• ลุงไม่รู้ว่ายังมีใครใช้ VMware กันอยู่ไหมนะ

    Broadcom ได้ทำการอัปเดตระบบเพื่อแก้ไขช่องโหว่สามจุดที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดย Microsoft Threat Intelligence Center โดยช่องโหว่นี้มีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ของ VMware เช่น VMware ESXi, vSphere, Workstation, Fusion, Cloud Foundation และ Telco Cloud Platform

    ช่องโหว่ทั้ง 3 ที่ถูกระบุว่าเป็นช่องโหว่ร้ายแรงและมีการโจมตีแล้ว ได้แก่:
    - CVE-2025-22224: เป็นช่องโหว่ VCMI heap overflow ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบใน VM สามารถรันโค้ดในกระบวนการ VMX บนโฮสต์ได้
    - CVE-2025-22225: เป็นช่องโหว่ที่อนุญาตให้กระบวนการ VMX ทำการเขียนข้อมูลเข้าสู่เคอร์เนลแบบไม่มีการยืนยันตัวตน ทำให้เกิดการหนีออกจากแซนด์บ็อกซ์ (sandbox escape)
    - CVE-2025-22226: เป็นช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล (HGFS information-disclosure flaw) ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถดึงข้อมูลหน่วยความจำจากกระบวนการ VMX ได้

    ช่องโหว่เหล่านี้ถูกโจมตีในสภาพแวดล้อมจริง ๆ แล้ว Broadcom ได้รับข้อมูลการโจมตีที่เกิดขึ้นจริงและออกมาประกาศเตือนลูกค้าให้ทำการอัปเดตระบบโดยเร็ว

    สำหรับผู้ที่ใช้งาน VMware ในองค์กร ควรตรวจสอบและอัปเดตระบบให้เป็นรุ่นล่าสุดเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตี ทั้งนี้ VMware เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของกลุ่มแรนซัมแวร์และแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เนื่องจากใช้งานในองค์กรใหญ่ ๆ ในการเก็บและส่งข้อมูลสำคัญ

    Broadcom ได้เตือนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่ามีการโจมตีช่องโหว่ของ VMware vCenter Server ที่ถูกแพตช์ในเดือนกันยายน ช่องโหว่นี้อนุญาตให้ทำการยกระดับสิทธิ์ไปถึง root (CVE-2024-38813) และการรันโค้ดจากระยะไกล (CVE-2024-38812) นอกจากนี้ในเดือนมกราคม 2024 Broadcom ยังได้เปิดเผยว่ามีการโจมตีช่องโหว่ของ vCenter Server ที่สำคัญ (CVE-2023-34048) ตั้งแต่ปลายปี 2021 ที่ใช้ในการติดตั้ง backdoor ใน ESXi hosts

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/broadcom-fixes-three-vmware-zero-days-exploited-in-attacks/
    ลุงไม่รู้ว่ายังมีใครใช้ VMware กันอยู่ไหมนะ Broadcom ได้ทำการอัปเดตระบบเพื่อแก้ไขช่องโหว่สามจุดที่ถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดย Microsoft Threat Intelligence Center โดยช่องโหว่นี้มีผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ของ VMware เช่น VMware ESXi, vSphere, Workstation, Fusion, Cloud Foundation และ Telco Cloud Platform ช่องโหว่ทั้ง 3 ที่ถูกระบุว่าเป็นช่องโหว่ร้ายแรงและมีการโจมตีแล้ว ได้แก่: - CVE-2025-22224: เป็นช่องโหว่ VCMI heap overflow ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบใน VM สามารถรันโค้ดในกระบวนการ VMX บนโฮสต์ได้ - CVE-2025-22225: เป็นช่องโหว่ที่อนุญาตให้กระบวนการ VMX ทำการเขียนข้อมูลเข้าสู่เคอร์เนลแบบไม่มีการยืนยันตัวตน ทำให้เกิดการหนีออกจากแซนด์บ็อกซ์ (sandbox escape) - CVE-2025-22226: เป็นช่องโหว่ที่เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล (HGFS information-disclosure flaw) ที่อนุญาตให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์ผู้ดูแลระบบสามารถดึงข้อมูลหน่วยความจำจากกระบวนการ VMX ได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกโจมตีในสภาพแวดล้อมจริง ๆ แล้ว Broadcom ได้รับข้อมูลการโจมตีที่เกิดขึ้นจริงและออกมาประกาศเตือนลูกค้าให้ทำการอัปเดตระบบโดยเร็ว สำหรับผู้ที่ใช้งาน VMware ในองค์กร ควรตรวจสอบและอัปเดตระบบให้เป็นรุ่นล่าสุดเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตี ทั้งนี้ VMware เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของกลุ่มแรนซัมแวร์และแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เนื่องจากใช้งานในองค์กรใหญ่ ๆ ในการเก็บและส่งข้อมูลสำคัญ Broadcom ได้เตือนเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่ามีการโจมตีช่องโหว่ของ VMware vCenter Server ที่ถูกแพตช์ในเดือนกันยายน ช่องโหว่นี้อนุญาตให้ทำการยกระดับสิทธิ์ไปถึง root (CVE-2024-38813) และการรันโค้ดจากระยะไกล (CVE-2024-38812) นอกจากนี้ในเดือนมกราคม 2024 Broadcom ยังได้เปิดเผยว่ามีการโจมตีช่องโหว่ของ vCenter Server ที่สำคัญ (CVE-2023-34048) ตั้งแต่ปลายปี 2021 ที่ใช้ในการติดตั้ง backdoor ใน ESXi hosts https://www.bleepingcomputer.com/news/security/broadcom-fixes-three-vmware-zero-days-exploited-in-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Broadcom fixes three VMware zero-days exploited in attacks
    Broadcom warned customers today about three VMware zero-days, tagged as exploited in attacks and reported by the Microsoft Threat Intelligence Center.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดำรัฐฉาน รู้ชะตาตกอับอาชีพทนาย ตระเวนดูงานร้านตู้ซักผ้า เพื่อเตรียมเปิดร้านรับฟอกขาวจำเลย 24 ชม. เลวขนาดไอ้ตั้ม ลุงแซน อีติก ไอ้ปูอัด เดยังฟอกได้
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ดำรัฐฉาน รู้ชะตาตกอับอาชีพทนาย ตระเวนดูงานร้านตู้ซักผ้า เพื่อเตรียมเปิดร้านรับฟอกขาวจำเลย 24 ชม. เลวขนาดไอ้ตั้ม ลุงแซน อีติก ไอ้ปูอัด เดยังฟอกได้ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 ปี สิ้นดาราสาว “แตงโม-ภัทรธิดา” คดีปริศนาแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังไร้ข้อสรุป

    📅 ครบ 3 ปี การจากไปของ "แตงโม นิดา" วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นวันที่แฟนคลับ และประชาชนทั่วประเทศไทย ต้องตกใจและตกตะลึง กับข่าวการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวชื่อดัง ที่พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางปริศนา และข้อกังขามากมาย คดีนี้กลายเป็นหนึ่งในคดี ที่ถูกจับตามองมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย

    ⏳ ย้อนรอยคืนเกิดเหตุ 24 กุมภาพันธ์ 2565
    🔹 ช่วงเย็น แตงโมพร้อมกลุ่มเพื่อน 5 คน ได้แก่ ปอ ตนุภัทร, กระติก อิจศรินทร์, แซน วิศาพัช, จ๊อบ นิทัศน์ และโรเบิร์ต ไพบูลย์ นัดกันไปทานอาหาร ก่อนทั้งหมดลงเรือสปีดโบ๊ต ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา

    🔹 เวลา 22.32 น. แตงโมตกน้ำบริเวณสะพานพระราม 7 โดยอ้างว่าไปปัสสาวะท้ายเรือ

    🔹 หลังจากนั้น 30 นาที กลุ่มเพื่อนที่อยู่บนเรือ อ้างว่าวนเรือกลับมาหา แต่ไม่พบ

    🔹 00.20 น. 25 ก.พ. 2565 ทีมกู้ภัยและนักประดาน้ำ เริ่มปฏิบัติการค้นหา

    🔹 13.10 น. 26 ก.พ. 2565 พบศพแตงโม ลอยขึ้นใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม 1

    🚨 แม้จะพบร่างแล้ว แต่ปริศนาเกี่ยวกับการเสียชีวิต กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!

    🕵️‍♂️ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบในคดีแตงโม
    แม้ว่าตำรวจจะสรุปว่า "แตงโมเสียชีวิต จากอุบัติเหตุพลัดตกน้ำ" แต่สังคมยังคงมีข้อสงสัยมากมาย อาทิ

    ❓ บาดแผลที่ต้นขาเกิดจากอะไร?
    ➡️ แพทย์นิติเวช พบแผลฉกรรจ์ที่ขาซ้าย คาดว่าเกิดจากใบพัดเรือ ทำให้ขาขยับไม่ได้ ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การที่อ้างว่า "เธอตกน้ำ และพยายามว่ายน้ำกลับ"

    ❓ ทำไมกลุ่มเพื่อน จึงมีคำให้การไม่ตรงกัน?
    ➡️ แต่ละคนให้ปากคำแตกต่างกัน บางช่วงเวลา ไม่มีหลักฐานแน่ชัด ว่าทำอะไร

    ❓ หลักฐานที่สำคัญหายไปไหน?
    ➡️ เรือลำเกิดเหตุ ถูกทำความสะอาดก่อนตรวจสอบ ส่วนโทรศัพท์มือถือของแตงโม ถูกส่งไปต่างประเทศ แต่ภายหลังมีการกู้ข้อมูลกลับมา

    ❓ คลิปและรูปที่ถูกเผยแพร่ เป็นของจริงหรือไม่?
    ➡️ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ภาพที่แตงโมถ่ายก่อนตกน้ำ อาจถูกตัดต่อ

    🏛️ การดำเนินคดี และคำตัดสิน
    📌 ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา มีการดำเนินคดี กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย แต่กระบวนการยุติธรรม ยังเต็มไปด้วยข้อกังขา

    🔴 ศาลจังหวัดนนทบุรี อนุมัติหมายจับ
    - ปอ ตนุภัทร และโรเบิร์ต ไพบูลย์ ข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต
    - กระติก อิจศรินทร์ ให้การเท็จ และละเว้นการแจ้งเหตุ
    - แซน วิศาพัช ถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นพยานปากสำคัญ ที่ให้ข้อมูลขัดแย้ง

    🔴 นางภนิดา แม่ของแตงโม รับเงินชดเชย 2 ล้านบาท
    ➡️ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า "แลกเงินกับคดีลูก"

    🔴 ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ในปี 2567
    ➡️ มีการพบหลักฐานใหม่ ที่อาจทำให้คดีพลิก

    💔 ดราม่าภายในครอบครัว และคนใกล้ชิด
    😢 คดีนี้ไม่เพียงแต่ สร้างความสะเทือนใจต่อสังคม แต่ยังนำไปสู่ความขัดแย้งในครอบครัว
    🔹 แม่ของแตงโมถูกวิจารณ์หนัก เพราะยอมรับเงินเยียวยา และดูเหมือนไม่มุ่งหาความจริง
    🔹 เพื่อนสนิทแฉกันเอง หลายคนที่เคยสนิทกับแตงโม กลับกลายเป็นคู่กรณีกันในศาล
    🔹 ผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์โต้แย้งกันเอง ทำให้คดีดูซับซ้อนยิ่งขึ้น

    📌 คดีแตงโม ความยุติธรรมจะมาถึงเมื่อไหร่?
    ⏳ แม้จะผ่านมา 3 ปี แต่คดีแตงโมยังเป็นปริศนา มีหลายฝ่ายเรียกร้อง ให้มีการรื้อฟื้นคดี และนำตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง มาลงโทษ

    🔎 ล่าสุดมีหลักฐานใหม่ ที่ถูกนำมาเปิดเผย เช่น
    ✅ คลิปจากมือถือแตงโม ที่อาจระบุได้ว่า เธอไม่ได้อยู่บนเรือ ในช่วงเวลาที่ตกน้ำ
    ✅ ข้อมูลจากกลุ่มอิสระ ที่พบข้อผิดพลาด ในการสืบสวนของตำรวจ

    🔥 “เวรกรรมกำลังทำงาน” เป็นคำพูดที่หลายคนในโซเชียล ใช้กันมากขึ้น เมื่อเห็นว่า หลายคนที่เคยปกป้องกันในคดีนี้ เริ่มมีปัญหากับกฎหมาย และสังคม

    📢 แตงโมยังคงรอความเป็นธรรม การเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ไม่ใช่แค่เรื่องของดาราสาวคนหนึ่ง แต่เป็นตัวอย่าง ของปัญหาความยุติธรรมในสังคมไทย ที่ยังต้องการคำตอบ

    📍 สุดท้ายแล้ว "คดีนี้จะถูกปิดไปพร้อมกับความลับ หรือความจริงจะถูกเปิดเผยในที่สุด?" 📢

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241015 ก.พ. 2568

    🔥 #แตงโมนิดา #คดีแตงโม #3ปีที่จากไป #ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน #DSI #เปิดโปงความจริง #ลับลวงพราง #แตงโมต้องได้รับความเป็นธรรม
    3 ปี สิ้นดาราสาว “แตงโม-ภัทรธิดา” คดีปริศนาแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ยังไร้ข้อสรุป 📅 ครบ 3 ปี การจากไปของ "แตงโม นิดา" วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เป็นวันที่แฟนคลับ และประชาชนทั่วประเทศไทย ต้องตกใจและตกตะลึง กับข่าวการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์" นักแสดงสาวชื่อดัง ที่พลัดตกจากเรือสปีดโบ๊ต กลางแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางปริศนา และข้อกังขามากมาย คดีนี้กลายเป็นหนึ่งในคดี ที่ถูกจับตามองมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ไทย ⏳ ย้อนรอยคืนเกิดเหตุ 24 กุมภาพันธ์ 2565 🔹 ช่วงเย็น แตงโมพร้อมกลุ่มเพื่อน 5 คน ได้แก่ ปอ ตนุภัทร, กระติก อิจศรินทร์, แซน วิศาพัช, จ๊อบ นิทัศน์ และโรเบิร์ต ไพบูลย์ นัดกันไปทานอาหาร ก่อนทั้งหมดลงเรือสปีดโบ๊ต ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา 🔹 เวลา 22.32 น. แตงโมตกน้ำบริเวณสะพานพระราม 7 โดยอ้างว่าไปปัสสาวะท้ายเรือ 🔹 หลังจากนั้น 30 นาที กลุ่มเพื่อนที่อยู่บนเรือ อ้างว่าวนเรือกลับมาหา แต่ไม่พบ 🔹 00.20 น. 25 ก.พ. 2565 ทีมกู้ภัยและนักประดาน้ำ เริ่มปฏิบัติการค้นหา 🔹 13.10 น. 26 ก.พ. 2565 พบศพแตงโม ลอยขึ้นใกล้ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 🚨 แม้จะพบร่างแล้ว แต่ปริศนาเกี่ยวกับการเสียชีวิต กลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ! 🕵️‍♂️ คำถามที่ยังไม่มีคำตอบในคดีแตงโม แม้ว่าตำรวจจะสรุปว่า "แตงโมเสียชีวิต จากอุบัติเหตุพลัดตกน้ำ" แต่สังคมยังคงมีข้อสงสัยมากมาย อาทิ ❓ บาดแผลที่ต้นขาเกิดจากอะไร? ➡️ แพทย์นิติเวช พบแผลฉกรรจ์ที่ขาซ้าย คาดว่าเกิดจากใบพัดเรือ ทำให้ขาขยับไม่ได้ ซึ่งขัดแย้งกับคำให้การที่อ้างว่า "เธอตกน้ำ และพยายามว่ายน้ำกลับ" ❓ ทำไมกลุ่มเพื่อน จึงมีคำให้การไม่ตรงกัน? ➡️ แต่ละคนให้ปากคำแตกต่างกัน บางช่วงเวลา ไม่มีหลักฐานแน่ชัด ว่าทำอะไร ❓ หลักฐานที่สำคัญหายไปไหน? ➡️ เรือลำเกิดเหตุ ถูกทำความสะอาดก่อนตรวจสอบ ส่วนโทรศัพท์มือถือของแตงโม ถูกส่งไปต่างประเทศ แต่ภายหลังมีการกู้ข้อมูลกลับมา ❓ คลิปและรูปที่ถูกเผยแพร่ เป็นของจริงหรือไม่? ➡️ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ภาพที่แตงโมถ่ายก่อนตกน้ำ อาจถูกตัดต่อ 🏛️ การดำเนินคดี และคำตัดสิน 📌 ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา มีการดำเนินคดี กับบุคคลที่เกี่ยวข้องหลายราย แต่กระบวนการยุติธรรม ยังเต็มไปด้วยข้อกังขา 🔴 ศาลจังหวัดนนทบุรี อนุมัติหมายจับ - ปอ ตนุภัทร และโรเบิร์ต ไพบูลย์ ข้อหากระทำโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต - กระติก อิจศรินทร์ ให้การเท็จ และละเว้นการแจ้งเหตุ - แซน วิศาพัช ถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นพยานปากสำคัญ ที่ให้ข้อมูลขัดแย้ง 🔴 นางภนิดา แม่ของแตงโม รับเงินชดเชย 2 ล้านบาท ➡️ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า "แลกเงินกับคดีลูก" 🔴 ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ในปี 2567 ➡️ มีการพบหลักฐานใหม่ ที่อาจทำให้คดีพลิก 💔 ดราม่าภายในครอบครัว และคนใกล้ชิด 😢 คดีนี้ไม่เพียงแต่ สร้างความสะเทือนใจต่อสังคม แต่ยังนำไปสู่ความขัดแย้งในครอบครัว 🔹 แม่ของแตงโมถูกวิจารณ์หนัก เพราะยอมรับเงินเยียวยา และดูเหมือนไม่มุ่งหาความจริง 🔹 เพื่อนสนิทแฉกันเอง หลายคนที่เคยสนิทกับแตงโม กลับกลายเป็นคู่กรณีกันในศาล 🔹 ผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์โต้แย้งกันเอง ทำให้คดีดูซับซ้อนยิ่งขึ้น 📌 คดีแตงโม ความยุติธรรมจะมาถึงเมื่อไหร่? ⏳ แม้จะผ่านมา 3 ปี แต่คดีแตงโมยังเป็นปริศนา มีหลายฝ่ายเรียกร้อง ให้มีการรื้อฟื้นคดี และนำตัวผู้กระทำผิดที่แท้จริง มาลงโทษ 🔎 ล่าสุดมีหลักฐานใหม่ ที่ถูกนำมาเปิดเผย เช่น ✅ คลิปจากมือถือแตงโม ที่อาจระบุได้ว่า เธอไม่ได้อยู่บนเรือ ในช่วงเวลาที่ตกน้ำ ✅ ข้อมูลจากกลุ่มอิสระ ที่พบข้อผิดพลาด ในการสืบสวนของตำรวจ 🔥 “เวรกรรมกำลังทำงาน” เป็นคำพูดที่หลายคนในโซเชียล ใช้กันมากขึ้น เมื่อเห็นว่า หลายคนที่เคยปกป้องกันในคดีนี้ เริ่มมีปัญหากับกฎหมาย และสังคม 📢 แตงโมยังคงรอความเป็นธรรม การเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" ไม่ใช่แค่เรื่องของดาราสาวคนหนึ่ง แต่เป็นตัวอย่าง ของปัญหาความยุติธรรมในสังคมไทย ที่ยังต้องการคำตอบ 📍 สุดท้ายแล้ว "คดีนี้จะถูกปิดไปพร้อมกับความลับ หรือความจริงจะถูกเปิดเผยในที่สุด?" 📢 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241015 ก.พ. 2568 🔥 #แตงโมนิดา #คดีแตงโม #3ปีที่จากไป #ความยุติธรรมอยู่ที่ไหน #DSI #เปิดโปงความจริง #ลับลวงพราง #แตงโมต้องได้รับความเป็นธรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 ผัก ต้องปรุงสุกก่อนกิน

    เมื่อนำผักมาปรุงอาหารด้วยความร้อน ทำให้ผนังเซลล์ของผักถูกทำลาย
    ร่างกายมนุษย์จึงดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น

    1. แครอท(สุก) ร่างกายดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้ดีขึ้น
    และจะถูกเปลี่ยนเป็นไวตามิน Aมากขึ้น.

    2. ผักโขม (สุก) ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม
    รวมทั้งช่วยปลดปล่อยสารอาหารอื่นๆ ที่ถูกกักไว้ในผนังเซลล์.

    3. มะเขือเทศ ปรุง(สุก)ผ่านความร้อน กับ น้ำมัน
    ทำให้ สาร ไลโคปีน (Lycopene) ละลายออกมาได้ดีในน้ำมัน
    ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง.

    4. ฟักทอง (สุก) เพิ่มการดูดซึมเบต้าแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆได้ดีขึ้น.

    5. บรอกโคลี (สุก) เพิ่มการดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพดวงตา.

    6. พริกหวาน พริกหยวก (สุก) ช่วยเพิ่มการดูดซึมไวตามิน Aและสารต้านอนุมูลอิสระ.

    7. กระหล่ำปลี (สุก)ช่วยลดสาร กอยโตรเจน (Goitrogens) อันตราย กับ ต่อมไทรอยด์
    7 ผัก ต้องปรุงสุกก่อนกิน เมื่อนำผักมาปรุงอาหารด้วยความร้อน ทำให้ผนังเซลล์ของผักถูกทำลาย ร่างกายมนุษย์จึงดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น 1. แครอท(สุก) ร่างกายดูดซึมเบต้าแคโรทีนได้ดีขึ้น และจะถูกเปลี่ยนเป็นไวตามิน Aมากขึ้น. 2. ผักโขม (สุก) ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียม รวมทั้งช่วยปลดปล่อยสารอาหารอื่นๆ ที่ถูกกักไว้ในผนังเซลล์. 3. มะเขือเทศ ปรุง(สุก)ผ่านความร้อน กับ น้ำมัน ทำให้ สาร ไลโคปีน (Lycopene) ละลายออกมาได้ดีในน้ำมัน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง. 4. ฟักทอง (สุก) เพิ่มการดูดซึมเบต้าแคโรทีนและสารต้านอนุมูลอิสระอื่นๆได้ดีขึ้น. 5. บรอกโคลี (สุก) เพิ่มการดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ลูทีน (lutein) และซีแซนทีน (zeaxanthin) ซึ่งมีผลดีต่อสุขภาพดวงตา. 6. พริกหวาน พริกหยวก (สุก) ช่วยเพิ่มการดูดซึมไวตามิน Aและสารต้านอนุมูลอิสระ. 7. กระหล่ำปลี (สุก)ช่วยลดสาร กอยโตรเจน (Goitrogens) อันตราย กับ ต่อมไทรอยด์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกีปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงแร่หายาก (Rare Earth) ที่สก็อตต์ เบสแซนต์ (Scott Bessant) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯยื่นข้อเสนอมา
    — CNN รายงาน

    ตามรายงาน เซเลนสกีหวังว่าเขาจะได้พบกับทรัมป์เป็นการส่วนตัว เพื่อหารือเกี่ยวกับ “ขอบเขตของแผนสันติภาพ” แต่กลายเป็นว่า เขาได้รับข้อเสนอ “ข้อตกลงทางการเงิน” แทน ซึ่งเปรียบเหมือนการทวงหนี้ค้างชำระ
    เซเลนสกีปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงแร่หายาก (Rare Earth) ที่สก็อตต์ เบสแซนต์ (Scott Bessant) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯยื่นข้อเสนอมา — CNN รายงาน ตามรายงาน เซเลนสกีหวังว่าเขาจะได้พบกับทรัมป์เป็นการส่วนตัว เพื่อหารือเกี่ยวกับ “ขอบเขตของแผนสันติภาพ” แต่กลายเป็นว่า เขาได้รับข้อเสนอ “ข้อตกลงทางการเงิน” แทน ซึ่งเปรียบเหมือนการทวงหนี้ค้างชำระ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📣[1แถม1] INZENT ASTAXANTHIN 6 MG แอสต้าแซนธีน #แอสต้าแซนทีน #สาหร่ายสีแดง ❤️สุขภาพดีเริ่มตั้งแต่วันนี้ ดูแล ป้องกัน ดีกว่า
    ✅️ลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิว ต้านอนุมูลอิสระระดับสูง!
    Astaxanthin ผสานวิตามินซี 6000 เท่า
    ✅️ เสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิว ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ บำรุงสายตาและสมอง ชะลอวัย จากภายใน เพื่อความงามที่ยาวนาน!
    ✅️ ต้านอนุมูลแอสตาแซนธิน 6 มก.[A1]
    📣สั่งซื้อกดลิงค์เลยค่ะ มีรูปอยู่ในคอมเม้น
    ✅️✅️ในราคา ฿180
    📌ที่ Shopee https://s.shopee.co.th/VrSaesZZn
    📣[1แถม1] INZENT ASTAXANTHIN 6 MG แอสต้าแซนธีน #แอสต้าแซนทีน #สาหร่ายสีแดง ❤️สุขภาพดีเริ่มตั้งแต่วันนี้ ดูแล ป้องกัน ดีกว่า ✅️ลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิว ต้านอนุมูลอิสระระดับสูง! Astaxanthin ผสานวิตามินซี 6000 เท่า ✅️ เสริมสร้างความยืดหยุ่นของผิว ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ บำรุงสายตาและสมอง ชะลอวัย จากภายใน เพื่อความงามที่ยาวนาน! ✅️ ต้านอนุมูลแอสตาแซนธิน 6 มก.[A1] 📣สั่งซื้อกดลิงค์เลยค่ะ มีรูปอยู่ในคอมเม้น ✅️✅️ในราคา ฿180 📌ที่ Shopee https://s.shopee.co.th/VrSaesZZn
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ### 📣ทำไมสูงวัยจึงต้องดูแลเกี่ยวกับสายตา❓️

    📌การดูแลสุขภาพสายตา มีความสำคัญอย่างยิ่งในวัยสูงอายุเนื่องจากการเสื่อมสภาพของสายตาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย การมองเห็นที่ชัดเจนช่วยให้เราดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
    ✅️นี่คือเหตุผลสำคัญที่วัยสูงอายุต้องใส่ใจการดูแลสายตา:

    1. **การเสื่อมสภาพของจอประสาทตา (Age-related Macular Degeneration - AMD):** โรคนี้เป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียการมองเห็นในวัยสูงอายุ การดูแลและบำรุงสายตาช่วยลดความเสี่ยง
    2. **ต้อกระจก (Cataracts):** การขุ่นของเลนส์ตาเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยสูงอายุ การดูแลสายตาและการผ่าตัดสามารถช่วยแก้ไขได้
    3. **ต้อหิน (Glaucoma):** เป็นโรคที่เกิดจากความดันในลูกตาเพิ่มขึ้น ทำลายประสาทตาและนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น
    4. **โรคเบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy):** เป็นโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่ทำลายเส้นเลือดในจอตา
    5. **ความเสี่ยงต่อการล้ม:** การมองเห็นที่ไม่ชัดเจนทำให้เสี่ยงต่อการล้มและเกิดอุบัติเหตุในบ้าน

    ### ผลิตภัณฑ์บำรุงสายตาที่นิยม

    1. **Blackmores Lutein-Vision Advanced**
    - **คุณสมบัติ:** มีส่วนผสมของลูทีนและซีแซนทีน ช่วยบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงของการเกิดจอประสาทตาเสื่อม
    - **แหล่งผลิต:** ออสเตรเลีย

    2. **Vistra Vision**
    - **คุณสมบัติ:** มีส่วนผสมของสารสกัดจากบิลเบอร์รี่ ลูทีน และซีแซนทีน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับจอตาและป้องกันการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม
    - **แหล่งผลิต:** ประเทศไทย

    3. **Nature’s Bounty Lutein**
    - **คุณสมบัติ:** ประกอบด้วยลูทีนเข้มข้น ช่วยกรองแสงสีฟ้าและลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพของจอตา
    - **แหล่งผลิต:** สหรัฐอเมริกา

    4. **Mega We Care Nat C Yuzu**
    - **คุณสมบัติ:** มีวิตามินซีสูงจากผลยูกซู ช่วยเสริมสร้างสุขภาพตาและป้องกันโรคเบาหวานขึ้นตา
    - **แหล่งผลิต:** ประเทศไทย

    5. **VisiVite AREDS2 Formula**
    - **คุณสมบัติ:** เป็นสูตรที่ออกแบบตามการศึกษาของ AREDS2 ประกอบด้วยลูทีน ซีแซนทีน วิตามินซี วิตามินอี และสังกะสี ช่วยบำรุงและป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
    - **แหล่งผลิต:** สหรัฐอเมริกา

    การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสายตาควรทำภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายและปลอดภัยสำหรับคุณ
    ### 📣ทำไมสูงวัยจึงต้องดูแลเกี่ยวกับสายตา❓️ 📌การดูแลสุขภาพสายตา มีความสำคัญอย่างยิ่งในวัยสูงอายุเนื่องจากการเสื่อมสภาพของสายตาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย การมองเห็นที่ชัดเจนช่วยให้เราดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ✅️นี่คือเหตุผลสำคัญที่วัยสูงอายุต้องใส่ใจการดูแลสายตา: 1. **การเสื่อมสภาพของจอประสาทตา (Age-related Macular Degeneration - AMD):** โรคนี้เป็นสาเหตุหลักของการสูญเสียการมองเห็นในวัยสูงอายุ การดูแลและบำรุงสายตาช่วยลดความเสี่ยง 2. **ต้อกระจก (Cataracts):** การขุ่นของเลนส์ตาเป็นปัญหาที่พบบ่อยในวัยสูงอายุ การดูแลสายตาและการผ่าตัดสามารถช่วยแก้ไขได้ 3. **ต้อหิน (Glaucoma):** เป็นโรคที่เกิดจากความดันในลูกตาเพิ่มขึ้น ทำลายประสาทตาและนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็น 4. **โรคเบาหวานขึ้นตา (Diabetic Retinopathy):** เป็นโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานที่ทำลายเส้นเลือดในจอตา 5. **ความเสี่ยงต่อการล้ม:** การมองเห็นที่ไม่ชัดเจนทำให้เสี่ยงต่อการล้มและเกิดอุบัติเหตุในบ้าน ### ผลิตภัณฑ์บำรุงสายตาที่นิยม 1. **Blackmores Lutein-Vision Advanced** - **คุณสมบัติ:** มีส่วนผสมของลูทีนและซีแซนทีน ช่วยบำรุงสายตาและลดความเสี่ยงของการเกิดจอประสาทตาเสื่อม - **แหล่งผลิต:** ออสเตรเลีย 2. **Vistra Vision** - **คุณสมบัติ:** มีส่วนผสมของสารสกัดจากบิลเบอร์รี่ ลูทีน และซีแซนทีน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับจอตาและป้องกันการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม - **แหล่งผลิต:** ประเทศไทย 3. **Nature’s Bounty Lutein** - **คุณสมบัติ:** ประกอบด้วยลูทีนเข้มข้น ช่วยกรองแสงสีฟ้าและลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพของจอตา - **แหล่งผลิต:** สหรัฐอเมริกา 4. **Mega We Care Nat C Yuzu** - **คุณสมบัติ:** มีวิตามินซีสูงจากผลยูกซู ช่วยเสริมสร้างสุขภาพตาและป้องกันโรคเบาหวานขึ้นตา - **แหล่งผลิต:** ประเทศไทย 5. **VisiVite AREDS2 Formula** - **คุณสมบัติ:** เป็นสูตรที่ออกแบบตามการศึกษาของ AREDS2 ประกอบด้วยลูทีน ซีแซนทีน วิตามินซี วิตามินอี และสังกะสี ช่วยบำรุงและป้องกันจอประสาทตาเสื่อม - **แหล่งผลิต:** สหรัฐอเมริกา การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารบำรุงสายตาควรทำภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของร่างกายและปลอดภัยสำหรับคุณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 423 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุป อาวิชัยคนสนิทพ่อแซนดี้ คือคนคุมเกมส์ฝรั่งตร.+ให้คำแนะนำคนบนเรือ และส่งไอ่ตั้มเข้าไปเตี๊ยมแต่งเรื่อง เริ่มต้นที่ร้านกาแฟ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    สรุป อาวิชัยคนสนิทพ่อแซนดี้ คือคนคุมเกมส์ฝรั่งตร.+ให้คำแนะนำคนบนเรือ และส่งไอ่ตั้มเข้าไปเตี๊ยมแต่งเรื่อง เริ่มต้นที่ร้านกาแฟ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลุงแซนท้าเปิดมือแตงโม อย่าให้รู้นะว่า เตรียมแอบไปต่างประเทศ สังคมพร้อมสาปส่งให้ไปจมๆ ลอยๆ ในแม่น้ำแซนโน้นเลย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    #มือถือแตงโม
    ลุงแซนท้าเปิดมือแตงโม อย่าให้รู้นะว่า เตรียมแอบไปต่างประเทศ สังคมพร้อมสาปส่งให้ไปจมๆ ลอยๆ ในแม่น้ำแซนโน้นเลย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3 #มือถือแตงโม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลยกคำร้องทนายตุ๋ย ปิดปากสื่อไม่สำเร็จ ใครบิดเบือนความยุติธรรมคดี "แตงโม" ?
    .
    วันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้มีการนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ วันพุธที่ผ่านมาเป็นการสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย รวม 2 ปาก ประกอบด้วย กระติก อิศรินทร์ กับ นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม ส่วนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ให้สัมภาษณ์ว่า อีก 2 เดือนครึ่ง คงจะมีคำพิพากษาออกมา
    .
    ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ามันมีประเด็นสำคัญ คือ ทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ของนายแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาลใน 2 สำนวน สำนวนแรกคือเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต คนที่ถูกกล่าวหามี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา อีกสำนวนหนึ่งเป็นกรณีนักอาชญาวิทยาคนหนึ่ง คาดว่าเป็น รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง นักอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ
    .
    ประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างมีพิรุธ มีเงื่อนงำสำคัญเยอะแยะ และแต่ละครั้งที่คนบนเรือออกมาพูด ประชาชนเขาจับสังเกตข้อพิรุธได้ว่า ทำไมพวกคุณถึงพูดไม่เหมือนกันเลย นี่มันเป็นละครของคนบนเรือที่เล่นร่วมกัน เพื่อให้เห็นว่าแตงโมตกน้ำตาย ทำให้คนที่มีความรู้ มีวิจารณญาณ ต้องการแสวงหาความจริง เป็นข้อพิรุธที่คนสงสัยกันทั้งประเทศ ว่า การตายของแตงโมนั้นมีเงื่อนงำ
    .
    ผมอยากจะบอกว่า การฟ้องปิดปากสื่อเป็นการปิดกั้นการแสวงหาความจริง แต่การที่นายแซน นายปอ กับทนายตุ๋ย เดินสายออกอากาศหลายช่อง แถลงข่าวหลายครั้ง พูดถูก พูดผิดไม่รู้โกหกไปอย่างไร พูดไม่เหมือนกันสักครั้ง ก็ต้องผิดยิ่งกว่า เพราะว่าพวกคุณทะลึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในคดีด้วย ยิ่งกว่าบุคคลภายนอกซึ่งเป็นสื่อมวลชน อย่างผม อย่างอาจารย์ปานเทพ และพรรคพวกอีก
    .
    ในช่วงเย็นวันเดียวกัน วันพุธที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องทนายตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของแซน วิศาพัช จำเลย และคนบนเรือ ที่ยื่นเรื่องขอให้ไต่สวนนายอัจฉริยะ อาจารย์ปานเทพ และพรรคพวก กรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ
    .
    หลังจากศาลยกคำร้องแล้ว นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ กล่าวว่า ในการสืบพยานวันนี้ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดินไปตามปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือนั้น ขอยังไม่ให้ข้อมูล พูดแบบกำกวม ยังรักษาความเท่อยู่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ความเท่มันสูญหายไปตั้งนานแล้ว
    .
    คุณพรศักดิ์ คุณจะเท่ทั้งที เท่ให้มีหลักการ แล้วคุณอย่าคิดมาเคี้ยวผม พวกผมง่ายๆ เหมือนอย่างที่คุณคิดนะ ไม่ใช่ คุณคิดผิด คิดใหม่ได้ คุณควรจะกลับไปแล้วพูดกับนายแซน ลูกความคุณ ว่าเวลาพูดอะไร ให้จำๆเอาไว้หน่อยได้ไหมว่าเคยพูดอะไรไว้ อย่าไปพูดขัดแย้งกัน
    .
    สาธุ! คุณพรศักดิ์ ผมภาวนาให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้เข้าไป แล้วผมเชื่ออย่างหนึ่งนะครับ คุณวิศาพัช คุณแซน ทนายพรศักดิ์ นายปอ คุณไม่เชื่อเหมือนผม ไม่เป็นไร เวรกรรมมันมีจริง ใครทำอะไรแตงโมไว้ เวรกรรมตามถึงพวกมึงแน่นอน ไม่ต้องห่วง ถึงแน่นอน ผม สนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัจจะวาจาตรงนี้ว่า ต้องถึงแน่นอน
    ศาลยกคำร้องทนายตุ๋ย ปิดปากสื่อไม่สำเร็จ ใครบิดเบือนความยุติธรรมคดี "แตงโม" ? . วันพุธที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ได้มีการนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม หรือ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ วันพุธที่ผ่านมาเป็นการสืบพยานจำเลยนัดสุดท้าย รวม 2 ปาก ประกอบด้วย กระติก อิศรินทร์ กับ นายภีม ธรรมธีรศรี หรือ เอ็ม ส่วนทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่แตงโม ให้สัมภาษณ์ว่า อีก 2 เดือนครึ่ง คงจะมีคำพิพากษาออกมา . ท่านผู้ชมรู้ไหมว่ามันมีประเด็นสำคัญ คือ ทนายตุ๋ย พรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ของนายแซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาลใน 2 สำนวน สำนวนแรกคือเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต คนที่ถูกกล่าวหามี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ และ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา อีกสำนวนหนึ่งเป็นกรณีนักอาชญาวิทยาคนหนึ่ง คาดว่าเป็น รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ อาจารย์โต้ง นักอาชญาวิทยา มหาวิทยาลัยรังสิต ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ . ประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างมีพิรุธ มีเงื่อนงำสำคัญเยอะแยะ และแต่ละครั้งที่คนบนเรือออกมาพูด ประชาชนเขาจับสังเกตข้อพิรุธได้ว่า ทำไมพวกคุณถึงพูดไม่เหมือนกันเลย นี่มันเป็นละครของคนบนเรือที่เล่นร่วมกัน เพื่อให้เห็นว่าแตงโมตกน้ำตาย ทำให้คนที่มีความรู้ มีวิจารณญาณ ต้องการแสวงหาความจริง เป็นข้อพิรุธที่คนสงสัยกันทั้งประเทศ ว่า การตายของแตงโมนั้นมีเงื่อนงำ . ผมอยากจะบอกว่า การฟ้องปิดปากสื่อเป็นการปิดกั้นการแสวงหาความจริง แต่การที่นายแซน นายปอ กับทนายตุ๋ย เดินสายออกอากาศหลายช่อง แถลงข่าวหลายครั้ง พูดถูก พูดผิดไม่รู้โกหกไปอย่างไร พูดไม่เหมือนกันสักครั้ง ก็ต้องผิดยิ่งกว่า เพราะว่าพวกคุณทะลึ่งเป็นผู้เกี่ยวข้องโดยตรงในคดีด้วย ยิ่งกว่าบุคคลภายนอกซึ่งเป็นสื่อมวลชน อย่างผม อย่างอาจารย์ปานเทพ และพรรคพวกอีก . ในช่วงเย็นวันเดียวกัน วันพุธที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องทนายตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของแซน วิศาพัช จำเลย และคนบนเรือ ที่ยื่นเรื่องขอให้ไต่สวนนายอัจฉริยะ อาจารย์ปานเทพ และพรรคพวก กรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ . หลังจากศาลยกคำร้องแล้ว นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ กล่าวว่า ในการสืบพยานวันนี้ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดินไปตามปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือนั้น ขอยังไม่ให้ข้อมูล พูดแบบกำกวม ยังรักษาความเท่อยู่เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่ความเท่มันสูญหายไปตั้งนานแล้ว . คุณพรศักดิ์ คุณจะเท่ทั้งที เท่ให้มีหลักการ แล้วคุณอย่าคิดมาเคี้ยวผม พวกผมง่ายๆ เหมือนอย่างที่คุณคิดนะ ไม่ใช่ คุณคิดผิด คิดใหม่ได้ คุณควรจะกลับไปแล้วพูดกับนายแซน ลูกความคุณ ว่าเวลาพูดอะไร ให้จำๆเอาไว้หน่อยได้ไหมว่าเคยพูดอะไรไว้ อย่าไปพูดขัดแย้งกัน . สาธุ! คุณพรศักดิ์ ผมภาวนาให้ดีเอสไอรับเรื่องนี้เข้าไป แล้วผมเชื่ออย่างหนึ่งนะครับ คุณวิศาพัช คุณแซน ทนายพรศักดิ์ นายปอ คุณไม่เชื่อเหมือนผม ไม่เป็นไร เวรกรรมมันมีจริง ใครทำอะไรแตงโมไว้ เวรกรรมตามถึงพวกมึงแน่นอน ไม่ต้องห่วง ถึงแน่นอน ผม สนธิ ลิ้มทองกุล ให้สัจจะวาจาตรงนี้ว่า ต้องถึงแน่นอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 556 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แซนวิชไข่ดาว กับกาแฟดำร้อน สบายพุงเลย
    #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    #แซนวิชไข่ดาว กับกาแฟดำร้อน สบายพุงเลย #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • เช้านี้ อากาศเย็นน้อยลง ออกมาดูบรรยากาศนอกบ้านตอนเช้ามีคล้ายหมอก พอฟังข่าวเริ่มไม่แน่ใจว่า 🌫️ หรือ 💨

    #แซนวิชทูน่ามายองเนส แบบอบกรอบ ทานกับกาแฟดำร้อนๆ ฟินดี

    #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    เช้านี้ อากาศเย็นน้อยลง ออกมาดูบรรยากาศนอกบ้านตอนเช้ามีคล้ายหมอก พอฟังข่าวเริ่มไม่แน่ใจว่า 🌫️ หรือ 💨 #แซนวิชทูน่ามายองเนส แบบอบกรอบ ทานกับกาแฟดำร้อนๆ ฟินดี #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : เรื่องไม่จริง เล่ากี่ครั้งก็ไม่เหมือนเดิม "ปอ" แย้ง "อ.ปานเทพ" จำลองไม่ตรง ทั้งที่ทำตามคำให้การของ "แซน"
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
    Newsstory : เรื่องไม่จริง เล่ากี่ครั้งก็ไม่เหมือนเดิม "ปอ" แย้ง "อ.ปานเทพ" จำลองไม่ตรง ทั้งที่ทำตามคำให้การของ "แซน" #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 614 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • Newsstory : ปล่อยโป๊ะไม่หยุด "คดีแตงโม" นายแซนเล่าเหตุการณ์ไม่ซ้ำ เพราะจำไม่ได้ หรือ ไม่เคยเกิดขึ้นเลย
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว #แซน #ปล่อยโป๊ะ
    Newsstory : ปล่อยโป๊ะไม่หยุด "คดีแตงโม" นายแซนเล่าเหตุการณ์ไม่ซ้ำ เพราะจำไม่ได้ หรือ ไม่เคยเกิดขึ้นเลย #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิ #สนธิลิ้มทองกุล #ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว #แซน #ปล่อยโป๊ะ
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 640 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • อาวิชัยที่อ้างว่าไม่รู้จักแซนดี้ พบเบอร์แซนดี้และแม่โทรหาอาบ่อยมาก เข้าออกบ้านได้ มีอะไรก็ให้อาช่วยตลอด อุ๊ย!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    อาวิชัยที่อ้างว่าไม่รู้จักแซนดี้ พบเบอร์แซนดี้และแม่โทรหาอาบ่อยมาก เข้าออกบ้านได้ มีอะไรก็ให้อาช่วยตลอด อุ๊ย! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของ แซน วิศาพัช คนบนเรือขอให้ไต่สวนอัจฉริยะ-ปานเทพกรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ชี้ไม่ละเมิดอำนาจศาล แถมเตือนไม่ให้สัมภาษณ์กระบวนการพิจารณาคดีในศาล
    .
    วันนี้ (29 ม.ค.) จากกรณีที่นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน หนึ่งในบุคคลที่อยู่ในเรือสปีดโบ้ท ที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ตกจากเรือเสียชีวิต ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน ได้แก่ การจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา และกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งจะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
    .
    ปรากฎว่า นายพรศักดิ์ กล่าวหลังออกจากศาลว่า ในการสืบพยานวันนี้ ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดิมไปตามปกติทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีที่มีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ ขอยังไม่ขอให้ข้อมูล
    .
    "วันนี้ผมมายื่นคำร้องศาลขอให้ท่านพิจารณาเรื่องละเมิดอำนาจศาล วันนี้ศาลได้พิจารณาตามคำร้องของผมแล้ว เห็นว่าในชั้นนี้ยังไม่เรียกผู้ที่ถูกร้องมาไต่สวน แต่ศาลได้รับทราบและเริ่มนับหนึ่งจากวันนี้ไปว่า หลังจากนี้จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม ศาลจะพิจารณาและใช้ดุลยพินิจต่อไป นี่คือคำสั่งที่ออกมาตามนี้ ผมก็เลยมาแจ้งให้ทราบ ส่วนเรื่องอื่นๆ ขออนุญาตไม่พูดแล้วกัน เนื่องจากศาลกำชับมาว่าไม่ให้มีการเผยแพร่เรื่องกระบวนพิจารณาอะไรในคดีนี้กับทางสื่อมวลชนอีก ... ผมพูดได้แค่นี้จริงๆ เพราะศาลกำชับมา" นายพรศักดิ์ กล่าว
    .
    ปรากฎว่า นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้ที่ร่วมจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต กล่าวผ่านเฟซบุ๊กเพจว่า "ทนายตุ๋ยควรจะพูดให้ชัดๆ สรุปคือศาลยกคำร้องเพราะพวกเราไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวนจำเลยตามคำร้องของทนายตุ๋ย และเตือนไม่ให้ทนายจำเลยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีในศาล"
    .
    มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ศาลจังหวัดนนทบุรีได้ยกคำร้องกรณีที่นายพรศักดิ์ ทนายความของนายวิศาพัช หรือแซน ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล กรณีนายอัจฉริยะและคณะจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต เนื่องจากไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวนจำเลยตามคำร้องของนายพรศักดิ์แต่อย่างใด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009403
    .........
    Sondhi X
    ศาลจังหวัดนนทบุรียกคำร้องตุ๋ย พรศักดิ์ ทนายความของ แซน วิศาพัช คนบนเรือขอให้ไต่สวนอัจฉริยะ-ปานเทพกรณีจำลองเหตุการณ์แตงโมตกน้ำ ชี้ไม่ละเมิดอำนาจศาล แถมเตือนไม่ให้สัมภาษณ์กระบวนการพิจารณาคดีในศาล . วันนี้ (29 ม.ค.) จากกรณีที่นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน หนึ่งในบุคคลที่อยู่ในเรือสปีดโบ้ท ที่ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ตกจากเรือเสียชีวิต ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน ได้แก่ การจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา และกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งจะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ . ปรากฎว่า นายพรศักดิ์ กล่าวหลังออกจากศาลว่า ในการสืบพยานวันนี้ ยังสืบพยานไม่เสร็จ คดีเดิมไปตามปกติทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ส่วนคดีที่มีการยื่นไต่สวนเรื่องละเมิดอำนาจศาล เรื่องการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือ ขอยังไม่ขอให้ข้อมูล . "วันนี้ผมมายื่นคำร้องศาลขอให้ท่านพิจารณาเรื่องละเมิดอำนาจศาล วันนี้ศาลได้พิจารณาตามคำร้องของผมแล้ว เห็นว่าในชั้นนี้ยังไม่เรียกผู้ที่ถูกร้องมาไต่สวน แต่ศาลได้รับทราบและเริ่มนับหนึ่งจากวันนี้ไปว่า หลังจากนี้จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม ศาลจะพิจารณาและใช้ดุลยพินิจต่อไป นี่คือคำสั่งที่ออกมาตามนี้ ผมก็เลยมาแจ้งให้ทราบ ส่วนเรื่องอื่นๆ ขออนุญาตไม่พูดแล้วกัน เนื่องจากศาลกำชับมาว่าไม่ให้มีการเผยแพร่เรื่องกระบวนพิจารณาอะไรในคดีนี้กับทางสื่อมวลชนอีก ... ผมพูดได้แค่นี้จริงๆ เพราะศาลกำชับมา" นายพรศักดิ์ กล่าว . ปรากฎว่า นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้ที่ร่วมจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต กล่าวผ่านเฟซบุ๊กเพจว่า "ทนายตุ๋ยควรจะพูดให้ชัดๆ สรุปคือศาลยกคำร้องเพราะพวกเราไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวนจำเลยตามคำร้องของทนายตุ๋ย และเตือนไม่ให้ทนายจำเลยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาคดีในศาล" . มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ศาลจังหวัดนนทบุรีได้ยกคำร้องกรณีที่นายพรศักดิ์ ทนายความของนายวิศาพัช หรือแซน ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล กรณีนายอัจฉริยะและคณะจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต เนื่องจากไม่ได้ละเมิดอำนาจศาล จึงไม่มีการไต่สวนจำเลยตามคำร้องของนายพรศักดิ์แต่อย่างใด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009403 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    33
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2422 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายเดชา เผยศาลสืบพยานจำเลยคดีแตงโม 2 ปากสุดท้าย พิจารณา 2 เดือนครึ่งก่อนมีคำพิพากษา พร้อมยื่นคำร้องไต่สวน"ปานเทพ-อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย" จำลองเหตุการณ์ตกเรือละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ส่วนทนาย แซน วิศาพัช ยื่นไต่สวนนักอาชญวิทยาดังให้สัมภาษณ์
    .
    วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวที่ตกเรือสปีดโบ้ทเสียชีวิต เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ในนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งวันนี้เป็นการสืบพยานจำเลย นัดสุดท้ายรวม 2 ปาก ประกอบด้วย น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม กับ นายภีม ธรรมศรี หรือเอ็ม โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มี น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และนางภนิดา เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณาคดีเมื่อเวลา 9.00 น.
    .
    นายเดชา กล่าวว่า การสืบพยานจำเลยในวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากจำเลยจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือให้ศาลรับฟัง ซึ่งเป็นไปตามข้อเท็จจริง ส่วนจะสืบพยานแล้วเสร็จในวันนี้เลยหรือไม่ ศาลจะเป็นผู้พิจารณา ขั้นตอนหลังจากนี้ ศาลจะใช้เวลาพิจารณาคดีอีกประมาณ 2 เดือนครึ่ง ก่อนที่จะมีคำพิพากษา และเท่าที่ได้คุยกับนายพรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า วันนี้จะมีการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน
    .
    สำนวนแรก เป็นเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา
    .
    ส่วนอีกสำนวน เป็นกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าว นายพรศักดิ์ ทนายความแซน วิศาพัช จะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
    .
    ส่วนความพยายามรื้อคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ของนายอัจฉริยะและพวก นายเดชาระบุว่า ที่ผ่านมามีการพูดคุยกับนายอัจฉริยะ เบื้องต้นยืนยันว่าการรื้อคดีเหตุแห่งการเสียชีวิต น่าจะมีความยุ่งยากซับซ้อนในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นในชั้นต้นและอุทธรณ์ แต่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีความบกพร่อง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการยื่นเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว
    .
    ส่วนกรณีที่ทนายโจทก์ ทนายจำเลยในคดีเดียวกัน หารือกันในข้อกฎหมาย แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับข้อกฎหมาย สามารถทำได้ เพราะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนคดี ส่วนการตัดพยานบางปากออกจากสำนวน เป็นความประสงค์ของนางพนิดา แม่ของแตงโม เนื่องจากมองว่ามีพยานที่เป็นหมอมาเบิกความจำนวนหลายปากแล้ว ทำให้เสียเวลาในการสืบพยาน
    .
    นายเดชา ยังกล่าวว่า กรณีแม่ของแตงโมก็เห็นด้วย ถ้าหากมีพยานหลักฐานใหม่ ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับฝั่งของนายอัจฉริยะ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009329
    .........
    Sondhi X
    ทนายเดชา เผยศาลสืบพยานจำเลยคดีแตงโม 2 ปากสุดท้าย พิจารณา 2 เดือนครึ่งก่อนมีคำพิพากษา พร้อมยื่นคำร้องไต่สวน"ปานเทพ-อัจฉริยะ-หมอธวัชชัย" จำลองเหตุการณ์ตกเรือละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ส่วนทนาย แซน วิศาพัช ยื่นไต่สวนนักอาชญวิทยาดังให้สัมภาษณ์ . วันนี้ (29 ม.ค.) ที่ศาลจังหวัดนนทบุรี นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ดาราสาวที่ตกเรือสปีดโบ้ทเสียชีวิต เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี ในนัดสืบพยานคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งวันนี้เป็นการสืบพยานจำเลย นัดสุดท้ายรวม 2 ปาก ประกอบด้วย น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม กับ นายภีม ธรรมศรี หรือเอ็ม โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มี น.ส.อิจศรินทร์ หรือกระติก พร้อมด้วย นายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือทนายตุ๋ย ทนายความของนายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน และนางภนิดา เดินทางมาร่วมฟังการพิจารณาคดีเมื่อเวลา 9.00 น. . นายเดชา กล่าวว่า การสืบพยานจำเลยในวันนี้ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากจำเลยจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเรือให้ศาลรับฟัง ซึ่งเป็นไปตามข้อเท็จจริง ส่วนจะสืบพยานแล้วเสร็จในวันนี้เลยหรือไม่ ศาลจะเป็นผู้พิจารณา ขั้นตอนหลังจากนี้ ศาลจะใช้เวลาพิจารณาคดีอีกประมาณ 2 เดือนครึ่ง ก่อนที่จะมีคำพิพากษา และเท่าที่ได้คุยกับนายพรศักดิ์ ให้ข้อมูลว่า วันนี้จะมีการยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อให้ไต่สวนการละเมิดอำนาจศาล 2 สำนวน . สำนวนแรก เป็นเรื่องของการจำลองเหตุการณ์แตงโมตกเรือเสียชีวิต โดยมีผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย และนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ เนื่องจากคดีหลักยังไม่มีคำพิพากษา . ส่วนอีกสำนวน เป็นกรณีของนักอาชญวิทยารายหนึ่ง ที่ให้สัมภาษณ์ในทำนองว่า มาเบิกความคดีแตงโมในศาล แต่ศาลกลับนั่งหัวเราะ ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าว นายพรศักดิ์ ทนายความแซน วิศาพัช จะยื่นให้ศาลไต่สวนว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ . ส่วนความพยายามรื้อคดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา ของนายอัจฉริยะและพวก นายเดชาระบุว่า ที่ผ่านมามีการพูดคุยกับนายอัจฉริยะ เบื้องต้นยืนยันว่าการรื้อคดีเหตุแห่งการเสียชีวิต น่าจะมีความยุ่งยากซับซ้อนในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นในชั้นต้นและอุทธรณ์ แต่จะมุ่งเน้นไปที่ตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีความบกพร่อง หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ได้มีการยื่นเรื่องให้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว . ส่วนกรณีที่ทนายโจทก์ ทนายจำเลยในคดีเดียวกัน หารือกันในข้อกฎหมาย แต่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับข้อกฎหมาย สามารถทำได้ เพราะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสำนวนคดี ส่วนการตัดพยานบางปากออกจากสำนวน เป็นความประสงค์ของนางพนิดา แม่ของแตงโม เนื่องจากมองว่ามีพยานที่เป็นหมอมาเบิกความจำนวนหลายปากแล้ว ทำให้เสียเวลาในการสืบพยาน . นายเดชา ยังกล่าวว่า กรณีแม่ของแตงโมก็เห็นด้วย ถ้าหากมีพยานหลักฐานใหม่ ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้ให้ความร่วมมือกับฝั่งของนายอัจฉริยะ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009329 ......... Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2546 มุมมอง 0 รีวิว
  • พ่อไอ่ลุงแซนต้ามันหย่ายมากจริงๆนะ อ.ยิ่งศักดิ์หลุดผังทันที เพราะพ่อลุงแซนต้านี่แหละ แบบไม่ปลื้ม ไอ่ฉัด!
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    พ่อไอ่ลุงแซนต้ามันหย่ายมากจริงๆนะ อ.ยิ่งศักดิ์หลุดผังทันที เพราะพ่อลุงแซนต้านี่แหละ แบบไม่ปลื้ม ไอ่ฉัด! #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาวิชัย สนิทกับพ่อแซนต้าฝุดๆ จึงช่วยเหลือปกปิดหลังฐ๋าน อาวิชัยจึงออกอาการร้อนมากเมื่อรื้อ KADEE
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    อาวิชัย สนิทกับพ่อแซนต้าฝุดๆ จึงช่วยเหลือปกปิดหลังฐ๋าน อาวิชัยจึงออกอาการร้อนมากเมื่อรื้อ KADEE #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝากบอกพี่เต้พระราม7หน่อย ไอ่คนที่ส่งข่าวโมเป็นคนของแซนต้า มันจะเบี่ยงเบน ไม่มีคนแก่ มีแต่เหม็นกลุ่มฟอกกับลูกคนรวยเฟร้ย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ฝากบอกพี่เต้พระราม7หน่อย ไอ่คนที่ส่งข่าวโมเป็นคนของแซนต้า มันจะเบี่ยงเบน ไม่มีคนแก่ มีแต่เหม็นกลุ่มฟอกกับลูกคนรวยเฟร้ย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จากป้ามาเป็นลุงก็ได้อยู่
    ทำเป็นเล่นไป
    ลุงแซนเราไม่ธรรมดา
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    #จากป้ามาเป็นลุงก็ได้อยู่ ทำเป็นเล่นไป ลุงแซนเราไม่ธรรมดา #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้อ่านเล่มไหนก็รู้สึกชอบและสนุกไปหมดเลยครับ อาจเพราะเป็นคนเลือกที่อยากอ่านเองจริง ๆ และก็มักไม่พบความผิดหวังกับเล่มที่เลือกนั้น ล่าสุดก็เรื่องนี้ที่สะดุดตาตั้งแต่ปกหน้า พอเจอในแอป hibrary ที่คนจองคิวไม่มาก และระบุว่าเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญกลางกรุงโตเกียว คิดว่าน่าสนใจจึงต่อคิวจอง และเมื่อวันก่อนครบกำหนดต้องคืน จึงรีบอ่านแบบติดเทอร์โบรวดเดียวจนจบทันก่อนเวลาเส้นตายแบบเฉียดฉิว เมื่ออ่านจบก็พบว่า

    "ดีจริงที่ตัดสินใจที่จะลองอ่าน ถ้าไม่งั้นคงน่าเสียดายยิ่ง"

    #silenttokyoandsothisisxmas
    สนพ.ไดฟุกุ (อ่านหนังสือของไดฟุกุติดกันหลายเล่ม เป็นสนพ.หนึ่งที่ผลิตหนังสือค่อนข้างคุณภาพทีเดียว แต่ผมอ่านแบบอีบุ๊ก)
    ฮาตะ ทาเคฮิโตะ เขียน
    เกวลิน ลิขิตวิทยาวุฒิ แปล
    248 หน้า 280 บาท
    พิมพ์ในญี่ปุ่นครั้งแรก 2559 ในไทยพิมพ์ครั้งแรกปี 2564

    คุณจะทำอย่างไร ถ้ารู้ว่าเมืองที่ตนอาศัยอยู่กำลังจะเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ใจกลางกรุง?

    เริ่มเรื่องก็ระทึกขวัญแต่ต้น ด้วยการที่แม่บ้านวัยสี่สิบกว่ารายหนึ่งตั้งใจจะออกไปซื้อของขวัญให้สามี เพราะใกล้จะถึงคริสต์มาส เธอจึงออกจากบ้านไปยังย่านกลางเมือง หลังซื้อของแล้วจึงมานั่งรับแดดกะจะกินแซนด์วิช บนม้านั่งตัวหนึ่งที่ลานสาธารณะหน้าสถานีรถไฟเอบิสุ ครู่หนึ่งชายที่ไหนไม่รู้ เข้ามาคุยกับเธอพูดจาแปลก ๆ บอกว่าใต้ม้านั่งมีระเบิด ห้ามเธอลุกขึ้นไม่งั้นระเบิดจะทำงาน เพราะเมื่อมีน้ำหนักมากกว่า30กิโลกรัมกดทับ วงจรจะเริ่มเตรียมพร้อม ทางเดียวที่จะรอด เธอต้องนั่งรอจนกว่าจะมีคนจากสถานทีโทรทัศน์แห่งหนึ่งมาที่นี่ แล้วให้เขานั่งลงข้าง ๆ จากนั้นเธอจึงลุกขึ้นได้ แต่ให้บอกสิ่งที่เธอได้ยินนี้กับเขาด้วยเพื่อจะได้ไม่ตายเพราะระเบิด และสุดท้ายให้บอกเขาว่า นี่คือสงคราม!

    🧨

    จากจุดเริ่มนั้นเอง ที่สถานีโทรทัศน์แห่งนั้น มีสายโทรแจ้งว่าจะมีการระเบิดขึ้นที่...หนุ่มทำงานพาร์ตไทม์ในสถานีที่ได้รับงานเป็นเบ๊ทั่วไป ถูกสั่งให้ไปยังจุดดังกล่าวพร้อมจนท.อีกคนที่ติดอุปกรณ์การถ่ายทำไปด้วย ทั้งสองจำใจไปแต่เชื่อว่าคงเป็นการล้อกันเล่น เมื่อไปถึงพบหญิงที่นั่งอยู่ข้างม้านั่งที่คนในสายแจ้ง ทั้งสองเข้าไปใกล้กะจะไปนั่งม้านั่งใกล้กันเพื่อสังเกต แต่เธอกลับเรียกให้ชายที่ถือกล้องนั่งลงถามว่ามาจากสถานีโทรทัศน์ใช่ไหม เขาแปลกใจจึงนั่งลงจะสอบถาม เธอรีบกระโดดขึ้นทันทีพลางบอกรายละเอียดทั้งหมด

    🧨

    ชายที่นั่งไม่เชื่อจะลุก เธอรีบกดไหล่และหว่านล้อมว่าวิธีเดียวที่จะรอดคือต้องทำตามคำบอกของชายคนที่แจ้งรายละเอียดกับเธอไว้ในตอนแรก นั่นคือให้เขาใช้กล้องบันทึกสิ่งที่ตัวเองประสบแล้วเผยแพร่ออกไป จากนั้นเธอเอาของที่คล้ายนาฬิกาข้อมือดิจิทัลมาคล้องกับข้อมือของหนุ่มพาร์ตไทม์โดยเขาไม่ทันตั้งตัว พลางเธอชูให้ดูว่าที่ข้อมือตัวเองก็มี บอกว่านี่เป็นระเบิดด้วยเช่นกัน ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของชายแปลกหน้าที่เข้ามาคุยกับเธอ เขาจะสั่งงานระยะไกลให้นาฬิการะเบิด แล้วรีบบอกกับเด็กหนุ่มว่าต้องไปต่อที่แห่งหนึ่งตามคำสั่ง จากนั้นทิ้งชายที่น่าสงสารไว้ตามลำพัง ซึ่งเขาก็กลัวมากจึงรีบทำตามที่เธอบอก ในที่สุดเรื่องก็ทราบถึงตำรวจ จนแห่กันมากู้ระเบิดด้วยการใช้ไนโตรเจนเหลวกะให้หยุดการทำงานของระบบ ปรากฏว่าเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น

    🧨

    ที่แท้เป็นการข่มขู่ แค่ระเบิดเสียงแต่ยังไม่มีอำนาจทำลายล้าง ทว่าด้วยเหตุนี้ทางตำรวจสืบสวนกลางจึงตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดูแลและสืบเรื่องนี้ขึ้น จากการวิเคราะห์ทำให้ตำรวจทราบว่า ระเบิดนั้นถูกติดตั้งตัวจับอุณหภูมิไว้ด้วย แสดงว่าคนที่ประกอบระเบิดเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ด้านนี้และคาดเดาได้ว่าตำรวจจะใช้ไนโตรเจนเหลว จึงดักทางด้วยการติดตั้งระบบให้ไม่อาจกู้ด้วยวิธีที่ตำรวจใช้ ในทีมสืบสวน มีการจับคู่ของนายตำรวจมากประสบการณ์วัยสี่สิบกว่ากับตำรวจหนุ่มไฟแรงคู่หนึ่ง ซึ่งมีบทบาทในการตามสืบข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดครั้งนี้อย่างกัดติด ด้วยตำรวจวัยกลางคนนั้นเคยแต่งงานกับลูกสาวของระดับสูงของหัวหน้าที่ตั้งทีมครั้งนี้ ทว่ามีเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้ต้องหย่ากันไป อย่างไรเขาคือผู้มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนเกี่ยวกับสถานการณ์อันตราย

    🧨

    ด้านหญิงกลางคนกับหนุ่มพาร์ตไทม์ เดินทางไปยังอาคารหลังหนึ่งเป็นห้องเช่า ที่ภายในมีทีวีและอุปกรณ์กล้อง พร้อมซองสีขาวที่เขียนรายละเอียดบอกไว้ให้เด็กหนุ่มต้องอ่านข้อความตามที่มีบทพูดไว้ให้ โดยให้ฝ่ายหญิงเป็นคนทำหน้าที่บันทึกภาพ จากนั้นให้นำโหลดเผยแพร่ให้คนอื่นในยูทูปเห็น เนื้อหาสรุปคือให้บอกว่าผมคือผู้ที่วางระเบิดนั้นเอง และยื่นข้อเสนอขอคุยกับนายกถ่ายทอดออกทางสถานีโทรทัศน์ ถ้าไม่ทำตาม จะมีการวางระเบิดในย่านใจกลางชิบูย่า หน้ารูปปั้นหมาฮาจิโกะ เส้นตายคือ18.30น. ปรากฏว่านายกฯออกข่าวตอบโต้ว่าไม่ต้องการเจรจาใดกับผู้ก่อการร้ายทั้งสิ้น และจะทำสงครามกับคนไม่หวังดีอย่างถึงที่สุด

    🧨

    ด้านหนุ่มพาร์ตไทม์ได้รับคำสั่งต่อไปให้ไปทำคนเดียว จึงต้องแยกกับหญิงกลางคนที่ถูกให้เฝ้ารอคำสั่งอยู่ในห้องแห่งนั้น ส่วนตำรวจก็วิ่งขาขวิด ล้อมรั้วด้วยแถบเหลืองรอบรูปปั้นฮาจิโกะด้วยรัศมีประมาณหนึ่ง และให้หน่วยกอบกู้ระเบิดพยายามเร่งค้นหาวัตถุระเบิดที่ถูกซุกซ่อนอยู่ แต่คนโตเกียวและชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าใจว่าคลิปที่เผยแพร่ น่าจะเป็นการหลอกลวงเหมือนเช่นระเบิดก่อนหน้าที่สถานีเอบิสุ จึงไม่รู้สึกกลัวแถมยังแห่มายังบริเวณลานอันเป็นสถานที่ถูกระบุ ด้วยต้องการมาเซลฟี่ตนเอง บ้างมาเป็นกลุ่ม เพื่ออัปโหลดเผยแพร่ให้คนอื่นเห็น

    🧨

    มีหญิงสาวพนักงานบริษัทธรรมดาสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน คนหนึ่งเป็นชู้กับสามีของคนอื่นและคะยั้นคะยอชวนเพื่อนไปนัดบอดก่อนหน้านี้ ซึ่งเพื่อนของเธอเพิ่งอกหักจากแฟนที่รักกันมากว่าสิบปี แล้วทิ้งไปอยู่กับกิ๊กที่ตั้งท้องไม่กี่เดือน เพื่อนสาวคนนี้กำลังคิดจะเริ่มต้นใหม่และรู้สึกดีกับหนุ่มคนหนึ่งในงานนัดบอด โดยเขาคนนั้นเป็นเจ้าของบริษัทที่สร้างแอปพลิเคชันที่เปิดตัวดีและมีคนใช้เยอะ ธุรกิจไปได้สวยทั้งที่ยังอายุไม่มาก แต่ค่อนข้างเย็นชาไม่สนใจคนรอบข้าง สองสาวตั้งใจจะมากินอาหารฉลองก่อนคริสต์มาส แล้วเห็นหนุ่มคนที่ตนสนใจเข้าพอดีในสถานที่ใกล้รูปปั้นฮาจิโกะ เพื่อนคนที่ใจกล้าจึงชวนอีกคนว่าให้ลองตามไปดูเขาว่าทำไมถึงมาอยู่แถวชิบูย่า ทั้งที่ก่อนหน้าตอนเธอชวนมากินข้าวด้วยกัน ปฏิเสธว่ามีนัดสำคัญที่อื่น เธอไม่อยากไปแต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนลากไปจนได้

    🧨

    ด้านตำรวจยังคงพยายามตามหาว่าระเบิดถูกซ่อนตรงไหน เวลากระชั้นสั้นเข้าใกล้ถึงกำหนดที่ถูกประกาศว่าจะมีการระเบิด แต่ผู้คนยิ่งมาออกันอย่างเนืองแน่นด้วยความสนุกสนาน

    สุดท้ายจึงเกิดโศกนาฏกรรมใหญ่ เพราะมีการระเบิดขึ้นจริง ผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง แต่เรื่องราวไม่จบเท่านี้ เพราะหลังเหตุร้ายแรง นายกฯยังคงยืนยันคำพูดแข็งกร้าวเช่นเดิม ดังนั้นจึงมีข้อความต่อมาของคนร้ายที่แจ้งให้ทราบว่า ถ้านายกยังไม่ทำตามข้อเสนอ ระเบิดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในคืนวันคริสต์มาสอีฟ คราวนี้บอกแค่เวลา แต่ไม่ระบุจุดที่จะระเบิด บอกเพียงว่าในกรุงโตเกียว

    🧨

    เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป..

    ตำรวจจะหาตัวคนร้ายเจอไหม ..

    สถานที่ใดจะเกิดระเบิดครั้งต่อไป..

    หญิงสาวสองคนที่อยู่ตรงบริเวณย่านชิบูย่าตายหรือไม่..

    ชายคนที่หญิงสาวรู้สึกสนใจ ทำไมโกหกเธอ แล้วเขามาทำอะไร รอดตายหรือไม่..

    หญิงวัยกลางคนที่ประสบเหตุคนแรกเล่า ที่ข้อมือยังมีนาฬิกาที่พร้อมระเบิดถ้าขัดคำสั่งคนร้าย เธอถูกให้ทำเรื่องใดต่อไป..

    หนุ่มพาร์ตไทม์ที่ได้รับมอบหมายงานไปทำตามลำพัง จะรอดหรือไม่ ใคร ๆ ต่างเข้าใจว่าเขาคือคนร้ายไปหมดแล้ว ...

    ยังมีอีกหลายตัวละครที่มีบทบาทต่อเนื้อเรื่อง ที่ผมเล่าได้ไม่หมด ต้องไปหาอ่านกันต่อแล้วล่ะ

    .......

    ภาควิเคราะห์✒️

    ตัวละครเยอะ และโผล่มาเรื่อย ๆ เฉพาะที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลักก็เกือบสิบคน ยังมีประเภทโผล่มาประปรายเพราะมีความสัมพันธ์กับตัวละครที่เกี่ยวข้องอีกพอสมควร แต่เนื่องจากผมมีเวลาจำกัดที่ต้องอ่านให้จบทันก่อนหนังสือจะคืนเข้าระบบตามกำหนด จึงไม่สามารถค่อย ๆ เสพอ่านอย่างละเมียดบรรจง แต่ใช้วิธีอ่านแบบกวาดตาโดยไว ซึ่งปกติจะไม่อยากอ่านแบบนี้ถ้าไม่จำเป็น เนื่องจากจะจดจำชื่อตัวละคร หรือดื่มด่ำกับสำนวนและการบรรยายของผู้เขียนได้น้อย

    ✒️

    ดีที่เล่มนี้ไม่เน้นการบรรยายเยอะ แต่สนทนามากกว่า มีบรรยายบ้างแต่ไม่ยาวเป็นหน้า ค่อนข้างเดินเรื่องกระชับฉับไว ให้รายละเอียดเท่าที่จำเป็น ตัวละครคุยกันเยอะ ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังครับ ยิ่งอ่านประวัติคนเขียนด้วยจึงเข้าใจ เพราะเป็นทั้งนักเขียนหนังสือ นักเขียนบท โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ มิน่าล่ะจึงสะท้อนความเชี่ยวชาญและแนวคิดการทำงานในการผลิตหนัง มาใช้ในงานเขียนด้วย

    ✒️

    อ่านแล้วนึกถึงหนังเรื่อง pulp fiction เมื่อปี 2537 ครับ ลักษณะการเล่ามีความเดินเรื่องคล้ายอย่างในหนัง คือไม่ได้เล่าไปทีละลำดับ แต่สลับระหว่างตัวละครหลักกลับไปกลับมา ฉากโน้นฉากนี้ แล้วพอตัวละครเยอะ ก็จะเข้าใจยากหน่อย แต่พอนำมาร้อยเรียงกันเองในหัวแล้วจะเริ่มมองภาพใหญ่ออก เพียงแค่ผู้เขียนเลือกหยิบเล่าในบริเวณจำกัดของ jigsaw บางส่วนในภาพทั้งหมด แล้วกระโดดไปเล่ามุมอื่นของชีวิตตัวละครตัวอื่น วนไปวนมาแบบนี้ จนค่อย ๆ กลายเป็นภาพที่ต่อสำเร็จเป็นรูปร่างมากขึ้นเรื่อย ๆ

    ✒️

    อ่านไปเหมือนจะงง แล้วพาลทำให้ไม่เข้าใจและไม่ชอบ หมดสนุกได้หากเราไม่คุ้นเคยกับการเล่าแบบนี้ ผมนึกถึงตัวเองตอนได้ดู pulp fiction ในโรงหนังลิโด้ครั้งแรกสมัยก่อน ถึงกับอุทานในใจ

    แหม..หนังอะไรวะเนี่ย ดูไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจอะไรเลย ตัวละครต่าง ๆ ที่จู่ ๆ ก็โผล่มาแบบไม่มีต้น ไม่มีปลาย มาทำบ้าอะไรของมันเดี๋ยวเดียวก็ตัดไป กลายเป็นตัวอื่นโผล่มาแล้วก็ลักษณะเดียวกันคือไม่มีรายละเอียดให้รู้ งงไปจนแทบเลยกลางเรื่องไปพอสมควรแล้วนั่นแหละ แบบดูไปด่าไปในใจ แต่ก็ทนดูต่อไปเพราะอยากรู้ว่าตกลงเรื่องราวมันยังไงกันแน่

    ✒️

    พอดูจบถึงกับแทบโห่ร้องออกมาแบบไม่มีเสียง นี่มันหนังโคตรดี สุดยอดอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน คิดได้ยังไง ถ้าดำเนินเรื่องตามลำดับเวลาก่อนหลังที่ควรจะเป็น เราก็เข้าใจง่ายตั้งแต่ต้นละ แต่นี่ดันตัดเอาแค่บางช่วงสลับไปมาจนงงไปหมด ให้ไปต่อเอาเองในหัว

    หนังสือเล่มนี้ก็มีความคล้ายในการเล่าแบบหนังเรื่องนั้นเหมือนกัน แต่ไม่ได้มากเท่าและไม่ได้ชัดเจนเท่า ยังมีความเล่าตามลำดับในโครงสร้างใหญ่ไปตามวันที่เริ่มตั้งแต่ 22 ธันวาคม จนถึงก่อนวันคริสต์มาส แต่ทว่าจะมีช่วงที่เล่าให้ทราบถึงความเป็นไปในตัวละครบางตัวในอดีต เป็นเชิงภาคขยายจากในคราวแรกที่ไม่ได้ให้รายละเอียดตัวละครอะไรมากมาย

    ✒️

    กลางเล่มไปแล้วที่หลังเกิดเหตุระเบิดใหญ่อันน่าตกใจและมีการสูญเสียทำได้ดีทีเดียว ฉากกลางย่านชิบูย่าในภาพก่อนหน้าที่กำลังวุ่นวายและเต็มไปด้วยความเอะอะของเหล่าผู้คน ที่ไม่ตระหนักถึงอันตรายใดแล้วไม่สนใจคำเตือนตำรวจ กับภายหลังเหตุระเบิด รวมถึงความไต่ระดับของการเดินเรื่องที่บางตัวละครพยายามตามหาความจริง จิกกัดไม่ปล่อย ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่ตำรวจและยังเป็นผู้หญิง มีฉากหนึ่งที่อ่านแล้วอดนึกไม่ได้ว่า

    "อยากตายนักหรือไง"

    เพราะเธอไปจี้ถาม คุ้ยแคะแกะแผลจะคาดคั้นเอาคำตอบกับคนที่น่าสงสัยให้ได้ ช่วงบทสนทนาตอนนั้นคือลุ้นมาก นางปากดีคนนี้จะถูกหมกตายไหมเนี่ย ช่างปากกล้า ปากเก่งในเวลาที่ไม่ควรจริง ๆ แล้วเหตุการณ์ต่อจากฉากนั้น ก็ทำเอาแทบกลั้นลมหายใจอ่านทีเดียว

    ✒️

    ผู้เขียนฉลาดในการหลอกล่อคนอ่านมาตั้งแต่ต้นเริ่มเรื่องทีเดียว เรียกว่าเอาอยู่ หัวปั่นเพราะเบาะแสที่ให้มาทีละนิด เราก็คิดว่าเออ คนนี้หรือคนนั้นมีแววนะว่าอาจจะใช่คนร้ายที่เจ้าแผนการทั้งหมด เพียงเพื่อสุดท้ายจะพบกับความพลิกเหมือนลูกรูบิกที่บิดที สีที่เหมือนจะเรียงกันได้ครบ แต่ทำเอาแทบสลบเพราะนอกจากไม่เรียงสำเร็จทุกสี ยังเหมือนวิ่งหนีออกไปไกลกว่าเก่า

    อ้าว..ที่แท้คนนี้เองเหรอ..เราหมุนไปผิดทางตั้งแต่แรกเลยเหรอเนี่ย

    พอย้อนไปเก็บรายละเอียดหลังอ่านจบ โดยทวนเนื้อหาใหม่ในบางช่วงบางบทสนทนา การบรรยายรายละเอียดที่ผู้เขียนใส่ไว้ใหม่ จึงเกิดความรู้สึกเหมือน อะไรที่มันขัดกันในหัว หมุนเคลื่อนตัวลงล็อกดัง "กริ๊ก" ในตำแหน่งที่ถูกต้องเป๊ะ

    ✒️

    เราอ่านไม่ดีเองตั้งแต่แรก ละเลยส่วนสำคัญไปเพราะไม่ละเอียดและไม่คิดตามมากพอ แท้จริงร่องรอยของความจริงได้วางไว้ให้เห็นอยู่แล้ว ช่างสุดยอดจริง ๆ สมกับที่เล่มนี้ขายดีในญี่ปุ่น รวมถึงตอนสร้างเป็นหนังก็มีผลตอบรับดีด้วย (ตามที่ในหนังสือระบุไว้ในช่วงคำนำสำนักพิมพ์ หรือความในใจของผู้แปลก็ไม่แน่ใจ)

    ชอบที่ตอนจบ บทสรุปที่ให้คนอ่านได้เก็บไปคิดทบทวนถึงสิ่งที่คนเขียนต้องการสื่อไปถึงชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ หรือที่จริงชาวโลกก็ว่าได้ เกี่ยวกับสงครามว่าคือสิ่งที่นักการเมือง ผู้มีอำนาจ และพลเมืองที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ ควรจะปฏิบัติเช่นไร หรือไม่ควรปฏิบัติเช่นไร

    ✒️บทสรุปของคนร้ายจะตายหรือไม่

    ตอนที่เรื่องเฉลยโดยให้คนร้ายบอกเล่าความจริงในใจกับใครคนหนึ่งนั้น รู้สึกชอบวิธีเฉลยที่ผู้เขียนเลือกใช้ครับ รูปแบบเรียบง่ายแต่เข้ากับนิสัยของตัวละครตัวนี้ดี บ่งบอกตัวตนของคนคนนี้ได้ค่อนข้างชัดเจน

    คนอ่านหลายคนอาจไม่ชอบเหตุผลและแรงจูงใจของคนร้าย และไม่อาจทำใจให้เชื่อได้ แต่ผมคิดว่าพอจะเข้าใจนะ แต่ไม่ใช่เห็นด้วยกับสิ่งที่คนร้ายเลือกกระทำ คนเราเมื่อยึดติดในสิ่งใด สัตว์ใด คนใด ความเชื่อใดมากจนฝังแน่นไปถึงจิต

    ✒️

    มันยากเหลือเกินที่จะลบล้างเอาเจ้าความคิดนั้นให้หลุดออกไปได้ ในแง่นี้ผมจึงคิดว่าเข้าใจและเห็นใจสงสารคนร้ายพอสมควร ส่วนประชาชนคนที่ตายไปมากมายนั้น หากพูดกันอย่างไม่อคติ จะไปโทษคนร้ายทั้งหมดก็ไม่ได้ แท้จริงเหล่าคนที่ตายไป จะมากน้อยเพราะเขาทำตัวเอง พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่อันตราย ทั้งที่ทางตำรวจก็แจ้งเตือน ห้ามปราม แต่ก็ไม่สนใจ รวมถึงพวกสื่อต่าง ๆ ที่เอาแต่อยากทำข่าวโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ทำนั้นจะส่งผลให้สถานการณ์แย่กว่าเดิมหรือเป็นอันตรายต่อสังคม ประชาชนและประเทศชาติหรือไม่

    ผมว่าเล่มนี้สะท้อนมุมมองเรื่องเหล่านี้ได้ดี

    แต่เหนืออื่นใดคือฉากจบที่ตัวละครหนึ่งที่น่าสงสารและน่าเห็นใจมาก แต่กลับเป็นฝ่ายพูดและให้กำลังใจกับตัวละครอีกตัวที่บาดเจ็บทางใจอย่างร้ายแรงได้อย่างเข้าถึงจิตใจภายใน ราวกับคำพูดนั้นไปสัมผัสและลูบไล้ที่หัวใจด้วยความแผ่วเบาที่สุด

    ช่างอบอุ่นหัวใจดีเหลือเกิน หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ประสบมา

    สำนวนแปลอ่านได้อย่างไม่รู้สึกสะดุด

    ..........

    อ่านจบ ไปลองค้นข้อมูลที่มีการสร้างเป็นหนังต่อ พอเห็นภาพโปสเตอร์ยิ่งอยากดูมาก เพราะมีนักแสดงคนโปรดเล่นด้วยนั่นคือ อิชิดะ ยูริโกะ และคนอื่น ๆ ก็ต่างเป็นนักแสดงคุณภาพทั้งนั้น สุดท้ายเจอที่มีคนทำซับบรรยายไทย จึงโหลดมาชม แต่ดูจบแล้วพบว่า ฉบับหนังสือดีกว่าพอสมควร คือหนังสร้างออกมาได้โอเคอยู่ นักแสดงก็ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้ดี แต่มันมีอยู่หลายช่วงที่รู้สึกว่าน่าจะเล่าได้ดีกว่านี้ อาจเพราะเวลาจำกัด รายละเอียดมากมายจึงใส่มาได้ไม่หมด จึงทำให้ลดความสนุกลงไปจากฉบับหนังสือเยอะเลย

    แต่ฉากสำคัญที่เกิดระเบิดกลางย่านชิบูย่าทำออกมาได้ดี

    ใครสนใจลองไปหาชมดูครับ

    สุดท้ายขอจบด้วยประโยคที่ตัวละครสองตัวในเรื่องเอ่ยไว้ได้อย่างน่าประทับใจ โดยระบุว่าเป็นคำกล่าวของนักเขียนนิยายที่มีชื่อว่า Stephen King

    "ผู้ชนะในการแข่งขันปาขี้คือคนที่มือเปื้อนน้อยที่สุด คนมีคุณภาพคือคนที่ไม่ทำให้มือตัวเองเปื้อนจากอะไรไร้สาระอย่างการขว้างปาเจตนาร้ายใส่คนอื่น"

    #หนังญี่ปุ่น
    #หนังน่าดู
    #หนังสือน่าอ่าน
    #บทความ
    #รีววิหนังสือ
    #thaitimes
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #ระเบิดกลางกรุง
    #โตเกียว
    #สงคราม
    #แง่คิด
    #ระทึกขวัญ
    #สืบสวน
    #ก่อการร้าย
    ช่วงนี้อ่านเล่มไหนก็รู้สึกชอบและสนุกไปหมดเลยครับ อาจเพราะเป็นคนเลือกที่อยากอ่านเองจริง ๆ และก็มักไม่พบความผิดหวังกับเล่มที่เลือกนั้น ล่าสุดก็เรื่องนี้ที่สะดุดตาตั้งแต่ปกหน้า พอเจอในแอป hibrary ที่คนจองคิวไม่มาก และระบุว่าเกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวน ระทึกขวัญกลางกรุงโตเกียว คิดว่าน่าสนใจจึงต่อคิวจอง และเมื่อวันก่อนครบกำหนดต้องคืน จึงรีบอ่านแบบติดเทอร์โบรวดเดียวจนจบทันก่อนเวลาเส้นตายแบบเฉียดฉิว เมื่ออ่านจบก็พบว่า "ดีจริงที่ตัดสินใจที่จะลองอ่าน ถ้าไม่งั้นคงน่าเสียดายยิ่ง" #silenttokyoandsothisisxmas สนพ.ไดฟุกุ (อ่านหนังสือของไดฟุกุติดกันหลายเล่ม เป็นสนพ.หนึ่งที่ผลิตหนังสือค่อนข้างคุณภาพทีเดียว แต่ผมอ่านแบบอีบุ๊ก) ฮาตะ ทาเคฮิโตะ เขียน เกวลิน ลิขิตวิทยาวุฒิ แปล 248 หน้า 280 บาท พิมพ์ในญี่ปุ่นครั้งแรก 2559 ในไทยพิมพ์ครั้งแรกปี 2564 คุณจะทำอย่างไร ถ้ารู้ว่าเมืองที่ตนอาศัยอยู่กำลังจะเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่ใจกลางกรุง? เริ่มเรื่องก็ระทึกขวัญแต่ต้น ด้วยการที่แม่บ้านวัยสี่สิบกว่ารายหนึ่งตั้งใจจะออกไปซื้อของขวัญให้สามี เพราะใกล้จะถึงคริสต์มาส เธอจึงออกจากบ้านไปยังย่านกลางเมือง หลังซื้อของแล้วจึงมานั่งรับแดดกะจะกินแซนด์วิช บนม้านั่งตัวหนึ่งที่ลานสาธารณะหน้าสถานีรถไฟเอบิสุ ครู่หนึ่งชายที่ไหนไม่รู้ เข้ามาคุยกับเธอพูดจาแปลก ๆ บอกว่าใต้ม้านั่งมีระเบิด ห้ามเธอลุกขึ้นไม่งั้นระเบิดจะทำงาน เพราะเมื่อมีน้ำหนักมากกว่า30กิโลกรัมกดทับ วงจรจะเริ่มเตรียมพร้อม ทางเดียวที่จะรอด เธอต้องนั่งรอจนกว่าจะมีคนจากสถานทีโทรทัศน์แห่งหนึ่งมาที่นี่ แล้วให้เขานั่งลงข้าง ๆ จากนั้นเธอจึงลุกขึ้นได้ แต่ให้บอกสิ่งที่เธอได้ยินนี้กับเขาด้วยเพื่อจะได้ไม่ตายเพราะระเบิด และสุดท้ายให้บอกเขาว่า นี่คือสงคราม! 🧨 จากจุดเริ่มนั้นเอง ที่สถานีโทรทัศน์แห่งนั้น มีสายโทรแจ้งว่าจะมีการระเบิดขึ้นที่...หนุ่มทำงานพาร์ตไทม์ในสถานีที่ได้รับงานเป็นเบ๊ทั่วไป ถูกสั่งให้ไปยังจุดดังกล่าวพร้อมจนท.อีกคนที่ติดอุปกรณ์การถ่ายทำไปด้วย ทั้งสองจำใจไปแต่เชื่อว่าคงเป็นการล้อกันเล่น เมื่อไปถึงพบหญิงที่นั่งอยู่ข้างม้านั่งที่คนในสายแจ้ง ทั้งสองเข้าไปใกล้กะจะไปนั่งม้านั่งใกล้กันเพื่อสังเกต แต่เธอกลับเรียกให้ชายที่ถือกล้องนั่งลงถามว่ามาจากสถานีโทรทัศน์ใช่ไหม เขาแปลกใจจึงนั่งลงจะสอบถาม เธอรีบกระโดดขึ้นทันทีพลางบอกรายละเอียดทั้งหมด 🧨 ชายที่นั่งไม่เชื่อจะลุก เธอรีบกดไหล่และหว่านล้อมว่าวิธีเดียวที่จะรอดคือต้องทำตามคำบอกของชายคนที่แจ้งรายละเอียดกับเธอไว้ในตอนแรก นั่นคือให้เขาใช้กล้องบันทึกสิ่งที่ตัวเองประสบแล้วเผยแพร่ออกไป จากนั้นเธอเอาของที่คล้ายนาฬิกาข้อมือดิจิทัลมาคล้องกับข้อมือของหนุ่มพาร์ตไทม์โดยเขาไม่ทันตั้งตัว พลางเธอชูให้ดูว่าที่ข้อมือตัวเองก็มี บอกว่านี่เป็นระเบิดด้วยเช่นกัน ถ้าไม่ทำตามคำสั่งของชายแปลกหน้าที่เข้ามาคุยกับเธอ เขาจะสั่งงานระยะไกลให้นาฬิการะเบิด แล้วรีบบอกกับเด็กหนุ่มว่าต้องไปต่อที่แห่งหนึ่งตามคำสั่ง จากนั้นทิ้งชายที่น่าสงสารไว้ตามลำพัง ซึ่งเขาก็กลัวมากจึงรีบทำตามที่เธอบอก ในที่สุดเรื่องก็ทราบถึงตำรวจ จนแห่กันมากู้ระเบิดด้วยการใช้ไนโตรเจนเหลวกะให้หยุดการทำงานของระบบ ปรากฏว่าเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น 🧨 ที่แท้เป็นการข่มขู่ แค่ระเบิดเสียงแต่ยังไม่มีอำนาจทำลายล้าง ทว่าด้วยเหตุนี้ทางตำรวจสืบสวนกลางจึงตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดูแลและสืบเรื่องนี้ขึ้น จากการวิเคราะห์ทำให้ตำรวจทราบว่า ระเบิดนั้นถูกติดตั้งตัวจับอุณหภูมิไว้ด้วย แสดงว่าคนที่ประกอบระเบิดเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความรู้ด้านนี้และคาดเดาได้ว่าตำรวจจะใช้ไนโตรเจนเหลว จึงดักทางด้วยการติดตั้งระบบให้ไม่อาจกู้ด้วยวิธีที่ตำรวจใช้ ในทีมสืบสวน มีการจับคู่ของนายตำรวจมากประสบการณ์วัยสี่สิบกว่ากับตำรวจหนุ่มไฟแรงคู่หนึ่ง ซึ่งมีบทบาทในการตามสืบข้อมูลเกี่ยวกับการระเบิดครั้งนี้อย่างกัดติด ด้วยตำรวจวัยกลางคนนั้นเคยแต่งงานกับลูกสาวของระดับสูงของหัวหน้าที่ตั้งทีมครั้งนี้ ทว่ามีเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้ต้องหย่ากันไป อย่างไรเขาคือผู้มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนเกี่ยวกับสถานการณ์อันตราย 🧨 ด้านหญิงกลางคนกับหนุ่มพาร์ตไทม์ เดินทางไปยังอาคารหลังหนึ่งเป็นห้องเช่า ที่ภายในมีทีวีและอุปกรณ์กล้อง พร้อมซองสีขาวที่เขียนรายละเอียดบอกไว้ให้เด็กหนุ่มต้องอ่านข้อความตามที่มีบทพูดไว้ให้ โดยให้ฝ่ายหญิงเป็นคนทำหน้าที่บันทึกภาพ จากนั้นให้นำโหลดเผยแพร่ให้คนอื่นในยูทูปเห็น เนื้อหาสรุปคือให้บอกว่าผมคือผู้ที่วางระเบิดนั้นเอง และยื่นข้อเสนอขอคุยกับนายกถ่ายทอดออกทางสถานีโทรทัศน์ ถ้าไม่ทำตาม จะมีการวางระเบิดในย่านใจกลางชิบูย่า หน้ารูปปั้นหมาฮาจิโกะ เส้นตายคือ18.30น. ปรากฏว่านายกฯออกข่าวตอบโต้ว่าไม่ต้องการเจรจาใดกับผู้ก่อการร้ายทั้งสิ้น และจะทำสงครามกับคนไม่หวังดีอย่างถึงที่สุด 🧨 ด้านหนุ่มพาร์ตไทม์ได้รับคำสั่งต่อไปให้ไปทำคนเดียว จึงต้องแยกกับหญิงกลางคนที่ถูกให้เฝ้ารอคำสั่งอยู่ในห้องแห่งนั้น ส่วนตำรวจก็วิ่งขาขวิด ล้อมรั้วด้วยแถบเหลืองรอบรูปปั้นฮาจิโกะด้วยรัศมีประมาณหนึ่ง และให้หน่วยกอบกู้ระเบิดพยายามเร่งค้นหาวัตถุระเบิดที่ถูกซุกซ่อนอยู่ แต่คนโตเกียวและชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าใจว่าคลิปที่เผยแพร่ น่าจะเป็นการหลอกลวงเหมือนเช่นระเบิดก่อนหน้าที่สถานีเอบิสุ จึงไม่รู้สึกกลัวแถมยังแห่มายังบริเวณลานอันเป็นสถานที่ถูกระบุ ด้วยต้องการมาเซลฟี่ตนเอง บ้างมาเป็นกลุ่ม เพื่ออัปโหลดเผยแพร่ให้คนอื่นเห็น 🧨 มีหญิงสาวพนักงานบริษัทธรรมดาสองคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน คนหนึ่งเป็นชู้กับสามีของคนอื่นและคะยั้นคะยอชวนเพื่อนไปนัดบอดก่อนหน้านี้ ซึ่งเพื่อนของเธอเพิ่งอกหักจากแฟนที่รักกันมากว่าสิบปี แล้วทิ้งไปอยู่กับกิ๊กที่ตั้งท้องไม่กี่เดือน เพื่อนสาวคนนี้กำลังคิดจะเริ่มต้นใหม่และรู้สึกดีกับหนุ่มคนหนึ่งในงานนัดบอด โดยเขาคนนั้นเป็นเจ้าของบริษัทที่สร้างแอปพลิเคชันที่เปิดตัวดีและมีคนใช้เยอะ ธุรกิจไปได้สวยทั้งที่ยังอายุไม่มาก แต่ค่อนข้างเย็นชาไม่สนใจคนรอบข้าง สองสาวตั้งใจจะมากินอาหารฉลองก่อนคริสต์มาส แล้วเห็นหนุ่มคนที่ตนสนใจเข้าพอดีในสถานที่ใกล้รูปปั้นฮาจิโกะ เพื่อนคนที่ใจกล้าจึงชวนอีกคนว่าให้ลองตามไปดูเขาว่าทำไมถึงมาอยู่แถวชิบูย่า ทั้งที่ก่อนหน้าตอนเธอชวนมากินข้าวด้วยกัน ปฏิเสธว่ามีนัดสำคัญที่อื่น เธอไม่อยากไปแต่สุดท้ายก็โดนเพื่อนลากไปจนได้ 🧨 ด้านตำรวจยังคงพยายามตามหาว่าระเบิดถูกซ่อนตรงไหน เวลากระชั้นสั้นเข้าใกล้ถึงกำหนดที่ถูกประกาศว่าจะมีการระเบิด แต่ผู้คนยิ่งมาออกันอย่างเนืองแน่นด้วยความสนุกสนาน สุดท้ายจึงเกิดโศกนาฏกรรมใหญ่ เพราะมีการระเบิดขึ้นจริง ผู้คนล้มตายเป็นใบไม้ร่วง แต่เรื่องราวไม่จบเท่านี้ เพราะหลังเหตุร้ายแรง นายกฯยังคงยืนยันคำพูดแข็งกร้าวเช่นเดิม ดังนั้นจึงมีข้อความต่อมาของคนร้ายที่แจ้งให้ทราบว่า ถ้านายกยังไม่ทำตามข้อเสนอ ระเบิดครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในคืนวันคริสต์มาสอีฟ คราวนี้บอกแค่เวลา แต่ไม่ระบุจุดที่จะระเบิด บอกเพียงว่าในกรุงโตเกียว 🧨 เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป.. ตำรวจจะหาตัวคนร้ายเจอไหม .. สถานที่ใดจะเกิดระเบิดครั้งต่อไป.. หญิงสาวสองคนที่อยู่ตรงบริเวณย่านชิบูย่าตายหรือไม่.. ชายคนที่หญิงสาวรู้สึกสนใจ ทำไมโกหกเธอ แล้วเขามาทำอะไร รอดตายหรือไม่.. หญิงวัยกลางคนที่ประสบเหตุคนแรกเล่า ที่ข้อมือยังมีนาฬิกาที่พร้อมระเบิดถ้าขัดคำสั่งคนร้าย เธอถูกให้ทำเรื่องใดต่อไป.. หนุ่มพาร์ตไทม์ที่ได้รับมอบหมายงานไปทำตามลำพัง จะรอดหรือไม่ ใคร ๆ ต่างเข้าใจว่าเขาคือคนร้ายไปหมดแล้ว ... ยังมีอีกหลายตัวละครที่มีบทบาทต่อเนื้อเรื่อง ที่ผมเล่าได้ไม่หมด ต้องไปหาอ่านกันต่อแล้วล่ะ ....... ภาควิเคราะห์✒️ ตัวละครเยอะ และโผล่มาเรื่อย ๆ เฉพาะที่มีส่วนเกี่ยวข้องหลักก็เกือบสิบคน ยังมีประเภทโผล่มาประปรายเพราะมีความสัมพันธ์กับตัวละครที่เกี่ยวข้องอีกพอสมควร แต่เนื่องจากผมมีเวลาจำกัดที่ต้องอ่านให้จบทันก่อนหนังสือจะคืนเข้าระบบตามกำหนด จึงไม่สามารถค่อย ๆ เสพอ่านอย่างละเมียดบรรจง แต่ใช้วิธีอ่านแบบกวาดตาโดยไว ซึ่งปกติจะไม่อยากอ่านแบบนี้ถ้าไม่จำเป็น เนื่องจากจะจดจำชื่อตัวละคร หรือดื่มด่ำกับสำนวนและการบรรยายของผู้เขียนได้น้อย ✒️ ดีที่เล่มนี้ไม่เน้นการบรรยายเยอะ แต่สนทนามากกว่า มีบรรยายบ้างแต่ไม่ยาวเป็นหน้า ค่อนข้างเดินเรื่องกระชับฉับไว ให้รายละเอียดเท่าที่จำเป็น ตัวละครคุยกันเยอะ ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังครับ ยิ่งอ่านประวัติคนเขียนด้วยจึงเข้าใจ เพราะเป็นทั้งนักเขียนหนังสือ นักเขียนบท โปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ มิน่าล่ะจึงสะท้อนความเชี่ยวชาญและแนวคิดการทำงานในการผลิตหนัง มาใช้ในงานเขียนด้วย ✒️ อ่านแล้วนึกถึงหนังเรื่อง pulp fiction เมื่อปี 2537 ครับ ลักษณะการเล่ามีความเดินเรื่องคล้ายอย่างในหนัง คือไม่ได้เล่าไปทีละลำดับ แต่สลับระหว่างตัวละครหลักกลับไปกลับมา ฉากโน้นฉากนี้ แล้วพอตัวละครเยอะ ก็จะเข้าใจยากหน่อย แต่พอนำมาร้อยเรียงกันเองในหัวแล้วจะเริ่มมองภาพใหญ่ออก เพียงแค่ผู้เขียนเลือกหยิบเล่าในบริเวณจำกัดของ jigsaw บางส่วนในภาพทั้งหมด แล้วกระโดดไปเล่ามุมอื่นของชีวิตตัวละครตัวอื่น วนไปวนมาแบบนี้ จนค่อย ๆ กลายเป็นภาพที่ต่อสำเร็จเป็นรูปร่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ✒️ อ่านไปเหมือนจะงง แล้วพาลทำให้ไม่เข้าใจและไม่ชอบ หมดสนุกได้หากเราไม่คุ้นเคยกับการเล่าแบบนี้ ผมนึกถึงตัวเองตอนได้ดู pulp fiction ในโรงหนังลิโด้ครั้งแรกสมัยก่อน ถึงกับอุทานในใจ แหม..หนังอะไรวะเนี่ย ดูไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจอะไรเลย ตัวละครต่าง ๆ ที่จู่ ๆ ก็โผล่มาแบบไม่มีต้น ไม่มีปลาย มาทำบ้าอะไรของมันเดี๋ยวเดียวก็ตัดไป กลายเป็นตัวอื่นโผล่มาแล้วก็ลักษณะเดียวกันคือไม่มีรายละเอียดให้รู้ งงไปจนแทบเลยกลางเรื่องไปพอสมควรแล้วนั่นแหละ แบบดูไปด่าไปในใจ แต่ก็ทนดูต่อไปเพราะอยากรู้ว่าตกลงเรื่องราวมันยังไงกันแน่ ✒️ พอดูจบถึงกับแทบโห่ร้องออกมาแบบไม่มีเสียง นี่มันหนังโคตรดี สุดยอดอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน คิดได้ยังไง ถ้าดำเนินเรื่องตามลำดับเวลาก่อนหลังที่ควรจะเป็น เราก็เข้าใจง่ายตั้งแต่ต้นละ แต่นี่ดันตัดเอาแค่บางช่วงสลับไปมาจนงงไปหมด ให้ไปต่อเอาเองในหัว หนังสือเล่มนี้ก็มีความคล้ายในการเล่าแบบหนังเรื่องนั้นเหมือนกัน แต่ไม่ได้มากเท่าและไม่ได้ชัดเจนเท่า ยังมีความเล่าตามลำดับในโครงสร้างใหญ่ไปตามวันที่เริ่มตั้งแต่ 22 ธันวาคม จนถึงก่อนวันคริสต์มาส แต่ทว่าจะมีช่วงที่เล่าให้ทราบถึงความเป็นไปในตัวละครบางตัวในอดีต เป็นเชิงภาคขยายจากในคราวแรกที่ไม่ได้ให้รายละเอียดตัวละครอะไรมากมาย ✒️ กลางเล่มไปแล้วที่หลังเกิดเหตุระเบิดใหญ่อันน่าตกใจและมีการสูญเสียทำได้ดีทีเดียว ฉากกลางย่านชิบูย่าในภาพก่อนหน้าที่กำลังวุ่นวายและเต็มไปด้วยความเอะอะของเหล่าผู้คน ที่ไม่ตระหนักถึงอันตรายใดแล้วไม่สนใจคำเตือนตำรวจ กับภายหลังเหตุระเบิด รวมถึงความไต่ระดับของการเดินเรื่องที่บางตัวละครพยายามตามหาความจริง จิกกัดไม่ปล่อย ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่ตำรวจและยังเป็นผู้หญิง มีฉากหนึ่งที่อ่านแล้วอดนึกไม่ได้ว่า "อยากตายนักหรือไง" เพราะเธอไปจี้ถาม คุ้ยแคะแกะแผลจะคาดคั้นเอาคำตอบกับคนที่น่าสงสัยให้ได้ ช่วงบทสนทนาตอนนั้นคือลุ้นมาก นางปากดีคนนี้จะถูกหมกตายไหมเนี่ย ช่างปากกล้า ปากเก่งในเวลาที่ไม่ควรจริง ๆ แล้วเหตุการณ์ต่อจากฉากนั้น ก็ทำเอาแทบกลั้นลมหายใจอ่านทีเดียว ✒️ ผู้เขียนฉลาดในการหลอกล่อคนอ่านมาตั้งแต่ต้นเริ่มเรื่องทีเดียว เรียกว่าเอาอยู่ หัวปั่นเพราะเบาะแสที่ให้มาทีละนิด เราก็คิดว่าเออ คนนี้หรือคนนั้นมีแววนะว่าอาจจะใช่คนร้ายที่เจ้าแผนการทั้งหมด เพียงเพื่อสุดท้ายจะพบกับความพลิกเหมือนลูกรูบิกที่บิดที สีที่เหมือนจะเรียงกันได้ครบ แต่ทำเอาแทบสลบเพราะนอกจากไม่เรียงสำเร็จทุกสี ยังเหมือนวิ่งหนีออกไปไกลกว่าเก่า อ้าว..ที่แท้คนนี้เองเหรอ..เราหมุนไปผิดทางตั้งแต่แรกเลยเหรอเนี่ย พอย้อนไปเก็บรายละเอียดหลังอ่านจบ โดยทวนเนื้อหาใหม่ในบางช่วงบางบทสนทนา การบรรยายรายละเอียดที่ผู้เขียนใส่ไว้ใหม่ จึงเกิดความรู้สึกเหมือน อะไรที่มันขัดกันในหัว หมุนเคลื่อนตัวลงล็อกดัง "กริ๊ก" ในตำแหน่งที่ถูกต้องเป๊ะ ✒️ เราอ่านไม่ดีเองตั้งแต่แรก ละเลยส่วนสำคัญไปเพราะไม่ละเอียดและไม่คิดตามมากพอ แท้จริงร่องรอยของความจริงได้วางไว้ให้เห็นอยู่แล้ว ช่างสุดยอดจริง ๆ สมกับที่เล่มนี้ขายดีในญี่ปุ่น รวมถึงตอนสร้างเป็นหนังก็มีผลตอบรับดีด้วย (ตามที่ในหนังสือระบุไว้ในช่วงคำนำสำนักพิมพ์ หรือความในใจของผู้แปลก็ไม่แน่ใจ) ชอบที่ตอนจบ บทสรุปที่ให้คนอ่านได้เก็บไปคิดทบทวนถึงสิ่งที่คนเขียนต้องการสื่อไปถึงชาวญี่ปุ่นทั้งประเทศ หรือที่จริงชาวโลกก็ว่าได้ เกี่ยวกับสงครามว่าคือสิ่งที่นักการเมือง ผู้มีอำนาจ และพลเมืองที่อยู่ในประเทศนั้น ๆ ควรจะปฏิบัติเช่นไร หรือไม่ควรปฏิบัติเช่นไร ✒️บทสรุปของคนร้ายจะตายหรือไม่ ตอนที่เรื่องเฉลยโดยให้คนร้ายบอกเล่าความจริงในใจกับใครคนหนึ่งนั้น รู้สึกชอบวิธีเฉลยที่ผู้เขียนเลือกใช้ครับ รูปแบบเรียบง่ายแต่เข้ากับนิสัยของตัวละครตัวนี้ดี บ่งบอกตัวตนของคนคนนี้ได้ค่อนข้างชัดเจน คนอ่านหลายคนอาจไม่ชอบเหตุผลและแรงจูงใจของคนร้าย และไม่อาจทำใจให้เชื่อได้ แต่ผมคิดว่าพอจะเข้าใจนะ แต่ไม่ใช่เห็นด้วยกับสิ่งที่คนร้ายเลือกกระทำ คนเราเมื่อยึดติดในสิ่งใด สัตว์ใด คนใด ความเชื่อใดมากจนฝังแน่นไปถึงจิต ✒️ มันยากเหลือเกินที่จะลบล้างเอาเจ้าความคิดนั้นให้หลุดออกไปได้ ในแง่นี้ผมจึงคิดว่าเข้าใจและเห็นใจสงสารคนร้ายพอสมควร ส่วนประชาชนคนที่ตายไปมากมายนั้น หากพูดกันอย่างไม่อคติ จะไปโทษคนร้ายทั้งหมดก็ไม่ได้ แท้จริงเหล่าคนที่ตายไป จะมากน้อยเพราะเขาทำตัวเอง พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่อันตราย ทั้งที่ทางตำรวจก็แจ้งเตือน ห้ามปราม แต่ก็ไม่สนใจ รวมถึงพวกสื่อต่าง ๆ ที่เอาแต่อยากทำข่าวโดยไม่สนใจว่าสิ่งที่ทำนั้นจะส่งผลให้สถานการณ์แย่กว่าเดิมหรือเป็นอันตรายต่อสังคม ประชาชนและประเทศชาติหรือไม่ ผมว่าเล่มนี้สะท้อนมุมมองเรื่องเหล่านี้ได้ดี แต่เหนืออื่นใดคือฉากจบที่ตัวละครหนึ่งที่น่าสงสารและน่าเห็นใจมาก แต่กลับเป็นฝ่ายพูดและให้กำลังใจกับตัวละครอีกตัวที่บาดเจ็บทางใจอย่างร้ายแรงได้อย่างเข้าถึงจิตใจภายใน ราวกับคำพูดนั้นไปสัมผัสและลูบไล้ที่หัวใจด้วยความแผ่วเบาที่สุด ช่างอบอุ่นหัวใจดีเหลือเกิน หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่ประสบมา สำนวนแปลอ่านได้อย่างไม่รู้สึกสะดุด .......... อ่านจบ ไปลองค้นข้อมูลที่มีการสร้างเป็นหนังต่อ พอเห็นภาพโปสเตอร์ยิ่งอยากดูมาก เพราะมีนักแสดงคนโปรดเล่นด้วยนั่นคือ อิชิดะ ยูริโกะ และคนอื่น ๆ ก็ต่างเป็นนักแสดงคุณภาพทั้งนั้น สุดท้ายเจอที่มีคนทำซับบรรยายไทย จึงโหลดมาชม แต่ดูจบแล้วพบว่า ฉบับหนังสือดีกว่าพอสมควร คือหนังสร้างออกมาได้โอเคอยู่ นักแสดงก็ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองได้ดี แต่มันมีอยู่หลายช่วงที่รู้สึกว่าน่าจะเล่าได้ดีกว่านี้ อาจเพราะเวลาจำกัด รายละเอียดมากมายจึงใส่มาได้ไม่หมด จึงทำให้ลดความสนุกลงไปจากฉบับหนังสือเยอะเลย แต่ฉากสำคัญที่เกิดระเบิดกลางย่านชิบูย่าทำออกมาได้ดี ใครสนใจลองไปหาชมดูครับ สุดท้ายขอจบด้วยประโยคที่ตัวละครสองตัวในเรื่องเอ่ยไว้ได้อย่างน่าประทับใจ โดยระบุว่าเป็นคำกล่าวของนักเขียนนิยายที่มีชื่อว่า Stephen King "ผู้ชนะในการแข่งขันปาขี้คือคนที่มือเปื้อนน้อยที่สุด คนมีคุณภาพคือคนที่ไม่ทำให้มือตัวเองเปื้อนจากอะไรไร้สาระอย่างการขว้างปาเจตนาร้ายใส่คนอื่น" #หนังญี่ปุ่น #หนังน่าดู #หนังสือน่าอ่าน #บทความ #รีววิหนังสือ #thaitimes #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #ระเบิดกลางกรุง #โตเกียว #สงคราม #แง่คิด #ระทึกขวัญ #สืบสวน #ก่อการร้าย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1089 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ขอขอบคุณ อาจารย์ตฤณห์ ที่ช่วยใช้ศาสตร์อาชญาวิทยา สรุป 8 ข้อพิรุธจากคดีแตงโม ไว้ว่า
    1.บาดแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ
    2.ประวิงเวลาพบตำรวจ
    3.ข้ออ้างเรื่องแตงโมไปปัสสาวะ
    4. จีพีเอสเรือที่มีการเร่งกระชากเรือ 6 จุดตามจีพีเอส 5.มือถือแตงโมไปโผล่ที่ร้านซ่อมโทรศัพท์ตอนตี 1 ได้อย่างไร
    6.ผ่านไปสามปีกลับจำเหตุการณ์ได้ดีกว่าตอนเกิดเหตุใหม่ๆ
    7.ลักษณะการพูดและสายตาลอกแลกของแซน เหมือนผู้ติดยามานาน
    8.มีอะไรซ่อนเร้นปิดบังมากกว่าแค่ความประมาท
    #7ดอกจิก
    ♣ ขอขอบคุณ อาจารย์ตฤณห์ ที่ช่วยใช้ศาสตร์อาชญาวิทยา สรุป 8 ข้อพิรุธจากคดีแตงโม ไว้ว่า 1.บาดแผลไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ 2.ประวิงเวลาพบตำรวจ 3.ข้ออ้างเรื่องแตงโมไปปัสสาวะ 4. จีพีเอสเรือที่มีการเร่งกระชากเรือ 6 จุดตามจีพีเอส 5.มือถือแตงโมไปโผล่ที่ร้านซ่อมโทรศัพท์ตอนตี 1 ได้อย่างไร 6.ผ่านไปสามปีกลับจำเหตุการณ์ได้ดีกว่าตอนเกิดเหตุใหม่ๆ 7.ลักษณะการพูดและสายตาลอกแลกของแซน เหมือนผู้ติดยามานาน 8.มีอะไรซ่อนเร้นปิดบังมากกว่าแค่ความประมาท #7ดอกจิก
    Like
    Love
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • กฎแห่งกรรมเริ่มทำงาน กรรมจากทนายตุ๋ย และทนายถั่วดำ จะส่งอีลุงแซนไปโดนตุ๋ย โดนอัดถั่วดำ แน่นอล
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    กฎแห่งกรรมเริ่มทำงาน กรรมจากทนายตุ๋ย และทนายถั่วดำ จะส่งอีลุงแซนไปโดนตุ๋ย โดนอัดถั่วดำ แน่นอล #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดูจากรูปการณ์ ดีเอสไอได้ข้อมูลมากมายจากทุกฝ่ายที่ช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้แตงโม ทรงนี้มีคดีใหม่แน่ๆ คนบนเรือโดยเฉพาะไอ้ลุงแซน ต้องพึ่งยานอนหลับกันแล้ว
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    ดูจากรูปการณ์ ดีเอสไอได้ข้อมูลมากมายจากทุกฝ่ายที่ช่วยทวงคืนความยุติธรรมให้แตงโม ทรงนี้มีคดีใหม่แน่ๆ คนบนเรือโดยเฉพาะไอ้ลุงแซน ต้องพึ่งยานอนหลับกันแล้ว #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts