• ช่วงปีใหม่..เป็นฤดูเก็บเกี่ยวมันหวานญี่ปุ่น

    มันหวาน-สีม่วง #มีสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพดีมากกว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี ลดอาการโรคหัวใจ หลอดเลือด ลดการเกิดอาการลิ่มเลือดในรายที่เป็นโรคหัวใจตีบ เส้นเลือดหัวใจอุดตัน จากเลือดแข็งตัว

    มันหวาน-สีเหลือง #มีเบตาแคโรทีนใกล้เคียงกับแครอท และมีสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกันโรคมะเร็ง
    มีสารตั้งต้นวิตามินเอ เมื่อกินเข้าไปร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาป้องกันโรคตาบอดในเวลากลางคืน

    มันหวาน-ทั้งสองสี..นี้ มีคุณค่าทางสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีนที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าข้าว ครึ่งหนึ่งของมันเทศ(โดยน้ำหนัก)จะเป็นไฟเบอร์ ทำให้กินแล้วอิ่มท้อง พออิ่มท้อง..ก็กินอย่างอื่นเพิ่มไม่ได้ ไฟเบอร์สูง..ยังช่วยในการขับถ่าย "กินง่าย ถ่ายคล่อง" จ๊ะ

    #มันหวานญี่ปุ่นจึงควบคุมอาหารและช่วยการขับถ่าย ได้
    ช่วงปีใหม่..เป็นฤดูเก็บเกี่ยวมันหวานญี่ปุ่น มันหวาน-สีม่วง #มีสารต้านอนุมูลอิสระคุณภาพดีมากกว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี ลดอาการโรคหัวใจ หลอดเลือด ลดการเกิดอาการลิ่มเลือดในรายที่เป็นโรคหัวใจตีบ เส้นเลือดหัวใจอุดตัน จากเลือดแข็งตัว มันหวาน-สีเหลือง #มีเบตาแคโรทีนใกล้เคียงกับแครอท และมีสารต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มภูมิคุ้มกันโรคมะเร็ง มีสารตั้งต้นวิตามินเอ เมื่อกินเข้าไปร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาป้องกันโรคตาบอดในเวลากลางคืน มันหวาน-ทั้งสองสี..นี้ มีคุณค่าทางสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีนที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าข้าว ครึ่งหนึ่งของมันเทศ(โดยน้ำหนัก)จะเป็นไฟเบอร์ ทำให้กินแล้วอิ่มท้อง พออิ่มท้อง..ก็กินอย่างอื่นเพิ่มไม่ได้ ไฟเบอร์สูง..ยังช่วยในการขับถ่าย "กินง่าย ถ่ายคล่อง" จ๊ะ #มันหวานญี่ปุ่นจึงควบคุมอาหารและช่วยการขับถ่าย ได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จุลินทรีย์” ที่อยู่ในชาหมักที่เกิดจากการหมักชา จะมี สารฟลาโวนอยด์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ ,หลอดเลือด, เบาหวาน และโรคอัลไซเมอร์

    #คอมบูชะ ช่วยแก้ไขปัญหาของระบบทางเดินอาหาร และลำไส้ และช่วยให้ระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี

    https://s.shopee.co.th/6pj7dJmhcG
    “จุลินทรีย์” ที่อยู่ในชาหมักที่เกิดจากการหมักชา จะมี สารฟลาโวนอยด์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ ,หลอดเลือด, เบาหวาน และโรคอัลไซเมอร์ #คอมบูชะ ช่วยแก้ไขปัญหาของระบบทางเดินอาหาร และลำไส้ และช่วยให้ระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี https://s.shopee.co.th/6pj7dJmhcG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥สูตรพอลลิตินสำหรับปรับสมดุลระบบลำไส้และระบบเลือดในผู้ป่วยมะเร็งการดูแลระบบลำไส้และระบบเลือดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อภูมิคุ้มกัน การฟื้นฟูร่างกาย และการตอบสนองต่อการรักษา สูตรนี้จึงออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูและเสริมสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:---💥ส่วนผสมสำคัญ ในสูตรปรับสมดุล1. วิทกราส (Wheatgrass)ล้างสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลืองเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงและออกซิเจนในร่างกายลดการอักเสบและสนับสนุนการฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบลำไส้3. พอลลิทอล (Pollitol)อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ฟื้นฟูระบบเลือด และช่วยลดการอักเสบในร่างกายเสริมสร้างพลังงานและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย4. พอลลิตัน (Pollitan)ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ในระดับลึกส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายเสริมระบบไหลเวียนเลือดและการขนส่งออกซิเจน5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยปรับสมดุลระบบเลือด เพิ่มการไหลเวียนและออกซิเจนบำรุงระบบประสาทและเพิ่มพลังงานในเซลล์ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อและภูมิคุ้มกัน---🌿คุณประโยชน์เด่นของสูตรนี้👉ปรับสมดุลระบบลำไส้: สนับสนุนสุขภาพจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น👉เสริมระบบเลือด: ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด เสริมการสร้างเม็ดเลือดแดง และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง👉ลดการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และระบบเลือด ฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหายจากมะเร็ง👉เพิ่มพลังงานและการฟื้นฟู: เสริมสร้างพลังงานในระดับเซลล์เพื่อรองรับการรักษาและฟื้นฟูร่างกายคำแนะนำควรใช้ พอลลิติน ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์แบบหลัก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง.📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    🔥สูตรพอลลิตินสำหรับปรับสมดุลระบบลำไส้และระบบเลือดในผู้ป่วยมะเร็งการดูแลระบบลำไส้และระบบเลือดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง เนื่องจากส่งผลโดยตรงต่อภูมิคุ้มกัน การฟื้นฟูร่างกาย และการตอบสนองต่อการรักษา สูตรนี้จึงออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูและเสริมสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:---💥ส่วนผสมสำคัญ ในสูตรปรับสมดุล1. วิทกราส (Wheatgrass)ล้างสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลืองเพิ่มการสร้างเม็ดเลือดแดงและออกซิเจนในร่างกายลดการอักเสบและสนับสนุนการฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมการดูดซึมสารอาหารและสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบลำไส้3. พอลลิทอล (Pollitol)อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ฟื้นฟูระบบเลือด และช่วยลดการอักเสบในร่างกายเสริมสร้างพลังงานและสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย4. พอลลิตัน (Pollitan)ช่วยฟื้นฟูและบำรุงเซลล์ในระดับลึกส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายเสริมระบบไหลเวียนเลือดและการขนส่งออกซิเจน5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยปรับสมดุลระบบเลือด เพิ่มการไหลเวียนและออกซิเจนบำรุงระบบประสาทและเพิ่มพลังงานในเซลล์ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อและภูมิคุ้มกัน---🌿คุณประโยชน์เด่นของสูตรนี้👉ปรับสมดุลระบบลำไส้: สนับสนุนสุขภาพจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น👉เสริมระบบเลือด: ช่วยเพิ่มออกซิเจนในเลือด เสริมการสร้างเม็ดเลือดแดง และลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงของการรักษามะเร็ง👉ลดการอักเสบ: ช่วยลดการอักเสบในลำไส้และระบบเลือด ฟื้นฟูเซลล์ที่เสียหายจากมะเร็ง👉เพิ่มพลังงานและการฟื้นฟู: เสริมสร้างพลังงานในระดับเซลล์เพื่อรองรับการรักษาและฟื้นฟูร่างกายคำแนะนำควรใช้ พอลลิติน ควบคู่กับการรักษาทางการแพทย์แบบหลัก และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการดูแลสุขภาพและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยมะเร็ง.📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! **

    ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต

    >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น

    1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง

    หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017)

    2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว

    อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008).

    3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด

    ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014).

    การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง

    -------

    ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ?

    COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น

    ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้

    1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน
    COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
    ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต

    3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation)
    การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

    4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์
    COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว

    5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน
    การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน

    ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

    -------

    **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน

    ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON

    การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! ** ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น 1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017) 2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008). 3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014). การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง ------- ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ? COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้ 1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต 3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation) การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์ COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว 5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก ------- **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! **

    ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต

    >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น

    1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง

    หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017)

    2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว

    อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008).

    3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด

    ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014).

    การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง

    -------

    ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ?

    COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น

    ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้

    1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน
    COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier)
    ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต

    3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation)
    การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย

    4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์
    COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว

    5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน
    การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน

    ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก

    -------

    **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน

    ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON

    การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน

    #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** #หน้าใส​ ไม่=​ #เซลล์ผิวหน้าแข็งแรง ! ** ในบางครั้ง แม้ผิวของเราจะดูใส ดูสุขภาพดีเมื่อมอง จากภายนอก แต่ลึกๆแล้ว ผิวอาจกำลังเผชิญปัญหาความอ่อนแออยู่ก็เป็นได้ โดยที่เรามองไม่เห็นหรือไม่ทันสังเกต >>> นี่คือ​ 3 สัญญาณ​สำคัญ‼️ ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณ "อาจจะ" ไม่ได้แข็งแรง​ อย่างที่เห็น 1. ผิว #ระคายเคืองง่าย และ #มีรอยแดง หากผิวของคุณมีแนวโน้มที่จะระคายเคืองง่าย เช่น รู้สึกแสบ คัน มีรอยแดง หรือแม้กระทั่งมีผดเล็กๆ ขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือสัมผัสกับอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผิวของคุณอาจจะอ่อนแอกว่าที่คิด อาการระคายเคืองง่ายนี้เกิดขึ้นจากการที่เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) เสื่อมสภาพ ทำให้ผิวไวต่อสิ่งเร้าจากภายนอก เช่น มลภาวะ ฝุ่น หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ (Purnamawati et al., 2017) 2. ผิว #แห้ง หรือ #ขาดความชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว อีกหนึ่งสัญญาณที่บ่งบอกว่าผิวของคุณกำลังอ่อนแอ คือ การที่ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย แม้จะใช้ครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ หากผิวแห้งหรือขาดน้ำบ่อยๆ นั่นอาจแปลว่าผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ผิวสูญเสียไขมันตามธรรมชาติหรือโครงสร้างผิวไม่แข็งแรงพอ การที่ผิวแห้งกร้านง่ายทำให้เกิดริ้วรอยและผิวที่หมองคล้ำเร็วกว่าปกติ (Proksch et al., 2008). 3. ผิว #ฟื้นตัวช้า หลัง #โดนแสงแดด หรือ #ทำความสะอาด ผิวที่อ่อนแอมักจะฟื้นตัวได้ช้าหลังจากเจอความรุนแรงจากภายนอก เช่น การโดนแสงแดดแรงๆ หรือการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก หากหลังจากออกแดดแล้วผิวมีรอยแดง นานกว่าปกติ หรือรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้าโดยที่ผิวไม่คืนสภาพได้รวดเร็ว ผิวของคุณอาจกำลังส่งสัญญาณว่าต้องการการดูแลเป็นพิเศษ และอาจต้องหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวอ่อนแอลงไปอีก (Krutmann et al., 2014). การดูแลผิวให้แข็งแรงจากภายในจึงเป็นเรื่องสำคัญ แม้ผิวจะดูใสแต่ก็ไม่ควรละเลยสัญญาณเหล่านี้ที่บ่งบอกว่าผิวของคุณอาจจะไม่ได้แข็งแรงอย่างที่เห็น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ สารให้ความชุ่มชื้นอย่างเข้มข้น และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดหรือมลภาวะโดยตรง จะช่วยให้ผิวของคุณกลับมาแข็งแรง สดใส และสุขภาพดีอย่างแท้จริง ------- ทำไม " #สารอาหารผิวในรูปแป้ง #COCON " จึงเหมาะสมต่อการ "ฟื้นฟูผิวอ่อนแอ" และ "ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ" ? COCON คือ #สารอาหารผิว ที่ประกอบด้วย โปรตีนจาก #PureCocoon 100% ไม่มีสารสังเคราะห์ ไม่มีสารคงตัวเจือปน ที่ผ่านกรรมวิธีเทคโนโลยีขั้นสูง จากแลปที่เชี่ยวชาญทางด้าน #TissueEngineering อันดับต้นๆของโลกที่ประเทศญี่ปุ่น ที่ทำให้โมเลกุลของสารอาหาร "เป็นทรงกลม" จึงไม่บาดเซลลผิว ในตอนทา และ สามารถซึมลงไปให้เซลล์ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอะไรตกค้าง ไม่ระคายเคืองเซลล์ผิวเลย จึงเป็นแบรนด์ที่ใช้ในวงการแพทย์ของญี่ปุ่น ซึ่ง มีคุณสมบัติในการฟื้นฟูและป้องกันผิว จากความอ่อนแอ ดังนี้ 1. ฟื้นฟูผิวอ่อนแอด้วยการซ่อมแซมเซลล์จากภายใน COCON เป็น สารอาหารผิวในรูปแป้งที่มี Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำเป็นที่ช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายได้ลึกถึงระดับ DNA ทำให้โครงสร้างผิวที่เคยถูกทำลายจากมลภาวะ แสงแดด หรือการใช้งานหนักกลับมาแข็งแรงขึ้น ผิวที่เคยอ่อนแอจึงสามารถฟื้นตัวและกลับมาดูสุขภาพดีได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ป้องกันการสูญเสียเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ด้วยคุณสมบัติของ Silk Protein ที่ช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ COCON ช่วยลดการสูญเสียความชุ่มชื้นและปกป้องผิวจากสิ่งเร้าภายนอก เช่น ฝุ่น มลภาวะ และสารเคมี ทำให้ผิวที่ยังแข็งแรงไม่ถูกทำลายง่าย และลดโอกาสที่ผิวจะกลายเป็นผิวอ่อนแอในอนาคต 3. ป้องกันและลดการอักเสบขนาดเล็ก (Micro-Inflammation) การอักเสบขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวแข็งแรงกลายเป็นผิวอ่อนแอ COCON มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับเซลล์ผิว และลดความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดปัญหาระยะยาว เช่น การเสื่อมสภาพหรือการเกิดริ้วรอยก่อนวัย 4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ปลอดภัย ไร้สารสังเคราะห์ COCON เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารสังเคราะห์เจือปน จึงเหมาะกับทุกสภาพผิว แม้กระทั่งผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ การใช้สารอาหารผิวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับผิวจะช่วยลดโอกาสเกิดอาการระคายเคืองและส่งเสริมสุขภาพผิวในระยะยาว 5. ช่วยรักษาสมดุลของผิวอย่างยั่งยืน การใช้ COCON อย่างสม่ำเสมอช่วยให้ผิวได้รับสารอาหารที่จำเป็นในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยรักษาความสมดุลของผิว ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูผิวที่อ่อนแอเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิวที่ดีอยู่แล้วคงความสุขภาพดีไว้ได้อย่างยาวนาน ไม่ว่าคุณจะมีผิวที่อ่อนแอหรือผิวที่ต้องการการป้องกันไม่ให้เสื่อมสภาพ COCON คือคำตอบที่ช่วยเติมเต็มความต้องการของผิวคุณ ด้วย Silk Protein บริสุทธิ์ 100% ที่ผ่านกระบวนการเทคโนโลยีขั้นสูง ที่อ่อนโยนและทรงประสิทธิภาพในการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก ------- **สำหรับผู้ที่ใช้ COCON อยู่แล้ว** หากคุณใช้ COCON แล้วพบว่ามีอาการผื่นแดงขึ้น นั่นแปลว่า เซลล์ผิวของคุณอ่อนแอจากเคมีในผลิตภัณฑ์อื่นที่คุณใช้ หรือ มลภาวะที่คุณต้องเผชิญในแต่ละวัน ดังนั้น แนะนำให้ลองใช้ COCON เฉพาะตอนกลางคืนเพียงอย่างเดียวก่อน เพื่อให้ผิวได้พักและฟื้นฟูตัวเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีจากครีมหรือเครื่องสำอางตัวอื่นที่อาจปิดกั้นการทำงานของ COCON การใช้สารอาหารผิว COCON เพียงตัวเดียวก่อนนอน จะช่วยให้เซลล์ผิวได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ และลดความเสี่ยงจากสารเคมีที่อาจทำลายเซลล์ผิวในระยะยาว เมื่อผิวกลับมาแข็งแรงแล้ว ค่อยเริ่มใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์อื่นในช่วงกลางวัน #TheSignature #BangkokCraftmanship #skincare #สกินแคร์ #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 612 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ ประกอบด้วยสารอาหารที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass)ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย รวมถึงระบบน้ำเหลืองและทางเดินอาหารอุดมด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยลดการอักเสบ และส่งเสริมการฟื้นฟูเซลล์2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)เป็นซินไบโอติกซ์ ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมสุขภาพลำไส้และการดูดซึมสารอาหาร ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol)มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์และบรรเทาอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารช่วยเพิ่มพลังงานและสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน4. พอลลิแคน (Pollikan)เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบในร่างกาย และช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งสนับสนุนการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ฟื้นฟูเนื้อเยื่อและเซลล์ที่เสียหายจากการรักษาบำรุงระบบประสาทและช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย6. พอลเลนพลัส (Pollen Plus)สารสกัดจากเกสรดอกไม้ อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และเพิ่มพลังงานในชีวิตประจำวัน7. พอลลิเน๊กซ์ (Pollinex)ช่วยลดความเครียด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยฟื้นฟูพลังงานในร่างกายส่งเสริมการทำงานของเซลล์และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น☘️คุณประโยชน์สำคัญของสูตรนี้สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้✅สนับสนุนการทำงานของระบบย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร✅ลดการอักเสบในลำไส้และระบบทางเดินอาหาร✅ฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อที่เสียหาย✅เพิ่มพลังงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงสูตรนี้เหมาะสำหรับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืน.ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ ประกอบด้วยสารอาหารที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบย่อยอาหาร ลดการอักเสบ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูสุขภาพร่างกาย ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass)ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย รวมถึงระบบน้ำเหลืองและทางเดินอาหารอุดมด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยลดการอักเสบ และส่งเสริมการฟื้นฟูเซลล์2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix)เป็นซินไบโอติกซ์ ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ส่งเสริมสุขภาพลำไส้และการดูดซึมสารอาหาร ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol)มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเสื่อมของเซลล์และบรรเทาอาการอักเสบในระบบทางเดินอาหารช่วยเพิ่มพลังงานและสนับสนุนการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน4. พอลลิแคน (Pollikan)เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบในร่างกาย และช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งสนับสนุนการซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหาย5. พอลลิแทป (Pollitap)ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ฟื้นฟูเนื้อเยื่อและเซลล์ที่เสียหายจากการรักษาบำรุงระบบประสาทและช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย6. พอลเลนพลัส (Pollen Plus)สารสกัดจากเกสรดอกไม้ อุดมด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง และเพิ่มพลังงานในชีวิตประจำวัน7. พอลลิเน๊กซ์ (Pollinex)ช่วยลดความเครียด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยฟื้นฟูพลังงานในร่างกายส่งเสริมการทำงานของเซลล์และช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น☘️คุณประโยชน์สำคัญของสูตรนี้สำหรับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้✅สนับสนุนการทำงานของระบบย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร✅ลดการอักเสบในลำไส้และระบบทางเดินอาหาร✅ฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อที่เสียหาย✅เพิ่มพลังงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงสูตรนี้เหมาะสำหรับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและฟื้นฟูสุขภาพอย่างยั่งยืน.ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดมีส่วนผสมที่เน้นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย ลดการอักเสบ และสนับสนุนการฟื้นฟูสุขภาพ ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass) - อุดมด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยขับสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลือง เพิ่มเม็ดเลือดแดง ลดการอักเสบ และสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix) - ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol) - มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และลดการอักเสบ ฟื้นฟูร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน4. พอลลิแคน (Pollikan) - เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง5. พอลลิแทป (Pollitap) - ช่วยฟื้นฟูเซลล์ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และบำรุงเซลล์ที่เสียหายจากการรักษามะเร็ง6. พอลเลนพลัส (Pollen Plus) - สารสกัดจากเกสรพืชที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเพิ่มพลังงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง7. พอลลิเน๊กซ์ (Pollinex) - ช่วยลดความเครียด เสริมภูมิคุ้มกัน และเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรง📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดมีส่วนผสมที่เน้นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน บำรุงร่างกาย ลดการอักเสบ และสนับสนุนการฟื้นฟูสุขภาพ ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass) - อุดมด้วยคลอโรฟิลล์ ช่วยขับสารพิษในเลือดและระบบน้ำเหลือง เพิ่มเม็ดเลือดแดง ลดการอักเสบ และสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกัน2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix) - ซินไบโอติกซ์ที่ช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน และช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol) - มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์และลดการอักเสบ ฟื้นฟูร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน4. พอลลิแคน (Pollikan) - เสริมระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง5. พอลลิแทป (Pollitap) - ช่วยฟื้นฟูเซลล์ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด และบำรุงเซลล์ที่เสียหายจากการรักษามะเร็ง6. พอลเลนพลัส (Pollen Plus) - สารสกัดจากเกสรพืชที่อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเพิ่มพลังงานและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง7. พอลลิเน๊กซ์ (Pollinex) - ช่วยลดความเครียด เสริมภูมิคุ้มกัน และเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้นสูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ต้องการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบ และฟื้นฟูสุขภาพให้แข็งแรง📌สนใจสั่งซื้อ กดที่ลิงค์https://www.myhmpm.com/shopping/?sp_code=H00020333ปรึกษา อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD#ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับแนะนำให้รับปนะทาน 📌มีส่วนผสมที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูและเสริมการทำงานของตับ โดยช่วยลดการอักเสบ เพิ่มภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูเซลล์ตับ ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass) - อุดมด้วยคลอโรฟิลล์และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบและสนับสนุนภูมิคุ้มกัน2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix) - ซินไบโอติกซ์ที่ผสมผสานโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลระบบลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol) - มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูและปกป้องเซลล์ตับ ลดความเสื่อมของเซลล์4. พอลลิตัน (Pollitan) - ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูเซลล์ตับ และเสริมการทำงานของตับ5. พอลลิแทป (Pollitap) - เสริมการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของตับ ช่วยล้างพิษในตับ6. ลิเวอร์โร่ วัน (Liverro One) - ช่วยปกป้องและฟื้นฟูเซลล์ตับ เสริมภูมิคุ้มกันเพื่อช่วยในการทำงานของตับ7. ลิเวอร์โร่ ทู (Liverro Two) - ช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ตับและบำรุงสุขภาพตับโดยรวม💥สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับที่ต้องการฟื้นฟูและบำรุงร่างกาย #ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD
    ☘️สูตรพอลลิตินสำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับแนะนำให้รับปนะทาน 📌มีส่วนผสมที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูและเสริมการทำงานของตับ โดยช่วยลดการอักเสบ เพิ่มภูมิคุ้มกัน และฟื้นฟูเซลล์ตับ ดังนี้:1. วิทกราส (Wheatgrass) - อุดมด้วยคลอโรฟิลล์และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการอักเสบและสนับสนุนภูมิคุ้มกัน2. พอลลิทรักซ์ (Pollitrix) - ซินไบโอติกซ์ที่ผสมผสานโพรไบโอติกส์และพรีไบโอติกส์ ช่วยปรับสมดุลระบบลำไส้ เสริมภูมิคุ้มกัน และลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ3. พอลลิทอล (Pollitol) - มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูและปกป้องเซลล์ตับ ลดความเสื่อมของเซลล์4. พอลลิตัน (Pollitan) - ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูเซลล์ตับ และเสริมการทำงานของตับ5. พอลลิแทป (Pollitap) - เสริมการไหลเวียนของเลือดและการทำงานของตับ ช่วยล้างพิษในตับ6. ลิเวอร์โร่ วัน (Liverro One) - ช่วยปกป้องและฟื้นฟูเซลล์ตับ เสริมภูมิคุ้มกันเพื่อช่วยในการทำงานของตับ7. ลิเวอร์โร่ ทู (Liverro Two) - ช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ตับและบำรุงสุขภาพตับโดยรวม💥สูตรนี้เหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็งตับที่ต้องการฟื้นฟูและบำรุงร่างกาย #ทางเลือกการรักษามะเร็ง #รักษามะเร็งแบบธรรมชาติ #สารอาหารต้านมะเร็ง #บำรุงสุขภาพต้านมะเร็ง #สมุนไพรบำบัดมะเร็ง #โภชนาการเพื่อสุขภาพ #บำบัดด้วยอาหาร #สุขภาพและโภชนาการ #โภชนเภสัชศาสตร์ #พอลลิตินเพื่อสุขภาพ อ.ธนกร ศูนย์สร้างภูมิบำบัด☎️. 090-465-6360ดูข้อมูลเพิ่ม กดที่ลิงค์https://lin.ee/pBbSqSD
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้
    สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น
    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ
    และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย

    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์

    ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง
    สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น

    ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่

    - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด

    - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง

    - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส

    ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้
    ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย

    ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google
    #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร
    🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์ ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่ - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้
    สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น
    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ
    และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย

    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill)
    มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์

    ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง
    สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น

    ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่

    - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด

    - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง

    - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส

    ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้
    ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย

    ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google
    #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร#thaitimes
    ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) 🚩ทำไม?? ต้องเป็นว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิลเท่านั้น ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) ซึ่งเป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในการดูแลสุ.ขภ.าพ และการบำบัดโร.คต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะใช้ในวงการแพ.ทย์แผ.นโบราณ และแพ.ทย์แผนใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่น่าสนใจมากมาย ว่านหางจระเข้ สายพันธุ์บาร์บาเดนซิสมิล (Aloe barbadensis mill) มีลักษณะต้นใหญ่และเนื้อวุ้นมากที่สุดในวงศ์ ว่านหางจระเข้ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับการนำมาบริโภค ทำยา น้ำว่าน หรือเครื่องสำอาง สายพันธุ์นี้มีกำเนิดดั้งเดิมในแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบริเวณตอนใต้ของทวีปแอฟริกา และได้รับการยอมรับในประโยชน์อันทรงคุณค่ามาเป็นเวลานับทศวรรษ จนได้รับการขนานนามว่า “พืชมหัศจรรย์” หรือ “อายุวัฒนะ” สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่า 200 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามินต่างๆ เกลือแร่ กรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิด เอนไซน์ และเบต้าแคโรทีน และไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ (HDL) เป็นต้น ด้วยคุณค่าของสารอาหารต่างๆ อันเป็นประโยชน์เหล่านี้ ผสมผสานอย่างเหมาะสมตามธรรมชาติ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสารปฏิชีวนะ ชาวญี่ปุ่นได้ทำการวิจัยพบสารออกฤทธิ์ทางปฏิชีวนะถึง 3 ชนิด ในว่านหางจระเข้ได้แก่ - อโลอิน (Aloin) มีฤทธิ์มาฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด - อโลดิน (Emodin)มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซ.ล์ลมะเร็.ง - อโลมิซิน (Alocmicin)ที่มีฤทธิ์สมานแ.ผลและระงับการขยายตัวของเชื้.อไวรั.ส ว่านหางจระเข้เป็นพืชที่มีคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย ทั้งในด้านการรักษาสุขภาพ การบำรุงความงาม และการปรับปรุงสภาพแวดล้อม ว่านหางจระเข้มีสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ แมกนีเซียม, โพแทสเซียม, ทองแดง, แมงกานีส, ซีลีเนียม, โครเมียม, วิตามิน A C E B1 B2 B3 B6 B9 B12 และโคลีนนอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย และช่วยสมานแผล ได้แก่ โพลีฟีนอล (Polysaccharides) แอนทราควิโนน (Anthraquinone) และกลีโคโปรตีน (Glycoprotein) ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทในการปรับสมดุลและส่งเสริมสุขภาพของร่างกาย ขอบคุณ ข้อมูลจาก Google #ว่านหางจระเข้ #สมุนไพร #สมุนไพรปลอดสาร#thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 507 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🥥 Coconut Carrie oil🥥

    ...น้ำมันบำรุงผิวมะพร้าว มีสรรพคุณมากมาย...

    • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดผิวแห้ง ผิวแตก ผิวลอก ผิวเป็นขุย
    • ช่วยรักษาอาการผดผื่นคันตามผิวหนัง
    • ช่วยรักษารังแคและเชื้อราบนหนังศีรษะ บำรุงเส้นผมทำให้ผมดกดำเงางาม
    • ช่วยบรรเทาแผลน้ำร้อนลวก สมานแผล

    ..น้ำมันบำรุงผิวของร้าน Telvada เป็นเกรดออแกนิคแท้ 100 %...

    #telvada #essentialoils #everydayuse #น้ำมันหอมระเหย #สังคมต้องรู้ #tiktokuni #tiktokuni_th #aromatherapy #รู้หรือไม่ #tiktokแนะแนว #fyp #viral #tiktokthailand #foryourpage #fypシ#thaitmies
    🥥 Coconut Carrie oil🥥 ...น้ำมันบำรุงผิวมะพร้าว มีสรรพคุณมากมาย... • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ลดผิวแห้ง ผิวแตก ผิวลอก ผิวเป็นขุย • ช่วยรักษาอาการผดผื่นคันตามผิวหนัง • ช่วยรักษารังแคและเชื้อราบนหนังศีรษะ บำรุงเส้นผมทำให้ผมดกดำเงางาม • ช่วยบรรเทาแผลน้ำร้อนลวก สมานแผล ..น้ำมันบำรุงผิวของร้าน Telvada เป็นเกรดออแกนิคแท้ 100 %... #telvada #essentialoils #everydayuse #น้ำมันหอมระเหย #สังคมต้องรู้ #tiktokuni #tiktokuni_th #aromatherapy #รู้หรือไม่ #tiktokแนะแนว #fyp #viral #tiktokthailand #foryourpage #fypシ゚ #thaitmies
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 310 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย

    แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว

    1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย

    หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง

    การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012).

    2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง

    ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม

    การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011).

    3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ

    การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป

    โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ

    ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003).

    หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว

    --------

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น

    นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011).

    #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า

    อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว 1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012). 2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011). 3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003). หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว -------- คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011). #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 555 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย

    แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว

    1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย

    หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง

    การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012).

    2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง

    ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม

    การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011).

    3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ

    การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป

    โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ

    ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003).

    หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว

    --------

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น

    นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011).

    #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า

    อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 สัญญาณที่บ่งชี้ว่า ร่างกายเรา #เริ่มไม่แข็งแรงอย่างที่เราคิด และ #จำเป็นต้องเริ่มดูแลร่างกาย แม้ว่าเราจะรู้สึกว่า #แข็งแรงดี แต่บางครั้งร่างกายก็ส่งสัญญาณบอกเราโดยที่เราอาจไม่สังเกตเห็น สิ่งเหล่านี้เป็น สัญญาณเริ่มต้น ที่บ่งบอกว่าร่างกายของคุณอาจเริ่มเสื่อมลง และ คุณควรเริ่มให้ความสนใจเรื่องการดูแลสุขภาพของตนเองมากขึ้นแล้ว 1. เริ่ม #อ่อนเพลียหรือเหนื่อยง่าย หากคุณพบว่า "ตัวเองเหนื่อยง่ายขึ้น" จาก "กิจวัตรที่เคยทำได้โดยไม่เหนื่อย" เช่น การเดินขึ้นบันได การทำงานบ้าน หรือการออกกำลังกาย นั่นอาจเป็นสัญญาณที่ร่างกายกำลังบอกว่า ระบบหัวใจและหลอดเลือดอาจเริ่มเสื่อมลง การเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจนมักเกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่ไม่เพียงพอหรือการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอลง การเริ่มใส่ใจในเรื่องการออกกำลังกายและโภชนาการจะช่วยฟื้นฟูระบบหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรงขึ้นได้ (North & Sinclair, 2012). 2. เริ่ม #ฟื้นฟูร่างกายช้าลง ถ้าคุณสังเกตว่า "การบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆ" เช่น แผลถลอก รอยฟกช้ำ หรือ "อาการเมื่อยล้าจากการออกกำลังกาย" "ฟื้นตัวช้า กว่าที่เคยเป็น" นั่นเป็นอีกหนึ่งสัญญาณว่า ระบบภูมิคุ้มกันของคุณอาจไม่แข็งแรงเท่าเดิม การฟื้นตัวช้าลงบ่งชี้ถึงการเสื่อมของระบบซ่อมแซมร่างกาย คุณอาจต้องเริ่มดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เสริมด้วยวิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกาย (Garber et al., 2011). 3. เริ่ม #มีปัญหาการนอนหลับ การนอนหลับเป็นกระบวนการที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง หากคุณเริ่มมีปัญหาการนอน เช่น "การนอนไม่หลับ" "หลับไม่สนิท" หรือ "การตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ" นี่อาจเป็นสัญญาณว่า ร่างกายของคุณอยู่ในสภาวะเครียดมากเกินไป โดยเฉพาะแม้ว่าในวันที่คุณไม่มีเรื่องที่ต้องกังวล แต่ก็ยังนอนไม่หลับ นั่นหมายความว่า สภาวะเครียดของคุณ เป็น "ความเครียดทางกาย" ที่อาจมีสาเหตุหลักมาจากสิ่งพิษที่ร่างกายสะสมเริ่มมากพอจนไปรบกวนระบบประสาทของคุณ ซึ่ง ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบประสาทและระบบฮอร์โมน การจัดการกับความเครียด และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการนอน เป็นเรื่องสำคัญในการฟื้นฟูร่างกาย (Lee et al., 2003). หากคุณพบว่าร่างกายเริ่มมีสัญญาณเหล่านี้ อาจเป็นเวลาที่ควรเริ่มใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยปรับปรุงโภชนาการ การออกกำลังกาย และการนอนหลับ เพื่อรักษาความแข็งแรงของร่างกายและป้องกันโรคในระยะยาว -------- คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย คือ คู่สารอาหารจากธรรมชาติ ที่จะช่วยให้การดูแลสุขภาพร่างกายของคุณ ได้ผลมากขึ้น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษและอนุภาคโลหะหนักที่อาจสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในเนื้อเยื่อและอวัยวะที่สำคัญ เช่น ตับและไต เมื่อสิ่งพิษในร่างกายลดลง ระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบภูมิคุ้มกัน ก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ช่วยลดความเครียดทางกายและส่งเสริมการนอนหลับที่ดีขึ้น นอกจากนี้ คลอเรลล่ายังอุดมไปด้วย CGF (Chlorella Growth Factor) ซึ่งช่วยส่งเสริมการซ่อมแซมเซลล์และสนับสนุนการฟื้นฟูร่างกายหลังจากการใช้งานหนักหรือต้องเผชิญกับความเหนื่อยล้า ทำให้ร่างกายฟื้นตัวได้ดีขึ้น (Merchant, 2001; Yamaguchi et al., 2011). #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและสารต้านการอักเสบที่ช่วยลดอาการอักเสบขนาดเล็กที่เกิดขึ้นจากการใช้งานร่างกายเป็นประจำ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารฟิโคไซยานิน (Phycocyanin) ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ส่งเสริมการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อหลังการออกกำลังกายหรือความเหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีสารอาหารที่จำเป็นเช่นโปรตีนและวิตามินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ และช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้รวดเร็วขึ้น (Bermejo et al., 2008; Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดี ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 483 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** ขอบคุณบทความจาก คุณเอส @s.supershe **

    " 74% ของสารพิษตกค้างเป็น #สารดูดซึม "

    หมายความว่า​ สารพิษเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของผักและผลไม้ ทำให้การล้างภายนอกไม่สามารถกำจัดสารออกได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าการใช้เบกกิ้งโซดา​ จะสามารถลดการตกค้างของสารเคมีบนพื้นผิวของผักผลไม้ได้บ้าง (แค่ได้บ้าง​ ไม่ได้หมายความว่าได้ทั้งหมด)​

    แต่สำหรับ ** #สารที่ซึมเข้าไปในเนื้อของพืช ** #เบกกิ้งโซดา ไม่สามารถช่วยได้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ

    -----

    แต่ข่าวดี​ก็คือ ​#คลอเรลล่าที่ปลอดภัย​ สามารถ​จับสาร​พิษ​ ที่ตรวจพบในตัวอย่างองุ่นที่ปรากฏเป็นข่าวได้หลายตัว

    อาทิเช่น​

    1. #Carbendazim (คาร์เบนดาซิม): เป็นสารฆ่าเชื้อรา​ ที่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีคุณสมบัติในการจับสารพิษและช่วยขับออกจากร่างกายได้

    2. #Chlorpyrifos (คลอร์ไพริฟอส): ยาฆ่าแมลง​ ที่มีผลต่อระบบประสาท คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีความสามารถ​ในการขับสารพิษนี้ออกจากร่างกาย

    ⚠️เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง!! ส่งผลกระทบต่อ​ พัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะใน **เด็ก และ ทารกในครรภ์**

    3. #Imidacloprid (อิมิดาคลอพริด): ยาฆ่าแมลง​ ที่อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​สามารถจับสารนี้ได้ในระดับหนึ่ง

    4. #Imazalil (อิมาซาลิล): เป็นสารฆ่า! เชื้อรา​ที่ใช้กันในผลไม้ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้

    -----

    📍โดยใช้กลไกที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างทางเซลล์ของมัน ซึ่งกลไกหลักๆ มีดังนี้:

    1. #การจับสารพิษด้วยกลุ่มโปรตีนพิเศษ (Metal Binding Protein):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีโปรตีนที่เรียกว่า Metal Binding Protein ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนัก​ และ​ สารพิษที่มีอนุภาคเล็กได้ โปรตีนนี้มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษที่มีโครงสร้างเฉพาะ​ ทำให้สามารถขับสารออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นผ่านทางระบบขับถ่าย สารพิษอย่าง Carbendazim และ Imidacloprid สามารถถูกจับได้โดยกลไกนี้ เนื่องจากมีการจับกับโปรตีนที่คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ผลิตออกมาเพื่อป้องกันการสะสมของสารพิษ (Shim et al., 2008; Merchant, 2001).

    2. #การดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane Absorption):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีเซลล์ผนังที่แข็งแรง​ และ​ มีคุณสมบัติเป็นสารดูดซับที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถจับสารพิษที่มีโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน เช่น Chlorpyrifos และ Imazalil ได้ การดูดซึมผ่านผนังเซลล์ของคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ช่วยขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากกระแสเลือด และทำให้ร่างกายขับออกทางระบบขับถ่ายได้ง่าย (Queiroz et al., 2020; Jeon et al., 2016).

    3. #การกำจัดอนุมูลอิสระและสารพิษในระดับเซลล์ (Detoxification at Cellular Level):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย สารพิษอย่าง Chlorpyrifos ที่มีผลต่อระบบประสาทมักสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบนี้ และช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย (Bermejo et al., 2008; Jeon et al., 2016).

    -----

    ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** ขอบคุณบทความจาก คุณเอส @s.supershe ** " 74% ของสารพิษตกค้างเป็น #สารดูดซึม " หมายความว่า​ สารพิษเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของผักและผลไม้ ทำให้การล้างภายนอกไม่สามารถกำจัดสารออกได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าการใช้เบกกิ้งโซดา​ จะสามารถลดการตกค้างของสารเคมีบนพื้นผิวของผักผลไม้ได้บ้าง (แค่ได้บ้าง​ ไม่ได้หมายความว่าได้ทั้งหมด)​ แต่สำหรับ ** #สารที่ซึมเข้าไปในเนื้อของพืช ** #เบกกิ้งโซดา ไม่สามารถช่วยได้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ ----- แต่ข่าวดี​ก็คือ ​#คลอเรลล่าที่ปลอดภัย​ สามารถ​จับสาร​พิษ​ ที่ตรวจพบในตัวอย่างองุ่นที่ปรากฏเป็นข่าวได้หลายตัว อาทิเช่น​ 1. #Carbendazim (คาร์เบนดาซิม): เป็นสารฆ่าเชื้อรา​ ที่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีคุณสมบัติในการจับสารพิษและช่วยขับออกจากร่างกายได้ 2. #Chlorpyrifos (คลอร์ไพริฟอส): ยาฆ่าแมลง​ ที่มีผลต่อระบบประสาท คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีความสามารถ​ในการขับสารพิษนี้ออกจากร่างกาย ⚠️เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง!! ส่งผลกระทบต่อ​ พัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะใน **เด็ก และ ทารกในครรภ์** 3. #Imidacloprid (อิมิดาคลอพริด): ยาฆ่าแมลง​ ที่อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​สามารถจับสารนี้ได้ในระดับหนึ่ง 4. #Imazalil (อิมาซาลิล): เป็นสารฆ่า! เชื้อรา​ที่ใช้กันในผลไม้ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้ ----- 📍โดยใช้กลไกที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างทางเซลล์ของมัน ซึ่งกลไกหลักๆ มีดังนี้: 1. #การจับสารพิษด้วยกลุ่มโปรตีนพิเศษ (Metal Binding Protein): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีโปรตีนที่เรียกว่า Metal Binding Protein ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนัก​ และ​ สารพิษที่มีอนุภาคเล็กได้ โปรตีนนี้มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษที่มีโครงสร้างเฉพาะ​ ทำให้สามารถขับสารออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นผ่านทางระบบขับถ่าย สารพิษอย่าง Carbendazim และ Imidacloprid สามารถถูกจับได้โดยกลไกนี้ เนื่องจากมีการจับกับโปรตีนที่คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ผลิตออกมาเพื่อป้องกันการสะสมของสารพิษ (Shim et al., 2008; Merchant, 2001). 2. #การดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane Absorption): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีเซลล์ผนังที่แข็งแรง​ และ​ มีคุณสมบัติเป็นสารดูดซับที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถจับสารพิษที่มีโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน เช่น Chlorpyrifos และ Imazalil ได้ การดูดซึมผ่านผนังเซลล์ของคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ช่วยขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากกระแสเลือด และทำให้ร่างกายขับออกทางระบบขับถ่ายได้ง่าย (Queiroz et al., 2020; Jeon et al., 2016). 3. #การกำจัดอนุมูลอิสระและสารพิษในระดับเซลล์ (Detoxification at Cellular Level): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย สารพิษอย่าง Chlorpyrifos ที่มีผลต่อระบบประสาทมักสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบนี้ และช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย (Bermejo et al., 2008; Jeon et al., 2016). ----- ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 582 มุมมอง 0 รีวิว
  • ** ขอบคุณบทความจาก คุณเอส @s.supershe **

    " 74% ของสารพิษตกค้างเป็น #สารดูดซึม "

    หมายความว่า​ สารพิษเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของผักและผลไม้ ทำให้การล้างภายนอกไม่สามารถกำจัดสารออกได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าการใช้เบกกิ้งโซดา​ จะสามารถลดการตกค้างของสารเคมีบนพื้นผิวของผักผลไม้ได้บ้าง (แค่ได้บ้าง​ ไม่ได้หมายความว่าได้ทั้งหมด)​

    แต่สำหรับ ** #สารที่ซึมเข้าไปในเนื้อของพืช ** #เบกกิ้งโซดา ไม่สามารถช่วยได้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ

    -----

    แต่ข่าวดี​ก็คือ ​#คลอเรลล่าที่ปลอดภัย​ สามารถ​จับสาร​พิษ​ ที่ตรวจพบในตัวอย่างองุ่นที่ปรากฏเป็นข่าวได้หลายตัว

    อาทิเช่น​

    1. #Carbendazim (คาร์เบนดาซิม): เป็นสารฆ่าเชื้อรา​ ที่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีคุณสมบัติในการจับสารพิษและช่วยขับออกจากร่างกายได้

    2. #Chlorpyrifos (คลอร์ไพริฟอส): ยาฆ่าแมลง​ ที่มีผลต่อระบบประสาท คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีความสามารถ​ในการขับสารพิษนี้ออกจากร่างกาย

    ⚠️เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง!! ส่งผลกระทบต่อ​ พัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะใน **เด็ก และ ทารกในครรภ์**

    3. #Imidacloprid (อิมิดาคลอพริด): ยาฆ่าแมลง​ ที่อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​สามารถจับสารนี้ได้ในระดับหนึ่ง

    4. #Imazalil (อิมาซาลิล): เป็นสารฆ่า! เชื้อรา​ที่ใช้กันในผลไม้ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้

    -----

    📍โดยใช้กลไกที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างทางเซลล์ของมัน ซึ่งกลไกหลักๆ มีดังนี้:

    1. #การจับสารพิษด้วยกลุ่มโปรตีนพิเศษ (Metal Binding Protein):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีโปรตีนที่เรียกว่า Metal Binding Protein ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนัก​ และ​ สารพิษที่มีอนุภาคเล็กได้ โปรตีนนี้มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษที่มีโครงสร้างเฉพาะ​ ทำให้สามารถขับสารออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นผ่านทางระบบขับถ่าย สารพิษอย่าง Carbendazim และ Imidacloprid สามารถถูกจับได้โดยกลไกนี้ เนื่องจากมีการจับกับโปรตีนที่คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ผลิตออกมาเพื่อป้องกันการสะสมของสารพิษ (Shim et al., 2008; Merchant, 2001).

    2. #การดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane Absorption):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีเซลล์ผนังที่แข็งแรง​ และ​ มีคุณสมบัติเป็นสารดูดซับที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถจับสารพิษที่มีโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน เช่น Chlorpyrifos และ Imazalil ได้ การดูดซึมผ่านผนังเซลล์ของคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ช่วยขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากกระแสเลือด และทำให้ร่างกายขับออกทางระบบขับถ่ายได้ง่าย (Queiroz et al., 2020; Jeon et al., 2016).

    3. #การกำจัดอนุมูลอิสระและสารพิษในระดับเซลล์ (Detoxification at Cellular Level):

    คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย สารพิษอย่าง Chlorpyrifos ที่มีผลต่อระบบประสาทมักสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบนี้ และช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย (Bermejo et al., 2008; Jeon et al., 2016).

    -----

    ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ** ขอบคุณบทความจาก คุณเอส @s.supershe ** " 74% ของสารพิษตกค้างเป็น #สารดูดซึม " หมายความว่า​ สารพิษเหล่านี้จะซึมเข้าสู่เนื้อเยื่อของผักและผลไม้ ทำให้การล้างภายนอกไม่สามารถกำจัดสารออกได้อย่างสมบูรณ์ แม้ว่าการใช้เบกกิ้งโซดา​ จะสามารถลดการตกค้างของสารเคมีบนพื้นผิวของผักผลไม้ได้บ้าง (แค่ได้บ้าง​ ไม่ได้หมายความว่าได้ทั้งหมด)​ แต่สำหรับ ** #สารที่ซึมเข้าไปในเนื้อของพืช ** #เบกกิ้งโซดา ไม่สามารถช่วยได้ในระดับที่มีประสิทธิภาพ ----- แต่ข่าวดี​ก็คือ ​#คลอเรลล่าที่ปลอดภัย​ สามารถ​จับสาร​พิษ​ ที่ตรวจพบในตัวอย่างองุ่นที่ปรากฏเป็นข่าวได้หลายตัว อาทิเช่น​ 1. #Carbendazim (คาร์เบนดาซิม): เป็นสารฆ่าเชื้อรา​ ที่มีผลต่อระบบสืบพันธุ์ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีคุณสมบัติในการจับสารพิษและช่วยขับออกจากร่างกายได้ 2. #Chlorpyrifos (คลอร์ไพริฟอส): ยาฆ่าแมลง​ ที่มีผลต่อระบบประสาท คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​มีความสามารถ​ในการขับสารพิษนี้ออกจากร่างกาย ⚠️เป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อระบบประสาทอย่างรุนแรง!! ส่งผลกระทบต่อ​ พัฒนาการของสมอง โดยเฉพาะใน **เด็ก และ ทารกในครรภ์** 3. #Imidacloprid (อิมิดาคลอพริด): ยาฆ่าแมลง​ ที่อาจทำลายระบบประสาทส่วนกลาง คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​สามารถจับสารนี้ได้ในระดับหนึ่ง 4. #Imazalil (อิมาซาลิล): เป็นสารฆ่า! เชื้อรา​ที่ใช้กันในผลไม้ คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีความสามารถในการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้ ----- 📍โดยใช้กลไกที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติทางเคมีและโครงสร้างทางเซลล์ของมัน ซึ่งกลไกหลักๆ มีดังนี้: 1. #การจับสารพิษด้วยกลุ่มโปรตีนพิเศษ (Metal Binding Protein): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีโปรตีนที่เรียกว่า Metal Binding Protein ซึ่งสามารถจับกับโลหะหนัก​ และ​ สารพิษที่มีอนุภาคเล็กได้ โปรตีนนี้มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษที่มีโครงสร้างเฉพาะ​ ทำให้สามารถขับสารออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้นผ่านทางระบบขับถ่าย สารพิษอย่าง Carbendazim และ Imidacloprid สามารถถูกจับได้โดยกลไกนี้ เนื่องจากมีการจับกับโปรตีนที่คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ผลิตออกมาเพื่อป้องกันการสะสมของสารพิษ (Shim et al., 2008; Merchant, 2001). 2. #การดูดซึมผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane Absorption): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีเซลล์ผนังที่แข็งแรง​ และ​ มีคุณสมบัติเป็นสารดูดซับที่มีประสิทธิภาพสูง โดยสามารถจับสารพิษที่มีโครงสร้างทางเคมีที่ซับซ้อน เช่น Chlorpyrifos และ Imazalil ได้ การดูดซึมผ่านผนังเซลล์ของคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ช่วยขจัดสารพิษเหล่านี้ออกจากกระแสเลือด และทำให้ร่างกายขับออกทางระบบขับถ่ายได้ง่าย (Queiroz et al., 2020; Jeon et al., 2016). 3. #การกำจัดอนุมูลอิสระและสารพิษในระดับเซลล์ (Detoxification at Cellular Level): คลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายจากสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย สารพิษอย่าง Chlorpyrifos ที่มีผลต่อระบบประสาทมักสร้างอนุมูลอิสระในร่างกาย ซึ่งคลอเรลล่าที่​ปลอดภัย​ มีคุณสมบัติช่วยลดผลกระทบนี้ และช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย (Bermejo et al., 2008; Jeon et al., 2016). ----- ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุข #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 774 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ?

    #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009).

    ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

    1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013).

    2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019).

    ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ

    แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้

    กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998).

    -------------

    เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น

    นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015).

    การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้

    -------------

    ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? **

    เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011).

    การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014).

    การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020).

    -------------

    ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? **

    ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011).

    การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006).

    การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006).

    -------------

    ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? **

    เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ

    การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008).

    เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013).

    นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008).

    นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    --------

    การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ

    ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ? #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009). ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013). 2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019). ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้ กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998). ------------- เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015). การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้ ------------- ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? ** เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011). การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014). การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020). ------------- ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? ** ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011). การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006). การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006). ------------- ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? ** เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008). เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008). นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง -------- การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้ เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 827 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ?

    #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009).

    ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

    1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013).

    2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019).

    ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ

    แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้

    กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998).

    -------------

    เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น

    นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015).

    การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้

    -------------

    ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? **

    เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011).

    การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014).

    การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020).

    -------------

    ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? **

    ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011).

    การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006).

    การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006).

    -------------

    ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? **

    เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ

    การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008).

    เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013).

    นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008).

    นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    --------

    การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ

    ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    ทำไมกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะ "ในวัย เกษียณ" ? #การดูแลสุขภาพ ในวัย #เกษียณ ต้องการการวางแผนและวิธีการที่รอบคอบมากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเสื่อมถ่อยและภูมิคุ้มกันลดลงตามอายุ (Dorshkind et al., 2009). ซึ่ง การเสื่อมถอยของร่างกายนั้น จัดกลุ่มได้เป็น 2 กลุ่ม คือ 1. "เสื่อม ตามอายุ " ที่เกิดจากเซลล์ ที่ค่อยๆ กลายเป็นเซลล์เสื่อมจากการใช้งาน ตามอายุของร่างกาย (López-Otín et al., 2013). 2. "เสื่อม เกินอายุ" ที่เกิดจากเซลล์ เสื่อมจาก ผลกระทบของ "สิ่งพิษ" ที่ค่อยๆ เข้ามาฝังอยู่ในร่างกาย แล้วขับออกไม่ได้ ตลอดการใช้ชีวิตที่ผ่านมา ที่คอยรบกวนการทำงานของเซลล์ จนกลายเป็นเซลล์เสื่อม โดยที่ไม่ได้เสื่อมจากอายุงานปกติของเซลล์ (Wang et al., 2019). ดังนั้น #การเสื่อมตามอายุ เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นกฏของธรรมชาติ แต่ในทางกลับกัน #การเสื่อมเกินอายุ เป็นสิ่งที่เราควรเข้ามาทำงาน เพื่อป้องกันการเสื่อมเพิ่มเติม รวมถึง ลดทอนความเสื่อมที่เกิดขึ้น เท่าที่จะทำได้ กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นกรอบคิดที่สำคัญ ในการป้องกัน และ ลดทอนผลกระทบของ "การเสื่อม เกินอายุ" จากการสะสมสิ่งพิษ ที่คอยรบกวน ทำให้เซลล์ของเราทำงานผิดปกติ จนกลายเป็น "เซลล์เสื่อม" ก่อนอายุงาน (Klaassen & Liu, 1998). ------------- เมื่อรวมผลลัพธ์จากการเสื่อมทั้ง 2 สาเหตุ ทำให้เมื่อเข้าสู่วัยเกษียณ ผู้สูงอายุหลายคนจึงพบว่า ร่างกายไม่แข็งแรงเหมือนวัยหนุ่มสาว และดูเหมือนจะเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่อายุมากขึ้น นั่นเพราะ ในขณะที่ร่างกายเสื่อมตามอายุ ก็จะมีผลจากความเสื่อมเกินอายุของร่างกายจากการใช้ชีวิตวัยหนุ่มสาว ออกมาชัดเจนมากขึ้น จนบางคนมีผลออกมาในรูป โรคเรื้อรัง รวมถึง อาการเจ็บป่วยที่เป็นผลจากการสะสมสิ่งพิษในร่างกาย (Cosselman et al., 2015). การใช้กรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" จึงเป็นแนวทางที่แม่นตรงที่สุด ให้ผู้สูงอายุสามารถกำจัดเหตุที่ส่งผลให้ร่างกายเสื่อมเกินอายุ รวมถึงส่งผลในการ รักษาร่างกายไม่ให้เสื่อมเกินอายุไปมากขึ้นกว่านี้ ------------- ** ทำไมการ "สะสาง" จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำก่อน ในวัยเกษียณ? ** เมื่อเรามองในแง่ของการดูแลสุขภาพ "การสะสาง" นั้นหมายถึง "การกำจัดสิ่งที่ส่งผลเสียต่อร่างกายออกไป" เช่น การกำจัดสิ่งพิษ เคมีที่สะสมในร่างกาย และที่สำคัญคือ "โลหะหนักที่ร่างกายเรารับมาจากสิ่งแวดล้อม ที่เราสัมผัสทุกวันในช่วงชีวิตที่ผ่านมา" ที่ ร่างกายของเรา ไม่มีกลไกการขับออกโดยเฉพาะ (Ghezzi & Sido, 2011). การสะสมของสิ่งพิษเหล่านี้ทำให้เซลล์เสื่อมเร็วกว่าอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ในวัยเกษียณ ที่ระบบกำจัดของเสียของร่างกายไม่สามารถทำงานได้ดีดังเดิม" ทำให้ "ยิ่งยาก" ที่จะสะสางสิ่งพิษ ที่ร่างกายไม่สามารถขับออกได้ ที่สะสมมาตั้งแต่วัยหนุ่มสาว (Jaishankar et al., 2014). การสะสางด้วยตัวช่วย อย่างเช่น #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย ซึ่งมีคุณสมบัติในการจับและขับพิษโลหะหนัก รวมถึงสิ่งพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย จึงเป็น ทางเลือกที่ "มีโอกาสสะสางสิงพิษที่ฝังอยู่ในร่างกายได้จริง" (Queiroz et al., 2020). ------------- ** ทำไม การสะสาง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยง จากโรคเรื้อรังได้? ** ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย 3 โรค ของวัยเกษียณ ที่พบในไทย ซึ่งคือ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน มักเกิดจากการสะสมของสิ่งพิษ ที่นำไปสู่การสะสมของไขมันในหลอดเลือดเป็นเวลานาน (Sharma et al., 2011). การสะสางพิษโลหะหนักและสิ่งพิษอื่นๆ จึงมีส่วนโดยตรง ในการอักเสบ ซึ่งจะส่งผลให้ การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกาย อย่างเช่น การทำงานของหัวใจ ดีขึ้น จึงส่งผลให้สามารถลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรังได้ (Vaziri & Rodríguez-Iturbe, 2006). การสะสางสิ่งพิษออกจากร่างกาย ยังพบว่า ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ซึ่ง จะลดโอกาสในการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความดันโลหิต (Patel & Celermajer, 2006). ------------- ** การ "สะสาง" ส่งผลต่อประสิทธิภาพของการ "สะสม" อย่างไร ? ** เมื่อร่างกายสะอาด ได้รับการสะสางสิ่งพิษแล้ว "การสะสมสิ่งดีๆ" คือขั้นตอนถัดไปที่สำคัญ การสะสมนี้ หมายถึงการให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกาย ป้องกันและฟื้นฟูตัวเองจากการสึกหรอจากการใช้ชีวิตประจำวันได้ (Bermejo et al., 2008). เช่น สารอาหารระดับเซลล์ ที่พบใน #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันปฏิกิริยาออกซิเดชันที่ส่งผลให้ DNA ของเซลล์เสียหาย จากการเผาผลาญของเซลล์เอง และ มีโปรตีนคุณภาพสูง ที่สามารถช่วยฟื้นฟูเซลล์ที่เสื่อมสภาพ รวมถึงเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ยังถูกพบว่า ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูร่างกายหลังการออกกำลังกาย และให้พลังงานที่จำเป็นในแต่ละวันสำหรับผู้สูงอายุ (Bermejo et al., 2008). นั่นจึงเป็นเหตุให้ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง -------- การใช้ชีวิตในวัยเกษียณ ให้มีความสุขและสุขภาพดี จึงไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องมีกรอบคิดที่ถูกต้อง และ การปฏิบัติตามกรอบคิดได้ อย่างสม่ำเสมอ ด้วยกรอบคิด "สะสาง ก่อน สะสม" ผู้สูงอายุสามารถลดความเสี่ยงจากโรคเรื้อรัง จึงทำให้มีโอกาส ฟื้นฟูร่างกายให้ยังแข็งแรงได้ เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ

    เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012).

    เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้

    1. #ปรับโภชนาการ

    "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013).

    ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006).

    บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999).

    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013).

    การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003).

    2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

    การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011).

    การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012).

    การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003).

    3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ

    ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008).

    โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005).

    โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007).

    การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008).

    --------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016).

    สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012). เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้ 1. #ปรับโภชนาการ "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013). ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006). บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999). อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013). การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003). 2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011). การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012). การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003). 3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008). โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005). โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007). การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008). -------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016). สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ

    เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012).

    เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้

    1. #ปรับโภชนาการ

    "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013).

    ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006).

    บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999).

    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013).

    การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003).

    2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม

    การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011).

    การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012).

    การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003).

    3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ

    ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008).

    โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005).

    โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007).

    การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008).

    --------

    #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016).

    สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993).

    โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง

    เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ

    #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    3 วิธี ดูแล #ระบบหัวใจและหลอดเลือด ใน #วัยเกษียณ เมื่อเข้าสู่วัย #เกษียณ "การดูแล ระบบหัวใจและหลอดเลือด" กลายเป็นเรื่องที่ "ต้องให้ความสำคัญ" เนื่องจากอายุที่มากขึ้น รวมถึงความเสื่อมจากการใช้งานร่างกายตั้งแต่วัยหนุ่มสาว ส่งผลให้ระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึง หัวใจและหลอดเลือดทำงาน ได้น้อยลงกว่า ตอนเป็นวัยหนุ่มสาว (North & Sinclair, 2012). เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและลดความเสี่ยง จากโรคหัวใจและหลอดเลือด ผู้สูงอายุสามารถดูแลสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดของตนเองได้ ด้วย 3 วิธีหลักนี้ 1. #ปรับโภชนาการ "การปรับลดพฤติกรรม การรับประทานอาหาร ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณ (Estruch et al., 2013). ลดการบริโภค ไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์: ไขมันเหล่านี้ทำให้หลอดเลือดอุดตันและเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ (Mozaffarian et al., 2006). บริโภคอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: เช่น ผลไม้ ผัก และธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น (Brown et al., 1999). อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: ช่วยป้องกันการอักเสบในระบบหลอดเลือด เช่น สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย ผลไม้เบอร์รี่ ผักใบเขียวเข้ม และถั่วเปลือกแข็ง (Vazquez et al., 2013). การรับประทานอาหารแบบนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่โรคหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคความดันโลหิตสูงในวัยเกษียณ (Mensink et al., 2003). 2. #ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม การเดินเร็ว หรือ ปั่นจักรยาน: เป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิกที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจและเพิ่มความยืดหยุ่นของหลอดเลือด การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 30 นาทีต่อวัน จะช่วยลดความดันโลหิตและลดระดับคอเลสเตอรอล (Garber et al., 2011). การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Strength Training): เช่น ยกน้ำหนัก หรือทำโยคะ ช่วยเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ (Westcott, 2012). การออกกำลังกายเพื่อผ่อนคลายความเครียด: เช่น ไทเก๊ก หรือการฝึกสมาธิ สามารถลดความเครียดและปรับสมดุลของร่างกาย ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพหัวใจโดยตรง (Lee et al., 2003). 3. เสริม #สารอาหารจากธรรมชาติ ในบางกรณี การเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ สามารถช่วยเสริมการทำงานของหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย: สารอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการสะสางสิ่งพิษ ลดการอักเสบในหลอดเลือด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด (Queiroz et al., 2020). คลอเรลล่าที่ปลอดภัยมีโปรตีนที่สามารถจับโลหะหนักได้ ที่ช่วยขับสิ่งพิษโลหะหนักที่อาจส่งผลต่อสุขภาพหลอดเลือด (Shim et al., 2008). ในขณะที่สไปรูลิน่าที่ปลอดภัยมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (Bermejo et al., 2008). โอเมก้า 3: เป็นสารอาหารที่ช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด (Schmidt et al., 2005). โคเอนไซม์คิวเท็น (CoQ10): เป็นสารอาหารที่ช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวาย (Rosenfeldt et al., 2007). การดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือดในวัยเกษียณนั้น ต้องอาศัยทั้งการปรับวิถีชีวิต การออกกำลังกายสม่ำเสมอ การทานอาหารที่เหมาะสม รวมถึงการเสริมสารอาหารจากธรรมชาติ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงและเสริมสร้างสุขภาพหัวใจในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Mozaffarian et al., 2008). -------- #คลอเรลล่าที่ปลอดภัย และ #สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย เป็นสารอาหารจากธรรมชาติ ที่มีคุณสมบัติที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันและดูแลสุขภาพของระบบหัวใจและหลอดเลือด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คลอเรลล่าที่ปลอดภัย มีความสามารถในการจับและขับสารพิษโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว ปรอท และแคดเมียม ซึ่งสะสมในร่างกายและส่งผลต่อหลอดเลือด (Shim et al., 2008). การกำจัดสารพิษเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงของการอักเสบและเสื่อมสภาพของหลอดเลือด พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง (Merchant, 2001). คลอเรลล่ายังเสริมภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลระบบประสาท และลดความเครียด ซึ่งช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดทำงานดีขึ้น (Jeon et al., 2016). สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ Phycocyanin ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเสียหายของเซลล์หลอดเลือด (Bermejo et al., 2008). สไปรูลิน่าช่วยป้องกันการสะสมของไขมันในหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Vazquez et al., 2013). นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อหัวใจและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายและปัญหาหลอดเลือดอื่นๆ (Belay et al., 1993). โดยที่ การ "ทาน สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" ให้ได้ผล จำเป็นต้อง "สะสางสิ่งพิษในร่างกายให้สะอาดก่อน" โดยการทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน ซึ่ง 6 เดือนที่ทาน "คลอเรลล่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ทานก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพมากมาย จากการสะสางสิ่งพิษโดยเฉพาะโลหะหนัก ที่สะสมอยู่ในร่างกาย และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อสุขภาพอีกมากมายอีกครั้ง หลังจากสามารถเริ่มทาน "สไปรูลิน่าที่ปลอดภัย" อย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีอะไรจะดีไปกว่า การได้ใช้ชีวิตอย่างปกติ ท่ามกลางคนที่รัก และอยู่ในสุขภาพที่ดีในช่วงปลายของชีวิต ให้ FEBICO Organic Chlorella และ FEBICO Organic Spirulina ที่ผ่านการรับรองออร์แกนิคจาก USDA Organic ของแท้ ไม่ได้แปะเอง จึงมั่นใจได้ในความ "ปลอดภัย" เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพของคุณ เพื่อให้คุณได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนที่คุณรักได้อย่างมีความสุขในช่วงเกษียณอายุของคุณ #สะสางก่อนสะสม #การค้าออนไลน์ที่แท้จริง #supershe #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15/1/67

    ไข่ผำ Super Food สุดยอดของแหล่งโปรตีนทดแทน

    ไข่ผำ (Wolffia)  เป็น Super Food สุดยอดของแหล่งโปรตีนทดแทน และเป็น 1 ในพืชน้ำ อาหารแห่งอนาคต เป็นอีกหนึ่ง Mega Trend ที่มาแรงและถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้าง ภาคอุตสาหกรรมอาหารต่างให้ความสนใจ


    ไข่ผำเป็นพืชน้ำพื้นบ้านที่พบได้ตามห้วย หนอง คลอง บึง ลักษณะเป็นเม็ดสีเขียวขนาดเล็ก มีชื่อว่า “กรีนคาเวียร์” และเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้านโปรตีนสูง    เป็นพืชลอยน้ำตระกูลแหน  รูปร่างเป็นเม็ดสีเขียววงกลมหรือเกือบกลมขนาดเล็ก  ไม่มีราก  เป็นพืชดอกขนาดเล็กที่สุดในโลกและขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ  ไข่ผำเป็นพืชที่มีโปรตีนและคุณค่าทางโภชนาการสูง  มีสารพฤษเคมี(Phytochemical)  ที่มีประโยชน์  ไข่ผำมีกรดอะมิโนจำเป็นที่พบมากสุด 3 อันดับแรก คือ ไลซีน ฟีนิลอะลานีน ลิวซีน (ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกายและระบบประสาท)

    และเมื่อมีการวิเคราะห์กรดไขมันของไข่ผำแห้งพบว่า มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่ากรดไขมันอิ่มตัวประมาณ 2 เท่า และยังพบกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องการอีก 2 ชนิด คือ กรดไขมันโอเมกา 3 และ 6 ในปริมาณที่สูง ไข่ผำ เป็นอาหารแห่งอนาคต เพราะมีต้นทุนการผลิตต่ำ  มีโปรตีนสูง 20-40% มีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ระยะเวลาเพาะเลี้ยงสั้น เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว และศัตรูพืชน้อย  จึงทำให้ไข่ผำมีแนวโน้มเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ

    คนพระแท่นสร้างการมีส่วนร่วมจากไข่ผำ
    พี่แอ๋ว หรือ สิริวรรณ  โอภากุลวงษ์   เลขากลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิถีพระแท่น ได้เล่าให้ฟังว่า  ตำบลพระแท่น  อำเภอท่ามะกา  จังหวัดกาญจนบุรี  มีกลุ่มชาติพรรณไทยทรงดำ  ซึ่งได้บริโภคไข่ผำเป็นอาหารพื้นถิ่นมายาวนาน 

    แต่ในกลุ่มประชาชนทั่วไปยังไม่เป็นที่รู้จักนัก  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิถีพระแท่นได้หาข้อมูลคุณประโยชน์ของไข่ผำและดำเนินการขับเคลื่อนการเพาะเลี้ยงไข่ผำในชุมชน  โดยใช้งบประมาณโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย  จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  สนับสนุนการเลี้ยงไข่ผำในครัวเรือนผู้มีรายได้น้อย จำนวน 30 ครัวเรือน  โดยเลี้ยงในลองคอนกรีต  และทดลองเลี้ยงไข่ผำในโรงเรือนระบบปิด  โดยทั้งสองรูปแบบใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเพาะเลี้ยง  ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงในรูปแบบดังกล่าว  เพียงพอต่อการบริโภคในครัวเรือน  แต่ไม่เพียงพอต่อการเพาะเลี้ยงเชิงพานิชย์  เนื่องจากปัจจุบันไข่ผำเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น


    “ตำบลพระแท่นมีจุดเด่นทั้งในเรื่องของการสร้างตลาดสีเขียวคีย์โฮลฟาร์มเมอร์มาร์เก็ตเพื่อเป็นแหล่งอาหารปลอดภัยและสร้างรายได้ให้ครัวเรือนต่างๆ การพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จาก “ไข่ผำ” ที่นับว่าเป็น Superfood มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก และอาศัยความร่วมมือจากคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และทักษะเข้าร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงคนทุกกลุ่มในชุมชนให้มีรายได้ รวมถึงระบบการจัดการขยะของคนในตำบลพระแท่นที่ให้คนทุกวัยได้เข้ามาร่วมดำเนินการจนเกิดเป็นรูปธรรมให้พื้นที่อื่นได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้”

    นวัตกรรมการจัดการระบบการเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์แบบครบวงจร
    พี่แอ๋ว เล่าต่อไปอีกว่า การนำไข่ผำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ยังประสบปัญหาหลายประการโดยเฉพาะการที่ไม่สามารถควบคุมผลผลิตและคุณภาพของไข่ผำโดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการได้ ดังนั้นการเลี้ยงไข่ผำในโรงเรือนทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ


    นวัตกรรมการจัดการระบบการเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์แบบครบวงจร เป็นการเพาะเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์ในโรงเรือนระบบปิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยงไข่ผำทั้งปริมาณและคุณภาพ จึงเป็นนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้มีความสามารถในการบริโภคในครัวเรือนรวมถึงการแข่งขันเชิงพานิชย์และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ตำบลพระแท่น โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนานวัตกรรมจากกระบวนการเพาะเลี้ยงไข่ผำ เพื่อเป็นต้นแบบการเลี้ยงในครัวเรือนและเชิงพานิชย์  และการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม 

    เพื่อเป็นการพัฒนาอาชีพเกษตรกรให้มีความยั่งยืน  โดยเน้นการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นโดยตลอดกระบวนการพัฒนาการผลิตจะเน้นการใช้วัตถุดิบ อย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสียตั้งแต่ต้นทาง ลดต้นทุนการผลิต และไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของคนในชุมชน และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อ ยกระดับทรัพยากรท้องถิ่น และช่วยพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถเป็นต้นแบบให้กับชุมชนแห่งอื่นได้

    พอช.หนุนให้ชุมชนจัดทำแผนธุรกิจชุมชน
    สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)หรือ พอช. ได้เข้ามาสนับสนุนการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องแผนธุรกิจชุมชน โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลพระแท่นได้ต่อยอดนำความรู้เรื่องแผนธุกิจปรับประยุกต์ใช้กับโครงการอาหารปลอดภัย สร้างโอกาสในกิจกรรมคีโฮลการ์เด้นท์ การผลิตผักปลอดภัย คนในชุมชนได้แบ่งปันและทดลองจำหน่าย เกิดผลการเปลี่ยนแปลงต่อยอดเป็นธนาคารเมล็ดพันธุ์ จนในที่สุดมีศูนย์บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ ปัจจุบันธนาคารมีเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน ปี 2562 เกิดเป็นตลาดสีเขียว สถานที่ซื้อขายต้นแบบการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาเป็นเรื่องการจัดการขยะชุมชน เรื่องอาหารปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการสังคมในชุมชน มีการเลี้ยงไข่ผำ อาหารที่สำคัญในชุมชน ผู้ด้อยโอกาส 30 ครัวเรือน ได้เลี้ยงและบริโภคในครัวเรือน

    ประโยชน์ของ “ไข่ผำ” พืชจิ๋วมหัศจรรย์
    พี่แอ๋ว เล่าต่ออีกว่า องค์ประกอบทางโภชนาการของไข่น้ำพบว่า มีโปรตีน เบต้า – คาโรทีน และคลอโรฟิลล์จากการสังเคราะห์แสง ไข่น้ำมีปริมาณโปรตีนในระดับเดี่ยวกับเมล็ดถั่วชนิดต่าง ๆ เมล็ดธัญพืช มีเส้นใยสูง มีปริมาณกรดอะมิโนที่จำเป็นไม่ต่างกับไข่ไก่ สาหร่ายเกลียวทอง และคลอเรลล่า นอกจากนี้คลอโรฟิลล์ในไข่น้ำสารต้านอนุมูล อิสระ (antioxidant) มากกว่าในสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งใช้รักษาอาการท้องผูก รักษาสภาวะซีดในคนที่เป็น โรคโลหิตจางได้ ประโยชน์ของไข่น้ำสามารนำมาใช้ปรุงอาหารพื้นบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น แกงอ่อม แกงคั่ว ไข่ตุ๋น ไข่เจียว เป็นต้น รับประทานได้

    วิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำ
    ประพิมพ์ ศรีนวล หรือ พี่โป้ สมาชิกกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงไข่ผำ เล่าให้ฟังถึงวิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำว่า  การเพาะเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ หรือ บ่อพลาสติก ให้นำมาล้างทำความสะอาดก่อนปล่อยไข่ผำลงไปเพาะเลี้ยง เมื่อล้างบ่อจนสะอาดแล้ว เติมน้ำใส่บ่อในอัตรา 3/4 ของบ่อ หากใช้น้ำประปาหรือน้ำบาดาล แนะนำให้พักน้ำไว้สัก 2-3 วัน ก่อนที่จะปล่อยพันธุ์ผำลงไป  ผำเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไร หากจำเป็นต้องเพาะเลี้ยงกลางแจ้งแนะนำให้ใช้ซาแรนพรางแสงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือจะเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดก็สามารถทำได้เช่นกัน


    ส่วนการบำรุงธาตุอาหาร อัตราการเติมธาตุอาหารต่อบ่อ ของที่ไร่จะใช้น้ำหมักปลาในอัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะต่อ 1 บ่อ เสร็จแล้วจึงค่อยใส่พันธุ์ผำลงไปปริมาณ 1/2 กิโลกรัมต่อบ่อ หรือในกรณีที่ไม่มีในส่วนของน้ำหมักปลา ก็สามารถเลือกใช้น้ำหมักชนิดอื่นๆ ได้ เช่น น้ำหมักมูลไส้เดือน น้ำหมักมูลหมู น้ำหมักมูลวัว หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสามารถนำมาใช้ได้หมด แล้วแต่ความสะดวกของแต่พื้นที่  


    การดูแลหลังจากที่ปล่อยพันธุ์ผำลงไปเพาะเลี้ยงได้ครบ 1 สัปดาห์ ให้ช้อนไข่ผำที่อยู่ในบ่อขึ้นมา เพื่อปล่อยน้ำทิ้งล้างทำความสะอาดบ่อ เสร็จแล้วให้เติมน้ำใส่บ่อเข้าไปใหม่ เติมธาตุอาหารลงไป ทำเหมือนเดิมกับครั้งแรกทุกอย่าง แล้วปล่อยพันธุ์ผำลงไปเลี้ยงอีก 1 สัปดาห์ ช้อนผำที่เลี้ยงทั้งหมดมาล้างน้ำทำความสะอาด 4 ครั้ง สำหรับนำไปจำหน่ายแบบสด  เท่ากับว่าการเพาะเลี้ยงไข่ผำใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ แต่ถ้าในกรณีนำไปเพาะพันธุ์ต่อ ใช้เวลาเลี้ยง 1 สัปดาห์ ก็สามารถเอาไปเพาะพันธุ์ต่อได้แล้ว  ซึ่งการเพาะเลี้ยงไม่ยุ่งยาก แต่ปัจจัยสำคัญหรืออุปสรรคที่ทำให้ผู้เพาะเลี้ยงผำไม่ประสบความสำเร็จ คือปัจจัยอุปสรรคในด้านสภาพอากาศและสารเคมี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้

    ปัญหาและอุปสรรคของการเพาะเลี้ยง “ไข่ผำ”
    พี่โป้ เล่าให้ฟังอีกว่า อุปสรรคทางด้านสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนจะส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตลดน้อยลง “ผำ” จะชอบอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-26 องศา ซึ่งถ้าอากาศร้อนไปกว่านี้จะส่งผลให้ปริมาณและอัตราการขยายตัวลดน้อยลง

    สารเคมี ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าหญ้า หรือสารเคมีชนิดอื่นๆ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผำไม่เจริญเติบโต ผำถือเป็นพืชที่เซนซิทีฟต่อสารเคมี หรืออีกนัยหนึ่งคือ ผำถือเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่าพื้นที่ตรงนั้นไม่มีการใช้สารเคมีจริงๆ ที่ถึงแม้ว่าต่อให้ในพื้นที่สวนของเราไม่ใช้ แต่สวนรอบข้างเราใช้ หรือมีคนอื่นมาฉีดพ่นสารเคมีในบริเวณใกล้เคียง ก็ส่งผลทำให้ผำไม่เจริญเติบโตและตายได้เช่นกัน  

    วิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิตไข่ผำ เมื่อเพาะเลี้ยงผำจนครบ 2 สัปดาห์ แล้ววิธีการเก็บไปขาย ให้เตรียมซึ้งนึ่งอาหารมาแล้วใช้ผ้าขาวบางรอง จากนั้นนำตาข่ายสีฟ้ามาวางทับผ้าขาวบางอีกชั้น แล้วช้อนผำขึ้นมาใส่ไว้ในตาข่ายสีฟ้า ใช้น้ำประปาล้างแล้วผำจะหล่นลงไปที่ผ้าขาวบางที่รองไว้ข้างล่าง พอได้ผำมาทั้งหมดให้นำไปล้างน้ำทำความสะอาดอีก 4 ครั้ง คือล้างแล้วบิด จนครบ 4 ครั้ง ถึงจะนำไปจำหน่ายได้

    ความน่าสนใจของการเพาะเลี้ยงไข่ผำคือ ไข่ผำเป็นพืชที่ไม่ต้องใช้การดูแลมาก สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้สบายๆ เพาะใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงเพียง 2 สัปดาห์ สามารถเก็บผลผลิตขายได้ และยังเป็นพืชที่มีอนาคตสดใส ด้วยคุณประโยชน์ที่ครบถ้วน

    สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย  สำหรับไข่ผำที่ได้ทั้งสะอาดปลอดภัยจากสารเคมี พร้อมนำไปแปรรูปเป็นอาหารต่างๆ และจำหน่ายไข่ผำอินทรีย์แบบสดๆ กิโลกรัมละ 100 บาท หากแห้ง กิโลกรัมละ 2,500-3,000 บาท สามารถสร้างรายได้ทั้งขายสด และแปรรูป ให้กับชุมชนบ้านพระแท่นได้อย่างงาม เป็นหนึ่งในอาชีพที่จะสร้างการมีส่วนร่วมและความมั่นคงให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน
    cr:web.codi.co.th
    15/1/67 ไข่ผำ Super Food สุดยอดของแหล่งโปรตีนทดแทน ไข่ผำ (Wolffia)  เป็น Super Food สุดยอดของแหล่งโปรตีนทดแทน และเป็น 1 ในพืชน้ำ อาหารแห่งอนาคต เป็นอีกหนึ่ง Mega Trend ที่มาแรงและถูกกล่าวถึงเป็นวงกว้าง ภาคอุตสาหกรรมอาหารต่างให้ความสนใจ ไข่ผำเป็นพืชน้ำพื้นบ้านที่พบได้ตามห้วย หนอง คลอง บึง ลักษณะเป็นเม็ดสีเขียวขนาดเล็ก มีชื่อว่า “กรีนคาเวียร์” และเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการด้านโปรตีนสูง    เป็นพืชลอยน้ำตระกูลแหน  รูปร่างเป็นเม็ดสีเขียววงกลมหรือเกือบกลมขนาดเล็ก  ไม่มีราก  เป็นพืชดอกขนาดเล็กที่สุดในโลกและขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ  ไข่ผำเป็นพืชที่มีโปรตีนและคุณค่าทางโภชนาการสูง  มีสารพฤษเคมี(Phytochemical)  ที่มีประโยชน์  ไข่ผำมีกรดอะมิโนจำเป็นที่พบมากสุด 3 อันดับแรก คือ ไลซีน ฟีนิลอะลานีน ลิวซีน (ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันของร่างกายและระบบประสาท) และเมื่อมีการวิเคราะห์กรดไขมันของไข่ผำแห้งพบว่า มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่ากรดไขมันอิ่มตัวประมาณ 2 เท่า และยังพบกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายต้องการอีก 2 ชนิด คือ กรดไขมันโอเมกา 3 และ 6 ในปริมาณที่สูง ไข่ผำ เป็นอาหารแห่งอนาคต เพราะมีต้นทุนการผลิตต่ำ  มีโปรตีนสูง 20-40% มีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ระยะเวลาเพาะเลี้ยงสั้น เก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็ว และศัตรูพืชน้อย  จึงทำให้ไข่ผำมีแนวโน้มเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คนพระแท่นสร้างการมีส่วนร่วมจากไข่ผำ พี่แอ๋ว หรือ สิริวรรณ  โอภากุลวงษ์   เลขากลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิถีพระแท่น ได้เล่าให้ฟังว่า  ตำบลพระแท่น  อำเภอท่ามะกา  จังหวัดกาญจนบุรี  มีกลุ่มชาติพรรณไทยทรงดำ  ซึ่งได้บริโภคไข่ผำเป็นอาหารพื้นถิ่นมายาวนาน  แต่ในกลุ่มประชาชนทั่วไปยังไม่เป็นที่รู้จักนัก  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิถีพระแท่นได้หาข้อมูลคุณประโยชน์ของไข่ผำและดำเนินการขับเคลื่อนการเพาะเลี้ยงไข่ผำในชุมชน  โดยใช้งบประมาณโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีรายได้น้อย  จากสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  สนับสนุนการเลี้ยงไข่ผำในครัวเรือนผู้มีรายได้น้อย จำนวน 30 ครัวเรือน  โดยเลี้ยงในลองคอนกรีต  และทดลองเลี้ยงไข่ผำในโรงเรือนระบบปิด  โดยทั้งสองรูปแบบใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการเพาะเลี้ยง  ผลผลิตจากการเพาะเลี้ยงในรูปแบบดังกล่าว  เพียงพอต่อการบริโภคในครัวเรือน  แต่ไม่เพียงพอต่อการเพาะเลี้ยงเชิงพานิชย์  เนื่องจากปัจจุบันไข่ผำเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น “ตำบลพระแท่นมีจุดเด่นทั้งในเรื่องของการสร้างตลาดสีเขียวคีย์โฮลฟาร์มเมอร์มาร์เก็ตเพื่อเป็นแหล่งอาหารปลอดภัยและสร้างรายได้ให้ครัวเรือนต่างๆ การพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จาก “ไข่ผำ” ที่นับว่าเป็น Superfood มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก และอาศัยความร่วมมือจากคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และทักษะเข้าร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์เชื่อมโยงคนทุกกลุ่มในชุมชนให้มีรายได้ รวมถึงระบบการจัดการขยะของคนในตำบลพระแท่นที่ให้คนทุกวัยได้เข้ามาร่วมดำเนินการจนเกิดเป็นรูปธรรมให้พื้นที่อื่นได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้” นวัตกรรมการจัดการระบบการเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์แบบครบวงจร พี่แอ๋ว เล่าต่อไปอีกว่า การนำไข่ผำจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ยังประสบปัญหาหลายประการโดยเฉพาะการที่ไม่สามารถควบคุมผลผลิตและคุณภาพของไข่ผำโดยเฉพาะคุณค่าทางโภชนาการได้ ดังนั้นการเลี้ยงไข่ผำในโรงเรือนทำให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ นวัตกรรมการจัดการระบบการเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์แบบครบวงจร เป็นการเพาะเลี้ยงไข่ผำอินทรีย์ในโรงเรือนระบบปิดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยงไข่ผำทั้งปริมาณและคุณภาพ จึงเป็นนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้มีความสามารถในการบริโภคในครัวเรือนรวมถึงการแข่งขันเชิงพานิชย์และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ตำบลพระแท่น โดยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนานวัตกรรมจากกระบวนการเพาะเลี้ยงไข่ผำ เพื่อเป็นต้นแบบการเลี้ยงในครัวเรือนและเชิงพานิชย์  และการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม  เพื่อเป็นการพัฒนาอาชีพเกษตรกรให้มีความยั่งยืน  โดยเน้นการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นโดยตลอดกระบวนการพัฒนาการผลิตจะเน้นการใช้วัตถุดิบ อย่างมีประสิทธิภาพ ลดของเสียตั้งแต่ต้นทาง ลดต้นทุนการผลิต และไม่เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะของคนในชุมชน และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก เพื่อ ยกระดับทรัพยากรท้องถิ่น และช่วยพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง สามารถเป็นต้นแบบให้กับชุมชนแห่งอื่นได้ พอช.หนุนให้ชุมชนจัดทำแผนธุรกิจชุมชน สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน)หรือ พอช. ได้เข้ามาสนับสนุนการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องแผนธุรกิจชุมชน โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลพระแท่นได้ต่อยอดนำความรู้เรื่องแผนธุกิจปรับประยุกต์ใช้กับโครงการอาหารปลอดภัย สร้างโอกาสในกิจกรรมคีโฮลการ์เด้นท์ การผลิตผักปลอดภัย คนในชุมชนได้แบ่งปันและทดลองจำหน่าย เกิดผลการเปลี่ยนแปลงต่อยอดเป็นธนาคารเมล็ดพันธุ์ จนในที่สุดมีศูนย์บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ ปัจจุบันธนาคารมีเมล็ดพันธุ์พื้นบ้าน ปี 2562 เกิดเป็นตลาดสีเขียว สถานที่ซื้อขายต้นแบบการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาเป็นเรื่องการจัดการขยะชุมชน เรื่องอาหารปลอดภัยเป็นส่วนหนึ่งของสวัสดิการสังคมในชุมชน มีการเลี้ยงไข่ผำ อาหารที่สำคัญในชุมชน ผู้ด้อยโอกาส 30 ครัวเรือน ได้เลี้ยงและบริโภคในครัวเรือน ประโยชน์ของ “ไข่ผำ” พืชจิ๋วมหัศจรรย์ พี่แอ๋ว เล่าต่ออีกว่า องค์ประกอบทางโภชนาการของไข่น้ำพบว่า มีโปรตีน เบต้า – คาโรทีน และคลอโรฟิลล์จากการสังเคราะห์แสง ไข่น้ำมีปริมาณโปรตีนในระดับเดี่ยวกับเมล็ดถั่วชนิดต่าง ๆ เมล็ดธัญพืช มีเส้นใยสูง มีปริมาณกรดอะมิโนที่จำเป็นไม่ต่างกับไข่ไก่ สาหร่ายเกลียวทอง และคลอเรลล่า นอกจากนี้คลอโรฟิลล์ในไข่น้ำสารต้านอนุมูล อิสระ (antioxidant) มากกว่าในสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งใช้รักษาอาการท้องผูก รักษาสภาวะซีดในคนที่เป็น โรคโลหิตจางได้ ประโยชน์ของไข่น้ำสามารนำมาใช้ปรุงอาหารพื้นบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสาน เช่น แกงอ่อม แกงคั่ว ไข่ตุ๋น ไข่เจียว เป็นต้น รับประทานได้ วิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำ ประพิมพ์ ศรีนวล หรือ พี่โป้ สมาชิกกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงไข่ผำ เล่าให้ฟังถึงวิธีการเพาะเลี้ยงไข่ผำว่า  การเพาะเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ หรือ บ่อพลาสติก ให้นำมาล้างทำความสะอาดก่อนปล่อยไข่ผำลงไปเพาะเลี้ยง เมื่อล้างบ่อจนสะอาดแล้ว เติมน้ำใส่บ่อในอัตรา 3/4 ของบ่อ หากใช้น้ำประปาหรือน้ำบาดาล แนะนำให้พักน้ำไว้สัก 2-3 วัน ก่อนที่จะปล่อยพันธุ์ผำลงไป  ผำเป็นพืชที่ชอบแสงแดดรำไร หากจำเป็นต้องเพาะเลี้ยงกลางแจ้งแนะนำให้ใช้ซาแรนพรางแสงประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือจะเลี้ยงในโรงเรือนระบบปิดก็สามารถทำได้เช่นกัน ส่วนการบำรุงธาตุอาหาร อัตราการเติมธาตุอาหารต่อบ่อ ของที่ไร่จะใช้น้ำหมักปลาในอัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะต่อ 1 บ่อ เสร็จแล้วจึงค่อยใส่พันธุ์ผำลงไปปริมาณ 1/2 กิโลกรัมต่อบ่อ หรือในกรณีที่ไม่มีในส่วนของน้ำหมักปลา ก็สามารถเลือกใช้น้ำหมักชนิดอื่นๆ ได้ เช่น น้ำหมักมูลไส้เดือน น้ำหมักมูลหมู น้ำหมักมูลวัว หรือจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงสามารถนำมาใช้ได้หมด แล้วแต่ความสะดวกของแต่พื้นที่   การดูแลหลังจากที่ปล่อยพันธุ์ผำลงไปเพาะเลี้ยงได้ครบ 1 สัปดาห์ ให้ช้อนไข่ผำที่อยู่ในบ่อขึ้นมา เพื่อปล่อยน้ำทิ้งล้างทำความสะอาดบ่อ เสร็จแล้วให้เติมน้ำใส่บ่อเข้าไปใหม่ เติมธาตุอาหารลงไป ทำเหมือนเดิมกับครั้งแรกทุกอย่าง แล้วปล่อยพันธุ์ผำลงไปเลี้ยงอีก 1 สัปดาห์ ช้อนผำที่เลี้ยงทั้งหมดมาล้างน้ำทำความสะอาด 4 ครั้ง สำหรับนำไปจำหน่ายแบบสด  เท่ากับว่าการเพาะเลี้ยงไข่ผำใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ แต่ถ้าในกรณีนำไปเพาะพันธุ์ต่อ ใช้เวลาเลี้ยง 1 สัปดาห์ ก็สามารถเอาไปเพาะพันธุ์ต่อได้แล้ว  ซึ่งการเพาะเลี้ยงไม่ยุ่งยาก แต่ปัจจัยสำคัญหรืออุปสรรคที่ทำให้ผู้เพาะเลี้ยงผำไม่ประสบความสำเร็จ คือปัจจัยอุปสรรคในด้านสภาพอากาศและสารเคมี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ ปัญหาและอุปสรรคของการเพาะเลี้ยง “ไข่ผำ” พี่โป้ เล่าให้ฟังอีกว่า อุปสรรคทางด้านสภาพอากาศ โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนจะส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตลดน้อยลง “ผำ” จะชอบอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 20-26 องศา ซึ่งถ้าอากาศร้อนไปกว่านี้จะส่งผลให้ปริมาณและอัตราการขยายตัวลดน้อยลง สารเคมี ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าหญ้า หรือสารเคมีชนิดอื่นๆ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผำไม่เจริญเติบโต ผำถือเป็นพืชที่เซนซิทีฟต่อสารเคมี หรืออีกนัยหนึ่งคือ ผำถือเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่าพื้นที่ตรงนั้นไม่มีการใช้สารเคมีจริงๆ ที่ถึงแม้ว่าต่อให้ในพื้นที่สวนของเราไม่ใช้ แต่สวนรอบข้างเราใช้ หรือมีคนอื่นมาฉีดพ่นสารเคมีในบริเวณใกล้เคียง ก็ส่งผลทำให้ผำไม่เจริญเติบโตและตายได้เช่นกัน   วิธีการเก็บเกี่ยวผลผลิตไข่ผำ เมื่อเพาะเลี้ยงผำจนครบ 2 สัปดาห์ แล้ววิธีการเก็บไปขาย ให้เตรียมซึ้งนึ่งอาหารมาแล้วใช้ผ้าขาวบางรอง จากนั้นนำตาข่ายสีฟ้ามาวางทับผ้าขาวบางอีกชั้น แล้วช้อนผำขึ้นมาใส่ไว้ในตาข่ายสีฟ้า ใช้น้ำประปาล้างแล้วผำจะหล่นลงไปที่ผ้าขาวบางที่รองไว้ข้างล่าง พอได้ผำมาทั้งหมดให้นำไปล้างน้ำทำความสะอาดอีก 4 ครั้ง คือล้างแล้วบิด จนครบ 4 ครั้ง ถึงจะนำไปจำหน่ายได้ ความน่าสนใจของการเพาะเลี้ยงไข่ผำคือ ไข่ผำเป็นพืชที่ไม่ต้องใช้การดูแลมาก สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้สบายๆ เพาะใช้เวลาในการเพาะเลี้ยงเพียง 2 สัปดาห์ สามารถเก็บผลผลิตขายได้ และยังเป็นพืชที่มีอนาคตสดใส ด้วยคุณประโยชน์ที่ครบถ้วน สามารถนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าเพิ่มได้หลากหลาย  สำหรับไข่ผำที่ได้ทั้งสะอาดปลอดภัยจากสารเคมี พร้อมนำไปแปรรูปเป็นอาหารต่างๆ และจำหน่ายไข่ผำอินทรีย์แบบสดๆ กิโลกรัมละ 100 บาท หากแห้ง กิโลกรัมละ 2,500-3,000 บาท สามารถสร้างรายได้ทั้งขายสด และแปรรูป ให้กับชุมชนบ้านพระแท่นได้อย่างงาม เป็นหนึ่งในอาชีพที่จะสร้างการมีส่วนร่วมและความมั่นคงให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน cr:web.codi.co.th
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • มากินข้าวกันค่ะ
    เทมเป้กับน้ำพริกปลาทู
    พามารู้จักเทมเป้กันค่ะ

    โปรตีนสูง. แร่ธาตุและสารอาหารมากมาย

    #โปรตีนสูงย่อยง่ายเหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ
    #โปรตีนที่ร่างกายนำไปใช้ได้เลย. คาร์บต่ำ
    #ใช้ทดแทนเนื้อสัตว์
    #เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องหารลดน้ำหนัก
    อิ่มนาน ลดการอยากอาหาร
    #ผู้ที่มีปัญหาขับถ่ายท้องผูก. เพราะมีกากใยสูง
    มีโพรไบโอติกและพรีไบโอติกจุลินทรีย์ที่ดีต่อลำใส้
    #บำรุงผิวพรรณชลอแก่. #ต้านอนุมูลอิสระ
    #ปรับฮอร์โมน ช่วยต้านอาการวัยทอง
    #มีวิตามินบี12 ที่พบในเนื้อสัตว์
    #บำรุงสมอง #บำรุงหลอดเลือด #บำรุงหัวใจ
    #แคลเซี่ยมสูง บำรุงกระดูก
    #อร่อยทานได้ทุกเพศทุกวัย
    #เหมาะสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงเนี้อสัตว์. #มังสวิรัติ
    #ทานเจ. #วีแกน

    💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢
    มากินข้าวกันค่ะ เทมเป้กับน้ำพริกปลาทู พามารู้จักเทมเป้กันค่ะ โปรตีนสูง. แร่ธาตุและสารอาหารมากมาย #โปรตีนสูงย่อยง่ายเหมาะสำหรับผู้ที่ออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ #โปรตีนที่ร่างกายนำไปใช้ได้เลย. คาร์บต่ำ #ใช้ทดแทนเนื้อสัตว์ #เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องหารลดน้ำหนัก อิ่มนาน ลดการอยากอาหาร #ผู้ที่มีปัญหาขับถ่ายท้องผูก. เพราะมีกากใยสูง มีโพรไบโอติกและพรีไบโอติกจุลินทรีย์ที่ดีต่อลำใส้ #บำรุงผิวพรรณชลอแก่. #ต้านอนุมูลอิสระ #ปรับฮอร์โมน ช่วยต้านอาการวัยทอง #มีวิตามินบี12 ที่พบในเนื้อสัตว์ #บำรุงสมอง #บำรุงหลอดเลือด #บำรุงหัวใจ #แคลเซี่ยมสูง บำรุงกระดูก #อร่อยทานได้ทุกเพศทุกวัย #เหมาะสำหรับผู้ที่หลีกเลี่ยงเนี้อสัตว์. #มังสวิรัติ #ทานเจ. #วีแกน 💢💢💢💢💢💢💢💢💢💢
    Like
    Love
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมนูอร่อยจากเทมเป้
    เทมเป้เป็นโปรตีนจากธัญพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงกว่าเต้าหู้หลายเท่าสามารถนำไปประกอบอาหารแทนเนื้อสัตว์ได้หลายหลากเมนูทำได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เทมเป้ ยังเป็น โพรไบโอติก และพรีไบโอติก ที่ดีต่อร่างกาย ช่วยเรื่องระบบลำไส้และการขับถ่าย มีวิตามินบี 12 ช่วยบำรุงเลือดบำรุงสมอง และมีแร่ธาตุวิตามินต่างๆช่วยต้านอนุมูลอิสระ
    #tempeh#เทมเป้#โปรตีน
    เมนูอร่อยจากเทมเป้ เทมเป้เป็นโปรตีนจากธัญพืชที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูงกว่าเต้าหู้หลายเท่าสามารถนำไปประกอบอาหารแทนเนื้อสัตว์ได้หลายหลากเมนูทำได้ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เทมเป้ ยังเป็น โพรไบโอติก และพรีไบโอติก ที่ดีต่อร่างกาย ช่วยเรื่องระบบลำไส้และการขับถ่าย มีวิตามินบี 12 ช่วยบำรุงเลือดบำรุงสมอง และมีแร่ธาตุวิตามินต่างๆช่วยต้านอนุมูลอิสระ #tempeh#เทมเป้#โปรตีน
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • สบู่จากน้ำมันธรรมชาติ soap oil
    🚩
    สูตรนี้เป็นทั้งสบู่และแชมพูบาร์ ( ทั้งอาบน้ำและสระผม ) สมุนไพรเน้นๆ สรรหามาใส่ 😁😍🌿

    🍁 ผงมะรุม 🍁
    มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่มากมาย เช่น วิตามินอี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและรอยเหี่ยวย่น นอกจากนี้ยังมี คุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบของผิว

    🍁 ชาเขียว 🍁
    มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถปกป้องและฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ หรือรังสียูวี ชาเขียวมีสาร Catechins ซึ่งประกอบไปด้วย Epigallocatechin Gallate (EGCG) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยมีฤทธิ์มากกว่าวิตามินอีถึง 20 เท่า ชาเขียวช่วยลบเลือนริ้วรอย ช่วยลดความเสื่อมโทรมของผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด เช่น ฝ้า, ผิวหยาบกร้าน และเส้นริ้วต่าง ๆ ลดการอักเสบและการยับยั้งแบคทีเรีย ชาเขียวจึงเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่มีปัญหาเรื่องสิวและผิวหน้ามัน และชาเขียวยังช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น Eczema, Psoriasis และรังแค เพราะมีคุณประโยชน์ในการลดการอักเสบและการระคายเคืองของผิว

    🍁 หัวไชเท้า 🍁
    หัวไชเท้าเป็นพืชมีฤทธิ์เย็นที่เป็นประโยชน์กับผิวพรรณเป็นอย่างมาก น้ำจากหัวไชเท้าช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น มีสรรพคุณด้านการฆ่าเชื้อ ช่วยรักษาผิว
    ได้คุณค่าจากวิตามินซีและวิตามินบี ทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียจากสิว ประโยชน์ในแง่ของการบำรุงผิวพรรณ ลดฝ้าชนิดต่างๆ ลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งเมลานิน ลดการอักเสบของสิว
    ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส

    🍁 กอชอ 🍁
    มีสารบำรุงผิวและแร่ธาตุหลายชนิด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บรรเทาการอักเสบ ควบคุมปริมาณน้ำมันในผิวให้มีความสมดุล ลดสาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน และมีโอเมก้า 3 ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินภายในชั้นผิวของเรา ลดการเกิดริ้วรอย ให้ผิวสุขภาพดี ชุ่มชื้น นอกจากนี้จากงานวิจัยพบว่า ยังมีคุณสมบัติช่วยปกป้องเซลล์ผิว จากรังสี UVA UVB ตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ พร้อมช่วยลดความหมองคล้ำ รอยแดง รอยดำจากสิวจางลง ให้ผิวดูเปล่งประกาย กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ
    ทำบ่มเป็นเวลา 1 เดือน
    ก้อนละ 150 g ใหญ่มากค่ะ
    ก้อนละ 89 uาทสั่ง 3 ก้อนส่งฟรีคะ
    (เหลือ 20 ก้อนเท่านั้นค่ะ)
    สนใจทักมาค่ะ
    #สบู่สมุนไพร #soapoil #สบู่จากน้ำมันธรรมชาติ
    #thaitimes
    สบู่จากน้ำมันธรรมชาติ soap oil 🚩 สูตรนี้เป็นทั้งสบู่และแชมพูบาร์ ( ทั้งอาบน้ำและสระผม ) สมุนไพรเน้นๆ สรรหามาใส่ 😁😍🌿 🍁 ผงมะรุม 🍁 มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่มากมาย เช่น วิตามินอี ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำลายเซลล์ผิว ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยและรอยเหี่ยวย่น นอกจากนี้ยังมี คุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านการอักเสบของผิว 🍁 ชาเขียว 🍁 มีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระ จึงสามารถปกป้องและฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลายจากสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นมลภาวะ หรือรังสียูวี ชาเขียวมีสาร Catechins ซึ่งประกอบไปด้วย Epigallocatechin Gallate (EGCG) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยมีฤทธิ์มากกว่าวิตามินอีถึง 20 เท่า ชาเขียวช่วยลบเลือนริ้วรอย ช่วยลดความเสื่อมโทรมของผิวที่ถูกทำลายจากแสงแดด เช่น ฝ้า, ผิวหยาบกร้าน และเส้นริ้วต่าง ๆ ลดการอักเสบและการยับยั้งแบคทีเรีย ชาเขียวจึงเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่มีปัญหาเรื่องสิวและผิวหน้ามัน และชาเขียวยังช่วยบรรเทาอาการของโรคผิวหนังบางชนิดได้ เช่น Eczema, Psoriasis และรังแค เพราะมีคุณประโยชน์ในการลดการอักเสบและการระคายเคืองของผิว 🍁 หัวไชเท้า 🍁 หัวไชเท้าเป็นพืชมีฤทธิ์เย็นที่เป็นประโยชน์กับผิวพรรณเป็นอย่างมาก น้ำจากหัวไชเท้าช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น มีสรรพคุณด้านการฆ่าเชื้อ ช่วยรักษาผิว ได้คุณค่าจากวิตามินซีและวิตามินบี ทั้งยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียจากสิว ประโยชน์ในแง่ของการบำรุงผิวพรรณ ลดฝ้าชนิดต่างๆ ลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยยับยั้งเมลานิน ลดการอักเสบของสิว ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส 🍁 กอชอ 🍁 มีสารบำรุงผิวและแร่ธาตุหลายชนิด ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บรรเทาการอักเสบ ควบคุมปริมาณน้ำมันในผิวให้มีความสมดุล ลดสาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน และมีโอเมก้า 3 ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินภายในชั้นผิวของเรา ลดการเกิดริ้วรอย ให้ผิวสุขภาพดี ชุ่มชื้น นอกจากนี้จากงานวิจัยพบว่า ยังมีคุณสมบัติช่วยปกป้องเซลล์ผิว จากรังสี UVA UVB ตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ พร้อมช่วยลดความหมองคล้ำ รอยแดง รอยดำจากสิวจางลง ให้ผิวดูเปล่งประกาย กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ ทำบ่มเป็นเวลา 1 เดือน ก้อนละ 150 g ใหญ่มากค่ะ ก้อนละ 89 uาทสั่ง 3 ก้อนส่งฟรีคะ (เหลือ 20 ก้อนเท่านั้นค่ะ) สนใจทักมาค่ะ #สบู่สมุนไพร #soapoil #สบู่จากน้ำมันธรรมชาติ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 415 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌟 18 สูตร Drip #IV 🌟
    (คัดสรรโดยแพทย์และทีมเชี่ยวชาญเฉพาะด้านชะลอวัย)
    🔹 Detox & Rejuvenation 🔹
    - #Chelation
    (ขจัดสารพิษโลหะหนัก)
    -Liver Detox
    (ดีท็อกซ์ตับ)
    -Liver Rejuvenation
    (ดีท็อกซ์และฟื้นฟูตับ)
    -Kidney Rejuvenation
    (ดีท็อกซ์และฟื้นฟูไต)
    -Cardiovascular Detox
    (ดีท็อกซ์ระบบหัวใจและหลอดเลือด)
    -PM2.5 & Pollution Detox Course
    (คอร์สดีท็อกซ์ฝุ่น PM2.5และมลพิษทั้งร่างกาย)
    🔹 Immune & Energy Booster 🔹
    -Megadose vitamin c
    (วิตามินซีขนาดสูง)
    -ALA
    (ต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูการทำงานอินซูลิน)
    -Myer's Cocktail (New)
    (ไมเออร์ส ค็อกเทล ฟื้นฟูร่างกาย)
    -Premium #NAD+
    (ชะลอวัย ฟื้นฟูระบบเผาผลาญ)
    -Immune Booster
    (เสริมภูมิต้านทาน)
    -Brain & Energy Booster
    (ฟื้นฟูสมองและพลังงาน)
    🔹 Aura White & Smooth Secret 🔹
    -Aura White & Smooth Secret (Extra Recipe)
    (ความลับผิวขาวใสและเรียบเนียน สูตรพิเศษ)
    -Fat Burner
    (เผาผลาญไขมัน)
    -Relax & Stress Fighter
    (ลดความ #เครียดและผ่อนคลาย)
    -Sleep Better
    (นอนหลับดีขึ้น)
    -Mega Set Brain & Face Skin Rejuvenation
    (ชุดฟื้นฟูสมองและผิวหน้า)
    - ฟื้นฟูอาการ #เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (IV Drip) Course
    อย่าพลาด! มาใช้บริการที่ MW Wellness Clinic เพื่อสัมผัสประสบการณ์ฟื้นฟูสุขภาพที่แตกต่าง และปลดปล่อยความอ่อนเยาว์ในตัวคุณ
    🔍 สอบถามรายละเอียด 🔍
    ☎️ 096-081-2533 หรือ 02-276-5093-4
    📱LINE : @mw-wellness
    ⚡️Tiktok : @mwwellness
    🖥 Website : MW Wellness
    #VitaminDrip #Detox #Rejuvenation #ImmuneBooster #AuraWhite #SmoothSkin #Health #Wellness #MWWellness #IVTherapy #AntiAging #MWWellnessClinic #Naleen #WellnessClinic #ชะลอวัย #officesyndrome #เสื่อมสมรรถภาพ #ฟื้นฟูไต #ฟื้นฟูตับ #ฟื้นฟูหัวใจ #ลดน้ำหนัก #เสริมภูมิต้านทาน #แก้เครียด
    🌟 18 สูตร Drip #IV 🌟 (คัดสรรโดยแพทย์และทีมเชี่ยวชาญเฉพาะด้านชะลอวัย) 🔹 Detox & Rejuvenation 🔹 - #Chelation (ขจัดสารพิษโลหะหนัก) -Liver Detox (ดีท็อกซ์ตับ) -Liver Rejuvenation (ดีท็อกซ์และฟื้นฟูตับ) -Kidney Rejuvenation (ดีท็อกซ์และฟื้นฟูไต) -Cardiovascular Detox (ดีท็อกซ์ระบบหัวใจและหลอดเลือด) -PM2.5 & Pollution Detox Course (คอร์สดีท็อกซ์ฝุ่น PM2.5และมลพิษทั้งร่างกาย) 🔹 Immune & Energy Booster 🔹 -Megadose vitamin c (วิตามินซีขนาดสูง) -ALA (ต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นฟูการทำงานอินซูลิน) -Myer's Cocktail (New) (ไมเออร์ส ค็อกเทล ฟื้นฟูร่างกาย) -Premium #NAD+ (ชะลอวัย ฟื้นฟูระบบเผาผลาญ) -Immune Booster (เสริมภูมิต้านทาน) -Brain & Energy Booster (ฟื้นฟูสมองและพลังงาน) 🔹 Aura White & Smooth Secret 🔹 -Aura White & Smooth Secret (Extra Recipe) (ความลับผิวขาวใสและเรียบเนียน สูตรพิเศษ) -Fat Burner (เผาผลาญไขมัน) -Relax & Stress Fighter (ลดความ #เครียดและผ่อนคลาย) -Sleep Better (นอนหลับดีขึ้น) -Mega Set Brain & Face Skin Rejuvenation (ชุดฟื้นฟูสมองและผิวหน้า) - ฟื้นฟูอาการ #เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (IV Drip) Course อย่าพลาด! มาใช้บริการที่ MW Wellness Clinic เพื่อสัมผัสประสบการณ์ฟื้นฟูสุขภาพที่แตกต่าง และปลดปล่อยความอ่อนเยาว์ในตัวคุณ 🔍 สอบถามรายละเอียด 🔍 ☎️ 096-081-2533 หรือ 02-276-5093-4 📱LINE : @mw-wellness ⚡️Tiktok : @mwwellness 🖥 Website : MW Wellness #VitaminDrip #Detox #Rejuvenation #ImmuneBooster #AuraWhite #SmoothSkin #Health #Wellness #MWWellness #IVTherapy #AntiAging #MWWellnessClinic #Naleen #WellnessClinic #ชะลอวัย #officesyndrome #เสื่อมสมรรถภาพ #ฟื้นฟูไต #ฟื้นฟูตับ #ฟื้นฟูหัวใจ #ลดน้ำหนัก #เสริมภูมิต้านทาน #แก้เครียด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 296 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🥕 Carrot seed Essential oil
    มีสรรพคุณหลากหลาย อาทิเช่น..
    • ช่วยให้ผิวดูอ่อนวัย ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการเจริญเติบโตเซลล์ผิว
    • ช่วยป้องกันผมหงอก
    • ช่วยลดการอักเสบของผื่นคัน
    • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
    • ช่วยในการขับก๊าซในร่างกาย
    และอีกมากมาย

    ... น้ำมันหอมระเหยของร้าน Telvada เป็นน้ำมันเกรดบำบัด ออแกนิค 100 %...

    #telvada #essentialoils #everydayuse #น้ำมันหอมระเหย #สังคมต้องรู้ #tiktokuni #tiktokuni_th #aromatherapy #รู้หรือไม่ #tiktokแนะแนว #fyp #viral #tiktokthailand #foryourpage #fypシ#thaitimes
    🥕 Carrot seed Essential oil มีสรรพคุณหลากหลาย อาทิเช่น.. • ช่วยให้ผิวดูอ่อนวัย ต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการเจริญเติบโตเซลล์ผิว • ช่วยป้องกันผมหงอก • ช่วยลดการอักเสบของผื่นคัน • ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด • ช่วยในการขับก๊าซในร่างกาย และอีกมากมาย ... น้ำมันหอมระเหยของร้าน Telvada เป็นน้ำมันเกรดบำบัด ออแกนิค 100 %... #telvada #essentialoils #everydayuse #น้ำมันหอมระเหย #สังคมต้องรู้ #tiktokuni #tiktokuni_th #aromatherapy #รู้หรือไม่ #tiktokแนะแนว #fyp #viral #tiktokthailand #foryourpage #fypシ゚ #thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 841 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts