• รวมลิงค์คลิป ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ
    ศ.นพ.ดร. วิชัย เอกทักษิณ ให้ข้อมูลเรื่อง COVID 19 may harm central nervous system
    ตอน 1 https://youtu.be/xgOt1Cm2kIM?si=ZUvn6C9ClncDCwr0
    ตอน 2 https://youtu.be/22CH3BFYtnk?si=a0ZRxVg5C_fszxq_
    ตอน 3 https://youtu.be/QukeNhiziyY?si=Mcujg3I07sRIwhLP
    ไตเสื่อม มิได้มาจากการกินเค็ม แต่มาจากการกินไขมันสัตว์และโปรตีนสัตว์ ต่างหาก
    https://youtu.be/5Yuh9bwgQ08?si=rFqJ4b5WmjRTg7eU
    โรคไตไม่ได้มาจากการกินเค็ม
    https://youtu.be/KMY2v8P1fHA?si=CVDpV4xa0ah0isL5
    กินเจ มังสวิรัติ วีแกน ร่างกายเป็นด่าง ลดความรุนแรงในการติดเชื้อโควิด19 ได้ 73% (เชื้อติดแล้วหลุด)
    https://youtu.be/Ea8w4xOZt9c?si=nKTWwIW6WA_49Hcy
    นมวัว ฟัวกราส์ วากิว ทำมาจากอะไรกันแน่ ?
    https://youtu.be/hLIryvjkUlM?si=Sy-HW-S6ZpWa1e9j
    อ วิชัย บรรยาย เจ - มังสวิรัติ สถานธรรมหงเจิ้ง 21 สค 59
    ตอน 1 https://www.youtube.com/watch?v=pq6ERkBu8f8...
    ตอน 2 https://youtu.be/pdggereRIuE?si=yoBSYMqTLJSBS6FZ
    ตอน 3 https://youtu.be/ZlzCGgNCSNE?si=uLkXcLm3B0S6hPpC
    นพ. วิชัย เอกทักษิณ บรรยายมังสวิรัติ งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ณ พุทธวิชชาลัย
    https://www.youtube.com/watch?v=F6gtGh2wKs0...
    โรคนำ้เหลืองเสีย ผื่นคัน สะเก็ดเงิน และ ข้ออักเสบ 1
    https://youtu.be/HGIQ8i-l2EY?si=jKtVLkZ2VlexbeI1
    สะโพกใหญ่เพราะน้ำเหลืองเสีย
    https://youtu.be/hk-8lw5B5iQ?si=UL8k_naBKDc0-XXp
    เวชศาสตร์อาหารแสลง ตอนแสลงหมู หมูข้อเท้า ข้อเท้าบวม
    https://youtu.be/MU_LQFQhH_A?si=Fd3LIW9-SrG0nc6S
    ภาระกิจพิชิตมะเร็ง 18 ธันวาคม 2557
    https://youtu.be/8dkv_d5hl_M?si=kuXhUFpcBHOMJXOB
    ชีวรักษ์ 7 สค. 57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง
    https://youtu.be/PrHzn31cE1c?si=juo42o73GcnEYG53
    ป้าแจ้ ขันชะเนาะ โรคบวมน้ำเหลือง
    https://youtu.be/clOabsxpCT0?si=Z39XZ9_nlBP2qJLo
    ชีวรักษ์ 4 กย 57 เวชศาสตร์อาหารแสลง ตอนแสลงหมู หมูลงน่อง หมูน่องอวบ
    https://youtu.be/hBpBue7GGn8?si=n9Jd6fha1k-Zzj0b
    ชีวรักษ์ 28 สค.57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง
    https://youtu.be/xgFjBrhaUgY?si=QxrUp_wJT4U9UMol
    การประชุมมังสวิรัติแห่งอุษาคเนย์ ตอน 9 มังสวิรัติเพื่อสุขภาพแลศันติ
    https://youtu.be/qUG-SwqSFxo?si=GjqX3J7LFuZqDqTA
    เรื่องจริงผ่านจอ นพ.วิชัย กำเนิดขันชะเนาะ
    https://youtu.be/Q3bLzXUDbfM?si=GtIGOqNbXxmP0PYk
    บรรยายการรักษาโรคบวมน้ำเหลืองวิธีขันชะเนาะลดบวม งานประชุมสมาคมมะเร็งนรีเวช
    https://youtu.be/Z0h1jYIXjCM?si=HCbP54EN0JaN3IYj
    บรรยายมังสวิรัติ งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ณ พุทธวิชชาลัย
    https://youtu.be/F6gtGh2wKs0?si=jYmiotQHi4YI8yRI

    ทำไม เนื้อสัตว์ ไข่ นมสัตว์ จึงเป็นอาหารแสลงก่อโรค?
    https://youtu.be/w-M-X-HVoBA?si=aCygPgjZL9KQP0sG
    (ตอน 4) ความเป็นกรด acidosis - คนกินเนื้อสัตว์ - COVID 19
    https://youtu.be/Qd_SnDARnpo?si=u5ZvC19JVuUxmU1U
    ชีวรักษ์ 14 สค. 57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง
    https://youtu.be/76VCwuRdEfI?si=uTSjgaAgBHaWtfmz
    NATURAL SELECTION โรคไวรัสโควิด 19 CORONAVIRUS เป็นโรคของคนชอบฆ่าสัตว์ กินสัตว์ CARNIVOROUS
    ตอน 1 https://youtu.be/xNQxZlvT1Vk?si=w0R6qy0KSRz9WMHR
    ตอน 2 https://youtu.be/C5VVdX1KunI?si=Cn-porqTqLKNFyCm
    ตอน 3 https://youtu.be/xrQjjNN4lNA?si=nNbUhrn-XcnPumMu
    ตอน 4 https://youtu.be/TADeZGmFYvs?si=uoQljBTwfatdXE1f
    หยุดทุกโรคจากระบบน้ำเหลืองเสีย ด้วยศาสตร์ ภูษาบำบัด
    https://youtu.be/gBbrb7If7sI?si=9awfuDpf_KYYKIiN
    นพ.วิชัย ขันชะเนาะ โรคบวมน้ำเหลือง
    https://youtu.be/VFCqiOYhQ9Y?si=O4Hsdx7hT9yF1gre

    โรคเบาหวาน...วิธีลดค่าเอวันซี ค่าน้ำตาลสะสมและสะเก็ดเงิน
    https://youtu.be/TKvEiA5NsT8?si=p7SNSaA1SgBHnAeA
    บันทึกไทย Thailand Book of Records ตอนที่ 60 แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการขันชะเนาะรายแรก
    https://youtu.be/1S-CIFtUoSM?si=MMdwmkKEifWEmDLm
    แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการใช้ภูษาบำบัดรายแรกของโลก
    https://youtu.be/I_jDUqXmwMk?si=zEGdWTVjYaj0Bv4L

    บันทึกไทย Thailand Book of Records ตอนที่ 61 แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการใชภูษาบำบัดรายแรก2
    https://youtu.be/GzV_hRGzVyU?si=KIQgUVvbuDxU2k51

    https://youtu.be/83Dh62T40QI?si=uhsQCHhZ8WtCUPPg
    บ้านอาศรมเวชศาสตร์อาหารแสลง ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ11 ก.พ.2563
    https://youtu.be/rcSc77nfxnU?si=57PkZmrFGPrau2D8
    ธรรมชาติของมนุษย์ (สัตว์ประเสริฐ) เป็นสัตว์กินพืช
    https://youtu.be/R3jACdHPf04?si=OINPnm0_kcKFKfW1
    กลไกการสังเคราะห์ Cholesterol ในตับ
    https://youtu.be/6JDNTrEz6hg?si=aUXEDlDBYgB0-j8L
    สายตรงสุขภาพ ช่วงที่3 ถามตอบ โรคบวมน้ำเหลือง,เมื่อลูกปวดท้องเฉียบพลัน
    https://youtu.be/VhDBc67p4Z0?si=jqejw2waHkXXX091
    ฟื้นฟูโรคไฟลามทุ่งได้อย่างไร - เวชศาสตร์อาหารแสลง
    https://youtu.be/dkYvnGdwLwk?si=ivovbC6nQwKJsK8n
    หมอวิชัย สาธิตขันชเนาะเส้นขอด
    https://youtu.be/pHjzPOSfkmU?si=WCk-5uB63VWAwmv8
    วิธีสวมถุงน่องน้ำเหลือง
    https://youtu.be/GRokHilf7BE?si=HKXHkeqEHFNTjrOS
    สายตรงสุขภาพ โทษ-พิษภัย-ของอาหารแสลง ช่วงที่1 31/07/2016
    https://youtu.be/gJ5mUdgnJME?si=oOs5Iq3SlJzCnJg6
    สายตรงสุขภาพ ช่วงที่1 โทษ-พิษภัย-ของอาหารเเสลง
    https://youtu.be/fJCf-JDn3I8?si=t2o392PwTMy35Rsl
    อาการขาบวมจากแสลงหมู (cellulitis แบบ phlegmon)
    https://youtu.be/aEgXVrxK41Q?si=FB8i9_SlR8g4RZB7
    ชีวรักษ์ 8 พค. 57 หมอวิชัย มังสวิรัติ อาหารเพื่อสุขภาวะและศันติ
    https://youtu.be/AzWixSKWhMc?si=G_T_R06lS4dXNBK6
    มะเร็ง,ชีวรักษ์,8พค.57,หมอวิชัย,มังสวิรัติ,อาหารเพื่อสุขภาวะและศันติ
    https://youtu.be/2aLXIulHJls?si=VzDqINtWXd8guthA
    คลิปว่าด้วยเรื่องไข่มีโปรตีนสูงจริงหรือไม่
    ศ.ดร.นพ.วิชัน เอกทักษิณ สายมังสวิรัติ
    https://www.facebook.com/share/p/16Xgr6NxeC/
    เป็นต้น
    รวมลิงค์คลิป ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ ✍️ศ.นพ.ดร. วิชัย เอกทักษิณ ให้ข้อมูลเรื่อง COVID 19 may harm central nervous system ตอน 1 https://youtu.be/xgOt1Cm2kIM?si=ZUvn6C9ClncDCwr0 ตอน 2 https://youtu.be/22CH3BFYtnk?si=a0ZRxVg5C_fszxq_ ตอน 3 https://youtu.be/QukeNhiziyY?si=Mcujg3I07sRIwhLP ✍️ไตเสื่อม มิได้มาจากการกินเค็ม แต่มาจากการกินไขมันสัตว์และโปรตีนสัตว์ ต่างหาก https://youtu.be/5Yuh9bwgQ08?si=rFqJ4b5WmjRTg7eU ✍️โรคไตไม่ได้มาจากการกินเค็ม https://youtu.be/KMY2v8P1fHA?si=CVDpV4xa0ah0isL5 ✍️กินเจ มังสวิรัติ วีแกน ร่างกายเป็นด่าง ลดความรุนแรงในการติดเชื้อโควิด19 ได้ 73% (เชื้อติดแล้วหลุด) https://youtu.be/Ea8w4xOZt9c?si=nKTWwIW6WA_49Hcy ✍️นมวัว ฟัวกราส์ วากิว ทำมาจากอะไรกันแน่ ? https://youtu.be/hLIryvjkUlM?si=Sy-HW-S6ZpWa1e9j ✍️อ วิชัย บรรยาย เจ - มังสวิรัติ สถานธรรมหงเจิ้ง 21 สค 59 ตอน 1 https://www.youtube.com/watch?v=pq6ERkBu8f8... ตอน 2 https://youtu.be/pdggereRIuE?si=yoBSYMqTLJSBS6FZ ตอน 3 https://youtu.be/ZlzCGgNCSNE?si=uLkXcLm3B0S6hPpC ✍️นพ. วิชัย เอกทักษิณ บรรยายมังสวิรัติ งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ณ พุทธวิชชาลัย https://www.youtube.com/watch?v=F6gtGh2wKs0... ✍️โรคนำ้เหลืองเสีย ผื่นคัน สะเก็ดเงิน และ ข้ออักเสบ 1 https://youtu.be/HGIQ8i-l2EY?si=jKtVLkZ2VlexbeI1 ✍️สะโพกใหญ่เพราะน้ำเหลืองเสีย https://youtu.be/hk-8lw5B5iQ?si=UL8k_naBKDc0-XXp ✍️เวชศาสตร์อาหารแสลง ตอนแสลงหมู หมูข้อเท้า ข้อเท้าบวม https://youtu.be/MU_LQFQhH_A?si=Fd3LIW9-SrG0nc6S ✍️ภาระกิจพิชิตมะเร็ง 18 ธันวาคม 2557 https://youtu.be/8dkv_d5hl_M?si=kuXhUFpcBHOMJXOB ✍️ชีวรักษ์ 7 สค. 57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง https://youtu.be/PrHzn31cE1c?si=juo42o73GcnEYG53 ✍️ป้าแจ้ ขันชะเนาะ โรคบวมน้ำเหลือง https://youtu.be/clOabsxpCT0?si=Z39XZ9_nlBP2qJLo ✍️ชีวรักษ์ 4 กย 57 เวชศาสตร์อาหารแสลง ตอนแสลงหมู หมูลงน่อง หมูน่องอวบ https://youtu.be/hBpBue7GGn8?si=n9Jd6fha1k-Zzj0b ✍️ชีวรักษ์ 28 สค.57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง https://youtu.be/xgFjBrhaUgY?si=QxrUp_wJT4U9UMol ✍️การประชุมมังสวิรัติแห่งอุษาคเนย์ ตอน 9 มังสวิรัติเพื่อสุขภาพแลศันติ https://youtu.be/qUG-SwqSFxo?si=GjqX3J7LFuZqDqTA ✍️เรื่องจริงผ่านจอ นพ.วิชัย กำเนิดขันชะเนาะ https://youtu.be/Q3bLzXUDbfM?si=GtIGOqNbXxmP0PYk ✍️บรรยายการรักษาโรคบวมน้ำเหลืองวิธีขันชะเนาะลดบวม งานประชุมสมาคมมะเร็งนรีเวช https://youtu.be/Z0h1jYIXjCM?si=HCbP54EN0JaN3IYj ✍️บรรยายมังสวิรัติ งานวิทยาศาสตร์ทางจิต ณ พุทธวิชชาลัย https://youtu.be/F6gtGh2wKs0?si=jYmiotQHi4YI8yRI ✍️ ทำไม เนื้อสัตว์ ไข่ นมสัตว์ จึงเป็นอาหารแสลงก่อโรค? https://youtu.be/w-M-X-HVoBA?si=aCygPgjZL9KQP0sG ✍️(ตอน 4) ความเป็นกรด acidosis - คนกินเนื้อสัตว์ - COVID 19 https://youtu.be/Qd_SnDARnpo?si=u5ZvC19JVuUxmU1U ✍️ชีวรักษ์ 14 สค. 57 หมอวิชัย โรคบวมน้ำเหลืองและอาหารแสลง https://youtu.be/76VCwuRdEfI?si=uTSjgaAgBHaWtfmz ✍️NATURAL SELECTION โรคไวรัสโควิด 19 CORONAVIRUS เป็นโรคของคนชอบฆ่าสัตว์ กินสัตว์ CARNIVOROUS ตอน 1 https://youtu.be/xNQxZlvT1Vk?si=w0R6qy0KSRz9WMHR ตอน 2 https://youtu.be/C5VVdX1KunI?si=Cn-porqTqLKNFyCm ตอน 3 https://youtu.be/xrQjjNN4lNA?si=nNbUhrn-XcnPumMu ตอน 4 https://youtu.be/TADeZGmFYvs?si=uoQljBTwfatdXE1f ✍️หยุดทุกโรคจากระบบน้ำเหลืองเสีย ด้วยศาสตร์ ภูษาบำบัด https://youtu.be/gBbrb7If7sI?si=9awfuDpf_KYYKIiN ✍️นพ.วิชัย ขันชะเนาะ โรคบวมน้ำเหลือง https://youtu.be/VFCqiOYhQ9Y?si=O4Hsdx7hT9yF1gre ✍️ โรคเบาหวาน...วิธีลดค่าเอวันซี ค่าน้ำตาลสะสมและสะเก็ดเงิน https://youtu.be/TKvEiA5NsT8?si=p7SNSaA1SgBHnAeA ✍️บันทึกไทย Thailand Book of Records ตอนที่ 60 แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการขันชะเนาะรายแรก https://youtu.be/1S-CIFtUoSM?si=MMdwmkKEifWEmDLm ✍️แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการใช้ภูษาบำบัดรายแรกของโลก https://youtu.be/I_jDUqXmwMk?si=zEGdWTVjYaj0Bv4L ✍️ บันทึกไทย Thailand Book of Records ตอนที่ 61 แพทย์ผู้รักษาโรคบวมน้ำเหลืองด้วยการใชภูษาบำบัดรายแรก2 https://youtu.be/GzV_hRGzVyU?si=KIQgUVvbuDxU2k51 ✍️ https://youtu.be/83Dh62T40QI?si=uhsQCHhZ8WtCUPPg ✍️บ้านอาศรมเวชศาสตร์อาหารแสลง ศ.ดร.นพ.วิชัย เอกทักษิณ11 ก.พ.2563 https://youtu.be/rcSc77nfxnU?si=57PkZmrFGPrau2D8 ✍️ธรรมชาติของมนุษย์ (สัตว์ประเสริฐ) เป็นสัตว์กินพืช https://youtu.be/R3jACdHPf04?si=OINPnm0_kcKFKfW1 ✍️กลไกการสังเคราะห์ Cholesterol ในตับ https://youtu.be/6JDNTrEz6hg?si=aUXEDlDBYgB0-j8L ✍️สายตรงสุขภาพ ช่วงที่3 ถามตอบ โรคบวมน้ำเหลือง,เมื่อลูกปวดท้องเฉียบพลัน https://youtu.be/VhDBc67p4Z0?si=jqejw2waHkXXX091 ✍️ฟื้นฟูโรคไฟลามทุ่งได้อย่างไร - เวชศาสตร์อาหารแสลง https://youtu.be/dkYvnGdwLwk?si=ivovbC6nQwKJsK8n ✍️หมอวิชัย สาธิตขันชเนาะเส้นขอด https://youtu.be/pHjzPOSfkmU?si=WCk-5uB63VWAwmv8 ✍️วิธีสวมถุงน่องน้ำเหลือง https://youtu.be/GRokHilf7BE?si=HKXHkeqEHFNTjrOS ✍️สายตรงสุขภาพ โทษ-พิษภัย-ของอาหารแสลง ช่วงที่1 31/07/2016 https://youtu.be/gJ5mUdgnJME?si=oOs5Iq3SlJzCnJg6 ✍️สายตรงสุขภาพ ช่วงที่1 โทษ-พิษภัย-ของอาหารเเสลง https://youtu.be/fJCf-JDn3I8?si=t2o392PwTMy35Rsl ✍️อาการขาบวมจากแสลงหมู (cellulitis แบบ phlegmon) https://youtu.be/aEgXVrxK41Q?si=FB8i9_SlR8g4RZB7 ✍️ชีวรักษ์ 8 พค. 57 หมอวิชัย มังสวิรัติ อาหารเพื่อสุขภาวะและศันติ https://youtu.be/AzWixSKWhMc?si=G_T_R06lS4dXNBK6 ✍️มะเร็ง,ชีวรักษ์,8พค.57,หมอวิชัย,มังสวิรัติ,อาหารเพื่อสุขภาวะและศันติ https://youtu.be/2aLXIulHJls?si=VzDqINtWXd8guthA ✍️คลิปว่าด้วยเรื่องไข่มีโปรตีนสูงจริงหรือไม่ ศ.ดร.นพ.วิชัน เอกทักษิณ สายมังสวิรัติ https://www.facebook.com/share/p/16Xgr6NxeC/ เป็นต้น
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • วันนี้เรามาคุยกันเรื่องลวดลายเหนือหว่างคิ้วหรือที่เรียกกันว่า “ฮวาเตี้ยน” (花钿)
    ความมีอยู่ว่า
    ... ฝูหรงรักสวยรักงาม จะทนให้คนชี้นิ้วซุบซิบเรื่องรอยแผลเป็นขนาดเม็ดงาบนหน้าผากนางได้อย่างไร? ยังดีที่ตำแหน่งนี้เหมาะเจาะ นางติดลายฮวาเตี้ยนทุกวันไว้กลบรอยแผล ลวดลายของฮวาเตี้ยนน้อยใหญ่ บ้างลายจุด บ้างลายกลีบบุปผา เปลี่ยนไปทุกวัน เสริมความงดงามของนางยิ่งขึ้นไปอีก ...

    - จากเรื่อง <เส้นทางของฮองเฮาคนโปรด> ผู้แต่ง เซี่ยวเจียเหริน
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <กรุ่นรักกลิ่นบุปผา> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ฮวาเตี้ยนเป็นที่นิยมอย่างมากในการใช้แต่งหน้าสตรีในสมัยราชวงศ์ถัง ตำนานและที่มาของฮวาเตี้ยนมีคนเคยเขียนถึงมากแล้ว Storyฯ จะไม่พูดถึง แต่ที่วันนี้จะมาคุยกันเรื่องฮวาเตี้ยน เพราะเชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนคงจะคิดเหมือน Storyฯ ว่ามันคือการทาสีแต้มชาด แต่พอไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจึงรู้ว่า ไม่ใช่ค่ะ

    จริงๆ แล้วฮวาเตี้ยนเป็นการ “แปะ” ไม่ใช่ “วาด” วัสดุที่ใช้แปะนั้นแรกเริ่มเลยคือกระดาษสีและทองคำเปลวที่ตัดเป็นลวดลาย ต่อมามีการใช้วัสดุอื่น เช่นไข่มุกและเปลือกหอย และยังมีวัสดุอื่นที่ทำเอา Storyฯ ถึงกับทึ่งในความคิดสร้างสรรค์ เพราะมีกระดูกแก้มปลา เกล็ดปลา ขนนก ปีกแมลงปอ ฯลฯ ย้อมสีอีกด้วย

    แล้วใช้อะไรแปะ? เขาใช้กาวที่ทำมาจากกระเพาะปลาเรียกว่า “เฮ้อเจี่ยว” (呵胶) เวลาจะใช้ให้อังลมปาก (เป็นที่มาของคำว่า “เฮ้อ”) หรือแตะน้ำหรือน้ำลายเล็กน้อย ก็สามารถแปะติดได้ทนทานหลายวัน เวลาจะเอาออกก็ใช้น้ำอุ่นร้อนทาให้ชุ่มก็เอาออกได้ สมัยโบราณมีการใช้กาวชนิดนี้เชื่อมติดขนนกในการทำลูกธนูด้วย

    กระแสนิยมฮวาเตี้ยนเริ่มจางลงในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ (ใช้กันเฉพาะในวังหลัง และใช้วัสดุมีค่าเช่นไข่มุก ตามภาพ) พอมาถึงยุคสมัยราชวงศ์หมิงจะมีการใช้ฮวาเตี้ยนเฉพาะในงานทางการและลวดลายเบาบางลง และไม่มีใช้ฮวาเตี้ยนอีกเลยเมื่อเข้าสู่ยุคสมัยราชวงศ์ชิง

    Storyฯ พยายามหาว่าตกลงมีการใช้วาดหรือแต้มสีหรือไม่ แต่ก็ไม่เห็นมีข้อมูลบ่งบอกว่ามี เพื่อนเพจท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://waynesan.com/ruyi-pavilion/
    http://www.cunman.com/new/decad6397de34fe9b1cdca62cb53623e
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://culture.gansudaily.com.cn/system/2020/09/01/030144072.shtml
    http://www.guoxue.com/?p=11516
    https://zhidao.baidu.com/question/558092075.html
    https://zh.m.wikipedia.org/wiki/%E8%8A%B1%E9%88%BF%E5%A6%9D

    #กรุ่นรักกลิ่นบุปผา #วังเดียวดาย #ประเพณีจีนโบราณ #ฮวาเตี้ยน #StoryfromStory
    วันนี้เรามาคุยกันเรื่องลวดลายเหนือหว่างคิ้วหรือที่เรียกกันว่า “ฮวาเตี้ยน” (花钿) ความมีอยู่ว่า ... ฝูหรงรักสวยรักงาม จะทนให้คนชี้นิ้วซุบซิบเรื่องรอยแผลเป็นขนาดเม็ดงาบนหน้าผากนางได้อย่างไร? ยังดีที่ตำแหน่งนี้เหมาะเจาะ นางติดลายฮวาเตี้ยนทุกวันไว้กลบรอยแผล ลวดลายของฮวาเตี้ยนน้อยใหญ่ บ้างลายจุด บ้างลายกลีบบุปผา เปลี่ยนไปทุกวัน เสริมความงดงามของนางยิ่งขึ้นไปอีก ... - จากเรื่อง <เส้นทางของฮองเฮาคนโปรด> ผู้แต่ง เซี่ยวเจียเหริน (หมายเหตุ ละครเรื่อง <กรุ่นรักกลิ่นบุปผา> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ฮวาเตี้ยนเป็นที่นิยมอย่างมากในการใช้แต่งหน้าสตรีในสมัยราชวงศ์ถัง ตำนานและที่มาของฮวาเตี้ยนมีคนเคยเขียนถึงมากแล้ว Storyฯ จะไม่พูดถึง แต่ที่วันนี้จะมาคุยกันเรื่องฮวาเตี้ยน เพราะเชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนคงจะคิดเหมือน Storyฯ ว่ามันคือการทาสีแต้มชาด แต่พอไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจึงรู้ว่า ไม่ใช่ค่ะ จริงๆ แล้วฮวาเตี้ยนเป็นการ “แปะ” ไม่ใช่ “วาด” วัสดุที่ใช้แปะนั้นแรกเริ่มเลยคือกระดาษสีและทองคำเปลวที่ตัดเป็นลวดลาย ต่อมามีการใช้วัสดุอื่น เช่นไข่มุกและเปลือกหอย และยังมีวัสดุอื่นที่ทำเอา Storyฯ ถึงกับทึ่งในความคิดสร้างสรรค์ เพราะมีกระดูกแก้มปลา เกล็ดปลา ขนนก ปีกแมลงปอ ฯลฯ ย้อมสีอีกด้วย แล้วใช้อะไรแปะ? เขาใช้กาวที่ทำมาจากกระเพาะปลาเรียกว่า “เฮ้อเจี่ยว” (呵胶) เวลาจะใช้ให้อังลมปาก (เป็นที่มาของคำว่า “เฮ้อ”) หรือแตะน้ำหรือน้ำลายเล็กน้อย ก็สามารถแปะติดได้ทนทานหลายวัน เวลาจะเอาออกก็ใช้น้ำอุ่นร้อนทาให้ชุ่มก็เอาออกได้ สมัยโบราณมีการใช้กาวชนิดนี้เชื่อมติดขนนกในการทำลูกธนูด้วย กระแสนิยมฮวาเตี้ยนเริ่มจางลงในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ (ใช้กันเฉพาะในวังหลัง และใช้วัสดุมีค่าเช่นไข่มุก ตามภาพ) พอมาถึงยุคสมัยราชวงศ์หมิงจะมีการใช้ฮวาเตี้ยนเฉพาะในงานทางการและลวดลายเบาบางลง และไม่มีใช้ฮวาเตี้ยนอีกเลยเมื่อเข้าสู่ยุคสมัยราชวงศ์ชิง Storyฯ พยายามหาว่าตกลงมีการใช้วาดหรือแต้มสีหรือไม่ แต่ก็ไม่เห็นมีข้อมูลบ่งบอกว่ามี เพื่อนเพจท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://waynesan.com/ruyi-pavilion/ http://www.cunman.com/new/decad6397de34fe9b1cdca62cb53623e Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://culture.gansudaily.com.cn/system/2020/09/01/030144072.shtml http://www.guoxue.com/?p=11516 https://zhidao.baidu.com/question/558092075.html https://zh.m.wikipedia.org/wiki/%E8%8A%B1%E9%88%BF%E5%A6%9D #กรุ่นรักกลิ่นบุปผา #วังเดียวดาย #ประเพณีจีนโบราณ #ฮวาเตี้ยน #StoryfromStory
    WAYNESAN.COM
    Cyber Revue – 電影、韓劇、日劇、台劇等各類影視介紹與評價
    發掘最新電影與影集評論,來自影評人及實際觀影者的深入見解。我們提供可信的影評,幫助你選擇最佳觀影體驗。探索更多有關電影與影集的專業分析和觀影建議,盡在我們的網站。
    1 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • ในยุคที่ AI กลายเป็นแรงงานใหม่ Microsoft ไม่รอช้า → พวกเขานำ AI เข้าไปแทนงานในศูนย์บริการ เช่น customer support, sales, และการพูดคุยกับลูกค้ารายย่อย → มีรายงานว่าแค่ฝั่ง call center ก็ประหยัดต้นทุนได้ เกิน $500 ล้าน ในปีที่ผ่านมา

    และ AI ไม่ได้แค่ตอบลูกค้า — แต่ยังใช้เขียนโค้ดให้โปรแกรมใหม่ถึง 35% ของทั้งหมด → เร่งเวลาสู่ตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่หลายตัว → แถมสร้างรายได้จากลูกค้ารายย่อย “หลายสิบล้านดอลลาร์” แล้ว แม้จะอยู่ในช่วงทดลองเท่านั้น

    ท่ามกลางกระแสนี้ Microsoft กลับ ปลดพนักงานกว่า 6,000 คน ในเดือนพฤษภาคม และประกาศลดอีกเกือบ 4% ของพนักงานทั้งองค์กร สัปดาห์ก่อน → เพื่อจัดงบไปลงกับการสร้างศูนย์ข้อมูล AI มูลค่า $80,000 ล้าน ซึ่งถือเป็นการลงทุนในอนาคตแบบจัดเต็ม

    Microsoft ประหยัดเงินได้เกิน $500M จากการใช้ AI ในงานบริการลูกค้า เช่น Call Center

    AI ช่วยสร้างโค้ดใหม่ถึง 35% ของผลิตภัณฑ์ใหม่ → เพิ่มความเร็วในการพัฒนาและเปิดตัว

    เริ่มใช้ AI คุยกับลูกค้ารายย่อยโดยตรงแบบไม่ผ่านคน → สร้างรายได้หลายสิบล้านดอลลาร์แล้ว

    ปลดพนักงานกว่า 6,000 คนในเดือนพฤษภาคม 2025 และประกาศลดเพิ่มเติมอีก 4% สัปดาห์ก่อน

    ตั้งงบลงทุน $80,000M ในปีงบประมาณนี้ → ส่วนใหญ่ใช้สร้างดาต้าเซ็นเตอร์รองรับ AI

    มุมมองในอุตสาหกรรมคือ: Big Tech มอง AI เป็นเครื่องจักรทำเงินใหม่ → และหาทางลดต้นทุนในส่วนอื่นอย่างรวดเร็ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/microsoft-racks-up-over-500-million-in-ai-savings-while-slashing-jobs-bloomberg-news-reports
    ในยุคที่ AI กลายเป็นแรงงานใหม่ Microsoft ไม่รอช้า → พวกเขานำ AI เข้าไปแทนงานในศูนย์บริการ เช่น customer support, sales, และการพูดคุยกับลูกค้ารายย่อย → มีรายงานว่าแค่ฝั่ง call center ก็ประหยัดต้นทุนได้ เกิน $500 ล้าน ในปีที่ผ่านมา และ AI ไม่ได้แค่ตอบลูกค้า — แต่ยังใช้เขียนโค้ดให้โปรแกรมใหม่ถึง 35% ของทั้งหมด → เร่งเวลาสู่ตลาดของผลิตภัณฑ์ใหม่หลายตัว → แถมสร้างรายได้จากลูกค้ารายย่อย “หลายสิบล้านดอลลาร์” แล้ว แม้จะอยู่ในช่วงทดลองเท่านั้น ท่ามกลางกระแสนี้ Microsoft กลับ ปลดพนักงานกว่า 6,000 คน ในเดือนพฤษภาคม และประกาศลดอีกเกือบ 4% ของพนักงานทั้งองค์กร สัปดาห์ก่อน → เพื่อจัดงบไปลงกับการสร้างศูนย์ข้อมูล AI มูลค่า $80,000 ล้าน ซึ่งถือเป็นการลงทุนในอนาคตแบบจัดเต็ม ✅ Microsoft ประหยัดเงินได้เกิน $500M จากการใช้ AI ในงานบริการลูกค้า เช่น Call Center ✅ AI ช่วยสร้างโค้ดใหม่ถึง 35% ของผลิตภัณฑ์ใหม่ → เพิ่มความเร็วในการพัฒนาและเปิดตัว ✅ เริ่มใช้ AI คุยกับลูกค้ารายย่อยโดยตรงแบบไม่ผ่านคน → สร้างรายได้หลายสิบล้านดอลลาร์แล้ว ✅ ปลดพนักงานกว่า 6,000 คนในเดือนพฤษภาคม 2025 และประกาศลดเพิ่มเติมอีก 4% สัปดาห์ก่อน ✅ ตั้งงบลงทุน $80,000M ในปีงบประมาณนี้ → ส่วนใหญ่ใช้สร้างดาต้าเซ็นเตอร์รองรับ AI ✅ มุมมองในอุตสาหกรรมคือ: Big Tech มอง AI เป็นเครื่องจักรทำเงินใหม่ → และหาทางลดต้นทุนในส่วนอื่นอย่างรวดเร็ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/microsoft-racks-up-over-500-million-in-ai-savings-while-slashing-jobs-bloomberg-news-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft racks up over $500 million in AI savings while slashing jobs, Bloomberg News reports
    (Reuters) -Microsoft saved more than $500 million in its call centers alone last year by using artificial intelligence, Bloomberg News reported on Wednesday.
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • ใครกำลังมองหามื้ออร่อย บรรยากาศดี แวะมาที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 นะคะ

    𝐅𝐨𝐫 𝐭𝐡𝐨𝐬𝐞 𝐬𝐞𝐞𝐤𝐢𝐧𝐠 𝐚 𝐝𝐞𝐥𝐢𝐜𝐢𝐨𝐮𝐬 𝐦𝐞𝐚𝐥 𝐢𝐧 𝐚 𝐰𝐨𝐧𝐝𝐞𝐫𝐟𝐮𝐥 𝐚𝐭𝐦𝐨𝐬𝐩𝐡𝐞𝐫𝐞, 𝐜𝐨𝐦𝐞 𝐯𝐢𝐬𝐢𝐭 Ao Luek Ocean View

    ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    ใครกำลังมองหามื้ออร่อย บรรยากาศดี แวะมาที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 ⛱️ นะคะ 😊 𝐅𝐨𝐫 𝐭𝐡𝐨𝐬𝐞 𝐬𝐞𝐞𝐤𝐢𝐧𝐠 𝐚 𝐝𝐞𝐥𝐢𝐜𝐢𝐨𝐮𝐬 𝐦𝐞𝐚𝐥 𝐢𝐧 𝐚 𝐰𝐨𝐧𝐝𝐞𝐫𝐟𝐮𝐥 𝐚𝐭𝐦𝐨𝐬𝐩𝐡𝐞𝐫𝐞, 𝐜𝐨𝐦𝐞 𝐯𝐢𝐬𝐢𝐭 Ao Luek Ocean View 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • กาแฟ 1 ถุงต้องเข้าแล้ว!!! คอลัมนิสต์เขมรชู “ฮุนเซน” ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 500 ปีนับจากยุคนครวัด
    https://www.thai-tai.tv/news/20135/
    .
    #ฮุนเซน #กัมพูชา #นิด้าโพล #FreshNews #AVI #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #ข้อพิพาทชายแดน #ผู้นำกัมพูชา #โพลสำรวจ #การเมืองไทย #แทรกแซงกิจการภายใน
    กาแฟ 1 ถุงต้องเข้าแล้ว!!! คอลัมนิสต์เขมรชู “ฮุนเซน” ผู้นำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 500 ปีนับจากยุคนครวัด https://www.thai-tai.tv/news/20135/ . #ฮุนเซน #กัมพูชา #นิด้าโพล #FreshNews #AVI #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #ข้อพิพาทชายแดน #ผู้นำกัมพูชา #โพลสำรวจ #การเมืองไทย #แทรกแซงกิจการภายใน
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 Comments 0 Shares 305 Views 0 Reviews
  • KLIA Aerotrain รถไฟฟ้าสนามบินเคแอลกลับมาแล้ว

    ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเปิดให้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติที่ชื่อว่า KLIA Aerotrain อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 เชื่อมระหว่างอาคาร 1 (Terminal 1) กับอาคารผู้โดยสารรอง (Sattlelite) ซึ่งมีเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลจำนวนมาก หลังบริษัท มาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิ้ง เบอร์ฮัด (MAHB) ผู้บริหารสนามบินตัดสินใจปิดปรับปรุงยาวนานกว่า 28 เดือน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างสองอาคาร ต้องไปขึ้นรถบัสที่ทางสนามบินจัดเตรียมไว้ให้ และเสียเวลาเดินทางมากกว่าปกติ

    KLIA Aerotrain เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2541 พร้อมกับการย้ายสนามบิน จากท่าอากาศยานสุลต่านอับดุลอาซิซชาห์ (SZB) โดยใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับแอดทรานซ์ (Adtranz) รุ่น CX-100 จำนวน 3 คัน แนวเส้นทางจะลอดทางขับเครื่องบิน (แท็กซี่เวย์) ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง หนักที่สุดคือวันที่ 1 มี.ค. 2566 ขบวนรถขัดข้อง มีผู้โดยสาร 114 คนติดค้าง ทำให้ MAHB ตัดสินใจหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นต้นมา

    MAHB ปรับปรุง KLIA Aerotrain ใหม่ ด้วยงบลงทุน 456 ล้านริงกิต เปลี่ยนมาใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับ อัลสตอม (Alstom) รุ่นอินโนเวีย เอพีเอ็ม 300 อาร์ (Innovia APM 300R) มีทั้งหมด 3 คัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 270 คนต่อเที่ยว เดินรถด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางระหว่างสองอาคารเหลือเพียง 3 นาที ผ่านการทดสอบและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดหวังว่าจะทำให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคชั้นนำในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 100,000 คนต่อวัน และต้อนรับปีการท่องเที่ยวมาเลเซีย หรือ Visit Malaysia 2026

    ข้อมูลจาก CAPA Centre for Aviation พบว่าในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 57.1 ล้านคน ข้อมูลจาก Flightradar 24 พบว่ามีเที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยังสิงคโปร์ (SIN) มากที่สุดถึง 270 เที่ยวบิน ตามมาด้วยจาการ์ตา (CGK) 184 เที่ยวบิน โกตากินาบาลู (BKI) 172 เที่ยวบิน กูชิง (KCH) 152 เที่ยวบิน ปีนัง (PEN) 143 เที่ยวบิน ลังกาวี (LGK) 132 เที่ยวบิน บาหลี (DPS) 105 เที่ยวบิน ยะโฮร์บาห์รู (JHB) 87 เที่ยวบิน กว่างโจว (CAN) 83 เที่ยวบินและโกตาบาห์รู (KBR) 80 เที่ยวบิน

    อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมี 4 ประเทศที่มีระบบขนส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา อินโดนีเซีย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

    #Newskit
    KLIA Aerotrain รถไฟฟ้าสนามบินเคแอลกลับมาแล้ว ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KUL) ประเทศมาเลเซีย ได้กลับมาเปิดให้บริการระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติที่ชื่อว่า KLIA Aerotrain อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2568 เชื่อมระหว่างอาคาร 1 (Terminal 1) กับอาคารผู้โดยสารรอง (Sattlelite) ซึ่งมีเที่ยวบินเส้นทางระยะไกลจำนวนมาก หลังบริษัท มาเลเซีย แอร์พอร์ต โฮลดิ้ง เบอร์ฮัด (MAHB) ผู้บริหารสนามบินตัดสินใจปิดปรับปรุงยาวนานกว่า 28 เดือน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางระหว่างสองอาคาร ต้องไปขึ้นรถบัสที่ทางสนามบินจัดเตรียมไว้ให้ และเสียเวลาเดินทางมากกว่าปกติ KLIA Aerotrain เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2541 พร้อมกับการย้ายสนามบิน จากท่าอากาศยานสุลต่านอับดุลอาซิซชาห์ (SZB) โดยใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับแอดทรานซ์ (Adtranz) รุ่น CX-100 จำนวน 3 คัน แนวเส้นทางจะลอดทางขับเครื่องบิน (แท็กซี่เวย์) ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร แต่ที่ผ่านมาประสบปัญหาขัดข้องบ่อยครั้ง หนักที่สุดคือวันที่ 1 มี.ค. 2566 ขบวนรถขัดข้อง มีผู้โดยสาร 114 คนติดค้าง ทำให้ MAHB ตัดสินใจหยุดให้บริการชั่วคราวเป็นต้นมา MAHB ปรับปรุง KLIA Aerotrain ใหม่ ด้วยงบลงทุน 456 ล้านริงกิต เปลี่ยนมาใช้ขบวนรถไฟฟ้าแบบไร้คนขับ อัลสตอม (Alstom) รุ่นอินโนเวีย เอพีเอ็ม 300 อาร์ (Innovia APM 300R) มีทั้งหมด 3 คัน รองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 270 คนต่อเที่ยว เดินรถด้วยความเร็ว 56 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางระหว่างสองอาคารเหลือเพียง 3 นาที ผ่านการทดสอบและได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดหวังว่าจะทำให้เป็นศูนย์กลางการบินระดับภูมิภาคชั้นนำในอนาคต ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 100,000 คนต่อวัน และต้อนรับปีการท่องเที่ยวมาเลเซีย หรือ Visit Malaysia 2026 ข้อมูลจาก CAPA Centre for Aviation พบว่าในปี 2567 ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ มีผู้โดยสารรวมทั้งสิ้น 57.1 ล้านคน ข้อมูลจาก Flightradar 24 พบว่ามีเที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยังสิงคโปร์ (SIN) มากที่สุดถึง 270 เที่ยวบิน ตามมาด้วยจาการ์ตา (CGK) 184 เที่ยวบิน โกตากินาบาลู (BKI) 172 เที่ยวบิน กูชิง (KCH) 152 เที่ยวบิน ปีนัง (PEN) 143 เที่ยวบิน ลังกาวี (LGK) 132 เที่ยวบิน บาหลี (DPS) 105 เที่ยวบิน ยะโฮร์บาห์รู (JHB) 87 เที่ยวบิน กว่างโจว (CAN) 83 เที่ยวบินและโกตาบาห์รู (KBR) 80 เที่ยวบิน อนึ่ง ในภูมิภาคอาเซียนมี 4 ประเทศที่มีระบบขนส่งผู้โดยสารภายในสนามบิน ได้แก่ ท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ ท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ท่าอากาศยานซูการ์โน-ฮัตตา อินโดนีเซีย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย #Newskit
    0 Comments 0 Shares 268 Views 0 Reviews
  • แต่เดิม 18A ถูกวางตัวให้เป็นหมัดเด็ดของ Intel ในการกลับเข้าสู่ตลาดโรงหล่อแข่งกับ TSMC — เพราะมันคือเทคโนโลยีแรกที่ใช้ทรานซิสเตอร์แบบ RibbonFET กับโครงสร้างส่งพลังงานด้านหลัง PowerVia อย่างเต็มรูปแบบ

    แต่ล่าสุดมีรายงานว่า CEO คนใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan กำลังพิจารณา “ถอยออกจาก 18A สำหรับลูกค้าภายนอก” แล้วหันไปโฟกัสกับ 14A แทน โดยเขามองว่า:
    - 18A ดึงลูกค้าขนาดใหญ่ได้ยาก
    - ทุนที่ลงไปอาจไม่คุ้ม ถ้ายังไม่มีดีลใหญ่
    - 14A เตรียมไว้สำหรับการผลิตจริงในปี 2028 — ถ้าจะโปรโมต ก็ควรเริ่มแล้วตอนนี้

    ผลที่ตามมาคือ Intel อาจต้อง “หายไปจากสนามแข่งของ TSMC รุ่น N2 / A16” ไปอีก 2-3 ปี → เปิดช่องว่างให้ TSMC ครองตลาดแบบไร้คู่แข่งเลยก็ได้

    แม้ Intel จะยังผลิตชิปภายในของตัวเองด้วย 18A เช่น Panther Lake, Diamond Rapids ฯลฯ แต่การถอนตัวจาก 18A ฝั่งโรงหล่อ ก็เหมือนกับยอมรับว่า…

    “เรายังไม่พร้อมให้คนอื่นใช้ของเราเป็นเวทีหลักได้ในตอนนี้”

    Intel อาจไม่เปิดใช้เทคโนโลยี 18A ให้กับลูกค้าโรงหล่อภายนอกอีกต่อไป  
    • เพราะดึงลูกค้าใหญ่ได้ไม่มาก  
    • มีค่าใช้จ่ายสูงในการสนับสนุน + รักษาโรงงาน

    จะโฟกัสไปที่เทคโนโลยี 14A แทน → เตรียมพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2028  
    • เริ่มโปรโมตให้ลูกค้าภายนอกแล้ว  
    • ใช้ PowerDirect และ Turbo Cells — เทคโนโลยีขั้นกว่าของ PowerVia

    18A ยังใช้กับผลิตภัณฑ์ภายในของ Intel เช่น Panther Lake, Jaguar Shores, Diamond Rapids  
    • แต่ไม่ดันออกตลาดให้ผู้อื่นใช้อีกต่อไป  
    • ลูกค้าภายนอกที่ยืนยันใช้ 18A มีแค่ Amazon, Microsoft, กระทรวงกลาโหมสหรัฐ

    หากถอนตัวจากตลาด foundry รุ่น 18A → Intel จะไม่สามารถแข่งกับ TSMC รุ่น N2 / A16 ได้อีก 2–3 ปี

    TSMC ยังเหนือกว่าเรื่องความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ แม้ 18A จะได้เปรียบเรื่อง Power Delivery

    Intel เตรียมหารือกับบอร์ดบริหารปลายปีนี้ เพื่อเคาะทิศทางสุดท้าย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-might-axe-the-18a-process-node-for-foundry-customers-essentially-leaving-tsmc-with-no-rival-intel-reportedly-to-focus-on-14a
    แต่เดิม 18A ถูกวางตัวให้เป็นหมัดเด็ดของ Intel ในการกลับเข้าสู่ตลาดโรงหล่อแข่งกับ TSMC — เพราะมันคือเทคโนโลยีแรกที่ใช้ทรานซิสเตอร์แบบ RibbonFET กับโครงสร้างส่งพลังงานด้านหลัง PowerVia อย่างเต็มรูปแบบ แต่ล่าสุดมีรายงานว่า CEO คนใหม่ของ Intel, Lip-Bu Tan กำลังพิจารณา “ถอยออกจาก 18A สำหรับลูกค้าภายนอก” แล้วหันไปโฟกัสกับ 14A แทน โดยเขามองว่า: - 18A ดึงลูกค้าขนาดใหญ่ได้ยาก - ทุนที่ลงไปอาจไม่คุ้ม ถ้ายังไม่มีดีลใหญ่ - 14A เตรียมไว้สำหรับการผลิตจริงในปี 2028 — ถ้าจะโปรโมต ก็ควรเริ่มแล้วตอนนี้ ผลที่ตามมาคือ Intel อาจต้อง “หายไปจากสนามแข่งของ TSMC รุ่น N2 / A16” ไปอีก 2-3 ปี → เปิดช่องว่างให้ TSMC ครองตลาดแบบไร้คู่แข่งเลยก็ได้ แม้ Intel จะยังผลิตชิปภายในของตัวเองด้วย 18A เช่น Panther Lake, Diamond Rapids ฯลฯ แต่การถอนตัวจาก 18A ฝั่งโรงหล่อ ก็เหมือนกับยอมรับว่า… “เรายังไม่พร้อมให้คนอื่นใช้ของเราเป็นเวทีหลักได้ในตอนนี้” ✅ Intel อาจไม่เปิดใช้เทคโนโลยี 18A ให้กับลูกค้าโรงหล่อภายนอกอีกต่อไป   • เพราะดึงลูกค้าใหญ่ได้ไม่มาก   • มีค่าใช้จ่ายสูงในการสนับสนุน + รักษาโรงงาน ✅ จะโฟกัสไปที่เทคโนโลยี 14A แทน → เตรียมพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2028   • เริ่มโปรโมตให้ลูกค้าภายนอกแล้ว   • ใช้ PowerDirect และ Turbo Cells — เทคโนโลยีขั้นกว่าของ PowerVia ✅ 18A ยังใช้กับผลิตภัณฑ์ภายในของ Intel เช่น Panther Lake, Jaguar Shores, Diamond Rapids   • แต่ไม่ดันออกตลาดให้ผู้อื่นใช้อีกต่อไป   • ลูกค้าภายนอกที่ยืนยันใช้ 18A มีแค่ Amazon, Microsoft, กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ✅ หากถอนตัวจากตลาด foundry รุ่น 18A → Intel จะไม่สามารถแข่งกับ TSMC รุ่น N2 / A16 ได้อีก 2–3 ปี ✅ TSMC ยังเหนือกว่าเรื่องความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ แม้ 18A จะได้เปรียบเรื่อง Power Delivery ✅ Intel เตรียมหารือกับบอร์ดบริหารปลายปีนี้ เพื่อเคาะทิศทางสุดท้าย https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-might-axe-the-18a-process-node-for-foundry-customers-essentially-leaving-tsmc-with-no-rival-intel-reportedly-to-focus-on-14a
    0 Comments 0 Shares 238 Views 0 Reviews
  • ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอิหร่านกระชับขึ้นไปอีกขั้น!

    มีรายงานว่า อิหร่านยุติการเชื่อมต่อระบบ GPS ของสหรัฐฯอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยเปลี่ยนไปใช้ระบบนำทางด้วยดาวเทียมเป่ยโต่ว(Beidou Navigation Satellite System - BDS) ของจีนแทน ซึ่งเทียบได้กับระบบนำทางสัญญาณดาวเทียม GPS ของอเมริกา

    ล่าสุดเมื่อช่วงปลายปี 2024  จีนได้ปล่อยดาวเทียมใหม่อีก 2 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงที่ 59 และ 60 สำหรับระบบดาวเทียมนำทางเป่ยโต่ว-3 (BeiDou-3 หรือ BDS-3) จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมซีชางในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน

    ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม 2558 จีนได้เปิดตัวดาวเทียมทดลอง BDS-3 ดวงแรก ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่ 70 เปอร์เซ็นต์ และยังคงดำเนินงานอย่างปลอดภัยมาโดยตลอดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    แหล่งข่าวระบุว่า ระบบนำทางด้วยดาวเทียมเป่ยโต่วได้พัฒนาเทคโนโลยีสำคัญๆ หลายอย่างจนสามารถพัฒนาส่วนประกอบสำคัญต่าง ๆ ได้อย่างเป็นอิสระ ส่วนประกอบหลักทั้งหมดของดาวเทียม BDS-3 ได้รับการพัฒนาและผลิตโดยจีนอย่างเป็นอิสระ

    ปัจจุบัน BDS ได้มีการบูรณาการอย่างลึกซึ้งในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และกลายเป็นเครื่องจักรสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน
    ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอิหร่านกระชับขึ้นไปอีกขั้น! มีรายงานว่า อิหร่านยุติการเชื่อมต่อระบบ GPS ของสหรัฐฯอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยเปลี่ยนไปใช้ระบบนำทางด้วยดาวเทียมเป่ยโต่ว(Beidou Navigation Satellite System - BDS) ของจีนแทน ซึ่งเทียบได้กับระบบนำทางสัญญาณดาวเทียม GPS ของอเมริกา 👉ล่าสุดเมื่อช่วงปลายปี 2024  จีนได้ปล่อยดาวเทียมใหม่อีก 2 ดวง ซึ่งเป็นดาวเทียมดวงที่ 59 และ 60 สำหรับระบบดาวเทียมนำทางเป่ยโต่ว-3 (BeiDou-3 หรือ BDS-3) จากศูนย์ปล่อยดาวเทียมซีชางในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน 👉ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม 2558 จีนได้เปิดตัวดาวเทียมทดลอง BDS-3 ดวงแรก ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นใหม่ 70 เปอร์เซ็นต์ และยังคงดำเนินงานอย่างปลอดภัยมาโดยตลอดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 👉แหล่งข่าวระบุว่า ระบบนำทางด้วยดาวเทียมเป่ยโต่วได้พัฒนาเทคโนโลยีสำคัญๆ หลายอย่างจนสามารถพัฒนาส่วนประกอบสำคัญต่าง ๆ ได้อย่างเป็นอิสระ ส่วนประกอบหลักทั้งหมดของดาวเทียม BDS-3 ได้รับการพัฒนาและผลิตโดยจีนอย่างเป็นอิสระ 👉ปัจจุบัน BDS ได้มีการบูรณาการอย่างลึกซึ้งในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และกลายเป็นเครื่องจักรสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ASML คือบริษัทผลิต เครื่อง EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ที่เป็นหัวใจของการผลิตชิปสมัยใหม่ทุกวันนี้ ยิ่งเทคโนโลยีเล็กลง (เช่น 5nm, 3nm), ความละเอียดของเครื่องก็ยิ่งสำคัญ

    แต่ช่วงหลัง Intel กลับออกมาบอกว่า “เครื่อง High NA EUV รุ่นล่าสุดของ ASML อาจไม่จำเป็นเท่าที่คิดในเทคโนโลยีชิปยุคใหม่” เพราะแนวโน้มตอนนี้คือ “เปลี่ยนจากการลดขนาดทรานซิสเตอร์แนวนอน → ไปเพิ่มชั้นแนวตั้ง (3D stacking)” แทน → ทำให้ความคมชัดของเลนส์ไม่ใช่พระเอกอีกต่อไป

    BofA จึงลดความคาดหวังต่ออุปสงค์ของเครื่อง High NA EUV แม้จะยังแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ASML อยู่ (เพราะยังเชื่อในกระแส AI) แต่ก็มองว่า:
    - ตลาด High NA ยังไม่เติบโตเท่าที่หวัง
    - Intel ยังมีปัญหาผลิต 18A
    - Samsung เองยังไม่สามารถส่งชิปหน่วยความจำให้ NVIDIA ผ่านได้
    - และยังมีความเสี่ยงการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ต่ออุปกรณ์ที่ส่งไปจีน

    BofA ลดเป้าราคาหุ้น ASML จาก €795 → €759  
    • ลดคาดการณ์ EPS ปี 2026–2027 ลง ~5%  
    • แต่ยังคงคำแนะนำ “Buy” อยู่

    เหตุผลที่ลดประมาณการคือการชะลอความต้องการเครื่อง High NA EUV ของ ASML  
    • โดยเฉพาะจาก Intel, Samsung  
    • และการปรับทิศทางดีไซน์ชิปไปสู่แนวตั้งแบบ 3D มากขึ้น

    BofA คาดว่า ASML จะขายเครื่อง High NA ได้แค่ 4 เครื่องในปี 2026  
    • ลดลง ~50% จากที่เคยคาดไว้

    แม้จะเผชิญแรงกดดัน แต่ BofA ยังเชื่อในการเติบโตระยะยาวจากกระแส AI  
    • คาดว่าตลาด AI chip จะโตแตะ $795B ภายในปี 2030  
    • ซึ่งยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีลิทโธกราฟีรุ่นล่าสุดอยู่

    อัตราส่วน EV/Operating Income ของ ASML ยังอยู่ที่ 19.6x  
    • ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 22x แต่ถือว่า “ยังน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว”

    https://wccftech.com/asmls-price-target-cut-by-bofa-due-to-lower-high-na-machine-demand/
    ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ASML คือบริษัทผลิต เครื่อง EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ที่เป็นหัวใจของการผลิตชิปสมัยใหม่ทุกวันนี้ ยิ่งเทคโนโลยีเล็กลง (เช่น 5nm, 3nm), ความละเอียดของเครื่องก็ยิ่งสำคัญ แต่ช่วงหลัง Intel กลับออกมาบอกว่า “เครื่อง High NA EUV รุ่นล่าสุดของ ASML อาจไม่จำเป็นเท่าที่คิดในเทคโนโลยีชิปยุคใหม่” เพราะแนวโน้มตอนนี้คือ “เปลี่ยนจากการลดขนาดทรานซิสเตอร์แนวนอน → ไปเพิ่มชั้นแนวตั้ง (3D stacking)” แทน → ทำให้ความคมชัดของเลนส์ไม่ใช่พระเอกอีกต่อไป BofA จึงลดความคาดหวังต่ออุปสงค์ของเครื่อง High NA EUV แม้จะยังแนะนำ “ซื้อ” หุ้น ASML อยู่ (เพราะยังเชื่อในกระแส AI) แต่ก็มองว่า: - ตลาด High NA ยังไม่เติบโตเท่าที่หวัง - Intel ยังมีปัญหาผลิต 18A - Samsung เองยังไม่สามารถส่งชิปหน่วยความจำให้ NVIDIA ผ่านได้ - และยังมีความเสี่ยงการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ต่ออุปกรณ์ที่ส่งไปจีน ✅ BofA ลดเป้าราคาหุ้น ASML จาก €795 → €759   • ลดคาดการณ์ EPS ปี 2026–2027 ลง ~5%   • แต่ยังคงคำแนะนำ “Buy” อยู่ ✅ เหตุผลที่ลดประมาณการคือการชะลอความต้องการเครื่อง High NA EUV ของ ASML   • โดยเฉพาะจาก Intel, Samsung   • และการปรับทิศทางดีไซน์ชิปไปสู่แนวตั้งแบบ 3D มากขึ้น ✅ BofA คาดว่า ASML จะขายเครื่อง High NA ได้แค่ 4 เครื่องในปี 2026   • ลดลง ~50% จากที่เคยคาดไว้ ✅ แม้จะเผชิญแรงกดดัน แต่ BofA ยังเชื่อในการเติบโตระยะยาวจากกระแส AI   • คาดว่าตลาด AI chip จะโตแตะ $795B ภายในปี 2030   • ซึ่งยังต้องพึ่งพาเทคโนโลยีลิทโธกราฟีรุ่นล่าสุดอยู่ ✅ อัตราส่วน EV/Operating Income ของ ASML ยังอยู่ที่ 19.6x   • ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 22x แต่ถือว่า “ยังน่าสนใจสำหรับนักลงทุนระยะยาว” https://wccftech.com/asmls-price-target-cut-by-bofa-due-to-lower-high-na-machine-demand/
    WCCFTECH.COM
    ASML's Price Target Cut By BofA Due To Lower High NA Machine Demand
    Bank of America cuts ASML share price target on back of lower demand for high NA EUV scanners and Intel's production woes.
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • เราคิดว่าอีเมลที่ส่งผ่าน Microsoft 365 หรือ Gmail ธุรกิจนั้น “ถูกเข้ารหัสตามมาตรฐานเสมอ” ใช่ไหมครับ? แต่ความจริงคือ ถ้ามีปัญหาการเข้ารหัสเกิดขึ้นระหว่างส่ง (เช่น ฝั่งรับไม่รองรับ TLS) — ระบบจะ:

    - Google Workspace: ยอมลดมาตรฐาน กลับไปใช้ TLS 1.0 หรือ 1.1 ที่เก่ามาก (เสี่ยงต่อการดักฟัง)
    - Microsoft 365: ถ้าหา TLS ที่ใช้งานร่วมกันไม่ได้เลย ก็ส่งออกไปเลย “แบบไม่เข้ารหัส” — โดยไม่มีการเตือนใด ๆ!

    ผลคือข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น Health Data, PHI, หรือเอกสารทางกฎหมาย อาจรั่วไหลโดยที่ทั้งผู้ใช้ และแอดมิน “ไม่รู้ตัวเลยว่ามันไม่ได้เข้ารหัส” — ซึ่งอันตรายมาก ๆ โดยเฉพาะในวงการ Healthcare ที่ต้องทำตามกฎ HIPAA

    งานวิจัยจาก Paubox ยังพบว่า:
    - 43% ของเหตุการณ์ข้อมูลรั่วใน Healthcare ปี 2024 เกี่ยวข้องกับ Microsoft 365
    - 31.1% ขององค์กรที่ถูกเจาะ มีการตั้ง “บังคับใช้ TLS” แล้ว — แต่ระบบก็ยัง fallback ลงมาโดยไม่แจ้งเตือน

    Microsoft 365 จะส่งอีเมลเป็น plain text หากเข้ารหัส TLS ไม่สำเร็จ  
    • ไม่มีการแจ้งผู้ส่ง หรือ log เตือน  
    • เสี่ยงละเมิดกฎข้อมูล เช่น HIPAA หรือ GDPR

    Google Workspace ยอมใช้ TLS เวอร์ชัน 1.0/1.1 ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบ downgrade  
    • ไม่ปฏิเสธอีเมล ไม่แจ้งเตือนเช่นกัน

    รายงานจาก Paubox ชี้ว่าพฤติกรรม default เหล่านี้ก่อให้เกิด blind spot ร้ายแรง  
    • ให้ “ความมั่นใจจอมปลอม” (false sense of security) แก่ผู้ใช้งาน  
    • สุดท้ายเปิดช่องให้ข้อมูลรั่วไหลเงียบ ๆ

    กรณี Solara Medical (2021): อีเมลไม่มี encryption ทำให้ข้อมูลผู้ป่วย 114,000 รายรั่ว — ถูกปรับกว่า $12 ล้าน

    หน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น NSA เตือนห้ามใช้ TLS 1.0/1.1 เพราะมีช่องโหว่ downgrade attack

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-365-and-google-workspace-could-put-sensitive-data-at-risk-because-of-a-blind-spot-in-default-email-behavior
    เราคิดว่าอีเมลที่ส่งผ่าน Microsoft 365 หรือ Gmail ธุรกิจนั้น “ถูกเข้ารหัสตามมาตรฐานเสมอ” ใช่ไหมครับ? แต่ความจริงคือ ถ้ามีปัญหาการเข้ารหัสเกิดขึ้นระหว่างส่ง (เช่น ฝั่งรับไม่รองรับ TLS) — ระบบจะ: - Google Workspace: ยอมลดมาตรฐาน กลับไปใช้ TLS 1.0 หรือ 1.1 ที่เก่ามาก (เสี่ยงต่อการดักฟัง) - Microsoft 365: ถ้าหา TLS ที่ใช้งานร่วมกันไม่ได้เลย ก็ส่งออกไปเลย “แบบไม่เข้ารหัส” — โดยไม่มีการเตือนใด ๆ! ผลคือข้อมูลละเอียดอ่อน เช่น Health Data, PHI, หรือเอกสารทางกฎหมาย อาจรั่วไหลโดยที่ทั้งผู้ใช้ และแอดมิน “ไม่รู้ตัวเลยว่ามันไม่ได้เข้ารหัส” — ซึ่งอันตรายมาก ๆ โดยเฉพาะในวงการ Healthcare ที่ต้องทำตามกฎ HIPAA งานวิจัยจาก Paubox ยังพบว่า: - 43% ของเหตุการณ์ข้อมูลรั่วใน Healthcare ปี 2024 เกี่ยวข้องกับ Microsoft 365 - 31.1% ขององค์กรที่ถูกเจาะ มีการตั้ง “บังคับใช้ TLS” แล้ว — แต่ระบบก็ยัง fallback ลงมาโดยไม่แจ้งเตือน ✅ Microsoft 365 จะส่งอีเมลเป็น plain text หากเข้ารหัส TLS ไม่สำเร็จ   • ไม่มีการแจ้งผู้ส่ง หรือ log เตือน   • เสี่ยงละเมิดกฎข้อมูล เช่น HIPAA หรือ GDPR ✅ Google Workspace ยอมใช้ TLS เวอร์ชัน 1.0/1.1 ที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีแบบ downgrade   • ไม่ปฏิเสธอีเมล ไม่แจ้งเตือนเช่นกัน ✅ รายงานจาก Paubox ชี้ว่าพฤติกรรม default เหล่านี้ก่อให้เกิด blind spot ร้ายแรง   • ให้ “ความมั่นใจจอมปลอม” (false sense of security) แก่ผู้ใช้งาน   • สุดท้ายเปิดช่องให้ข้อมูลรั่วไหลเงียบ ๆ ✅ กรณี Solara Medical (2021): อีเมลไม่มี encryption ทำให้ข้อมูลผู้ป่วย 114,000 รายรั่ว — ถูกปรับกว่า $12 ล้าน ✅ หน่วยงานด้านความมั่นคง เช่น NSA เตือนห้ามใช้ TLS 1.0/1.1 เพราะมีช่องโหว่ downgrade attack https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-365-and-google-workspace-could-put-sensitive-data-at-risk-because-of-a-blind-spot-in-default-email-behavior
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • เราคงคุ้นกับ PNG ในฐานะไฟล์ภาพพื้นหลังโปร่งใสและความละเอียดสูง แต่ที่จริง PNG ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1995 เพื่อมาแทน GIF ที่ติดลิขสิทธิ์ของ Unisys สมัยนั้น

    หลังจากนั้น PNG ก็แทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงสำคัญเลย — จนมาถึงปี 2025 นี้ ที่ W3C (องค์กรมาตรฐานเว็บ) ประกาศ PNG เวอร์ชันที่ 3 ที่เพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ให้ทันยุคจอ HDR และการแชร์ภาพผ่านโซเชียล/โปรแกรมแต่งภาพระดับมืออาชีพ เช่น:
    - รองรับ HDR โดยใช้วิธีฝัง CICP (ข้อมูล color space แบบประหยัดพื้นที่)
    - รองรับภาพเคลื่อนไหวแบบเป็นทางการ (เคยมีตั้งแต่ 2001 แต่ไม่อยู่ในสเปคหลัก)
    - ฝังข้อมูล Exif ได้ เช่น GPS, สิทธิ์ลิขสิทธิ์, กล้อง/เลนส์ที่ใช้

    แม้จะอัปเกรดชุดใหญ่ แต่เบราว์เซอร์หลักอย่าง Chrome, Firefox, Safari และ Edge ก็รองรับ PNG เวอร์ชันใหม่นี้แล้ว ทั้งบน Windows, macOS, iOS และ Android

    PNG อัปเดตเป็นสเปคเวอร์ชันที่ 3 ครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี  
    • จัดทำโดย W3C ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก Google, Apple, Adobe, BBC, NBCUniversal, MovieLabs  
    • PNG เดิมมีมานานตั้งแต่ปี 1995 เป็นไฟล์ฟรี ไร้ลิขสิทธิ์จากยุค GIF

    เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่:  
    • รองรับ HDR (High Dynamic Range) ด้วย CICP (Compact Color Identification Protocol)  
    • รองรับภาพเคลื่อนไหว (Animation) อย่างเป็นทางการ  
    • รองรับ Exif Metadata เช่น กล้อง, GPS, ลิขสิทธิ์

    เบราว์เซอร์หลักและระบบปฏิบัติการทันสมัยรองรับ PNG เวอร์ชันนี้แล้วทันที  
    • รวมถึง Firefox, Safari, Chrome, macOS, iOS, และแอปแต่งภาพอย่าง Photoshop, DaVinci Resolve

    PNG HDR รองรับแสงสีที่สว่าง–ดำสนิทมากขึ้น โดยไม่เพิ่มขนาดไฟล์มากนัก  
    • เหมาะกับจอ HDR และการนำเสนอกราฟิกยุคใหม่

    อนาคตจะมี PNG เวอร์ชัน 4–5 ต่อไปเพื่อปรับ SDR/HDR และเพิ่มอัตราการบีบอัด

    https://www.techspot.com/news/108483-png-image-format-receives-hdr-animation-support-first.html
    เราคงคุ้นกับ PNG ในฐานะไฟล์ภาพพื้นหลังโปร่งใสและความละเอียดสูง แต่ที่จริง PNG ถูกสร้างมาตั้งแต่ปี 1995 เพื่อมาแทน GIF ที่ติดลิขสิทธิ์ของ Unisys สมัยนั้น หลังจากนั้น PNG ก็แทบไม่เคยเปลี่ยนแปลงสำคัญเลย — จนมาถึงปี 2025 นี้ ที่ W3C (องค์กรมาตรฐานเว็บ) ประกาศ PNG เวอร์ชันที่ 3 ที่เพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ให้ทันยุคจอ HDR และการแชร์ภาพผ่านโซเชียล/โปรแกรมแต่งภาพระดับมืออาชีพ เช่น: - รองรับ HDR โดยใช้วิธีฝัง CICP (ข้อมูล color space แบบประหยัดพื้นที่) - รองรับภาพเคลื่อนไหวแบบเป็นทางการ (เคยมีตั้งแต่ 2001 แต่ไม่อยู่ในสเปคหลัก) - ฝังข้อมูล Exif ได้ เช่น GPS, สิทธิ์ลิขสิทธิ์, กล้อง/เลนส์ที่ใช้ แม้จะอัปเกรดชุดใหญ่ แต่เบราว์เซอร์หลักอย่าง Chrome, Firefox, Safari และ Edge ก็รองรับ PNG เวอร์ชันใหม่นี้แล้ว ทั้งบน Windows, macOS, iOS และ Android ✅ PNG อัปเดตเป็นสเปคเวอร์ชันที่ 3 ครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี   • จัดทำโดย W3C ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก Google, Apple, Adobe, BBC, NBCUniversal, MovieLabs   • PNG เดิมมีมานานตั้งแต่ปี 1995 เป็นไฟล์ฟรี ไร้ลิขสิทธิ์จากยุค GIF ✅ เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ได้แก่:   • รองรับ HDR (High Dynamic Range) ด้วย CICP (Compact Color Identification Protocol)   • รองรับภาพเคลื่อนไหว (Animation) อย่างเป็นทางการ   • รองรับ Exif Metadata เช่น กล้อง, GPS, ลิขสิทธิ์ ✅ เบราว์เซอร์หลักและระบบปฏิบัติการทันสมัยรองรับ PNG เวอร์ชันนี้แล้วทันที   • รวมถึง Firefox, Safari, Chrome, macOS, iOS, และแอปแต่งภาพอย่าง Photoshop, DaVinci Resolve ✅ PNG HDR รองรับแสงสีที่สว่าง–ดำสนิทมากขึ้น โดยไม่เพิ่มขนาดไฟล์มากนัก   • เหมาะกับจอ HDR และการนำเสนอกราฟิกยุคใหม่ ✅ อนาคตจะมี PNG เวอร์ชัน 4–5 ต่อไปเพื่อปรับ SDR/HDR และเพิ่มอัตราการบีบอัด https://www.techspot.com/news/108483-png-image-format-receives-hdr-animation-support-first.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    PNG image format receives HDR and animation support in first spec update in decades
    The World Wide Web Consortium (W3C), which manages web standards and guidelines, recently published new specifications for the PNG (Portable Network Graphics) image format. The updated format...
    0 Comments 0 Shares 239 Views 0 Reviews
  • “Boom Boom Tel Aviv” กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตทันที มียอดเข้าชมหลายล้านครั้งบนโซเชียลมีเดีย เพลงนี้แสดงให้เห็นว่าโลกเกลียดชังระบอบไซออนิสต์และการกระทำอันโหดร้ายของพวกเขาขนาดไหน

    ล่าสุดมีรายงานว่าทางการอิสราเอลกำลังพยายามหาทางลบเพลงนี้ออกจากอินเทอร์เน็ต
    “Boom Boom Tel Aviv” กลายเป็นเพลงฮิตติดชาร์ตทันที มียอดเข้าชมหลายล้านครั้งบนโซเชียลมีเดีย เพลงนี้แสดงให้เห็นว่าโลกเกลียดชังระบอบไซออนิสต์และการกระทำอันโหดร้ายของพวกเขาขนาดไหน ล่าสุดมีรายงานว่าทางการอิสราเอลกำลังพยายามหาทางลบเพลงนี้ออกจากอินเทอร์เน็ต
    Like
    2
    1 Comments 1 Shares 218 Views 55 0 Reviews
  • เครื่องดื่มที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 ทุกแก้วเราชงด้วยใจ มาดื่มด่ำความสุขนี้กับเรากันนะคะ

    𝐖𝐞 𝐩𝐨𝐮𝐫 𝐨𝐮𝐫 𝐡𝐞𝐚𝐫𝐭 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐜𝐮𝐩, 𝐬𝐨 𝐲𝐨𝐮 𝐜𝐚𝐧 𝐬𝐚𝐯𝐨𝐫 𝐧𝐨𝐭 𝐣𝐮𝐬𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐟𝐥𝐚𝐯𝐨𝐫, 𝐛𝐮𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐞𝐚𝐜𝐞 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐜𝐨𝐦𝐞𝐬 𝐰𝐢𝐭𝐡 𝐢𝐭 — 𝐬𝐮𝐫𝐫𝐨𝐮𝐧𝐝𝐞𝐝 𝐛𝐲 𝐚 𝐯𝐢𝐞𝐰 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐧𝐞𝐞𝐝𝐬 𝐧𝐨 𝐟𝐢𝐥𝐭𝐞𝐫.

    ขอบคุณรูปต้นฉบับสวยๆ จาก FB: พักก๊อนน

    ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    เครื่องดื่มที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 𝐂𝐚𝐟𝐞' & 𝐄𝐚𝐭𝐞𝐫𝐲 ⛱️ ทุกแก้วเราชงด้วยใจ มาดื่มด่ำความสุขนี้กับเรากันนะคะ 𝐖𝐞 𝐩𝐨𝐮𝐫 𝐨𝐮𝐫 𝐡𝐞𝐚𝐫𝐭 𝐢𝐧𝐭𝐨 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐜𝐮𝐩, 𝐬𝐨 𝐲𝐨𝐮 𝐜𝐚𝐧 𝐬𝐚𝐯𝐨𝐫 𝐧𝐨𝐭 𝐣𝐮𝐬𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐟𝐥𝐚𝐯𝐨𝐫, 𝐛𝐮𝐭 𝐭𝐡𝐞 𝐩𝐞𝐚𝐜𝐞 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐜𝐨𝐦𝐞𝐬 𝐰𝐢𝐭𝐡 𝐢𝐭 — 𝐬𝐮𝐫𝐫𝐨𝐮𝐧𝐝𝐞𝐝 𝐛𝐲 𝐚 𝐯𝐢𝐞𝐰 𝐭𝐡𝐚𝐭 𝐧𝐞𝐞𝐝𝐬 𝐧𝐨 𝐟𝐢𝐥𝐭𝐞𝐫. ขอบคุณรูปต้นฉบับสวยๆ จาก FB: พักก๊อนน🙏 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    0 Comments 0 Shares 370 Views 0 Reviews
  • สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
    ทรงฉลองพระองค์ไทยสากล ผ้าไหมพื้นเรียบ
    .
    ผ้าไหมพื้นเรียบ เป็นการทอแบบขัด เป็นวิธีการเบื้องต้นของการทอผ้าทุกชนิด คือมีเส้นพุ่งและเส้นยืนซึ่งอาจเป็นเส้นเดียวกันหรือต่างสีกัน ซึ่งจะทำให้เกิดลวดลายในเนื้อผ้าต่างกัน เช่น การทอเส้นยืนสลับสีก็จะเกิดผ้าลายริ้วทางยาว หรือถ้าทอเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ผ้าลายขวาง การทอเส้นยืนและเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ลายตาราง เป็นต้น ผ้าไหมที่ใช้เทคนิคการทอขัด เรียงตามความหนาของเนื้อผ้า เช่น ไม่ได้มีการควบเส้นใยเพิ่มเข้าไป ผ้าไหมสองเส้น หมายถึง ผ้าไหมที่ทอขัดด้วยเส้นยืนเส้นเดียว ส่วนเส้นพุ่งจะมีการควบเส้นไหมเพิ่มเป็นสองเส้น เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าผ้าไหมหนึ่งเส้น
    ----
    HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS
    ROYAL ATTIRE IN THAI SILK
    .
    Thai silk is a polished weave. It is the basic method of weaving all kinds. That is, there is a weft line and a stand line, which may be the same line or different colors. This will cause patterns in different fabrics, for example, weaving warp lines and alternating colors will produce long stripes. Or if weaving the weft lines and alternating colors, we will get a striped fabric. The weaving of warp and weft lines alternating colors will result in a grid pattern, etc. Silk that uses polished weaving techniques. Sorted according to the thickness of the fabric, for example, without adding more fibers. Two-strand silk refers to silk that is woven with a single warp thread. As for the weft line, there will be two more silk threads merged. The fabric will be one strand thicker than silk.
    ____________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์ไทยสากล ผ้าไหมพื้นเรียบ . ผ้าไหมพื้นเรียบ เป็นการทอแบบขัด เป็นวิธีการเบื้องต้นของการทอผ้าทุกชนิด คือมีเส้นพุ่งและเส้นยืนซึ่งอาจเป็นเส้นเดียวกันหรือต่างสีกัน ซึ่งจะทำให้เกิดลวดลายในเนื้อผ้าต่างกัน เช่น การทอเส้นยืนสลับสีก็จะเกิดผ้าลายริ้วทางยาว หรือถ้าทอเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ผ้าลายขวาง การทอเส้นยืนและเส้นพุ่งสลับสีก็จะได้ลายตาราง เป็นต้น ผ้าไหมที่ใช้เทคนิคการทอขัด เรียงตามความหนาของเนื้อผ้า เช่น ไม่ได้มีการควบเส้นใยเพิ่มเข้าไป ผ้าไหมสองเส้น หมายถึง ผ้าไหมที่ทอขัดด้วยเส้นยืนเส้นเดียว ส่วนเส้นพุ่งจะมีการควบเส้นไหมเพิ่มเป็นสองเส้น เนื้อผ้าจะมีความหนามากกว่าผ้าไหมหนึ่งเส้น ---- HER MAJESTY QUEEN SUTHIDA WEARS ROYAL ATTIRE IN THAI SILK . Thai silk is a polished weave. It is the basic method of weaving all kinds. That is, there is a weft line and a stand line, which may be the same line or different colors. This will cause patterns in different fabrics, for example, weaving warp lines and alternating colors will produce long stripes. Or if weaving the weft lines and alternating colors, we will get a striped fabric. The weaving of warp and weft lines alternating colors will result in a grid pattern, etc. Silk that uses polished weaving techniques. Sorted according to the thickness of the fabric, for example, without adding more fibers. Two-strand silk refers to silk that is woven with a single warp thread. As for the weft line, there will be two more silk threads merged. The fabric will be one strand thicker than silk. ____________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • ใครว่า AI มีแต่เด็กใช้ลอกงาน ครูเองก็กำลัง “ใช้กลับ” เหมือนกัน — จากผลสำรวจล่าสุดของ Gallup พบว่าในปีการศึกษา 2024–2025 ที่ผ่านมา ครูในโรงเรียนรัฐของสหรัฐฯ ถึง 6 ใน 10 คน ใช้ AI ช่วยสอน แล้ว

    AI ถูกใช้เพื่อ:
    - วางแผนการสอน
    - สร้างใบงาน กิจกรรม
    - แปลงบทเรียนให้เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน

    และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ 1 ใน 3 ใช้ AI เป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งช่วยลดงานที่กินเวลาซ้ำ ๆ เช่น แก้ข้อสอบ, เตรียมเอกสาร, ส่งอีเมลถึงผู้ปกครอง ไปจนถึงออกแบบแผนรายบุคคล

    แม้ตัวเลขอาจดูไม่เยอะมากในภาพรวม แต่ครูที่ใช้เป็นประจำรายงานว่า “คุณภาพงานดีขึ้นชัดเจน” เพราะพวกเขามีเวลาไปทำสิ่งที่คนเท่านั้นทำได้ — เช่น ให้ฟีดแบคเชิงลึก หรือเข้าใจความต้องการเฉพาะของเด็ก

    https://www.techspot.com/news/108449-majority-us-teachers-now-use-ai-tools-saving.html
    ใครว่า AI มีแต่เด็กใช้ลอกงาน ครูเองก็กำลัง “ใช้กลับ” เหมือนกัน — จากผลสำรวจล่าสุดของ Gallup พบว่าในปีการศึกษา 2024–2025 ที่ผ่านมา ครูในโรงเรียนรัฐของสหรัฐฯ ถึง 6 ใน 10 คน ใช้ AI ช่วยสอน แล้ว AI ถูกใช้เพื่อ: - วางแผนการสอน - สร้างใบงาน กิจกรรม - แปลงบทเรียนให้เหมาะกับนักเรียนแต่ละคน และที่น่าสนใจกว่านั้นคือ 1 ใน 3 ใช้ AI เป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งช่วยลดงานที่กินเวลาซ้ำ ๆ เช่น แก้ข้อสอบ, เตรียมเอกสาร, ส่งอีเมลถึงผู้ปกครอง ไปจนถึงออกแบบแผนรายบุคคล แม้ตัวเลขอาจดูไม่เยอะมากในภาพรวม แต่ครูที่ใช้เป็นประจำรายงานว่า “คุณภาพงานดีขึ้นชัดเจน” เพราะพวกเขามีเวลาไปทำสิ่งที่คนเท่านั้นทำได้ — เช่น ให้ฟีดแบคเชิงลึก หรือเข้าใจความต้องการเฉพาะของเด็ก https://www.techspot.com/news/108449-majority-us-teachers-now-use-ai-tools-saving.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Majority of US teachers now use AI tools, saving an average of 5.9 hours each week
    According to the latest Gallup study on educator perspectives, six out of 10 teachers working at public K-12 schools in the US used an AI tool to...
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • Karoline Leavitt โฆษกทำเนียบขาวออกมากล่าวยืนยันอีกครั้งว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวบุคคลที่ปล่อยข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านให้กับ CNN

    “พวกเขาควรติดคุก” Leavitt กล่าว
    Karoline Leavitt โฆษกทำเนียบขาวออกมากล่าวยืนยันอีกครั้งว่า เจ้าหน้าที่กำลังติดตามตัวบุคคลที่ปล่อยข้อมูลข่าวกรองเกี่ยวกับการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์อิหร่านให้กับ CNN “พวกเขาควรติดคุก” Leavitt กล่าว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 184 Views 23 0 Reviews
  • ในยุคที่ชีวิตเราผูกกับบัญชีออนไลน์สารพัด มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำรหัสผ่านทั้งหมดได้เอง — นี่ยังไม่นับเรื่อง “ใช้ซ้ำรหัสเดิม” ซึ่งเป็นด่านแรกที่แฮกเกอร์ชอบที่สุด

    แต่โชคดีที่ปัจจุบันมี Password Manager ฟรีดี ๆ มากมายที่ไม่เพียงเก็บรหัสผ่านอย่างปลอดภัย แต่ยังช่วยสร้างรหัสผ่านใหม่, เติมรหัสให้อัตโนมัติ และซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ด้วย ซึ่งจากการจัดอันดับล่าสุด 10 แอปที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือได้บน Android มีทั้งแบบคลาวด์และแบบเก็บข้อมูลในเครื่องเอง

    ที่น่าสนใจคือ บางแอปเปิดให้ใช้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมโดยไม่ต้องเสียเงินเลย เช่น:
    - Proton Pass ใช้ได้ไม่จำกัดอุปกรณ์ + สร้าง 2FA ในตัว + รองรับ passkeys
    - Bitwarden เป็นโอเพนซอร์สและใช้ได้บนทุกแพลตฟอร์ม + มี 2FA ฟรี
    - KeePassDX เก็บไฟล์รหัสแบบ local + ปลอดคลาวด์ + ไม่มีโฆษณา

    ในขณะที่แอปบางตัวอย่าง LastPass หรือ Dashlane มีข้อจำกัด เช่น จำกัดจำนวนรหัสผ่าน หรือใช้งานได้แค่อุปกรณ์เดียวพร้อมกันในเวอร์ชันฟรี

    แอป Password Manager ฟรีที่น่าสนใจใน Android ปี 2025:
    Proton Pass  
    • ใช้ได้ทุกอุปกรณ์ ฟรี ไม่จำกัดจำนวนรหัสผ่าน  
    • มี 2FA และสร้าง email alias ได้ในตัว  
    • รองรับ passkeys และการเติมรหัสแบบ autofill  
    • เจ้าของเดียวกับ Proton Mail — เน้นความเป็นส่วนตัว

    Bitwarden  
    • โอเพนซอร์ส + ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยภายนอก  
    • ฟรีทุกฟีเจอร์หลัก ใช้ได้หลายอุปกรณ์  
    • มี 2FA, generator, และ autofill ครบ  
    • มีรุ่นพรีเมียม $10/ปี ถ้าต้องการเก็บไฟล์เข้ารหัส

    NordPass (Free)  
    • จัดเก็บรหัสไม่จำกัด และมี autofill  
    • อินเทอร์เฟซใช้ง่าย มีจัดเก็บโน้ต/บัตรเครดิตด้วย  
    • ข้อจำกัด: ใช้ได้แค่ 1 อุปกรณ์พร้อมกันในเวอร์ชันฟรี

    Avira Password Manager  
    • ใช้ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ + มีแจ้งเตือนรหัสอ่อน  
    • มี browser extension รองรับ autofill  
    • ข้อจำกัด: ฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างต้องเสียเงิน

    KeePassDX  
    • เก็บข้อมูลเป็นไฟล์ local (ตามมาตรฐาน KeePass)  
    • ไม่มีคลาวด์ = ความเป็นส่วนตัวสูง  
    • รองรับ biometric unlock และ autofill  
    • เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ชำนาญและต้องการควบคุมเต็มที่

    Dashlane (Free)  
    • ใช้ได้ 25 รหัสผ่าน + autofill ทำงานดี  
    • มีระบบตรวจสุขภาพรหัสผ่าน  
    • ข้อจำกัด: ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ต้องอัปเกรดเป็นพรีเมียม

    RoboForm  
    • ใช้งานได้ข้ามอุปกรณ์ + มี generator  
    • อินเทอร์เฟซไม่หวือหวาแต่ใช้ง่าย  
    • มีฟีเจอร์เก็บฟอร์ม/รหัสแบบ auto-fill

    LastPass (Free)  
    • จัดการรหัสผ่าน/โน้ต + autofill ทำงานดี  
    • ข้อจำกัด: ใช้ได้เพียง “อุปกรณ์ประเภทเดียว” (เช่นเฉพาะมือถือ)  
    • ไม่รองรับซิงค์มือถือ+คอมพร้อมกันในเวอร์ชันฟรี

    Total Password  
    • อินเทอร์เฟซใช้ง่าย + autofill ดี  
    • ราคาเริ่มต้น $1.99/เดือน ถ้าต้องการเกินฟีเจอร์ฟรี

    1Password (Trial)  
    • ทดลองใช้งานได้ 14 วัน มีฟีเจอร์ครบ  
    • หลังหมดช่วงทดลองต้องเสียเงิน  
    • มีระบบแบ่งปันรหัสและเก็บข้อมูลอื่น ๆ เช่นบัตรเครดิต

    https://computercity.com/software/best-free-password-manager-for-android
    ในยุคที่ชีวิตเราผูกกับบัญชีออนไลน์สารพัด มันแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจำรหัสผ่านทั้งหมดได้เอง — นี่ยังไม่นับเรื่อง “ใช้ซ้ำรหัสเดิม” ซึ่งเป็นด่านแรกที่แฮกเกอร์ชอบที่สุด แต่โชคดีที่ปัจจุบันมี Password Manager ฟรีดี ๆ มากมายที่ไม่เพียงเก็บรหัสผ่านอย่างปลอดภัย แต่ยังช่วยสร้างรหัสผ่านใหม่, เติมรหัสให้อัตโนมัติ และซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ด้วย ซึ่งจากการจัดอันดับล่าสุด 10 แอปที่ได้รับความนิยมและเชื่อถือได้บน Android มีทั้งแบบคลาวด์และแบบเก็บข้อมูลในเครื่องเอง ที่น่าสนใจคือ บางแอปเปิดให้ใช้ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมโดยไม่ต้องเสียเงินเลย เช่น: - Proton Pass ใช้ได้ไม่จำกัดอุปกรณ์ + สร้าง 2FA ในตัว + รองรับ passkeys - Bitwarden เป็นโอเพนซอร์สและใช้ได้บนทุกแพลตฟอร์ม + มี 2FA ฟรี - KeePassDX เก็บไฟล์รหัสแบบ local + ปลอดคลาวด์ + ไม่มีโฆษณา ในขณะที่แอปบางตัวอย่าง LastPass หรือ Dashlane มีข้อจำกัด เช่น จำกัดจำนวนรหัสผ่าน หรือใช้งานได้แค่อุปกรณ์เดียวพร้อมกันในเวอร์ชันฟรี 🧪🧪 แอป Password Manager ฟรีที่น่าสนใจใน Android ปี 2025: ✅ Proton Pass   • ใช้ได้ทุกอุปกรณ์ ฟรี ไม่จำกัดจำนวนรหัสผ่าน   • มี 2FA และสร้าง email alias ได้ในตัว   • รองรับ passkeys และการเติมรหัสแบบ autofill   • เจ้าของเดียวกับ Proton Mail — เน้นความเป็นส่วนตัว ✅ Bitwarden   • โอเพนซอร์ส + ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยภายนอก   • ฟรีทุกฟีเจอร์หลัก ใช้ได้หลายอุปกรณ์   • มี 2FA, generator, และ autofill ครบ   • มีรุ่นพรีเมียม $10/ปี ถ้าต้องการเก็บไฟล์เข้ารหัส ✅ NordPass (Free)   • จัดเก็บรหัสไม่จำกัด และมี autofill   • อินเทอร์เฟซใช้ง่าย มีจัดเก็บโน้ต/บัตรเครดิตด้วย   • ข้อจำกัด: ใช้ได้แค่ 1 อุปกรณ์พร้อมกันในเวอร์ชันฟรี ✅ Avira Password Manager   • ใช้ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ได้ + มีแจ้งเตือนรหัสอ่อน   • มี browser extension รองรับ autofill   • ข้อจำกัด: ฟีเจอร์ขั้นสูงบางอย่างต้องเสียเงิน ✅ KeePassDX   • เก็บข้อมูลเป็นไฟล์ local (ตามมาตรฐาน KeePass)   • ไม่มีคลาวด์ = ความเป็นส่วนตัวสูง   • รองรับ biometric unlock และ autofill   • เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ชำนาญและต้องการควบคุมเต็มที่ ✅ Dashlane (Free)   • ใช้ได้ 25 รหัสผ่าน + autofill ทำงานดี   • มีระบบตรวจสุขภาพรหัสผ่าน   • ข้อจำกัด: ซิงค์ข้ามอุปกรณ์ต้องอัปเกรดเป็นพรีเมียม ✅ RoboForm   • ใช้งานได้ข้ามอุปกรณ์ + มี generator   • อินเทอร์เฟซไม่หวือหวาแต่ใช้ง่าย   • มีฟีเจอร์เก็บฟอร์ม/รหัสแบบ auto-fill ✅ LastPass (Free)   • จัดการรหัสผ่าน/โน้ต + autofill ทำงานดี   • ข้อจำกัด: ใช้ได้เพียง “อุปกรณ์ประเภทเดียว” (เช่นเฉพาะมือถือ)   • ไม่รองรับซิงค์มือถือ+คอมพร้อมกันในเวอร์ชันฟรี ✅ Total Password   • อินเทอร์เฟซใช้ง่าย + autofill ดี   • ราคาเริ่มต้น $1.99/เดือน ถ้าต้องการเกินฟีเจอร์ฟรี ✅ 1Password (Trial)   • ทดลองใช้งานได้ 14 วัน มีฟีเจอร์ครบ   • หลังหมดช่วงทดลองต้องเสียเงิน   • มีระบบแบ่งปันรหัสและเก็บข้อมูลอื่น ๆ เช่นบัตรเครดิต https://computercity.com/software/best-free-password-manager-for-android
    COMPUTERCITY.COM
    Best Free Password Managers for Android
    Managing passwords can be tricky, especially when you're on the go with your Android device. With so many apps and websites needing login information, it's
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง

    ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด

    หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ
    พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้  

    มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข
    AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม

    การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม
    AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา  

    สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ
    การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้  

    AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน
    แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)  

    การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก
    AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ  

    หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI
    ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI  

    นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด  

    พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม

    มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม
    แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม

    ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา
    คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง  

    เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม
    ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต  

    ความยึดมั่นถือมั่นและมายา
    แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้  

    ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม
    มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา  

    นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"  

    สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน

    จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:  

    1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว  

    2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง  

    3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น  

    4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา  

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    เทคโนโลยี AI กับแนวทางศาสนาพุทธ: จุดบรรจบและความขัดแย้ง ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับหลักปรัชญาและจริยธรรมของพุทธศาสนาจึงเป็นสิ่งจำเป็น รายงานฉบับนี้จะสำรวจจุดที่ AI สามารถเสริมสร้างและสอดคล้องกับพุทธธรรม รวมถึงประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรม เพื่อนำเสนอแนวทางในการพัฒนาและใช้ AI อย่างมีสติและเป็นประโยชน์สูงสุด ☸️☸️ หลักการพื้นฐานของพุทธศาสนา: แก่นธรรมเพื่อความเข้าใจ พุทธศาสนามุ่งเน้นการพ้นทุกข์ โดยสอนให้เข้าใจธรรมชาติของทุกข์และหนทางดับทุกข์ผ่านหลักอริยสัจสี่ (ทุกข์, สมุทัย, นิโรธ, มรรค) หนทางแห่งมรรคประกอบด้วยองค์แปดประการ แก่นธรรมสำคัญอื่นๆ ได้แก่ ไตรลักษณ์ (อนิจจัง, ทุกขัง, อนัตตา) การปฏิบัติอยู่บนพื้นฐานของไตรสิกขา (ศีล, สมาธิ, ปัญญา) การพัฒนาปัญญาต้องอาศัยสติ, โยนิโสมนสิการ, และปัญญา กฎแห่งกรรมและปฏิจจสมุปบาทเป็นหลักการสำคัญที่อธิบายความสัมพันธ์เชิงเหตุผล พุทธศาสนาเชื่อว่าโลกนี้เกิดขึ้นเองจากกฎธรรมชาติ 5 ประการ หรือนิยาม 5 พรหมวิหารสี่ (เมตตา, กรุณา, มุทิตา, อุเบกขา) เป็นคุณธรรมที่ส่งเสริมความปรารถนาดีต่อสรรพชีวิต เป้าหมายสูงสุดคือพระนิพพาน ซึ่งเป็นความดับทุกข์โดยสิ้นเชิง พระพุทธเจ้าทรงเน้นย้ำถึงทางสายกลาง โดยมอง AI เป็นเพียง "เครื่องมือ" หรือ "แพ" สอดคล้องกับทางสายกลางนี้   🤖 มิติที่ AI สอดคล้องกับพุทธธรรม: ศักยภาพเพื่อประโยชน์สุข AI มีศักยภาพมหาศาลในการเป็นเครื่องมือที่ส่งเสริมการเผยแผ่ การศึกษา และการปฏิบัติธรรม การประยุกต์ใช้ AI เพื่อการเผยแผ่พระธรรม AI มีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่คำสอนทางพุทธศาสนาให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น "พระสงฆ์ AI" หรือ "พระโพธิสัตว์ AI" อย่าง Mindar ในญี่ปุ่น และ "เสียนเอ๋อร์" ในจีน การใช้ AI ในการแปลงพระไตรปิฎกเป็นดิจิทัลและการแปลพระคัมภีร์ด้วยเครื่องมืออย่าง DeepL ช่วยเพิ่มความเร็วและความแม่นยำ ทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วโลก AI ช่วยให้การเผยแผ่ธรรม "สะดวก มีประสิทธิภาพ และน่าดึงดูดมากขึ้น รวมถึงขยายขอบเขตการเข้าถึงให้เกินกว่าข้อจำกัดทางพื้นที่และเวลาแบบดั้งเดิม" ซึ่งสอดคล้องกับหลัก กรุณา   👓 สื่อใหม่และประสบการณ์เสมือนจริง: การสร้างสรรค์รูปแบบการเรียนรู้และปฏิบัติ การนำเทคโนโลยีสื่อใหม่ เช่น จอ AI, VR และ AR มาใช้ในการสร้างประสบการณ์พุทธศาสนาเสมือนจริง เช่น "Journey to the Land of Buddha" ของวัดฝอกวงซัน ช่วยดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี VR ช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้าง "ความเห็นอกเห็นใจ" การพัฒนาแพลตฟอร์มการบูชาออนไลน์และพิธีกรรมทางไซเบอร์ เช่น "Light Up Lamps Online" และเกม "Fo Guang GO" ช่วยให้ผู้ศรัทธาสามารถปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาและเยี่ยมชมวัดเสมือนจริงได้จากทุกที่ การใช้ VR/AR เพื่อ "ประสบการณ์ที่ดื่มด่ำ" และ "Sati-AI" สำหรับการทำสมาธิเจริญสติ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมจำลองที่เอื้อต่อการทำสมาธิและสติได้   🙆‍♂️ AI ในฐานะเครื่องมือเพื่อการปฏิบัติและพัฒนาตน แอปพลิเคชัน AI เช่น NORBU, Buddha Teachings, Buddha Wisdom App ทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางที่มีคุณค่าในการศึกษาและปฏิบัติธรรม โดยให้การเข้าถึงคลังข้อความพุทธศาสนาขนาดใหญ่, บทเรียนส่วนบุคคล, คำแนะนำในการทำสมาธิ, และการติดตามความก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ แชทบอทเหล่านี้มีความสามารถในการตอบคำถามและเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง AI สามารถทำให้การเข้าถึงข้อมูลและคำแนะนำเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ช่วยให้บุคคลสามารถศึกษาและปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างมีพลังมากขึ้น สิ่งนี้สอดคล้องกับหลักธรรมของพุทธศาสนาเรื่อง อัตตา หิ อัตตโน นาโถ (ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน)   🧪 การวิจัยและเข้าถึงข้อมูลพระธรรม: การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึก AI ช่วยให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่, ค้นหารูปแบบ, และสร้างแบบจำลองเพื่อทำความเข้าใจพระคัมภีร์และหลักธรรมได้เร็วขึ้นและดีขึ้น สามารถใช้ AI ในการค้นหาอ้างอิง, เปรียบเทียบข้อความข้ามภาษา, และให้บริบท ด้วยการทำให้งานวิจัยเป็นไปโดยอัตโนมัติ AI ช่วยให้นักวิชาการและผู้ปฏิบัติสามารถใช้เวลามากขึ้นในการทำโยนิโสมนสิการ   ☸️ หลักจริยธรรมพุทธกับการพัฒนา AI ข้อกังวลทางจริยธรรมที่กว้างที่สุดคือ AI ควรสอดคล้องกับหลักอหิงสา (ไม่เบียดเบียน) ของพุทธศาสนา นักวิชาการ Somparn Promta และ Kenneth Einar Himma แย้งว่าการพัฒนา AI สามารถถือเป็นสิ่งที่ดีในเชิงเครื่องมือเท่านั้น พวกเขาเสนอว่าเป้าหมายที่สำคัญกว่าคือการก้าวข้ามความปรารถนาและสัญชาตญาณที่ขับเคลื่อนด้วยการเอาชีวิตรอด การกล่าวถึง "อหิงสา" และ "การลดความทุกข์" เสนอหลักการเหล่านี้เป็นพารามิเตอร์การออกแบบภายในสำหรับ AI   นักคิด Thomas Doctor และคณะ เสนอให้นำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" ซึ่งเป็นการให้คำมั่นที่จะบรรเทาความทุกข์ของสรรพสัตว์ มาเป็นหลักการชี้นำในการออกแบบระบบ AI แนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" (intelligence as care) ได้รับแรงบันดาลใจจากปณิธานพระโพธิสัตว์ โดยวางตำแหน่ง AI ให้เป็นเครื่องมือในการแสดงความห่วงใยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด   พุทธศาสนาเน้นย้ำว่าสรรพสิ่งล้วน "เกิดขึ้นพร้อมอาศัยกัน" (ปฏิจจสมุปบาท) และ "ไม่มีตัวตน" (อนัตตา) ซึ่งนำไปสู่การยืนยันถึง "ความสำคัญอันดับแรกของความสัมพันธ์" แนวคิด "กรรม" อธิบายถึงการทำงานร่วมกันของเหตุและผลหลายทิศทาง การนำสิ่งนี้มาประยุกต์ใช้กับ AI หมายถึงการตระหนักว่าระบบ AI เป็น "ศูนย์รวมของการเปลี่ยนแปลงเชิงสัมพันธ์ภายในเครือข่ายของการกระทำที่มีนัยสำคัญทางศีลธรรม" การ "วิวัฒน์ร่วม" ของมนุษย์และ AI บ่งชี้ว่าเส้นทางการพัฒนาของ AI นั้นเชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับของมนุษยชาติ ดังนั้น "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" จึงไม่ใช่แค่ปัญหาทางเทคนิค แต่เป็นภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเชิงกรรม ‼️ มิติที่ AI ขัดแย้งกับพุทธธรรม: ความท้าทายเชิงปรัชญาและจริยธรรม แม้ AI จะมีประโยชน์มหาศาล แต่ก็มีประเด็นความขัดแย้งเชิงปรัชญาและจริยธรรมที่สำคัญกับพุทธธรรม 👿 ปัญหาเรื่องจิตสำนึกและอัตตา คำถามสำคัญคือระบบ AI สามารถถือเป็นสิ่งมีชีวิต (sentient being) ตามคำจำกัดความของพุทธศาสนาได้หรือไม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องจิตสำนึก (consciousness) และการเกิดใหม่ (rebirth) "คุณภาพของควาเลีย" (qualia quality) หรือความสามารถในการรับรู้และรู้สึกนั้นยังระบุได้ยากใน AI การทดลองทางความคิด "ห้องจีน" แสดงให้เห็นถึงความยากลำบากในการพิจารณาว่าปัญญาที่ไม่ใช่ชีวภาพสามารถมีจิตสำนึกได้หรือไม่ หาก AI ไม่สามารถประสบกับความทุกข์หรือบ่มเพาะปัญญาได้ ก็ไม่สามารถเดินตามหนทางสู่การตรัสรู้ได้อย่างแท้จริง   🛣️ เจตจำนงเสรีและกฎแห่งกรรม ความตั้งใจ (volition) ใน AI ซึ่งมักแสดงออกในรูปแบบของคำสั่ง "ถ้า...แล้ว..." นั้น แทบจะไม่มีลักษณะของเจตจำนงเสรีหรือแม้แต่ทางเลือกที่จำกัด ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ทางเลือกที่จำกัดเป็นสิ่งจำเป็นขั้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (deterministic behavior) ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธ หาก AI ขาดทางเลือกที่แท้จริง ก็ไม่สามารถสร้างกรรมได้ในลักษณะเดียวกับสิ่งมีชีวิต   🍷 ความยึดมั่นถือมั่นและมายา แนวคิดของการรวมร่างกับ AI เพื่อประโยชน์ที่รับรู้ได้ เช่น การมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีความน่าดึงดูดใจ อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งว่าการรวมร่างดังกล่าวอาจเป็น "กับดัก" หรือ "นรก" เนื่องจากความยึดมั่นถือมั่นและการขาดความสงบ กิเลสของมนุษย์ (ความโลภ ความโกรธ ความหลง) และกลไกตลาดก็ยังคงสามารถนำไปสู่ความทุกข์ได้แม้ในสภาวะ AI ขั้นสูง การแสวงหา "การอัปเกรด" ที่ขับเคลื่อนด้วยตัณหา สามารถทำให้วัฏจักรแห่งความทุกข์ดำเนินต่อไปได้   🤥 ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและการบิดเบือนพระธรรม มีความเสี่ยงที่ AI จะสร้างข้อมูลที่ทำให้เข้าใจผิดและ "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ดังที่เห็นได้จากกรณีของ Suzuki Roshi Bot AI ขาด "บริบทระดับที่สอง" และความสามารถในการยืนยันข้อเท็จจริง ทำให้มันเป็นเพียง "นกแก้วที่ฉลาดมาก" ความสามารถของ AI ในการสร้าง "ความเหลวไหลที่สอดคล้องกัน" ก่อให้เกิดความท้าทายต่อสัมมาทิฏฐิและสัมมาวาจา   นอกจากนี้ ยังมีศักยภาพที่ "Strong AI" จะก่อให้เกิดวิกฤตทางจริยธรรมและนำไปสู่ "ลัทธิวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" "เทคโนโลยี-ธรรมชาติ" (techno-naturalism) ลดทอนปัญญามนุษย์ให้เหลือเพียงกระแสข้อมูล ซึ่งขัดแย้งกับพุทธศาสนาแบบมนุษยนิยมที่เน้นความเป็นมนุษย์และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต สิ่งนี้สร้างความขัดแย้งกับประเพณีการปฏิบัติที่เน้น "ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกายและจิต"   สุดท้ายนี้ มีอันตรายที่การนำ AI มาใช้ในการปฏิบัติพุทธศาสนาอาจเปลี่ยนจุดเน้นจากการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณที่แท้จริงไปสู่ผลประโยชน์นิยมหรือการมีส่วนร่วมที่ผิวเผิน จากข้อพิจารณาทั้งหมดนี้ การเดินทางบน "ทางสายกลาง" จึงเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการเผชิญหน้ากับยุค AI สำหรับพุทธศาสนา การดำเนินการนี้ต้องอาศัย:   1️⃣ การพัฒนา AI ที่มีรากฐานทางจริยธรรม: AI ควรถูกออกแบบและพัฒนาโดยยึดมั่นในหลักการอหิงสา และการลดความทุกข์ ควรนำ "ปณิธานพระโพธิสัตว์" และแนวคิด "ปัญญาแห่งการดูแล" มาเป็นพิมพ์เขียว   2️⃣ การตระหนักถึง "ความเป็นเครื่องมือ" ของ AI: พุทธศาสนาควรมอง AI เป็นเพียง "แพ" หรือ "เครื่องมือ" ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางสู่การหลุดพ้น ไม่ใช่จุดหมายปลายทางในตัวเอง   3️⃣ การบ่มเพาะปัญญามนุษย์และสติ: แม้ AI จะมีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลมหาศาล แต่ไม่สามารถทดแทนปัญญาที่แท้จริง จิตสำนึก หรือเจตจำนงเสรีของมนุษย์ได้ การปฏิบัติธรรม การเจริญสติ และการใช้โยนิโสมนสิการยังคงเป็นสิ่งจำเป็น   4️⃣ การส่งเสริม "ค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่ง": การแก้ไข "ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของการจัดเรียงคุณค่า" ของ AI จำเป็นต้องมีการบ่มเพาะค่านิยมร่วมที่แข็งแกร่งในหมู่มนุษยชาติ ซึ่งมีรากฐานมาจากความเมตตาและปัญญา   #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 Comments 0 Shares 453 Views 0 Reviews
  • เรามักมองว่าเครื่องใหม่ = ต้องติดตั้งเบราว์เซอร์กับ Office ก็จบแล้ว...แต่ถ้าเลือกให้ดีตั้งแต่เริ่ม มันจะเปลี่ยนเครื่องของคุณให้ “พร้อมลุย” ไม่ว่าจะใช้งานหนักแค่ไหน

    TechSpot จึงจัดลิสต์โปรแกรมจำเป็นแบ่งตามหมวด เช่น:
    - เบราว์เซอร์ → Chrome, Firefox, Edge, Brave, Tor
    - จัดการรหัสผ่าน → Bitwarden, 1Password
    - ยูทิลิตี้ในเครื่อง → PowerToys, Alfred, WinGet, Everything
    - จดโน้ต/ทำงาน → Notion, OneNote, Obsidian
    - แก้ไฟล์ PDF → PDFsam
    - แต่งภาพ/ตัดวิดีโอ → GIMP, CapCut, DaVinci Resolve
    - นักพัฒนา → VS Code, Cursor, Docker
    - ใช้งานในองค์กร → Zoom, Slack, Teams
    - เล่นเกม → Steam, Epic, HandBrake
    - ดูหนัง/ฟังเพลง → VLC, Spotify
    - ดูสเปก/ปรับแต่งเครื่อง → CPU-Z, HWiNFO, Afterburner

    จุดเด่นคือแต่ละโปรแกรมมีคำอธิบายว่าเหมาะกับใคร ฟรีหรือไม่ และควรใช้งานคู่กับอะไรเพื่อได้ประสิทธิภาพสูงสุด เช่น PowerToys บน Windows ใช้กับ FancyZones เพื่อจัดหน้าจอแบบโปร ก็ยิ่งเจ๋ง

    นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำโปรแกรมเฉพาะกลุ่มที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง เช่น:
    - Ollama → ใช้รัน LLM บนเครื่องเอง (ไม่ต้องต่อเน็ต)
    - SignalRGB → ซิงก์ไฟ RGB บน PC หลายแบรนด์เข้าด้วยกัน
    - Remote Mouse → ใช้มือถือควบคุมคอมได้จากไกล ๆ

    https://www.techspot.com/article/2974-desktop-software-essentials/
    เรามักมองว่าเครื่องใหม่ = ต้องติดตั้งเบราว์เซอร์กับ Office ก็จบแล้ว...แต่ถ้าเลือกให้ดีตั้งแต่เริ่ม มันจะเปลี่ยนเครื่องของคุณให้ “พร้อมลุย” ไม่ว่าจะใช้งานหนักแค่ไหน TechSpot จึงจัดลิสต์โปรแกรมจำเป็นแบ่งตามหมวด เช่น: - เบราว์เซอร์ → Chrome, Firefox, Edge, Brave, Tor - จัดการรหัสผ่าน → Bitwarden, 1Password - ยูทิลิตี้ในเครื่อง → PowerToys, Alfred, WinGet, Everything - จดโน้ต/ทำงาน → Notion, OneNote, Obsidian - แก้ไฟล์ PDF → PDFsam - แต่งภาพ/ตัดวิดีโอ → GIMP, CapCut, DaVinci Resolve - นักพัฒนา → VS Code, Cursor, Docker - ใช้งานในองค์กร → Zoom, Slack, Teams - เล่นเกม → Steam, Epic, HandBrake - ดูหนัง/ฟังเพลง → VLC, Spotify - ดูสเปก/ปรับแต่งเครื่อง → CPU-Z, HWiNFO, Afterburner จุดเด่นคือแต่ละโปรแกรมมีคำอธิบายว่าเหมาะกับใคร ฟรีหรือไม่ และควรใช้งานคู่กับอะไรเพื่อได้ประสิทธิภาพสูงสุด เช่น PowerToys บน Windows ใช้กับ FancyZones เพื่อจัดหน้าจอแบบโปร ก็ยิ่งเจ๋ง นอกจากนี้ ยังมีการแนะนำโปรแกรมเฉพาะกลุ่มที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง เช่น: - Ollama → ใช้รัน LLM บนเครื่องเอง (ไม่ต้องต่อเน็ต) - SignalRGB → ซิงก์ไฟ RGB บน PC หลายแบรนด์เข้าด้วยกัน - Remote Mouse → ใช้มือถือควบคุมคอมได้จากไกล ๆ https://www.techspot.com/article/2974-desktop-software-essentials/
    WWW.TECHSPOT.COM
    Essential Apps to Install on Windows and macOS
    Just unboxed your new computer? Here's our curated list of essential desktop apps for Windows and macOS to kickstart your productivity and set up the perfect workspace.
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว

    CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ

    สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ

    แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ

    CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้  
    • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด  
    • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว

    ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม  
    • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว

    CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที  
    • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)  
    • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS

    ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า

    https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ ✅ CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้   • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด   • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว ✅ ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม   • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว ✅ CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที   • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)   • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS ✅ ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • David Sacks ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า ช่องว่างระหว่างจีนกับสหรัฐในด้านการออกแบบชิปตอนนี้เหลือแค่ 1.5–2 ปีเท่านั้น โดยเฉพาะ Huawei ซึ่งแม้จะยังขาดกำลังผลิต GPU ขั้นสูง แต่สามารถหาทางออกด้วยการนำ ชิปเก่า 910B มาต่อรวมกันเป็น “910C” เพื่อเพิ่มพลังประมวลผลและหน่วยความจำให้ใกล้เคียง NVIDIA H100

    แม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่สด แต่ถือเป็น “ทางเลือกภายในประเทศ” ที่ใช้งานจริงได้ และ Huawei เริ่มจะ ส่งออก AI Chip ไปยังลูกค้าต่างประเทศด้วย แล้ว

    Sacks เตือนว่า หากจีนสามารถผลิตและสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงได้จริง สหรัฐอาจเสียตำแหน่งผู้นำในตลาดเทคโนโลยี AI — โดยเฉพาะถ้า การควบคุมการส่งออกของสหรัฐเข้มเกินไปจนกลายเป็น “ผลย้อนกลับ” ทำให้จีนหาทางพึ่งพาตนเองได้เร็วขึ้น

    ตัวอย่างหนึ่งคือรัฐบาล Trump ได้ “ยกเลิก” กฎในยุค Biden ที่จำกัดการส่งออก GPU ให้กับพันธมิตรบางประเทศ เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ทางการค้าในระยะยาว

    Huawei พัฒนาชิป AI รุ่น 910C โดยรวมชิป 910B สองตัวเข้าด้วยกัน  
    • ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียง NVIDIA H100  
    • ใช้ได้จริงกับตลาดในจีน และเตรียมขยายการส่งออก

    จีนกำลังลดช่องว่างด้านการออกแบบชิป เหลือห่างสหรัฐเพียง 1.5–2 ปี  
    • โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Huawei ที่แก้เกมจากข้อจำกัดทางเทคนิคและการเมือง

    David Sacks เตือนว่า การควบคุมการส่งออกที่เข้มเกินไป อาจย้อนศร  
    • ทำให้คู่แข่งพึ่งพาตัวเองได้เร็ว และไม่ยอมรับมาตรฐานเทคโนโลยีของสหรัฐ

    Trump administration เลือกยกเลิกบางข้อจำกัดจากยุค Biden เพื่อรักษาฐานการค้าในระยะยาว

    แม้ผู้ก่อตั้ง Huawei ยอมรับว่า GPU ของตนยังล้าหลังกว่าคู่แข่ง แต่การสร้าง ecosystem และผลิตภัณฑ์ “ราคาเข้าถึงได้” อาจทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในอนาคต

    https://www.techspot.com/news/108400-us-tech-czar-warns-china-only-two-years.html
    David Sacks ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีของทำเนียบขาว ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า ช่องว่างระหว่างจีนกับสหรัฐในด้านการออกแบบชิปตอนนี้เหลือแค่ 1.5–2 ปีเท่านั้น โดยเฉพาะ Huawei ซึ่งแม้จะยังขาดกำลังผลิต GPU ขั้นสูง แต่สามารถหาทางออกด้วยการนำ ชิปเก่า 910B มาต่อรวมกันเป็น “910C” เพื่อเพิ่มพลังประมวลผลและหน่วยความจำให้ใกล้เคียง NVIDIA H100 แม้จะไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่สด แต่ถือเป็น “ทางเลือกภายในประเทศ” ที่ใช้งานจริงได้ และ Huawei เริ่มจะ ส่งออก AI Chip ไปยังลูกค้าต่างประเทศด้วย แล้ว Sacks เตือนว่า หากจีนสามารถผลิตและสร้าง ecosystem ที่แข็งแรงได้จริง สหรัฐอาจเสียตำแหน่งผู้นำในตลาดเทคโนโลยี AI — โดยเฉพาะถ้า การควบคุมการส่งออกของสหรัฐเข้มเกินไปจนกลายเป็น “ผลย้อนกลับ” ทำให้จีนหาทางพึ่งพาตนเองได้เร็วขึ้น ตัวอย่างหนึ่งคือรัฐบาล Trump ได้ “ยกเลิก” กฎในยุค Biden ที่จำกัดการส่งออก GPU ให้กับพันธมิตรบางประเทศ เพื่อไม่ให้เสียพื้นที่ทางการค้าในระยะยาว ✅ Huawei พัฒนาชิป AI รุ่น 910C โดยรวมชิป 910B สองตัวเข้าด้วยกัน   • ให้ประสิทธิภาพใกล้เคียง NVIDIA H100   • ใช้ได้จริงกับตลาดในจีน และเตรียมขยายการส่งออก ✅ จีนกำลังลดช่องว่างด้านการออกแบบชิป เหลือห่างสหรัฐเพียง 1.5–2 ปี   • โดยเฉพาะบริษัทอย่าง Huawei ที่แก้เกมจากข้อจำกัดทางเทคนิคและการเมือง ✅ David Sacks เตือนว่า การควบคุมการส่งออกที่เข้มเกินไป อาจย้อนศร   • ทำให้คู่แข่งพึ่งพาตัวเองได้เร็ว และไม่ยอมรับมาตรฐานเทคโนโลยีของสหรัฐ ✅ Trump administration เลือกยกเลิกบางข้อจำกัดจากยุค Biden เพื่อรักษาฐานการค้าในระยะยาว ✅ แม้ผู้ก่อตั้ง Huawei ยอมรับว่า GPU ของตนยังล้าหลังกว่าคู่แข่ง แต่การสร้าง ecosystem และผลิตภัณฑ์ “ราคาเข้าถึงได้” อาจทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวในอนาคต https://www.techspot.com/news/108400-us-tech-czar-warns-china-only-two-years.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US tech czar warns China is only two years behind in semiconductor and chip design
    According to Sacks, Huawei is making swift progress in chip design and could soon begin exporting its hardware, although the company still faces challenges in producing high-end...
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
  • แม้ว่า AMD Ryzen ตระกูล X3D จะให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในเกม เพราะมี L3 Cache แบบ 3D stacked ช่วยลด latency ได้มาก แต่ก็มีผู้ใช้บางรายเจอปัญหา “กระตุกยิบ ๆ” หรือ micro-stuttering โดยเฉพาะกับรุ่นที่ใช้ 2 CCD (Core Complex Die)

    ผู้ใช้บางคนใน Reddit และ YouTube ค้นพบว่า การเข้า BIOS แล้วเปลี่ยนค่า “Global C-State Control” จาก Auto → Enabled อาจช่วยลดอาการกระตุกได้ทันที โดยเฉพาะในเกมที่มีการโหลดข้อมูลต่อเนื่อง

    ฟีเจอร์ C-State นี้คือระบบที่จัดการ sleep state ของซีพียู เพื่อประหยัดพลังงาน โดยจะ “พัก” ฟังก์ชันบางอย่างเมื่อไม่ใช้งาน เช่น core, I/O หรือ Infinity Fabric (Data Fabric) — แต่ถ้า BIOS ตั้งค่าแบบ Auto ใน X3D บางรุ่น ฟีเจอร์นี้อาจถูกปิดไปเลย ทำให้ซีพียูทำงานแบบ Full power ตลอดเวลาและเกิดความไม่เสถียรในบางช่วง

    แม้การเบนช์มาร์กด้วยโปรแกรม AIDA64 จะไม่เห็นความต่างชัดเจน แต่ในเกมจริงอาจช่วยได้ โดยเฉพาะถ้า Windows ไม่จัดสรรงานให้ไปยัง CCD ที่มี V-Cache อย่างเหมาะสม

    AMD Ryzen X3D บางรุ่นพบอาการกระตุกหรือ micro-stutter บน Windows  
    • โดยเฉพาะเมื่อใช้เกมที่โหลดข้อมูลถี่ และในรุ่น 2 CCD (มีแคชแค่ฝั่งเดียว)

    การเปลี่ยน BIOS Setting “Global C-State Control” → Enabled ช่วยลดการกระตุกในบางกรณี  
    • Auto อาจปิดฟีเจอร์ไปโดยไม่รู้ตัวในบางเมนบอร์ด  
    • Enabled จะเปิดการทำงานของ C-State เต็มรูปแบบ

    C-State คือฟีเจอร์จัดการพลังงานผ่าน ACPI ให้ OS เลือกพัก core/IO/infinity fabric ได้ตามความเหมาะสม  
    • ทำงานคู่กับ P-State ที่จัดการ clock/voltage scaling

    การเปิด C-State ช่วยให้ Windows จัดการ “Preferred Core” และ CCD ได้ดีขึ้น  
    • โดยเฉพาะหาก CPPC ไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพ

    Tips เพิ่มเติม: การปิดการแสดงผล Power Percent ใน MSI Afterburner ก็ช่วยลด micro-stutter ได้  
    • เป็นปัญหาที่รู้กันมานาน แม้ใช้ CPU รุ่นไม่ใช่ X3D ก็ตาม

    การเปลี่ยน BIOS โดยไม่รู้ค่าเดิม อาจทำให้ระบบไม่เสถียร หรือมีผลกับ power consumption  
    • ควรจดค่าก่อนเปลี่ยน และทดสอบใน workload ที่ใช้จริง

    ผลลัพธ์จากการเปลี่ยน Global C-State ยังไม่แน่นอนในทุกเกม/ระบบ  
    • ไม่มีผลกับ AIDA64 แต่ในเกมอาจแตกต่าง ต้องลองเป็นกรณีไป

    ถ้าใช้ Mainboard รุ่นเก่าหรือ BIOS ไม่อัปเดต อาจไม่มีตัวเลือกนี้ หรือชื่ออาจไม่ตรงกัน  
    • เช่น อาจใช้ชื่อ CPU Power Saving, C-State Mode, ฯลฯ

    การเปิด C-State ทำให้ CPU เข้าสู่ sleep state ได้ — แม้อาจเพิ่ม efficiency แต่ต้องระวังปัญหาความหน่วงในบางงานเฉพาะทาง  
    • โดยเฉพาะในการเรนเดอร์หรือทำงานที่ต้อง full load ต่อเนื่อง

    https://www.neowin.net/news/some-amd-ryzen-users-can-get-free-windows-performance-boost-with-this-simple-system-tweak/
    แม้ว่า AMD Ryzen ตระกูล X3D จะให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในเกม เพราะมี L3 Cache แบบ 3D stacked ช่วยลด latency ได้มาก แต่ก็มีผู้ใช้บางรายเจอปัญหา “กระตุกยิบ ๆ” หรือ micro-stuttering โดยเฉพาะกับรุ่นที่ใช้ 2 CCD (Core Complex Die) ผู้ใช้บางคนใน Reddit และ YouTube ค้นพบว่า การเข้า BIOS แล้วเปลี่ยนค่า “Global C-State Control” จาก Auto → Enabled อาจช่วยลดอาการกระตุกได้ทันที โดยเฉพาะในเกมที่มีการโหลดข้อมูลต่อเนื่อง ฟีเจอร์ C-State นี้คือระบบที่จัดการ sleep state ของซีพียู เพื่อประหยัดพลังงาน โดยจะ “พัก” ฟังก์ชันบางอย่างเมื่อไม่ใช้งาน เช่น core, I/O หรือ Infinity Fabric (Data Fabric) — แต่ถ้า BIOS ตั้งค่าแบบ Auto ใน X3D บางรุ่น ฟีเจอร์นี้อาจถูกปิดไปเลย ทำให้ซีพียูทำงานแบบ Full power ตลอดเวลาและเกิดความไม่เสถียรในบางช่วง แม้การเบนช์มาร์กด้วยโปรแกรม AIDA64 จะไม่เห็นความต่างชัดเจน แต่ในเกมจริงอาจช่วยได้ โดยเฉพาะถ้า Windows ไม่จัดสรรงานให้ไปยัง CCD ที่มี V-Cache อย่างเหมาะสม ✅ AMD Ryzen X3D บางรุ่นพบอาการกระตุกหรือ micro-stutter บน Windows   • โดยเฉพาะเมื่อใช้เกมที่โหลดข้อมูลถี่ และในรุ่น 2 CCD (มีแคชแค่ฝั่งเดียว) ✅ การเปลี่ยน BIOS Setting “Global C-State Control” → Enabled ช่วยลดการกระตุกในบางกรณี   • Auto อาจปิดฟีเจอร์ไปโดยไม่รู้ตัวในบางเมนบอร์ด   • Enabled จะเปิดการทำงานของ C-State เต็มรูปแบบ ✅ C-State คือฟีเจอร์จัดการพลังงานผ่าน ACPI ให้ OS เลือกพัก core/IO/infinity fabric ได้ตามความเหมาะสม   • ทำงานคู่กับ P-State ที่จัดการ clock/voltage scaling ✅ การเปิด C-State ช่วยให้ Windows จัดการ “Preferred Core” และ CCD ได้ดีขึ้น   • โดยเฉพาะหาก CPPC ไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ✅ Tips เพิ่มเติม: การปิดการแสดงผล Power Percent ใน MSI Afterburner ก็ช่วยลด micro-stutter ได้   • เป็นปัญหาที่รู้กันมานาน แม้ใช้ CPU รุ่นไม่ใช่ X3D ก็ตาม ‼️ การเปลี่ยน BIOS โดยไม่รู้ค่าเดิม อาจทำให้ระบบไม่เสถียร หรือมีผลกับ power consumption   • ควรจดค่าก่อนเปลี่ยน และทดสอบใน workload ที่ใช้จริง ‼️ ผลลัพธ์จากการเปลี่ยน Global C-State ยังไม่แน่นอนในทุกเกม/ระบบ   • ไม่มีผลกับ AIDA64 แต่ในเกมอาจแตกต่าง ต้องลองเป็นกรณีไป ‼️ ถ้าใช้ Mainboard รุ่นเก่าหรือ BIOS ไม่อัปเดต อาจไม่มีตัวเลือกนี้ หรือชื่ออาจไม่ตรงกัน   • เช่น อาจใช้ชื่อ CPU Power Saving, C-State Mode, ฯลฯ ‼️ การเปิด C-State ทำให้ CPU เข้าสู่ sleep state ได้ — แม้อาจเพิ่ม efficiency แต่ต้องระวังปัญหาความหน่วงในบางงานเฉพาะทาง   • โดยเฉพาะในการเรนเดอร์หรือทำงานที่ต้อง full load ต่อเนื่อง https://www.neowin.net/news/some-amd-ryzen-users-can-get-free-windows-performance-boost-with-this-simple-system-tweak/
    WWW.NEOWIN.NET
    Some AMD Ryzen users can get free Windows performance boost with this simple system tweak
    AMD Ryzen processor owners, especially X3D ones, may be in for a pleasant surprise as a simple tweak to one of their system settings can help boost performance.
    0 Comments 0 Shares 199 Views 0 Reviews
  • goddessicahairbraidingweaving.booksy.com/a/
    goddessicahairbraidingweaving.booksy.com/a/
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • เนทันยาฮูแจ้งต่อชาวยิวในอิสราเอลว่าโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว:

    “พลเมืองอิสราเอลที่รัก

    ในปฏิบัติการ 'Am Kalavi' เราได้บรรลุความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์อิสราเอลร่วมกัน

    พวกท่านคงจำได้ว่าตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านจะต้องถูกทำลายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    คำสัญญานี้เป็นจริงแล้ว!

    เมื่อไม่นานมานี้ ในการประสานงานอย่างเต็มที่ระหว่างข้าพเจ้ากับประธานาธิบดีทรัมป์ และการประสานงานปฏิบัติการอย่างเต็มที่ระหว่างกองทัพอิสราเอลและหน่วยข่าวกรองมอสสาดและกองทัพสหรัฐฯ ได้โจมตีโรงงานนิวเคลียร์สามแห่งของอิหร่านคุกคามการดำรงอยู่ของเราและยังเป็นอันตรายต่อสันติภาพของโลกทั้งใบอีกด้วย ได้แก่ ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน

    ทันทีที่ปฏิบัติการเสร็จสิ้น ประธานาธิบดีทรัมป์ก็โทรหาข้าพเจ้า โดยเป็นการสนทนาที่อบอุ่นและซาบซึ้งใจมาก

    ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้นำที่เข้มแข็งของโลกเสรี ท่านเป็นเพื่อนที่ดีของอิสราเอล เป็นเพื่อนที่ไม่เหมือนใคร

    ในนามของข้าพเจ้า และในนามของประชาชนอิสราเอลทุกคน ในนามของชาวยิวทั้งหมด ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านจากใจจริง

    เราจะยืนหยัดร่วมกัน
    เราต่อสู้ร่วมกัน
    และด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า เราจะชนะร่วมกัน

    ดังที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "เราจะก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพราะเราสามารถเอาชนะพวกเขาได้"
    เนทันยาฮูแจ้งต่อชาวยิวในอิสราเอลว่าโรงงานนิวเคลียร์ในอิหร่านถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว: “พลเมืองอิสราเอลที่รัก ในปฏิบัติการ 'Am Kalavi' เราได้บรรลุความสำเร็จที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์อิสราเอลร่วมกัน พวกท่านคงจำได้ว่าตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านจะต้องถูกทำลายไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง คำสัญญานี้เป็นจริงแล้ว! เมื่อไม่นานมานี้ ในการประสานงานอย่างเต็มที่ระหว่างข้าพเจ้ากับประธานาธิบดีทรัมป์ และการประสานงานปฏิบัติการอย่างเต็มที่ระหว่างกองทัพอิสราเอลและหน่วยข่าวกรองมอสสาดและกองทัพสหรัฐฯ ได้โจมตีโรงงานนิวเคลียร์สามแห่งของอิหร่านคุกคามการดำรงอยู่ของเราและยังเป็นอันตรายต่อสันติภาพของโลกทั้งใบอีกด้วย ได้แก่ ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ทันทีที่ปฏิบัติการเสร็จสิ้น ประธานาธิบดีทรัมป์ก็โทรหาข้าพเจ้า โดยเป็นการสนทนาที่อบอุ่นและซาบซึ้งใจมาก ประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้นำที่เข้มแข็งของโลกเสรี ท่านเป็นเพื่อนที่ดีของอิสราเอล เป็นเพื่อนที่ไม่เหมือนใคร ในนามของข้าพเจ้า และในนามของประชาชนอิสราเอลทุกคน ในนามของชาวยิวทั้งหมด ข้าพเจ้าขอขอบคุณท่านจากใจจริง เราจะยืนหยัดร่วมกัน เราต่อสู้ร่วมกัน และด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า เราจะชนะร่วมกัน ดังที่พระคัมภีร์กล่าวว่า "เราจะก้าวหน้ายิ่งขึ้น เพราะเราสามารถเอาชนะพวกเขาได้"
    0 Comments 0 Shares 308 Views 19 0 Reviews
More Results