• ปัดกินส่วนต่างเบนซ์-ให้จีนเทาเช่า (05/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #สีข้างเข้าถู #แจงที่มารถเบนซ์ #ทนายมิจฉาชีพ
    ปัดกินส่วนต่างเบนซ์-ให้จีนเทาเช่า (05/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #สีข้างเข้าถู #แจงที่มารถเบนซ์ #ทนายมิจฉาชีพ
    Haha
    Like
    Yay
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 187 0 รีวิว
  • จุ๊กกรู้ยังไงให้คนรู้ว่าช่วยทนายตั้ม ? (04/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ทนายมิจฉาชีพ #ช่วยเหลือในทางสือ #ทนายจุ๊กกรู้
    จุ๊กกรู้ยังไงให้คนรู้ว่าช่วยทนายตั้ม ? (04/11/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ทนายมิจฉาชีพ #ช่วยเหลือในทางสือ #ทนายจุ๊กกรู้
    Like
    Love
    Angry
    19
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 841 มุมมอง 345 0 รีวิว
  • ถ้าท่านอยู่ในสถานการณ์ที่มีโทรศัพท์ หรือ Line หรือ Facebook เข้ามาแอบอ้างว่าเป็น หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือบุคคลใด ทำการข่มขู่เรื่องความผิดต่อกฎหมาย และพยายามเกลี้ยกล่อมให้ท่าน จ่ายเงิน หรือ โอนเงิน เพื่อเคลียร์ปัญหา
    “ขอให้ท่านตั้งสติ …อย่ากระทำการโอนเงินอย่างเด็ดขาด …ขอย้ำว่า …อย่าโอนเงินอย่างเด็ดขาด”
    นำเรื่องราวมาปรึกษากันในกลุ่ม “นิติธรรมเพื่อสังคม” เพื่อเราจะได้ช่วยกัน มิให้คนไทยเพื่อนร่วมชาติของเรา ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ อีกต่อไป

    ถ้าท่านอยู่ในสถานการณ์ที่มีโทรศัพท์ หรือ Line หรือ Facebook เข้ามาแอบอ้างว่าเป็น หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ หรือบุคคลใด ทำการข่มขู่เรื่องความผิดต่อกฎหมาย และพยายามเกลี้ยกล่อมให้ท่าน จ่ายเงิน หรือ โอนเงิน เพื่อเคลียร์ปัญหา “ขอให้ท่านตั้งสติ …อย่ากระทำการโอนเงินอย่างเด็ดขาด …ขอย้ำว่า …อย่าโอนเงินอย่างเด็ดขาด” นำเรื่องราวมาปรึกษากันในกลุ่ม “นิติธรรมเพื่อสังคม” เพื่อเราจะได้ช่วยกัน มิให้คนไทยเพื่อนร่วมชาติของเรา ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ อีกต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดข้อสังเกต 71 ล้านไม่เสน่หา ? (31/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #71 ล้านไม่เสน่หา #ทนายลวงโลก #ทนายหรือมิจฉาชีพ
    เปิดข้อสังเกต 71 ล้านไม่เสน่หา ? (31/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #71 ล้านไม่เสน่หา #ทนายลวงโลก #ทนายหรือมิจฉาชีพ
    Like
    Love
    Yay
    28
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1985 มุมมอง 763 0 รีวิว
  • อัจฉริยะยันคดีพรากผู้เยาว์ทนายตั้ม เรื่องจริง! (30/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ทนายตบทรัพย์ #ทนายหรือมิจฉาชีพ
    อัจฉริยะยันคดีพรากผู้เยาว์ทนายตั้ม เรื่องจริง! (30/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ทนายตบทรัพย์ #ทนายหรือมิจฉาชีพ
    Like
    Haha
    Sad
    18
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1983 มุมมอง 527 1 รีวิว
  • อีกวิธีนึง เมื่อสัก 13_14 ปีก่อน ตัวเองเกือบโดน..ด้วยความโลภ.. เปิดมา 15000 ..เราบอกตกลง ขอนัดรับเอง ที่ไหนของประเทศไทย ก็จะไป...ยื้อกันอยู่สักพัก คนขายจะส่งอย่างเดียว....เราบอกให้ 30000 ไม่ต้องประกัน..ขอตรงภาพที่โพสขายจบเลย....ขอนัดรับ .....จนสติ กลับมา เริ่มไล่ดูภาพ...อ๋อ มีเงาสะท้อน จากกระดาษที่เป็น อาร์ทมัน...เอาแล้ว....พระลงหนังสือ....ถ่ายหนังสือมาขาย...... ปัจจุบันก็ยังมี มิจฉาชีพ ใช้วิธีนี้อยู่
    อีกวิธีนึง เมื่อสัก 13_14 ปีก่อน ตัวเองเกือบโดน..ด้วยความโลภ.. เปิดมา 15000 ..เราบอกตกลง ขอนัดรับเอง ที่ไหนของประเทศไทย ก็จะไป...ยื้อกันอยู่สักพัก คนขายจะส่งอย่างเดียว....เราบอกให้ 30000 ไม่ต้องประกัน..ขอตรงภาพที่โพสขายจบเลย....ขอนัดรับ .....จนสติ กลับมา เริ่มไล่ดูภาพ...อ๋อ มีเงาสะท้อน จากกระดาษที่เป็น อาร์ทมัน...เอาแล้ว....พระลงหนังสือ....ถ่ายหนังสือมาขาย...... ปัจจุบันก็ยังมี มิจฉาชีพ ใช้วิธีนี้อยู่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • 23/10/67

    มิจฉาชีพมาแบบใหม่อีกแล้ว

    มีเลขบปชช. (บัตรประชาชน)ของเรา โทรไปอายัดบช. กับแบงค์ แล้วโทรกลับมาหาเรา ลองฟังดูนะคะ
    แผนหลายชั้น อันตรายมาก
    23/10/67 มิจฉาชีพมาแบบใหม่อีกแล้ว มีเลขบปชช. (บัตรประชาชน)ของเรา โทรไปอายัดบช. กับแบงค์ แล้วโทรกลับมาหาเรา ลองฟังดูนะคะ แผนหลายชั้น อันตรายมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 42 0 รีวิว
  • 🔥🔥สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์
    และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งเตือน
    ประชาชนและผู้ลงทุน ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพหลอกลวง
    แอบอ้างเป็นผู้ประกอบธุรกิจชักชวนให้ลงทุน
    สร้างความเสียหายเป็นมูลค่าสูง พร้อมแนะนำ
    3 ข้อสังเกตระมัดระวังก่อนการลงทุน

    ก.ล.ต. จึงแจ้งเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง
    ในการรับข้อมูลชักชวนให้ลงทุน โดยฉพาะผ่านช่อง
    ทางโซเชียลมีเดีย อย่าหลงเชื่อเมื่อพบความผิดปกติ
    และควรตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ
    โดยมีจุดสังเกต 3 ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจลงทุน ดังนี้

    🚩(1) หากถูกทักส่วนตัวและชักชวนลงทุนในช่องทาง
    โซเชียลมีเดีย เช่น ส่งข้อความในไลน์ส่วนตัว หรือกล่อง
    ข้อความส่วนตัว ในเฟซบุ๊ก (Messenger) ให้สงสัยไว้ก่อนว่า
    อาจเป็นมิจฉาชีพ เพราะผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต
    ส่วนใหญ่ มักไม่ชักชวนลงทุนในลักษณะส่วนตัวผ่าน
    โซเชียลมีเดีย

    🚩(2) หากถูกชักชวนโดยอ้างชื่อ/ภาพของบุคคลใดก็ตาม
    ในข้อความโฆษณา ให้สงสัยไว้ก่อนและสอบถามด้วยตัวเอง
    กับบริษัทที่ถูกอ้างชื่อว่า มีบุคคลนั้นเป็นบุคคลากรทำหน้าที่
    ผู้แนะนำการลงทุนอยู่ในบริษัทจริงหรือไม่ เพราะมิจฉาชีพ
    มักจะแอบอ้างเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือหรือมีชื่อเสียง
    รวมทั้งต้องตรวจเช็กด้วยว่าบริษัทนั้น ๆ เป็นผู้ประกอบธุรกิจ
    ที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ และ

    🚩(3) ก่อนโอนเงินชำระค่าเปิดบัญชีซื้อขายหรือค่าซื้อต้องตรวจดู
    ชื่อบัญชีธนาคารปลายทางก่อนโอนทุกครั้งว่า เป็นชื่อบัญชี
    ของบริษัทที่ประสงค์จะลงทุนจริงหรือไม่

    ที่มา : กลต.

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กลต #thaitimes
    🔥🔥สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งเตือน ประชาชนและผู้ลงทุน ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพหลอกลวง แอบอ้างเป็นผู้ประกอบธุรกิจชักชวนให้ลงทุน สร้างความเสียหายเป็นมูลค่าสูง พร้อมแนะนำ 3 ข้อสังเกตระมัดระวังก่อนการลงทุน ก.ล.ต. จึงแจ้งเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวัง ในการรับข้อมูลชักชวนให้ลงทุน โดยฉพาะผ่านช่อง ทางโซเชียลมีเดีย อย่าหลงเชื่อเมื่อพบความผิดปกติ และควรตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบ โดยมีจุดสังเกต 3 ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจลงทุน ดังนี้ 🚩(1) หากถูกทักส่วนตัวและชักชวนลงทุนในช่องทาง โซเชียลมีเดีย เช่น ส่งข้อความในไลน์ส่วนตัว หรือกล่อง ข้อความส่วนตัว ในเฟซบุ๊ก (Messenger) ให้สงสัยไว้ก่อนว่า อาจเป็นมิจฉาชีพ เพราะผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาต ส่วนใหญ่ มักไม่ชักชวนลงทุนในลักษณะส่วนตัวผ่าน โซเชียลมีเดีย 🚩(2) หากถูกชักชวนโดยอ้างชื่อ/ภาพของบุคคลใดก็ตาม ในข้อความโฆษณา ให้สงสัยไว้ก่อนและสอบถามด้วยตัวเอง กับบริษัทที่ถูกอ้างชื่อว่า มีบุคคลนั้นเป็นบุคคลากรทำหน้าที่ ผู้แนะนำการลงทุนอยู่ในบริษัทจริงหรือไม่ เพราะมิจฉาชีพ มักจะแอบอ้างเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือหรือมีชื่อเสียง รวมทั้งต้องตรวจเช็กด้วยว่าบริษัทนั้น ๆ เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ที่ได้รับอนุญาตหรือไม่ และ 🚩(3) ก่อนโอนเงินชำระค่าเปิดบัญชีซื้อขายหรือค่าซื้อต้องตรวจดู ชื่อบัญชีธนาคารปลายทางก่อนโอนทุกครั้งว่า เป็นชื่อบัญชี ของบริษัทที่ประสงค์จะลงทุนจริงหรือไม่ ที่มา : กลต. #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กลต #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • แชร์ลูกโซ่ คือ Paper Company อย่างหนึ่ง พึงระวังได้อย่างไร
    .
    โดย ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
    สาขาวิชาสถิติศาสตร์
    สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล
    สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
    คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
    .
    Paper company หรือบริษัทกระดาษ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นบริษัทที่เป็นมิจฉาชีพเพื่อโกงโดยเฉพาะ Paper company เหล่านี้อาจจะโกงได้ตั้งแต่

    1. การหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น การจ้างพนักงานปลอม แล้วนำไปเป็นค่าใช้จ่าย โดยยอมเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding tax) ของค่าจ้างเงินเดือน และอื่น ๆ
    2.การฟอกเงิน (นำเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายมาแปลงให้เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย)
    3. การสวมรอยในการกระทำผิดกฎหมายเพื่อแสวงหารายได้ที่ไม่ถูกต้อง
    4. การพักเงินเพื่อส่งต่อผ่องถ่าย (Siphon) จากธุรกิจหนึ่งไปยังอีกธุรกิจหนึ่ง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย
    5. การขอคืนภาษีอันเป็นเท็จ (Fraudulent tax refund) ได้แก่ การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ การขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเท็จ เป็นต้น
    6. การออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างค่าใช้จ่ายเท็จสำหรับลงบัญชีเพื่อลดการจ่ายภาษีหรือหลบเลี่ยงภาษี เป็นต้น
    7. การยืมเงินโดยอ้างว่าเป็นการลงทุน การสมัครหาสมาชิก อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่ได้ประกอบกิจการจริง เช่น อ้างว่าเป็นธุรกิจขายตรงออนไลน์ ที่รับบริหารสินค้าคงเหลือให้เป็นศูนย์ (Zero-inventory) ได้ เป็นต้น
    8. การตั้ง paper company เพื่อใช้ยืมเงินระหว่างบริษัทหรือตั้งราคาโอน (Transfer pricing) เพื่อสร้างค่าใช้จ่ายสูง ๆ ผิดปกติ หรือสร้างยอดขายปลอม ก็เป็นสิ่งที่ทำกันเพื่อตบตานักลงทุนหรือเพื่อหลบกรมสรรพากร
    และมีรูปแบบอื่น ๆ อีกมาก

    บริษัทกระดาษเหล่านี้ หาได้ประกอบกิจการจริงไม่ หาได้ทำธุรกิจจริง แต่ตั้งขึ้นอย่างถูกต้องเพื่อโกงและกระทำผิดกฎหมายสารพัดวิธีการที่จะคิดสร้างสรรค์อย่างผิดวิธี เพื่อโกงประเทศชาติหรือหลอกลวงประชาชน ......
    .
    คลิกอ่านต่อ >> https://mgronline.com/daily/detail/9670000100823
    แชร์ลูกโซ่ คือ Paper Company อย่างหนึ่ง พึงระวังได้อย่างไร . โดย ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ สาขาวิชาสถิติศาสตร์ สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ . Paper company หรือบริษัทกระดาษ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นบริษัทที่เป็นมิจฉาชีพเพื่อโกงโดยเฉพาะ Paper company เหล่านี้อาจจะโกงได้ตั้งแต่ 1. การหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งมีหลายรูปแบบ เช่น การจ้างพนักงานปลอม แล้วนำไปเป็นค่าใช้จ่าย โดยยอมเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย (Withholding tax) ของค่าจ้างเงินเดือน และอื่น ๆ 2.การฟอกเงิน (นำเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมายมาแปลงให้เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย) 3. การสวมรอยในการกระทำผิดกฎหมายเพื่อแสวงหารายได้ที่ไม่ถูกต้อง 4. การพักเงินเพื่อส่งต่อผ่องถ่าย (Siphon) จากธุรกิจหนึ่งไปยังอีกธุรกิจหนึ่ง ซึ่งมักเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย 5. การขอคืนภาษีอันเป็นเท็จ (Fraudulent tax refund) ได้แก่ การขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ การขอคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเท็จ เป็นต้น 6. การออกใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ เพื่อนำไปใช้ในการสร้างค่าใช้จ่ายเท็จสำหรับลงบัญชีเพื่อลดการจ่ายภาษีหรือหลบเลี่ยงภาษี เป็นต้น 7. การยืมเงินโดยอ้างว่าเป็นการลงทุน การสมัครหาสมาชิก อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ในลักษณะของแชร์ลูกโซ่ แต่ไม่ได้ประกอบกิจการจริง เช่น อ้างว่าเป็นธุรกิจขายตรงออนไลน์ ที่รับบริหารสินค้าคงเหลือให้เป็นศูนย์ (Zero-inventory) ได้ เป็นต้น 8. การตั้ง paper company เพื่อใช้ยืมเงินระหว่างบริษัทหรือตั้งราคาโอน (Transfer pricing) เพื่อสร้างค่าใช้จ่ายสูง ๆ ผิดปกติ หรือสร้างยอดขายปลอม ก็เป็นสิ่งที่ทำกันเพื่อตบตานักลงทุนหรือเพื่อหลบกรมสรรพากร และมีรูปแบบอื่น ๆ อีกมาก บริษัทกระดาษเหล่านี้ หาได้ประกอบกิจการจริงไม่ หาได้ทำธุรกิจจริง แต่ตั้งขึ้นอย่างถูกต้องเพื่อโกงและกระทำผิดกฎหมายสารพัดวิธีการที่จะคิดสร้างสรรค์อย่างผิดวิธี เพื่อโกงประเทศชาติหรือหลอกลวงประชาชน ...... . คลิกอ่านต่อ >> https://mgronline.com/daily/detail/9670000100823
    MGRONLINE.COM
    แชร์ลูกโซ่ คือ Paper Company อย่างหนึ่ง พึงระวังได้อย่างไร
    Paper company หรือบริษัทกระดาษ เป็นบริษัทที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ได้ดำเนินกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นบริษัทที่เป็นมิจฉาชีพเพื่อโกงโดยเฉพาะ Paper company เหล่านี้อาจจะโกงได้ตั้งแต่
    Like
    9
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย
    จะพาเพื่อนๆ มารู้ถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
    ไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปกี่ปีๆ กี่ปี ก็จะเกิดเหตุการณ์
    ลักษณะเดียวกัน เกิดขึ้นที่เมืองไทยเราอยู่ตลอด
    ซึ่งมี 5 เหตุผลสำคัญในปัจจุบัน ได้แก่

    🔥1. ความโลภ และ ความหวังในการรวยเร็ว
    เหตุผลข้อนี้ คือ เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้
    มิจฉาชีพ หรือ ผู้ที่มาหลอกลวงลงทุน
    สามารถโน้มน้าวชักชวน ชักจูงผู้คน
    ให้เข้าร่วม หรือ หลงเชื่อได้ง่ายที่สุด
    นั่นคือ การเล่นกับสิ่งที่เปราะบาง และ
    เป็นจุดอ่อนของมนุษย์ทุกคน นั่นคือ "ความโลภ"
    และ ความหวังในการรวยเร็ว

    🔥2. การขาดความรู้ในเรื่องการเงิน และการลงทุนที่ถูกต้อง
    เหตุผลข้อนี้คืออีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราขาดความตระหนักรู้
    ก่อนที่จะเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่
    คือ เราไม่สามารถแยกได้ว่า ธุรกิจไหน เป็นแชร์ลูกโซ่
    และ เป็นการลงทุนที่ถูกต้อง ดังนั้นความรู้ในเรื่อง
    เกี่ยวกับการเงิน และการลงทุนที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ

    🔥3. การใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย
    ต้องยอมรับว่า การเติบโตของเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดีย
    ในแพตฟอร์มต่างๆ มีส่วนสำคัญในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์
    และชักชวน ชักจูงผู้คน ให้มาติดกับดัก ในธุรกิจแชร์ลูกโซ่
    ได้ง่ายที่สุด ดังนั้น การรับสื่อต่างๆ เราต้องมีความตระหนักรู้
    พิจารณา ไตร่ตรอง ให้รอบครอบ ก่อนหลงเชื่อในสิ่งต่างๆ

    🔥4. การขาดการยกระดับในการควบคุม ตรวจสอบ
    และ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
    ต้องยอมรับความจริงว่า ระบบการบังคับใช้กฎหมาย
    อย่างเข้มงวด รวมถึงการควบคุม ตรวจสอบ จากหน่วยงาน
    ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง ยังเป็นการทำงานเชิงรับ
    มีการดำเนินการ ตรวจสอบข้อร้องเรียนของภาคประชาชน
    เป็นไปด้วยความล่าช้า ต้องรอให้เกิดความเสียหาย
    เกิดขึ้นก่อน ถึงจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไข
    ดังนั้นต้องยกระดับมาตรฐาน มาตรการในการทำงาน
    เชิงรุก โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ

    🔥5. การสร้างเครือข่าย และ การชักชวนผู้คน
    ปัจจุบัน พบว่า ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักจ้างบุคคลที่มีชื่อเสียง
    ดารา นักแสดง อินฟูเอนเซอร์ ต่างๆ เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์
    เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ แชร์ลูกโซ่ดังกล่าว
    ส่งผลให้ประชาชน หรือ ผู้ที่ชื่นชอบดารา คนมีชื่อเสียง
    และ อินฟูเอนเซอร์ดังกล่าว หลงเข้าไปลงทุน จากการ
    ชักชวน ชักจูงได้ง่าย ดังนั้น มาตรการณ์ทางกฎหมาย
    และ จรรยาบรรณ ของดารา นักแสดง อินฟูเอนเซอร์ต่างๆ
    ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม รู้ความผิดชอบชั่วดี
    อย่าหลงเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ เพราะชื่อเสียงที่สะสมมา
    กับผลประโยชน์ด้วยเงินเพียงชั่วขณะหนึ่ง มันเทียบกันไม่ได้

    🔥นี่ก็เป็นเพียง 5 สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่
    ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น การควบคุมความโลภ
    การศึกษาเรื่องการเงิน การลงทุน ที่ถูกต้อง รวมทั้ง
    การวิเคราะห์ พิจารณาธุรกิจที่เราจะเข้าไปลงทุนให้ดี
    ให้รอบด้าน ก่อนเข้าไปลงทุนทุกครั้ง ก็จะสามารถช่วยให้เรา
    ไม่ตกเป็นเหยื่อ ของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ได้

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน
    #5สาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
    🔥🔥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย จะพาเพื่อนๆ มารู้ถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปกี่ปีๆ กี่ปี ก็จะเกิดเหตุการณ์ ลักษณะเดียวกัน เกิดขึ้นที่เมืองไทยเราอยู่ตลอด ซึ่งมี 5 เหตุผลสำคัญในปัจจุบัน ได้แก่ 🔥1. ความโลภ และ ความหวังในการรวยเร็ว เหตุผลข้อนี้ คือ เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ มิจฉาชีพ หรือ ผู้ที่มาหลอกลวงลงทุน สามารถโน้มน้าวชักชวน ชักจูงผู้คน ให้เข้าร่วม หรือ หลงเชื่อได้ง่ายที่สุด นั่นคือ การเล่นกับสิ่งที่เปราะบาง และ เป็นจุดอ่อนของมนุษย์ทุกคน นั่นคือ "ความโลภ" และ ความหวังในการรวยเร็ว 🔥2. การขาดความรู้ในเรื่องการเงิน และการลงทุนที่ถูกต้อง เหตุผลข้อนี้คืออีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราขาดความตระหนักรู้ ก่อนที่จะเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่ คือ เราไม่สามารถแยกได้ว่า ธุรกิจไหน เป็นแชร์ลูกโซ่ และ เป็นการลงทุนที่ถูกต้อง ดังนั้นความรู้ในเรื่อง เกี่ยวกับการเงิน และการลงทุนที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ 🔥3. การใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย ต้องยอมรับว่า การเติบโตของเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดีย ในแพตฟอร์มต่างๆ มีส่วนสำคัญในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และชักชวน ชักจูงผู้คน ให้มาติดกับดัก ในธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ได้ง่ายที่สุด ดังนั้น การรับสื่อต่างๆ เราต้องมีความตระหนักรู้ พิจารณา ไตร่ตรอง ให้รอบครอบ ก่อนหลงเชื่อในสิ่งต่างๆ 🔥4. การขาดการยกระดับในการควบคุม ตรวจสอบ และ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ต้องยอมรับความจริงว่า ระบบการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวด รวมถึงการควบคุม ตรวจสอบ จากหน่วยงาน ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง ยังเป็นการทำงานเชิงรับ มีการดำเนินการ ตรวจสอบข้อร้องเรียนของภาคประชาชน เป็นไปด้วยความล่าช้า ต้องรอให้เกิดความเสียหาย เกิดขึ้นก่อน ถึงจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ดังนั้นต้องยกระดับมาตรฐาน มาตรการในการทำงาน เชิงรุก โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ 🔥5. การสร้างเครือข่าย และ การชักชวนผู้คน ปัจจุบัน พบว่า ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักจ้างบุคคลที่มีชื่อเสียง ดารา นักแสดง อินฟูเอนเซอร์ ต่างๆ เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ แชร์ลูกโซ่ดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชน หรือ ผู้ที่ชื่นชอบดารา คนมีชื่อเสียง และ อินฟูเอนเซอร์ดังกล่าว หลงเข้าไปลงทุน จากการ ชักชวน ชักจูงได้ง่าย ดังนั้น มาตรการณ์ทางกฎหมาย และ จรรยาบรรณ ของดารา นักแสดง อินฟูเอนเซอร์ต่างๆ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม รู้ความผิดชอบชั่วดี อย่าหลงเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ เพราะชื่อเสียงที่สะสมมา กับผลประโยชน์ด้วยเงินเพียงชั่วขณะหนึ่ง มันเทียบกันไม่ได้ 🔥นี่ก็เป็นเพียง 5 สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น การควบคุมความโลภ การศึกษาเรื่องการเงิน การลงทุน ที่ถูกต้อง รวมทั้ง การวิเคราะห์ พิจารณาธุรกิจที่เราจะเข้าไปลงทุนให้ดี ให้รอบด้าน ก่อนเข้าไปลงทุนทุกครั้ง ก็จะสามารถช่วยให้เรา ไม่ตกเป็นเหยื่อ ของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ได้ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #5สาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 93 0 รีวิว
  • 🔥🔥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย
    จะพาเพื่อนๆ มารู้ถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
    ไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปกี่ปีๆ กี่ปี ก็จะเกิดเหตุการณ์
    ลักษณะเดียวกัน เกิดขึ้นที่เมืองไทยเราอยู่ตลอด
    ซึ่งมี 5 เหตุผลสำคัญในปัจจุบัน ได้แก่

    🔥1. ความโลภ และ ความหวังในการรวยเร็ว
    เหตุผลข้อนี้ คือ เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้
    มิจฉาชีพ หรือ ผู้ที่มาหลอกลวงลงทุน
    สามารถโน้มน้าวชักชวน ชักจูงผู้คน
    ให้เข้าร่วม หรือ หลงเชื่อได้ง่ายที่สุด
    นั่นคือ การเล่นกับสิ่งที่เปราะบาง และ
    เป็นจุดอ่อนของมนุษย์ทุกคน นั่นคือ "ความโลภ"
    และ ความหวังในการรวยเร็ว

    🔥2. การขาดความรู้ในเรื่องการเงิน และการลงทุนที่ถูกต้อง
    เหตุผลข้อนี้คืออีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราขาดความตระหนักรู้
    ก่อนที่จะเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่
    คือ เราไม่สามารถแยกได้ว่า ธุรกิจไหน เป็นแชร์ลูกโซ่
    และ เป็นการลงทุนที่ถูกต้อง ดังนั้นความรู้ในเรื่อง
    เกี่ยวกับการเงิน และการลงทุนที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ

    🔥3. การใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย
    ต้องยอมรับว่า การเติบโตของเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดีย
    ในแพตฟอร์มต่างๆ มีส่วนสำคัญในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์
    และชักชวน ชักจูงผู้คน ให้มาติดกับดัก ในธุรกิจแชร์ลูกโซ่
    ได้ง่ายที่สุด ดังนั้น การรับสื่อต่างๆ เราต้องมีความตระหนักรู้
    พิจารณา ไตร่ตรอง ให้รอบครอบ ก่อนหลงเชื่อในสิ่งต่างๆ

    🔥4. การขาดการยกระดับในการควบคุม ตรวจสอบ
    และ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
    ต้องยอมรับความจริงว่า ระบบการบังคับใช้กฎหมาย
    อย่างเข้มงวด รวมถึงการควบคุม ตรวจสอบ จากหน่วยงาน
    ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง ยังเป็นการทำงานเชิงรับ
    มีการดำเนินการ ตรวจสอบข้อร้องเรียนของภาคประชาชน
    เป็นไปด้วยความล่าช้า ต้องรอให้เกิดความเสียหาย
    เกิดขึ้นก่อน ถึงจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไข
    ดังนั้นต้องยกระดับมาตรฐาน มาตรการในการทำงาน
    เชิงรุก โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ

    🔥5. การสร้างเครือข่าย และ การชักชวนผู้คน
    ปัจจุบัน พบว่า ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักจ้างบุคคลที่มีชื่อเสียง
    ดารา นักแสดง อินฟูเอนเซอร์ ต่างๆ เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์
    เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ แชร์ลูกโซ่ดังกล่าว
    ส่งผลให้ประชาชน หรือ ผู้ที่ชื่นชอบดารา คนมีชื่อเสียง
    และ อินฟูเอนเซอร์ดังกล่าว หลงเข้าไปลงทุน จากการ
    ชักชวน ชักจูงได้ง่าย ดังนั้น มาตรการณ์ทางกฎหมาย
    และ จรรยาบรรณ ของดารา นักแสดง อินฟูเอนเซอร์ต่างๆ
    ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม รู้ความผิดชอบชั่วดี
    อย่าหลงเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ เพราะชื่อเสียงที่สะสมมา
    กับผลประโยชน์ด้วยเงินเพียงชั่วขณะหนึ่ง มันเทียบกันไม่ได้

    🔥นี่ก็เป็นเพียง 5 สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่
    ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น การควบคุมความโลภ
    การศึกษาเรื่องการเงิน การลงทุน ที่ถูกต้อง รวมทั้ง
    การวิเคราะห์ พิจารณาธุรกิจที่เราจะเข้าไปลงทุนให้ดี
    ให้รอบด้าน ก่อนเข้าไปลงทุนทุกครั้ง ก็จะสามารถช่วยให้เรา
    ไม่ตกเป็นเหยื่อ ของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ได้

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน
    #5สาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน
    #thaitimes
    🔥🔥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย จะพาเพื่อนๆ มารู้ถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้ ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปกี่ปีๆ กี่ปี ก็จะเกิดเหตุการณ์ ลักษณะเดียวกัน เกิดขึ้นที่เมืองไทยเราอยู่ตลอด ซึ่งมี 5 เหตุผลสำคัญในปัจจุบัน ได้แก่ 🔥1. ความโลภ และ ความหวังในการรวยเร็ว เหตุผลข้อนี้ คือ เหตุผลสำคัญที่สุดที่ทำให้ มิจฉาชีพ หรือ ผู้ที่มาหลอกลวงลงทุน สามารถโน้มน้าวชักชวน ชักจูงผู้คน ให้เข้าร่วม หรือ หลงเชื่อได้ง่ายที่สุด นั่นคือ การเล่นกับสิ่งที่เปราะบาง และ เป็นจุดอ่อนของมนุษย์ทุกคน นั่นคือ "ความโลภ" และ ความหวังในการรวยเร็ว 🔥2. การขาดความรู้ในเรื่องการเงิน และการลงทุนที่ถูกต้อง เหตุผลข้อนี้คืออีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราขาดความตระหนักรู้ ก่อนที่จะเข้าไปร่วมลงทุนในธุรกิจแชร์ลูกโซ่ คือ เราไม่สามารถแยกได้ว่า ธุรกิจไหน เป็นแชร์ลูกโซ่ และ เป็นการลงทุนที่ถูกต้อง ดังนั้นความรู้ในเรื่อง เกี่ยวกับการเงิน และการลงทุนที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ 🔥3. การใช้เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดีย ต้องยอมรับว่า การเติบโตของเทคโนโลยี และโซเชียลมีเดีย ในแพตฟอร์มต่างๆ มีส่วนสำคัญในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และชักชวน ชักจูงผู้คน ให้มาติดกับดัก ในธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ได้ง่ายที่สุด ดังนั้น การรับสื่อต่างๆ เราต้องมีความตระหนักรู้ พิจารณา ไตร่ตรอง ให้รอบครอบ ก่อนหลงเชื่อในสิ่งต่างๆ 🔥4. การขาดการยกระดับในการควบคุม ตรวจสอบ และ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ต้องยอมรับความจริงว่า ระบบการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเข้มงวด รวมถึงการควบคุม ตรวจสอบ จากหน่วยงาน ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรง ยังเป็นการทำงานเชิงรับ มีการดำเนินการ ตรวจสอบข้อร้องเรียนของภาคประชาชน เป็นไปด้วยความล่าช้า ต้องรอให้เกิดความเสียหาย เกิดขึ้นก่อน ถึงจะดำเนินการปรับปรุงแก้ไข ดังนั้นต้องยกระดับมาตรฐาน มาตรการในการทำงาน เชิงรุก โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ 🔥5. การสร้างเครือข่าย และ การชักชวนผู้คน ปัจจุบัน พบว่า ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักจ้างบุคคลที่มีชื่อเสียง ดารา นักแสดง อินฟูเอนเซอร์ ต่างๆ เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ แชร์ลูกโซ่ดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชน หรือ ผู้ที่ชื่นชอบดารา คนมีชื่อเสียง และ อินฟูเอนเซอร์ดังกล่าว หลงเข้าไปลงทุน จากการ ชักชวน ชักจูงได้ง่าย ดังนั้น มาตรการณ์ทางกฎหมาย และ จรรยาบรรณ ของดารา นักแสดง อินฟูเอนเซอร์ต่างๆ ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม รู้ความผิดชอบชั่วดี อย่าหลงเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ เพราะชื่อเสียงที่สะสมมา กับผลประโยชน์ด้วยเงินเพียงชั่วขณะหนึ่ง มันเทียบกันไม่ได้ 🔥นี่ก็เป็นเพียง 5 สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น การควบคุมความโลภ การศึกษาเรื่องการเงิน การลงทุน ที่ถูกต้อง รวมทั้ง การวิเคราะห์ พิจารณาธุรกิจที่เราจะเข้าไปลงทุนให้ดี ให้รอบด้าน ก่อนเข้าไปลงทุนทุกครั้ง ก็จะสามารถช่วยให้เรา ไม่ตกเป็นเหยื่อ ของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ได้ #หุ้นติดดอย #การลงทุน #5สาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้มิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ
    สามารถหลอกลวงคนได้สำเร็จ นั่นคือการเล่น
    กับจุดอ่อนที่สุดในตัวมนุษย์ทุกคน นั่นคือ "ความโลภ"
    ซึ่งภูมิคุ้มกันในการควบคุมสภาวะความโลภ
    ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ขึ้นกับความตระหนักรู้
    ประสบการณ์ และ การควบคุมอารมณร์ของแต่ละบุคคล

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ความโลภ #thaitimes
    💥สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้มิจฉาชีพในรูปแบบต่างๆ สามารถหลอกลวงคนได้สำเร็จ นั่นคือการเล่น กับจุดอ่อนที่สุดในตัวมนุษย์ทุกคน นั่นคือ "ความโลภ" ซึ่งภูมิคุ้มกันในการควบคุมสภาวะความโลภ ของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ขึ้นกับความตระหนักรู้ ประสบการณ์ และ การควบคุมอารมณร์ของแต่ละบุคคล #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ความโลภ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 0 รีวิว
  • เฟซบุ๊ค ออกเดท แทบจะเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพไปแล้ว แบน facebook ไปเลยก็ดีนะในประเทศไทย ทั้งโฆษณาพนันออนไลน์ ทั้งสแกมเมอร์ #แบนเฟซบุ๊ค
    เฟซบุ๊ค ออกเดท แทบจะเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพไปแล้ว แบน facebook ไปเลยก็ดีนะในประเทศไทย ทั้งโฆษณาพนันออนไลน์ ทั้งสแกมเมอร์ #แบนเฟซบุ๊ค
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • #อย่าไปเสียเวลากับพวกนี้#
    สิ่งที่ท่านจะพบเจอ.
    - ขอรูปถ่ายเพิ่ม 58 มุม..😅
    - พระแท้หลักพัน หมื่น จะซื้อหลักร้อย.
    - จะตีเหมา..เพราะพวกนี้ มีทั้งเป็นมาก เป็นน้อย และไม่เป็นเลย...จึงจะซื้อเหมาถูกๆ...เพื่อ เซฟตัวเอง..
    - มิจฉาชีพก็มี ทั้งให้ส่งของก่อน ทั้ง Add line ออกใบประเมิน ..และสาระพัด..
    - ปิดแล้วนัดส่งเดชไปก่อน เอารูปไปเช็ค หรือ เอาไปขายเลย..ถ้าเช็คผ่าน หรือขายได้ ก็มาเอา...แต่ถ้าไม่...การ "พุ่งหลาวชายเดี่ยว" จะเกิดขึ้น..
    - พวกที่ทำแบบนี้ ส่วนใหญเป็นวัยรุ่น มือใหม่ ..ก็จะพริ้วไหว..กลับไปมา..จนท่านเวียนหัว...
    ...เบอร์ใหญ่ เบอร์มาตรฐาน เขาซื้อเต็ม แล้วไป เบ่งราคา เอา ..ไม่ใช่มาหวังของฟลุ๊ค.......
    #อย่าไปเสียเวลากับพวกนี้# สิ่งที่ท่านจะพบเจอ. - ขอรูปถ่ายเพิ่ม 58 มุม..😅 - พระแท้หลักพัน หมื่น จะซื้อหลักร้อย. - จะตีเหมา..เพราะพวกนี้ มีทั้งเป็นมาก เป็นน้อย และไม่เป็นเลย...จึงจะซื้อเหมาถูกๆ...เพื่อ เซฟตัวเอง.. - มิจฉาชีพก็มี ทั้งให้ส่งของก่อน ทั้ง Add line ออกใบประเมิน ..และสาระพัด.. - ปิดแล้วนัดส่งเดชไปก่อน เอารูปไปเช็ค หรือ เอาไปขายเลย..ถ้าเช็คผ่าน หรือขายได้ ก็มาเอา...แต่ถ้าไม่...การ "พุ่งหลาวชายเดี่ยว" จะเกิดขึ้น.. - พวกที่ทำแบบนี้ ส่วนใหญเป็นวัยรุ่น มือใหม่ ..ก็จะพริ้วไหว..กลับไปมา..จนท่านเวียนหัว... ...เบอร์ใหญ่ เบอร์มาตรฐาน เขาซื้อเต็ม แล้วไป เบ่งราคา เอา ..ไม่ใช่มาหวังของฟลุ๊ค.......
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตือนคนเกษียณระวังหมดตัวจากข้อมูลกรมบัญชีกลาง 23,089 รายชื่อหลุดรั่ว
    .
    ข้าราชการเกษียณอายุ ระวังตัวให้ดีๆ เพราะว่าข้อมูลกรมบัญชีกลางหลุดออกไปเยอะเลย โดนแฮก หรือโดนคนภายในเอาไปขายให้กับพวกคอลเซ็นเตอร์
    .
    เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา วันที่ 5 สิงหาคม 2567 ตำรวจสอบสวนภูธรภาค 2 มี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 หรือที่เขาเรียกว่า ผู้การสืบภาค 2 ขนลูกน้องไปทำลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง แห่งหนึ่งที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี พอบุกเข้าไปในบ้านก็ได้จับผู้ต้องหาเป็นผู้ชายไทยได้ 4 คน ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ 10 เครื่อง พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก
    .
    ไฮไลต์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ตำรวจสืบภาค 2 จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนสีเทาแล้ว ประเด็นสำคัญคือหลักฐานที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าตรวจพบ มันเป็นไฟล์ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนกว่า 23,089 รายชื่อ ที่เป็นชื่อของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้วทั้งหมด บันทึกอยู่ในคอมพิวเตอร์ของกลางทุกเครื่อง
    .
    ในแต่ละรายชื่อประกอบด้วย ชื่อจริง นามสกุลจริง ที่อยู่อาศัย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก ข้อมูลธนาคาร เลขบัญชีที่ผูกกับบัญชีเงินเดือน หรือบัญชีรับเงินบำเหน็จบำนาญ ข้อที่สำคัญคือ ข้อมูลสถานพยาบาล สิทธิการรักษาพยาบาลต่างๆ ของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้ว มันหลุดไปได้อย่างไรคุณแพทริเซีย อธิบดีกรมบัญชีกลางครับ ตอบผมหน่อย
    .
    ทีมงานผมไปสืบ วิเคราะห์เจาะลึกมาแล้ว ว่าเมื่อช่วงกลางปี 2565 หรือสองปีมาแล้ว กรมบัญชีกลางจ้าง Outsource หรือคนนอกมาปรับปรุงระบบระบบฐานข้อมูลต่างๆ ท่านผู้ชมฟังแล้วอึ้งไหม ที่น่าตกใจคือกรมบัญชีกลางจ้างบริษัทไอที จ้างโปรแกรมเมอร์ที่ไหนเข้ามาปรับปรุงหรือพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐาน ที่กำกับดูแลการเงินภาครัฐที่ต้องถือว่ามีความสำคัญมาก และควรเป็นความลับสุดยอดระดับ Restricted Confidential หรือ Highly Confidential คือเป็นข้อมูลที่ลับมาก
    .
    สำหรับเรื่องข้อมูลข้าราชการเกษียณจำนวน 23,000 กว่ารายชื่อจากกรมบัญชีกลาง หลุดรอดไปถึงแก๊งจีนเทาครั้งนี้ ผมขออนุญาตขยายความได้ไหม ประเด็นความเสียหายนี้สันนิษฐานเกิดได้หลายกรณี คือ (1) เกลือเป็นหนอน เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่ดูแลในส่วนนี้ นำข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (2) เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่รู้เห็นเป็นใจกับคนนอก ที่เข้ามาดูแลพัฒนาระบบ เปิดทางให้ข้อมูลรั่วไหลไปสู่บรรดามิจฉาชีพ (3) เลินเล่อ (4) ระบบโดนแฮก
    .
    ที่ผมพูดแบบนี้เพราะมันสันนิษฐานได้ทุกมิติ เพราะวันนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ แต่คุณแพทริเซีย มงคลวนิช ท่านอธิบดีกรมบัญชีกลางต้องเข้าใจนะครับว่า ข้าราชการรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ ที่เกษียณอายุ ต้องตกเป็นเหยื่อทั้งหมดจากความหละหลวมของกรมบัญชีกลางนั้น คุณแพทริเซียจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะคนเหล่านี้ต้องมาทนทุกข์กับปัญหาที่เขาไม่ได้ก่อ บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว เงินที่สะสมจากการทำงานมาชั่วชีวิตต้องสูญหายไปเป็นหลักแสนบ้าง หลักล้านบ้าง บางคนต้องเก็บเรื่องเงียบไว้คนเดียว เพราะว่าอายชาวบ้าน หรือกลัวถูกลูกหลานตำหนิ ด่าทอ ปัญหาทั้งหมดนี้ต้นเหตุมาจากกรมบัญชีกลาง ใช่หรือเปล่า
    .
    ฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ ถ้าจะให้ปัญหาพวกนี้น้อยลง หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่ดูแลข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีการกระทำความผิดต้องมีทั้งโทษอาญาและโทษทางแพ่ง ไล่ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาไปจนถึงเจ้าหน้าที่ ต้องรับโทษทางอาญา หน่วยงานรับผิดชอบเรื่องแพ่ง ชดใช้เยียวยาความเสียหายของเหยื่อ ต้องรับผิดชอบที่ทำข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล นี่คือการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ส่วนกลางทาง และปลายทางนั้น เป็นหน้าที่ตำรวจเขาทำกันอยู่แล้ว คือกวาดล้างและจับกุม
    .
    คุณแพทริเซียครับ ผมอยากจะฝากไว้ด้วยว่า ผมจะจับตาดูเรื่องนี้อยู่ และจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปตามสายลมอย่างแน่นอน
    เตือนคนเกษียณระวังหมดตัวจากข้อมูลกรมบัญชีกลาง 23,089 รายชื่อหลุดรั่ว . ข้าราชการเกษียณอายุ ระวังตัวให้ดีๆ เพราะว่าข้อมูลกรมบัญชีกลางหลุดออกไปเยอะเลย โดนแฮก หรือโดนคนภายในเอาไปขายให้กับพวกคอลเซ็นเตอร์ . เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา วันที่ 5 สิงหาคม 2567 ตำรวจสอบสวนภูธรภาค 2 มี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 หรือที่เขาเรียกว่า ผู้การสืบภาค 2 ขนลูกน้องไปทำลายรังแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่บ้านเช่าหลังหนึ่ง แห่งหนึ่งที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี พอบุกเข้าไปในบ้านก็ได้จับผู้ต้องหาเป็นผู้ชายไทยได้ 4 คน ตรวจยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ 10 เครื่อง พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก . ไฮไลต์เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ที่ตำรวจสืบภาค 2 จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนสีเทาแล้ว ประเด็นสำคัญคือหลักฐานที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าตรวจพบ มันเป็นไฟล์ข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนกว่า 23,089 รายชื่อ ที่เป็นชื่อของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้วทั้งหมด บันทึกอยู่ในคอมพิวเตอร์ของกลางทุกเครื่อง . ในแต่ละรายชื่อประกอบด้วย ชื่อจริง นามสกุลจริง ที่อยู่อาศัย เลขบัตรประชาชน 13 หลัก ข้อมูลธนาคาร เลขบัญชีที่ผูกกับบัญชีเงินเดือน หรือบัญชีรับเงินบำเหน็จบำนาญ ข้อที่สำคัญคือ ข้อมูลสถานพยาบาล สิทธิการรักษาพยาบาลต่างๆ ของข้าราชการบำเหน็จบำนาญที่เกษียณแล้ว มันหลุดไปได้อย่างไรคุณแพทริเซีย อธิบดีกรมบัญชีกลางครับ ตอบผมหน่อย . ทีมงานผมไปสืบ วิเคราะห์เจาะลึกมาแล้ว ว่าเมื่อช่วงกลางปี 2565 หรือสองปีมาแล้ว กรมบัญชีกลางจ้าง Outsource หรือคนนอกมาปรับปรุงระบบระบบฐานข้อมูลต่างๆ ท่านผู้ชมฟังแล้วอึ้งไหม ที่น่าตกใจคือกรมบัญชีกลางจ้างบริษัทไอที จ้างโปรแกรมเมอร์ที่ไหนเข้ามาปรับปรุงหรือพัฒนาระบบข้อมูลพื้นฐาน ที่กำกับดูแลการเงินภาครัฐที่ต้องถือว่ามีความสำคัญมาก และควรเป็นความลับสุดยอดระดับ Restricted Confidential หรือ Highly Confidential คือเป็นข้อมูลที่ลับมาก . สำหรับเรื่องข้อมูลข้าราชการเกษียณจำนวน 23,000 กว่ารายชื่อจากกรมบัญชีกลาง หลุดรอดไปถึงแก๊งจีนเทาครั้งนี้ ผมขออนุญาตขยายความได้ไหม ประเด็นความเสียหายนี้สันนิษฐานเกิดได้หลายกรณี คือ (1) เกลือเป็นหนอน เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่ดูแลในส่วนนี้ นำข้อมูลไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (2) เจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลางที่รู้เห็นเป็นใจกับคนนอก ที่เข้ามาดูแลพัฒนาระบบ เปิดทางให้ข้อมูลรั่วไหลไปสู่บรรดามิจฉาชีพ (3) เลินเล่อ (4) ระบบโดนแฮก . ที่ผมพูดแบบนี้เพราะมันสันนิษฐานได้ทุกมิติ เพราะวันนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ แต่คุณแพทริเซีย มงคลวนิช ท่านอธิบดีกรมบัญชีกลางต้องเข้าใจนะครับว่า ข้าราชการรุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ ที่เกษียณอายุ ต้องตกเป็นเหยื่อทั้งหมดจากความหละหลวมของกรมบัญชีกลางนั้น คุณแพทริเซียจะปัดความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะคนเหล่านี้ต้องมาทนทุกข์กับปัญหาที่เขาไม่ได้ก่อ บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว เงินที่สะสมจากการทำงานมาชั่วชีวิตต้องสูญหายไปเป็นหลักแสนบ้าง หลักล้านบ้าง บางคนต้องเก็บเรื่องเงียบไว้คนเดียว เพราะว่าอายชาวบ้าน หรือกลัวถูกลูกหลานตำหนิ ด่าทอ ปัญหาทั้งหมดนี้ต้นเหตุมาจากกรมบัญชีกลาง ใช่หรือเปล่า . ฉะนั้นแล้ว ท่านผู้ชมครับ ถ้าจะให้ปัญหาพวกนี้น้อยลง หน่วยงานรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐ มีหน้าที่ดูแลข้อมูลส่วนบุคคล ถ้ามีการกระทำความผิดต้องมีทั้งโทษอาญาและโทษทางแพ่ง ไล่ตั้งแต่ระดับผู้บังคับบัญชาไปจนถึงเจ้าหน้าที่ ต้องรับโทษทางอาญา หน่วยงานรับผิดชอบเรื่องแพ่ง ชดใช้เยียวยาความเสียหายของเหยื่อ ต้องรับผิดชอบที่ทำข้อมูลส่วนบุคคลรั่วไหล นี่คือการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ ส่วนกลางทาง และปลายทางนั้น เป็นหน้าที่ตำรวจเขาทำกันอยู่แล้ว คือกวาดล้างและจับกุม . คุณแพทริเซียครับ ผมอยากจะฝากไว้ด้วยว่า ผมจะจับตาดูเรื่องนี้อยู่ และจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปตามสายลมอย่างแน่นอน
    Like
    Love
    Sad
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 758 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระวัง❗มิจฉาชีพมาแบบใหม่ อ้างว่ามีคะแนนสะสมและหลอกให้คลิ๊กลิงค์ ทั้งๆที่ผู้รับไม่เคยเล่น wechat ❗
    ระวัง❗มิจฉาชีพมาแบบใหม่ อ้างว่ามีคะแนนสะสมและหลอกให้คลิ๊กลิงค์ ทั้งๆที่ผู้รับไม่เคยเล่น wechat ❗
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • #มิจฉาชีพ #callcenter #online #โทร #หลอก #โกง
    #มิจฉาชีพ #callcenter #online #โทร #หลอก #โกง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของ รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด

    ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ
    • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน
    • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน
    • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก
    มิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของ รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก
    ระวังเฟซบุ๊กปลอม! "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"
    ทักชวนบริจาคเงิน อย่าหลงเชื่อ
    .
    มิจฉาชีพปลอมเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ ทักชวนบริจาคเงิน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ ยืนยันไม่เคยมีการทักข้อความไปทางไลน์ หรือ แอปฯ สนทนาใด ๆ พร้อมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
    .
    วันนี้ (26 ก.ย.) มีแฟนรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิได้แจ้งข่าวว่า มีมิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด
    .
    ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ
    • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน
    • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน
    • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก
    .
    ทั้งนี้ ที่ผ่านมารายการคุยทุกเรื่องกับสนธิไม่เคยมีการทักข้อความไปทาง แอปพลิเคชัน LINE หรื แอปฯ สนทนาใด ๆ เพื่อชักชวนให้มีการบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น และในกรณีนี้ทางรายการฯ ได้ดำเนินการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อหาผู้กระทำผิดต่อไป
    .
    คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000090441
    ......
    Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1436 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระวังเฟซบุ๊กปลอม! "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"
    ทักชวนบริจาคเงิน อย่าหลงเชื่อ
    .
    มิจฉาชีพปลอมเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ ทักชวนบริจาคเงิน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ ยืนยันไม่เคยมีการทักข้อความไปทางไลน์ หรือ แอปฯ สนทนาใด ๆ พร้อมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว
    .
    วันนี้ (26 ก.ย.) มีแฟนรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิได้แจ้งข่าวว่า มีมิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด
    .
    ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ
    • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน
    • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน
    • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก
    .
    ทั้งนี้ ที่ผ่านมารายการคุยทุกเรื่องกับสนธิไม่เคยมีการทักข้อความไปทาง แอปพลิเคชัน LINE หรื แอปฯ สนทนาใด ๆ เพื่อชักชวนให้มีการบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น และในกรณีนี้ทางรายการฯ ได้ดำเนินการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อหาผู้กระทำผิดต่อไป
    .
    คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000090441
    ......
    Sondhi X
    ระวังเฟซบุ๊กปลอม! "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทักชวนบริจาคเงิน อย่าหลงเชื่อ . มิจฉาชีพปลอมเพจคุยทุกเรื่องกับสนธิ ทักชวนบริจาคเงิน เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ ยืนยันไม่เคยมีการทักข้อความไปทางไลน์ หรือ แอปฯ สนทนาใด ๆ พร้อมเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว . วันนี้ (26 ก.ย.) มีแฟนรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิได้แจ้งข่าวว่า มีมิจฉาชีพได้สร้าง เฟซบุ๊กปลอมของรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า "คุยทุกเรื่อง กับสนธิ" (มีเว้นวรรคตรงกลาง) โดยปัจจุบันมีเพื่อน (Friends) อยู่มากถึง 2,400 คน ทั้งนี้เฟซบุ๊กดังกล่าวมีพฤติกรรมในการทักข้อความไปหา "เพื่อน" เพื่อชักชวนร่วมทำบุญ โดยอ้างว่ามาจากเพจสนธิ ลิ้มทองกุล โดยล่อลวงให้ผู้หลงเชื่อ add LINE ผ่านการสแกนคิวอาร์โคด . ทีมงานรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ จึงแจ้งว่ารายการคุยทุกเรื่องกับสนธินั้นมีเฟซบุ๊กเพจ เพียงเพจเฟซบุ๊กเพียงเดียว โดยสังเกตเพจจริงได้ในหลายๆ จุดด้วยกันคือ • มีคนคลิก Like อยู่ 1.3 ล้านคน • มีคนติดตาม Followers อยู่มากกว่า 3.8 ล้านคน • ท้ายชื่อเพจมีเครื่องหมาย Verified สีน้ำเงิน (✔️) ซึ่งเป็นการรับรองว่าเป็นเพจจริงจากเฟซบุ๊ก . ทั้งนี้ ที่ผ่านมารายการคุยทุกเรื่องกับสนธิไม่เคยมีการทักข้อความไปทาง แอปพลิเคชัน LINE หรื แอปฯ สนทนาใด ๆ เพื่อชักชวนให้มีการบริจาคใด ๆ ทั้งสิ้น และในกรณีนี้ทางรายการฯ ได้ดำเนินการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อหาผู้กระทำผิดต่อไป . คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000090441 ...... Sondhi X
    Like
    Angry
    23
    1 ความคิดเห็น 4 การแบ่งปัน 2601 มุมมอง 0 รีวิว
  • พี่น้องต้องระวัง มิจฉาชีพสวมรอยส่ง sms แจ้งเตือนภัยพิบัติ อย่าหลงเชื่อกดลิงค์ขอรับความช่วยเหลือเด็ดขาด อาจสูญเงินเกลี้ยง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    พี่น้องต้องระวัง มิจฉาชีพสวมรอยส่ง sms แจ้งเตือนภัยพิบัติ อย่าหลงเชื่อกดลิงค์ขอรับความช่วยเหลือเด็ดขาด อาจสูญเงินเกลี้ยง #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥 ก.ล.ต. เผยสถิติ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน”
    เดือนสิงหาคม 2567 สามารถปิดกั้นช่องทางมิจฉาชีพ
    ได้กว่า 350 บัญชี หรือ 91% จากจำนวนการแจ้งเบาะแส
    ของประชาชนรวม 497 ครั้ง

    ที่มา : ก.ล.ต.

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กลต
    🔥🔥 ก.ล.ต. เผยสถิติ “สายด่วนแจ้งหลอกลงทุน” เดือนสิงหาคม 2567 สามารถปิดกั้นช่องทางมิจฉาชีพ ได้กว่า 350 บัญชี หรือ 91% จากจำนวนการแจ้งเบาะแส ของประชาชนรวม 497 ครั้ง ที่มา : ก.ล.ต. #หุ้นติดดอย #การลงทุน #กลต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 830 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออก

    เดือนนี้ ประกอบกิจการงานธุรกิจท่องเที่ยว นำเข้า-ส่งออก หรือติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ จะพบกับปัญหาอุปสรรคไม่ราบรื่น จะมีภัยจากพวกมิจฉาชีพที่คอยจ้องแสวงหาโอกาสเพื่อลวงหลอกเบียดเบียนผลประโยชน์ และต้องไม่คิดทุจริตคอรัปชั่น ไม่รับเงินใต้โต๊ะ หรือแสวงหาผลประโยชน์ส่วนรวมมาเป็นของส่วนตัว ควรตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานความซื่อสัตย์สุจริตซื่อตรง จะได้ไม่ต้องถูกฟ้องร้องฟ้องศาลจนเป็นคดีความติดตัว เดินทางจะเกิดอุบัติเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเสียเลือดเสียเนื้อจนเลือดตกยางออกต้องรับการรักษาพยาบาล อีกทั้งหญิงตั้งครรภ์จะลื่นล้มจนแท้งให้สูญเสียบุตร ระวังผู้สูงอายุจะล้มป่วย ควรระมัดระวังการรับประทานอาหารการกินเพราะมีโอกาสอาหารจะเป็นพิษผิดสำแดงได้
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออก เดือนนี้ ประกอบกิจการงานธุรกิจท่องเที่ยว นำเข้า-ส่งออก หรือติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ จะพบกับปัญหาอุปสรรคไม่ราบรื่น จะมีภัยจากพวกมิจฉาชีพที่คอยจ้องแสวงหาโอกาสเพื่อลวงหลอกเบียดเบียนผลประโยชน์ และต้องไม่คิดทุจริตคอรัปชั่น ไม่รับเงินใต้โต๊ะ หรือแสวงหาผลประโยชน์ส่วนรวมมาเป็นของส่วนตัว ควรตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานความซื่อสัตย์สุจริตซื่อตรง จะได้ไม่ต้องถูกฟ้องร้องฟ้องศาลจนเป็นคดีความติดตัว เดินทางจะเกิดอุบัติเหตุให้ได้รับบาดเจ็บเสียเลือดเสียเนื้อจนเลือดตกยางออกต้องรับการรักษาพยาบาล อีกทั้งหญิงตั้งครรภ์จะลื่นล้มจนแท้งให้สูญเสียบุตร ระวังผู้สูงอายุจะล้มป่วย ควรระมัดระวังการรับประทานอาหารการกินเพราะมีโอกาสอาหารจะเป็นพิษผิดสำแดงได้ ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนกันยายน 2567

    ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 เดือนกันยายน ไปจนถึง วันจันทร์ที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 นี้ เป็นเดือนจร 癸酉(กุ๊ยอิ้ว) ระกาน้ำ ธาตุทอง มีกระแสพลังดาว七赤 (ชิกเฉี่ยะ) ธาตุทอง ดาวแห่งการแตกหัก ขัดแย้ง ใช้กำลัง ร่วมกันขัดแย้งกับกระแสพลังดาว 三碧 (ซาเพ็ก) ธาตุไม้ ดาวแห่งการทะเลาะวิวาท ฟ้องร้อง ต่อสู้ แย่งชิง เสียทรัพย์ ประจำปีจร 甲辰 (กะซิ้ง) มะโรงไม้ ธาตุไฟ เสมือนดั่งปลาหมอตายเพราะปากหรือพล่ามมากปากพาจน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในทิศทางที่ขัดแย้ง แตกแยก เกิดเป็นอุปสรรคติดขัดให้เสียหาย มีเหตุอันเป็นไปอย่างไร้เสถียรภาพความมั่นคง เกิดการต่อสู้ แข่งขัน แย่งชิง ทุจริตที่เก็บปกปิดไว้ไม่ซื่อตรงโปร่งใสจะถูกเปิดเผยให้อับอายขายหน้าต่อสาธารณชน การเงินจะไม่ไหลลื่นเกิดปัญหาติดขัดขาดสภาพคล่องฝืดเคือง ประชาชนเดินดินต้องอยู่อย่างยากลำบากปากกัดตีนถีบต้องดิ้นรนด้วยลำแข้งของตนเอง อีกทั้งยังต้องหวาดผวากับภัยจากพวกมิจฉาชีพและโจรขโมยที่เพ่นพ่านออกอาละวาดลวงหลอก จี้ ปล้น ตลอดจนอุบัติภัยอันเนื่องจากอุบัติเหตุและของมีคม
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ดาวเหินจรคู่ผสมระหว่างปีและเดือน ประจำเดือนกันยายน 2567 ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 เดือนกันยายน ไปจนถึง วันจันทร์ที่ 7 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 นี้ เป็นเดือนจร 癸酉(กุ๊ยอิ้ว) ระกาน้ำ ธาตุทอง มีกระแสพลังดาว七赤 (ชิกเฉี่ยะ) ธาตุทอง ดาวแห่งการแตกหัก ขัดแย้ง ใช้กำลัง ร่วมกันขัดแย้งกับกระแสพลังดาว 三碧 (ซาเพ็ก) ธาตุไม้ ดาวแห่งการทะเลาะวิวาท ฟ้องร้อง ต่อสู้ แย่งชิง เสียทรัพย์ ประจำปีจร 甲辰 (กะซิ้ง) มะโรงไม้ ธาตุไฟ เสมือนดั่งปลาหมอตายเพราะปากหรือพล่ามมากปากพาจน ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในทิศทางที่ขัดแย้ง แตกแยก เกิดเป็นอุปสรรคติดขัดให้เสียหาย มีเหตุอันเป็นไปอย่างไร้เสถียรภาพความมั่นคง เกิดการต่อสู้ แข่งขัน แย่งชิง ทุจริตที่เก็บปกปิดไว้ไม่ซื่อตรงโปร่งใสจะถูกเปิดเผยให้อับอายขายหน้าต่อสาธารณชน การเงินจะไม่ไหลลื่นเกิดปัญหาติดขัดขาดสภาพคล่องฝืดเคือง ประชาชนเดินดินต้องอยู่อย่างยากลำบากปากกัดตีนถีบต้องดิ้นรนด้วยลำแข้งของตนเอง อีกทั้งยังต้องหวาดผวากับภัยจากพวกมิจฉาชีพและโจรขโมยที่เพ่นพ่านออกอาละวาดลวงหลอก จี้ ปล้น ตลอดจนอุบัติภัยอันเนื่องจากอุบัติเหตุและของมีคม ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ 🔮 เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก👉 https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิธีแสกนเฟสมิจฉาชีพเบื้องต้น
    1. เข้าหน้า Time line ของเขา ดูการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ถ้าไม่มีเลย หรือล๊อกโปรไฟล์ ควรตั้งข้อระวัง
    2. เครื่องหมายแว่นขยายค้นหา พิมพ์ชื่อเขาลงไป โพสที่เขาโพสในที่ต่างๆจะขึ้นมาแสดง
    3. รูป ชื่อ โปรไฟล์ เป็นแนวตัดพ้อแนวเพ้อๆ วัยรุ่นชอบใช้ชื่อแนวนี้
    4. เมื่อได้เลขบัญชีและชื่อ ค้นหาในGoogle. สักนิด ว่ามีคนประจานไหม?
    5. ให้วางสิิ่งของที่เราจะซื้อคู่กระดาษ เขียนชื่อเรา วันที่ เวลา หรืออะไรก็ได้ เพื่อยืนยันว่ามีของจริง.
    6. การถ่ายรูปคู่บัตรแทบไม่มีประโยชน์ โจรมันไม่กลัวหรอก เพราะความเป็นจริง คดีแบบนี้มีกี่หมื่นกี่แสนคดี ตร. เอากำลังที่ไหนมาทำ.และบัญชีที่เราโอนไปมันผูกพันธ์อยู่แล้ว
    แต่ส่วนมากตามเจอก็เป็นบัญชีม้า ที่ถูกจ้างมาเปิดบัญชี
    7.เมืื่อเราส่งที่อยู่ให้แล้ว ให้เขียนชื่อลงบนกล่อง และถ่ายคู่สินค้าก่อนทำการแพ็ค
    8.ขอกำหนดเวลาส่งที่แน่นอน วันใด เวลาไหน พร้อมเลขจัดส่ง tracking
    9. เก็บปลายทางก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ขนส่งเอกชน ยังไม่ขานรับนโยบายของ สคบ. ยังคงต้องจ่ายเงินก่อนรับ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาส่งอะไรมา ก้อนหิน หรืออะไร.
    10. การขอเครดิตไม่ช่วยอะไร ถ้าเขามีทีมงานมาให้เครดิตสัก 10 คน คุณจะรู้ไหม?

    #ep 2 จะเขียนเรื่อง เพจโกง ต่อ ในส่วนนี้เป็นเรื่องของบุคคล.
    วิธีแสกนเฟสมิจฉาชีพเบื้องต้น 1. เข้าหน้า Time line ของเขา ดูการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ถ้าไม่มีเลย หรือล๊อกโปรไฟล์ ควรตั้งข้อระวัง 2. เครื่องหมายแว่นขยายค้นหา พิมพ์ชื่อเขาลงไป โพสที่เขาโพสในที่ต่างๆจะขึ้นมาแสดง 3. รูป ชื่อ โปรไฟล์ เป็นแนวตัดพ้อแนวเพ้อๆ วัยรุ่นชอบใช้ชื่อแนวนี้ 4. เมื่อได้เลขบัญชีและชื่อ ค้นหาในGoogle. สักนิด ว่ามีคนประจานไหม? 5. ให้วางสิิ่งของที่เราจะซื้อคู่กระดาษ เขียนชื่อเรา วันที่ เวลา หรืออะไรก็ได้ เพื่อยืนยันว่ามีของจริง. 6. การถ่ายรูปคู่บัตรแทบไม่มีประโยชน์ โจรมันไม่กลัวหรอก เพราะความเป็นจริง คดีแบบนี้มีกี่หมื่นกี่แสนคดี ตร. เอากำลังที่ไหนมาทำ.และบัญชีที่เราโอนไปมันผูกพันธ์อยู่แล้ว แต่ส่วนมากตามเจอก็เป็นบัญชีม้า ที่ถูกจ้างมาเปิดบัญชี 7.เมืื่อเราส่งที่อยู่ให้แล้ว ให้เขียนชื่อลงบนกล่อง และถ่ายคู่สินค้าก่อนทำการแพ็ค 8.ขอกำหนดเวลาส่งที่แน่นอน วันใด เวลาไหน พร้อมเลขจัดส่ง tracking 9. เก็บปลายทางก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ขนส่งเอกชน ยังไม่ขานรับนโยบายของ สคบ. ยังคงต้องจ่ายเงินก่อนรับ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเขาส่งอะไรมา ก้อนหิน หรืออะไร. 10. การขอเครดิตไม่ช่วยอะไร ถ้าเขามีทีมงานมาให้เครดิตสัก 10 คน คุณจะรู้ไหม? #ep 2 จะเขียนเรื่อง เพจโกง ต่อ ในส่วนนี้เป็นเรื่องของบุคคล.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚠️ เตือนภัย! อย่าหลงกล มิจฉาชีพ แอบอ้างแบงก์ชาติ ⚠️
    🚨 แบงก์ชาติไม่มีหน้าที่ อายัดบัญชี !
    ใครอ้างแบบนี้ = มิจฉาชีพชัวร์ 💯 %
    วิธีรับมือ:
    - สงสัย? อย่าเพิ่งเชื่อ! 🤔
    - โทรเช็ค📞 กับธนาคารของคุณโดยตรง
    - ตรวจสอบข้อมูล🔍จากแหล่งที่เชื่อถือได้
    💡 เกร็ดความรู้: มิจฉาชีพมักแอบอ้างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
    ⚠️ อย่าเชื่อ อย่าโอน อย่าให้ข้อมูล⚠️
    ⚠️ เตือนภัย! อย่าหลงกล มิจฉาชีพ แอบอ้างแบงก์ชาติ ⚠️ 🚨 แบงก์ชาติไม่มีหน้าที่ อายัดบัญชี ! ใครอ้างแบบนี้ = มิจฉาชีพชัวร์ 💯 % วิธีรับมือ: - สงสัย? อย่าเพิ่งเชื่อ! 🤔 - โทรเช็ค📞 กับธนาคารของคุณโดยตรง - ตรวจสอบข้อมูล🔍จากแหล่งที่เชื่อถือได้ 💡 เกร็ดความรู้: มิจฉาชีพมักแอบอ้างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ⚠️ อย่าเชื่อ อย่าโอน อย่าให้ข้อมูล⚠️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำหรับข่าวเตือนภัยวันนี้ นายTexhTips ก็มีเรื่องราวที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงมาเตือนอีกเเล้วครับ

    มิจฉาชีพดันโฆษณาเว็บแฝงมัลแวร์ไว้บนสุดของผลการค้นหาใน Google
    เว็บไซต์ BleepingComputer พบว่าแฮกเกอร์สร้างเว็บไซต์ปลอมที่แฝงมัลแวร์เอาไว้ขึ้นมา และจ่ายเงินโฆษณาผ่าน Google Ads ให้เว็บไซต์เหล่านี้ขึ้นไปอยู่ในผลการค้นหาแรก ๆ บนเสิร์ชเอนจินของ Google

    เว็บไซต์เหล่านี้มักเอาการแจกซอฟต์แวร์ฟรีมาล่อลวงให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดมัลแวร์เข้าไปยังอุปกรณ์ของตัวเอง

    หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือเว็บไซต์ปลอมที่อ้างว่าแจก Rufus เครื่องมือสร้างแฟลชไดรฟ์ฟรี โดยพบว่าแฮกเกอร์ได้จดทะเบียนโดเมนที่มีชื่อ URL คล้ายกับเว็บไซต์ของจริงมาก หน้าตาก็แทบจะถอดกันมาแบบเป๊ะ ๆ แต่มีการเพิ่มความน่าสนใจของซอฟต์แวร์ที่มีให้ดาวน์โหลดว่าเป็นตัวระดับสูงที่ใช้งานได้มากกว่าแบบปกติ แม้ว่าความจริงแล้ว Rufus จะมีไม่มีเวอร์ชันระดับสูงก็ตามที

    หลังจากที่ผู้ใช้งานลองกดดาวน์โหลด Rufus แล้ว เว็บไซต์ปลอมจะพาไปยังบริการส่งไฟล์ ซึ่งเป็นวิธีที่จะเล็ดลอดการตรวจจับของเครื่องมือต้านไวรัส

    อีกตัวอย่างของซอฟต์แวร์ที่แฮกเกอร์นำมาใช้หลอกคือ Noteppad++ ซอฟต์แวร์ปรับแต่งข้อความและซอร์สโค้ด ซึ่งก็ใช้วิธีเดียวกันคือสร้างโดเมนที่มีชื่อคล้ายกับเว็บไซต์ของจริง วิธีการนี้มีชื่อเรียกว่า Typosquatting

    วิลล์ ดอร์แมนน์ (Will Dormann) นักวิจัยด้านไซเบอร์พบว่าตัว Notepad++ ปลอมเดียวกันนี้ถูกพบในหลาย URL ซึ่งทุกไฟล์ถูก Virus Total ตรวจพบว่าอันตรายทั้งสิ้น

    จนถึงตอนนี้ ซอฟต์แวร์ปลอมที่ Bleeping Computer และเหล่าผู้เชี่ยวชาญพบบนเว็บไซต์ปลอมที่ดันผ่าน Google Ads ได้แก่ 7-Zip, Blender 3D, Capcut, CCleaner, Notepad++, OBS, Rufus, VirtualBox, VLC Media Player, WinRAR และ Putty
    นี่อาจแสดงว่าเหล่าแฮกเกอร์เงินหนาพอที่จะชนะการประมูลพื้นที่โฆษณาเหนือนักพัฒนาตัวจริงจนทำให้โฆษณาของมิจฉาชีพเหล่านี้แซงขึ้นไปอยู่สูงสุด ตัวอย่างเช่นกรณีของเว็บไซต์ CCleaner ของจริงที่โดนเว็บปลอมที่แฝงมัลแวร์เบียดขึ้นไปอยู่ที่ 1 ของ Google Ads

    เจอมัน เฟอร์นันเดซ (Germán Fernández) จากบริษัท CronUP เผยว่ามีโดเมนอย่างน้อย 70 โดเมนที่หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์ผ่านการโปรโมตบน Google Ads

    นอกจากนี้ ดอร์แมนน์ยังพบว่าซอฟต์แวร์ปลอมเหล่านี้ยังมีการใส่ลายเซ็นด้านความมั่นคงปลอดภัยปลอมจากบริษัทด้านไซเบอร์ชื่อดังอย่าง Bitdefender ด้วย

    BleepingComputer พบว่าซอฟต์แวร์ปลอมจากเว็บไซต์เลียนแบบเป็นอันตรายมาก หลายตัวแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลอย่าง RedLine และ Vidar เอาไว้ บางตัวก็แฝงไว้ด้วยโทรจัน SectoRAT ที่เข้าควบคุมอุปกรณ์เหยื่อจากระยะไกล

    สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ก็เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยระบุว่ามีโฆษณาที่ปรากฎในด้านบนสุดของผลการค้นหาบน Google ที่พยายามปลอมตัวเป็นเว็บไซต์ของบริษัทที่มีอยู่จริง

    หนึ่งในคนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเว็บไซต์ปลอมคือ Alex อินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังที่เผลอไปดาวน์โหลดไฟล์ Open Broadcaster Software (OBS) มาจากเว็บไซต์ปลอมที่ขึ้นอยู่ในรูปแบบโฆษณาของผลการค้นหาบน Google

    แม้ว่าตอนแรกที่เปิดใช้งานไฟล์ EXE ที่ดาวน์โหลดมาจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน บัญชี Twitter, Gmail, Substack และ Discord ก็ถูกแฮก รวมถึงเงินคริปโทฯ ที่อยู่ในครอบครองก็ถูกขโมยไปด้วย โดยเชื่อว่าเป็นเพราะไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลเอาไว้

    ทั้งนี้ BleepingComputer ได้ส่งผลการค้นพบบางส่วนให้ Google ซึ่งได้รับคำตอบว่าบริษัทมีนโยบายป้องกันการลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว ปกติยังได้มีการพิจารณาความถูกต้องของโฆษณาอยู่อย่างสม่ำเสมอด้วย

    แต่ทางบริษัทก็จะไปตรวจสอบโฆษณาและเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบายของบริษัทเพิ่มอีก เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยขณะนี้ได้ลบโฆษณาปลอมที่ BleepingComputer รายงานเข้าไปเรียบร้อยแล้ว

    สุดท้ายนี้ นายTechTips ก็อยากจะขอเตือนให้ทุกท่านยังคงต้องตรวจสองลิ้งต์ทุกลิ้งค์
    ที่จะทำการเข้าชมให้ดี ด้วยความระมัดระวังอย่างมากเลยนะครับ
    เพราะว่าทุกวันนี้วงการพี่มิจก็เตอิบโตมากขึ้นและสรรหาวิธีใหม่ๆมาหลอกเอาเงินในกระเป๋าเราออกไปอยู่ตลอดเวลาครับ

    วติคือเครื่องป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด ครับผม
    วันนี้นายTechTips ลาไปก่อนครับ ขอให้ทุกท่านปลดภัยไม่โดนหลอกครับ
    สวัสดีครับ #TechTips
    สำหรับข่าวเตือนภัยวันนี้ นายTexhTips ก็มีเรื่องราวที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึงมาเตือนอีกเเล้วครับ มิจฉาชีพดันโฆษณาเว็บแฝงมัลแวร์ไว้บนสุดของผลการค้นหาใน Google เว็บไซต์ BleepingComputer พบว่าแฮกเกอร์สร้างเว็บไซต์ปลอมที่แฝงมัลแวร์เอาไว้ขึ้นมา และจ่ายเงินโฆษณาผ่าน Google Ads ให้เว็บไซต์เหล่านี้ขึ้นไปอยู่ในผลการค้นหาแรก ๆ บนเสิร์ชเอนจินของ Google เว็บไซต์เหล่านี้มักเอาการแจกซอฟต์แวร์ฟรีมาล่อลวงให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดมัลแวร์เข้าไปยังอุปกรณ์ของตัวเอง หนึ่งในตัวอย่างสำคัญคือเว็บไซต์ปลอมที่อ้างว่าแจก Rufus เครื่องมือสร้างแฟลชไดรฟ์ฟรี โดยพบว่าแฮกเกอร์ได้จดทะเบียนโดเมนที่มีชื่อ URL คล้ายกับเว็บไซต์ของจริงมาก หน้าตาก็แทบจะถอดกันมาแบบเป๊ะ ๆ แต่มีการเพิ่มความน่าสนใจของซอฟต์แวร์ที่มีให้ดาวน์โหลดว่าเป็นตัวระดับสูงที่ใช้งานได้มากกว่าแบบปกติ แม้ว่าความจริงแล้ว Rufus จะมีไม่มีเวอร์ชันระดับสูงก็ตามที หลังจากที่ผู้ใช้งานลองกดดาวน์โหลด Rufus แล้ว เว็บไซต์ปลอมจะพาไปยังบริการส่งไฟล์ ซึ่งเป็นวิธีที่จะเล็ดลอดการตรวจจับของเครื่องมือต้านไวรัส อีกตัวอย่างของซอฟต์แวร์ที่แฮกเกอร์นำมาใช้หลอกคือ Noteppad++ ซอฟต์แวร์ปรับแต่งข้อความและซอร์สโค้ด ซึ่งก็ใช้วิธีเดียวกันคือสร้างโดเมนที่มีชื่อคล้ายกับเว็บไซต์ของจริง วิธีการนี้มีชื่อเรียกว่า Typosquatting วิลล์ ดอร์แมนน์ (Will Dormann) นักวิจัยด้านไซเบอร์พบว่าตัว Notepad++ ปลอมเดียวกันนี้ถูกพบในหลาย URL ซึ่งทุกไฟล์ถูก Virus Total ตรวจพบว่าอันตรายทั้งสิ้น จนถึงตอนนี้ ซอฟต์แวร์ปลอมที่ Bleeping Computer และเหล่าผู้เชี่ยวชาญพบบนเว็บไซต์ปลอมที่ดันผ่าน Google Ads ได้แก่ 7-Zip, Blender 3D, Capcut, CCleaner, Notepad++, OBS, Rufus, VirtualBox, VLC Media Player, WinRAR และ Putty นี่อาจแสดงว่าเหล่าแฮกเกอร์เงินหนาพอที่จะชนะการประมูลพื้นที่โฆษณาเหนือนักพัฒนาตัวจริงจนทำให้โฆษณาของมิจฉาชีพเหล่านี้แซงขึ้นไปอยู่สูงสุด ตัวอย่างเช่นกรณีของเว็บไซต์ CCleaner ของจริงที่โดนเว็บปลอมที่แฝงมัลแวร์เบียดขึ้นไปอยู่ที่ 1 ของ Google Ads เจอมัน เฟอร์นันเดซ (Germán Fernández) จากบริษัท CronUP เผยว่ามีโดเมนอย่างน้อย 70 โดเมนที่หลอกให้ดาวน์โหลดมัลแวร์ผ่านการโปรโมตบน Google Ads นอกจากนี้ ดอร์แมนน์ยังพบว่าซอฟต์แวร์ปลอมเหล่านี้ยังมีการใส่ลายเซ็นด้านความมั่นคงปลอดภัยปลอมจากบริษัทด้านไซเบอร์ชื่อดังอย่าง Bitdefender ด้วย BleepingComputer พบว่าซอฟต์แวร์ปลอมจากเว็บไซต์เลียนแบบเป็นอันตรายมาก หลายตัวแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลอย่าง RedLine และ Vidar เอาไว้ บางตัวก็แฝงไว้ด้วยโทรจัน SectoRAT ที่เข้าควบคุมอุปกรณ์เหยื่อจากระยะไกล สำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) ก็เคยออกมาเตือนเกี่ยวกับกรณีนี้ โดยระบุว่ามีโฆษณาที่ปรากฎในด้านบนสุดของผลการค้นหาบน Google ที่พยายามปลอมตัวเป็นเว็บไซต์ของบริษัทที่มีอยู่จริง หนึ่งในคนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเว็บไซต์ปลอมคือ Alex อินฟลูเอนเซอร์ด้านคริปโทเคอร์เรนซีชื่อดังที่เผลอไปดาวน์โหลดไฟล์ Open Broadcaster Software (OBS) มาจากเว็บไซต์ปลอมที่ขึ้นอยู่ในรูปแบบโฆษณาของผลการค้นหาบน Google แม้ว่าตอนแรกที่เปิดใช้งานไฟล์ EXE ที่ดาวน์โหลดมาจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หลังจากนั้นไม่นาน บัญชี Twitter, Gmail, Substack และ Discord ก็ถูกแฮก รวมถึงเงินคริปโทฯ ที่อยู่ในครอบครองก็ถูกขโมยไปด้วย โดยเชื่อว่าเป็นเพราะไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาแฝงมัลแวร์ขโมยข้อมูลเอาไว้ ทั้งนี้ BleepingComputer ได้ส่งผลการค้นพบบางส่วนให้ Google ซึ่งได้รับคำตอบว่าบริษัทมีนโยบายป้องกันการลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว ปกติยังได้มีการพิจารณาความถูกต้องของโฆษณาอยู่อย่างสม่ำเสมอด้วย แต่ทางบริษัทก็จะไปตรวจสอบโฆษณาและเว็บไซต์ที่ละเมิดนโยบายของบริษัทเพิ่มอีก เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยขณะนี้ได้ลบโฆษณาปลอมที่ BleepingComputer รายงานเข้าไปเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายนี้ นายTechTips ก็อยากจะขอเตือนให้ทุกท่านยังคงต้องตรวจสองลิ้งต์ทุกลิ้งค์ ที่จะทำการเข้าชมให้ดี ด้วยความระมัดระวังอย่างมากเลยนะครับ เพราะว่าทุกวันนี้วงการพี่มิจก็เตอิบโตมากขึ้นและสรรหาวิธีใหม่ๆมาหลอกเอาเงินในกระเป๋าเราออกไปอยู่ตลอดเวลาครับ วติคือเครื่องป้องกันปัญหาที่ดีที่สุด ครับผม วันนี้นายTechTips ลาไปก่อนครับ ขอให้ทุกท่านปลดภัยไม่โดนหลอกครับ สวัสดีครับ #TechTips
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล็อกบัญชี ฟีเจอร์สำหรับนักออม

    ภัยทุจริตทางการเงิน จากการหลอกลวงทางออนไลน์ในปัจจุบัน นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแก้ไขปัญหาและยกระดับมาตรการจัดการ เช่น การกวาดล้างบัญชีม้าในระบบ ด้วยการจัดการทุกบัญชีในทุกธนาคารของเจ้าของบัญชีต้องสงสัย และการเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่ให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีพฤติกรรมผิดปกติแล้ว ธนาคารบางแห่งก็เริ่มมีระบบจัดการความปลอดภัยทางบัญชี เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพโอนเงินออกจากบัญชี

    เริ่มจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ออกฟีเจอร์ Lock & Unlock สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการโมบายแบงกิ้งจากธนาคารกรุงเทพ โดยลูกค้าบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ และกระแสรายวัน บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ e-Savings และบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) สามารถกด "ล็อกการโอน / เติม / จ่าย ผ่านแอป" เพื้อป้องกันไม่ให้สามารถโอนเงิน เติมเงิน หรือจ่ายเงิน ออกจากบัญชีที่ล็อกไว้ได้ แก้ปัญหากรณีที่มิจฉาชีพใช้แอปฯ ดูดเงินเก็บข้อมูลรหัส PIN

    ถ้าล็อกบัญชีแล้ว แม้ว่ามิจฉาชีพจะรู้รหัส PIN ก็ไม่สามารถผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเพื่อโอนเงินออกจากบัญชีได้ ลูกค้าต้องปลดล็อกด้วยการยืนยันตัวตนผ่านการสแกนใบหน้า แต่ธุรกรรมขาเข้ายังสามารถทำได้ เช่น การรับเงินเข้าบัญชี การรับเงินด้วยคิวอาร์โค้ด การฝากเงินเข้าบัญชีที่ตู้อัตโนมัติหรือสาขา

    ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เปิดบริการล็อกบัญชีเงินฝาก UOB Money Lock สำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันสำหรับบุคคลธรรมดาได้ทุกประเภท เมื่อล็อกบัญชีแล้วจะไม่สามารถโอนเงินออกผ่านช่องทางออนไลน์ ลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ สามารถถอนหรือโอนเงินได้ผ่านช่องทางสาขา หรือใช้บัตรเดบิต แต่ยังคงรับเงินเข้าได้ตามปกติ และสามารถขอปลดล็อกด้วยตนเองโดยการยืนยันตัวตนที่สาขาธนาคารยูโอบีเท่านั้น

    สามารถสมัครบริการได้ด้วยตนเองที่สาขาธนาคารยูโอบี บริการ Live Chat บนแอปพลิเคชัน UOB TMRW หรือศูนย์บริการลูกค้ายูโอบี โทร. 0-2285-1555 แต่การขอยกเลิกบริการต้องติดต่อสาขาของธนาคารด้วยตนเองเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของบัญชี โดยจะจะดำเนินการภายในสิ้นวันทำการถัดไป ไม่รวมวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดทำการของธนาคาร

    นอกจากนี้ ยังมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีฟีเจอร์ล็อกบัญชี ผ่านแอปฯ Krungthai NEXT สำหรับคนที่เเยกบัญชีเงินออมหรือคนที่มีบัญชีสำหรับเอาไว้เก็บเงินอย่างเดียว บัญชีที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆและไม่ต้องการทำธุรกรรมออนไลน์หรือที่ตู้ ATM หรือผูกบัตร Travel card กับบัญชีนั้นๆ ป้องกันการโอนเงินออกโดยถูกหลอกอีกด้วย

    #Newskit #ล็อกบัญชี #LockAccount
    ล็อกบัญชี ฟีเจอร์สำหรับนักออม ภัยทุจริตทางการเงิน จากการหลอกลวงทางออนไลน์ในปัจจุบัน นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะแก้ไขปัญหาและยกระดับมาตรการจัดการ เช่น การกวาดล้างบัญชีม้าในระบบ ด้วยการจัดการทุกบัญชีในทุกธนาคารของเจ้าของบัญชีต้องสงสัย และการเพิ่มความเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่ให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีพฤติกรรมผิดปกติแล้ว ธนาคารบางแห่งก็เริ่มมีระบบจัดการความปลอดภัยทางบัญชี เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพโอนเงินออกจากบัญชี เริ่มจาก ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ออกฟีเจอร์ Lock & Unlock สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการโมบายแบงกิ้งจากธนาคารกรุงเทพ โดยลูกค้าบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ และกระแสรายวัน บัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ e-Savings และบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (FCD) สามารถกด "ล็อกการโอน / เติม / จ่าย ผ่านแอป" เพื้อป้องกันไม่ให้สามารถโอนเงิน เติมเงิน หรือจ่ายเงิน ออกจากบัญชีที่ล็อกไว้ได้ แก้ปัญหากรณีที่มิจฉาชีพใช้แอปฯ ดูดเงินเก็บข้อมูลรหัส PIN ถ้าล็อกบัญชีแล้ว แม้ว่ามิจฉาชีพจะรู้รหัส PIN ก็ไม่สามารถผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเพื่อโอนเงินออกจากบัญชีได้ ลูกค้าต้องปลดล็อกด้วยการยืนยันตัวตนผ่านการสแกนใบหน้า แต่ธุรกรรมขาเข้ายังสามารถทำได้ เช่น การรับเงินเข้าบัญชี การรับเงินด้วยคิวอาร์โค้ด การฝากเงินเข้าบัญชีที่ตู้อัตโนมัติหรือสาขา ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) เปิดบริการล็อกบัญชีเงินฝาก UOB Money Lock สำหรับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันสำหรับบุคคลธรรมดาได้ทุกประเภท เมื่อล็อกบัญชีแล้วจะไม่สามารถโอนเงินออกผ่านช่องทางออนไลน์ ลดความเสี่ยงจากมิจฉาชีพ สามารถถอนหรือโอนเงินได้ผ่านช่องทางสาขา หรือใช้บัตรเดบิต แต่ยังคงรับเงินเข้าได้ตามปกติ และสามารถขอปลดล็อกด้วยตนเองโดยการยืนยันตัวตนที่สาขาธนาคารยูโอบีเท่านั้น สามารถสมัครบริการได้ด้วยตนเองที่สาขาธนาคารยูโอบี บริการ Live Chat บนแอปพลิเคชัน UOB TMRW หรือศูนย์บริการลูกค้ายูโอบี โทร. 0-2285-1555 แต่การขอยกเลิกบริการต้องติดต่อสาขาของธนาคารด้วยตนเองเท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของบัญชี โดยจะจะดำเนินการภายในสิ้นวันทำการถัดไป ไม่รวมวันเสาร์ อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือวันหยุดทำการของธนาคาร นอกจากนี้ ยังมีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) มีฟีเจอร์ล็อกบัญชี ผ่านแอปฯ Krungthai NEXT สำหรับคนที่เเยกบัญชีเงินออมหรือคนที่มีบัญชีสำหรับเอาไว้เก็บเงินอย่างเดียว บัญชีที่ไม่ได้ใช้บ่อยๆและไม่ต้องการทำธุรกรรมออนไลน์หรือที่ตู้ ATM หรือผูกบัตร Travel card กับบัญชีนั้นๆ ป้องกันการโอนเงินออกโดยถูกหลอกอีกด้วย #Newskit #ล็อกบัญชี #LockAccount
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 853 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกวันนี้ มือถือ หรือบางคนจะเรียกว่า Smart Phone เป็นอีกอุปกรณ์ที่ติดยิ่งกว่า สามี ภรรยากันอีก แต่มันมีเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้คุณสามารถใช้มือถือเครื่องปัจจุบันให้ใช้งานได้ยาวนาน เพราะถ้าไม่ดูแลมันก็จะพังได้ง่ายแต่จะมีวิธีอะไรบ้าง
    นายTechTips มี 10 วิธีมาฝากกันครับ

    ติดฟิล์มใส่เคส
    เรื่องแรกหลายคนซื้อมือถือมาแล้วก็มักจะซื้อเคส และ ติดฟิล์มกันรอยเพื่อให้เกิดความสวยงามและป้องกันกันความเสียหายจากการตกได้ ถือว่าเป็นวิธีพื้นฐานสำหรับคนที่อยากดูแลรักษาเครื่องให้อยู่ได้นานๆ

    หมั่นทำความสะอาดเครื่อง และพอร์ตเชื่อมต่อ
    อย่าลืมนะครับถ้าใส่อุปกรณ์กันไปแล้วไม่ได้หมายถึงสามารถป้องกันความสกปรกได้ ดังนั้นเราควรเอามือถือมาทำความสะอาดให้ถูกทุกซอกมุมได้บ้างไม่ว่าจะใช้น้ำยาทำความสะอาด เพื่อให้มือถือเกิดความสะอาดเสมอ ส่วนพอร์ตเราสามารถใช้คอตตอนบัด เช็ดเบาๆ ได้เช่นเดียวกัน

    หลีกเลี่ยงการวางมือถือในที่ชื้น / ความร้อนสูง
    สิ่งหนึ่งที่มือถือมถูกเลยคือความชื้นและความร้อน ต่อให้บางรุ่นกันน้ำแล้วก็ตาม ดังนั้นการเก็บมือถือใกล้กับที่ชื้นก็อาจจะทำให้พังได้ ดังนั้นถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ดี และอีกเรื่องหลายคนเผลอคือการเก็บมือถือในรถ อันนี้ถ้าเครื่องเกิดความร้อนอาจจะทำให้เครื่องเกิดความเสียหายได้ และส่งผลต่อแบตเตอรี่ได้ครับ

    หลีกเลี่ยงการเก็บมือถือที่เจอสิ่งขีดข่วน
    แม้ว่าเราจะติดเคสและฟิล์มกันรอยอย่างดี แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเก็บเครื่องไม่ให้เกิดรอยได้ง่ายๆ เช่น พวกเหรียญ, ชองชิ้นเล็กของผู้หญิง ที่อาจจะทำให้เครื่องเป็นรอยหรือสีติดได้

    ควรเคลียร์พื้นที่จำบ้าง
    นอกจากเรื่องตัวเครื่องที่ต้องดูแลให้สวยงามแล้ว การจัดการภายในก็จำเป็น เพราะมันก็ส่งผลกับการทำงานของเครื่องได้ สิ่งแรกที่จะมีผลสุดคือ พื้นที่ความจำ เราควรจะดูแล เช่นลบไฟล์ภาพ ที่ถ่ายเสีย หรือ โอนเก็บไปที่พื้นที่ความจำภายนอก เช่น Flash Drive, SSD หรือระบบ Cloud เช่น One Drive, Google Drive, iCloud เป็นต้น

    Reset เครื่องบ้างหากทำได้
    หากเคลียร์ความจำแล้วยังไม่เร็วขึ้น บางทีก็ไม่รู้จะไปลบตั้งค่าหรือไฟล์ดาวน์โหลดอะไร การกด Reset ก็เป็นทางเลือกที่ดี โดยการกดลบนั้นมีให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่การเปลี่ยนการตั้งค่า, การลบแค่ภายใน App และการลบทั้งหมด ก็สามารถทำได้ครับ

    หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลด Apps นอก Store ที่มีในเครื่อง
    เดี๋ยวนี้ Apps มีหลากหลายที่ไม่ว่าจะเป็น App Store, Galaxy Store, HUAWEI AppGallery, Google Play Store มักจะได้รับความไว้วางใจจากนักพัฒนา และผู้ผลิตเครื่อง การที่ดาวน์โหลดที่อยู่ข้างนอกที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ ก็อาจจะทำให้คุณอาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ด้วยครับ ดังนั้น ไม่ควรดาวน์โหลด AppStore นอก Store นะครับ

    อัปเดต Software บ้าง
    อย่าลืมว่า Smart Phone ที่คุณใช้งาน มันทำงานบนระบบปฏิบัติการที่มักจะมีอะไรอัปเดตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และ ปิดช่องโหว่ความปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นอย่าลืมหมั่นเช็ค Software ของเครื่องไว้บ้างก็ดี

    อะไรพังแล้วก็ซ่อมได้
    สุดท้ายหากคุณใช้งานแล้วเกิดความเสียหายจริงๆ การซ่อมมือถือก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าคุณได้ เช่นเดี๋ยวนี้การซ่อมหน้าจออาจจะมีราคาไม่ถึง 1 ใน 3 ของเครื่องแล้วใครที่อยากใช้เครื่องเดิม ไม่อยากย้ายข้อมูลสำคัญบ่อยๆ การเลือกที่จะซ่อมก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ

    แต่อย่าลืมว่าการถนอมมือถือพวกนี้เป็นการยืดอายุการใช้งานมือถือให้ใช้งานยาวนานเท่านั้น หากคุณใช้งานสักพักยังไงก็ต้องถึงเวลาเปลี่ยนอยู่ดี แค่ทำให้คุณมีเวลาอยู่กับมือถือที่คุณตั้งใจเลือกมากขึ้นครับ

    มีคำถามอะไรเกี่ยวกับเทคโนโลยีถาม นายTechTips ได้เลยจ้า
    #TechTips
    ทุกวันนี้ มือถือ หรือบางคนจะเรียกว่า Smart Phone เป็นอีกอุปกรณ์ที่ติดยิ่งกว่า สามี ภรรยากันอีก แต่มันมีเทคนิคหนึ่งที่ช่วยให้คุณสามารถใช้มือถือเครื่องปัจจุบันให้ใช้งานได้ยาวนาน เพราะถ้าไม่ดูแลมันก็จะพังได้ง่ายแต่จะมีวิธีอะไรบ้าง นายTechTips มี 10 วิธีมาฝากกันครับ ติดฟิล์มใส่เคส เรื่องแรกหลายคนซื้อมือถือมาแล้วก็มักจะซื้อเคส และ ติดฟิล์มกันรอยเพื่อให้เกิดความสวยงามและป้องกันกันความเสียหายจากการตกได้ ถือว่าเป็นวิธีพื้นฐานสำหรับคนที่อยากดูแลรักษาเครื่องให้อยู่ได้นานๆ หมั่นทำความสะอาดเครื่อง และพอร์ตเชื่อมต่อ อย่าลืมนะครับถ้าใส่อุปกรณ์กันไปแล้วไม่ได้หมายถึงสามารถป้องกันความสกปรกได้ ดังนั้นเราควรเอามือถือมาทำความสะอาดให้ถูกทุกซอกมุมได้บ้างไม่ว่าจะใช้น้ำยาทำความสะอาด เพื่อให้มือถือเกิดความสะอาดเสมอ ส่วนพอร์ตเราสามารถใช้คอตตอนบัด เช็ดเบาๆ ได้เช่นเดียวกัน หลีกเลี่ยงการวางมือถือในที่ชื้น / ความร้อนสูง สิ่งหนึ่งที่มือถือมถูกเลยคือความชื้นและความร้อน ต่อให้บางรุ่นกันน้ำแล้วก็ตาม ดังนั้นการเก็บมือถือใกล้กับที่ชื้นก็อาจจะทำให้พังได้ ดังนั้นถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ดี และอีกเรื่องหลายคนเผลอคือการเก็บมือถือในรถ อันนี้ถ้าเครื่องเกิดความร้อนอาจจะทำให้เครื่องเกิดความเสียหายได้ และส่งผลต่อแบตเตอรี่ได้ครับ หลีกเลี่ยงการเก็บมือถือที่เจอสิ่งขีดข่วน แม้ว่าเราจะติดเคสและฟิล์มกันรอยอย่างดี แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราเก็บเครื่องไม่ให้เกิดรอยได้ง่ายๆ เช่น พวกเหรียญ, ชองชิ้นเล็กของผู้หญิง ที่อาจจะทำให้เครื่องเป็นรอยหรือสีติดได้ ควรเคลียร์พื้นที่จำบ้าง นอกจากเรื่องตัวเครื่องที่ต้องดูแลให้สวยงามแล้ว การจัดการภายในก็จำเป็น เพราะมันก็ส่งผลกับการทำงานของเครื่องได้ สิ่งแรกที่จะมีผลสุดคือ พื้นที่ความจำ เราควรจะดูแล เช่นลบไฟล์ภาพ ที่ถ่ายเสีย หรือ โอนเก็บไปที่พื้นที่ความจำภายนอก เช่น Flash Drive, SSD หรือระบบ Cloud เช่น One Drive, Google Drive, iCloud เป็นต้น Reset เครื่องบ้างหากทำได้ หากเคลียร์ความจำแล้วยังไม่เร็วขึ้น บางทีก็ไม่รู้จะไปลบตั้งค่าหรือไฟล์ดาวน์โหลดอะไร การกด Reset ก็เป็นทางเลือกที่ดี โดยการกดลบนั้นมีให้เลือกหลากหลายแบบ ตั้งแต่การเปลี่ยนการตั้งค่า, การลบแค่ภายใน App และการลบทั้งหมด ก็สามารถทำได้ครับ หลีกเลี่ยงการดาวน์โหลด Apps นอก Store ที่มีในเครื่อง เดี๋ยวนี้ Apps มีหลากหลายที่ไม่ว่าจะเป็น App Store, Galaxy Store, HUAWEI AppGallery, Google Play Store มักจะได้รับความไว้วางใจจากนักพัฒนา และผู้ผลิตเครื่อง การที่ดาวน์โหลดที่อยู่ข้างนอกที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ ก็อาจจะทำให้คุณอาจจะตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ด้วยครับ ดังนั้น ไม่ควรดาวน์โหลด AppStore นอก Store นะครับ อัปเดต Software บ้าง อย่าลืมว่า Smart Phone ที่คุณใช้งาน มันทำงานบนระบบปฏิบัติการที่มักจะมีอะไรอัปเดตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และ ปิดช่องโหว่ความปลอดภัยมากขึ้น ดังนั้นอย่าลืมหมั่นเช็ค Software ของเครื่องไว้บ้างก็ดี อะไรพังแล้วก็ซ่อมได้ สุดท้ายหากคุณใช้งานแล้วเกิดความเสียหายจริงๆ การซ่อมมือถือก็เป็นอีกทางเลือกที่สามารถช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าคุณได้ เช่นเดี๋ยวนี้การซ่อมหน้าจออาจจะมีราคาไม่ถึง 1 ใน 3 ของเครื่องแล้วใครที่อยากใช้เครื่องเดิม ไม่อยากย้ายข้อมูลสำคัญบ่อยๆ การเลือกที่จะซ่อมก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ แต่อย่าลืมว่าการถนอมมือถือพวกนี้เป็นการยืดอายุการใช้งานมือถือให้ใช้งานยาวนานเท่านั้น หากคุณใช้งานสักพักยังไงก็ต้องถึงเวลาเปลี่ยนอยู่ดี แค่ทำให้คุณมีเวลาอยู่กับมือถือที่คุณตั้งใจเลือกมากขึ้นครับ มีคำถามอะไรเกี่ยวกับเทคโนโลยีถาม นายTechTips ได้เลยจ้า #TechTips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื้องหลังธนาคารไทย ใช้'CFR'สกัดบัญชีม้า

    นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ธนาคารทุกแห่งใช้ระบบ CFR หรือ Central Fraud Registry ซึ่งเป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางการเงินของภาคธนาคาร เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัย พัฒนาโดย บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด (ITMX) ระบบนี้จะให้ธนาคารที่เป็นสมาชิกของ ITMX นำส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัย เพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น เป็นมาตรฐานเดียวกัน

    เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งความ หรือธนาคารตรวจจับได้ว่ามีบัญชีต้องสงสัย จากเดิมระงับเฉพาะธนาคารที่เกี่ยวข้องในเส้นทางเงิน เปลี่ยนเป็น "ระงับทุกธนาคาร" ภายใต้ชื่อบัญชีและหมายเลขบัตรประชาชนเดียวกัน โดยจะเห็นผลเมื่อคนที่เคย "ขายบัญชีม้า" ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรม เมื่อเข้าสู่ระบบ Mobile Banking จะขึ้นข้อความว่า "บัญชีของคุณถูกระงับ" หรือข้อความในลักษณะใกล้เคียง โดยไม่สามารถทำธุรกรรมโอนเงินหรือถอนเงินออกมาได้

    ธนาคารจะระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทุกบัญชี ทุกธนาคาร เพื่อให้เจ้าของบัญชีมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น และจะต้องให้ความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้องทางคดี แต่ถ้าเป็นบัญชีที่ธนาคารตรวจพบพฤติกรรมต้องสงสัย แต่ยังไม่มีการแจ้งความ จะดำเนินการตามความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกัน

    นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคธนาคารได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวไปแล้วกว่า 15,000 รายชื่อ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้า ทั้งบัญชีเดิมหรือกำลังจะเปิดเพิ่มเติมใหม่ว่า มีโทษอาญาตามกฎหมาย รวมทั้งผลจากมาตรการที่เข้มงวด เช่น การพิจารณาระงับการใช้งานบัญชีทั้งหมดทันที รวมถึงจะพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ ซึ่งจะกระทบการใช้บริการทางการเงินของบุคคลดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    อนึ่ง การเปิดหรือขายให้คนอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตร หรือ e-Wallet เป็นบัญชีม้า ให้เช่าหรือให้ยืมใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์เพื่อนำไปใช้ในทางทุจริตและการทำผิดกฎหมาย ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

    #Newskit #CFR #บัญชีม้า
    เบื้องหลังธนาคารไทย ใช้'CFR'สกัดบัญชีม้า นับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ธนาคารทุกแห่งใช้ระบบ CFR หรือ Central Fraud Registry ซึ่งเป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางการเงินของภาคธนาคาร เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัย พัฒนาโดย บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ จำกัด (ITMX) ระบบนี้จะให้ธนาคารที่เป็นสมาชิกของ ITMX นำส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัย เพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น เป็นมาตรฐานเดียวกัน เมื่อมีผู้เสียหายแจ้งความ หรือธนาคารตรวจจับได้ว่ามีบัญชีต้องสงสัย จากเดิมระงับเฉพาะธนาคารที่เกี่ยวข้องในเส้นทางเงิน เปลี่ยนเป็น "ระงับทุกธนาคาร" ภายใต้ชื่อบัญชีและหมายเลขบัตรประชาชนเดียวกัน โดยจะเห็นผลเมื่อคนที่เคย "ขายบัญชีม้า" ให้กับกลุ่มมิจฉาชีพ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรม เมื่อเข้าสู่ระบบ Mobile Banking จะขึ้นข้อความว่า "บัญชีของคุณถูกระงับ" หรือข้อความในลักษณะใกล้เคียง โดยไม่สามารถทำธุรกรรมโอนเงินหรือถอนเงินออกมาได้ ธนาคารจะระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ทุกบัญชี ทุกธนาคาร เพื่อให้เจ้าของบัญชีมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น และจะต้องให้ความร่วมมือกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมาย เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้องทางคดี แต่ถ้าเป็นบัญชีที่ธนาคารตรวจพบพฤติกรรมต้องสงสัย แต่ยังไม่มีการแจ้งความ จะดำเนินการตามความเสี่ยงด้วยมาตรฐานเดียวกัน นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาคธนาคารได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวไปแล้วกว่า 15,000 รายชื่อ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้า ทั้งบัญชีเดิมหรือกำลังจะเปิดเพิ่มเติมใหม่ว่า มีโทษอาญาตามกฎหมาย รวมทั้งผลจากมาตรการที่เข้มงวด เช่น การพิจารณาระงับการใช้งานบัญชีทั้งหมดทันที รวมถึงจะพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ ซึ่งจะกระทบการใช้บริการทางการเงินของบุคคลดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อนึ่ง การเปิดหรือขายให้คนอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตร หรือ e-Wallet เป็นบัญชีม้า ให้เช่าหรือให้ยืมใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์เพื่อนำไปใช้ในทางทุจริตและการทำผิดกฎหมาย ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ #Newskit #CFR #บัญชีม้า
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 798 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคโนโลยีแก็งคอลเซ็นเตอร์แบบใหม่ หมดเงินได้โดยการคุยกับ มิจฉาชีพ เพียง 2 นาที ดูคลิปให้จบ และช่วยกันแชร์

    คนไทยเจอปัญหาอย่างนี้เดิมๆ ปัญหาประชาชนมีไว้แก้เอง เปรียบเสมือนประชาชนกำลังถูกโจรปาดคอประชาชนผู้บริสุทธิ์ เกิดเหตุตายตำรวจค่อยมาที่เกิดเหตุ

    อยากให้ตำรวจไทยเอาจริง เอาจัง กับแก็งคอลเซ็นเตอร์นี้ซักที จับไม่ได้ก็ประสานประเทศเพื่อนบ้าน กับทางการจีน ประสานสถานทูตจีนจับแก็งจีนสีเทาเพื่อจะได้มีบทลงโทษในแผ่นดินจีน คนประเทศเขาจะได้จำ ทำผิดแล้วเจอโทษอะไร

    https://youtu.be/cH2YmRjbj3Y?si=OMfaLVPrL9pPkEKu
    เทคโนโลยีแก็งคอลเซ็นเตอร์แบบใหม่ หมดเงินได้โดยการคุยกับ มิจฉาชีพ เพียง 2 นาที ดูคลิปให้จบ และช่วยกันแชร์ คนไทยเจอปัญหาอย่างนี้เดิมๆ ปัญหาประชาชนมีไว้แก้เอง เปรียบเสมือนประชาชนกำลังถูกโจรปาดคอประชาชนผู้บริสุทธิ์ เกิดเหตุตายตำรวจค่อยมาที่เกิดเหตุ อยากให้ตำรวจไทยเอาจริง เอาจัง กับแก็งคอลเซ็นเตอร์นี้ซักที จับไม่ได้ก็ประสานประเทศเพื่อนบ้าน กับทางการจีน ประสานสถานทูตจีนจับแก็งจีนสีเทาเพื่อจะได้มีบทลงโทษในแผ่นดินจีน คนประเทศเขาจะได้จำ ทำผิดแล้วเจอโทษอะไร https://youtu.be/cH2YmRjbj3Y?si=OMfaLVPrL9pPkEKu
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลสุดสะพรึง
    สถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ปี รับแจ้งออนไลน์ กว่า 5 แสนเรื่อง ความเสียหายกว่า 6.57 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยความเสียหายวันละกว่า 80 ล้านบาท พบกลุ่มอายุ 30-44 ปี ตกเป็นเหยื่อมากที่สุด ส่วนใหญ่ 64% เป็นผู้หญิงและวัยทำงาน
    นอกเหนือจากกลุ่มเด็กเยาวชน และกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มักจะปรากฏเป็นข่าวว่าตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมไซเบอร์แล้ว สถิติดังกล่าวยังพบว่ากลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมไซเบอร์ส่วนใหญ่ที่มีจำนวนสูงที่สุดมักจะเป็นกลุ่มวัยทำงาน ช่วงอายุตั้งแต่ 22 ถึง 59 ปี จำเป็นจะต้อง ระมัดระวังตนเอง คอยติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ รูปแบบของการหลอกลวงทางไซเบอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกด้วย

    ส่วนใหญ่จะถูกล่อลวงด้วยการทำให้เชื่อว่า ญาติ เพื่อน หรือคนในครอบครัวกำลังเดือดร้อน ให้โอนเงินมาช่วยด่วน
    และพวกที่หลอกให้ลงทุนหรือหลอกให้โอนเงินโดยโกหกว่าจะมีผลตอบเเทนให้อย่างมหาศาลถ้าทำตามที่บอก

    สำหรับวันนี้นาย TeckTips ก็อยากให้ทุกท่านระมัดระวังเกี่ยวกับการทำธุรกรรมออนไลน์ที่มีความรวดเร็วและสะดวกมากๆจนมิจฉาชีพใช้เป็นช่องโหว่ในการหลอกลวงได้ ครับ

    #TeckTips
    ข้อมูลสุดสะพรึง สถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ปี รับแจ้งออนไลน์ กว่า 5 แสนเรื่อง ความเสียหายกว่า 6.57 หมื่นล้านบาท หรือเฉลี่ยความเสียหายวันละกว่า 80 ล้านบาท พบกลุ่มอายุ 30-44 ปี ตกเป็นเหยื่อมากที่สุด ส่วนใหญ่ 64% เป็นผู้หญิงและวัยทำงาน นอกเหนือจากกลุ่มเด็กเยาวชน และกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มักจะปรากฏเป็นข่าวว่าตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมไซเบอร์แล้ว สถิติดังกล่าวยังพบว่ากลุ่มที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมไซเบอร์ส่วนใหญ่ที่มีจำนวนสูงที่สุดมักจะเป็นกลุ่มวัยทำงาน ช่วงอายุตั้งแต่ 22 ถึง 59 ปี จำเป็นจะต้อง ระมัดระวังตนเอง คอยติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ รูปแบบของการหลอกลวงทางไซเบอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอีกด้วย ส่วนใหญ่จะถูกล่อลวงด้วยการทำให้เชื่อว่า ญาติ เพื่อน หรือคนในครอบครัวกำลังเดือดร้อน ให้โอนเงินมาช่วยด่วน และพวกที่หลอกให้ลงทุนหรือหลอกให้โอนเงินโดยโกหกว่าจะมีผลตอบเเทนให้อย่างมหาศาลถ้าทำตามที่บอก สำหรับวันนี้นาย TeckTips ก็อยากให้ทุกท่านระมัดระวังเกี่ยวกับการทำธุรกรรมออนไลน์ที่มีความรวดเร็วและสะดวกมากๆจนมิจฉาชีพใช้เป็นช่องโหว่ในการหลอกลวงได้ ครับ #TeckTips
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 สิงหาคม 2567-ประกาศแจ้งเตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบุคลากรทางแพทย์

    เนื่องด้วยขณะนี้มีมิจฉาชีพได้มีการแอบอ้าง เป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายสุรนารี เพื่อหลอกลวงประชาชนให้ข้อมูลส่วนบุคคล

    โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ไม่มีนโยบายให้บุคลากรทางการแพทย์ขอให้ชำระค่ารักษาพยาบาล หรือขอข้อมูลคนไข้ผ่านทางโทรศัพท์ หรือกระทำการใดๆ นอกเหนือจากการให้บริการในโรงพยาบาล ที่อาจเข้าข่ายการหลอกลวงทุกช่องทาง

    โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ใคร่ขอให้ท่านระมัดระวังและใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลและอย่าหลงเชื่อในการโอนเงิน หรือให้ข้อมูลส่วนตัวแก่มิจฉาชีพ

    #Thaitimes
    11 สิงหาคม 2567-ประกาศแจ้งเตือนประชาชน ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างเป็นบุคลากรทางแพทย์ เนื่องด้วยขณะนี้มีมิจฉาชีพได้มีการแอบอ้าง เป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลค่ายสุรนารี เพื่อหลอกลวงประชาชนให้ข้อมูลส่วนบุคคล โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ไม่มีนโยบายให้บุคลากรทางการแพทย์ขอให้ชำระค่ารักษาพยาบาล หรือขอข้อมูลคนไข้ผ่านทางโทรศัพท์ หรือกระทำการใดๆ นอกเหนือจากการให้บริการในโรงพยาบาล ที่อาจเข้าข่ายการหลอกลวงทุกช่องทาง โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ใคร่ขอให้ท่านระมัดระวังและใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลและอย่าหลงเชื่อในการโอนเงิน หรือให้ข้อมูลส่วนตัวแก่มิจฉาชีพ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ พรรคประชาชน บังคับผู้สมัครสมาชิก กรอกเลขหลังบัตรประชาชน ไม่ต่างอะไรกับปล้นข้อมูลประชาชน เพราะสามารถนำไป 1.ยื่นเสนอแก้ไข 112 และกฎหมายอื่นๆ ได้ 2.ยื่นถอดถอน ร้องเรียน สส. สว.ได้ 3.ขายข้อมูลประชาชนให้มิจฉาชีพได้ 4.ใช้ทำธุรกรรมตามกฎหมายได้
    #7ดอกจิก
    ♣ พรรคประชาชน บังคับผู้สมัครสมาชิก กรอกเลขหลังบัตรประชาชน ไม่ต่างอะไรกับปล้นข้อมูลประชาชน เพราะสามารถนำไป 1.ยื่นเสนอแก้ไข 112 และกฎหมายอื่นๆ ได้ 2.ยื่นถอดถอน ร้องเรียน สส. สว.ได้ 3.ขายข้อมูลประชาชนให้มิจฉาชีพได้ 4.ใช้ทำธุรกรรมตามกฎหมายได้ #7ดอกจิก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรรคประชาชน ปล้นประชาชนผ่านการสมัครสมาชิก เพราะบังคับระบุ "เลขหลังบัตร" สามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมแทนได้ ขนาดธนาคารยังเตือนห้ามหลุดเลขหลังบัตรให้มิจฉาชีพ แต่พรรคประชาชนทำซะเอง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #เลขหลังบัตร
    พรรคประชาชน ปล้นประชาชนผ่านการสมัครสมาชิก เพราะบังคับระบุ "เลขหลังบัตร" สามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมแทนได้ ขนาดธนาคารยังเตือนห้ามหลุดเลขหลังบัตรให้มิจฉาชีพ แต่พรรคประชาชนทำซะเอง #คิงส์โพธิ์แดง #เลขหลังบัตร
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • "นายนันทิวัฒน์ สามารถ" เตือน อย่าเพิ่งรีบสมัครรับเงินดิจิทัล ชี้โครงการยังลูกผีลูกคน ยังไม่รู้จะเอาเงินมาจากไหน หวั่นเป็นช่องโหว่ให้กลุ่มมิจฉาชีพได้ข้อมูลส่วนตัว
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000069697

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "นายนันทิวัฒน์ สามารถ" เตือน อย่าเพิ่งรีบสมัครรับเงินดิจิทัล ชี้โครงการยังลูกผีลูกคน ยังไม่รู้จะเอาเงินมาจากไหน หวั่นเป็นช่องโหว่ให้กลุ่มมิจฉาชีพได้ข้อมูลส่วนตัว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000069697 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    Sad
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1195 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ ไทยกลับมาเนื้อหอมในสายตามิจฉาชีพต่างชาติ เตรียมจ้างแฮกเกอร์ตัวเทพ ล้วงข้อมูลคนไทยจาก "ทางรัฐ"
    #7ดอกจิก
    #แอพทางรัฐ
    ♣ ไทยกลับมาเนื้อหอมในสายตามิจฉาชีพต่างชาติ เตรียมจ้างแฮกเกอร์ตัวเทพ ล้วงข้อมูลคนไทยจาก "ทางรัฐ" #7ดอกจิก #แอพทางรัฐ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิจฉาชีพเยอะนะ ขนาดผมเป็นมิจฉาชีพยังโดนเลย 😂
    มิจฉาชีพเยอะนะ ขนาดผมเป็นมิจฉาชีพยังโดนเลย 😂
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 กรกฎาคม 2567-คนเคาะข่าว : มาตรการหน่วงเงินโอน เปิดของก่อนจ่าย ป้องกันความเสียหายของผู้บริโภคที่โดนมิจฉาชีพโกงวันละ 180 ล้านบาทต่อวัน
    https://youtu.be/N9VeUmX3gjc?si=-uAZFsAOgxiK0qXQ

    #Thaitimes
    1 กรกฎาคม 2567-คนเคาะข่าว : มาตรการหน่วงเงินโอน เปิดของก่อนจ่าย ป้องกันความเสียหายของผู้บริโภคที่โดนมิจฉาชีพโกงวันละ 180 ล้านบาทต่อวัน https://youtu.be/N9VeUmX3gjc?si=-uAZFsAOgxiK0qXQ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • “…ไม่รู้ 49 ปีของตลาดหลักทรัพย์ และ 32 ปีของ ก.ล.ต. ผู้บริหารของ 2 องค์กรนี้ไปงมโข่งอยู่ที่ไหน ปล่อยให้แก๊งมิจฉาชีพระบาดอยู่เต็มตลาดหุ้น”
    -สุนันท์ ศรีจันทรา

    ที่มา https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000065753

    #Thaitimes
    “…ไม่รู้ 49 ปีของตลาดหลักทรัพย์ และ 32 ปีของ ก.ล.ต. ผู้บริหารของ 2 องค์กรนี้ไปงมโข่งอยู่ที่ไหน ปล่อยให้แก๊งมิจฉาชีพระบาดอยู่เต็มตลาดหุ้น” -สุนันท์ ศรีจันทรา ที่มา https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000065753 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ได้ฤกษ์พิฆาตแก๊งปั่นหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา
    นายวิศิษฐ์ วิศิษฐ์สรอรรถ ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และนายกิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ออกมาประสานเสียง เดินหน้าปราบปรามแก๊งปั่นหุ้น ที่ฝังตัวอยู่คู่กับตลาดหุ้นม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื้องลึกป้ายโฆษณาภาษาจีนโผล่แยกห้วยขวาง ชวนซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ แม้ตำรวจ ตม.จะบอกว่าเนื้อหาบนป้ายไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่ได้ขายพาสปอร์ตประเทศไทย แต่เมื่อตรวจสอบชื่อประธานบริษัทที่ปรากฏบนป้ายกลับไม่พบในฐานข้อมูลใดๆ จึงมีความเป็นไปได้ว่าการขายพาสปอร์ตดังกล่าวอาจเป็นธุรกิจสีเทา โดยแก๊งมิจฉาชีพที่ต้องการหลอกเอาเงินคนจีนในย่านนั้น
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000063765

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เบื้องลึกป้ายโฆษณาภาษาจีนโผล่แยกห้วยขวาง ชวนซื้อพาสปอร์ตย้ายประเทศ แม้ตำรวจ ตม.จะบอกว่าเนื้อหาบนป้ายไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่ได้ขายพาสปอร์ตประเทศไทย แต่เมื่อตรวจสอบชื่อประธานบริษัทที่ปรากฏบนป้ายกลับไม่พบในฐานข้อมูลใดๆ จึงมีความเป็นไปได้ว่าการขายพาสปอร์ตดังกล่าวอาจเป็นธุรกิจสีเทา โดยแก๊งมิจฉาชีพที่ต้องการหลอกเอาเงินคนจีนในย่านนั้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000063765 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    25
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 867 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอ๊ะยังไง?
    ทำไปทำมา​ เข้าใกล้มิจฉาชีพ​เข้าไปทุกมีละนะครับ​
    คุณ​หมอ.​

    #สว#สังคม
    เอ๊ะยังไง? ทำไปทำมา​ เข้าใกล้มิจฉาชีพ​เข้าไปทุกมีละนะครับ​ คุณ​หมอ.​ #สว​ #สังคม​
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันเสาร์ ที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ความว่า

    “ดิถีอาสาฬหบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ควรที่สาธุชนจักได้น้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน อันเป็นการเริ่มประกาศพระศาสนา กระทั่งบังเกิดมีพระอริยสงฆ์ ครบถ้วนพร้อมเป็น “พระรัตนตรัย” ซึ่งเป็นสรณะนำทางชีวิตของพุทธบริษัท ให้มุ่งหน้าดำเนินไปสู่หนทางดับเพลิงกิเลสกองทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง

    ปฐมเทศนาที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้นั้น คือ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ทรงประกาศวิถีทางดับทุกข์ด้วยมรรคมีองค์ ๘ ที่เรียกอีกอย่างว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ ทั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์โลกปัจจุบัน อันเต็มไปด้วยมิจฉาชีพ มีการฉ้อโกง หลอกลวง ประทุษร้ายกัน ประกอบกับเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มิจฉาชีพจึงสบช่องทำอันตรายต่อผู้คนในสังคมทุกระดับอย่างอย่างรวดเร็วและร้ายแรงมากขึ้น ท่านทั้งหลายควรเร่งหันมาศึกษาพิจารณาธรรมะหมวด “อริยมรรค” โดยดำเนินไปบนหนทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุประการหนึ่ง กล่าวคือ การปลูกฝังสั่งสมให้สมาชิกในสังคม มีค่านิยมในการครอง “สัมมาอาชีวะ” ซึ่งหมายถึง “การเลี้ยงชีพชอบ” ไว้ให้ได้อย่างมั่นคง ขอให้ช่วยกันเชิดชูสุจริตชนผู้แสวงหาปัจจัยมาบริโภคโดยชอบ ขอให้งดเว้นการคิดคดโกง หลอกลวง ประจบสอพลอ บีบบังคับขู่เข็ญ และต่อลาภด้วยลาภโดยไม่ประกอบด้วยความเพียร ไม่อาศัยกำลังกายและกำลังปัญญาของตน ขอให้หยุดและเลิกการกระทำบนพื้นฐานของความโลภที่เกินประมาณ ถึงขั้นทำลายวัฒนธรรม ศีลธรรมอันดีงาม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนสวัสดิภาพของส่วนรวม อันจัดเข้าข่ายว่าเป็นมิจฉาชีพทั้งสิ้น

    วันอาสาฬหบูชา นอกจากจะเตือนใจให้รำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย อันเป็นสรณะสูงสุดของพุทธบริษัทแล้ว ยังอาจเตือนใจให้ทุกท่าน ตระหนักแน่วแน่ในอริยมรรคข้อ “สัมมาอาชีวะ” เพราะฉะนั้น หากท่านประสงค์ให้สังคมไทยร่มเย็นเป็นสุข จงหมั่นเพียรศึกษาอบรมและปฏิบัติธรรมะ มีน้ำใจกล้าหาญที่จะละทิ้งความเป็นมิจฉาชีพ แล้วสู้อุตสาหะประกอบสัมมาชีพด้วยกันทุกคน เพื่อให้ทุกครอบครัว และทุกชุมชน เป็นสถานที่ปลอดจากทุจริตชน นับเป็นการเกื้อกูลตนเอง และสรรพชีวิตทั่วหน้า ให้สามารถพ้นจากภยันตราย ได้สมตามความมุ่งมาดปรารถนาอย่างแท้จริง อนึ่ง ขอความเจริญงอกงามในพระสัทธรรม จงพลันบังเกิดมีแด่สาธุชนผู้เลี้ยงชีพชอบ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.”

    #thaitimes
    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันเสาร์ ที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ความว่า “ดิถีอาสาฬหบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ควรที่สาธุชนจักได้น้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน อันเป็นการเริ่มประกาศพระศาสนา กระทั่งบังเกิดมีพระอริยสงฆ์ ครบถ้วนพร้อมเป็น “พระรัตนตรัย” ซึ่งเป็นสรณะนำทางชีวิตของพุทธบริษัท ให้มุ่งหน้าดำเนินไปสู่หนทางดับเพลิงกิเลสกองทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง ปฐมเทศนาที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้นั้น คือ “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ทรงประกาศวิถีทางดับทุกข์ด้วยมรรคมีองค์ ๘ ที่เรียกอีกอย่างว่า ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ ทั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์โลกปัจจุบัน อันเต็มไปด้วยมิจฉาชีพ มีการฉ้อโกง หลอกลวง ประทุษร้ายกัน ประกอบกับเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มิจฉาชีพจึงสบช่องทำอันตรายต่อผู้คนในสังคมทุกระดับอย่างอย่างรวดเร็วและร้ายแรงมากขึ้น ท่านทั้งหลายควรเร่งหันมาศึกษาพิจารณาธรรมะหมวด “อริยมรรค” โดยดำเนินไปบนหนทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุประการหนึ่ง กล่าวคือ การปลูกฝังสั่งสมให้สมาชิกในสังคม มีค่านิยมในการครอง “สัมมาอาชีวะ” ซึ่งหมายถึง “การเลี้ยงชีพชอบ” ไว้ให้ได้อย่างมั่นคง ขอให้ช่วยกันเชิดชูสุจริตชนผู้แสวงหาปัจจัยมาบริโภคโดยชอบ ขอให้งดเว้นการคิดคดโกง หลอกลวง ประจบสอพลอ บีบบังคับขู่เข็ญ และต่อลาภด้วยลาภโดยไม่ประกอบด้วยความเพียร ไม่อาศัยกำลังกายและกำลังปัญญาของตน ขอให้หยุดและเลิกการกระทำบนพื้นฐานของความโลภที่เกินประมาณ ถึงขั้นทำลายวัฒนธรรม ศีลธรรมอันดีงาม สิ่งแวดล้อม ตลอดจนสวัสดิภาพของส่วนรวม อันจัดเข้าข่ายว่าเป็นมิจฉาชีพทั้งสิ้น วันอาสาฬหบูชา นอกจากจะเตือนใจให้รำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย อันเป็นสรณะสูงสุดของพุทธบริษัทแล้ว ยังอาจเตือนใจให้ทุกท่าน ตระหนักแน่วแน่ในอริยมรรคข้อ “สัมมาอาชีวะ” เพราะฉะนั้น หากท่านประสงค์ให้สังคมไทยร่มเย็นเป็นสุข จงหมั่นเพียรศึกษาอบรมและปฏิบัติธรรมะ มีน้ำใจกล้าหาญที่จะละทิ้งความเป็นมิจฉาชีพ แล้วสู้อุตสาหะประกอบสัมมาชีพด้วยกันทุกคน เพื่อให้ทุกครอบครัว และทุกชุมชน เป็นสถานที่ปลอดจากทุจริตชน นับเป็นการเกื้อกูลตนเอง และสรรพชีวิตทั่วหน้า ให้สามารถพ้นจากภยันตราย ได้สมตามความมุ่งมาดปรารถนาอย่างแท้จริง อนึ่ง ขอความเจริญงอกงามในพระสัทธรรม จงพลันบังเกิดมีแด่สาธุชนผู้เลี้ยงชีพชอบ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.” #thaitimes
    Love
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 รีวิว
  • สวัสดีตอนสายๆ กับ วันอาสาฬหบูชา เย็นนี้จะไปเวียนเทียน เก็บบันทึกความทรงจำกับ Thai Time ขอให้แอพนี้เป็นสังคมที่ดี ไม่มีมิจฉาชีพ มาโฆษณาเต็มไปหมดทีเถอะ สาธุ
    สวัสดีตอนสายๆ กับ วันอาสาฬหบูชา เย็นนี้จะไปเวียนเทียน เก็บบันทึกความทรงจำกับ Thai Time ขอให้แอพนี้เป็นสังคมที่ดี ไม่มีมิจฉาชีพ มาโฆษณาเต็มไปหมดทีเถอะ สาธุ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • Digital Token แบงก์สิงคโปร์ใช้แทน OTP

    ขณะที่การช้อปออนไลน์ หรือทำธุรกรรมการเงินในประเทศไทยยังคงใช้ SMS OTP ยืนยันการทำรายการเป็นหลัก ซึ่งในยุคนี้มีความเสี่ยงจากการถูกมิจฉาชีพทำฟิชชิ่ง (Phising) เพื่อหลอกขอข้อมูล ธนาคารกลางสิงคโปร์ และสมาคมธนาคารสิงคโปร์ ก็ประกาศว่าแต่ละธนาคารจะค่อยๆ เลิกใช้รหัส OTP ในอีก 3 เดือนข้างหน้า แล้วเปลี่ยนมาใช้ ดิจิทัล โทเคน (Digital Token) แทน

    รูปแบบของดิจิทัล โทเคน ของธนาคารในสิงคโปร์ ส่วนใหญ่มักมาในรูปแบบข้อความแจ้งเตือนแบบพุช (Push Notification) เมื่อทำธุรกรรมทางการเงิน หรือเมื่อช้อปออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต จะแจ้งเตือนว่าทำรายการดังกล่าวด้วยจำนวนเงินเท่าใด หากทำรายการเองและถูกต้องให้กดยืนยัน แทนการส่ง OTP หรือ One Time Password/PIN แบบเดิม

    ธนาคารกลางสิงคโปร์ให้เหตุผลว่า OTP ถูกนำมาใช้ในสิงคโปร์เมื่อปี 2543 หรือเมื่อ 24 ปีก่อน แต่เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนไป มิจฉาชีพหลอกลวงโดยใช้หลักวิศวกรรมสังคม (Social Engineering) ที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ทำเว็บไซต์ปลอมเลียนแบบธนาคาร

    มาตรการนี้ช่วยให้ลูกค้าป้องกันการเข้าถึงบัญชีธนาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าอาจทำให้เกิดความไม่สะดวก แต่จำเป็นต้องทำเพื่อช่วยป้องกันกลโกงและปกป้องลูกค้า ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารกลางสิงคโปร์ และกองกำลังตำรวจสิงคโปร์ เพื่อหาแนวทางต่อต้านการทุจริตทางการเงินที่เกิดขึ้นตลอดเวลา

    สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันธนาคารและผู้ให้บริการบัตรเครดิตส่วนใหญ่ ยังคงใช้วิธีส่ง SMS OTP มีเพียงบัตรทราเวลการ์ดที่ชื่อว่า YouTrip (ยูทริป) ที่ออกบัตรโดยธนาคารกสิกรไทย ใช้ระบบ 3DS 2.0 แจ้งเตือนให้เข้าไปอนุมัติรายการในแอปพลิเคชัน เช่นเดียวกับบัตรพรีเพดการ์ด BigPay (บิ๊กเพย์) ของกลุ่มแอร์เอเชียที่มีลักษณะคล้ายกัน

    #Newskit #DigitalToken #MobileBanking
    Digital Token แบงก์สิงคโปร์ใช้แทน OTP ขณะที่การช้อปออนไลน์ หรือทำธุรกรรมการเงินในประเทศไทยยังคงใช้ SMS OTP ยืนยันการทำรายการเป็นหลัก ซึ่งในยุคนี้มีความเสี่ยงจากการถูกมิจฉาชีพทำฟิชชิ่ง (Phising) เพื่อหลอกขอข้อมูล ธนาคารกลางสิงคโปร์ และสมาคมธนาคารสิงคโปร์ ก็ประกาศว่าแต่ละธนาคารจะค่อยๆ เลิกใช้รหัส OTP ในอีก 3 เดือนข้างหน้า แล้วเปลี่ยนมาใช้ ดิจิทัล โทเคน (Digital Token) แทน รูปแบบของดิจิทัล โทเคน ของธนาคารในสิงคโปร์ ส่วนใหญ่มักมาในรูปแบบข้อความแจ้งเตือนแบบพุช (Push Notification) เมื่อทำธุรกรรมทางการเงิน หรือเมื่อช้อปออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต จะแจ้งเตือนว่าทำรายการดังกล่าวด้วยจำนวนเงินเท่าใด หากทำรายการเองและถูกต้องให้กดยืนยัน แทนการส่ง OTP หรือ One Time Password/PIN แบบเดิม ธนาคารกลางสิงคโปร์ให้เหตุผลว่า OTP ถูกนำมาใช้ในสิงคโปร์เมื่อปี 2543 หรือเมื่อ 24 ปีก่อน แต่เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนไป มิจฉาชีพหลอกลวงโดยใช้หลักวิศวกรรมสังคม (Social Engineering) ที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ทำเว็บไซต์ปลอมเลียนแบบธนาคาร มาตรการนี้ช่วยให้ลูกค้าป้องกันการเข้าถึงบัญชีธนาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าอาจทำให้เกิดความไม่สะดวก แต่จำเป็นต้องทำเพื่อช่วยป้องกันกลโกงและปกป้องลูกค้า ซึ่งธนาคารแต่ละแห่งยังคงทำงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารกลางสิงคโปร์ และกองกำลังตำรวจสิงคโปร์ เพื่อหาแนวทางต่อต้านการทุจริตทางการเงินที่เกิดขึ้นตลอดเวลา สำหรับประเทศไทย ปัจจุบันธนาคารและผู้ให้บริการบัตรเครดิตส่วนใหญ่ ยังคงใช้วิธีส่ง SMS OTP มีเพียงบัตรทราเวลการ์ดที่ชื่อว่า YouTrip (ยูทริป) ที่ออกบัตรโดยธนาคารกสิกรไทย ใช้ระบบ 3DS 2.0 แจ้งเตือนให้เข้าไปอนุมัติรายการในแอปพลิเคชัน เช่นเดียวกับบัตรพรีเพดการ์ด BigPay (บิ๊กเพย์) ของกลุ่มแอร์เอเชียที่มีลักษณะคล้ายกัน #Newskit #DigitalToken #MobileBanking
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว