก็อตต์ เบสเซนต์ (Scott Bessent) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์หลังจากจีนตอบโต้การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 84% จากเดิมเมื่อ 4 วันก่อนเพิ่งประกาศขึ้นมาอยู่ที่ 34%  โดยกล่าวแสดงความผิดหวังต่อสิ่งที่จีนกำลังทำอยู่ขณะนี้ ซึ่งมันจะทำให้พวกเขาเป็นฝ่ายที่เสียหาย จากการที่จีนมีระบบเศรษฐกิจที่ไร้สมดุลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกสมัยใหม่ “พวกเขาเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับเรา เพราะฉะนั้นการตอบโต้แบบนี้จะทำให้พวกเขาเจ็บตัวมากกว่า” เมื่อมองในมุมของสัดส่วนผลกระทบ จีนจะเป็นฝ่ายที่ได้รับความเสียหายมากกว่าสหรัฐฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ เบสเซนต์ ยังขู่อีกว่าจะถอดหุ้นจีนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐ และเรียกร้องให้จีนกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาแทนการตอบโต้กันไปมา โดยระบุว่า “ทุกทางเลือกอยู่บนโต๊ะ” ซึ่งการตัดสินใจขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับการถอดหุ้นจีนจะขึ้นอยู่กับตัวการตัดสินใจของทรัมป์ เบสเซนต์ยังเน้นย้ำว่า จีนควรเปิดกว้างต่อการเจรจากับสหรัฐ พร้อมส่งสัญญาณเปิดช่องไว้ว่าหนทางทางการทูตและเศรษฐกิจยังเป็นไปได้ หากจีนเลือกการเจรจาแทนที่จะใช้มาตรการตอบโต้ การตอบโต้ของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนเพิ่มเติมรวมทุกครั้งแล้วเป็น 104%
    Yay
    1
    0 Comments 0 Shares 241 Views 21 0 Reviews
  • ♣ คลังหวังเสริมแกร่งสถานะการคลังด้วยการถลุงงบกว่า 10 ล้าน ให้ข้าราชการแข็งแรง สงสัยจะส่งคนไปแข่งโอลิมปิก ซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า 24 ตัว ตัวละ 2.3 แสนบาท หน่วยงานราชการที่ใช้เงินหลวงเหมือนเงินตัวเอง ค่าไฟฟ้าห้องฟิตเนสก็ใช้ภาษีประชาชนจ่าย
    #7ดอกจิก
    ♣ คลังหวังเสริมแกร่งสถานะการคลังด้วยการถลุงงบกว่า 10 ล้าน ให้ข้าราชการแข็งแรง สงสัยจะส่งคนไปแข่งโอลิมปิก ซื้อลู่วิ่งไฟฟ้า 24 ตัว ตัวละ 2.3 แสนบาท หน่วยงานราชการที่ใช้เงินหลวงเหมือนเงินตัวเอง ค่าไฟฟ้าห้องฟิตเนสก็ใช้ภาษีประชาชนจ่าย #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • ใครจะกะพริบตาก่อนกัน🧲 หมากเจรจาของทรัมป์ คือ ตัังกำแพงภาษีสูงไว้ก่อน ต้อนให้คู่ค้าเข้ามาเจรจาถ้าคู่ค้าหมอบ ตกลงกันได้ ลดภาษีทั้งสองฝ่าย ก็จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ทรัมป์คงประเมินแล้วว่า ในจำนวนกว่า 180 ประเทศ จะสามารถเคลียร์แบบนี้ ได้เกือบหมด ถึงแม้บางประเทศแสดงท่าที พร้อมจะตอบโต้ เช่น บราซิลลงมติ ให้อำนาจผู้นำสู้กับทรัมป์แต่ก็เลี่ยง ไม่ได้ตั้งกำแพงโต้กลับทันที พร้อมจะทำการเจรจาเสียก่อน🪤 ทรัมป์ไม่ได้บีบแคนาดาหรือเม็กซิโกเพิ่ม สองประเทศนี้จึงนิ่ง มีอยู่เพียงจีน ที่ตั้งกำแพงโต้กลับ 34% ทันที ส่วนยุโรปบอกว่าจะทำเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้จะประกาศเมื่อใดคาดว่ายุโรปจะเดินอย่างระมัดระวัง เพราะขายสินค้าให้สหรัฐ ปีละ 5.3 แสนล้านยูโร เกือบ 1/5 ของส่งออกยุโรปนอกจากรถยนต์ ที่เหลือคือเวชภัณฑ์ 1.1 แสน เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 0.9 แสน 🔫 สินค้าเหล่านี้มีอัตรากำไรสูง ยุโรปคงไม่เสี่ยงตัดสะพานทิ้งส่วนสหรัฐขายสินค้าให้ยุโรป 3.7 แสนล้านดอลลาร์ เกือบ 1/5 ของส่งออกสหรัฐเช่นกันถึงแม้ถ้าโดนโต้กลับรุนแรง ก็จะแย่พอกันแต่เป็นเวชภัณฑ์ 0.6 แสน เรือบิน 0.3 แสน พลังงาน 0.3 แสน ซึ่งยุโรปจำเป้นต้องใช้อยู่ตลอด ดังนั้น ละครฉากยุโรป ที่ทรัมป์เป็นพระเอก ก็คงจบลงได้ไม่ยาก 💣 ปัญหาใหญ่สุดของทรัมป์ จึงอยู่ที่สีจิ้นผิง ในฐานะผู้นำของ Global South สีจะยอมทรัมป์ไม่ได้ทรัมป์น่าจะผิดหวังพอควร เพราะรีบอ้างว่า การที่จีนโต้กลับ ส่อเป็นการหวาดผวา และเดินหมากผิดพลาด*** น่าสงสัยว่า ทรัมป์หรือสี ใครจะกะพริบตาก่อนกันข้อความที่ทรัมป์เผยแพร่ บ่งชี้ว่า เดิมคงหวังให้สีเข้ามาเจรจา เพื่อจะได้ลดกำแพงกันไปทั้งสองฝ่าย วิน วินแต่เมื่อไม่เป็นตามแผน ก็รีบปลอบใจคนอเมริกัน (ดูรูป 1) ว่า💊 [กำแพงภาษีสองฝั่งนั้น กระทบจีนมากกว่าสหรัฐ แบบเทียบกันไม่ได้เลย มาตรการนี้ ทำให้มีคนจะลงทุนในสหรัฐ กว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ถึงแม้ศึกนี้ยาก แต่เราชนะแน่จึงขอให้คนอเมริกันอดทนอีกหน่อย]จีนนำเข้าจากสหรัฐ ปีละ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ (6% ของนำเข้าจีน)เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2.4 หมื่นล้าน น้ำมันและก๊าซ 2 หมื่น เวชภัณฑ์ 2 หมื่น อาหาร 1.6 หมื่น 🩸 ส่วนใหญ่ จีนน่าจะสามารถผลิตได้เอง หรือหาแหล่งซื้ออื่นแทนได้ ผลกระทบจึงน่าจะไม่มากนักแต่ผลกระทบต่อเกษตรกรสหรัฐ จะมีมาก และเป็นฐานเสียงสำคัญ ทรัมป์ก็รู้ดีสหรัฐนำเข้าจากจีน ปีละ 5 แสนล้านดอลลาร์ (15% ของส่งออกจีน) เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2 แสน ของเด็กเล่น 3 หมื่น เฟอร์นิเจอร์ 2 หมื่น สินค้าพลาสติก 2 หมื่น🧬 เนื่องจากไม่มีประเทศอื่นใด ที่ต้นทุนสินค้า consumer แข่งกับจีนได้ ดังนั้น คนอเมริกันก็ยังต้องใช้ของจีนต่อไปถามว่า ผู้ผลิตจีน หรือผู้บริโภคสหรัฐ ใครจะเป็นผู้ควักกระเป๋า เพื่อข้ามกำแพงภาษี 54%การผลิตสินค้าพื้นๆ เหล่านี้ กำไรผู้ผลิตในจีน ขณะนี้เหลือบางมาก หลายโรงงานปิดตัวไปแล้วจึงเป็นไปไม่ไดั ที่จีนจะควักกระเป๋ามาจ่ายถ้าภาษียังค้างเช่นนี้ ภายใน 2-3 เดือน ราคาที่คนอเมริกันต้องจ่าย จะขยับสูงขึ้น อย่างหายห่วง 🧹 ถึงแม้ยอดส่งออกจีนไปสหรัฐ จะลดลง แต่จะไม่มีอุตสาหกรรมเบา ที่จะย้ายจากจีน ไปผลิตที่สหรัฐ ทรัมป์ก็รู้ดีอเมริกันชน ชั้นล่างและชั้นกลาง คนส่วนใหญ่ที่ซื้อสินค้าจีน จึงจะหันกลับไปมองทรัมป์ ด้วยสายตาเคืองรูป 2 แสดงการที่จีนได้กระจายแหล่งนำเข้าสินค้าต่างๆ เปลี่ยนไปจากสหรัฐรูป 3 นอกจากนี้ จีนยังบีบสหรัฐเพิ่ม โดย (1) คุมการส่งออกแร่หายากอีก 7 ตัว และ (2) เพิ่มจำนวนบริษัทสหรัฐที่คุมการส่งออกรูป 4-5 แร่หายาก 7 ตัวนี้ มีชื่อแปลกๆ แต่ต้องใช้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ พลังงานหมุนเวียน และดาวเทียม🧻 เป็นอันว่า หมากของทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไฮเทคในสหรัฐ แบบเต็มๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะต่อชาวบ้านก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่ว่า ถ้าประเทศใดโต้กลับ เขาจะยกระดับกำแพงให้สูงขึ้นอีกบัดนี้ คำขู่นี้ เจอกับหมากรุกกลับของสีจิ้นผิงแล้ว🧐 ต้องไม่ลืมว่า ชนชาวจีนกำลังเผชิญเศรษฐกิจชะลอตัว จากฟองสบู่อสังหาแตก และส่งออกลดลง บัณฑิตตกงานความอึดอัดในจีน เดิมมีสีเป็นเป้า บัดนี้ ทรัมป์ได้ยื่นตัวเข้ามา บังเป็นเป้าแทนแล้วสีอาจจะชอบใจละครฉากนี้ แต่การเดินเนื้อเรื่อง น่าจะไม่เป็นไปตามบทของทรัมป์วันที่ 6 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    ใครจะกะพริบตาก่อนกัน🧲 หมากเจรจาของทรัมป์ คือ ตัังกำแพงภาษีสูงไว้ก่อน ต้อนให้คู่ค้าเข้ามาเจรจาถ้าคู่ค้าหมอบ ตกลงกันได้ ลดภาษีทั้งสองฝ่าย ก็จะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ทรัมป์คงประเมินแล้วว่า ในจำนวนกว่า 180 ประเทศ จะสามารถเคลียร์แบบนี้ ได้เกือบหมด ถึงแม้บางประเทศแสดงท่าที พร้อมจะตอบโต้ เช่น บราซิลลงมติ ให้อำนาจผู้นำสู้กับทรัมป์แต่ก็เลี่ยง ไม่ได้ตั้งกำแพงโต้กลับทันที พร้อมจะทำการเจรจาเสียก่อน🪤 ทรัมป์ไม่ได้บีบแคนาดาหรือเม็กซิโกเพิ่ม สองประเทศนี้จึงนิ่ง มีอยู่เพียงจีน ที่ตั้งกำแพงโต้กลับ 34% ทันที ส่วนยุโรปบอกว่าจะทำเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้จะประกาศเมื่อใดคาดว่ายุโรปจะเดินอย่างระมัดระวัง เพราะขายสินค้าให้สหรัฐ ปีละ 5.3 แสนล้านยูโร เกือบ 1/5 ของส่งออกยุโรปนอกจากรถยนต์ ที่เหลือคือเวชภัณฑ์ 1.1 แสน เครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 0.9 แสน 🔫 สินค้าเหล่านี้มีอัตรากำไรสูง ยุโรปคงไม่เสี่ยงตัดสะพานทิ้งส่วนสหรัฐขายสินค้าให้ยุโรป 3.7 แสนล้านดอลลาร์ เกือบ 1/5 ของส่งออกสหรัฐเช่นกันถึงแม้ถ้าโดนโต้กลับรุนแรง ก็จะแย่พอกันแต่เป็นเวชภัณฑ์ 0.6 แสน เรือบิน 0.3 แสน พลังงาน 0.3 แสน ซึ่งยุโรปจำเป้นต้องใช้อยู่ตลอด ดังนั้น ละครฉากยุโรป ที่ทรัมป์เป็นพระเอก ก็คงจบลงได้ไม่ยาก 💣 ปัญหาใหญ่สุดของทรัมป์ จึงอยู่ที่สีจิ้นผิง ในฐานะผู้นำของ Global South สีจะยอมทรัมป์ไม่ได้ทรัมป์น่าจะผิดหวังพอควร เพราะรีบอ้างว่า การที่จีนโต้กลับ ส่อเป็นการหวาดผวา และเดินหมากผิดพลาด*** น่าสงสัยว่า ทรัมป์หรือสี ใครจะกะพริบตาก่อนกันข้อความที่ทรัมป์เผยแพร่ บ่งชี้ว่า เดิมคงหวังให้สีเข้ามาเจรจา เพื่อจะได้ลดกำแพงกันไปทั้งสองฝ่าย วิน วินแต่เมื่อไม่เป็นตามแผน ก็รีบปลอบใจคนอเมริกัน (ดูรูป 1) ว่า💊 [กำแพงภาษีสองฝั่งนั้น กระทบจีนมากกว่าสหรัฐ แบบเทียบกันไม่ได้เลย มาตรการนี้ ทำให้มีคนจะลงทุนในสหรัฐ กว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว ถึงแม้ศึกนี้ยาก แต่เราชนะแน่จึงขอให้คนอเมริกันอดทนอีกหน่อย]จีนนำเข้าจากสหรัฐ ปีละ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ (6% ของนำเข้าจีน)เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2.4 หมื่นล้าน น้ำมันและก๊าซ 2 หมื่น เวชภัณฑ์ 2 หมื่น อาหาร 1.6 หมื่น 🩸 ส่วนใหญ่ จีนน่าจะสามารถผลิตได้เอง หรือหาแหล่งซื้ออื่นแทนได้ ผลกระทบจึงน่าจะไม่มากนักแต่ผลกระทบต่อเกษตรกรสหรัฐ จะมีมาก และเป็นฐานเสียงสำคัญ ทรัมป์ก็รู้ดีสหรัฐนำเข้าจากจีน ปีละ 5 แสนล้านดอลลาร์ (15% ของส่งออกจีน) เป็นเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า 2 แสน ของเด็กเล่น 3 หมื่น เฟอร์นิเจอร์ 2 หมื่น สินค้าพลาสติก 2 หมื่น🧬 เนื่องจากไม่มีประเทศอื่นใด ที่ต้นทุนสินค้า consumer แข่งกับจีนได้ ดังนั้น คนอเมริกันก็ยังต้องใช้ของจีนต่อไปถามว่า ผู้ผลิตจีน หรือผู้บริโภคสหรัฐ ใครจะเป็นผู้ควักกระเป๋า เพื่อข้ามกำแพงภาษี 54%การผลิตสินค้าพื้นๆ เหล่านี้ กำไรผู้ผลิตในจีน ขณะนี้เหลือบางมาก หลายโรงงานปิดตัวไปแล้วจึงเป็นไปไม่ไดั ที่จีนจะควักกระเป๋ามาจ่ายถ้าภาษียังค้างเช่นนี้ ภายใน 2-3 เดือน ราคาที่คนอเมริกันต้องจ่าย จะขยับสูงขึ้น อย่างหายห่วง 🧹 ถึงแม้ยอดส่งออกจีนไปสหรัฐ จะลดลง แต่จะไม่มีอุตสาหกรรมเบา ที่จะย้ายจากจีน ไปผลิตที่สหรัฐ ทรัมป์ก็รู้ดีอเมริกันชน ชั้นล่างและชั้นกลาง คนส่วนใหญ่ที่ซื้อสินค้าจีน จึงจะหันกลับไปมองทรัมป์ ด้วยสายตาเคืองรูป 2 แสดงการที่จีนได้กระจายแหล่งนำเข้าสินค้าต่างๆ เปลี่ยนไปจากสหรัฐรูป 3 นอกจากนี้ จีนยังบีบสหรัฐเพิ่ม โดย (1) คุมการส่งออกแร่หายากอีก 7 ตัว และ (2) เพิ่มจำนวนบริษัทสหรัฐที่คุมการส่งออกรูป 4-5 แร่หายาก 7 ตัวนี้ มีชื่อแปลกๆ แต่ต้องใช้ในการผลิตยุทโธปกรณ์ เครื่องมือแพทย์ พลังงานหมุนเวียน และดาวเทียม🧻 เป็นอันว่า หมากของทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไฮเทคในสหรัฐ แบบเต็มๆ ไม่ใช่แค่เฉพาะต่อชาวบ้านก่อนหน้านี้ ทรัมป์ขู่ว่า ถ้าประเทศใดโต้กลับ เขาจะยกระดับกำแพงให้สูงขึ้นอีกบัดนี้ คำขู่นี้ เจอกับหมากรุกกลับของสีจิ้นผิงแล้ว🧐 ต้องไม่ลืมว่า ชนชาวจีนกำลังเผชิญเศรษฐกิจชะลอตัว จากฟองสบู่อสังหาแตก และส่งออกลดลง บัณฑิตตกงานความอึดอัดในจีน เดิมมีสีเป็นเป้า บัดนี้ ทรัมป์ได้ยื่นตัวเข้ามา บังเป็นเป้าแทนแล้วสีอาจจะชอบใจละครฉากนี้ แต่การเดินเนื้อเรื่อง น่าจะไม่เป็นไปตามบทของทรัมป์วันที่ 6 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 334 Views 0 Reviews
  • จีนไม่หงอ! ประกาศตอบโต้โดยออกมาตรการขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ 34%

    หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนถึง 34% จากภาษีเดิม 20% ทำให้การขึ้นภาษีรวมกลายเป็น 54%

    👉"กระทรวงการคลังของจีน" ประกาศตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตราเดียวกันที่ 34% ซึ่งครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท เพื่อแสดงให้เห็นถึงท่าทีที่ไม่ยอมอ่อนข้อในสงครามการค้าระดับโลก

    👉"กระทรวงพาณิชย์ของจีน" ยังประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทสัญชาติอเมริกันเพิ่มอีก 11 แห่งในฐานะ "องค์กรไม่น่าเชื่อถือ" ซึ่งเป็นมาตรการที่เทียบเท่ากับการห้ามบริษัทเหล่านี้ดำเนินธุรกิจในจีนหรือร่วมมือกับบริษัทจีนในทุกรูปแบบ

    👉"สำนักงานศุลกากรของจีน" ประกาศระงับการนำเข้าเนื้อไก่จากผู้ส่งออกบางรายของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรอเมริกัน และจุดกระแสความไม่พอใจในฐานเสียงของทรัมป์ภายในประเทศ

    ความเคลื่อนไหวทั้งสามหน่วยงานหลักของจีนเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่นาทีสะท้อนชัดว่าจีนไม่มีแผนจะถอยในสมรภูมิการค้า และพร้อมตอบโต้ทุกการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ อย่างฉับพลันและรุนแรง 



    จีนไม่หงอ! ประกาศตอบโต้โดยออกมาตรการขึ้นภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ 34% หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนถึง 34% จากภาษีเดิม 20% ทำให้การขึ้นภาษีรวมกลายเป็น 54% 👉"กระทรวงการคลังของจีน" ประกาศตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตราเดียวกันที่ 34% ซึ่งครอบคลุมสินค้าหลากหลายประเภท เพื่อแสดงให้เห็นถึงท่าทีที่ไม่ยอมอ่อนข้อในสงครามการค้าระดับโลก 👉"กระทรวงพาณิชย์ของจีน" ยังประกาศขึ้นบัญชีดำบริษัทสัญชาติอเมริกันเพิ่มอีก 11 แห่งในฐานะ "องค์กรไม่น่าเชื่อถือ" ซึ่งเป็นมาตรการที่เทียบเท่ากับการห้ามบริษัทเหล่านี้ดำเนินธุรกิจในจีนหรือร่วมมือกับบริษัทจีนในทุกรูปแบบ 👉"สำนักงานศุลกากรของจีน" ประกาศระงับการนำเข้าเนื้อไก่จากผู้ส่งออกบางรายของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรอเมริกัน และจุดกระแสความไม่พอใจในฐานเสียงของทรัมป์ภายในประเทศ ความเคลื่อนไหวทั้งสามหน่วยงานหลักของจีนเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่นาทีสะท้อนชัดว่าจีนไม่มีแผนจะถอยในสมรภูมิการค้า และพร้อมตอบโต้ทุกการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ อย่างฉับพลันและรุนแรง 
    Like
    5
    0 Comments 1 Shares 295 Views 0 Reviews
  • "อย่าตอบโต้ อยู่เฉยๆ และยอมรับมัน ไม่งั้นอาจเลวร้ายไปกว่าเดิม"

    -- สก็อตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ

    "คำแนะนำของผมสำหรับประเทศต่างๆ เกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ คือ อย่าตอบโต้ อยู่เฉยๆ ยอมรับมัน และทำไปตามสถานการณ์ เพราะถ้าหากคุณตอบโต้ สิ่งต่างๆจะเลวร้ายลงไปอีก หากคุณไม่ตอบโต้ นี่อาจเป็นจุดสูงสุด และหยุดแค่นี้"


    เบสเซนท์ ยังกล่าวถึง "รัสเซียและเบลารุส" ที่ไม่อยู่ในรายชื่อ เพราะสหรัฐคว่ำบาตรและไม่ได้มีการค้าขายกับพวกเขา
    "อย่าตอบโต้ อยู่เฉยๆ และยอมรับมัน ไม่งั้นอาจเลวร้ายไปกว่าเดิม" -- สก็อตต์ เบสเซนท์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐ "คำแนะนำของผมสำหรับประเทศต่างๆ เกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ คือ อย่าตอบโต้ อยู่เฉยๆ ยอมรับมัน และทำไปตามสถานการณ์ เพราะถ้าหากคุณตอบโต้ สิ่งต่างๆจะเลวร้ายลงไปอีก หากคุณไม่ตอบโต้ นี่อาจเป็นจุดสูงสุด และหยุดแค่นี้" เบสเซนท์ ยังกล่าวถึง "รัสเซียและเบลารุส" ที่ไม่อยู่ในรายชื่อ เพราะสหรัฐคว่ำบาตรและไม่ได้มีการค้าขายกับพวกเขา
    0 Comments 0 Shares 290 Views 33 0 Reviews
  • ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทุกประเภท 10% และเพิ่มภาษีสินค้าจาก 60 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จีนโดนหนักสุดด้วยภาษีนำเข้ารวมกว่า 54% หุ้นเทคโนโลยีตกหนัก โดยเฉพาะ Apple, Nvidia และ Tesla นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้อาจนำไปสู่ สงครามการค้าครั้งใหญ่ และราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจพุ่งสูงขึ้น

    ✅ เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย
    - นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจกระตุ้นสงครามการค้าแบบตอบโต้
    - มีการคาดการณ์ว่าหลายประเทศ อาจต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า

    ✅ ตลาดหุ้นร่วงหนัก หลังข่าวภาษีใหม่ประกาศออกมา
    - หุ้นเทคโนโลยีร่วงอย่างหนัก โดย Apple ลดลง 9% และ Nasdaq Composite ลดลงกว่า 5%
    - Microsoft และ Alphabet ลดลงประมาณ 2% ขณะที่ Nvidia และ Tesla ลดลง 5%

    ✅ ภาษีสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี—ชิปคอมพิวเตอร์รอดจากภาษี แต่เพียงชั่วคราว
    - ชิปคอมพิวเตอร์และทองแดง ยังคงได้รับการยกเว้น แต่คาดว่า ภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง
    - หุ้นของ Marvell, Arm และ Micron ลดลงกว่า 8% ขณะที่ AMD ลดลง 4%

    ✅ ภาษีสูงสุดสำหรับประเทศคู่ค้า—จีนโดนหนักสุด
    - สินค้าจากจีนจะต้องเผชิญกับ อัตราภาษีรวมกว่า 54% ซึ่งสูงกว่าภาษีนำเข้าเดิมอย่างมาก
    - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ เวียดนาม (46%) และกัมพูชา (49%)

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีและผู้บริโภค
    - สินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, ทีวี และคอมพิวเตอร์ อาจมีราคาสูงขึ้น
    - Amazon อาจได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจาก ทรัมป์เตรียมยกเลิกข้อยกเว้นสินค้าราคาต่ำกว่า $800 ที่เคยได้รับการปลอดภาษี

    ✅ การตอบโต้จาก EU และจีน
    - ทั้ง สหภาพยุโรปและจีนเตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศอื่น ยอมรับการขึ้นภาษีเป็นมาตรฐานใหม่

    https://www.techspot.com/news/107402-trump-tariffs-could-prove-nuclear-bomb-international-trade.html
    ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทุกประเภท 10% และเพิ่มภาษีสินค้าจาก 60 ประเทศ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จีนโดนหนักสุดด้วยภาษีนำเข้ารวมกว่า 54% หุ้นเทคโนโลยีตกหนัก โดยเฉพาะ Apple, Nvidia และ Tesla นักวิเคราะห์เตือนว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้อาจนำไปสู่ สงครามการค้าครั้งใหญ่ และราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อาจพุ่งสูงขึ้น ✅ เศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย - นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า การขึ้นภาษีครั้งนี้อาจกระตุ้นสงครามการค้าแบบตอบโต้ - มีการคาดการณ์ว่าหลายประเทศ อาจต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยภายในปีหน้า ✅ ตลาดหุ้นร่วงหนัก หลังข่าวภาษีใหม่ประกาศออกมา - หุ้นเทคโนโลยีร่วงอย่างหนัก โดย Apple ลดลง 9% และ Nasdaq Composite ลดลงกว่า 5% - Microsoft และ Alphabet ลดลงประมาณ 2% ขณะที่ Nvidia และ Tesla ลดลง 5% ✅ ภาษีสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี—ชิปคอมพิวเตอร์รอดจากภาษี แต่เพียงชั่วคราว - ชิปคอมพิวเตอร์และทองแดง ยังคงได้รับการยกเว้น แต่คาดว่า ภาษีสำหรับเซมิคอนดักเตอร์จะถูกเพิ่มเข้ามาในภายหลัง - หุ้นของ Marvell, Arm และ Micron ลดลงกว่า 8% ขณะที่ AMD ลดลง 4% ✅ ภาษีสูงสุดสำหรับประเทศคู่ค้า—จีนโดนหนักสุด - สินค้าจากจีนจะต้องเผชิญกับ อัตราภาษีรวมกว่า 54% ซึ่งสูงกว่าภาษีนำเข้าเดิมอย่างมาก - ประเทศอื่นที่ได้รับผลกระทบหนัก ได้แก่ เวียดนาม (46%) และกัมพูชา (49%) ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมไอทีและผู้บริโภค - สินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อป, ทีวี และคอมพิวเตอร์ อาจมีราคาสูงขึ้น - Amazon อาจได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจาก ทรัมป์เตรียมยกเลิกข้อยกเว้นสินค้าราคาต่ำกว่า $800 ที่เคยได้รับการปลอดภาษี ✅ การตอบโต้จาก EU และจีน - ทั้ง สหภาพยุโรปและจีนเตรียมดำเนินมาตรการตอบโต้ แต่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประเทศอื่น ยอมรับการขึ้นภาษีเป็นมาตรฐานใหม่ https://www.techspot.com/news/107402-trump-tariffs-could-prove-nuclear-bomb-international-trade.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump's tariffs could prove to be a "nuclear bomb" on international trade and tech imports, experts warn
    This aggressive escalation of Trump's trade wars could mean higher prices on virtually every product Americans purchase from overseas. Worse, analysts predict the tariffs could trigger recessions...
    0 Comments 0 Shares 276 Views 0 Reviews
  • เรย์ ดาลิโอ 📌ส่งสัญญาณเตือน! 6 ผลกระทบภาษีศุลกากรต่อเศรษฐกิจโลก เผยระบบการเงิน-การค้าปัจจุบันไม่ยั่งยืน คาดเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ชี้ประเด็นดอลลาร์-หยวนเป็นกุญแจสำคัญในการปรับดุลอำนาจใหม่📌ขณะที่การเพิ่มค่าเงินหยวนอาจเป็นประเด็นสำคัญในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีน โดยอาจเกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงพบกัน👉เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ยักษ์ใหญ่ Bridgewater Associates และนักลงทุนระดับตำนาน เผยบทวิเคราะห์เจาะลึกเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรในช่วงที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศกำลังทวีความรุนแรง โดยระบุผลกระทบลำดับแรก 6 ประการสำคัญ ได้แก่ 1) เพิ่มรายได้ให้ประเทศผู้เรียกเก็บ โดยผู้ผลิตต่างประเทศและผู้บริโภคในประเทศรับภาระร่วมกัน 2) ลดประสิทธิภาพการผลิตในระดับโลก 3) ก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจชะงักงันพร้อมเงินเฟ้อ (stagflation) ต่อเศรษฐกิจโลก 4) ปกป้องบริษัทในประเทศผู้เรียกเก็บภาษีจากการแข่งขันจากต่างประเทศ 5) จำเป็นในช่วงความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจเพื่อรับประกันศักยภาพการผลิตภายในประเทศ และ 6) ลดความไม่สมดุลทั้งในบัญชีเดินสะพัดและบัญชีทุน นอกจากนี้ยังมีการอธิบายถึงผลกระทบลำดับที่สองซึ่งขึ้นอยู่กับการตอบโต้ของประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษี การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายการเงิน อัตราดอกเบี้ย และนโยบายการคลัง โดยเฉพาะหากเกิดการตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีเช่นกัน ซึ่งจะสร้างภาวะเศรษฐกิจชะงักงันพร้อมเงินเฟ้อในวงกว้างมากขึ้น ดาลิโอยังเน้นย้ำความไม่สมดุลในระบบปัจจุบันจะต้องลดลงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และการเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน พร้อมชี้ว่าดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองโลกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขณะที่การเพิ่มค่าเงินหยวนอาจเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าและเงินทุนระหว่างสหรัฐฯ-จีนในอนาคต #imctnews รายงาน
    เรย์ ดาลิโอ 📌ส่งสัญญาณเตือน! 6 ผลกระทบภาษีศุลกากรต่อเศรษฐกิจโลก เผยระบบการเงิน-การค้าปัจจุบันไม่ยั่งยืน คาดเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ชี้ประเด็นดอลลาร์-หยวนเป็นกุญแจสำคัญในการปรับดุลอำนาจใหม่📌ขณะที่การเพิ่มค่าเงินหยวนอาจเป็นประเด็นสำคัญในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีน โดยอาจเกิดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงพบกัน👉เรย์ ดาลิโอ ผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ยักษ์ใหญ่ Bridgewater Associates และนักลงทุนระดับตำนาน เผยบทวิเคราะห์เจาะลึกเกี่ยวกับผลกระทบของภาษีศุลกากรในช่วงที่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศกำลังทวีความรุนแรง โดยระบุผลกระทบลำดับแรก 6 ประการสำคัญ ได้แก่ 1) เพิ่มรายได้ให้ประเทศผู้เรียกเก็บ โดยผู้ผลิตต่างประเทศและผู้บริโภคในประเทศรับภาระร่วมกัน 2) ลดประสิทธิภาพการผลิตในระดับโลก 3) ก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจชะงักงันพร้อมเงินเฟ้อ (stagflation) ต่อเศรษฐกิจโลก 4) ปกป้องบริษัทในประเทศผู้เรียกเก็บภาษีจากการแข่งขันจากต่างประเทศ 5) จำเป็นในช่วงความขัดแย้งระหว่างมหาอำนาจเพื่อรับประกันศักยภาพการผลิตภายในประเทศ และ 6) ลดความไม่สมดุลทั้งในบัญชีเดินสะพัดและบัญชีทุน นอกจากนี้ยังมีการอธิบายถึงผลกระทบลำดับที่สองซึ่งขึ้นอยู่กับการตอบโต้ของประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษี การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน นโยบายการเงิน อัตราดอกเบี้ย และนโยบายการคลัง โดยเฉพาะหากเกิดการตอบโต้ด้วยการเรียกเก็บภาษีเช่นกัน ซึ่งจะสร้างภาวะเศรษฐกิจชะงักงันพร้อมเงินเฟ้อในวงกว้างมากขึ้น ดาลิโอยังเน้นย้ำความไม่สมดุลในระบบปัจจุบันจะต้องลดลงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และการเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน พร้อมชี้ว่าดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินสำรองโลกมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ขณะที่การเพิ่มค่าเงินหยวนอาจเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการค้าและเงินทุนระหว่างสหรัฐฯ-จีนในอนาคต #imctnews รายงาน
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥

    ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร

    📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ!

    อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲

    โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸

    แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱

    🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

    สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ...
    🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง
    💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี
    📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้
    ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน

    ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅
    2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข
    1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค
    18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค
    31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้
    3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่
    1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ

    📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี!

    กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯
    🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ
    มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง

    📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ
    - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท

    - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท

    - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท

    💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว!

    ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค

    🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน
    - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน
    - ภาษาไทย 20 คะแนน
    - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน

    🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น
    - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร
    - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน
    - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี

    🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    - บุคลิกภาพ
    - ทัศนคติ
    - ความสามารถในการสื่อสาร
    - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง

    เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖
    ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข

    ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ

    ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️

    ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice

    🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น!

    🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌

    🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅

    🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง!

    🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้

    🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝

    ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ
    - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น!
    - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน
    - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม

    📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪

    ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้!

    ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568

    📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    เดาข้อสอบ ตอบยังไง? ให้แม่นเวอร์! ยอดผู้สมัครสอบ อปท. 438,277 คน รอบแรกบรรจุ 1 ธ.ค. 8,439 คน สถ.โกยค่าสมัครกว่า 188 ล้าน เทคนิคสอบ อปท. 2568 ที่ต้องรู้ 📚🔥 ✨ Unlock เคล็ดลับสอบติด อปท. พร้อมเจาะลึกเทคนิคเดาข้อสอบแบบมือโปร 📌 เจาะลึกการสอบ อปท. 2568 ตั้งแต่ขั้นตอนการสอบ รายละเอียดตำแหน่ง เทคนิคการเตรียมตัว ไปจนถึง "เดาข้อสอบ" อย่างไรให้แม่นเวอร์ พร้อมเทคนิคแบบจิตวิทยา ที่จะช่วยให้สอบผ่านได้แบบมืออาชีพ! อปท. 2568 ปีทองของคนอยากเป็นข้าราชการ 🎯 ปีนี้ถือเป็นโอกาสทอง ของผู้ที่มีความฝันอยากเป็น "ข้าราชการท้องถิ่น" หรือที่รู้จักกันในชื่อการสอบ อปท. ซึ่งมีผู้สมัครกว่า 438,277 คนทั่วประเทศ 😲 โดยในรอบแรก จะมีการบรรจุเข้ารับราชการในวันที่ 1 ธันวาคม 2568 จำนวนถึง 8,439 อัตรา และที่น่าจับตาไม่แพ้กันคือ "ค่าสมัครสอบ" ที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถรวบรวมได้กว่า 188 ล้านบาท 💸 แต่…ด้วยจำนวนผู้สมัครมหาศาล การสอบให้ผ่านจึงไม่ใช่เรื่องง่าย! โดยเฉพาะเมื่อมี "กฎเหล็ก" อย่าง ต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษอย่างน้อย 10 จาก 20 ข้อ ถึงจะผ่านภาค ก 😱 🤔 อปท. ย่อมาจาก องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นการสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุเป็น ข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ภายใต้การดูแลของ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย สาเหตุที่คนแห่สมัครกันเยอะ? เพราะ... 🏢 เป็นงานราชการ มีความมั่นคง 💰 เงินเดือนและสวัสดิการดี 📍 ทำงานในพื้นที่บ้านเกิดได้ ⏳ ขึ้นบัญชีได้นานถึง 2 ปี ขยายได้อีก 30 วัน ขั้นตอนสำคัญของการสอบ อปท. 2568 📅 2 ก.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 19 ก.ค. 2568 สอบภาค ก และ ข 1 ต.ค. 2568 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ค 18-19 ต.ค. 2568 สอบสัมภาษณ์ ภาค ค 31 ต.ค. 2568 ประกาศบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ 3-7 พ.ย. 2568 รายงานตัว และเลือกสถานที่ 1 ธ.ค. 2568 บรรจุแต่งตั้งเข้ารับราชการ 📝 อย่าลืมบันทึกวันสำคัญไว้ให้ดี! กลุ่มภาคที่เปิดสอบ และตำแหน่งยอดฮิต 🎯 🗺️ กลุ่มภาค 10 โซนทั่วประเทศ มีตั้งแต่ ภาคเหนือ เขต 1–2, ภาคกลาง เขต 1–3, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1–3, ไปจนถึง ภาคใต้ เขต 1–2 โดยแต่ละพื้นที่เปิดสอบในตำแหน่งต่างกัน ตามอัตราว่าง 📋 ประเภทของตำแหน่งที่เปิดสอบ - ครูผู้ช่วย 👩‍🏫👨‍🏫 ป.ตรี 4 ปี เริ่มต้น 16,560 บาท ป.ตรี 5 ปี เริ่มต้น 17,380 บาท - ตำแหน่งประเภททั่วไป วุฒิ ปวช./ปวท./ปวส. เช่น เจ้าพนักงานธุรการ, เจ้าพนักงานการคลัง ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 – 12,730 บาท - ตำแหน่งประเภทวิชาการ วุฒิปริญญาตรี เช่น นักวิชาการเงิน, วิศวกรโยธา, นักทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท 💡 ตำแหน่งยอดฮิตที่มีอัตรารับมากสุดคือ “นักวิชาการตรวจสอบภายใน” ถึง 779 อัตราเลยทีเดียว! ✍️ การสอบแบ่งออกเป็น 3 ภาค 🔸 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - วิเคราะห์เหตุผล 30 คะแนน - กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 30 คะแนน - ภาษาไทย 20 คะแนน - ภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องได้อย่างน้อย 10 คะแนน 🔸 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่สมัคร เช่น - นักวิชาการศึกษา → พัฒนาหลักสูตร - นักพัฒนาชุมชน → กฎหมายพัฒนาชุมชน - นักบัญชี → การเงิน-บัญชี 🔸 ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน - บุคลิกภาพ - ทัศนคติ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความเหมาะสมกับตำแหน่ง เทคนิคเตรียมสอบ อปท. แบบจับมือทำ 📖 ✅ วางแผนอ่านหนังสือล่วงหน้า อย่ารอใกล้วันสอบ! ควรวางแผนเตรียมตัว ล่วงหน้าอย่างน้อย 3-4 เดือน แบ่งเวลาอ่านให้ครอบคลุมทั้งภาค ก และ ข ✅ อ่านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ระเบียบราชการท้องถิ่น พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดฯ ✅ ฝึกทำข้อสอบเก่า ค้นหาแนวข้อสอบ อปท. จากปีเก่า ๆ มาฝึกให้คล่อง ฝึกทำโจทย์วันละ 20–30 ข้อทุกวัน ✍️ ✅ ภาษาอังกฤษต้องไม่พลาด เน้น Reading comprehension ศัพท์พื้นฐาน และ Grammar เบื้องต้น ฝึกโจทย์แบบ multiple choice 🔥 เทคนิคเดาข้อสอบให้แม่นเวอร์! ไม่ต้องงม ไม่ต้องมั่ว 🤖 เมื่อเจอข้อสอบที่ “คิดไม่ออก” หรือ “ไม่มั่นใจ” ใช้เทคนิคเหล่านี้ ช่วยให้เดาอย่างมีหลักการ ได้แม่นยำขึ้น! 🎯 เทคนิคที่ 1 ตัดตัวเลือกสุดโต่ง ระวังคำว่า “เสมอ”, “ทั้งหมด”, “ไม่มีข้อยกเว้น”, “ห้ามโดยเด็ดขาด” เพราะมักผิด ❌ 🎯 เทคนิคที่ 2 คำที่ให้ความยืดหยุ่นมักจะถูก คำว่า “มักจะ”, “อาจจะ”, “บางครั้ง” มักถูกมากกว่า ✅ 🎯 เทคนิคที่ 3 สแกนคำถาม – คำตอบที่คล้ายกัน ถ้ามีคำจากคำถามโผล่ในคำตอบ = โอกาสถูกสูง! 🎯 เทคนิคที่ 4 เดาตามแพทเทิร์น ถ้าต้องเดาจริง ๆ → เลือก “ข” หรือ “ค” เพราะมักเป็นตำแหน่งกลางที่ผู้ออกข้อสอบนิยมใช้ 🎯 เทคนิคที่ 5 ตัวเลือกยาวมักถูก เพราะอาจารย์มักใส่รายละเอียดมาก ในคำตอบที่ถูก 📝 ❌ ข้อห้ามเด็ดขาดในการทำข้อสอบ - อย่าทิ้งข้อ – ตอบดีกว่าเว้น! - อย่าเปลี่ยนคำตอบไปมา ถ้าไม่มีเหตุผลชัดเจน - อย่ามองข้ามคำว่า “ไม่ใช่” หรือ “ยกเว้น” ในคำถาม 📚 เตรียมตัววันนี้ พรุ่งนี้สอบติด! 🌈 การสอบ อปท. 2568 คือโอกาสครั้งใหญ่ของใครหลายคน และยิ่งมีเทคนิคที่ดี + เตรียมตัวอย่างเป็นระบบ = โอกาส “สอบติด” ก็สูงขึ้นตามไปด้วย! 💪 ไม่ว่าจะเป็น… วางแผนอ่านหนังสือ ฝึกทำข้อสอบเก่า รู้เทคนิคเดาข้อสอบแบบมีหลักการ ทั้งหมดนี้คืออาวุธสำคัญ ที่ต้องมีในการสอบครั้งนี้! ✨ ขอให้โชคดีในการสอบ และได้เป็นข้าราชการในฝัน! ✨ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 311115 มี.ค. 2568 📌 #สอบอปท2568 #แนวข้อสอบราชการ #เดาข้อสอบแม่นเวอร์ #เทคนิคสอบราชการ #สอบภาคก #สอบภาคข #ภาษาอังกฤษอปท #สอบราชการ2568 #สมัครงานราชการ #สอบสัมภาษณ์อปท
    0 Comments 0 Shares 621 Views 0 Reviews
  • รวยก่อนแก่ / แก่ก่อนรวย ‘หวยเกษียณ’ : [Biz Talk]

    ‘ซื้อหวย เงินไม่หาย ทุกบาทกลายเป็นเงินออม’ อายุ 15 ปีขึ้นไป ซื้อ ‘หวยเกษียณ’ ได้ทุกคนทุกกลุ่ม ทั้งข้าราชการ-พนักงานออฟฟิศ -คนสูงวัย /กระทรวงการคลัง เร่งผลักดันร่างแก้ไขกฎหมาย กอช.เข้าสภาฯ นำความชอบลุ้นโชคของคนไทย มาสร้างการออมมิติใหม่ ‘ซื้อมาก ได้ลุ้นมาก มีเงินล้านยามแก่’
    รวยก่อนแก่ / แก่ก่อนรวย ‘หวยเกษียณ’ : [Biz Talk] ‘ซื้อหวย เงินไม่หาย ทุกบาทกลายเป็นเงินออม’ อายุ 15 ปีขึ้นไป ซื้อ ‘หวยเกษียณ’ ได้ทุกคนทุกกลุ่ม ทั้งข้าราชการ-พนักงานออฟฟิศ -คนสูงวัย /กระทรวงการคลัง เร่งผลักดันร่างแก้ไขกฎหมาย กอช.เข้าสภาฯ นำความชอบลุ้นโชคของคนไทย มาสร้างการออมมิติใหม่ ‘ซื้อมาก ได้ลุ้นมาก มีเงินล้านยามแก่’
    Like
    Haha
    6
    0 Comments 0 Shares 759 Views 30 0 Reviews
  • สก็อตต์ เบซันต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า กำลังพิจารณาเชื่อมต่อระบบการเงินของรัสเซียเข้ากับ SWIFT อีกครั้ง รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอื่นๆ ในบริบทที่รัสเซียยังทำตามข้อตกลงหยุดยิง

    นอกจากนี้เบซันต์ยังกล่าวเสริมว่า สหรัฐอาจลงนามข้อตกลงกับเคียฟเกี่ยวกับแร่ธาตุหายากได้เร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
    สก็อตต์ เบซันต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า กำลังพิจารณาเชื่อมต่อระบบการเงินของรัสเซียเข้ากับ SWIFT อีกครั้ง รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียอื่นๆ ในบริบทที่รัสเซียยังทำตามข้อตกลงหยุดยิง นอกจากนี้เบซันต์ยังกล่าวเสริมว่า สหรัฐอาจลงนามข้อตกลงกับเคียฟเกี่ยวกับแร่ธาตุหายากได้เร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
    0 Comments 0 Shares 271 Views 0 Reviews
  • 'จุลพงษ์' เตือนสรรพากรอย่าพึ่งรีบตีความตั๋วP/Nลองย้อนดูอดีต รมช.การคลังที่ติดคุกก่อน
    https://www.thai-tai.tv/news/17848/
    'จุลพงษ์' เตือนสรรพากรอย่าพึ่งรีบตีความตั๋วP/Nลองย้อนดูอดีต รมช.การคลังที่ติดคุกก่อน https://www.thai-tai.tv/news/17848/
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • อธิบดีสรรพากรอย่ารีบสรุป

    ข่าวระบุว่า

    [อธิบดีกรมสรรพากรเคลียร์ปมภาษี นายกฯ กรณีออกตั๋ว P/N ที่ฝ่ายค้านอภิปราย

    ชี้เป็นกรณีการซื้อขายหุ้นนอกตลาด ออกตั๋ว P/N แทนสัญญากู้ มีภาระภาษีเสียตามจริงเมื่อจ่ายเงิน
    ...

    โดยออกตั๋ว P/N จะเปรียบเสมือนสัญญาเงินกู้ระหว่าง 2 ฝ่าย ได้แก่ ผู้ออกตั๋ว (ลูกหนี้) และผู้รับเงิน (เจ้าหนี้)ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุว่าสามารถออกได้ 2 แบบ คือ

    ออกแบบกำหนดระยะเวลาที่จะชำระเงินชัดเจน หรือออกแบบไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการชำระเงิน

    ซึ่งการออกแบบที่ไม่ได้ระบุเวลาในการชำระเงินนั้นจะต้องจ่ายเงินทันทีเมื่อถูกเรียกหรือถูกทวงถาม

    ส่วนเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งฯ ระบุว่า จะกำหนดหรือไม่กำหนดก็ได้]

    ผมตั้งข้อสังเกต ดังนี้

    1 อธิบดีต้องดูแลสิทธิของรัฐในการเก็บภาษี

    ภาษีการรับให้ คือ ภาษีเงินได้
    บุคคลธรรมดาที่จัดเก็บจากทรัพย์สินที่ให้หรือรับแก่บุตร คู่สมรส ญาติ หรือบุคคลอื่น ก่อนผู้ให้เสียชีวิต โดยการกำหนดภาษีนี้มีขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดเก็บภาษีการรับมรดก

    มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์
    2559 ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 40) พ.ศ. 2558 และ(ฉบับที่ 43) พ.ศ. 2559

    อธิบดีสรรพากรจึงมีหน้าที่ จะต้องดูแลให้รัฐสามารถเก็บภาษีการรับให้ได้อย่างถูกต้อง

    กรณีที่มีผู้สำแดงซื้อขายหุ้น ที่ระหว่างบุคคลในเครือญาติใกล้ชิด ที่มีมูลค่าสูงถึง 4.4 พันล้านบาท

    อธิบดีจึงมีหน้าที่ต้องสั่งให้มีการตรวจสอบให้ครบถ้วนก่อน ให้แน่ใจว่า ไม่มีนิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงภาษีการรับให้

    ขอให้อธิบดีตอบว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้สอดส่องตรวจตราอย่างไร และถ้าไม่มีการอภิปรายเรื่องนี้ในสภา รัฐจะสามารถเก็บภาษีได้จริงหรือไม่

    ต้องไม่ลืมว่า กรณีถ้าหากถือว่าเป็นการรับให้ นายกฯ ในฐานะผู้รับหุ้น มีภาระต้องจ่ายภาษีทันทีในวันที่ได้รับ เมื่อไม่ได้จ่าย ก็อาจเข้าข่ายหนีภาษี

    2 กรมพอใจให้นายกฯ เป็นผู้กำหนด taxing point ใช่ไหม?

    กรณีสมมุติว่า เป็นการซื้อขายหุ้น

    -การที่นายกฯ ค้างชำระเงิน ทั้งที่มีฐานะที่จะชำระเงินได้ มีทรัพย์สินกว่า1 หมื่น 3 พัน 9 ร้อยล้านบาท

    -การที่นายกฯ ไม่กำหนดดอกเบี้ย ทั้งที่มีฐานะที่จะจ่ายดอกเบี้ยได้ โดยมีรายได้เงินปันผลในปีที่รายงาน ปปช. มากถึง 259 ล้านบาท

    กรมสรรพากรต้องแถลงให้ประชาชนทราบว่า กรณีเช่นนี้ กรมพอใจที่จะให้นายกฯ เป็นผู้กำหนดว่า ผู้ขายหุ้น จะชำระภาษีหรือไม่ จะชำระภาษีเมื่อใด ใช่หรือไม่?

    และกรมจะว่าอย่างไร ถ้าหากตั๋ว PN นี้ลากยาวไปอีกหลายสิบปี อาจจะไปจนถึงผู้ขายหุ้นตายไป โดยไม่มีดอกเบี้ย รัฐจะเก็บภาษีได้เมื่อไหร่?

    อีกประการหนึ่ง

    การที่นายกฯ โดยครรลองการค้าปกติ จะต้องจ่ายดอกเบี้ย ซึ่ง ปพพ. กำหนดให้เรียกได้ 3% ต่อปี แต่การที่ไม่ต้องจ่าย ทั้งที่มีฐานะสามารถจ่าย กรมจะถือเป็นประโยชน์ที่จะต้องเสียภาษีหรือไม่

    ไม่ว่าประโยชน์ ที่ควรจะได้เกิดขึ้นแก่นายกฯ หรือที่ควรจะได้เกิดขึ้นแก่ผู้ขายหุ้น

    3 กรมต้องตรวจสอบที่มาของผู้ขายหุ้น

    กรมสรรพากรมีหน้าที่จะต้องตรวจสอบที่มาของหุ้นในอดีต ที่ตกเป็นของผู้ขาย เพื่อให้แน่ชัดว่า

    (ก) ผู้ขายได้หุ้นมาฟรีหรือไม่ หรือมีต้นทุนเท่าใด

    (ข) ในการได้หุ้นมานั้น ผู้ขายได้จ่ายค่าหุ้นจริงๆ หรือไม่ อย่างไร

    หรือมีการใช้เทคนิคตั๋ว PN แบบไม่มีกำหนดชำระ และไม่มีดอกเบี้ย เช่นนี้หรือไม่?

    (ค) หุ้นเหล่านี้ เป็นการซุกหุ้นของนักการเมืองผู้ใดหรือไม่? เพื่อส่งข้อมูลให้แก่ ปปช. ต่อไป

    ผมขอเรียกร้องให้อธิบดีชี้แจงทุกข้อ

    ถึงแม้ท่านได้รับแต่งตั้งในรัฐบาลนี้ แต่ท่านเป็นลูกหม้อกรมสรรพากร และย่อมมีความรู้ความเข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมาย

    ท่านจึงควรแสดงจุดยืน ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและของประชาชนโดยรวมอย่างเต็มที่

    ท่านจะต้องไม่ไปตีความเฉพาะแกะบรรทัดอ่านตามตัวอักษร เพราะการทำงานเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้บุคคลที่มีความรอบรู้ระดับสูง

    วันที่ 26 มีนาคม 2568

    นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ
    ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ

    https://www.facebook.com/share/p/1ACAvPBLdV/
    อธิบดีสรรพากรอย่ารีบสรุป ข่าวระบุว่า [อธิบดีกรมสรรพากรเคลียร์ปมภาษี นายกฯ กรณีออกตั๋ว P/N ที่ฝ่ายค้านอภิปราย ชี้เป็นกรณีการซื้อขายหุ้นนอกตลาด ออกตั๋ว P/N แทนสัญญากู้ มีภาระภาษีเสียตามจริงเมื่อจ่ายเงิน ... โดยออกตั๋ว P/N จะเปรียบเสมือนสัญญาเงินกู้ระหว่าง 2 ฝ่าย ได้แก่ ผู้ออกตั๋ว (ลูกหนี้) และผู้รับเงิน (เจ้าหนี้)ซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุว่าสามารถออกได้ 2 แบบ คือ ออกแบบกำหนดระยะเวลาที่จะชำระเงินชัดเจน หรือออกแบบไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการชำระเงิน ซึ่งการออกแบบที่ไม่ได้ระบุเวลาในการชำระเงินนั้นจะต้องจ่ายเงินทันทีเมื่อถูกเรียกหรือถูกทวงถาม ส่วนเรื่องการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งฯ ระบุว่า จะกำหนดหรือไม่กำหนดก็ได้] ผมตั้งข้อสังเกต ดังนี้ 1 อธิบดีต้องดูแลสิทธิของรัฐในการเก็บภาษี ภาษีการรับให้ คือ ภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาที่จัดเก็บจากทรัพย์สินที่ให้หรือรับแก่บุตร คู่สมรส ญาติ หรือบุคคลอื่น ก่อนผู้ให้เสียชีวิต โดยการกำหนดภาษีนี้มีขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับการจัดเก็บภาษีการรับมรดก มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 40) พ.ศ. 2558 และ(ฉบับที่ 43) พ.ศ. 2559 อธิบดีสรรพากรจึงมีหน้าที่ จะต้องดูแลให้รัฐสามารถเก็บภาษีการรับให้ได้อย่างถูกต้อง กรณีที่มีผู้สำแดงซื้อขายหุ้น ที่ระหว่างบุคคลในเครือญาติใกล้ชิด ที่มีมูลค่าสูงถึง 4.4 พันล้านบาท อธิบดีจึงมีหน้าที่ต้องสั่งให้มีการตรวจสอบให้ครบถ้วนก่อน ให้แน่ใจว่า ไม่มีนิติกรรมอำพรางเพื่อเลี่ยงภาษีการรับให้ ขอให้อธิบดีตอบว่า ตลอดระยะเวลา 9 ปีที่ผ่านมา กรมสรรพากรได้สอดส่องตรวจตราอย่างไร และถ้าไม่มีการอภิปรายเรื่องนี้ในสภา รัฐจะสามารถเก็บภาษีได้จริงหรือไม่ ต้องไม่ลืมว่า กรณีถ้าหากถือว่าเป็นการรับให้ นายกฯ ในฐานะผู้รับหุ้น มีภาระต้องจ่ายภาษีทันทีในวันที่ได้รับ เมื่อไม่ได้จ่าย ก็อาจเข้าข่ายหนีภาษี 2 กรมพอใจให้นายกฯ เป็นผู้กำหนด taxing point ใช่ไหม? กรณีสมมุติว่า เป็นการซื้อขายหุ้น -การที่นายกฯ ค้างชำระเงิน ทั้งที่มีฐานะที่จะชำระเงินได้ มีทรัพย์สินกว่า1 หมื่น 3 พัน 9 ร้อยล้านบาท -การที่นายกฯ ไม่กำหนดดอกเบี้ย ทั้งที่มีฐานะที่จะจ่ายดอกเบี้ยได้ โดยมีรายได้เงินปันผลในปีที่รายงาน ปปช. มากถึง 259 ล้านบาท กรมสรรพากรต้องแถลงให้ประชาชนทราบว่า กรณีเช่นนี้ กรมพอใจที่จะให้นายกฯ เป็นผู้กำหนดว่า ผู้ขายหุ้น จะชำระภาษีหรือไม่ จะชำระภาษีเมื่อใด ใช่หรือไม่? และกรมจะว่าอย่างไร ถ้าหากตั๋ว PN นี้ลากยาวไปอีกหลายสิบปี อาจจะไปจนถึงผู้ขายหุ้นตายไป โดยไม่มีดอกเบี้ย รัฐจะเก็บภาษีได้เมื่อไหร่? อีกประการหนึ่ง การที่นายกฯ โดยครรลองการค้าปกติ จะต้องจ่ายดอกเบี้ย ซึ่ง ปพพ. กำหนดให้เรียกได้ 3% ต่อปี แต่การที่ไม่ต้องจ่าย ทั้งที่มีฐานะสามารถจ่าย กรมจะถือเป็นประโยชน์ที่จะต้องเสียภาษีหรือไม่ ไม่ว่าประโยชน์ ที่ควรจะได้เกิดขึ้นแก่นายกฯ หรือที่ควรจะได้เกิดขึ้นแก่ผู้ขายหุ้น 3 กรมต้องตรวจสอบที่มาของผู้ขายหุ้น กรมสรรพากรมีหน้าที่จะต้องตรวจสอบที่มาของหุ้นในอดีต ที่ตกเป็นของผู้ขาย เพื่อให้แน่ชัดว่า (ก) ผู้ขายได้หุ้นมาฟรีหรือไม่ หรือมีต้นทุนเท่าใด (ข) ในการได้หุ้นมานั้น ผู้ขายได้จ่ายค่าหุ้นจริงๆ หรือไม่ อย่างไร หรือมีการใช้เทคนิคตั๋ว PN แบบไม่มีกำหนดชำระ และไม่มีดอกเบี้ย เช่นนี้หรือไม่? (ค) หุ้นเหล่านี้ เป็นการซุกหุ้นของนักการเมืองผู้ใดหรือไม่? เพื่อส่งข้อมูลให้แก่ ปปช. ต่อไป ผมขอเรียกร้องให้อธิบดีชี้แจงทุกข้อ ถึงแม้ท่านได้รับแต่งตั้งในรัฐบาลนี้ แต่ท่านเป็นลูกหม้อกรมสรรพากร และย่อมมีความรู้ความเข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมาย ท่านจึงควรแสดงจุดยืน ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของรัฐและของประชาชนโดยรวมอย่างเต็มที่ ท่านจะต้องไม่ไปตีความเฉพาะแกะบรรทัดอ่านตามตัวอักษร เพราะการทำงานเช่นนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้บุคคลที่มีความรอบรู้ระดับสูง วันที่ 26 มีนาคม 2568 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ประธานคณะกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ https://www.facebook.com/share/p/1ACAvPBLdV/
    0 Comments 0 Shares 518 Views 0 Reviews
  • คณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งอิสราเอล มีมติรับรองนิคม 13 แห่งในเขตเวสต์แบงก์ (ซึ่งก็คือการผนวกดินแดนในเขตเวสต์แบงก์ เป็นของอิสราเอลเพิ่มเติม)

    เบซาเลล สโมตริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิสราเอล กล่าวถึงการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีว่า ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การผนวกดินแดนและอำนาจอธิปไตยอย่างเป็นทางการเหนือเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งทำให้การตั้งถิ่นฐานเป็นปกติและถูกต้องตามกฎหมายของอิสราเอล
    คณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งอิสราเอล มีมติรับรองนิคม 13 แห่งในเขตเวสต์แบงก์ (ซึ่งก็คือการผนวกดินแดนในเขตเวสต์แบงก์ เป็นของอิสราเอลเพิ่มเติม) เบซาเลล สโมตริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอิสราเอล กล่าวถึงการตัดสินใจของคณะรัฐมนตรีว่า ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การผนวกดินแดนและอำนาจอธิปไตยอย่างเป็นทางการเหนือเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งทำให้การตั้งถิ่นฐานเป็นปกติและถูกต้องตามกฎหมายของอิสราเอล
    0 Comments 0 Shares 308 Views 0 Reviews
More Results