• อ่านเพิ่มเติม
    34 ปี ตรวจสอบทรัพย์สิน "10 รัฐมนตรี" จากยึดทรัพย์สู่พฤษภาทมิฬ! ศาลฎีกาสั่งเพิกถอน... คำสั่งยึดทรัพย์ 📌 ย้อนรอยประวัติศาสตร์การเมืองไทยเมื่อ 34 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ได้ออกคำสั่งจัดตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน (คตส.) ภายใต้การนำของ พลเอกสิทธิ จิรโรจน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีเป้าหมาย เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของนักการเมือง ในรัฐบาล พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ว่ามีการร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ 🚨 ผลจากการตรวจสอบ รสช. ได้มีคำสั่ง ยึดทรัพย์รัฐมนตรี 10 ราย ซึ่งกลายเป็นเหตุการณ์สำคัญ ที่เชื่อมโยงไปสู่ความไม่พอใจ ของประชาชน จนกระทั่งนำไปสู่ เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ และการฟ้องร้องในศาลฎีกา ในเวลาต่อมา 🔍 การตรวจสอบทรัพย์สินนักการเมือง ในปี 2534 📅 เหตุการณ์สำคัญ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 รสช. ก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาล พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2534 รสช. แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน (คตส.) โดย คตส. ตรวจสอบนักการเมือง 25 ราย และมีคำสั่ง ยึดทรัพย์ 10 ราย 🏛️ รายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกยึดทรัพย์ 1️⃣ นายเสนาะ เทียนทอง 62.7 ล้านบาท 2️⃣ นายมนตรี พงษ์พานิช 3️⃣ นายบรรหาร ศิลปอาชา 4️⃣ นายณรงค์ วงศ์วรรณ 5️⃣ พล.ต.ท. วิโรจน์ เปาอินทร์ 6️⃣ นายสุธี อากาศฤกษ์ 7️⃣ พล.อ. เหรียญ ดิษฐบรรจง 8️⃣ นายชัยเชต สุนทรพิพิธ 9️⃣ นายอำนวย วงศ์วิเชียร 🔟 นายไพศาล กุมาลย์วิสัย 💬 แม้ว่านักการเมืองบางราย จะพยายามต่อสู้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ แต่กระบวนการยึดทรัพย์ ก็สร้าง ผลกระทบต่อชื่อเสียง และภาพลักษณ์เป็นอย่างมาก 🏛️ คำให้การจากป๋าเหนาะ "เสนาะ เทียนทอง" หนึ่งในผู้ถูกยึดทรัพย์ 📌 ป๋าเหนาะเป็นหนึ่งในนักการเมือง ที่ถูกยึดทรัพย์ 62.7 ล้านบาท เจ้าตัวเล่าว่าไม่ได้พยายาม "วิ่งเต้น" เพื่อให้พ้นข้อกล่าวหา และเลือกที่จะต่อสู้ตามกระบวนการ 🗣️ “ตอนนั้นผมมีเงินแค่ 30 ล้าน และเป็นเงินเก่าของผมเอง ไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติ” 🗣️ “แม้จะถูกแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรี แต่ผมไม่ได้เซ็นหนังสืออะไรเลย เพราะผมมองว่ารัฐบาลนี้ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง” ⚖️ จากการยึดทรัพย์ สู่ พฤษภาทมิฬ พ.ศ. 2535 🔥 เหตุการณ์บานปลาย จากความไม่พอใจของประชาชน ต่อรัฐบาล พลเอกสุจินดา คราประยูร ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำ รสช. 📌 เหตุการณ์สำคัญ: เมษายน 2535 รัฐบาลประกาศให้ พลเอกสุจินดา เป็นนายกรัฐมนตรี 17 พฤษภาคม 2535 ประชาชนเดินขบวนต่อต้าน เกิดการสลายการชุมนุมรุนแรง พฤษภาทมิฬ 2535 มีผู้เสียชีวิต และสูญหายจำนวนมาก 🎤 พลเอก สุจินดา ออกมาประกาศ "ยอมเสียสัตย์เพื่อชาติ" และลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ⚖️ ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์ พ.ศ. 2536 📌 หลังเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ นักการเมืองที่ถูกยึดทรัพย์ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกา เพื่อให้พิจารณาว่าคำสั่งของ รสช. และ คตส. เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ ⚖️ วันที่ 26 มีนาคม 2536 ศาลฎีกาตัดสินว่า ✅ คำสั่งยึดทรัพย์ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ✅ ให้ เพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์ และคืนทรัพย์สินทั้งหมด ให้กับผู้ถูกกล่าวหา 📌 ผลกระทบของคำตัดสิน สะท้อนให้เห็นถึงการใช้อำนาจของ รสช. ที่อาจเกินขอบเขต ทำให้รัฐประหาร และการใช้อำนาจยึดทรัพย์ กลายเป็นข้อถกเถียงทางกฎหมาย และสิทธิประชาชน 🔎 บทเรียนจากอดีต สู่อนาคตการเมืองไทย 📢 3 ประเด็นที่ต้องเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ 1️⃣ "อำนาจ" ต้องมาพร้อม "ความชอบธรรม" การใช้กฎหมายตรวจสอบนักการเมือง เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องโปร่งใสและยุติธรรม 2️⃣ ประชาชนคือพลังขับเคลื่อนประชาธิปไตย การลุกขึ้นต่อต้าน ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ สะท้อนพลังของประชาชน ในการปกป้องสิทธิของตนเอง 3️⃣ การเมืองไทยต้องก้าวข้ามวังวนอำนาจ หากการเมืองไทยยังคงมีการรัฐประหาร และใช้อำนาจอย่างไม่เป็นธรรม ก็อาจนำไปสู่ความขัดแย้งในอนาคตอีกครั้ง 📌 34 ปี แห่งบทเรียนทางการเมืองไทย 📍 การตรวจสอบทรัพย์สินในปี 2534 เป็นจุดเริ่มต้นของ "เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ" และการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ครั้งสำคัญ 📍 แม้สุดท้ายศาลฎีกา จะสั่งเพิกถอนคำสั่งยึดทรัพย์ แต่บทเรียนจากอดีต ยังคงส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน 📍 ประชาชนต้องตื่นตัว และตรวจสอบอำนาจรัฐเสมอ เพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 251309 ก.พ. 2568 🔗 #ประวัติศาสตร์การเมืองไทย #พฤษภาทมิฬ #รัฐประหาร2534 #ตรวจสอบทรัพย์สิน #เสนาะเทียนทอง #ยึดทรัพย์รัฐมนตรี #ศาลฎีกา #ประชาธิปไตยไทย #รสช #สุจินดาคราประยูร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'วิโรจน์' รับทราบข้อหา ป.ป.ช. มั่นใจสู้คดีได้ ลั่นย้อนเวลาได้ยังยื่นแก้ 112 ยันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
    https://www.thai-tai.tv/news/17288/
    'วิโรจน์' รับทราบข้อหา ป.ป.ช. มั่นใจสู้คดีได้ ลั่นย้อนเวลาได้ยังยื่นแก้ 112 ยันไม่ได้ทำผิดกฎหมาย https://www.thai-tai.tv/news/17288/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    17 กุมภาพันธ์ พ ศ 2498 วันประหารชีวิต สามนักโทษกรณีสวรรคต หลังจากศึกษาค้นคว้าข้อมูลแล้ว เห็นว่า “มีผู้จงใจทั้งในอดีตและปัจจุบัน พยายามสื่อสารให้เข้าใจว่า รัชกาลที่เก้าเป็นผู้ปฏิเสธการขอพระราชทานอภัยลดโทษประหารชีวิตของสามนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่ 8” ———— "ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด" ผู้เขียนขอนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด เพราะมีสื่อต่างๆที่นำเสนอข้อมูลบางตอนที่ “อาจจะ” ทำให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน หากไม่อ่านอย่างละเอียดถี่ถ้วน สื่อต่างๆที่ว่านี้ ได้แก่ 1. THE STANDARD TEAM เรื่อง “17 กุมภาพันธ์ 2498 – ประหารชีวิต ชิต, บุศย์, เฉลียว จำเลยคดีสวรรคตในหลวง ร.8” เผยแพร่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 มีข้อความดังนี้: “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2478 ขณะมีพระชนมพรรษาเพียง 9 พรรษา พระองค์สวรรคตด้วยพระแสงปืนอย่างมีเงื่อนงำเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2489 ต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้ง 3 คน คือ เฉลียว ปทุมรส, ชิต สิงหเสนี และ บุศย์ ปัทมศริน อ้างอิงจากแถลงการณ์กระทรวงมหาดไทย ดังนี้ แถลงการณ์ของกระทรวงมหาดไทย ตามที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษประหารชีวิตนายเฉลียว ปทุมรส นายชิต สิงหเสนีย์ และนายบุศย์ ปัทมะศิรินทร์ จำเลยในคดีต้องหาว่าประทุษร้ายต่อองค์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล และจำเลยทั้งสามได้ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ขอพระราชทานอภัยโทษนั้น บัดนี้ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ยกฎีกาของจำเลยทั้งสามเสีย ทางราชทัณฑ์จึงได้นำตัวจำเลยทั้งสาม ไปประหารชีวิตตามคำพิพากษา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498 เวลา 05.00 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง ต่อหน้าคณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วยผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวางเป็นประธานกรรมการ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายแพทย์เชื้อ พัฒนเจริญ และนายหลอม บุญอ่อน รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าแผนกควบคุมเรือนจำกลางบางขวางเป็นกรรมการ ตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยเป็นการเสร็จไปแล้ว จึงขอแถลงมาให้ทราบทั่วกันกระทรวงมหาดไทย วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498” ................ 2. สถาบันปรีดี พนมยงค์ เรื่อง “สามจำเลยผู้บริสุทธิ์” โดย สุพจน์ ด่านตระกูล เผยแพร่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 มีข้อความบางตอนดังนี้ “หลังจากที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสามคน เมื่อ 12 ตุลาคม 2497 แล้ว ต่อมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2497 จำเลยทั้งสามได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาดังกล่าวได้ตกไปในที่สุด เกี่ยวกับการยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของจำเลยทั้งสามนั้น พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (บุตรชายของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม) ได้เขียนไว้ในหนังสือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม พิมพ์ที่โรงพิมพ์ศูนย์การพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. 2519 มีความตอนหนึ่งเป็นบทสนทนาระหว่าง พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (ผู้เขียน) กับ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งขณะนั้นลี้ภัยการเมืองอยู่ในประเทศญี่ปุ่นว่าดังนี้ ‘...ข้าพเจ้าจึงระงับใจไม่ได้ที่ต้องเรียนถาม จอมพล ป. พิบูลสงคราม วันหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ในฐานะที่เวลานั้น (พ.ศ. 2498-ผู้เขียน) ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ เหตุใดท่านจึงไม่ขอพระราชทานอภัยโทษให้จำเลยสามคนที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต ท่านตอบข้าพเจ้าทันทีอย่างหนักแน่นว่า พ่อได้ขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปถึงสามครั้ง ได้พยายามทำหน้าที่ของพ่อจนถึงที่สุดแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา มีน้อยครั้งที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องเสียใจบ้างเมื่อทำอะไรไม่สำเร็จ แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นครั้งใดที่ทนจะเสียใจหนักยิ่งไปกว่าที่ข้าพเจ้ากำลังเห็นท่านครั้งนั้น ขณะเมื่อได้ตอบคำถามของข้าพเจ้าจบ ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและสนเท่ห์ใจไม่เปลี่ยนแปลง’ (จากหนังสือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม หน้า 647) และก็สอดคล้องกับหนังสือแจกงานศพของนายชิต สิงหเสนี ที่บุตรสาวของท่านได้บันทึกไว้ในหนังสือนั้น มีความว่า ‘ภายหลังที่พ่อถูกประหารชีวิตแล้ว จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ส่งนายฉาย วิโรจน์ศิริ เลขานุการส่วนตัวของท่านไปหาพวกเรา แจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลยินดีจะให้การอุปการะความเป็นอยู่การศึกษาแก่พวกเราทุกประการ พวกเราปรึกษาหารือกัน และในที่สุดตกลงรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อเป็นเครื่องยืนยันในความบริสุทธิ์ของพ่อ รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือแก่พวกเรา ความช่วยเหลือนี้เพิ่งมายกเลิกในสมัยรัฐบาล จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์’” .................. 3. “ปัจฉิมวาจาของ ๓ นักโทษประหาร” มีข้อความบางตอนดังนี้: “หลังจากที่ศาลฎีกาได้พิพากษาลงโทษให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง ๓ คน เมื่อ ๑๒ ตุลาคม ๒๔๙๗ แล้วต่อมาในวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๗ จำเลยทั้ง ๓ ได้ทำหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่ฎีกาดังกล่าวได้ตกไปในที่สุด เกี่ยวกับการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของจำเลยทั้ง ๓ นั้น พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (บุตรชายของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม) ได้เขียนไว้ในหนังสือ "จอมพล ป. พิบูลสงคราม" พิมพ์ที่โรงพิมพ์ศูนย์การพิมพ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ มีความตอนหนึ่งเป็นบทสนทนาระหว่าง พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม (ผู้เขียน) กับจอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งขณะนั้นลี้ภัยการเมืองอยู่ในประเทศญี่ปุ่นว่าดังนี้ ‘...ข้าพเจ้าจึงระงับใจไม่ได้ที่ต้องเรียนถามจอมพล ป. พิบูลสงคราม วันหนึ่งที่ประเทศญี่ปุ่นว่า ในฐานะที่เวลานั้น (พ.ศ. ๒๔๙๘-ผู้เขียน) ท่านดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอยู่ เหตุใดท่านจึงไม่ขอพระราชทานอภัยโทษให้จำเลยสามคนที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต ท่านตอบข้าพเจ้าทันทีอย่างหนักแน่นว่า พ่อได้ขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปถึงสามครั้ง ได้พยายามทำหน้าที่ของพ่อจนถึงที่สุดแล้ว ในอดีตที่ผ่านมา มีน้อยครั้งที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม ต้องเสียใจบ้างเมื่อทำอะไรไม่สำเร็จ แต่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นครั้งใดที่ท่านจะเสียใจหนักยิ่งไปกว่าที่ข้าพเจ้ากำลังเห็นท่านครั้งนั้น ขณะเมื่อได้ตอบคำถามของข้าพเจ้าจบ ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึมและสนเท่ห์ใจไม่เปลี่ยนแปลง’ (จากหนังสือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม หน้า ๖๘๗) และก็สอดคล้องกับหนังสือแจกงานศพของนายชิต สิงหเสนี ที่บุตรสาวของท่านได้บันทึกไว้ในหนังสือนั้น มีความว่า ‘ภายหลังที่พ่อถูกประหารชีวิตแล้ว จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้ส่งนายฉาย วิโรจน์ศิริ เลขานุการส่วนตัวของท่านไปหาพวกเรา แจ้งให้ทราบว่ารัฐบาลยินดีจะให้การอุปการะความเป็นอยู่การศึกษาแก่พวกเราทุกประการ พวกเราปรึกษาหารือกัน และในที่สุด ตกลงรับความช่วยเหลือจากรัฐบาล เพื่อเป็นเครื่องยืนยันในความบริสุทธิ์ของพ่อ รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือแก่พวกเรา ความช่วยเหลือนี้พึ่งมายกเลิกในสมัยรัฐบาล จอมพล สฤษดิ์ ธนรัชต์’” ---------- ผู้เขียนได้สืบค้นเงื่อนไขการขอพระราชทานอภัยโทษในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ พบว่า บทบัญญัติแห่งธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว พ.ศ. 2475 ซึ่งเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 นั้น ทำให้พระราชฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ต้องถูกลิดรอนลงจากเดิม จากการใช้พระราชอำนาจที่เด็ดขาดและเป็นอิสระมาสู่การใช้พระราชอำนาจตามขอบเขตในรัฐธรรมนูญแล้ว ยังทำให้แนวความคิดและรูปแบบของการใช้พระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษต้องเปลี่ยนแปลงไปด้วย ต่อมาเมื่อมีการประกาศใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาเมื่อพุทธศักราช 2477 โดยได้กำหนดรูปแบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการในการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษไว้ในภาค 7 ว่าด้วยอภัยโทษเปลี่ยนโทษหนักเป็นเบา และลดโทษมาตรา 259 ถึงมาตรา 267 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ถวายความเห็นและคำแนะนำเท่านั้น ซึ่งพระมหากษัตริย์/ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มักลงมติให้อภัยโทษหรือระงับฎีกาตามความเห็นของคณะรัฐมนตรีเสมอ แม้ว่าในบางกรณีความเห็นของกระทรวงมหาดไทยขัดแย้งกับความเห็นของคณะรัฐมนตรีก็ตาม (สรุปและเรียบเรียงจากหัวข้อ พระราชทานอภัยโทษ ฐานข้อมูล สถาบันพระปกเกล้า) ……… ในการขอพระราชทานอภัยลดโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น คือ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย —————- ผู้เขียนได้ไปสืบค้นรายงานการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งที่ ๘๕/๒๔๙๗ วันพุธที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๙๗ มีข้อความทั้งหมดที่เกี่ยวกับกรณีการขอพระราชทานอภัยลดโทษของนักโทษคดีสวรรคตรัชกาลที่แปด ดังนี้: “๙. เรื่อง นักโทษเด็ดขาดชาย เฉลียว ปทุมรส นักโทษเด็ดขาดชาย ชิต สิงหเสนี และนักโทษเด็ดขาดชาย บุศย์ ปัทมศริน ขอพระราชทานอภัยลดโทษ (กระทรวงมหาดไทยนำส่งฎีกาพร้อมด้วยเอกสารการสอบสวนของนักโทษเด็ดขาดชาย เฉลียว ปทุมรส นักโทษเด็ดขาดชาย ชิต สิงหเสนี และนักโทษเด็ดขาดชาย บุศย์ ปัทมศริน เรือนจำกลาง บางขวาง ต้องโทษฐานสมคบกันกระทำการประทุษร้ายต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๘ (พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล) กำหนดโทษประหารชีวิต ขอพระราชทานชีวิตให้คงไว้ มา น.ช. เฉลียว ฯ อ้างว่า ตนยังมีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตลอดไป ไม่เคยคิดที่จะหมิ่มพระบรมเดชานุภาพอย่างใด ขณะนี้ครอบครัวขาดผู้อุปการะ น.ช. ชิต ฯ อ้างว่า บรรพบุรุษในตระกูลของตน ซึ่งมีเจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์) เป็นต้นตระกูล ตลอดจนบิดา ได้เคยรับราชการสนองพระเดชพระคุณมาด้วยความจงรักภักดี ซื่อสัตย์สุจริต ส่วน น.ช. บุศย์ ฯ อ้างว่า ชีวิตของตนได้เติบโตขึ้นมาก็โดยความอุปการะในพระบรมราชตระกูลที่ได้ทรงชุบเลี้ยง การเข้ารับราชการจึงเป็นไปด้วยความจงรักภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (จอมพล ป พิบูลสงคราม) ได้สอบสวนพิจารณาแล้ว ไม่เห็นควรขอพระราชทานอภัยลดโทษได้ให้โดยอ้างว่า เรื่องนี้เป็นการประทุษร้ายแก่บุคคลสำคัญของประเทศตามหลักการของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบด้วยแล้วนั้น จะไม่ขอพระราชทานอภัยโทษให้ ควรยกฎีกาเสีย) มติ - เห็นชอบด้วยตามกระทรวงมหาดไทย ให้นำความกราบบังคมทูลได้.” (นอกจาก จอมพล ป จะเป็น รมต มหาดไทยแล้ว ยังเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย) ------------ จากข้อความในรายงานการประชุมคณะรัฐมนตรีข้างต้นและจากการเปลี่ยนแปลงพระราชฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่ถูกลิดรอนลงจากเดิมหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระมหากษัตริย์จึงไม่มีพระราชอำนาจที่เด็ดขาดและเป็นอิสระ แต่ทรงใช้พระราชอำนาจตามขอบเขตในรัฐธรรมนูญ ซึ่งพระมหากษัตริย์/ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์มักลงมติให้อภัยโทษหรือระงับฎีกาตามความเห็นของคณะรัฐมนตรีเสมอ ขณะเดียวกัน จากคำบอกเล่าของ พล.ต. อนันต์ พิบูลสงคราม ที่กล่าวถึง จอมพล ป. พิบูลสงคราม ผู้เป็นบิดาว่า “…ท่านตอบข้าพเจ้าทันทีอย่างหนักแน่นว่า พ่อได้ขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปถึงสามครั้ง…” ………. ผู้เขียนใคร่เรียนขอว่า ถ้ามีใครมีหลักฐานการขอพระราชอภัยโทษอีกสองครั้ง โปรดกรุณานำมาเผยแพร่ด้วย จักเป็นประโยชน์ต่อวงการวิชาการประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์และต่อสาธารณชน ขอขอบพระคุณล่วงหน้าครับ ป ล หลังจากศึกษาค้นคว้าข้อมูลแล้ว เห็นว่า มีผู้จงใจทั้งในอดีตและปัจจุบัน ให้รัชกาลที่เก้าเป็นผู้รับผิดชอบการปฏิเสธการขอพระราชทานอภัยลดโทษประหารชีวิตของสามนักโทษ ที่มา : เฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ของ ศาสตราจารย์ ไชยันต์ ไชยพร
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านเพิ่มเติม
    ข้อมูลนายพลเป็นความลับ เปิดเผยกระทบความมั่นคง 'ภูมิธรรม' เบื่อโต้ 'ประชาชน' . ทุกวันนี้พรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทยกลายเป็นพรรคไม้เบื่อไม้เมาไปกันทุกเรื่องแล้ว อย่างล่าสุดมีกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร ทำหนังสือในคณะกรรมาธิการฯ ถึงสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อขอข้อมูลจำนวนอัตรานายทหารชั้นนายพล ตั้งแต่ระดับพลตรี พลโท พลเอก แยกตามเหล่าทัพ และการลดอัตรากำลังพลดังกล่าว . ทั้งนี้ ปรากฎว่ากระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือปฏิเสธการให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่าจำนวนอัตรากำลังพลของกระทรวงกลาโหม เป็นข้อมูลที่กำหนดชั้นความลับ "ลับมาก" ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง หากเปิดเผยทั้งหมดหรือบางส่วน จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประโยชน์แห่งรัฐอย่างร้ายแรง ทำให้นายวิโรจน์ ออกมาแสดงความคิดเห็นวิจารณ์ถึงท่าทีกระทรวงกลาโหมที่ออกมา . "ถ้าในประเด็นความมั่นคงของประเทศ ผมยืนยันว่ายังไงก็ไม่ลับหรอกครับ แต่ถ้าเป็นความมั่นคงของกระเป๋าของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผมก็คิดว่าเป็นไปได้ แถม "ลับมาก" เสียด้วย" ข้อวิจารณ์ของนายวิโรจน์ . ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า ความคืบหน้าแผนการปฏิรูปกองทัพ ในการปรับลด ตำแหน่งนายพลระดับสูง อยู่ในสมุดปกขาวกระทรวงกลาโหมอยู่แล้ว และที่ผ่านมามีกระบวนการลดกำลังพลอย่างเป็นขั้น เป็นตอน และที่ผ่านมา ได้มีการลดกำลังพลอยู่แล้ว และตนได้มีการแจ้งอย่างชัดเจนให้รับนโยบายนี้ไปดำเนินการ ซึ่งในปี 2570 จะมีตัวเลขที่ชัดเจน และขณะนี้กระบวนการได้เริ่มต้นแล้ว ส่วนจะไปอย่างไรต่อขึ้นอยู่กับความเป็นจริง แต่ในส่วนของเรามีหน้าที่ในการผลักดันไปตามนโยบาย . "หากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ว่ามา เราก็พร้อมชี้แจงอยู่แล้ว ซึ่งไม่ต้องชี้แจงรายวัน ไม่งั้นเป็นเรื่องปิงปอง รวมทั้งยังมีสมุดปกขาวที่ได้มีการระบุอย่างชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษรว่าในปี 2570 จะมีการลดเหลือเท่าใด ขอให้ไปดูตรงนั้น แล้วค่อยมาว่ากันในภาพรวม ขออย่างเดียวเรื่องเหล่านั้น อย่าเอามาลงรายละเอียด หากลงรายละเอียดเยอะ ก็เป็นปัญหาเกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศด้วย ซึ่งการที่เราจะมาแจ้งจำนวนคน และบางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาพูดคุยผ่านอากาศ" นายภูมิธรรม ระบุ ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    Sad
    19
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2073 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุยโฆษณา สสส. ในตำนาน จน เครียด กินเหล้า จากคุณ สายเชีย วงศ์วิโรจน์ ในรายการของคุณสายสวรรค์ ขยันยิ่ง ไม่เกี่ยวกับตีสิบ #มิตรแท้ประกันภัย #Sondhitalk
    คุยโฆษณา สสส. ในตำนาน จน เครียด กินเหล้า จากคุณ สายเชีย วงศ์วิโรจน์ ในรายการของคุณสายสวรรค์ ขยันยิ่ง ไม่เกี่ยวกับตีสิบ #มิตรแท้ประกันภัย #Sondhitalk
    Video Player is loading.
    Current Time 0:00
    Duration 0:00
    Loaded: 0%
    Stream Type LIVE
    Remaining Time 0:00
     
    1x
      • Chapters
      • descriptions off, selected
      • captions and subtitles off, selected
        Like
        1
        0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 84 0 รีวิว
      • อ่านเพิ่มเติม
        คุ้มกว่ารถกอล์ฟ แรงกว่าสามล้อจีน เหนือกว่าตุ๊กๆTuktuk รถสามล้อโดยสาร Giant นั่งได้9ที่นั่ง มีทั้งไฟฟ้า และ น้ำมัน ครับผม ราคาเริ่มต้น 180,000 บาทครับผม --------------------------------------- 🛒 เครื่องยนต์แท้นวัตกรรมจากญี่ปุ่น 🛒 ▶จดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฏหมาย!!!!! ▶ --------------------------------- ▶ เครื่องยนต์ญี่ปุ่นของแท้ ต้องซูโมต้าเท่านั้น ▶ ---------------------------------------- ติดต่อสอบถามหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติม: ➡ Line: @sumota https://line.me/ti/p/%40gdg6563t ➡ โทร: 02 416 5700 ➡ Inbox 24 ชั่วโมง ➡ website: http://sumota.co.th ➡youtube : ดร.วิโรจน์ กุศลมโนมัย👇 https://www.youtube.com/c/ดรวิโรจน์กุศลมโนมัย #รถสามล้อ #รถสามล้อไฟฟ้า #รถสามล้อบรรทุก #รถสามล้อบรรทุกไฟฟ้า #รถ3ล้อ #รถสามล้อซูโมต้า #รถสามล้อsumota #รถสามล้อจดทะเบียน #รถ3ล้อจดทะเบียน #รถ3ล้อไฟฟ้า #รถ3ล้อบรรทุก #รถ3ล้อบรรทุกไฟฟ้า #รถบรรทุก #รถฟู๊ดทรัค #มอไซค์3ล้อ #สามล้ออเนกประสงค์ราคา #สามล้อฟู้ดทรัคราคา #สามล้อฟู้ดทรัค #รถมอเตอร์ไซค์สามล้อราคา #รถจักรยานยนต์สามล้อไฟฟ้า, #สามล้อบรรทุกราคา #รถสามล้อเครื่อง #รถจักรยานยนต์สามล้อ #สามล้อเครื่องยนต์ #สามล้อขนของ #3ล้อขนของ #3ล้อบรรทุกของ
        Video Player is loading.
        Current Time 0:00
        Duration 0:00
        Loaded: 0%
        Stream Type LIVE
        Remaining Time 0:00
         
        1x
          • Chapters
          • descriptions off, selected
          • captions and subtitles off, selected
            0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 924 มุมมอง 10 0 รีวิว
          • อ่านเพิ่มเติม
            ❗🦻เปิดรับ Pre-order ต่อเนื่องหลังจาก ที่รถรุ่นยอดนิยม พึ่งจะหมดสต็อกไปเมื่อต้นเดือน พย. ❤พร้อมโปรโมชั่น คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม 👈 สำหรับท่านที่จอง รถรุ่นขายดี ยอดนิยม #Ijumbo250 #Emaxpro200 👉จองภายในปี 2567 รับไปเลย ส่วนลดพิเศษจากราคาปกคิ 20,000 บาท 👉จองภายในเดือน กพ. 2568 รับไปเลย ส่วนลดพิเศษ จากราราปกติ 10,000 บาท #ล็อตนี้หมดแล้ว #สั่งพรีออเดอร์ 🛺New Emax 200 PRO 2024 !!!และ I-jumbo250🛺 🎉Sumota Emax 200cc . รุ่นยอดนิยม โฉมใหม่ ล่าสุด ปี2024 🎉 สามารถจดทะเบียนได้่!!!! บรรทุกได้ถึง 1ตัน 🌈 ราคาปกติ 150,000 บาท 🎉Sumota I-jumbo 250cc . รุ่นยอดนิยม โฉมใหม่ ล่าสุด ปี2024 🎉 สามารถจดทะเบียนได้่!!!! บรรทุกได้ถึง 2ตัน 🌈 ราคาปกติ 180,000 บาท พัฒนามาถึงระดับสุดยอด ตาม คำแนะนำและเรียกร้องของลุกค้ามากมาย กับนวัตกรรมใหม่ล่าสุด !💕 (ดีกว่าเดิม แข็งแรงกว่าเดิม ปลอดภัยกว่าเดิม แต่จ่ายราคาเดิม ) 👈พัฒนาเป็นระบบเบรคน้ำมัน เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ ระยะเบรคสั้้นลง2เท่า ❗ 👈เปลี่ยนระบบไฟทั้งหมดเป็นLED หมดปัญหาเรื่องขับกลางดึก ❗ 👈 หน้ากากCabin ที่ทันสมัย และ ปรับกระจกมองข้าง มองเห็นชัดขับขี่ปลอดภัย ❗ 👈ระบบคอนโซลด้านหน้าที่ทันสมัยขึ้น ที่นั่งกว้างขวาง ขับสะดวกสบาย ❗ -------------------------------------- 🛒 เครื่องยนต์แท้นวัตกรรมจากญี่ปุ่น 🛒 ▶จดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฏหมาย!!!!! ▶ --------------------------------- ▶ เครื่องยนต์ญี่ปุ่นของแท้ ต้องซูโมต้าเท่านั้น ▶ ---------------------------------------- ติดต่อสอบถามหรือขอคำแนะนำเพิ่มเติม: ➡ Line: @sumota https://line.me/ti/p/%40gdg6563t ➡ โทร: 02 416 5700 ➡ Inbox 24 ชั่วโมง ➡ website: http://sumota.co.th ➡youtube : ดร.วิโรจน์ กุศลมโนมัย👇 https://www.youtube.com/c/ดรวิโรจน์กุศลมโนมัย #รถสามล้อ #รถสามล้อไฟฟ้า #รถสามล้อบรรทุก #รถสามล้อบรรทุกไฟฟ้า #รถ3ล้อ #รถสามล้อซูโมต้า #รถสามล้อsumota #รถสามล้อจดทะเบียน #รถ3ล้อจดทะเบียน #รถ3ล้อไฟฟ้า #รถ3ล้อบรรทุก #รถ3ล้อบรรทุกไฟฟ้า #รถบรรทุก #รถฟู๊ดทรัค #มอไซค์3ล้อ #สามล้ออเนกประสงค์ราคา #สามล้อฟู้ดทรัคราคา #สามล้อฟู้ดทรัค #รถมอเตอร์ไซค์สามล้อราคา #รถจักรยานยนต์สามล้อไฟฟ้า, #สามล้อบรรทุกราคา #รถสามล้อเครื่อง #รถจักรยานยนต์สามล้อ #สามล้อเครื่องยนต์ #สามล้อขนของ #3ล้อขนของ #3ล้อบรรทุกของ
            0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1181 มุมมอง 0 รีวิว
          • บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งเมืองจันทน์ เกิดความดุเดือดมากขึ้น ภายหลังมีเหตุขู่ทำร้าย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ซึ่งลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี พรรคประชาชน หาเสียง

            #เลือกตั้งนายกอบจ #เมืองจันทน์ #พรรคประชาชน #บ้านใหญ่ #พลังส้ม #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
            บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งเมืองจันทน์ เกิดความดุเดือดมากขึ้น ภายหลังมีเหตุขู่ทำร้าย นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ซึ่งลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.จันทบุรี พรรคประชาชน หาเสียง #เลือกตั้งนายกอบจ #เมืองจันทน์ #พรรคประชาชน #บ้านใหญ่ #พลังส้ม #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
            Video Player is loading.
            Current Time 0:00
            Duration 0:00
            Loaded: 0%
            Stream Type LIVE
            Remaining Time 0:00
             
            1x
              • Chapters
              • descriptions off, selected
              • captions and subtitles off, selected
                Like
                Love
                7
                1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1736 มุมมอง 49 0 รีวิว
              • จุ้น!
                วิโรจน์ อาสานำเยี่ยม 4 ลูกเรือประมง
                https://www.matichon.co.th/politics/news_4986496
                จุ้น! วิโรจน์ อาสานำเยี่ยม 4 ลูกเรือประมง https://www.matichon.co.th/politics/news_4986496
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
              • ♣ อีกเดือนกว่าถึงซักฟอกรัฐบาล แต่วิโรจน์ประกาศฟันสุริยะ ตามใบสั่งธนาธร แต่ละเส้นนักโทษชั้น14 และบทบาทครอบงำเพื่อไทย สะท้อนภาพ น้ำข้นกว่าเลือดในยุคพรรคประชาชน
                #7ดอกจิก
                ♣ อีกเดือนกว่าถึงซักฟอกรัฐบาล แต่วิโรจน์ประกาศฟันสุริยะ ตามใบสั่งธนาธร แต่ละเส้นนักโทษชั้น14 และบทบาทครอบงำเพื่อไทย สะท้อนภาพ น้ำข้นกว่าเลือดในยุคพรรคประชาชน #7ดอกจิก
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                ยื่นซักฟอกรัฐบาล หลังวาเลนไทน์ 'สุริยะ' จ่อโดนด้วย . หนึ่งในไฮไลต์ของการเมืองที่้หลายฝ่ายต่างจับตา คือ การเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคประชาชน ซึ่งจะเป็นศึกใหญ่ครั้งสำคัญของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเรื่องนี้ทางพรรคประชาชนประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่าจะมีการยื่นญัตติดังกล่าวอย่างแน่นอน . นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ขอให้จับตาว่าถ้าหมดห้วงเวลาแห่งความรักในช่วง วันที่ 14 ก.พ.เมื่อไหร่ ก็จะเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งความจริงอันโหดร้ายของรัฐบาล เมื่อนั้นก็ส่งสัญญาณถึงรัฐบาลว่าความผิดสำเร็จแล้ว ทำอะไรก็ไม่ทัน รัฐบาลทำใจเถอะ . “มีเรื่องของกระทรวงคมนาคมด้วย ให้ปักธงเลยว่าอย่าคิดว่านามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจแล้วจะรอด แล้วจะไม่โดน แต่จะโดนหนักกว่าใครด้วย ทำอะไรไว้รู้อยู่แก่ใจ ไม่ใช่คิดว่านามสกุลจึงรุ่งเรืองกิจ แล้วจะปลอดภัย" นายวิโรจน์ กล่าวยืนยัน . นายวิโรจน์ ระบุอีกว่า ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้สัญญาทำนองว่าในปี2568 ชีวิตประชาชนจะดีขึ้นนั้น ขออำนวยอวยพรให้มันเป็นอย่างที่นายกพูดจริงๆสักทีเหมือนกัน เพราะประชาชนก็รอมานานแล้ว พูดมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีกิน มีใช้ ตั้งแต่ตอนหาเสียง แต่มันก็ไม่เป็นจริงสักครั้ง ส่วนเรื่องปัญหาค่าไฟ ไม่แก้ที่ต้นตอ ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นกฎหมายที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ร่ำๆจะออก ก็ยังไม่ออกสักที ยังไม่รู้ว่าออกกฎหมายมาแล้ว การบังคับใช้กฎหมาย จะมีประสิทธิภาพแค่ไหน รวมถึงการปราบยาเสพติด ยาบ้ายังราคาถูก ถ้าปราบได้จริงยาบ้าต้องแพงขึ้นตามกลไกตลาด วันนี้ยาบ้า ก็ยังหาง่าย และราคาถูกอยู่เหมือนเดิม การปราบยาก็ยังเป็นแค่ภาพลวงตา .............. Sondhi X
                Like
                Love
                Haha
                Yay
                10
                1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1428 มุมมอง 0 รีวิว
              • อ่านเพิ่มเติม
                พังงา - เมียเจ้าของเรือเครียด ปิดปากเงียบไม่ขอพูดอะไร กลัวพม่าเคืองไม่ปล่อยตัวสามีและลูกเรือกลับบ้าน ด้านลูกน้องเฝ้ารอเมื่อไหร่จะได้กลับมาออกเรือ • จากกรณีทหารเรือพม่าไล่ยิงเรือประมงไทย และจับเรือประมงไทย จำนวน 1 ลำ พร้อมไต๋เรือ และลูกเรือประมง รวม 31 คน โดยในจำนวนนั้นมีคนไทยอยู่ด้วย 4 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) มีรายงานว่าศาลเกาะสอง ประเทศพม่าได้ตัดสินจำคุกเจ้าของเรือประมง รวม 6 ปี และลูกเรือคนไทย คนละ 4 ปี ในความผิดหลายข้อหาหนัก รุกล้ำน่านน้ำ ทำประมงและลักลอบเข้าประเทศ และลดโทษเหลือเพียงรอลงอาญา จะปล่อยตัวคนไทยกลับหลังปีใหม่ • ล่าสุด เมื่อเช้าวันนี้ (17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แพปลา ส.ธนาพร บ้านน้ำเค็ม หมู่ที่ 2 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ลูกเรือประมงที่ถุกทางการพม่าจับ มานั่งรอการกลับมาของนายจ้าง คือ นายวิโรจน์ สะพานทอง ณ นคร อายุ 69 ปี เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 พร้อมลูกเรือชาวไทยและ ลูกเรือพม่า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9670000120980 • #MGROnline #พังงา #ทหารเรือพม่า #ไล่ยิง #เรือประมงไทย #จับเรือประมงไทย #รุกล้ำน่านน้ำ #ทำประมง #ลักลอบเข้าประเทศ
                Sad
                1
                0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 626 มุมมอง 0 รีวิว
              • "วิโรจน์" ลุยสอบที่เขากระโดง เหน็บมีคนลงอาถรรพ์ (28/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ปธ.กรรมมาธิการการทหาร #ที่ดินเขากระโดง #พรรค ปชช.
                "วิโรจน์" ลุยสอบที่เขากระโดง เหน็บมีคนลงอาถรรพ์ (28/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ปธ.กรรมมาธิการการทหาร #ที่ดินเขากระโดง #พรรค ปชช.
                Video Player is loading.
                Current Time 0:00
                Duration 0:00
                Loaded: 0%
                Stream Type LIVE
                Remaining Time 0:00
                 
                1x
                  • Chapters
                  • descriptions off, selected
                  • captions and subtitles off, selected
                    Like
                    Sad
                    3
                    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1358 มุมมอง 70 0 รีวิว
                  • อ่านเพิ่มเติม
                    'อุดรธานี' จ่อไฟลุก 'พิธา' พร้อมชน 'ทักษิณ' ชิงดำเก้าอี้นายกอบจ.โค้งสุดท้าย . ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถือว่ามีความเข้มข้นและดุเดือดอย่างยิ่ง ภายหลังรุ่นใหญ่พรรคเพื่อไทยและรุ่นใหม่พรรคประชาชนเตรียมวัดพลังกันครั้งสำคัญ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงพร้อมกับพบปะประชาชนในหลายอำเภอ . ขณะที่ พรรคประชาชน 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา มาลงพื้นที่ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครของพรรคหาเสียงระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาร่วมขบวนหาเสียงด้วย เพื่อหวังว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะสามารถปักธงส้มในพื้นที่สีแดงให้ได้เป็นครั้งแรก . ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ผลงานของนายทักษิณในอดีต ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชน การเดินทางไปแต่ละที่ประชาชนยังพูดถึงความสำเร็จของท่านในอดีตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติเพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้ .............. Sondhi X
                    Like
                    Haha
                    4
                    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1515 มุมมอง 0 รีวิว
                  • อ่านเพิ่มเติม
                    “ธนาธร” ปฎิเสธแสดงความเห็น “ธีรยุทธ” ยื่นศาล รธน. ร้องทักษิณ-เพื่อไทย ล้มการปกครอง ด้าน “วิโรจน์” บอกไม่เห็นด้วยพฤติการณ์ทำร้ายทำลายพรรคการเมืองที่มาจากเสียงประชาชน ยันควรใช้กลไกลสภาฯตรวจสอบหากมีความผิดจริง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000097832 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
                    Haha
                    Like
                    Yay
                    Wow
                    Sad
                    16
                    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2522 มุมมอง 0 รีวิว
                  • อ่านเพิ่มเติม
                    วิกฤตน้ำท่วมปางช้าง20กว่าแห่งที่แม่แตง เชียงใหม่ ต้องเร่งอพยพช้างประสบภัย500ตัวขึ้นดอย ขาดแคลนอาหาร บางตัวจมน้ำตายและลอยคอในสายน้ำเชี่ยวกราก 4 ตุลาคม 2567 -รายงานข่าวเมติชนออนไลน์ ระบุว่า น.ส.โซไรดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยกับมติชนว่า จากเหตุการน้ำท่วมพื้นที่ อ.แม่แตง แม่วาง จ.เชียงใหม่ ที่วิกฤตอย่างยิ่ง โดยน้ำในแม่น้ำแม่แตงไหลเชี่ยวอย่างมาก ซึ่งพื้นที่ อ.แม่วาง แม่แตง นั้น มีปางช้างตั้งอยู่ประมาณ 20 กว่าปาง มีช้างรวมเกือบ 500 ตัว ตอนนี้ ทั้งหมด ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยหมดแล้ว ที่น่าเศร้าคือ ได้รับรายงานว่า ที่ อ.แม่แตงนั้น มีช้างลอยคอมา 2 เชือก ท่ามกลางน้ำที่เชี่ยวกราก เจ้าหน้าที่พยายามตัวเอาไว้ได้ 1 เชือก แต่อีก 1 เชือกนั้นติดตอไม้ และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปช่วยออกมาได้ จึงจมน้ำตายในที่สุด สร้างความเศร้าใจแก่ทุกคนที่เห็นภาพอย่างยิ่ง โดยยังไม่รู้ว่า ช้างทั้ง 2 ตัว นั้น เป็นช้างจากปางของใคร น.ส.โซไรดา กล่าวว่า ทราบด้วยว่า ยังมีช้างอีก 30 ตัว ยังลอยคออยู่ในแม่น้ำแม่แตง ซึ่งไหลเชี่ยวมาก ถามว่า ช้างว่ายน้ำได้หรือเปล่า ก็ว่ายได้ แต่สภาพที่น้ำเชี่ยวแบบนี้ ก็ไม่ต่างจากคนที่ลอยคออยู่ในน้ำกลางน้ำเชี่ยว แม้ว่าว่ายน้ำเป็นแต่คงอยู่ในสภาพตะเกียกตะกาย หากหมดแรงเมื่อไรก็คงจมน้ำเมื่อนั้น “ตอนนี้ก็ได้แต่คอยลุ้น และช่วยกันทุกฝ่าย ทั้งฝ่ายปกครอง และทหาร ตอนนี้ต้องใช้โดรน บินหา แต่ปัญหาคือ ตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว ฝนก็ยังตกอยู่ เข้าใจว่า หากมืด ก็คงต้องถอนตัวออกมาจากพื้นที่ก่อน เพราะคงทำอะไรได้ไม่มาก”เลขาธิการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าว ด้าน นายวิโรจน์ สุภโชคสหกุล ที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการมูลนิธิเพื่อช้าง กล่าวว่า ปัญหาเวลานี้คือ ช้างเกือบ 500 เชือก จากปางช้าง แม่แตง แม่วาง ที่ย้ายขึ้นไปอยู่บนดอยนั้น ไม่มีอาหารกิน แม้จะมีผู้เอาหญ้าขึ้นไปให้ 200 มัด แล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าน้ำจะลดเมื่อไร ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ต้องเฝ้าระวังอย่างไม่ให้เดินเพ่นพ่านบนดอย แต่ยังดีกว่า ลอยคอแช่น้ำอยู่ด้านล่าง ที่มา https://www.matichon.co.th/region/news_4828398#m1uoo0hdcn91kt8ezl4 #Thaitimes
                    WWW.MATICHON.CO.TH
                    สุดสลดช้างจมน้ำตาย แล้ว 1 หนีท่วมเชียงใหม่ ลอยคออีก 30 เชือก ยังไม่รู้ชะตากรรม
                    สุดสลดช้าง 2 เชือก ลอยคอกลางน้ำเชี่ยวกรากแต่หมดแรง ตะเกียกตะกายไปติดตอไม้จมน้ำตาย อีกตัวช่วยได้หวุดหวิด
                    Like
                    Love
                    Sad
                    8
                    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1009 มุมมอง 0 รีวิว
                  • เปิดใจพลเมืองดี แม้จะเป็นเจ้าพ่อ IO แต่ก็ต้องช่วยเพื่อมนุษยธรรม และที่สำคัญ ยังไม่ถึงเวลาตุยของมัน ต้องอยู่ชดใช้กรรมอีกนาน
                    #คิงส์โพธิ์แดง
                    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
                    #วิโรจน์
                    เปิดใจพลเมืองดี แม้จะเป็นเจ้าพ่อ IO แต่ก็ต้องช่วยเพื่อมนุษยธรรม และที่สำคัญ ยังไม่ถึงเวลาตุยของมัน ต้องอยู่ชดใช้กรรมอีกนาน #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #วิโรจน์
                    Haha
                    Like
                    3
                    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 656 มุมมอง 0 รีวิว
                  • อ่านเพิ่มเติม
                    การไฟฟ้าฯ จะตัดไฟ อำลาตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี จากกระแสไวรัลบนโซเชียลฯ ถึงความเงียบเหงาของศูนย์การค้าฝั่งธนบุรี ท่ามกลางคำถามที่ว่าอนาคตจะไปทางไหน ในที่้สุดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี ถนนสิรินธร ย่านบางพลัด แจ้งกับร้านค้าเป็นการภายในเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 ก.ย.) ว่าจำเป็นต้องปิดทำการห้างฯ อาคาร 12 ชั้น ซึ่งมีผลกระทบในพื้นที่ขายทั้งหมด เพราะได้รับหนังสือแจ้งจากการไฟฟ้านครหลวง ขอยุติการจ่ายกระแสไฟฟ้าในวันอังคารที่ 10 ก.ย. 2567 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป "ทางบริษัทฯ อยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไขและเจรจากับผู้ร่วมทุนใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ ทางห้างฯ จะเร่งกลับมาเปิดบริการในเร็วๆ นี้ และขออภัยในความไม่สะดวกกับเหตุการณ์ครั้งนี้" ประกาศฉบับดังกล่าว ระบุ บรรดาร้านค้าที่ทราบข่าวเตรียมทยอยขนของออกจากห้างฯ โดยเฉพาะร้านขายโทรศัพท์มือถือ ที่ไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาก่อน กระทั่งได้รับจดหมายแจ้งว่าจะตัดไฟในวันอังคาร ต้องเก็บของย้ายออกจากห้างฯ มีผลกระทบมาก ส่วนร้านหมาล่าสายพาน "ฟุ่ยโหยว หมาล่า" ที่เปิดไม่ถึงครึ่งปี ต้องปรับเป็นบุฟเฟ่ต์แบบขาดทุน ก่อนปิดแบบไม่มีกำหนด กระแสโซเชียลฯ ต่างให้กำลังใจทางร้านและอุดหนุน ทำบางเมนูหมดลงไปแล้ว ปริศนาคลี่คลายเมื่อมีชาวเน็ตต่างเผยแพร่ข้อมูลว่า บริษัท สรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง จำกัด ถูกธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ฟ้องต่อศาลแพ่งตลิ่งชัน คดีหมายเลขแดงที่ ผบ.7325/2562 แล้วกรมบังคับคดีได้ประกาศขายทรัพย์รวม 27 แปลง ราคาประเมิน 1,365,690,450 บาท โดยพบว่ามีบุคคลภายนอก (คาดว่ามาจากกลุ่มทุนอสังหาริมทรัพย์) ประมูลมาได้ แต่ต่ำกว่าราคาประเมิน ส่วนห้างตั้งฮั่วเส็ง สาขาบางลำภู ก็ขายทอดตลาดไปแล้วเช่นกัน ห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ก่อตั้งขึ้นในปี 2505 ที่ย่านบางลำพู เดิมเป็นร้านจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์เย็บปักถักร้อย เครื่องสำอาง ผ้าแฟชั่น และอุปกรณ์ตัดเย็บต่างๆ ก่อนจะเปิดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง บางลำพู ภายใต้การบริหารของนายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กระทั่งปี 2534 เปิดห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี อาคารสูง 10 ชั้น ที่จอดรถมากกว่า 800 คัน ต่อมาในปี 2554 รีโนเวตโดยเปลี่ยนชื่อเป็น T-SQUARE ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่าบริษัทฯ ขาดทุนทุกปี ส่งงบการเงินปีสุดท้าย 2564 มีรายได้รวม 409,744,106.37 บาท ขาดทุนสุทธิ 43,784,884.68 บาท ขณะที่ นายวิโรจน์ จุนประทีปทอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ เสียชีวิตไปนานแล้ว เหลือแต่นายมนัส รณกรกิจอนันต์ ลูกพี่ลูกน้องบริหารร่วมกับครอบครัวจุนประทีปทอง #Newskit #ตั้งฮั่วเส็ง #ปิดกิจการ
                    Sad
                    Like
                    5
                    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1453 มุมมอง 0 รีวิว
                  • อ่านเพิ่มเติม
                    เปิดปมที่มาความ คั่งของเจี๊ยบ เราจะเคยได้ยินวลีที่ว่า ไม่ได้มาแก้ไข แต่มาแก้ แ-ค้-น ที่เจี๊ยบใช้ตั้งแต่สมัยมาเป็นหัวโจกตัวแรกๆของพรรคอนาคตใหม่ สามกีบก็ไม่รู้แหดรู้ตี๋เลยว่าอินี่หมายถึงอะไร แต่ก็เฮลั่น ลั่น หารู้ไม่ถูกอิเจี๊ยบอมเกียร์ใช้เป็นเครื่องมือ ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเจี๊ยบก็ยังไม่เหี่ยวแบบนี้นะ แต่ก็จะสั้นๆแบบนี้ เวลาเดินกับใครต้องซอยเท้าถี่กว่าคนอื่นนิดนึง เจี๊ยบกว่าจะมีผรัวคนปัจจุบัน ผ่านมาหลายสนาม เจี๊ยบมีความรักกับชายผู้คิดมิดีต่อสถาบันอย่างสุดโต่ง ทั้งคลิป ทั้งปราศรัย ให้ความเท็จกระจายไปทั่ว โดยในเวลานั้น โทนี่ เป็นเจ้าของคลื่นวิทยุชุมชนทั่วประเทศ ปลุก ระ ดม ให้คนในชาติมุ่งร้ายต่อสถาบัน แต่ด้วยกรรมที่ก่อ ทำให้สุดท้าย หายตัวไป นอนคุยกับรากมะม่วงแบบไม่สมัครใจ จนป่านนี้ก็ยังไม่รู้ ว่าไปอยู่ใต้ต้นมะม่วงต้นไหน นี่แหละคือที่มา ของบรรทัดที่สองที่พิมพ์ไปแล้ว และที่เจี๊ยบไม่ยอมไปเพื่อไทย แต่กลับมาซุกก้าวไกล เพราะเพื่อไทย ยังสู้ไปกราบไปอยู่ ณ เวลานั้น รวมถึงโทนี่ ทิ้งสหายกลางทาง ไม่เหลียวแล จากที่เคยอัดฉีดให้สุรชัยเดือนละ 27 ล.บ. เรื่องการหายตัวไปของสุรชัย แซ่ด่าน ดังนั้น ในเวลานี้ที่ทั้งธนาธร หรือวิโรจน์ ได้กลับลำมาอวยอิ๊งและโทนี่ แต่เจี๊ยบอวยไม่ลง จึงพ่นคำต่างๆมาโพส เจี๊ยบก็ยังเหมือนเดิม โทษทหาร โทษสถาบัน โทษเพื่อไทย แต่ไม่เคยโทษตัวเอง #คิงส์โพธิ์แดง
                    Haha
                    Love
                    3
                    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 950 มุมมอง 0 รีวิว
                  • อ่านเพิ่มเติม
                    วิโรจน์โวยเรื่องตัดงบฝายปูน จะโทษก้าวไกลพรรคเดียวไม่ได้ เพราะก้าวไกลเสนอ เพื่อไทยดันสนอง ถ้าก้าวไกลพรรคเดียวโหวตจะผ่านได้ไง ก็มีสส.เพื่อไทยช่วยกันโหวนนี่หว่าาาา แล้วพอฝายดินแตกน้ำท่วมเป็นหลายพันหลัง จะมาโทษวิโรจน์ที่เคยลิงโลดตอนตัดงบสำเร็จคนเดียว หรือจะโทษก้าวไกลพรรคส้มพรรคเดียวได้อย่างไร วิโรจน์ขอความเป็นธรรมจากประชาชนผปสภ ส่วนเพื่อไทย ตัวแทนออกมายอมรับ และใช้สำนวนว่า ต้องยอมโหวตตัดงบฝายปูน แต่เป็นโหวตทั้งน้ำตา คือ สองพรรค เมิงเล่นอะไรกัน ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง
                    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
                  • อ่านเพิ่มเติม
                    #ตรรกะพรรคส้มสุดติ่ง ถุงยังชีพมอบให้ผปสภ ถุงเดียวก็ไม่มี อ้างไม่อยากสร้างบุญคุณ ไม่ดี แค่ไปย่ำน้ำนิดๆ ไปถามนั่นนี่ ถ่ายรูป แล้วกลับบ้าน จบงานหัวหน้าพรรคส้มเน่า ตัดภาพ มอบกระเช้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เออ แบบนี้ทำได้ สุดท้าย ผปสภ ไม่ประโยชน์อะไรจากไอ่นี่เลย เท้ง ได้ภาพกลับบ้าน ไม่ควักซักบาท อ้างไม่เน้นสร้างบุญคุณ สร้างแต่บาปสิ ไอ่ฉัด ล้มล้างการปกครอง ล้มสถาบัน งานหลักที่ชำนาญ วิโรจน์ ตอนก้าวไกล ก็ขวางงบสร้างฝายปูน สุดท้าย วันนี้ ฝายเดินแตกท่วมบ้านเรือนหลายพันหลัง พรรคที่ไม่เน้นสร้างบุญ เน้นแต่สร้างบาป ไอ่พรรคส้งทรีน ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง
                    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 480 มุมมอง 0 รีวิว
                  • อ่านเพิ่มเติม
                    #ก้าวไกลฝากผลงานไว้ ถ้ายังจำกันได้ที่เคยเห็นภาพไอ่วิโรจน์เต้นในสภา นั่นคือวันที่วิโรจน์ทำงานสำเร็จ คือการสกัดงบในการทำฝายปูนทั่วประเทศ วันนี้หลายพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน สาเหตุจากฝายดินชลอน้ำพังลง แต่ก็มีด้อมส้มสามกีบออกมาแถ บอกว่านั่นมันงบเรื่องภัยแล้ว ไอ่ฉัด ฝ่ายกันน้ำสู้ภัยแล้งกับ ฝายชลอน้ำตอนท่วม มันก็ฝายเดียวกัน มือไม่พายเอาทรีนลาน้ำ มฝคงปชชจตก หมด บาปกรรมที่ไอ่เหลือกฝากไว้ นี่ขนาดเป็นฝ่ายค้านนะ ถ้าเป็นรัฐบาล บันลังไส้แน่นอน #คิงส์โพธิ์แดง
                    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 493 มุมมอง 0 รีวิว
                  • เหลือก IO ท้าตุลาการฯ กล้าดูคลิปตัวเองเหมือนวิโรจน์ไหม เพราะเหลือก IO สุดภูมิใจในคลิปที่ก้าวล่วง เท็จทอร์ค และคลิป IO
                    #คิงส์โพธิ์แดง
                    #เหลือกไอโอ
                    เหลือก IO ท้าตุลาการฯ กล้าดูคลิปตัวเองเหมือนวิโรจน์ไหม เพราะเหลือก IO สุดภูมิใจในคลิปที่ก้าวล่วง เท็จทอร์ค และคลิป IO #คิงส์โพธิ์แดง #เหลือกไอโอ
                    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
                  • ขอบคุณวิโรจน์ที่ออกมาพูด
                    #คิงส์โพธิ์แดง
                    #วิโรจน์
                    ขอบคุณวิโรจน์ที่ออกมาพูด #คิงส์โพธิ์แดง #วิโรจน์
                    Video Player is loading.
                    Current Time 0:00
                    Duration 0:00
                    Loaded: 0%
                    Stream Type LIVE
                    Remaining Time 0:00
                     
                    1x
                      • Chapters
                      • descriptions off, selected
                      • captions and subtitles off, selected
                        Like
                        1
                        0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 18 0 รีวิว
                      • อ่านเพิ่มเติม
                        #นับจากนี้ไปคนไทยจะตาสว่างเสียที ความเคลื่อนไหวของกลุ่ม ค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส ในประเทศไทย มีมาโดยตลอด แต่อดีตจะทำแบบแอบๆทำ รู้กันเฉพาะกลุ่ม ภายใต้หนังสือและเว็บไซต์ที่ชื่อฟ้าเดียวกันที่มีเนื้อหา ที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ให้ร้ายต่อสถาบันกษัตรย์ คาดว่าในเวลานั้น ธนาธรใช้ทุนส่วนตัวในการเคลื่อนไหวอย่างไม่กระโตกกระตากนัก โดยมีนายชัยธวัชหัวหน้าพรรคก้าวไกลคนสุดท้ายก่อนถูกยุบเป็นบรรณาธิการอย่างเปิดเผย แต่วันหนึ่ง ธนาธร ช่อ และปิยบุตร เหมือนได้พลังวิเศษ คิดใหญ่ ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งในช่วงแรก คนไทยยังรู้สึกถึงความหวังว่าการเมืองในประเทศไทย น่าจะเปลี่ยนไปได้ด้วยมือของคนรุ่นใหม่ ทำให้ได้คะแนนเสียงมากอย่างน่าตกใจ รวมถึงการนำระบบไอโอบอท มาใช้ก่อนใคร ปั้นกระแสทวิตเตอร์ กำหนดเทรนให้มีแต่เรื่องราวของพรรคอนาคตใหม่ ทำให้สื่อทุกสำนักวนเวียนอยู่แต่กับพรรคและคนของพรรคอนาคตใหม่เวลานั้น จนทำให้เกิดอุปทานหมู่ เวลาใครไปคอมเม้นตรงข้าม ก็ใช้บอทไอโอเข้าไปถล่ม จนคนคิดต่างไม่กล้าไปยุ่งเพราะเข้าใจว่า บอทไอโอคือคนจริงๆ เกิดปรากฏการคอมเม้นเป็นรูปส้มพร้อมกัน แต่เรื่องก็มาแตก ที่วิโรจน์ถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์มือถือหลายสิบเครื่องที่เป็นอุปกรณ์บอทไอโอที่นำเข้าระบบมาจากเวียดนาม แต่ตอนนี้ ทุกแพลตฟอร์มต่างปรับตัวและป้องกันบอทไอโอและลบแอคเค้าบอทออกจากระบบแทบเกลี้ยง ทำให้ทุกวันนี้แม้แต่ไลฟ์สดของหัวหน้าพรรคเอง หรือนายพิธาก็ยังมีคนดูแค่สามสี่ร้อยคน ยังรวมไปถึงการที่พรรคก้าวไกลไม่กล้าทำในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อกฏหมาย ก็ยังมีงบจำนวนมหาศาลที่มีหลักฐานและพยานว่าบุ้งได้รับมาจากการส่งภาพการก่อความวุ่นวายจากสมุน และได้ตังมาก็เอามาเปย์ผู้ และให้เด็กในสังกัดกินอดๆอยากๆ แต่ต้นทางน้ำมานั้น จำนวนมหาศาล ถึงขนาดที่ตรวจสอบบัญชีเพนกวิ้น มีไม่ต่ำกว่า ุ60 ล้านบาท เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องลับเซิทหาได้เป็นข้อมูลจากทางการไทยเองและทรายเจริญปุระ ก็เคยออกมาคอนเฟิร์มเองด้วยซ้ำ คำถามว่า งบทำบอทไอโอ งบสร้างความวุ่นวายในนามกลุ่มทะลุวัง หรือ งบในการสร้างพรรค มันเอามาจากไหนกันนะ ก็พบว่ามีการสืบเส้นทางการเงินมีองค์กรอิสระองค์กรหนึ่งของต่างชาติ เป็นจุดเชื่อมโยงเงินจากบางคนในสหรัฐเข้ากระเป๋าคนเหล่านี้ จนในที่สุด ความจริงก็ถูกเปิด ด้วยการที่ผู้นำจิตวิญญาณของอนาคตใหม่หรือพรรคก้าวไกล ต่างเข้านอกออกในสถานฑูตสหรัฐประจำประเทศไทยเป็นว่าเล่น ไม่เว้นแม้แต่เสี่ยเพนกวิ้นเช่นกัน จนมาถึงวันนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยให้ก้าวไกลเป็นพรรคที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรเป็นประมุข องค์กรแอมเนสตี้ ถึงขนาดออกอาการเหิมเกริม สั่งศาลรัฐธรรมนูญให้รีบกลับคำตัดสิน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการละเมิดศาลจากองค์กรต่างชาติแบบนี้มาก่อนในประเทศไทย นอกจากนั้น ทูต 18 ประเทศ ที่ทำเกินหน้าที่การเป็นทูตประจำประเทศไทย รวมไปถึง สว.สหรัฐก็ออกมาขู่ศาลไทย อย่างกร่างๆ ดังนั้น ที่คิงส์โพธิ์แดงเคยให้ข้อมูลว่า เมกาคือผู้อยู่เ้บื้องหลัง ความพยายามในการก้าวก่าย และให้การสนับสนุนส่งเสริมกลุ่มคนที่ให้ร้ายจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตรย์มาโดยตลอดนั้น ก็คือสหรัฐอเมริกา ที่มีเป้าหมายในการแก้ไขม.112 นั้น มีความชัดเจนแม้ว่าหากตัดข้อนี้ไปพรรคอื่นๆก็พร้อมร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่เพราะเหตุใดทั้งพรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล จึงยืนยันในจุดยืนนี้มาตลอด นั่นก็เพราะงบประมาณที่ให้การสนับสนุน ก็ให้มาทำเรื่องนี้โดยตรง เพราะการที่แก้ไขม112 โดยการให้ร้าย บิดเบือน พระมหากษัตย์ได้โดยผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยท ก็คุ้มค่าต่อความเสี่ยงที่จะปั้นแต่งปลุกปั่นให้คนไทยรุ่นใหม่ มีความชิงชังสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะสหรัฐไม่มีฐานทัพในโซนนี้ หากได้ประเทศไทยในการตั้งฐานทัพด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ก็จะสามารถส่งจรวดไปจีนได้ในระยะวิถีกรณีมีความขัดแย้งกันระหว่างประเทศมหาอำนาจ (ซึ่งข้อมูลเรื่องสหรัฐมีเป้าหมายตั้งฐานทัพในประเทศไทย มีหลักฐานอยู่ทั้งที่วิทยาลัยป้องกันราชอนาจักร และฝ่ายความมั่นคงจำนวนไม่น้อย) ....และโดยเฉพาะตอนนี้ จีนแผ่นดินใหญ่ก็ได้ใช้สูตรทางเศรษฐกิจและการลงทุนเข้ามาขายอนาเขตแบบเนียนๆทั้งกำพูชา สปปลาว และพม่าแล้ว เหลือแค่ไทยที่ขยับเข้ามาได้ยากกว่าประเทศเพื่อนบ้านมากนักแต่ก็มาแล้วพอสมควรทีเดียว แต่สหรัฐที่ยังไม่สามารถมาตั้งฐานทัพในประเทศไทยหรือยึดประเทศไทยได้นั้น เพราะประเทศไทยมีสถาบันพระมหากษัตรที่ทรงอยู่เหนือการเมือง เป็นผู้ทรงให้ทรงเมตตาต่อพสกนิกรในทุกยุคทุกรัชสมัยจวบถึงปัจจุบัน มีผู้จงรักษภักดีต่อพระองค์ที่รักษาปกป้องไว้ซึ่งสามสถาบันหลักที่ยืนหยัดมั่นคงในความเป็นชาติได้ ดังนั้น ม.112 จึงเป็นกูญแจสำคัญที่ก้าวไกลและอนาคตใหม่พยายามผลักดันกฏหมายด้วยวาทะกรรมต่างๆให้ผู้หมิ่นสถาบันผิดน้อยที่สุดหรือไม่ผิดเลยตามกฏหมายนั่นเอง ไม่มีสถาบันกษัตริย์ก็สิ้นชาติ หากสังเกตุให้ดีแม้กระทั่งมีเป้าหมายลดกำลังทหาร ก็เพื่อบั่นทอนความมั่นคงของชาติ โดยนำจุดบกพร่องเพียงส่วนน้อย มาตีให้เป็นเรื่อง่ส่วนใหญ่ เพื่อสร้างความชอบธรรมและได้คะแนนเสียงกับกลุ่มเด็กโตที่กำลังจะเกณฑ์และกลัวการเป็นทหารมาเป็นคะแนนเสียงร่วม และพฤติกรรมที่สร้างแนวคิดไม่ให้ลูกมีความกตัญญูกับพ่อแม่ นั่นก็เพราะเมื่อเด็กห่างอกพ่อแม่ก็จะสามารถชักจูงได้โดยง่าย และเป็นฐานมวลชนที่พวกเขาเหล่านี้จูงไปไหนก็ไป ดังนั้น ทั้งหมดนี้ คือสิ่งที่คิงส์โพธิ์แดง นำเสนอมาโดยตลอด และทุกอย่างในข้อมูลของโพสนี้ได้มอบให้นั้น ล้วนมีหลักฐาน มีพยานที่หาได้ไม่ยากเลย ยกตัวอย่างเช่น ภาพเพนกวิ้น ที่เข้านอกออกในสถานฑุตสหรัฐก็มีให้เห็นอยู่ดาษดื่น ดังนั้นพี่น้องชาวไทยอย่าแปลกใจถึงการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระต่างชาติ หรือแม้กระทั่ง นาโต้ un รวมถึงความพยายามกดดันโดนทูตตะวันตกประจำประเทศไทย นั่นเพราะเรามีกลุ่มค-อ-ม-มิ-ว-นิ-ส-ต-ก-ยุ-ค อย่าธร ข่อ ปิยะบุตร และตัวแม่อย่างเจี๊ยบอมรัตน์ที่คิดว่าจะห-ล-อ-ก ใช้งบและอำนาจของสหรัฐและกลุ่มยุโรปเพื่อสานฝันของตัวเอง แต่แท้ที่จริงกลับถูกเค้าใช้ตัวเองเป็นเครื่องมือยึดประเทศไทยเป็นฐานไม่รู้ตัว และมีคนอยากดังแบบพิธา ไอติม และสก็อยอย่างไอซ์ คนไม่อยากเป็นทหารอย่างจิรัฐ ก็มั่วๆรวมๆกันอยู่และยอมแลกความมั่นคงของชาติกับผลประโยชน์ส่วนตัว นับจากวันที่ 7 สิงหา 67 นี้ไป เราจะถูกรุมวิจารณ์และกดดันจากสหรัฐและพันธมิตรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมถึงองค์กรอิสระมากมาย คิงส์โพธิ์แดงจึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยผู้รักชาติรับสถาบันร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตรย์ และ ช่วยเผยแพร่ความรู้นี้สู่พี่น้องชาวไทยเพื่อให้ประเทศไทยยังคงอยู่สืบไปนานเท่านาน #คิงส์โพธิ์แดง
                        0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1773 มุมมอง 0 รีวิว
                      Pages Boosts