• สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ออกแถลงการณ์แสดงการแสดงความสามัคคีกับชาวปาเลสไตน์ และสนับสนุนการคงอยู่ของชาวปาเลสไตน์ในกาซา
    สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ออกแถลงการณ์แสดงการแสดงความสามัคคีกับชาวปาเลสไตน์ และสนับสนุนการคงอยู่ของชาวปาเลสไตน์ในกาซา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนทันยาฮูตอบโต้แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย กรณีคัดค้านการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาตามแผนการของโดนัลด์ ทรัมทป์ ผ่านทางช่อง 14 โดยระบุว่า:

    กษัตริย์ซาอุดีอาระเบียสามารถสร้างรัฐปาเลสไตน์ในซาอุดีอาระเบียได้ เพราะพวกเขามีพื้นที่มากมายที่นั่น
    เนทันยาฮูตอบโต้แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย กรณีคัดค้านการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาตามแผนการของโดนัลด์ ทรัมทป์ ผ่านทางช่อง 14 โดยระบุว่า: กษัตริย์ซาอุดีอาระเบียสามารถสร้างรัฐปาเลสไตน์ในซาอุดีอาระเบียได้ เพราะพวกเขามีพื้นที่มากมายที่นั่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 84 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไม่อ่านไลน์กลุ่มเลย ทรัมป์เริ่มถอยแล้ว"

    อิสราเอล คัทซ์ (Israel Katz) รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศสนับสนุนแผนของทรัมป์ในการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา

    “ผมได้สั่งให้กองกำลังอิสราเอลเตรียมแผนในการช่วยอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซาทุกคนออกไปยังประเทศใดก็ได้ที่ยินดีรับพวกเขา

    แผนดังกล่าวจะรวมถึงทางเลือกในการออกนอกประเทศโดยผ่านทางบก ทางทะเล รวมทั้งทางอากาศด้วย

    ประเทศต่างๆ เช่น สเปน ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ และประเทศอื่นๆ ที่กล่าวหาอิสราเอลอย่างไร้หลักฐานเกี่ยวกับการกระทำในฉนวนกาซา พวกเขาสมควรต้อนรับชาวฉนวนกาซาเข้าให้ไปในดินแดนของพวกเขาซะ ความหน้าไหว้หลังหลอกของพวกเขาจะถูกเปิดเผยหากพวกเขาปฏิเสธ”
    "ไม่อ่านไลน์กลุ่มเลย ทรัมป์เริ่มถอยแล้ว" อิสราเอล คัทซ์ (Israel Katz) รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศสนับสนุนแผนของทรัมป์ในการอพยพชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา “ผมได้สั่งให้กองกำลังอิสราเอลเตรียมแผนในการช่วยอพยพประชาชนที่อาศัยอยู่ในฉนวนกาซาทุกคนออกไปยังประเทศใดก็ได้ที่ยินดีรับพวกเขา แผนดังกล่าวจะรวมถึงทางเลือกในการออกนอกประเทศโดยผ่านทางบก ทางทะเล รวมทั้งทางอากาศด้วย ประเทศต่างๆ เช่น สเปน ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ และประเทศอื่นๆ ที่กล่าวหาอิสราเอลอย่างไร้หลักฐานเกี่ยวกับการกระทำในฉนวนกาซา พวกเขาสมควรต้อนรับชาวฉนวนกาซาเข้าให้ไปในดินแดนของพวกเขาซะ ความหน้าไหว้หลังหลอกของพวกเขาจะถูกเปิดเผยหากพวกเขาปฏิเสธ”
    Like
    Sad
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌นักปรัชญาและนักทฤษฎีชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียง วิเคราะห์ : จุดจบของอำนาจครอบงำของอเมริกา !!

    Alexander Dugin นักปรัชญาและนักทฤษฎีชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียง เชื่อว่าโลกกำลังเปลี่ยนจากโครงสร้างขั้วเดียวไปเป็นโครงสร้างหลายขั้ว และผู้มีบทบาทต่างๆ เช่น อิหร่านและรัสเซียจะต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์นี้

    Alexander Dugin นักปรัชญาและนักทฤษฎีชื่อดังชาวรัสเซีย ได้วิเคราะห์ถึงการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์ในโลก การกลับมามีอำนาจของทรัมป์ ตำแหน่งของอิหร่านและรัสเซียในระเบียบโลกใหม่ และการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในนโยบายต่างประเทศของอเมริกา ในบทสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Sahab Broadcasting Network ของรัสเซีย

    ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ Alexander Dugin วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในกลยุทธ์ของอเมริกาและเชื่อว่ายุคที่วอชิงตันสร้างอำนาจเหนือบนพื้นฐานของอุดมการณ์เสรีนิยมและโลกาภิวัตน์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว โมเดลนี้ซึ่งมีพื้นฐานมาจากอิทธิพลทางวัฒนธรรม การบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยของรัฐเอกราช และการออกแบบการปฏิวัติสี ปัจจุบันได้หลีกทางให้กับลัทธิชาตินิยมจักรวรรดินิยม ซึ่งอเมริกาพยายามที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่ในฐานะผู้นำโลก แต่เป็นจักรวรรดิที่เป็นอิสระ

    Alexander Dugin เน้นย้ำว่า ทรัมป์พยายามที่จะกำหนดระเบียบโลกใหม่โดยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และละทิ้งนโยบายโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงนี้หมายถึงการลดการพึ่งพาพันธมิตรแบบดั้งเดิมและมุ่งเน้นไปที่การฉายอำนาจโดยตรงของอเมริกาในภูมิภาคเชิงยุทธศาสตร์ ในขณะเดียวกัน รัสเซียและอิหร่านซึ่งเป็นสองมหาอำนาจอิสระที่ได้รับผลกระทบจากรูปแบบเดิมของการครอบงำของชาติตะวันตก สามารถได้รับประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนี้

    ในส่วนอื่นของการสัมภาษณ์ เขากล่าวถึงนโยบายของทรัมป์ต่ออิหร่าน ตามที่ Alexander Dugin กล่าว แม้ว่าทรัมป์จะยังคงดำเนินนโยบายต่อต้านอิหร่านต่อไป แต่แนวทางที่เขามีต่อเตหะรานก็จะแตกต่างจากของไบเดน ต่างจากฝ่ายบริหารพรรคเดโมแครตซึ่งใช้ยุทธศาสตร์ "การกัดเซาะอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ทรัมป์จะพยายามสร้างแรงกดดันโดยตรงและรวดเร็ว

    Alexander Dugin ยังอ้างถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอล โดยอธิบายว่าทรัมป์จะทำให้อิสราเอลเป็นนโยบายต่างประเทศลำดับแรกของเขา นั่นหมายความว่าแรงกดดันของวอชิงตันต่อแกนต่อต้านและอิหร่านจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าภายในกระแสฝ่ายขวาที่สนับสนุนทรัมป์ ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการสนับสนุนอิสราเอลอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย

    เขาชี้ถึงความสำคัญของพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย และถือว่าข้อตกลงทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศเป็นหนึ่งในพัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้อตกลงนี้อาจนำไปสู่ความร่วมมือที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในด้านการทหารและเศรษฐกิจ

    Alexander Dugin เสนอว่าอิหร่านควรได้รับการจัดให้อยู่ภายใต้การควบคุมทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย และในทางกลับกัน รัสเซียควรใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ของอิหร่านในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงในอ่าวเปอร์เซียและเอเชียใต้ เขาเห็นพันธมิตรนี้ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งจำเป็นเชิงยุทธศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงอารยธรรมที่สามารถต้านทานแรงกดดันจากชาติตะวันตกได้อีกด้วย

    เขาชี้ถึงสงครามฉนวนกาซาและการพัฒนาต่างๆ ที่เกิดขึ้นล่าสุดในปาเลสไตน์ โดยเน้นย้ำว่าความขัดแย้งครั้งนี้ได้นำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของอิสราเอลในความคิดเห็นสาธารณะทั่วโลกมากกว่าที่เคยเป็นมา ตามที่เขากล่าว อิสราเอลประสบความสำเร็จในการสร้างภาพตัวเองให้เป็นประเทศเหยื่อในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่การโจมตีอย่างโหดร้ายในฉนวนกาซาและการสังหารพลเรือนได้ท้าทายเรื่องเล่านี้และปลุกระดมความคิดเห็นสาธารณะทั่วโลกให้ต่อต้านระบอบการปกครอง

    เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในมุมมองของโลกเกี่ยวกับอิสราเอลคือความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดของระบอบการปกครองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังทำให้การสนับสนุนแบบเดิมของอเมริกาต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ อีกด้วย

    Alexander Dugin ได้นำเสนอภาพที่ชัดเจนของอนาคตของระเบียบโลก ซึ่งในความเชื่อของเขา ยุคแห่งการครอบงำโลกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งของอเมริกาสิ้นสุดลงแล้ว และประเทศต่างๆ เช่น จีน รัสเซีย อิหร่าน และอินเดีย จะมีบทบาทมากขึ้นในทางการเมืองระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงทางอารยธรรมด้วย ซึ่งจะรวมถึงการฟื้นคืนค่านิยมดั้งเดิม การเผชิญหน้ากับเสรีนิยมโลก และการก่อตั้งขั้วอำนาจอิสระ

    Alexander Dugin เน้นย้ำว่า อิหร่านและรัสเซียควรคว้าโอกาสทางประวัติศาสตร์นี้และเสริมสร้างพันธมิตรของพวกเขา เขาถือว่าความร่วมมือนี้อยู่เหนือข้อตกลงทางการทูตและถือเป็นรากฐานสำหรับการสร้างระเบียบโลกใหม่ คำสั่งที่ฝ่ายตะวันตกจะไม่เป็นผู้มีบทบาทครอบงำแต่ผู้เดียวอีกต่อไป
    📌นักปรัชญาและนักทฤษฎีชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียง วิเคราะห์ : จุดจบของอำนาจครอบงำของอเมริกา !! Alexander Dugin นักปรัชญาและนักทฤษฎีชาวรัสเซียที่มีชื่อเสียง เชื่อว่าโลกกำลังเปลี่ยนจากโครงสร้างขั้วเดียวไปเป็นโครงสร้างหลายขั้ว และผู้มีบทบาทต่างๆ เช่น อิหร่านและรัสเซียจะต้องเตรียมตัวรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์นี้ Alexander Dugin นักปรัชญาและนักทฤษฎีชื่อดังชาวรัสเซีย ได้วิเคราะห์ถึงการพัฒนาทางภูมิรัฐศาสตร์ในโลก การกลับมามีอำนาจของทรัมป์ ตำแหน่งของอิหร่านและรัสเซียในระเบียบโลกใหม่ และการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในนโยบายต่างประเทศของอเมริกา ในบทสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Sahab Broadcasting Network ของรัสเซีย ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ Alexander Dugin วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงพื้นฐานในกลยุทธ์ของอเมริกาและเชื่อว่ายุคที่วอชิงตันสร้างอำนาจเหนือบนพื้นฐานของอุดมการณ์เสรีนิยมและโลกาภิวัตน์นั้นสิ้นสุดลงแล้ว โมเดลนี้ซึ่งมีพื้นฐานมาจากอิทธิพลทางวัฒนธรรม การบ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยของรัฐเอกราช และการออกแบบการปฏิวัติสี ปัจจุบันได้หลีกทางให้กับลัทธิชาตินิยมจักรวรรดินิยม ซึ่งอเมริกาพยายามที่จะรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ไม่ใช่ในฐานะผู้นำโลก แต่เป็นจักรวรรดิที่เป็นอิสระ Alexander Dugin เน้นย้ำว่า ทรัมป์พยายามที่จะกำหนดระเบียบโลกใหม่โดยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และละทิ้งนโยบายโลกาภิวัตน์ การเปลี่ยนแปลงนี้หมายถึงการลดการพึ่งพาพันธมิตรแบบดั้งเดิมและมุ่งเน้นไปที่การฉายอำนาจโดยตรงของอเมริกาในภูมิภาคเชิงยุทธศาสตร์ ในขณะเดียวกัน รัสเซียและอิหร่านซึ่งเป็นสองมหาอำนาจอิสระที่ได้รับผลกระทบจากรูปแบบเดิมของการครอบงำของชาติตะวันตก สามารถได้รับประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงนี้ ในส่วนอื่นของการสัมภาษณ์ เขากล่าวถึงนโยบายของทรัมป์ต่ออิหร่าน ตามที่ Alexander Dugin กล่าว แม้ว่าทรัมป์จะยังคงดำเนินนโยบายต่อต้านอิหร่านต่อไป แต่แนวทางที่เขามีต่อเตหะรานก็จะแตกต่างจากของไบเดน ต่างจากฝ่ายบริหารพรรคเดโมแครตซึ่งใช้ยุทธศาสตร์ "การกัดเซาะอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ทรัมป์จะพยายามสร้างแรงกดดันโดยตรงและรวดเร็ว Alexander Dugin ยังอ้างถึงความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอิสราเอล โดยอธิบายว่าทรัมป์จะทำให้อิสราเอลเป็นนโยบายต่างประเทศลำดับแรกของเขา นั่นหมายความว่าแรงกดดันของวอชิงตันต่อแกนต่อต้านและอิหร่านจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่าภายในกระแสฝ่ายขวาที่สนับสนุนทรัมป์ ก็ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการสนับสนุนอิสราเอลอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกด้วย เขาชี้ถึงความสำคัญของพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ระหว่างอิหร่านและรัสเซีย และถือว่าข้อตกลงทางยุทธศาสตร์ระหว่างทั้งสองประเทศเป็นหนึ่งในพัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้อตกลงนี้อาจนำไปสู่ความร่วมมือที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในด้านการทหารและเศรษฐกิจ Alexander Dugin เสนอว่าอิหร่านควรได้รับการจัดให้อยู่ภายใต้การควบคุมทางนิวเคลียร์ของรัสเซีย และในทางกลับกัน รัสเซียควรใช้ประโยชน์จากศักยภาพทางภูมิรัฐศาสตร์ของอิหร่านในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงในอ่าวเปอร์เซียและเอเชียใต้ เขาเห็นพันธมิตรนี้ไม่เพียงแต่เป็นสิ่งจำเป็นเชิงยุทธศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงอารยธรรมที่สามารถต้านทานแรงกดดันจากชาติตะวันตกได้อีกด้วย เขาชี้ถึงสงครามฉนวนกาซาและการพัฒนาต่างๆ ที่เกิดขึ้นล่าสุดในปาเลสไตน์ โดยเน้นย้ำว่าความขัดแย้งครั้งนี้ได้นำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ของอิสราเอลในความคิดเห็นสาธารณะทั่วโลกมากกว่าที่เคยเป็นมา ตามที่เขากล่าว อิสราเอลประสบความสำเร็จในการสร้างภาพตัวเองให้เป็นประเทศเหยื่อในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา แต่การโจมตีอย่างโหดร้ายในฉนวนกาซาและการสังหารพลเรือนได้ท้าทายเรื่องเล่านี้และปลุกระดมความคิดเห็นสาธารณะทั่วโลกให้ต่อต้านระบอบการปกครอง เขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในมุมมองของโลกเกี่ยวกับอิสราเอลคือความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ครั้งใหญ่ที่สุดของระบอบการปกครองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังทำให้การสนับสนุนแบบเดิมของอเมริกาต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ อีกด้วย Alexander Dugin ได้นำเสนอภาพที่ชัดเจนของอนาคตของระเบียบโลก ซึ่งในความเชื่อของเขา ยุคแห่งการครอบงำโลกอย่างไม่มีข้อโต้แย้งของอเมริกาสิ้นสุดลงแล้ว และประเทศต่างๆ เช่น จีน รัสเซีย อิหร่าน และอินเดีย จะมีบทบาทมากขึ้นในทางการเมืองระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงทางอารยธรรมด้วย ซึ่งจะรวมถึงการฟื้นคืนค่านิยมดั้งเดิม การเผชิญหน้ากับเสรีนิยมโลก และการก่อตั้งขั้วอำนาจอิสระ Alexander Dugin เน้นย้ำว่า อิหร่านและรัสเซียควรคว้าโอกาสทางประวัติศาสตร์นี้และเสริมสร้างพันธมิตรของพวกเขา เขาถือว่าความร่วมมือนี้อยู่เหนือข้อตกลงทางการทูตและถือเป็นรากฐานสำหรับการสร้างระเบียบโลกใหม่ คำสั่งที่ฝ่ายตะวันตกจะไม่เป็นผู้มีบทบาทครอบงำแต่ผู้เดียวอีกต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • จาเร็ด​ คุชเนอร์ (Jared Kushner) สามีของอิวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสื่อมวลชนเปิดโปงว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดให้สหรัฐเข้ายึดครองกาซา และขับไล่ชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกไปจากถิ่นกำเนิดพวกเขา เพื่อสร้างกาซาขึ้นใหม่

    เนื่องจากแผนการของทรัมป์ คือสิ่งที่ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของเขา เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ว่าอิสราเอลควรขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาและพัฒนาพื้นที่ริมทะเลแห่งนี้ขึ้นใหม่ โดยเรียกพื้นที่ตรงนั้นว่า “มีค่ามหาศาล” (very valuable)

    นายจาเร็ด คุชเนอร์ ชาวยิวที่มีบรรพบุรุษมาจากเบลารุส ปู่และย่าของเขารอดชีวิตจากค่ายกักกันที่นาซีเยอรมนีดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างยึดครองเบลารุสอยู่ และอพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2492 ต่อมา "ชาร์ล คุชเนอร์" พ่อของจาเร็ดก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ จนประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมาก

    ทรัมป์สมัยแรก แต่งตั้งให้ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับอาวุโสในทำเนียบขาว โดยให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อทรัมป์โดยตรง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็น "มือขวา" ของทรัมป์ในสมัยนั้น

    เขาเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน และเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ New York Observer

    ต่อมาในทรัมป์สมัยที่สอง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการแต่งตั้ง ชาร์ลส์ คุชเนอร์ วัย 70 ปี พ่อของจาเร็ด เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฝรั่งเศส ทั้งที่เคยถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีเมื่อปี 2548 หลังจากรับสารภาพในความผิด 18 กระทงในคดีบริจาคเงินหาเสียงอย่างผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงถูกเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นทนายความในรัฐนิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนีย แต่ได้รับการอภัยโทษทั้งหมดจากทรัมป์ในปี 2563 เมื่อครั้งที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก





    จาเร็ด​ คุชเนอร์ (Jared Kushner) สามีของอิวังก้า ทรัมป์ ลูกสาวคนโตของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกสื่อมวลชนเปิดโปงว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดให้สหรัฐเข้ายึดครองกาซา และขับไล่ชาวปาเลสไตน์เกือบสองล้านคนออกไปจากถิ่นกำเนิดพวกเขา เพื่อสร้างกาซาขึ้นใหม่ เนื่องจากแผนการของทรัมป์ คือสิ่งที่ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของเขา เคยกล่าวไว้เมื่อเดือนมีนาคม 2024 ว่าอิสราเอลควรขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากฉนวนกาซาและพัฒนาพื้นที่ริมทะเลแห่งนี้ขึ้นใหม่ โดยเรียกพื้นที่ตรงนั้นว่า “มีค่ามหาศาล” (very valuable) นายจาเร็ด คุชเนอร์ ชาวยิวที่มีบรรพบุรุษมาจากเบลารุส ปู่และย่าของเขารอดชีวิตจากค่ายกักกันที่นาซีเยอรมนีดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ระหว่างยึดครองเบลารุสอยู่ และอพยพมาอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2492 ต่อมา "ชาร์ล คุชเนอร์" พ่อของจาเร็ดก่อตั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ จนประสบความสำเร็จมั่งคั่งร่ำรวยอย่างมาก ทรัมป์สมัยแรก แต่งตั้งให้ จาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยคนโปรดเข้ารับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับอาวุโสในทำเนียบขาว โดยให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต่อทรัมป์โดยตรง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องตะวันออกกลาง ซึ่งถือเป็น "มือขวา" ของทรัมป์ในสมัยนั้น เขาเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน และเจ้าของธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ New York Observer ต่อมาในทรัมป์สมัยที่สอง ได้สร้างความฮือฮาด้วยการแต่งตั้ง ชาร์ลส์ คุชเนอร์ วัย 70 ปี พ่อของจาเร็ด เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำฝรั่งเศส ทั้งที่เคยถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปีเมื่อปี 2548 หลังจากรับสารภาพในความผิด 18 กระทงในคดีบริจาคเงินหาเสียงอย่างผิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี และยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงถูกเพิกถอนใบอนุญาตการเป็นทนายความในรัฐนิวเจอร์ซีย์ นิวยอร์ก และเพนซิลเวเนีย แต่ได้รับการอภัยโทษทั้งหมดจากทรัมป์ในปี 2563 เมื่อครั้งที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสมัยแรก
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนทันยาฮู เป็นชาติเดียวที่สนับสนุนแผนการของทรัมป์ในการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปให้พ้นจากกาซา:

    "มันมีอะไรผิดกับเรื่องนี้เหรอ? พวกเขาสามารถออกไปได้ พวกเขาสามารถย้ายถิ่นฐานออกไปก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่ได้…..นี่เป็นแนวคิดที่ดีอย่างมากที่ผมได้ยิน มันเป็นแนวคิดที่น่าทึ่งและผมคิดว่าควรรีบดำเนินการอย่างจริงจัง"
    เนทันยาฮู เป็นชาติเดียวที่สนับสนุนแผนการของทรัมป์ในการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกไปให้พ้นจากกาซา: "มันมีอะไรผิดกับเรื่องนี้เหรอ? พวกเขาสามารถออกไปได้ พวกเขาสามารถย้ายถิ่นฐานออกไปก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่ได้…..นี่เป็นแนวคิดที่ดีอย่างมากที่ผมได้ยิน มันเป็นแนวคิดที่น่าทึ่งและผมคิดว่าควรรีบดำเนินการอย่างจริงจัง"
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่อกลับลำข้อเสนอของเขาเกี่ยวกับการเข้ายึดฉนวนกาซา หลังมันโหมกระพือเสียงโวยวายจากทั่วโลก ในนั้นรวมถึงเลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติที่เตือนเกี่ยวกับการ "ล้างเผ่าพันธุ์" ในฉนวนปาเลสไตน์
    .
    หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นชุดๆ จากทั้งชาวปาเลสไตน์ บรรดารัฐบาลอาหรับและพวกผู้นำโลก ทาง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าการย้ายชาวกาซาใดๆ จะเป็นเพียงชั่วคราว ในขณะที่ทำเนียบขาวยืนยันว่ายังไม่มีการรับปากว่าจะส่งทหารอเมริกาเข้าไปยังฉนวนแห่งนี้
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยืนยันว่า "ทุกคนชอบแผนนี้" ซึ่งเขาเปิดเผยในเรื่องดังกล่าวระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ร่วมกับผู้มาเยือนอย่าง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีอิสราเอล
    .
    ในถ้อยแถลงดังกล่าว ทรัมป์ ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับแนวทางที่สหรัฐฯ จะโยกย้ายชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากฉนวนกาซาหรือแนวทางเข้าควบคุมดินแดนที่ถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆ แห่งนี้ โดยเขาเพียงประกาศในวันอังคาร (4 ก.พ.) ว่า "สหรัฐฯ จะยึดฉนวนกาซาและเราจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วย เราจะเป็นเจ้าของมัน"
    .
    รูบิโอ ชี้แจงว่าความคิดดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาเป็นปรปักษ์ ให้คำจำกัดความว่ามันเป็นความเคลื่อนไหวใจกว้าง เสนอมอบการฟื้นฟูและรับหน้าที่ของการฟื้นฟู
    .
    ในเวลาต่อมา คาโรไลน์ เลวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว แถลงว่าวอชิงตันจะไม่ออกทุนฟื้นฟูกาซา ตามหลังดินแดนแห่งนี้ต้องเผชิญกับสงครามระหว่างอิสราเอล พันธมิตรของสหรัฐฯ และกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน "ความเกี่ยวข้องของอเมริกาไม่ได้หมายถึงการส่งกองกำลังไปยังภาคพื้นหรือใช้เงินผู้เสียภาษีสหรัฐฯ เป็นทุนสำหรับความพยายามดังกล่าว"
    .
    คำชี้แจงของทำเนียบขาวมีขึ้นหลังจาก อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ชี้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นต้องหลีกเลี่ยง "รูปแบบของการล้างเผ่าพันธุ์ใดๆ" ส่วนสเตฟาน ดูจาร์ริช โฆษก อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเห็นของเลขาธิการใหญ่รายนี้ ในเวลาต่อมาในวันพุธ (5 ก.พ.) บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "การบีบบังคับผู้คนโยกย้ายถิ่นฐาน เทียบเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์"
    .
    ในเวลาต่อมา เลวิตต์ บอกว่า ทรัมป์ เพียงต้องการให้ชาวปาเลสไตน์แค่ย้ายออกจากกาซาเป็นการชั่วคราว "เวลานี้มันกลายเป็นสถานที่ที่ถูกทำลายล้าง มันไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย"
    .
    เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ พวกผู้นำโลกอาหรับและกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายออกมาประณามความคิดเห็นของทรัมป์อย่างรวดเร็ว ส่วน ฮามาส ที่ยึดครองควบคุมกาซาในปี 2007 ปฏิเสธข้อเสนอนี้ ตราหน้ามันว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ รุกรานและซ้ำเติมสถานการณ์
    .
    สงครามที่โหมกระพือขึ้นจากการที่พวกฮามาสบุกโจมตีเล่นงานอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ทำลายล้างพื้นที่ส่วนใหญ่ของฉนวนกาซา ในขณะที่ ทรัมป์ อ้างกล่าวความดีความชอบซ้ำๆ สำหรับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนที่แล้ว
    .
    เนทันยาฮู ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนวอชิงตัน สำหรับพูดคุยเกี่ยวกับขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง ขานรับด้วยความยินดีต่อความคิดของทรัมป์ บอกว่ามันจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์และควรค่าได้รับความสนใจ
    .
    ทรัมป์ ซึ่งบ่งชี้ด้วยว่าเขาอาจเดินทางเยือนกาซา ดูเหมือนจะพูดเป็นนัยว่าการฟื้นฟูฉนวนแห่งนี้ จะไม่ใช่สำหรับชาวปาเลสไตน์ แต่ทาง เลวิตต์ ชี้แจงว่า "ประธานาธิบดีมีความชัดเจนมากๆ ต่อกรณีคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรของเราในภูมิภาค โดยเฉพาะอียิปต์และจอร์แดน จะอ้าแขนรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์เป็นการชั่วคราว เพื่อเราจะสามารถบูรณะฟื้นฟูบ้านของพวกเขา"
    .
    อย่างไรก็ตาม มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ปฏิเสธข้อเสนอนี้ เรียกมันว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และยืนกรานว่าสิทธิที่ชอบธรรมตามกฎหมายของชาวปาเลสไตน์ไม่อาจต่อรองได้
    .
    ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ ชี้แนะให้ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้กล่าวอ้างถึงอียิปต์และจอร์แดน ในฐานะดินแดนจุดหมายปลายทางที่เป็นไปได้ แต่ประชาชนชาวปาเลสไตน์ ประกาศกร้าวว่าพวกเขาจะไม่ออกจากฉนวนกาซา
    .
    ขณะเดียวกัน อียิปต์ และ จอร์แดน ก็ปฏิเสธอนุญาตให้มีการตั้งรกรากใดๆ ของชาวกาซา โดย บาดร์ อับเดลลัตตี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ เรียกร้องฟื้นฟูฉนวนแห่งนี้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกมา ส่วนกษัตริย์อับดุลลาห์ที่สองแห่งจอร์แดน ตรัสหลังจากพบปะกับอับบาส ปฏิเสธความพยายามใดๆ ในการควบคุมดินแดนของปาเลสไตน์และโยกย้านถิ่นฐานผู้คน
    .
    ในวอชิงตัน เนทันยาฮู ยกย่อง ทรัมป์ ว่าเป็นพันธมิตรยอดเยี่ยมที่สุดของอิสราเอล และยกย่องผู้นำสหรัฐฯ เกี่ยวกับการคิดนอกกรอบ นอกจากนี้ เขายังแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับซาอุดีอาระเบีย ในการคืนความสัมพันธ์กันเป็นปกติระหว่างกัน
    .
    อย่างไรก็ตาม ริยาด บอกว่าพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล หากปราศจากความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ และปฏิเสธความพยายามใดๆ ที่จะโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินของพวกเขา
    .
    สหภาพยุโรปเน้นย้ำว่ากาซาเป็นส่วนสำคัญสำหรับรัฐปาเลสไตน์หนึ่งๆ ในอนาคต ในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปฏิเสธความพยายามโยกย้ายถิ่นฐานใดๆ โดยบอกว่าเสถียรภาพในภูมิภาคจะบรรลุได้ผ่านทางออก 2 รัฐคู่ขนานเท่านั้น ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน บอกว่า "เราคัดค้านการบีบบังคับโยกย้ายพลเมืองของกาซา" ขณะที่สันนิบาตอาหรับ เรียกข้อเสนอของทรัมป์ว่าเป็น "สูตรแห่งความไร้เสถียรภาพ"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011933
    ..............
    Sondhi X
    รัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่อกลับลำข้อเสนอของเขาเกี่ยวกับการเข้ายึดฉนวนกาซา หลังมันโหมกระพือเสียงโวยวายจากทั่วโลก ในนั้นรวมถึงเลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติที่เตือนเกี่ยวกับการ "ล้างเผ่าพันธุ์" ในฉนวนปาเลสไตน์ . หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นชุดๆ จากทั้งชาวปาเลสไตน์ บรรดารัฐบาลอาหรับและพวกผู้นำโลก ทาง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าการย้ายชาวกาซาใดๆ จะเป็นเพียงชั่วคราว ในขณะที่ทำเนียบขาวยืนยันว่ายังไม่มีการรับปากว่าจะส่งทหารอเมริกาเข้าไปยังฉนวนแห่งนี้ . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ ยืนยันว่า "ทุกคนชอบแผนนี้" ซึ่งเขาเปิดเผยในเรื่องดังกล่าวระหว่างแถลงข่าวที่ทำเนียบขาว ร่วมกับผู้มาเยือนอย่าง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมตรีอิสราเอล . ในถ้อยแถลงดังกล่าว ทรัมป์ ให้รายละเอียดเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับแนวทางที่สหรัฐฯ จะโยกย้ายชาวปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านคนออกจากฉนวนกาซาหรือแนวทางเข้าควบคุมดินแดนที่ถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นๆ แห่งนี้ โดยเขาเพียงประกาศในวันอังคาร (4 ก.พ.) ว่า "สหรัฐฯ จะยึดฉนวนกาซาและเราจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วย เราจะเป็นเจ้าของมัน" . รูบิโอ ชี้แจงว่าความคิดดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาเป็นปรปักษ์ ให้คำจำกัดความว่ามันเป็นความเคลื่อนไหวใจกว้าง เสนอมอบการฟื้นฟูและรับหน้าที่ของการฟื้นฟู . ในเวลาต่อมา คาโรไลน์ เลวิตต์ เลขานุการฝ่ายสื่อสารมวลชนของทำเนียบขาว แถลงว่าวอชิงตันจะไม่ออกทุนฟื้นฟูกาซา ตามหลังดินแดนแห่งนี้ต้องเผชิญกับสงครามระหว่างอิสราเอล พันธมิตรของสหรัฐฯ และกลุ่มนักรบปาเลสไตน์ฮามาส ที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน "ความเกี่ยวข้องของอเมริกาไม่ได้หมายถึงการส่งกองกำลังไปยังภาคพื้นหรือใช้เงินผู้เสียภาษีสหรัฐฯ เป็นทุนสำหรับความพยายามดังกล่าว" . คำชี้แจงของทำเนียบขาวมีขึ้นหลังจาก อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ชี้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นต้องหลีกเลี่ยง "รูปแบบของการล้างเผ่าพันธุ์ใดๆ" ส่วนสเตฟาน ดูจาร์ริช โฆษก อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเห็นของเลขาธิการใหญ่รายนี้ ในเวลาต่อมาในวันพุธ (5 ก.พ.) บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "การบีบบังคับผู้คนโยกย้ายถิ่นฐาน เทียบเท่ากับเป็นการกวาดล้างเผ่าพันธุ์" . ในเวลาต่อมา เลวิตต์ บอกว่า ทรัมป์ เพียงต้องการให้ชาวปาเลสไตน์แค่ย้ายออกจากกาซาเป็นการชั่วคราว "เวลานี้มันกลายเป็นสถานที่ที่ถูกทำลายล้าง มันไม่ใช่สถานที่ที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัย" . เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ พวกผู้นำโลกอาหรับและกลุ่มสิทธิมนุษยชนทั้งหลายออกมาประณามความคิดเห็นของทรัมป์อย่างรวดเร็ว ส่วน ฮามาส ที่ยึดครองควบคุมกาซาในปี 2007 ปฏิเสธข้อเสนอนี้ ตราหน้ามันว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ รุกรานและซ้ำเติมสถานการณ์ . สงครามที่โหมกระพือขึ้นจากการที่พวกฮามาสบุกโจมตีเล่นงานอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ทำลายล้างพื้นที่ส่วนใหญ่ของฉนวนกาซา ในขณะที่ ทรัมป์ อ้างกล่าวความดีความชอบซ้ำๆ สำหรับการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนที่แล้ว . เนทันยาฮู ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนวอชิงตัน สำหรับพูดคุยเกี่ยวกับขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง ขานรับด้วยความยินดีต่อความคิดของทรัมป์ บอกว่ามันจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์และควรค่าได้รับความสนใจ . ทรัมป์ ซึ่งบ่งชี้ด้วยว่าเขาอาจเดินทางเยือนกาซา ดูเหมือนจะพูดเป็นนัยว่าการฟื้นฟูฉนวนแห่งนี้ จะไม่ใช่สำหรับชาวปาเลสไตน์ แต่ทาง เลวิตต์ ชี้แจงว่า "ประธานาธิบดีมีความชัดเจนมากๆ ต่อกรณีคาดหมายว่าบรรดาพันธมิตรของเราในภูมิภาค โดยเฉพาะอียิปต์และจอร์แดน จะอ้าแขนรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์เป็นการชั่วคราว เพื่อเราจะสามารถบูรณะฟื้นฟูบ้านของพวกเขา" . อย่างไรก็ตาม มาห์มูด อับบาส ประธานาธิบดีปาเลสไตน์ ปฏิเสธข้อเสนอนี้ เรียกมันว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และยืนกรานว่าสิทธิที่ชอบธรรมตามกฎหมายของชาวปาเลสไตน์ไม่อาจต่อรองได้ . ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ทรัมป์ ชี้แนะให้ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาได้กล่าวอ้างถึงอียิปต์และจอร์แดน ในฐานะดินแดนจุดหมายปลายทางที่เป็นไปได้ แต่ประชาชนชาวปาเลสไตน์ ประกาศกร้าวว่าพวกเขาจะไม่ออกจากฉนวนกาซา . ขณะเดียวกัน อียิปต์ และ จอร์แดน ก็ปฏิเสธอนุญาตให้มีการตั้งรกรากใดๆ ของชาวกาซา โดย บาดร์ อับเดลลัตตี รัฐมนตรีต่างประเทศอียิปต์ เรียกร้องฟื้นฟูฉนวนแห่งนี้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกมา ส่วนกษัตริย์อับดุลลาห์ที่สองแห่งจอร์แดน ตรัสหลังจากพบปะกับอับบาส ปฏิเสธความพยายามใดๆ ในการควบคุมดินแดนของปาเลสไตน์และโยกย้านถิ่นฐานผู้คน . ในวอชิงตัน เนทันยาฮู ยกย่อง ทรัมป์ ว่าเป็นพันธมิตรยอดเยี่ยมที่สุดของอิสราเอล และยกย่องผู้นำสหรัฐฯ เกี่ยวกับการคิดนอกกรอบ นอกจากนี้ เขายังแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับซาอุดีอาระเบีย ในการคืนความสัมพันธ์กันเป็นปกติระหว่างกัน . อย่างไรก็ตาม ริยาด บอกว่าพวกเขาจะไม่มีความสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล หากปราศจากความเป็นรัฐของปาเลสไตน์ และปฏิเสธความพยายามใดๆ ที่จะโยกย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากแผ่นดินของพวกเขา . สหภาพยุโรปเน้นย้ำว่ากาซาเป็นส่วนสำคัญสำหรับรัฐปาเลสไตน์หนึ่งๆ ในอนาคต ในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ปฏิเสธความพยายามโยกย้ายถิ่นฐานใดๆ โดยบอกว่าเสถียรภาพในภูมิภาคจะบรรลุได้ผ่านทางออก 2 รัฐคู่ขนานเท่านั้น ส่วนโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน บอกว่า "เราคัดค้านการบีบบังคับโยกย้ายพลเมืองของกาซา" ขณะที่สันนิบาตอาหรับ เรียกข้อเสนอของทรัมป์ว่าเป็น "สูตรแห่งความไร้เสถียรภาพ" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011933 .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    Sad
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1057 มุมมอง 0 รีวิว
  • การผลักดันชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา ถึงกับทำให้เนทันยาฮู ยกย่องทรัมป์ว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่อิสราเอลเคยมีในทำเนียบขาว
    การผลักดันชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา ถึงกับทำให้เนทันยาฮู ยกย่องทรัมป์ว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่อิสราเอลเคยมีในทำเนียบขาว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • กษัตริย์จอร์แดนยังคงยืนกรานไม่เห็นด้วยกับการผนวกดินแดนและการขับไล่ชาวปาเลสไตน์

    คำแถลงของพระองค์มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์เสนอให้พัฒนาฉนวนกาซาใหม่ โดยให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกไป ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประณามจากทั่วโลก
    กษัตริย์จอร์แดนยังคงยืนกรานไม่เห็นด้วยกับการผนวกดินแดนและการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ คำแถลงของพระองค์มีขึ้นหลังจากที่ทรัมป์เสนอให้พัฒนาฉนวนกาซาใหม่ โดยให้ชาวปาเลสไตน์อพยพออกไป ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดชนวนให้เกิดการประณามจากทั่วโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • สเปนและจีนออกมาคัดค้านการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา โดยยืนยันสนับสนุนการปกครองของชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ดังกล่าว และสนับสนุนการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการยอมรัมรัฐปาเลสไตน์
    สเปนและจีนออกมาคัดค้านการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา โดยยืนยันสนับสนุนการปกครองของชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่ดังกล่าว และสนับสนุนการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการยอมรัมรัฐปาเลสไตน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน โจมตีแนวคิดของทรัมป์ในการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาว่าเป็น "วิสัยทัศน์ที่กล้าหาญหรือเป็นหายนะทางภูมิรัฐศาสตร์กันแน่?"

    นอกจากนี้ แนวคิดของทรัมป์ยังได้จุดชนวนความโกรธแค้นไปทั่วเมืองหลวงของอาหรับ และได้รับการประณามจากผู้นำโลกมากมาย
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน โจมตีแนวคิดของทรัมป์ในการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาว่าเป็น "วิสัยทัศน์ที่กล้าหาญหรือเป็นหายนะทางภูมิรัฐศาสตร์กันแน่?" นอกจากนี้ แนวคิดของทรัมป์ยังได้จุดชนวนความโกรธแค้นไปทั่วเมืองหลวงของอาหรับ และได้รับการประณามจากผู้นำโลกมากมาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้งแต่ปี 1974 ผ่านมา 50 ปีแล้ว...
    .
    อิสราเอล และ อเมริกา ไม่เคย ยอมรับให้มี ประเทศปาเลสไตน์ เกิดขึ้น และ คิดที่จะลบ ปาเลสไตน์ ออกจาแผนที่โลก มาตลอด...!!!
    .
    ทั้งๆที่ อเมริกา และ อังกฤษ ฉีกทึ้งแผ่นดิน ปาเลสไตน์ เพื่อจัดตั้ง รัฐอิสราเอล ขึ้นมาตรงนั้น...
    .
    วันนี้ก็ชัดเจนแล้ว มิใช่หรือ...???
    ตั้งแต่ปี 1974 ผ่านมา 50 ปีแล้ว... . อิสราเอล และ อเมริกา ไม่เคย ยอมรับให้มี ประเทศปาเลสไตน์ เกิดขึ้น และ คิดที่จะลบ ปาเลสไตน์ ออกจาแผนที่โลก มาตลอด...!!! . ทั้งๆที่ อเมริกา และ อังกฤษ ฉีกทึ้งแผ่นดิน ปาเลสไตน์ เพื่อจัดตั้ง รัฐอิสราเอล ขึ้นมาตรงนั้น... . วันนี้ก็ชัดเจนแล้ว มิใช่หรือ...???
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • สีหน้าที่เต็มไปด้วยความสะใจ ของสิ่งมีชีวิตที่ชื่อ "เนทันยาฮู" ขณะที่ทรัมป์กำลังพูดถึงการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนบรรพบุรุษของพวกเขาในฉนวนกาซา
    สีหน้าที่เต็มไปด้วยความสะใจ ของสิ่งมีชีวิตที่ชื่อ "เนทันยาฮู" ขณะที่ทรัมป์กำลังพูดถึงการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากดินแดนบรรพบุรุษของพวกเขาในฉนวนกาซา
    Like
    Love
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • หัวใจของชาวปาเลสไตน์กำลังจะแตกสลายอีกครั้ง เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์เพิ่งบอกกับเนทันยาฮูว่าชาวปาเลสไตน์ไม่สามารถอยู่ในฉนวนกาซาได้อีกต่อไป

    เนทันยาฮูพึงพอใจคำพูดของทรัมป์ด้วยใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอย่างสะใจและมีความสุข
    หัวใจของชาวปาเลสไตน์กำลังจะแตกสลายอีกครั้ง เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์เพิ่งบอกกับเนทันยาฮูว่าชาวปาเลสไตน์ไม่สามารถอยู่ในฉนวนกาซาได้อีกต่อไป เนทันยาฮูพึงพอใจคำพูดของทรัมป์ด้วยใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มอย่างสะใจและมีความสุข
    Angry
    Love
    Sad
    4
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันที หลังการแถลงข่าวระหว่างทรัมป์และเนทันยาฮู

    ในแถลงการณ์ระบุชัดเจน จะยังไม่ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอลหากยังไม่จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
    กระทรวงต่างประเทศซาอุดีอาระเบียออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันที หลังการแถลงข่าวระหว่างทรัมป์และเนทันยาฮู ในแถลงการณ์ระบุชัดเจน จะยังไม่ฟื้นฟูความสัมพันธ์กับอิสราเอลหากยังไม่จัดตั้งรัฐปาเลสไตน์
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทุกคนที่ผมคุยด้วยชอบแนวคิดที่สหรัฐเป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้น"

    ทรัมป์กำลังวางแผนยึดครองดินแดนฉนวนกาซาร่วมกับอิสราเอล!!
    “สหรัฐจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา เราจะเป็นเจ้าของและรับผิดชอบในการรื้อระเบิดที่ยังไม่ระเบิดและอาวุธอื่นๆทั้งหมดในพื้นที่ รวมไปถึงการปรับปรุง และการกําจัดอาคารที่ถูกทําลายด้วย”

    ทรัมป์กล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ที่อยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามเวลาสหรัฐฯ​

    ทรัมป์ประกาศด้วยว่าชาวปาเลสไตน์ควรออกไปจากพื้นที่ พวกเขาอยู่ไปก็มีแต่จะรอความตาย

    ในขณะที่ผู้สื่อข่าวถามกลับว่า แล้วใครจะเข้ามาอยู่ในพื้นที่นี้แทน ทรัมป์ตอบว่า มันจะกลายเป็นบ้านของ "ประชากรโลก" (World's People) ซึ่งพลเมืองอิสราเอลและสหรัฐก็เป็นประชากรโลกเช่นกัน
    "ทุกคนที่ผมคุยด้วยชอบแนวคิดที่สหรัฐเป็นเจ้าของที่ดินผืนนั้น" ทรัมป์กำลังวางแผนยึดครองดินแดนฉนวนกาซาร่วมกับอิสราเอล!! “สหรัฐจะเข้ายึดครองฉนวนกาซา เราจะเป็นเจ้าของและรับผิดชอบในการรื้อระเบิดที่ยังไม่ระเบิดและอาวุธอื่นๆทั้งหมดในพื้นที่ รวมไปถึงการปรับปรุง และการกําจัดอาคารที่ถูกทําลายด้วย” ทรัมป์กล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ที่อยู่ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามเวลาสหรัฐฯ​ ทรัมป์ประกาศด้วยว่าชาวปาเลสไตน์ควรออกไปจากพื้นที่ พวกเขาอยู่ไปก็มีแต่จะรอความตาย ในขณะที่ผู้สื่อข่าวถามกลับว่า แล้วใครจะเข้ามาอยู่ในพื้นที่นี้แทน ทรัมป์ตอบว่า มันจะกลายเป็นบ้านของ "ประชากรโลก" (World's People) ซึ่งพลเมืองอิสราเอลและสหรัฐก็เป็นประชากรโลกเช่นกัน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สร้างความตกตะลึงอีกครั้งด้วยการประกาศว่าต้องการ “เทกโอเวอร์” ดินแดนกาซาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ หลังจากส่งชาวปาเลสไตน์ “ออกไปอยู่อื่น” ในความเคลื่อนไหวซึ่งจะถือเป็นการทำลายจุดยืนที่สหรัฐฯ มีต่อปัญหายิว-ปาเลสไตน์มานานหลายสิบปี
    .
    ทรัมป์ แถลงแผนการสุดเซอร์ไพรส์นี้ระหว่างเปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวร่วมกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล โดยยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร
    .
    ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทรัมป์ ได้เสนอให้ย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไปตั้งถิ่นฐานใหม่แบบถาวรในประเทศข้างเคียง โดยระบุว่าดินแดนกาซาในปัจจุบันมีสภาพไม่ต่างจากพื้นที่ทุบทำลาย (demolition site)
    .
    “สหรัฐฯ จะเทกโอเวอร์ฉนวนกาซา และเราจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วย” ทรัมป์ บอกกับผู้สื่อข่าว “เราจะเป็นเจ้าของมัน และจะรับผิดชอบเรื่องการทำลายระเบิดที่ยังไม่ทำงาน และอาวุธต่างๆ ที่อยู่ในนั้น”
    .
    “หากมีความจำเป็น เราก็จะทำ เราจะเทกโอเวอร์ดินแดนตรงนั้น เราจะเข้าไปพัฒนามัน สร้างงานหลายพันหลายหมื่นตำแหน่ง และมันจะเป็นสิ่งที่ตะวันออกกลางทั้งภูมิภาคและทั่วโลกต้องภูมิใจ” ทรัมป์ กล่าว
    .
    เมื่อถามว่าแล้วใครจะเข้าไปอาศัยอยู่ในดินแดนตรงนั้น ทรัมป์ ตอบแบบกว้างๆ ว่ามันจะเป็น “บ้านสำหรับชาวโลก”
    .
    ด้าน เนทันยาฮู ก็กล่าวรับลูกทันควันว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ “กล้าคิดนอกกรอบด้วยไอเดียใหม่ๆ” และ “แสดงความตั้งใจจริงที่จะแทงทะลุกรอบความคิดเดิมๆ”
    .
    อย่างไรก็ดี ทรัมป์ ไม่ได้ชี้แจงข้อซักถามของสื่อมวลชนที่ว่า สหรัฐฯ จะเอาอำนาจอะไรไปเทกโอเวอร์ดินแดนกาซา และยึดครองมันในระยะยาว
    .
    ทรัมป์ ยังย้ำข้อเรียกร้องให้จอร์แดน อียิปต์ และรัฐอาหรับอื่นๆ รับชาวกาซาไปอยู่อาศัย โดยชี้ว่าชาวปาเลสไตน์ "ไม่มีทางเลือกอื่น" นอกจากละทิ้งดินแดนผืนแคบๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ไปเสีย เนื่องจากกาซาจำเป็นต้องได้รับการบูรณะฟื้นฟูขนานใหญ่หลังเสียหายย่อยยับจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา
    .
    อย่างไรก็ดี ครั้งนี้ ทรัมป์ ประกาศชัดว่าเขาสนับสนุนการย้ายชาวกาซาแบบ "ถาวร" ซึ่งเป็นเรื่องหนักหน่วงเสียยิ่งกว่าข้อเสนอเดิมซึ่งบรรดารัฐอาหรับก็ไม่เอาด้วยอยู่แล้ว
    .
    เพียง 2 สัปดาห์หลังเข้ารับตำแหน่งเทอมสอง ทรัมป์ ได้เปิดทำเนียบขาวต้อนรับผู้นำยิวเพื่อหารือข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางในกาซา ยุทธศาสตร์ต่อต้านอิหร่าน รวมไปถึงความหวังที่จะรื้อฟื้นแผนผลักดันการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระดับปกติระหว่างอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบีย
    .
    "มันเป็นพื้นที่ทุบทำลายชัดๆ" ทรัมป์ เอ่ยถึงกาซาก่อนที่จะพบ เนทันยาฮู ไม่นานนัก
    .
    "ถ้าเราสามารถหาที่ดินสักผืนที่ใช่ หรืออาจจะหลายๆ ผืน และสร้างสถานที่ที่ดีและมีเม็ดเงินมหาศาลให้พวกเขา แน่นอน... ผมคิดว่ามันจะดีกว่าการกลับเข้าไปอยู่ในกาซา" ทรัมป์ กล่าว
    .
    "ผมไม่รู้จริงๆ ว่าทำไม (ชาวปาเลสไตน์) ถึงยังอยากอยู่ที่นั่น" ทรัมป์ให้คำตอบ หลังถูกถามถึงปฏิกิริยาของบรรดาผู้นำชาติอาหรับเกี่ยวกับข้อเสนอของเขา
    .
    ระหว่างพบ เนทันยาฮู ที่ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์ ได้ย้ำข้อเสนอเดิม โดยคราวนี้บอกว่าชาวปาเลสไตน์ควรย้ายออกจากกาซาไปเลยแบบถาวร "ไปอยู่ในบ้านใหม่ที่ดี ที่ซึ่งพวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องถูกยิง ไม่ต้องถูกสังหาร"
    .
    "พวกเขาจะไม่อยากกลับไปอยู่กาซาอีก"
    .
    ทรัมป์ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ากระบวนการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์จะกระทำอย่างไร แต่ข้อเสนอนี้เรียกได้ว่าเติมเต็มความปรารถนาของกลุ่มขวาจัดในอิสราเอล และขัดแย้งสิ้นเชิงกับจุดยืนของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่ให้คำมั่นว่าจะไม่มีการบังคับเคลื่อนย้ายชาวปาเลสไตน์จากกาซา
    .
    นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนบางคนออกมาวิจารณ์ข้อเสนอ ทรัมป์ ว่าไม่ต่างอะไรกับการล้างชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญกระแสต่อต้านรุนแรงไม่เพียงแต่ในตะวันออกกลาง แต่รวมถึงจากบรรดาพันธมิตรตะวันตกของสหรัฐฯ เองด้วย
    .
    ซามี อบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ออกมาประณามแผนของ ทรัมป์ ว่าเป็นการ "ขับไล่ชาวกาซาออกจากดินแดนของพวกเขาเอง"
    .
    "เรามองว่านี่คือสูตรสำเร็จที่จะสร้างความวุ่นวายและความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาค เพราะชาวกาซาจะไม่มีวันยอมให้แผนการเช่นนี้เกิดขึ้น" เขากล่าว
    .
    การที่ ทรัมป์ เลือกให้ เนทันยาฮู เป็นผู้นำต่างชาติรายแรกที่ได้มาพบเขาที่ทำเนียบขาวหลังสาบานตนเป็นผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ถูกมองว่าเป็นความพยายามโชว์ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างตนกับผู้นำยิว ตามหลังช่วงเวลาอันระหองระแหงระหว่าง เนทันยาฮู กับ ไบเดน สืบเนื่องจากสงครามในกาซา
    .
    อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮู ก็อาจจะเป็นฝ่ายถูก ทรัมป์ กดดันเข้าบ้างในอนาคต เนื่องจากเป้าหมายเชิงนโยบายตะวันออกกลางในภาพรวมของผู้นำอเมริกันที่คาดเดาได้ยากรายนี้บางครั้งก็ไม่ได้ตรงกับผลประโยชน์ภายในประเทศและผลประโยชน์ด้านภูมิรัฐศาสตร์สำหรับ เนทันยาฮู เสมอไป
    .
    ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งสมัยแรก ทรัมป์ เคยหยิบยื่นชัยชนะให้แก่ เนทันยาฮู หลายครั้ง ตั้งแต่การย้ายสถานทูตอเมริกันจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครเยรูซาเลม เรื่อยไปจนถึงการทำข้อตกลงอบราฮัมที่ช่วยให้รัฐอาหรับหลายชาติยอมสถาปนาความสัมพันธ์การทูตกับอิสราเอล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011557
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ สร้างความตกตะลึงอีกครั้งด้วยการประกาศว่าต้องการ “เทกโอเวอร์” ดินแดนกาซาเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ หลังจากส่งชาวปาเลสไตน์ “ออกไปอยู่อื่น” ในความเคลื่อนไหวซึ่งจะถือเป็นการทำลายจุดยืนที่สหรัฐฯ มีต่อปัญหายิว-ปาเลสไตน์มานานหลายสิบปี . ทรัมป์ แถลงแผนการสุดเซอร์ไพรส์นี้ระหว่างเปิดแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวร่วมกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล โดยยังไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร . ก่อนหน้านั้นไม่นาน ทรัมป์ ได้เสนอให้ย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซาไปตั้งถิ่นฐานใหม่แบบถาวรในประเทศข้างเคียง โดยระบุว่าดินแดนกาซาในปัจจุบันมีสภาพไม่ต่างจากพื้นที่ทุบทำลาย (demolition site) . “สหรัฐฯ จะเทกโอเวอร์ฉนวนกาซา และเราจะทำอะไรบางอย่างกับมันด้วย” ทรัมป์ บอกกับผู้สื่อข่าว “เราจะเป็นเจ้าของมัน และจะรับผิดชอบเรื่องการทำลายระเบิดที่ยังไม่ทำงาน และอาวุธต่างๆ ที่อยู่ในนั้น” . “หากมีความจำเป็น เราก็จะทำ เราจะเทกโอเวอร์ดินแดนตรงนั้น เราจะเข้าไปพัฒนามัน สร้างงานหลายพันหลายหมื่นตำแหน่ง และมันจะเป็นสิ่งที่ตะวันออกกลางทั้งภูมิภาคและทั่วโลกต้องภูมิใจ” ทรัมป์ กล่าว . เมื่อถามว่าแล้วใครจะเข้าไปอาศัยอยู่ในดินแดนตรงนั้น ทรัมป์ ตอบแบบกว้างๆ ว่ามันจะเป็น “บ้านสำหรับชาวโลก” . ด้าน เนทันยาฮู ก็กล่าวรับลูกทันควันว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ “กล้าคิดนอกกรอบด้วยไอเดียใหม่ๆ” และ “แสดงความตั้งใจจริงที่จะแทงทะลุกรอบความคิดเดิมๆ” . อย่างไรก็ดี ทรัมป์ ไม่ได้ชี้แจงข้อซักถามของสื่อมวลชนที่ว่า สหรัฐฯ จะเอาอำนาจอะไรไปเทกโอเวอร์ดินแดนกาซา และยึดครองมันในระยะยาว . ทรัมป์ ยังย้ำข้อเรียกร้องให้จอร์แดน อียิปต์ และรัฐอาหรับอื่นๆ รับชาวกาซาไปอยู่อาศัย โดยชี้ว่าชาวปาเลสไตน์ "ไม่มีทางเลือกอื่น" นอกจากละทิ้งดินแดนผืนแคบๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้ไปเสีย เนื่องจากกาซาจำเป็นต้องได้รับการบูรณะฟื้นฟูขนานใหญ่หลังเสียหายย่อยยับจากสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในช่วง 16 เดือนที่ผ่านมา . อย่างไรก็ดี ครั้งนี้ ทรัมป์ ประกาศชัดว่าเขาสนับสนุนการย้ายชาวกาซาแบบ "ถาวร" ซึ่งเป็นเรื่องหนักหน่วงเสียยิ่งกว่าข้อเสนอเดิมซึ่งบรรดารัฐอาหรับก็ไม่เอาด้วยอยู่แล้ว . เพียง 2 สัปดาห์หลังเข้ารับตำแหน่งเทอมสอง ทรัมป์ ได้เปิดทำเนียบขาวต้อนรับผู้นำยิวเพื่อหารือข้อตกลงหยุดยิงที่เปราะบางในกาซา ยุทธศาสตร์ต่อต้านอิหร่าน รวมไปถึงความหวังที่จะรื้อฟื้นแผนผลักดันการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระดับปกติระหว่างอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบีย . "มันเป็นพื้นที่ทุบทำลายชัดๆ" ทรัมป์ เอ่ยถึงกาซาก่อนที่จะพบ เนทันยาฮู ไม่นานนัก . "ถ้าเราสามารถหาที่ดินสักผืนที่ใช่ หรืออาจจะหลายๆ ผืน และสร้างสถานที่ที่ดีและมีเม็ดเงินมหาศาลให้พวกเขา แน่นอน... ผมคิดว่ามันจะดีกว่าการกลับเข้าไปอยู่ในกาซา" ทรัมป์ กล่าว . "ผมไม่รู้จริงๆ ว่าทำไม (ชาวปาเลสไตน์) ถึงยังอยากอยู่ที่นั่น" ทรัมป์ให้คำตอบ หลังถูกถามถึงปฏิกิริยาของบรรดาผู้นำชาติอาหรับเกี่ยวกับข้อเสนอของเขา . ระหว่างพบ เนทันยาฮู ที่ห้องทำงานรูปไข่ ทรัมป์ ได้ย้ำข้อเสนอเดิม โดยคราวนี้บอกว่าชาวปาเลสไตน์ควรย้ายออกจากกาซาไปเลยแบบถาวร "ไปอยู่ในบ้านใหม่ที่ดี ที่ซึ่งพวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ต้องถูกยิง ไม่ต้องถูกสังหาร" . "พวกเขาจะไม่อยากกลับไปอยู่กาซาอีก" . ทรัมป์ ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ากระบวนการโยกย้ายชาวปาเลสไตน์จะกระทำอย่างไร แต่ข้อเสนอนี้เรียกได้ว่าเติมเต็มความปรารถนาของกลุ่มขวาจัดในอิสราเอล และขัดแย้งสิ้นเชิงกับจุดยืนของอดีตประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ที่ให้คำมั่นว่าจะไม่มีการบังคับเคลื่อนย้ายชาวปาเลสไตน์จากกาซา . นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนบางคนออกมาวิจารณ์ข้อเสนอ ทรัมป์ ว่าไม่ต่างอะไรกับการล้างชาติพันธุ์ (ethnic cleansing) ซึ่งเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะเผชิญกระแสต่อต้านรุนแรงไม่เพียงแต่ในตะวันออกกลาง แต่รวมถึงจากบรรดาพันธมิตรตะวันตกของสหรัฐฯ เองด้วย . ซามี อบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ออกมาประณามแผนของ ทรัมป์ ว่าเป็นการ "ขับไล่ชาวกาซาออกจากดินแดนของพวกเขาเอง" . "เรามองว่านี่คือสูตรสำเร็จที่จะสร้างความวุ่นวายและความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาค เพราะชาวกาซาจะไม่มีวันยอมให้แผนการเช่นนี้เกิดขึ้น" เขากล่าว . การที่ ทรัมป์ เลือกให้ เนทันยาฮู เป็นผู้นำต่างชาติรายแรกที่ได้มาพบเขาที่ทำเนียบขาวหลังสาบานตนเป็นผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ถูกมองว่าเป็นความพยายามโชว์ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่างตนกับผู้นำยิว ตามหลังช่วงเวลาอันระหองระแหงระหว่าง เนทันยาฮู กับ ไบเดน สืบเนื่องจากสงครามในกาซา . อย่างไรก็ตาม เนทันยาฮู ก็อาจจะเป็นฝ่ายถูก ทรัมป์ กดดันเข้าบ้างในอนาคต เนื่องจากเป้าหมายเชิงนโยบายตะวันออกกลางในภาพรวมของผู้นำอเมริกันที่คาดเดาได้ยากรายนี้บางครั้งก็ไม่ได้ตรงกับผลประโยชน์ภายในประเทศและผลประโยชน์ด้านภูมิรัฐศาสตร์สำหรับ เนทันยาฮู เสมอไป . ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งสมัยแรก ทรัมป์ เคยหยิบยื่นชัยชนะให้แก่ เนทันยาฮู หลายครั้ง ตั้งแต่การย้ายสถานทูตอเมริกันจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครเยรูซาเลม เรื่อยไปจนถึงการทำข้อตกลงอบราฮัมที่ช่วยให้รัฐอาหรับหลายชาติยอมสถาปนาความสัมพันธ์การทูตกับอิสราเอล . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011557 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    Sad
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1233 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ขู่ชาวปาเลสไตน์ต่อหน้าเนทันยาฮูว่า หากพวกเขายังฝืนอยู่ในกาซา พวกเขาจะตายไปในที่สุด!

    ชาวปาเลสไตน์จะมีสิทธิ์กลับกาซ่าหรือไม่ หากพวกเขาออกไประหว่างที่กำลังฟื้นฟูเมืองใหม่?

    โดนัลด์ ทรัมป์: ผมหวังว่าเราจะทำอะไรดีๆ สักอย่างได้จริงๆ ที่พวกเขาไม่อยากกลับ เพราะที่นั่นเป็นนรกชัดๆ

    นักข่าวตะโกนว่า "นี่คือบ้านของพวกเขานะครับท่าน!"

    ทรัมป์: เราสามารถสร้างเมืองที่มีคุณภาพดีจริงๆ ได้ เช่น สถานที่ที่พวกเขาสามารถอยู่อาศัยได้โดยไม่ต้องตาย เพราะกาซ่าเป็นเครื่องรับประกันว่าพวกเขาจะต้องตาย สิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นอีก ใครจะอยากกลับไป พวกเขาประสบแต่ความตายและการทำลายล้าง
    ทรัมป์ขู่ชาวปาเลสไตน์ต่อหน้าเนทันยาฮูว่า หากพวกเขายังฝืนอยู่ในกาซา พวกเขาจะตายไปในที่สุด! ชาวปาเลสไตน์จะมีสิทธิ์กลับกาซ่าหรือไม่ หากพวกเขาออกไประหว่างที่กำลังฟื้นฟูเมืองใหม่? โดนัลด์ ทรัมป์: ผมหวังว่าเราจะทำอะไรดีๆ สักอย่างได้จริงๆ ที่พวกเขาไม่อยากกลับ เพราะที่นั่นเป็นนรกชัดๆ นักข่าวตะโกนว่า "นี่คือบ้านของพวกเขานะครับท่าน!" ทรัมป์: เราสามารถสร้างเมืองที่มีคุณภาพดีจริงๆ ได้ เช่น สถานที่ที่พวกเขาสามารถอยู่อาศัยได้โดยไม่ต้องตาย เพราะกาซ่าเป็นเครื่องรับประกันว่าพวกเขาจะต้องตาย สิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นอีก ใครจะอยากกลับไป พวกเขาประสบแต่ความตายและการทำลายล้าง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • ทรัมป์กำลังเขย่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางครั้งใหญ่ เมื่อประกาศการตัดสินใจต่อหน้าเนทันยาฮู ในการยกดินแดนกาซาให้อิสราเอล

    นักข่าวถามทรัมป์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าอียิปต์และจอร์แดนปฏิเสธข้อเสนอของคุณที่จะย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา

    โดนัลด์ ทรัมป์: “พวกเขาจะไม่ปฏิเสธผม ผมต้องการย้ายชาวกาซาทั้งหมดออกไป” “มันจะต้องเกิดขึ้น” [Jerusalem Post]

    ทรัมป์พูดถึงการอพยพของชาวปาเลสไตน์: “ผมหวังว่าเราจะทำอะไรบางอย่างได้เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่อยากกลับมา” [Israeli Radio]

    รูปภาพ1 - รูปประกอบแนวทางอนาคตของชาวปาเลสไตน์ในกาซา ดินแดนกาซาจะหายไป และกลายเป็นของอิสราเอล ชาวกาซาจะถูกผลักดันออกไปอยู่แนวเขตอียิปต์ ซึ่งเป็นทะเลทรายไซนาย (Sinai) เป็นเขตปกครอไซนายเหนือ (North Sinai Governorate) ของอียิปต์

    ถ้าหากอิสราเอลผนวกดินแดนกาซา โดยการสนับสนุนของสหรัฐ:
    - จีนจะอ้างสิทธิผนวกไต้หวัน
    - รัสเซียจะอ้างสิทธิผนวกยูเครน
    - แล้วโคโซโวล่ะ?
    ทรัมป์กำลังเขย่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางครั้งใหญ่ เมื่อประกาศการตัดสินใจต่อหน้าเนทันยาฮู ในการยกดินแดนกาซาให้อิสราเอล นักข่าวถามทรัมป์ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าอียิปต์และจอร์แดนปฏิเสธข้อเสนอของคุณที่จะย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา โดนัลด์ ทรัมป์: “พวกเขาจะไม่ปฏิเสธผม ผมต้องการย้ายชาวกาซาทั้งหมดออกไป” “มันจะต้องเกิดขึ้น” [Jerusalem Post] ทรัมป์พูดถึงการอพยพของชาวปาเลสไตน์: “ผมหวังว่าเราจะทำอะไรบางอย่างได้เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่อยากกลับมา” [Israeli Radio] รูปภาพ1 - รูปประกอบแนวทางอนาคตของชาวปาเลสไตน์ในกาซา ดินแดนกาซาจะหายไป และกลายเป็นของอิสราเอล ชาวกาซาจะถูกผลักดันออกไปอยู่แนวเขตอียิปต์ ซึ่งเป็นทะเลทรายไซนาย (Sinai) เป็นเขตปกครอไซนายเหนือ (North Sinai Governorate) ของอียิปต์ ถ้าหากอิสราเอลผนวกดินแดนกาซา โดยการสนับสนุนของสหรัฐ: - จีนจะอ้างสิทธิผนวกไต้หวัน - รัสเซียจะอ้างสิทธิผนวกยูเครน - แล้วโคโซโวล่ะ?
    Like
    Love
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เรียกร้องชาวปาเลสไตน์ให้อพยพออกจากกาซา เพื่อไปยังประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างถาวร
    พร้อมขู่ว่าจะดำเนินการกับจอร์แดนและอียิปต์ หากพวกเขาไม่ยอมรับข้อเสนอรับชาวปาเลสไตน์
    ทรัมป์พูดเรื่องนี้ขณะเนทันยาฮูแห่งอิสราเอลมาเยือนทำเนียบขาวเมื่อวานนี้
    ทรัมป์เรียกร้องชาวปาเลสไตน์ให้อพยพออกจากกาซา เพื่อไปยังประเทศอาหรับอื่นๆ อย่างถาวร พร้อมขู่ว่าจะดำเนินการกับจอร์แดนและอียิปต์ หากพวกเขาไม่ยอมรับข้อเสนอรับชาวปาเลสไตน์ ทรัมป์พูดเรื่องนี้ขณะเนทันยาฮูแห่งอิสราเอลมาเยือนทำเนียบขาวเมื่อวานนี้
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำอาหรับ ร่วมลงนามเพื่อส่งข้อความถึงรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ "ไม่เห็นด้วยในการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา"

    รัฐมนตรีต่างประเทศจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ อียิปต์ จอร์แดน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงชาวปาเลสไตน์ ลงนามในจดหมายร่วมกัน เพื่อส่งถึงมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เพื่อแสดงการไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับแผนการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา
    ผู้นำอาหรับ ร่วมลงนามเพื่อส่งข้อความถึงรูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ "ไม่เห็นด้วยในการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา" รัฐมนตรีต่างประเทศจากซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์ อียิปต์ จอร์แดน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงชาวปาเลสไตน์ ลงนามในจดหมายร่วมกัน เพื่อส่งถึงมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เพื่อแสดงการไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับแผนการย้ายชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือสิ่งที่ชาวปาเลสไตน์ต้อง "อดทน" อยู่กับความกดดันที่พวกเขาต้องเจอทุกวัน และเมื่อวันหนึ่งที่พวกเขาลุกขึ้นสู้ ชาวโลกกลุ่มหนึ่งกลับมองเห็นพวกเขาใช้ความรุนแรง และมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย!

    ภาพรถบรรทุกของกองกำลังอิสราเอลพุ่งเข้าชนแผงขายอาหารของชาวปาเลสไตน์ในตูลคาเรม(Tulkarm) ในเขต West Bank "เพียงเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น"

    "แม้ว่ามันจะมองดูเป็นเรื่องเล็กน้อย หากใครต้องเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ทุกวัน พวกเขาเหล่านั้นจะตัดสินใจอย่างไร"
    นี่คือสิ่งที่ชาวปาเลสไตน์ต้อง "อดทน" อยู่กับความกดดันที่พวกเขาต้องเจอทุกวัน และเมื่อวันหนึ่งที่พวกเขาลุกขึ้นสู้ ชาวโลกกลุ่มหนึ่งกลับมองเห็นพวกเขาใช้ความรุนแรง และมองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย! ภาพรถบรรทุกของกองกำลังอิสราเอลพุ่งเข้าชนแผงขายอาหารของชาวปาเลสไตน์ในตูลคาเรม(Tulkarm) ในเขต West Bank "เพียงเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น" "แม้ว่ามันจะมองดูเป็นเรื่องเล็กน้อย หากใครต้องเจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ทุกวัน พวกเขาเหล่านั้นจะตัดสินใจอย่างไร"
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 48 0 รีวิว
  • สำนักงานสื่อของรัฐบาลปาเลสไตน์ในฉนวนกาซารายงานภาพรวมของการโจมตีจากอิสราเอล:

    ➤ ประชาชนมากกว่า 61,000 คน ตกเป็นเหยื่อของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซา

    ➤ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่าสองล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานจากบ้านเรือนของตน

    ➤ ที่อยู่อาศัยมากกว่า 150,000 ยูนิต ได้รับความเสียหายในฉนวนกาซาจากการโจมตีทำลายของอิสราเอล

    ➤ กองกำลังอิสราเอลก่อเหตุสังหารหมู่ยกครอบครัวไปมากถึง 9,268 คตรอบครัว ในระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา

    ➤ กองกำลังอิสราเอลสังหารบุคลากรทางการแพทย์ไป 1,155 ราย นักข่าว 205 ราย และเจ้าหน้าที่บริการสาธารธภัยพลเรือน 194 ราย

    ➤ กองกำลังอิสราเอลทำลายโรงพยาบาลประมาณ 34 แห่งในฉนวนกาซา
    สำนักงานสื่อของรัฐบาลปาเลสไตน์ในฉนวนกาซารายงานภาพรวมของการโจมตีจากอิสราเอล: ➤ ประชาชนมากกว่า 61,000 คน ตกเป็นเหยื่อของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซา ➤ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่าสองล้านคนต้องพลัดถิ่นฐานจากบ้านเรือนของตน ➤ ที่อยู่อาศัยมากกว่า 150,000 ยูนิต ได้รับความเสียหายในฉนวนกาซาจากการโจมตีทำลายของอิสราเอล ➤ กองกำลังอิสราเอลก่อเหตุสังหารหมู่ยกครอบครัวไปมากถึง 9,268 คตรอบครัว ในระหว่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา ➤ กองกำลังอิสราเอลสังหารบุคลากรทางการแพทย์ไป 1,155 ราย นักข่าว 205 ราย และเจ้าหน้าที่บริการสาธารธภัยพลเรือน 194 ราย ➤ กองกำลังอิสราเอลทำลายโรงพยาบาลประมาณ 34 แห่งในฉนวนกาซา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล จะเริ่มต้นเจรจาขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างเดินทางเยือนวอชิงตันในวันจันทร์ (3 ก.พ.) จากการเปิดเผยของทำเนียบนายกรัฐมนตรียิว
    .
    ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลของเนทันยาฮู เผยแพร่ถ้อยแถลงในวันเสาร์ (1 ก.พ.) ระบุว่านายกรัฐมนตรี "ได้พูดคุยกับ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษตะวันด้านตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทั้ง 2 เห็นพ้องกันว่าการเจรจาขั้นที่ 2 ของข้อตกลงตัวประกันจะเริ่มขึ้นตอนที่พวกเขาพบปะกันในวอชิงตัน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้"
    .
    "จากนั้นในช่วงกลางสัปดาห์ วิตคอฟฟ์จะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกาตาร์ และตัวแทนระดับสูงของอียิปต์ หลังจากนั้น เขาะหารือกับนายกรัฐมนตีรี เกี่ยวกับก้าวย่างเพื่อสานต่อความคืบหน้าของการเจรจา ในนั้นรวมถึงกำหนดวันเวลาที่พวกคณะผู้แทนเจรจาจะออกเดินทางเพื่อไปเจรจา" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    ข้อตกลงหยุดยิงในกาซามีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา พักการทำศึกสงครามในดินแดนของปาเลสไตน์ที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน หลังจากที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ พวกคนกลางอย่างอียิปต์ กาตาร์ และสหรัฐฯ ใช้ความพยายามเจรจามานานกว่า 1 ปี แต่ไร้ผล
    .
    ภายใต้ข้อตกลงขั้นแรกที่มีอายุ 6 สัปดาห์ จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่พวกฮามาสจับกุมตัวไประหว่างปฏิบัติการโจมตีเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ออกจากกาซา จำนวน 33 คน แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ราว 1,900 คน
    .
    จนถึงตอนนี้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษไปแล้ว 4 รอบ ซึ่งพบเห็นตัวประกันอิสราเอล 13 คน ได้รับการปล่อยตัวแลกกับผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคน จำนวนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก นอกจากนี้ ตัวประกันชาวไทย 5 คนก็ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน
    .
    ส่วนขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าจะครอบคลุมการปล่อยพวกผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ ที่เหลือ และอาจรวมถึงการพูดคุยหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงที่ยั่งยืนกว่าเดิม
    .
    ทำเนียบของเนทันยาฮู เผยว่าในวันจันทร์ (3 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีจะหารือเกี่ยวกับ "จุดยืนต่างๆ ของอิสราเอล" กับ วิตคอฟฟ์ เสียก่อน จากนั้นคาดหมายว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ผู้อ้างเครดิตสำหรับข้อตกลงหยุดยิง จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับ เนทันยาฮู ในวันอังคาร (4 ก.พ.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010547
    ..................
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล จะเริ่มต้นเจรจาขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ระหว่างเดินทางเยือนวอชิงตันในวันจันทร์ (3 ก.พ.) จากการเปิดเผยของทำเนียบนายกรัฐมนตรียิว . ทำเนียบนายกรัฐมนตรีอิสราเอลของเนทันยาฮู เผยแพร่ถ้อยแถลงในวันเสาร์ (1 ก.พ.) ระบุว่านายกรัฐมนตรี "ได้พูดคุยกับ สตีฟ วิตคอฟฟ์ ทูตพิเศษตะวันด้านตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทั้ง 2 เห็นพ้องกันว่าการเจรจาขั้นที่ 2 ของข้อตกลงตัวประกันจะเริ่มขึ้นตอนที่พวกเขาพบปะกันในวอชิงตัน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้" . "จากนั้นในช่วงกลางสัปดาห์ วิตคอฟฟ์จะพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกาตาร์ และตัวแทนระดับสูงของอียิปต์ หลังจากนั้น เขาะหารือกับนายกรัฐมนตีรี เกี่ยวกับก้าวย่างเพื่อสานต่อความคืบหน้าของการเจรจา ในนั้นรวมถึงกำหนดวันเวลาที่พวกคณะผู้แทนเจรจาจะออกเดินทางเพื่อไปเจรจา" ถ้อยแถลงระบุ . ข้อตกลงหยุดยิงในกาซามีผลบังคับใช้ในวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา พักการทำศึกสงครามในดินแดนของปาเลสไตน์ที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน หลังจากที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ พวกคนกลางอย่างอียิปต์ กาตาร์ และสหรัฐฯ ใช้ความพยายามเจรจามานานกว่า 1 ปี แต่ไร้ผล . ภายใต้ข้อตกลงขั้นแรกที่มีอายุ 6 สัปดาห์ จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่พวกฮามาสจับกุมตัวไประหว่างปฏิบัติการโจมตีเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ออกจากกาซา จำนวน 33 คน แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ราว 1,900 คน . จนถึงตอนนี้มีการแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษไปแล้ว 4 รอบ ซึ่งพบเห็นตัวประกันอิสราเอล 13 คน ได้รับการปล่อยตัวแลกกับผู้ต้องขังชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคน จำนวนมากเป็นผู้หญิงและเด็ก นอกจากนี้ ตัวประกันชาวไทย 5 คนก็ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน . ส่วนขั้นที่ 2 ของข้อตกลงหยุดยิง คาดหมายว่าจะครอบคลุมการปล่อยพวกผู้ถูกควบคุมตัวคนอื่นๆ ที่เหลือ และอาจรวมถึงการพูดคุยหารือเกี่ยวกับการหยุดยิงที่ยั่งยืนกว่าเดิม . ทำเนียบของเนทันยาฮู เผยว่าในวันจันทร์ (3 ก.พ.) นายกรัฐมนตรีจะหารือเกี่ยวกับ "จุดยืนต่างๆ ของอิสราเอล" กับ วิตคอฟฟ์ เสียก่อน จากนั้นคาดหมายว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ผู้อ้างเครดิตสำหรับข้อตกลงหยุดยิง จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับ เนทันยาฮู ในวันอังคาร (4 ก.พ.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000010547 .................. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1203 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฮามาสปล่อยตัวประกันอีกครั้งในวันนี้ซึ่งเป็นครั้งที่สี่ จำนวน 3 ราย แบ่งเป็นชาวอิสราเอล 2 ราย และชาวอิสราเอลสัญชาติอเมริกันอีก 1 ราย

    ตัวประกันชาวอิสราเอลสองรายแรก คือ ยาร์เดน บิบาส (Yarden Bibas) และโอเฟอร์ คัลเดรอน (Ofer Kalderon) ถูกปล่อยตัวให้กับเจ้าหน้าที่กาชาดสากลก่อน และได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่อิสราเอลเรียบร้อยแล้ว

    คีธ ซีเกล (Keith Siegel) ได้รับการปล่อยตัวเป็นรายล่าสุด (วิดีโอ1)

    อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์กว่า 180 คน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนในช่วงบ่ายวันนี้เช่นกัน
    ฮามาสปล่อยตัวประกันอีกครั้งในวันนี้ซึ่งเป็นครั้งที่สี่ จำนวน 3 ราย แบ่งเป็นชาวอิสราเอล 2 ราย และชาวอิสราเอลสัญชาติอเมริกันอีก 1 ราย ตัวประกันชาวอิสราเอลสองรายแรก คือ ยาร์เดน บิบาส (Yarden Bibas) และโอเฟอร์ คัลเดรอน (Ofer Kalderon) ถูกปล่อยตัวให้กับเจ้าหน้าที่กาชาดสากลก่อน และได้ข้ามพรมแดนเข้าสู่อิสราเอลเรียบร้อยแล้ว คีธ ซีเกล (Keith Siegel) ได้รับการปล่อยตัวเป็นรายล่าสุด (วิดีโอ1) อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์กว่า 180 คน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนในช่วงบ่ายวันนี้เช่นกัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts