• กองทัพไทย เปิดรูปแบบใหม่ "รั้วชายแดนคอนกรีตสำเร็จรูป" เสริมความมั่นคง-ป้องกันลักลอบข้ามแดนไทย-กัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/21940/
    .
    #ไทยไท #รั้วชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ความมั่นคง #รั้วตะแกรงเหล็ก #AntiClimbDevice
    กองทัพไทย เปิดรูปแบบใหม่ "รั้วชายแดนคอนกรีตสำเร็จรูป" เสริมความมั่นคง-ป้องกันลักลอบข้ามแดนไทย-กัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/21940/ . #ไทยไท #รั้วชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ความมั่นคง #รั้วตะแกรงเหล็ก #AntiClimbDevice
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • “DDR5 ทะลุ 13,000 MT/s ครั้งแรก!” — Corsair Vengeance และ GIGABYTE Z890 สร้างสถิติใหม่ในโลกการโอเวอร์คล็อก

    ในโลกของการโอเวอร์คล็อก หนึ่งในเป้าหมายที่นักเล่นระดับสูงไล่ล่ามานานคือการทำให้ DDR5 ทะลุความเร็ว 13,000 MT/s และล่าสุดก็มีคนทำสำเร็จแล้ว! นักโอเวอร์คล็อกชาวเยอรมันชื่อ “sergmann” ได้สร้างสถิติใหม่ด้วย Corsair Vengeance DDR5 บนเมนบอร์ด GIGABYTE Z890 Aorus Tachyon ICE โดยจับคู่กับซีพียู Intel Core Ultra 9 285K และใช้ไนโตรเจนเหลวในการระบายความร้อน

    ก่อนหน้านี้ “saltycroissant” เคยทำสถิติไว้ที่ 12,920 MT/s และเกือบจะทะลุ 13,000 MT/s แต่ sergmann แซงหน้าไปด้วยความเร็ว 13,010 MT/s ซึ่งได้รับการยืนยันจาก HWBot และ CPU-Z

    แม้ความเร็วจะสูงมาก แต่ latency ก็สูงเช่นกัน (CL68-127-127-127-2) ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป แต่ถือเป็นชัยชนะเชิงเทคนิคที่แสดงถึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ยุคใหม่ โดยเฉพาะเมนบอร์ด Z890 และหน่วยความจำ DDR5 รุ่นล่าสุด

    ข้อมูลในข่าว
    DDR5 ถูกโอเวอร์คล็อกทะลุ 13,000 MT/s เป็นครั้งแรก
    นักโอเวอร์คล็อก “sergmann” ใช้ Corsair Vengeance DDR5 และ GIGABYTE Z890 Aorus Tachyon ICE
    ซีพียูที่ใช้คือ Intel Core Ultra 9 285K
    ใช้ไนโตรเจนเหลวในการระบายความร้อน
    ความเร็วที่ทำได้คือ 13,010 MT/s (6504 MHz)
    ได้รับการยืนยันจาก HWBot และ CPU-Z
    ค่า latency อยู่ที่ CL68-127-127-127-2
    IMC to Memory Clock ratio อยู่ที่ 3:190
    ความเร็วระดับนี้ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป แต่เป็นการโชว์ศักยภาพ
    เมนบอร์ด Z890 และซีพียู Ultra 200S มี memory controller ที่รองรับความเร็วสูง
    Corsair, Gigabyte, Seasonic และ ThermalGrizzly มีส่วนสนับสนุนการทดสอบ

    https://wccftech.com/ddr5-memory-officially-pushed-over-13000-mt-s-for-the-first-time/
    🚀 “DDR5 ทะลุ 13,000 MT/s ครั้งแรก!” — Corsair Vengeance และ GIGABYTE Z890 สร้างสถิติใหม่ในโลกการโอเวอร์คล็อก ในโลกของการโอเวอร์คล็อก หนึ่งในเป้าหมายที่นักเล่นระดับสูงไล่ล่ามานานคือการทำให้ DDR5 ทะลุความเร็ว 13,000 MT/s และล่าสุดก็มีคนทำสำเร็จแล้ว! นักโอเวอร์คล็อกชาวเยอรมันชื่อ “sergmann” ได้สร้างสถิติใหม่ด้วย Corsair Vengeance DDR5 บนเมนบอร์ด GIGABYTE Z890 Aorus Tachyon ICE โดยจับคู่กับซีพียู Intel Core Ultra 9 285K และใช้ไนโตรเจนเหลวในการระบายความร้อน ก่อนหน้านี้ “saltycroissant” เคยทำสถิติไว้ที่ 12,920 MT/s และเกือบจะทะลุ 13,000 MT/s แต่ sergmann แซงหน้าไปด้วยความเร็ว 13,010 MT/s ซึ่งได้รับการยืนยันจาก HWBot และ CPU-Z แม้ความเร็วจะสูงมาก แต่ latency ก็สูงเช่นกัน (CL68-127-127-127-2) ทำให้ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป แต่ถือเป็นชัยชนะเชิงเทคนิคที่แสดงถึงศักยภาพของฮาร์ดแวร์ยุคใหม่ โดยเฉพาะเมนบอร์ด Z890 และหน่วยความจำ DDR5 รุ่นล่าสุด ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ DDR5 ถูกโอเวอร์คล็อกทะลุ 13,000 MT/s เป็นครั้งแรก ➡️ นักโอเวอร์คล็อก “sergmann” ใช้ Corsair Vengeance DDR5 และ GIGABYTE Z890 Aorus Tachyon ICE ➡️ ซีพียูที่ใช้คือ Intel Core Ultra 9 285K ➡️ ใช้ไนโตรเจนเหลวในการระบายความร้อน ➡️ ความเร็วที่ทำได้คือ 13,010 MT/s (6504 MHz) ➡️ ได้รับการยืนยันจาก HWBot และ CPU-Z ➡️ ค่า latency อยู่ที่ CL68-127-127-127-2 ➡️ IMC to Memory Clock ratio อยู่ที่ 3:190 ➡️ ความเร็วระดับนี้ไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป แต่เป็นการโชว์ศักยภาพ ➡️ เมนบอร์ด Z890 และซีพียู Ultra 200S มี memory controller ที่รองรับความเร็วสูง ➡️ Corsair, Gigabyte, Seasonic และ ThermalGrizzly มีส่วนสนับสนุนการทดสอบ https://wccftech.com/ddr5-memory-officially-pushed-over-13000-mt-s-for-the-first-time/
    WCCFTECH.COM
    It's Official: DDR5 Speed Pushed Over 13000 MT/s For The First Time With Corsair Vengeance Memory
    For the first time ever, an overclocker has broke the 13010 MT/s barrier on DDR5 memory, making a new world record.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ช่องโหว่ CVE-2025-11492 บน ConnectWise Automate” — เสี่ยงถูกโจมตีแบบ Man-in-the-Middle หากใช้ HTTP แทน HTTPS

    ConnectWise ได้ออกแพตช์ฉุกเฉินสำหรับช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-11492 ซึ่งมีคะแนน CVSS สูงถึง 9.6 โดยช่องโหว่นี้เกิดจากการตั้งค่าที่อนุญาตให้ Agent ของระบบ Automate ใช้การสื่อสารผ่าน HTTP แทน HTTPS ซึ่งเปิดช่องให้ผู้โจมตีที่อยู่ในตำแหน่งเครือข่ายแบบ Man-in-the-Middle (MitM) สามารถดักฟัง แก้ไข หรือส่งคำสั่งปลอมไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้

    ช่องโหว่นี้มีผลกระทบสูงมาก เพราะ ConnectWise Automate เป็นระบบ RMM (Remote Monitoring and Management) ที่มีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบในเครื่องลูกข่ายจำนวนมาก หากถูกโจมตีสำเร็จ อาจนำไปสู่การติดตั้งมัลแวร์หรือการควบคุมระบบจากระยะไกล

    แพตช์เวอร์ชัน 2025.9 ได้แก้ไขโดยบังคับให้ Agent ทุกตัวใช้ HTTPS เท่านั้น และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ติดตั้งแบบ on-premise เปิดใช้ TLS 1.2 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร

    นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ CVE-2025-11493 (CVSS 8.8) ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบไฟล์อัปเดตไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีแทรกไฟล์ปลอมระหว่างการอัปเดต Agent ได้ โดยช่องโหว่นี้จะถูกปิดเมื่อมีการบังคับใช้ HTTPS เช่นกัน

    ข้อมูลในข่าว
    ช่องโหว่ CVE-2025-11492 มีคะแนน CVSS 9.6 เกิดจากการใช้ HTTP แทน HTTPS
    เสี่ยงถูกโจมตีแบบ Man-in-the-Middle หากอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน
    ConnectWise Automate เป็นระบบ RMM ที่มีสิทธิ์ระดับสูงในเครื่องลูกข่าย
    แพตช์เวอร์ชัน 2025.9 บังคับใช้ HTTPS สำหรับ Agent ทุกตัว
    แนะนำให้เปิดใช้ TLS 1.2 สำหรับเซิร์ฟเวอร์แบบ on-premise
    ช่องโหว่ CVE-2025-11493 เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบไฟล์อัปเดตไม่เพียงพอ
    การบังคับใช้ HTTPS ช่วยปิดช่องโหว่ทั้งสองตัว
    ระบบ cloud-hosted ของ ConnectWise ได้รับการอัปเดตแล้ว
    ผู้ใช้แบบ on-premise ต้องอัปเดตด้วยตนเองเพื่อป้องกันความเสี่ยง

    https://securityonline.info/critical-connectwise-automate-flaw-cve-2025-11492-cvss-9-6-allows-rmm-agent-man-in-the-middle-attack/
    🔐 “ช่องโหว่ CVE-2025-11492 บน ConnectWise Automate” — เสี่ยงถูกโจมตีแบบ Man-in-the-Middle หากใช้ HTTP แทน HTTPS ConnectWise ได้ออกแพตช์ฉุกเฉินสำหรับช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-11492 ซึ่งมีคะแนน CVSS สูงถึง 9.6 โดยช่องโหว่นี้เกิดจากการตั้งค่าที่อนุญาตให้ Agent ของระบบ Automate ใช้การสื่อสารผ่าน HTTP แทน HTTPS ซึ่งเปิดช่องให้ผู้โจมตีที่อยู่ในตำแหน่งเครือข่ายแบบ Man-in-the-Middle (MitM) สามารถดักฟัง แก้ไข หรือส่งคำสั่งปลอมไปยังเซิร์ฟเวอร์ได้ ช่องโหว่นี้มีผลกระทบสูงมาก เพราะ ConnectWise Automate เป็นระบบ RMM (Remote Monitoring and Management) ที่มีสิทธิ์เข้าถึงระดับผู้ดูแลระบบในเครื่องลูกข่ายจำนวนมาก หากถูกโจมตีสำเร็จ อาจนำไปสู่การติดตั้งมัลแวร์หรือการควบคุมระบบจากระยะไกล แพตช์เวอร์ชัน 2025.9 ได้แก้ไขโดยบังคับให้ Agent ทุกตัวใช้ HTTPS เท่านั้น และแนะนำให้ผู้ใช้ที่ติดตั้งแบบ on-premise เปิดใช้ TLS 1.2 เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสาร นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่ CVE-2025-11493 (CVSS 8.8) ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบไฟล์อัปเดตไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีแทรกไฟล์ปลอมระหว่างการอัปเดต Agent ได้ โดยช่องโหว่นี้จะถูกปิดเมื่อมีการบังคับใช้ HTTPS เช่นกัน ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-11492 มีคะแนน CVSS 9.6 เกิดจากการใช้ HTTP แทน HTTPS ➡️ เสี่ยงถูกโจมตีแบบ Man-in-the-Middle หากอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน ➡️ ConnectWise Automate เป็นระบบ RMM ที่มีสิทธิ์ระดับสูงในเครื่องลูกข่าย ➡️ แพตช์เวอร์ชัน 2025.9 บังคับใช้ HTTPS สำหรับ Agent ทุกตัว ➡️ แนะนำให้เปิดใช้ TLS 1.2 สำหรับเซิร์ฟเวอร์แบบ on-premise ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-11493 เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบไฟล์อัปเดตไม่เพียงพอ ➡️ การบังคับใช้ HTTPS ช่วยปิดช่องโหว่ทั้งสองตัว ➡️ ระบบ cloud-hosted ของ ConnectWise ได้รับการอัปเดตแล้ว ➡️ ผู้ใช้แบบ on-premise ต้องอัปเดตด้วยตนเองเพื่อป้องกันความเสี่ยง https://securityonline.info/critical-connectwise-automate-flaw-cve-2025-11492-cvss-9-6-allows-rmm-agent-man-in-the-middle-attack/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical ConnectWise Automate Flaw (CVE-2025-11492, CVSS 9.6) Allows RMM Agent Man-in-the-Middle Attack
    ConnectWise patched two high-severity flaws in Automate RMM. CVE-2025-11492 (CVSS 9.6) allows MiTM attack to intercept unencrypted agent communications and inject malicious updates. Update to 2025.9.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Operation Zero Disco” — ช่องโหว่ SNMP ของ Cisco ถูกใช้ฝัง rootkit บนสวิตช์ Linux

    นักวิจัยจาก Trend Research เปิดเผยแคมเปญการโจมตีไซเบอร์ขั้นสูงชื่อ “Operation Zero Disco” ซึ่งใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20352 ในบริการ SNMP ของ Cisco เพื่อฝัง rootkit บนสวิตช์ที่ใช้ Linux โดยเฉพาะรุ่น 9400, 9300 และ 3750G ที่ไม่มีระบบป้องกันแบบ EDR

    เมื่อโจมตีสำเร็จ ผู้ไม่หวังดีสามารถ:

    เข้าถึงระบบจากระยะไกล (RCE)
    ตั้งรหัสผ่าน universal ที่มีคำว่า “disco”
    ฝัง hook เข้าไปในหน่วยความจำ IOSd เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    รับคำสั่งลับผ่าน UDP แม้พอร์ตจะปิดอยู่
    ซ่อนบัญชีผู้ใช้, ACL และสคริปต์ EEM จาก config
    ลบหรือแก้ไข log เพื่อปกปิดร่องรอยการโจมตี
    ข้ามข้อจำกัด VTY access สำหรับ Telnet และ SSH

    แฮกเกอร์เริ่มจากการใช้ community string “public” ของ SNMP เพื่อเข้าถึง core switch จากนั้นปลอมตัวเป็นอุปกรณ์ภายในที่เชื่อถือได้เพื่อข้าม firewall และใช้ ARP spoofing เพื่อควบคุมการสื่อสารในเครือข่าย

    นอกจากนี้ยังพบว่ามีการใช้ช่องโหว่ Telnet เก่า CVE-2017-3881 ที่ถูกดัดแปลงให้สามารถอ่าน/เขียนหน่วยความจำโดยตรง

    Cisco ได้ออกคำแนะนำด้านความปลอดภัยให้:
    ปิด SNMP หากไม่จำเป็น
    เปลี่ยน community string จากค่าเริ่มต้น
    อัปเดต firmware ทันที

    จุดเด่นจากรายงาน
    ช่องโหว่ CVE-2025-20352 ถูกใช้โจมตีสวิตช์ Cisco รุ่นเก่า
    rootkit ฝังตัวลึกใน IOSd memory และหลบเลี่ยงการตรวจจับ
    รับคำสั่งผ่าน UDP โดยไม่ต้องเปิดพอร์ต
    ซ่อน config และ log เพื่อปิดบังการบุกรุก
    ใช้ ARP spoofing เพื่อควบคุมการสื่อสารระหว่าง VLAN
    ใช้ช่องโหว่ Telnet เก่าที่ถูกดัดแปลงเพื่อควบคุมหน่วยความจำ
    Cisco แนะนำให้ปิด SNMP และอัปเดตระบบทันที


    https://securityonline.info/operation-zero-disco-critical-cisco-snmp-flaw-cve-2025-20352-used-to-implant-linux-rootkits-on-switches/
    🕵️‍♂️ “Operation Zero Disco” — ช่องโหว่ SNMP ของ Cisco ถูกใช้ฝัง rootkit บนสวิตช์ Linux นักวิจัยจาก Trend Research เปิดเผยแคมเปญการโจมตีไซเบอร์ขั้นสูงชื่อ “Operation Zero Disco” ซึ่งใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20352 ในบริการ SNMP ของ Cisco เพื่อฝัง rootkit บนสวิตช์ที่ใช้ Linux โดยเฉพาะรุ่น 9400, 9300 และ 3750G ที่ไม่มีระบบป้องกันแบบ EDR เมื่อโจมตีสำเร็จ ผู้ไม่หวังดีสามารถ: 🪲 เข้าถึงระบบจากระยะไกล (RCE) 🪲 ตั้งรหัสผ่าน universal ที่มีคำว่า “disco” 🪲 ฝัง hook เข้าไปในหน่วยความจำ IOSd เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ 🪲 รับคำสั่งลับผ่าน UDP แม้พอร์ตจะปิดอยู่ 🪲 ซ่อนบัญชีผู้ใช้, ACL และสคริปต์ EEM จาก config 🪲 ลบหรือแก้ไข log เพื่อปกปิดร่องรอยการโจมตี 🪲 ข้ามข้อจำกัด VTY access สำหรับ Telnet และ SSH แฮกเกอร์เริ่มจากการใช้ community string “public” ของ SNMP เพื่อเข้าถึง core switch จากนั้นปลอมตัวเป็นอุปกรณ์ภายในที่เชื่อถือได้เพื่อข้าม firewall และใช้ ARP spoofing เพื่อควบคุมการสื่อสารในเครือข่าย นอกจากนี้ยังพบว่ามีการใช้ช่องโหว่ Telnet เก่า CVE-2017-3881 ที่ถูกดัดแปลงให้สามารถอ่าน/เขียนหน่วยความจำโดยตรง Cisco ได้ออกคำแนะนำด้านความปลอดภัยให้: 🚑 ปิด SNMP หากไม่จำเป็น 🚑 เปลี่ยน community string จากค่าเริ่มต้น 🚑 อัปเดต firmware ทันที ✅ จุดเด่นจากรายงาน ➡️ ช่องโหว่ CVE-2025-20352 ถูกใช้โจมตีสวิตช์ Cisco รุ่นเก่า ➡️ rootkit ฝังตัวลึกใน IOSd memory และหลบเลี่ยงการตรวจจับ ➡️ รับคำสั่งผ่าน UDP โดยไม่ต้องเปิดพอร์ต ➡️ ซ่อน config และ log เพื่อปิดบังการบุกรุก ➡️ ใช้ ARP spoofing เพื่อควบคุมการสื่อสารระหว่าง VLAN ➡️ ใช้ช่องโหว่ Telnet เก่าที่ถูกดัดแปลงเพื่อควบคุมหน่วยความจำ ➡️ Cisco แนะนำให้ปิด SNMP และอัปเดตระบบทันที https://securityonline.info/operation-zero-disco-critical-cisco-snmp-flaw-cve-2025-20352-used-to-implant-linux-rootkits-on-switches/
    SECURITYONLINE.INFO
    Operation Zero Disco: Critical Cisco SNMP Flaw (CVE-2025-20352) Used to Implant Linux Rootkits on Switches
    "Operation Zero Disco" exploits a critical Cisco SNMP flaw (CVE-2025-20352) to deploy Linux rootkits on switches. The malware sets a universal "disco" password and hides configuration to maintain persistence.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ จ.ยะลา ปี2539
    เหรียญหลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ จ.ยะลา ปี2539 // พระดีพิธีใหญ่ พระประสบการณ์สูง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบทุกด้าน บนได้ ไหว์รับ ทำมาค้าขายดีมากกก เมตตามหานิยม สุด สุด ขอโชคลาภ แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาอุด สุดยอดนิรันตราย ทางด้านค้าขาย เรียกเงินทองร่ำรวย โภคทรัพย์ ส่งเสริมด้านการเงิน สร้างทรัพย์ รักษาทรัพย์ สั่งสมทรัพย์ มีคนไปใช้ประสพความสำเร็จในหน้าทีการงานมากมาย >>

    ** หลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ พระเกจิชื่อดังจังหวัดยะลา หลวงปู่ท่านเป็นพระสายปฎิบัติท่านหนึ่งที่เคร่งด้านพระวินัย วิปัสนากรรมฐาน วัตถุมงคลของท่าน เป็นของรักของหวง ของลูกศิษย์ และ คนในพิ้นที่มาก มีพุทธคุณสูง หลังการมรณภาพ สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย จนกระทั่งมีลูกศิษย์ ลูกหาในสามจังหวัดใต้ มาเลเชีย สิงคโปร์ มากมาย >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ จ.ยะลา ปี2539 เหรียญหลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ จ.ยะลา ปี2539 // พระดีพิธีใหญ่ พระประสบการณ์สูง ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบทุกด้าน บนได้ ไหว์รับ ทำมาค้าขายดีมากกก เมตตามหานิยม สุด สุด ขอโชคลาภ แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาอุด สุดยอดนิรันตราย ทางด้านค้าขาย เรียกเงินทองร่ำรวย โภคทรัพย์ ส่งเสริมด้านการเงิน สร้างทรัพย์ รักษาทรัพย์ สั่งสมทรัพย์ มีคนไปใช้ประสพความสำเร็จในหน้าทีการงานมากมาย >> ** หลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ พระเกจิชื่อดังจังหวัดยะลา หลวงปู่ท่านเป็นพระสายปฎิบัติท่านหนึ่งที่เคร่งด้านพระวินัย วิปัสนากรรมฐาน วัตถุมงคลของท่าน เป็นของรักของหวง ของลูกศิษย์ และ คนในพิ้นที่มาก มีพุทธคุณสูง หลังการมรณภาพ สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย จนกระทั่งมีลูกศิษย์ ลูกหาในสามจังหวัดใต้ มาเลเชีย สิงคโปร์ มากมาย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระศรีศากยมุนีพุทธโคดม หลวงพ่อทวด รุ่น กอ.รมน. ภาค4 สน ครบรอบ 10 ปี ปี2559
    เหรียญพระศรีศากยมุนีพุทธโคดม หลวงพ่อทวด เนื้อกะไหล่ทอง รุ่น กอ.รมน. ภาค4 สน ครบรอบ 10 ปี ปี2559 // พระดีพิธีใหญ่ เหรียญรุ่นนี้ จัดสร้างเพื่อแจกทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ในสังกัด กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเสริมดวงชะตาให้ร่มเย็นเป็นสุข เป่าโรคภัย ผู้ที่บูชาไม่เจ็บป่วย และคุ้มครองรักษา เจริญรุ่งเรืองในชีวิต และความเป็นสิริมงคล ส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระศรีศากยมุนีพุทธโคดม หลวงพ่อทวด รุ่น กอ.รมน. ภาค4 สน ครบรอบ 10 ปี ปี2559 เหรียญพระศรีศากยมุนีพุทธโคดม หลวงพ่อทวด เนื้อกะไหล่ทอง รุ่น กอ.รมน. ภาค4 สน ครบรอบ 10 ปี ปี2559 // พระดีพิธีใหญ่ เหรียญรุ่นนี้ จัดสร้างเพื่อแจกทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ในสังกัด กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเสริมดวงชะตาให้ร่มเย็นเป็นสุข เป่าโรคภัย ผู้ที่บูชาไม่เจ็บป่วย และคุ้มครองรักษา เจริญรุ่งเรืองในชีวิต และความเป็นสิริมงคล ส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Silicon Box ส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้น” — ยืนยันความพร้อมของเทคโนโลยี Panel-Level Packaging สำหรับยุค AI และ HPC

    Silicon Box บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบขั้นสูง ประกาศความสำเร็จในการผลิตและส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้นจากโรงงานหลักในสิงคโปร์ ซึ่งใช้เทคโนโลยี Panel-Level Packaging (PLP) ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก

    PLP เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถรวมชิปหลายตัว (chiplets) เข้าด้วยกันบนแผงขนาดใหญ่ (panel) แทนที่จะใช้เวเฟอร์แบบดั้งเดิม ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับการผลิตในปริมาณมาก เหมาะอย่างยิ่งกับความต้องการของอุตสาหกรรม AI, การประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC), ยานยนต์ และหุ่นยนต์

    โรงงานของ Silicon Box ในสิงคโปร์เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปลายปี 2023 และสามารถทำลายสถิติเดิมของบริษัทในด้านอัตราผลิตสำเร็จ (yield) ที่เคยอยู่ที่ 99.7% ในระดับเวเฟอร์ โดยตอนนี้สามารถรักษาระดับ yield ที่สูงมากแม้ในระดับ panel ซึ่งใหญ่และซับซ้อนกว่า

    บริษัทกำลังขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนสร้างโรงงานแห่งที่สองในเมืองโนวารา ประเทศอิตาลี ซึ่งจะเริ่มผลิตในปี 2028 และมีขนาดใหญ่กว่าสิงคโปร์ พร้อมระบบทดสอบภายในประเทศยุโรป

    Silicon Box ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001, 14001 และ 45001 ซึ่งครอบคลุมคุณภาพ ความยั่งยืน และความปลอดภัยของพนักงาน

    ข้อมูลในข่าว
    Silicon Box ส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้นจากโรงงานในสิงคโปร์
    ใช้เทคโนโลยี Panel-Level Packaging (PLP) สำหรับการรวม chiplets
    PLP ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับการผลิตจำนวนมาก
    โรงงานในสิงคโปร์เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ปลายปี 2023
    อัตราผลิตสำเร็จ (yield) สูงกว่า 99.7% แม้ในระดับ panel
    ได้รับการรับรอง ISO 9001, 14001 และ 45001
    แผนสร้างโรงงานแห่งที่สองในอิตาลี เริ่มผลิตปี 2028
    โรงงานใหม่จะมีระบบทดสอบภายในยุโรป และรองรับอุตสาหกรรม AI, HPC, ยานยนต์, หุ่นยนต์
    เป็นบริษัทอิสระรายเดียวที่สามารถผลิต chiplet ที่ระดับ panel ได้ในปริมาณมาก

    https://www.techpowerup.com/341914/silicon-box-ships-100m-units-proves-advanced-panel-level-packaging-ready-for-ai-hpc-era
    📦 “Silicon Box ส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้น” — ยืนยันความพร้อมของเทคโนโลยี Panel-Level Packaging สำหรับยุค AI และ HPC Silicon Box บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบรรจุภัณฑ์เซมิคอนดักเตอร์แบบขั้นสูง ประกาศความสำเร็จในการผลิตและส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้นจากโรงงานหลักในสิงคโปร์ ซึ่งใช้เทคโนโลยี Panel-Level Packaging (PLP) ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลก PLP เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถรวมชิปหลายตัว (chiplets) เข้าด้วยกันบนแผงขนาดใหญ่ (panel) แทนที่จะใช้เวเฟอร์แบบดั้งเดิม ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับการผลิตในปริมาณมาก เหมาะอย่างยิ่งกับความต้องการของอุตสาหกรรม AI, การประมวลผลสมรรถนะสูง (HPC), ยานยนต์ และหุ่นยนต์ โรงงานของ Silicon Box ในสิงคโปร์เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในปลายปี 2023 และสามารถทำลายสถิติเดิมของบริษัทในด้านอัตราผลิตสำเร็จ (yield) ที่เคยอยู่ที่ 99.7% ในระดับเวเฟอร์ โดยตอนนี้สามารถรักษาระดับ yield ที่สูงมากแม้ในระดับ panel ซึ่งใหญ่และซับซ้อนกว่า บริษัทกำลังขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนสร้างโรงงานแห่งที่สองในเมืองโนวารา ประเทศอิตาลี ซึ่งจะเริ่มผลิตในปี 2028 และมีขนาดใหญ่กว่าสิงคโปร์ พร้อมระบบทดสอบภายในประเทศยุโรป Silicon Box ยังได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 9001, 14001 และ 45001 ซึ่งครอบคลุมคุณภาพ ความยั่งยืน และความปลอดภัยของพนักงาน ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Silicon Box ส่งมอบชิปครบ 100 ล้านชิ้นจากโรงงานในสิงคโปร์ ➡️ ใช้เทคโนโลยี Panel-Level Packaging (PLP) สำหรับการรวม chiplets ➡️ PLP ช่วยลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรองรับการผลิตจำนวนมาก ➡️ โรงงานในสิงคโปร์เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ปลายปี 2023 ➡️ อัตราผลิตสำเร็จ (yield) สูงกว่า 99.7% แม้ในระดับ panel ➡️ ได้รับการรับรอง ISO 9001, 14001 และ 45001 ➡️ แผนสร้างโรงงานแห่งที่สองในอิตาลี เริ่มผลิตปี 2028 ➡️ โรงงานใหม่จะมีระบบทดสอบภายในยุโรป และรองรับอุตสาหกรรม AI, HPC, ยานยนต์, หุ่นยนต์ ➡️ เป็นบริษัทอิสระรายเดียวที่สามารถผลิต chiplet ที่ระดับ panel ได้ในปริมาณมาก https://www.techpowerup.com/341914/silicon-box-ships-100m-units-proves-advanced-panel-level-packaging-ready-for-ai-hpc-era
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Silicon Box Ships 100M Units, Proves Advanced Panel-Level Packaging Ready for AI, HPC era
    Silicon Box, a global leader in chiplet integration and advanced semiconductor packaging, announced it has shipped 100-million-units from its flagship factory in Singapore's Tampines Wafer Park. The state-of-the-art facility, which began mass production in late 2023, produces advanced panel-level pa...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ไอร์แลนด์ประกาศรายได้พื้นฐานถาวรสำหรับศิลปิน” — โมเดลสนับสนุนศิลปะที่สร้างผลตอบแทนทางสังคมและเศรษฐกิจ

    รัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศให้โครงการ Basic Income for the Arts (BIA) เป็นนโยบายถาวร เริ่มตั้งแต่ปี 2026 หลังจากประสบความสำเร็จในการทดลองเป็นเวลา 3 ปี โดยมีศิลปินและผู้ทำงานด้านศิลปะกว่า 2,000 คนได้รับเงินสนับสนุนรายสัปดาห์จำนวน €325 โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบรายได้หรือเงื่อนไขสวัสดิการอื่น ๆ

    รายงานประเมินผลจาก Alma Economics พบว่าโครงการนี้สร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างชัดเจน เช่น การมีส่วนร่วมของผู้ชมที่เพิ่มขึ้น การลดภาระสวัสดิการ และการพัฒนาสุขภาพจิตของผู้เข้าร่วม โดยทุก €1 ที่ลงทุนในศิลปิน สร้างผลตอบแทนกลับมา €1.39 รวมมูลค่ากว่า €100 ล้านในช่วง 3 ปี

    นอกจากผลทางเศรษฐกิจแล้ว โครงการยังช่วยให้ศิลปินสามารถทุ่มเทเวลาให้กับงานสร้างสรรค์มากขึ้นถึง 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสร้างผลงานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40% พร้อมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น ความสามารถในการจ่ายค่าเช่าและการมีส่วนร่วมทางสังคม

    รัฐบาลยังประกาศเพิ่มงบประมาณด้านวัฒนธรรมในปี 2026 เช่น สนับสนุนสถานที่จัดแสดงดนตรีอิสระ, ภาพยนตร์, การท่องเที่ยวศิลปิน และการอนุรักษ์ดนตรีพื้นบ้าน เพื่อสร้างระบบนิเวศทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน

    ข้อมูลในข่าว
    ไอร์แลนด์ประกาศให้โครงการ Basic Income for the Arts เป็นนโยบายถาวรในปี 2026
    ผู้เข้าร่วมได้รับเงิน €325 ต่อสัปดาห์ โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบรายได้
    โครงการทดลองมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ระหว่างปี 2022–2025
    รายงานพบว่าโครงการสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ €1.39 ต่อการลงทุน €1
    สร้างมูลค่าทางสังคมกว่า €16.9 ล้าน และสุขภาพจิตดีขึ้นกว่า €80 ล้าน
    ศิลปินใช้เวลาเพิ่มขึ้น 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในงานสร้างสรรค์
    ผลิตผลงานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40% และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น
    รัฐบาลเพิ่มงบประมาณด้านวัฒนธรรม เช่น ดนตรีอิสระ ภาพยนตร์ และศิลปะพื้นบ้าน
    โครงการได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกจากภาคศิลปะและผู้กำหนดนโยบาย

    https://www.artnews.com/art-news/news/ireland-basic-income-artists-program-permanent-1234756981/
    🎨 “ไอร์แลนด์ประกาศรายได้พื้นฐานถาวรสำหรับศิลปิน” — โมเดลสนับสนุนศิลปะที่สร้างผลตอบแทนทางสังคมและเศรษฐกิจ รัฐบาลไอร์แลนด์ประกาศให้โครงการ Basic Income for the Arts (BIA) เป็นนโยบายถาวร เริ่มตั้งแต่ปี 2026 หลังจากประสบความสำเร็จในการทดลองเป็นเวลา 3 ปี โดยมีศิลปินและผู้ทำงานด้านศิลปะกว่า 2,000 คนได้รับเงินสนับสนุนรายสัปดาห์จำนวน €325 โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบรายได้หรือเงื่อนไขสวัสดิการอื่น ๆ รายงานประเมินผลจาก Alma Economics พบว่าโครงการนี้สร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างชัดเจน เช่น การมีส่วนร่วมของผู้ชมที่เพิ่มขึ้น การลดภาระสวัสดิการ และการพัฒนาสุขภาพจิตของผู้เข้าร่วม โดยทุก €1 ที่ลงทุนในศิลปิน สร้างผลตอบแทนกลับมา €1.39 รวมมูลค่ากว่า €100 ล้านในช่วง 3 ปี นอกจากผลทางเศรษฐกิจแล้ว โครงการยังช่วยให้ศิลปินสามารถทุ่มเทเวลาให้กับงานสร้างสรรค์มากขึ้นถึง 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสร้างผลงานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40% พร้อมทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เช่น ความสามารถในการจ่ายค่าเช่าและการมีส่วนร่วมทางสังคม รัฐบาลยังประกาศเพิ่มงบประมาณด้านวัฒนธรรมในปี 2026 เช่น สนับสนุนสถานที่จัดแสดงดนตรีอิสระ, ภาพยนตร์, การท่องเที่ยวศิลปิน และการอนุรักษ์ดนตรีพื้นบ้าน เพื่อสร้างระบบนิเวศทางวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ ไอร์แลนด์ประกาศให้โครงการ Basic Income for the Arts เป็นนโยบายถาวรในปี 2026 ➡️ ผู้เข้าร่วมได้รับเงิน €325 ต่อสัปดาห์ โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบรายได้ ➡️ โครงการทดลองมีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ระหว่างปี 2022–2025 ➡️ รายงานพบว่าโครงการสร้างผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ €1.39 ต่อการลงทุน €1 ➡️ สร้างมูลค่าทางสังคมกว่า €16.9 ล้าน และสุขภาพจิตดีขึ้นกว่า €80 ล้าน ➡️ ศิลปินใช้เวลาเพิ่มขึ้น 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในงานสร้างสรรค์ ➡️ ผลิตผลงานใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 40% และมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ➡️ รัฐบาลเพิ่มงบประมาณด้านวัฒนธรรม เช่น ดนตรีอิสระ ภาพยนตร์ และศิลปะพื้นบ้าน ➡️ โครงการได้รับเสียงตอบรับเชิงบวกจากภาคศิลปะและผู้กำหนดนโยบาย https://www.artnews.com/art-news/news/ireland-basic-income-artists-program-permanent-1234756981/
    WWW.ARTNEWS.COM
    Three Years After Trial Launch, Ireland Is Making Basic Income for Artists Program Permanent
    Several years after launching a trial, Ireland is set to make its basic income for artists program permanent starting in 2026.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาบัณฑิต สาขาสรีรวิทยาการแพทย์
    #ภาควิชาสรีรวิทยา #คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล #มหาวิทยาลัยมหิดล
    ร่วมถ่ายภาพแสดงความยินดี กับปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (สรีรวิทยาการแพทย์) และมหาบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ ที่สำเร็จการศึกษา ในปี 2568
    คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาบัณฑิต สาขาสรีรวิทยาการแพทย์ #ภาควิชาสรีรวิทยา #คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล #มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมถ่ายภาพแสดงความยินดี กับปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (สรีรวิทยาการแพทย์) และมหาบัณฑิต สาขาวิชาสรีรวิทยาการแพทย์ ที่สำเร็จการศึกษา ในปี 2568
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Toshiba เปิดตัวเทคโนโลยี 12 จานใน HDD” — เตรียมส่งฮาร์ดดิสก์ความจุ 40TB สู่ตลาดในปี 2027

    Toshiba ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในวงการจัดเก็บข้อมูล ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดเรียงจานแม่เหล็กในฮาร์ดดิสก์แบบใหม่ที่สามารถบรรจุได้ถึง 12 จานในขนาดมาตรฐาน 3.5 นิ้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม โดยทั่วไปฮาร์ดดิสก์ขนาดนี้จะรองรับได้เพียง 10 จานเท่านั้น

    ความสำเร็จนี้เกิดจากการใช้วัสดุใหม่คือแผ่นกระจกแทนแผ่นอลูมิเนียมเดิม ซึ่งมีความทนทานและสามารถผลิตให้บางลงได้ ส่งผลให้สามารถเพิ่มจำนวนจานได้โดยไม่เพิ่มขนาดของตัวเครื่อง พร้อมทั้งพัฒนาอุปกรณ์ภายในใหม่ทั้งหมดเพื่อรองรับการจัดเรียงแบบแน่นหนา

    Toshiba ยังประกาศว่าจะใช้เทคโนโลยี Microwave-Assisted Magnetic Recording (MAMR) กับฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่นี้ ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นในการบันทึกข้อมูลโดยไม่ลดความเสถียรของระบบ และมีแผนจะสำรวจการใช้ Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ในอนาคต เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Seagate และ Western Digital ที่กำลังพัฒนา HDD ความจุเกิน 100TB ด้วย HAMR

    ฮาร์ดดิสก์ 40TB รุ่นใหม่นี้จะเน้นตลาดศูนย์ข้อมูลที่ต้องการความจุสูงและความทนทาน โดย Toshiba จะเปิดเผยข้อมูลเชิงเทคนิคเพิ่มเติมในงาน IDEMA Symposium ที่ญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม 2025

    ข้อมูลในข่าว
    Toshiba พัฒนา HDD ขนาด 3.5 นิ้วที่บรรจุได้ถึง 12 จานเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม
    ใช้แผ่นกระจกแทนอลูมิเนียมเพื่อให้บางลงและทนทานขึ้น
    เตรียมเปิดตัว HDD ความจุ 40TB สำหรับศูนย์ข้อมูลในปี 2027
    ใช้เทคโนโลยี MAMR เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการบันทึกข้อมูล
    กำลังสำรวจการใช้ HAMR เพื่อแข่งขันกับ Seagate และ WD
    จะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในงาน IDEMA Symposium เดือนตุลาคม 2025

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    การเปลี่ยนวัสดุและเทคโนโลยีอาจต้องใช้เวลาทดสอบความเสถียรและความเข้ากันได้กับระบบเดิม
    MAMR ยังมีข้อจำกัดด้านความหนาแน่นเมื่อเทียบกับ HAMR ที่คู่แข่งใช้อยู่
    การเพิ่มจำนวนจานใน HDD อาจเพิ่มความซับซ้อนในการระบายความร้อนและการจัดการพลังงาน
    ศูนย์ข้อมูลต้องเตรียมโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับ HDD ความจุสูงและเทคโนโลยีใหม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/toshiba-touts-industry-first-12-disk-hdd-stacking-technology-will-pair-with-microwave-based-recording-tech-says-advance-will-enable-40tb-drives-in-2027
    💽 “Toshiba เปิดตัวเทคโนโลยี 12 จานใน HDD” — เตรียมส่งฮาร์ดดิสก์ความจุ 40TB สู่ตลาดในปี 2027 Toshiba ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในวงการจัดเก็บข้อมูล ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดเรียงจานแม่เหล็กในฮาร์ดดิสก์แบบใหม่ที่สามารถบรรจุได้ถึง 12 จานในขนาดมาตรฐาน 3.5 นิ้ว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม โดยทั่วไปฮาร์ดดิสก์ขนาดนี้จะรองรับได้เพียง 10 จานเท่านั้น ความสำเร็จนี้เกิดจากการใช้วัสดุใหม่คือแผ่นกระจกแทนแผ่นอลูมิเนียมเดิม ซึ่งมีความทนทานและสามารถผลิตให้บางลงได้ ส่งผลให้สามารถเพิ่มจำนวนจานได้โดยไม่เพิ่มขนาดของตัวเครื่อง พร้อมทั้งพัฒนาอุปกรณ์ภายในใหม่ทั้งหมดเพื่อรองรับการจัดเรียงแบบแน่นหนา Toshiba ยังประกาศว่าจะใช้เทคโนโลยี Microwave-Assisted Magnetic Recording (MAMR) กับฮาร์ดดิสก์รุ่นใหม่นี้ ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาแน่นในการบันทึกข้อมูลโดยไม่ลดความเสถียรของระบบ และมีแผนจะสำรวจการใช้ Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ในอนาคต เพื่อแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Seagate และ Western Digital ที่กำลังพัฒนา HDD ความจุเกิน 100TB ด้วย HAMR ฮาร์ดดิสก์ 40TB รุ่นใหม่นี้จะเน้นตลาดศูนย์ข้อมูลที่ต้องการความจุสูงและความทนทาน โดย Toshiba จะเปิดเผยข้อมูลเชิงเทคนิคเพิ่มเติมในงาน IDEMA Symposium ที่ญี่ปุ่นในเดือนตุลาคม 2025 ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Toshiba พัฒนา HDD ขนาด 3.5 นิ้วที่บรรจุได้ถึง 12 จานเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม ➡️ ใช้แผ่นกระจกแทนอลูมิเนียมเพื่อให้บางลงและทนทานขึ้น ➡️ เตรียมเปิดตัว HDD ความจุ 40TB สำหรับศูนย์ข้อมูลในปี 2027 ➡️ ใช้เทคโนโลยี MAMR เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการบันทึกข้อมูล ➡️ กำลังสำรวจการใช้ HAMR เพื่อแข่งขันกับ Seagate และ WD ➡️ จะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในงาน IDEMA Symposium เดือนตุลาคม 2025 ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ การเปลี่ยนวัสดุและเทคโนโลยีอาจต้องใช้เวลาทดสอบความเสถียรและความเข้ากันได้กับระบบเดิม ⛔ MAMR ยังมีข้อจำกัดด้านความหนาแน่นเมื่อเทียบกับ HAMR ที่คู่แข่งใช้อยู่ ⛔ การเพิ่มจำนวนจานใน HDD อาจเพิ่มความซับซ้อนในการระบายความร้อนและการจัดการพลังงาน ⛔ ศูนย์ข้อมูลต้องเตรียมโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับ HDD ความจุสูงและเทคโนโลยีใหม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/toshiba-touts-industry-first-12-disk-hdd-stacking-technology-will-pair-with-microwave-based-recording-tech-says-advance-will-enable-40tb-drives-in-2027
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสิวลีหลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ จ.ยะลา
    พระสิวลีเนื้อว่านยาผงกาฝากรัก หลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ จ.ยะลา //พระดีพิธีขลัง!! (อยากได้พระดีเอาไว้ใช้ ผมแนะนำเลยครับ !!) พระมีประสบการณ์มาก เกียวกับความสำเร็จ ทำมาค้าขายดี มีโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ความสมบูรณ์มั่งคั่งที่ไม่เคยขาด บูชาเพื่อการเงินไหลมาเทมา เป็นของรักของหวง ของลูกศิษย์ และ คนเฒ่าคนแก่ คนพิ้นที่ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ โชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>>>>ใครที่ตั้งการความสำเร็จในหน้าทีการงาน ข้าราชการที่เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแบบง่ายๆ การค้าการขายแบบขายดีไม่ติดขัด มีโชค มีลาภ แบบมีเข้ามาตลอด "ผมแนะนำครับ มั้นใจในพุทธคุณได้ครับของหลวงปู่ดีจริงๆ **

    ** หลวงปู่สุระ พระเกจิชื่อดังจังหวัดยะลา หลังการมรณภาพ สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย พระเกจิผู้ปฎิบัติดี “#. หลวงปู่สุระเป็นนักปฎิบัติที่มีจริยวัตรแห่งความสงฆ์ที่เคร่งครัด และส่งเสริมด้านวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งมีลูกศิษย์ ลูกหาในสามจังหวัดใต้ มาเลเชีย สิงคโปร์ มากมาย **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    พระสิวลีหลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ จ.ยะลา พระสิวลีเนื้อว่านยาผงกาฝากรัก หลวงปู่สุระ วัดสวนใหม่ จ.ยะลา //พระดีพิธีขลัง!! (อยากได้พระดีเอาไว้ใช้ ผมแนะนำเลยครับ !!) พระมีประสบการณ์มาก เกียวกับความสำเร็จ ทำมาค้าขายดี มีโชคลาภเงินทองไหลมาเทมา ความสมบูรณ์มั่งคั่งที่ไม่เคยขาด บูชาเพื่อการเงินไหลมาเทมา เป็นของรักของหวง ของลูกศิษย์ และ คนเฒ่าคนแก่ คนพิ้นที่ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ โชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>>>>ใครที่ตั้งการความสำเร็จในหน้าทีการงาน ข้าราชการที่เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแบบง่ายๆ การค้าการขายแบบขายดีไม่ติดขัด มีโชค มีลาภ แบบมีเข้ามาตลอด "ผมแนะนำครับ มั้นใจในพุทธคุณได้ครับของหลวงปู่ดีจริงๆ ** ** หลวงปู่สุระ พระเกจิชื่อดังจังหวัดยะลา หลังการมรณภาพ สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย พระเกจิผู้ปฎิบัติดี “#. หลวงปู่สุระเป็นนักปฎิบัติที่มีจริยวัตรแห่งความสงฆ์ที่เคร่งครัด และส่งเสริมด้านวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งมีลูกศิษย์ ลูกหาในสามจังหวัดใต้ มาเลเชีย สิงคโปร์ มากมาย ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พบช่องโหว่ RCE ร้ายแรงใน Veeam Backup & Replication — CVSS 9.9 เปิดทางแฮ็กเกอร์เข้าควบคุมระบบสำรองข้อมูล”

    Veeam ผู้พัฒนาโซลูชันสำรองข้อมูลยอดนิยมสำหรับองค์กร ได้ออกแพตช์ความปลอดภัยเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง 2 รายการ ได้แก่ CVE-2025-48983 และ CVE-2025-48984 ซึ่งมีคะแนน CVSS สูงถึง 9.9 จาก 10 ถือเป็นระดับ “วิกฤต” ที่อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดจากระยะไกล (Remote Code Execution) ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    ช่องโหว่เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อ Veeam Backup & Replication เวอร์ชันก่อนหน้า 12.1.2.172 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในองค์กรทั่วโลกเพื่อสำรองและกู้คืนข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์, VM, และคลาวด์ หากถูกโจมตีสำเร็จ แฮ็กเกอร์อาจเข้าถึงข้อมูลสำรอง, ปรับเปลี่ยนการตั้งค่า, หรือแม้แต่ลบข้อมูลสำคัญขององค์กรได้

    Veeam แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 12.1.2.172 หรือใหม่กว่าโดยทันที และหากไม่สามารถอัปเดตได้ในทันที ควรปิดการเข้าถึงพอร์ต TCP 9401 ซึ่งเป็นช่องทางที่ใช้ในการโจมตี

    พบช่องโหว่ CVE-2025-48983 และ CVE-2025-48984 ใน Veeam Backup & Replication
    มีคะแนน CVSS 9.9 ถือเป็นระดับ “วิกฤต”

    ช่องโหว่เปิดทางให้โจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE)
    โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    ส่งผลกระทบต่อเวอร์ชันก่อน 12.1.2.172
    รวมถึงระบบที่เปิดพอร์ต TCP 9401

    Veeam ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 12.1.2.172
    พร้อมคำแนะนำให้อัปเดตทันที

    หากยังไม่สามารถอัปเดตได้
    ควรปิดพอร์ต TCP 9401 ชั่วคราวเพื่อป้องกันการโจมตี

    ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยภายนอก
    และได้รับการยืนยันโดยทีม Veeam

    https://securityonline.info/critical-rce-flaws-cve-2025-48983-cve-2025-48984-cvss-9-9-found-in-veeam-backup-replication/
    🛡️ “พบช่องโหว่ RCE ร้ายแรงใน Veeam Backup & Replication — CVSS 9.9 เปิดทางแฮ็กเกอร์เข้าควบคุมระบบสำรองข้อมูล” Veeam ผู้พัฒนาโซลูชันสำรองข้อมูลยอดนิยมสำหรับองค์กร ได้ออกแพตช์ความปลอดภัยเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรง 2 รายการ ได้แก่ CVE-2025-48983 และ CVE-2025-48984 ซึ่งมีคะแนน CVSS สูงถึง 9.9 จาก 10 ถือเป็นระดับ “วิกฤต” ที่อาจเปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถรันโค้ดจากระยะไกล (Remote Code Execution) ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ช่องโหว่เหล่านี้ส่งผลกระทบต่อ Veeam Backup & Replication เวอร์ชันก่อนหน้า 12.1.2.172 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในองค์กรทั่วโลกเพื่อสำรองและกู้คืนข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์, VM, และคลาวด์ หากถูกโจมตีสำเร็จ แฮ็กเกอร์อาจเข้าถึงข้อมูลสำรอง, ปรับเปลี่ยนการตั้งค่า, หรือแม้แต่ลบข้อมูลสำคัญขององค์กรได้ Veeam แนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 12.1.2.172 หรือใหม่กว่าโดยทันที และหากไม่สามารถอัปเดตได้ในทันที ควรปิดการเข้าถึงพอร์ต TCP 9401 ซึ่งเป็นช่องทางที่ใช้ในการโจมตี ✅ พบช่องโหว่ CVE-2025-48983 และ CVE-2025-48984 ใน Veeam Backup & Replication ➡️ มีคะแนน CVSS 9.9 ถือเป็นระดับ “วิกฤต” ✅ ช่องโหว่เปิดทางให้โจมตีแบบ Remote Code Execution (RCE) ➡️ โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ✅ ส่งผลกระทบต่อเวอร์ชันก่อน 12.1.2.172 ➡️ รวมถึงระบบที่เปิดพอร์ต TCP 9401 ✅ Veeam ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 12.1.2.172 ➡️ พร้อมคำแนะนำให้อัปเดตทันที ✅ หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ➡️ ควรปิดพอร์ต TCP 9401 ชั่วคราวเพื่อป้องกันการโจมตี ✅ ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัยภายนอก ➡️ และได้รับการยืนยันโดยทีม Veeam https://securityonline.info/critical-rce-flaws-cve-2025-48983-cve-2025-48984-cvss-9-9-found-in-veeam-backup-replication/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical RCE Flaws CVE-2025-48983 & CVE-2025-48984 (CVSS 9.9) Found in Veeam Backup & Replication
    Veeam patched two Critical RCE flaws (CVE-2025-48983 & -48984) in Backup & Replication v12 that let authenticated domain users compromise backup infrastructure.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Gcore ป้องกัน DDoS ระดับ 6 Tbps ได้สำเร็จ — บอทเน็ต AISURU โจมตีโครงสร้างพื้นฐานเกมแบบสายฟ้าแลบ”

    Gcore ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และความปลอดภัยระดับโลก เปิดเผยว่าได้ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยมีปริมาณข้อมูลพุ่งสูงถึง 6 Tbps และอัตราแพ็กเกตสูงถึง 5.3 พันล้านแพ็กเกตต่อวินาที (Bpps) การโจมตีนี้ใช้โปรโตคอล UDP และมีลักษณะเป็น short-burst flood ที่กินเวลาราว 30–45 วินาที

    เป้าหมายของการโจมตีคือผู้ให้บริการโฮสติ้งในอุตสาหกรรมเกม แต่ลักษณะของการโจมตีชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้นของการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วโลก โดยเฉพาะจากบอทเน็ต AISURU ซึ่งมีต้นทางหลักจากบราซิล (51%) และสหรัฐอเมริกา (23.7%)

    Gcore ระบุว่าการโจมตีลักษณะนี้ไม่เพียงแต่ต้องการทำให้ระบบล่ม แต่ยังเป็นการ “ทดสอบความทนทาน” ของระบบก่อนการโจมตีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในอนาคต

    Gcore ป้องกัน DDoS ขนาด 6 Tbps ได้สำเร็จ
    อัตราแพ็กเกตสูงถึง 5.3 Bpps

    การโจมตีใช้โปรโตคอล UDP แบบ volumetric flood
    ลักษณะเป็น short-burst flood 30–45 วินาที

    เป้าหมายคือผู้ให้บริการโฮสติ้งในอุตสาหกรรมเกม
    แต่ลักษณะการโจมตีชี้ถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้น

    แหล่งที่มาหลักของทราฟฟิกคือบราซิล (51%) และสหรัฐฯ (23.7%)
    รวมกันคิดเป็นเกือบ 75% ของทราฟฟิกทั้งหมด

    บอทเน็ตที่ใช้คือ AISURU
    เคยเกี่ยวข้องกับการโจมตีระดับสูงหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา

    Gcore ใช้โครงสร้างพื้นฐานกว่า 210 PoPs และระบบกรองที่รองรับ 200 Tbps
    ป้องกันการโจมตีได้โดยไม่มีการหยุดให้บริการ

    รายงาน Gcore Radar Q1–Q2 2025 พบว่า DDoS เพิ่มขึ้น 41% ในไตรมาสเดียว
    การโจมตีที่พุ่งเป้าไปยังบริษัทเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของทั้งหมด

    การโจมตีแบบ short-burst flood อาจไม่ถูกตรวจจับโดยระบบทั่วไป
    เพราะเกิดขึ้นเร็วและจบก่อนระบบจะตอบสนอง

    โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่มีระบบป้องกันแบบ adaptive อาจล่มได้ทันที
    โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกม, โฮสติ้ง และองค์กรขนาดใหญ่

    บอทเน็ต AISURU ใช้อุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยต่ำในภูมิภาคที่มีความหนาแน่นสูง
    เช่น บราซิลและสหรัฐฯ ซึ่งมีอุปกรณ์ IoT จำนวนมาก

    การโจมตีลักษณะนี้อาจเป็นเพียงการเริ่มต้นของแคมเปญที่ใหญ่กว่า
    อาจมีการโจมตีแบบ multi-vector หรือเจาะระบบในขั้นต่อไป

    การพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานแบบรวมศูนย์โดยไม่มี edge filtering
    อาจทำให้ระบบล่มก่อนถึงศูนย์ข้อมูลหลัก

    https://securityonline.info/gcore-mitigates-record-breaking-6-tbps-ddos-attack/
    🌐 “Gcore ป้องกัน DDoS ระดับ 6 Tbps ได้สำเร็จ — บอทเน็ต AISURU โจมตีโครงสร้างพื้นฐานเกมแบบสายฟ้าแลบ” Gcore ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และความปลอดภัยระดับโลก เปิดเผยว่าได้ป้องกันการโจมตีแบบ DDoS ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยมีปริมาณข้อมูลพุ่งสูงถึง 6 Tbps และอัตราแพ็กเกตสูงถึง 5.3 พันล้านแพ็กเกตต่อวินาที (Bpps) การโจมตีนี้ใช้โปรโตคอล UDP และมีลักษณะเป็น short-burst flood ที่กินเวลาราว 30–45 วินาที เป้าหมายของการโจมตีคือผู้ให้บริการโฮสติ้งในอุตสาหกรรมเกม แต่ลักษณะของการโจมตีชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้นของการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทั่วโลก โดยเฉพาะจากบอทเน็ต AISURU ซึ่งมีต้นทางหลักจากบราซิล (51%) และสหรัฐอเมริกา (23.7%) Gcore ระบุว่าการโจมตีลักษณะนี้ไม่เพียงแต่ต้องการทำให้ระบบล่ม แต่ยังเป็นการ “ทดสอบความทนทาน” ของระบบก่อนการโจมตีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นในอนาคต ✅ Gcore ป้องกัน DDoS ขนาด 6 Tbps ได้สำเร็จ ➡️ อัตราแพ็กเกตสูงถึง 5.3 Bpps ✅ การโจมตีใช้โปรโตคอล UDP แบบ volumetric flood ➡️ ลักษณะเป็น short-burst flood 30–45 วินาที ✅ เป้าหมายคือผู้ให้บริการโฮสติ้งในอุตสาหกรรมเกม ➡️ แต่ลักษณะการโจมตีชี้ถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้น ✅ แหล่งที่มาหลักของทราฟฟิกคือบราซิล (51%) และสหรัฐฯ (23.7%) ➡️ รวมกันคิดเป็นเกือบ 75% ของทราฟฟิกทั้งหมด ✅ บอทเน็ตที่ใช้คือ AISURU ➡️ เคยเกี่ยวข้องกับการโจมตีระดับสูงหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา ✅ Gcore ใช้โครงสร้างพื้นฐานกว่า 210 PoPs และระบบกรองที่รองรับ 200 Tbps ➡️ ป้องกันการโจมตีได้โดยไม่มีการหยุดให้บริการ ✅ รายงาน Gcore Radar Q1–Q2 2025 พบว่า DDoS เพิ่มขึ้น 41% ในไตรมาสเดียว ➡️ การโจมตีที่พุ่งเป้าไปยังบริษัทเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของทั้งหมด ‼️ การโจมตีแบบ short-burst flood อาจไม่ถูกตรวจจับโดยระบบทั่วไป ⛔ เพราะเกิดขึ้นเร็วและจบก่อนระบบจะตอบสนอง ‼️ โครงสร้างพื้นฐานที่ไม่มีระบบป้องกันแบบ adaptive อาจล่มได้ทันที ⛔ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกม, โฮสติ้ง และองค์กรขนาดใหญ่ ‼️ บอทเน็ต AISURU ใช้อุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยต่ำในภูมิภาคที่มีความหนาแน่นสูง ⛔ เช่น บราซิลและสหรัฐฯ ซึ่งมีอุปกรณ์ IoT จำนวนมาก ‼️ การโจมตีลักษณะนี้อาจเป็นเพียงการเริ่มต้นของแคมเปญที่ใหญ่กว่า ⛔ อาจมีการโจมตีแบบ multi-vector หรือเจาะระบบในขั้นต่อไป ‼️ การพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานแบบรวมศูนย์โดยไม่มี edge filtering ⛔ อาจทำให้ระบบล่มก่อนถึงศูนย์ข้อมูลหลัก https://securityonline.info/gcore-mitigates-record-breaking-6-tbps-ddos-attack/
    SECURITYONLINE.INFO
    Gcore Mitigates Record-Breaking 6 Tbps DDoS Attack
    Luxembourg, Luxembourg, 14th October 2025, CyberNewsWire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระชินราชท่าเรือ เจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช ปี2485
    พระชินราชท่าเรือ เนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี เจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 // พระเก่า พ.ศ ลึก พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก มีพระเกจิอาจารย์ทางภาคใต้เข้าร่วมพิธีอย่างเข้มขลัง พระชินราชท่าเรือ เจ้าคุณไพศาล สร้างด้วยเนื้อดินที่สุดวิเศษ ซึ่งท่านได้รวบรวมมวลสาร และพระกรุต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพระเนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี //พระสถาพสวย สมบูรณ์ ผิวเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้าน เมตตาและแคล้วคลาดคงกระพันเป็นเลิศานคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดคมอาวุธ ตบะเดชะอิทธิฤทธิ์เหนือมวลศัตรู ป้องกันเขี้ยวงา พิษร้ายต่างๆ รวมถึงเมตตามหานิยม และประสบความรุ่งโรจน์ ความสำเร็จสูงสุดในชีวิต พระเครื่องยอดนิยมสูงสุดอีกองค์ของนครศรีธรรมราช **

    ** พระชินราชท่าเรือ ท่านเจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 สร้างด้วยเนื้อดินที่สุดวิเศษ ซึ่งท่านได้รวบรวมมวลสาร และพระกรุต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพระเนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ(มีมากกว่าพระกรุที่อื่น) ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี พิธีพุทธาภิเษก มีพระเกจิอาจารย์ทางภาคใต้เข้าร่วมพิธีอย่างเข้มขลัง
    ท่านสร้างพระตั้งแต่ ปี2470 เรื่อยมา มีหลายพิมพ์ มีทั้งหลังเรียบ หลังจารสด หลังยันต์ปั๊ม ซึ่งส่วนมากเป็นพระเนื้อดินเผาท่านได้นำมวลสารจากพระกรุเก่าผสมผงพุทธคุณของท่าน องค์นี้เนื้อหาจัดมาก มีคราบความเก่า เพราะมีส่วนผสมของผงพระกรุ อยู่มาก ด้านหลัง จารยันต์สด (เข้าใจว่าสร้างยุคแรกๆ) จะหายากกว่า หลังปั๊มยันต์ **

    #พระสถาพสวย สมบูรณ์ ผิวเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระชินราชท่าเรือ เจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 พระชินราชท่าเรือ เนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี เจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 // พระเก่า พ.ศ ลึก พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก มีพระเกจิอาจารย์ทางภาคใต้เข้าร่วมพิธีอย่างเข้มขลัง พระชินราชท่าเรือ เจ้าคุณไพศาล สร้างด้วยเนื้อดินที่สุดวิเศษ ซึ่งท่านได้รวบรวมมวลสาร และพระกรุต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพระเนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี //พระสถาพสวย สมบูรณ์ ผิวเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้าน เมตตาและแคล้วคลาดคงกระพันเป็นเลิศานคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดคมอาวุธ ตบะเดชะอิทธิฤทธิ์เหนือมวลศัตรู ป้องกันเขี้ยวงา พิษร้ายต่างๆ รวมถึงเมตตามหานิยม และประสบความรุ่งโรจน์ ความสำเร็จสูงสุดในชีวิต พระเครื่องยอดนิยมสูงสุดอีกองค์ของนครศรีธรรมราช ** ** พระชินราชท่าเรือ ท่านเจ้าคุณไพศาล วัดท่าโพธิ์ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปี2485 สร้างด้วยเนื้อดินที่สุดวิเศษ ซึ่งท่านได้รวบรวมมวลสาร และพระกรุต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพระเนื้อดินกรุนางตราและกรุท่าเรือ(มีมากกว่าพระกรุที่อื่น) ใช้เวลารวบรวมนานถึง 10 กว่าปี พิธีพุทธาภิเษก มีพระเกจิอาจารย์ทางภาคใต้เข้าร่วมพิธีอย่างเข้มขลัง ท่านสร้างพระตั้งแต่ ปี2470 เรื่อยมา มีหลายพิมพ์ มีทั้งหลังเรียบ หลังจารสด หลังยันต์ปั๊ม ซึ่งส่วนมากเป็นพระเนื้อดินเผาท่านได้นำมวลสารจากพระกรุเก่าผสมผงพุทธคุณของท่าน องค์นี้เนื้อหาจัดมาก มีคราบความเก่า เพราะมีส่วนผสมของผงพระกรุ อยู่มาก ด้านหลัง จารยันต์สด (เข้าใจว่าสร้างยุคแรกๆ) จะหายากกว่า หลังปั๊มยันต์ ** #พระสถาพสวย สมบูรณ์ ผิวเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • "AMD Sound Wave – APU พลัง ARM ที่อาจเปลี่ยนเกมพกพาในอนาคต”

    แม้ AMD เคยยืนยันว่า ARM ไม่ได้มีข้อได้เปรียบด้านประสิทธิภาพเหนือ x86 โดยตรง แต่ล่าสุดกลับมีข้อมูลจาก shipping manifest ที่เผยว่า AMD กำลังพัฒนา SoC ใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM ภายใต้โค้ดเนม “Sound Wave”

    ชิปนี้มาในแพ็กเกจ BGA 1074 ขนาดเล็กเพียง 32 × 27 มม. เหมาะกับอุปกรณ์พกพาอย่างแล็ปท็อปหรือเกมคอนโซลแบบ handheld โดยใช้ซ็อกเก็ต FF5 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่มาแทน FF3 ที่เคยใช้ใน Steam Deck

    Sound Wave คาดว่าจะใช้สถาปัตยกรรมแบบ big.LITTLE โดยมี 2 P-Core และ 4 E-Core รวมเป็น 6 คอร์ พร้อมกราฟิก RDNA 3.5 สูงสุด 4 CUs และทำงานในพลังงานเพียง 10W ซึ่งเหมาะกับการเล่นเกมต่อเนื่องบนแบตเตอรี่

    แม้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า AMD จะนำชิปนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ใด แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาด ARM ระหว่าง AMD, Qualcomm และ NVIDIA ที่ต่างเตรียมเปิดตัวชิปใหม่สำหรับอุปกรณ์พกพาและ AI

    AMD พัฒนา APU สถาปัตยกรรม ARM
    โค้ดเนม “Sound Wave” ปรากฏใน shipping manifest ล่าสุด
    ใช้แพ็กเกจ BGA 1074 ขนาด 32 × 27 มม.
    เหมาะกับ embedded systems และอุปกรณ์พกพา

    สเปกเบื้องต้นของ Sound Wave
    ใช้ซ็อกเก็ต FF5 แทน FF3 ที่เคยใช้ใน Steam Deck
    big.LITTLE architecture: 2 P-Core + 4 E-Core
    กราฟิก RDNA 3.5 สูงสุด 4 CUs
    TDP เพียง 10W พร้อมตัวเลือกปรับแต่งตามลูกค้า

    ความเป็นไปได้ในการใช้งาน
    อาจใช้ใน handheld gaming, Chromebook หรืออุปกรณ์ IoT
    รองรับการเล่นเกมต่อเนื่องบนแบตเตอรี่
    อาจเป็นคู่แข่งของ Snapdragon X Elite และ NVIDIA Grace

    แนวโน้มตลาด ARM
    ARM กำลังขยายจากมือถือสู่ PC และเซิร์ฟเวอร์
    Apple M-series เป็นตัวอย่างความสำเร็จของ ARM บน desktop
    AMD อาจใช้ Sound Wave เป็นจุดเริ่มต้นในการบุกตลาด ARM

    https://www.techpowerup.com/341848/amd-sound-wave-arm-powered-apu-appears-in-shipping-manifests
    🌀 "AMD Sound Wave – APU พลัง ARM ที่อาจเปลี่ยนเกมพกพาในอนาคต” แม้ AMD เคยยืนยันว่า ARM ไม่ได้มีข้อได้เปรียบด้านประสิทธิภาพเหนือ x86 โดยตรง แต่ล่าสุดกลับมีข้อมูลจาก shipping manifest ที่เผยว่า AMD กำลังพัฒนา SoC ใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM ภายใต้โค้ดเนม “Sound Wave” ชิปนี้มาในแพ็กเกจ BGA 1074 ขนาดเล็กเพียง 32 × 27 มม. เหมาะกับอุปกรณ์พกพาอย่างแล็ปท็อปหรือเกมคอนโซลแบบ handheld โดยใช้ซ็อกเก็ต FF5 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ที่มาแทน FF3 ที่เคยใช้ใน Steam Deck Sound Wave คาดว่าจะใช้สถาปัตยกรรมแบบ big.LITTLE โดยมี 2 P-Core และ 4 E-Core รวมเป็น 6 คอร์ พร้อมกราฟิก RDNA 3.5 สูงสุด 4 CUs และทำงานในพลังงานเพียง 10W ซึ่งเหมาะกับการเล่นเกมต่อเนื่องบนแบตเตอรี่ แม้ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่า AMD จะนำชิปนี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ใด แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ร้อนแรงในตลาด ARM ระหว่าง AMD, Qualcomm และ NVIDIA ที่ต่างเตรียมเปิดตัวชิปใหม่สำหรับอุปกรณ์พกพาและ AI ✅ AMD พัฒนา APU สถาปัตยกรรม ARM ➡️ โค้ดเนม “Sound Wave” ปรากฏใน shipping manifest ล่าสุด ➡️ ใช้แพ็กเกจ BGA 1074 ขนาด 32 × 27 มม. ➡️ เหมาะกับ embedded systems และอุปกรณ์พกพา ✅ สเปกเบื้องต้นของ Sound Wave ➡️ ใช้ซ็อกเก็ต FF5 แทน FF3 ที่เคยใช้ใน Steam Deck ➡️ big.LITTLE architecture: 2 P-Core + 4 E-Core ➡️ กราฟิก RDNA 3.5 สูงสุด 4 CUs ➡️ TDP เพียง 10W พร้อมตัวเลือกปรับแต่งตามลูกค้า ✅ ความเป็นไปได้ในการใช้งาน ➡️ อาจใช้ใน handheld gaming, Chromebook หรืออุปกรณ์ IoT ➡️ รองรับการเล่นเกมต่อเนื่องบนแบตเตอรี่ ➡️ อาจเป็นคู่แข่งของ Snapdragon X Elite และ NVIDIA Grace ✅ แนวโน้มตลาด ARM ➡️ ARM กำลังขยายจากมือถือสู่ PC และเซิร์ฟเวอร์ ➡️ Apple M-series เป็นตัวอย่างความสำเร็จของ ARM บน desktop ➡️ AMD อาจใช้ Sound Wave เป็นจุดเริ่มต้นในการบุกตลาด ARM https://www.techpowerup.com/341848/amd-sound-wave-arm-powered-apu-appears-in-shipping-manifests
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD "Sound Wave" Arm-Powered APU Appears in Shipping Manifests
    Despite AMD's assertion that the Arm ISA doesn't provide any inherent efficiency advantage and that power savings are primarily dependent on the package and design, it seems AMD is developing an Arm-based SoC codenamed "Sound Wave." Recent shipping manifests, noted by X user @Olrak29_, indicate that...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • “OpenAI จับมือ Broadcom สร้างชิป AI 10GW – ก้าวใหม่สู่ยุคฮาร์ดแวร์เฉพาะทาง”

    ในโลกที่ AI กำลังกลายเป็นหัวใจของทุกอุตสาหกรรม OpenAI ไม่หยุดอยู่แค่การพัฒนาโมเดลอัจฉริยะ แต่กำลังเดินหน้าสู่การสร้าง “ฮาร์ดแวร์เฉพาะทาง” ด้วยตัวเอง โดยล่าสุดได้ประกาศความร่วมมือกับ Broadcom ในการพัฒนาและติดตั้งระบบเร่งการประมวลผล (accelerators) สำหรับงาน AI ขนาดมหึมา รวมถึงระบบแร็คเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับพลังงานรวมถึง 10 กิกะวัตต์

    ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระยะยาวของ OpenAI ที่ต้องการลดการพึ่งพา GPU จาก Nvidia และหันมาใช้ชิปที่ออกแบบเอง โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและ IP ฮาร์ดแวร์จาก Broadcom ซึ่งเคยผลิตชิป AI ให้กับ Google TPU มาก่อน

    ระบบใหม่จะใช้โครงสร้างเครือข่ายแบบ Ethernet เพื่อให้สามารถขยายได้ง่าย และไม่ผูกติดกับผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง โดยการติดตั้งจะเริ่มในครึ่งหลังของปี 2026 และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2029

    นอกจากนี้ OpenAI ยังมีดีลกับ AMD และ Nvidia รวมถึง CoreWeave ซึ่งรวมแล้วมีการลงทุนในฮาร์ดแวร์มากกว่า 26 กิกะวัตต์ทั่วโลก ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI ขนาดใหญ่ในอนาคต

    ข้อตกลงระหว่าง OpenAI และ Broadcom
    ร่วมกันพัฒนาและติดตั้งระบบเร่งการประมวลผล AI ขนาด 10GW
    OpenAI ออกแบบตัวเร่งและระบบ ส่วน Broadcom รับผิดชอบการผลิตและติดตั้ง
    เริ่มใช้งานจริงในครึ่งหลังของปี 2026 และเสร็จสิ้นภายในปี 2029

    เป้าหมายของ OpenAI
    ลดการพึ่งพา GPU จาก Nvidia
    สร้างฮาร์ดแวร์เฉพาะทางที่เหมาะกับงานฝึกและใช้งานโมเดล AI
    ใช้โครงสร้าง Ethernet เพื่อความยืดหยุ่นและขยายง่าย

    ความร่วมมือเพิ่มเติม
    มีดีลกับ Nvidia, AMD และ CoreWeave รวมถึง 26GW ของฮาร์ดแวร์
    Broadcom เคยผลิตชิป AI ให้ Google TPU และมีความเชี่ยวชาญด้าน IP
    OpenAI ได้เปรียบจาก supply chain ที่มั่นคงและทีมออกแบบ ASIC ระดับโลก

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    บริษัทใหญ่หลายราย เช่น Amazon, Google, Meta และ Microsoft กำลังพัฒนาชิป AI เอง
    ตลาดกำลังเปลี่ยนจาก GPU-centric ไปสู่ระบบเร่งแบบเฉพาะทาง
    ความสามารถในการผลิตและออกแบบชิปจะเป็นตัวชี้วัดความได้เปรียบในยุค AI

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    ยังไม่มีการเปิดเผยผู้ผลิตชิป (foundry), การบรรจุ (packaging) หรือชนิดหน่วยความจำ
    การออกแบบและผลิตชิปใช้เวลานานและต้องการความแม่นยำสูง
    ความสำเร็จของระบบใหม่ยังต้องพิสูจน์ในระดับการใช้งานจริง
    Ecosystem ของ Broadcom ยังไม่เทียบเท่ากับ CUDA ของ Nvidia ในด้านซอฟต์แวร์และเครื่องมือ

    https://www.tomshardware.com/openai-broadcom-to-co-develop-10gw-of-custom-ai-chips
    🤖 “OpenAI จับมือ Broadcom สร้างชิป AI 10GW – ก้าวใหม่สู่ยุคฮาร์ดแวร์เฉพาะทาง” ในโลกที่ AI กำลังกลายเป็นหัวใจของทุกอุตสาหกรรม OpenAI ไม่หยุดอยู่แค่การพัฒนาโมเดลอัจฉริยะ แต่กำลังเดินหน้าสู่การสร้าง “ฮาร์ดแวร์เฉพาะทาง” ด้วยตัวเอง โดยล่าสุดได้ประกาศความร่วมมือกับ Broadcom ในการพัฒนาและติดตั้งระบบเร่งการประมวลผล (accelerators) สำหรับงาน AI ขนาดมหึมา รวมถึงระบบแร็คเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับพลังงานรวมถึง 10 กิกะวัตต์ ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระยะยาวของ OpenAI ที่ต้องการลดการพึ่งพา GPU จาก Nvidia และหันมาใช้ชิปที่ออกแบบเอง โดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านเครือข่ายและ IP ฮาร์ดแวร์จาก Broadcom ซึ่งเคยผลิตชิป AI ให้กับ Google TPU มาก่อน ระบบใหม่จะใช้โครงสร้างเครือข่ายแบบ Ethernet เพื่อให้สามารถขยายได้ง่าย และไม่ผูกติดกับผู้ผลิตรายใดรายหนึ่ง โดยการติดตั้งจะเริ่มในครึ่งหลังของปี 2026 และคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2029 นอกจากนี้ OpenAI ยังมีดีลกับ AMD และ Nvidia รวมถึง CoreWeave ซึ่งรวมแล้วมีการลงทุนในฮาร์ดแวร์มากกว่า 26 กิกะวัตต์ทั่วโลก ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกและใช้งานโมเดล AI ขนาดใหญ่ในอนาคต ✅ ข้อตกลงระหว่าง OpenAI และ Broadcom ➡️ ร่วมกันพัฒนาและติดตั้งระบบเร่งการประมวลผล AI ขนาด 10GW ➡️ OpenAI ออกแบบตัวเร่งและระบบ ส่วน Broadcom รับผิดชอบการผลิตและติดตั้ง ➡️ เริ่มใช้งานจริงในครึ่งหลังของปี 2026 และเสร็จสิ้นภายในปี 2029 ✅ เป้าหมายของ OpenAI ➡️ ลดการพึ่งพา GPU จาก Nvidia ➡️ สร้างฮาร์ดแวร์เฉพาะทางที่เหมาะกับงานฝึกและใช้งานโมเดล AI ➡️ ใช้โครงสร้าง Ethernet เพื่อความยืดหยุ่นและขยายง่าย ✅ ความร่วมมือเพิ่มเติม ➡️ มีดีลกับ Nvidia, AMD และ CoreWeave รวมถึง 26GW ของฮาร์ดแวร์ ➡️ Broadcom เคยผลิตชิป AI ให้ Google TPU และมีความเชี่ยวชาญด้าน IP ➡️ OpenAI ได้เปรียบจาก supply chain ที่มั่นคงและทีมออกแบบ ASIC ระดับโลก ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ บริษัทใหญ่หลายราย เช่น Amazon, Google, Meta และ Microsoft กำลังพัฒนาชิป AI เอง ➡️ ตลาดกำลังเปลี่ยนจาก GPU-centric ไปสู่ระบบเร่งแบบเฉพาะทาง ➡️ ความสามารถในการผลิตและออกแบบชิปจะเป็นตัวชี้วัดความได้เปรียบในยุค AI ‼️ ความท้าทายและข้อควรระวัง ⛔ ยังไม่มีการเปิดเผยผู้ผลิตชิป (foundry), การบรรจุ (packaging) หรือชนิดหน่วยความจำ ⛔ การออกแบบและผลิตชิปใช้เวลานานและต้องการความแม่นยำสูง ⛔ ความสำเร็จของระบบใหม่ยังต้องพิสูจน์ในระดับการใช้งานจริง ⛔ Ecosystem ของ Broadcom ยังไม่เทียบเท่ากับ CUDA ของ Nvidia ในด้านซอฟต์แวร์และเครื่องมือ https://www.tomshardware.com/openai-broadcom-to-co-develop-10gw-of-custom-ai-chips
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    OpenAI and Broadcom to co-develop 10GW of custom AI chips in yet another blockbuster AI partnership — deployments start in 2026
    The AI firm’s latest hardware deal locks in another 10 gigawatts of capacity as it moves to design its own accelerators.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • “MRAM เจเนอเรชันใหม่ – พลิกวงการหน่วยความจำด้วยชั้นทังสเตน เร็วแรงเทียบ SRAM แต่กินไฟต่ำกว่า”

    ในโลกของหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ เรามักได้ยินชื่อของ DRAM และ SRAM เป็นหลัก แต่ตอนนี้มีผู้ท้าชิงรายใหม่ที่กำลังมาแรงอย่าง “MRAM” หรือ Magnetoresistive RAM ซึ่งล่าสุดนักวิจัยได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ “ชั้นทังสเตน” (Tungsten Layer) เพื่อเพิ่มความเร็วในการสลับบิต (bit flipping) ให้เทียบเท่ากับ SRAM แต่ใช้พลังงานต่ำกว่ามาก

    MRAM เป็นหน่วยความจำแบบไม่ลบเลือน (non-volatile) ซึ่งหมายความว่ามันสามารถเก็บข้อมูลได้แม้ไม่มีไฟฟ้า ต่างจาก DRAM ที่ต้องรีเฟรชตลอดเวลา หรือ SRAM ที่เร็วแต่กินไฟสูงและมีขนาดใหญ่

    การใช้ชั้นทังสเตนในโครงสร้างของ MRAM ช่วยให้สามารถควบคุมสนามแม่เหล็กได้แม่นยำขึ้น ทำให้การเขียนข้อมูลเร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นก้าวกระโดดสำคัญในการพัฒนา MRAM ให้สามารถใช้งานในระดับเดียวกับหน่วยความจำหลัก (main memory) ได้ในอนาคต

    หากเทคโนโลยีนี้ถูกนำไปผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้สำเร็จ มันอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่สมาร์ตโฟนไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์ระดับดาต้าเซ็นเตอร์ เพราะจะได้หน่วยความจำที่เร็วเท่า SRAM แต่ประหยัดพลังงานและไม่ลบเลือนเหมือน SSD

    MRAM คืออะไร
    ย่อมาจาก Magnetoresistive Random Access Memory
    เป็นหน่วยความจำแบบ non-volatile ที่ใช้สนามแม่เหล็กในการเก็บข้อมูล
    รวมข้อดีของ DRAM (เร็ว) และ Flash (ไม่ลบเลือน) เข้าด้วยกัน

    ความก้าวหน้าล่าสุด
    นักวิจัยพัฒนา MRAM ที่ใช้ชั้นทังสเตนเพื่อควบคุมสนามแม่เหล็ก
    ทำให้สามารถสลับบิตได้เร็วเทียบเท่า SRAM
    ใช้พลังงานต่ำกว่าหน่วยความจำแบบเดิมอย่างมีนัยสำคัญ

    ศักยภาพของ MRAM ในอนาคต
    อาจแทนที่ DRAM และ SRAM ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    เหมาะกับอุปกรณ์พกพาและ IoT ที่ต้องการประหยัดพลังงาน
    มีความทนทานสูงและอายุการใช้งานยาวนานกว่าหน่วยความจำแบบ Flash

    ความท้าทายในการผลิต
    การผลิต MRAM ยังมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับ DRAM
    การควบคุมสนามแม่เหล็กในระดับนาโนเมตรต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
    การนำไปใช้ในระดับ mass production ยังต้องใช้เวลาและการทดสอบเพิ่มเติม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/next-gen-mram-breakthrough-using-a-tungsten-layer-can-flip-bits-at-sram-rivalling-speeds-with-very-low-power-researchers-claim-true-next-gen-breakthrough
    ⚙️ “MRAM เจเนอเรชันใหม่ – พลิกวงการหน่วยความจำด้วยชั้นทังสเตน เร็วแรงเทียบ SRAM แต่กินไฟต่ำกว่า” ในโลกของหน่วยความจำคอมพิวเตอร์ เรามักได้ยินชื่อของ DRAM และ SRAM เป็นหลัก แต่ตอนนี้มีผู้ท้าชิงรายใหม่ที่กำลังมาแรงอย่าง “MRAM” หรือ Magnetoresistive RAM ซึ่งล่าสุดนักวิจัยได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ “ชั้นทังสเตน” (Tungsten Layer) เพื่อเพิ่มความเร็วในการสลับบิต (bit flipping) ให้เทียบเท่ากับ SRAM แต่ใช้พลังงานต่ำกว่ามาก MRAM เป็นหน่วยความจำแบบไม่ลบเลือน (non-volatile) ซึ่งหมายความว่ามันสามารถเก็บข้อมูลได้แม้ไม่มีไฟฟ้า ต่างจาก DRAM ที่ต้องรีเฟรชตลอดเวลา หรือ SRAM ที่เร็วแต่กินไฟสูงและมีขนาดใหญ่ การใช้ชั้นทังสเตนในโครงสร้างของ MRAM ช่วยให้สามารถควบคุมสนามแม่เหล็กได้แม่นยำขึ้น ทำให้การเขียนข้อมูลเร็วขึ้นและใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นก้าวกระโดดสำคัญในการพัฒนา MRAM ให้สามารถใช้งานในระดับเดียวกับหน่วยความจำหลัก (main memory) ได้ในอนาคต หากเทคโนโลยีนี้ถูกนำไปผลิตในระดับอุตสาหกรรมได้สำเร็จ มันอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่สมาร์ตโฟนไปจนถึงเซิร์ฟเวอร์ระดับดาต้าเซ็นเตอร์ เพราะจะได้หน่วยความจำที่เร็วเท่า SRAM แต่ประหยัดพลังงานและไม่ลบเลือนเหมือน SSD ✅ MRAM คืออะไร ➡️ ย่อมาจาก Magnetoresistive Random Access Memory ➡️ เป็นหน่วยความจำแบบ non-volatile ที่ใช้สนามแม่เหล็กในการเก็บข้อมูล ➡️ รวมข้อดีของ DRAM (เร็ว) และ Flash (ไม่ลบเลือน) เข้าด้วยกัน ✅ ความก้าวหน้าล่าสุด ➡️ นักวิจัยพัฒนา MRAM ที่ใช้ชั้นทังสเตนเพื่อควบคุมสนามแม่เหล็ก ➡️ ทำให้สามารถสลับบิตได้เร็วเทียบเท่า SRAM ➡️ ใช้พลังงานต่ำกว่าหน่วยความจำแบบเดิมอย่างมีนัยสำคัญ ✅ ศักยภาพของ MRAM ในอนาคต ➡️ อาจแทนที่ DRAM และ SRAM ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ➡️ เหมาะกับอุปกรณ์พกพาและ IoT ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ➡️ มีความทนทานสูงและอายุการใช้งานยาวนานกว่าหน่วยความจำแบบ Flash ‼️ ความท้าทายในการผลิต ⛔ การผลิต MRAM ยังมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับ DRAM ⛔ การควบคุมสนามแม่เหล็กในระดับนาโนเมตรต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ⛔ การนำไปใช้ในระดับ mass production ยังต้องใช้เวลาและการทดสอบเพิ่มเติม https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/next-gen-mram-breakthrough-using-a-tungsten-layer-can-flip-bits-at-sram-rivalling-speeds-with-very-low-power-researchers-claim-true-next-gen-breakthrough
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เมื่อ AI สร้างพอดแคสต์ได้เป็นพันรายการ – อุตสาหกรรมเสียงกำลังสั่นคลอน”

    ลองจินตนาการว่าโลกของพอดแคสต์ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงจริงจากคนจริง กำลังถูกแทนที่ด้วยเสียงสังเคราะห์จาก AI ที่สามารถผลิตรายการได้เป็นร้อยเป็นพันในเวลาไม่กี่นาที

    นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปี 2025 เมื่อ Google เปิดตัว “Audio Overview” ระบบสร้างพอดแคสต์จากเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้มนุษย์เลยแม้แต่นิดเดียว และตามมาด้วยคลื่นของสตาร์ทอัพอย่าง ElevenLabs และ Wondercraft ที่กระโดดเข้ามาในตลาดนี้อย่างรวดเร็ว

    ผลลัพธ์คือการผลิตพอดแคสต์แบบ “mass-produced” ที่มีโฮสต์เสมือนจริง พูดได้หลายภาษา ปรับอารมณ์เสียงได้ และสามารถสร้างเนื้อหาตามความต้องการของผู้ฟังได้ทันที

    แต่ในขณะที่เทคโนโลยีนี้ดูน่าตื่นเต้น มันกลับสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับอุตสาหกรรมพอดแคสต์อิสระ ที่ยังคงพึ่งพาการสนับสนุนจากผู้ฟังและโฆษณาแบบดั้งเดิม หลายรายการกำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เพราะไม่สามารถแข่งขันกับความเร็วและต้นทุนต่ำของ AI ได้

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้รสนิยมของผู้ฟังอาจไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่การหลั่งไหลของพอดแคสต์จาก AI จะส่งผลกระทบต่อ “ศิลปะของการเล่าเรื่อง” และความสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างกับผู้ฟังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ในมุมที่กว้างขึ้น นี่คือภาพสะท้อนของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสื่อทั่วโลก ที่กำลังเผชิญกับคำถามว่า “อะไรคือความจริง” และ “ใครคือผู้เล่าเรื่องที่แท้จริง”

    การเกิดขึ้นของพอดแคสต์จาก AI
    Google เปิดตัว Audio Overview สร้างพอดแคสต์จากเอกสารโดยไม่ใช้มนุษย์
    สตาร์ทอัพอย่าง ElevenLabs และ Wondercraft เข้าร่วมตลาดอย่างรวดเร็ว
    พอดแคสต์สามารถผลิตได้จำนวนมากในเวลาสั้น ด้วยต้นทุนต่ำ

    ความสามารถของพอดแคสต์ AI
    ใช้โฮสต์เสมือนจริงที่ปรับอารมณ์เสียงได้
    รองรับหลายภาษาและสามารถปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้ฟัง
    สร้างเนื้อหาแบบออนดีมานด์จากข้อมูลที่มีอยู่

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพอดแคสต์อิสระ
    รายการอิสระที่พึ่งพาผู้ฟังและโฆษณากำลังถูกแย่งพื้นที่
    ความสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างกับผู้ฟังอาจลดลง
    ความหลากหลายของเนื้อหาอาจถูกแทนที่ด้วยสูตรสำเร็จจาก AI

    มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ
    การผลิตจำนวนมากอาจทำลาย “ศิลปะของการเล่าเรื่อง”
    ความจริงและความเป็นมนุษย์ในเนื้อหาอาจถูกลดทอน
    อุตสาหกรรมสื่อกำลังเผชิญกับคำถามเรื่องความน่าเชื่อถือ

    คำเตือนต่ออนาคตของพอดแคสต์
    พอดแคสต์จาก AI อาจทำให้ผู้ฟังไม่สามารถแยกแยะเนื้อหาที่มีความจริงจากเนื้อหาสังเคราะห์
    ผู้สร้างเนื้อหาจริงอาจถูกลดบทบาทหรือหายไปจากตลาด
    ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองอาจถูกกลืนด้วยอัลกอริธึม
    การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้เนื้อหาขาดความลึกและความรู้สึก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/13/mass-produced-ai-podcasts-disrupt-a-fragile-industry
    🎙️ “เมื่อ AI สร้างพอดแคสต์ได้เป็นพันรายการ – อุตสาหกรรมเสียงกำลังสั่นคลอน” ลองจินตนาการว่าโลกของพอดแคสต์ที่เคยเต็มไปด้วยเสียงจริงจากคนจริง กำลังถูกแทนที่ด้วยเสียงสังเคราะห์จาก AI ที่สามารถผลิตรายการได้เป็นร้อยเป็นพันในเวลาไม่กี่นาที นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปี 2025 เมื่อ Google เปิดตัว “Audio Overview” ระบบสร้างพอดแคสต์จากเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้มนุษย์เลยแม้แต่นิดเดียว และตามมาด้วยคลื่นของสตาร์ทอัพอย่าง ElevenLabs และ Wondercraft ที่กระโดดเข้ามาในตลาดนี้อย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์คือการผลิตพอดแคสต์แบบ “mass-produced” ที่มีโฮสต์เสมือนจริง พูดได้หลายภาษา ปรับอารมณ์เสียงได้ และสามารถสร้างเนื้อหาตามความต้องการของผู้ฟังได้ทันที แต่ในขณะที่เทคโนโลยีนี้ดูน่าตื่นเต้น มันกลับสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับอุตสาหกรรมพอดแคสต์อิสระ ที่ยังคงพึ่งพาการสนับสนุนจากผู้ฟังและโฆษณาแบบดั้งเดิม หลายรายการกำลังดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เพราะไม่สามารถแข่งขันกับความเร็วและต้นทุนต่ำของ AI ได้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้รสนิยมของผู้ฟังอาจไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่การหลั่งไหลของพอดแคสต์จาก AI จะส่งผลกระทบต่อ “ศิลปะของการเล่าเรื่อง” และความสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างกับผู้ฟังอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในมุมที่กว้างขึ้น นี่คือภาพสะท้อนของการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสื่อทั่วโลก ที่กำลังเผชิญกับคำถามว่า “อะไรคือความจริง” และ “ใครคือผู้เล่าเรื่องที่แท้จริง” ✅ การเกิดขึ้นของพอดแคสต์จาก AI ➡️ Google เปิดตัว Audio Overview สร้างพอดแคสต์จากเอกสารโดยไม่ใช้มนุษย์ ➡️ สตาร์ทอัพอย่าง ElevenLabs และ Wondercraft เข้าร่วมตลาดอย่างรวดเร็ว ➡️ พอดแคสต์สามารถผลิตได้จำนวนมากในเวลาสั้น ด้วยต้นทุนต่ำ ✅ ความสามารถของพอดแคสต์ AI ➡️ ใช้โฮสต์เสมือนจริงที่ปรับอารมณ์เสียงได้ ➡️ รองรับหลายภาษาและสามารถปรับเนื้อหาให้เหมาะกับผู้ฟัง ➡️ สร้างเนื้อหาแบบออนดีมานด์จากข้อมูลที่มีอยู่ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพอดแคสต์อิสระ ➡️ รายการอิสระที่พึ่งพาผู้ฟังและโฆษณากำลังถูกแย่งพื้นที่ ➡️ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้างกับผู้ฟังอาจลดลง ➡️ ความหลากหลายของเนื้อหาอาจถูกแทนที่ด้วยสูตรสำเร็จจาก AI ✅ มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ การผลิตจำนวนมากอาจทำลาย “ศิลปะของการเล่าเรื่อง” ➡️ ความจริงและความเป็นมนุษย์ในเนื้อหาอาจถูกลดทอน ➡️ อุตสาหกรรมสื่อกำลังเผชิญกับคำถามเรื่องความน่าเชื่อถือ ‼️ คำเตือนต่ออนาคตของพอดแคสต์ ⛔ พอดแคสต์จาก AI อาจทำให้ผู้ฟังไม่สามารถแยกแยะเนื้อหาที่มีความจริงจากเนื้อหาสังเคราะห์ ⛔ ผู้สร้างเนื้อหาจริงอาจถูกลดบทบาทหรือหายไปจากตลาด ⛔ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมและมุมมองอาจถูกกลืนด้วยอัลกอริธึม ⛔ การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้เนื้อหาขาดความลึกและความรู้สึก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/13/mass-produced-ai-podcasts-disrupt-a-fragile-industry
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Mass-produced AI podcasts disrupt a fragile industry
    Artificial intelligence now makes it possible to mass-produce podcasts with completely virtual hosts, a development that is disrupting an industry still finding its footing and operating on a fragile business model.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Delta Force ปลุกกระแสเกมยิงในจีน – Tencent ปรับกลยุทธ์สู่เวทีโลก”

    ใครจะคิดว่าเกมยิงจากจีนจะกลายเป็นกระแสระดับโลก? Tencent ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการเกมจีน กำลังเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่หลังจาก “Delta Force” เกมยิงแนว extraction shooter กลายเป็นปรากฏการณ์ในปี 2024 ด้วยยอดผู้เล่นแตะ 30 ล้านคนต่อวัน

    เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ Leo Yao นักพัฒนาเกมที่เคยทำงานกับ Electronic Arts และปัจจุบันเป็นหัวหน้าทีม J3 Studio ของ Tencent เขาใช้ประสบการณ์จากการพัฒนา Call of Duty เวอร์ชันมือถือ มาผสมผสานแนวเกมต่าง ๆ จนเกิดเป็น Delta Force ที่มีทั้งโหมด extraction, battleground และเนื้อเรื่องแบบแคมเปญ

    ความสำเร็จในจีนทำให้ Tencent มองเห็นโอกาสใหม่ในตลาดโลก โดยเฉพาะในแนวเกมยิงที่เคยถูกครองโดยผู้พัฒนาจากตะวันตก เช่น Valve, Activision และ Ubisoft

    Tencent ไม่ได้หยุดแค่การพัฒนาเกม แต่ยังลงทุนในกลยุทธ์การตลาดแบบ localized เช่น การจับมือกับแบรนด์โจ๊กแปดเซียน เพื่อสื่อถึงความหลากหลายของเกม และกำลังจ้างทีมงานใหม่เพื่อเข้าใจผู้เล่นต่างประเทศมากขึ้น

    ในภาพรวม นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของ Tencent จากผู้จัดจำหน่าย ไปสู่ผู้สร้างเกมต้นฉบับที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง

    ความสำเร็จของ Delta Force
    เกมยิงแนว extraction shooter ที่ผสมโหมด battleground และแคมเปญ
    มีผู้เล่นกว่า 30 ล้านคนต่อวันในจีน
    ได้รับความนิยมจากการออกแบบที่หลากหลายและเข้าถึงง่าย

    การเปลี่ยนกลยุทธ์ของ Tencent
    มุ่งเน้นการสร้างเกมต้นฉบับแทนการซื้อกิจการ
    ต้องการเป็นผู้สร้างเกมที่มีเอกลักษณ์แบบ Valve
    ลงทุนในทีมงานใหม่เพื่อเจาะตลาดต่างประเทศ
    ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ localized เพื่อเข้าถึงผู้เล่นในแต่ละภูมิภาค

    ความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมเกมจีน
    ผู้เล่นจีนเริ่มหันมาเล่นเกม PC และเกมยิงมากขึ้น
    ตลาดเกมยิงมีมูลค่าราว 9% ของอุตสาหกรรมเกมโลก
    Tencent มีหุ้นในเกมดังอย่าง Fortnite, PUBG และ Far Cry

    ความท้าทายในการเจาะตลาดโลก
    ทีมงานส่วนใหญ่ยังเป็นคนจีน ทำให้เข้าใจผู้เล่นต่างชาติได้ยาก
    ต้องพัฒนาแนวทางใหม่ในการสื่อสารและออกแบบเกม
    ใช้การฟังเสียงผู้เล่นผ่าน influencer และการวิเคราะห์ข้อมูล

    คำเตือนสำหรับ Tencent และผู้พัฒนาเกมจีน
    การขาดความเข้าใจวัฒนธรรมผู้เล่นต่างประเทศ อาจทำให้เกมไม่ถูกใจตลาด
    ความเชื่อเดิมว่า “เกมยิงคือของตะวันตก” อาจเป็นอุปสรรคทางจิตวิทยา
    การพึ่งพาความสำเร็จในจีนมากเกินไป อาจไม่เพียงพอสำหรับตลาดโลก
    ความเสี่ยงจากภาพลักษณ์ “ลอกเลียนแบบ” ที่ยังติดอยู่ในสายตาผู้เล่นบางกลุ่ม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/13/tencents-delta-force-success-shifts-focus-to-shooting-games
    🎮 “Delta Force ปลุกกระแสเกมยิงในจีน – Tencent ปรับกลยุทธ์สู่เวทีโลก” ใครจะคิดว่าเกมยิงจากจีนจะกลายเป็นกระแสระดับโลก? Tencent ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการเกมจีน กำลังเปลี่ยนทิศทางครั้งใหญ่หลังจาก “Delta Force” เกมยิงแนว extraction shooter กลายเป็นปรากฏการณ์ในปี 2024 ด้วยยอดผู้เล่นแตะ 30 ล้านคนต่อวัน เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ Leo Yao นักพัฒนาเกมที่เคยทำงานกับ Electronic Arts และปัจจุบันเป็นหัวหน้าทีม J3 Studio ของ Tencent เขาใช้ประสบการณ์จากการพัฒนา Call of Duty เวอร์ชันมือถือ มาผสมผสานแนวเกมต่าง ๆ จนเกิดเป็น Delta Force ที่มีทั้งโหมด extraction, battleground และเนื้อเรื่องแบบแคมเปญ ความสำเร็จในจีนทำให้ Tencent มองเห็นโอกาสใหม่ในตลาดโลก โดยเฉพาะในแนวเกมยิงที่เคยถูกครองโดยผู้พัฒนาจากตะวันตก เช่น Valve, Activision และ Ubisoft Tencent ไม่ได้หยุดแค่การพัฒนาเกม แต่ยังลงทุนในกลยุทธ์การตลาดแบบ localized เช่น การจับมือกับแบรนด์โจ๊กแปดเซียน เพื่อสื่อถึงความหลากหลายของเกม และกำลังจ้างทีมงานใหม่เพื่อเข้าใจผู้เล่นต่างประเทศมากขึ้น ในภาพรวม นี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ของ Tencent จากผู้จัดจำหน่าย ไปสู่ผู้สร้างเกมต้นฉบับที่มีเอกลักษณ์ของตัวเอง ✅ ความสำเร็จของ Delta Force ➡️ เกมยิงแนว extraction shooter ที่ผสมโหมด battleground และแคมเปญ ➡️ มีผู้เล่นกว่า 30 ล้านคนต่อวันในจีน ➡️ ได้รับความนิยมจากการออกแบบที่หลากหลายและเข้าถึงง่าย ✅ การเปลี่ยนกลยุทธ์ของ Tencent ➡️ มุ่งเน้นการสร้างเกมต้นฉบับแทนการซื้อกิจการ ➡️ ต้องการเป็นผู้สร้างเกมที่มีเอกลักษณ์แบบ Valve ➡️ ลงทุนในทีมงานใหม่เพื่อเจาะตลาดต่างประเทศ ➡️ ใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ localized เพื่อเข้าถึงผู้เล่นในแต่ละภูมิภาค ✅ ความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมเกมจีน ➡️ ผู้เล่นจีนเริ่มหันมาเล่นเกม PC และเกมยิงมากขึ้น ➡️ ตลาดเกมยิงมีมูลค่าราว 9% ของอุตสาหกรรมเกมโลก ➡️ Tencent มีหุ้นในเกมดังอย่าง Fortnite, PUBG และ Far Cry ✅ ความท้าทายในการเจาะตลาดโลก ➡️ ทีมงานส่วนใหญ่ยังเป็นคนจีน ทำให้เข้าใจผู้เล่นต่างชาติได้ยาก ➡️ ต้องพัฒนาแนวทางใหม่ในการสื่อสารและออกแบบเกม ➡️ ใช้การฟังเสียงผู้เล่นผ่าน influencer และการวิเคราะห์ข้อมูล ‼️ คำเตือนสำหรับ Tencent และผู้พัฒนาเกมจีน ⛔ การขาดความเข้าใจวัฒนธรรมผู้เล่นต่างประเทศ อาจทำให้เกมไม่ถูกใจตลาด ⛔ ความเชื่อเดิมว่า “เกมยิงคือของตะวันตก” อาจเป็นอุปสรรคทางจิตวิทยา ⛔ การพึ่งพาความสำเร็จในจีนมากเกินไป อาจไม่เพียงพอสำหรับตลาดโลก ⛔ ความเสี่ยงจากภาพลักษณ์ “ลอกเลียนแบบ” ที่ยังติดอยู่ในสายตาผู้เล่นบางกลุ่ม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/13/tencents-delta-force-success-shifts-focus-to-shooting-games
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tencent's 'Delta Force' success shifts focus to shooting games
    For more than a decade, Tencent Holdings Ltd developer Leo Yao toiled in relative anonymity, churning out one shooting game after another. Then he scored one of the biggest Chinese hits of 2024 with Delta Force, a game that continues to attract 30 million players daily.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร. ยันตำรวจพร้อมเต็มที่ สนธิกำลังทหารรักษาอธิปไตยชายแดนสระแก้ว เน้นเจรจา หากไม่สำเร็จใช้กฎหมายนำ
    https://www.thai-tai.tv/news/21883/
    .
    #ไทยไท #ผบตร #กิตติ์รัฐ #ชายแดนไทยกัมพูชา #หนองจาน #กฎอัยการศึก #รักษาอธิปไตย

    ผบ.ตร. ยันตำรวจพร้อมเต็มที่ สนธิกำลังทหารรักษาอธิปไตยชายแดนสระแก้ว เน้นเจรจา หากไม่สำเร็จใช้กฎหมายนำ https://www.thai-tai.tv/news/21883/ . #ไทยไท #ผบตร #กิตติ์รัฐ #ชายแดนไทยกัมพูชา #หนองจาน #กฎอัยการศึก #รักษาอธิปไตย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระพุทธรูปสองพี่น้อง พ่อท่านลาก รุ่น1 วัดวชิรปราการ จ.ยะลา ปี2533
    เหรียญพระพุทธรูปสองพี่น้อง พ่อท่านลาก รุ่น1 วัดวชิรปราการ ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ปี2533 // พระดีพิธีใหญ่ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย ประสบความสำเร็จ และความอุดมสมบูรณ์ แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธ ความเจริญรุ่งเรือง และความสำเร็จในชีวิต >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระพุทธรูปสองพี่น้อง พ่อท่านลาก รุ่น1 วัดวชิรปราการ จ.ยะลา ปี2533 เหรียญพระพุทธรูปสองพี่น้อง พ่อท่านลาก รุ่น1 วัดวชิรปราการ ต.โกตาบารู อ.รามัน จ.ยะลา ปี2533 // พระดีพิธีใหญ่ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย ประสบความสำเร็จ และความอุดมสมบูรณ์ แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธ ความเจริญรุ่งเรือง และความสำเร็จในชีวิต >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนสร้างความอัปรีย์จัญไรแก่สายตาคนไทยอีกแล้ว,มุ่งแต่ตัวเอง หวังผลประโยชน์หวังแก่กำไรใส่ตัวเองอีกแล้ว,สะท้อนสันดานคนจีนได้ชัดเจนอีกด้าน,เรื่องพื้นๆยังจะทำกับคนไทยได้ลง,แล้วเรื่องพานิชย์ตัวอีกๆตัวพ่อๆแม่ๆล่ะ มันคงทำยิ่งกว่าหมูเด้งอีกที่เอาเปรียบคนขายค้าคนไทย.,เรื่องจีนแอบช่วยเขมรยังไม่เคลียร์ แฉออกมาระหว่างสู้รบกัน24ก.ค68 ถึง28 ก.ค.68 กูรูบางท่านแฉแล้ว และตอนนี้ออกมาแฉเต็มๆอีก,จีนคอมมิวนิสต์ไว้ใจไม่ได้เช่นกันจริงๆ,นาแกนครพนมเสียงปืนแตกครัังแรกนะ คอมมิวนิสต์สหายภูพานตัวพ่อภาคอีสานจะยึดประเทศไทยเลย,รวมคอมมิวนิสต์ภาคเหนืออีก,ลาวก็คอมมิวนิสต์ เวียดนามก็คอมมิวนิสต์ พม่าก็คอมมิวนิสต์ เขมรก็คอมมิวนิสต์ผีสิงผีปอบตัวพ่อฮุนเซนเผด็จการของแท้ระยำกว่าพม่า เวียดนาม ระยำกว่าลาวอีก,จีนสนับสนุนเขมรชัดเจน,เพราะแร่ธาตุในเขมรจีนต้องการหมด ถ้าเขมรนอมินีแทนจีนยึดแย่งดินแดนไทยสำเร็จหากชนะอีสานได้ยึดอีสานได้จีนก็ได้อีสานทั้งหมด รวมทั้งช่วยเขมรสู้กับไทยยึดอีสานยึดไทยได้อย่างเปิดเผยด้วย,
    ..กองทัพไทยบังเอิญคือแม่ทัพกุ้ง มทภ.2มิใช่ มทภ.1 เช่นนั้นไทยเสียอีสานทั้งภาคแน่นอน,ไม่มีบทลงโทษใดๆแก่มทภ.1และคณะทั้งหมดเลย.

    https://youtube.com/watch?v=_UaeNM1x0hQ&si=jtBtQkaOABqifKCj
    จีนสร้างความอัปรีย์จัญไรแก่สายตาคนไทยอีกแล้ว,มุ่งแต่ตัวเอง หวังผลประโยชน์หวังแก่กำไรใส่ตัวเองอีกแล้ว,สะท้อนสันดานคนจีนได้ชัดเจนอีกด้าน,เรื่องพื้นๆยังจะทำกับคนไทยได้ลง,แล้วเรื่องพานิชย์ตัวอีกๆตัวพ่อๆแม่ๆล่ะ มันคงทำยิ่งกว่าหมูเด้งอีกที่เอาเปรียบคนขายค้าคนไทย.,เรื่องจีนแอบช่วยเขมรยังไม่เคลียร์ แฉออกมาระหว่างสู้รบกัน24ก.ค68 ถึง28 ก.ค.68 กูรูบางท่านแฉแล้ว และตอนนี้ออกมาแฉเต็มๆอีก,จีนคอมมิวนิสต์ไว้ใจไม่ได้เช่นกันจริงๆ,นาแกนครพนมเสียงปืนแตกครัังแรกนะ คอมมิวนิสต์สหายภูพานตัวพ่อภาคอีสานจะยึดประเทศไทยเลย,รวมคอมมิวนิสต์ภาคเหนืออีก,ลาวก็คอมมิวนิสต์ เวียดนามก็คอมมิวนิสต์ พม่าก็คอมมิวนิสต์ เขมรก็คอมมิวนิสต์ผีสิงผีปอบตัวพ่อฮุนเซนเผด็จการของแท้ระยำกว่าพม่า เวียดนาม ระยำกว่าลาวอีก,จีนสนับสนุนเขมรชัดเจน,เพราะแร่ธาตุในเขมรจีนต้องการหมด ถ้าเขมรนอมินีแทนจีนยึดแย่งดินแดนไทยสำเร็จหากชนะอีสานได้ยึดอีสานได้จีนก็ได้อีสานทั้งหมด รวมทั้งช่วยเขมรสู้กับไทยยึดอีสานยึดไทยได้อย่างเปิดเผยด้วย, ..กองทัพไทยบังเอิญคือแม่ทัพกุ้ง มทภ.2มิใช่ มทภ.1 เช่นนั้นไทยเสียอีสานทั้งภาคแน่นอน,ไม่มีบทลงโทษใดๆแก่มทภ.1และคณะทั้งหมดเลย. https://youtube.com/watch?v=_UaeNM1x0hQ&si=jtBtQkaOABqifKCj
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Fudan สร้างชิปหน่วยความจำจากวัสดุ 2D บนซิลิคอนสำเร็จ — จุดเปลี่ยนวงการเซมิคอนดักเตอร์ระดับอะตอม”

    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Fudan ประเทศจีน ได้สร้างชิปหน่วยความจำที่ใช้งานได้จริงโดยใช้วัสดุสองมิติ (2D materials) และฝังลงบนซิลิคอนแบบดั้งเดิมได้สำเร็จเป็นครั้งแรก โดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า “ATOM2CHIP” ซึ่งช่วยให้สามารถเติบโตชั้น molybdenum disulfide (MoS₂) ที่บางเพียงไม่กี่อะตอมลงบนชิป CMOS ขนาด 0.13 ไมโครเมตรได้โดยตรง

    ผลลัพธ์คือชิปไฮบริดที่รวมหน่วยความจำแฟลชแบบ NOR ที่สร้างจากวัสดุ 2D เข้ากับคอนโทรลเลอร์ CMOS แบบมาตรฐาน ทำให้สามารถเขียน/ลบข้อมูลได้ในเวลาเพียง 20 นาโนวินาที เก็บข้อมูลได้นานถึง 10 ปี และทนต่อการเขียนซ้ำได้มากกว่า 100,000 ครั้ง โดยใช้พลังงานเพียง 0.644 พิโคจูลต่อบิต ซึ่งต่ำกว่าชิปแฟลชทั่วไปอย่างมาก

    ทีมวิจัยยังรายงานว่า yield ของการผลิตเต็มชิปอยู่ที่ 94.34% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับการผลิตเชิงพาณิชย์ และถือเป็นก้าวสำคัญในการนำวัสดุ 2D เข้าสู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

    เพื่อให้วัสดุ 2D สามารถฝังลงบนพื้นผิวซิลิคอนได้โดยไม่เสียหาย ทีมงานได้พัฒนาเทคนิคการยึดเกาะแบบ conformal adhesion ที่ช่วยให้วัสดุสามารถ “ไหล” ไปตามพื้นผิวที่ไม่เรียบของซิลิคอนได้อย่างนุ่มนวล พร้อมระบบบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันความร้อนและไฟฟ้าสถิต

    นอกจากนี้ยังมีการออกแบบระบบ cross-platform interface ที่ช่วยให้ชั้น 2D สามารถสื่อสารกับตรรกะ CMOS ได้อย่างไร้รอยต่อ รองรับการทำงานแบบ instruction-driven, 32-bit parallelism และ random access

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    นักวิจัย Fudan สร้างชิปหน่วยความจำจากวัสดุ 2D บนซิลิคอนสำเร็จ
    ใช้กระบวนการ ATOM2CHIP เพื่อฝัง MoS₂ บน CMOS 0.13μm
    ชิปไฮบริดรวม NOR flash 2D กับคอนโทรลเลอร์ CMOS
    เขียน/ลบข้อมูลได้ใน 20 นาโนวินาที
    เก็บข้อมูลได้นาน 10 ปี และเขียนซ้ำได้มากกว่า 100,000 ครั้ง
    ใช้พลังงานเพียง 0.644 พิโคจูลต่อบิต
    Yield การผลิตเต็มชิปอยู่ที่ 94.34%
    ใช้เทคนิค conformal adhesion เพื่อฝังวัสดุ 2D บนพื้นผิวซิลิคอน
    มีระบบบรรจุภัณฑ์ป้องกันความร้อนและไฟฟ้าสถิต
    ออกแบบ cross-platform interface เพื่อเชื่อมต่อกับ CMOS logic

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    วัสดุ 2D เช่น MoS₂ มีคุณสมบัติทางไฟฟ้าและความบางระดับอะตอม
    NOR flash เป็นหน่วยความจำที่ใช้ในงานที่ต้องการความเร็วสูงและความทนทาน
    Yield สูงกว่า 90% ถือว่าใกล้เคียงกับระดับการผลิตเชิงพาณิชย์
    การใช้ conformal adhesion ช่วยลดความเสียหายจากพื้นผิวที่ไม่เรียบ
    การเชื่อมต่อกับ CMOS logic เป็นกุญแจสำคัญในการนำวัสดุ 2D ไปใช้งานจริง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/researchers-achieve-breakthrough-integration-of-2d-materials-on-silicon-chips
    🔬 “Fudan สร้างชิปหน่วยความจำจากวัสดุ 2D บนซิลิคอนสำเร็จ — จุดเปลี่ยนวงการเซมิคอนดักเตอร์ระดับอะตอม” ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Fudan ประเทศจีน ได้สร้างชิปหน่วยความจำที่ใช้งานได้จริงโดยใช้วัสดุสองมิติ (2D materials) และฝังลงบนซิลิคอนแบบดั้งเดิมได้สำเร็จเป็นครั้งแรก โดยใช้กระบวนการที่เรียกว่า “ATOM2CHIP” ซึ่งช่วยให้สามารถเติบโตชั้น molybdenum disulfide (MoS₂) ที่บางเพียงไม่กี่อะตอมลงบนชิป CMOS ขนาด 0.13 ไมโครเมตรได้โดยตรง ผลลัพธ์คือชิปไฮบริดที่รวมหน่วยความจำแฟลชแบบ NOR ที่สร้างจากวัสดุ 2D เข้ากับคอนโทรลเลอร์ CMOS แบบมาตรฐาน ทำให้สามารถเขียน/ลบข้อมูลได้ในเวลาเพียง 20 นาโนวินาที เก็บข้อมูลได้นานถึง 10 ปี และทนต่อการเขียนซ้ำได้มากกว่า 100,000 ครั้ง โดยใช้พลังงานเพียง 0.644 พิโคจูลต่อบิต ซึ่งต่ำกว่าชิปแฟลชทั่วไปอย่างมาก ทีมวิจัยยังรายงานว่า yield ของการผลิตเต็มชิปอยู่ที่ 94.34% ซึ่งใกล้เคียงกับระดับการผลิตเชิงพาณิชย์ และถือเป็นก้าวสำคัญในการนำวัสดุ 2D เข้าสู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพื่อให้วัสดุ 2D สามารถฝังลงบนพื้นผิวซิลิคอนได้โดยไม่เสียหาย ทีมงานได้พัฒนาเทคนิคการยึดเกาะแบบ conformal adhesion ที่ช่วยให้วัสดุสามารถ “ไหล” ไปตามพื้นผิวที่ไม่เรียบของซิลิคอนได้อย่างนุ่มนวล พร้อมระบบบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันความร้อนและไฟฟ้าสถิต นอกจากนี้ยังมีการออกแบบระบบ cross-platform interface ที่ช่วยให้ชั้น 2D สามารถสื่อสารกับตรรกะ CMOS ได้อย่างไร้รอยต่อ รองรับการทำงานแบบ instruction-driven, 32-bit parallelism และ random access ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ นักวิจัย Fudan สร้างชิปหน่วยความจำจากวัสดุ 2D บนซิลิคอนสำเร็จ ➡️ ใช้กระบวนการ ATOM2CHIP เพื่อฝัง MoS₂ บน CMOS 0.13μm ➡️ ชิปไฮบริดรวม NOR flash 2D กับคอนโทรลเลอร์ CMOS ➡️ เขียน/ลบข้อมูลได้ใน 20 นาโนวินาที ➡️ เก็บข้อมูลได้นาน 10 ปี และเขียนซ้ำได้มากกว่า 100,000 ครั้ง ➡️ ใช้พลังงานเพียง 0.644 พิโคจูลต่อบิต ➡️ Yield การผลิตเต็มชิปอยู่ที่ 94.34% ➡️ ใช้เทคนิค conformal adhesion เพื่อฝังวัสดุ 2D บนพื้นผิวซิลิคอน ➡️ มีระบบบรรจุภัณฑ์ป้องกันความร้อนและไฟฟ้าสถิต ➡️ ออกแบบ cross-platform interface เพื่อเชื่อมต่อกับ CMOS logic ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ วัสดุ 2D เช่น MoS₂ มีคุณสมบัติทางไฟฟ้าและความบางระดับอะตอม ➡️ NOR flash เป็นหน่วยความจำที่ใช้ในงานที่ต้องการความเร็วสูงและความทนทาน ➡️ Yield สูงกว่า 90% ถือว่าใกล้เคียงกับระดับการผลิตเชิงพาณิชย์ ➡️ การใช้ conformal adhesion ช่วยลดความเสียหายจากพื้นผิวที่ไม่เรียบ ➡️ การเชื่อมต่อกับ CMOS logic เป็นกุญแจสำคัญในการนำวัสดุ 2D ไปใช้งานจริง https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/researchers-achieve-breakthrough-integration-of-2d-materials-on-silicon-chips
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Researchers achieve breakthrough integration of 2D materials on standard silicon chips
    Researchers at Fudan University have created a working memory chip just a few atoms thick.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Intel ยุติยุค Ponte Vecchio และ Arctic Sound — เตรียมเข้าสู่ Jaguar Shores ด้วย AI ที่ทรงพลังกว่าเดิม”

    Intel ประกาศเริ่มกระบวนการเลิกใช้งาน GPU สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์รุ่น Ponte Vecchio และ Arctic Sound อย่างเป็นทางการ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ปรากฏใน changelog ของ Intel XPU Manager เวอร์ชัน 1.3.3 ซึ่งระบุว่าซอฟต์แวร์จะไม่รองรับ GPU Flex และ Max อีกต่อไป ผู้ใช้งานจึงควรใช้เวอร์ชัน 1.2.42 เพื่อรักษาฟีเจอร์เดิมไว้

    Ponte Vecchio เป็น GPU ขนาดใหญ่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Xe-HPC และกระบวนการผลิต Intel 10 โดยมีขนาดถึง 1,280 mm² และมีทรานซิสเตอร์กว่า 100 พันล้านตัว พร้อม shading units 16,384 และ tensor cores 1,024 ใช้พลังงานสูงสุดถึง 600W ต่อการ์ด และมีหน่วยความจำตั้งแต่ 48 ถึง 128 GB เหมาะสำหรับงาน HPC และ AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    Arctic Sound เป็น GPU ขนาดเล็กกว่า ใช้สถาปัตยกรรม Gen 12.5 และผลิตด้วย Intel 10 node เช่นกัน มีขนาด 190 mm² และทรานซิสเตอร์ประมาณ 8 พันล้านตัว พร้อม shading units 8,192 และ ROPs 128 ใช้พลังงานประมาณ 500W และมีหน่วยความจำ 16 GB เหมาะสำหรับงานระดับกลางในดาต้าเซ็นเตอร์

    แม้ GPU ทั้งสองรุ่นจะถูกนำไปใช้งานในระบบ Aurora supercomputer ซึ่งถือเป็นความสำเร็จด้านวิศวกรรม แต่การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Intel ทำให้ผู้ผลิตหลายรายลังเลที่จะลงทุนกับแพลตฟอร์มที่ไม่มั่นคง

    Intel เตรียมเปิดตัว Jaguar Shores ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ HBM4 และซอฟต์แวร์ OneAPI ที่พัฒนาเต็มรูปแบบแล้ว เพื่อรองรับงาน AI และ HPC ในระดับ rack-scale

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Intel ยุติการสนับสนุน GPU Ponte Vecchio และ Arctic Sound
    การเปลี่ยนแปลงปรากฏใน Intel XPU Manager เวอร์ชัน 1.3.3
    Ponte Vecchio ใช้ Xe-HPC, ขนาด 1,280 mm², 100 พันล้านทรานซิสเตอร์
    มี shading units 16,384 และ tensor cores 1,024
    ใช้พลังงานสูงสุด 600W และมีหน่วยความจำ 48–128 GB
    Arctic Sound ใช้ Gen 12.5, ขนาด 190 mm², 8 พันล้านทรานซิสเตอร์
    มี shading units 8,192 และ ROPs 128, ใช้พลังงาน 500W
    GPU ทั้งสองถูกใช้งานใน Aurora supercomputer
    Intel เตรียมเปิดตัว Jaguar Shores พร้อม HBM4 และ OneAPI

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Xe-HPC เป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่องาน HPC โดยเฉพาะ
    HBM4 คือหน่วยความจำความเร็วสูงรุ่นใหม่ที่มี bandwidth สูงกว่า HBM3
    OneAPI เป็นแพลตฟอร์มที่รวมการพัฒนา GPU, CPU และ FPGA ไว้ในชุดเดียว
    Aurora supercomputer เป็นหนึ่งในระบบที่ทรงพลังที่สุดของสหรัฐฯ
    การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Intel สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI

    https://www.techpowerup.com/341806/intel-phases-out-ponte-vecchio-and-arctic-sound-data-center-gpus
    🧊 “Intel ยุติยุค Ponte Vecchio และ Arctic Sound — เตรียมเข้าสู่ Jaguar Shores ด้วย AI ที่ทรงพลังกว่าเดิม” Intel ประกาศเริ่มกระบวนการเลิกใช้งาน GPU สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์รุ่น Ponte Vecchio และ Arctic Sound อย่างเป็นทางการ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ปรากฏใน changelog ของ Intel XPU Manager เวอร์ชัน 1.3.3 ซึ่งระบุว่าซอฟต์แวร์จะไม่รองรับ GPU Flex และ Max อีกต่อไป ผู้ใช้งานจึงควรใช้เวอร์ชัน 1.2.42 เพื่อรักษาฟีเจอร์เดิมไว้ Ponte Vecchio เป็น GPU ขนาดใหญ่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Xe-HPC และกระบวนการผลิต Intel 10 โดยมีขนาดถึง 1,280 mm² และมีทรานซิสเตอร์กว่า 100 พันล้านตัว พร้อม shading units 16,384 และ tensor cores 1,024 ใช้พลังงานสูงสุดถึง 600W ต่อการ์ด และมีหน่วยความจำตั้งแต่ 48 ถึง 128 GB เหมาะสำหรับงาน HPC และ AI ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง Arctic Sound เป็น GPU ขนาดเล็กกว่า ใช้สถาปัตยกรรม Gen 12.5 และผลิตด้วย Intel 10 node เช่นกัน มีขนาด 190 mm² และทรานซิสเตอร์ประมาณ 8 พันล้านตัว พร้อม shading units 8,192 และ ROPs 128 ใช้พลังงานประมาณ 500W และมีหน่วยความจำ 16 GB เหมาะสำหรับงานระดับกลางในดาต้าเซ็นเตอร์ แม้ GPU ทั้งสองรุ่นจะถูกนำไปใช้งานในระบบ Aurora supercomputer ซึ่งถือเป็นความสำเร็จด้านวิศวกรรม แต่การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Intel ทำให้ผู้ผลิตหลายรายลังเลที่จะลงทุนกับแพลตฟอร์มที่ไม่มั่นคง Intel เตรียมเปิดตัว Jaguar Shores ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ HBM4 และซอฟต์แวร์ OneAPI ที่พัฒนาเต็มรูปแบบแล้ว เพื่อรองรับงาน AI และ HPC ในระดับ rack-scale ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Intel ยุติการสนับสนุน GPU Ponte Vecchio และ Arctic Sound ➡️ การเปลี่ยนแปลงปรากฏใน Intel XPU Manager เวอร์ชัน 1.3.3 ➡️ Ponte Vecchio ใช้ Xe-HPC, ขนาด 1,280 mm², 100 พันล้านทรานซิสเตอร์ ➡️ มี shading units 16,384 และ tensor cores 1,024 ➡️ ใช้พลังงานสูงสุด 600W และมีหน่วยความจำ 48–128 GB ➡️ Arctic Sound ใช้ Gen 12.5, ขนาด 190 mm², 8 พันล้านทรานซิสเตอร์ ➡️ มี shading units 8,192 และ ROPs 128, ใช้พลังงาน 500W ➡️ GPU ทั้งสองถูกใช้งานใน Aurora supercomputer ➡️ Intel เตรียมเปิดตัว Jaguar Shores พร้อม HBM4 และ OneAPI ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Xe-HPC เป็นสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาเพื่องาน HPC โดยเฉพาะ ➡️ HBM4 คือหน่วยความจำความเร็วสูงรุ่นใหม่ที่มี bandwidth สูงกว่า HBM3 ➡️ OneAPI เป็นแพลตฟอร์มที่รวมการพัฒนา GPU, CPU และ FPGA ไว้ในชุดเดียว ➡️ Aurora supercomputer เป็นหนึ่งในระบบที่ทรงพลังที่สุดของสหรัฐฯ ➡️ การเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ Intel สะท้อนถึงการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด AI https://www.techpowerup.com/341806/intel-phases-out-ponte-vecchio-and-arctic-sound-data-center-gpus
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Intel Phases Out "Ponte Vecchio" and "Arctic Sound" Data Center GPUs
    Intel has apparently started a slow deprecation phase of its "Ponte Vecchio" Data Center GPU Max and "Arctic Sound" Data Center GPU Flex series. According to the changelog in the Intel XPU Manager—a free and open-source tool for monitoring and managing Intel data center GPUs—version 1.3.3 deprecates...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Tensor G5: ชิปเรือธงจาก Google ที่สะดุดกลางสนามแข่งสมาร์ตโฟน"

    ลองนึกภาพว่าคุณกำลังรอสมาร์ตโฟน Pixel รุ่นใหม่จาก Google ที่มาพร้อมชิป Tensor G5 ซึ่งผลิตบนเทคโนโลยี 3nm ของ TSMC ฟังดูน่าตื่นเต้นใช่ไหม? แต่เมื่อเปิดตัวจริงกลับพบว่า Tensor G5 มีปัญหาเรื่องความร้อนและการ throttle อย่างหนัก โดยเฉพาะในการเล่นเกมหรือแม้แต่การจำลอง PlayStation 2

    สาเหตุหลักมาจากการออกแบบชิปแบบ “ปะติดปะต่อ” ของ Google ที่ใช้คอร์ CPU จาก ARM แบบสำเร็จรูป ไม่ได้พัฒนาเองเหมือนคู่แข่งอย่าง Qualcomm ที่ใช้คอร์ Oryon แบบ custom ซึ่งมีความเร็วสูงและระบบ cache ที่ปรับแต่งมาอย่างดี

    GPU ที่ใช้ก็เป็น Imagination IMG DXT-48-1536 ซึ่งแม้จะมีประสิทธิภาพใกล้เคียง Adreno หรือ Mali แต่ไม่มี ray-tracing และ Google ยังต้องพึ่งพา Imagination ในการอัปเดตไดรเวอร์ ทำให้ขาดความคล่องตัวในการปรับแต่ง

    แม้ Tensor G5 จะมี TPU รุ่นใหม่สำหรับงาน AI และใช้โมเด็ม Exynos 5G แต่เมื่อเทียบกับ Snapdragon 8 Elite Gen 5 แล้ว ยังห่างไกลในด้านประสิทธิภาพและการควบคุมความร้อน

    สถาปัตยกรรมของ Tensor G5
    CPU แบบ 8-core: Cortex-X4, Cortex-A725, Cortex-A520
    GPU: Imagination IMG DXT-48-1536 ไม่มี ray-tracing
    TPU รุ่นที่ 5 สำหรับงาน AI
    โมเด็ม Exynos 5G
    ผลิตบนเทคโนโลยี 3nm ของ TSMC

    ปัญหาหลักของ Tensor G5
    เกิดความร้อนสูงและ throttle อย่างรวดเร็ว
    ประสิทธิภาพต่ำในการเล่นเกมและ emulation
    คะแนน Geekbench และ 3DMark ต่ำกว่าคู่แข่ง

    ข้อเปรียบเทียบกับ Snapdragon 8 Elite Gen 5
    ใช้คอร์ Oryon แบบ custom ที่มีความเร็วสูง
    มี L2 cache ขนาด 12MB สำหรับทั้ง prime และ performance cores
    ปรับแต่งระบบภายในได้ละเอียดกว่า

    ข้อจำกัดด้าน GPU และไดรเวอร์
    Google ต้องพึ่งพา Imagination ในการอัปเดตไดรเวอร์
    ขาดความสามารถในการควบคุมและปรับแต่งแบบเต็มรูปแบบ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Pixel 10 ที่ใช้ Tensor G5
    อาจพบปัญหาความร้อนและประสิทธิภาพตกในการใช้งานหนัก
    การเล่นเกมหรือใช้งาน AI อาจไม่ลื่นไหลเท่าที่คาดหวัง
    การพึ่งพาเทคโนโลยีจากภายนอกทำให้ Google ขาดความยืดหยุ่นในการพัฒนา

    Tensor G5 เป็นตัวอย่างของการพยายามลดต้นทุนด้วยการใช้ส่วนประกอบสำเร็จรูป แต่ในโลกของสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ความเร็ว ความร้อน และความเสถียรคือสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังสูงสุด และดูเหมือนว่า Google ยังต้องปรับกลยุทธ์อีกมากหากต้องการแข่งขันกับ Qualcomm และ Apple อย่างเต็มตัว.

    https://wccftech.com/the-flaw-in-tensor-g5/
    📲 "Tensor G5: ชิปเรือธงจาก Google ที่สะดุดกลางสนามแข่งสมาร์ตโฟน" ลองนึกภาพว่าคุณกำลังรอสมาร์ตโฟน Pixel รุ่นใหม่จาก Google ที่มาพร้อมชิป Tensor G5 ซึ่งผลิตบนเทคโนโลยี 3nm ของ TSMC ฟังดูน่าตื่นเต้นใช่ไหม? แต่เมื่อเปิดตัวจริงกลับพบว่า Tensor G5 มีปัญหาเรื่องความร้อนและการ throttle อย่างหนัก โดยเฉพาะในการเล่นเกมหรือแม้แต่การจำลอง PlayStation 2 สาเหตุหลักมาจากการออกแบบชิปแบบ “ปะติดปะต่อ” ของ Google ที่ใช้คอร์ CPU จาก ARM แบบสำเร็จรูป ไม่ได้พัฒนาเองเหมือนคู่แข่งอย่าง Qualcomm ที่ใช้คอร์ Oryon แบบ custom ซึ่งมีความเร็วสูงและระบบ cache ที่ปรับแต่งมาอย่างดี GPU ที่ใช้ก็เป็น Imagination IMG DXT-48-1536 ซึ่งแม้จะมีประสิทธิภาพใกล้เคียง Adreno หรือ Mali แต่ไม่มี ray-tracing และ Google ยังต้องพึ่งพา Imagination ในการอัปเดตไดรเวอร์ ทำให้ขาดความคล่องตัวในการปรับแต่ง แม้ Tensor G5 จะมี TPU รุ่นใหม่สำหรับงาน AI และใช้โมเด็ม Exynos 5G แต่เมื่อเทียบกับ Snapdragon 8 Elite Gen 5 แล้ว ยังห่างไกลในด้านประสิทธิภาพและการควบคุมความร้อน ✅ สถาปัตยกรรมของ Tensor G5 ➡️ CPU แบบ 8-core: Cortex-X4, Cortex-A725, Cortex-A520 ➡️ GPU: Imagination IMG DXT-48-1536 ไม่มี ray-tracing ➡️ TPU รุ่นที่ 5 สำหรับงาน AI ➡️ โมเด็ม Exynos 5G ➡️ ผลิตบนเทคโนโลยี 3nm ของ TSMC ✅ ปัญหาหลักของ Tensor G5 ➡️ เกิดความร้อนสูงและ throttle อย่างรวดเร็ว ➡️ ประสิทธิภาพต่ำในการเล่นเกมและ emulation ➡️ คะแนน Geekbench และ 3DMark ต่ำกว่าคู่แข่ง ✅ ข้อเปรียบเทียบกับ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ➡️ ใช้คอร์ Oryon แบบ custom ที่มีความเร็วสูง ➡️ มี L2 cache ขนาด 12MB สำหรับทั้ง prime และ performance cores ➡️ ปรับแต่งระบบภายในได้ละเอียดกว่า ✅ ข้อจำกัดด้าน GPU และไดรเวอร์ ➡️ Google ต้องพึ่งพา Imagination ในการอัปเดตไดรเวอร์ ➡️ ขาดความสามารถในการควบคุมและปรับแต่งแบบเต็มรูปแบบ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Pixel 10 ที่ใช้ Tensor G5 ⛔ อาจพบปัญหาความร้อนและประสิทธิภาพตกในการใช้งานหนัก ⛔ การเล่นเกมหรือใช้งาน AI อาจไม่ลื่นไหลเท่าที่คาดหวัง ⛔ การพึ่งพาเทคโนโลยีจากภายนอกทำให้ Google ขาดความยืดหยุ่นในการพัฒนา Tensor G5 เป็นตัวอย่างของการพยายามลดต้นทุนด้วยการใช้ส่วนประกอบสำเร็จรูป แต่ในโลกของสมาร์ตโฟนระดับเรือธง ความเร็ว ความร้อน และความเสถียรคือสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังสูงสุด และดูเหมือนว่า Google ยังต้องปรับกลยุทธ์อีกมากหากต้องการแข่งขันกับ Qualcomm และ Apple อย่างเต็มตัว. https://wccftech.com/the-flaw-in-tensor-g5/
    WCCFTECH.COM
    The Flaw In Google Pixel's New Tensor G5 Chip
    Google's design strategy for the Tensor G5 chip is akin to buying an off-the-rack suit and then paying for some fittings here and there.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts