• อ่านเอาเรื่อง Ep.72: Three body problem

    ความในตอนนี้ก็ตอบสนองความสนใจส่วนตัวผมเองอีกละครับ พอดีว่าในเน็ทฟลิกซ์เขามีซีรี่ส์ชื่อเดียวกันนี้ คือ “Three body problem" แต่ตอนหลังผมถึงได้รู้มันมีความหมายทางวิทยาศาสตร์อยู่

    ผมจึงไปหาดูตามช่องยูทูบ 3-4 ช่องที่เขาได้อธิบายเรื่องนี้ไว้ ซึ่งคนที่อธิบายได้เข้าใจที่สุดก็คือ ”ด็อกเตอร์นีล เดอกราส ไทสัน“ นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์คนดังชาวอเมริกันครับ

    ผมจึงขอเรียบเรียงสิ่งที่ผมเข้าใจมาให้ได้ลองอ่านกันดังนี้ครับ
    .
    .
    .
    คำว่า "Three body problem" นี้ แปลเป็นไทยแล้วจะงงๆ เพราะคำว่า body ในที่นี้แต่ดั้งเดิมมาจาก “ดวงดาว” ครับ

    คนที่สนใจในเรื่องนี้เป็นคนแรก คือ เซอร์ไอแซค นิวตัน (คนที่ลูกแอปเปิ้ลตกใส่หัวนั่นละครับ) เขาสงสัยว่าเมื่อดาวดวงหนึ่งโคจรรอบดาวอีกดวงหนึ่ง มันจะมีผลหรือมีแรงดึงต่อกันอย่างไร

    เช่น ดวงจันทร์โคจรรอบโลก หรือ โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์

    อันนี้ถือว่าเป็น Two body problem เพราะเป็นเรื่องของดาวสองดวง และนิวตันก็แก้โจทย์ในเรื่องนี้ได้สำเร็จด้วยการคิดค้นกฎของการเคลื่อนที่และสมการแรงโน้มถ่วงออกมา

    เรียกว่าเป็นแคลคูลัสในยุคแรกๆ

    แต่นิวตันก็ยังสังเกตอีกว่า ในระหว่างที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์อยู่นั้น เมื่อใดก็ตามที่โลกบังเอิญโคจรไปอยู่ตรงกับตำแหน่งที่ใกล้ดาวพฤหัสที่สุดปุ๊บ…

    แรงดึงดูดอันมหาศาลของดาวพฤหัส ก็สามารถดึงโลกเราหลุดออกจากวงโคจรปกติได้แว้บหนึ่ง ก่อนที่จะกลับสู่วงโคจรปกติได้เมื่อโลกกับดาวพฤหัสเคลื่อนคลาดกันไป

    พอนิวตันแกเห็นดั่งนี้ แกก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับอยู่คนเดียวบนโลก เพราะแกคิดว่าวงโคจรในระบบสุริยะนั้นมันไม่แน่นอนเสียแล้ว วันใดวันหนึ่งดาวเคราะห์อะไรต่างๆมันคงหลุดจากวงโคจรแล้วชนกันวินาศสันตะโรไปหมด

    ในความกลุ้มใจนั้น แกก็ยังแปลกใจอยู่อีกว่า แล้วทำไมวงโคจรของดาวเคราะห์ทั้ง 9 ที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ยังคงเสถียรอยู่ได้อีกล่ะ ทั้งๆที่ดาวดวงโน้นดึงดวงนี้กันอยู่ทุกทิศทาง

    แกไม่รู้จะตอบตัวเองอย่างไร แกก็เลยยกให้ว่า “พระเจ้าคงจัดการแก้ไว้หมดแล้วแหละ” แล้วนิวตันก็ตายจากโลกนี้ไป ทิ้งความสงสัยไว้ให้คนรุ่นหลัง
    .
    .
    .
    ผ่านไปอีก 100 กว่าปี ก็มีนักคณิตศาสตร์คนหนึ่งชื่อ “ลาปลาซ - Laplace" (ใครที่เรียนวิศวะไฟฟ้าคงจะคุ้นชื่อแกดี เพราะแกเป็นคนคิดค้น Laplace transform) ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส เอาความสงสัยของนิวตันมาคิดต่อ

    และลาปลาซก็พัฒนาแคลคูลัสของนิวตัน จนกระทั่งแก้โจทย์ข้อนี้ได้สำเร็จเรียกว่า Perturbation Theory

    สรุปทฤษฎีนี้ได้สั้นๆว่า เมื่อโลกโคจรพ้นดาวพฤหัสไป แรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ก็จะแก้วงโคจรของโลก(และดาวเคราะห์ทั้งหลาย)ให้กลับสู่วงโคจรปกติได้เอง

    เมื่อลาปลาซอธิบายเรื่องนี้ได้ทางคณิตศาสตร์ ก็ทำให้เราสบายใจได้ว่าวงโคจรของระบบสุริยะจะยังเสถียรต่อไปอีกหลายหมื่นปี และทำให้นักดาราศาสตร์และนักคณิตศาสตร์สามารถคำนวณตำแหน่งดาวเคราะห์ทั้งหลายได้ล่วงหน้าได้เป็นร้อยๆพันๆปีว่าอะไรจะไปอยู่ตรงไหนเมื่อไร
    .
    .
    .
    ทีนี้ก็มาถึงโจทย์ Three body problem

    จากที่เราคุยกันไปตะกี้ว่า ลาปลาซเขาได้อธิบายแล้วว่าวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์จะยังคงเสถียรอยู่แม้จะโดนดาวพฤหัสดูดให้หลุดๆไปบ้างก็ตาม

    เหตุผลใหญ่ๆก็คือ โลกนั้นมีขนาดเล็กมากจนแรงดึงดูดเราสู้อะไรกับดวงอาทิตย์และดาวพฤหัสไม่ได้ ใครใหญ่กว่าเราก็ต้องโคจรรอบเขาไป

    เรื่องนี้แม้จะถือเป็น Three bodies (ดวงอาทิตย์ - โลก - ดาวพฤหัส) แต่ถือว่ามีข้อจำกัด (restricted) เพราะขนาดของดาวทั้งสามไม่เท่ากัน โลกเราเล็กกระจิ๋วเดียว

    หรือ เมื่อดาวหางโคจรมาใกล้โลกกับดวงอาทิตย์ อันนี้ก็ยังถือว่าเป็น Restricted Three Body Problem เพราะดาวหางนั้นเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับโลกและดวงอาทิตย์

    โจทย์ Three body problem ที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นเมื่อดาวทั้งสามดวงมีขนาดไล่เลี่ยกัน มีแรงดึงดูดใกล้เคียงกัน โคจรวนมาเจอกัน ซึ่งนักคณิตศาสตร์พบว่าจะเกิดความสับสนอลหม่านขึ้นทันที

    เพราะสมมติว่าถ้าหากดาว A ขยับไปทางซ้ายนิดเดียวทำให้ไปอยู่ใกล้ดาว B มากขึ้นหน่อยนึง หรือ ดาว C เคลื่อนออกไปนิดนึงก็ไม่มีใครสามารถคำนวณได้แล้วว่าการเดินทางของดาวทั้งสามดวงจะไปในทิศทางไหน

    เพราะแรงดึงดูดของดาวทั้งสามดวงมีความสัมพันธ์ต่อกัน จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับความใกล้ไกล เมื่อมีอะไรเปลี่ยนนิดเดียวก็จะกระทบทั้งสามดวงเลย

    เรียกว่าเป็นความโกลาหล หรือ Chaos ของแท้

    อันเป็นปัญหาที่แม้ว่าคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดบนโลกก็ไม่สามารถแก้โจทย์นี้ได้

    (บางคนอาจสงสัยว่า เฮ้ย…มันจะ “คำนวณ” ไม่ได้เลยเชียวรึ คำตอบคือ คำนวณได้ครับแต่จะ “คาดการณ์ - Predict" ไม่ได้ เพราะมันต้องคำนวณไปเรื่อยๆตลอดเวลาไม่มีที่สิ้นสุด เพราะตัวแปรเปลี่ยนตลอด)
    .
    .
    .
    คำว่า Three body problem นี้ถูกนำมาใช้ในการพูดถึงว่า “ความเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยก็จะสามารถส่งผลกระทบที่ใหญ่หลวงได้”

    หรือ ”สิ่งต่างๆที่มีขนาดใกล้เคียงกันล้วนสร้างผลกระทบต่อกัน“

    ในตอนกลางๆเรื่อง ดร.นีล เดอกราส ไทสัน แกได้พูดถึงว่าเราชาวโลกควรสบายใจได้ว่าระบบสุริยะของเรายังคงเสถียรอยู่ ส่วนเรื่องวงโคจรจะเปลี่ยนไปไหมนั้น คำตอบก็คือมันก็มีโอกาส แต่จะเป็นอนาคตในอีกไกลแสนไกลข้างหน้าโน้นน

    …เอามาเล่าสู่กันฟังครับ… ใครสนใจลองคลิกชมข้างล่างได้เลย ผมแถมคลิปอื่นที่ผมดูไว้ให้ด้วย

    https://youtu.be/6GfIDwwxfsM?si=_4_lFHPupSWAtCMU
    https://youtu.be/l2wnqlcOL9A?si=g_bOV4FOms7BblUb
    https://youtu.be/D89ngRr4uZg?si=oMReKBiPycFPerh7



    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.72: Three body problem ความในตอนนี้ก็ตอบสนองความสนใจส่วนตัวผมเองอีกละครับ พอดีว่าในเน็ทฟลิกซ์เขามีซีรี่ส์ชื่อเดียวกันนี้ คือ “Three body problem" แต่ตอนหลังผมถึงได้รู้มันมีความหมายทางวิทยาศาสตร์อยู่ ผมจึงไปหาดูตามช่องยูทูบ 3-4 ช่องที่เขาได้อธิบายเรื่องนี้ไว้ ซึ่งคนที่อธิบายได้เข้าใจที่สุดก็คือ ”ด็อกเตอร์นีล เดอกราส ไทสัน“ นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์คนดังชาวอเมริกันครับ ผมจึงขอเรียบเรียงสิ่งที่ผมเข้าใจมาให้ได้ลองอ่านกันดังนี้ครับ . . . คำว่า "Three body problem" นี้ แปลเป็นไทยแล้วจะงงๆ เพราะคำว่า body ในที่นี้แต่ดั้งเดิมมาจาก “ดวงดาว” ครับ คนที่สนใจในเรื่องนี้เป็นคนแรก คือ เซอร์ไอแซค นิวตัน (คนที่ลูกแอปเปิ้ลตกใส่หัวนั่นละครับ) เขาสงสัยว่าเมื่อดาวดวงหนึ่งโคจรรอบดาวอีกดวงหนึ่ง มันจะมีผลหรือมีแรงดึงต่อกันอย่างไร เช่น ดวงจันทร์โคจรรอบโลก หรือ โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ อันนี้ถือว่าเป็น Two body problem เพราะเป็นเรื่องของดาวสองดวง และนิวตันก็แก้โจทย์ในเรื่องนี้ได้สำเร็จด้วยการคิดค้นกฎของการเคลื่อนที่และสมการแรงโน้มถ่วงออกมา เรียกว่าเป็นแคลคูลัสในยุคแรกๆ แต่นิวตันก็ยังสังเกตอีกว่า ในระหว่างที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์อยู่นั้น เมื่อใดก็ตามที่โลกบังเอิญโคจรไปอยู่ตรงกับตำแหน่งที่ใกล้ดาวพฤหัสที่สุดปุ๊บ… แรงดึงดูดอันมหาศาลของดาวพฤหัส ก็สามารถดึงโลกเราหลุดออกจากวงโคจรปกติได้แว้บหนึ่ง ก่อนที่จะกลับสู่วงโคจรปกติได้เมื่อโลกกับดาวพฤหัสเคลื่อนคลาดกันไป พอนิวตันแกเห็นดั่งนี้ แกก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับอยู่คนเดียวบนโลก เพราะแกคิดว่าวงโคจรในระบบสุริยะนั้นมันไม่แน่นอนเสียแล้ว วันใดวันหนึ่งดาวเคราะห์อะไรต่างๆมันคงหลุดจากวงโคจรแล้วชนกันวินาศสันตะโรไปหมด ในความกลุ้มใจนั้น แกก็ยังแปลกใจอยู่อีกว่า แล้วทำไมวงโคจรของดาวเคราะห์ทั้ง 9 ที่หมุนรอบดวงอาทิตย์ยังคงเสถียรอยู่ได้อีกล่ะ ทั้งๆที่ดาวดวงโน้นดึงดวงนี้กันอยู่ทุกทิศทาง แกไม่รู้จะตอบตัวเองอย่างไร แกก็เลยยกให้ว่า “พระเจ้าคงจัดการแก้ไว้หมดแล้วแหละ” แล้วนิวตันก็ตายจากโลกนี้ไป ทิ้งความสงสัยไว้ให้คนรุ่นหลัง . . . ผ่านไปอีก 100 กว่าปี ก็มีนักคณิตศาสตร์คนหนึ่งชื่อ “ลาปลาซ - Laplace" (ใครที่เรียนวิศวะไฟฟ้าคงจะคุ้นชื่อแกดี เพราะแกเป็นคนคิดค้น Laplace transform) ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส เอาความสงสัยของนิวตันมาคิดต่อ และลาปลาซก็พัฒนาแคลคูลัสของนิวตัน จนกระทั่งแก้โจทย์ข้อนี้ได้สำเร็จเรียกว่า Perturbation Theory สรุปทฤษฎีนี้ได้สั้นๆว่า เมื่อโลกโคจรพ้นดาวพฤหัสไป แรงดึงดูดของดวงอาทิตย์ก็จะแก้วงโคจรของโลก(และดาวเคราะห์ทั้งหลาย)ให้กลับสู่วงโคจรปกติได้เอง เมื่อลาปลาซอธิบายเรื่องนี้ได้ทางคณิตศาสตร์ ก็ทำให้เราสบายใจได้ว่าวงโคจรของระบบสุริยะจะยังเสถียรต่อไปอีกหลายหมื่นปี และทำให้นักดาราศาสตร์และนักคณิตศาสตร์สามารถคำนวณตำแหน่งดาวเคราะห์ทั้งหลายได้ล่วงหน้าได้เป็นร้อยๆพันๆปีว่าอะไรจะไปอยู่ตรงไหนเมื่อไร . . . ทีนี้ก็มาถึงโจทย์ Three body problem จากที่เราคุยกันไปตะกี้ว่า ลาปลาซเขาได้อธิบายแล้วว่าวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์จะยังคงเสถียรอยู่แม้จะโดนดาวพฤหัสดูดให้หลุดๆไปบ้างก็ตาม เหตุผลใหญ่ๆก็คือ โลกนั้นมีขนาดเล็กมากจนแรงดึงดูดเราสู้อะไรกับดวงอาทิตย์และดาวพฤหัสไม่ได้ ใครใหญ่กว่าเราก็ต้องโคจรรอบเขาไป เรื่องนี้แม้จะถือเป็น Three bodies (ดวงอาทิตย์ - โลก - ดาวพฤหัส) แต่ถือว่ามีข้อจำกัด (restricted) เพราะขนาดของดาวทั้งสามไม่เท่ากัน โลกเราเล็กกระจิ๋วเดียว หรือ เมื่อดาวหางโคจรมาใกล้โลกกับดวงอาทิตย์ อันนี้ก็ยังถือว่าเป็น Restricted Three Body Problem เพราะดาวหางนั้นเล็กนิดเดียวเมื่อเทียบกับโลกและดวงอาทิตย์ โจทย์ Three body problem ที่แท้จริงนั้นเกิดขึ้นเมื่อดาวทั้งสามดวงมีขนาดไล่เลี่ยกัน มีแรงดึงดูดใกล้เคียงกัน โคจรวนมาเจอกัน ซึ่งนักคณิตศาสตร์พบว่าจะเกิดความสับสนอลหม่านขึ้นทันที เพราะสมมติว่าถ้าหากดาว A ขยับไปทางซ้ายนิดเดียวทำให้ไปอยู่ใกล้ดาว B มากขึ้นหน่อยนึง หรือ ดาว C เคลื่อนออกไปนิดนึงก็ไม่มีใครสามารถคำนวณได้แล้วว่าการเดินทางของดาวทั้งสามดวงจะไปในทิศทางไหน เพราะแรงดึงดูดของดาวทั้งสามดวงมีความสัมพันธ์ต่อกัน จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับความใกล้ไกล เมื่อมีอะไรเปลี่ยนนิดเดียวก็จะกระทบทั้งสามดวงเลย เรียกว่าเป็นความโกลาหล หรือ Chaos ของแท้ อันเป็นปัญหาที่แม้ว่าคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดบนโลกก็ไม่สามารถแก้โจทย์นี้ได้ (บางคนอาจสงสัยว่า เฮ้ย…มันจะ “คำนวณ” ไม่ได้เลยเชียวรึ คำตอบคือ คำนวณได้ครับแต่จะ “คาดการณ์ - Predict" ไม่ได้ เพราะมันต้องคำนวณไปเรื่อยๆตลอดเวลาไม่มีที่สิ้นสุด เพราะตัวแปรเปลี่ยนตลอด) . . . คำว่า Three body problem นี้ถูกนำมาใช้ในการพูดถึงว่า “ความเปลี่ยนแปลงแม้เพียงเล็กน้อยก็จะสามารถส่งผลกระทบที่ใหญ่หลวงได้” หรือ ”สิ่งต่างๆที่มีขนาดใกล้เคียงกันล้วนสร้างผลกระทบต่อกัน“ ในตอนกลางๆเรื่อง ดร.นีล เดอกราส ไทสัน แกได้พูดถึงว่าเราชาวโลกควรสบายใจได้ว่าระบบสุริยะของเรายังคงเสถียรอยู่ ส่วนเรื่องวงโคจรจะเปลี่ยนไปไหมนั้น คำตอบก็คือมันก็มีโอกาส แต่จะเป็นอนาคตในอีกไกลแสนไกลข้างหน้าโน้นน …เอามาเล่าสู่กันฟังครับ… ใครสนใจลองคลิกชมข้างล่างได้เลย ผมแถมคลิปอื่นที่ผมดูไว้ให้ด้วย https://youtu.be/6GfIDwwxfsM?si=_4_lFHPupSWAtCMU https://youtu.be/l2wnqlcOL9A?si=g_bOV4FOms7BblUb https://youtu.be/D89ngRr4uZg?si=oMReKBiPycFPerh7 นัทแนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • แน่หรือ?พระราม 2 สุริยะบอกเสร็จ มิ.ย.68

    สามโครงการ สองหน่วยงาน ที่ทำถนนพระรามที่ 2 ประตูสู่ภาคใต้ เกิดการจราจรติดขัดเวลานี้ คือ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โครงการก่อสร้างทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว รวมระยะทางประมาณ 46 กิโลเมตร เรียกเสียงบ่นแก่ผู้มช้รถใช้ถนน สมญานามถนนเจ็ดชั่วโคตร

    มาคราวนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ระบุว่า ภายใน 11 เดือนข้างหน้า ทั้งสามโครงการจะต้องแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในเดือน มิ.ย. 2568 พร้อมสั่งการให้ทั้งสองหน่วยงานติดตามงานอย่างใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าทุกเดือน ซึ่งจากรายงานในช่วงที่ผ่านมา พบว่าทุกอย่างมีความพร้อมทั้งหมด รวมทั้งก่อนหน้านี้ทั้งสองหน่วยงานได้ไปดูกระบวนการตั้งแต่การหล่อคานที่โรงงานว่าทำได้กี่ตัว แล้วเสร็จทันไหม ดังนั้น อีก 11 เดือนที่เหลือ เชื่อว่าจะแล้วเสร็จได้ทันทั้งหมด

    สำหรับภาพรวมการก่อสร้าง พบว่าโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฯ ตะวันตก คืบหน้า 80.92% โดยสะพานทศมราชัน หรือสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2567 ส่วนโครงการก่อสร้างทางยกระดับฯ ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย คืบหน้าเฉลี่ย 95.42% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2567 โดยจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการชั่วคราว ระหว่างด่านพันท้ายนรสิงห์ ถึงด่านมหาชัย ระยะทาง 4 กิโลเมตร ภายในปลายปีนี้

    ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว แบ่งออกเป็น 10 ตอน คืบหน้าเฉลี่ย 57.50% โดยพบว่าคืบหน้ามากที่สุดตอนที่ 9 คืบหน้า 82.885% น้อยที่สุดตอนที่ 7 คืบหน้า 35.851% แต่ระยะเวลาแล้วเสร็จส่วนใหญ่ มิ.ย. 2568

    ถนนพระรามที่ 2 ประสบปัญหาการจราจรติดขัด เกี่ยวพันมาแล้ว 3 รัฐบาล นับตั้งแต่ปี 2561 ที่มีโครงการปรับปรุงถนนพระรามที่ 2 ช่วงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย กระทั่งมีการก่อสร้างทางยกระดับพระรามที่ 2 รวม 3 โครงการ และโครงการทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างบนถนนสายนี้ยังไม่หมดไป เพราะยังมีโครงการขยายถนนออกเป็น 14 ช่องจราจร ช่วงแยกบ้านแพ้วถึงนาโคก ระยะทาง 14.5 กิโลเมตร อยู่ระหว่างจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบ

    #Newskit #พระราม2 #Motorway82
    แน่หรือ?พระราม 2 สุริยะบอกเสร็จ มิ.ย.68 สามโครงการ สองหน่วยงาน ที่ทำถนนพระรามที่ 2 ประตูสู่ภาคใต้ เกิดการจราจรติดขัดเวลานี้ คือ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โครงการก่อสร้างทางยกระดับทางหลวงหมายเลข 35 ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว รวมระยะทางประมาณ 46 กิโลเมตร เรียกเสียงบ่นแก่ผู้มช้รถใช้ถนน สมญานามถนนเจ็ดชั่วโคตร มาคราวนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ระบุว่า ภายใน 11 เดือนข้างหน้า ทั้งสามโครงการจะต้องแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในเดือน มิ.ย. 2568 พร้อมสั่งการให้ทั้งสองหน่วยงานติดตามงานอย่างใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าทุกเดือน ซึ่งจากรายงานในช่วงที่ผ่านมา พบว่าทุกอย่างมีความพร้อมทั้งหมด รวมทั้งก่อนหน้านี้ทั้งสองหน่วยงานได้ไปดูกระบวนการตั้งแต่การหล่อคานที่โรงงานว่าทำได้กี่ตัว แล้วเสร็จทันไหม ดังนั้น อีก 11 เดือนที่เหลือ เชื่อว่าจะแล้วเสร็จได้ทันทั้งหมด สำหรับภาพรวมการก่อสร้าง พบว่าโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกฯ ตะวันตก คืบหน้า 80.92% โดยสะพานทศมราชัน หรือสะพานคู่ขนานสะพานพระราม 9 คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในช่วงปลายปี 2567 ส่วนโครงการก่อสร้างทางยกระดับฯ ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย คืบหน้าเฉลี่ย 95.42% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ย. 2567 โดยจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการชั่วคราว ระหว่างด่านพันท้ายนรสิงห์ ถึงด่านมหาชัย ระยะทาง 4 กิโลเมตร ภายในปลายปีนี้ ส่วนโครงการมอเตอร์เวย์หมายเลข 82 ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว แบ่งออกเป็น 10 ตอน คืบหน้าเฉลี่ย 57.50% โดยพบว่าคืบหน้ามากที่สุดตอนที่ 9 คืบหน้า 82.885% น้อยที่สุดตอนที่ 7 คืบหน้า 35.851% แต่ระยะเวลาแล้วเสร็จส่วนใหญ่ มิ.ย. 2568 ถนนพระรามที่ 2 ประสบปัญหาการจราจรติดขัด เกี่ยวพันมาแล้ว 3 รัฐบาล นับตั้งแต่ปี 2561 ที่มีโครงการปรับปรุงถนนพระรามที่ 2 ช่วงทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เอกชัย กระทั่งมีการก่อสร้างทางยกระดับพระรามที่ 2 รวม 3 โครงการ และโครงการทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างบนถนนสายนี้ยังไม่หมดไป เพราะยังมีโครงการขยายถนนออกเป็น 14 ช่องจราจร ช่วงแยกบ้านแพ้วถึงนาโคก ระยะทาง 14.5 กิโลเมตร อยู่ระหว่างจ้างวิศวกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบ #Newskit #พระราม2 #Motorway82
    Like
    Haha
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ สุริยะ อวยไส้แตก ชื่นชมอุ๊งอิ๊งเสียสละเวลาดูแลลูกน้อย และยังสาว แข็งแรง มีกำลังทุ่มเท
    #7ดอกจิก
    #สุริยะ
    #อุ๊งอิ๊ง
    ♣ สุริยะ อวยไส้แตก ชื่นชมอุ๊งอิ๊งเสียสละเวลาดูแลลูกน้อย และยังสาว แข็งแรง มีกำลังทุ่มเท #7ดอกจิก #สุริยะ #อุ๊งอิ๊ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • พายุสุริยะลูกนี้จะกระทบโลกวันที่ ๑๘ เช้าบ้านเรา แต่ไม่น่าจะเกิดภัยใหญ่ นอกจากแผ่นดินไหวเบาๆ และ พายุฝนครับ
    พายุสุริยะลูกนี้จะกระทบโลกวันที่ ๑๘ เช้าบ้านเรา แต่ไม่น่าจะเกิดภัยใหญ่ นอกจากแผ่นดินไหวเบาๆ และ พายุฝนครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • รฟม. แฉซ้ำรมช.คมนาคม สุรพงศ์ ร่างทรง BTS ปกป้องรถไฟฟ้าคีรีเกินเหตุ ไม่ลงโทษหลังสะเพร่าซ้ำซาก ล่าสุดเปิดประตูทั้งขบวนระหว่างทาง ฟ้องเจ้ากระทรวง จนสุริยะสั่งลงดาบขั้นสูงสุดกับ BTS
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #รถไฟฟ้า
    #รถไฟฟ้าประตูเปิดระหว่างทาง
    รฟม. แฉซ้ำรมช.คมนาคม สุรพงศ์ ร่างทรง BTS ปกป้องรถไฟฟ้าคีรีเกินเหตุ ไม่ลงโทษหลังสะเพร่าซ้ำซาก ล่าสุดเปิดประตูทั้งขบวนระหว่างทาง ฟ้องเจ้ากระทรวง จนสุริยะสั่งลงดาบขั้นสูงสุดกับ BTS #คิงส์โพธิ์แดง #รถไฟฟ้า #รถไฟฟ้าประตูเปิดระหว่างทาง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุริยะสุดทน หลังสุรพงศ์ รมช.คมนาคม ปกป้อง BTS ด้วยชีวิตผู้โดยสาร ไม่ลงโทษเหตุประตูเปิดกลางทาง สุริยะจึงสั่งให้ รฟม.ฟันโทษสูงสุด
    #7ดอกจิก
    #สุริยะ
    #สุรพงศ์
    #รถไฟฟ้าสายสีชมพู
    ♣️ สุริยะสุดทน หลังสุรพงศ์ รมช.คมนาคม ปกป้อง BTS ด้วยชีวิตผู้โดยสาร ไม่ลงโทษเหตุประตูเปิดกลางทาง สุริยะจึงสั่งให้ รฟม.ฟันโทษสูงสุด #7ดอกจิก #สุริยะ #สุรพงศ์ #รถไฟฟ้าสายสีชมพู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ สุริยะ-เพื่อไทย เมิน EEC เพราะหมดช่องทางดีลเงินทอน ปล่อยเฉาตายไปเอง แล้วหันไปเร่ง SEC เพื่อแลกสิ่งตอบแทนจากนายทุนหน้าใหม่
    #7ดอกจิก
    #สุริยะ
    ♣ สุริยะ-เพื่อไทย เมิน EEC เพราะหมดช่องทางดีลเงินทอน ปล่อยเฉาตายไปเอง แล้วหันไปเร่ง SEC เพื่อแลกสิ่งตอบแทนจากนายทุนหน้าใหม่ #7ดอกจิก #สุริยะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : สุริยะ ถูกตรวจคุณสมบัติ ผลเป็นไปตามคาด
    แต่โลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ต้องติดตาม
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิลิ้มทองกุล #สุริยะ #ตามคาด #ต้องติดตาม
    Newsstory : สุริยะ ถูกตรวจคุณสมบัติ ผลเป็นไปตามคาด แต่โลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ต้องติดตาม #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิลิ้มทองกุล #สุริยะ #ตามคาด #ต้องติดตาม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 9 0 รีวิว