• บทความจาก ZDNET รายงานว่า ChatGPT สามารถวิเคราะห์ภาพถ่ายเพื่อคาดเดาสถานที่ได้ โดยไม่ต้องใช้ข้อมูล GPS หรือ EXIF ซึ่งเป็นความสามารถที่น่าสนใจ แต่ก็ก่อให้เกิดข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว เนื่องจาก AI สามารถใช้เบาะแสในภาพ เช่น ลักษณะอาคาร, ภูมิประเทศ หรือป้ายชื่อ เพื่อระบุสถานที่ได้อย่างแม่นยำ

    ✅ ChatGPT สามารถวิเคราะห์ภาพเพื่อคาดเดาสถานที่ได้
    - ใช้เบาะแสในภาพ เช่น ลักษณะอาคาร, ต้นไม้ หรือภูมิประเทศ
    - สามารถคาดเดาสถานที่ได้แม้ในภาพที่เบลอหรือมีข้อมูลบางส่วน

    ✅ ความสามารถนี้มาจากโมเดล AI รุ่นใหม่ของ OpenAI
    - โมเดล o3 และ o4-mini สามารถวิเคราะห์ภาพได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
    - ใช้ข้อมูลจากฐานความรู้และอินเทอร์เน็ตเพื่อช่วยในการคาดเดา

    ✅ การทดลองแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำของ AI
    - ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ภาพบ้านที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น ต้นไม้และวัสดุของบ้าน
    - AI สามารถใช้ป้ายชื่อบางส่วนในภาพเพื่อระบุเมืองและพื้นที่ได้

    ✅ ผู้ใช้บางคนสนุกกับการใช้ ChatGPT ในการเล่นเกมทายสถานที่
    - คล้ายกับเกม GeoGuessr ที่ต้องเดาสถานที่จากภาพใน Google Street View

    https://www.zdnet.com/article/think-geoguessr-is-fun-try-using-chatgpt-to-guess-locations-in-your-photos/
    บทความจาก ZDNET รายงานว่า ChatGPT สามารถวิเคราะห์ภาพถ่ายเพื่อคาดเดาสถานที่ได้ โดยไม่ต้องใช้ข้อมูล GPS หรือ EXIF ซึ่งเป็นความสามารถที่น่าสนใจ แต่ก็ก่อให้เกิดข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว เนื่องจาก AI สามารถใช้เบาะแสในภาพ เช่น ลักษณะอาคาร, ภูมิประเทศ หรือป้ายชื่อ เพื่อระบุสถานที่ได้อย่างแม่นยำ ✅ ChatGPT สามารถวิเคราะห์ภาพเพื่อคาดเดาสถานที่ได้ - ใช้เบาะแสในภาพ เช่น ลักษณะอาคาร, ต้นไม้ หรือภูมิประเทศ - สามารถคาดเดาสถานที่ได้แม้ในภาพที่เบลอหรือมีข้อมูลบางส่วน ✅ ความสามารถนี้มาจากโมเดล AI รุ่นใหม่ของ OpenAI - โมเดล o3 และ o4-mini สามารถวิเคราะห์ภาพได้ลึกซึ้งกว่าเดิม - ใช้ข้อมูลจากฐานความรู้และอินเทอร์เน็ตเพื่อช่วยในการคาดเดา ✅ การทดลองแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำของ AI - ตัวอย่างเช่น การวิเคราะห์ภาพบ้านที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น ต้นไม้และวัสดุของบ้าน - AI สามารถใช้ป้ายชื่อบางส่วนในภาพเพื่อระบุเมืองและพื้นที่ได้ ✅ ผู้ใช้บางคนสนุกกับการใช้ ChatGPT ในการเล่นเกมทายสถานที่ - คล้ายกับเกม GeoGuessr ที่ต้องเดาสถานที่จากภาพใน Google Street View https://www.zdnet.com/article/think-geoguessr-is-fun-try-using-chatgpt-to-guess-locations-in-your-photos/
    WWW.ZDNET.COM
    Think GeoGuessr is fun? Try using ChatGPT to guess locations in your photos
    ChatGPT can 'read' your photos for location clues - even without embedded GPS or EXIF data. Here's why that could be a problem.
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยี Broadcast Positioning System (BPS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS เพื่อเป็นระบบสำรองในกรณีที่ GPS ถูกโจมตีหรือขัดข้อง

    Broadcast Positioning System (BPS) ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัลในการให้ข้อมูลตำแหน่งและเวลา โดยมีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที ซึ่งแม้จะน้อยกว่า GPS ที่มีความแม่นยำ 10 นาโนวินาที แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในบางกรณี อย่างไรก็ตาม การใช้งาน BPS ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง และมีความแม่นยำในรัศมีประมาณ 100 เมตร

    เทคโนโลยีนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในปี 2029 นอกจากนี้ BPS ยังสามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี

    ✅ การพัฒนา Broadcast Positioning System (BPS)
    - ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS
    - มีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที

    ✅ การใช้งานและความพร้อม
    - ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง
    - คาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และเพิ่มฟีเจอร์ในปี 2029

    ✅ การยืนยันข้อมูล GPS
    - BPS สามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS
    - ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี

    ℹ️ ข้อจำกัดของ BPS
    - ความแม่นยำต่ำกว่า GPS และต้องการสถานีส่งสัญญาณหลายแห่ง
    - การใช้งานอาจจำกัดในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ ATSC 3.0

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - หากระบบ BPS ถูกโจมตี อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานที่พึ่งพาเทคโนโลยีนี้
    - การพัฒนาระบบสำรองที่มีความปลอดภัยสูงเป็นสิ่งสำคัญ

    https://www.tomshardware.com/service-providers/tv-signal-based-bps-tested-as-fallback-for-gps-digital-tv-infrastructure-could-come-to-the-rescue-if-satellites-are-compromised
    ข่าวนี้เล่าถึงการพัฒนาเทคโนโลยี Broadcast Positioning System (BPS) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS เพื่อเป็นระบบสำรองในกรณีที่ GPS ถูกโจมตีหรือขัดข้อง Broadcast Positioning System (BPS) ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัลในการให้ข้อมูลตำแหน่งและเวลา โดยมีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที ซึ่งแม้จะน้อยกว่า GPS ที่มีความแม่นยำ 10 นาโนวินาที แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในบางกรณี อย่างไรก็ตาม การใช้งาน BPS ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง และมีความแม่นยำในรัศมีประมาณ 100 เมตร เทคโนโลยีนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา โดยคาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และจะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ในปี 2029 นอกจากนี้ BPS ยังสามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS ได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี ✅ การพัฒนา Broadcast Positioning System (BPS) - ใช้สัญญาณโทรทัศน์ดิจิทัล ATSC 3.0 แทนดาวเทียม GPS - มีความแม่นยำในระดับ 100 นาโนวินาที ✅ การใช้งานและความพร้อม - ต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณจากสถานีส่งอย่างน้อย 4 แห่ง - คาดว่าจะพร้อมใช้งานในปี 2027 และเพิ่มฟีเจอร์ในปี 2029 ✅ การยืนยันข้อมูล GPS - BPS สามารถใช้เป็นระบบยืนยันข้อมูลของ GPS - ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือในกรณีที่ GPS ถูกโจมตี ℹ️ ข้อจำกัดของ BPS - ความแม่นยำต่ำกว่า GPS และต้องการสถานีส่งสัญญาณหลายแห่ง - การใช้งานอาจจำกัดในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ ATSC 3.0 ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - หากระบบ BPS ถูกโจมตี อาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานที่พึ่งพาเทคโนโลยีนี้ - การพัฒนาระบบสำรองที่มีความปลอดภัยสูงเป็นสิ่งสำคัญ https://www.tomshardware.com/service-providers/tv-signal-based-bps-tested-as-fallback-for-gps-digital-tv-infrastructure-could-come-to-the-rescue-if-satellites-are-compromised
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • อีลิทdeep stateข้ามชาติเยอะมาก พม่าคือแหล่งค้ามนุษย์โซนชาติอันตรายอีกชาติ,การผลักดันต่างชาติ&ต่างด้าวทั้งหมดออกไปชั่วคราวจากแผ่นดินไทยก่อนคืองานหลักจึงสามารถตัดตอนปัญหาปั่นป่วนก่อโกลาหลในไทยได้มากเลย,จะเหลือแค่คนไทยล้วนๆโดยส่วนมากจะบริหารใดๆสร้างสุขสงบในชาติเราได้ง่าย ติดตามล็อกเป้าจับกุมคนชั่วเลวที่ปะปนก็ง่าย,เมื่อเทียบปัจจุบันอันตรายและเป็นภัยมั่งคงของชาติเลยล่ะ
    ..การลักเด็กลักพาตัวเด็กส่วนใหญ่สมุนอีลิทdeep stateล่ะทำ,คนไทยปกติไม่ทำกันหรอก คนไทยชั่วเลวขายจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์และต่างชาติต่างด้าวเลวชั่วเข้ามาในไทย&ปะปนนี้ล่ะอันตราย,ดาวเทียมระบุพิกัดมือถือหรือรถยนต์ติดgpsจึงสำคัญ ติดตามตำแหน่งจุดคนร้ายก่อการหรือผ่านได้หมดล่ะ ดึงข้อมูลมือถือบริเวณที่ต้องสงสัยว่ามีใครในสถานที่นั้นได้หมดล่ะ,บวกลบผิดพลาดไม่เกิน50-100ซม.แล้วยุคนี้ โจรคนร้ายจริงๆหากเอาจริงรอดยาก ใครๆก็พกมือถือ ,ดาวเทียมบวกกสทช.บวกค่ายมือถือประสานจับพิกัดคนร้ายสบายมาก,กล้องตรวจจับติดสาระพัดถนนผ่านหรือถ้าพวกมันเข้าร้าน7/11อาจชัดเจนหน้าตาล่ะ,สแกนจ่ายของอีกดับอนาถแน่นอน.
    อีลิทdeep stateข้ามชาติเยอะมาก พม่าคือแหล่งค้ามนุษย์โซนชาติอันตรายอีกชาติ,การผลักดันต่างชาติ&ต่างด้าวทั้งหมดออกไปชั่วคราวจากแผ่นดินไทยก่อนคืองานหลักจึงสามารถตัดตอนปัญหาปั่นป่วนก่อโกลาหลในไทยได้มากเลย,จะเหลือแค่คนไทยล้วนๆโดยส่วนมากจะบริหารใดๆสร้างสุขสงบในชาติเราได้ง่าย ติดตามล็อกเป้าจับกุมคนชั่วเลวที่ปะปนก็ง่าย,เมื่อเทียบปัจจุบันอันตรายและเป็นภัยมั่งคงของชาติเลยล่ะ ..การลักเด็กลักพาตัวเด็กส่วนใหญ่สมุนอีลิทdeep stateล่ะทำ,คนไทยปกติไม่ทำกันหรอก คนไทยชั่วเลวขายจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์และต่างชาติต่างด้าวเลวชั่วเข้ามาในไทย&ปะปนนี้ล่ะอันตราย,ดาวเทียมระบุพิกัดมือถือหรือรถยนต์ติดgpsจึงสำคัญ ติดตามตำแหน่งจุดคนร้ายก่อการหรือผ่านได้หมดล่ะ ดึงข้อมูลมือถือบริเวณที่ต้องสงสัยว่ามีใครในสถานที่นั้นได้หมดล่ะ,บวกลบผิดพลาดไม่เกิน50-100ซม.แล้วยุคนี้ โจรคนร้ายจริงๆหากเอาจริงรอดยาก ใครๆก็พกมือถือ ,ดาวเทียมบวกกสทช.บวกค่ายมือถือประสานจับพิกัดคนร้ายสบายมาก,กล้องตรวจจับติดสาระพัดถนนผ่านหรือถ้าพวกมันเข้าร้าน7/11อาจชัดเจนหน้าตาล่ะ,สแกนจ่ายของอีกดับอนาถแน่นอน.
    0 Comments 0 Shares 172 Views 0 0 Reviews
  • แอปฯ ViaBus สยายปีกสู่ลาว ติดตามรถเมล์เวียงจันทน์ได้แล้ว

    ในงานสัปดาห์ดิจิทัลลาว 2025 (Laos Digital Week 2025) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 เม.ย.2568 ที่หอประชุมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจ คือ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ (VCSBE) ได้ร่วมกับ บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเวียบัส (ViaBus) เปิดบริการแจ้งติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ แก่รถโดยสารในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อพัฒนาการบริการ โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย สามารถติดตามรถเมล์ และจุดจอดรถเมล์ได้เหมือนที่ประเทศไทย

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568 นายอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับท่านแก้ววันพร วอนทีวงสี ผู้อำนวยการใหญ่ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ ที่โรงแรมลาวพลาซ่า เพื่อพัฒนาระบบติดตามและบริหารจัดการรถโดยสารประจำทางผ่านแอปพลิเคชัน ViaBus โดยมีนายมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบขนส่งสาธารณะในนครหลวงเวียงจันทน์ พร้อมเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางกับภูมิภาคอาเซียนในมิติที่ทันสมัยและยั่งยืน

    สำหรับรัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ มีเส้นทางให้บริการประมาณ 16 เส้นทาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่สถานีขนส่งตลาดเช้า (Central Bus Station หรือ CBS) ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1, มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ดงโดก, สนามบินสากลวัดไต, สถานีรถสายเหนือ, สถานีรถสายใต้, ศูนย์ประชุมลาวไอเต็ก (ITECC) รวมทั้งสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ (รถไฟลาว-จีน) และสถานีเวียงจันทน์ คำสะหวาด (รถไฟไทย-ลาว) เดิมมีเว็บไซต์ติดตามรถเมล์ https://lao.busnavi.asia อยู่แล้ว ความร่วมมือกับ ViaBus ที่มีผู้ใช้งาน 5 ล้านคน จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1.2 ล้านคนเดินทางในนครหลวงเวียงจันทน์สะดวกขึ้น รวมทั้งจูงใจชาวนครหลวงเวียงจันทน์กว่า 7 แสนคนหันมาใช้รถเมล์แทนรถส่วนตัว

    ก่อนหน้านี้ ViaBus ได้ทดลองติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ที่ประเทศมาเลเซียใน 3 เมือง ได้แก่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เกาะปีนัง และเมืองยะโฮร์บาห์รู นับเป็นประเทศที่สองที่ ViaBus ร่วมมือกับผู้ประกอบการเดินรถต่างประเทศ สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ประกาศให้ผู้ประกอบการเดินรถทุกรายนำข้อมูล GPS รถเมล์มาเชื่อมระบบได้ฟรี โดยไม่ต้องพัฒนาระบบใหม่ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ผู้โดยสารติดตามและใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย

    #Newskit
    แอปฯ ViaBus สยายปีกสู่ลาว ติดตามรถเมล์เวียงจันทน์ได้แล้ว ในงานสัปดาห์ดิจิทัลลาว 2025 (Laos Digital Week 2025) ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 เม.ย.2568 ที่หอประชุมแห่งชาติ นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าสนใจ คือ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ (VCSBE) ได้ร่วมกับ บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันเวียบัส (ViaBus) เปิดบริการแจ้งติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ แก่รถโดยสารในนครหลวงเวียงจันทน์ เพื่อพัฒนาการบริการ โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศไทย สามารถติดตามรถเมล์ และจุดจอดรถเมล์ได้เหมือนที่ประเทศไทย ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2568 นายอินทัช มาศวงษ์ปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เวีย กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับท่านแก้ววันพร วอนทีวงสี ผู้อำนวยการใหญ่ รัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ ที่โรงแรมลาวพลาซ่า เพื่อพัฒนาระบบติดตามและบริหารจัดการรถโดยสารประจำทางผ่านแอปพลิเคชัน ViaBus โดยมีนายมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ เวียงจันทน์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อยกระดับระบบขนส่งสาธารณะในนครหลวงเวียงจันทน์ พร้อมเชื่อมโยงโครงข่ายการเดินทางกับภูมิภาคอาเซียนในมิติที่ทันสมัยและยั่งยืน สำหรับรัฐวิสาหกิจรถเมล์นครหลวงเวียงจันทน์ มีเส้นทางให้บริการประมาณ 16 เส้นทาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่สถานีขนส่งตลาดเช้า (Central Bus Station หรือ CBS) ไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ เช่น สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1, มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว ดงโดก, สนามบินสากลวัดไต, สถานีรถสายเหนือ, สถานีรถสายใต้, ศูนย์ประชุมลาวไอเต็ก (ITECC) รวมทั้งสถานีรถไฟนครหลวงเวียงจันทน์ (รถไฟลาว-จีน) และสถานีเวียงจันทน์ คำสะหวาด (รถไฟไทย-ลาว) เดิมมีเว็บไซต์ติดตามรถเมล์ https://lao.busnavi.asia อยู่แล้ว ความร่วมมือกับ ViaBus ที่มีผู้ใช้งาน 5 ล้านคน จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1.2 ล้านคนเดินทางในนครหลวงเวียงจันทน์สะดวกขึ้น รวมทั้งจูงใจชาวนครหลวงเวียงจันทน์กว่า 7 แสนคนหันมาใช้รถเมล์แทนรถส่วนตัว ก่อนหน้านี้ ViaBus ได้ทดลองติดตามรถเมล์แบบเรียลไทม์ที่ประเทศมาเลเซียใน 3 เมือง ได้แก่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เกาะปีนัง และเมืองยะโฮร์บาห์รู นับเป็นประเทศที่สองที่ ViaBus ร่วมมือกับผู้ประกอบการเดินรถต่างประเทศ สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมาได้ประกาศให้ผู้ประกอบการเดินรถทุกรายนำข้อมูล GPS รถเมล์มาเชื่อมระบบได้ฟรี โดยไม่ต้องพัฒนาระบบใหม่ และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพื่อให้ผู้โดยสารติดตามและใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 485 Views 0 Reviews
  • 02-04-68/01 : หมี CNN / BREAKING NEWS "หมีม้าด่วน ม้าเร็ว ม้าหน้ามืด" EP.9

    2 เมษายน "ม่วงทั้งแผ่นดิน" ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน รักสุดจิต สุดใจ เห็นพระเทพแล้ว ยังคงนึกถึงพ่อบนสรวงสวรรค์ จนป่านนี้ ท่านยังปฎิบัติภารกิจไม่เลิก พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกัน ราชวงศ์จักรี ยั่งยืนยง ชาวอโยธยาพร้อมถวายทุกสิ่ง เพื่อให้ทุกพระองค์ท่าน สุขเกษมสำราญ รักพระเทพ แสงสีม่วงจากนภากาศ แจ่มจรัสเหลือเกิน แสงสีทองส่องตามมา พระเทพผอมลง เพราะทรงงานหนักทุกวัน แต่สุขภาพยังแข็งแรง ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน 10000 ปี 10000 ปี ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ..

    มรึงคิดว่าจะเงียบเหรอ ดีออก? อ.ปานเทพซัดกลับอีร่านตุ๊ด วางเงินล้าน มีเท่าไหร่ พอจ่ายมั้ย ไอ้สัส! ตัดต่อเหี้ยๆ หมายังเอือมระอา แถจนควายลาตาย! ยิ่งดิ้น ยิ่งน่าสมเพช เค้ารู้กันหมดทั้งขบวนการแล้ว..ดีออก! พยานปากสำคัญแฉหมดเปลือกทุกขั้นตอน พยานมี หลักฐานมัดเพี๊ยบ กล้องมา คลิปโผล่ เทคนิควิทยาศาสตร์มาเต็ม ควายบอกเลิกเหอะมรึง? ยิ่งแถ ยิ่งอายหมา? สปอตไลท์หายไปไม่กี่วัน วันนี้กลับมาซัดต่อ เพราะเหี้ยปากมันดี จากโดนแค่ไม่กี่กระทง ระวัง มรึงจะโดนเป็นสิบ? เสี้ยนอยากหาผัวในคุกจนตัวสั่น! มรึงจะดิ้นยังไง? เค้ารู้หมดแล้ว ทุกเรื่องราว ผีอีโมหายตัวไปไหน ยังไง เมื่อไหร่ ทิ้งศพลงแม่น้ำกี่โมง รู้หมด ยังจะมาฉี่ท้ายเรือ โดนใบพัดเลยต่ออีก เชิญส่งมรึงไปหาศรีธัญญาน่าจะเหมาะ หรือมรึงวางตัวไว้เพื่อการณ์นี้ จบที่เป็นบ้า ไร้สติ เอาที่มรึงสบายใจ เป็นตุ๊ดน่ะมันไม่ผิดดอก ใครก็เป็นได้ แต่เป็น "ตุ๊ดหนักแผ่นดินเนี่ยสิ" ตุ๊ดดีดี ตุ๊ดสร้างสรรค์ เสียหายเพราะมรึง ทำลายสถาบันตุ๊ดที่มีมาอย่างยาวนาน ภาพขามรึงชัดๆ ยังจะแถไม่เลิก เค้าเรียก "ไปให้สุด แล้วจบที่ขุมนรก" ใครก็ตาม ไอ้อีหน้าไหนก็ตาม หากกล้ามาหาญท้าชะตาฟ้า ดวลกับอ.ปานเทพ กูเห็นมาเยอะแล้ว ศพไม่สวยซักราย อย่างมรึงเนี่ย "ตายคาจอ โง่คาที่ ปากดี ตายเร็วเสมอ"

    อีทรัมปป์ออกอาการ ฮูตีจัดหนัก เละเทะทั้งขบวนกองเรือ เรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน ที่เก่าและล้าหลัง ยังกล้าเอาเข้ามาโชว์ หมาไม่เลิก ไปไม่เป็น สภาพยับเยิน สั่งสื่อห้ามลงภาพ แพ้แบบเสียหมา โถ..ขนาดอีเอ๋อ มันสั่ง มันส่ง ไปกี่ร้อยรอบ ผลลัพธ์ไม่แตกต่าง มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปวัดกับไฮเปอร์โซนิคของจริง ที่แม้แต่ของมรึงเองยังไม่ผ่าน QC เลย ดีออก? อีทรัมปป์ทำไมจะไม่รู้ แต่ช้าก่อน หากมรึงคิดจะเอาเยเมน เพื่อเป้าหมายจริงคืออิหร่าน กูจะบอกให้เอาบุญว่า อย่าคิดน่ะว่า เค้าจะไม่สวนตูดมรึงกลับบ้าง มัวแต่ส่งเหี้ยมาเที่ยวละลานชาวโลก ระวังหลังบ้านตัวเองให้ดีดี บอกแล้วน่ะ รอบบ้านมรึง ไฮเปอร์โซนิคประจำการนานแล้ว บุกเค้าเพลิน ระวังจะเสียหมาครั้งใหญ่ ทำเนียบขาวถูกยึด สิ่งที่น่ากลัวกว่าไม่ใช่อิหร่าน แต่เป็นคนในแผ่นดินต้องคำสาปมรึงต่างหาก ทั้งอีลา อี DEEP STATE มันจ้องมรึงตาไม่วาง เผลอเป็นเสียบ เงียบเป็นทุบ หยุดเป็นศอก จนตรอกเป็นหมา ยิ่งตอนนี้ มรึงคลั่งหนัก ยุบ ยุบ ยุบ แม่งทุกอย่าง ต่อไป อีตาเพน มันหันปากกระบอกปืนมาล่อมรึงซะเอง ระวังจะหนีไม่ทันน่ะจ๊ะ ที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์กำลังจะวางแผนเข้าไปควบคุมอีตาเพน ตัดงบ โยกย้าย ทั้งหมดเพื่อต่อรอง จะอยู่กับกู หรือจะอยู่เหี้ยอีกฝั่ง มรึงเลือกมา?

    อีเหงียนไม่รอด โดนเหมือนกัน มันถี่ไปมุย? กลัวควายโลกไม่รู้เหรอว่า "ใครทำ?" ความจำสั้นกันจังน่ะมรึง? หลังมรึงล่อจีน ตุรกี พร้อมกัน สมัยอีเอ๋อ หลังจากนั้นไม่นาน พายุก็มา สึนามิก็โผล่ ไฟป่ามาตามนัด โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เสียหายยับ บังเอิญจังน่ะเนี่ย? HAARP ใช้ถี่ไป ระวังมันจะสะท้อนเข้าตัวมรึงเองน่ะ อาเซียนรู้ตัวแล้วว่า นาทีนี้แล้ว หากไม่จับมือกันไล่กระตืบเหี้ย ความมั่นคง ปลอดภัยของอาเซียน ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง หากเหี้ยยังอยู่ ที่ผ่านมา มรึงก่อสงครามไกลตัว แต่งวดนี้ สงครามจะมาหามรึงถึงบ้าน อย่าลืมว่า JOHN KIM เคยพูดอะไรเอาไว้ เรือดำน้ำนิวเคลียร์โผล่ที่ชายฝั่งแคลิฟอร์เนียนับครั้งไม่ถ้วน ตบหน้าเหี้ยถึงถิ่น สัญญานจับ เรดาร์มรึง โคตรห่วย โผล่คราวนี้ จะเอาของขวัญไปฝาก แค่เม็ดเดียว อิ่มทั้งวอชิงตัน อยากลองชิมมั้ยล่ะ? ถามว่าอาเซียนสะเทือนมั้ย? ตอบเลยว่าไม่ เพราะพื้นฐานวางมาดี พึ่งพาตัวเองได้ อาหารมี ยามี พลังงานมี แต่มรึงต่างหากที่ไม่มี ถึงต้องเหี้ยใส่ เพื่อต่อรอง จากนี้ อีเหงียนคงได้จับมือไทย อิเหนา ซ้อมรบกับจีนถี่ยิบ เพราะอ่านเกมส์ว่า เหี้ยมันบุกแปซิฟิคแน่ และกลับกัน เตหะราน และโสมแดง อาจจะบุกหลังบ้านเหี้ยทันที เอาให้ดึงกองกำลังกลับบ้านไม่ทันเลยมรึง ตอนนี้ อีทรัมปป์เตรียมดึงกองกำลังออกจากตะวันออกกลาง เพื่อไปตั้งหลักรับมือ หากจะเปิดแปซิฟิค ขณะที่แนวร่วมเทมรึงซะขนาดนี้ โอกาสตายห่าสูงมาก ไม่ว่าจะทางไหน มรึงก็ดิ้นไม่หลุด หนีไม่พ้น

    พบแล้วจ๊ะ! ทหารมะกัน ที่หายตัวไป เจอตัวเป็นๆ แล้วจ๊ะ กลายเป็นศพคาดินโคลน ใกล้พรมแดนลิทัวเนีย 3 ศพนัวเนีย ไม่ต้องบอกว่าฝีมือใคร? ใครอยู่แถวนั้นล่ะ? ของฝากจากเบลารุสเค้าล่ะ? ซ้อมรบเหรอ มาสิจ๊ะ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ เข้ามาโซนสีแดงปุ๊บ เงียบหาย ไร้ร่องรอย? ช่วงนี้ ลูคาเชนโก ของขึ้น! หลังได้ของเล่นใหม่ดาหน้าเทกระจาดแบบไม่มีอั้น? อีโปลรู้ชะตากรรม สั่งลุยเมื่อไหร่ จบเร็วแน่ เพราะภูมิประเทศล้อมด้าน ง่ายต่อการโจมตีจากทุกทิศทาง เบลารุส คาลินินกราด เค้าจองกฐินนานแล้ว ยุโรปจะทำอะไรคิดให้ดีก่อน ไม่ใช่จะไปบุกเค้า แล้วโดนเค้าสวนกลับ ด้วยการยึดแผ่นดิน จะเสียหมาไปจนวันตาย หากจะเทหมดหน้าตัก เพื่อเดินเกมส์สงครามที่ไม่มีวันชนะ ถามคำเดียว "ใครได้ประโยชน์?" แต่ชาวบ้านจะแห่ลงถนนลากหัวไอ้นักการเมืองขายชาติมาตัดหัวแน่ นี่ไง ปชต.ตอแหล มันเคยให้มรึงกินอิ่ม หลับสบายมั้ยล่ะ? NATO เอือมระอา กับอีทรัมปป์ จะลุยก็เสียค่าโง่ ใครจะจ่าย ตุรกีไม่เอาแน่ ตราบใดที่อีแอร์โดกันยังอยู่ คลังแสงหมดไปเยอะ ใครมันจะเติมเพื่อช่วยเศษขยะยูเครนที่กำลังจะตาย ยังไงก็เสร็จรัสเซียไปนานแล้วกันล่ะ?

    ถามจริงดิ? อีทรัมปป์มันเก่งงานอีเว้นต์ "สงครามนุ๊กจะมา" โอม..เพี้ยง ยิงซะทีเหอะ จะได้จบๆ ขั้วใหม่ เค้าไม่กลัว เพราะยิงกันจริง กูถึงมรึงก่อน แล้วของจริง ใครจะปล่อยให้ GPS มรึงทำงานปกติกันล่ะ? ดาวเทียมคือสิ่งแรกที่ขั้วใหม่จะทำลาย ไม่ต้องให้บอก ว่าเค้าเตรียมไว้นานแล้ว อะไรที่อยู่ในอวกาศ มันคือเครื่องจักรสังหารดาวเทียม บอกไบ้ให้ ดาวเทียมจิ๋วอิหร่านเนี่ยแหละ ไอ้ตัวแสบ! มันจะทำหน้าที่ระบุ ชี้เป้า แม้แต่ทำลายตัวเองยังได้ แถมมันยังสามารถปล่อยคลื่นความถี่รบกวนดาวเทียมตัวใหญ่ได้หมด และตอนนี้ มันอยู่บนหัวเหี้ยมะกันตรงนั้นนานแล้ว ไม่ต้องบอกว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง? ฟันธง อีทรัมปป์ไม่กล้า แค่ปั่นตลาดหุ้น เหมือนที่มันทำอยู่ทุกวันนี้ วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้ พูดอย่าง เปลี่ยนใจทุก 5 นาที เหตุผลคือ ทับหุ้นลง ช้อนซื้อ แล้วปล่อยข่าวใหม่ ปั่นให้ขึ้นแล้วปล่อยขาย หากแดร๊กง่ายดีมั้ยล่ะ? เพราะควายมันเยอะไง? อิหร่านเหรอ บอกเลย "ให้ไว" กูรอมรึงมาเป็นชาติแล้ว ปากดี เผ่นหางจุกตูด โลกคือละคร สิ่งที่อีทรัมปป์ทำอยู่ตอนนี้คือ ตัดท่อน้ำเลี้ยง DEEP STATE แล้วปั่นหุ้นหาแดร๊ก ไอ้กำแพงภาษีที่ทำโลกป่วนตอนนี้ แค่เคาะกะลาเรียกเรตติ้ง ดูไม่ยากดอก อีทรัมปป์หากรู้ว่ามันจะจบที่ไหน ที่เหลือเดาได้สบาย ทองคำกำเอาไว้ อย่าปล่อย โซเชี่ยลหลอกควายรายวัน ทั่วโลกแห่ช้อนซื้อทองคำ รอคิวยาวเหยียด มรึงจะปล่อยให้โง่? ตราบใดที่ยังไม่มีแร่ใดในโลก ที่จะขึ้นมาเทียบทองคำได้ อย่าปล่อย หากไม่ร้อนเงินจริง? 45000 ก็ทะลุมาแล้ว รอด่านต่อไป 65000 หากยังทะลุต่อ มรึงปล่อยทันที หากร้อนเงิน หากไม่ร้อน เก็บไว้ให้ลูกหลาน ตื่นมาอีกที บาทละ 100000 ไอ้สัส แต่ยังน้อยน่ะ 1 ออนซ์ทองคำ แลกรถยนต์ป้ายแดงอเมริกันได้ 1 คัน มรึงดูค่าเงินแท้จริงมันสิ? แล้วยังจะมีควายไปอุ้มดอลล่าร์ต่ออีกน่ะ?

    ปล.ทฤษฎีสมคบคิดมาเต็ม อะไรน่ะ! ตึกสตง.เลียนแบบ 9/11 ระเบิดรากฐานตึกก่อน ใครเข้าไปตรวจสอบพื้นที่กันล่ะ? หากเป็นอีตำหนวด บอกเลย จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง พร้อมบริการทำลายหลักฐานให้เบ็ดเสร็จ จับพิรุจ ตึกอื่นไม่ถล่ม ทั้งๆ อยู่ติดกัน ห่างกันไม่เยอะ ถล่มตึกเดียว น่าคิดมั้ย? วิถีการลงเป็นแนวดิ่งร่วงทันที เหมือน 9/11 มั้ยล่ะ? ทั้งเรื่องทุนจีนสีเทา ทั้งเรื่องการเมือง ต้องเป็นสตง. ทั้งเรื่องคอรัปชั่น อะไรที่ผุดออกมา ทำให้มรึงได้คิดเสียทีว่า "ความมั่นคง ปลอดภัย จะมาจากไหน" หากเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีหน้าที่บังคับกฎหมายกลายร่างเป็นเหี้ยเสียเอง มรึงจะทำยังไง? สาวไส้ไปมา ก็เรื่องแดร๊ก เหล็กเส้น ออกแบบ เร่งรีบก่อสร้าง เพื่อเบิกงบงวดต่อไป ใครเซ็นต์ ใครรับรองแบบ หนีไม่พ้นคุกจ๊ะ ล่าสุดมีการค้นพบว่า อีก 300 ชีวิตอยู่ใต้ซาก ยังไม่ต้องรีบเชื่อ ปากคนน่ากลัวกว่าปากกา ใครจะเผ่นหนีความผิดก็รีบซะ เพราะอีกไม่นาน การกวาดล้างครั้งใหญ่จะมา เรื่องราวทั้งหมด ที่มันเละเทะ โสมม ต้องโดนล้างด้วยไฮเตอร์ขยี้เหี้ย ใครล่ะ จะทำ? งานนี้สายตรงวังเท่านั้น รับคำสั่งเบื้องบนให้ทำความสะอาดทั้งระบบ ผ่านองคมนตรี แต่ตอนนี้ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยก่อนน่ะ หน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยเต็มที่ แต่มีแขกที่ไม่ได้เชิญ เสือกเข้ามาด้วย อีเหี้ยมะกัน กับอียิวเสนียดโลก มันไม่ได้มาช่วยดอก แค่ตามมาดูผลงาน ว่าเรียบร้อยดีมั้ย? เจอหน้าเมื่อไหร่ ฝากบอก ฮูตีคิดมรึงมากน่ะ? จะเอาของขวัญไปฝากถึงบ้านมรึง รอรับให้ดี! จับตา ชักจะมีอะไรน่าสนใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง กำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่ ทรัมปป์ขู่ขึ้นกำแพงภาษีทั่วโลก ทองคำอาจพุ่งทะลุ $4500 ใครได้ประโยชน์เต็มตรีนกันล่ะ ทรัมปป์แลนด์ รัสเซีย จีน อาจเล่นละครตบตาโลก เพื่อเขย่า DEEP STATE ฝากไว้ให้คิด ใครที่ว่าทรัมปป์เป็น Q จริงหรือไม่ ชัวร์หรือไม่ชัวร์ ให้ดูตอนจบ ว่าอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ตายจริงหรือไม่? นั่นคือหลักฐานพิสูจน์คำตอบแท้จริง ใครสายดาร์ก ชอบเรื่องลึกลับ ซับซ้อน งานนี้อาจมีเฮ เพราะบอกเลยว่า อีฟรีเมสัน มันอยู่เฉยไม่ได้อีกแล้ว อีร็อดไชน์ อีร็อคกี้ เริ่มเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ หลังเจ้าพ่อตลาดหุ้นอย่างอีบุฟเฟ่ต์ ชิ่งอุ้มเงินสดถอดออกจากตลาดก่อน เพราะรู้ว่า "มันอันตรายถึงขีดสุดแล้ว พร้อมดิ่งนรกทุกเมื่อ" ใครมีหุ้นในมือตอนนี้ หากขาดทุนไม่เยอะ ถอนออกมาอุ้มเงินสดไว้ในมือ อย่าเสียดาย อย่าโลภ เพราะมรึงกำลังจะได้ของถูกแบบช็อคโลกเร็วๆ นี้ เงินสดอุ่นใจ ไม่ต้องฝากความหวังใคร แต่หากขาดทุนเยอะ ก็เก็บเอาไว้ก่อน บอกตรง ชั่วโมงนี้ เหวี่ยงสุดขีด กระโดดสุดตัว เดาไม่ง่าย อยู่ที่มันจะปั่นกันตอนไหน? ตลาดแบบนี้ โอกาสตายสูง หากไม่รวยเละ ก็เจ๊งยับ เพราะขึ้นสุด ลงสุดเช่นกัน เงินสดติดตัวคืออำนาจในมือ ออกจากตัว คืออำนาจคนอื่น

    หมี CNN(ไอ้สัส! อเมริกันอ่วม ซื้อรถแพงขึ้น $12000 แห่หันไปซื้อ EV แม้แพงขึ้นแต่ยังถูกกว่า ยิ่งไปเพิ่มตลาดให้จีน แต่เขี่ยตลาดรถยนต์ตัวเอง ภาคการผลิตอ่วม ทุกอย่างขึ้นหมด เพราะกำแพงภาษีอีทรัมปป์ ดึงโลกมาเล่นเกมส์ปาหี่กันหมด แต่เอเซียสบายตัว ไม่มีมรึง กูก็ยังอยู่ได้สบายดี แต่ยุโรปขี้แตกน่ะสิ ถึงเวลาพึ่งพาตัวเองเสียที แต่คำถามคือ เงินเฟ้อ แรงงานตก ไร้บ้านเพิ่ม สวัสดิการหดหาย เลือกตั้งแล้วได้อะไรดี เลือกตั้งแก้ปากท้องมรึงไม่ได้ แล้วจะเลือกทำพ่อง? สรุปคือแผ่นดินมีแค่กลุ่มคนชั้นสูงปกครอง อย่าถามหาเสรีภาพ สิทธิเหี้ยอะไรทั้งนั้น เป็นได้แค่ขี้ข้าไปจนวันตาย ใครจะรักมรึงจริงกันล่ะ หากไม่ใช่พ่อมรึงเอง?)
    02 เมษายน 68
    11.11 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    02-04-68/01 : หมี CNN / BREAKING NEWS "หมีม้าด่วน ม้าเร็ว ม้าหน้ามืด" EP.9 2 เมษายน "ม่วงทั้งแผ่นดิน" ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน รักสุดจิต สุดใจ เห็นพระเทพแล้ว ยังคงนึกถึงพ่อบนสรวงสวรรค์ จนป่านนี้ ท่านยังปฎิบัติภารกิจไม่เลิก พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกัน ราชวงศ์จักรี ยั่งยืนยง ชาวอโยธยาพร้อมถวายทุกสิ่ง เพื่อให้ทุกพระองค์ท่าน สุขเกษมสำราญ รักพระเทพ แสงสีม่วงจากนภากาศ แจ่มจรัสเหลือเกิน แสงสีทองส่องตามมา พระเทพผอมลง เพราะทรงงานหนักทุกวัน แต่สุขภาพยังแข็งแรง ขอจงทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน 10000 ปี 10000 ปี ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ.. มรึงคิดว่าจะเงียบเหรอ ดีออก? อ.ปานเทพซัดกลับอีร่านตุ๊ด วางเงินล้าน มีเท่าไหร่ พอจ่ายมั้ย ไอ้สัส! ตัดต่อเหี้ยๆ หมายังเอือมระอา แถจนควายลาตาย! ยิ่งดิ้น ยิ่งน่าสมเพช เค้ารู้กันหมดทั้งขบวนการแล้ว..ดีออก! พยานปากสำคัญแฉหมดเปลือกทุกขั้นตอน พยานมี หลักฐานมัดเพี๊ยบ กล้องมา คลิปโผล่ เทคนิควิทยาศาสตร์มาเต็ม ควายบอกเลิกเหอะมรึง? ยิ่งแถ ยิ่งอายหมา? สปอตไลท์หายไปไม่กี่วัน วันนี้กลับมาซัดต่อ เพราะเหี้ยปากมันดี จากโดนแค่ไม่กี่กระทง ระวัง มรึงจะโดนเป็นสิบ? เสี้ยนอยากหาผัวในคุกจนตัวสั่น! มรึงจะดิ้นยังไง? เค้ารู้หมดแล้ว ทุกเรื่องราว ผีอีโมหายตัวไปไหน ยังไง เมื่อไหร่ ทิ้งศพลงแม่น้ำกี่โมง รู้หมด ยังจะมาฉี่ท้ายเรือ โดนใบพัดเลยต่ออีก เชิญส่งมรึงไปหาศรีธัญญาน่าจะเหมาะ หรือมรึงวางตัวไว้เพื่อการณ์นี้ จบที่เป็นบ้า ไร้สติ เอาที่มรึงสบายใจ เป็นตุ๊ดน่ะมันไม่ผิดดอก ใครก็เป็นได้ แต่เป็น "ตุ๊ดหนักแผ่นดินเนี่ยสิ" ตุ๊ดดีดี ตุ๊ดสร้างสรรค์ เสียหายเพราะมรึง ทำลายสถาบันตุ๊ดที่มีมาอย่างยาวนาน ภาพขามรึงชัดๆ ยังจะแถไม่เลิก เค้าเรียก "ไปให้สุด แล้วจบที่ขุมนรก" ใครก็ตาม ไอ้อีหน้าไหนก็ตาม หากกล้ามาหาญท้าชะตาฟ้า ดวลกับอ.ปานเทพ กูเห็นมาเยอะแล้ว ศพไม่สวยซักราย อย่างมรึงเนี่ย "ตายคาจอ โง่คาที่ ปากดี ตายเร็วเสมอ" อีทรัมปป์ออกอาการ ฮูตีจัดหนัก เละเทะทั้งขบวนกองเรือ เรือรบ เรือบรรทุกเครื่องบิน ที่เก่าและล้าหลัง ยังกล้าเอาเข้ามาโชว์ หมาไม่เลิก ไปไม่เป็น สภาพยับเยิน สั่งสื่อห้ามลงภาพ แพ้แบบเสียหมา โถ..ขนาดอีเอ๋อ มันสั่ง มันส่ง ไปกี่ร้อยรอบ ผลลัพธ์ไม่แตกต่าง มรึงจะเอาเหี้ยอะไรไปวัดกับไฮเปอร์โซนิคของจริง ที่แม้แต่ของมรึงเองยังไม่ผ่าน QC เลย ดีออก? อีทรัมปป์ทำไมจะไม่รู้ แต่ช้าก่อน หากมรึงคิดจะเอาเยเมน เพื่อเป้าหมายจริงคืออิหร่าน กูจะบอกให้เอาบุญว่า อย่าคิดน่ะว่า เค้าจะไม่สวนตูดมรึงกลับบ้าง มัวแต่ส่งเหี้ยมาเที่ยวละลานชาวโลก ระวังหลังบ้านตัวเองให้ดีดี บอกแล้วน่ะ รอบบ้านมรึง ไฮเปอร์โซนิคประจำการนานแล้ว บุกเค้าเพลิน ระวังจะเสียหมาครั้งใหญ่ ทำเนียบขาวถูกยึด สิ่งที่น่ากลัวกว่าไม่ใช่อิหร่าน แต่เป็นคนในแผ่นดินต้องคำสาปมรึงต่างหาก ทั้งอีลา อี DEEP STATE มันจ้องมรึงตาไม่วาง เผลอเป็นเสียบ เงียบเป็นทุบ หยุดเป็นศอก จนตรอกเป็นหมา ยิ่งตอนนี้ มรึงคลั่งหนัก ยุบ ยุบ ยุบ แม่งทุกอย่าง ต่อไป อีตาเพน มันหันปากกระบอกปืนมาล่อมรึงซะเอง ระวังจะหนีไม่ทันน่ะจ๊ะ ที่มาว่าทำไม อีทรัมปป์กำลังจะวางแผนเข้าไปควบคุมอีตาเพน ตัดงบ โยกย้าย ทั้งหมดเพื่อต่อรอง จะอยู่กับกู หรือจะอยู่เหี้ยอีกฝั่ง มรึงเลือกมา? อีเหงียนไม่รอด โดนเหมือนกัน มันถี่ไปมุย? กลัวควายโลกไม่รู้เหรอว่า "ใครทำ?" ความจำสั้นกันจังน่ะมรึง? หลังมรึงล่อจีน ตุรกี พร้อมกัน สมัยอีเอ๋อ หลังจากนั้นไม่นาน พายุก็มา สึนามิก็โผล่ ไฟป่ามาตามนัด โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เสียหายยับ บังเอิญจังน่ะเนี่ย? HAARP ใช้ถี่ไป ระวังมันจะสะท้อนเข้าตัวมรึงเองน่ะ อาเซียนรู้ตัวแล้วว่า นาทีนี้แล้ว หากไม่จับมือกันไล่กระตืบเหี้ย ความมั่นคง ปลอดภัยของอาเซียน ไม่มีวันเกิดขึ้นจริง หากเหี้ยยังอยู่ ที่ผ่านมา มรึงก่อสงครามไกลตัว แต่งวดนี้ สงครามจะมาหามรึงถึงบ้าน อย่าลืมว่า JOHN KIM เคยพูดอะไรเอาไว้ เรือดำน้ำนิวเคลียร์โผล่ที่ชายฝั่งแคลิฟอร์เนียนับครั้งไม่ถ้วน ตบหน้าเหี้ยถึงถิ่น สัญญานจับ เรดาร์มรึง โคตรห่วย โผล่คราวนี้ จะเอาของขวัญไปฝาก แค่เม็ดเดียว อิ่มทั้งวอชิงตัน อยากลองชิมมั้ยล่ะ? ถามว่าอาเซียนสะเทือนมั้ย? ตอบเลยว่าไม่ เพราะพื้นฐานวางมาดี พึ่งพาตัวเองได้ อาหารมี ยามี พลังงานมี แต่มรึงต่างหากที่ไม่มี ถึงต้องเหี้ยใส่ เพื่อต่อรอง จากนี้ อีเหงียนคงได้จับมือไทย อิเหนา ซ้อมรบกับจีนถี่ยิบ เพราะอ่านเกมส์ว่า เหี้ยมันบุกแปซิฟิคแน่ และกลับกัน เตหะราน และโสมแดง อาจจะบุกหลังบ้านเหี้ยทันที เอาให้ดึงกองกำลังกลับบ้านไม่ทันเลยมรึง ตอนนี้ อีทรัมปป์เตรียมดึงกองกำลังออกจากตะวันออกกลาง เพื่อไปตั้งหลักรับมือ หากจะเปิดแปซิฟิค ขณะที่แนวร่วมเทมรึงซะขนาดนี้ โอกาสตายห่าสูงมาก ไม่ว่าจะทางไหน มรึงก็ดิ้นไม่หลุด หนีไม่พ้น พบแล้วจ๊ะ! ทหารมะกัน ที่หายตัวไป เจอตัวเป็นๆ แล้วจ๊ะ กลายเป็นศพคาดินโคลน ใกล้พรมแดนลิทัวเนีย 3 ศพนัวเนีย ไม่ต้องบอกว่าฝีมือใคร? ใครอยู่แถวนั้นล่ะ? ของฝากจากเบลารุสเค้าล่ะ? ซ้อมรบเหรอ มาสิจ๊ะ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ เข้ามาโซนสีแดงปุ๊บ เงียบหาย ไร้ร่องรอย? ช่วงนี้ ลูคาเชนโก ของขึ้น! หลังได้ของเล่นใหม่ดาหน้าเทกระจาดแบบไม่มีอั้น? อีโปลรู้ชะตากรรม สั่งลุยเมื่อไหร่ จบเร็วแน่ เพราะภูมิประเทศล้อมด้าน ง่ายต่อการโจมตีจากทุกทิศทาง เบลารุส คาลินินกราด เค้าจองกฐินนานแล้ว ยุโรปจะทำอะไรคิดให้ดีก่อน ไม่ใช่จะไปบุกเค้า แล้วโดนเค้าสวนกลับ ด้วยการยึดแผ่นดิน จะเสียหมาไปจนวันตาย หากจะเทหมดหน้าตัก เพื่อเดินเกมส์สงครามที่ไม่มีวันชนะ ถามคำเดียว "ใครได้ประโยชน์?" แต่ชาวบ้านจะแห่ลงถนนลากหัวไอ้นักการเมืองขายชาติมาตัดหัวแน่ นี่ไง ปชต.ตอแหล มันเคยให้มรึงกินอิ่ม หลับสบายมั้ยล่ะ? NATO เอือมระอา กับอีทรัมปป์ จะลุยก็เสียค่าโง่ ใครจะจ่าย ตุรกีไม่เอาแน่ ตราบใดที่อีแอร์โดกันยังอยู่ คลังแสงหมดไปเยอะ ใครมันจะเติมเพื่อช่วยเศษขยะยูเครนที่กำลังจะตาย ยังไงก็เสร็จรัสเซียไปนานแล้วกันล่ะ? ถามจริงดิ? อีทรัมปป์มันเก่งงานอีเว้นต์ "สงครามนุ๊กจะมา" โอม..เพี้ยง ยิงซะทีเหอะ จะได้จบๆ ขั้วใหม่ เค้าไม่กลัว เพราะยิงกันจริง กูถึงมรึงก่อน แล้วของจริง ใครจะปล่อยให้ GPS มรึงทำงานปกติกันล่ะ? ดาวเทียมคือสิ่งแรกที่ขั้วใหม่จะทำลาย ไม่ต้องให้บอก ว่าเค้าเตรียมไว้นานแล้ว อะไรที่อยู่ในอวกาศ มันคือเครื่องจักรสังหารดาวเทียม บอกไบ้ให้ ดาวเทียมจิ๋วอิหร่านเนี่ยแหละ ไอ้ตัวแสบ! มันจะทำหน้าที่ระบุ ชี้เป้า แม้แต่ทำลายตัวเองยังได้ แถมมันยังสามารถปล่อยคลื่นความถี่รบกวนดาวเทียมตัวใหญ่ได้หมด และตอนนี้ มันอยู่บนหัวเหี้ยมะกันตรงนั้นนานแล้ว ไม่ต้องบอกว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง? ฟันธง อีทรัมปป์ไม่กล้า แค่ปั่นตลาดหุ้น เหมือนที่มันทำอยู่ทุกวันนี้ วันนี้พูดอย่าง พรุ่งนี้ พูดอย่าง เปลี่ยนใจทุก 5 นาที เหตุผลคือ ทับหุ้นลง ช้อนซื้อ แล้วปล่อยข่าวใหม่ ปั่นให้ขึ้นแล้วปล่อยขาย หากแดร๊กง่ายดีมั้ยล่ะ? เพราะควายมันเยอะไง? อิหร่านเหรอ บอกเลย "ให้ไว" กูรอมรึงมาเป็นชาติแล้ว ปากดี เผ่นหางจุกตูด โลกคือละคร สิ่งที่อีทรัมปป์ทำอยู่ตอนนี้คือ ตัดท่อน้ำเลี้ยง DEEP STATE แล้วปั่นหุ้นหาแดร๊ก ไอ้กำแพงภาษีที่ทำโลกป่วนตอนนี้ แค่เคาะกะลาเรียกเรตติ้ง ดูไม่ยากดอก อีทรัมปป์หากรู้ว่ามันจะจบที่ไหน ที่เหลือเดาได้สบาย ทองคำกำเอาไว้ อย่าปล่อย โซเชี่ยลหลอกควายรายวัน ทั่วโลกแห่ช้อนซื้อทองคำ รอคิวยาวเหยียด มรึงจะปล่อยให้โง่? ตราบใดที่ยังไม่มีแร่ใดในโลก ที่จะขึ้นมาเทียบทองคำได้ อย่าปล่อย หากไม่ร้อนเงินจริง? 45000 ก็ทะลุมาแล้ว รอด่านต่อไป 65000 หากยังทะลุต่อ มรึงปล่อยทันที หากร้อนเงิน หากไม่ร้อน เก็บไว้ให้ลูกหลาน ตื่นมาอีกที บาทละ 100000 ไอ้สัส แต่ยังน้อยน่ะ 1 ออนซ์ทองคำ แลกรถยนต์ป้ายแดงอเมริกันได้ 1 คัน มรึงดูค่าเงินแท้จริงมันสิ? แล้วยังจะมีควายไปอุ้มดอลล่าร์ต่ออีกน่ะ? ปล.ทฤษฎีสมคบคิดมาเต็ม อะไรน่ะ! ตึกสตง.เลียนแบบ 9/11 ระเบิดรากฐานตึกก่อน ใครเข้าไปตรวจสอบพื้นที่กันล่ะ? หากเป็นอีตำหนวด บอกเลย จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง พร้อมบริการทำลายหลักฐานให้เบ็ดเสร็จ จับพิรุจ ตึกอื่นไม่ถล่ม ทั้งๆ อยู่ติดกัน ห่างกันไม่เยอะ ถล่มตึกเดียว น่าคิดมั้ย? วิถีการลงเป็นแนวดิ่งร่วงทันที เหมือน 9/11 มั้ยล่ะ? ทั้งเรื่องทุนจีนสีเทา ทั้งเรื่องการเมือง ต้องเป็นสตง. ทั้งเรื่องคอรัปชั่น อะไรที่ผุดออกมา ทำให้มรึงได้คิดเสียทีว่า "ความมั่นคง ปลอดภัย จะมาจากไหน" หากเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีหน้าที่บังคับกฎหมายกลายร่างเป็นเหี้ยเสียเอง มรึงจะทำยังไง? สาวไส้ไปมา ก็เรื่องแดร๊ก เหล็กเส้น ออกแบบ เร่งรีบก่อสร้าง เพื่อเบิกงบงวดต่อไป ใครเซ็นต์ ใครรับรองแบบ หนีไม่พ้นคุกจ๊ะ ล่าสุดมีการค้นพบว่า อีก 300 ชีวิตอยู่ใต้ซาก ยังไม่ต้องรีบเชื่อ ปากคนน่ากลัวกว่าปากกา ใครจะเผ่นหนีความผิดก็รีบซะ เพราะอีกไม่นาน การกวาดล้างครั้งใหญ่จะมา เรื่องราวทั้งหมด ที่มันเละเทะ โสมม ต้องโดนล้างด้วยไฮเตอร์ขยี้เหี้ย ใครล่ะ จะทำ? งานนี้สายตรงวังเท่านั้น รับคำสั่งเบื้องบนให้ทำความสะอาดทั้งระบบ ผ่านองคมนตรี แต่ตอนนี้ ช่วยผู้ประสบอุทกภัยก่อนน่ะ หน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยเต็มที่ แต่มีแขกที่ไม่ได้เชิญ เสือกเข้ามาด้วย อีเหี้ยมะกัน กับอียิวเสนียดโลก มันไม่ได้มาช่วยดอก แค่ตามมาดูผลงาน ว่าเรียบร้อยดีมั้ย? เจอหน้าเมื่อไหร่ ฝากบอก ฮูตีคิดมรึงมากน่ะ? จะเอาของขวัญไปฝากถึงบ้านมรึง รอรับให้ดี! จับตา ชักจะมีอะไรน่าสนใจ อีทรัมปป์ ปูติน สีจิ้นผิง กำลังเล่นเกมส์อะไรอยู่ ทรัมปป์ขู่ขึ้นกำแพงภาษีทั่วโลก ทองคำอาจพุ่งทะลุ $4500 ใครได้ประโยชน์เต็มตรีนกันล่ะ ทรัมปป์แลนด์ รัสเซีย จีน อาจเล่นละครตบตาโลก เพื่อเขย่า DEEP STATE ฝากไว้ให้คิด ใครที่ว่าทรัมปป์เป็น Q จริงหรือไม่ ชัวร์หรือไม่ชัวร์ ให้ดูตอนจบ ว่าอียิวเหี้ยไซออนนิสต์ตายจริงหรือไม่? นั่นคือหลักฐานพิสูจน์คำตอบแท้จริง ใครสายดาร์ก ชอบเรื่องลึกลับ ซับซ้อน งานนี้อาจมีเฮ เพราะบอกเลยว่า อีฟรีเมสัน มันอยู่เฉยไม่ได้อีกแล้ว อีร็อดไชน์ อีร็อคกี้ เริ่มเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ หลังเจ้าพ่อตลาดหุ้นอย่างอีบุฟเฟ่ต์ ชิ่งอุ้มเงินสดถอดออกจากตลาดก่อน เพราะรู้ว่า "มันอันตรายถึงขีดสุดแล้ว พร้อมดิ่งนรกทุกเมื่อ" ใครมีหุ้นในมือตอนนี้ หากขาดทุนไม่เยอะ ถอนออกมาอุ้มเงินสดไว้ในมือ อย่าเสียดาย อย่าโลภ เพราะมรึงกำลังจะได้ของถูกแบบช็อคโลกเร็วๆ นี้ เงินสดอุ่นใจ ไม่ต้องฝากความหวังใคร แต่หากขาดทุนเยอะ ก็เก็บเอาไว้ก่อน บอกตรง ชั่วโมงนี้ เหวี่ยงสุดขีด กระโดดสุดตัว เดาไม่ง่าย อยู่ที่มันจะปั่นกันตอนไหน? ตลาดแบบนี้ โอกาสตายสูง หากไม่รวยเละ ก็เจ๊งยับ เพราะขึ้นสุด ลงสุดเช่นกัน เงินสดติดตัวคืออำนาจในมือ ออกจากตัว คืออำนาจคนอื่น หมี CNN(ไอ้สัส! อเมริกันอ่วม ซื้อรถแพงขึ้น $12000 แห่หันไปซื้อ EV แม้แพงขึ้นแต่ยังถูกกว่า ยิ่งไปเพิ่มตลาดให้จีน แต่เขี่ยตลาดรถยนต์ตัวเอง ภาคการผลิตอ่วม ทุกอย่างขึ้นหมด เพราะกำแพงภาษีอีทรัมปป์ ดึงโลกมาเล่นเกมส์ปาหี่กันหมด แต่เอเซียสบายตัว ไม่มีมรึง กูก็ยังอยู่ได้สบายดี แต่ยุโรปขี้แตกน่ะสิ ถึงเวลาพึ่งพาตัวเองเสียที แต่คำถามคือ เงินเฟ้อ แรงงานตก ไร้บ้านเพิ่ม สวัสดิการหดหาย เลือกตั้งแล้วได้อะไรดี เลือกตั้งแก้ปากท้องมรึงไม่ได้ แล้วจะเลือกทำพ่อง? สรุปคือแผ่นดินมีแค่กลุ่มคนชั้นสูงปกครอง อย่าถามหาเสรีภาพ สิทธิเหี้ยอะไรทั้งนั้น เป็นได้แค่ขี้ข้าไปจนวันตาย ใครจะรักมรึงจริงกันล่ะ หากไม่ใช่พ่อมรึงเอง?) 02 เมษายน 68 11.11 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 Comments 0 Shares 978 Views 0 Reviews
  • ปัจจุบัน **ยังไม่มีวิธีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำและถูกต้อง 100%** ในทางวิทยาศาสตร์ แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ซับซ้อน และยังไม่มีเทคโนโลยีหรือวิธีการใดที่สามารถทำนายเวลา สถานที่ และขนาดของแผ่นดินไหวได้อย่างแน่นอน

    ### **เหตุผลที่การพยากรณ์แผ่นดินไหวยังทำได้ยาก**
    1. **กระบวนการเกิดแผ่นดินไหวซับซ้อน**
    - แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกอย่างฉับพลัน ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเค้น (stress) การสะสมพลังงาน และความเสียดทานระหว่างหิน
    - การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นใต้ดินลึก ทำให้ติดตามและวัดได้ยาก

    2. **ขาดข้อมูลที่เพียงพอ**
    - แม้จะมีเครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (seismometers) และระบบ GPS ติดตามการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แต่ข้อมูลเหล่านี้มักบอกได้เพียง **"ความเสี่ยง"** ของพื้นที่ ไม่ใช่เวลาที่แน่นอน

    3. **ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่ชัดเจน**
    - บางครั้งอาจพบสัญญาณก่อนเกิดแผ่นดินไหว เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน หรือการเกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ (foreshocks) แต่ก็ไม่เสมอไป และมักไม่สามารถยืนยันได้จนกว่าแผ่นดินไหวใหญ่จะเกิดขึ้น

    ### **ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในการเตือนภัยแผ่นดินไหว**
    แม้จะไม่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า แต่มีระบบที่ช่วย **เตือนภัยก่อนเกิดแผ่นดินไหว (Early Warning System)** เช่น:
    - **ระบบ ShakeAlert (สหรัฐฯ), ระบบ J-Alert (ญี่ปุ่น)**
    - ใช้คลื่นแผ่นดินไหวที่เดินทางเร็วกว่า (คลื่น P) เพื่อส่งสัญญาณเตือนก่อนที่คลื่นทำลาย (คลื่น S) จะมาถึง
    - ช่วยให้มีเวลาเตรียมตัว **เพียงไม่กี่วินาทีถึงนาที**

    - **การประเมินความเสี่ยงระยะยาว**
    - นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุ **พื้นที่เสี่ยงสูง** จากประวัติแผ่นดินไหวและรอยเลื่อนมีพลัง เช่น แถบวงแหวนไฟแปซิฟิก (Ring of Fire)

    ### **ข้อสรุป**
    - **ยังไม่มีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำ** ในแง่ของการบอกเวลาและขนาดได้ล่วงหน้า
    - **ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว (Early Warning)** สามารถช่วยลดความเสียหายได้บ้าง แต่ให้เวลาเตรียมตัวน้อยมาก
    - วิธีที่ดีที่สุดคือ **เตรียมความพร้อม** เช่น รู้จุดปลอดภัยในบ้าน มีชุดฉุกเฉิน และฝึกซ้อม应对แผ่นดินไหว

    หากมีข่าวเกี่ยวกับการทำนายแผ่นดินไหวที่อ้างว่าแม่นยำ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาให้ดี เพราะปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถทำได้อย่างแน่นอน!
    ปัจจุบัน **ยังไม่มีวิธีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำและถูกต้อง 100%** ในทางวิทยาศาสตร์ แผ่นดินไหวเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ซับซ้อน และยังไม่มีเทคโนโลยีหรือวิธีการใดที่สามารถทำนายเวลา สถานที่ และขนาดของแผ่นดินไหวได้อย่างแน่นอน ### **เหตุผลที่การพยากรณ์แผ่นดินไหวยังทำได้ยาก** 1. **กระบวนการเกิดแผ่นดินไหวซับซ้อน** - แผ่นดินไหวเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกอย่างฉับพลัน ซึ่งมีปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความเค้น (stress) การสะสมพลังงาน และความเสียดทานระหว่างหิน - การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นใต้ดินลึก ทำให้ติดตามและวัดได้ยาก 2. **ขาดข้อมูลที่เพียงพอ** - แม้จะมีเครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (seismometers) และระบบ GPS ติดตามการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แต่ข้อมูลเหล่านี้มักบอกได้เพียง **"ความเสี่ยง"** ของพื้นที่ ไม่ใช่เวลาที่แน่นอน 3. **ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าที่ชัดเจน** - บางครั้งอาจพบสัญญาณก่อนเกิดแผ่นดินไหว เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน หรือการเกิดแผ่นดินไหวเล็กๆ (foreshocks) แต่ก็ไม่เสมอไป และมักไม่สามารถยืนยันได้จนกว่าแผ่นดินไหวใหญ่จะเกิดขึ้น ### **ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในการเตือนภัยแผ่นดินไหว** แม้จะไม่สามารถพยากรณ์ได้ล่วงหน้า แต่มีระบบที่ช่วย **เตือนภัยก่อนเกิดแผ่นดินไหว (Early Warning System)** เช่น: - **ระบบ ShakeAlert (สหรัฐฯ), ระบบ J-Alert (ญี่ปุ่น)** - ใช้คลื่นแผ่นดินไหวที่เดินทางเร็วกว่า (คลื่น P) เพื่อส่งสัญญาณเตือนก่อนที่คลื่นทำลาย (คลื่น S) จะมาถึง - ช่วยให้มีเวลาเตรียมตัว **เพียงไม่กี่วินาทีถึงนาที** - **การประเมินความเสี่ยงระยะยาว** - นักวิทยาศาสตร์สามารถระบุ **พื้นที่เสี่ยงสูง** จากประวัติแผ่นดินไหวและรอยเลื่อนมีพลัง เช่น แถบวงแหวนไฟแปซิฟิก (Ring of Fire) ### **ข้อสรุป** - **ยังไม่มีการพยากรณ์แผ่นดินไหวที่แม่นยำ** ในแง่ของการบอกเวลาและขนาดได้ล่วงหน้า - **ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว (Early Warning)** สามารถช่วยลดความเสียหายได้บ้าง แต่ให้เวลาเตรียมตัวน้อยมาก - วิธีที่ดีที่สุดคือ **เตรียมความพร้อม** เช่น รู้จุดปลอดภัยในบ้าน มีชุดฉุกเฉิน และฝึกซ้อม应对แผ่นดินไหว หากมีข่าวเกี่ยวกับการทำนายแผ่นดินไหวที่อ้างว่าแม่นยำ ควรตรวจสอบแหล่งที่มาให้ดี เพราะปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถทำได้อย่างแน่นอน!
    0 Comments 0 Shares 340 Views 0 Reviews
  • คิดดูนะว่าในวงโคจรโลกต่ำมีดาวเทียมมากกว่า 10,000 ดวงแล้ว การชนกันเป็นเรื่องเสี่ยงมาก แต่ตอนนี้นักวิจัยที่ Los Alamos มีทางแก้ด้วย Spacecraft Speedometer อุปกรณ์นี้ช่วยวัดความเร็วและตำแหน่งของดาวเทียมได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้หลักการเหมือนรถที่ขับผ่านฝนแล้วกระจกรถด้านหน้าจะโดนฝนเยอะกว่า เทคโนโลยีนี้ไม่ต้องพึ่ง GPS ที่มักเจอปัญหาเวลาเกิดพายุสุริยะ แถมยังเอาไปใช้ในการสำรวจอวกาศได้อีกด้วย เป็นก้าวสำคัญของการจัดการจราจรในอวกาศ

    หลักการทำงาน:
    - Spacecraft Speedometer ใช้ พลาสมาโพรบคู่แบบลามิเนต เพื่อตรวจจับอนุภาคประจุ (ไอออนและอิเล็กตรอน) ที่กระทบด้านหน้าและหลังของยานอวกาศ ซึ่งเปรียบเสมือนรถที่ขับผ่านฝน: ด้านหน้ารถจะโดนฝนมากกว่าด้านหลัง การวิเคราะห์ข้อมูลนี้ช่วยวัดความเร็วและตำแหน่งของดาวเทียม.

    การแก้ปัญหาเดิม:
    - GPS แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แพร่หลาย แต่มีความไม่เสถียรในช่วงพายุสุริยะ และสถานีภาคพื้นดินสามารถติดตามดาวเทียมได้เพียงเป็นช่วงเวลา แต่ Spacecraft Speedometer ให้ข้อมูลความเร็วต่อเนื่องแม้ในสภาวะอากาศอวกาศรุนแรง.

    การใช้งานในอนาคต:
    - เทคโนโลยีนี้สามารถประยุกต์ใช้ในภารกิจลึกไปในอวกาศ เช่น การติดตามการแทรกวงโคจรในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์อื่น ๆ หรือการวัดระดับประจุอนุภาคที่อาจก่ออันตรายต่อยานอวกาศ.

    https://www.techspot.com/news/107199-spacecraft-speedometer-promises-precise-satellite-positioning-no-gps.html
    คิดดูนะว่าในวงโคจรโลกต่ำมีดาวเทียมมากกว่า 10,000 ดวงแล้ว การชนกันเป็นเรื่องเสี่ยงมาก แต่ตอนนี้นักวิจัยที่ Los Alamos มีทางแก้ด้วย Spacecraft Speedometer อุปกรณ์นี้ช่วยวัดความเร็วและตำแหน่งของดาวเทียมได้แบบเรียลไทม์ โดยใช้หลักการเหมือนรถที่ขับผ่านฝนแล้วกระจกรถด้านหน้าจะโดนฝนเยอะกว่า เทคโนโลยีนี้ไม่ต้องพึ่ง GPS ที่มักเจอปัญหาเวลาเกิดพายุสุริยะ แถมยังเอาไปใช้ในการสำรวจอวกาศได้อีกด้วย เป็นก้าวสำคัญของการจัดการจราจรในอวกาศ หลักการทำงาน: - Spacecraft Speedometer ใช้ พลาสมาโพรบคู่แบบลามิเนต เพื่อตรวจจับอนุภาคประจุ (ไอออนและอิเล็กตรอน) ที่กระทบด้านหน้าและหลังของยานอวกาศ ซึ่งเปรียบเสมือนรถที่ขับผ่านฝน: ด้านหน้ารถจะโดนฝนมากกว่าด้านหลัง การวิเคราะห์ข้อมูลนี้ช่วยวัดความเร็วและตำแหน่งของดาวเทียม. การแก้ปัญหาเดิม: - GPS แม้จะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้แพร่หลาย แต่มีความไม่เสถียรในช่วงพายุสุริยะ และสถานีภาคพื้นดินสามารถติดตามดาวเทียมได้เพียงเป็นช่วงเวลา แต่ Spacecraft Speedometer ให้ข้อมูลความเร็วต่อเนื่องแม้ในสภาวะอากาศอวกาศรุนแรง. การใช้งานในอนาคต: - เทคโนโลยีนี้สามารถประยุกต์ใช้ในภารกิจลึกไปในอวกาศ เช่น การติดตามการแทรกวงโคจรในชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์อื่น ๆ หรือการวัดระดับประจุอนุภาคที่อาจก่ออันตรายต่อยานอวกาศ. https://www.techspot.com/news/107199-spacecraft-speedometer-promises-precise-satellite-positioning-no-gps.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Spacecraft Speedometer promises precise satellite positioning, no GPS required
    The Los Alamos National Laboratory has introduced the "Spacecraft Speedometer," a novel technology for tracking satellites in low Earth orbit. This compact, resource-efficient device can precisely measure...
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • มีรายงานว่าสหรัฐเตรียมส่งระเบิด GLSDB ไปยังยูเครน ซึ่งรวมอยู่ในความช่วยเหลือที่กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง

    ระเบิด Ground-Launched Small Diameter Bombs (GLSDB) เป็นอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง โดยออกแบบมาเพื่อโจมตีระยะไกล ซึ่งจะสามารถสร้างอันตรายต่อฐานที่มั่นของรัสเซียได้

    🔹 พิสัยทำการ: 150 กม. (94 ไมล์)
    🔹 ระบบนำทาง: GPS สามารถยิงเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้
    🔹 ระบบปล่อย: ใช้ร่วมกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS
    🔹 น้ำหนักหัวรบ: หัวรบระเบิดแรงสูง 93 กก. (205 ปอนด์)
    🔹 การอัปเกรดล่าสุด: สามารถต่อต้านระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) และการรบกวนสัญญาณของฝ่ายรัสเซียได้ดีขึ้น
    มีรายงานว่าสหรัฐเตรียมส่งระเบิด GLSDB ไปยังยูเครน ซึ่งรวมอยู่ในความช่วยเหลือที่กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง ระเบิด Ground-Launched Small Diameter Bombs (GLSDB) เป็นอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง โดยออกแบบมาเพื่อโจมตีระยะไกล ซึ่งจะสามารถสร้างอันตรายต่อฐานที่มั่นของรัสเซียได้ 🔹 พิสัยทำการ: 150 กม. (94 ไมล์) 🔹 ระบบนำทาง: GPS สามารถยิงเป้าหมายที่เคลื่อนที่ได้ 🔹 ระบบปล่อย: ใช้ร่วมกับเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง HIMARS MLRS 🔹 น้ำหนักหัวรบ: หัวรบระเบิดแรงสูง 93 กก. (205 ปอนด์) 🔹 การอัปเกรดล่าสุด: สามารถต่อต้านระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) และการรบกวนสัญญาณของฝ่ายรัสเซียได้ดีขึ้น
    0 Comments 0 Shares 388 Views 0 Reviews
  • “คมนาคม”สั่ง ขบ.-ทล.สำรวจจุดเสี่ยงถนนลงเขาลาดชัด จัดโซนนิ่งห้ามรถ 2 ชั้นแบบเช่าเหมาผ่าน "แม่ฮ่องสอน น่าน และทล. 304" พร้อมปรับปรุงป้ายเตือน เพิ่มคนขับ 2 คน ระยะทาง 400 กม. เพิ่มระบบเตือนล่วงหน้าใน GPS ขบ.เผยคุมกำเนิดรถ 2 ชั้นห้ามจดทะเบียนตั้งแต่ปี 60

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000021146

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “คมนาคม”สั่ง ขบ.-ทล.สำรวจจุดเสี่ยงถนนลงเขาลาดชัด จัดโซนนิ่งห้ามรถ 2 ชั้นแบบเช่าเหมาผ่าน "แม่ฮ่องสอน น่าน และทล. 304" พร้อมปรับปรุงป้ายเตือน เพิ่มคนขับ 2 คน ระยะทาง 400 กม. เพิ่มระบบเตือนล่วงหน้าใน GPS ขบ.เผยคุมกำเนิดรถ 2 ชั้นห้ามจดทะเบียนตั้งแต่ปี 60 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000021146 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 881 Views 0 Reviews
  • “คมนาคม”สั่ง ขบ.เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และความเร็ว GPS สาเหตุรถทัวร์คณะดูงานเทศบาลบึงกาฬคว่ำ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุบัติเหตุโดยด่วน “สุรพงษ์” แสดงความเสียใจ เน้นย้ำมาตรฐานความปลอดสูงสุด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019072

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “คมนาคม”สั่ง ขบ.เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และความเร็ว GPS สาเหตุรถทัวร์คณะดูงานเทศบาลบึงกาฬคว่ำ พร้อมช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุบัติเหตุโดยด่วน “สุรพงษ์” แสดงความเสียใจ เน้นย้ำมาตรฐานความปลอดสูงสุด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019072 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    11
    0 Comments 0 Shares 1284 Views 0 Reviews
  • "ปานเทพ"บุกกลางวง หาความจริงจากปาก"อู๊ด" : [THE MESSAGE]

    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางไปกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ขณะที่ นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ และ นายธนกฤต วงศ์สุวรรณ หรือ บอล เจ้าของโรงเก็บเรือ NBC กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยนายอู๊ดและนายบอลยกมือไหว้ขอโทษนายปานเทพ ในสิ่งที่ได้กล่าวพาดพิงล่วงเกิน ซึ่งนายปานเทพ ระบุ ไม่ได้ถือโทษโกรธใคร สิ่งที่ทำในฐานะสื่อมวลชนก็ยังไม่ได้กล่าวหาใคร เป็นการตั้งคำถาม ซึ่งคำถามในส่วนของนายอู๊ดกับนายบอลมีเรื่องเดียวคือ มีความสัมพันธ์กับคนบนเรือทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะรู้จักคนแวดวงเรือ แต่ในฐานะคนกลางต้องได้รับการตรวจสอบจากคนที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคนบนเรือด้วย และต้องการให้ชี้แจงเรื่องเวลา GPS ของเรือบริเวณใต้สะพานซังฮี้ ที่ปรากฏเป็นเวลา 22.11 น. ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลของตำรวจที่อ้างว่าเวลาอยู่ที่ 22.18 น. หากนายอู๊ดไม่รับรู้ตรงนี้ ก็แสดงว่าตำรวจเป็นคนจัดการ ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญ เพราะเป็นการเปลี่ยนเวลาที่ไม่สัมพันธ์กับ GPS ของเรือ
    "ปานเทพ"บุกกลางวง หาความจริงจากปาก"อู๊ด" : [THE MESSAGE] นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เดินทางไปกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ขณะที่ นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ และ นายธนกฤต วงศ์สุวรรณ หรือ บอล เจ้าของโรงเก็บเรือ NBC กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยนายอู๊ดและนายบอลยกมือไหว้ขอโทษนายปานเทพ ในสิ่งที่ได้กล่าวพาดพิงล่วงเกิน ซึ่งนายปานเทพ ระบุ ไม่ได้ถือโทษโกรธใคร สิ่งที่ทำในฐานะสื่อมวลชนก็ยังไม่ได้กล่าวหาใคร เป็นการตั้งคำถาม ซึ่งคำถามในส่วนของนายอู๊ดกับนายบอลมีเรื่องเดียวคือ มีความสัมพันธ์กับคนบนเรือทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะรู้จักคนแวดวงเรือ แต่ในฐานะคนกลางต้องได้รับการตรวจสอบจากคนที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคนบนเรือด้วย และต้องการให้ชี้แจงเรื่องเวลา GPS ของเรือบริเวณใต้สะพานซังฮี้ ที่ปรากฏเป็นเวลา 22.11 น. ซึ่งไม่ตรงกับข้อมูลของตำรวจที่อ้างว่าเวลาอยู่ที่ 22.18 น. หากนายอู๊ดไม่รับรู้ตรงนี้ ก็แสดงว่าตำรวจเป็นคนจัดการ ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญ เพราะเป็นการเปลี่ยนเวลาที่ไม่สัมพันธ์กับ GPS ของเรือ
    Like
    Love
    13
    0 Comments 0 Shares 1003 Views 59 0 Reviews
  • สองแถวแปลงร่าง พลิกโฉมขนส่งท้องถิ่น

    เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 หรือ Bangkok Design Week 2025 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในนิทรรศการที่น่าสนใจ คือ สองแถวแปลงร่าง จัดแสดงรถสองแถวต้นแบบ ที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด ผู้ให้บริการขอนแก่นซิตี้บัส จังหวัดขอนแก่น และเมย์เดย์ กลุ่มนักออกแบบนวัตกรรมเกี่ยวกับการเดินทาง ร่วมกันออกแบบและพัฒนาขึ้น โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี

    จากการสอบถามทีมงานที่ร่วมพัฒนารถสองแถว ระบุว่า ต้นทุนในการประกอบรถสองแถว รวมระบบต่างๆ เช่น GPS และระบบจัดเก็บค่าโดยสาร รวมกันโดยประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท

    รถสองแถวแปลงร่าง ออกแบบภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ความสะดวกในการเดินทาง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมแอปพลิเคชัน ที่สามารถระบุตำแหน่งของรถโดยสาร และเวลาที่รถจะมาถึง ณ จุดจอด โดยตัวรถโดยสารมีขนาดเล็ก ทำให้คล่องตัวในการขับขี่และจอดรับส่ง ทางขึ้น-ลง 2 ทางเพื่อความคล่องตัว บันไดทางขึ้นเฉพาะด้านข้างตัวรถ เพื่อความปลอดภัย ส่วนภายในรถโดยสารมีระบบหมุนเวียนอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้ แม้ปิดหน้าต่างเวลาฝนตก

    ระบบแจ้งจุดจอดถัดไป รูปแบบจอภาพและเสียง พัฒนาระบบโดย บัสซิ่ง ทรานสิท และระบบการจ่ายเงิน ที่รองรับสังคมไร้เงินสด เช่น จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด แตะบัตรโดยสาร และเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ รองรับธนบัตรและเหรียญ ที่นั่งมีทั้งหมด 10 ที่นั่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัย โดยมีที่นั่งสีแดง เป็นที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไว-ไฟ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และช่องทางการติดต่อกับคนขับภายในห้องโดยสาร ผ่านระบบอินเตอร์คอมอีกด้วย

    แต่เนื่องจากข้อจำกัดของรถกระบะ ทำให้ไม่สามารถทำเป็นรถชานต่ำได้ แต่ได้ออกแบบให้ขึ้น-ลงง่าย มีราวจับมั่นคงแทน รวมทั้งการที่ยังคงเปิดท้ายด้านหลัง เพราะตามกฎหมายการขนส่งทางบก รถโดยสารมาตรฐาน 3 ฉ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ จำนวนที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 12 ที่นั่ง กำหนดให้ประตูทางขึ้น-ลงต้องเป็นด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ แต่ได้เปลี่ยนให้ขึ้นรถจากด้านข้างแล้วลงทางด้านหลังแทน

    สำหรับนิทรรศการรถสองแถวแปลงร่าง จะจัดแสดงถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 และทดลองให้บริการในเส้นทางวงกลม เสาชิงช้า เอ็มอาร์ทีสามยอด ประตูผี ถนนราชดำเนินกลาง และถนนดินสอ ในวันเสาร์ที่ 22 และวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00 น. หลังจากนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทางหมู่บ้านทิพวัล จ.สมุทรปราการ ซึ่งใกล้กับโรงงานโตโยต้าสำโรง กลางปี 2568 ต่อไป

    #Newskit
    สองแถวแปลงร่าง พลิกโฉมขนส่งท้องถิ่น เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2568 หรือ Bangkok Design Week 2025 ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในนิทรรศการที่น่าสนใจ คือ สองแถวแปลงร่าง จัดแสดงรถสองแถวต้นแบบ ที่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท บัสซิ่ง ทรานสิท จำกัด ผู้ให้บริการขอนแก่นซิตี้บัส จังหวัดขอนแก่น และเมย์เดย์ กลุ่มนักออกแบบนวัตกรรมเกี่ยวกับการเดินทาง ร่วมกันออกแบบและพัฒนาขึ้น โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 1 ปี จากการสอบถามทีมงานที่ร่วมพัฒนารถสองแถว ระบุว่า ต้นทุนในการประกอบรถสองแถว รวมระบบต่างๆ เช่น GPS และระบบจัดเก็บค่าโดยสาร รวมกันโดยประมาณไม่ถึง 1 ล้านบาท รถสองแถวแปลงร่าง ออกแบบภายใต้แนวคิดที่มุ่งเน้นความปลอดภัย ความสะดวกในการเดินทาง และความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร พร้อมแอปพลิเคชัน ที่สามารถระบุตำแหน่งของรถโดยสาร และเวลาที่รถจะมาถึง ณ จุดจอด โดยตัวรถโดยสารมีขนาดเล็ก ทำให้คล่องตัวในการขับขี่และจอดรับส่ง ทางขึ้น-ลง 2 ทางเพื่อความคล่องตัว บันไดทางขึ้นเฉพาะด้านข้างตัวรถ เพื่อความปลอดภัย ส่วนภายในรถโดยสารมีระบบหมุนเวียนอากาศ ให้อากาศถ่ายเทได้ แม้ปิดหน้าต่างเวลาฝนตก ระบบแจ้งจุดจอดถัดไป รูปแบบจอภาพและเสียง พัฒนาระบบโดย บัสซิ่ง ทรานสิท และระบบการจ่ายเงิน ที่รองรับสังคมไร้เงินสด เช่น จ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด แตะบัตรโดยสาร และเครื่องจ่ายเงินอัตโนมัติ รองรับธนบัตรและเหรียญ ที่นั่งมีทั้งหมด 10 ที่นั่ง พร้อมเข็มขัดนิรภัย โดยมีที่นั่งสีแดง เป็นที่นั่งสำรองสำหรับบุคคลพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ไว-ไฟ ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือ และช่องทางการติดต่อกับคนขับภายในห้องโดยสาร ผ่านระบบอินเตอร์คอมอีกด้วย แต่เนื่องจากข้อจำกัดของรถกระบะ ทำให้ไม่สามารถทำเป็นรถชานต่ำได้ แต่ได้ออกแบบให้ขึ้น-ลงง่าย มีราวจับมั่นคงแทน รวมทั้งการที่ยังคงเปิดท้ายด้านหลัง เพราะตามกฎหมายการขนส่งทางบก รถโดยสารมาตรฐาน 3 ฉ ไม่มีเครื่องปรับอากาศ จำนวนที่นั่งผู้โดยสารไม่เกิน 12 ที่นั่ง กำหนดให้ประตูทางขึ้น-ลงต้องเป็นด้านข้างหรือด้านท้ายของรถ แต่ได้เปลี่ยนให้ขึ้นรถจากด้านข้างแล้วลงทางด้านหลังแทน สำหรับนิทรรศการรถสองแถวแปลงร่าง จะจัดแสดงถึงวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 และทดลองให้บริการในเส้นทางวงกลม เสาชิงช้า เอ็มอาร์ทีสามยอด ประตูผี ถนนราชดำเนินกลาง และถนนดินสอ ในวันเสาร์ที่ 22 และวันอาทิตย์ที่ 23 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 15.00-20.00 น. หลังจากนั้น บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด มีแผนจะนำมาให้บริการในเส้นทางหมู่บ้านทิพวัล จ.สมุทรปราการ ซึ่งใกล้กับโรงงานโตโยต้าสำโรง กลางปี 2568 ต่อไป #Newskit
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 909 Views 0 Reviews
  • “ดีเอสไอ” เร่งสืบสวนคดีแตงโม เรียก "ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ" ให้ปากคำยืนยันข้อมูลเดิม ไม่มีแก้ไข GPS เรือ - "ปภิณวิช" เจ้าของเรือเดิม หลบสื่อ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000016206

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ดีเอสไอ” เร่งสืบสวนคดีแตงโม เรียก "ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ" ให้ปากคำยืนยันข้อมูลเดิม ไม่มีแก้ไข GPS เรือ - "ปภิณวิช" เจ้าของเรือเดิม หลบสื่อ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000016206 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    9
    0 Comments 0 Shares 780 Views 0 Reviews
  • "อู๊ด" ยันไม่ได้แก้ GPS พิกัดต่างเป็นการเดินเรือ : [NEWS UPDATE]

    นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และนำหลักฐานเอกสารใบรับรองว่ามีความเชี่ยวชาญด้าน GPS เรือนานกว่า 30 ปี มายืนยันข้อมูลการเดินเรือ การติดตั้ง GPS เรือในวันที่เกิดเหตุ ยืนยันตนไม่ได้เปลี่ยนแปลง GPS เรือ โดยเป็นหลักฐานเดียวกับที่เคยยื่นไว้กับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งจะทำให้รู้ว่าวันเกิดเหตุเรือเดินทางไปในทิศทางใด สามารถดูพิกัดได้ว่าหัวเรือหันไปในทิศทางใด จอดหยุดนิ่งตรงจุดไหนในแม่น้ำ อยู่ที่ความลึกของแม่น้ำเท่าไหร่ เวลาไหน รวมถึงความเร็วในการแล่นเรือ โดยการตรวจสอบได้ทำงานร่วมกับบริษัท แนฟเกียร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าเกี่ยวกับระบบ GPS เรือ อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GPS ต่างกับข้อมูล GPS ของนายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และวิเคราะห์ระบบ GPS เนื่องจากข้อมูลของตัวเองเป็น GPS การเดินเรือ แต่ข้อมูลของนายเอกราช เป็น GPS การเดินทางบนบก ส่วนกรณีเซ็นเซอร์ใบพัดเรือหากโดนวัตถุบางอย่างจะทำงานทำให้เรือหยุด ได้ให้ข้อมูลไปแล้ว อยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้



    ถอนป่วยทิพย์ข้อมูลไม่พอ

    ซัดเพื่อไทยเลี่ยงตรวจสอบ

    รวบแก๊งฟอกเงินอาชญากร

    ครม.สงขลาผ่านงบ 300 ล้าน
    "อู๊ด" ยันไม่ได้แก้ GPS พิกัดต่างเป็นการเดินเรือ : [NEWS UPDATE] นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และนำหลักฐานเอกสารใบรับรองว่ามีความเชี่ยวชาญด้าน GPS เรือนานกว่า 30 ปี มายืนยันข้อมูลการเดินเรือ การติดตั้ง GPS เรือในวันที่เกิดเหตุ ยืนยันตนไม่ได้เปลี่ยนแปลง GPS เรือ โดยเป็นหลักฐานเดียวกับที่เคยยื่นไว้กับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งจะทำให้รู้ว่าวันเกิดเหตุเรือเดินทางไปในทิศทางใด สามารถดูพิกัดได้ว่าหัวเรือหันไปในทิศทางใด จอดหยุดนิ่งตรงจุดไหนในแม่น้ำ อยู่ที่ความลึกของแม่น้ำเท่าไหร่ เวลาไหน รวมถึงความเร็วในการแล่นเรือ โดยการตรวจสอบได้ทำงานร่วมกับบริษัท แนฟเกียร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าเกี่ยวกับระบบ GPS เรือ อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GPS ต่างกับข้อมูล GPS ของนายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และวิเคราะห์ระบบ GPS เนื่องจากข้อมูลของตัวเองเป็น GPS การเดินเรือ แต่ข้อมูลของนายเอกราช เป็น GPS การเดินทางบนบก ส่วนกรณีเซ็นเซอร์ใบพัดเรือหากโดนวัตถุบางอย่างจะทำงานทำให้เรือหยุด ได้ให้ข้อมูลไปแล้ว อยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ ถอนป่วยทิพย์ข้อมูลไม่พอ ซัดเพื่อไทยเลี่ยงตรวจสอบ รวบแก๊งฟอกเงินอาชญากร ครม.สงขลาผ่านงบ 300 ล้าน
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1032 Views 33 0 Reviews
  • “ดีเอสไอ” ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกน ภูมิประเทศบริเวณวัดค้างคาวนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เทียบ GPS เรือ-โทรศัพท์ พบจอดเรือ บริเวณวัดค้างคาว กว่า 1 ชั่วโมง

    วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.30 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมคณะพนักงานสอบสวน พาตัวแทนสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ท โดยวันนี้ได้มีการเตรียมเรือ ที่จะใช้ในการตรวจสอบจุดต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 5 ลำ

    โดยเรือทั้งหมดเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรกที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการสแกนพื้นที่ คือ บริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับ บริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยจุดนี้ได้นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประกอบประมวลเป็นภาพสามมิติเส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS เรือ

    จากนั้นเรือได้และมุ่งหน้าต่อไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพาน พระราม 7 มาจอดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา โดยบริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้จอดให้คณะพนักงานสอบสวนและสื่อมวลชนบันทึกภาพและใช้เครื่องมือสแกนบริเวณโดยรอบพื้นที่รวมถึงสแกนหาวัตถุใต้ผิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณจุดนี้เรือชะลอความเร็วเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกน ทั้งทางอากาศและทางน้ำ รวมถึงมาจำลองตามคำกล่าวอ้างที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโม (นิดา) โดยบริเวณจุดที่ตรงกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เรือลำของนายแพทย์ธวัชชัยให้ความสนใจ และใช้เวลาลอยลำอยู่ตรงจุดนี้ประมาณ 15 นาที ส่วนทางคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรือลอยลำสำรวจตามจุดต่างๆ ล่วงหน้า ทั้งหมด 8 จุดตามที่แจ้งกับสื่อมวลชนไว้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015736

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    “ดีเอสไอ” ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกน ภูมิประเทศบริเวณวัดค้างคาวนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เทียบ GPS เรือ-โทรศัพท์ พบจอดเรือ บริเวณวัดค้างคาว กว่า 1 ชั่วโมง • วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.30 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมคณะพนักงานสอบสวน พาตัวแทนสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ท โดยวันนี้ได้มีการเตรียมเรือ ที่จะใช้ในการตรวจสอบจุดต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 5 ลำ • โดยเรือทั้งหมดเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรกที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการสแกนพื้นที่ คือ บริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับ บริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยจุดนี้ได้นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประกอบประมวลเป็นภาพสามมิติเส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS เรือ • จากนั้นเรือได้และมุ่งหน้าต่อไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพาน พระราม 7 มาจอดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา โดยบริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้จอดให้คณะพนักงานสอบสวนและสื่อมวลชนบันทึกภาพและใช้เครื่องมือสแกนบริเวณโดยรอบพื้นที่รวมถึงสแกนหาวัตถุใต้ผิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณจุดนี้เรือชะลอความเร็วเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกน ทั้งทางอากาศและทางน้ำ รวมถึงมาจำลองตามคำกล่าวอ้างที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโม (นิดา) โดยบริเวณจุดที่ตรงกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เรือลำของนายแพทย์ธวัชชัยให้ความสนใจ และใช้เวลาลอยลำอยู่ตรงจุดนี้ประมาณ 15 นาที ส่วนทางคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรือลอยลำสำรวจตามจุดต่างๆ ล่วงหน้า ทั้งหมด 8 จุดตามที่แจ้งกับสื่อมวลชนไว้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015736 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 494 Views 0 Reviews
  • "ดีเอสไอ" ลงเรือเก็บหลักฐานคดี "แตงโม" สำรวจ 8 จุดสงสัย “อ.ปานเทพ-อัจฉริยะ” แฉเครือข่ายยาเสพติด เตรียมเปิดข้อมูลเด็ดเป็นฆาตกรรม

    วันนี้ (17 ก.พ.) เวลา 8.30 น. บ้านเรือเล็ก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วย นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมปฏิบัติการลงพื้นที่สำรวจแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางจุดเกิดเหตุที่ยังมีข้อสงสัย 8 จุด หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ โดยมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต , นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน

    นายอัจฉริยะ เผยว่า ส่วนข้อมูลจากโทรศัพท์ที่กู้คืนได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และยังต้องตรวจสอบว่าเป็นเครื่องเดียวกับที่ส่งให้ตำรวจหรือไม่ โดยหลักฐานที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของน้องแตงโม ซึ่งส่งไปยังบังแจ็คที่สหรัฐฯ อาจมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง และพบว่าผู้เขียนที่อยู่บนกล่องไม่ใช่นางภนิดา นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบโทรศัพท์ที่ตำรวจคืนให้มารดาว่าเป็นเครื่องเดิมหรือไม่ โดยผลตรวจ DNA จะออกภายในสัปดาห์นี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015651

    #MGROnline #ดีเอสไอ #คดีแตงโม

    "ดีเอสไอ" ลงเรือเก็บหลักฐานคดี "แตงโม" สำรวจ 8 จุดสงสัย “อ.ปานเทพ-อัจฉริยะ” แฉเครือข่ายยาเสพติด เตรียมเปิดข้อมูลเด็ดเป็นฆาตกรรม • วันนี้ (17 ก.พ.) เวลา 8.30 น. บ้านเรือเล็ก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วย นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมปฏิบัติการลงพื้นที่สำรวจแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางจุดเกิดเหตุที่ยังมีข้อสงสัย 8 จุด หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ โดยมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต , นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน • นายอัจฉริยะ เผยว่า ส่วนข้อมูลจากโทรศัพท์ที่กู้คืนได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และยังต้องตรวจสอบว่าเป็นเครื่องเดียวกับที่ส่งให้ตำรวจหรือไม่ โดยหลักฐานที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของน้องแตงโม ซึ่งส่งไปยังบังแจ็คที่สหรัฐฯ อาจมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง และพบว่าผู้เขียนที่อยู่บนกล่องไม่ใช่นางภนิดา นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบโทรศัพท์ที่ตำรวจคืนให้มารดาว่าเป็นเครื่องเดิมหรือไม่ โดยผลตรวจ DNA จะออกภายในสัปดาห์นี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015651 • #MGROnline #ดีเอสไอ #คดีแตงโม
    0 Comments 0 Shares 631 Views 0 Reviews
  • "ปานเทพ-อัจฉริยะ" เผยปมมือถือแตงโมถูกโคลนนิ่ง ชี้เครื่องที่ถูกส่งไปให้บังแจ็คที่อเมริกาไม่ใช่เครื่องต้นฉบับ รับบางจุดมีการเปลี่ยน แต่สามารถกู้ภาพคืนมาได้ 18 ก.พ.เปิดหลักฐานเด็ด

    วันนี้( 17 ก.พ.)ที่บ้านเรือเล็ก กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ปฏิบัติการตรวจจุดเกิดเหตุในคดี “แตงโม นิดา” โดยจะทำการล่องเรือไปยัง 8 จุดที่สำคัญและน่าสนใจในคดี เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ รวมทั้งสิ้น 40 คนที่จะลงเรือในครั้งนี้ โดยวันนี้มี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน

    นายอัจฉริยะกล่าวว่า ข้อมูลในโทรศัพท์เป็นของจริง แต่อีกหนึ่งเครื่องไม่ใช่ของจริง คือเครื่องที่ส่งไปให้บังแจ็คที่อเมริกา ไม่ใช่ต้นฉบับ โดยคนที่ส่งไปเป็นอดีตนักการเมืองที่ร่วมกับคุณแม่ของแตงโม และยังได้ข้อมูลอีกว่า อดีตนักการเมืองคนดังกล่าว ได้ส่งผ้าขาวของแตงโมไปให้บังเเจ็คด้วย โดยยังบอกให้บังแจ็คส่งผ้าขาวกลับมาให้กับแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รวมถึงมีการกระตุ้นให้บังแจ็คไลฟ์สดเกี่ยวกับผ้าขาวที่ได้รับไปด้วย

    นายปานเทพ กล่าวเสริมว่า โทรศัพท์ที่ส่งให้บังแจ็คมีการโคลนนิ่งเหมือนโทรศัพท์ต้นฉบับ และไม่มีใครรู้ว่าถูกสลับเครื่องตอนไหน แต่รู้ว่ามีจุดเปลี่ยนหลายจุดตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ ซึ่งในที่สุดก็ต้องทำการสืบหาความจริงจนได้ เพราะเขาลืมไป 1 ข้อว่า แม้จะลบข้อมูลในโทรศัพท์ไปแล้ว แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือการกู้ Gmail และเข้าไปใน iCloud เพื่อกู้ข้อมูลได้สำเร็จ ทำให้ภาพที่หายไปกลับคืนมาได้ ซึ่งเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ข้อมูลถูกต้องกับความเป็นจริง แต่โทรศัพท์ถูกสลับเครื่อง

    นายอัจฉริยะ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า พรุ่งนี้ (18 ก.พ.) นายปานเทพจะมีการเปิดหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่า เป็นการฆาตกรรม รวมถึงได้รู้ถึงวิธีการว่าโหดเหี้ยมขนาดไหน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015688

    #MGROnline #ปานเทพ #อัจฉริยะ #มือถือแตงโม #โคลนนิ่ง
    "ปานเทพ-อัจฉริยะ" เผยปมมือถือแตงโมถูกโคลนนิ่ง ชี้เครื่องที่ถูกส่งไปให้บังแจ็คที่อเมริกาไม่ใช่เครื่องต้นฉบับ รับบางจุดมีการเปลี่ยน แต่สามารถกู้ภาพคืนมาได้ 18 ก.พ.เปิดหลักฐานเด็ด • วันนี้( 17 ก.พ.)ที่บ้านเรือเล็ก กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ปฏิบัติการตรวจจุดเกิดเหตุในคดี “แตงโม นิดา” โดยจะทำการล่องเรือไปยัง 8 จุดที่สำคัญและน่าสนใจในคดี เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ รวมทั้งสิ้น 40 คนที่จะลงเรือในครั้งนี้ โดยวันนี้มี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน • นายอัจฉริยะกล่าวว่า ข้อมูลในโทรศัพท์เป็นของจริง แต่อีกหนึ่งเครื่องไม่ใช่ของจริง คือเครื่องที่ส่งไปให้บังแจ็คที่อเมริกา ไม่ใช่ต้นฉบับ โดยคนที่ส่งไปเป็นอดีตนักการเมืองที่ร่วมกับคุณแม่ของแตงโม และยังได้ข้อมูลอีกว่า อดีตนักการเมืองคนดังกล่าว ได้ส่งผ้าขาวของแตงโมไปให้บังเเจ็คด้วย โดยยังบอกให้บังแจ็คส่งผ้าขาวกลับมาให้กับแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ รวมถึงมีการกระตุ้นให้บังแจ็คไลฟ์สดเกี่ยวกับผ้าขาวที่ได้รับไปด้วย • นายปานเทพ กล่าวเสริมว่า โทรศัพท์ที่ส่งให้บังแจ็คมีการโคลนนิ่งเหมือนโทรศัพท์ต้นฉบับ และไม่มีใครรู้ว่าถูกสลับเครื่องตอนไหน แต่รู้ว่ามีจุดเปลี่ยนหลายจุดตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ ซึ่งในที่สุดก็ต้องทำการสืบหาความจริงจนได้ เพราะเขาลืมไป 1 ข้อว่า แม้จะลบข้อมูลในโทรศัพท์ไปแล้ว แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือการกู้ Gmail และเข้าไปใน iCloud เพื่อกู้ข้อมูลได้สำเร็จ ทำให้ภาพที่หายไปกลับคืนมาได้ ซึ่งเมื่อคืนนี้ (16 ก.พ.) ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นพบว่า ข้อมูลถูกต้องกับความเป็นจริง แต่โทรศัพท์ถูกสลับเครื่อง • นายอัจฉริยะ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า พรุ่งนี้ (18 ก.พ.) นายปานเทพจะมีการเปิดหลักฐานสำคัญที่เชื่อได้ว่า เป็นการฆาตกรรม รวมถึงได้รู้ถึงวิธีการว่าโหดเหี้ยมขนาดไหน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015688 • #MGROnline #ปานเทพ #อัจฉริยะ #มือถือแตงโม #โคลนนิ่ง
    0 Comments 0 Shares 650 Views 0 Reviews
  • ไอที หมัดสุดท้ายไขคดี “แตงโม” : คนเคาะข่าว 12–02-68
    : เอกราช นามโภคิน ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และวิเคราะห์ระบบGPS
    ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์

    #คนเคาะข่าว
    ไอที หมัดสุดท้ายไขคดี “แตงโม” : คนเคาะข่าว 12–02-68 : เอกราช นามโภคิน ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และวิเคราะห์ระบบGPS ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ #คนเคาะข่าว
    Like
    3
    0 Comments 1 Shares 354 Views 2 0 Reviews
  • จำนวนดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อโลกหลายด้าน ทั้งด้านบวกและลบ ดังนี้:

    ### ผลกระทบด้านบวก:
    1. **การสื่อสาร**:
    - ดาวเทียมช่วยให้การสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และการแพร่สัญญาณโทรทัศน์

    2. **การพยากรณ์อากาศ**:
    - ดาวเทียมตรวจสภาพอากาศช่วยให้พยากรณ์อากาศได้แม่นยำขึ้น ช่วยเตือนภัยธรรมชาติ เช่น พายุ เฮอริเคน และสึนามิ

    3. **การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ**:
    - ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยในการจัดการสิ่งแวดล้อม การเกษตร และการวางแผนการใช้ที่ดิน

    4. **การนำทาง**:
    - ระบบนำทางด้วยดาวเทียม (เช่น GPS) ช่วยให้การเดินทางทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น

    5. **การวิจัยทางวิทยาศาสตร์**:
    - ดาวเทียมช่วยในการศึกษาด้านอวกาศ สภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

    ### ผลกระทบด้านลบ:
    1. **มลภาวะทางแสง**:
    - ดาวเทียมจำนวนมากอาจสะท้อนแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดมลภาวะทางแสง ส่งผลต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์

    2. **ขยะอวกาศ**:
    - ดาวเทียมที่หมดอายุหรือเสียหายอาจกลายเป็นขยะอวกาศ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการชนกันในอวกาศและอาจสร้างขยะอวกาศมากขึ้น

    3. **การรบกวนสัญญาณ**:
    - ดาวเทียมจำนวนมากอาจทำให้เกิดการรบกวนสัญญาณ无线电频率 ส่งผลต่อการสื่อสารและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์

    4. **ความเสี่ยงต่อความปลอดภัย**:
    - ดาวเทียมอาจเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์หรือทางกายภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อการสื่อสารและความปลอดภัยของประเทศ

    5. **ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม**:
    - การปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศต้องใช้เชื้อเพลิงจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ### สรุป:
    การเพิ่มขึ้นของจำนวนดาวเทียมมีทั้งประโยชน์และความท้าทาย จำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบด้านลบและเพิ่มประโยชน์ให้สูงสุด
    จำนวนดาวเทียมที่เพิ่มขึ้นมีผลกระทบต่อโลกหลายด้าน ทั้งด้านบวกและลบ ดังนี้: ### ผลกระทบด้านบวก: 1. **การสื่อสาร**: - ดาวเทียมช่วยให้การสื่อสารทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทั้งโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต และการแพร่สัญญาณโทรทัศน์ 2. **การพยากรณ์อากาศ**: - ดาวเทียมตรวจสภาพอากาศช่วยให้พยากรณ์อากาศได้แม่นยำขึ้น ช่วยเตือนภัยธรรมชาติ เช่น พายุ เฮอริเคน และสึนามิ 3. **การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ**: - ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยในการจัดการสิ่งแวดล้อม การเกษตร และการวางแผนการใช้ที่ดิน 4. **การนำทาง**: - ระบบนำทางด้วยดาวเทียม (เช่น GPS) ช่วยให้การเดินทางทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศมีความแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น 5. **การวิจัยทางวิทยาศาสตร์**: - ดาวเทียมช่วยในการศึกษาด้านอวกาศ สภาพอากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ### ผลกระทบด้านลบ: 1. **มลภาวะทางแสง**: - ดาวเทียมจำนวนมากอาจสะท้อนแสงอาทิตย์ ทำให้เกิดมลภาวะทางแสง ส่งผลต่อการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์ 2. **ขยะอวกาศ**: - ดาวเทียมที่หมดอายุหรือเสียหายอาจกลายเป็นขยะอวกาศ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของการชนกันในอวกาศและอาจสร้างขยะอวกาศมากขึ้น 3. **การรบกวนสัญญาณ**: - ดาวเทียมจำนวนมากอาจทำให้เกิดการรบกวนสัญญาณ无线电频率 ส่งผลต่อการสื่อสารและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ 4. **ความเสี่ยงต่อความปลอดภัย**: - ดาวเทียมอาจเป็นเป้าหมายของการโจมตีทางไซเบอร์หรือทางกายภาพ ซึ่งอาจส่งผลต่อการสื่อสารและความปลอดภัยของประเทศ 5. **ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม**: - การปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศต้องใช้เชื้อเพลิงจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ### สรุป: การเพิ่มขึ้นของจำนวนดาวเทียมมีทั้งประโยชน์และความท้าทาย จำเป็นต้องมีการจัดการและควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดผลกระทบด้านลบและเพิ่มประโยชน์ให้สูงสุด
    0 Comments 0 Shares 421 Views 0 Reviews
  • [Exclusive on Sondhi Talk]
    "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี
    แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ
    แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง
    .
    บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย
    .
    วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง
    .
    การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี
    .
    ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา
    .
    บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ
    .
    ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง
    .
    ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้
    .
    ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น
    .
    ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย
    .
    พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา
    .
    เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี
    .
    เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย
    .
    เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้
    .
    ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว
    .
    คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224
    ......
    Sondhi X
    [Exclusive on Sondhi Talk] "บังแจ็ค" ไว้ใจ DSI ไขคดี แย้มมือถือแตงโมมี 4 หมื่นภาพ แถมข้อมูลนักการเมือง-นักธุรกิจดัง . บังแจ็คเปิดใจส่งมอบมือถือแตงโม นิดา ให้หมอธวัชชัยนำมาให้ดีเอสไอคลี่คลายคดี ระบุกู้ข้อมูลมีภาพกว่า 4 หมื่นภาพ แชตบางส่วนคุยกับนักการเมืองดัง และมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่มีอิทธิพลสูง นักธุรกิจระดับประเทศเกี่ยวข้องด้วย เผยมีคนขอซื้อมือถือจริงแต่ไม่ถึง 15 ล้าน ลั่นยังไงก็ไม่ขาย . วันนี้ (6 ก.พ.) นายซาคาเนียน ราชา ไฮเดอร์ หรือบังแจ็ค ให้สัมภาษณ์ทางเฟซบุ๊ก และยูทูป "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" (คลิกชมย้อนหลัง >> https://www.youtube.com/watch?v=58nPhAE2uZo) ถึงโทรศัพท์มือถือของ แตงโม นิดา หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวที่เสียชีวิตจากเรือสปีดโบ้ท เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2565 ซึ่งได้ส่งมอบให้ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และเตรียมนำมาส่งมอบให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำมาใช้เพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของแตงโม ระบุว่า เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนที่รู้จักกับนางพนิดา ศิริยุทธโยธิน มารดาของแตงโม นางพนิดาได้รับโทรศัพท์มือถือของแตงโมจากตำรวจ แต่ไม่พบข้อมูลใดๆ ในเครื่อง ตนจึงแนะนำให้นำไปที่ศูนย์บริการของแอปเปิลช่วยดูว่ายังมีข้อมูลในเครื่องหรือไม่ นางพนิดาไปที่ศูนย์แอปเปิลฯ แต่ไม่ไว้ใจ จึงให้โทรศัพท์มือถือแก่ตน ซึ่งเป็นความครอบครองโดยถูกต้อง . การตัดสินใจส่งมอบโทรศัพท์มือถือเป็นไปตามที่ตนได้ประกาศไว้ว่าจะมอบให้เฉพาะบุคคล 3 ราย ได้แก่ นพ.ธวัชชัย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เพราะทั้งสามคนไว้วางใจที่สุดแล้ว เพราะมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่อยากให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคนที่จะนำไปใช้ในทางที่ไม่ดี โดยข้อมูลในโทรศัพท์มือถือบางอย่างเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนไปแล้ว เช่น มีคนดังโทร.เข้ามาในเวลาผิดปกติ ซึ่งนายคชาภา ตันเจริญ หรือมดดำ เปิดเผยว่าได้โทร.หาจริง ยังเหลืออีก 2-3 คนที่ยังไม่ได้ออกมาพูด รวมทั้ง น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือ กระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม โทร.มาหาเมื่อเวลา 20.40 น. ของวันเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่อยู่บนเรือลำเดียวกัน และอีกหลายข้อมูลทั้งคลิป รูปภาพ การลบข้อความ และการลบบัญชีทั้งบัญชี . ตนจำได้ว่ามดดำได้โทร.หาแตงโม แต่ได้รับข่าวจากแอนนา วรินทร วัตรสังข์ เพื่อนของแตงโมว่า แตงโมตกน้ำ แอนนาพยายามทักไลน์ โทร.ทั้งไลน์และมือถือแต่ไม่ติด เมื่อ 3 ปีที่แล้วพอเข้าไปดูบัญชีแอนนาไม่มีเลย ลบทิ้ง บัญชีฮิปโป (ผู้จัดการส่วนตัวให้ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนที่แตงโมเสียชีวิต) ก็ลบทิ้ง บัญชีโม อมีนา พินิจ ก็ลบทิ้ง บัญชีพุดเดิล ยุพดี ก็ลบทิ้ง และอีกหลายคน ส่วนข้อความที่กระติกนำมาเปิดเผยในรายการโหนกระแสว่าได้คุยกับแตงโม ตนก็เข้าไปดู ไม่พบข้อความที่กระติกนำมาแสดง มีถึงแค่วันที่ 17-18 ก.พ. 2565 เท่านั้น แสดงว่ามีข้อมูลที่ถูกลบและข้อมูลที่แต่งขึ้นมา . บังแจ็ค กล่าวว่า ตนกู้ข้อมูลเฉพาะรูปภาพกว่า 40,000 ภาพ ยังดูไม่หมด ดูเฉพาะเกี่ยวข้องกับคดี เช่น บัญชีธนาคารไม่มีเงินสักบาทในบัญชี ทั้งที่อย่างน้อยเป็นดาราต้องมีเงินติดบัญชีสัก 4-5 พันบาท แต่ยอดเงินกลับเป็น 0 บาท บันทึกบางส่วนถูกลบออกไป แชตบางส่วนที่คุยกับนักการเมืองดัง ที่ขู่จะให้ส่งภาพลับที่ไม่เหมาะสมและเรียกให้มาหาก็มี ตนสงสารที่แตงโมต้องเจออะไรแบบนั้น ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยคลี่คลายคดีเมื่ออยู่ในมือของดีเอสไอ . ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของตนที่ทำให้พยานหลักฐานถูกด้อยค่านั้น ถามว่าใครทำร้ายเครดิตตน คนที่เสียประโยชน์ก็พยายามใช้สื่อที่เข้าข้างมาดิสเครดิตตน หนึ่งในนั้นคือทนายความที่ท้าให้ดื่มปัสสาวะ 70 แก้ว พาทั้งพิธีกรชื่อดังไปแจ้งความว่าตนขู่ฆ่าและใช้สื่อโจมตี ทั้งๆ ที่พิธีกรชื่อดังเข้าใจกันแล้ว และจะร่วมมือจำหน่ายสินค้าที่ต่างประเทศ ส่วนเรื่องที่โพสต์ภาพปืนเป็นเรื่องนานมาแล้ว ไม่เกี่ยวกับคดีแตงโม และได้เคลียร์จบแล้ว ตนมีหลักฐานทั้งหมดส่งให้ นพ.ธวัชชัย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าได้คุยกัน จับมือขออภัยกันจริง . ส่วนคดีเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช ส่วนตัวมาเมืองไทยถูกต้อง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ซื้อรถจักรยานยนต์จากเบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี เวลานั้นตนอยู่โคราช ตนถูกหลอกเพราะไม่มีเอกสารและทะเบียน ตนเป็นชาวต่างชาติไม่รู้กฎหมาย เจอด่านก็โดนยึด พอกลับไปหาเจ้าตัวก็ไม่รับผิดชอบเพราะไม่มีหลักฐาน พอเกิดคดีนายไซซะนะ แก้วพิมพา เจ้าพ่อยาเสพติด ตนออกมาวิจารณ์เบนซ์ เรซซิ่ง ไม่ได้เข้าข้างและไม่ได้เป็นหนึ่งในทีมของเขา ตนซื้อรถด้วยน้ำพักน้ำแรงแล้วทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง แต่ด้วยความที่ตนใช้ภาษาไทยไม่ถูกต้อง เวลานั้นไม่รู้จะอธิบายให้ใครฟังเพราะโดนโจมตี น้ำหนักน้อยลง พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อเพราะเป็นคนต่างชาติ ถูกด้อยค่าตลอดเวลา จึงเลือกที่จะไม่ตอบโต้ . ส่วนที่ไม่สามารถเข้าประเทศไทยได้ถึงปี 2569 เพราะเป็นบุคคลที่เชื่อได้ว่าเป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยนั้น บังแจ็ค กล่าวว่า สมมติเป็นบุคคลอันตรายจริงก็ไม่น่าจะมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ 6-7 ปี ไม่ใช่โรงเรียนเอกชน แต่เป็นโรงเรียนรัฐบาล และออกเอกสารถูกต้อง มีใบอนุญาตทำงาน เมื่อ 2 ปีก่อนมีรายการโทรทัศน์ไปตรวจสอบแล้วไม่พบบัญชีดำในสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตอนนี้สามารถเข้าประเทศไทยได้ ส่วนคดีที่เจอระยะหลังๆ คือคดีแตงโม ถูกใส่ไข่เยอะเพราะอีกฝ่ายหรืออีกสื่อหนึ่งมีเอฟซี มีอิทธิพลเยอะ แถมเมื่อตนไปสัมภาษณ์รายการหนึ่ง 5 ครั้ง ภายหลังไลฟ์รายการลบทิ้ง หมายความว่าอย่างไร ตนถามตรงๆ ไปว่าลบทิ้งทำไม เขาไม่มีคำตอบ เปลี่ยนประเด็น . ตนมองว่าต้องมีคนสั่งให้ลบ เพราะมือถืออยู่ในมือตนเอง จึงต้องดิสเครดิตให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ พยายามด้อยค่าหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือที่ปล่อยออกมา 1-2 คลิปที่ อ.ปานเทพเปิดเผย ตนเคยลงในเพจมานานมากแล้ว แต่มีคนทักมาถามว่าสถานที่ตรงนี้ตรงนั้นหรือเปล่า ซึ่งตนไม่รู้เพราะไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว พอไปดูก็มีการแต่งเพิ่มมา อ.ปานเทพถามตนว่าคลิปนี้ได้มาจากตนหรือเปล่า ตนตอบว่าไม่ใช่ คลิปที่ได้จากตนมีแค่นี้ เขาใช้วิธีเหมือนเมื่อ 3 ปีก่อน คือ เอามาแต่งเติม เอามาตัด และโจมตีว่าไม่ใช่ข้อมูลจริง หิวแสง ตนเพิ่งรู้จัก อ.ปานเทพ และ นพ.ธวัชชัยไม่ถึง 2 เดือน ข้อมูล GPS ที่เคยส่งให้ทีวีช่องหนึ่งเมื่อ 3 ปีก่อนก็ถูกด้อยค่าว่าไปตรวจมาแล้วไม่มีอะไรเลย ด้อยค่าแล้วก็ลบตัดทิ้งเลย . พอรับฟีดแบ็คกลับมาตนก็มีความรู้สึก แฟนของตนก็ไม่สบายใจ ให้หยุดไม่ต้องทำเพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ตนเชื่อว่าเวรกรรมมีจริง คดีนี้ต้องกลับมาแน่ เพราะข้อพิรุธหลายอย่าง ตนเก็บข้อมูลไว้ เบอร์แต่ละคนหาไม่ยาก อยู่บนเรือด้วยกันโทร.หากันทำไม แล้วบรรดาคนดังโทร.หาแตงโมเวลา 21.58 น. 22.04 น. หรือ 22.07 น.ของวันเกิดเหตุ ไม่ใช่แค่คืนนั้นคืนเดียว โทร.มาตอนเช้าด้วย โทร.ในระหว่างนั้นด้วย ทั้งๆ ที่ตำรวจแถลงข่าวแตงโมตกน้ำ 22.37-22.38 น. แสดงว่าคนรู้แล้วว่าแตงโมตกน้ำ แต่ไม่มีการกดรับสายเพราะปิดเครื่อง แต่มีระบบรับฝากข้อความและมีข้อความเข้ามา . เมื่อถามว่า ขบวนการดิสเครดิตบังแจ็คทำไปเพื่ออะไร เกี่ยวกับการเสียชีวิตของแตงโมอย่างไร บังแจ็ค กล่าวว่า มีคนใหญ่อยู่เบื้องหลัง แต่พอคดีแตงโมเปิดขึ้นมาเขาได้รับความเสียหายมาก จึงไม่ยอมให้ทำแบบนี้ ที่ไปคุยที่ปั๊มน้ำมันนั้น ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายของเขาสอนให้พูดแบบนี้ แล้วมีอดีตนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่แนะนำว่าต้องไปในทิศทางนี้ เท่าที่ตนทราบไม่นานมีโทรทัศน์ 3 ช่อง ช่องแรกไม่ดัง อีก 2 ช่องดัง ใช้ทนายความคนบนเรือคนเดียวกันออกโทรทัศน์ บางสื่อต้องกลัวตำรวจหรือเกรงใจตำรวจเพราะจะไม่มีข่าวเล่น ตนรู้พิรุธมานานแล้วว่าตอนสัมภาษณ์เขาก็ตัดออก อย่างทีวีช่องหนึ่งสัมภาษณ์นานมาก แต่ตัดบางส่วนออก เหลือเฉพาะตอนที่เปิดช่องให้ถูกโจมตี ภายหลังพบว่าใช้ทนายความคนเดียวกันออกทีวี . เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนเสนอเงิน 15 ล้านบาทเพื่อยุติเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ไม่ถึง 15 ล้านบาท แต่เมื่อไม่กี่วันก่อนที่ นพ.ธวัชชัยจะมารับเครื่อง ก็พยายามที่จะถามว่าจะให้โทรศัพท์มือถือจริงหรือเปล่า แล้วเชื่อหรือเปล่าว่าจะนำมาใช้ในทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าคิดจะขายจะขายในราคาเท่าไหร่ ตนตอบว่าไม่ขาย ถามว่า 2 ล้านบาทขายไหม ตนตอบว่าไม่ขาย ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านบาท เงินที่เสนอมาเป็นค่าใช้จ่ายภายในเดือนหนึ่งก็หมดแล้ว เพราะตนอยู่ที่สหรัฐอเมริกา มีบริษัท จ่ายค่ารถ จ่ายค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ หมดแล้ว ตนหาได้เองไม่ต้องเสนอ อีกฝ่ายก็เสนอเป็น 5 ล้านบาท แต่ไม่ต้องให้เครื่องแก่ นพ.ธวัชชัย ตนกล่าวว่าให้เท่าไหร่ก็ไม่ขาย อยากจะยกให้เขา อีกฝ่ายกล่าวว่า ต้องคิดให้ดีๆ ก่อน เพราะ 1 ใน 5 คนบนเรือกล่าวว่า ได้เครื่องนี้ไปก็คือจบเลย เพราะมีข้อมูลที่ผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูง เป็นนักธุรกิจระดับประเทศมาเกี่ยวข้องด้วย ไม่อยากให้มือถือนี้ไปอยู่ที่เมืองไทย . เมื่อถามว่า ที่โดนดักตีหัวสงสัยว่าจัดฉากหรือไม่ บังแจ็คกล่าวว่า ตอนที่โดนตีหัว นพ.ธวัชชัยคุยกับตนอยู่ เวลาโดนตีหัวแฟนถามว่าเรียกรถพยาบาลหรือเปล่า เพราะที่สหรัฐฯ มีค่าใช้จ่าย 3,500-4,000 เหรียญสหรัฐฯ แต่พอจับดูเลือดไหล จึงให้ นพ.ธวัชชัยดูแผล ก็แนะนำว่าให้ไปเย็บแผลก่อน แต่เย็บไม่เยอะ 2 เข็ม และให้กลับไปรักษาที่บ้าน ส่วนที่โดนตีหัวคิดว่าวันนั้นเป็นวันหยุดของคนผิวสี ตำรวจไม่ค่อยมี เป็นเหตุบังเอิญที่โจรขโมยของ นพ.ธวัชชัยอยู่ในสาย ก็เลยเป็นห่วงจึงเป็นข่าวขึ้นมา ส่วนขบวนการดิสเครดิตที่เกิดขึ้น นพ.ธวัชชัย อ.ปานเทพ และนายอัจฉริยะต้องระวังอะไรเป็นพิเศษ บังแจ็ค กล่าวว่า ทั้งสามคนต้องระวังอย่างสูง เพราะเท่าที่เจอข้อมูลในเครื่องมีแต่คนใหญ่คนโต ทั้งนักการเมืองและนักธุรกิจชื่อดัง มีเรื่องของยาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้อง จากที่แถลงข่าวยังมีเยอะกว่านี้ . ถามถึงแนวทางคลี่คลายคดีเพื่อคืนความยุติธรรมให้แตงโม บังแจ็คกล่าวว่า ลองไว้ใจทีมดีเอสไอ และดูว่าจะมีคนเข้ามาสกัดหรือข่มขู่หรือเปล่าก็ต้องคอยดู แต่ถ้าทั้งสามคนสบายใจและมั่นใจในทีมนี้ก็ตามนั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือฟิงเกอร์ครอส (ยกนิ้วไขว้เพื่ออวยพรขอให้โชคดี) เมื่อถามว่า ตอนนี้บังแจ็คทำอะไรอยู่ ตนต้องขอบคุณเน็ตไอดอลที่สร้างภาพให้ตนเป็นแบบนั้นว่าเขาทำสำเร็จ ตนมีร้านอาหาร 2 แห่ง มีบริษัทที่มีรถยนต์กันกระสุน 5 คัน รับคุ้มกันดาราระดับโลก นักฟุตบอลชื่อดัง และนักการเมือง ยืนยันว่าเป็นโทรศัพท์มือถือแตงโมจริง ให้ นพ.ธวัชชัชตรวจอีมี่ (IMEI) และตรวจเครื่องให้เรียบร้อย ถ้าสมมติถ้าตนหิวเงินหรือหิวแสงคงไม่เก็บไว้นานถึง 3 ปี ภาพหรือคลิปที่ตนเจอป่านนี้ได้เงินเป็นร้อยล้านแล้ว ตนนับถือศาสนาอิสลาม เป็นเงินบาป ทำแบบนี้ไม่ได้ เราไม่ไปยุ่งและไม่เปิดเผย ไม่ทำให้แตงโมเสียหายเพราะน่าสงสารที่สุดแล้ว . คลิกอ่านต้นฉบับ >> https://sondhitalk.com/detail/9680000012224 ...... Sondhi X
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 1353 Views 0 Reviews
  • วันนี้ทำงานสำรวจและรังวัดด้วย GPS
    วันนี้ทำงานสำรวจและรังวัดด้วย GPS
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • # ดีเอสไอเรียก "โปรแกรมเมอร์" ขอหลักฐานเป็นภาพและคลิปวิดีโอ พิสูจน์ข้อเท็จจริงคดี "แตงโม" สันนิษฐานว่าภาพคู่กระติกมีการตัดต่อถ่ายกับคนอื่น

    วันนี้ (30 ม.ค.) เวลา 11.30 น. ห้องประชุม ชั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พา นายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และวิเคราะห์ระบบ GPS เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งเเวดล้อม ในฐานะหัวหน้าทีมตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

    นายอัจฉริยะ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้พยานบุคคลในคดีนี้คือ นายเอกราช นามโภคิน เข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยในวันนี้ยังได้นำรายงานการวิเคราะห์ทางด้านโปรแกรมเมอร์มาให้เห็นว่ามีการทุจริตอย่างไรในการตัดแต่งภาพ หรือการใช้เอกสารปลอมเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐเคยแถลงข่าว พร้อมกับคนบนเรือที่เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ซึ่งตอนนี้ได้ส่งมอบให้กับดีเอสไอสมบูรณ์เรียบร้อย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000009747

    #MGROnline #ดีเอสไอ #โปรแกรมเมอร์ #แตงโม #กระติก #ภาพคู่กระติก #ตัดต่อ

    # ดีเอสไอเรียก "โปรแกรมเมอร์" ขอหลักฐานเป็นภาพและคลิปวิดีโอ พิสูจน์ข้อเท็จจริงคดี "แตงโม" สันนิษฐานว่าภาพคู่กระติกมีการตัดต่อถ่ายกับคนอื่น • วันนี้ (30 ม.ค.) เวลา 11.30 น. ห้องประชุม ชั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พา นายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และวิเคราะห์ระบบ GPS เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งเเวดล้อม ในฐานะหัวหน้าทีมตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 • นายอัจฉริยะ กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้พยานบุคคลในคดีนี้คือ นายเอกราช นามโภคิน เข้ามาพบกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ โดยในวันนี้ยังได้นำรายงานการวิเคราะห์ทางด้านโปรแกรมเมอร์มาให้เห็นว่ามีการทุจริตอย่างไรในการตัดแต่งภาพ หรือการใช้เอกสารปลอมเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐเคยแถลงข่าว พร้อมกับคนบนเรือที่เคยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ซึ่งตอนนี้ได้ส่งมอบให้กับดีเอสไอสมบูรณ์เรียบร้อย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000009747 • #MGROnline #ดีเอสไอ #โปรแกรมเมอร์ #แตงโม #กระติก #ภาพคู่กระติก #ตัดต่อ •
    0 Comments 0 Shares 642 Views 0 Reviews
  • เอาแล้ว มีลุ้น DSI เรียกผู้เชี่ยวชาญ ระบุ GPS ตำแหน่งเรือ สิ่งที่อ.ปานเทพ บอสณวัฒน์ คุณอัจฉริยะ มิสแกรนและทุกคนทำไม่เสียของ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    เอาแล้ว มีลุ้น DSI เรียกผู้เชี่ยวชาญ ระบุ GPS ตำแหน่งเรือ สิ่งที่อ.ปานเทพ บอสณวัฒน์ คุณอัจฉริยะ มิสแกรนและทุกคนทำไม่เสียของ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 Comments 0 Shares 550 Views 0 Reviews
  • เมื่อ...GPS อู้ กำเมือง
    ไค่ หัว ขะหนาด..55 555 5
    เมื่อ...GPS อู้ กำเมือง ไค่ หัว ขะหนาด..55 555 5
    0 Comments 0 Shares 214 Views 11 0 Reviews
  • "อัจฉริยะ" พร้อมผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ เผย พบข้อสงสัย 30 จุด เส้นทางเรือ GPS แตงโมเสียชีวิต พร้อมพิสูจน์ความเร็ว 8 น็อท ตกเรือโดนใบพัดหรือไม่

    สืบเนื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ พร้อม นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎ , นายธนวัฒน์ สุหัตถาพร ผู้เชี่ยวชาญด้านขับเรือ และ นายเอกราช นามโภคิน ผู้พัฒนาซอฟแวร์ วิเคราะห์ GPS เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดี "แตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ เสียชีวิต

    วันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 13.00 น. ห้องประชุม ชั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารเอ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเอกราช นามโภคิน ผู้พัฒนาซอฟแวร์ วิเคราะห์ GPS คดีแตงโม เปิดเผยหลังเข้าพบ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ว่า ขอย้อนความเมื่อ 3 ปีที่แล้วก่อนได้ GPS ของจริงมา เราได้ใช้วิธีการเก็บข้อมูลจากการแถลงข่าว รวมทั้ง มีการลงเรือเพื่อนำทุกอย่างมาประกอบกัน ทั้งเรื่องของเวลาและตำแหน่ง จนกระทั่งได้ GPS ของจริงมาแต่ไม่ได้ตัวซอฟแวร์ จึงต้องพัฒนาซอฟแวร์ขึ้นมาใช้โปรแกรมดูดข่าวทั้งหมดที่มีในโซเชียลเพื่อพิสูจน์ไทม์ไลน์ ลักษณะตัวเรือและหัวเรือไปทางไหน เวลา ความเร็วเท่าไหร่ ซึ่งจะไล่ตั้งแต่วินาทีแรกตั้งแต่เรือออกจากอู่ จนถึงวินาทีเก็บเรือ และมีการนำเรือออกมาอีกครั้งจนถึงตี 4 กว่า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000004100

    #MGROnline #อัจฉริยะ #เส้นทางเรือ #GPS #แตงโม #เสียชีวิต
    "อัจฉริยะ" พร้อมผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ เผย พบข้อสงสัย 30 จุด เส้นทางเรือ GPS แตงโมเสียชีวิต พร้อมพิสูจน์ความเร็ว 8 น็อท ตกเรือโดนใบพัดหรือไม่ • สืบเนื่องเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ พร้อม นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎ , นายธนวัฒน์ สุหัตถาพร ผู้เชี่ยวชาญด้านขับเรือ และ นายเอกราช นามโภคิน ผู้พัฒนาซอฟแวร์ วิเคราะห์ GPS เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดี "แตงโม" นิดา พัชรวีระพงษ์ เสียชีวิต • วันนี้ (14 ม.ค.) เวลา 13.00 น. ห้องประชุม ชั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อาคารเอ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายเอกราช นามโภคิน ผู้พัฒนาซอฟแวร์ วิเคราะห์ GPS คดีแตงโม เปิดเผยหลังเข้าพบ พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ว่า ขอย้อนความเมื่อ 3 ปีที่แล้วก่อนได้ GPS ของจริงมา เราได้ใช้วิธีการเก็บข้อมูลจากการแถลงข่าว รวมทั้ง มีการลงเรือเพื่อนำทุกอย่างมาประกอบกัน ทั้งเรื่องของเวลาและตำแหน่ง จนกระทั่งได้ GPS ของจริงมาแต่ไม่ได้ตัวซอฟแวร์ จึงต้องพัฒนาซอฟแวร์ขึ้นมาใช้โปรแกรมดูดข่าวทั้งหมดที่มีในโซเชียลเพื่อพิสูจน์ไทม์ไลน์ ลักษณะตัวเรือและหัวเรือไปทางไหน เวลา ความเร็วเท่าไหร่ ซึ่งจะไล่ตั้งแต่วินาทีแรกตั้งแต่เรือออกจากอู่ จนถึงวินาทีเก็บเรือ และมีการนำเรือออกมาอีกครั้งจนถึงตี 4 กว่า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000004100 • #MGROnline #อัจฉริยะ #เส้นทางเรือ #GPS #แตงโม #เสียชีวิต
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 447 Views 0 Reviews
More Results