• ..จริงๆสส.สมควรมีแค่เงินเดือนก็พอนะ.ฤ
    ..ข้าราชการทั่วประเทศก็สมควรมีแค่เงินเดือนแค่นั้นเช่นกัน.
    ..การรักษาพยาบาลทั้งหมดต้องเข้าใช้สิทธิ30บาทรักษาทุกๆโรค ทุกๆที่เสมอกัน,ชัตดาวน์และปิดสวิตช์ไปเลยในสวัสดิการต่างๆสิ้นเปลืองมากเช่นเบี้ยนั้นเบี้ยนี้ เบี้ยประชุมสส.ซึ่งต้องประชุมนั้นมันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว.
    ..สิทธิประโยชน์สส.ทั้งหมดจึงสมควรทำตนเองเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนข้าราชการทั่วไทยที่ฝ่ายนักการเมืองเองต้องบริหารคนข้าราชการในนามรัฐบาลอยู่แล้วด้วยจึงสมควรยุบทิ้งสิทธิประโยชน์เหล่านี้ให้หมด ทำตนเองมาหัดใช้แบบประชาชนตนที่ขันอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งไปเป็นตัวแทนของประชาชนด้วย,ไปสร้างสมดุลที่เงินเดือนฝ่ายเดียวดีกว่า เช่น สส.คาดว่าใช้วันละ1,000ก็คงเพียงพอ 30วันก็30,000บาทต่อเดือนอาจคูณ3เท่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนเกินอื่นๆที่จำเป็นและเลอะเทอะบ้างก็90,000บาทต่อเดือน,ตีให้เป็นตัวเลขกลมๆให้แก่เกียรติสส.ก็100,000บาทต่อคนต่อเดือนก็เพียงพอแล้ว,เลิกคนรับใช้ลูกน้องสส.ทั้งหมด

    ..

    #สวัสดิการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)
    ..ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง ครอบคลุมถึงการรักษาพยาบาล การเดินทาง การศึกษาบุตร และเบี้ยประชุม โดย สส. สามารถเบิกค่าใช้จ่ายจริงตามอัตราที่กำหนดไว้ในด้านการรักษาพยาบาล การเดินทาง และมีผู้ช่วยในการทำงานพร้อมค่าตอบแทน นอกจากนี้ สส. ที่พ้นจากตำแหน่งแล้ว อาจได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพรายเดือนตลอดชีวิตตามระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง และมีเงินช่วยเหลือกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ. นอกจากสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล

    สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
    ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 71,230 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,330 บาท รวมเป็นเดือนละ 113,560 บาท
    เมื่อ ส.ส. ต้องรับตำแหน่งทางการเมือง


    ทีมงาน: สส. สามารถแต่งตั้งทีมงานได้ 8 คน โดยมีผู้เชี่ยวชาญ 1 คน (เงินเดือน 24,000 บาท), ผู้ชำนาญการ 2 คน (เงินเดือน 15,000 บาท), และผู้ช่วยดำเนินงาน 5 คน (เงินเดือน 15,000 บาท).

    ค่าเดินทาง: เบิกค่าเดินทางไปประชุมรัฐสภาตามระยะทางและค่าพาหนะอื่นๆ เช่น รถไฟ, รถยนต์ประจำทาง, เครื่องบิน ได้ตามจริง.

    เบี้ยเลี้ยงและค่าที่พัก: ได้รับเบี้ยเลี้ยงสำหรับเดินทางไปราชการทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเบิกค่าเช่าที่พักตามจริงหรืออัตราเหมาจ่าย.

    เบี้ยประชุม: ได้รับเบี้ยประชุมสำหรับการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ.
    สวัสดิการหลังพ้นจากตำแหน่ง

    เงินทุนเลี้ยงชีพ: ผู้ที่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อาจได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพรายเดือนตลอดชีวิต ตามระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง.

    เงินช่วยเหลือ: กรณีถึงแก่กรรม จะได้รับเงินช่วยเหลือ 100,000 บาท และค่าพวงหรีด 1,000 บาท ส่วนกรณีทุพพลภาพ จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท

    ...........................................................................

    เป็น ส.ส.ได้เงินเดือน-สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง
    การเมือง
    20 มิ.ย. 66

    หลัง กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. ให้ทั้ง 500 คนเรียบร้อยแล้ว กำหนดการเปิดประชุมสภาฯ คาดการณ์จะมีขึ้นกลางเดือน ก.ค. และหลังจากนั้น ส.ส.แต่ละคนจะเริ่มปฏิบัติงานกันตามที่เคยหาเสียงไว้ เปิดรายได้ ส.ส. ได้เงินเดือนและสวัสดิการคุ้มค่ากับเสียงที่เลือกมาหรือไม่
    รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้บัญญัติการจ่ายเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกรัฐสภา ดังนี้
    เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ให้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีซึ่งต้องกำหนดให้จ่ายได้ไม่ก่อนวันเข้ารับหน้าที่ (มาตรา 196)
    ก่อนเข้ารับหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก (มาตรา 123)
    ต่อมาในปี 2555 ได้มีพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของ ปธ.สภาฯ และ รอง ปธ.สภาฯ ปธ.วุฒิสภา และ รอง ปธ.วุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ส.ส. ส.ว. และกรรมาธิการ พ.ศ. 2555 กำหนดให้ปธ.สภาฯ และ รอง ปธ.สภาฯ ปธ.วุฒิสภา และ รอง ปธ.วุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ส.ส. ส.ว. ได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มเป็นรายเดือนนับแต่วันเข้ารับหน้าที่ ดังนี้


    ประธานสภาผู้แทนราษฎร
    ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 75,590 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 50,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 125,590 บาท

    รองประธานสภาผู้แทนราษฎร
    ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 73,250 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,500 บาท รวมเป็นเดือนละ 115,740 บาท

    ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
    ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 73,240 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,500 บาท รวมเป็นเดือนละ 115,740 บาท

    สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
    ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 71,230 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,330 บาท รวมเป็นเดือนละ 113,560 บาท
    เมื่อ ส.ส. ต้องรับตำแหน่งทางการเมือง

    ...........................................................................


    ตำแหน่งข้าราชการการเมืองที่สำคัญ
    นายกรัฐมนตรี รายรับรวมเดือนละ 125,590 บาท
    รองนายกรัฐมนตรี รายรับรวมเดือนละ 119,920 บาท
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวง หรือ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รายรับรวมเดือนละ 115,740 บาท
    รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง รายรับรวมเดือนละ 113,560 บาท

    หมายเหตุ : ส.ส. ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย เมื่อได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งในฐานะรัฐมนตรีแล้ว ไม่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่ง ส.ส. อีก

    ...........................................................................

    คณะทำงานทางการเมือง
    คณะทำงานทางการเมืองจะประกอบด้วย ที่ปรึกษา นักวิชาการ และเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่ตามความประสงค์ของปธ.สภาฯ, รอง ปธ.สภาฯ และผู้นำฝ่ายค้าน แล้วแต่กรณี โดยที่แต่ละตำแหน่งจะมีจำนวนบุคคลในคณะทำงานทางการเมืองแตกต่างกันออกไป ดังนี้

    ปธ.สภาฯ มีคณะทำงานทางการเมือง จำนวน 10 คน ประกอบด้วย
    ที่ปรึกษา 4 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 16,000 บาท
    นักวิชาการ 3 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 12,800 บาท
    เลขานุการ 3 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 9,600 บาท

    รอง ปธ.สภาฯ 1 คน มีคณะทำงานทางการเมือง จำนวน 7 คน ประกอบด้วย
    ที่ปรึกษา 3 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 16,000 บาท
    นักวิชาการ 2 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 12,800 บาท
    เลขานุการ 2 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 9,600 บาท

    ผู้นำฝ่ายค้าน มีคณะทำงานทางการเมือง จำนวน 10 คน ประกอบด้วย
    ที่ปรึกษา 4 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 16,000 บาท
    นักวิชาการ 4 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 12,800 บาท
    เลขานุการ 2 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 9,600 บาท

    ...........................................................................


    ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
    ส.ส. ซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา จะได้รับค่าพาหนะในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่ มายังจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา เฉพาะการเดินทางครั้งแรกเพื่อมาเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และเมื่อสมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลง ให้ ส.ส. ซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา ได้รับค่าพาหนะในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภากลับไปยังจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่เดิม โดยให้ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการ ระดับกระทรวง
    จ่ายให้เมื่อเข้ารัฐสภาในวันแรกของการรับตำแหน่ง ส.ส.
    และจ่ายให้อีกครั้ง เมื่อสิ้นสุดสภาพความเป็น ส.ส.
    ซึ่งการเดินทางนั้นครอบคลุม รถไฟ รถยนต์ประจำทาง และเครื่องบิน โดยจะให้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ จัดใบเบิกทางโดยสารตามจริงให้ และอนุญาตให้มีผู้ติดตามได้ 1 คน ในชั้นเดียวกัน


    เงินสวัสดิการรักษาพยาบาลของ ส.ส.
    พ.ร.ฎ.เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกรัฐสภา พ.ศ.2550 กำหนดให้ ส.ส. ได้รับเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลตามจำนวนที่จ่ายจริงและต้องไม่เกินอัตราที่กำหนด

    ผู้ป่วยใน
    ค่าห้องและค่าอาหาร (ไม่เกิน 31 วัน/ครั้ง) 4,000 บาท/วัน
    ค่าห้อง ICU/CCU (สูงสุดไม่เกิน 7 วัน/ครั้ง) 10,000 บาท/วัน
    ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป 100,000 บาท/ครั้ง
    ค่ารถพยาบาล 1,000 บาท/ครั้ง
    ค่าแพทย์ผ่าตัด 120,000 บาท/ครั้ง
    ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ (ไม่เกิน 31 วัน/ครั้ง) 1,000 บาท/วัน
    ค่าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค 4,000 บาท/ครั้ง
    การรักษาทันตกรรม 5,000 บาท/ปี
    การคลอดบุตร :
    คลอดธรรมชาติ 20,000 บาท
    คลอดโดยการผ่าตัด 40,000 บาท
    สวัสดิการอื่น ๆ

    ...........................................................................

    ผู้ป่วยนอก
    ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป 90,000 บาท/ปี
    อุบัติเหตุฉุกเฉิน 20,000 บาท/ครั้ง
    การตรวจสุขภาพประจำปี 7,000 บาท/ปี
    เบี้ยประชุมกรรมาธิการ และอนุกรรมาธิการ
    ...........................................................................

    เบี้ยประชุมกรรมาธิการ
    ให้กรรมาธิการ ส.ส. ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเฉพาะครั้งที่มาประชุม ในอัตราครั้งละ 1,500 บาท กรรมาธิการดังกล่าวให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวใน 1 วัน เว้นแต่ในกรณีที่กรรมาธิการนั้น มีการประชุมในคณะกรรมาธิการคณะอื่นด้วยในวันเดียวกัน ให้ได้รับเบี้ยประชุมในวันนั้นไม่เกิน 2 ครั้ง

    เบี้ยประชุมอนุกรรมาธิการ
    ให้อนุกรรมาธิการ ส.ส. ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเฉพาะครั้งที่มาประชุม ในอัตราครั้งละ 800 บาท อนุกรรมาธิการดังกล่าวให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวใน 1 วัน เว้นแต่ในกรณีที่อนุกรรมาธิการนั้น มีการประชุมในคณะอนุกรรมาธิการคณะอื่นด้วยในวันเดียวกัน ให้ได้รับเบี้ยประชุมในวันนั้นไม่เกิน 2 ครั้ง

    ที่มา : สิทธิประโยชน์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2556

    ...........................................................................


    https://youtube.com/shorts/2qe_HnXNIOU?si=ZquKZfAl3RBSL_Wo



    ..จริงๆสส.สมควรมีแค่เงินเดือนก็พอนะ.ฤ ..ข้าราชการทั่วประเทศก็สมควรมีแค่เงินเดือนแค่นั้นเช่นกัน. ..การรักษาพยาบาลทั้งหมดต้องเข้าใช้สิทธิ30บาทรักษาทุกๆโรค ทุกๆที่เสมอกัน,ชัตดาวน์และปิดสวิตช์ไปเลยในสวัสดิการต่างๆสิ้นเปลืองมากเช่นเบี้ยนั้นเบี้ยนี้ เบี้ยประชุมสส.ซึ่งต้องประชุมนั้นมันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว. ..สิทธิประโยชน์สส.ทั้งหมดจึงสมควรทำตนเองเป็นแบบอย่างที่ดีแก่คนข้าราชการทั่วไทยที่ฝ่ายนักการเมืองเองต้องบริหารคนข้าราชการในนามรัฐบาลอยู่แล้วด้วยจึงสมควรยุบทิ้งสิทธิประโยชน์เหล่านี้ให้หมด ทำตนเองมาหัดใช้แบบประชาชนตนที่ขันอาสาลงสมัครรับเลือกตั้งไปเป็นตัวแทนของประชาชนด้วย,ไปสร้างสมดุลที่เงินเดือนฝ่ายเดียวดีกว่า เช่น สส.คาดว่าใช้วันละ1,000ก็คงเพียงพอ 30วันก็30,000บาทต่อเดือนอาจคูณ3เท่าครอบคลุมค่าใช้จ่ายส่วนเกินอื่นๆที่จำเป็นและเลอะเทอะบ้างก็90,000บาทต่อเดือน,ตีให้เป็นตัวเลขกลมๆให้แก่เกียรติสส.ก็100,000บาทต่อคนต่อเดือนก็เพียงพอแล้ว,เลิกคนรับใช้ลูกน้องสส.ทั้งหมด .. #สวัสดิการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ..ในระหว่างการดำรงตำแหน่ง ครอบคลุมถึงการรักษาพยาบาล การเดินทาง การศึกษาบุตร และเบี้ยประชุม โดย สส. สามารถเบิกค่าใช้จ่ายจริงตามอัตราที่กำหนดไว้ในด้านการรักษาพยาบาล การเดินทาง และมีผู้ช่วยในการทำงานพร้อมค่าตอบแทน นอกจากนี้ สส. ที่พ้นจากตำแหน่งแล้ว อาจได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพรายเดือนตลอดชีวิตตามระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง และมีเงินช่วยเหลือกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ. นอกจากสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 71,230 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,330 บาท รวมเป็นเดือนละ 113,560 บาท เมื่อ ส.ส. ต้องรับตำแหน่งทางการเมือง ทีมงาน: สส. สามารถแต่งตั้งทีมงานได้ 8 คน โดยมีผู้เชี่ยวชาญ 1 คน (เงินเดือน 24,000 บาท), ผู้ชำนาญการ 2 คน (เงินเดือน 15,000 บาท), และผู้ช่วยดำเนินงาน 5 คน (เงินเดือน 15,000 บาท). ค่าเดินทาง: เบิกค่าเดินทางไปประชุมรัฐสภาตามระยะทางและค่าพาหนะอื่นๆ เช่น รถไฟ, รถยนต์ประจำทาง, เครื่องบิน ได้ตามจริง. เบี้ยเลี้ยงและค่าที่พัก: ได้รับเบี้ยเลี้ยงสำหรับเดินทางไปราชการทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเบิกค่าเช่าที่พักตามจริงหรืออัตราเหมาจ่าย. เบี้ยประชุม: ได้รับเบี้ยประชุมสำหรับการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการและอนุกรรมาธิการ. สวัสดิการหลังพ้นจากตำแหน่ง เงินทุนเลี้ยงชีพ: ผู้ที่เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) อาจได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพรายเดือนตลอดชีวิต ตามระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง. เงินช่วยเหลือ: กรณีถึงแก่กรรม จะได้รับเงินช่วยเหลือ 100,000 บาท และค่าพวงหรีด 1,000 บาท ส่วนกรณีทุพพลภาพ จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท ........................................................................... เป็น ส.ส.ได้เงินเดือน-สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง การเมือง 20 มิ.ย. 66 หลัง กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. ให้ทั้ง 500 คนเรียบร้อยแล้ว กำหนดการเปิดประชุมสภาฯ คาดการณ์จะมีขึ้นกลางเดือน ก.ค. และหลังจากนั้น ส.ส.แต่ละคนจะเริ่มปฏิบัติงานกันตามที่เคยหาเสียงไว้ เปิดรายได้ ส.ส. ได้เงินเดือนและสวัสดิการคุ้มค่ากับเสียงที่เลือกมาหรือไม่ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ได้บัญญัติการจ่ายเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกรัฐสภา ดังนี้ เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ให้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีซึ่งต้องกำหนดให้จ่ายได้ไม่ก่อนวันเข้ารับหน้าที่ (มาตรา 196) ก่อนเข้ารับหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้องปฏิญาณตนในที่ประชุมแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก (มาตรา 123) ต่อมาในปี 2555 ได้มีพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของ ปธ.สภาฯ และ รอง ปธ.สภาฯ ปธ.วุฒิสภา และ รอง ปธ.วุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ส.ส. ส.ว. และกรรมาธิการ พ.ศ. 2555 กำหนดให้ปธ.สภาฯ และ รอง ปธ.สภาฯ ปธ.วุฒิสภา และ รอง ปธ.วุฒิสภา ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ส.ส. ส.ว. ได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มเป็นรายเดือนนับแต่วันเข้ารับหน้าที่ ดังนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 75,590 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 50,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 125,590 บาท รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 73,250 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,500 บาท รวมเป็นเดือนละ 115,740 บาท ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 73,240 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,500 บาท รวมเป็นเดือนละ 115,740 บาท สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้รับเงินประจำตำแหน่งเดือนละ 71,230 บาท และได้รับเงินเพิ่มอีกเดือนละ 42,330 บาท รวมเป็นเดือนละ 113,560 บาท เมื่อ ส.ส. ต้องรับตำแหน่งทางการเมือง ........................................................................... ตำแหน่งข้าราชการการเมืองที่สำคัญ นายกรัฐมนตรี รายรับรวมเดือนละ 125,590 บาท รองนายกรัฐมนตรี รายรับรวมเดือนละ 119,920 บาท รัฐมนตรีว่าการกระทรวง หรือ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รายรับรวมเดือนละ 115,740 บาท รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง รายรับรวมเดือนละ 113,560 บาท หมายเหตุ : ส.ส. ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย เมื่อได้รับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งในฐานะรัฐมนตรีแล้ว ไม่มีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่ง ส.ส. อีก ........................................................................... คณะทำงานทางการเมือง คณะทำงานทางการเมืองจะประกอบด้วย ที่ปรึกษา นักวิชาการ และเลขานุการ เพื่อทำหน้าที่ตามความประสงค์ของปธ.สภาฯ, รอง ปธ.สภาฯ และผู้นำฝ่ายค้าน แล้วแต่กรณี โดยที่แต่ละตำแหน่งจะมีจำนวนบุคคลในคณะทำงานทางการเมืองแตกต่างกันออกไป ดังนี้ ปธ.สภาฯ มีคณะทำงานทางการเมือง จำนวน 10 คน ประกอบด้วย ที่ปรึกษา 4 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 16,000 บาท นักวิชาการ 3 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 12,800 บาท เลขานุการ 3 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 9,600 บาท รอง ปธ.สภาฯ 1 คน มีคณะทำงานทางการเมือง จำนวน 7 คน ประกอบด้วย ที่ปรึกษา 3 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 16,000 บาท นักวิชาการ 2 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 12,800 บาท เลขานุการ 2 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 9,600 บาท ผู้นำฝ่ายค้าน มีคณะทำงานทางการเมือง จำนวน 10 คน ประกอบด้วย ที่ปรึกษา 4 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 16,000 บาท นักวิชาการ 4 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 12,800 บาท เลขานุการ 2 คน ได้ค่าตอบแทนเดือนละ 9,600 บาท ........................................................................... ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ส.ส. ซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา จะได้รับค่าพาหนะในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่ มายังจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา เฉพาะการเดินทางครั้งแรกเพื่อมาเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ และเมื่อสมาชิกภาพของ ส.ส. สิ้นสุดลง ให้ ส.ส. ซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภา ได้รับค่าพาหนะในการเดินทางจากจังหวัดอันเป็นที่ตั้งรัฐสภากลับไปยังจังหวัดอันเป็นถิ่นที่อยู่เดิม โดยให้ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการ ผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการ ระดับกระทรวง จ่ายให้เมื่อเข้ารัฐสภาในวันแรกของการรับตำแหน่ง ส.ส. และจ่ายให้อีกครั้ง เมื่อสิ้นสุดสภาพความเป็น ส.ส. ซึ่งการเดินทางนั้นครอบคลุม รถไฟ รถยนต์ประจำทาง และเครื่องบิน โดยจะให้สำนักงานเลขาธิการสภาฯ จัดใบเบิกทางโดยสารตามจริงให้ และอนุญาตให้มีผู้ติดตามได้ 1 คน ในชั้นเดียวกัน เงินสวัสดิการรักษาพยาบาลของ ส.ส. พ.ร.ฎ.เงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของสมาชิกรัฐสภา พ.ศ.2550 กำหนดให้ ส.ส. ได้รับเงินสวัสดิการรักษาพยาบาลตามจำนวนที่จ่ายจริงและต้องไม่เกินอัตราที่กำหนด ผู้ป่วยใน ค่าห้องและค่าอาหาร (ไม่เกิน 31 วัน/ครั้ง) 4,000 บาท/วัน ค่าห้อง ICU/CCU (สูงสุดไม่เกิน 7 วัน/ครั้ง) 10,000 บาท/วัน ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป 100,000 บาท/ครั้ง ค่ารถพยาบาล 1,000 บาท/ครั้ง ค่าแพทย์ผ่าตัด 120,000 บาท/ครั้ง ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ (ไม่เกิน 31 วัน/ครั้ง) 1,000 บาท/วัน ค่าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค 4,000 บาท/ครั้ง การรักษาทันตกรรม 5,000 บาท/ปี การคลอดบุตร : คลอดธรรมชาติ 20,000 บาท คลอดโดยการผ่าตัด 40,000 บาท สวัสดิการอื่น ๆ ........................................................................... ผู้ป่วยนอก ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป 90,000 บาท/ปี อุบัติเหตุฉุกเฉิน 20,000 บาท/ครั้ง การตรวจสุขภาพประจำปี 7,000 บาท/ปี เบี้ยประชุมกรรมาธิการ และอนุกรรมาธิการ ........................................................................... เบี้ยประชุมกรรมาธิการ ให้กรรมาธิการ ส.ส. ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเฉพาะครั้งที่มาประชุม ในอัตราครั้งละ 1,500 บาท กรรมาธิการดังกล่าวให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวใน 1 วัน เว้นแต่ในกรณีที่กรรมาธิการนั้น มีการประชุมในคณะกรรมาธิการคณะอื่นด้วยในวันเดียวกัน ให้ได้รับเบี้ยประชุมในวันนั้นไม่เกิน 2 ครั้ง เบี้ยประชุมอนุกรรมาธิการ ให้อนุกรรมาธิการ ส.ส. ได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งเฉพาะครั้งที่มาประชุม ในอัตราครั้งละ 800 บาท อนุกรรมาธิการดังกล่าวให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวใน 1 วัน เว้นแต่ในกรณีที่อนุกรรมาธิการนั้น มีการประชุมในคณะอนุกรรมาธิการคณะอื่นด้วยในวันเดียวกัน ให้ได้รับเบี้ยประชุมในวันนั้นไม่เกิน 2 ครั้ง ที่มา : สิทธิประโยชน์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2556 ........................................................................... https://youtube.com/shorts/2qe_HnXNIOU?si=ZquKZfAl3RBSL_Wo
    0 Comments 0 Shares 289 Views 0 Reviews
  • เขมรใช้เวทีAIPAตีไทย "ฉลาด"ยกความจริงโต้ : [NEWS UPDATE]
    นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ใน ฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย กล่าวถ้อยแถลงบนเวที ประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน(AIPA) ภายหลังกัมพูชากล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างไทย-กัมพูชา ชี้ กัมพูชา
    ขยายความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทำลายบรรยากาศฉันมิตรของ AIPA บิดเบือนกฎหมายระหว่างประเทศ ยิงจรวด BM-21 เข้ามาในพื้นที่ชุมชนของพลเรือนไทย ลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เล่าความจริงเหตุการณ์บริเวณบ้านหนองหญ้าปล้อง จังหวัดสระแก้ว อยู่ในอธิปไตยไทย มีการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จึงจำเป็นต้องระงับเหตุ ตามหลักสากลและหลักสิทธิมนุษยชน


    ทวงคืนแดนไทย 17 จุด

    รวมไทยสร้างชาติ ไปต่อ

    "ทักษิณ"พบนักจิตวิทยา

    สยบลือแคนดิเดตนายกฯ
    เขมรใช้เวทีAIPAตีไทย "ฉลาด"ยกความจริงโต้ : [NEWS UPDATE] นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ใน ฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาไทย กล่าวถ้อยแถลงบนเวที ประชุมใหญ่สมัชชารัฐสภาอาเซียน(AIPA) ภายหลังกัมพูชากล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างไทย-กัมพูชา ชี้ กัมพูชา ขยายความขัดแย้งระหว่างประเทศ ทำลายบรรยากาศฉันมิตรของ AIPA บิดเบือนกฎหมายระหว่างประเทศ ยิงจรวด BM-21 เข้ามาในพื้นที่ชุมชนของพลเรือนไทย ลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา เล่าความจริงเหตุการณ์บริเวณบ้านหนองหญ้าปล้อง จังหวัดสระแก้ว อยู่ในอธิปไตยไทย มีการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทย ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จึงจำเป็นต้องระงับเหตุ ตามหลักสากลและหลักสิทธิมนุษยชน ทวงคืนแดนไทย 17 จุด รวมไทยสร้างชาติ ไปต่อ "ทักษิณ"พบนักจิตวิทยา สยบลือแคนดิเดตนายกฯ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 527 Views 0 0 Reviews
  • “ไอติม” สงสัย “ไชยา” ปิดประชุมเร็ว หวังเลี่ยงพิจารณาญัตติ MOU 43-44 ชี้ไม่สมเหตุสมผลทั้งที่ยังมีวาระ
    https://www.thai-tai.tv/news/21143/
    .
    #พริษฐ์วัชรสินธุ #ข่าวการเมือง #วิปฝ่ายค้าน #รองประธานสภา #MOU4344 #ไทยไท

    “ไอติม” สงสัย “ไชยา” ปิดประชุมเร็ว หวังเลี่ยงพิจารณาญัตติ MOU 43-44 ชี้ไม่สมเหตุสมผลทั้งที่ยังมีวาระ https://www.thai-tai.tv/news/21143/ . #พริษฐ์วัชรสินธุ #ข่าวการเมือง #วิปฝ่ายค้าน #รองประธานสภา #MOU4344 #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 299 Views 0 Reviews
  • “ไชยา พรหมา” นั่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง! โชว์วิสัยทัศน์พร้อมจับมือทุกฝ่าย...สร้างสถาบันนิติบัญญัติให้เข้มแข็ง
    https://www.thai-tai.tv/news/20823/
    .
    #รองประธานสภา #ไชยาพรหมา #รัฐสภา #การเมือง #พรรคเพื่อไทย #ไทยไท
    “ไชยา พรหมา” นั่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง! โชว์วิสัยทัศน์พร้อมจับมือทุกฝ่าย...สร้างสถาบันนิติบัญญัติให้เข้มแข็ง https://www.thai-tai.tv/news/20823/ . #รองประธานสภา #ไชยาพรหมา #รัฐสภา #การเมือง #พรรคเพื่อไทย #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 Reviews
  • เพื่อไทยเคาะชื่อรองประธานสภาฯคนใหม่! "พรรคกล้าธรรม" จ้องขอโควตา ขณะที่ปมร้องผิดมาตรา 144 ฉ้อฉลงบฯ ไม่จบแค่พิเชษฐ์! เรืองไกรยื่นป.ป.ช.สอบ ครม.แพทองธาร-ส.ส. 322 คน โยงงบฯ 69 ด้านป.ป.ช. คดีค้างท่วม คดีโยกงบฯ 3.5 หมื่นล้านแจกดิจิทัลวอลเล็ต ศาลรธน.อาจไม่รับ!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073610

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เพื่อไทยเคาะชื่อรองประธานสภาฯคนใหม่! "พรรคกล้าธรรม" จ้องขอโควตา ขณะที่ปมร้องผิดมาตรา 144 ฉ้อฉลงบฯ ไม่จบแค่พิเชษฐ์! เรืองไกรยื่นป.ป.ช.สอบ ครม.แพทองธาร-ส.ส. 322 คน โยงงบฯ 69 ด้านป.ป.ช. คดีค้างท่วม คดีโยกงบฯ 3.5 หมื่นล้านแจกดิจิทัลวอลเล็ต ศาลรธน.อาจไม่รับ! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000073610 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 494 Views 0 Reviews
  • ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ "พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง และ สส.เชียงราย เขต 7 พรรคเพื่อไทย สิ้นสุดสมาชิกภาพ สส. ตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี และจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน หลัง สส.พรรคประชาชนยื่นถอดถอน กรณีโยกงบฯ 3 โครงการของสภาฯ ลงพื้นที่ตัวเอง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000072906

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ "พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง และ สส.เชียงราย เขต 7 พรรคเพื่อไทย สิ้นสุดสมาชิกภาพ สส. ตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี และจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน หลัง สส.พรรคประชาชนยื่นถอดถอน กรณีโยกงบฯ 3 โครงการของสภาฯ ลงพื้นที่ตัวเอง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000072906 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1012 Views 0 Reviews
  • "พิเชษฐ์" ตกเก้าอี้ ศาล รธน.ฟันพ้น สส.-รองประธานสภาฯ พร้อมสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี เหตุแปรงบ 69 ลงพื้นที่ตัวเองขัด รธน.ม.144

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072886

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "พิเชษฐ์" ตกเก้าอี้ ศาล รธน.ฟันพ้น สส.-รองประธานสภาฯ พร้อมสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 10 ปี เหตุแปรงบ 69 ลงพื้นที่ตัวเองขัด รธน.ม.144 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000072886 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 469 Views 0 Reviews
  • ด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง "พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" พ้น สส.-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ผิด ม.144 ใช้ช่องรองประธานสภาฯ เสนองบฯ ในพื้นที่ตนเอง
    https://www.thai-tai.tv/news/20698/
    .
    #ThailandFactMission #TruthFromThailand #สถานการณ์ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #ข่าวบิดเบือน #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #RightOfSelfDefense #ไทยไท
    ด่วน! ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง "พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน" พ้น สส.-เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี ผิด ม.144 ใช้ช่องรองประธานสภาฯ เสนองบฯ ในพื้นที่ตนเอง https://www.thai-tai.tv/news/20698/ . #ThailandFactMission #TruthFromThailand #สถานการณ์ไทยกัมพูชา #กัมพูชายิงก่อน #ข่าวบิดเบือน #กองทัพบก #ชายแดนไทยกัมพูชา #RightOfSelfDefense #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 310 Views 0 Reviews
  • 22 กรกฏาคม 2568- รายงานจากเพจ ThePublisher ระบุว่า 144-88” รหัสล้างบางนักการเมือง!คำนูณ ชี้โทษร้ายแรงอาจล้มทั้ง ครม.ถึงขั้นปลัดกระทรวงนั่งแทนนายกฯ22 กรกฎาคม 2568 — นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์เจาะลึกกรณีการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งขณะนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในทางการเมือง โดยเรียกคดีนี้ว่า “144-88 รหัสล้างบางนักการเมือง” พร้อมเตือนว่าโทษของความผิดร้ายแรงถึงขั้น “สิ้นสุดสมาชิกภาพ” ของ ส.ส. และ “พ้นตำแหน่งทั้งคณะ” สำหรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ “ปลัดกระทรวง” ต้องมานั่งแทนนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคสอง ซึ่งไม่เคยถูกใช้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย—————จุดเริ่มต้น: ศาลรับเรื่องไต่สวนรองประธานสภานายคำนูณระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่กล่าวหารองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่ากระทำผิดตามมาตรา 144 วรรคสอง (มีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย) โดยคำร้องดังกล่าวมาจาก ส.ส.พรรคประชาชนที่เข้าชื่อกันยื่นตรงต่อศาล ซึ่งต้องมีคำวินิจฉัยภายใน 15 วัน กระบวนการไต่สวนจึงเดินหน้าอย่างเร่งด่วน————-ตีความ “144” กับ “88” — จุดเปลี่ยนทางนิติรัฐนายคำนูณอธิบายว่ามาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มี 2 ฐานความผิดหลัก ได้แก่ 1. วรรคหนึ่ง – ห้าม ส.ส. แปรญัตติลดหรือตัดทอนรายจ่ายที่เป็นเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย 2. วรรคสอง – ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐสภามีส่วนร่วมโดยตรงหรืออ้อมกับการใช้งบประมาณโดยมีช่องทางร้องเรียน 2 ทาง ได้แก่ • ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อยื่นตรงต่อศาล (ยื่นได้เฉพาะวรรคสอง) • แจ้งผ่าน ป.ป.ช. ตามวรรคสี่ ซึ่งนายคำนูณย้ำว่า “ประชาชนทั่วไป” ก็สามารถกระทำได้ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 88 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ปี 2561คีย์เวิร์ดสำคัญในมาตรา 88 คือ “เมื่อความปรากฏต่อ ป.ป.ช.” ซึ่งนายคำนูณชี้ว่า เปิดทางให้กรณีที่ประชาชนร้องเรียนใด ๆ หาก ป.ป.ช. รับรู้และเห็นว่ามีมูล ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ทันทีโดยไม่ต้องผูกกับช่วงเวลาของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ————-โทษร้ายแรง—กระทบทั้งสภาและรัฐบาลขณะที่มาตรา 144 วรรคสาม ยังกำหนดเรียกเงินคืนบวกดอกเบี้ย กำหนดอายุความ 20 ปีด้วยสำหรับฐานความผิดมีโทษร้ายแรง : • สมาชิกภาพ ส.ส./ส.ว. สิ้นสุดทันที • เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง • ครม.พ้นตำแหน่งทั้งคณะ เว้นผู้ที่พิสูจน์ได้ว่าไม่อยู่ในที่ประชุม • ผู้กระทำผิดต้องใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย โดยมีอายุความ 20 ปี • และอาจมีความผิดทางอาญาตามมาอีกด้วย—————อาจได้เห็น ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนนายกฯหากคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งเพราะคดีนี้ มาตรา 168 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญกำหนดว่า “จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้” ส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งนายคำนูณชี้ว่าอาจนำไปสู่กรณีที่ “ปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงทำหน้าที่แทน รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง” และ “ประชุมคัดเลือกปลัดกระทรวงผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ” ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ — ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน——————— ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญนายคำนูณปิดท้ายว่า “จะมากจะน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ” พร้อมระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะรายบุคคล แต่เป็น “รหัสล้างบางนักการเมือง” ที่อาจเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยทั้งระบบ“บทเพลง 144 เริ่มบรรเลงแล้ว แม้นช่วงโหมโรงนี้ท่วงทำนองจะเริ่มต้นแบบเนิบ ๆ แต่ความความดุดันกระแทกกระทั้น และเหนือความคาดหมายยากคาดเดา กำลังจะตามมา…” — คำนูณ สิทธิสมาน#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน
    22 กรกฏาคม 2568- รายงานจากเพจ ThePublisher ระบุว่า 144-88” รหัสล้างบางนักการเมือง!คำนูณ ชี้โทษร้ายแรงอาจล้มทั้ง ครม.ถึงขั้นปลัดกระทรวงนั่งแทนนายกฯ22 กรกฎาคม 2568 — นายคำนูณ สิทธิสมาน อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊กวิเคราะห์เจาะลึกกรณีการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ซึ่งขณะนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในทางการเมือง โดยเรียกคดีนี้ว่า “144-88 รหัสล้างบางนักการเมือง” พร้อมเตือนว่าโทษของความผิดร้ายแรงถึงขั้น “สิ้นสุดสมาชิกภาพ” ของ ส.ส. และ “พ้นตำแหน่งทั้งคณะ” สำหรับคณะรัฐมนตรี รวมถึงอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ “ปลัดกระทรวง” ต้องมานั่งแทนนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคสอง ซึ่งไม่เคยถูกใช้มาก่อนในประวัติศาสตร์การเมืองไทย—————จุดเริ่มต้น: ศาลรับเรื่องไต่สวนรองประธานสภานายคำนูณระบุว่า เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องที่กล่าวหารองประธานสภาผู้แทนราษฎรว่ากระทำผิดตามมาตรา 144 วรรคสอง (มีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่าย) โดยคำร้องดังกล่าวมาจาก ส.ส.พรรคประชาชนที่เข้าชื่อกันยื่นตรงต่อศาล ซึ่งต้องมีคำวินิจฉัยภายใน 15 วัน กระบวนการไต่สวนจึงเดินหน้าอย่างเร่งด่วน————-ตีความ “144” กับ “88” — จุดเปลี่ยนทางนิติรัฐนายคำนูณอธิบายว่ามาตรา 144 แห่งรัฐธรรมนูญปี 2560 มี 2 ฐานความผิดหลัก ได้แก่ 1. วรรคหนึ่ง – ห้าม ส.ส. แปรญัตติลดหรือตัดทอนรายจ่ายที่เป็นเงินส่งใช้ต้นเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย 2. วรรคสอง – ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งในรัฐสภามีส่วนร่วมโดยตรงหรืออ้อมกับการใช้งบประมาณโดยมีช่องทางร้องเรียน 2 ทาง ได้แก่ • ส.ส. หรือ ส.ว. เข้าชื่อยื่นตรงต่อศาล (ยื่นได้เฉพาะวรรคสอง) • แจ้งผ่าน ป.ป.ช. ตามวรรคสี่ ซึ่งนายคำนูณย้ำว่า “ประชาชนทั่วไป” ก็สามารถกระทำได้ภายใต้บทบัญญัติมาตรา 88 ของ พ.ร.ป. ป.ป.ช. ปี 2561คีย์เวิร์ดสำคัญในมาตรา 88 คือ “เมื่อความปรากฏต่อ ป.ป.ช.” ซึ่งนายคำนูณชี้ว่า เปิดทางให้กรณีที่ประชาชนร้องเรียนใด ๆ หาก ป.ป.ช. รับรู้และเห็นว่ามีมูล ก็ถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ทันทีโดยไม่ต้องผูกกับช่วงเวลาของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ————-โทษร้ายแรง—กระทบทั้งสภาและรัฐบาลขณะที่มาตรา 144 วรรคสาม ยังกำหนดเรียกเงินคืนบวกดอกเบี้ย กำหนดอายุความ 20 ปีด้วยสำหรับฐานความผิดมีโทษร้ายแรง : • สมาชิกภาพ ส.ส./ส.ว. สิ้นสุดทันที • เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง • ครม.พ้นตำแหน่งทั้งคณะ เว้นผู้ที่พิสูจน์ได้ว่าไม่อยู่ในที่ประชุม • ผู้กระทำผิดต้องใช้เงินคืนพร้อมดอกเบี้ย โดยมีอายุความ 20 ปี • และอาจมีความผิดทางอาญาตามมาอีกด้วย—————อาจได้เห็น ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนนายกฯหากคณะรัฐมนตรีพ้นตำแหน่งเพราะคดีนี้ มาตรา 168 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญกำหนดว่า “จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปมิได้” ส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ ซึ่งนายคำนูณชี้ว่าอาจนำไปสู่กรณีที่ “ปลัดกระทรวงแต่ละกระทรวงทำหน้าที่แทน รัฐมนตรีเจ้ากระทรวง” และ “ประชุมคัดเลือกปลัดกระทรวงผู้หนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ” ตามกลไกในรัฐธรรมนูญ — ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน——————— ต้องจับตาศาลรัฐธรรมนูญนายคำนูณปิดท้ายว่า “จะมากจะน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ” พร้อมระบุว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เพียงเรื่องเฉพาะรายบุคคล แต่เป็น “รหัสล้างบางนักการเมือง” ที่อาจเปลี่ยนโฉมการเมืองไทยทั้งระบบ“บทเพลง 144 เริ่มบรรเลงแล้ว แม้นช่วงโหมโรงนี้ท่วงทำนองจะเริ่มต้นแบบเนิบ ๆ แต่ความความดุดันกระแทกกระทั้น และเหนือความคาดหมายยากคาดเดา กำลังจะตามมา…” — คำนูณ สิทธิสมาน#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #พิเชษฐ์เชื้อเมืองพาน
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 523 Views 0 Reviews
  • 1 ส.ค.นี้ ศาล รธน.ชี้ชะตา "พิเชษฐ์" คดี 144 ปมผันงบสภาฯ ลงพื้นที่ หากผิดจริง อาจหลุดเก้าอี้รองประธานสภาฯ เพื่อไทยเร่งโหวตรองประธานฯ คนที่ 2 หวั่นสภาฯล่ม หากพิเชษฐ์หลุด!

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068779

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    1 ส.ค.นี้ ศาล รธน.ชี้ชะตา "พิเชษฐ์" คดี 144 ปมผันงบสภาฯ ลงพื้นที่ หากผิดจริง อาจหลุดเก้าอี้รองประธานสภาฯ เพื่อไทยเร่งโหวตรองประธานฯ คนที่ 2 หวั่นสภาฯล่ม หากพิเชษฐ์หลุด! อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000068779 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 450 Views 0 Reviews
  • เบื้องลึก ศึกสามเส้า ชิงเก้ารองประธานสภา เพื่อไทย-กล้าธรรม-รทสช. : ข่าวลึกปมลับ 15-07-68
    เบื้องลึก ศึกสามเส้า ชิงเก้ารองประธานสภา เพื่อไทย-กล้าธรรม-รทสช. : ข่าวลึกปมลับ 15-07-68
    0 Comments 0 Shares 321 Views 0 0 Reviews
  • อย่าดี๊ด๊านายกสำรอง เพื่อไทยมีบัญชีในมือ : [THE MESSAGE]

    นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ดักทางนายกรัฐมนตรีชั่วคราว อย่ากระดี๊กระด๊าใจร้อน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในตำแหน่ง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง จะชูบัญชีนายกของพรรคเพื่อไทย ยังไม่โหวตเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร รอ ครม.ลงตัว พร้อมเจรจาพรรคร่วมรัฐบาลแบ่งปัน หากต้องการเก้าอี้นี้ ชี้ คุณสมบัติต้องเป็นกลาง แม่นยำข้อบังคับการประชุม เบรก สส.หน้าใหม่ นั่งรองประธานสภาฯ ยืนยันรัฐบาลถอนร่างกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แน่ แนะจับตาพรรคขวางจะกลับคำพูดไม่ยอมให้ถอนร่างหรือไม่ จะแก้ไขปัญหาการเมืองด้วยวาทะกรรมไม่ได้ จี้รัฐมนตรีที่เป็น สส. ต้องเข้าประชุมสภาฯ หากไม่พร้อมทำหน้าที่ในสภาให้ลาออก ขยับปาร์ตี้ลิตส์ลำดับถัดไปแทน หากสภาล่มเตรียมแฉรายชื่อใครบ้างไม่เข้าประชุม
    อย่าดี๊ด๊านายกสำรอง เพื่อไทยมีบัญชีในมือ : [THE MESSAGE] นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ดักทางนายกรัฐมนตรีชั่วคราว อย่ากระดี๊กระด๊าใจร้อน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังอยู่ในตำแหน่ง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง จะชูบัญชีนายกของพรรคเพื่อไทย ยังไม่โหวตเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร รอ ครม.ลงตัว พร้อมเจรจาพรรคร่วมรัฐบาลแบ่งปัน หากต้องการเก้าอี้นี้ ชี้ คุณสมบัติต้องเป็นกลาง แม่นยำข้อบังคับการประชุม เบรก สส.หน้าใหม่ นั่งรองประธานสภาฯ ยืนยันรัฐบาลถอนร่างกฎหมาย เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แน่ แนะจับตาพรรคขวางจะกลับคำพูดไม่ยอมให้ถอนร่างหรือไม่ จะแก้ไขปัญหาการเมืองด้วยวาทะกรรมไม่ได้ จี้รัฐมนตรีที่เป็น สส. ต้องเข้าประชุมสภาฯ หากไม่พร้อมทำหน้าที่ในสภาให้ลาออก ขยับปาร์ตี้ลิตส์ลำดับถัดไปแทน หากสภาล่มเตรียมแฉรายชื่อใครบ้างไม่เข้าประชุม
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 638 Views 0 0 Reviews
  • "มท.อ้วน" ขออย่ามองลบปมสั่งปิดประชุมสภาฯ รับตามสภาพ สส.ที่เป็น รมต.ต้องหอบงานไปทำ ป้องกันสภาล่ม ชี้หน.พรรคร่วมต้องกำชับ สส.เข้าประชุม บอกปกติสามารถเกิดขึ้นได้ เผยยังไม่ได้คุยฝ่าย กม.เป็นรูปธรรม กรณีอำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาได้หรือไม่ ยันทำตามอำนาจที่ รธน.

    วันนี้ (3ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง สั่งปิดการประชุมระหว่างฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุม ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่เคยกำชับไว้แล้วว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง

    ส่วนที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุว่าสส.กว่า 90% ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุมในวันนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมเป็นสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต้องให้ทางหัวหน้าพรรคกำชับกันต่อไป

    ทั้งนี้ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะประสานแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หรือ ต้องให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกคนทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตนเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วง 14:00 น. ที่ผ่านมา จึงเพิ่งได้เริ่มพูดคุยกัน ฉะนั้นต้องทำงานกันอย่างต่อเนื่อง อะไรที่เคยทำและอะไรที่ควรทำตนก็ต้องทำ ขณะที่เรื่องของสภาวิปรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการแต่งตั้งใหม่และกระบวนการต่างๆยังไม่ครบถ้วนจึงขอให้รอครบถ้วนก่อน เพราะตรงนี้เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ดังนั้นก็ต้องแก้ไขปัญหากันต่อ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000062818

    #MGROnline #ภูมิธรรมเวชยชัย #รองนายกรัฐมนตรี #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย #รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
    "มท.อ้วน" ขออย่ามองลบปมสั่งปิดประชุมสภาฯ รับตามสภาพ สส.ที่เป็น รมต.ต้องหอบงานไปทำ ป้องกันสภาล่ม ชี้หน.พรรคร่วมต้องกำชับ สส.เข้าประชุม บอกปกติสามารถเกิดขึ้นได้ เผยยังไม่ได้คุยฝ่าย กม.เป็นรูปธรรม กรณีอำนาจรักษาการนายกฯยุบสภาได้หรือไม่ ยันทำตามอำนาจที่ รธน. • วันนี้ (3ก.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง สั่งปิดการประชุมระหว่างฝ่ายค้านขอให้นับองค์ประชุม ว่าเรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ แต่เคยกำชับไว้แล้วว่าให้ทุกคนทำหน้าที่ในช่วงรอยต่อ ซึ่งอาจจะยังมีปัญหาอยู่บ้าง • ส่วนที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีการระบุว่าสส.กว่า 90% ของพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมประชุมในวันนี้ แต่ส่วนใหญ่ที่ไม่เข้าร่วมเป็นสส.ของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติของแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งต้องให้ทางหัวหน้าพรรคกำชับกันต่อไป • ทั้งนี้ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะประสานแก้ปัญหากับพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไร หรือ ต้องให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ นายภูมิธรรม ระบุว่า ทุกคนทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตนเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อช่วง 14:00 น. ที่ผ่านมา จึงเพิ่งได้เริ่มพูดคุยกัน ฉะนั้นต้องทำงานกันอย่างต่อเนื่อง อะไรที่เคยทำและอะไรที่ควรทำตนก็ต้องทำ ขณะที่เรื่องของสภาวิปรัฐบาลก็ได้มีการพูดคุยกันอยู่แล้ว แต่เมื่อมีการแต่งตั้งใหม่และกระบวนการต่างๆยังไม่ครบถ้วนจึงขอให้รอครบถ้วนก่อน เพราะตรงนี้เป็นปัญหาแต่ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร ดังนั้นก็ต้องแก้ไขปัญหากันต่อ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000062818 • #MGROnline #ภูมิธรรมเวชยชัย #รองนายกรัฐมนตรี #รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย #รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี
    0 Comments 0 Shares 614 Views 0 Reviews
  • ..ความอีกด้านในช่วงเวลาที่ผ่านมา,การต่อสู้กับภาครัฐที่บัดสบมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลที่นำเข้าวัคซีนโควิดที่ไร้งานวิจัยรับรองความปลอดภัยใดๆ,คนเหล่านี้กอดกองเงินกองทองกอดตังอย่างมีความสุขนักโดยเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับการค้่ยาค้าวัคซีนโควิดหรือตัววัคซีนmRNAทุกๆคนที่นำเข้ามาในไทยตลอดสร้างพวกโรงงานเพื่อผลิตวัคซีนที่เป็นmRNAเหมือนกันมาฉีดคนไทยด้วย,คณะแพทย์หมอที่สมคบคิดไม่สำนึกต่อการกระทำชั่วตั้งแต่ต้นต้องถูกกำจัดทันที,ซึ่งปัจจุบันลอยหน้าลอยตาเชิดหน้ามีเกียรติมีศักดิ์ศรีนัก,ไม่ถูกจัดการลงโทษสั่งสอนห่าเหวใดๆเลย.

    ..หมอจุฬา นำทีมผู้ได้รับผลกระทบ วัคซีนโควิด ร้องสภาฯตั้งคณะสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน
    วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 - 11:47 น.
    “หมอจุฬา” พร้อมผู้ได้รับผลกระทบวัคซีนโควิด ร้องสภาฯเปิดเวทีสาธารณะ-ตั้งคณะทำงานสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน โดยไม่รู้สาเหตุ ชี้ จากผลตรวจAnti spike ค่าสูงกว่า25,000 จาก 0.8 ขณะยุโรป-สหรัฐฯ สอบเรื่องนี้แล้ว ขอ “สธ.” เปิดสัญญาซื้อวัคซีน จี้ “สปสช.” ทบทวนขยายเวลาเยียวยา

    เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมคณะแพทย์และผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด 19  ในนามกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านตัวแทนเพื่อให้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อที่จะได้มีข้อมูลในการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ และให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด

    โดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี มีผู้ไปฉีดวัคซีนได้รับผลกระทบตามร่างกาย เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุจำนวนไม่น้อย จึงเป็นโอกาสที่จะสะท้อนความเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยอยากให้มีการหามาตรการป้องกันผลกระทบจากการฉีดวัคซีน ซึ่งมีการรวมตัวของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ ช่วงแรกหลังฉีดวัคซีน ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยแต่ต่อมามีผลทางวิชาการ ยืนยันว่าวัคซีนโควิดสร้างปัญหาจริง

    ขณะที่ในยุโรปและสหรัฐฯ มีการสอบสวนกันมากขึ้น ส่วนประเทศไทย มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากถูกมองข้ามว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แม้หลายคนพยายามร้องขอความเป็นธรรม แต่ถูกปิดปากซึ่งข่าวนี้เกิดขึ้นจริงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีการยอมรับจากทำเนียบข่าวว่ามีการปิดข่าวเรื่องนี้ ในช่วงประธานาธิบดีโจไบเดน และขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่

    ด้านพ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา แพทย์ชื่อดัง กล่าวว่า มีญาติผู้ป่วย มาขอให้สะกดจิตเนื่องจากภรรยาไม่รู้เป็นอะไรต้องถูกตัดแขนตัดขาทั้งสองข้าง เมื่อดูภาพเห็นเท้าแขนขาดำทั้งสองข้าง แล้ววันนี้ถูกตัดขาด 2 ข้าง ตัดแขน 1 ข้าง และตัดมืออีกข้างหนึ่งออก โดยยังไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร

    ซึ่งเมื่อตรวจค่าเลือดภูมิต้านทานต่อต้านโควิด สูงถึง 14,500 จึงน่าจะเกี่ยวข้อง และเมื่อมาถามหมอหลายคน ได้ข้อสรุปว่าตัวAnti spike ไปอุดที่ไหนก็จะมีปัญหาที่นั่น ยกตัวอย่างมีหมอรุ่นน้องที่เชียงใหม่ล้มเสียชีวิต รวมถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของอินโดนีเซีย ที่กำลังยืนปราศรัยก็ล้มตึงจากเวที และรองผู้ว่าฯพังงา ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงก็เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุ

    “เป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ฉีดวัคซีนถึง 8 เข็มแล้วเป็นสโตรก และยังมีเสียชีวิตเฉียบพลันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคนที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจากการฉีดวัคซีนโควิดมาให้หมอรักษา 600 คน ทั้งนี้เห็นว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีน เพราะจากการตรวจคนไข้ที่คลินิก 70 กว่าคน พบค่า Anti spike ระดับกว่า 1,000 สูงสุดถึง 25,000 จากค่าปกติต้อง 0.8 ขณะที่ส่วนตัวเป็นโควิด 2 ครั้ง ไม่เคยฉีดวัคซีน รักษาด้วยสมุนไพร ตรวจพบค่าเพียง 137” พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าว

    พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสมุนไพร ถ้าสามารถนำมาใช้รักษาน่าจะช่วยรักษาคนทั้งโลกได้ และจะยังเพิ่มเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยไม่ต้องตั้งเป้าทำวิจัย

    ขณะที่ สามีของผู้ป่วยที่ถูกตัดขาตัดแขน กล่าวว่า ได้ไปขอค่าชดเชย จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)แต่ไม่ได้รับการชดเชยเพราะเกินเวลา 2 ปีแล้ว

    ด้านแม่ที่ลูกอายุ 23 ปีได้รับผลกระทบ เล่าพร้อมน้ำตาคลอว่า ลูกฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็ม จากเคยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย วันนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ หมอบอกว่าเป็นลิ่มเลือดอุดตันก้านสมอง ไม่รู้สาเหตุ รักษาตามอาการ ทั้งที่ก่อนหน้า เล่นกีฬาปกติ ขณะนี้ป่วยมา 2 ปีแล้ว จิตใจไม่ปกติ ต้องหาหมอจิตเวชร่วมด้วย เงินที่เก็บไว้ให้เรียนก็หมดไปกับการรักษาตัว จึงอยากฝากภาครัฐช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย

    ขณะที่ผู้ป่วยอีกราย บอกว่ามีอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอก และคันในศีรษะ อย่างรุนแรง ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่หาย แค่บรรเทาเวลากินยา คาดว่ามาจากวัคซันโควิด

    ด้านนายแทนคุณ กล่าวเรียกร้องให้ รมว.สาธารณสุข เปิดสัญญาทุกฉบับที่ทำกับเอกชนในการซื้อวัคซีนโควิด และให้ สปสช.ทบทวนการขยายเวลาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน โควิดได้รับการเยียวยา... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5194414
    ..ความอีกด้านในช่วงเวลาที่ผ่านมา,การต่อสู้กับภาครัฐที่บัดสบมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลที่นำเข้าวัคซีนโควิดที่ไร้งานวิจัยรับรองความปลอดภัยใดๆ,คนเหล่านี้กอดกองเงินกองทองกอดตังอย่างมีความสุขนักโดยเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับการค้่ยาค้าวัคซีนโควิดหรือตัววัคซีนmRNAทุกๆคนที่นำเข้ามาในไทยตลอดสร้างพวกโรงงานเพื่อผลิตวัคซีนที่เป็นmRNAเหมือนกันมาฉีดคนไทยด้วย,คณะแพทย์หมอที่สมคบคิดไม่สำนึกต่อการกระทำชั่วตั้งแต่ต้นต้องถูกกำจัดทันที,ซึ่งปัจจุบันลอยหน้าลอยตาเชิดหน้ามีเกียรติมีศักดิ์ศรีนัก,ไม่ถูกจัดการลงโทษสั่งสอนห่าเหวใดๆเลย. ..หมอจุฬา นำทีมผู้ได้รับผลกระทบ วัคซีนโควิด ร้องสภาฯตั้งคณะสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 - 11:47 น. “หมอจุฬา” พร้อมผู้ได้รับผลกระทบวัคซีนโควิด ร้องสภาฯเปิดเวทีสาธารณะ-ตั้งคณะทำงานสอบ หลังพบผู้ป่วยตายเฉียบพลัน โดยไม่รู้สาเหตุ ชี้ จากผลตรวจAnti spike ค่าสูงกว่า25,000 จาก 0.8 ขณะยุโรป-สหรัฐฯ สอบเรื่องนี้แล้ว ขอ “สธ.” เปิดสัญญาซื้อวัคซีน จี้ “สปสช.” ทบทวนขยายเวลาเยียวยา เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ที่รัฐสภา นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อมคณะแพทย์และผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด 19  ในนามกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ยื่นหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านตัวแทนเพื่อให้เปิดเวทีสาธารณะรับฟังข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อที่จะได้มีข้อมูลในการดูแลรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ และให้ตั้งคณะทำงานเพื่อสอบสวนปัญหาผลกระทบจากวัคซีนโควิด โดย นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 5 ปี มีผู้ไปฉีดวัคซีนได้รับผลกระทบตามร่างกาย เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุจำนวนไม่น้อย จึงเป็นโอกาสที่จะสะท้อนความเห็นของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยอยากให้มีการหามาตรการป้องกันผลกระทบจากการฉีดวัคซีน ซึ่งมีการรวมตัวของอาจารย์จากมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลต่างๆ ช่วงแรกหลังฉีดวัคซีน ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยแต่ต่อมามีผลทางวิชาการ ยืนยันว่าวัคซีนโควิดสร้างปัญหาจริง ขณะที่ในยุโรปและสหรัฐฯ มีการสอบสวนกันมากขึ้น ส่วนประเทศไทย มีผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจำนวนมากถูกมองข้ามว่าไม่เกี่ยวกับวัคซีน แม้หลายคนพยายามร้องขอความเป็นธรรม แต่ถูกปิดปากซึ่งข่าวนี้เกิดขึ้นจริงทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก โดยมีการยอมรับจากทำเนียบข่าวว่ามีการปิดข่าวเรื่องนี้ ในช่วงประธานาธิบดีโจไบเดน และขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังตั้งคณะกรรมการตรวจสอบอยู่ ด้านพ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา แพทย์ชื่อดัง กล่าวว่า มีญาติผู้ป่วย มาขอให้สะกดจิตเนื่องจากภรรยาไม่รู้เป็นอะไรต้องถูกตัดแขนตัดขาทั้งสองข้าง เมื่อดูภาพเห็นเท้าแขนขาดำทั้งสองข้าง แล้ววันนี้ถูกตัดขาด 2 ข้าง ตัดแขน 1 ข้าง และตัดมืออีกข้างหนึ่งออก โดยยังไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไร ซึ่งเมื่อตรวจค่าเลือดภูมิต้านทานต่อต้านโควิด สูงถึง 14,500 จึงน่าจะเกี่ยวข้อง และเมื่อมาถามหมอหลายคน ได้ข้อสรุปว่าตัวAnti spike ไปอุดที่ไหนก็จะมีปัญหาที่นั่น ยกตัวอย่างมีหมอรุ่นน้องที่เชียงใหม่ล้มเสียชีวิต รวมถึงรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของอินโดนีเซีย ที่กำลังยืนปราศรัยก็ล้มตึงจากเวที และรองผู้ว่าฯพังงา ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงก็เสียชีวิตโดยไม่รู้สาเหตุ “เป็นห่วงบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ฉีดวัคซีนถึง 8 เข็มแล้วเป็นสโตรก และยังมีเสียชีวิตเฉียบพลันเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคนที่เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตจากการฉีดวัคซีนโควิดมาให้หมอรักษา 600 คน ทั้งนี้เห็นว่าน่าจะเกิดจากการฉีดวัคซีน เพราะจากการตรวจคนไข้ที่คลินิก 70 กว่าคน พบค่า Anti spike ระดับกว่า 1,000 สูงสุดถึง 25,000 จากค่าปกติต้อง 0.8 ขณะที่ส่วนตัวเป็นโควิด 2 ครั้ง ไม่เคยฉีดวัคซีน รักษาด้วยสมุนไพร ตรวจพบค่าเพียง 137” พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าว พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยสมุนไพร ถ้าสามารถนำมาใช้รักษาน่าจะช่วยรักษาคนทั้งโลกได้ และจะยังเพิ่มเศรษฐกิจของประเทศไทยโดยไม่ต้องตั้งเป้าทำวิจัย ขณะที่ สามีของผู้ป่วยที่ถูกตัดขาตัดแขน กล่าวว่า ได้ไปขอค่าชดเชย จาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)แต่ไม่ได้รับการชดเชยเพราะเกินเวลา 2 ปีแล้ว ด้านแม่ที่ลูกอายุ 23 ปีได้รับผลกระทบ เล่าพร้อมน้ำตาคลอว่า ลูกฉีดวัคซีนโควิด 3 เข็ม จากเคยเป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย วันนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ หมอบอกว่าเป็นลิ่มเลือดอุดตันก้านสมอง ไม่รู้สาเหตุ รักษาตามอาการ ทั้งที่ก่อนหน้า เล่นกีฬาปกติ ขณะนี้ป่วยมา 2 ปีแล้ว จิตใจไม่ปกติ ต้องหาหมอจิตเวชร่วมด้วย เงินที่เก็บไว้ให้เรียนก็หมดไปกับการรักษาตัว จึงอยากฝากภาครัฐช่วยดูแลเรื่องนี้ด้วย ขณะที่ผู้ป่วยอีกราย บอกว่ามีอาการปวดแสบปวดร้อนที่หน้าอก และคันในศีรษะ อย่างรุนแรง ซึ่งทุกวันนี้ยังไม่หาย แค่บรรเทาเวลากินยา คาดว่ามาจากวัคซันโควิด ด้านนายแทนคุณ กล่าวเรียกร้องให้ รมว.สาธารณสุข เปิดสัญญาทุกฉบับที่ทำกับเอกชนในการซื้อวัคซีนโควิด และให้ สปสช.ทบทวนการขยายเวลาให้ผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน โควิดได้รับการเยียวยา... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5194414
    0 Comments 0 Shares 762 Views 0 Reviews
  • สส.อีสานพรรคเพื่อไทยเตรียมเคลื่อนทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 หลังถูกมองข้ามปรับ
    https://www.thai-tai.tv/news/19828/
    สส.อีสานพรรคเพื่อไทยเตรียมเคลื่อนทวงเก้าอี้รองประธานสภาฯ คนที่ 2 หลังถูกมองข้ามปรับ https://www.thai-tai.tv/news/19828/
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • “ไม่มีหลักฐานว่าอิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ก่อนหน้านี้ก็ อิรัก ลิเบีย และตอนนี้อิหร่าน แต่ชาติตะวันตกไม่เคยตั้งคำถามกับอิสราเอลเลย ในความเห็นของผม นี่คือความหลอกลวงปลิ้นปล้อนขั้นสุดยอด”

    —"โคซาเชฟ" รองประธานสภาสหพันธรัฐหรือวุฒิสภารัสเซีย
    “ไม่มีหลักฐานว่าอิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ก่อนหน้านี้ก็ อิรัก ลิเบีย และตอนนี้อิหร่าน แต่ชาติตะวันตกไม่เคยตั้งคำถามกับอิสราเอลเลย ในความเห็นของผม นี่คือความหลอกลวงปลิ้นปล้อนขั้นสุดยอด” —"โคซาเชฟ" รองประธานสภาสหพันธรัฐหรือวุฒิสภารัสเซีย
    0 Comments 0 Shares 320 Views 33 0 Reviews
  • อบจ.โคราช ปัดฝุ่นแปลนก่อสร้าง สนง.แห่งใหม่
    หลัง สภาฯ ไฟเขียว กู้เงิน “ก.ส.อ.”

    สภา อบจ.โคราช ไฟเขียวยกมือผ่านญัตติเห็นชอบ ให้กู้เงินสร้าง สนง.อบจ.แห่งใหม่ หลังพบว่าอาคารหลังเก่าทรุดโทรม เนื่องจากใช้งานมาเป็นระยะเวลานานร่วม 30 ปี ด้าน “ดร.ยลดาฯ” เผย เมื่อเข้ามาเป็นนายก อบจ. ได้พยายามผลักดันที่จะสร้าง สนง.แห่งใหม่ เพราะเห็นถึงปัญหาและอุปสรรคด้านอาคารสถานที่ ที่คับแคบไม่เพียงพอ ต้องเช่าอาคารสำนักงานชั่วคราวหลายแห่ง ค่าเช่าในแต่ละปีมีมูลค่าสูง การติดต่อประสานงานในเรื่องเอกสารล่าช้า อีกทั้งเวลาจัดประชุมสภา อบจ. แต่ละครั้ง ต้องเช่าสถานที่ภายนอกซึ่งมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเช่นกัน เชื่อว่า หากได้สำนักงานแห่งใหม่ ทุกส่วนราชการก็จะรวมอยู่ที่เดียวกัน ส่งผลให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ในเรื่องการประสานงาน รวมถึงการให้บริการพี่น้องประชาชน ก็จะสะดวกและรวดเร็วตามมาด้วย
    .
    วันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ห้องประชุมแกรนดด์ บอลรูม โรงแรมฟอร์จูน โคราช สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) นครราชสีมา จัดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2568 โดยฝ่ายสภาประกอบด้วย นายเลิศชัย ธนประศาสน์ ประธานสภา อบจ. พร้อมรองประธานสภา เลขานุการสภา, ฝ่ายบริหาร ประกอบด้วย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. พร้อมรองนายก และสมาชิกสภา อบจ. 40 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 48 คน นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
    .
    ในระเบียบวาระการประชุมที่ 3 เป็นวาระที่สมาชิกสภาฯ ให้ความสนใจลุกขึ้นอภิปรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็น ญัตติเรื่องขอความเห็นชอบกู้เงินทุนส่งเสริมกิจการ อบจ. (ก.ส.อ.) ก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ก่อนที่จะมีมติเห็นชอบ 36 คน และงดออกเสียง 4 คน ให้ฝ่ายบริหารกู้เงิน ก.ส.อ. เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคาร สนง. แห่งใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางการบริหารงานที่มีความเหมาะสม ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการให้บริการแก่ประชาชนอย่างเป็นระบบ
    .
    นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยภายหลังการลงมติจากที่ประชุมว่า ขอขอบคุณสภา อบจ.นครราชสีมา อันทรงเกียรติแห่งนี้ ที่ได้เห็นความสำคัญและความจำเป็นของการดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงาน อบจ. นครราชสีมา แห่งใหม่ เนื่องจากอาคารสำนักงาน ณ ปัจจุบันที่ตั้งอยู่บริเวณริมคูเมืองเก่า สภาพแออัด ชำรุดทรุดโทรม คับแคบ พื้นที่ใช้สอยน้อย พื้นที่ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องเสียงบประมาณจำนวนมากเพื่อจ่ายค่าเช่าสำนักงานชั่วคราวหลายแห่ง ฉะนั้นหากเราสร้าง สนง.แห่งใหม่ จะเป็นการรวมศูนย์ราชการในสังกัดฯ ไว้ที่เดียวกันก็จะทำให้ประหยัดงบประมาณค่าเช่าสถานที่ และอำนวยความสะดวกด้านการบริหารจัดการภายใน รวมถึงการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
    .
    อาคารสำนักงาน อบจ.นครราชสีมา แห่งใหม่ ก่อสร้างบนที่ดินสาธารณประโยชน์ บ.เดื่อ หมู่ที่ 8 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 289 ไร่ 3 งาน 65.3 ตรว. โดย อบจ. ได้ใช้ที่ดินตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 46 ไร่ 99 ตรว. แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 อาคารสำนักงาน คสล. 9 ชั้น และอาคารประกอบอื่น งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 985,130,000 บาท ระยะที่ 2 อาคารที่จอดรถ คสล. 5 ชั้น งบประมาณ 149,870,000 บาท (ค่อยดำเนินการทีหลัง) ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างจะดำเนินงานตามแผน 4 ปี (2569 – 2572) เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐและเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ในอนาคต”
    อบจ.โคราช ปัดฝุ่นแปลนก่อสร้าง สนง.แห่งใหม่ หลัง สภาฯ ไฟเขียว กู้เงิน “ก.ส.อ.” สภา อบจ.โคราช ไฟเขียวยกมือผ่านญัตติเห็นชอบ ให้กู้เงินสร้าง สนง.อบจ.แห่งใหม่ หลังพบว่าอาคารหลังเก่าทรุดโทรม เนื่องจากใช้งานมาเป็นระยะเวลานานร่วม 30 ปี ด้าน “ดร.ยลดาฯ” เผย เมื่อเข้ามาเป็นนายก อบจ. ได้พยายามผลักดันที่จะสร้าง สนง.แห่งใหม่ เพราะเห็นถึงปัญหาและอุปสรรคด้านอาคารสถานที่ ที่คับแคบไม่เพียงพอ ต้องเช่าอาคารสำนักงานชั่วคราวหลายแห่ง ค่าเช่าในแต่ละปีมีมูลค่าสูง การติดต่อประสานงานในเรื่องเอกสารล่าช้า อีกทั้งเวลาจัดประชุมสภา อบจ. แต่ละครั้ง ต้องเช่าสถานที่ภายนอกซึ่งมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเช่นกัน เชื่อว่า หากได้สำนักงานแห่งใหม่ ทุกส่วนราชการก็จะรวมอยู่ที่เดียวกัน ส่งผลให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ในเรื่องการประสานงาน รวมถึงการให้บริการพี่น้องประชาชน ก็จะสะดวกและรวดเร็วตามมาด้วย . วันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ห้องประชุมแกรนดด์ บอลรูม โรงแรมฟอร์จูน โคราช สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) นครราชสีมา จัดประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 ครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2568 โดยฝ่ายสภาประกอบด้วย นายเลิศชัย ธนประศาสน์ ประธานสภา อบจ. พร้อมรองประธานสภา เลขานุการสภา, ฝ่ายบริหาร ประกอบด้วย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ. พร้อมรองนายก และสมาชิกสภา อบจ. 40 คน จากจำนวนทั้งสิ้น 48 คน นอกจากนี้ ยังมีหัวหน้าส่วนราชการและข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม . ในระเบียบวาระการประชุมที่ 3 เป็นวาระที่สมาชิกสภาฯ ให้ความสนใจลุกขึ้นอภิปรายเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็น ญัตติเรื่องขอความเห็นชอบกู้เงินทุนส่งเสริมกิจการ อบจ. (ก.ส.อ.) ก่อสร้างอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ก่อนที่จะมีมติเห็นชอบ 36 คน และงดออกเสียง 4 คน ให้ฝ่ายบริหารกู้เงิน ก.ส.อ. เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคาร สนง. แห่งใหม่ ให้เป็นศูนย์กลางการบริหารงานที่มีความเหมาะสม ทันสมัย เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการให้บริการแก่ประชาชนอย่างเป็นระบบ . นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา เปิดเผยภายหลังการลงมติจากที่ประชุมว่า ขอขอบคุณสภา อบจ.นครราชสีมา อันทรงเกียรติแห่งนี้ ที่ได้เห็นความสำคัญและความจำเป็นของการดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักงาน อบจ. นครราชสีมา แห่งใหม่ เนื่องจากอาคารสำนักงาน ณ ปัจจุบันที่ตั้งอยู่บริเวณริมคูเมืองเก่า สภาพแออัด ชำรุดทรุดโทรม คับแคบ พื้นที่ใช้สอยน้อย พื้นที่ไม่เพียงพอ ทำให้ต้องเสียงบประมาณจำนวนมากเพื่อจ่ายค่าเช่าสำนักงานชั่วคราวหลายแห่ง ฉะนั้นหากเราสร้าง สนง.แห่งใหม่ จะเป็นการรวมศูนย์ราชการในสังกัดฯ ไว้ที่เดียวกันก็จะทำให้ประหยัดงบประมาณค่าเช่าสถานที่ และอำนวยความสะดวกด้านการบริหารจัดการภายใน รวมถึงการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ . อาคารสำนักงาน อบจ.นครราชสีมา แห่งใหม่ ก่อสร้างบนที่ดินสาธารณประโยชน์ บ.เดื่อ หมู่ที่ 8 ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 289 ไร่ 3 งาน 65.3 ตรว. โดย อบจ. ได้ใช้ที่ดินตามความในมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวน 46 ไร่ 99 ตรว. แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 อาคารสำนักงาน คสล. 9 ชั้น และอาคารประกอบอื่น งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 985,130,000 บาท ระยะที่ 2 อาคารที่จอดรถ คสล. 5 ชั้น งบประมาณ 149,870,000 บาท (ค่อยดำเนินการทีหลัง) ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างจะดำเนินงานตามแผน 4 ปี (2569 – 2572) เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อภาครัฐและเกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ในอนาคต”
    0 Comments 0 Shares 668 Views 0 Reviews
  • สภาเทศบาลนครนครราชสีมา ครั้งแรก เพื่อเลือกประธานสภา รองประธานสภา และเลขานุการสภาเทศบาลนครนคราชสีมา
    .
    นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมสภาเทศบาลนครราชสีมา ครั้งแรก เพื่อให้สมาชิกสภาเทศบาลนครนคราชสีมา ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ พร้อมทั้งเลือกตั้งประธานสภา รองประธานสภา เลขานุการสภาเทศบาลนครนครราชสีมา โดยผู้ได้รับเลือกเป็นประธานสภาคือ นายกายสิทธิ์ สุคนธรัตน์ สมาชิกสภาเทศบาล เขต 3 , ผู้ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาเทศบาล คือ นายชัยโรจน์ ศุภโชคเจริญวงศ์ สมาชิกสภาเทศบาล เขต 4, ผู้ได้รับเลือกเป็นเลขานุการสภาเทศบาล คือ นายศิระ จันทวร รองปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา และได้กำหนดสมัยประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ ประจำปี พ.ศ. 2568 และกำหนดสมัยประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยแรก ประจำปี พ.ศ. 2569 ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษกชั้น5 อาคารฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เทศบาลนครนครราชสีมา
    สภาเทศบาลนครนครราชสีมา ครั้งแรก เพื่อเลือกประธานสภา รองประธานสภา และเลขานุการสภาเทศบาลนครนคราชสีมา . นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมสภาเทศบาลนครราชสีมา ครั้งแรก เพื่อให้สมาชิกสภาเทศบาลนครนคราชสีมา ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ พร้อมทั้งเลือกตั้งประธานสภา รองประธานสภา เลขานุการสภาเทศบาลนครนครราชสีมา โดยผู้ได้รับเลือกเป็นประธานสภาคือ นายกายสิทธิ์ สุคนธรัตน์ สมาชิกสภาเทศบาล เขต 3 , ผู้ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาเทศบาล คือ นายชัยโรจน์ ศุภโชคเจริญวงศ์ สมาชิกสภาเทศบาล เขต 4, ผู้ได้รับเลือกเป็นเลขานุการสภาเทศบาล คือ นายศิระ จันทวร รองปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา และได้กำหนดสมัยประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ ประจำปี พ.ศ. 2568 และกำหนดสมัยประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยแรก ประจำปี พ.ศ. 2569 ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษกชั้น5 อาคารฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เทศบาลนครนครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 432 Views 0 Reviews
  • สภาเทศบาลนครนครราชสีมา ครั้งแรก เพื่อเลือกประธานสภา รองประธานสภา และเลขานุการสภาเทศบาลนครนคราชสีมา
    .
    นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมสภาเทศบาลนครราชสีมา ครั้งแรก เพื่อให้สมาชิกสภาเทศบาลนครนคราชสีมา ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ พร้อมทั้งเลือกตั้งประธานสภา รองประธานสภา เลขานุการสภาเทศบาลนครนครราชสีมา โดยผู้ได้รับเลือกเป็นประธานสภาคือ นายกายสิทธิ์ สุคนธรัตน์ สมาชิกสภาเทศบาล เขต 3 , ผู้ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาเทศบาล คือ นายชัยโรจน์ ศุภโชคเจริญวงศ์ สมาชิกสภาเทศบาล เขต 4, ผู้ได้รับเลือกเป็นเลขานุการสภาเทศบาล คือ นายศิระ จันทวร รองปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา และได้กำหนดสมัยประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ ประจำปี พ.ศ. 2568 และกำหนดสมัยประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยแรก ประจำปี พ.ศ. 2569 ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษกชั้น5 อาคารฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เทศบาลนครนครราชสีมา
    สภาเทศบาลนครนครราชสีมา ครั้งแรก เพื่อเลือกประธานสภา รองประธานสภา และเลขานุการสภาเทศบาลนครนคราชสีมา . นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมสภาเทศบาลนครราชสีมา ครั้งแรก เพื่อให้สมาชิกสภาเทศบาลนครนคราชสีมา ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ พร้อมทั้งเลือกตั้งประธานสภา รองประธานสภา เลขานุการสภาเทศบาลนครนครราชสีมา โดยผู้ได้รับเลือกเป็นประธานสภาคือ นายกายสิทธิ์ สุคนธรัตน์ สมาชิกสภาเทศบาล เขต 3 , ผู้ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาเทศบาล คือ นายชัยโรจน์ ศุภโชคเจริญวงศ์ สมาชิกสภาเทศบาล เขต 4, ผู้ได้รับเลือกเป็นเลขานุการสภาเทศบาล คือ นายศิระ จันทวร รองปลัดเทศบาลนครนครราชสีมา และได้กำหนดสมัยประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ ประจำปี พ.ศ. 2568 และกำหนดสมัยประชุมสภาเทศบาลนครนครราชสีมา สมัยสามัญ สมัยแรก ประจำปี พ.ศ. 2569 ณ ห้องประชุมกาญจนาภิเษกชั้น5 อาคารฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี เทศบาลนครนครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 353 Views 0 Reviews
  • ผ่านไปมากกว่า 48 ชั่วโมง จากเหตุการณ์โจมตีฐานทัพอากาศรัสเซียด้วยโดรนของยูเครน

    นี่คือความคิดเห็นแรกจากเจ้าหน้าที่ระดูบสูง "ดมีทรี เมดเวเดฟ" รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย:

    "ถึงทุกคนที่กังวลและรอการแก้แค้น

    เป็นเรื่องถูกต้องที่จะกังวล นั่นคือสิ่งที่คนปกติทำ การแก้แค้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะเดียวกัน อยากให้พวกเรารับรู้ไว้ด้วยว่า

    1.กองทัพของเรากำลังรุกคืบอย่างแข็งขัน และจะรุกคืบต่อไป สิ่งที่ควรระเบิดจะถูกทำลายอย่างแน่นอน และผู้ที่สมควรจะถูกกำจัดจะต้องหายไป

    2. การเจรจาในอิสตันบูลไม่จำเป็นจะต้องเกิดสันติภาพในแบบประนีประนอมภายใต้เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ที่ใครบางคนเพียงแค่คิดขึ้นมา

    ชัยชนะที่รวดเร็วของเรา และการทำลายล้างรัฐบาลนีโอนาซีให้สิ้นซาก นี่ต่างหากคือความหมายของบันทึกความเข้าใจของรัสเซียที่เผยแพร่เมื่อวานนี้"


    ผ่านไปมากกว่า 48 ชั่วโมง จากเหตุการณ์โจมตีฐานทัพอากาศรัสเซียด้วยโดรนของยูเครน นี่คือความคิดเห็นแรกจากเจ้าหน้าที่ระดูบสูง "ดมีทรี เมดเวเดฟ" รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย: "ถึงทุกคนที่กังวลและรอการแก้แค้น เป็นเรื่องถูกต้องที่จะกังวล นั่นคือสิ่งที่คนปกติทำ การแก้แค้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะเดียวกัน อยากให้พวกเรารับรู้ไว้ด้วยว่า 1.กองทัพของเรากำลังรุกคืบอย่างแข็งขัน และจะรุกคืบต่อไป สิ่งที่ควรระเบิดจะถูกทำลายอย่างแน่นอน และผู้ที่สมควรจะถูกกำจัดจะต้องหายไป 2. การเจรจาในอิสตันบูลไม่จำเป็นจะต้องเกิดสันติภาพในแบบประนีประนอมภายใต้เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ที่ใครบางคนเพียงแค่คิดขึ้นมา ชัยชนะที่รวดเร็วของเรา และการทำลายล้างรัฐบาลนีโอนาซีให้สิ้นซาก นี่ต่างหากคือความหมายของบันทึกความเข้าใจของรัสเซียที่เผยแพร่เมื่อวานนี้"
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • แนวคิด "เขตกันชน" ที่น่าสนใจของ ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย 
    แนวคิด "เขตกันชน" ที่น่าสนใจของ ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย 
    0 Comments 0 Shares 267 Views 0 Reviews
  • ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย  กล่าวถึงการยอมจำนนของยูเครน มีให้สองทางเลือก:

    1) ยูเครนควรเจรจาเพื่อทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย
    2) หรือเลือกสู้ต่อ แล้วยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไขในที่สุด ซึ่งรัสเซียชอบแนวทางนี้!!

    "รัสเซียเราพร้อมสำหรับการเจรจา แต่เขตแดนต้องเป็นไปตามความเป็นจริงของสถานการณ์ปัจจุบัน และตามข้อเสนอที่กำหนดไว้ ซึ่งการเจรจาดังกล่าวสามารถช่วยให้เห็นสันติภาพที่ยั่งยืนได้

    แต่เคียฟต้องจำไว้ว่า มีเส้นทางอื่นสำหรับระบอบเคียฟซึ่งเรากล่าวย้ำมาตลอดเช่นกัน นั่นคือเส้นทางของการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข หากพูดกันตามตรง พวกเราหลายคนในประเทศของเราชอบแบบนั้นมากกว่า" เมดเวเดฟกล่าว

    นอกจากนี้ เมดเวเดฟยังวิจารณ์กลุ่ม "พันธมิตรแห่งความเต็มใจ" (coalition of the willing) ที่นำโดยฝรั่งเศสและอังกฤษ ว่าเป็นพวก “นักการเมืองที่ไร้สมองแต่อวดดี!!” และการปรากฏตัวของกองกำลังเหล่านี้ในยูเครน จะถือว่าเป็นภัยคุกคามรัสเซีย ซึ่งจะกลายเป็นเป้าหมายทางทหารที่ถูกต้องตามกฎสงครามอีกด้วย
    ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย  กล่าวถึงการยอมจำนนของยูเครน มีให้สองทางเลือก: 1) ยูเครนควรเจรจาเพื่อทำข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย 2) หรือเลือกสู้ต่อ แล้วยอมจำนนโดยไม่มีเงื่อนไขในที่สุด ซึ่งรัสเซียชอบแนวทางนี้!! "รัสเซียเราพร้อมสำหรับการเจรจา แต่เขตแดนต้องเป็นไปตามความเป็นจริงของสถานการณ์ปัจจุบัน และตามข้อเสนอที่กำหนดไว้ ซึ่งการเจรจาดังกล่าวสามารถช่วยให้เห็นสันติภาพที่ยั่งยืนได้ แต่เคียฟต้องจำไว้ว่า มีเส้นทางอื่นสำหรับระบอบเคียฟซึ่งเรากล่าวย้ำมาตลอดเช่นกัน นั่นคือเส้นทางของการยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไข หากพูดกันตามตรง พวกเราหลายคนในประเทศของเราชอบแบบนั้นมากกว่า" เมดเวเดฟกล่าว นอกจากนี้ เมดเวเดฟยังวิจารณ์กลุ่ม "พันธมิตรแห่งความเต็มใจ" (coalition of the willing) ที่นำโดยฝรั่งเศสและอังกฤษ ว่าเป็นพวก “นักการเมืองที่ไร้สมองแต่อวดดี!!” และการปรากฏตัวของกองกำลังเหล่านี้ในยูเครน จะถือว่าเป็นภัยคุกคามรัสเซีย ซึ่งจะกลายเป็นเป้าหมายทางทหารที่ถูกต้องตามกฎสงครามอีกด้วย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 387 Views 21 0 Reviews
  • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง ที่ร่วมกับกรมสอบสวนพิเศษ(ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ออกหมายเรียก สว. เพิ่ม 10 ราย กรณีถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว สว. ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกหรือมีตำแหน่งทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย อาทิ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช, ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย, สว.จากนครศรีธรรมราช รวมถึงนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน และ นายนภิณทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ โดยปฏิบัติการครั้งนี้ใช้ชื่อหมายเรียกว่า "คนใน คนนอก พัวพัน สว." ซึ่งอนุกรรมการสืบสวนไต่สวน กกต. ทยอยออกหมายเรียกแล้วรวมของเดิมกว่า 140 คน

    -ว.และสหายฯ มอบตัวสู้คดี
    -13 มิ.ย.จุดเปลี่ยนการเมือง
    -วังวนขัดแย้ง 20 ปี
    -สหรัฐกุมไพ่ภาษี
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โดยคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง ที่ร่วมกับกรมสอบสวนพิเศษ(ดีเอสไอ) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ออกหมายเรียก สว. เพิ่ม 10 ราย กรณีถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว สว. ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกหรือมีตำแหน่งทางการเมืองของพรรคภูมิใจไทย อาทิ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช, ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย, สว.จากนครศรีธรรมราช รวมถึงนายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต สส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎรไทย แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน และ นายนภิณทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ โดยปฏิบัติการครั้งนี้ใช้ชื่อหมายเรียกว่า "คนใน คนนอก พัวพัน สว." ซึ่งอนุกรรมการสืบสวนไต่สวน กกต. ทยอยออกหมายเรียกแล้วรวมของเดิมกว่า 140 คน -ว.และสหายฯ มอบตัวสู้คดี -13 มิ.ย.จุดเปลี่ยนการเมือง -วังวนขัดแย้ง 20 ปี -สหรัฐกุมไพ่ภาษี
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 934 Views 29 0 Reviews
  • สัปปายะสภาสถาน หรือสัปปะรังเคสถาน กันแน่ว่ะ
    ผลาญภาษีเพื่อปกปิดความผิดที่ทิ้งไว้
    แถมรองประธานสภาที่เพิ่งแจ้งเกิด ดันเผยธาตุแท้ขานรับช่วยบริษัทเจ้านาย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    สัปปายะสภาสถาน หรือสัปปะรังเคสถาน กันแน่ว่ะ ผลาญภาษีเพื่อปกปิดความผิดที่ทิ้งไว้ แถมรองประธานสภาที่เพิ่งแจ้งเกิด ดันเผยธาตุแท้ขานรับช่วยบริษัทเจ้านาย #คิงส์โพธิ์แดง
    0 Comments 0 Shares 300 Views 5 0 Reviews
  • “เลขาฯ สภา” แจงที่มาของบมโหฬาร สร้าง-แก้ไขอาคารรัฐสภา เหตุบางส่วนต้องปรับปรุงให้เหมาะสมขึ้น ยันไฟเขียวผ่านวงประชุมร่วม “ประธาน-รองประธานสภา” เรียบร้อยแล้ว บอกโรงหนัง 4D เหมือนกับห้องสารทนเทศอู่ทองใน ใช้เวลาคนดูงาน มีจอ-ทางต่างระดับ เลยต้องทำห้องเฉพาะ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041697

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “เลขาฯ สภา” แจงที่มาของบมโหฬาร สร้าง-แก้ไขอาคารรัฐสภา เหตุบางส่วนต้องปรับปรุงให้เหมาะสมขึ้น ยันไฟเขียวผ่านวงประชุมร่วม “ประธาน-รองประธานสภา” เรียบร้อยแล้ว บอกโรงหนัง 4D เหมือนกับห้องสารทนเทศอู่ทองใน ใช้เวลาคนดูงาน มีจอ-ทางต่างระดับ เลยต้องทำห้องเฉพาะ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000041697 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    1 Comments 0 Shares 654 Views 0 Reviews
More Results