ใช้แท็บเล็ต E-Ink เป็นจอเสริมบน Linux
ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากทำงานอ่านเอกสารด้านกฎหมายกว่า 14 ชั่วโมงติดต่อกัน จึงอยากหาวิธีลดอาการล้าตา และได้ลองใช้แท็บเล็ต E-Ink เก่าเป็นจอเสริมสำหรับอ่านและเขียนโค้ด ผลลัพธ์คือสามารถใช้งานได้จริง โดยเฉพาะงานที่เน้นตัวอักษร ทำให้การทำงานสบายตามากขึ้น แม้จะไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีหรือการตอบสนองเร็ว
วิธีการทดลอง: Deskreen vs VNC
การทดลองแรกคือใช้ Deskreen ซึ่งง่ายต่อการตั้งค่า แต่คุณภาพการแสดงผลไม่คมชัดและมี input lag สูง จึงไม่เหมาะกับแท็บเล็ต E-Ink ที่รีเฟรชช้าอยู่แล้ว สุดท้ายผู้เขียนเลือกใช้ TigerVNC ร่วมกับแอป AVNC บน Android ซึ่งให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมชัดและ latency ที่ต่ำกว่า
ขั้นตอนการตั้งค่า VNC
ผู้เขียนอธิบายการติดตั้ง TigerVNC บน Arch Linux ตั้งค่า geometry ให้ตรงกับความละเอียดของแท็บเล็ต (เช่น 1400x1050) และใช้ x0vncserver เพื่อแชร์หน้าจอไปยังแท็บเล็ต Android ผ่านเครือข่ายภายในบ้าน การปรับค่าเหล่านี้ทำให้แท็บเล็ตสามารถแสดงผลได้เต็มจอโดยไม่มีขอบดำ และยังสามารถเขียนสคริปต์เพื่อเปิดใช้งานโหมด E-Ink ได้อย่างรวดเร็ว
ประโยชน์และข้อจำกัด
การใช้แท็บเล็ต E-Ink เป็นจอเสริมช่วยให้ อ่านและเขียนโค้ดได้โดยไม่ล้าตา และเหมาะกับงานที่ต้องการสมาธิสูง แต่ข้อจำกัดคือ รีเฟรชเรตต่ำและการตอบสนองช้า ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหวหรือสีสัน เช่น การดูวิดีโอหรือทำงานกราฟิก อย่างไรก็ตาม สำหรับงานด้านข้อความถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่า
สรุปเป็นหัวข้อ
แนวคิดการใช้แท็บเล็ต E-Ink
ลดอาการล้าตาในการอ่านและเขียนโค้ด
เหมาะกับงานที่เน้นข้อความมากกว่างานกราฟิก
วิธีการทดลอง
Deskreen: ใช้ง่ายแต่คุณภาพไม่คมและ lag สูง
TigerVNC: ให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมและ latency ต่ำ
ขั้นตอนการตั้งค่า
ใช้ TigerVNC และ AVNC บน Android
กำหนด geometry ให้ตรงกับความละเอียดแท็บเล็ต
เขียนสคริปต์เพื่อเปิดโหมด E-Ink ได้รวดเร็ว
ข้อจำกัดและคำเตือน
รีเฟรชเรตต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหว
ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีสัน เช่น วิดีโอหรือกราฟิก
ต้องเปิดพอร์ตและตั้งค่าเครือข่ายให้ปลอดภัย หากใช้นอกบ้าน
https://alavi.me/blog/e-ink-tablet-as-monitor-linux/
ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากทำงานอ่านเอกสารด้านกฎหมายกว่า 14 ชั่วโมงติดต่อกัน จึงอยากหาวิธีลดอาการล้าตา และได้ลองใช้แท็บเล็ต E-Ink เก่าเป็นจอเสริมสำหรับอ่านและเขียนโค้ด ผลลัพธ์คือสามารถใช้งานได้จริง โดยเฉพาะงานที่เน้นตัวอักษร ทำให้การทำงานสบายตามากขึ้น แม้จะไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีหรือการตอบสนองเร็ว
วิธีการทดลอง: Deskreen vs VNC
การทดลองแรกคือใช้ Deskreen ซึ่งง่ายต่อการตั้งค่า แต่คุณภาพการแสดงผลไม่คมชัดและมี input lag สูง จึงไม่เหมาะกับแท็บเล็ต E-Ink ที่รีเฟรชช้าอยู่แล้ว สุดท้ายผู้เขียนเลือกใช้ TigerVNC ร่วมกับแอป AVNC บน Android ซึ่งให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมชัดและ latency ที่ต่ำกว่า
ขั้นตอนการตั้งค่า VNC
ผู้เขียนอธิบายการติดตั้ง TigerVNC บน Arch Linux ตั้งค่า geometry ให้ตรงกับความละเอียดของแท็บเล็ต (เช่น 1400x1050) และใช้ x0vncserver เพื่อแชร์หน้าจอไปยังแท็บเล็ต Android ผ่านเครือข่ายภายในบ้าน การปรับค่าเหล่านี้ทำให้แท็บเล็ตสามารถแสดงผลได้เต็มจอโดยไม่มีขอบดำ และยังสามารถเขียนสคริปต์เพื่อเปิดใช้งานโหมด E-Ink ได้อย่างรวดเร็ว
ประโยชน์และข้อจำกัด
การใช้แท็บเล็ต E-Ink เป็นจอเสริมช่วยให้ อ่านและเขียนโค้ดได้โดยไม่ล้าตา และเหมาะกับงานที่ต้องการสมาธิสูง แต่ข้อจำกัดคือ รีเฟรชเรตต่ำและการตอบสนองช้า ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหวหรือสีสัน เช่น การดูวิดีโอหรือทำงานกราฟิก อย่างไรก็ตาม สำหรับงานด้านข้อความถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่า
สรุปเป็นหัวข้อ
แนวคิดการใช้แท็บเล็ต E-Ink
ลดอาการล้าตาในการอ่านและเขียนโค้ด
เหมาะกับงานที่เน้นข้อความมากกว่างานกราฟิก
วิธีการทดลอง
Deskreen: ใช้ง่ายแต่คุณภาพไม่คมและ lag สูง
TigerVNC: ให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมและ latency ต่ำ
ขั้นตอนการตั้งค่า
ใช้ TigerVNC และ AVNC บน Android
กำหนด geometry ให้ตรงกับความละเอียดแท็บเล็ต
เขียนสคริปต์เพื่อเปิดโหมด E-Ink ได้รวดเร็ว
ข้อจำกัดและคำเตือน
รีเฟรชเรตต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหว
ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีสัน เช่น วิดีโอหรือกราฟิก
ต้องเปิดพอร์ตและตั้งค่าเครือข่ายให้ปลอดภัย หากใช้นอกบ้าน
https://alavi.me/blog/e-ink-tablet-as-monitor-linux/
📺 ใช้แท็บเล็ต E-Ink เป็นจอเสริมบน Linux
ผู้เขียนเล่าว่าหลังจากทำงานอ่านเอกสารด้านกฎหมายกว่า 14 ชั่วโมงติดต่อกัน จึงอยากหาวิธีลดอาการล้าตา และได้ลองใช้แท็บเล็ต E-Ink เก่าเป็นจอเสริมสำหรับอ่านและเขียนโค้ด ผลลัพธ์คือสามารถใช้งานได้จริง โดยเฉพาะงานที่เน้นตัวอักษร ทำให้การทำงานสบายตามากขึ้น แม้จะไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีหรือการตอบสนองเร็ว
🖥️ วิธีการทดลอง: Deskreen vs VNC
การทดลองแรกคือใช้ Deskreen ซึ่งง่ายต่อการตั้งค่า แต่คุณภาพการแสดงผลไม่คมชัดและมี input lag สูง จึงไม่เหมาะกับแท็บเล็ต E-Ink ที่รีเฟรชช้าอยู่แล้ว สุดท้ายผู้เขียนเลือกใช้ TigerVNC ร่วมกับแอป AVNC บน Android ซึ่งให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมชัดและ latency ที่ต่ำกว่า
⚙️ ขั้นตอนการตั้งค่า VNC
ผู้เขียนอธิบายการติดตั้ง TigerVNC บน Arch Linux ตั้งค่า geometry ให้ตรงกับความละเอียดของแท็บเล็ต (เช่น 1400x1050) และใช้ x0vncserver เพื่อแชร์หน้าจอไปยังแท็บเล็ต Android ผ่านเครือข่ายภายในบ้าน การปรับค่าเหล่านี้ทำให้แท็บเล็ตสามารถแสดงผลได้เต็มจอโดยไม่มีขอบดำ และยังสามารถเขียนสคริปต์เพื่อเปิดใช้งานโหมด E-Ink ได้อย่างรวดเร็ว
🌟 ประโยชน์และข้อจำกัด
การใช้แท็บเล็ต E-Ink เป็นจอเสริมช่วยให้ อ่านและเขียนโค้ดได้โดยไม่ล้าตา และเหมาะกับงานที่ต้องการสมาธิสูง แต่ข้อจำกัดคือ รีเฟรชเรตต่ำและการตอบสนองช้า ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหวหรือสีสัน เช่น การดูวิดีโอหรือทำงานกราฟิก อย่างไรก็ตาม สำหรับงานด้านข้อความถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่า
📌 สรุปเป็นหัวข้อ
✅ แนวคิดการใช้แท็บเล็ต E-Ink
➡️ ลดอาการล้าตาในการอ่านและเขียนโค้ด
➡️ เหมาะกับงานที่เน้นข้อความมากกว่างานกราฟิก
✅ วิธีการทดลอง
➡️ Deskreen: ใช้ง่ายแต่คุณภาพไม่คมและ lag สูง
➡️ TigerVNC: ให้ผลลัพธ์ดีกว่า ทั้งความคมและ latency ต่ำ
✅ ขั้นตอนการตั้งค่า
➡️ ใช้ TigerVNC และ AVNC บน Android
➡️ กำหนด geometry ให้ตรงกับความละเอียดแท็บเล็ต
➡️ เขียนสคริปต์เพื่อเปิดโหมด E-Ink ได้รวดเร็ว
‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน
⛔ รีเฟรชเรตต่ำ ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการการเคลื่อนไหว
⛔ ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการสีสัน เช่น วิดีโอหรือกราฟิก
⛔ ต้องเปิดพอร์ตและตั้งค่าเครือข่ายให้ปลอดภัย หากใช้นอกบ้าน
https://alavi.me/blog/e-ink-tablet-as-monitor-linux/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
45 มุมมอง
0 รีวิว