• อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ไวพจน์อริยอัฏฐังคิกมัคคอธิวจนะ(ไวพจน์แห่งอัฏฐังคิกมรรค)
    สัทธรรมลำดับที่ : 966
    ชื่อบทธรรม :- ไวพจน์อริยอัฏฐังคิกมัคคอธิวจนะ(ไวพจน์แห่งอัฏฐังคิกมรรค)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=966
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --นิเทศ ๒๒ ว่าด้วย ข้อความสรุปเรื่องมรรค--(มี ๗๕ เรื่อง)
    --หมวด ก. ว่าด้วย ไวพจน์อริยอัฏฐังคิกมัคคอธิวจนะ(ไวพจน์แห่งอัฏฐังคิกมรรค)
    --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงซึ่ง สามัญญะ
    http://etipitaka.com/read/pali/19/30/?keywords=สามญฺญ
    --ภิกษุ ท. ! สามัญญะ นั้นเป็นอย่างไรเล่า ?
    สามัญญะนั้นคือ อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้ นั่นเอง ได้แก่
    สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.
    ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า สามัญญะ.-

    [
    --ในสูตรอื่น (๑๙/๓๐/๑๐๕) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า พรหมัญญะ(ความเป็นพรหม).
    http://etipitaka.com/read/pali/19/31/?keywords=พฺรหฺมญฺญํ
    http://etipitaka.com/read/pali/19/30/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%95

    --ในสูตรอื่น (๑๙/๓๑/๑๑๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า พรหมจริยะ(พรหมจรรย์ และผลแห่งพรหมจรรย์).
    http://etipitaka.com/read/pali/19/31/?keywords=พฺรหฺมจริยํ
    http://etipitaka.com/read/pali/19/31/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%91

    --ในสูตรอื่น (๑๙/๒๒/๖๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #สัมมัตตะ(โดยชอบธรรม)​.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/22/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%91

    --ในสูตรอื่น (๑๙/๒๒/๖๔) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #กุสลธัมม(กุศลธรรม).
    http://etipitaka.com/read/pali/19/22/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%94

    --ในสูตรอื่น (๑๙/๒๓/๖๗) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สัมมาปฏิปทา(การปฏิบัติอันถูกต้อง)​.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/22/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%97

    --ในสูตรอื่น (๑๙/๒๘/๙๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #สัมมาปฏิปัตติ(ข้อปฏิบัติอันถูกต้อง)​.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/28/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91

    --ในสูตรอื่น (๑๙/๕๒๘/๑๖๖๔) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #มัชฌิมาปฏิปทา(ข้อปฏิบัติอันเป็นสายกลาง)​.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/528/?keywords=มชฺฌิมา+ปฏิปทา
    http://etipitaka.com/read/pali/19/528/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%96%E0%B9%94

    --ในสูตรอื่น (๑๔/๕๒๔/๘๒๙) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #สมถะและวิปัสสนา(สมถะและวิปัสสนาคู่เคียงกันเป็นไป).
    http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%99
    ].

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/24/99 - 100.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/24/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๐/๙๙ - ๑๐๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/30/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%99
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=966
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=966
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82
    ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ไวพจน์อริยอัฏฐังคิกมัคคอธิวจนะ(ไวพจน์แห่งอัฏฐังคิกมรรค) สัทธรรมลำดับที่ : 966 ชื่อบทธรรม :- ไวพจน์อริยอัฏฐังคิกมัคคอธิวจนะ(ไวพจน์แห่งอัฏฐังคิกมรรค) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=966 เนื้อความทั้งหมด :- --นิเทศ ๒๒ ว่าด้วย ข้อความสรุปเรื่องมรรค--(มี ๗๕ เรื่อง) --หมวด ก. ว่าด้วย ไวพจน์อริยอัฏฐังคิกมัคคอธิวจนะ(ไวพจน์แห่งอัฏฐังคิกมรรค) --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงซึ่ง สามัญญะ http://etipitaka.com/read/pali/19/30/?keywords=สามญฺญ --ภิกษุ ท. ! สามัญญะ นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? สามัญญะนั้นคือ อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้ นั่นเอง ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า สามัญญะ.- [ --ในสูตรอื่น (๑๙/๓๐/๑๐๕) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า พรหมัญญะ(ความเป็นพรหม). http://etipitaka.com/read/pali/19/31/?keywords=พฺรหฺมญฺญํ http://etipitaka.com/read/pali/19/30/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%95 --ในสูตรอื่น (๑๙/๓๑/๑๑๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า พรหมจริยะ(พรหมจรรย์ และผลแห่งพรหมจรรย์). http://etipitaka.com/read/pali/19/31/?keywords=พฺรหฺมจริยํ http://etipitaka.com/read/pali/19/31/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%91 --ในสูตรอื่น (๑๙/๒๒/๖๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #สัมมัตตะ(โดยชอบธรรม)​. http://etipitaka.com/read/pali/19/22/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%91 --ในสูตรอื่น (๑๙/๒๒/๖๔) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #กุสลธัมม(กุศลธรรม). http://etipitaka.com/read/pali/19/22/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%94 --ในสูตรอื่น (๑๙/๒๓/๖๗) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า สัมมาปฏิปทา(การปฏิบัติอันถูกต้อง)​. http://etipitaka.com/read/pali/19/22/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%97 --ในสูตรอื่น (๑๙/๒๘/๙๑) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #สัมมาปฏิปัตติ(ข้อปฏิบัติอันถูกต้อง)​. http://etipitaka.com/read/pali/19/28/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91 --ในสูตรอื่น (๑๙/๕๒๘/๑๖๖๔) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #มัชฌิมาปฏิปทา(ข้อปฏิบัติอันเป็นสายกลาง)​. http://etipitaka.com/read/pali/19/528/?keywords=มชฺฌิมา+ปฏิปทา http://etipitaka.com/read/pali/19/528/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%96%E0%B9%94 --ในสูตรอื่น (๑๔/๕๒๔/๘๒๙) ตรัสเรียกอัฏฐังคิกมรรคว่า #สมถะและวิปัสสนา(สมถะและวิปัสสนาคู่เคียงกันเป็นไป). http://etipitaka.com/read/pali/14/524/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%92%E0%B9%99 ]. #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/24/99 - 100. http://etipitaka.com/read/thai/19/24/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๓๐/๙๙ - ๑๐๐. http://etipitaka.com/read/pali/19/30/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%99 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=966 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=966 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82 ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - นิทเทศ ๒๑
    -นิทเทศ ๒๑ ว่าด้วย สัมมาสมาธิ จบ นิเทศ ๒๒ ว่าด้วย ข้อความสรุปเรื่องมรรค (มี ๗๕ เรื่อง) หมวด ก. ว่าด้วย ไวพจน์ อริยอัฏฐังคิกมัคคอธิวจนะ (ไวพจน์แห่งอัฏฐังคิกมรรค) ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงซึ่ง สามัญญะ .... ภิกษุ ท. ! สามัญญะ นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? สามัญญะนั้นคือ อริยอัฏฐังคิกมรรคนี้ นั่นเอง ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! นี้ เราเรียกว่า สามัญญะ.
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาสมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง)
    อ่อนในหมู่สมณะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 598
    ชื่อบทธรรม :- สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=598
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง)
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลสี่ประเภทนี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่ประเภทเหล่าไหนเล่า ?
    สี่ประเภทคือ สมณมจละ(ผู้ไม่หวั่นไหว)​ สมณปุณฑรีกะ สมณปทุมะ สมณสุขุมาล(ผู้ละเอียด)​ในหมู่สมณะ.
    --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณอจละ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้คือ เป็นเสขะ
    กำลังปฏิบัติอยู่ ปรารถนาอยู่ซึ่งธรรมอันเกษมจากโยคะ อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อยู่.
    เปรียบเหมือนโอรสองค์ใหญ่ของราชาผู้เป็นกษัตริย์มุรธาภิเษก เป็นผู้ควรแก่การอภิเษก
    แต่ยังมิได้รับการอภิเษก ดำรงอยู่ในตำแหน่งยุพราช ฉันใด ;
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นเสขะ กำลังปฏิบัติอยู่ ปรารถนาอยู่ซึ่งธรรมอันเกษมจากโยคะ
    อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อยู่ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน.
    +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล #บุคคลสมณมจละ.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/113/?keywords=สมณมจโล

    --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปุณฑรีกะ ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
    เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่ ;
    แต่เธอหาได้ถูกต้องซึ่งวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่ไม่.
    +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคลสมณปุณฑรีกะ.

    --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปทุมะ ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
    เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่ ;
    และเธอถูกต้องวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคลสมณปทุมะ.

    --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ?
    ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ บริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชชบริกขาร
    ส่วนมากเพราะเขาอ้อนวอน....

    (ข้อความต่อไป อย่างเดียวกันกับข้อความในกรณีแห่ง
    บุคคสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ สัทธรรมลำดับที่ 597 )

    +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ
    ก็พึงกล่าวเรานี้แหละว่า เป็นสมณสุขุมาลในหมู่สมณะทั้งหลาย
    http://etipitaka.com/read/pali/21/116/?keywords=สมณสุขุมาโล
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล บุคคลสี่ประเภท มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก,
    ดังนี้ แล.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/87/87.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/87/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๑๓/๘๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/113/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%97
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=598
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41&id=598
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41
    ลำดับสาธยายธรรม : 41 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_41.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาสมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง) อ่อนในหมู่สมณะ สัทธรรมลำดับที่ : 598 ชื่อบทธรรม :- สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=598 เนื้อความทั้งหมด :- --สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง) --ภิกษุ ท. ! บุคคลสี่ประเภทนี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่ประเภทเหล่าไหนเล่า ? สี่ประเภทคือ สมณมจละ(ผู้ไม่หวั่นไหว)​ สมณปุณฑรีกะ สมณปทุมะ สมณสุขุมาล(ผู้ละเอียด)​ในหมู่สมณะ. --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณอจละ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้คือ เป็นเสขะ กำลังปฏิบัติอยู่ ปรารถนาอยู่ซึ่งธรรมอันเกษมจากโยคะ อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อยู่. เปรียบเหมือนโอรสองค์ใหญ่ของราชาผู้เป็นกษัตริย์มุรธาภิเษก เป็นผู้ควรแก่การอภิเษก แต่ยังมิได้รับการอภิเษก ดำรงอยู่ในตำแหน่งยุพราช ฉันใด ; +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นเสขะ กำลังปฏิบัติอยู่ ปรารถนาอยู่ซึ่งธรรมอันเกษมจากโยคะ อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อยู่ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน. +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล #บุคคลสมณมจละ. http://etipitaka.com/read/pali/21/113/?keywords=สมณมจโล --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปุณฑรีกะ ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่ ; แต่เธอหาได้ถูกต้องซึ่งวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่ไม่. +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคลสมณปุณฑรีกะ. --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปทุมะ ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่ ; และเธอถูกต้องวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่. +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคลสมณปทุมะ. --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ บริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชชบริกขาร ส่วนมากเพราะเขาอ้อนวอน.... (ข้อความต่อไป อย่างเดียวกันกับข้อความในกรณีแห่ง บุคคสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ สัทธรรมลำดับที่ 597 ) +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ก็พึงกล่าวเรานี้แหละว่า เป็นสมณสุขุมาลในหมู่สมณะทั้งหลาย http://etipitaka.com/read/pali/21/116/?keywords=สมณสุขุมาโล ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล บุคคลสี่ประเภท มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก, ดังนี้ แล.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/87/87. http://etipitaka.com/read/thai/21/87/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๑๓/๘๗. http://etipitaka.com/read/pali/21/113/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=598 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41&id=598 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41 ลำดับสาธยายธรรม : 41 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_41.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง)
    -สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง) ภิกษุ ท. ! บุคคลสี่ประเภทนี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่ประเภทเหล่าไหนเล่า ? สี่ประเภทคือ สมณอจละ สมณปุณฑรีกะ สมณปทุมะ สมณสุขุมาลในหมู่สมณะ. ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณอจละ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้คือ เป็นเสขะ กำลังปฏิบัติอยู่ ปรารถนาอยู่ซึ่งธรรมอันเกษมจากโยคะ อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อยู่. เปรียบเหมือนโอรสองค์ใหญ่ของราชาผู้เป็นกษัตริย์มุรธาภิเษก เป็นผู้ควรแก่การอภิเษก แต่ยังมิได้รับการอภิเษก ดำรงอยู่ในตำแหน่งยุพราช ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นเสขะ กำลังปฏิบัติอยู่ ปรารถนาอยู่ซึ่งธรรมอันเกษมจากโยคะ อันไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า อยู่ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล บุคคลสมณอจละ. ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปุณฑรีกะ ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่ ; แต่เธอหาได้ถูกต้องซึ่งวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่ไม่. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุคคลสมณปุณฑรีกะ. ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปทุมะ ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่ ; และเธอถูกต้องวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุคคลสมณปทุมะ. ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ บริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชชบริกขาร ส่วนมากเพราะเขาอ้อนวอน....(ข้อความต่อไป อย่างเดียวกันกับข้อความ ในกรณีแห่งบุคคสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ แห่งหัวข้อที่แล้วมา) .... ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุคคสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ .... ก็พึงกล่าวเรานี้แหละว่า เป็นสมณสุขุมาลในหมู่สมณะทั้งหลาย ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล บุคคลสี่ประเภท มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก, ดังนี้ แล.
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • จาก “ทุกวัน” กลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก: ความสัมพันธ์ที่จบลงโดยไม่มีคำลา 💔 แม้ไม่มีใครพูดลา…แต่ใจเรารู้ดีว่า มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

    เมื่อความสัมพันธ์ค่อย ๆ เลือนหายไป โดยไม่มีคำลา บางครั้งเราไม่ได้หายไป... แค่เปลี่ยนไปตามธรรมชาติของชีวิต

    บางคนเคยอยู่ในทุกวันของเรา แต่ตอนนี้กลายเป็นเพียงความทรงจำเงียบ ๆ ในใจ สำรวจความสัมพันธ์ที่จบลง โดยไม่มีคำลา... และทำไมมันถึงเจ็บกว่าที่คิด

    ความเงียบที่ดังที่สุด คือการหายไปของใครบางคน... ในทุกปี... เราอาจได้เจอใครบางคน ที่กลายมาเป็น "คนสำคัญ" ในชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน... เราก็อาจเสียใครบางคนไป ไม่ใช่ด้วยการทะเลาะ ไม่ใช่ด้วยความผิดพลาด แต่เป็นการ “ค่อย ๆ หายไป” แบบไม่มีแม้แต่คำลา 🕊️

    เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก แต่คือทุกความสัมพันธ์ในชีวิต เพื่อนสนิท ครอบครัว คนเคยใกล้ชิด หรือแม้แต่คนที่เคยอยู่ในทุกช่วงเวลาสำคัญ...

    วันนี้ เราจะมาคุยกันถึง "การจากลาในความเงียบ" ทำไมมันถึงเกิดขึ้น และเราจะเข้าใจมันได้อย่างไร?

    🌒 ความเงียบไม่ใช่จุดจบ แต่คือสัญญาณของความเปลี่ยนแปลง ในหลายความสัมพันธ์ จุดจบไม่ได้มาพร้อมคำพูด
    ไม่มีคำบอกลาชัดเจน ไม่มีน้ำตา ไม่มีการโต้แย้ง แต่กลับเป็นเพียง “การเงียบ” ที่ค่อย ๆ สร้างระยะห่าง

    📱 ข้อความที่ค่อย ๆ หายไป บทสนทนาที่สั้นลง และหัวใจที่ไม่เต้นพร้อมกันอีกต่อไป

    บางครั้ง... เราเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มันเริ่มห่างกันตั้งแต่เมื่อไร แต่รู้ตัวอีกที เขาหรือเธอก็กลายเป็น “คนเคยรู้จัก” ไปแล้ว...

    ทำไมเราถึงหายไปจากกัน…แม้ไม่ได้ตั้งใจ?

    เราทุกคนมีชีวิตที่ยุ่งขึ้นทุกวัน ชีวิตผู้ใหญ่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ งาน การเงิน สุขภาพ ครอบครัว ความฝัน ทั้งหมดนี้ดึงพลังใจของเรา ไปจากความสัมพันธ์เดิม ๆ จนบางครั้ง... เรา “ลืม” ว่าเคยมีใครอีกคนรอคุยกับเราอยู่

    🌀 มันไม่ได้เกิดจากการเบื่อกัน แต่เกิดจาก “ชีวิตที่พาให้เราหายไป”

    ความเหนื่อยล้าในใจที่บอกไม่ออก บางคนไม่ได้อยากหายไป แต่แค่ "เหนื่อยเกินไป" ที่จะเป็นคนเดิม เหนื่อยที่จะยิ้ม เหนื่อยที่จะคุย เหนื่อยที่จะพยายามรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้

    และเมื่อเราปล่อยให้ความเงียบเกิดขึ้น... มันก็กลายเป็น “กำแพง” ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ 🧱

    เราเติบโตในเส้นทางที่ต่างกัน การเติบโตทำให้มุมมองเปลี่ยน ความฝันเปลี่ยน สิ่งที่เคยชอบเหมือนกัน กลับไม่ตรงกันอีกต่อไป แม้จะไม่มีใครผิด… แต่เมื่อเราเดินไปคนละเส้นทาง "ระยะห่าง" ก็เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ 🚶‍♂️🚶‍♀️

    ความสัมพันธ์ที่จางหายไป… ไม่ได้หมายความว่าไร้ค่า ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ในชีวิตกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “วันเวลาที่เคยมีร่วมกัน” ไร้ความหมาย

    ❤️ ความทรงจำดี ๆ ยังคงอยู่ในใจ

    🌿 ความห่วงใยยังแทรกอยู่ในความเงียบ

    💬 บางบทสนทนายังคงอยู่ในความคิดเสมอ

    และบางครั้ง... เพียงแค่ได้คิดถึงใครคนนั้น ในความทรงจำ ก็เพียงพอแล้ว... ที่จะทำให้ใจอบอุ่นขึ้นในวันเหงา ๆ

    บางคนเคยเป็น "ทุกวัน" ของเรา… แต่กลายเป็นเพียงคนในความทรงจำ ลองย้อนกลับไปนึกถึงใครบางคนที่...

    📌 เคยโทรหากันทุกคืน
    📌 เคยเล่าเรื่องให้ฟังทุกเช้า
    📌 เคยไปทุกที่ด้วยกัน
    📌 เคยรู้ใจโดยไม่ต้องพูดอะไร

    แล้ววันนี้... เราอาจจะไม่ได้คุยกันเลย ไม่ได้พบกันอีกเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่คือ... ความทรงจำ

    “ไม่มีใครผิดที่เปลี่ยนไป” ประโยคที่เข้าใจได้ เมื่อเรารักตัวเองมากพอ การเติบโตคือการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลง คือสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้

    👤 คนบางคนสอนให้เรารู้จักรัก
    👤 บางคนสอนให้เรารู้จักเจ็บ
    👤 และบางคน… สอนให้เรารู้จักปล่อยวาง

    ถึงสุดท้ายเราจะไม่ได้อยู่ในชีวิตกันอีก แต่เรายังอยู่ใน "บทเรียนชีวิต" ของกันและกันเสมอ

    แล้วเราจะเยียวยาหัวใจ หลังความสัมพันธ์ที่จบลงในความเงียบ ได้อย่างไร?

    ยอมรับว่าความเปลี่ยนแปลง คือเรื่องธรรมดา การหายไปไม่ได้แปลว่าใครไม่รัก แต่เป็นเพราะเส้นทางของเรา มาถึงจุดที่ต้องแยกกันเดิน

    ให้อภัยตัวเอง และให้อภัยอีกฝ่าย แม้จะไม่มีคำขอโทษ หรือคำอธิบาย แต่เราสามารถเลือก “ให้อภัยในใจ” เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากความเจ็บ

    เก็บความทรงจำดี ๆ ไว้… แต่ไม่ต้องยึดติด ความทรงจำดี ๆ ไม่ต้องลบทิ้ง แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้มัน มาฉุดรั้งเราไว้จากการเติบโต

    แม้จะจางหายไป…แต่ยังคงมีอยู่ในใจเสมอ 🕊️

    เราไม่สามารถห้ามใครหายไปจากชีวิตเราได้ และเราเองก็ไม่สามารถอยู่ในชีวิตทุกคน ได้ตลอดไป

    แต่สิ่งที่เราทำได้ คือการ...

    🫶 รักษาความทรงจำดี ๆ
    📌 เรียนรู้จากความสัมพันธ์ที่ผ่านมา
    🌱 และใช้มันเป็นพลังในการเติบโตต่อไป

    เพราะสุดท้าย... สิ่งสำคัญ ไม่ใช่การอยู่กับใครไปตลอดชีวิต แต่คือ ในวันที่ยังอยู่ด้วยกัน เราได้สร้างความทรงจำ ที่งดงามพอหรือยัง? 💫

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 192315 เม.ย. 2568

    📱 #ความสัมพันธ์ #คนเคยรู้จัก #จากลาที่ไม่มีคำลา #คิดถึงเสมอ #คนในความทรงจำ
    #เติบโตด้วยกัน #บทเรียนชีวิต #ความเงียบที่เจ็บปวด #ความเปลี่ยนแปลง #รักในความทรงจำ
    จาก “ทุกวัน” กลายเป็นแค่คนเคยรู้จัก: ความสัมพันธ์ที่จบลงโดยไม่มีคำลา 💔 แม้ไม่มีใครพูดลา…แต่ใจเรารู้ดีว่า มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เมื่อความสัมพันธ์ค่อย ๆ เลือนหายไป โดยไม่มีคำลา บางครั้งเราไม่ได้หายไป... แค่เปลี่ยนไปตามธรรมชาติของชีวิต บางคนเคยอยู่ในทุกวันของเรา แต่ตอนนี้กลายเป็นเพียงความทรงจำเงียบ ๆ ในใจ สำรวจความสัมพันธ์ที่จบลง โดยไม่มีคำลา... และทำไมมันถึงเจ็บกว่าที่คิด ความเงียบที่ดังที่สุด คือการหายไปของใครบางคน... ในทุกปี... เราอาจได้เจอใครบางคน ที่กลายมาเป็น "คนสำคัญ" ในชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน... เราก็อาจเสียใครบางคนไป ไม่ใช่ด้วยการทะเลาะ ไม่ใช่ด้วยความผิดพลาด แต่เป็นการ “ค่อย ๆ หายไป” แบบไม่มีแม้แต่คำลา 🕊️ เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก แต่คือทุกความสัมพันธ์ในชีวิต เพื่อนสนิท ครอบครัว คนเคยใกล้ชิด หรือแม้แต่คนที่เคยอยู่ในทุกช่วงเวลาสำคัญ... วันนี้ เราจะมาคุยกันถึง "การจากลาในความเงียบ" ทำไมมันถึงเกิดขึ้น และเราจะเข้าใจมันได้อย่างไร? 🌒 ความเงียบไม่ใช่จุดจบ แต่คือสัญญาณของความเปลี่ยนแปลง ในหลายความสัมพันธ์ จุดจบไม่ได้มาพร้อมคำพูด ไม่มีคำบอกลาชัดเจน ไม่มีน้ำตา ไม่มีการโต้แย้ง แต่กลับเป็นเพียง “การเงียบ” ที่ค่อย ๆ สร้างระยะห่าง 📱 ข้อความที่ค่อย ๆ หายไป บทสนทนาที่สั้นลง และหัวใจที่ไม่เต้นพร้อมกันอีกต่อไป บางครั้ง... เราเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า มันเริ่มห่างกันตั้งแต่เมื่อไร แต่รู้ตัวอีกที เขาหรือเธอก็กลายเป็น “คนเคยรู้จัก” ไปแล้ว... ทำไมเราถึงหายไปจากกัน…แม้ไม่ได้ตั้งใจ? เราทุกคนมีชีวิตที่ยุ่งขึ้นทุกวัน ชีวิตผู้ใหญ่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบ งาน การเงิน สุขภาพ ครอบครัว ความฝัน ทั้งหมดนี้ดึงพลังใจของเรา ไปจากความสัมพันธ์เดิม ๆ จนบางครั้ง... เรา “ลืม” ว่าเคยมีใครอีกคนรอคุยกับเราอยู่ 🌀 มันไม่ได้เกิดจากการเบื่อกัน แต่เกิดจาก “ชีวิตที่พาให้เราหายไป” ความเหนื่อยล้าในใจที่บอกไม่ออก บางคนไม่ได้อยากหายไป แต่แค่ "เหนื่อยเกินไป" ที่จะเป็นคนเดิม เหนื่อยที่จะยิ้ม เหนื่อยที่จะคุย เหนื่อยที่จะพยายามรักษาความสัมพันธ์นั้นไว้ และเมื่อเราปล่อยให้ความเงียบเกิดขึ้น... มันก็กลายเป็น “กำแพง” ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ 🧱 เราเติบโตในเส้นทางที่ต่างกัน การเติบโตทำให้มุมมองเปลี่ยน ความฝันเปลี่ยน สิ่งที่เคยชอบเหมือนกัน กลับไม่ตรงกันอีกต่อไป แม้จะไม่มีใครผิด… แต่เมื่อเราเดินไปคนละเส้นทาง "ระยะห่าง" ก็เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ 🚶‍♂️🚶‍♀️ ความสัมพันธ์ที่จางหายไป… ไม่ได้หมายความว่าไร้ค่า ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ในชีวิตกันแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า “วันเวลาที่เคยมีร่วมกัน” ไร้ความหมาย ❤️ ความทรงจำดี ๆ ยังคงอยู่ในใจ 🌿 ความห่วงใยยังแทรกอยู่ในความเงียบ 💬 บางบทสนทนายังคงอยู่ในความคิดเสมอ และบางครั้ง... เพียงแค่ได้คิดถึงใครคนนั้น ในความทรงจำ ก็เพียงพอแล้ว... ที่จะทำให้ใจอบอุ่นขึ้นในวันเหงา ๆ บางคนเคยเป็น "ทุกวัน" ของเรา… แต่กลายเป็นเพียงคนในความทรงจำ ลองย้อนกลับไปนึกถึงใครบางคนที่... 📌 เคยโทรหากันทุกคืน 📌 เคยเล่าเรื่องให้ฟังทุกเช้า 📌 เคยไปทุกที่ด้วยกัน 📌 เคยรู้ใจโดยไม่ต้องพูดอะไร แล้ววันนี้... เราอาจจะไม่ได้คุยกันเลย ไม่ได้พบกันอีกเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ยังอยู่คือ... ความทรงจำ “ไม่มีใครผิดที่เปลี่ยนไป” ประโยคที่เข้าใจได้ เมื่อเรารักตัวเองมากพอ การเติบโตคือการเปลี่ยนแปลง และการเปลี่ยนแปลง คือสิ่งที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ 👤 คนบางคนสอนให้เรารู้จักรัก 👤 บางคนสอนให้เรารู้จักเจ็บ 👤 และบางคน… สอนให้เรารู้จักปล่อยวาง ถึงสุดท้ายเราจะไม่ได้อยู่ในชีวิตกันอีก แต่เรายังอยู่ใน "บทเรียนชีวิต" ของกันและกันเสมอ แล้วเราจะเยียวยาหัวใจ หลังความสัมพันธ์ที่จบลงในความเงียบ ได้อย่างไร? ยอมรับว่าความเปลี่ยนแปลง คือเรื่องธรรมดา การหายไปไม่ได้แปลว่าใครไม่รัก แต่เป็นเพราะเส้นทางของเรา มาถึงจุดที่ต้องแยกกันเดิน ให้อภัยตัวเอง และให้อภัยอีกฝ่าย แม้จะไม่มีคำขอโทษ หรือคำอธิบาย แต่เราสามารถเลือก “ให้อภัยในใจ” เพื่อปลดปล่อยตัวเองจากความเจ็บ เก็บความทรงจำดี ๆ ไว้… แต่ไม่ต้องยึดติด ความทรงจำดี ๆ ไม่ต้องลบทิ้ง แต่เราไม่จำเป็นต้องใช้มัน มาฉุดรั้งเราไว้จากการเติบโต แม้จะจางหายไป…แต่ยังคงมีอยู่ในใจเสมอ 🕊️ เราไม่สามารถห้ามใครหายไปจากชีวิตเราได้ และเราเองก็ไม่สามารถอยู่ในชีวิตทุกคน ได้ตลอดไป แต่สิ่งที่เราทำได้ คือการ... 🫶 รักษาความทรงจำดี ๆ 📌 เรียนรู้จากความสัมพันธ์ที่ผ่านมา 🌱 และใช้มันเป็นพลังในการเติบโตต่อไป เพราะสุดท้าย... สิ่งสำคัญ ไม่ใช่การอยู่กับใครไปตลอดชีวิต แต่คือ ในวันที่ยังอยู่ด้วยกัน เราได้สร้างความทรงจำ ที่งดงามพอหรือยัง? 💫 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 192315 เม.ย. 2568 📱 #ความสัมพันธ์ #คนเคยรู้จัก #จากลาที่ไม่มีคำลา #คิดถึงเสมอ #คนในความทรงจำ #เติบโตด้วยกัน #บทเรียนชีวิต #ความเงียบที่เจ็บปวด #ความเปลี่ยนแปลง #รักในความทรงจำ
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • ..วิถีปกครองที่เราทำล้มเหลวเอง,วิถีปกครองที่เสียอธิปไตยชัดเจนที่มาในรูปแบบการลงทุน&ย้ายฐานการผลิต,หากเปรียบกลศึกสงคราม แม่ทัพเราเองขายทัพ&ทรยศบ้านเมืองเอง,ทัพศัตรูตีชิงเมืองแต่ละเมืองก่อนให้ไ้ก็เปรียบทัพย้ายฐานการผลิตนี้ล่ะ,เราคือผู้ปกครองที่ชั่วเขลาเองไปช่วยศัตรูข้าศึกสร้างฐานทัพในบ้านในเมืองตนหรือเชิญข้าศึกมาตั้งค่ายตีเอาเมืองตนเอง,ปัจจุบันใช้มุกเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ล่ะ เคสโยนหินถามทางคือเขตEECนี้ล่ะ,อ้างว่าชาติจะได้ประโยชน์บังหน้า แต่ผลกระทบนั้นคืออธิปไตยความมั่นคงมากมายในนัยยะหลากหลายที่สูญเสียไป,บวกฝีมือไม่ถึงกากอีกในการจัดการแก้ไขปัญหา,โดยเฉพาะความไม่ซื่อสัตย์ในคนราชการของเขตพื้นที่นั้น,และสถานะคนไทยมากมายที่ถูกแย่งชิงไป,ไม่ว่าจะต่างชาติใดๆล้วนไม่ดีที่สุดเท่าคนไทยเราเอง,ซึ่งจัดการได้แบบไทยๆไม่ยากและจบอย่างดีงามด้วย,แต่ต่างชาติจะจีนจะพวกรอบบ้านจะแขกจะฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆ อดีตคือบทเรียนมากมายแล้ว,การสร้างชาติให้อิสระเสรีดีงามเจริญแข็งแกร่งสงบสุขจริงมิใช่คนบ้านอื่นเมืองอื่นมาอยู่แทนมาสร้างแทนให้ดีได้นะ,จีนก็จริตปลูกฝังสั่งสอนแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ ยิ่งคนเขามากมาย คนมันไร้ค่าล่ะในสายตาเขา ฝรั่งก็ด้วยแบบที่ๆปล้นชิงอะไรๆเราไปมากมาย,ทั้งหมดคือวิถีสไตล์ปกครองเราที่กากๆนี้ล่ะ ผู้นำผู้มีอำนาจผู้ปกครองเราคือตัวปัญหาของการปกครอง ต่างชาติจึงเหยียบย่ำยีเราได้.
    ..การผลักดันฐานผลิตโรงงานต่างๆจึงสำคัญ เราไม่มีความจำเป็นอะไรมากมายเลยต้องมีโรงงานบนแผ่นดินไทยมากๆ เพราะพวกนายทุนทั้งนั้นได้ประโยชน์ได้ตังกำไรมหาศาลฝ่ายเดียว,เราเปิดเสรีนำเข้าก็ช่วยเรื่องราคาสินค้าไม่แพงได้แล้ว ที่เหลือตรวจสอบคุณภาพสินค้าว่าผ่านไม่ผ่าน มีสารพิษหรือไม่มีสารพิษ ข้าราชการไทยต้องตรวจสอบอย่างซื่อสัตย์คือจบต้นเรื่อง,น้ำมันนำเข้าเสรีดูสิ ราคาลดลงทันที,บ่อน้ำมันในไทยไม่ต้องขุดก็ได้,ตั้งปั้มน้ำมันต่างชาติที่น้ำเข้าเสรีได้มาตราฐานสากลการใช้ทั่วไปกลางๆคนทั่วโลกมาเปิดปั้มขายน้ำมันแข่งราคากันถูกๆเลยล่ะ ใครฮั่วขับออกจากประเทศ ไม่มีเพดานราคาน้ำมัน ใครขายถูกขายแพงตามสบาย,แต่อยู่ในสายตาพิจารณาจากคนปกครองเรา,แพงเกินก็ปิดปรับปรุงชั่วคราวพักงานสัก3-6เดือนก็ว่า,ต่างพากันขายไม่แพง อาจเทียบกับขายในอิหร่านลิตรละ1-2บาทกันเลยล่ะ,ชาติอื่นๆบริหารแบบไหนไม่สน,ชาติไทยต้นทุนเราถูกจบดีก็พอ,
    ..โรงงานมากมาย เขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นนี้มากมายบนฐานการแย่งชิงพื้นที่แผ่นดินไทยที่มีอยู่จำกัดมันไม่ดีหรอก,แย่งชิงทำลายระบบธรรมชาตินิเวศน์อีก คลองห้วยหนองแม่น้ำมีสารพิษจากโรงงาน ดูดน้ำชาวบ้านไปตอบสนองสายการผลิตตน,ดูดอากาศ&ปล่อยอากาศแก๊สพิษบวกสารพิษนำเข้ามากมาย กากขยะโรงงานอีก,นี้คือภัยนัยยะมากมาย,ประเทศใดโรงงานมาก แสดงว่าประเทศนั้นกากมากๆมิว่า ขี้ข้าทุนเสือกไม่รู้ตัว,อุตสาหกรรมคือการขับเคลื่อนประเทศใคร ขับเคลื่อนประเทศแม่มันสิไม่ว่า,เขาฉลาดล้างสมองควายวัวจึงมาสร้างเขาในชาติตน แล้วส่งออกเงินมหาศาลกลับชาติแม่มันโน้น เหลือไว้แค่ขยะสารพิษ เศษซากเนื้อติดกระดูกแบบวลีอ้างว่าคนไทยจะได้ใช้ของถูกราคาไม่แพงมีคุณภาพนะ เขาไม่โง่ เขามาอ้างชื่อประเทศไทยส่งสินค้าออกไปเอากำไรรายได้,
    ..เรามีผู้ปกครองที่โง่และเห็นแก่ตัว ร่ำรวยมั่งคั่งแก่คัวแก่โคตรเหง้าเชื้อสายมันมากนานพอแล้วหรือยัง,ล้ำๆผีบ้าแบบไหน,แต่คนไทยยากจนมากมายเพิ่มขึ้น ตัวบอกชัดคือบัตรคนจนไง.ลงทะเบียนเพิ่มตรึม.

    https://youtube.com/watch?v=UWyKGTPyS5o&si=5sUC7z4lJDe8mQLi
    ..วิถีปกครองที่เราทำล้มเหลวเอง,วิถีปกครองที่เสียอธิปไตยชัดเจนที่มาในรูปแบบการลงทุน&ย้ายฐานการผลิต,หากเปรียบกลศึกสงคราม แม่ทัพเราเองขายทัพ&ทรยศบ้านเมืองเอง,ทัพศัตรูตีชิงเมืองแต่ละเมืองก่อนให้ไ้ก็เปรียบทัพย้ายฐานการผลิตนี้ล่ะ,เราคือผู้ปกครองที่ชั่วเขลาเองไปช่วยศัตรูข้าศึกสร้างฐานทัพในบ้านในเมืองตนหรือเชิญข้าศึกมาตั้งค่ายตีเอาเมืองตนเอง,ปัจจุบันใช้มุกเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ล่ะ เคสโยนหินถามทางคือเขตEECนี้ล่ะ,อ้างว่าชาติจะได้ประโยชน์บังหน้า แต่ผลกระทบนั้นคืออธิปไตยความมั่นคงมากมายในนัยยะหลากหลายที่สูญเสียไป,บวกฝีมือไม่ถึงกากอีกในการจัดการแก้ไขปัญหา,โดยเฉพาะความไม่ซื่อสัตย์ในคนราชการของเขตพื้นที่นั้น,และสถานะคนไทยมากมายที่ถูกแย่งชิงไป,ไม่ว่าจะต่างชาติใดๆล้วนไม่ดีที่สุดเท่าคนไทยเราเอง,ซึ่งจัดการได้แบบไทยๆไม่ยากและจบอย่างดีงามด้วย,แต่ต่างชาติจะจีนจะพวกรอบบ้านจะแขกจะฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆ อดีตคือบทเรียนมากมายแล้ว,การสร้างชาติให้อิสระเสรีดีงามเจริญแข็งแกร่งสงบสุขจริงมิใช่คนบ้านอื่นเมืองอื่นมาอยู่แทนมาสร้างแทนให้ดีได้นะ,จีนก็จริตปลูกฝังสั่งสอนแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ ยิ่งคนเขามากมาย คนมันไร้ค่าล่ะในสายตาเขา ฝรั่งก็ด้วยแบบที่ๆปล้นชิงอะไรๆเราไปมากมาย,ทั้งหมดคือวิถีสไตล์ปกครองเราที่กากๆนี้ล่ะ ผู้นำผู้มีอำนาจผู้ปกครองเราคือตัวปัญหาของการปกครอง ต่างชาติจึงเหยียบย่ำยีเราได้. ..การผลักดันฐานผลิตโรงงานต่างๆจึงสำคัญ เราไม่มีความจำเป็นอะไรมากมายเลยต้องมีโรงงานบนแผ่นดินไทยมากๆ เพราะพวกนายทุนทั้งนั้นได้ประโยชน์ได้ตังกำไรมหาศาลฝ่ายเดียว,เราเปิดเสรีนำเข้าก็ช่วยเรื่องราคาสินค้าไม่แพงได้แล้ว ที่เหลือตรวจสอบคุณภาพสินค้าว่าผ่านไม่ผ่าน มีสารพิษหรือไม่มีสารพิษ ข้าราชการไทยต้องตรวจสอบอย่างซื่อสัตย์คือจบต้นเรื่อง,น้ำมันนำเข้าเสรีดูสิ ราคาลดลงทันที,บ่อน้ำมันในไทยไม่ต้องขุดก็ได้,ตั้งปั้มน้ำมันต่างชาติที่น้ำเข้าเสรีได้มาตราฐานสากลการใช้ทั่วไปกลางๆคนทั่วโลกมาเปิดปั้มขายน้ำมันแข่งราคากันถูกๆเลยล่ะ ใครฮั่วขับออกจากประเทศ ไม่มีเพดานราคาน้ำมัน ใครขายถูกขายแพงตามสบาย,แต่อยู่ในสายตาพิจารณาจากคนปกครองเรา,แพงเกินก็ปิดปรับปรุงชั่วคราวพักงานสัก3-6เดือนก็ว่า,ต่างพากันขายไม่แพง อาจเทียบกับขายในอิหร่านลิตรละ1-2บาทกันเลยล่ะ,ชาติอื่นๆบริหารแบบไหนไม่สน,ชาติไทยต้นทุนเราถูกจบดีก็พอ, ..โรงงานมากมาย เขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นนี้มากมายบนฐานการแย่งชิงพื้นที่แผ่นดินไทยที่มีอยู่จำกัดมันไม่ดีหรอก,แย่งชิงทำลายระบบธรรมชาตินิเวศน์อีก คลองห้วยหนองแม่น้ำมีสารพิษจากโรงงาน ดูดน้ำชาวบ้านไปตอบสนองสายการผลิตตน,ดูดอากาศ&ปล่อยอากาศแก๊สพิษบวกสารพิษนำเข้ามากมาย กากขยะโรงงานอีก,นี้คือภัยนัยยะมากมาย,ประเทศใดโรงงานมาก แสดงว่าประเทศนั้นกากมากๆมิว่า ขี้ข้าทุนเสือกไม่รู้ตัว,อุตสาหกรรมคือการขับเคลื่อนประเทศใคร ขับเคลื่อนประเทศแม่มันสิไม่ว่า,เขาฉลาดล้างสมองควายวัวจึงมาสร้างเขาในชาติตน แล้วส่งออกเงินมหาศาลกลับชาติแม่มันโน้น เหลือไว้แค่ขยะสารพิษ เศษซากเนื้อติดกระดูกแบบวลีอ้างว่าคนไทยจะได้ใช้ของถูกราคาไม่แพงมีคุณภาพนะ เขาไม่โง่ เขามาอ้างชื่อประเทศไทยส่งสินค้าออกไปเอากำไรรายได้, ..เรามีผู้ปกครองที่โง่และเห็นแก่ตัว ร่ำรวยมั่งคั่งแก่คัวแก่โคตรเหง้าเชื้อสายมันมากนานพอแล้วหรือยัง,ล้ำๆผีบ้าแบบไหน,แต่คนไทยยากจนมากมายเพิ่มขึ้น ตัวบอกชัดคือบัตรคนจนไง.ลงทะเบียนเพิ่มตรึม. https://youtube.com/watch?v=UWyKGTPyS5o&si=5sUC7z4lJDe8mQLi
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • 91 ปี “เนสซี” เผยโฉม 🐉 สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ ตำนานลวงโลก หรือปริศนาแห่งความจริง?

    จากภาพลวงตา สู่ปริศนาระดับโลก ✨ ตำนานแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ ที่แม้ถูกแฉว่า "หลอกลวง" แต่ก็ยังไม่มีใครหยุดตามหาได้

    ✨ ตำนานที่ยังมีชีวิต ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อ "เนสซี" 🐲 หรือ สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ (Loch Ness Monster) อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านสารคดี รายการทีวี หนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่การ์ตูน เนสซีได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความลึกลับ ที่ดึงดูดจินตนาการของคนทั่วโลก มานานกว่า 9 ทศวรรษ 🕰️

    ปีนี้ พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบ 91 ปี ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ชื่อของเนสซี กลายเป็นตำนานระดับโลก นั่นคือ ภาพถ่าย “Surgeon's Photograph” อันโด่งดังในปี 2477 ซึ่งกลายเป็น "หลักฐาน" แรก ที่ทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า สัตว์ประหลาดในทะเลสาบมีอยู่จริง...

    แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงบางอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏ จนกลายเป็นคำถามว่า… “เนสซี” มีอยู่จริง หรือเป็นแค่ เรื่องแต่ง?

    🐉 "เนสซี" หรือ Loch Ness Monster เป็นชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดลึกลับ ที่เชื่อกันว่า อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนสส์ (Loch Ness) ทางตอนเหนือของประเทศสก็อตแลนด์ ลักษณะที่ถูกบรรยายมักเป็นสัตว์คอยาว 🦕 ตัวใหญ่คล้ายไดโนเสาร์น้ำโบราณ

    จุดเริ่มต้นของตำนานนี้ มาจากเหตุการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2477 เมื่อ "โรเบิร์ต เคนเน็ธ วิลสัน" (Robert Kenneth Wilson) สูตินรีแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ถ่ายภาพที่ดูเหมือนหัว และคอของสัตว์ประหลาดโผล่พ้นผิวน้ำ ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกในชื่อว่า “Surgeon’s Photograph” 📸 และกลายเป็นไวรัลในยุคนั้น!

    ภาพนั้นคือสิ่งที่เปลี่ยน เรื่องเล่าในท้องถิ่น ให้กลายเป็นข่าวระดับโลกทันที แต่กว่า 60 ปี ต่อมา ความจริงก็ถูกเปิดเผย… 📜

    🕵️‍♂️ ภาพปลอมที่สร้างความเชื่อทั้งโลก ในปี 2541 ความจริงที่สะเทือนโลกก็เปิดเผยโดย "คริสเตียน สเปอร์ลิง" (Christian Spurling) หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับภาพถ่ายว่า แท้จริงแล้วภาพนั้นคือ “ของปลอม” ❌

    พวกเขาใช้หุ่นจำลอง ติดกับเรือดำน้ำของเล่น แล้วจัดฉากถ่ายภาพเพื่อหลอกผู้คน ซึ่งพวกเขาทำเพราะต้องการ “เอาคืน” สื่อที่เคยทำให้ญาติของเขาเสียชื่อเสียง

    แม้จะเป็นเรื่องโกหก... แต่กลับไม่มีใครหยุดตามหา "เนสซี" ได้เลย 🧭

    🔍 ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ยังคงมี “ความเชื่อ” จนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถหาหลักฐานชัดเจนว่า เนสซีมีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็น...

    🦴 โครงกระดูก

    🐋 ซากสัตว์

    📷 ภาพถ่าย หรือวิดีโอที่ชัด 100%

    🧬 DNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชนิดใหม่

    แต่ในทางกลับกัน “เนสซี” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล่านิทาน เพราะยังมี... 📚 หลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ทำให้คนยังเชื่อ

    ✅ รายงานการพบเห็นกว่า 1,100 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2476 จนถึงปัจจุบัน มีการบันทึกการพบเห็น "เนสซี" มากกว่า 1,159 ครั้ง และบางครั้งยังมีภาพถ่าย วิดีโอ หรือการจับสัญญาณแปลกๆ จากโซนาร์

    ✅ ภาพถ่ายและคลิปที่ยังอธิบายไม่ได้ แม้บางภาพจะไม่ชัดเจน หรือเป็นของปลอม แต่ก็มีหลายภาพ ที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ จนถึงปัจจุบัน

    ✅ โซนาร์จับวัตถุขนาดใหญ่ใต้น้ำ มีรายงานว่า โซนาร์ตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ ในทะเลสาบได้ โดยเฉพาะบริเวณจุดลึกกลางทะเลสาบ

    ✅ นักวิทยาศาสตร์บางส่วน “ไม่ปฏิเสธ” นักวิจัยบางคนยังเชื่อว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ที่กว้างและลึกแห่งนี้

    🔬 ทฤษฎีปลาไหลยักษ์ คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด? ในปี 2562 มีการศึกษาด้วยวิธี eDNA (Environmental DNA) จากทีมของ "ศาสตราจารย์ Neil Gemmell" ที่เก็บตัวอย่างน้ำกว่า 250 จุดในทะเลสาบล็อกเนสส์ เพื่อดูว่ามี DNA ของสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่บ้าง

    ผลลัพธ์คือ พบ DNA ของ ปลาไหลยุโรป (European Eel) จำนวนมาก แต่ไม่พบ DNA ของไดโนเสาร์ หรือสัตว์เลื้อยคลานโบราณ อีกทั้งยังไม่พบหลักฐาน ของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เช่น วาฬ

    📌 ความเป็นไปได้ ของทฤษฎีปลาไหลยักษ์คือ มีรูปร่างคล้ายที่พยานบรรยาย มีอยู่จริงในทะเลสาบ และมีพฤติกรรมว่ายน้ำลึกลับ

    📌 แต่ก็มีข้อโต้แย้งคือ ไม่เคยพบปลาไหลที่ยาวกว่า 2 เมตรจริงๆ ปลาไหลไม่ค่อยโผล่พ้นน้ำแบบสัตว์คอยาว หากมีปลาไหลยักษ์อยู่จริง ควรมีคนถ่ายภาพได้ชัดกว่านี้

    🌍 จุดที่พบเห็น "เนสซี" บ่อยที่สุด

    🏰 Urquhart Bay ใกล้ปราสาท Urquhart จุดชมวิวที่ได้รับรายงานพบเห็น มากที่สุดในประวัติศาสตร์

    ใกล้หมู่บ้าน Drumnadrochit มีพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre และมีผู้เชี่ยวชาญประจำ

    ใจกลางทะเลสาบ ลึกกว่า 200 เมตร โซนาร์ตรวจพบวัตถุลึกลับบ่อยครั้ง

    ริมทะเลสาบฝั่งเมือง Inverness มีถนน A82 เลียบทะเลสาบ ผ่านผู้คนมาก ทำให้มีรายงานมากในอดีต

    🧠 ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา? นักวิทยาศาสตร์หลายคนเสนอว่า เนสซีอาจเป็นผลของปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า Pareidolia คือ... “สมองของมนุษย์พยายามตีความภาพที่ไม่ชัดเจน ให้กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคย เช่น รูปสัตว์ หน้าคน หรือร่างลึกลับ” 👀 บวกกับความลึกลับ บรรยากาศหมอกปกคลุม และการคาดหวัง ก็ทำให้ผู้คน "เชื่อ" ได้ง่ายขึ้น

    📖 10 ข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่แค่ตำนาน
    1. ทะเลสาบล็อคเนสส์ยาว 37 กม. ลึกเกือบ 230 เมตร
    2. ภาพ "Surgeon's Photograph" ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม
    3. ตรวจพบ eDNA ของปลาไหลในปริมาณมาก
    4. ใช้โซนาร์ตรวจสอบหลายรอบ แต่ยังไม่พบสัตว์ประหลาด
    5. ล็อคเนสส์ไม่มีทางเชื่อมกับทะเล เปิดโอกาสการมีสัตว์ทะเลต่ำ
    6. รายงานพบเห็นเพิ่มขึ้น หลังมีถนนเลียบทะเลสาบ
    7. BBC เคยทำสารคดีพิสูจน์เรื่องนี้โดยตรง
    5. หลายกรณีพบว่าเป็นฟองอากาศ ท่อนไม้ หรือนกน้ำ
    9. การพบเห็นล่าสุดยังมีอยู่ทุกปี
    10. เนสซีเป็นตัวดึงดูดการท่องเที่ยวสำคัญ ของสก็อตแลนด์ 💰

    🎯 ตำนานอมตะที่ยังไม่มีบทจบ “เนสซี” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ที่ไม่เคยหยุดตามหาความจริง 🔍

    แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเนสซีมีอยู่จริง แต่ “ปริศนา” นี้ก็ยังไม่มีใครไขได้ทั้งหมด

    นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “เนสซี” ยังคง มีชีวิตในจินตนาการของผู้คน และอาจจะยังอยู่ในคลื่นลึก ของทะเลสาบล็อคเนสส์... หรือในหัวใจของคนที่อยากเชื่อว่า “สิ่งลึกลับ” ยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้ 🌍💙

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 191553 เม.ย. 2568

    📣 #Nessie #LochNessMonster #เนสซี #ตำนานเนสซี #สัตว์ประหลาดล็อคเนสส์
    #LochNess #MysteryOfNessie #ค้นหาความจริง #เนสซีมีอยู่จริงไหม #ภาพหลอนหรือตัวจริง
    91 ปี “เนสซี” เผยโฉม 🐉 สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ ตำนานลวงโลก หรือปริศนาแห่งความจริง? จากภาพลวงตา สู่ปริศนาระดับโลก ✨ ตำนานแห่งทะเลสาบล็อคเนสส์ ที่แม้ถูกแฉว่า "หลอกลวง" แต่ก็ยังไม่มีใครหยุดตามหาได้ ✨ ตำนานที่ยังมีชีวิต ทุกคนคงเคยได้ยินชื่อ "เนสซี" 🐲 หรือ สัตว์ประหลาดแห่งล็อคเนสส์ (Loch Ness Monster) อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ไม่ว่าจะผ่านสารคดี รายการทีวี หนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่การ์ตูน เนสซีได้กลายเป็น สัญลักษณ์ของความลึกลับ ที่ดึงดูดจินตนาการของคนทั่วโลก มานานกว่า 9 ทศวรรษ 🕰️ ปีนี้ พ.ศ. 2568 เป็นวาระครบ 91 ปี ของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ชื่อของเนสซี กลายเป็นตำนานระดับโลก นั่นคือ ภาพถ่าย “Surgeon's Photograph” อันโด่งดังในปี 2477 ซึ่งกลายเป็น "หลักฐาน" แรก ที่ทำให้คนทั้งโลกเชื่อว่า สัตว์ประหลาดในทะเลสาบมีอยู่จริง... แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความจริงบางอย่างก็ค่อยๆ ปรากฏ จนกลายเป็นคำถามว่า… “เนสซี” มีอยู่จริง หรือเป็นแค่ เรื่องแต่ง? 🐉 "เนสซี" หรือ Loch Ness Monster เป็นชื่อเรียกของสัตว์ประหลาดลึกลับ ที่เชื่อกันว่า อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อคเนสส์ (Loch Ness) ทางตอนเหนือของประเทศสก็อตแลนด์ ลักษณะที่ถูกบรรยายมักเป็นสัตว์คอยาว 🦕 ตัวใหญ่คล้ายไดโนเสาร์น้ำโบราณ จุดเริ่มต้นของตำนานนี้ มาจากเหตุการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2477 เมื่อ "โรเบิร์ต เคนเน็ธ วิลสัน" (Robert Kenneth Wilson) สูตินรีแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ถ่ายภาพที่ดูเหมือนหัว และคอของสัตว์ประหลาดโผล่พ้นผิวน้ำ ภาพนี้ถูกตีพิมพ์ไปทั่วโลกในชื่อว่า “Surgeon’s Photograph” 📸 และกลายเป็นไวรัลในยุคนั้น! ภาพนั้นคือสิ่งที่เปลี่ยน เรื่องเล่าในท้องถิ่น ให้กลายเป็นข่าวระดับโลกทันที แต่กว่า 60 ปี ต่อมา ความจริงก็ถูกเปิดเผย… 📜 🕵️‍♂️ ภาพปลอมที่สร้างความเชื่อทั้งโลก ในปี 2541 ความจริงที่สะเทือนโลกก็เปิดเผยโดย "คริสเตียน สเปอร์ลิง" (Christian Spurling) หนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับภาพถ่ายว่า แท้จริงแล้วภาพนั้นคือ “ของปลอม” ❌ พวกเขาใช้หุ่นจำลอง ติดกับเรือดำน้ำของเล่น แล้วจัดฉากถ่ายภาพเพื่อหลอกผู้คน ซึ่งพวกเขาทำเพราะต้องการ “เอาคืน” สื่อที่เคยทำให้ญาติของเขาเสียชื่อเสียง แม้จะเป็นเรื่องโกหก... แต่กลับไม่มีใครหยุดตามหา "เนสซี" ได้เลย 🧭 🔍 ไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่ยังคงมี “ความเชื่อ” จนถึงปัจจุบัน นักวิทยาศาสตร์ ยังไม่สามารถหาหลักฐานชัดเจนว่า เนสซีมีตัวตนอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็น... 🦴 โครงกระดูก 🐋 ซากสัตว์ 📷 ภาพถ่าย หรือวิดีโอที่ชัด 100% 🧬 DNA ของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ชนิดใหม่ แต่ในทางกลับกัน “เนสซี” ก็ไม่ใช่แค่เรื่องเล่านิทาน เพราะยังมี... 📚 หลักฐานและข้อเท็จจริง ที่ทำให้คนยังเชื่อ ✅ รายงานการพบเห็นกว่า 1,100 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2476 จนถึงปัจจุบัน มีการบันทึกการพบเห็น "เนสซี" มากกว่า 1,159 ครั้ง และบางครั้งยังมีภาพถ่าย วิดีโอ หรือการจับสัญญาณแปลกๆ จากโซนาร์ ✅ ภาพถ่ายและคลิปที่ยังอธิบายไม่ได้ แม้บางภาพจะไม่ชัดเจน หรือเป็นของปลอม แต่ก็มีหลายภาพ ที่ยังไม่สามารถหาคำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ จนถึงปัจจุบัน ✅ โซนาร์จับวัตถุขนาดใหญ่ใต้น้ำ มีรายงานว่า โซนาร์ตรวจจับวัตถุเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ ในทะเลสาบได้ โดยเฉพาะบริเวณจุดลึกกลางทะเลสาบ ✅ นักวิทยาศาสตร์บางส่วน “ไม่ปฏิเสธ” นักวิจัยบางคนยังเชื่อว่า อาจมีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ถูกค้นพบ อาศัยอยู่ในทะเลสาบ ที่กว้างและลึกแห่งนี้ 🔬 ทฤษฎีปลาไหลยักษ์ คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุด? ในปี 2562 มีการศึกษาด้วยวิธี eDNA (Environmental DNA) จากทีมของ "ศาสตราจารย์ Neil Gemmell" ที่เก็บตัวอย่างน้ำกว่า 250 จุดในทะเลสาบล็อกเนสส์ เพื่อดูว่ามี DNA ของสิ่งมีชีวิตชนิดใดอยู่บ้าง ผลลัพธ์คือ พบ DNA ของ ปลาไหลยุโรป (European Eel) จำนวนมาก แต่ไม่พบ DNA ของไดโนเสาร์ หรือสัตว์เลื้อยคลานโบราณ อีกทั้งยังไม่พบหลักฐาน ของสัตว์ทะเลขนาดใหญ่เช่น วาฬ 📌 ความเป็นไปได้ ของทฤษฎีปลาไหลยักษ์คือ มีรูปร่างคล้ายที่พยานบรรยาย มีอยู่จริงในทะเลสาบ และมีพฤติกรรมว่ายน้ำลึกลับ 📌 แต่ก็มีข้อโต้แย้งคือ ไม่เคยพบปลาไหลที่ยาวกว่า 2 เมตรจริงๆ ปลาไหลไม่ค่อยโผล่พ้นน้ำแบบสัตว์คอยาว หากมีปลาไหลยักษ์อยู่จริง ควรมีคนถ่ายภาพได้ชัดกว่านี้ 🌍 จุดที่พบเห็น "เนสซี" บ่อยที่สุด 🏰 Urquhart Bay ใกล้ปราสาท Urquhart จุดชมวิวที่ได้รับรายงานพบเห็น มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ใกล้หมู่บ้าน Drumnadrochit มีพิพิธภัณฑ์ Loch Ness Centre และมีผู้เชี่ยวชาญประจำ ใจกลางทะเลสาบ ลึกกว่า 200 เมตร โซนาร์ตรวจพบวัตถุลึกลับบ่อยครั้ง ริมทะเลสาบฝั่งเมือง Inverness มีถนน A82 เลียบทะเลสาบ ผ่านผู้คนมาก ทำให้มีรายงานมากในอดีต 🧠 ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา? นักวิทยาศาสตร์หลายคนเสนอว่า เนสซีอาจเป็นผลของปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า Pareidolia คือ... “สมองของมนุษย์พยายามตีความภาพที่ไม่ชัดเจน ให้กลายเป็นสิ่งที่คุ้นเคย เช่น รูปสัตว์ หน้าคน หรือร่างลึกลับ” 👀 บวกกับความลึกลับ บรรยากาศหมอกปกคลุม และการคาดหวัง ก็ทำให้ผู้คน "เชื่อ" ได้ง่ายขึ้น 📖 10 ข้อเท็จจริงที่ไม่ใช่แค่ตำนาน 1. ทะเลสาบล็อคเนสส์ยาว 37 กม. ลึกเกือบ 230 เมตร 2. ภาพ "Surgeon's Photograph" ถูกพิสูจน์ว่าเป็นของปลอม 3. ตรวจพบ eDNA ของปลาไหลในปริมาณมาก 4. ใช้โซนาร์ตรวจสอบหลายรอบ แต่ยังไม่พบสัตว์ประหลาด 5. ล็อคเนสส์ไม่มีทางเชื่อมกับทะเล เปิดโอกาสการมีสัตว์ทะเลต่ำ 6. รายงานพบเห็นเพิ่มขึ้น หลังมีถนนเลียบทะเลสาบ 7. BBC เคยทำสารคดีพิสูจน์เรื่องนี้โดยตรง 5. หลายกรณีพบว่าเป็นฟองอากาศ ท่อนไม้ หรือนกน้ำ 9. การพบเห็นล่าสุดยังมีอยู่ทุกปี 10. เนสซีเป็นตัวดึงดูดการท่องเที่ยวสำคัญ ของสก็อตแลนด์ 💰 🎯 ตำนานอมตะที่ยังไม่มีบทจบ “เนสซี” ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล่า แต่เป็นสัญลักษณ์ของ ความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์ ที่ไม่เคยหยุดตามหาความจริง 🔍 แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าเนสซีมีอยู่จริง แต่ “ปริศนา” นี้ก็ยังไม่มีใครไขได้ทั้งหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “เนสซี” ยังคง มีชีวิตในจินตนาการของผู้คน และอาจจะยังอยู่ในคลื่นลึก ของทะเลสาบล็อคเนสส์... หรือในหัวใจของคนที่อยากเชื่อว่า “สิ่งลึกลับ” ยังมีอยู่จริงในโลกใบนี้ 🌍💙 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 191553 เม.ย. 2568 📣 #Nessie #LochNessMonster #เนสซี #ตำนานเนสซี #สัตว์ประหลาดล็อคเนสส์ #LochNess #MysteryOfNessie #ค้นหาความจริง #เนสซีมีอยู่จริงไหม #ภาพหลอนหรือตัวจริง
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • เนื้อว่านหลวงปู่ทวด รุ่นมงคลทักษิณ พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ จ.นครศรีธรรมราช ปี2540
    เนื้อว่านหลวงปู่ทวด รุ่นมงคลทักษิณ (ฝังตะกรุดเงิน 1 ดอก) พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ จ.นครศรีธรรมราช ปี2540 // พระดีพิธีใหญ่ พ่อท่านสังข์เป็นพระอริยสงฆ์แดนใต้ ฉายา ”เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” //พระสถาพสวยมากพร้อมกล่องเดิม ๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เข้มขลัง สุดยอดยิ่งนัก เมตตามหานิยม มีเสน่ห์ในการผูกไมตรีกับผู้คน การเจรจาค้าความเป็นเลิศ อยู่เย็นเป็นสุข ประสบโชคชัยสวัสดี ทำกิจการอันใดมีแต่เจริญรุ่งเรือง หายจากอาการเจ็บป่วยไข้ และให้มีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง >>

    ** ”พ่อท่านสังข์” เป็นพระอริยสงฆ์แดนใต้ สุดยอดเกจิดังที่ได้รับการยกย่องเป็น ”เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” ได้ละสังขารไปตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. 2547 หรือ 13 ปีที่ผ่านมา โดยคณะศิษยานุศิษย์ได้อัญเชิญสรีระของหลวงปู่สังข์ไว้ในโลงแก้ว แม้ระยะเวลาผ่านมานานถึง 13 ปี แต่สรีระของหลวงปู่สังข์ยังไม่เน่าเปื่อย >>

    ** พระสถาพสวยมากพร้อมกล่องเดิม ๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงปู่ทวด รุ่นมงคลทักษิณ พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ จ.นครศรีธรรมราช ปี2540 เนื้อว่านหลวงปู่ทวด รุ่นมงคลทักษิณ (ฝังตะกรุดเงิน 1 ดอก) พ่อท่านสังข์ วัดดอนตรอ จ.นครศรีธรรมราช ปี2540 // พระดีพิธีใหญ่ พ่อท่านสังข์เป็นพระอริยสงฆ์แดนใต้ ฉายา ”เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” //พระสถาพสวยมากพร้อมกล่องเดิม ๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เข้มขลัง สุดยอดยิ่งนัก เมตตามหานิยม มีเสน่ห์ในการผูกไมตรีกับผู้คน การเจรจาค้าความเป็นเลิศ อยู่เย็นเป็นสุข ประสบโชคชัยสวัสดี ทำกิจการอันใดมีแต่เจริญรุ่งเรือง หายจากอาการเจ็บป่วยไข้ และให้มีโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง >> ** ”พ่อท่านสังข์” เป็นพระอริยสงฆ์แดนใต้ สุดยอดเกจิดังที่ได้รับการยกย่องเป็น ”เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” ได้ละสังขารไปตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. 2547 หรือ 13 ปีที่ผ่านมา โดยคณะศิษยานุศิษย์ได้อัญเชิญสรีระของหลวงปู่สังข์ไว้ในโลงแก้ว แม้ระยะเวลาผ่านมานานถึง 13 ปี แต่สรีระของหลวงปู่สังข์ยังไม่เน่าเปื่อย >> ** พระสถาพสวยมากพร้อมกล่องเดิม ๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระครูปิยะ รุ่น1 หลวงพ่อบี้หลังหลวงพ่อจูด วัดบางดาน จ.สงขลา ปี2539
    เหรียญพระครูปิยะ รุ่น1 หลวงพ่อบี้หลังหลวงพ่อจูด วัดบางดาน จ.สงขลา ปี2539 //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เสริมศิริมงคล แคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายก็ร่ำรวย ลาภผลพูนทวี ปลอดภัยจากอันตรายดีนักแล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ >>

    ** วัดบางดานสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2403 ไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างถวาย พื้นที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบกลางหมู่บ้านบางดาน พระครูกิตติธรรมานุกูล ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางดาน ต่อมาทางเจ้าคณะจังหวัดสงขลา มีหนังสือแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางดาน ลงวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2539 หลังจากรับตำแหน่งเจ้าอาวาสเรียบร้อยแล้วได้สานงานต่อจากเจ้าอาวาสรูปก่อนได้ทำการก่อสร้างกุฏิสงฆ์ 1 หลัง สร้างหอฉัน สร้างศาลาบำเพ็ญกุศลศพ 2 หลัง สร้างเมรุเผาศพ และสร้างถนนคอนกรีตรอบบริเวณวัดและทำการบูรณะอุโบสถที่สร้างมานานประมาณเกือบ 100 ปี >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระครูปิยะ รุ่น1 หลวงพ่อบี้หลังหลวงพ่อจูด วัดบางดาน จ.สงขลา ปี2539 เหรียญพระครูปิยะ รุ่น1 หลวงพ่อบี้หลังหลวงพ่อจูด วัดบางดาน จ.สงขลา ปี2539 //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เสริมศิริมงคล แคล้วคลาดปลอดภัย ค้าขายก็ร่ำรวย ลาภผลพูนทวี ปลอดภัยจากอันตรายดีนักแล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ >> ** วัดบางดานสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2403 ไม่มีหลักฐานว่าใครเป็นผู้สร้างถวาย พื้นที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบกลางหมู่บ้านบางดาน พระครูกิตติธรรมานุกูล ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางดาน ต่อมาทางเจ้าคณะจังหวัดสงขลา มีหนังสือแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางดาน ลงวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ.2539 หลังจากรับตำแหน่งเจ้าอาวาสเรียบร้อยแล้วได้สานงานต่อจากเจ้าอาวาสรูปก่อนได้ทำการก่อสร้างกุฏิสงฆ์ 1 หลัง สร้างหอฉัน สร้างศาลาบำเพ็ญกุศลศพ 2 หลัง สร้างเมรุเผาศพ และสร้างถนนคอนกรีตรอบบริเวณวัดและทำการบูรณะอุโบสถที่สร้างมานานประมาณเกือบ 100 ปี >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงปู่สุระ วัดธารโต จ.ยะลา ปี2538
    เหรียญหลวงปู่สุระ วัดธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา ปี2538 // พระดีพิธีใหญ่ อนุสรณ์ครบรอบ ๗๙ ปี //พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ////>> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** ใครที่ต้องการความสำเร็จในหน้าทีการงาน ข้าราชการที่เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแบบง่ายๆ การค้าการขายแบบขายดีไม่ติดขัด มีโชค มีลาภ แบบมีเข้ามาตลอด "ผมแนะนำครับ มั้นใจในพุทธคุณได้ครับของหลวงปู่ดีจริงๆ ""

    ** พุทธคุณ โชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** หลวงปู่สุระ พระเกจิชื่อดังจังหวัดยะลา หลังการมรณภาพ สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย พระเกจิผู้ปฎิบัติดี “#. หลวงปู่สุระเป็นนักปฎิบัติที่มีจริยวัตรแห่งความสงฆ์ที่เคร่งครัด และส่งเสริมด้านวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งมีลูกศิษย์ ลูกหาในสามจังหวัดใต้ มาเลเชีย สิงคโปร์ มากมาย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่สุระ วัดธารโต จ.ยะลา ปี2538 เหรียญหลวงปู่สุระ วัดธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา ปี2538 // พระดีพิธีใหญ่ อนุสรณ์ครบรอบ ๗๙ ปี //พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ////>> รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** ใครที่ต้องการความสำเร็จในหน้าทีการงาน ข้าราชการที่เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแบบง่ายๆ การค้าการขายแบบขายดีไม่ติดขัด มีโชค มีลาภ แบบมีเข้ามาตลอด "ผมแนะนำครับ มั้นใจในพุทธคุณได้ครับของหลวงปู่ดีจริงๆ "" ** พุทธคุณ โชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** หลวงปู่สุระ พระเกจิชื่อดังจังหวัดยะลา หลังการมรณภาพ สรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย พระเกจิผู้ปฎิบัติดี “#. หลวงปู่สุระเป็นนักปฎิบัติที่มีจริยวัตรแห่งความสงฆ์ที่เคร่งครัด และส่งเสริมด้านวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งมีลูกศิษย์ ลูกหาในสามจังหวัดใต้ มาเลเชีย สิงคโปร์ มากมาย >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 12 อยู่กินอย่างไรไม่ให้เดือดร้อน
    .
    การจับจ่ายใช้สอยซื้อของที่ตนเองต้องการเป็นเรื่องสนุก หลายคนมีสติในเรื่องการใช้จ่าย แต่หลายคนก็ขาดสติ ใช้จ่ายจนเกิดความเดือดร้อนในเรื่องเงินทอง ซึ่งมีผลกระทบไปถึงการดำเนินชีวิตด้วย
    .
    บ่อยครั้งคนที่เริ่มเดือดร้อนเรื่องเงิน ยังไม่ตระหนักถึงสภานะของตนเอง เพราะไม่มีไฟแดงกระพริบเตือนเป็นสัญญาณให้ทราบว่ากำลังใช้จ่ายเกินตัว กินอยู่เกินฐานะ และชีวิตในอนาคตกำลังจะลำบาก สิ่งที่อาจเป็นตัวแทนของไฟแดงกระพริบได้แก่ (1) รายได้ส่วนหนึ่งถูกใช้ชำระหนี้เพิ่มมากขึ้นทุกที (2) จ่ายเงินชำระหนี้บัตรเครดิตหรือเงินกู้ด้วยจำนวนเงินต่ำที่สุดเท่าที่เจ้าหนี้จะยอมให้ได้ (3) ใช้เงินเต็มวงกู้ของบัตรเครดิต (4) ต้องเอาเงินส่วนที่ตั้งใจไว้ทำอย่างอื่น มาจ่ายชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน (5) ใช้บัตรเครดิตชำระเงินสำหรับหลายสิ่งทั้ง ๆ ที่แต่เดิมใช้เงินสด (6) ชำระเงินตามใบเรียกเก็บเกินกำหนดเวลาอยู่เนืองๆ (7) ถูกเตือนให้จัดการกับบิลค้างชำระอยู่บ่อย ๆ (8) ทำงานล่วงเวลาหรือหาเงินพิเศษตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินสดมาชำระบิลที่ส่งมาเรียกเก็บ (9) หากต้องออกจากงานที่ทำอยู่ก็จะเกิดปัญหาการเงินขึ้นมาทันที (10) นึกกังวลถึงเรื่องเงินอยู่เสมอ
    .
    สัญญาณข้างต้นไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอย่างก็แสดงว่า กำลังกินอย่างเดือดร้อนแล้ว สาเหตุก็มาจากความไม่สมดุลระหว่างรายได้และรายจ่าย หนทางแก้ไขแรกคือ ต้องหารายได้ให้พอกับรายจ่ายที่กำลังเกิดขึ้น หรือพูดอีกอย่างว่า ยกฐานะการเงินขึ้นมาให้ทัดเทียมกับระดับการอยู่กิน หนทางที่สองคือ ลดรายจ่ายลงให้พอดีกับรายได้ หรือลดการอยู่กินลงมาให้พอดีหรือต่ำกว่าฐานะ หรือทั้งสองหนทาง
    .
    การแก้ไขด้วยวิธีแรกนั้นยากมาก และไม่มีวันจบสิ้นได้เลย เพราะเคยชินกับการใช้จ่ายสูงจนเสมือนกับไล่จับเงาตัวเอง หามาได้เท่าใดก็ไม่มีวันเพียงพอ การใช้ทั้งสองวิธี หรือใช้วิธีที่สองคือ ลดรายจ่ายลงให้พอดีกับรายได้ มีเหตุมีผลมากกว่า เพราะถึงแม้จะเจ็บปวดแต่ก็กระทำได้ง่ายกว่าการหารายได้ให้เพียงพอกับรายจ่าย และที่สำคัญที่สุด เกิดเป็นมรรคเป็นผลในระยะยาว
    .
    อย่างไรก็ดีในการหาทางแก้ไข จะจ้องเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของการอยู่กินอย่างเดือดร้อนของคนไฟแดงกะพริบเหล่านี้ หากมองในภาพรวมก็จะเห็นว่า ปัญหาเริ่มจากความต้องการที่ไม่มีวันพอ เป็นสาเหตุแรก กล่าวคือ ความต้องการมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังที่มาสโลว์ กล่าวไว้ โดยเริ่มต้นจากต้องการบำบัดความหิว ต้องการอยู่รอดอย่างมั่นคงปลอดภัย ต้องการความรักและมีพรรคพวก ต้องการความสำเร็จและได้รับการชื่นชมยอมรับ ต้องการมีความรู้และความเข้าใจ ต้องการความงามและความเป็นระเบียบ สุดท้ายต้องการบรรลุศักยภาพของตนเอง ดังนั้นโดยพื้นฐาน มนุษย์ต้องการการบริโภคมากอยู่แล้ว ซึ่งย่อมทำให้ใช้จ่ายมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
    .
    สาเหตุที่ 2 คือ ความเข้าใจโลกที่ไม่เหมาะสม หลายคนมักนึกว่าการดำเนินชีวิตของผู้คนและครอบครัวกังที่ปรากฏในสื่อ คือวิถีการดำเนินชีวิตจริงของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริโภค การใช้ชีวิต และค่านิยม ดังนั้นเมื่อผู้เสพสื่อเหล่านี้ต้องการเป็นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ จึงจำเป็นต้องบริโภคในลักษณะนั้นๆ เพื่อให้ได้ใช้ชีวิต และมีค่านิยมแบบเดียวกัน การเลียนแบบเหล่านี้ ย่อมเกิดค่าใช้จ่ายขึ้นมากมายอีกเช่นกัน
    .
    สาเหตุที่ 3 คือ อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันโทรศัพท์สื่อโซเชี่ยลมิเดียหลายแพลทฟอร์ม เป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก มีหลายครั้งที่ผู้โฆษณาพยายามบอกผู้ชมว่า ถ้าใช้สินค้านั้น หรือไปสถานที่นี้ ทำอย่างนั้นแล้วจะเป็น “คนมีระดับ” จะทำให้เป็นคนที่สังคมยอมรับ และ “คนปกติ” เขาก็ปฎิบัติเช่นนั้น การสื่อเช่นนี้ทำให้ผู้คนคล้อยตามได้โดยง่าย
    .
    ทั้งสามสาเหตุ นำไปสู่การใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นการขาดความสมดุลระหว่างรายได้และรายจ่ายจึงเป็นเหตุที่ทำให้คนจำนวนมากอยู่ในสภาวะอยู่กินอย่างเดือดร้อน
    .
    ผู้ที่ดื่มด่ำกับการบริโภคในปัจจุบันจนลึมนึกถึงอนาคต ลืมนึกถึงความมั่นคงในชีวิตตนเองและครอบครัวในวันข้างหน้า มักจะนึกเอาว่า เอาไว้อีกสักพักค่อยออมเงินเพื่อสร้างอนาคตก็ได้ แต่ “สักพัก” นั้นก็ไม่มาถึงซักที พร้อมกับจมดิ่งลงไปในหนี้สินที่พอกพูนขึ้นทุกวัน สำหรับคนเหล่านี้ อย่าว่าแต่จะออมได้เลย แค่มีเงินใช้จ่ายให้ตลอดเดือนได้ก็ยากเต็มทีแล้ว
    .
    กลุ่มคนเหล่านี้จะหลุดพ้นจากการอยู่กินอย่างเดือดร้อนได้ก็ด้วยหลัก 4 ประการ ดังต่อไปนี้
    (1) ต้องมองโลกในแง่ใหม่ ว่าเงินเป็นได้ทั้งมิตรและศัตรู การมีหนี้สินที่ไม่นำไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น เท่ากับเปิดช่องให้เงินเป็นศัตรู โดยทำร้ายตนเองตลอดเวลาด้วยดอกเบี้ย ดังนั้นจึงต้องพยายามแก้ไขให้เงินเป็นมิตรด้วยการมีเงินออมแทน
    (2) อยู่กินต่ำกว่าฐานะ
    (3) ทำให้เงินทำงานรับใช้ โดยเริ่มจากการมีเงินออม
    (4) ควบคุมความต้องการของตนเองโดยยึด “แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” นั่นคือดำรงตนอย่างมีสติ ไม่ใช้เงินอย่างประมาท รู้จักความพอดี ความพอประมาณ มีเหตุมีผล และมีวุฒิภาวะควบคุมความต้องการของตนเองให้ได้
    .
    การอยู่กินอย่างเดือดร้อน คือการอยู่กินอย่างขาดความหวังว่าชีวิตในอนาคตจะมีความมั่นคงทางการเงิน เป็นการดำรงชีวิตอย่างทุกข์ใจ ต้องนึกถึงแต่เรื่องเงินอยู่ตลอดเวลาจนชีวิตเปราะบาง เอื้อต่อการกระทำที่ผิดจริยธรรม
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 12 อยู่กินอย่างไรไม่ให้เดือดร้อน . การจับจ่ายใช้สอยซื้อของที่ตนเองต้องการเป็นเรื่องสนุก หลายคนมีสติในเรื่องการใช้จ่าย แต่หลายคนก็ขาดสติ ใช้จ่ายจนเกิดความเดือดร้อนในเรื่องเงินทอง ซึ่งมีผลกระทบไปถึงการดำเนินชีวิตด้วย . บ่อยครั้งคนที่เริ่มเดือดร้อนเรื่องเงิน ยังไม่ตระหนักถึงสภานะของตนเอง เพราะไม่มีไฟแดงกระพริบเตือนเป็นสัญญาณให้ทราบว่ากำลังใช้จ่ายเกินตัว กินอยู่เกินฐานะ และชีวิตในอนาคตกำลังจะลำบาก สิ่งที่อาจเป็นตัวแทนของไฟแดงกระพริบได้แก่ (1) รายได้ส่วนหนึ่งถูกใช้ชำระหนี้เพิ่มมากขึ้นทุกที (2) จ่ายเงินชำระหนี้บัตรเครดิตหรือเงินกู้ด้วยจำนวนเงินต่ำที่สุดเท่าที่เจ้าหนี้จะยอมให้ได้ (3) ใช้เงินเต็มวงกู้ของบัตรเครดิต (4) ต้องเอาเงินส่วนที่ตั้งใจไว้ทำอย่างอื่น มาจ่ายชำระเงินตามใบเรียกเก็บเงิน (5) ใช้บัตรเครดิตชำระเงินสำหรับหลายสิ่งทั้ง ๆ ที่แต่เดิมใช้เงินสด (6) ชำระเงินตามใบเรียกเก็บเกินกำหนดเวลาอยู่เนืองๆ (7) ถูกเตือนให้จัดการกับบิลค้างชำระอยู่บ่อย ๆ (8) ทำงานล่วงเวลาหรือหาเงินพิเศษตัวเป็นเกลียวเพื่อหาเงินสดมาชำระบิลที่ส่งมาเรียกเก็บ (9) หากต้องออกจากงานที่ทำอยู่ก็จะเกิดปัญหาการเงินขึ้นมาทันที (10) นึกกังวลถึงเรื่องเงินอยู่เสมอ . สัญญาณข้างต้นไม่จำเป็นต้องมีครบทุกอย่างก็แสดงว่า กำลังกินอย่างเดือดร้อนแล้ว สาเหตุก็มาจากความไม่สมดุลระหว่างรายได้และรายจ่าย หนทางแก้ไขแรกคือ ต้องหารายได้ให้พอกับรายจ่ายที่กำลังเกิดขึ้น หรือพูดอีกอย่างว่า ยกฐานะการเงินขึ้นมาให้ทัดเทียมกับระดับการอยู่กิน หนทางที่สองคือ ลดรายจ่ายลงให้พอดีกับรายได้ หรือลดการอยู่กินลงมาให้พอดีหรือต่ำกว่าฐานะ หรือทั้งสองหนทาง . การแก้ไขด้วยวิธีแรกนั้นยากมาก และไม่มีวันจบสิ้นได้เลย เพราะเคยชินกับการใช้จ่ายสูงจนเสมือนกับไล่จับเงาตัวเอง หามาได้เท่าใดก็ไม่มีวันเพียงพอ การใช้ทั้งสองวิธี หรือใช้วิธีที่สองคือ ลดรายจ่ายลงให้พอดีกับรายได้ มีเหตุมีผลมากกว่า เพราะถึงแม้จะเจ็บปวดแต่ก็กระทำได้ง่ายกว่าการหารายได้ให้เพียงพอกับรายจ่าย และที่สำคัญที่สุด เกิดเป็นมรรคเป็นผลในระยะยาว . อย่างไรก็ดีในการหาทางแก้ไข จะจ้องเข้าใจว่าอะไรเป็นสาเหตุของการอยู่กินอย่างเดือดร้อนของคนไฟแดงกะพริบเหล่านี้ หากมองในภาพรวมก็จะเห็นว่า ปัญหาเริ่มจากความต้องการที่ไม่มีวันพอ เป็นสาเหตุแรก กล่าวคือ ความต้องการมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังที่มาสโลว์ กล่าวไว้ โดยเริ่มต้นจากต้องการบำบัดความหิว ต้องการอยู่รอดอย่างมั่นคงปลอดภัย ต้องการความรักและมีพรรคพวก ต้องการความสำเร็จและได้รับการชื่นชมยอมรับ ต้องการมีความรู้และความเข้าใจ ต้องการความงามและความเป็นระเบียบ สุดท้ายต้องการบรรลุศักยภาพของตนเอง ดังนั้นโดยพื้นฐาน มนุษย์ต้องการการบริโภคมากอยู่แล้ว ซึ่งย่อมทำให้ใช้จ่ายมากขึ้นเป็นเงาตามตัว . สาเหตุที่ 2 คือ ความเข้าใจโลกที่ไม่เหมาะสม หลายคนมักนึกว่าการดำเนินชีวิตของผู้คนและครอบครัวกังที่ปรากฏในสื่อ คือวิถีการดำเนินชีวิตจริงของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริโภค การใช้ชีวิต และค่านิยม ดังนั้นเมื่อผู้เสพสื่อเหล่านี้ต้องการเป็นเช่นเดียวกับคนอื่นๆ จึงจำเป็นต้องบริโภคในลักษณะนั้นๆ เพื่อให้ได้ใช้ชีวิต และมีค่านิยมแบบเดียวกัน การเลียนแบบเหล่านี้ ย่อมเกิดค่าใช้จ่ายขึ้นมากมายอีกเช่นกัน . สาเหตุที่ 3 คือ อิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ในปัจจุบันโทรศัพท์สื่อโซเชี่ยลมิเดียหลายแพลทฟอร์ม เป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก มีหลายครั้งที่ผู้โฆษณาพยายามบอกผู้ชมว่า ถ้าใช้สินค้านั้น หรือไปสถานที่นี้ ทำอย่างนั้นแล้วจะเป็น “คนมีระดับ” จะทำให้เป็นคนที่สังคมยอมรับ และ “คนปกติ” เขาก็ปฎิบัติเช่นนั้น การสื่อเช่นนี้ทำให้ผู้คนคล้อยตามได้โดยง่าย . ทั้งสามสาเหตุ นำไปสู่การใช้จ่ายที่สูง ดังนั้นการขาดความสมดุลระหว่างรายได้และรายจ่ายจึงเป็นเหตุที่ทำให้คนจำนวนมากอยู่ในสภาวะอยู่กินอย่างเดือดร้อน . ผู้ที่ดื่มด่ำกับการบริโภคในปัจจุบันจนลึมนึกถึงอนาคต ลืมนึกถึงความมั่นคงในชีวิตตนเองและครอบครัวในวันข้างหน้า มักจะนึกเอาว่า เอาไว้อีกสักพักค่อยออมเงินเพื่อสร้างอนาคตก็ได้ แต่ “สักพัก” นั้นก็ไม่มาถึงซักที พร้อมกับจมดิ่งลงไปในหนี้สินที่พอกพูนขึ้นทุกวัน สำหรับคนเหล่านี้ อย่าว่าแต่จะออมได้เลย แค่มีเงินใช้จ่ายให้ตลอดเดือนได้ก็ยากเต็มทีแล้ว . กลุ่มคนเหล่านี้จะหลุดพ้นจากการอยู่กินอย่างเดือดร้อนได้ก็ด้วยหลัก 4 ประการ ดังต่อไปนี้ (1) ต้องมองโลกในแง่ใหม่ ว่าเงินเป็นได้ทั้งมิตรและศัตรู การมีหนี้สินที่ไม่นำไปสู่อนาคตที่ดีขึ้น เท่ากับเปิดช่องให้เงินเป็นศัตรู โดยทำร้ายตนเองตลอดเวลาด้วยดอกเบี้ย ดังนั้นจึงต้องพยายามแก้ไขให้เงินเป็นมิตรด้วยการมีเงินออมแทน (2) อยู่กินต่ำกว่าฐานะ (3) ทำให้เงินทำงานรับใช้ โดยเริ่มจากการมีเงินออม (4) ควบคุมความต้องการของตนเองโดยยึด “แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง” นั่นคือดำรงตนอย่างมีสติ ไม่ใช้เงินอย่างประมาท รู้จักความพอดี ความพอประมาณ มีเหตุมีผล และมีวุฒิภาวะควบคุมความต้องการของตนเองให้ได้ . การอยู่กินอย่างเดือดร้อน คือการอยู่กินอย่างขาดความหวังว่าชีวิตในอนาคตจะมีความมั่นคงทางการเงิน เป็นการดำรงชีวิตอย่างทุกข์ใจ ต้องนึกถึงแต่เรื่องเงินอยู่ตลอดเวลาจนชีวิตเปราะบาง เอื้อต่อการกระทำที่ผิดจริยธรรม
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • ล็อกเก็ตพระพุทธชินราชจิ๋ว วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก
    ล็อกเก็ตพระพุทธชินราชจิ๋ว วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก //พระดีพิธีใหญ่ พระมีขนาดเล็ก จิ๋วแต่แจ๋ว หายากครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พระขนาดเล็กจิ๋ว (ความสูงประมาณ เม็ดข้าวสาร) ไม่ค่อยเจอแล้วครับ เป็นอีกรุ่นที่น่าบูชามาก จะไว้บูชาเอง หรือให้ลูกหลานคล้องคอบูชาก็ดีเยี่ยมครับ !! เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก จิ๋ว นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ .. รุ่นนี้มีประสบกาณ์มากครับ เหมาะสำหรับคนพิเศษ เล็กๆน่ารัก >>

    ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารด้านตะวันตกในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1900 ตรงกับรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระเหลือ พระพุทธชินราชได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งและยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจำลองกันมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนชาวไทยศรัทธาและนิยมเดินทางมากราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่งด้วย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ล็อกเก็ตพระพุทธชินราชจิ๋ว วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ล็อกเก็ตพระพุทธชินราชจิ๋ว วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก //พระดีพิธีใหญ่ พระมีขนาดเล็ก จิ๋วแต่แจ๋ว หายากครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พระขนาดเล็กจิ๋ว (ความสูงประมาณ เม็ดข้าวสาร) ไม่ค่อยเจอแล้วครับ เป็นอีกรุ่นที่น่าบูชามาก จะไว้บูชาเอง หรือให้ลูกหลานคล้องคอบูชาก็ดีเยี่ยมครับ !! เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก จิ๋ว นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ .. รุ่นนี้มีประสบกาณ์มากครับ เหมาะสำหรับคนพิเศษ เล็กๆน่ารัก >> ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ กันภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระพุทธชินราช ประดิษฐานอยู่ ณ วิหารด้านตะวันตกในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1900 ตรงกับรัชสมัยพระมหาธรรมราชาที่ 1 (ลิไทย) พระมหากษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย พร้อมกับพระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระเหลือ พระพุทธชินราชได้รับการยอมรับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีพุทธลักษณะงดงามที่สุดองค์หนึ่งและยังเป็นพระพุทธรูปที่นิยมจำลองกันมากที่สุดในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นพระพุทธรูปที่ประชาชนชาวไทยศรัทธาและนิยมเดินทางมากราบไหว้มากที่สุดองค์หนึ่งด้วย >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 97 Views 0 Reviews
  • พรหมวิหารสี่ครรลอง
    ครองเมตตากรุณา
    มุทิตาอุเบกขา
    พาร่วมหลักธรรมความจริง

    ทุกข์สัจจะอนิจจัง
    สั่งสอนอบรมพึ่งพิง
    อนัตตาพาสุงสิง
    ยิ่งทำยิ่งเจริญธรรม

    อารมณ์ธรรมหนึ่งเดียวล้วน
    ชวนจิตหนึ่งได้ดื่มด่ำ
    หนึ่งธรรมเดียวตรงถูกย้ำ
    นำพาไปให้โดดเด่น

    สติสมาธิมี
    มีปัญญาศรัทธาเห็น
    พร้อมเพียรเป็นคุณบำเพ็ญ
    เป็นคุณเป็นธรรมทองแท้

    พรหมวิหารธรรมหนุนส่ง
    สงเคราะห์พามาดูแล
    ทั้งเบาบางกลางหนักแก้
    แน่วแน่พึ่งหนึ่งธรรมทาง

    ธรรมจริงซึ้งพึ่งอาศัย
    หมายสว่างทางสายกลาง
    สติครองประคองทาง
    วางถึงใจได้ธรรมจริง

    ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง รวยทรัพย์ในนอก

    นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    พรหมวิหารสี่ครรลอง ครองเมตตากรุณา มุทิตาอุเบกขา พาร่วมหลักธรรมความจริง ทุกข์สัจจะอนิจจัง สั่งสอนอบรมพึ่งพิง อนัตตาพาสุงสิง ยิ่งทำยิ่งเจริญธรรม อารมณ์ธรรมหนึ่งเดียวล้วน ชวนจิตหนึ่งได้ดื่มด่ำ หนึ่งธรรมเดียวตรงถูกย้ำ นำพาไปให้โดดเด่น สติสมาธิมี มีปัญญาศรัทธาเห็น พร้อมเพียรเป็นคุณบำเพ็ญ เป็นคุณเป็นธรรมทองแท้ พรหมวิหารธรรมหนุนส่ง สงเคราะห์พามาดูแล ทั้งเบาบางกลางหนักแก้ แน่วแน่พึ่งหนึ่งธรรมทาง ธรรมจริงซึ้งพึ่งอาศัย หมายสว่างทางสายกลาง สติครองประคองทาง วางถึงใจได้ธรรมจริง ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง รวยทรัพย์ในนอก นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • TDK บริษัทเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นได้เปิดตัว Spin Photo Detector ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านการถ่ายโอนข้อมูลในระบบ AI โดยอุปกรณ์นี้สามารถเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีปัจจุบัน โดยใช้เทคนิค laser-induced magnetism ในการแปลงข้อมูลด้วยความเร็วสูง

    ✅ Spin Photo Detector เพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 10 เท่า
    - ใช้เทคนิค laser-induced magnetism ในการแปลงข้อมูลด้วยความเร็วสูง
    - มีความเร็วในการตอบสนองเพียง 20 พิโควินาที

    ✅ TDK ใช้เทคโนโลยี Magnetic Tunnel Junction (MTJ)
    - MTJ ถูกปรับปรุงใหม่เพื่อใช้ใน Spin Photo Detector
    - โครงสร้าง MTJ มีความกว้างเพียง 200 นาโนเมตร และตอบสนองต่อเลเซอร์ได้อย่างแม่นยำ

    ✅ Spin Photo Detector มีความทนทานต่อรังสีคอสมิก
    - เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมอวกาศ

    ✅ TDK วางแผนผลิตตัวอย่างในปี 2026 และผลิตในระดับอุตสาหกรรมภายใน 5 ปี
    - คาดว่าจะมีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง เช่น TSMC และ Nvidia

    https://www.techradar.com/pro/japanese-tech-giant-claims-to-offer-data-transmission-solution-10x-faster-than-current-technologies-to-tackle-ai-speed-bottleneck
    TDK บริษัทเทคโนโลยีจากญี่ปุ่นได้เปิดตัว Spin Photo Detector ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านการถ่ายโอนข้อมูลในระบบ AI โดยอุปกรณ์นี้สามารถเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีปัจจุบัน โดยใช้เทคนิค laser-induced magnetism ในการแปลงข้อมูลด้วยความเร็วสูง ✅ Spin Photo Detector เพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลได้ถึง 10 เท่า - ใช้เทคนิค laser-induced magnetism ในการแปลงข้อมูลด้วยความเร็วสูง - มีความเร็วในการตอบสนองเพียง 20 พิโควินาที ✅ TDK ใช้เทคโนโลยี Magnetic Tunnel Junction (MTJ) - MTJ ถูกปรับปรุงใหม่เพื่อใช้ใน Spin Photo Detector - โครงสร้าง MTJ มีความกว้างเพียง 200 นาโนเมตร และตอบสนองต่อเลเซอร์ได้อย่างแม่นยำ ✅ Spin Photo Detector มีความทนทานต่อรังสีคอสมิก - เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมอวกาศ ✅ TDK วางแผนผลิตตัวอย่างในปี 2026 และผลิตในระดับอุตสาหกรรมภายใน 5 ปี - คาดว่าจะมีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง เช่น TSMC และ Nvidia https://www.techradar.com/pro/japanese-tech-giant-claims-to-offer-data-transmission-solution-10x-faster-than-current-technologies-to-tackle-ai-speed-bottleneck
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • IBM ได้ประกาศนโยบาย Return-to-Office (RTO) ใหม่สำหรับพนักงานในสหรัฐฯ โดยกำหนดให้พนักงานฝ่ายขายต้องทำงานในสำนักงานหรือศูนย์ขายอย่างน้อย สามวันต่อสัปดาห์ นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้าและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ นอกจากนี้ IBM ยังวางแผนที่จะย้ายพนักงานฝ่ายขายในดัลลัสไปยังสำนักงานใหม่ในออสตินในปี 2026

    ✅ พนักงานฝ่ายขายต้องทำงานในสำนักงานอย่างน้อยสามวันต่อสัปดาห์
    - พนักงานสามารถเลือกทำงานที่ สำนักงานหลัก, ศูนย์ขาย หรือสถานที่ของลูกค้า
    - นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Return-to-Client Initiative เพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้า

    ✅ พนักงานในดัลลัสจะถูกย้ายไปยังสำนักงานใหม่ในออสตินในปี 2026
    - การย้ายนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร

    ✅ IBM มีสำนักงานหลัก 5 แห่งและศูนย์ขาย 8 แห่งในสหรัฐฯ
    - สำนักงานหลักตั้งอยู่ในนิวยอร์ก, ราลี, วอชิงตัน ดี.ซี., ซานฟรานซิสโก และออสติน
    - ศูนย์ขายตั้งอยู่ในแอตแลนตา, บอสตัน, ชาร์ลอตต์, ชิคาโก, โคลัมบัส, ดัลลัส, ลอสแอนเจลิส และซีแอตเทิล

    ✅ นโยบาย RTO ของ IBM มีความยืดหยุ่นมากกว่าบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ
    - IBM กำหนดให้พนักงานทำงานในสำนักงานสามวันต่อสัปดาห์ ในขณะที่บริษัทอื่น เช่น Amazon กำหนดให้ทำงานเต็มเวลาในสำนักงาน

    https://www.techradar.com/pro/ibm-orders-workers-back-to-the-office-or-face-the-consequences
    IBM ได้ประกาศนโยบาย Return-to-Office (RTO) ใหม่สำหรับพนักงานในสหรัฐฯ โดยกำหนดให้พนักงานฝ่ายขายต้องทำงานในสำนักงานหรือศูนย์ขายอย่างน้อย สามวันต่อสัปดาห์ นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้าและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ นอกจากนี้ IBM ยังวางแผนที่จะย้ายพนักงานฝ่ายขายในดัลลัสไปยังสำนักงานใหม่ในออสตินในปี 2026 ✅ พนักงานฝ่ายขายต้องทำงานในสำนักงานอย่างน้อยสามวันต่อสัปดาห์ - พนักงานสามารถเลือกทำงานที่ สำนักงานหลัก, ศูนย์ขาย หรือสถานที่ของลูกค้า - นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Return-to-Client Initiative เพื่อเพิ่มความใกล้ชิดกับลูกค้า ✅ พนักงานในดัลลัสจะถูกย้ายไปยังสำนักงานใหม่ในออสตินในปี 2026 - การย้ายนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร ✅ IBM มีสำนักงานหลัก 5 แห่งและศูนย์ขาย 8 แห่งในสหรัฐฯ - สำนักงานหลักตั้งอยู่ในนิวยอร์ก, ราลี, วอชิงตัน ดี.ซี., ซานฟรานซิสโก และออสติน - ศูนย์ขายตั้งอยู่ในแอตแลนตา, บอสตัน, ชาร์ลอตต์, ชิคาโก, โคลัมบัส, ดัลลัส, ลอสแอนเจลิส และซีแอตเทิล ✅ นโยบาย RTO ของ IBM มีความยืดหยุ่นมากกว่าบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ - IBM กำหนดให้พนักงานทำงานในสำนักงานสามวันต่อสัปดาห์ ในขณะที่บริษัทอื่น เช่น Amazon กำหนดให้ทำงานเต็มเวลาในสำนักงาน https://www.techradar.com/pro/ibm-orders-workers-back-to-the-office-or-face-the-consequences
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • บทความนี้รายงานเกี่ยวกับการพบข้อมูลการจัดส่งของ Ryzen Threadripper 9985WX ซึ่งเป็นซีพียูรุ่นใหม่จาก AMD ที่มี 64 คอร์ พร้อมกับรุ่นอื่นๆ เช่น 16 คอร์ และ 12 คอร์ โดยข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าซีพียูเหล่านี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและทดสอบ ซึ่งอาจเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

    ✅ Ryzen Threadripper 9985WX มี 64 คอร์และ 128 เธรด
    - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 พร้อมแคช L3 ขนาด 384MB และ L2 ขนาด 96MB
    - รองรับซ็อกเก็ต SP6 (sTR5) และมี TDP 350 วัตต์

    ✅ AMD วางแผนเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ในครอบครัว Shimada Peak
    - ซีพียูในซีรีส์นี้จะมีตั้งแต่ 12 คอร์ ไปจนถึง 96 คอร์
    - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex หรือช่วงครึ่งหลังของปี 2025

    ✅ ซีพียูรุ่นใหม่รองรับการใช้งานในกลุ่ม HEDT และ Workstation
    - เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ PCIe lanes จำนวนมาก และ ช่องทางหน่วยความจำที่หลากหลาย
    - มีตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการซีพียูที่มีคอร์จำนวนมาก

    ✅ การออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น
    - ซีพียูรุ่น 12 คอร์และ 16 คอร์ใช้ CCD ที่มีคอร์บางส่วนถูกปิดการใช้งานเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/64-core-ryzen-threadripper-9985wx-spotted-in-shipping-manifests-16-and-12-core-siblings-also-spotted
    บทความนี้รายงานเกี่ยวกับการพบข้อมูลการจัดส่งของ Ryzen Threadripper 9985WX ซึ่งเป็นซีพียูรุ่นใหม่จาก AMD ที่มี 64 คอร์ พร้อมกับรุ่นอื่นๆ เช่น 16 คอร์ และ 12 คอร์ โดยข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าซีพียูเหล่านี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาและทดสอบ ซึ่งอาจเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ✅ Ryzen Threadripper 9985WX มี 64 คอร์และ 128 เธรด - ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 พร้อมแคช L3 ขนาด 384MB และ L2 ขนาด 96MB - รองรับซ็อกเก็ต SP6 (sTR5) และมี TDP 350 วัตต์ ✅ AMD วางแผนเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ในครอบครัว Shimada Peak - ซีพียูในซีรีส์นี้จะมีตั้งแต่ 12 คอร์ ไปจนถึง 96 คอร์ - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex หรือช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ✅ ซีพียูรุ่นใหม่รองรับการใช้งานในกลุ่ม HEDT และ Workstation - เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ PCIe lanes จำนวนมาก และ ช่องทางหน่วยความจำที่หลากหลาย - มีตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องการซีพียูที่มีคอร์จำนวนมาก ✅ การออกแบบที่เน้นประสิทธิภาพและความยืดหยุ่น - ซีพียูรุ่น 12 คอร์และ 16 คอร์ใช้ CCD ที่มีคอร์บางส่วนถูกปิดการใช้งานเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่น https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/64-core-ryzen-threadripper-9985wx-spotted-in-shipping-manifests-16-and-12-core-siblings-also-spotted
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​เจโตวิมุตติชนิดที่ยังมีอุปสรรค
    สัทธรรมลำดับที่ : 965
    ชื่อบทธรรม : -เจโตวิมุตติชนิดที่ยังมีอุปสรรค
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=965
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เจโตวิมุตติชนิดที่ยังมีอุปสรรค
    --ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก.
    สี่จำพวกอย่างไรเล่า ? สี่จำพวกคือ :-
    ๑. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้
    เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่.
    เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ (ความดับแห่งสักกายะ),
    เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ,
    จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในสักกายนิโรธ.
    ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธไม่ได้.
    เปรียบเหมือนบุรุษมือเปื้อนตังเหนียว จับกิ่งไม้,
    มือของเขาข้องอยู่ จับอยู่ ติดอยู่ (ไม่เป็นอิสระ), นี้ฉันใด;
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่.
    เธอย่อมกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ,
    เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธอยู่,
    จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในสักกายนิโรธ.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/223/?keywords=สกฺกายนิโรเธ
    ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธไม่ได้, ฉันนั้นเหมือนกัน.

    ๒. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้
    เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่.
    เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ,
    เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธอยู่,
    จิตของเธอก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในสักกายนิโรธ,
    ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธได้.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/224/?keywords=สกฺกายนิโรเธ
    เปรียบเหมือนบุรุษมือสะอาด จับกิ่งไม้,
    มือของเขาก็ไม่ข้องอยู่ ไม่จับอยู่ ไม่ติดอยู่ (ยังเป็นอิสระ), นี้ฉันใด;
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่.
    เธอย่อมกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ,
    เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธอยู่,
    จิตของเธอก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในสักกายนิโรธ.
    ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธได้, ฉันนั้นเหมือนกัน.

    ๓. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่.
    เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น)
    กระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท (การทำลายแห่งอวิชชา),
    เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่,
    จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในอวิชชาปเภท,
    ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทไม่ได้.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/224/?keywords=อวิชฺชาปฺปเภทํ
    เปรียบเหมือนชัมพาลี*--๑ อันสร้างมาแล้วหลายปี
    คนเขาปิดทางน้ำไหลเข้าของมันเสีย และเปิดทางน้ำไหลออกไว้ทั้งหมด
    ทั้งฝนก็ไม่ตกตามฤดูกาล เมื่อเป็นอย่างนี้ การที่จะมีน้ำไหลออกจากขอบคันแห่งตระพังนั้น ก็เป็นอันไม่มีหวัง, นี้ฉันใด;
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่.
    เธอย่อมกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่,
    จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในอวิชชาปเภท,
    ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทไม่ได้, ฉันนั้นเหมือนกัน.
    *--๑. ตระพังใหญ่ที่ทิ้งของโสโครกประจำเมือง มีขอบคัน.

    ๔. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่.
    เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท(การทำลายแห่งอวิชชา),
    เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่,
    จิตของเธอ ก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในอวิชชาปเภท.
    ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทได้.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/225/?keywords=อวิชฺชาปฺปเภทํ
    เปรียบเหมือนชัมพาลี อันสร้างมาแล้วหลายปี คนเขาเปิดทางน้ำไหลเข้าของมัน และปิดทางน้ำไหลออกไว้ทั้งหมด ทั้งฝนก็ตกตามฤดูกาล เมื่อเป็นอย่างนี้ การที่จะมีน้ำไหลออกจากขอบคันแห่งตระพังนั้น ก็เป็นอันหวังได้, นี้ฉันใด;
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่.
    เธอย่อมกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท(การทำลายแห่งอวิชชา),
    เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่,
    จิตของเธอ ก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในอวิชชาปเภท.
    ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทได้, ฉันนั้นเหมือนกัน.

    --ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวก เหล่านี้แล มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก.-

    #ทุกขมรรค​#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/160-162/178.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/160/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๒๓-๒๒๕/๑๗๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/223/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%98
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=965
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=965
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82
    ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​เจโตวิมุตติชนิดที่ยังมีอุปสรรค สัทธรรมลำดับที่ : 965 ชื่อบทธรรม : -เจโตวิมุตติชนิดที่ยังมีอุปสรรค https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=965 เนื้อความทั้งหมด :- --เจโตวิมุตติชนิดที่ยังมีอุปสรรค --ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่จำพวกอย่างไรเล่า ? สี่จำพวกคือ :- ๑. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ (ความดับแห่งสักกายะ), เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ, จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในสักกายนิโรธ. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธไม่ได้. เปรียบเหมือนบุรุษมือเปื้อนตังเหนียว จับกิ่งไม้, มือของเขาข้องอยู่ จับอยู่ ติดอยู่ (ไม่เป็นอิสระ), นี้ฉันใด; --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อมกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธอยู่, จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในสักกายนิโรธ. http://etipitaka.com/read/pali/21/223/?keywords=สกฺกายนิโรเธ ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธไม่ได้, ฉันนั้นเหมือนกัน. ๒. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธอยู่, จิตของเธอก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในสักกายนิโรธ, ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธได้. http://etipitaka.com/read/pali/21/224/?keywords=สกฺกายนิโรเธ เปรียบเหมือนบุรุษมือสะอาด จับกิ่งไม้, มือของเขาก็ไม่ข้องอยู่ ไม่จับอยู่ ไม่ติดอยู่ (ยังเป็นอิสระ), นี้ฉันใด; --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อมกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธอยู่, จิตของเธอก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในสักกายนิโรธ. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธได้, ฉันนั้นเหมือนกัน. ๓. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท (การทำลายแห่งอวิชชา), เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่, จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในอวิชชาปเภท, ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทไม่ได้. http://etipitaka.com/read/pali/21/224/?keywords=อวิชฺชาปฺปเภทํ เปรียบเหมือนชัมพาลี*--๑ อันสร้างมาแล้วหลายปี คนเขาปิดทางน้ำไหลเข้าของมันเสีย และเปิดทางน้ำไหลออกไว้ทั้งหมด ทั้งฝนก็ไม่ตกตามฤดูกาล เมื่อเป็นอย่างนี้ การที่จะมีน้ำไหลออกจากขอบคันแห่งตระพังนั้น ก็เป็นอันไม่มีหวัง, นี้ฉันใด; --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อมกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่, จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในอวิชชาปเภท, ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทไม่ได้, ฉันนั้นเหมือนกัน. *--๑. ตระพังใหญ่ที่ทิ้งของโสโครกประจำเมือง มีขอบคัน. ๔. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท(การทำลายแห่งอวิชชา), เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่, จิตของเธอ ก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในอวิชชาปเภท. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทได้. http://etipitaka.com/read/pali/21/225/?keywords=อวิชฺชาปฺปเภทํ เปรียบเหมือนชัมพาลี อันสร้างมาแล้วหลายปี คนเขาเปิดทางน้ำไหลเข้าของมัน และปิดทางน้ำไหลออกไว้ทั้งหมด ทั้งฝนก็ตกตามฤดูกาล เมื่อเป็นอย่างนี้ การที่จะมีน้ำไหลออกจากขอบคันแห่งตระพังนั้น ก็เป็นอันหวังได้, นี้ฉันใด; --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อมกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท(การทำลายแห่งอวิชชา), เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่, จิตของเธอ ก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในอวิชชาปเภท. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทได้, ฉันนั้นเหมือนกัน. --ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวก เหล่านี้แล มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก.- #ทุกขมรรค​#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/160-162/178. http://etipitaka.com/read/thai/21/160/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๒๓-๒๒๕/๑๗๘. http://etipitaka.com/read/pali/21/223/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%98 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=965 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=965 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82 ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เจโตวิมุตติชนิดที่ยังมีอุปสรรค
    -เจโตวิมุตติชนิดที่ยังมีอุปสรรค ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวกเหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่จำพวกอย่างไรเล่า ? สี่จำพวกคือ : ๑. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ (ความดับแห่งสักกายะ), เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ, จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในสักกายนิโรธ. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธไม่ได้. เปรียบเหมือนบุรุษมือเปื้อนตังเหนียว จับกิ่งไม้, มือของเขาข้องอยู่ จับอยู่ ติดอยู่ (ไม่เป็นอิสระ), นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อมกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธอยู่, จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในสักกายนิโรธ. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธไม่ได้, ฉันนั้นเหมือนกัน. ๒. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธอยู่, จิตของเธอก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในสักกายนิโรธ, ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธได้. เปรียบเหมือนบุรุษมือสะอาด จับกิ่งไม้, มือของเขาก็ไม่ข้องอยู่ ไม่จับอยู่ ไม่ติดอยู่ (ยังเป็นอิสระ), นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อมกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธ, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งสักกายนิโรธอยู่, จิตของเธอก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในสักกายนิโรธ. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังสักกายนิโรธได้, ฉันนั้นเหมือนกัน. ๓. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท (การทำลายแห่งอวิชชา), เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่, จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่น้อมไป ในอวิชชาปเภท, ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทไม่ได้. เปรียบเหมือนชัมพาลี๑ อันสร้างมาแล้วหลายปี คนเขาปิดทางน้ำไหลเข้าของมันเสีย และเปิดทางน้ำไหลออกไว้ทั้งหมด ทั้งฝนก็ไม่ตกตามฤดูกาล เมื่อเป็นอย่างนี้ การที่จะมีน้ำไหลออกจากขอบคันแห่งตระพังนั้น ก็เป็นอันไม่มีหวัง, นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อมกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่, จิตของเธอ (ก็ยัง) ไม่แล่นไป ไม่เลื่อมใส ไม่ดำรงอยู่ ไม่ น้อมไป ในอวิชชาปเภท, ๑. ตระพังใหญ่ที่ทิ้งของโสโครกประจำเมือง มีขอบคัน. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทไม่ได้, ฉันนั้นเหมือนกัน. ๔. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ในกรณีนี้ เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อม (อาศัยเจโตวิมุตตินั้น) กระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่, จิตของเธอ ก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในอวิชชาปเภท. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทได้. เปรียบเหมือนชัมพาลี อันสร้างมาแล้วหลายปี คนเขาเปิดทางน้ำไหลเข้าของมัน และปิดทางน้ำไหลออกไว้ทั้งหมด ทั้งฝนก็ตกตามฤดูกาล เมื่อเป็นอย่างนี้ การที่จะมีน้ำไหลออกจากขอบคันแห่งตระพังนั้น ก็เป็นอันหวังได้, นี้ฉันใด; ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เข้าถึงเจโตวิมุตติอันสงบ อย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วแลอยู่. เธอย่อมกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภท, เมื่อเธอกระทำในใจซึ่งอวิชชาปเภทอยู่, จิตของเธอ ก็แล่นไป เลื่อมใส ดำรงอยู่ น้อมไป ในอวิชชาปเภท. ความเป็นอย่างนี้ของภิกษุนั้น ทำให้เธอหวังอวิชชาปเภทได้, ฉันนั้นเหมือนกัน. ภิกษุ ท. ! บุคคล ๔ จำพวก เหล่านี้แล มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก.
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงศึกษาสมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง)
    สัทธรรมลำดับที่ : 597
    ชื่อบทธรรม :- สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=597
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง)
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลสี่ประเภทนี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่ประเภทเหล่าไหนเล่า ?
    สี่ประเภทคือ สมณมจละ สมณปุณฑรีกะ สมณปทุมะ สมณสุขุมาลในหมู่สมณะ.
    --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณมจละ ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ
    มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ
    มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ.
    +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคสมณมจละ.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/117/?keywords=สมณมจโล

    --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปุณฑรีกะ ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ
    มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ
    มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ
    มีสัมมาญาณะ มีสัมมาวิมุตติ ;
    แต่เธอนั้นไม่ถูกต้องซึ่งวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคสมณปุณฑรีกะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/117/?keywords=สมณปุณฺฑรีโก

    --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปทุมะ ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ
    มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ
    มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ
    มีสัมมาญาณะ มีสัมมาวิมุตติ ;
    และเธอนั้นถูกต้องซึ่งวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคสมณปทุมะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/117/?keywords=สมณปทุโม

    --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    บริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชชบริกขาร ส่วนมาก
    เพราะเขาอ้อนวอน ที่ไม่มีใครอ้อนวอนนั้นมีเป็นส่วนน้อย.
    เพื่อนสพรหมจารีผู้อยู่ร่วมกันทั้งหลาย พากันประพฤติกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
    ต่อภิกษุนั้น เป็นที่น่าพอใจเป็นส่วนมาก ที่ไม่เป็นที่น่าพอใจนั้นมีเป็นส่วนน้อย ;
    นำอะไร ๆ มาเป็นส่วนมากล้วนแต่น่าพอใจที่ไม่น่าพอใจมีเป็นส่วนน้อย.
    ทุกขเวทนาที่เกิดแต่โรคทางน้ำ ดี ทางเสมหะทางลม ทางสันนิบาต ทางฤดูแปรปรวน
    การบริหารไม่สม่ำเสมอ ออกกำลังมากเกินไป หรือเกิดจากวิบากแห่งกรรมก็ตาม
    มีไม่มากแก่ภิกษุนั้น, เธอเป็นผู้มีอาพาธน้อย.
    อนึ่ง ภิกษุ นั้นเป็นผู้ได้ฌานทั้งสี่
    อันเป็นสุขวิหารในทิฏฐธรรมอาศัยจิตอันยิ่ง โดยง่าย โดยไม่ยาก โดยไม่ลำบากเลย,
    และเธอทำให้แจ้งได้ซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
    เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคลสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/118/?keywords=สมณสุขุมาโล

    --ภิกษุ ท. ! ถ้าจะกล่าวกันโดยชอบ ว่าผู้ใดเป็นสมณสุขุมาลในหมู่สมณะทั้งหลายแล้ว
    ก็พึงกล่าวเรานี้แหละ ว่าเป็นสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ทั้งหลาย ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล บุคคลสี่ประเภท มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก,
    ดังนี้แล.-

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/89/89.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/89/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๑๗/๘๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/117/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=597
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41&id=597
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41
    ลำดับสาธยายธรรม : 41 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_41.mp3
    อริยสาวกพึงศึกษาสมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง) สัทธรรมลำดับที่ : 597 ชื่อบทธรรม :- สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=597 เนื้อความทั้งหมด :- --สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง) --ภิกษุ ท. ! บุคคลสี่ประเภทนี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่ประเภทเหล่าไหนเล่า ? สี่ประเภทคือ สมณมจละ สมณปุณฑรีกะ สมณปทุมะ สมณสุขุมาลในหมู่สมณะ. --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณมจละ ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ. +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคสมณมจละ. http://etipitaka.com/read/pali/21/117/?keywords=สมณมจโล --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปุณฑรีกะ ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ มีสัมมาญาณะ มีสัมมาวิมุตติ ; แต่เธอนั้นไม่ถูกต้องซึ่งวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่. +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคสมณปุณฑรีกะ. http://etipitaka.com/read/pali/21/117/?keywords=สมณปุณฺฑรีโก --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปทุมะ ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ มีสัมมาญาณะ มีสัมมาวิมุตติ ; และเธอนั้นถูกต้องซึ่งวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่. +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคสมณปทุมะ. http://etipitaka.com/read/pali/21/117/?keywords=สมณปทุโม --ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ บริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชชบริกขาร ส่วนมาก เพราะเขาอ้อนวอน ที่ไม่มีใครอ้อนวอนนั้นมีเป็นส่วนน้อย. เพื่อนสพรหมจารีผู้อยู่ร่วมกันทั้งหลาย พากันประพฤติกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ต่อภิกษุนั้น เป็นที่น่าพอใจเป็นส่วนมาก ที่ไม่เป็นที่น่าพอใจนั้นมีเป็นส่วนน้อย ; นำอะไร ๆ มาเป็นส่วนมากล้วนแต่น่าพอใจที่ไม่น่าพอใจมีเป็นส่วนน้อย. ทุกขเวทนาที่เกิดแต่โรคทางน้ำ ดี ทางเสมหะทางลม ทางสันนิบาต ทางฤดูแปรปรวน การบริหารไม่สม่ำเสมอ ออกกำลังมากเกินไป หรือเกิดจากวิบากแห่งกรรมก็ตาม มีไม่มากแก่ภิกษุนั้น, เธอเป็นผู้มีอาพาธน้อย. อนึ่ง ภิกษุ นั้นเป็นผู้ได้ฌานทั้งสี่ อันเป็นสุขวิหารในทิฏฐธรรมอาศัยจิตอันยิ่ง โดยง่าย โดยไม่ยาก โดยไม่ลำบากเลย, และเธอทำให้แจ้งได้ซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่. +--ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า #บุคคลสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ. http://etipitaka.com/read/pali/21/118/?keywords=สมณสุขุมาโล --ภิกษุ ท. ! ถ้าจะกล่าวกันโดยชอบ ว่าผู้ใดเป็นสมณสุขุมาลในหมู่สมณะทั้งหลายแล้ว ก็พึงกล่าวเรานี้แหละ ว่าเป็นสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ทั้งหลาย ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล บุคคลสี่ประเภท มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก, ดังนี้แล.- #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/89/89. http://etipitaka.com/read/thai/21/89/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๑๗/๘๙. http://etipitaka.com/read/pali/21/117/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=597 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41&id=597 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41 ลำดับสาธยายธรรม : 41 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_41.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง)
    -สมณะสี่ประเภท (อีกนัยหนึ่ง) ภิกษุ ท. ! บุคคลสี่ประเภทนี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. สี่ประเภทเหล่าไหนเล่า ? สี่ประเภทคือ สมณอจละ สมณปุณฑรีกะ สมณปทุมะ สมณสุขุมาลในหมู่สมณะ. ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณอจละ ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุคคสมณอจละ. ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปุณฑรีกะ ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ มีสัมมาญาณะ มีสัมมาวิมุตติ ; แต่เธอนั้นไม่ถูกต้องซึ่งวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุคคสมณปุณฑรีกะ. ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณปทุมะ ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ มีสัมมาวาจา มีสัมมากัมมันตะ มีสัมมาอาชีวะ มีสัมมาวายามะ มีสัมมาสติ มีสัมมาสมาธิ มีสัมมาญาณะ มีสัมมาวิมุตติ ; และเธอนั้นถูกต้องซึ่งวิโมกข์แปด ด้วยนามกาย อยู่. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุคคสมณปทุมะ. ภิกษุ ท. ! อย่างไรเล่า เรียกว่า บุคคลสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ บริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจยเภสัชชบริกขาร ส่วนมาก เพราะเขาอ้อนวอน ที่ไม่มีใครอ้อนวอนนั้นมีเป็น ส่วนน้อย. เพื่อนสพรหมจารีผู้อยู่ร่วมกันทั้งหลาย พากันประพฤติกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ต่อภิกษุนั้น เป็นที่น่าพอใจเป็นส่วนมาก ที่ไม่เป็นที่น่าพอใจนั้นมีเป็นส่วนน้อย ; นำอะไร ๆ มาเป็นส่วนมากล้วนแต่น่าพอใจที่ไม่น่าพอใจมีเป็นส่วนน้อย. ทุกขเวทนาที่เกิดแต่โรคทางน้ำ ดี ทางเสมหะทางลม ทางสันนิบาต ทางฤดูแปรปรวน การบริหารไม่สม่ำเสมอ ออกกำลังมากเกินไป หรือเกิดจากวิบากแห่งกรรมก็ตาม มีไม่มากแก่ภิกษุนั้น, เธอเป็นผู้มีอาพาธน้อย. อนึ่ง ภิกษุ นั้นเป็นผู้ได้ฌานทั้งสี่ อันเป็นสุขวิหารในทิฏฐธรรมอาศัยจิตอันยิ่ง โดยง่าย โดยไม่ยาก โดยไม่ลำบากเลย, และเธอทำให้แจ้งได้ซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วแลอยู่. ภิกษุ ท. ! อย่างนี้แล เรียกว่า บุคคลสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ. ภิกษุ ท. ! ถ้าจะกล่าวกันโดยชอบ ว่าผู้ใดเป็นสมณสุขุมาลในหมู่สมณะทั้งหลายแล้ว ก็พึงกล่าวเรานี้แหละ ว่าเป็นสมณสุขุมาลในหมู่สมณะ ทั้งหลาย ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล บุคคลสี่ประเภท มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก,ดังนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงศึกษาอุปาทานมี ๔ อย่าง
    สัทธรรมลำดับที่ : 177
    ชื่อบทธรรม :- อุปาทานสี่
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=177
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อุปาทานสี่
    -ภิกษุ ท. ! อุปาทานมี ๔ อย่าง เหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ :-
    http://etipitaka.com/read/pali/19/88/?keywords=จตฺตาริ+อุปาทาน
    +--๑. กามุปาทาน ความถือมั่นใน กาม
    +--๒. ทิฏฐุปาทาน ความถือมั่นใน ทิฎฐิ
    +--๓. สีลัพพตุปาทาน ความถือมั่นใน ศีลพรต
    +--๔. และอัตตวาทุปาทาน ความถือมั่นใน วาทะว่า ตน.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือ #อุปาทานสี่อย่าง.-

    #ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/87/337.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/87/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๘๘/๓๓๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/88/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%97
    ศึกษาเพิ่มเติม..
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=177
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=13&id=177
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=13
    ลำดับสาธยายธรรม : 13 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_13.mp3
    อริยสาวกพึงศึกษาอุปาทานมี ๔ อย่าง สัทธรรมลำดับที่ : 177 ชื่อบทธรรม :- อุปาทานสี่ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=177 เนื้อความทั้งหมด :- --อุปาทานสี่ -ภิกษุ ท. ! อุปาทานมี ๔ อย่าง เหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ :- http://etipitaka.com/read/pali/19/88/?keywords=จตฺตาริ+อุปาทาน +--๑. กามุปาทาน ความถือมั่นใน กาม +--๒. ทิฏฐุปาทาน ความถือมั่นใน ทิฎฐิ +--๓. สีลัพพตุปาทาน ความถือมั่นใน ศีลพรต +--๔. และอัตตวาทุปาทาน ความถือมั่นใน วาทะว่า ตน. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือ #อุปาทานสี่อย่าง.- #ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/87/337. http://etipitaka.com/read/thai/19/87/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๘๘/๓๓๗. http://etipitaka.com/read/pali/19/88/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม.. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=177 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=13&id=177 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=13 ลำดับสาธยายธรรม : 13 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_13.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อุปาทานสี่
    -อุปาทานสี่ ภิกษุ ท. ! อุปาทานมี ๔ อย่าง เหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ : ๑. กามุปาทาน ความถือมั่นใน กาม ๒. ทิฏฐุปาทาน ความถือมั่นใน ทิฎฐิ ๓. สีลัพพตุปาทาน ความถือมั่นใน ศีลพรต ๔. และอัตตวาทุปาทาน ความถือมั่นใน วาทะว่าตน. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือ อุปาทานสี่อย่าง.
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก**
    (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*)

    ---

    ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ*
    - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง
    - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน
    - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ
    - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม

    ---

    ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)**
    **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง*
    - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ
    - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้
    - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ
    - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน

    ---

    ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)**
    **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา*
    - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา
    - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ"
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย
    - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู

    ---

    ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)**
    **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง*
    - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต"
    - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที
    - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ
    - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา

    ---

    ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม*
    - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว
    - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ
    - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม
    - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา

    ---

    ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต*
    - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ
    - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่
    - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา
    - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ"

    ---

    ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)**
    **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ*
    - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้
    - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ
    - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล
    - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    **เจาะลึกจิตวิญญาณและอารมณ์ของตัวละครหลัก** (ในนิยาย *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*) --- ### **1. หลง เจี้ยน (จีน - ทิศเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *ผู้แบกรักเก่าในร่างนักรบ* - **ความเจ็บปวดซ่อนเร้น :** แผลเป็นรูปเกล็ดงูบนแก้มไม่ใช่แค่ร่องรอยคำสาป แต่เป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความอัปยศ" ที่ปล่อยให้หยวนเยี่ยนต้องเป็นอมตะเพียงลำพัง - **การแสดงออก :** สื่อสารผ่านการกระทำมากกว่าคำพูด เวลาโกรธจะจัดระเบียบเข็มปักจักรวาลให้เรียงตัวเป็นรูปวงแหวน - **ความปรารถนาลึกๆ :** อยากใช้ชีวิตธรรมดาเป็นช่างซ่อมนาฬิกาในตรอกเล็กๆ ของปักกิ่ง โดยไม่ต้องสวมมงกุฎแห่งความรับผิดชอบ - **จุดแตกหักทางอารมณ์ :** การพบว่าหยวนเยี่ยนเลือกถูกสาปเพื่อให้เขาได้มีชีวิตต่อ...แทนที่จะปล่อยให้เขาตายตาม --- ### **2. ทาเคดะ ซากุระ (ญี่ปุ่น - ทิศตะวันออก)** **จิตวิญญาณ :** *ศิลปินผู้วาดภาพด้วยวิญญาณตนเอง* - **ความเปราะบาง :** รู้สึกเหมือนเป็น "ภาพวาดที่ยังไม่เสร็จ" เปรียบเทียบตัวเองกับพี่ชายที่สมบูรณ์แบบเสมอ - **พิธีกรรมส่วนตัว :** แอบเก็บเส้นผมของทุกคนที่วาดภาพไว้ในสมุดสีน้ำ เพื่อรู้สึกว่ายังควบคุมบางสิ่งได้ - **ความฝันลับ :** อยากวาดภาพที่ไม่มีคำสาปซ่อนอยู่ แค่ภาพทุ่งซากุระกับพี่ชายที่ยิ้มได้อย่างอิสระ - **การเผชิญความจริง :** วันที่ต้องใช้พู่กันจุ่มเลือดตัวเองเพื่อวาดทางรอดให้ทุกคน --- ### **3. วีร ราชปุต (อินเดีย - ทิศตะวันตก)** **จิตวิญญาณ :** *มหาเศรษฐีผู้ห่อหุ้มหัวใจด้วยเงินตรา* - **ความกลัวที่ซ่อนอยู่ :** กลัวความเงียบ จึงใช้เสียงเพลง/การเจรจาเติมเต็มชีวิตตลอดเวลา - **พฤติกรรมย้ำคิด :** นับเม็ดพลอยในสร้อย 108 เม็ดทุกเช้า เพื่อยืนยันว่ายัง "เป็นปกติ" - **ความขัดแย้ง :** เกลียดความอ่อนแอ แต่แอบเก็บยาพิษที่อานยาทำไว้...ในกรณีที่ต้องฆ่าตัวตาย - **จุดเปลี่ยน :** การพบว่าแม่แท้ๆ ยังมีชีวิตอยู่ในร่างของศัตรู --- ### **4. คิม จีอู (เกาหลีใต้ - ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ)** **จิตวิญญาณ :** *นกในกรงทองแห่งเสียงเพลง* - **ความทุกข์ระทม :** ได้ยินเสียงกระซิบจากไมโครโฟนเก่าๆ ที่พี่ชายให้มา เสียงนั้นบอกให้เธอ "ร้องให้ดังกว่านี้...แม้ต้องแลกด้วยชีวิต" - **การต่อรองกับชะตา :** ใช้ลิปสติกสีเลือดเขียนคำสาปบนกระจกห้องน้ำทุกครั้งก่อนขึ้นเวที - **ความฝันที่ถูกกดทับ :** อยากร้องเพลงกล่อมเด็กในหมู่บ้านเล็กๆ โดยไม่ต้องมีเอฟเฟกต์พิเศษ - **ความสัมพันธ์กับแทฮยอน :** รู้สึกเหมือนเป็น "นกขมิ้นในกรงทอง" ที่พี่ชายสวยงาม แต่กรงนั้นทำจากความผิดพลาดในอดีตของเขา --- ### **5. ณัฐ ศรีสุวรรณ (ไทย - ทิศใต้)** **จิตวิญญาณ :** *นักรบผู้สวมหน้ากากแห่งรอยยิ้ม* - **ความเจ็บปวดที่ซ่อนใต้รอยสัก :** สักคำว่า "อิสระ" ซ่อนไว้ใต้ลายนาคราช แต่รู้ตัวว่าตนเองถูกพันธนาการโดยความรักที่มีต่อน้องสาว - **พิธีกรรม :** ทุบกระจกในห้องฝึกมวยทุกครั้งที่รู้สึกอ่อนแอ - **ความฝันลึกๆ :** อยากพาพิมพ์ลดาไปเที่ยวทะเล โดยไม่ต้องคิดเรื่องคำสาปหรือพิธีกรรม - **จุดพลิกผัน :** วันที่พิมพ์ลดาเลือกเต้นระบำหน้ากากครั้งสุดท้าย...โดยไม่บอกเขา --- ### **6. เดีย วิชายา (อินโดนีเซีย - ทิศตะวันออกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *ราชินีเครื่องเทศผู้หลงกลิ่นอดีต* - **ความขัดแย้ง :** เกลียดเครื่องเทศเพราะถูกพ่อฝึกจนจมูกเสื่อม แต่กลับใช้มันเป็นอาวุธ - **ความทรงจำสุขสุด :** กลิ่นดินหลังฝนตกในวันที่พี่ชายพาไปตั้งแคมป์โดยไม่บอกแม่ - **ความกลัว :** กลัวการถูกทิ้ง จึงแสร้งทำตัวแข็งกร้าวตลอดเวลา - **สัญลักษณ์ :** แก้วกาแฟร้าวที่พี่ชายให้...เก็บไว้เป็นเครื่องเตือนใจว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" --- ### **7. เหงียน ลาน (เวียดนาม - ทิศตะวันตกเฉียงใต้)** **จิตวิญญาณ :** *เชฟผู้ปรุงรสชาติแห่งความทรงจำ* - **ความสามารถพิเศษ :** รู้รสชาติอารมณ์คนผ่านอาหาร แต่ไม่สามารถลิ้มรสอาหารที่ตัวเองปรุงได้ - **พิธีกรรม :** แอบชิมน้ำตาตัวเองเวลาปรุงอาหารให้คนสำคัญ - **ความฝันที่ถูกเก็บไว้ :** อยากเปิดร้านอาหารเล็กๆ ที่เสิร์ฟแต่เมนูแห่งความสุข โดยไม่มีสูตรลับของตระกูล - **ความสัมพันธ์กับล็อง :** มองว่าพี่ชายคือ "สมุดบันทึกที่มีชีวิต" ที่เธอไม่อยากให้เขียนจบ
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • "ความหวาดกลัวคือความเขลา"
    18 เมษา 68...ขอลองเขียนเล่าเรื่องดาร์ก ๆ ดูบ้าง
    ....
    ความหวาดกลัวมีพื้นฐานจากความโง่เขลา เรื่องนี้ lit nit รู้ดี ทุกครั้งที่เกิดความกลัวในเรื่องใด lit nit จะเผชิญหน้ากับมัน ท้าทายมัน และบุกตะลุยให้ความกลัวกระเจิดกระเจิง เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้ไม่กลัวกับเรื่องนั้นอีกแล้ว
    ....
    แต่ lit nit ยังมีความกลัวอย่างหนึ่งที่หลับใหลอยู่ในส่วนลึกของสำนึก กลัวถึงขนาดที่แม้จะเขียนนิยามของมันออกมาก็ไม่ได้ จุดเริ่มต้นมันเกิดขึ้นเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน มันเป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ สำหรับใครหลาย ๆ คนที่อยู่ด้วยในวันนั้น แต่สำหรับ lit nit แม่งคือ "โศกนาฏกรรมของชีวิต !"
    ....
    เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ lit nit หวาดกลัวสิ่งนี้ มันหลับอยู่ในมุมที่มืดที่สุดไม่แสดงตัวให้ใครเห็น จน lit nit เองยังคิดว่ามันจากไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ความจริงมันเปล่าเลย มันเคยถูกปลุกให้ตื่นอยู่บางช่วงเวลาของชีวิต มันเขย่าประสาท lit nit จนหลอน มันหยอกล้อเหยียบย่ำ lit nit สนุกสนาน lit nit รู้ดีว่ามีเพียงความกล้าและปัญญาเท่านั้นที่จะจัดการมันได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่นี่มันคือจุดอ่อนแอที่สุด เป็นปมเดียวของชีวิต อยากให้ใครสักคนโยนเชือกมาฉุด lit nit ขึ้นไปจากหลุมดำแห่งนี้ เพื่อยื้อชีวิตต่อเวลาให้ได้ขัดเกลาความกล้าและปัญญาจนแหลมคม เพื่อวันหนึ่งข้างหน้า lit nit จะอาจหาญกล้าตะลุยความหวาดกลัวนี้ให้สะบั้นกันไปข้างหนึ่ง อยากขอเวลาเพิ่มอีกสักนิดจริง ๆ
    ....
    "ความกลัวคือความเขลา"
    ไม่ว่าใครก็โปรดอย่าถามว่าสิ่งนั้นคืออะไร เพราะ lit nit กลัวจนยากที่จะเรียกนิยามของมัน ขอให้ lit nit รับรู้ถึงมันเพียงคนเดียวก็พอ ที่เขียนมันออกมาเพราะอยากลองเขียนเรื่องดาร์ก ๆ ดูบ้างก็เท่านั้น

    lit nit
    18 เมษายน 2568
    "ความหวาดกลัวคือความเขลา" 18 เมษา 68...ขอลองเขียนเล่าเรื่องดาร์ก ๆ ดูบ้าง .... ความหวาดกลัวมีพื้นฐานจากความโง่เขลา เรื่องนี้ lit nit รู้ดี ทุกครั้งที่เกิดความกลัวในเรื่องใด lit nit จะเผชิญหน้ากับมัน ท้าทายมัน และบุกตะลุยให้ความกลัวกระเจิดกระเจิง เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้ไม่กลัวกับเรื่องนั้นอีกแล้ว .... แต่ lit nit ยังมีความกลัวอย่างหนึ่งที่หลับใหลอยู่ในส่วนลึกของสำนึก กลัวถึงขนาดที่แม้จะเขียนนิยามของมันออกมาก็ไม่ได้ จุดเริ่มต้นมันเกิดขึ้นเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน มันเป็นเหตุการณ์เล็ก ๆ สำหรับใครหลาย ๆ คนที่อยู่ด้วยในวันนั้น แต่สำหรับ lit nit แม่งคือ "โศกนาฏกรรมของชีวิต !" .... เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ lit nit หวาดกลัวสิ่งนี้ มันหลับอยู่ในมุมที่มืดที่สุดไม่แสดงตัวให้ใครเห็น จน lit nit เองยังคิดว่ามันจากไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ความจริงมันเปล่าเลย มันเคยถูกปลุกให้ตื่นอยู่บางช่วงเวลาของชีวิต มันเขย่าประสาท lit nit จนหลอน มันหยอกล้อเหยียบย่ำ lit nit สนุกสนาน lit nit รู้ดีว่ามีเพียงความกล้าและปัญญาเท่านั้นที่จะจัดการมันได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่นี่มันคือจุดอ่อนแอที่สุด เป็นปมเดียวของชีวิต อยากให้ใครสักคนโยนเชือกมาฉุด lit nit ขึ้นไปจากหลุมดำแห่งนี้ เพื่อยื้อชีวิตต่อเวลาให้ได้ขัดเกลาความกล้าและปัญญาจนแหลมคม เพื่อวันหนึ่งข้างหน้า lit nit จะอาจหาญกล้าตะลุยความหวาดกลัวนี้ให้สะบั้นกันไปข้างหนึ่ง อยากขอเวลาเพิ่มอีกสักนิดจริง ๆ .... "ความกลัวคือความเขลา" ไม่ว่าใครก็โปรดอย่าถามว่าสิ่งนั้นคืออะไร เพราะ lit nit กลัวจนยากที่จะเรียกนิยามของมัน ขอให้ lit nit รับรู้ถึงมันเพียงคนเดียวก็พอ ที่เขียนมันออกมาเพราะอยากลองเขียนเรื่องดาร์ก ๆ ดูบ้างก็เท่านั้น lit nit 18 เมษายน 2568
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • กัมมุนา วตตีโลโก
    สัตว์โลกทั้งหลาย ย่อมเป็นไปตามกรรม
    กัมมุนา วตตีโลโก สัตว์โลกทั้งหลาย ย่อมเป็นไปตามกรรม
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • รูปหล่อพ่อท่านทวี วัดบ้านไร่ จ.ปัตตานี
    รูปหล่อพ่อท่านทวี อุดกริ่ง วัดบ้านไร่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ ศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์-พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้....หนึ่งพุทธาคม..คงกระพันกันภัย!!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง กำบังกาย แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันการกระทำคุณไสย์ เป็นเมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก.

    ** หลายพิธีได้มีพระเกจิอาจารย์มาร่วมพิธีมากมาย พระผู้ใหญ่ในสาย“พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้” จังหวัดปัตตานี หนึ่งในพระผู้เข้าร่วมพิธีรูปหนึ่ง เมื่อท่านได้เห็นพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีแล้ว ท่านจึงได้ถามเจ้าภาพว่า

    “ทำไมไม่นิมนต์ ท่านวีวัดบ้านไร่มาด้วยล่ะ ท่านวีท่านสมาธิดีนะ” ​

    เล่ากันว่าด้วยคำยกย่องที่พระเกจิอาจารย์สายพระอาจารย์ทิมรูปนั้น มีต่อท่านวี..หรือพ่อท่านทวีอีกนามคือ พระครูพัฒนกิจประยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่พัฒนาราม ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานีศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์..พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้..นี่เอง ทำให้หลังจากนั้นท่านเจ้าภาพต้องเร่งรีบไปนิมนต์พ่อท่านทวีมาร่วมในพิธีปลุกเสกเสียทุกครั้งเลยทีเดียว.... >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อพ่อท่านทวี วัดบ้านไร่ จ.ปัตตานี รูปหล่อพ่อท่านทวี อุดกริ่ง วัดบ้านไร่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี // พระดีพิธีใหญ่ ศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์-พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้....หนึ่งพุทธาคม..คงกระพันกันภัย!!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง กำบังกาย แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันการกระทำคุณไสย์ เป็นเมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก. ** หลายพิธีได้มีพระเกจิอาจารย์มาร่วมพิธีมากมาย พระผู้ใหญ่ในสาย“พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้” จังหวัดปัตตานี หนึ่งในพระผู้เข้าร่วมพิธีรูปหนึ่ง เมื่อท่านได้เห็นพระเกจิอาจารย์ที่มาร่วมพิธีแล้ว ท่านจึงได้ถามเจ้าภาพว่า “ทำไมไม่นิมนต์ ท่านวีวัดบ้านไร่มาด้วยล่ะ ท่านวีท่านสมาธิดีนะ” ​ เล่ากันว่าด้วยคำยกย่องที่พระเกจิอาจารย์สายพระอาจารย์ทิมรูปนั้น มีต่อท่านวี..หรือพ่อท่านทวีอีกนามคือ พระครูพัฒนกิจประยุต เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่พัฒนาราม ตำบลปากล่อ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานีศิษย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์..พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้..นี่เอง ทำให้หลังจากนั้นท่านเจ้าภาพต้องเร่งรีบไปนิมนต์พ่อท่านทวีมาร่วมในพิธีปลุกเสกเสียทุกครั้งเลยทีเดียว.... >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • สมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวด เนื้อว่าน วัดพะโคะ จ.สงขลา
    สมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวด เนื้อว่าน วัดพะโคะ จ.สงขลา // พระดีพิธีใหญ่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวสงขลา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงปู่ทวดวัดพะโคะ หรือ สมเด็จพะโคะ พระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนให้ความนับถือมากมาย วัดแห่งนี้คือที่จำพรรษาของสมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวด ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อวัดราชประดิษฐาน แต่ชาวบ้านก็ยังคงนิยมเรียกกันติดปากว่าวัดพะโคะอยู่อย่างนั้น >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    สมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวด เนื้อว่าน วัดพะโคะ จ.สงขลา สมเด็จเจ้าพะโคะ หลวงปู่ทวด เนื้อว่าน วัดพะโคะ จ.สงขลา // พระดีพิธีใหญ่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวสงขลา // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงปู่ทวดวัดพะโคะ หรือ สมเด็จพะโคะ พระเกจิอาจารย์ที่ประชาชนให้ความนับถือมากมาย วัดแห่งนี้คือที่จำพรรษาของสมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวด ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนเป็นชื่อวัดราชประดิษฐาน แต่ชาวบ้านก็ยังคงนิยมเรียกกันติดปากว่าวัดพะโคะอยู่อย่างนั้น >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา
    เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม เนื้อทองแดง ( ตอกโค๊ต ) วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา //พระดี พิธีใหญ๋ ที่ระลึกสมทบทุนสร้างโบสถ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณมหาอุตม์ อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดเมตตามหานิยม กันผี-กันคุณไสยต่างๆ เมตตามหานิยม ส่งเสริมการทำมาค้าขาย ประกอบธุรกิจให้ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งส่งเสริมหน้าที่การงาน พลิกหนุนเสริมดวงชะตาเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแก่ผู้ครองครองบูชา >>

    ** หลวงพ่อเฉลิม เกจิดังกรุงเก่า เกจิอาวุโส พระนครศรีอยุธยา พระเกจิที่โด่งดังอาคมขลังหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทายาทสืบสานพุทธาคมสายตรงหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เหรียญเจริญพร เอาไว้ขอพรให้สมหวัง รูปแบบสวยงาม เจตนาการสร้างก็ดี..... >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา เหรียญเจริญพร หลวงพ่อเฉลิม เนื้อทองแดง ( ตอกโค๊ต ) วัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา //พระดี พิธีใหญ๋ ที่ระลึกสมทบทุนสร้างโบสถ์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณมหาอุตม์ อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดเมตตามหานิยม กันผี-กันคุณไสยต่างๆ เมตตามหานิยม ส่งเสริมการทำมาค้าขาย ประกอบธุรกิจให้ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง อีกทั้งส่งเสริมหน้าที่การงาน พลิกหนุนเสริมดวงชะตาเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งแก่ผู้ครองครองบูชา >> ** หลวงพ่อเฉลิม เกจิดังกรุงเก่า เกจิอาวุโส พระนครศรีอยุธยา พระเกจิที่โด่งดังอาคมขลังหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทายาทสืบสานพุทธาคมสายตรงหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เหรียญเจริญพร เอาไว้ขอพรให้สมหวัง รูปแบบสวยงาม เจตนาการสร้างก็ดี..... >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระแก้วมรกต วัดข่อย จ.สิงห์บุรี
    เหรียญพระแก้วมรกต เนื้อกะไหล่เงิน วัดข่อย จ.สิงห์บุรี // พระดีพิธีใหญ่ หลวงปู่โต๊ะ ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นเมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก. >>

    ** วัดข่อยสังฆาราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย การสร้างวัด สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2340 ชาวบ้านเรียกสั้นๆ ว่า "วัดข่อย" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในราว พ.ศ. 2343 >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระแก้วมรกต วัดข่อย จ.สิงห์บุรี เหรียญพระแก้วมรกต เนื้อกะไหล่เงิน วัดข่อย จ.สิงห์บุรี // พระดีพิธีใหญ่ หลวงปู่โต๊ะ ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ คุ้มครองภยันอันตรายจากศาสตราวุธทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นเมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก. >> ** วัดข่อยสังฆาราม สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย การสร้างวัด สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2340 ชาวบ้านเรียกสั้นๆ ว่า "วัดข่อย" ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในราว พ.ศ. 2343 >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • 170 ปี สนธิสัญญาเบาว์ริง เปิดประเทศสู่เศรษฐกิจโลก ประโยชน์ไม่สมดุล ทุนต่างชาติครอบงำ ไม่ยุติธรรม! ไทยทำไม่ได้ที่อังกฤษ เปิดประเทศสู่โลก แต่ปิดความเท่าเทียม? 🇹🇭⚖️

    📚 สนธิสัญญาเบาว์ริงไม่ใช่แค่เรื่องในอดีต แต่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่นำไทยเข้าสู่เวทีเศรษฐกิจโลก ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่เท่าเทียม เปิดประตูสู่ความทันสมัย แต่ปิดโอกาสของความเสมอภาค ในการเจรจากับชาติตะวันตก ⚖️

    🧭 สนธิสัญญาที่เปิดประเทศ แต่ปิดความเสมอภาค ในวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีกับอังกฤษ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “สนธิสัญญาเบาว์ริง” ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของไทย สู่โลกทุนนิยม 🌍

    แต่ภายใต้การเปิดเสรีนั้น กลับมีเงื่อนไขที่ไทยเสียเปรียบ ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การปกครอง และกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้สนธิสัญญานี้ถูกวิพากษ์ว่าเป็น "สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม"

    📜 “Treaty of Friendship and Commerce between the British Empire and the Kingdom of Siam” หรือ Bowring Treaty คือข้อตกลงระหว่างไทย หรือราชอาณาจักรสยามในสมัยนั้น กับอังกฤษ ที่ลงนามเมื่อวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398

    จุดเด่นของสนธิสัญญานี้ คือการเปิดให้พ่อค้าชาวอังกฤษ สามารถค้าขายอย่างเสรีในสยาม และได้รับ “สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” (Extraterritorial Rights) 🛂

    กล่าวคือ คนในบังคับอังกฤษที่อยู่ในไทย จะไม่อยู่ภายใต้กฎหมายไทย แต่ขึ้นกับศาลของอังกฤษเอง

    นอกจากนี้ สนธิสัญญายังเปิดทางให้พ่อค้าต่างชาติ ตั้งรกราก ซื้อขายทรัพย์สิน และถือครองที่ดินในบางพื้นที่ได้ด้วย

    💼 เหตุผลเบื้องหลัง อังกฤษต้องการอะไรกันแน่? หลายคนอาจเข้าใจว่า อังกฤษต้องการแค่เปิดตลาดการค้า แต่เบื้องหลังของข้อตกลงนี้ กลับลึกซึ้งกว่านั้นมาก…

    ผลประโยชน์จากการค้าฝิ่น อังกฤษต้องการสร้างเส้นทางการค้าฝิ่น ที่มั่นคงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องการให้สยามเป็นทางผ่านการค้ากับจีน ฮ่องกง และอินเดีย 🚢 อำนาจและอิทธิพลทางการทูต

    หลังสงครามฝิ่นครั้งแรก จีนพ่ายแพ้ อังกฤษต้องการป้องกันไม่ให้เกิด “สยามเป็นจีนลำดับต่อไป” เบาว์ริงใช้วิธี “ทูตนุ่ม” มากกว่าการใช้กำลังทหาร

    ประโยชน์จากภาษีต่ำ ตามสนธิสัญญา ไทยเก็บภาษีนำเข้าได้แค่ 3% เท่านั้น ‼️ ฝิ่นไม่ต้องเสียภาษีเลย แต่ต้องขายให้กับเจ้าภาษีเท่านั้น

    👑 ทำไมสยามถึงยอมเซ็น? พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเล็งเห็นว่า ประเทศไทยอยู่ในภาวะล้าหลัง เมื่อเทียบกับชาติตะวันตก หากไม่ยอมเปิดประเทศ อาจตกเป็นอาณานิคมเหมือนจีน พม่า หรืออินเดียได้

    การเปิดการค้าเสรี จะช่วยให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจาก “การส่งออกข้าว” ชาวนาก็จะมีเงินมากขึ้น ข้าวจะกลายเป็นสินค้าส่งออกของไทย สร้างรายได้ให้แก่รัฐบาล... 🧺🌾

    🔍 ผลกระทบที่ตามมา เปิดเสรี หรือเปิดโอกาสให้ต่างชาติครอบงำ? ภายหลังการลงนามสนธิสัญญาเบาว์ริง มีเรือต่างประเทศ เข้ามาค้าขายกว่า 100 ลำในปีเดียว ระบบเงินเหรียญ แทนพดด้วง เริ่มใช้อย่างเป็นระบบ เกิดการลงทุนของต่างชาติ เช่น โรงสี โรงเลื่อยไม้ โรงน้ำตาล

    ชาวนามีรายได้สูงขึ้น ราคาข้าวพุ่ง จาก 3–5 บาท ต่อเกวียน เป็น 16–20 บาท ต่อเกวียน ราษฎรสามารถ “จำนอง” หรือ “ขายฝาก” ที่ดินของตนได้ ชาวต่างชาติสามารถเช่า หรือซื้อที่ดินได้ในพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนด 🏘️

    📈 ข้อดีของสนธิสัญญาเบาว์ริง ที่น้อยคนนึกถึง...
    ✅ เปิดประตูการค้าเสรี
    ✅ ช่วยให้ไทยพัฒนาวิทยาการตะวันตก
    ✅ ราษฎรมีรายได้จากการค้าข้าว
    ✅ กระตุ้นการพัฒนาเมือง ถนนเจริญกรุง สีลม เริ่มก่อสร้าง
    ✅ ทำให้มีการแข่งขันทางการค้า → ราคาสินค้าลดลง

    📌 สินค้าไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เช่น ข้าว ไม้สัก งาช้าง

    😞 ข้อเสียเปรียบของไทย ในสนธิสัญญาเบาว์ริง ที่ถูกซ่อนไว้

    ❌ เสียสิทธิเสรีภาพทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถเก็บภาษีนำเข้าตามต้องการได้ ต้องเปิดตลาดสินค้าให้ต่างชาติ โดยไม่มีข้อจำกัด

    ❌ เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต คนอังกฤษไม่ต้องขึ้นศาลไทย ทำให้ศาลไทยไม่มีอำนาจเต็มที่

    ❌ ทุนต่างชาติเข้ามาครอบงำเศรษฐกิจ ตั้งโรงงาน โรงสี โรงเลื่อยไม้ ฯลฯ โดยคนไทยแข่งขันไม่ได้

    ❌ คนไทยไม่สามารถทำการค้าในอังกฤษได้ ไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียม เหมือนที่อังกฤษได้จากไทย

    ⚖️ ทำไมถึงเรียกว่า “สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม”?
    📍 ถูกเซ็นภายใต้แรงกดดัน จากอำนาจจักรวรรดิ
    📍 ไม่มีความเสมอภาคระหว่างสองประเทศ
    📍 ไทยไม่สามารถต่อรองเงื่อนไขได้มากนัก
    📍 คล้ายกับ “สนธิสัญญานานกิง” ที่จีนถูกบังคับให้เซ็นหลังสงครามฝิ่น

    📚 บทเรียนที่ไทยได้จากอดีต

    🇹🇭 สนธิสัญญาเบาว์ริง เป็นแรงผลักดันให้ไทยเร่งพัฒนา ปฏิรูประบบราชการ ระบบศาล และกฎหมาย เปิดการเจรจาแก้ไขสนธิสัญญาในภายหลัง โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่งผลถึงการรักษาเอกราชของไทย ในขณะที่เพื่อนบ้านหลายประเทศ กลายเป็นอาณานิคม

    ✨ ไทยเสียเปรียบวันนี้ เพื่อไม่เสียประเทศในวันหน้า?

    “ไม่เสมอภาค แต่จำเป็น” คือคำจำกัดความที่ดีที่สุด ของสนธิสัญญาเบาว์ริง

    ถึงแม้สัญญาฉบับนี้ จะเต็มไปด้วยข้อเสียเปรียบ แต่ก็นำมาซึ่งการรอดพ้นจากอาณานิคม การเปิดประตูสู่โลกสมัยใหม่ การเตรียมประเทศ เข้าสู่ยุคการปฏิรูปในรัชกาลที่ 5

    สนธิสัญญาเบาว์ริงจึงเป็นเหมือน "ดาบสองคม" ที่ทั้งให้คุณและโทษ ในเวลาเดียวกัน ⚔️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181147 เม.ย. 2568

    📌 #สนธิสัญญาเบาว์ริง #เปิดประเทศแต่ไม่เปิดโอกาส #ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทย
    #ThailandHistory #BowringTreaty #เปิดเสรีไม่เท่าเทียม
    #ThailandTradeHistory #อธิปไตยไทย #อังกฤษในไทย
    #โลกาภิวัตน์กับไทย
    170 ปี สนธิสัญญาเบาว์ริง เปิดประเทศสู่เศรษฐกิจโลก ประโยชน์ไม่สมดุล ทุนต่างชาติครอบงำ ไม่ยุติธรรม! ไทยทำไม่ได้ที่อังกฤษ เปิดประเทศสู่โลก แต่ปิดความเท่าเทียม? 🇹🇭⚖️ 📚 สนธิสัญญาเบาว์ริงไม่ใช่แค่เรื่องในอดีต แต่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่นำไทยเข้าสู่เวทีเศรษฐกิจโลก ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่เท่าเทียม เปิดประตูสู่ความทันสมัย แต่ปิดโอกาสของความเสมอภาค ในการเจรจากับชาติตะวันตก ⚖️ 🧭 สนธิสัญญาที่เปิดประเทศ แต่ปิดความเสมอภาค ในวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีกับอังกฤษ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “สนธิสัญญาเบาว์ริง” ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของไทย สู่โลกทุนนิยม 🌍 แต่ภายใต้การเปิดเสรีนั้น กลับมีเงื่อนไขที่ไทยเสียเปรียบ ทั้งในแง่เศรษฐกิจ การปกครอง และกฎหมายระหว่างประเทศ ทำให้สนธิสัญญานี้ถูกวิพากษ์ว่าเป็น "สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม" 📜 “Treaty of Friendship and Commerce between the British Empire and the Kingdom of Siam” หรือ Bowring Treaty คือข้อตกลงระหว่างไทย หรือราชอาณาจักรสยามในสมัยนั้น กับอังกฤษ ที่ลงนามเมื่อวันจันทร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2398 จุดเด่นของสนธิสัญญานี้ คือการเปิดให้พ่อค้าชาวอังกฤษ สามารถค้าขายอย่างเสรีในสยาม และได้รับ “สิทธิสภาพนอกอาณาเขต” (Extraterritorial Rights) 🛂 กล่าวคือ คนในบังคับอังกฤษที่อยู่ในไทย จะไม่อยู่ภายใต้กฎหมายไทย แต่ขึ้นกับศาลของอังกฤษเอง นอกจากนี้ สนธิสัญญายังเปิดทางให้พ่อค้าต่างชาติ ตั้งรกราก ซื้อขายทรัพย์สิน และถือครองที่ดินในบางพื้นที่ได้ด้วย 💼 เหตุผลเบื้องหลัง อังกฤษต้องการอะไรกันแน่? หลายคนอาจเข้าใจว่า อังกฤษต้องการแค่เปิดตลาดการค้า แต่เบื้องหลังของข้อตกลงนี้ กลับลึกซึ้งกว่านั้นมาก… ผลประโยชน์จากการค้าฝิ่น อังกฤษต้องการสร้างเส้นทางการค้าฝิ่น ที่มั่นคงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต้องการให้สยามเป็นทางผ่านการค้ากับจีน ฮ่องกง และอินเดีย 🚢 อำนาจและอิทธิพลทางการทูต หลังสงครามฝิ่นครั้งแรก จีนพ่ายแพ้ อังกฤษต้องการป้องกันไม่ให้เกิด “สยามเป็นจีนลำดับต่อไป” เบาว์ริงใช้วิธี “ทูตนุ่ม” มากกว่าการใช้กำลังทหาร ประโยชน์จากภาษีต่ำ ตามสนธิสัญญา ไทยเก็บภาษีนำเข้าได้แค่ 3% เท่านั้น ‼️ ฝิ่นไม่ต้องเสียภาษีเลย แต่ต้องขายให้กับเจ้าภาษีเท่านั้น 👑 ทำไมสยามถึงยอมเซ็น? พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเล็งเห็นว่า ประเทศไทยอยู่ในภาวะล้าหลัง เมื่อเทียบกับชาติตะวันตก หากไม่ยอมเปิดประเทศ อาจตกเป็นอาณานิคมเหมือนจีน พม่า หรืออินเดียได้ การเปิดการค้าเสรี จะช่วยให้ราษฎรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจาก “การส่งออกข้าว” ชาวนาก็จะมีเงินมากขึ้น ข้าวจะกลายเป็นสินค้าส่งออกของไทย สร้างรายได้ให้แก่รัฐบาล... 🧺🌾 🔍 ผลกระทบที่ตามมา เปิดเสรี หรือเปิดโอกาสให้ต่างชาติครอบงำ? ภายหลังการลงนามสนธิสัญญาเบาว์ริง มีเรือต่างประเทศ เข้ามาค้าขายกว่า 100 ลำในปีเดียว ระบบเงินเหรียญ แทนพดด้วง เริ่มใช้อย่างเป็นระบบ เกิดการลงทุนของต่างชาติ เช่น โรงสี โรงเลื่อยไม้ โรงน้ำตาล ชาวนามีรายได้สูงขึ้น ราคาข้าวพุ่ง จาก 3–5 บาท ต่อเกวียน เป็น 16–20 บาท ต่อเกวียน ราษฎรสามารถ “จำนอง” หรือ “ขายฝาก” ที่ดินของตนได้ ชาวต่างชาติสามารถเช่า หรือซื้อที่ดินได้ในพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนด 🏘️ 📈 ข้อดีของสนธิสัญญาเบาว์ริง ที่น้อยคนนึกถึง... ✅ เปิดประตูการค้าเสรี ✅ ช่วยให้ไทยพัฒนาวิทยาการตะวันตก ✅ ราษฎรมีรายได้จากการค้าข้าว ✅ กระตุ้นการพัฒนาเมือง ถนนเจริญกรุง สีลม เริ่มก่อสร้าง ✅ ทำให้มีการแข่งขันทางการค้า → ราคาสินค้าลดลง 📌 สินค้าไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เช่น ข้าว ไม้สัก งาช้าง 😞 ข้อเสียเปรียบของไทย ในสนธิสัญญาเบาว์ริง ที่ถูกซ่อนไว้ ❌ เสียสิทธิเสรีภาพทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถเก็บภาษีนำเข้าตามต้องการได้ ต้องเปิดตลาดสินค้าให้ต่างชาติ โดยไม่มีข้อจำกัด ❌ เสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต คนอังกฤษไม่ต้องขึ้นศาลไทย ทำให้ศาลไทยไม่มีอำนาจเต็มที่ ❌ ทุนต่างชาติเข้ามาครอบงำเศรษฐกิจ ตั้งโรงงาน โรงสี โรงเลื่อยไม้ ฯลฯ โดยคนไทยแข่งขันไม่ได้ ❌ คนไทยไม่สามารถทำการค้าในอังกฤษได้ ไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียม เหมือนที่อังกฤษได้จากไทย ⚖️ ทำไมถึงเรียกว่า “สนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรม”? 📍 ถูกเซ็นภายใต้แรงกดดัน จากอำนาจจักรวรรดิ 📍 ไม่มีความเสมอภาคระหว่างสองประเทศ 📍 ไทยไม่สามารถต่อรองเงื่อนไขได้มากนัก 📍 คล้ายกับ “สนธิสัญญานานกิง” ที่จีนถูกบังคับให้เซ็นหลังสงครามฝิ่น 📚 บทเรียนที่ไทยได้จากอดีต 🇹🇭 สนธิสัญญาเบาว์ริง เป็นแรงผลักดันให้ไทยเร่งพัฒนา ปฏิรูประบบราชการ ระบบศาล และกฎหมาย เปิดการเจรจาแก้ไขสนธิสัญญาในภายหลัง โดยเฉพาะในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่งผลถึงการรักษาเอกราชของไทย ในขณะที่เพื่อนบ้านหลายประเทศ กลายเป็นอาณานิคม ✨ ไทยเสียเปรียบวันนี้ เพื่อไม่เสียประเทศในวันหน้า? “ไม่เสมอภาค แต่จำเป็น” คือคำจำกัดความที่ดีที่สุด ของสนธิสัญญาเบาว์ริง ถึงแม้สัญญาฉบับนี้ จะเต็มไปด้วยข้อเสียเปรียบ แต่ก็นำมาซึ่งการรอดพ้นจากอาณานิคม การเปิดประตูสู่โลกสมัยใหม่ การเตรียมประเทศ เข้าสู่ยุคการปฏิรูปในรัชกาลที่ 5 สนธิสัญญาเบาว์ริงจึงเป็นเหมือน "ดาบสองคม" ที่ทั้งให้คุณและโทษ ในเวลาเดียวกัน ⚔️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181147 เม.ย. 2568 📌 #สนธิสัญญาเบาว์ริง #เปิดประเทศแต่ไม่เปิดโอกาส #ประวัติศาสตร์เศรษฐกิจไทย #ThailandHistory #BowringTreaty #เปิดเสรีไม่เท่าเทียม #ThailandTradeHistory #อธิปไตยไทย #อังกฤษในไทย #โลกาภิวัตน์กับไทย
    0 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
More Results