• คิงส์โพธิ์ดำ ep.4 The icon ด้านมืดของวงการบันเทิง
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #วงการบันเทิง
    #theicon
    #ดิไอค่อน
    #กระแสข่าววันนี้
    #บอสพอล

    คิงส์โพธิ์ดำ ep.4 The icon ด้านมืดของวงการบันเทิง #คิงส์โพธิ์ดำ #วงการบันเทิง #theicon #ดิไอค่อน #กระแสข่าววันนี้ #บอสพอล
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 41 0 รีวิว
  • บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ
    .
    ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง
    .
    นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก
    .
    ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน
    .
    แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท
    .
    การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า
    .
    หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้
    .
    ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่
    .
    ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน
    .
    ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ
    .
    หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก
    .
    อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น
    .
    ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป
    .
    เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก
    ..............
    Sondhi X
    บอสดารา The Icon ตอกย้ำด้านมืดคนดัง ดิ้นเอาตัวรอด-ไม่รับผิดชอบ . ปฏิเสธไม่ได้ว่าคดีการตรวจสอบกระบวนการทำธุรกิจของ The Icon กรุ๊ป กลายเป็นคดีระดับประเทศที่คนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นคดีที่ท้าทายความสามารถของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่อย่าง 'บิ๊กต่าย' พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ในการกอบกู้ศักดิ์ศรีของตำรวจไทยให้ประชาชนกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง . นอกจากคดีจะเป็นตัวชี้วัดในการเรียกศรัทธาคืนมาของตำรวจแล้ว อีกด้านคดีนี้เป็นการนำไปสู่การตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบุคคลสาธารณะอย่างดารานักแสดงและพิธีกรด้วย ภายหลังกรณีของ The Icon พบว่ามีเหล่าผู้มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก . ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คดีกลายเป็นที่จับจ้องของสังคมนั้น เนื่องจากปรากฎหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเหล่าดาราเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น แต่เป็นหนึ่งในผู้บริหารบริษัทด้านต่างๆ พร้อมกับมีการประกาศออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน . แต่ทันทีที่เกิดเรื่องบรรดาผู้มีชื่อเสียงและนามสกุลใหญ่เหล่านั้นกลับเลือกที่เขียนด้วยและลบด้วยเท้าผ่านการอ้างว่าเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์เท่านั้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องในแง่การบริหารธุรกิจอย่างใด ซึ่งดันมาบังเอิญเหมาะเจาะกับการที่บริษัทดิ ไอคอน ก็ออกประกาศยืนยันว่าบอสดาราต่างๆไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท . การที่ยกข้ออ้างเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อปกป้องบรรดาบอสดาราก็ถือเป็นสิทธิที่จะกระทำได้ ซึ่งก็ต้องไปว่ากันในแง่ของข้อกฎหมายต่อไป โดยเริ่มมีนักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มออกมาให้ความคิดเห็นแล้วว่า . หากผู้เสียหายเข้าร่วมลงทุนทำธุรกิจเพราะความน่าเชื่อถือของเหล่าดาราที่เรียกตัวเองว่าบอสเหล่านี้ จึงย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบไปได้ . ในแง่ของคดีความและข้อกฎหมายก็คงต้องไปว่ากันในชั้นศาล แต่คำถามที่ตามมา ว่าเวลานี้สังคมไทยยังพอจะสามารถเชื่อถือบรรดาแวดวงคนบันเทิงในฐานะที่เป็นผู้ชี้นำและมีอิทธิพลต่อสังคมไทยได้อีกต่อไปหรือไม่ . ทั้งนี้เป็นเพราะกรณีที่เกิดขึ้นจากกลุ่มบริษัท ดิ ไอคอน ไม่ได้เป็นกรณีแรกที่มีดาราเข้ามามีส่วนพัวพัน ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ก็เคยมีดารา ซึ่งเป็นบุคคลที่มีสถานะพิเศษต้องถูกดำเนินคดีและใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำให้เห็นกันมาแล้วอย่างกรณีคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ซึ่งพบว่ามีดาราอาศัยความมีชื่อเสียงของตัวเองในการชักชวนให้ประชาชนมาลงทุน . ทั้งนี้ ดังจะเห็นได้จากกรณีของพิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช พร้อมแม่และพี่ชายถูกฟ้องเป็นจำเลย ซึ่งปัจจุบันได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อมาต่อสู้คดี รวมไปถึงนายพัฒนพล มินทะขิน หรือดีเจแมน และ น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือใบเตย อาร์สยาม โดยกรณีของรายหลังศาลได้มีการยกฟ้องคดีไปบางส่วนแล้ว แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ออกมาให้ข้อมูลว่าคดีที่ยกฟ้องนั้น เป็นคดีที่ประชาชนผู้เสียหายเกี่ยวกับแชร์ Forex-3D ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเองโดยตรงที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีที่ดีเอสไอกำลังดำเนินการตรวจสอบ . หรือย้อนกลับไปกว่านั้น คือ กรณีของบริษัท เมจิกสกิน จำหน่ายอาหารเสริมที่ไม่มีคุณภาพและไม่ผ่านการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาเนื่องจากมีดาราจำนวนไม่น้อยรับงานรีวิวสินค้า จนถูกหมายเรียกและบางรายต้องต่อสู้คดีในชั้นศาล เช่น น.ส.รัชวิน วงศ์วิริยะ หรือ ก้อย และ นายกนกฉัตร มรรยาทอ่อน หรือ ไต้ฝุ่น หนึ่งในกลุ่มดาราที่รับรีวิวเมจิกสกิน ศาลได้พิพากษาให้ความผิดแต่ให้รอลงอาญา ขณะที่ กลุ่มผู้บริหารผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิกสกิน ศาลก็ได้พิพากษาให้ลงโทษจำคุก 20 ปี แต่เนื่องจากจำเลยมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงการพยายามเยียวยาให้กับผู้เสียหาย ทำให้ศาลรอลงอาญาโทษจำคุก . อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะนำกรณีของเมจิกสกินกับดิ ไอคอน มาเปรียบเทียบกันเพื่อสรุปว่ากรณีของ The Icon จะมีบทสรุปลงเอยเหมือนกับคดีเมจิกสกิน เนื่องจากเหล่าดาราในกรณีของเมจิกสกินนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพียงพรีเซนเตอร์เท่านั้น . ผิดกับกรณี The Icon ที่ได้ประกาศตัวเองว่าเป็น 'บอส' ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการดึงดูดให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ดังนั้น การจะมาอ้างว่าการเป็นบอสเป็นอีกร่างอวตารหนึ่งของพรีเซ็นเตอร์นั้นดูจะเป็นการเอาสีข้างเข้าถูกจนเกินไป . เพราะฉะนั้น จากกรณีของThe Icon ที่เกิดขึ้นมานั้นยิ่งจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งที่ทำให้สถานะของวงการบันเทิงถูกสั่นคลอนในแง่ของความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก หลังจากที่ทุกวันนี้วงการบันเทิงไทยซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง และคนนินทาหมาดูถูก อย่างหนัก .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปราชญ์ 3สี

    วิเคราะห์: ทำไมโตโยต้าถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เหตุเพราะแนวคิด Woke?

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด Woke ได้กลายเป็นกระแสที่มีอิทธิพลมากในด้านสังคมและวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเฉพาะในวงการบันเทิงและการจัดกิจกรรมระดับโลก เช่น โอลิมปิก แนวคิดนี้มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ความเท่าเทียม และการยุติการเลือกปฏิบัติ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง แนวคิด Woke กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ได้ส่งเสริมความเท่าเทียมอย่างแท้จริง หากแต่ใช้เพื่อแสวงหาอำนาจทางการเมืองและคุกคามผู้ที่ไม่เห็นด้วย

    เหตุการณ์โอลิมปิกและการถอนตัวของโตโยต้า

    ย้อนกลับไปในช่วงกลางปี 2024 โตโยต้าได้ตัดสินใจยกเลิกการสนับสนุนโอลิมปิกที่จัดขึ้นในฝรั่งเศส โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พิธีเปิดโอลิมปิกได้รับอิทธิพลจากกลุ่ม Woke ซึ่งการแสดงออกในพิธีนั้นมีลักษณะที่ไปกระทบความเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะในหมู่ผู้ศรัทธาในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ซึ่งมองว่าการแสดงออกบางส่วนไม่เคารพค่านิยมทางศาสนาและสร้างความไม่พอใจอย่างมาก การที่โตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโอลิมปิกทำให้บริษัทต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสาธารณชนและลูกค้ากลุ่มศาสนจักรที่ไม่พอใจกับการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

    โตโยต้าจึงตัดสินใจถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการปกป้องค่านิยมของบริษัท แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความรอบคอบในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในกลุ่มลูกค้าทั่วโลก

    แนวคิด Woke และการคุกคามทางการเมือง

    โตโยต้าไม่ได้หยุดเพียงแค่การถอนตัวจากโอลิมปิกเท่านั้น แต่ในเดือนตุลาคม 2024 บริษัทได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า จะไม่สนับสนุนกลุ่มหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด Woke อีกต่อไป การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่าโตโยต้ามองว่าแนวคิด Woke ไม่ได้มีเป้าหมายในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง แต่กลับกลายเป็นการใช้การข่มขู่และบังคับให้สังคมยอมรับความเชื่อและอุดมการณ์ของพวกเขา

    แนวคิด Woke ถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิเสรีภาพของทุกคน แต่เน้นไปที่การกดดันให้ทุกคนต้องเห็นด้วยกับแนวทางเดียวเท่านั้น ใครที่มีความเห็นต่างหรือไม่ยอมรับในแนวคิดนี้ มักจะถูกโจมตี ถูกข่มขู่ หรือแม้กระทั่งถูกทำลายชื่อเสียงผ่านสื่อสังคม นอกจากนี้ แนวคิด Woke ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลบประวัติศาสตร์หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อทำให้สังคมต้องปรับตัวตามอุดมการณ์ที่พวกเขาต้องการ โดยไม่มีการให้พื้นที่แก่ความเห็นที่ต่างกัน ซึ่งนำไปสู่การสร้างบรรยากาศของความกลัวและการคุกคามทางความคิด

    ผลกระทบของ Woke ต่อสังคม

    แนวคิด Woke ไม่ได้มีเพียงผลกระทบเชิงบวกตามที่กลุ่มผู้สนับสนุนกล่าวอ้าง แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ การใช้แนวคิด Woke ในการบังคับผู้อื่นให้ยอมรับวิถีชีวิตและอุดมการณ์ที่พวกเขาเชื่อว่าถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงวัฒนธรรม ศาสนา หรือค่านิยมดั้งเดิมของผู้อื่น เป็นการสร้างความไม่สมานฉันท์ในระดับสากล ตัวอย่างของพิธีเปิดโอลิมปิกที่ฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึงการพยายามบังคับให้ทุกคนยอมรับแนวคิดนี้ผ่านทางการแสดงออกทางวัฒนธรรม ซึ่งกลับส่งผลให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โตโยต้าเลือกที่จะถอนตัวออกจากกิจกรรมดังกล่าว

    การตัดสินใจของโตโยต้า: บทเรียนที่สำคัญ

    การตัดสินใจของโตโยต้าที่ถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิกและประกาศยุติการสนับสนุนแนวคิด Woke เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลก ว่าการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่มีความขัดแย้งสูง อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ การตัดสินใจของโตโยต้าแสดงให้เห็นว่าการปกป้องค่านิยมดั้งเดิมและความเชื่อของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญ และการหลีกเลี่ยงการสนับสนุนแนวคิดที่สร้างความขัดแย้งสามารถช่วยปกป้ององค์กรจากการถูกวิจารณ์ในทางลบ

    สุดท้ายนี้ แนวคิด Woke ที่เคยมีเจตนาดีในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาค กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยกและการควบคุมสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมในระยะยาว

    #โตโยต้า #ลัทธิWoke #ยกเลิกสนับสนุนโอลิมปิก #ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม #ผลกระทบทางการเมือง #การเคลื่อนไหวทางสังคม #วิพากษ์Woke #ปกป้องคุณค่าดั้งเดิม #ความแตกแยกในสังคม
    ปราชญ์ 3สี วิเคราะห์: ทำไมโตโยต้าถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เหตุเพราะแนวคิด Woke? ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด Woke ได้กลายเป็นกระแสที่มีอิทธิพลมากในด้านสังคมและวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเฉพาะในวงการบันเทิงและการจัดกิจกรรมระดับโลก เช่น โอลิมปิก แนวคิดนี้มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ความเท่าเทียม และการยุติการเลือกปฏิบัติ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง แนวคิด Woke กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ได้ส่งเสริมความเท่าเทียมอย่างแท้จริง หากแต่ใช้เพื่อแสวงหาอำนาจทางการเมืองและคุกคามผู้ที่ไม่เห็นด้วย เหตุการณ์โอลิมปิกและการถอนตัวของโตโยต้า ย้อนกลับไปในช่วงกลางปี 2024 โตโยต้าได้ตัดสินใจยกเลิกการสนับสนุนโอลิมปิกที่จัดขึ้นในฝรั่งเศส โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พิธีเปิดโอลิมปิกได้รับอิทธิพลจากกลุ่ม Woke ซึ่งการแสดงออกในพิธีนั้นมีลักษณะที่ไปกระทบความเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะในหมู่ผู้ศรัทธาในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ซึ่งมองว่าการแสดงออกบางส่วนไม่เคารพค่านิยมทางศาสนาและสร้างความไม่พอใจอย่างมาก การที่โตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโอลิมปิกทำให้บริษัทต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสาธารณชนและลูกค้ากลุ่มศาสนจักรที่ไม่พอใจกับการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว โตโยต้าจึงตัดสินใจถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการปกป้องค่านิยมของบริษัท แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความรอบคอบในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในกลุ่มลูกค้าทั่วโลก แนวคิด Woke และการคุกคามทางการเมือง โตโยต้าไม่ได้หยุดเพียงแค่การถอนตัวจากโอลิมปิกเท่านั้น แต่ในเดือนตุลาคม 2024 บริษัทได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า จะไม่สนับสนุนกลุ่มหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด Woke อีกต่อไป การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่าโตโยต้ามองว่าแนวคิด Woke ไม่ได้มีเป้าหมายในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง แต่กลับกลายเป็นการใช้การข่มขู่และบังคับให้สังคมยอมรับความเชื่อและอุดมการณ์ของพวกเขา แนวคิด Woke ถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิเสรีภาพของทุกคน แต่เน้นไปที่การกดดันให้ทุกคนต้องเห็นด้วยกับแนวทางเดียวเท่านั้น ใครที่มีความเห็นต่างหรือไม่ยอมรับในแนวคิดนี้ มักจะถูกโจมตี ถูกข่มขู่ หรือแม้กระทั่งถูกทำลายชื่อเสียงผ่านสื่อสังคม นอกจากนี้ แนวคิด Woke ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลบประวัติศาสตร์หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อทำให้สังคมต้องปรับตัวตามอุดมการณ์ที่พวกเขาต้องการ โดยไม่มีการให้พื้นที่แก่ความเห็นที่ต่างกัน ซึ่งนำไปสู่การสร้างบรรยากาศของความกลัวและการคุกคามทางความคิด ผลกระทบของ Woke ต่อสังคม แนวคิด Woke ไม่ได้มีเพียงผลกระทบเชิงบวกตามที่กลุ่มผู้สนับสนุนกล่าวอ้าง แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ การใช้แนวคิด Woke ในการบังคับผู้อื่นให้ยอมรับวิถีชีวิตและอุดมการณ์ที่พวกเขาเชื่อว่าถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงวัฒนธรรม ศาสนา หรือค่านิยมดั้งเดิมของผู้อื่น เป็นการสร้างความไม่สมานฉันท์ในระดับสากล ตัวอย่างของพิธีเปิดโอลิมปิกที่ฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึงการพยายามบังคับให้ทุกคนยอมรับแนวคิดนี้ผ่านทางการแสดงออกทางวัฒนธรรม ซึ่งกลับส่งผลให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โตโยต้าเลือกที่จะถอนตัวออกจากกิจกรรมดังกล่าว การตัดสินใจของโตโยต้า: บทเรียนที่สำคัญ การตัดสินใจของโตโยต้าที่ถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิกและประกาศยุติการสนับสนุนแนวคิด Woke เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลก ว่าการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่มีความขัดแย้งสูง อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ การตัดสินใจของโตโยต้าแสดงให้เห็นว่าการปกป้องค่านิยมดั้งเดิมและความเชื่อของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญ และการหลีกเลี่ยงการสนับสนุนแนวคิดที่สร้างความขัดแย้งสามารถช่วยปกป้ององค์กรจากการถูกวิจารณ์ในทางลบ สุดท้ายนี้ แนวคิด Woke ที่เคยมีเจตนาดีในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาค กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยกและการควบคุมสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมในระยะยาว #โตโยต้า #ลัทธิWoke #ยกเลิกสนับสนุนโอลิมปิก #ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม #ผลกระทบทางการเมือง #การเคลื่อนไหวทางสังคม #วิพากษ์Woke #ปกป้องคุณค่าดั้งเดิม #ความแตกแยกในสังคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เป็นคำถามที่ดี
    อธิบายแบบนี้ มันมี 2 สเต็ป
    1. เริ่มต้น โดยที่จริงๆแล้ว น้องแน๊กชาลีสำหรับพี่คิงส์ก่อนหน้านี้ ก็เป็นน้องคนนึงที่เราเห็นในวงการบันเทิง มาปฏิสัมพันธ์กับกามิน เห็นผ่านๆ ก็ดูน่ารักดี แต่ไม่ได้เป็นด้อม ที่มีความผูกพันเหมือนหลายๆคน แต่เหตุการณ์มันเริ่มต้นคือ วันที่แน๊กออกมาไลฟ์ตั้งแต่ค่ำยันเช้า พี่คิงส์มาเปิดตอนแปดโมงแล้ว ก็เลยสงสัยว่าใครทำให้น้องคนนี้ตกอยู่ในสภาพนี้ นั่นหละนิสัยที่ไม่ยอมให้ความสงสัยค้าคา ก็เลยเริ่มขุดข้อมูล และแล้วด้วยการมองเห็น ข บ ก ของโจ ในการให้ร้ายต่อแน๊ก สร้างเครือข่าย ทำให้คนไทยด้วยกัน เข้าใจแน็กผิด แต่พี่คิงส์มีข้อมูลที่มันสวนทาง และยิ่งขุด ยิ่งรู้จักคนไทย ที่ชื่อแน๊กชาลีมากขึ้น ทำให้เข้าใจสถานการณ์ ว่าน้อง ต้องอดทนแค่ไหน ในขณะที่ต้องย้อมกับแฟนคลับชาวไทย ถ้าไม่มีใครออกมาปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะทำ ถึงขนาดวางเรื่องการเมืองที่นำเสนอเรื่องเอ็กคลูซีฟ การวิเคราะห์ ที่แม่นยำ 99% จนแฟนเพจถามตลอดว่าเลขงวดนี้จะออกอะไร แฟนเพจดั้งเดิมช่วยยืนยันเรื่องนี้ได้ทุกคน เราจึงไม่ต้องการแสง เพราะเรามีแสงของตัวเราเองมานานมากแล้ว และไม่เคยให้ความสำคัญกับมันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมาย ให้คนไทยได้รู้ว่าใครที่คิดร้ายกับคนในประเทศ ใครกำลังทำอะไรที่คนไทยเสียประโยชน์ นั่นคือความสำเร็จที่เราภูมิใจ
    2. เมื่อขุดไปเรื่อยๆ เพื่อตอบข้อสงสัยว่า ข บ ก นำโดยโจ มีใครเป็นเครือข่าย และเค้าทำเพื่ออะไร ก็ไปเจอกับสิ่งที่อึ้ง ที่มันเป็นเรื่องระดับ ฟอกข้ามชาติ บิ๊กแม็ต พีเค ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ในเวลานี้ ยุโปร ตะวันออกลาง และเอเชียหลายประเทศ กำลังตื่นตัว แต่ประเทศไทย แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เท่าที่ดู ก็จะมีแค่สื่อตำนาน อย่าง สนธิ ที่ได้ข้อมูลมาในชุดเดียวกัน แต่มีข้อมูลที่ลึกกว่าคิงส์โพธิ์แดงหลายสิบเท่า และมีความกล้าที่จะเปิดเผย
    ดังนั้น มาส่วนของคำถาม
    ว่า พี่คิงส์ไม่กลัวเหรอ
    ตอบ
    พี่คิงส์ อาจมีความไม่เหมือนกับคนทั่วไปอยู่ 1 ข้อ
    พี่คิงส์คิดว่า คนเราอายุขัยแค่ 70-80 ปี
    ยังไง วันหนึ่งก็ไม่มีเราอยู่บนโลกนี้แน่นอน
    ดังนั้น คุณค่าของชีวิต มันจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับ
    เราอยู่นานแค่ไหน แต่การทำชีวิต 1 ชีวิตให้มีค่า
    มันขึ้นกับว่า เราอยู่เพื่อใครตะหาก
    ประเด็นการออกมาช่วยน้องชาลี พี่คิงส์ถูกให้ร้ายต่างๆนานา
    ว่าอยากได้ยอดไลค์บ้าง อยากดังบ้าง ซึ่งพวกนี้
    ไม่เคยรู้จักเพจคิงส์โพธิ์แดงมาก่อน
    ไม่เคยรู้ว่าเราสู้กับใครมาบ้าง
    ไม่เคยรู้ว่าคลิปที่เราสร้าง โพสที่เราเปิดข้อมูล
    มีคนดูกี่แสน และหลายคลิปก็ทะลุล้าน เป็นเรื่องปกติไปแล้ว
    จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องหาอะไรมาอธิบาย
    มีแค่ข้อเดียวคือ ถ้าไม่ปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะปกป้องเรา
    และที่ลึกไปถึงกลุ่มทุนดาร์คที่ซัพพอตโจ และเครือข่าย
    ต้องสังเคราะห์ให้ลึกซึ้งก่อนว่า
    เงินดาร์ค ที่ว่าได้มายังไง
    1. การพานัน
    2. ค้ามานุษย์
    3. คอเซ็งเทอร์
    4. ยาเฉพติค
    นี่คือส่วนหลักๆของเงินดาร์ค ที่มันจะเอามาใช้ได้ ต้องผ่านกระบวนการฟอกเท่านั้น ไม่เช่นนั้น มีก็เหมือนไม่มี ทำอะไรไม่ได้ เพราะทุกประเทศต่างจับตาเรื่องนี้กันทั้งนั้น
    และข้อมูลที่พี่คิงส์ฯได้เปิดไปแล้วนั้น ว่าทั้งสหรัฐ ทั้งตุรกี ทั้งจีน ทั้งไต้หวัน ต่างตื่นตัวกันมาก กลุ่มเงินดาร์ค ใช้จังหวะที่ชาลีและคนไทยเข้าใจผิดไม่คิดว่าสิ่งที่กามินทำนั้น คือการแสดงที่มีเอเจนซี่กำกับอยู่ และมีชื่อเสียงก้องประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วางแผนไกลถึงขนาดจะใช้ไทยเป็นฐานใหญ่ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมา มีการนำเงินเข้าสู่ระบบ ตต. และฟอกไปแล้วจำนวนมหาศาล ผ่านการแต่งบช ว่าได้รับผลประโยชน์จากของขวัญในตน. สอดแทรกกับของขวัญจริงที่คนไทยส่งให้ด้วยความเอ็นดู
    คำถาม ถ้าพี่คิงส์ไม่เปิดเผยเรื่องนี้แบบตรงๆ
    ป่านนี้ พีเค บิ๊กแม็ต ก็กระหึ่มอยู่ เงินดาร์คก็ยังฟอกกันได้อย่างเฟื่องฟู
    และประเทศเราก็จะกลายเป็น ฐานใหญ่เงินดาร์คไปแล้วก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ มีเอเจนซี่ เริ่มเข้ามาเตรียมหาตัวแสดง และปั้น เพื่อเข้าสู่กระบวนการ ฟอกให้ขาว
    ดังนั้น ถ้าการที่เพจนี้ ได้ต่อสู้แล้วช่วยคนไทยได้ทั้งประเทศ
    อย่าถามว่ากลัวมั๊ย ต้องถามว่าคุ้มมั๊ย
    ถ้าคุณได้ใช้ชีวิตของคุณ ช่วยคนไทยได้กว่า 70 ล้านคน
    ซึ่งพี่คิงส์ มีคำตอบกับตัวเองแล้วว่า "คุ้มค่า"
    ขอตอบรอบนี้รอบเดียวนะครับ
    ถึงจะไม่ได้ทำทุกอย่างดีหมดถูกต้องหมดมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา
    แต่สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ มั่นใจว่า "ถูกต้องที่สุด" แล้วจริงๆ
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เป็นคำถามที่ดี อธิบายแบบนี้ มันมี 2 สเต็ป 1. เริ่มต้น โดยที่จริงๆแล้ว น้องแน๊กชาลีสำหรับพี่คิงส์ก่อนหน้านี้ ก็เป็นน้องคนนึงที่เราเห็นในวงการบันเทิง มาปฏิสัมพันธ์กับกามิน เห็นผ่านๆ ก็ดูน่ารักดี แต่ไม่ได้เป็นด้อม ที่มีความผูกพันเหมือนหลายๆคน แต่เหตุการณ์มันเริ่มต้นคือ วันที่แน๊กออกมาไลฟ์ตั้งแต่ค่ำยันเช้า พี่คิงส์มาเปิดตอนแปดโมงแล้ว ก็เลยสงสัยว่าใครทำให้น้องคนนี้ตกอยู่ในสภาพนี้ นั่นหละนิสัยที่ไม่ยอมให้ความสงสัยค้าคา ก็เลยเริ่มขุดข้อมูล และแล้วด้วยการมองเห็น ข บ ก ของโจ ในการให้ร้ายต่อแน๊ก สร้างเครือข่าย ทำให้คนไทยด้วยกัน เข้าใจแน็กผิด แต่พี่คิงส์มีข้อมูลที่มันสวนทาง และยิ่งขุด ยิ่งรู้จักคนไทย ที่ชื่อแน๊กชาลีมากขึ้น ทำให้เข้าใจสถานการณ์ ว่าน้อง ต้องอดทนแค่ไหน ในขณะที่ต้องย้อมกับแฟนคลับชาวไทย ถ้าไม่มีใครออกมาปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะทำ ถึงขนาดวางเรื่องการเมืองที่นำเสนอเรื่องเอ็กคลูซีฟ การวิเคราะห์ ที่แม่นยำ 99% จนแฟนเพจถามตลอดว่าเลขงวดนี้จะออกอะไร แฟนเพจดั้งเดิมช่วยยืนยันเรื่องนี้ได้ทุกคน เราจึงไม่ต้องการแสง เพราะเรามีแสงของตัวเราเองมานานมากแล้ว และไม่เคยให้ความสำคัญกับมันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ให้ความสำคัญกับการบรรลุเป้าหมาย ให้คนไทยได้รู้ว่าใครที่คิดร้ายกับคนในประเทศ ใครกำลังทำอะไรที่คนไทยเสียประโยชน์ นั่นคือความสำเร็จที่เราภูมิใจ 2. เมื่อขุดไปเรื่อยๆ เพื่อตอบข้อสงสัยว่า ข บ ก นำโดยโจ มีใครเป็นเครือข่าย และเค้าทำเพื่ออะไร ก็ไปเจอกับสิ่งที่อึ้ง ที่มันเป็นเรื่องระดับ ฟอกข้ามชาติ บิ๊กแม็ต พีเค ซึ่งตรงกับข้อมูลที่ในเวลานี้ ยุโปร ตะวันออกลาง และเอเชียหลายประเทศ กำลังตื่นตัว แต่ประเทศไทย แทบไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย เท่าที่ดู ก็จะมีแค่สื่อตำนาน อย่าง สนธิ ที่ได้ข้อมูลมาในชุดเดียวกัน แต่มีข้อมูลที่ลึกกว่าคิงส์โพธิ์แดงหลายสิบเท่า และมีความกล้าที่จะเปิดเผย ดังนั้น มาส่วนของคำถาม ว่า พี่คิงส์ไม่กลัวเหรอ ตอบ พี่คิงส์ อาจมีความไม่เหมือนกับคนทั่วไปอยู่ 1 ข้อ พี่คิงส์คิดว่า คนเราอายุขัยแค่ 70-80 ปี ยังไง วันหนึ่งก็ไม่มีเราอยู่บนโลกนี้แน่นอน ดังนั้น คุณค่าของชีวิต มันจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับ เราอยู่นานแค่ไหน แต่การทำชีวิต 1 ชีวิตให้มีค่า มันขึ้นกับว่า เราอยู่เพื่อใครตะหาก ประเด็นการออกมาช่วยน้องชาลี พี่คิงส์ถูกให้ร้ายต่างๆนานา ว่าอยากได้ยอดไลค์บ้าง อยากดังบ้าง ซึ่งพวกนี้ ไม่เคยรู้จักเพจคิงส์โพธิ์แดงมาก่อน ไม่เคยรู้ว่าเราสู้กับใครมาบ้าง ไม่เคยรู้ว่าคลิปที่เราสร้าง โพสที่เราเปิดข้อมูล มีคนดูกี่แสน และหลายคลิปก็ทะลุล้าน เป็นเรื่องปกติไปแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่ต้องหาอะไรมาอธิบาย มีแค่ข้อเดียวคือ ถ้าไม่ปกป้องคนไทยด้วยกัน แล้วใครจะปกป้องเรา และที่ลึกไปถึงกลุ่มทุนดาร์คที่ซัพพอตโจ และเครือข่าย ต้องสังเคราะห์ให้ลึกซึ้งก่อนว่า เงินดาร์ค ที่ว่าได้มายังไง 1. การพานัน 2. ค้ามานุษย์ 3. คอเซ็งเทอร์ 4. ยาเฉพติค นี่คือส่วนหลักๆของเงินดาร์ค ที่มันจะเอามาใช้ได้ ต้องผ่านกระบวนการฟอกเท่านั้น ไม่เช่นนั้น มีก็เหมือนไม่มี ทำอะไรไม่ได้ เพราะทุกประเทศต่างจับตาเรื่องนี้กันทั้งนั้น และข้อมูลที่พี่คิงส์ฯได้เปิดไปแล้วนั้น ว่าทั้งสหรัฐ ทั้งตุรกี ทั้งจีน ทั้งไต้หวัน ต่างตื่นตัวกันมาก กลุ่มเงินดาร์ค ใช้จังหวะที่ชาลีและคนไทยเข้าใจผิดไม่คิดว่าสิ่งที่กามินทำนั้น คือการแสดงที่มีเอเจนซี่กำกับอยู่ และมีชื่อเสียงก้องประเทศอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน วางแผนไกลถึงขนาดจะใช้ไทยเป็นฐานใหญ่ เพราะหลายเดือนที่ผ่านมา มีการนำเงินเข้าสู่ระบบ ตต. และฟอกไปแล้วจำนวนมหาศาล ผ่านการแต่งบช ว่าได้รับผลประโยชน์จากของขวัญในตน. สอดแทรกกับของขวัญจริงที่คนไทยส่งให้ด้วยความเอ็นดู คำถาม ถ้าพี่คิงส์ไม่เปิดเผยเรื่องนี้แบบตรงๆ ป่านนี้ พีเค บิ๊กแม็ต ก็กระหึ่มอยู่ เงินดาร์คก็ยังฟอกกันได้อย่างเฟื่องฟู และประเทศเราก็จะกลายเป็น ฐานใหญ่เงินดาร์คไปแล้วก็เป็นได้ เพราะตอนนี้ มีเอเจนซี่ เริ่มเข้ามาเตรียมหาตัวแสดง และปั้น เพื่อเข้าสู่กระบวนการ ฟอกให้ขาว ดังนั้น ถ้าการที่เพจนี้ ได้ต่อสู้แล้วช่วยคนไทยได้ทั้งประเทศ อย่าถามว่ากลัวมั๊ย ต้องถามว่าคุ้มมั๊ย ถ้าคุณได้ใช้ชีวิตของคุณ ช่วยคนไทยได้กว่า 70 ล้านคน ซึ่งพี่คิงส์ มีคำตอบกับตัวเองแล้วว่า "คุ้มค่า" ขอตอบรอบนี้รอบเดียวนะครับ ถึงจะไม่ได้ทำทุกอย่างดีหมดถูกต้องหมดมาตลอดชีวิตที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ มั่นใจว่า "ถูกต้องที่สุด" แล้วจริงๆ #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2064 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เล่าสู่กันฟัง

    คนที่ติดตามเพจพวกเรามาตั้งแต่ต้นหลายคนจะรู้ดีเลยว่าถ้าพวกเราเล่นใครคือจะไม่เคยเล่นแบบเลื่อนลอย

    นั่นเพราะเราเป็นเงาซึ่งมันไม่น่าเชื่อถือเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเราจึงต้องขุดหาข้อมูลให้ลึกๆเอามาแนบบทความให้เห็นความจริงที่จับต้องได้

    เราเปิดเพจขึ้นมาโดยใช้ภาพของโจวเหวินฟะเป็นภาพโพรไฟล์ ในขณะที่ช่องส่องผีมีตัวตนจริง

    ชสผ.มีคนติดตามร่วม 2 ล้าน แถมรายการ on air อยู่ช่อง 8 ส่วนเราเปิดเพจได้ 3 เดือนมีคนติดตามหลักสิบ..มองไม่เห็นแสงแห่งชัยชนะ แต่สุดท้ายเราชนะขาด

    ในทุกๆวันจะมีพี่ติ่งส่องผีเป็นร้อยๆเลยขับเฟซมาจอดที่เพจเหยื่อโชว์สกิลสมถานะกระบือบินเสร็จแล้วก็งับเบ็ดที่เราวางไว้ติดปากกลับไปทุกราย

    เราเลือกเป้าโจมตีไปที่ เรนนี่ ผู้วิเศษดาวดังตัวชูโรงประจำช่องส่องผี การบ้านที่พวกเราต้องทำคือหาข้อมูลมาหักร้าง ให้โลกเห็นว่าเรนนี่ ของปลอมลวงโลก

    ซึ่งการตามหาประวัติอาชญากรสำหรับพวกเราแล้วมันเป็นงานไม่ยากหรอก คนที่ตามหายากที่สุดคือ..คนดีๆคนที่ไม่เคยทำผิดบาป คนที่ไม่เคยมีคดีติดตัว

    บ๊วย..อาศัยความเป็นคนในวงการบันเทิง จึงรู้ช่องทางการจะปั้นเรนนี่ให้โด่งดัง พาเรนนี่เดินสายออกทีวี

    และจุดสลบของคนลวงโลกคือ..โกหกให้ถูกจับได้

    ทีมงานเราลงพื้นที่ไปย่านบ้านย่านโรงเรียนของเรนนี่ เราค้นหาคลิปทุกนาที ภาพทุกใบที่เรนนี่เคยเผยแพร่เอาไว้บนโลกออนไลน์ทุกช่องทาง

    แล้วเอาคลิปเอาเรื่องเล่าจากคนข้างบ้านเรนนี่ที่มีมากมายมาถอดหาช่องโจมตี แล้วก็เห็นช่องทางโจมตี

    นั่นคือเราต้องโจมตีไปที่สารตั้งต้นที่เรนนี่อ้างว่าได้พลังวิเศษมา ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าสตอรี่การได้มาซึ่งพลังวิเศษของเรนนี่เป็นเรื่องโกหก..พังทั้งคณะ

    เรนนี่..อ้างว่าตอนเด็กรถคว่ำ คอหักตุย พร้อมคนอื่นอีก 4 ศพ ตัวเองตุยในที่เกิดเหตุ แล้วไปฟื้นในห้องดับจิต

    ออกจากห้องดับจิตมานอนพักฟื้นในโรงพยาบาล 90 วัน ระหว่างที่อยู่ในห้องดับจิตเรนนี่ไปนรก เจอกับท่านยมซึ่งเป็นพ่อของเรนนี่ในอดีตชาติ

    พ่อยมของเรนนี่จึงส่งพ่อปู่ 3 ตามาสอนวิชาทุกค่ำคืน พอฟื้นคืนชีพขึ้นมาเลยมีตาทิพย์ ออกต้มตุ๋นผู้คน

    เรานับ 1 จากการหาประวัติในใบ opd-ipd ว่าตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันเรนนี่เข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุหนักๆบ้างไหม

    ผลที่ได้คือเรนนี่เข้าโรงพยาบาล 4 ครั้ง เป็นการคลอดลูกผู้หญิง 2 ครั้ง เล่นชู้โดนผัวกระทืบ 1 ครั้ง ป่วย 1 ครั้ง

    เรนนี่..ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะรถคว่ำและไม่เคยนอนโรงพยาบาล 90 วัน ดังนั้นจึงเป็นความบ้งที่ 1 ของเรนนี่

    ถ้าไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุ=โกหกเรื่องการได้มาของพลังวิเศษตาทิพย์..ปลอมในปลอม

    เรนนี่..อ้างว่าเรียนจบนักธรรมเอกจากวัดบวร พวกเราก็สืบค้นไปที่วัดบวรไม่มีชื่อเรนนี่

    พวกเราจึงเช็คไปที่สำนักแม่กองธรรมสนามหลวง จึงพบว่าเรนนี่เรียนจบธรรมศึกษาชั้นโท จากวัดบึงบา เมื่อปี ๒๕๔๘

    จบนักธรรมโท ก็โกหกว่าจบนักธรรมเอก จบวัดบึงบาก็บอกว่าจบจากวัดบวร นั่นคือบ้งที่ 2

    เรนนี่..บอกว่าได้ทุนไปเรียนธรรมที่อินเดียมา 6 เดือน เคยไปเที่ยวยุโรปมา 6 ประเทศ ไปเจอผีที่ญี่ปุ่น ไปเดินเล่นที่เกาหลี

    เราจึงเช็คประวัติการเดินทางของเรนนี่ ผลที่ได้คือเดินทางออกนอกประเทษ 9 ครั้ง พม่า-เขมร 8 ครั้งและไปไต้หวัน 1 ครั้งรวมเป็น 9 ครั้ง นั่นคือบ้งที่ 3

    และถูกพวกเราจับผิดได้อีกนับร้อยบ้ง จากผู้วิเศษตาทิพย์กลายเป็นนักต้มตุ๋นออนไลน์ ได้คดีกันไปทั่วหน้า

    พอถูกดำเนินคดี ความร้าวฉานก็เริ่มก่อตัว สุดท้ายวงแตกแยกทางกันไป จะมาพบเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาก็ต่อเมื่อ..อยู่ในบัลลังก์

    ทุกวันนี้ที่เราไม่ได้ฟาดเพราะปล่อยให้พวกมันก่อคดีเพิ่มไปเรื่อยๆ ถ้าสอบสวนกลางมีความเห็นสั่งฟ้องศาล

    เราจะแจ้งหมายข่าวไปทุกช่อง ส่งข่าวไปหาเพจดาร์กที่เป็นพันธมิตร แล้วคดีฉ้อโกงประชาชนมันจะดังเอามากๆเลย

    เหยื่อ..ที่เคยถูกเรียกเก็บค่าทำพิธีกรรมต่างๆ ก็จะรู้ตัวว่าอ้าวนี่กูให้นักต้มตุ๋นแก้กรรมให้กูเหรอวะเนี่ย ถถถ

    ถ้าเราโชคดี เหยื่อของเรนนี่อาจจะทักมาหาเราก็ได้ 1 คนก็ 1 คดี มาหาเรา 2 คนก็ 2 คดี ถ้ามาหลายคนยิ่งสนุกเลย

    #อย่าให้ได้ขุด
    @King
    #เล่าสู่กันฟัง คนที่ติดตามเพจพวกเรามาตั้งแต่ต้นหลายคนจะรู้ดีเลยว่าถ้าพวกเราเล่นใครคือจะไม่เคยเล่นแบบเลื่อนลอย นั่นเพราะเราเป็นเงาซึ่งมันไม่น่าเชื่อถือเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเราจึงต้องขุดหาข้อมูลให้ลึกๆเอามาแนบบทความให้เห็นความจริงที่จับต้องได้ เราเปิดเพจขึ้นมาโดยใช้ภาพของโจวเหวินฟะเป็นภาพโพรไฟล์ ในขณะที่ช่องส่องผีมีตัวตนจริง ชสผ.มีคนติดตามร่วม 2 ล้าน แถมรายการ on air อยู่ช่อง 8 ส่วนเราเปิดเพจได้ 3 เดือนมีคนติดตามหลักสิบ..มองไม่เห็นแสงแห่งชัยชนะ แต่สุดท้ายเราชนะขาด ในทุกๆวันจะมีพี่ติ่งส่องผีเป็นร้อยๆเลยขับเฟซมาจอดที่เพจเหยื่อโชว์สกิลสมถานะกระบือบินเสร็จแล้วก็งับเบ็ดที่เราวางไว้ติดปากกลับไปทุกราย เราเลือกเป้าโจมตีไปที่ เรนนี่ ผู้วิเศษดาวดังตัวชูโรงประจำช่องส่องผี การบ้านที่พวกเราต้องทำคือหาข้อมูลมาหักร้าง ให้โลกเห็นว่าเรนนี่ ของปลอมลวงโลก ซึ่งการตามหาประวัติอาชญากรสำหรับพวกเราแล้วมันเป็นงานไม่ยากหรอก คนที่ตามหายากที่สุดคือ..คนดีๆคนที่ไม่เคยทำผิดบาป คนที่ไม่เคยมีคดีติดตัว บ๊วย..อาศัยความเป็นคนในวงการบันเทิง จึงรู้ช่องทางการจะปั้นเรนนี่ให้โด่งดัง พาเรนนี่เดินสายออกทีวี และจุดสลบของคนลวงโลกคือ..โกหกให้ถูกจับได้ ทีมงานเราลงพื้นที่ไปย่านบ้านย่านโรงเรียนของเรนนี่ เราค้นหาคลิปทุกนาที ภาพทุกใบที่เรนนี่เคยเผยแพร่เอาไว้บนโลกออนไลน์ทุกช่องทาง แล้วเอาคลิปเอาเรื่องเล่าจากคนข้างบ้านเรนนี่ที่มีมากมายมาถอดหาช่องโจมตี แล้วก็เห็นช่องทางโจมตี นั่นคือเราต้องโจมตีไปที่สารตั้งต้นที่เรนนี่อ้างว่าได้พลังวิเศษมา ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าสตอรี่การได้มาซึ่งพลังวิเศษของเรนนี่เป็นเรื่องโกหก..พังทั้งคณะ เรนนี่..อ้างว่าตอนเด็กรถคว่ำ คอหักตุย พร้อมคนอื่นอีก 4 ศพ ตัวเองตุยในที่เกิดเหตุ แล้วไปฟื้นในห้องดับจิต ออกจากห้องดับจิตมานอนพักฟื้นในโรงพยาบาล 90 วัน ระหว่างที่อยู่ในห้องดับจิตเรนนี่ไปนรก เจอกับท่านยมซึ่งเป็นพ่อของเรนนี่ในอดีตชาติ พ่อยมของเรนนี่จึงส่งพ่อปู่ 3 ตามาสอนวิชาทุกค่ำคืน พอฟื้นคืนชีพขึ้นมาเลยมีตาทิพย์ ออกต้มตุ๋นผู้คน เรานับ 1 จากการหาประวัติในใบ opd-ipd ว่าตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันเรนนี่เข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุหนักๆบ้างไหม ผลที่ได้คือเรนนี่เข้าโรงพยาบาล 4 ครั้ง เป็นการคลอดลูกผู้หญิง 2 ครั้ง เล่นชู้โดนผัวกระทืบ 1 ครั้ง ป่วย 1 ครั้ง เรนนี่..ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะรถคว่ำและไม่เคยนอนโรงพยาบาล 90 วัน ดังนั้นจึงเป็นความบ้งที่ 1 ของเรนนี่ ถ้าไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะอุบัติเหตุ=โกหกเรื่องการได้มาของพลังวิเศษตาทิพย์..ปลอมในปลอม เรนนี่..อ้างว่าเรียนจบนักธรรมเอกจากวัดบวร พวกเราก็สืบค้นไปที่วัดบวรไม่มีชื่อเรนนี่ พวกเราจึงเช็คไปที่สำนักแม่กองธรรมสนามหลวง จึงพบว่าเรนนี่เรียนจบธรรมศึกษาชั้นโท จากวัดบึงบา เมื่อปี ๒๕๔๘ จบนักธรรมโท ก็โกหกว่าจบนักธรรมเอก จบวัดบึงบาก็บอกว่าจบจากวัดบวร นั่นคือบ้งที่ 2 เรนนี่..บอกว่าได้ทุนไปเรียนธรรมที่อินเดียมา 6 เดือน เคยไปเที่ยวยุโรปมา 6 ประเทศ ไปเจอผีที่ญี่ปุ่น ไปเดินเล่นที่เกาหลี เราจึงเช็คประวัติการเดินทางของเรนนี่ ผลที่ได้คือเดินทางออกนอกประเทษ 9 ครั้ง พม่า-เขมร 8 ครั้งและไปไต้หวัน 1 ครั้งรวมเป็น 9 ครั้ง นั่นคือบ้งที่ 3 และถูกพวกเราจับผิดได้อีกนับร้อยบ้ง จากผู้วิเศษตาทิพย์กลายเป็นนักต้มตุ๋นออนไลน์ ได้คดีกันไปทั่วหน้า พอถูกดำเนินคดี ความร้าวฉานก็เริ่มก่อตัว สุดท้ายวงแตกแยกทางกันไป จะมาพบเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาก็ต่อเมื่อ..อยู่ในบัลลังก์ ทุกวันนี้ที่เราไม่ได้ฟาดเพราะปล่อยให้พวกมันก่อคดีเพิ่มไปเรื่อยๆ ถ้าสอบสวนกลางมีความเห็นสั่งฟ้องศาล เราจะแจ้งหมายข่าวไปทุกช่อง ส่งข่าวไปหาเพจดาร์กที่เป็นพันธมิตร แล้วคดีฉ้อโกงประชาชนมันจะดังเอามากๆเลย เหยื่อ..ที่เคยถูกเรียกเก็บค่าทำพิธีกรรมต่างๆ ก็จะรู้ตัวว่าอ้าวนี่กูให้นักต้มตุ๋นแก้กรรมให้กูเหรอวะเนี่ย ถถถ ถ้าเราโชคดี เหยื่อของเรนนี่อาจจะทักมาหาเราก็ได้ 1 คนก็ 1 คดี มาหาเรา 2 คนก็ 2 คดี ถ้ามาหลายคนยิ่งสนุกเลย #อย่าให้ได้ขุด @King
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • สีสันรายการวันนี้ #วงการบันเทิงเกาหลี #SONDHITALK #Thaitimes
    สีสันรายการวันนี้ #วงการบันเทิงเกาหลี #SONDHITALK #Thaitimes
    Like
    Love
    21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2993 มุมมอง 2173 1 รีวิว
  • เป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจกับการจากไปของดารานักแสดงจีนรุ่นเก๋า “ฉีเส้าเฉียง” ที่มีแฟนคลับและเป็นที่รู้จักกันถ้วนหน้ากับผลงานหลากหลายที่ได้ฝากไว้ในวงการบันเทิงมาโดยตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ Fengshui Biz Designer ขออนุญาตร่วมไว้อาลัยด้วยการวิเคราะห์รูปดวงเชิงวิชาการยกไว้เป็นดวงครู เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่สนใจในโหราศาสตร์จีนโบราณ ด้วยหลักวิชา “สี่เสาแห่งโชคชะตา” หรือ 八字四柱 (โป๊ยหยี่ซี๊เถียว)

    ลักษณะโครงสร้าง ”สี่เสาแห่งโชคชะตา” หรือ 八字四柱 (โป๊ยหยี่ซี๊เถียว) เป็นคนธาตุไม้ เพศหยาง เสมือนไม้แข็งลำต้นใหญ่ ที่มีนิสัยกระตือรือร้น รักการพัฒนาตลอดเวลา มีจิตใจที่เข้มแข็ง ดื้อรั้น ซื่อตรง รักศักดิ์ศรี มีคุณธรรม ตัดสินใจเร็ว ชอบช่วยเหลือผู้อ่อนแอ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของผู้น้อย แต่มีข้อเสียที่ไม่รู้จักโอนอ่อนผ่อนตามตลอดจนขี้ระแวง

    ธาตุไม้ เพศหยาง ที่เกิดในปีขาลทอง 庚寅(แกเอี๊ยง) เดือนจอไฟ 丙戌(เปียสุก) วันวอกไม้ 甲申(กะซิม) ที่เสาปีเกิดกับเสาวันเกิดปะทะ沖(ชง)กัน ในขณะที่วัยจรช่วงอายุตั้งแต่ 69 ถึง 78 ปี ถนนชีวิตเดินในตำแหน่งมะเส็งน้ำ癸巳(กุ้ยจี๋) เข้าหลักเกณฑ์三刑(ซาเฮ้ง) เสมือนเป็นคราวเคราะห์ ทั้งปีจรในปีนี้ตรงกับปีมะโรงไม้甲辰(กะซิ้ง)ปะทะ沖(ชง)กับเดือนเกิดจอไฟ 丙戌(เปียสุก) ซ้ำเติมเข้าไปอีก

    ส่วนในปี 2567 นี้ อายุ 75 ปี (นับจีน) เป็นปีจรมะโรงไม้甲辰(กะซิ้ง) ที่มีดาวร้าย喪門(ซึงมึ้ง) 天哭(เทียงเข่า) และ地煞(ตี่สั่วะ) ตอกย้ำซ้ำเติมดาวบาปเคราะห์บังเกิดเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติดลให้เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    เป็นเรื่องน่าเศร้าเสียใจกับการจากไปของดารานักแสดงจีนรุ่นเก๋า “ฉีเส้าเฉียง” ที่มีแฟนคลับและเป็นที่รู้จักกันถ้วนหน้ากับผลงานหลากหลายที่ได้ฝากไว้ในวงการบันเทิงมาโดยตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ Fengshui Biz Designer ขออนุญาตร่วมไว้อาลัยด้วยการวิเคราะห์รูปดวงเชิงวิชาการยกไว้เป็นดวงครู เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ที่สนใจในโหราศาสตร์จีนโบราณ ด้วยหลักวิชา “สี่เสาแห่งโชคชะตา” หรือ 八字四柱 (โป๊ยหยี่ซี๊เถียว) ลักษณะโครงสร้าง ”สี่เสาแห่งโชคชะตา” หรือ 八字四柱 (โป๊ยหยี่ซี๊เถียว) เป็นคนธาตุไม้ เพศหยาง เสมือนไม้แข็งลำต้นใหญ่ ที่มีนิสัยกระตือรือร้น รักการพัฒนาตลอดเวลา มีจิตใจที่เข้มแข็ง ดื้อรั้น ซื่อตรง รักศักดิ์ศรี มีคุณธรรม ตัดสินใจเร็ว ชอบช่วยเหลือผู้อ่อนแอ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของผู้น้อย แต่มีข้อเสียที่ไม่รู้จักโอนอ่อนผ่อนตามตลอดจนขี้ระแวง ธาตุไม้ เพศหยาง ที่เกิดในปีขาลทอง 庚寅(แกเอี๊ยง) เดือนจอไฟ 丙戌(เปียสุก) วันวอกไม้ 甲申(กะซิม) ที่เสาปีเกิดกับเสาวันเกิดปะทะ沖(ชง)กัน ในขณะที่วัยจรช่วงอายุตั้งแต่ 69 ถึง 78 ปี ถนนชีวิตเดินในตำแหน่งมะเส็งน้ำ癸巳(กุ้ยจี๋) เข้าหลักเกณฑ์三刑(ซาเฮ้ง) เสมือนเป็นคราวเคราะห์ ทั้งปีจรในปีนี้ตรงกับปีมะโรงไม้甲辰(กะซิ้ง)ปะทะ沖(ชง)กับเดือนเกิดจอไฟ 丙戌(เปียสุก) ซ้ำเติมเข้าไปอีก ส่วนในปี 2567 นี้ อายุ 75 ปี (นับจีน) เป็นปีจรมะโรงไม้甲辰(กะซิ้ง) ที่มีดาวร้าย喪門(ซึงมึ้ง) 天哭(เทียงเข่า) และ地煞(ตี่สั่วะ) ตอกย้ำซ้ำเติมดาวบาปเคราะห์บังเกิดเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติดลให้เลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”วิว“ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบตมินตันเหรียญเงิน โอลิมปิกปารีส2024 เริ่มรับงานนายแบบ เมื่อเจ้าตัวได้โพสต์ภาพที่ได้ถ่ายแฟชั่นให้กับแบรนด์ดังลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมเผยความรู้สึกว่า
    .
    “มันก็จะเขินๆ หน่อย 🤭ฝากติดตามผลงานครั้งแรกของผมในบทบาทใหม่”
    .
    งานนี้ทำเอาแฟนคลับเข้าไปคอมเมนต์ชื่นชมกันแบบรัวๆ เช่น หล่อเลยครับ, ฮยอนบิน อปป้ามากกก โอ่ยยย หล่อเท่สุด ๆ เลยค้าบบบบ,เป็นนายแบบท่านหนึ่งที่ตีแบดได้นิดหน่อย,นักกีฬางานเสิรม งานหลักนายแบบ,ลุคส์นี้ดีงามมากกกกก ไม่เว้นแม้กระทั่งคนในวงการบันเทิง เช่น ดีเจเป้ วิศวะ ที่เข้ามาคอมเมนต์ว่า “โว๊ะ อย่างหล่อ 🔥🔥🔥” รวมถึงแวดวงกีฬาอย่างผู้ประกาศข่าวกีฬาอดีตนักว่ายน้ำทีมชาติ อาย ศรสวรรค์ ก็เข้ามา “กรี๊ดดดดดดด😍” และนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติ ครีม บุศนันทน์ ก็เข้ามาคอมเมนต์แซว “เท่เกิ้นนนน” เรียกว่างานนี้ได้ใจแฟน ๆ ไปเต็มๆ โดยเฉพาะ สาว ๆ คริๆ

    ที่มา : ไนน์เอ็นเตอร์เทน

    #Thaitimes
    ”วิว“ กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบตมินตันเหรียญเงิน โอลิมปิกปารีส2024 เริ่มรับงานนายแบบ เมื่อเจ้าตัวได้โพสต์ภาพที่ได้ถ่ายแฟชั่นให้กับแบรนด์ดังลงในอินสตาแกรมส่วนตัว พร้อมเผยความรู้สึกว่า . “มันก็จะเขินๆ หน่อย 🤭ฝากติดตามผลงานครั้งแรกของผมในบทบาทใหม่” . งานนี้ทำเอาแฟนคลับเข้าไปคอมเมนต์ชื่นชมกันแบบรัวๆ เช่น หล่อเลยครับ, ฮยอนบิน อปป้ามากกก โอ่ยยย หล่อเท่สุด ๆ เลยค้าบบบบ,เป็นนายแบบท่านหนึ่งที่ตีแบดได้นิดหน่อย,นักกีฬางานเสิรม งานหลักนายแบบ,ลุคส์นี้ดีงามมากกกกก ไม่เว้นแม้กระทั่งคนในวงการบันเทิง เช่น ดีเจเป้ วิศวะ ที่เข้ามาคอมเมนต์ว่า “โว๊ะ อย่างหล่อ 🔥🔥🔥” รวมถึงแวดวงกีฬาอย่างผู้ประกาศข่าวกีฬาอดีตนักว่ายน้ำทีมชาติ อาย ศรสวรรค์ ก็เข้ามา “กรี๊ดดดดดดด😍” และนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติ ครีม บุศนันทน์ ก็เข้ามาคอมเมนต์แซว “เท่เกิ้นนนน” เรียกว่างานนี้ได้ใจแฟน ๆ ไปเต็มๆ โดยเฉพาะ สาว ๆ คริๆ ที่มา : ไนน์เอ็นเตอร์เทน #Thaitimes
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 574 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยไม่ทน อเมริกาต้องยุติแทรกแซงไทย! นายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท 189 คอมมิวนิเคชั่นส์ อินเทลลิเจนซ์ เผยแพร่จดหมายประท้วงการกระทำไม่เหมาะสมของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ยุติการแทรกแซงไม่เหมาะสมต่อประเทศไทย กรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567

    เนื้อหาในจดหมายประท้วงมีดังนี้
    "To Mr. Spokesperson of U.S. Department of State, Office of the Spokesperson

    Attached to His Excellency the United States Ambassador to Thailand

    Subject: Urgent Request for Cessation of Inappropriate Intervention shown in the Immediate Release issued on August 7, 2024 on the dissolution of Move Forward Party in Thailand which is regarded to Thailand's Internal Affairs.

    Your Excellency,
    As far as my concern, I am writing on behalf of the Thai people to express our profound concern and condemnation regarding the recent inappropriate interventions by the United States Embassy in Thailand's internal affairs, regarding to the Constituition Court's judgement on the dissolution of the Move Forward Party.

    As widely mentioned, It pointed to a party proposal to amend the law on March 25, 2021, policy statements during its campaign for the May 14, 2023 election, and expressions of intent to amend the law through many political activities and channels. Thus, the court said that the party proposed Section 112 be amended to separate wrongdoings under the section from other offences against national security, make wrongdoers eligible for pardon and enable settlement. According to the court, such attempts diminished the value of the royal institution, showed intention to abuse the royal institution for political gain in the general election, hurt people’s faith in the institution and affected national security.
    (Bangkok Post Website, August 7, 2024)

    From points of view shown in the Immediate Release, I truly believe that such actions are a clear violation of international norms and diplomatic protocol. They have unnecessarily escalated tensions between our two nations, which have historically enjoyed a strong and mutually beneficial relationship.

    While we, Thai people, do recognize the importance of freedom of expression and the right to peaceful assembly, we thoroughly cannot condone foreign interference in our domestic affairs. The United States Spokesperson's action has emboldened certain elements within Thailand to challenge the authority of our democratConstituitional affairs.

    The timing of these interventions is particularly troubling, given the current political situation of heightened bilateral tensions. It is imperative that we should maintain stability and cooperation between our nations, especially in the face of mutually shared challenges.
    We urge you to immediately cease any further interference in Thailand's internal affairs. Your actions are not only inappropriate but also counterproductive to the long-term interests of both our countries.

    We believe that the United States Spokesperson Office and Embassy in Thailand can play a constructive role in promoting dialogue and understanding between Thailand and the United States. However, this can only be achieved through respectful and non-interfering diplomacy.
    Last but not least, failure to address this issue promptly could have serious consequences for the future of our diplomatic relations between Thailand and the United States of America..

    We trust that you will give this matter the utmost attention and consideration.

    Sincerely yours,
    Mr. Boonpachakasem Sermwatanarkul

    Link of the Immediate​ Release:
    https://th.usembassy.gov/statement-by-matthew-miller.../

    สำหรับนายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท 189 คอมมิวนิเคชั่นส์ อินเทลลิเจนซ์ จำกัด ที่คนในวงการทีวี.เรียกขานว่า “เจ็ง” เป็นศิษย์เก่าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 15 เขาคือ ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์การันตีด้วยรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ประจำปี 2554 ประเภท รายการสารคดีเฉลิมพระเกียรติ จากสารคดีเฉลิมพระเกียรติชุด “ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี และ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และยังเป็นคนเดียวกันกับผู้ผลิตรายการสารคดีเฉลิมพระเกียรติอีก 2 ชุด ได้แก่ “ทำไมเราถึงรักพระเจ้าอยู่หัว” และ “เพราะพ่อเหนื่อยนักหนามามากแล้ว”
    “ทำไมเราถึงรักพระเจ้าอยู่หัว” เป็นสารคดีเฉลิมพระเกียรติชุดแรกที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น เป็นการสัมภาษณ์บุคคลในวงการบันเทิง ตามมาด้วย “เพราะพ่อเหนื่อยนักหนามามากแล้ว” สัมภาษณ์ชาวบ้าน ชาวนา ชาวไร่ และชุด “ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง” เป็นการสัมภาษณ์ความรู้สึกของเด็กเล็กถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9

    #Thaitimes
    ไทยไม่ทน อเมริกาต้องยุติแทรกแซงไทย! นายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท 189 คอมมิวนิเคชั่นส์ อินเทลลิเจนซ์ เผยแพร่จดหมายประท้วงการกระทำไม่เหมาะสมของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เรียกร้องให้ยุติการแทรกแซงไม่เหมาะสมต่อประเทศไทย กรณีศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคก้าวไกลเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 เนื้อหาในจดหมายประท้วงมีดังนี้ "To Mr. Spokesperson of U.S. Department of State, Office of the Spokesperson Attached to His Excellency the United States Ambassador to Thailand Subject: Urgent Request for Cessation of Inappropriate Intervention shown in the Immediate Release issued on August 7, 2024 on the dissolution of Move Forward Party in Thailand which is regarded to Thailand's Internal Affairs. Your Excellency, As far as my concern, I am writing on behalf of the Thai people to express our profound concern and condemnation regarding the recent inappropriate interventions by the United States Embassy in Thailand's internal affairs, regarding to the Constituition Court's judgement on the dissolution of the Move Forward Party. As widely mentioned, It pointed to a party proposal to amend the law on March 25, 2021, policy statements during its campaign for the May 14, 2023 election, and expressions of intent to amend the law through many political activities and channels. Thus, the court said that the party proposed Section 112 be amended to separate wrongdoings under the section from other offences against national security, make wrongdoers eligible for pardon and enable settlement. According to the court, such attempts diminished the value of the royal institution, showed intention to abuse the royal institution for political gain in the general election, hurt people’s faith in the institution and affected national security. (Bangkok Post Website, August 7, 2024) From points of view shown in the Immediate Release, I truly believe that such actions are a clear violation of international norms and diplomatic protocol. They have unnecessarily escalated tensions between our two nations, which have historically enjoyed a strong and mutually beneficial relationship. While we, Thai people, do recognize the importance of freedom of expression and the right to peaceful assembly, we thoroughly cannot condone foreign interference in our domestic affairs. The United States Spokesperson's action has emboldened certain elements within Thailand to challenge the authority of our democratConstituitional affairs. The timing of these interventions is particularly troubling, given the current political situation of heightened bilateral tensions. It is imperative that we should maintain stability and cooperation between our nations, especially in the face of mutually shared challenges. We urge you to immediately cease any further interference in Thailand's internal affairs. Your actions are not only inappropriate but also counterproductive to the long-term interests of both our countries. We believe that the United States Spokesperson Office and Embassy in Thailand can play a constructive role in promoting dialogue and understanding between Thailand and the United States. However, this can only be achieved through respectful and non-interfering diplomacy. Last but not least, failure to address this issue promptly could have serious consequences for the future of our diplomatic relations between Thailand and the United States of America.. We trust that you will give this matter the utmost attention and consideration. Sincerely yours, Mr. Boonpachakasem Sermwatanarkul Link of the Immediate​ Release: https://th.usembassy.gov/statement-by-matthew-miller.../ สำหรับนายบุญญ์พัชรเกษม เสริมวัฒนากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท 189 คอมมิวนิเคชั่นส์ อินเทลลิเจนซ์ จำกัด ที่คนในวงการทีวี.เรียกขานว่า “เจ็ง” เป็นศิษย์เก่าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 15 เขาคือ ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์การันตีด้วยรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ประจำปี 2554 ประเภท รายการสารคดีเฉลิมพระเกียรติ จากสารคดีเฉลิมพระเกียรติชุด “ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี และ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย และยังเป็นคนเดียวกันกับผู้ผลิตรายการสารคดีเฉลิมพระเกียรติอีก 2 ชุด ได้แก่ “ทำไมเราถึงรักพระเจ้าอยู่หัว” และ “เพราะพ่อเหนื่อยนักหนามามากแล้ว” “ทำไมเราถึงรักพระเจ้าอยู่หัว” เป็นสารคดีเฉลิมพระเกียรติชุดแรกที่เขาสร้างสรรค์ขึ้น เป็นการสัมภาษณ์บุคคลในวงการบันเทิง ตามมาด้วย “เพราะพ่อเหนื่อยนักหนามามากแล้ว” สัมภาษณ์ชาวบ้าน ชาวนา ชาวไร่ และชุด “ประเทศไทยโชคดีที่มีในหลวง” เป็นการสัมภาษณ์ความรู้สึกของเด็กเล็กถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่มีต่อในหลวงรัชกาลที่ 9 #Thaitimes
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 846 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวประหลาด (Creep) แบบฉบับ ‘แกสตัน พง’

    ซิงเกิลใหม่ที่ชื่อว่า Creep ของศิลปินเพลงป๊อบชาวมาเลเซียที่ชื่อว่า แกสตัน พง (Gaston Pong) เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 กำลังได้รับความนิยมในคลื่นวิทยุของมาเลเซีย ด้วยแนวเพลงผสมผสานระหว่างเกาหลีและลาติน กับอารมณ์แนวเพลงอาร์แอนด์บียุค 2000 เนื้อเพลงพูดถึงด้านมืดของความรัก เรียกตัวเองว่าเป็น "ตัวประหลาด" สำหรับคนรักตามชื่อเพลง

    "Got a premonition I’d be locked up in jail, if obsession is a crime" (มีลางสังหรณ์ ฉันคงถูกขังอยู่ในคุก ถ้าความหลงใหลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย) ท่อนหนึ่งในเพลง Creep ที่แกสตันแต่งเอง ร้องเอง และโปรดิวซ์ด้วยตัวเอง

    ก่อนหน้านี้ได้ออกซิงเกิลที่ชื่อว่า i luv you, just kidding ที่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2566 ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนคลับว่ามีพัฒนาการทางดนตรีที่ดีขึ้น แต่ชีวิตของแกสตันที่เพิ่งผ่านพ้นวันเกิดในวัย 27 ปี ไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา (เกิด 1 สิงหาคม 2540) ที่ผ่านมามีทั้งขึ้นและลง ตามที่ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ไลฟ์สไตล์ BURO เมื่อเดือนมิถุนายน 2567

    แกสตัน พง ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดที่เมืองยะโฮร์บาห์รู (Johor Bahru) ทางตอนใต้ของมาเลเซีย แกสตันเปิดเผยว่าได้เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ด้วยการเป็นดาราเด็ก แต่ก็ได้พรากชีวิตในวัยเรียน ที่ต้องทำงานตลอดเวลา เมื่อโตขึ้น ดนตรีกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และเคยช่วยชีวิตในภาวะซึมเศร้า สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 19 ปีมาแล้ว

    ปี 2562 แกสตันและพี่สาวของเขาอย่าง เจ พง (Je Pong) รวมตัวกันเป็นศิลปินดูโอที่ชื่อว่า พง พง (Pong Pong) เปิดตัวเพลงจีนที่ชื่อว่า Strong Heart ซึ่งประสบความสำเร็จ ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการค้นหาไอดอลในจีน แต่โชคไม่ดีที่สถานการณ์โควิด-19 กลายเป็นว่าพี่สาวต้องออกอัลบั้มเดี่ยวแทน

    หลังแยกทางจากพี่สาว แกสตันเริ่มทดลองค้นหาสไตล์และแนวเพลงของตัวเอง เมื่อเขาเติบโตจากการฟังเพลงป๊อบแบบจีน (C-POP) แบบเกาหลี (K-POP) และเพลงป๊อบแบบอเมริกัน ด้วยความที่ในหัวมีไอเดียตลอดเวลา ทำให้เขามีผลงานแต่งเพลงมากมายถึง 80 เพลง ได้รับเชิญจากโปรดิวเซอร์ทั่วโลกให้ไปร่วมงานกับค่ายเพลงต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ JYP Entertainment

    แม้ว่าแกสตันจะเติบโตในระดับนานาชาติ แต่เขามีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเพลงในมาเลเซีย ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับค่ายเพลงในท้องถิ่น 6 แห่ง แต่พบว่าสัญญาไม่มีข้อกำหนดเพียงพอที่จะคุ้มครองสิทธิของศิลปิน จึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Pong Entertainment ในปี 2562 โดยมุ่งหวังที่จะเป็นบริษัทสำหรับศิลปิน Gen Z แบบไม่เหมือนใครในมาเลเซีย

    แกสตันพยายามแสดงให้เห็นว่า มาเลเซียเป็นประเทศที่มีภูมิหลังทางดนตรีและภาษาที่หลากหลาย จากหลากหลายเชื้อชาติ จึงสามารถเป็นประเทศที่ก้าวล้ำนำสมัยในการผลิตดนตรีที่ดีได้ และเมื่อโพสต์คลิปเพลงคัฟเวอร์ลง TikTok และมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน ตอนนี้อะไรก็เป็นไปได้ด้วยโซเชียลมีเดีย โดยไม่จำเป็นต้องมองภายในขอบเขตของตน แต่ให้มองไปไกลกว่านั้น

    แกสตันเปิดเผยกับ BURO ว่า เตรียมที่จะออกอัลบั้มเปิดตัวของตนเองเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้ แถมยังตั้งเป้าที่จะจัดคอนเสิร์ตเพิ่มเติม และออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกด้วย

    #Newskit #GastonPong #Creep
    ตัวประหลาด (Creep) แบบฉบับ ‘แกสตัน พง’ ซิงเกิลใหม่ที่ชื่อว่า Creep ของศิลปินเพลงป๊อบชาวมาเลเซียที่ชื่อว่า แกสตัน พง (Gaston Pong) เปิดตัวไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 กำลังได้รับความนิยมในคลื่นวิทยุของมาเลเซีย ด้วยแนวเพลงผสมผสานระหว่างเกาหลีและลาติน กับอารมณ์แนวเพลงอาร์แอนด์บียุค 2000 เนื้อเพลงพูดถึงด้านมืดของความรัก เรียกตัวเองว่าเป็น "ตัวประหลาด" สำหรับคนรักตามชื่อเพลง "Got a premonition I’d be locked up in jail, if obsession is a crime" (มีลางสังหรณ์ ฉันคงถูกขังอยู่ในคุก ถ้าความหลงใหลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย) ท่อนหนึ่งในเพลง Creep ที่แกสตันแต่งเอง ร้องเอง และโปรดิวซ์ด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้ได้ออกซิงเกิลที่ชื่อว่า i luv you, just kidding ที่เปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2566 ได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนคลับว่ามีพัฒนาการทางดนตรีที่ดีขึ้น แต่ชีวิตของแกสตันที่เพิ่งผ่านพ้นวันเกิดในวัย 27 ปี ไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา (เกิด 1 สิงหาคม 2540) ที่ผ่านมามีทั้งขึ้นและลง ตามที่ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ไลฟ์สไตล์ BURO เมื่อเดือนมิถุนายน 2567 แกสตัน พง ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน เกิดที่เมืองยะโฮร์บาห์รู (Johor Bahru) ทางตอนใต้ของมาเลเซีย แกสตันเปิดเผยว่าได้เข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ด้วยการเป็นดาราเด็ก แต่ก็ได้พรากชีวิตในวัยเรียน ที่ต้องทำงานตลอดเวลา เมื่อโตขึ้น ดนตรีกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และเคยช่วยชีวิตในภาวะซึมเศร้า สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัยเมื่ออายุ 19 ปีมาแล้ว ปี 2562 แกสตันและพี่สาวของเขาอย่าง เจ พง (Je Pong) รวมตัวกันเป็นศิลปินดูโอที่ชื่อว่า พง พง (Pong Pong) เปิดตัวเพลงจีนที่ชื่อว่า Strong Heart ซึ่งประสบความสำเร็จ ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน และได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการค้นหาไอดอลในจีน แต่โชคไม่ดีที่สถานการณ์โควิด-19 กลายเป็นว่าพี่สาวต้องออกอัลบั้มเดี่ยวแทน หลังแยกทางจากพี่สาว แกสตันเริ่มทดลองค้นหาสไตล์และแนวเพลงของตัวเอง เมื่อเขาเติบโตจากการฟังเพลงป๊อบแบบจีน (C-POP) แบบเกาหลี (K-POP) และเพลงป๊อบแบบอเมริกัน ด้วยความที่ในหัวมีไอเดียตลอดเวลา ทำให้เขามีผลงานแต่งเพลงมากมายถึง 80 เพลง ได้รับเชิญจากโปรดิวเซอร์ทั่วโลกให้ไปร่วมงานกับค่ายเพลงต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ JYP Entertainment แม้ว่าแกสตันจะเติบโตในระดับนานาชาติ แต่เขามีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเพลงในมาเลเซีย ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับค่ายเพลงในท้องถิ่น 6 แห่ง แต่พบว่าสัญญาไม่มีข้อกำหนดเพียงพอที่จะคุ้มครองสิทธิของศิลปิน จึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Pong Entertainment ในปี 2562 โดยมุ่งหวังที่จะเป็นบริษัทสำหรับศิลปิน Gen Z แบบไม่เหมือนใครในมาเลเซีย แกสตันพยายามแสดงให้เห็นว่า มาเลเซียเป็นประเทศที่มีภูมิหลังทางดนตรีและภาษาที่หลากหลาย จากหลากหลายเชื้อชาติ จึงสามารถเป็นประเทศที่ก้าวล้ำนำสมัยในการผลิตดนตรีที่ดีได้ และเมื่อโพสต์คลิปเพลงคัฟเวอร์ลง TikTok และมีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน ตอนนี้อะไรก็เป็นไปได้ด้วยโซเชียลมีเดีย โดยไม่จำเป็นต้องมองภายในขอบเขตของตน แต่ให้มองไปไกลกว่านั้น แกสตันเปิดเผยกับ BURO ว่า เตรียมที่จะออกอัลบั้มเปิดตัวของตนเองเป็นครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2567 ที่จะถึงนี้ แถมยังตั้งเป้าที่จะจัดคอนเสิร์ตเพิ่มเติม และออกทัวร์คอนเสิร์ตอีกด้วย #Newskit #GastonPong #Creep
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 764 มุมมอง 0 รีวิว