• Ep 26 ) ยามเฝ้าแผ่นดิน . ฝึกเจริญสติให้เป็นนิสัย . คดีแตงโมกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด และสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คนไทยหนี้ท่วม สมัครสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน "ทวงความถูกต้องให้คนไทย"กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ (Google form) ได้ที่ลิงค์ : https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdZJZLh_L5S-103AtRCRIgC5fee1DggMhr_QzF5yqbndszTdA/viewform#Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่2 #คดีแตงโม #หนี้ท่วมคนไทย #อาจารย์ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join• ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    Ep 26 ) ยามเฝ้าแผ่นดิน . ฝึกเจริญสติให้เป็นนิสัย . คดีแตงโมกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด และสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คนไทยหนี้ท่วม สมัครสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน "ทวงความถูกต้องให้คนไทย"กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ (Google form) ได้ที่ลิงค์ : https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdZJZLh_L5S-103AtRCRIgC5fee1DggMhr_QzF5yqbndszTdA/viewform#Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่2 #คดีแตงโม #หนี้ท่วมคนไทย #อาจารย์ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join• ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • https://youtu.be/513MQDp2iRs?si=cwQMXDGSktNh_rnz
    https://youtu.be/513MQDp2iRs?si=cwQMXDGSktNh_rnz
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/RknscVWLzS4?si=BzQJ54JdnQZdGKxa
    https://youtube.com/shorts/RknscVWLzS4?si=BzQJ54JdnQZdGKxa
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤖 EdgeCortix เปิดตัว SAKURA-II: AI Accelerator สำหรับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm
    EdgeCortix ได้เปิดตัว SAKURA-II M.2 Module ซึ่งเป็น AI Accelerator ที่สามารถทำงานร่วมกับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm อื่น ๆ โดยช่วยให้สามารถ รันโมเดล Generative AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud

    SAKURA-II ถูกออกแบบมาเพื่อ ลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่ขอบเครือข่าย (Edge AI) โดยสามารถ รันโมเดล deep learning ขั้นสูงบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น Raspberry Pi 5 และ Rockchip RK3588

    เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ นักพัฒนาและองค์กรสามารถสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับ โดรน, หุ่นยนต์, เกษตรอัจฉริยะ และระบบรักษาความปลอดภัย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - SAKURA-II เป็น AI Accelerator ที่รองรับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm อื่น ๆ
    - สามารถรันโมเดล Generative AI เช่น Vision Transformers และ Small Language Models ได้โดยตรงบนอุปกรณ์
    - ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่ขอบเครือข่าย
    - นักพัฒนาสามารถใช้ SAKURA-II เพื่อสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud
    - เหมาะสำหรับการใช้งานในโดรน, หุ่นยนต์, เกษตรอัจฉริยะ และระบบรักษาความปลอดภัย

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - SAKURA-II มีราคาสูงถึง $350 ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - แม้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องติดตามว่าการใช้งานจริงจะสามารถแข่งขันกับ AI HAT+ ที่มีราคาถูกกว่าได้หรือไม่
    - ต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่
    - การพัฒนา AI ที่ขอบเครือข่ายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลและการจัดการพลังงาน

    SAKURA-II อาจช่วยให้ นักพัฒนาและองค์กรสามารถสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการแข่งขันในตลาด AI Accelerator จะส่งผลต่อการนำไปใช้งานจริงอย่างไร

    https://www.techpowerup.com/337664/edgecortix-sakura-ii-enables-genai-on-raspberry-pi-5-and-arm-systems
    🤖 EdgeCortix เปิดตัว SAKURA-II: AI Accelerator สำหรับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm EdgeCortix ได้เปิดตัว SAKURA-II M.2 Module ซึ่งเป็น AI Accelerator ที่สามารถทำงานร่วมกับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm อื่น ๆ โดยช่วยให้สามารถ รันโมเดล Generative AI ได้โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud SAKURA-II ถูกออกแบบมาเพื่อ ลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่ขอบเครือข่าย (Edge AI) โดยสามารถ รันโมเดล deep learning ขั้นสูงบนอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น Raspberry Pi 5 และ Rockchip RK3588 เทคโนโลยีนี้ช่วยให้ นักพัฒนาและองค์กรสามารถสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ซึ่งเหมาะสำหรับ โดรน, หุ่นยนต์, เกษตรอัจฉริยะ และระบบรักษาความปลอดภัย ✅ ข้อมูลจากข่าว - SAKURA-II เป็น AI Accelerator ที่รองรับ Raspberry Pi 5 และแพลตฟอร์ม Arm อื่น ๆ - สามารถรันโมเดล Generative AI เช่น Vision Transformers และ Small Language Models ได้โดยตรงบนอุปกรณ์ - ช่วยลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพ AI ที่ขอบเครือข่าย - นักพัฒนาสามารถใช้ SAKURA-II เพื่อสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud - เหมาะสำหรับการใช้งานในโดรน, หุ่นยนต์, เกษตรอัจฉริยะ และระบบรักษาความปลอดภัย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - SAKURA-II มีราคาสูงถึง $350 ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - แม้จะมีประสิทธิภาพสูง แต่ต้องติดตามว่าการใช้งานจริงจะสามารถแข่งขันกับ AI HAT+ ที่มีราคาถูกกว่าได้หรือไม่ - ต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่ - การพัฒนา AI ที่ขอบเครือข่ายต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลและการจัดการพลังงาน SAKURA-II อาจช่วยให้ นักพัฒนาและองค์กรสามารถสร้างระบบ AI ที่มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ต้องลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการแข่งขันในตลาด AI Accelerator จะส่งผลต่อการนำไปใช้งานจริงอย่างไร https://www.techpowerup.com/337664/edgecortix-sakura-ii-enables-genai-on-raspberry-pi-5-and-arm-systems
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    EdgeCortix SAKURA-II Enables GenAI on Raspberry Pi 5 and Arm Systems
    EdgeCortix Inc., a leading fabless semiconductor company specializing in energy-efficient Artificial Intelligence (AI) processing at the edge, today announced that its industry leading AI accelerator, SAKURA-II M.2 Module is now available with Arm-based platforms, including Raspberry Pi 5 and AETINA...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤖 AI อาจช่วยค้นพบความรู้ใหม่ในอนาคต
    Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI กล่าวในงาน Snowflake Summit 2025 ว่า AI อาจช่วยมนุษย์ค้นพบความรู้ใหม่ โดยเฉพาะในกรณีที่ซับซ้อน เช่น การแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ

    แม้ว่าการใช้ AI ในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ยังคงถูกมองด้วยความสงสัย แต่ก็มีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า AI สามารถช่วยเร่งกระบวนการวิจัย เช่น

    Microsoft Discovery Platform ซึ่งใช้ AI ในการเร่งการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สามารถค้นพบ สารเคมีใหม่สำหรับการระบายความร้อนของศูนย์ข้อมูล ภายใน 200 ชั่วโมง ซึ่งปกติใช้เวลาหลายปี

    OpenAI Codex ซึ่งช่วยนักพัฒนาเขียนและแก้ไขโค้ด โดย OpenAI ระบุว่า วิศวกรของบริษัทใช้ Codex เป็นประจำ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Sam Altman ระบุว่า AI อาจช่วยมนุษย์ค้นพบความรู้ใหม่ในบางกรณี
    - AI สามารถช่วยแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ซับซ้อน
    - Microsoft Discovery Platform ใช้ AI ค้นพบสารเคมีใหม่สำหรับการระบายความร้อนของศูนย์ข้อมูล
    - OpenAI Codex ช่วยนักพัฒนาเขียนและแก้ไขโค้ด
    - บริษัทต่าง ๆ กำลังพัฒนา AI agents ที่สามารถทำงานได้หลากหลาย

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI ในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ยังคงถูกมองด้วยความสงสัย
    - AI อาจทำให้บางตำแหน่งงานถูกแทนที่ เช่น Duolingo ที่ใช้ AI แทนพนักงานสัญญาจ้าง
    - Shopify กำหนดให้ผู้จัดการต้องให้เหตุผลว่าทำไม AI ไม่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ ก่อนอนุมัติการจ้างงานใหม่
    - ต้องติดตามว่าการพัฒนา AI agents จะส่งผลต่อโครงสร้างการทำงานขององค์กรอย่างไร

    AI กำลังพัฒนาไปสู่การเป็น เครื่องมือที่ช่วยค้นพบความรู้ใหม่ และอาจเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อโครงสร้างองค์กรและตลาดแรงงานอย่างไร

    https://www.neowin.net/news/sam-altman-says-ai-could-soon-help-with-discovering-new-knowledge/
    🤖 AI อาจช่วยค้นพบความรู้ใหม่ในอนาคต Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI กล่าวในงาน Snowflake Summit 2025 ว่า AI อาจช่วยมนุษย์ค้นพบความรู้ใหม่ โดยเฉพาะในกรณีที่ซับซ้อน เช่น การแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ แม้ว่าการใช้ AI ในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ยังคงถูกมองด้วยความสงสัย แต่ก็มีตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า AI สามารถช่วยเร่งกระบวนการวิจัย เช่น Microsoft Discovery Platform ซึ่งใช้ AI ในการเร่งการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สามารถค้นพบ สารเคมีใหม่สำหรับการระบายความร้อนของศูนย์ข้อมูล ภายใน 200 ชั่วโมง ซึ่งปกติใช้เวลาหลายปี OpenAI Codex ซึ่งช่วยนักพัฒนาเขียนและแก้ไขโค้ด โดย OpenAI ระบุว่า วิศวกรของบริษัทใช้ Codex เป็นประจำ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Sam Altman ระบุว่า AI อาจช่วยมนุษย์ค้นพบความรู้ใหม่ในบางกรณี - AI สามารถช่วยแก้ปัญหาทางธุรกิจที่ซับซ้อน - Microsoft Discovery Platform ใช้ AI ค้นพบสารเคมีใหม่สำหรับการระบายความร้อนของศูนย์ข้อมูล - OpenAI Codex ช่วยนักพัฒนาเขียนและแก้ไขโค้ด - บริษัทต่าง ๆ กำลังพัฒนา AI agents ที่สามารถทำงานได้หลากหลาย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI ในการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ยังคงถูกมองด้วยความสงสัย - AI อาจทำให้บางตำแหน่งงานถูกแทนที่ เช่น Duolingo ที่ใช้ AI แทนพนักงานสัญญาจ้าง - Shopify กำหนดให้ผู้จัดการต้องให้เหตุผลว่าทำไม AI ไม่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ ก่อนอนุมัติการจ้างงานใหม่ - ต้องติดตามว่าการพัฒนา AI agents จะส่งผลต่อโครงสร้างการทำงานขององค์กรอย่างไร AI กำลังพัฒนาไปสู่การเป็น เครื่องมือที่ช่วยค้นพบความรู้ใหม่ และอาจเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อโครงสร้างองค์กรและตลาดแรงงานอย่างไร https://www.neowin.net/news/sam-altman-says-ai-could-soon-help-with-discovering-new-knowledge/
    WWW.NEOWIN.NET
    Sam Altman says AI could soon help with discovering new knowledge
    OpenAI CEO Sam Altman looks pretty optimistic about AI's capability to help humans discover new knowledge.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/v1DDcSjK4Eg?si=-b_hkcedGlFGo9ae
    https://youtube.com/shorts/v1DDcSjK4Eg?si=-b_hkcedGlFGo9ae
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    Update แก้ไขรายละเอียดใหม่!!!

    ภาพเหตุการณ์สะพานไครเมีย หรือ Kerch Bridge ถูกลอบวางระเบิดโดยหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU)

    👉รายงานระบุว่า ครั้งนี้เป็นการโจมตีจากโดรนใต้น้ำ “Marichka” ซึ่งเป็นโดรนอเนกประสงค์ขนาด 6 เมตร มีพิสัยทำการไกลถึง 1,000 กม.

    👉จากรายงานของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันว่ายูเครนโจมตีสะพานเคิร์ชด้วยโดรนใต้น้ำเมื่อเวลา 4:44 น. ของวันนี้ โดรนดังกล่าวบรรทุกทีเอ็นที 100 กิโลกรัม สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของรัสเซีย เช่น เรือบรรทุกสินค้าและตาข่ายใต้น้ำได้อย่างง่ายดาย ตามแหล่งข่าวของยูเครน ปฏิบัติการดังกล่าวมีการเตรียมการมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว

    👉รายงานยังกล่าวอีกว่า ฐานตอม่อของสะพานได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

    👉ไม่มีพลเรือนเสียชีวิตใดๆ

    👉วาซิล มาลยุก (Vasyl Malyuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน ออกมาประกาศความรับผิดชอบว่าเป็นผู้ควบคุมดูแลปฏิบัติการดังกล่าวด้วยตนเอง รวมทั้งการประสานงานการวางแผน
    3/ Update แก้ไขรายละเอียดใหม่!!! ภาพเหตุการณ์สะพานไครเมีย หรือ Kerch Bridge ถูกลอบวางระเบิดโดยหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU) 👉รายงานระบุว่า ครั้งนี้เป็นการโจมตีจากโดรนใต้น้ำ “Marichka” ซึ่งเป็นโดรนอเนกประสงค์ขนาด 6 เมตร มีพิสัยทำการไกลถึง 1,000 กม. 👉จากรายงานของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันว่ายูเครนโจมตีสะพานเคิร์ชด้วยโดรนใต้น้ำเมื่อเวลา 4:44 น. ของวันนี้ โดรนดังกล่าวบรรทุกทีเอ็นที 100 กิโลกรัม สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของรัสเซีย เช่น เรือบรรทุกสินค้าและตาข่ายใต้น้ำได้อย่างง่ายดาย ตามแหล่งข่าวของยูเครน ปฏิบัติการดังกล่าวมีการเตรียมการมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว 👉รายงานยังกล่าวอีกว่า ฐานตอม่อของสะพานได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง 👉ไม่มีพลเรือนเสียชีวิตใดๆ 👉วาซิล มาลยุก (Vasyl Malyuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน ออกมาประกาศความรับผิดชอบว่าเป็นผู้ควบคุมดูแลปฏิบัติการดังกล่าวด้วยตนเอง รวมทั้งการประสานงานการวางแผน
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • 2/
    Update แก้ไขรายละเอียดใหม่!!!

    ภาพเหตุการณ์สะพานไครเมีย หรือ Kerch Bridge ถูกลอบวางระเบิดโดยหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU)

    👉รายงานระบุว่า ครั้งนี้เป็นการโจมตีจากโดรนใต้น้ำ “Marichka” ซึ่งเป็นโดรนอเนกประสงค์ขนาด 6 เมตร มีพิสัยทำการไกลถึง 1,000 กม.

    👉จากรายงานของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันว่ายูเครนโจมตีสะพานเคิร์ชด้วยโดรนใต้น้ำเมื่อเวลา 4:44 น. ของวันนี้ โดรนดังกล่าวบรรทุกทีเอ็นที 100 กิโลกรัม สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของรัสเซีย เช่น เรือบรรทุกสินค้าและตาข่ายใต้น้ำได้อย่างง่ายดาย ตามแหล่งข่าวของยูเครน ปฏิบัติการดังกล่าวมีการเตรียมการมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว

    👉รายงานยังกล่าวอีกว่า ฐานตอม่อของสะพานได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

    👉ไม่มีพลเรือนเสียชีวิตใดๆ

    👉วาซิล มาลยุก (Vasyl Malyuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน ออกมาประกาศความรับผิดชอบว่าเป็นผู้ควบคุมดูแลปฏิบัติการดังกล่าวด้วยตนเอง รวมทั้งการประสานงานการวางแผน
    2/ Update แก้ไขรายละเอียดใหม่!!! ภาพเหตุการณ์สะพานไครเมีย หรือ Kerch Bridge ถูกลอบวางระเบิดโดยหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU) 👉รายงานระบุว่า ครั้งนี้เป็นการโจมตีจากโดรนใต้น้ำ “Marichka” ซึ่งเป็นโดรนอเนกประสงค์ขนาด 6 เมตร มีพิสัยทำการไกลถึง 1,000 กม. 👉จากรายงานของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันว่ายูเครนโจมตีสะพานเคิร์ชด้วยโดรนใต้น้ำเมื่อเวลา 4:44 น. ของวันนี้ โดรนดังกล่าวบรรทุกทีเอ็นที 100 กิโลกรัม สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของรัสเซีย เช่น เรือบรรทุกสินค้าและตาข่ายใต้น้ำได้อย่างง่ายดาย ตามแหล่งข่าวของยูเครน ปฏิบัติการดังกล่าวมีการเตรียมการมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว 👉รายงานยังกล่าวอีกว่า ฐานตอม่อของสะพานได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง 👉ไม่มีพลเรือนเสียชีวิตใดๆ 👉วาซิล มาลยุก (Vasyl Malyuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน ออกมาประกาศความรับผิดชอบว่าเป็นผู้ควบคุมดูแลปฏิบัติการดังกล่าวด้วยตนเอง รวมทั้งการประสานงานการวางแผน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • 1/
    ภาพเหตุการณ์สะพานไครเมีย หรือ Kerch Bridge ถูกลอบวางระเบิดโดยหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU)

    👉รายงานระบุว่า ครั้งนี้เป็นการโจมตีจากโดรนใต้น้ำ “Marichka” ซึ่งเป็นโดรนอเนกประสงค์ขนาด 6 เมตร มีพิสัยทำการไกลถึง 1,000 กม.

    👉จากรายงานของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันว่ายูเครนโจมตีสะพานเคิร์ชด้วยโดรนใต้น้ำเมื่อเวลา 4:44 น. ของวันนี้ โดรนดังกล่าวบรรทุกทีเอ็นที 100 กิโลกรัม สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของรัสเซีย เช่น เรือบรรทุกสินค้าและตาข่ายใต้น้ำได้อย่างง่ายดาย ตามแหล่งข่าวของยูเครน ปฏิบัติการดังกล่าวมีการเตรียมการมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว

    👉รายงานยังกล่าวอีกว่า ฐานตอม่อของสะพานได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

    👉ไม่มีพลเรือนเสียชีวิตใดๆ

    👉วาซิล มาลยุก (Vasyl Malyuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน ออกมาประกาศความรับผิดชอบว่าเป็นผู้ควบคุมดูแลปฏิบัติการดังกล่าวด้วยตนเอง รวมทั้งการประสานงานการวางแผน
    1/ ภาพเหตุการณ์สะพานไครเมีย หรือ Kerch Bridge ถูกลอบวางระเบิดโดยหน่วยข่าวกรองยูเครน (SBU) 👉รายงานระบุว่า ครั้งนี้เป็นการโจมตีจากโดรนใต้น้ำ “Marichka” ซึ่งเป็นโดรนอเนกประสงค์ขนาด 6 เมตร มีพิสัยทำการไกลถึง 1,000 กม. 👉จากรายงานของหน่วยงานความมั่นคงของยูเครน (SBU) ยืนยันว่ายูเครนโจมตีสะพานเคิร์ชด้วยโดรนใต้น้ำเมื่อเวลา 4:44 น. ของวันนี้ โดรนดังกล่าวบรรทุกทีเอ็นที 100 กิโลกรัม สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของรัสเซีย เช่น เรือบรรทุกสินค้าและตาข่ายใต้น้ำได้อย่างง่ายดาย ตามแหล่งข่าวของยูเครน ปฏิบัติการดังกล่าวมีการเตรียมการมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว 👉รายงานยังกล่าวอีกว่า ฐานตอม่อของสะพานได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง 👉ไม่มีพลเรือนเสียชีวิตใดๆ 👉วาซิล มาลยุก (Vasyl Malyuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองยูเครน ออกมาประกาศความรับผิดชอบว่าเป็นผู้ควบคุมดูแลปฏิบัติการดังกล่าวด้วยตนเอง รวมทั้งการประสานงานการวางแผน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚖️ ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า AI Chatbot ไม่มีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
    กรณีการเสียชีวิตของวัยรุ่นที่มีปฏิสัมพันธ์กับ AI Chatbot ได้สร้างคำถามทางกฎหมายเกี่ยวกับ สิทธิในการแสดงออกและความรับผิดชอบของ AI ล่าสุด ผู้พิพากษา Anne Conway ได้ตัดสินว่า AI Chatbot ไม่ได้รับการคุ้มครองภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ

    Megan Garcia ได้ยื่นฟ้อง Character.ai หลังจากที่ Sewell Setzer III ลูกชายวัย 14 ปีของเธอเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย โดยอ้างว่า Chatbot ที่จำลองตัวละคร Daenerys Targaryen จาก Game of Thrones มีบทบาทในการกระตุ้นให้เขาทำร้ายตัวเอง

    Character Technologies และผู้ก่อตั้ง Daniel De Freitas และ Noam Shazeer ได้ยื่นคำร้องให้ยกฟ้องคดี แต่ศาลปฏิเสธ โดยระบุว่า AI Chatbot ไม่สามารถได้รับการคุ้มครองภายใต้ First Amendment เนื่องจาก ไม่ได้เป็นการแสดงออกของมนุษย์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า AI Chatbot ไม่มีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ
    - Megan Garcia ฟ้อง Character.ai หลังจากลูกชายของเธอเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย
    - Chatbot ที่จำลองตัวละคร Daenerys Targaryen ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทในการกระตุ้นให้เด็กทำร้ายตัวเอง
    - Character Technologies ยื่นคำร้องให้ยกฟ้องคดี แต่ศาลปฏิเสธ
    - ศาลระบุว่า AI Chatbot ไม่สามารถได้รับการคุ้มครองภายใต้ First Amendment

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI Chatbot อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้ โดยเฉพาะวัยรุ่น
    - การใช้ AI ในการจำลองตัวละครที่มีอิทธิพลอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ไม่คาดคิด
    - ต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้ AI Chatbot ส่งผลเสียต่อผู้ใช้
    - Character.ai ได้เพิ่มมาตรการป้องกัน เช่น AI สำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับสายด่วนป้องกันการฆ่าตัวตาย

    คดีนี้อาจเป็น จุดเริ่มต้นของการกำหนดมาตรฐานทางกฎหมายสำหรับ AI Chatbot และ อาจส่งผลต่อแนวทางการพัฒนา AI ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าคดีนี้จะส่งผลต่อการกำกับดูแล AI อย่างไร

    https://www.techspot.com/news/108152-judge-rules-characterai-chatbot-not-protected-first-amendment.html
    ⚖️ ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า AI Chatbot ไม่มีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ กรณีการเสียชีวิตของวัยรุ่นที่มีปฏิสัมพันธ์กับ AI Chatbot ได้สร้างคำถามทางกฎหมายเกี่ยวกับ สิทธิในการแสดงออกและความรับผิดชอบของ AI ล่าสุด ผู้พิพากษา Anne Conway ได้ตัดสินว่า AI Chatbot ไม่ได้รับการคุ้มครองภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐฯ Megan Garcia ได้ยื่นฟ้อง Character.ai หลังจากที่ Sewell Setzer III ลูกชายวัย 14 ปีของเธอเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย โดยอ้างว่า Chatbot ที่จำลองตัวละคร Daenerys Targaryen จาก Game of Thrones มีบทบาทในการกระตุ้นให้เขาทำร้ายตัวเอง Character Technologies และผู้ก่อตั้ง Daniel De Freitas และ Noam Shazeer ได้ยื่นคำร้องให้ยกฟ้องคดี แต่ศาลปฏิเสธ โดยระบุว่า AI Chatbot ไม่สามารถได้รับการคุ้มครองภายใต้ First Amendment เนื่องจาก ไม่ได้เป็นการแสดงออกของมนุษย์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ศาลสหรัฐฯ ตัดสินว่า AI Chatbot ไม่มีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ - Megan Garcia ฟ้อง Character.ai หลังจากลูกชายของเธอเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตาย - Chatbot ที่จำลองตัวละคร Daenerys Targaryen ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทในการกระตุ้นให้เด็กทำร้ายตัวเอง - Character Technologies ยื่นคำร้องให้ยกฟ้องคดี แต่ศาลปฏิเสธ - ศาลระบุว่า AI Chatbot ไม่สามารถได้รับการคุ้มครองภายใต้ First Amendment ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI Chatbot อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้ โดยเฉพาะวัยรุ่น - การใช้ AI ในการจำลองตัวละครที่มีอิทธิพลอาจนำไปสู่ผลกระทบที่ไม่คาดคิด - ต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้ AI Chatbot ส่งผลเสียต่อผู้ใช้ - Character.ai ได้เพิ่มมาตรการป้องกัน เช่น AI สำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และข้อความแจ้งเตือนเกี่ยวกับสายด่วนป้องกันการฆ่าตัวตาย คดีนี้อาจเป็น จุดเริ่มต้นของการกำหนดมาตรฐานทางกฎหมายสำหรับ AI Chatbot และ อาจส่งผลต่อแนวทางการพัฒนา AI ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าคดีนี้จะส่งผลต่อการกำกับดูแล AI อย่างไร https://www.techspot.com/news/108152-judge-rules-characterai-chatbot-not-protected-first-amendment.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Judge rules AI chatbot in teen suicide case is not protected by First Amendment
    Judge Anne Conway of the Middle District of Florida denied Character.ai the ability to present its fictional, artificial intelligence-based characters as entities capable of "speaking" like human...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛡️ Microsoft เตือน! ดาวน์โหลด ISO ติดตั้ง Windows 11/10 ต้องมีอัปเดต Defender
    Microsoft ได้เผยแพร่ อัปเดตใหม่สำหรับ Microsoft Defender ที่จำเป็นสำหรับ ไฟล์ติดตั้ง Windows 11/10 และ Windows Server เพื่อป้องกัน ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่อาจเกิดขึ้นจาก ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ล้าสมัย

    เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง Windows ใหม่ อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยชั่วคราว เนื่องจาก Microsoft Defender ที่รวมอยู่ในไฟล์ติดตั้งอาจเป็นเวอร์ชันเก่า ทำให้ระบบ ไม่ได้รับการป้องกันจากภัยคุกคามล่าสุด

    Microsoft จึงได้ออก แพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัย ผ่าน Security Intelligence Update เวอร์ชัน 1.429.122.0 ซึ่งช่วยปิดช่องโหว่ดังกล่าว โดยอัปเดต anti-malware client, anti-malware engine และ signature versions

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft ออกอัปเดตใหม่สำหรับ Microsoft Defender ในไฟล์ติดตั้ง Windows 11/10 และ Windows Server
    - อัปเดตนี้ช่วยปิดช่องโหว่ที่เกิดจากซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ล้าสมัย
    - Security Intelligence Update เวอร์ชัน 1.429.122.0 เป็นแพ็กเกจล่าสุดที่ต้องติดตั้ง
    - อัปเดตนี้ช่วยป้องกันภัยคุกคาม เช่น Lumma infostealer ที่ส่งผลกระทบต่อ 394,000 เครื่องทั่วโลก
    - รองรับ Windows 11, Windows 10 (Enterprise, Pro, Home), Windows Server 2022, 2019 และ 2016

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากติดตั้ง Windows โดยใช้ ISO ที่ไม่มีอัปเดต Defender อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    - มัลแวร์ Lumma infostealer สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์หลัก เช่น Chrome, Firefox และ Edge
    - ต้องตรวจสอบว่าไฟล์ติดตั้ง Windows มี Security Intelligence Update ล่าสุดก่อนใช้งาน
    - Microsoft Defender เวอร์ชันเก่าอาจไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การอัปเดตนี้ช่วยให้ Windows ที่ติดตั้งใหม่มีการป้องกันที่ทันสมัยขึ้น และลดความเสี่ยงจาก มัลแวร์ที่อาจแฝงตัวอยู่ในระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ต้องตรวจสอบว่าไฟล์ติดตั้งมีอัปเดตล่าสุดก่อนใช้งาน

    https://www.neowin.net/news/microsoft-warns-new-windows-1110-installation-iso-downloads-must-have-this-defender-update/
    🛡️ Microsoft เตือน! ดาวน์โหลด ISO ติดตั้ง Windows 11/10 ต้องมีอัปเดต Defender Microsoft ได้เผยแพร่ อัปเดตใหม่สำหรับ Microsoft Defender ที่จำเป็นสำหรับ ไฟล์ติดตั้ง Windows 11/10 และ Windows Server เพื่อป้องกัน ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่อาจเกิดขึ้นจาก ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ล้าสมัย เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง Windows ใหม่ อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยชั่วคราว เนื่องจาก Microsoft Defender ที่รวมอยู่ในไฟล์ติดตั้งอาจเป็นเวอร์ชันเก่า ทำให้ระบบ ไม่ได้รับการป้องกันจากภัยคุกคามล่าสุด Microsoft จึงได้ออก แพ็กเกจอัปเดตความปลอดภัย ผ่าน Security Intelligence Update เวอร์ชัน 1.429.122.0 ซึ่งช่วยปิดช่องโหว่ดังกล่าว โดยอัปเดต anti-malware client, anti-malware engine และ signature versions ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft ออกอัปเดตใหม่สำหรับ Microsoft Defender ในไฟล์ติดตั้ง Windows 11/10 และ Windows Server - อัปเดตนี้ช่วยปิดช่องโหว่ที่เกิดจากซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ที่ล้าสมัย - Security Intelligence Update เวอร์ชัน 1.429.122.0 เป็นแพ็กเกจล่าสุดที่ต้องติดตั้ง - อัปเดตนี้ช่วยป้องกันภัยคุกคาม เช่น Lumma infostealer ที่ส่งผลกระทบต่อ 394,000 เครื่องทั่วโลก - รองรับ Windows 11, Windows 10 (Enterprise, Pro, Home), Windows Server 2022, 2019 และ 2016 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากติดตั้ง Windows โดยใช้ ISO ที่ไม่มีอัปเดต Defender อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย - มัลแวร์ Lumma infostealer สามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์หลัก เช่น Chrome, Firefox และ Edge - ต้องตรวจสอบว่าไฟล์ติดตั้ง Windows มี Security Intelligence Update ล่าสุดก่อนใช้งาน - Microsoft Defender เวอร์ชันเก่าอาจไม่สามารถป้องกันภัยคุกคามใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอัปเดตนี้ช่วยให้ Windows ที่ติดตั้งใหม่มีการป้องกันที่ทันสมัยขึ้น และลดความเสี่ยงจาก มัลแวร์ที่อาจแฝงตัวอยู่ในระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ต้องตรวจสอบว่าไฟล์ติดตั้งมีอัปเดตล่าสุดก่อนใช้งาน https://www.neowin.net/news/microsoft-warns-new-windows-1110-installation-iso-downloads-must-have-this-defender-update/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft warns new Windows 11/10 installation ISO downloads must have this Defender update
    Microsoft released a new Windows Defender update for new Windows installation media. However, the latest update is crucial as it saves against the deadly Lumma malware.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌍 Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรป: ผู้ใช้มีอิสระมากขึ้น
    Microsoft ได้ประกาศ ลดการบังคับใช้ Edge ในยุโรป โดยเป็นผลมาจาก Digital Markets Act (DMA) ซึ่งเป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปที่มุ่งเน้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้น

    ก่อนหน้านี้ Microsoft ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้ใช้ Edge เช่น ป๊อปอัปแจ้งเตือนหลังอัปเดต, การบล็อกการเปลี่ยนค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ และการเปิดลิงก์ภายในแอปของ Windows ผ่าน Edge เท่านั้น

    แต่ภายใต้ DMA Microsoft ได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง เช่น Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง และ Windows Widgets กับ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น

    นอกจากนี้ Windows Search ในยุโรปจะสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing และ Microsoft Store จะสามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรปตามข้อบังคับของ Digital Markets Act (DMA)
    - Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง
    - Windows Widgets และ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น
    - Windows Search ในยุโรปสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing
    - Microsoft Store สามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลเฉพาะในยุโรป และผู้ใช้ในภูมิภาคอื่นยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดเดิม
    - แม้จะมีการปรับปรุง แต่ Microsoft ยังคงควบคุมบางส่วนของ Windows Search และ Edge
    - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของ Edge อย่างไร
    - Microsoft อาจปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาผู้ใช้ Edge ในภูมิภาคอื่น ๆ

    การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้ใช้ในยุโรปมีอิสระมากขึ้นในการเลือกเบราว์เซอร์และบริการค้นหา อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้ในภูมิภาคอื่น ๆ จะได้รับการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกันหรือไม่

    https://www.neowin.net/news/microsoft-will-finally-stop-shoving-edge-down-your-throat-on-one-condition/
    🌍 Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรป: ผู้ใช้มีอิสระมากขึ้น Microsoft ได้ประกาศ ลดการบังคับใช้ Edge ในยุโรป โดยเป็นผลมาจาก Digital Markets Act (DMA) ซึ่งเป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปที่มุ่งเน้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้น ก่อนหน้านี้ Microsoft ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้ใช้ Edge เช่น ป๊อปอัปแจ้งเตือนหลังอัปเดต, การบล็อกการเปลี่ยนค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ และการเปิดลิงก์ภายในแอปของ Windows ผ่าน Edge เท่านั้น แต่ภายใต้ DMA Microsoft ได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง เช่น Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง และ Windows Widgets กับ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ Windows Search ในยุโรปจะสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing และ Microsoft Store จะสามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรปตามข้อบังคับของ Digital Markets Act (DMA) - Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง - Windows Widgets และ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น - Windows Search ในยุโรปสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing - Microsoft Store สามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลเฉพาะในยุโรป และผู้ใช้ในภูมิภาคอื่นยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดเดิม - แม้จะมีการปรับปรุง แต่ Microsoft ยังคงควบคุมบางส่วนของ Windows Search และ Edge - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของ Edge อย่างไร - Microsoft อาจปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาผู้ใช้ Edge ในภูมิภาคอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้ใช้ในยุโรปมีอิสระมากขึ้นในการเลือกเบราว์เซอร์และบริการค้นหา อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้ในภูมิภาคอื่น ๆ จะได้รับการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกันหรือไม่ https://www.neowin.net/news/microsoft-will-finally-stop-shoving-edge-down-your-throat-on-one-condition/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft will finally stop shoving Edge down your throat, on one condition
    Good news if you're tired of Microsoft's heavy-handed Edge promos. The company is backing off a bit, but of course, there's a catch.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/4JTLBFwmQOQ?si=9463SPc63DgyWzoI
    https://youtube.com/shorts/4JTLBFwmQOQ?si=9463SPc63DgyWzoI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • The red bridge
    The red bridge
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🧠 AI กับปัญหางานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน
    การเข้าถึง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ง่ายขึ้นส่งผลให้ งานวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดทางวิทยาศาสตร์ลดลง และนำไปสู่ "กระแสงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน" ซึ่งเต็มไปด้วยการวิเคราะห์ที่ผิวเผินและข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม

    นักวิจัยจาก University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่า การใช้ AI ในงานวิจัยมักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ โดยเน้นเพียง ปัจจัยเดียว แทนที่จะใช้แนวทางที่ครอบคลุมมากขึ้น

    นอกจากนี้ ยังมีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจนำไปสู่ การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสม (cherry-picking) และการเปลี่ยนแปลงคำถามวิจัยหลังจากเห็นผลลัพธ์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AI ทำให้การวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดลดลง
    - University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่าการใช้ AI มักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ
    - มีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ
    - บางงานวิจัยใช้ข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม (cherry-picking)
    - นักวิจัยแนะนำให้มีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติและการทบทวนโดยเพื่อนร่วมงาน (peer review) อย่างเข้มงวด

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้ AI ในงานวิจัยอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ผิดพลาดและการตีพิมพ์ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ
    - ต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน
    - การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงการแพทย์และสุขภาพ
    - ต้องมีการพัฒนาแนวทางการใช้ AI ในงานวิจัยให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้

    🚀 ผลกระทบต่อวงการวิจัย
    การใช้ AI ในงานวิจัยอาจช่วยให้ การวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากไม่มีการควบคุมที่ดี อาจนำไปสู่การเผยแพร่งานวิจัยที่ไม่มีคุณภาพ นักวิจัยและสถาบันวิชาการต้อง พัฒนาแนวทางการใช้ AI ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/01/ai-being-used-to-churn-out-deluge-of-dodgy-scientific-research
    🧠 AI กับปัญหางานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน การเข้าถึง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ง่ายขึ้นส่งผลให้ งานวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดทางวิทยาศาสตร์ลดลง และนำไปสู่ "กระแสงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน" ซึ่งเต็มไปด้วยการวิเคราะห์ที่ผิวเผินและข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม นักวิจัยจาก University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่า การใช้ AI ในงานวิจัยมักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ โดยเน้นเพียง ปัจจัยเดียว แทนที่จะใช้แนวทางที่ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ ซึ่งอาจนำไปสู่ การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสม (cherry-picking) และการเปลี่ยนแปลงคำถามวิจัยหลังจากเห็นผลลัพธ์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - AI ทำให้การวิจัยทางการแพทย์และสุขภาพมีความเข้มงวดลดลง - University of Surrey และ University of Aberystwyth พบว่าการใช้ AI มักนำไปสู่การวิเคราะห์แบบสูตรสำเร็จ - มีการใช้ AI-ready datasets เพื่อสร้างงานวิจัยจำนวนมากโดยอัตโนมัติ - บางงานวิจัยใช้ข้อมูลที่ถูกเลือกมาอย่างไม่เหมาะสม (cherry-picking) - นักวิจัยแนะนำให้มีการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติและการทบทวนโดยเพื่อนร่วมงาน (peer review) อย่างเข้มงวด ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้ AI ในงานวิจัยอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่ผิดพลาดและการตีพิมพ์ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ - ต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างงานวิจัยที่ไม่ได้มาตรฐาน - การเลือกข้อมูลที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงการแพทย์และสุขภาพ - ต้องมีการพัฒนาแนวทางการใช้ AI ในงานวิจัยให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ 🚀 ผลกระทบต่อวงการวิจัย การใช้ AI ในงานวิจัยอาจช่วยให้ การวิเคราะห์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่หากไม่มีการควบคุมที่ดี อาจนำไปสู่การเผยแพร่งานวิจัยที่ไม่มีคุณภาพ นักวิจัยและสถาบันวิชาการต้อง พัฒนาแนวทางการใช้ AI ให้มีมาตรฐานสูงขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/01/ai-being-used-to-churn-out-deluge-of-dodgy-scientific-research
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI being used to churn out deluge of dodgy scientific research
    Easy access to artificial intelligence (AI) has made medical and health research less scientifically rigorous and has facilitated a "flood" of shoddy journal papers full of superficial analyses based on "cherry-picked" data, a new study reports.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/cvSx8dGYUf0?si=R_q34-1YAsfiH-GJ
    https://youtube.com/shorts/cvSx8dGYUf0?si=R_q34-1YAsfiH-GJ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/8385zC-8cLI?si=DGjKXCAbTu7XVWyx
    https://youtu.be/8385zC-8cLI?si=DGjKXCAbTu7XVWyx
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/a6rmN7BgGaY?si=QYyctrskiDNBDgpu
    https://youtube.com/shorts/a6rmN7BgGaY?si=QYyctrskiDNBDgpu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ภาพวาด 24 กตัญญู**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’

    ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย

    เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง

    24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ):

    1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป

    2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา

    3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป

    4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป

    5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ

    6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก

    7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม

    8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา

    9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง

    10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา

    11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น

    12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป

    13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้

    14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว

    15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป

    16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน

    17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย

    18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย

    19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย

    20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด

    21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่

    22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย

    23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ

    24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน

    อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm
    http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html
    http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1
    https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html

    #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ภาพวาด 24 กตัญญู** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วคุยกันถึงฉากที่พระนางในเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> สวมหน้ากากร่วมทายปริศนากันในเทศกาลโคมไฟ วันนี้มาคุยกันต่ออีกนิดเกี่ยวกับฉากนี้ ในเนื้อเรื่องนางเอกชนะได้โคมไฟหนึ่งใบซึ่งนางมอบให้พระเอกและพระเอกให้คนส่งต่อไปให้พ่อของเขา โดยโคมไฟใบนี้เป็นลายภาพที่นางเอกเรียกว่า ‘ภาพวาด 24 กตัญญู’ ‘24 กตัญญู’ (二十四孝/เอ้อร์สือซื่อเซี่ยว) เป็นเรื่องราวความกตัญญูยี่สิบสี่เรื่องที่ถูกเรียบเรียงขึ้นในสมัยหยวนโดยกัวจวีจิ้ง บัณฑิตชนบทธรรดาจากหมู่บ้านเล็กแห่งหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน โดยเป็นการรวบรวมเรื่องเล่าความกตัญญูในประวัติศาสตร์จากหลายแหล่งมาเรียบเรียงเป็นประโยคกลอนสั้นประมาณสี่วรรค ทำให้ง่ายต่อการเล่าต่อและจดจำ จึงกลายเป็นหนึ่งในนิทานสอนเด็กที่ชาวบ้านนิยมอย่างแพร่หลาย ต่อมาถูกหยิบยกมาเป็นเนื้อหาของภาพวาดหรืองานแกะสลักโดยหลากหลายศิลปินหลายยุคสมัย เนื้อหาส่วนใหญ่ของบทกวี 24 กตัญญูมีที่มาจาก ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ (孝子传/เซี่ยวจื่อจ้วน) ซึ่งถูกประพันธ์ขึ้นโดยหลิวเซี่ยง ราชนิกุลและนักประวัติศาสตร์อักษรศาสตร์สมัยฮั่นตะวันตก เป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่สะท้อนแนวคำสอนและปรัชญาของขงจื๊อ และต่อมา ‘ตำนานบุตรกตัญญู’ ถูกนำไปรวมอยู่ในอีกหลากหลายบทประพันธ์ในอีกหลายยุคสมัย หนึ่งในนั้นคือบันทึกเรื่องเล่าความกตัญญูยาวกว่าห้าม้วนที่ถูกค้นพบในห้องศิลาที่ตุนหวง 24 กตัญญูกล่าวถึงอะไรบ้าง บทความยาวหน่อยนะคะ สรุปโดยสั้นได้ดังนี้ (ดูรูปประกอบ): 1. กตัญญูสะเทือนสวรรค์: เป็นเรื่องราวของจักรพรรดิซุ่นกว่าสี่พันปีที่แล้ว (เป็นหนึ่งในสามราชันห้าจักรพรรดิในตำนาน) เมื่อครั้งเขายังเป็นชาวบ้านธรรมดาก็ถูกพ่อ แม่เลี้ยงและน้องต่างมารดาให้ร้ายสารพัดจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เขาไม่คิดแค้นเคืองและยังคงดูแลพวกเขาอย่างดี จนสวรรค์เห็นใจจึงบันดาลให้มีช้างมาช่วยปรับผิวดินและมีนกมาช่วยหว่านเมล็ดพืชจนทำมาหาเลี้ยงชีพได้ ต่อมาจักรพรรดิ์เหยาได้ยินกิตติศัพท์ความกตัญญูของเขาก็รับเป็นราชบุตรเขยและสุดท้ายให้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อไป 2. แบกข้าวให้บุพการี: กล่าวถึงจงโหยว (นามรองจื่อลู่) หนึ่งในศิษย์เอกของขงจื๊อ ขุนนางชื่อดังแห่งแคว้นเว่ยในยุคสมัยชุนชิว เขามีพื้นเพยากจน ทุกวันจะกินแต่ผักผลไม้ป่าเพื่อประหยัดเงิน แต่ยอมเดินทางไกลกว่าร้อยหลี่เพื่อไปหาซื้อข้าวแบกกลับมาให้พ่อแม่กิน ต่อมาเมื่อชีวิตความเป็นอยู่ดีมีอันจะกินก็มักจะพร่ำเสียดายที่พ่อแม่ไม่มีชีวิตอยู่ดีกินดีกับเขา 3. ฮ่องเต้ชิมยา: เป็นเรื่องราวของฮั่นเหวินตี้หลิวเหิง บุตรของป๋อไทเฮา ที่คอยดูแลป๋อไทเฮาในยามป่วยตลอดสามปีด้วยตนเองแม้จะเป็นถึงฮ่องเต้มีข้าราชบริพารมากมาย โดยจะชิมยาของแม่ก่อนป้อนให้แม่ทุกครั้งเพื่อทดสอบว่ายานั้นอุ่นกำลังดีไม่ร้อนเกินไป 4. ขายตัวฝังศพพ่อ: เป็นเรื่องราวของบุรุษนามว่าตงหย่งในสมัยฮั่นที่กำพร้าแม่แต่เด็ก ต่อมาเมื่อพ่อเสียชีวิตก็ไม่มีเงินทำศพพ่อจึงยอมขายตัวเองไปเป็นทาส วันหนึ่งพบเข้ากับสตรีกำพร้าไร้ที่ไป นางขอให้เขาช่วยแต่งงานอยู่กินกันโดยนางยินดีเข้าไปช่วยทำงานที่เรือนเศรษฐีด้วย เศรษฐีตกลงว่าเมื่อนางทอผ้าได้ครบสามร้อยพับก็จะอนุญาตให้ทั้งคู่ไถ่ตัวได้ นางใช้เวลาเพียงเดือนเดียวก็ทำสำเร็จ ต่อมานางบอกความจริงว่านางเป็นเทพธิดาและสวรรค์ซาบซึ้งกับความกตัญญูของเขาจึงมอบหมายให้มาช่วยเขา จากนั้นก็อำลาจากไป 5. สีสันบันเทิงเพื่อบุพการี: กล่าวถึงเหล่าช่ายจื่อ หนึ่งในบัณฑิตมากความรู้ที่เร้นกายอยู่ในป่าในสมัยชุนชิว เขารักพ่อแม่มากอยากให้พ่อแม่เบิกบานใจทุกวัน ถึงขนาดว่าตัวเองอยู่ในวัย 70 ปีแล้วแต่ก็ยังแต่งตัวสีสันฉูดฉาดเล่นเป็นเด็ก หกล้มลงก็แกล้งทำเป็นกลิ้งเล่นอยู่บนพื้นเพื่อให้พ่อแม่วัยเฒ่าหัวเราะแทนที่จะตกใจเสียใจ 6. นิ้วแม่เชื่อมใจลูก: เป็นเรื่องราวของเจิงจื่อ นักปรัชญาแห่งราชสำนักโจวและลูกศิษย์ของขงจื๊อ ที่วันหนึ่งออกไปเก็บฟืน แต่มีแขกมาเยือน แม่ของเขาอยู่บ้านคนเดียวก็กระวนกระวายไม่รู้ว่าจะต้อนรับขับสู้อย่างไรดี จนถึงขนาดกัดนิ้วตนเองด้วยความเครียด เจิงจื่อที่อยู่ในป่ากลับรู้สึกได้ถึงความเจ็บนั้น จึงรีบรุดกลับบ้านมาดูแม่และรับรองแขกด้วยตนเอง บ่งบอกถึงสายใยเหนียวแน่นของแม่ลูก 7. คัดผลไม้ให้แม่กิน: เป็นเรื่องราวของไช่ซุ่นในสมัยฮั่น เขาอาศัยเก็บผลหม่อนกินประทังชีวิตเพราะยากจนมากและข้าวของราคาแพงเพราะสงคราม อยู่มาวันหนึ่งมีนายทหารชั้นผู้ใหญ่นำขบวนทหารผ่านมาเห็นเขาแยกผลหม่อน ถามได้ความว่าเขาแยกผลสุกสีเข้มให้แม่กิน ส่วนตัวเองกินที่สีแดงที่ยังเปรี้ยวเฝื่อน นายทหารเห็นแก่ความกตัญญูของเขาจึงแบ่งปันเสบียงทหารให้ชายหนุ่ม 8. กราบไหว้รูปสลักบุพการี: กล่าวถึงบุรุษสมัยฮั่นตะวันออกนามว่าหลันติงที่กำพร้าพ่อแม่แต่เด็ก เขาแกะสลักรูปปั้นพ่อแม่ตั้งไว้ในบ้านกราบไหว้ทุกวันเพราะละอายใจที่ไม่มีโอกาสได้ทดแทนบุญคุณ ไม่เพียงกราบไหว้สามมื้อก่อนจะกินข้าว แต่มีเรื่องอะไรก็จะไปนั่งคุยให้รูปปั้นฟัง หนักเข้าภรรยาก็รำคาญ เลยลองเอาเข็มไปจิ้มรูปปั้น เมื่อเขากลับมาบ้านพบว่ารูปปั้นน้ำตาไหล เมื่อสืบสาวราวเรื่องได้แล้วเขาก็เลิกกับภรรยา 9. น้ำนมกวางเพื่อบุพการี: กล่าวถึงถานจื่อ ประมุขแคว้นถานซึ่งเป็นแคว้นเล็กในสมัยราชวงศ์โจว ในสมัยเด็กเขายากจนและต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชราแล้วและตาไม่ดี ต้องกินนมกวางช่วยบำรุงรักษา เขามักจะใช้หนังกวางคลุมตัวแล้วย่องเข้าไปปะปนอยู่ในฝูงกวางเพื่อเอานมกวางมาให้พ่อแม่กิน มีอยู่ครั้งหนึ่งเกือบโดนนายพรานยิง แต่เมื่อนายพรานได้ยินเรื่องราวความจำเป็นของเขาก็ยกนมกวางให้และยังส่งเขากลับบ้านด้วยตนเอง 10. สวมเสื้อไส้ใยกก: เป็นเรื่องของหมินสุ่น (นามรองจื่อเชียน) หนึ่งในลูกศิษย์ของขงจื๊อ เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก พ่อแต่งภรรยาใหม่มีลูกชายอีกสองคน เขาถูกแม่เลี้ยงกลั่นแกล้งบ่อยครั้ง ต้องสวมเสื้อใยกกในขณะที่น้องๆ ได้สวมเสื้อบุฝ้ายในยามหนาว วันหนึ่งเขาช่วยจูงรถให้พ่อแต่หนาวจนทำให้เชือกหลุดมือ พ่อบันดาลโทสะเฆี่ยนจนเสื้อขาดจึงพบว่าลูกชายคนนี้ใส่เสื้อผ้าที่ไม่ช่วยกันหนาว พ่อโกรธแม่เลี้ยงมากถึงกับเอ่ยปากบอกเลิกทันทีที่กลับถึงบ้าน แต่หมินสุ่นอ้อนวอนขออภัยแทนแม่เลี้ยง โดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้มีลูกเพียงคนเดียวที่ลำบาก แต่ถ้าแม่เลี้ยงไม่อยู่จะมีลูกถึงสามคนที่ลำบาก สุดท้ายแม่เลี้ยงได้รับการให้อภัย นางจึงกลับตัวกลับใจดูแลหมินสุ่นอย่างดีนับแต่นั้นมา 11. ฝังลูกเพื่อแม่: กล่าวถึงบุรุษนามว่ากัวจวี้ในสมัยฮั่น เขามีฐานะยากจน เมื่อพ่อเสียก็แลแม่เป็นอย่างดี ต่อมาเมื่อภรรยาคลอดบุตร เขาก็รู้สึกว่าเลี้ยงดูไม่ไหวและไม่อยากให้แม่ต้องมาอดมื้อกินมื้อไปกับเขา จึงตัดสินใจจะฝังลูกเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายโดยไม่ฟังคำทัดทานของภรรยา แต่เมื่อขุดดินลงไปกลับพบทองคำหนึ่งไห เรื่องราวจบลงด้วยดีโดยเขาไม่ต้องฆ่าลูกตัวเองและมีฐานะดีขึ้น 12. ปลากระโดดจากบ่อน้ำ: กล่าวถึงบุรุษนามว่าเจียงซือในสมัยฮั่น เขามีภรรยาแซ่ผางที่กตัญญูกับแม่สามีมาก แม่สามีชอบกินปลาก็ออกไปจับปลามาให้กิน อยู่มาวันหนึ่งอากาศไม่ดีกว่านางแซ่ผางจะกลับถึงบ้านก็ดึกจึงถูกเจียงซือไล่ออกจากบ้านเพราะเข้าใจผิดว่านางตั้งใจละเลยแม่ของเขา เมื่อแม่ของเจียงซือรู้เรื่องให้เจียงซือไปรับนางกลับมา และตั้งแต่วันที่นางกลับเข้าบ้านมาก็ปรากฏปลาหลีฮื้อสองตัวกระโดดออกมาจากบ่อน้ำกลางบ้านทุกวัน ทำให้นางไม่ต้องไปจับปลาในแม่น้ำอีกต่อไป 13. ซุกส้มให้แม่: เป็นเรื่องราวของลู่จี้ ขุนนางในสมัยราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย กล่าวถึงเมื่อตอนเขาอายุหกขวบ ได้มีโอกาสติดตามพ่อไปพบแม่ทัพท่านหนึ่งที่จวน ครั้นพอเขาคารวะอำลากลับ ส้มสองลูกที่เขาซุกไว้อยู่ในแขนเสื้อกลิ้งหล่นออกมา สอบถามได้ใจความว่าเขาเห็นแม่ชอบกินส้มจึงตั้งใจเก็บเอาไปให้แม่กิน ทำให้แม่ทัพรู้สึกประหลาดใจและชมชอบในความกตัญญูของเด็กคนนี้ 14. ยินเสียงฟ้าร้องปลอบแม่ที่หลุมศพ: กล่าวถึงบัณฑิตหนุ่มจากแคว้นเว่ยนามว่าหวางโผว แม่ของเขาเป็นคนกลัวเสียงฟ้าร้องมาก แม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ทุกครั้งที่ฝนตกหนักฟ้าร้อง หวางโผวจะไปกราบหลุมศพนางพร้อมกับปลอบให้นางไม่ต้องกลัว 15. กอดเสือช่วยพ่อ: กล่าวถึงสตรีนางหนึ่งในสมัยราชวงศ์จิ้นนามว่าหยางเซียง เมื่อครั้งนางมีอายุสิบสี่ปีได้ออกไปทำนากับพ่อ แต่พลันปรากฏเสือตัวหนึ่งกระโจนใส่พ่อจนล้มไป นางไม่มีอาวุธใดแต่ก็กระโดดกอดคอเสือแน่นเพื่อไม่ให้เสือกัดพ่อ สุดท้ายเสือยอมแพ้ปล่อยพ่อของนางแล้วหนีไป 16. ให้นมย่าทวด: เป็นเรื่องราวความกตัญญูของย่าของเจี๋ยตู้สื่อชุยซานหนานในสมัยถัง เล่าถึงเมื่อครั้งที่ย่าทวดของชุยซานหนานทั้งแก่ทั้งไม่สบายจนเคี้ยวอาหารหยาบไม่ได้เลย ย่าของเขาคอยดูแลโดยใช้น้ำนมของตนป้อนจนย่าทวดอิ่ม ต่อมาทั้งครอบครัวอยู่กันอย่างสงบสุขและรุ่นลูกรุ่นหลานล้วนแสดงความกตัญญูต่อย่าของเขาเช่นกัน 17. พัดหมอนอุ่นผ้าห่ม: เป็นเรื่องราวของขุนนางชั้นผู้ใหญ่ในสมัยฮั่นนามว่าหวงเซียง เขากำพร้าแม่แต่เด็กและคอยดูแลพ่อ แม้ด้วยวัยเพียงเก้าขวบก็รู้จักพัดหมอนของพ่อให้คลายร้อนในหน้าร้อนและนอนอุ่นผ้าห่มของพ่อในหน้าหนาวเพื่อว่าพ่อของเขาจะได้นอนหลับสบาย 18. ร่ำไห้จนเกิดหน่อไม้: กล่าวถึงขุนนางสมัยสามก๊กนามว่าเมิ่งจง เขากำพร้าพ่อแต่เด็ก เมื่อครั้งยังหนุ่มต้องดูแลแม่ที่ชราและป่วยหนัก หมอบอกว่าต้องให้แม่กินหน่อไม้สด แต่จนใจเป็นฤดูหนาว เขาหาจนทั่วก็ไม่มีจึงเสียใจคุกเข่าร้องไห้กลางป่า ปรากฏว่าอยู่ดีๆ พื้นดินก็แยกออกแล้วมีหน่อไม้ผุดขึ้นมาให้เขาเก็บกลับบ้านให้แม่กินจนหายป่วย 19. ล่อยุงแทนพ่อ: กล่าวถึงอู๋เหมิ่ง นักพรตในสมัยสามก๊ก ที่ในสมัยเด็กครอบครัวยากจนไม่มีแม้แต่มุ้งจะกางนอน เขามักจะถอดเสื้อนอนล่อให้ยุงมากัด เพื่อว่าพ่อแม่จะได้นอนหลับสบาย 20. ล้างกระโถนให้แม่: เป็นเรื่องราวของกวีและนักเขียนอักษรชื่อดังสมัยซ่งเหนือนามว่าหวงถิงเจียน เขาดูแลแม่อย่างเสมอต้นเสมอปลายแม้ว่าจะมีฐานะดี และจะเอากระโถนของแม่ไปเทล้างด้วยตนเองทุกวันไม่เคยขาด 21. แบกแม่หลบภัย: กล่าวถึงเจียงเก๋อ ขุนนางตงฉินชื่อดังผู้ถูกยกย่องเป็นขุนนางยอดกตัญญูในรัชสมัยของกษัตริย์อู่ตี้แห่งราชวงศ์เหลียงในยุคราชวงศ์เหนือใต้ เจียงเก๋อกำพร้าพ่อแต่เด็กและกตัญญูต่อแม่มาก ครั้งหนึ่งเคยแบกแม่เดินทางหนีสงคราม พบเข้ากับโจรภูเขา เขาอ้อนวอนว่าถ้าเขาตายไป แม่ผู้ชราก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ สุดท้ายโจรภูเขาเลยย้อมไว้ชีวิตปล่อยตัวไปทั้งเขาและแม่ 22. ขอปลาบนน้ำแข็ง: เป็นเรื่องของหวางเสียง หนึ่งในขุนนางระดับสูงของราชวงศ์จิ้นตะวันตก เขากำพร้าแม่แต่เด็ก มีแม่เลี้ยงก็ถูกแม่เลี้ยงใส่ไฟจนพ่อไม่รัก อยู่มาวันหนึ่งแม่เลี้ยงไม่สบายมากเขาก็ดูแลนางอย่างใกล้ชิด ครั้นเห็นนางอยากกินปลาจึงออกไปจับปลา แต่จนใจอากาศหนาวจัดจนผิวน้ำเป็นน้ำแข็ง ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงถอดเสื้อลงนอนทาบน้ำแข็งโดยหวังว่ามันจะทำให้น้ำแข็งละลาย แล้วปาฏิหารย์ก็เกิดขึ้น น้ำแข็งละลายจริงและมีปลาโดดออกมาให้เขาจับกลับบ้าน เมื่อแม่เลี้ยงได้กินปลาก็หายป่วย 23. ชิมอุจจาระดูอาการป่วยพ่อ: เป็นเรื่องของขุนนางสมัยฉีใต้นามว่าอวี่เฉียนโหลว อยู่มาวันหนึ่งเขารู้สึกใจคอว้าวุ่นคิดถึงพ่อที่อยู่บ้านนอก จึงตัดสินใจลาเกษียณกลับไปดูแลพ่อที่ชรามากแล้ว เมื่อถึงบ้านก็พบว่าพ่อของเขาไม่สบายมาก หมอบอกว่าอาการของพ่อเขาสาหัสมาก หากอุจจาระมีรสขมก็จะดีมีโอกาสหาย เขาจึงแอบชิมอุจจาระพ่อ พบว่ามันมีรสหวานก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ กราบไหว้ฟ้าขอให้พ่อให้และยอมแลกด้วยชีวิตตัวเองแทน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันพ่อของเขาก็สิ้นใจ 24. ออกจากราชการเพื่อตามหาแม่: กล่าวถึงขุนนางสมัยซ่งนามว่าจูโซ่วชาง เมื่อครั้งเขาอายุเพียงเจ็ดขวบ แม่ของเขาที่มีสถานะเป็นอนุภรรยาได้ถูกภรรยาเอกของพ่อบีบให้ต้องแต่งงานไปกับคนอื่นจนเขาต้องพลัดพรากจากแม่โดยไม่มีข่าวคราว แต่เขาไม่เคยหยุดที่จะสืบหาแม่ของเขา ต่อมาห้าสิบปีให้หลังเขาได้รับเบาะแสเกี่ยวกับแม่ จึงขอลาออกจากตำแหน่งขุนนางระดับสูงเพื่อออกตามหาแม่พร้อมประกาศกร้าวว่าถ้าไม่พบแม่จะไม่กลับเมืองหลวงอีก และเขาก็ทำสำเร็จพบแม่ที่มีอายุเจ็ดสิบกว่าปีแล้วและพานางกลับเมืองหลวงด้วยกัน อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น เรื่องราว 24 กตัญญูถูกเรียบเรียงเป็นกลอนสั้น แต่ละเรื่องยาวเพียงสี่วรรค ง่ายต่อการจดจำ เชื่อว่าเพื่อนเพจหลายท่านคงรู้สึกไม่อินกับบางเรื่อง และที่ประเทศจีนเองก็มีการถกกันในวงกว้างว่า การกระทำต่างๆ ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องราวเหล่านี้ยังเหมาะสมต่อบริบทสังคมปัจจุบันหรือไม่ แต่อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเพื่อนเพจอ่านแล้วคงพอเห็นภาพว่า เหตุใดเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกยกเป็นตัวอย่างเพื่อสะท้อนความดีงามของความกตัญญูต่อพ่อแม่และเป็นตัวอย่างของการทำดีแล้วได้ดี (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://news.qq.com/rain/a/20241216A05PWX00 http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinakongzi.org/zt/3419/tp/201705/t20170510_135104.htm http://www.chinaknowledge.de/Literature/Historiography/xiaozizhuan.html http://www.n12345.com/wenji/24xiao.html?id=1 https://www.8bei8.com/book/24xiao_1.html #จิ่วฉงจื่อ #24กตัญญู #เรื่องเล่าจีนโบราณ #สาระจีน
    NEWS.QQ.COM
    《九重紫》暴露了他好身材,长相人畜无害,却脱衣有肉穿衣显瘦_腾讯新闻
    由孟子义、李昀锐主演的电视剧《九重紫》,自开播以来,热度迅速攀升,播到15集,站内热度破了29000,有望展望30000了。 这个成绩在今年古装剧中是相当牛了,要知道,腾讯今年的古装剧热度....
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/s2hUukTnqFw?si=n7OGC2Ciz8d2T_DG
    https://youtube.com/shorts/s2hUukTnqFw?si=n7OGC2Ciz8d2T_DG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtube.com/shorts/NDGJPhkbzUg?si=TAO0-8VThyapibz3
    https://youtube.com/shorts/NDGJPhkbzUg?si=TAO0-8VThyapibz3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/7f1b68dgqeA?si=qmazKmy_Z_p7P5IV
    https://youtu.be/7f1b68dgqeA?si=qmazKmy_Z_p7P5IV
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/Br-Co8kdGHc?si=NtiE_0wU129r-jVp
    https://youtu.be/Br-Co8kdGHc?si=NtiE_0wU129r-jVp
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia กำลังพัฒนา 800V HVDC architecture เพื่อรองรับ AI server racks ที่ต้องการพลังงานระดับ 1 เมกะวัตต์ ซึ่งมากกว่าระบบปัจจุบันถึง 5 เท่า โดยคาดว่าจะเริ่มใช้งานภายในปี 2027

    การใช้ 800V HVDC จะช่วยลดความต้องการ ทองแดง ในการส่งพลังงานลงถึง 45% และช่วยให้ ศูนย์ข้อมูล AI สามารถขยายขนาดได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดตัวนำไฟฟ้า นอกจากนี้ Nvidia ยังร่วมมือกับ Infineon, Texas Instruments และ Navitas เพื่อพัฒนา wide-bandgap semiconductors เช่น GaN และ SiC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Nvidia พัฒนา 800V HVDC เพื่อรองรับ AI server racks ที่ต้องการพลังงานสูง
    - ระบบปัจจุบัน 54V DC กำลังถึงขีดจำกัดเมื่อเซิร์ฟเวอร์ใช้พลังงานเกิน 200 กิโลวัตต์
    - 800V HVDC จะช่วยลดความต้องการทองแดงลง 45%
    - Nvidia ร่วมมือกับ Infineon, Texas Instruments และ Navitas เพื่อพัฒนา wide-bandgap semiconductors
    - คาดว่า 800V HVDC จะเริ่มใช้งานใน 2027

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเปลี่ยนไปใช้ 800V HVDC ต้องใช้การปรับโครงสร้างระบบไฟฟ้าในศูนย์ข้อมูล
    - การใช้พลังงานระดับเมกะวัตต์ อาจเพิ่มความท้าทายด้าน ความร้อนและการระบายอากาศ
    - การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ เช่น GaN และ SiC อาจต้องใช้เวลาพัฒนาให้เสถียร
    - ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบ อาจสูง และต้องรอดูว่าศูนย์ข้อมูลจะปรับตัวได้เร็วแค่ไหน

    การพัฒนา 800V HVDC ของ Nvidia เป็นก้าวสำคัญในการรองรับ AI server racks ที่ต้องการพลังงานสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังต้องจับตาดูว่าศูนย์ข้อมูลจะสามารถปรับตัวได้เร็วแค่ไหน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-to-boost-ai-server-racks-to-megawatt-scale-increasing-power-delivery-by-five-times-or-more
    Nvidia กำลังพัฒนา 800V HVDC architecture เพื่อรองรับ AI server racks ที่ต้องการพลังงานระดับ 1 เมกะวัตต์ ซึ่งมากกว่าระบบปัจจุบันถึง 5 เท่า โดยคาดว่าจะเริ่มใช้งานภายในปี 2027 การใช้ 800V HVDC จะช่วยลดความต้องการ ทองแดง ในการส่งพลังงานลงถึง 45% และช่วยให้ ศูนย์ข้อมูล AI สามารถขยายขนาดได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดตัวนำไฟฟ้า นอกจากนี้ Nvidia ยังร่วมมือกับ Infineon, Texas Instruments และ Navitas เพื่อพัฒนา wide-bandgap semiconductors เช่น GaN และ SiC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ✅ ข้อมูลจากข่าว - Nvidia พัฒนา 800V HVDC เพื่อรองรับ AI server racks ที่ต้องการพลังงานสูง - ระบบปัจจุบัน 54V DC กำลังถึงขีดจำกัดเมื่อเซิร์ฟเวอร์ใช้พลังงานเกิน 200 กิโลวัตต์ - 800V HVDC จะช่วยลดความต้องการทองแดงลง 45% - Nvidia ร่วมมือกับ Infineon, Texas Instruments และ Navitas เพื่อพัฒนา wide-bandgap semiconductors - คาดว่า 800V HVDC จะเริ่มใช้งานใน 2027 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเปลี่ยนไปใช้ 800V HVDC ต้องใช้การปรับโครงสร้างระบบไฟฟ้าในศูนย์ข้อมูล - การใช้พลังงานระดับเมกะวัตต์ อาจเพิ่มความท้าทายด้าน ความร้อนและการระบายอากาศ - การพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ เช่น GaN และ SiC อาจต้องใช้เวลาพัฒนาให้เสถียร - ค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนระบบ อาจสูง และต้องรอดูว่าศูนย์ข้อมูลจะปรับตัวได้เร็วแค่ไหน การพัฒนา 800V HVDC ของ Nvidia เป็นก้าวสำคัญในการรองรับ AI server racks ที่ต้องการพลังงานสูงขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังต้องจับตาดูว่าศูนย์ข้อมูลจะสามารถปรับตัวได้เร็วแค่ไหน https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-to-boost-ai-server-racks-to-megawatt-scale-increasing-power-delivery-by-five-times-or-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • Ep 26 ) ยามเฝ้าแผ่นดิน . ฝึกเจริญสติให้เป็นนิสัย . คดีแตงโมกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด และสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คนไทยหนี้ท่วม สมัครสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน "ทวงความถูกต้องให้คนไทย"กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ (Google form) ได้ที่ลิงค์ : https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdZJZLh_L5S-103AtRCRIgC5fee1DggMhr_QzF5yqbndszTdA/viewform#Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่2 #คดีแตงโม #หนี้ท่วมคนไทย #อาจารย์ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join• ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    Ep 26 ) ยามเฝ้าแผ่นดิน . ฝึกเจริญสติให้เป็นนิสัย . คดีแตงโมกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด และสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คนไทยหนี้ท่วม สมัครสมาชิกยามเฝ้าแผ่นดิน "ทวงความถูกต้องให้คนไทย"กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ (Google form) ได้ที่ลิงค์ : https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSdZJZLh_L5S-103AtRCRIgC5fee1DggMhr_QzF5yqbndszTdA/viewform#Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ความจริงมีหนึ่งเดียว #ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่2 #คดีแตงโม #หนี้ท่วมคนไทย #อาจารย์ปานเทพพัวพงษ์พันธ์ #มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน • สมัครสมาชิก membership ความจริงมีหนึ่งเดียว ช่อง SONDHITALK บน YouTube : https://www.youtube.com/@sondhitalk/join• ติดต่อสอบถามได้ที่ Line : @sondhitalk
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 1 0 รีวิว
Pages Boosts