• Mistral OCR 3: ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของการอ่านเอกสารด้วย AI

    Mistral OCR 3 คือเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของระบบ OCR จาก Mistral AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความแม่นยำและความทนทานในการประมวลผลเอกสารทุกประเภท ตั้งแต่ฟอร์มราชการ สแกนคุณภาพต่ำ ไปจนถึงลายมือที่อ่านยาก จุดเด่นสำคัญคือประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Mistral OCR 2 อย่างชัดเจน โดยมีอัตราชนะรวมกว่า 74% ในการทดสอบภายในกับเอกสารจริงจากลูกค้าองค์กร

    สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้โดดเด่นคือความสามารถในการ “เข้าใจโครงสร้างเอกสาร” ไม่ใช่แค่ดึงข้อความออกมาเท่านั้น Mistral OCR 3 สามารถสร้าง Markdown ที่มี HTML table reconstruction เพื่อรักษาโครงสร้างตารางที่ซับซ้อน เช่น merged cells, multi-row headers และ column hierarchy ซึ่งเป็นสิ่งที่ OCR ทั่วไปทำได้ยากมาก นอกจากนี้ยังรองรับการดึงภาพที่ฝังอยู่ในเอกสารออกมาพร้อมกัน ทำให้เหมาะสำหรับ workflow ที่ต้องการข้อมูลครบถ้วนเพื่อป้อนให้ agent หรือระบบ downstream อื่นๆ

    อีกหนึ่งจุดแข็งคือความสามารถในการจัดการเอกสารที่มีคุณภาพต่ำ เช่น สแกนเอียง ภาพเบลอ DPI ต่ำ หรือมี noise ซึ่งเป็นปัญหาที่องค์กรจำนวนมากต้องเจอในงานจริง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารเก่า เอกสารราชการ หรือไฟล์ที่ถูกถ่ายจากมือถือ Mistral OCR 3 ถูกฝึกมาให้ robust ต่อสถานการณ์เหล่านี้โดยเฉพาะ ทำให้ผลลัพธ์มีความเสถียรและพร้อมใช้งานมากขึ้นในระดับ production

    สุดท้าย Mistral OCR 3 ยังมาพร้อมราคาที่แข่งขันได้มาก—เพียง $2 ต่อ 1,000 หน้า และลดเหลือ $1 ต่อ 1,000 หน้า เมื่อใช้ Batch API ซึ่งถูกกว่าระบบ OCR เชิงพาณิชย์หลายเจ้าอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการประมวลผลเอกสารจำนวนมากโดยไม่ต้องลงทุนสูง

    ไฮไลต์ของ Mistral OCR 3
    ประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก: ชนะ Mistral OCR 2 ถึง 74% ในการทดสอบภายใน
    รองรับเอกสารหลากหลายประเภท รวมถึงลายมือ ฟอร์ม และสแกนคุณภาพต่ำ
    สร้าง Markdown พร้อม HTML table reconstruction เพื่อรักษาโครงสร้างเอกสาร

    ความสามารถเชิงเทคนิค
    Robust ต่อ noise, skew, compression artifacts และ low DPI
    ดึงข้อความ + ภาพฝังในเอกสารได้พร้อมกัน
    รองรับ complex tables พร้อม colspan/rowspan

    การใช้งานจริงในองค์กร
    เหมาะสำหรับ pipeline ปริมาณสูง เช่น ใบแจ้งหนี้ เอกสารปฏิบัติการ รายงานวิชาการ
    ใช้ใน Document AI Playground เพื่อแปลง PDF/ภาพเป็น text หรือ JSON ได้ทันที
    ลูกค้าใช้เพื่อ digitize archives, extract structured fields และปรับปรุง enterprise search

    ด้านราคาและการเข้าถึง
    ราคาเพียง $2 ต่อ 1,000 หน้า (ลดเหลือ $1 เมื่อใช้ Batch API)
    backward compatible กับ Mistral OCR 2
    ใช้งานผ่าน API หรือ Document AI Playground ได้ทันที

    ประเด็นที่ต้องระวัง
    แม้จะ robust แต่เอกสารที่เสียหายหนักอาจยังต้อง preprocessing
    การ reconstruct ตารางซับซ้อนอาจต้องตรวจสอบผลลัพธ์ก่อนใช้งาน downstream
    การใช้งานใน pipeline ปริมาณมากต้องวางแผนด้าน latency และ throughput

    https://mistral.ai/news/mistral-ocr-3
    🔍 Mistral OCR 3: ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของการอ่านเอกสารด้วย AI Mistral OCR 3 คือเวอร์ชันใหม่ล่าสุดของระบบ OCR จาก Mistral AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อยกระดับความแม่นยำและความทนทานในการประมวลผลเอกสารทุกประเภท ตั้งแต่ฟอร์มราชการ สแกนคุณภาพต่ำ ไปจนถึงลายมือที่อ่านยาก จุดเด่นสำคัญคือประสิทธิภาพที่เหนือกว่า Mistral OCR 2 อย่างชัดเจน โดยมีอัตราชนะรวมกว่า 74% ในการทดสอบภายในกับเอกสารจริงจากลูกค้าองค์กร สิ่งที่ทำให้รุ่นนี้โดดเด่นคือความสามารถในการ “เข้าใจโครงสร้างเอกสาร” ไม่ใช่แค่ดึงข้อความออกมาเท่านั้น Mistral OCR 3 สามารถสร้าง Markdown ที่มี HTML table reconstruction เพื่อรักษาโครงสร้างตารางที่ซับซ้อน เช่น merged cells, multi-row headers และ column hierarchy ซึ่งเป็นสิ่งที่ OCR ทั่วไปทำได้ยากมาก นอกจากนี้ยังรองรับการดึงภาพที่ฝังอยู่ในเอกสารออกมาพร้อมกัน ทำให้เหมาะสำหรับ workflow ที่ต้องการข้อมูลครบถ้วนเพื่อป้อนให้ agent หรือระบบ downstream อื่นๆ อีกหนึ่งจุดแข็งคือความสามารถในการจัดการเอกสารที่มีคุณภาพต่ำ เช่น สแกนเอียง ภาพเบลอ DPI ต่ำ หรือมี noise ซึ่งเป็นปัญหาที่องค์กรจำนวนมากต้องเจอในงานจริง ไม่ว่าจะเป็นเอกสารเก่า เอกสารราชการ หรือไฟล์ที่ถูกถ่ายจากมือถือ Mistral OCR 3 ถูกฝึกมาให้ robust ต่อสถานการณ์เหล่านี้โดยเฉพาะ ทำให้ผลลัพธ์มีความเสถียรและพร้อมใช้งานมากขึ้นในระดับ production สุดท้าย Mistral OCR 3 ยังมาพร้อมราคาที่แข่งขันได้มาก—เพียง $2 ต่อ 1,000 หน้า และลดเหลือ $1 ต่อ 1,000 หน้า เมื่อใช้ Batch API ซึ่งถูกกว่าระบบ OCR เชิงพาณิชย์หลายเจ้าอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการประมวลผลเอกสารจำนวนมากโดยไม่ต้องลงทุนสูง ✅ ไฮไลต์ของ Mistral OCR 3 ➡️ ประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก: ชนะ Mistral OCR 2 ถึง 74% ในการทดสอบภายใน ➡️ รองรับเอกสารหลากหลายประเภท รวมถึงลายมือ ฟอร์ม และสแกนคุณภาพต่ำ ➡️ สร้าง Markdown พร้อม HTML table reconstruction เพื่อรักษาโครงสร้างเอกสาร ✅ ความสามารถเชิงเทคนิค ➡️ Robust ต่อ noise, skew, compression artifacts และ low DPI ➡️ ดึงข้อความ + ภาพฝังในเอกสารได้พร้อมกัน ➡️ รองรับ complex tables พร้อม colspan/rowspan ✅ การใช้งานจริงในองค์กร ➡️ เหมาะสำหรับ pipeline ปริมาณสูง เช่น ใบแจ้งหนี้ เอกสารปฏิบัติการ รายงานวิชาการ ➡️ ใช้ใน Document AI Playground เพื่อแปลง PDF/ภาพเป็น text หรือ JSON ได้ทันที ➡️ ลูกค้าใช้เพื่อ digitize archives, extract structured fields และปรับปรุง enterprise search ✅ ด้านราคาและการเข้าถึง ➡️ ราคาเพียง $2 ต่อ 1,000 หน้า (ลดเหลือ $1 เมื่อใช้ Batch API) ➡️ backward compatible กับ Mistral OCR 2 ➡️ ใช้งานผ่าน API หรือ Document AI Playground ได้ทันที ‼️ ประเด็นที่ต้องระวัง ⛔ แม้จะ robust แต่เอกสารที่เสียหายหนักอาจยังต้อง preprocessing ⛔ การ reconstruct ตารางซับซ้อนอาจต้องตรวจสอบผลลัพธ์ก่อนใช้งาน downstream ⛔ การใช้งานใน pipeline ปริมาณมากต้องวางแผนด้าน latency และ throughput https://mistral.ai/news/mistral-ocr-3
    MISTRAL.AI
    Introducing Mistral OCR 3 | Mistral AI
    Achieving a new frontier for both accuracy and efficiency in document processing.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง แตกคอ แตกคอ
    “แตกคอ แตกคอก”
    ตอน 1
    กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว
    เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ
    ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก
    ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย
    ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก
    แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง
    ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน
    เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล…
    อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน
    แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย
    และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน
    ###############
ตอน 2
    เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ
    โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน
    โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ
    แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้
    เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม
    จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน
    และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ
    แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว
    ###############
ตอน 3
    ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย
    สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง
    การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว…
    หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!!
    แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่
    การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย
    เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย
    แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก
    การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว
    …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้)
    ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน
    โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง….
    ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    เรื่อง แตกคอ แตกคอ “แตกคอ แตกคอก” ตอน 1 กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล… อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน ###############
ตอน 2 เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้ เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว ###############
ตอน 3 ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว… หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!! แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่ การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้) ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง…. ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 เทคโนโลยีสุดล้ำที่มนุษย์ส่งขึ้นสู่อวกาศ: จากยานสำรวจถึงวัตถุทางวัฒนธรรม

    การเดินทางของมนุษยชาติกับอวกาศเป็นเรื่องราวที่ยาวนานกว่าพันปี ตั้งแต่ยุคที่มนุษย์มองดวงดาวด้วยความสงสัย จนถึงวันที่เราส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ และสร้างสถานีอวกาศที่โคจรรอบโลกอย่าง ISS สิ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีที่เราส่งขึ้นไปนอกโลกไม่ได้มีแค่ยานสำรวจหรือดาวเทียมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัตถุทางวัฒนธรรม สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ และแม้แต่ของเล่นที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ด้วย

    ในบรรดาเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุด ได้แก่ ยานอวกาศที่พาเราข้ามขีดจำกัดของแรงโน้มถ่วง ดาวเทียมที่กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของโลกยุคดิจิทัล กล้องโทรทรรศน์อวกาศอย่าง Hubble และ James Webb ที่เปิดหน้าต่างใหม่สู่จักรวาล รวมถึงภารกิจสำรวจดาวอังคารที่ต้องฝ่าความล้มเหลวมากมายก่อนจะประสบความสำเร็จในยุคของ Curiosity และ Perseverance

    นอกจากเทคโนโลยีหลักแล้ว ยังมีวัตถุที่สะท้อนวัฒนธรรมมนุษย์ เช่น Tesla Roadster ที่ SpaceX ส่งขึ้นไปพร้อม Starman, ฟิกเกอร์ LEGO ที่ร่วมเดินทางไปกับยาน Juno, ชิ้นส่วนเครื่องบินลำแรกของ Wright Brothers ที่ไปถึงดวงจันทร์ และ Golden Record ที่บรรจุเสียงและภาพของมนุษยชาติไว้เพื่อทักทายสิ่งมีชีวิตนอกโลกหากมีวันได้พบกัน

    สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าอวกาศไม่ใช่เพียงสนามทดลองทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นพื้นที่ที่มนุษย์ใช้บอกเล่าเรื่องราว ความฝัน ความกลัว และความหวังของเราในฐานะเผ่าพันธุ์หนึ่งในจักรวาล การส่งเทคโนโลยีและวัตถุเหล่านี้ขึ้นไปจึงเป็นทั้งการสำรวจภายนอก และการสะท้อนตัวตนภายในของมนุษย์เองด้วย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทคโนโลยีสำคัญที่ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ
    ยานอวกาศและจรวดที่พาเราข้ามขีดจำกัดของแรงโน้มถ่วง
    ดาวเทียมกว่า 13,700 ดวงที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของโลกยุคดิจิทัล
    กล้องโทรทรรศน์ Hubble และ James Webb ที่เปิดมุมมองใหม่ของจักรวาล
    Mars Rovers ที่ฝ่าความล้มเหลวหลายครั้งก่อนประสบความสำเร็จ

    วัตถุทางวัฒนธรรมที่ร่วมเดินทางไปกับมนุษย์
    Tesla Roadster พร้อม Starman และผลงานของ Asimov
    ฟิกเกอร์ LEGO บนภารกิจ Juno
    ชิ้นส่วนเครื่องบินของ Wright Brothers ที่ไปถึงดวงจันทร์
    Golden Record ที่บันทึกเสียง ภาพ และดนตรีของมนุษยชาติ

    ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของการส่งสิ่งเหล่านี้ขึ้นสู่อวกาศ
    แสดงให้เห็นความอยากรู้อยากเห็นและความกล้าของมนุษย์
    เป็นการบันทึกวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของมนุษย์ในระดับจักรวาล
    สะท้อนความร่วมมือระดับโลก เช่น ISS ที่สร้างโดยหลายประเทศ

    ประเด็นที่ต้องระวังหรือพิจารณา
    ปริมาณขยะอวกาศที่เพิ่มขึ้นจากวัตถุที่ถูกส่งขึ้นไป
    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของภารกิจที่ต้องเผชิญสภาพแวดล้อมรุนแรง
    ความท้าทายด้านต้นทุนและทรัพยากรในการสำรวจอวกาศ

    https://www.slashgear.com/2053418/coolest-tech-sent-to-space/
    🚀 14 เทคโนโลยีสุดล้ำที่มนุษย์ส่งขึ้นสู่อวกาศ: จากยานสำรวจถึงวัตถุทางวัฒนธรรม การเดินทางของมนุษยชาติกับอวกาศเป็นเรื่องราวที่ยาวนานกว่าพันปี ตั้งแต่ยุคที่มนุษย์มองดวงดาวด้วยความสงสัย จนถึงวันที่เราส่งมนุษย์ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ และสร้างสถานีอวกาศที่โคจรรอบโลกอย่าง ISS สิ่งที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีที่เราส่งขึ้นไปนอกโลกไม่ได้มีแค่ยานสำรวจหรือดาวเทียมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงวัตถุทางวัฒนธรรม สิ่งประดิษฐ์ทางวิทยาศาสตร์ และแม้แต่ของเล่นที่สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ด้วย ในบรรดาเทคโนโลยีที่โดดเด่นที่สุด ได้แก่ ยานอวกาศที่พาเราข้ามขีดจำกัดของแรงโน้มถ่วง ดาวเทียมที่กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของโลกยุคดิจิทัล กล้องโทรทรรศน์อวกาศอย่าง Hubble และ James Webb ที่เปิดหน้าต่างใหม่สู่จักรวาล รวมถึงภารกิจสำรวจดาวอังคารที่ต้องฝ่าความล้มเหลวมากมายก่อนจะประสบความสำเร็จในยุคของ Curiosity และ Perseverance นอกจากเทคโนโลยีหลักแล้ว ยังมีวัตถุที่สะท้อนวัฒนธรรมมนุษย์ เช่น Tesla Roadster ที่ SpaceX ส่งขึ้นไปพร้อม Starman, ฟิกเกอร์ LEGO ที่ร่วมเดินทางไปกับยาน Juno, ชิ้นส่วนเครื่องบินลำแรกของ Wright Brothers ที่ไปถึงดวงจันทร์ และ Golden Record ที่บรรจุเสียงและภาพของมนุษยชาติไว้เพื่อทักทายสิ่งมีชีวิตนอกโลกหากมีวันได้พบกัน สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าอวกาศไม่ใช่เพียงสนามทดลองทางวิทยาศาสตร์ แต่เป็นพื้นที่ที่มนุษย์ใช้บอกเล่าเรื่องราว ความฝัน ความกลัว และความหวังของเราในฐานะเผ่าพันธุ์หนึ่งในจักรวาล การส่งเทคโนโลยีและวัตถุเหล่านี้ขึ้นไปจึงเป็นทั้งการสำรวจภายนอก และการสะท้อนตัวตนภายในของมนุษย์เองด้วย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทคโนโลยีสำคัญที่ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศ ➡️ ยานอวกาศและจรวดที่พาเราข้ามขีดจำกัดของแรงโน้มถ่วง ➡️ ดาวเทียมกว่า 13,700 ดวงที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของโลกยุคดิจิทัล ➡️ กล้องโทรทรรศน์ Hubble และ James Webb ที่เปิดมุมมองใหม่ของจักรวาล ➡️ Mars Rovers ที่ฝ่าความล้มเหลวหลายครั้งก่อนประสบความสำเร็จ ✅ วัตถุทางวัฒนธรรมที่ร่วมเดินทางไปกับมนุษย์ ➡️ Tesla Roadster พร้อม Starman และผลงานของ Asimov ➡️ ฟิกเกอร์ LEGO บนภารกิจ Juno ➡️ ชิ้นส่วนเครื่องบินของ Wright Brothers ที่ไปถึงดวงจันทร์ ➡️ Golden Record ที่บันทึกเสียง ภาพ และดนตรีของมนุษยชาติ ✅ ความหมายเชิงสัญลักษณ์ของการส่งสิ่งเหล่านี้ขึ้นสู่อวกาศ ➡️ แสดงให้เห็นความอยากรู้อยากเห็นและความกล้าของมนุษย์ ➡️ เป็นการบันทึกวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ของมนุษย์ในระดับจักรวาล ➡️ สะท้อนความร่วมมือระดับโลก เช่น ISS ที่สร้างโดยหลายประเทศ ‼️ ประเด็นที่ต้องระวังหรือพิจารณา ⛔ ปริมาณขยะอวกาศที่เพิ่มขึ้นจากวัตถุที่ถูกส่งขึ้นไป ⛔ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของภารกิจที่ต้องเผชิญสภาพแวดล้อมรุนแรง ⛔ ความท้าทายด้านต้นทุนและทรัพยากรในการสำรวจอวกาศ https://www.slashgear.com/2053418/coolest-tech-sent-to-space/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    14 Of The Coolest Pieces Of Tech We've Sent To Space - SlashGear
    Humanity has sent into space everything from lightsabers and Tesla Roadsters to golden records and entire digital genetic records of famous scientists.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505
    เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ (พิมพ์พิเศษ นิยมสุด!!) วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้ จัดสร้าง มวรสารหลักในการจัดสร้างเฉกเช่นเดียวกับ พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2497 พืธีปลุกเสก รวม 3 วัน 3 คืน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พระสถาพสวยมาก พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม พระสถาพสมบูรณ์ หายากก !! ** หาหลวงปู่ทวด รุ่นแรก 2497 ไม่ได้ ใช้หลวงพ่อไกรรุ่นแรก แทนได้เลยครับ เนื้อหามวลสาร เหมือนกัน พิธิปลุกเสก ก็มีเกจิ ชุดเดียวกันที่ ปลุกเสก หลวงปู่ทวด 2497 มีส่วนผสมของเนื้อว่าน หลวงปู่ทวด ปี2497 จำนวนมาก !!

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระดีพิธีใหญ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน พืธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2505 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2505 รวม 3 วัน 3 คืน โดยพระอาจารย์ทิม เป็นประธานนั่งบริกรรมตลอดพืธี ร่วมด้วย ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว...พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์...พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา และ คณาจารย์สายใต้อีกหลายท่าน... โดย พระว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรกนี้ มีวัตถุธาติส่วนผสม 9 ชนิด ดังนี้ คือ

    1.ว่าน 108 จากเทือกเขากาลาคีรี
    2.ดินเถ้าถ่านที่บูชาเพลิงพ่อท่านไกร
    3.ดินชนวนพระในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
    4.ดินดำกากยายักษ์(ดินชนิดนี้มีแห่งเดียวที่ลำพะยาเท่านั้น)
    5.ดินเบ้าหล่อพ่อท่านไกร(พระประธาน)
    6.รากไม้ยาศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในบริเวณเขื่อนพ่อท่านไกร
    7.กระเบื้องศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้มุงเขื่อน
    8.ไม้เสาเขื่อนพ่อท่านไกร
    9.อัฐิธาตุ(กระดูก) ของพ่อท่านไกร

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505 เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ (พิมพ์พิเศษ นิยมสุด!!) วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้ จัดสร้าง มวรสารหลักในการจัดสร้างเฉกเช่นเดียวกับ พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2497 พืธีปลุกเสก รวม 3 วัน 3 คืน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พระสถาพสวยมาก พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม พระสถาพสมบูรณ์ หายากก !! ** หาหลวงปู่ทวด รุ่นแรก 2497 ไม่ได้ ใช้หลวงพ่อไกรรุ่นแรก แทนได้เลยครับ เนื้อหามวลสาร เหมือนกัน พิธิปลุกเสก ก็มีเกจิ ชุดเดียวกันที่ ปลุกเสก หลวงปู่ทวด 2497 มีส่วนผสมของเนื้อว่าน หลวงปู่ทวด ปี2497 จำนวนมาก !! ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระดีพิธีใหญ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน พืธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2505 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2505 รวม 3 วัน 3 คืน โดยพระอาจารย์ทิม เป็นประธานนั่งบริกรรมตลอดพืธี ร่วมด้วย ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว...พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์...พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา และ คณาจารย์สายใต้อีกหลายท่าน... โดย พระว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรกนี้ มีวัตถุธาติส่วนผสม 9 ชนิด ดังนี้ คือ 1.ว่าน 108 จากเทือกเขากาลาคีรี 2.ดินเถ้าถ่านที่บูชาเพลิงพ่อท่านไกร 3.ดินชนวนพระในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ 4.ดินดำกากยายักษ์(ดินชนิดนี้มีแห่งเดียวที่ลำพะยาเท่านั้น) 5.ดินเบ้าหล่อพ่อท่านไกร(พระประธาน) 6.รากไม้ยาศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในบริเวณเขื่อนพ่อท่านไกร 7.กระเบื้องศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้มุงเขื่อน 8.ไม้เสาเขื่อนพ่อท่านไกร 9.อัฐิธาตุ(กระดูก) ของพ่อท่านไกร ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543
    เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน พิมพ์ใหญ๋ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 //พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า ณ.อุโบสถ วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมกับพระเกจิสายหลวงพ่อทวดหลายท่านร่วม ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี **

    ** เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า ณ.อุโบสถ วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมกับพระเกจิสายหลวงพ่อทวด -สายเขาอ้อหลายท่าน เป็นรุ่นหายากซึ่งพบเจอหมุนเวียนน้อยมาก จัดได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในหมู่​ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ ยิ่งฤดูกาลแต่งตั้งเป็นต้องเสาะหามาบูชากัน **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน พิมพ์ใหญ๋ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 //พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า ณ.อุโบสถ วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมกับพระเกจิสายหลวงพ่อทวดหลายท่านร่วม ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี ** ** เหรียญหลวงพ่อทวด รุ่นเสาร์ห้า เนื้อเงิน วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2543 พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกพิธีเสาร์ห้า ณ.อุโบสถ วัดช้างให้ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาวร่วมกับพระเกจิสายหลวงพ่อทวด -สายเขาอ้อหลายท่าน เป็นรุ่นหายากซึ่งพบเจอหมุนเวียนน้อยมาก จัดได้ว่าเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในหมู่​ข้าราชการ-ทหาร-ตำรวจ ยิ่งฤดูกาลแต่งตั้งเป็นต้องเสาะหามาบูชากัน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จหลวงพ่อองค์ดำ มหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย
    สมเด็จหลวงพ่อองค์ดำ เนื้อผงพุทธคุณ มหาวิทยาลัยนาลันทา เมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย // ตำนาน พระพุทธเจ้าองค์ดำ หรือ หลวงพ่อองค์ดำ แห่งอินเดีย พระพุทธรูปเพียงองค์เดียวที่หลุดรอดจากการถูกทำลายและไม่ถูกอังกฤษยึดไป // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ อธิษฐานขอพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เมตตาหานิยม โภคทรัพย์ เงินไหลมา มหาโภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย. จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง โชคลาภมหาสมบัติค้าขายร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงาน **

    ** ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ” หรือ “หลวงพ่อองค์ดำ” สร้างขึ้นโดยท่านธรรมปาล ในสมัยพระเจ้าเทวาปาล คือระหว่างปี พ.ศ. 1353-1393 ในยุคที่อังกฤษปกครองอินเดีย มีนักโบราณคดีจำนวนมากได้เข้ามาสำรวจขุดค้นพุทธสถนต่างๆ ในอินเดีย โดยปี พ.ศ. 2403 มีนักปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อ นายพลโทเซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม (Sir Alexander Cunningham) ได้ศึกษาและอ่านบันทึกลายแทงของพระถังซัมจั๋งดังกล่าวจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงนำคณะเข้ามาสำรวจและขุดค้น ก็ปรากฏผลดังที่ตนปรารถนาไว้ทุกประการ คือได้ค้นพบพระเจดีย์องค์ที่ตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทาพอดี ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียงกองดินสูงเท่านั้นจากนั้นเซอร์คันนิ่งแฮมก็ได้ทำแผนที่ตามบันทึกลายแทงที่มีอยู่ เพื่อค้นหาพระเจดีย์องค์อื่นๆ จนปรากฏว่าเมื่อปี พ.ศ. 2458 ได้ค้นพบซากพระเจดีย์องค์อื่นๆ และตัวมหาวิทยาลัยสงฆ์ รวมทั้ง หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ และพระพุทธรูปองค์อื่นๆ อีกมากมายหลายองค์ซึ่งส่วนมากจะเสียหายหักบิ่นจากการถูกทำลาย ซึ่งการค้นพบครั้งนี้เท่ากับว่า “มหาวิทยาลัยนาลันทา” คือมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก ได้ปรากฏแก่สายตาชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    สมเด็จหลวงพ่อองค์ดำ มหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย สมเด็จหลวงพ่อองค์ดำ เนื้อผงพุทธคุณ มหาวิทยาลัยนาลันทา เมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย // ตำนาน พระพุทธเจ้าองค์ดำ หรือ หลวงพ่อองค์ดำ แห่งอินเดีย พระพุทธรูปเพียงองค์เดียวที่หลุดรอดจากการถูกทำลายและไม่ถูกอังกฤษยึดไป // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณ อธิษฐานขอพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ เมตตาหานิยม โภคทรัพย์ เงินไหลมา มหาโภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย. จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง โชคลาภมหาสมบัติค้าขายร่ำรวย อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงาน ** ** ประวัติความเป็นมาของ “หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ” หรือ “หลวงพ่อองค์ดำ” สร้างขึ้นโดยท่านธรรมปาล ในสมัยพระเจ้าเทวาปาล คือระหว่างปี พ.ศ. 1353-1393 ในยุคที่อังกฤษปกครองอินเดีย มีนักโบราณคดีจำนวนมากได้เข้ามาสำรวจขุดค้นพุทธสถนต่างๆ ในอินเดีย โดยปี พ.ศ. 2403 มีนักปราชญ์ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีชาวอังกฤษคนหนึ่งชื่อ นายพลโทเซอร์ อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม (Sir Alexander Cunningham) ได้ศึกษาและอ่านบันทึกลายแทงของพระถังซัมจั๋งดังกล่าวจนเข้าใจอย่างถ่องแท้ จึงนำคณะเข้ามาสำรวจและขุดค้น ก็ปรากฏผลดังที่ตนปรารถนาไว้ทุกประการ คือได้ค้นพบพระเจดีย์องค์ที่ตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยสงฆ์นาลันทาพอดี ซึ่งในขณะนั้นเป็นเพียงกองดินสูงเท่านั้นจากนั้นเซอร์คันนิ่งแฮมก็ได้ทำแผนที่ตามบันทึกลายแทงที่มีอยู่ เพื่อค้นหาพระเจดีย์องค์อื่นๆ จนปรากฏว่าเมื่อปี พ.ศ. 2458 ได้ค้นพบซากพระเจดีย์องค์อื่นๆ และตัวมหาวิทยาลัยสงฆ์ รวมทั้ง หลวงพ่อพระพุทธเจ้าองค์ดำ และพระพุทธรูปองค์อื่นๆ อีกมากมายหลายองค์ซึ่งส่วนมากจะเสียหายหักบิ่นจากการถูกทำลาย ซึ่งการค้นพบครั้งนี้เท่ากับว่า “มหาวิทยาลัยนาลันทา” คือมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก ได้ปรากฏแก่สายตาชาวโลกอีกครั้งหนึ่ง ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพไทยส่งสัญญาณไปยังชนชั้นนำของกัมพูชา ยืนยันจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ยุติการโจมตีจนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการที่รัฐบาลไทยเสนอ เพื่อเปิดทางสู่การหยุดยิงและการเจรจาสันติภาพ
    .
    พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ แถลงที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย–กัมพูชา ระบุว่า การปฏิบัติการทางทหารของไทยตั้งแต่เริ่มต้น มุ่งเป้าเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น โดยกรณีที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นการโจมตีพื้นที่พลเรือนหรือสถานศึกษา เป็นข้อมูลบิดเบือนที่ไม่เป็นความจริง
    .
    โฆษกกองทัพอากาศยืนยันว่า เป้าหมายบางแห่ง เช่น กาสิโนร้าง ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา จึงจำเป็นต้องเข้าทำลายซ้ำ ขณะเดียวกันยังได้โจมตีสะพานโอจิก จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 เพื่อริดรอนขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายตรงข้าม
    .
    การโจมตีดังกล่าวใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง มุ่งตัดเส้นทางสำหรับยานพาหนะทางทหาร โดยยังคงเปิดให้ประชาชนสามารถเดินเท้าหรือใช้รถจักรยานยนต์ข้ามได้ และหากตรวจพบว่ากัมพูชายังพยายามใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังบำรุง กองทัพไทยจะดำเนินการโจมตีซ้ำทันที
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122728
    .
    #News1live #News1 #กองทัพไทย #สถานการณ์ชายแดน #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #ความมั่นคง
    กองทัพไทยส่งสัญญาณไปยังชนชั้นนำของกัมพูชา ยืนยันจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่อง และจะไม่ยุติการโจมตีจนกว่าฝ่ายกัมพูชาจะยอมรับเงื่อนไขทั้ง 3 ประการที่รัฐบาลไทยเสนอ เพื่อเปิดทางสู่การหยุดยิงและการเจรจาสันติภาพ . พลอากาศโท จักรกฤษณ์ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ แถลงที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย–กัมพูชา ระบุว่า การปฏิบัติการทางทหารของไทยตั้งแต่เริ่มต้น มุ่งเป้าเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น โดยกรณีที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นการโจมตีพื้นที่พลเรือนหรือสถานศึกษา เป็นข้อมูลบิดเบือนที่ไม่เป็นความจริง . โฆษกกองทัพอากาศยืนยันว่า เป้าหมายบางแห่ง เช่น กาสิโนร้าง ถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการทางทหารของฝ่ายกัมพูชา จึงจำเป็นต้องเข้าทำลายซ้ำ ขณะเดียวกันยังได้โจมตีสะพานโอจิก จังหวัดอุดรมีชัย ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงกำลังพลและยุทโธปกรณ์ไปยังพื้นที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 เพื่อริดรอนขีดความสามารถทางทหารของฝ่ายตรงข้าม . การโจมตีดังกล่าวใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง มุ่งตัดเส้นทางสำหรับยานพาหนะทางทหาร โดยยังคงเปิดให้ประชาชนสามารถเดินเท้าหรือใช้รถจักรยานยนต์ข้ามได้ และหากตรวจพบว่ากัมพูชายังพยายามใช้เส้นทางดังกล่าวในการส่งกำลังบำรุง กองทัพไทยจะดำเนินการโจมตีซ้ำทันที . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122728 . #News1live #News1 #กองทัพไทย #สถานการณ์ชายแดน #เนิน350 #ปราสาทตาควาย #ความมั่นคง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • Steam เปลี่ยนเป็น 64‑bit เต็มรูปแบบ — ผู้ใช้ Windows 32‑bit จะหยุดรับอัปเดตในปี 2026

    Valve เดินหน้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการยุติการรองรับ Windows 32‑bit โดยอัปเดต Steam Client เดือนธันวาคมทำให้ตัวแอปบน Windows 10 64‑bit และ Windows 11 กลายเป็น แอป 64‑bit แบบเต็มตัวครั้งแรก ไม่ใช่แอป 32‑bit ที่รันบนระบบ 64‑bit อีกต่อไป

    ผู้ใช้ Windows 32‑bit จะถูกย้ายไปอยู่บน “compatibility branch” ที่จะหยุดรับอัปเดตทั้งหมดในวันที่ 1 มกราคม 2026 รวมถึง
    ไม่มี client update
    ไม่มี security patch
    ไม่มีการรับประกันว่าเกมหรือ backend ใหม่จะยังทำงานได้
    ไม่มี customer support

    Valve ระบุชัดว่า การยุติครั้งนี้กระทบเฉพาะ Windows 32‑bit ไม่กระทบเกม 32‑bit ซึ่งยังคงรันได้ตามปกติบน Windows 64‑bit ผ่าน Steam เช่นเดิม

    ข้อมูลจาก Steam Hardware Survey ชี้ว่า Windows 32‑bit เหลือผู้ใช้งานเพียง 0.01% เท่านั้น ทำให้การยุติการรองรับครั้งนี้แทบไม่กระทบผู้ใช้ส่วนใหญ่เลย

    การเปลี่ยนผ่านนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของ ecosystem Windows ที่กำลังบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เช่น Secure Boot และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอื่นๆ ซึ่ง Steam เองก็เริ่มรายงานข้อมูลเหล่านี้ใน client เวอร์ชันล่าสุดแล้ว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Steam บน Windows ตอนนี้เป็น 64‑bit เต็มรูปแบบ
    ไม่ใช่แอป 32‑bit ที่รันบนระบบ 64‑bit อีกต่อไป

    Windows 32‑bit จะหยุดรับอัปเดต Steam ในปี 2026
    ไม่มีอัปเดต
    ไม่มีแพตช์ความปลอดภัย
    ไม่มีการันตีความเข้ากันได้
    ไม่มี support

    ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบมีน้อยมาก
    Windows 32‑bit เหลือเพียง 0.01% ของผู้ใช้ Steam

    เกม 32‑bit ยังรันได้ตามปกติ
    การยุติรองรับกระทบเฉพาะ OS ไม่ใช่ตัวเกม

    สอดคล้องกับทิศทาง Windows รุ่นใหม่
    Secure Boot และมาตรฐานความปลอดภัยใหม่กำลังกลายเป็น requirement

    ประเด็นที่ควรระวัง
    ผู้ใช้ Windows 32‑bit ที่ CPU รองรับ 64‑bit ควรอัปเกรด OS
    ต้อง clean install เพื่อย้ายไป 64‑bit

    ผู้ใช้เครื่องเก่าที่เป็น CPU 32‑bit แท้จะ “หมดสิทธิ์” ใช้ Steam
    จะไม่สามารถรับอัปเดตหรือเล่นเกมใหม่ที่ต้องการ backend ใหม่ได้

    ความปลอดภัยจะลดลงเรื่อยๆ
    ไม่มี security patch จาก Steam อีกต่อไปหลังปี 2026

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/steam-begins-64-bit-transition-on-windows-as-32-bit-support-enters-final-countdown
    🖥️⚡ Steam เปลี่ยนเป็น 64‑bit เต็มรูปแบบ — ผู้ใช้ Windows 32‑bit จะหยุดรับอัปเดตในปี 2026 Valve เดินหน้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายของการยุติการรองรับ Windows 32‑bit โดยอัปเดต Steam Client เดือนธันวาคมทำให้ตัวแอปบน Windows 10 64‑bit และ Windows 11 กลายเป็น แอป 64‑bit แบบเต็มตัวครั้งแรก ไม่ใช่แอป 32‑bit ที่รันบนระบบ 64‑bit อีกต่อไป ผู้ใช้ Windows 32‑bit จะถูกย้ายไปอยู่บน “compatibility branch” ที่จะหยุดรับอัปเดตทั้งหมดในวันที่ 1 มกราคม 2026 รวมถึง ❗ ไม่มี client update ❗ ไม่มี security patch ❗ ไม่มีการรับประกันว่าเกมหรือ backend ใหม่จะยังทำงานได้ ❗ ไม่มี customer support Valve ระบุชัดว่า การยุติครั้งนี้กระทบเฉพาะ Windows 32‑bit ไม่กระทบเกม 32‑bit ซึ่งยังคงรันได้ตามปกติบน Windows 64‑bit ผ่าน Steam เช่นเดิม ข้อมูลจาก Steam Hardware Survey ชี้ว่า Windows 32‑bit เหลือผู้ใช้งานเพียง 0.01% เท่านั้น ทำให้การยุติการรองรับครั้งนี้แทบไม่กระทบผู้ใช้ส่วนใหญ่เลย การเปลี่ยนผ่านนี้ยังสอดคล้องกับทิศทางของ ecosystem Windows ที่กำลังบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เช่น Secure Boot และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยอื่นๆ ซึ่ง Steam เองก็เริ่มรายงานข้อมูลเหล่านี้ใน client เวอร์ชันล่าสุดแล้ว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Steam บน Windows ตอนนี้เป็น 64‑bit เต็มรูปแบบ ➡️ ไม่ใช่แอป 32‑bit ที่รันบนระบบ 64‑bit อีกต่อไป ✅ Windows 32‑bit จะหยุดรับอัปเดต Steam ในปี 2026 ➡️ ไม่มีอัปเดต ➡️ ไม่มีแพตช์ความปลอดภัย ➡️ ไม่มีการันตีความเข้ากันได้ ➡️ ไม่มี support ✅ ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบมีน้อยมาก ➡️ Windows 32‑bit เหลือเพียง 0.01% ของผู้ใช้ Steam ✅ เกม 32‑bit ยังรันได้ตามปกติ ➡️ การยุติรองรับกระทบเฉพาะ OS ไม่ใช่ตัวเกม ✅ สอดคล้องกับทิศทาง Windows รุ่นใหม่ ➡️ Secure Boot และมาตรฐานความปลอดภัยใหม่กำลังกลายเป็น requirement ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง ‼️ ผู้ใช้ Windows 32‑bit ที่ CPU รองรับ 64‑bit ควรอัปเกรด OS ⛔ ต้อง clean install เพื่อย้ายไป 64‑bit ‼️ ผู้ใช้เครื่องเก่าที่เป็น CPU 32‑bit แท้จะ “หมดสิทธิ์” ใช้ Steam ⛔ จะไม่สามารถรับอัปเดตหรือเล่นเกมใหม่ที่ต้องการ backend ใหม่ได้ ‼️ ความปลอดภัยจะลดลงเรื่อยๆ ⛔ ไม่มี security patch จาก Steam อีกต่อไปหลังปี 2026 https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/steam-begins-64-bit-transition-on-windows-as-32-bit-support-enters-final-countdown
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • เท็กซัสฟ้องผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ ฐาน “สอดแนมผู้ใช้” ผ่านระบบสมาร์ตทีวี — ศึกใหญ่ด้านความเป็นส่วนตัวกำลังเริ่มต้น

    รัฐเท็กซัสได้ยื่นฟ้องผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Sony, LG, Hisense และ TCL โดยกล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้เก็บข้อมูลการรับชมของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างเหมาะสม การฟ้องร้องครั้งนี้สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ “ทีวีที่สอดแนมผู้ใช้” ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนในยุคที่สมาร์ตทีวีกลายเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแทบทุกบ้าน

    คดีนี้ชี้ว่าผู้ผลิตทีวีใช้เทคโนโลยี Automatic Content Recognition (ACR) เพื่อตรวจจับว่าผู้ใช้กำลังดูอะไร ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี สตรีมมิง หรือแม้แต่คอนเทนต์จากอุปกรณ์ภายนอก ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำไปใช้เพื่อโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรัฐเท็กซัสมองว่าเป็นการละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองผู้บริโภค

    ในระดับอุตสาหกรรม การฟ้องครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบเชิงลึกต่อ ecosystem ของสมาร์ตทีวีทั้งหมด เพราะผู้ผลิตหลายรายพึ่งพารายได้จากโฆษณาและข้อมูลผู้ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะพึ่งรายได้จากการขายฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว หากคดีนี้ชนะ อาจทำให้รูปแบบธุรกิจของสมาร์ตทีวีต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

    นอกจากนี้ คดีนี้ยังสะท้อนความตึงเครียดระหว่างรัฐและบริษัทเทคโนโลยีเกี่ยวกับสิทธิความเป็นส่วนตัวในบ้าน ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่กฎหมายสหรัฐฯ ให้ความคุ้มครองสูงเป็นพิเศษ การฟ้องร้องครั้งนี้อาจกลายเป็นคดีตัวอย่าง (precedent) ที่ส่งผลต่ออุปกรณ์ IoT ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ทีวีเท่านั้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เท็กซัสยื่นฟ้องผู้ผลิตทีวีรายใหญ่
    กล่าวหาว่าเก็บข้อมูลการรับชมโดยไม่ได้รับความยินยอม
    ครอบคลุมแบรนด์ใหญ่ทั้งหมด เช่น Samsung, Sony, LG, Hisense, TCL

    ประเด็นด้านเทคโนโลยีที่ถูกตั้งคำถาม
    การใช้ ACR เพื่อตรวจจับคอนเทนต์ที่ผู้ใช้รับชม
    ข้อมูลถูกนำไปใช้เพื่อโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ตทีวี
    อาจบังคับให้ผู้ผลิตเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจที่พึ่งพาโฆษณา
    อาจนำไปสู่การออกกฎหมายควบคุม IoT ที่เข้มงวดขึ้น

    คำเตือน / ประเด็นที่ควรระวัง
    ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวในบ้าน
    สมาร์ตทีวีอาจเก็บข้อมูลมากกว่าที่ผู้ใช้คาดคิด

    ความโปร่งใสของระบบ ACR
    ผู้ใช้จำนวนมากไม่รู้ว่าทีวีของตนกำลังสแกนคอนเทนต์อยู่

    ความเสี่ยงต่อการใช้ข้อมูลผิดวัตถุประสงค์
    หากข้อมูลรั่วไหล อาจถูกนำไปใช้เพื่อ profiling หรือโฆษณาเชิงรุก

    https://www.theverge.com/news/845400/texas-tv-makers-lawsuit-samsung-sony-lg-hisense-tcl-spying
    📺 เท็กซัสฟ้องผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ ฐาน “สอดแนมผู้ใช้” ผ่านระบบสมาร์ตทีวี — ศึกใหญ่ด้านความเป็นส่วนตัวกำลังเริ่มต้น รัฐเท็กซัสได้ยื่นฟ้องผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Sony, LG, Hisense และ TCL โดยกล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้เก็บข้อมูลการรับชมของผู้ใช้โดยไม่ได้รับความยินยอมอย่างเหมาะสม การฟ้องร้องครั้งนี้สะท้อนความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ “ทีวีที่สอดแนมผู้ใช้” ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนในยุคที่สมาร์ตทีวีกลายเป็นอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแทบทุกบ้าน คดีนี้ชี้ว่าผู้ผลิตทีวีใช้เทคโนโลยี Automatic Content Recognition (ACR) เพื่อตรวจจับว่าผู้ใช้กำลังดูอะไร ไม่ว่าจะเป็นรายการทีวี สตรีมมิง หรือแม้แต่คอนเทนต์จากอุปกรณ์ภายนอก ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำไปใช้เพื่อโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรัฐเท็กซัสมองว่าเป็นการละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองผู้บริโภค ในระดับอุตสาหกรรม การฟ้องครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการตรวจสอบเชิงลึกต่อ ecosystem ของสมาร์ตทีวีทั้งหมด เพราะผู้ผลิตหลายรายพึ่งพารายได้จากโฆษณาและข้อมูลผู้ใช้มากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่จะพึ่งรายได้จากการขายฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว หากคดีนี้ชนะ อาจทำให้รูปแบบธุรกิจของสมาร์ตทีวีต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ คดีนี้ยังสะท้อนความตึงเครียดระหว่างรัฐและบริษัทเทคโนโลยีเกี่ยวกับสิทธิความเป็นส่วนตัวในบ้าน ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่กฎหมายสหรัฐฯ ให้ความคุ้มครองสูงเป็นพิเศษ การฟ้องร้องครั้งนี้อาจกลายเป็นคดีตัวอย่าง (precedent) ที่ส่งผลต่ออุปกรณ์ IoT ทั้งหมด ไม่ใช่แค่ทีวีเท่านั้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เท็กซัสยื่นฟ้องผู้ผลิตทีวีรายใหญ่ ➡️ กล่าวหาว่าเก็บข้อมูลการรับชมโดยไม่ได้รับความยินยอม ➡️ ครอบคลุมแบรนด์ใหญ่ทั้งหมด เช่น Samsung, Sony, LG, Hisense, TCL ✅ ประเด็นด้านเทคโนโลยีที่ถูกตั้งคำถาม ➡️ การใช้ ACR เพื่อตรวจจับคอนเทนต์ที่ผู้ใช้รับชม ➡️ ข้อมูลถูกนำไปใช้เพื่อโฆษณาแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมาร์ตทีวี ➡️ อาจบังคับให้ผู้ผลิตเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจที่พึ่งพาโฆษณา ➡️ อาจนำไปสู่การออกกฎหมายควบคุม IoT ที่เข้มงวดขึ้น ⚠️ คำเตือน / ประเด็นที่ควรระวัง ‼️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวในบ้าน ⛔ สมาร์ตทีวีอาจเก็บข้อมูลมากกว่าที่ผู้ใช้คาดคิด ‼️ ความโปร่งใสของระบบ ACR ⛔ ผู้ใช้จำนวนมากไม่รู้ว่าทีวีของตนกำลังสแกนคอนเทนต์อยู่ ‼️ ความเสี่ยงต่อการใช้ข้อมูลผิดวัตถุประสงค์ ⛔ หากข้อมูลรั่วไหล อาจถูกนำไปใช้เพื่อ profiling หรือโฆษณาเชิงรุก https://www.theverge.com/news/845400/texas-tv-makers-lawsuit-samsung-sony-lg-hisense-tcl-spying
    WWW.THEVERGE.COM
    Texas is suing all of the big TV makers for spying on what you watch
    TVs made by Sony, Samsung, LG, Hisense, and TCL are part of a ‘mass surveillance system,’ Attorney General Ken Paxton alleges.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 5

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 5
    กลับมาดูภูมิศาสตร์ตะวันออกกลางอีกหน่อย จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่คุมตะวันออกกลาง ให้กลายเป็นง่อย ปั้มขึ้นสนิมทั้งหมด มีอยู่ 3 จุด (เหมือนจุดเพราะฉะนั้น จำง่ายดีครับ)
    จุดแรกคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่วันนี้ กองทัพเรืออิหร่านคุมเรียบร้อย จนโอมานที่อยู่ตรงกันข้าม ถึงกับขออยู่เป็นกลาง ขยับห่างจากซาอุดิอย่างไม่เกรงใจ ไม่ยุ่งเรื่องเยเมนด้วย (แต่ผมก็ยังไม่ค่อยวางใจโอมาน เรื่องนี้ต้องดูกันต่อ)
    จุดที่ 2 คือ ช่องแคบที่อ่าวเอเดนของเยเมน วันนี้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากที่ซีเรีย เพราะรับรองว่าอเมริกาไม่ปล่อยมือเยเมนและไม่ปล่อยให้ซาอุเล่นเองอีกต่อไป ขณะเดียวกันอิหร่าน รัสเซีย ก็คงไม่ดูเหตุการณ์ในเยเมนอยู่เฉยๆเหมือนกัน
    จุดที่ 3 คือ บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรอบซีเรีย และคงพอเข้าใจว่าทำไมในการเข้าไปปฏิบัติการณ์ช่วยซีเรีย รัสเซีย จึงใช้ทั้งฐานทัพที่ Latika และ Tartus วันนี้ ใครจะเคลื่อนทัพเรือเข้าใกล้ตะวันออกกลางด้านเมดิเตอร์เรเนียน ก็คงต้องเจอกับฝูงเครื่องบินรบ และกองทัพเรือของรัสเซีย และน่าจะรวมของจีน ที่ไปฝึกร่วมกันกับรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ถ้าจำกันได้ และจนบัดนี้ กองเรือของทั้ง 2 เขี้ยว ยังไม่ได้กลับบ้านเลย ยังอาบแดด อยู่แถวเมดิเตอร์เรเนียนนั่นแหละ
    หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลาง มี 3 เจ้า อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย
    รายแรกคืออิหร่าน ไม่ต้องพูด อเมริกาคงรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองถูกตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย เสียเวลาไป 2 ปี ตอนนี้ไม่มีใครพูดเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ดีล ปี๊บคลุมหัวคงขาดแคลนแถวทำเนียบขาว กับแถวอียู นักเจรจา ที่ทำหน้าว่ากูเก่งนัก หายหัวไปไหนหมด
    รายที่ 2 อิสราเอล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดถึงมาก เก่งแต่ปาก วันนี้แค่เห็นฝูงบินของรัสเซียโฉบผ่าน ก็กลับบ้านนอนคลุมโปงแล้ว ส่วนอเมริกาก็คงยังนึกไม่ออกว่า จะให้อิสราเอลรับบทไหน แค่กันไม่ให้กลุ่มฮามาส กับฮิสบอลเลาะห์เข้ามาถล่มหลังบ้านตัว อิสราเอลก็ไข้ขึ้นแล้ว แต่พอตั้งตัวได้ ก็คงมีบทบาทเอง เพราะอิสราเอลกับอเมริกา มันก็เหมือนคนเดียวกัน ประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ถึงจะมีการหลอกใช้กัน แต่ก็ได้สมประโยชน์ด้วยกันถึงทุกวันนี้ แม้จะรำคาญหู แต่ก็ยังคงไม่ถึงตัดขาดกันตอนนี้ (แต่ต่อไป ไม่แน่ครับ)
    สำหรับรายที่ 3 ซาอุดิอารเบีย ดูเผินๆ เหมือนหมูในอวย อูฐในคอก แต่เอาเข้าจริง มันไม่แน่เสมอไป อเมริกาที่ว่าแน่ๆ บังคับเขาไปทั่วโลก ให้เป็นประชาธิปไตย ให้มีสิทธิเสรีภาพ ใครไม่เป็นอย่างที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจัดการได้หมด จนวันนี้ อเมริกายังเปลี่ยนแนวคิด แนวปกครองซาอุดิอารเบียไม่ได้เลยจนนิดเดียว อเมริกาได้แต่นินทา เยาะเย้ย วันนี้ผู้หญิงชาวซาอุ ยังไม่มีสิทธิขับรถ แล้วมึงมาบังคับเรื่องประชาธิปไตย กับเสรีภาพอะไรกับบ้านผม
    เราอาจได้เห็นภาพ อเมริกาไปคุกเข่า เช็ดรองเท้าให้กษัตริย์ซาอุอีกที ดูรูปตอน 1 ที่ผมเอามาลงดีๆ อีกทีเถิดครับ เคยเห็นอเมริกานอบน้อมกับผู้ปกครองประเทศไหนเท่านี้บ้าง ตกลงไม่รู้ใครเป็นพรมเช็ดเท้าให้ใครกันแน่
    อเมริกาคงคิดหนัก จะไม่เอาคน เอาแต่ปั้ม อย่างที่วางแผนให้ตะวันออกกลางรบกันจนเละ ตายเกลี้ยงอย่างเดิมแล้วค่อยไปเอาปั้มอย่างเดิม แผนนี้อเมริกาชักไม่แน่ใจ ไอ้ที่ว่าถอนกองกำลังออกมาจากตะวันออกกลางแล้ว จะไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปยุ่ง คุณหน้าเต้าหู้ยี้ รัฐมนตรีกลาโหม ถึงออกมาแถลงข่าวแบบคนยังไม่สร่าง พูดไม่รู้เรื่อง ก็เพราะยังไม่รู้จะว่า พี่เบิ้มใบตองแห้ง จะใช้ยุทธศาสตร์อย่างไรดี
    ระหว่างที่อเมริกากำลังปวดหัว กับเดินหมากซีเรียของคุณพี่ปูติน ซาอุดิอารเบีย ก็เกิดเล่นบทแปลก ส่งเจ้าชายละอ่อน ไปเที่ยวรัสเซียเสีย 2 รอบ ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง แต่ออกข่าวว่า มีการทำสัญญาร่วมมือกัน 6,7 ฉบับ แบบนี้ ข่าวลือรอบ 2 ในปลายเดือนกันยายน จึงต้องออกมา เป็นการปรามว่า ให้เห็นหัวกันบ้าง เรื่องเยเมนก็เกือบจะเสร็จอิหร่านไปแล้ว นี่ซาอุกำลังจะเดินเข้าปากรัสเซียอีกหรือ
    แต่กษัตริย์ซัลมานก็ยังเล่นเกมต่อ แม้จะโดนข่าวลือแรง และรู้ว่า ข่าวลือมาจากไหน สำหรับซาอุดิอารเบีย อาจจะมีทางเลือก วันนี้ไม่ไปซบอเมริกา ไม่พลัดกันเช็ดรองเท้าให้กัน แต่อิหร่านและรัสเซีย จะรับซาอุได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนตะวันออกกลาง คุยกันเองรู้เรื่องไหม อยากปกครองกันเอง หรือให้คนนอกมากำกับตลอดไป แต่ผมคิดว่า อิหร่านคงไม่ได้พูดง่ายๆ ซาอุเอง ถ้าเรื่องมาก เล่นบทผิด คราวนี้แม้แต่อูฐก็อาจจะไม่เหลือ
    แต่สำหรับอเมริกา ที่จะกลับเข้ามาใหญ่ในตะวันออกกลางเหมือนเดิม บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย จะกลับเข้ามาทางไหน ถ้าซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ไม่เอาด้วยปั๊มเล็กปั๊มน้อย ก็ต้องเปลี่ยนท่าที และอย่าลืมจุดยุทธศาสตร์เพราะฉะนั้นของผม ถ้าฝ่ายไหนยึด 3 จุดนั้นได้ ฝ่ายนั้น ได้ตะวันออกกลางครับ
    เยเมนและเมดิเตอร์เรเนียน จึงน่าจะร้อนระอุขึ้นมา ถ้าพี่เบิ้มใบตองแห้ง ไม่คิดเหลือแต่ชื่อ…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 5 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 5 กลับมาดูภูมิศาสตร์ตะวันออกกลางอีกหน่อย จุดยุทธศาสตร์สำคัญที่คุมตะวันออกกลาง ให้กลายเป็นง่อย ปั้มขึ้นสนิมทั้งหมด มีอยู่ 3 จุด (เหมือนจุดเพราะฉะนั้น จำง่ายดีครับ) จุดแรกคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่วันนี้ กองทัพเรืออิหร่านคุมเรียบร้อย จนโอมานที่อยู่ตรงกันข้าม ถึงกับขออยู่เป็นกลาง ขยับห่างจากซาอุดิอย่างไม่เกรงใจ ไม่ยุ่งเรื่องเยเมนด้วย (แต่ผมก็ยังไม่ค่อยวางใจโอมาน เรื่องนี้ต้องดูกันต่อ) จุดที่ 2 คือ ช่องแคบที่อ่าวเอเดนของเยเมน วันนี้ ซึ่งอาจจะกลายเป็นสมรภูมิใหม่ในตะวันออกกลาง นอกเหนือจากที่ซีเรีย เพราะรับรองว่าอเมริกาไม่ปล่อยมือเยเมนและไม่ปล่อยให้ซาอุเล่นเองอีกต่อไป ขณะเดียวกันอิหร่าน รัสเซีย ก็คงไม่ดูเหตุการณ์ในเยเมนอยู่เฉยๆเหมือนกัน จุดที่ 3 คือ บริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนรอบซีเรีย และคงพอเข้าใจว่าทำไมในการเข้าไปปฏิบัติการณ์ช่วยซีเรีย รัสเซีย จึงใช้ทั้งฐานทัพที่ Latika และ Tartus วันนี้ ใครจะเคลื่อนทัพเรือเข้าใกล้ตะวันออกกลางด้านเมดิเตอร์เรเนียน ก็คงต้องเจอกับฝูงเครื่องบินรบ และกองทัพเรือของรัสเซีย และน่าจะรวมของจีน ที่ไปฝึกร่วมกันกับรัสเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม ถ้าจำกันได้ และจนบัดนี้ กองเรือของทั้ง 2 เขี้ยว ยังไม่ได้กลับบ้านเลย ยังอาบแดด อยู่แถวเมดิเตอร์เรเนียนนั่นแหละ หัวโจกใหญ่ในตะวันออกกลาง มี 3 เจ้า อิหร่าน อิสราเอล และซาอุดิอารเบีย รายแรกคืออิหร่าน ไม่ต้องพูด อเมริกาคงรู้ตัวแล้วว่า ตัวเองถูกตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย เสียเวลาไป 2 ปี ตอนนี้ไม่มีใครพูดเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ดีล ปี๊บคลุมหัวคงขาดแคลนแถวทำเนียบขาว กับแถวอียู นักเจรจา ที่ทำหน้าว่ากูเก่งนัก หายหัวไปไหนหมด รายที่ 2 อิสราเอล ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาพูดถึงมาก เก่งแต่ปาก วันนี้แค่เห็นฝูงบินของรัสเซียโฉบผ่าน ก็กลับบ้านนอนคลุมโปงแล้ว ส่วนอเมริกาก็คงยังนึกไม่ออกว่า จะให้อิสราเอลรับบทไหน แค่กันไม่ให้กลุ่มฮามาส กับฮิสบอลเลาะห์เข้ามาถล่มหลังบ้านตัว อิสราเอลก็ไข้ขึ้นแล้ว แต่พอตั้งตัวได้ ก็คงมีบทบาทเอง เพราะอิสราเอลกับอเมริกา มันก็เหมือนคนเดียวกัน ประเทศเดียวกันอยู่แล้ว ถึงจะมีการหลอกใช้กัน แต่ก็ได้สมประโยชน์ด้วยกันถึงทุกวันนี้ แม้จะรำคาญหู แต่ก็ยังคงไม่ถึงตัดขาดกันตอนนี้ (แต่ต่อไป ไม่แน่ครับ) สำหรับรายที่ 3 ซาอุดิอารเบีย ดูเผินๆ เหมือนหมูในอวย อูฐในคอก แต่เอาเข้าจริง มันไม่แน่เสมอไป อเมริกาที่ว่าแน่ๆ บังคับเขาไปทั่วโลก ให้เป็นประชาธิปไตย ให้มีสิทธิเสรีภาพ ใครไม่เป็นอย่างที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจัดการได้หมด จนวันนี้ อเมริกายังเปลี่ยนแนวคิด แนวปกครองซาอุดิอารเบียไม่ได้เลยจนนิดเดียว อเมริกาได้แต่นินทา เยาะเย้ย วันนี้ผู้หญิงชาวซาอุ ยังไม่มีสิทธิขับรถ แล้วมึงมาบังคับเรื่องประชาธิปไตย กับเสรีภาพอะไรกับบ้านผม เราอาจได้เห็นภาพ อเมริกาไปคุกเข่า เช็ดรองเท้าให้กษัตริย์ซาอุอีกที ดูรูปตอน 1 ที่ผมเอามาลงดีๆ อีกทีเถิดครับ เคยเห็นอเมริกานอบน้อมกับผู้ปกครองประเทศไหนเท่านี้บ้าง ตกลงไม่รู้ใครเป็นพรมเช็ดเท้าให้ใครกันแน่ อเมริกาคงคิดหนัก จะไม่เอาคน เอาแต่ปั้ม อย่างที่วางแผนให้ตะวันออกกลางรบกันจนเละ ตายเกลี้ยงอย่างเดิมแล้วค่อยไปเอาปั้มอย่างเดิม แผนนี้อเมริกาชักไม่แน่ใจ ไอ้ที่ว่าถอนกองกำลังออกมาจากตะวันออกกลางแล้ว จะไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปยุ่ง คุณหน้าเต้าหู้ยี้ รัฐมนตรีกลาโหม ถึงออกมาแถลงข่าวแบบคนยังไม่สร่าง พูดไม่รู้เรื่อง ก็เพราะยังไม่รู้จะว่า พี่เบิ้มใบตองแห้ง จะใช้ยุทธศาสตร์อย่างไรดี ระหว่างที่อเมริกากำลังปวดหัว กับเดินหมากซีเรียของคุณพี่ปูติน ซาอุดิอารเบีย ก็เกิดเล่นบทแปลก ส่งเจ้าชายละอ่อน ไปเที่ยวรัสเซียเสีย 2 รอบ ไม่รู้คุยอะไรกันบ้าง แต่ออกข่าวว่า มีการทำสัญญาร่วมมือกัน 6,7 ฉบับ แบบนี้ ข่าวลือรอบ 2 ในปลายเดือนกันยายน จึงต้องออกมา เป็นการปรามว่า ให้เห็นหัวกันบ้าง เรื่องเยเมนก็เกือบจะเสร็จอิหร่านไปแล้ว นี่ซาอุกำลังจะเดินเข้าปากรัสเซียอีกหรือ แต่กษัตริย์ซัลมานก็ยังเล่นเกมต่อ แม้จะโดนข่าวลือแรง และรู้ว่า ข่าวลือมาจากไหน สำหรับซาอุดิอารเบีย อาจจะมีทางเลือก วันนี้ไม่ไปซบอเมริกา ไม่พลัดกันเช็ดรองเท้าให้กัน แต่อิหร่านและรัสเซีย จะรับซาอุได้มากน้อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับคนตะวันออกกลาง คุยกันเองรู้เรื่องไหม อยากปกครองกันเอง หรือให้คนนอกมากำกับตลอดไป แต่ผมคิดว่า อิหร่านคงไม่ได้พูดง่ายๆ ซาอุเอง ถ้าเรื่องมาก เล่นบทผิด คราวนี้แม้แต่อูฐก็อาจจะไม่เหลือ แต่สำหรับอเมริกา ที่จะกลับเข้ามาใหญ่ในตะวันออกกลางเหมือนเดิม บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย จะกลับเข้ามาทางไหน ถ้าซาอุดิอารเบีย เสี่ยปั๊มใหญ่ไม่เอาด้วยปั๊มเล็กปั๊มน้อย ก็ต้องเปลี่ยนท่าที และอย่าลืมจุดยุทธศาสตร์เพราะฉะนั้นของผม ถ้าฝ่ายไหนยึด 3 จุดนั้นได้ ฝ่ายนั้น ได้ตะวันออกกลางครับ เยเมนและเมดิเตอร์เรเนียน จึงน่าจะร้อนระอุขึ้นมา ถ้าพี่เบิ้มใบตองแห้ง ไม่คิดเหลือแต่ชื่อ… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 3

    “ข่าวลือ ข่าวลวง’
    ตอนสุดท้าย 3
    เรามาทำความเข้าใจ กับเรื่องเส้นทางขนส่งน้ำมันของตะวันออกกลางกันอีกทีก่อน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจความจุกอกของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย ชัดเจนขึ้น
    ตะวันออกกลางผลิตน้ำมันรวมกันทั้งหมดประมาณ 32 % ของ ปริมาณน้ำมันโลก ตามตัวเลขในปี ค.ศ.2013 เท่ากับประมาณ 28.3 พันล้านบาเรลต่อ วัน (bbl/d) และน้ำมันทั้งหมดดังกล่าว ส่งออกจากตะวันออกกลาง 2 ทาง
    ทางหนึ่งคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่แออัด ที่สุดในโลก ตัวเลขของ Energy Information Administration (EIA) ที่รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 ระบุว่า มีน้ำมันประมาณ 167 ล้านบาเรล ต่อวัน ผ่านช่องแคบนี้
    และ 85% ของน้ำมันที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสนี้ ส่งต่อไปยังตลาดเอเซีย ที่มีลูกค้ารายใหญ่คือ ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ และจีน
    ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบฮอร์มุส หรือที่เรียกกันว่า จุดรัดคอ choke point กว้างแค่ 21 ไมล์ แต่มีส่วนที่มีความลึกพอให้เรือบรรทุกแล่นผ่านไป มา 2 ด้าน กว้างด้านละแค่ 2 ไมล์ โดยมีช่องห่างระหว่างกัน 2 ไมล์
    ถ้าไม่ใช้เรือขนส่งน้ำมัน ก็ต้องขนส่งทางท่อส่ง และในกลุ่มซาอุมีเพียง 2 ประเทศ ที่จะมีทางเลือกไปใช้ท่อส่งน้ำมันได้คือ ซาอุดิอารเบียกับเอมิเรตส์ เท่านั้น และน้ำมันที่จะส่งผ่านท่อรวมกัน 2 ประเทศ ได้แค่จำนวนไม่เกิน 4.3 ล้านบาเรลต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ท่อส่งของทั้ง 2 ประเทศไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้สมบูรณ์ เนื่องจากความด้อยในการดูแลรักษา และเส้นทางท่อส่งก็จะต้องผ่านไปในเขตการต่อสู้ ที่มีอยู่มากมายในแถบนั้น
    ยิ่งไปกว่านั้น ท่อส่งอาจเจออุปสรรคอย่างอื่นอีกด้วย ท่อส่งของซาอุดิอารเบีย ส่งออกทางทะเลแดง ซึ่งยังมีปัญหาเกี่ยวกับเยเมน จึงมีความไม่แน่นอนว่า น้ำมันจะส่งผ่านทะเลแดงออกไปได้ไหม ส่วนท่อส่งของเอมิเรตส์ ก็ไปออกที่อ่าวของโอมาน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะทำตัวเป็นกลาง เพราะเมื่อ ซาอุ เรียกให้มาถล่มร่วมเยเมนเมื่อเดือนมีนาคม โอมานบอกไม่ว่างไป …มาแปลกนี่
    แปลว่าน้ำมันของตะวันออกกลาง แม้จะผลิตได้มาก แต่ต้องพึ่งการขนส่ง ผ่านเส้นทางที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสสูงอย่างน่าตกใจ และที่น่าตกใจกว่าสำหรับอเมริกาคือ อเมริกายังไม่สามารถควบคุมช่องแคบฮอร์มุสได้ ….และดูเหมือนจะกลายเป็นฝ่ายอิหร่าน ที่ตอนนี้ คุมอยู่….
    อเมริการู้จุดอ่อนของตัว และความเสี่ยงนี้ดีอยู่แก่ใจ จึงพยายามลดการนำเข้าน้ำมันในประเทศตัว แต่จากรายงานของ EIA เมื่อต้นปี ค.ศ.2015 นี้เอง ระบุว่าในปี ค.ศ.2014 อเมริกายังนำเข้าน้ำมันเป็นจำนวน 27% ของการใช้ และจาก Annual Energy Outlook บอกว่า อเมริกายังจะต้องมีการนำเข้าเชื้อเพลิงชนิดเหลว ซึ่งจำเป็นสำหรับการขนส่งภายในประเทศของอเมริกา ต่อไปอีกถึงงปี ค.ศ.2040 และตัวเลขที่นำเข้า กลับจะเพิ่มเอาด้วยซ้ำ
    ตัวเลขเหล่านี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์
    แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนของอเมริกาคือ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา ยังจะต้องผูกติดอยู่กับการนำเข้าสินค้าทางอุตสาหกรรม เพราะอเมริกาแทบจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่แล้ว และแม้ตัวเลขพวกนี้อาจต่างกันตามแหล่งที่มา แต่จากรายงานของ ซีไอเอ ที่ออกมาล่าสุด เมื่อ วันที่ 15 มีนาคม ค.ศ.2015 แสดงตัวเลขนำเข้าสินค้าของอเมริกา สูงถึง 2.27 ล้านล้านเหรียญ ในปี ค.ศ.2013 ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดที่นำมาแสดงของอเมริกา
    (การนำเข้าจำนวนดังกล่าว เท่ากับ 13.6 % ของจีดีพีรวมจำนวน 16.72 ล้านล้านเหรียญ )
    การนำเข้าของอเมริกา แม้จะเป็นน้ำมันเพียง 8.2% แต่อีก 86.9 % เป็นสินค้า ที่เป็นผลผลิตทางอุตสาหกรรม และอย่างน้อย ประมาณ 35% ของสินค้านั้น ผลิตจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งประเทศเหล่านี้ ต้องพึ่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง
    ฮู้ย… พี่เบิ้ม ไหงใหญ่แบบ กลวงอย่างนี้ครับ
    (การพึ่งน้ำมันในทางอ้อม จากการนำเข้าของอเมริกาในจำนวนขนาดนี้ มีผลกระทบกับเศรษฐกิจของอเมริกา โดยติดลบสุทธิจากการนำเข้าสินค้า เป็นจำนวน 690 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับติดลบสุทธิการนำเข้าน้ำมันดิบจำนวน 186 พันล้านเหรียญ)
    ดูเหมือน เมื่อตอนที่อเมริกา เปลี่ยนนโยบาย (จริง หรือ หลอก) ที่จะไม่อุ้มตะวันออกกลาง คนร่างนโยบายของพี่เบิ้ม ใบตองแห้ง นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ คงลืมไปว่า กำลังใช้เสื้อผ้า เข้าของ เครื่องมือเครื่องใช้ ฯลฯ ที่ผลิตนอกอเมริกาทั้งสิ้น เวร…
    ปัจจุบัน สินค้าที่อเมริกายังผลิตอยู่เองเป็นเรื่องเป็นราว ดูเหมือนจะมีแต่กระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ อาวุธตรานกอินทรีย์ ยาตรานกอินทรีย์ กับสื่อและการบันเทิงตรานกอินทรีย์ เท่านั้นเอง
    แต่จะผลิตกระดาษสีเขียวต่อ ก็ต้องมีอำนาจกับเศรษฐกิจหนุน ไม่ใช่มีแต่ลมปาก ตอนนี้อำนาจก็กำลังถูกท้าทาย ถ้าเศรษฐกิจดันสะดุด เพราะถูกเขาปิดเส้นทางส่งน้ำมัน… คิดแค่นี้ ผมก็เสียวแทนพี่เบิ้มใบตองแห้งจัง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    25 ต.ค. 2558
    ข่าวลือ ข่าวลวง ตอนสุดท้าย 3 “ข่าวลือ ข่าวลวง’ ตอนสุดท้าย 3 เรามาทำความเข้าใจ กับเรื่องเส้นทางขนส่งน้ำมันของตะวันออกกลางกันอีกทีก่อน ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจความจุกอกของอเมริกา และซาอุดิอารเบีย ชัดเจนขึ้น ตะวันออกกลางผลิตน้ำมันรวมกันทั้งหมดประมาณ 32 % ของ ปริมาณน้ำมันโลก ตามตัวเลขในปี ค.ศ.2013 เท่ากับประมาณ 28.3 พันล้านบาเรลต่อ วัน (bbl/d) และน้ำมันทั้งหมดดังกล่าว ส่งออกจากตะวันออกกลาง 2 ทาง ทางหนึ่งคือ ช่องแคบฮอร์มุส ที่เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่แออัด ที่สุดในโลก ตัวเลขของ Energy Information Administration (EIA) ที่รายงานเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ.2014 ระบุว่า มีน้ำมันประมาณ 167 ล้านบาเรล ต่อวัน ผ่านช่องแคบนี้ และ 85% ของน้ำมันที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสนี้ ส่งต่อไปยังตลาดเอเซีย ที่มีลูกค้ารายใหญ่คือ ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ และจีน ส่วนที่แคบที่สุดของช่องแคบฮอร์มุส หรือที่เรียกกันว่า จุดรัดคอ choke point กว้างแค่ 21 ไมล์ แต่มีส่วนที่มีความลึกพอให้เรือบรรทุกแล่นผ่านไป มา 2 ด้าน กว้างด้านละแค่ 2 ไมล์ โดยมีช่องห่างระหว่างกัน 2 ไมล์ ถ้าไม่ใช้เรือขนส่งน้ำมัน ก็ต้องขนส่งทางท่อส่ง และในกลุ่มซาอุมีเพียง 2 ประเทศ ที่จะมีทางเลือกไปใช้ท่อส่งน้ำมันได้คือ ซาอุดิอารเบียกับเอมิเรตส์ เท่านั้น และน้ำมันที่จะส่งผ่านท่อรวมกัน 2 ประเทศ ได้แค่จำนวนไม่เกิน 4.3 ล้านบาเรลต่อวันเท่านั้น นอกจากนี้ท่อส่งของทั้ง 2 ประเทศไม่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้สมบูรณ์ เนื่องจากความด้อยในการดูแลรักษา และเส้นทางท่อส่งก็จะต้องผ่านไปในเขตการต่อสู้ ที่มีอยู่มากมายในแถบนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ท่อส่งอาจเจออุปสรรคอย่างอื่นอีกด้วย ท่อส่งของซาอุดิอารเบีย ส่งออกทางทะเลแดง ซึ่งยังมีปัญหาเกี่ยวกับเยเมน จึงมีความไม่แน่นอนว่า น้ำมันจะส่งผ่านทะเลแดงออกไปได้ไหม ส่วนท่อส่งของเอมิเรตส์ ก็ไปออกที่อ่าวของโอมาน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะทำตัวเป็นกลาง เพราะเมื่อ ซาอุ เรียกให้มาถล่มร่วมเยเมนเมื่อเดือนมีนาคม โอมานบอกไม่ว่างไป …มาแปลกนี่ แปลว่าน้ำมันของตะวันออกกลาง แม้จะผลิตได้มาก แต่ต้องพึ่งการขนส่ง ผ่านเส้นทางที่ผ่านช่องแคบฮอร์มุสสูงอย่างน่าตกใจ และที่น่าตกใจกว่าสำหรับอเมริกาคือ อเมริกายังไม่สามารถควบคุมช่องแคบฮอร์มุสได้ ….และดูเหมือนจะกลายเป็นฝ่ายอิหร่าน ที่ตอนนี้ คุมอยู่…. อเมริการู้จุดอ่อนของตัว และความเสี่ยงนี้ดีอยู่แก่ใจ จึงพยายามลดการนำเข้าน้ำมันในประเทศตัว แต่จากรายงานของ EIA เมื่อต้นปี ค.ศ.2015 นี้เอง ระบุว่าในปี ค.ศ.2014 อเมริกายังนำเข้าน้ำมันเป็นจำนวน 27% ของการใช้ และจาก Annual Energy Outlook บอกว่า อเมริกายังจะต้องมีการนำเข้าเชื้อเพลิงชนิดเหลว ซึ่งจำเป็นสำหรับการขนส่งภายในประเทศของอเมริกา ต่อไปอีกถึงงปี ค.ศ.2040 และตัวเลขที่นำเข้า กลับจะเพิ่มเอาด้วยซ้ำ ตัวเลขเหล่านี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนของอเมริกาคือ การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกา ยังจะต้องผูกติดอยู่กับการนำเข้าสินค้าทางอุตสาหกรรม เพราะอเมริกาแทบจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตสินค้าส่วนใหญ่แล้ว และแม้ตัวเลขพวกนี้อาจต่างกันตามแหล่งที่มา แต่จากรายงานของ ซีไอเอ ที่ออกมาล่าสุด เมื่อ วันที่ 15 มีนาคม ค.ศ.2015 แสดงตัวเลขนำเข้าสินค้าของอเมริกา สูงถึง 2.27 ล้านล้านเหรียญ ในปี ค.ศ.2013 ซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดที่นำมาแสดงของอเมริกา (การนำเข้าจำนวนดังกล่าว เท่ากับ 13.6 % ของจีดีพีรวมจำนวน 16.72 ล้านล้านเหรียญ ) การนำเข้าของอเมริกา แม้จะเป็นน้ำมันเพียง 8.2% แต่อีก 86.9 % เป็นสินค้า ที่เป็นผลผลิตทางอุตสาหกรรม และอย่างน้อย ประมาณ 35% ของสินค้านั้น ผลิตจากจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งประเทศเหล่านี้ ต้องพึ่งน้ำมันจากตะวันออกกลาง ฮู้ย… พี่เบิ้ม ไหงใหญ่แบบ กลวงอย่างนี้ครับ (การพึ่งน้ำมันในทางอ้อม จากการนำเข้าของอเมริกาในจำนวนขนาดนี้ มีผลกระทบกับเศรษฐกิจของอเมริกา โดยติดลบสุทธิจากการนำเข้าสินค้า เป็นจำนวน 690 พันล้านเหรียญ เมื่อเทียบกับติดลบสุทธิการนำเข้าน้ำมันดิบจำนวน 186 พันล้านเหรียญ) ดูเหมือน เมื่อตอนที่อเมริกา เปลี่ยนนโยบาย (จริง หรือ หลอก) ที่จะไม่อุ้มตะวันออกกลาง คนร่างนโยบายของพี่เบิ้ม ใบตองแห้ง นักล่าผู้ยิ่งใหญ่ คงลืมไปว่า กำลังใช้เสื้อผ้า เข้าของ เครื่องมือเครื่องใช้ ฯลฯ ที่ผลิตนอกอเมริกาทั้งสิ้น เวร… ปัจจุบัน สินค้าที่อเมริกายังผลิตอยู่เองเป็นเรื่องเป็นราว ดูเหมือนจะมีแต่กระดาษสีเขียวตรานกอินทรีย์ อาวุธตรานกอินทรีย์ ยาตรานกอินทรีย์ กับสื่อและการบันเทิงตรานกอินทรีย์ เท่านั้นเอง แต่จะผลิตกระดาษสีเขียวต่อ ก็ต้องมีอำนาจกับเศรษฐกิจหนุน ไม่ใช่มีแต่ลมปาก ตอนนี้อำนาจก็กำลังถูกท้าทาย ถ้าเศรษฐกิจดันสะดุด เพราะถูกเขาปิดเส้นทางส่งน้ำมัน… คิดแค่นี้ ผมก็เสียวแทนพี่เบิ้มใบตองแห้งจัง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 25 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่สังข์ วัดดอนตรอ จ.นครศรีธรรมราช ปี2000
    เหรียญหลวงปู่สังข์ อายุ93 ปี เนื้อกะหลั่ยทอง วัดดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ปี2000 // พระดีพิธีใหญ๋ เหรียญมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณ เข้มขลัง สุดยอดยิ่งนัก เมตตามหานิยม มีเสน่ห์ในการผูกไมตรีกับผู้คน การเจรจาค้าความเป็นเลิศ อยู่เย็นเป็นสุข ประสบโชคชัยสวัสดี ทำกิจการอันใดมีแต่เจริญรุ่งเรือง หายจากอาการเจ็บป่วยไข้ และให้มีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง **

    ** พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ยกย่องและตั้งฉายาให้ท่านว่า”เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีวามศักดิ์สิทธิ์มีความเมตตาสูง ไม่สนใจโลกภายนอก ท่านมีอายุร้อยกว่าปี ในอดีตจะนิมนต์ท่านทำพิธีกรรมพุทธาพิเศกวัตถุมงคลและจุดเทียนชัยในพิธีต่างๆ และบ่อยครั้งที่ได้นิมนต์ท่านไปทำพิธีเจิมเครื่องบิน หลวงพ่อ สังข์ อตีตเจ้าอาวาสวัดดอนตรอ นอกจากท่านเป็นพระที่มีคุณธรรมสูง คือมีเมตตาต่อทุกคนที่ไปกราบท่านอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะแล้ว หลวงพ่อ สังข์ยังเป็นพระที่บริจาคให้ทานแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างไม่เลือกหน้าด้วย จะเห็นอยู่บ่อยๆว่าของทุกอย่างที่ท่านได้มาโดยชอบหลวงพ่อจะไม่เก็บสะสมไว้เป็นสมบัติโดยส่วนตัว แต่ของทุกอย่างท่านจะประกาศแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์ที่ยากจนโดยเฉพาะผู้ ** ประสบเคราะห์กรรม

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่สังข์ วัดดอนตรอ จ.นครศรีธรรมราช ปี2000 เหรียญหลวงปู่สังข์ อายุ93 ปี เนื้อกะหลั่ยทอง วัดดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครศรีธรรมราช ปี2000 // พระดีพิธีใหญ๋ เหรียญมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณ เข้มขลัง สุดยอดยิ่งนัก เมตตามหานิยม มีเสน่ห์ในการผูกไมตรีกับผู้คน การเจรจาค้าความเป็นเลิศ อยู่เย็นเป็นสุข ประสบโชคชัยสวัสดี ทำกิจการอันใดมีแต่เจริญรุ่งเรือง หายจากอาการเจ็บป่วยไข้ และให้มีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง ** ** พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ยกย่องและตั้งฉายาให้ท่านว่า”เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” ท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่มีวามศักดิ์สิทธิ์มีความเมตตาสูง ไม่สนใจโลกภายนอก ท่านมีอายุร้อยกว่าปี ในอดีตจะนิมนต์ท่านทำพิธีกรรมพุทธาพิเศกวัตถุมงคลและจุดเทียนชัยในพิธีต่างๆ และบ่อยครั้งที่ได้นิมนต์ท่านไปทำพิธีเจิมเครื่องบิน หลวงพ่อ สังข์ อตีตเจ้าอาวาสวัดดอนตรอ นอกจากท่านเป็นพระที่มีคุณธรรมสูง คือมีเมตตาต่อทุกคนที่ไปกราบท่านอย่างไม่เลือกชั้นวรรณะแล้ว หลวงพ่อ สังข์ยังเป็นพระที่บริจาคให้ทานแก่ผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากอย่างไม่เลือกหน้าด้วย จะเห็นอยู่บ่อยๆว่าของทุกอย่างที่ท่านได้มาโดยชอบหลวงพ่อจะไม่เก็บสะสมไว้เป็นสมบัติโดยส่วนตัว แต่ของทุกอย่างท่านจะประกาศแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์ที่ยากจนโดยเฉพาะผู้ ** ประสบเคราะห์กรรม ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อจำเนียรหลังพระประจำวันอังคาร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อจำเนียรหลังพระประจำวันอังคาร เนื้อทองผาบาตร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ่ !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณเสริมด้าน ความเยือกเย็น จิตใจมั่นคง แคล้วคลาดปลอดภัย และ เสริมบารมี ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง **

    ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อจำเนียรหลังพระประจำวันอังคาร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ เหรียญเม็ดแตงหลวงพ่อจำเนียรหลังพระประจำวันอังคาร เนื้อทองผาบาตร วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ่ !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณเสริมด้าน ความเยือกเย็น จิตใจมั่นคง แคล้วคลาดปลอดภัย และ เสริมบารมี ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง ** ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows Server 2025: ยุคใหม่ของ Native NVMe

    Microsoft ได้ปรับปรุงสถาปัตยกรรมการจัดการ I/O ของ Windows Server 2025 โดยตัดการแปลงคำสั่ง NVMe ไปเป็น SCSI ที่เคยเป็นคอขวดมานาน ทำให้ระบบสามารถสื่อสารกับ NVMe SSD ได้โดยตรง ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพการอ่านเขียนข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในงานที่ต้องการ throughput สูง เช่น virtualization, AI/ML workloads และฐานข้อมูลขนาดใหญ่

    ประสิทธิภาพที่พิสูจน์ได้
    การทดสอบภายในของ Microsoft แสดงให้เห็นว่า Native NVMe สามารถเพิ่ม IOPS ได้ถึง 80% และลดการใช้ CPU ลง 45% เมื่อเทียบกับ Windows Server 2022 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการใช้ multi-queue architecture ของ NVMe ที่รองรับได้ถึง 64,000 queues และ 64,000 commands ต่อ queue ซึ่งต่างจาก SCSI ที่จำกัดเพียง 32 commands ต่อ queue

    ผลกระทบต่อองค์กร
    สำหรับองค์กรที่ใช้ SQL Server, Hyper-V หรือระบบไฟล์เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ การเปิดใช้งาน Native NVMe จะช่วยให้การทำงานเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น VM boot เร็วขึ้น, live migration ลื่นไหลขึ้น และการประมวลผลข้อมูล AI/ML มี latency ต่ำลง นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและฮาร์ดแวร์ เพราะสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ข้อควรระวังและข้อจำกัด
    แม้ฟีเจอร์นี้จะพร้อมใช้งานแล้ว แต่ Microsoft เลือกที่จะปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทดสอบก่อนนำไปใช้จริง ต้องเปิดใช้งานด้วยการแก้ Registry หรือ Group Policy และยังมีข้อจำกัดว่าต้องใช้ไดรเวอร์ StorNVMe.sys ของ Windows เอง หากใช้ไดรเวอร์จากผู้ผลิตอื่น ฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงาน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบาง consumer SSD อาจไม่เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่และอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การเปลี่ยนแปลงหลักใน Windows Server 2025
    รองรับ Native NVMe โดยตรง ไม่ต้องผ่าน SCSI translation
    เพิ่ม IOPS ได้สูงสุด 80% และลด CPU usage 45%

    ผลลัพธ์ต่อองค์กรและ workload
    SQL Server, Hyper-V, และ AI/ML workloads ทำงานเร็วขึ้น
    ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและฮาร์ดแวร์

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    ฟีเจอร์ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น ต้องเปิดเองผ่าน Registry/Group Policy
    ต้องใช้ไดรเวอร์ StorNVMe.sys ของ Windows เท่านั้น
    บาง consumer SSD อาจไม่เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง

    https://www.tomshardware.com/desktops/servers/windows-server-2025-gains-native-nvme-support-14-years-after-its-introduction-groundbreaking-i-o-stack-drops-scsi-emulation-limitations-for-massive-throughput-and-cpu-efficiency-gains
    🖥️ Windows Server 2025: ยุคใหม่ของ Native NVMe Microsoft ได้ปรับปรุงสถาปัตยกรรมการจัดการ I/O ของ Windows Server 2025 โดยตัดการแปลงคำสั่ง NVMe ไปเป็น SCSI ที่เคยเป็นคอขวดมานาน ทำให้ระบบสามารถสื่อสารกับ NVMe SSD ได้โดยตรง ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพการอ่านเขียนข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยเฉพาะในงานที่ต้องการ throughput สูง เช่น virtualization, AI/ML workloads และฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ⚡ ประสิทธิภาพที่พิสูจน์ได้ การทดสอบภายในของ Microsoft แสดงให้เห็นว่า Native NVMe สามารถเพิ่ม IOPS ได้ถึง 80% และลดการใช้ CPU ลง 45% เมื่อเทียบกับ Windows Server 2022 การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดจากการใช้ multi-queue architecture ของ NVMe ที่รองรับได้ถึง 64,000 queues และ 64,000 commands ต่อ queue ซึ่งต่างจาก SCSI ที่จำกัดเพียง 32 commands ต่อ queue 🏢 ผลกระทบต่อองค์กร สำหรับองค์กรที่ใช้ SQL Server, Hyper-V หรือระบบไฟล์เซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ การเปิดใช้งาน Native NVMe จะช่วยให้การทำงานเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น VM boot เร็วขึ้น, live migration ลื่นไหลขึ้น และการประมวลผลข้อมูล AI/ML มี latency ต่ำลง นอกจากนี้ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและฮาร์ดแวร์ เพราะสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ⚠️ ข้อควรระวังและข้อจำกัด แม้ฟีเจอร์นี้จะพร้อมใช้งานแล้ว แต่ Microsoft เลือกที่จะปิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ดูแลระบบทดสอบก่อนนำไปใช้จริง ต้องเปิดใช้งานด้วยการแก้ Registry หรือ Group Policy และยังมีข้อจำกัดว่าต้องใช้ไดรเวอร์ StorNVMe.sys ของ Windows เอง หากใช้ไดรเวอร์จากผู้ผลิตอื่น ฟีเจอร์นี้จะไม่ทำงาน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบาง consumer SSD อาจไม่เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่และอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การเปลี่ยนแปลงหลักใน Windows Server 2025 ➡️ รองรับ Native NVMe โดยตรง ไม่ต้องผ่าน SCSI translation ➡️ เพิ่ม IOPS ได้สูงสุด 80% และลด CPU usage 45% ✅ ผลลัพธ์ต่อองค์กรและ workload ➡️ SQL Server, Hyper-V, และ AI/ML workloads ทำงานเร็วขึ้น ➡️ ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและฮาร์ดแวร์ ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ ฟีเจอร์ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น ต้องเปิดเองผ่าน Registry/Group Policy ⛔ ต้องใช้ไดรเวอร์ StorNVMe.sys ของ Windows เท่านั้น ⛔ บาง consumer SSD อาจไม่เข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่ ทำให้ประสิทธิภาพลดลง https://www.tomshardware.com/desktops/servers/windows-server-2025-gains-native-nvme-support-14-years-after-its-introduction-groundbreaking-i-o-stack-drops-scsi-emulation-limitations-for-massive-throughput-and-cpu-efficiency-gains
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • Docker เปิดซอร์ส Hardened Images: ความปลอดภัยที่ทุกคนเข้าถึงได้

    Docker ประกาศครั้งสำคัญด้วยการ เปิดซอร์ส Docker Hardened Images (DHI) ที่ก่อนหน้านี้สงวนไว้สำหรับลูกค้าองค์กรเท่านั้น โดยปล่อยภายใต้ Apache License 2.0 ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ฟรี จุดเด่นคือการลดช่องโจมตี (attack surface) ลงถึง 95% เมื่อเทียบกับ images มาตรฐาน พร้อมมี SBOM (Software Bill of Materials), SLSA Build Level 3 provenance, และรายงานช่องโหว่ที่โปร่งใส

    DHI: ความปลอดภัยในระดับระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน
    Docker Hardened Images ถูกสร้างบน Alpine และ Debian โดยปรับแต่งให้มีความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ Docker ยังเปิดตัว Hardened MCP Servers สำหรับงาน AI และระบบที่นิยมใช้ เช่น MongoDB, Grafana และ GitHub สิ่งเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการ harden ระบบเอง

    Tiered Model: จากฟรีสู่ Enterprise และ Extended Lifecycle
    Docker แบ่ง DHI ออกเป็น 3 ระดับ:
    Free Open Source: ให้ทุกคนเข้าถึง hardened images พร้อม SBOM และ provenance
    Enterprise: เพิ่ม SLA 7 วันสำหรับการแก้ไข CVE, FIPS-enabled images และ STIG-ready configurations
    Extended Lifecycle Support (ELS): บริการเสริมที่ขยายการอัปเดตความปลอดภัยได้นานถึง 5 ปีหลังจาก upstream หมดอายุการสนับสนุน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้พัฒนา
    การเปิดซอร์สครั้งนี้ถือเป็น “watershed moment” ตามคำกล่าวของ Christian Dupuis, Senior Principal Engineer ของ Docker เพราะเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการสร้างแอปพลิเคชันที่ “ปลอดภัยโดยค่าเริ่มต้น” (secure by default) ให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ใช่เฉพาะองค์กรใหญ่เท่านั้น สิ่งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในวงการซอฟต์แวร์โดยรวม

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    Docker เปิดซอร์ส Hardened Images (DHI)
    ลดช่องโจมตีลงถึง 95% และมี SBOM + provenance

    รองรับระบบยอดนิยม
    Hardened MCP Servers สำหรับ MongoDB, Grafana, GitHub และอื่น ๆ

    Tiered Model ของ DHI
    Free, Enterprise (SLA + compliance), และ Extended Lifecycle Support

    ผลกระทบเชิงกลยุทธ์
    ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่จำกัดองค์กรใหญ่

    คำเตือนต่อผู้ใช้งานทั่วไป
    แม้จะเป็น hardened images แต่ผู้ใช้ยังต้องอัปเดตและตรวจสอบการตั้งค่าเอง

    ความเสี่ยงของระบบ legacy
    หากไม่ใช้ Extended Lifecycle Support อาจเสี่ยงต่อช่องโหว่หลัง upstream หมดอายุ

    https://itsfoss.com/news/docker-hardened-images-open-sourced/
    🐳 Docker เปิดซอร์ส Hardened Images: ความปลอดภัยที่ทุกคนเข้าถึงได้ Docker ประกาศครั้งสำคัญด้วยการ เปิดซอร์ส Docker Hardened Images (DHI) ที่ก่อนหน้านี้สงวนไว้สำหรับลูกค้าองค์กรเท่านั้น โดยปล่อยภายใต้ Apache License 2.0 ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ฟรี จุดเด่นคือการลดช่องโจมตี (attack surface) ลงถึง 95% เมื่อเทียบกับ images มาตรฐาน พร้อมมี SBOM (Software Bill of Materials), SLSA Build Level 3 provenance, และรายงานช่องโหว่ที่โปร่งใส 🔐 DHI: ความปลอดภัยในระดับระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน Docker Hardened Images ถูกสร้างบน Alpine และ Debian โดยปรับแต่งให้มีความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ Docker ยังเปิดตัว Hardened MCP Servers สำหรับงาน AI และระบบที่นิยมใช้ เช่น MongoDB, Grafana และ GitHub สิ่งเหล่านี้ช่วยให้องค์กรสามารถนำไปใช้ได้ทันทีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการ harden ระบบเอง 🏢 Tiered Model: จากฟรีสู่ Enterprise และ Extended Lifecycle Docker แบ่ง DHI ออกเป็น 3 ระดับ: 💠 Free Open Source: ให้ทุกคนเข้าถึง hardened images พร้อม SBOM และ provenance 💠 Enterprise: เพิ่ม SLA 7 วันสำหรับการแก้ไข CVE, FIPS-enabled images และ STIG-ready configurations 💠 Extended Lifecycle Support (ELS): บริการเสริมที่ขยายการอัปเดตความปลอดภัยได้นานถึง 5 ปีหลังจาก upstream หมดอายุการสนับสนุน 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและผู้พัฒนา การเปิดซอร์สครั้งนี้ถือเป็น “watershed moment” ตามคำกล่าวของ Christian Dupuis, Senior Principal Engineer ของ Docker เพราะเป็นการเปลี่ยนวิธีคิดจากการสร้างแอปพลิเคชันที่ “ปลอดภัยโดยค่าเริ่มต้น” (secure by default) ให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ใช่เฉพาะองค์กรใหญ่เท่านั้น สิ่งนี้จะช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในวงการซอฟต์แวร์โดยรวม 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ Docker เปิดซอร์ส Hardened Images (DHI) ➡️ ลดช่องโจมตีลงถึง 95% และมี SBOM + provenance ✅ รองรับระบบยอดนิยม ➡️ Hardened MCP Servers สำหรับ MongoDB, Grafana, GitHub และอื่น ๆ ✅ Tiered Model ของ DHI ➡️ Free, Enterprise (SLA + compliance), และ Extended Lifecycle Support ✅ ผลกระทบเชิงกลยุทธ์ ➡️ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่จำกัดองค์กรใหญ่ ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้งานทั่วไป ⛔ แม้จะเป็น hardened images แต่ผู้ใช้ยังต้องอัปเดตและตรวจสอบการตั้งค่าเอง ‼️ ความเสี่ยงของระบบ legacy ⛔ หากไม่ใช้ Extended Lifecycle Support อาจเสี่ยงต่อช่องโหว่หลัง upstream หมดอายุ https://itsfoss.com/news/docker-hardened-images-open-sourced/
    ITSFOSS.COM
    Docker Makes Enterprise-Grade Hardened Images Free for All Developers
    Previously enterprise-only hardened images go open source under Apache License 2.0.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • PhotoPrism: ทางเลือกใหม่แทน Google Photos

    PhotoPrism เป็นแอปจัดการรูปภาพที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในบ้าน (homelab) โดยใช้ Docker Compose จุดเด่นคือ การประมวลผลทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเครื่องของผู้ใช้ ทำให้รูปถ่ายไม่ถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลฝึกโมเดลธุรกิจของบริษัทอื่น ภาพถ่ายจึงยังคงเป็น “ความทรงจำของคุณ” ภายใต้การควบคุมของคุณเอง

    ขั้นตอนการติดตั้งและการตั้งค่า
    การติดตั้ง PhotoPrism ต้องมีพื้นฐานการใช้ Linux command line และ Docker โดยเริ่มจากการสร้างโฟลเดอร์โปรเจกต์ ดาวน์โหลดไฟล์ docker-compose.yml และแก้ไขค่าที่สำคัญ เช่น รหัสผ่าน admin, ตำแหน่งโฟลเดอร์ภาพต้นฉบับ, และ พอร์ตการเชื่อมต่อ หลังจากนั้นใช้คำสั่ง docker compose up -d เพื่อรันระบบใน background

    เมื่อระบบเริ่มทำงาน ผู้ใช้สามารถเข้าผ่านเว็บอินเทอร์เฟซที่ http://localhost:2342 และสั่งให้ PhotoPrism ทำการ index รูปภาพทั้งหมด เพื่อสร้าง metadata, thumbnails และวิเคราะห์ด้วย AI เช่น การจดจำใบหน้าและวัตถุ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหากมีคลังภาพขนาดใหญ่ แต่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งแรกเท่านั้น

    ความเป็นส่วนตัวและการดูแลระบบ
    PhotoPrism มีตัวเลือกการตั้งค่าหลากหลาย เช่น ปิดการจดจำใบหน้าเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือปรับคุณภาพ thumbnail เพื่อประหยัดพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า reverse proxy เช่น Nginx หรือ Caddy เพื่อให้เข้าถึงจากภายนอก LAN ได้อย่างปลอดภัย ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเรื่อง การสำรองข้อมูลและการอัปเดตระบบเอง ซึ่งถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการได้สิทธิ์ควบคุมข้อมูลอย่างเต็มที่

    การใช้งานบนมือถือและการขยายระบบ
    PhotoPrism รองรับการเข้าถึงผ่าน Progressive Web App (PWA) ที่สามารถติดตั้งเป็น shortcut บนมือถือ รวมถึงแอปเสริมอย่าง Gallery for PhotoPrism (Android) และ PhotoSync (Android/iOS) เพื่อซิงค์ภาพได้สะดวก ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นจากคลังภาพเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายระบบ homelab ให้รองรับคลังภาพขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    PhotoPrism เป็นทางเลือกแทน Google Photos
    ทำงานแบบ self-hosted และเน้นความเป็นส่วนตัว

    ติดตั้งผ่าน Docker Compose
    ต้องแก้ไขค่าใน docker-compose.yml เช่นรหัสผ่านและโฟลเดอร์ภาพ

    ระบบ AI ช่วยจัดการภาพ
    มีการจดจำใบหน้าและวัตถุ แต่สามารถปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัว

    รองรับการใช้งานบนมือถือ
    ผ่าน PWA และแอปเสริมเช่น PhotoSync

    คำเตือนเรื่องการดูแลระบบเอง
    ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบการสำรองข้อมูลและอัปเดตระบบ

    ข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์
    หากเครื่องมี RAM หรือ CPU ต่ำ อาจทำให้การ index ใช้เวลานานมาก

    https://itsfoss.com/self-hosting-photoprism/
    🖼️ PhotoPrism: ทางเลือกใหม่แทน Google Photos PhotoPrism เป็นแอปจัดการรูปภาพที่ทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ส่วนตัวในบ้าน (homelab) โดยใช้ Docker Compose จุดเด่นคือ การประมวลผลทั้งหมดเกิดขึ้นภายในเครื่องของผู้ใช้ ทำให้รูปถ่ายไม่ถูกนำไปใช้เป็นข้อมูลฝึกโมเดลธุรกิจของบริษัทอื่น ภาพถ่ายจึงยังคงเป็น “ความทรงจำของคุณ” ภายใต้การควบคุมของคุณเอง ⚙️ ขั้นตอนการติดตั้งและการตั้งค่า การติดตั้ง PhotoPrism ต้องมีพื้นฐานการใช้ Linux command line และ Docker โดยเริ่มจากการสร้างโฟลเดอร์โปรเจกต์ ดาวน์โหลดไฟล์ docker-compose.yml และแก้ไขค่าที่สำคัญ เช่น รหัสผ่าน admin, ตำแหน่งโฟลเดอร์ภาพต้นฉบับ, และ พอร์ตการเชื่อมต่อ หลังจากนั้นใช้คำสั่ง docker compose up -d เพื่อรันระบบใน background เมื่อระบบเริ่มทำงาน ผู้ใช้สามารถเข้าผ่านเว็บอินเทอร์เฟซที่ http://localhost:2342 และสั่งให้ PhotoPrism ทำการ index รูปภาพทั้งหมด เพื่อสร้าง metadata, thumbnails และวิเคราะห์ด้วย AI เช่น การจดจำใบหน้าและวัตถุ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายชั่วโมงหากมีคลังภาพขนาดใหญ่ แต่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งแรกเท่านั้น 🔒 ความเป็นส่วนตัวและการดูแลระบบ PhotoPrism มีตัวเลือกการตั้งค่าหลากหลาย เช่น ปิดการจดจำใบหน้าเพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัว หรือปรับคุณภาพ thumbnail เพื่อประหยัดพื้นที่ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่า reverse proxy เช่น Nginx หรือ Caddy เพื่อให้เข้าถึงจากภายนอก LAN ได้อย่างปลอดภัย ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเรื่อง การสำรองข้อมูลและการอัปเดตระบบเอง ซึ่งถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับการได้สิทธิ์ควบคุมข้อมูลอย่างเต็มที่ 📱 การใช้งานบนมือถือและการขยายระบบ PhotoPrism รองรับการเข้าถึงผ่าน Progressive Web App (PWA) ที่สามารถติดตั้งเป็น shortcut บนมือถือ รวมถึงแอปเสริมอย่าง Gallery for PhotoPrism (Android) และ PhotoSync (Android/iOS) เพื่อซิงค์ภาพได้สะดวก ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นจากคลังภาพเล็ก ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายระบบ homelab ให้รองรับคลังภาพขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ PhotoPrism เป็นทางเลือกแทน Google Photos ➡️ ทำงานแบบ self-hosted และเน้นความเป็นส่วนตัว ✅ ติดตั้งผ่าน Docker Compose ➡️ ต้องแก้ไขค่าใน docker-compose.yml เช่นรหัสผ่านและโฟลเดอร์ภาพ ✅ ระบบ AI ช่วยจัดการภาพ ➡️ มีการจดจำใบหน้าและวัตถุ แต่สามารถปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัว ✅ รองรับการใช้งานบนมือถือ ➡️ ผ่าน PWA และแอปเสริมเช่น PhotoSync ‼️ คำเตือนเรื่องการดูแลระบบเอง ⛔ ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบการสำรองข้อมูลและอัปเดตระบบ ‼️ ข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ⛔ หากเครื่องมี RAM หรือ CPU ต่ำ อาจทำให้การ index ใช้เวลานานมาก https://itsfoss.com/self-hosting-photoprism/
    ITSFOSS.COM
    What Google Photos? Self-Hosting Photo Storage with PhotoPrism Using Docker in My Homelab
    PhotoPrism offers one path toward that goal of data ownership. With PhotoPrism, your vacation photos don’t become training data for someone else’s business model. They remain what they actually are, your memories, under your control.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gift Card Roulette: ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ใน Apple Gift Cards

    กรณีล่าสุดที่ถูกพูดถึงในวงการเทคโนโลยีคือเหตุการณ์ของ Paris Buttfield-Addison ผู้ใช้ที่สูญเสียการเข้าถึงบัญชี iCloud และคลังสื่อดิจิทัลทั้งหมด หลังจากพยายามใช้ Apple Gift Card มูลค่า 500 ดอลลาร์ที่ถูกดัดแปลง เขาซื้อจากร้านค้าปลีกใหญ่ แต่กลับกลายเป็นว่าการ์ดนั้นเป็นของปลอมและทำให้บัญชีถูกล็อกทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบที่ควรจะปลอดภัยที่สุด

    สิ่งที่น่ากังวลคือแม้ Apple จะมีทีม Executive Relations ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนระดับสูงเข้ามาตรวจสอบ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ทำให้ผู้ใช้ต้องเผชิญกับการสูญเสียข้อมูลและสิทธิ์การเข้าถึงที่สำคัญ เหตุการณ์นี้จึงถูกเปรียบเทียบว่าเหมือน “Russian Roulette ดิจิทัล” เพราะผู้ใช้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการ์ดที่ได้รับจะปลอดภัยหรือไม่

    จากมุมมองที่กว้างขึ้น ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัลโดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะ Apple เท่านั้น หลายแพลตฟอร์มเคยเจอกรณีบัตรถูกปลอมแปลงหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อหรือรับบัตรของขวัญ โดยเฉพาะเมื่อซื้อจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการ

    ในเชิงกลยุทธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่าบริษัทเทคโนโลยีควรสร้างระบบตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น เช่น การยืนยันรหัสแบบหลายชั้น หรือการจำกัดวงเงินที่สามารถใช้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    เหตุการณ์ผู้ใช้ Apple Gift Card ถูกล็อกบัญชี
    Paris Buttfield-Addison สูญเสียการเข้าถึง iCloud และคลังสื่อหลังใช้บัตรที่ถูกดัดแปลง

    การตรวจสอบจากทีม Executive Relations ของ Apple
    แม้ทีมสนับสนุนระดับสูงเข้ามา แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที

    ความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัล
    ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะ Apple แต่เกิดขึ้นในหลายแพลตฟอร์ม

    ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    การตรวจสอบรหัสหลายชั้น และการจำกัดวงเงินเป็นแนวทางที่ควรนำมาใช้

    คำเตือนต่อผู้บริโภค
    การซื้อบัตรจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการอาจเสี่ยงต่อการถูกปลอมแปลง

    ความเสี่ยงในการให้บัตรเป็นของขวัญ
    ผู้รับอาจสูญเสียบัญชีหรือข้อมูลสำคัญหากบัตรถูกดัดแปลง

    https://daringfireball.net/linked/2025/12/17/are-apple-gift-cards-safe-to-redeem
    🛡️ Gift Card Roulette: ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ใน Apple Gift Cards กรณีล่าสุดที่ถูกพูดถึงในวงการเทคโนโลยีคือเหตุการณ์ของ Paris Buttfield-Addison ผู้ใช้ที่สูญเสียการเข้าถึงบัญชี iCloud และคลังสื่อดิจิทัลทั้งหมด หลังจากพยายามใช้ Apple Gift Card มูลค่า 500 ดอลลาร์ที่ถูกดัดแปลง เขาซื้อจากร้านค้าปลีกใหญ่ แต่กลับกลายเป็นว่าการ์ดนั้นเป็นของปลอมและทำให้บัญชีถูกล็อกทันที เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบที่ควรจะปลอดภัยที่สุด สิ่งที่น่ากังวลคือแม้ Apple จะมีทีม Executive Relations ซึ่งเป็นหน่วยสนับสนุนระดับสูงเข้ามาตรวจสอบ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ทำให้ผู้ใช้ต้องเผชิญกับการสูญเสียข้อมูลและสิทธิ์การเข้าถึงที่สำคัญ เหตุการณ์นี้จึงถูกเปรียบเทียบว่าเหมือน “Russian Roulette ดิจิทัล” เพราะผู้ใช้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าการ์ดที่ได้รับจะปลอดภัยหรือไม่ จากมุมมองที่กว้างขึ้น ปัญหานี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัลโดยทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะ Apple เท่านั้น หลายแพลตฟอร์มเคยเจอกรณีบัตรถูกปลอมแปลงหรือถูกใช้เป็นเครื่องมือฟอกเงิน ทำให้ผู้บริโภคต้องระมัดระวังมากขึ้นในการซื้อหรือรับบัตรของขวัญ โดยเฉพาะเมื่อซื้อจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการ ในเชิงกลยุทธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยแนะนำว่าบริษัทเทคโนโลยีควรสร้างระบบตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น เช่น การยืนยันรหัสแบบหลายชั้น หรือการจำกัดวงเงินที่สามารถใช้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ตกเป็นเหยื่อของการโจมตีที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ในโลกดิจิทัลที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ เหตุการณ์ผู้ใช้ Apple Gift Card ถูกล็อกบัญชี ➡️ Paris Buttfield-Addison สูญเสียการเข้าถึง iCloud และคลังสื่อหลังใช้บัตรที่ถูกดัดแปลง ✅ การตรวจสอบจากทีม Executive Relations ของ Apple ➡️ แม้ทีมสนับสนุนระดับสูงเข้ามา แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันที ✅ ความเสี่ยงของระบบบัตรของขวัญดิจิทัล ➡️ ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะ Apple แต่เกิดขึ้นในหลายแพลตฟอร์ม ✅ ข้อเสนอเชิงกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ➡️ การตรวจสอบรหัสหลายชั้น และการจำกัดวงเงินเป็นแนวทางที่ควรนำมาใช้ ‼️ คำเตือนต่อผู้บริโภค ⛔ การซื้อบัตรจากช่องทางที่ไม่เป็นทางการอาจเสี่ยงต่อการถูกปลอมแปลง ‼️ ความเสี่ยงในการให้บัตรเป็นของขวัญ ⛔ ผู้รับอาจสูญเสียบัญชีหรือข้อมูลสำคัญหากบัตรถูกดัดแปลง https://daringfireball.net/linked/2025/12/17/are-apple-gift-cards-safe-to-redeem
    DARINGFIREBALL.NET
    Are Apple Gift Cards Safe to Redeem?
    Link to: https://tidbits.com/2025/12/17/compromised-apple-gift-card-leads-to-apple-account-lockout/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปีใหม่ 69 เปิดมอเตอร์เวย์ M6 วิ่งฉิวบางปะอินถึงนครราชสีมา

    ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา จะเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นการชั่วคราว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ช่วงบางปะอิน-ปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ถึง 5 ม.ค. 2569 โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลดความแออัดของเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ รวมทั้งแบ่งเบาภาระการจราจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    โดยทิศทางขาออกกรุงเทพฯ จากด่านบางปะอิน-ปากช่อง เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2568 เวลา 00.01 น. ถึง 1 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. เท่านั้น เนื่องจากการก่อสร้างตอน 4 (สะพานข้ามหนองน้ำ) ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเบี่ยงการจราจรตั้งแต่กิโลเมตรที่ 10+150 ถึง 30+800 หลังจากนั้นทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ จากปากช่อง-บางปะอิน เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 2569 เวลา 06.00 น. ถึง 5 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. ส่วนช่วงปากช่อง-นครราชสีมา เปิดให้สัญจรสองทิศทางตลอด 24 ชั่วโมง

    สำหรับทางเข้า-ออกด่านบางปะอินจะมี 3 ทิศทาง ได้แก่ 1. ด้านถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงหมายเลข 9) เลยทางแยกต่างระดับเชียงราก (ทางหลวงหมายเลข 347) มุ่งหน้าบางปะอินเล็กน้อย 2. ด้านถนนพหลโยธิน เลยปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านใหญ่วังน้อย ขาขึ้น กม.54 3. ด้านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 ก่อนถึงทางออกบางปะอิน โปรดสังเกตป้ายบอกทางสีน้ำเงิน ระบุว่า "มอเตอร์เวย์ M6 ปากช่อง นครราชสีมา" เนื่องจากแอปพลิเคชันบอกทางอาจยังไม่อัปเดตเส้นทาง

    เนื่องจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ครั้งนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ อีกทั้งไม่มีปั๊มน้ำมันหรือ EV Charger กลางทาง จึงควรเติมน้ำมันหรือชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการเดินทางระยะยาว ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน เมื่อเลยทางแยกต่างระดับบางปะอิน กม.53-54 จะมีปั๊มน้ำมันเชลล์, บางจาก และ PTT Station แต่ถ้ามาจากมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เลยทางแยกต่างระดับธัญบุรีไปแล้ว ใช้ทางออก 2 (คลองหลวง-หนองเสือ) จะมีปั๊มน้ำมัน PTT Station, บางจาก และคาลเท็กซ์ ที่เข้า-ออกทางหลักได้

    สำหรับผู้ที่มาจากภาคใต้ ผ่านถนนพระรามที่ 2 และจังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ที่ด่านมหาชัย 1 ต่อเนื่องทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่ด่านบางขุนเทียน ต่อเนื่องมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ที่ด่านบางแก้ว เสียค่าผ่านทางที่ด่านทับช้าง และด่านธัญบุรี เพื่อเข้ามอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ได้ ซึ่งจากด่านมหาชัย 1 ถึงจังหวัดนครราชสีมา คิดเป็นระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร

    #Newskit
    ปีใหม่ 69 เปิดมอเตอร์เวย์ M6 วิ่งฉิวบางปะอินถึงนครราชสีมา ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 6 บางปะอิน-นครราชสีมา จะเปิดให้ประชาชนสัญจรเป็นการชั่วคราว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ช่วงบางปะอิน-ปากช่อง-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2568 ถึง 5 ม.ค. 2569 โดยไม่เก็บค่าผ่านทาง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ลดความแออัดของเส้นทางหลักอย่างถนนพหลโยธิน และถนนมิตรภาพ รวมทั้งแบ่งเบาภาระการจราจรสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยทิศทางขาออกกรุงเทพฯ จากด่านบางปะอิน-ปากช่อง เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 26 ธ.ค. 2568 เวลา 00.01 น. ถึง 1 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. เท่านั้น เนื่องจากการก่อสร้างตอน 4 (สะพานข้ามหนองน้ำ) ยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องเบี่ยงการจราจรตั้งแต่กิโลเมตรที่ 10+150 ถึง 30+800 หลังจากนั้นทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ จากปากช่อง-บางปะอิน เปิดให้สัญจรระหว่างวันที่ 2 ม.ค. 2569 เวลา 06.00 น. ถึง 5 ม.ค. 2569 เวลา 24.00 น. ส่วนช่วงปากช่อง-นครราชสีมา เปิดให้สัญจรสองทิศทางตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับทางเข้า-ออกด่านบางปะอินจะมี 3 ทิศทาง ได้แก่ 1. ด้านถนนกาญจนาภิเษก (ทางหลวงหมายเลข 9) เลยทางแยกต่างระดับเชียงราก (ทางหลวงหมายเลข 347) มุ่งหน้าบางปะอินเล็กน้อย 2. ด้านถนนพหลโยธิน เลยปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านใหญ่วังน้อย ขาขึ้น กม.54 3. ด้านทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 9 ก่อนถึงทางออกบางปะอิน โปรดสังเกตป้ายบอกทางสีน้ำเงิน ระบุว่า "มอเตอร์เวย์ M6 ปากช่อง นครราชสีมา" เนื่องจากแอปพลิเคชันบอกทางอาจยังไม่อัปเดตเส้นทาง เนื่องจากการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ครั้งนี้ยังไม่เต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้นใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อ อีกทั้งไม่มีปั๊มน้ำมันหรือ EV Charger กลางทาง จึงควรเติมน้ำมันหรือชาร์จไฟให้เพียงพอต่อการเดินทางระยะยาว ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน เมื่อเลยทางแยกต่างระดับบางปะอิน กม.53-54 จะมีปั๊มน้ำมันเชลล์, บางจาก และ PTT Station แต่ถ้ามาจากมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 เลยทางแยกต่างระดับธัญบุรีไปแล้ว ใช้ทางออก 2 (คลองหลวง-หนองเสือ) จะมีปั๊มน้ำมัน PTT Station, บางจาก และคาลเท็กซ์ ที่เข้า-ออกทางหลักได้ สำหรับผู้ที่มาจากภาคใต้ ผ่านถนนพระรามที่ 2 และจังหวัดสมุทรสาคร สามารถใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 ที่ด่านมหาชัย 1 ต่อเนื่องทางพิเศษกาญจนาภิเษกที่ด่านบางขุนเทียน ต่อเนื่องมอเตอร์เวย์หมายเลข 9 ที่ด่านบางแก้ว เสียค่าผ่านทางที่ด่านทับช้าง และด่านธัญบุรี เพื่อเข้ามอเตอร์เวย์หมายเลข 6 ได้ ซึ่งจากด่านมหาชัย 1 ถึงจังหวัดนครราชสีมา คิดเป็นระยะทางประมาณ 320 กิโลเมตร #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปู่ฤาษีตาไฟ กบิลพรหมมาดาบส วัดกม.26 ใน จ.ยะลา ปี2553
    บรมครูปู่ฤาษีตาไฟ กบิลพรหมมาดาบส (ฝังตะกรุด) เนื้อว่าน มวลสารว่านมงคล 108 สีดำจะมีน้อยมากๆ วัดกม.26 ใน ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ปี2553 // พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ ขลัง!! ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก หายาก สร้างจำนวนน้อย !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณบนได้ไหว์รับ ช่วยให้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง มีโชค มีลาภ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน. กันคุณไสย์ต่างฯ มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด โชคลาภ เฮง เฮง ที่วัดมีญาติโยมมาทำการแก้บนกันทุกวัน **

    ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ปู่ฤาษีตาไฟ กบิลพรหมมาดาบส วัดกม.26 ใน จ.ยะลา ปี2553 บรมครูปู่ฤาษีตาไฟ กบิลพรหมมาดาบส (ฝังตะกรุด) เนื้อว่าน มวลสารว่านมงคล 108 สีดำจะมีน้อยมากๆ วัดกม.26 ใน ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ปี2553 // พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ ขลัง!! ปลุกเสกโดยพระเกจิสายเขาอ้อ-สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก หายาก สร้างจำนวนน้อย !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณบนได้ไหว์รับ ช่วยให้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง มีโชค มีลาภ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน. กันคุณไสย์ต่างฯ มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด โชคลาภ เฮง เฮง ที่วัดมีญาติโยมมาทำการแก้บนกันทุกวัน ** ** พระดีพิธีใหญ่ !! เฉียบ!!! ขลัง!! พระเกจิรวมพลัง!!!พระเกจิสายเขาอ้อ...สายหลวงพ่อทวดวัดช้างให้..เสก!! จัดสร้างโดย...พระปลัดจิรเดช นาถกโร (อาจารย์ต้อม) เกจิที่โด่งดังอีกท่านนึงในจังหวัดยะลา ท่านได้สร้างและปลุกเสก มีประสบการณ์มากมาย ทั้งในเรื่องแคล้วคลาด กันคุณไสย์ต่างฯครับ วัตถุมงคลของท่านล้วนแล้วแต่เข้มขลังจากประสบการณ์มากมายในสามจังหวัดชายแดน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2540
    หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา สร้าง ปี2540 เนื้อผงพุทธคุณ // พระดีพิธีใหญ๋ เสกสองวัด ปลุกเสกโดยพ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และพระเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2540 พระดีพิธีใหญ่ พ่อท่านฉิ้นสร้าง ปลุกเสก 2 วัด 2วาระ (วัดช้างให้-วัดเมืองยะลา) โดยมี อาจารย์นองวัดทรายขาว อาจารย์ทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านฉิ้น โชติโก เจ้าอาวาสวัดเมืองผู้จัดสร้าง และเกจิสายเขาอ้อ ...

    เกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้
    1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง
    2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี
    3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว
    4. พ่อท่านสุก วัดตุยง
    5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่
    6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย
    7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา
    8. พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา

    “หลวงพ่อฉิ้น โชติโก” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายตรง “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” และเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร แห่งวัดช้างไห้ **

    ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2540 หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา สร้าง ปี2540 เนื้อผงพุทธคุณ // พระดีพิธีใหญ๋ เสกสองวัด ปลุกเสกโดยพ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และพระเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ รุ่นแรก กริ่งมหาเศรษฐี พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2540 พระดีพิธีใหญ่ พ่อท่านฉิ้นสร้าง ปลุกเสก 2 วัด 2วาระ (วัดช้างให้-วัดเมืองยะลา) โดยมี อาจารย์นองวัดทรายขาว อาจารย์ทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านฉิ้น โชติโก เจ้าอาวาสวัดเมืองผู้จัดสร้าง และเกจิสายเขาอ้อ ... เกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8. พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา “หลวงพ่อฉิ้น โชติโก” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายตรง “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” และเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร แห่งวัดช้างไห้ ** ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.47

    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต

    กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล

    บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    บทความกฎหมาย EP.47 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline


    Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI
    Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge
    https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse

    Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน
    Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก
    https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover

    หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน
    ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account

    Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows
    ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน
    https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users

    OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon
    มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์
    https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch

    Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19%
    รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์
    https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge

    Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด
    https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining

    Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT
    รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ
    https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures

    “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้
    https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls

    Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม
    กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes

    Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ
    นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์
    https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports

    GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner
    เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้
    https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry

    ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที
    Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่
    https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers

    CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains

    แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email
    Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น
    https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit

    SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root
    SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline 🦊 Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge 🔗 https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse 🔒 Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover 🚦 หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account 💻 Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users 💰 OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch 🌐 Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19% รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์ 🔗 https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge 🖥️ Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด 🔗 https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining 📧 Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ 🔗 https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures 🔐 “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้ 🔗 https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls 🐉 Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes 📚 Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports 🛠️ GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้ 🔗 https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers 🚨 CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 🔗 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains 🐚 แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น 🔗 https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 433 มุมมอง 0 รีวิว
  • AI ใช้พลังงานและน้ำมากกว่า Bitcoin Mining

    รายงานจาก Alex de Vries-Gao นักวิจัยจาก VU Amsterdam Institute for Environmental Studies ระบุว่า ความต้องการพลังงานของ AI อาจสูงถึง 23 กิกะวัตต์ในปี 2025 ซึ่งมากกว่าการใช้พลังงานของ Bitcoin mining ทั้งปี 2024 นอกจากนี้ยังคาดว่า AI จะใช้น้ำระหว่าง 312.5 ถึง 764.6 พันล้านลิตร สำหรับการระบายความร้อนในศูนย์ข้อมูล เทียบเท่ากับปริมาณน้ำดื่มบรรจุขวดที่คนทั้งโลกบริโภคในหนึ่งปี

    แม้ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นการประมาณ แต่ก็สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของศูนย์ข้อมูล AI ที่ต้องใช้พลังงานและน้ำจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้ทรัพยากรจริงในรายงานความยั่งยืน ทำให้การประเมินต้องอาศัยการคาดการณ์จากข้อมูลการลงทุนและการติดตั้งฮาร์ดแวร์

    ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมยังรวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงมาก โดยคาดว่า AI อาจสร้างคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 56 ล้านตันต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศสิงคโปร์ทั้งประเทศในปี 2022 นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากไม่ได้รวมผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทาน เช่น การขุดแร่ การผลิตชิป และการกำจัดอุปกรณ์

    นักการเมืองในสหรัฐฯ เริ่มแสดงความกังวลต่อการใช้ทรัพยากรของ AI โดยมีการเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและน้ำอย่างละเอียด รวมถึงข้อเสนอให้ชะลอการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การใช้พลังงานของ AI
    คาดว่าจะสูงถึง 23GW ในปี 2025 มากกว่า Bitcoin mining ปี 2024

    การใช้น้ำเพื่อระบายความร้อน
    อยู่ระหว่าง 312.5–764.6 พันล้านลิตร เทียบเท่าน้ำดื่มบรรจุขวดที่คนทั้งโลกบริโภค

    การปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    เฉลี่ย 56 ล้านตันต่อปี ใกล้เคียงกับการปล่อยของประเทศสิงคโปร์ในปี 2022

    ความโปร่งใสของบริษัทเทคโนโลยี
    ยังไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและน้ำในรายงานความยั่งยืน

    คำเตือนด้านสิ่งแวดล้อม
    ตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากไม่ได้รวมผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทาน
    การขยายศูนย์ข้อมูล AI อาจกระทบต่อทรัพยากรน้ำและพลังงานของประชาชนในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-surpasses-2024-bitcoin-mining-in-energy-usage-uses-more-h20-than-the-bottles-of-water-people-drink-globally-study-claims-says-ai-demand-could-hit-23gw-and-up-to-764-billion-liters-of-water-in-2025
    ⚡ AI ใช้พลังงานและน้ำมากกว่า Bitcoin Mining รายงานจาก Alex de Vries-Gao นักวิจัยจาก VU Amsterdam Institute for Environmental Studies ระบุว่า ความต้องการพลังงานของ AI อาจสูงถึง 23 กิกะวัตต์ในปี 2025 ซึ่งมากกว่าการใช้พลังงานของ Bitcoin mining ทั้งปี 2024 นอกจากนี้ยังคาดว่า AI จะใช้น้ำระหว่าง 312.5 ถึง 764.6 พันล้านลิตร สำหรับการระบายความร้อนในศูนย์ข้อมูล เทียบเท่ากับปริมาณน้ำดื่มบรรจุขวดที่คนทั้งโลกบริโภคในหนึ่งปี แม้ตัวเลขเหล่านี้จะเป็นการประมาณ แต่ก็สะท้อนถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของศูนย์ข้อมูล AI ที่ต้องใช้พลังงานและน้ำจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้ทรัพยากรจริงในรายงานความยั่งยืน ทำให้การประเมินต้องอาศัยการคาดการณ์จากข้อมูลการลงทุนและการติดตั้งฮาร์ดแวร์ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมยังรวมถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สูงมาก โดยคาดว่า AI อาจสร้างคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ย 56 ล้านตันต่อปี ซึ่งใกล้เคียงกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศสิงคโปร์ทั้งประเทศในปี 2022 นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากไม่ได้รวมผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทาน เช่น การขุดแร่ การผลิตชิป และการกำจัดอุปกรณ์ นักการเมืองในสหรัฐฯ เริ่มแสดงความกังวลต่อการใช้ทรัพยากรของ AI โดยมีการเรียกร้องให้บริษัทเทคโนโลยีเปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและน้ำอย่างละเอียด รวมถึงข้อเสนอให้ชะลอการสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในวงกว้าง 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การใช้พลังงานของ AI ➡️ คาดว่าจะสูงถึง 23GW ในปี 2025 มากกว่า Bitcoin mining ปี 2024 ✅ การใช้น้ำเพื่อระบายความร้อน ➡️ อยู่ระหว่าง 312.5–764.6 พันล้านลิตร เทียบเท่าน้ำดื่มบรรจุขวดที่คนทั้งโลกบริโภค ✅ การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ➡️ เฉลี่ย 56 ล้านตันต่อปี ใกล้เคียงกับการปล่อยของประเทศสิงคโปร์ในปี 2022 ✅ ความโปร่งใสของบริษัทเทคโนโลยี ➡️ ยังไม่เปิดเผยข้อมูลการใช้พลังงานและน้ำในรายงานความยั่งยืน ‼️ คำเตือนด้านสิ่งแวดล้อม ⛔ ตัวเลขจริงอาจสูงกว่าที่รายงาน เนื่องจากไม่ได้รวมผลกระทบจากห่วงโซ่อุปทาน ⛔ การขยายศูนย์ข้อมูล AI อาจกระทบต่อทรัพยากรน้ำและพลังงานของประชาชนในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/ai-surpasses-2024-bitcoin-mining-in-energy-usage-uses-more-h20-than-the-bottles-of-water-people-drink-globally-study-claims-says-ai-demand-could-hit-23gw-and-up-to-764-billion-liters-of-water-in-2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤติหน่วยความจำ: Micron เตือน DRAM ขาดตลาดยาวถึงปี 2026

    Micron รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 พร้อมยืนยันว่าแม้จะปิดแบรนด์ Crucial ไปแล้ว แต่ความต้องการ DRAM และ NAND ยังคงสูงมาก โดยเฉพาะจากศูนย์ข้อมูล AI ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บริษัททำรายได้สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 57% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็ยอมรับว่าจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้เต็มที่ และคาดว่าการขาดแคลนจะยืดเยื้อต่อไปหลังปี 2026

    หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึงสามเท่า ทำให้ทรัพยากรการผลิตตึงตัวมากขึ้น Micron คาดว่าตลาด HBM จะมีมูลค่าถึง 100 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 ซึ่งจะกลายเป็นตลาดใหญ่กว่าทั้ง DRAM ในปี 2024 การแข่งขันด้านการผลิตจึงเข้มข้นขึ้น และผู้ผลิตหลายรายเริ่มทำสัญญาระยะยาวเพื่อรักษาซัพพลาย

    Micron กำลังลงทุนสร้างโรงงานใหม่ในไอดาโฮและนิวยอร์ก โดยโรงงานแรกจะเริ่มผลิตกลางปี 2027 ส่วนอีกแห่งจะเริ่มก่อสร้างในปี 2026 และคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขยายกำลังผลิต บริษัทก็ยังคาดว่าจะสามารถตอบสนองได้เพียงครึ่งถึงสองในสามของความต้องการลูกค้าหลักเท่านั้น

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคเริ่มเห็นชัดเจนแล้ว ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตบางรายเช่น Kingston เตือนว่าราคาจะยังคงปรับขึ้น ส่วน Sapphire คาดว่าราคาจะเริ่มทรงตัวในอีก 6–8 เดือน แต่ก็อาจไม่ใช่ระดับราคาที่ผู้ใช้ต้องการ นอกจากนี้ยังมีปัญหาสินค้าปลอมและการฉ้อโกงในตลาดออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    ผลประกอบการ Micron
    รายได้ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 57%

    การขาดแคลน DRAM ต่อเนื่อง
    Micron คาดว่าปัญหาจะยืดเยื้อไปหลังปี 2026 และตอบสนองได้เพียง 50–66% ของความต้องการ

    การเติบโตของตลาด HBM
    ใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึง 3 เท่า และคาดว่ามูลค่าตลาดจะถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2028

    การลงทุนโรงงานใหม่
    โรงงานในไอดาโฮจะเริ่มผลิตปี 2027 และโรงงานนิวยอร์กคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030

    ผลกระทบต่อผู้บริโภค
    ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้น และผู้ผลิตบางรายเตือนว่าราคาจะยังคงเพิ่มต่อไป

    คำเตือนด้านราคาและตลาด
    ราคาหน่วยความจำอาจไม่กลับไปสู่ระดับที่ผู้ใช้คาดหวัง แม้จะเริ่มทรงตัว
    ความเสี่ยงจากสินค้าปลอมและการฉ้อโกงออนไลน์เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-outlines-grim-outlook-for-dram-supply-in-first-earnings-call-since-killing-crucial-memory-and-ssd-brand-ceo-says-it-can-only-meet-half-to-two-thirds-of-demand
    🖥️ วิกฤติหน่วยความจำ: Micron เตือน DRAM ขาดตลาดยาวถึงปี 2026 Micron รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 พร้อมยืนยันว่าแม้จะปิดแบรนด์ Crucial ไปแล้ว แต่ความต้องการ DRAM และ NAND ยังคงสูงมาก โดยเฉพาะจากศูนย์ข้อมูล AI ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว บริษัททำรายได้สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 57% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ก็ยอมรับว่าจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้เต็มที่ และคาดว่าการขาดแคลนจะยืดเยื้อต่อไปหลังปี 2026 หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของ HBM (High Bandwidth Memory) ซึ่งใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึงสามเท่า ทำให้ทรัพยากรการผลิตตึงตัวมากขึ้น Micron คาดว่าตลาด HBM จะมีมูลค่าถึง 100 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2028 ซึ่งจะกลายเป็นตลาดใหญ่กว่าทั้ง DRAM ในปี 2024 การแข่งขันด้านการผลิตจึงเข้มข้นขึ้น และผู้ผลิตหลายรายเริ่มทำสัญญาระยะยาวเพื่อรักษาซัพพลาย Micron กำลังลงทุนสร้างโรงงานใหม่ในไอดาโฮและนิวยอร์ก โดยโรงงานแรกจะเริ่มผลิตกลางปี 2027 ส่วนอีกแห่งจะเริ่มก่อสร้างในปี 2026 และคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030 อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการขยายกำลังผลิต บริษัทก็ยังคาดว่าจะสามารถตอบสนองได้เพียงครึ่งถึงสองในสามของความต้องการลูกค้าหลักเท่านั้น ผลกระทบต่อผู้บริโภคเริ่มเห็นชัดเจนแล้ว ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตบางรายเช่น Kingston เตือนว่าราคาจะยังคงปรับขึ้น ส่วน Sapphire คาดว่าราคาจะเริ่มทรงตัวในอีก 6–8 เดือน แต่ก็อาจไม่ใช่ระดับราคาที่ผู้ใช้ต้องการ นอกจากนี้ยังมีปัญหาสินค้าปลอมและการฉ้อโกงในตลาดออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ ผลประกอบการ Micron ➡️ รายได้ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2026 สูงถึง 13.64 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 57% ✅ การขาดแคลน DRAM ต่อเนื่อง ➡️ Micron คาดว่าปัญหาจะยืดเยื้อไปหลังปี 2026 และตอบสนองได้เพียง 50–66% ของความต้องการ ✅ การเติบโตของตลาด HBM ➡️ ใช้พื้นที่เวเฟอร์มากกว่า DDR5 ถึง 3 เท่า และคาดว่ามูลค่าตลาดจะถึง 100 พันล้านดอลลาร์ในปี 2028 ✅ การลงทุนโรงงานใหม่ ➡️ โรงงานในไอดาโฮจะเริ่มผลิตปี 2027 และโรงงานนิวยอร์กคาดว่าจะผลิตจริงราวปี 2030 ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภค ➡️ ราคาของ DDR5 พุ่งสูงขึ้น และผู้ผลิตบางรายเตือนว่าราคาจะยังคงเพิ่มต่อไป ‼️ คำเตือนด้านราคาและตลาด ⛔ ราคาหน่วยความจำอาจไม่กลับไปสู่ระดับที่ผู้ใช้คาดหวัง แม้จะเริ่มทรงตัว ⛔ ความเสี่ยงจากสินค้าปลอมและการฉ้อโกงออนไลน์เพิ่มขึ้นตามแรงกดดันของราคา https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/micron-outlines-grim-outlook-for-dram-supply-in-first-earnings-call-since-killing-crucial-memory-and-ssd-brand-ceo-says-it-can-only-meet-half-to-two-thirds-of-demand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพบกชี้แจงกรณีฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลกล่าวหาว่าฝ่ายไทยดำเนินการทางทหารกระทบโครงสร้างพื้นฐานและโบราณสถาน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง
    .
    โฆษกกองทัพบกระบุว่า การปฏิบัติการของฝ่ายไทยมุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น ดำเนินการอย่างจำกัดวงตามความจำเป็น อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล และยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้อง
    .
    สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ระบุว่าภาพรวมการปฏิบัติการเป็นไปตามแผน โดยเป้าหมายสำคัญทางทหารส่วนใหญ่บรรลุผลตามที่กำหนดไว้ ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบกได้กำหนดเป้าหมายการสถาปนาแนวชายแดนตามแนวเส้นปฏิบัติการของไทย และเร่งลดขีดความสามารถทางทหารที่เป็นภัยคุกคามต่อฝ่ายไทย
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122025
    .
    #News1live #News1 #กองทัพบก #สถานการณ์ชายแดน #ความมั่นคง
    กองทัพบกชี้แจงกรณีฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลกล่าวหาว่าฝ่ายไทยดำเนินการทางทหารกระทบโครงสร้างพื้นฐานและโบราณสถาน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง . โฆษกกองทัพบกระบุว่า การปฏิบัติการของฝ่ายไทยมุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น ดำเนินการอย่างจำกัดวงตามความจำเป็น อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและหลักมนุษยธรรมสากล และยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้อง . สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ระบุว่าภาพรวมการปฏิบัติการเป็นไปตามแผน โดยเป้าหมายสำคัญทางทหารส่วนใหญ่บรรลุผลตามที่กำหนดไว้ ขณะที่ผู้บัญชาการทหารบกได้กำหนดเป้าหมายการสถาปนาแนวชายแดนตามแนวเส้นปฏิบัติการของไทย และเร่งลดขีดความสามารถทางทหารที่เป็นภัยคุกคามต่อฝ่ายไทย . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000122025 . #News1live #News1 #กองทัพบก #สถานการณ์ชายแดน #ความมั่นคง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts