• ก้าวใหม่แห่งการรักษา: สเต็มเซลล์ช่วยฟื้นฟูการมองเห็น

    ทีมนักวิจัยจากสหรัฐฯ ได้ทดลองการรักษา Age-related Macular Degeneration (AMD) ด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ชนิดใหม่เข้าสู่จอประสาทตา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบในมนุษย์ ผลการทดลองเบื้องต้นชี้ว่าการรักษานี้ไม่เพียงปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ผู้ป่วยที่มีสายตาเลือนรางกลับมามองเห็นได้ชัดเจนขึ้น

    รายละเอียดการทดลอง
    ผู้เข้าร่วมการทดลองมีอายุระหว่าง 71–86 ปี และป่วยด้วย AMD แบบ “dry” ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุดและทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป นักวิจัยได้ฉีดเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถพัฒนาเป็น Retinal Pigment Epithelial cells (RPEs) จำนวน 50,000 เซลล์เข้าไปใต้จอประสาทตาในตาข้างที่มีปัญหามากที่สุด ผลลัพธ์หลัง 1 ปีพบว่าผู้ป่วยที่มีสายตาแย่ที่สุดสามารถอ่านตัวอักษรบนแผ่นทดสอบสายตาได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21 ตัว

    ผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้น
    สิ่งที่ทำให้นักวิจัยประหลาดใจคือการฟื้นฟูการมองเห็นที่ชัดเจนในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงที่สุด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการรักษา AMD ขั้นสูง การทดลองยังไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น การเกิดเนื้องอกหรือปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่เป็นอันตราย

    ความท้าทายและอนาคต
    แม้ผลลัพธ์จะเป็นสัญญาณที่ดี แต่การทดลองยังอยู่ในระยะต้น (Phase 1/2a) และต้องใช้เวลาติดตามผลระยะยาว รวมถึงการทดสอบในปริมาณเซลล์ที่มากขึ้นเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ หากสำเร็จ การรักษานี้อาจกลายเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้สูงอายุที่เสี่ยงตาบอดจาก AMD

    สรุปสาระสำคัญ
    การรักษาใหม่ด้วยสเต็มเซลล์
    ใช้เซลล์ต้นกำเนิด RPE ปลูกถ่ายใต้จอประสาทตา
    เป็นการทดลองครั้งแรกในมนุษย์

    ผลการทดลองเบื้องต้น
    ผู้ป่วยสายตาเลือนรางเห็นตัวอักษรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21 ตัว
    ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง

    ศักยภาพในอนาคต
    อาจช่วยฟื้นฟูการมองเห็นในผู้สูงอายุ
    ลดความเสี่ยงตาบอดจาก AMD

    ข้อควรระวัง
    ยังอยู่ในระยะทดลอง ต้องติดตามผลระยะยาว
    ต้องทดสอบในปริมาณเซลล์ที่มากขึ้น
    ยังไม่สามารถใช้เป็นการรักษามาตรฐานได้ทันที

    https://www.sciencealert.com/first-of-its-kind-treatment-boosts-vision-in-human-trial-scientists-report
    👁️ ก้าวใหม่แห่งการรักษา: สเต็มเซลล์ช่วยฟื้นฟูการมองเห็น ทีมนักวิจัยจากสหรัฐฯ ได้ทดลองการรักษา Age-related Macular Degeneration (AMD) ด้วยการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ชนิดใหม่เข้าสู่จอประสาทตา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบในมนุษย์ ผลการทดลองเบื้องต้นชี้ว่าการรักษานี้ไม่เพียงปลอดภัย แต่ยังช่วยให้ผู้ป่วยที่มีสายตาเลือนรางกลับมามองเห็นได้ชัดเจนขึ้น 🔬 รายละเอียดการทดลอง ผู้เข้าร่วมการทดลองมีอายุระหว่าง 71–86 ปี และป่วยด้วย AMD แบบ “dry” ซึ่งเป็นชนิดที่พบมากที่สุดและทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป นักวิจัยได้ฉีดเซลล์ต้นกำเนิดที่สามารถพัฒนาเป็น Retinal Pigment Epithelial cells (RPEs) จำนวน 50,000 เซลล์เข้าไปใต้จอประสาทตาในตาข้างที่มีปัญหามากที่สุด ผลลัพธ์หลัง 1 ปีพบว่าผู้ป่วยที่มีสายตาแย่ที่สุดสามารถอ่านตัวอักษรบนแผ่นทดสอบสายตาได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21 ตัว 🌟 ผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้น สิ่งที่ทำให้นักวิจัยประหลาดใจคือการฟื้นฟูการมองเห็นที่ชัดเจนในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงที่สุด ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการรักษา AMD ขั้นสูง การทดลองยังไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง เช่น การเกิดเนื้องอกหรือปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่เป็นอันตราย ⚠️ ความท้าทายและอนาคต แม้ผลลัพธ์จะเป็นสัญญาณที่ดี แต่การทดลองยังอยู่ในระยะต้น (Phase 1/2a) และต้องใช้เวลาติดตามผลระยะยาว รวมถึงการทดสอบในปริมาณเซลล์ที่มากขึ้นเพื่อยืนยันประสิทธิภาพ หากสำเร็จ การรักษานี้อาจกลายเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้สูงอายุที่เสี่ยงตาบอดจาก AMD 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การรักษาใหม่ด้วยสเต็มเซลล์ ➡️ ใช้เซลล์ต้นกำเนิด RPE ปลูกถ่ายใต้จอประสาทตา ➡️ เป็นการทดลองครั้งแรกในมนุษย์ ✅ ผลการทดลองเบื้องต้น ➡️ ผู้ป่วยสายตาเลือนรางเห็นตัวอักษรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 21 ตัว ➡️ ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง ✅ ศักยภาพในอนาคต ➡️ อาจช่วยฟื้นฟูการมองเห็นในผู้สูงอายุ ➡️ ลดความเสี่ยงตาบอดจาก AMD ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ยังอยู่ในระยะทดลอง ต้องติดตามผลระยะยาว ⛔ ต้องทดสอบในปริมาณเซลล์ที่มากขึ้น ⛔ ยังไม่สามารถใช้เป็นการรักษามาตรฐานได้ทันที https://www.sciencealert.com/first-of-its-kind-treatment-boosts-vision-in-human-trial-scientists-report
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    First-of-Its-Kind Treatment Boosts Vision in Human Trial, Scientists Report
    Taking a photo of a friend? You've probably got their face centered and focused.
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • การชนครั้งยิ่งใหญ่ที่สร้างโลกและดวงจันทร์

    เมื่อประมาณ 4.5 พันล้านปีก่อน ร่างดาวชื่อ Theia พุ่งชนโลกยุคแรก (Proto-Earth) จนเกิดการหลอมละลายของหินและโลหะมหาศาล เศษซากจากการชนครั้งนั้นรวมตัวกันกลายเป็นโลกและดวงจันทร์ที่เรารู้จักในปัจจุบัน เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดของระบบสุริยะ

    เบาะแสจากไอโซโทปและอุกกาบาต
    นักวิจัยจาก Max Planck Institute และ University of Chicago ได้วิเคราะห์ไอโซโทปจากหินโลก ดวงจันทร์ และอุกกาบาต พบว่าลักษณะทางเคมีของ Theia ไม่ตรงกับโลก แต่ใกล้เคียงกับวัตถุจาก “ระบบสุริยะชั้นใน” ซึ่งเป็นบริเวณใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า ทำให้สันนิษฐานว่า Theia และโลกอาจก่อตัวขึ้นใกล้กัน

    เพื่อนบ้านที่กลายเป็นคู่ปะทะ
    ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าโลกและ Theia อาจเป็น “เพื่อนบ้าน” ที่เกิดจากวัตถุในบริเวณเดียวกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนที่และแรงโน้มถ่วงทำให้เกิดการชนครั้งใหญ่ จนสร้างดวงจันทร์ขึ้นมา และทิ้งร่องรอยทางเคมีไว้ในชั้นหินของโลก

    ความหมายต่อการศึกษาระบบสุริยะ
    การค้นพบนี้ช่วยให้เข้าใจมากขึ้นว่าโลกและดวงจันทร์ไม่ได้เกิดจากการรวมตัวของวัตถุสุ่ม ๆ แต่มีความสัมพันธ์เชิงพื้นที่และเคมีตั้งแต่แรกเริ่ม การชนครั้งนั้นไม่เพียงสร้างดวงจันทร์ แต่ยังส่งผลต่อองค์ประกอบของโลก เช่น การกระจายของเหล็กและแร่ธาตุในชั้นต่าง ๆ

    สรุปสาระสำคัญ
    การชนครั้งใหญ่ (Giant Impact)
    เกิดขึ้นเมื่อ 4.5 พันล้านปีก่อน
    สร้างโลกและดวงจันทร์จากเศษซาก

    หลักฐานจากไอโซโทป
    วิเคราะห์หินโลก ดวงจันทร์ และอุกกาบาต
    พบว่า Theia มีองค์ประกอบใกล้เคียงวัตถุจากระบบสุริยะชั้นใน

    ต้นกำเนิดของ Theia
    อาจเกิดใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลก
    เป็น “เพื่อนบ้าน” ของโลกยุคแรก

    ข้อควรระวังในการตีความ
    ยังเป็นการศึกษาเชิงสมมติฐาน ต้องการหลักฐานเพิ่มเติม
    การชนครั้งนั้นซับซ้อน อาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย
    ผลการวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับตัวอย่างอุกกาบาตที่มีจำกัด

    https://www.sciencealert.com/scientists-reveal-origins-of-giant-object-that-smashed-into-earth
    🌍 การชนครั้งยิ่งใหญ่ที่สร้างโลกและดวงจันทร์ เมื่อประมาณ 4.5 พันล้านปีก่อน ร่างดาวชื่อ Theia พุ่งชนโลกยุคแรก (Proto-Earth) จนเกิดการหลอมละลายของหินและโลหะมหาศาล เศษซากจากการชนครั้งนั้นรวมตัวกันกลายเป็นโลกและดวงจันทร์ที่เรารู้จักในปัจจุบัน เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดของระบบสุริยะ 🔬 เบาะแสจากไอโซโทปและอุกกาบาต นักวิจัยจาก Max Planck Institute และ University of Chicago ได้วิเคราะห์ไอโซโทปจากหินโลก ดวงจันทร์ และอุกกาบาต พบว่าลักษณะทางเคมีของ Theia ไม่ตรงกับโลก แต่ใกล้เคียงกับวัตถุจาก “ระบบสุริยะชั้นใน” ซึ่งเป็นบริเวณใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่า ทำให้สันนิษฐานว่า Theia และโลกอาจก่อตัวขึ้นใกล้กัน 🪐 เพื่อนบ้านที่กลายเป็นคู่ปะทะ ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าโลกและ Theia อาจเป็น “เพื่อนบ้าน” ที่เกิดจากวัตถุในบริเวณเดียวกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไป การเคลื่อนที่และแรงโน้มถ่วงทำให้เกิดการชนครั้งใหญ่ จนสร้างดวงจันทร์ขึ้นมา และทิ้งร่องรอยทางเคมีไว้ในชั้นหินของโลก 📈 ความหมายต่อการศึกษาระบบสุริยะ การค้นพบนี้ช่วยให้เข้าใจมากขึ้นว่าโลกและดวงจันทร์ไม่ได้เกิดจากการรวมตัวของวัตถุสุ่ม ๆ แต่มีความสัมพันธ์เชิงพื้นที่และเคมีตั้งแต่แรกเริ่ม การชนครั้งนั้นไม่เพียงสร้างดวงจันทร์ แต่ยังส่งผลต่อองค์ประกอบของโลก เช่น การกระจายของเหล็กและแร่ธาตุในชั้นต่าง ๆ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การชนครั้งใหญ่ (Giant Impact) ➡️ เกิดขึ้นเมื่อ 4.5 พันล้านปีก่อน ➡️ สร้างโลกและดวงจันทร์จากเศษซาก ✅ หลักฐานจากไอโซโทป ➡️ วิเคราะห์หินโลก ดวงจันทร์ และอุกกาบาต ➡️ พบว่า Theia มีองค์ประกอบใกล้เคียงวัตถุจากระบบสุริยะชั้นใน ✅ ต้นกำเนิดของ Theia ➡️ อาจเกิดใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลก ➡️ เป็น “เพื่อนบ้าน” ของโลกยุคแรก ‼️ ข้อควรระวังในการตีความ ⛔ ยังเป็นการศึกษาเชิงสมมติฐาน ต้องการหลักฐานเพิ่มเติม ⛔ การชนครั้งนั้นซับซ้อน อาจมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ⛔ ผลการวิเคราะห์ขึ้นอยู่กับตัวอย่างอุกกาบาตที่มีจำกัด https://www.sciencealert.com/scientists-reveal-origins-of-giant-object-that-smashed-into-earth
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Scientists Reveal Origins of Giant Object That Smashed Into Earth
    One fateful day about 4.5 billion years ago, a Mars-sized body called Theia collided with proto-Earth, turning both into a molten mess of rock and metal.
    0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • นวัตกรรมใหม่: ยาหยอดจมูกสู้มะเร็งสมอง

    นักวิจัยจาก Washington University และ Northwestern University ได้พัฒนาวิธีการส่งยาผ่านจมูกเข้าสู่สมอง โดยใช้โครงสร้างนาโนที่เรียกว่า Spherical Nucleic Acids (SNA) ห่อหุ้มสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน STING pathway เพื่อให้คงตัวได้นานขึ้นและเดินทางไปยังสมองได้อย่างปลอดภัย ผลการทดลองในหนูพบว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก Glioblastoma ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย
    เมื่อยาหยอดจมูกถูกใช้ร่วมกับยาที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ T-lymphocytes นักวิจัยพบว่าสามารถกำจัดเนื้องอกได้แทบหมดสิ้น และยังสร้างภูมิคุ้มกันระยะยาวต่อการกลับมาใหม่ของมะเร็ง นี่ถือเป็นการเปลี่ยน “Cold Tumor” ที่ไม่ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน ให้กลายเป็น “Hot Tumor” ที่ระบบภูมิคุ้มกันสามารถจัดการได้ง่ายขึ้น

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้ผลการทดลองในสัตว์จะน่าตื่นเต้น แต่นักวิจัยเตือนว่ายังต้องใช้เวลาอีกมากก่อนจะเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ เนื่องจาก Glioblastoma เป็นมะเร็งที่ซับซ้อนและสามารถหลบเลี่ยงการตอบสนองของภูมิคุ้มกันได้หลายวิธี การรักษาอาจต้องใช้การผสมผสานหลายแนวทางเพื่อให้ได้ผลจริงในคนไข้

    ความหวังใหม่ในวงการแพทย์
    นวัตกรรมนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Immunotherapy ที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการรักษามะเร็งสมอง จากเดิมที่ต้องพึ่งการผ่าตัดและเคมีบำบัดที่รุกรานร่างกาย สู่การรักษาแบบไม่เจ็บปวดและอาจมีผลข้างเคียงน้อยลง หากประสบความสำเร็จในมนุษย์ จะเป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการรักษามะเร็งที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    นวัตกรรมยาหยอดจมูก
    ใช้โครงสร้างนาโน SNA ห่อหุ้มสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
    เดินทางจากโพรงจมูกเข้าสู่สมองโดยตรง

    ผลการทดลองในสัตว์
    ยับยั้งการเจริญเติบโตของ Glioblastoma ได้
    สร้างภูมิคุ้มกันระยะยาวต่อการกลับมาใหม่ของเนื้องอก

    ศักยภาพของการรักษา
    เปลี่ยน “Cold Tumor” ให้ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน
    ลดความจำเป็นในการผ่าตัดหรือการรักษาที่รุกราน

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    ยังอยู่ในขั้นทดลองกับสัตว์ ไม่พร้อมใช้กับมนุษย์
    Glioblastoma มีความซับซ้อน อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน
    ต้องพัฒนาเรื่องความเสถียรและการควบคุมปริมาณยาให้แม่นยำ

    https://www.sciencealert.com/nasal-drops-could-help-fight-a-common-and-deadly-brain-cancer
    🧪 นวัตกรรมใหม่: ยาหยอดจมูกสู้มะเร็งสมอง นักวิจัยจาก Washington University และ Northwestern University ได้พัฒนาวิธีการส่งยาผ่านจมูกเข้าสู่สมอง โดยใช้โครงสร้างนาโนที่เรียกว่า Spherical Nucleic Acids (SNA) ห่อหุ้มสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน STING pathway เพื่อให้คงตัวได้นานขึ้นและเดินทางไปยังสมองได้อย่างปลอดภัย ผลการทดลองในหนูพบว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก Glioblastoma ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🌟 ผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย เมื่อยาหยอดจมูกถูกใช้ร่วมกับยาที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ T-lymphocytes นักวิจัยพบว่าสามารถกำจัดเนื้องอกได้แทบหมดสิ้น และยังสร้างภูมิคุ้มกันระยะยาวต่อการกลับมาใหม่ของมะเร็ง นี่ถือเป็นการเปลี่ยน “Cold Tumor” ที่ไม่ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน ให้กลายเป็น “Hot Tumor” ที่ระบบภูมิคุ้มกันสามารถจัดการได้ง่ายขึ้น ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้ผลการทดลองในสัตว์จะน่าตื่นเต้น แต่นักวิจัยเตือนว่ายังต้องใช้เวลาอีกมากก่อนจะเข้าสู่การทดลองในมนุษย์ เนื่องจาก Glioblastoma เป็นมะเร็งที่ซับซ้อนและสามารถหลบเลี่ยงการตอบสนองของภูมิคุ้มกันได้หลายวิธี การรักษาอาจต้องใช้การผสมผสานหลายแนวทางเพื่อให้ได้ผลจริงในคนไข้ 🌍 ความหวังใหม่ในวงการแพทย์ นวัตกรรมนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Immunotherapy ที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการรักษามะเร็งสมอง จากเดิมที่ต้องพึ่งการผ่าตัดและเคมีบำบัดที่รุกรานร่างกาย สู่การรักษาแบบไม่เจ็บปวดและอาจมีผลข้างเคียงน้อยลง หากประสบความสำเร็จในมนุษย์ จะเป็นการเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของการรักษามะเร็งที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ นวัตกรรมยาหยอดจมูก ➡️ ใช้โครงสร้างนาโน SNA ห่อหุ้มสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ➡️ เดินทางจากโพรงจมูกเข้าสู่สมองโดยตรง ✅ ผลการทดลองในสัตว์ ➡️ ยับยั้งการเจริญเติบโตของ Glioblastoma ได้ ➡️ สร้างภูมิคุ้มกันระยะยาวต่อการกลับมาใหม่ของเนื้องอก ✅ ศักยภาพของการรักษา ➡️ เปลี่ยน “Cold Tumor” ให้ตอบสนองต่อภูมิคุ้มกัน ➡️ ลดความจำเป็นในการผ่าตัดหรือการรักษาที่รุกราน ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ ยังอยู่ในขั้นทดลองกับสัตว์ ไม่พร้อมใช้กับมนุษย์ ⛔ Glioblastoma มีความซับซ้อน อาจต้องใช้หลายวิธีร่วมกัน ⛔ ต้องพัฒนาเรื่องความเสถียรและการควบคุมปริมาณยาให้แม่นยำ https://www.sciencealert.com/nasal-drops-could-help-fight-a-common-and-deadly-brain-cancer
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Nasal Drops Could Help Fight a Common And Deadly Brain Cancer
    Researchers have developed nasal drops that travel along the nerves of the nose into the central nervous system to fight the deadliest brain cancer.
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251126 #TechRadar

    Amazon ทุ่มงบ 50 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างระบบ AI และ HPC สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ
    เรื่องนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ Amazon ที่ต้องการยกระดับศักยภาพด้านการประมวลผลให้กับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยจะเน้นไปที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความมั่นคงไซเบอร์ พลังงาน และการแพทย์ การลงทุนนี้จะเพิ่มกำลังการประมวลผลกว่า 1.3 กิกะวัตต์ในระบบคลาวด์ของรัฐบาล ทำให้สามารถทำงานจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก AWS CEO กล่าวว่านี่คือการเปิดทางให้หน่วยงานรัฐเข้าถึง AI ขั้นสูงเพื่อเร่งภารกิจสำคัญของประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/talk-about-an-upgrade-amazon-is-spending-usd50-billion-on-new-ai-and-hpc-hardware-for-the-us-government

    ข่าวลือราคา iPhone พับได้ อาจสูงถึง $2,399 ทำให้ iPad Mini 8 ดูคุ้มกว่า
    มีรายงานจาก Fubon Research ว่า iPhone รุ่นพับได้ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 อาจมีราคาสูงถึง $2,399 ซึ่งถือว่าแพงกว่าที่หลายคนคาดไว้ แม้จะมีข่าวดีว่าหน้าจออาจไร้รอยพับ แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ทำให้หลายคนมองว่าซื้อ iPhone รุ่นปกติพร้อม iPad Mini 8 อาจจะคุ้มกว่า เพราะได้สองหน้าจอในราคาที่ใกล้เคียงกัน การเปิดตัวคาดว่าจะใช้ชื่อ “iPhone Fold” และอยู่ในขั้นตอนการทดสอบก่อนผลิตจริง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/if-the-latest-foldable-iphone-price-rumor-is-correct-the-ipad-mini-8-will-be-the-only-sensible-choice

    ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ในระบบ Cloud Security
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ระบบคลาวด์หลายเจ้า (multicloud) และการนำ AI หรือ container มาใช้งาน ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่องค์กรอาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายใน (east-west traffic) และการส่งข้อมูลออกไปภายนอก (egress traffic) ที่มักไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวคิดใหม่ “Cloud Native Security Fabric” ที่ฝังระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปในโครงสร้างเครือข่ายโดยตรง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของ workload แบบเรียลไทม์
    https://www.techradar.com/pro/the-hidden-gaps-in-your-cloud-security-fabric

    Gemini 3 กับ Nano Banana Pro: AI ที่เปลี่ยนการแต่งภาพให้เหมือนงานศิลป์
    Google เปิดตัวเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งใช้พลังจาก Gemini 3 จุดเด่นคือสามารถปรับแสงเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศจริง เช่น จากภาพธรรมดาให้กลายเป็นช่วง golden hour หรือเปลี่ยนฉากหลังโดยไม่ทำให้ตัวแบบดูหลุดออกจากภาพ นอกจากนี้ยังสามารถย้ายวัตถุหรือปรับโครงสร้างภาพได้อย่างสมจริง ทำให้การแก้ไขภาพซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่บอกคำสั่งเหมือนเล่าให้คนเข้าใจ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/gemini-3s-nano-banana-pro-photo-editing-is-amazing-here-are-3-ways-to-make-the-most-of-it

    สิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7: Broadcom ปรับโมเดลราคาใหม่จนลูกค้าหนักใจ
    หลังจาก Broadcom เข้าซื้อ VMware ด้วยมูลค่า 61 พันล้านดอลลาร์ ก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทั้งการยกเลิกการขายแบบ perpetual license และเปลี่ยนเป็น subscription bundles ทำให้ต้นทุนของลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า การสิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7 ในเดือนตุลาคม 2025 ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธุรกิจต้องหาทางเลือกใหม่ หลายองค์กรเริ่มมองหาผู้ให้บริการรายอื่นหรือใช้ third-party support เพื่อคงระบบเดิมไว้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูงตามโมเดลใหม่
    https://www.techradar.com/pro/vsphere-7-support-ends-the-challenges-of-broadcoms-new-licensing-and-pricing-models

    Linux OS มียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งหลัง Windows 10 หมดการสนับสนุน
    หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปหา Linux OS ทางเลือกใหม่ที่มีความปลอดภัยและเสถียร โดยมีรายงานว่ามียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งในเวลาไม่นาน ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้เริ่มมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งพา Windows และยังได้ฟีเจอร์ที่ทันสมัยพร้อมการอัปเดตต่อเนื่องจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    https://www.techradar.com/computing/windows/this-linux-os-has-got-a-million-downloads-since-windows-10-support-ended-should-microsoft-start-worrying-now

    ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Agent ให้ผู้ใช้สั่งงานแล้วปล่อยให้ทำเอง
    ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่ชื่อว่า Agent ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งภารกิจ เช่น ค้นหาข้อมูลหรือจัดการงาน แล้วปล่อยให้ระบบทำงานต่อเองโดยไม่ต้องติดตามตลอดเวลา ถือเป็นการยกระดับจากการสนทนาแบบโต้ตอบไปสู่การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับงานอื่นได้ในขณะที่ AI ทำงานเบื้องหลัง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-agent-feature-lets-you-assign-tasks-and-walk-away-heres-how-it-works

    มหาวิทยาลัย Harvard เผยข้อมูลรั่วไหลกระทบศิษย์เก่าและผู้บริจาค
    Harvard University ประกาศว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลของศิษย์เก่าและผู้บริจาคถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการตรวจสอบและเสริมมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก
    https://www.techradar.com/pro/security/harvard-university-reveals-data-breach-hitting-alumni-and-donors

    Zero Trust มี 3 ระดับความเร็วในการปรับใช้
    แนวคิด Zero Trust ที่เน้นการตรวจสอบทุกการเข้าถึงระบบ ไม่ว่าจะมาจากภายในหรือภายนอกองค์กร ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับความเร็วในการนำไปใช้ ได้แก่ ระดับเริ่มต้นที่เน้นการควบคุมพื้นฐาน ระดับกลางที่เริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ และระดับสูงสุดที่ผสาน AI และการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสร้างความปลอดภัยแบบครบวงจร องค์กรสามารถเลือกปรับใช้ตามความพร้อมและทรัพยากรที่มี
    https://www.techradar.com/pro/the-three-speeds-of-zero-trust

    iLamp พลังงานแสงอาทิตย์ เปลี่ยนเสาไฟให้กลายเป็นศูนย์กลาง AI
    นวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า iLamp ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งระบบ AI ภายในเสาไฟ ทำให้สามารถทำหน้าที่มากกว่าแค่ให้แสงสว่าง เช่น การตรวจสอบสภาพแวดล้อม การเชื่อมต่อกับระบบเมืองอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการเปลี่ยนเสาไฟธรรมดาให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเมืองในอนาคต
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/solar-powered-ilamp-turns-the-humble-lamppost-into-an-ai-hub

    CEO Salesforce หันหลังให้ ChatGPT หันไปหา Gemini 3
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศเลิกใช้ ChatGPT หลังจากได้ลอง Google Gemini 3 เพียงสองชั่วโมง เขายกย่อง Gemini 3 ว่าเหนือกว่าในด้านความเร็ว การให้เหตุผล และความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับทั้งข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ การเปลี่ยนใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในโลก AI และอาจส่งผลต่อทิศทางการใช้งาน AI ในองค์กรระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-leap-is-insane-salesforce-ceo-swaps-chatgpt-for-gemini-3-and-says-hes-not-going-back

    โน้ตบุ๊ก Geekom GeekBook X14 Pro เบาแต่แรง
    Geekom เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ GeekBook X14 Pro ที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่สเปกจัดเต็มด้วย Intel Core Ultra 9 และ Intel Arc GPU ที่รองรับการเร่งผลกราฟิกด้วย AI หน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพคมชัดและสดใส แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว จุดเด่นคือความเบาและพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงสำหรับงานหนักและงานสร้างสรรค์
    https://www.techradar.com/pro/geekoms-new-laptop-offers-a-bright-and-wide-screen-impressive-hardware-but-it-weighs-less-than-a-bag-of-sugar

    บั๊ก Windows 11 เล่นงานการ์ดจอ Nvidia RTX 5090
    การอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคมทำให้เกิดปัญหากับเกมเมอร์ โดยเฉพาะเกม Assassin’s Creed Shadows ที่เฟรมเรตตกลงถึง 50% แม้ใช้การ์ดจอระดับเทพ RTX 5090 Nvidia ต้องรีบออกแพตช์แก้ไขฉุกเฉิน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าต้นเหตุจริง ๆ มาจาก Microsoft หรือ Nvidia เอง ปัญหานี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องหาทางแก้ชั่วคราว เช่น ปิดฟีเจอร์ Resizable Bar เพื่อให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/possible-windows-11-bug-with-nvidia-gpus-tanks-assassins-creed-shadows-performance-bringing-even-an-rtx-5090-to-its-knees

    แฟนเทคโนโลยีย้อนยุคสร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรู
    นักประดิษฐ์สายเรโทรได้สร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรูขึ้นใหม่ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์และเซ็นเซอร์แสงสมัยใหม่แทนกลไกเก่า ๆ เครื่องนี้สามารถอ่านข้อมูลจากเทปกระดาษได้ แม้ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 50 ไบต์ต่อวินาที ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่ก็เป็นการรื้อฟื้นเทคโนโลยีเก่าที่เคยมีบทบาทสำคัญในยุคแรกของคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์หลักคือการทดลองและอนุรักษ์ ไม่ใช่การใช้งานจริง
    https://www.techradar.com/pro/retro-computer-boffin-creates-a-freshly-created-perforated-tape-reader-just-dont-expect-high-data-reading-speeds

    DeepSeek-R1 ผู้ช่วย AI จากจีนเริ่มสะดุด DeepSeek-R1 ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งแห่งวงการ AI ตอนนี้กลับถูกวิจารณ์หนัก เพราะไม่สามารถจัดการกับหัวข้ออ่อนไหวได้ดี แถมยังสร้างโค้ดที่ผิดพลาดและมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย นักพัฒนาองค์กรที่เคยหวังพึ่งพากลับต้องระวังมากขึ้น เพราะความผิดพลาดเหล่านี้อาจนำไปสู่หายนะด้านความปลอดภัยในระบบใหญ่ ๆ ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าการพัฒนา AI ไม่ใช่แค่เรื่องความฉลาด แต่ต้องมั่นคงและปลอดภัยด้วย https://www.techradar.com/pro/deepseek-took-off-as-an-ai-superstar-a-year-ago-but-could-it-also-be-a-major-security-risk-these-experts-think-so

    แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว TechCrunch
    มีการเปิดโปงว่าแฮกเกอร์จำนวนมากกำลังสวมรอยเป็นผู้สื่อข่าวจาก TechCrunch เพื่อหลอกบริษัทต่าง ๆ ให้เปิดเผยข้อมูลลับ ทั้งผ่านอีเมลและการโทรศัพท์ พวกเขาใช้ความน่าเชื่อถือของสื่อใหญ่เป็นเครื่องมือในการโจมตี ทำให้หลายองค์กรตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดต่อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า
    https://www.techradar.com/pro/hackers-impersonate-techcrunch-reporters-to-steal-sensitive-information-but-you-can-always-trust-us

    แผน AI ระดับโลกของรัฐบาล Trump
    รัฐบาลสหรัฐภายใต้ Donald Trump ได้เปิดตัวแผนการครอบครองความเป็นผู้นำด้าน AI ระดับโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้สหรัฐเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี AI ที่เหนือกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามว่าแผนนี้อาจมีช่องโหว่และความเสี่ยง ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความปลอดภัย เพราะการเร่งรีบเพื่อครองความเป็นใหญ่ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-trump-administration-just-launched-its-own-plan-for-global-ai-dominance-and-what-could-go-wrong

    Meta เปิดโปรแกรมแลกเปลี่ยน Ray-Ban Smart Glasses
    Meta เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถนำ AirPods มาแลกเป็นแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ได้ แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น รุ่นที่สามารถแลกได้ และข้อจำกัดในการใช้งาน แม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองเทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สิทธิ์นี้ทันที
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/metas-new-ray-ban-trade-in-program-lets-you-swap-your-airpods-for-smart-glasses-but-theres-a-catch
    📌📡🟢 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟢📡📌 #รวมข่าวIT #20251126 #TechRadar 🖥️ Amazon ทุ่มงบ 50 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างระบบ AI และ HPC สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ เรื่องนี้เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของ Amazon ที่ต้องการยกระดับศักยภาพด้านการประมวลผลให้กับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ โดยจะเน้นไปที่งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ความมั่นคงไซเบอร์ พลังงาน และการแพทย์ การลงทุนนี้จะเพิ่มกำลังการประมวลผลกว่า 1.3 กิกะวัตต์ในระบบคลาวด์ของรัฐบาล ทำให้สามารถทำงานจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลได้เร็วขึ้นมาก AWS CEO กล่าวว่านี่คือการเปิดทางให้หน่วยงานรัฐเข้าถึง AI ขั้นสูงเพื่อเร่งภารกิจสำคัญของประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/talk-about-an-upgrade-amazon-is-spending-usd50-billion-on-new-ai-and-hpc-hardware-for-the-us-government 📱 ข่าวลือราคา iPhone พับได้ อาจสูงถึง $2,399 ทำให้ iPad Mini 8 ดูคุ้มกว่า มีรายงานจาก Fubon Research ว่า iPhone รุ่นพับได้ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 อาจมีราคาสูงถึง $2,399 ซึ่งถือว่าแพงกว่าที่หลายคนคาดไว้ แม้จะมีข่าวดีว่าหน้าจออาจไร้รอยพับ แต่ราคาที่สูงขนาดนี้ทำให้หลายคนมองว่าซื้อ iPhone รุ่นปกติพร้อม iPad Mini 8 อาจจะคุ้มกว่า เพราะได้สองหน้าจอในราคาที่ใกล้เคียงกัน การเปิดตัวคาดว่าจะใช้ชื่อ “iPhone Fold” และอยู่ในขั้นตอนการทดสอบก่อนผลิตจริง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/if-the-latest-foldable-iphone-price-rumor-is-correct-the-ipad-mini-8-will-be-the-only-sensible-choice 🔒 ช่องโหว่ที่ซ่อนอยู่ในระบบ Cloud Security บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้ระบบคลาวด์หลายเจ้า (multicloud) และการนำ AI หรือ container มาใช้งาน ทำให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่องค์กรอาจมองไม่เห็น โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายข้อมูลภายใน (east-west traffic) และการส่งข้อมูลออกไปภายนอก (egress traffic) ที่มักไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนวคิดใหม่ “Cloud Native Security Fabric” ที่ฝังระบบรักษาความปลอดภัยเข้าไปในโครงสร้างเครือข่ายโดยตรง เพื่อให้สามารถปรับตัวได้ตามการเปลี่ยนแปลงของ workload แบบเรียลไทม์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-hidden-gaps-in-your-cloud-security-fabric 🎨 Gemini 3 กับ Nano Banana Pro: AI ที่เปลี่ยนการแต่งภาพให้เหมือนงานศิลป์ Google เปิดตัวเครื่องมือแก้ไขภาพด้วย AI ที่ชื่อ Nano Banana Pro ซึ่งใช้พลังจาก Gemini 3 จุดเด่นคือสามารถปรับแสงเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศจริง เช่น จากภาพธรรมดาให้กลายเป็นช่วง golden hour หรือเปลี่ยนฉากหลังโดยไม่ทำให้ตัวแบบดูหลุดออกจากภาพ นอกจากนี้ยังสามารถย้ายวัตถุหรือปรับโครงสร้างภาพได้อย่างสมจริง ทำให้การแก้ไขภาพซับซ้อนกลายเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่บอกคำสั่งเหมือนเล่าให้คนเข้าใจ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/gemini-3s-nano-banana-pro-photo-editing-is-amazing-here-are-3-ways-to-make-the-most-of-it 💸 สิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7: Broadcom ปรับโมเดลราคาใหม่จนลูกค้าหนักใจ หลังจาก Broadcom เข้าซื้อ VMware ด้วยมูลค่า 61 พันล้านดอลลาร์ ก็มีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทั้งการยกเลิกการขายแบบ perpetual license และเปลี่ยนเป็น subscription bundles ทำให้ต้นทุนของลูกค้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า การสิ้นสุดการสนับสนุน vSphere 7 ในเดือนตุลาคม 2025 ยิ่งสร้างแรงกดดันให้ธุรกิจต้องหาทางเลือกใหม่ หลายองค์กรเริ่มมองหาผู้ให้บริการรายอื่นหรือใช้ third-party support เพื่อคงระบบเดิมไว้โดยไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสูงตามโมเดลใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/vsphere-7-support-ends-the-challenges-of-broadcoms-new-licensing-and-pricing-models 🐧 Linux OS มียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งหลัง Windows 10 หมดการสนับสนุน หลังจาก Microsoft ยุติการสนับสนุน Windows 10 ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปหา Linux OS ทางเลือกใหม่ที่มีความปลอดภัยและเสถียร โดยมีรายงานว่ามียอดดาวน์โหลดทะลุหนึ่งล้านครั้งในเวลาไม่นาน ความนิยมนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้เริ่มมองหาทางเลือกที่ไม่ต้องพึ่งพา Windows และยังได้ฟีเจอร์ที่ทันสมัยพร้อมการอัปเดตต่อเนื่องจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/this-linux-os-has-got-a-million-downloads-since-windows-10-support-ended-should-microsoft-start-worrying-now 🤖 ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Agent ให้ผู้ใช้สั่งงานแล้วปล่อยให้ทำเอง ฟีเจอร์ใหม่ของ ChatGPT ที่ชื่อว่า Agent ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งภารกิจ เช่น ค้นหาข้อมูลหรือจัดการงาน แล้วปล่อยให้ระบบทำงานต่อเองโดยไม่ต้องติดตามตลอดเวลา ถือเป็นการยกระดับจากการสนทนาแบบโต้ตอบไปสู่การทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้ใช้สามารถโฟกัสกับงานอื่นได้ในขณะที่ AI ทำงานเบื้องหลัง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-agent-feature-lets-you-assign-tasks-and-walk-away-heres-how-it-works 🏫 มหาวิทยาลัย Harvard เผยข้อมูลรั่วไหลกระทบศิษย์เก่าและผู้บริจาค Harvard University ประกาศว่ามีการโจมตีทางไซเบอร์ที่ทำให้ข้อมูลของศิษย์เก่าและผู้บริจาคถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลและการเงินของผู้ที่เกี่ยวข้อง มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการตรวจสอบและเสริมมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/harvard-university-reveals-data-breach-hitting-alumni-and-donors 🛡️ Zero Trust มี 3 ระดับความเร็วในการปรับใช้ แนวคิด Zero Trust ที่เน้นการตรวจสอบทุกการเข้าถึงระบบ ไม่ว่าจะมาจากภายในหรือภายนอกองค์กร ถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับความเร็วในการนำไปใช้ ได้แก่ ระดับเริ่มต้นที่เน้นการควบคุมพื้นฐาน ระดับกลางที่เริ่มใช้ระบบอัตโนมัติ และระดับสูงสุดที่ผสาน AI และการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อสร้างความปลอดภัยแบบครบวงจร องค์กรสามารถเลือกปรับใช้ตามความพร้อมและทรัพยากรที่มี 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-three-speeds-of-zero-trust 🌞 iLamp พลังงานแสงอาทิตย์ เปลี่ยนเสาไฟให้กลายเป็นศูนย์กลาง AI นวัตกรรมใหม่ที่ชื่อว่า iLamp ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และติดตั้งระบบ AI ภายในเสาไฟ ทำให้สามารถทำหน้าที่มากกว่าแค่ให้แสงสว่าง เช่น การตรวจสอบสภาพแวดล้อม การเชื่อมต่อกับระบบเมืองอัจฉริยะ และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการเปลี่ยนเสาไฟธรรมดาให้กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของเมืองในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/solar-powered-ilamp-turns-the-humble-lamppost-into-an-ai-hub 🤖 CEO Salesforce หันหลังให้ ChatGPT หันไปหา Gemini 3 Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศเลิกใช้ ChatGPT หลังจากได้ลอง Google Gemini 3 เพียงสองชั่วโมง เขายกย่อง Gemini 3 ว่าเหนือกว่าในด้านความเร็ว การให้เหตุผล และความสามารถแบบมัลติโหมดที่รองรับทั้งข้อความ ภาพ เสียง และวิดีโอ การเปลี่ยนใจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในโลก AI และอาจส่งผลต่อทิศทางการใช้งาน AI ในองค์กรระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/the-leap-is-insane-salesforce-ceo-swaps-chatgpt-for-gemini-3-and-says-hes-not-going-back 💻 โน้ตบุ๊ก Geekom GeekBook X14 Pro เบาแต่แรง Geekom เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ GeekBook X14 Pro ที่มีน้ำหนักไม่ถึงหนึ่งกิโลกรัม แต่สเปกจัดเต็มด้วย Intel Core Ultra 9 และ Intel Arc GPU ที่รองรับการเร่งผลกราฟิกด้วย AI หน้าจอ OLED ขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด 2.8K พร้อมรีเฟรชเรต 120Hz ทำให้ภาพคมชัดและสดใส แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมง และรองรับชาร์จเร็ว จุดเด่นคือความเบาและพกพาสะดวก แต่ยังคงประสิทธิภาพสูงสำหรับงานหนักและงานสร้างสรรค์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/geekoms-new-laptop-offers-a-bright-and-wide-screen-impressive-hardware-but-it-weighs-less-than-a-bag-of-sugar 🎮 บั๊ก Windows 11 เล่นงานการ์ดจอ Nvidia RTX 5090 การอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคมทำให้เกิดปัญหากับเกมเมอร์ โดยเฉพาะเกม Assassin’s Creed Shadows ที่เฟรมเรตตกลงถึง 50% แม้ใช้การ์ดจอระดับเทพ RTX 5090 Nvidia ต้องรีบออกแพตช์แก้ไขฉุกเฉิน แต่ยังไม่ชัดเจนว่าต้นเหตุจริง ๆ มาจาก Microsoft หรือ Nvidia เอง ปัญหานี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องหาทางแก้ชั่วคราว เช่น ปิดฟีเจอร์ Resizable Bar เพื่อให้เล่นเกมได้ลื่นขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/possible-windows-11-bug-with-nvidia-gpus-tanks-assassins-creed-shadows-performance-bringing-even-an-rtx-5090-to-its-knees 📼 แฟนเทคโนโลยีย้อนยุคสร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรู นักประดิษฐ์สายเรโทรได้สร้างเครื่องอ่านเทปเจาะรูขึ้นใหม่ โดยใช้ไมโครคอนโทรลเลอร์และเซ็นเซอร์แสงสมัยใหม่แทนกลไกเก่า ๆ เครื่องนี้สามารถอ่านข้อมูลจากเทปกระดาษได้ แม้ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 50 ไบต์ต่อวินาที ซึ่งถือว่าช้ามากเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่ก็เป็นการรื้อฟื้นเทคโนโลยีเก่าที่เคยมีบทบาทสำคัญในยุคแรกของคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์หลักคือการทดลองและอนุรักษ์ ไม่ใช่การใช้งานจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/retro-computer-boffin-creates-a-freshly-created-perforated-tape-reader-just-dont-expect-high-data-reading-speeds 🧠 DeepSeek-R1 ผู้ช่วย AI จากจีนเริ่มสะดุด DeepSeek-R1 ที่เคยถูกยกย่องว่าเป็นดาวรุ่งแห่งวงการ AI ตอนนี้กลับถูกวิจารณ์หนัก เพราะไม่สามารถจัดการกับหัวข้ออ่อนไหวได้ดี แถมยังสร้างโค้ดที่ผิดพลาดและมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย นักพัฒนาองค์กรที่เคยหวังพึ่งพากลับต้องระวังมากขึ้น เพราะความผิดพลาดเหล่านี้อาจนำไปสู่หายนะด้านความปลอดภัยในระบบใหญ่ ๆ ได้ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าการพัฒนา AI ไม่ใช่แค่เรื่องความฉลาด แต่ต้องมั่นคงและปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/deepseek-took-off-as-an-ai-superstar-a-year-ago-but-could-it-also-be-a-major-security-risk-these-experts-think-so 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นนักข่าว TechCrunch มีการเปิดโปงว่าแฮกเกอร์จำนวนมากกำลังสวมรอยเป็นผู้สื่อข่าวจาก TechCrunch เพื่อหลอกบริษัทต่าง ๆ ให้เปิดเผยข้อมูลลับ ทั้งผ่านอีเมลและการโทรศัพท์ พวกเขาใช้ความน่าเชื่อถือของสื่อใหญ่เป็นเครื่องมือในการโจมตี ทำให้หลายองค์กรตกเป็นเหยื่อโดยไม่รู้ตัว เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าการตรวจสอบแหล่งที่มาของการติดต่อเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินล้ำค่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/hackers-impersonate-techcrunch-reporters-to-steal-sensitive-information-but-you-can-always-trust-us 🌍 แผน AI ระดับโลกของรัฐบาล Trump รัฐบาลสหรัฐภายใต้ Donald Trump ได้เปิดตัวแผนการครอบครองความเป็นผู้นำด้าน AI ระดับโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันให้สหรัฐเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี AI ที่เหนือกว่าประเทศอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนตั้งคำถามว่าแผนนี้อาจมีช่องโหว่และความเสี่ยง ทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และความปลอดภัย เพราะการเร่งรีบเพื่อครองความเป็นใหญ่ อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-trump-administration-just-launched-its-own-plan-for-global-ai-dominance-and-what-could-go-wrong 👓 Meta เปิดโปรแกรมแลกเปลี่ยน Ray-Ban Smart Glasses Meta เปิดตัวโปรแกรมใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถนำ AirPods มาแลกเป็นแว่นตาอัจฉริยะ Ray-Ban ได้ แต่มีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องระวัง เช่น รุ่นที่สามารถแลกได้ และข้อจำกัดในการใช้งาน แม้จะเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองเทคโนโลยีใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สิทธิ์นี้ทันที ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/metas-new-ray-ban-trade-in-program-lets-you-swap-your-airpods-for-smart-glasses-but-theres-a-catch
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline
    #รวมข่าวIT #20251126 #securityonline

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Syncope (CVE-2025-65998)
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยจาก Apache เกี่ยวกับซอฟต์แวร์จัดการตัวตนชื่อ Syncope ที่องค์กรใหญ่ใช้กันมาก ปัญหาคือมีการฝัง "กุญแจ AES" เอาไว้ในโค้ดแบบตายตัว เมื่อผู้ดูแลระบบเลือกใช้การเข้ารหัสรหัสผ่านในฐานข้อมูล Syncope จะใช้กุญแจเดียวกันทุกระบบ ทำให้ถ้าใครเข้าถึงฐานข้อมูลได้ก็สามารถถอดรหัสรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ทันที ปัญหานี้กระทบหลายเวอร์ชัน และ Apache แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเกรดไปยังเวอร์ชันใหม่ที่แก้ไขแล้ว เพราะเวอร์ชันเก่าไม่มีแพตช์รองรับ
    https://securityonline.info/apache-syncope-flaw-cve-2025-65998-exposes-encrypted-user-passwords-due-to-hard-coded-aes-key

    Zenitel TCIV-3+ Intercoms เจอช่องโหว่ร้ายแรงหลายจุด (CVSS 9.8)
    Zenitel ออกประกาศด่วนพร้อมกับ CISA ว่าระบบอินเตอร์คอม TCIV-3+ มีช่องโหว่ถึง 5 จุด โดย 3 จุดเป็นการโจมตีแบบ OS Command Injection ที่ร้ายแรงมาก สามารถให้คนร้ายสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ XSS และ Out-of-Bounds Write ที่ทำให้เครื่องแครชได้ การแก้ไขคือผู้ใช้ต้องอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชัน 9.3.3.0 หรือใหม่กว่าโดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้ อุปกรณ์สื่อสารสำคัญเหล่านี้อาจถูกควบคุมจากภายนอกได้
    https://securityonline.info/urgent-patch-required-zenitel-tciv-3-intercoms-hit-by-multiple-critical-flaws-cvss-9-8

    Node-forge (CVE-2025-12816) ช่องโหว่การตรวจสอบลายเซ็น
    ไลบรารีชื่อดัง node-forge ที่ใช้กันในหลายระบบทั่วโลก (ดาวน์โหลดกว่า 21 ล้านครั้งต่อสัปดาห์) ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้การตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลถูกหลอกได้ โดยการจัดการข้อมูล ASN.1 ที่บิดเบือน ทำให้ระบบที่ใช้ node-forge ตรวจสอบใบรับรองหรือไฟล์ที่เซ็นดิจิทัลอาจยอมรับข้อมูลปลอมว่าเป็นจริง ผลกระทบคือการปลอมตัวตน การยอมรับซอฟต์แวร์ที่ถูกแก้ไข หรือการเจาะระบบผ่านแพ็กเกจที่ดูเหมือนถูกต้อง ทางผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชัน 1.3.2 เพื่อแก้ไขแล้ว และแนะนำให้รีบอัปเดตทันที
    https://securityonline.info/critical-node-forge-flaw-cve-2025-12816-allows-signature-verification-bypass-via-asn-1-manipulation-21m-downloads-week

    RelayNFC มัลแวร์ Android ที่ทำให้มือถือกลายเป็นเครื่องอ่านบัตร
    นักวิจัยจาก Cyble พบมัลแวร์ใหม่ชื่อ RelayNFC ที่แพร่ระบาดในบราซิล มันทำให้มือถือ Android ของเหยื่อกลายเป็นเครื่องอ่านบัตรเครดิต/เดบิตจากระยะไกล คนร้ายสามารถใช้ข้อมูลที่ได้ไปทำธุรกรรมเหมือนถือบัตรจริงอยู่ในมือ จุดน่ากลัวคือมัลแวร์นี้ยังไม่ถูกตรวจจับใน VirusTotal และแพร่ผ่านเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นพอร์ทัลความปลอดภัย เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดแอปปลอมและทำตามคำสั่ง เช่น แตะบัตรกับมือถือ ข้อมูลบัตรและรหัส PIN จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคนร้ายทันที ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมาก
    https://securityonline.info/zero-detection-relaynfc-android-malware-turns-phones-into-remote-card-readers

    WordPress Plugin Sneeit Framework (CVE-2025-6389) ถูกโจมตีจริงแล้ว
    ปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 9.8 (Critical) ที่เปิดทางให้คนร้ายรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ฟังก์ชันที่ผิดพลาดคือการรับอินพุตจากผู้ใช้แล้วส่งต่อไปยัง call_user_func() โดยตรง ทำให้ใครก็ตามสามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ หรือยึดเว็บไซต์ไปได้ทันที ตอนนี้มีการโจมตีจริงเกิดขึ้นแล้ว โดย Wordfence รายงานว่ามีการบล็อกการโจมตีเกือบ 500 ครั้งในวันเดียว ผู้พัฒนาปลั๊กอินได้ออกเวอร์ชัน 8.4 เพื่อแก้ไขแล้ว เจ้าของเว็บไซต์ WordPress ต้องรีบอัปเดตโดยด่วน
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    ASUS Router เจอช่องโหว่ 8 จุด (CVE-2025-59366)
    ASUS ประกาศเตือนว่าเราท์เตอร์หลายรุ่นมีช่องโหว่รวม 8 จุด โดยมีช่องโหว่ Authentication Bypass ที่ร้ายแรงมาก (CVSS 9.4) ทำให้คนร้ายสามารถเข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ผลกระทบคือผู้โจมตีอาจควบคุมการตั้งค่าเครือข่ายหรือดักข้อมูลการใช้งานได้ทันที ASUS แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4

    Fluent Bit เจอช่องโหว่ร้ายแรง เปิดทาง RCE และแก้ไข Telemetry
    Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือเก็บและส่งข้อมูล Log ที่องค์กรใหญ่ใช้กัน ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้คนร้ายสามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ รวมถึงแก้ไขข้อมูล Telemetry ที่ส่งออกไป ทำให้ระบบตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลผิดเพี้ยนได้ทันที ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชัน และมีความเสี่ยงสูงต่อองค์กรที่ใช้ Fluent Bit ในระบบคลาวด์หรือโครงสร้างพื้นฐานหลัก
    https://securityonline.info/critical-fluent-bit-flaws-enable-rce-and-telemetry-tampering-in-major-orgs

    CISA เตือนด่วน: Spyware ใช้ Zero-Click และ QR Code มุ่งโจมตีแอปแชท
    CISA ออกประกาศฉุกเฉินว่ามี Spyware เชิงพาณิชย์ที่ใช้เทคนิค Zero-Click และ QR Code อันตรายเพื่อแฮ็กแอปแชทบนมือถือ โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย เพียงแค่เปิดข้อความหรือสแกน QR Code ก็ถูกเจาะได้ทันที ผลคือข้อมูลส่วนตัว การสนทนา และบัญชีผู้ใช้สามารถถูกยึดไปได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นภัยคุกคามที่กำลังแพร่กระจายและต้องระวังอย่างมาก
    https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps

    GRU Unit 29155 ใช้ SocGholish โจมตีบริษัทในสหรัฐฯ
    มีรายงานว่า GRU Unit 29155 ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ใช้มัลแวร์ SocGholish ในการโจมตีบริษัทสหรัฐฯ โดย SocGholish มักปลอมตัวเป็นการอัปเดตเบราว์เซอร์เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งมัลแวร์ จากนั้นเปิดทางให้คนร้ายเข้าถึงระบบภายในองค์กรได้ การโจมตีนี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้เครื่องมือไซเบอร์ขั้นสูงในปฏิบัติการทางการเมืองและเศรษฐกิจ
    https://securityonline.info/gru-unit-29155-uses-socgholish-to-target-us-firm

    ASUS Router พบช่องโหว่ร้ายแรง ต้องรีบอัปเดตด่วน
    ASUS ออกประกาศเตือนผู้ใช้เร้าเตอร์ หลังพบช่องโหว่รวม 8 จุดที่อาจถูกโจมตีได้ โดยมีช่องโหว่ร้ายแรงที่สุดคือการ Authentication Bypass ในระบบ AiCloud ที่มีคะแนนความเสี่ยงสูงถึง 9.4 ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงฟังก์ชันโดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีปัญหา Path Traversal, Command Injection และ SQL Injection ที่อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้ามาควบคุมหรือดึงข้อมูลออกไปได้ ASUS ได้ปล่อยเฟิร์มแวร์ใหม่ในเดือนตุลาคม 2025 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4

    มัลแวร์ RelayNFC บน Android เปลี่ยนมือถือเป็นเครื่องอ่านบัตร
    นักวิจัยจาก Cyble Research พบมัลแวร์ใหม่ชื่อ RelayNFC ที่แพร่ระบาดในบราซิล มันสามารถเปลี่ยนมือถือ Android ของเหยื่อให้กลายเป็นเครื่องอ่านบัตร NFC จากนั้นส่งข้อมูลบัตรและรหัส PIN ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์แบบเรียลไทม์ จุดที่น่ากังวลคือมัลแวร์นี้ยังไม่ถูกตรวจจับโดยโปรแกรมแอนติไวรัสใด ๆ และถูกแพร่ผ่านเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นพอร์ทัลความปลอดภัย ผู้ใช้ที่หลงเชื่อจะถูกหลอกให้ติดตั้งแอป APK อันตรายและกรอกข้อมูลบัตรของตัวเอง ทำให้แฮกเกอร์สามารถทำธุรกรรมเสมือนว่ามีบัตรจริงอยู่ในมือ
    https://securityonline.info/zero-detection-relaynfc-android-malware-turns-phones-into-remote-card-readers

    ช่องโหว่ MyASUS เปิดทางให้ยกระดับสิทธิ์เป็น SYSTEM
    ASUS ยังเจอปัญหาอีกหนึ่งอย่างในซอฟต์แวร์ MyASUS โดยมีช่องโหว่ Local Privilege Escalation (CVE-2025-59373) ที่ทำให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถยกระดับเป็น SYSTEM ได้ ซึ่งถือเป็นสิทธิ์สูงสุดบน Windows ช่องโหว่นี้เกิดจากกลไกการกู้ไฟล์ที่ตรวจสอบไม่ดี ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทนที่ไฟล์ที่เชื่อถือได้ด้วยไฟล์อันตราย และเมื่อระบบเรียกใช้งานก็จะรันในสิทธิ์สูงสุดทันที ASUS ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้สามารถอัปเดตผ่าน Windows Update หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ ASUS โดยตรง
    https://securityonline.info/asus-lpe-flaw-cve-2025-59373-high-severity-bug-grants-system-privileges-via-myasus-component

    ศาลสหรัฐฯ สั่งห้าม OpenAI ใช้ชื่อ "Cameo" ใน Sora
    เกิดคดีฟ้องร้องระหว่างแพลตฟอร์มวิดีโอคนดัง Cameo กับ OpenAI ที่ใช้ชื่อ “Cameo” ในฟีเจอร์ของแอป Sora ศาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งชั่วคราวห้าม OpenAI ใช้คำนี้จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม โดยให้เหตุผลว่าชื่อดังกล่าวอาจทำให้ผู้ใช้สับสนกับบริการของ Cameo ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ฝั่ง Cameo มองว่านี่คือการปกป้องแบรนด์ ส่วน OpenAI แย้งว่าคำว่า “cameo” เป็นคำทั่วไปที่ไม่ควรมีใครถือสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้จะมีการไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 19 ธันวาคมเพื่อพิจารณาว่าจะทำให้คำสั่งนี้ถาวรหรือไม่
    https://securityonline.info/cameo-wins-tro-against-openai-sora-barred-from-using-cameo-trademark

    Google เตรียมรวม Android และ ChromeOS ภายใต้ชื่อ Aluminium OS
    มีการค้นพบจากประกาศรับสมัครงานที่เผยว่า Google กำลังพัฒนา Aluminium OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่รวม Android และ ChromeOS เข้าด้วยกัน Aluminium OS จะรองรับหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ไปจนถึงมินิพีซี และมีการแบ่งระดับเป็น Entry, Mass Premium และ Premium แม้ Google ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มคือ ChromeOS จะถูกแทนที่ในอนาคต และ Aluminium OS จะกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ใช้แทนทั้งหมด
    https://securityonline.info/googles-new-merged-os-revealed-job-listing-points-to-aluminium-os

    Chromium เปิดดีเบตอีกครั้งเรื่อง JPEG-XL หลัง Apple นำไปใช้
    ทีมพัฒนา Chromium กำลังถกเถียงว่าจะนำฟอร์แมตภาพ JPEG-XL กลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่ Apple ได้ประกาศรองรับในระบบของตน ฟอร์แมตนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแทน JPEG แบบดั้งเดิม โดยมีคุณภาพสูงกว่าและขนาดไฟล์เล็กกว่า แต่ก่อนหน้านี้ Google เคยตัดสินใจถอดออกจาก Chromium เพราะมองว่าไม่จำเป็น ตอนนี้การที่ Apple นำไปใช้ทำให้เกิดแรงกดดันให้ Google พิจารณาใหม่ว่าจะกลับมาเปิดใช้งานหรือไม่
    https://securityonline.info/chromium-reopens-jpeg-xl-debate-will-google-reinstate-support-after-apple-adopted-it

    OpenAI เปิดตัว Shopping Research สร้างคู่มือซื้อของเฉพาะบุคคล
    OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่สามารถสร้างคู่มือการซื้อสินค้าแบบเฉพาะบุคคลได้ โดยผู้ใช้เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการ เช่น “หาหูฟังสำหรับวิ่ง” ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูล รีวิว และตัวเลือกที่เหมาะสม แล้วสรุปออกมาเป็นคู่มือการซื้อที่เข้าใจง่าย จุดเด่นคือการทำให้การค้นหาสินค้าไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลเอง แต่ได้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น
    https://securityonline.info/openai-launches-shopping-research-chatgpt-now-generates-personalized-buying-guides

    Android เตรียมเพิ่ม Universal Clipboard ใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้
    Google กำลังพัฒนา Universal Clipboard สำหรับ Android ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกข้อความหรือไฟล์จากมือถือ แล้วนำไปวางบน Chromebook หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้ทันที ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การทำงานระหว่างหลายอุปกรณ์ราบรื่นขึ้น ไม่ต้องใช้วิธีส่งไฟล์หรือข้อความผ่านแอปแชทอีกต่อไป ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งาน Android ให้ใกล้เคียงกับระบบนิเวศของ Apple ที่มีฟีเจอร์คล้ายกันอยู่แล้ว
    https://securityonline.info/android-getting-native-universal-clipboard-seamless-sync-coming-to-phones-chromebooks

    ราคาการ์ดจอ AMD จะขึ้นอย่างน้อย 10% ในปี 2026
    มีรายงานว่า AMD GPU จะปรับราคาขึ้นอย่างน้อย 10% ในปี 2026 เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำที่ใช้ผลิตการ์ดจอเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก การปรับราคานี้จะกระทบทั้งรุ่นสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและรุ่นสำหรับงานดาต้าเซ็นเตอร์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตลาดการ์ดจออาจเผชิญแรงกดดันจากทั้งฝั่งผู้ผลิตและผู้บริโภค เพราะความต้องการยังสูง แต่ต้นทุนกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/amd-gpu-prices-to-increase-by-at-least-10-in-2026-due-to-surging-memory-costs

    Detego Global เปิดตัวแพลตฟอร์มจัดการคดีสำหรับทีมดิจิทัลฟอเรนสิก
    ​​​​​​​บริษัท Detego Global เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่สำหรับการจัดการคดีที่ออกแบบมาเพื่อทีมดิจิทัลฟอเรนสิกและการตอบสนองเหตุการณ์ไซเบอร์ ระบบนี้ช่วยให้ทีมสามารถเก็บหลักฐาน จัดการข้อมูล และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือหลายอย่างไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้การทำงานที่ซับซ้อนสามารถจัดการได้ง่ายขึ้นและลดเวลาในการสืบสวน
    https://securityonline.info/detego-global-launches-case-management-platform-for-digital-forensics-and-incident-response-teams
    📌🔒🟢 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟢🔒📌 #รวมข่าวIT #20251126 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Syncope (CVE-2025-65998) เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยจาก Apache เกี่ยวกับซอฟต์แวร์จัดการตัวตนชื่อ Syncope ที่องค์กรใหญ่ใช้กันมาก ปัญหาคือมีการฝัง "กุญแจ AES" เอาไว้ในโค้ดแบบตายตัว เมื่อผู้ดูแลระบบเลือกใช้การเข้ารหัสรหัสผ่านในฐานข้อมูล Syncope จะใช้กุญแจเดียวกันทุกระบบ ทำให้ถ้าใครเข้าถึงฐานข้อมูลได้ก็สามารถถอดรหัสรหัสผ่านทั้งหมดออกมาได้ทันที ปัญหานี้กระทบหลายเวอร์ชัน และ Apache แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเกรดไปยังเวอร์ชันใหม่ที่แก้ไขแล้ว เพราะเวอร์ชันเก่าไม่มีแพตช์รองรับ 🔗 https://securityonline.info/apache-syncope-flaw-cve-2025-65998-exposes-encrypted-user-passwords-due-to-hard-coded-aes-key 📞 Zenitel TCIV-3+ Intercoms เจอช่องโหว่ร้ายแรงหลายจุด (CVSS 9.8) Zenitel ออกประกาศด่วนพร้อมกับ CISA ว่าระบบอินเตอร์คอม TCIV-3+ มีช่องโหว่ถึง 5 จุด โดย 3 จุดเป็นการโจมตีแบบ OS Command Injection ที่ร้ายแรงมาก สามารถให้คนร้ายสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ XSS และ Out-of-Bounds Write ที่ทำให้เครื่องแครชได้ การแก้ไขคือผู้ใช้ต้องอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชัน 9.3.3.0 หรือใหม่กว่าโดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้ อุปกรณ์สื่อสารสำคัญเหล่านี้อาจถูกควบคุมจากภายนอกได้ 🔗 https://securityonline.info/urgent-patch-required-zenitel-tciv-3-intercoms-hit-by-multiple-critical-flaws-cvss-9-8 🔐 Node-forge (CVE-2025-12816) ช่องโหว่การตรวจสอบลายเซ็น ไลบรารีชื่อดัง node-forge ที่ใช้กันในหลายระบบทั่วโลก (ดาวน์โหลดกว่า 21 ล้านครั้งต่อสัปดาห์) ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้การตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลถูกหลอกได้ โดยการจัดการข้อมูล ASN.1 ที่บิดเบือน ทำให้ระบบที่ใช้ node-forge ตรวจสอบใบรับรองหรือไฟล์ที่เซ็นดิจิทัลอาจยอมรับข้อมูลปลอมว่าเป็นจริง ผลกระทบคือการปลอมตัวตน การยอมรับซอฟต์แวร์ที่ถูกแก้ไข หรือการเจาะระบบผ่านแพ็กเกจที่ดูเหมือนถูกต้อง ทางผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชัน 1.3.2 เพื่อแก้ไขแล้ว และแนะนำให้รีบอัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/critical-node-forge-flaw-cve-2025-12816-allows-signature-verification-bypass-via-asn-1-manipulation-21m-downloads-week 📱 RelayNFC มัลแวร์ Android ที่ทำให้มือถือกลายเป็นเครื่องอ่านบัตร นักวิจัยจาก Cyble พบมัลแวร์ใหม่ชื่อ RelayNFC ที่แพร่ระบาดในบราซิล มันทำให้มือถือ Android ของเหยื่อกลายเป็นเครื่องอ่านบัตรเครดิต/เดบิตจากระยะไกล คนร้ายสามารถใช้ข้อมูลที่ได้ไปทำธุรกรรมเหมือนถือบัตรจริงอยู่ในมือ จุดน่ากลัวคือมัลแวร์นี้ยังไม่ถูกตรวจจับใน VirusTotal และแพร่ผ่านเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นพอร์ทัลความปลอดภัย เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดแอปปลอมและทำตามคำสั่ง เช่น แตะบัตรกับมือถือ ข้อมูลบัตรและรหัส PIN จะถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคนร้ายทันที ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและอันตรายมาก 🔗 https://securityonline.info/zero-detection-relaynfc-android-malware-turns-phones-into-remote-card-readers 🌐 WordPress Plugin Sneeit Framework (CVE-2025-6389) ถูกโจมตีจริงแล้ว ปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 9.8 (Critical) ที่เปิดทางให้คนร้ายรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ฟังก์ชันที่ผิดพลาดคือการรับอินพุตจากผู้ใช้แล้วส่งต่อไปยัง call_user_func() โดยตรง ทำให้ใครก็ตามสามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ หรือยึดเว็บไซต์ไปได้ทันที ตอนนี้มีการโจมตีจริงเกิดขึ้นแล้ว โดย Wordfence รายงานว่ามีการบล็อกการโจมตีเกือบ 500 ครั้งในวันเดียว ผู้พัฒนาปลั๊กอินได้ออกเวอร์ชัน 8.4 เพื่อแก้ไขแล้ว เจ้าของเว็บไซต์ WordPress ต้องรีบอัปเดตโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 📡 ASUS Router เจอช่องโหว่ 8 จุด (CVE-2025-59366) ASUS ประกาศเตือนว่าเราท์เตอร์หลายรุ่นมีช่องโหว่รวม 8 จุด โดยมีช่องโหว่ Authentication Bypass ที่ร้ายแรงมาก (CVSS 9.4) ทำให้คนร้ายสามารถเข้าถึงระบบได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ผลกระทบคือผู้โจมตีอาจควบคุมการตั้งค่าเครือข่ายหรือดักข้อมูลการใช้งานได้ทันที ASUS แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4 💻 Fluent Bit เจอช่องโหว่ร้ายแรง เปิดทาง RCE และแก้ไข Telemetry Fluent Bit ซึ่งเป็นเครื่องมือเก็บและส่งข้อมูล Log ที่องค์กรใหญ่ใช้กัน ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้คนร้ายสามารถรันโค้ดจากระยะไกลได้ รวมถึงแก้ไขข้อมูล Telemetry ที่ส่งออกไป ทำให้ระบบตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลผิดเพี้ยนได้ทันที ช่องโหว่นี้กระทบหลายเวอร์ชัน และมีความเสี่ยงสูงต่อองค์กรที่ใช้ Fluent Bit ในระบบคลาวด์หรือโครงสร้างพื้นฐานหลัก 🔗 https://securityonline.info/critical-fluent-bit-flaws-enable-rce-and-telemetry-tampering-in-major-orgs 📲 CISA เตือนด่วน: Spyware ใช้ Zero-Click และ QR Code มุ่งโจมตีแอปแชท CISA ออกประกาศฉุกเฉินว่ามี Spyware เชิงพาณิชย์ที่ใช้เทคนิค Zero-Click และ QR Code อันตรายเพื่อแฮ็กแอปแชทบนมือถือ โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย เพียงแค่เปิดข้อความหรือสแกน QR Code ก็ถูกเจาะได้ทันที ผลคือข้อมูลส่วนตัว การสนทนา และบัญชีผู้ใช้สามารถถูกยึดไปได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นภัยคุกคามที่กำลังแพร่กระจายและต้องระวังอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps 🎭 GRU Unit 29155 ใช้ SocGholish โจมตีบริษัทในสหรัฐฯ มีรายงานว่า GRU Unit 29155 ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ใช้มัลแวร์ SocGholish ในการโจมตีบริษัทสหรัฐฯ โดย SocGholish มักปลอมตัวเป็นการอัปเดตเบราว์เซอร์เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งมัลแวร์ จากนั้นเปิดทางให้คนร้ายเข้าถึงระบบภายในองค์กรได้ การโจมตีนี้สะท้อนให้เห็นถึงการใช้เครื่องมือไซเบอร์ขั้นสูงในปฏิบัติการทางการเมืองและเศรษฐกิจ 🔗 https://securityonline.info/gru-unit-29155-uses-socgholish-to-target-us-firm 🛡️ ASUS Router พบช่องโหว่ร้ายแรง ต้องรีบอัปเดตด่วน ASUS ออกประกาศเตือนผู้ใช้เร้าเตอร์ หลังพบช่องโหว่รวม 8 จุดที่อาจถูกโจมตีได้ โดยมีช่องโหว่ร้ายแรงที่สุดคือการ Authentication Bypass ในระบบ AiCloud ที่มีคะแนนความเสี่ยงสูงถึง 9.4 ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงฟังก์ชันโดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีปัญหา Path Traversal, Command Injection และ SQL Injection ที่อาจเปิดทางให้แฮกเกอร์เข้ามาควบคุมหรือดึงข้อมูลออกไปได้ ASUS ได้ปล่อยเฟิร์มแวร์ใหม่ในเดือนตุลาคม 2025 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4 📱 มัลแวร์ RelayNFC บน Android เปลี่ยนมือถือเป็นเครื่องอ่านบัตร นักวิจัยจาก Cyble Research พบมัลแวร์ใหม่ชื่อ RelayNFC ที่แพร่ระบาดในบราซิล มันสามารถเปลี่ยนมือถือ Android ของเหยื่อให้กลายเป็นเครื่องอ่านบัตร NFC จากนั้นส่งข้อมูลบัตรและรหัส PIN ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์แบบเรียลไทม์ จุดที่น่ากังวลคือมัลแวร์นี้ยังไม่ถูกตรวจจับโดยโปรแกรมแอนติไวรัสใด ๆ และถูกแพร่ผ่านเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ปลอมเป็นพอร์ทัลความปลอดภัย ผู้ใช้ที่หลงเชื่อจะถูกหลอกให้ติดตั้งแอป APK อันตรายและกรอกข้อมูลบัตรของตัวเอง ทำให้แฮกเกอร์สามารถทำธุรกรรมเสมือนว่ามีบัตรจริงอยู่ในมือ 🔗 https://securityonline.info/zero-detection-relaynfc-android-malware-turns-phones-into-remote-card-readers ⚠️ ช่องโหว่ MyASUS เปิดทางให้ยกระดับสิทธิ์เป็น SYSTEM ASUS ยังเจอปัญหาอีกหนึ่งอย่างในซอฟต์แวร์ MyASUS โดยมีช่องโหว่ Local Privilege Escalation (CVE-2025-59373) ที่ทำให้ผู้ใช้สิทธิ์ต่ำสามารถยกระดับเป็น SYSTEM ได้ ซึ่งถือเป็นสิทธิ์สูงสุดบน Windows ช่องโหว่นี้เกิดจากกลไกการกู้ไฟล์ที่ตรวจสอบไม่ดี ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทนที่ไฟล์ที่เชื่อถือได้ด้วยไฟล์อันตราย และเมื่อระบบเรียกใช้งานก็จะรันในสิทธิ์สูงสุดทันที ASUS ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้สามารถอัปเดตผ่าน Windows Update หรือดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ ASUS โดยตรง 🔗 https://securityonline.info/asus-lpe-flaw-cve-2025-59373-high-severity-bug-grants-system-privileges-via-myasus-component ⚖️ ศาลสหรัฐฯ สั่งห้าม OpenAI ใช้ชื่อ "Cameo" ใน Sora เกิดคดีฟ้องร้องระหว่างแพลตฟอร์มวิดีโอคนดัง Cameo กับ OpenAI ที่ใช้ชื่อ “Cameo” ในฟีเจอร์ของแอป Sora ศาลสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งชั่วคราวห้าม OpenAI ใช้คำนี้จนถึงวันที่ 22 ธันวาคม โดยให้เหตุผลว่าชื่อดังกล่าวอาจทำให้ผู้ใช้สับสนกับบริการของ Cameo ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ฝั่ง Cameo มองว่านี่คือการปกป้องแบรนด์ ส่วน OpenAI แย้งว่าคำว่า “cameo” เป็นคำทั่วไปที่ไม่ควรมีใครถือสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้จะมีการไต่สวนอีกครั้งในวันที่ 19 ธันวาคมเพื่อพิจารณาว่าจะทำให้คำสั่งนี้ถาวรหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/cameo-wins-tro-against-openai-sora-barred-from-using-cameo-trademark 💻 Google เตรียมรวม Android และ ChromeOS ภายใต้ชื่อ Aluminium OS มีการค้นพบจากประกาศรับสมัครงานที่เผยว่า Google กำลังพัฒนา Aluminium OS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ที่รวม Android และ ChromeOS เข้าด้วยกัน Aluminium OS จะรองรับหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ไปจนถึงมินิพีซี และมีการแบ่งระดับเป็น Entry, Mass Premium และ Premium แม้ Google ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่แนวโน้มคือ ChromeOS จะถูกแทนที่ในอนาคต และ Aluminium OS จะกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักที่ใช้แทนทั้งหมด 🔗 https://securityonline.info/googles-new-merged-os-revealed-job-listing-points-to-aluminium-os 🖼️ Chromium เปิดดีเบตอีกครั้งเรื่อง JPEG-XL หลัง Apple นำไปใช้ ทีมพัฒนา Chromium กำลังถกเถียงว่าจะนำฟอร์แมตภาพ JPEG-XL กลับมาใช้อีกครั้ง หลังจากที่ Apple ได้ประกาศรองรับในระบบของตน ฟอร์แมตนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแทน JPEG แบบดั้งเดิม โดยมีคุณภาพสูงกว่าและขนาดไฟล์เล็กกว่า แต่ก่อนหน้านี้ Google เคยตัดสินใจถอดออกจาก Chromium เพราะมองว่าไม่จำเป็น ตอนนี้การที่ Apple นำไปใช้ทำให้เกิดแรงกดดันให้ Google พิจารณาใหม่ว่าจะกลับมาเปิดใช้งานหรือไม่ 🔗 https://securityonline.info/chromium-reopens-jpeg-xl-debate-will-google-reinstate-support-after-apple-adopted-it 🛍️ OpenAI เปิดตัว Shopping Research สร้างคู่มือซื้อของเฉพาะบุคคล OpenAI เปิดฟีเจอร์ใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่สามารถสร้างคู่มือการซื้อสินค้าแบบเฉพาะบุคคลได้ โดยผู้ใช้เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการ เช่น “หาหูฟังสำหรับวิ่ง” ระบบจะวิเคราะห์ข้อมูล รีวิว และตัวเลือกที่เหมาะสม แล้วสรุปออกมาเป็นคู่มือการซื้อที่เข้าใจง่าย จุดเด่นคือการทำให้การค้นหาสินค้าไม่ต้องเสียเวลาหาข้อมูลเอง แต่ได้คำแนะนำที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/openai-launches-shopping-research-chatgpt-now-generates-personalized-buying-guides 🔗 Android เตรียมเพิ่ม Universal Clipboard ใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้ Google กำลังพัฒนา Universal Clipboard สำหรับ Android ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถคัดลอกข้อความหรือไฟล์จากมือถือ แล้วนำไปวางบน Chromebook หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ได้ทันที ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้การทำงานระหว่างหลายอุปกรณ์ราบรื่นขึ้น ไม่ต้องใช้วิธีส่งไฟล์หรือข้อความผ่านแอปแชทอีกต่อไป ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การใช้งาน Android ให้ใกล้เคียงกับระบบนิเวศของ Apple ที่มีฟีเจอร์คล้ายกันอยู่แล้ว 🔗 https://securityonline.info/android-getting-native-universal-clipboard-seamless-sync-coming-to-phones-chromebooks 💸 ราคาการ์ดจอ AMD จะขึ้นอย่างน้อย 10% ในปี 2026 มีรายงานว่า AMD GPU จะปรับราคาขึ้นอย่างน้อย 10% ในปี 2026 เนื่องจากต้นทุนหน่วยความจำที่ใช้ผลิตการ์ดจอเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก การปรับราคานี้จะกระทบทั้งรุ่นสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและรุ่นสำหรับงานดาต้าเซ็นเตอร์ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าตลาดการ์ดจออาจเผชิญแรงกดดันจากทั้งฝั่งผู้ผลิตและผู้บริโภค เพราะความต้องการยังสูง แต่ต้นทุนกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/amd-gpu-prices-to-increase-by-at-least-10-in-2026-due-to-surging-memory-costs 🕵️‍♂️ Detego Global เปิดตัวแพลตฟอร์มจัดการคดีสำหรับทีมดิจิทัลฟอเรนสิก ​​​​​​​บริษัท Detego Global เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่สำหรับการจัดการคดีที่ออกแบบมาเพื่อทีมดิจิทัลฟอเรนสิกและการตอบสนองเหตุการณ์ไซเบอร์ ระบบนี้ช่วยให้ทีมสามารถเก็บหลักฐาน จัดการข้อมูล และทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จุดเด่นคือการรวมเครื่องมือหลายอย่างไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ทำให้การทำงานที่ซับซ้อนสามารถจัดการได้ง่ายขึ้นและลดเวลาในการสืบสวน 🔗 https://securityonline.info/detego-global-launches-case-management-platform-for-digital-forensics-and-incident-response-teams
    0 Comments 0 Shares 21 Views 0 Reviews
  • ดีลพันล้าน: Google และ Meta อาจร่วมมือด้านชิป AI

    รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Meta กำลังเจรจากับ Google เพื่อเช่าชิป Cloud TPU ในปี 2026 และซื้อขาดในปี 2027 ดีลนี้มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ของ Google ที่ก่อนหน้านี้ใช้ TPU ส่วนใหญ่เพื่อการพัฒนาภายในเท่านั้น
    รายละเอียดการเจรจา
    ตามรายงานจาก Reuters ดีลนี้จะทำให้ Meta สามารถเข้าถึงพลังการประมวลผลของ TPU เพื่อรองรับการพัฒนา AI ในอนาคต ขณะที่ Google จะได้โอกาสเจาะตลาดชิป AI ที่ Nvidia ครองอยู่ โดยบางฝ่ายคาดว่า Google อาจสามารถแย่งส่วนแบ่งรายได้จากศูนย์ข้อมูลของ Nvidia ได้ถึง 10% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและตลาดหุ้น
    ข่าวการเจรจาทำให้หุ้นของ Alphabet (Google) และ Meta ปรับตัวขึ้น ขณะที่ Nvidia ตกลงราว 3% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น หาก Google สามารถผลักดัน TPU ให้เป็นทางเลือกแทน GPU ของ Nvidia ได้จริง จะเป็นการเปลี่ยนสมดุลในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ความท้าทายและสิ่งที่ต้องจับตา
    แม้ดีลนี้จะสร้างความตื่นเต้น แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากอุตสาหกรรม AI กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านความต้องการพลังประมวลผลและราคาหน่วยความจำที่พุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อาจเสี่ยงหาก “ฟองสบู่ AI” แตกในอนาคต แต่หากดีลนี้สำเร็จ Google จะกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของ Nvidia ในตลาดชิป

    สรุปสาระสำคัญ
    รายละเอียดดีล Google–Meta
    Meta จะเช่า TPU ในปี 2026 และซื้อขาดในปี 2027

    ผลประโยชน์ของ Google
    อาจแย่งส่วนแบ่งรายได้ศูนย์ข้อมูล Nvidia ได้ถึง 10%

    ผลกระทบต่อตลาดหุ้น
    หุ้น Alphabet และ Meta ขึ้น ขณะที่ Nvidia ลดลง 3%

    ความหมายต่ออุตสาหกรรม
    ดีลนี้อาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดชิป AI

    คำเตือนจากนักวิเคราะห์
    อุตสาหกรรม AI มีความไม่แน่นอนสูงและอาจเจอฟองสบู่แตก

    ความเสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน
    ราคาหน่วยความจำและการผลิตอาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตลาด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/billion-dollar-ai-chip-deal-between-google-and-meta-could-be-on-the-cards-would-involve-renting-google-cloud-tpus-next-year-outright-purchases-in-2027
    💰 ดีลพันล้าน: Google และ Meta อาจร่วมมือด้านชิป AI รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Meta กำลังเจรจากับ Google เพื่อเช่าชิป Cloud TPU ในปี 2026 และซื้อขาดในปี 2027 ดีลนี้มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์ของ Google ที่ก่อนหน้านี้ใช้ TPU ส่วนใหญ่เพื่อการพัฒนาภายในเท่านั้น ⚙️ รายละเอียดการเจรจา ตามรายงานจาก Reuters ดีลนี้จะทำให้ Meta สามารถเข้าถึงพลังการประมวลผลของ TPU เพื่อรองรับการพัฒนา AI ในอนาคต ขณะที่ Google จะได้โอกาสเจาะตลาดชิป AI ที่ Nvidia ครองอยู่ โดยบางฝ่ายคาดว่า Google อาจสามารถแย่งส่วนแบ่งรายได้จากศูนย์ข้อมูลของ Nvidia ได้ถึง 10% ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ 📈 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและตลาดหุ้น ข่าวการเจรจาทำให้หุ้นของ Alphabet (Google) และ Meta ปรับตัวขึ้น ขณะที่ Nvidia ตกลงราว 3% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแข่งขันจะรุนแรงขึ้น หาก Google สามารถผลักดัน TPU ให้เป็นทางเลือกแทน GPU ของ Nvidia ได้จริง จะเป็นการเปลี่ยนสมดุลในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 🌍 ความท้าทายและสิ่งที่ต้องจับตา แม้ดีลนี้จะสร้างความตื่นเต้น แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง เนื่องจากอุตสาหกรรม AI กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งด้านความต้องการพลังประมวลผลและราคาหน่วยความจำที่พุ่งสูงขึ้น นักวิเคราะห์เตือนว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อาจเสี่ยงหาก “ฟองสบู่ AI” แตกในอนาคต แต่หากดีลนี้สำเร็จ Google จะกลายเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งของ Nvidia ในตลาดชิป 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายละเอียดดีล Google–Meta ➡️ Meta จะเช่า TPU ในปี 2026 และซื้อขาดในปี 2027 ✅ ผลประโยชน์ของ Google ➡️ อาจแย่งส่วนแบ่งรายได้ศูนย์ข้อมูล Nvidia ได้ถึง 10% ✅ ผลกระทบต่อตลาดหุ้น ➡️ หุ้น Alphabet และ Meta ขึ้น ขณะที่ Nvidia ลดลง 3% ✅ ความหมายต่ออุตสาหกรรม ➡️ ดีลนี้อาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดชิป AI ‼️ คำเตือนจากนักวิเคราะห์ ⛔ อุตสาหกรรม AI มีความไม่แน่นอนสูงและอาจเจอฟองสบู่แตก ‼️ ความเสี่ยงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ ราคาหน่วยความจำและการผลิตอาจเป็นอุปสรรคต่อการขยายตลาด https://www.tomshardware.com/tech-industry/billion-dollar-ai-chip-deal-between-google-and-meta-could-be-on-the-cards-would-involve-renting-google-cloud-tpus-next-year-outright-purchases-in-2027
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Billion-dollar AI chip deal between Google and Meta could be on the cards — would involve renting Google Cloud TPUs next year, outright purchases in 2027
    The deal is said to be worth billions to both firms, and has already helped boost Google's parent company to a near $4 trillion valuation
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • Elon Musk ประกาศ Tesla จะผลิตชิป AI มากกว่าเจ้าอื่นรวมกัน

    Elon Musk เปิดเผยว่า Tesla มีทีมวิศวกรรมชิป AI ที่ทำงานมาหลายปีแล้ว และได้ออกแบบชิป AI4 สำหรับรถยนต์ Tesla รวมถึงใกล้เสร็จสิ้นการพัฒนา AI5 โดยตั้งเป้าว่าจะออกชิปใหม่ทุก 12 เดือน พร้อมอ้างว่า Tesla จะผลิตชิป AI ในปริมาณ “มากกว่าทุกบริษัทอื่นรวมกัน”

    ความก้าวหน้าของทีม AI Engineering
    ทีมของ Tesla ได้ออกแบบและติดตั้งชิป AI หลายล้านตัวในรถยนต์และศูนย์ข้อมูลแล้ว Musk ระบุว่าการพัฒนาชิป AI5 กำลังจะเสร็จสิ้น และมีแผนพัฒนา AI6 ต่อทันที โดย Tesla ยังพิจารณาสร้างโรงงานผลิตชิปเอง (TeraFab) เพื่อลดการพึ่งพาผู้ผลิตรายอื่น เช่น TSMC และ Samsung

    การเชื่อมโยงกับโครงการ Optimus
    Musk เชื่อมโยงการพัฒนาชิปเข้ากับโครงการหุ่นยนต์ Optimus โดยกล่าวว่าชิปเหล่านี้จะช่วยให้หุ่นยนต์สามารถทำงานทางการแพทย์และ “ช่วยชีวิตผู้คนหลายล้าน” แม้ปัจจุบัน Optimus ยังอยู่ในขั้นทดลองและยังไม่สามารถทำงานอัตโนมัติได้เต็มรูปแบบ แต่ Musk ยังคงมองว่าชิป AI จะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา

    ความท้าทายและข้อสงสัย
    แม้คำกล่าวของ Musk จะสร้างความตื่นเต้น แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการผลิตชิปในปริมาณมากกว่าบริษัทอย่าง Nvidia, AMD หรือ Intel นั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรมหาศาล จึงมีข้อสงสัยว่าคำสัญญานี้จะเป็นจริงได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อ Tesla ยังต้องแข่งขันกับผู้ผลิตชิปที่มีสายการผลิตระดับโลกอยู่แล้ว

    สรุปสาระสำคัญ
    ทีม AI Engineering ของ Tesla
    พัฒนา AI4 และใกล้เสร็จสิ้น AI5 พร้อมตั้งเป้า AI6

    แผนการผลิต
    Musk ตั้งเป้าผลิตชิปมากกว่าทุกบริษัทอื่นรวมกัน

    การเชื่อมโยงกับ Optimus
    ชิป AI จะถูกใช้ในหุ่นยนต์เพื่อการแพทย์และการช่วยชีวิต

    ความท้าทาย
    Tesla อาจสร้างโรงงาน TeraFab เพื่อลดการพึ่งพาผู้ผลิตรายอื่น

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    การผลิตชิปในปริมาณมหาศาลอาจไม่เป็นจริงในระยะสั้น

    ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    ต้องเผชิญกับคู่แข่งรายใหญ่ที่มีสายการ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/elon-musk-claims-he-will-build-chips-at-higher-volumes-ultimately-than-all-other-ai-chips-combined-tesla-ai-engineering-team-has-ai5-chip-ready-to-go-and-is-setting-its-sights-on-ai6
    ⚡ Elon Musk ประกาศ Tesla จะผลิตชิป AI มากกว่าเจ้าอื่นรวมกัน Elon Musk เปิดเผยว่า Tesla มีทีมวิศวกรรมชิป AI ที่ทำงานมาหลายปีแล้ว และได้ออกแบบชิป AI4 สำหรับรถยนต์ Tesla รวมถึงใกล้เสร็จสิ้นการพัฒนา AI5 โดยตั้งเป้าว่าจะออกชิปใหม่ทุก 12 เดือน พร้อมอ้างว่า Tesla จะผลิตชิป AI ในปริมาณ “มากกว่าทุกบริษัทอื่นรวมกัน” 🛠️ ความก้าวหน้าของทีม AI Engineering ทีมของ Tesla ได้ออกแบบและติดตั้งชิป AI หลายล้านตัวในรถยนต์และศูนย์ข้อมูลแล้ว Musk ระบุว่าการพัฒนาชิป AI5 กำลังจะเสร็จสิ้น และมีแผนพัฒนา AI6 ต่อทันที โดย Tesla ยังพิจารณาสร้างโรงงานผลิตชิปเอง (TeraFab) เพื่อลดการพึ่งพาผู้ผลิตรายอื่น เช่น TSMC และ Samsung 🤖 การเชื่อมโยงกับโครงการ Optimus Musk เชื่อมโยงการพัฒนาชิปเข้ากับโครงการหุ่นยนต์ Optimus โดยกล่าวว่าชิปเหล่านี้จะช่วยให้หุ่นยนต์สามารถทำงานทางการแพทย์และ “ช่วยชีวิตผู้คนหลายล้าน” แม้ปัจจุบัน Optimus ยังอยู่ในขั้นทดลองและยังไม่สามารถทำงานอัตโนมัติได้เต็มรูปแบบ แต่ Musk ยังคงมองว่าชิป AI จะเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา 🌍 ความท้าทายและข้อสงสัย แม้คำกล่าวของ Musk จะสร้างความตื่นเต้น แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าการผลิตชิปในปริมาณมากกว่าบริษัทอย่าง Nvidia, AMD หรือ Intel นั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและทรัพยากรมหาศาล จึงมีข้อสงสัยว่าคำสัญญานี้จะเป็นจริงได้หรือไม่ โดยเฉพาะเมื่อ Tesla ยังต้องแข่งขันกับผู้ผลิตชิปที่มีสายการผลิตระดับโลกอยู่แล้ว 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ทีม AI Engineering ของ Tesla ➡️ พัฒนา AI4 และใกล้เสร็จสิ้น AI5 พร้อมตั้งเป้า AI6 ✅ แผนการผลิต ➡️ Musk ตั้งเป้าผลิตชิปมากกว่าทุกบริษัทอื่นรวมกัน ✅ การเชื่อมโยงกับ Optimus ➡️ ชิป AI จะถูกใช้ในหุ่นยนต์เพื่อการแพทย์และการช่วยชีวิต ✅ ความท้าทาย ➡️ Tesla อาจสร้างโรงงาน TeraFab เพื่อลดการพึ่งพาผู้ผลิตรายอื่น ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ การผลิตชิปในปริมาณมหาศาลอาจไม่เป็นจริงในระยะสั้น ‼️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน ⛔ ต้องเผชิญกับคู่แข่งรายใหญ่ที่มีสายการ https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/elon-musk-claims-he-will-build-chips-at-higher-volumes-ultimately-than-all-other-ai-chips-combined-tesla-ai-engineering-team-has-ai5-chip-ready-to-go-and-is-setting-its-sights-on-ai6
    0 Comments 0 Shares 19 Views 0 Reviews
  • OpenAI เปิดตัว ChatGPT Shopping Research Tool ต้อนรับเทศกาลช้อปปิ้ง

    OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Shopping Research Tool สำหรับ ChatGPT ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและสร้างคู่มือการซื้อแบบเฉพาะบุคคล โดยใช้โมเดล GPT-5 mini ที่ถูกฝึกให้ถามคำถามเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจความต้องการ เช่น งบประมาณ สี หรือขนาดที่ต้องการ ก่อนจะเสนอรายการสินค้า 10–15 รายการให้ผู้ใช้เลือกปรับแต่งต่อไป

    วิธีการทำงานที่แตกต่างจากการค้นหาทั่วไป
    แทนที่จะตอบทันทีเหมือนการสนทนาปกติ ฟีเจอร์นี้จะใช้รูปแบบ “quiz” เพื่อเก็บข้อมูลความต้องการของผู้ใช้ จากนั้นจึงรวบรวมรีวิวจากเว็บไซต์ที่ OpenAI มองว่ามีคุณภาพสูง เช่น Reddit ซึ่งมีประสบการณ์จริงจากผู้ใช้ มากกว่าการพึ่งพารีวิวการตลาดบนหน้าเว็บสินค้า ฟีเจอร์นี้ยังไม่เน้นการสร้างรายได้ แต่เปิดให้ใช้งานฟรีแบบ “เกือบไม่จำกัด” จนถึงเดือนมกราคม

    ผลกระทบต่อวงการช้อปปิ้งออนไลน์
    การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ช้อปปิ้ง โดย OpenAI ต้องการให้ ChatGPT เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเลือกซื้อสินค้า ไม่ใช่แค่เครื่องมือค้นหา ขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง Perplexity AI ก็พยายามเข้าสู่ตลาดเดียวกัน ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ในอนาคต

    ข้อจำกัดและสิ่งที่ต้องระวัง
    แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ OpenAI ยอมรับว่าฟีเจอร์นี้ยังอาจให้ข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับราคาและรายละเอียดสินค้า จึงแนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลกับเว็บไซต์ของร้านค้าโดยตรง นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเรื่องความแม่นยำในการแยกแยะรีวิวจริงกับรีวิวที่มีอคติ ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญของการใช้ AI ในการช่วยตัดสินใจซื้อสินค้า

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่จาก OpenAI
    ChatGPT Shopping Research Tool ใช้ GPT-5 mini สร้างคู่มือการซื้อเฉพาะบุคคล

    วิธีการทำงาน
    ใช้รูปแบบ quiz เพื่อเก็บข้อมูล และอ้างอิงรีวิวจากเว็บไซต์คุณภาพสูง

    ผลกระทบต่อวงการ
    แข่งขันกับ Perplexity AI และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์

    ข้อดีสำหรับผู้ใช้
    เปิดให้ใช้งานฟรีแบบเกือบไม่จำกัดจนถึงเดือนมกราคม

    คำเตือนจาก OpenAI
    ข้อมูลบางอย่าง เช่น ราคาและรายละเอียดสินค้า อาจไม่ถูกต้อง

    ความเสี่ยงด้านรีวิว
    อาจมีการปะปนระหว่างรีวิวจริงกับรีวิวที่มีอคติ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/26/openai-debuts-chatgpt-shopping-research-tool-ahead-of-the-holidays
    🛍️ OpenAI เปิดตัว ChatGPT Shopping Research Tool ต้อนรับเทศกาลช้อปปิ้ง OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ Shopping Research Tool สำหรับ ChatGPT ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและสร้างคู่มือการซื้อแบบเฉพาะบุคคล โดยใช้โมเดล GPT-5 mini ที่ถูกฝึกให้ถามคำถามเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจความต้องการ เช่น งบประมาณ สี หรือขนาดที่ต้องการ ก่อนจะเสนอรายการสินค้า 10–15 รายการให้ผู้ใช้เลือกปรับแต่งต่อไป 🧩 วิธีการทำงานที่แตกต่างจากการค้นหาทั่วไป แทนที่จะตอบทันทีเหมือนการสนทนาปกติ ฟีเจอร์นี้จะใช้รูปแบบ “quiz” เพื่อเก็บข้อมูลความต้องการของผู้ใช้ จากนั้นจึงรวบรวมรีวิวจากเว็บไซต์ที่ OpenAI มองว่ามีคุณภาพสูง เช่น Reddit ซึ่งมีประสบการณ์จริงจากผู้ใช้ มากกว่าการพึ่งพารีวิวการตลาดบนหน้าเว็บสินค้า ฟีเจอร์นี้ยังไม่เน้นการสร้างรายได้ แต่เปิดให้ใช้งานฟรีแบบ “เกือบไม่จำกัด” จนถึงเดือนมกราคม 🌍 ผลกระทบต่อวงการช้อปปิ้งออนไลน์ การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI ช้อปปิ้ง โดย OpenAI ต้องการให้ ChatGPT เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเลือกซื้อสินค้า ไม่ใช่แค่เครื่องมือค้นหา ขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง Perplexity AI ก็พยายามเข้าสู่ตลาดเดียวกัน ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ในอนาคต ⚠️ ข้อจำกัดและสิ่งที่ต้องระวัง แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ OpenAI ยอมรับว่าฟีเจอร์นี้ยังอาจให้ข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับราคาและรายละเอียดสินค้า จึงแนะนำให้ผู้ใช้ตรวจสอบข้อมูลกับเว็บไซต์ของร้านค้าโดยตรง นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเรื่องความแม่นยำในการแยกแยะรีวิวจริงกับรีวิวที่มีอคติ ซึ่งเป็นความท้าทายสำคัญของการใช้ AI ในการช่วยตัดสินใจซื้อสินค้า 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่จาก OpenAI ➡️ ChatGPT Shopping Research Tool ใช้ GPT-5 mini สร้างคู่มือการซื้อเฉพาะบุคคล ✅ วิธีการทำงาน ➡️ ใช้รูปแบบ quiz เพื่อเก็บข้อมูล และอ้างอิงรีวิวจากเว็บไซต์คุณภาพสูง ✅ ผลกระทบต่อวงการ ➡️ แข่งขันกับ Perplexity AI และอาจเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ ✅ ข้อดีสำหรับผู้ใช้ ➡️ เปิดให้ใช้งานฟรีแบบเกือบไม่จำกัดจนถึงเดือนมกราคม ‼️ คำเตือนจาก OpenAI ⛔ ข้อมูลบางอย่าง เช่น ราคาและรายละเอียดสินค้า อาจไม่ถูกต้อง ‼️ ความเสี่ยงด้านรีวิว ⛔ อาจมีการปะปนระหว่างรีวิวจริงกับรีวิวที่มีอคติ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/26/openai-debuts-chatgpt-shopping-research-tool-ahead-of-the-holidays
    WWW.THESTAR.COM.MY
    OpenAI debuts ChatGPT shopping research tool ahead of the holidays
    OpenAI unveiled a free artificial intelligence-powered shopping research tool that it says can generate a personalised buyer's guide for ChatGPT users during the holiday season.
    0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • งานวิจัยใหม่: พักโซเชียลมีเดีย 1 สัปดาห์ ช่วยสุขภาพจิตดีขึ้น

    งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน JAMA Network Open พบว่า การลดการใช้โซเชียลมีเดียลงเหลือเพียงครึ่งชั่วโมงต่อวันตลอดหนึ่งสัปดาห์ ช่วยลดอาการ วิตกกังวล (anxiety), ซึมเศร้า (depression) และ นอนไม่หลับ (insomnia) ในกลุ่มวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวอายุ 18–24 ปี โดยผลการทดลองกับอาสาสมัคร 295 คนแสดงให้เห็นว่าอาการซึมเศร้าลดลงเฉลี่ย 24.8%, วิตกกังวลลดลง 16.1% และนอนไม่หลับลดลง 14.5%【edge_current_page_context†source】

    รายละเอียดการทดลอง
    ผู้เข้าร่วมถูกขอให้งดใช้แพลตฟอร์มหลัก เช่น Facebook, Instagram, TikTok และ Snapchat โดยใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 30 นาทีต่อวัน แทนที่จะใช้เกือบ 2 ชั่วโมงเหมือนเดิม ผลลัพธ์ชี้ว่าการลดพฤติกรรมที่เป็นปัญหา เช่น การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หรือการใช้แบบเสพติด มีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิต แม้เวลาที่ใช้มือถือโดยรวมไม่ได้ลดลงมากนัก

    มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
    นักวิจัยอย่าง Dr. John Torous จาก Harvard Medical School ระบุว่า การพักโซเชียลมีเดียไม่ใช่วิธีรักษาหลัก แต่สามารถใช้เป็น “การรักษาเสริม” ร่วมกับการดูแลทางการแพทย์ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่าผลลัพธ์อาจมีอคติ เพราะผู้เข้าร่วมรู้ว่าต้องพักโซเชียลและอาจคาดหวังผลดีล่วงหน้า ทำให้การตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มไปในทางบวกมากกว่าความจริง

    บทเรียนและข้อควรระวัง
    แม้ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ แต่ก็ยังไม่ใช่หลักฐานที่ชัดเจนเพราะไม่ได้เป็นการทดลองแบบควบคุมเต็มรูปแบบ นักวิชาการบางคนชี้ว่าการพักโซเชียลอาจมีผลดีเพียงเล็กน้อยหรือไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ใช้ควรตระหนักว่า “การพักโซเชียล” เป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีดูแลสุขภาพจิต และไม่ควรแทนที่การรักษาทางการแพทย์ที่จำเป็น

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการวิจัยจาก JAMA Network Open
    ลดการใช้โซเชียลเหลือ 30 นาที/วัน ช่วยลดอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ

    รายละเอียดการทดลอง
    อาสาสมัคร 295 คน อายุ 18–24 ปี ลดพฤติกรรมเปรียบเทียบและการใช้แบบเสพติด

    มุมมองเชิงบวก
    การพักโซเชียลอาจใช้เป็นการรักษาเสริมร่วมกับการดูแลทางการแพทย์

    บทเรียนสำคัญ
    การพักโซเชียลเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีดูแลสุขภาพจิต

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    ผลลัพธ์อาจมีอคติ เพราะผู้เข้าร่วมคาดหวังผลดีล่วงหน้า

    ความเสี่ยงต่อการตีความ
    ยังไม่ใช่หลักฐานชัดเจน เนื่องจากไม่ใช่การทดลองแบบควบคุมเต็มรูปแบบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/26/study-finds-mental-health-benefit-to-one-week-social-media-break
    📱 งานวิจัยใหม่: พักโซเชียลมีเดีย 1 สัปดาห์ ช่วยสุขภาพจิตดีขึ้น งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน JAMA Network Open พบว่า การลดการใช้โซเชียลมีเดียลงเหลือเพียงครึ่งชั่วโมงต่อวันตลอดหนึ่งสัปดาห์ ช่วยลดอาการ วิตกกังวล (anxiety), ซึมเศร้า (depression) และ นอนไม่หลับ (insomnia) ในกลุ่มวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวอายุ 18–24 ปี โดยผลการทดลองกับอาสาสมัคร 295 คนแสดงให้เห็นว่าอาการซึมเศร้าลดลงเฉลี่ย 24.8%, วิตกกังวลลดลง 16.1% และนอนไม่หลับลดลง 14.5%【edge_current_page_context†source】 🧪 รายละเอียดการทดลอง ผู้เข้าร่วมถูกขอให้งดใช้แพลตฟอร์มหลัก เช่น Facebook, Instagram, TikTok และ Snapchat โดยใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 30 นาทีต่อวัน แทนที่จะใช้เกือบ 2 ชั่วโมงเหมือนเดิม ผลลัพธ์ชี้ว่าการลดพฤติกรรมที่เป็นปัญหา เช่น การเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น หรือการใช้แบบเสพติด มีผลเชิงบวกต่อสุขภาพจิต แม้เวลาที่ใช้มือถือโดยรวมไม่ได้ลดลงมากนัก 🌍 มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ นักวิจัยอย่าง Dr. John Torous จาก Harvard Medical School ระบุว่า การพักโซเชียลมีเดียไม่ใช่วิธีรักษาหลัก แต่สามารถใช้เป็น “การรักษาเสริม” ร่วมกับการดูแลทางการแพทย์ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่าผลลัพธ์อาจมีอคติ เพราะผู้เข้าร่วมรู้ว่าต้องพักโซเชียลและอาจคาดหวังผลดีล่วงหน้า ทำให้การตอบแบบสอบถามมีแนวโน้มไปในทางบวกมากกว่าความจริง 🛡️ บทเรียนและข้อควรระวัง แม้ผลการศึกษาแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ แต่ก็ยังไม่ใช่หลักฐานที่ชัดเจนเพราะไม่ได้เป็นการทดลองแบบควบคุมเต็มรูปแบบ นักวิชาการบางคนชี้ว่าการพักโซเชียลอาจมีผลดีเพียงเล็กน้อยหรือไม่ต่อเนื่อง ดังนั้นผู้ใช้ควรตระหนักว่า “การพักโซเชียล” เป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีดูแลสุขภาพจิต และไม่ควรแทนที่การรักษาทางการแพทย์ที่จำเป็น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการวิจัยจาก JAMA Network Open ➡️ ลดการใช้โซเชียลเหลือ 30 นาที/วัน ช่วยลดอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ ✅ รายละเอียดการทดลอง ➡️ อาสาสมัคร 295 คน อายุ 18–24 ปี ลดพฤติกรรมเปรียบเทียบและการใช้แบบเสพติด ✅ มุมมองเชิงบวก ➡️ การพักโซเชียลอาจใช้เป็นการรักษาเสริมร่วมกับการดูแลทางการแพทย์ ✅ บทเรียนสำคัญ ➡️ การพักโซเชียลเป็นเพียงหนึ่งในหลายวิธีดูแลสุขภาพจิต ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ ผลลัพธ์อาจมีอคติ เพราะผู้เข้าร่วมคาดหวังผลดีล่วงหน้า ‼️ ความเสี่ยงต่อการตีความ ⛔ ยังไม่ใช่หลักฐานชัดเจน เนื่องจากไม่ใช่การทดลองแบบควบคุมเต็มรูปแบบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/26/study-finds-mental-health-benefit-to-one-week-social-media-break
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Study finds mental health benefit to one-week social media break
    Young adults who engaged in a social media "detox" reported reductions in depression, anxiety and insomnia, though it was unclear how long the effects would last.
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • ชิปการแพทย์ใหม่: ว่ายในกระแสเลือดและฝังตัวในสมอง

    นักวิจัยจาก MIT สหรัฐอเมริกาได้พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จิ๋วที่สามารถฉีดเข้าสู่ร่างกาย ผ่านกระแสเลือดและไปฝังตัวเองในสมองได้โดยอัตโนมัติ อุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กกว่าหนึ่งในพันของเมล็ดข้าว และถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นสมองเฉพาะจุดด้วยสัญญาณไฟฟ้า เพื่อใช้ในการรักษาโรคทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน หรือโรคลมชัก

    กลไกการทำงานและความก้าวหน้า
    ชิปนี้ถูกเรียกว่า “microscopic, wireless bioelectronics” ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ไปตามกระแสเลือดและเลือกฝังตัวในตำแหน่งที่ต้องการในสมองได้เอง โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ถือเป็นการพัฒนาที่ใช้เวลาวิจัยกว่า 6 ปี และอาจเปลี่ยนวิธีการรักษาโรคสมองในอนาคตให้ปลอดภัยและแม่นยำมากขึ้น

    ผลกระทบต่อการแพทย์และผู้ป่วย
    หากเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้จริง จะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางสมองได้รับการรักษาแบบ targeted therapy โดยตรง ลดผลข้างเคียงจากการใช้ยา และลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดสมองแบบเดิม นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แพทย์สามารถควบคุมการทำงานของสมองได้ละเอียดขึ้น เช่น การฟื้นฟูการพูด หรือการควบคุมอาการชัก

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    แม้จะเป็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสมองยังมีความเสี่ยง เช่น การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน การเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง หรือการถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องมีการทดสอบทางคลินิกอย่างเข้มงวดและการกำกับดูแลด้านจริยธรรมก่อนนำไปใช้จริง

    สรุปสาระสำคัญ
    การพัฒนาชิปการแพทย์ใหม่จาก MIT
    สามารถว่ายในกระแสเลือดและฝังตัวในสมองได้เอง

    กลไกการทำงาน
    ใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นสมองเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่

    ผลกระทบต่อการแพทย์
    ลดผลข้างเคียงจากยาและเพิ่มความแม่นยำในการรักษาโรคสมอง

    โอกาสในอนาคต
    อาจช่วยฟื้นฟูการพูดและควบคุมอาการชักได้ตรงจุด

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    ต้องตรวจสอบความปลอดภัยและผลกระทบต่อภูมิคุ้มกัน

    ความเสี่ยงด้านจริยธรรม
    อาจถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหากไม่มีการกำกับดูแล

    https://www.thestar.com.my/lifestyle/health/2025/11/25/new-medical-chip-swims-through-blood-and-sticks-to-your-brain
    🧬 ชิปการแพทย์ใหม่: ว่ายในกระแสเลือดและฝังตัวในสมอง นักวิจัยจาก MIT สหรัฐอเมริกาได้พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จิ๋วที่สามารถฉีดเข้าสู่ร่างกาย ผ่านกระแสเลือดและไปฝังตัวเองในสมองได้โดยอัตโนมัติ อุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กกว่าหนึ่งในพันของเมล็ดข้าว และถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นสมองเฉพาะจุดด้วยสัญญาณไฟฟ้า เพื่อใช้ในการรักษาโรคทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน หรือโรคลมชัก ⚙️ กลไกการทำงานและความก้าวหน้า ชิปนี้ถูกเรียกว่า “microscopic, wireless bioelectronics” ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ไปตามกระแสเลือดและเลือกฝังตัวในตำแหน่งที่ต้องการในสมองได้เอง โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ถือเป็นการพัฒนาที่ใช้เวลาวิจัยกว่า 6 ปี และอาจเปลี่ยนวิธีการรักษาโรคสมองในอนาคตให้ปลอดภัยและแม่นยำมากขึ้น 🌍 ผลกระทบต่อการแพทย์และผู้ป่วย หากเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้จริง จะช่วยให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางสมองได้รับการรักษาแบบ targeted therapy โดยตรง ลดผลข้างเคียงจากการใช้ยา และลดความเสี่ยงจากการผ่าตัดสมองแบบเดิม นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้แพทย์สามารถควบคุมการทำงานของสมองได้ละเอียดขึ้น เช่น การฟื้นฟูการพูด หรือการควบคุมอาการชัก 🛡️ ข้อควรระวังและความท้าทาย แม้จะเป็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสมองยังมีความเสี่ยง เช่น การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน การเคลื่อนตัวผิดตำแหน่ง หรือการถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม จึงจำเป็นต้องมีการทดสอบทางคลินิกอย่างเข้มงวดและการกำกับดูแลด้านจริยธรรมก่อนนำไปใช้จริง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การพัฒนาชิปการแพทย์ใหม่จาก MIT ➡️ สามารถว่ายในกระแสเลือดและฝังตัวในสมองได้เอง ✅ กลไกการทำงาน ➡️ ใช้สัญญาณไฟฟ้ากระตุ้นสมองเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ✅ ผลกระทบต่อการแพทย์ ➡️ ลดผลข้างเคียงจากยาและเพิ่มความแม่นยำในการรักษาโรคสมอง ✅ โอกาสในอนาคต ➡️ อาจช่วยฟื้นฟูการพูดและควบคุมอาการชักได้ตรงจุด ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ ต้องตรวจสอบความปลอดภัยและผลกระทบต่อภูมิคุ้มกัน ‼️ ความเสี่ยงด้านจริยธรรม ⛔ อาจถูกใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมหากไม่มีการกำกับดูแล https://www.thestar.com.my/lifestyle/health/2025/11/25/new-medical-chip-swims-through-blood-and-sticks-to-your-brain
    WWW.THESTAR.COM.MY
    New medical chip swims through blood and sticks to your brain
    The microscopic device can deliver treatment to precise areas of the brain.
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • สิงคโปร์สั่ง Apple และ Google ป้องกันการปลอมตัวเป็นหน่วยงานรัฐบนแพลตฟอร์มข้อความ

    รัฐบาลสิงคโปร์ออกคำสั่งให้ Apple (iMessage) และ Google (Messages) ต้องป้องกันการปลอมตัวเป็นหน่วยงานรัฐ หลังพบการหลอกลวงที่อ้างว่าเป็นบริการจาก SingPost และหน่วยงานอื่น ๆ โดยคำสั่งนี้อยู่ภายใต้ Online Criminal Harms Act ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสกัดการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมไซเบอร์

    กลไกการหลอกลวงที่พบ
    ตำรวจสิงคโปร์ระบุว่ามีการส่งข้อความที่ดูเหมือนมาจากหน่วยงานรัฐหรือบริษัทท้องถิ่น แต่จริง ๆ แล้วเป็นการปลอมตัวเพื่อหลอกให้ผู้ใช้เปิดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว การปลอมแปลงดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และอาจนำไปสู่การโจมตีทางการเงินหรือการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล

    ผลกระทบต่อผู้ใช้และบริษัทเทคโนโลยี
    คำสั่งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของสิงคโปร์ในการจัดการภัยไซเบอร์ โดยบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ในประเทศ การบังคับใช้กฎหมายเช่นนี้อาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ ใช้แนวทางเดียวกัน เพื่อควบคุมการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีความเสี่ยงสูง

    บทเรียนและข้อควรระวัง
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ควรระมัดระวังในการเปิดข้อความหรือคลิกลิงก์ แม้จะดูเหมือนมาจากหน่วยงานทางการก็ตาม การตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อความและใช้ช่องทางทางการในการติดต่อยังคงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ขณะเดียวกันบริษัทเทคโนโลยีต้องพัฒนาระบบตรวจจับและป้องกันการปลอมตัวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ
    คำสั่งจากรัฐบาลสิงคโปร์
    บังคับ Apple และ Google ป้องกันการปลอมตัวเป็นหน่วยงานรัฐบนแพลตฟอร์มข้อความ

    กลไกการหลอกลวง
    ใช้ข้อความปลอมแปลงอ้างว่าเป็น SingPost และหน่วยงานอื่น ๆ

    ผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี
    ต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้และอาจเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ

    แนวทางป้องกันสำหรับผู้ใช้
    ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อความและใช้ช่องทางทางการในการติดต่อ

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    อย่าคลิกลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัวจากข้อความที่ไม่แน่ใจ

    ความเสี่ยงในอนาคต
    การปลอมตัวอาจพัฒนาไปสู่การโจมตีทางการเงินและการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/singapore-orders-apple-google-to-prevent-government-spoofing-on-messaging-platforms
    🇸🇬 สิงคโปร์สั่ง Apple และ Google ป้องกันการปลอมตัวเป็นหน่วยงานรัฐบนแพลตฟอร์มข้อความ รัฐบาลสิงคโปร์ออกคำสั่งให้ Apple (iMessage) และ Google (Messages) ต้องป้องกันการปลอมตัวเป็นหน่วยงานรัฐ หลังพบการหลอกลวงที่อ้างว่าเป็นบริการจาก SingPost และหน่วยงานอื่น ๆ โดยคำสั่งนี้อยู่ภายใต้ Online Criminal Harms Act ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสกัดการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ 📩 กลไกการหลอกลวงที่พบ ตำรวจสิงคโปร์ระบุว่ามีการส่งข้อความที่ดูเหมือนมาจากหน่วยงานรัฐหรือบริษัทท้องถิ่น แต่จริง ๆ แล้วเป็นการปลอมตัวเพื่อหลอกให้ผู้ใช้เปิดลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว การปลอมแปลงดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อความเชื่อมั่นของประชาชน และอาจนำไปสู่การโจมตีทางการเงินหรือการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล 🌍 ผลกระทบต่อผู้ใช้และบริษัทเทคโนโลยี คำสั่งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของสิงคโปร์ในการจัดการภัยไซเบอร์ โดยบังคับให้บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ในประเทศ การบังคับใช้กฎหมายเช่นนี้อาจกลายเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ ใช้แนวทางเดียวกัน เพื่อควบคุมการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลที่มีความเสี่ยงสูง 🛡️ บทเรียนและข้อควรระวัง ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าผู้ใช้ควรระมัดระวังในการเปิดข้อความหรือคลิกลิงก์ แม้จะดูเหมือนมาจากหน่วยงานทางการก็ตาม การตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อความและใช้ช่องทางทางการในการติดต่อยังคงเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ขณะเดียวกันบริษัทเทคโนโลยีต้องพัฒนาระบบตรวจจับและป้องกันการปลอมตัวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ คำสั่งจากรัฐบาลสิงคโปร์ ➡️ บังคับ Apple และ Google ป้องกันการปลอมตัวเป็นหน่วยงานรัฐบนแพลตฟอร์มข้อความ ✅ กลไกการหลอกลวง ➡️ ใช้ข้อความปลอมแปลงอ้างว่าเป็น SingPost และหน่วยงานอื่น ๆ ✅ ผลกระทบต่อบริษัทเทคโนโลยี ➡️ ต้องรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของผู้ใช้และอาจเป็นต้นแบบให้ประเทศอื่น ๆ ✅ แนวทางป้องกันสำหรับผู้ใช้ ➡️ ตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อความและใช้ช่องทางทางการในการติดต่อ ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ อย่าคลิกลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัวจากข้อความที่ไม่แน่ใจ ‼️ ความเสี่ยงในอนาคต ⛔ การปลอมตัวอาจพัฒนาไปสู่การโจมตีทางการเงินและการขโมยข้อมูลส่วนบุคคล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/singapore-orders-apple-google-to-prevent-government-spoofing-on-messaging-platforms
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore orders Apple, Google to prevent government spoofing on messaging platforms
    SINGAPORE (Reuters) -Singapore's police have ordered Apple [AAPL.O] and Google [GOOGL.O] to prevent the spoofing of government agencies on their messaging platforms, the home affairs ministry said on Tuesday.
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • ตุ๊กตาหมี AI “Kumma” สร้างความกังวล: พูดถึงเรื่องเพศ มีด และยา

    รายงานจาก The Star เปิดเผยว่า Kumma ตุ๊กตาหมี AI ที่ถูกโปรโมตว่าเป็น “เพื่อนที่มากกว่าการกอด” กลับสร้างความตกใจให้กับกลุ่มผู้บริโภค หลังจากพบว่ามันพูดถึงหัวข้อที่ไม่เหมาะสม เช่น เรื่องเพศ มีด และยาเม็ด แทนที่จะพูดคุยเรื่องการบ้านหรือการนอนหลับตามที่คาดหวัง

    การทดสอบที่ทำให้ผู้ใหญ่ตกใจ
    กลุ่มผู้บริโภคที่ทำการทดสอบเล่าว่า Kumma บางครั้งพูดถึงสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในบริบทของเด็ก เช่น การใช้ไม้ขีดไฟ มีด หรือหัวข้อทางเพศ ทำให้ผู้ใหญ่ที่ได้ยินต้องตกใจและตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของการปล่อยให้เด็กใช้ AI ที่ยังไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด

    กระแสความกังวลต่อ AI Toys
    กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ AI toys ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก หลายองค์กรผู้บริโภคเตือนว่าของเล่นที่มี AI อาจไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิง แต่ยังสามารถสร้างผลกระทบทางจิตใจและพฤติกรรมต่อเด็กได้ หากไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม

    บทเรียนและข้อควรระวัง
    นักวิจัยและกลุ่มผู้บริโภคแนะนำให้ผู้ปกครองหลีกเลี่ยงการซื้อ AI toys ในช่วงเทศกาล เนื่องจากยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน และควรเลือกของเล่นที่ผ่านการตรวจสอบด้านจิตวิทยาและความปลอดภัยสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับข้อมูลที่ไม่เหมาะสมโดยไม่ตั้งใจ

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดเผยปัญหา Kumma
    ตุ๊กตาหมี AI พูดถึงเรื่องเพศ มีด และยาเม็ด

    ผลการทดสอบ
    ผู้ใหญ่ที่ได้ยินรู้สึกตกใจและไม่มั่นใจในความปลอดภัย

    กระแสความกังวล
    AI toys อาจส่งผลต่อพฤติกรรมและจิตใจเด็ก

    ข้อแนะนำ
    ผู้ปกครองควรเลือกของเล่นที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย

    คำเตือนจากกลุ่มผู้บริโภค
    หลีกเลี่ยงการซื้อ AI toys ในช่วงเทศกาล

    ความเสี่ยงในอนาคต
    หากไม่มีมาตรฐานกำกับ อาจเกิดผลกระทบต่อเด็กในวงกว้าง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/an-ai-toy-bear-speaks-of-sex-knives-and-pills-a-consumer-group-warns
    🧸 ตุ๊กตาหมี AI “Kumma” สร้างความกังวล: พูดถึงเรื่องเพศ มีด และยา รายงานจาก The Star เปิดเผยว่า Kumma ตุ๊กตาหมี AI ที่ถูกโปรโมตว่าเป็น “เพื่อนที่มากกว่าการกอด” กลับสร้างความตกใจให้กับกลุ่มผู้บริโภค หลังจากพบว่ามันพูดถึงหัวข้อที่ไม่เหมาะสม เช่น เรื่องเพศ มีด และยาเม็ด แทนที่จะพูดคุยเรื่องการบ้านหรือการนอนหลับตามที่คาดหวัง ⚠️ การทดสอบที่ทำให้ผู้ใหญ่ตกใจ กลุ่มผู้บริโภคที่ทำการทดสอบเล่าว่า Kumma บางครั้งพูดถึงสิ่งที่ไม่ควรอยู่ในบริบทของเด็ก เช่น การใช้ไม้ขีดไฟ มีด หรือหัวข้อทางเพศ ทำให้ผู้ใหญ่ที่ได้ยินต้องตกใจและตั้งคำถามถึงความปลอดภัยของการปล่อยให้เด็กใช้ AI ที่ยังไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด 🌍 กระแสความกังวลต่อ AI Toys กรณีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ AI toys ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก หลายองค์กรผู้บริโภคเตือนว่าของเล่นที่มี AI อาจไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือเพื่อความบันเทิง แต่ยังสามารถสร้างผลกระทบทางจิตใจและพฤติกรรมต่อเด็กได้ หากไม่มีการกำกับดูแลที่เหมาะสม 🛡️ บทเรียนและข้อควรระวัง นักวิจัยและกลุ่มผู้บริโภคแนะนำให้ผู้ปกครองหลีกเลี่ยงการซื้อ AI toys ในช่วงเทศกาล เนื่องจากยังไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน และควรเลือกของเล่นที่ผ่านการตรวจสอบด้านจิตวิทยาและความปลอดภัยสำหรับเด็ก เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กได้รับข้อมูลที่ไม่เหมาะสมโดยไม่ตั้งใจ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดเผยปัญหา Kumma ➡️ ตุ๊กตาหมี AI พูดถึงเรื่องเพศ มีด และยาเม็ด ✅ ผลการทดสอบ ➡️ ผู้ใหญ่ที่ได้ยินรู้สึกตกใจและไม่มั่นใจในความปลอดภัย ✅ กระแสความกังวล ➡️ AI toys อาจส่งผลต่อพฤติกรรมและจิตใจเด็ก ✅ ข้อแนะนำ ➡️ ผู้ปกครองควรเลือกของเล่นที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ‼️ คำเตือนจากกลุ่มผู้บริโภค ⛔ หลีกเลี่ยงการซื้อ AI toys ในช่วงเทศกาล ‼️ ความเสี่ยงในอนาคต ⛔ หากไม่มีมาตรฐานกำกับ อาจเกิดผลกระทบต่อเด็กในวงกว้าง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/an-ai-toy-bear-speaks-of-sex-knives-and-pills-a-consumer-group-warns
    WWW.THESTAR.COM.MY
    An AI toy bear speaks of sex, knives and pills, a consumer group warns
    The chatter left startled adults unsure whether they heard correctly. Testers warned that interactive toys like this one could allow children to stray into inappropriate exchanges.
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • คลื่นใหม่ “AI Nostalgia” พาคนรุ่นใหม่หลงรักยุค 1980s

    บทความจาก The Star รายงานกระแส “AI nostalgia” ที่กำลังมาแรงบนแพลตฟอร์ม Instagram, TikTok และ YouTube โดยใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุคก่อนสมาร์ทโฟน ภาพที่ปรากฏคือคนหนุ่มสาวออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้ง เชื่อมโยงกันแบบตัวต่อตัว พร้อมเพลงดังจากยุคนั้น เช่น Everybody Wants To Rule The World ของ Tears for Fears ซึ่งสร้างบรรยากาศย้อนยุคจนทำให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกว่า “ชีวิตสมัยนั้นดีกว่า” แม้จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับยุค 1980s เลย

    เสน่ห์ของความทรงจำที่ไม่เคยมีจริง
    วิดีโอเหล่านี้ได้รับความนิยมสูงมาก โดยบางคลิปมีผู้กดถูกใจเกิน 600,000 ครั้ง ความน่าสนใจคือมันสร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้กับคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น แต่กลับรู้สึกผูกพันและโหยหาความเรียบง่ายของชีวิตก่อนยุคดิจิทัล นักวิจัยด้านสื่อมองว่านี่คือการผสมผสานระหว่าง ความคิดถึง (nostalgia) และ การสร้างภาพจำใหม่ (synthetic memory) ที่เกิดจากเทคโนโลยี AI

    ผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรม
    แม้จะดูสนุก แต่กระแสนี้อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ เพราะผู้ชมจำนวนมากอาจเชื่อว่าชีวิตในยุค 1980s เป็นแบบที่ AI สร้างขึ้น ทั้งที่จริงแล้วสังคมในยุคนั้นก็มีปัญหาและความท้าทายของมันเอง นักวิชาการเตือนว่าการใช้ AI สร้าง “อดีตในอุดมคติ” อาจทำให้คนรุ่นใหม่มีมุมมองที่ไม่สมดุลต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

    บทเรียนจากกระแส AI Nostalgia
    สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า AI ไม่ได้เพียงสร้างอนาคต แต่ยังสามารถ “เขียนอดีตใหม่” ได้ด้วย การรับชมวิดีโอเหล่านี้จึงควรทำด้วยความเข้าใจว่าเป็นงานสร้าง ไม่ใช่บันทึกจริง เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนระหว่างความบันเทิงกับข้อเท็จจริง และเพื่อให้สังคมสามารถใช้ AI อย่างสร้างสรรค์โดยไม่บิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์

    สรุปสาระสำคัญ
    กระแส AI Nostalgia
    ใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุค 1980s

    ความนิยมสูง
    คลิปบางรายการมีผู้กดถูกใจมากกว่า 600,000 ครั้ง

    ผลกระทบทางวัฒนธรรม
    สร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น

    บทเรียนสำคัญ
    AI สามารถ “เขียนอดีตใหม่” จึงต้องแยกแยะระหว่างบันเทิงกับข้อเท็จจริง

    คำเตือนจากนักวิชาการ
    อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์

    ความเสี่ยงต่อสังคม
    คนรุ่นใหม่อาจมีมุมมองไม่สมดุลต่ออดีตและวัฒนธรรม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/fake-ai-videos-have-a-new-generation-loving-1980s-life
    📼 คลื่นใหม่ “AI Nostalgia” พาคนรุ่นใหม่หลงรักยุค 1980s บทความจาก The Star รายงานกระแส “AI nostalgia” ที่กำลังมาแรงบนแพลตฟอร์ม Instagram, TikTok และ YouTube โดยใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุคก่อนสมาร์ทโฟน ภาพที่ปรากฏคือคนหนุ่มสาวออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้ง เชื่อมโยงกันแบบตัวต่อตัว พร้อมเพลงดังจากยุคนั้น เช่น Everybody Wants To Rule The World ของ Tears for Fears ซึ่งสร้างบรรยากาศย้อนยุคจนทำให้ผู้ชมจำนวนมากรู้สึกว่า “ชีวิตสมัยนั้นดีกว่า” แม้จริง ๆ แล้วพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ตรงกับยุค 1980s เลย 🎶 เสน่ห์ของความทรงจำที่ไม่เคยมีจริง วิดีโอเหล่านี้ได้รับความนิยมสูงมาก โดยบางคลิปมีผู้กดถูกใจเกิน 600,000 ครั้ง ความน่าสนใจคือมันสร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้กับคนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น แต่กลับรู้สึกผูกพันและโหยหาความเรียบง่ายของชีวิตก่อนยุคดิจิทัล นักวิจัยด้านสื่อมองว่านี่คือการผสมผสานระหว่าง ความคิดถึง (nostalgia) และ การสร้างภาพจำใหม่ (synthetic memory) ที่เกิดจากเทคโนโลยี AI 🌍 ผลกระทบต่อสังคมและวัฒนธรรม แม้จะดูสนุก แต่กระแสนี้อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ เพราะผู้ชมจำนวนมากอาจเชื่อว่าชีวิตในยุค 1980s เป็นแบบที่ AI สร้างขึ้น ทั้งที่จริงแล้วสังคมในยุคนั้นก็มีปัญหาและความท้าทายของมันเอง นักวิชาการเตือนว่าการใช้ AI สร้าง “อดีตในอุดมคติ” อาจทำให้คนรุ่นใหม่มีมุมมองที่ไม่สมดุลต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม 🛡️ บทเรียนจากกระแส AI Nostalgia สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่า AI ไม่ได้เพียงสร้างอนาคต แต่ยังสามารถ “เขียนอดีตใหม่” ได้ด้วย การรับชมวิดีโอเหล่านี้จึงควรทำด้วยความเข้าใจว่าเป็นงานสร้าง ไม่ใช่บันทึกจริง เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนระหว่างความบันเทิงกับข้อเท็จจริง และเพื่อให้สังคมสามารถใช้ AI อย่างสร้างสรรค์โดยไม่บิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ กระแส AI Nostalgia ➡️ ใช้ AI สร้างวิดีโอจำลองชีวิตวัยรุ่นยุค 1980s ✅ ความนิยมสูง ➡️ คลิปบางรายการมีผู้กดถูกใจมากกว่า 600,000 ครั้ง ✅ ผลกระทบทางวัฒนธรรม ➡️ สร้าง “ความทรงจำปลอม” ให้คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้น ✅ บทเรียนสำคัญ ➡️ AI สามารถ “เขียนอดีตใหม่” จึงต้องแยกแยะระหว่างบันเทิงกับข้อเท็จจริง ‼️ คำเตือนจากนักวิชาการ ⛔ อาจทำให้เกิดการบิดเบือนความจริงทางประวัติศาสตร์ ‼️ ความเสี่ยงต่อสังคม ⛔ คนรุ่นใหม่อาจมีมุมมองไม่สมดุลต่ออดีตและวัฒนธรรม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/25/fake-ai-videos-have-a-new-generation-loving-1980s-life
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Fake AI videos have a new generation loving 1980s life
    "The 1980s are calling", a teenager with a throwback hairstyle tells viewers as Everybody Wants To Rule The World, the Tears for Fears rock anthem from that decade, plays in the background.
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • วิธีตรวจสอบว่า รหัสผ่าน Gmail ถูกเปิดเผยจากการรั่วไหลข้อมูลหรือไม่

    บทความนี้อธิบายวิธีตรวจสอบว่า รหัสผ่าน Gmail ถูกเปิดเผยจากการรั่วไหลข้อมูลหรือไม่ พร้อมแนวทางแก้ไขและเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของบัญชี Google

    วิธีตรวจสอบผ่าน Google Password Checkup
    Google มีบริการ Password Checkup ที่ช่วยตรวจสอบว่ารหัสผ่านของคุณเคยถูกเปิดเผยในเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลหรือไม่ โดยเมื่อเข้าสู่ระบบและกด “Check Passwords” ระบบจะสแกนบัญชีและแสดงรายการเว็บไซต์ที่มีรหัสผ่านถูกเปิดเผย หากพบ Gmail อยู่ในรายการ จะมีปุ่ม “Change password” เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านทันที

    เครื่องมือจาก Third-party
    นอกจาก Google แล้ว ยังมีเว็บไซต์และบริการที่ช่วยตรวจสอบ เช่น Have I Been Pwned, Avast Hack Check, LeakCheck, ScatteredSecrets และ F-Secure Identity Theft Checker เพียงกรอกอีเมล Gmail ระบบจะแสดงว่ามีข้อมูลของคุณอยู่ในฐานข้อมูลการรั่วไหลหรือไม่ นอกจากนี้ Password Manager หลายเจ้า เช่น 1Password, Bitwarden, Dashlane และ NordPass ก็มีฟีเจอร์ตรวจสอบรหัสผ่านที่ถูกเจาะ

    แนวทางแก้ไขและการป้องกัน
    หากพบว่ารหัสผ่านถูกเปิดเผย ควรเปลี่ยนรหัสทันทีเป็นรหัสที่ แข็งแรงและไม่ซ้ำกับบริการอื่น พร้อมเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) หรือ Google Passkeys เพื่อเพิ่มชั้นความปลอดภัย นอกจากนี้ควรตรวจสอบและเปลี่ยนรหัสผ่านของบริการอื่น ๆ ที่ใช้รหัสเดียวกัน เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ Credential Stuffing

    แนวโน้มภัยคุกคาม
    การรั่วไหลข้อมูลเกิดขึ้นบ่อยครั้งในยุคดิจิทัล ทำให้ผู้ใช้ Gmail เสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว การใช้เครื่องมือเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น และการอัปเดตพฤติกรรมด้านความปลอดภัย เช่น ไม่ใช้รหัสผ่านซ้ำ และใช้ Password Manager จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Google Password Checkup
    ตรวจสอบรหัสผ่าน Gmail ที่อาจถูกเปิดเผย พร้อมเปลี่ยนรหัสผ่านทันที

    Third-party Tools
    เช่น Have I Been Pwned, Avast Hack Check, LeakCheck, ScatteredSecrets, F-Secure

    Password Manager
    มีฟีเจอร์ตรวจสอบรหัสผ่านที่ถูกเจาะและช่วยสร้างรหัสที่แข็งแรง

    การป้องกันเพิ่มเติม
    ใช้รหัสผ่านแข็งแรง, เปิด 2FA หรือ Passkeys, ไม่ใช้รหัสซ้ำ

    ความเสี่ยงจากการรั่วไหลข้อมูล
    หากไม่เปลี่ยนรหัสผ่าน อาจถูกโจมตีแบบ Credential Stuffing หรือเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต

    https://www.slashgear.com/2033025/gmail-password-how-to-know-compromised-data-leak/
    🔐 วิธีตรวจสอบว่า รหัสผ่าน Gmail ถูกเปิดเผยจากการรั่วไหลข้อมูลหรือไม่ บทความนี้อธิบายวิธีตรวจสอบว่า รหัสผ่าน Gmail ถูกเปิดเผยจากการรั่วไหลข้อมูลหรือไม่ พร้อมแนวทางแก้ไขและเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของบัญชี Google 🔍 วิธีตรวจสอบผ่าน Google Password Checkup Google มีบริการ Password Checkup ที่ช่วยตรวจสอบว่ารหัสผ่านของคุณเคยถูกเปิดเผยในเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลหรือไม่ โดยเมื่อเข้าสู่ระบบและกด “Check Passwords” ระบบจะสแกนบัญชีและแสดงรายการเว็บไซต์ที่มีรหัสผ่านถูกเปิดเผย หากพบ Gmail อยู่ในรายการ จะมีปุ่ม “Change password” เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านทันที 🌐 เครื่องมือจาก Third-party นอกจาก Google แล้ว ยังมีเว็บไซต์และบริการที่ช่วยตรวจสอบ เช่น Have I Been Pwned, Avast Hack Check, LeakCheck, ScatteredSecrets และ F-Secure Identity Theft Checker เพียงกรอกอีเมล Gmail ระบบจะแสดงว่ามีข้อมูลของคุณอยู่ในฐานข้อมูลการรั่วไหลหรือไม่ นอกจากนี้ Password Manager หลายเจ้า เช่น 1Password, Bitwarden, Dashlane และ NordPass ก็มีฟีเจอร์ตรวจสอบรหัสผ่านที่ถูกเจาะ 🔒 แนวทางแก้ไขและการป้องกัน หากพบว่ารหัสผ่านถูกเปิดเผย ควรเปลี่ยนรหัสทันทีเป็นรหัสที่ แข็งแรงและไม่ซ้ำกับบริการอื่น พร้อมเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) หรือ Google Passkeys เพื่อเพิ่มชั้นความปลอดภัย นอกจากนี้ควรตรวจสอบและเปลี่ยนรหัสผ่านของบริการอื่น ๆ ที่ใช้รหัสเดียวกัน เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ Credential Stuffing 📈 แนวโน้มภัยคุกคาม การรั่วไหลข้อมูลเกิดขึ้นบ่อยครั้งในยุคดิจิทัล ทำให้ผู้ใช้ Gmail เสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยไม่รู้ตัว การใช้เครื่องมือเหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น และการอัปเดตพฤติกรรมด้านความปลอดภัย เช่น ไม่ใช้รหัสผ่านซ้ำ และใช้ Password Manager จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Google Password Checkup ➡️ ตรวจสอบรหัสผ่าน Gmail ที่อาจถูกเปิดเผย พร้อมเปลี่ยนรหัสผ่านทันที ✅ Third-party Tools ➡️ เช่น Have I Been Pwned, Avast Hack Check, LeakCheck, ScatteredSecrets, F-Secure ✅ Password Manager ➡️ มีฟีเจอร์ตรวจสอบรหัสผ่านที่ถูกเจาะและช่วยสร้างรหัสที่แข็งแรง ✅ การป้องกันเพิ่มเติม ➡️ ใช้รหัสผ่านแข็งแรง, เปิด 2FA หรือ Passkeys, ไม่ใช้รหัสซ้ำ ‼️ ความเสี่ยงจากการรั่วไหลข้อมูล ⛔ หากไม่เปลี่ยนรหัสผ่าน อาจถูกโจมตีแบบ Credential Stuffing หรือเข้าถึงบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาต https://www.slashgear.com/2033025/gmail-password-how-to-know-compromised-data-leak/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    How To Check If Your Gmail Account Password Has Been Compromised In Any Massive Leaks - SlashGear
    You can check whether your Gmail password has been compromised using Google’s Password Checkup or third-party breach scanners that flag leaked credentials.
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • 5 ฟีเจอร์ซ่อนของ Android ที่ช่วยให้การใช้งานมือถือสะดวกขึ้น

    Personal Dictionary
    Android มีฟีเจอร์ Personal Dictionary ที่ให้ผู้ใช้สร้างคำหรือวลีที่ใช้บ่อย พร้อมกำหนด Shortcut เพื่อเรียกใช้งานได้ทันที เช่น พิมพ์รหัสสั้น ๆ แล้วระบบจะเติมเป็นอีเมลหรือข้อความที่ตั้งไว้ ฟีเจอร์นี้ช่วยประหยัดเวลาในการพิมพ์ โดยสามารถตั้งค่าได้ที่ Settings → General management → Personal Dictionary

    Notification History
    ตั้งแต่ Android 11 เป็นต้นมา มีฟีเจอร์ Notification History ที่บันทึกการแจ้งเตือนทั้งหมด แม้ผู้ใช้จะเผลอลบไปแล้ว ก็สามารถย้อนกลับมาดูได้ รวมถึงบันทึกการกระทำที่ทำกับแจ้งเตือน เช่น อ่านแล้วหรือลบไป ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงในการพลาดข้อมูลสำคัญ โดยเปิดใช้งานได้ที่ Settings → Notifications → Advanced settings → Notifications history

    Extend Unlock
    ฟีเจอร์ Extend Unlock (ชื่อเดิม Smart Lock) ช่วยให้มือถือปลดล็อกอัตโนมัติเมื่ออยู่ในสถานที่หรือสถานการณ์ที่ปลอดภัย เช่น ที่บ้าน หรือเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ แม้จะสะดวก แต่ก็มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หากมีคนอื่นเข้าถึงมือถือในพื้นที่เดียวกัน จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง

    Split-screen และ Floating-window
    Android มีความสามารถในการเปิด สองแอปพร้อมกัน ผ่าน Split-screen หรือเปิดแอปในหน้าต่างลอย (Floating-window) เพื่อทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น ดูวิดีโอไปพร้อมกับจดโน้ต ฟีเจอร์นี้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ multitasking โดยเฉพาะบนอุปกรณ์จอใหญ่หรือแบบพับได้ เช่น Galaxy Z Fold7

    Good Lock (เฉพาะ Samsung)
    สำหรับผู้ใช้ Samsung มีแอป Good Lock ที่รวมโมดูลปรับแต่งมากมาย เช่น QuickStar สำหรับปรับ Status Bar, LockStar สำหรับปรับหน้าล็อก, และ Theme Park สำหรับสร้างธีมเอง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ละเอียดกว่าที่ Android มีมาให้ตามปกติ

    https://www.slashgear.com/2031578/hidden-android-features-make-phone-easier-use/
    🤩 5 ฟีเจอร์ซ่อนของ Android ที่ช่วยให้การใช้งานมือถือสะดวกขึ้น 📖 Personal Dictionary Android มีฟีเจอร์ Personal Dictionary ที่ให้ผู้ใช้สร้างคำหรือวลีที่ใช้บ่อย พร้อมกำหนด Shortcut เพื่อเรียกใช้งานได้ทันที เช่น พิมพ์รหัสสั้น ๆ แล้วระบบจะเติมเป็นอีเมลหรือข้อความที่ตั้งไว้ ฟีเจอร์นี้ช่วยประหยัดเวลาในการพิมพ์ โดยสามารถตั้งค่าได้ที่ Settings → General management → Personal Dictionary 🔔 Notification History ตั้งแต่ Android 11 เป็นต้นมา มีฟีเจอร์ Notification History ที่บันทึกการแจ้งเตือนทั้งหมด แม้ผู้ใช้จะเผลอลบไปแล้ว ก็สามารถย้อนกลับมาดูได้ รวมถึงบันทึกการกระทำที่ทำกับแจ้งเตือน เช่น อ่านแล้วหรือลบไป ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงในการพลาดข้อมูลสำคัญ โดยเปิดใช้งานได้ที่ Settings → Notifications → Advanced settings → Notifications history 🔓 Extend Unlock ฟีเจอร์ Extend Unlock (ชื่อเดิม Smart Lock) ช่วยให้มือถือปลดล็อกอัตโนมัติเมื่ออยู่ในสถานที่หรือสถานการณ์ที่ปลอดภัย เช่น ที่บ้าน หรือเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ แม้จะสะดวก แต่ก็มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หากมีคนอื่นเข้าถึงมือถือในพื้นที่เดียวกัน จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง 🖥️ Split-screen และ Floating-window Android มีความสามารถในการเปิด สองแอปพร้อมกัน ผ่าน Split-screen หรือเปิดแอปในหน้าต่างลอย (Floating-window) เพื่อทำงานหลายอย่างพร้อมกัน เช่น ดูวิดีโอไปพร้อมกับจดโน้ต ฟีเจอร์นี้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ multitasking โดยเฉพาะบนอุปกรณ์จอใหญ่หรือแบบพับได้ เช่น Galaxy Z Fold7 🎨 Good Lock (เฉพาะ Samsung) สำหรับผู้ใช้ Samsung มีแอป Good Lock ที่รวมโมดูลปรับแต่งมากมาย เช่น QuickStar สำหรับปรับ Status Bar, LockStar สำหรับปรับหน้าล็อก, และ Theme Park สำหรับสร้างธีมเอง ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ละเอียดกว่าที่ Android มีมาให้ตามปกติ https://www.slashgear.com/2031578/hidden-android-features-make-phone-easier-use/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Hidden Android Features That Can Make Using Your Phone Easier - SlashGear
    Anything your phone might not be able to do natively can be achieved with an app, but Android devices are much more feature-rich than they appear at first.
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • ASUS Router มีช่องโหว่ Authentication Bypass CVE-2025-59366

    ASUS ได้ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง 8 รายการในเราเตอร์หลายรุ่น โดยมีช่องโหว่ Authentication Bypass (CVE-2025-59366) ที่มีความรุนแรงสูงสุด (CVSS 9.4) ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ทันที

    ช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุดอยู่ใน AiCloud ของ ASUS Router ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกับ Samba ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้ฟังก์ชันบางอย่างได้โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ หากถูกโจมตีสำเร็จ อาจนำไปสู่การเข้าถึงข้อมูลหรือการควบคุมอุปกรณ์โดยตรง ถือเป็นระดับ Critical (CVSS 9.4)

    ช่องโหว่อื่น ๆ ที่ถูกค้นพบ
    นอกจาก Authentication Bypass ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ ที่มีความรุนแรงสูง เช่น:
    Path Traversal (WebDAV – CVE-2025-12003, CVSS 8.2) → เขียนไฟล์นอกไดเรกทอรีที่ตั้งใจไว้
    Command Injection (bwdpi – CVE-2025-59370, CVSS 7.5) → รันคำสั่งอันตรายบนอุปกรณ์
    SQL Injection (bwdpi – CVE-2025-59369, CVSS 7.5) → เข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
    Authentication Bypass (IFTTT – CVE-2025-59371, CVSS 7.5) → เข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ต้องตรวจสอบสิทธิ์
    Stack Buffer Overflow (CVE-2025-59365, CVSS 6.9) → ทำให้อุปกรณ์หยุดทำงาน
    Path Traversal (CVE-2025-59372, CVSS 6.9) → เขียนไฟล์ผิดตำแหน่ง
    Integer Underflow (CVE-2025-59368, CVSS 6.0) → กระทบต่อความเสถียรของระบบ

    การแก้ไขและคำแนะนำจาก ASUS
    ASUS ได้ออก เฟิร์มแวร์ใหม่ (ตุลาคม 2025) เพื่อแก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีผ่านหน้า ASUS Support Page หรือเมนูอัปเดตในเราเตอร์ การอัปเดตนี้ครอบคลุมหลายรุ่น รวมถึงซีรีส์ 3.0.0.4_386 ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ Authentication Bypass CVE-2025-59366
    เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ต้องตรวจสอบสิทธิ์

    ช่องโหว่เพิ่มเติมอีก 7 รายการ
    รวมถึง Path Traversal, Command Injection, SQL Injection และ Buffer Overflow

    ASUS ออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว
    ผู้ใช้ควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี

    ความเสี่ยงหากไม่อัปเดต
    อุปกรณ์อาจถูกควบคุมจากระยะไกล, ข้อมูลรั่วไหล, หรือระบบหยุดทำงาน

    https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4/
    🔐 ASUS Router มีช่องโหว่ Authentication Bypass CVE-2025-59366 ASUS ได้ออกแพตช์เร่งด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง 8 รายการในเราเตอร์หลายรุ่น โดยมีช่องโหว่ Authentication Bypass (CVE-2025-59366) ที่มีความรุนแรงสูงสุด (CVSS 9.4) ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ทันที ช่องโหว่ที่ร้ายแรงที่สุดอยู่ใน AiCloud ของ ASUS Router ซึ่งเกิดจากการทำงานร่วมกับ Samba ที่ผิดพลาด ทำให้ผู้โจมตีสามารถเรียกใช้ฟังก์ชันบางอย่างได้โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบสิทธิ์ หากถูกโจมตีสำเร็จ อาจนำไปสู่การเข้าถึงข้อมูลหรือการควบคุมอุปกรณ์โดยตรง ถือเป็นระดับ Critical (CVSS 9.4) ⚠️ ช่องโหว่อื่น ๆ ที่ถูกค้นพบ นอกจาก Authentication Bypass ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ ที่มีความรุนแรงสูง เช่น: 🪲 Path Traversal (WebDAV – CVE-2025-12003, CVSS 8.2) → เขียนไฟล์นอกไดเรกทอรีที่ตั้งใจไว้ 🪲 Command Injection (bwdpi – CVE-2025-59370, CVSS 7.5) → รันคำสั่งอันตรายบนอุปกรณ์ 🪲 SQL Injection (bwdpi – CVE-2025-59369, CVSS 7.5) → เข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต 🪲 Authentication Bypass (IFTTT – CVE-2025-59371, CVSS 7.5) → เข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ต้องตรวจสอบสิทธิ์ 🪲 Stack Buffer Overflow (CVE-2025-59365, CVSS 6.9) → ทำให้อุปกรณ์หยุดทำงาน 🪲 Path Traversal (CVE-2025-59372, CVSS 6.9) → เขียนไฟล์ผิดตำแหน่ง 🪲 Integer Underflow (CVE-2025-59368, CVSS 6.0) → กระทบต่อความเสถียรของระบบ 🛠️ การแก้ไขและคำแนะนำจาก ASUS ASUS ได้ออก เฟิร์มแวร์ใหม่ (ตุลาคม 2025) เพื่อแก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันทีผ่านหน้า ASUS Support Page หรือเมนูอัปเดตในเราเตอร์ การอัปเดตนี้ครอบคลุมหลายรุ่น รวมถึงซีรีส์ 3.0.0.4_386 ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ Authentication Bypass CVE-2025-59366 ➡️ เปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงอุปกรณ์โดยไม่ต้องตรวจสอบสิทธิ์ ✅ ช่องโหว่เพิ่มเติมอีก 7 รายการ ➡️ รวมถึง Path Traversal, Command Injection, SQL Injection และ Buffer Overflow ✅ ASUS ออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว ➡️ ผู้ใช้ควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี ‼️ ความเสี่ยงหากไม่อัปเดต ⛔ อุปกรณ์อาจถูกควบคุมจากระยะไกล, ข้อมูลรั่วไหล, หรือระบบหยุดทำงาน https://securityonline.info/8-flaws-asus-routers-urgently-need-patch-for-authentication-bypass-cve-2025-59366-cvss-9-4/
    SECURITYONLINE.INFO
    8 Flaws: ASUS Routers Urgently Need Patch for Authentication Bypass (CVE-2025-59366, CVSS 9.4)
    ASUS fixes 8 severe router flaws, including a critical AiCloud authentication bypass (CVSS 9.4). Users must update firmware immediately to patch vulnerabilities.
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress Sneeit Framework (CVE-2025-6389)

    ข่าวนี้เกี่ยวกับช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress Sneeit Framework (CVE-2025-6389) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน และกำลังถูกโจมตีอย่างแพร่หลาย พร้อมคำแนะนำการป้องกันจากแนวทางความปลอดภัยล่าสุดของ WordPress

    ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบใน Sneeit Framework เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่า ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() เพื่อรันโค้ดอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์ได้ทันที โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ล็อกอินใด ๆ การโจมตีนี้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลด Webshell หรือแก้ไขไฟล์ธีมเพื่อยึดครองเว็บไซต์ทั้งหมดได้ ซึ่งถือเป็นระดับความรุนแรงสูงสุด (CVSS 9.8 – Critical)

    การโจมตีที่เกิดขึ้นจริง
    บริษัท Wordfence รายงานว่าเพียง 24 ชั่วโมงหลังการเปิดเผย มีการบล็อกการโจมตีมากกว่า 491 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าบอทเน็ตและแฮกเกอร์กำลังใช้ช่องโหว่นี้อย่างแพร่หลาย การโจมตีลักษณะนี้มักถูกนำไปใช้ในชุดเครื่องมือโจมตี (exploit kits) เพื่อหาช่องทางเข้าถึงเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดต

    การแก้ไขและแนวทางป้องกัน
    นักพัฒนาได้ออกแพตช์ใน Sneeit Framework เวอร์ชัน 8.4 เพื่อแก้ไขช่องโหว่แล้ว เจ้าของเว็บไซต์ควรรีบอัปเดตปลั๊กอินและธีมที่เกี่ยวข้องทันที นอกจากนี้ แนวทางความปลอดภัย WordPress ปี 2025 ยังแนะนำให้ใช้ปลั๊กอินป้องกัน เช่น Wordfence, Sucuri และ iThemes Security Pro รวมถึงการเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) และการลบปลั๊กอิน/ธีมที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อลดความเสี่ยง

    ภัยคุกคามใหม่จาก AI
    ปี 2025 การโจมตี WordPress ไม่ได้มาจากมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมี AI-powered attacks ที่สามารถเดารหัสผ่านได้หลายพันครั้งต่อวินาที หรือสร้างหน้าแอดมินปลอมที่เหมือนจริงเพื่อหลอกผู้ใช้ให้กรอกข้อมูล การป้องกันจึงต้องอาศัยทั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์และการใช้ระบบตรวจจับอัตโนมัติที่ทันสมัย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ CVE-2025-6389 ใน Sneeit Framework
    เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีรันโค้ดโดยไม่ต้องล็อกอิน

    การโจมตีเกิดขึ้นจริงและแพร่หลาย
    Wordfence บล็อกการโจมตีได้กว่า 491 ครั้งใน 24 ชั่วโมง

    แพตช์แก้ไขออกแล้วในเวอร์ชัน 8.4
    ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตปลั๊กอินและธีมที่เกี่ยวข้องทันที

    แนวทางความปลอดภัย WordPress ปี 2025
    ใช้ปลั๊กอินป้องกัน, เปิด 2FA, ลบปลั๊กอิน/ธีมที่ไม่ได้ใช้งาน

    ความเสี่ยงจากการไม่อัปเดต
    เว็บไซต์อาจถูกยึดครอง สร้างบัญชีแอดมินปลอม และติดตั้ง Webshell

    ภัยคุกคามใหม่จาก AI
    การโจมตีด้วย AI สามารถเดารหัสผ่านและสร้างหน้าแอดมินปลอมได้อย่างแม่นยำ


    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce/
    🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress Sneeit Framework (CVE-2025-6389) ข่าวนี้เกี่ยวกับช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน WordPress Sneeit Framework (CVE-2025-6389) ที่เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีเข้าควบคุมเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน และกำลังถูกโจมตีอย่างแพร่หลาย พร้อมคำแนะนำการป้องกันจากแนวทางความปลอดภัยล่าสุดของ WordPress ช่องโหว่ที่ถูกค้นพบใน Sneeit Framework เวอร์ชัน 8.3 หรือต่ำกว่า ทำให้ผู้โจมตีสามารถใช้ฟังก์ชัน sneeit_articles_pagination_callback() เพื่อรันโค้ดอันตรายบนเซิร์ฟเวอร์ได้ทันที โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ล็อกอินใด ๆ การโจมตีนี้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลด Webshell หรือแก้ไขไฟล์ธีมเพื่อยึดครองเว็บไซต์ทั้งหมดได้ ซึ่งถือเป็นระดับความรุนแรงสูงสุด (CVSS 9.8 – Critical) 🚨 การโจมตีที่เกิดขึ้นจริง บริษัท Wordfence รายงานว่าเพียง 24 ชั่วโมงหลังการเปิดเผย มีการบล็อกการโจมตีมากกว่า 491 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าบอทเน็ตและแฮกเกอร์กำลังใช้ช่องโหว่นี้อย่างแพร่หลาย การโจมตีลักษณะนี้มักถูกนำไปใช้ในชุดเครื่องมือโจมตี (exploit kits) เพื่อหาช่องทางเข้าถึงเว็บไซต์ที่ยังไม่ได้อัปเดต 🔧 การแก้ไขและแนวทางป้องกัน นักพัฒนาได้ออกแพตช์ใน Sneeit Framework เวอร์ชัน 8.4 เพื่อแก้ไขช่องโหว่แล้ว เจ้าของเว็บไซต์ควรรีบอัปเดตปลั๊กอินและธีมที่เกี่ยวข้องทันที นอกจากนี้ แนวทางความปลอดภัย WordPress ปี 2025 ยังแนะนำให้ใช้ปลั๊กอินป้องกัน เช่น Wordfence, Sucuri และ iThemes Security Pro รวมถึงการเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) และการลบปลั๊กอิน/ธีมที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อลดความเสี่ยง 🤖 ภัยคุกคามใหม่จาก AI ปี 2025 การโจมตี WordPress ไม่ได้มาจากมนุษย์เพียงอย่างเดียว แต่ยังมี AI-powered attacks ที่สามารถเดารหัสผ่านได้หลายพันครั้งต่อวินาที หรือสร้างหน้าแอดมินปลอมที่เหมือนจริงเพื่อหลอกผู้ใช้ให้กรอกข้อมูล การป้องกันจึงต้องอาศัยทั้งการอัปเดตซอฟต์แวร์และการใช้ระบบตรวจจับอัตโนมัติที่ทันสมัย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-6389 ใน Sneeit Framework ➡️ เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีรันโค้ดโดยไม่ต้องล็อกอิน ✅ การโจมตีเกิดขึ้นจริงและแพร่หลาย ➡️ Wordfence บล็อกการโจมตีได้กว่า 491 ครั้งใน 24 ชั่วโมง ✅ แพตช์แก้ไขออกแล้วในเวอร์ชัน 8.4 ➡️ ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตปลั๊กอินและธีมที่เกี่ยวข้องทันที ✅ แนวทางความปลอดภัย WordPress ปี 2025 ➡️ ใช้ปลั๊กอินป้องกัน, เปิด 2FA, ลบปลั๊กอิน/ธีมที่ไม่ได้ใช้งาน ‼️ ความเสี่ยงจากการไม่อัปเดต ⛔ เว็บไซต์อาจถูกยึดครอง สร้างบัญชีแอดมินปลอม และติดตั้ง Webshell ‼️ ภัยคุกคามใหม่จาก AI ⛔ การโจมตีด้วย AI สามารถเดารหัสผ่านและสร้างหน้าแอดมินปลอมได้อย่างแม่นยำ https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical WordPress Flaw (CVE-2025-6389, CVSS 9.8) Under Active Exploitation Allows Unauthenticated RCE
    A Critical (CVSS 9.8) RCE flaw in Sneeit Framework is actively exploited. The bug allows unauthenticated attackers to run arbitrary code via call_user_func and take over WordPress sites. Update to v8.4 immediately.
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • “เฟิร์นสร้างผลึกแร่หายากได้เอง – เปิดทางสู่การทำเหมืองสีเขียว”

    นักวิทยาศาสตร์จาก Chinese Academy of Sciences ค้นพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเฟิร์น Blechnum orientale ซึ่งสามารถสะสมและสร้างผลึกแร่หายาก (Rare Earth Elements – REEs) ภายในเนื้อเยื่อของมันเอง โดยผลึกที่พบคือ monazite ซึ่งปกติแล้วต้องใช้ความร้อนและแรงดันสูงใต้พื้นโลกในการก่อตัว แต่เฟิร์นกลับสามารถสร้างได้ในสภาพธรรมชาติที่อ่อนโยน

    สิ่งนี้ถือเป็นการยืนยันว่าเฟิร์นชนิดนี้ไม่เพียงแต่เป็น hyperaccumulator plant ที่ดูดซับโลหะจากดินได้ แต่ยังสามารถเปลี่ยนโลหะเหล่านั้นให้กลายเป็นผลึกแร่ที่มีมูลค่าสูง เช่น neodymium, lanthanum และ cerium ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเทคโนโลยีสะอาด ตั้งแต่กังหันลมไปจนถึงอุปกรณ์การแพทย์

    การค้นพบนี้เปิดมิติใหม่ของแนวคิด phytomining หรือการทำเหมืองโดยใช้พืช ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขุดเหมืองแบบดั้งเดิม นักวิจัยเชื่อว่าหากสามารถพัฒนาเทคนิคในการสกัดผลึก monazite จากพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นการปฏิวัติการจัดหาทรัพยากรโลหะหายากที่โลกกำลังต้องการอย่างเร่งด่วน

    อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายในการนำไปใช้จริง เช่น การสกัดผลึกโดยไม่สูญเสียทรัพยากร และการตรวจสอบว่าพืชชนิดอื่นสามารถทำเช่นเดียวกันได้หรือไม่ นักวิทยาศาสตร์กำลังทดลองกับเฟิร์นอีกชนิดหนึ่งคือ Dicranopteris linearis แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามันสามารถสร้างผลึกได้เช่นเดียวกัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบใหม่ในเฟิร์น Blechnum orientale
    สร้างผลึก monazite ภายในเนื้อเยื่อ
    ใช้ REEs เช่น neodymium, lanthanum, cerium

    ความสำคัญต่อเทคโนโลยี
    REEs เป็นหัวใจของกังหันลม คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์การแพทย์
    การสร้างผลึกในพืชอาจลดการพึ่งพาการทำเหมืองแบบดั้งเดิม

    แนวคิด phytomining
    ใช้พืชเป็นเครื่องมือดึงโลหะจากดิน
    อาจเป็นวิธีการจัดหาทรัพยากรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ความท้าทายและการวิจัยต่อเนื่อง
    ต้องหาวิธีสกัดผลึกโดยไม่สูญเสียทรัพยากร
    กำลังตรวจสอบว่าพืชชนิดอื่นสามารถทำได้เช่นกัน

    คำเตือนด้านการนำไปใช้จริง
    การสกัดผลึกจากพืชยังไม่สมบูรณ์ อาจสูญเสีย REEs จำนวนมาก
    ต้องระวังผลกระทบต่อระบบนิเวศหากมีการปลูกพืช hyperaccumulator ในวงกว้าง
    ยังไม่แน่ชัดว่าพืชทุกชนิดสามารถสร้างผลึกได้เหมือน Blechnum orientale

    https://www.sciencealert.com/rare-earth-element-crystals-found-forming-in-a-plant-for-the-first-time
    🌱 “เฟิร์นสร้างผลึกแร่หายากได้เอง – เปิดทางสู่การทำเหมืองสีเขียว” นักวิทยาศาสตร์จาก Chinese Academy of Sciences ค้นพบปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเฟิร์น Blechnum orientale ซึ่งสามารถสะสมและสร้างผลึกแร่หายาก (Rare Earth Elements – REEs) ภายในเนื้อเยื่อของมันเอง โดยผลึกที่พบคือ monazite ซึ่งปกติแล้วต้องใช้ความร้อนและแรงดันสูงใต้พื้นโลกในการก่อตัว แต่เฟิร์นกลับสามารถสร้างได้ในสภาพธรรมชาติที่อ่อนโยน สิ่งนี้ถือเป็นการยืนยันว่าเฟิร์นชนิดนี้ไม่เพียงแต่เป็น hyperaccumulator plant ที่ดูดซับโลหะจากดินได้ แต่ยังสามารถเปลี่ยนโลหะเหล่านั้นให้กลายเป็นผลึกแร่ที่มีมูลค่าสูง เช่น neodymium, lanthanum และ cerium ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเทคโนโลยีสะอาด ตั้งแต่กังหันลมไปจนถึงอุปกรณ์การแพทย์ การค้นพบนี้เปิดมิติใหม่ของแนวคิด phytomining หรือการทำเหมืองโดยใช้พืช ซึ่งอาจช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการขุดเหมืองแบบดั้งเดิม นักวิจัยเชื่อว่าหากสามารถพัฒนาเทคนิคในการสกัดผลึก monazite จากพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นการปฏิวัติการจัดหาทรัพยากรโลหะหายากที่โลกกำลังต้องการอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายในการนำไปใช้จริง เช่น การสกัดผลึกโดยไม่สูญเสียทรัพยากร และการตรวจสอบว่าพืชชนิดอื่นสามารถทำเช่นเดียวกันได้หรือไม่ นักวิทยาศาสตร์กำลังทดลองกับเฟิร์นอีกชนิดหนึ่งคือ Dicranopteris linearis แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่ามันสามารถสร้างผลึกได้เช่นเดียวกัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่ในเฟิร์น Blechnum orientale ➡️ สร้างผลึก monazite ภายในเนื้อเยื่อ ➡️ ใช้ REEs เช่น neodymium, lanthanum, cerium ✅ ความสำคัญต่อเทคโนโลยี ➡️ REEs เป็นหัวใจของกังหันลม คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์การแพทย์ ➡️ การสร้างผลึกในพืชอาจลดการพึ่งพาการทำเหมืองแบบดั้งเดิม ✅ แนวคิด phytomining ➡️ ใช้พืชเป็นเครื่องมือดึงโลหะจากดิน ➡️ อาจเป็นวิธีการจัดหาทรัพยากรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✅ ความท้าทายและการวิจัยต่อเนื่อง ➡️ ต้องหาวิธีสกัดผลึกโดยไม่สูญเสียทรัพยากร ➡️ กำลังตรวจสอบว่าพืชชนิดอื่นสามารถทำได้เช่นกัน ‼️ คำเตือนด้านการนำไปใช้จริง ⛔ การสกัดผลึกจากพืชยังไม่สมบูรณ์ อาจสูญเสีย REEs จำนวนมาก ⛔ ต้องระวังผลกระทบต่อระบบนิเวศหากมีการปลูกพืช hyperaccumulator ในวงกว้าง ⛔ ยังไม่แน่ชัดว่าพืชทุกชนิดสามารถสร้างผลึกได้เหมือน Blechnum orientale https://www.sciencealert.com/rare-earth-element-crystals-found-forming-in-a-plant-for-the-first-time
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Rare Earth Element Crystals Found Forming in a Plant For The First Time
    Scientists have just discovered an incredible superpower hidden away in the tissues of the fern Blechnum orientale, a plant that can collect and store rare earth elements.
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • “Metformin ยาเบาหวานเก่าแก่ เปิดบทบาทใหม่ในสมอง”

    นักวิจัยจาก Baylor College of Medicine สหรัฐฯ พบหลักฐานว่า Metformin ซึ่งเป็นยาที่ใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดมานานกว่า 60 ปี มีผลโดยตรงต่อสมอง โดยเฉพาะในสมองส่วน ventromedial hypothalamus (VMH) ที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานทั้งร่างกาย การทดลองในหนูแสดงให้เห็นว่า Metformin สามารถเดินทางเข้าสู่ VMH และไปยับยั้งโปรตีน Rap1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาล หากหนูถูกตัดโปรตีน Rap1 ออก Metformin ก็ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้อีก

    สิ่งนี้บ่งชี้ว่า สมองมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของ Metformin ไม่ใช่เพียงตับหรือระบบทางเดินอาหารอย่างที่เคยเข้าใจกันมาก่อน และอาจอธิบายได้ว่าทำไมยานี้ถึงมีผลดีต่อสุขภาพสมอง เช่น การชะลอความเสื่อมและการลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม

    นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า Metformin มีผลต่อเซลล์ประสาทชนิด SF1 neurons ใน VMH ซึ่งเมื่อถูกกระตุ้นจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยตรง การค้นพบนี้อาจนำไปสู่การพัฒนายาใหม่ที่เจาะจงต่อสมองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาเบาหวาน

    ที่น่าสนใจคือ Metformin ยังถูกจัดว่าเป็น gerotherapeutic drug หรือยาที่ช่วยชะลอความแก่ โดยมีหลักฐานว่ามันช่วยลดความเสียหายของ DNA และส่งเสริมการทำงานของยีนที่เกี่ยวข้องกับอายุยืน งานวิจัยล่าสุดยังพบว่า ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ใช้ Metformin มีโอกาสมีชีวิตถึงอายุ 90 ปีมากกว่าผู้ที่ใช้ยากลุ่มอื่น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    บทบาทใหม่ของ Metformin
    ไม่ได้ทำงานแค่ในตับและลำไส้ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสมอง
    ยับยั้งโปรตีน Rap1 ในสมองส่วน VMH

    ผลต่อเซลล์ประสาท
    กระตุ้น SF1 neurons ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
    เปิดทางสู่การพัฒนายาใหม่ที่เจาะจงต่อสมอง

    คุณสมบัติชะลอวัย
    ลดความเสียหายของ DNA และส่งเสริมยีนที่เกี่ยวข้องกับอายุยืน
    ผู้หญิงที่ใช้ Metformin มีโอกาสอายุยืนถึง 90 ปีมากกว่า

    คำเตือนด้านการใช้
    ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือปัญหาทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้และท้องเสีย
    ผู้ที่มีปัญหาไตควรระวัง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ
    ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันผลการค้นพบในสมอง

    https://www.sciencealert.com/after-60-years-diabetes-drug-found-to-unexpectedly-affect-the-brain
    🧪 “Metformin ยาเบาหวานเก่าแก่ เปิดบทบาทใหม่ในสมอง” นักวิจัยจาก Baylor College of Medicine สหรัฐฯ พบหลักฐานว่า Metformin ซึ่งเป็นยาที่ใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดมานานกว่า 60 ปี มีผลโดยตรงต่อสมอง โดยเฉพาะในสมองส่วน ventromedial hypothalamus (VMH) ที่ควบคุมการเผาผลาญพลังงานทั้งร่างกาย การทดลองในหนูแสดงให้เห็นว่า Metformin สามารถเดินทางเข้าสู่ VMH และไปยับยั้งโปรตีน Rap1 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาล หากหนูถูกตัดโปรตีน Rap1 ออก Metformin ก็ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้อีก สิ่งนี้บ่งชี้ว่า สมองมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของ Metformin ไม่ใช่เพียงตับหรือระบบทางเดินอาหารอย่างที่เคยเข้าใจกันมาก่อน และอาจอธิบายได้ว่าทำไมยานี้ถึงมีผลดีต่อสุขภาพสมอง เช่น การชะลอความเสื่อมและการลดความเสี่ยงโรคสมองเสื่อม นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า Metformin มีผลต่อเซลล์ประสาทชนิด SF1 neurons ใน VMH ซึ่งเมื่อถูกกระตุ้นจะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยตรง การค้นพบนี้อาจนำไปสู่การพัฒนายาใหม่ที่เจาะจงต่อสมองเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาเบาหวาน ที่น่าสนใจคือ Metformin ยังถูกจัดว่าเป็น gerotherapeutic drug หรือยาที่ช่วยชะลอความแก่ โดยมีหลักฐานว่ามันช่วยลดความเสียหายของ DNA และส่งเสริมการทำงานของยีนที่เกี่ยวข้องกับอายุยืน งานวิจัยล่าสุดยังพบว่า ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่ใช้ Metformin มีโอกาสมีชีวิตถึงอายุ 90 ปีมากกว่าผู้ที่ใช้ยากลุ่มอื่น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ บทบาทใหม่ของ Metformin ➡️ ไม่ได้ทำงานแค่ในตับและลำไส้ แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสมอง ➡️ ยับยั้งโปรตีน Rap1 ในสมองส่วน VMH ✅ ผลต่อเซลล์ประสาท ➡️ กระตุ้น SF1 neurons ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ➡️ เปิดทางสู่การพัฒนายาใหม่ที่เจาะจงต่อสมอง ✅ คุณสมบัติชะลอวัย ➡️ ลดความเสียหายของ DNA และส่งเสริมยีนที่เกี่ยวข้องกับอายุยืน ➡️ ผู้หญิงที่ใช้ Metformin มีโอกาสอายุยืนถึง 90 ปีมากกว่า ‼️ คำเตือนด้านการใช้ ⛔ ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือปัญหาทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้และท้องเสีย ⛔ ผู้ที่มีปัญหาไตควรระวัง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ ⛔ ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมในมนุษย์เพื่อยืนยันผลการค้นพบในสมอง https://www.sciencealert.com/after-60-years-diabetes-drug-found-to-unexpectedly-affect-the-brain
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    After 60 Years, Diabetes Drug Found to Unexpectedly Affect The Brain
    Metformin has been prescribed to people with type 2 diabetes to manage blood sugar for more than 60 years, but scientists haven't been exactly sure how it works.
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหลุมดำจิ๋วพุ่งทะลุร่างกายมนุษย์ – นักฟิสิกส์คำนวณแล้ว”

    นักฟิสิกส์ Robert Scherrer จาก Vanderbilt University ได้ทำการคำนวณว่า หากหลุมดำจิ๋ว (Primordial Black Hole) พุ่งตรงผ่านร่างกายมนุษย์ ผลที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่การถูกกลืนกินทั้งร่างกายเหมือนในภาพยนตร์ไซไฟ แต่จะคล้ายกับแรงกระแทกจากกระสุนปืนมากกว่า โดยหลุมดำที่มีมวลประมาณ 100 พันล้านตัน จะสร้างความเสียหายใกล้เคียงกับกระสุนขนาด .22 ที่พุ่งผ่านเนื้อเยื่อ

    สิ่งที่น่าสนใจคือ หลุมดำจิ๋วเหล่านี้มีขนาดเล็กมาก เส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 0.4 พิโกเมตร (เล็กกว่าขนาดอะตอมไฮโดรเจนหลายร้อยเท่า) ทำให้มันแทบไม่โต้ตอบกับเนื้อเยื่อโดยตรง แต่สิ่งที่อันตรายคือ คลื่นกระแทกความเร็วเหนือเสียง ที่เกิดขึ้นตามหลังการเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถฉีกเนื้อเยื่อได้เหมือนแรงกระแทกจากกระสุน

    อีกประเด็นคือแรงดึงดูดแบบ “tidal force” หรือแรงดึงไม่สมดุลที่อาจทำให้เนื้อเยื่อเกิดการ “spaghettification” หากหลุมดำมีมวลมากพอ โดยการคำนวณพบว่าต้องมีมวลอย่างน้อย 7 ล้านล้านตัน ถึงจะทำให้สมองมนุษย์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง

    ท้ายที่สุด ความน่ากลัวนี้แทบไม่เกิดขึ้นจริง เพราะความน่าจะเป็นที่หลุมดำจิ๋วจะพุ่งชนมนุษย์นั้นต่ำมาก — ประมาณ หนึ่งครั้งในทุกๆ หนึ่งควินทิลเลียนปี ซึ่งนานกว่าช่วงอายุจักรวาลปัจจุบันหลายเท่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผลการคำนวณของนักฟิสิกส์
    หลุมดำจิ๋ว 100 พันล้านตัน สร้างความเสียหายเทียบเท่ากระสุน .22
    ขนาดเล็กเพียง 0.4 พิโกเมตร เล็กกว่าอะตอมไฮโดรเจน

    แรงกระแทกและแรงดึงดูด
    คลื่นกระแทกเหนือเสียงทำให้เนื้อเยื่อฉีกขาด
    มวล 7 ล้านล้านตันขึ้นไปถึงจะทำให้สมองเสียหายจาก tidal force

    ความเป็นไปได้ในเชิงจักรวาล
    ความน่าจะเป็นที่มนุษย์จะถูกหลุมดำจิ๋วชนคือ 1 ครั้งในควินทิลเลียนปี
    "ควินทิลเลียน" คือตัวเลขที่มี 0 ต่อท้าย 18 ตัว
    โอกาสเกิดขึ้นแทบเป็นศูนย์เมื่อเทียบกับอายุจักรวาล

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    หากหลุมดำมีมวลระดับดาวเคราะห์หรือดาวเคราะห์น้อย ผลกระทบจะรุนแรงถึงชีวิต
    คลื่นกระแทกความเร็วสูงอาจทำลายอวัยวะสำคัญได้ทันที
    แม้โอกาสต่ำ แต่หากเกิดขึ้นจริงจะไม่สามารถป้องกันได้

    https://www.sciencealert.com/what-if-a-tiny-black-hole-shot-through-your-body-a-physicist-did-the-math
    🌌 “จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหลุมดำจิ๋วพุ่งทะลุร่างกายมนุษย์ – นักฟิสิกส์คำนวณแล้ว” นักฟิสิกส์ Robert Scherrer จาก Vanderbilt University ได้ทำการคำนวณว่า หากหลุมดำจิ๋ว (Primordial Black Hole) พุ่งตรงผ่านร่างกายมนุษย์ ผลที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่การถูกกลืนกินทั้งร่างกายเหมือนในภาพยนตร์ไซไฟ แต่จะคล้ายกับแรงกระแทกจากกระสุนปืนมากกว่า โดยหลุมดำที่มีมวลประมาณ 100 พันล้านตัน จะสร้างความเสียหายใกล้เคียงกับกระสุนขนาด .22 ที่พุ่งผ่านเนื้อเยื่อ สิ่งที่น่าสนใจคือ หลุมดำจิ๋วเหล่านี้มีขนาดเล็กมาก เส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 0.4 พิโกเมตร (เล็กกว่าขนาดอะตอมไฮโดรเจนหลายร้อยเท่า) ทำให้มันแทบไม่โต้ตอบกับเนื้อเยื่อโดยตรง แต่สิ่งที่อันตรายคือ คลื่นกระแทกความเร็วเหนือเสียง ที่เกิดขึ้นตามหลังการเคลื่อนที่ ซึ่งสามารถฉีกเนื้อเยื่อได้เหมือนแรงกระแทกจากกระสุน อีกประเด็นคือแรงดึงดูดแบบ “tidal force” หรือแรงดึงไม่สมดุลที่อาจทำให้เนื้อเยื่อเกิดการ “spaghettification” หากหลุมดำมีมวลมากพอ โดยการคำนวณพบว่าต้องมีมวลอย่างน้อย 7 ล้านล้านตัน ถึงจะทำให้สมองมนุษย์ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ท้ายที่สุด ความน่ากลัวนี้แทบไม่เกิดขึ้นจริง เพราะความน่าจะเป็นที่หลุมดำจิ๋วจะพุ่งชนมนุษย์นั้นต่ำมาก — ประมาณ หนึ่งครั้งในทุกๆ หนึ่งควินทิลเลียนปี ซึ่งนานกว่าช่วงอายุจักรวาลปัจจุบันหลายเท่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผลการคำนวณของนักฟิสิกส์ ➡️ หลุมดำจิ๋ว 100 พันล้านตัน สร้างความเสียหายเทียบเท่ากระสุน .22 ➡️ ขนาดเล็กเพียง 0.4 พิโกเมตร เล็กกว่าอะตอมไฮโดรเจน ✅ แรงกระแทกและแรงดึงดูด ➡️ คลื่นกระแทกเหนือเสียงทำให้เนื้อเยื่อฉีกขาด ➡️ มวล 7 ล้านล้านตันขึ้นไปถึงจะทำให้สมองเสียหายจาก tidal force ✅ ความเป็นไปได้ในเชิงจักรวาล ➡️ ความน่าจะเป็นที่มนุษย์จะถูกหลุมดำจิ๋วชนคือ 1 ครั้งในควินทิลเลียนปี ➡️ "ควินทิลเลียน" คือตัวเลขที่มี 0 ต่อท้าย 18 ตัว ➡️ โอกาสเกิดขึ้นแทบเป็นศูนย์เมื่อเทียบกับอายุจักรวาล ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ หากหลุมดำมีมวลระดับดาวเคราะห์หรือดาวเคราะห์น้อย ผลกระทบจะรุนแรงถึงชีวิต ⛔ คลื่นกระแทกความเร็วสูงอาจทำลายอวัยวะสำคัญได้ทันที ⛔ แม้โอกาสต่ำ แต่หากเกิดขึ้นจริงจะไม่สามารถป้องกันได้ https://www.sciencealert.com/what-if-a-tiny-black-hole-shot-through-your-body-a-physicist-did-the-math
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    What if a Tiny Black Hole Shot Through Your Body? A Physicist Did The Math
    If you've ever wondered what would actually happen if a microscopic black hole tunneled straight through your body, answers have finally arrived.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • “CISOs นอนไม่หลับเพราะภัยไซเบอร์ – Zurich กลายเป็นที่พักใจ”

    ในงาน Global Cyber Conference 2025 ที่ Zurich เหล่า Chief Information Security Officers (CISOs) จากทั่วโลกได้รวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดันและความเสี่ยงทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน เนื้อหาหลักสะท้อนถึงความเหนื่อยล้าและความเครียดที่สะสมจากการต้องรับมือกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการโจมตีแบบ Zero-day ที่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังการเปิดเผยช่องโหว่ ทำให้การนอนหลับกลายเป็นสิ่งหรูหราสำหรับผู้บริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล

    สิ่งที่ทำให้การประชุมครั้งนี้แตกต่างคือบรรยากาศที่เปิดโอกาสให้ CISOs ได้แสดงความเปราะบางและความกังวลอย่างตรงไปตรงมา โดยสถานที่จัดงานที่หรูหราและสงบใน Zurich กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างเครือข่ายความไว้วางใจที่แท้จริง หลายคนเล่าว่าการมีเพื่อนร่วมอาชีพที่สามารถโทรหากันได้ทันทีในยามเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้นมีค่ามากกว่าการประชุมเชิงวิชาการใด ๆ

    หนึ่งในประเด็นสำคัญคือการลดช่องว่างระหว่างการค้นพบช่องโหว่และการถูกโจมตี ซึ่งปัจจุบันสั้นลงเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้การจัดการแพตช์แบบอัตโนมัติและการจัดลำดับความสำคัญของระบบที่สำคัญที่สุดกลายเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในการรับมือกับภัยคุกคาม โดยเฉพาะการใช้ AI ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ เช่น การสร้างมัลแวร์จำลองเพื่อฝึกทีม SOC และการตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติแทนการพึ่งพาเพียงแนวป้องกันแบบเดิม

    ท้ายที่สุด สิ่งที่สะท้อนชัดเจนที่สุดคือ “มนุษย์” กลายเป็นพื้นผิวการโจมตีที่สำคัญไม่แพ้เทคโนโลยี ความเครียดและการหมดไฟทำให้หลายคนลังเลที่จะรับตำแหน่งสูงขึ้น หรือแม้กระทั่งออกจากวงการไปเลย การประชุมครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่สร้างแนวทางใหม่ในการจัดการความเสี่ยง แต่ยังสร้างชุมชนที่ช่วยเยียวยาและเสริมพลังใจให้กับผู้ที่ต้องอยู่แนวหน้าในสงครามไซเบอร์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ภัยคุกคามที่เร่งตัวขึ้น
    ช่องว่างระหว่างการค้นพบช่องโหว่และการโจมตีสั้นลงเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง
    การแพตช์แบบอัตโนมัติและการจัดลำดับความสำคัญของระบบสำคัญเป็นสิ่งจำเป็น

    บทบาทของ AI ในสงครามไซเบอร์
    ใช้ AI สร้างมัลแวร์จำลองเพื่อฝึกทีม SOC
    ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแทนการพึ่งพาเพียงแนวป้องกันแบบเดิม

    การสร้างเครือข่ายความไว้วางใจ
    CISOs แลกเปลี่ยนเบอร์โทรเพื่อช่วยกันในเหตุการณ์จริง
    Zurich กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแบ่งปันความเปราะบาง

    มนุษย์คือพื้นผิวการโจมตีใหม่
    ความเครียดและการหมดไฟทำให้หลายคนออกจากวงการ
    การสร้างระบบสนับสนุนและตรวจสอบสุขภาพจิตเป็นสิ่งจำเป็น

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    Zero-day อาจถูกนำไปใช้โจมตีภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง
    การพึ่งพาแนวป้องกันแบบเดิมอาจไม่เพียงพอในยุค AI
    ความเหนื่อยล้าของบุคลากรอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาดและเพิ่มช่องโหว่

    https://www.csoonline.com/article/4094608/what-keeps-cisos-awake-at-night-and-why-zurich-might-hold-the-cure.html
    🛡️ “CISOs นอนไม่หลับเพราะภัยไซเบอร์ – Zurich กลายเป็นที่พักใจ” ในงาน Global Cyber Conference 2025 ที่ Zurich เหล่า Chief Information Security Officers (CISOs) จากทั่วโลกได้รวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความกดดันและความเสี่ยงทางไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน เนื้อหาหลักสะท้อนถึงความเหนื่อยล้าและความเครียดที่สะสมจากการต้องรับมือกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการโจมตีแบบ Zero-day ที่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังการเปิดเผยช่องโหว่ ทำให้การนอนหลับกลายเป็นสิ่งหรูหราสำหรับผู้บริหารด้านความปลอดภัยข้อมูล สิ่งที่ทำให้การประชุมครั้งนี้แตกต่างคือบรรยากาศที่เปิดโอกาสให้ CISOs ได้แสดงความเปราะบางและความกังวลอย่างตรงไปตรงมา โดยสถานที่จัดงานที่หรูหราและสงบใน Zurich กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถแลกเปลี่ยนความรู้และสร้างเครือข่ายความไว้วางใจที่แท้จริง หลายคนเล่าว่าการมีเพื่อนร่วมอาชีพที่สามารถโทรหากันได้ทันทีในยามเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินนั้นมีค่ามากกว่าการประชุมเชิงวิชาการใด ๆ หนึ่งในประเด็นสำคัญคือการลดช่องว่างระหว่างการค้นพบช่องโหว่และการถูกโจมตี ซึ่งปัจจุบันสั้นลงเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้การจัดการแพตช์แบบอัตโนมัติและการจัดลำดับความสำคัญของระบบที่สำคัญที่สุดกลายเป็นสิ่งจำเป็น นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ในการรับมือกับภัยคุกคาม โดยเฉพาะการใช้ AI ทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ เช่น การสร้างมัลแวร์จำลองเพื่อฝึกทีม SOC และการตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติแทนการพึ่งพาเพียงแนวป้องกันแบบเดิม ท้ายที่สุด สิ่งที่สะท้อนชัดเจนที่สุดคือ “มนุษย์” กลายเป็นพื้นผิวการโจมตีที่สำคัญไม่แพ้เทคโนโลยี ความเครียดและการหมดไฟทำให้หลายคนลังเลที่จะรับตำแหน่งสูงขึ้น หรือแม้กระทั่งออกจากวงการไปเลย การประชุมครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่สร้างแนวทางใหม่ในการจัดการความเสี่ยง แต่ยังสร้างชุมชนที่ช่วยเยียวยาและเสริมพลังใจให้กับผู้ที่ต้องอยู่แนวหน้าในสงครามไซเบอร์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ภัยคุกคามที่เร่งตัวขึ้น ➡️ ช่องว่างระหว่างการค้นพบช่องโหว่และการโจมตีสั้นลงเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง ➡️ การแพตช์แบบอัตโนมัติและการจัดลำดับความสำคัญของระบบสำคัญเป็นสิ่งจำเป็น ✅ บทบาทของ AI ในสงครามไซเบอร์ ➡️ ใช้ AI สร้างมัลแวร์จำลองเพื่อฝึกทีม SOC ➡️ ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติแทนการพึ่งพาเพียงแนวป้องกันแบบเดิม ✅ การสร้างเครือข่ายความไว้วางใจ ➡️ CISOs แลกเปลี่ยนเบอร์โทรเพื่อช่วยกันในเหตุการณ์จริง ➡️ Zurich กลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการแบ่งปันความเปราะบาง ✅ มนุษย์คือพื้นผิวการโจมตีใหม่ ➡️ ความเครียดและการหมดไฟทำให้หลายคนออกจากวงการ ➡️ การสร้างระบบสนับสนุนและตรวจสอบสุขภาพจิตเป็นสิ่งจำเป็น ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ Zero-day อาจถูกนำไปใช้โจมตีภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ⛔ การพึ่งพาแนวป้องกันแบบเดิมอาจไม่เพียงพอในยุค AI ⛔ ความเหนื่อยล้าของบุคลากรอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาดและเพิ่มช่องโหว่ https://www.csoonline.com/article/4094608/what-keeps-cisos-awake-at-night-and-why-zurich-might-hold-the-cure.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    What keeps CISOs awake at night — and why Zurich might hold the cure
    At Zurich’s recent cyber conference, CISOs swapped war stories about shrinking patch windows, AI threats and burnout — and found rare relief in real peer support.
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷
    #รวมข่าวIT #20251125 #TechRadar

    รีวิวแบตเตอรี่ LiTime X Mini และอุปกรณ์เสริม
    เรื่องนี้เล่าได้ว่า LiTime เปิดตัวแบตเตอรี่ X Mini รุ่นใหม่ที่มีความจุ 320Ah หรือราว 4kWh ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับอินเวอร์เตอร์และเครื่องชาร์จเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า AC ขนาด 2kW ได้ในราคาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ให้แรงขึ้นได้ตามต้องการ ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเพียง 25 กิโลกรัม ขนาดไม่ต่างจากแบตรถยนต์ทั่วไป แต่มีฟังก์ชันล้ำ ๆ เช่น Bluetooth สำหรับตรวจสอบสถานะ, ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันกว่า 20 รูปแบบ และทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส จุดที่น่าสนใจคือสามารถต่อแบตเตอรี่หลายลูกเพื่อขยายกำลังได้ และยังทำงานเป็น UPS สำรองไฟได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งระบบเอง แต่ถ้าไม่ถนัด DIY อาจไม่เหมาะนัก
    https://www.techradar.com/pro/litime-x-mini-battery-and-accessories-review

    iPadOS 26 กับการจัดการหน้าต่างที่ทำให้สับสน แต่มีทริกง่าย ๆ
    Apple ปรับโฉมครั้งใหญ่ใน iPadOS 26 โดยเพิ่มระบบจัดการหน้าต่างแบบ Mac เข้ามา แต่หลายคนรวมถึงผู้เขียนพบว่ามันใช้งานยากและ Apple ไม่ได้อธิบายชัดเจน วิธีแก้คือเพิ่ม “Multitasking widget” ใน Control Center ซึ่งจะช่วยให้สลับโหมดการใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดเต็มหน้าจอที่เหมาะกับการดูสื่อบันเทิง, โหมด Windowed Apps ที่เหมาะกับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือโหมด Stage Manager ที่ช่วยจัดการ workspace ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจการสลับโหมดเหล่านี้ iPad จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทั้งบันเทิงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26s-window-management-is-confusing-heres-an-easy-trick-to-use-it-properly

    NATO จับมือ Google Cloud สร้าง Sovereign Cloud ที่ปลอดภัย
    NATO ลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่กับ Google Cloud เพื่อใช้บริการ Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งเป็นระบบ sovereign cloud แบบ air-gapped ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลที่อ่อนไหวจากศูนย์ JATEC ที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน จุดสำคัญคือ NATO จะสามารถควบคุมข้อมูลให้อยู่ในอาณาเขตของตนเองตามข้อกำหนดด้าน sovereignty และ compliance ข้อตกลงนี้ช่วยเร่งการปรับปรุงระบบดิจิทัลของ NATO และยังสะท้อนถึงการเติบโตของ Google Cloud ที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% ในไตรมาสล่าสุด
    https://www.techradar.com/pro/nato-signs-major-google-deal-to-ensure-secure-sovereign-cloud

    Android เตรียมรองรับ AirDrop มากขึ้น
    Google สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศว่า Android Quick Share จะสามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้ ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะ Pixel 10 แต่ Snapdragon ก็ออกมาบอกว่าจะรองรับในอนาคต ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ Android รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Samsung Galaxy S25 และ OnePlus 15 อาจใช้ฟีเจอร์นี้ได้ รวมถึง Nothing Phone 3 ที่ CEO ของ Nothing ยืนยันว่าจะนำมาใช้แน่นอน แม้ยังมีคำถามว่า Apple จะยอมให้ฟีเจอร์นี้ทำงานต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถูกบล็อก นี่จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้นมาก
    https://www.techradar.com/phones/android/loads-more-android-phones-could-soon-work-with-airdrop

    GMKtec เปิดตัว EVO-T2 Mini-PC รุ่นใหม่ พร้อมชิป Intel Panther Lake
    เรื่องราวนี้พูดถึงการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก EVO-T2 จาก GMKtec ที่สร้างความฮือฮาเพราะเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Panther Lake ของ Intel รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 128GB LPDDR5X และมีช่อง SSD สองช่องที่รวมกันได้ถึง 16TB จุดเด่นคือพลังการประมวลผลด้าน AI ที่สูงถึง 180 TOPS ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ AI หนัก ๆ ทั้งยังคงดีไซน์เรียบง่ายเหมือนรุ่นก่อน แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด การเปิดตัวจริงคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2026
    https://www.techradar.com/pro/gmktecs-next-mini-pc-will-be-the-first-to-feature-intel-panther-lake-and-some-other-seriously-impressive-specs

    นักวิจัยทดสอบ AI สร้างมัลแวร์ แต่ผลลัพธ์กลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
    ทีมวิจัยจาก Netskope พยายามทดสอบว่าโมเดลภาษา AI อย่าง GPT-3.5 และ GPT-4 สามารถสร้างโค้ดมัลแวร์ที่ใช้งานได้จริงหรือไม่ ผลคือแม้ AI จะสร้างโค้ดออกมาได้ แต่เมื่อนำไปทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงกลับล้มเหลว ไม่เสถียร และทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง แม้ GPT-5 จะมีคุณภาพโค้ดที่ดีขึ้น แต่ก็มีระบบป้องกันที่ทำให้โค้ดไม่สามารถใช้โจมตีได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า AI ยังไม่พร้อมสำหรับการสร้างมัลแวร์ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/pro/experts-tried-to-get-ai-to-create-malicious-security-threats-but-what-it-did-next-was-a-surprise-even-to-them

    Sam Altman และ Jony Ive เผยโฉมอุปกรณ์ AI ที่จะมอบ “บรรยากาศสงบ” ให้ผู้ใช้
    Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Jony Ive อดีตนักออกแบบจาก Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI ภายใต้บริษัท IO ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไป โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความเข้าใจบริบทชีวิตผู้ใช้ รู้ว่าเมื่อไรควรนำเสนอข้อมูล และสร้างบรรยากาศที่สงบเหมือนนั่งอยู่ในกระท่อมริมทะเลสาบ ไม่ใช่ความวุ่นวายแบบสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทั้งคู่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้จะเปิดตัวภายในสองปี และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ “ยิ้มและรู้สึกมีความสุข”
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/sam-altman-and-jony-ive-ai-device-is-now-in-its-prototype-phase-and-its-vibe-is-defined

    รีวิวเครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT รุ่นราคาย่อมเยา ใช้ง่ายและดูดี
    เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นแผ่นเสียง จุดเด่นคือราคาที่จับต้องได้และการใช้งานที่ง่าย เพียงกดปุ่มเล่นหรือหยุดโดยไม่ต้องยุ่งกับเข็มหรือโทนอาร์ม ดีไซน์เรียบหรูและรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ RCA แม้จะไม่มีช่อง 3.5 มม. และการตั้งค่าเริ่มต้นอาจดูยุ่งเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากสัมผัสโลกของเสียงจากแผ่นไวนิล
    https://www.techradar.com/audio/turntables/i-tested-the-entry-level-turntable-that-everyone-raves-about-and-i-totally-get-it

    ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Shopping Research ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าให้คุณ
    OpenAI เพิ่มเครื่องมือใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาได้โดยไม่ต้องเปิดหลายแท็บ เครื่องมือนี้สามารถสร้างคู่มือการซื้อที่ปรับตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การหาของขวัญแปลกใหม่หรือทีวีที่เหมาะกับห้องสว่าง ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้ทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงิน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปีที่เข้าถึงได้แทบไม่จำกัด ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัวที่สะดวกและฉลาดขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-shopping-research-tool-compares-products-for-you-so-you-dont-have-to-open-20-tabs

    ช่องโหว่ Windows Server ถูกแฮกเกอร์ใช้แพร่กระจายมัลแวร์
    ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบช่องโหว่ใน Windows Server ที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ไปยังระบบต่าง ๆ ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงและควบคุมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง Microsoft ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/windows-server-flaw-targeted-by-hackers-to-spread-malware-heres-what-we-know

    Cox Enterprises ถูกโจมตีข้อมูลจาก Oracle แต่ไม่เปิดเผยผู้ก่อเหตุ
    ox Enterprises บริษัทสื่อและโทรคมนาคมรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยืนยันว่าถูกโจมตีข้อมูลผ่านระบบ Oracle แต่ยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุหรือวิธีการที่ใช้ การโจมตีครั้งนี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะพยายามควบคุมสถานการณ์และเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่การไม่เปิดเผยรายละเอียดก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้งานและนักลงทุน
    https://www.techradar.com/pro/security/cox-reveals-it-was-hit-by-oracle-data-breach-but-it-wont-name-who-carried-out-the-attack

    Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm ราคาย่อมเยา กลับสู่ความคลาสสิก
    Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm รุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและดีไซน์ย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิกของการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม กล้องรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพแบบดั้งเดิม ถือเป็นการนำเสน่ห์ของฟิล์มกลับมาอีกครั้งในยุคดิจิทัล
    https://www.techradar.com/cameras/kodaks-affordable-35mm-film-camera-looks-like-a-black-or-white-blast-from-the-past

    Disney เปิดตัวหุ่นยนต์ Olaf ที่สมจริงจนทำให้ผู้ชมขนลุก
    Disney สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยหุ่นยนต์ Olaf จาก Frozen ที่เคลื่อนไหวและแสดงออกได้อย่างสมจริง หุ่นยนต์นี้ถูกพัฒนาให้มีท่าทางและอารมณ์เหมือนตัวละครในภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือน Olaf มีชีวิตจริง ๆ เทคโนโลยีนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Disney ในการผสมผสานหุ่นยนต์เข้ากับความบันเทิง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำตัวละครอื่น ๆ มาสู่โลกจริงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/entertainment/disneys-new-olaf-robot-is-so-real-itll-give-you-chills

    Iberia สายการบินสเปนประกาศถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่
    Iberia สายการบินรายใหญ่ของสเปนแจ้งลูกค้าว่าถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะรีบดำเนินการแก้ไขและเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความกังวลต่อผู้โดยสารและอุตสาหกรรมการบินโดยรวม เพราะสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบดิจิทัลในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมหาศาล
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/pro/security/iberia-tells-customers-it-was-hit-by-a-major-security-breach



    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251125 #TechRadar 🔋 รีวิวแบตเตอรี่ LiTime X Mini และอุปกรณ์เสริม เรื่องนี้เล่าได้ว่า LiTime เปิดตัวแบตเตอรี่ X Mini รุ่นใหม่ที่มีความจุ 320Ah หรือราว 4kWh ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับอินเวอร์เตอร์และเครื่องชาร์จเพื่อสร้างระบบไฟฟ้า AC ขนาด 2kW ได้ในราคาประมาณ 1,500 ดอลลาร์ จุดเด่นคือความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถเพิ่มแบตเตอรี่หรือเปลี่ยนอินเวอร์เตอร์ให้แรงขึ้นได้ตามต้องการ ตัวแบตเตอรี่มีน้ำหนักเพียง 25 กิโลกรัม ขนาดไม่ต่างจากแบตรถยนต์ทั่วไป แต่มีฟังก์ชันล้ำ ๆ เช่น Bluetooth สำหรับตรวจสอบสถานะ, ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่มีการป้องกันกว่า 20 รูปแบบ และทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -20 องศาเซลเซียส จุดที่น่าสนใจคือสามารถต่อแบตเตอรี่หลายลูกเพื่อขยายกำลังได้ และยังทำงานเป็น UPS สำรองไฟได้อีกด้วย เหมาะกับคนที่ชอบปรับแต่งระบบเอง แต่ถ้าไม่ถนัด DIY อาจไม่เหมาะนัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/litime-x-mini-battery-and-accessories-review 🍎 iPadOS 26 กับการจัดการหน้าต่างที่ทำให้สับสน แต่มีทริกง่าย ๆ Apple ปรับโฉมครั้งใหญ่ใน iPadOS 26 โดยเพิ่มระบบจัดการหน้าต่างแบบ Mac เข้ามา แต่หลายคนรวมถึงผู้เขียนพบว่ามันใช้งานยากและ Apple ไม่ได้อธิบายชัดเจน วิธีแก้คือเพิ่ม “Multitasking widget” ใน Control Center ซึ่งจะช่วยให้สลับโหมดการใช้งานได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมดเต็มหน้าจอที่เหมาะกับการดูสื่อบันเทิง, โหมด Windowed Apps ที่เหมาะกับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือโหมด Stage Manager ที่ช่วยจัดการ workspace ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเข้าใจการสลับโหมดเหล่านี้ iPad จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทั้งบันเทิงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26s-window-management-is-confusing-heres-an-easy-trick-to-use-it-properly 🌐 NATO จับมือ Google Cloud สร้าง Sovereign Cloud ที่ปลอดภัย NATO ลงนามข้อตกลงครั้งใหญ่กับ Google Cloud เพื่อใช้บริการ Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งเป็นระบบ sovereign cloud แบบ air-gapped ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการจัดการข้อมูลที่อ่อนไหวจากศูนย์ JATEC ที่เกี่ยวข้องกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน จุดสำคัญคือ NATO จะสามารถควบคุมข้อมูลให้อยู่ในอาณาเขตของตนเองตามข้อกำหนดด้าน sovereignty และ compliance ข้อตกลงนี้ช่วยเร่งการปรับปรุงระบบดิจิทัลของ NATO และยังสะท้อนถึงการเติบโตของ Google Cloud ที่รายได้เพิ่มขึ้นกว่า 28% ในไตรมาสล่าสุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/nato-signs-major-google-deal-to-ensure-secure-sovereign-cloud 📱 Android เตรียมรองรับ AirDrop มากขึ้น Google สร้างความฮือฮาเมื่อประกาศว่า Android Quick Share จะสามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้ ตอนนี้ใช้ได้เฉพาะ Pixel 10 แต่ Snapdragon ก็ออกมาบอกว่าจะรองรับในอนาคต ซึ่งหมายความว่าโทรศัพท์ Android รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Samsung Galaxy S25 และ OnePlus 15 อาจใช้ฟีเจอร์นี้ได้ รวมถึง Nothing Phone 3 ที่ CEO ของ Nothing ยืนยันว่าจะนำมาใช้แน่นอน แม้ยังมีคำถามว่า Apple จะยอมให้ฟีเจอร์นี้ทำงานต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าไม่ถูกบล็อก นี่จะเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้การแชร์ไฟล์ระหว่าง iPhone และ Android ง่ายขึ้นมาก 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/loads-more-android-phones-could-soon-work-with-airdrop 🖥️ GMKtec เปิดตัว EVO-T2 Mini-PC รุ่นใหม่ พร้อมชิป Intel Panther Lake เรื่องราวนี้พูดถึงการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก EVO-T2 จาก GMKtec ที่สร้างความฮือฮาเพราะเป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิป Panther Lake ของ Intel รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวเครื่องรองรับหน่วยความจำสูงสุดถึง 128GB LPDDR5X และมีช่อง SSD สองช่องที่รวมกันได้ถึง 16TB จุดเด่นคือพลังการประมวลผลด้าน AI ที่สูงถึง 180 TOPS ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องใช้ AI หนัก ๆ ทั้งยังคงดีไซน์เรียบง่ายเหมือนรุ่นก่อน แต่เพิ่มประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด การเปิดตัวจริงคาดว่าจะเกิดขึ้นในไตรมาสแรกของปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/pro/gmktecs-next-mini-pc-will-be-the-first-to-feature-intel-panther-lake-and-some-other-seriously-impressive-specs 🛡️ นักวิจัยทดสอบ AI สร้างมัลแวร์ แต่ผลลัพธ์กลับไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ทีมวิจัยจาก Netskope พยายามทดสอบว่าโมเดลภาษา AI อย่าง GPT-3.5 และ GPT-4 สามารถสร้างโค้ดมัลแวร์ที่ใช้งานได้จริงหรือไม่ ผลคือแม้ AI จะสร้างโค้ดออกมาได้ แต่เมื่อนำไปทดสอบในสภาพแวดล้อมจริงกลับล้มเหลว ไม่เสถียร และทำงานผิดพลาดบ่อยครั้ง แม้ GPT-5 จะมีคุณภาพโค้ดที่ดีขึ้น แต่ก็มีระบบป้องกันที่ทำให้โค้ดไม่สามารถใช้โจมตีได้จริง เรื่องนี้สะท้อนว่า AI ยังไม่พร้อมสำหรับการสร้างมัลแวร์ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/experts-tried-to-get-ai-to-create-malicious-security-threats-but-what-it-did-next-was-a-surprise-even-to-them ✨ Sam Altman และ Jony Ive เผยโฉมอุปกรณ์ AI ที่จะมอบ “บรรยากาศสงบ” ให้ผู้ใช้ Sam Altman ซีอีโอ OpenAI และ Jony Ive อดีตนักออกแบบจาก Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์ AI ภายใต้บริษัท IO ที่ตั้งใจให้แตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไป โดยจะเป็นอุปกรณ์ที่มีความเข้าใจบริบทชีวิตผู้ใช้ รู้ว่าเมื่อไรควรนำเสนอข้อมูล และสร้างบรรยากาศที่สงบเหมือนนั่งอยู่ในกระท่อมริมทะเลสาบ ไม่ใช่ความวุ่นวายแบบสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ทั้งคู่ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้จะเปิดตัวภายในสองปี และจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ “ยิ้มและรู้สึกมีความสุข” 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/sam-altman-and-jony-ive-ai-device-is-now-in-its-prototype-phase-and-its-vibe-is-defined 🎶 รีวิวเครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT รุ่นราคาย่อมเยา ใช้ง่ายและดูดี เครื่องเล่นแผ่นเสียง Sony PS-LX310BT ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้เริ่มต้นเล่นแผ่นเสียง จุดเด่นคือราคาที่จับต้องได้และการใช้งานที่ง่าย เพียงกดปุ่มเล่นหรือหยุดโดยไม่ต้องยุ่งกับเข็มหรือโทนอาร์ม ดีไซน์เรียบหรูและรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Bluetooth และ RCA แม้จะไม่มีช่อง 3.5 มม. และการตั้งค่าเริ่มต้นอาจดูยุ่งเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากสัมผัสโลกของเสียงจากแผ่นไวนิล 🔗 https://www.techradar.com/audio/turntables/i-tested-the-entry-level-turntable-that-everyone-raves-about-and-i-totally-get-it 🛍️ ChatGPT เปิดตัวฟีเจอร์ Shopping Research ช่วยค้นหาและเปรียบเทียบสินค้าให้คุณ OpenAI เพิ่มเครื่องมือใหม่ใน ChatGPT ชื่อว่า Shopping Research ที่ช่วยผู้ใช้ค้นหาสินค้าและเปรียบเทียบราคาได้โดยไม่ต้องเปิดหลายแท็บ เครื่องมือนี้สามารถสร้างคู่มือการซื้อที่ปรับตามความต้องการของผู้ใช้ เช่น การหาของขวัญแปลกใหม่หรือทีวีที่เหมาะกับห้องสว่าง ฟีเจอร์นี้เปิดให้ใช้ทั้งในแผนฟรีและแบบเสียเงิน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลช้อปปิ้งปลายปีที่เข้าถึงได้แทบไม่จำกัด ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัวที่สะดวกและฉลาดขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-shopping-research-tool-compares-products-for-you-so-you-dont-have-to-open-20-tabs 🔒 ช่องโหว่ Windows Server ถูกแฮกเกอร์ใช้แพร่กระจายมัลแวร์ ข่าวนี้เล่าถึงการค้นพบช่องโหว่ใน Windows Server ที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ไปยังระบบต่าง ๆ ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าถึงและควบคุมเครื่องเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ที่ถูกต้อง Microsoft ได้ออกคำเตือนและแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของการดูแลระบบเซิร์ฟเวอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/windows-server-flaw-targeted-by-hackers-to-spread-malware-heres-what-we-know 📉 Cox Enterprises ถูกโจมตีข้อมูลจาก Oracle แต่ไม่เปิดเผยผู้ก่อเหตุ ox Enterprises บริษัทสื่อและโทรคมนาคมรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยืนยันว่าถูกโจมตีข้อมูลผ่านระบบ Oracle แต่ยังไม่เปิดเผยว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุหรือวิธีการที่ใช้ การโจมตีครั้งนี้ทำให้ข้อมูลลูกค้าบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะพยายามควบคุมสถานการณ์และเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่การไม่เปิดเผยรายละเอียดก็สร้างความกังวลต่อผู้ใช้งานและนักลงทุน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cox-reveals-it-was-hit-by-oracle-data-breach-but-it-wont-name-who-carried-out-the-attack 📷 Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm ราคาย่อมเยา กลับสู่ความคลาสสิก Kodak เปิดตัวกล้องฟิล์ม 35mm รุ่นใหม่ที่มีราคาย่อมเยาและดีไซน์ย้อนยุค เหมาะสำหรับผู้ที่หลงใหลในความคลาสสิกของการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม กล้องรุ่นนี้มีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาว ใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพแบบดั้งเดิม ถือเป็นการนำเสน่ห์ของฟิล์มกลับมาอีกครั้งในยุคดิจิทัล 🔗 https://www.techradar.com/cameras/kodaks-affordable-35mm-film-camera-looks-like-a-black-or-white-blast-from-the-past 🤖 Disney เปิดตัวหุ่นยนต์ Olaf ที่สมจริงจนทำให้ผู้ชมขนลุก Disney สร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยหุ่นยนต์ Olaf จาก Frozen ที่เคลื่อนไหวและแสดงออกได้อย่างสมจริง หุ่นยนต์นี้ถูกพัฒนาให้มีท่าทางและอารมณ์เหมือนตัวละครในภาพยนตร์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือน Olaf มีชีวิตจริง ๆ เทคโนโลยีนี้สะท้อนถึงความก้าวหน้าของ Disney ในการผสมผสานหุ่นยนต์เข้ากับความบันเทิง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการนำตัวละครอื่น ๆ มาสู่โลกจริงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/entertainment/disneys-new-olaf-robot-is-so-real-itll-give-you-chills ✈️ Iberia สายการบินสเปนประกาศถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ Iberia สายการบินรายใหญ่ของสเปนแจ้งลูกค้าว่าถูกโจมตีข้อมูลครั้งใหญ่ ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้โดยสารบางส่วนเสี่ยงต่อการรั่วไหล แม้บริษัทจะรีบดำเนินการแก้ไขและเสริมมาตรการความปลอดภัย แต่เหตุการณ์นี้ก็สร้างความกังวลต่อผู้โดยสารและอุตสาหกรรมการบินโดยรวม เพราะสะท้อนถึงความเปราะบางของระบบดิจิทัลในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลจำนวนมหาศาล ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/pro/security/iberia-tells-customers-it-was-hit-by-a-major-security-breach
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷
    #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline

    จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram
    เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor

    Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming
    จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น
    https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses

    Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก
    https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature

      Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon
    หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ
    https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones

    ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M
    Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์
    https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention

    CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก
    https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps

    ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389)
    เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก
    https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce

    ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน
    ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน
    https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection

    CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด
    นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover

    ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก
    รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน
    https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files

    Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender
    กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก
    https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status

    โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm
    นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน
    https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft

    ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure
    มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น
    https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors

    📌🔒🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔒📌 #รวมข่าวIT #20251125 #securityonline 🐉 จีน-นexus Autumn Dragon ใช้ช่องโหว่ WinRAR ปล่อยมัลแวร์ผ่าน Telegram เรื่องนี้เป็นการเปิดโปงปฏิบัติการจารกรรมไซเบอร์ชื่อ “Autumn Dragon” ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ฝั่งจีน พวกเขาใช้ไฟล์ RAR ที่ฝังช่องโหว่ของ WinRAR (CVE-2025-8088) ส่งไปยังเป้าหมายผ่านอีเมลหลอกลวง เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ ระบบจะถูกฝังสคริปต์ที่ทำงานต่อเนื่องเพื่อดึงมัลแวร์ขั้นต่อไปจาก Dropbox และซ่อนตัวผ่าน DLL sideloading โดยมีการควบคุมผ่าน Telegram ตัวมัลแวร์นี้สามารถสั่งงานได้ เช่น เปิด shell, ถ่าย screenshot และอัปโหลดไฟล์ จุดที่น่าสนใจคือการออกแบบให้ฟังก์ชันน้อยเพื่อไม่ให้ถูกตรวจจับง่าย เป้าหมายหลักคือหน่วยงานรัฐบาลและสื่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 🔗 https://securityonline.info/china-nexus-autumn-dragon-apt-exploits-winrar-flaw-to-deploy-telegram-c2-backdoor 📝 Notepad เพิ่มฟีเจอร์ Markdown Table และ Copilot Streaming จากเดิมที่ Notepad เป็นเพียงโปรแกรมจดข้อความธรรมดา ตอนนี้ Microsoft ได้ยกระดับให้รองรับการสร้างตารางในรูปแบบ Markdown ผู้ใช้สามารถเลือกจำนวนแถวคอลัมน์ได้ง่าย ๆ คล้ายกับการใส่ตารางใน Word และยังสามารถแก้ไขขยายหรือลดขนาดได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงการทำงานร่วมกับ Microsoft Copilot โดยเพิ่มความสามารถในการเขียนใหม่และสรุปข้อความแบบ “streaming” คือผลลัพธ์จะปรากฏทันทีโดยไม่ต้องรอจนเสร็จทั้งหมด ฟีเจอร์นี้ทำให้ Notepad กลายเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและตอบโจทย์นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/notepad-update-adds-markdown-table-support-streaming-copilot-ai-responses 💻 Microsoft แก้ปัญหา File Explorer ช้าใน Windows 11 ด้วย Preloading ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่า File Explorer เปิดช้า โดยเฉพาะเมื่อโหลดโฟลเดอร์ที่มีรูปภาพเยอะ ๆ Microsoft จึงออกฟีเจอร์ใหม่ใน Build 26220.7271 ที่เรียกว่า “preloading” ซึ่งจะโหลด Explorer เข้าหน่วยความจำล่วงหน้า ทำให้การเปิดใช้งานเร็วขึ้น แม้จะยังไม่แก้ปัญหาการหน่วงหลังเปิดไฟล์ได้ทั้งหมด แต่ก็ช่วยลดเวลารอไปหลายร้อยมิลลิวินาที ผู้ใช้สามารถปิดฟีเจอร์นี้ได้หากไม่ต้องการ แต่โดยทั่วไปมันใช้ RAM น้อยและช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้นมาก 🔗 https://securityonline.info/microsoft-tries-to-fix-windows-11-file-explorer-lag-with-new-preloading-feature 📱  Qualcomm ยืนยัน Quick Share ใช้งานร่วมกับ AirDrop ได้บนมือถือ Snapdragon หลังจาก Google ประกาศว่า Pixel 10 จะสามารถส่งไฟล์ผ่าน Quick Share ไปยัง iPhone ได้เหมือน AirDrop ล่าสุด Qualcomm ก็ออกมายืนยันว่า ฟีเจอร์นี้จะไม่จำกัดเฉพาะ Pixel แต่จะขยายไปยังมือถือ Android ที่ใช้ชิป Snapdragon ด้วย หมายความว่าผู้ใช้ Android และ iOS จะสามารถแชร์ไฟล์กันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งแอปเสริม ถือเป็นการเชื่อมโลกสองฝั่งที่เคยถูกแบ่งแยกมานาน คาดว่า Samsung Galaxy S26 จะเป็นรุ่นแรก ๆ ที่นำมาใช้ และนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการแชร์ไฟล์ข้ามระบบนิเวศ 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-confirms-quick-share-airdrop-interoperability-coming-to-all-snapdragon-phones ☁️ ทีมไซเบอร์ระดับโลกเปิดตัว Blast Security ด้วยทุน $10M Blast Security คือสตาร์ทอัพใหม่จาก Tel Aviv ที่ก่อตั้งโดยทีมผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์จาก Solebit และหน่วย IDF พวกเขาเปิดตัวแพลตฟอร์ม “Preemptive Cloud Defense” ที่เน้นการป้องกันเชิงรุกแทนการตรวจจับและแก้ไขทีหลัง จุดเด่นคือการสร้างระบบป้องกันที่ทำงานต่อเนื่อง ปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของคลาวด์ และลดความเสี่ยงได้กว่า 90% การลงทุนรอบ seed ได้เงินทุนถึง 10 ล้านดอลลาร์จาก 10D และ MizMaa Ventures เป้าหมายคือการทำให้ “การป้องกัน” กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความปลอดภัยบนคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/elite-cyber-veterans-launch-blast-security-with-10m-to-turn-cloud-detection-into-prevention 🛡️ CISA เตือนภัยสปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีแอปแชทด้วย Zero-Click และ QR Code อันตราย หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเร่งด่วนว่ามีการใช้สปายแวร์เชิงพาณิชย์โจมตีผู้ใช้งานแอปแชทยอดนิยม เช่น WhatsApp และ Signal โดยไม่ต้องให้เหยื่อกดหรือทำอะไรเลย ผ่านช่องโหว่แบบ Zero-Click และการหลอกให้สแกน QR Code ที่เชื่อมบัญชีไปยังเครื่องของแฮกเกอร์ เมื่อถูกเจาะแล้ว ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ รายชื่อผู้ติดต่อ เปิดไมโครโฟน และติดตามตำแหน่งได้ทันที เป้าหมายหลักคือบุคคลสำคัญ นักข่าว และองค์กรภาคประชาสังคมในหลายภูมิภาคทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/cisa-emergency-alert-commercial-spyware-exploiting-zero-click-and-malicious-qr-codes-to-hijack-messaging-apps 💻 ช่องโหว่ร้ายแรง WordPress (CVE-2025-6389) เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเว็บได้ทันที มีการเปิดเผยช่องโหว่ระดับวิกฤติในปลั๊กอิน Sneeit Framework ที่ใช้ในธีมยอดนิยมอย่าง FlatNews ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้สามารถสร้างบัญชีแอดมินปลอม อัปโหลดเว็บเชลล์ และยึดครองเว็บไซต์ได้ทันที นักวิจัยพบว่ามีการโจมตีจริงแล้วหลายร้อยครั้งในเวลาเพียงวันเดียว ผู้พัฒนาได้ออกเวอร์ชันใหม่เพื่อแก้ไข แต่ใครที่ยังไม่อัปเดตถือว่าเสี่ยงสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/critical-wordpress-flaw-cve-2025-6389-cvss-9-8-under-active-exploitation-allows-unauthenticated-rce 📷 ช่องโหว่กล้อง Vivotek รุ่นเก่า เปิดช่องให้สั่งรันคำสั่งได้โดยไม่ต้องล็อกอิน ทีมวิจัยจาก Akamai พบช่องโหว่ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขในกล้อง IP ของ Vivotek รุ่นที่หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ช่องโหว่นี้อยู่ในไฟล์ eventtask.cgi ซึ่งเปิดให้ผู้โจมตีส่งคำสั่งไปยังระบบโดยตรงโดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน ทำให้สามารถเข้าควบคุมกล้องได้เต็มรูปแบบ ปัญหาคือเฟิร์มแวร์รุ่นที่มีช่องโหว่นี้ถูกยกเลิกไปแล้ว จึงไม่มีแพตช์แก้ไข ผู้ใช้งานจึงถูกแนะนำให้รีบแยกอุปกรณ์ออกจากเครือข่ายหรือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แทน 🔗 https://securityonline.info/critical-unpatched-flaw-vivotek-eol-ip-cameras-exposed-to-unauthenticated-rce-via-command-injection 📡 CVE-2025-63207: ช่องโหว่ยึดระบบออกอากาศ R.V.R Elettronica TEX ได้ทั้งหมด นักวิจัยเปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงในอุปกรณ์ออกอากาศ TEX ของ R.V.R Elettronica ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถรีเซ็ตรหัสผ่านของผู้ใช้ทุกระดับ รวมถึงแอดมิน ได้ด้วยคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวโดยไม่ต้องล็อกอิน เมื่อรีเซ็ตรหัสผ่านแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบและอาจเปลี่ยนการตั้งค่าออกอากาศหรือเจาะลึกไปยังระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่ออยู่ ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์แก้ไข จึงแนะนำให้ผู้ดูแลจำกัดการเข้าถึงและตรวจสอบการใช้งานอย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-63207-cvss-9-8-critical-broken-access-control-flaw-exposes-r-v-r-elettronica-tex-devices-to-full-system-takeover 📧 ToddyCat APT โจมตี Microsoft 365 ขโมยอีเมลผ่านการดูด OAuth Token และไฟล์ OST ที่ถูกล็อก รายงานจาก Kaspersky เผยว่า ToddyCat กลุ่มแฮกเกอร์สายสอดแนมได้พัฒนาวิธีใหม่ในการเจาะระบบอีเมลองค์กร ทั้งแบบ on-premises และบนคลาวด์ โดยใช้เครื่องมือ PowerShell และ C++ เพื่อขโมยข้อมูลเบราว์เซอร์ ไฟล์อีเมล Outlook ที่ถูกล็อก และที่น่ากังวลที่สุดคือการดูด OAuth Token จากหน่วยความจำของแอป Microsoft 365 ทำให้สามารถเข้าถึงอีเมลได้จากภายนอกโดยไม่ถูกตรวจจับ วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลย้อนหลังหลายปีและเลี่ยงการตรวจสอบจากระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างแนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/toddycat-apt-steals-microsoft-365-cloud-email-by-dumping-oauth-tokens-from-memory-and-copying-locked-ost-files 🖥️ Kimsuky APT ใช้สองเวอร์ชันของ KimJongRAT เลี่ยงการตรวจจับ Windows Defender กลุ่มแฮกเกอร์ Kimsuky จากเกาหลีเหนือถูกพบว่ากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่ โดยปล่อยมัลแวร์ KimJongRAT สองรูปแบบ ทั้งไฟล์ PE และสคริปต์ PowerShell เพื่อเลือกใช้งานตามสถานะของ Windows Defender หาก Defender เปิดอยู่ พวกเขาจะใช้ PowerShell ที่พรางตัวได้ดีกว่า แต่ถ้า Defender ถูกปิด ก็จะใช้ไฟล์ PE ที่ทำงานตรงไปตรงมา วิธีนี้ช่วยให้แฮกเกอร์สามารถขโมยข้อมูลและควบคุมระบบได้โดยลดโอกาสถูกตรวจจับลงอย่างมาก 🔗 https://securityonline.info/kimsuky-apt-deploys-dual-kimjongrat-payloads-switching-between-pe-powershell-based-on-windows-defender-status 💰 โทรจันธนาคารบราซิลแพร่ผ่าน WhatsApp ด้วย Python Worm นักวิจัยพบโทรจันธนาคารสายพันธุ์ใหม่จากบราซิลที่ใช้วิธีแพร่กระจายผ่าน WhatsApp โดยเขียนด้วย Python และทำงานแบบ worm สามารถส่งต่อไฟล์อันตรายไปยังผู้ติดต่อโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังใช้เซิร์ฟเวอร์ควบคุมผ่าน IMAP เพื่อดึงข้อมูลเข้าสู่หน่วยความจำโดยตรง ทำให้สามารถขโมยรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบได้ทันทีโดยไม่ทิ้งร่องรอยบนดิสก์ ถือเป็นการผสมผสานเทคนิคที่ทั้งแพร่กระจายได้รวดเร็วและซ่อนตัวได้แนบเนียน 🔗 https://securityonline.info/brazilian-banking-trojan-uses-python-whatsapp-worm-and-imap-c2-for-in-memory-credential-theft 🎭 ปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือโจมตียุโรปด้วย WhatsApp Job Lure มีการเปิดเผยว่าปฏิบัติการ DreamJob ของเกาหลีเหนือได้พัฒนาแคมเปญใหม่ในยุโรป โดยใช้ข้อความหลอกลวงผ่าน WhatsApp เสนอ “งานในฝัน” เพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลดมัลแวร์รุ่นใหม่ชื่อ MISTPEN และ BURNBOOK ซึ่งเป็น backdoor ที่สามารถเข้าควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ วิธีการนี้ต่อยอดจากการโจมตี LinkedIn ในอดีต แต่ปรับให้เข้ากับพฤติกรรมผู้ใช้ที่นิยมใช้ WhatsApp ในการติดต่อหางาน ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-operation-dreamjob-hits-europe-whatsapp-job-lure-delivers-evolved-mistpen-burnbook-backdoors
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • “Intel Nova Lake มาพร้อม NPU6: พลัง AI 74 TOPS”

    Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ที่จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI รุ่นใหม่ NPU6 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ซึ่งมากกว่า NPU4 ใน Lunar Lake ที่ทำได้ 48 TOPS และเหนือกว่า NPU5 ใน Panther Lake ที่ทำได้เพียง 50 TOPS การก้าวกระโดดนี้ถือเป็นการเพิ่มพลังถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับ NPU3 ใน Arrow Lake

    นอกจาก NPU ที่ทรงพลังแล้ว Nova Lake ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่ใช้ Xe3-LPG iGPU แม้ว่าจะลดจำนวนคอร์จาก 4 เหลือ 2 เมื่อเทียบกับ Arrow Lake แต่ Intel ตั้งใจชดเชยด้วยประสิทธิภาพ AI และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AVX10 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเชิงเวกเตอร์

    การพัฒนา NPU6 ถูกพบในแพตช์ของ Linux Kernel ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบจริงแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าการมาของ Nova Lake จะเป็นการตอบโต้การแข่งขันจาก AMD ที่เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Zen 6 ซึ่งเน้นพลัง AI เช่นกัน

    แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่การรั่วไหลครั้งนี้สร้างความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเป็นหัวใจสำคัญของทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Nova Lake และ NPU6
    ประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8)
    มากกว่า NPU4 (48 TOPS) และ NPU5 (50 TOPS)

    การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน
    1.5 เท่าเหนือกว่า Lunar Lake
    5 เท่าเหนือกว่า Arrow Lake

    สถาปัตยกรรมใหม่
    ใช้ Xe3-LPG iGPU (2 คอร์)
    รองรับ AVX10 สำหรับงานประมวลผลเวกเตอร์

    การพัฒนาและทดสอบ
    พบข้อมูลใน Linux Kernel patch
    อยู่ในขั้นตอนการทดสอบจริง

    ข้อกังวลและการแข่งขัน
    ลดจำนวนคอร์ iGPU อาจกระทบงานกราฟิก
    ต้องเผชิญการแข่งขันจาก AMD Zen 6 ที่เน้น AI เช่นกัน

    https://wccftech.com/intel-nova-lake-npu6-expected-to-deliver-74-tops-of-ai-performance/
    🖥️ “Intel Nova Lake มาพร้อม NPU6: พลัง AI 74 TOPS” Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ที่จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI รุ่นใหม่ NPU6 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ซึ่งมากกว่า NPU4 ใน Lunar Lake ที่ทำได้ 48 TOPS และเหนือกว่า NPU5 ใน Panther Lake ที่ทำได้เพียง 50 TOPS การก้าวกระโดดนี้ถือเป็นการเพิ่มพลังถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับ NPU3 ใน Arrow Lake นอกจาก NPU ที่ทรงพลังแล้ว Nova Lake ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่ใช้ Xe3-LPG iGPU แม้ว่าจะลดจำนวนคอร์จาก 4 เหลือ 2 เมื่อเทียบกับ Arrow Lake แต่ Intel ตั้งใจชดเชยด้วยประสิทธิภาพ AI และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AVX10 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเชิงเวกเตอร์ การพัฒนา NPU6 ถูกพบในแพตช์ของ Linux Kernel ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบจริงแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าการมาของ Nova Lake จะเป็นการตอบโต้การแข่งขันจาก AMD ที่เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Zen 6 ซึ่งเน้นพลัง AI เช่นกัน แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่การรั่วไหลครั้งนี้สร้างความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเป็นหัวใจสำคัญของทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Nova Lake และ NPU6 ➡️ ประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ➡️ มากกว่า NPU4 (48 TOPS) และ NPU5 (50 TOPS) ✅ การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ➡️ 1.5 เท่าเหนือกว่า Lunar Lake ➡️ 5 เท่าเหนือกว่า Arrow Lake ✅ สถาปัตยกรรมใหม่ ➡️ ใช้ Xe3-LPG iGPU (2 คอร์) ➡️ รองรับ AVX10 สำหรับงานประมวลผลเวกเตอร์ ✅ การพัฒนาและทดสอบ ➡️ พบข้อมูลใน Linux Kernel patch ➡️ อยู่ในขั้นตอนการทดสอบจริง ‼️ ข้อกังวลและการแข่งขัน ⛔ ลดจำนวนคอร์ iGPU อาจกระทบงานกราฟิก ⛔ ต้องเผชิญการแข่งขันจาก AMD Zen 6 ที่เน้น AI เช่นกัน https://wccftech.com/intel-nova-lake-npu6-expected-to-deliver-74-tops-of-ai-performance/
    WCCFTECH.COM
    Intel Nova Lake NPU6 Expected To Deliver 74 TOPS Of AI Performance
    As per the claim by a prominent leaker, the Intel Nova Lake will boast NPU6 that will deliver up to 74 AI TOPS performance.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • “Apple iPhone Fold เปิดตัวปี 2026 ราคาแรงกว่า iPhone 17 Pro Max ถึงสองเท่า”

    Apple เตรียมเปิดตัว iPhone Fold ในช่วงครึ่งหลังของปี 2026 โดยเป็นสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกของบริษัท ดีไซน์แบบ book-style พร้อมจอหลักขนาด 7.74 นิ้ว และจอด้านนอก 5.49 นิ้ว จุดเด่นคือการออกแบบที่ “ไร้รอยพับ” ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด

    สเปกภายในประกอบด้วยชิป A20 Pro SoC, RAM 12GB, โมเด็ม 5G ที่พัฒนาเอง, กล้องหลังคู่ความละเอียดสูงสุด 48MP และกล้องในหน้าจอ 24MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,400–5,800mAh ที่รองรับการใช้งานยาวนาน ฟีเจอร์ Touch ID ถูกนำกลับมาแทน Face ID เพื่อให้เหมาะกับดีไซน์ใหม่

    ราคาที่คาดการณ์คือ 2,499 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy Z Fold 7 ที่อยู่ราว 1,999 ดอลลาร์ และมากกว่าสองเท่าของ iPhone 17 Pro Max ที่ราว 1,200 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดว่า Apple จะขายได้ราว 5.4 ล้านเครื่องในปี 2026 และรวมทั้งหมด 15.4 ล้านเครื่องตลอดอายุผลิตภัณฑ์ แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับ iPhone รุ่นปกติ แต่สะท้อนถึงการเจาะตลาดพรีเมียมที่ Apple ตั้งใจ

    อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงลิ่วอาจทำให้ผู้บริโภคทั่วไปเข้าถึงได้ยาก และอาจกลายเป็นจุดอ่อนในการแข่งขันกับ Samsung และผู้ผลิตจีนที่มีสมาร์ตโฟนจอพับราคาย่อมเยามากกว่า

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปิดตัว iPhone Fold
    เปิดตัวครึ่งหลังปี 2026
    ดีไซน์ book-style พร้อมจอหลัก 7.74 นิ้ว

    สเปกหลักของเครื่อง
    ชิป A20 Pro SoC, RAM 12GB, โมเด็ม 5G พัฒนาเอง
    กล้องหลังคู่ 48MP และกล้องในหน้าจอ 24MP
    แบตเตอรี่ 5,400–5,800mAh

    ราคาที่คาดการณ์
    2,499 ดอลลาร์ สูงกว่า iPhone 17 Pro Max ถึง 2 เท่า
    แพงกว่าคู่แข่ง Samsung Galaxy Z Fold 7

    ยอดขายที่คาดการณ์
    5.4 ล้านเครื่องในปี 2026
    รวมทั้งหมด 15.4 ล้านเครื่องตลอดอายุผลิตภัณฑ์

    ข้อกังวลต่อผู้บริโภค
    ราคาสูงเกินเอื้อมสำหรับตลาดทั่วไป
    อาจเสียเปรียบคู่แข่งที่มีรุ่นจอพับราคาถูกกว่า

    https://wccftech.com/apple-iphone-fold-to-debut-at-2x-the-price-of-an-iphone-17-pro-max/
    📱 “Apple iPhone Fold เปิดตัวปี 2026 ราคาแรงกว่า iPhone 17 Pro Max ถึงสองเท่า” Apple เตรียมเปิดตัว iPhone Fold ในช่วงครึ่งหลังของปี 2026 โดยเป็นสมาร์ตโฟนจอพับรุ่นแรกของบริษัท ดีไซน์แบบ book-style พร้อมจอหลักขนาด 7.74 นิ้ว และจอด้านนอก 5.49 นิ้ว จุดเด่นคือการออกแบบที่ “ไร้รอยพับ” ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าสำคัญเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด สเปกภายในประกอบด้วยชิป A20 Pro SoC, RAM 12GB, โมเด็ม 5G ที่พัฒนาเอง, กล้องหลังคู่ความละเอียดสูงสุด 48MP และกล้องในหน้าจอ 24MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,400–5,800mAh ที่รองรับการใช้งานยาวนาน ฟีเจอร์ Touch ID ถูกนำกลับมาแทน Face ID เพื่อให้เหมาะกับดีไซน์ใหม่ ราคาที่คาดการณ์คือ 2,499 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งอย่าง Samsung Galaxy Z Fold 7 ที่อยู่ราว 1,999 ดอลลาร์ และมากกว่าสองเท่าของ iPhone 17 Pro Max ที่ราว 1,200 ดอลลาร์ นักวิเคราะห์คาดว่า Apple จะขายได้ราว 5.4 ล้านเครื่องในปี 2026 และรวมทั้งหมด 15.4 ล้านเครื่องตลอดอายุผลิตภัณฑ์ แม้จะเป็นตัวเลขที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับ iPhone รุ่นปกติ แต่สะท้อนถึงการเจาะตลาดพรีเมียมที่ Apple ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม ราคาที่สูงลิ่วอาจทำให้ผู้บริโภคทั่วไปเข้าถึงได้ยาก และอาจกลายเป็นจุดอ่อนในการแข่งขันกับ Samsung และผู้ผลิตจีนที่มีสมาร์ตโฟนจอพับราคาย่อมเยามากกว่า 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปิดตัว iPhone Fold ➡️ เปิดตัวครึ่งหลังปี 2026 ➡️ ดีไซน์ book-style พร้อมจอหลัก 7.74 นิ้ว ✅ สเปกหลักของเครื่อง ➡️ ชิป A20 Pro SoC, RAM 12GB, โมเด็ม 5G พัฒนาเอง ➡️ กล้องหลังคู่ 48MP และกล้องในหน้าจอ 24MP ➡️ แบตเตอรี่ 5,400–5,800mAh ✅ ราคาที่คาดการณ์ ➡️ 2,499 ดอลลาร์ สูงกว่า iPhone 17 Pro Max ถึง 2 เท่า ➡️ แพงกว่าคู่แข่ง Samsung Galaxy Z Fold 7 ✅ ยอดขายที่คาดการณ์ ➡️ 5.4 ล้านเครื่องในปี 2026 ➡️ รวมทั้งหมด 15.4 ล้านเครื่องตลอดอายุผลิตภัณฑ์ ‼️ ข้อกังวลต่อผู้บริโภค ⛔ ราคาสูงเกินเอื้อมสำหรับตลาดทั่วไป ⛔ อาจเสียเปรียบคู่แข่งที่มีรุ่นจอพับราคาถูกกว่า https://wccftech.com/apple-iphone-fold-to-debut-at-2x-the-price-of-an-iphone-17-pro-max/
    WCCFTECH.COM
    Apple iPhone Fold To Debut At 2x The Price Of An iPhone 17 Pro Max
    Apple's iPhone Fold is likely to be its second most expensive device after the exceptionally pricey Vision Pro headset.
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
More Results