• นานาชาติรุมประณาม 'อิสราเอล' หลังขัดขวางขบวนเรือ 40 ลำกลางทะเล ขณะมุ่งหน้าสู่กาซาในภารกิจมนุษยธรรม
    https://www.thai-tai.tv/news/21730/
    .
    #GlobalSumudFlotilla #ความขัดแย้งอิสราเอลปาเลสไตน์ #ปิดล้อมกาซา #ภารกิจมนุษยธรรม #ตุรกี #โคลอมเบียขับนักการทูต #เกรียตา ทุนแบร์ย #ไทยไท #การเมือง
    นานาชาติรุมประณาม 'อิสราเอล' หลังขัดขวางขบวนเรือ 40 ลำกลางทะเล ขณะมุ่งหน้าสู่กาซาในภารกิจมนุษยธรรม https://www.thai-tai.tv/news/21730/ . #GlobalSumudFlotilla #ความขัดแย้งอิสราเอลปาเลสไตน์ #ปิดล้อมกาซา #ภารกิจมนุษยธรรม #ตุรกี #โคลอมเบียขับนักการทูต #เกรียตา ทุนแบร์ย #ไทยไท #การเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว”
    ตอนที่ 2 “เด็กในอุปถัมภ์”
    ตุรกีกับอเมริกาผูกสัมพันธ์แน่นหนา ในฐานะพันธมิตรมาประมาณ 60 ปีแล้ว
เริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 1947 ตาม Truman Doctrine ซึ่งต้องการจะปิดล้อมสหภาพโซเวียต ก่อนหน้านั้น ตุรกีอยู่ในอุปถัมภ์ของอังกฤษในด้านการทหาร หลังสงครามครั้งที่ 2 จบ อังกฤษบอกอย่าว่าแต่จะดูแลตุรกีต่อเลย ตูเองก็จะไปไม่รอด อเมริกายี่ต๊อกดูแล้วน่าจะเกินคุ้มทุน เลยรับโอบอุ้มตุรกีแทน อเมริกาให้การฟูมฟักสนับสนุนดูแลตุรกีทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่จัดการให้เป็นเด็กเส้นยัดเข้าไปอยู่ใน NATO ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952 พร้อมทั้งให้การสนับสนุนด้านความมั่นคง ด้านการทหาร และด้านเศรษฐกิจ แบบเต็มอัตรา
    ช่วงนั้นบรรดานายพลของตุรกี และหน่วยงานต่าง ๆ เดินเข้าออกในวอชิงตันเหมือนเป็นบ้านตัวเอง อเมริกาลงทุนกับตุรกีมากมาย และตุรกีก็รับใช้อเมริกามากมาย เช่นเดียวกัน
    สัมพันธ์ตุรกี อเมริกาแน่นหนามากอยู่แล้ว แต่ NATOทำให้แน่นมากขึ้น เพราะเหตุว่าตุรกีตั้งอยู่ในอาณาบริเวณ ซึ่งเป็นจุดร้อนระอุอยู่เสมอ ตั้งแต่ก่อนและหลังสงครามเย็น NATO จึงใช้ตุรกีเป็นสถานีขนส่ง อาวุธยุทโธปกรณ์ สินค้า รวมทั้งหน่วยปฎิบัติการต่าง ๆ สำหรับทั้งอเมริกาและ NATO ศูนย์บัญชาการทางอากาศของ NATO ซึ่งตั้งอยู่ที่ Izmir ของตุรกี มีความสำคัญมากสำหรับชาว NATO
    ในปี ค.ศ. 2011 ตุรกีตกลงทำสัญญากับอเมริกา ยินยอมให้อเมริกา ติดตั้งเรดาร์จับสัญญาณของ NATO Active Layered Theatre Ballistic Missile Defense (ALTBMD) สำหรับบริเวณยุโรป การที่ตุรกียินยอมให้ติดตั้งเครื่อง ALTBMD ในบ้านตัว เหมือนเป็นการแสดงความเห็นพ้องแนวเดียวกันกับอเมริกา ยุโรป และ NATO เกี่ยวกับประเด็นเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน
    อเมริกาสร้างฐานทัพไว้ในตุรกีหลายแห่ง ฐานใหญ่ที่สุด อยู่ที่ Incirlik เป็นฐานทัพอากาศอยู่ทางใต้ของเมือง Adana มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ประมาณ 1,500 คน รวมกับที่ตุรกีจ้างไว้อีก 3,500 คน นับตั้งแต่สงครามเย็นเลิก Incirlik ได้ใช้เป็นฐานสำหรับการปฎิบัติภาระกิจที่ Iraq, Bosnia – Herzegovina, Kosovo และ Afghanistan ที่ Incirlik นี้ มีเครื่องบินรบของอเมริกาประจำการณ์อยู่ประมาณ 60-70 ลำ และมีเครื่องบินบรรทุก B61 สำหรับบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ ภายใต้การอุปถัมภ์ของ NATO อีกด้วย
    ตุรกีมีสิทธิที่จะยกเลิกการให้อเมริกาเข้าใช้ฐานทัพที่Incirlik นี้ โดยการบอกล่วงหน้า 3 วัน
    ตั้งแต่ คศ 1948 จนถึงปัจจุบัน อเมริกาให้การสนับสนุนด้านการทหารแก่ตุรกี คิดเป็นเงินประมาณ 13.8 พันล้านเหรียญ นี่ยังไม่นับรวมงบ ทางการศึกษาและอบรม ที่อเมริกาให้เป็นรายปีอีกต่างหาก
    คุณนาย Condoleezza Rice เคยพูดไว้เมื่อ ค.ศ. 2008 ว่า ตุรกีเป็นหุ้นส่วนที่จำเป็นและสำคัญยิ่งสำหรับอเมริกา นาย Paul Wolfowitz พูดย้ำอยู่บ่อย ๆ ว่า ตุรกีเป็นหุ้นส่วนที่เราขาดไม่ได้และหาแทนกันไม่ได้ รัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา เมื่อได้รับตำแหน่งใหม่ ในการเดินสายเที่ยวแรก เพื่อไปจับมือแนะนำตัว กับมิตรประเทศ เกรด เอ จะต้องมีตุรกีเป็นหนึ่งในประเทศที่ “ต้อง” ไปเยี่ยมเสมอ
    สำหรับโลกใต้ดิน ตุรกีไม่เพียงแต่เป็นหุ้นส่วน ที่อเมริกาขาดไม่ได้เท่านั้น ตุรกี คือ CIA สาขา 2 หรืออาจจะเท่าเทียมกับสำนักงานใหญ่ที่ Langley ก็ได้ งานใต้ดินเกือบทั้งหมดในโลกฝั่งยุโรป อาฟริกา ตะวันออก เอเซียเหนือ เอเซียกลาง และแม้แต่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ พูดยาวไปทำไม เอาว่างานใต้ดินเกือบทั้งหมด เริ่มต้นที่ตุรกี ใช้หน้าฉากของตุรกี ใช้ทีมที่ตุรกีจัดหา ใช้ตุรกีเป็นเส้นทางผ่านทาง บนดิน ใต้ดิน บนฟ้า และที่สำคัญใช้ตุรกีเป็นฐานใหญ่ สถานฑูตอเมริกาที่อียิปต์อาจจะใหญ่จริง แต่การปฎิบัติการใต้ดินผ่านตุรกีใหญ่กว่าและแยะกว่า ทั้งในด้านจำนวนคน อาวุธ และงบประมาณ รวมทั้งเครื่องมือในการจารกรรม
    ในรายงานของฝ่ายวิเคราะห์ของสภาสูงอเมริกา Congressional Research Service (CRS) สมุดพกรายงานความประพฤติของเด็กชายตุรกี ฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2014 อเมริกาบอกว่า ความสำคัญของตุรกีต่ออเมริกา เป็นเช่นเดียวกับ อินเดีย บราซิล และอินโดนีเซีย คือ เป็นประเทศที่มีน้ำหนัก “มากทั้งด้านอาณาเขต พลเมือง และเศรษฐกิจ” อเมริกาเรียกประเทศพวกนี้ว่า “global swing state” ประเทศพวกนี้เข้ากับฝ่ายไหน แน่นอนฝ่ายนั้นมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นทันที นี่ถ้าเข้าข้างไหนพร้อมกัน ซัก 2,3 ประเทศ ตาชั่งอาจคว่ำ ฮา !
    แค่คิดว่า ใครจะเหวี่ยงน้ำหนักไปอยู่ข้างไหน มันก็เป็นเรื่องหนักใจสำหรับอเมริกาแล้ว แต่สำหรับตุรกีจะเอียงไปข้างไหน มันยิ่งกว่าเป็นเรื่องหนักใจ มันเป็นการกระทบยุทธศาตร์ของอเมริกา ในภูมิภาคนั้นอย่างสำคัญยิ่ง เพราะตำแหน่งที่ตั้งของตุรกีคือจุดที่ได้เปรียบ นักวิเคราะห์การเมืองบอกว่า ตุรกีเป็นศูนย์กลางของบริเวณที่กำลังวิกฤติที่สุดของในโลก ในขณะนี้ (Turkey is at the centre of one of the most critical regions of the world)
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือ นกสองหัว” ตอนที่ 2 “เด็กในอุปถัมภ์” ตุรกีกับอเมริกาผูกสัมพันธ์แน่นหนา ในฐานะพันธมิตรมาประมาณ 60 ปีแล้ว
เริ่มมาตั้งแต่ ค.ศ. 1947 ตาม Truman Doctrine ซึ่งต้องการจะปิดล้อมสหภาพโซเวียต ก่อนหน้านั้น ตุรกีอยู่ในอุปถัมภ์ของอังกฤษในด้านการทหาร หลังสงครามครั้งที่ 2 จบ อังกฤษบอกอย่าว่าแต่จะดูแลตุรกีต่อเลย ตูเองก็จะไปไม่รอด อเมริกายี่ต๊อกดูแล้วน่าจะเกินคุ้มทุน เลยรับโอบอุ้มตุรกีแทน อเมริกาให้การฟูมฟักสนับสนุนดูแลตุรกีทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่จัดการให้เป็นเด็กเส้นยัดเข้าไปอยู่ใน NATO ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1952 พร้อมทั้งให้การสนับสนุนด้านความมั่นคง ด้านการทหาร และด้านเศรษฐกิจ แบบเต็มอัตรา ช่วงนั้นบรรดานายพลของตุรกี และหน่วยงานต่าง ๆ เดินเข้าออกในวอชิงตันเหมือนเป็นบ้านตัวเอง อเมริกาลงทุนกับตุรกีมากมาย และตุรกีก็รับใช้อเมริกามากมาย เช่นเดียวกัน สัมพันธ์ตุรกี อเมริกาแน่นหนามากอยู่แล้ว แต่ NATOทำให้แน่นมากขึ้น เพราะเหตุว่าตุรกีตั้งอยู่ในอาณาบริเวณ ซึ่งเป็นจุดร้อนระอุอยู่เสมอ ตั้งแต่ก่อนและหลังสงครามเย็น NATO จึงใช้ตุรกีเป็นสถานีขนส่ง อาวุธยุทโธปกรณ์ สินค้า รวมทั้งหน่วยปฎิบัติการต่าง ๆ สำหรับทั้งอเมริกาและ NATO ศูนย์บัญชาการทางอากาศของ NATO ซึ่งตั้งอยู่ที่ Izmir ของตุรกี มีความสำคัญมากสำหรับชาว NATO ในปี ค.ศ. 2011 ตุรกีตกลงทำสัญญากับอเมริกา ยินยอมให้อเมริกา ติดตั้งเรดาร์จับสัญญาณของ NATO Active Layered Theatre Ballistic Missile Defense (ALTBMD) สำหรับบริเวณยุโรป การที่ตุรกียินยอมให้ติดตั้งเครื่อง ALTBMD ในบ้านตัว เหมือนเป็นการแสดงความเห็นพ้องแนวเดียวกันกับอเมริกา ยุโรป และ NATO เกี่ยวกับประเด็นเรื่องนิวเคลียร์ของอิหร่าน อเมริกาสร้างฐานทัพไว้ในตุรกีหลายแห่ง ฐานใหญ่ที่สุด อยู่ที่ Incirlik เป็นฐานทัพอากาศอยู่ทางใต้ของเมือง Adana มีทหารอเมริกันประจำการอยู่ประมาณ 1,500 คน รวมกับที่ตุรกีจ้างไว้อีก 3,500 คน นับตั้งแต่สงครามเย็นเลิก Incirlik ได้ใช้เป็นฐานสำหรับการปฎิบัติภาระกิจที่ Iraq, Bosnia – Herzegovina, Kosovo และ Afghanistan ที่ Incirlik นี้ มีเครื่องบินรบของอเมริกาประจำการณ์อยู่ประมาณ 60-70 ลำ และมีเครื่องบินบรรทุก B61 สำหรับบรรทุกระเบิดนิวเคลียร์ ภายใต้การอุปถัมภ์ของ NATO อีกด้วย ตุรกีมีสิทธิที่จะยกเลิกการให้อเมริกาเข้าใช้ฐานทัพที่Incirlik นี้ โดยการบอกล่วงหน้า 3 วัน ตั้งแต่ คศ 1948 จนถึงปัจจุบัน อเมริกาให้การสนับสนุนด้านการทหารแก่ตุรกี คิดเป็นเงินประมาณ 13.8 พันล้านเหรียญ นี่ยังไม่นับรวมงบ ทางการศึกษาและอบรม ที่อเมริกาให้เป็นรายปีอีกต่างหาก คุณนาย Condoleezza Rice เคยพูดไว้เมื่อ ค.ศ. 2008 ว่า ตุรกีเป็นหุ้นส่วนที่จำเป็นและสำคัญยิ่งสำหรับอเมริกา นาย Paul Wolfowitz พูดย้ำอยู่บ่อย ๆ ว่า ตุรกีเป็นหุ้นส่วนที่เราขาดไม่ได้และหาแทนกันไม่ได้ รัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา เมื่อได้รับตำแหน่งใหม่ ในการเดินสายเที่ยวแรก เพื่อไปจับมือแนะนำตัว กับมิตรประเทศ เกรด เอ จะต้องมีตุรกีเป็นหนึ่งในประเทศที่ “ต้อง” ไปเยี่ยมเสมอ สำหรับโลกใต้ดิน ตุรกีไม่เพียงแต่เป็นหุ้นส่วน ที่อเมริกาขาดไม่ได้เท่านั้น ตุรกี คือ CIA สาขา 2 หรืออาจจะเท่าเทียมกับสำนักงานใหญ่ที่ Langley ก็ได้ งานใต้ดินเกือบทั้งหมดในโลกฝั่งยุโรป อาฟริกา ตะวันออก เอเซียเหนือ เอเซียกลาง และแม้แต่เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ พูดยาวไปทำไม เอาว่างานใต้ดินเกือบทั้งหมด เริ่มต้นที่ตุรกี ใช้หน้าฉากของตุรกี ใช้ทีมที่ตุรกีจัดหา ใช้ตุรกีเป็นเส้นทางผ่านทาง บนดิน ใต้ดิน บนฟ้า และที่สำคัญใช้ตุรกีเป็นฐานใหญ่ สถานฑูตอเมริกาที่อียิปต์อาจจะใหญ่จริง แต่การปฎิบัติการใต้ดินผ่านตุรกีใหญ่กว่าและแยะกว่า ทั้งในด้านจำนวนคน อาวุธ และงบประมาณ รวมทั้งเครื่องมือในการจารกรรม ในรายงานของฝ่ายวิเคราะห์ของสภาสูงอเมริกา Congressional Research Service (CRS) สมุดพกรายงานความประพฤติของเด็กชายตุรกี ฉบับล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ค.ศ. 2014 อเมริกาบอกว่า ความสำคัญของตุรกีต่ออเมริกา เป็นเช่นเดียวกับ อินเดีย บราซิล และอินโดนีเซีย คือ เป็นประเทศที่มีน้ำหนัก “มากทั้งด้านอาณาเขต พลเมือง และเศรษฐกิจ” อเมริกาเรียกประเทศพวกนี้ว่า “global swing state” ประเทศพวกนี้เข้ากับฝ่ายไหน แน่นอนฝ่ายนั้นมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นทันที นี่ถ้าเข้าข้างไหนพร้อมกัน ซัก 2,3 ประเทศ ตาชั่งอาจคว่ำ ฮา ! แค่คิดว่า ใครจะเหวี่ยงน้ำหนักไปอยู่ข้างไหน มันก็เป็นเรื่องหนักใจสำหรับอเมริกาแล้ว แต่สำหรับตุรกีจะเอียงไปข้างไหน มันยิ่งกว่าเป็นเรื่องหนักใจ มันเป็นการกระทบยุทธศาตร์ของอเมริกา ในภูมิภาคนั้นอย่างสำคัญยิ่ง เพราะตำแหน่งที่ตั้งของตุรกีคือจุดที่ได้เปรียบ นักวิเคราะห์การเมืองบอกว่า ตุรกีเป็นศูนย์กลางของบริเวณที่กำลังวิกฤติที่สุดของในโลก ในขณะนี้ (Turkey is at the centre of one of the most critical regions of the world) สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
19 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 4 กล่องดวงใจ ของครู Mac

    สงครามเย็น เริ่มขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1940 กว่าปลาย ๆ พร้อม ๆ กัน ก็เป็นการเกิดของ North Atlantic Treaty Organization (NATO) แต่ถึงแม้สหภาพโซเวียตจะล่มไปตั้งแต่ ค.ศ. 1989 – 1990 แต่ NATO ยังไม่ได้ยุบตามไปด้วย กลับยังอยู่อย่างเหนียวแน่นจนทุกวันนี้ คำพูดของพี่ปู จึงทำให้ผู้คนแถวยุโรปตะวันตกเกิดอาการสำลัก ปูตินพยายามบอกให้โลกรู้ว่า อเมริกากำลังใช้พฤติกรรมเดิม ๆ หลังสงครามเย็นจบไปแล้ว แต่ก็ยังใช้วิธีการ “ปิดล้อม” รัสเซีย เหมือนสมัยเป็นสหภาพโซเวียต เพียงแต่ใช้ลูกกระเป๋ง คือ NATO เป็นผู้ออกหน้า เพราะวอชิงตันคือผู้ชักใย NATO อีกต่อหนึ่ง

    ผู้ที่ออกแบบการปิดล้อม Containment สมัยสงครามเย็นคือ George F. Kennan หัวหน้า Policy Planning ของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ในปี ค.ศ. 1948 Kennan บอกว่า 50% ของทรัพย์สินของโลกน่ะ อยู่ที่เราอเมริกานะ แต่พลเมืองเรามีแค่ 6.3 % เท่านั้น ดังนั้นมันช่วยไม่ได้ที่จะมีคนอิจฉาและหมั่นไส้เรา (ท่านผู้อ่านต้องการยาแก้คลื่นไส้ไหมครับ ? )

    แผนของอเมริกาที่จะขึ้นมาเป็น พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งครองโลก เริ่มมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1939 ในการทำ War and Peace Project ของ Council on Foreign Relations (หลวงพ่อ CFR โคตรแสบของผม !) เขามีแผนที่จะทำให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่ให้ทำแบบปิดบังพรางตัว เอาเสื้อคลุมยี่ห้อประชาธิปไตยและการค้าเสรีมาคลุมตัว ไม่ให้เหยื่อรู้ตัว ตกใจ เลยได้เหยื่ออยู่ในกำมือเกือบทั่วโลก ที่หลุดมือไม่ได้กิน ก็มีโลกฝ่ายสังคมนิยม ตาม Warsaw Pact หลัง ค.ศ. 1948 , จีนของอาเฮียและยูโกสลาเวีย ของท่านนายพลติโตเท่านั้น กับอีกบริเวณที่มีความสำคัญยิ่ง คือ Eurasia ที่อเมริกายังมือยาวยื่นมาไม่ถึง
    Eurasia เริ่มตั้งแต่ แม่น้ำ Elbe ในเยอรมัน ยาวลงมาถึงทะเล Adriatic ผ่าน Sofia, Bulgaria ข้ามมา Black Sea และ Caspian Sea มาจนถึงเอเซียกลางและจีน บริเวณที่กว้างใหญ่ นี่จึงยังรอดพ้นจากการเคี้ยวของจักรวรรดิอเมริกา แต่จะรอดไปได้นานเท่าใด

    สิ่งที่คนส่วนใหญ่ในโลกไม่รู้คือ มันเป็นความฝันทั้งกลางคืนกลางวัน ของอเมริกามาเป็นเวลานานแล้ว ที่จะควบคุมรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการทหาร ความฝันนี้อเมริกาพยายามทำให้เป็นจริงผ่านหน่วยงานสาระพัด ทั้งที่เป็นองค์กรของรัฐ และเอกชน ทั้งในและนอกระบบ ตั้งแต่บรรษัทค้าน้ำมันข้ามชาติ สภาความมั่นคง Pentagon, CIA, หน่วยงานความมั่นคงทั้งด้านการทหารและการเมือง และหน่วยสืบราชการลับพิเศษอีกสาระพัด ทั้งหมดเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายสำคัญที่สุดของอเมริกาที่แอบซ่อนมาตลอดเหนือเป้าหมายอื่นใด คือ ควบคุมรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จ หมดจดไม่ให้หลุดมือ

    แม้ขณะที่อเมริกาและสหภาพโซเวียตยังเป็นพันธมิตร ร่วมจับมือกันเพื่อถล่มเยอรมัน อเมริกาก็แอบเริ่มเตรียมการที่จะขจัดสหภาพโซเวียตไปด้วยพร้อมกัน หน้าร้อนของปี ค.ศ. 1945 อเมริกาคิดนโยบาย Striking the first blow ปล่อยหมัดแรกก่อนในสงครามนิวเคลียร์ แผนแรกที่คิดจะทดรองคือใช้กับสหภาพโซเวียต ตามแผน Totality ซึ่งนายพล Eisenhower เป็นผู้ร่างแผนตามคำสั่งของประธานาธิบดี Truman อะไรมันเข้าสิง อเมริกาถึงได้ชั่วขนาดนั้น ร่วมรบกันอยู่ดี ๆ อ้าว ! ดันจะขยี้เพื่อนพร้อมศัตรู มันคิดได้อย่างไร!?

    Sir Halford Mackinder ครูใหญ่ชาวอังกฤษด้านภูมิศาสตร์การเมือง บอกไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 ในการสัมมนาของ Royal Geographic Society ที่ London ว่า ใครก็ตามที่มีอำนาจควบคุมเหนือรัสเซีย ผู้นั้นก็จะเป็นผู้ตัดสิน หรือผู้ควบคุมบริเวณ Eurasia อันกว้างใหญ่ และนั่นหมายถึงจะเป็นผู้มีอิทธิพลควบคุมโลกใบนี้อย่างสมบูรณ์ เริ่มเห็นกันหรือยังว่าอะไรมาเข้าสิงอเมริกา
    หนึ่งศตวรรษมาแล้ว ที่ครู Mac บอกเอาไว้ว่า ในขณะที่ยุโรปขยายอิทธิพลของตนไปทางอินเดีย อาฟริกา และอาณานิคมต่าง ๆของพวกเขา รัสเซีย ซึ่งมีบริเวณกว้างคลุมยุโรปตะวันออกและเอเซียกลาง จะขยายอิทธิพลไปลงใต้และไปตะวันออก จะทำให้ครอบคลุมบริเวณที่มีประชากรและทรัพยากรมากที่สุด. ครู Mac คาดการณ์ว่าในที่สุดบริเวณที่กว้างใหญนี้ จะเชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายทางรถไฟ ทำให้เป็นศูนย์อำนาจและจุดยุทธศาสตร์ที่เพียบพร้อม อย่างที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ พูดเท่านี้บรรดาผู้ฟังครู Mac ต่างล้วงผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำลายกันเป็นแถว นี่มันอาหารจานใหญ่แบบชามอ่างเชียวนะ จะปล่อยให้ค้างเติ่งอยู่ยังงั้นได้อย่างไร จำเป็นต้องคิดแผนกินรวบมาให้หมด ด่วน

    Mckinder เรียกใจกลาง Eurasia ว่า heartland หรือกล่องดวงใจของศูนย์อำนาจโลก จุดยุทธศาสตร์อันสำคัญ โดยมีเยอรมัน, ออสเตรีย, ตุรกี, อินเดีย และจีน อยู่ติดขอบรอบกล่องดวงใจของศูนย์อำนาจโลก Mackinder มองว่าคู่หูที่จะคว้าดวงใจไปครอบ ครองนี่ได้ มี 2 คู่ คือ คู่รัสเซียกับเยอรมัน หรือ คู่จีนกับญี่ปุ่น นโยบายต่างประเทศของอังกฤษ หนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ไม่ว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ในปี 1904 – 05 จนถึงการก่อตั้ง NATO ในปี ค.ศ. 1949 ทั้งหมดเป็นการดำเนินตามการวิเคราะห์ของ ครู Mac ทั้งสิ้น

    ทั้งหมดเพื่อเป็นการเตะตัดขาทุกวิถีทาง ที่จะไม่ให้รัสเซียได้เป็นผู้ครอบครองกล่องดวงใจที่ Eurasia และจะกลายเป็นผู้ท้าทายจักรภพอังกฤษ ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของอาณานิคมที่ตะวันจะไม่วันตกดิน อังกฤษจะยอมได้อย่างไร

    ขณะเดียวกัน อีกฝั่งของมหาสมุทร Atlantic อเมริกาก็มีความฝันของตนเอง America’s Manifest Destiny ที่จะเป็นหมายเลขหนึ่งคุมโลกเหมือนกัน อเมริกาเริ่มเก็บกินทางมหาสมุทรแปซิฟิกก่อน เริ่มตั้งแต่โซ้ยกับสเปญ เมื่อ ค.ศ. 1818 แล้วก็ตามมาคว้าเอาฟิลิปปินส์ใส่กระเป๋า อืม ! อเมริกาเพิ่งรู้รสชาดของการเป็นเจ้าของอาณานิคม อร่อยจับใจ เข้าใจแล้วครับนายท่าน

    ในขณะนี้ที่ครู Mac เพ้อเรื่องกล่องดวงใจใน Eurasia ในปี ค.ศ. 1904 อเมริกาก็มีนาย Brook Adams สื่อผู้มีอิทธิพลสูงในอเมริกา ซึ่งมองว่าอเมริกาเองก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ที่จะเป็นเจ้าของกล่องดวงใจ ในฐานะทายาทผู้สืบเชื้อสายของครอบครัวในสังคมชั้นสูงมาหลายชั่วคน นาย Adams ไม่ใช่คนประเภทยื่นบนลังสบู่พูดปาวๆ อยู่กลางสนามไม่มีใครฟัง คนฟังเขาทั้งอเมริกา ที่สำคัญคนที่ฟังอย่างตั้งใจ คือ ประธานาธิบดี Theodor Roosevelt และประธานาธิบดี Woodlow Wilson ซึ่งดันเป็นเพื่อนสนิทของนาย Adams ทั้งคู่

    นาย Adams บอกว่าเราต้องรุก รุกเข้าไปอย่าใด้ถอย เข้าไปในทาง Pacific และเอาเอเซียมาเป็นอาณานิคมของอเมริกา จะทำให้อเมริกามีเขตแดนที่กว้างใหญ่ขึ้นไปอีก นอกเหนือจากฝันของนาย Adams แล้ว ผู้ที่คิดแผนที่เตรียมให้อเมริกาเดินทางหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็คือ Council on Foreign Relations (CFR) และ Rockefeller Foundation
    และสมุนที่ Rockefeller ส่งเข้าไปอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ในด้านการเมืองและเศรษฐกิจของอ เมริกา คนพวกนี้ท่องความฝันของครู Mac จนขึ้นใจ โดยเฉพาะ Henry Kissinger และ Zbigniew Brzezinski ซึ่งถือเอาทฤษฎีของ ครู Mac เป็นตำรา

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    28 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 4 กล่องดวงใจ ของครู Mac สงครามเย็น เริ่มขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1940 กว่าปลาย ๆ พร้อม ๆ กัน ก็เป็นการเกิดของ North Atlantic Treaty Organization (NATO) แต่ถึงแม้สหภาพโซเวียตจะล่มไปตั้งแต่ ค.ศ. 1989 – 1990 แต่ NATO ยังไม่ได้ยุบตามไปด้วย กลับยังอยู่อย่างเหนียวแน่นจนทุกวันนี้ คำพูดของพี่ปู จึงทำให้ผู้คนแถวยุโรปตะวันตกเกิดอาการสำลัก ปูตินพยายามบอกให้โลกรู้ว่า อเมริกากำลังใช้พฤติกรรมเดิม ๆ หลังสงครามเย็นจบไปแล้ว แต่ก็ยังใช้วิธีการ “ปิดล้อม” รัสเซีย เหมือนสมัยเป็นสหภาพโซเวียต เพียงแต่ใช้ลูกกระเป๋ง คือ NATO เป็นผู้ออกหน้า เพราะวอชิงตันคือผู้ชักใย NATO อีกต่อหนึ่ง ผู้ที่ออกแบบการปิดล้อม Containment สมัยสงครามเย็นคือ George F. Kennan หัวหน้า Policy Planning ของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ในปี ค.ศ. 1948 Kennan บอกว่า 50% ของทรัพย์สินของโลกน่ะ อยู่ที่เราอเมริกานะ แต่พลเมืองเรามีแค่ 6.3 % เท่านั้น ดังนั้นมันช่วยไม่ได้ที่จะมีคนอิจฉาและหมั่นไส้เรา (ท่านผู้อ่านต้องการยาแก้คลื่นไส้ไหมครับ ? ) แผนของอเมริกาที่จะขึ้นมาเป็น พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งครองโลก เริ่มมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1939 ในการทำ War and Peace Project ของ Council on Foreign Relations (หลวงพ่อ CFR โคตรแสบของผม !) เขามีแผนที่จะทำให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่ให้ทำแบบปิดบังพรางตัว เอาเสื้อคลุมยี่ห้อประชาธิปไตยและการค้าเสรีมาคลุมตัว ไม่ให้เหยื่อรู้ตัว ตกใจ เลยได้เหยื่ออยู่ในกำมือเกือบทั่วโลก ที่หลุดมือไม่ได้กิน ก็มีโลกฝ่ายสังคมนิยม ตาม Warsaw Pact หลัง ค.ศ. 1948 , จีนของอาเฮียและยูโกสลาเวีย ของท่านนายพลติโตเท่านั้น กับอีกบริเวณที่มีความสำคัญยิ่ง คือ Eurasia ที่อเมริกายังมือยาวยื่นมาไม่ถึง Eurasia เริ่มตั้งแต่ แม่น้ำ Elbe ในเยอรมัน ยาวลงมาถึงทะเล Adriatic ผ่าน Sofia, Bulgaria ข้ามมา Black Sea และ Caspian Sea มาจนถึงเอเซียกลางและจีน บริเวณที่กว้างใหญ่ นี่จึงยังรอดพ้นจากการเคี้ยวของจักรวรรดิอเมริกา แต่จะรอดไปได้นานเท่าใด สิ่งที่คนส่วนใหญ่ในโลกไม่รู้คือ มันเป็นความฝันทั้งกลางคืนกลางวัน ของอเมริกามาเป็นเวลานานแล้ว ที่จะควบคุมรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการทหาร ความฝันนี้อเมริกาพยายามทำให้เป็นจริงผ่านหน่วยงานสาระพัด ทั้งที่เป็นองค์กรของรัฐ และเอกชน ทั้งในและนอกระบบ ตั้งแต่บรรษัทค้าน้ำมันข้ามชาติ สภาความมั่นคง Pentagon, CIA, หน่วยงานความมั่นคงทั้งด้านการทหารและการเมือง และหน่วยสืบราชการลับพิเศษอีกสาระพัด ทั้งหมดเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายสำคัญที่สุดของอเมริกาที่แอบซ่อนมาตลอดเหนือเป้าหมายอื่นใด คือ ควบคุมรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จ หมดจดไม่ให้หลุดมือ แม้ขณะที่อเมริกาและสหภาพโซเวียตยังเป็นพันธมิตร ร่วมจับมือกันเพื่อถล่มเยอรมัน อเมริกาก็แอบเริ่มเตรียมการที่จะขจัดสหภาพโซเวียตไปด้วยพร้อมกัน หน้าร้อนของปี ค.ศ. 1945 อเมริกาคิดนโยบาย Striking the first blow ปล่อยหมัดแรกก่อนในสงครามนิวเคลียร์ แผนแรกที่คิดจะทดรองคือใช้กับสหภาพโซเวียต ตามแผน Totality ซึ่งนายพล Eisenhower เป็นผู้ร่างแผนตามคำสั่งของประธานาธิบดี Truman อะไรมันเข้าสิง อเมริกาถึงได้ชั่วขนาดนั้น ร่วมรบกันอยู่ดี ๆ อ้าว ! ดันจะขยี้เพื่อนพร้อมศัตรู มันคิดได้อย่างไร!? Sir Halford Mackinder ครูใหญ่ชาวอังกฤษด้านภูมิศาสตร์การเมือง บอกไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 ในการสัมมนาของ Royal Geographic Society ที่ London ว่า ใครก็ตามที่มีอำนาจควบคุมเหนือรัสเซีย ผู้นั้นก็จะเป็นผู้ตัดสิน หรือผู้ควบคุมบริเวณ Eurasia อันกว้างใหญ่ และนั่นหมายถึงจะเป็นผู้มีอิทธิพลควบคุมโลกใบนี้อย่างสมบูรณ์ เริ่มเห็นกันหรือยังว่าอะไรมาเข้าสิงอเมริกา หนึ่งศตวรรษมาแล้ว ที่ครู Mac บอกเอาไว้ว่า ในขณะที่ยุโรปขยายอิทธิพลของตนไปทางอินเดีย อาฟริกา และอาณานิคมต่าง ๆของพวกเขา รัสเซีย ซึ่งมีบริเวณกว้างคลุมยุโรปตะวันออกและเอเซียกลาง จะขยายอิทธิพลไปลงใต้และไปตะวันออก จะทำให้ครอบคลุมบริเวณที่มีประชากรและทรัพยากรมากที่สุด. ครู Mac คาดการณ์ว่าในที่สุดบริเวณที่กว้างใหญนี้ จะเชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายทางรถไฟ ทำให้เป็นศูนย์อำนาจและจุดยุทธศาสตร์ที่เพียบพร้อม อย่างที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ พูดเท่านี้บรรดาผู้ฟังครู Mac ต่างล้วงผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำลายกันเป็นแถว นี่มันอาหารจานใหญ่แบบชามอ่างเชียวนะ จะปล่อยให้ค้างเติ่งอยู่ยังงั้นได้อย่างไร จำเป็นต้องคิดแผนกินรวบมาให้หมด ด่วน Mckinder เรียกใจกลาง Eurasia ว่า heartland หรือกล่องดวงใจของศูนย์อำนาจโลก จุดยุทธศาสตร์อันสำคัญ โดยมีเยอรมัน, ออสเตรีย, ตุรกี, อินเดีย และจีน อยู่ติดขอบรอบกล่องดวงใจของศูนย์อำนาจโลก Mackinder มองว่าคู่หูที่จะคว้าดวงใจไปครอบ ครองนี่ได้ มี 2 คู่ คือ คู่รัสเซียกับเยอรมัน หรือ คู่จีนกับญี่ปุ่น นโยบายต่างประเทศของอังกฤษ หนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ไม่ว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ในปี 1904 – 05 จนถึงการก่อตั้ง NATO ในปี ค.ศ. 1949 ทั้งหมดเป็นการดำเนินตามการวิเคราะห์ของ ครู Mac ทั้งสิ้น ทั้งหมดเพื่อเป็นการเตะตัดขาทุกวิถีทาง ที่จะไม่ให้รัสเซียได้เป็นผู้ครอบครองกล่องดวงใจที่ Eurasia และจะกลายเป็นผู้ท้าทายจักรภพอังกฤษ ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของอาณานิคมที่ตะวันจะไม่วันตกดิน อังกฤษจะยอมได้อย่างไร ขณะเดียวกัน อีกฝั่งของมหาสมุทร Atlantic อเมริกาก็มีความฝันของตนเอง America’s Manifest Destiny ที่จะเป็นหมายเลขหนึ่งคุมโลกเหมือนกัน อเมริกาเริ่มเก็บกินทางมหาสมุทรแปซิฟิกก่อน เริ่มตั้งแต่โซ้ยกับสเปญ เมื่อ ค.ศ. 1818 แล้วก็ตามมาคว้าเอาฟิลิปปินส์ใส่กระเป๋า อืม ! อเมริกาเพิ่งรู้รสชาดของการเป็นเจ้าของอาณานิคม อร่อยจับใจ เข้าใจแล้วครับนายท่าน ในขณะนี้ที่ครู Mac เพ้อเรื่องกล่องดวงใจใน Eurasia ในปี ค.ศ. 1904 อเมริกาก็มีนาย Brook Adams สื่อผู้มีอิทธิพลสูงในอเมริกา ซึ่งมองว่าอเมริกาเองก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ที่จะเป็นเจ้าของกล่องดวงใจ ในฐานะทายาทผู้สืบเชื้อสายของครอบครัวในสังคมชั้นสูงมาหลายชั่วคน นาย Adams ไม่ใช่คนประเภทยื่นบนลังสบู่พูดปาวๆ อยู่กลางสนามไม่มีใครฟัง คนฟังเขาทั้งอเมริกา ที่สำคัญคนที่ฟังอย่างตั้งใจ คือ ประธานาธิบดี Theodor Roosevelt และประธานาธิบดี Woodlow Wilson ซึ่งดันเป็นเพื่อนสนิทของนาย Adams ทั้งคู่ นาย Adams บอกว่าเราต้องรุก รุกเข้าไปอย่าใด้ถอย เข้าไปในทาง Pacific และเอาเอเซียมาเป็นอาณานิคมของอเมริกา จะทำให้อเมริกามีเขตแดนที่กว้างใหญ่ขึ้นไปอีก นอกเหนือจากฝันของนาย Adams แล้ว ผู้ที่คิดแผนที่เตรียมให้อเมริกาเดินทางหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็คือ Council on Foreign Relations (CFR) และ Rockefeller Foundation และสมุนที่ Rockefeller ส่งเข้าไปอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ในด้านการเมืองและเศรษฐกิจของอ เมริกา คนพวกนี้ท่องความฝันของครู Mac จนขึ้นใจ โดยเฉพาะ Henry Kissinger และ Zbigniew Brzezinski ซึ่งถือเอาทฤษฎีของ ครู Mac เป็นตำรา สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 28 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 13 นางเหยี่ยว F

    ปฎิบัติการสีส้มแน่นอน หยุดไม่ได้แล้ว แต่จะเดินต่ออย่างไร เดือนกันยายน ค.ศ. 2013 มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Viktor Pinchuk ลุกขึ้นจัดการประชุมใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของ Ukraine สื่อยักษ์ Economist บอกเป็นการจัดการสัมมนาของการฑูตระดับสูงและเข้มข้น

    ในจำนวนแขกที่มาเข้าร่วมสัมมนาคือ ระดับครีมของนักการเมืองหัวแถวของแทบทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ นายและนาง Clinton, อดีตหัวหน้า CIA นายพล Petraeus, อดีต รมว.คลัง Lawrence Summers, อดีตผู้ว่าการธนาคารโลก Rober Zoellick, รัฐมนตรี ตปท. สวีเดน Carl Bildt, Shimon Peres, Tony Blair, Gerhard Schroder, Dominique, Strauss-Kahn, Mario Monti, ประธานาธิบดี Lithuanian รวมทั้งประธานาธิบดี Viktor Yanukovych (ซึ่งหลังจากนั้น 5 เดือนก็ถูกขับไล่กระเด็นออกจากตำแหน่ง) และนาย Petro Poroshenko (ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีแทน !) ก็มา ขาดแต่ไอ้ปึ้งหัวเหม่งของเรา (ตอนนั้น) นึกว่าเป็นพวกครีม ฮา

    หัวข้อของการหารือคือ “Deep and Comprehensive Free Trade Agreement” (DCFTA) ระหว่าง Ukraine กับสหภาพยุโรป และการที่ Ukraine สนใจจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายตะวันตก สุ้มเสียง แนวทางการคุย เป็นการโยนหินถามทางในการที่ Ukraine จะตัดเชือกคล้องข้อมือกับรัสเซีย เพื่อไปซบโลกตะวันตก
    เป็นการจัดงานประชุมลับหลังรัส เซียหรือ คนจัดบอก ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราไม่ใช่ พวก Bilderberg เราทำอะไรเปิดเผย เราเชิญรัสเซียมาด้วย และรัสเซียก็มา นู่น นั่งอยู่นู่น ไม่เห็นเหรอ

    คุณพี่ปูตินส่งมือขวาคือนาย Sergei Glazyev ที่ปรึกษาใหญ่ด้านการเมืองมานั่งฟังด้วย นาย Glazyev บอกว่า ความเห็นของตะวันตกกับของรัสเซียต่างกันสิ้นเชิง เราไม่ได้มองว่า Ukraine จะต้องอยู่หรือไม่อยู่กับตะวันตกหรือกับรัสเซีย แต่เรามองที่ความเป็นจริงของฐานะทางเศรษฐกิจของ Ukraine มากกว่า

    ซึ่งขณะนี้ Ukraine ขาดดุลย์การค้าต่างประเทศอยู่แยะ มีการกู้ยืมต่างประเทศสูง Ukraine คงไม่แคล้วตกเป็นผู้ผิดนัด กับเจ้าหนี้ต่างประเทศนั้น เว้นแต่จะมีใครมาช่วยซื้อหนี้ขนาดใหญ่นี้ออกไป (Sizable Bailout !)

    Forbes รายงานว่าสิ่งที่รัสเซียพูดใกล้ความเป็นจริง มากกว่าภาษานักการฑูตระดับสูงที่พูดกันอยู่ในที่ประชุมที่ Brussels และ Kiev

    สำหรับด้านการเมือง นสพ. Times ของ London รายงานว่า นาย Glazyev บอกว่าเป็นไปได้ว่า ชนส่วนน้อยใน Ukraine ตะวันออก ที่ยังพูดภาษารัสเซีย อาจจะมีการเคลื่อนไหว เพื่อแยกประเทศ เป็นการประท้วง ถ้ามีการตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และรัสเซียก็มีสิทธิตามกฎหมาย ที่จะสนับสนุนคนพวกนี้ อืม ! พูดสั้น ๆ แต่ความหมายแรง

    ตกลง Ukraine กำลังเล่นอะไร บรรดานักวิเคราะห์มองว่า Ukraine กำลังเหยียบเรือ 2 แคมบ้าง บ้างก็ว่า Yanukovych อ่อนแอ ตัดสินใจไม่ได้

    รัสเซียบอกไม่สนใจว่า Ukraine จะอยู่กับใคร รัสเซียต้องการให้ Ukraine เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันตกกับรัสเซียมากกว่า แล้วอเมริกาละ ยังอยากจะละเลงสีส้มต่อไปไหม?
    แน่นอนการจัดประชุมใหญ่ เมื่อเดือนกันยายนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลำพัง โดยเศรษฐีคนไหนฟิตจัดขึ้นมาหรอกน่า มันต้องมีลูกหนุน ลูกเชียร์ จากลูกพี่ด้วย คุณนาย Victoria Nuland มาแล้ว หล่อนคือผู้คุมเกมการละเลงสีส้ม ตัวจริง ! Nuland เป็นนางเหยี่ยว อดีตที่ปรึกษาของ **** Cheney เคยเป็นผช.ฑูตประจำ NATO และเป็นโฆษกของคุณนาย Clinton และเป็นคุณเมียของนาย Robert Kagan เหยี่ยวอีกตัวหนึ่ง และโดยคุณสมบัติเฉพาะตัว Nuland เป็นผู้ชำนาญการรุ่นเก๋ากึกด้านรัสเซีย ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนในอเมริกา

    การที่ Nuland มากำกับการละเลงสีส้ม ชัดเจนว่านโยบายของ Bush คนลูกที่จะสร้างสงครามเย็นยุคใหม่ ปิดล้อมรัสเซียต่อไป ได้ส่งไม้ต่อให้กับ Obama ผู้ทำตัวเหมือนคนขายของรับ order ลูกค้ามากกว่าเป็นประธานาธิบดี (อันนี้ ยืนยันว่า คนเขียนนิทานไม่ได้พูดเอง แต่สื่อปากจัดของค่ายตะวันตกด่ากันเอง)

    Nuland พูดที่วอชิงตันว่า ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย อเมริกาใช้เงินไปกว่า 5 พันล้านเหรียญ เพื่อให้มีอิทธิพลทางการเมืองใน Ukraine เราไม่ได้ลงทุนใน “น้ำมัน” โปรดเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ (เรารวยนะ) แต่มันเป็นเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง เรามองว่า Ukraine เป็นจุดอ่อนของรัสเซีย (Russia’s Achilles’ heel) เราสามารถใช้ Ukraine สร้างปัญหาให้กับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว้าว ! อย่าได้ประมาทหน้านางเหยี่ยวเชียว จิกได้ เจ็บจริง ๆ

    โลกหันขวับ มามองนางเหยี่ยวตัวใหม่ ไมค์ทุกตัวจ่อปากคุณนาย เมื่อ Nuland หลุดปากบอกว่า เราต้องเปลี่ยนเอาไอ้นาย Yanukovych ออกไปจากตำแหน่งด่วน แล้วใครมาแทนล่ะ มีคนตะโกนถาม เห็นว่า Angela Merkel และสหภาพยุโรป อยากจะเอาอดีตนักมวย ชื่อ Vitaly Klitschenko มาสวมแทนไม่ใช่หรือ
    คุณนายบอก “F… the Eu” พูดแบบนี้ไม่ดังแซงหน้าคุณนาย Clinton ได้ยังไง

    ไม่ใช่นักมวยเข้าใจใหม่ ฉันไม่เอานักมวย ไม่ใช่ “Klits” แต่เป็น “Yats” คุณนายเหยี่ยวหมายถึง Arseniy Yatsenyuk เด็กสร้างอีกคนของอเมริกาที่ถนัดเรื่องใช้ยาแรง ตามใบสั่งของ IMF
    แล้วนาย Yats ก็ได้งาน เขาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแล Ukraine ให้เป็นไปตามที่อเมริกาต้องการ ที่สำคัญคือต้องจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปีนี้ให้ได้ แม้ว่าชาว Ukraine ฝั่งตะวันออกจะไม่ได้มาเลือกตั้ง เพราะถูกคุณพี่ปูตินฉก Crimea กลับเข้ามาอยู่ในกล้ามใหญ่ของตน

    แต่แผนการนางเหยี่ยวลึกซึ้ง ไม่เสียทีอยู่ร่วมกรงเหยี่ยวกับพวกไอ้เสือเอาวา แผนการนี้มันเป็น win-win สำหรับอเมริกาของจริง

    ถ้ารัสเซียไม่ย้ายกองเรือ ก็มีหวังถูกเขมือบ เรื่องถูกเขมือบกองเรือนี่ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย รัสเซียอาจถึงหายนะได้ ทางเลือกเกือบไม่มี ดังนั้นจึงยึด Crimea มาไว้ก่อน ยึดมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปตามแผนของอเมริกา ที่อยากให้รัสเซียทำ เป็นหมากการเมืองที่อเมริกากำลังอยากให้รัสเซียเล่นอย่างยิ่ง หาบทผู้ร้ายให้รัสเซีย หาโอกาสที่จะประกาศบอกโลกว่า เห็นมั้ย รัสเซียก็เหมือนเดิม กำลังขยายอำนาจ แบบนี้จะปล่อยไว้หรือ

    อเมริกากำลังต้องการหาผู้ร้ายใจ จะขาด เพื่อให้พวกขวัญอ่อนง้อ ให้ NATO คงอยู่ต่อไป และอเมริการจะได้ชักใยให้ NATO ทำภาระกิจ ของจริง ที่อเมริกา ไม่ได้บอกให้สมาชิก NATO รู้

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    1 กค. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 13 นางเหยี่ยว F ปฎิบัติการสีส้มแน่นอน หยุดไม่ได้แล้ว แต่จะเดินต่ออย่างไร เดือนกันยายน ค.ศ. 2013 มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย Viktor Pinchuk ลุกขึ้นจัดการประชุมใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของ Ukraine สื่อยักษ์ Economist บอกเป็นการจัดการสัมมนาของการฑูตระดับสูงและเข้มข้น ในจำนวนแขกที่มาเข้าร่วมสัมมนาคือ ระดับครีมของนักการเมืองหัวแถวของแทบทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่ นายและนาง Clinton, อดีตหัวหน้า CIA นายพล Petraeus, อดีต รมว.คลัง Lawrence Summers, อดีตผู้ว่าการธนาคารโลก Rober Zoellick, รัฐมนตรี ตปท. สวีเดน Carl Bildt, Shimon Peres, Tony Blair, Gerhard Schroder, Dominique, Strauss-Kahn, Mario Monti, ประธานาธิบดี Lithuanian รวมทั้งประธานาธิบดี Viktor Yanukovych (ซึ่งหลังจากนั้น 5 เดือนก็ถูกขับไล่กระเด็นออกจากตำแหน่ง) และนาย Petro Poroshenko (ผู้ที่ได้รับเลือกเข้ามาเป็นประธานาธิบดีแทน !) ก็มา ขาดแต่ไอ้ปึ้งหัวเหม่งของเรา (ตอนนั้น) นึกว่าเป็นพวกครีม ฮา หัวข้อของการหารือคือ “Deep and Comprehensive Free Trade Agreement” (DCFTA) ระหว่าง Ukraine กับสหภาพยุโรป และการที่ Ukraine สนใจจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายตะวันตก สุ้มเสียง แนวทางการคุย เป็นการโยนหินถามทางในการที่ Ukraine จะตัดเชือกคล้องข้อมือกับรัสเซีย เพื่อไปซบโลกตะวันตก เป็นการจัดงานประชุมลับหลังรัส เซียหรือ คนจัดบอก ไม่ใช่ ไม่ใช่ เราไม่ใช่ พวก Bilderberg เราทำอะไรเปิดเผย เราเชิญรัสเซียมาด้วย และรัสเซียก็มา นู่น นั่งอยู่นู่น ไม่เห็นเหรอ คุณพี่ปูตินส่งมือขวาคือนาย Sergei Glazyev ที่ปรึกษาใหญ่ด้านการเมืองมานั่งฟังด้วย นาย Glazyev บอกว่า ความเห็นของตะวันตกกับของรัสเซียต่างกันสิ้นเชิง เราไม่ได้มองว่า Ukraine จะต้องอยู่หรือไม่อยู่กับตะวันตกหรือกับรัสเซีย แต่เรามองที่ความเป็นจริงของฐานะทางเศรษฐกิจของ Ukraine มากกว่า ซึ่งขณะนี้ Ukraine ขาดดุลย์การค้าต่างประเทศอยู่แยะ มีการกู้ยืมต่างประเทศสูง Ukraine คงไม่แคล้วตกเป็นผู้ผิดนัด กับเจ้าหนี้ต่างประเทศนั้น เว้นแต่จะมีใครมาช่วยซื้อหนี้ขนาดใหญ่นี้ออกไป (Sizable Bailout !) Forbes รายงานว่าสิ่งที่รัสเซียพูดใกล้ความเป็นจริง มากกว่าภาษานักการฑูตระดับสูงที่พูดกันอยู่ในที่ประชุมที่ Brussels และ Kiev สำหรับด้านการเมือง นสพ. Times ของ London รายงานว่า นาย Glazyev บอกว่าเป็นไปได้ว่า ชนส่วนน้อยใน Ukraine ตะวันออก ที่ยังพูดภาษารัสเซีย อาจจะมีการเคลื่อนไหว เพื่อแยกประเทศ เป็นการประท้วง ถ้ามีการตัดสัมพันธ์กับรัสเซีย และรัสเซียก็มีสิทธิตามกฎหมาย ที่จะสนับสนุนคนพวกนี้ อืม ! พูดสั้น ๆ แต่ความหมายแรง ตกลง Ukraine กำลังเล่นอะไร บรรดานักวิเคราะห์มองว่า Ukraine กำลังเหยียบเรือ 2 แคมบ้าง บ้างก็ว่า Yanukovych อ่อนแอ ตัดสินใจไม่ได้ รัสเซียบอกไม่สนใจว่า Ukraine จะอยู่กับใคร รัสเซียต้องการให้ Ukraine เป็นสะพานเชื่อมระหว่างตะวันตกกับรัสเซียมากกว่า แล้วอเมริกาละ ยังอยากจะละเลงสีส้มต่อไปไหม? แน่นอนการจัดประชุมใหญ่ เมื่อเดือนกันยายนนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นลำพัง โดยเศรษฐีคนไหนฟิตจัดขึ้นมาหรอกน่า มันต้องมีลูกหนุน ลูกเชียร์ จากลูกพี่ด้วย คุณนาย Victoria Nuland มาแล้ว หล่อนคือผู้คุมเกมการละเลงสีส้ม ตัวจริง ! Nuland เป็นนางเหยี่ยว อดีตที่ปรึกษาของ Dick Cheney เคยเป็นผช.ฑูตประจำ NATO และเป็นโฆษกของคุณนาย Clinton และเป็นคุณเมียของนาย Robert Kagan เหยี่ยวอีกตัวหนึ่ง และโดยคุณสมบัติเฉพาะตัว Nuland เป็นผู้ชำนาญการรุ่นเก๋ากึกด้านรัสเซีย ที่เหลืออยู่ไม่กี่คนในอเมริกา การที่ Nuland มากำกับการละเลงสีส้ม ชัดเจนว่านโยบายของ Bush คนลูกที่จะสร้างสงครามเย็นยุคใหม่ ปิดล้อมรัสเซียต่อไป ได้ส่งไม้ต่อให้กับ Obama ผู้ทำตัวเหมือนคนขายของรับ order ลูกค้ามากกว่าเป็นประธานาธิบดี (อันนี้ ยืนยันว่า คนเขียนนิทานไม่ได้พูดเอง แต่สื่อปากจัดของค่ายตะวันตกด่ากันเอง) Nuland พูดที่วอชิงตันว่า ตั้งแต่สหภาพโซเวียตล่มสลาย อเมริกาใช้เงินไปกว่า 5 พันล้านเหรียญ เพื่อให้มีอิทธิพลทางการเมืองใน Ukraine เราไม่ได้ลงทุนใน “น้ำมัน” โปรดเข้าใจ มันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ (เรารวยนะ) แต่มันเป็นเรื่องภูมิศาสตร์การเมือง เรามองว่า Ukraine เป็นจุดอ่อนของรัสเซีย (Russia’s Achilles’ heel) เราสามารถใช้ Ukraine สร้างปัญหาให้กับรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ว้าว ! อย่าได้ประมาทหน้านางเหยี่ยวเชียว จิกได้ เจ็บจริง ๆ โลกหันขวับ มามองนางเหยี่ยวตัวใหม่ ไมค์ทุกตัวจ่อปากคุณนาย เมื่อ Nuland หลุดปากบอกว่า เราต้องเปลี่ยนเอาไอ้นาย Yanukovych ออกไปจากตำแหน่งด่วน แล้วใครมาแทนล่ะ มีคนตะโกนถาม เห็นว่า Angela Merkel และสหภาพยุโรป อยากจะเอาอดีตนักมวย ชื่อ Vitaly Klitschenko มาสวมแทนไม่ใช่หรือ คุณนายบอก “F… the Eu” พูดแบบนี้ไม่ดังแซงหน้าคุณนาย Clinton ได้ยังไง ไม่ใช่นักมวยเข้าใจใหม่ ฉันไม่เอานักมวย ไม่ใช่ “Klits” แต่เป็น “Yats” คุณนายเหยี่ยวหมายถึง Arseniy Yatsenyuk เด็กสร้างอีกคนของอเมริกาที่ถนัดเรื่องใช้ยาแรง ตามใบสั่งของ IMF แล้วนาย Yats ก็ได้งาน เขาทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี เข้าไปดูแล Ukraine ให้เป็นไปตามที่อเมริกาต้องการ ที่สำคัญคือต้องจัดการเลือกตั้งในวันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 ปีนี้ให้ได้ แม้ว่าชาว Ukraine ฝั่งตะวันออกจะไม่ได้มาเลือกตั้ง เพราะถูกคุณพี่ปูตินฉก Crimea กลับเข้ามาอยู่ในกล้ามใหญ่ของตน แต่แผนการนางเหยี่ยวลึกซึ้ง ไม่เสียทีอยู่ร่วมกรงเหยี่ยวกับพวกไอ้เสือเอาวา แผนการนี้มันเป็น win-win สำหรับอเมริกาของจริง ถ้ารัสเซียไม่ย้ายกองเรือ ก็มีหวังถูกเขมือบ เรื่องถูกเขมือบกองเรือนี่ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย รัสเซียอาจถึงหายนะได้ ทางเลือกเกือบไม่มี ดังนั้นจึงยึด Crimea มาไว้ก่อน ยึดมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นไปตามแผนของอเมริกา ที่อยากให้รัสเซียทำ เป็นหมากการเมืองที่อเมริกากำลังอยากให้รัสเซียเล่นอย่างยิ่ง หาบทผู้ร้ายให้รัสเซีย หาโอกาสที่จะประกาศบอกโลกว่า เห็นมั้ย รัสเซียก็เหมือนเดิม กำลังขยายอำนาจ แบบนี้จะปล่อยไว้หรือ อเมริกากำลังต้องการหาผู้ร้ายใจ จะขาด เพื่อให้พวกขวัญอ่อนง้อ ให้ NATO คงอยู่ต่อไป และอเมริการจะได้ชักใยให้ NATO ทำภาระกิจ ของจริง ที่อเมริกา ไม่ได้บอกให้สมาชิก NATO รู้ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 1 กค. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 329 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 12 ส้มเน่า

    แล้วการเลือกตั้งในปี ค.ศ. 2010 ของ Ukraine ก็มาถึง คราวนี้ อัศวินสีส้ม Yushchenko ถูกน๊อค นอนนับ 10 เขาได้คะแนนเสียงประมาณ 5%

    5 ปี ของราคาขนมปังที่ขึ้นอย่างบ้าเลือดนี้ ชาวUkraine จำได้ คิดเป็น จากเมืองที่เคยอยู่กันอย่างอุดมสมบูรณ์ ดินดำ น้ำใส ฉันเคยส่งออกธัญพืชเป็นอันดับ 3 ของโลกนะ ทำไมตอนนี้ฉันต้องซื้อขนมปังที่ทำจากแป้งของฉันเอง แพงกว่าเดิม 300 เท่า ตอบมาซิ !

    ชาว Ukraine ต้องการความมั่นคง เขาไม่ต้องการให้ใครมาผลัก มาดันเขา ไปทางโน้นที ทางนี้ที พวกเขาเลือกที่จะไม่อยู่กับ NATO สื่อตะวันตกออกข่าวทันที นาย Yanukovych ที่น๊อค นาย Yushchenko เป็นเด็กสร้างของรัสเซีย รู้ไหมรัสเซียส่งมายึด Ukraine กลับไปอยู่ในกรง แต่ปรากฎว่าบรรดา นักอุตสาหกรรมที่เป็นผู้หนุนหลัง นาย Yanukovych ต่างบอกว่าเราต้องการเศรษฐกิจ ที่มีสัมพันธ์สอดคล้องกันกับสหภาพยุโรปและกับรัสเซีย แปลว่าไม่เลือกข้างน่ะ

    นาย Yanukovych บอกว่าเขาจะไม่พยายามนำ Ukraine ไปเข้า NATO ตามลูกยุของวอชิงตัน และไม่เข้าไปอยู่ในสหภาพยุโรปด้วย เขาจะพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจของ Ukraine และปัญหาการทุจริตในประเทศ

    ส่วนเรื่องท่อส่งแก๊ซกับรัสเซีย เหมือนเดิมครับพี่ปูติน ! และที่สำคัญเรื่องเช่าฐานทัพเรือที่ท่าเรือ Sevastapol ที่จะหมดในปี ค.ศ. 2017 ก็ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมต่อให้ก่อนหมดอายุเลย

    แล้วแบบนี้นาย Yanukovych จะอยู่ได้นานหรือ ? ! ปฎิบัติการสีส้ม เตรียมตัวด่วน งานรออยู่แล้วพรรคพวก
    ชัยชนะของนาย Yanukovych สร้างความขม ความขุ่น ความแค้น ให้กับหลายคนเหลือเกิน คนแรกนอกจาก นาย Yushchenko ที่นอนให้นับคะแนนแล้ว อีกคนคือ นาง Yulia Tymoshenko อดีตนายกฯหญิงเก่า คนที่มีแฟชั่นทรงผมน่าประทับใจที่สุดในโลก คุณนายเอาหางเปียพันรอบหัวไว้แทนหมวก !(อ่านตอนแรกเห็นตัว Y ขึ้นต้น ต๊กกะใจนึกว่า ไปอาละวาดอยู่แถวโน้นตั้งกะเมื่อไหร่ ฮา)

    แต่คนนี้ก็ไม่เบา นิสัยคล้ายกันจัง ก่อนการปฏิวัติสีส้ม คุณนายเป็นประธาน United Energy System บริษัทเอกชนนำเข้าแก๊ซ จากรัสเซีย รัสเซียกล่าวหาว่าคุณนายซิกแซ๊ก ขะโมยแก๊ซไปวนขายหลายรอบ แถมหนีภาษี จนมีสมญาว่า “Gaz Princess” นอกจากนี้ยังโดนกล่าวหาว่า แอบจ่ายเงินค่าปิดปากให้นักการเมืองอีกหลายคน แหม เกือบนึกว่าเขียนเรื่อง อดีตนายกฯหญิงคนเดียวกัน

    ลืมบอกไป คุณนายผมเปียนี้ เป็นซี้กับคุณนาย Angela Merkel (นายกรัฐมนตรีเยอรมัน สายไอ้กัน) และ พวกสหภาพยุโรป

    คุณนายผมเปียก็ลงสมัครรับเลือกครั้งปี ค.ศ 2010 นี่เหมือนกัน และก็แพ้คะแนน นายYanukovych ไปประมาณ ล้านคะแนน

    แต่ผู้ที่กระอักที่สุด กับการได้เป็นประธานาธิบดีของนาย Yanukovych น่าจะเป็นผู้อำนวยการสร้างปฏิบัติการส้มสลาย! แผนของวอชิงตัน ที่จะตอกตะปูปิดล้อมทางออกของรัสเซีย ที่มาทาง Ukraine ล้มเหลว สะดุด หยุดลง ชั่วคราว หรือ ถาวร ดูกันต่อไป

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    30 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 12 ส้มเน่า แล้วการเลือกตั้งในปี ค.ศ. 2010 ของ Ukraine ก็มาถึง คราวนี้ อัศวินสีส้ม Yushchenko ถูกน๊อค นอนนับ 10 เขาได้คะแนนเสียงประมาณ 5% 5 ปี ของราคาขนมปังที่ขึ้นอย่างบ้าเลือดนี้ ชาวUkraine จำได้ คิดเป็น จากเมืองที่เคยอยู่กันอย่างอุดมสมบูรณ์ ดินดำ น้ำใส ฉันเคยส่งออกธัญพืชเป็นอันดับ 3 ของโลกนะ ทำไมตอนนี้ฉันต้องซื้อขนมปังที่ทำจากแป้งของฉันเอง แพงกว่าเดิม 300 เท่า ตอบมาซิ ! ชาว Ukraine ต้องการความมั่นคง เขาไม่ต้องการให้ใครมาผลัก มาดันเขา ไปทางโน้นที ทางนี้ที พวกเขาเลือกที่จะไม่อยู่กับ NATO สื่อตะวันตกออกข่าวทันที นาย Yanukovych ที่น๊อค นาย Yushchenko เป็นเด็กสร้างของรัสเซีย รู้ไหมรัสเซียส่งมายึด Ukraine กลับไปอยู่ในกรง แต่ปรากฎว่าบรรดา นักอุตสาหกรรมที่เป็นผู้หนุนหลัง นาย Yanukovych ต่างบอกว่าเราต้องการเศรษฐกิจ ที่มีสัมพันธ์สอดคล้องกันกับสหภาพยุโรปและกับรัสเซีย แปลว่าไม่เลือกข้างน่ะ นาย Yanukovych บอกว่าเขาจะไม่พยายามนำ Ukraine ไปเข้า NATO ตามลูกยุของวอชิงตัน และไม่เข้าไปอยู่ในสหภาพยุโรปด้วย เขาจะพยายามแก้ปัญหาเศรษฐกิจของ Ukraine และปัญหาการทุจริตในประเทศ ส่วนเรื่องท่อส่งแก๊ซกับรัสเซีย เหมือนเดิมครับพี่ปูติน ! และที่สำคัญเรื่องเช่าฐานทัพเรือที่ท่าเรือ Sevastapol ที่จะหมดในปี ค.ศ. 2017 ก็ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวผมต่อให้ก่อนหมดอายุเลย แล้วแบบนี้นาย Yanukovych จะอยู่ได้นานหรือ ? ! ปฎิบัติการสีส้ม เตรียมตัวด่วน งานรออยู่แล้วพรรคพวก ชัยชนะของนาย Yanukovych สร้างความขม ความขุ่น ความแค้น ให้กับหลายคนเหลือเกิน คนแรกนอกจาก นาย Yushchenko ที่นอนให้นับคะแนนแล้ว อีกคนคือ นาง Yulia Tymoshenko อดีตนายกฯหญิงเก่า คนที่มีแฟชั่นทรงผมน่าประทับใจที่สุดในโลก คุณนายเอาหางเปียพันรอบหัวไว้แทนหมวก !(อ่านตอนแรกเห็นตัว Y ขึ้นต้น ต๊กกะใจนึกว่า ไปอาละวาดอยู่แถวโน้นตั้งกะเมื่อไหร่ ฮา) แต่คนนี้ก็ไม่เบา นิสัยคล้ายกันจัง ก่อนการปฏิวัติสีส้ม คุณนายเป็นประธาน United Energy System บริษัทเอกชนนำเข้าแก๊ซ จากรัสเซีย รัสเซียกล่าวหาว่าคุณนายซิกแซ๊ก ขะโมยแก๊ซไปวนขายหลายรอบ แถมหนีภาษี จนมีสมญาว่า “Gaz Princess” นอกจากนี้ยังโดนกล่าวหาว่า แอบจ่ายเงินค่าปิดปากให้นักการเมืองอีกหลายคน แหม เกือบนึกว่าเขียนเรื่อง อดีตนายกฯหญิงคนเดียวกัน ลืมบอกไป คุณนายผมเปียนี้ เป็นซี้กับคุณนาย Angela Merkel (นายกรัฐมนตรีเยอรมัน สายไอ้กัน) และ พวกสหภาพยุโรป คุณนายผมเปียก็ลงสมัครรับเลือกครั้งปี ค.ศ 2010 นี่เหมือนกัน และก็แพ้คะแนน นายYanukovych ไปประมาณ ล้านคะแนน แต่ผู้ที่กระอักที่สุด กับการได้เป็นประธานาธิบดีของนาย Yanukovych น่าจะเป็นผู้อำนวยการสร้างปฏิบัติการส้มสลาย! แผนของวอชิงตัน ที่จะตอกตะปูปิดล้อมทางออกของรัสเซีย ที่มาทาง Ukraine ล้มเหลว สะดุด หยุดลง ชั่วคราว หรือ ถาวร ดูกันต่อไป สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 30 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 8 แผนชิงท่อ

    เอาแผนที่โลกมากางดู ให้รู้จัก Eurasia ให้ชัด ๆ เปรียบเทียบกับการเดินหมากของอเมริกา เป้าหมายของอเมริกาไปไกลกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่จะปิดล้อมรัสเซียตามคำสอนของครู Mac เท่านั้น ยุทธศาสตร์ของอเมริกา ถ้าทำสำเร็จก็เหมือนตัดมือตัดตีนอาเฮีย ไม่ให้มีโอกาสเข้าไปถึงแหล่งน้ำมัน Caspian Sea รวมทั้ง เข้าไปใน Kazakhstan ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญมันจะเป็นการตัดขาดเส้นทางจับมือระหว่างอาเฮีย กับรัสเซียอีกด้วย อืม หมากตานี้ เยี่ยม เหี้ยมจริง ๆ

    เส้นทางสายไหมแต่โบราณ The Great Silk Road ผ่าน Tashkent ใน Uzbekistan และ Almaaty ใน Kazakhstan บริเวณที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาใหญ่น้อย การควบคุม Uzbekistan, Krygysten and Kazakhstan ย่อมควบคุมท่อส่งที่อาจจะสร้างขึ้นระหว่างจีนกับเอเซียกลางด้วย ดังนั้นถ้าสามารถปิดล้อมรัสเซีย ก็จะยิ่งมีโอกาสควบคุมท่อส่งระหว่างรัสเซียกับยุโรปตะวันตกและตะวันออกกลางได้อีกด้วย

    นายตัวแสบ Brzezinski ได้เขียนบทความไว้ในวารสาร Foreign Affairs ของ CFR เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1997 ถึงยุทธศาสตร์ที่แท้จริงของวอชิงตันเกี่ยวกับ Eurasia สรุปความว่า:

    “Eurasia มีพลเมืองเท่ากับ 75% ของโลก เท่ากับ 60% ของ GNP และมีทรัพยากรน้ำมันเท่ากับ 75% เมื่อรวมกันแล้ว Eurasia สามารถจะมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่าอเมริกาหลายเท่านัก

    ประเทศใดก็ตามที่ครอบครองหรือควบคุม Eurasia ได้ ก็เท่ากับควบคุมตะวันออกกลางและอาฟริกาโดยอัตโนมัติ เมื่อ Eurasia เป็นจุดตัดสินเกมหมากรุกชิงโลก มันจะไม่ได้เรื่องนะ ถ้าอเมริกาจะมีนโยบายแยกชุดหนึ่งสำหรับยุโรป และอีกชุดหนึ่งสำหรับเอเซีย การใช้อำนาจของอเมริกาอย่างไรใน Eurasia นั่นแหละ จะเป็นเครื่องวัดว่า อเมริกาเป็นหนึ่งเดียว ใหญ่สุดในโลกนี้หรือไม่…...”
    หลังจากพลาดจากการถล่ม Iraq ในปี ค.ศ. 2003 ทฤษฎีภูมิศาสตร์การเมือง หมากกระดานชิงโลกของนายตัวแสบ Brzezinski ก็ค่อย ๆ ทยอยออกมา ให้อเมริกาคิดหนัก เช่น จะรบหรือไม่รบกับ อิหร่าน, เรื่องของ Georgia, และเรื่องท่อส่งน้ำมัน Baku-Tbilisi-Ceyhan, เรื่องจีนกำลังผงาดเป็นหมายเลขหนึ่งด้านเศรษฐกิจ ทั้งหมดมันเกี่ยวเนื่องกับภูมิศาสตร์การเมืองทั้งนั้น นาย Brzezinski ยังสำทับอเมริกาอีกว่า จะเป็นหมายเลขหนึ่งคุมโลกได้หรือไม่ มันขึ้นกับคุมการไหลเวียนของน้ำมันและ แก๊ซของโลกได้หรือเปล่า เพราะมันเป็นเส้นเลือดเลี้ยงเศรษฐกิจ เกือบทุกอย่างมันเดินได้ วิ่งได้ อยู่ได้ เพราะน้ำมันทั้งนั้นแหละ ขาดน้ำมัน ก็เหมือนร่างกายขาดเลือด อยู่ได้ไงหือ ไอ้ที่ไปบุกอาฟนิสถาน หรือการพยายามไล่นาย Chavez ทั้งหมดนี้มันก็เรื่องน้ำมันทั้งนั่นแหละ

    หลังจากล่มสลายล้มละลาย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 รัสเซียก็ก้มหน้าก้มตากู้เศรษฐกิจประเทศ ภายใต้การปกครองอย่างเข้มงวดของคุณพี่ปูตินในฐานะประธานาธิบดี มันก็ตลกดีนะ ขณะที่อเมริกาพยายามจะขยี้รัสเซีย แต่ตัวเองเดินหมากผิดไป บุกเข้าไปขยี้ซัดดัมในอิรัค นึกว่าเกมสั้น ดันต้องเล่นเกมยาว ส้มก็เลยหล่นใส่คุณพี่ปูติน ขายน้ำมันได้เพิ่มขึ้น ใช้หนี้ IMF หมด และสามารถสร้างกองทุนสำรองเงินตรา ตปท.ของตนได้ อ้าว ! จุกอีกแล้วซินักล่า คราวนี้นี่มันเสียหายหลายต่อ เดินผิดตาเดียว ทำให้ศัตรูคู่แข่ง เงยหน้าอ้าปาก แถมยังมีท่าว่ากล้ามจะแข็งขึ้นด้วย รัสเซียเริ่มเงยหน้าขึ้นมามองโลกได้อีกครั้ง แน่นอนมันยิ่งทำให้อเมริกาเจ็บกระดองใจหนักเข้าไปอีก

    หลังจากเงยหน้าอ้าปากได้คล่อง รัสเซียก็เริ่มสร้างอิทธิพลของตนเอง ไม่ใช่โดยการใช้อาวุธ แต่ใช้การเคลื่อนไหวน้ำมันและแก๊ซที่ตนเองมีอยู่เต็ม ตามหลักภูมิศาสตร์การเมืองบ้าง นึกว่าจะเล่นเป็นข้างเดียวหรือไง คุณพี่ปูตินรู้ว่าถ้าไม่เคลื่อนไหว ตัดสินใจแบบเฉียบขาด ไม่นานหรอก รัสเซียก็จะโดนรุมล้อมกรอบ นำโดยอเมริกาเหมือนเดิม
    ขณะเดียวกัน ที่แดนมังกร อาเฮียแม้จะทำมาค้าขึ้น แต่ถ้ายังต้องพึงน้ำมันคนอื่นเขายหายใจแบบนี้ อาเฮียก็ขึ้นเป็นหมายเลขหนึ่งยาก และเขาว่าอาเฮีย ยังไม่มีลูกระเบิดนิวเคลียร์ เอาไว้ขู่ชาวบ้าน ว่าอย่าเข้ามานะ เดี๋ยวอั้วระเบิดตูมเลย แต่เรื่องแบบนี้มันซ้อนซ่อนกันอยู่ ดูไปก่อนอย่าเพิ่งประมาทหน้าอาเฮีย อาจจะแอบมีซุกอยู่ ลูก 2 ลูกก็ได้ ฮา แต่น้ำมันน่ะ อั้วม่ายมีจริง ๆ แต่ไม่เป็นไร อาเฮียมีของดีอย่างอื่นแอบอยู่อีก วันหลังจะขยาย คราวนี้ถ้าพี่ปูเล่นพร้อมกับอาเฮีย สงสัยจะได้เห็นนักล่า ตาเหลือก หงายท้อง นอนแน่ นิ่ง !

    รัสเซียของคุณพี่ปูติน (โปรดสังเกตผมเรียกคุณพี่เลยน่ะ ชื่นชมในความใจถึงของแก) เป็นอำนาจเดียวที่สามารถต่อกรกับอเมริกาในเรื่องของระเบิดนิวเคลียร์ได้ (ในขณะนี้ ! ?) และมีโอกาสที่จะขึ้นแท่นเป็นหมายเลขหนึ่งครองโลกได้เหมือนกัน ถ้าประเทศใน Eurasia รวมกัน มี จีน, รัสเซีย รวมทั้งรัฐ ต่าง ๆ ใน Eurasia ก็สามารถทำให้อเมริกากลืนน้ำลายไม่คล่อง คอฝืดแล้ว นี่ถ้าบวกเอากลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ Shanghai Cooporation Organization ที่เริ่มจับมือกัน เมื่อปี ค.ศ. 1988 ถึง 2001 ซึ่งจีนกับรัสเซียจับมือกันเป็นคู่แรก ทำสัญญาให้ความร่วมมือด้านความ มั่นคงด้วยกัน และมีรัฐเพื่อนบ้าน Kazakhstan, Tajikistan และ Uzbebistan รวมด้วยแล้ว อเมริกาคงยิ่งกว่าตาเหลือก หงายท้อง คราวนี้ มีสิทธิร่วงผล่อยหล่นจากแท่นหมายเลขหนึ่ง

    อเมริกาทำตัวเป็นหมูปากเหล็ก ที่จะไม่ยอมรับว่า ไอ้ที่พยายามถล่มสหภาพโซเวียต ทลายกำแพง Berlin เมื่อปี ค.ศ. 1991 น่ะ จริง ๆ แล้ว เป็นแผนการทำลายสหภาพโซเวียต เพื่อจะได้เข้าไปครอบครองขุมทรัพย์น้ำมันและก๊าซมหึมาแถวนั้นมากกว่า มันกระดากปากน่ะ จะให้บอกตรง ๆ ได้ยังไง แต่ชาวโลกก็ไม่ได้ซื่อบื้อไปซะหมดหรอกนะ หมากแต่ละตัวที่อเมริกาขยับน่ะ คนอ่านออก เล่นเป็น เขาก็รู้กันทั้งนั้น

    หลังจากทลายกำแพง Berlin จนสิ้นซาก 4-5 ปี หลังจากนั้น อเมริกาก็ค่อย ๆ หลอกล่อ เก็บรัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยอยู่ในสหภาพโซเวียต ย้ายเอามาสังกัดสหภาพยุโรปแทน แค่นั้นไม่พอเพราะยังคุมไม่ถนัดมือ เอาเข้ามาอยู่กับ NATO เสียด้วย เพราะ NATO ก็คือหุ่น ภายใต้การชักใยของอเมริกานั่นแหละ ใครบ้างล่ะ ที่เสียท่าถูกลวงหลอกล่อ เมื่อถึงปี ค.ศ. 2004 Poland, Czech, Hungary, Estonia, Latvia, Litnania, Bulgaria, Romania, Slovakia และ Slovenia ก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของ NATO เรียบร้อย และ ตอนนั้น Georgia ก็กำลังต้วมเตี้ยมขัดสีฉวีวรรณ เตรียมเดินแถวตามเข้ามา

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    29 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 8 แผนชิงท่อ เอาแผนที่โลกมากางดู ให้รู้จัก Eurasia ให้ชัด ๆ เปรียบเทียบกับการเดินหมากของอเมริกา เป้าหมายของอเมริกาไปไกลกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่จะปิดล้อมรัสเซียตามคำสอนของครู Mac เท่านั้น ยุทธศาสตร์ของอเมริกา ถ้าทำสำเร็จก็เหมือนตัดมือตัดตีนอาเฮีย ไม่ให้มีโอกาสเข้าไปถึงแหล่งน้ำมัน Caspian Sea รวมทั้ง เข้าไปใน Kazakhstan ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญมันจะเป็นการตัดขาดเส้นทางจับมือระหว่างอาเฮีย กับรัสเซียอีกด้วย อืม หมากตานี้ เยี่ยม เหี้ยมจริง ๆ เส้นทางสายไหมแต่โบราณ The Great Silk Road ผ่าน Tashkent ใน Uzbekistan และ Almaaty ใน Kazakhstan บริเวณที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาใหญ่น้อย การควบคุม Uzbekistan, Krygysten and Kazakhstan ย่อมควบคุมท่อส่งที่อาจจะสร้างขึ้นระหว่างจีนกับเอเซียกลางด้วย ดังนั้นถ้าสามารถปิดล้อมรัสเซีย ก็จะยิ่งมีโอกาสควบคุมท่อส่งระหว่างรัสเซียกับยุโรปตะวันตกและตะวันออกกลางได้อีกด้วย นายตัวแสบ Brzezinski ได้เขียนบทความไว้ในวารสาร Foreign Affairs ของ CFR เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ. 1997 ถึงยุทธศาสตร์ที่แท้จริงของวอชิงตันเกี่ยวกับ Eurasia สรุปความว่า: “Eurasia มีพลเมืองเท่ากับ 75% ของโลก เท่ากับ 60% ของ GNP และมีทรัพยากรน้ำมันเท่ากับ 75% เมื่อรวมกันแล้ว Eurasia สามารถจะมีอำนาจใหญ่ยิ่งกว่าอเมริกาหลายเท่านัก ประเทศใดก็ตามที่ครอบครองหรือควบคุม Eurasia ได้ ก็เท่ากับควบคุมตะวันออกกลางและอาฟริกาโดยอัตโนมัติ เมื่อ Eurasia เป็นจุดตัดสินเกมหมากรุกชิงโลก มันจะไม่ได้เรื่องนะ ถ้าอเมริกาจะมีนโยบายแยกชุดหนึ่งสำหรับยุโรป และอีกชุดหนึ่งสำหรับเอเซีย การใช้อำนาจของอเมริกาอย่างไรใน Eurasia นั่นแหละ จะเป็นเครื่องวัดว่า อเมริกาเป็นหนึ่งเดียว ใหญ่สุดในโลกนี้หรือไม่…...” หลังจากพลาดจากการถล่ม Iraq ในปี ค.ศ. 2003 ทฤษฎีภูมิศาสตร์การเมือง หมากกระดานชิงโลกของนายตัวแสบ Brzezinski ก็ค่อย ๆ ทยอยออกมา ให้อเมริกาคิดหนัก เช่น จะรบหรือไม่รบกับ อิหร่าน, เรื่องของ Georgia, และเรื่องท่อส่งน้ำมัน Baku-Tbilisi-Ceyhan, เรื่องจีนกำลังผงาดเป็นหมายเลขหนึ่งด้านเศรษฐกิจ ทั้งหมดมันเกี่ยวเนื่องกับภูมิศาสตร์การเมืองทั้งนั้น นาย Brzezinski ยังสำทับอเมริกาอีกว่า จะเป็นหมายเลขหนึ่งคุมโลกได้หรือไม่ มันขึ้นกับคุมการไหลเวียนของน้ำมันและ แก๊ซของโลกได้หรือเปล่า เพราะมันเป็นเส้นเลือดเลี้ยงเศรษฐกิจ เกือบทุกอย่างมันเดินได้ วิ่งได้ อยู่ได้ เพราะน้ำมันทั้งนั้นแหละ ขาดน้ำมัน ก็เหมือนร่างกายขาดเลือด อยู่ได้ไงหือ ไอ้ที่ไปบุกอาฟนิสถาน หรือการพยายามไล่นาย Chavez ทั้งหมดนี้มันก็เรื่องน้ำมันทั้งนั่นแหละ หลังจากล่มสลายล้มละลาย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 รัสเซียก็ก้มหน้าก้มตากู้เศรษฐกิจประเทศ ภายใต้การปกครองอย่างเข้มงวดของคุณพี่ปูตินในฐานะประธานาธิบดี มันก็ตลกดีนะ ขณะที่อเมริกาพยายามจะขยี้รัสเซีย แต่ตัวเองเดินหมากผิดไป บุกเข้าไปขยี้ซัดดัมในอิรัค นึกว่าเกมสั้น ดันต้องเล่นเกมยาว ส้มก็เลยหล่นใส่คุณพี่ปูติน ขายน้ำมันได้เพิ่มขึ้น ใช้หนี้ IMF หมด และสามารถสร้างกองทุนสำรองเงินตรา ตปท.ของตนได้ อ้าว ! จุกอีกแล้วซินักล่า คราวนี้นี่มันเสียหายหลายต่อ เดินผิดตาเดียว ทำให้ศัตรูคู่แข่ง เงยหน้าอ้าปาก แถมยังมีท่าว่ากล้ามจะแข็งขึ้นด้วย รัสเซียเริ่มเงยหน้าขึ้นมามองโลกได้อีกครั้ง แน่นอนมันยิ่งทำให้อเมริกาเจ็บกระดองใจหนักเข้าไปอีก หลังจากเงยหน้าอ้าปากได้คล่อง รัสเซียก็เริ่มสร้างอิทธิพลของตนเอง ไม่ใช่โดยการใช้อาวุธ แต่ใช้การเคลื่อนไหวน้ำมันและแก๊ซที่ตนเองมีอยู่เต็ม ตามหลักภูมิศาสตร์การเมืองบ้าง นึกว่าจะเล่นเป็นข้างเดียวหรือไง คุณพี่ปูตินรู้ว่าถ้าไม่เคลื่อนไหว ตัดสินใจแบบเฉียบขาด ไม่นานหรอก รัสเซียก็จะโดนรุมล้อมกรอบ นำโดยอเมริกาเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน ที่แดนมังกร อาเฮียแม้จะทำมาค้าขึ้น แต่ถ้ายังต้องพึงน้ำมันคนอื่นเขายหายใจแบบนี้ อาเฮียก็ขึ้นเป็นหมายเลขหนึ่งยาก และเขาว่าอาเฮีย ยังไม่มีลูกระเบิดนิวเคลียร์ เอาไว้ขู่ชาวบ้าน ว่าอย่าเข้ามานะ เดี๋ยวอั้วระเบิดตูมเลย แต่เรื่องแบบนี้มันซ้อนซ่อนกันอยู่ ดูไปก่อนอย่าเพิ่งประมาทหน้าอาเฮีย อาจจะแอบมีซุกอยู่ ลูก 2 ลูกก็ได้ ฮา แต่น้ำมันน่ะ อั้วม่ายมีจริง ๆ แต่ไม่เป็นไร อาเฮียมีของดีอย่างอื่นแอบอยู่อีก วันหลังจะขยาย คราวนี้ถ้าพี่ปูเล่นพร้อมกับอาเฮีย สงสัยจะได้เห็นนักล่า ตาเหลือก หงายท้อง นอนแน่ นิ่ง ! รัสเซียของคุณพี่ปูติน (โปรดสังเกตผมเรียกคุณพี่เลยน่ะ ชื่นชมในความใจถึงของแก) เป็นอำนาจเดียวที่สามารถต่อกรกับอเมริกาในเรื่องของระเบิดนิวเคลียร์ได้ (ในขณะนี้ ! ?) และมีโอกาสที่จะขึ้นแท่นเป็นหมายเลขหนึ่งครองโลกได้เหมือนกัน ถ้าประเทศใน Eurasia รวมกัน มี จีน, รัสเซีย รวมทั้งรัฐ ต่าง ๆ ใน Eurasia ก็สามารถทำให้อเมริกากลืนน้ำลายไม่คล่อง คอฝืดแล้ว นี่ถ้าบวกเอากลุ่มเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ Shanghai Cooporation Organization ที่เริ่มจับมือกัน เมื่อปี ค.ศ. 1988 ถึง 2001 ซึ่งจีนกับรัสเซียจับมือกันเป็นคู่แรก ทำสัญญาให้ความร่วมมือด้านความ มั่นคงด้วยกัน และมีรัฐเพื่อนบ้าน Kazakhstan, Tajikistan และ Uzbebistan รวมด้วยแล้ว อเมริกาคงยิ่งกว่าตาเหลือก หงายท้อง คราวนี้ มีสิทธิร่วงผล่อยหล่นจากแท่นหมายเลขหนึ่ง อเมริกาทำตัวเป็นหมูปากเหล็ก ที่จะไม่ยอมรับว่า ไอ้ที่พยายามถล่มสหภาพโซเวียต ทลายกำแพง Berlin เมื่อปี ค.ศ. 1991 น่ะ จริง ๆ แล้ว เป็นแผนการทำลายสหภาพโซเวียต เพื่อจะได้เข้าไปครอบครองขุมทรัพย์น้ำมันและก๊าซมหึมาแถวนั้นมากกว่า มันกระดากปากน่ะ จะให้บอกตรง ๆ ได้ยังไง แต่ชาวโลกก็ไม่ได้ซื่อบื้อไปซะหมดหรอกนะ หมากแต่ละตัวที่อเมริกาขยับน่ะ คนอ่านออก เล่นเป็น เขาก็รู้กันทั้งนั้น หลังจากทลายกำแพง Berlin จนสิ้นซาก 4-5 ปี หลังจากนั้น อเมริกาก็ค่อย ๆ หลอกล่อ เก็บรัฐเล็กรัฐน้อยที่เคยอยู่ในสหภาพโซเวียต ย้ายเอามาสังกัดสหภาพยุโรปแทน แค่นั้นไม่พอเพราะยังคุมไม่ถนัดมือ เอาเข้ามาอยู่กับ NATO เสียด้วย เพราะ NATO ก็คือหุ่น ภายใต้การชักใยของอเมริกานั่นแหละ ใครบ้างล่ะ ที่เสียท่าถูกลวงหลอกล่อ เมื่อถึงปี ค.ศ. 2004 Poland, Czech, Hungary, Estonia, Latvia, Litnania, Bulgaria, Romania, Slovakia และ Slovenia ก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของ NATO เรียบร้อย และ ตอนนั้น Georgia ก็กำลังต้วมเตี้ยมขัดสีฉวีวรรณ เตรียมเดินแถวตามเข้ามา สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 29 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 4 กล่องดวงใจ ของครู Mac

    สงครามเย็น เริ่มขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1940 กว่าปลาย ๆ พร้อม ๆ กัน ก็เป็นการเกิดของ North Atlantic Treaty Organization (NATO) แต่ถึงแม้สหภาพโซเวียตจะล่มไปตั้งแต่ ค.ศ. 1989 – 1990 แต่ NATO ยังไม่ได้ยุบตามไปด้วย กลับยังอยู่อย่างเหนียวแน่นจนทุกวันนี้ คำพูดของพี่ปู จึงทำให้ผู้คนแถวยุโรปตะวันตกเกิดอาการสำลัก ปูตินพยายามบอกให้โลกรู้ว่า อเมริกากำลังใช้พฤติกรรมเดิม ๆ หลังสงครามเย็นจบไปแล้ว แต่ก็ยังใช้วิธีการ “ปิดล้อม” รัสเซีย เหมือนสมัยเป็นสหภาพโซเวียต เพียงแต่ใช้ลูกกระเป๋ง คือ NATO เป็นผู้ออกหน้า เพราะวอชิงตันคือผู้ชักใย NATO อีกต่อหนึ่ง

    ผู้ที่ออกแบบการปิดล้อม Containment สมัยสงครามเย็นคือ George F. Kennan หัวหน้า Policy Planning ของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ในปี ค.ศ. 1948 Kennan บอกว่า 50% ของทรัพย์สินของโลกน่ะ อยู่ที่เราอเมริกานะ แต่พลเมืองเรามีแค่ 6.3 % เท่านั้น ดังนั้นมันช่วยไม่ได้ที่จะมีคนอิจฉาและหมั่นไส้เรา (ท่านผู้อ่านต้องการยาแก้คลื่นไส้ไหมครับ ? )

    แผนของอเมริกาที่จะขึ้นมาเป็น พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งครองโลก เริ่มมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1939 ในการทำ War and Peace Project ของ Council on Foreign Relations (หลวงพ่อ CFR โคตรแสบของผม !) เขามีแผนที่จะทำให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่ให้ทำแบบปิดบังพรางตัว เอาเสื้อคลุมยี่ห้อประชาธิปไตยและการค้าเสรีมาคลุมตัว ไม่ให้เหยื่อรู้ตัว ตกใจ เลยได้เหยื่ออยู่ในกำมือเกือบทั่วโลก ที่หลุดมือไม่ได้กิน ก็มีโลกฝ่ายสังคมนิยม ตาม Warsaw Pact หลัง ค.ศ. 1948 , จีนของอาเฮียและยูโกสลาเวีย ของท่านนายพลติโตเท่านั้น กับอีกบริเวณที่มีความสำคัญยิ่ง คือ Eurasia ที่อเมริกายังมือยาวยื่นมาไม่ถึง
    Eurasia เริ่มตั้งแต่ แม่น้ำ Elbe ในเยอรมัน ยาวลงมาถึงทะเล Adriatic ผ่าน Sofia, Bulgaria ข้ามมา Black Sea และ Caspian Sea มาจนถึงเอเซียกลางและจีน บริเวณที่กว้างใหญ่ นี่จึงยังรอดพ้นจากการเคี้ยวของจักรวรรดิอเมริกา แต่จะรอดไปได้นานเท่าใด

    สิ่งที่คนส่วนใหญ่ในโลกไม่รู้คือ มันเป็นความฝันทั้งกลางคืนกลางวัน ของอเมริกามาเป็นเวลานานแล้ว ที่จะควบคุมรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการทหาร ความฝันนี้อเมริกาพยายามทำให้เป็นจริงผ่านหน่วยงานสาระพัด ทั้งที่เป็นองค์กรของรัฐ และเอกชน ทั้งในและนอกระบบ ตั้งแต่บรรษัทค้าน้ำมันข้ามชาติ สภาความมั่นคง Pentagon, CIA, หน่วยงานความมั่นคงทั้งด้านการทหารและการเมือง และหน่วยสืบราชการลับพิเศษอีกสาระพัด ทั้งหมดเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายสำคัญที่สุดของอเมริกาที่แอบซ่อนมาตลอดเหนือเป้าหมายอื่นใด คือ ควบคุมรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จ หมดจดไม่ให้หลุดมือ

    แม้ขณะที่อเมริกาและสหภาพโซเวียตยังเป็นพันธมิตร ร่วมจับมือกันเพื่อถล่มเยอรมัน อเมริกาก็แอบเริ่มเตรียมการที่จะขจัดสหภาพโซเวียตไปด้วยพร้อมกัน หน้าร้อนของปี ค.ศ. 1945 อเมริกาคิดนโยบาย Striking the first blow ปล่อยหมัดแรกก่อนในสงครามนิวเคลียร์ แผนแรกที่คิดจะทดรองคือใช้กับสหภาพโซเวียต ตามแผน Totality ซึ่งนายพล Eisenhower เป็นผู้ร่างแผนตามคำสั่งของประธานาธิบดี Truman อะไรมันเข้าสิง อเมริกาถึงได้ชั่วขนาดนั้น ร่วมรบกันอยู่ดี ๆ อ้าว ! ดันจะขยี้เพื่อนพร้อมศัตรู มันคิดได้อย่างไร!?

    Sir Halford Mackinder ครูใหญ่ชาวอังกฤษด้านภูมิศาสตร์การเมือง บอกไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 ในการสัมมนาของ Royal Geographic Society ที่ London ว่า ใครก็ตามที่มีอำนาจควบคุมเหนือรัสเซีย ผู้นั้นก็จะเป็นผู้ตัดสิน หรือผู้ควบคุมบริเวณ Eurasia อันกว้างใหญ่ และนั่นหมายถึงจะเป็นผู้มีอิทธิพลควบคุมโลกใบนี้อย่างสมบูรณ์ เริ่มเห็นกันหรือยังว่าอะไรมาเข้าสิงอเมริกา
    หนึ่งศตวรรษมาแล้ว ที่ครู Mac บอกเอาไว้ว่า ในขณะที่ยุโรปขยายอิทธิพลของตนไปทางอินเดีย อาฟริกา และอาณานิคมต่าง ๆของพวกเขา รัสเซีย ซึ่งมีบริเวณกว้างคลุมยุโรปตะวันออกและเอเซียกลาง จะขยายอิทธิพลไปลงใต้และไปตะวันออก จะทำให้ครอบคลุมบริเวณที่มีประชากรและทรัพยากรมากที่สุด. ครู Mac คาดการณ์ว่าในที่สุดบริเวณที่กว้างใหญนี้ จะเชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายทางรถไฟ ทำให้เป็นศูนย์อำนาจและจุดยุทธศาสตร์ที่เพียบพร้อม อย่างที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ พูดเท่านี้บรรดาผู้ฟังครู Mac ต่างล้วงผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำลายกันเป็นแถว นี่มันอาหารจานใหญ่แบบชามอ่างเชียวนะ จะปล่อยให้ค้างเติ่งอยู่ยังงั้นได้อย่างไร จำเป็นต้องคิดแผนกินรวบมาให้หมด ด่วน

    Mckinder เรียกใจกลาง Eurasia ว่า heartland หรือกล่องดวงใจของศูนย์อำนาจโลก จุดยุทธศาสตร์อันสำคัญ โดยมีเยอรมัน, ออสเตรีย, ตุรกี, อินเดีย และจีน อยู่ติดขอบรอบกล่องดวงใจของศูนย์อำนาจโลก Mackinder มองว่าคู่หูที่จะคว้าดวงใจไปครอบ ครองนี่ได้ มี 2 คู่ คือ คู่รัสเซียกับเยอรมัน หรือ คู่จีนกับญี่ปุ่น นโยบายต่างประเทศของอังกฤษ หนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ไม่ว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ในปี 1904 – 05 จนถึงการก่อตั้ง NATO ในปี ค.ศ. 1949 ทั้งหมดเป็นการดำเนินตามการวิเคราะห์ของ ครู Mac ทั้งสิ้น

    ทั้งหมดเพื่อเป็นการเตะตัดขาทุกวิถีทาง ที่จะไม่ให้รัสเซียได้เป็นผู้ครอบครองกล่องดวงใจที่ Eurasia และจะกลายเป็นผู้ท้าทายจักรภพอังกฤษ ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของอาณานิคมที่ตะวันจะไม่วันตกดิน อังกฤษจะยอมได้อย่างไร

    ขณะเดียวกัน อีกฝั่งของมหาสมุทร Atlantic อเมริกาก็มีความฝันของตนเอง America’s Manifest Destiny ที่จะเป็นหมายเลขหนึ่งคุมโลกเหมือนกัน อเมริกาเริ่มเก็บกินทางมหาสมุทรแปซิฟิกก่อน เริ่มตั้งแต่โซ้ยกับสเปญ เมื่อ ค.ศ. 1818 แล้วก็ตามมาคว้าเอาฟิลิปปินส์ใส่กระเป๋า อืม ! อเมริกาเพิ่งรู้รสชาดของการเป็นเจ้าของอาณานิคม อร่อยจับใจ เข้าใจแล้วครับนายท่าน

    ในขณะนี้ที่ครู Mac เพ้อเรื่องกล่องดวงใจใน Eurasia ในปี ค.ศ. 1904 อเมริกาก็มีนาย Brook Adams สื่อผู้มีอิทธิพลสูงในอเมริกา ซึ่งมองว่าอเมริกาเองก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ที่จะเป็นเจ้าของกล่องดวงใจ ในฐานะทายาทผู้สืบเชื้อสายของครอบครัวในสังคมชั้นสูงมาหลายชั่วคน นาย Adams ไม่ใช่คนประเภทยื่นบนลังสบู่พูดปาวๆ อยู่กลางสนามไม่มีใครฟัง คนฟังเขาทั้งอเมริกา ที่สำคัญคนที่ฟังอย่างตั้งใจ คือ ประธานาธิบดี Theodor Roosevelt และประธานาธิบดี Woodlow Wilson ซึ่งดันเป็นเพื่อนสนิทของนาย Adams ทั้งคู่

    นาย Adams บอกว่าเราต้องรุก รุกเข้าไปอย่าใด้ถอย เข้าไปในทาง Pacific และเอาเอเซียมาเป็นอาณานิคมของอเมริกา จะทำให้อเมริกามีเขตแดนที่กว้างใหญ่ขึ้นไปอีก นอกเหนือจากฝันของนาย Adams แล้ว ผู้ที่คิดแผนที่เตรียมให้อเมริกาเดินทางหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็คือ Council on Foreign Relations (CFR) และ Rockefeller Foundation
    และสมุนที่ Rockefeller ส่งเข้าไปอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ในด้านการเมืองและเศรษฐกิจของอ เมริกา คนพวกนี้ท่องความฝันของครู Mac จนขึ้นใจ โดยเฉพาะ Henry Kissinger และ Zbigniew Brzezinski ซึ่งถือเอาทฤษฎีของ ครู Mac เป็นตำรา

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    28 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 4 กล่องดวงใจ ของครู Mac สงครามเย็น เริ่มขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1940 กว่าปลาย ๆ พร้อม ๆ กัน ก็เป็นการเกิดของ North Atlantic Treaty Organization (NATO) แต่ถึงแม้สหภาพโซเวียตจะล่มไปตั้งแต่ ค.ศ. 1989 – 1990 แต่ NATO ยังไม่ได้ยุบตามไปด้วย กลับยังอยู่อย่างเหนียวแน่นจนทุกวันนี้ คำพูดของพี่ปู จึงทำให้ผู้คนแถวยุโรปตะวันตกเกิดอาการสำลัก ปูตินพยายามบอกให้โลกรู้ว่า อเมริกากำลังใช้พฤติกรรมเดิม ๆ หลังสงครามเย็นจบไปแล้ว แต่ก็ยังใช้วิธีการ “ปิดล้อม” รัสเซีย เหมือนสมัยเป็นสหภาพโซเวียต เพียงแต่ใช้ลูกกระเป๋ง คือ NATO เป็นผู้ออกหน้า เพราะวอชิงตันคือผู้ชักใย NATO อีกต่อหนึ่ง ผู้ที่ออกแบบการปิดล้อม Containment สมัยสงครามเย็นคือ George F. Kennan หัวหน้า Policy Planning ของกระทรวงต่างประเทศอเมริกา ในปี ค.ศ. 1948 Kennan บอกว่า 50% ของทรัพย์สินของโลกน่ะ อยู่ที่เราอเมริกานะ แต่พลเมืองเรามีแค่ 6.3 % เท่านั้น ดังนั้นมันช่วยไม่ได้ที่จะมีคนอิจฉาและหมั่นไส้เรา (ท่านผู้อ่านต้องการยาแก้คลื่นไส้ไหมครับ ? ) แผนของอเมริกาที่จะขึ้นมาเป็น พี่เบิ้มหมายเลขหนึ่งครองโลก เริ่มมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1939 ในการทำ War and Peace Project ของ Council on Foreign Relations (หลวงพ่อ CFR โคตรแสบของผม !) เขามีแผนที่จะทำให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่ให้ทำแบบปิดบังพรางตัว เอาเสื้อคลุมยี่ห้อประชาธิปไตยและการค้าเสรีมาคลุมตัว ไม่ให้เหยื่อรู้ตัว ตกใจ เลยได้เหยื่ออยู่ในกำมือเกือบทั่วโลก ที่หลุดมือไม่ได้กิน ก็มีโลกฝ่ายสังคมนิยม ตาม Warsaw Pact หลัง ค.ศ. 1948 , จีนของอาเฮียและยูโกสลาเวีย ของท่านนายพลติโตเท่านั้น กับอีกบริเวณที่มีความสำคัญยิ่ง คือ Eurasia ที่อเมริกายังมือยาวยื่นมาไม่ถึง Eurasia เริ่มตั้งแต่ แม่น้ำ Elbe ในเยอรมัน ยาวลงมาถึงทะเล Adriatic ผ่าน Sofia, Bulgaria ข้ามมา Black Sea และ Caspian Sea มาจนถึงเอเซียกลางและจีน บริเวณที่กว้างใหญ่ นี่จึงยังรอดพ้นจากการเคี้ยวของจักรวรรดิอเมริกา แต่จะรอดไปได้นานเท่าใด สิ่งที่คนส่วนใหญ่ในโลกไม่รู้คือ มันเป็นความฝันทั้งกลางคืนกลางวัน ของอเมริกามาเป็นเวลานานแล้ว ที่จะควบคุมรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการทหาร ความฝันนี้อเมริกาพยายามทำให้เป็นจริงผ่านหน่วยงานสาระพัด ทั้งที่เป็นองค์กรของรัฐ และเอกชน ทั้งในและนอกระบบ ตั้งแต่บรรษัทค้าน้ำมันข้ามชาติ สภาความมั่นคง Pentagon, CIA, หน่วยงานความมั่นคงทั้งด้านการทหารและการเมือง และหน่วยสืบราชการลับพิเศษอีกสาระพัด ทั้งหมดเพื่อให้ได้ตามเป้าหมายสำคัญที่สุดของอเมริกาที่แอบซ่อนมาตลอดเหนือเป้าหมายอื่นใด คือ ควบคุมรัสเซียอย่างเบ็ดเสร็จ หมดจดไม่ให้หลุดมือ แม้ขณะที่อเมริกาและสหภาพโซเวียตยังเป็นพันธมิตร ร่วมจับมือกันเพื่อถล่มเยอรมัน อเมริกาก็แอบเริ่มเตรียมการที่จะขจัดสหภาพโซเวียตไปด้วยพร้อมกัน หน้าร้อนของปี ค.ศ. 1945 อเมริกาคิดนโยบาย Striking the first blow ปล่อยหมัดแรกก่อนในสงครามนิวเคลียร์ แผนแรกที่คิดจะทดรองคือใช้กับสหภาพโซเวียต ตามแผน Totality ซึ่งนายพล Eisenhower เป็นผู้ร่างแผนตามคำสั่งของประธานาธิบดี Truman อะไรมันเข้าสิง อเมริกาถึงได้ชั่วขนาดนั้น ร่วมรบกันอยู่ดี ๆ อ้าว ! ดันจะขยี้เพื่อนพร้อมศัตรู มันคิดได้อย่างไร!? Sir Halford Mackinder ครูใหญ่ชาวอังกฤษด้านภูมิศาสตร์การเมือง บอกไว้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1904 ในการสัมมนาของ Royal Geographic Society ที่ London ว่า ใครก็ตามที่มีอำนาจควบคุมเหนือรัสเซีย ผู้นั้นก็จะเป็นผู้ตัดสิน หรือผู้ควบคุมบริเวณ Eurasia อันกว้างใหญ่ และนั่นหมายถึงจะเป็นผู้มีอิทธิพลควบคุมโลกใบนี้อย่างสมบูรณ์ เริ่มเห็นกันหรือยังว่าอะไรมาเข้าสิงอเมริกา หนึ่งศตวรรษมาแล้ว ที่ครู Mac บอกเอาไว้ว่า ในขณะที่ยุโรปขยายอิทธิพลของตนไปทางอินเดีย อาฟริกา และอาณานิคมต่าง ๆของพวกเขา รัสเซีย ซึ่งมีบริเวณกว้างคลุมยุโรปตะวันออกและเอเซียกลาง จะขยายอิทธิพลไปลงใต้และไปตะวันออก จะทำให้ครอบคลุมบริเวณที่มีประชากรและทรัพยากรมากที่สุด. ครู Mac คาดการณ์ว่าในที่สุดบริเวณที่กว้างใหญนี้ จะเชื่อมต่อกันด้วยเครือข่ายทางรถไฟ ทำให้เป็นศูนย์อำนาจและจุดยุทธศาสตร์ที่เพียบพร้อม อย่างที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ พูดเท่านี้บรรดาผู้ฟังครู Mac ต่างล้วงผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำลายกันเป็นแถว นี่มันอาหารจานใหญ่แบบชามอ่างเชียวนะ จะปล่อยให้ค้างเติ่งอยู่ยังงั้นได้อย่างไร จำเป็นต้องคิดแผนกินรวบมาให้หมด ด่วน Mckinder เรียกใจกลาง Eurasia ว่า heartland หรือกล่องดวงใจของศูนย์อำนาจโลก จุดยุทธศาสตร์อันสำคัญ โดยมีเยอรมัน, ออสเตรีย, ตุรกี, อินเดีย และจีน อยู่ติดขอบรอบกล่องดวงใจของศูนย์อำนาจโลก Mackinder มองว่าคู่หูที่จะคว้าดวงใจไปครอบ ครองนี่ได้ มี 2 คู่ คือ คู่รัสเซียกับเยอรมัน หรือ คู่จีนกับญี่ปุ่น นโยบายต่างประเทศของอังกฤษ หนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา ไม่ว่าสงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น ในปี 1904 – 05 จนถึงการก่อตั้ง NATO ในปี ค.ศ. 1949 ทั้งหมดเป็นการดำเนินตามการวิเคราะห์ของ ครู Mac ทั้งสิ้น ทั้งหมดเพื่อเป็นการเตะตัดขาทุกวิถีทาง ที่จะไม่ให้รัสเซียได้เป็นผู้ครอบครองกล่องดวงใจที่ Eurasia และจะกลายเป็นผู้ท้าทายจักรภพอังกฤษ ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของอาณานิคมที่ตะวันจะไม่วันตกดิน อังกฤษจะยอมได้อย่างไร ขณะเดียวกัน อีกฝั่งของมหาสมุทร Atlantic อเมริกาก็มีความฝันของตนเอง America’s Manifest Destiny ที่จะเป็นหมายเลขหนึ่งคุมโลกเหมือนกัน อเมริกาเริ่มเก็บกินทางมหาสมุทรแปซิฟิกก่อน เริ่มตั้งแต่โซ้ยกับสเปญ เมื่อ ค.ศ. 1818 แล้วก็ตามมาคว้าเอาฟิลิปปินส์ใส่กระเป๋า อืม ! อเมริกาเพิ่งรู้รสชาดของการเป็นเจ้าของอาณานิคม อร่อยจับใจ เข้าใจแล้วครับนายท่าน ในขณะนี้ที่ครู Mac เพ้อเรื่องกล่องดวงใจใน Eurasia ในปี ค.ศ. 1904 อเมริกาก็มีนาย Brook Adams สื่อผู้มีอิทธิพลสูงในอเมริกา ซึ่งมองว่าอเมริกาเองก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส ที่จะเป็นเจ้าของกล่องดวงใจ ในฐานะทายาทผู้สืบเชื้อสายของครอบครัวในสังคมชั้นสูงมาหลายชั่วคน นาย Adams ไม่ใช่คนประเภทยื่นบนลังสบู่พูดปาวๆ อยู่กลางสนามไม่มีใครฟัง คนฟังเขาทั้งอเมริกา ที่สำคัญคนที่ฟังอย่างตั้งใจ คือ ประธานาธิบดี Theodor Roosevelt และประธานาธิบดี Woodlow Wilson ซึ่งดันเป็นเพื่อนสนิทของนาย Adams ทั้งคู่ นาย Adams บอกว่าเราต้องรุก รุกเข้าไปอย่าใด้ถอย เข้าไปในทาง Pacific และเอาเอเซียมาเป็นอาณานิคมของอเมริกา จะทำให้อเมริกามีเขตแดนที่กว้างใหญ่ขึ้นไปอีก นอกเหนือจากฝันของนาย Adams แล้ว ผู้ที่คิดแผนที่เตรียมให้อเมริกาเดินทางหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ก็คือ Council on Foreign Relations (CFR) และ Rockefeller Foundation และสมุนที่ Rockefeller ส่งเข้าไปอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ในด้านการเมืองและเศรษฐกิจของอ เมริกา คนพวกนี้ท่องความฝันของครู Mac จนขึ้นใจ โดยเฉพาะ Henry Kissinger และ Zbigniew Brzezinski ซึ่งถือเอาทฤษฎีของ ครู Mac เป็นตำรา สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 28 มิย. 2557
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 356 มุมมอง 0 รีวิว


  • จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง

    เมืองปัจจันตคิรีเขตร
    เมือง
    พ.ศ. 2398 – 2447
    ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์
    • ก่อตั้ง
    พ.ศ. 2398
    • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน
    30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    เมืองตราด
    กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส
    ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา
    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตรChoawalit Chotwattanaphong หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447

    ประวัติ

    Map of Siam in 1900
    แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด

    เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน

    เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3]

    ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล

    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย

    ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต

    การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร

    การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส
    วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม

    ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…"

    แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447

    พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4]

    การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม



    จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ จังหวัดเกาะกง เมืองปัจจันตคิรีเขตร เมือง พ.ศ. 2398 – 2447 ยุคทางประวัติศาสตร์ รัตนโกสินทร์ • ก่อตั้ง พ.ศ. 2398 • ฝรั่งเศสไม่ยอมคืนดินแดน 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 เมืองตราด กัมพูชาในอารักขาของฝรั่งเศส ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ กัมพูชา จังหวัดปัจจันตคิรีเขตร[1] หรือบางเอกสารจะเรียกว่า ปัตจันตคีรีเขตร์ บ้าง ประจันต์คิรีเขตต์ บ้าง[2] เป็นเมืองเดิมของราชอาณาจักรสยามในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกที่มีความสำคัญเทียบเท่าจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด ในอดีต มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เกาะกง เขตจังหวัดเกาะกงในประเทศกัมพูชาปัจจุบัน ดินแดนจังหวัดนี้ตกเป็นของฝรั่งเศสพร้อมกับหัวเมืองฝั่งขวาแม่น้ำโขง คือ แขวงไชยบุรีและแขวงจำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2447 ประวัติ Map of Siam in 1900 แต่เดิมมาเกาะกงเป็นจังหวัดของราชอาณาจักรเขมร แต่มาถึงสมัยที่เขมรตกเป็นประเทศราชอยู่ในอำนาจของสยาม พระเจ้ากรุงสยามก็มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกงให้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองตราด เมื่อปี พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระบรมราชโองการให้ตั้งเกาะกง โดยพระราชทานนามเมืองนี้ว่า เมืองปัจจันตคีรีเขตต์ เพื่อให้เป็นเมืองหน้าด่านทางชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย เนื่องจากเป็นเมืองที่มีเขตติดต่อกับเขมรและญวน เหตุที่รัชกาลที่ 4 พระราชทานนามเกาะกงว่า ปัจจันตคิรีเขตร ก็เพื่อให้คล้องจองกับชื่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ทางด้านภาคตะวันตกของไทย ซึ่งตั้งอยู่ในแนวรุ้ง (Latitude) เดียวกัน[3] ถึง พ.ศ. 2422 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าสายสนิทวงศ์จัดตั้งสถานีทหารเรือขึ้นตามชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกที่เมืองชลบุรี บางพระ อำเภอบางละมุง เมืองระยอง เมืองแกลง เมืองจันทบุรี อำเภอขลุง เมืองตราด เมืองปัจจันตคิรีเขตร และเกาะเสม็ดนอก เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากฝรั่งเศสทางทะเล ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ฝรั่งเศสได้เริ่มดำเนินการทางทหารใช้กำลังเข้าบีบบังคับสยาม โดยยกกองทัพมาเข้าขับไล่ทหารไทยให้ถอยร่นออกจากดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ทำให้ความยุ่งยากทางชายแดนเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรรมการปรึกษาการป้องกันพระราชอาณาเขตขึ้น และจัดกองบัญชาการทัพอยู่ตามหัวเมืองชายทะเลแต่ละด้านขึ้นด้วย ในปี พ.ศ. 2436 รัฐบาลสยามได้แต่งตั้งให้นายพลเรือจัตวาพระยาชลยุทธโยธินทร์ (André du Plésis de Richelieu) เป็นผู้จัดการป้องกันพระราชอาณาเขตทางหัวเมืองฝ่ายตะวันออก ทางกระทรวงการต่างประเทศได้มีคำสั่งมายังผู้ว่าราชการเมืองแถบนี้ ซึ่งรวมทั้งเมืองตราดและเมืองปัจจันตคิรีเขตรด้วย ให้ช่วยพระยาชลยุทธโยธินทร์จัดการทุกอย่างที่เกี่ยวกับการป้องกันพระราชอาณาเขต การเสียดินแดนจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร การส่งมอบตราดให้กับฝรั่งเศส วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 เกิดวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เรือรบฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของสยามเข้ามาทอดสมอในกรุงเทพฯ ได้ ฝ่ายฝรั่งเศสยื่นคำขาดให้ฝ่ายไทยปฏิบัติตามเมื่อ 20 กรกฎาคม โดยให้เวลาตอบ 48 ชั่วโมง ฝ่ายไทยได้ตอบข้อเรียกร้องเมื่อ 22 กรกฎาคม แต่ไม่เป็นที่พอใจของฝ่ายฝรั่งเศส ดังนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ฝรั่งเศสจึงประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย สองวันถัดมา (26 กรกฎาคม) ฝรั่งเศสได้สั่งให้ผู้บัญชาการกองเรือภาคตะวันออกไกลที่ไซ่ง่อนปิดล้อมอ่าวไทย ตั้งแต่แหลมเจ้าลายถึงบริเวณแหลมกระบัง และในวันที่ 29 กรกฎาคม ฝรั่งเศสได้ประกาศปิดล้อมอ่าวไทยครั้งที่ 2 โดยขยายเขตเพิ่มบริเวณเกาะเสม็ด จนถึงแหลมสิง รวม 2 เขต ฝ่ายไทยจำต้องยอมรับคำขาดของฝรั่งเศสที่ยื่นไว้แต่เดิมในวันเดียวกันนั้นเอง แต่ในวันรุ่งขึ้นฝรั่งเศสถือโอกาสยื่นคำขาดเพิ่มเติมอีก โดยประกาศยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน และบังคับให้ไทยถอนตัวออกจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงอีกด้วย ไทยจำเป็นต้องยอมรับโดยไม่มีทางเลือก เมื่อฝ่ายไทยปฏิบัติตามคำขาดนั้นแล้ว ฝรั่งเศสจึงได้ยกเลิกการปิดอ่าวในวันที่ 3 สิงหาคม เวลา 12.00 น. แต่การยึดปากน้ำและเมืองจันทบุรียังคงยึดไว้ตามเดิม ต่อมาได้มีการทำสัญญาสงบศึกกันโดยหนังสือสัญญาฉบับลงวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2436 (ร.ศ. 112) ในหนังสือสัญญาฉบับนี้ มีข้อความระบุไว้ในอนุสัญญาผนวกต่อท้ายหนังสือสัญญาข้อ 6 ว่า "คอนเวอนแมนต์ (Government - รัฐบาล) ฝรั่งเศสจะได้ตั้งอยู่ต่อไปที่เมืองจันทบุรี จนกว่าจะได้ทำการสำเร็จแล้วตามข้อความในหนังสือสัญญานี้…" แม้ทางฝ่ายไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ฝรั่งเศสบีบบังคับทุกอย่าง ฝรั่งเศสก็ยังไม่ยอมถอนทหาร ยังคงยึดจันทบุรีไว้อีกเป็นเวลานานถึง 10 ปี เป็นเหตุให้ต้องมีการตกลงทำสัญญาขึ้นใหม่อีกฉบับหนึ่งคือ อนุสัญญาลงวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2445 แต่หนังสือฉบับนี้ฝรั่งเศสไม่ยอมให้สัตยาบันและไม่ถอนกำลังออกจากจันทบุรี จึงได้ตกลงมีสัญญาอีกฉบับหนึ่ง คือ สัญญาลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 คราวนี้ฝรั่งเศสจึงถอนกำลังออกจากจันทบุรี แต่ได้เข้ายึดครองเมืองตราดและบรรดาเกาะทั้งหลายภายใต้แหลมสิงลงไปซึ่งรวมถึงเกาะกงแทน ฝ่ายไทยจำต้องมอบเมืองตราดและเมืองประจันตคีรีเขตให้แก่ฝรั่งเศส ในวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2447 พื้นที่ดังกล่าวได้ตกอยู่ในการยึดครองของฝรั่งเศส จนถึงวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2449 จึงได้มีการตกลงทำหนังสือสัญญาขึ้นอีกฉบับหนึ่งเรียกว่า "หนังสือสัญญาระหว่างสมเด็จพระเจ้าแผ่นดินสยามกับเปรสสิเดนต์แห่งรีปัปลิคฝรั่งเศส" ฝรั่งเศสจึงคืนเมืองตราดให้ไทยตามเดิม แต่ฝ่ายไทยจะต้องยอมยกดินแดนเขมรส่วนใน (มณฑลบูรพา) คือ เมืองพระตะบอง เมืองเสียมราฐ และเมืองศรีโสภณ เป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยน แต่ปรากฏว่าเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) นั้นฝรั่งเศสมิได้คืนให้ไทยแต่ประการใด ปัจจุบันเมืองปัจจันตคิรีเขตร (เกาะกง) จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของกัมพูชาไปโดยปริยาย[4] การสูญเสียแผ่นดินเกาะกงในสมัยนั้น ประวัติศาสตร์ของชาติไทยมิได้มีบันทึกการเสียดินแดนเกาะกงไว้แต่อย่างใด คงกล่าวโดยรวมในกรณีของดินแดนจังหวัดตราดเท่านั้น เพราะในขณะนั้นไทยต้องการดินแดนเขมรสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือดินแดนอีสานตอนใต้ในปัจจุบัน โดยให้ยึดทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นเขตแดน ซึ่งฝรั่งเศสก็ยินยอม
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ตุรกีปิดโซเชียลมีเดียทั่วประเทศ! X, YouTube, WhatsApp ดับกลางดึก — VPN พุ่ง 500% ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง”

    ลองนึกภาพว่าคุณอยู่ในอิสตันบูล คืนวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025 แล้วจู่ๆ โซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มที่คุณใช้ — X (Twitter), YouTube, Instagram, Facebook, TikTok และ WhatsApp — หายไปจากหน้าจอแบบไม่มีคำอธิบาย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในตุรกี เมื่อรัฐบาลเริ่มบล็อกการเข้าถึงแพลตฟอร์มหลักทั้งหมด ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนระอุ

    เหตุการณ์เริ่มต้นหลังพรรคฝ่ายค้าน CHP เรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุม หลังตำรวจปิดล้อมสำนักงานใหญ่ในอิสตันบูล โดย NetBlocks รายงานว่าการบล็อกเกิดขึ้นเฉพาะในเครือข่ายของเมืองนี้เป็นหลัก และยังคงดำเนินอยู่ในช่วงเวลาที่รายงาน

    ประชาชนไม่รอช้า รีบหาทางเข้าถึงโซเชียลมีเดียผ่าน VPN โดย Proton VPN รายงานว่ามีการสมัครใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 500% ภายในหนึ่งชั่วโมงในคืนวันอาทิตย์ และแนะนำให้ใช้โหมด Stealth พร้อมการตั้งค่า alternative routing เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตุรกีใช้มาตรการแบบนี้ — ก่อนหน้านี้เคยมีการบล็อกโซเชียลมีเดียหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว การเลือกตั้ง และการจับกุมผู้นำฝ่ายค้าน โดยมีการใช้ VPN เพิ่มขึ้นถึง 15,000% ในบางช่วงเวลา

    แม้ VPN จะเป็นทางออกที่ประชาชนใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ VPN หลายราย เช่น Proton, NordVPN, Surfshark และ ExpressVPN ก็ถูกบล็อกเช่นกัน ทำให้ต้องดาวน์โหลดแอปผ่านช่องทางสำรอง เช่น GitHub หรือ App Store เท่านั้น

    เหตุการณ์บล็อกโซเชียลมีเดียในตุรกี
    เริ่มต้นคืนวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025
    แพลตฟอร์มที่ถูกบล็อก: X, YouTube, Instagram, Facebook, TikTok, WhatsApp
    เกิดขึ้นหลังพรรค CHP เรียกร้องให้ประชาชนชุมนุม
    เครือข่ายในอิสตันบูลถูกบล็อกเป็นหลัก

    การตอบสนองของประชาชน
    Proton VPN รายงานการสมัครใช้งานเพิ่มขึ้น 500% ภายในหนึ่งชั่วโมง
    แนะนำให้ใช้โหมด Stealth และ alternative routing เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก
    ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน App Store หรือ GitHub หากเว็บไซต์ถูกบล็อก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ตุรกีเคยบล็อกโซเชียลมีเดียในปี 2023–2024 หลังเหตุการณ์ทางการเมืองและภัยพิบัติ
    มีการใช้ VPN เพิ่มขึ้นถึง 15,000% ในบางช่วงเวลา
    ประเทศมีประวัติการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง
    VPN เช่น Octohide ใช้เทคนิค VLESS และ REALITY เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับจากระบบ DPI

    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/x-whatsapp-youtube-and-other-social-media-platforms-go-dark-in-turkey-and-vpn-usage-spikes
    📵 “ตุรกีปิดโซเชียลมีเดียทั่วประเทศ! X, YouTube, WhatsApp ดับกลางดึก — VPN พุ่ง 500% ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง” ลองนึกภาพว่าคุณอยู่ในอิสตันบูล คืนวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025 แล้วจู่ๆ โซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มที่คุณใช้ — X (Twitter), YouTube, Instagram, Facebook, TikTok และ WhatsApp — หายไปจากหน้าจอแบบไม่มีคำอธิบาย นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในตุรกี เมื่อรัฐบาลเริ่มบล็อกการเข้าถึงแพลตฟอร์มหลักทั้งหมด ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ร้อนระอุ เหตุการณ์เริ่มต้นหลังพรรคฝ่ายค้าน CHP เรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุม หลังตำรวจปิดล้อมสำนักงานใหญ่ในอิสตันบูล โดย NetBlocks รายงานว่าการบล็อกเกิดขึ้นเฉพาะในเครือข่ายของเมืองนี้เป็นหลัก และยังคงดำเนินอยู่ในช่วงเวลาที่รายงาน ประชาชนไม่รอช้า รีบหาทางเข้าถึงโซเชียลมีเดียผ่าน VPN โดย Proton VPN รายงานว่ามีการสมัครใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 500% ภายในหนึ่งชั่วโมงในคืนวันอาทิตย์ และแนะนำให้ใช้โหมด Stealth พร้อมการตั้งค่า alternative routing เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ตุรกีใช้มาตรการแบบนี้ — ก่อนหน้านี้เคยมีการบล็อกโซเชียลมีเดียหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว การเลือกตั้ง และการจับกุมผู้นำฝ่ายค้าน โดยมีการใช้ VPN เพิ่มขึ้นถึง 15,000% ในบางช่วงเวลา แม้ VPN จะเป็นทางออกที่ประชาชนใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการ VPN หลายราย เช่น Proton, NordVPN, Surfshark และ ExpressVPN ก็ถูกบล็อกเช่นกัน ทำให้ต้องดาวน์โหลดแอปผ่านช่องทางสำรอง เช่น GitHub หรือ App Store เท่านั้น ✅ เหตุการณ์บล็อกโซเชียลมีเดียในตุรกี ➡️ เริ่มต้นคืนวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2025 ➡️ แพลตฟอร์มที่ถูกบล็อก: X, YouTube, Instagram, Facebook, TikTok, WhatsApp ➡️ เกิดขึ้นหลังพรรค CHP เรียกร้องให้ประชาชนชุมนุม ➡️ เครือข่ายในอิสตันบูลถูกบล็อกเป็นหลัก ✅ การตอบสนองของประชาชน ➡️ Proton VPN รายงานการสมัครใช้งานเพิ่มขึ้น 500% ภายในหนึ่งชั่วโมง ➡️ แนะนำให้ใช้โหมด Stealth และ alternative routing เพื่อหลบเลี่ยงการบล็อก ➡️ ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดแอปผ่าน App Store หรือ GitHub หากเว็บไซต์ถูกบล็อก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ตุรกีเคยบล็อกโซเชียลมีเดียในปี 2023–2024 หลังเหตุการณ์ทางการเมืองและภัยพิบัติ ➡️ มีการใช้ VPN เพิ่มขึ้นถึง 15,000% ในบางช่วงเวลา ➡️ ประเทศมีประวัติการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง ➡️ VPN เช่น Octohide ใช้เทคนิค VLESS และ REALITY เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับจากระบบ DPI https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/x-whatsapp-youtube-and-other-social-media-platforms-go-dark-in-turkey-and-vpn-usage-spikes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว

  • ตอน 13
    มีคนมากระตุกแขนนิดๆ เอ! แล้ว พี่เบิ้มเขาทำไมเปลี๊ยนไป จากยุ่งกะสมันน้อยถึงขนาดเอาลงเปลเห่กล่อม แล้วช่วงนี้เขาหายไปไหนล่ะลุง ก็บอก แล้วไง พี่เบิ้มเขาเป็นจิ๊กโก๋๋ปากซอย ซอยไทยแลนด์นี้ เขาคุมเบ็ดเสร็จแล้ว วางแผนแล้วว่า ต้องมีวินมอเตอร์ไซด์ ตรงไหน คิวเป็นอย่างไร เขาไม่อยู่ใครดูแลแทน เส้นทางเป็นอย่างไร เก็บเงินอย่างไร ใครมาเบ่ง ตีหัวมันอย่างไร เจอสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นให้นั่งฟรีได้ไหม จัดไว้หมด ว่าแล้วก็ขยายไปดูซอยอื่น
    เวลาพี่เบิ้มเขาไปยุ่งกับภูมิภาคอื่น จะสังเกตง่าย ๆ ไปอยู่ที่ไหน ความ ฉ ห ก็เกิดขึ้นแถวนั้นแหละ เพราะอเมริกาหากินหรืออยู่ได้ด้วย 2 กรรมวิธี
    อย่างแรก ขโมยทรัพยากรชาวบ้าน (จิ๊กโก๋๋ขี้ขโมย)
    อย่างที่สอง สร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ (จิ๊กโก๋๋ชวนตี)
    และทั้ง 2 เรื่อง มันก็โยงกัน
    ขบวนการก็ไม่ยาก หาเรื่องไปทะเลาะกับชาวบ้าน หรือหาเรื่องให้คนในบ้านทะเลาะกันเอง มีแค่นี้แหละ ดูไม่ยากหรอกเช่น กรณีสหภาพโซเวียต ก็ใช้วิธีปิดล้อมโซเวียต ยุโรปตะวันออก จนในที่สุดกำแพง เบอร์ลินทะลายในปี ค.ศ.1989
    สหภาพโซเวียตล่ม แตกกระจุย แล้วก็รบกันเอง จากเป็นสหภาพโซเวียต ท้ายสุดแตกเป็นหลายสิบประเทศ จนจำชื่อไม่ไหว เล่นเอาพี่เบิ้มผลิตอาวุธไป หัวร่อไป ขายแทบไม่ทัน
    สำหรับคุณอาแถวทะเลทราย พี่เบิ้มก็ยุแยง ทำให้แตกกัน วุ่นวายกัน ทะเลาะกันเองเพราะ พี่เบิ้มคิดจะขโมยน้ำมันเขา เลยใช้วิธีกล่าวหาว่าบ้านโน้นหักหลังบ้านนี้ บ้านนี้สะสมอาวุธ สารพัดจะโกหก
    แต่มันก็ได้ผลนะ อิหร่านรบกับอิรัก อิรักรบกับคูเวต อียิปต์ทะเลาะกับอิสราเอล อิสราเอลทะเลาะกับเลบานอน ซีเรียทะเลาะกันเอง ปาเลสไตน์ทะเลาะกับอิสราเอล ตุรกีทะเลาะกับอิหร่าน ตอนนี้อียิปต์กลับมาทะเลาะกันเองอีกฯลฯ
    เป็นไงฝีมือพี่เบิ้มไหม เข้าไปที่ไหนฉิบหายที่นั่น
    ยังไม่พอ เสือกต่อไปยุ่งแถวอเมริกาใต้ อาฟริกา วุ่นไปถึงอาฟกานิสถาน อันสุดท้ายนี้น่าสงสารมาก ประชาชนเขาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไปทำให้เขาแตกแยก เพื่อฉวยโอกาสยึดทรัพยากรเขาอย่างหน้าด้านๆ ชั่วได้ใจจริงๆ
    ตัวอย่างที่เห็นชัดหมาดๆ คือ อิรัก หาว่าเขามีนิวเคลียร์ พี่เบิ้มยืนเท้ากระเอว ชี้นิ้วสั่งให้ UN ส่งคนไปตรวจไปดูเดี๋ยวนี้นะ CNN ก็ประโคมทำข่าวรายงานการตรวจทุกวัน แต่ผลปรากฏว่าไม่เจออะไรในก่อไผ่
    พี่เบิ้มเสียหน้า แก้เกี้ยว ยกทัพไปจับ ตั๊กกะแตนเองเลย รบไป 8 ปี อิรักฉิบหายทั้งประเทศ มีผู้ลี้ภัยหนีไปนอกประเทศ 4.7 ล้านคน (16% ของประชาชน)
    ประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน
    เด็ก 5 ล้านคน เป็นกำพร้า (35% ของประชาชน)
    เพียงเพราะจิ๊กโก๋๋อยากได้น้ำมันเขา แล้วไง ตอนยกทัพเข้าไปอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำแบบซัดดัมข่มเหงประชาชน พอเก็บซัดดัมได้ ยึดเมืองเขาแล้วเจอไหม นิวเคลียร์ที่อ้างน่ะ เจอแต่บ่อน้ำมัน!
    แบบนี้มันน่าส่งพี่ตุ๊ดตู่ กะป้าธิดาไปทวงถามความเป็นธรรมให้ประชาชนอิรักซะให้เข็ด ! แล้วท่านผู้อ่านอย่าลืมไปหาเรื่องสงครามอิรักมาอ่านต่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ  เผื่อมันจะมาเกิดแถวนี้จะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง
    แล้วบ้านเราล่ะ พี่เบิ้มเขาใช้วิธีไหน เข้ามาเดินกร่างอยู่ในซอย!
    ขอพูดถึงอาฟกานิสถาน ต่ออีกหน่อย เพราะเป็นเหยื่อพี่เบิ้มที่นาสงสารมาก ถูกเอาประเทศเป็นสนามรบมาเกือบ 20 ปี จนบัดนี้ยังไม่เลิก ประชาชนก็จนลง จนลง อัฟกานิสถานได้ถูกระบุอยู่ในรายงานของเพนตากอน (Pentagon) ว่า เป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสูงสุดที่ยังเหลืออยู่ในโลก (ก็ไอ้ที่มีๆ น่ะ พวกนักล่ามันเอาไปหมดแล้ว เหลือเจ้านี้หลุดตามาได้ ก็เพราะสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศ)
    รัสเซียเข้าไปก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่าพี่เบิ้มอเมริกา แบบนี้มันหักหน้ากันนี้หว่า จิ๊กโก๋๋จะทนได้ยังไง ว่าแล้วก็โดดเข้าไป ไอจะปกป้องยูเอง จากการคุกคามของรัสเซีย
    บทนี้คุ้นๆ ไหม แหม! คุณโดโนแวน เอ๊ย! จอห์น เวน มาเอง อีกแล้ว
    พี่เบิ้มลงทุนฝึกอาวุธให้ชาวอาฟกัน ต่อสู้กับรัสเซีย แถมส่งมือดีไปช่วย มือดีนั้นใคร ทายถูกไม่มีรางวัล .. มือดีก็คือ พี่บิน ลาเดน ไง เอ๊ะ อย่าทำเป็นงง พี่บินมาได้ไงกัน
    พี่บิน ลาเดน เป็นเศรษฐีอยู่ซาอุ มิตรรักของอเมริกาเขาไง ซี้ย่ำปึก ไอจะไปบุกที่ไหนยูไปด้วยไม๊ ไปไหนไปกัน พี่บินถึงได้รบเก่ง แถมรู้แกวรู้แนวการรบการจิ๊กโก๋๋หมด ก็จิ๊กโก๋๋ฝึกให้เขาเองนี่นะ อาวุธก็ส่งให้จะไปโทษใคร แล้วดันมาแตกคอกันเอง หักหลังกัน ซะหลังหักแต่ไม่รู้ใครหักกว่าใคร
    คงจำกันได้ ตอนพี่เบิ้มสั่งเก็บพี่บิน ภาพพี่บินหลังโดนถล่มยับที่บ้านลับ น่าขำมาก รูปถ่ายตอนตาย วางหน้ารูปถ่ายเหมือนตอนเป็นเปี๊ยบเลย เพียงแต่หน้าเยินกว่าเท่านั้น ไม่รู้มันจะหลอกใครกัน
    เล่าไป เล่ามา เกือบลืมเรื่องสำคัญ แร่ธาตุ ที่อาฟกานิสถานมีมาก คือโปแตส ยูเรเนียม และทองคำ 2 อย่างแรก เหมาะสำหรับทำอะไร เร็ว เข้าไปกดกูเกิลดู ก็รู้
    มันเหมาะสำหรับทำทุกอย่าง เป็นสารนำในการผลิตอุตสาหกรรมและที่สำคัญเหมาะสำหรับทำระเบิดครับผม
    แล้วใครล่ะ ผลิตอาวุธ ผลิตระเบิดขาย จนรวยล้น

    คนเล่านิทาน



    เป็นเอกสาร ต้ังแต่ปี 1951 เป็นรายงานการสนทนา ระหว่าง จอมพล ป สมัยเป็น
    นายกฯ กับ นาย Edwin Stanton ฑูดเอมริกา ประจำไทย ซึ่งฑูด มีไปถึงต้นสังกัด

    ดูจากเอกสาร เหมือนอเมริกามีความเป็นห่วงไทย ว่าจะมีน้ำมันไม่พอใช้
    ดูอีกที มันเป็นการมาล้วงตับเรา เพราะบอกให้ทางไทย แสดงรายละเอียดความต้องการของน้ำมัน ของหน่วยงานของเราแต่ละหน่วย แต่ความจรืงน่าจะเพราะ กลัวน้ำมันไปตกอยู่ในมือคอมมิวนิสต์มากกว่า

    สรุป น้ำมัน เป็นประเด็นใหญ่ของจิ๊กโก๋ ต้ังกะสมัยนั้น ถึงสมัยนี้ !?!
    ๑๓-๑
     ตอน 13 มีคนมากระตุกแขนนิดๆ เอ! แล้ว พี่เบิ้มเขาทำไมเปลี๊ยนไป จากยุ่งกะสมันน้อยถึงขนาดเอาลงเปลเห่กล่อม แล้วช่วงนี้เขาหายไปไหนล่ะลุง ก็บอก แล้วไง พี่เบิ้มเขาเป็นจิ๊กโก๋๋ปากซอย ซอยไทยแลนด์นี้ เขาคุมเบ็ดเสร็จแล้ว วางแผนแล้วว่า ต้องมีวินมอเตอร์ไซด์ ตรงไหน คิวเป็นอย่างไร เขาไม่อยู่ใครดูแลแทน เส้นทางเป็นอย่างไร เก็บเงินอย่างไร ใครมาเบ่ง ตีหัวมันอย่างไร เจอสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นให้นั่งฟรีได้ไหม จัดไว้หมด ว่าแล้วก็ขยายไปดูซอยอื่น เวลาพี่เบิ้มเขาไปยุ่งกับภูมิภาคอื่น จะสังเกตง่าย ๆ ไปอยู่ที่ไหน ความ ฉ ห ก็เกิดขึ้นแถวนั้นแหละ เพราะอเมริกาหากินหรืออยู่ได้ด้วย 2 กรรมวิธี อย่างแรก ขโมยทรัพยากรชาวบ้าน (จิ๊กโก๋๋ขี้ขโมย) อย่างที่สอง สร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ (จิ๊กโก๋๋ชวนตี) และทั้ง 2 เรื่อง มันก็โยงกัน ขบวนการก็ไม่ยาก หาเรื่องไปทะเลาะกับชาวบ้าน หรือหาเรื่องให้คนในบ้านทะเลาะกันเอง มีแค่นี้แหละ ดูไม่ยากหรอกเช่น กรณีสหภาพโซเวียต ก็ใช้วิธีปิดล้อมโซเวียต ยุโรปตะวันออก จนในที่สุดกำแพง เบอร์ลินทะลายในปี ค.ศ.1989 สหภาพโซเวียตล่ม แตกกระจุย แล้วก็รบกันเอง จากเป็นสหภาพโซเวียต ท้ายสุดแตกเป็นหลายสิบประเทศ จนจำชื่อไม่ไหว เล่นเอาพี่เบิ้มผลิตอาวุธไป หัวร่อไป ขายแทบไม่ทัน สำหรับคุณอาแถวทะเลทราย พี่เบิ้มก็ยุแยง ทำให้แตกกัน วุ่นวายกัน ทะเลาะกันเองเพราะ พี่เบิ้มคิดจะขโมยน้ำมันเขา เลยใช้วิธีกล่าวหาว่าบ้านโน้นหักหลังบ้านนี้ บ้านนี้สะสมอาวุธ สารพัดจะโกหก แต่มันก็ได้ผลนะ อิหร่านรบกับอิรัก อิรักรบกับคูเวต อียิปต์ทะเลาะกับอิสราเอล อิสราเอลทะเลาะกับเลบานอน ซีเรียทะเลาะกันเอง ปาเลสไตน์ทะเลาะกับอิสราเอล ตุรกีทะเลาะกับอิหร่าน ตอนนี้อียิปต์กลับมาทะเลาะกันเองอีกฯลฯ เป็นไงฝีมือพี่เบิ้มไหม เข้าไปที่ไหนฉิบหายที่นั่น ยังไม่พอ เสือกต่อไปยุ่งแถวอเมริกาใต้ อาฟริกา วุ่นไปถึงอาฟกานิสถาน อันสุดท้ายนี้น่าสงสารมาก ประชาชนเขาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไปทำให้เขาแตกแยก เพื่อฉวยโอกาสยึดทรัพยากรเขาอย่างหน้าด้านๆ ชั่วได้ใจจริงๆ ตัวอย่างที่เห็นชัดหมาดๆ คือ อิรัก หาว่าเขามีนิวเคลียร์ พี่เบิ้มยืนเท้ากระเอว ชี้นิ้วสั่งให้ UN ส่งคนไปตรวจไปดูเดี๋ยวนี้นะ CNN ก็ประโคมทำข่าวรายงานการตรวจทุกวัน แต่ผลปรากฏว่าไม่เจออะไรในก่อไผ่ พี่เบิ้มเสียหน้า แก้เกี้ยว ยกทัพไปจับ ตั๊กกะแตนเองเลย รบไป 8 ปี อิรักฉิบหายทั้งประเทศ มีผู้ลี้ภัยหนีไปนอกประเทศ 4.7 ล้านคน (16% ของประชาชน) ประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน เด็ก 5 ล้านคน เป็นกำพร้า (35% ของประชาชน) เพียงเพราะจิ๊กโก๋๋อยากได้น้ำมันเขา แล้วไง ตอนยกทัพเข้าไปอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำแบบซัดดัมข่มเหงประชาชน พอเก็บซัดดัมได้ ยึดเมืองเขาแล้วเจอไหม นิวเคลียร์ที่อ้างน่ะ เจอแต่บ่อน้ำมัน! แบบนี้มันน่าส่งพี่ตุ๊ดตู่ กะป้าธิดาไปทวงถามความเป็นธรรมให้ประชาชนอิรักซะให้เข็ด ! แล้วท่านผู้อ่านอย่าลืมไปหาเรื่องสงครามอิรักมาอ่านต่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ  เผื่อมันจะมาเกิดแถวนี้จะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง แล้วบ้านเราล่ะ พี่เบิ้มเขาใช้วิธีไหน เข้ามาเดินกร่างอยู่ในซอย! ขอพูดถึงอาฟกานิสถาน ต่ออีกหน่อย เพราะเป็นเหยื่อพี่เบิ้มที่นาสงสารมาก ถูกเอาประเทศเป็นสนามรบมาเกือบ 20 ปี จนบัดนี้ยังไม่เลิก ประชาชนก็จนลง จนลง อัฟกานิสถานได้ถูกระบุอยู่ในรายงานของเพนตากอน (Pentagon) ว่า เป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสูงสุดที่ยังเหลืออยู่ในโลก (ก็ไอ้ที่มีๆ น่ะ พวกนักล่ามันเอาไปหมดแล้ว เหลือเจ้านี้หลุดตามาได้ ก็เพราะสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศ) รัสเซียเข้าไปก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่าพี่เบิ้มอเมริกา แบบนี้มันหักหน้ากันนี้หว่า จิ๊กโก๋๋จะทนได้ยังไง ว่าแล้วก็โดดเข้าไป ไอจะปกป้องยูเอง จากการคุกคามของรัสเซีย บทนี้คุ้นๆ ไหม แหม! คุณโดโนแวน เอ๊ย! จอห์น เวน มาเอง อีกแล้ว พี่เบิ้มลงทุนฝึกอาวุธให้ชาวอาฟกัน ต่อสู้กับรัสเซีย แถมส่งมือดีไปช่วย มือดีนั้นใคร ทายถูกไม่มีรางวัล .. มือดีก็คือ พี่บิน ลาเดน ไง เอ๊ะ อย่าทำเป็นงง พี่บินมาได้ไงกัน พี่บิน ลาเดน เป็นเศรษฐีอยู่ซาอุ มิตรรักของอเมริกาเขาไง ซี้ย่ำปึก ไอจะไปบุกที่ไหนยูไปด้วยไม๊ ไปไหนไปกัน พี่บินถึงได้รบเก่ง แถมรู้แกวรู้แนวการรบการจิ๊กโก๋๋หมด ก็จิ๊กโก๋๋ฝึกให้เขาเองนี่นะ อาวุธก็ส่งให้จะไปโทษใคร แล้วดันมาแตกคอกันเอง หักหลังกัน ซะหลังหักแต่ไม่รู้ใครหักกว่าใคร คงจำกันได้ ตอนพี่เบิ้มสั่งเก็บพี่บิน ภาพพี่บินหลังโดนถล่มยับที่บ้านลับ น่าขำมาก รูปถ่ายตอนตาย วางหน้ารูปถ่ายเหมือนตอนเป็นเปี๊ยบเลย เพียงแต่หน้าเยินกว่าเท่านั้น ไม่รู้มันจะหลอกใครกัน เล่าไป เล่ามา เกือบลืมเรื่องสำคัญ แร่ธาตุ ที่อาฟกานิสถานมีมาก คือโปแตส ยูเรเนียม และทองคำ 2 อย่างแรก เหมาะสำหรับทำอะไร เร็ว เข้าไปกดกูเกิลดู ก็รู้ มันเหมาะสำหรับทำทุกอย่าง เป็นสารนำในการผลิตอุตสาหกรรมและที่สำคัญเหมาะสำหรับทำระเบิดครับผม แล้วใครล่ะ ผลิตอาวุธ ผลิตระเบิดขาย จนรวยล้น คนเล่านิทาน เป็นเอกสาร ต้ังแต่ปี 1951 เป็นรายงานการสนทนา ระหว่าง จอมพล ป สมัยเป็น นายกฯ กับ นาย Edwin Stanton ฑูดเอมริกา ประจำไทย ซึ่งฑูด มีไปถึงต้นสังกัด ดูจากเอกสาร เหมือนอเมริกามีความเป็นห่วงไทย ว่าจะมีน้ำมันไม่พอใช้ ดูอีกที มันเป็นการมาล้วงตับเรา เพราะบอกให้ทางไทย แสดงรายละเอียดความต้องการของน้ำมัน ของหน่วยงานของเราแต่ละหน่วย แต่ความจรืงน่าจะเพราะ กลัวน้ำมันไปตกอยู่ในมือคอมมิวนิสต์มากกว่า สรุป น้ำมัน เป็นประเด็นใหญ่ของจิ๊กโก๋ ต้ังกะสมัยนั้น ถึงสมัยนี้ !?! ๑๓-๑
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารพระราชาไทยควรตัดสินใจยึดอำนาจ ตัดตอนบริบททั้งหมดของdeep stateและกลุ่มอนุรักษ์นิยมอำมาตย์ที่สุ่มหัวกันตัังแต่ต้นโดยเด่นชัดคือเอาโทนี่มาไทย ชูเพื่อไทยเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตนและทุนฝรั่งทัังหมดด้วยในประเทศไทยทั้งสมคบคิดกับเขมรหมายยึดทรัพยากรมีค่ามากมายในอ่าวไทยซ้ำเติมจากที่ยึดครองไปอีกตลอดจนสมยอมให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสนามสงครามเองพร้อมปิดล้อมเพื่อสู้กับจีนในอนาคตอีก จุดชนวนหาข้ออ้างเข้ามาในอาเชียนนั้นเองของฝั่งฝรั่งด้วย อเมริกาบวกตาขี้ข้าฝรั่งเศสบ๋อยอเมริกาก็ด้วยอยากได้บ่อน้ำมันเพิ่มในอ่าวไทยนี้เองเพื่อเป็นพลังงานอีกมิติด้านสงครามก็ด้วย ดูดใกล้ไม่ต้องขนส่งมาเติมไกลๆ ไทยอินโดฯมีพร้อมเตรียมทำสงครามกับจีนได้นั้นเอง,
    ..ทหารพระราชาเราจะทำอะไรก็เด็ดขาดเถอะ,เช่น ชิงประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไว้ก่อน ให้ทหารไทยเรา กองกำลังปกป้องอธิปไตยไทยเราทั้งหมดทำงานไร้อุปสรรคและเต็มที่มิใช่แบบยุทธปืนคอนั้น,ยิงแต่ปืนคอนะจ๊ะ,ทหารพราน ทหารตชด.ตำรวจภายในประเทศจะจับมือสามัคคีกันทันทีเพื่อปกป้องภัยทั้งจากภายในคือกบฎทรยศแผ่นดินไทยและภายนอกแบบเขมรแบบอเมริกาแบบฝรั่งเศส สามารถเชิญฑูตอเมริกาและฝรั่งเศสออกจากประเทศไทยไปก่อนได้เลย,เพื่อตัดตอนใช้ไทยเป็นฐานทำสงครามกับจีน,นี้คืออำนาจเด็ดขาดที่จะสร้างสรรคยุทธวิธีทางสงครามทุกๆรูปแบบได้ ระดมผู้มีความรู้ความสามารถอิสระทั่วไทยได้ตลอดเวลา มีสภาคคล่องการปรับกลยุทธได้หมด จะสงครามการตังการค้าการเศรษฐกิจ สงครามตัวแทนแบบจะใช้ไทยกับเขมรจุดฉนวนขึ้น,สงครามไซเบอร์ใดๆ, และอื่นๆเราตัดตอนตัดหมากตัดกำลังมันได้หมดหรือตัดไฟแต่ต้นลมได้,ถ้าทหารพระราชายังนิ่งดูดากประมาทเลินเล่อดูเบา ตามน้ำหรือสมยอมกับรัฐบาลปัจจุบันสาขาเขมร1รุ่นมาลี2แบบนีั สู้ไม่ได้หรอก,เหลี่ยมมันเยอะ,ต้องร่วมมือกับภาคทหารประชาชนจริงจังด้วย สื่อไทยตื่นรู้มาฝั่งทหารเพื่อชาติเมืองก็มากแล้ว คณะรวมพลังแผ่นดินคือแนวร่วมของทัพประชาชนที่ดีที่สุด,จะไปจับมือกับสามกีบชูสามนิ้วเหรอหรือกปปส.พรรคร่วมต่างๆนั้น,ล้วนคือพวกอนุรักษ์นิยมเก่าทั้งสิ้นตลอดฝ่ายค้านทั้งหมดด้วยไร้ราคาหมด,คณะรวมพลังแผ่นดินไทยพร้อมประชาชนทั้งประเทศจับมือกับฝ่ายทหารพระราชาฝ่าวิกฤติภัยศัตรูของชาติไทยเราได้แน่นอน,ยึดอำนาจเถอะ,นี้ก็พ้น4สิงหาแล้ว,อย่าตามหมากบนกระดานของอีลิทของdeep stateฝรั่งประจำประเทศไทยและพวกเดอะแก๊งอำมาตย์อนุรักษ์นิยมเก่าเลย,เหลี่ยมแบบเจรจามาเลย์โดยสไตล์การใช้อำนาจฝ่ายเจ้าเล่ห์นักการเมืองมันธรรมดาที่ไหน,ยิงกันจะชนะเสือกตีรีตาเหลือกรีบช่วยเขมรช่วยอเมริกาจะซวยไปยิงฐานทัพอเมริกาที่ชลบุรีจะเสียหมาอเมริกาแค่ไหนแผนจะไปเป็นไปตามแผนหากไทยตีถึงพนมเปรตนรกนั้น,เหลี่ยมฝรั่งจึงสั่งเหลี่ยมประจำประเทศไทยกับเพื่อนสนิทมรึงรีบหามุกหยุดทหารพระราชาที่เป็นฝ่ายตรงข้ามมรึงให้ด่วนถึงด่วนที่สุดทันทีมันว่า,เลยเหี้ยไง ทหารไทยเราเสียเหลี่ยมมันนะ เห็นมั้ยนี้ล่ะอันตรายของการไม่เด็ดขาดประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ อำนาจทหารไทยจะเต็มแนวรบแนวปฏิบัติทางสงครามทั้งหมดทันที,ถ้าเป็นแบบนี้ฝันเลยจะเอาชนะอเมริกาได้และคนทรยศประจำประเทศไทยปกตินี้,จะชนะอเมริกามันไม่ยากอะไรเลย,มีมากมายหลากหลายวิธี,จริงๆอเมริกามันล่มสลายล้มละลายไปนานแล้ว ไร้ค่าไร้ราคานานแล้ว,แค่ผีบ้ามีอาวุธนิวเคลียร์สะสมมานานแค่นั้น,จะฆ่าจีนล้างหนี้ก็ได้หากมองบริบทแบบพื้นๆไม่เอานัยยะผีบ้าสภากาแล็กติกหรือแผนแหกตาละครบ้าบอมันมาหักมุมเพิ่มเติม,แต่ดีที่สุด อเมริกาจะยุ่งวุ่นวายภายในเรรไม่ได้เลยคือยึดอำนาจโดยคณะรวมพลังแผ่นดินที่มีทหารนำทัพยืนเคียงข้าง ฝรั่งจะปากไม่ออก จากนั้นกวาดล้างกำจัดคนทรยศภายในชาติไทยเราได้สบาย,เขมรมียิงใส่เราช่วงนี้ เปิดมา ไปเกิดทั้งประเทศแน่นอน ฮุนเซนฮุนมาเนตจะถูกไล่ล่าจริงทันที,สายลับพันธมิตรไทยและไทยเราเองจะจัดเดอะทีมไล่ล่าฮุนเซนฮุนมาเนตเด็ดหัวทันทีพร้อมกับการโจมตีตรงที่ทำงานบ้านพักฮุนเซนฮุนมาเนตทั้งหมดที่ระบุว่าคือฐานบัญชาการสั่งการ,มันกะเข้าอินโดแปซิฟิก สมาชิกตีกันเอง คือไทย ตีเขมร ,อเมริกเจ้าบ้านอินโดแปซิฟิกจะเป็นกลางล่ะมรึงเอย,ต่างจากคนนอกสมาชิกแสดงว่าตีกันเต็มที่อเมริกาคือกรรมการ,ทหารเขมรตายแบบเต็มพรมแดนอเมริกามรึงต้องตบหัวเขมรบอกมันให้ไปเก็บศพทั้งหมดให้ญาติทหารเขมรมรึงทันทีหากทำสันดานไม่ดีเสียภาพลักษณ์สมาชิกอินโดแปซิฟิก ทหารตายไม่ต้องเก็บศพก็ได้อเมริกาอนุมัติหลักการนี้เห็นดีงามเลิศวิธีคิดอ่านของเขมร ไม่ต้องมีมนุษยธรรมให้คุณค่ากับทหารภายใต้คนสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาคงเอาหน้าชูเกียรติเชิดหน้าท้าโลกค้ำชูเขมรอย่างได้หน้าได้ตามีหน้า มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมกับเขมรแน่นอน อเมริการางวัลทหารตายไม่ต้องเก็บศพระดับโลก,สุดยอดกว่ารางวัลสันติภาพโลกล่ะ.
    ทหารพระราชาไทยควรตัดสินใจยึดอำนาจ ตัดตอนบริบททั้งหมดของdeep stateและกลุ่มอนุรักษ์นิยมอำมาตย์ที่สุ่มหัวกันตัังแต่ต้นโดยเด่นชัดคือเอาโทนี่มาไทย ชูเพื่อไทยเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตนและทุนฝรั่งทัังหมดด้วยในประเทศไทยทั้งสมคบคิดกับเขมรหมายยึดทรัพยากรมีค่ามากมายในอ่าวไทยซ้ำเติมจากที่ยึดครองไปอีกตลอดจนสมยอมให้ภูมิภาคนี้กลายเป็นสนามสงครามเองพร้อมปิดล้อมเพื่อสู้กับจีนในอนาคตอีก จุดชนวนหาข้ออ้างเข้ามาในอาเชียนนั้นเองของฝั่งฝรั่งด้วย อเมริกาบวกตาขี้ข้าฝรั่งเศสบ๋อยอเมริกาก็ด้วยอยากได้บ่อน้ำมันเพิ่มในอ่าวไทยนี้เองเพื่อเป็นพลังงานอีกมิติด้านสงครามก็ด้วย ดูดใกล้ไม่ต้องขนส่งมาเติมไกลๆ ไทยอินโดฯมีพร้อมเตรียมทำสงครามกับจีนได้นั้นเอง, ..ทหารพระราชาเราจะทำอะไรก็เด็ดขาดเถอะ,เช่น ชิงประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศไว้ก่อน ให้ทหารไทยเรา กองกำลังปกป้องอธิปไตยไทยเราทั้งหมดทำงานไร้อุปสรรคและเต็มที่มิใช่แบบยุทธปืนคอนั้น,ยิงแต่ปืนคอนะจ๊ะ,ทหารพราน ทหารตชด.ตำรวจภายในประเทศจะจับมือสามัคคีกันทันทีเพื่อปกป้องภัยทั้งจากภายในคือกบฎทรยศแผ่นดินไทยและภายนอกแบบเขมรแบบอเมริกาแบบฝรั่งเศส สามารถเชิญฑูตอเมริกาและฝรั่งเศสออกจากประเทศไทยไปก่อนได้เลย,เพื่อตัดตอนใช้ไทยเป็นฐานทำสงครามกับจีน,นี้คืออำนาจเด็ดขาดที่จะสร้างสรรคยุทธวิธีทางสงครามทุกๆรูปแบบได้ ระดมผู้มีความรู้ความสามารถอิสระทั่วไทยได้ตลอดเวลา มีสภาคคล่องการปรับกลยุทธได้หมด จะสงครามการตังการค้าการเศรษฐกิจ สงครามตัวแทนแบบจะใช้ไทยกับเขมรจุดฉนวนขึ้น,สงครามไซเบอร์ใดๆ, และอื่นๆเราตัดตอนตัดหมากตัดกำลังมันได้หมดหรือตัดไฟแต่ต้นลมได้,ถ้าทหารพระราชายังนิ่งดูดากประมาทเลินเล่อดูเบา ตามน้ำหรือสมยอมกับรัฐบาลปัจจุบันสาขาเขมร1รุ่นมาลี2แบบนีั สู้ไม่ได้หรอก,เหลี่ยมมันเยอะ,ต้องร่วมมือกับภาคทหารประชาชนจริงจังด้วย สื่อไทยตื่นรู้มาฝั่งทหารเพื่อชาติเมืองก็มากแล้ว คณะรวมพลังแผ่นดินคือแนวร่วมของทัพประชาชนที่ดีที่สุด,จะไปจับมือกับสามกีบชูสามนิ้วเหรอหรือกปปส.พรรคร่วมต่างๆนั้น,ล้วนคือพวกอนุรักษ์นิยมเก่าทั้งสิ้นตลอดฝ่ายค้านทั้งหมดด้วยไร้ราคาหมด,คณะรวมพลังแผ่นดินไทยพร้อมประชาชนทั้งประเทศจับมือกับฝ่ายทหารพระราชาฝ่าวิกฤติภัยศัตรูของชาติไทยเราได้แน่นอน,ยึดอำนาจเถอะ,นี้ก็พ้น4สิงหาแล้ว,อย่าตามหมากบนกระดานของอีลิทของdeep stateฝรั่งประจำประเทศไทยและพวกเดอะแก๊งอำมาตย์อนุรักษ์นิยมเก่าเลย,เหลี่ยมแบบเจรจามาเลย์โดยสไตล์การใช้อำนาจฝ่ายเจ้าเล่ห์นักการเมืองมันธรรมดาที่ไหน,ยิงกันจะชนะเสือกตีรีตาเหลือกรีบช่วยเขมรช่วยอเมริกาจะซวยไปยิงฐานทัพอเมริกาที่ชลบุรีจะเสียหมาอเมริกาแค่ไหนแผนจะไปเป็นไปตามแผนหากไทยตีถึงพนมเปรตนรกนั้น,เหลี่ยมฝรั่งจึงสั่งเหลี่ยมประจำประเทศไทยกับเพื่อนสนิทมรึงรีบหามุกหยุดทหารพระราชาที่เป็นฝ่ายตรงข้ามมรึงให้ด่วนถึงด่วนที่สุดทันทีมันว่า,เลยเหี้ยไง ทหารไทยเราเสียเหลี่ยมมันนะ เห็นมั้ยนี้ล่ะอันตรายของการไม่เด็ดขาดประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศ อำนาจทหารไทยจะเต็มแนวรบแนวปฏิบัติทางสงครามทั้งหมดทันที,ถ้าเป็นแบบนี้ฝันเลยจะเอาชนะอเมริกาได้และคนทรยศประจำประเทศไทยปกตินี้,จะชนะอเมริกามันไม่ยากอะไรเลย,มีมากมายหลากหลายวิธี,จริงๆอเมริกามันล่มสลายล้มละลายไปนานแล้ว ไร้ค่าไร้ราคานานแล้ว,แค่ผีบ้ามีอาวุธนิวเคลียร์สะสมมานานแค่นั้น,จะฆ่าจีนล้างหนี้ก็ได้หากมองบริบทแบบพื้นๆไม่เอานัยยะผีบ้าสภากาแล็กติกหรือแผนแหกตาละครบ้าบอมันมาหักมุมเพิ่มเติม,แต่ดีที่สุด อเมริกาจะยุ่งวุ่นวายภายในเรรไม่ได้เลยคือยึดอำนาจโดยคณะรวมพลังแผ่นดินที่มีทหารนำทัพยืนเคียงข้าง ฝรั่งจะปากไม่ออก จากนั้นกวาดล้างกำจัดคนทรยศภายในชาติไทยเราได้สบาย,เขมรมียิงใส่เราช่วงนี้ เปิดมา ไปเกิดทั้งประเทศแน่นอน ฮุนเซนฮุนมาเนตจะถูกไล่ล่าจริงทันที,สายลับพันธมิตรไทยและไทยเราเองจะจัดเดอะทีมไล่ล่าฮุนเซนฮุนมาเนตเด็ดหัวทันทีพร้อมกับการโจมตีตรงที่ทำงานบ้านพักฮุนเซนฮุนมาเนตทั้งหมดที่ระบุว่าคือฐานบัญชาการสั่งการ,มันกะเข้าอินโดแปซิฟิก สมาชิกตีกันเอง คือไทย ตีเขมร ,อเมริกเจ้าบ้านอินโดแปซิฟิกจะเป็นกลางล่ะมรึงเอย,ต่างจากคนนอกสมาชิกแสดงว่าตีกันเต็มที่อเมริกาคือกรรมการ,ทหารเขมรตายแบบเต็มพรมแดนอเมริกามรึงต้องตบหัวเขมรบอกมันให้ไปเก็บศพทั้งหมดให้ญาติทหารเขมรมรึงทันทีหากทำสันดานไม่ดีเสียภาพลักษณ์สมาชิกอินโดแปซิฟิก ทหารตายไม่ต้องเก็บศพก็ได้อเมริกาอนุมัติหลักการนี้เห็นดีงามเลิศวิธีคิดอ่านของเขมร ไม่ต้องมีมนุษยธรรมให้คุณค่ากับทหารภายใต้คนสมาชิกอินโดแปซิฟิก,อเมริกาคงเอาหน้าชูเกียรติเชิดหน้าท้าโลกค้ำชูเขมรอย่างได้หน้าได้ตามีหน้า มีเกียรติ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมกับเขมรแน่นอน อเมริการางวัลทหารตายไม่ต้องเก็บศพระดับโลก,สุดยอดกว่ารางวัลสันติภาพโลกล่ะ.
    ขณะที่กัมพูชาเข้าอินโด-แปซิฟิก ไทยควรถอนตัว : คนเคาะข่าว 04-08-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    https://www.youtube.com/watch?v=GdvvSmVHHIM
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เกมของทรัมป์"! "ทนง ขันทอง" ชี้ความขัดแย้งไทย-เขมรคือแผนสหรัฐฯ...หวังใช้เป็น "สงครามตัวแทน" ปิดล้อมจีน!
    https://www.thai-tai.tv/news/20743/
    .
    #ธนงขันทอง #ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิค #BRICS #สหรัฐอเมริกา #จีน #แบ่งแยกแล้วปกครอง #การเมืองโลก #ไทยไท
    "เกมของทรัมป์"! "ทนง ขันทอง" ชี้ความขัดแย้งไทย-เขมรคือแผนสหรัฐฯ...หวังใช้เป็น "สงครามตัวแทน" ปิดล้อมจีน! https://www.thai-tai.tv/news/20743/ . #ธนงขันทอง #ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิค #BRICS #สหรัฐอเมริกา #จีน #แบ่งแยกแล้วปกครอง #การเมืองโลก #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามระหว่าง ไทย - เขมร รอบนี้ (2568) ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมเขมรถึงกล้ารบกับไทย ทั้งที่รู้กันทั่วโลกว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ เทียบกับไม่ติด ถ้ามองแบบกลยุทธ์ซุมวู ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะไทยตอนนี้มองจากภายนอกเข้ามา อ่อนแออย่างน่าตกใจ ในกลยุทธ์ซุนวู รัฐที่เข้มแข็งคือรัฐที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างผู้ปกครองและผู้ถูกปกครอง แต่ไทยมีความแตกแยกอย่างมาก ประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาล ผู้มีอำนาจในรัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับเขมรที่ชายแดน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสีเทา หรือผลประโยชน์ส่วนตัว นอกจากนี้เขมรเพิ่งเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงตกต่ำ ไม่มีอะไรจะหอมหวานเท่าแอ่งทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-เขมร วิธีที่จะทำให้คะแนนนิยมผู้นำเขมรเพิ่มขึ้นไม่มีอะไรดีไปกว่า การเปลี่ยนแนวเขตแดนทางบก เพื่อให้ได้พื้นที่ทางทะเลเพิ่มชึ้น

    แต่การจะเปิดสงครามกับไทยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย จีนที่สนับสนุนด้านเศรษฐกิจเขมรมาอย่างยาวนาน ไม่มีทางที่จะเอาด้วยกับการที่จะเป็นศัตรูกับไทย เพราะภูมิรัฐศาสตร์ของไทยมีความสำคัญกับจีนอย่างมาก ตัวเลือกสุดท้ายจึงไปตกที่สหรัฐ ที่พร้อมจะเข้ามาแทรกแซงในพื้นที่ยุทธศาสตร์นี้อยู่แล้วสำหรับการปิดล้อมจีน และทรัพยากรทางธรรมชาติทางทะเล การหักหลังจีนของเขมรจึงเป็นการเล่นไพ่แบบเกหมดหน้าตัก เขมรจึงไม่สนใจหน้าในเวทีโลก เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีใครหนุนหลัง การกุข่าวลวง การโจมตีพลเรือน-โรงพยาบาล การตั้งฐานทัพในที่โบราณสถาน จึงมีออกมาให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง

    ไทยเองก็ผิดพลาดทางการทูตและด้านยุทธศาสตร์ การมีอยู่ของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่รุ้ว่ามีหรือไม่มีจะดีกว่ากัน เพราะครั้นเมื่อเขมรโจมตีพลเรือนไทยและโรงพบาบาล สิ่งที่ไทยต้องทำคือ ออกแถลงการณ์ประนาณเขมร พร้อมทั้งประกาศให้โลกรู้ว่าไทยจะตอบสนองอย่างหนัก เพราะการสูญเสียพลเมืองไทย เป็นสิ่งที่ไทยรับไม่ได้ แล้วจึงปฎิบัติการทางการทหาร โดยให้กองทัพภาคที่ 2 ทำการตรึงกำลัง และผลักดันเขมรออกจากแนวเขตแดน โดยทำทีโจมที่ในส่วนพื้นที่ของทัพภาคที่ 2 แต่ส่งกองทัพเรือ รวมถึงกองทัพภาคที่ 1 โจมตีแบบสายฟ้าแล่บและอย่างหนัก เพื่อยึดเกาะกง และสีหนุวิล เพื่อเปลี่ยนแนวเขตแดนทางทะเล เพื่อเป็นการแก้เกมเขมร โดยที่เมื่อยึดเกาะกง และสีหนุวิลได้ ก็ออกแถลงการณ์ให้เขมรเจรจาหยุดยิง ถ้าเขมรยังไม่หยุด ก็ให้เคลื่อนกำลังทัพภาคที่ 2 เข้ายึด พระตระบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ และประกาศถ้าเขมรยังไม่ยอมแพ้ จะกินดินแดนจนถึงพนมเปญ

    การที่ไทยต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ โดยแลกมาด้วยชีวิตทหาร เป็นอะไรที่ได้ไม่คุ้มเสีย นอกจากนี้การที่ไทยพยายามจะเป็นคนดีในสายตาโลก ทั้งๆที่สหประชาชาติไม่เคยเป็นกลาง มี hidden agenda ตามชาติมหาอำนาจอยู่ตลอดเวลา ไทยจึงเหมือนคนอ่อนต่อโลก เหมือนที่เดินไปให้เขาเชือดในศาลโลก เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ไทยต้องทำสงครามสั่งสอนเขมร มิฉะนั้น ก็ต้องมีการยิงกัน และสูญเสียคนไทย อยู่ร่ำไป แต่หากไทยยังคงอ่อนแอด้วยการเมืองภายใน และมีผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์เหมือนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องยากที่ไทยจะรอดจากภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ร้อนแรงชึ้นเรื่อยๆ คงได้แต่หวังพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง สาธุ.........
    สงครามระหว่าง ไทย - เขมร รอบนี้ (2568) ที่น่าแปลกใจคือ ทำไมเขมรถึงกล้ารบกับไทย ทั้งที่รู้กันทั่วโลกว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ เทียบกับไม่ติด ถ้ามองแบบกลยุทธ์ซุมวู ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ เพราะไทยตอนนี้มองจากภายนอกเข้ามา อ่อนแออย่างน่าตกใจ ในกลยุทธ์ซุนวู รัฐที่เข้มแข็งคือรัฐที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างผู้ปกครองและผู้ถูกปกครอง แต่ไทยมีความแตกแยกอย่างมาก ประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาล ผู้มีอำนาจในรัฐบาลมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับเขมรที่ชายแดน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจสีเทา หรือผลประโยชน์ส่วนตัว นอกจากนี้เขมรเพิ่งเปลี่ยนแปลงตัวผู้นำ ในขณะที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงตกต่ำ ไม่มีอะไรจะหอมหวานเท่าแอ่งทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนระหว่างไทย-เขมร วิธีที่จะทำให้คะแนนนิยมผู้นำเขมรเพิ่มขึ้นไม่มีอะไรดีไปกว่า การเปลี่ยนแนวเขตแดนทางบก เพื่อให้ได้พื้นที่ทางทะเลเพิ่มชึ้น แต่การจะเปิดสงครามกับไทยมีต้นทุนที่ต้องจ่าย จีนที่สนับสนุนด้านเศรษฐกิจเขมรมาอย่างยาวนาน ไม่มีทางที่จะเอาด้วยกับการที่จะเป็นศัตรูกับไทย เพราะภูมิรัฐศาสตร์ของไทยมีความสำคัญกับจีนอย่างมาก ตัวเลือกสุดท้ายจึงไปตกที่สหรัฐ ที่พร้อมจะเข้ามาแทรกแซงในพื้นที่ยุทธศาสตร์นี้อยู่แล้วสำหรับการปิดล้อมจีน และทรัพยากรทางธรรมชาติทางทะเล การหักหลังจีนของเขมรจึงเป็นการเล่นไพ่แบบเกหมดหน้าตัก เขมรจึงไม่สนใจหน้าในเวทีโลก เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีใครหนุนหลัง การกุข่าวลวง การโจมตีพลเรือน-โรงพยาบาล การตั้งฐานทัพในที่โบราณสถาน จึงมีออกมาให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง ไทยเองก็ผิดพลาดทางการทูตและด้านยุทธศาสตร์ การมีอยู่ของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่รุ้ว่ามีหรือไม่มีจะดีกว่ากัน เพราะครั้นเมื่อเขมรโจมตีพลเรือนไทยและโรงพบาบาล สิ่งที่ไทยต้องทำคือ ออกแถลงการณ์ประนาณเขมร พร้อมทั้งประกาศให้โลกรู้ว่าไทยจะตอบสนองอย่างหนัก เพราะการสูญเสียพลเมืองไทย เป็นสิ่งที่ไทยรับไม่ได้ แล้วจึงปฎิบัติการทางการทหาร โดยให้กองทัพภาคที่ 2 ทำการตรึงกำลัง และผลักดันเขมรออกจากแนวเขตแดน โดยทำทีโจมที่ในส่วนพื้นที่ของทัพภาคที่ 2 แต่ส่งกองทัพเรือ รวมถึงกองทัพภาคที่ 1 โจมตีแบบสายฟ้าแล่บและอย่างหนัก เพื่อยึดเกาะกง และสีหนุวิล เพื่อเปลี่ยนแนวเขตแดนทางทะเล เพื่อเป็นการแก้เกมเขมร โดยที่เมื่อยึดเกาะกง และสีหนุวิลได้ ก็ออกแถลงการณ์ให้เขมรเจรจาหยุดยิง ถ้าเขมรยังไม่หยุด ก็ให้เคลื่อนกำลังทัพภาคที่ 2 เข้ายึด พระตระบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ และประกาศถ้าเขมรยังไม่ยอมแพ้ จะกินดินแดนจนถึงพนมเปญ การที่ไทยต้องแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ โดยแลกมาด้วยชีวิตทหาร เป็นอะไรที่ได้ไม่คุ้มเสีย นอกจากนี้การที่ไทยพยายามจะเป็นคนดีในสายตาโลก ทั้งๆที่สหประชาชาติไม่เคยเป็นกลาง มี hidden agenda ตามชาติมหาอำนาจอยู่ตลอดเวลา ไทยจึงเหมือนคนอ่อนต่อโลก เหมือนที่เดินไปให้เขาเชือดในศาลโลก เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ไทยต้องทำสงครามสั่งสอนเขมร มิฉะนั้น ก็ต้องมีการยิงกัน และสูญเสียคนไทย อยู่ร่ำไป แต่หากไทยยังคงอ่อนแอด้วยการเมืองภายใน และมีผู้นำที่ขาดวิสัยทัศน์เหมือนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องยากที่ไทยจะรอดจากภูมิรัฐศาสตร์โลกที่ร้อนแรงชึ้นเรื่อยๆ คงได้แต่หวังพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง สาธุ.........
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 616 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งพลังงาน ชนวนสงคราม! 'ทนง ขันทอง' วิเคราะห์สงคราม 5 วันแผนมัดมือชกไทยแบ่งเค้กกับกัมพูชา...เบื้องหลังคือดีลลับ 'ทักษิณ-ฮุน เซน-สหรัฐ'!
    https://www.thai-tai.tv/news/20682/
    .
    #ทนงขันทอง #ดีลลังกาวี #สงครามตัวแทน #กัมพูชา #ทักษิณชินวัตร #ฮุนเซน #ฮุนมาเนต #ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก #ปิดล้อมจีน #ไทยไท
    แหล่งพลังงาน ชนวนสงคราม! 'ทนง ขันทอง' วิเคราะห์สงคราม 5 วันแผนมัดมือชกไทยแบ่งเค้กกับกัมพูชา...เบื้องหลังคือดีลลับ 'ทักษิณ-ฮุน เซน-สหรัฐ'! https://www.thai-tai.tv/news/20682/ . #ทนงขันทอง #ดีลลังกาวี #สงครามตัวแทน #กัมพูชา #ทักษิณชินวัตร #ฮุนเซน #ฮุนมาเนต #ยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก #ปิดล้อมจีน #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 รีวิว
  • กัมพูชาฮึกเหิม "รบไม่กลัวตาย" หาก "อเมริกาหนุนเต็มตัว"! 'หมอเหรียญทอง' ชี้ ไทยอาจเจอ "สงครามตัวแทน" แผนยุทธศาสตร์เขมร-เมกา ปิดล้อมจีน
    https://www.thai-tai.tv/news/20663/
    .
    #พลตรีเหรียญทอง #สงครามตัวแทน #สงครามโลกครั้งที่3 #ไทยกัมพูชา #สหรัฐ #จีนรัสเซีย #ความมั่นคงชาติ #พึ่งตนเอง #อุตสาหกรรมทหาร #เวชภัณฑ์ #ไทยไท
    กัมพูชาฮึกเหิม "รบไม่กลัวตาย" หาก "อเมริกาหนุนเต็มตัว"! 'หมอเหรียญทอง' ชี้ ไทยอาจเจอ "สงครามตัวแทน" แผนยุทธศาสตร์เขมร-เมกา ปิดล้อมจีน https://www.thai-tai.tv/news/20663/ . #พลตรีเหรียญทอง #สงครามตัวแทน #สงครามโลกครั้งที่3 #ไทยกัมพูชา #สหรัฐ #จีนรัสเซีย #ความมั่นคงชาติ #พึ่งตนเอง #อุตสาหกรรมทหาร #เวชภัณฑ์ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 324 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 1 :

    กำเนิดจิ๊กโก๋

    เรารู้จักบ้านเมืองเราแค่ไหน เคย ถามตัวเองกันบ้างไหมครับ

    แล้วเคยมีเวลานึกสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมบ้านเมืองเราถึงเละขนาดนี้ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษาและสังคม

    เรารู้จักบ้านเมืองของเรา แบบมักง่าย รู้จักผ่านมุมมอง และความคิดของสื่อ ทั้งสื่อไทย และสื่อเทศ และสื่อส่วนใหญ่ ก็ให้ข้อมูลข่าวสาร แบบฟอกย้อม จะโดยตั้งใจเพราะมีใบสั่ง หรือเพราะสมรรถนะของสื่อส่วนใหญ่ ต่ำถึงต่ำมาก แทบทั้งนั้น

    ข้อมูลอีกหลายส่วน ก็มาจากนักวิชาการ ที่ไม่ต่างกับสื่อ ถ้าไม่ขายตัว ก็อธิบายแบบท่องจำ จอแคบ จอแบนไม่มีมิติ มองมุมเดียว เพราะมันง่ายดี

    แล้วเราจะได้ความรู้ ความเข้าใจแบบไหนกัน นี่ยังไม่นับข้อมูลที่เกิดจาก การตอแหลของนักการเมือง และบรรดาข้าราชการ ที่ทำหน้าที่ขี้ข้านักการเมือง

    ซึ่งขอใช้คำว่า บัดซบ จึงจะตรงกับพฤติกรรม

    ตัวเราเองก็เลยติดนิสัย ที่จะมองอะไรแบบมักง่าย

    เมื่อเราไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง ก็ไม่มีความเข้าใจจริง แล้วจะหาทางออก จะแก้ปัญหาได้อย่างไร ยิ่งแก้ก็เลยยิ่งพันยุ่งเละเทะ เหมือนลิงแก้แห

    ทำไมเราไม่มาทำความเข้าใจ ทำความรู้จักบ้านเมืองของเราอย่างจริงจังก่อน ด้วยการศึกษาขวนขวายด้วยตัวเอง ไม่ใช่ใช้แค่ตาดูหูฟังเอาจากสื่อจอแบน คำโกหกนักการเมืองหรือนักวิชาการ ประเภทมีความรู้เกินๆ ขาดๆ

    จะเข้าใจปัจจุบัน ก็ต้องรู้จักอดีตหรือประวัติศาสตร์ก่อน ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่า ต้นไม้ต้นไหนออกลูกเป็นพิษ

    แล้วก็อย่าทำตัวเป็นม้าแข่ง มองเห็นแต่ลู่วิ่งข้างหน้า หัดมองรอบตัว รู้จักเพื่อนบ้าน รู้จักโลกบ้าง ไม่ใช่จะมีแต่เธอ ฉัน ลูกเรา น้องหมา และน้ำเน่าในทีวี กับจิ้มข้อความไร้สาระ ส่งกันไปมาตามหน้าจอ ประเภท ส่ง 10 คน จะมีโชค

    ก่อนอื่นควรรู้จักโลกกว้างเสียก่อน ประเทศไทยไม่ใช่ตั้งอยู่โดด ๆ ประเทศเดียวเรามีเพื่อนบ้านร่วมทวีป ร่วมโลกอีกแยะ เรารู้จักเพื่อนร่วมโลก หรือ เพื่อนบ้านเราแค่ไหนกัน

    จะอยู่บ้านให้สบายใจ มันก็ควรจะรู้จักเสียหน่อยว่า ใครเป็นใครในซอย มีจิ๊กโก๋๋ยืนกร่าง เบ่งกล้ามอยู่ปากซอยหรือเปล่า ถ้ามีต้องรู้ว่ามันเป็นใคร ฝีไม้ลายมือขนาดไหน ของจริง หรือ ราคาคุย

    งั้นเรามาเริ่มต้น ด้วยการรู้จักจิ๊กโก๋๋ปากซอยกันซะหน่อยดีไหม รู้จักแล้ว จะได้รู้ว่าเราจะอยู่ในซอยนี้แบบไหน อยู่แบบตัวห่อหน้าเหี่ยว หรือ อยู่อย่างสบายใจ นี่บ้านกูนะ จะคบกับชาวซอยด้วยกันอย่าง ไร และแสดงท่าที หรือจัดการอย่างไรดีกับเจ้าจิ๊กโก๋๋ปากซอย

    และจะอ่านนิทานนี้ให้สนุก จะรู้จักโลกกว้าง ต้องรู้จักคาถาการครองโลก

    “อำนาจ คือ ทุน” และ “ทุน คือ อำนาจ”

    จำให้แม่น มันจะทำให้เราเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้

    ประเทศนี้ และทั้งหลาย ทั้งปวง ที่อยู่รอบตัวเราง่ายขึ้น

    สงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเพราะอะไร ประวัติศาสตร์ที่เขาเขียนให้เราเรียน สมัยเป็นนักเรียน เขาก็เขียนให้เราเข้าใจไปว่า มันเป็นเรื่องของการต้องการแผ่อำนาจของประเทศผู้รุกราน และประเทศผู้ถูกรุกรานก็จ๋อยสิ จำเป็นต้องสู้ หรือเข้าสู่สงครามกับเขาไปด้วย เพื่อเอาตัวรอด เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศตน

    แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นอย่างนั้นแน่หรือ กลับไปอ่านคาถาครองโลกข้างต้นสัก 10 เที่ยว แล้วอ่านนิทานนี้ต่อ อาจจะรู้จักประวัติศาสตร์ ในมุมมองใหม่

    สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 (ค.ศ.1934) จบเอาปี พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) รวมเวลา 6ปี ตลอดเวลาการสู้รบ เขาใช้ทวีปยุโรปและเอเซียเป็นสนามประลองกำลัง พอเสร็จสงคราม ฝ่ายผู้แพ้สงครามเช่น เยอรมันและญี่ปุ่น ก็ถูกน็อกคาสนามบอบช้ำฉิบหาย ตามประสาผู้แพ้ ส่วนฝ่ายสัมพันธ มิตรผู้ชนะสงครามเช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ยุโรป รัสเซีย และแม้แต่จีน ก็ใช่ว่าจะไม่ยับไม่เยิน แต่ละรายดูไม่จืดเชียว ยืนพิงเชือกเกือบนับ 10 เกือบทั้งนั้น ….มีแต่อเมริกาเท่านั้นแหละ ที่โดนแค่สอยคาง เรือรบล่มไม่กี่ลำ ที่เพิร์ล ฮาเบอร์ (Pearl Harbor) ฮาวาย ส่วนบ้านตัวที่ทวีปอเมริกาปลอดภัยดี ไม่มีบุบไม่มีย่น… แค่นี้ทำเป็นยั๊วะ ถือโอกาสประกาศสงครามกับญี่ปุ่น เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร (โอกาสทองมา แล้ว) เมื่อชนะสงครามอเมริกาจึงสถาปนาตนเองเป็นจิ๊กโก๋๋คุมซอย เป็นพี่เบิ้มดูแลโลกทั้งใบ นั่นไงมาแล้ว … จิ๊กโก๋๋ปากซอย!

    หลังจากการทำสงครามโลก เศรษฐกิจของแต่ละประเทศก็ตกต่ำล่มจม ความแตกต่างทางสังคมเห็นชัดขึ้น เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนชัดเจน ไม่ต้องเอาแว่นมาขยาย ระบอบคอมมิวนิสต์ จึงเริ่มก่อตัวขึ้น ในบริเวณแถวรัสเซียและยุโรปตะวันออก เมื่อปี พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947)

    อเมริกาในฐานะพี่เบิ้ม จึงกำหนดยุทธศาสตร์ปิดล้อม (Containment) ขึ้นมาและประกาศเป็นนโยบาย

    เรียกว่า Truman Doctrine โดยประธานาธิบดีแฮรี่ เอส ทรูแมน (Harry S Truman) (ดื้อ เหี้ยม!)

    เป้าหมายของยุทธศาสตร์นี้ หลักใหญ่มีแค่ 2 เรื่อง คือสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้กับอเมริกาและพวก กับกีดกันไม่ให้สหภาพโซเวียตมีโอกาสยื่นหน้า เข้ามาสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก นี่ล่ะธาตุแท้อเมริกา ร่วมรบด้วยกันมาดีๆ พอถึงเวลาไม่เป็นประชาธิปไตยตามแบบที่ตัวเองต้องการ ก็ออกอาการเหม็นหน้า อย่าเข้ามาใกล้นะ เดี๋ยวจะทำให้คนอื่นเขาติดโรคหมด

    Truman Doctrine นี้ อเมริกาจะใช้คนเดียวก็กลัวเหงา เลยจับประเทศแถวยุโรปมาเข้าร่วมโดย จัดตั้งเป็นองค์กรนาโต (NATO) ขึ้นมา ปัจจุบันมีทั้งหมด 28 ประเทศ กลุ่มประเทศที่ก่อตั้งและ/หรือเป็นประเทศหลักมี อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ไอซแลนด์ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ กรีซ ตุรกี และเยอรมัน อเมริกาใช้นาโตเป็นขนมล่อยุโรปให้ผูกติดอยู่กับอเมริกามาจนถึงทุกวันนี้

    เริ่มเห็นฝีมือการแบ่งขนม แบ่งค่ายของอเมริกาหรือยัง

    สูตรยอดนิยมของอเมริกา ที่ใช้มาตลอดคือ ล่อให้เหยื่อมารวมตัวกัน (อยู่ในคอก) ก่อนจะได้ดูแลง่าย จำไว้ให้ดี

    ด้านหนึ่ง อเมริกาจะออกหน้า สนับสนุนให้มีการรวมตัวของประชาชาติในเรื่องต่างๆ แต่อีกด้านอเมริกาก็จะสร้างเรื่อง โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้การรวมตัวนั้นมีปัญหา และแตกแยกกันเอง แข่งขันกันเอง ทะเลาะกันเอง เพื่อเป็นการเพิ่มบทบาทของพี่เบิ้ม ให้เป็นที่พึ่งพาขึ้นไปเรื่อยๆ (ต้นตำรับ value added! หรือจะเรียกให้ชัดคือ สร้างภาพ) ลองสังเกตดู

    พร้อมกับการเขยิบฐานะตัวเป็นพี่เบิ้ม อเมริกา ก็เริ่มทำตัวเป็นนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ แทนนักล่ารุ่นเก่าที่กำลังนอนเลียแผล

    ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นักล่าอาณานิคมตัวใหญ่แชมป์เก่าคือ อังกฤษ กร่างถึงขนาดประกาศว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกที่จักรภพอังกฤษ ตามมาติดๆคือ ฝรั่งเศส คู่แค้นของไทย กะจะเขมือบไทยมาตลอด วางแผนมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ แต่ที่อุกอาจสามานย์ ทำให้ไทยเจ็บช้ำจนกรมหลวงชุมพรฯ ต้องสักไว้ก็คือเหตุการณ์ ร.ศ.112 ในสมัยล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 หวังว่ายังคงจำกันได้ หรือรู้จักแต่ ม112

    นักล่า ที่มาเงียบๆ คอยเสียบ คอยเสี้ยม แล้วหยิบชิ้นปลามันคือ ฮอลันดา แต่นักล่า รุ่นเก๋าจริงๆ ต้องยกให้ สเปนและโปรตุเกศ แผนลึก อดทน และใจเย็น

    นักล่ายุคใหม่ ไม่ต้องการครอบครองดินแดน แบบนักล่ารุ่นเก่า แต่ต้องการกอบโกยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์เช่นน้ำมัน และแร่ธาตุสารพัด ของประเทศที่อุดมทรัพยากร แต่ด้อยปัญญา ของประเทศที่ยังไม่พัฒนา โดยเฉพาะในแถบอาเซีย และตะวันออกกลางที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ ในขณะที่แถวยุโรปเริ่มร่อยหรอ ส่วนอเมริกานั้นยังมีอยู่แยะ แต่งุบงิบแอบเก็บไว้ไม่ให้ใครรู้

    อย่าเข้าใจผิดว่าการล่าอาณานิคมยุคใหม่ จะใช้วิธียกทัพจับศึก ยึดดินแดนกันอย่างเมื่อก่อน รุ่นใหม่ ยุคใหม่นี่เขาทำกันเนียน

    ส่วนเครื่องมือในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ เขาใช้ตามคาถายอดนิยม

    อำนาจ คือ ทุน และทุน คือ อำนาจ …

    ยังไม่เข้าใจใช่ไหม งั้นต้องอ่านต่อไป

    รบชนะมาหมาดๆ อำนาจล้นฟ้า บีบให้โลกยกย่องเป็นพี่เบิ้ม จะปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปได้ยังไง พี่เบิ้มก็ต้องรีบเหยียด (มือยาวๆ อ้อมไปทั้งโลก โดยใช้วิธีการทั้งหลอก ทั้งล่อ เอาทุนนิยมมาล่อ เอาทุนเสรีมาจูง ให้ทุนมันเคลื่อนไหวอย่างเสรี ไม่มีอะไรมากักไง ไร้พรมแดนไงไม่ดีหรือ นายทุนก็ถลารับ แบบนี้มันก็ล้อมโลกได้โดยไม่รู้ตัวกัน คำว่าโลกาภิวัฒน์จึงเกิดขึ้น ชอบใช้กันนัก รู้ให้ทันแล้วกันว่าโลกาภิวัตน์ คืออะไร และเพื่อใคร

    ทุนนิยมเสรี มันเดินไปเองได้ที่ไหน ก็ต้องหาเครื่องมือให้ทุนมันเดินไปทั่วโลกได้ง่ายๆ เนียนๆ ดังนั้นหน่วย งานระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ (UN) ธนาคารโลก (World Bank) IMF WTO ฯลฯ และเหล่าบรรษัทข้ามชาติ ด้านการเงิน การค้า การอุตสาหกรรมต่างๆ จึงเกิดขึ้น หน่วยงานต่างๆ ดังกล่าว มีพี่เบิ้มและพวก เป็นเจ้าของหรือเป็นผู้กำกับทั้งนั้น รู้กันไหม

    สหประชาชาติ (UN) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) จากแนวคิดของผู้ชนะสงครามคือ พี่เบิ้มและอังกฤษคู่หู คือ มีคณะมนตรีถาวร 5 ประเทศ ไม่บอกก็น่าจะเดาออกนะ ว่าใครบ้าง ก็ผู้ชนะสงคราม นั่นแหละคือ อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน (เห็นรายชื่ออย่างนี้ อย่าเพิ่งแปลกใจ ตอนนั้น พี่เบิ้มเขายังวุ่นอยู่กับสร้างบทให้ตัวเองเป็นใหญ่ เลยยังไม่มีเวลา ไปไล่บี้ว่าที่คู่แข่งของตัว)

    ผู้ควักกระเป๋าจ่ายเงินสนับสนุนการดำเนินงานของ UN ก็คือสมาชิก คงพอเดากันได้ว่าใครจ่ายเงินสนับสนุนUN สูงสุด ไม่น่าตอบผิดนะ ก็พี่เบิ้มอเมริกานั่นไง ไม่งั้นจะได้ตำแหน่งเป็นจิ๊กโก๋๋คุมซอยเหรอ

    ธนาคารโลก (World Bank) ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับ IMF (International Monetary Fund) ในปี พ.ศ.2487 (ค.ศ.1944) แน่นอน ก็จากแนวคิดของพี่เบิ้ม อเมริกาและอังกฤษอีกนั่นแหละ สำนักงานใหญ่ขอทั้ง 2 องค์กร ตั้งอยู่ที่วอชิงตัน ดี ซี ของพี่เบิ้ม เงินสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากประเทศสมาชิก แต่ผู้ที่ควักกระเป๋าหนักที่สุดก็ เหมือนเดิมคือ พี่เบิ้ม อเมริกา คิดกันต่อแล้วกันอย่างนี้ แปลว่า พี่เบิ้มใจดีชะมัดหรือพี่เบิ้มกำลังท่องคาถา อำนาจ คือ ทุน ทุน คือ อำนาจ…. ลงทุนจิ๊บจ๊อย เดี๋ยวก็ได้คืนทั้งโลก 555

    ไปเปิดอากู (Google) ดู แล้วกัน ประธานธนาคารโลกตั้งกะก่อตั้ง (ค.ศ.1946) มาจนถึงปัจจุบัน (ค.ศ.2016) เป็นคนสัญชาติอเมริกันทั้งหมด …อาจมีคนโวย ไม่ใช่นะ คนสุดท้าย เจ้าจิม ยอง คิม (Jim Yong Kim) เป็นเกาหลีต่างหาก …เป็นเกาหลีแต่ถือสัญชาติอเมริกันครับผม …อืม เริ่มเห็นภาพลางๆ บ้างหรือยัง ครับ

    อันที่จริงระบบทุนนิยมมีมานานแล้วนะ แต่การขยายตัวทำได้ช้า เพราะต้องพึ่งการคมนาคมและการสื่อสาร ดังนั้นทุนนิยมยุคโบราณจึงเดินทางโดยเรือ รถไฟ ม้า อูฐ และนกพิราบ (ฮา!) ก็ตอนนั้นยังไม่มีเครื่องบิน โทรเลข โทรศัพท์ มือถือ ดาวเทียม Swift 3จี 4จี Wi-Fi ฯลฯ อะไรนี่นะ

    ทุนนิยมโลกไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขตดินแดน แต่ขึ้นกับศูนย์อำนาจในแต่ละช่วงเวลานั้น เช่น ฮอลันดาเป็นศูนย์ กลางของทุนนิยม สมัยศตวรรษที่ 17 ก็เล่นล่าตั้งกะอินโดนีเซียยันไปถึงอาฟริกา ต่อมาศูนย์อำนาจก็ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ เจ้าของคำกร่างว่า พระอาทิตย์ไม่ตกดินที่อังกฤษ จนมาถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่เบิ้มอเมริกา ถึงได้ขึ้นแท่นเป็น นัมเบอร์วัน ของศูนย์อำนาจ ไชโย! ตาไอแล้ว

    อเมริกา คิดเรื่องระบบทุนนิยมและกลไก ที่จะทำให้ตนเป็นศูนย์อำนาจ มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2

    แต่โอกาสยังไม่อำนวย หวยมาตกก็ตอนศูนย์อำนาจเก่าๆ พากันฉิบหาย หงายท้องหมด หลังสงคราม โลกครั้งที่ 2 นี่แหละ อเมริกาถึงเสนอแผนจัดโครงสร้างระเบียบโลกเสียใหม่ (New World Order) โดยเน้นที่พลังทุนนิยม ก็เป็นเศรษฐีนี่ มีปัญหาไหม ไม่นิยมทุนแล้วจะให้นิยมอะไร

    …อย่าลืมคาถา ทุน คือ อำนาจ อำนาจ คือ ทุน ง่ายๆ ตรงไปตรงมา

    ไม่ว่าจะเรียก New World Order หรือ Pax Americana หรือคำอะไรให้มันดูหรูหราเข้าใจยากจริงๆ แล้วมันก็คือแผนการล่าอาณานิคมยุคใหม่นั่นเอง โดยใช้ระบบทุนนิยม นำหน้าในการล่า เดี๋ยวก็มาถึงทุนนิยมสามานย์น่าใจเย็นไว้โยม

    ทุนจะมีก็ต้องค้าขาย เงินไม่ได้ตกลงมาจากฟ้าเหมือนฝนนะ จะค้าขายก็ต้องมีสินค้า สินค้ามาจากไหน มาจากการผลิต การผลิตต้องมีอะไรเป็นปัจจัย ต้องมีวัตถุดิบซีจ้ะ วัตถุดิบมาจากไหน ก็มาจากทรัพยากร ทรัพยากรมาจากไหน ก็ปล้นหรือต้มเขาเอาซีวุ้ย แหม กว่าจะโยงมาถึงคนเล่านิทานเกือบเป็นลม

    ดังนั้นนักสำรวจทรัพย์ของผู้อื่น ในคราบผู้เชี่ยวชาญ จึงเดินกันว่อน วิ่งกันพล่าน อุ๊ย ประเทศนี้ไอจองนะ ไอจะไปดูเอง เขาน่าสงสารนะ เห็นมีแต่ช้างเดินเต็มป่า วัวควายเต็มทุ่งนา

    ปี ค.ศ.1946 สงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกหมาดๆ อเมริกาส่งผู้เชี่ยวชาญ มาทำการสำรวจสถานะของประเทศไทยและสรุปว่า ไทยแลนด์ เป็นประเทศที่ยังมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และยังมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจดียิ่ง อย่างเหลือเชื่อ (อย่างเหลือเชื่อนี่ ผมเติมเองครับ เพราะอ่านแล้วเหลือเชื่อ นี่ขนาดบริหารกันไปแดกกันไป ยังแกร่งอย่างนี้เลยนะ ถ้าตั้งอกตั้งใจบริหาร แม่อีหนูเอ๊ย ลูกหลานเราคงเรียนฟรี ถนนคงปูด้วยทองคำ อย่างที่ ท่านอจ.ศึกฤทธิ์ว่าไว้จริงๆ นะ)

    รายงานฉบับดังกล่าว ทำให้อเมริกาน้ำลายเยิ้มเมื่อมองประเทศไทย ไม่ต่างกับที่โอบามา มองคุณนายเอ๋อเมื่อตอนมาสำรวจประเทศไทย เมื่อปลายปี พ.ศ.2555 นั่นแหละ

    แล้วทำอย่างไร อเมริกาถึงจะได้กินอาหารจานอร่อยชื่อ ไทยแลนด์ แดนสวรรค์ สยามเมืองยิ้ม

    ไม่ยาก อเมริกาใหญ่ผงาดมาขนาดนี้ ไม่ใช่ทำเป็นแค่ขี้ม้าไล่ยิงอินเดียนแดงออกจากถิ่นเก่าของเขานะวุ้ย

    คนเล่านิทาน
    ตอน 1 : กำเนิดจิ๊กโก๋ เรารู้จักบ้านเมืองเราแค่ไหน เคย ถามตัวเองกันบ้างไหมครับ แล้วเคยมีเวลานึกสงสัยกันบ้างไหมว่า ทำไมบ้านเมืองเราถึงเละขนาดนี้ ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง การศึกษาและสังคม เรารู้จักบ้านเมืองของเรา แบบมักง่าย รู้จักผ่านมุมมอง และความคิดของสื่อ ทั้งสื่อไทย และสื่อเทศ และสื่อส่วนใหญ่ ก็ให้ข้อมูลข่าวสาร แบบฟอกย้อม จะโดยตั้งใจเพราะมีใบสั่ง หรือเพราะสมรรถนะของสื่อส่วนใหญ่ ต่ำถึงต่ำมาก แทบทั้งนั้น ข้อมูลอีกหลายส่วน ก็มาจากนักวิชาการ ที่ไม่ต่างกับสื่อ ถ้าไม่ขายตัว ก็อธิบายแบบท่องจำ จอแคบ จอแบนไม่มีมิติ มองมุมเดียว เพราะมันง่ายดี แล้วเราจะได้ความรู้ ความเข้าใจแบบไหนกัน นี่ยังไม่นับข้อมูลที่เกิดจาก การตอแหลของนักการเมือง และบรรดาข้าราชการ ที่ทำหน้าที่ขี้ข้านักการเมือง ซึ่งขอใช้คำว่า บัดซบ จึงจะตรงกับพฤติกรรม ตัวเราเองก็เลยติดนิสัย ที่จะมองอะไรแบบมักง่าย เมื่อเราไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง ก็ไม่มีความเข้าใจจริง แล้วจะหาทางออก จะแก้ปัญหาได้อย่างไร ยิ่งแก้ก็เลยยิ่งพันยุ่งเละเทะ เหมือนลิงแก้แห ทำไมเราไม่มาทำความเข้าใจ ทำความรู้จักบ้านเมืองของเราอย่างจริงจังก่อน ด้วยการศึกษาขวนขวายด้วยตัวเอง ไม่ใช่ใช้แค่ตาดูหูฟังเอาจากสื่อจอแบน คำโกหกนักการเมืองหรือนักวิชาการ ประเภทมีความรู้เกินๆ ขาดๆ จะเข้าใจปัจจุบัน ก็ต้องรู้จักอดีตหรือประวัติศาสตร์ก่อน ไม่งั้นจะรู้ได้ยังไงว่า ต้นไม้ต้นไหนออกลูกเป็นพิษ แล้วก็อย่าทำตัวเป็นม้าแข่ง มองเห็นแต่ลู่วิ่งข้างหน้า หัดมองรอบตัว รู้จักเพื่อนบ้าน รู้จักโลกบ้าง ไม่ใช่จะมีแต่เธอ ฉัน ลูกเรา น้องหมา และน้ำเน่าในทีวี กับจิ้มข้อความไร้สาระ ส่งกันไปมาตามหน้าจอ ประเภท ส่ง 10 คน จะมีโชค ก่อนอื่นควรรู้จักโลกกว้างเสียก่อน ประเทศไทยไม่ใช่ตั้งอยู่โดด ๆ ประเทศเดียวเรามีเพื่อนบ้านร่วมทวีป ร่วมโลกอีกแยะ เรารู้จักเพื่อนร่วมโลก หรือ เพื่อนบ้านเราแค่ไหนกัน จะอยู่บ้านให้สบายใจ มันก็ควรจะรู้จักเสียหน่อยว่า ใครเป็นใครในซอย มีจิ๊กโก๋๋ยืนกร่าง เบ่งกล้ามอยู่ปากซอยหรือเปล่า ถ้ามีต้องรู้ว่ามันเป็นใคร ฝีไม้ลายมือขนาดไหน ของจริง หรือ ราคาคุย งั้นเรามาเริ่มต้น ด้วยการรู้จักจิ๊กโก๋๋ปากซอยกันซะหน่อยดีไหม รู้จักแล้ว จะได้รู้ว่าเราจะอยู่ในซอยนี้แบบไหน อยู่แบบตัวห่อหน้าเหี่ยว หรือ อยู่อย่างสบายใจ นี่บ้านกูนะ จะคบกับชาวซอยด้วยกันอย่าง ไร และแสดงท่าที หรือจัดการอย่างไรดีกับเจ้าจิ๊กโก๋๋ปากซอย และจะอ่านนิทานนี้ให้สนุก จะรู้จักโลกกว้าง ต้องรู้จักคาถาการครองโลก “อำนาจ คือ ทุน” และ “ทุน คือ อำนาจ” จำให้แม่น มันจะทำให้เราเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้ ประเทศนี้ และทั้งหลาย ทั้งปวง ที่อยู่รอบตัวเราง่ายขึ้น สงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นเพราะอะไร ประวัติศาสตร์ที่เขาเขียนให้เราเรียน สมัยเป็นนักเรียน เขาก็เขียนให้เราเข้าใจไปว่า มันเป็นเรื่องของการต้องการแผ่อำนาจของประเทศผู้รุกราน และประเทศผู้ถูกรุกรานก็จ๋อยสิ จำเป็นต้องสู้ หรือเข้าสู่สงครามกับเขาไปด้วย เพื่อเอาตัวรอด เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศตน แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นอย่างนั้นแน่หรือ กลับไปอ่านคาถาครองโลกข้างต้นสัก 10 เที่ยว แล้วอ่านนิทานนี้ต่อ อาจจะรู้จักประวัติศาสตร์ ในมุมมองใหม่ สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2482 (ค.ศ.1934) จบเอาปี พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) รวมเวลา 6ปี ตลอดเวลาการสู้รบ เขาใช้ทวีปยุโรปและเอเซียเป็นสนามประลองกำลัง พอเสร็จสงคราม ฝ่ายผู้แพ้สงครามเช่น เยอรมันและญี่ปุ่น ก็ถูกน็อกคาสนามบอบช้ำฉิบหาย ตามประสาผู้แพ้ ส่วนฝ่ายสัมพันธ มิตรผู้ชนะสงครามเช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส ยุโรป รัสเซีย และแม้แต่จีน ก็ใช่ว่าจะไม่ยับไม่เยิน แต่ละรายดูไม่จืดเชียว ยืนพิงเชือกเกือบนับ 10 เกือบทั้งนั้น ….มีแต่อเมริกาเท่านั้นแหละ ที่โดนแค่สอยคาง เรือรบล่มไม่กี่ลำ ที่เพิร์ล ฮาเบอร์ (Pearl Harbor) ฮาวาย ส่วนบ้านตัวที่ทวีปอเมริกาปลอดภัยดี ไม่มีบุบไม่มีย่น… แค่นี้ทำเป็นยั๊วะ ถือโอกาสประกาศสงครามกับญี่ปุ่น เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร (โอกาสทองมา แล้ว) เมื่อชนะสงครามอเมริกาจึงสถาปนาตนเองเป็นจิ๊กโก๋๋คุมซอย เป็นพี่เบิ้มดูแลโลกทั้งใบ นั่นไงมาแล้ว … จิ๊กโก๋๋ปากซอย! หลังจากการทำสงครามโลก เศรษฐกิจของแต่ละประเทศก็ตกต่ำล่มจม ความแตกต่างทางสังคมเห็นชัดขึ้น เกิดช่องว่างระหว่างคนรวยคนจนชัดเจน ไม่ต้องเอาแว่นมาขยาย ระบอบคอมมิวนิสต์ จึงเริ่มก่อตัวขึ้น ในบริเวณแถวรัสเซียและยุโรปตะวันออก เมื่อปี พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947) อเมริกาในฐานะพี่เบิ้ม จึงกำหนดยุทธศาสตร์ปิดล้อม (Containment) ขึ้นมาและประกาศเป็นนโยบาย เรียกว่า Truman Doctrine โดยประธานาธิบดีแฮรี่ เอส ทรูแมน (Harry S Truman) (ดื้อ เหี้ยม!) เป้าหมายของยุทธศาสตร์นี้ หลักใหญ่มีแค่ 2 เรื่อง คือสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้กับอเมริกาและพวก กับกีดกันไม่ให้สหภาพโซเวียตมีโอกาสยื่นหน้า เข้ามาสู่ศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก นี่ล่ะธาตุแท้อเมริกา ร่วมรบด้วยกันมาดีๆ พอถึงเวลาไม่เป็นประชาธิปไตยตามแบบที่ตัวเองต้องการ ก็ออกอาการเหม็นหน้า อย่าเข้ามาใกล้นะ เดี๋ยวจะทำให้คนอื่นเขาติดโรคหมด Truman Doctrine นี้ อเมริกาจะใช้คนเดียวก็กลัวเหงา เลยจับประเทศแถวยุโรปมาเข้าร่วมโดย จัดตั้งเป็นองค์กรนาโต (NATO) ขึ้นมา ปัจจุบันมีทั้งหมด 28 ประเทศ กลุ่มประเทศที่ก่อตั้งและ/หรือเป็นประเทศหลักมี อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ไอซแลนด์ อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ กรีซ ตุรกี และเยอรมัน อเมริกาใช้นาโตเป็นขนมล่อยุโรปให้ผูกติดอยู่กับอเมริกามาจนถึงทุกวันนี้ เริ่มเห็นฝีมือการแบ่งขนม แบ่งค่ายของอเมริกาหรือยัง สูตรยอดนิยมของอเมริกา ที่ใช้มาตลอดคือ ล่อให้เหยื่อมารวมตัวกัน (อยู่ในคอก) ก่อนจะได้ดูแลง่าย จำไว้ให้ดี ด้านหนึ่ง อเมริกาจะออกหน้า สนับสนุนให้มีการรวมตัวของประชาชาติในเรื่องต่างๆ แต่อีกด้านอเมริกาก็จะสร้างเรื่อง โดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้การรวมตัวนั้นมีปัญหา และแตกแยกกันเอง แข่งขันกันเอง ทะเลาะกันเอง เพื่อเป็นการเพิ่มบทบาทของพี่เบิ้ม ให้เป็นที่พึ่งพาขึ้นไปเรื่อยๆ (ต้นตำรับ value added! หรือจะเรียกให้ชัดคือ สร้างภาพ) ลองสังเกตดู พร้อมกับการเขยิบฐานะตัวเป็นพี่เบิ้ม อเมริกา ก็เริ่มทำตัวเป็นนักล่าอาณานิคมยุคใหม่ แทนนักล่ารุ่นเก่าที่กำลังนอนเลียแผล ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 นักล่าอาณานิคมตัวใหญ่แชมป์เก่าคือ อังกฤษ กร่างถึงขนาดประกาศว่า ดวงอาทิตย์ไม่มีวันตกที่จักรภพอังกฤษ ตามมาติดๆคือ ฝรั่งเศส คู่แค้นของไทย กะจะเขมือบไทยมาตลอด วางแผนมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ แต่ที่อุกอาจสามานย์ ทำให้ไทยเจ็บช้ำจนกรมหลวงชุมพรฯ ต้องสักไว้ก็คือเหตุการณ์ ร.ศ.112 ในสมัยล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 หวังว่ายังคงจำกันได้ หรือรู้จักแต่ ม112 นักล่า ที่มาเงียบๆ คอยเสียบ คอยเสี้ยม แล้วหยิบชิ้นปลามันคือ ฮอลันดา แต่นักล่า รุ่นเก๋าจริงๆ ต้องยกให้ สเปนและโปรตุเกศ แผนลึก อดทน และใจเย็น นักล่ายุคใหม่ ไม่ต้องการครอบครองดินแดน แบบนักล่ารุ่นเก่า แต่ต้องการกอบโกยทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์เช่นน้ำมัน และแร่ธาตุสารพัด ของประเทศที่อุดมทรัพยากร แต่ด้อยปัญญา ของประเทศที่ยังไม่พัฒนา โดยเฉพาะในแถบอาเซีย และตะวันออกกลางที่ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ ในขณะที่แถวยุโรปเริ่มร่อยหรอ ส่วนอเมริกานั้นยังมีอยู่แยะ แต่งุบงิบแอบเก็บไว้ไม่ให้ใครรู้ อย่าเข้าใจผิดว่าการล่าอาณานิคมยุคใหม่ จะใช้วิธียกทัพจับศึก ยึดดินแดนกันอย่างเมื่อก่อน รุ่นใหม่ ยุคใหม่นี่เขาทำกันเนียน ส่วนเครื่องมือในการล่าอาณานิคมยุคใหม่ เขาใช้ตามคาถายอดนิยม อำนาจ คือ ทุน และทุน คือ อำนาจ … ยังไม่เข้าใจใช่ไหม งั้นต้องอ่านต่อไป รบชนะมาหมาดๆ อำนาจล้นฟ้า บีบให้โลกยกย่องเป็นพี่เบิ้ม จะปล่อยให้โอกาสทองหลุดมือไปได้ยังไง พี่เบิ้มก็ต้องรีบเหยียด (มือยาวๆ อ้อมไปทั้งโลก โดยใช้วิธีการทั้งหลอก ทั้งล่อ เอาทุนนิยมมาล่อ เอาทุนเสรีมาจูง ให้ทุนมันเคลื่อนไหวอย่างเสรี ไม่มีอะไรมากักไง ไร้พรมแดนไงไม่ดีหรือ นายทุนก็ถลารับ แบบนี้มันก็ล้อมโลกได้โดยไม่รู้ตัวกัน คำว่าโลกาภิวัฒน์จึงเกิดขึ้น ชอบใช้กันนัก รู้ให้ทันแล้วกันว่าโลกาภิวัตน์ คืออะไร และเพื่อใคร ทุนนิยมเสรี มันเดินไปเองได้ที่ไหน ก็ต้องหาเครื่องมือให้ทุนมันเดินไปทั่วโลกได้ง่ายๆ เนียนๆ ดังนั้นหน่วย งานระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ (UN) ธนาคารโลก (World Bank) IMF WTO ฯลฯ และเหล่าบรรษัทข้ามชาติ ด้านการเงิน การค้า การอุตสาหกรรมต่างๆ จึงเกิดขึ้น หน่วยงานต่างๆ ดังกล่าว มีพี่เบิ้มและพวก เป็นเจ้าของหรือเป็นผู้กำกับทั้งนั้น รู้กันไหม สหประชาชาติ (UN) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) จากแนวคิดของผู้ชนะสงครามคือ พี่เบิ้มและอังกฤษคู่หู คือ มีคณะมนตรีถาวร 5 ประเทศ ไม่บอกก็น่าจะเดาออกนะ ว่าใครบ้าง ก็ผู้ชนะสงคราม นั่นแหละคือ อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน (เห็นรายชื่ออย่างนี้ อย่าเพิ่งแปลกใจ ตอนนั้น พี่เบิ้มเขายังวุ่นอยู่กับสร้างบทให้ตัวเองเป็นใหญ่ เลยยังไม่มีเวลา ไปไล่บี้ว่าที่คู่แข่งของตัว) ผู้ควักกระเป๋าจ่ายเงินสนับสนุนการดำเนินงานของ UN ก็คือสมาชิก คงพอเดากันได้ว่าใครจ่ายเงินสนับสนุนUN สูงสุด ไม่น่าตอบผิดนะ ก็พี่เบิ้มอเมริกานั่นไง ไม่งั้นจะได้ตำแหน่งเป็นจิ๊กโก๋๋คุมซอยเหรอ ธนาคารโลก (World Bank) ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับ IMF (International Monetary Fund) ในปี พ.ศ.2487 (ค.ศ.1944) แน่นอน ก็จากแนวคิดของพี่เบิ้ม อเมริกาและอังกฤษอีกนั่นแหละ สำนักงานใหญ่ขอทั้ง 2 องค์กร ตั้งอยู่ที่วอชิงตัน ดี ซี ของพี่เบิ้ม เงินสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากประเทศสมาชิก แต่ผู้ที่ควักกระเป๋าหนักที่สุดก็ เหมือนเดิมคือ พี่เบิ้ม อเมริกา คิดกันต่อแล้วกันอย่างนี้ แปลว่า พี่เบิ้มใจดีชะมัดหรือพี่เบิ้มกำลังท่องคาถา อำนาจ คือ ทุน ทุน คือ อำนาจ…. ลงทุนจิ๊บจ๊อย เดี๋ยวก็ได้คืนทั้งโลก 555 ไปเปิดอากู (Google) ดู แล้วกัน ประธานธนาคารโลกตั้งกะก่อตั้ง (ค.ศ.1946) มาจนถึงปัจจุบัน (ค.ศ.2016) เป็นคนสัญชาติอเมริกันทั้งหมด …อาจมีคนโวย ไม่ใช่นะ คนสุดท้าย เจ้าจิม ยอง คิม (Jim Yong Kim) เป็นเกาหลีต่างหาก …เป็นเกาหลีแต่ถือสัญชาติอเมริกันครับผม …อืม เริ่มเห็นภาพลางๆ บ้างหรือยัง ครับ อันที่จริงระบบทุนนิยมมีมานานแล้วนะ แต่การขยายตัวทำได้ช้า เพราะต้องพึ่งการคมนาคมและการสื่อสาร ดังนั้นทุนนิยมยุคโบราณจึงเดินทางโดยเรือ รถไฟ ม้า อูฐ และนกพิราบ (ฮา!) ก็ตอนนั้นยังไม่มีเครื่องบิน โทรเลข โทรศัพท์ มือถือ ดาวเทียม Swift 3จี 4จี Wi-Fi ฯลฯ อะไรนี่นะ ทุนนิยมโลกไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขตดินแดน แต่ขึ้นกับศูนย์อำนาจในแต่ละช่วงเวลานั้น เช่น ฮอลันดาเป็นศูนย์ กลางของทุนนิยม สมัยศตวรรษที่ 17 ก็เล่นล่าตั้งกะอินโดนีเซียยันไปถึงอาฟริกา ต่อมาศูนย์อำนาจก็ย้ายไปอยู่ที่อังกฤษ เจ้าของคำกร่างว่า พระอาทิตย์ไม่ตกดินที่อังกฤษ จนมาถึงช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 พี่เบิ้มอเมริกา ถึงได้ขึ้นแท่นเป็น นัมเบอร์วัน ของศูนย์อำนาจ ไชโย! ตาไอแล้ว อเมริกา คิดเรื่องระบบทุนนิยมและกลไก ที่จะทำให้ตนเป็นศูนย์อำนาจ มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่โอกาสยังไม่อำนวย หวยมาตกก็ตอนศูนย์อำนาจเก่าๆ พากันฉิบหาย หงายท้องหมด หลังสงคราม โลกครั้งที่ 2 นี่แหละ อเมริกาถึงเสนอแผนจัดโครงสร้างระเบียบโลกเสียใหม่ (New World Order) โดยเน้นที่พลังทุนนิยม ก็เป็นเศรษฐีนี่ มีปัญหาไหม ไม่นิยมทุนแล้วจะให้นิยมอะไร …อย่าลืมคาถา ทุน คือ อำนาจ อำนาจ คือ ทุน ง่ายๆ ตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเรียก New World Order หรือ Pax Americana หรือคำอะไรให้มันดูหรูหราเข้าใจยากจริงๆ แล้วมันก็คือแผนการล่าอาณานิคมยุคใหม่นั่นเอง โดยใช้ระบบทุนนิยม นำหน้าในการล่า เดี๋ยวก็มาถึงทุนนิยมสามานย์น่าใจเย็นไว้โยม ทุนจะมีก็ต้องค้าขาย เงินไม่ได้ตกลงมาจากฟ้าเหมือนฝนนะ จะค้าขายก็ต้องมีสินค้า สินค้ามาจากไหน มาจากการผลิต การผลิตต้องมีอะไรเป็นปัจจัย ต้องมีวัตถุดิบซีจ้ะ วัตถุดิบมาจากไหน ก็มาจากทรัพยากร ทรัพยากรมาจากไหน ก็ปล้นหรือต้มเขาเอาซีวุ้ย แหม กว่าจะโยงมาถึงคนเล่านิทานเกือบเป็นลม ดังนั้นนักสำรวจทรัพย์ของผู้อื่น ในคราบผู้เชี่ยวชาญ จึงเดินกันว่อน วิ่งกันพล่าน อุ๊ย ประเทศนี้ไอจองนะ ไอจะไปดูเอง เขาน่าสงสารนะ เห็นมีแต่ช้างเดินเต็มป่า วัวควายเต็มทุ่งนา ปี ค.ศ.1946 สงครามโลกครั้งที่ 2 เลิกหมาดๆ อเมริกาส่งผู้เชี่ยวชาญ มาทำการสำรวจสถานะของประเทศไทยและสรุปว่า ไทยแลนด์ เป็นประเทศที่ยังมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ และยังมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจดียิ่ง อย่างเหลือเชื่อ (อย่างเหลือเชื่อนี่ ผมเติมเองครับ เพราะอ่านแล้วเหลือเชื่อ นี่ขนาดบริหารกันไปแดกกันไป ยังแกร่งอย่างนี้เลยนะ ถ้าตั้งอกตั้งใจบริหาร แม่อีหนูเอ๊ย ลูกหลานเราคงเรียนฟรี ถนนคงปูด้วยทองคำ อย่างที่ ท่านอจ.ศึกฤทธิ์ว่าไว้จริงๆ นะ) รายงานฉบับดังกล่าว ทำให้อเมริกาน้ำลายเยิ้มเมื่อมองประเทศไทย ไม่ต่างกับที่โอบามา มองคุณนายเอ๋อเมื่อตอนมาสำรวจประเทศไทย เมื่อปลายปี พ.ศ.2555 นั่นแหละ แล้วทำอย่างไร อเมริกาถึงจะได้กินอาหารจานอร่อยชื่อ ไทยแลนด์ แดนสวรรค์ สยามเมืองยิ้ม ไม่ยาก อเมริกาใหญ่ผงาดมาขนาดนี้ ไม่ใช่ทำเป็นแค่ขี้ม้าไล่ยิงอินเดียนแดงออกจากถิ่นเก่าของเขานะวุ้ย คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 666 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! กราดยิงศูนย์บริจาค "กัน จอมพลัง"ที่ตลาด อตก.เสียชีวิต 4 ราย ได้ภาพคนร้ายแล้ว ทั้งนี้มีรายงานว่า คนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้ และเร่งไล่ล่าจับกุมตัวแล้วแล้ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนติดตัว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071184

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ด่วน! กราดยิงศูนย์บริจาค "กัน จอมพลัง"ที่ตลาด อตก.เสียชีวิต 4 ราย ได้ภาพคนร้ายแล้ว ทั้งนี้มีรายงานว่า คนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้ และเร่งไล่ล่าจับกุมตัวแล้วแล้ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธปืนติดตัว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000071184 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 562 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์ล่าสุดทิศทาง Pokrovsk

    กองกำลัง "วอสต็อก" แห่งกองทัพรัสเซียได้เข้ายึดครองเมืองโนโวคัตสเก (Novokhatske) ทางใต้ของ Pokrovsk ได้เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง (วิดีโอประกอบ)

    ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของกองกำลังรัสเซียในทิศทาง Udachne และ Rodynske คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดล้อม Pokrovsk
    สถานการณ์ล่าสุดทิศทาง Pokrovsk กองกำลัง "วอสต็อก" แห่งกองทัพรัสเซียได้เข้ายึดครองเมืองโนโวคัตสเก (Novokhatske) ทางใต้ของ Pokrovsk ได้เพิ่มอีกหนึ่งแห่ง (วิดีโอประกอบ) ขณะเดียวกัน การเคลื่อนไหวของกองกำลังรัสเซียในทิศทาง Udachne และ Rodynske คืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดล้อม Pokrovsk
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฐานทัพแลกภาษีทรัมป์ เรียกแขก-ชักศึกเข้าบ้าน?

    ในที่สุดนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าสหรัฐอเมริกาขอใช้ฐานทัพเรือพังงา เพราะอยู่ในงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อีกทั้งอยู่ในแผนของกองทัพเรืออยู่แล้ว แต่เป็นคนละเรื่องกับการเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ หลังนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ เปิดโปงว่าฝ่ายสหรัฐฯ ได้ต่อรอง 3-4 เรื่อง แลกกับเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ไทยโดนไป 36%

    ได้แก่ การปล่อยตัวนายพอล แชมเบอร์ส อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร ชาวอเมริกัน ผู้ต้องหาคดี 112 การเปิดให้ประชาชนคนไทยมีสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะมาตรา 112 การห้ามส่งชาวอุยกูร์กลับไปจีนเพื่อที่จะกั๊กจีนเรื่องซินเกียง และการขอใช้ฐานทัพเรือพังงา เพื่อเลื่อนกองทัพเรือของสหรัฐฯ มาบล็อกช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันไปประเทศจีนด้วย ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร บิดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รู้อยู่แล้วแต่ไม่กล้าพูด

    ถึงกระนั้น ยังมีการทำสงครามข่าวสาร ด้วยแหล่งข่าวในกองทัพเรือที่ไม่เปิดเผยนาม ระบุว่า ยังไม่เคยมีข้อเสนอว่าจะใช้ฐานทัพเรือพังงาเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐฯ แม้มีแผนพัฒนาแต่ติดขัดเรื่องงบประมาณ ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ยืนยันถึงขั้นที่สหรัฐฯ จะมาร่วมพัฒนาหรือสนับสนุนบประมาณ แต้อ้างว่าไม่สามารถทำได้ ถึงกระนั้นตามข้อตกลงระหว่างไทยกับสหรัฐฯ การส่งกำลังบำรุง สหรัฐฯ สามารถจอดเรือที่ฐานทัพเรือพังงา และรับการส่งกำลังบำรุง เติมน้ำมัน หรือพักเรือได้อยู่แล้วเช่นเดียวกับประเทศอื่น

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว The Publisher เตือนว่าไทยต้องอยู่บนหลักว่า ไม่ชักศึกเข้าบ้าน ไม่ให้ตั้งฐานทัพถาวร และหากมีข้อตกลงใดเกิดขึ้น ต้องผ่านสภาฯ ให้ประชาชนรับรู้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สหรัฐฯ ต้องการยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีนที่ลาดตระเวนในพื้นที่เชื่อมโยงกับอินโด-แปซิฟิกในรูปแบบครึ่งวงแหวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งไทยต้องมีข้อเสนอกับจีนควบคู่ไปด้วย เพื่อรักษาสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ หากเกิดสงครามระหว่างทั้งสองฝ่าย

    ขณะที่นายกรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว The Better ระบุว่า ทีมประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธข้อเสนอจากไทย เพราะต้องการฐานทัพในไทยและให้ไทยซื้ออาวุธเพิ่ม จากที่ให้ไทยแยกตัวจากเศรษฐกิจจีน (Decoupling) จะกลายเป็นการบีบให้ไทยเลือกข้างสหรัฐฯ ในด้านความมั่นคง และกลายเป็นหอกข้างแคร่ เพราะไทยเป็นหลังบ้านที่จะเข้าสู่จีน และสหรัฐฯ ล้มเหลวในการสร้างแนวพันธมิตรอินโด-แปซิฟิกเพื่อล้อมจีน หากปล่อยเช่นนั้นจะชักศึกเข้าบ้านโดยแท้

    #Newskit
    ฐานทัพแลกภาษีทรัมป์ เรียกแขก-ชักศึกเข้าบ้าน? ในที่สุดนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าสหรัฐอเมริกาขอใช้ฐานทัพเรือพังงา เพราะอยู่ในงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อีกทั้งอยู่ในแผนของกองทัพเรืออยู่แล้ว แต่เป็นคนละเรื่องกับการเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ หลังนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ เปิดโปงว่าฝ่ายสหรัฐฯ ได้ต่อรอง 3-4 เรื่อง แลกกับเรื่องภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่ไทยโดนไป 36% ได้แก่ การปล่อยตัวนายพอล แชมเบอร์ส อาจารย์มหาวิทยาลัยนเรศวร ชาวอเมริกัน ผู้ต้องหาคดี 112 การเปิดให้ประชาชนคนไทยมีสิทธิเสรีภาพในการวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะมาตรา 112 การห้ามส่งชาวอุยกูร์กลับไปจีนเพื่อที่จะกั๊กจีนเรื่องซินเกียง และการขอใช้ฐานทัพเรือพังงา เพื่อเลื่อนกองทัพเรือของสหรัฐฯ มาบล็อกช่องแคบมะละกา ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันไปประเทศจีนด้วย ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร บิดา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รู้อยู่แล้วแต่ไม่กล้าพูด ถึงกระนั้น ยังมีการทำสงครามข่าวสาร ด้วยแหล่งข่าวในกองทัพเรือที่ไม่เปิดเผยนาม ระบุว่า ยังไม่เคยมีข้อเสนอว่าจะใช้ฐานทัพเรือพังงาเป็นฐานทัพเรือของสหรัฐฯ แม้มีแผนพัฒนาแต่ติดขัดเรื่องงบประมาณ ฝ่ายรัฐบาลยังไม่ยืนยันถึงขั้นที่สหรัฐฯ จะมาร่วมพัฒนาหรือสนับสนุนบประมาณ แต้อ้างว่าไม่สามารถทำได้ ถึงกระนั้นตามข้อตกลงระหว่างไทยกับสหรัฐฯ การส่งกำลังบำรุง สหรัฐฯ สามารถจอดเรือที่ฐานทัพเรือพังงา และรับการส่งกำลังบำรุง เติมน้ำมัน หรือพักเรือได้อยู่แล้วเช่นเดียวกับประเทศอื่น รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิชาการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว The Publisher เตือนว่าไทยต้องอยู่บนหลักว่า ไม่ชักศึกเข้าบ้าน ไม่ให้ตั้งฐานทัพถาวร และหากมีข้อตกลงใดเกิดขึ้น ต้องผ่านสภาฯ ให้ประชาชนรับรู้ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน สหรัฐฯ ต้องการยุทธศาสตร์ปิดล้อมจีนที่ลาดตระเวนในพื้นที่เชื่อมโยงกับอินโด-แปซิฟิกในรูปแบบครึ่งวงแหวนเพิ่มขึ้น อีกทั้งไทยต้องมีข้อเสนอกับจีนควบคู่ไปด้วย เพื่อรักษาสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ หากเกิดสงครามระหว่างทั้งสองฝ่าย ขณะที่นายกรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร สำนักข่าว The Better ระบุว่า ทีมประธานาธิบดีทรัมป์ปฏิเสธข้อเสนอจากไทย เพราะต้องการฐานทัพในไทยและให้ไทยซื้ออาวุธเพิ่ม จากที่ให้ไทยแยกตัวจากเศรษฐกิจจีน (Decoupling) จะกลายเป็นการบีบให้ไทยเลือกข้างสหรัฐฯ ในด้านความมั่นคง และกลายเป็นหอกข้างแคร่ เพราะไทยเป็นหลังบ้านที่จะเข้าสู่จีน และสหรัฐฯ ล้มเหลวในการสร้างแนวพันธมิตรอินโด-แปซิฟิกเพื่อล้อมจีน หากปล่อยเช่นนั้นจะชักศึกเข้าบ้านโดยแท้ #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 759 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี

    การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล

    มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    3/ กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 422 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 2/
    กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี

    การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล

    มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    2/ กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 1/
    กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี

    การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล

    มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    1/ กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 380 มุมมอง 0 รีวิว
  • · การตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมยืนยันว่ากรมสรรพากรล้าสมัยไปแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังล่มสลาย และกฎหมายภาษีระหว่างประเทศกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ภายใต้โปรโตคอล GESARA ธนาคารกลางสหรัฐสูญเสียหน้าที่การสั่งการไปแล้ว โหนดควอนตัมกำลังดำเนินการกระจายความมั่งคั่งในระดับโลก การยกหนี้ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ และกระเป๋าเงินคืนสำหรับทุกประเทศที่ถูกทำลายโดยเผด็จการของธนาคารกลาง

    · กวนตานาโม: ความยุติธรรมทางทหารแข็งแกร่งขึ้น อ่าวกวนตานาโมเป็นที่ตั้งศาลที่เข้มแข็งที่สุดในโลกในปัจจุบัน วันที่ 4 มิถุนายนเป็นวันก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินรุ่นใหม่ ทางเดินกักขังแบบไบโอเมตริกซ์ ปีกกักขังแยก และศูนย์เฝ้าระวังที่บูรณาการกับ AI

    · ข่าวกรองทางทหารยืนยันว่าการแฮ็กข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่สกัดกั้นได้ ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมของไบเดนในสวิตเซอร์แลนด์ ถูกบล็อกก่อนที่พวกมันจะดูดสินทรัพย์สาธารณะของ QFS เข้าสู่กองทุนดำดั้งเดิมได้

    · คำสารภาพอันยอดเยี่ยมกว่า 2,000 ชั่วโมงยืนยันว่าห้องทดลองโคลนนิ่งบนดวงจันทร์เปิดดำเนินการจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023 โปรแกรมกระตุ้น COVID ถูกฝังชิปติดตามประสาทไว้ คาราวานวัคซีนของ FEMA ถูกกำหนดให้แพร่กระจายอาวุธชีวภาพ ห้องทดลองหายไปแล้ว คำสารภาพถูกบันทึกไว้ และโลกจะรู้ในไม่ช้า

    · QFS: หัวใจของการรีเซ็ต ลืมเงินตรา ลืมเงินดิจิทัลไปได้เลย QFS ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจโลกใหม่ ชาติที่มีอำนาจอธิปไตยทั้งหมดที่สอดคล้องกับพันธมิตรกำลังดำเนินการโหนด QFS แบบคู่ขนาน ห้องนิรภัยทองคำดิจิทัลออนไลน์แล้ว การสร้างโทเค็นสกุลเงินสายรุ้งกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ห้องนิรภัยที่เชื่อมต่อกับการเข้ารหัสควอนตัมระดับเทสลาอยู่ในช่วงล็อกขั้นสุดท้าย

    · เงินเก่าของคุณกำลังจะตาย ความมั่งคั่งใหม่ของคุณเป็นแบบควอนตัม ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางทหาร ทุกธุรกรรม ทุกบัญชีแยกประเภท สาธารณะ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอิสระจากการควบคุมของ Rothschild ตลอดไป

    · ลอสแองเจลิสถูกปิดล้อม — การฟื้นฟูทางการทหารกำลังดำเนินไป การก่อจลาจลในแอลเอไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นการหายใจเฮือกสุดท้ายของเจ้าหน้าที่โลกาภิวัตน์ที่แฝงตัวอยู่ในการเมืองของเมืองและเครือข่ายเอ็นจีโอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ทรัมป์ได้อนุญาตให้มีการส่งกำลังทหารทั้งหมดเพื่อยึดแอลเอคืนจากกลุ่มประสานงานการประท้วงที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มค้ายา เซิร์ฟเวอร์ข่าวกรองต่างประเทศ และตัวแทนที่ได้รับเงินทุนจากโซรอส

    · เครือข่ายเข้ารหัสที่เชื่อมโยงกับกาตาร์ บรัสเซลส์ และซูริก ควบคุมการปฏิบัติการระดับถนนผ่านแอนติฟาและตัวแทนที่ได้รับการสนับสนุนจาก WEF ฝูงบินแบล็กฮอว์กควบคุมน่านฟ้าในปัจจุบัน ยานเกราะแคมป์เพนเดิลตันได้ล็อกบริเวณทางแยกสำคัญ ผู้นำกลุ่มค้ายาที่แฝงตัวอยู่ใน "เขตปลอดภัย" ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวถูกกำจัดด้วยการโจมตีที่แม่นยำ

    · JAG กำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับรัฐ รวมถึงแกวิน นิวซัมและคาเรน บาสส์ ในข้อหาสมคบคิดและก่อกบฏในต่างประเทศ

    · การตรวจสอบของกระทรวงกลาโหมยืนยันว่ากรมสรรพากรล้าสมัยไปแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังล่มสลาย และกฎหมายภาษีระหว่างประเทศกำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ภายใต้โปรโตคอล GESARA ธนาคารกลางสหรัฐสูญเสียหน้าที่การสั่งการไปแล้ว โหนดควอนตัมกำลังดำเนินการกระจายความมั่งคั่งในระดับโลก การยกหนี้ สกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ และกระเป๋าเงินคืนสำหรับทุกประเทศที่ถูกทำลายโดยเผด็จการของธนาคารกลาง · กวนตานาโม: ความยุติธรรมทางทหารแข็งแกร่งขึ้น อ่าวกวนตานาโมเป็นที่ตั้งศาลที่เข้มแข็งที่สุดในโลกในปัจจุบัน วันที่ 4 มิถุนายนเป็นวันก่อสร้างโครงสร้างใต้ดินรุ่นใหม่ ทางเดินกักขังแบบไบโอเมตริกซ์ ปีกกักขังแยก และศูนย์เฝ้าระวังที่บูรณาการกับ AI · ข่าวกรองทางทหารยืนยันว่าการแฮ็กข้อมูลไบโอเมตริกซ์ที่สกัดกั้นได้ ซึ่งดำเนินการโดยผู้ควบคุมของไบเดนในสวิตเซอร์แลนด์ ถูกบล็อกก่อนที่พวกมันจะดูดสินทรัพย์สาธารณะของ QFS เข้าสู่กองทุนดำดั้งเดิมได้ · คำสารภาพอันยอดเยี่ยมกว่า 2,000 ชั่วโมงยืนยันว่าห้องทดลองโคลนนิ่งบนดวงจันทร์เปิดดำเนินการจนถึงเดือนพฤษภาคม 2023 โปรแกรมกระตุ้น COVID ถูกฝังชิปติดตามประสาทไว้ คาราวานวัคซีนของ FEMA ถูกกำหนดให้แพร่กระจายอาวุธชีวภาพ ห้องทดลองหายไปแล้ว คำสารภาพถูกบันทึกไว้ และโลกจะรู้ในไม่ช้า · QFS: หัวใจของการรีเซ็ต ลืมเงินตรา ลืมเงินดิจิทัลไปได้เลย QFS ไม่ใช่ทฤษฎี แต่เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจโลกใหม่ ชาติที่มีอำนาจอธิปไตยทั้งหมดที่สอดคล้องกับพันธมิตรกำลังดำเนินการโหนด QFS แบบคู่ขนาน ห้องนิรภัยทองคำดิจิทัลออนไลน์แล้ว การสร้างโทเค็นสกุลเงินสายรุ้งกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบ ห้องนิรภัยที่เชื่อมต่อกับการเข้ารหัสควอนตัมระดับเทสลาอยู่ในช่วงล็อกขั้นสุดท้าย · เงินเก่าของคุณกำลังจะตาย ความมั่งคั่งใหม่ของคุณเป็นแบบควอนตัม ปลอดภัย และอยู่ภายใต้การคุ้มครองทางทหาร ทุกธุรกรรม ทุกบัญชีแยกประเภท สาธารณะ ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นอิสระจากการควบคุมของ Rothschild ตลอดไป · ลอสแองเจลิสถูกปิดล้อม — การฟื้นฟูทางการทหารกำลังดำเนินไป การก่อจลาจลในแอลเอไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นการหายใจเฮือกสุดท้ายของเจ้าหน้าที่โลกาภิวัตน์ที่แฝงตัวอยู่ในการเมืองของเมืองและเครือข่ายเอ็นจีโอ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ทรัมป์ได้อนุญาตให้มีการส่งกำลังทหารทั้งหมดเพื่อยึดแอลเอคืนจากกลุ่มประสานงานการประท้วงที่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มค้ายา เซิร์ฟเวอร์ข่าวกรองต่างประเทศ และตัวแทนที่ได้รับเงินทุนจากโซรอส · เครือข่ายเข้ารหัสที่เชื่อมโยงกับกาตาร์ บรัสเซลส์ และซูริก ควบคุมการปฏิบัติการระดับถนนผ่านแอนติฟาและตัวแทนที่ได้รับการสนับสนุนจาก WEF ฝูงบินแบล็กฮอว์กควบคุมน่านฟ้าในปัจจุบัน ยานเกราะแคมป์เพนเดิลตันได้ล็อกบริเวณทางแยกสำคัญ ผู้นำกลุ่มค้ายาที่แฝงตัวอยู่ใน "เขตปลอดภัย" ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวถูกกำจัดด้วยการโจมตีที่แม่นยำ · JAG กำลังสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับรัฐ รวมถึงแกวิน นิวซัมและคาเรน บาสส์ ในข้อหาสมคบคิดและก่อกบฏในต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 737 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มฮูตีระบุว่าการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา และการโจมตีอิสราเอลจะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาจะสิ้นสุดลง

    “ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสหรัฐฯ กับกลุ่มไซออนิสต์กับอิหร่านเน้นย้ำว่ากำลังทหารเป็นภาษาเดียวที่พวกเขาเข้าใจ ปฏิบัติการทางทหารของเราต่อกลุ่มไซออนิสต์จะดำเนินต่อไปจนกว่าการรุกรานในฉนวนกาซาจะสิ้นสุดลงและการปิดล้อมจะสิ้นสุดลง”

    พวกเขาพูดถูกเกี่ยวกับภาษาของกำลัง นี่เป็นภาษาเดียวที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หากคุณมีพละกำลังและสามารถต่อสู้กลับได้ คุณจะถูกนำมาพิจารณาและพูดคุยด้วย หากคำพูดของคุณไม่มีพละกำลัง คุณก็จะเป็นเพียงเหยื่อล่อของผู้แข็งแกร่ง
    กลุ่มฮูตีระบุว่าการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา และการโจมตีอิสราเอลจะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซาจะสิ้นสุดลง “ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างสหรัฐฯ กับกลุ่มไซออนิสต์กับอิหร่านเน้นย้ำว่ากำลังทหารเป็นภาษาเดียวที่พวกเขาเข้าใจ ปฏิบัติการทางทหารของเราต่อกลุ่มไซออนิสต์จะดำเนินต่อไปจนกว่าการรุกรานในฉนวนกาซาจะสิ้นสุดลงและการปิดล้อมจะสิ้นสุดลง” พวกเขาพูดถูกเกี่ยวกับภาษาของกำลัง นี่เป็นภาษาเดียวที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน หากคุณมีพละกำลังและสามารถต่อสู้กลับได้ คุณจะถูกนำมาพิจารณาและพูดคุยด้วย หากคำพูดของคุณไม่มีพละกำลัง คุณก็จะเป็นเพียงเหยื่อล่อของผู้แข็งแกร่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • คปท.กดดัน นายกฯอิ๊งค์ ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมขอโทษประเทศชาติ เตรียมนัดชุมนุมใหญ่ 21 มิ.ย.นี้ ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล
    https://www.thai-tai.tv/news/19550/
    คปท.กดดัน นายกฯอิ๊งค์ ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมขอโทษประเทศชาติ เตรียมนัดชุมนุมใหญ่ 21 มิ.ย.นี้ ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล https://www.thai-tai.tv/news/19550/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 318 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts