• จีนใช้บริษัทหน้าม้าเพื่อแอบจ้างวิศวกรไต้หวันและดึงความรู้ด้านเซมิคอนดักเตอร์ไปใช้ รัฐบาลไต้หวันตรวจค้นบริษัท กว่า 34 แห่ง และสอบปากคำบุคคล 90 ราย โดยมองว่านี่เป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ วิธีนี้ช่วยให้บริษัทจีนสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบและลักลอบขโมยเทคโนโลยีไปใช้อย่างลับ ๆ

    การปลอมแปลงตัวตนของบริษัทจีน
    - บางบริษัทจีน ปลอมตัวเป็นบริษัทไต้หวัน หรือแสดงตัวว่าเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ เช่น Samoa และ Singapore เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ

    ตัวอย่างบริษัทที่เกี่ยวข้อง
    - Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่รัฐจีนสนับสนุน ใช้ บริษัทลูกในไต้หวัน เพื่อสรรหาพนักงานอย่างลับ ๆ
    - Cloudnix บริษัทผลิตชิปเน็ตเวิร์คจากจีน แอบจ้างพนักงานจาก Intel และ Microsoft และจดทะเบียนเป็นบริษัทสิงคโปร์
    - Shenzhen Torey Microelectronics Technology ดำเนินกิจการอย่างลับ ๆ ในไต้หวันโดยไม่เปิดเผยตัวตน

    มุมมองของรัฐบาลไต้หวัน
    - ไต้หวันมองว่าการกระทำนี้เป็นภัยต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็น “เกราะป้องกันระดับชาติ” ที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ

    ความคล้ายคลึงกับสงครามเทคโนโลยีในอดีต
    - การดึงตัววิศวกรไต้หวันไปทำงานกับบริษัทจีนคล้ายกับยุคสงครามเย็นที่โซเวียตพยายามดึงตัวบุคลากรจากโครงการ Apollo ของสหรัฐฯ

    https://www.computerworld.com/article/3950892/chinese-firms-accused-of-poaching-taiwans-chip-engineers-using-bogus-front-companies.html
    จีนใช้บริษัทหน้าม้าเพื่อแอบจ้างวิศวกรไต้หวันและดึงความรู้ด้านเซมิคอนดักเตอร์ไปใช้ รัฐบาลไต้หวันตรวจค้นบริษัท กว่า 34 แห่ง และสอบปากคำบุคคล 90 ราย โดยมองว่านี่เป็นภัยคุกคามต่ออุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ วิธีนี้ช่วยให้บริษัทจีนสามารถหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบและลักลอบขโมยเทคโนโลยีไปใช้อย่างลับ ๆ การปลอมแปลงตัวตนของบริษัทจีน - บางบริษัทจีน ปลอมตัวเป็นบริษัทไต้หวัน หรือแสดงตัวว่าเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในต่างประเทศ เช่น Samoa และ Singapore เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการตรวจสอบ ตัวอย่างบริษัทที่เกี่ยวข้อง - Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่รัฐจีนสนับสนุน ใช้ บริษัทลูกในไต้หวัน เพื่อสรรหาพนักงานอย่างลับ ๆ - Cloudnix บริษัทผลิตชิปเน็ตเวิร์คจากจีน แอบจ้างพนักงานจาก Intel และ Microsoft และจดทะเบียนเป็นบริษัทสิงคโปร์ - Shenzhen Torey Microelectronics Technology ดำเนินกิจการอย่างลับ ๆ ในไต้หวันโดยไม่เปิดเผยตัวตน มุมมองของรัฐบาลไต้หวัน - ไต้หวันมองว่าการกระทำนี้เป็นภัยต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็น “เกราะป้องกันระดับชาติ” ที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ ความคล้ายคลึงกับสงครามเทคโนโลยีในอดีต - การดึงตัววิศวกรไต้หวันไปทำงานกับบริษัทจีนคล้ายกับยุคสงครามเย็นที่โซเวียตพยายามดึงตัวบุคลากรจากโครงการ Apollo ของสหรัฐฯ https://www.computerworld.com/article/3950892/chinese-firms-accused-of-poaching-taiwans-chip-engineers-using-bogus-front-companies.html
    WWW.COMPUTERWORLD.COM
    After fake employees, fake enterprises are next hiring threat to corporate data
    In Taiwan, investigators raided businesses they say acted as fronts for Chinese companies to hire away workers with key expertise and industry knowledge.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สงครามกับจีน" เป็นได้สถานการณ์เดียวที่จะเกิดขึ้น ไม่มีทางเลี่ยงให้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างอื่น

    สำนักข่าว The Washington Post เปิดเผยบันทึกลับของ "พีท เฮกเซธ" รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ซึ่งกำลังสั่งให้กองทัพสหรัฐเตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นกับจีนในอนาคตอันใกล้ โดยหันกลับมาเน้นที่การควบคุมจีน และปกป้องไต้หวันโดยการสนับสนุนด้านอาวุธเพื่อการป้องกันภายในประเทศ

    ขณะเดียวกัน สหรัฐก็ยังไม่ละทิ้งภัยคุกคามจากรัสเซีย เกาหลีเหนือ และอิหร่าน ที่อาจเกิดขึ้นกับพันธมิตรในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออก เพียงแต่ลดระดับความสำคัญลงมา และเน้นย้ำว่าพวกเขาจะต้องป้องกันตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะยุโรปที่นาโต้ต้องรับผิดชอบต่อสมาชิก


    ในเอกสารที่สำนักข่าวได้รับ ระบุว่า "จีนเป็นภัยคุกคามเพียงหนึ่งเดียวต่อของสหรัฐ และสหรัฐมีหน้าที่ปกป้องไต้หวันในการเข้ายึดครองของจีน"
    "สงครามกับจีน" เป็นได้สถานการณ์เดียวที่จะเกิดขึ้น ไม่มีทางเลี่ยงให้สถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างอื่น สำนักข่าว The Washington Post เปิดเผยบันทึกลับของ "พีท เฮกเซธ" รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ซึ่งกำลังสั่งให้กองทัพสหรัฐเตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นกับจีนในอนาคตอันใกล้ โดยหันกลับมาเน้นที่การควบคุมจีน และปกป้องไต้หวันโดยการสนับสนุนด้านอาวุธเพื่อการป้องกันภายในประเทศ ขณะเดียวกัน สหรัฐก็ยังไม่ละทิ้งภัยคุกคามจากรัสเซีย เกาหลีเหนือ และอิหร่าน ที่อาจเกิดขึ้นกับพันธมิตรในยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียตะวันออก เพียงแต่ลดระดับความสำคัญลงมา และเน้นย้ำว่าพวกเขาจะต้องป้องกันตนเองมากขึ้น โดยเฉพาะยุโรปที่นาโต้ต้องรับผิดชอบต่อสมาชิก ในเอกสารที่สำนักข่าวได้รับ ระบุว่า "จีนเป็นภัยคุกคามเพียงหนึ่งเดียวต่อของสหรัฐ และสหรัฐมีหน้าที่ปกป้องไต้หวันในการเข้ายึดครองของจีน"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์ของสงครามการค้าโลกในปัจจุบันยังคงมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมีทั้งแนวโน้มที่ดีขึ้นและความท้าทายที่ยังคงอยู่ ดังนี้

    ### 1. **แนวโน้มที่ดีขึ้น**
    - **การลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน**:
    แม้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยังไม่สิ้นสุด แต่ทั้งสองฝ่ายเริ่มหันมาเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีเพิ่มเติม เช่น การยกเลิกภาษีบางส่วนในสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การประชุมระดับสูงระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศในช่วงปลายปี 2022-2023 ช่วยฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร แม้จะยังไม่มีการแก้ไขข้อพิพาทหลัก เช่น ปัญหาไต้หวันหรือการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง

    - **ความร่วมมือระดับภูมิภาค**:
    ความตกลงทางการค้าในรูปแบบภูมิภาคขยายตัว เช่น **RCEP** (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) ในเอเชีย-แปซิฟิก และ **AfCFTA** (เขตการค้าเสรีทวีปแอฟริกา) ซึ่งช่วยกระตุ้นการค้าภายในภูมิภาค แทนการพึ่งพาตลาดโลกเพียงอย่างเดียว

    - **นโยบายการค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม**:
    หลายประเทศเริ่มผนวกเป้าหมายสิ่งแวดล้อมเข้ากับนโยบายการค้า เช่น สหภาพยุโรป推行 **CBAM** (มาตรการปรับคาร์บอนชายแดน) เพื่อส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืน แม้อาจก่อความขัดแย้งใหม่ แต่ก็เป็นโอกาสในการสร้างมาตรฐานสากลร่วมกัน

    ---

    ### 2. **ความท้าทายที่ยังคงอยู่**
    - **การแข่งขันทางเทคโนโลยีและการแยกห่วงโซ่อุปทาน**:
    สหรัฐฯ ยังคงจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง (เช่น ชิปเซมิคอนดักเตอร์) ไปยังจีน ขณะที่จีนพยายามสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีของตนเอง (เช่น การพัฒนาชิปด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรของ Huawei) ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลกแตกออกเป็น "สองขั้ว" (Tech Decoupling)

    - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**:
    สงครามยูเครน-รัสเซียและความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ยังส่งผลต่อความมั่นคงด้านพลังงานและเส้นทางการค้า รวมถึงกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ หันมาเก็บกักเสบียงอาหารและทรัพยากร стратеติกมากขึ้น

    - **ความอ่อนแอของระบบพหุภาคี**:
    องค์การการค้าโลก (WTO) ยังไม่สามารถปฏิรูปกลไกระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement Body) ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ขาดกลไกกลางในการจัดการความขัดแย้งทางการค้า

    ---

    ### 3. **ทิศทางในอนาคต**
    - **เศรษฐกิจโลกอาจแบ่งเป็น "บล็อก"**:
    การค้าโลกกำลังเคลื่อนไปสู่รูปแบบ "friend-shoring" (การผลิตในประเทศพันธมิตร) และ "near-shoring" (การผลิตในประเทศใกล้เคียง) เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่เพิ่มความยืดหยุ่นให้ห่วงโซ่อุปทาน

    - **การค้าดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว**:
    การเติบโตของการค้าอิเล็กทรอนิกส์และมาตรการลดคาร์บอนจะเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ของระบบการค้าโลก แม้อาจก่อให้เกิดข้อพิพาทเรื่องกฎระเบียบระหว่างประเทศ

    ---

    ### สรุป
    สถานการณ์สงครามการค้าโลกมีทั้งพัฒนาการในทางที่ดี เช่น การเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งและการขยายความร่วมมือระดับภูมิภาค แต่ก็ยังมีแรงกดดันจากความแข่งขันทางเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ และการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก ซึ่งอาจทำให้การค้าโลกไม่กลับสู่รูปแบบเดิมอีกต่อไป แต่ปรับตัวสู่ระบบที่ "แบ่งกลุ่มแต่เชื่อมโยง" มากขึ้นภายใต้ความไม่แน่นอนสูง
    สถานการณ์ของสงครามการค้าโลกในปัจจุบันยังคงมีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมีทั้งแนวโน้มที่ดีขึ้นและความท้าทายที่ยังคงอยู่ ดังนี้ ### 1. **แนวโน้มที่ดีขึ้น** - **การลดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีน**: แม้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยังไม่สิ้นสุด แต่ทั้งสองฝ่ายเริ่มหันมาเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีเพิ่มเติม เช่น การยกเลิกภาษีบางส่วนในสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การประชุมระดับสูงระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศในช่วงปลายปี 2022-2023 ช่วยฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร แม้จะยังไม่มีการแก้ไขข้อพิพาทหลัก เช่น ปัญหาไต้หวันหรือการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง - **ความร่วมมือระดับภูมิภาค**: ความตกลงทางการค้าในรูปแบบภูมิภาคขยายตัว เช่น **RCEP** (ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค) ในเอเชีย-แปซิฟิก และ **AfCFTA** (เขตการค้าเสรีทวีปแอฟริกา) ซึ่งช่วยกระตุ้นการค้าภายในภูมิภาค แทนการพึ่งพาตลาดโลกเพียงอย่างเดียว - **นโยบายการค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม**: หลายประเทศเริ่มผนวกเป้าหมายสิ่งแวดล้อมเข้ากับนโยบายการค้า เช่น สหภาพยุโรป推行 **CBAM** (มาตรการปรับคาร์บอนชายแดน) เพื่อส่งเสริมการผลิตที่ยั่งยืน แม้อาจก่อความขัดแย้งใหม่ แต่ก็เป็นโอกาสในการสร้างมาตรฐานสากลร่วมกัน --- ### 2. **ความท้าทายที่ยังคงอยู่** - **การแข่งขันทางเทคโนโลยีและการแยกห่วงโซ่อุปทาน**: สหรัฐฯ ยังคงจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูง (เช่น ชิปเซมิคอนดักเตอร์) ไปยังจีน ขณะที่จีนพยายามสร้างระบบนิเวศเทคโนโลยีของตนเอง (เช่น การพัฒนาชิปด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตรของ Huawei) ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลกแตกออกเป็น "สองขั้ว" (Tech Decoupling) - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: สงครามยูเครน-รัสเซียและความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ยังส่งผลต่อความมั่นคงด้านพลังงานและเส้นทางการค้า รวมถึงกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ หันมาเก็บกักเสบียงอาหารและทรัพยากร стратеติกมากขึ้น - **ความอ่อนแอของระบบพหุภาคี**: องค์การการค้าโลก (WTO) ยังไม่สามารถปฏิรูปกลไกระงับข้อพิพาท (Dispute Settlement Body) ได้อย่างเต็มที่ ทำให้ขาดกลไกกลางในการจัดการความขัดแย้งทางการค้า --- ### 3. **ทิศทางในอนาคต** - **เศรษฐกิจโลกอาจแบ่งเป็น "บล็อก"**: การค้าโลกกำลังเคลื่อนไปสู่รูปแบบ "friend-shoring" (การผลิตในประเทศพันธมิตร) และ "near-shoring" (การผลิตในประเทศใกล้เคียง) เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่เพิ่มความยืดหยุ่นให้ห่วงโซ่อุปทาน - **การค้าดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว**: การเติบโตของการค้าอิเล็กทรอนิกส์และมาตรการลดคาร์บอนจะเป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ของระบบการค้าโลก แม้อาจก่อให้เกิดข้อพิพาทเรื่องกฎระเบียบระหว่างประเทศ --- ### สรุป สถานการณ์สงครามการค้าโลกมีทั้งพัฒนาการในทางที่ดี เช่น การเจรจาเพื่อลดความขัดแย้งและการขยายความร่วมมือระดับภูมิภาค แต่ก็ยังมีแรงกดดันจากความแข่งขันทางเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ และการปรับโครงสร้างห่วงโซ่อุปทานโลก ซึ่งอาจทำให้การค้าโลกไม่กลับสู่รูปแบบเดิมอีกต่อไป แต่ปรับตัวสู่ระบบที่ "แบ่งกลุ่มแต่เชื่อมโยง" มากขึ้นภายใต้ความไม่แน่นอนสูง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC วางแผนสร้างโรงงานผลิตชิประดับ A16 (1.6 นาโนเมตร) ในรัฐแอริโซนา สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขยายฐานการผลิตและสนับสนุนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ของสหรัฐฯ แม้จะมีความท้าทายในการถ่ายโอนเทคโนโลยี แต่การลงทุนครั้งใหญ่นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    การลงทุนครั้งสำคัญ:
    - TSMC ลงทุนรวมกว่า 65 พันล้านดอลลาร์ ในรัฐแอริโซนา เพื่อสร้างโรงงาน 3 แห่ง โดยโรงงานแรกเริ่มผลิตชิปขนาด 4 นาโนเมตรแล้ว ขณะที่โรงงานที่สองจะรองรับชิป 3 นาโนเมตร และ 2 นาโนเมตร ซึ่งเป็นก้าวสำคัญก่อนถึง A16.

    บทบาทของรัฐบาลสหรัฐฯ:
    - การบริหารงานของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลกระทบสำคัญต่อการตัดสินใจของ TSMC ในการขยายกิจการสู่สหรัฐฯ โดยเน้นการสร้างฐานผลิตในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ.

    ผลกระทบในระยะยาว:
    - แม้การผลิตในสหรัฐฯ จะล่าช้าจากไต้หวันถึงสองปี แต่แผนนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ TSMC ในการกระจายฐานการผลิตเพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาไต้หวันเพียงอย่างเดียว.

    ความท้าทายในการถ่ายโอนเทคโนโลยี:
    - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความล่าช้าในการถ่ายโอนเทคโนโลยีสำคัญจากไต้หวันสู่สหรัฐฯ อาจทำให้ตลาดชิประดับสูงยังคงขึ้นอยู่กับไต้หวันในระยะยาว.

    https://wccftech.com/tsmc-is-no-longer-reluctant-to-produce-advanced-chips-in-the-us/
    TSMC วางแผนสร้างโรงงานผลิตชิประดับ A16 (1.6 นาโนเมตร) ในรัฐแอริโซนา สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการขยายฐานการผลิตและสนับสนุนความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ของสหรัฐฯ แม้จะมีความท้าทายในการถ่ายโอนเทคโนโลยี แต่การลงทุนครั้งใหญ่นี้ถือเป็นก้าวสำคัญในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ การลงทุนครั้งสำคัญ: - TSMC ลงทุนรวมกว่า 65 พันล้านดอลลาร์ ในรัฐแอริโซนา เพื่อสร้างโรงงาน 3 แห่ง โดยโรงงานแรกเริ่มผลิตชิปขนาด 4 นาโนเมตรแล้ว ขณะที่โรงงานที่สองจะรองรับชิป 3 นาโนเมตร และ 2 นาโนเมตร ซึ่งเป็นก้าวสำคัญก่อนถึง A16. บทบาทของรัฐบาลสหรัฐฯ: - การบริหารงานของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีผลกระทบสำคัญต่อการตัดสินใจของ TSMC ในการขยายกิจการสู่สหรัฐฯ โดยเน้นการสร้างฐานผลิตในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ. ผลกระทบในระยะยาว: - แม้การผลิตในสหรัฐฯ จะล่าช้าจากไต้หวันถึงสองปี แต่แผนนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ TSMC ในการกระจายฐานการผลิตเพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาไต้หวันเพียงอย่างเดียว. ความท้าทายในการถ่ายโอนเทคโนโลยี: - ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความล่าช้าในการถ่ายโอนเทคโนโลยีสำคัญจากไต้หวันสู่สหรัฐฯ อาจทำให้ตลาดชิประดับสูงยังคงขึ้นอยู่กับไต้หวันในระยะยาว. https://wccftech.com/tsmc-is-no-longer-reluctant-to-produce-advanced-chips-in-the-us/
    WCCFTECH.COM
    TSMC Is No Longer Reluctant To Produce Advanced Chips In The US; Reveals Plans To Build A Cutting-Edge A16 (1.6nm) Facility In Arizona By 2030
    TSMC has chosen the US as its next place of expansion, as the firm has now revealed that it plans to produce cutting-edge chips in Arizona.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)**

    ### 🔍 **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**:
    1. **ความเร็วในการตรวจจับ**:
    - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง
    - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง

    2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**:
    - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert**
    - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน**
    - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน

    3. **ความแม่นยำสูง**:
    - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ

    4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**:
    - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)**

    ### 🌍 **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**:
    - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน
    - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้
    - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า
    - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ### ⚠️ **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**:
    - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที)
    - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น
    - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน)

    ### 🚨 **สรุป**:
    ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    ระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวที่ดีที่สุดในโลกปัจจุบันคือ **ระบบ Earthquake Early Warning (EEW)** ของญี่ปุ่น ที่มีชื่อว่า **"ระบบเตือนภัยแผ่นดินไหวล่วงหน้า (緊急地震速報, Kinkyū Jishin Sokuhō)"** ซึ่งดำเนินการโดย **Japan Meteorological Agency (JMA)** ### 🔍 **เหตุผลที่ญี่ปุ่นมีระบบที่ดีที่สุด**: 1. **ความเร็วในการตรวจจับ**: - ญี่ปุ่นใช้เครือข่ายเซ็นเซอร์วัดแผ่นดินไหว (Seismometers) จำนวนมากทั่วประเทศ ที่สามารถตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหว (คลื่น P) ได้ทันทีและส่งสัญญาณเตือนภายในเวลา **ไม่กี่วินาที** ก่อนที่คลื่นทำลายล้าง (คลื่น S) จะมาถึง - ในบางกรณี สามารถแจ้งเตือนได้ **5-30 วินาที** ก่อนเกิดการสั่นสะเทือนรุนแรง 2. **การบูรณาการกับระบบสาธารณะ**: - การแจ้งเตือนถูกส่งไปยัง **โทรศัพท์มือถือทุกเครื่อง** ในพื้นที่เสี่ยงผ่านระบบ **J-Alert** - ระบบกระจายเสียงผ่าน **ทีวี วิทยุ และลำโพงฉุกเฉิน** - บางเมืองยังเชื่อมกับระบบขนส่ง เช่น **รถไฟชินคันเซน** ที่หยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อได้รับสัญญาณเตือน 3. **ความแม่นยำสูง**: - ญี่ปุ่นลงทุนในเทคโนโลยี AI และระบบประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อลด **ผลบวกปลอม (False Alarms)** และปรับปรุงความแม่นยำ 4. **ประสบการณ์กับแผ่นดินไหว**: - ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อย จึงมีการพัฒนาระบบมาอย่างต่อเนื่อง เช่น หลังเหตุการณ์ **แผ่นดินไหวใหญ่ฮันชิน (1995)** และ **โทโฮกุ (2011)** ### 🌍 **ระบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ**: - **สหรัฐอเมริกา (ShakeAlert)** – ใช้ในแคลิฟอร์เนีย ออริกอน และวอชิงตัน - **เม็กซิโก (SASMEX)** – แจ้งเตือนในเม็กซิโกซิตี้ - **ไต้หวัน** – มีระบบที่คล้ายญี่ปุ่น แต่ครอบคลุมพื้นที่เล็กกว่า - **จีนและอินโดนีเซีย** – กำลังพัฒนาระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ### ⚠️ **ข้อจำกัดของระบบเตือนภัยแผ่นดินไหว**: - **เวลาเตือนสั้นมาก** (มักไม่เกิน 1 นาที) - **ไม่สามารถทำนายแผ่นดินไหวได้ล่วงหน้า** แต่แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบคลื่นแรกเท่านั้น - **ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระยะทางจากจุดศูนย์กลาง** (ถ้าอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ อาจได้รับแจ้งเตือนช้าหรือไม่ทัน) ### 🚨 **สรุป**: ญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านระบบแจ้งเตือนแผ่นดินไหวด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน แต่ละประเทศก็พยายามปรับปรุงระบบของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อลดความสูญเสียจากภัยพิบัตินี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทางการไต้หวันกำลังสืบสวนบริษัทจีนหลายแห่ง เช่น SMIC ที่ถูกกล่าวหาว่าดึงตัววิศวกรอย่างผิดกฎหมายเพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ การแข่งขันด้านเทคโนโลยีขั้นสูงนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก และชี้ให้เห็นความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวันในด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

    การกระทำที่ถูกกล่าวหา:
    - SMIC ใช้บริษัทที่จดทะเบียนในประเทศซามัวเป็นฐานในการดึงตัววิศวกรอย่างลับ ๆ และยังมีการตั้งบริษัทที่ไม่ได้รับอนุญาตในไต้หวันเพื่อดำเนินกิจกรรมว่าจ้างวิศวกร โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ 34 แห่งใน 6 เมือง และสัมภาษณ์บุคคลกว่า 90 คนที่เกี่ยวข้อง.

    ความสนใจในเทคโนโลยีขั้นสูง:
    - บริษัทจีนอื่น ๆ ถูกกล่าวหาว่าดึงตัวผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทระดับโลก เช่น Intel และ Microsoft เพื่อทำงานในโครงการที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายความเร็วสูงและเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์.

    ความสำคัญของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์:
    - จีนมุ่งเน้นการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ เช่น เทคโนโลยี 6nm-class เพื่อใช้กับเซิร์ฟเวอร์ AI และงานประมวลผลทั่วไป ขณะที่ไต้หวันถือเป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้มานาน.

    ผลกระทบในวงกว้าง:
    - กิจกรรมที่ถูกกล่าวหานี้สะท้อนถึงการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับสูงระหว่างจีนและไต้หวัน และความจำเป็นในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในอุตสาหกรรมที่สำคัญนี้.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwanese-authorities-accuse-smic-and-allies-of-poaching-engineers
    ทางการไต้หวันกำลังสืบสวนบริษัทจีนหลายแห่ง เช่น SMIC ที่ถูกกล่าวหาว่าดึงตัววิศวกรอย่างผิดกฎหมายเพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ การแข่งขันด้านเทคโนโลยีขั้นสูงนี้สะท้อนถึงความสำคัญของการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลก และชี้ให้เห็นความตึงเครียดระหว่างจีนและไต้หวันในด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี การกระทำที่ถูกกล่าวหา: - SMIC ใช้บริษัทที่จดทะเบียนในประเทศซามัวเป็นฐานในการดึงตัววิศวกรอย่างลับ ๆ และยังมีการตั้งบริษัทที่ไม่ได้รับอนุญาตในไต้หวันเพื่อดำเนินกิจกรรมว่าจ้างวิศวกร โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ 34 แห่งใน 6 เมือง และสัมภาษณ์บุคคลกว่า 90 คนที่เกี่ยวข้อง. ความสนใจในเทคโนโลยีขั้นสูง: - บริษัทจีนอื่น ๆ ถูกกล่าวหาว่าดึงตัวผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทระดับโลก เช่น Intel และ Microsoft เพื่อทำงานในโครงการที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายความเร็วสูงและเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์. ความสำคัญของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์: - จีนมุ่งเน้นการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ เช่น เทคโนโลยี 6nm-class เพื่อใช้กับเซิร์ฟเวอร์ AI และงานประมวลผลทั่วไป ขณะที่ไต้หวันถือเป็นผู้นำในเทคโนโลยีนี้มานาน. ผลกระทบในวงกว้าง: - กิจกรรมที่ถูกกล่าวหานี้สะท้อนถึงการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับสูงระหว่างจีนและไต้หวัน และความจำเป็นในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในอุตสาหกรรมที่สำคัญนี้. https://www.tomshardware.com/tech-industry/taiwanese-authorities-accuse-smic-and-allies-of-poaching-engineers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Taiwanese authorities accuse SMIC and allies of poaching engineers
    90 people have been interviewed in connection with 11 locations across six cities
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27-03-68/03 : หมี CNN / "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP2

    "เปิดแผนสวรรค์ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่มรึงเองยังไม่กล้าจะคิด?" หลายคนไม่เชื่อ หลายคนหมดศรัทธากับแผ่นดินนี้ แต่ช้าก่อน โปรดฟัง และคิดตามนี้ โลกยุคเก่านำโดยสหรัฐและฝูงเหี้ย ใช้ปชต.ตอแหลบังคับให้ชาติประเทศที่ 3 หรือด้อยพัฒนา ต้องปฎิบัติตามเพื่อคำว่า "สากล" มาดูปีนี้ พศ.นี้ 2025 ใครนำโลก ใครคือขั้วใหม่ รัสเซีย จีน เค้าเป็นปชต.เต็มรูปแบบมั้ยล่ะ? ตอบว่าไม่ ทุกอย่างรัสเซียใช้สภาดูม่าออกกฎหมายบังคับทั้งประเทศ จีนใช้พรรคคอมมิวนิสต์จีน ปกครองแผ่นดินมายาวนาน หลังปฎิวัติใหญ่สำเร็จ ดังนั้น รูปแบบการปกครองจึงต้องเปลี่ยนไปตามเจ้ามือโลกใหม่ไงล่ะ ถามว่า หากมรึงเป็นปชต.จ๋า จะเอาแต่โหวดอย่างเดียว เค้าก็ไม่ว่ามรึงดอก ตราบใดที่มรึงยังไม่ขัดแข้งขัดขาเค้า หรือรับใช้เป็นขี้ข้าเหี้ยขั้วเก่าไม่เลิก เค้าก็ไม่เอามรึงไงล่ะ เพราะวัตถุดิบโลก อาหารโลก พลังงานโลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ใครกล้างัดกันล่ะ ขนาดสหรัฐ และยุโรป ยังต้องกราบตรีน ดังนั้น ในอดีต สยามประเทศปกครองโดยกษัตริย์ จนมาถึงยุคปล้นพระราชอำนาจ พศ.2475 ครั้นไทยเราจะกลับไปใช้การปกครองเดิม ถามว่าเจ้ามือโลกใหม่จะมีปัญหามั้ย? ตอบว่าไม่ แถมเชิญให้ไว เข้าใจยัง? ทุกอย่างในโลก มันอยู่ที่เจ้ามือ ไอ้สัส! เมือไทยนำโด่ง เปลี่ยนการปกครอง กลับไปใช้ระบบกษัตริย์ ยุโรป และแอฟริกา อาจจะตามมาทันที เพราะเบื่อการเมืองบัดซบมาเต็มกลืนแล้ว ตอนนี้ ทราบหรือไม่ ยุโรปจะมีการนำระบบกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง หลัง EU แตกจ๊ะ เพราะอะไร เพราะเจ้ามือเก่ามันไม่อยู่แล้วไง เจ้ามือเก่าไม่มีเงินจ่ายแล้ว ปชต.อยู่ได้เพราะเงินจ๊ะ เมื่อ BRICS กลายเป็นศูนย์กลางโลก ใยต้องกังวลว่าจะต้องเป็นการปกครองแบบใดอีก เพราะทุกชาติถูกปลดแอกจากเหี้ยหมดแล้ว มรึงยังจะอยากเป็นทาสไปตลอดชีวิตรึไง ทุกชาติจะหันกลับมาใช้การปกครองที่เหมาะกับตัวเอง โดยมีรัสเซีย จีน ให้การสนับสนุน สิ่งที่มรึงมองไม่เห็นแต่กูมองเห็น เป็นเพราะ "เจ้ามือ" ไงล่ะ หัวนำ ใครก็ตาม หัวเหี้ย โลกก็เหี้ย หัวดี โลกก็สดใส ยิ่งการเมืองปาหี่บ้านเรา ยิ่งมีกระแสโหยหา "มอบพระราชอำนาจคืนให้พ่อท่าน" อย่าเอาอีกเลย ไอ้นักการเมืองหัวกวยเนี่ย? เอามาให้แดร๊กแผ่นดิน กินหัวคิวไม่เลิกเหรอ? ส่วนอีควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว จะเงิบแดร๊ก เมื่อคนทั้งแผ่นดิน ยกมือกราบไหว้ "ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน" มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินของสังคมทันที ปชต.จะหายสาปสูญไปตลอดกาล ทุกอย่างอยู่ที่เจ้ามือจ๊ะ ไม่ได้เปลี่ยนเพราะอยากจะเปลี่ยน แต่เปลี่ยนเพราะเหี้ยมันตาย และเจ้ามือใหม่ ไม่ต้องการปชต.ตอแหล ชัดน่ะ? ที่มาว่าทำไม มรึงถึงยังไม่เชื่อในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เพราะกูพูดในสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า อันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงโลกนั่นเอง โลกนำ สยามตาม เข้าใจตรงกันน่ะ? ส่วนเรื่องผนวกดินแดนเพิ่ม กูไม่ได้พูดเล่น เอามันส์ เมื่อไทยเป็นฮับ อยากได้เงินบาทไทยที่แข็งโป๊กมั้ย ที่นิยมใช้กันทั้งอาเซียน ก็ย้ายเข้ามาอยู่ร่วมกัน เริ่มแรก อาจจะเป็นรัฐอิสระ ที่แยกตัวออกมาจากพม่า และบางส่วนจากอีขะแมร์ บางส่วนจากลาว แต่ต่อไป หากไทยรุ่งเรืองจนขีดสุด ใครล่ะ ไม่อยากจะเป็นเมืองใต้อาณัติที่มีอนาคตสดใสรออยู่ มันจะมาเอง มรึงไม่ต้องไปไล่ล่าอะไรทั้งนั้น ของมันดี ใครก็อยากจะเข้า BRICS นี่แหละ จะทำให้ไทยรวมแผ่นดินพ่อเดิม ยุคพ่อร.5 กลับมา เหมือนที่ปูตินจะได้อดีตโซเวียตเดิมกลับมา เหมือนที่สีจิ้นผิงจะได้ไต้หวันกลับมาอีกครั้ง ทุกอย่างมันมาทิศทางเดียวกันหมด อะไรที่เป็นของเรา มันก็คือของเราอยู่วันยันค่ำ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ 100 ปี ก็ตาม?

    หมี CNN(ความกังวลของมรึง มันอยู่ในอกพ่ออยู่หัว นับตั้งแต่รัชกาลที่ 3 มานานแล้ว พ่อสอนลูก ส่งไม้ต่อ แล้วเมื่อถึงเวลา ยุคศิวิไล ไทยเราจะได้ผนวกรวมแผ่นดินเดิมกลับคืนสู่ดินแดนสุวรรณภูมิอีกครั้ง วันนี้ มรึงยังไม่เชื่อ แต่อีกไม่นาน มรึงจะเริ่มเห็นแสงสีทองตามที่กูบอก ไม่มีผิด เพราะกูนั่งไทม์แมชชีนไปกับโดราเอมอน ไปดูมาแล้ว อะไรน่ะ โนบิตะได้แต่งงานกับชิซูกะหรือไม่ อ๋อ..เสร็จอีโดราเอม่อนจ๊ะ 555+)
    27 มีนาคม 68
    17.24 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    27-03-68/03 : หมี CNN / "เสือกเฉพาะเรื่อง" EP2 "เปิดแผนสวรรค์ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่มรึงเองยังไม่กล้าจะคิด?" หลายคนไม่เชื่อ หลายคนหมดศรัทธากับแผ่นดินนี้ แต่ช้าก่อน โปรดฟัง และคิดตามนี้ โลกยุคเก่านำโดยสหรัฐและฝูงเหี้ย ใช้ปชต.ตอแหลบังคับให้ชาติประเทศที่ 3 หรือด้อยพัฒนา ต้องปฎิบัติตามเพื่อคำว่า "สากล" มาดูปีนี้ พศ.นี้ 2025 ใครนำโลก ใครคือขั้วใหม่ รัสเซีย จีน เค้าเป็นปชต.เต็มรูปแบบมั้ยล่ะ? ตอบว่าไม่ ทุกอย่างรัสเซียใช้สภาดูม่าออกกฎหมายบังคับทั้งประเทศ จีนใช้พรรคคอมมิวนิสต์จีน ปกครองแผ่นดินมายาวนาน หลังปฎิวัติใหญ่สำเร็จ ดังนั้น รูปแบบการปกครองจึงต้องเปลี่ยนไปตามเจ้ามือโลกใหม่ไงล่ะ ถามว่า หากมรึงเป็นปชต.จ๋า จะเอาแต่โหวดอย่างเดียว เค้าก็ไม่ว่ามรึงดอก ตราบใดที่มรึงยังไม่ขัดแข้งขัดขาเค้า หรือรับใช้เป็นขี้ข้าเหี้ยขั้วเก่าไม่เลิก เค้าก็ไม่เอามรึงไงล่ะ เพราะวัตถุดิบโลก อาหารโลก พลังงานโลก อยู่ในมือขั้วใหม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว ใครกล้างัดกันล่ะ ขนาดสหรัฐ และยุโรป ยังต้องกราบตรีน ดังนั้น ในอดีต สยามประเทศปกครองโดยกษัตริย์ จนมาถึงยุคปล้นพระราชอำนาจ พศ.2475 ครั้นไทยเราจะกลับไปใช้การปกครองเดิม ถามว่าเจ้ามือโลกใหม่จะมีปัญหามั้ย? ตอบว่าไม่ แถมเชิญให้ไว เข้าใจยัง? ทุกอย่างในโลก มันอยู่ที่เจ้ามือ ไอ้สัส! เมือไทยนำโด่ง เปลี่ยนการปกครอง กลับไปใช้ระบบกษัตริย์ ยุโรป และแอฟริกา อาจจะตามมาทันที เพราะเบื่อการเมืองบัดซบมาเต็มกลืนแล้ว ตอนนี้ ทราบหรือไม่ ยุโรปจะมีการนำระบบกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง หลัง EU แตกจ๊ะ เพราะอะไร เพราะเจ้ามือเก่ามันไม่อยู่แล้วไง เจ้ามือเก่าไม่มีเงินจ่ายแล้ว ปชต.อยู่ได้เพราะเงินจ๊ะ เมื่อ BRICS กลายเป็นศูนย์กลางโลก ใยต้องกังวลว่าจะต้องเป็นการปกครองแบบใดอีก เพราะทุกชาติถูกปลดแอกจากเหี้ยหมดแล้ว มรึงยังจะอยากเป็นทาสไปตลอดชีวิตรึไง ทุกชาติจะหันกลับมาใช้การปกครองที่เหมาะกับตัวเอง โดยมีรัสเซีย จีน ให้การสนับสนุน สิ่งที่มรึงมองไม่เห็นแต่กูมองเห็น เป็นเพราะ "เจ้ามือ" ไงล่ะ หัวนำ ใครก็ตาม หัวเหี้ย โลกก็เหี้ย หัวดี โลกก็สดใส ยิ่งการเมืองปาหี่บ้านเรา ยิ่งมีกระแสโหยหา "มอบพระราชอำนาจคืนให้พ่อท่าน" อย่าเอาอีกเลย ไอ้นักการเมืองหัวกวยเนี่ย? เอามาให้แดร๊กแผ่นดิน กินหัวคิวไม่เลิกเหรอ? ส่วนอีควายไทยบัดซบ 24 ล้านตัว จะเงิบแดร๊ก เมื่อคนทั้งแผ่นดิน ยกมือกราบไหว้ "ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน" มรึงจะกลายเป็นส่วนเกินของสังคมทันที ปชต.จะหายสาปสูญไปตลอดกาล ทุกอย่างอยู่ที่เจ้ามือจ๊ะ ไม่ได้เปลี่ยนเพราะอยากจะเปลี่ยน แต่เปลี่ยนเพราะเหี้ยมันตาย และเจ้ามือใหม่ ไม่ต้องการปชต.ตอแหล ชัดน่ะ? ที่มาว่าทำไม มรึงถึงยังไม่เชื่อในสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ เพราะกูพูดในสิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า อันมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงโลกนั่นเอง โลกนำ สยามตาม เข้าใจตรงกันน่ะ? ส่วนเรื่องผนวกดินแดนเพิ่ม กูไม่ได้พูดเล่น เอามันส์ เมื่อไทยเป็นฮับ อยากได้เงินบาทไทยที่แข็งโป๊กมั้ย ที่นิยมใช้กันทั้งอาเซียน ก็ย้ายเข้ามาอยู่ร่วมกัน เริ่มแรก อาจจะเป็นรัฐอิสระ ที่แยกตัวออกมาจากพม่า และบางส่วนจากอีขะแมร์ บางส่วนจากลาว แต่ต่อไป หากไทยรุ่งเรืองจนขีดสุด ใครล่ะ ไม่อยากจะเป็นเมืองใต้อาณัติที่มีอนาคตสดใสรออยู่ มันจะมาเอง มรึงไม่ต้องไปไล่ล่าอะไรทั้งนั้น ของมันดี ใครก็อยากจะเข้า BRICS นี่แหละ จะทำให้ไทยรวมแผ่นดินพ่อเดิม ยุคพ่อร.5 กลับมา เหมือนที่ปูตินจะได้อดีตโซเวียตเดิมกลับมา เหมือนที่สีจิ้นผิงจะได้ไต้หวันกลับมาอีกครั้ง ทุกอย่างมันมาทิศทางเดียวกันหมด อะไรที่เป็นของเรา มันก็คือของเราอยู่วันยันค่ำ ไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ 100 ปี ก็ตาม? หมี CNN(ความกังวลของมรึง มันอยู่ในอกพ่ออยู่หัว นับตั้งแต่รัชกาลที่ 3 มานานแล้ว พ่อสอนลูก ส่งไม้ต่อ แล้วเมื่อถึงเวลา ยุคศิวิไล ไทยเราจะได้ผนวกรวมแผ่นดินเดิมกลับคืนสู่ดินแดนสุวรรณภูมิอีกครั้ง วันนี้ มรึงยังไม่เชื่อ แต่อีกไม่นาน มรึงจะเริ่มเห็นแสงสีทองตามที่กูบอก ไม่มีผิด เพราะกูนั่งไทม์แมชชีนไปกับโดราเอมอน ไปดูมาแล้ว อะไรน่ะ โนบิตะได้แต่งงานกับชิซูกะหรือไม่ อ๋อ..เสร็จอีโดราเอม่อนจ๊ะ 555+) 27 มีนาคม 68 17.24 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📰 61 ปี หนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” จากบางกอกเดลิเมล์ สู่เดลินิวส์ออนไลน์ บันทึกความทรงจำของสื่อไทย ที่เติบโตเคียงข้างประชาชน

    ✨ 61 ปี แห่งการเปลี่ยนผ่านของสื่อที่ไม่หยุดนิ่ง ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยข่าวสารและเทคโนโลยี 🌐 มีไม่กี่สื่อ ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ แต่ “เดลินิวส์” คือหนึ่งในนั้น 🙌

    จากวันแรกของการก่อตั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 สู่การเป็นผู้นำข่าวระดับประเทศ ทั้งในรูปแบบสิ่งพิมพ์และออนไลน์ 🖥️ เส้นทางของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์นั้น ไม่เพียงแต่สะท้อนวิวัฒนาการ ของวงการสื่อไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นกระจกเงาสำคัญของประวัติศาสตร์ สังคม และการเมืองไทยตลอด 61 ปี ที่ผ่านมา

    📆 ย้อนเวลาสำรวจเส้นทางของหนังสือพิมพ์ ที่เริ่มต้นจาก “บางกอกเดลิเมล์” สู่การเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” และ “เดลินิวส์ออนไลน์” ในวันนี้ พร้อมทั้งเผยเบื้องหลังความเปลี่ยนแปลง วิสัยทัศน์ และจุดยืนของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจเพื่อประชาชนไทย 🇹🇭

    🕰 จุดเริ่มต้นจากบางกอกเดลิเมล์ ความกล้าในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2493 ประเทศไทยอยู่ในยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่สอง 📜 สื่อยังถูกควบคุมโดยรัฐอย่างเข้มงวด การเปิดตัวหนังสือพิมพ์ใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ “นายห้างแสง เหตระกูล” ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจ "โรงพิมพ์ประชาช่าง" กลับกล้าเสี่ยง 🔍

    นายห้างแสงตัดสินใจซื้อกิจการ "หนังสือพิมพ์บางกอกเดลิเมล์" (Bangkok Daily Mail) ของนายหลุย คีรีวัตน์ ซึ่งได้หยุดดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 และรื้อฟื้นมันขึ้นใหม่ ในรูปแบบหนังสือพิมพ์รายปักษ์ชื่อว่า “เดลิเมล์วันจันทร์” ออกฉบับแรกเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2493 📅

    ฉบับแรกมีพาดหัวว่า “นักศึกษา มธก.รากเลือดค้าน ก.พ.” เป็นการสะท้อนจุดยืนของสื่อ ที่กล้าแตะประเด็นทางสังคม การเมืองอย่างตรงไปตรงมา

    📰 เปลี่ยนผ่านอย่างมีทิศทาง จากเดลิเมล์ สู่แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์ ในช่วง พ.ศ. 2500 “บางกอกเดลิเมล์รายวัน” ขยับสู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวัน อย่างเต็มรูปแบบ ขยายขนาดหน้ากระดาษจาก 7 เป็น 8 คอลัมน์นิ้ว 🖨 ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการสื่อขณะนั้น 📈

    แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อรัฐบาล "จอมพลแปลก พิบูลสงคราม" ถูกโค่นล้มโดย "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ซึ่งส่งผลให้สื่อหลายฉบับถูกตรวจสอบ และปิดตัวลง ❌

    ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 “เดลิเมล์รายวัน” ถูกสั่งปิดโดยคำสั่งคณะปฏิวัติ มีการ ล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ และลงครั่งประทับ ปิดฉากความกล้าหาญของสื่อเสรีในยุคนั้น อย่างสิ้นเชิง

    📢 เดลินิวส์ฉบับแรก กำเนิดเกิดใหม่ในนาม “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” แม้จะถูกสั่งปิด แต่ “นายห้างแสง” ไม่ยอมแพ้ ✊ เดินหน้าสู่บทใหม่ ซื้อหัวหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” และรวมเข้ากับชื่อเดิม กลายเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” 🗞

    วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ออกวางแผงเป็นครั้งแรก โดยมี "นายประพันธ์ เหตระกูล" บุตรชายเป็นบรรณาธิการบริหาร

    พาดหัวฉบับแรกสร้างเสียงฮือฮาทันที “เมียน้อยจอมพลสฤษดิ์ท้องในอเมริกา พบรักแท้กับนักเรียนไทยวัยรุ่น” 😲 นำเสนอข่าวแบบเจาะลึกถึงตัวบุคคล และโครงสร้างอำนาจการเมือง

    🔍 ข่าวเด่นยุคแรก กล้าท้าชนอำนาจรัฐ เดลินิวส์มีจุดขายที่ชัดเจน คือการเสนอข่าวที่ตรงไปตรงมา 💥 โดยเฉพาะเรื่องของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับอนุภรรยากว่า 103 คน และทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2,874 ล้านบาท 😮

    นอกจากนี้ยังเปิดโปงคดีอาชญากรรม การทุจริต และประเด็นอ่อนไหวที่สื่ออื่นหลีกเลี่ยง จึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านในวงกว้าง และถือเป็น “กระบอกเสียงของประชาชน” ที่แท้จริง

    📈 ก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจ ปรับคุณภาพเพื่อความอยู่รอด ช่วง พ.ศ. 2516 - 2517 ทั่วโลกประสบปัญหาน้ำมันขาดแคลน ทำให้ต้นทุนการผลิตหนังสือพิมพ์สูงขึ้น 📉 หนังสือพิมพ์หลายฉบับต้องขึ้นราคาขาย เดลินิวส์ก็เช่นกัน โดยปรับขึ้น 50 สตางค์ 💸

    แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เดลินิวส์ ไม่ลดคุณภาพข่าว ตรงกันข้ามกลับเพิ่มคอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง และข่าวสังคม มากขึ้น ส่งผลให้ได้รับความเชื่อถือจากผู้อ่าน อย่างต่อเนื่อง ✨

    📚 เปลี่ยนชื่อเป็น “เดลินิวส์” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2522 บริษัทสี่พระยาการพิมพ์ จำกัด ได้ยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อหนังสือพิมพ์เป็น “เดลินิวส์” และได้รับอนุญาตในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2522 🎉

    ต่อมา เดลินิวส์ได้ขยายสำนักงานจากถนนสี่พระยา มาที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน 🏢 พร้อมขยายจำนวนหน้าจาก 16 เป็น 48 หน้า และเพิ่มราคาจำหน่ายจาก 1 บาท เป็น 10 บาทในปัจจุบัน

    🖨 นวัตกรรมการพิมพ์ ก้าวสู่งานข่าวสีเต็มรูปแบบ ในปี พ.ศ. 2529 เดลินิวส์เริ่มพิมพ์ภาพข่าวสี่สีครั้งแรก คือ ภาพโศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศ “แชลเลนเจอร์” 🚀 และต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ตีพิมพ์ภาพ “ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลที่ไต้หวัน 👑

    พร้อมลงทุนในระบบพิมพ์ แซตเติลไลต์ ยูนิต และโฟร์ไฮ ที่สามารถพิมพ์ได้เร็วถึง 120,000 ฉบับ ต่อชั่วโมง 🚀 สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการสื่อสิ่งพิมพ์ไทย

    🌐 เดลินิวส์ออนไลน์ ปฏิวัติวงการข่าวดิจิทัล ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2541 เดลินิวส์เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เปิดเว็บไซต์ www.dailynews.co.th 💻 พร้อมคอนเซปต์ว่า...

    “ให้ข่าวสารพาไปไกลกว่าแค่ ‘รู้’ แต่คือ รู้ลึก รู้จริง และรู้เท่าทันทุกสถานการณ์”

    ในวันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ข่าว 🗂️ ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง กีฬา ไลฟ์สไตล์ รวมถึง วิดีโอ, อินโฟกราฟิก และ คอนเทนต์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ⏱

    💡 ปณิธานของ “เดลินิวส์” ข่าวเพื่อประชาชน สิ่งที่ทำให้ “เดลินิวส์” อยู่ได้มากว่า 61 ปี ไม่ใช่เพียงเพราะยอดขายหรือชื่อเสียง 🏆 แต่เป็นเพราะความตั้งใจจริงของคณะผู้บริหาร ในการทำสื่อเพื่อประชาชน

    เดลินิวส์นำเสนอข่าวสารที่ครอบคลุม ทั้งข่าวสังคมที่ใกล้ตัว และข่าวเศรษฐกิจระดับชาติ โดยยึดมั่นในหลักจริยธรรมข่าว สร้างความเข้าใจ ที่มากกว่าแค่การรับรู้ข้อมูล 📘

    📌 เดลินิวส์…มากกว่าข่าว คือความเข้าใจ จาก “บางกอกเดลิเมล์” ที่เคยถูกล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ จนถึง “เดลินิวส์ออนไลน์” ที่ไหลลื่นในโลกดิจิทัล 🌐

    เส้นทางกว่า 61 ปี ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย และบทบาทของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งประชาชน 💞

    และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร เดลินิวส์ยังคงทำหน้าที่ ด้วยหัวใจของนักข่าวเพื่อประชาชน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 280955 มี.ค. 2568

    📢 #เดลินิวส์ #ประวัติเดลินิวส์ #หนังสือพิมพ์ไทย #สื่อไทย #ข่าวออนไลน์ #เดลินิวส์ออนไลน์ #ข่าวเพื่อประชาชน #61ปีเดลินิวส์ #DailyNewsTH #ข่าวไทย
    📰 61 ปี หนังสือพิมพ์ “เดลินิวส์” จากบางกอกเดลิเมล์ สู่เดลินิวส์ออนไลน์ บันทึกความทรงจำของสื่อไทย ที่เติบโตเคียงข้างประชาชน ✨ 61 ปี แห่งการเปลี่ยนผ่านของสื่อที่ไม่หยุดนิ่ง ในยุคที่โลกหมุนเร็วด้วยข่าวสารและเทคโนโลยี 🌐 มีไม่กี่สื่อ ที่สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง ตลอดระยะเวลากว่าครึ่งศตวรรษ แต่ “เดลินิวส์” คือหนึ่งในนั้น 🙌 จากวันแรกของการก่อตั้ง เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 สู่การเป็นผู้นำข่าวระดับประเทศ ทั้งในรูปแบบสิ่งพิมพ์และออนไลน์ 🖥️ เส้นทางของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์นั้น ไม่เพียงแต่สะท้อนวิวัฒนาการ ของวงการสื่อไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นกระจกเงาสำคัญของประวัติศาสตร์ สังคม และการเมืองไทยตลอด 61 ปี ที่ผ่านมา 📆 ย้อนเวลาสำรวจเส้นทางของหนังสือพิมพ์ ที่เริ่มต้นจาก “บางกอกเดลิเมล์” สู่การเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” และ “เดลินิวส์ออนไลน์” ในวันนี้ พร้อมทั้งเผยเบื้องหลังความเปลี่ยนแปลง วิสัยทัศน์ และจุดยืนของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งภารกิจเพื่อประชาชนไทย 🇹🇭 🕰 จุดเริ่มต้นจากบางกอกเดลิเมล์ ความกล้าในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2493 ประเทศไทยอยู่ในยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่สอง 📜 สื่อยังถูกควบคุมโดยรัฐอย่างเข้มงวด การเปิดตัวหนังสือพิมพ์ใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ “นายห้างแสง เหตระกูล” ผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจ "โรงพิมพ์ประชาช่าง" กลับกล้าเสี่ยง 🔍 นายห้างแสงตัดสินใจซื้อกิจการ "หนังสือพิมพ์บางกอกเดลิเมล์" (Bangkok Daily Mail) ของนายหลุย คีรีวัตน์ ซึ่งได้หยุดดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2476 และรื้อฟื้นมันขึ้นใหม่ ในรูปแบบหนังสือพิมพ์รายปักษ์ชื่อว่า “เดลิเมล์วันจันทร์” ออกฉบับแรกเมื่อ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2493 📅 ฉบับแรกมีพาดหัวว่า “นักศึกษา มธก.รากเลือดค้าน ก.พ.” เป็นการสะท้อนจุดยืนของสื่อ ที่กล้าแตะประเด็นทางสังคม การเมืองอย่างตรงไปตรงมา 📰 เปลี่ยนผ่านอย่างมีทิศทาง จากเดลิเมล์ สู่แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์ ในช่วง พ.ศ. 2500 “บางกอกเดลิเมล์รายวัน” ขยับสู่การเป็นหนังสือพิมพ์รายวัน อย่างเต็มรูปแบบ ขยายขนาดหน้ากระดาษจาก 7 เป็น 8 คอลัมน์นิ้ว 🖨 ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ในวงการสื่อขณะนั้น 📈 แต่แล้วจุดเปลี่ยนสำคัญก็เกิดขึ้น เมื่อรัฐบาล "จอมพลแปลก พิบูลสงคราม" ถูกโค่นล้มโดย "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ซึ่งส่งผลให้สื่อหลายฉบับถูกตรวจสอบ และปิดตัวลง ❌ ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501 “เดลิเมล์รายวัน” ถูกสั่งปิดโดยคำสั่งคณะปฏิวัติ มีการ ล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ และลงครั่งประทับ ปิดฉากความกล้าหาญของสื่อเสรีในยุคนั้น อย่างสิ้นเชิง 📢 เดลินิวส์ฉบับแรก กำเนิดเกิดใหม่ในนาม “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” แม้จะถูกสั่งปิด แต่ “นายห้างแสง” ไม่ยอมแพ้ ✊ เดินหน้าสู่บทใหม่ ซื้อหัวหนังสือพิมพ์ “แนวหน้า” และรวมเข้ากับชื่อเดิม กลายเป็น “แนวหน้าแห่งยุคเดลินิวส์” 🗞 วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2507 หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ออกวางแผงเป็นครั้งแรก โดยมี "นายประพันธ์ เหตระกูล" บุตรชายเป็นบรรณาธิการบริหาร พาดหัวฉบับแรกสร้างเสียงฮือฮาทันที “เมียน้อยจอมพลสฤษดิ์ท้องในอเมริกา พบรักแท้กับนักเรียนไทยวัยรุ่น” 😲 นำเสนอข่าวแบบเจาะลึกถึงตัวบุคคล และโครงสร้างอำนาจการเมือง 🔍 ข่าวเด่นยุคแรก กล้าท้าชนอำนาจรัฐ เดลินิวส์มีจุดขายที่ชัดเจน คือการเสนอข่าวที่ตรงไปตรงมา 💥 โดยเฉพาะเรื่องของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับอนุภรรยากว่า 103 คน และทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2,874 ล้านบาท 😮 นอกจากนี้ยังเปิดโปงคดีอาชญากรรม การทุจริต และประเด็นอ่อนไหวที่สื่ออื่นหลีกเลี่ยง จึงได้รับความนิยมจากผู้อ่านในวงกว้าง และถือเป็น “กระบอกเสียงของประชาชน” ที่แท้จริง 📈 ก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจ ปรับคุณภาพเพื่อความอยู่รอด ช่วง พ.ศ. 2516 - 2517 ทั่วโลกประสบปัญหาน้ำมันขาดแคลน ทำให้ต้นทุนการผลิตหนังสือพิมพ์สูงขึ้น 📉 หนังสือพิมพ์หลายฉบับต้องขึ้นราคาขาย เดลินิวส์ก็เช่นกัน โดยปรับขึ้น 50 สตางค์ 💸 แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ เดลินิวส์ ไม่ลดคุณภาพข่าว ตรงกันข้ามกลับเพิ่มคอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง และข่าวสังคม มากขึ้น ส่งผลให้ได้รับความเชื่อถือจากผู้อ่าน อย่างต่อเนื่อง ✨ 📚 เปลี่ยนชื่อเป็น “เดลินิวส์” อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2522 บริษัทสี่พระยาการพิมพ์ จำกัด ได้ยื่นเรื่องเปลี่ยนชื่อหนังสือพิมพ์เป็น “เดลินิวส์” และได้รับอนุญาตในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2522 🎉 ต่อมา เดลินิวส์ได้ขยายสำนักงานจากถนนสี่พระยา มาที่ถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบัน 🏢 พร้อมขยายจำนวนหน้าจาก 16 เป็น 48 หน้า และเพิ่มราคาจำหน่ายจาก 1 บาท เป็น 10 บาทในปัจจุบัน 🖨 นวัตกรรมการพิมพ์ ก้าวสู่งานข่าวสีเต็มรูปแบบ ในปี พ.ศ. 2529 เดลินิวส์เริ่มพิมพ์ภาพข่าวสี่สีครั้งแรก คือ ภาพโศกนาฏกรรมกระสวยอวกาศ “แชลเลนเจอร์” 🚀 และต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ตีพิมพ์ภาพ “ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก” คว้ามงกุฎนางงามจักรวาลที่ไต้หวัน 👑 พร้อมลงทุนในระบบพิมพ์ แซตเติลไลต์ ยูนิต และโฟร์ไฮ ที่สามารถพิมพ์ได้เร็วถึง 120,000 ฉบับ ต่อชั่วโมง 🚀 สร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการสื่อสิ่งพิมพ์ไทย 🌐 เดลินิวส์ออนไลน์ ปฏิวัติวงการข่าวดิจิทัล ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2541 เดลินิวส์เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เปิดเว็บไซต์ www.dailynews.co.th 💻 พร้อมคอนเซปต์ว่า... “ให้ข่าวสารพาไปไกลกว่าแค่ ‘รู้’ แต่คือ รู้ลึก รู้จริง และรู้เท่าทันทุกสถานการณ์” ในวันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ข่าว 🗂️ ไม่ว่าจะเป็นข่าวการเมือง เศรษฐกิจ สังคม บันเทิง กีฬา ไลฟ์สไตล์ รวมถึง วิดีโอ, อินโฟกราฟิก และ คอนเทนต์แบบเรียลไทม์ 24 ชั่วโมง ⏱ 💡 ปณิธานของ “เดลินิวส์” ข่าวเพื่อประชาชน สิ่งที่ทำให้ “เดลินิวส์” อยู่ได้มากว่า 61 ปี ไม่ใช่เพียงเพราะยอดขายหรือชื่อเสียง 🏆 แต่เป็นเพราะความตั้งใจจริงของคณะผู้บริหาร ในการทำสื่อเพื่อประชาชน เดลินิวส์นำเสนอข่าวสารที่ครอบคลุม ทั้งข่าวสังคมที่ใกล้ตัว และข่าวเศรษฐกิจระดับชาติ โดยยึดมั่นในหลักจริยธรรมข่าว สร้างความเข้าใจ ที่มากกว่าแค่การรับรู้ข้อมูล 📘 📌 เดลินิวส์…มากกว่าข่าว คือความเข้าใจ จาก “บางกอกเดลิเมล์” ที่เคยถูกล่ามแท่นพิมพ์ด้วยโซ่ จนถึง “เดลินิวส์ออนไลน์” ที่ไหลลื่นในโลกดิจิทัล 🌐 เส้นทางกว่า 61 ปี ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย และบทบาทของสื่อ ที่ไม่เคยละทิ้งประชาชน 💞 และไม่ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร เดลินิวส์ยังคงทำหน้าที่ ด้วยหัวใจของนักข่าวเพื่อประชาชน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 280955 มี.ค. 2568 📢 #เดลินิวส์ #ประวัติเดลินิวส์ #หนังสือพิมพ์ไทย #สื่อไทย #ข่าวออนไลน์ #เดลินิวส์ออนไลน์ #ข่าวเพื่อประชาชน #61ปีเดลินิวส์ #DailyNewsTH #ข่าวไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC ลงทุนครั้งใหญ่ในอเมริกาเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปและศูนย์วิจัย แต่ Pat Gelsinger อดีต CEO ของ Intel ชี้ว่า แม้จะช่วยปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน แต่การขาด R&D ขั้นสูงในประเทศยังคงเป็นอุปสรรคต่อการเป็นผู้นำในเทคโนโลยีกระบวนการผลิต การลงทุนนี้จึงสะท้อนถึงความสำคัญของการวิจัยในประเทศในการพัฒนานวัตกรรม

    ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงทุนของ TSMC:
    - TSMC มีแผนสร้างโรงงานผลิตชิป 6 แห่ง รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาในรัฐแอริโซนา แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าการวิจัยขั้นสูงจะถูกย้ายมายังสหรัฐฯ หรือไม่.

    ความสำคัญของการวิจัยและพัฒนา (R&D):
    - Gelsinger ชี้ว่า การมี R&D ในประเทศเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้อเมริกาสามารถพัฒนาเทคโนโลยีรุ่นใหม่ได้ เช่น กระบวนการผลิตแบบ N3X หรือ N4 ที่ TSMC พัฒนาอยู่ในไต้หวัน.

    การปฏิสัมพันธ์ระหว่างการผลิตและ R&D:
    - โรงงานผลิตชิปและศูนย์วิจัยมีความเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะการพัฒนากระบวนการผลิตที่ต้องมีการทดลองและปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง TSMC ยังเน้นที่ไต้หวันเป็นหลัก.

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์:
    - การลงทุนของ TSMC อาจช่วยให้โรงงานในสหรัฐฯ สามารถผลิตชิปแบบกระบวนการขั้นสูงได้เร็วขึ้น แต่การขาด R&D ภายในประเทศอาจจำกัดการเติบโตและการเป็นผู้นำในระยะยาว.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/ex-intel-ceo-gelsinger-warns-tsmcs-usd165b-investment-will-not-restore-u-s-semiconductor-leadership
    TSMC ลงทุนครั้งใหญ่ในอเมริกาเพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปและศูนย์วิจัย แต่ Pat Gelsinger อดีต CEO ของ Intel ชี้ว่า แม้จะช่วยปรับปรุงห่วงโซ่อุปทาน แต่การขาด R&D ขั้นสูงในประเทศยังคงเป็นอุปสรรคต่อการเป็นผู้นำในเทคโนโลยีกระบวนการผลิต การลงทุนนี้จึงสะท้อนถึงความสำคัญของการวิจัยในประเทศในการพัฒนานวัตกรรม ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงทุนของ TSMC: - TSMC มีแผนสร้างโรงงานผลิตชิป 6 แห่ง รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาในรัฐแอริโซนา แต่ยังไม่มีการยืนยันว่าการวิจัยขั้นสูงจะถูกย้ายมายังสหรัฐฯ หรือไม่. ความสำคัญของการวิจัยและพัฒนา (R&D): - Gelsinger ชี้ว่า การมี R&D ในประเทศเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้อเมริกาสามารถพัฒนาเทคโนโลยีรุ่นใหม่ได้ เช่น กระบวนการผลิตแบบ N3X หรือ N4 ที่ TSMC พัฒนาอยู่ในไต้หวัน. การปฏิสัมพันธ์ระหว่างการผลิตและ R&D: - โรงงานผลิตชิปและศูนย์วิจัยมีความเชื่อมโยงกัน โดยเฉพาะการพัฒนากระบวนการผลิตที่ต้องมีการทดลองและปรับแต่งอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง TSMC ยังเน้นที่ไต้หวันเป็นหลัก. ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์: - การลงทุนของ TSMC อาจช่วยให้โรงงานในสหรัฐฯ สามารถผลิตชิปแบบกระบวนการขั้นสูงได้เร็วขึ้น แต่การขาด R&D ภายในประเทศอาจจำกัดการเติบโตและการเป็นผู้นำในระยะยาว. https://www.tomshardware.com/tech-industry/ex-intel-ceo-gelsinger-warns-tsmcs-usd165b-investment-will-not-restore-u-s-semiconductor-leadership
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานข่าวกรองอเมริกาฉบับปีล่าสุดระบุ จีนยังคงเป็นภัยคุกคามทางทหารและไซเบอร์อันดับหนึ่ง อีกทั้งมีแสนยานุภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ไม่สม่ำเสมอ ในเรื่องสมรรถนะสำหรับการเข้ายึดไต้หวัน โดยรวมถึงการป้องปราม หรือกระทั่งเอาชนะการแทรกแซงทางทหารของอเมริกาถ้าจำเป็น นอกจากนั้นปักกิ่งยังเล็งขึ้นเป็นมหาอำนาจด้านเอไอแทนที่วอชิงตันภายในปี 2030
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000028981
    รายงานข่าวกรองอเมริกาฉบับปีล่าสุดระบุ จีนยังคงเป็นภัยคุกคามทางทหารและไซเบอร์อันดับหนึ่ง อีกทั้งมีแสนยานุภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ไม่สม่ำเสมอ ในเรื่องสมรรถนะสำหรับการเข้ายึดไต้หวัน โดยรวมถึงการป้องปราม หรือกระทั่งเอาชนะการแทรกแซงทางทหารของอเมริกาถ้าจำเป็น นอกจากนั้นปักกิ่งยังเล็งขึ้นเป็นมหาอำนาจด้านเอไอแทนที่วอชิงตันภายในปี 2030 . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000028981
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1599 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC กำลังผลิตชิปที่โรงงาน Fab 21 ในแอริโซนา ซึ่งต้นทุนผลิตสูงกว่าไต้หวันเพียง 10% การใช้ระบบอัตโนมัติช่วยลดความสำคัญของค่าแรงในต้นทุนรวม แม้จะมีการขนส่งแผ่นเวเฟอร์กลับไปยังไต้หวันเพื่อการบรรจุ แต่ไม่ได้เพิ่มต้นทุนมากนัก บริษัทวางแผนตั้งราคาพรีเมียมสำหรับชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาด และเสริมความมั่นคงด้านอุตสาหกรรม

    อุปกรณ์เป็นตัวกำหนดต้นทุนหลัก:
    - เครื่องมือจากบริษัทชั้นนำ เช่น ASML และ Tokyo Electron คิดเป็นสองในสามของต้นทุนรวม โดยไม่ขึ้นกับสถานที่ตั้งของโรงงาน.

    บทบาทของแรงงาน:
    - แม้ค่าแรงในสหรัฐฯ จะสูงกว่าต่างประเทศถึงสามเท่า แต่ระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยทำให้แรงงานมีส่วนร่วมกับต้นทุนรวมเพียง 2% เท่านั้น.

    การขนส่งและความซับซ้อน:
    - แผ่นเวเฟอร์ที่ผลิตในแอริโซนายังต้องส่งกลับไปที่ไต้หวันเพื่อกระบวนการตัดและบรรจุ ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนด้านโลจิสติกส์ แต่ไม่ได้เพิ่มต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ.

    ราคาในตลาด:
    - TSMC อาจตั้งราคาพรีเมียมเพิ่ม 30% สำหรับชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อรองรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น.

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/producing-wafers-at-tsmc-arizona-is-only-10-percent-more-expensive-than-in-taiwan-techinsights
    TSMC กำลังผลิตชิปที่โรงงาน Fab 21 ในแอริโซนา ซึ่งต้นทุนผลิตสูงกว่าไต้หวันเพียง 10% การใช้ระบบอัตโนมัติช่วยลดความสำคัญของค่าแรงในต้นทุนรวม แม้จะมีการขนส่งแผ่นเวเฟอร์กลับไปยังไต้หวันเพื่อการบรรจุ แต่ไม่ได้เพิ่มต้นทุนมากนัก บริษัทวางแผนตั้งราคาพรีเมียมสำหรับชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาด และเสริมความมั่นคงด้านอุตสาหกรรม อุปกรณ์เป็นตัวกำหนดต้นทุนหลัก: - เครื่องมือจากบริษัทชั้นนำ เช่น ASML และ Tokyo Electron คิดเป็นสองในสามของต้นทุนรวม โดยไม่ขึ้นกับสถานที่ตั้งของโรงงาน. บทบาทของแรงงาน: - แม้ค่าแรงในสหรัฐฯ จะสูงกว่าต่างประเทศถึงสามเท่า แต่ระบบอัตโนมัติที่ทันสมัยทำให้แรงงานมีส่วนร่วมกับต้นทุนรวมเพียง 2% เท่านั้น. การขนส่งและความซับซ้อน: - แผ่นเวเฟอร์ที่ผลิตในแอริโซนายังต้องส่งกลับไปที่ไต้หวันเพื่อกระบวนการตัดและบรรจุ ซึ่งเพิ่มความซับซ้อนด้านโลจิสติกส์ แต่ไม่ได้เพิ่มต้นทุนอย่างมีนัยสำคัญ. ราคาในตลาด: - TSMC อาจตั้งราคาพรีเมียมเพิ่ม 30% สำหรับชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อรองรับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น. https://www.tomshardware.com/tech-industry/producing-wafers-at-tsmc-arizona-is-only-10-percent-more-expensive-than-in-taiwan-techinsights
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC กำลังขยายการผลิตมายังสหรัฐฯ โดยเพิ่มต้นทุนการผลิตเพียง 10% และใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อลดความจำเป็นในการใช้แรงงาน แม้ว่าจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่บริษัทอาจตั้งราคาชิปพรีเมียมในตลาดเพื่อรองรับค่าใช้จ่าย การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการลดการพึ่งพาแหล่งผลิตในเอเชียและสร้างความสมดุลด้านภูมิรัฐศาสตร์

    ต้นทุนที่แตกต่างเล็กน้อย:
    - การศึกษาโดย TechInsights แสดงว่าต้นทุนการผลิตในโรงงานสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ต้นทุนแรงงานจะสูงขึ้นถึง 200% แต่การใช้ระบบอัตโนมัติช่วยลดความจำเป็นในการใช้แรงงานจำนวนมาก.

    การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง:
    - กว่าครึ่งของค่าใช้จ่ายในการผลิตแผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนมาจากเครื่องจักรที่ใช้กระบวนการทางแสงและเคมีขั้นสูง ซึ่งมีราคาเท่ากันทั้งในสหรัฐฯ และไต้หวัน.

    แผนกำหนดราคาชิป:
    - TSMC อาจตั้งราคาพรีเมียมเพิ่มขึ้น 30% สำหรับชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อรองรับต้นทุนที่สูงขึ้น.

    การตอบสนองต่อข้อกล่าวหา:
    - การลงทุนในสหรัฐฯ ทำให้ TSMC ถูกตั้งข้อสงสัยจากจีนว่ากำลัง "ขายธุรกิจ" ให้กับวอชิงตัน เพื่อสร้างความสนับสนุนทางการเมืองในพื้นที่ที่มีข้อขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์.

    https://www.techspot.com/news/107291-tsmc-spends-10-more-silicon-wafers-manufactured-usa.html
    TSMC กำลังขยายการผลิตมายังสหรัฐฯ โดยเพิ่มต้นทุนการผลิตเพียง 10% และใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อลดความจำเป็นในการใช้แรงงาน แม้ว่าจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่บริษัทอาจตั้งราคาชิปพรีเมียมในตลาดเพื่อรองรับค่าใช้จ่าย การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการลดการพึ่งพาแหล่งผลิตในเอเชียและสร้างความสมดุลด้านภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนที่แตกต่างเล็กน้อย: - การศึกษาโดย TechInsights แสดงว่าต้นทุนการผลิตในโรงงานสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้ต้นทุนแรงงานจะสูงขึ้นถึง 200% แต่การใช้ระบบอัตโนมัติช่วยลดความจำเป็นในการใช้แรงงานจำนวนมาก. การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง: - กว่าครึ่งของค่าใช้จ่ายในการผลิตแผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนมาจากเครื่องจักรที่ใช้กระบวนการทางแสงและเคมีขั้นสูง ซึ่งมีราคาเท่ากันทั้งในสหรัฐฯ และไต้หวัน. แผนกำหนดราคาชิป: - TSMC อาจตั้งราคาพรีเมียมเพิ่มขึ้น 30% สำหรับชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ เพื่อรองรับต้นทุนที่สูงขึ้น. การตอบสนองต่อข้อกล่าวหา: - การลงทุนในสหรัฐฯ ทำให้ TSMC ถูกตั้งข้อสงสัยจากจีนว่ากำลัง "ขายธุรกิจ" ให้กับวอชิงตัน เพื่อสร้างความสนับสนุนทางการเมืองในพื้นที่ที่มีข้อขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์. https://www.techspot.com/news/107291-tsmc-spends-10-more-silicon-wafers-manufactured-usa.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    TSMC spends just 10% more on silicon wafers manufactured in the USA than in Taiwan fabs
    How much does it cost TSMC to start up its new chip-manufacturing plants on US soil? According to a new study by TechInsights, the total amount is...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • Exxon Mobil ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ในโรงงานเคมีที่ Louisiana เพื่อผลิต isopropyl alcohol ที่มีความบริสุทธิ์สูงรองรับอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเติบโต สารนี้ช่วยในกระบวนการทำความสะอาดและประมวลผลชิปไมโครโปรเซสเซอร์ ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูล การลงทุนนี้จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าและเพิ่มความมั่นคงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

    ความสำคัญของ Isopropyl Alcohol ในอุตสาหกรรม:
    - สารนี้ใช้ในกระบวนการทำความสะอาดชิปเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และเป็นองค์ประกอบสำคัญในห้องผลิตเซมิคอนดักเตอร์

    ความสัมพันธ์กับการพัฒนา AI:
    - การพัฒนา AI และการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่กระตุ้นความต้องการชิปเฉพาะทาง ทำให้อุตสาหกรรมชิปเติบโตอย่างรวดเร็ว

    การลดความเสี่ยงจากการนำเข้าจากต่างประเทศ:
    - สหรัฐฯ เคยนำเข้าสารนี้จากไต้หวันและญี่ปุ่น เนื่องจากขาดซัพพลายภายในประเทศ การลงทุนครั้งนี้จึงช่วยลดการพึ่งพาและเพิ่มความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/exxon-investing-100-million-in-facility-to-produce-cleaning-alcohol-for-chip-industry
    Exxon Mobil ลงทุน 100 ล้านดอลลาร์ในโรงงานเคมีที่ Louisiana เพื่อผลิต isopropyl alcohol ที่มีความบริสุทธิ์สูงรองรับอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเติบโต สารนี้ช่วยในกระบวนการทำความสะอาดและประมวลผลชิปไมโครโปรเซสเซอร์ ด้วยความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูล การลงทุนนี้จะช่วยลดการพึ่งพาการนำเข้าและเพิ่มความมั่นคงในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ความสำคัญของ Isopropyl Alcohol ในอุตสาหกรรม: - สารนี้ใช้ในกระบวนการทำความสะอาดชิปเพื่อรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และเป็นองค์ประกอบสำคัญในห้องผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ความสัมพันธ์กับการพัฒนา AI: - การพัฒนา AI และการสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่กระตุ้นความต้องการชิปเฉพาะทาง ทำให้อุตสาหกรรมชิปเติบโตอย่างรวดเร็ว การลดความเสี่ยงจากการนำเข้าจากต่างประเทศ: - สหรัฐฯ เคยนำเข้าสารนี้จากไต้หวันและญี่ปุ่น เนื่องจากขาดซัพพลายภายในประเทศ การลงทุนครั้งนี้จึงช่วยลดการพึ่งพาและเพิ่มความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมในประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/26/exxon-investing-100-million-in-facility-to-produce-cleaning-alcohol-for-chip-industry
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exxon investing $100 million in facility to produce cleaning alcohol for chip industry
    HOUSTON (Reuters) - Exxon Mobil said on Wednesday it will spend $100 million to upgrade its Baton Rouge, Louisiana, chemical plant to produce a highly pure form of isopropyl alcohol that is used in the tech industry to clean and process microchips.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌸✨ ทัวร์ไต้หวันสงกรานต์! ✨🌸
    10-14 เม.ย. 2025 ราคาเพียง 24,990 บาท 💥
    ⏳ เหลือ 5 ท่านสุดท้าย! รีบจองด่วน! 🚨

    🚂 เที่ยวครบจบใน 5 วัน!
    - เมืองเจียอี้ 🏙️
    - อุทยานแห่งชาติอาลีซาน 🌲
    - รถไฟสายโบราณ 🚋
    - ร้านชาอู่หลง 🍵
    - ร้านเอ็นไซม์ 🧴
    - วัดต้าซี 🏯
    - เมืองไทเป 🏙️
    - หมู่บ้านประวัติศาสตร์ซื่อซื่อหนันซุน ⛩️
    - ถ่ายรูปคู่ตึกไทเป 101 🏢
    - วัดหลงซาน 🛕
    - ศูนย์สร้อยสุขภาพ 💎
    - ร้านขนมพายสับปะรด 🍍
    - อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก 🇹🇼
    - ซีเหมินติง 🛍️
    - ร้านเครื่องสำอาง 💄
    - บูราโนแห่งไต้หวัน 🌊
    - หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น 🏘️
    - เมืองผิงซี 🌄
    - ช้อปปิ้งที่ห้างเอาท์เล็ทมิตซุย 🛒

    📅 ทัวร์สงกรานต์ 5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลต์! 🌟

    #ทัวร์ไต้หวัน #สงกรานต์2025 #เที่ยวไต้หวัน #ทัวร์ไต้หวันราคาถูก #สงกรานต์สุดคุ้ม #อาลีซาน #ไทเป #เที่ยวไทเป #ทัวร์ลดราคา #สงกรานต์กับเพื่อน

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e09e92

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/b999ee

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395
    🌸✨ ทัวร์ไต้หวันสงกรานต์! ✨🌸 10-14 เม.ย. 2025 ราคาเพียง 24,990 บาท 💥 ⏳ เหลือ 5 ท่านสุดท้าย! รีบจองด่วน! 🚨 🚂 เที่ยวครบจบใน 5 วัน! - เมืองเจียอี้ 🏙️ - อุทยานแห่งชาติอาลีซาน 🌲 - รถไฟสายโบราณ 🚋 - ร้านชาอู่หลง 🍵 - ร้านเอ็นไซม์ 🧴 - วัดต้าซี 🏯 - เมืองไทเป 🏙️ - หมู่บ้านประวัติศาสตร์ซื่อซื่อหนันซุน ⛩️ - ถ่ายรูปคู่ตึกไทเป 101 🏢 - วัดหลงซาน 🛕 - ศูนย์สร้อยสุขภาพ 💎 - ร้านขนมพายสับปะรด 🍍 - อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก 🇹🇼 - ซีเหมินติง 🛍️ - ร้านเครื่องสำอาง 💄 - บูราโนแห่งไต้หวัน 🌊 - หมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น 🏘️ - เมืองผิงซี 🌄 - ช้อปปิ้งที่ห้างเอาท์เล็ทมิตซุย 🛒 📅 ทัวร์สงกรานต์ 5 วัน 4 คืน ครบทุกไฮไลต์! 🌟 #ทัวร์ไต้หวัน #สงกรานต์2025 #เที่ยวไต้หวัน #ทัวร์ไต้หวันราคาถูก #สงกรานต์สุดคุ้ม #อาลีซาน #ไทเป #เที่ยวไทเป #ทัวร์ลดราคา #สงกรานต์กับเพื่อน ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e09e92 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/b999ee LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • FD เพิ่มเที่ยวบินสุวรรณภูมิ ส่งรูทเชียงใหม่ชิงไทเป-ซัปโปโร

    ช่วงนี้สายการบินไทยแอร์เอเชีย (FD) ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV มีความเคลื่อนไหวหลายอย่าง เริ่มจากการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A321neo จำนวน 6 ลำ โดยเครื่องบินใหม่ลำแรกทะเบียน HS-EAU จากโรงงานแอร์บัสที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี มาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเมื่อเวลา 05.44 น. วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา นำมาให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มี.ค.เที่ยวบิน FD3437 ดอนเมือง-เชียงใหม่ ส่วนที่เหลืออีก 5 ลำจะทยอยส่งมอบต่อไป ซึ่งจะทำให้ไทยแอร์เอเชียมีฝูงบินรวมกัน 66 ลำ

    อย่างต่อมา คือ การเพิ่มเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากท่าอากาศยานดอนเมืองซึ่งเป็นฮับของไทยแอร์เอเชีย ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 ชูจุดขายบินในประเทศเลือกได้ 2 สนามบิน นอกจากเส้นทางยอดนิยมอย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ และหาดใหญ่แล้ว เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาได้เพิ่มเส้นทางขอนแก่น และอุดรธานี ล่าสุดประกาศว่าได้เพิ่มเส้นทางสุราษฎร์ธานี นราธิวาส และบุรีรีมย์ (ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป รวมเส้นทางจากสุวรณภูมิทั้งสิ้น 9 เส้นทาง ขณะเดียวกัน AAV มีแผนที่จะเพิ่มเส้นทางไปพิษณุโลก อุบลราชธานี นครพนม ลำปาง และการกลับมาของเชียงราย

    ก่อนหน้านี้การบินไทยยกเลิกเส้นทางสุวรรณภูมิ-นราธิวาส เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2567 ทำให้ท่าอากาศยานนราธิวาส มีเพียงเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย ดอนเมือง-นราธิวาสเพียงวันละ 1-2 เที่ยวบิน ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกแก่ผู้โดยสารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2564 ไทยแอร์เอเชียเคยบินตรงสุวรรณภูมิไปน่านและนครศรีธรรมราช แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

    อีกด้านหนึ่ง คือ การเปิดเส้นทางใหม่ เชียงใหม่-ไทเป-ซัปโปโร ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยใช้สิทธิทางการบินที่ 5 (Fifth Freedom) ต่อจากดอนเมือง-ไทเป-โอกินาว่า และดอนเมือง-เกาสง-โตเกียว (นาริตะ) เชื่อมระหว่างประเทศไทย ไปยังไต้หวันและญี่ปุ่น เจาะตลาดนักท่องเที่ยวไต้หวันไปญี่ปุ่น ซึ่งต้องแข่งขันกับคู่แข่งอีก 5 ราย ได้แก่ สกู๊ตที่ใช้สิทธิในเส้นทางสิงคโปร์-ไทเป-ซัปโปโร ไทเกอร์แอร์ อีวีเอแอร์ ไชน่าแอร์ไลน์ และสตาร์ลักซ์แอร์ไลน์ที่บินตรง ส่วนชาวไทยจากเชียงใหม่ไปซัปโปโรได้โดยไม่ต้องไปต่อเครื่องที่ดอนเมือง

    นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มบริการเที่ยวบินพร้อมรถรับส่ง พัทยา-อินเดีย ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป โดยจุดจอดท่าอากาศยานดอนเมืองอยู่ที่อาคาร Service Hall และพัทยารถจอดที่ห้างเซ็นทรัลพัทยา ชั้น 1 ประตู 5 ข้างซอยพัทยา 9

    #Newskit
    FD เพิ่มเที่ยวบินสุวรรณภูมิ ส่งรูทเชียงใหม่ชิงไทเป-ซัปโปโร ช่วงนี้สายการบินไทยแอร์เอเชีย (FD) ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV มีความเคลื่อนไหวหลายอย่าง เริ่มจากการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A321neo จำนวน 6 ลำ โดยเครื่องบินใหม่ลำแรกทะเบียน HS-EAU จากโรงงานแอร์บัสที่เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี มาถึงท่าอากาศยานดอนเมืองเมื่อเวลา 05.44 น. วันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา นำมาให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 23 มี.ค.เที่ยวบิน FD3437 ดอนเมือง-เชียงใหม่ ส่วนที่เหลืออีก 5 ลำจะทยอยส่งมอบต่อไป ซึ่งจะทำให้ไทยแอร์เอเชียมีฝูงบินรวมกัน 66 ลำ อย่างต่อมา คือ การเพิ่มเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากท่าอากาศยานดอนเมืองซึ่งเป็นฮับของไทยแอร์เอเชีย ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 ชูจุดขายบินในประเทศเลือกได้ 2 สนามบิน นอกจากเส้นทางยอดนิยมอย่างเชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ และหาดใหญ่แล้ว เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมาได้เพิ่มเส้นทางขอนแก่น และอุดรธานี ล่าสุดประกาศว่าได้เพิ่มเส้นทางสุราษฎร์ธานี นราธิวาส และบุรีรีมย์ (ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป รวมเส้นทางจากสุวรณภูมิทั้งสิ้น 9 เส้นทาง ขณะเดียวกัน AAV มีแผนที่จะเพิ่มเส้นทางไปพิษณุโลก อุบลราชธานี นครพนม ลำปาง และการกลับมาของเชียงราย ก่อนหน้านี้การบินไทยยกเลิกเส้นทางสุวรรณภูมิ-นราธิวาส เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2567 ทำให้ท่าอากาศยานนราธิวาส มีเพียงเที่ยวบินไทยแอร์เอเชีย ดอนเมือง-นราธิวาสเพียงวันละ 1-2 เที่ยวบิน ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกแก่ผู้โดยสารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2564 ไทยแอร์เอเชียเคยบินตรงสุวรรณภูมิไปน่านและนครศรีธรรมราช แต่ไม่ประสบความสำเร็จ อีกด้านหนึ่ง คือ การเปิดเส้นทางใหม่ เชียงใหม่-ไทเป-ซัปโปโร ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยใช้สิทธิทางการบินที่ 5 (Fifth Freedom) ต่อจากดอนเมือง-ไทเป-โอกินาว่า และดอนเมือง-เกาสง-โตเกียว (นาริตะ) เชื่อมระหว่างประเทศไทย ไปยังไต้หวันและญี่ปุ่น เจาะตลาดนักท่องเที่ยวไต้หวันไปญี่ปุ่น ซึ่งต้องแข่งขันกับคู่แข่งอีก 5 ราย ได้แก่ สกู๊ตที่ใช้สิทธิในเส้นทางสิงคโปร์-ไทเป-ซัปโปโร ไทเกอร์แอร์ อีวีเอแอร์ ไชน่าแอร์ไลน์ และสตาร์ลักซ์แอร์ไลน์ที่บินตรง ส่วนชาวไทยจากเชียงใหม่ไปซัปโปโรได้โดยไม่ต้องไปต่อเครื่องที่ดอนเมือง นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มบริการเที่ยวบินพร้อมรถรับส่ง พัทยา-อินเดีย ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป โดยจุดจอดท่าอากาศยานดอนเมืองอยู่ที่อาคาร Service Hall และพัทยารถจอดที่ห้างเซ็นทรัลพัทยา ชั้น 1 ประตู 5 ข้างซอยพัทยา 9 #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหลนเจียงไคเชกออกจากไต้หวันทุนนิยมไปใช้ชีวิตในจีนแผ่นดินใหญ่คอมมิวนิสต์! 😆ตอนนี้เขาอยู่ที่หางโจวจะชนะสงครามได้อย่างไรโดยไม่ต้องสู้รบ!(เจียง ไคเชกและภริยาของเขา พร้อมด้วย เอฟดีอาร์ และเชอร์ชิล ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2)
    เหลนเจียงไคเชกออกจากไต้หวันทุนนิยมไปใช้ชีวิตในจีนแผ่นดินใหญ่คอมมิวนิสต์! 😆ตอนนี้เขาอยู่ที่หางโจวจะชนะสงครามได้อย่างไรโดยไม่ต้องสู้รบ!(เจียง ไคเชกและภริยาของเขา พร้อมด้วย เอฟดีอาร์ และเชอร์ชิล ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2)
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC เตรียมเปิดรับคำสั่งซื้อเวเฟอร์ 2 นาโนเมตร ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน โดย Apple จะเป็นลูกค้ารายแรกที่จะใช้เวเฟอร์นี้สำหรับชิป A20 ใน iPhone 18 โรงงานในไต้หวันจะเร่งการผลิตให้ถึง 50,000 แผ่นต่อเดือน และอาจขยายไปถึง 80,000 แผ่นในอนาคต นอกจากนี้ TSMC ยังให้บริการ CyberShuttle ช่วยลูกค้าประเมินคุณภาพชิปได้อย่างแม่นยำ เวเฟอร์ใหม่นี้คาดว่าจะเปลี่ยนโฉมวงการด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและการใช้พลังงานที่ลดลง

    https://wccftech.com/tsmc-taking-2nm-orders-from-april-1-50000-monthly-wafer-target-end-of-2025/
    TSMC เตรียมเปิดรับคำสั่งซื้อเวเฟอร์ 2 นาโนเมตร ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน โดย Apple จะเป็นลูกค้ารายแรกที่จะใช้เวเฟอร์นี้สำหรับชิป A20 ใน iPhone 18 โรงงานในไต้หวันจะเร่งการผลิตให้ถึง 50,000 แผ่นต่อเดือน และอาจขยายไปถึง 80,000 แผ่นในอนาคต นอกจากนี้ TSMC ยังให้บริการ CyberShuttle ช่วยลูกค้าประเมินคุณภาพชิปได้อย่างแม่นยำ เวเฟอร์ใหม่นี้คาดว่าจะเปลี่ยนโฉมวงการด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและการใช้พลังงานที่ลดลง https://wccftech.com/tsmc-taking-2nm-orders-from-april-1-50000-monthly-wafer-target-end-of-2025/
    WCCFTECH.COM
    TSMC To Start Accepting 2nm Wafer Orders From April 1, New Report States That Monthly Production Output Target Is 50,000 Units By The End Of The Year
    Full-scale production of TSMC’s 2nm technology could commence soon as the company will reportedly start taking orders from April 1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มาคุยกันเรื่องดอกเหมย (ดอกบ๊วย) ที่เพื่อนเพจเห็นบ่อยในวัฒนธรรมจีน เคยมีคนเขียนถึงความหมายของดอกเหมยไปไม่น้อย แต่ Storyฯ หวังว่าบทความนี้จะให้อีกมุมมองที่แตกต่าง

    ดอกเหมยจีนมีทั้งหมดกว่า 30 สายพันธุ์หลัก (แบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยได้อีกรวมกว่า 300 ชนิด) ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสี่ยอดบุปผาของจีนโดยเป็นตัวแทนแห่งฤดูหนาว และเป็นดอกไม้ประจำชาติของไต้หวัน ความหมายที่มักถูกเอ่ยถึงคือความอดทนและความเพียรเพราะเป็นดอกไม้ที่บานในช่วงฤดูหนาว บานทนได้ถึง 2-3 เดือน เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและเป็นที่นิยมในช่วงตรุษจีนเพราะมันเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว

    ในซีรีย์หรือนิยายจีนเรามักจะเห็นดอกเหมยถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนแห่งความรักที่มั่นคง ดังเช่นในเรื่อง <ฝ่ามิติพิชิตบัลลังก์> (ปู้ปู้จิงซิน) ที่เหมยแดงเบ่งบานกลางหิมะ เปรียบเสมือนความรักที่มั่นคงแม้อีกฝ่ายจะไม่เหลียวแล จนStoryฯ อดรู้สึกไม่ได้ว่า หลายท่านอาจไม่ทราบว่าการใช้ดอกเหมยมาเปรียบเปรยถึงความอดทนนั้น สามารถใช้ได้ในหลายบริบท

    จริงแล้วดอกเหมยใช้ในบริบทอื่นใดได้อีก?

    บทกวีโบราณหลายยุคหลายสมัยใช้ดอกเหมยเปรียบเปรยถึงการยึดมั่นในอุดมการณ์ ยกตัวอย่างมาจากบทกวีที่ชื่อว่า “เหมยฮวา” (ดอกเหมย) ผลงานของหวางอันสือในยุคสมัยซ่งเหนือ เขาผู้นี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะนักปฏิรูปและนักเศรษฐกิจชื่อดัง ดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ซ่งเสินจง (ฮ่องเต้องค์ที่หกแห่งราชวงศ์ซ่ง) แต่ภายหลังนโยบายใหม่ๆ ของเขาถูกต่อต้านอย่างแรงจากขุนนางอื่น จนสุดท้ายเขาต้องลาออกจากราชการกลับบ้านเกิดไป บทกวีนี้ถูกแต่งขึ้นในภายหลัง Storyฯ แปลและเรียบเรียงได้ดังนี้ (ขออภัยหากไม่สละสลวยนัก)
    “เหมยแตกกิ่งอยู่มุมรั้ว ผลิบานเดียวดายรับความหนาว
    แลเห็นมิใช่หิมะขาว ด้วยกรุ่นกลิ่นจางมิคลาย”
    ความนัยหมายถึงว่า อันอุดมการณ์สูงส่งนั้น ดำรงไว้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอับจนเพียงใด (เช่นซอกมุมรั้วมุมกำแพง) และแม้ดูแต่ไกลขาวกลมกลืนไปกับหิมะ แต่กลิ่นหอมโชยบ่งบอกถึงตัวตน ดังนั้น ดอกเหมยในบริบทนี้หมายถึงผู้ที่ยึดมั่นในอุดมคติ ชวนให้ชื่นชมจากเนื้อแท้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ถ้านึกแบบง่ายๆ Storyฯ คงนึกถึงสำนวน “เพชรในตม”

    และมีอีกบริบทหนึ่งของดอกเหมยที่คนไม่ค่อยกล่าวถึง นั่นคือความแร้นแค้นเดียวดาย Storyฯ ยกมาเป็นตัวอย่างอีกบทกวีหนึ่งคือ “อี้เหมย” (รำลึกเหมย) ของหลี่ซันอิ่งในสมัยถัง
    “จองจำอยู่ปลายฟ้า ถวิลหาความงามแห่งวสันต์
    เหมันต์เหมยชวนชิงชัง เป็นบุปผาแห่งปีกลาย”
    - คำแปลจาก <หรูซือ... กุ้ยฮวาผลิบานในใจข้า> โดยหวินไฉ่เฟยหยาง
    โดยสองวรรคแรกบรรยายถึงคนที่จำเป็นต้องจากบ้านไปไกล ได้แต่รอคอยสิ่งดีๆ และสองวรรคสุดท้ายกล่าวถึงดอกเหมยที่ชูช่อให้ชมในความกันดารแห่งเหมันต์ แต่แล้วเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ดอกเหมยกลับถูกรังเกียจว่าเป็นดอกไม้ที่บานตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้ว เป็นความเก่าไร้ความสดชื่น ผู้คนหันไปตื่นตาตื่นใจกับดอกไม้อื่นที่เริ่มผลิบานแทน เป็นบทกวีที่บ่งบอกถึงความขมขื่นของคนที่ถูกลืมหรือถูกมองว่าหมดประโยชน์แล้ว

    ดังนั้น Storyฯ ขอสวมวิญญาณนักประพันธ์มาสรุปให้ดังนี้:
    หากเปรียบรัก ดอกเหมยคือรักที่คงทนฟันฝ่าอุปสรรค
    หากเปรียบคน ดอกเหมยคือคนที่ยึดมั่นในคุณค่าของตนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย
    และธรรมชาติของดอกเหมยนั้น ดูงดงามทั้งในห้วงเวลาแห่งความสุขและในยามทุกข์
    เมื่อสุข ดอกเหมยคือความหวังและความแน่วแน่ที่จะผ่านความลำบากไปได้
    เมื่อทุกข์ ดอกเหมยคือความเดียวดายและความขมขื่นของคนที่ถูกลืม

    เพื่อนเพจดูซีรีย์และอ่านนิยายแล้ว ‘อิน’ กับดอกเหมยอย่างไรบ้างไหม? มาเล่าสู่กันฟังนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    http://ent.sina.com.cn/v/m/2011-03-31/14353269488.shtml
    http://5sing.kugou.com/fc/13497084.html
    http://m.qulishi.com/article/202011/459819.html
    https://www.sgss8.net/tpdq/2670634/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.cmeii.com/xinwenzhongxin/2190.html
    http://m.qulishi.com/article/202011/459819.html
    https://so.gushiwen.cn/mingju/juv_aed4fe678529.aspx
    https://www.sohu.com/a/239647354_661147

    #ดอกบ๊วย #ดอกเหมย #เหมยฮวา #อี้เหมย #รำลึกเหมย #บุปผาปีกลาย
    วันนี้มาคุยกันเรื่องดอกเหมย (ดอกบ๊วย) ที่เพื่อนเพจเห็นบ่อยในวัฒนธรรมจีน เคยมีคนเขียนถึงความหมายของดอกเหมยไปไม่น้อย แต่ Storyฯ หวังว่าบทความนี้จะให้อีกมุมมองที่แตกต่าง ดอกเหมยจีนมีทั้งหมดกว่า 30 สายพันธุ์หลัก (แบ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยได้อีกรวมกว่า 300 ชนิด) ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสี่ยอดบุปผาของจีนโดยเป็นตัวแทนแห่งฤดูหนาว และเป็นดอกไม้ประจำชาติของไต้หวัน ความหมายที่มักถูกเอ่ยถึงคือความอดทนและความเพียรเพราะเป็นดอกไม้ที่บานในช่วงฤดูหนาว บานทนได้ถึง 2-3 เดือน เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังและเป็นที่นิยมในช่วงตรุษจีนเพราะมันเป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว ในซีรีย์หรือนิยายจีนเรามักจะเห็นดอกเหมยถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนแห่งความรักที่มั่นคง ดังเช่นในเรื่อง <ฝ่ามิติพิชิตบัลลังก์> (ปู้ปู้จิงซิน) ที่เหมยแดงเบ่งบานกลางหิมะ เปรียบเสมือนความรักที่มั่นคงแม้อีกฝ่ายจะไม่เหลียวแล จนStoryฯ อดรู้สึกไม่ได้ว่า หลายท่านอาจไม่ทราบว่าการใช้ดอกเหมยมาเปรียบเปรยถึงความอดทนนั้น สามารถใช้ได้ในหลายบริบท จริงแล้วดอกเหมยใช้ในบริบทอื่นใดได้อีก? บทกวีโบราณหลายยุคหลายสมัยใช้ดอกเหมยเปรียบเปรยถึงการยึดมั่นในอุดมการณ์ ยกตัวอย่างมาจากบทกวีที่ชื่อว่า “เหมยฮวา” (ดอกเหมย) ผลงานของหวางอันสือในยุคสมัยซ่งเหนือ เขาผู้นี้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะนักปฏิรูปและนักเศรษฐกิจชื่อดัง ดำรงตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีในรัชสมัยขององค์ซ่งเสินจง (ฮ่องเต้องค์ที่หกแห่งราชวงศ์ซ่ง) แต่ภายหลังนโยบายใหม่ๆ ของเขาถูกต่อต้านอย่างแรงจากขุนนางอื่น จนสุดท้ายเขาต้องลาออกจากราชการกลับบ้านเกิดไป บทกวีนี้ถูกแต่งขึ้นในภายหลัง Storyฯ แปลและเรียบเรียงได้ดังนี้ (ขออภัยหากไม่สละสลวยนัก) “เหมยแตกกิ่งอยู่มุมรั้ว ผลิบานเดียวดายรับความหนาว แลเห็นมิใช่หิมะขาว ด้วยกรุ่นกลิ่นจางมิคลาย” ความนัยหมายถึงว่า อันอุดมการณ์สูงส่งนั้น ดำรงไว้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอับจนเพียงใด (เช่นซอกมุมรั้วมุมกำแพง) และแม้ดูแต่ไกลขาวกลมกลืนไปกับหิมะ แต่กลิ่นหอมโชยบ่งบอกถึงตัวตน ดังนั้น ดอกเหมยในบริบทนี้หมายถึงผู้ที่ยึดมั่นในอุดมคติ ชวนให้ชื่นชมจากเนื้อแท้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ถ้านึกแบบง่ายๆ Storyฯ คงนึกถึงสำนวน “เพชรในตม” และมีอีกบริบทหนึ่งของดอกเหมยที่คนไม่ค่อยกล่าวถึง นั่นคือความแร้นแค้นเดียวดาย Storyฯ ยกมาเป็นตัวอย่างอีกบทกวีหนึ่งคือ “อี้เหมย” (รำลึกเหมย) ของหลี่ซันอิ่งในสมัยถัง “จองจำอยู่ปลายฟ้า ถวิลหาความงามแห่งวสันต์ เหมันต์เหมยชวนชิงชัง เป็นบุปผาแห่งปีกลาย” - คำแปลจาก <หรูซือ... กุ้ยฮวาผลิบานในใจข้า> โดยหวินไฉ่เฟยหยาง โดยสองวรรคแรกบรรยายถึงคนที่จำเป็นต้องจากบ้านไปไกล ได้แต่รอคอยสิ่งดีๆ และสองวรรคสุดท้ายกล่าวถึงดอกเหมยที่ชูช่อให้ชมในความกันดารแห่งเหมันต์ แต่แล้วเมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ ดอกเหมยกลับถูกรังเกียจว่าเป็นดอกไม้ที่บานตั้งแต่ฤดูหนาวปีที่แล้ว เป็นความเก่าไร้ความสดชื่น ผู้คนหันไปตื่นตาตื่นใจกับดอกไม้อื่นที่เริ่มผลิบานแทน เป็นบทกวีที่บ่งบอกถึงความขมขื่นของคนที่ถูกลืมหรือถูกมองว่าหมดประโยชน์แล้ว ดังนั้น Storyฯ ขอสวมวิญญาณนักประพันธ์มาสรุปให้ดังนี้: หากเปรียบรัก ดอกเหมยคือรักที่คงทนฟันฝ่าอุปสรรค หากเปรียบคน ดอกเหมยคือคนที่ยึดมั่นในคุณค่าของตนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย และธรรมชาติของดอกเหมยนั้น ดูงดงามทั้งในห้วงเวลาแห่งความสุขและในยามทุกข์ เมื่อสุข ดอกเหมยคือความหวังและความแน่วแน่ที่จะผ่านความลำบากไปได้ เมื่อทุกข์ ดอกเหมยคือความเดียวดายและความขมขื่นของคนที่ถูกลืม เพื่อนเพจดูซีรีย์และอ่านนิยายแล้ว ‘อิน’ กับดอกเหมยอย่างไรบ้างไหม? มาเล่าสู่กันฟังนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: http://ent.sina.com.cn/v/m/2011-03-31/14353269488.shtml http://5sing.kugou.com/fc/13497084.html http://m.qulishi.com/article/202011/459819.html https://www.sgss8.net/tpdq/2670634/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.cmeii.com/xinwenzhongxin/2190.html http://m.qulishi.com/article/202011/459819.html https://so.gushiwen.cn/mingju/juv_aed4fe678529.aspx https://www.sohu.com/a/239647354_661147 #ดอกบ๊วย #ดอกเหมย #เหมยฮวา #อี้เหมย #รำลึกเหมย #บุปผาปีกลาย
    ?????????ġ?ɱ?? ????¡??ʫʫ??????ӵ?????_Ӱ?????_????
    ?????????ġ?ɱ?? ????¡??ʫʫ??????ӵ?????
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 464 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่มีชัย รุ่นร่ำรวย รุ่งเรือง ปลอดภัย ปี2553
    เหรียญหลวงปู่มีชัย รุ่นร่ำรวย รุ่งเรือง ปลอดภัย รัฐปีนัง ประเทศมาเลย์เซีย ปี2553 //พระดีพิธีใหญ่ รุ่นยอดนิยม หายาก แจกประเทศมาเลเซีย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ลูกศิษย์ ต่างหวงแหนยิ่งนัก ประสบการณ์ดี ทั้งทางด้าน โชคลาภ เมตตา ทำมาค้าขาย รำ่รวย เจริญรุ่งเรือง เรียกทรัพย์ เก็บทรัพย์ ค้าขายดี มหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน ป้องกันภัย ปลอดภัย >>

    ** ทหาร-ตำรวจ ส่งไปปฏิบัติหน้าที่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เคยได้รับวัตถุมงคลหลวงปู่มีชัยต่างมีประสบการณ์แคล้วคลาดนับครั้งไม่ถ้วน >>

    ** หลวงปู่มีชัย กามฉินโท สุดยอดพระประสบการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พระอริยสงฆ์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาทั้งในไทยและหลายประเทศ ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน เชคโกสโลวเกีย.. จึงมีลูกศิษย์มากมาย เทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ... สายวิชาหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่มียันต์ขุมทรัพย์เรียกทรัพย์ที่เป็นหนึ่งเดียวต่อๆไปจะเป็นตำนาน แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีเกจิแบบนี้อยู่อีก หายาก >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่มีชัย รุ่นร่ำรวย รุ่งเรือง ปลอดภัย ปี2553 เหรียญหลวงปู่มีชัย รุ่นร่ำรวย รุ่งเรือง ปลอดภัย รัฐปีนัง ประเทศมาเลย์เซีย ปี2553 //พระดีพิธีใหญ่ รุ่นยอดนิยม หายาก แจกประเทศมาเลเซีย //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ลูกศิษย์ ต่างหวงแหนยิ่งนัก ประสบการณ์ดี ทั้งทางด้าน โชคลาภ เมตตา ทำมาค้าขาย รำ่รวย เจริญรุ่งเรือง เรียกทรัพย์ เก็บทรัพย์ ค้าขายดี มหาอุด แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน ป้องกันภัย ปลอดภัย >> ** ทหาร-ตำรวจ ส่งไปปฏิบัติหน้าที่ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เคยได้รับวัตถุมงคลหลวงปู่มีชัยต่างมีประสบการณ์แคล้วคลาดนับครั้งไม่ถ้วน >> ** หลวงปู่มีชัย กามฉินโท สุดยอดพระประสบการณ์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พระอริยสงฆ์ที่เป็นที่เคารพศรัทธาทั้งในไทยและหลายประเทศ ทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไต้หวัน เชคโกสโลวเกีย.. จึงมีลูกศิษย์มากมาย เทพเจ้าแห่งความร่ำรวย ... สายวิชาหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่มียันต์ขุมทรัพย์เรียกทรัพย์ที่เป็นหนึ่งเดียวต่อๆไปจะเป็นตำนาน แทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีเกจิแบบนี้อยู่อีก หายาก >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดิว อริสรา" ส่งทนายพบกองปราบแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันดาราสาวบินไปดูแลลูกที่ไต้หวันไม่มีเจตนาหลบหนีคดีพร้อมตั้งโต๊ะเจรจา 3 ฝ่าย เคลียร์ปัญหาให้จบโดยเร็ว

    วันนี้ (20 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือทนายเอี้ยง ทนายความของ "ดิว อริสรา " ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ คุณดิว อริสรา ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในรายการโหนกระแสและรับทราบเมื่อวานนี้ว่าทางฝั่งของ"มาดามเมนี่" วาสนา อินทะแสง ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว จึงได้พูดคุยกับตนและได้ข้อเท็จจริงยืนยันว่า การเดินทางไปไต้หวันไม่ใช่การหลบหนีตามที่มีกระแสข่าว ซึ่งได้เดินทางไปก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว ทั้งนี้ดิวไม่ทราบมาก่อนว่าถูกแจ้งความเมื่อทราบเรื่องก็ได้รีบประสานให้ตัวเองดำเนินการยื่นหนังสือกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและยืนยันว่า ที่ไปต่างประเทศ เพราะต้องการที่จะไปดูแลลูก ไม่มีเจตนาที่จะหลบหนีคดี รวมทั้งยืนยันว่า หลังจากนี้ยินดีที่จะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนและให้ความร่วมมือทุกประการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

    นายนิติศักดิ์ กล่าวต่อว่าส่วนข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากการที่พูดคุยเป็นไปตามที่ได้ชี้แจ้งในรายการคือ ทางดิว ต้องการยืมทรัพย์สิน ตามที่ตกลงกันก็คือให้นำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้แก้ปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น แต่เกิดข้อผิดพลาดเนื่องจากเจ้าหนี้ของคุณดิวต้องการเงินสด ไม่ได้ต้องการทรัพย์สิน จึงจำเป็นต้องนำทรัพย์สินไปจำนำเพื่อให้ได้เงินสด แต่ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวอยู่ในเงื่อนไขที่ทางผู้เสียหายให้ทรัพย์สินยืมไป และทางคุณเมย์ก็รับทราบเรื่องที่มีการนำทรัพย์สินไปจำนำแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด แต่จะรับทราบก่อนหรือหลังรับจำนำ เรื่องนี้ส่วนตัวไม่ทราบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000026664

    #MGROnline #โหนกระแส #หนุ่มกรรชัย #เมย์วาสนา #ไฮโซเมย์ #ดิวอริศรา #สร้อยlotus
    "ดิว อริสรา" ส่งทนายพบกองปราบแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันดาราสาวบินไปดูแลลูกที่ไต้หวันไม่มีเจตนาหลบหนีคดีพร้อมตั้งโต๊ะเจรจา 3 ฝ่าย เคลียร์ปัญหาให้จบโดยเร็ว • วันนี้ (20 มี.ค.) ที่ กองปราบปราม นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือทนายเอี้ยง ทนายความของ "ดิว อริสรา " ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ว่า หลังจากที่เมื่อวานนี้ คุณดิว อริสรา ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงในรายการโหนกระแสและรับทราบเมื่อวานนี้ว่าทางฝั่งของ"มาดามเมนี่" วาสนา อินทะแสง ได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว จึงได้พูดคุยกับตนและได้ข้อเท็จจริงยืนยันว่า การเดินทางไปไต้หวันไม่ใช่การหลบหนีตามที่มีกระแสข่าว ซึ่งได้เดินทางไปก่อนหน้านี้หลายวันแล้ว ทั้งนี้ดิวไม่ทราบมาก่อนว่าถูกแจ้งความเมื่อทราบเรื่องก็ได้รีบประสานให้ตัวเองดำเนินการยื่นหนังสือกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและยืนยันว่า ที่ไปต่างประเทศ เพราะต้องการที่จะไปดูแลลูก ไม่มีเจตนาที่จะหลบหนีคดี รวมทั้งยืนยันว่า หลังจากนี้ยินดีที่จะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนและให้ความร่วมมือทุกประการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม • นายนิติศักดิ์ กล่าวต่อว่าส่วนข้อเท็จจริงเบื้องต้นจากการที่พูดคุยเป็นไปตามที่ได้ชี้แจ้งในรายการคือ ทางดิว ต้องการยืมทรัพย์สิน ตามที่ตกลงกันก็คือให้นำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้แก้ปัญหาหนี้สินที่เกิดขึ้น แต่เกิดข้อผิดพลาดเนื่องจากเจ้าหนี้ของคุณดิวต้องการเงินสด ไม่ได้ต้องการทรัพย์สิน จึงจำเป็นต้องนำทรัพย์สินไปจำนำเพื่อให้ได้เงินสด แต่ยืนยันว่าประเด็นดังกล่าวอยู่ในเงื่อนไขที่ทางผู้เสียหายให้ทรัพย์สินยืมไป และทางคุณเมย์ก็รับทราบเรื่องที่มีการนำทรัพย์สินไปจำนำแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันมาโดยตลอด แต่จะรับทราบก่อนหรือหลังรับจำนำ เรื่องนี้ส่วนตัวไม่ทราบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000026664 • #MGROnline #โหนกระแส #หนุ่มกรรชัย #เมย์วาสนา #ไฮโซเมย์ #ดิวอริศรา #สร้อยlotus
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดิว อริสรา เผยของ 1 ชิ้นไปอยู่ที่รัฐมนตรี ขอสาบานด้วยชีวิต ไม่โกง ไฮโซเมย์ ตอนนี้อยู่ไต้หวัน
    https://www.thai-tai.tv/news/17729/
    ดิว อริสรา เผยของ 1 ชิ้นไปอยู่ที่รัฐมนตรี ขอสาบานด้วยชีวิต ไม่โกง ไฮโซเมย์ ตอนนี้อยู่ไต้หวัน https://www.thai-tai.tv/news/17729/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • Foxconn เพิ่งประกาศผลประกอบการของปี 2024 ซึ่งถือเป็นปีแห่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 17 ปี โดยรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ ที่สำคัญ Foxconn ยังเดินหน้าลุยตลาด AI server และรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ปี 2025 นี้พวกเขายังตั้งเป้าทำให้ตลาด AI server เติบโตเป็นสองเท่าและเน้นสร้างความร่วมมือกับผู้ผลิตระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า

    ผลการดำเนินงานและการเติบโต:
    - รายได้รวมของปี 2024 สูงถึง 6.86 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
    - กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 10.6% ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นถึง 20.5%

    การพัฒนาเทคโนโลยี AI และ EV:
    - Foxconn วางแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม 3 ด้าน ได้แก่ Smart Manufacturing, Smart EV และ Smart City โดยใช้ Generative AI และระบบ AI server เพื่อเสริมศักยภาพและลดต้นทุนการผลิต
    - ในปี 2025 Foxconn คาดการณ์ว่ารายได้จาก AI server จะเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบทั้งรายไตรมาสและรายปี

    แผนธุรกิจอนาคต:
    - บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของ AI server เป็นอย่างน้อย 40%
    - มีความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะลงนามในสัญญาภายใน 1-2 เดือน และเตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Model B และ Model C ในตลาดอเมริกาเหนือในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

    https://www.techpowerup.com/334122/foxconn-reports-17-year-high-in-fy2024-q4-financial-results
    Foxconn เพิ่งประกาศผลประกอบการของปี 2024 ซึ่งถือเป็นปีแห่งความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 17 ปี โดยรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจ ที่สำคัญ Foxconn ยังเดินหน้าลุยตลาด AI server และรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ปี 2025 นี้พวกเขายังตั้งเป้าทำให้ตลาด AI server เติบโตเป็นสองเท่าและเน้นสร้างความร่วมมือกับผู้ผลิตระดับโลกในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ผลการดำเนินงานและการเติบโต: - รายได้รวมของปี 2024 สูงถึง 6.86 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวัน เพิ่มขึ้น 11.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา - กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 10.6% ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นถึง 20.5% การพัฒนาเทคโนโลยี AI และ EV: - Foxconn วางแผนพัฒนาแพลตฟอร์ม 3 ด้าน ได้แก่ Smart Manufacturing, Smart EV และ Smart City โดยใช้ Generative AI และระบบ AI server เพื่อเสริมศักยภาพและลดต้นทุนการผลิต - ในปี 2025 Foxconn คาดการณ์ว่ารายได้จาก AI server จะเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบทั้งรายไตรมาสและรายปี แผนธุรกิจอนาคต: - บริษัทตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของ AI server เป็นอย่างน้อย 40% - มีความร่วมมือกับผู้ผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะลงนามในสัญญาภายใน 1-2 เดือน และเตรียมผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Model B และ Model C ในตลาดอเมริกาเหนือในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 https://www.techpowerup.com/334122/foxconn-reports-17-year-high-in-fy2024-q4-financial-results
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Foxconn Reports 17-Year High in FY2024 & Q4 Financial Results
    Hon Hai Technology Group ("Foxconn") today announced its full year and fourth quarter 2024 financial results. Full year 2024 net profit reached NT$152.7 billion, resulting in earnings per share of NT$11.01, a 17-year-high. At the same time, the Group announced that it will distribute a cash divid...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เผยถึงความคืบหน้าในโครงการพัฒนาชิป AI ของ Meta หรือบริษัทแม่ของ Facebook ซึ่งกำลังดำเนินการทดสอบชิปที่ออกแบบมาใช้สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ชิปนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับ TSMC ผู้ผลิตชั้นนำจากไต้หวัน และมีชื่ออยู่ในโปรแกรมที่เรียกว่า Meta Training and Inference Accelerator (MTIA) โดยเป้าหมายสำคัญคือการลดการพึ่งพาอุปกรณ์จาก Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิต GPU รายใหญ่

    == รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับชิป AI ของ Meta ==
    1) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพเฉพาะด้าน ชิปนี้ถูกออกแบบให้เหมาะสำหรับการฝึกและประมวลผลโมเดล AI โดยใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ GPU แบบทั่วไป

    2) การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2023 Meta ได้เปิดตัวชิป AI รุ่นแรกที่รองรับการจัดอันดับและระบบคำแนะนำสำหรับ Facebook และ Instagram จากนั้นในปี 2024 บริษัทได้เผยชิปเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการคำนวณและแบนด์วิดท์หน่วยความจำเป็นสองเท่า

    3) การใช้งานสถาปัตยกรรม RISC-V ชิปนี้ใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการพัฒนา AI ที่ต้องการเสถียรภาพและต้นทุนที่เหมาะสม

    ความเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแค่ลดต้นทุนการพึ่งพา Nvidia แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เน้นการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง หากการทดสอบสำเร็จลุล่วง Meta วางแผนจะใช้ชิปนี้อย่างเต็มรูปแบบในปีถัดไป เพื่อเสริมศักยภาพระบบ AI ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย


    https://www.techradar.com/pro/meta-powers-ahead-with-conscious-chip-uncoupling-with-nvidia-as-it-tests-its-first-in-house-training-ai-pu
    ข่าวนี้เผยถึงความคืบหน้าในโครงการพัฒนาชิป AI ของ Meta หรือบริษัทแม่ของ Facebook ซึ่งกำลังดำเนินการทดสอบชิปที่ออกแบบมาใช้สำหรับงานปัญญาประดิษฐ์โดยเฉพาะ ชิปนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับ TSMC ผู้ผลิตชั้นนำจากไต้หวัน และมีชื่ออยู่ในโปรแกรมที่เรียกว่า Meta Training and Inference Accelerator (MTIA) โดยเป้าหมายสำคัญคือการลดการพึ่งพาอุปกรณ์จาก Nvidia ซึ่งเป็นผู้ผลิต GPU รายใหญ่ == รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับชิป AI ของ Meta == 1) การออกแบบเพื่อประสิทธิภาพเฉพาะด้าน ชิปนี้ถูกออกแบบให้เหมาะสำหรับการฝึกและประมวลผลโมเดล AI โดยใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ GPU แบบทั่วไป 2) การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2023 Meta ได้เปิดตัวชิป AI รุ่นแรกที่รองรับการจัดอันดับและระบบคำแนะนำสำหรับ Facebook และ Instagram จากนั้นในปี 2024 บริษัทได้เผยชิปเวอร์ชันใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการคำนวณและแบนด์วิดท์หน่วยความจำเป็นสองเท่า 3) การใช้งานสถาปัตยกรรม RISC-V ชิปนี้ใช้สถาปัตยกรรม RISC-V แบบโอเพ่นซอร์ส ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการพัฒนา AI ที่ต้องการเสถียรภาพและต้นทุนที่เหมาะสม ความเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแค่ลดต้นทุนการพึ่งพา Nvidia แต่ยังสะท้อนถึงการแข่งขันในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่เน้นการควบคุมโครงสร้างพื้นฐานของตนเอง หากการทดสอบสำเร็จลุล่วง Meta วางแผนจะใช้ชิปนี้อย่างเต็มรูปแบบในปีถัดไป เพื่อเสริมศักยภาพระบบ AI ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย https://www.techradar.com/pro/meta-powers-ahead-with-conscious-chip-uncoupling-with-nvidia-as-it-tests-its-first-in-house-training-ai-pu
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เปิดเผยข้อมูลที่น่าจับตามองเกี่ยวกับ Huawei ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมการส่งออกของสหรัฐอเมริกา โดยมีรายงานว่า Huawei ได้ใช้บริษัทเปลือกนอก (Shell Companies) เพื่อเข้าซื้อชิป AI รุ่น Ascend 910B จำนวนสองล้านชิ้นจากบริษัท TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปในไต้หวัน

    น่าสนใจคือ แม้สหรัฐฯ จะจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน แต่รายงานระบุว่า Huawei สามารถสะสมสต็อกชิปได้จำนวนมาก รวมถึงชิป HBM (High Bandwidth Memory) ที่จำเป็นในการใช้งาน AI ได้ทันก่อนที่ข้อจำกัดใหม่จะมีผลในปลายปี 2024 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการวางแผนอย่างรอบคอบของ Huawei ในการรักษาความสามารถทางเทคโนโลยีของตน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-reportedly-acquired-two-million-ascend-910-ai-chips-from-tsmc-last-year-through-shell-companies
    ข่าวนี้เปิดเผยข้อมูลที่น่าจับตามองเกี่ยวกับ Huawei ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฝ่าฝืนกฎหมายควบคุมการส่งออกของสหรัฐอเมริกา โดยมีรายงานว่า Huawei ได้ใช้บริษัทเปลือกนอก (Shell Companies) เพื่อเข้าซื้อชิป AI รุ่น Ascend 910B จำนวนสองล้านชิ้นจากบริษัท TSMC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปในไต้หวัน น่าสนใจคือ แม้สหรัฐฯ จะจำกัดการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงไปยังจีน แต่รายงานระบุว่า Huawei สามารถสะสมสต็อกชิปได้จำนวนมาก รวมถึงชิป HBM (High Bandwidth Memory) ที่จำเป็นในการใช้งาน AI ได้ทันก่อนที่ข้อจำกัดใหม่จะมีผลในปลายปี 2024 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการวางแผนอย่างรอบคอบของ Huawei ในการรักษาความสามารถทางเทคโนโลยีของตน https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/huawei-reportedly-acquired-two-million-ascend-910-ai-chips-from-tsmc-last-year-through-shell-companies
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากรายงานล่าสุดของศูนย์การศึกษาเชิงยุทธศาสตร์และนานาชาติ (CSIS) พบว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Huawei มีชิปเพียงพอในการผลิตชิป AI รุ่น Ascend 910C จำนวน 750,000 ชิป แม้จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ที่มีผลกระทบต่อการเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิประดับสูง

    รายงานระบุว่า Semiconductor International Manufacturing Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปหลักของจีน ได้แก้ไขปัญหาหลักในการขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตร ด้วยการได้รับเครื่องมือการผลิตชิปจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ รายงานยังเปิดเผยว่า SMIC มีแผนขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตรอย่างมากในปี 2025 โดยมีเป้าหมายการผลิตเวเฟอร์ 50,000 ชิ้นต่อเดือน ทำให้สามารถผลิตชิป Ascend 910C ได้ถึง 400,000 ชิปต่อเดือน

    สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อป้องกัน Huawei จากการพัฒนาชิป AI ใหม่ โดยเฉพาะชิปรุ่น Ascend 910B และ 910C อย่างไรก็ตาม TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวันได้ผลิตชิป Ascend 910B ให้กับ Huawei ก่อนมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด 2 ล้านชิ้น ซึ่ง Huawei ได้นำไปใช้ในการผลิตชิปรุ่น Ascend 910C

    แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จะป้องกันไม่ให้ SMIC ได้รับอุปกรณ์ EUV (Extreme Ultraviolet) เพื่อผลิตชิประดับสูงสุด แต่เครื่อง DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีอยู่ยังช่วยให้บริษัทสามารถผลิตชิป 7 นาโนเมตรได้ CSIS คาดว่าเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ SMIC ปรับปรุงอัตราการได้ชิปที่ทำงานได้จาก 20% ให้สูงขึ้น

    การวิจัยระบุว่าความต้องการ GPU สำหรับ AI ของจีนที่ใช้ชิป A800 และ H800 ซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ ยังคงสูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการคว่ำบาตรไม่สามารถหยุดความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในจีนได้อย่างสมบูรณ์

    https://wccftech.com/chinas-huawei-can-make-750000-advanced-ai-chips-despite-us-sanctions-says-report/
    จากรายงานล่าสุดของศูนย์การศึกษาเชิงยุทธศาสตร์และนานาชาติ (CSIS) พบว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Huawei มีชิปเพียงพอในการผลิตชิป AI รุ่น Ascend 910C จำนวน 750,000 ชิป แม้จะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ที่มีผลกระทบต่อการเข้าถึงอุปกรณ์การผลิตชิประดับสูง รายงานระบุว่า Semiconductor International Manufacturing Corporation (SMIC) ผู้ผลิตชิปหลักของจีน ได้แก้ไขปัญหาหลักในการขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตร ด้วยการได้รับเครื่องมือการผลิตชิปจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ รายงานยังเปิดเผยว่า SMIC มีแผนขยายการผลิตชิป 7 นาโนเมตรอย่างมากในปี 2025 โดยมีเป้าหมายการผลิตเวเฟอร์ 50,000 ชิ้นต่อเดือน ทำให้สามารถผลิตชิป Ascend 910C ได้ถึง 400,000 ชิปต่อเดือน สหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อป้องกัน Huawei จากการพัฒนาชิป AI ใหม่ โดยเฉพาะชิปรุ่น Ascend 910B และ 910C อย่างไรก็ตาม TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของไต้หวันได้ผลิตชิป Ascend 910B ให้กับ Huawei ก่อนมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมด 2 ล้านชิ้น ซึ่ง Huawei ได้นำไปใช้ในการผลิตชิปรุ่น Ascend 910C แม้ว่ามาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์จะป้องกันไม่ให้ SMIC ได้รับอุปกรณ์ EUV (Extreme Ultraviolet) เพื่อผลิตชิประดับสูงสุด แต่เครื่อง DUV (Deep Ultraviolet) ที่มีอยู่ยังช่วยให้บริษัทสามารถผลิตชิป 7 นาโนเมตรได้ CSIS คาดว่าเครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ SMIC ปรับปรุงอัตราการได้ชิปที่ทำงานได้จาก 20% ให้สูงขึ้น การวิจัยระบุว่าความต้องการ GPU สำหรับ AI ของจีนที่ใช้ชิป A800 และ H800 ซึ่งได้รับการปรับแต่งเพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ ยังคงสูงมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการคว่ำบาตรไม่สามารถหยุดความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในจีนได้อย่างสมบูรณ์ https://wccftech.com/chinas-huawei-can-make-750000-advanced-ai-chips-despite-us-sanctions-says-report/
    WCCFTECH.COM
    China's Huawei Can Make ~750,000 Advanced AI Chips Despite US Sanctions, Says Report
    China's Huawei can make as many as one million advanced AI GPUs, believes a fresh research report. Take a look!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts