• บ้านเรากับปัญหานี้ต้องกันไว้เสียแต่เนิ่นๆ ครับ

    ChargePoint ได้เปิดตัวสายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อต่อต้านการขโมยทองแดง ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้บริษัทต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดและทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าต้องติดอยู่โดยไม่มีการชาร์จ

    สายชาร์จรุ่นใหม่นี้มีการเสริมเหล็กเข้าไปในสายไฟ ทำให้การตัดสายทำได้ยากขึ้นมาก โดยสายชาร์จเหล่านี้ได้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดกับเครื่องมือต่าง ๆ เช่น คีมตัดสายไฟ คีมตัดโบลต์ และอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าการออกแบบที่เสริมเหล็กนี้ทำให้ต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นในการตัดสาย

    นอกจากนี้ ChargePoint ยังได้เปิดตัวระบบเตือนภัยที่เรียกว่า ChargePoint Protect ซึ่งสามารถตรวจจับการก่อกวนได้แบบเรียลไทม์ โดยจะแสดงไฟกระพริบ ข้อความเตือนบนหน้าจอชาร์จ และเสียงเตือนผ่านลำโพงในตัว เจ้าของสามารถรับการแจ้งเตือนผ่าน SMS หรืออีเมลเมื่อระบบเตือนภัยทำงาน ทำให้สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างรวดเร็ว

    ChargePoint วางแผนที่จะนำสายชาร์จป้องกันการก่อกวนนี้ไปใช้กับสายชาร์จเชิงพาณิชย์และสายชาร์จสำหรับยานพาหนะทั้งหมดของบริษัท และยังเปิดให้ผู้ผลิตสายชาร์จรายอื่นสามารถนำการออกแบบนี้ไปใช้ได้ เพื่อช่วยลดการขโมยสายชาร์จในอุตสาหกรรมโดยรวม

    การเปิดตัวสายชาร์จรุ่นใหม่นี้เป็นการตอบสนองต่อปัญหาการขโมยสายชาร์จที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่าการพยายามชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะล้มเหลวเกือบหนึ่งในห้าครั้งในช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว โดยประมาณ 10% ของความล้มเหลวเหล่านี้เกิดจากสายชาร์จที่เสียหายหรือหายไป

    https://www.techspot.com/news/106384-chargepoint-unveils-anti-vandalism-ev-charger-cables-designed.html
    บ้านเรากับปัญหานี้ต้องกันไว้เสียแต่เนิ่นๆ ครับ ChargePoint ได้เปิดตัวสายชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อต่อต้านการขโมยทองแดง ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้บริษัทต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดและทำให้ผู้ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าต้องติดอยู่โดยไม่มีการชาร์จ สายชาร์จรุ่นใหม่นี้มีการเสริมเหล็กเข้าไปในสายไฟ ทำให้การตัดสายทำได้ยากขึ้นมาก โดยสายชาร์จเหล่านี้ได้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดกับเครื่องมือต่าง ๆ เช่น คีมตัดสายไฟ คีมตัดโบลต์ และอุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าการออกแบบที่เสริมเหล็กนี้ทำให้ต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นในการตัดสาย นอกจากนี้ ChargePoint ยังได้เปิดตัวระบบเตือนภัยที่เรียกว่า ChargePoint Protect ซึ่งสามารถตรวจจับการก่อกวนได้แบบเรียลไทม์ โดยจะแสดงไฟกระพริบ ข้อความเตือนบนหน้าจอชาร์จ และเสียงเตือนผ่านลำโพงในตัว เจ้าของสามารถรับการแจ้งเตือนผ่าน SMS หรืออีเมลเมื่อระบบเตือนภัยทำงาน ทำให้สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อย่างรวดเร็ว ChargePoint วางแผนที่จะนำสายชาร์จป้องกันการก่อกวนนี้ไปใช้กับสายชาร์จเชิงพาณิชย์และสายชาร์จสำหรับยานพาหนะทั้งหมดของบริษัท และยังเปิดให้ผู้ผลิตสายชาร์จรายอื่นสามารถนำการออกแบบนี้ไปใช้ได้ เพื่อช่วยลดการขโมยสายชาร์จในอุตสาหกรรมโดยรวม การเปิดตัวสายชาร์จรุ่นใหม่นี้เป็นการตอบสนองต่อปัญหาการขโมยสายชาร์จที่เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีรายงานว่าการพยายามชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะล้มเหลวเกือบหนึ่งในห้าครั้งในช่วงครึ่งแรกของปีที่แล้ว โดยประมาณ 10% ของความล้มเหลวเหล่านี้เกิดจากสายชาร์จที่เสียหายหรือหายไป https://www.techspot.com/news/106384-chargepoint-unveils-anti-vandalism-ev-charger-cables-designed.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    ChargePoint unveils "anti-vandalism" EV charger cables designed to deter copper thieves
    The new cut-resistant cables incorporate advanced technology by weaving steel strategically through the wiring, making them far more difficult to cut.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์โก รูบิโอ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ในรัฐบาลของทรัมป์ กล่าวว่า ภายในเวลาไม่ถึง 10 ปี จีนจะปกครองทุกสิ่งทุกอย่าง:

    “หากเราเดินหน้าต่อไปตามเส้นทางที่เรากำลังดำเนินอยู่ ในเวลาไม่ถึง 10 ปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่สำคัญในชีวิตของเราจะขึ้นอยู่กับว่าจีนอนุญาตให้เรามีมันหรือไม่”

    “ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ยาลดความดันโลหิตไปจนถึงภาพยนตร์ที่เราได้ชม และทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างนั้น จีนครอบงำอุตสาหกรรมแร่ธาตุที่สำคัญ แม้แต่ผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แบตเตอรี่เหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับจีน”

    “หากเราไม่เปลี่ยนแปลงเส้นทาง เราจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่สิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันมากมาย ตั้งแต่ความปลอดภัยไปจนถึงสุขภาพของเรา จะขึ้นอยู่กับว่าจีนอนุญาตให้เรามีมันหรือไม่”
    มาร์โก รูบิโอ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ในรัฐบาลของทรัมป์ กล่าวว่า ภายในเวลาไม่ถึง 10 ปี จีนจะปกครองทุกสิ่งทุกอย่าง: “หากเราเดินหน้าต่อไปตามเส้นทางที่เรากำลังดำเนินอยู่ ในเวลาไม่ถึง 10 ปี ทุกสิ่งทุกอย่างที่สำคัญในชีวิตของเราจะขึ้นอยู่กับว่าจีนอนุญาตให้เรามีมันหรือไม่” “ทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ยาลดความดันโลหิตไปจนถึงภาพยนตร์ที่เราได้ชม และทุกสิ่งทุกอย่างระหว่างนั้น จีนครอบงำอุตสาหกรรมแร่ธาตุที่สำคัญ แม้แต่ผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แบตเตอรี่เหล่านี้ก็ขึ้นอยู่กับจีน” “หากเราไม่เปลี่ยนแปลงเส้นทาง เราจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่สิ่งสำคัญในชีวิตประจำวันมากมาย ตั้งแต่ความปลอดภัยไปจนถึงสุขภาพของเรา จะขึ้นอยู่กับว่าจีนอนุญาตให้เรามีมันหรือไม่”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • เชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์จากทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นายกรัฐมนตรีอิตาลีฟันธง เหมือนสัญญาณเตือนไป “ปักกิ่ง” ไม่กี่วันหลังวอชิงตันล็อบบี้ไม่ให้ขายบริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ของกรีนแลนด์ไปให้ปักกิ่ง
    .
    หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า มีการเชื่อว่า ความคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์อาจมาจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทรัมป์ ทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) อ้างจากหนังสือ The Divider ของปีเตอร์ เบเกอร์ (Peter Baker) จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และซูซาน กลาสเซอร์ (Susan Glasser) จาก The New Yorker ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่อยู่ในทำเนียบขาวระหว่างปี 2017-2021
    .
    “เพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากๆ คิดว่าเราควรได้เกาะกรีนแลนด์” ทรัมป์กล่าวต่อที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในเวลานั้น อ้างอิงจากหนังสือ
    .
    ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในเวลานั้นถามย้ำว่า “คุณคิดว่าอย่างไร?”
    .
    และส่งผลทำให้มีการตั้งทีมศึกษา การหาทางออกต่างๆ เป็นต้นว่า ข้อเสนอขอเช่าเกาะ ที่คล้ายข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์ก
    .
    อ้างอิงจากนิวยอร์กไทม์ส มีความวิตกในกลุ่มผู้ช่วยทรัมป์ว่า หากแนวคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์หากรั่วออกไปอาจส่งผลกระทบทางการทูตได้
    .
    ทรัมป์ให้มสัมภาษณ์กับผู้แต่งว่า “ผมพูดว่า ทำไมพวกเราไม่ครอบครองมัน” และเสริมว่า “คุณมองไปที่แผนที่สิ ผมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผมมองไปที่ตรงมุม ผมพูดว่า ผมจะต้องมีร้านสำหรับตึกที่ผมกำลังจะสร้างและอื่นๆ มันไม่ต่างกันเลย”
    .
    ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า “ผมรักแผน และผมมักพูดว่า มองไปที่ขนาดของมันสิ มันใหญ่มหึมามาก มันสมควรเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา”
    .
    ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า อ้างอิงจากหนังสือพบว่า ทายาท Estée Lauder ได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับเกาะกรีนแลนด์มาตั้งแต่เริ่มแรกของสมัยการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017 และแม้กระทั่งเสนอตัวเองเป็นประตูหลังติดต่อรัฐบาลเดนมาร์กสำหรับการเจรจาต่อรอง
    .
    ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น โบลตัน (John Bolton) ในเวลานั้นได้สั่งผู้ช่วยของเขา ฟิโอนา ฮิลล์ (Fiona Hill) ให้ตั้งทีมงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และพบมีการแอบหารือลับร่วมกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก พร้อมกับเมโมเสนอช่องทางตัวเลือก
    .
    ทั้งนี้ โบลตันวิตกการแผ่อิทธิพลของ "ปักกิ่ง" มายังภูมิภาคอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ และเชื่อว่าการที่สหรัฐฯ จะเพิ่มอิทธิพลปรากฏตัวบนเกาะกรีนแลนด์จะเป็นความคิดที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม โบลตันเชื่อว่า ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์นั้นไม่มีความเป็นไปได้
    .
    มีการสานสัมพันธ์ระหว่างกรีนแลนด์และจีน อ้างอิงจาก highnorthnews รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปี 2021 ว่า เกาะกรีนแลนด์ได้เปิดสำนักงานตัวแทนขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เพื่อโปรโมตทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมระหว่างกรีนแลนด์และเอเชีย โดยมีเป้าหมายไปที่ "จีน" แต่ยังครอบคลุมไปถึงญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้
    .
    ความกังวลของโบลตันเกี่ยวกับกรีนแลนด์ในเวลานั้นยังสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของวอชิงตันเมื่อล่าสุด
    .
    รอยเตอร์รายงานวันศุกร์ (10) ล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดสมัยได้ร่วมกับโคเปนเฮเกนแอบล็อบบี้บริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) Tanbreez Mining ของกรีนแลนด์ที่มีนโยบายว่า ทำเหมืองเพื่อเทคโนโลยีสะอาดกว่า (Mining for Greener Technologies) ไม่ให้ถูกขายไปให้ปักกิ่ง
    .
    แร่แรร์เอิร์ธนั้นมีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กสูงและมีความสำคัญต่อการพัฒนาตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงจรวดมิสไซล์ที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างแข่งขันเพื่อครอบครอง
    .
    เกร็ก บาร์นส์ (Greg Barnes) ซีอีโอบริษัท Tanbreez Mining ที่ขัดสนเงินให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันปีที่แล้วเดินทางมาที่ทางใต้ของเกาะกรีนแลนด์ถึง 2 ครั้งเพื่อเตือนไม่ให้ขายไปให้ผู้ซื้อที่เชื่อมโยงกับปักกิ่ง
    .
    และในท้ายที่สุดเขาจำเป็นต้องขายบริษัทเหมืองแร่กรีนแลนด์ไปให้บริษัทเหมืองแร่ Critical Metals ที่มีฐานในนิวยอร์กในข้อตกลงที่สลับซับซ้อนและได้เงินน้อยกว่า ซึ่งสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้
    .
    ทั้งนี้บาร์นส์จะได้เงินสด 5 ล้านดอลลาร์และหุ้นใน Critical Metals สำหรับ Tanbreez Mining เป็นมูลค่า 211 ล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่าสัญญาขายน้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบออกมาจากฝั่งของบริษัทจีน
    .
    ทรัมป์ต้องการได้เกาะกรีนแลนด์เพื่อกันจีนนั้นยังออกมาจากความเห็นของนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni)
    .
    ฟรานซ์24 ของฝรั่งเศสรายงานวันพฤหัสบดี (9) ว่า ผู้นำหญิงอิตาลีเปิดเผยว่า เธอมองว่าการที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ข่มขู่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์หรือคลองปานามาเป็นเสมือนคำเตือนไปยังประเทศฝ่ายตรงข้ามเป็นต้นว่า “จีน” ที่สมควรทำตัวออกห่างจากพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ
    .
    เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ Múte Egede ในวันศุกร์ (10) ที่เดนมาร์ก ได้แสดงความปรารถนาจะเข้าสู่การเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำว่า “ชาวกรีนแลนด์ไม่ต้องการเป็นอเมริกันชน”
    .
    เกิดขึ้นหลังแอ็กซิออส (Axios) รายงานว่า เจ้าหน้าที่เดนมาร์กได้สื่อสารในทางลับกับทีมของทรัมป์ประเด็นเกาะกรีนแลนด์ก่อนหน้าวันพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค.
    .
    สหรัฐฯ ที่ตั้งชาติมาอย่างหลากหลายวิธีทั้งสู้รบในสงครามปฏิวัติอเมริกากับอังกฤษ และการสู้รบสเปน และเม็กซิโกในการขยายดินแดน และยังรวมไปถึงการใช้เงินเพื่อซื้อดินแดน
    .
    เดลีเมลของอังกฤษประเมินว่า หากสหรัฐฯ เดินหน้าซื้อเกาะกรีนแลนด์จริงอาจต้องจ่ายแพงกว่าตอนซื้อรัฐอะแลสกาจากรัสเซียเมื่อปี 1867 ในราคา 7.2 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 153.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    โดยชี้ว่า เกาะกรีนแลนด์ใหญ่กว่ารัฐอะแลสกา 150 เท่า คาดว่าอาจต้องควักกระเป๋าจ่ายถึง 230.25 ล้านดอลลาร์
    สหรัฐฯ เคยซื้อเกาะเวอร์จินจากเดนมาร์กเมื่อปี 1917 ด้วยทองคำมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 616.2 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    และรัฐบาลลุงแซมยังเคยทุ่มซื้อรัฐลุยเซียนาจากฝรั่งเศสเมื่อปี 1803 ในราคา 15 ล้านดอลลาร์ หรือตกราว 418.8 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003916
    ..............
    Sondhi X
    เชื่อว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจได้ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์จากทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) เพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย นายกรัฐมนตรีอิตาลีฟันธง เหมือนสัญญาณเตือนไป “ปักกิ่ง” ไม่กี่วันหลังวอชิงตันล็อบบี้ไม่ให้ขายบริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) ของกรีนแลนด์ไปให้ปักกิ่ง . หนังสือพิมพ์ดิอินดีเพนเดนท์ของอังกฤษรายงานวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า มีการเชื่อว่า ความคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์อาจมาจากเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของทรัมป์ ทายาทเครื่องสำอาง ESTÉE LAUDER “โรแนลด์ ลอเดอร์” (Ronald Lauder) อ้างจากหนังสือ The Divider ของปีเตอร์ เบเกอร์ (Peter Baker) จากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และซูซาน กลาสเซอร์ (Susan Glasser) จาก The New Yorker ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในขณะที่อยู่ในทำเนียบขาวระหว่างปี 2017-2021 . “เพื่อนคนหนึ่งของผมที่เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์มากๆ คิดว่าเราควรได้เกาะกรีนแลนด์” ทรัมป์กล่าวต่อที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติในเวลานั้น อ้างอิงจากหนังสือ . ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ในเวลานั้นถามย้ำว่า “คุณคิดว่าอย่างไร?” . และส่งผลทำให้มีการตั้งทีมศึกษา การหาทางออกต่างๆ เป็นต้นว่า ข้อเสนอขอเช่าเกาะ ที่คล้ายข้อตกลงอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์ก . อ้างอิงจากนิวยอร์กไทม์ส มีความวิตกในกลุ่มผู้ช่วยทรัมป์ว่า หากแนวคิดการซื้อเกาะกรีนแลนด์หากรั่วออกไปอาจส่งผลกระทบทางการทูตได้ . ทรัมป์ให้มสัมภาษณ์กับผู้แต่งว่า “ผมพูดว่า ทำไมพวกเราไม่ครอบครองมัน” และเสริมว่า “คุณมองไปที่แผนที่สิ ผมเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผมมองไปที่ตรงมุม ผมพูดว่า ผมจะต้องมีร้านสำหรับตึกที่ผมกำลังจะสร้างและอื่นๆ มันไม่ต่างกันเลย” . ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า “ผมรักแผน และผมมักพูดว่า มองไปที่ขนาดของมันสิ มันใหญ่มหึมามาก มันสมควรเป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา” . ดิอินดีเพนเดนท์รายงานว่า อ้างอิงจากหนังสือพบว่า ทายาท Estée Lauder ได้หารือกับทรัมป์เกี่ยวกับเกาะกรีนแลนด์มาตั้งแต่เริ่มแรกของสมัยการดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2017 และแม้กระทั่งเสนอตัวเองเป็นประตูหลังติดต่อรัฐบาลเดนมาร์กสำหรับการเจรจาต่อรอง . ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น โบลตัน (John Bolton) ในเวลานั้นได้สั่งผู้ช่วยของเขา ฟิโอนา ฮิลล์ (Fiona Hill) ให้ตั้งทีมงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ และพบมีการแอบหารือลับร่วมกับเอกอัครราชทูตเดนมาร์ก พร้อมกับเมโมเสนอช่องทางตัวเลือก . ทั้งนี้ โบลตันวิตกการแผ่อิทธิพลของ "ปักกิ่ง" มายังภูมิภาคอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ และเชื่อว่าการที่สหรัฐฯ จะเพิ่มอิทธิพลปรากฏตัวบนเกาะกรีนแลนด์จะเป็นความคิดที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม โบลตันเชื่อว่า ความคิดซื้อเกาะกรีนแลนด์นั้นไม่มีความเป็นไปได้ . มีการสานสัมพันธ์ระหว่างกรีนแลนด์และจีน อ้างอิงจาก highnorthnews รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ปี 2021 ว่า เกาะกรีนแลนด์ได้เปิดสำนักงานตัวแทนขึ้นที่กรุงปักกิ่ง เพื่อโปรโมตทางเศรษฐกิจ การค้า วัฒนธรรมระหว่างกรีนแลนด์และเอเชีย โดยมีเป้าหมายไปที่ "จีน" แต่ยังครอบคลุมไปถึงญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ . ความกังวลของโบลตันเกี่ยวกับกรีนแลนด์ในเวลานั้นยังสอดคล้องกับความเคลื่อนไหวของวอชิงตันเมื่อล่าสุด . รอยเตอร์รายงานวันศุกร์ (10) ล่าสุดว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังจะหมดสมัยได้ร่วมกับโคเปนเฮเกนแอบล็อบบี้บริษัทเหมืองแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) Tanbreez Mining ของกรีนแลนด์ที่มีนโยบายว่า ทำเหมืองเพื่อเทคโนโลยีสะอาดกว่า (Mining for Greener Technologies) ไม่ให้ถูกขายไปให้ปักกิ่ง . แร่แรร์เอิร์ธนั้นมีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็กสูงและมีความสำคัญต่อการพัฒนาตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าไปจนถึงจรวดมิสไซล์ที่ทั้งสหรัฐฯ และจีนต่างแข่งขันเพื่อครอบครอง . เกร็ก บาร์นส์ (Greg Barnes) ซีอีโอบริษัท Tanbreez Mining ที่ขัดสนเงินให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันปีที่แล้วเดินทางมาที่ทางใต้ของเกาะกรีนแลนด์ถึง 2 ครั้งเพื่อเตือนไม่ให้ขายไปให้ผู้ซื้อที่เชื่อมโยงกับปักกิ่ง . และในท้ายที่สุดเขาจำเป็นต้องขายบริษัทเหมืองแร่กรีนแลนด์ไปให้บริษัทเหมืองแร่ Critical Metals ที่มีฐานในนิวยอร์กในข้อตกลงที่สลับซับซ้อนและได้เงินน้อยกว่า ซึ่งสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้ . ทั้งนี้บาร์นส์จะได้เงินสด 5 ล้านดอลลาร์และหุ้นใน Critical Metals สำหรับ Tanbreez Mining เป็นมูลค่า 211 ล้านดอลลาร์ เป็นมูลค่าสัญญาขายน้อยกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบออกมาจากฝั่งของบริษัทจีน . ทรัมป์ต้องการได้เกาะกรีนแลนด์เพื่อกันจีนนั้นยังออกมาจากความเห็นของนายกรัฐมนตรีอิตาลี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni) . ฟรานซ์24 ของฝรั่งเศสรายงานวันพฤหัสบดี (9) ว่า ผู้นำหญิงอิตาลีเปิดเผยว่า เธอมองว่าการที่ว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกันคนใหม่ข่มขู่จะใช้กำลังทหารเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์หรือคลองปานามาเป็นเสมือนคำเตือนไปยังประเทศฝ่ายตรงข้ามเป็นต้นว่า “จีน” ที่สมควรทำตัวออกห่างจากพื้นที่ทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ . เดลีเมลของอังกฤษรายงานวันเสาร์ (11) ว่า นายกรัฐมนตรีกรีนแลนด์ Múte Egede ในวันศุกร์ (10) ที่เดนมาร์ก ได้แสดงความปรารถนาจะเข้าสู่การเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมย้ำว่า “ชาวกรีนแลนด์ไม่ต้องการเป็นอเมริกันชน” . เกิดขึ้นหลังแอ็กซิออส (Axios) รายงานว่า เจ้าหน้าที่เดนมาร์กได้สื่อสารในทางลับกับทีมของทรัมป์ประเด็นเกาะกรีนแลนด์ก่อนหน้าวันพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค. . สหรัฐฯ ที่ตั้งชาติมาอย่างหลากหลายวิธีทั้งสู้รบในสงครามปฏิวัติอเมริกากับอังกฤษ และการสู้รบสเปน และเม็กซิโกในการขยายดินแดน และยังรวมไปถึงการใช้เงินเพื่อซื้อดินแดน . เดลีเมลของอังกฤษประเมินว่า หากสหรัฐฯ เดินหน้าซื้อเกาะกรีนแลนด์จริงอาจต้องจ่ายแพงกว่าตอนซื้อรัฐอะแลสกาจากรัสเซียเมื่อปี 1867 ในราคา 7.2 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับ 153.5 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . โดยชี้ว่า เกาะกรีนแลนด์ใหญ่กว่ารัฐอะแลสกา 150 เท่า คาดว่าอาจต้องควักกระเป๋าจ่ายถึง 230.25 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ เคยซื้อเกาะเวอร์จินจากเดนมาร์กเมื่อปี 1917 ด้วยทองคำมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่ากับ 616.2 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . และรัฐบาลลุงแซมยังเคยทุ่มซื้อรัฐลุยเซียนาจากฝรั่งเศสเมื่อปี 1803 ในราคา 15 ล้านดอลลาร์ หรือตกราว 418.8 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000003916 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Yay
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1264 มุมมอง 0 รีวิว
  • แวะไปเรื่อง EV นิดนึงครับ

    นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแดกูคยองบุก (DGIST) ในเกาหลีใต้ได้พัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียม-เมทัลที่มีความสามารถในการปิดตัวเองอัตโนมัติเมื่อเกิดความร้อนสูงเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้ในรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ใหม่นี้มีการออกแบบที่ใช้ชั้นโพลิเมอร์อิเล็กโทรไลต์สามชั้น ซึ่งช่วยป้องกันการเติบโตของลิเธียมที่อาจนำไปสู่การลัดวงจรและไฟไหม้

    นอกจากนี้ อิเล็กโทรไลต์ยังมีการเสริมด้วยสารดับเพลิง decabromodiphenyl ethane (DBDPE) ซึ่งช่วยให้แบตเตอรี่สามารถดับไฟได้เองเมื่อเกิดความร้อนสูงเกินไป แบตเตอรี่ใหม่นี้ยังมีความทนทานสูง โดยสามารถรักษาความจุเริ่มต้นได้ถึง 87.9% หลังจากการชาร์จ 1,000 รอบ ในขณะที่แบตเตอรี่ทั่วไปมักจะรักษาประสิทธิภาพได้เพียง 70-80% ในสภาวะเดียวกัน

    การพัฒนานี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยและทนทานมากขึ้นจะช่วยลดปัญหาไฟไหม้ที่เกิดจากการระเบิดของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประเภท NMC (นิกเกิล แมงกานีส และโคบอลต์) ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากในจีน

    ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมในจีนกำลังพัฒนารุ่นใหม่ของแบตเตอรี่แบบ solid-state ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงขึ้น โดยกลุ่ม SAIC ผ่านแบรนด์ MG กำลังทำงานในด้านนี้ การไม่มีอิเล็กโทรไลต์เหลวช่วยลดความเสี่ยงของการลัดวงจรและไฟไหม้ได้อย่างมาก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/13/scientists-showcase-solution-to-prevent-electric-car-batteries-from-catching-fire
    แวะไปเรื่อง EV นิดนึงครับ นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแดกูคยองบุก (DGIST) ในเกาหลีใต้ได้พัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียม-เมทัลที่มีความสามารถในการปิดตัวเองอัตโนมัติเมื่อเกิดความร้อนสูงเกินไป เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดไฟไหม้ในรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ใหม่นี้มีการออกแบบที่ใช้ชั้นโพลิเมอร์อิเล็กโทรไลต์สามชั้น ซึ่งช่วยป้องกันการเติบโตของลิเธียมที่อาจนำไปสู่การลัดวงจรและไฟไหม้ นอกจากนี้ อิเล็กโทรไลต์ยังมีการเสริมด้วยสารดับเพลิง decabromodiphenyl ethane (DBDPE) ซึ่งช่วยให้แบตเตอรี่สามารถดับไฟได้เองเมื่อเกิดความร้อนสูงเกินไป แบตเตอรี่ใหม่นี้ยังมีความทนทานสูง โดยสามารถรักษาความจุเริ่มต้นได้ถึง 87.9% หลังจากการชาร์จ 1,000 รอบ ในขณะที่แบตเตอรี่ทั่วไปมักจะรักษาประสิทธิภาพได้เพียง 70-80% ในสภาวะเดียวกัน การพัฒนานี้อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยและทนทานมากขึ้นจะช่วยลดปัญหาไฟไหม้ที่เกิดจากการระเบิดของแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนประเภท NMC (นิกเกิล แมงกานีส และโคบอลต์) ที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากในจีน ในขณะเดียวกัน อุตสาหกรรมในจีนกำลังพัฒนารุ่นใหม่ของแบตเตอรี่แบบ solid-state ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงขึ้น โดยกลุ่ม SAIC ผ่านแบรนด์ MG กำลังทำงานในด้านนี้ การไม่มีอิเล็กโทรไลต์เหลวช่วยลดความเสี่ยงของการลัดวงจรและไฟไหม้ได้อย่างมาก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/13/scientists-showcase-solution-to-prevent-electric-car-batteries-from-catching-fire
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Scientists showcase solution to prevent electric car batteries from catching fire
    Researchers in South Korea have developed an innovative lithium-metal battery that automatically shuts down in the event of overheating, reducing the risk of fire in electric vehicles.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันอย่างเป็นทางการถึงการปลดปล่อย Shevchenko ในทิศทาง Kurakhove สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์

    จากที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้หลายครั้งว่า สถานที่แห่งนี้จากการศึกษาของสำนักงานธรณีวิทยาของยูเครนในปี 2018 พบว่าแหล่งแร่ลิเธียมใน Shevchenko มีมากกว่า 13.8 ล้านตัน โดยเป็นลิเธียมออกไซด์บริสุทธิ์มากถึง 207,000 ตัน

    แหล่งแร่ดังกล่าวถือเป็นแหล่งแร่ที่ใหญ่ที่สุดไม่เพียงแค่ในยูเครนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วทั้งยุโรปอีกด้วย

    นอกจากลิเธียมแล้ว แหล่งแร่ในทิศทางนี้ยังมีแทนทาลัม ไนโอเบียม และเบริลอีกด้วย

    เมื่อปลายปี 2021 บริษัทเหมืองแร่ European Lithium ที่จดทะเบียนในออสเตรเลีย ซึ่งมีนักธุรกิจชาวอังกฤษเป็นเจ้าของ ประกาศว่ากำลังเข้าดำเนินการที่แหล่งแร่ Shevchenko ไว้เอง โดยสัญญาจะเริ่มในเดือนมกราคม 2024 ซึ่งบริษัทดังกล่าว กล่าวว่าได้รับใบอนุญาตขุดแร่พิเศษยาวนานถึง 20 ปี

    การสูญเสียแหล่งแร่ Shevchenko ถือเป็นการเสียหายครั้งใหญ่ต่อความมั่นคงของแร่ลิเธียมของสหภาพยุโรป จากรายงานของคณะกรรมาธิการยุโรปในปี 2020 คำนวณไว้ว่าสหภาพยุโรปจะต้องใช้ลิเธียมมากขึ้นถึง 18 เท่าสำหรับโครงการพลังงานสะอาดหรือ Green Energy ภายในปี 2030 และมากขึ้นถึง 60 เท่าภายในปี 2050

    รถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่เกือบทั้งหมดใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งประกอบด้วยลิเธียม นิกเกิล โคบอลต์ แมงกานีส และกราไฟต์ หากไม่มีแหล่งลิเธียมราคาถูก ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหภาพยุโรปจะตามหลังจีนและสหรัฐฯ ในการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น

    เมื่อเผชิญกับการล่มสลายของโอกาสในการครอบครองแร่ลิเธียมในยูเครนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สื่อของยุโรปรายงานว่า ยุโรปกำลังหันไปสนใจละตินอเมริกาสำหรับการแสวงหาแร่ธาตุหายากเหล่านี้
    กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันอย่างเป็นทางการถึงการปลดปล่อย Shevchenko ในทิศทาง Kurakhove สาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ จากที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านี้หลายครั้งว่า สถานที่แห่งนี้จากการศึกษาของสำนักงานธรณีวิทยาของยูเครนในปี 2018 พบว่าแหล่งแร่ลิเธียมใน Shevchenko มีมากกว่า 13.8 ล้านตัน โดยเป็นลิเธียมออกไซด์บริสุทธิ์มากถึง 207,000 ตัน แหล่งแร่ดังกล่าวถือเป็นแหล่งแร่ที่ใหญ่ที่สุดไม่เพียงแค่ในยูเครนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วทั้งยุโรปอีกด้วย นอกจากลิเธียมแล้ว แหล่งแร่ในทิศทางนี้ยังมีแทนทาลัม ไนโอเบียม และเบริลอีกด้วย เมื่อปลายปี 2021 บริษัทเหมืองแร่ European Lithium ที่จดทะเบียนในออสเตรเลีย ซึ่งมีนักธุรกิจชาวอังกฤษเป็นเจ้าของ ประกาศว่ากำลังเข้าดำเนินการที่แหล่งแร่ Shevchenko ไว้เอง โดยสัญญาจะเริ่มในเดือนมกราคม 2024 ซึ่งบริษัทดังกล่าว กล่าวว่าได้รับใบอนุญาตขุดแร่พิเศษยาวนานถึง 20 ปี การสูญเสียแหล่งแร่ Shevchenko ถือเป็นการเสียหายครั้งใหญ่ต่อความมั่นคงของแร่ลิเธียมของสหภาพยุโรป จากรายงานของคณะกรรมาธิการยุโรปในปี 2020 คำนวณไว้ว่าสหภาพยุโรปจะต้องใช้ลิเธียมมากขึ้นถึง 18 เท่าสำหรับโครงการพลังงานสะอาดหรือ Green Energy ภายในปี 2030 และมากขึ้นถึง 60 เท่าภายในปี 2050 รถยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่เกือบทั้งหมดใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งประกอบด้วยลิเธียม นิกเกิล โคบอลต์ แมงกานีส และกราไฟต์ หากไม่มีแหล่งลิเธียมราคาถูก ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหภาพยุโรปจะตามหลังจีนและสหรัฐฯ ในการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น เมื่อเผชิญกับการล่มสลายของโอกาสในการครอบครองแร่ลิเธียมในยูเครนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สื่อของยุโรปรายงานว่า ยุโรปกำลังหันไปสนใจละตินอเมริกาสำหรับการแสวงหาแร่ธาตุหายากเหล่านี้
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • New York Post เผยถึงเหตุที่ #ทรัมป์ ต้องการ #กรีนแลนด์ ถึงขั้นบอกว่าถ้าจำเป็น ก็อาจจะต้องใช้กำลังทหารเพื่อผนวกกรีนแลนด์ ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันหลายคนตั้งคำถามว่า “แต่ทำไมล่ะ”

    ทั้งนี้ เพราะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ริมเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ และมีวัตถุดิบสำคัญที่หาได้ยากจากที่อื่น

    ปัจจุบัน #สหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับ #จีน และ #รัสเซีย เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของ #ภูมิภาคอาร์กติก เช่น ลิเธียม โคบอลต์ และกราไฟต์

    มี 2 เหตุผลหลัก ที่สหรัฐฯต้องการผนวกกรีนแลนด์
    - ประการแรกคือ แหล่งแร่หายากจำนวนมากที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศและอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ

    - ประการที่สอง กรีนแลนด์มีสิทธิใน #อาร์กติก อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐฯ มีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากการแข่งขันด้านการเดินเรือและทรัพยากรกำลังทวีความรุนแรงขึ้น

    สหรัฐฯ แข่งขันอย่างเงียบๆ กับจีนและรัสเซียในการเข้าถึงอาร์กติกมาหลายปีแล้ว โดยส่งเรือตัดน้ำแข็งทางทหารไปยังภูมิภาคนี้เพื่อปฏิบัติภารกิจสำรวจทุ่งทุนดราที่อุดมด้วยทรัพยากร

    ปัจจุบันสหรัฐฯ พึ่งพาแร่ธาตุหายากจากจีนอย่างมาก

    ขณะที่แร่ธาตุหายากก็พบในอาร์กติกนอกเหนือจากในเอเชีย และใช้ในทุกอย่างตั้งแต่โทรศัพท์มือถือไปจนถึงอาวุธทำลายล้างสูง

    “ด้วยความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า ระบบพลังงานหมุนเวียน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงที่เพิ่มมากขึ้น สหรัฐฯ จึงพึ่งพาวัสดุที่สำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและรักษาความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจระดับโลก”

    “[แร่ธาตุหายาก] ถูกใช้ในการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี ขีปนาวุธ รถถัง ดาวเทียม เรือรบ เครื่องบินขับไล่ และด้วยเหตุนี้ การรักษาความปลอดภัยจึงกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความมั่นคงของชาติ”

    การแข่งขันในอาร์กติกทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งที่เคยทำให้ทรัพยากรต่างๆ แทบจะเข้าถึงไม่ได้ละลายลง

    "ภาวะโลกร้อนทำให้การเดินเรือในอาร์กติกมีอิสระมากขึ้น"

    แต่จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ก็ยังถูกแซงหน้าโดยฝ่ายตรงข้าม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะสหรัฐฯ เข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวได้จำกัด และมีเรือตัดน้ำแข็งจำนวนค่อนข้างน้อย

    ปัญหานี้สร้างความรำคาญให้กับสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนมานานแล้ว รวมถึง ส.ส. ไมค์ วอลซ์ (R-Fla.) ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์

    “ในอาร์กติกที่เราต้องแข่งขันกันเพื่อทรัพยากรธรรมชาติ กองกำลังชายฝั่งต้องการเรือตัดน้ำแข็งมากกว่าหนึ่งลำ! รัสเซียมีเป็นโหล!” เขาโพสต์บน X เมื่อปี 2017

    ปัจจุบัน กองกำลังชายฝั่งของสหรัฐฯมีเรือตัดน้ำแข็งเพียงสองลำ แต่เมื่อไม่นานมานี้ วอลซ์ได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้มีเรือตัดน้ำแข็งเพิ่มขึ้นในรัฐสภาชุดที่ 119 ในการตอบกลับโพสต์บน X ที่เรียกร้องให้มีเรือตัดน้ำแข็ง “เพิ่มอีกสิบลำ”
    “นั่นคือแผน!” วอลซ์ให้คำมั่นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม

    การจัดหาเรือตัดน้ำแข็งเพิ่มเติมและการซื้อกรีนแลนด์ถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังสร้างโรงงานแปรรูปแร่ธาตุหายากเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ต้องการลดการพึ่งพาจีน
    แต่เนื่องจากสหรัฐฯ มีแร่ธาตุหายากเพียง 1.3% ของโลก ในขณะที่จีนมีมากถึง 70% "ตอนนี้เราจำเป็นต้องหาแร่ธาตุหายากเหล่านี้จากที่ใดสักแห่งเพื่อแปรรูปในประเทศ ... ซึ่งทำให้กรีนแลนด์มีเสน่ห์ดึงดูดใจ เนื่องจากกรีนแลนด์อาจเป็นแหล่งแร่ธาตุหายาก"

    ทรัมป์ ได้สรุปวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับซีกโลกตะวันตกในงานแถลงข่าวที่มาร์อาลาโก
    🎯กรีนแลนด์
    ทรัมป์บอกจะไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทางเศรษฐกิจหรือการทหารเพื่อยึดกรีนแลนด์หรือคลองปานามาออกไป “ไม่ ผมรับรองคุณไม่ได้หรอกว่าจะใช้กำลังทั้งสองอย่าง แต่ผมบอกได้ว่าเราต้องการมันเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ”

    🎯อ่าวเม็กซิโก
    ทรัมป์บอกจะขยายการขุดเจาะนอกชายฝั่ง “เราจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งตรงข้ามกับการที่ไบเดนปิดทุกอย่างและกำจัดทรัพย์สินมูลค่า 50 ถึง 60 ล้านล้านดอลลาร์ เราจะเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา ซึ่งมีความหมายที่สวยงาม”

    🎯แคนาดา
    ทรัมป์บอก #แคนาดา อาจกลายเป็นรัฐที่ 51 โดยมีเวย์น เกรตสกี้ นักฮ็อกกี้ชื่อดังเป็นผู้ว่าการรัฐ “คุณสามารถกำจัดเส้นแบ่งที่วาดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาตินั้นได้ และลองดูว่ามันเป็นอย่างไร และมันจะดีขึ้นมากสำหรับความมั่นคงของชาติด้วย “พวกเขาเป็นคนดี แต่เราใช้เงินหลายร้อยพันล้านที่นี่เพื่อปกป้องมัน เราใช้เงินหลายร้อยพันล้านต่อปีเพื่อดูแลแคนาดา เราสูญเสียดุลการค้า”

    🎯คลองปานามา
    “จีนเป็นผู้ดำเนินการ! จีน! และเรามอบคลองปานามาให้ปานามา” ทรัมป์กล่าว “เราไม่ได้มอบคลองนี้ให้จีน และพวกเขาใช้คลองนี้ในทางที่ผิด พวกเขาใช้ของขวัญนั้นในทางที่ผิด”

    ❌“ไม่ขาย”
    ความทะเยอทะยานของทรัมป์ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีในเดนมาร์ก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเมตเต้ เฟรเดอริกเซน ย้ำเมื่อวันอังคารว่าดินแดนนี้ “ไม่ขาย”

    “กรีนแลนด์เป็นของชาวกรีนแลนด์” นายกรัฐมนตรีเมตเตอ เฟรเดอริกเซนแห่งเดนมาร์ก ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เดนมาร์ก TV 2 “ในแง่หนึ่ง ผมยินดีที่อเมริกาสนใจกรีนแลนด์มากขึ้น แต่แน่นอนว่าสิ่งสำคัญคือเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นในลักษณะที่ชาวกรีนแลนด์เป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต”

    “ในแง่ของการเป็นเจ้าของ เราอาจเห็นต่างกันได้มาก เพราะเรากำลังดำเนินการสร้างประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยซึ่งก็คือกรีนแลนด์ และเราต้องการสร้างรัฐกรีนแลนด์” เฟนเคอร์กล่าว พร้อมเสริมว่ารัฐบาลอาณาเขตอาจเต็มใจทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในข้อตกลงการค้าโดยเสรี
    .
    ลิ้งค์ต้นทาง:
    https://web.facebook.com/share/p/15nuKPRz54/
    New York Post เผยถึงเหตุที่ #ทรัมป์ ต้องการ #กรีนแลนด์ ถึงขั้นบอกว่าถ้าจำเป็น ก็อาจจะต้องใช้กำลังทหารเพื่อผนวกกรีนแลนด์ ซึ่งทำให้ชาวอเมริกันหลายคนตั้งคำถามว่า “แต่ทำไมล่ะ” ทั้งนี้ เพราะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ริมเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ และมีวัตถุดิบสำคัญที่หาได้ยากจากที่อื่น ปัจจุบัน #สหรัฐฯ กำลังต่อสู้กับ #จีน และ #รัสเซีย เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติของ #ภูมิภาคอาร์กติก เช่น ลิเธียม โคบอลต์ และกราไฟต์ มี 2 เหตุผลหลัก ที่สหรัฐฯต้องการผนวกกรีนแลนด์ - ประการแรกคือ แหล่งแร่หายากจำนวนมากที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์ป้องกันประเทศและอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญ - ประการที่สอง กรีนแลนด์มีสิทธิใน #อาร์กติก อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งจะช่วยให้สหรัฐฯ มีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากการแข่งขันด้านการเดินเรือและทรัพยากรกำลังทวีความรุนแรงขึ้น สหรัฐฯ แข่งขันอย่างเงียบๆ กับจีนและรัสเซียในการเข้าถึงอาร์กติกมาหลายปีแล้ว โดยส่งเรือตัดน้ำแข็งทางทหารไปยังภูมิภาคนี้เพื่อปฏิบัติภารกิจสำรวจทุ่งทุนดราที่อุดมด้วยทรัพยากร ปัจจุบันสหรัฐฯ พึ่งพาแร่ธาตุหายากจากจีนอย่างมาก ขณะที่แร่ธาตุหายากก็พบในอาร์กติกนอกเหนือจากในเอเชีย และใช้ในทุกอย่างตั้งแต่โทรศัพท์มือถือไปจนถึงอาวุธทำลายล้างสูง “ด้วยความต้องการรถยนต์ไฟฟ้า ระบบพลังงานหมุนเวียน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงที่เพิ่มมากขึ้น สหรัฐฯ จึงพึ่งพาวัสดุที่สำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและรักษาความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจระดับโลก” “[แร่ธาตุหายาก] ถูกใช้ในการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี ขีปนาวุธ รถถัง ดาวเทียม เรือรบ เครื่องบินขับไล่ และด้วยเหตุนี้ การรักษาความปลอดภัยจึงกลายมาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความมั่นคงของชาติ” การแข่งขันในอาร์กติกทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลให้แผ่นน้ำแข็งที่เคยทำให้ทรัพยากรต่างๆ แทบจะเข้าถึงไม่ได้ละลายลง "ภาวะโลกร้อนทำให้การเดินเรือในอาร์กติกมีอิสระมากขึ้น" แต่จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ก็ยังถูกแซงหน้าโดยฝ่ายตรงข้าม ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะสหรัฐฯ เข้าถึงพื้นที่ดังกล่าวได้จำกัด และมีเรือตัดน้ำแข็งจำนวนค่อนข้างน้อย ปัญหานี้สร้างความรำคาญให้กับสมาชิกพรรครีพับลิกันบางคนมานานแล้ว รวมถึง ส.ส. ไมค์ วอลซ์ (R-Fla.) ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ “ในอาร์กติกที่เราต้องแข่งขันกันเพื่อทรัพยากรธรรมชาติ กองกำลังชายฝั่งต้องการเรือตัดน้ำแข็งมากกว่าหนึ่งลำ! รัสเซียมีเป็นโหล!” เขาโพสต์บน X เมื่อปี 2017 ปัจจุบัน กองกำลังชายฝั่งของสหรัฐฯมีเรือตัดน้ำแข็งเพียงสองลำ แต่เมื่อไม่นานมานี้ วอลซ์ได้ให้คำมั่นว่าจะผลักดันให้มีเรือตัดน้ำแข็งเพิ่มขึ้นในรัฐสภาชุดที่ 119 ในการตอบกลับโพสต์บน X ที่เรียกร้องให้มีเรือตัดน้ำแข็ง “เพิ่มอีกสิบลำ” “นั่นคือแผน!” วอลซ์ให้คำมั่นเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม การจัดหาเรือตัดน้ำแข็งเพิ่มเติมและการซื้อกรีนแลนด์ถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากสหรัฐฯ กำลังสร้างโรงงานแปรรูปแร่ธาตุหายากเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามล่าสุดของสหรัฐฯ ที่ต้องการลดการพึ่งพาจีน แต่เนื่องจากสหรัฐฯ มีแร่ธาตุหายากเพียง 1.3% ของโลก ในขณะที่จีนมีมากถึง 70% "ตอนนี้เราจำเป็นต้องหาแร่ธาตุหายากเหล่านี้จากที่ใดสักแห่งเพื่อแปรรูปในประเทศ ... ซึ่งทำให้กรีนแลนด์มีเสน่ห์ดึงดูดใจ เนื่องจากกรีนแลนด์อาจเป็นแหล่งแร่ธาตุหายาก" ทรัมป์ ได้สรุปวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับซีกโลกตะวันตกในงานแถลงข่าวที่มาร์อาลาโก 🎯กรีนแลนด์ ทรัมป์บอกจะไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทางเศรษฐกิจหรือการทหารเพื่อยึดกรีนแลนด์หรือคลองปานามาออกไป “ไม่ ผมรับรองคุณไม่ได้หรอกว่าจะใช้กำลังทั้งสองอย่าง แต่ผมบอกได้ว่าเราต้องการมันเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” 🎯อ่าวเม็กซิโก ทรัมป์บอกจะขยายการขุดเจาะนอกชายฝั่ง “เราจะเปลี่ยนแปลง ซึ่งตรงข้ามกับการที่ไบเดนปิดทุกอย่างและกำจัดทรัพย์สินมูลค่า 50 ถึง 60 ล้านล้านดอลลาร์ เราจะเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา ซึ่งมีความหมายที่สวยงาม” 🎯แคนาดา ทรัมป์บอก #แคนาดา อาจกลายเป็นรัฐที่ 51 โดยมีเวย์น เกรตสกี้ นักฮ็อกกี้ชื่อดังเป็นผู้ว่าการรัฐ “คุณสามารถกำจัดเส้นแบ่งที่วาดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาตินั้นได้ และลองดูว่ามันเป็นอย่างไร และมันจะดีขึ้นมากสำหรับความมั่นคงของชาติด้วย “พวกเขาเป็นคนดี แต่เราใช้เงินหลายร้อยพันล้านที่นี่เพื่อปกป้องมัน เราใช้เงินหลายร้อยพันล้านต่อปีเพื่อดูแลแคนาดา เราสูญเสียดุลการค้า” 🎯คลองปานามา “จีนเป็นผู้ดำเนินการ! จีน! และเรามอบคลองปานามาให้ปานามา” ทรัมป์กล่าว “เราไม่ได้มอบคลองนี้ให้จีน และพวกเขาใช้คลองนี้ในทางที่ผิด พวกเขาใช้ของขวัญนั้นในทางที่ผิด” ❌“ไม่ขาย” ความทะเยอทะยานของทรัมป์ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีในเดนมาร์ก ซึ่งนายกรัฐมนตรีเมตเต้ เฟรเดอริกเซน ย้ำเมื่อวันอังคารว่าดินแดนนี้ “ไม่ขาย” “กรีนแลนด์เป็นของชาวกรีนแลนด์” นายกรัฐมนตรีเมตเตอ เฟรเดอริกเซนแห่งเดนมาร์ก ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์เดนมาร์ก TV 2 “ในแง่หนึ่ง ผมยินดีที่อเมริกาสนใจกรีนแลนด์มากขึ้น แต่แน่นอนว่าสิ่งสำคัญคือเรื่องนี้ต้องเกิดขึ้นในลักษณะที่ชาวกรีนแลนด์เป็นผู้ตัดสินใจเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต” “ในแง่ของการเป็นเจ้าของ เราอาจเห็นต่างกันได้มาก เพราะเรากำลังดำเนินการสร้างประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยซึ่งก็คือกรีนแลนด์ และเราต้องการสร้างรัฐกรีนแลนด์” เฟนเคอร์กล่าว พร้อมเสริมว่ารัฐบาลอาณาเขตอาจเต็มใจทำงานร่วมกับสหรัฐฯ ในข้อตกลงการค้าโดยเสรี . ลิ้งค์ต้นทาง: https://web.facebook.com/share/p/15nuKPRz54/
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 574 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทสลา ไชน่า (Tesla China) รายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในตลาดจีนปี 2567 ทะลุ 657,000 คัน เพิ่มขึ้น 8.8% จากปีก่อนหน้า ถือเป็นยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทเริ่มดำเนินการในจีน ยอดขายเดือนธันวาคมแตะ 83,000 คัน ทำลายสถิติยอดขายรายเดือน เพิ่มขึ้น 12.8% จากเดือนพฤศจิกายน

    อย่างไรก็ตาม ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกของเทสลาในปี 2567 อยู่ที่ 1.79 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1.83 ล้านคัน นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 9 ปี แม้ว่าปีนี้เทสลาจะผลิตรถยนต์ได้ 1.77 ล้านคันทั่วโลก

    เทสลายังลงทุนเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตของ EV โดยในปี 2567 บริษัทได้ติดตั้งสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์เพิ่มกว่า 11,500 แห่งทั่วโลก เพิ่มขึ้น 19% ทำให้ปัจจุบันมีสถานีชาร์จรวมกว่า 67,000 แห่ง เทสลายังวางแผนเปิดตัวสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์รุ่นใหม่ V4 (V4 Supercharger) ในจีนตั้งแต่ปี 2568

    นอกจากนี้ โรงงานเมกะแฟกทอรี (Megafactory) ในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเน้นผลิตแบตเตอรี่สำหรับกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “เมกะแพก” (Megapack) ได้เริ่มทดลองผลิตแล้วในช่วงปลายปี 2567 โดยโรงงานคาดว่าจะเริ่มการผลิตเต็มกำลังได้ในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ปี 2568

    #MGROnline #เทสลา #เทสลาไชน่า

    เทสลา ไชน่า (Tesla China) รายงานยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในตลาดจีนปี 2567 ทะลุ 657,000 คัน เพิ่มขึ้น 8.8% จากปีก่อนหน้า ถือเป็นยอดขายสูงสุดนับตั้งแต่บริษัทเริ่มดำเนินการในจีน ยอดขายเดือนธันวาคมแตะ 83,000 คัน ทำลายสถิติยอดขายรายเดือน เพิ่มขึ้น 12.8% จากเดือนพฤศจิกายน • อย่างไรก็ตาม ยอดส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกของเทสลาในปี 2567 อยู่ที่ 1.79 ล้านคัน ลดลงจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 1.83 ล้านคัน นับเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 9 ปี แม้ว่าปีนี้เทสลาจะผลิตรถยนต์ได้ 1.77 ล้านคันทั่วโลก • เทสลายังลงทุนเพิ่มโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเติบโตของ EV โดยในปี 2567 บริษัทได้ติดตั้งสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์เพิ่มกว่า 11,500 แห่งทั่วโลก เพิ่มขึ้น 19% ทำให้ปัจจุบันมีสถานีชาร์จรวมกว่า 67,000 แห่ง เทสลายังวางแผนเปิดตัวสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์รุ่นใหม่ V4 (V4 Supercharger) ในจีนตั้งแต่ปี 2568 • นอกจากนี้ โรงงานเมกะแฟกทอรี (Megafactory) ในนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเน้นผลิตแบตเตอรี่สำหรับกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “เมกะแพก” (Megapack) ได้เริ่มทดลองผลิตแล้วในช่วงปลายปี 2567 โดยโรงงานคาดว่าจะเริ่มการผลิตเต็มกำลังได้ในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ปี 2568 • #MGROnline #เทสลา #เทสลาไชน่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • แวะนอกเรื่อง IT หน่อยครับ

    ข่าวนี้เกี่ยวกับการพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีอิเล็กโทรดแบบคริสตัลเดี่ยว ซึ่งสามารถใช้งานได้ถึง 20,000 รอบการชาร์จ-ปล่อยประจุ หรือประมาณ 8 ล้านกิโลเมตร

    การวิจัยนี้นำโดยศาสตราจารย์เจฟฟ์ ดาห์น จากมหาวิทยาลัยดัลฮาวซีในแคนาดา และได้รับการสนับสนุนจาก Tesla Canada และสภาวิจัยวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมแห่งแคนาดา . ทีมวิจัยใช้เทคโนโลยีแสงซินโครตรอนที่มหาวิทยาลัยซัสแคตเชวันในการวิเคราะห์โครงสร้างภายในของแบตเตอรี่

    แบตเตอรี่แบบคริสตัลเดี่ยวนี้มีความทนทานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบดั้งเดิม ซึ่งมักจะใช้งานได้ประมาณ 2,400 รอบก่อนที่จะลดลงถึง 80% ของความจุ โครงสร้างของอิเล็กโทรดในแบตเตอรี่แบบคริสตัลเดี่ยวทำให้ทนทานต่อความเครียดและแรงกดดันได้ดีกว่า

    การพัฒนาแบตเตอรี่นี้มีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและการเก็บพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ลมและแสงอาทิตย์ แบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มความยั่งยืนของยานพาหนะไฟฟ้า

    https://www.techspot.com/news/106187-researchers-create-ev-battery-potential-power-cars-decades.html
    แวะนอกเรื่อง IT หน่อยครับ ข่าวนี้เกี่ยวกับการพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีอิเล็กโทรดแบบคริสตัลเดี่ยว ซึ่งสามารถใช้งานได้ถึง 20,000 รอบการชาร์จ-ปล่อยประจุ หรือประมาณ 8 ล้านกิโลเมตร การวิจัยนี้นำโดยศาสตราจารย์เจฟฟ์ ดาห์น จากมหาวิทยาลัยดัลฮาวซีในแคนาดา และได้รับการสนับสนุนจาก Tesla Canada และสภาวิจัยวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมแห่งแคนาดา . ทีมวิจัยใช้เทคโนโลยีแสงซินโครตรอนที่มหาวิทยาลัยซัสแคตเชวันในการวิเคราะห์โครงสร้างภายในของแบตเตอรี่ แบตเตอรี่แบบคริสตัลเดี่ยวนี้มีความทนทานมากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบดั้งเดิม ซึ่งมักจะใช้งานได้ประมาณ 2,400 รอบก่อนที่จะลดลงถึง 80% ของความจุ โครงสร้างของอิเล็กโทรดในแบตเตอรี่แบบคริสตัลเดี่ยวทำให้ทนทานต่อความเครียดและแรงกดดันได้ดีกว่า การพัฒนาแบตเตอรี่นี้มีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าและการเก็บพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น ลมและแสงอาทิตย์ แบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเพิ่มความยั่งยืนของยานพาหนะไฟฟ้า https://www.techspot.com/news/106187-researchers-create-ev-battery-potential-power-cars-decades.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Next-gen EV batteries could last decades, researchers show the potential of single-crystal electrode tech
    The study, funded by Tesla Canada and the Natural Sciences and Engineering Research Council of Canada, was led by Professor Jeff Dahn from Dalhousie University in Halifax,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย
    จากมุมมองของ Nikkei Asia
    .
    ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76%
    .
    แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้
    .
    "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า
    .
    "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์"
    .
    นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง
    .
    "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ
    .
    จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน
    .
    การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก
    .
    ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว!
    .
    นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า
    .
    "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง"
    .
    นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน
    .
    "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
    .
    "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก
    .
    ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%)
    .
    ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น
    .
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า
    .
    ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์
    .
    อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้
    .
    สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง
    .
    แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้?
    .
    เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳
    .
    .
    อ้างอิง :
    NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand
    https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย จากมุมมองของ Nikkei Asia . ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76% . แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้ . "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า . "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์" . นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง . "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ . จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน . การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก . ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว! . นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า . "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง" . นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน . "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า . "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก . ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%) . ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น . ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า . ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์ . อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้ . สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง . แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้? . เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳 . . อ้างอิง : NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 586 มุมมอง 1 รีวิว
  • ฟันธงยุทธศาสตร์ Made in China 2025
    จุดเริ่มต้นทำให้จีนแซงหน้าสหรัฐฯแน่นอน
    .
    20 กว่าปีที่ผ่านมา จีนทุ่มเงินไปหลายล้านล้านหยวน เพื่อสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง และลดการพึ่งพาต่างชาติ เพราะจีนชูนโยบาย Made in China 2025 ทำให้จีนไม่ต้องไปหวั่นไหวกับคำขู่ที่จะคว่ำบาตรและขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังคงหลงตัวเองว่าประเทศต่างๆ ต้องมาพึ่งตัวเอง
    .
    แต่ความจริงก็คือ ทุกวันนี้สหรัฐฯ พึ่งจีนมากกว่าที่จีนพึ่งสหรัฐฯ นี่คือสัจจะวาจาที่ผมให้ก่อนสิ้นปีนี้ การที่จีนมีระบบเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มของตัวเอง ทำให้การปิดล้อมทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ แทบจะไม่ประสบผลสำเร็จเลย ซ้ำยังเป็นแรงผลักดันให้จีนต้องเร่งสร้างเทคโนโลยี และห่วงโซ่อุปทานของตัวเองให้เร็วยิ่งขึ้น
    .
    ภายใน 14 ปีที่ผ่านมานี้ อุตสาหกรรมที่จีนสร้างผลิตผลทางอุตสาหกรรมกลายเพิ่มขึ้นเป็น 34% ของโลก จาก 19% ของโลก
    เพราะในนโยบาย Made in China จีนได้กำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้าไปทุกด้าน คือ
    (1) เทคโนโลยีสารสนเทศ อีกสองปีข้างหน้า จีนจะผลิตเซมิคอนดักเตอร์ได้เองเกือบ 30% ของโลก
    (2) เครื่องจักรชั้นสูงและหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม ทุกประเทศรวมกันในโลกสู้จีนไม่ได้เลย
    (3) การบินและอากาศยาน จีนผลิตเครื่องบิน C-919 คู่แข่งโบอิ้ง และแอร์บัส และบริษัท DJI (Dà Jiāng Chuàngxīn)ของจีนผลิตโดรนรายใหญ่ที่สุดของโลกโดย
    (4) วิศวกรรมทางการทะเลและการต่อเรือ ครองสัดส่วนมากกว่า 70% ของตลาดโลก
    (5) การขนส่งทางราง รถไฟความเร็วสูงในจีนใช้เทคโนโลยีและใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศเกือบทั้งหมด และจีนยังได้ส่งออกเทคโนโลยีรถไฟไปยังต่างประเทศอีกด้วย น่าเสียดายรถไฟความเร็วสูงของบ้านเรายังไม่ไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว
    (6) รถยนต์พลังงานใหม่ BYDเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก และจีนกำลังแซงหน้าสหรัฐฯ เยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขึ้นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่รายใหญ่ที่สุดของโลก
    (7) อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า จีนครองตลาดอุปกรณ์โซลาร์เซลล์มากกว่า 80% ของทั่วโลกที่มีมูลค่ามากกว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว
    (8) เครื่องมือเกษตรกรรม แม้จีนยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าอุปกรณ์ล้ำสมัย แต่ได้ผสมผสานเครื่องจักรพลังไฟฟ้าใช้พิกัดดาวเทียมทำการเกษตรแบบอัจฉริยะ
    (9) วัสดุใหม่ จีนได้ดุลการค้าในวัสดุทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์บอน ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นวัสดุที่จะมาแทนโลหะ
    (10) อุปกรณ์การแพทย์และเทคโนโลยีเภสัชกรรม จีนมีความก้าวหน้าในการวิจัยวัคซีน ยารักษาโรค รวมถึงในเทคโนโลยีการผ่าตัดรักษาพยาบาลโดยใช้ระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) และระบบ 5G เข้ามาช่วยในงานการแพทย์
    .
    หลังจากยุทธศาสตร์ Made in China 2025 แล้ว จีนยังมีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่ Made in China ซึ่งหมายความว่า สินค้าที่ใช้เทคโนโลยีของจีน ออกแบบโดยคนจีน แต่ว่าอาจจะไปผลิตที่ประเทศอื่นที่มีต้นทุนถูกกว่า เหมือนกับสินค้าแบรนด์ตะวันตกที่มาผลิตในประเทศต่างๆ นั่นเอง
    .
    สรุป ถ้านายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 60- 100%จริงๆ ตามที่ขู่ไว้ ต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯจะสูงขนาดไหน เพราะว่าวัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิตหลายอย่างที่สหรัฐฯต้องใช้นั้น ต้องนำเข้าจากจีนที่นับวันมีแต่มากขึ้นๆ หรือถ้าสหรัฐฯ จะแยกตขั้วตัดขาดกับจีน คำถามมีอยู่ว่าแล้วโรงงานสหรัฐฯ จะเอาวัตถุดิบจากไหนล่ะ ไม่มีให้
    .
    นี่ยังไม่พูดถึงค่าแรงและต้นทุนต่างๆ ในสหรัฐฯ ที่แพงกว่าประเทศจีน ทักษะคนงานในสหรัฐฯบางสาขา เทียบไม่ได้กับความสามารถของคนจีน เช่นนี้แล้ว Made in China 2025 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ในที่สุดทำให้จีนภายในไม่กี่ปีจากนี้ไป จะต้องแซงหน้าสหรัฐฯอย่างค่อนข้างแน่นอนที่สุด อันนี้ผมฟันธงได้เลย
    ฟันธงยุทธศาสตร์ Made in China 2025 จุดเริ่มต้นทำให้จีนแซงหน้าสหรัฐฯแน่นอน . 20 กว่าปีที่ผ่านมา จีนทุ่มเงินไปหลายล้านล้านหยวน เพื่อสร้างเทคโนโลยีของตัวเอง และลดการพึ่งพาต่างชาติ เพราะจีนชูนโยบาย Made in China 2025 ทำให้จีนไม่ต้องไปหวั่นไหวกับคำขู่ที่จะคว่ำบาตรและขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังคงหลงตัวเองว่าประเทศต่างๆ ต้องมาพึ่งตัวเอง . แต่ความจริงก็คือ ทุกวันนี้สหรัฐฯ พึ่งจีนมากกว่าที่จีนพึ่งสหรัฐฯ นี่คือสัจจะวาจาที่ผมให้ก่อนสิ้นปีนี้ การที่จีนมีระบบเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มของตัวเอง ทำให้การปิดล้อมทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ แทบจะไม่ประสบผลสำเร็จเลย ซ้ำยังเป็นแรงผลักดันให้จีนต้องเร่งสร้างเทคโนโลยี และห่วงโซ่อุปทานของตัวเองให้เร็วยิ่งขึ้น . ภายใน 14 ปีที่ผ่านมานี้ อุตสาหกรรมที่จีนสร้างผลิตผลทางอุตสาหกรรมกลายเพิ่มขึ้นเป็น 34% ของโลก จาก 19% ของโลก เพราะในนโยบาย Made in China จีนได้กำหนด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้าไปทุกด้าน คือ (1) เทคโนโลยีสารสนเทศ อีกสองปีข้างหน้า จีนจะผลิตเซมิคอนดักเตอร์ได้เองเกือบ 30% ของโลก (2) เครื่องจักรชั้นสูงและหุ่นยนต์ในภาคอุตสาหกรรม ทุกประเทศรวมกันในโลกสู้จีนไม่ได้เลย (3) การบินและอากาศยาน จีนผลิตเครื่องบิน C-919 คู่แข่งโบอิ้ง และแอร์บัส และบริษัท DJI (Dà Jiāng Chuàngxīn)ของจีนผลิตโดรนรายใหญ่ที่สุดของโลกโดย (4) วิศวกรรมทางการทะเลและการต่อเรือ ครองสัดส่วนมากกว่า 70% ของตลาดโลก (5) การขนส่งทางราง รถไฟความเร็วสูงในจีนใช้เทคโนโลยีและใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศเกือบทั้งหมด และจีนยังได้ส่งออกเทคโนโลยีรถไฟไปยังต่างประเทศอีกด้วย น่าเสียดายรถไฟความเร็วสูงของบ้านเรายังไม่ไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว (6) รถยนต์พลังงานใหม่ BYDเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก และจีนกำลังแซงหน้าสหรัฐฯ เยอรมนี ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ขึ้นเป็นผู้ส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่รายใหญ่ที่สุดของโลก (7) อุปกรณ์ผลิตไฟฟ้า จีนครองตลาดอุปกรณ์โซลาร์เซลล์มากกว่า 80% ของทั่วโลกที่มีมูลค่ามากกว่า 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีที่แล้ว (8) เครื่องมือเกษตรกรรม แม้จีนยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าอุปกรณ์ล้ำสมัย แต่ได้ผสมผสานเครื่องจักรพลังไฟฟ้าใช้พิกัดดาวเทียมทำการเกษตรแบบอัจฉริยะ (9) วัสดุใหม่ จีนได้ดุลการค้าในวัสดุทางเทคโนโลยีเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาร์บอน ไฟเบอร์ ซึ่งเป็นวัสดุที่จะมาแทนโลหะ (10) อุปกรณ์การแพทย์และเทคโนโลยีเภสัชกรรม จีนมีความก้าวหน้าในการวิจัยวัคซีน ยารักษาโรค รวมถึงในเทคโนโลยีการผ่าตัดรักษาพยาบาลโดยใช้ระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) และระบบ 5G เข้ามาช่วยในงานการแพทย์ . หลังจากยุทธศาสตร์ Made in China 2025 แล้ว จีนยังมีเป้าหมายที่จะก้าวไปสู่ Made in China ซึ่งหมายความว่า สินค้าที่ใช้เทคโนโลยีของจีน ออกแบบโดยคนจีน แต่ว่าอาจจะไปผลิตที่ประเทศอื่นที่มีต้นทุนถูกกว่า เหมือนกับสินค้าแบรนด์ตะวันตกที่มาผลิตในประเทศต่างๆ นั่นเอง . สรุป ถ้านายโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 60- 100%จริงๆ ตามที่ขู่ไว้ ต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯจะสูงขนาดไหน เพราะว่าวัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิตหลายอย่างที่สหรัฐฯต้องใช้นั้น ต้องนำเข้าจากจีนที่นับวันมีแต่มากขึ้นๆ หรือถ้าสหรัฐฯ จะแยกตขั้วตัดขาดกับจีน คำถามมีอยู่ว่าแล้วโรงงานสหรัฐฯ จะเอาวัตถุดิบจากไหนล่ะ ไม่มีให้ . นี่ยังไม่พูดถึงค่าแรงและต้นทุนต่างๆ ในสหรัฐฯ ที่แพงกว่าประเทศจีน ทักษะคนงานในสหรัฐฯบางสาขา เทียบไม่ได้กับความสามารถของคนจีน เช่นนี้แล้ว Made in China 2025 จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ในที่สุดทำให้จีนภายในไม่กี่ปีจากนี้ไป จะต้องแซงหน้าสหรัฐฯอย่างค่อนข้างแน่นอนที่สุด อันนี้ผมฟันธงได้เลย
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทซอฟต์แวร์ยานยนต์ของ Volkswagen ชื่อ Cariad ได้เก็บข้อมูลจากรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 800,000 คันไว้ในคลาวด์ของ Amazon โดยไม่มีการป้องกัน ทำให้ผู้ที่มีความรู้ทางเทคนิคเล็กน้อยสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ขับขี่หรือรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้

    ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยรวมถึงรายละเอียดของรถยนต์ VW, Seat, Audi, และ Skoda โดยมีข้อมูลตำแหน่งที่แม่นยำถึงระดับเซนติเมตรสำหรับบางคัน. การเข้าถึงข้อมูลนี้เป็นไปได้เนื่องจากการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้องในแอปพลิเคชัน IT สองตัวของ Cariad

    Cariad ได้รับแจ้งปัญหานี้จาก Chaos Computer Club (CCC) ซึ่งเป็นองค์กรแฮ็กเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป. หลังจากได้รับรายงานจาก CCC ทีมงานของ Cariad ได้แก้ไขปัญหาและปิดการเข้าถึงข้อมูลในวันเดียวกัน

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/customer-data-from-800-000-electric-cars-and-owners-exposed-online/
    บริษัทซอฟต์แวร์ยานยนต์ของ Volkswagen ชื่อ Cariad ได้เก็บข้อมูลจากรถยนต์ไฟฟ้าประมาณ 800,000 คันไว้ในคลาวด์ของ Amazon โดยไม่มีการป้องกัน ทำให้ผู้ที่มีความรู้ทางเทคนิคเล็กน้อยสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ขับขี่หรือรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยรวมถึงรายละเอียดของรถยนต์ VW, Seat, Audi, และ Skoda โดยมีข้อมูลตำแหน่งที่แม่นยำถึงระดับเซนติเมตรสำหรับบางคัน. การเข้าถึงข้อมูลนี้เป็นไปได้เนื่องจากการตั้งค่าที่ไม่ถูกต้องในแอปพลิเคชัน IT สองตัวของ Cariad Cariad ได้รับแจ้งปัญหานี้จาก Chaos Computer Club (CCC) ซึ่งเป็นองค์กรแฮ็กเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป. หลังจากได้รับรายงานจาก CCC ทีมงานของ Cariad ได้แก้ไขปัญหาและปิดการเข้าถึงข้อมูลในวันเดียวกัน https://www.bleepingcomputer.com/news/security/customer-data-from-800-000-electric-cars-and-owners-exposed-online/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Customer data from 800,000 electric cars and owners exposed online
    Volkswagen's automotive software company, Cariad, exposed data collected from around 800,000 electric cars. The info could be linked to drivers' names and reveal precise vehicle locations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮอนด้า นิสสัน และมิตซูบิชิ ยืนยันว่ากำลังเจรจาควบรวมกิจการ

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวกันของยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์ญี่ปุ่น โดยฮอนด้าและนิสสันได้ตกลงที่จะ "เริ่มพิจารณาการรวมธุรกิจผ่านการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน" ส่วนมิตซูบิชิจะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ การรวมกิจการครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของญี่ปุ่น รวมถึงมิตซูบิชิ ซึ่งเป็นการผนึกกำลังเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมที่กำลังมุ่งหน้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า

    หากการรวมกิจการสำเร็จ จะทำให้เกิดผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ด้วยยอดขายรวมต่อปีประมาณ 46,000 ล้านปอนด์ เป็นรองเพียงโตโยต้าและโฟล์กสวาเกนเท่านั้น ในขณะที่โตโยต้ายังคงรักษาฐานะทางการเงินไว้ได้ค่อนข้างดีเนื่องจากความได้เปรียบในตลาดยานยนต์ไฮบริด แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ของญี่ปุ่นกลับต้องเผชิญกับความยากลำบากในการระดมทุนเพื่อลงทุนในการเปลี่ยนผ่านจาก Internal Combustion Engine ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
    ฮอนด้า นิสสัน และมิตซูบิชิ ยืนยันว่ากำลังเจรจาควบรวมกิจการ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวกันของยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์ญี่ปุ่น โดยฮอนด้าและนิสสันได้ตกลงที่จะ "เริ่มพิจารณาการรวมธุรกิจผ่านการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน" ส่วนมิตซูบิชิจะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ การรวมกิจการครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของญี่ปุ่น รวมถึงมิตซูบิชิ ซึ่งเป็นการผนึกกำลังเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมที่กำลังมุ่งหน้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า หากการรวมกิจการสำเร็จ จะทำให้เกิดผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ด้วยยอดขายรวมต่อปีประมาณ 46,000 ล้านปอนด์ เป็นรองเพียงโตโยต้าและโฟล์กสวาเกนเท่านั้น ในขณะที่โตโยต้ายังคงรักษาฐานะทางการเงินไว้ได้ค่อนข้างดีเนื่องจากความได้เปรียบในตลาดยานยนต์ไฮบริด แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ของญี่ปุ่นกลับต้องเผชิญกับความยากลำบากในการระดมทุนเพื่อลงทุนในการเปลี่ยนผ่านจาก Internal Combustion Engine ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • Atom รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติรัสเซียเตรียมส่งโครงสร้างภายนอกเข้าทดสอบความปลอดภัย ก่อนผลิตจริงในปี 2025

    โครงการรถยนต์ไฟฟ้า Atom เป็นผลงานการพัฒนาของ Kama JSC บริษัทสตาร์ทอัพในเครือของ Kamaz ผู้ผลิตรถบรรทุกชั้นนำของรัสเซีย มุ่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับการใช้งานในเมืองด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

    สมรรถนะและระบบขับเคลื่อน
    ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 204 แรงม้า (294 Nm)
    เร่งความเร็ว 0–100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7–8 วินาที
    ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กม. ต่อการชาร์จเต็ม

    แบตเตอรี่
    ใช้แบตเตอรี่ขนาด 77 kWh ผลิตในรัสเซีย พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ รองรับทุกสภาพอากาศ
    ชาร์จไฟได้ระยะทาง 100 กม. ในเวลาเพียง 8 นาที

    ระบบปฏิบัติการและเทคโนโลยี
    ระบบปฏิบัติการ Atom OS ระบบปฏิบัติการเฉพาะของรถ ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อจัดการฟังก์ชันต่าง ๆ บนรถ และ รองรับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย
    เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) เช่น จอแสดงผลบนกระจกหน้ารถสำหรับการนำทางและคำเตือนด้านความปลอดภัย
    Driver Assistance (ADAS) ระบบช่วยขับขี่ระดับ 2+ รองรับ 18 ฟังก์ชัน เช่น การจอดอัตโนมัติ รักษาช่องทาง ระบบควบคุมความเร็วแบบปรับตัว และเบรกฉุกเฉิน โดยวางแผนพัฒนาสู่ระดับ 3 ในปี 2027

    จุดเด่น
    หน้าจอแสดงผลบนพวงมาลัยและระบบฉายข้อมูลบนกระจกหน้า และ การออกแบบที่ไม่มีเสากลาง พร้อมประตูสวิงอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบาย โครงสร้างภายนอกของ Atom ซึ่งออกแบบด้วยวัสดุ 5 ชนิดและเทคโนโลยี hot stamping จะถูกส่งไปทดสอบความแข็งแรงและความปลอดภัยเพิ่มเติม

    ตั้งเป้าผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2025 ที่โรงงาน Moskvich กรุงมอสโก โดยเริ่มต้นที่ 5,000–15,000 คัน และเพิ่มเป็น 100,000 คันต่อปีภายในปี 2030

    อ้างอิง

    https://dzen.ru/a/ZyPMFFp_EBiAyozy?utm_source=yxnews&utm_medium=desktop

    https://dzen.ru/a/ZyPMFFp_EBiAyozy?utm_source=yxnews&utm_medium=desktop

    https://dzen.ru/a/Z0ric1EmpV-fHrRN?utm_source=yxnews&utm_medium=desktop

    https://tadviser.com/index.php/Product:Kama_Atom_%28electric_car%29
    Atom รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติรัสเซียเตรียมส่งโครงสร้างภายนอกเข้าทดสอบความปลอดภัย ก่อนผลิตจริงในปี 2025 โครงการรถยนต์ไฟฟ้า Atom เป็นผลงานการพัฒนาของ Kama JSC บริษัทสตาร์ทอัพในเครือของ Kamaz ผู้ผลิตรถบรรทุกชั้นนำของรัสเซีย มุ่งพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับการใช้งานในเมืองด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะและระบบขับเคลื่อน ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 204 แรงม้า (294 Nm) เร่งความเร็ว 0–100 กม./ชม. ได้ในเวลา 7–8 วินาที ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กม. ต่อการชาร์จเต็ม แบตเตอรี่ ใช้แบตเตอรี่ขนาด 77 kWh ผลิตในรัสเซีย พร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ รองรับทุกสภาพอากาศ ชาร์จไฟได้ระยะทาง 100 กม. ในเวลาเพียง 8 นาที ระบบปฏิบัติการและเทคโนโลยี ระบบปฏิบัติการ Atom OS ระบบปฏิบัติการเฉพาะของรถ ที่เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนเพื่อจัดการฟังก์ชันต่าง ๆ บนรถ และ รองรับการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) เช่น จอแสดงผลบนกระจกหน้ารถสำหรับการนำทางและคำเตือนด้านความปลอดภัย Driver Assistance (ADAS) ระบบช่วยขับขี่ระดับ 2+ รองรับ 18 ฟังก์ชัน เช่น การจอดอัตโนมัติ รักษาช่องทาง ระบบควบคุมความเร็วแบบปรับตัว และเบรกฉุกเฉิน โดยวางแผนพัฒนาสู่ระดับ 3 ในปี 2027 จุดเด่น หน้าจอแสดงผลบนพวงมาลัยและระบบฉายข้อมูลบนกระจกหน้า และ การออกแบบที่ไม่มีเสากลาง พร้อมประตูสวิงอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบาย โครงสร้างภายนอกของ Atom ซึ่งออกแบบด้วยวัสดุ 5 ชนิดและเทคโนโลยี hot stamping จะถูกส่งไปทดสอบความแข็งแรงและความปลอดภัยเพิ่มเติม ตั้งเป้าผลิตเชิงพาณิชย์ในปี 2025 ที่โรงงาน Moskvich กรุงมอสโก โดยเริ่มต้นที่ 5,000–15,000 คัน และเพิ่มเป็น 100,000 คันต่อปีภายในปี 2030 อ้างอิง https://dzen.ru/a/ZyPMFFp_EBiAyozy?utm_source=yxnews&utm_medium=desktop https://dzen.ru/a/ZyPMFFp_EBiAyozy?utm_source=yxnews&utm_medium=desktop https://dzen.ru/a/Z0ric1EmpV-fHrRN?utm_source=yxnews&utm_medium=desktop https://tadviser.com/index.php/Product:Kama_Atom_%28electric_car%29
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2
    ICE /EV


    จำนวน 642 หน้า
    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV)


    เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง
    - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล
    - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ
    - เครื่องยนต์โรตารี่
    - เครื่องยนต์สเตอริง
    - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ
    - ฯลฯ


    ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง
    - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า
    - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น
    - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ
    - มอเตอร์ และการควบคุม
    - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า
    - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส
    - ฯลฯ

    การเขียน และเรียบเรียง เนื้อหา จะจบในตัวมันเอง ผู้อ่านสนใจเล่มไหนซื้อเล่มนั้นได้เลยครับ ส่วนเล่มต่อไป กำลังทยอยเขียน และเรียบเรียงออกมาให้อ่านอยู่ครับ ซึ่งจะกล่าวถึง ยานยนต์ไฮบริดจ์, เซลล์เชื้อเพลิง, หลักการซ่อมบำรุงยานยนต์สมัยใหม่ ฯลฯ

    ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ

    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    I have a dream.
    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    ขอบคุณครับ
    T.M.E.
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEzNTYxOSI7fQ
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2 ICE /EV จำนวน 642 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ - เครื่องยนต์โรตารี่ - เครื่องยนต์สเตอริง - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ - ฯลฯ ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ - มอเตอร์ และการควบคุม - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส - ฯลฯ การเขียน และเรียบเรียง เนื้อหา จะจบในตัวมันเอง ผู้อ่านสนใจเล่มไหนซื้อเล่มนั้นได้เลยครับ ส่วนเล่มต่อไป กำลังทยอยเขียน และเรียบเรียงออกมาให้อ่านอยู่ครับ ซึ่งจะกล่าวถึง ยานยนต์ไฮบริดจ์, เซลล์เชื้อเพลิง, หลักการซ่อมบำรุงยานยนต์สมัยใหม่ ฯลฯ ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง ขอบคุณครับ T.M.E. http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEzNTYxOSI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2:: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2:: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2
    ICE /EV


    จำนวน 642 หน้า
    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV)


    เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง
    - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล
    - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ
    - เครื่องยนต์โรตารี่
    - เครื่องยนต์สเตอริง
    - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ
    - ฯลฯ


    ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง
    - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า
    - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น
    - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ
    - มอเตอร์ และการควบคุม
    - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า
    - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส
    - ฯลฯ

    การเขียน และเรียบเรียง เนื้อหา จะจบในตัวมันเอง ผู้อ่านสนใจเล่มไหนซื้อเล่มนั้นได้เลยครับ ส่วนเล่มต่อไป กำลังทยอยเขียน และเรียบเรียงออกมาให้อ่านอยู่ครับ ซึ่งจะกล่าวถึง ยานยนต์ไฮบริดจ์, เซลล์เชื้อเพลิง, หลักการซ่อมบำรุงยานยนต์สมัยใหม่ ฯลฯ

    ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ

    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    I have a dream.
    ผู้เขียน และเรียบเรียง

    ขอบคุณครับ
    T.M.E.
    http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEzNTYxOSI7fQ
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2 ICE /EV จำนวน 642 หน้า ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ - เครื่องยนต์โรตารี่ - เครื่องยนต์สเตอริง - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ - ฯลฯ ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ - มอเตอร์ และการควบคุม - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส - ฯลฯ การเขียน และเรียบเรียง เนื้อหา จะจบในตัวมันเอง ผู้อ่านสนใจเล่มไหนซื้อเล่มนั้นได้เลยครับ ส่วนเล่มต่อไป กำลังทยอยเขียน และเรียบเรียงออกมาให้อ่านอยู่ครับ ซึ่งจะกล่าวถึง ยานยนต์ไฮบริดจ์, เซลล์เชื้อเพลิง, หลักการซ่อมบำรุงยานยนต์สมัยใหม่ ฯลฯ ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง ขอบคุณครับ T.M.E. http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTM4NTEyNCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjEzNTYxOSI7fQ
    WWW.MEBMARKET.COM
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2:: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2:: e-book หนังสือ โดย T.M.E.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) เล่ม 2
    จากร้าน SE-ED ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่
    จำนวน 642 หน้า

    สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลด 20% ทุกเล่มครับ

    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ
    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้

    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    "ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

    เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง
    - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล
    - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ
    - เครื่องยนต์โรตารี่
    - เครื่องยนต์สเตอริง
    - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ
    - ฯลฯ

    ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง
    - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า
    - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น
    - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ
    - มอเตอร์ และการควบคุม
    - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า
    - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส
    - ฯลฯ"
    ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ

    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่สนับสนุนครับ

    I have a dream.
    ผู้เขียน และเรียบเรียง
    T.M.E.


    คลิกได้ที่นี่

    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-(Modern-vehicles)-2-0aoj4s4jd8e2deix0l5z
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) เล่ม 2 จากร้าน SE-ED ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ จำนวน 642 หน้า สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลด 20% ทุกเล่มครับ ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ "ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ - เครื่องยนต์โรตารี่ - เครื่องยนต์สเตอริง - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ - ฯลฯ ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ - มอเตอร์ และการควบคุม - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส - ฯลฯ" ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่สนับสนุนครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-(Modern-vehicles)-2-0aoj4s4jd8e2deix0l5z
    WWW.SE-ED.COM
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2 (PDF)
    สำหรับผู้ที่สนใจ ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมยานยนต์ ผู้เขียน T.M.E. เนื้อหาโดยสังเขป : ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2 (PDF) ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ - เครื่องยนต์โรตารี่ - เครื่องยนต์สเตอริง - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ - ฯลฯ ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ - มอเตอร์ และการควบคุม - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส - ฯลฯ การเขียน และเรียบเรียง เนื้อหา จะจบในตัวมันเอง ผู้อ่านสนใจเล่มไหนซื้อเล่มนั้นได้เลยครับ ส่วนเล่มต่อไป กำลังทยอยเขียน และเรียบเรียงออกมาให้อ่านอยู่ครับ ซึ่งจะกล่าวถึง ยานยนต์ไฮบริดจ์, เซลล์เชื้อเพลิง, หลักการซ่อมบำรุงยานยนต์สมัยใหม่ ฯลฯ ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2 (PDF) รหัสสินค้า : 5522840216137 (-ไม่ระบุ) 643 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF เดือนปีที่พิมพ์ : --/----
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) เล่ม 2
    จากร้าน SE-ED ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่
    จำนวน 642 หน้า

    สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลด 20% ทุกเล่มครับ

    ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน

    สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ
    นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้

    นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ

    "ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

    เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง
    - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล
    - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ
    - เครื่องยนต์โรตารี่
    - เครื่องยนต์สเตอริง
    - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ
    - ฯลฯ

    ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง
    - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า
    - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น
    - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ
    - มอเตอร์ และการควบคุม
    - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า
    - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส
    - ฯลฯ"
    ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ

    อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก

    ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ

    ขอบคุณที่สนับสนุนครับ

    I have a dream.
    ผู้เขียน และเรียบเรียง
    T.M.E.


    คลิกได้ที่นี่

    https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-(Modern-vehicles)-2-0aoj4s4jd8e2deix0l5z
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) เล่ม 2 จากร้าน SE-ED ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ จำนวน 642 หน้า สำนักพิมพ์ซีเอ็ด หนังสือของผู้เขียน ซื้อช่วงนี้มีโปรโมทชั่น ลด 20% ทุกเล่มครับ ลงทุนในความรู้ เป็นทรัพย์ทางปัญญาที่ไม่ต้องกลัวว่าใครจะขโมยไป และยิ่งใช้ ยิ่งถ่ายทอด ประสบการณ์ความรู้ยิ่งเพิ่มพูน สามารถเข้าไปโหลดตัวอย่างมาอ่านได้ ฟรี ก่อนตัดสินใจ นอกจากนี้ ยังมีหนังสืออีกหลายเล่มที่น่าสนใจ มีทั้งอ่านฟรี และราคาไม่สูงจนเกินไป พร้อมให้อ่าน เป็นความรู้ และประยุกต์นำไปใช้ได้ นตฺถิ ปญญสมาวุธํ = ปัญญา ประดุจดังอาวุธ "ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ - เครื่องยนต์โรตารี่ - เครื่องยนต์สเตอริง - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ - ฯลฯ ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ - มอเตอร์ และการควบคุม - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส - ฯลฯ" ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่สนับสนุนครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. คลิกได้ที่นี่ https://www.se-ed.com/e-book-audio/%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-(Modern-vehicles)-2-0aoj4s4jd8e2deix0l5z
    WWW.SE-ED.COM
    ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2 (PDF)
    สำหรับผู้ที่สนใจ ความรู้ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรมยานยนต์ ผู้เขียน T.M.E. เนื้อหาโดยสังเขป : ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2 (PDF) ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern Vehicles) เล่ม 2 เนื้อหาในเล่มนี้ มีอยู่ 2 ภาค ในภาคแรกจะกล่าวถึงเรื่องเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และภาคที่สองกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่องยนต์สันดาปภายใน จะกล่าวถึง - หลักการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งเบนซิน และดีเซล - เครื่องยนต์ 2 จังหวะ - เครื่องยนต์โรตารี่ - เครื่องยนต์สเตอริง - เครื่องยนต์กังหันก๊าซ - ฯลฯ ส่วนในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า จะกล่าวถึง - พื้นฐานของยานยนต์ไฟฟ้า - ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น - แบตเตอรี่ และการชาร์จไฟ - มอเตอร์ และการควบคุม - การคำนวณของยานยนต์ไฟฟ้า - มารู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าเทสล่า ของ อีลอน มัส - ฯลฯ การเขียน และเรียบเรียง เนื้อหา จะจบในตัวมันเอง ผู้อ่านสนใจเล่มไหนซื้อเล่มนั้นได้เลยครับ ส่วนเล่มต่อไป กำลังทยอยเขียน และเรียบเรียงออกมาให้อ่านอยู่ครับ ซึ่งจะกล่าวถึง ยานยนต์ไฮบริดจ์, เซลล์เชื้อเพลิง, หลักการซ่อมบำรุงยานยนต์สมัยใหม่ ฯลฯ ลองติดตามผลงานดูนะครับ ติชมกันได้นะ มีคำถามอะไรก็ถามได้ ถ้ารู้ก็จะตอบให้ครับ อยากเห็นราชอาณาจักรไทยเป็นเจ้าของเทคโนโลยี เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ควบคู่กับการพัฒนาทางด้านจิตใจ และมีศีลธรรมที่ดี เมืองไทยจะเป็นประเทศที่น่าอยู่มาก ขอเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศชาติ ขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนนะครับ I have a dream. ผู้เขียน และเรียบเรียง T.M.E. ข้อมูลหนังสือ : ยานยนต์สมัยใหม่ (Modern vehicles) 2 (PDF) รหัสสินค้า : 5522840216137 (-ไม่ระบุ) 643 หน้า ชนิดกระดาษ : PDF เดือนปีที่พิมพ์ : --/----
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • หากน้ำมันเป็นราชาแห่งศตวรรษที่ 20? ในศตวรรษที่ 21 ลิเธียมและกราไฟต์อาจกลายเป็นราชาแห่งเชื้อเพลิงหลัก และยูเครนก็มีอยู่มากมาย

    จากการคาดการณ์ ยูเครนมีลิเธียมสำรองอยู่ 10% ของโลก
    และสำหรับกราไฟต์ เมื่อปี 2021 ยูเครนมีสำรองอยู่ 20% หรือประมาณ 18 ล้านตัน ซึ่งจัดอยู่ใน Top5 ของโลก นอกจากนี้ ยูเครนส่งออกกราไฟต์มากกว่า 17,000 ตันไปยังตลาดโลก ทำให้เป็นผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับหกของโลกอีกด้วย (สำรวจปี 2021 ก่อนเกิดความขัดแย้งกับรัสเซีย)

    ยูเครนตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำระดับโลกด้านการจัดหากราไฟต์ ซึ่งใช้เป็นวัสดุหลักในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเนื่องจากมีต้นทุนและความหนาแน่นของพลังงานค่อนข้างต่ำ และยังเป็นความท้าทายที่สำคัญในการลดการปล่อย CO2

    ธาตุหายากทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย หากต้องการให้รถยนต์ไฟฟ้า แหล่งเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแม้แต่โทรศัพท์ของคุณทำงานต่อไป

    แร่ธาตุเหล่านี้มีมูลค่าหลายพันล้าน เนื่องจากโลกกำลังเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

    "ใครก็ตามที่สามารถควบคุมทรัพยากรของยูเครนได้ นั่นเหมือนกับการค้นพบเหมืองทองคำขนาดใหญ่ในยุคที่พลังงานสีเขียวกำลังเฟื่องฟู"

    หากในอนาคตที่แบตเตอรี่ครองโลก ยูเครนจเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงมงกุฎในยุคพลังงานไฟฟ้า

    หากน้ำมันเป็นราชาแห่งศตวรรษที่ 20? ในศตวรรษที่ 21 ลิเธียมและกราไฟต์อาจกลายเป็นราชาแห่งเชื้อเพลิงหลัก และยูเครนก็มีอยู่มากมาย จากการคาดการณ์ ยูเครนมีลิเธียมสำรองอยู่ 10% ของโลก และสำหรับกราไฟต์ เมื่อปี 2021 ยูเครนมีสำรองอยู่ 20% หรือประมาณ 18 ล้านตัน ซึ่งจัดอยู่ใน Top5 ของโลก นอกจากนี้ ยูเครนส่งออกกราไฟต์มากกว่า 17,000 ตันไปยังตลาดโลก ทำให้เป็นผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับหกของโลกอีกด้วย (สำรวจปี 2021 ก่อนเกิดความขัดแย้งกับรัสเซีย) ยูเครนตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำระดับโลกด้านการจัดหากราไฟต์ ซึ่งใช้เป็นวัสดุหลักในการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนเนื่องจากมีต้นทุนและความหนาแน่นของพลังงานค่อนข้างต่ำ และยังเป็นความท้าทายที่สำคัญในการลดการปล่อย CO2 ธาตุหายากทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย หากต้องการให้รถยนต์ไฟฟ้า แหล่งเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแม้แต่โทรศัพท์ของคุณทำงานต่อไป แร่ธาตุเหล่านี้มีมูลค่าหลายพันล้าน เนื่องจากโลกกำลังเลิกใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล "ใครก็ตามที่สามารถควบคุมทรัพยากรของยูเครนได้ นั่นเหมือนกับการค้นพบเหมืองทองคำขนาดใหญ่ในยุคที่พลังงานสีเขียวกำลังเฟื่องฟู" หากในอนาคตที่แบตเตอรี่ครองโลก ยูเครนจเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงมงกุฎในยุคพลังงานไฟฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • สุราษฎร์ธานี - โซเชียลเสียงแตก หลังบริษัท เรือเฟอร์รี่ ข้ามเกาะสมุย เกาะพะงัน ห้ามนำรถไฟฟ้า ลงเรือ ระบุในประกาศเพื่อความปลอดภัย ในขณะที่ผู้ให้บริการเฟอร์รี่อีกเจ้ายังคงให้บริการรถไฟฟ้าลงปกติ แต่แยกที่จอด

    กลายเป็นดราม่าหลัง เพจเฮีย ขับรถได้โพสต์ประเด็น เรือเฟอร์รี่ โดยสารข้ามฟาก เส้นทางดอนสัก-เกาะสมุย-เกาะพะงัน รายหนึ่ง ห้ามนำรถยนต์ไฟฟ้า (EV)ขึ้นเรือ เนื่องจากแบตเตอรรี่อาจร้อนเสี่ยง ทำให้เกิดเพลิงไหม้อันตราย

    อย่างไรก็ตามหลังที่มีการโพสต์ออกไป ปรากฏว่า ได้เกิดคอมเม้นท์ถกเถียงกัน ทั้งฝ่ายที่ เห็นด้วย และ ฝ่ายไม่เห็นด้วยจำนวนมาก ฝ่ายที่มีการสนับสนุนห้ามรถไฟฟ้าลงเฟอร์รี่ มีการแสดงความคิดเห็นว่า “ ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ถูกแล้วครับ เดี๋ยวจะเหมือนกับกรณี ที่ต้องห้ามนำแบตเตอรี่สำรองขนาดใหญ่ขึ้นเครื่องบินครับ เคสสุดท้ายที่ต้องออกกฎนี้เนื่องจากว่าแบตเตอรี่สำรองร้อน จนทำให้ไฟไหม้ห้องเก็บสัมภาระใต้เครื่อง สุดท้ายตายยกลำเพราะระบบภายในเสียหายจากไฟไหม้ทั้งหมดครับ จากนั้นจึงต้องมีกฎหนีออกมาบังคับใช้ทั่วโลก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/south/detail/9670000118271

    #MGROnline #สุราษฎร์ธานี #เรือเฟอร์รี่ #เกาะสมุย #เกาะพะงัน #รถไฟฟ้า

    สุราษฎร์ธานี - โซเชียลเสียงแตก หลังบริษัท เรือเฟอร์รี่ ข้ามเกาะสมุย เกาะพะงัน ห้ามนำรถไฟฟ้า ลงเรือ ระบุในประกาศเพื่อความปลอดภัย ในขณะที่ผู้ให้บริการเฟอร์รี่อีกเจ้ายังคงให้บริการรถไฟฟ้าลงปกติ แต่แยกที่จอด • กลายเป็นดราม่าหลัง เพจเฮีย ขับรถได้โพสต์ประเด็น เรือเฟอร์รี่ โดยสารข้ามฟาก เส้นทางดอนสัก-เกาะสมุย-เกาะพะงัน รายหนึ่ง ห้ามนำรถยนต์ไฟฟ้า (EV)ขึ้นเรือ เนื่องจากแบตเตอรรี่อาจร้อนเสี่ยง ทำให้เกิดเพลิงไหม้อันตราย • อย่างไรก็ตามหลังที่มีการโพสต์ออกไป ปรากฏว่า ได้เกิดคอมเม้นท์ถกเถียงกัน ทั้งฝ่ายที่ เห็นด้วย และ ฝ่ายไม่เห็นด้วยจำนวนมาก ฝ่ายที่มีการสนับสนุนห้ามรถไฟฟ้าลงเฟอร์รี่ มีการแสดงความคิดเห็นว่า “ ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ถูกแล้วครับ เดี๋ยวจะเหมือนกับกรณี ที่ต้องห้ามนำแบตเตอรี่สำรองขนาดใหญ่ขึ้นเครื่องบินครับ เคสสุดท้ายที่ต้องออกกฎนี้เนื่องจากว่าแบตเตอรี่สำรองร้อน จนทำให้ไฟไหม้ห้องเก็บสัมภาระใต้เครื่อง สุดท้ายตายยกลำเพราะระบบภายในเสียหายจากไฟไหม้ทั้งหมดครับ จากนั้นจึงต้องมีกฎหนีออกมาบังคับใช้ทั่วโลก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9670000118271 • #MGROnline #สุราษฎร์ธานี #เรือเฟอร์รี่ #เกาะสมุย #เกาะพะงัน #รถไฟฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนประกาศยุติการส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา

    จีนประกาศวันนี้ว่าจะห้ามส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจนำไปใช้ทางการทหาร

    กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกประกาศดังกล่าว หลังจากที่วอชิงตันขยายรายชื่อคว่ำบาตรบริษัทจีนในการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ซึ่งชิปดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการใช้งานขั้นสูง

    ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ อย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับการค้าและเทคโนโลยีที่ปะทุขึ้นรุนแรงขึ้น

    จีนคือประเทศที่จัดหาจัดส่งและดำเนินการผลิตพลวง (แอนติโมนี) รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยที่สารกึ่งโลหะนี้ถูกใช้ในการผลิตพวกขีปนาวุธอินฟราเรด, อาวุธนิวเคลียร์, และกล้องส่องกลางคืน, ตลอดจนเป็นสารทำให้พวกลูกปืนและรถถังมีความแข็งมากขึ้น

    สำหรับแกลเลียม-เจอร์เมเนียม ธาตุทั้งสองชนิดนิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และจอแสดงผล แกลเลียมและเจอร์เมเนียมมีบทบาทในการผลิตสารกึ่งตัวนำแบบผสมจำนวนมาก ซึ่งรวมองค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการส่งข้อมูล
    จีนประกาศยุติการส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา จีนประกาศวันนี้ว่าจะห้ามส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจนำไปใช้ทางการทหาร กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกประกาศดังกล่าว หลังจากที่วอชิงตันขยายรายชื่อคว่ำบาตรบริษัทจีนในการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ซึ่งชิปดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการใช้งานขั้นสูง ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ อย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับการค้าและเทคโนโลยีที่ปะทุขึ้นรุนแรงขึ้น จีนคือประเทศที่จัดหาจัดส่งและดำเนินการผลิตพลวง (แอนติโมนี) รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยที่สารกึ่งโลหะนี้ถูกใช้ในการผลิตพวกขีปนาวุธอินฟราเรด, อาวุธนิวเคลียร์, และกล้องส่องกลางคืน, ตลอดจนเป็นสารทำให้พวกลูกปืนและรถถังมีความแข็งมากขึ้น สำหรับแกลเลียม-เจอร์เมเนียม ธาตุทั้งสองชนิดนิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และจอแสดงผล แกลเลียมและเจอร์เมเนียมมีบทบาทในการผลิตสารกึ่งตัวนำแบบผสมจำนวนมาก ซึ่งรวมองค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการส่งข้อมูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตื่นนะ เราโดนหลอกมานาน
    https://vt.tiktok.com/ZSjC964DN/
    https://www.facebook.com/share/p/15g8pXxZra/
    ปลุกจากการหลับไหล การสะกดจิตที่ยาวนาน

    วาระลวง
    โลกร้อน Climate Change คาร์บอนเครดิต สู่การจำกัดเสรีภาพให้อยู่ในเมือง 15 นาที รถ EV เทคโนโลยี HAARP DEWs
    https://www.facebook.com/share/p/tQzGJLv78MScJzf5/
    👉จากสงครามสู่…ความยั่งยืน? ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ Agenda 2030
    https://www.rookon.com/?p=975
    👉Climate Change: แยกข้อเท็จจริงออกจากเรื่องแต่ง
    https://www.rookon.com/?p=1011
    👉ไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลาแปดปีที่ผ่านมา
    https://www.rookon.com/?p=339
    👉บริษัทรถยนต์เริ่มคิดใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้า
    https://www.rookon.com/?p=1147
    👉ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน https://www.rookon.com/?p=109เก้า (ลิงก์นี้เฟสบุ๊กแบนต้องเปลี่ยนคำว่า เก้า เป็น 9 ก่อน)
    👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.rookon.com/?p=1076
    👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย?
    https://www.rookon.com/?p=986
    https://youtu.be/B8h40dr8uZo?si=z9tRbI89SxKkCS4T
    👉‘วิธีควบคุมคน’ ที่ดีที่สุดคือ ‘ควบคุมเสบียงอาหาร’
    https://www.rookon.com/?p=334
    👉เมือง 15 นาที
    https://www.youtube.com/watch?v=AHXDxynhn14
    👉รถ EV
    https://www.youtube.com/live/tbgRSbBt2wQ?si=1GUR5FC_UWajAWwZ
    👉มนุษย์กำลังทำให้โลกร้อนอยู่หรือไม่
    https://youtu.be/Dvtrk2DdE-w?si=tf2huHRYIs-VZJQP
    👉จากสงครามสู่ความยั่งยืน ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ UN Agenda 2030
    https://youtu.be/b7yYtiQ3opk?si=lxhKdKlIn8xQ8JWM
    👉โลกร้อนลวงโลก
    https://www.youtube.com/live/k_XjqL_w-Ts?si=0MIuU-YoyVh96XDM
    https://www.youtube.com/live/gUcp53brbEQ?si=bhZ9VkUgZxeYW9B_
    👉sun spot
    https://www.tiktok.com/@adit.../video/7360143566166838529...
    👉นี้คือแผนการสู่ 15 minute city ภายในปี 2035 เราจะหยุดมันได้แน่นอนครับเพราะคนกำลังตื่นมากขึ้น และให้คนรุ่นใหม่มีอิสรภาพแบบเรา
    คลิปนี้พูดถึงความผิดปกติของพฤติกรรมของรัฐและเอกชนเรื่องรถไฟฟ้าครับ
    คลิปเต็ม 13 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3upW6H/
    คลิป ย่อ 6 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3uG2Ht/
    ✍️ การอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากขณะนี้ |พม่า โดย คุณอดิเทพ จาวลาห์
    https://www.youtube.com/live/kVsXLYGQVXg?si=WBya3O-WVJcWy2mm
    https://fb.watch/uY-aBuRhe5/?
    ✍️ภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงสู่การเป็นทาส
    https://fb.watch/uWoBMgFtTL/?
    https://www.youtube.com/watch?v=tdKv00CijDE
    ✍️ไลฟ์สดเรื่อง ทำไมหลอกลวงภาวะโลกร้อน โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=qSGV0tUlCXM
    ✍️ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ
    https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY
    https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/
    ✍️ไลฟ์สด แผนการโลกร้อนลวงโลกสู่การเป็นทาส
    โดย อดิเทพ จาวลาห์ และครูหนึ่ง
    ยูทูป https://www.youtube.com/live/YrrTEeqnsMU?si=1sMRr89nEAfhVFIn
    เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/share/v/1JZkhFrjJk/
    ✍️เตรียมตัวในปี 2025 | ปลุกล้านพลังไทย
    https://www.facebook.com/share/v/pdz3AHf3MfQbXT85/
    https://www.youtube.com/live/rvOIwsPhhkY?si=rg9F0HacCcidFagV

    ขอขอบคุณข้อมูลคุณอดิเทพ จาวลาห์ จาก rookon.com
    ตื่นนะ เราโดนหลอกมานาน https://vt.tiktok.com/ZSjC964DN/ https://www.facebook.com/share/p/15g8pXxZra/ ปลุกจากการหลับไหล การสะกดจิตที่ยาวนาน วาระลวง โลกร้อน Climate Change คาร์บอนเครดิต สู่การจำกัดเสรีภาพให้อยู่ในเมือง 15 นาที รถ EV เทคโนโลยี HAARP DEWs https://www.facebook.com/share/p/tQzGJLv78MScJzf5/ 👉จากสงครามสู่…ความยั่งยืน? ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ Agenda 2030 https://www.rookon.com/?p=975 👉Climate Change: แยกข้อเท็จจริงออกจากเรื่องแต่ง https://www.rookon.com/?p=1011 👉ไม่มีภาวะโลกร้อนเป็นเวลาแปดปีที่ผ่านมา https://www.rookon.com/?p=339 👉บริษัทรถยนต์เริ่มคิดใหม่กับรถยนต์ไฟฟ้า https://www.rookon.com/?p=1147 👉ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน https://www.rookon.com/?p=109เก้า (ลิงก์นี้เฟสบุ๊กแบนต้องเปลี่ยนคำว่า เก้า เป็น 9 ก่อน) 👉เทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.rookon.com/?p=1076 👉เกิดอะไรขึ้นที่ฮาวาย? https://www.rookon.com/?p=986 https://youtu.be/B8h40dr8uZo?si=z9tRbI89SxKkCS4T 👉‘วิธีควบคุมคน’ ที่ดีที่สุดคือ ‘ควบคุมเสบียงอาหาร’ https://www.rookon.com/?p=334 👉เมือง 15 นาที https://www.youtube.com/watch?v=AHXDxynhn14 👉รถ EV https://www.youtube.com/live/tbgRSbBt2wQ?si=1GUR5FC_UWajAWwZ 👉มนุษย์กำลังทำให้โลกร้อนอยู่หรือไม่ https://youtu.be/Dvtrk2DdE-w?si=tf2huHRYIs-VZJQP 👉จากสงครามสู่ความยั่งยืน ทำไมโลกร้อนเป็นวาระสำคัญของ UN Agenda 2030 https://youtu.be/b7yYtiQ3opk?si=lxhKdKlIn8xQ8JWM 👉โลกร้อนลวงโลก https://www.youtube.com/live/k_XjqL_w-Ts?si=0MIuU-YoyVh96XDM https://www.youtube.com/live/gUcp53brbEQ?si=bhZ9VkUgZxeYW9B_ 👉sun spot https://www.tiktok.com/@adit.../video/7360143566166838529... 👉นี้คือแผนการสู่ 15 minute city ภายในปี 2035 เราจะหยุดมันได้แน่นอนครับเพราะคนกำลังตื่นมากขึ้น และให้คนรุ่นใหม่มีอิสรภาพแบบเรา คลิปนี้พูดถึงความผิดปกติของพฤติกรรมของรัฐและเอกชนเรื่องรถไฟฟ้าครับ คลิปเต็ม 13 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3upW6H/ คลิป ย่อ 6 นาที https://vt.tiktok.com/ZSY3uG2Ht/ ✍️ การอพยพระหว่างประเทศจำนวนมากขณะนี้ |พม่า โดย คุณอดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/live/kVsXLYGQVXg?si=WBya3O-WVJcWy2mm https://fb.watch/uY-aBuRhe5/? ✍️ภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงสู่การเป็นทาส https://fb.watch/uWoBMgFtTL/? https://www.youtube.com/watch?v=tdKv00CijDE ✍️ไลฟ์สดเรื่อง ทำไมหลอกลวงภาวะโลกร้อน โดย อดิเทพ จาวลาห์ https://www.youtube.com/watch?v=qSGV0tUlCXM ✍️ไลฟ์สด เทคโนโลยีเพื่อปรับเปลี่ยนสภาพอากาศ https://www.youtube.com/live/zCzdNrbQn0A?si=mLFvv2loaKfbiVOY https://www.facebook.com/share/v/nW34YL4HiESsLNZT/ ✍️ไลฟ์สด แผนการโลกร้อนลวงโลกสู่การเป็นทาส โดย อดิเทพ จาวลาห์ และครูหนึ่ง ยูทูป https://www.youtube.com/live/YrrTEeqnsMU?si=1sMRr89nEAfhVFIn เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/share/v/1JZkhFrjJk/ ✍️เตรียมตัวในปี 2025 | ปลุกล้านพลังไทย https://www.facebook.com/share/v/pdz3AHf3MfQbXT85/ https://www.youtube.com/live/rvOIwsPhhkY?si=rg9F0HacCcidFagV ขอขอบคุณข้อมูลคุณอดิเทพ จาวลาห์ จาก rookon.com
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 920 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • ประกันชั้น 1 รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น ทำได้ที่เพจเรา 👇✅ผ่อน 0% สูงสุดถึง 12 เดือน*✅ครอบคลุมทุกรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยอดฮิตในตลาด✅ประกันภัยจากบริษัทชั้นนำมากมาย.เข้าทำรายการเองได้24ชั่วโมง​👉https://share.724.co.th/insure/a/motor/AM00153592ให้ฝ่ายขายเช็กเบี้ยประกันให้​ เข้าทำรายการได้ที่นี่​ 👉https://share.724.co.th/insure/a/724-ev-car-insure/AM00153592👉💚สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ แอดไลน์ของเรา✅ line id : evcar_1✅ หรือคลิกแอดไลน์ https://line.me/ti/p/1OBQA_o6Gsติดต่อส่วนกลางของทีมขายของเพจเรา โทร 065 569 3990บัญชีปลายทาง จะเป็นบัญชีโบรคเกอร์ / บัญชีชื่อบริษัทประกันภัย /ไม่ใช่ชื่อบุคคลนะคะ > ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ#Evcar #EVclub #EVthailand #รถไฟฟ้า #รถEv #ประกันออนไลน์ #ประกันภัยรถ #ผ่อนประกันรถ#tesla #byd #neta #mg #changan#วิริยะประกันภัย #ธนชาตประกันภัย #กรุงเทพประกันภัย #เมืองไทยประกันภัย #แอกซ่าประกันภัย #axa #คุ้มภัยโตเกียวมารีน #tokiomarine #เออโก้ประกันภัย #ergo #เทเวศประกันภัย #ทิพยประกันภัย #แอลเอ็มจีประกันภัย #Lmg #allianzAyudhya #อลิอันซ์อยุธยา#อุบัติเหตุ
    ประกันชั้น 1 รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น ทำได้ที่เพจเรา 👇✅ผ่อน 0% สูงสุดถึง 12 เดือน*✅ครอบคลุมทุกรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยอดฮิตในตลาด✅ประกันภัยจากบริษัทชั้นนำมากมาย.เข้าทำรายการเองได้24ชั่วโมง​👉https://share.724.co.th/insure/a/motor/AM00153592ให้ฝ่ายขายเช็กเบี้ยประกันให้​ เข้าทำรายการได้ที่นี่​ 👉https://share.724.co.th/insure/a/724-ev-car-insure/AM00153592👉💚สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ แอดไลน์ของเรา✅ line id : evcar_1✅ หรือคลิกแอดไลน์ https://line.me/ti/p/1OBQA_o6Gsติดต่อส่วนกลางของทีมขายของเพจเรา โทร 065 569 3990บัญชีปลายทาง จะเป็นบัญชีโบรคเกอร์ / บัญชีชื่อบริษัทประกันภัย /ไม่ใช่ชื่อบุคคลนะคะ > ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ#Evcar #EVclub #EVthailand #รถไฟฟ้า #รถEv #ประกันออนไลน์ #ประกันภัยรถ #ผ่อนประกันรถ#tesla #byd #neta #mg #changan#วิริยะประกันภัย #ธนชาตประกันภัย #กรุงเทพประกันภัย #เมืองไทยประกันภัย #แอกซ่าประกันภัย #axa #คุ้มภัยโตเกียวมารีน #tokiomarine #เออโก้ประกันภัย #ergo #เทเวศประกันภัย #ทิพยประกันภัย #แอลเอ็มจีประกันภัย #Lmg #allianzAyudhya #อลิอันซ์อยุธยา#อุบัติเหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1064 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกันชั้น 1 รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น ทำได้ที่เพจเรา 👇✅ผ่อน 0% สูงสุดถึง 12 เดือน*✅ครอบคลุมทุกรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยอดฮิตในตลาด✅ประกันภัยจากบริษัทชั้นนำมากมาย.เข้าทำรายการเองได้24ชั่วโมง​👉https://share.724.co.th/insure/a/motor/AM00153592ให้ฝ่ายขายเช็กเบี้ยประกันให้​ เข้าทำรายการได้ที่นี่​ 👉https://share.724.co.th/insure/a/724-ev-car-insure/AM00153592👉💚สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ แอดไลน์ของเรา✅ line id : evcar_1✅ หรือคลิกแอดไลน์ https://line.me/ti/p/1OBQA_o6Gsติดต่อส่วนกลางของทีมขายของเพจเรา โทร 065 569 3990บัญชีปลายทาง จะเป็นบัญชีโบรคเกอร์ / บัญชีชื่อบริษัทประกันภัย /ไม่ใช่ชื่อบุคคลนะคะ > ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ#Evcar #EVclub #EVthailand #รถไฟฟ้า #รถEv #ประกันออนไลน์ #ประกันภัยรถ #ผ่อนประกันรถ#tesla #byd #neta #mg #changan#วิริยะประกันภัย #ธนชาตประกันภัย #กรุงเทพประกันภัย #เมืองไทยประกันภัย #แอกซ่าประกันภัย #axa #คุ้มภัยโตเกียวมารีน #tokiomarine #เออโก้ประกันภัย #ergo #เทเวศประกันภัย #ทิพยประกันภัย #แอลเอ็มจีประกันภัย #Lmg #allianzAyudhya #อลิอันซ์อยุธยา#อุบัติเหตุ
    ประกันชั้น 1 รถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่น ทำได้ที่เพจเรา 👇✅ผ่อน 0% สูงสุดถึง 12 เดือน*✅ครอบคลุมทุกรุ่นรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยอดฮิตในตลาด✅ประกันภัยจากบริษัทชั้นนำมากมาย.เข้าทำรายการเองได้24ชั่วโมง​👉https://share.724.co.th/insure/a/motor/AM00153592ให้ฝ่ายขายเช็กเบี้ยประกันให้​ เข้าทำรายการได้ที่นี่​ 👉https://share.724.co.th/insure/a/724-ev-car-insure/AM00153592👉💚สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ แอดไลน์ของเรา✅ line id : evcar_1✅ หรือคลิกแอดไลน์ https://line.me/ti/p/1OBQA_o6Gsติดต่อส่วนกลางของทีมขายของเพจเรา โทร 065 569 3990บัญชีปลายทาง จะเป็นบัญชีโบรคเกอร์ / บัญชีชื่อบริษัทประกันภัย /ไม่ใช่ชื่อบุคคลนะคะ > ขอบคุณที่ใช้บริการค่ะ#Evcar #EVclub #EVthailand #รถไฟฟ้า #รถEv #ประกันออนไลน์ #ประกันภัยรถ #ผ่อนประกันรถ#tesla #byd #neta #mg #changan#วิริยะประกันภัย #ธนชาตประกันภัย #กรุงเทพประกันภัย #เมืองไทยประกันภัย #แอกซ่าประกันภัย #axa #คุ้มภัยโตเกียวมารีน #tokiomarine #เออโก้ประกันภัย #ergo #เทเวศประกันภัย #ทิพยประกันภัย #แอลเอ็มจีประกันภัย #Lmg #allianzAyudhya #อลิอันซ์อยุธยา#อุบัติเหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1058 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความบ้าของอีลอน มัสก์ที่เขย่าอุตสาหกรรมEVในปี 2014 อีลอนได้ “เปิดเผย” ความลับของ Tesla ให้กับ BMW ทุกคนคิดว่าเขาบ้าแต่ “การกระทำอันเป็นการกุศล” นี้กลับกลายเป็นการดำเนินธุรกิจที่โหดและเฉียบแหลมที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจองค์กรขณะนั้นBMW พร้อมที่จะครองตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในยุโรป: BMW มีแบรนด์ที่ทรงพลัง มีวิศวกรรมรถยนต์ชั้นเลิศ และพวกเขามีกลยุทธ์การตลาดที่สมบูรณ์แบบแต่พวกเขาได้คาดเดาผิดๆ เกี่ยวกับ "ของขวัญ" ของอีลอน มัสก์ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐขณะที่ BMW กำลังลงนามสัญญาผลิตแบตเตอรี่...อีลอน มัสก์ประกาศเปิดตัวโรงงานกิกะแฟคทอรี่ ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับการออกแบบให้ผลิตแบตเตอรี่ได้มากกว่าที่ทั้งโลกผลิตได้ในปี 2013ในวันที่ 12 มิถุนายน 2014 อีลอนได้เผยแพร่โพสต์บล็อกที่มีหัวข้อว่า“สิทธิบัตรทั้งหมดของเราเป็นของคุณ”เขาประกาศว่า Tesla จะมอบสิทธิบัตรทั้งหมดของตนฟรีโลกแห่งยานยนต์คิดว่าเขาเสียสติไปแล้ว แต่ความบ้าคลั่งนี้มีความอัจฉริยะซ่อนอยู่:แต่นั่นยังไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญที่สุดของเขา...นี่คือเหตุผลที่ BMW ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน: ขณะนั้นปี2014  Tesla มีปัญหา 2 ประการ:• ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กเกินไป• ไม่มีใครสร้างสถานีชาร์จอีลอน มัสก์ตระหนักดีว่า เทสลาไม่สามารถชนะเพียงลำพังได้ พวกเขาจำเป็นต้องขยายตลาดทั้งหมดเขาจึงได้ทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน:อีลอน มัสก์ใช้ความใจบุญเป็นอาวุธ ด้วยการให้สิทธิบัตร Tesla เพื่อ• ส่งเสริมให้ผู้อื่นสร้างรถยนต์ไฟฟ้า• โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ขยายเพิ่มขึ้น• ทำให้เทคโนโลยีของตนเป็นมาตรฐานขณะที่ BMW มุ่งเน้นไปที่การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา แต่อีลอน มัสก์เล่นเกมที่ใหญ่กว่านี้:Gigafactory ไม่ได้มีแค่แบตเตอรี่เท่านั้น มันเป็นเรื่องของขนาดในขณะที่คู่แข่งใช้สิทธิบัตรของ Tesla เพื่อไล่ตาม อีลอน มัสก์ได้สร้างอาณาจักรที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ถูกกว่าใครๆ อยู่แล้วสิทธิบัตรของ Tesla ทำให้คนอื่นๆ ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยี EVแต่หากไม่มีขนาดของ Tesla พวกเขาไม่สามารถแข่งขันในเรื่องต้นทุนได้BMW ได้เรียนรู้บทเรียนนี้ด้วยวิธีที่ยากลำบาก:• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ Tesla: 187 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ kWh• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ BMW: 280 เหรียญสหรัฐฯ/kWhช่องว่างก็ยิ่งกว้างขึ้น และ“ของขวัญ” จริงๆ แล้วเป็นกับดักภายในปี 2016 Tesla ผลิตแบตเตอรี่ได้ราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 60%การ "แจกฟรี" สิทธิบัตรมีดังต่อไปนี้:• ทำให้เทคโนโลยีของ Tesla กลายเป็นมาตรฐาน• ได้ให้คนอื่นมาตรวจสอบตลาด• ในขณะที่ Tesla สร้างข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่ไม่อาจเอาชนะได้ นี่คือความฉลาดทางยุทธศาสตร์แต่สิ่งที่ทุกคนพลาดไปก็คือ:นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเอาชนะ BMW เท่านั้นอีลอนพิสูจน์บางอย่างที่มีค่ายิ่งกว่านั้น:ในยุคดิจิทัล ยิ่งให้ ยิ่งได้ ด้วยวิธีเปิด เอาชนะความลับ พวกเขาแบ่งปันอย่างมีกลยุทธ์เพื่อ:• สร้างระบบนิเวศ• กำหนดมาตรฐาน• สร้างเอฟเฟกต์เครือข่ายในขณะที่ยังรักษาข้อได้เปรียบการแข่งขันที่สำคัญทั้งในด้านขนาดและการดำเนินการนี่คือเหตุผลว่าทำไมการเข้าใจเทคโนโลยีเกิดใหม่จึงไม่เพียงพอ…นวัตกรรมที่แท้จริงมาจากการมองภาพรวม:เทคโนโลยีสามารถสร้างมูลค่าผ่านความร่วมมือ ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพียงอย่างเดียวได้อย่างไรเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ความสำเร็จเกิดจาก:• ความเปิดกว้างเชิงกลยุทธ์ Openess • เทคโนโลยีเพื่อรองรับความก้าวหน้าของมนุษย์ไม่ใช่แค่ขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ…ดังนั้น“ความร่วมมือ” อยู่ใน DNA ของ Tesla และ อีลอน มัสก์  รวมถึงผู้ติดตามของอีลอน  ไม่ได้มาจาก “แนวคิดผลรวมเป็นศูนย์” ที่ทุกคนต้องสูญเสียแต่ผู้ชนะในปัจจุบันคือเปิดว้างไม่กั๊กเทคโนโลยี
    ความบ้าของอีลอน มัสก์ที่เขย่าอุตสาหกรรมEVในปี 2014 อีลอนได้ “เปิดเผย” ความลับของ Tesla ให้กับ BMW ทุกคนคิดว่าเขาบ้าแต่ “การกระทำอันเป็นการกุศล” นี้กลับกลายเป็นการดำเนินธุรกิจที่โหดและเฉียบแหลมที่สุดในประวัติศาสตร์ธุรกิจองค์กรขณะนั้นBMW พร้อมที่จะครองตลาดยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในยุโรป: BMW มีแบรนด์ที่ทรงพลัง มีวิศวกรรมรถยนต์ชั้นเลิศ และพวกเขามีกลยุทธ์การตลาดที่สมบูรณ์แบบแต่พวกเขาได้คาดเดาผิดๆ เกี่ยวกับ "ของขวัญ" ของอีลอน มัสก์ ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยการเดิมพัน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐขณะที่ BMW กำลังลงนามสัญญาผลิตแบตเตอรี่...อีลอน มัสก์ประกาศเปิดตัวโรงงานกิกะแฟคทอรี่ ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้รับการออกแบบให้ผลิตแบตเตอรี่ได้มากกว่าที่ทั้งโลกผลิตได้ในปี 2013ในวันที่ 12 มิถุนายน 2014 อีลอนได้เผยแพร่โพสต์บล็อกที่มีหัวข้อว่า“สิทธิบัตรทั้งหมดของเราเป็นของคุณ”เขาประกาศว่า Tesla จะมอบสิทธิบัตรทั้งหมดของตนฟรีโลกแห่งยานยนต์คิดว่าเขาเสียสติไปแล้ว แต่ความบ้าคลั่งนี้มีความอัจฉริยะซ่อนอยู่:แต่นั่นยังไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่กล้าหาญที่สุดของเขา...นี่คือเหตุผลที่ BMW ไม่เคยเห็นสิ่งนี้มาก่อน: ขณะนั้นปี2014  Tesla มีปัญหา 2 ประการ:• ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีขนาดเล็กเกินไป• ไม่มีใครสร้างสถานีชาร์จอีลอน มัสก์ตระหนักดีว่า เทสลาไม่สามารถชนะเพียงลำพังได้ พวกเขาจำเป็นต้องขยายตลาดทั้งหมดเขาจึงได้ทำสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน:อีลอน มัสก์ใช้ความใจบุญเป็นอาวุธ ด้วยการให้สิทธิบัตร Tesla เพื่อ• ส่งเสริมให้ผู้อื่นสร้างรถยนต์ไฟฟ้า• โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จที่ขยายเพิ่มขึ้น• ทำให้เทคโนโลยีของตนเป็นมาตรฐานขณะที่ BMW มุ่งเน้นไปที่การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา แต่อีลอน มัสก์เล่นเกมที่ใหญ่กว่านี้:Gigafactory ไม่ได้มีแค่แบตเตอรี่เท่านั้น มันเป็นเรื่องของขนาดในขณะที่คู่แข่งใช้สิทธิบัตรของ Tesla เพื่อไล่ตาม อีลอน มัสก์ได้สร้างอาณาจักรที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ได้ถูกกว่าใครๆ อยู่แล้วสิทธิบัตรของ Tesla ทำให้คนอื่นๆ ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในเทคโนโลยี EVแต่หากไม่มีขนาดของ Tesla พวกเขาไม่สามารถแข่งขันในเรื่องต้นทุนได้BMW ได้เรียนรู้บทเรียนนี้ด้วยวิธีที่ยากลำบาก:• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ Tesla: 187 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ kWh• ต้นทุนแบตเตอรี่ของ BMW: 280 เหรียญสหรัฐฯ/kWhช่องว่างก็ยิ่งกว้างขึ้น และ“ของขวัญ” จริงๆ แล้วเป็นกับดักภายในปี 2016 Tesla ผลิตแบตเตอรี่ได้ราคาถูกกว่าคู่แข่งถึง 60%การ "แจกฟรี" สิทธิบัตรมีดังต่อไปนี้:• ทำให้เทคโนโลยีของ Tesla กลายเป็นมาตรฐาน• ได้ให้คนอื่นมาตรวจสอบตลาด• ในขณะที่ Tesla สร้างข้อได้เปรียบด้านต้นทุนที่ไม่อาจเอาชนะได้ นี่คือความฉลาดทางยุทธศาสตร์แต่สิ่งที่ทุกคนพลาดไปก็คือ:นี่ไม่ใช่แค่เรื่องการเอาชนะ BMW เท่านั้นอีลอนพิสูจน์บางอย่างที่มีค่ายิ่งกว่านั้น:ในยุคดิจิทัล ยิ่งให้ ยิ่งได้ ด้วยวิธีเปิด เอาชนะความลับ พวกเขาแบ่งปันอย่างมีกลยุทธ์เพื่อ:• สร้างระบบนิเวศ• กำหนดมาตรฐาน• สร้างเอฟเฟกต์เครือข่ายในขณะที่ยังรักษาข้อได้เปรียบการแข่งขันที่สำคัญทั้งในด้านขนาดและการดำเนินการนี่คือเหตุผลว่าทำไมการเข้าใจเทคโนโลยีเกิดใหม่จึงไม่เพียงพอ…นวัตกรรมที่แท้จริงมาจากการมองภาพรวม:เทคโนโลยีสามารถสร้างมูลค่าผ่านความร่วมมือ ไม่ใช่แค่การแข่งขันเพียงอย่างเดียวได้อย่างไรเรากำลังเข้าสู่ยุคที่ความสำเร็จเกิดจาก:• ความเปิดกว้างเชิงกลยุทธ์ Openess • เทคโนโลยีเพื่อรองรับความก้าวหน้าของมนุษย์ไม่ใช่แค่ขับขี่อย่างมีประสิทธิภาพ…ดังนั้น“ความร่วมมือ” อยู่ใน DNA ของ Tesla และ อีลอน มัสก์  รวมถึงผู้ติดตามของอีลอน  ไม่ได้มาจาก “แนวคิดผลรวมเป็นศูนย์” ที่ทุกคนต้องสูญเสียแต่ผู้ชนะในปัจจุบันคือเปิดว้างไม่กั๊กเทคโนโลยี
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 742 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยแพร่ข้อมูล
    ภาพรวมการส่งออกของไทยในปัจจุบัน อยู่ในสภาวะ
    อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ หากไม่ทำอะไรเลย

    นับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 การส่งออก
    เป็นเครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมายาวนาน
    คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60-65% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม
    ภายในประเทศ (จีดีพี) การส่งออกมีบทบาทสำคัญ
    ในการสร้างรายได้จากต่างประเทศ การจ้างงาน และเพิ่ม
    ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

    อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยได้สูญเสียบทบาท
    และความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเช่นที่เคยเป็นมา

    SCB EIC มองว่า เครื่องยนต์ส่งออกของไทยกำลังอ่อนแรงลงมาก
    จากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งมีส่วนทำให้การส่งออกไทย
    ไม่สามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก
    ได้เหมือนในอดีต และไม่สามารถปรับตัวตามกระแสโลก
    ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ทัน

    ปัจจัยภายในประเทศ :

    1) สินค้าส่งออกไทยไม่ค่อยสอดคล้องกับความต้องการของโลก :
    ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดการผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ
    ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนไป
    เช่น สมาร์ตโฟน แผงวงจรไฟฟ้า หรือสินค้าที่ผลิตจากพลังงานสะอาด
    ขณะที่สินค้าหมวดเครื่องจักรและเครื่องใช้เครื่องกลที่ไทยผลิต
    กลับเป็นสินค้าที่โลกต้องการซื้อน้อยลงเช่น Hard Disk Drives (HDD)
    ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทย แต่เมื่อเทคโนโลยี
    เปลี่ยนไปสู่ Solid State Drives (SSD) ความต้องการ HDD
    ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับสินค้าหมวดยานพาหนะ ส่วนประกอบ
    และอุปกรณ์เสริม ที่ไทยเคยส่งออกดีมาก จากการส่งออกยานยนต์
    และเครื่องยนต์สันดาป แต่ปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทาย
    จากการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของผู้ซื้อ ซึ่งรวมมูลค่า
    การส่งออก 2 หมวดใหญ่นี้คิดเป็น 27% ของมูลค่าการส่งออก
    ไทยทั้งหมดในปี 2566

    2) โครงสร้างการผลิตเพื่อส่งออกไทยเปลี่ยนแปลงช้า :
    ภาคการผลิตของไทยยังผูกโยงกับห่วงโซ่อุปทานเก่าอยู่มาก
    ส่งผลให้โครงสร้างการส่งออกเปลี่ยนแปลงค่อนข้างช้า
    ขณะที่โครงสร้างการผลิตของประเทศคู่แข่งหลายราย
    ที่เคยผลิตสินค้าล้าสมัยกว่าไทยในอดีต กลับสามารถ
    ปรับตามกระแสความต้องการในตลาดโลกที่เปลี่ยนไปได้
    อย่างรวดเร็วจากการหาห่วงโซ่อุปทานใหม่ สะท้อนจาก
    ส่วนแบ่งยอดขายสินค้าไทยในตลาดโลก ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง
    จาก 10 ปีก่อนมากนัก เช่น รถยนต์ EV แผงวงจรไฟฟ้า/เซมิคอนดักเตอร์
    สมาร์ตโฟน แผงโซลาร์เซลล์ (เป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่มีสัดส่วนสูงขึ้นในตลาดโลก)

    ทั้งนี้ถึงแม้การส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ของไทยจะมีสัดส่วนต่อมูลค่าการส่งออก
    ทั้งหมดสูงขึ้น แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 17% ในปี 2556-2560 เป็น 23%
    ในปี 2561-2565 ซึ่งแตกต่างจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย
    ที่มีสัดส่วนการส่งออกกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมาก จาก 16% เป็น 32%, 38%
    เป็น 44% และ 40% เป็น 48% ตามลำดับ โดยสาเหตุเป็นเพราะว่า
    ประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ผลิตสินค้ากลุ่มนี้ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง
    มีขั้นตอนการผลิตซับซ้อนกว่า และสร้างมูลค่าเพิ่มสูงกว่าได้
    ในขณะที่ไทยส่วนใหญ่แล้วยังคงผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีระดับกลาง
    และมีความซับซ้อนน้อยกว่า สะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันที่ต่ำกว่า
    แสดงให้เห็นว่าไทยอาจไม่ได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น
    ในปัจจุบันได้มากเท่าประเทศเพื่อนบ้าน

    3) ความสามารถในการกระจายตลาดใหม่ไม่ค่อยสูง :
    การส่งออกของไทยกว่า 75% ยังคงกระจุกตัวในบางตลาดหลัก เช่น จีน สหรัฐฯ
    ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน เช่นในอดีต ซึ่งหากเกิดปัญหาเศรษฐกิจขึ้น
    ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ก็อาจสร้างความเสี่ยงสูงต่อไทยตามมา เช่น เศรษฐกิจจีน
    ชะลอตัว ในช่วงที่ผ่านมา จะกระทบการส่งออกไทยไปตลาดจีนตามไปด้วย
    สะท้อนความจำเป็นในการขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง
    และเพิ่มยอดส่งออกของไทยได้

    จากการวิเคราะห์ข้างต้น จะเห็นได้ว่าปัญหาหลักของการส่งออกไทยมาจาก
    ปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคการผลิตในประเทศที่ไม่ค่อยตอบโจทย์
    สินค้าใหม่ ๆ คำถามสำคัญคือ อะไรเป็นสาเหตุทำให้ปัญหาเชิงโครงสร้าง
    ภาคการผลิตของไทยมาถึงจุดนี้?

    SCB EIC มองว่าสาเหตุหลักมาจากทักษะแรงงานไทยและการลงทุน
    จากต่างชาติที่ลดลง :

    1) แรงงานสูงวัยและทักษะต่ำ : ประเทศไทยกำลังเผชิญสังคมผู้สูงอายุ
    22.7% จากประชากรทั้งหมดในปี 2566 (อายุ 60 ปีขึ้นไป) และมีแนวโน้ม
    เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน รวมถึงปัญหาแรงงานขาดทักษะ
    ที่จำเป็น โดยเฉพาะทักษะเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการผลิตสินค้า
    และการแข่งขันในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    ปัญหานี้ทำให้การผลิตสินค้าเทคโนโลยีของไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับ
    เทคโนโลยีขั้นกลาง และการพัฒนาสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงจึงเกิดขึ้นค่อนข้างช้า
    เนื่องจากเพิ่มศักยภาพแรงงานไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

    2) สัดส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ลดลง :
    FDI เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยได้รับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และทันสมัย
    เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและการส่งออก
    รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
    การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในไทยลดลงมาก จากที่เคยเป็นหนึ่ง
    ในจุดหมายปลายทางหลักในอาเซียน ไทยกลับตกอันดับมาเรื่อย ๆ
    อยู่อันดับ 7 ในปี 2566 แย่กว่าในปี 2543 2553 และ 2562 ที่อันดับ 3, 3,
    และ 6 ตามลำดับ เสียอีก (ข้อมูลจาก World Bank)

    สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก

    (1) ทักษะแรงงานไทยไม่สูงและสัดส่วนแรงงานสูงวัย
    ยังมีมากที่สุดในอาเซียน

    (2) ไทยขาดการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)
    กับประเทศสำคัญ ๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศคู่แข่ง
    เช่น เวียดนาม ได้เปรียบจากการมีข้อตกลง FTA กับสหภาพยุโรป
    และการเข้าร่วม CPTPP ทำให้เข้าถึงตลาดสำคัญในโลกได้ง่ายขึ้น

    (3) การเมืองไทยมีความไม่แน่นอนสูง

    (4) นโยบายเศรษฐกิจระยะยาวขาดความชัดเจนและความต่อเนื่อง
    นักลงทุนไทยและต่างประเทศขาดความมั่นใจที่จะลงทุน
    วิจัยและพัฒนา (R&D) ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เนื่องจากเป็นการลงทุนสูง
    และใช้เวลากว่าจะเห็นผล และ

    (5) กฎระเบียบภาครัฐซับซ้อน ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้นักลงทุน
    ต่างชาติเลือกลงทุนในประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมือง
    และนโยบายและสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการลงทุนดีกว่า

    ปัจจัยภายนอก :

    การส่งออกของไทยยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกหลายประการ

    ได้แก่ 1) China over-capacity ที่อาจซ้ำเติมปัญหาความสามารถ
    ในการแข่งขันของไทย โดยเฉพาะความสามารถในการแข่งขันด้านราคา
    กับสินค้าจีน

    2) ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ อาจสร้างความไม่แน่นอนของนโยบายภาษี
    สินค้านำเข้าทุกประเภทจากทุกประเทศเพิ่มเติม

    3) ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามยืดเยื้อ การแบ่งขั้ว
    ทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น หรือมาตรการกีดกันการค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบ
    ต่อการค้าโลก

    4) การผันผวนของค่าเงินบาท จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง
    สำคัญทั่วโลก

    (5) ค่าระวางเรือและค่าขนส่งที่อาจจะกลับมาสูงขึ้น จากสงครามที่เกิดขึ้นบ่อย
    และรุนแรงขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดแคลนเรือขนส่งและตู้คอนเทนเนอร์


    ปัจจัยภายในและนอกประเทศเหล่านี้กดดันให้เครื่องยนต์ส่งออกของไทย
    อ่อนแอลง และเป็นสัญญาณที่น่ากังวล เนื่องจากการบริโภคและการลงทุน
    ในประเทศก็กำลังอ่อนแรงเช่นกัน โดยการบริโภคถูกจำกัดจากภาระหนี้
    ครัวเรือนสูง และการลงทุนได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ในประเทศ
    ที่เปราะบาง

    อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยยังไม่ไร้ความหวังเสียทีเดียว
    หากรัฐบาลสามารถจัดการ 3 ปัจจัยหลักได้ ได้แก่ แรงงาน การลงทุน
    โดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และยุทธศาสตร์นโยบายอุปทานที่ชัดเจน
    ประเทศไทยจะสามารถปรับโครงสร้างการผลิตให้แข็งแกร่งขึ้น
    และช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้บนข้อได้เปรียบที่ไทยมีอยู่แล้ว
    เช่น โครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทังนี้ปัจจัยกดดันจากภายนอกเป็นสิ่งที่ไม่สามารถ
    ควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม SCB EIC มองว่าหากโครงสร้างการผลิตของไทย
    แข็งแกร่ง จะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้ได้ และอาจทำให้ไทย
    ได้รับประโยชน์จากบางปัจจัย เช่น ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจนำมาซึ่ง
    การย้ายฐานการผลิตและการลงทุนใหม่ ๆ

    การส่งออกไทยในปัจจุบันเปรียบเหมือนรถที่กำลังวิ่งอย่างเชื่องช้า
    ที่ต้องเลือกว่าจะเริ่มซ่อมแซมและปรับปรุงโครงสร้างเครื่องยนต์
    ให้ทันสมัยจุดไหนบ้าง เพื่อให้รถคันนี้กลับมาวิ่งเร็วได้อีกครั้ง
    แต่หากไม่เริ่มทำอะไรวันนี้ เครื่องยนต์เก่านี้อาจพังในไม่ช้า
    ทำให้รถเราค่อยๆ หยุดวิ่ง และปล่อยให้รถคันอื่นแซงหน้า
    ไปคันแล้วคันเล่า

    ที่มา : SCB EIC ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกไทย #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยธนาคารไทยพาณิชย์ SCB EIC เผยแพร่ข้อมูล ภาพรวมการส่งออกของไทยในปัจจุบัน อยู่ในสภาวะ อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ หากไม่ทำอะไรเลย นับตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 การส่งออก เป็นเครื่องยนต์หลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมายาวนาน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 60-65% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (จีดีพี) การส่งออกมีบทบาทสำคัญ ในการสร้างรายได้จากต่างประเทศ การจ้างงาน และเพิ่ม ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยได้สูญเสียบทบาท และความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเช่นที่เคยเป็นมา SCB EIC มองว่า เครื่องยนต์ส่งออกของไทยกำลังอ่อนแรงลงมาก จากปัจจัยภายในและภายนอก ซึ่งมีส่วนทำให้การส่งออกไทย ไม่สามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก ได้เหมือนในอดีต และไม่สามารถปรับตัวตามกระแสโลก ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ทัน ปัจจัยภายในประเทศ : 1) สินค้าส่งออกไทยไม่ค่อยสอดคล้องกับความต้องการของโลก : ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดการผลิตสินค้านวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนไป เช่น สมาร์ตโฟน แผงวงจรไฟฟ้า หรือสินค้าที่ผลิตจากพลังงานสะอาด ขณะที่สินค้าหมวดเครื่องจักรและเครื่องใช้เครื่องกลที่ไทยผลิต กลับเป็นสินค้าที่โลกต้องการซื้อน้อยลงเช่น Hard Disk Drives (HDD) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทย แต่เมื่อเทคโนโลยี เปลี่ยนไปสู่ Solid State Drives (SSD) ความต้องการ HDD ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับสินค้าหมวดยานพาหนะ ส่วนประกอบ และอุปกรณ์เสริม ที่ไทยเคยส่งออกดีมาก จากการส่งออกยานยนต์ และเครื่องยนต์สันดาป แต่ปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทาย จากการเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของผู้ซื้อ ซึ่งรวมมูลค่า การส่งออก 2 หมวดใหญ่นี้คิดเป็น 27% ของมูลค่าการส่งออก ไทยทั้งหมดในปี 2566 2) โครงสร้างการผลิตเพื่อส่งออกไทยเปลี่ยนแปลงช้า : ภาคการผลิตของไทยยังผูกโยงกับห่วงโซ่อุปทานเก่าอยู่มาก ส่งผลให้โครงสร้างการส่งออกเปลี่ยนแปลงค่อนข้างช้า ขณะที่โครงสร้างการผลิตของประเทศคู่แข่งหลายราย ที่เคยผลิตสินค้าล้าสมัยกว่าไทยในอดีต กลับสามารถ ปรับตามกระแสความต้องการในตลาดโลกที่เปลี่ยนไปได้ อย่างรวดเร็วจากการหาห่วงโซ่อุปทานใหม่ สะท้อนจาก ส่วนแบ่งยอดขายสินค้าไทยในตลาดโลก ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง จาก 10 ปีก่อนมากนัก เช่น รถยนต์ EV แผงวงจรไฟฟ้า/เซมิคอนดักเตอร์ สมาร์ตโฟน แผงโซลาร์เซลล์ (เป็นกลุ่มสินค้าส่งออกที่มีสัดส่วนสูงขึ้นในตลาดโลก) ทั้งนี้ถึงแม้การส่งออกสินค้ากลุ่มนี้ของไทยจะมีสัดส่วนต่อมูลค่าการส่งออก ทั้งหมดสูงขึ้น แต่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 17% ในปี 2556-2560 เป็น 23% ในปี 2561-2565 ซึ่งแตกต่างจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ที่มีสัดส่วนการส่งออกกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมาก จาก 16% เป็น 32%, 38% เป็น 44% และ 40% เป็น 48% ตามลำดับ โดยสาเหตุเป็นเพราะว่า ประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ผลิตสินค้ากลุ่มนี้ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง มีขั้นตอนการผลิตซับซ้อนกว่า และสร้างมูลค่าเพิ่มสูงกว่าได้ ในขณะที่ไทยส่วนใหญ่แล้วยังคงผลิตสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีระดับกลาง และมีความซับซ้อนน้อยกว่า สะท้อนขีดความสามารถในการแข่งขันที่ต่ำกว่า แสดงให้เห็นว่าไทยอาจไม่ได้รับอานิสงส์จากวัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขาขึ้น ในปัจจุบันได้มากเท่าประเทศเพื่อนบ้าน 3) ความสามารถในการกระจายตลาดใหม่ไม่ค่อยสูง : การส่งออกของไทยกว่า 75% ยังคงกระจุกตัวในบางตลาดหลัก เช่น จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และอาเซียน เช่นในอดีต ซึ่งหากเกิดปัญหาเศรษฐกิจขึ้น ในกลุ่มประเทศเหล่านี้ก็อาจสร้างความเสี่ยงสูงต่อไทยตามมา เช่น เศรษฐกิจจีน ชะลอตัว ในช่วงที่ผ่านมา จะกระทบการส่งออกไทยไปตลาดจีนตามไปด้วย สะท้อนความจำเป็นในการขยายตลาดส่งออกใหม่ ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มยอดส่งออกของไทยได้ จากการวิเคราะห์ข้างต้น จะเห็นได้ว่าปัญหาหลักของการส่งออกไทยมาจาก ปัญหาเชิงโครงสร้างของภาคการผลิตในประเทศที่ไม่ค่อยตอบโจทย์ สินค้าใหม่ ๆ คำถามสำคัญคือ อะไรเป็นสาเหตุทำให้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ภาคการผลิตของไทยมาถึงจุดนี้? SCB EIC มองว่าสาเหตุหลักมาจากทักษะแรงงานไทยและการลงทุน จากต่างชาติที่ลดลง : 1) แรงงานสูงวัยและทักษะต่ำ : ประเทศไทยกำลังเผชิญสังคมผู้สูงอายุ 22.7% จากประชากรทั้งหมดในปี 2566 (อายุ 60 ปีขึ้นไป) และมีแนวโน้ม เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน รวมถึงปัญหาแรงงานขาดทักษะ ที่จำเป็น โดยเฉพาะทักษะเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งมีความสำคัญต่อการผลิตสินค้า และการแข่งขันในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปัญหานี้ทำให้การผลิตสินค้าเทคโนโลยีของไทยส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับ เทคโนโลยีขั้นกลาง และการพัฒนาสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงจึงเกิดขึ้นค่อนข้างช้า เนื่องจากเพิ่มศักยภาพแรงงานไม่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง 2) สัดส่วนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ลดลง : FDI เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยได้รับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และทันสมัย เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและการส่งออก รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในไทยลดลงมาก จากที่เคยเป็นหนึ่ง ในจุดหมายปลายทางหลักในอาเซียน ไทยกลับตกอันดับมาเรื่อย ๆ อยู่อันดับ 7 ในปี 2566 แย่กว่าในปี 2543 2553 และ 2562 ที่อันดับ 3, 3, และ 6 ตามลำดับ เสียอีก (ข้อมูลจาก World Bank) สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก (1) ทักษะแรงงานไทยไม่สูงและสัดส่วนแรงงานสูงวัย ยังมีมากที่สุดในอาเซียน (2) ไทยขาดการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศสำคัญ ๆ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศคู่แข่ง เช่น เวียดนาม ได้เปรียบจากการมีข้อตกลง FTA กับสหภาพยุโรป และการเข้าร่วม CPTPP ทำให้เข้าถึงตลาดสำคัญในโลกได้ง่ายขึ้น (3) การเมืองไทยมีความไม่แน่นอนสูง (4) นโยบายเศรษฐกิจระยะยาวขาดความชัดเจนและความต่อเนื่อง นักลงทุนไทยและต่างประเทศขาดความมั่นใจที่จะลงทุน วิจัยและพัฒนา (R&D) ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เนื่องจากเป็นการลงทุนสูง และใช้เวลากว่าจะเห็นผล และ (5) กฎระเบียบภาครัฐซับซ้อน ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้นักลงทุน ต่างชาติเลือกลงทุนในประเทศที่มีเสถียรภาพทางการเมือง และนโยบายและสภาพแวดล้อมเอื้อต่อการลงทุนดีกว่า ปัจจัยภายนอก : การส่งออกของไทยยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกหลายประการ ได้แก่ 1) China over-capacity ที่อาจซ้ำเติมปัญหาความสามารถ ในการแข่งขันของไทย โดยเฉพาะความสามารถในการแข่งขันด้านราคา กับสินค้าจีน 2) ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ อาจสร้างความไม่แน่นอนของนโยบายภาษี สินค้านำเข้าทุกประเภทจากทุกประเทศเพิ่มเติม 3) ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์จากสงครามยืดเยื้อ การแบ่งขั้ว ทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น หรือมาตรการกีดกันการค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบ ต่อการค้าโลก 4) การผันผวนของค่าเงินบาท จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลาง สำคัญทั่วโลก (5) ค่าระวางเรือและค่าขนส่งที่อาจจะกลับมาสูงขึ้น จากสงครามที่เกิดขึ้นบ่อย และรุนแรงขึ้น รวมถึงปัญหาการขาดแคลนเรือขนส่งและตู้คอนเทนเนอร์ ปัจจัยภายในและนอกประเทศเหล่านี้กดดันให้เครื่องยนต์ส่งออกของไทย อ่อนแอลง และเป็นสัญญาณที่น่ากังวล เนื่องจากการบริโภคและการลงทุน ในประเทศก็กำลังอ่อนแรงเช่นกัน โดยการบริโภคถูกจำกัดจากภาระหนี้ ครัวเรือนสูง และการลงทุนได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ในประเทศ ที่เปราะบาง อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยยังไม่ไร้ความหวังเสียทีเดียว หากรัฐบาลสามารถจัดการ 3 ปัจจัยหลักได้ ได้แก่ แรงงาน การลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และยุทธศาสตร์นโยบายอุปทานที่ชัดเจน ประเทศไทยจะสามารถปรับโครงสร้างการผลิตให้แข็งแกร่งขึ้น และช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้บนข้อได้เปรียบที่ไทยมีอยู่แล้ว เช่น โครงสร้างพื้นฐานที่ดี ทังนี้ปัจจัยกดดันจากภายนอกเป็นสิ่งที่ไม่สามารถ ควบคุมได้ อย่างไรก็ตาม SCB EIC มองว่าหากโครงสร้างการผลิตของไทย แข็งแกร่ง จะช่วยลดผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้ได้ และอาจทำให้ไทย ได้รับประโยชน์จากบางปัจจัย เช่น ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจนำมาซึ่ง การย้ายฐานการผลิตและการลงทุนใหม่ ๆ การส่งออกไทยในปัจจุบันเปรียบเหมือนรถที่กำลังวิ่งอย่างเชื่องช้า ที่ต้องเลือกว่าจะเริ่มซ่อมแซมและปรับปรุงโครงสร้างเครื่องยนต์ ให้ทันสมัยจุดไหนบ้าง เพื่อให้รถคันนี้กลับมาวิ่งเร็วได้อีกครั้ง แต่หากไม่เริ่มทำอะไรวันนี้ เครื่องยนต์เก่านี้อาจพังในไม่ช้า ทำให้รถเราค่อยๆ หยุดวิ่ง และปล่อยให้รถคันอื่นแซงหน้า ไปคันแล้วคันเล่า ที่มา : SCB EIC ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #การส่งออกไทย #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 898 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts