• กำแพงเมืองไทย เป็นไปได้แค่ไหน?

    ท่าทีของ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สนับสนุนให้กองทัพบกสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีเสียงตอบรับที่ดีจากสังคม หลังจากได้ให้ พล.อ.มนัส จันดี เสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และสื่อสารออกมาอย่างชัดเจนว่า พื้นที่ตรงนั้นคือดินแดนของไทย จะต้องมีการสร้างกำแพงที่แข็งแรง เพื่อปกป้องประชาชน และปกป้องการรุกรานจากฝ่ายตรงข้าม โดยยืนยันว่าตนเองจะสนับสนุนทุกการกระทำของกองทัพบกอย่างแน่นอน

    การสร้างกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ชายแดนด้าน จ.สระแก้ว 165 กิโลเมตร หน่วยงานความมั่นคงเคยเสนอนายภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สร้างกำแพง ที่ผ่านมามีการวางลวดหนามแล้ว 55 กิโลเมตร ที่เหลือเป็นช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมในการหลบหนีเข้าเมือง หน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถตรวจการณ์ได้ตลอดเวลา แต่ขณะนั้นยังไม่มีการสร้างเพราะเห็นว่ายังเร็วเกินไป ต้องศึกษารูปแบบแนวทางภายใต้พื้นที่ที่ชัดเจน ที่ต้องไม่ติดพื้นที่ที่ทับซ้อนกัน รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบของคนทั้งสองประเทศ

    ครั้งหนึ่ง โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยสั่งการให้คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติมแนวคิดสร้างกำแพงระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลักลอบค้ายาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย แต่แล้วข่าวคราวก็เงียบหายไป ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอสร้างกำแพงคอนกรีตตามแนวชายแดนในจุดที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง เพื่อยกระดับการป้องกันอย่างถาวร

    เขตแดนไทย-กัมพูชามีความยาว 798 กิโลเมตร แยกเป็นตามสันปันน้ำและแนวเส้นตรง 590 กิโลเมตร กับร่องน้ำลึกและลำน้ำอีก 208 กิโลเมตร มีการจัดทำหลักเขตแดนสยาม-เขมรไปแล้ว 73 หลัก ตั้งแต่ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก จ.ตราด แต่อีก 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำถึงช่องบก จ.อุบลราชธานี แม้ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 จะยึดหลักสันปันน้ำจากตีนภูเขาดงรัก แต่ไทยและกัมพูชากลับใช้แผนที่คนละฉบับกัน และกัมพูชาฟ้องศาลโลก

    หากจะมีการสร้างกำแพงขึ้นจริง นอกจากจะต้องใช้งบประมาณมหาศาลแล้ว ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าหลักเขตแดนเคลื่อนย้ายไปในดินแดนของตน ต้องใช้กลไกทวิภาคีอย่างคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) แก้ไขปัญหา อีกทั้งยังต้องศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน ก่อนที่จะดำเนินโครงการ ซึ่งจากความสัมพันธ์ที่ยังระหองระแหง การจะได้เห็นกำแพงเมืองไทยที่มั่นคงแข็งแรงจึงยังเป็นไปได้ยากในขณะนี้

    #Newskit
    กำแพงเมืองไทย เป็นไปได้แค่ไหน? ท่าทีของ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด สนับสนุนให้กองทัพบกสร้างรั้วตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีเสียงตอบรับที่ดีจากสังคม หลังจากได้ให้ พล.อ.มนัส จันดี เสนาธิการทหาร ลงพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และสื่อสารออกมาอย่างชัดเจนว่า พื้นที่ตรงนั้นคือดินแดนของไทย จะต้องมีการสร้างกำแพงที่แข็งแรง เพื่อปกป้องประชาชน และปกป้องการรุกรานจากฝ่ายตรงข้าม โดยยืนยันว่าตนเองจะสนับสนุนทุกการกระทำของกองทัพบกอย่างแน่นอน การสร้างกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ชายแดนด้าน จ.สระแก้ว 165 กิโลเมตร หน่วยงานความมั่นคงเคยเสนอนายภูมิธรรม เวชยชัย ขณะเป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สร้างกำแพง ที่ผ่านมามีการวางลวดหนามแล้ว 55 กิโลเมตร ที่เหลือเป็นช่องทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมในการหลบหนีเข้าเมือง หน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถตรวจการณ์ได้ตลอดเวลา แต่ขณะนั้นยังไม่มีการสร้างเพราะเห็นว่ายังเร็วเกินไป ต้องศึกษารูปแบบแนวทางภายใต้พื้นที่ที่ชัดเจน ที่ต้องไม่ติดพื้นที่ที่ทับซ้อนกัน รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบของคนทั้งสองประเทศ ครั้งหนึ่ง โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยสั่งการให้คณะรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาเพิ่มเติมแนวคิดสร้างกำแพงระหว่างไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลักลอบค้ายาเสพติดและสินค้าผิดกฎหมาย แต่แล้วข่าวคราวก็เงียบหายไป ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เสนอสร้างกำแพงคอนกรีตตามแนวชายแดนในจุดที่เกิดเหตุบ่อยครั้ง เพื่อยกระดับการป้องกันอย่างถาวร เขตแดนไทย-กัมพูชามีความยาว 798 กิโลเมตร แยกเป็นตามสันปันน้ำและแนวเส้นตรง 590 กิโลเมตร กับร่องน้ำลึกและลำน้ำอีก 208 กิโลเมตร มีการจัดทำหลักเขตแดนสยาม-เขมรไปแล้ว 73 หลัก ตั้งแต่ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก จ.ตราด แต่อีก 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำถึงช่องบก จ.อุบลราชธานี แม้ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 จะยึดหลักสันปันน้ำจากตีนภูเขาดงรัก แต่ไทยและกัมพูชากลับใช้แผนที่คนละฉบับกัน และกัมพูชาฟ้องศาลโลก หากจะมีการสร้างกำแพงขึ้นจริง นอกจากจะต้องใช้งบประมาณมหาศาลแล้ว ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าหลักเขตแดนเคลื่อนย้ายไปในดินแดนของตน ต้องใช้กลไกทวิภาคีอย่างคณะกรรมการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) แก้ไขปัญหา อีกทั้งยังต้องศึกษาผลกระทบอย่างรอบด้าน ก่อนที่จะดำเนินโครงการ ซึ่งจากความสัมพันธ์ที่ยังระหองระแหง การจะได้เห็นกำแพงเมืองไทยที่มั่นคงแข็งแรงจึงยังเป็นไปได้ยากในขณะนี้ #Newskit
    1 Comments 0 Shares 273 Views 0 Reviews
  • รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นโยบายคุณหลอกดาวซ้ำสอง

    ท่ามกลางความไม่แน่นอนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะตายแหล่ ไม่ตายแหล่ จากคดีคลิปเสียงอังเคิลในศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาในวันที่ 29 ส.ค.นี้ แม้รัฐบาลถูลู่ถูกังเปิดให้ลงทะเบียนผูกบัตร EMV (บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรพรีเพด) และบัตรแรบบิท (Rabbit) เพื่อรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" โดยมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนมากกว่า 2 แสนคนในระยะเวลา 2 วัน แต่แล้วคนกรุงฯ ต้องฝันสลาย เมื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยอมรับแล้วว่าดำเนินโครงการไม่ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ต้องจ่ายราคาเดิมไปก่อน

    สาเหตุหลักมาจากกฎหมาย 2 ฉบับที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ดึงเงินสะสมและรายได้ชดเชย มาใช้กับโครงการนี้ และร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ที่แก้ไขโดยเปิดช่องให้กู้เงินจากกระทรวงการคลังได้ เพราะรายได้จาก รฟม. ต้องส่งเข้ากระทรวงการคลัง จะเปลี่ยนไปเข้ากองทุนตั๋วร่วมฯ ทำไม่ได้เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจ ปรากฎว่าสภาผู้แทนราษฎร เจอปัญหาองค์ประชุมเพราะเสียงในสภาปริ่มน้ำบ่อยครั้ง แถมเมื่อรัฐบาลสอบถามกฤษฎีกาว่าจะเอางบกลางมาใช้หรือไม่ กฤษฎีกาก็ตอบว่าทำไม่ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน

    สิ่งเดียวที่ทำได้ของรัฐบาล คือถูฝ่ามือรอให้กฎหมายทั้งสองฉบับผ่านที่ประชุมสภาฯ ก่อน โดยใช้โฆษกพรรค สมาชิกพรรค และสื่อบางส่วนคอยตะล่อม โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน หากผ่านด่านแรกไปได้ ส่งต่อด่านสองให้วุฒิสภา ซึ่งรู้กันอยู่ว่าเป็นขั้วการเมืองตรงข้ามพรรคเพื่อไทยคุมเสียงในสภาสูง แม้จะผ่านกฎหมายแล้ว ยังต้องออกกฎหมายลูกที่ต้องรับฟังความคิดเห็นอีก 15 วัน นายสุริยะจะเสนอคณะรัฐมนตรี ไม่ต้องจัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้เร็วขึ้น อ้างว่านโยบายเป็นบวกกับประชาชน ตั้งเป้าว่าจะดำเนินโครงการได้ในช่วงกลางเดือน พ.ย.2568 ถึงกระนั้น จากคดีคลิปเสียงก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะยังอยู่หรือไม่

    หากรัฐบาลแพทองธารต้องยุติลงและเปลี่ยนขั้วอำนาจรัฐบาล นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเคลมว่าเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทย สังคมจะเกิดความรู้สึกรอเก้อเหมือนถูกหลอก ไม่ต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐมากถึง 36 ล้านคน แต่สุดท้ายได้แต่โอนเงินพร้อมเพย์แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปราะบาง ก่อนพับโครงการ โดยอ้างว่าต้องนำเงินไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือมาตรการภาษีขาเข้า (Tariff) จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา

    #Newskit
    รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย นโยบายคุณหลอกดาวซ้ำสอง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะตายแหล่ ไม่ตายแหล่ จากคดีคลิปเสียงอังเคิลในศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ชะตาในวันที่ 29 ส.ค.นี้ แม้รัฐบาลถูลู่ถูกังเปิดให้ลงทะเบียนผูกบัตร EMV (บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือบัตรพรีเพด) และบัตรแรบบิท (Rabbit) เพื่อรับสิทธิ์รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" โดยมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนมากกว่า 2 แสนคนในระยะเวลา 2 วัน แต่แล้วคนกรุงฯ ต้องฝันสลาย เมื่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยอมรับแล้วว่าดำเนินโครงการไม่ทันวันที่ 1 ต.ค.นี้ ต้องจ่ายราคาเดิมไปก่อน สาเหตุหลักมาจากกฎหมาย 2 ฉบับที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ดึงเงินสะสมและรายได้ชดเชย มาใช้กับโครงการนี้ และร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ที่แก้ไขโดยเปิดช่องให้กู้เงินจากกระทรวงการคลังได้ เพราะรายได้จาก รฟม. ต้องส่งเข้ากระทรวงการคลัง จะเปลี่ยนไปเข้ากองทุนตั๋วร่วมฯ ทำไม่ได้เพราะเป็นรัฐวิสาหกิจ ปรากฎว่าสภาผู้แทนราษฎร เจอปัญหาองค์ประชุมเพราะเสียงในสภาปริ่มน้ำบ่อยครั้ง แถมเมื่อรัฐบาลสอบถามกฤษฎีกาว่าจะเอางบกลางมาใช้หรือไม่ กฤษฎีกาก็ตอบว่าทำไม่ได้ เพราะไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน สิ่งเดียวที่ทำได้ของรัฐบาล คือถูฝ่ามือรอให้กฎหมายทั้งสองฉบับผ่านที่ประชุมสภาฯ ก่อน โดยใช้โฆษกพรรค สมาชิกพรรค และสื่อบางส่วนคอยตะล่อม โดยอ้างว่าทำเพื่อประชาชน หากผ่านด่านแรกไปได้ ส่งต่อด่านสองให้วุฒิสภา ซึ่งรู้กันอยู่ว่าเป็นขั้วการเมืองตรงข้ามพรรคเพื่อไทยคุมเสียงในสภาสูง แม้จะผ่านกฎหมายแล้ว ยังต้องออกกฎหมายลูกที่ต้องรับฟังความคิดเห็นอีก 15 วัน นายสุริยะจะเสนอคณะรัฐมนตรี ไม่ต้องจัดรับฟังความคิดเห็นเพื่อให้เร็วขึ้น อ้างว่านโยบายเป็นบวกกับประชาชน ตั้งเป้าว่าจะดำเนินโครงการได้ในช่วงกลางเดือน พ.ย.2568 ถึงกระนั้น จากคดีคลิปเสียงก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลจะยังอยู่หรือไม่ หากรัฐบาลแพทองธารต้องยุติลงและเปลี่ยนขั้วอำนาจรัฐบาล นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งเคลมว่าเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทย สังคมจะเกิดความรู้สึกรอเก้อเหมือนถูกหลอก ไม่ต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐมากถึง 36 ล้านคน แต่สุดท้ายได้แต่โอนเงินพร้อมเพย์แก่กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และกลุ่มเปราะบาง ก่อนพับโครงการ โดยอ้างว่าต้องนำเงินไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อรับมือมาตรการภาษีขาเข้า (Tariff) จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา #Newskit
    1 Comments 0 Shares 270 Views 0 Reviews
  • ไม่ชัดเลิก MOU 43-44 อย่าสงสัยอะไรมาก : [THE MESSAGE]
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยถึงข้อเสนอของฝ่ายค้านต่อการยกเลิก MOU 43-44 อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไร รัฐบาลไม่มีอะไรแอบแฝง หากพูดในสาธารณะคนก็รู้หมด อะไรที่เป็นประโยชน์ไม่เป็นประโยชน์แค่ไหนต้องคุยกัน อยากให้มาจะคุยกับตนหรือกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของใคร เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ คือจุดยืนที่จะไม่ยอมเสียอธิปไตย อยากรู้รายละเอียดลึกๆ ให้มาถาม อย่าถามหน้าสื่อ ส่วนจุดยืนของรัฐบาลต่อ MOU 43-44 หลักการของเราคิดว่าได้ประโยชน์สูงสุด เป็นเรื่องของสภาฯ อย่าเอาเรื่องสภาฯมาถาม ผมตอบแทนไม่ได้ ส่วนที่สภาฯ ชิงปิดประชุมก่อนพิจารณาเรื่อง MOU 43-44 ว่ากันตามวาระ ไม่ใช่จะใส่วาระที่ไม่มีเข้าไปได้ ไม่มีอะไรแปลก อย่าสงสัยอะไรมาก ยืนยัน จ่ายชดเชยประชาชนที่ได้รับผลกระทบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตามระเบียบเดิม ทำได้ดีกว่าทุกรัฐบาล ขอให้ทำใจเรื่องเขตแดนไม่ได้จบง่ายๆ
    ไม่ชัดเลิก MOU 43-44 อย่าสงสัยอะไรมาก : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยถึงข้อเสนอของฝ่ายค้านต่อการยกเลิก MOU 43-44 อย่าเพิ่งตัดสินใจอะไร รัฐบาลไม่มีอะไรแอบแฝง หากพูดในสาธารณะคนก็รู้หมด อะไรที่เป็นประโยชน์ไม่เป็นประโยชน์แค่ไหนต้องคุยกัน อยากให้มาจะคุยกับตนหรือกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ผลประโยชน์ของใคร เป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ คือจุดยืนที่จะไม่ยอมเสียอธิปไตย อยากรู้รายละเอียดลึกๆ ให้มาถาม อย่าถามหน้าสื่อ ส่วนจุดยืนของรัฐบาลต่อ MOU 43-44 หลักการของเราคิดว่าได้ประโยชน์สูงสุด เป็นเรื่องของสภาฯ อย่าเอาเรื่องสภาฯมาถาม ผมตอบแทนไม่ได้ ส่วนที่สภาฯ ชิงปิดประชุมก่อนพิจารณาเรื่อง MOU 43-44 ว่ากันตามวาระ ไม่ใช่จะใส่วาระที่ไม่มีเข้าไปได้ ไม่มีอะไรแปลก อย่าสงสัยอะไรมาก ยืนยัน จ่ายชดเชยประชาชนที่ได้รับผลกระทบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ตามระเบียบเดิม ทำได้ดีกว่าทุกรัฐบาล ขอให้ทำใจเรื่องเขตแดนไม่ได้จบง่ายๆ
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 449 Views 0 0 Reviews
  • น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ

    ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน”

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์

    แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง
    โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา
    กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์
    วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย
    ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ
    ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่
    ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน
    สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน
    โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง
    ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น
    ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ
    การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน
    การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน
    การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง

    https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    🕵️‍♂️ น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน” ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์ แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง ➡️ โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา ➡️ กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์ ➡️ วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย ➡️ ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ ➡️ ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง ➡️ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่ ➡️ ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน ➡️ สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน ➡️ โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง ➡️ ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น ➡️ ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ ➡️ การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน ➡️ การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน ➡️ การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Russia-linked European attacks renew concerns over water cybersecurity
    Suspected sabotage in Norway and a foiled cyberattack in Poland highlight the growing risk to under-protected water utilities, experts warn.
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เรื่องของคนโคตรรวย (สาขาไทย)
    นิทานเรื่องจริง้รื่อง ” มายากลยุทธ ”
    ตอนที่ 5 : เรื่องของคนโคตรรวย (สาขาประเทศไทย ! ?)
    คงมีคนอยากรู้ ว่าแล้วมีสมันน้อยได้รับเชิญ เข้าไปร่วมใน สมาคมคนรวยผู้มีอิทธิพล Trilateral Commission กันบ้างไหมหนอ แหม!
    ไม่อยากบอกเลย เดี๋ยวจะหาว่าคนเล่านิทานเล่นไม่เลิก นี่ก็ว่าตามเอกสารนะ
    ก็มีล่ะซี ดูจากรายชื่อสมาชิกสมาคมคนรวยผู้มีอิทธิพล Trilateral Commission ปี ค.ศ. 2010 ปรากฎมีคนไทย 4 ราย บางชื่อ ไม่น่าเดากันผิด (555)
    1. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานธนาคาร Exim แห่งประเทศไทย
    2. มรว. เกษมสโมสร เกษมศรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดกระทรวง ต่างประเทศ
    3. นายอานันท์ ปันยารชุน
    4. นายสารสิน วีระผล
    ชื่อที่ 3 คงไม่ต้องเขียนบรรยายสรรพคุณกันแล้ว ท่านผู้อ่านที่เคยอ่าน นิทานเรื่องจริง เรื่องจิกโก๋ปากซอย คิดเอาเองได้ คนอ่านนิทานฉลาดกันทั้งนั้น
    แต่ชื่อที่ 4 นายสารสิน วีระผล นี่เป็นใคร มาได้ยังไง ตอบสั้น ว่าไม่รู้ แต่มีเอกสารน่าสนใจเกี่ยวกับนายสารสิน อ่านกันแล้ว ไม่รู้จะเห็นคำตอบกันหรือเปล่า
    อย่างที่เคยเล่าไว้ในนิทานจิกโก๋ปากซอย อเมริกาเมินไทยแลนด์ สมันน้อยไปนาน หลังจากสงครามเวียตนามเลิก จะกลับเข้ามาใหม่ ก็ต้องเริ่มกระชับมิตรกับบรรดานักวิ่งผลัด พี่ทหารที่รักทั้งหลาย ดังนั้นในปี ค.ศ. 2010 ช่วงที่อาเฮียแผ่นดินใหญ่ กำลังรวยเอา รวยเอา ท่านแม่ทัพภาค 7 แห่งกองทัพเรืออเมริกัน ที่ประจำอยู่ที่ฐานทัพอเมริกาที่โอกินาวา ทนไม่ไหวต้องรีบนั่งเรือรบมาเช็คว่าบรรดานักวิ่งผลัด ยังอยู่ในกระเป๋าเหมือนเดิมหรือเปล่า
    ที่จะเล่าต่อไปนี้ อภินันทนาการจาก การทำหล่นของ Wikileaks อ่านกันเพลินดี
    “เรื่อง Admiral Willard มาเยือนประเทศไทย
    รายงานเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010
    โดย เอกอัครราชทูต Eric G. John
    สรุปย่อ ๆ ว่า ท่านนายพล Willard ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรืออเมริกา ประจำภาคพื้นแปซิฟิก ได้มาเยี่ยมประเทศไทย เมื่อระหว่างวันที่ 2 ถึง 7 ธันวาคม ค.ศ. 2010 และได้มีการหารือกับผู้นำฝ่ายไทย ฝ่ายไทยยืนยันว่า จะให้ความร่วมมือกับกองทัพอเมริกัน และถือว่าความช่วยเหลือของอเมริกาทางการทหารเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง และเป็นการดุลอำนาจในภูมิภาคนี้
    ผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายอเมริกา คือ
    – Admiral Willard
etc
    ผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายไทย
    – นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ เวชาชีวะ
    – รมว.กลาโหม ประวิตร วงศ์สุวรรณ
    – รมว.ตปท. กษิต ภิรมย์
    – ผบ.สส ทรงกิตติ จักกาบาตร์
    นอกจากนี้ Admiral Willard ยังได้หารือกับ ผบ.ทบ อนุพงศ์ เผ่าจินดา รองผบ.ทบ ประยุทธ์ จันท์โอชา รองเลขาธิการ นายก อภิสิทธิ และโฆษกรัฐบาล ดร.ปณิธาน วัฒนายากร รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ซีพี และอดีตนักการทูตระดับสูง นายสารสิน วีระผล และผู้ช่วยบรรณาธิการกลุ่ม Nation Multimedia กวี จงกิจถาวร”
    เขาคุยกันเรื่องการทหาร มีนายกรัฐมนตรีกับนายทหารเข้าร่วมประชุม
กรณี ดร.ปณิธาน นั่นไม่แปลก เพราะเป็นผู้เกี่ยวข้องของรัฐบาลไทย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ
กรณีนายกวี แปลก แต่ยังพออธิบายได้ว่าเป็นสื่อ แต่ทำไมต้องเป็นสื่อนี้ และคนนี้ วันหลังต้องหาคำตอบมาแก้ข้อข้องใจ (คนเล่านิทาน)
แต่กรณีที่หาคำอธิบายไม่ได้คือ นายสารสิน วีระผล แห่งซีพีกรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจขายอาหารและเมล็ดพันธ์ุพืช และอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งเป็นเจ้าของโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมาย (ถ้าท่านใดเคยอ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องจิกโก๋ปากซอย คงพอจำเรื่องนี้ได้นะ ถ้าไม่เคยอ่าน ก็น่าจะกลับไปอ่านกันหน่อย บางเรื่องมันต่อกัน เดี๋ยวเห็นภาพไม่ชัด) แล้วนายสารสิน มาเกี่ยวอะไรด้วยในการสนทนา ! ? !
    เอกสาร Wikileaks นี้ ทำหล่นมา2,3 ปีแล้ว ตอนที่อ่านเอกสาร เห็นชื่อนี้ก็แปลกใจ แต่พอเริ่มเขียนนิทานเรื่องนี้ และไปค้นเอกสารที่เกี่ยวข้อง เจอรายชื่อนี้ ว่าอยู่ใน Trilateral Commission ก็เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่แล้ว และยิ่งท่านผู้อ่านนิทาน อ่านนิทานเรื่องนี้ต่อไป อาจหายแปลกใจ แต่จะเปลี่ยนเป็นตกใจเลย หรือไม่ก็ดูกันไปแล้วกัน
    สำหรับชื่อหมายเลข 1 นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ได้ลองค้นประวัติดู ได้ความว่าจบ
เศรษฐศาสตร์ ปริญญาเอก จาก John Hopkins มหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา ผ่านงานมาสารพัด ทั้งด้านธุรกิจและการเงิน เคยดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงพาณิชย์ และเป็นกรรมการนโยบายการเงิน (กนอ.) และอื่นๆ ยาวเหยียดเขียนไม่ไหว แต่ที่น่าสนใจ คือ เป็นผู้จัดทำการวิจัยแนวนโยบายอุตสาหกรรมและการค้า ซึ่งจะกำหนดในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2535 – 2539)
    สำหรับหมายเลข 2 มรว.เกษมสโมสร เกษมศรี เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ.2518 – 2522 (คนแรก) และตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน อเมริกา พ.ศ.2525 – 2529
    ส่วนนายสารสิน วีระผล นั้น เคยรับราชการกระทรวงต่างประเทศ ประจำสถานฑูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง พ.ศ.2522 – 2524 ประจำสถานฑูตไทย ณ กรุงโตเกียว พ.ศ.2529 – 2531 และเป็นเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงมนิลา พ.ศ.2535 – 2538
    สำหรับหมายเลข 3 นายอานันท์ ปันยารชุน คงไม่ต้องการคำอธิบายกันมาก

    คนเล่านิทาน
    มายากลยุทธ ภาค 1 ตอน เรื่องของคนโคตรรวย (สาขาไทย) นิทานเรื่องจริง้รื่อง ” มายากลยุทธ ” ตอนที่ 5 : เรื่องของคนโคตรรวย (สาขาประเทศไทย ! ?) คงมีคนอยากรู้ ว่าแล้วมีสมันน้อยได้รับเชิญ เข้าไปร่วมใน สมาคมคนรวยผู้มีอิทธิพล Trilateral Commission กันบ้างไหมหนอ แหม! ไม่อยากบอกเลย เดี๋ยวจะหาว่าคนเล่านิทานเล่นไม่เลิก นี่ก็ว่าตามเอกสารนะ ก็มีล่ะซี ดูจากรายชื่อสมาชิกสมาคมคนรวยผู้มีอิทธิพล Trilateral Commission ปี ค.ศ. 2010 ปรากฎมีคนไทย 4 ราย บางชื่อ ไม่น่าเดากันผิด (555) 1. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานธนาคาร Exim แห่งประเทศไทย 2. มรว. เกษมสโมสร เกษมศรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตปลัดกระทรวง ต่างประเทศ 3. นายอานันท์ ปันยารชุน 4. นายสารสิน วีระผล ชื่อที่ 3 คงไม่ต้องเขียนบรรยายสรรพคุณกันแล้ว ท่านผู้อ่านที่เคยอ่าน นิทานเรื่องจริง เรื่องจิกโก๋ปากซอย คิดเอาเองได้ คนอ่านนิทานฉลาดกันทั้งนั้น แต่ชื่อที่ 4 นายสารสิน วีระผล นี่เป็นใคร มาได้ยังไง ตอบสั้น ว่าไม่รู้ แต่มีเอกสารน่าสนใจเกี่ยวกับนายสารสิน อ่านกันแล้ว ไม่รู้จะเห็นคำตอบกันหรือเปล่า อย่างที่เคยเล่าไว้ในนิทานจิกโก๋ปากซอย อเมริกาเมินไทยแลนด์ สมันน้อยไปนาน หลังจากสงครามเวียตนามเลิก จะกลับเข้ามาใหม่ ก็ต้องเริ่มกระชับมิตรกับบรรดานักวิ่งผลัด พี่ทหารที่รักทั้งหลาย ดังนั้นในปี ค.ศ. 2010 ช่วงที่อาเฮียแผ่นดินใหญ่ กำลังรวยเอา รวยเอา ท่านแม่ทัพภาค 7 แห่งกองทัพเรืออเมริกัน ที่ประจำอยู่ที่ฐานทัพอเมริกาที่โอกินาวา ทนไม่ไหวต้องรีบนั่งเรือรบมาเช็คว่าบรรดานักวิ่งผลัด ยังอยู่ในกระเป๋าเหมือนเดิมหรือเปล่า ที่จะเล่าต่อไปนี้ อภินันทนาการจาก การทำหล่นของ Wikileaks อ่านกันเพลินดี “เรื่อง Admiral Willard มาเยือนประเทศไทย รายงานเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 โดย เอกอัครราชทูต Eric G. John สรุปย่อ ๆ ว่า ท่านนายพล Willard ซึ่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรืออเมริกา ประจำภาคพื้นแปซิฟิก ได้มาเยี่ยมประเทศไทย เมื่อระหว่างวันที่ 2 ถึง 7 ธันวาคม ค.ศ. 2010 และได้มีการหารือกับผู้นำฝ่ายไทย ฝ่ายไทยยืนยันว่า จะให้ความร่วมมือกับกองทัพอเมริกัน และถือว่าความช่วยเหลือของอเมริกาทางการทหารเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง และเป็นการดุลอำนาจในภูมิภาคนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายอเมริกา คือ – Admiral Willard
etc ผู้เข้าร่วมประชุมฝ่ายไทย – นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ เวชาชีวะ – รมว.กลาโหม ประวิตร วงศ์สุวรรณ – รมว.ตปท. กษิต ภิรมย์ – ผบ.สส ทรงกิตติ จักกาบาตร์ นอกจากนี้ Admiral Willard ยังได้หารือกับ ผบ.ทบ อนุพงศ์ เผ่าจินดา รองผบ.ทบ ประยุทธ์ จันท์โอชา รองเลขาธิการ นายก อภิสิทธิ และโฆษกรัฐบาล ดร.ปณิธาน วัฒนายากร รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ซีพี และอดีตนักการทูตระดับสูง นายสารสิน วีระผล และผู้ช่วยบรรณาธิการกลุ่ม Nation Multimedia กวี จงกิจถาวร” เขาคุยกันเรื่องการทหาร มีนายกรัฐมนตรีกับนายทหารเข้าร่วมประชุม
กรณี ดร.ปณิธาน นั่นไม่แปลก เพราะเป็นผู้เกี่ยวข้องของรัฐบาลไทย และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ
กรณีนายกวี แปลก แต่ยังพออธิบายได้ว่าเป็นสื่อ แต่ทำไมต้องเป็นสื่อนี้ และคนนี้ วันหลังต้องหาคำตอบมาแก้ข้อข้องใจ (คนเล่านิทาน)
แต่กรณีที่หาคำอธิบายไม่ได้คือ นายสารสิน วีระผล แห่งซีพีกรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจขายอาหารและเมล็ดพันธ์ุพืช และอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งเป็นเจ้าของโทรศัพท์ 2 ล้านเลขหมาย (ถ้าท่านใดเคยอ่านนิทานเรื่องจริง เรื่องจิกโก๋ปากซอย คงพอจำเรื่องนี้ได้นะ ถ้าไม่เคยอ่าน ก็น่าจะกลับไปอ่านกันหน่อย บางเรื่องมันต่อกัน เดี๋ยวเห็นภาพไม่ชัด) แล้วนายสารสิน มาเกี่ยวอะไรด้วยในการสนทนา ! ? ! เอกสาร Wikileaks นี้ ทำหล่นมา2,3 ปีแล้ว ตอนที่อ่านเอกสาร เห็นชื่อนี้ก็แปลกใจ แต่พอเริ่มเขียนนิทานเรื่องนี้ และไปค้นเอกสารที่เกี่ยวข้อง เจอรายชื่อนี้ ว่าอยู่ใน Trilateral Commission ก็เลยไม่แปลกใจเท่าไหร่แล้ว และยิ่งท่านผู้อ่านนิทาน อ่านนิทานเรื่องนี้ต่อไป อาจหายแปลกใจ แต่จะเปลี่ยนเป็นตกใจเลย หรือไม่ก็ดูกันไปแล้วกัน สำหรับชื่อหมายเลข 1 นายณรงค์ชัย อัครเศรณี ได้ลองค้นประวัติดู ได้ความว่าจบ
เศรษฐศาสตร์ ปริญญาเอก จาก John Hopkins มหาวิทยาลัยชั้นนำของอเมริกา ผ่านงานมาสารพัด ทั้งด้านธุรกิจและการเงิน เคยดำรงตำแหน่ง รมว.กระทรวงพาณิชย์ และเป็นกรรมการนโยบายการเงิน (กนอ.) และอื่นๆ ยาวเหยียดเขียนไม่ไหว แต่ที่น่าสนใจ คือ เป็นผู้จัดทำการวิจัยแนวนโยบายอุตสาหกรรมและการค้า ซึ่งจะกำหนดในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2535 – 2539) สำหรับหมายเลข 2 มรว.เกษมสโมสร เกษมศรี เคยดำรงตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ประจำสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ.2518 – 2522 (คนแรก) และตำแหน่งเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน อเมริกา พ.ศ.2525 – 2529 ส่วนนายสารสิน วีระผล นั้น เคยรับราชการกระทรวงต่างประเทศ ประจำสถานฑูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง พ.ศ.2522 – 2524 ประจำสถานฑูตไทย ณ กรุงโตเกียว พ.ศ.2529 – 2531 และเป็นเอกอัครราชฑูตไทย ประจำกรุงมนิลา พ.ศ.2535 – 2538 สำหรับหมายเลข 3 นายอานันท์ ปันยารชุน คงไม่ต้องการคำอธิบายกันมาก คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 263 Views 0 Reviews
  • เปิดทางฟ้องกัมพูชา อาชญากรสงคราม : [THE MESSAGE]

    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีเสียงเรียกร้องให้ฟ้องกัมพูชากับศาลอาญาระหว่างประเทศ(ICC) ในข้อหาอาชญากรสงคราม การฟ้องร้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเงื่อนไข เป็นเรื่องของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพ ร่วมกันพิจารณา หากทำได้ก็ต้องทำ แต่ตอนนี้เราเริ่มตรงนี้ ยังเป็นเรื่องภายในประเทศ โดยดูความเสียหายที่เกิดขึ้น และดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมที่มี ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาชดเชยพิเศษให้บางกลุ่ม ได้สั่งการไปแล้ว ต้องระมัดระวังว่าจะมีผลผูกพันอะไร การเยียวยาเพิ่มต้องหาจุดที่เหมาะสม ซึ่งกำลังพิจารณา
    เปิดทางฟ้องกัมพูชา อาชญากรสงคราม : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีเสียงเรียกร้องให้ฟ้องกัมพูชากับศาลอาญาระหว่างประเทศ(ICC) ในข้อหาอาชญากรสงคราม การฟ้องร้องขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และเงื่อนไข เป็นเรื่องของสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพ ร่วมกันพิจารณา หากทำได้ก็ต้องทำ แต่ตอนนี้เราเริ่มตรงนี้ ยังเป็นเรื่องภายในประเทศ โดยดูความเสียหายที่เกิดขึ้น และดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมที่มี ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาชดเชยพิเศษให้บางกลุ่ม ได้สั่งการไปแล้ว ต้องระมัดระวังว่าจะมีผลผูกพันอะไร การเยียวยาเพิ่มต้องหาจุดที่เหมาะสม ซึ่งกำลังพิจารณา
    Like
    Haha
    Sad
    3
    1 Comments 0 Shares 385 Views 0 0 Reviews
  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีฝ่ายกัมพูชาใช้มวลชนกดดันปลุกปั่นยั่วยุทหารไทยแนวชายแดน ต้องรอให้มีการพูดคุย การพูดคุยเรื่องเขตแดนไม่ได้จบเพียงครั้งเดียว หากกัมพูชาบุกรุกมาเราก็ต้องยืนยันในพื้นที่ของเรา ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค(RBC) ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่กัมพูชาขอเลื่อนจากวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 จะถูกบันทึกเรื่อยๆ ว่ากัมพูชาร่วมมือหรือไม่ ยังมีการประชุมอีกหลายระดับ ทั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(JBC) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(GBC) ส่วนกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 ที่มีชาวกัมพูชาอพยพมาสร้างหมู่บ้าน ไม่ยอมออกจากพื้นที่ ตามข้อตกลงหยุดยิงคือ ใครอยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น ซึ่งจะต้องพูดคุยอีกครั้ง ตอนนี้วางแนวรั้วลวดหนามแล้ว ชาวกัมพูชาไม่สามารถเข้ามาได้

    -พร้อมสอบซื้อ สส. 10 กิโล
    -นอมินีศูนย์เหรียญทุบไทย
    -ยกเลิกใบอนุโมทนาลดภาษี
    -หวังนักท่องเที่ยวดันเศรษฐกิจ
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีฝ่ายกัมพูชาใช้มวลชนกดดันปลุกปั่นยั่วยุทหารไทยแนวชายแดน ต้องรอให้มีการพูดคุย การพูดคุยเรื่องเขตแดนไม่ได้จบเพียงครั้งเดียว หากกัมพูชาบุกรุกมาเราก็ต้องยืนยันในพื้นที่ของเรา ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค(RBC) ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่กัมพูชาขอเลื่อนจากวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 จะถูกบันทึกเรื่อยๆ ว่ากัมพูชาร่วมมือหรือไม่ ยังมีการประชุมอีกหลายระดับ ทั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(JBC) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(GBC) ส่วนกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 ที่มีชาวกัมพูชาอพยพมาสร้างหมู่บ้าน ไม่ยอมออกจากพื้นที่ ตามข้อตกลงหยุดยิงคือ ใครอยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น ซึ่งจะต้องพูดคุยอีกครั้ง ตอนนี้วางแนวรั้วลวดหนามแล้ว ชาวกัมพูชาไม่สามารถเข้ามาได้ -พร้อมสอบซื้อ สส. 10 กิโล -นอมินีศูนย์เหรียญทุบไทย -ยกเลิกใบอนุโมทนาลดภาษี -หวังนักท่องเที่ยวดันเศรษฐกิจ
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 447 Views 0 0 Reviews
  • เมินกัมพูชาใช้มวลชน กดดัน-ยั่วยุทหารไทย : [THE MESSAGE]
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีฝ่ายกัมพูชาใช้มวลชนมากดดันปลุกปั่นยั่วยุทหารไทยตามแนวชายแดน ต้องรอให้มีการพูดคุย การพูดคุยเรื่องเขตแดนไม่ได้จบเพียงครั้งเดียว หากฝ่ายกัมพูชาบุกรุกมา เราก็ต้องยืนยันในพื้นที่ของเรา ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค(RBC) ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่กัมพูชาขอเลื่อนจากวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ก็จะถูกบันทึกไปเรื่อยๆ ว่ากัมพูชาให้ความร่วมมือหรือไม่ แต่ยังมีการประชุมอีกหลายระดับ ทั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(JBC) และ คณะกรรมการชายแดนทั่วไป(GBC) ส่วนกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 ที่มีชาวกัมพูชาอพยพมาสร้างหมู่บ้าน และไม่ยอมออกจากพื้นที่ สถานการณ์ตามข้อตกลงหยุดยิงคือ ใครอยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยอีกครั้ง ตอนนี้วางแนวรั้วลวดหนามไว้แล้ว
    เมินกัมพูชาใช้มวลชน กดดัน-ยั่วยุทหารไทย : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีฝ่ายกัมพูชาใช้มวลชนมากดดันปลุกปั่นยั่วยุทหารไทยตามแนวชายแดน ต้องรอให้มีการพูดคุย การพูดคุยเรื่องเขตแดนไม่ได้จบเพียงครั้งเดียว หากฝ่ายกัมพูชาบุกรุกมา เราก็ต้องยืนยันในพื้นที่ของเรา ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนภูมิภาค(RBC) ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่กัมพูชาขอเลื่อนจากวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ก็จะถูกบันทึกไปเรื่อยๆ ว่ากัมพูชาให้ความร่วมมือหรือไม่ แต่ยังมีการประชุมอีกหลายระดับ ทั้งคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(JBC) และ คณะกรรมการชายแดนทั่วไป(GBC) ส่วนกรณีชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 ที่มีชาวกัมพูชาอพยพมาสร้างหมู่บ้าน และไม่ยอมออกจากพื้นที่ สถานการณ์ตามข้อตกลงหยุดยิงคือ ใครอยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น ซึ่งจะต้องมีการพูดคุยอีกครั้ง ตอนนี้วางแนวรั้วลวดหนามไว้แล้ว
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 410 Views 0 0 Reviews
  • ลวดหนามต้องใช้ด่วน ปกป้องทหารรอไม่ได้ : [NEWS UPDATE]

    พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่ 2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงและให้ขอกับรัฐบาล ยืนยัน ไม่ใช่เรื่องงบประมาณ แต่การจัดซื้อใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน หากไม่ปฏิบัติตามระเบียบอาจมีความผิด ที่สำคัญลวดหนามหีบเพลงสเปคที่ทหารใช้ต้องสั่งผลิต ใช้เวลานานขึ้นไปอีก แต่สถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน ใช้เป็นเครื่องกีดขวางเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล และในที่สุ่มเสี่ยงลักลอบเข้าออกของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งประชาชนอยากมีส่วนร่วมให้สิ่งของ กองทัพเคยสื่อสารว่า ขอบคุณในน้ำใจ อะไรที่จำเป็นหาในระบบไม่ทันเวลาก็จะแจ้งไป อย่างกรณีลวดหนามหีบเพลงดังกล่าว

    -กลัวเสียหน้ารัฐบาลไม่ได้ขวาง

    -ขออาเซียนกดดันกัมพูชา

    -บี้ตัดงบช่วยการศึกษาเขมร

    -ขานรับลดต้นทุนการเงิน
    ลวดหนามต้องใช้ด่วน ปกป้องทหารรอไม่ได้ : [NEWS UPDATE] พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่ 2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงและให้ขอกับรัฐบาล ยืนยัน ไม่ใช่เรื่องงบประมาณ แต่การจัดซื้อใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน หากไม่ปฏิบัติตามระเบียบอาจมีความผิด ที่สำคัญลวดหนามหีบเพลงสเปคที่ทหารใช้ต้องสั่งผลิต ใช้เวลานานขึ้นไปอีก แต่สถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน ใช้เป็นเครื่องกีดขวางเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล และในที่สุ่มเสี่ยงลักลอบเข้าออกของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งประชาชนอยากมีส่วนร่วมให้สิ่งของ กองทัพเคยสื่อสารว่า ขอบคุณในน้ำใจ อะไรที่จำเป็นหาในระบบไม่ทันเวลาก็จะแจ้งไป อย่างกรณีลวดหนามหีบเพลงดังกล่าว -กลัวเสียหน้ารัฐบาลไม่ได้ขวาง -ขออาเซียนกดดันกัมพูชา -บี้ตัดงบช่วยการศึกษาเขมร -ขานรับลดต้นทุนการเงิน
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 431 Views 0 0 Reviews
  • ยัวะ!ฟ้องคนปากพล่อย วิจารณ์เข้าข้างเขมร : [THE MESSAGE]
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีทหารระบุหลังเกิดเหตุเหยียบกับระเบิดต้องปกป้องตนเอง ตามกฎหมายระหว่างประเทศสามารถทำได้ การใช้กับระเบิดผิดอนุสัญญาออตตาวา มีขั้นตอนต้องยื่นเรื่องฟ้องร้องกับยูเอ็น กระทรวงการต่างประเทศเตรียมยื่นแล้ว เห็นชัดว่ากัมพูชาไม่มีเจตนาให้เกิดสันติภาพ ขอประชาชนช่วยกันแก้ปัญหา ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมที่บอกว่าไปเข้าข้างเขมรไม่จริง มีนักวิจารณ์บางคนพูดว่าให้ตัดขาผมจะได้รู้ว่าหัวอกเป็นอย่างไร ผมจะฟ้องหมดเรื่องนี้ต้องทำให้ประจักษ์ อย่าพูดอะไรพล่อยๆ
    ยัวะ!ฟ้องคนปากพล่อย วิจารณ์เข้าข้างเขมร : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เผยกรณีทหารระบุหลังเกิดเหตุเหยียบกับระเบิดต้องปกป้องตนเอง ตามกฎหมายระหว่างประเทศสามารถทำได้ การใช้กับระเบิดผิดอนุสัญญาออตตาวา มีขั้นตอนต้องยื่นเรื่องฟ้องร้องกับยูเอ็น กระทรวงการต่างประเทศเตรียมยื่นแล้ว เห็นชัดว่ากัมพูชาไม่มีเจตนาให้เกิดสันติภาพ ขอประชาชนช่วยกันแก้ปัญหา ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมที่บอกว่าไปเข้าข้างเขมรไม่จริง มีนักวิจารณ์บางคนพูดว่าให้ตัดขาผมจะได้รู้ว่าหัวอกเป็นอย่างไร ผมจะฟ้องหมดเรื่องนี้ต้องทำให้ประจักษ์ อย่าพูดอะไรพล่อยๆ
    Haha
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 416 Views 0 0 Reviews
  • ดรามาลวดหนามหีบเพลงไม่จบง่าย โฆษก ทบ. แจง แม้มีงบประมาณ แต่ติดเรื่องขั้นตอนจัดซื้อนานกว่าหนึ่งเดือน หากไม่ทำตามขั้นตอน ผู้จัดซื้อมีความผิด!
    .
    หลังจาก #กองทัพภาคที่2 ประกาศขอรับการสนับสนุน "ลวดหนามหีบเพลง" จำนวนมาก เพื่อใช้ประโยชน์ในการป้องกันอธิปไตยของไทย ทำให้ในสื่อสังคมออนไลน์มีความเห็นตำหนิรัฐบาลอย่างหนัก ต่อมานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ยืนยันว่ามีงบประมาณพร้อมสนับสนุนกองทัพ แต่ไม่เคยได้รับการร้องขอเรื่องลวดหนามหีบเพลง

    ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพ มีงบประมาณเพียงพอ แต่ติดขัดในกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน และหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ อาจทำให้ผู้จัดซื้อมีความผิด ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องใช้ลวดหนามหีบเพลงทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน “อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์” จึงต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาชน

    ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการสนับสนุนสามารถนำลวดหนามหีบเพลงไปมอบได้ที่ กองกำลังสุรนารี อ.เมือง จ.สุรินทร์ หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ พันโท สุริยาวุธ สุกเหลือง โทร. 093-591-6946
    ดรามาลวดหนามหีบเพลงไม่จบง่าย โฆษก ทบ. แจง แม้มีงบประมาณ แต่ติดเรื่องขั้นตอนจัดซื้อนานกว่าหนึ่งเดือน หากไม่ทำตามขั้นตอน ผู้จัดซื้อมีความผิด! . หลังจาก #กองทัพภาคที่2 ประกาศขอรับการสนับสนุน "ลวดหนามหีบเพลง" จำนวนมาก เพื่อใช้ประโยชน์ในการป้องกันอธิปไตยของไทย ทำให้ในสื่อสังคมออนไลน์มีความเห็นตำหนิรัฐบาลอย่างหนัก ต่อมานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ยืนยันว่ามีงบประมาณพร้อมสนับสนุนกองทัพ แต่ไม่เคยได้รับการร้องขอเรื่องลวดหนามหีบเพลง 👉ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงยืนยันว่ารัฐบาลและกองทัพ มีงบประมาณเพียงพอ แต่ติดขัดในกระบวนการจัดซื้อตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน และหากไม่ปฏิบัติตามระเบียบ อาจทำให้ผู้จัดซื้อมีความผิด ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน มีความจำเป็นต้องใช้ลวดหนามหีบเพลงทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน “อุบลฯ-ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์” จึงต้องขอรับการสนับสนุนจากประชาชน ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการสนับสนุนสามารถนำลวดหนามหีบเพลงไปมอบได้ที่ กองกำลังสุรนารี อ.เมือง จ.สุรินทร์ หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ พันโท สุริยาวุธ สุกเหลือง โทร. 093-591-6946
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 302 Views 0 Reviews
  • "ภูมิธรรม" เสียใจเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิดชายแดน ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สั่ง กต.เก็บหลักฐานยื่นร้อง ผิดอนุสัญญายาออตตาวา ขอใช้กลไก RBC เคลียร์เหตุ เชื่อไม่บานปลายเกิดปะทะรอบ 2

    วันนี้(9 ส.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุเจ้าหน้าที่ทหารเหยียบกับระเบิด ที่บริเวณรอยต่อช่องโดเอาว์ - กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมาว่า ตนได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นกองร้อย ร.111 ขณะนี้กำลังตรวจสอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่ใช่ในหมู่บ้าน แต่เป็นพื้นที่ที่มีการดำเนินการเจาะเป็นช่อง เพื่อเป็นการป้องกันการหลุดรอดเข้ามา แต่ถึงอย่างไรตนขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทางปฏิบัติไม่ใช่การที่จะนำไปสู่ความเข้าใจกัน แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เรามีการบันทึกรายละเอียดส่งให้กระทรวงการต่างประเทศ เพราะอย่างไรเราก็ต้องบันทึกในเรื่องนี้ เพื่อจะนำเข้าสู่อนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อแสดงให้เห็นว่ายังมีสิ่งเหล่านี้อยู่ แต่เราก็ต้องดำเนินการตรวจและระมัดระวัง เคลียร์พื้นที่อื่นตามไป ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้มีการเคลียร์พื้นที่ไปแล้วกว่า 400 ลูก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000075666

    #MGROnline #ทหารเหยียบทุ่นระเบิด #ชายแดน #ศรีสะเกษ #ผิดอนุสัญญายาออตตาวา
    "ภูมิธรรม" เสียใจเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิดชายแดน ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สั่ง กต.เก็บหลักฐานยื่นร้อง ผิดอนุสัญญายาออตตาวา ขอใช้กลไก RBC เคลียร์เหตุ เชื่อไม่บานปลายเกิดปะทะรอบ 2 • วันนี้(9 ส.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุเจ้าหน้าที่ทหารเหยียบกับระเบิด ที่บริเวณรอยต่อช่องโดเอาว์ - กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมาว่า ตนได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นกองร้อย ร.111 ขณะนี้กำลังตรวจสอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่ใช่ในหมู่บ้าน แต่เป็นพื้นที่ที่มีการดำเนินการเจาะเป็นช่อง เพื่อเป็นการป้องกันการหลุดรอดเข้ามา แต่ถึงอย่างไรตนขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทางปฏิบัติไม่ใช่การที่จะนำไปสู่ความเข้าใจกัน แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เรามีการบันทึกรายละเอียดส่งให้กระทรวงการต่างประเทศ เพราะอย่างไรเราก็ต้องบันทึกในเรื่องนี้ เพื่อจะนำเข้าสู่อนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อแสดงให้เห็นว่ายังมีสิ่งเหล่านี้อยู่ แต่เราก็ต้องดำเนินการตรวจและระมัดระวัง เคลียร์พื้นที่อื่นตามไป ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้มีการเคลียร์พื้นที่ไปแล้วกว่า 400 ลูก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000075666 • #MGROnline #ทหารเหยียบทุ่นระเบิด #ชายแดน #ศรีสะเกษ #ผิดอนุสัญญายาออตตาวา
    0 Comments 0 Shares 346 Views 0 Reviews
  • มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

    พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ

    พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ

    1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย

    2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง

    พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย

    "ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม"

    "ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
    มีรายงานว่า เขมรบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้ความร่วมมือปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ รวมทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ไทยเสนอตัวเข้าช่วยก็ตาม ด้านพลเอง "เตีย เซียฮา อ้างเหตุผลว่า การประชุมครั้งนี้ขอคุยแค่เรื่องข้อตกลงหยุดยิง ส่วนเรื่องอื่นขอให้ไปคุยในการประชุม GBC ครั้งหน้าต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รักษาการราชการแทน รมว.กลาโหม ในฐานะ ประธาน GBC ฝ่ายไทย ลงนามเห็นชอบ บันทึกการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมกับ พล.อ.เตีย เซียฮา รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมกัมพูชา โดยได้เห็นชอบข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ พลเอกณัฐพล แถลงในช่วงหนึ่งว่า มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาแต่กัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับ โดยขอพูดคุยแต่เรื่องการหยุดยิงก่อน และให้หารือในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ในอีก 1 เดือนข้างหน้าคือ 1. เรื่องการเก็บกู้ทุนระเบิดที่ทำให้เกิดความตึงเครียด นำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน โดยที่ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชาในการเก็บกู้ทุนระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย 2. ขอความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติการหลอกลวงออนไลน์ สแกมออนไลน์ ที่ส่งผลต่อพี่น้องประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง พลเอกณัฐพลย้ำว่า สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในวันนี้จะเกิดผลที่เป็นรูปธรรมได้ต้องอาศัยความร่วมมือและความจริงใจของทั้งสองฝ่าย "ผมยืนยันว่าฝ่ายไทยยึดมั่นและให้ความร่วมมือในการพูดคุยอย่างสุจริตใจและจริงใจ บนพื้นฐานของความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และหวังว่ากัมพูชาจะปฏิบัติตาม" "ท้ายที่สุด แล้วไทยและกัมพูชาซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน จะย้ายหนีกันไปไม่ได้ เราเป็นสมาชิกครอบครัวอาเซียนด้วยกัน หากสามารถ ปฏิบัติตามข้อตกลงได้รวดเร็ว ก็จะนำสันติภาพมาสู่ชายแดน และกลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกครั้ง" พลเอกณัฐพล กล่าว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 544 Views 0 Reviews
  • เตีย เซียม ลูกชาย เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือ เวลาอยู่ไทย ก็ใช้สัญชาติไทย ชื่อสยาม บุญช่วย แห่ง SIAM PROTOTYPE

    เตีย เซียม คือนักธุรกิจผู้ได้รับสิทธิ์บริหารแบรนด์ PTT Cambodia
    ประกาศว่าปั๊มน้ำมัน PTT จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “ปั๊มน้ำมันสันติภาพ” หรือ PPC แทน โดยเปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2025

    โลโก้และแบรนด์ใหม่ที่ เตีย เซียม เปิดเผย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “PEACE Petroleum Cambodia (PPC)” และชื่อภาษาเขมรว่า “ហ្គារ៉ាសសាំង សន្តិភាព” (ปั๊มน้ำมันสันติภาพ)

    https://xo-autosport.grandprix.co.th/my-name-is-siam-prototype/?fbclid=IwY2xjawMA6s1leHRuA2FlbQIxMABicmlkETFPczltVlBZc0xpeFhIMlpJAR63unP9deZ6FvwRFy907XMJoTih-FB5BQm1cw_TT4LoyCBTsv-qLPFA0qSejQ_aem_4KILC6F-NNEzJXL_evJqvg
    เตีย เซียม ลูกชาย เตีย บัญ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือ เวลาอยู่ไทย ก็ใช้สัญชาติไทย ชื่อสยาม บุญช่วย แห่ง SIAM PROTOTYPE เตีย เซียม คือนักธุรกิจผู้ได้รับสิทธิ์บริหารแบรนด์ PTT Cambodia ประกาศว่าปั๊มน้ำมัน PTT จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “ปั๊มน้ำมันสันติภาพ” หรือ PPC แทน โดยเปิดเผยผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2025 โลโก้และแบรนด์ใหม่ที่ เตีย เซียม เปิดเผย มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “PEACE Petroleum Cambodia (PPC)” และชื่อภาษาเขมรว่า “ហ្គារ៉ាសសាំង សន្តិភាព” (ปั๊มน้ำมันสันติภาพ) https://xo-autosport.grandprix.co.th/my-name-is-siam-prototype/?fbclid=IwY2xjawMA6s1leHRuA2FlbQIxMABicmlkETFPczltVlBZc0xpeFhIMlpJAR63unP9deZ6FvwRFy907XMJoTih-FB5BQm1cw_TT4LoyCBTsv-qLPFA0qSejQ_aem_4KILC6F-NNEzJXL_evJqvg
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 421 Views 0 Reviews
  • "ดูสนิทกันดีเนอะ!"

    6 สิงหาคม พ.ศ. 2568
    กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเผยแพร่ภาพ "พลเอกเตีย เซ็ยฮา" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พร้อมทั้งนายเอ็ดการ์ด คาแกน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำมาเลเซีย เข้าพบพลเรือเอก ซามูเอล ปาปาโร ผู้บัญชาการกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ (USINDOPACOM) ที่สำนักงานในฮาวาย

    ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงการติดตามการดำเนินการที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จและมีประสิทธิผล

    และสหรัฐอเมริกายืนยันจะให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และเทคนิคที่สำคัญในการจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบอาเซียน (AMT) โดยเร็วที่สุด

    นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกายังได้สรุปแนวทางการดำเนินการของสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งรวมถึงการวางแผนทางทหาร อุปกรณ์ ระบบส่งกำลัง ระบบเฝ้าระวังทางอากาศ และอุปกรณ์ทางเทคนิคขั้นสูงอื่นๆ

    สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐมีความมุ่งมั่นและความพร้อมอย่างสูงที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพในภูมิภาคอย่างแท้จริง
    "ดูสนิทกันดีเนอะ!" 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเผยแพร่ภาพ "พลเอกเตีย เซ็ยฮา" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พร้อมทั้งนายเอ็ดการ์ด คาแกน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำมาเลเซีย เข้าพบพลเรือเอก ซามูเอล ปาปาโร ผู้บัญชาการกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ (USINDOPACOM) ที่สำนักงานในฮาวาย ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงการติดตามการดำเนินการที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จและมีประสิทธิผล และสหรัฐอเมริกายืนยันจะให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และเทคนิคที่สำคัญในการจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบอาเซียน (AMT) โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกายังได้สรุปแนวทางการดำเนินการของสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งรวมถึงการวางแผนทางทหาร อุปกรณ์ ระบบส่งกำลัง ระบบเฝ้าระวังทางอากาศ และอุปกรณ์ทางเทคนิคขั้นสูงอื่นๆ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐมีความมุ่งมั่นและความพร้อมอย่างสูงที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพในภูมิภาคอย่างแท้จริง
    0 Comments 0 Shares 383 Views 0 Reviews
  • กัมพูชา-สหรัฐฯ ความท้าทายของไทย : [NEWS UPDATE]
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ป้องกันข่าวปลอม สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลตั้งงบประมาณสนับสนุนผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน


    เดินหน้าหารือหยุดยิง

    ไทม์ไลน์รัฐสภาโต้กัมพูชา

    ไฟเขียวซื้อกริพเพน

    กองทัพต้องอยู่ใต้รัฐพลเรือน
    กัมพูชา-สหรัฐฯ ความท้าทายของไทย : [NEWS UPDATE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ป้องกันข่าวปลอม สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลตั้งงบประมาณสนับสนุนผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน เดินหน้าหารือหยุดยิง ไทม์ไลน์รัฐสภาโต้กัมพูชา ไฟเขียวซื้อกริพเพน กองทัพต้องอยู่ใต้รัฐพลเรือน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 576 Views 0 0 Reviews
  • เยียวยาผู้เสียชีวิต เหตุชายแดน 8-10 ล้าน : [THE MESSAGE]
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ขณะนี้การปะทะสิ้นสุด เข้าสู่การเจรจาผ่านการประชุม GBC ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ วิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชน สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าจากสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลจึงตั้งงบประมาณสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง
    เยียวยาผู้เสียชีวิต เหตุชายแดน 8-10 ล้าน : [THE MESSAGE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ขณะนี้การปะทะสิ้นสุด เข้าสู่การเจรจาผ่านการประชุม GBC ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ วิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายต่อความมั่นคง และความปลอดภัยของประชาชน สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าจากสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลจึงตั้งงบประมาณสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 546 Views 0 0 Reviews
  • ลุ้นระทึก!! เครื่องบินรบ Gripen จ่อเข้า ครม.วันนี้ เฟสแรก 4 ลำ ของฝูงบินที่สอง มูลค่า 1.95 หมื่นล้าน

    มีรายงานว่า ที่ประชุมครม.วันนี้ ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะมีการพิจารณาโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ Saab JAS 39 GripenE : F จากบริษัท SAAB ของสวีเดน ระยะที่ 1 จำนวน 4 ลำ มูลค่า 19,500 ล้านบาท ตามที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นำเสนอตามความต้องการของกองทัพอากาศ

    หากผ่านมติ ครม. จะทำสัญญากับ SAAB 25 สค.นี้ ที่สวีเดน
    หลัง Gripen ฝูงแรก ประจำการที่ กองบิน 7 ตำบลมะลวน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีส่วนร่วมทำภารกิจปกป้องดินแดนไทยเป็นครั้งแรกในสมรภูมิช่องบก-พระวิหาร

    กองทัพอากาศไทย ตั้งเป้าหมายว่า ฝูงบินประจำการที่สอง จะอยู่ที่กองบิน1 จ.นครราชสีมา เพื่อดูแลโซนภาคอิสาน แทนฝูงบิน F-16 เดิมที่กำลังจะปลดประจำการ

    ทั้งนี้ เครื่องบินขับไล่ F-16 จะทยอยปลดประจำการในปีพ.ศ.2571 – 2578 หลังจากที่ใช้งานมาเกือบ 40 ปี ซึ่งนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเครื่องบินรบรุ่นใหม่ จนในที่สุดตกลงใจเลือก Gripen E/F จาก SAAB สวีเดน 1 ฝูงบิน รวม 12 ลำ งบประมาณราว 60,000 ล้านบาท

    การส่งมอบเครื่องบินจะแบ่งเป็น 3 เฟส จนครบปี 2578 โดยเฟสแรกจะส่งมอบ 4 เครื่อง ภายในปีพ.ศ. 2572 รวมมูลค่า 19,500 ล้านบาท ซึ่งจะนำเข้าประจำการทดแทนเครื่องบินรบ F-16 ที่กองบิน1 จ.นครราชสีมา เพื่อดูแลพื้นที่ภาคอีสานต่อไป

    หากไม่มีอะไรผิดพลาด กองทัพอากาศมีกำหนดที่ตกลงทำสัญญากับ SAAB จากสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 นี้
    ลุ้นระทึก!! เครื่องบินรบ Gripen จ่อเข้า ครม.วันนี้ เฟสแรก 4 ลำ ของฝูงบินที่สอง มูลค่า 1.95 หมื่นล้าน มีรายงานว่า ที่ประชุมครม.วันนี้ ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยจะมีการพิจารณาโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ Saab JAS 39 GripenE : F จากบริษัท SAAB ของสวีเดน ระยะที่ 1 จำนวน 4 ลำ มูลค่า 19,500 ล้านบาท ตามที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นำเสนอตามความต้องการของกองทัพอากาศ หากผ่านมติ ครม. จะทำสัญญากับ SAAB 25 สค.นี้ ที่สวีเดน หลัง Gripen ฝูงแรก ประจำการที่ กองบิน 7 ตำบลมะลวน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีส่วนร่วมทำภารกิจปกป้องดินแดนไทยเป็นครั้งแรกในสมรภูมิช่องบก-พระวิหาร กองทัพอากาศไทย ตั้งเป้าหมายว่า ฝูงบินประจำการที่สอง จะอยู่ที่กองบิน1 จ.นครราชสีมา เพื่อดูแลโซนภาคอิสาน แทนฝูงบิน F-16 เดิมที่กำลังจะปลดประจำการ ทั้งนี้ เครื่องบินขับไล่ F-16 จะทยอยปลดประจำการในปีพ.ศ.2571 – 2578 หลังจากที่ใช้งานมาเกือบ 40 ปี ซึ่งนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการคัดเลือกเครื่องบินรบรุ่นใหม่ จนในที่สุดตกลงใจเลือก Gripen E/F จาก SAAB สวีเดน 1 ฝูงบิน รวม 12 ลำ งบประมาณราว 60,000 ล้านบาท การส่งมอบเครื่องบินจะแบ่งเป็น 3 เฟส จนครบปี 2578 โดยเฟสแรกจะส่งมอบ 4 เครื่อง ภายในปีพ.ศ. 2572 รวมมูลค่า 19,500 ล้านบาท ซึ่งจะนำเข้าประจำการทดแทนเครื่องบินรบ F-16 ที่กองบิน1 จ.นครราชสีมา เพื่อดูแลพื้นที่ภาคอีสานต่อไป หากไม่มีอะไรผิดพลาด กองทัพอากาศมีกำหนดที่ตกลงทำสัญญากับ SAAB จากสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 นี้
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 453 Views 0 Reviews
  • ความเป็นกันเองของปธน.ปูติน เมื่อ "กุลชารา อับดีคาลิโควา" (Gulshara Abdykalikova) อดีตรองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน นั่งผิดตำแหน่งก่อนเริ่มการประชุมทวิภาคีกับรัสเซีย และปธน.ปูตินจัดการกับเรื่องนี้ด้วยความสุภาพ
    ความเป็นกันเองของปธน.ปูติน เมื่อ "กุลชารา อับดีคาลิโควา" (Gulshara Abdykalikova) อดีตรองนายกรัฐมนตรีคาซัคสถาน นั่งผิดตำแหน่งก่อนเริ่มการประชุมทวิภาคีกับรัสเซีย และปธน.ปูตินจัดการกับเรื่องนี้ด้วยความสุภาพ
    0 Comments 0 Shares 247 Views 0 0 Reviews
  • เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน

    การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ:
    1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย:
    เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา
    ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก)
    ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย 
    ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
    ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ)
    ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ)
    ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี)
    ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด)
    ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.)
    ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ

    2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    เริ่มแล้ว ! ไทย–กัมพูชา ประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4 – 6 ส.ค. 68 ที่มาเลเซีย โดยที่ฝ่ายเลขานุการจะประชุมกันเพื่อเตรียมกรอบการประชุม ก่อนที่ในวันที่ 7 ส.ค. 68 รมว.กลาโหม ทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาพบกัน การประชุมจะแบ่งออกเป็นสองช่วง คือ: 👉1.ส่วนที่หนึ่ง วันที่ 4-6 ส.ค.68 จะเป็นในส่วนของคณะกองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทยที่เดินทางถึงประเทศมาเลเซียตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น (วันที่ 3 ส.ค. 2568) โดยวันนี้จะเริ่มประชุมกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อกำหนดกรอบ และตกลงหัวข้อการประชุม คณะของฝ่ายไทยประกอบด้วย: 🔘เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เป็นเลขานุการคณะกรรมชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา 🔘ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ (กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และกรมเอเชียตะวันออก) 🔘ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย  🔘ผู้แทน สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) 🔘ผู้แทนกระทรวงกลาโหม (สำนักนโยบายและแผน กรมพระธรรมนูญ) 🔘ผู้แทนกองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) (กรมข่าวทหาร กรมยุทธการ) 🔘ผู้แทนกองทัพบก (ทบ.) (กรมยุทธการทหารบก กรมข่าวทหารบก กองทัพภาคที่ 1, 2 กองกำลังสุรนารี) 🔘ผู้แทนกองทัพเรือ (ทร.) (กรมยุทธการทหารเรือ กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด) 🔘ผู้แทนกองทัพอากาศ (ทอ.) 🔘ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 🔘ผู้ช่วยทูตทหารบก ทหารอากาศไทย ประจำกรุงพนมเปญ 👉2. ส่วนที่สองจะเป็นวันที่ 7 ส.ค. 68 โดยคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีฝ่ายทหารระดับรมว.กลาโหม นำคณะโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรมว.กลาโหม ส่วนฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ.เตีย เซรยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 491 Views 0 Reviews
  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งปิดด่านชายแดนตามที่กองทัพเสนอ นักท่องเที่ยวห้ามเข้าเด็ดขาด และลดระดับทางการทูต เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย ส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยคืนกลับไป สั่งกระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือประท้วง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดใหม่ พิสูจน์ทราบได้ก่อนเดินลาดตระเวนไม่เคยมี แต่ตอนนี้เป็นระเบิดที่เกิดใหม่ทั้งหมดในเวลาใกล้เคียงกัน เรายกระดับการตอบโต้เหมาะสมที่สุดแล้ว

    -ปิดด่าน-ปราสาท
    กองทัพสู้สงครามไอโอ
    -กัมพูชาต้องรับผิดชอบ
    -หวยเกษียณไม่ใช่การพนัน
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งปิดด่านชายแดนตามที่กองทัพเสนอ นักท่องเที่ยวห้ามเข้าเด็ดขาด และลดระดับทางการทูต เรียกเอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชากลับประเทศไทย ส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยคืนกลับไป สั่งกระทรวงการต่างประเทศ ยื่นหนังสือประท้วง สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นระเบิดใหม่ พิสูจน์ทราบได้ก่อนเดินลาดตระเวนไม่เคยมี แต่ตอนนี้เป็นระเบิดที่เกิดใหม่ทั้งหมดในเวลาใกล้เคียงกัน เรายกระดับการตอบโต้เหมาะสมที่สุดแล้ว -ปิดด่าน-ปราสาท กองทัพสู้สงครามไอโอ -กัมพูชาต้องรับผิดชอบ -หวยเกษียณไม่ใช่การพนัน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 713 Views 0 0 Reviews
  • นายกรัฐมนตรีเดนิส ชมีฮาล (Denys Shmyhal) ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรียูเครนอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ (15 กรกฎาคม 2568)

    การลาออกของชมีฮาลเป็นส่วนหนึ่งของการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงสงครามของประเทศตามแนวคิดของเซเลนสกี

    ขณะที่เซเลนสกี เสนอชื่อ ยูเลีย สวีรีเดนโก(Yulia Svyrydenko) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง และยังดำรงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

    สำหรับชมีฮาล ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแทน รุสเตม อูเมรอฟ (Rustem Umerov) ซึ่งจะถูกโยกไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกา
    นายกรัฐมนตรีเดนิส ชมีฮาล (Denys Shmyhal) ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรียูเครนอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้ (15 กรกฎาคม 2568) การลาออกของชมีฮาลเป็นส่วนหนึ่งของการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ที่สุดในช่วงสงครามของประเทศตามแนวคิดของเซเลนสกี ขณะที่เซเลนสกี เสนอชื่อ ยูเลีย สวีรีเดนโก(Yulia Svyrydenko) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง และยังดำรงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี สำหรับชมีฮาล ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแทน รุสเตม อูเมรอฟ (Rustem Umerov) ซึ่งจะถูกโยกไปดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐอเมริกา
    0 Comments 0 Shares 363 Views 0 Reviews
  • อเล็กเซย์ เชอร์นีชอฟ (Alexey Chernyshov) ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเอกภาพแห่งชาติของยูเครน (Ministry of National Unity) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตคอร์รัปชันอื้อฉาวของยูเครน

    "เชอร์นีชอฟ" ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเขาคือมือขวาคนสนิทของเซเลนสกี ถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบเกี่ยวกับสัญญาที่น่าสงสัยในการซื้อขายที่ดินของรัฐร่วมกับผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ส่งผลให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์

    ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 2.9 ล้านยูโร (ประมาณ 110 ล้านบาท) และสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เชอร์นีชอฟยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน

    ที่ผ่านมาเซเลนสกีพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องเชอร์นีชอฟและ "เป่าคดี" นี้ออกจากระบบ แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากลับปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่คำสั่งของเซเลนสกีถูกเพิกเฉย

    คิริลล์ บูดานอฟ (Kyrylo Budanov) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาโหม และวาซิลี่ มาริอุค (Vasiliy Maliuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาง แห่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน คือบุคคลที่ปฏิเสธคำสั่งของเซเลนสกี

    สิ่งนี้บ่งบอกได้ถึงสถานการณ์ของเซเลนสกีที่ไม่ได้แค่สูญเสียลูกน้องคู่กายไปอีกคน แต่เขากำลังจะสูญเสียการควบคุมอำนาจทางบริหารลงไปเรื่อยๆ

    อเล็กเซย์ เชอร์นีชอฟ (Alexey Chernyshov) ตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเอกภาพแห่งชาติของยูเครน (Ministry of National Unity) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตคอร์รัปชันอื้อฉาวของยูเครน 👉"เชอร์นีชอฟ" ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเขาคือมือขวาคนสนิทของเซเลนสกี ถูกตั้งข้อหาใช้อำนาจในทางมิชอบเกี่ยวกับสัญญาที่น่าสงสัยในการซื้อขายที่ดินของรัฐร่วมกับผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ส่งผลให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณสูงถึง 40 ล้านดอลลาร์ 👉ศาลกำหนดวงเงินประกันตัวไว้ที่ 2.9 ล้านยูโร (ประมาณ 110 ล้านบาท) และสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เชอร์นีชอฟยืนยันจะไม่ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน 👉ที่ผ่านมาเซเลนสกีพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อปกป้องเชอร์นีชอฟและ "เป่าคดี" นี้ออกจากระบบ แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากลับปฏิเสธที่จะปฏิบัติตาม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่คำสั่งของเซเลนสกีถูกเพิกเฉย 👉คิริลล์ บูดานอฟ (Kyrylo Budanov) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาโหม และวาซิลี่ มาริอุค (Vasiliy Maliuk) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองกลาง แห่งสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน คือบุคคลที่ปฏิเสธคำสั่งของเซเลนสกี 👉สิ่งนี้บ่งบอกได้ถึงสถานการณ์ของเซเลนสกีที่ไม่ได้แค่สูญเสียลูกน้องคู่กายไปอีกคน แต่เขากำลังจะสูญเสียการควบคุมอำนาจทางบริหารลงไปเรื่อยๆ
    0 Comments 0 Shares 452 Views 0 Reviews
  • นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ รับมือภาษีสหรัฐอเมริกา โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ ส่วนที่เอกชนเป็นห่วงว่าเวียดนามได้ภาษี 20% อาจทำให้เราเสียภาษีมากกว่าคู่แข่ง เราจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นสิ่งที่ทำหลายเรื่องจะชี้แจงให้ชัดเจน สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ต้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ทั้งภาคเกษตรกร อุตสาหกรรมรายย่อย อาจต้องรับซื้อสินค้าเข้ามา ก็ได้โอกาสปรับตัว สิ่งสำคัญคือมาตรการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมรายย่อย โดยกำหนดหลักการกว้างๆ ไว้แล้ว ซึ่งจะลงรายละเอียดต่อไป

    -อย่าเชื่อเฟกนิวส์ถอนกำลัง
    -วัดภูม่านฟ้าไม่ได้ก๊อบเขมร
    -เขมรแหล่งอาชญากรรมโลก
    -ห้ามสัมผัสทากทะเลน้ำเงินมีพิษ
    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ รับมือภาษีสหรัฐอเมริกา โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ ส่วนที่เอกชนเป็นห่วงว่าเวียดนามได้ภาษี 20% อาจทำให้เราเสียภาษีมากกว่าคู่แข่ง เราจะทำให้ดีที่สุด เชื่อมั่นสิ่งที่ทำหลายเรื่องจะชี้แจงให้ชัดเจน สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ต้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ ทั้งภาคเกษตรกร อุตสาหกรรมรายย่อย อาจต้องรับซื้อสินค้าเข้ามา ก็ได้โอกาสปรับตัว สิ่งสำคัญคือมาตรการช่วยเหลือ ทั้งกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมรายย่อย โดยกำหนดหลักการกว้างๆ ไว้แล้ว ซึ่งจะลงรายละเอียดต่อไป -อย่าเชื่อเฟกนิวส์ถอนกำลัง -วัดภูม่านฟ้าไม่ได้ก๊อบเขมร -เขมรแหล่งอาชญากรรมโลก -ห้ามสัมผัสทากทะเลน้ำเงินมีพิษ
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 959 Views 0 0 Reviews
  • "ทักษิณ" รู้ดีภาษีสหรัฐ หวังไทยได้เปรียบคู่แข่ง : [THE MESSAGE]

    นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ พร้อมทั้งทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมือมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งไทยถูกเก็บ 36% โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ เพื่อให้ได้ข้อยุติ หวังเราจะได้ในส่วนที่ไม่เสียเปรียบ สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ไทยเข้มงวดกวดขันส่วนนี้ ส่วนหากเป็นตัวเลข 25% แล้วเสียเปรียบก็ไม่วางเป้าที่ตัวเลขนี้ ส่วนที่นายทักษิณมาร่วมประชุมด้วย เพราะรู้เรื่องเหล่านี้ดีน่าจะให้ข้อคิดได้
    "ทักษิณ" รู้ดีภาษีสหรัฐ หวังไทยได้เปรียบคู่แข่ง : [THE MESSAGE] นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ประชุมทีมไทยแลนด์ พร้อมทั้งทีมที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับมือมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งไทยถูกเก็บ 36% โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม ย้ำ สหรัฐเผยแพร่จดหมายเรียกเก็บภาษีจากไทย 36% เป็นการเลื่อนเวลา ยังไม่ได้เจรจาถึงที่สุด มีเวลาถึงวันที่ 1 ส.ค. นี้ เพื่อให้ได้ข้อยุติ หวังเราจะได้ในส่วนที่ไม่เสียเปรียบ สหรัฐแบ่งสินค้าเป็นสองสามประเภทใหญ่ๆ สินค้าทั่วไปเริ่ม 10% และสินค้าที่นำเข้ามาประกอบแล้วส่งออก ไทยเข้มงวดกวดขันส่วนนี้ ส่วนหากเป็นตัวเลข 25% แล้วเสียเปรียบก็ไม่วางเป้าที่ตัวเลขนี้ ส่วนที่นายทักษิณมาร่วมประชุมด้วย เพราะรู้เรื่องเหล่านี้ดีน่าจะให้ข้อคิดได้
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 923 Views 0 0 Reviews
More Results