• ตร.US ชื่นชม อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สืบเก่ง 👍🏼🌻 ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    https://youtube.com/shorts/ahX_mRX2Agc
    ตร.US ชื่นชม อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สืบเก่ง 👍🏼🌻 [parnthep] https://youtube.com/shorts/ahX_mRX2Agc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • IBM's Red Hat ได้จับมือกับ Axiom Space เพื่อพัฒนาและส่งศูนย์ข้อมูลต้นแบบ AxDCU-1 ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในฤดูใบไม้ผลิปี 2025 โดยโปรเจกต์นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในยุคที่เทคโนโลยีขยายออกไปนอกโลก โดยเฉพาะด้าน การประมวลผลข้อมูลในอวกาศ

    AxDCU-1 ใช้พลังจาก Red Hat Device Edge และ Red Hat OpenShift ซึ่งเป็นระบบจัดการ Kubernetes แบบน้ำหนักเบา พร้อมด้วย Red Hat Enterprise Linux และ Ansible Automation Platform อุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่สำคัญ:
    - ทดสอบการประมวลผลด้วย AI/ML (Artificial Intelligence/Machine Learning)
    - พัฒนาความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับการใช้งานในอวกาศ
    - ทดลองระบบประมวลผลคลาวด์สำหรับข้อมูลจากดาวเทียมและยานอวกาศ

    โดยข้อมูลจะถูกประมวลผลใกล้กับแหล่งกำเนิดในอวกาศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความรวดเร็วและความปลอดภัยสำหรับการตัดสินใจที่สำคัญในแบบเรียลไทม์

    คุณ Tony James หัวหน้าสถาปนิกจาก Red Hat ได้กล่าวว่า “การประมวลผลข้อมูลในอวกาศเป็นพรมแดนใหม่ที่น่าตื่นเต้น” โดยความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้พันธมิตรภาคพื้นโลกสามารถทำงานร่วมกันในอวกาศได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพมากขึ้น

    นอกจากนี้ Jason Aspiotis ผู้อำนวยการของ Axiom Space ยังกล่าวเสริมว่า Orbital Data Centers (ODC) จะสามารถช่วยปฏิวัติการทำงานในอวกาศ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลอากาศในอวกาศ การฝึกฝน AI ในอวกาศ และการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของโลกจากนอกโลก

    โครงการนี้นอกจากจะช่วยผลักดันความเป็นไปได้ในการใช้งานคลาวด์และ AI ในอวกาศ ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของมนุษย์ที่จะขยายขอบเขตการสำรวจและประมวลผลข้อมูลไปในที่ที่ไม่เคยมีใครทำได้ ความสำเร็จนี้อาจเป็นก้าวแรกสู่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับความต้องการในอนาคตทั้งในอวกาศและบนโลก

    https://www.techradar.com/pro/is-the-moon-too-far-for-your-data-ibms-red-hat-is-teaming-up-with-axiom-space-to-send-a-data-center-into-space
    IBM's Red Hat ได้จับมือกับ Axiom Space เพื่อพัฒนาและส่งศูนย์ข้อมูลต้นแบบ AxDCU-1 ไปยังสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ในฤดูใบไม้ผลิปี 2025 โดยโปรเจกต์นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในยุคที่เทคโนโลยีขยายออกไปนอกโลก โดยเฉพาะด้าน การประมวลผลข้อมูลในอวกาศ AxDCU-1 ใช้พลังจาก Red Hat Device Edge และ Red Hat OpenShift ซึ่งเป็นระบบจัดการ Kubernetes แบบน้ำหนักเบา พร้อมด้วย Red Hat Enterprise Linux และ Ansible Automation Platform อุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่สำคัญ: - ทดสอบการประมวลผลด้วย AI/ML (Artificial Intelligence/Machine Learning) - พัฒนาความปลอดภัยทางไซเบอร์สำหรับการใช้งานในอวกาศ - ทดลองระบบประมวลผลคลาวด์สำหรับข้อมูลจากดาวเทียมและยานอวกาศ โดยข้อมูลจะถูกประมวลผลใกล้กับแหล่งกำเนิดในอวกาศ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความรวดเร็วและความปลอดภัยสำหรับการตัดสินใจที่สำคัญในแบบเรียลไทม์ คุณ Tony James หัวหน้าสถาปนิกจาก Red Hat ได้กล่าวว่า “การประมวลผลข้อมูลในอวกาศเป็นพรมแดนใหม่ที่น่าตื่นเต้น” โดยความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้พันธมิตรภาคพื้นโลกสามารถทำงานร่วมกันในอวกาศได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ Jason Aspiotis ผู้อำนวยการของ Axiom Space ยังกล่าวเสริมว่า Orbital Data Centers (ODC) จะสามารถช่วยปฏิวัติการทำงานในอวกาศ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลอากาศในอวกาศ การฝึกฝน AI ในอวกาศ และการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของโลกจากนอกโลก โครงการนี้นอกจากจะช่วยผลักดันความเป็นไปได้ในการใช้งานคลาวด์และ AI ในอวกาศ ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของมนุษย์ที่จะขยายขอบเขตการสำรวจและประมวลผลข้อมูลไปในที่ที่ไม่เคยมีใครทำได้ ความสำเร็จนี้อาจเป็นก้าวแรกสู่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับความต้องการในอนาคตทั้งในอวกาศและบนโลก https://www.techradar.com/pro/is-the-moon-too-far-for-your-data-ibms-red-hat-is-teaming-up-with-axiom-space-to-send-a-data-center-into-space
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gemini AI ถูกใช้เพื่อสร้างและบรรยายเกมข้อความแนวผจญภัย (text-based adventure game) ให้มีชีวิตชีวาและดึงดูดผู้เล่นมากขึ้น โดยในบทความจาก TechRadar ผู้เขียนได้ทดลองใช้ Gemini AI ของ Google ในการสร้างประสบการณ์เกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมคลาสสิกในยุค 70s อย่าง Zork ซึ่งเป็นเกมข้อความแนวผจญภัยที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกตัดสินใจและสำรวจเส้นทางเรื่องราวที่แตกต่างกันไปตามคำตอบของตน

    ในเกมที่สร้างขึ้นโดย Gemini AI นี้ ผู้เล่นเริ่มต้นในป่าลึกลับ โดยมีทางเลือกในการสำรวจสถานที่ต่าง ๆ เช่น เส้นทางที่มุ่งลึกเข้าไปในป่า กำแพงหินที่ปกคลุมด้วยตะไคร่ หรือธารน้ำใสที่ไหลผ่านป่า ความสามารถของ AI ในการบรรยายภาพและสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซีจริง ๆ โดยตลอดเรื่องราว ผู้เล่นต้องแก้ปริศนาและค้นหากุญแจวิเศษ ซึ่งนำไปสู่การเปิดกล่องลับที่มีความลับซ่อนอยู่

    จุดเด่นของ Gemini คือการติดตามเนื้อหาและนำเกมกลับมาต่อจากที่ค้างไว้ได้อย่างไม่มีสะดุด แม้ว่าผู้เล่นจะหยุดเล่นชั่วคราว Gemini ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่น่าสนใจในการประสานเรื่องราวและสร้างประสบการณ์การเล่นที่ต่อเนื่อง

    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคำบรรยายที่ละเอียดและน่าสนใจ แต่ความซับซ้อนและระดับความตื่นเต้นในบางส่วนของเกมยังสามารถพัฒนาได้อีก หากเพิ่มความตึงเครียดและอารมณ์เข้มข้นยิ่งขึ้น เกมที่สร้างโดย AI นี้อาจเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเล่นเกมที่ชื่นชอบความคลาสสิก

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-asked-gemini-to-play-a-text-based-adventure-game-with-me-and-the-ai-whisked-me-away-to-a-word-based-fantasy
    Gemini AI ถูกใช้เพื่อสร้างและบรรยายเกมข้อความแนวผจญภัย (text-based adventure game) ให้มีชีวิตชีวาและดึงดูดผู้เล่นมากขึ้น โดยในบทความจาก TechRadar ผู้เขียนได้ทดลองใช้ Gemini AI ของ Google ในการสร้างประสบการณ์เกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมคลาสสิกในยุค 70s อย่าง Zork ซึ่งเป็นเกมข้อความแนวผจญภัยที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เลือกตัดสินใจและสำรวจเส้นทางเรื่องราวที่แตกต่างกันไปตามคำตอบของตน ในเกมที่สร้างขึ้นโดย Gemini AI นี้ ผู้เล่นเริ่มต้นในป่าลึกลับ โดยมีทางเลือกในการสำรวจสถานที่ต่าง ๆ เช่น เส้นทางที่มุ่งลึกเข้าไปในป่า กำแพงหินที่ปกคลุมด้วยตะไคร่ หรือธารน้ำใสที่ไหลผ่านป่า ความสามารถของ AI ในการบรรยายภาพและสร้างบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา ทำให้ผู้เล่นรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแฟนตาซีจริง ๆ โดยตลอดเรื่องราว ผู้เล่นต้องแก้ปริศนาและค้นหากุญแจวิเศษ ซึ่งนำไปสู่การเปิดกล่องลับที่มีความลับซ่อนอยู่ จุดเด่นของ Gemini คือการติดตามเนื้อหาและนำเกมกลับมาต่อจากที่ค้างไว้ได้อย่างไม่มีสะดุด แม้ว่าผู้เล่นจะหยุดเล่นชั่วคราว Gemini ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่น่าสนใจในการประสานเรื่องราวและสร้างประสบการณ์การเล่นที่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคำบรรยายที่ละเอียดและน่าสนใจ แต่ความซับซ้อนและระดับความตื่นเต้นในบางส่วนของเกมยังสามารถพัฒนาได้อีก หากเพิ่มความตึงเครียดและอารมณ์เข้มข้นยิ่งขึ้น เกมที่สร้างโดย AI นี้อาจเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเล่นเกมที่ชื่นชอบความคลาสสิก https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-asked-gemini-to-play-a-text-based-adventure-game-with-me-and-the-ai-whisked-me-away-to-a-word-based-fantasy
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี Donald Trump เปิดเผยว่าขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพูดคุยกับกลุ่ม 4 กลุ่มที่สนใจซื้อกิจการของ TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงและมีเจ้าของเป็นบริษัทจีน ByteDance โดยการเจรจานี้เกิดขึ้นจากกฎหมายด้านความมั่นคงแห่งชาติที่บังคับให้ ByteDance ต้องขาย TikTok หรือเผชิญหน้ากับการแบนในสหรัฐฯ

    กฎหมายดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2025 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความกังวลเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งานและปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ เนื่องจาก TikTok มีผู้ใช้จำนวนมากในสหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐฯ มองว่าข้อมูลผู้ใช้อาจตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลจีนผ่าน ByteDance

    หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025 Trump ได้ออกคำสั่งผู้บริหารเพื่อขยายเวลาให้ ByteDance จัดการปัญหานี้ออกไปอีก 75 วัน ซึ่งสร้างโอกาสให้การเจรจาขายกิจการดำเนินไปได้

    แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด แต่หนึ่งในผู้สนใจที่น่าสนใจคือ Frank McCourt อดีตเจ้าของทีมเบสบอล Los Angeles Dodgers ซึ่งได้แสดงความสนใจอย่างชัดเจน โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่ามูลค่าของ TikTok อาจสูงถึง 50 พันล้านดอลลาร์

    TikTok ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อหลายกลุ่มเพราะเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีผู้ใช้งานจำนวนมาก และมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมดิจิทัลในปัจจุบัน การขายกิจการนี้จึงอาจเป็นทั้งโอกาสทางธุรกิจและวิธีแก้ไขปัญหาทางการเมืองในเวลาเดียวกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/10/trump-says-us-talking-to-four-different-groups-on-sale-of-tiktok
    ประธานาธิบดี Donald Trump เปิดเผยว่าขณะนี้รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพูดคุยกับกลุ่ม 4 กลุ่มที่สนใจซื้อกิจการของ TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมสูงและมีเจ้าของเป็นบริษัทจีน ByteDance โดยการเจรจานี้เกิดขึ้นจากกฎหมายด้านความมั่นคงแห่งชาติที่บังคับให้ ByteDance ต้องขาย TikTok หรือเผชิญหน้ากับการแบนในสหรัฐฯ กฎหมายดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2025 ซึ่งเกี่ยวข้องกับความกังวลเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลผู้ใช้งานและปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ เนื่องจาก TikTok มีผู้ใช้จำนวนมากในสหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐฯ มองว่าข้อมูลผู้ใช้อาจตกไปอยู่ในมือของรัฐบาลจีนผ่าน ByteDance หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2025 Trump ได้ออกคำสั่งผู้บริหารเพื่อขยายเวลาให้ ByteDance จัดการปัญหานี้ออกไปอีก 75 วัน ซึ่งสร้างโอกาสให้การเจรจาขายกิจการดำเนินไปได้ แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด แต่หนึ่งในผู้สนใจที่น่าสนใจคือ Frank McCourt อดีตเจ้าของทีมเบสบอล Los Angeles Dodgers ซึ่งได้แสดงความสนใจอย่างชัดเจน โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่ามูลค่าของ TikTok อาจสูงถึง 50 พันล้านดอลลาร์ TikTok ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อหลายกลุ่มเพราะเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีผู้ใช้งานจำนวนมาก และมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมดิจิทัลในปัจจุบัน การขายกิจการนี้จึงอาจเป็นทั้งโอกาสทางธุรกิจและวิธีแก้ไขปัญหาทางการเมืองในเวลาเดียวกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/10/trump-says-us-talking-to-four-different-groups-on-sale-of-tiktok
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump says US talking to four different groups on sale of TikTok
    ABOARD AIR FORCE ONE (Reuters) - U.S. President Donald Trump said on Sunday that his administration was in touch with four different groups about the sale of Chinese-owned social media platform TikTok, and that all options were good.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน

    การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน
    - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ
    - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้
    - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype

    ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย
    - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft

    Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19

    การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    หลังจากที่ทำหน้าที่เป็นแอปที่ช่วยให้คนทั่วโลกติดต่อกันได้สะดวกมานานถึงสองทศวรรษ Skype กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายในปีนี้ โดย Microsoft เจ้าของปัจจุบันได้ประกาศว่าจะยุติการให้บริการ Skype อย่างถาวรในวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 พร้อมกับแนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนไปใช้แพลตฟอร์ม Microsoft Teams แทน การเปลี่ยนไปใช้ Microsoft Teams แทน - การใช้งาน Teams ด้วยบัญชี Skype: ผู้ใช้งานสามารถล็อกอิน Teams ด้วยบัญชี Skype เดิม โดยข้อมูลแชท รายชื่อ และกลุ่มสนทนาจะถูกย้ายมาอัตโนมัติ - การโทรระหว่าง Skype และ Teams: ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทั้งสองแพลตฟอร์มสามารถสื่อสารระหว่างกันได้ - การโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐานและมือถือ: Teams จะมีแป้นพิมพ์หมายเลขชั่วคราวสำหรับผู้ใช้ Skype ที่ยังมีเครดิตคงเหลือ แต่ฟีเจอร์นี้จะค่อยๆ ยุติลงตามการหมดอายุของการสมัครสมาชิก Skype ทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่อยากย้าย - สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการย้ายไปใช้ Teams Microsoft มีคำแนะนำให้ผู้ใช้สำรองข้อมูลแชท รายชื่อ และสื่อใน Skype ก่อนวันที่ยุติบริการ โดยสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเหล่านี้ผ่าน Go.skype.com/export และลบบัญชี Skype ได้ที่หน้าจัดการบัญชีของ Microsoft Skype เริ่มต้นในปี 2003 โดยสองนักธุรกิจชาวสวีเดนและเดนมาร์ก นำเสนอแนวคิดใหม่ในการโทรฟรีผ่านอินเทอร์เน็ตที่ลดค่าใช้จ่ายสูงจากการโทรต่างประเทศ Microsoft เข้าซื้อกิจการนี้ในปี 2011 ด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ Skype สูญเสียความนิยมเมื่อ Microsoft เปิดตัว Teams ในปี 2017 ซึ่งกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารหลักในตลาดองค์กรและแข่งขันกับ Zoom และ WhatsApp โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 การปิดตัวของ Skype สะท้อนถึงการปรับตัวของเทคโนโลยีและความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป Microsoft กำลังมุ่งเน้นไปยัง Teams ที่ได้รับความนิยมในตลาดองค์กรด้วยฟีเจอร์ที่ครอบคลุมและทันสมัยกว่า แต่ Skype จะยังคงเป็นตำนานในฐานะผู้ปฏิวัติการสื่อสารในยุคแรกเริ่ม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/the-last-days-of-skype-time-to-switch-to-teams---or-say-goodbye
    WWW.THESTAR.COM.MY
    The last days of Skype: Time to switch to Teams – or say goodbye
    As the sun slowly sets Skype, some two decades after it started a revolution in online communication, owner Microsoft is pointing the way to its remaining loyal users: Teams.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • NVIDIA ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่หลังจากการเปิดตัวการ์ดจอซีรีส์ RTX 50 โดยพบปัญหาหลายอย่าง เช่น การขาดแคลนสินค้า การลดประสิทธิภาพจากส่วนที่ขาดหายไปในโครงสร้างชิป และล่าสุดคือ ปัญหาหน้าจอดำ (Black Screen) ที่สร้างความปวดหัวให้กับทั้งผู้ใช้และทีมวิศวกรของ NVIDIA

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ NVIDIA ได้ปล่อยไดรเวอร์ Hotfix เวอร์ชัน 572.75 ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 ในการพยายามแก้ปัญหาดังกล่าว โดยไดรเวอร์นี้ออกแบบมาเพื่อจัดการสองปัญหาหลัก:
    1) การทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพหลังการรีบูต (สำหรับ RTX 5080/5090): ปัญหานี้อาจเกิดจากการโอเวอร์คล็อกที่ทำให้การ์ดจอไม่ทำงานเต็มศักยภาพหลังจากระบบเริ่มต้นใหม่
    2) ปัญหาหน้าจอดำในซีรีส์ RTX 50: ผู้ใช้หลายรายรายงานว่าปัญหานี้ยังคงเกิดขึ้นในเกมที่ใช้เทคโนโลยี Frame Generation แม้จะอัปเดตไดรเวอร์ก่อนหน้านี้แล้ว

    NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทำการอัปเดตไดรเวอร์เวอร์ชันล่าสุด เนื่องจากอาจช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้จำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ

    ปัญหาหน้าจอดำใน RTX 50 ถือเป็นบททดสอบสำคัญของ NVIDIA ในการรักษาความไว้วางใจจากผู้ใช้ ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขผ่านไดรเวอร์และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เราจะต้องติดตามต่อไปว่าไดรเวอร์ใหม่นี้จะช่วยบรรเทาปัญหาได้จริงหรือไม่

    https://wccftech.com/nvidia-releases-another-hotfix-driver-to-resolve-black-screen-issues/
    NVIDIA ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่หลังจากการเปิดตัวการ์ดจอซีรีส์ RTX 50 โดยพบปัญหาหลายอย่าง เช่น การขาดแคลนสินค้า การลดประสิทธิภาพจากส่วนที่ขาดหายไปในโครงสร้างชิป และล่าสุดคือ ปัญหาหน้าจอดำ (Black Screen) ที่สร้างความปวดหัวให้กับทั้งผู้ใช้และทีมวิศวกรของ NVIDIA เมื่อเร็ว ๆ นี้ NVIDIA ได้ปล่อยไดรเวอร์ Hotfix เวอร์ชัน 572.75 ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 ในการพยายามแก้ปัญหาดังกล่าว โดยไดรเวอร์นี้ออกแบบมาเพื่อจัดการสองปัญหาหลัก: 1) การทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพหลังการรีบูต (สำหรับ RTX 5080/5090): ปัญหานี้อาจเกิดจากการโอเวอร์คล็อกที่ทำให้การ์ดจอไม่ทำงานเต็มศักยภาพหลังจากระบบเริ่มต้นใหม่ 2) ปัญหาหน้าจอดำในซีรีส์ RTX 50: ผู้ใช้หลายรายรายงานว่าปัญหานี้ยังคงเกิดขึ้นในเกมที่ใช้เทคโนโลยี Frame Generation แม้จะอัปเดตไดรเวอร์ก่อนหน้านี้แล้ว NVIDIA แนะนำให้ผู้ใช้ทำการอัปเดตไดรเวอร์เวอร์ชันล่าสุด เนื่องจากอาจช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ใช้จำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ ปัญหาหน้าจอดำใน RTX 50 ถือเป็นบททดสอบสำคัญของ NVIDIA ในการรักษาความไว้วางใจจากผู้ใช้ ด้วยความพยายามอย่างต่อเนื่องในการแก้ไขผ่านไดรเวอร์และการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ เราจะต้องติดตามต่อไปว่าไดรเวอร์ใหม่นี้จะช่วยบรรเทาปัญหาได้จริงหรือไม่ https://wccftech.com/nvidia-releases-another-hotfix-driver-to-resolve-black-screen-issues/
    WCCFTECH.COM
    NVIDIA Releases Another Hotfix Driver to Resolve Black Screen Issues, Marking the Firm's Fifth Attempt to Address The Problem
    NVIDIA has released another "hotfix driver" to address issues with the RTX 50 GPUs, including the troublesome black-screen problem.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • ครบ 3 ปี “สงครามยูเครน” ทำไมคนรัสเซียยังคงสบายดี ?
    .
    หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉากขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน หลายคนก็สงสัยว่าเรายังสามารถเดินทางไปที่ประเทศรัสเซียได้ไหม เพราะว่ารัสเซียถูกมองว่าเป็นพื้นที่อันตราย สายการบินหลายแห่งยกเลิกเที่ยวบินไปรัสเซีย บริษัทประกันภัยก็ไม่รับทำประกันการเดินทาง
    .
    แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว การเดินทางระหว่างประเทศไทยกับรัสเซียก็ยังคงมีอยู่ โดยในปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย มาเที่ยวเมืองไทยมากกว่า 1 ล้าน 8 แสนคน เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า และถือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเมืองไทย มากเป็นอันดับที่ 5 บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะเล่าว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รัสเซียยืนหยัดอยู่ได้อย่างไรจากการบอกเล่าของท่านทูตรัสเซีย และยังมีบทสัมภาษณ์จากอดีตผู้สื่อข่าว ที่เพิ่งเดินทางไปเที่ยวที่รัสเซียด้วย
    .
    คลิกฟัง >> https://www.tiktok.com/@thedongfangbubai/video/7479774389970406674
    ครบ 3 ปี “สงครามยูเครน” ทำไมคนรัสเซียยังคงสบายดี ? . หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉากขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน หลายคนก็สงสัยว่าเรายังสามารถเดินทางไปที่ประเทศรัสเซียได้ไหม เพราะว่ารัสเซียถูกมองว่าเป็นพื้นที่อันตราย สายการบินหลายแห่งยกเลิกเที่ยวบินไปรัสเซีย บริษัทประกันภัยก็ไม่รับทำประกันการเดินทาง . แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว การเดินทางระหว่างประเทศไทยกับรัสเซียก็ยังคงมีอยู่ โดยในปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย มาเที่ยวเมืองไทยมากกว่า 1 ล้าน 8 แสนคน เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า และถือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเมืองไทย มากเป็นอันดับที่ 5 บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะเล่าว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รัสเซียยืนหยัดอยู่ได้อย่างไรจากการบอกเล่าของท่านทูตรัสเซีย และยังมีบทสัมภาษณ์จากอดีตผู้สื่อข่าว ที่เพิ่งเดินทางไปเที่ยวที่รัสเซียด้วย . คลิกฟัง >> https://www.tiktok.com/@thedongfangbubai/video/7479774389970406674
    @thedongfangbubai

    ครบ 3 ปี “สงครามยูเครน” ทำไมคนรัสเซียยังคงสบายดี ? . หลังสงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉากขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน หลายคนก็สงสัยว่าเรายังสามารถเดินทางไปที่ประเทศรัสเซียได้ไหม เพราะว่ารัสเซียถูกมองว่าเป็นพื้นที่อันตราย สายการบินหลายแห่งยกเลิกเที่ยวบินไปรัสเซีย บริษัทประกันภัยก็ไม่รับทำประกันการเดินทาง . แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว การเดินทางระหว่างประเทศไทยกับรัสเซียก็ยังคงมีอยู่ โดยในปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย มาเที่ยวเมืองไทยมากกว่า 1 ล้าน 8 แสนคน เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อนหน้า และถือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเมืองไทย มากเป็นอันดับที่ 5 บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ เราจะเล่าว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รัสเซียยืนหยัดอยู่ได้อย่างไรจากการบอกเล่าของท่านทูตรัสเซีย และยังมีบทสัมภาษณ์จากอดีตผู้สื่อข่าว ที่เพิ่งเดินทางไปเที่ยวที่รัสเซียด้วย . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=eF_SiMj_ZW8 . #บูรพาไม่แพ้ #รัสเซีย #ยูเครน

    ♬ original sound - บูรพาไม่แพ้ - บูรพาไม่แพ้
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • การ์ดจอ NVIDIA RTX 5090 ที่เพิ่งเปิดตัวกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับความร้อนในขั้วต่อไฟฟ้า 16-pin อย่างรุนแรง Andreas Schilling ผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์จากเว็บไซต์ Hardware Luxx ได้รายงานผ่านภาพถ่ายจากกล้องถ่ายความร้อนว่า ขั้วต่อไฟฟ้าของ RTX 5090 สามารถร้อนสูงถึง 150 องศาเซลเซียส

    == สาเหตุและผลกระทบ ==
    - ความเสียหายจากความร้อน: แม้ว่าขั้วต่อไฟฟ้าจะไม่ถึงจุดหลอมเหลวของวัสดุที่ใช้ (Nylon 66 และ LCP) ซึ่งอยู่ที่ 255-335 องศาเซลเซียส แต่นี่เป็นจุดอ่อนสำคัญที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของอุปกรณ์
    - การเชื่อมต่อที่ไม่ทนทาน: Corsair ผู้ผลิตชิ้นส่วน PC ระบุว่าขั้วต่อ 16-pin มีวงจรการเชื่อมต่อ/ถอดที่รองรับได้เพียง 30 ครั้ง แต่ในกรณีนี้ ขั้วต่อถูกใช้งานเกินหลายร้อยครั้งแล้ว ทำให้เกิดความไม่เสถียร
    - ความไม่ไว้วางใจในตัวเลือกนี้: Schilling แสดงความคิดเห็นอย่างหนักแน่นว่า การออกแบบขั้วต่อ 12V-2x6 "จะเป็นจุดอ่อนสำคัญตลอดการใช้งานของการ์ดจอรุ่นนี้"

    การ์ดจอที่ทดสอบคือ Inno3D RTX 5090 Frostbite ซึ่งใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน และแหล่งจ่ายไฟคือ be quiet! Dark Power 13 ที่รองรับพลังงาน 600W ในระหว่างการทดสอบ แม้ตัว GPU จะเย็นแต่ขั้วต่อไฟฟ้ากลับมีอุณหภูมิสูงจนกังวล

    แนวทางที่ควรคำนึง
    - การปรับปรุงการออกแบบขั้วต่อไฟฟ้า: NVIDIA อาจต้องหาวิธีแก้ปัญหาขั้วต่อไฟฟ้าในรุ่นนี้หรือในรุ่นต่อไป เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน
    - คำแนะนำแก่ผู้ใช้: ผู้ใช้งาน RTX 5090 ควรตรวจสอบความร้อนของขั้วต่อไฟฟ้า และหลีกเลี่ยงการใช้งานที่มีโหลดสูงในระยะเวลานาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/nvidia-rtx-5090s-16-pin-power-connector-hits-150c-in-reviewers-thermal-camera-shots
    การ์ดจอ NVIDIA RTX 5090 ที่เพิ่งเปิดตัวกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับความร้อนในขั้วต่อไฟฟ้า 16-pin อย่างรุนแรง Andreas Schilling ผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์จากเว็บไซต์ Hardware Luxx ได้รายงานผ่านภาพถ่ายจากกล้องถ่ายความร้อนว่า ขั้วต่อไฟฟ้าของ RTX 5090 สามารถร้อนสูงถึง 150 องศาเซลเซียส == สาเหตุและผลกระทบ == - ความเสียหายจากความร้อน: แม้ว่าขั้วต่อไฟฟ้าจะไม่ถึงจุดหลอมเหลวของวัสดุที่ใช้ (Nylon 66 และ LCP) ซึ่งอยู่ที่ 255-335 องศาเซลเซียส แต่นี่เป็นจุดอ่อนสำคัญที่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของอุปกรณ์ - การเชื่อมต่อที่ไม่ทนทาน: Corsair ผู้ผลิตชิ้นส่วน PC ระบุว่าขั้วต่อ 16-pin มีวงจรการเชื่อมต่อ/ถอดที่รองรับได้เพียง 30 ครั้ง แต่ในกรณีนี้ ขั้วต่อถูกใช้งานเกินหลายร้อยครั้งแล้ว ทำให้เกิดความไม่เสถียร - ความไม่ไว้วางใจในตัวเลือกนี้: Schilling แสดงความคิดเห็นอย่างหนักแน่นว่า การออกแบบขั้วต่อ 12V-2x6 "จะเป็นจุดอ่อนสำคัญตลอดการใช้งานของการ์ดจอรุ่นนี้" การ์ดจอที่ทดสอบคือ Inno3D RTX 5090 Frostbite ซึ่งใช้น้ำเป็นตัวระบายความร้อน และแหล่งจ่ายไฟคือ be quiet! Dark Power 13 ที่รองรับพลังงาน 600W ในระหว่างการทดสอบ แม้ตัว GPU จะเย็นแต่ขั้วต่อไฟฟ้ากลับมีอุณหภูมิสูงจนกังวล แนวทางที่ควรคำนึง - การปรับปรุงการออกแบบขั้วต่อไฟฟ้า: NVIDIA อาจต้องหาวิธีแก้ปัญหาขั้วต่อไฟฟ้าในรุ่นนี้หรือในรุ่นต่อไป เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเชื่อมั่นของผู้ใช้งาน - คำแนะนำแก่ผู้ใช้: ผู้ใช้งาน RTX 5090 ควรตรวจสอบความร้อนของขั้วต่อไฟฟ้า และหลีกเลี่ยงการใช้งานที่มีโหลดสูงในระยะเวลานาน https://www.tomshardware.com/pc-components/power-supplies/nvidia-rtx-5090s-16-pin-power-connector-hits-150c-in-reviewers-thermal-camera-shots
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia RTX 5090's 16-pin power connector hits 150C in reviewer's thermal camera shots
    Andreas Schilling of Germany's Hardware Luxx says the power connector issue will 'forever remain a weak point of this generation.'
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jim Rossman นักเขียนจาก The Star ได้แชร์ประสบการณ์ที่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล หลังจากพบว่า Instagram ของคุณป้าผู้ล่วงลับปรากฏในคำแนะนำบัญชีที่อาจต้องการติดตาม เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า "จะเกิดอะไรกับบัญชี Instagram ของเราเมื่อเราจากโลกนี้ไป?"

    สำหรับ Instagram นั้น มีตัวเลือกสองทางหลักในการจัดการบัญชีของผู้ที่เสียชีวิต:
    1) การเปลี่ยนบัญชีเป็นที่ระลึก (Memorialisation): บัญชีจะถูกระบุด้วยคำว่า "Remembering" ถัดจากชื่อเจ้าของบัญชี การเข้าสู่ระบบจะถูกปิดกั้น แต่โพสต์ทั้งหมดจะยังคงปรากฏให้ผู้ติดตามเห็น ข้อมูลของบัญชีที่ระลึกจะไม่แสดงในคำแนะนำผู้ใช้งานใหม่ และไม่สามารถรับผู้ติดตามเพิ่มเติมได้
    2) การลบบัญชี: การลบบัญชี Instagram ต้องทำผ่าน Instagram Support โดยต้องแสดงหลักฐานการเสียชีวิต เช่น ใบมรณบัตรหรือข่าวร้ายเกี่ยวกับการเสียชีวิต

    Jim ในฐานะผู้ดูแลมรดกของป้า Sharon เล่าว่าเขาสามารถลบบัญชีของป้าได้เพราะมีข้อมูลการเข้าสู่ระบบ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่มีรหัสผ่าน การติดต่อ Instagram Support จะช่วยจัดการได้

    การเปลี่ยนบัญชีเป็นที่ระลึกหรือการลบบัญชี ช่วยลดโอกาสที่บัญชีจะถูกบุคคลภายนอกแฮกและใช้งานในทางที่ผิด เช่น การสแปมหรือการหลอกลวง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการดูแล "มรดกดิจิทัล" ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของทุกคน

    ประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นว่าการจัดการ "ชีวิตดิจิทัล" กลายเป็นส่วนสำคัญของการจัดการมรดกในยุคใหม่ ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีพัฒนานโยบายและเครื่องมือเพื่อช่วยครอบครัวของผู้ล่วงลับในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เราทุกคนก็ควรมีการเตรียมตัวและทำความเข้าใจกับทางเลือกต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/opinion-what-happens-to-your-instagram-after-you-die
    Jim Rossman นักเขียนจาก The Star ได้แชร์ประสบการณ์ที่สะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล หลังจากพบว่า Instagram ของคุณป้าผู้ล่วงลับปรากฏในคำแนะนำบัญชีที่อาจต้องการติดตาม เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า "จะเกิดอะไรกับบัญชี Instagram ของเราเมื่อเราจากโลกนี้ไป?" สำหรับ Instagram นั้น มีตัวเลือกสองทางหลักในการจัดการบัญชีของผู้ที่เสียชีวิต: 1) การเปลี่ยนบัญชีเป็นที่ระลึก (Memorialisation): บัญชีจะถูกระบุด้วยคำว่า "Remembering" ถัดจากชื่อเจ้าของบัญชี การเข้าสู่ระบบจะถูกปิดกั้น แต่โพสต์ทั้งหมดจะยังคงปรากฏให้ผู้ติดตามเห็น ข้อมูลของบัญชีที่ระลึกจะไม่แสดงในคำแนะนำผู้ใช้งานใหม่ และไม่สามารถรับผู้ติดตามเพิ่มเติมได้ 2) การลบบัญชี: การลบบัญชี Instagram ต้องทำผ่าน Instagram Support โดยต้องแสดงหลักฐานการเสียชีวิต เช่น ใบมรณบัตรหรือข่าวร้ายเกี่ยวกับการเสียชีวิต Jim ในฐานะผู้ดูแลมรดกของป้า Sharon เล่าว่าเขาสามารถลบบัญชีของป้าได้เพราะมีข้อมูลการเข้าสู่ระบบ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่มีรหัสผ่าน การติดต่อ Instagram Support จะช่วยจัดการได้ การเปลี่ยนบัญชีเป็นที่ระลึกหรือการลบบัญชี ช่วยลดโอกาสที่บัญชีจะถูกบุคคลภายนอกแฮกและใช้งานในทางที่ผิด เช่น การสแปมหรือการหลอกลวง ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการดูแล "มรดกดิจิทัล" ในยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของทุกคน ประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นว่าการจัดการ "ชีวิตดิจิทัล" กลายเป็นส่วนสำคัญของการจัดการมรดกในยุคใหม่ ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีพัฒนานโยบายและเครื่องมือเพื่อช่วยครอบครัวของผู้ล่วงลับในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล เราทุกคนก็ควรมีการเตรียมตัวและทำความเข้าใจกับทางเลือกต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/09/opinion-what-happens-to-your-instagram-after-you-die
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: What happens to your Instagram after you die?
    I was scrolling through my Instagram account this week and I saw something that made me stop in my tracks. In the right-hand column, there was a suggested list of people whose accounts I may want to follow and the first person on that list was my Aunt Sharon.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • What Do You Like To Be Called? Words For Types Of Nicknames

    A nickname by any other name would smell just as sweet. Okay, so maybe that’s not how the saying goes, but we happen to think it’s true anyway. Nicknames are names that are substituted for the proper name of a person or place, like calling LeBron James “King James.”

    Nicknames are created for many different reasons. Sometimes they evolve naturally out of close association with someone. Other times, they may take hold based on qualities or features someone is well known for. There are a lot of different types of nicknames, as well as words we can use to describe them. From pet name to internet handle, here are 11 other words to use to talk about nicknames and the unique history of each one.

    pet name

    A pet name is a nickname that might exist within a family or close relationship. It means “a name or a term of address used to express affection for a person, thing, etc.” The term has been around for more than 100 years, first appearing in English between 1910 and 1915. Because pet names are typically affectionate, they’re nicknames you might hear a parent using for a child or siblings using to identify one another. A pet name probably isn’t something you’d hear in less familiar settings.

    AKA

    AKA (or A.K.A.) stands for “also known as.” If you have a nickname, you are “also known as” that name. This abbreviation, which entered English in the late 1940s, is used by law enforcement to specify an alias. But it’s also commonly used to indicate that a person goes by another name in many different settings. And it can be used facetiously to share extra information about someone. For example, My sister, AKA the most organized person in the entire world, somehow forgot my birthday.

    handle

    In the digital age, most of us have some kind of handle. That’s “a username, as on a social media website.” And yes, that counts as a type of nickname. It’s another name you’re known by, after all, even if it’s only among online friends. The word has existed in English since before the year 900, though it didn’t come to be associated with names until the 1830s, when it was used more generally to mean “nickname.” The term eventually came to include radio nicknames, and later, usernames on the internet.

    sobriquet

    Say nickname, but make it fancy. Essentially, that’s what sobriquet does. This word, borrowed from French, literally means “nickname.” In many cases, sobriquet indicates playfulness or a nickname that is used in jest. This might mean a childhood pet name or a funny name used between friends. The word sobriquet entered English in the 1600s.

    moniker

    Any name you go by can be considered a moniker. This term simply means “a person’s name, especially a nickname or alias.” The origins of this word aren’t exactly clear. One possibility is that it’s associated with monk, as nuns and monks frequently change their names upon taking their vows. It may also be a permutation, or transformation, of the Old Irish ainm, meaning “name.”

    pen name

    Sometimes nicknames are used for professional reasons, as is demonstrated by the phrase pen name. A pen name is “a pseudonym used by an author.” This might be a variation of their real name or a different name entirely. Mark Twain, for example, is a pen name used by Samuel Langhorne Clemens. Meanwhile George R. R. Martin is the author’s real name, but R. R. is used in place of Richard Raymond. Pen name is a translation of the French nom de plume, and it has been in use in English since the 1800s.

    byname

    What’s your byname? A byname is “a secondary name,” whether that’s a surname, a nickname, or something else. This term may be used to describe any type of nickname, rather than only nicknames that are familiar or used for a specific purpose. Think of it as another way of saying “a name you go by.” Though it’s not commonly used now, the word byname has existed in English since the 1300s.

    cognomen

    We bet you didn’t know you have a cognomen. While this word might look like the name of some kind of scary medical condition, it actually means “any name, especially a nickname.” Nomen means “name” in Latin, and co or cog means “with.” This 19th century word, then, literally means “with name,” and it can be broadly used to talk about any type of nickname.

    appellation

    A more official nickname might also be called an appellation. This word, which entered English in the early 1400s, means “a name, title, or designation.” Often, an appellation indicates a more official or well-known designation than just a familiar nickname. Think: Alexander The Great or the early American leaders known as The Founding Fathers. An appellation may also include an official title, such as doctor, bishop, or duke.

    term of endearment

    Nicknames are for lovers, at least in this case. A term of endearment is a nickname that shows esteem, affection, or love. This may be more personal, like a pet name, or it might include commonly used affectionate names, like honey, baby, or sweetie. Terms of endearment are typically reserved for intimate relationships, though some could also apply to family or close friends.

    nom de guerre

    Authors aren’t the only people who sometimes change their names. A nom de guerre is another way of saying pseudonym. It’s “an assumed name, under which a person fights, paints, writes, etc.” In French, nom de guerre meant “a war name,” or a name taken by a soldier upon entering the armed services. In English, it’s more generally understood to mean any kind of assumed name, whether it’s Stefani Germanotta being known as the musician “Lady Gaga” or Erik Weisz assuming the magician name of “Harry Houdini.”

    Copyright 2025, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    What Do You Like To Be Called? Words For Types Of Nicknames A nickname by any other name would smell just as sweet. Okay, so maybe that’s not how the saying goes, but we happen to think it’s true anyway. Nicknames are names that are substituted for the proper name of a person or place, like calling LeBron James “King James.” Nicknames are created for many different reasons. Sometimes they evolve naturally out of close association with someone. Other times, they may take hold based on qualities or features someone is well known for. There are a lot of different types of nicknames, as well as words we can use to describe them. From pet name to internet handle, here are 11 other words to use to talk about nicknames and the unique history of each one. pet name A pet name is a nickname that might exist within a family or close relationship. It means “a name or a term of address used to express affection for a person, thing, etc.” The term has been around for more than 100 years, first appearing in English between 1910 and 1915. Because pet names are typically affectionate, they’re nicknames you might hear a parent using for a child or siblings using to identify one another. A pet name probably isn’t something you’d hear in less familiar settings. AKA AKA (or A.K.A.) stands for “also known as.” If you have a nickname, you are “also known as” that name. This abbreviation, which entered English in the late 1940s, is used by law enforcement to specify an alias. But it’s also commonly used to indicate that a person goes by another name in many different settings. And it can be used facetiously to share extra information about someone. For example, My sister, AKA the most organized person in the entire world, somehow forgot my birthday. handle In the digital age, most of us have some kind of handle. That’s “a username, as on a social media website.” And yes, that counts as a type of nickname. It’s another name you’re known by, after all, even if it’s only among online friends. The word has existed in English since before the year 900, though it didn’t come to be associated with names until the 1830s, when it was used more generally to mean “nickname.” The term eventually came to include radio nicknames, and later, usernames on the internet. sobriquet Say nickname, but make it fancy. Essentially, that’s what sobriquet does. This word, borrowed from French, literally means “nickname.” In many cases, sobriquet indicates playfulness or a nickname that is used in jest. This might mean a childhood pet name or a funny name used between friends. The word sobriquet entered English in the 1600s. moniker Any name you go by can be considered a moniker. This term simply means “a person’s name, especially a nickname or alias.” The origins of this word aren’t exactly clear. One possibility is that it’s associated with monk, as nuns and monks frequently change their names upon taking their vows. It may also be a permutation, or transformation, of the Old Irish ainm, meaning “name.” pen name Sometimes nicknames are used for professional reasons, as is demonstrated by the phrase pen name. A pen name is “a pseudonym used by an author.” This might be a variation of their real name or a different name entirely. Mark Twain, for example, is a pen name used by Samuel Langhorne Clemens. Meanwhile George R. R. Martin is the author’s real name, but R. R. is used in place of Richard Raymond. Pen name is a translation of the French nom de plume, and it has been in use in English since the 1800s. byname What’s your byname? A byname is “a secondary name,” whether that’s a surname, a nickname, or something else. This term may be used to describe any type of nickname, rather than only nicknames that are familiar or used for a specific purpose. Think of it as another way of saying “a name you go by.” Though it’s not commonly used now, the word byname has existed in English since the 1300s. cognomen We bet you didn’t know you have a cognomen. While this word might look like the name of some kind of scary medical condition, it actually means “any name, especially a nickname.” Nomen means “name” in Latin, and co or cog means “with.” This 19th century word, then, literally means “with name,” and it can be broadly used to talk about any type of nickname. appellation A more official nickname might also be called an appellation. This word, which entered English in the early 1400s, means “a name, title, or designation.” Often, an appellation indicates a more official or well-known designation than just a familiar nickname. Think: Alexander The Great or the early American leaders known as The Founding Fathers. An appellation may also include an official title, such as doctor, bishop, or duke. term of endearment Nicknames are for lovers, at least in this case. A term of endearment is a nickname that shows esteem, affection, or love. This may be more personal, like a pet name, or it might include commonly used affectionate names, like honey, baby, or sweetie. Terms of endearment are typically reserved for intimate relationships, though some could also apply to family or close friends. nom de guerre Authors aren’t the only people who sometimes change their names. A nom de guerre is another way of saying pseudonym. It’s “an assumed name, under which a person fights, paints, writes, etc.” In French, nom de guerre meant “a war name,” or a name taken by a soldier upon entering the armed services. In English, it’s more generally understood to mean any kind of assumed name, whether it’s Stefani Germanotta being known as the musician “Lady Gaga” or Erik Weisz assuming the magician name of “Harry Houdini.” Copyright 2025, AAKKHRA, All Rights Reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • Strolls amidst the lupin blooms.
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    Strolls amidst the lupin blooms. #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • MicroTik บริษัทจากลัตเวียที่เชี่ยวชาญในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เครือข่าย ได้เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่ที่ชื่อว่า ROSE Data Server RDS2216 ซึ่งเป็นการรวมโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูล, การเชื่อมต่อเครือข่าย, และการประมวลผลเข้าไว้ในอุปกรณ์เดียว โดยเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้ทำงานบน AWS Graviton 1 Arm CPU ที่พัฒนาโดย Annapurna Labs ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon

    คุณสมบัติเด่นของ ROSE Data Server RDS2216
    - สถาปัตยกรรมและหน่วยประมวลผล: RDS2216 ใช้ CPU ARMv8 แบบ 16 คอร์ ความเร็ว 2GHz พร้อมด้วย RAM 32GB และ NAND storage ขนาด 128MB ซึ่งรองรับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง
    - การเชื่อมต่อที่หลากหลาย: มีพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมด 16 พอร์ต รวมถึงสองพอร์ต 100G QSFP28, สี่พอร์ต 25G SFP28, สี่พอร์ต 10G SFP+, และสองพอร์ต 10G Ethernet นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับเก็บข้อมูล U.2 NVMe สูงสุดถึง 20 ช่อง
    - ความยืดหยุ่นและการขยายตัว: รองรับการใช้งาน MinIO, Nextcloud, และการเข้ารหัสข้อมูล โดยไม่มีการเก็บค่าสมาชิกหรือการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม
    - การใช้งานหลากหลาย: RDS2216 สามารถใช้ในงานต่าง ๆ เช่น การเก็บข้อมูลแบบ self-hosted, การโฮสต์คลาวด์ในองค์กร, การสำรองข้อมูลความเร็วสูง, และการขยายการจัดเก็บข้อมูลสาขาย่อย

    AWS Graviton 1 เป็น CPU ที่พัฒนาโดย Annapurna Labs ภายใต้ Amazon และถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูล CPU นี้มีความสามารถในการเร่งการเข้ารหัส (IPsec hardware acceleration) เพื่อให้การเชื่อมต่อข้อมูลเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่มีการขัดข้อง

    การเปิดตัว ROSE Data Server RDS2216 ของ MicroTik แสดงถึงความร่วมมือที่น่าสนใจระหว่าง MicroTik และ Amazon ซึ่งเปิดทางเลือกใหม่ในการจัดการข้อมูลและการเชื่อมต่อเครือข่ายในองค์กร โดยเทคโนโลยีจาก AWS Graviton 1 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผลข้อมูล นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในองค์กรต่าง ๆ

    https://www.techradar.com/pro/this-is-amazons-first-foray-in-servers-and-certainly-not-the-last-microtik-franken-router-is-powered-by-the-aws-graviton-1-arm-cpu
    MicroTik บริษัทจากลัตเวียที่เชี่ยวชาญในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เครือข่าย ได้เปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่ที่ชื่อว่า ROSE Data Server RDS2216 ซึ่งเป็นการรวมโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูล, การเชื่อมต่อเครือข่าย, และการประมวลผลเข้าไว้ในอุปกรณ์เดียว โดยเซิร์ฟเวอร์รุ่นนี้ทำงานบน AWS Graviton 1 Arm CPU ที่พัฒนาโดย Annapurna Labs ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Amazon คุณสมบัติเด่นของ ROSE Data Server RDS2216 - สถาปัตยกรรมและหน่วยประมวลผล: RDS2216 ใช้ CPU ARMv8 แบบ 16 คอร์ ความเร็ว 2GHz พร้อมด้วย RAM 32GB และ NAND storage ขนาด 128MB ซึ่งรองรับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง - การเชื่อมต่อที่หลากหลาย: มีพอร์ตเชื่อมต่อทั้งหมด 16 พอร์ต รวมถึงสองพอร์ต 100G QSFP28, สี่พอร์ต 25G SFP28, สี่พอร์ต 10G SFP+, และสองพอร์ต 10G Ethernet นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับเก็บข้อมูล U.2 NVMe สูงสุดถึง 20 ช่อง - ความยืดหยุ่นและการขยายตัว: รองรับการใช้งาน MinIO, Nextcloud, และการเข้ารหัสข้อมูล โดยไม่มีการเก็บค่าสมาชิกหรือการเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม - การใช้งานหลากหลาย: RDS2216 สามารถใช้ในงานต่าง ๆ เช่น การเก็บข้อมูลแบบ self-hosted, การโฮสต์คลาวด์ในองค์กร, การสำรองข้อมูลความเร็วสูง, และการขยายการจัดเก็บข้อมูลสาขาย่อย AWS Graviton 1 เป็น CPU ที่พัฒนาโดย Annapurna Labs ภายใต้ Amazon และถูกนำมาใช้ในเซิร์ฟเวอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลและการจัดเก็บข้อมูล CPU นี้มีความสามารถในการเร่งการเข้ารหัส (IPsec hardware acceleration) เพื่อให้การเชื่อมต่อข้อมูลเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่มีการขัดข้อง การเปิดตัว ROSE Data Server RDS2216 ของ MicroTik แสดงถึงความร่วมมือที่น่าสนใจระหว่าง MicroTik และ Amazon ซึ่งเปิดทางเลือกใหม่ในการจัดการข้อมูลและการเชื่อมต่อเครือข่ายในองค์กร โดยเทคโนโลยีจาก AWS Graviton 1 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการประมวลผลข้อมูล นอกจากนี้ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในองค์กรต่าง ๆ https://www.techradar.com/pro/this-is-amazons-first-foray-in-servers-and-certainly-not-the-last-microtik-franken-router-is-powered-by-the-aws-graviton-1-arm-cpu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลิตภัณฑ์ใหม่รับหน้าร้อนครับ !!!

    เมื่อไม่นานมานี้ Shark ได้เปิดตัวพัดลมรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า TurboBlade ซึ่งมีดีไซน์และการทำงานที่ไม่เหมือนใคร ทำให้คุณรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    TurboBlade เป็นพัดลมไร้ใบพัดที่ประกอบด้วยแขนสองข้างที่สามารถส่งลมได้เข้มข้น แขนเหล่านี้สามารถปรับมุมขึ้นและลง และยังสามารถหมุนได้ ทำให้คุณสามารถกำหนดทิศทางลมได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแนวนอนหรือแนวตั้ง มีโหมดการทำงานถึง 10 รูปแบบ เช่น โหมดนอนหลับที่ทำให้เสียงเงียบและแสงหรี่ลง และโหมด AirBlanket ที่ส่งลมกว้างแนวนอนและทำงานอย่างเงียบ ๆ พัดลมสามารถหมุนได้ 180 องศาในโหมดทาวเวอร์ (Tower Mode) เพื่อขยายสนามการระบายความเย็นได้กว้างขึ้น

    TurboBlade สามารถปรับระดับความสูงได้ และสามารถปรับแขนทั้งสองข้างได้อย่างอิสระ เช่น ให้หนึ่งข้างส่งลมสูงและอีกข้างส่งลมต่ำ นอกจากนี้ พัดลมยังมีขนาดที่กะทัดรัดและสามารถปรับให้เป็นแนวตั้งเพื่อประหยัดพื้นที่เมื่อไม่ได้ใช้งาน

    พัดลมรุ่นนี้มาพร้อมกับโหมด Natural Breeze ที่จะสุ่มการไหลของลมให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนภูเขาลมแรง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าสนใจสำหรับผู้ใช้งาน

    พัดลม Shark TurboBlade เป็นการออกแบบที่น่าทึ่งและน่าสนใจ มันช่วยให้คุณรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย หากคุณมองหาพัดลมที่ไม่เพียงแค่ให้ลมเย็น แต่ยังมีความสามารถในการปรับทิศทางลมได้อย่างหลากหลาย TurboBlade น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ

    https://www.techradar.com/home/air-quality/the-new-shark-fan-can-blast-blades-of-air-in-any-direction-and-its-set-to-make-summer-far-more-bearable
    ผลิตภัณฑ์ใหม่รับหน้าร้อนครับ !!! เมื่อไม่นานมานี้ Shark ได้เปิดตัวพัดลมรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า TurboBlade ซึ่งมีดีไซน์และการทำงานที่ไม่เหมือนใคร ทำให้คุณรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ TurboBlade เป็นพัดลมไร้ใบพัดที่ประกอบด้วยแขนสองข้างที่สามารถส่งลมได้เข้มข้น แขนเหล่านี้สามารถปรับมุมขึ้นและลง และยังสามารถหมุนได้ ทำให้คุณสามารถกำหนดทิศทางลมได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแนวนอนหรือแนวตั้ง มีโหมดการทำงานถึง 10 รูปแบบ เช่น โหมดนอนหลับที่ทำให้เสียงเงียบและแสงหรี่ลง และโหมด AirBlanket ที่ส่งลมกว้างแนวนอนและทำงานอย่างเงียบ ๆ พัดลมสามารถหมุนได้ 180 องศาในโหมดทาวเวอร์ (Tower Mode) เพื่อขยายสนามการระบายความเย็นได้กว้างขึ้น TurboBlade สามารถปรับระดับความสูงได้ และสามารถปรับแขนทั้งสองข้างได้อย่างอิสระ เช่น ให้หนึ่งข้างส่งลมสูงและอีกข้างส่งลมต่ำ นอกจากนี้ พัดลมยังมีขนาดที่กะทัดรัดและสามารถปรับให้เป็นแนวตั้งเพื่อประหยัดพื้นที่เมื่อไม่ได้ใช้งาน พัดลมรุ่นนี้มาพร้อมกับโหมด Natural Breeze ที่จะสุ่มการไหลของลมให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนภูเขาลมแรง ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่หลากหลายและน่าสนใจสำหรับผู้ใช้งาน พัดลม Shark TurboBlade เป็นการออกแบบที่น่าทึ่งและน่าสนใจ มันช่วยให้คุณรู้สึกเย็นสบายในหน้าร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและความสะดวกสบาย หากคุณมองหาพัดลมที่ไม่เพียงแค่ให้ลมเย็น แต่ยังมีความสามารถในการปรับทิศทางลมได้อย่างหลากหลาย TurboBlade น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ https://www.techradar.com/home/air-quality/the-new-shark-fan-can-blast-blades-of-air-in-any-direction-and-its-set-to-make-summer-far-more-bearable
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • Guan Wenhui สมาชิกสภานิติบัญญัติของจีนได้เสนอข้อกฎหมายใหม่ที่ช่วยให้บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนสามารถปกปิดข้อมูลแหล่งที่มาของซัพพลายเออร์ต่างประเทศได้ การเสนอแก้ไขครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ ที่ทำให้จีนมีความยากลำบากในการเข้าถึงโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัย ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือในการผลิตชิป

    Guan ซึ่งเป็นผู้แทนจาก National People’s Congress แนะนำว่าบริษัทที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำไม่ควรต้องเปิดเผยแหล่งซัพพลายเออร์ในการเสนอราคาสาธารณะ การทำเช่นนี้จะช่วยลดแรงกดดันที่อาจทำให้ซัพพลายเออร์ต่างประเทศต้องตัดสัมพันธ์กับผู้ซื้อชาวจีน และทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยังคงมีอยู่

    บริษัทจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ได้ใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การลักลอบนำเข้าสินค้าจากประเทศที่สามเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่ต้องการ ข้อกฎหมายใหม่นี้จะทำให้การตรวจสอบและการระบุส่วนประกอบของซัพพลายเออร์ต่างประเทศยากยิ่งขึ้นสำหรับนักวิเคราะห์ ผู้สังเกตการณ์ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล

    แม้ว่าข้อเสนอจาก NPC อาจไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายในทันที แต่ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในลำดับความสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ความคิดเห็นของ Guan ยังบ่งชี้ว่าจีนกำลังมองหาวิธีการที่จะรักษาการเข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกขณะลดการเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ การผลักดันนวัตกรรมภายในประเทศยังเป็นเป้าหมายสำคัญที่จีนให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-lawmaker-proposes-law-to-allow-chinese-companies-to-hide-their-foreign-suppliers
    Guan Wenhui สมาชิกสภานิติบัญญัติของจีนได้เสนอข้อกฎหมายใหม่ที่ช่วยให้บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนสามารถปกปิดข้อมูลแหล่งที่มาของซัพพลายเออร์ต่างประเทศได้ การเสนอแก้ไขครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ ที่ทำให้จีนมีความยากลำบากในการเข้าถึงโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัย ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือในการผลิตชิป Guan ซึ่งเป็นผู้แทนจาก National People’s Congress แนะนำว่าบริษัทที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำไม่ควรต้องเปิดเผยแหล่งซัพพลายเออร์ในการเสนอราคาสาธารณะ การทำเช่นนี้จะช่วยลดแรงกดดันที่อาจทำให้ซัพพลายเออร์ต่างประเทศต้องตัดสัมพันธ์กับผู้ซื้อชาวจีน และทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยังคงมีอยู่ บริษัทจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ได้ใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การลักลอบนำเข้าสินค้าจากประเทศที่สามเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่ต้องการ ข้อกฎหมายใหม่นี้จะทำให้การตรวจสอบและการระบุส่วนประกอบของซัพพลายเออร์ต่างประเทศยากยิ่งขึ้นสำหรับนักวิเคราะห์ ผู้สังเกตการณ์ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล แม้ว่าข้อเสนอจาก NPC อาจไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายในทันที แต่ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในลำดับความสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ความคิดเห็นของ Guan ยังบ่งชี้ว่าจีนกำลังมองหาวิธีการที่จะรักษาการเข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกขณะลดการเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ การผลักดันนวัตกรรมภายในประเทศยังเป็นเป้าหมายสำคัญที่จีนให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-lawmaker-proposes-law-to-allow-chinese-companies-to-hide-their-foreign-suppliers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้ว่า Google Chrome จะถือครองตลาดเบราว์เซอร์อยู่ถึง 67% ในเดือนมกราคม 2025 แต่ก็มี AI startups หลายรายที่เริ่มพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่เพื่อล้มแชมป์คนเดิม เช่น Perplexity ซึ่งเป็น AI-powered search engine กำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ที่ชื่อว่า Comet คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ Perplexity เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการใช้บริการถึง 100 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนเงินทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์จาก Nvidia และ Jeff Bezos ทำให้มูลค่าของบริษัทสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์

    OpenAI ก็เป็นอีกหนึ่งผู้พัฒนาที่กำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ที่มี AI เป็นส่วนหนึ่งของการใช้งาน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะดึงดูดผู้ใช้อยู่ในแอปพลิเคชัน ChatGPT โดยการรวมความสามารถในการค้นหาเว็บเข้าไปด้วย

    Google เองก็ไม่ยอมแพ้ โดยได้แอบเพิ่ม Gemini AI เข้ามาใน Chrome เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Gemini ได้โดยพิมพ์ @gemini ในช่องค้นหาในเบราว์เซอร์ ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างธีมใหม่ด้วย AI เปลี่ยนภาพพื้นหลังการค้นหา และให้ข้อมูลรวมจากหลายแท็บผ่านการวิเคราะห์ของ AI

    อย่างไรก็ตาม Google กำลังเผชิญกับปัญหาทางกฎหมาย บริษัทได้รับคำตัดสินว่าผิดในคดีผูกขาดการค้นหาและกำลังรอคำตัดสินเกี่ยวกับการแยกบริษัทออกเป็นส่วนๆ ซึ่งจะบังคับให้ Alphabet ต้องขาย Chrome ออกไป คาดว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลาหลายปี

    การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับ startups ที่มีทุนสนับสนุนมากมายที่เล็งเห็นถึงช่องทางที่อาจเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Google ด้วยการใช้นวัตกรรม AI ที่ทันสมัยและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น

    แม้ว่า Google Chrome จะยังครองตำแหน่งผู้นำในตลาดเบราว์เซอร์ แต่การเปลี่ยนแปลงในตลาดนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้และมีแนวโน้มว่าผู้แข่งขันรายใหม่ที่มีเทคโนโลยี AI อาจเข้ามาท้าทายตลาดในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/can-ai-startups-dethrone-google-chrome-in-the-web-browser-wars
    แม้ว่า Google Chrome จะถือครองตลาดเบราว์เซอร์อยู่ถึง 67% ในเดือนมกราคม 2025 แต่ก็มี AI startups หลายรายที่เริ่มพัฒนาเบราว์เซอร์ใหม่เพื่อล้มแชมป์คนเดิม เช่น Perplexity ซึ่งเป็น AI-powered search engine กำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ที่ชื่อว่า Comet คาดว่าจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ Perplexity เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการใช้บริการถึง 100 ล้านครั้งต่อสัปดาห์ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนเงินทุนกว่า 500 ล้านดอลลาร์จาก Nvidia และ Jeff Bezos ทำให้มูลค่าของบริษัทสูงถึง 9 พันล้านดอลลาร์ OpenAI ก็เป็นอีกหนึ่งผู้พัฒนาที่กำลังพัฒนาเบราว์เซอร์ที่มี AI เป็นส่วนหนึ่งของการใช้งาน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะดึงดูดผู้ใช้อยู่ในแอปพลิเคชัน ChatGPT โดยการรวมความสามารถในการค้นหาเว็บเข้าไปด้วย Google เองก็ไม่ยอมแพ้ โดยได้แอบเพิ่ม Gemini AI เข้ามาใน Chrome เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้ใช้สามารถเข้าถึง Gemini ได้โดยพิมพ์ @gemini ในช่องค้นหาในเบราว์เซอร์ ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างธีมใหม่ด้วย AI เปลี่ยนภาพพื้นหลังการค้นหา และให้ข้อมูลรวมจากหลายแท็บผ่านการวิเคราะห์ของ AI อย่างไรก็ตาม Google กำลังเผชิญกับปัญหาทางกฎหมาย บริษัทได้รับคำตัดสินว่าผิดในคดีผูกขาดการค้นหาและกำลังรอคำตัดสินเกี่ยวกับการแยกบริษัทออกเป็นส่วนๆ ซึ่งจะบังคับให้ Alphabet ต้องขาย Chrome ออกไป คาดว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลาหลายปี การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นโอกาสสำคัญสำหรับ startups ที่มีทุนสนับสนุนมากมายที่เล็งเห็นถึงช่องทางที่อาจเข้ามาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Google ด้วยการใช้นวัตกรรม AI ที่ทันสมัยและสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่า Google Chrome จะยังครองตำแหน่งผู้นำในตลาดเบราว์เซอร์ แต่การเปลี่ยนแปลงในตลาดนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้และมีแนวโน้มว่าผู้แข่งขันรายใหม่ที่มีเทคโนโลยี AI อาจเข้ามาท้าทายตลาดในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/can-ai-startups-dethrone-google-chrome-in-the-web-browser-wars
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Can AI startups dethrone Google Chrome in the web browser wars?
    Google Chrome has been the dominant web browser for more than a decade. But it will soon have competition from AI companies like OpenAI and Perplexity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักตรวจการธนาคารสหรัฐฯ (OCC) ประกาศว่า ธนาคารในสหรัฐฯ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตบางประเภทได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากผู้กำกับดูแล การประกาศนี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและช่วยให้การดำเนินการธนาคารมีความชัดเจนและมั่นคง

    ธนาคารสามารถเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตได้ เช่น การเก็บรักษาทรัพย์สินคริปโต (crypto-asset custody) การทำกิจกรรมกับ stablecoin และการเข้าร่วมในเครือข่ายบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (distributed ledger networks) นอกจากนี้ การประกาศนี้ยกเลิกแนวทางที่เคยกำหนดให้ธนาคารต้องแสดงความพร้อมในการจัดการความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต

    Rodney Hood ผู้ตรวจการธนาคารสหรัฐฯ กล่าวว่า แนวทางใหม่นี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต และทำให้การดำเนินงานของธนาคารมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

    การประกาศในครั้งนี้มีการยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลที่ออกในยุคประธานาธิบดี Joe Biden ที่กำหนดให้ธนาคารต้องรายงานการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและแสดงวิธีการจัดการความเสี่ยงก่อน โดยทาง OCC ยังได้ถอนตัวจากแถลงการณ์ร่วมกับผู้กำกับดูแลของสหรัฐฯ ที่เคยเตือนธนาคารเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต เช่น ความผันผวนที่สูงของตลาดคริปโต

    การประกาศนี้มีผลให้ธนาคารมีความคล่องตัวในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตมากขึ้น และลดความยุ่งยากในการดำเนินการ แต่ยังคงต้องมีมาตรการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลให้ธนาคารสามารถนำนวัตกรรมทางการเงินเข้ามาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น

    การประกาศนี้เกิดขึ้นในวันที่ทำเนียบขาวจัดการประชุมสุดยอดคริปโต และประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารสร้างทุนสำรองเชิงกลยุทธ์สำหรับบิตคอยน์และคริปโตอื่น ๆ การยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลเก่าช่วยเพิ่มความมั่นใจในตลาดคริปโต ซึ่งเป็นผลดีต่อนักลงทุนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/us-bank-regulator-reaffirms-banks-can-engage-in-some-crypto-activities
    สำนักตรวจการธนาคารสหรัฐฯ (OCC) ประกาศว่า ธนาคารในสหรัฐฯ สามารถเข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโตบางประเภทได้ โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากผู้กำกับดูแล การประกาศนี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและช่วยให้การดำเนินการธนาคารมีความชัดเจนและมั่นคง ธนาคารสามารถเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตได้ เช่น การเก็บรักษาทรัพย์สินคริปโต (crypto-asset custody) การทำกิจกรรมกับ stablecoin และการเข้าร่วมในเครือข่ายบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย (distributed ledger networks) นอกจากนี้ การประกาศนี้ยกเลิกแนวทางที่เคยกำหนดให้ธนาคารต้องแสดงความพร้อมในการจัดการความเสี่ยงก่อนเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต Rodney Hood ผู้ตรวจการธนาคารสหรัฐฯ กล่าวว่า แนวทางใหม่นี้ช่วยลดภาระของธนาคารในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต และทำให้การดำเนินงานของธนาคารมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย การประกาศในครั้งนี้มีการยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลที่ออกในยุคประธานาธิบดี Joe Biden ที่กำหนดให้ธนาคารต้องรายงานการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตและแสดงวิธีการจัดการความเสี่ยงก่อน โดยทาง OCC ยังได้ถอนตัวจากแถลงการณ์ร่วมกับผู้กำกับดูแลของสหรัฐฯ ที่เคยเตือนธนาคารเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโต เช่น ความผันผวนที่สูงของตลาดคริปโต การประกาศนี้มีผลให้ธนาคารมีความคล่องตัวในการเข้าร่วมกิจกรรมคริปโตมากขึ้น และลดความยุ่งยากในการดำเนินการ แต่ยังคงต้องมีมาตรการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลให้ธนาคารสามารถนำนวัตกรรมทางการเงินเข้ามาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น การประกาศนี้เกิดขึ้นในวันที่ทำเนียบขาวจัดการประชุมสุดยอดคริปโต และประธานาธิบดี Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารสร้างทุนสำรองเชิงกลยุทธ์สำหรับบิตคอยน์และคริปโตอื่น ๆ การยกเลิกแนวทางการกำกับดูแลเก่าช่วยเพิ่มความมั่นใจในตลาดคริปโต ซึ่งเป็นผลดีต่อนักลงทุนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/08/us-bank-regulator-reaffirms-banks-can-engage-in-some-crypto-activities
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US regulator clears path for banks to engage in some crypto activities
    WASHINGTON (Reuters) -The U.S. regulator overseeing national banks clarified Friday that banks can engage in some crypto activities, and removed expectations firms should receive advance permission from regulators before doing so.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกนิตยสารThe Economist ความช่วยเหลือจากต่างประเทศอาจจะขุดหลุมฝังUSAID การล่มสลายของความช่วยเหลือ econ.st/41rhhXC
    ปกนิตยสารThe Economist ความช่วยเหลือจากต่างประเทศอาจจะขุดหลุมฝังUSAID การล่มสลายของความช่วยเหลือ econ.st/41rhhXC
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถูกขู่ยุ่งคดี "แตงโม" โทร-ข้อความ-ส่งมีดถึงบ้าน : [THE MESSAGE]

    แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ อดีตนักแสดง และอดีตแฟนของ แตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้ให้ข้อมูลชีวิตส่วนตัวของ แตงโม ซึ่งคิดว่ามีมุมที่เจ้าหน้าที่สามารถนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เพราะแตงโมเคยปรึกษาเรื่องต่างๆ ในชีวิต ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของคนบนเรือ แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของแตงโม ที่คิดว่าดีเอสไอควรรับรู้ ยอมรับที่ผ่านมาถูกข่มขู่ทั้งโทรศัพท์และส่งข้อความในลักษณะไม่ให้ยุ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ให้พูดอะไรถึงแตงโม พอจะรู้ใครเป็นคนข่มขู่ เคยมีคนส่งมีดมาที่บ้านตนด้วย เป็นมีดใหม่สั่งจากร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งได้สอบถามร้านว่า ใครเป็นคนสั่งซื้อและส่งมา แต่ที่ร้านไม่ยอมบอก เชื่อคนอยู่เบื้องหลังไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียว และเชื่อระหว่างการสืบสวนต้องมีเรื่องใต้ดินเพราะมีคนทำผิด
    ถูกขู่ยุ่งคดี "แตงโม" โทร-ข้อความ-ส่งมีดถึงบ้าน : [THE MESSAGE] แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ อดีตนักแสดง และอดีตแฟนของ แตงโม นิดา ให้ข้อมูลคดีการเสียชีวิตของแตงโมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ได้ให้ข้อมูลชีวิตส่วนตัวของ แตงโม ซึ่งคิดว่ามีมุมที่เจ้าหน้าที่สามารถนำไปเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เพราะแตงโมเคยปรึกษาเรื่องต่างๆ ในชีวิต ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของคนบนเรือ แต่เป็นเรื่องส่วนตัวของแตงโม ที่คิดว่าดีเอสไอควรรับรู้ ยอมรับที่ผ่านมาถูกข่มขู่ทั้งโทรศัพท์และส่งข้อความในลักษณะไม่ให้ยุ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ให้พูดอะไรถึงแตงโม พอจะรู้ใครเป็นคนข่มขู่ เคยมีคนส่งมีดมาที่บ้านตนด้วย เป็นมีดใหม่สั่งจากร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งได้สอบถามร้านว่า ใครเป็นคนสั่งซื้อและส่งมา แต่ที่ร้านไม่ยอมบอก เชื่อคนอยู่เบื้องหลังไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียว และเชื่อระหว่างการสืบสวนต้องมีเรื่องใต้ดินเพราะมีคนทำผิด
    Like
    Sad
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 828 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • The diorama landscape artwork piece reference to the Himeji Castle (姫路城), Japan.
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    The diorama landscape artwork piece reference to the Himeji Castle (姫路城), Japan. #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micron ได้เผยต้นแบบ SSD PCIe 6.x รุ่นล่าสุดในงาน DesignCon 2025 ซึ่งกลายเป็นฮาร์ดไดรฟ์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วในการอ่านข้อมูลแบบลำดับสูงถึง 27GB/s นี่ถือว่าเร็วกว่า PCIe 5.0 SSD ที่เร็วที่สุดในปัจจุบันถึงสองเท่าเลยทีเดียว!

    ความสำเร็จนี้ได้รับการสนับสนุนโดย Astera Labs’ Scorpio P-Series Fabric Switch ซึ่งทำให้ SSD สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยจัดเก็บข้อมูล (storage), โปรเซสเซอร์, และ GPU ได้อย่างราบรื่นแบบไร้รอยต่อ ตัวอย่างในงานยังใช้เทคโนโลยี NVIDIA Magnum IO GPUDirect Storage เพื่อเปิดทางลัดการส่งข้อมูลระหว่าง SSD และ GPU โดยไม่ต้องผ่าน CPU ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วได้อย่างมาก

    == ข้อดีของ PCIe 6.x ==
    - แบนด์วิธสูง: PCIe 6.x มีแบนด์วิธแบบสองทางสูงถึง 256GB/s เมื่อใช้งานในโหมด x16 lane ทำให้ลดปัญหาคอขวดในงานด้าน AI และคลาวด์ที่ต้องการการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก
    - ศักยภาพในอนาคต: เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงขึ้นในงานที่ซับซ้อน เช่น การฝึกสอน AI และการทำงานเชิงวิเคราะห์ข้อมูล

    แม้ว่าต้นแบบ SSD PCIe 6.x จะแสดงศักยภาพที่น่าประทับใจ แต่ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะออกสู่ตลาด เนื่องจากอุตสาหกรรมยังต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้อง เช่น CPU, GPU, และอินเตอร์เฟซเครือข่ายที่รองรับการทำงานของ PCIe 6.x

    https://www.techradar.com/pro/micron-just-demoed-the-worlds-fastest-ssd-with-pcie-6-x-tech-a-sequential-read-speed-of-27gb-s-and-yes-its-just-a-prototype-for-now
    Micron ได้เผยต้นแบบ SSD PCIe 6.x รุ่นล่าสุดในงาน DesignCon 2025 ซึ่งกลายเป็นฮาร์ดไดรฟ์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วในการอ่านข้อมูลแบบลำดับสูงถึง 27GB/s นี่ถือว่าเร็วกว่า PCIe 5.0 SSD ที่เร็วที่สุดในปัจจุบันถึงสองเท่าเลยทีเดียว! ความสำเร็จนี้ได้รับการสนับสนุนโดย Astera Labs’ Scorpio P-Series Fabric Switch ซึ่งทำให้ SSD สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยจัดเก็บข้อมูล (storage), โปรเซสเซอร์, และ GPU ได้อย่างราบรื่นแบบไร้รอยต่อ ตัวอย่างในงานยังใช้เทคโนโลยี NVIDIA Magnum IO GPUDirect Storage เพื่อเปิดทางลัดการส่งข้อมูลระหว่าง SSD และ GPU โดยไม่ต้องผ่าน CPU ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วได้อย่างมาก == ข้อดีของ PCIe 6.x == - แบนด์วิธสูง: PCIe 6.x มีแบนด์วิธแบบสองทางสูงถึง 256GB/s เมื่อใช้งานในโหมด x16 lane ทำให้ลดปัญหาคอขวดในงานด้าน AI และคลาวด์ที่ต้องการการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก - ศักยภาพในอนาคต: เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงขึ้นในงานที่ซับซ้อน เช่น การฝึกสอน AI และการทำงานเชิงวิเคราะห์ข้อมูล แม้ว่าต้นแบบ SSD PCIe 6.x จะแสดงศักยภาพที่น่าประทับใจ แต่ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะออกสู่ตลาด เนื่องจากอุตสาหกรรมยังต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดคล้อง เช่น CPU, GPU, และอินเตอร์เฟซเครือข่ายที่รองรับการทำงานของ PCIe 6.x https://www.techradar.com/pro/micron-just-demoed-the-worlds-fastest-ssd-with-pcie-6-x-tech-a-sequential-read-speed-of-27gb-s-and-yes-its-just-a-prototype-for-now
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมนักวิจัยจาก Nisos ได้เผยแพร่รายงานที่น่าตกใจเกี่ยวกับเครือข่ายของแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่กำลังปลอมแปลงตัวตนเพื่อสมัครงานในบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งในเอเชียและตะวันตก การกระทำนี้มุ่งเน้นหารายได้เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือ

    วิธีการที่แฮกเกอร์ใช้
    1) สร้างตัวตนปลอม: แฮกเกอร์ใช้ GitHub และเนื้อหาผลงานจากบัญชีเก่าเพื่อสร้างโปรไฟล์ที่ดูเหมือนจริง
    2) เทคนิคการปลอมแปลง: ใช้รูปภาพที่ผ่านการตัดต่อ (Photoshop) และโปรไฟล์ที่ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าสงสัย
    3) การสมัครงานในบริษัทเล็ก: เป้าหมายคือบริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ทำให้ง่ายต่อการแทรกซึมข้อมูล

    การจ้างงานช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบภายในของบริษัท เป้าหมายไม่เพียงแค่ขโมยข้อมูลที่สำคัญ แต่ยังรวมถึงเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮกเกอร์กลุ่มนี้มุ่งเน้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีประวัติการโจรกรรมครั้งใหญ่ในวงการนี้

    แม้จะไม่สามารถระบุตัวตนได้แน่นอน แต่พฤติกรรมและรูปแบบการโจมตีที่แสดงออกมามีลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ และเคยเกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยมัลแวร์และการสร้างบริษัทปลอมเพื่อหลอกลวงนักพัฒนาซอฟต์แวร์

    การป้องกันและข้อควรรู้
    ผู้ว่าจ้างควรระวังข้อมูลที่ดูผิดปกติในโปรไฟล์ผู้สมัคร เช่น:
    - การใช้รูปภาพที่ดูไม่สมจริง
    - ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย หรืออีเมลที่คล้ายคลึงกันทั้งหมด
    - พิจารณาการตรวจสอบประวัติผู้สมัครอย่างละเอียด

    เรื่องนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความซับซ้อนในโลกไซเบอร์ แต่ยังเตือนให้บริษัทในวงการเทคโนโลยีเพิ่มการตรวจสอบและตื่นตัวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อ

    https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-job-hackers-are-going-the-extra-mile-to-make-sure-their-scams-seem-legit
    ทีมนักวิจัยจาก Nisos ได้เผยแพร่รายงานที่น่าตกใจเกี่ยวกับเครือข่ายของแฮกเกอร์จากเกาหลีเหนือที่กำลังปลอมแปลงตัวตนเพื่อสมัครงานในบริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ทั้งในเอเชียและตะวันตก การกระทำนี้มุ่งเน้นหารายได้เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือ วิธีการที่แฮกเกอร์ใช้ 1) สร้างตัวตนปลอม: แฮกเกอร์ใช้ GitHub และเนื้อหาผลงานจากบัญชีเก่าเพื่อสร้างโปรไฟล์ที่ดูเหมือนจริง 2) เทคนิคการปลอมแปลง: ใช้รูปภาพที่ผ่านการตัดต่อ (Photoshop) และโปรไฟล์ที่ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าสงสัย 3) การสมัครงานในบริษัทเล็ก: เป้าหมายคือบริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน ทำให้ง่ายต่อการแทรกซึมข้อมูล การจ้างงานช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบภายในของบริษัท เป้าหมายไม่เพียงแค่ขโมยข้อมูลที่สำคัญ แต่ยังรวมถึงเงินทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แฮกเกอร์กลุ่มนี้มุ่งเน้นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนและคริปโตเคอเรนซี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีประวัติการโจรกรรมครั้งใหญ่ในวงการนี้ แม้จะไม่สามารถระบุตัวตนได้แน่นอน แต่พฤติกรรมและรูปแบบการโจมตีที่แสดงออกมามีลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่ม Lazarus ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ และเคยเกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยมัลแวร์และการสร้างบริษัทปลอมเพื่อหลอกลวงนักพัฒนาซอฟต์แวร์ การป้องกันและข้อควรรู้ ผู้ว่าจ้างควรระวังข้อมูลที่ดูผิดปกติในโปรไฟล์ผู้สมัคร เช่น: - การใช้รูปภาพที่ดูไม่สมจริง - ไม่มีบัญชีโซเชียลมีเดีย หรืออีเมลที่คล้ายคลึงกันทั้งหมด - พิจารณาการตรวจสอบประวัติผู้สมัครอย่างละเอียด เรื่องนี้ไม่เพียงแค่สะท้อนถึงความซับซ้อนในโลกไซเบอร์ แต่ยังเตือนให้บริษัทในวงการเทคโนโลยีเพิ่มการตรวจสอบและตื่นตัวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกเมื่อ https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-job-hackers-are-going-the-extra-mile-to-make-sure-their-scams-seem-legit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานที่ระบุว่า GPU ของ Nvidia ในกลุ่ม RTX 50 Series สำหรับแล็ปท็อป อาจประสบปัญหาการขาดหน่วยประมวลผล ROPs (Render Output Units) ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการแสดงผลเช่นเดียวกับปัญหาที่พบใน GPU สำหรับเดสก์ท็อปในซีรีส์เดียวกัน อย่างไรก็ตาม Nvidia ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันผ่านการตอบคำถามของสำนักข่าว The Verge ว่า GPU สำหรับแล็ปท็อปไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้

    ROPs (Render Output Units) เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการเรนเดอร์กราฟิก โดยช่วยในการประมวลผลภาพขั้นสุดท้ายก่อนแสดงผลบนหน้าจอ หาก GPU มีจำนวน ROPs น้อยกว่าที่ควร ระบบอาจแสดงผลช้าลงและลดประสิทธิภาพโดยรวมของ GPU ลงได้ถึง 11% ตามที่มีการทดสอบใน TimeSpy

    ข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า Nvidia ได้ร้องขอให้ผู้ผลิตแล็ปท็อปในภูมิภาคเอเชียตรวจสอบอุปกรณ์ที่อาจมี GPU ที่ประสบปัญหาดังกล่าว โดยผู้ผลิตบางรายรายงานว่าปัญหานี้ส่งผลกระทบเพียง "ล็อตแรก" ของการผลิต อย่างไรก็ตาม Nvidia ยืนยันว่าสถานการณ์นี้ไม่มีผลกับ GPU ของแล็ปท็อปในซีรีส์ RTX 50 อีกต่อไปแล้ว หรือหากเคยมีปัญหาก็อาจได้รับการแก้ไขแล้วก่อนที่ข่าวจะแพร่ออกไป

    แม้ว่าปัญหาเรื่อง ROPs จะถูกปฏิเสธโดย Nvidia แต่ GPU ในซีรีส์ RTX 50 ยังคงประสบปัญหาในด้านซัพพลายเชนที่ส่งผลให้การเปิดตัวอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ต้องถูกเลื่อนจากมกราคมเป็นมีนาคม และรุ่นกลางและล่างถูกเลื่อนจากมีนาคมไปเป็นเมษายน

    ปัญหาที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นกับ RTX 5090 และ RTX 5080 ซึ่ง Nvidia ยืนยันว่ามีหน่วย ROPs น้อยกว่าที่โฆษณาไว้ โดยเรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่บ่งบอกถึงความซับซ้อนในกระบวนการผลิต GPU และความสำคัญของการตรวจสอบคุณภาพก่อนการจัดจำหน่าย

    ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือไม่ในอดีต Nvidia ยังคงเผชิญกับความท้าทายในซัพพลายเชนและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในซีรีส์ RTX 50 การจัดการที่ดีและโปร่งใสสามารถช่วยลดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทได้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-denies-allegations-that-laptop-rtx-50-gpus-are-also-missing-rops
    มีรายงานที่ระบุว่า GPU ของ Nvidia ในกลุ่ม RTX 50 Series สำหรับแล็ปท็อป อาจประสบปัญหาการขาดหน่วยประมวลผล ROPs (Render Output Units) ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการแสดงผลเช่นเดียวกับปัญหาที่พบใน GPU สำหรับเดสก์ท็อปในซีรีส์เดียวกัน อย่างไรก็ตาม Nvidia ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันผ่านการตอบคำถามของสำนักข่าว The Verge ว่า GPU สำหรับแล็ปท็อปไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ ROPs (Render Output Units) เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการเรนเดอร์กราฟิก โดยช่วยในการประมวลผลภาพขั้นสุดท้ายก่อนแสดงผลบนหน้าจอ หาก GPU มีจำนวน ROPs น้อยกว่าที่ควร ระบบอาจแสดงผลช้าลงและลดประสิทธิภาพโดยรวมของ GPU ลงได้ถึง 11% ตามที่มีการทดสอบใน TimeSpy ข่าวก่อนหน้านี้ระบุว่า Nvidia ได้ร้องขอให้ผู้ผลิตแล็ปท็อปในภูมิภาคเอเชียตรวจสอบอุปกรณ์ที่อาจมี GPU ที่ประสบปัญหาดังกล่าว โดยผู้ผลิตบางรายรายงานว่าปัญหานี้ส่งผลกระทบเพียง "ล็อตแรก" ของการผลิต อย่างไรก็ตาม Nvidia ยืนยันว่าสถานการณ์นี้ไม่มีผลกับ GPU ของแล็ปท็อปในซีรีส์ RTX 50 อีกต่อไปแล้ว หรือหากเคยมีปัญหาก็อาจได้รับการแก้ไขแล้วก่อนที่ข่าวจะแพร่ออกไป แม้ว่าปัญหาเรื่อง ROPs จะถูกปฏิเสธโดย Nvidia แต่ GPU ในซีรีส์ RTX 50 ยังคงประสบปัญหาในด้านซัพพลายเชนที่ส่งผลให้การเปิดตัวอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ต้องถูกเลื่อนจากมกราคมเป็นมีนาคม และรุ่นกลางและล่างถูกเลื่อนจากมีนาคมไปเป็นเมษายน ปัญหาที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้นกับ RTX 5090 และ RTX 5080 ซึ่ง Nvidia ยืนยันว่ามีหน่วย ROPs น้อยกว่าที่โฆษณาไว้ โดยเรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่บ่งบอกถึงความซับซ้อนในกระบวนการผลิต GPU และความสำคัญของการตรวจสอบคุณภาพก่อนการจัดจำหน่าย ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือไม่ในอดีต Nvidia ยังคงเผชิญกับความท้าทายในซัพพลายเชนและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในซีรีส์ RTX 50 การจัดการที่ดีและโปร่งใสสามารถช่วยลดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทได้ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-denies-allegations-that-laptop-rtx-50-gpus-are-also-missing-rops
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia denies allegations that laptop RTX 50 GPUs are also missing ROPs
    Nvidia claims laptop Blackwell GPUs are not affected by the missing ROPs problem seen on its latest desktop cards.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตชิปชั้นนำของโลก ได้แถลงแผนการในอนาคตที่แสดงให้เห็นถึงการรักษาความร่วมมือกับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) แม้ว่า Intel กำลังมุ่งเน้นการพัฒนาสายการผลิตของตนเองโดยเฉพาะในเทคโนโลยีล่าสุดที่เรียกว่า 18A fabrication technology

    John Pitzer รองประธานฝ่ายวางแผนและนักลงทุนสัมพันธ์ของ Intel ระบุว่า การทำงานร่วมกับ TSMC ช่วยสร้างการแข่งขันที่ดีระหว่าง TSMC และโรงงานผลิตชิปภายในของ Intel (Intel Foundry) ซึ่งในระยะยาวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แม้ว่า Intel จะผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นสำคัญในโรงงานของตนเอง แต่ชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นเก่าหรือที่เฉพาะเจาะจง เช่น ชิปควบคุมที่มีมูลค่า 10–15 ดอลลาร์ จะยังคงผลิตกับ TSMC เนื่องจาก Intel ไม่มีสายการผลิตสำหรับเทคโนโลยีเหล่านี้

    เดิม Intel มีเป้าหมายลดการพึ่งพา TSMC ให้เป็นศูนย์ แต่เปลี่ยนแผนในช่วงปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าลดการผลิตภายนอกให้อยู่ระหว่าง 15-20% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดแทนที่จะยุติความร่วมมืออย่างสิ้นเชิง

    Intel มีแผนจะใช้โรงงาน Fab 52 และ Fab 62 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ สำหรับการผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ 'Panther Lake' ที่ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้า และคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท เนื่องจากลดการพึ่งพาโรงงานภายนอก

    การคงความร่วมมือกับ TSMC สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ Intel ในการปรับตัวให้เหมาะกับตลาดที่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าบริษัทจะมุ่งมั่นพัฒนาสายการผลิตภายใน แต่การทำงานร่วมกับ TSMC ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโต นอกจากนี้ ยังแสดงถึงความสำคัญของการมีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-will-keep-using-tsmcs-services-even-when-18a-is-ramped-up-it-is-a-good-supplier
    Intel ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทผลิตชิปชั้นนำของโลก ได้แถลงแผนการในอนาคตที่แสดงให้เห็นถึงการรักษาความร่วมมือกับ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) แม้ว่า Intel กำลังมุ่งเน้นการพัฒนาสายการผลิตของตนเองโดยเฉพาะในเทคโนโลยีล่าสุดที่เรียกว่า 18A fabrication technology John Pitzer รองประธานฝ่ายวางแผนและนักลงทุนสัมพันธ์ของ Intel ระบุว่า การทำงานร่วมกับ TSMC ช่วยสร้างการแข่งขันที่ดีระหว่าง TSMC และโรงงานผลิตชิปภายในของ Intel (Intel Foundry) ซึ่งในระยะยาวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แม้ว่า Intel จะผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นสำคัญในโรงงานของตนเอง แต่ชิ้นส่วนที่ใช้เทคโนโลยีรุ่นเก่าหรือที่เฉพาะเจาะจง เช่น ชิปควบคุมที่มีมูลค่า 10–15 ดอลลาร์ จะยังคงผลิตกับ TSMC เนื่องจาก Intel ไม่มีสายการผลิตสำหรับเทคโนโลยีเหล่านี้ เดิม Intel มีเป้าหมายลดการพึ่งพา TSMC ให้เป็นศูนย์ แต่เปลี่ยนแผนในช่วงปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าลดการผลิตภายนอกให้อยู่ระหว่าง 15-20% ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดแทนที่จะยุติความร่วมมืออย่างสิ้นเชิง Intel มีแผนจะใช้โรงงาน Fab 52 และ Fab 62 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐฯ สำหรับการผลิตโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ 'Panther Lake' ที่ใช้เทคโนโลยี 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ล้ำหน้า และคาดว่าจะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัท เนื่องจากลดการพึ่งพาโรงงานภายนอก การคงความร่วมมือกับ TSMC สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของ Intel ในการปรับตัวให้เหมาะกับตลาดที่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าบริษัทจะมุ่งมั่นพัฒนาสายการผลิตภายใน แต่การทำงานร่วมกับ TSMC ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสการเติบโต นอกจากนี้ ยังแสดงถึงความสำคัญของการมีซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-will-keep-using-tsmcs-services-even-when-18a-is-ramped-up-it-is-a-good-supplier
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel will keep using TSMC's services even when 18A is ramped up: 'It is a good supplier'
    The question is, what percentage of Intel's products will be outsourced?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • Brother ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ชื่อดัง ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเฟิร์มแวร์ (firmware) ของเครื่องพิมพ์ของตนออกแบบมาเพื่อปิดกั้นการใช้หมึกและตลับโทนเนอร์จากผู้ผลิตรายอื่น Louis Rossmann ผู้สร้างเนื้อหาบน YouTube ได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ Brother และกล่าวว่า Brother อาจใช้นโยบายที่จำกัดการใช้งานเครื่องพิมพ์เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์

    Brother ชี้แจงอย่างหนักแน่นว่า การอัปเดตเฟิร์มแวร์ไม่ได้มีเจตนาที่จะบล็อกการใช้งานหมึกหรือตลับโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของ Brother โดยให้เหตุผลว่า หากเครื่องพิมพ์แสดงข้อความเกี่ยวกับการตรวจสอบ "Brother Genuine" นั้นเป็นเพียงกระบวนการแก้ไขปัญหาในอุปกรณ์ ไม่ใช่การบังคับให้ใช้เฉพาะหมึกของ Brother

    นอกจากนี้ Brother ยังระบุว่า คุณภาพของตลับหมึกที่ไม่ใช่ของ Brother อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจผิดว่าการพิมพ์มีคุณภาพต่ำ เนื่องจากไม่สามารถการันตีคุณภาพเมื่อใช้หมึกจากผู้ผลิตรายอื่นได้

    ผู้ใช้งานหลายคนรู้สึกว่ากระบวนการ "Brother Genuine Check" มีความกดดัน เนื่องจากมีการร้องขอให้เปลี่ยนไปใช้หมึกที่ได้รับการรับรองของ Brother ในสถานการณ์ที่ต้องการการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม Brother ได้ยืนยันว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องพิมพ์โดยตรง

    สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายของผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ในการสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของตนเองและการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น หาก Brother สามารถสร้างมาตรฐานที่ชัดเจนและโปร่งใส อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน

    https://www.tomshardware.com/peripherals/printers/brother-denies-firmware-blocks-third-party-toner-and-ink-use
    Brother ผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ชื่อดัง ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าเฟิร์มแวร์ (firmware) ของเครื่องพิมพ์ของตนออกแบบมาเพื่อปิดกั้นการใช้หมึกและตลับโทนเนอร์จากผู้ผลิตรายอื่น Louis Rossmann ผู้สร้างเนื้อหาบน YouTube ได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของ Brother และกล่าวว่า Brother อาจใช้นโยบายที่จำกัดการใช้งานเครื่องพิมพ์เพื่อประโยชน์เชิงพาณิชย์ Brother ชี้แจงอย่างหนักแน่นว่า การอัปเดตเฟิร์มแวร์ไม่ได้มีเจตนาที่จะบล็อกการใช้งานหมึกหรือตลับโทนเนอร์ที่ไม่ใช่ของ Brother โดยให้เหตุผลว่า หากเครื่องพิมพ์แสดงข้อความเกี่ยวกับการตรวจสอบ "Brother Genuine" นั้นเป็นเพียงกระบวนการแก้ไขปัญหาในอุปกรณ์ ไม่ใช่การบังคับให้ใช้เฉพาะหมึกของ Brother นอกจากนี้ Brother ยังระบุว่า คุณภาพของตลับหมึกที่ไม่ใช่ของ Brother อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจผิดว่าการพิมพ์มีคุณภาพต่ำ เนื่องจากไม่สามารถการันตีคุณภาพเมื่อใช้หมึกจากผู้ผลิตรายอื่นได้ ผู้ใช้งานหลายคนรู้สึกว่ากระบวนการ "Brother Genuine Check" มีความกดดัน เนื่องจากมีการร้องขอให้เปลี่ยนไปใช้หมึกที่ได้รับการรับรองของ Brother ในสถานการณ์ที่ต้องการการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม Brother ได้ยืนยันว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องพิมพ์โดยตรง สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายของผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ในการสร้างสมดุลระหว่างการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ของตนเองและการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้น หาก Brother สามารถสร้างมาตรฐานที่ชัดเจนและโปร่งใส อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน https://www.tomshardware.com/peripherals/printers/brother-denies-firmware-blocks-third-party-toner-and-ink-use
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Brother denies firmware blocks third-party toner and ink use
    The printer firm says its machines only perform a Brother Genuine check when troubleshooting.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta ได้ประกาศโครงการความร่วมมือครั้งสำคัญกับองค์กรไม่แสวงหากำไร Internet Society เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตที่ยั่งยืนในชุมชนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการอินเทอร์เน็ต โครงการนี้จะมุ่งเป้าไปที่การลดช่องว่างการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั่วโลก โดยเน้นชุมชนในพื้นที่ด้อยพัฒนา

    Meta ได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใต้ทะเลที่ครอบคลุมถึงสามมหาสมุทร โดยเรียกชื่อว่า "Mother of All Submarine Cables" เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการเชื่อมต่อเครือข่ายทั่วโลก

    ในโครงการนี้ Meta และ Internet Society จะทุ่มงบประมาณ 30 ล้านดอลลาร์จนถึงปี 2030 เพื่อสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ยั่งยืนในพื้นที่ที่ยังขาดการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ ยังวางแผนสร้าง "Internet Exchange Points" กว่า 56 แห่ง ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วใน 45 ประเทศ

    โครงสร้างที่ถูกพัฒนาในโครงการนี้จะเน้นการเป็นเจ้าของในท้องถิ่น และส่งเสริมให้ชุมชนพึ่งพาตนเองในด้านการจัดการและบำรุงรักษาระบบ

    ปัจจุบัน ประมาณ 2.6 พันล้านคนทั่วโลกยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการศึกษาและการดูแลสุขภาพ แต่ยังเป็นการกีดกันโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคม โครงการนี้จึงมีศักยภาพในการช่วยให้ชุมชนเหล่านี้ได้รับประโยชน์จากโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง

    โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Meta ใช้เพื่อขยายฐานผู้ใช้งาน ขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนด้านอินเทอร์เน็ตทั่วโลก นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงแนวโน้มที่ภาคเอกชนกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมทางดิจิทัล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโลกยุคใหม่

    https://www.techspot.com/news/107046-meta-partnership-promises-bring-affordable-internet-billions-worldwide.html
    Meta ได้ประกาศโครงการความร่วมมือครั้งสำคัญกับองค์กรไม่แสวงหากำไร Internet Society เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางอินเทอร์เน็ตที่ยั่งยืนในชุมชนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการอินเทอร์เน็ต โครงการนี้จะมุ่งเป้าไปที่การลดช่องว่างการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทั่วโลก โดยเน้นชุมชนในพื้นที่ด้อยพัฒนา Meta ได้ลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานใต้ทะเลที่ครอบคลุมถึงสามมหาสมุทร โดยเรียกชื่อว่า "Mother of All Submarine Cables" เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการเชื่อมต่อเครือข่ายทั่วโลก ในโครงการนี้ Meta และ Internet Society จะทุ่มงบประมาณ 30 ล้านดอลลาร์จนถึงปี 2030 เพื่อสร้างเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ยั่งยืนในพื้นที่ที่ยังขาดการเชื่อมต่อ นอกจากนี้ ยังวางแผนสร้าง "Internet Exchange Points" กว่า 56 แห่ง ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วใน 45 ประเทศ โครงสร้างที่ถูกพัฒนาในโครงการนี้จะเน้นการเป็นเจ้าของในท้องถิ่น และส่งเสริมให้ชุมชนพึ่งพาตนเองในด้านการจัดการและบำรุงรักษาระบบ ปัจจุบัน ประมาณ 2.6 พันล้านคนทั่วโลกยังขาดการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการศึกษาและการดูแลสุขภาพ แต่ยังเป็นการกีดกันโอกาสทางเศรษฐกิจและการพัฒนาสังคม โครงการนี้จึงมีศักยภาพในการช่วยให้ชุมชนเหล่านี้ได้รับประโยชน์จากโลกดิจิทัลอย่างแท้จริง โครงการนี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Meta ใช้เพื่อขยายฐานผู้ใช้งาน ขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมความยั่งยืนด้านอินเทอร์เน็ตทั่วโลก นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงแนวโน้มที่ภาคเอกชนกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมทางดิจิทัล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของโลกยุคใหม่ https://www.techspot.com/news/107046-meta-partnership-promises-bring-affordable-internet-billions-worldwide.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta partnership promises to bring affordable internet to billions worldwide
    Meta is working on different levels to enhance internet connectivity and networking reliability around the planet. The company has invested billions in new subsea infrastructures, laying the...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts