• ๒ราธิกา ยาดาฟ อดีตนักเทนนิสของอินเดียถูกพ่อเเท้ๆ ฆาตกรรมเหตุเพราะหาเงินได้ข้ามหน้าข้ามตาตนเอง

    เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า หญิงวัย 25 ปี ถูกยิงสี่นัด 3 นัดที่หลังและ 1 นัดที่ไหล่ขณะทำอาหารอยู่ในบ้านย่านซูชานต์ ล็อก ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งผู้ต้องหาก็คือ ดีปัค ยาดาฟ วัย 49 ปี ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเขาเป็นพ่อเเท้ๆของผู้ตาย

    ผู้ต้องหาสารภาพผิดและบอกกับตำรวจว่า เหตุผลที่เขาทำเพราะถูกเยาะเย้ยที่ลูกสาวหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เเทนที่จะเป็นหน้าที่เขาเพราะเป็นผู้ช่ายเเละหัวหน้าครอบครัว

    จริงๆเเล้วฐานะของดีปัคถือว่าไม่เเย่ทำธุรกิจปล่อยเช่า, อสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ราธิกาหลังรีไทร์จากการเป็นนักเทนนิสอาชีพก็มาเปิดโรงเรียนสอนเทนนิสเเละทำคอนเทนต์มีผู้ติดตามเยอะ สร้างรายได้ด้วยตัวเอง หาเงินเข้าบ้านเเละมีชื่อเสียง ซึ่งโฆษกตำรวจยืนยันว่า "พ่อของเธอไม่พอใจกับเรื่องนี้"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/sport/detail/9680000065777

    #Thaitimes #MGROnline #ราธิกายาดาฟ #อดีตนักเทนนิส #อินเดีย
    ๒ราธิกา ยาดาฟ อดีตนักเทนนิสของอินเดียถูกพ่อเเท้ๆ ฆาตกรรมเหตุเพราะหาเงินได้ข้ามหน้าข้ามตาตนเอง • เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า หญิงวัย 25 ปี ถูกยิงสี่นัด 3 นัดที่หลังและ 1 นัดที่ไหล่ขณะทำอาหารอยู่ในบ้านย่านซูชานต์ ล็อก ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งผู้ต้องหาก็คือ ดีปัค ยาดาฟ วัย 49 ปี ที่น่าตกใจกว่านั้นคือเขาเป็นพ่อเเท้ๆของผู้ตาย • ผู้ต้องหาสารภาพผิดและบอกกับตำรวจว่า เหตุผลที่เขาทำเพราะถูกเยาะเย้ยที่ลูกสาวหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เเทนที่จะเป็นหน้าที่เขาเพราะเป็นผู้ช่ายเเละหัวหน้าครอบครัว • จริงๆเเล้วฐานะของดีปัคถือว่าไม่เเย่ทำธุรกิจปล่อยเช่า, อสังหาริมทรัพย์ ขณะที่ราธิกาหลังรีไทร์จากการเป็นนักเทนนิสอาชีพก็มาเปิดโรงเรียนสอนเทนนิสเเละทำคอนเทนต์มีผู้ติดตามเยอะ สร้างรายได้ด้วยตัวเอง หาเงินเข้าบ้านเเละมีชื่อเสียง ซึ่งโฆษกตำรวจยืนยันว่า "พ่อของเธอไม่พอใจกับเรื่องนี้" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/sport/detail/9680000065777 • #Thaitimes #MGROnline #ราธิกายาดาฟ #อดีตนักเทนนิส #อินเดีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน (หลังฝังพลอยเสก+เกศา) หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! ปลุกเสก 9 ปี เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** เหรียญหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ รุ่นรวยเงิน มวลสารปลุดเสก9ปี จัดสร้างปี 2542 หลังเหรียญติดมวลสารที่หลวงพ่อเสก เกศา+พลอยสี และ มวลสารต่างๆอีกมาก เหรียญสวยเดิมๆเลียมเดิมมาจากวัด

    ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ เหรียญเนื้อเงิน มวลสารเสก 9 ปี รวยเงิน (หลังฝังพลอยเสก+เกศา) หลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! ปลุกเสก 9 ปี เข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** เหรียญหลวงพ่อจำเนียร สีลเสฏโฐ รุ่นรวยเงิน มวลสารปลุดเสก9ปี จัดสร้างปี 2542 หลังเหรียญติดมวลสารที่หลวงพ่อเสก เกศา+พลอยสี และ มวลสารต่างๆอีกมาก เหรียญสวยเดิมๆเลียมเดิมมาจากวัด ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • DeepSeek ถูกแบนในเช็ก – เพราะอาจส่งข้อมูลผู้ใช้ให้รัฐบาลจีน

    DeepSeek เป็นบริษัท AI จากจีนที่เปิดตัวในปี 2023 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วหลังเปิดตัวแอปบน iOS และ Android ในเดือนมกราคม 2025 โดยสามารถแซง ChatGPT ขึ้นอันดับหนึ่งใน App Store ได้ในหลายประเทศ

    แต่ความนิยมนี้กลับมาพร้อมกับความกังวลด้านความมั่นคง เมื่อหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของเช็ก (NÚKIB) ออกรายงานเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 ระบุว่า DeepSeek และบริษัทแม่ High-Flyer มี “ความเชื่อมโยงลึก” กับรัฐบาลจีน และอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการจารกรรมข้อมูล

    รายงานอ้างถึงกฎหมายจีนหลายฉบับ เช่น:
    - กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ
    - กฎหมายข่าวกรองแห่งชาติ
    - กฎหมายต่อต้านการจารกรรม

    ซึ่งทั้งหมดบังคับให้บริษัทจีนต้องให้ข้อมูลผู้ใช้แก่รัฐบาล ไม่ว่าผู้ใช้นั้นจะอยู่ประเทศใดก็ตาม

    ผลคือ Czechia ประกาศแบนการใช้งาน DeepSeek ในเกือบทุกกรณี ยกเว้นสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการใช้งานโมเดลโอเพนซอร์สที่ไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท

    ประเทศอื่น ๆ ที่ออกมาตรการคล้ายกัน ได้แก่ สหรัฐฯ (รวมถึงกองทัพเรือและ NASA), แคนาดา, ออสเตรเลีย, อินเดีย, อิตาลี, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน

    NÚKIB ระบุว่า “ความกังวลต่อ DeepSeek ไม่ได้เกิดจากวัฒนธรรมร่วมกันหรือภูมิศาสตร์ แต่เป็นผลจากการประเมินความเสี่ยงอย่างเป็นกลาง” และคาดว่าประเทศอื่น ๆ จะออกมาตรการเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ข้อมูลจากข่าว
    - รัฐบาลเช็กประกาศแบนการใช้งาน DeepSeek เนื่องจากความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์
    - DeepSeek เป็นบริษัท AI จากจีนที่เปิดตัวในปี 2023 และได้รับความนิยมในปี 2025
    - หน่วยงาน NÚKIB ระบุว่า DeepSeek มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน
    - อ้างถึงกฎหมายจีนที่บังคับให้บริษัทต้องให้ข้อมูลผู้ใช้แก่รัฐบาล
    - การแบนครอบคลุมทุกกรณี ยกเว้นนักวิจัยและการใช้งานแบบ self-host ที่ไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท
    - ประเทศอื่นที่ออกมาตรการคล้ายกัน ได้แก่ สหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, อินเดีย, อิตาลี, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ผู้ใช้ DeepSeek อาจเสี่ยงต่อการถูกเก็บข้อมูลและส่งต่อให้รัฐบาลจีนโดยไม่รู้ตัว
    - กฎหมายจีนมีอำนาจเหนือบริษัทจีนแม้จะให้บริการในต่างประเทศ
    - การใช้งานโมเดล AI ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์จีนอาจเปิดช่องให้เกิดการจารกรรมข้อมูล
    - องค์กรควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการจากบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลต่างชาติในงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญ
    - การใช้งานโมเดลโอเพนซอร์สควรทำแบบ self-host เพื่อป้องกันการส่งข้อมูลออกนอกองค์กร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/czechia-warns-that-deepseek-can-share-all-user-information-with-the-chinese-government
    DeepSeek ถูกแบนในเช็ก – เพราะอาจส่งข้อมูลผู้ใช้ให้รัฐบาลจีน DeepSeek เป็นบริษัท AI จากจีนที่เปิดตัวในปี 2023 และได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วหลังเปิดตัวแอปบน iOS และ Android ในเดือนมกราคม 2025 โดยสามารถแซง ChatGPT ขึ้นอันดับหนึ่งใน App Store ได้ในหลายประเทศ แต่ความนิยมนี้กลับมาพร้อมกับความกังวลด้านความมั่นคง เมื่อหน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์แห่งชาติของเช็ก (NÚKIB) ออกรายงานเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2025 ระบุว่า DeepSeek และบริษัทแม่ High-Flyer มี “ความเชื่อมโยงลึก” กับรัฐบาลจีน และอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการจารกรรมข้อมูล รายงานอ้างถึงกฎหมายจีนหลายฉบับ เช่น: - กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ - กฎหมายข่าวกรองแห่งชาติ - กฎหมายต่อต้านการจารกรรม ซึ่งทั้งหมดบังคับให้บริษัทจีนต้องให้ข้อมูลผู้ใช้แก่รัฐบาล ไม่ว่าผู้ใช้นั้นจะอยู่ประเทศใดก็ตาม ผลคือ Czechia ประกาศแบนการใช้งาน DeepSeek ในเกือบทุกกรณี ยกเว้นสำหรับนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการใช้งานโมเดลโอเพนซอร์สที่ไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ประเทศอื่น ๆ ที่ออกมาตรการคล้ายกัน ได้แก่ สหรัฐฯ (รวมถึงกองทัพเรือและ NASA), แคนาดา, ออสเตรเลีย, อินเดีย, อิตาลี, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน NÚKIB ระบุว่า “ความกังวลต่อ DeepSeek ไม่ได้เกิดจากวัฒนธรรมร่วมกันหรือภูมิศาสตร์ แต่เป็นผลจากการประเมินความเสี่ยงอย่างเป็นกลาง” และคาดว่าประเทศอื่น ๆ จะออกมาตรการเพิ่มเติมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ ข้อมูลจากข่าว - รัฐบาลเช็กประกาศแบนการใช้งาน DeepSeek เนื่องจากความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์ - DeepSeek เป็นบริษัท AI จากจีนที่เปิดตัวในปี 2023 และได้รับความนิยมในปี 2025 - หน่วยงาน NÚKIB ระบุว่า DeepSeek มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน - อ้างถึงกฎหมายจีนที่บังคับให้บริษัทต้องให้ข้อมูลผู้ใช้แก่รัฐบาล - การแบนครอบคลุมทุกกรณี ยกเว้นนักวิจัยและการใช้งานแบบ self-host ที่ไม่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท - ประเทศอื่นที่ออกมาตรการคล้ายกัน ได้แก่ สหรัฐฯ, แคนาดา, ออสเตรเลีย, อินเดีย, อิตาลี, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, เกาหลีใต้ และไต้หวัน ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ผู้ใช้ DeepSeek อาจเสี่ยงต่อการถูกเก็บข้อมูลและส่งต่อให้รัฐบาลจีนโดยไม่รู้ตัว - กฎหมายจีนมีอำนาจเหนือบริษัทจีนแม้จะให้บริการในต่างประเทศ - การใช้งานโมเดล AI ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์จีนอาจเปิดช่องให้เกิดการจารกรรมข้อมูล - องค์กรควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการจากบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลต่างชาติในงานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสำคัญ - การใช้งานโมเดลโอเพนซอร์สควรทำแบบ self-host เพื่อป้องกันการส่งข้อมูลออกนอกองค์กร https://www.tomshardware.com/tech-industry/cyber-security/czechia-warns-that-deepseek-can-share-all-user-information-with-the-chinese-government
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Czechia warns that DeepSeek can share all user information with the Chinese government
    U.S. lawmakers issued similar warnings after the China-based AI company released its eponymous chatbot.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทักษิณ”สับขาหลอก อ้างแตกหัก”ฮุนเซน” : Sondhitalk EP301 - 110768 (Full)
    - “ทักษิณ”อ้างตัดแล้วสัมพันธ์ “ฮุนเซน”
    - ล่า “ก๊ก อาน” เจ้าพ่อบ่อนพนัน
    - “เสอ จื้อเจียง” โคตรเจ้าพ่อจีนเทา
    - “อนุทิน” ฉะ “แพทองธาร”ดันทุรังหนุนกาสิโน
    - อินเดียป่วน BRICS

    คลิกชม https://www.youtube.com/watch?v=_QbnuW05Z2w
    “ทักษิณ”สับขาหลอก อ้างแตกหัก”ฮุนเซน” : Sondhitalk EP301 - 110768 (Full) - “ทักษิณ”อ้างตัดแล้วสัมพันธ์ “ฮุนเซน” - ล่า “ก๊ก อาน” เจ้าพ่อบ่อนพนัน - “เสอ จื้อเจียง” โคตรเจ้าพ่อจีนเทา - “อนุทิน” ฉะ “แพทองธาร”ดันทุรังหนุนกาสิโน - อินเดียป่วน BRICS • คลิกชม https://www.youtube.com/watch?v=_QbnuW05Z2w
    Like
    Love
    Haha
    18
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 968 มุมมอง 2 รีวิว
  • เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา!

    ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10%

    สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี

    นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้

    การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024  
    • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)  
    • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า

    ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7

    ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:  
    • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%)

    ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022)

    โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก

    การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี)

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา! ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10% สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้ ✅ การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024   • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)   • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า ✅ ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7 ✅ ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:   • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%) ✅ ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022) ✅ โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก ✅ การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี) https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนขึ้นบัญชีดำบริษัทอินเดียมากกว่า 20 แห่ง หลังจากพบว่าพยายามแอบลักลอบส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) ต่อไปยังสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ

    คาดว่า หลังจากนี้จะก่อให้เกิดการหยุดชะงักและการเพิ่มขึ้นของราคาสำหรับผู้ผลิตทั่วโลกที่พึ่งพาแร่หายากสำหรับผลิตภัณฑ์ของตน

    การกระทำของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแร่หายาก (Rare Earth) เนื่องจากจีนควบคุมการขุดและแปรรูปแร่หายากของโลกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้จีนเป็น "ผู้เล่นหลัก" ในห่วงโซ่อุปทานโลกสำหรับแร่สำคัญเหล่านี้

    "แร่หายาก" เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ไฮเทคหลากหลายประเภท เช่น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า ฮาร์ดแวร์ทางการทหาร และเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน

    ด้วยเหตุนี้ สหรัฐอเมริกาจึงมองจีนว่าใช้แร่หายากเป็นช่องทางในการสร้างอิทธิพลของตนเองต่อข้อพิพาททางการค้าและเพื่อกดดันประเทศต่างๆ
    จีนขึ้นบัญชีดำบริษัทอินเดียมากกว่า 20 แห่ง หลังจากพบว่าพยายามแอบลักลอบส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) ต่อไปยังสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ คาดว่า หลังจากนี้จะก่อให้เกิดการหยุดชะงักและการเพิ่มขึ้นของราคาสำหรับผู้ผลิตทั่วโลกที่พึ่งพาแร่หายากสำหรับผลิตภัณฑ์ของตน การกระทำของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแร่หายาก (Rare Earth) เนื่องจากจีนควบคุมการขุดและแปรรูปแร่หายากของโลกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้จีนเป็น "ผู้เล่นหลัก" ในห่วงโซ่อุปทานโลกสำหรับแร่สำคัญเหล่านี้ "แร่หายาก" เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ไฮเทคหลากหลายประเภท เช่น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า ฮาร์ดแวร์ทางการทหาร และเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน ด้วยเหตุนี้ สหรัฐอเมริกาจึงมองจีนว่าใช้แร่หายากเป็นช่องทางในการสร้างอิทธิพลของตนเองต่อข้อพิพาททางการค้าและเพื่อกดดันประเทศต่างๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฮุนเซน” ถือโอกาส รมช.ต่างประเทศอินเดียเข้าพบ หยิบปัญหาชายแดนกับไทยขึ้นมาพูดคุย อ้างสาเหตุเป็นเพราะฝ่ายไทยอ้างอิงแผนที่ที่เขียนขึ้นฝ่ายเดียวแล้วข้ามแดนไปยิงทหารเขมรตาย หลังจากนั้นก็ปิดพรมแดน ทำสถานการณ์ตึงเครียด เขมรไม่อยากทำสงครามจึงนำเรื่องขึ้นศาลโลก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063939

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    “ฮุนเซน” ถือโอกาส รมช.ต่างประเทศอินเดียเข้าพบ หยิบปัญหาชายแดนกับไทยขึ้นมาพูดคุย อ้างสาเหตุเป็นเพราะฝ่ายไทยอ้างอิงแผนที่ที่เขียนขึ้นฝ่ายเดียวแล้วข้ามแดนไปยิงทหารเขมรตาย หลังจากนั้นก็ปิดพรมแดน ทำสถานการณ์ตึงเครียด เขมรไม่อยากทำสงครามจึงนำเรื่องขึ้นศาลโลก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063939 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ

    WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม

    นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา

    บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ:
    - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple
    - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี
    - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง

    ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat

    Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:  
    • Facebook phone → ล้มเหลว  
    • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย  
    • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล  
    • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน

    AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)  
    • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม  
    • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร

    ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:  
    • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม  
    • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)  
    • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม

    โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:  
    • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%  
    • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร

    เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:  
    • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple  
    • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้  
    • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป

    Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    Meta เคยเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนอินเทอร์เน็ตสมัยใหม่ — มี Facebook ครองโลก, ซื้อ Instagram มาต่อยอด, ทุ่มเงินซื้อ WhatsApp พร้อมสัญญาว่าจะไม่มีโฆษณา…แต่สุดท้ายทุกอย่างกำลังย้อนกลับ WhatsApp ตอนนี้มีโฆษณา Metaverse ทุ่มเงินหลายพันล้านเหรียญ → ยังไม่เห็นผล Libra (คริปโตของ Meta) → ตาย แม้แต่ AI — LLaMA ยังตามหลัง ChatGPT, Claude และ Gemini อยู่หลายร้อยแต้ม นักเขียนบทความนี้ (Howard Yu) วิเคราะห์ว่า Mark Zuckerberg เรียนรู้เชิงธุรกิจเก่งมาก แต่ “ไม่เคยเรียนรู้จากผลกระทบที่ Meta ก่อในสังคม” เช่น การถูกใช้เป็นเครื่องมือปลุกปั่น, ปัญหาสุขภาพจิตวัยรุ่น, และกรณีรุนแรงอย่างความขัดแย้งในเมียนมา บทวิเคราะห์เปรียบเทียบ Mark กับ Steve Jobs ไว้อย่างน่าสนใจ: - Jobs เคยผิดพลาด, เคยล้ม, เคยถูกไล่ออกจาก Apple - แต่เขากลับมาใหม่ด้วยการ “เติบโตทางจิตใจ” ไม่ใช่แค่ทางเทคโนโลยี - เขายอมฟังคนอื่น, สร้างทีมที่เก่งกว่า, ไม่พยายามควบคุมทุกอย่าง → และสร้าง Apple ยุคใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเขาเอง ส่วน Zuckerberg ใช้อำนาจหุ้นพิเศษ (super-voting shares) ทำให้ไม่มีใครปลดเขาได้ → ไม่มีแรงกดดันให้เติบโต เปลี่ยนแปลง หรือยอมรับความผิดพลาด → ผลลัพธ์คือ Meta วนลูปเดิม ๆ — ปรับ feed เพิ่ม engagement → ขายโฆษณา → repeat ✅ Meta เคยล้มเหลวหลายโปรเจกต์ใหญ่:   • Facebook phone → ล้มเหลว   • Free Basics → ถูกแบนในอินเดีย   • Libra → ถูกต่อต้านโดยรัฐบาล   • Metaverse → ทุ่มเงินมหาศาล แต่ยังไม่คืนทุน ✅ AI ของ Meta (LLaMA 4) ยังตามหลัง OpenAI (ChatGPT), Anthropic (Claude), Google (Gemini)   • คะแนน Elo ห่างคู่แข่งหลายสิบถึงหลายร้อยแต้ม   • แม้ใช้ open-source เป็นยุทธศาสตร์หลัก แต่ยังไม่ดึงใจนักพัฒนาเท่าที่ควร ✅ ผู้เขียนชี้ว่า Zuckerberg ไม่เคยเรียนรู้จาก ‘ผลเสียต่อสังคม’ ที่ Meta สร้างไว้:   • กรณี Facebook ในเมียนมา → ปล่อยให้ Hate speech ลุกลาม   • Facebook ถูกใช้ในการปลุกระดม, ปั่นเลือกตั้ง (Cambridge Analytica)   • ระบบโฆษณาใช้ microtargeting เพื่อกด turnout กลุ่มเป้าหมายบางกลุ่ม ✅ โครงสร้างอำนาจของ Meta = Zuckerberg คุมทุกอย่าง:   • เขาถือหุ้น 13% แต่มีสิทธิ์โหวตกว่า 50%   • ไม่มีใครปลดเขาได้ จึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อใคร ✅ เปรียบเทียบกับ Steve Jobs:   • Jobs ล้มเหลว, ถูกไล่ออกจาก Apple   • แต่กลับมาใหม่แบบถ่อมตนและเรียนรู้   • สร้างวัฒนธรรมที่ Apple แข็งแรงพอจะอยู่ได้แม้เขาจากไป ✅ Meta แม้จะยังทำเงินได้มากจากโฆษณา แต่กำลัง “ไร้วิสัยทัศน์ที่สดใหม่” สำหรับโลกยุคหลังโฆษณา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/01/why-mark-zuckerberg-and-meta-cant-build-the-future
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Why Mark Zuckerberg and Meta can't build the future
    Here's how absolute power trapped Facebook's parent company — and how Steve Jobs broke free.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 273 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานที่ "ไม่ได้รับการยืนยัน" ว่า จีน อิหร่าน รัสเซีย และปากีสถาน จัดการประชุมลับระดับหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือ NSA (National Security Agency) ช่วงระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมในองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ซึ่งจัดขึ้นที่จีน

    โดยที่การประชุมลับครั้งนี้ ไม่มีอินเดียเข้าร่วมด้วย

    แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ รายงานว่า การที่อินเดียถูกกีดกันออกจากการประชุมอาจเกิดจากจุดยืนที่แตกต่างกันในประเด็นตะวันออกกลาง ซึ่งอินเดียไม่ได้ร่วมลงนามการประณามการกระทำของอิสราเอล รวมทั้งความตึงเครียดกับจีนและปากีสถาน
    มีรายงานที่ "ไม่ได้รับการยืนยัน" ว่า จีน อิหร่าน รัสเซีย และปากีสถาน จัดการประชุมลับระดับหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือ NSA (National Security Agency) ช่วงระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมในองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ซึ่งจัดขึ้นที่จีน โดยที่การประชุมลับครั้งนี้ ไม่มีอินเดียเข้าร่วมด้วย แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ รายงานว่า การที่อินเดียถูกกีดกันออกจากการประชุมอาจเกิดจากจุดยืนที่แตกต่างกันในประเด็นตะวันออกกลาง ซึ่งอินเดียไม่ได้ร่วมลงนามการประณามการกระทำของอิสราเอล รวมทั้งความตึงเครียดกับจีนและปากีสถาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมัยก่อนเวลาเราพูดถึงอินเทอร์เน็ตในหมู่เกาะห่างไกล เช่น ตูวาลู (Tuvalu) — ประเทศเล็ก ๆ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก — ก็คงคิดถึงเน็ตช้าหรือไม่มีอินเทอร์เน็ตเลย แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะ Starlink เข้ามาให้บริการในประเทศนี้ และเปิดให้ใช้งานบน IPv6 “เต็มรูปแบบ”

    แค่ไม่กี่เดือนหลัง Starlink เข้ามา ส่วนแบ่ง IPv6 ของตูวาลูพุ่งจาก 0% เป็น 59% — กลายเป็นหนึ่งใน 21 ประเทศที่ “ใช้ IPv6 มากกว่า 50% ของการเชื่อมต่อทั้งหมด” ทันที!

    ประเทศอื่นที่เพิ่งเข้าสู่ “Majority IPv6 Club” ในปีที่ผ่านมา ได้แก่ บราซิล, เม็กซิโก, กัวเตมาลา, ศรีลังกา, ฮังการี, ญี่ปุ่น, เปอร์โตริโก ฯลฯ

    จำนวนประเทศที่มีการใช้งาน IPv6 เกิน 50% เพิ่มจาก 13 → 21 ประเทศในรอบ 1 ปี  
    • ข้อมูลจาก Akamai, APNIC, Google และ Meta

    ประเทศที่ใช้งาน IPv6 มากที่สุดในโลกขณะนี้ ได้แก่:  
    • อินเดีย (73%)  
    • ฝรั่งเศส (73%)

    Starlink ของ SpaceX เป็นผู้เล่นหลักที่เร่งการเปลี่ยนผ่านไปใช้ IPv6  
    • เครือข่ายของ Starlink “ออกแบบให้รองรับ IPv6 ตั้งแต่ต้น”  
    • ช่วยให้ประเทศขนาดเล็กหรือห่างไกล “ข้ามขั้น” โครงสร้างเก่าไปใช้ระบบใหม่ทันที

    IPv6 แก้ข้อจำกัดของ IPv4 ที่มีแค่ 4.3 พันล้านหมายเลข IP  
    • IPv6 มีหมายเลขได้ถึง 340 undecillion (340 ล้านล้านล้านล้าน)  
    • เพียงพอต่อยุคอุปกรณ์ IoT, รถยนต์อัจฉริยะ, บ้านอัจฉริยะ

    ข้อดีอื่นของ IPv6 เช่น:  
    • ไม่ต้อง NAT → เชื่อมอุปกรณ์ได้แบบ end-to-end  
    • ปรับ routing ให้เร็วขึ้น  • รองรับการเข้ารหัส IPsec เป็นมาตรฐาน

    ประเทศอื่นที่กำลังเข้าใกล้ 50% เช่น ไทย, อังกฤษ และเอสโตเนีย

    บางประเทศที่เคยใช้ IPv6 เกิน 50% มีอัตราการลดลงชั่วคราว  
    • เช่น ญี่ปุ่นและเปอร์โตริโก เคยหลุดจากกลุ่มนี้ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่  
    • อาจเกิดจากการขยายเครือข่ายเดิมที่ยังใช้ IPv4 อยู่

    องค์กรหรือผู้ให้บริการที่ยังไม่อัปเกรดระบบ → เสี่ยงถูกตัดขาดจากเครือข่ายที่ใช้ IPv6-only  
    • โดยเฉพาะระบบ IoT, cloud หรือ edge computing

    การใช้ IPv6 ยังต้องอาศัยการอัปเดต DNS, firewall, VPN และระบบความปลอดภัยให้รองรับ format ใหม่
    • ไม่ใช่แค่เปลี่ยน router อย่างเดียว

    การก้าวเข้าสู่ยุค IPv6 ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไป  
    • เพราะการเข้ารหัสและ config ก็ต้องทำอย่างถูกต้อง มิฉะนั้นอาจเกิดช่องโหว่ใหม่ได้

    https://www.techspot.com/news/108490-ipv6-reaches-majority-use-21-countries-starlink-other.html
    สมัยก่อนเวลาเราพูดถึงอินเทอร์เน็ตในหมู่เกาะห่างไกล เช่น ตูวาลู (Tuvalu) — ประเทศเล็ก ๆ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก — ก็คงคิดถึงเน็ตช้าหรือไม่มีอินเทอร์เน็ตเลย แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะ Starlink เข้ามาให้บริการในประเทศนี้ และเปิดให้ใช้งานบน IPv6 “เต็มรูปแบบ” แค่ไม่กี่เดือนหลัง Starlink เข้ามา ส่วนแบ่ง IPv6 ของตูวาลูพุ่งจาก 0% เป็น 59% — กลายเป็นหนึ่งใน 21 ประเทศที่ “ใช้ IPv6 มากกว่า 50% ของการเชื่อมต่อทั้งหมด” ทันที! ประเทศอื่นที่เพิ่งเข้าสู่ “Majority IPv6 Club” ในปีที่ผ่านมา ได้แก่ บราซิล, เม็กซิโก, กัวเตมาลา, ศรีลังกา, ฮังการี, ญี่ปุ่น, เปอร์โตริโก ฯลฯ ✅ จำนวนประเทศที่มีการใช้งาน IPv6 เกิน 50% เพิ่มจาก 13 → 21 ประเทศในรอบ 1 ปี   • ข้อมูลจาก Akamai, APNIC, Google และ Meta ✅ ประเทศที่ใช้งาน IPv6 มากที่สุดในโลกขณะนี้ ได้แก่:   • อินเดีย (73%)   • ฝรั่งเศส (73%) ✅ Starlink ของ SpaceX เป็นผู้เล่นหลักที่เร่งการเปลี่ยนผ่านไปใช้ IPv6   • เครือข่ายของ Starlink “ออกแบบให้รองรับ IPv6 ตั้งแต่ต้น”   • ช่วยให้ประเทศขนาดเล็กหรือห่างไกล “ข้ามขั้น” โครงสร้างเก่าไปใช้ระบบใหม่ทันที ✅ IPv6 แก้ข้อจำกัดของ IPv4 ที่มีแค่ 4.3 พันล้านหมายเลข IP   • IPv6 มีหมายเลขได้ถึง 340 undecillion (340 ล้านล้านล้านล้าน)   • เพียงพอต่อยุคอุปกรณ์ IoT, รถยนต์อัจฉริยะ, บ้านอัจฉริยะ ✅ ข้อดีอื่นของ IPv6 เช่น:   • ไม่ต้อง NAT → เชื่อมอุปกรณ์ได้แบบ end-to-end   • ปรับ routing ให้เร็วขึ้น  • รองรับการเข้ารหัส IPsec เป็นมาตรฐาน ✅ ประเทศอื่นที่กำลังเข้าใกล้ 50% เช่น ไทย, อังกฤษ และเอสโตเนีย ‼️ บางประเทศที่เคยใช้ IPv6 เกิน 50% มีอัตราการลดลงชั่วคราว   • เช่น ญี่ปุ่นและเปอร์โตริโก เคยหลุดจากกลุ่มนี้ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่   • อาจเกิดจากการขยายเครือข่ายเดิมที่ยังใช้ IPv4 อยู่ ‼️ องค์กรหรือผู้ให้บริการที่ยังไม่อัปเกรดระบบ → เสี่ยงถูกตัดขาดจากเครือข่ายที่ใช้ IPv6-only   • โดยเฉพาะระบบ IoT, cloud หรือ edge computing ‼️ การใช้ IPv6 ยังต้องอาศัยการอัปเดต DNS, firewall, VPN และระบบความปลอดภัยให้รองรับ format ใหม่ • ไม่ใช่แค่เปลี่ยน router อย่างเดียว ‼️ การก้าวเข้าสู่ยุค IPv6 ไม่ได้แปลว่าปลอดภัยเสมอไป   • เพราะการเข้ารหัสและ config ก็ต้องทำอย่างถูกต้อง มิฉะนั้นอาจเกิดช่องโหว่ใหม่ได้ https://www.techspot.com/news/108490-ipv6-reaches-majority-use-21-countries-starlink-other.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    IPv6 reaches majority use in 21 countries as Starlink and other providers modernize global connectivity
    The most dramatic transformation has occurred in Tuvalu, a Pacific island nation with a population under 10,000. Until early 2025, Tuvalu had virtually no IPv6 presence. That...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • **อ่าวไทย** มีทั้งผลกระทบทางบวกและลบต่อ**ประเทศจีน** โดยขึ้นอยู่กับมุมมองทางเศรษฐกิจ การเมือง และยุทธศาสตร์ ดังนี้:

    ---

    ### **ผลกระทบทางบวก (ประโยชน์ต่อจีน):**
    1. **เส้นทางขนส่งทางทะเลที่สำคัญ:**
    - อ่าวไทยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ซึ่งจีนพึ่งพาเพื่อการค้าและนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง/แอฟริกา (กว่า 80% ของน้ำมันดิบของจีนขนส่งทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกา)
    - โครงการพัฒนาคลองกระ (Kra Canal) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (แม้ยังไม่มีความชัดเจน) อาจช่วยลดระยะทางขนส่งและลด "กับดักช่องแคบมะละกา" ซึ่งเป็นจุดอ่อนยุทธศาสตร์ของจีนได้

    2. **ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ:**
    - จีนลงทุนมหาศาลในประเทศรอบอ่าวไทย (ไทย, กัมพูชา, เวียดนาม) ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) เช่น ท่าเรือน้ำลึกศรีราชา (ไทย) เขตเศรษฐกิจพิเศษเสียมราฐ (กัมพูชา)
    - อ่าวไทยเป็นแหล่งประมงและพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ) ที่สำคัญ ซึ่งจีนมีส่วนร่วมในการสำรวจและพัฒนา

    3. **ความมั่นคงในภูมิภาค:**
    - จีนร่วมมือกับกองทัพเรือไทย/กัมพูชา ผ่านการฝึกรบร่วมและการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อรักษาเสถียรภาพในอ่าวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือ

    ---

    ### **ผลกระทบทางลบ (ความท้าทายต่อจีน):**
    1. **ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้:**
    - แม้อ่าวไทยไม่ใช่พื้นที่พิพาทโดยตรง แต่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ (โดยเฉพาะกับเวียดนาม) ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพของอ่าวไทย

    2. **อิทธิพลของสหรัฐฯ:**
    - ไทยเป็นพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ การมีฐานทัพเรืออู่ตะเภาและการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) อาจทำให้จีนกังวลเรื่องการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในอ่าวไทย

    3. **ภัยคุกคามทางทะเล:**
    - การโจรกรรมทางทะเล การค้ามนุษย์ และการลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในอ่าวไทยอาจกระทบต่อเรือสินค้าของจีน

    4. **ปัญหาสิ่งแวดล้อม:**
    - มลภาวะและการกัดเซาะชายฝั่งในอ่าวไทยอาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่จีนมีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากจีนลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง

    ---

    ### **สรุป:**
    อ่าวไทยมี**ผลดีต่อจีน**ในด้านเศรษฐกิจและการขนส่งทางทะเล แต่ก็มี**ความเสี่ยง**ด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ โดยจีนพยายามสร้างสมดุลผ่าน:
    - การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
    - ความร่วมมือทางทหารกับประเทศอ่าวไทย
    - การส่งเสริม BRI เพื่อขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ

    ทั้งนี้ ผลกระทบที่แท้จริงขึ้นอยู่กับ**นโยบายของจีน** และ**สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้** โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับไทย เวียดนาม และกัมพูชา
    **อ่าวไทย** มีทั้งผลกระทบทางบวกและลบต่อ**ประเทศจีน** โดยขึ้นอยู่กับมุมมองทางเศรษฐกิจ การเมือง และยุทธศาสตร์ ดังนี้: --- ### **ผลกระทบทางบวก (ประโยชน์ต่อจีน):** 1. **เส้นทางขนส่งทางทะเลที่สำคัญ:** - อ่าวไทยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ซึ่งจีนพึ่งพาเพื่อการค้าและนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง/แอฟริกา (กว่า 80% ของน้ำมันดิบของจีนขนส่งทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกา) - โครงการพัฒนาคลองกระ (Kra Canal) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (แม้ยังไม่มีความชัดเจน) อาจช่วยลดระยะทางขนส่งและลด "กับดักช่องแคบมะละกา" ซึ่งเป็นจุดอ่อนยุทธศาสตร์ของจีนได้ 2. **ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ:** - จีนลงทุนมหาศาลในประเทศรอบอ่าวไทย (ไทย, กัมพูชา, เวียดนาม) ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) เช่น ท่าเรือน้ำลึกศรีราชา (ไทย) เขตเศรษฐกิจพิเศษเสียมราฐ (กัมพูชา) - อ่าวไทยเป็นแหล่งประมงและพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ) ที่สำคัญ ซึ่งจีนมีส่วนร่วมในการสำรวจและพัฒนา 3. **ความมั่นคงในภูมิภาค:** - จีนร่วมมือกับกองทัพเรือไทย/กัมพูชา ผ่านการฝึกรบร่วมและการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อรักษาเสถียรภาพในอ่าวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือ --- ### **ผลกระทบทางลบ (ความท้าทายต่อจีน):** 1. **ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้:** - แม้อ่าวไทยไม่ใช่พื้นที่พิพาทโดยตรง แต่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ (โดยเฉพาะกับเวียดนาม) ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพของอ่าวไทย 2. **อิทธิพลของสหรัฐฯ:** - ไทยเป็นพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ การมีฐานทัพเรืออู่ตะเภาและการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) อาจทำให้จีนกังวลเรื่องการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในอ่าวไทย 3. **ภัยคุกคามทางทะเล:** - การโจรกรรมทางทะเล การค้ามนุษย์ และการลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในอ่าวไทยอาจกระทบต่อเรือสินค้าของจีน 4. **ปัญหาสิ่งแวดล้อม:** - มลภาวะและการกัดเซาะชายฝั่งในอ่าวไทยอาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่จีนมีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากจีนลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง --- ### **สรุป:** อ่าวไทยมี**ผลดีต่อจีน**ในด้านเศรษฐกิจและการขนส่งทางทะเล แต่ก็มี**ความเสี่ยง**ด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ โดยจีนพยายามสร้างสมดุลผ่าน: - ✅ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน - ✅ ความร่วมมือทางทหารกับประเทศอ่าวไทย - ✅ การส่งเสริม BRI เพื่อขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ผลกระทบที่แท้จริงขึ้นอยู่กับ**นโยบายของจีน** และ**สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้** โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับไทย เวียดนาม และกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องราวเริ่มจาก Chetal และพวก 2 คน ใช้เทคนิค social engineering ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Google/Yahoo หลอกเหยื่อจากวอชิงตัน ดี.ซี. จนสามารถขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 เหรียญ มูลค่าราว $245 ล้าน (และตอนนี้ขึ้นมาเกือบ $440 ล้านแล้ว!)

    จากนั้นเขาใช้เงินที่ได้ไปใช้ชีวิตหรูหราทั้งซื้อรถ, เช่าคฤหาสน์, ปาร์ตี้ไนต์คลับ และเครื่องเพชร — จนกลายเป็นเป้าสายตาแบบเต็ม ๆ

    และเรื่องดันบานปลาย เมื่อ พ่อแม่ของ Chetal ถูกกลุ่มอาชญากรจากฟลอริดารุมทำร้าย-ลักพาตัว แบบกลางวันแสก ๆ ด้วยการเอารถชน, มัดมือ, ยัดใส่รถตู้ — แต่โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ FBI นอกเครื่องแบบอยู่ใกล้ ๆ และช่วยได้ทัน

    ต่อมา FBI บุกค้นบ้าน พบเงินสด $500,000 และคริปโตอีก $39 ล้าน ซ้ำยังพบว่า Chetal เคยก่อเหตุแบบเดียวกันอีกเกือบ 50 ครั้ง รวมรายได้อีก $3 ล้าน

    ตอนนี้ Chetal ยอมรับผิดและให้ความร่วมมือกับทางการ เพื่อแลกกับโทษที่เบาลง — แต่อาจต้องติดคุก 19–24 ปี, ถูกปรับสูงสุด $500,000 และอาจ ถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะเป็นผู้ย้ายถิ่นตั้งแต่ยังเด็ก

    ข้อมูลจากข่าว:
    Veer Chetal และพรรคพวกขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 BTC มูลค่า $245 ล้าน ในเดือนส.ค. 2024  
    • ใช้การหลอกลวงแบบ social engineering ด้วยการปลอมเป็นเจ้าหน้าที่บริการเว็บชื่อดัง

    หลังการขโมย Chetal ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย  
    • ซื้อรถหรู, เครื่องเพชร, เช่าคฤหาสน์ และปาร์ตี้อย่างรื่นเริง

    พ่อแม่ของเขาถูกกลุ่มชายจากฟลอริดาลักพาตัวกลางวันแสก ๆ ด้วยความรุนแรง  
    • โชคดีที่มี FBI อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ช่วยไว้ได้ทัน

    FBI ค้นบ้านพบ $500,000 เงินสด และ crypto อีก $39 ล้าน  
    • ตรวจพบว่ามีคดีคล้ายกันอีก 50 ครั้ง รวมเงิน $3 ล้าน

    Chetal ยอมรับผิดข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน  
    • เตรียมรับโทษจำคุก 19–24 ปี และปรับ $50,000–$500,000 พร้อมชดใช้เหยื่อ  
    • อาจถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ

    พ่อของเขาถูกไล่ออกจาก Morgan Stanley จากเหตุผลเกี่ยวกับคดีนี้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/man-behind-usd245m-bitcoin-theft-has-bizarre-tale-that-includes-kidnapped-parents-fraud-and-money-laundering-suspect-now-faces-up-to-24-years-in-prison-half-million-dollar-fine-and-possible-deportation-to-india
    เรื่องราวเริ่มจาก Chetal และพวก 2 คน ใช้เทคนิค social engineering ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Google/Yahoo หลอกเหยื่อจากวอชิงตัน ดี.ซี. จนสามารถขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 เหรียญ มูลค่าราว $245 ล้าน (และตอนนี้ขึ้นมาเกือบ $440 ล้านแล้ว!) จากนั้นเขาใช้เงินที่ได้ไปใช้ชีวิตหรูหราทั้งซื้อรถ, เช่าคฤหาสน์, ปาร์ตี้ไนต์คลับ และเครื่องเพชร — จนกลายเป็นเป้าสายตาแบบเต็ม ๆ และเรื่องดันบานปลาย เมื่อ พ่อแม่ของ Chetal ถูกกลุ่มอาชญากรจากฟลอริดารุมทำร้าย-ลักพาตัว แบบกลางวันแสก ๆ ด้วยการเอารถชน, มัดมือ, ยัดใส่รถตู้ — แต่โชคดีที่มีเจ้าหน้าที่ FBI นอกเครื่องแบบอยู่ใกล้ ๆ และช่วยได้ทัน ต่อมา FBI บุกค้นบ้าน พบเงินสด $500,000 และคริปโตอีก $39 ล้าน ซ้ำยังพบว่า Chetal เคยก่อเหตุแบบเดียวกันอีกเกือบ 50 ครั้ง รวมรายได้อีก $3 ล้าน ตอนนี้ Chetal ยอมรับผิดและให้ความร่วมมือกับทางการ เพื่อแลกกับโทษที่เบาลง — แต่อาจต้องติดคุก 19–24 ปี, ถูกปรับสูงสุด $500,000 และอาจ ถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะเป็นผู้ย้ายถิ่นตั้งแต่ยังเด็ก ✅ ข้อมูลจากข่าว: ✅ Veer Chetal และพรรคพวกขโมย Bitcoin จำนวน 4,100 BTC มูลค่า $245 ล้าน ในเดือนส.ค. 2024   • ใช้การหลอกลวงแบบ social engineering ด้วยการปลอมเป็นเจ้าหน้าที่บริการเว็บชื่อดัง ✅ หลังการขโมย Chetal ใช้ชีวิตฟุ่มเฟือย   • ซื้อรถหรู, เครื่องเพชร, เช่าคฤหาสน์ และปาร์ตี้อย่างรื่นเริง ✅ พ่อแม่ของเขาถูกกลุ่มชายจากฟลอริดาลักพาตัวกลางวันแสก ๆ ด้วยความรุนแรง   • โชคดีที่มี FBI อยู่ในเหตุการณ์ ทำให้ช่วยไว้ได้ทัน ✅ FBI ค้นบ้านพบ $500,000 เงินสด และ crypto อีก $39 ล้าน   • ตรวจพบว่ามีคดีคล้ายกันอีก 50 ครั้ง รวมเงิน $3 ล้าน ✅ Chetal ยอมรับผิดข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงิน   • เตรียมรับโทษจำคุก 19–24 ปี และปรับ $50,000–$500,000 พร้อมชดใช้เหยื่อ   • อาจถูกเนรเทศกลับอินเดีย เพราะไม่ใช่พลเมืองสหรัฐฯ ✅ พ่อของเขาถูกไล่ออกจาก Morgan Stanley จากเหตุผลเกี่ยวกับคดีนี้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/man-behind-usd245m-bitcoin-theft-has-bizarre-tale-that-includes-kidnapped-parents-fraud-and-money-laundering-suspect-now-faces-up-to-24-years-in-prison-half-million-dollar-fine-and-possible-deportation-to-india
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Man behind $245m Bitcoin theft has bizarre tale that includes kidnapped parents, fraud, and money laundering — suspect now faces up to 24 years in prison, half-million-dollar fine, and possible deportation to India
    Connecticut man’s parents were kidnapped shortly after the BTC theft. The father allegedly lost his job at Morgan Stanley due to his son’s nefarious activities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิวเดลีวางแผนสร้างระเบิด GBU-57 Buker Buster ของตัวเองขึ้นมาในยุทธศาสตร์เพื่อความสุดยอดทางการทหารระดับชั้นนำของตัวเองเป้าหมายโจมตีใต้ดินลับหลังสหรัฐฯประสบความสำเร็จโชว์ทั้งโลกโจมตีโรงนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่าน สื่ออินเดียโว ระเบิด Bunker Buster ของแดนภารตะเวอร์ชันมิสไซล์ชื่อ Agni-5 สามารถทำให้แม้กระทั่งสหรัฐฯอาย มีสมรรถนะไกลสามารถทำลายแล็บวิจัยนิวเคลียร์ลับปากีสถานที่ Kirana Hills ได้ภายในแค่ไม่กี่นาที
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000059988

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    นิวเดลีวางแผนสร้างระเบิด GBU-57 Buker Buster ของตัวเองขึ้นมาในยุทธศาสตร์เพื่อความสุดยอดทางการทหารระดับชั้นนำของตัวเองเป้าหมายโจมตีใต้ดินลับหลังสหรัฐฯประสบความสำเร็จโชว์ทั้งโลกโจมตีโรงนิวเคลียร์ใต้ดินของอิหร่าน สื่ออินเดียโว ระเบิด Bunker Buster ของแดนภารตะเวอร์ชันมิสไซล์ชื่อ Agni-5 สามารถทำให้แม้กระทั่งสหรัฐฯอาย มีสมรรถนะไกลสามารถทำลายแล็บวิจัยนิวเคลียร์ลับปากีสถานที่ Kirana Hills ได้ภายในแค่ไม่กี่นาที . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000059988 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทัวร์บาหลี ภูเขาไฟโบรโม บุโรพุทโธ อีเจี้ยน
    โปรโมชั่นวันแม่ ลด 2,000 บาท เหลือเพียง 45,999.-
    เดินทาง: 12-19 ส.ค. 68

    ทัวร์รอบเดียวครบ! เดินทางไป บาหลี – ภูเขาไฟโบรโม – บุโรพุทโธ – อีเจี้ยน

    โปรแกรมทัวร์:
    * ชม อนุสาวรีย์มหาภารตะ สัญลักษณ์ของเกาะบาหลี
    * วิหารอูลูวาตู บนหน้าผาสูงสุดของมหาสมุทรอินเดีย
    * เดินทางเข้าชม อุทยานอีเจี้ยน
    * ชม พระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเขาไฟโบรโม่
    * อนุสาวรีย์เรือดำน้ำสุราบาย่า
    * วัดพรามนันต์ มรดกโลกจาก UNESCO
    * ชม มหาเจดีย์บุโรพุทโธ ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e0d785

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์บาหลี #ภูเขาไฟโบรโม #บุโรพุทโธ #อีเจี้ยน #โปรวันแม่ #เที่ยวต่างประเทศ #โปรทัวร์ #ราคาพิเศษ
    🇮🇩 ทัวร์บาหลี ภูเขาไฟโบรโม บุโรพุทโธ อีเจี้ยน 💥 ✨ โปรโมชั่นวันแม่ ลด 2,000 บาท เหลือเพียง 45,999.- 📅 เดินทาง: 12-19 ส.ค. 68 ทัวร์รอบเดียวครบ! เดินทางไป บาหลี – ภูเขาไฟโบรโม – บุโรพุทโธ – อีเจี้ยน 🌋 📍 โปรแกรมทัวร์: * ชม อนุสาวรีย์มหาภารตะ สัญลักษณ์ของเกาะบาหลี * วิหารอูลูวาตู บนหน้าผาสูงสุดของมหาสมุทรอินเดีย * เดินทางเข้าชม อุทยานอีเจี้ยน * ชม พระอาทิตย์ขึ้นที่ภูเขาไฟโบรโม่ 🌅 * อนุสาวรีย์เรือดำน้ำสุราบาย่า * วัดพรามนันต์ มรดกโลกจาก UNESCO 🌍 * ชม มหาเจดีย์บุโรพุทโธ ศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในโลก 🕌 ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e0d785 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์บาหลี #ภูเขาไฟโบรโม #บุโรพุทโธ #อีเจี้ยน #โปรวันแม่ #เที่ยวต่างประเทศ #โปรทัวร์ #ราคาพิเศษ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • RWMF2025 เทศกาลดนตรีเรือธงรัฐซาราวัก

    เทศกาลดนตรี The Rainforest World Music Festival 2025 ที่หมู่บ้านวัฒนธรรมซาราวัก เมืองกูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลเรือธงของซาราวัก (Sarawak) รัฐที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ที่เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวหลักของรัฐ โดยในช่วงกลางวัน จะมีการจัดแสดงทางวัฒนธรรมและงานฝีมือ การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนในตอนค่ำจะมีการแสดงบนเวทีหลัก ท่ามกลางบรรยากาศของป่าในฤดูฝน และฉากหลังเขาซานตูบง งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 28 นับตั้งแต่การจัดงานครั้งแรกในปี 1998 โดยในปีนี้มีศิลปินจาก 20 ประเทศ 20 วงดนตรี และนักดนตรีกว่า 200 คน

    RWMF 2025 ในปีนี้คว้าศิลปินระดับตำนาน Earth, Wind & Fire Experience by Al McKay จากสหรัฐอเมริกา นำโดย อัล แมคเคย์ มือกีตาร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ด เจ้าของเพลง September และ Let's groove พร้อมด้วยวง GAGA GUNDUL จากฝรั่งเศสและอินโดนีเซีย SEFFARINE จากโมรอกโก คิวบา สเปน สหรัฐอเมริกาและอิหร่าน OTYKEN จากไซบีเรียและรัสเซีย SEPPUKU PISTOLS จากญี่ปุ่น KULAIWI จากฮาวาย ROB RUHA จากเอาเตียรัว นิวซีแลนด์ MANHU จากจีน TAL FRY จากอินเดีย LA CHIVA GANTIVA จากโคลัมเบียและเบลเยียม และ N'FAMADY KOUYATE จากกินีและอังกฤษ

    ส่วนในอาเซียน มีทั้งพาราไดซ์ แบงคอก หมอลำ อินเตอร์เนชันแนล จากไทย และ KUNTAW MINDANAO จากฟิลิปปินส์ สลับกับวงดนตรีจากมาเลเซียและซาราวัก อาทิ MATHEW NGAU JAU with LAN E TUYANG, NAUNGAN, MERUKED, BUDDHA BEAT ft. SINARAN COLLECTIVE, KANCET AJAJ WARRIOR DANCE, BULOH BERKOCAK, AT ADAU โดยจำหน่ายบัตรเหมา 3 วันในราคา 635 ริงกิต (4,900 บาท) และบัตร 1 วัน ขายล่วงหน้าราคา 235-285 ริงกิต (1,813-2,200 บาท) และขายหน้างานราคา 333 ริงกิต (2,570 บาท) โดยมีรถรับส่งฟรีสำหรับผู้ซื้อบัตร จากตัวเมืองกูชิงถึงบริเวณหาดดาไม และมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวออกแพ็คเกจทัวร์ร่วมกับงาน RWMF 2025 แบบ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืนพร้อมกิจกรรมอื่นๆ

    สำหรับซาราวักเป็นประตูสู่เกาะบอร์เนียว เชื่อมโยงกับมาเลเซียทางอากาศ โดยท่าอากาศยานกูชิง (KCH) มีเที่ยวบินไปยังท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (KUL) กว่า 140 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในปี 2568 รัฐซาราวักมีกิจกรรมตามปฎิทินท่องเที่ยวราว 250 กิจกรรม มีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ 5 ล้านคน จากปีที่แล้ว 4.8 ล้านคน ส่วนใหญ่จากประเทศบรูไน ประมาณเดือนละ 150,000 คน ขณะที่ชาวอินโดนีเซียก็สนใจอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีงาน Sarawak Regatta การแข่งขันพายเรือประจำปีบนแม่น้ำซาราวักในช่วงปลายปีอีกด้วย

    #Newskit
    RWMF2025 เทศกาลดนตรีเรือธงรัฐซาราวัก เทศกาลดนตรี The Rainforest World Music Festival 2025 ที่หมู่บ้านวัฒนธรรมซาราวัก เมืองกูชิง รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย ถือเป็นหนึ่งในเทศกาลเรือธงของซาราวัก (Sarawak) รัฐที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย ที่เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวหลักของรัฐ โดยในช่วงกลางวัน จะมีการจัดแสดงทางวัฒนธรรมและงานฝีมือ การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนในตอนค่ำจะมีการแสดงบนเวทีหลัก ท่ามกลางบรรยากาศของป่าในฤดูฝน และฉากหลังเขาซานตูบง งานนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 28 นับตั้งแต่การจัดงานครั้งแรกในปี 1998 โดยในปีนี้มีศิลปินจาก 20 ประเทศ 20 วงดนตรี และนักดนตรีกว่า 200 คน RWMF 2025 ในปีนี้คว้าศิลปินระดับตำนาน Earth, Wind & Fire Experience by Al McKay จากสหรัฐอเมริกา นำโดย อัล แมคเคย์ มือกีตาร์เจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ด เจ้าของเพลง September และ Let's groove พร้อมด้วยวง GAGA GUNDUL จากฝรั่งเศสและอินโดนีเซีย SEFFARINE จากโมรอกโก คิวบา สเปน สหรัฐอเมริกาและอิหร่าน OTYKEN จากไซบีเรียและรัสเซีย SEPPUKU PISTOLS จากญี่ปุ่น KULAIWI จากฮาวาย ROB RUHA จากเอาเตียรัว นิวซีแลนด์ MANHU จากจีน TAL FRY จากอินเดีย LA CHIVA GANTIVA จากโคลัมเบียและเบลเยียม และ N'FAMADY KOUYATE จากกินีและอังกฤษ ส่วนในอาเซียน มีทั้งพาราไดซ์ แบงคอก หมอลำ อินเตอร์เนชันแนล จากไทย และ KUNTAW MINDANAO จากฟิลิปปินส์ สลับกับวงดนตรีจากมาเลเซียและซาราวัก อาทิ MATHEW NGAU JAU with LAN E TUYANG, NAUNGAN, MERUKED, BUDDHA BEAT ft. SINARAN COLLECTIVE, KANCET AJAJ WARRIOR DANCE, BULOH BERKOCAK, AT ADAU โดยจำหน่ายบัตรเหมา 3 วันในราคา 635 ริงกิต (4,900 บาท) และบัตร 1 วัน ขายล่วงหน้าราคา 235-285 ริงกิต (1,813-2,200 บาท) และขายหน้างานราคา 333 ริงกิต (2,570 บาท) โดยมีรถรับส่งฟรีสำหรับผู้ซื้อบัตร จากตัวเมืองกูชิงถึงบริเวณหาดดาไม และมีผู้ประกอบการท่องเที่ยวออกแพ็คเกจทัวร์ร่วมกับงาน RWMF 2025 แบบ 3 วัน 2 คืน หรือ 4 วัน 3 คืนพร้อมกิจกรรมอื่นๆ สำหรับซาราวักเป็นประตูสู่เกาะบอร์เนียว เชื่อมโยงกับมาเลเซียทางอากาศ โดยท่าอากาศยานกูชิง (KCH) มีเที่ยวบินไปยังท่าอากาศยานกัวลาลัมเปอร์ (KUL) กว่า 140 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ในปี 2568 รัฐซาราวักมีกิจกรรมตามปฎิทินท่องเที่ยวราว 250 กิจกรรม มีเป้าหมายดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ได้ 5 ล้านคน จากปีที่แล้ว 4.8 ล้านคน ส่วนใหญ่จากประเทศบรูไน ประมาณเดือนละ 150,000 คน ขณะที่ชาวอินโดนีเซียก็สนใจอย่างมากเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีงาน Sarawak Regatta การแข่งขันพายเรือประจำปีบนแม่น้ำซาราวักในช่วงปลายปีอีกด้วย #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักขุดข้อมูลไปเจอบันทึกขนส่งของ Intel ที่ส่งเครื่องมือทดสอบแพ็กเกจชิป Nova Lake-HX ไปยังอินเดีย — ซึ่งในรายละเอียดมีการระบุว่าใช้แพ็กเกจแบบ BGA2540 เหมือนกับ Panther Lake-HX ที่จะมาแทน Meteor Lake-HX ในโน้ตบุ๊กแรงระดับ workstation และเกมมิ่งรุ่นท็อป

    ข้อดีคือ...นักออกแบบโน้ตบุ๊กสามารถใช้ดีไซน์บอร์ดเดิมได้เลย! ตราบเท่าที่ชิปกราฟิกและองค์ประกอบอื่น ๆ ยังใช้แพ็กเกจเดียวกัน ลดเวลาพัฒนาเครื่องลงได้เยอะ

    อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ พบการทดสอบการจ่ายไฟแบบ 48V ซึ่งผิดปกติ เพราะโน้ตบุ๊กทั่วไปใช้แค่ 19–20V ทำให้สันนิษฐานว่าชิป Nova Lake-HX นี้ อาจไม่ได้ใช้แค่ในโน้ตบุ๊ก แต่อาจไปอยู่ใน NUC, All-in-One PC, หรือแม้แต่ embedded system ที่ต้องการพลังสูงในขนาดเล็ก

    ฝั่ง Nova Lake-S (เดสก์ท็อป) ก็มีข่าวว่าจะใช้ซ็อกเก็ตใหม่ LGA1954 รองรับ 52 คอร์, DDR5-8000 และ PCIe 5.0 เต็มพิกัด — เรียกได้ว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้จะ “เปลี่ยนยุค” ทั้งสำหรับเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กเลยทีเดียว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-laptop-version-of-its-nova-lake-processors-will-use-panther-lake-hx-bga2540-packaging-will-smooth-over-transition-for-notebook-makers-moving-to-the-next-generation
    นักขุดข้อมูลไปเจอบันทึกขนส่งของ Intel ที่ส่งเครื่องมือทดสอบแพ็กเกจชิป Nova Lake-HX ไปยังอินเดีย — ซึ่งในรายละเอียดมีการระบุว่าใช้แพ็กเกจแบบ BGA2540 เหมือนกับ Panther Lake-HX ที่จะมาแทน Meteor Lake-HX ในโน้ตบุ๊กแรงระดับ workstation และเกมมิ่งรุ่นท็อป ข้อดีคือ...นักออกแบบโน้ตบุ๊กสามารถใช้ดีไซน์บอร์ดเดิมได้เลย! ตราบเท่าที่ชิปกราฟิกและองค์ประกอบอื่น ๆ ยังใช้แพ็กเกจเดียวกัน ลดเวลาพัฒนาเครื่องลงได้เยอะ อีกเรื่องที่น่าสนใจคือ พบการทดสอบการจ่ายไฟแบบ 48V ซึ่งผิดปกติ เพราะโน้ตบุ๊กทั่วไปใช้แค่ 19–20V ทำให้สันนิษฐานว่าชิป Nova Lake-HX นี้ อาจไม่ได้ใช้แค่ในโน้ตบุ๊ก แต่อาจไปอยู่ใน NUC, All-in-One PC, หรือแม้แต่ embedded system ที่ต้องการพลังสูงในขนาดเล็ก ฝั่ง Nova Lake-S (เดสก์ท็อป) ก็มีข่าวว่าจะใช้ซ็อกเก็ตใหม่ LGA1954 รองรับ 52 คอร์, DDR5-8000 และ PCIe 5.0 เต็มพิกัด — เรียกได้ว่าแพลตฟอร์มใหม่นี้จะ “เปลี่ยนยุค” ทั้งสำหรับเดสก์ท็อปและโน้ตบุ๊กเลยทีเดียว https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-laptop-version-of-its-nova-lake-processors-will-use-panther-lake-hx-bga2540-packaging-will-smooth-over-transition-for-notebook-makers-moving-to-the-next-generation
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปากีสถานเปิดเผยว่าพวกเขาจะเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จากการช่วยเหลือคลี่คลายความขัดแย้งเมื่อเร็วๆนี้ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน รางวัลที่เขาเคยแสดงความปรารถนาอย่างที่สุด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058535

    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    ปากีสถานเปิดเผยว่าพวกเขาจะเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จากการช่วยเหลือคลี่คลายความขัดแย้งเมื่อเร็วๆนี้ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน รางวัลที่เขาเคยแสดงความปรารถนาอย่างที่สุด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000058535 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Haha
    Sad
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 848 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลปากีสถานได้ตัดสินใจเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ให้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2026 อย่างเป็นทางการ

    เพื่อเป็นการยกย่องการแทรกแซงทางการทูตที่เด็ดขาดและความเป็นผู้นำที่สำคัญของเขาในช่วงวิกฤตอินเดีย-ปากีสถานเมื่อไม่นานนี้
    รัฐบาลปากีสถานได้ตัดสินใจเสนอชื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ให้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2026 อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการยกย่องการแทรกแซงทางการทูตที่เด็ดขาดและความเป็นผู้นำที่สำคัญของเขาในช่วงวิกฤตอินเดีย-ปากีสถานเมื่อไม่นานนี้
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เขมรคือภัยคุกคามโลกและฮับมิจฉาชีพระดับโลก จริงๆจีนคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรสมควรปราบปรามร่วมกับประเทศเอเชียและอาเชียนเป็นอย่างยิ่ง,เป็นเจ้าภาพหัวเรือเลยก็ว่า,ล็อกดาวน์ปิดประตูตีแมวได้สบายคือล็อกทางออกทางเข้าสาระพัดทางได้หมด,ไทยลาวเวียดนามบรูไน มาเลย์พร้อมร่วมมือลงแขกร่วมกันอยู่แล้วในการสกัดกั้นคนชั่วที่สิงในเขมรทั้งหมด,ตลอดอาจลงไประเบิดปิดทางอุโมงค์ลับใต้ดินทั้งหมดให้ด้วย,จะไม่มีคนชั่วคนไหนหนีรอดได้สักตัว,จะคนชั่วฝั่งฝรั่งฝั่งอาหรับทะเลทรายฝั่งแขกอินเดียฝั่งแอฟริกาหรือฝั่งเอเชียอาเชียนเราที่เป็นคนชั่วมาสุมหัวที่นี้ก็ตามแต่จะไม่รอดทั้งหมด,บันทึกทางdnaทุกๆตัวทันที,จีนอาจได้หน้าขนานใหญ่ไปเลยในฝั่งเอเชียเราที่ลงมือลงโทษประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานจนหมดเสื่อมสภาพแล้วฆ่าค้าอวัยวะต่อยอดทำกำไรอีกนี้คือชาติชั่วเลวประจำโลกของจริงที่นานาชาติต้องกำจัดเพราะคือภัยคุกคามจริงของคนชาวโลก พวกมันจะลักพาตัวจับมนุษย์คนไหนจากทั่วโลกก็ได้ นี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดานะไม่ใช่ล่อเล่นด้วย,ของแท้เลย,มันสร้างเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์สำเร็จฮับโจรกรรมดาต้าข้อมูลทั่วโลกก็ได้,ดูนายกฯไทยคลิปหลุดสิ,ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,แล้วมันจะจัดส่งข้อมูลขายข้อมูลอะไรสาระพัดไม่ได้เหรอยิ่งมีข่าวในไทยมากมายว่ามีการหลุดข้อมูลคนไทย ขายข้อมูลคนไทยไปต่างประเทศและขายให้เอกชนต่างชาติหรือในไทยอีก,ดูพวกขายเทเลเซลล์ในอดีตเลย พวกขายประกันก็ว่าขายข้อมูลกันตรึม,ยุคนี้ยิ่งล้ำกว่าอีก,
    ..เขมรคือภัยอันตรายต่อคนทัังโลก,เด็กยิ่งโทรหลอกง่าย,คนแก่ก็ไม่เว้น,คนข้าราชการยังถูกดูดตัง,เพราะอะไรเพราะอีลิทสั่งการและควบคุม,ในมุกแบบผลักดันตังดิจิดัลก็กล่าวได้อีก วางสนุ๊คส่งมือมืดทำเลวชั่วว่าตังกระดาษไม่ปล่อยภัย แบงค์ช่วยอีก ขนาดแบงค์ยังไม่ปล่อยภัยว่าระบบปกป้องการดูดดีแค่ไหนยังไม่รอดมันอ้าง,หันมาใช้ตังดิจิดัลกันเถอะมันอ้าง,ดูดไม่ง่าย ติดตามได้พะนะว่าใครดูดใครทำผิด,เพื่อสุดท้ายสำเร็จคนยกเลิกตังกระดาษตังเหรียญโลหะสู่ทรัพย์สินดิจิดัลแล้วก็สุดท้ายอีก,คนๆนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยเมื่อหันไปใช้ระบบตังดิจิดัลจริง,มันก็ทำภาระกิจสำเร็จนั่นเอง,แบบปลอมตังกระดาษนั้นล่ะก็ด้วย,จริงๆระบบตังกระดาษคือระบบอิสระภาพที่สุดไทที่สุด,ใช้จ่ายแลกเปลี่ยนได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เกี่ยวกับพลังงานหมดใดๆแบตมือถือหมด แผ่นดินไหวน้ำท่วนพายุถล่มระบบไฟฟ้าฮับไฟฟ้าล่มระบบตังดิจิดัลใช้ไม่ได้แบบจีนล่าสุดปีที่แล้วสดๆร้อนๆให้เห็นชัดๆก็ว่า,ตลอดมันอายัดสิทธิคุณขึ้นบัญชีดำแบนคุณเรียลไทม์โน้น ยึดทรัพย์สินคุณเรียลไทม์หมดที่แปลงเป็นดิจิดัลตีตราสร้างมูลค่าใหม่แล้ว,นอกใต้ถนนใต้ต้นไม้นอกสถานที่ก็ว่า,จากมี2-3พันล้านบาทแมร่งอายัดทั้งหมดสิ้นเนื้อสินตัวเลย,อดีตแอบเก็บลงไหลงโอ่งได้ จำเป็นเอาออกมาใช้สัก100-200ล้านบาทยังทันไว้ยามฉุกเฉินก็ว่า,ตายายคนชราอาจใส่หัวหมอนไว้สักพันสองพันกันอิ่มวันหน้าได้,นี้มันอายัดตังตายายหลานหมดสิ้นก็ว่า เป็นต้น,เหมือนแบงค์เอาตังให้ฝ่ายตนเองไปปล่อยกู้นอกระบบทางลับนั้นล่ะ,คู่ขนานทำกำไรรายได้ทางกฎหมาย,เหมือนทำชั่วเพื่อตีกรอบสร้างกฎหมายว่าปล่อยภัยกว่าเก่า,ทั้วที่มันนั่นล่ะรวมหัวกันทำเอง,เพื่อลดขนาดคอกสัตว์ลงควบคุมง่ายตามกฎกติกามันสะดวก,แบบไทยเราเหี้ยลูกหนี้จ่ายหนี้ไม่ไหวเสือกยึดทรัพย์แบบบ้านเขาบังคับขายแล้วไม่พอ ไปบังคับยึดนั้นนี้อีกจนพอ,ในต่างประเทศยึดบ้านจบก็จบคดีความเพราะกู้ตังมาซื้อบ้านบ้านคือหนี้,กู้มาซื้อรถ รถคือหนี้ยึดรถจบ,กู้กยศ.ซื้อใบวุฒิการศึกษา ก็ยึดวุฒิการศึกษาเขาสิก็จบ555,เหี้ยไปตามยึดบ้านยึดที่ดินเขาขายให้จนพอใจแบงค์พอใจหน่วยงานตน,นี้คือวิถีปกครองวิถีกฎหมายที่ผิดพลาดและเลว อยุติธรรมก็ว่า.
    ..เขมร จีนต้องเป็นเจ้าภาพเพราะก็ย้ายมาจากพม่านั้นล่ะก็ด้วย.เขมรมีวันนี้ได้เพราะนานาชาติไม่รวมจัดการลงโทษโดยเฉพาะเอเชียเราอาเชียนเราก็ด้วย สุดยอดมากที่ปล่อยคนชั่วชาติชั่วมีที่ยืนบนเวทีโลก,เขมรอนาถทันทีหากนานาชาติร่วมกันแบนร่วมกันคว่ำบาตรเศรษฐกิจการค้า,ตังไม่มีมันจะรอดเหรอ.,ผู้นำชั่วต้องไร้ที่ยืนบนโลกใบนี้ได้แล้ว,ชาวโลกจะสงบสุขสันคิทันที,อาจผลิตอาวุธทำลายจริงก็แค่ปกป้องโลกจากต่างดาวอื่นรุกรานคุกคามนั่นล่ะ.

    ..https://youtu.be/y_WmnaLm2og?si=IIDwL9PFkn_YK6V1
    ..เขมรคือภัยคุกคามโลกและฮับมิจฉาชีพระดับโลก จริงๆจีนคือเจ้าหนี้รายใหญ่ของเขมรสมควรปราบปรามร่วมกับประเทศเอเชียและอาเชียนเป็นอย่างยิ่ง,เป็นเจ้าภาพหัวเรือเลยก็ว่า,ล็อกดาวน์ปิดประตูตีแมวได้สบายคือล็อกทางออกทางเข้าสาระพัดทางได้หมด,ไทยลาวเวียดนามบรูไน มาเลย์พร้อมร่วมมือลงแขกร่วมกันอยู่แล้วในการสกัดกั้นคนชั่วที่สิงในเขมรทั้งหมด,ตลอดอาจลงไประเบิดปิดทางอุโมงค์ลับใต้ดินทั้งหมดให้ด้วย,จะไม่มีคนชั่วคนไหนหนีรอดได้สักตัว,จะคนชั่วฝั่งฝรั่งฝั่งอาหรับทะเลทรายฝั่งแขกอินเดียฝั่งแอฟริกาหรือฝั่งเอเชียอาเชียนเราที่เป็นคนชั่วมาสุมหัวที่นี้ก็ตามแต่จะไม่รอดทั้งหมด,บันทึกทางdnaทุกๆตัวทันที,จีนอาจได้หน้าขนานใหญ่ไปเลยในฝั่งเอเชียเราที่ลงมือลงโทษประเทศค้ามนุษย์ค้าแรงงานจนหมดเสื่อมสภาพแล้วฆ่าค้าอวัยวะต่อยอดทำกำไรอีกนี้คือชาติชั่วเลวประจำโลกของจริงที่นานาชาติต้องกำจัดเพราะคือภัยคุกคามจริงของคนชาวโลก พวกมันจะลักพาตัวจับมนุษย์คนไหนจากทั่วโลกก็ได้ นี้ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดานะไม่ใช่ล่อเล่นด้วย,ของแท้เลย,มันสร้างเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์สำเร็จฮับโจรกรรมดาต้าข้อมูลทั่วโลกก็ได้,ดูนายกฯไทยคลิปหลุดสิ,ฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ,แล้วมันจะจัดส่งข้อมูลขายข้อมูลอะไรสาระพัดไม่ได้เหรอยิ่งมีข่าวในไทยมากมายว่ามีการหลุดข้อมูลคนไทย ขายข้อมูลคนไทยไปต่างประเทศและขายให้เอกชนต่างชาติหรือในไทยอีก,ดูพวกขายเทเลเซลล์ในอดีตเลย พวกขายประกันก็ว่าขายข้อมูลกันตรึม,ยุคนี้ยิ่งล้ำกว่าอีก, ..เขมรคือภัยอันตรายต่อคนทัังโลก,เด็กยิ่งโทรหลอกง่าย,คนแก่ก็ไม่เว้น,คนข้าราชการยังถูกดูดตัง,เพราะอะไรเพราะอีลิทสั่งการและควบคุม,ในมุกแบบผลักดันตังดิจิดัลก็กล่าวได้อีก วางสนุ๊คส่งมือมืดทำเลวชั่วว่าตังกระดาษไม่ปล่อยภัย แบงค์ช่วยอีก ขนาดแบงค์ยังไม่ปล่อยภัยว่าระบบปกป้องการดูดดีแค่ไหนยังไม่รอดมันอ้าง,หันมาใช้ตังดิจิดัลกันเถอะมันอ้าง,ดูดไม่ง่าย ติดตามได้พะนะว่าใครดูดใครทำผิด,เพื่อสุดท้ายสำเร็จคนยกเลิกตังกระดาษตังเหรียญโลหะสู่ทรัพย์สินดิจิดัลแล้วก็สุดท้ายอีก,คนๆนั้นจะไม่เหลืออะไรเลยเมื่อหันไปใช้ระบบตังดิจิดัลจริง,มันก็ทำภาระกิจสำเร็จนั่นเอง,แบบปลอมตังกระดาษนั้นล่ะก็ด้วย,จริงๆระบบตังกระดาษคือระบบอิสระภาพที่สุดไทที่สุด,ใช้จ่ายแลกเปลี่ยนได้ทุกที่ทุกเวลาไม่เกี่ยวกับพลังงานหมดใดๆแบตมือถือหมด แผ่นดินไหวน้ำท่วนพายุถล่มระบบไฟฟ้าฮับไฟฟ้าล่มระบบตังดิจิดัลใช้ไม่ได้แบบจีนล่าสุดปีที่แล้วสดๆร้อนๆให้เห็นชัดๆก็ว่า,ตลอดมันอายัดสิทธิคุณขึ้นบัญชีดำแบนคุณเรียลไทม์โน้น ยึดทรัพย์สินคุณเรียลไทม์หมดที่แปลงเป็นดิจิดัลตีตราสร้างมูลค่าใหม่แล้ว,นอกใต้ถนนใต้ต้นไม้นอกสถานที่ก็ว่า,จากมี2-3พันล้านบาทแมร่งอายัดทั้งหมดสิ้นเนื้อสินตัวเลย,อดีตแอบเก็บลงไหลงโอ่งได้ จำเป็นเอาออกมาใช้สัก100-200ล้านบาทยังทันไว้ยามฉุกเฉินก็ว่า,ตายายคนชราอาจใส่หัวหมอนไว้สักพันสองพันกันอิ่มวันหน้าได้,นี้มันอายัดตังตายายหลานหมดสิ้นก็ว่า เป็นต้น,เหมือนแบงค์เอาตังให้ฝ่ายตนเองไปปล่อยกู้นอกระบบทางลับนั้นล่ะ,คู่ขนานทำกำไรรายได้ทางกฎหมาย,เหมือนทำชั่วเพื่อตีกรอบสร้างกฎหมายว่าปล่อยภัยกว่าเก่า,ทั้วที่มันนั่นล่ะรวมหัวกันทำเอง,เพื่อลดขนาดคอกสัตว์ลงควบคุมง่ายตามกฎกติกามันสะดวก,แบบไทยเราเหี้ยลูกหนี้จ่ายหนี้ไม่ไหวเสือกยึดทรัพย์แบบบ้านเขาบังคับขายแล้วไม่พอ ไปบังคับยึดนั้นนี้อีกจนพอ,ในต่างประเทศยึดบ้านจบก็จบคดีความเพราะกู้ตังมาซื้อบ้านบ้านคือหนี้,กู้มาซื้อรถ รถคือหนี้ยึดรถจบ,กู้กยศ.ซื้อใบวุฒิการศึกษา ก็ยึดวุฒิการศึกษาเขาสิก็จบ555,เหี้ยไปตามยึดบ้านยึดที่ดินเขาขายให้จนพอใจแบงค์พอใจหน่วยงานตน,นี้คือวิถีปกครองวิถีกฎหมายที่ผิดพลาดและเลว อยุติธรรมก็ว่า. ..เขมร จีนต้องเป็นเจ้าภาพเพราะก็ย้ายมาจากพม่านั้นล่ะก็ด้วย.เขมรมีวันนี้ได้เพราะนานาชาติไม่รวมจัดการลงโทษโดยเฉพาะเอเชียเราอาเชียนเราก็ด้วย สุดยอดมากที่ปล่อยคนชั่วชาติชั่วมีที่ยืนบนเวทีโลก,เขมรอนาถทันทีหากนานาชาติร่วมกันแบนร่วมกันคว่ำบาตรเศรษฐกิจการค้า,ตังไม่มีมันจะรอดเหรอ.,ผู้นำชั่วต้องไร้ที่ยืนบนโลกใบนี้ได้แล้ว,ชาวโลกจะสงบสุขสันคิทันที,อาจผลิตอาวุธทำลายจริงก็แค่ปกป้องโลกจากต่างดาวอื่นรุกรานคุกคามนั่นล่ะ. ..https://youtu.be/y_WmnaLm2og?si=IIDwL9PFkn_YK6V1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินเติมน้ำมันทางอากาศ KC-46A “Pegasus” ของกองทัพอากาศสหรัฐหลายลำ ซึ่งมีชื่อรหัสว่า HIFI31, HIFI32, HIFI33 และ HIFI34 ได้ออกเดินทางจากฐานทัพอากาศ Travis ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก

    สิ่งที่น่าสนใจสำหรับกรณีนี้คือ เครื่องบินเติมน้ำมันที่มีรหัสเหล่านี้ เคยมีหน้าที่เติมน้ำมันให้กับเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์พิสัยไกล B-52, B-1 และ B-2

    เป็นไปได้ว่าเครื่องบินเติมน้ำมันเหล่านี้ อาจกำลังบินมาทางแปซิฟิค เพื่อเตรียมพร้อมล่วงหน้าในออสเตรเลียหรือที่อื่นในแถบภูมิภาคนี้ เพื่อเตรียมการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเพิ่มเติมไปยังดิเอโก การ์เซียในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งอยู่ห่างจากอิหร่านไปประมาณ 2,000 ไมล์
    เครื่องบินเติมน้ำมันทางอากาศ KC-46A “Pegasus” ของกองทัพอากาศสหรัฐหลายลำ ซึ่งมีชื่อรหัสว่า HIFI31, HIFI32, HIFI33 และ HIFI34 ได้ออกเดินทางจากฐานทัพอากาศ Travis ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตกเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก 👉สิ่งที่น่าสนใจสำหรับกรณีนี้คือ เครื่องบินเติมน้ำมันที่มีรหัสเหล่านี้ เคยมีหน้าที่เติมน้ำมันให้กับเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์พิสัยไกล B-52, B-1 และ B-2 เป็นไปได้ว่าเครื่องบินเติมน้ำมันเหล่านี้ อาจกำลังบินมาทางแปซิฟิค เพื่อเตรียมพร้อมล่วงหน้าในออสเตรเลียหรือที่อื่นในแถบภูมิภาคนี้ เพื่อเตรียมการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเพิ่มเติมไปยังดิเอโก การ์เซียในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งอยู่ห่างจากอิหร่านไปประมาณ 2,000 ไมล์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..สื่อหลักไทยเราไม่น้อยยังบิดเบือนข่าวเหมือนเดิมไม่ต่างจากยุคโควิดเลย,ไม่นำเสนอตรงไปตรงมา,สร้างหัวข้อข่าวหมายผลว่ากระทำการแล้ว,แต่ความจริงของตัวข่าวยังไม่ตัดสินใจและอาจไม่เข้าร่วมสงครามแบบอดีตอีกเลย,
    ..ไทยเราอีลิทมีมาก เชียร์อิสราเอลโดยพื้นฐานอยู่แล้วเพราะทุนยิวกิจการเครือข่ายยิวเต็มประเทศไทย.จึงสำเร็จในการฉีดวัคซีนโควิดลดประชากรไทยร่วมกับประชากรโลกด้วยเพราะสื่อหลักในบ้านเราไม่นำเสนอความจริง บิดเบือนข่าว ปั่นข่าว โหนกระแสให้ดุเดือดเข้าไว้ เหมือนปัจจุบันบอกว่าอิหร่านผิด,ลงความเห็นตัดสินพิพากษาเองเลยว่าอิหร่านผิดแล้ว อิสราเอลจึงชอบธรรมสามารถโจมตีอิหร่านได้ก่อน.นี้คือการบิดเบือนบดบังความจริง,ไม่ยุติธรรมต่ออิหร่าน ทัังที่อิหร่านและอิสราเอลมีหมายกำหนดการเจรจาสงบศึกอยู่แล้ว,ตัวจริงตัวแท้ที่มีความผิดคืออิสราเอลชัดเจนแต่สื่อไทยเสือกไปเล่นงานอิหร่านว่าทำผิด,เหี้ยไทยสร้างระเบิดนิวเคบียร์เองแบบอเมริกาแบบจีนแบบรัสเชียแบบเกาหลีเหนือซึ่งไทยมีวัตถุดิบในประเทศอยู่แล้วจะเป็นอะไร,รัสเชียรู้ว่าพม่าก็มีวัตถุดิบทำจึงมาสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่พม่า,เช่นนั้นอินเดียสามารถยิงระเบิดพม่าได้ว่าเป็นภัยความมั่นคงมีข่าวอย่างเปิดเผยสิ,อิสราเอลผิดเต็มๆเพราะลงมือยิงระเบิดอิหร่านก่อน,
    ..จริงๆถ้าแต่ละประเทศเป็นชาติที่ดี ไม่รุกรานกันแบบฝรั่งเศสอังกฤษฝรั่งชั่วๆไล่ล่าวัตถุดิบชาติอื่นยึดดินแดนชาติอื่นเอาเป็นเมืองขึ้นตนเอง มีแต่ความสงบสุขจะไม่เหี้ยบัดสบอะไรเลย,ต่างชาติต่างๆมีสัมมาชีวิตของแต่ละใครมันไม่ทำลายทำร้ายกันก็โอเคมาก,ทหารสากลและตำรวจสากลโลกจึงสมควรมีและจับกุมลงโทษจริงต่อประเทศที่ไม่ดีมีผู้นำไม่ดีนั้นจริงๆด้วย,ประชาชนคนบริสุทธิ์ต้องแยกออกจากผู้รำผู้ปกครองชาตินั้นๆที่เลวชั่วและเด็ดชีพให้ชัดเจน,ลงโทษคนชั่วเลวทั่วโลกเสรีเมื่อชาติประเทศนั้นๆทำไม่ได้หรือละเว้นไว้ มันย่อมเป็นภัยแก่ประชาชนในชาตินั้นๆหรือคนทั้งโลก.

    https://youtu.be/1-K0vA1OTTU?si=Fw-_yUs80SY6MGcE
    ..สื่อหลักไทยเราไม่น้อยยังบิดเบือนข่าวเหมือนเดิมไม่ต่างจากยุคโควิดเลย,ไม่นำเสนอตรงไปตรงมา,สร้างหัวข้อข่าวหมายผลว่ากระทำการแล้ว,แต่ความจริงของตัวข่าวยังไม่ตัดสินใจและอาจไม่เข้าร่วมสงครามแบบอดีตอีกเลย, ..ไทยเราอีลิทมีมาก เชียร์อิสราเอลโดยพื้นฐานอยู่แล้วเพราะทุนยิวกิจการเครือข่ายยิวเต็มประเทศไทย.จึงสำเร็จในการฉีดวัคซีนโควิดลดประชากรไทยร่วมกับประชากรโลกด้วยเพราะสื่อหลักในบ้านเราไม่นำเสนอความจริง บิดเบือนข่าว ปั่นข่าว โหนกระแสให้ดุเดือดเข้าไว้ เหมือนปัจจุบันบอกว่าอิหร่านผิด,ลงความเห็นตัดสินพิพากษาเองเลยว่าอิหร่านผิดแล้ว อิสราเอลจึงชอบธรรมสามารถโจมตีอิหร่านได้ก่อน.นี้คือการบิดเบือนบดบังความจริง,ไม่ยุติธรรมต่ออิหร่าน ทัังที่อิหร่านและอิสราเอลมีหมายกำหนดการเจรจาสงบศึกอยู่แล้ว,ตัวจริงตัวแท้ที่มีความผิดคืออิสราเอลชัดเจนแต่สื่อไทยเสือกไปเล่นงานอิหร่านว่าทำผิด,เหี้ยไทยสร้างระเบิดนิวเคบียร์เองแบบอเมริกาแบบจีนแบบรัสเชียแบบเกาหลีเหนือซึ่งไทยมีวัตถุดิบในประเทศอยู่แล้วจะเป็นอะไร,รัสเชียรู้ว่าพม่าก็มีวัตถุดิบทำจึงมาสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่พม่า,เช่นนั้นอินเดียสามารถยิงระเบิดพม่าได้ว่าเป็นภัยความมั่นคงมีข่าวอย่างเปิดเผยสิ,อิสราเอลผิดเต็มๆเพราะลงมือยิงระเบิดอิหร่านก่อน, ..จริงๆถ้าแต่ละประเทศเป็นชาติที่ดี ไม่รุกรานกันแบบฝรั่งเศสอังกฤษฝรั่งชั่วๆไล่ล่าวัตถุดิบชาติอื่นยึดดินแดนชาติอื่นเอาเป็นเมืองขึ้นตนเอง มีแต่ความสงบสุขจะไม่เหี้ยบัดสบอะไรเลย,ต่างชาติต่างๆมีสัมมาชีวิตของแต่ละใครมันไม่ทำลายทำร้ายกันก็โอเคมาก,ทหารสากลและตำรวจสากลโลกจึงสมควรมีและจับกุมลงโทษจริงต่อประเทศที่ไม่ดีมีผู้นำไม่ดีนั้นจริงๆด้วย,ประชาชนคนบริสุทธิ์ต้องแยกออกจากผู้รำผู้ปกครองชาตินั้นๆที่เลวชั่วและเด็ดชีพให้ชัดเจน,ลงโทษคนชั่วเลวทั่วโลกเสรีเมื่อชาติประเทศนั้นๆทำไม่ได้หรือละเว้นไว้ มันย่อมเป็นภัยแก่ประชาชนในชาตินั้นๆหรือคนทั้งโลก. https://youtu.be/1-K0vA1OTTU?si=Fw-_yUs80SY6MGcE
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรืออินเดียบันทึกคลิปการโจมตีอิสราเอลโดยขีปนาวุธอิหร่าน
    เรืออินเดียบันทึกคลิปการโจมตีอิสราเอลโดยขีปนาวุธอิหร่าน 🔥 🔥
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • กรมการบินพลเรือน (DGCA) เปิดเผยว่าแอร์อินเดียยกเลิกเที่ยวบิน 83 เที่ยวบิน เฉพาะที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ 66 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 12-17 มิถุนายน ตามคำแถลงของ DGCA
    กรมการบินพลเรือน (DGCA) เปิดเผยว่าแอร์อินเดียยกเลิกเที่ยวบิน 83 เที่ยวบิน เฉพาะที่ใช้เครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ 66 เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 12-17 มิถุนายน ตามคำแถลงของ DGCA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • เยอรมนีเตรียมเลิกใช้ Microsoft: "เราพอแล้วกับ Teams!"
    รัฐ Schleswig-Holstein ทางตอนเหนือของเยอรมนี กำลังดำเนินการเปลี่ยนจากซอฟต์แวร์ของ Microsoft ไปใช้ โอเพ่นซอร์ส อย่างเต็มรูปแบบ โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 60,000 คน จะเลิกใช้ Teams, Word, Excel และ Outlook ภายในสามเดือนข้างหน้า เพื่อเพิ่มความเป็นอิสระ ความยั่งยืน และความปลอดภัย.

    เหตุผลที่เยอรมนีเลิกใช้ Microsoft
    ลดค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ที่มีมูลค่าหลายล้านยูโรต่อปี.
    ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากบริษัทสหรัฐฯ.
    ปฏิบัติตามกฎหมาย "Interoperable Europe Act" ที่สนับสนุนการใช้โอเพ่นซอร์สในหน่วยงานรัฐ.
    ปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลของพลเมือง.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    การเปลี่ยนระบบอาจมีความยุ่งยากในช่วงแรก เนื่องจากต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้คุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ใหม่.
    อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเอกสารและระบบเดิม ที่ยังใช้ Microsoft Office.
    ต้องมีการสนับสนุนทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น.

    แนวทางการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส
    ใช้ LibreOffice แทน Microsoft Office ซึ่งรองรับไฟล์เอกสารส่วนใหญ่.
    เปลี่ยนจาก Windows เป็น Linux เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดค่าใช้จ่าย.
    ใช้ Nextcloud แทน OneDrive และ Google Drive สำหรับการจัดเก็บและแชร์ไฟล์.
    ใช้ Open-Xchange แทน Outlook เพื่อการจัดการอีเมลและปฏิทิน.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเยอรมนี
    รัฐบาลฝรั่งเศสและอินเดียก็เริ่มเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส เช่นเดียวกับเยอรมนี.
    เมืองมิวนิกเคยเปลี่ยนไปใช้ Linux ในปี 2004 แต่กลับมาใช้ Windows ในปี 2017 เนื่องจากปัญหาด้านการสนับสนุน.
    องค์กรที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์สควรมีแผนรองรับ เพื่อป้องกันปัญหาด้านความเข้ากันได้.

    https://www.techspot.com/news/108327-german-state-moves-closer-ditching-microsoft-products-government.html
    เยอรมนีเตรียมเลิกใช้ Microsoft: "เราพอแล้วกับ Teams!" รัฐ Schleswig-Holstein ทางตอนเหนือของเยอรมนี กำลังดำเนินการเปลี่ยนจากซอฟต์แวร์ของ Microsoft ไปใช้ โอเพ่นซอร์ส อย่างเต็มรูปแบบ โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 60,000 คน จะเลิกใช้ Teams, Word, Excel และ Outlook ภายในสามเดือนข้างหน้า เพื่อเพิ่มความเป็นอิสระ ความยั่งยืน และความปลอดภัย. เหตุผลที่เยอรมนีเลิกใช้ Microsoft ✅ ลดค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ที่มีมูลค่าหลายล้านยูโรต่อปี. ✅ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากบริษัทสหรัฐฯ. ✅ ปฏิบัติตามกฎหมาย "Interoperable Europe Act" ที่สนับสนุนการใช้โอเพ่นซอร์สในหน่วยงานรัฐ. ✅ ปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลของพลเมือง. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ การเปลี่ยนระบบอาจมีความยุ่งยากในช่วงแรก เนื่องจากต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้คุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ใหม่. ‼️ อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเอกสารและระบบเดิม ที่ยังใช้ Microsoft Office. ‼️ ต้องมีการสนับสนุนทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น. แนวทางการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส ✅ ใช้ LibreOffice แทน Microsoft Office ซึ่งรองรับไฟล์เอกสารส่วนใหญ่. ✅ เปลี่ยนจาก Windows เป็น Linux เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดค่าใช้จ่าย. ✅ ใช้ Nextcloud แทน OneDrive และ Google Drive สำหรับการจัดเก็บและแชร์ไฟล์. ✅ ใช้ Open-Xchange แทน Outlook เพื่อการจัดการอีเมลและปฏิทิน. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเยอรมนี ✅ รัฐบาลฝรั่งเศสและอินเดียก็เริ่มเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส เช่นเดียวกับเยอรมนี. ✅ เมืองมิวนิกเคยเปลี่ยนไปใช้ Linux ในปี 2004 แต่กลับมาใช้ Windows ในปี 2017 เนื่องจากปัญหาด้านการสนับสนุน. ‼️ องค์กรที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์สควรมีแผนรองรับ เพื่อป้องกันปัญหาด้านความเข้ากันได้. https://www.techspot.com/news/108327-german-state-moves-closer-ditching-microsoft-products-government.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    German government moves closer to ditching Microsoft: "We're done with Teams!"
    Plans to go open-source were drawn up by Schleswig-Holstein as far back as 2017. In 2021, the state found another incentive to make the switch: Windows 11's...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือคนที่รอดชีวิตเพียงรายเดียว จากทั้งหมด 242 คน จากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตกเมื่อหลายวันก่อน

    จากรูแผนผังที่นั่ง เขานั่งอยู่ตามตำแหน่งลูกศรชี้
    นี่คือคนที่รอดชีวิตเพียงรายเดียว จากทั้งหมด 242 คน จากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตกเมื่อหลายวันก่อน จากรูแผนผังที่นั่ง เขานั่งอยู่ตามตำแหน่งลูกศรชี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts