• "อี้ แทนคุณ" พา 5 ผู้เสียหายถูก "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ตบทรัพย์เข้าพบ "บิ๊กเต่า"ให้ข้อมูลพิจารณาเอาผิดข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระ ส่วน "ดีเจแมน-ใบเตย" ยังไม่พร้อมเข้าพบตำรวจ

    วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.30 น. นายแทนคุณ หรืออี้ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม นำผู้เสียหายใน 5 คดีที่เชื่อมโยงกับ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ดารานักแสดง เรียกรับผลประโยชน์และแอบอ้างช่วยวิ่งเต้นคดีให้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อให้ข้อมูลหลักฐานกับพนักงานสอบสวนนำไปพิจารณาประกอบสำนวนคดี

    นายแทนคุณ กล่าวว่า วันนี้พาผู้เสียหายจากทั้ง 5 คดีที่เชื่อมโยงกับฟิล์ม รัฐภูมิ เข้าให้ข้อมูลหลักฐานกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เพื่อให้พิจารณาหาความเชื่อมโยงกับคดีเดิม และบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์ซ้ำ ๆ เพื่อพิจารณาหลักฐานตรงนี้ว่าจะสามารถดำเนินคดีกับ นายฟิล์ม ในข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระได้หรือไม่ โดยเฉพาะกรณีของดีเจแมนและใบเตย ตนเองได้มีการพูดคุยมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งพบว่าทั้งคู่มีหลักฐานเป็นเส้นทางการเงิน ที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเงินดังกล่าวออกจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง มูลค่าหลักสิบล้านขึ้นไป รวมทั้งคลิปเสียงสนทนาระหว่างดีเจแมน ใบเตยและบุคคลที่สาม ขณะที่เป็นผู้ต้องหาอยู่ระหว่างต่อสู้คดี ซึ่งได้มีบุคคลเข้ามาติดต่อโดยอ้างว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ โดยได้มีการเปิดวิดีโอคอลโทรศัพท์ให้เห็นว่าอยู่กับผู้ใหญ่ในสถานที่นั้นจริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะมีการเรียกรับผลประโยชน์จากดีเจแมนและใบเตยคนละ 7 ล้านบาท รวม 14 ล้านบาท

    คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000017337

    #MGROnline #อี้แทนคุณ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ตบทรัพย์ #บิ๊กเต่า #ข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระ
    "อี้ แทนคุณ" พา 5 ผู้เสียหายถูก "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ตบทรัพย์เข้าพบ "บิ๊กเต่า"ให้ข้อมูลพิจารณาเอาผิดข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระ ส่วน "ดีเจแมน-ใบเตย" ยังไม่พร้อมเข้าพบตำรวจ • วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.30 น. นายแทนคุณ หรืออี้ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม นำผู้เสียหายใน 5 คดีที่เชื่อมโยงกับ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ดารานักแสดง เรียกรับผลประโยชน์และแอบอ้างช่วยวิ่งเต้นคดีให้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อให้ข้อมูลหลักฐานกับพนักงานสอบสวนนำไปพิจารณาประกอบสำนวนคดี • นายแทนคุณ กล่าวว่า วันนี้พาผู้เสียหายจากทั้ง 5 คดีที่เชื่อมโยงกับฟิล์ม รัฐภูมิ เข้าให้ข้อมูลหลักฐานกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เพื่อให้พิจารณาหาความเชื่อมโยงกับคดีเดิม และบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์ซ้ำ ๆ เพื่อพิจารณาหลักฐานตรงนี้ว่าจะสามารถดำเนินคดีกับ นายฟิล์ม ในข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระได้หรือไม่ โดยเฉพาะกรณีของดีเจแมนและใบเตย ตนเองได้มีการพูดคุยมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งพบว่าทั้งคู่มีหลักฐานเป็นเส้นทางการเงิน ที่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเงินดังกล่าวออกจากบุคคลใดบุคคลหนึ่งไปยังบุคคลหนึ่ง มูลค่าหลักสิบล้านขึ้นไป รวมทั้งคลิปเสียงสนทนาระหว่างดีเจแมน ใบเตยและบุคคลที่สาม ขณะที่เป็นผู้ต้องหาอยู่ระหว่างต่อสู้คดี ซึ่งได้มีบุคคลเข้ามาติดต่อโดยอ้างว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ โดยได้มีการเปิดวิดีโอคอลโทรศัพท์ให้เห็นว่าอยู่กับผู้ใหญ่ในสถานที่นั้นจริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ก่อนจะมีการเรียกรับผลประโยชน์จากดีเจแมนและใบเตยคนละ 7 ล้านบาท รวม 14 ล้านบาท • คลิกรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000017337 • #MGROnline #อี้แทนคุณ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ตบทรัพย์ #บิ๊กเต่า #ข้อหาฉ้อโกงเป็นปกติธุระ
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น

    📢 ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 🖥️

    การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร ✍️

    🔎 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568
    การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่

    ✅ คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร
    - มีสัญชาติไทย 🇹🇭
    - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ
    - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 🏥
    - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน
    - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568 🎓

    🚨 ข้อกำหนดพิเศษ
    - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ ✨
    - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน

    📌 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป

    🔸 กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร
    ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน
    ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี
    ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง
    ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว
    ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี
    ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี
    ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล

    📋 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร
    🔹 ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท

    🔹 ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ

    🔹 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ

    📖 รายละเอียดการสอบ อปท. 2568
    การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่
    📝 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน
    - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน
    - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน
    - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ!

    📚 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน
    -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร

    🗣️ ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน
    เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร

    📝 วิธีสมัครสอบ อปท. 2568
    🔹 สมัครผ่านทางออนไลน์ 📱 ที่เว็บไซต์:
    ➡️ https://dla-local2568.thaijobjob.com
    📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง

    🗂️ เอกสารที่ต้องใช้สมัคร
    ✅ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว 📸
    ✅ สำเนาบัตรประชาชน 🆔
    ✅ สำเนาทะเบียนบ้าน 🏠
    ✅ สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript 🎓
    ✅ สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง
    ✅ เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9 🪖

    📌 อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB

    💰 ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ
    - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท
    - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท
    📌 รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้

    📍 ช่องทางชำระเงิน:
    - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 🏦
    - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง 📲
    - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย
    🛑 ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น!

    📢 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ
    📆 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่
    📌 เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com

    🔑 เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน!
    🔥 ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน
    📖 อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    🔥 ฝึกทำข้อสอบเก่า
    🔍 ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย

    🔥 ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง
    ✅ ท่องศัพท์
    ✅ ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า
    ✅ อ่านบทความภาษาอังกฤษ

    🔥 จัดตารางอ่านหนังสือ
    🗓️ แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง

    🔥 พักผ่อนให้เพียงพอ
    😴 นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ

    🔚 📍 การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น 🚀

    📌 ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่
    🔗 https://dla-local2568.thaijobjob.com

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568

    📢 #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    สมัครสอบ อปท. 2568 ทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ การสอบแข่งขันเป็นข้าราชการท้องถิ่น 📢 ข่าวดีสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)! กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (กสถ.) ได้ออกประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน เพื่อบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ประจำปี พ.ศ. 2568 โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ผ่านระบบออนไลน์ 🖥️ การสอบครั้งนี้ เป็นโอกาสสำคัญ สำหรับผู้ที่สนใจทำงาน ในหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ดังนั้นผู้สมัคร ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียด ให้ครบถ้วนก่อนทำการสมัคร ✍️ 🔎 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ อปท. 2568 การสมัครสอบแข่งขันครั้งนี้ มีกฎเกณฑ์และคุณสมบัติ ที่ต้องพิจารณาอย่างเคร่งครัด มาดูกันว่า มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ ✅ คุณสมบัติทั่วไปของผู้สมัคร - มีสัญชาติไทย 🇹🇭 - อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่สมัครสอบ - ไม่เป็นบุคคลไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ 🏥 - ไม่เป็นผู้ต้องหาคดีอาญา หรือถูกตัดสิทธิ์สอบราชการมาก่อน - ต้องจบการศึกษาภายในวันปิดรับสมัคร 28 มีนาคม 2568 🎓 🚨 ข้อกำหนดพิเศษ - ผู้สมัครจะต้องสอบผ่านวิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่า 10 ข้อจาก 20 ข้อ ✨ - บัญชีรายชื่อผู้สอบผ่านมีอายุ 2 ปี และสามารถขยายได้ไม่เกิน 30 วัน 📌 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร การสอบ อปท. 2568 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มภาค/เขต ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละกลุ่มภาค จะมีตำแหน่งที่เปิดรับแตกต่างกันไป 🔸 กลุ่มภาคที่เปิดรับสมัคร ภาคเหนือ เขต 1 เชียงราย, เชียงใหม่, น่าน, พะเยา, แพร่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, และลำพูน ภาคเหนือ เขต 2 กำแพงเพชร, ตาก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี ภาคกลาง เขต 1 ชัยนาท, นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, ลพบุรี, สระบุรี, สิงห์บุรี และอ่างทอง ภาคกลาง เขต 2 จันทบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ตราด, นครนายก, ปราจีนบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ และสระแก้ว ภาคกลาง เขต 3 กาญจนบุรี, นครปฐม, ประจวบคีรีขันธ์ , เพชรบุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร และสุพรรณบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 1 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, ชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และมหาสารคาม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 2 มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สุรินทร์, อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 3 นครพนม, บึงกาฬ, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู และอุดรธานี ภาคใต้ เขต 1 กระบี่, ชุมพร, นครศรีธรรมราช, พังงา , ภูเก็ต, ระนอง และสุราษฎร์ธานี ภาคใต้ เขต 2 ตรัง, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ยะลา, สงขลา และสตูล 📋 ตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร 🔹 ตำแหน่งครูผู้ช่วย ปริญาญาตรี 4 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 16,560 บาท ปริญญาตรี 5 ปี เงินเดือนเริ่มต้น 17,380 บาท 🔹 ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ปวช. เงินเดือนเริ่มต้น 10,340 บาท ปวท. เงินเดือนเริ่มต้น 11,960 บาท ปวส. เงินเดือนเริ่มต้น 12,730 บาท เช่น เจ้าพนักงานธุรการ เจ้าพนักงานทะเบียน เจ้าพนักงานการคลัง เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานจัดเก็บรายได้ เจ้าพนักงานประชาสัมพันธ์ เจ้าพนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว เจ้าพนักงานการเกษตร เจ้าพนักงานสวนสาธารณะ เจ้าพนักงานสาธารณสุข เจ้าพนักงานสุขาภิบาล สัตวแพทย์ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์ นายช่างโยธา นายช่างเขียนแบบ นายช่างสำรวจ นายช่างผังเมือง นายช่างเครื่องกล นายช่างไฟฟ้า เจ้าพนักงานพัฒนาชุมชน เจ้าพนักงานเทศกิจ เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี ฯลฯ 🔹 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ปริญญาตรี เงินเดือนเริ่มต้น 16,600 บาท เช่น นักจัดการงานทั่วไป นักทรัพยากรบุคคล นักวิเคราะห์นโยบายและแผน นักจัดการงานทะเบียนและบัตร นิคิกร นักวิชาการคอมพิวเตอร์ นักวิชาการศึกษา นักวิชาการเงินและบัญชี นักวิชาการคลัง นักวิชาการจัดเก็บรายได้ นักวิชาการพัสดุ นักวิชาการตรวจสอบภายใน นักประชาสัมพันธ์ นักพัฒนาการท่องเที่ยว นักวิชาการเกษตร นักวิชาการสวนสาธารณะ นักวิชาการสาธารณสุข นักวิชาการสิ่งแวดล้อม นายสัตวแพทย์ นักฉุกเฉินการแพทย์ สถาปนิก วิศวกรโยธา วิศวกรเครื่องกล วิศวกรไฟฟ้า วิทศวกรสุขาภิบาล นักจัดการงานช่าง นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาการศึกษา นักพัฒนาชุมชน บรรณารักษ์ นักสันทนาการ นักพัฒนาการกีฬา นักจัดการงานเทศกิจ นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ฯลฯ 📖 รายละเอียดการสอบ อปท. 2568 การสอบแข่งขัน จะแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก ได้แก่ 📝 ภาค ก ความรู้ทั่วไป 100 คะแนน - ความสามารถด้านการวิเคราะห์ และสรุปเหตุผล 30 คะแนน - ความรู้พื้นฐาน เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการ และกฎหมายท้องถิ่น 30 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาไทย 20 คะแนน - ความสามารถด้านภาษาอังกฤษ 20 คะแนน ต้องผ่านอย่างน้อย 10 ข้อจาก 20 ข้อ! 📚 ภาค ข ความรู้เฉพาะตำแหน่ง 100 คะแนน -เป็นข้อสอบเกี่ยวกับความรู้ ที่ใช้เฉพาะในตำแหน่งที่สมัคร 🗣️ ภาค ค สัมภาษณ์ 100 คะแนน เป็นการประเมินความเหมาะสมกับตำแหน่ง เช่น ทัศนคติ บุคลิกภาพ และความสามารถในการสื่อสาร 📝 วิธีสมัครสอบ อปท. 2568 🔹 สมัครผ่านทางออนไลน์ 📱 ที่เว็บไซต์: ➡️ https://dla-local2568.thaijobjob.com 📅 เปิดรับสมัครตั้งแต่ 7 - 28 มีนาคม 2568 ตลอด 24 ชั่วโมง 🗂️ เอกสารที่ต้องใช้สมัคร ✅ รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 1 นิ้ว 📸 ✅ สำเนาบัตรประชาชน 🆔 ✅ สำเนาทะเบียนบ้าน 🏠 ✅ สำเนาวุฒิการศึกษา Transcript 🎓 ✅ สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สำหรับบางตำแหน่ง ✅ เอกสารทางทหาร สด.8 หรือ สด.9 🪖 📌 อัปโหลดไฟล์ PDF เท่านั้น! ไฟล์ต้องมีขนาดไม่เกิน 1 MB 💰 ค่าธรรมเนียมการสมัครสอบ - ค่าธรรมเนียมสอบ 400 บาท - ค่าธรรมเนียมธนาคาร และค่าบริการ 30 บาท 📌 รวมทั้งสิ้น 430 บาท ไม่สามารถขอคืนเงินได้ 📍 ช่องทางชำระเงิน: - เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย 🏦 - แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ เป๋าตัง 📲 - ตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย 🛑 ชำระเงินภายในวันที่ 7 - 29 มีนาคม 2568 เท่านั้น! 📢 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบ 📆 ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภาค ก และ ข พร้อมวัน-เวลา-สถานที่สอบ ได้ที่ 📌 เว็บไซต์ https://dla-local2568.thaijobjob.com 🔑 เคล็ดลับเตรียมสอบ อปท. ให้สอบผ่าน! 🔥 ศึกษาหลักสูตรการสอบ ให้ครบถ้วน 📖 อ่านแนวข้อสอบ และทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 🔥 ฝึกทำข้อสอบเก่า 🔍 ฝึกทำข้อสอบปีที่ผ่านมา เพื่อจับแนวทางที่ออกบ่อย 🔥 ฝึกภาษาอังกฤษให้คล่อง ✅ ท่องศัพท์ ✅ ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า ✅ อ่านบทความภาษาอังกฤษ 🔥 จัดตารางอ่านหนังสือ 🗓️ แบ่งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน วันละ 2-3 ชั่วโมง 🔥 พักผ่อนให้เพียงพอ 😴 นอนให้ครบ 6-8 ชั่วโมงก่อนสอบ 🔚 📍 การสอบ อปท. 2568 เป็นโอกาสดี สำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับราชการ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อย่าพลาด! สมัครสอบได้ระหว่าง 7 - 28 มีนาคม 2568 ทางออนไลน์เท่านั้น 🚀 📌 ติดตามข่าวสาร และอัปเดตข้อมูลการสอบได้ที่ 🔗 https://dla-local2568.thaijobjob.com ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 202022 ก.พ. 2568 📢 #สอบอปท2568 #สมัครสอบราชการ #งานราชการ #สอบท้องถิ่น #เตรียมสอบอปท #DLA #สมัครสอบออนไลน์ #งานข้าราชการ #สอบราชการ2025 #สอบภาษาอังกฤษอปท
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • "นารา เครปกะเทย" ถูกศาลตัดสินจำคุก 28 ปี 7 เดือน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ กรณีฉ้อโกงกล่องสุ่มทองที่มีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ก่อนรับสารภาพเหลือ 14 ปี ปรับ 70,000 บาท

    วันนี้ (20 ก.พ.) มีรายงานว่า นารา เครปกะเทย ได้ออกมาโพสต์ข้อความก่อนที่ศาลจะมีคำตัดสินในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า

    "อีก5นาทีก่อนตัดสิน ไม่รู้ว่าวันนี้จะเป็นยังไงท่านศาลจะเมตรตาไหม สิ่งเดียวที่นารารู้ คือนาราจะสู้ให้ถึงที่สุด❤️ ตั้งแต่วันแรกออกมาจนถึงวันนี้ไม่มีวันไหนที่นาราไม่มีวันใช้หนี้เที่ยวบ้างผักผ่อนบ้างเพราะเจอการกดดันอะไรหลายอย่างแต่ไม่เคยมีโอกาสได้เล่าให้ใครฟังเจอหลายล้านพันอารมณ์นาราก็ทนทำทุกอย่างที่ได้เงินโดนดูถูก โดนด่า โดนชม ดิฉันได้รองรชชาติมาหมดแล้วงานมีบ้างไม่มีบ้างสุดท้ายเด็กคนนี้ไม่เคยท้อคิดทุกอย่างกูจะทำไงใช้หนี้หมดคิดทุกอย่างทำไงให้มีเงินจะได้ใช้ชีวิตให้สบายบ้างตื่นมาทุกครั้งไม่มีครั้งไหนที่นอนสบายใจตื่นมาคิดทุกวันวันนี้จะทำไรดีอยากกลับไปหาครอบครัวหาไปเที่ยวบ้างก็ทำไม่ได้ทำไปก็โดนด่าขอให้ผ่านไปได้นะ ถ้าผ่านไม่ได้ก็ช่างมันเจออะไรมาหมดแล้ว คงไม่แย่ไปกว่านี้แล้วละรักทุกคน ออกไปได้ฉันจะตั้งใจขายไฟเบอร์นาราให้หมดดีที่สุด รอนะคะทุกคน❤️ อย่าลืมกัน"

    ก่อนที่สุดท้ายแล้วศาลจะมีคำตัดสินว่าจำคุก นารา เครปกะเทย 28 ปี 7 เดือนปรับ 7 หมื่น ข้อหาฉ้อโกงประชาชน-พรบ.คอมพ์

    อย่างไรก็ตาม หลังมีคำตัดสินออกมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับนาราออกมาโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า

    “ขอให้นาราประกันอุทธรณ์ออกมาได้ด้วยเถอะ ศาลตัดสินมา 28 ปี 7 เดือน รับสารภาพเหลือ 14 ปี ปรับ 70,000 บาท”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000017029

    #MGROnline #นาราเครปกะเทย
    "นารา เครปกะเทย" ถูกศาลตัดสินจำคุก 28 ปี 7 เดือน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ กรณีฉ้อโกงกล่องสุ่มทองที่มีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ก่อนรับสารภาพเหลือ 14 ปี ปรับ 70,000 บาท • วันนี้ (20 ก.พ.) มีรายงานว่า นารา เครปกะเทย ได้ออกมาโพสต์ข้อความก่อนที่ศาลจะมีคำตัดสินในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า • "อีก5นาทีก่อนตัดสิน ไม่รู้ว่าวันนี้จะเป็นยังไงท่านศาลจะเมตรตาไหม สิ่งเดียวที่นารารู้ คือนาราจะสู้ให้ถึงที่สุด❤️ ตั้งแต่วันแรกออกมาจนถึงวันนี้ไม่มีวันไหนที่นาราไม่มีวันใช้หนี้เที่ยวบ้างผักผ่อนบ้างเพราะเจอการกดดันอะไรหลายอย่างแต่ไม่เคยมีโอกาสได้เล่าให้ใครฟังเจอหลายล้านพันอารมณ์นาราก็ทนทำทุกอย่างที่ได้เงินโดนดูถูก โดนด่า โดนชม ดิฉันได้รองรชชาติมาหมดแล้วงานมีบ้างไม่มีบ้างสุดท้ายเด็กคนนี้ไม่เคยท้อคิดทุกอย่างกูจะทำไงใช้หนี้หมดคิดทุกอย่างทำไงให้มีเงินจะได้ใช้ชีวิตให้สบายบ้างตื่นมาทุกครั้งไม่มีครั้งไหนที่นอนสบายใจตื่นมาคิดทุกวันวันนี้จะทำไรดีอยากกลับไปหาครอบครัวหาไปเที่ยวบ้างก็ทำไม่ได้ทำไปก็โดนด่าขอให้ผ่านไปได้นะ ถ้าผ่านไม่ได้ก็ช่างมันเจออะไรมาหมดแล้ว คงไม่แย่ไปกว่านี้แล้วละรักทุกคน ออกไปได้ฉันจะตั้งใจขายไฟเบอร์นาราให้หมดดีที่สุด รอนะคะทุกคน❤️ อย่าลืมกัน" • ก่อนที่สุดท้ายแล้วศาลจะมีคำตัดสินว่าจำคุก นารา เครปกะเทย 28 ปี 7 เดือนปรับ 7 หมื่น ข้อหาฉ้อโกงประชาชน-พรบ.คอมพ์ • อย่างไรก็ตาม หลังมีคำตัดสินออกมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับนาราออกมาโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า • “ขอให้นาราประกันอุทธรณ์ออกมาได้ด้วยเถอะ ศาลตัดสินมา 28 ปี 7 เดือน รับสารภาพเหลือ 14 ปี ปรับ 70,000 บาท” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000017029 • #MGROnline #นาราเครปกะเทย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • "นารา เครปกะเทย" ถูกศาลตัดสินจำคุก 28 ปี 7 เดือน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ กรณีฉ้อโกงกล่องสุ่มทองที่มีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ก่อนรับสารภาพเหลือ 14 ปี ปรับ 70,000 บาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017029

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "นารา เครปกะเทย" ถูกศาลตัดสินจำคุก 28 ปี 7 เดือน ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฉ้อโกงประชาชนฯ กรณีฉ้อโกงกล่องสุ่มทองที่มีประชาชนตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก ก่อนรับสารภาพเหลือ 14 ปี ปรับ 70,000 บาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017029 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 787 Views 0 Reviews
  • ตร.มักกะสัน บุกทลายแก๊งจีนเทา เช่าโรงแรมหรูเปิดเว็บพนัน แจ้งข้อหาหนัก 14 ผู้ต้องหา
    https://www.thai-tai.tv/news/17236/
    ตร.มักกะสัน บุกทลายแก๊งจีนเทา เช่าโรงแรมหรูเปิดเว็บพนัน แจ้งข้อหาหนัก 14 ผู้ต้องหา https://www.thai-tai.tv/news/17236/
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • 'ผู้ต้องหาหลบหนีคดี' เดือด! ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาคดี 112 จำคุกอดีตแนวร่วมฯขนสมุดปกแดง
    https://www.thai-tai.tv/news/17195/
    'ผู้ต้องหาหลบหนีคดี' เดือด! ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษาคดี 112 จำคุกอดีตแนวร่วมฯขนสมุดปกแดง https://www.thai-tai.tv/news/17195/
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • ชายชาวอิสราเอลรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าหลังจากยิงนักท่องเที่ยว 2 ราย ซึ่งเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน โดยเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์

    มอร์เดไค บราฟแมน (Mordechai Brafman) ผู้ต้องหาชาวอิสราเอล วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่นักท่องเที่ยวพ่อลูกชาวอิสราเอล 2 ราย รวม 17 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์

    บราฟแมน เป็นหนึ่งในอิสราเอลหัวรุนแรงที่อาศัยอยู่ในไมอามีบีช ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “เขาสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คน”

    เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า จากกล้องวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ เผยให้เห็นภาพรถของบราฟแมนที่กำลังวิ่งอยู่ และจอดตรงหน้ารถของเหยื่อ จากนั้นบราฟแมนก็เดินออกมาจากรถ ยืนอยู่ใกล้ฝั่งคนขับ และเริ่มยิงไปที่รถของเหยื่อทันทีในขณะที่เหยื่อทั้งสองยังอยู่ในรถ

    จากรายงานของสื่อระบุว่า บราฟแมนไม่ได้เตรียมตัวในการก่อเหตุมาก่อนล่วงหน้า เขาเห็นคนขับซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวปาเลสไตน์สองคนจึงขับรถตามและยิงใส่ทันที และคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว

    แต่สิ่งที่น่าตลกคือ เหยื่อที่ถูกยิงในครั้งนี้ โพสต์ข้อความว่าเขาถูกทำร้ายจากกลุ่มผู้ต้อต้านชาวยิว และลงท้ายด้วยการโทษชาวอาหรับ แต่เมื่อเขารู้ความจริงว่าเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน เหยื่อรายนี้ก็ลบโพสต์ทิ้งไป

    เหตุการณ์ครั้งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงผลจากการป้อนข้อมูลความเกลียดชังและการปลูกฝังลัทธิต่อต้านชาวปาเลสไตน์ที่ฝังรากลึกในอิสราเอลและชุมชนที่สนับสนุนอิสราเอลในสหรัฐฯ
    ชายชาวอิสราเอลรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าหลังจากยิงนักท่องเที่ยว 2 ราย ซึ่งเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน โดยเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์ มอร์เดไค บราฟแมน (Mordechai Brafman) ผู้ต้องหาชาวอิสราเอล วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่นักท่องเที่ยวพ่อลูกชาวอิสราเอล 2 ราย รวม 17 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์ บราฟแมน เป็นหนึ่งในอิสราเอลหัวรุนแรงที่อาศัยอยู่ในไมอามีบีช ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “เขาสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คน” เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า จากกล้องวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ เผยให้เห็นภาพรถของบราฟแมนที่กำลังวิ่งอยู่ และจอดตรงหน้ารถของเหยื่อ จากนั้นบราฟแมนก็เดินออกมาจากรถ ยืนอยู่ใกล้ฝั่งคนขับ และเริ่มยิงไปที่รถของเหยื่อทันทีในขณะที่เหยื่อทั้งสองยังอยู่ในรถ จากรายงานของสื่อระบุว่า บราฟแมนไม่ได้เตรียมตัวในการก่อเหตุมาก่อนล่วงหน้า เขาเห็นคนขับซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวปาเลสไตน์สองคนจึงขับรถตามและยิงใส่ทันที และคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว แต่สิ่งที่น่าตลกคือ เหยื่อที่ถูกยิงในครั้งนี้ โพสต์ข้อความว่าเขาถูกทำร้ายจากกลุ่มผู้ต้อต้านชาวยิว และลงท้ายด้วยการโทษชาวอาหรับ แต่เมื่อเขารู้ความจริงว่าเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน เหยื่อรายนี้ก็ลบโพสต์ทิ้งไป เหตุการณ์ครั้งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงผลจากการป้อนข้อมูลความเกลียดชังและการปลูกฝังลัทธิต่อต้านชาวปาเลสไตน์ที่ฝังรากลึกในอิสราเอลและชุมชนที่สนับสนุนอิสราเอลในสหรัฐฯ
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • กำแพงเพชร - ตำรวจเรียก “โน๊ต” ผู้ต้องหายิง 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุงสอบอีก ด้านญาติผู้ตายคาใจ ถ้าแค่เรื่องเงินทำไมต้องยิง ขึ้นโรงพักขอคุยแบบลูกผู้ชาย

    วันนี้(16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.คลองขลุง นำตัว “โน๊ต-ศิวกร” ผู้ต้องหามือยิง 3 พาอแม่ลูก หมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างริมถนนคลองขลุง มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีภรรยาพร้อมทนายร่วมฟัง

    ทั้งนี้พบว่า “โน๊ต”มีสีหน้าเรียบเฉยไม่เหมือนเช่นเคย และระหว่างสอบสวนอยู่นั้นได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเรื่องคาใจในหลายประเด็น

    ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายสุพัฒน์ สุบิน ลูกพี่ลูกน้องของนายใหม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติยังสงสัยในประเด็นต่างๆหหลายประเด็น โดยเฉพาะเส้นทางที่ไปกันนั้น ไปกับใคร ไปด้วยกันได้อย่างไร ทำไมถึงต้องยิงกัน ทรัพย์สินมีอะไรบ้างจริงๆแล้วมีเท่าไหร่ รวมทั้งอาวุธปืนเอาไปไว้ไหน อยากให้พูดมาให้หมดมันจะได้ง่ายต่อคดี

    และตนยังมองว่าจากคำให้การเรื่องนี้มันแปลก ที่อยู่ๆ จะชวนกันไปกลางทุ่งนา เรื่องเงินคุยที่ไหนก็คุยได้ที่บ้านก็คุยได้ ทำไมต้องไปยังจุดนั้น

    อีกทั้งยังมองว่าคนที่ลงมือฆ่าเป็นทั้งสองคนอยู่แล้ว คนเดียวทำไม่ได้ เพราะอีกคนจะให้เขาชวนไปได้ยังไง วันนี้พร้อมที่จะคุยกันตรงๆ แบบลูกผู้ชาย

    #MGROnline #กำแพงเพชร #โน๊ต #ผู้ต้องหา #บ้านร้างคลองขลุง
    กำแพงเพชร - ตำรวจเรียก “โน๊ต” ผู้ต้องหายิง 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุงสอบอีก ด้านญาติผู้ตายคาใจ ถ้าแค่เรื่องเงินทำไมต้องยิง ขึ้นโรงพักขอคุยแบบลูกผู้ชาย • วันนี้(16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.คลองขลุง นำตัว “โน๊ต-ศิวกร” ผู้ต้องหามือยิง 3 พาอแม่ลูก หมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างริมถนนคลองขลุง มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีภรรยาพร้อมทนายร่วมฟัง • ทั้งนี้พบว่า “โน๊ต”มีสีหน้าเรียบเฉยไม่เหมือนเช่นเคย และระหว่างสอบสวนอยู่นั้นได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเรื่องคาใจในหลายประเด็น • ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายสุพัฒน์ สุบิน ลูกพี่ลูกน้องของนายใหม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติยังสงสัยในประเด็นต่างๆหหลายประเด็น โดยเฉพาะเส้นทางที่ไปกันนั้น ไปกับใคร ไปด้วยกันได้อย่างไร ทำไมถึงต้องยิงกัน ทรัพย์สินมีอะไรบ้างจริงๆแล้วมีเท่าไหร่ รวมทั้งอาวุธปืนเอาไปไว้ไหน อยากให้พูดมาให้หมดมันจะได้ง่ายต่อคดี • และตนยังมองว่าจากคำให้การเรื่องนี้มันแปลก ที่อยู่ๆ จะชวนกันไปกลางทุ่งนา เรื่องเงินคุยที่ไหนก็คุยได้ที่บ้านก็คุยได้ ทำไมต้องไปยังจุดนั้น • อีกทั้งยังมองว่าคนที่ลงมือฆ่าเป็นทั้งสองคนอยู่แล้ว คนเดียวทำไม่ได้ เพราะอีกคนจะให้เขาชวนไปได้ยังไง วันนี้พร้อมที่จะคุยกันตรงๆ แบบลูกผู้ชาย • #MGROnline #กำแพงเพชร #โน๊ต #ผู้ต้องหา #บ้านร้างคลองขลุง
    0 Comments 0 Shares 188 Views 0 Reviews
  • กำแพงเพชร – ตำรวจแจงละเอียดยิบพฤติกรรมโหด “โน๊ต”มือฆ่าพ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุง นัดเคลียร์ขอกู้เงินแล้วโดนเบี้ยว จนทะเลาะกันแรง-ใช้บีบีกันดัดแปลง .38 ยิงพ่อก่อนเรียก “เข้” ช่วยยกศพขึ้นรถ จี้บังคับสองแม่ลูกนั่งกระบะไปด้วย อ้างระหว่างทางปืนลั่นทะลุเบ้าตาเด็ก-เลือดขึ้นหน้ายิงแม่ปิดปาก ก่อนขับรถหมกศพทิ้งบ้านร้าง-ให้ญาติมาพาหนี แต่ยังหาผ้าคลุมรถย้อนมาอำพราง-ตามดูวันพบศพ

    วันนี้(15 ก.พ.) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมพ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก.สภ.คลองขลุง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อกองทัพสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวฆ่าโหด 3 พ่อแม่ลูก คือ นายวงศกร (ใหม่) หงสไกร อายุ 37 ปี ,น.ส.นันทกานต์ (แจง) นาซึ อายุ 35 ปี ,ด.ช.นัทกร หงสไกร อายุ 7 ปี (น้องซันเดย์) ที่หายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค. หมกศพในรถกระบะ จอดอยู่ภายในบ้านร้างริมถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังพบศพวันที่ 13 ก.พ. ตำรวจใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ตามจับผู้ต้องหาได้

    สำหรับมูลเหตุการฆ่าอำพรางศพ 3พ่อแม่ลูก นายโน๊ต (ผู้ต้องหา)รับว่าเกิดจากนายวงศกร หรือใหม่ ผู้ตายเคยตกลงยินยอม จะให้นายศิวกรกู้เงินจำนวน 1 แสนบาท เพื่อที่จะนำเงินจำนวนดังกล่าว ไปซื้อโดรนการเกษตร เนื่องจากนายโน๊ต มีอาชีพ ขับโดรนการเกษตร ซึ่งนายโน๊ตนำโดรนเก่าไปตีเทิรน์กับทางร้าน พร้อมวางมัดจำ 7 หมื่นบาท - ทำสัญญาจะหาเงินที่เหลืออีก 1 แสน 5 หมื่นบาทมาซื้อคืน ต่อมานายวงศกร เปลี่ยนใจไม่ให้กู้ยืม ทำให้นายศิวกรเกิดความเสียหาย จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว ส่วนประเด็นในวงเเชร์เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่าไม่มีมูลเหตุเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

    ไทมไลน์นั้น วันเกิดเหตุ จากคำให้การของ นายโน๊ต (ผู้ต้องหา) ได้นัดผู้ตายไปเคลียร์เรื่องเงิน โดยให้ผู้ตายไปรับที่บ้าน แล้วนั่งรถไปด้วยกัน ซึ่งมีการขับรถไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง เพื่อไปจอดรถคุยกัน จากนั้นลงไปเคลียร์นอกรถจนมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายโน๊ตจะยิงไปที่นายใหม่ 1 นัด โดยอ้างว่าใช้ปืนที่เคยไปจำนำกับนายใหม่ มาก่อเหตุ

    ก่อนจะโทรหานายเข้ หรือนายนิรุธ มาช่วยเหลือยกร่างนายใหม่ หรือนายวงศกรมาไว้ที่หลังรถ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000015247

    #MGROnline #กู้เงิน #บีบีกันดัดแปลง
    กำแพงเพชร – ตำรวจแจงละเอียดยิบพฤติกรรมโหด “โน๊ต”มือฆ่าพ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุง นัดเคลียร์ขอกู้เงินแล้วโดนเบี้ยว จนทะเลาะกันแรง-ใช้บีบีกันดัดแปลง .38 ยิงพ่อก่อนเรียก “เข้” ช่วยยกศพขึ้นรถ จี้บังคับสองแม่ลูกนั่งกระบะไปด้วย อ้างระหว่างทางปืนลั่นทะลุเบ้าตาเด็ก-เลือดขึ้นหน้ายิงแม่ปิดปาก ก่อนขับรถหมกศพทิ้งบ้านร้าง-ให้ญาติมาพาหนี แต่ยังหาผ้าคลุมรถย้อนมาอำพราง-ตามดูวันพบศพ • วันนี้(15 ก.พ.) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมพ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก.สภ.คลองขลุง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อกองทัพสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวฆ่าโหด 3 พ่อแม่ลูก คือ นายวงศกร (ใหม่) หงสไกร อายุ 37 ปี ,น.ส.นันทกานต์ (แจง) นาซึ อายุ 35 ปี ,ด.ช.นัทกร หงสไกร อายุ 7 ปี (น้องซันเดย์) ที่หายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค. หมกศพในรถกระบะ จอดอยู่ภายในบ้านร้างริมถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังพบศพวันที่ 13 ก.พ. ตำรวจใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ตามจับผู้ต้องหาได้ • สำหรับมูลเหตุการฆ่าอำพรางศพ 3พ่อแม่ลูก นายโน๊ต (ผู้ต้องหา)รับว่าเกิดจากนายวงศกร หรือใหม่ ผู้ตายเคยตกลงยินยอม จะให้นายศิวกรกู้เงินจำนวน 1 แสนบาท เพื่อที่จะนำเงินจำนวนดังกล่าว ไปซื้อโดรนการเกษตร เนื่องจากนายโน๊ต มีอาชีพ ขับโดรนการเกษตร ซึ่งนายโน๊ตนำโดรนเก่าไปตีเทิรน์กับทางร้าน พร้อมวางมัดจำ 7 หมื่นบาท - ทำสัญญาจะหาเงินที่เหลืออีก 1 แสน 5 หมื่นบาทมาซื้อคืน ต่อมานายวงศกร เปลี่ยนใจไม่ให้กู้ยืม ทำให้นายศิวกรเกิดความเสียหาย จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว ส่วนประเด็นในวงเเชร์เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่าไม่มีมูลเหตุเกี่ยวข้องแต่อย่างใด • ไทมไลน์นั้น วันเกิดเหตุ จากคำให้การของ นายโน๊ต (ผู้ต้องหา) ได้นัดผู้ตายไปเคลียร์เรื่องเงิน โดยให้ผู้ตายไปรับที่บ้าน แล้วนั่งรถไปด้วยกัน ซึ่งมีการขับรถไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง เพื่อไปจอดรถคุยกัน จากนั้นลงไปเคลียร์นอกรถจนมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายโน๊ตจะยิงไปที่นายใหม่ 1 นัด โดยอ้างว่าใช้ปืนที่เคยไปจำนำกับนายใหม่ มาก่อเหตุ • ก่อนจะโทรหานายเข้ หรือนายนิรุธ มาช่วยเหลือยกร่างนายใหม่ หรือนายวงศกรมาไว้ที่หลังรถ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000015247 • #MGROnline #กู้เงิน #บีบีกันดัดแปลง
    0 Comments 0 Shares 294 Views 0 Reviews
  • สตม.คุมตัว 10 ผู้ต้องหาชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์เมียวดี ก่อเหตุลวง "ซิงซิง" ข้ามแดน ส่งตัวให้ตำรวจจีนดำเนินคดี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015026

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สตม.คุมตัว 10 ผู้ต้องหาชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์เมียวดี ก่อเหตุลวง "ซิงซิง" ข้ามแดน ส่งตัวให้ตำรวจจีนดำเนินคดี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015026 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    16
    0 Comments 0 Shares 1107 Views 0 Reviews
  • โฆษกอัยการเผย อัยการคดีพิเศษยื่นฟ้อง "ลูก-เมีย"หมอบุญ กับพวก รวม13 คน เฉ้อโกงประชาชนเสียหายกว่า 1.6 หมื่นล้าน กำชับดีเอสไอ ตามตัว"หมอบุญ"กับพวกเอาตัวมาฟ้องภายในอายุความ 15 ปี

    วันนี้(14 ก.พ.) นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ คดีระหว่าง นางสาวอรเกศ ปัญญาเนตินาถ กับพวก ผู้กล่าวหา นายบุญ วนาสิน กับพวกรวม 16 คน ผู้ต้องหา ฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” เหตุเกิดเมื่อประมาณปี 2553 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ถึงวันที่ 15 ธ.ค. 2567 ต่างกรรมต่างวาระกัน ในท้องที่แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง, แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 16,100,602,806 บาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000014862

    #MGROnline #หมอบุญ #อัยการ #ฉ้อโกง
    โฆษกอัยการเผย อัยการคดีพิเศษยื่นฟ้อง "ลูก-เมีย"หมอบุญ กับพวก รวม13 คน เฉ้อโกงประชาชนเสียหายกว่า 1.6 หมื่นล้าน กำชับดีเอสไอ ตามตัว"หมอบุญ"กับพวกเอาตัวมาฟ้องภายในอายุความ 15 ปี • วันนี้(14 ก.พ.) นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ คดีระหว่าง นางสาวอรเกศ ปัญญาเนตินาถ กับพวก ผู้กล่าวหา นายบุญ วนาสิน กับพวกรวม 16 คน ผู้ต้องหา ฐาน “ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” เหตุเกิดเมื่อประมาณปี 2553 วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ถึงวันที่ 15 ธ.ค. 2567 ต่างกรรมต่างวาระกัน ในท้องที่แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง, แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และหลายท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเกี่ยวพันกัน คิดเป็นค่าเสียหายประมาณ 16,100,602,806 บาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000014862 • #MGROnline #หมอบุญ #อัยการ #ฉ้อโกง
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • ศาลสั่งขังยกแก๊ง ขบวนการสาดน้ำซุป อว.ล้างมาเฟียมหาลัย
    .
    ความคืบหน้ากรณีอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังสาดน้ำร้อนใส่ผู้เสียหายนั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินขยายผลต่อเนื่อง ภายหลังตำรวจ สภ.คลอง จ.ปทุมธานี สามารถจับกุมตัว นายรษิภา หรือ เจ๊พรีม อายุ 22 ปี และ นายชคัทพล หรือ โอชิ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา 1.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 2 ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ 3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือกระทำด้วยประการใดๆ ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ 4.ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย
    .
    ทั้งนี้ ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุได้อีกรวมทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย นาย ดลลธี หรือ พอล อายุ 21 ปี น.ส.วรัญญา หรือ แบม อายุ 21 น.ส.กันยาพัชร หรือ พิมเจล อายุ 21 ปี นักแสดงซีรี่ย์ น.ส.อุ้มบุญ หรือ อุ้มบุญ อายุ 21 ปี นาย นพคุณ หรือ เจ๊จั๊ก อายุ 21 ปี นาย ภราดร หรือ ไอซ์ อายุ 21 ปี พร้อมนำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดธัญบุรี โดยศาลจังหวัดธัญบุรี ไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน
    .
    ด้าน น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. ร่วมหารือแนวทางการดูแลป้องกันความปลอดภัยในสถาบันอุดมศึกษา กับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ที่เดินทางมาพร้อมกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่เป็นผู้เสียหาย จากกรณีโดนรุ่นพี่ LGBTQ มหาวิทยาลัยเดียวกันทำร้ายและข่มขู่
    .
    น.ส.ศุภมาส ได้พูดคุยสอบถามและให้กำลังใจผู้เสียหาย พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นกรณีศึกษาว่ามีกลุ่มมาเฟียในมหาวิทยาลัย หลังจากเกิดเรื่องทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดโดยให้พ้นสภาพนักศึกษาทันที พร้อมเข้าไปดูแลผู้เสียหายให้ได้รับความเป็นธรรม แสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา ทำให้เห็นว่าคนทำผิดต้องได้รับโทษ และทุกภาคส่วนพร้อมอ้าแขนปกป้องน้องๆ ให้กลับเข้าไปเรียนได้อย่างมีความสุข
    .
    “ขณะนี้ยังดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าคนที่ทำผิดกฎมหาวิทยาลัยต้องโดนไล่ออก คนที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย สถานศึกษาต้องเป็นที่ที่ปลอดภัย ต้องไม่มีมาเฟียหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย เรามี พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่เอาไว้กำกับดูแลมหาวิทยาลัยเอกชน”
    .
    น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า ถ้ามหาวิทยาลัยทำผิดเราสามารถเข้าไปควบคุมหรือปิดมหาวิทยาลัยได้ ถ้ามหาวิทยาลัยนั้นๆ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งเราเคยทำมาแล้ว จากนี้กระทรวง อว. จะกำชับไปยังทุกมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ต้องไม่ปล่อยผ่าน หน้าที่ของเราคือต้องดูแลนักศึกษาให้เรียนได้อย่างมีความสุข และต้องรู้สึกปลอดภัย
    .............
    Sondhi X
    ศาลสั่งขังยกแก๊ง ขบวนการสาดน้ำซุป อว.ล้างมาเฟียมหาลัย . ความคืบหน้ากรณีอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังสาดน้ำร้อนใส่ผู้เสียหายนั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินขยายผลต่อเนื่อง ภายหลังตำรวจ สภ.คลอง จ.ปทุมธานี สามารถจับกุมตัว นายรษิภา หรือ เจ๊พรีม อายุ 22 ปี และ นายชคัทพล หรือ โอชิ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา 1.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 2 ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ 3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือกระทำด้วยประการใดๆ ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ 4.ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย . ทั้งนี้ ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุได้อีกรวมทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย นาย ดลลธี หรือ พอล อายุ 21 ปี น.ส.วรัญญา หรือ แบม อายุ 21 น.ส.กันยาพัชร หรือ พิมเจล อายุ 21 ปี นักแสดงซีรี่ย์ น.ส.อุ้มบุญ หรือ อุ้มบุญ อายุ 21 ปี นาย นพคุณ หรือ เจ๊จั๊ก อายุ 21 ปี นาย ภราดร หรือ ไอซ์ อายุ 21 ปี พร้อมนำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดธัญบุรี โดยศาลจังหวัดธัญบุรี ไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน . ด้าน น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. ร่วมหารือแนวทางการดูแลป้องกันความปลอดภัยในสถาบันอุดมศึกษา กับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ที่เดินทางมาพร้อมกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่เป็นผู้เสียหาย จากกรณีโดนรุ่นพี่ LGBTQ มหาวิทยาลัยเดียวกันทำร้ายและข่มขู่ . น.ส.ศุภมาส ได้พูดคุยสอบถามและให้กำลังใจผู้เสียหาย พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นกรณีศึกษาว่ามีกลุ่มมาเฟียในมหาวิทยาลัย หลังจากเกิดเรื่องทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดโดยให้พ้นสภาพนักศึกษาทันที พร้อมเข้าไปดูแลผู้เสียหายให้ได้รับความเป็นธรรม แสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา ทำให้เห็นว่าคนทำผิดต้องได้รับโทษ และทุกภาคส่วนพร้อมอ้าแขนปกป้องน้องๆ ให้กลับเข้าไปเรียนได้อย่างมีความสุข . “ขณะนี้ยังดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าคนที่ทำผิดกฎมหาวิทยาลัยต้องโดนไล่ออก คนที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย สถานศึกษาต้องเป็นที่ที่ปลอดภัย ต้องไม่มีมาเฟียหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย เรามี พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่เอาไว้กำกับดูแลมหาวิทยาลัยเอกชน” . น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า ถ้ามหาวิทยาลัยทำผิดเราสามารถเข้าไปควบคุมหรือปิดมหาวิทยาลัยได้ ถ้ามหาวิทยาลัยนั้นๆ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งเราเคยทำมาแล้ว จากนี้กระทรวง อว. จะกำชับไปยังทุกมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ต้องไม่ปล่อยผ่าน หน้าที่ของเราคือต้องดูแลนักศึกษาให้เรียนได้อย่างมีความสุข และต้องรู้สึกปลอดภัย ............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    15
    0 Comments 0 Shares 1989 Views 0 Reviews
  • 11 กุมภาพันธ์ 2568-รายงานข่าวnews.ch7.com ระบุว่าชูวิทย์ฝากข้อความวิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาดในคดี ยกฟ้องตู้ห่าวภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องตู้ห่าว วันนี้ (11 ก.พ.68) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซึ่งเคยมีบทบาทแฉขบวนการกลุ่มทุนจีนเทา ฝากข้อความวิเคราะห์ ประเด็นศาลฯ ยกฟ้องคดีตู้ห่าว โดยระบุถึง 8 ประเด็น ความผิดพลาดของคดีตู้ห่าว ดังนี้1.การวางแผนจับกุมที่ผิดพลาดตั้งแต่แรก ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจนปล่อยผู้ต้องหาไปโดยไม่รู้ตัว ไม่มีการสอดแนม เก็บข้อมูลจำนวนคน จำนวนพนักงาน จนมีการปล่อยผู้ต้องหาไปจำนวนมาก ซ้ำยังปล่อยนักท่องเที่ยวจีนที่ฉี่ไม่ม่วงออกไปตามหากุญแจรถแล้วขับรถหนีไป เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จีนเทาขนของหนี แถมมีเวลาซ่อนยา และที่สำคัญจับตัวการสำคัญไม่ได้ ปล่อยหนีหายไป ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ2.เก็บหลักฐานแบบขยัก เว้นวรรค ไม่ครบถ้วน ที่เกิดเหตุมี 3 อาคาร คือ อาคารจินหลิง อาคารลีลา อาคารวิบวับคาร์วอช วันแรก 26 ตุลาคม 2565 ค้นแค่อาคารจินหลิง พบยาเสพติด 4 กิโลกรัม เว้นวรรคไปอีก 5 วัน เพิ่งไปค้นอาคารวิบวับฯ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 พบยาเสพติดเกือบ 1 กิโลกรัม แต่ไปบันทึกเลขคดีในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 บอกว่าไม่พบผู้กระทำความผิด ทั้งที่ความเป็นจริงพบ นายเหมา หยาง ในกล้องวงจรปิด และความจริงอาจมียาเสพติดมากกว่านั้นเพราะเป็นโกดังขนาดใหญ่ แต่ขนหนีออกไปได้วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการ ป.ป.ส. ไปตรวจที่เกิดเหตุเพิ่มเติมยังพบของกลาง ถาดไม้ หลอดดูด ที่ปั่นจมูก ชิป อุปกรณ์เล่นการพนัน และพบรถของกลางอีก 11 คัน ยังไม่ได้ตรวจค้น แถมยังตรวจค้นรถตู้ของหลานชายตู้ห่าว ทะเบียน 8กภ 1234 กรุงเทพมหานคร ในที่เกิดเหตุ พบอุปกรณ์เสพยาในรถ3.การปล่อยรถของกลาง และผู้ต้องหารายสำคัญ ปล่อยหลานชายตู้ห่าว หวัง เจิ้น หนาน ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะรถตู้อัลพาร์ดยังอยู่ อีกทั้งยังปล่อยผู้ต้องหากลางทาง นายหวัง เทียนฮุย ไปด้วย และมีการปล่อยรถของ เดวิด ฮอลล์ เบนซ์ S Class สีดำ รวมแล้วปล่อยรถของกลางไป 4 คัน4. ผู้ทำสำนวนเป็นหัวหน้าของตำรวจที่ปล่อยรถคืนให้กับผู้ต้องหา5. การตัดต่อกล้องวงจรปิด เซิร์ฟเวอร์มี 4 ตัว ในผับจินหลิง อาคารวิบวับฯ 2 ตัว จำนวนกล้อง 40 กล้อง และอาคารลีลา เซิร์ฟเวอร์ 2 ตัว จำนวนกล้อง 68 กล้อง แต่ส่งกล้องให้พิสูจน์หลักฐานแค่ 1 เซิร์ฟเวอร์ โดยส่งให้พิสูจน์แค่วันที่ 21-26 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้เพื่อปิดบังบ่อนในอาคารลีลา และปิดบังไม่ให้เห็นตู้ห่าวกับหลาน6.ออกหมายจับตู้ห่าวล่าช้า บุกจับจินหลิงวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ออกหมายจับ 22 พฤศจิกายน 25657. แจ้งข้อหาฟอกเงินตู้ห่าวล่าช้า ตู้ห่าวโดนข้อหายาเสพติดร้ายแรง และข้อหายาเสพติดเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน แต่ไม่ยอมตั้งข้อหาตั้งแต่แรก เหมือนจงใจให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน จนเจอเงินในบัญชีตู้ห่าวแค่ 1 แสน จนกระทั่ง 24 ธันวาคม 2565 แจ้งข้อหาฟอกเงินกับคนสนิทตู้ห่าว แต่ยังไม่แจ้งฟอกเงินกับตู้ห่าว โดยมาแจ้งในภายหลัง8. ท้ายสุดเจ้าของสำนวนทำผิดพลาดจน ผบ.ตร. และอัยการสูงสุด ต้องมาทำคดีเอง แต่หลักฐานต่าง ๆ ได้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมากแล้วที่มา : https://news.ch7.com/detail/784300?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR32maa_Iu_r1eyqvV_J-LQX_6R96iKqYEYZtHTZwPyCzYcgV4vyC3lf-j0_aem_Wbsu5wDoZFo1T6XSFm1RjA#m70f2wjiy1oxa38wwc
    11 กุมภาพันธ์ 2568-รายงานข่าวnews.ch7.com ระบุว่าชูวิทย์ฝากข้อความวิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาดในคดี ยกฟ้องตู้ห่าวภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องตู้ห่าว วันนี้ (11 ก.พ.68) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ซึ่งเคยมีบทบาทแฉขบวนการกลุ่มทุนจีนเทา ฝากข้อความวิเคราะห์ ประเด็นศาลฯ ยกฟ้องคดีตู้ห่าว โดยระบุถึง 8 ประเด็น ความผิดพลาดของคดีตู้ห่าว ดังนี้1.การวางแผนจับกุมที่ผิดพลาดตั้งแต่แรก ด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจนปล่อยผู้ต้องหาไปโดยไม่รู้ตัว ไม่มีการสอดแนม เก็บข้อมูลจำนวนคน จำนวนพนักงาน จนมีการปล่อยผู้ต้องหาไปจำนวนมาก ซ้ำยังปล่อยนักท่องเที่ยวจีนที่ฉี่ไม่ม่วงออกไปตามหากุญแจรถแล้วขับรถหนีไป เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ จีนเทาขนของหนี แถมมีเวลาซ่อนยา และที่สำคัญจับตัวการสำคัญไม่ได้ ปล่อยหนีหายไป ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ2.เก็บหลักฐานแบบขยัก เว้นวรรค ไม่ครบถ้วน ที่เกิดเหตุมี 3 อาคาร คือ อาคารจินหลิง อาคารลีลา อาคารวิบวับคาร์วอช วันแรก 26 ตุลาคม 2565 ค้นแค่อาคารจินหลิง พบยาเสพติด 4 กิโลกรัม เว้นวรรคไปอีก 5 วัน เพิ่งไปค้นอาคารวิบวับฯ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 พบยาเสพติดเกือบ 1 กิโลกรัม แต่ไปบันทึกเลขคดีในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 บอกว่าไม่พบผู้กระทำความผิด ทั้งที่ความเป็นจริงพบ นายเหมา หยาง ในกล้องวงจรปิด และความจริงอาจมียาเสพติดมากกว่านั้นเพราะเป็นโกดังขนาดใหญ่ แต่ขนหนีออกไปได้วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อัยการ ป.ป.ส. ไปตรวจที่เกิดเหตุเพิ่มเติมยังพบของกลาง ถาดไม้ หลอดดูด ที่ปั่นจมูก ชิป อุปกรณ์เล่นการพนัน และพบรถของกลางอีก 11 คัน ยังไม่ได้ตรวจค้น แถมยังตรวจค้นรถตู้ของหลานชายตู้ห่าว ทะเบียน 8กภ 1234 กรุงเทพมหานคร ในที่เกิดเหตุ พบอุปกรณ์เสพยาในรถ3.การปล่อยรถของกลาง และผู้ต้องหารายสำคัญ ปล่อยหลานชายตู้ห่าว หวัง เจิ้น หนาน ทั้งที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพราะรถตู้อัลพาร์ดยังอยู่ อีกทั้งยังปล่อยผู้ต้องหากลางทาง นายหวัง เทียนฮุย ไปด้วย และมีการปล่อยรถของ เดวิด ฮอลล์ เบนซ์ S Class สีดำ รวมแล้วปล่อยรถของกลางไป 4 คัน4. ผู้ทำสำนวนเป็นหัวหน้าของตำรวจที่ปล่อยรถคืนให้กับผู้ต้องหา5. การตัดต่อกล้องวงจรปิด เซิร์ฟเวอร์มี 4 ตัว ในผับจินหลิง อาคารวิบวับฯ 2 ตัว จำนวนกล้อง 40 กล้อง และอาคารลีลา เซิร์ฟเวอร์ 2 ตัว จำนวนกล้อง 68 กล้อง แต่ส่งกล้องให้พิสูจน์หลักฐานแค่ 1 เซิร์ฟเวอร์ โดยส่งให้พิสูจน์แค่วันที่ 21-26 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้เพื่อปิดบังบ่อนในอาคารลีลา และปิดบังไม่ให้เห็นตู้ห่าวกับหลาน6.ออกหมายจับตู้ห่าวล่าช้า บุกจับจินหลิงวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ออกหมายจับ 22 พฤศจิกายน 25657. แจ้งข้อหาฟอกเงินตู้ห่าวล่าช้า ตู้ห่าวโดนข้อหายาเสพติดร้ายแรง และข้อหายาเสพติดเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน แต่ไม่ยอมตั้งข้อหาตั้งแต่แรก เหมือนจงใจให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน จนเจอเงินในบัญชีตู้ห่าวแค่ 1 แสน จนกระทั่ง 24 ธันวาคม 2565 แจ้งข้อหาฟอกเงินกับคนสนิทตู้ห่าว แต่ยังไม่แจ้งฟอกเงินกับตู้ห่าว โดยมาแจ้งในภายหลัง8. ท้ายสุดเจ้าของสำนวนทำผิดพลาดจน ผบ.ตร. และอัยการสูงสุด ต้องมาทำคดีเอง แต่หลักฐานต่าง ๆ ได้ถูกทำลายไปเป็นจำนวนมากแล้วที่มา : https://news.ch7.com/detail/784300?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR32maa_Iu_r1eyqvV_J-LQX_6R96iKqYEYZtHTZwPyCzYcgV4vyC3lf-j0_aem_Wbsu5wDoZFo1T6XSFm1RjA#m70f2wjiy1oxa38wwc
    NEWS.CH7.COM
    ข่าวชูวิทย์วิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาด ยกฟ้องตู้ห่าว
    ชูวิทย์ฝากข้อความวิเคราะห์ 8 ประเด็น ความผิดพลาดในคดี ยกฟ้องตู้ห่าว ภายหลังศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษายกฟ้องตู้ห่าว…
    Like
    Angry
    2
    2 Comments 1 Shares 335 Views 0 Reviews
  • มีการจับกุมผู้จัดจำหน่ายบริการสื่อสารเข้ารหัส Sky ECC ในประเทศสเปนและเนเธอร์แลนด์ มีการจับกุมผู้ต้องหาสี่รายซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา โดยการใช้บริการนี้ในการสนทนาที่ปลอดภัย

    Sky ECC เป็นบริการสื่อสารที่ถูกนำมาใช้โดยอาชญากรอย่างแพร่หลาย ทางตำรวจสเปนประกาศว่าผู้ต้องหาสองรายที่ถูกจับกุมในประเทศนี้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักระดับโลกของบริการนี้และได้สร้างกำไรมากกว่า 13.5 ล้านยูโร

    ในเดือนมีนาคม 2021 Europol ได้ประกาศว่าสามารถถอดรหัส Sky ECC และทำให้สามารถติดตามการสื่อสารของผู้ใช้งานกว่า 70,000 ราย ซึ่งเปิดเผยถึงการกระทำผิดทางอาญาเป็นจำนวนมาก

    สำหรับการจับกุมล่าสุดในสเปน ทางตำรวจได้ยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เงินสดกว่า 26,000 ดอลลาร์ และคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่า 1,400,000 ยูโร นอกจากนี้ยังมีการยึดรถยนต์และของมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ

    ทางเนเธอร์แลนด์ก็มีการจับกุมผู้ต้องหาอีกสองรายในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมือง Arnhem ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับ CEO ของ Sky ECC มานานหลายปี

    การให้บริการสื่อสารที่เข้ารหัสอย่างเดียวไม่ได้เป็นเรื่องผิดตามกฎหมาย แต่ปัญหาของ Sky ECC คือการที่บริการนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยอาชญากรในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทำให้การดำเนินคดีและการติดตามการกระทำผิดทางอาญายากยิ่งขึ้น

    การที่ Sky ECC ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา เช่น การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการลักทรัพย์ ทำให้บริษัทนี้ต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดจำหน่ายของ Sky ECC ได้ร่วมมือกับอาชญากรในการจัดหาบริการและได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการกระทำผิดเหล่านี้

    ดังนั้น แม้ว่าการให้บริการสื่อสารเข้ารหัสไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าบริการนั้นถูกใช้ในการกระทำผิดทางอาญา และผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเหล่านั้น ก็อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีได้

    โดยสรุป ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในสเปนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ได้ทำงานร่วมกันในการตรวจสอบการกระทำผิดทางอาญาที่เชื่อมโยงกับบริการ Sky ECC อย่างใกล้ชิด

    https://www.bleepingcomputer.com/news/legal/sky-ecc-encrypted-service-distributors-arrested-in-spain-netherlands/
    มีการจับกุมผู้จัดจำหน่ายบริการสื่อสารเข้ารหัส Sky ECC ในประเทศสเปนและเนเธอร์แลนด์ มีการจับกุมผู้ต้องหาสี่รายซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา โดยการใช้บริการนี้ในการสนทนาที่ปลอดภัย Sky ECC เป็นบริการสื่อสารที่ถูกนำมาใช้โดยอาชญากรอย่างแพร่หลาย ทางตำรวจสเปนประกาศว่าผู้ต้องหาสองรายที่ถูกจับกุมในประเทศนี้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักระดับโลกของบริการนี้และได้สร้างกำไรมากกว่า 13.5 ล้านยูโร ในเดือนมีนาคม 2021 Europol ได้ประกาศว่าสามารถถอดรหัส Sky ECC และทำให้สามารถติดตามการสื่อสารของผู้ใช้งานกว่า 70,000 ราย ซึ่งเปิดเผยถึงการกระทำผิดทางอาญาเป็นจำนวนมาก สำหรับการจับกุมล่าสุดในสเปน ทางตำรวจได้ยึดโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, เงินสดกว่า 26,000 ดอลลาร์ และคริปโตเคอร์เรนซีมูลค่า 1,400,000 ยูโร นอกจากนี้ยังมีการยึดรถยนต์และของมีค่าอื่นๆ อีกหลายรายการ ทางเนเธอร์แลนด์ก็มีการจับกุมผู้ต้องหาอีกสองรายในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเมือง Arnhem ซึ่งเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองมีความเกี่ยวข้องกับ CEO ของ Sky ECC มานานหลายปี การให้บริการสื่อสารที่เข้ารหัสอย่างเดียวไม่ได้เป็นเรื่องผิดตามกฎหมาย แต่ปัญหาของ Sky ECC คือการที่บริการนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยอาชญากรในการสื่อสารอย่างปลอดภัยและไม่สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งทำให้การดำเนินคดีและการติดตามการกระทำผิดทางอาญายากยิ่งขึ้น การที่ Sky ECC ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา เช่น การค้ายาเสพติด การฟอกเงิน และการลักทรัพย์ ทำให้บริษัทนี้ต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าผู้จัดจำหน่ายของ Sky ECC ได้ร่วมมือกับอาชญากรในการจัดหาบริการและได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการกระทำผิดเหล่านี้ ดังนั้น แม้ว่าการให้บริการสื่อสารเข้ารหัสไม่ผิดกฎหมาย แต่ถ้าบริการนั้นถูกใช้ในการกระทำผิดทางอาญา และผู้ให้บริการหรือผู้จัดจำหน่ายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดเหล่านั้น ก็อาจนำไปสู่การถูกดำเนินคดีได้ โดยสรุป ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในสเปนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ได้ทำงานร่วมกันในการตรวจสอบการกระทำผิดทางอาญาที่เชื่อมโยงกับบริการ Sky ECC อย่างใกล้ชิด https://www.bleepingcomputer.com/news/legal/sky-ecc-encrypted-service-distributors-arrested-in-spain-netherlands/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Sky ECC encrypted service distributors arrested in Spain, Netherlands
    Four distributors of the encrypted communications service Sky ECC, used extensively by criminals, were arrested in Spain and the Netherlands.
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • เจ๊พรีมมือสาดน้ำซุปร้อน พร้อมคู่หู ยังนอนในห้องขัง สภ.คลองหลวง ตร.เผยมีเจ้าทุกข์ เดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มแล้ว 5 ราย คุมตัวฝากขังพร้อมแก๊งโอรีโอ้พรุ่งนี้

    เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ก.พ.68 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายรษิภา หรือพรีม สัจวรรณ์ อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่ 132/2568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น” โดยจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และนายชคัทพล หรือโอชิ วชิรวรรณ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่133/2568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น”

    โดยกล่าวว่าเกี่ยวกับเรื่องเคสแก็งโอริโอ้และเคส LGBTQ และได้ประชุมกันว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังในวันพรุ่งนี้พราะค่ำคืนที่ผ่านมาก็ยังมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความอีก เราจึงประชุมกันว่าจะมีการฝากขังพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ได้มีการเตรียมพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา สำหรับเคส LGBTQ มีผู้เข้าแจ้งความแล้ว 4 คดีและค่ำคืนที่ผ่านมาอีก 1 คดี ในวันนี้คาดว่าจะมีมาเพิ่มอีก สำหรับผู้ต้องหาเรามีแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ ส่วนข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรตอนนี้ยังไม่เข้าข้อกฎหมายองค์กรอาชญากรรม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000013364

    #MGROnline #LGBTQ #สาดน้ำร้อน #เจ๊พรีม
    เจ๊พรีมมือสาดน้ำซุปร้อน พร้อมคู่หู ยังนอนในห้องขัง สภ.คลองหลวง ตร.เผยมีเจ้าทุกข์ เดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มแล้ว 5 ราย คุมตัวฝากขังพร้อมแก๊งโอรีโอ้พรุ่งนี้ • เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ก.พ.68 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายรษิภา หรือพรีม สัจวรรณ์ อายุ 22 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่ 132/2568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น” โดยจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่ง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี และนายชคัทพล หรือโอชิ วชิรวรรณ อายุ 19 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรีเลขที่133/2568 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 ต้องหาว่าความผิดฐาน ”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่นนั้น” • โดยกล่าวว่าเกี่ยวกับเรื่องเคสแก็งโอริโอ้และเคส LGBTQ และได้ประชุมกันว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังในวันพรุ่งนี้พราะค่ำคืนที่ผ่านมาก็ยังมีผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความอีก เราจึงประชุมกันว่าจะมีการฝากขังพรุ่งนี้เวลา 09.00 น.ได้มีการเตรียมพนักงานสอบสวนในการสอบปากคำเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา สำหรับเคส LGBTQ มีผู้เข้าแจ้งความแล้ว 4 คดีและค่ำคืนที่ผ่านมาอีก 1 คดี ในวันนี้คาดว่าจะมีมาเพิ่มอีก สำหรับผู้ต้องหาเรามีแจ้งข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจ ส่วนข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรตอนนี้ยังไม่เข้าข้อกฎหมายองค์กรอาชญากรรม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000013364 • #MGROnline #LGBTQ #สาดน้ำร้อน #เจ๊พรีม
    0 Comments 0 Shares 229 Views 0 Reviews
  • ‘เจ๊พรีม-โอชิ’ หมดสภาพ โดน 2 ข้อหาหนัก สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง
    .
    คอตกไปตามระเบียบสำหรับ นายรษิภา หรือพรีม สัจวรรณ์ อายุ 22 ปีและนายชคัทพล หรือโอชิ วชิรวรรณ อายุ 19 ปี ภายหลังถูกตำรวจจับกุมตัวตามหมายจับศาลธัญบุรี จากกรณีที่ใช้สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง จนกลายเกิดเสียงวิจารณ์ตามมาเป็นจำนวนมาก ถึงพฤติกรรมที่ได้กระทำลงไป
    .
    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาในความผิดฐาน”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่น โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายรษิภา หรือพรีม สัจวรรณ์ (ผู้ต้องหา) ลงจากรถเข้าไปที่โรงพักก็ได้มีแม่ของน้องที่ถูกผู้เสียหายเข้ามาถามว่าทำลูกแม่ทำไม แต่เจ๊พรีมก็ไม่ได้ตอบอะไร และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นไปสอบสวนบนชั้นสามของโรงพัก
    .
    พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า พรีมได้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ส่วนโอชิรับสารภาพว่าร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส่วนกรรโชกทรัพย์นั้นเขาให้การปฏิเสธ ส่วนการตั้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรนั้น จากการสอบสวนพยานและผู้เสียหายแล้วยังไม่เข้าข่าย ส่วนจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้านั้นเราดูจากภาพถ่าย และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปที่ห้องและควบคุมตัวได้นั้น และจากการค้นห้องก็ไม่เจอเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า
    .
    "เคสของพรีม พนักงานสอบสวนรับไว้ 4 เคสแล้ว ส่วนที่ข่มขู่จะทำให้หายไปนั้น เป็นเพียงแค่เหตุลหุโทษ แต่ก็ดีที่เขาพูดแบบนี้ เพื่อที่จะใช้ในการคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เพราะเป็นการข่มขู่หรือไปยุ่งกับพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหามีอาการเครียด"
    .............
    Sondhi X
    ‘เจ๊พรีม-โอชิ’ หมดสภาพ โดน 2 ข้อหาหนัก สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง . คอตกไปตามระเบียบสำหรับ นายรษิภา หรือพรีม สัจวรรณ์ อายุ 22 ปีและนายชคัทพล หรือโอชิ วชิรวรรณ อายุ 19 ปี ภายหลังถูกตำรวจจับกุมตัวตามหมายจับศาลธัญบุรี จากกรณีที่ใช้สาดน้ำร้อนใส่รุ่นน้อง จนกลายเกิดเสียงวิจารณ์ตามมาเป็นจำนวนมาก ถึงพฤติกรรมที่ได้กระทำลงไป . ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาในความผิดฐาน”ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่น โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายรษิภา หรือพรีม สัจวรรณ์ (ผู้ต้องหา) ลงจากรถเข้าไปที่โรงพักก็ได้มีแม่ของน้องที่ถูกผู้เสียหายเข้ามาถามว่าทำลูกแม่ทำไม แต่เจ๊พรีมก็ไม่ได้ตอบอะไร และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวขึ้นไปสอบสวนบนชั้นสามของโรงพัก . พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า พรีมได้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ส่วนโอชิรับสารภาพว่าร่วมกันทำร้ายร่างกาย ส่วนกรรโชกทรัพย์นั้นเขาให้การปฏิเสธ ส่วนการตั้งข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรนั้น จากการสอบสวนพยานและผู้เสียหายแล้วยังไม่เข้าข่าย ส่วนจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้านั้นเราดูจากภาพถ่าย และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมไปที่ห้องและควบคุมตัวได้นั้น และจากการค้นห้องก็ไม่เจอเรื่องของบุหรี่ไฟฟ้า . "เคสของพรีม พนักงานสอบสวนรับไว้ 4 เคสแล้ว ส่วนที่ข่มขู่จะทำให้หายไปนั้น เป็นเพียงแค่เหตุลหุโทษ แต่ก็ดีที่เขาพูดแบบนี้ เพื่อที่จะใช้ในการคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เพราะเป็นการข่มขู่หรือไปยุ่งกับพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหามีอาการเครียด" ............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    9
    0 Comments 0 Shares 1375 Views 0 Reviews
  • เผย "โอภาส บุญจันทร์" กก.บริษัทวิน โพรเสส ระยอง เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบ้านค่าย เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังออกจากเรือนจำมารักษาด้วยอาการขาดน้ำตาล หลังศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี 15 เดือน คดีทิ้งสารพิษและครอบครองวัตถุอันตรายเพียงวันเดียว
    .
    วันนี้ (9 ก.พ.) เฟซบุ๊ก "มนตรี อุดมพงษ์" ของนายมนตรี อุดมพงษ์ ผู้สื่อข่าวรายการข่าว 3 มติ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โพสต์ข้อความระบุว่า นายโอภาส บุญจันทร์ อายุ 67 ปี กรรมการบริษัท วิน โพรเสส จำกัด เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อเวลา 00.45 นาที ของวันที่ 9 ก.พ. หลังจากนายโอภาสมีอาการขาดน้ำตาล ถูกย้ายออกจากเรือนจำ มาเข้ารับการรักษาตั้งแต่ 23.38 น. ของวันที่ 5 ก.พ. ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างชันสูตรพลิกศพ ซึ่งนายโอภาส เป็นผู้ต้องขังจำคุกระหว่างอุทธรณ์ฎีกา คดีอาญาหมายเลขดำที่ สวอ.21/2567 ของศาลจังหวัดระยอง ต้องหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย นอกจากนี้ ยังมีชื่อเป็นผู้ต้องหาร่วมในคดีลอบเก็บและฝังวัตถุอันตรายในหลายพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    .
    รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับนายโอภาส มีทั้งคดีทิ้งสารพิษ และครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ในโรงงานวิน โพรเสส ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ศาลจังหวัดระยองเพิ่งมีพิพากษาจำคุกนายโอภาส 5 ปี 15 เดือน และปรับเงิน บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ที่นายโอภาสเป็นกรรมการบริษัท รวมทุกข้อกล่าวหา 350,000 บาท พร้อมกับให้ริบของกลางซึ่งเป็นสารเคมีไปทำลายทั้งหมด พร้อมทั้งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม รับผิดชอบนำกากอุตสาหกรรมไปกำจัด โดยให้นายโอภาสรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567 หรือจะเป็นคดีครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ ต.โขดหิน อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ศาลจังหวัดระยองพิพากษาจำคุก 18 เดือน เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2567
    .
    นอกจากนี้ ยังมีความผิดเกี่ยวข้องกับโกดังเก็บสารเคมีเถื่อน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ความผิดเกี่ยวกับโกกังเก็บสารเคมีเถื่อน บริษัทซันเทค อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา คดีลักลอบทิ้งของเสียอันตราย ลงที่ดินส่วนบุคคลใน ต.ข้าวเม่า และ ต.เสนา อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และคดีเพลิงไหม้โกดังโรงงาน 2 ครั้ง รวมทั้งคดีทางแพ่ง ศาลจังหวัดระยองพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2565 ให้จ่ายค่าชดเชยชาวบ้านหนองพะวา จำนวน 15 คน รวม 20,823,718 บาทพร้อมดอกเบี้ย และเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567 บริษัทฯ เคยถูกศาลพิพากษาให้ชดใช้เงินค่าเสียหายทางแพ่ง 1,743,609,923.46 บาท แก่กรมควบคุมมลพิษ ฐานเป็นแหล่งก่อกำเนิดของกากสารเคมีที่ปนเปื้อนลงแหล่งน้ำสาธารณะและพื้นดิน รวมถึงสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
    .
    นายโอภาส ถูกตำรวจ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2567 ขณะเดินทางไปโรงงานเอกอุทัย สาขาศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม แจ้งความเอาผิดไว้หลายพื้นที่ ในข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย ก่อนฝากขังที่ศาลจังหวัดระยอง ศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 20,000 บาท ก่อนที่ตำรวจ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ไปอายัดตัวนายโอภาสตามหมายจับเหตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีที่ อ.ภาชี ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ก่อนจะได้รับการประกันตัว แล้ว สภ.บ้านค่ายเข้าอายัดตัว ในข้อหาร่วมกันครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต เอาของที่มีพิษเป็นอันตรายแก่สุขภาพ เจือปนลงในอาหารหรือน้ำ ฝากขังที่ศาลจังหวัดระยองเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2567 ตำรวจคัดค้านการประกันตัว และศาลยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ก่อนคุมตัวไปฝากขังในเรือนจำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    .
    เป็นที่น่าสังเกตว่า นายโอภาสถูกศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี 15 เดือน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. แต่ผ่านไปเพียง 1 วัน คืนวันที่ 5 ก.พ. นายโอภาสถูกนำตัวออกจากเรือนจำกลางระยอง ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง มารักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านค่าย ก่อนเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013031
    ..............
    Sondhi X
    เผย "โอภาส บุญจันทร์" กก.บริษัทวิน โพรเสส ระยอง เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบ้านค่าย เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังออกจากเรือนจำมารักษาด้วยอาการขาดน้ำตาล หลังศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี 15 เดือน คดีทิ้งสารพิษและครอบครองวัตถุอันตรายเพียงวันเดียว . วันนี้ (9 ก.พ.) เฟซบุ๊ก "มนตรี อุดมพงษ์" ของนายมนตรี อุดมพงษ์ ผู้สื่อข่าวรายการข่าว 3 มติ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 โพสต์ข้อความระบุว่า นายโอภาส บุญจันทร์ อายุ 67 ปี กรรมการบริษัท วิน โพรเสส จำกัด เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อเวลา 00.45 นาที ของวันที่ 9 ก.พ. หลังจากนายโอภาสมีอาการขาดน้ำตาล ถูกย้ายออกจากเรือนจำ มาเข้ารับการรักษาตั้งแต่ 23.38 น. ของวันที่ 5 ก.พ. ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างชันสูตรพลิกศพ ซึ่งนายโอภาส เป็นผู้ต้องขังจำคุกระหว่างอุทธรณ์ฎีกา คดีอาญาหมายเลขดำที่ สวอ.21/2567 ของศาลจังหวัดระยอง ต้องหาว่ากระทำความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย นอกจากนี้ ยังมีชื่อเป็นผู้ต้องหาร่วมในคดีลอบเก็บและฝังวัตถุอันตรายในหลายพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา . รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับคดีที่เกี่ยวข้องกับนายโอภาส มีทั้งคดีทิ้งสารพิษ และครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ในโรงงานวิน โพรเสส ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ศาลจังหวัดระยองเพิ่งมีพิพากษาจำคุกนายโอภาส 5 ปี 15 เดือน และปรับเงิน บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ที่นายโอภาสเป็นกรรมการบริษัท รวมทุกข้อกล่าวหา 350,000 บาท พร้อมกับให้ริบของกลางซึ่งเป็นสารเคมีไปทำลายทั้งหมด พร้อมทั้งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม รับผิดชอบนำกากอุตสาหกรรมไปกำจัด โดยให้นายโอภาสรับผิดชอบค่าใช้จ่าย เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2567 หรือจะเป็นคดีครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ในพื้นที่ ต.โขดหิน อ.มาบตาพุด จ.ระยอง ศาลจังหวัดระยองพิพากษาจำคุก 18 เดือน เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2567 . นอกจากนี้ ยังมีความผิดเกี่ยวข้องกับโกดังเก็บสารเคมีเถื่อน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ความผิดเกี่ยวกับโกกังเก็บสารเคมีเถื่อน บริษัทซันเทค อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา คดีลักลอบทิ้งของเสียอันตราย ลงที่ดินส่วนบุคคลใน ต.ข้าวเม่า และ ต.เสนา อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา และคดีเพลิงไหม้โกดังโรงงาน 2 ครั้ง รวมทั้งคดีทางแพ่ง ศาลจังหวัดระยองพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2565 ให้จ่ายค่าชดเชยชาวบ้านหนองพะวา จำนวน 15 คน รวม 20,823,718 บาทพร้อมดอกเบี้ย และเมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2567 บริษัทฯ เคยถูกศาลพิพากษาให้ชดใช้เงินค่าเสียหายทางแพ่ง 1,743,609,923.46 บาท แก่กรมควบคุมมลพิษ ฐานเป็นแหล่งก่อกำเนิดของกากสารเคมีที่ปนเปื้อนลงแหล่งน้ำสาธารณะและพื้นดิน รวมถึงสภาพแวดล้อมธรรมชาติ . นายโอภาส ถูกตำรวจ สภ.มาบตาพุด จ.ระยอง เข้าจับกุมเมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2567 ขณะเดินทางไปโรงงานเอกอุทัย สาขาศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม แจ้งความเอาผิดไว้หลายพื้นที่ ในข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย ก่อนฝากขังที่ศาลจังหวัดระยอง ศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 20,000 บาท ก่อนที่ตำรวจ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ไปอายัดตัวนายโอภาสตามหมายจับเหตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีที่ อ.ภาชี ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ก่อนจะได้รับการประกันตัว แล้ว สภ.บ้านค่ายเข้าอายัดตัว ในข้อหาร่วมกันครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต เอาของที่มีพิษเป็นอันตรายแก่สุขภาพ เจือปนลงในอาหารหรือน้ำ ฝากขังที่ศาลจังหวัดระยองเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2567 ตำรวจคัดค้านการประกันตัว และศาลยกคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ก่อนคุมตัวไปฝากขังในเรือนจำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา . เป็นที่น่าสังเกตว่า นายโอภาสถูกศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี 15 เดือน เมื่อวันที่ 4 ก.พ. แต่ผ่านไปเพียง 1 วัน คืนวันที่ 5 ก.พ. นายโอภาสถูกนำตัวออกจากเรือนจำกลางระยอง ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง มารักษาตัวที่โรงพยาบาลบ้านค่าย ก่อนเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000013031 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    13
    0 Comments 0 Shares 1421 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญาไม่ให้ประกัน 2 คู่หูจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน หลังยื่นหลักทรัพย์คนละ 3 แสนบาท ชี้เกรงจะหลบหนี ตามตัวยาก ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน

    วันนี้ (8 ก.พ.2568) พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอฝากขังครั้งแรก นายยี วานโยว (Mr.YE Wanyou) อายุ 28 ปี และนายลี่ เว่ยเจีย (Mr.Lee Weijie) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาที่ 1-2 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะความเสียหายแก่ผู้อื่น, เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมบัญชี เงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ซึ่งลงทะเบียน ผู้ใช้ในนามของบุคคลหนึ่งแต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 342(1), 343 วรรคสอง, พรบว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ 2550 มาตรา 14(1) วรรคหนึ่ง, พ.ร.ก.มาตรการป้องการและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มราตรา 10, 11

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000012823

    #MGROnline #แก๊งคอลเซ็นเตอร์
    ศาลอาญาไม่ให้ประกัน 2 คู่หูจีนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้าน หลังยื่นหลักทรัพย์คนละ 3 แสนบาท ชี้เกรงจะหลบหนี ตามตัวยาก ยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน • วันนี้ (8 ก.พ.2568) พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอฝากขังครั้งแรก นายยี วานโยว (Mr.YE Wanyou) อายุ 28 ปี และนายลี่ เว่ยเจีย (Mr.Lee Weijie) อายุ 29 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาที่ 1-2 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะความเสียหายแก่ผู้อื่น, เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมบัญชี เงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด และเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวใดๆ เพื่อมีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ซึ่งลงทะเบียน ผู้ใช้ในนามของบุคคลหนึ่งแต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 342(1), 343 วรรคสอง, พรบว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ 2550 มาตรา 14(1) วรรคหนึ่ง, พ.ร.ก.มาตรการป้องการและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 มราตรา 10, 11 • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000012823 • #MGROnline #แก๊งคอลเซ็นเตอร์
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • หนองคาย-ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย นำหมายค้นตรวจบ้านหลังใหญ่ในตัวเมืองหนองคาย หลังพบเปิดบ้านทำเว็บพนันออนไลน์ ทั้งเว็บไทย และเว็บลาว เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท รวบ10 ผู้ต้องหาไทย- ลาว ขณะเจ้านายใหญ่ไหวตัวทันหลบหนี

    วันนี้ (5 ก.พ.68) พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.อก.รร.นรต.รรท.ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน รองผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย, พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันนำหมายค้นตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 73 / 75 / 76 / 77 หมู่ 1 จอมมณี ชอย 4 ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย หลังจากที่ พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย สืบทราบว่าบ้านหลังกล่าวมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการพนันออนไลน์

    เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้นำหมายค้นแสดงต่อบุคคลที่อยู่ในบ้าน โดยตรวจสอบเอกสารแสดงตัวบุคคล ทราบว่าเป็นคนไทย 4 คน คนลาว 6 คน เจ้าของบ้านไม่อยู่ ภายในบ้านมีโต๊ะคอมพิวเตอร์เปิดเครื่องไว้อยู่ระหว่างการสนทนากับลูกค้า ตรวจพบว่าเป็นเว็บพนันออนไลน์ทุกประเภท พนันกีฬาทุกชนิด โดยเป็นเว็บไทย 2 เว็บ ชื่อ Lion 777 , Bear 798 และเว็บลาว 1 เว็บ ชื่อ Uefa La 88 เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์ จอมอนิเตอร์ 7 ตัว ซีพียู 3 เครื่อง คอมพิวเตอร์ออลอินวัน 1 ตัว, โทรศัพท์มือถือ ,สมุดบัญชีธนาคาร มีเงินหมุนเวียน เว็บไทย 2 เว็บ เป็นเงินไทย 2 ล้านบาทต่อเดือน และบัญชีเว็บลาว จะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน

    ก่อนบุกเข้าจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สืบทราบว่า มีกลุ่มบุคคลคนลาวเข้าออกประเทศผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคายบ่อยครั้ง แต่ไม่มีการแจ้งแหล่งที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว มีการเข้าออกเป็นรอบ รอบเช้า 07.30- 16.30 น. รอบบ่าย 16.30 – 07.30 น. ทุกวัน สลับกันไป

    บ้านหลังดังกล่าวไม่มีการแจ้งว่ามีการจ้างแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตจนแน่ใจว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงขอหมายค้นเข้าทำการตรวจสอบในครั้งนี้จนสามารถบุกทลายแหล่งพนันออนไลน์กลางเมืองหนองคายได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000011759

    #MGROnline #หนองคาย #เว็บพนันออนไลน์
    หนองคาย-ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย นำหมายค้นตรวจบ้านหลังใหญ่ในตัวเมืองหนองคาย หลังพบเปิดบ้านทำเว็บพนันออนไลน์ ทั้งเว็บไทย และเว็บลาว เงินหมุนเวียนหลายล้านบาท รวบ10 ผู้ต้องหาไทย- ลาว ขณะเจ้านายใหญ่ไหวตัวทันหลบหนี • วันนี้ (5 ก.พ.68) พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.อก.รร.นรต.รรท.ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ณัฐวุฒิ แสงเดือน รองผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย, พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันนำหมายค้นตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 73 / 75 / 76 / 77 หมู่ 1 จอมมณี ชอย 4 ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย หลังจากที่ พ.ต.ท.อภิชาติ คลธา สว.ตม.หนองคาย สืบทราบว่าบ้านหลังกล่าวมีการลักลอบกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ • เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้นำหมายค้นแสดงต่อบุคคลที่อยู่ในบ้าน โดยตรวจสอบเอกสารแสดงตัวบุคคล ทราบว่าเป็นคนไทย 4 คน คนลาว 6 คน เจ้าของบ้านไม่อยู่ ภายในบ้านมีโต๊ะคอมพิวเตอร์เปิดเครื่องไว้อยู่ระหว่างการสนทนากับลูกค้า ตรวจพบว่าเป็นเว็บพนันออนไลน์ทุกประเภท พนันกีฬาทุกชนิด โดยเป็นเว็บไทย 2 เว็บ ชื่อ Lion 777 , Bear 798 และเว็บลาว 1 เว็บ ชื่อ Uefa La 88 เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดคอมพิวเตอร์ จอมอนิเตอร์ 7 ตัว ซีพียู 3 เครื่อง คอมพิวเตอร์ออลอินวัน 1 ตัว, โทรศัพท์มือถือ ,สมุดบัญชีธนาคาร มีเงินหมุนเวียน เว็บไทย 2 เว็บ เป็นเงินไทย 2 ล้านบาทต่อเดือน และบัญชีเว็บลาว จะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อเดือน • ก่อนบุกเข้าจับกุมในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย สืบทราบว่า มีกลุ่มบุคคลคนลาวเข้าออกประเทศผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมืองหนองคายบ่อยครั้ง แต่ไม่มีการแจ้งแหล่งที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าว มีการเข้าออกเป็นรอบ รอบเช้า 07.30- 16.30 น. รอบบ่าย 16.30 – 07.30 น. ทุกวัน สลับกันไป • บ้านหลังดังกล่าวไม่มีการแจ้งว่ามีการจ้างแรงงานต่างด้าว เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตจนแน่ใจว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงขอหมายค้นเข้าทำการตรวจสอบในครั้งนี้จนสามารถบุกทลายแหล่งพนันออนไลน์กลางเมืองหนองคายได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000011759 • #MGROnline #หนองคาย #เว็บพนันออนไลน์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 256 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไม่ให้ประกัน ผู้ต้องหาแก๊ง"นายร้อยปอยเปต"ตำรวจปลอม ชี้ผลเสียหายจำนวนมาก เกรงจะหลบหนี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000011469

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ศาลอาญากรุงเทพใต้ ไม่ให้ประกัน ผู้ต้องหาแก๊ง"นายร้อยปอยเปต"ตำรวจปลอม ชี้ผลเสียหายจำนวนมาก เกรงจะหลบหนี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000011469 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Haha
    10
    0 Comments 0 Shares 849 Views 0 Reviews
  • สื่อท้องถิ่นในสโลวาเกียรายงานว่า USAID และ NGOs ถูกจับได้ว่าวางแผนสนับสนุนก่อความไม่สงบและต่อต้านรัฐบาลของฟิโก

    องค์กร NGO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID, NED และ Soros ได้ทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์ในสโลวาเกียเพื่อสนับสนุนการประท้วงรัฐบาล ทำลายเสถียรภาพของรัฐบาล และบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเพื่อให้เกิดรัฐบาลใหม่ที่สนับสนุนตะวันตก ซึ่งนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ด้วยตนเอง

    USAID และ NED ถูกจับได้ว่าให้ทุนแก่องค์กร NGO ของสโลวาเกียภายใต้ข้ออ้างของ “การส่งเสริมประชาธิปไตย” ซึ่งเป็นกลวิธีเดียวกับที่ใช้ในยูเครน (2014) เบลารุส (2020) และจอร์เจีย (2023) เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาลที่สนับสนุนตะวันตก

    ฟิโกให้รายละเอียดในการประท้วงล่าสุดว่า:
    - ผู้ประท้วงเกือบหนึ่งในสามเป็นชาวยูเครนและชาวต่างชาติอื่นๆ
    - สื่อของยูเครนรายงานและเผยแพร่เนื้อหาสนับสนุนการประท้วงอย่างเปิดเผย เช่นเดียวกับที่เคยทำในยูเครน
    - การพยายามลอบสังหารเขาในเดือนพฤษภาคม 2024 มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ ซึ่งผู้ต้องหาที่พยายามลอบสังหารฟิโกเมื่อปีที่แล้วเป็นนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนตะวันตกซึ่งมีความสัมพันธ์กับกลุ่มที่ได้รับทุนจากต่างชาติ
    - เหตุการณ์ลอบสังหารเกิดขึ้นหลังจากที่ฟิโกเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อจำกัดอิทธิพลขององค์กรเอกชนในประเทศและขับไล่เจ้าหน้าที่ต่างชาติ
    - ขณะนี้ฟิโกกำลังตรวจสอบแหล่งเงินทุนขององค์กรเอกชน และจำกัดกิจกรรมขององค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ
    กำลังพยายามออกกฎหมายใหม่ เพื่อเปิดโปงและรื้อถอนการดำเนินงานด้านอิทธิพลที่ได้รับทุนจากสหรัฐ โดยที่กฎหมายจะเป็นลักษณะเช่นเดียวกับจอร์เจีย
    - ล่าสุด ฟิโกกำลังพยายามยุติบทบาทของ USAID และให้ออกจากสโลวาเกีย
    สื่อท้องถิ่นในสโลวาเกียรายงานว่า USAID และ NGOs ถูกจับได้ว่าวางแผนสนับสนุนก่อความไม่สงบและต่อต้านรัฐบาลของฟิโก องค์กร NGO ที่ได้รับการสนับสนุนจาก USAID, NED และ Soros ได้ทุ่มเงินหลายล้านดอลลาร์ในสโลวาเกียเพื่อสนับสนุนการประท้วงรัฐบาล ทำลายเสถียรภาพของรัฐบาล และบังคับให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเพื่อให้เกิดรัฐบาลใหม่ที่สนับสนุนตะวันตก ซึ่งนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต ฟิโก ออกมาเปิดโปงเรื่องนี้ด้วยตนเอง USAID และ NED ถูกจับได้ว่าให้ทุนแก่องค์กร NGO ของสโลวาเกียภายใต้ข้ออ้างของ “การส่งเสริมประชาธิปไตย” ซึ่งเป็นกลวิธีเดียวกับที่ใช้ในยูเครน (2014) เบลารุส (2020) และจอร์เจีย (2023) เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงผู้นำรัฐบาลที่สนับสนุนตะวันตก ฟิโกให้รายละเอียดในการประท้วงล่าสุดว่า: - ผู้ประท้วงเกือบหนึ่งในสามเป็นชาวยูเครนและชาวต่างชาติอื่นๆ - สื่อของยูเครนรายงานและเผยแพร่เนื้อหาสนับสนุนการประท้วงอย่างเปิดเผย เช่นเดียวกับที่เคยทำในยูเครน - การพยายามลอบสังหารเขาในเดือนพฤษภาคม 2024 มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ ซึ่งผู้ต้องหาที่พยายามลอบสังหารฟิโกเมื่อปีที่แล้วเป็นนักเคลื่อนไหวที่สนับสนุนตะวันตกซึ่งมีความสัมพันธ์กับกลุ่มที่ได้รับทุนจากต่างชาติ - เหตุการณ์ลอบสังหารเกิดขึ้นหลังจากที่ฟิโกเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อจำกัดอิทธิพลขององค์กรเอกชนในประเทศและขับไล่เจ้าหน้าที่ต่างชาติ - ขณะนี้ฟิโกกำลังตรวจสอบแหล่งเงินทุนขององค์กรเอกชน และจำกัดกิจกรรมขององค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างชาติ กำลังพยายามออกกฎหมายใหม่ เพื่อเปิดโปงและรื้อถอนการดำเนินงานด้านอิทธิพลที่ได้รับทุนจากสหรัฐ โดยที่กฎหมายจะเป็นลักษณะเช่นเดียวกับจอร์เจีย - ล่าสุด ฟิโกกำลังพยายามยุติบทบาทของ USAID และให้ออกจากสโลวาเกีย
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 300 Views 0 Reviews
  • กองปราบตามรวบอดีตอัยการจังหวัดยโสธร หนีคดีรับสินบน 1 แสนบาท ช่วยผู้ต้องหาคดียาเสพติด หลังรู้ตัวถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 3 ปี 4 เดือน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010673

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองปราบตามรวบอดีตอัยการจังหวัดยโสธร หนีคดีรับสินบน 1 แสนบาท ช่วยผู้ต้องหาคดียาเสพติด หลังรู้ตัวถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 3 ปี 4 เดือน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010673 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Wow
    13
    0 Comments 1 Shares 870 Views 0 Reviews
  • ตำรวจอุดรธานีจับมือภูธรภาค 4 บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ยึดเครื่อง SIM BOX รวม 6 เครื่องที่สามารถโทร.หลอกเหยื่อได้ 1.5 แสนเบอร์ต่อวัน ในหอพักใจกลางเมืองอุดรฯ พร้อมขยายผลจับกุมผู้ต้องหาหญิงชาวไต้หวัน ขณะกำลังจะขึ้นเครื่องบินหนีไปกัมพูชา ปิดฉากเครือข่ายหลอกลวงประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010388

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจอุดรธานีจับมือภูธรภาค 4 บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ยึดเครื่อง SIM BOX รวม 6 เครื่องที่สามารถโทร.หลอกเหยื่อได้ 1.5 แสนเบอร์ต่อวัน ในหอพักใจกลางเมืองอุดรฯ พร้อมขยายผลจับกุมผู้ต้องหาหญิงชาวไต้หวัน ขณะกำลังจะขึ้นเครื่องบินหนีไปกัมพูชา ปิดฉากเครือข่ายหลอกลวงประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010388 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    19
    0 Comments 0 Shares 938 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญาให้ประกัน “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ฉ้อโกงขายทองไม่ตรงปก สั่งติดกำไลอีเอ็ม-ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีออกสื่อเด็ดขาด ชี้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลง จำเลยถูกขังมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทั้งนำเงินมาวางศาลเพื่อบรรเทาความเสียหายเต็มตามฟ้อง จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว

    ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (31 ม.ค.) ศาลอาญาได้มีคำสั่งพิจารณาคำร้องขอประกันตัว คดีไลฟ์สด " ขายทองไม่ตรงปก” หมายเลขดำ อทย.582/2567ที่อัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้อง บริษัท เคทเอ็นโกลด์ จำกัด โดย นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1, นายกานต์พล เรืองอร่าม ผู้ต้องหาที่ 2, น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก ผู้ต้องหาที่ 3 ฐาน"ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่นำจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บรีโภค โดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ บริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความที่รู้หรือควรรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น, ร่วมกันขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343,83,91 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 22, 30,47,52 พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 27, 47 ที่แก้ไขแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000010144

    #MGROnline #ศาลอาญา #ประกัน #แม่ตั๊ก #ป๋าเบียร์
    ศาลอาญาให้ประกัน “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” ฉ้อโกงขายทองไม่ตรงปก สั่งติดกำไลอีเอ็ม-ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ห้ามให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีออกสื่อเด็ดขาด ชี้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลง จำเลยถูกขังมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทั้งนำเงินมาวางศาลเพื่อบรรเทาความเสียหายเต็มตามฟ้อง จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว • ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (31 ม.ค.) ศาลอาญาได้มีคำสั่งพิจารณาคำร้องขอประกันตัว คดีไลฟ์สด " ขายทองไม่ตรงปก” หมายเลขดำ อทย.582/2567ที่อัยการสำนักงานคดีอาญายื่นฟ้อง บริษัท เคทเอ็นโกลด์ จำกัด โดย นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ ผู้ต้องหาที่ 1, นายกานต์พล เรืองอร่าม ผู้ต้องหาที่ 2, น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก ผู้ต้องหาที่ 3 ฐาน"ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่นำจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บรีโภค โดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ บริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความที่รู้หรือควรรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น, ร่วมกันขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343,83,91 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 22, 30,47,52 พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 27, 47 ที่แก้ไขแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000010144 • #MGROnline #ศาลอาญา #ประกัน #แม่ตั๊ก #ป๋าเบียร์
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 397 Views 0 Reviews
  • ศาลอาญาให้ประกันตัว "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" สามีภรรยา จำเลยคดีหลอกขายทองคำไม่ได้คุณภาพผ่านออนไลน์ โดยวางเงินประกันคนละ 2 ล้านบาท ติดกำไล EM ห้ามไขข่าวกระทบพิจารณาคดี และห้ามออกนอกประเทศ
    .
    วันนี้ (31 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2-3 คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด โดยนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือป๋าเบียร์ และ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือเเม่ตั๊ก เป็น จำเลยที่ 1-3 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค โดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น
    .
    ร่วมกันขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343, 83, 91 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 22, 30, 47 และ 52, พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 27, 47 ที่แก้ไขแล้ว กรณีที่จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำผิดโฆษณาหลอกลวง ขายทองคำที่ไม่ได้มาตรฐาน จนมีผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อซื้อทองคำจากพวกจำเลยไป มูลค่าความเสียหายสูง นัดฟังคำสั่งวันนี้ โจทก์ จำเลยที่ 2-3 ทนายจำเลยที่ 2-3 มาศาล
    .
    มีรายงานเบื้องต้นว่า ศาลอาญาอนุญาตให้ทั้งสองประกันตัว โดยวางหลักประกันเป็นเงินสดคนละ 2 ล้านบาท พร้อมกับให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กำไลอีเอ็ม (EM), ให้นำหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุมาวางศาล โดยห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามให้สัมภาษณ์ ไขข่าว หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคดีต่อสื่อมวลชน กระทบการพิจารณาคดี
    .
    สำหรับ น.ส.กรกนก หรือแม่ตั๊ก และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) จับกุมเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2567 ที่บ้านพักในซอยรามอินทรา 65 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ หลังมีผู้เสียหายจากการซื้อทองคำออนไลน์ แล้วพบว่าคุณภาพทองคำต่ำกว่ามาตรฐาน เข้าแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ก่อนที่จะฝากขัง น.ส.กรกนกที่ทัณฑสถานหญิงกลาง และนายกานต์พลที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2567 ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวทั้งสองมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีก่อความเสียหายแก่ผู้เสียหายหลายคน และในชั้นสอบสวนยังมีพยานบุคคลที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม ผู้ต้องหาอาจหลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงยกคำร้อง รวมระยะเวลาที่ทั้งสองถูกจำคุกประมาณ 4 เดือน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010118
    .........
    Sondhi X
    ศาลอาญาให้ประกันตัว "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" สามีภรรยา จำเลยคดีหลอกขายทองคำไม่ได้คุณภาพผ่านออนไลน์ โดยวางเงินประกันคนละ 2 ล้านบาท ติดกำไล EM ห้ามไขข่าวกระทบพิจารณาคดี และห้ามออกนอกประเทศ . วันนี้ (31 ม.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 2-3 คดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด โดยนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือป๋าเบียร์ และ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือเเม่ตั๊ก เป็น จำเลยที่ 1-3 ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค โดยเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จหรือข้อความที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น . ร่วมกันขายสินค้าที่ควบคุมฉลากโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลากแต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง และร่วมกันประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343, 83, 91 พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1) พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 22, 30, 47 และ 52, พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 27, 47 ที่แก้ไขแล้ว กรณีที่จำเลยทั้งสามร่วมกันกระทำผิดโฆษณาหลอกลวง ขายทองคำที่ไม่ได้มาตรฐาน จนมีผู้เสียหายจำนวนมากหลงเชื่อซื้อทองคำจากพวกจำเลยไป มูลค่าความเสียหายสูง นัดฟังคำสั่งวันนี้ โจทก์ จำเลยที่ 2-3 ทนายจำเลยที่ 2-3 มาศาล . มีรายงานเบื้องต้นว่า ศาลอาญาอนุญาตให้ทั้งสองประกันตัว โดยวางหลักประกันเป็นเงินสดคนละ 2 ล้านบาท พร้อมกับให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ หรือ กำไลอีเอ็ม (EM), ให้นำหนังสือเดินทางที่ยังไม่หมดอายุมาวางศาล โดยห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามให้สัมภาษณ์ ไขข่าว หรือเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคดีต่อสื่อมวลชน กระทบการพิจารณาคดี . สำหรับ น.ส.กรกนก หรือแม่ตั๊ก และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) จับกุมเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2567 ที่บ้านพักในซอยรามอินทรา 65 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ หลังมีผู้เสียหายจากการซื้อทองคำออนไลน์ แล้วพบว่าคุณภาพทองคำต่ำกว่ามาตรฐาน เข้าแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ก่อนที่จะฝากขัง น.ส.กรกนกที่ทัณฑสถานหญิงกลาง และนายกานต์พลที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเมื่อวันที่ 1 ต.ค.2567 ศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวทั้งสองมาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีก่อความเสียหายแก่ผู้เสียหายหลายคน และในชั้นสอบสวนยังมีพยานบุคคลที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม ผู้ต้องหาอาจหลบหนีหรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงยกคำร้อง รวมระยะเวลาที่ทั้งสองถูกจำคุกประมาณ 4 เดือน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010118 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    Haha
    Yay
    27
    1 Comments 0 Shares 2159 Views 1 Reviews
More Results