• ดอกไม้ป่า—ร่องรอยแห่งชนบทในสำเนียงเมือง

    คณะดอกไม้ป่า ก้าวเข้ามาสู่ฉากดนตรีไทยในช่วงต้นทศวรรษ 2520 (ค.ศ. 1980s) ซึ่งถือเป็น ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของรสนิยมและการผลิตดนตรีในประเทศไทย พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มนักร้องที่รวมตัวกันตามธรรมชาติ แต่เป็นโครงการทางดนตรีที่ถูกกำหนดและออกแบบอย่างพิถีพิถันจากผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเพลงมืออาชีพ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อตลาดชนชั้นกลางในเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

    สิ่งที่ทำให้วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งคือความสามารถในการนำ "แก่นเรื่องแบบลูกทุ่ง" มาผสมผสานกับการเรียบเรียงและคุณภาพการผลิตแบบ "ดนตรีสตริงหรือป๊อป" อันนำไปสู่การก่อกำเนิดของแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "ลูกทุ่งประยุกต์" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้กับรูปแบบดนตรีป๊อปที่ครองตลาดในทศวรรษต่อมา

    ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในช่วงปี พ.ศ. 2525–2526 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมหลังเหตุการณ์ทางการเมืองในทศวรรษก่อนหน้า วงนี้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นนักร้องคู่ดูโอหญิงที่เน้นทักษะการประสานเสียง (Harmonizing Duo) พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางด้วยการรักษาความรู้สึกและแก่นเรื่องของความเป็นไทยไว้ ในขณะที่นำเสนอผ่านสำเนียงป๊อปสมัยใหม่

    ในเชิงสังคมวิทยา ความสำเร็จของวงมีความสัมพันธ์กับการถอยห่างจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่รุนแรงของยุค 1970s ดนตรีป๊อปที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้มักหลีกเลี่ยงสารทางการเมือง และหันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนตัว ความรัก และการมอบความบันเทิง ดอกไม้ป่าได้ปรับใช้แก่นเรื่องลูกทุ่งให้มีความอ่อนโยนและโรแมนติกในรูปแบบป๊อป ซึ่งทำให้บทเพลงของพวกเขากลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคในเมืองสามารถยอมรับและเพลิดเพลินได้

    คณะดอกไม้ป่าถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน โดยไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันของนักดนตรีตามธรรมชาติ การก่อตั้งมีรากฐานมาจากความต้องการขยายตลาดและรูปแบบความสำเร็จที่เคยมีมาก่อน โดยผู้ริเริ่มแนวคิดต้องการที่จะสรรหานักร้องหญิงคู่ประสานเสียงเป็นคู่ที่สอง เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับวง The Hot Pepper Singers การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบของ "นักร้องคู่ประสานเสียง" ที่มีภาพลักษณ์สุภาพและเน้นทักษะการร้องถือเป็นกลยุทธ์เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพสูง

    การเน้นที่ "นักร้องคู่ประสานเสียง" แสดงให้เห็นว่าคุณภาพเสียงและการจัดวางเสียงประสานถูกกำหนดให้เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น แนวคิดนี้เป็นความพยายามที่จะยกระดับรูปแบบการร้องเพลงให้แตกต่างจากดนตรีลูกทุ่งทั่วไป การประสานเสียงที่ซับซ้อนนี้ถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติของดนตรีแนวลูกกรุงและป๊อปที่มีความประณีตและมีรสนิยมสูง ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในเมืองได้

    วงดอกไม้ป่าประกอบด้วยนักร้องดูโอหญิงสองคน: โชติมา ช่วงวิทย์ (ตุ้ม) และ ปัทมา มนต์รังสี (อ้อม) คุณโชติมาถือเป็นสมาชิกหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ชวลีย์ ช่วงวิทย์ นักร้องชื่อดังของวงสุนทราภรณ์ สายเลือดจากสุนทราภรณ์นี้มอบความน่าเชื่อถือทางวัฒนธรรมและ "ความเป็นลูกกรุง" ให้กับวงโดยอัตโนมัติ ทำให้ดอกไม้ป่าสามารถวางตำแหน่งตัวเองอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นลูกทุ่งและความเป็นลูกกรุง/คลาสสิก

    ในช่วงเวลาที่ดนตรีลูกทุ่งกำลังถูกกลุ่มรสนิยมใหม่ของคนเมืองมองว่าเป็น "ดนตรีบ้านนอก" การมีโชติมาได้ทำหน้าที่เป็น "การสร้างแบรนด์ทางวัฒนธรรม" ที่สำคัญยิ่ง การเชื่อมโยงนี้รับประกันว่าเพลงของดอกไม้ป่า แม้จะมีกลิ่นอายของลูกทุ่ง แต่ก็มีความสุภาพและมีคุณค่าในเชิงศิลปะแบบลูกกรุงสูง

    "ดอกไม้ป่าซาวด์" คือการผสมผสานทางดนตรี ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการนำองค์ประกอบทางทำนองเพลงพื้นบ้านหรือลูกทุ่ง มารวมเข้ากับการเรียบเรียงดนตรีและเครื่องดนตรีสมัยใหม่ตามแบบฉบับดนตรีสตริง/ป๊อปในยุค 80s

    แก่นเรื่องแบบลูกทุ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการเล่าเรื่อง ตัวอย่างเช่น เพลง "ทุยใจดำ" ที่สื่อถึงคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ และเพลง "สาวชนบท" ที่หยิบยกเรื่องราวความรักและชีวิตในท้องถิ่นมานำเสนอ แต่สิ่งที่ทำให้ดนตรีมีความแตกต่างคือการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ การใช้เครื่องดนตรีที่ซับซ้อน เช่น เปียโน กีตาร์ไฟฟ้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องเป่า (Brass Section) ที่สร้างความหนาแน่นและพลังเสียงที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการนำจังหวะที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีตะวันตกมาใช้ เช่น จังหวะช่าช่าช่า หรือฟังก์กี้ดิสโก้ในเพลงสนุกสนานอย่าง "ระบำยอดหญ้า" ทั้งหมดนี้ถูกขับร้องด้วยการประสานเสียงที่ไพเราะและสะอาดตา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของดนตรีป๊อปในช่วงนั้น

    การวิเคราะห์เนื้อหาและแก่นหลักของบทเพลง
    1️⃣ ความรักที่ถูกทรยศในบริบทกึ่งชนบท: เพลงอย่าง "ทุยใจดำ" และ "ช้ำ" นำเสนอความผิดหวังในความรักจากมุมมองของผู้หญิง เมื่อเนื้อหาเหล่านี้ถูกขับร้องด้วยคุณภาพเสียงที่สะอาดและการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ ความดิบหรือความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความยากจนในเพลงลูกทุ่งแบบดั้งเดิมก็ถูกลดทอนลง เนื้อหาจึงถูก "ทำให้สะอาด" ให้เหลือเพียงความเศร้าแบบโรแมนติกที่เข้ากับมาตรฐานของเพลงป๊อปในเมือง

    2️⃣ ความปรารถนาในชีวิตชนบทและความหวนคิดถึง: เพลง "สาวชนบท" และ "ระบำยอดหญ้า" นำเสนอภาพความสดใสและรื่นเริงของชีวิตในท้องถิ่น ผู้ฟังในเขตเมืองหลายคนซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากชนบท ต่างให้การตอบรับต่อเพลงเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ดอกไม้ป่าจึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ "การหวนคิดถึงอย่างมีรสนิยม" (Aesthetic Nostalgia)

    ความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเพลงสตริง/ป๊อป แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการ "เชื่อมรอยแยกทางวัฒนธรรม" ระหว่างรสนิยมของคนเมือง (ที่แสวงหาความทันสมัย) กับความผูกพันของกลุ่มผู้ฟังต่อชนบท

    ปี พ.ศ. 2525 เป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของคณะดอกไม้ป่าจากการเปิดตัวอัลบั้ม ทุยใจดำ ซึ่งได้กำหนดทิศทางและลักษณะเฉพาะของวงอย่างชัดเจน เพลงเอก "ทุยใจดำ" เป็นตัวอย่างชั้นยอดของการผสมผสานระหว่าง Luk Thung และ Pop ผนวกกับการเรียบเรียงที่ใช้เครื่องดนตรีครบวงและจังหวะที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเต้นรำที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

    วงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปี พ.ศ. 2526 โดยมีผลงานเพลงจากชุดต่อมา เช่น "สาวชนบท," "หนาวลมขมรัก," และ "รักทรมาน" การออกผลงานหลายชุดภายในเวลาอันสั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของค่ายเพลงในศักยภาพเชิงพาณิชย์และกระแสความนิยมที่แข็งแกร่งในช่วงเวลานั้น การที่เพลงของพวกเขาถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมเพลงฮิตเงินล้าน ร่วมกับศิลปินใหญ่แห่งยุค แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นวงชั้นนำในตลาดเพลงเทปคาสเซ็ตต์อย่างแท้จริง

    นอกจากคุณภาพทางดนตรีแล้ว ภาพลักษณ์ของคณะดอกไม้ป่ามีความสำคัญต่อการตลาดไม่น้อยไปกว่ากัน ภาพลักษณ์ที่ถูกนำเสนอมีความเป็นมืออาชีพสูงและสอดคล้องกับแฟชั่นยุค 80s การปรากฏตัวทั้งในสตูดิโอและภาพคอนเสิร์ต แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการผลิต และการแต่งกายที่ดูทันสมัยและสะอาดตา ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพลักษณ์ลูกทุ่งแบบดั้งเดิม

    คณะดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญสองประการในต้นทศวรรษ 1980s นั่นคือพลวัตของการอพยพย้ายถิ่นฐาน และการเปลี่ยนแปลงของบทบาททางเพศ

    ในช่วงหลังปี 2520 สังคมไทยเข้าสู่ยุคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการขยายตัวของชนชั้นกลางในเขตเมืองอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนมากอพยพจากชนบทเข้าสู่กรุงเทพฯ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างวิถีชีวิตแบบเมืองกับรากเหง้าที่ยังคงผูกพันกับชนบท

    กลุ่มผู้ฟังที่ย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ยังคงมีความผูกพันทางอารมณ์กับเนื้อหาและทำนองแบบลูกทุ่ง แต่รสนิยมทางเสียงของพวกเขาได้ถูกหล่อหลอมด้วยดนตรีป๊อปและสตริงที่ทันสมัย ดอกไม้ป่าจึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ด้วยการนำเสนอ "ลูกทุ่งในแพ็คเกจป๊อป" เพลงที่มีธีมเกี่ยวกับ "สาวชนบท" ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยนักร้องที่ดูทันสมัยในบริบทเมือง จึงสามารถสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟังกลุ่มย้ายถิ่นฐานได้อย่างลึกซึ้ง บทเพลงของดอกไม้ป่าเปรียบเสมือน "ซาวด์แทร็กของการปรับตัว" ของคนชนบทเข้าสู่สังคมเมือง

    การที่คณะดอกไม้ป่าเป็นนักร้องดูโอหญิงในแนว Pop/Fusion แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศในสื่อและสังคมในช่วงเวลานั้น ภาพลักษณ์ของ โชติมา และ ปัทมา เป็นตัวแทนของ ผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ ที่สามารถเป็นทั้งผู้รักษามรดกทางวัฒนธรรมและเป็นผู้หญิงที่มีความทันสมัย (ผ่านสไตล์การแต่งกายและการนำเสนอแบบป๊อป)

    นอกจากนี้ เพลงที่กล้าแสดงออกถึงความผิดหวังในความรักและความช้ำ เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวในที่สาธารณะได้มากขึ้น โดยที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่ดูดีและไม่ฉีกกรอบทางสังคมมากนัก ซึ่งสอดคล้องกับยุคสมัยที่บทบาทของผู้หญิงเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น

    ในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมกำลังฟื้นตัวหลังความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ ดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงมักจะไม่มีวาระทางการเมืองที่ชัดเจน คณะดอกไม้ป่าเองก็เน้นที่ความบันเทิงและเรื่องราวส่วนตัว การหลีกเลี่ยงข้อความที่อาจสร้างความขัดแย้งทางการเมืองในบทเพลง ส่งผลให้ดอกไม้ป่าสามารถเข้าถึงผู้ชมหลักได้อย่างง่ายดาย

    ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างสูงในช่วงยุครุ่งเรือง ดังที่ปรากฏหลักฐานจากการออกอัลบั้ม Longplay เต็มรูปแบบหลายชุด และการมีอัลบั้มรวมเพลงฮิต การที่เพลงของวงถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงร่วมกับศิลปินสำคัญแห่งยุค ตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะวงชั้นนำของตลาดเทปคาสเซ็ตต์ ซึ่งเป็นรูปแบบการบริโภคหลักในยุคนั้น

    ดอกไม้ป่าไม่ได้เป็นเพียงวงดนตรีที่ขายดี แต่ยังได้สร้างต้นแบบ ให้กับแนวเพลงผสมผสานที่ทรงอิทธิพล พวกเขาเป็นตัวอย่างสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีที่มีรากฐานลูกทุ่งสามารถนำเสนอในรูปแบบป๊อปสตริงที่มีคุณภาพสูงและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ การเปิดทางนี้มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังจำนวนมากที่พยายามนำเสนอ "ลูกทุ่งสมัยใหม่" ซึ่งช่วยยืดอายุและปรับโฉมให้ดนตรีลูกทุ่งยังคงอยู่รอดในยุคที่ดนตรี String ครองตลาด

    การที่ดอกไม้ป่าสามารถนำเอาองค์ประกอบของลูกทุ่งและป๊อปมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ผู้ผลิตเพลงเห็นว่า "สูตรผสม" นี้เป็นช่องทางที่มั่นคงในการขยายตลาดไปยังผู้ฟังที่มีรสนิยมหลากหลาย ถือเป็นการเร่งกระบวนการที่ทำให้ดนตรีสตริงได้ครอบครองความโดดเด่นในที่สุด

    มรดกทางดนตรีของดอกไม้ป่ายังคงยืนยง เพลงของพวกเขายังคงถูกค้นหาและรับฟังในปัจจุบันผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานของทำนองและเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลยังเห็นได้จากการที่สมาชิกหลักของวงยังคงมีความเคลื่อนไหวในการกลับมาทำเพลงใหม่ในนามดอกไม้ป่า ("พลังรัก") และมีการสร้างช่องทาง YouTube เฉพาะ การเคลื่อนไหวนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าศิลปินยุคบุกเบิกสามารถใช้แพลตฟอร์มสมัยใหม่เพื่อรักษาและขยายฐานแฟนคลับให้เข้าถึงผู้ฟังรุ่นใหม่ได้

    สรุป: มรดกของดอกไม้ป่า
    คณะดอกไม้ป่าจัดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีและวัฒนธรรมที่มีความซับซ้อนในช่วงรอยต่อของสังคมไทย พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสมดุลระหว่างมรดกทางดนตรีคลาสสิก (ผ่านสายเลือดสุนทราภรณ์) กับความต้องการของตลาดป๊อปที่เน้นความทันสมัยและคุณภาพการผลิตสูง

    บทเพลงของดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางสังคมภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง ด้วยการนำเสนอความบันเทิงที่ปลอดภัยและเป็นทางออกทางวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการรักษาความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับชนบท ในขณะที่ปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเมืองอย่างเต็มตัว

    มรดกที่สำคัญที่สุดของคณะดอกไม้ป่าคือการเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งที่สุดของ "ดนตรีลูกทุ่งประยุกต์" พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความทันสมัยทางดนตรีไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากรากฐานทางวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเพลงป๊อปไทยในทศวรรษต่อมาให้ยอมรับและผสมผสานแนวเพลงที่มีรากฐานมาจาก Luk Thung เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงกระแสหลักได้อย่างลงตัว

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/NnrS7BYpRRc
    🌼 ดอกไม้ป่า—ร่องรอยแห่งชนบทในสำเนียงเมือง คณะดอกไม้ป่า 🌸 ก้าวเข้ามาสู่ฉากดนตรีไทยในช่วงต้นทศวรรษ 2520 (ค.ศ. 1980s) ซึ่งถือเป็น 🔄 ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของรสนิยมและการผลิตดนตรีในประเทศไทย พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มนักร้องที่รวมตัวกันตามธรรมชาติ แต่เป็นโครงการทางดนตรีที่ถูกกำหนดและออกแบบอย่างพิถีพิถันจากผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเพลงมืออาชีพ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อตลาดชนชั้นกลางในเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำให้วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งคือความสามารถในการนำ "แก่นเรื่องแบบลูกทุ่ง" 🧬🌾 มาผสมผสานกับการเรียบเรียงและคุณภาพการผลิตแบบ "ดนตรีสตริงหรือป๊อป" 🎧 อันนำไปสู่การก่อกำเนิดของแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "ลูกทุ่งประยุกต์" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้กับรูปแบบดนตรีป๊อปที่ครองตลาดในทศวรรษต่อมา ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในช่วงปี พ.ศ. 2525–2526 🌟 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมหลังเหตุการณ์ทางการเมืองในทศวรรษก่อนหน้า วงนี้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นนักร้องคู่ดูโอหญิงที่เน้นทักษะการประสานเสียง (Harmonizing Duo) พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางด้วยการรักษาความรู้สึกและแก่นเรื่องของความเป็นไทยไว้ ในขณะที่นำเสนอผ่านสำเนียงป๊อปสมัยใหม่ ในเชิงสังคมวิทยา ความสำเร็จของวงมีความสัมพันธ์กับการถอยห่างจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่รุนแรงของยุค 1970s ดนตรีป๊อปที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้มักหลีกเลี่ยงสารทางการเมือง และหันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนตัว ความรัก ❤️ และการมอบความบันเทิง ดอกไม้ป่าได้ปรับใช้แก่นเรื่องลูกทุ่งให้มีความอ่อนโยนและโรแมนติกในรูปแบบป๊อป ซึ่งทำให้บทเพลงของพวกเขากลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคในเมืองสามารถยอมรับและเพลิดเพลินได้ คณะดอกไม้ป่าถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน 💡 โดยไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันของนักดนตรีตามธรรมชาติ การก่อตั้งมีรากฐานมาจากความต้องการขยายตลาดและรูปแบบความสำเร็จที่เคยมีมาก่อน โดยผู้ริเริ่มแนวคิดต้องการที่จะสรรหานักร้องหญิงคู่ประสานเสียงเป็นคู่ที่สอง เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับวง The Hot Pepper Singers การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบของ "นักร้องคู่ประสานเสียง" 🎤🤝 ที่มีภาพลักษณ์สุภาพและเน้นทักษะการร้องถือเป็นกลยุทธ์เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพสูง การเน้นที่ "นักร้องคู่ประสานเสียง" แสดงให้เห็นว่าคุณภาพเสียงและการจัดวางเสียงประสานถูกกำหนดให้เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น แนวคิดนี้เป็นความพยายามที่จะยกระดับรูปแบบการร้องเพลงให้แตกต่างจากดนตรีลูกทุ่งทั่วไป การประสานเสียงที่ซับซ้อนนี้ถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติของดนตรีแนวลูกกรุงและป๊อปที่มีความประณีตและมีรสนิยมสูง ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในเมืองได้ วงดอกไม้ป่าประกอบด้วยนักร้องดูโอหญิงสองคน: โชติมา ช่วงวิทย์ (ตุ้ม) และ ปัทมา มนต์รังสี (อ้อม) คุณโชติมาถือเป็นสมาชิกหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ชวลีย์ ช่วงวิทย์ นักร้องชื่อดังของวงสุนทราภรณ์ 👑 สายเลือดจากสุนทราภรณ์นี้มอบความน่าเชื่อถือทางวัฒนธรรมและ "ความเป็นลูกกรุง" ให้กับวงโดยอัตโนมัติ ทำให้ดอกไม้ป่าสามารถวางตำแหน่งตัวเองอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นลูกทุ่งและความเป็นลูกกรุง/คลาสสิก ในช่วงเวลาที่ดนตรีลูกทุ่งกำลังถูกกลุ่มรสนิยมใหม่ของคนเมืองมองว่าเป็น "ดนตรีบ้านนอก" การมีโชติมาได้ทำหน้าที่เป็น "การสร้างแบรนด์ทางวัฒนธรรม" ที่สำคัญยิ่ง การเชื่อมโยงนี้รับประกันว่าเพลงของดอกไม้ป่า แม้จะมีกลิ่นอายของลูกทุ่ง แต่ก็มีความสุภาพและมีคุณค่าในเชิงศิลปะแบบลูกกรุงสูง "ดอกไม้ป่าซาวด์" คือการผสมผสานทางดนตรี 🔥 ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการนำองค์ประกอบทางทำนองเพลงพื้นบ้านหรือลูกทุ่ง มารวมเข้ากับการเรียบเรียงดนตรีและเครื่องดนตรีสมัยใหม่ตามแบบฉบับดนตรีสตริง/ป๊อปในยุค 80s แก่นเรื่องแบบลูกทุ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการเล่าเรื่อง ตัวอย่างเช่น เพลง "ทุยใจดำ" 💔 ที่สื่อถึงคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ และเพลง "สาวชนบท" 🏡 ที่หยิบยกเรื่องราวความรักและชีวิตในท้องถิ่นมานำเสนอ แต่สิ่งที่ทำให้ดนตรีมีความแตกต่างคือการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ การใช้เครื่องดนตรีที่ซับซ้อน เช่น เปียโน กีตาร์ไฟฟ้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องเป่า (Brass Section) 🎺🎷 ที่สร้างความหนาแน่นและพลังเสียงที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการนำจังหวะที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีตะวันตกมาใช้ เช่น จังหวะช่าช่าช่า หรือฟังก์กี้ดิสโก้ในเพลงสนุกสนานอย่าง "ระบำยอดหญ้า" 💃 ทั้งหมดนี้ถูกขับร้องด้วยการประสานเสียงที่ไพเราะและสะอาดตา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของดนตรีป๊อปในช่วงนั้น การวิเคราะห์เนื้อหาและแก่นหลักของบทเพลง 1️⃣ ความรักที่ถูกทรยศในบริบทกึ่งชนบท: เพลงอย่าง "ทุยใจดำ" และ "ช้ำ" นำเสนอความผิดหวังในความรักจากมุมมองของผู้หญิง เมื่อเนื้อหาเหล่านี้ถูกขับร้องด้วยคุณภาพเสียงที่สะอาดและการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ ความดิบหรือความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความยากจนในเพลงลูกทุ่งแบบดั้งเดิมก็ถูกลดทอนลง เนื้อหาจึงถูก "ทำให้สะอาด" ให้เหลือเพียงความเศร้าแบบโรแมนติกที่เข้ากับมาตรฐานของเพลงป๊อปในเมือง 2️⃣ ความปรารถนาในชีวิตชนบทและความหวนคิดถึง: เพลง "สาวชนบท" และ "ระบำยอดหญ้า" นำเสนอภาพความสดใสและรื่นเริงของชีวิตในท้องถิ่น ผู้ฟังในเขตเมืองหลายคนซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากชนบท ต่างให้การตอบรับต่อเพลงเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ดอกไม้ป่าจึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ "การหวนคิดถึงอย่างมีรสนิยม" (Aesthetic Nostalgia) 💖 ความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเพลงสตริง/ป๊อป แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการ "เชื่อมรอยแยกทางวัฒนธรรม" 🔗 ระหว่างรสนิยมของคนเมือง (ที่แสวงหาความทันสมัย) กับความผูกพันของกลุ่มผู้ฟังต่อชนบท ปี พ.ศ. 2525 เป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของคณะดอกไม้ป่าจากการเปิดตัวอัลบั้ม ทุยใจดำ 💿 ซึ่งได้กำหนดทิศทางและลักษณะเฉพาะของวงอย่างชัดเจน เพลงเอก "ทุยใจดำ" เป็นตัวอย่างชั้นยอดของการผสมผสานระหว่าง Luk Thung และ Pop ผนวกกับการเรียบเรียงที่ใช้เครื่องดนตรีครบวงและจังหวะที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเต้นรำที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง วงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปี พ.ศ. 2526 โดยมีผลงานเพลงจากชุดต่อมา เช่น "สาวชนบท," "หนาวลมขมรัก," และ "รักทรมาน" การออกผลงานหลายชุดภายในเวลาอันสั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของค่ายเพลงในศักยภาพเชิงพาณิชย์และกระแสความนิยมที่แข็งแกร่งในช่วงเวลานั้น การที่เพลงของพวกเขาถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมเพลงฮิตเงินล้าน 💰 ร่วมกับศิลปินใหญ่แห่งยุค แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นวงชั้นนำในตลาดเพลงเทปคาสเซ็ตต์อย่างแท้จริง นอกจากคุณภาพทางดนตรีแล้ว ภาพลักษณ์ของคณะดอกไม้ป่ามีความสำคัญต่อการตลาดไม่น้อยไปกว่ากัน ภาพลักษณ์ที่ถูกนำเสนอมีความเป็นมืออาชีพสูงและสอดคล้องกับแฟชั่นยุค 80s การปรากฏตัวทั้งในสตูดิโอและภาพคอนเสิร์ต 🎙️ แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการผลิต และการแต่งกายที่ดูทันสมัยและสะอาดตา ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพลักษณ์ลูกทุ่งแบบดั้งเดิม คณะดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญสองประการในต้นทศวรรษ 1980s นั่นคือพลวัตของการอพยพย้ายถิ่นฐาน 🚚 และการเปลี่ยนแปลงของบทบาททางเพศ ในช่วงหลังปี 2520 สังคมไทยเข้าสู่ยุคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการขยายตัวของชนชั้นกลางในเขตเมืองอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนมากอพยพจากชนบทเข้าสู่กรุงเทพฯ 🏙️ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างวิถีชีวิตแบบเมืองกับรากเหง้าที่ยังคงผูกพันกับชนบท กลุ่มผู้ฟังที่ย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ยังคงมีความผูกพันทางอารมณ์กับเนื้อหาและทำนองแบบลูกทุ่ง แต่รสนิยมทางเสียงของพวกเขาได้ถูกหล่อหลอมด้วยดนตรีป๊อปและสตริงที่ทันสมัย ดอกไม้ป่าจึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ด้วยการนำเสนอ "ลูกทุ่งในแพ็คเกจป๊อป" เพลงที่มีธีมเกี่ยวกับ "สาวชนบท" ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยนักร้องที่ดูทันสมัยในบริบทเมือง จึงสามารถสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟังกลุ่มย้ายถิ่นฐานได้อย่างลึกซึ้ง บทเพลงของดอกไม้ป่าเปรียบเสมือน "ซาวด์แทร็กของการปรับตัว" ของคนชนบทเข้าสู่สังคมเมือง การที่คณะดอกไม้ป่าเป็นนักร้องดูโอหญิงในแนว Pop/Fusion แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศในสื่อและสังคมในช่วงเวลานั้น ภาพลักษณ์ของ โชติมา และ ปัทมา เป็นตัวแทนของ ผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ 👩‍🎤 ที่สามารถเป็นทั้งผู้รักษามรดกทางวัฒนธรรมและเป็นผู้หญิงที่มีความทันสมัย (ผ่านสไตล์การแต่งกายและการนำเสนอแบบป๊อป) นอกจากนี้ เพลงที่กล้าแสดงออกถึงความผิดหวังในความรักและความช้ำ 💔 เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวในที่สาธารณะได้มากขึ้น โดยที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่ดูดีและไม่ฉีกกรอบทางสังคมมากนัก ซึ่งสอดคล้องกับยุคสมัยที่บทบาทของผู้หญิงเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมกำลังฟื้นตัวหลังความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ ดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงมักจะไม่มีวาระทางการเมืองที่ชัดเจน คณะดอกไม้ป่าเองก็เน้นที่ความบันเทิงและเรื่องราวส่วนตัว การหลีกเลี่ยงข้อความที่อาจสร้างความขัดแย้งทางการเมืองในบทเพลง ส่งผลให้ดอกไม้ป่าสามารถเข้าถึงผู้ชมหลักได้อย่างง่ายดาย ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างสูงในช่วงยุครุ่งเรือง 💵💶💷 ดังที่ปรากฏหลักฐานจากการออกอัลบั้ม Longplay เต็มรูปแบบหลายชุด และการมีอัลบั้มรวมเพลงฮิต การที่เพลงของวงถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงร่วมกับศิลปินสำคัญแห่งยุค ตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะวงชั้นนำของตลาดเทปคาสเซ็ตต์ 📼 ซึ่งเป็นรูปแบบการบริโภคหลักในยุคนั้น ดอกไม้ป่าไม่ได้เป็นเพียงวงดนตรีที่ขายดี แต่ยังได้สร้างต้นแบบ 🏗️ ให้กับแนวเพลงผสมผสานที่ทรงอิทธิพล พวกเขาเป็นตัวอย่างสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีที่มีรากฐานลูกทุ่งสามารถนำเสนอในรูปแบบป๊อปสตริงที่มีคุณภาพสูงและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ การเปิดทางนี้มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังจำนวนมากที่พยายามนำเสนอ "ลูกทุ่งสมัยใหม่" ซึ่งช่วยยืดอายุและปรับโฉมให้ดนตรีลูกทุ่งยังคงอยู่รอดในยุคที่ดนตรี String ครองตลาด การที่ดอกไม้ป่าสามารถนำเอาองค์ประกอบของลูกทุ่งและป๊อปมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ผู้ผลิตเพลงเห็นว่า "สูตรผสม" นี้เป็นช่องทางที่มั่นคงในการขยายตลาดไปยังผู้ฟังที่มีรสนิยมหลากหลาย ถือเป็นการเร่งกระบวนการที่ทำให้ดนตรีสตริงได้ครอบครองความโดดเด่นในที่สุด มรดกทางดนตรีของดอกไม้ป่ายังคงยืนยง ⏳ เพลงของพวกเขายังคงถูกค้นหาและรับฟังในปัจจุบันผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานของทำนองและเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลยังเห็นได้จากการที่สมาชิกหลักของวงยังคงมีความเคลื่อนไหวในการกลับมาทำเพลงใหม่ในนามดอกไม้ป่า ("พลังรัก") และมีการสร้างช่องทาง YouTube เฉพาะ 🎥 การเคลื่อนไหวนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าศิลปินยุคบุกเบิกสามารถใช้แพลตฟอร์มสมัยใหม่เพื่อรักษาและขยายฐานแฟนคลับให้เข้าถึงผู้ฟังรุ่นใหม่ได้ ✨ ✅✅ สรุป: มรดกของดอกไม้ป่า ✅✅ คณะดอกไม้ป่าจัดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีและวัฒนธรรมที่มีความซับซ้อนในช่วงรอยต่อของสังคมไทย พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสมดุลระหว่างมรดกทางดนตรีคลาสสิก (ผ่านสายเลือดสุนทราภรณ์) กับความต้องการของตลาดป๊อปที่เน้นความทันสมัยและคุณภาพการผลิตสูง บทเพลงของดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางสังคมภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง ด้วยการนำเสนอความบันเทิงที่ปลอดภัยและเป็นทางออกทางวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการรักษาความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับชนบท ในขณะที่ปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเมืองอย่างเต็มตัว มรดกที่สำคัญที่สุดของคณะดอกไม้ป่าคือการเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งที่สุดของ "ดนตรีลูกทุ่งประยุกต์" 🎶 พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความทันสมัยทางดนตรีไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากรากฐานทางวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเพลงป๊อปไทยในทศวรรษต่อมาให้ยอมรับและผสมผสานแนวเพลงที่มีรากฐานมาจาก Luk Thung เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงกระแสหลักได้อย่างลงตัว 💯 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/NnrS7BYpRRc
    0 Comments 0 Shares 375 Views 0 Reviews
  • ซึงพิเศษที่ผมปรับปรุงขึ้นมาใช้นี้มีความเป็นมายาวนานกว่า 15 ปี เริ่มจากตัวแรกให้ช่างทำซึงจากเชียงใหม่ ทำพิเศษให้ผมตามรูปที่วาดไว้ คือมีสาย Double Strings สามสายคู่ (หมายถึงแต่ละสายมีสายสองเส้น) ซึ่งปกติซึงล้านนาจะมีแค่ Double String สองสายคู่ แล้วก็ให้แกะสลักลายตามที่ผมวาดด้วย จากนั้นก็เอาไปให้พี่เชนอลิเซียทำ finger board แรกเริ่มก็วางเฟร็ตสเกลล้านนานั่นแหละ ผมยังขอให้ทำเฟร็ตช่องที่สองสามารถเลื่อนได้ในกรณีที่ต้องการเล่นจูนนิ่งแบบล้านนาสลับกับตะวันตก แต่เล่นไปเล่นมาหลายปี มีข้อจำกัดเรื่องคีย์ที่เป็นอุปสรรค อยากจะเล่นคีย์อื่นได้ ผมก็เติมเฟร็ตไปเรื่อยจนกระทั่งเต็มคอ เล่นได้ทุกคีย์ในที่สุด ในระหว่างนั้นก็เกิดความคิดที่จะปรับปรุงอีก อยากให้มันมี Harp ในตัวด้วย ก็เลยลองออกแบบสเก็ตช์ขึ้นมาตามที่เห็นในรูป แล้วส่งไปให้พี่เชนแห่งร้านกีต้าร์อลิเซียทำให้
    .
    อย่างที่เล่าให้ฟัง พี่เชน อลิเซียเป็นช่างกีต้าร์ที่ยอมทำอะไรประหลาดๆ ให้ผม เช่น พี่เชนโมดิไฟด์กระจับปี่ไทยให้ผม จนเสียงดีในแบบที่ผมต้องการ (ไม่ได้เสียงแบบดั้งเดิมที่ดังแฟ่ดๆ จากหย่องที่ผมไม่ชอบเลย) สามารถเลื่อนเฟร็ตได้ทั้งคอ เพราะ finger board มีร่องที่แต่ละเฟร็ตสามารถสไลด์ไปได้ อย่างที่เราต้องการ ผมซื้อเครื่องสายของภูฏานมาตัวหนึ่งมันเรียกว่า Dramnyen แต่เครื่องผลิตมาด้วยคุณภาพชาวบ้าน วัสดุเป็นไม้เนื้ออ่อนและไม่แข็งแรง ผมให้พี่เชนสร้างให้ใหม่ สวยงามมากและเกรดโปรมาก สามตัวที่เห็นในรูปเป็นฝีมือพี่เชนทั้งหมด
    .
    ซึงตัวที่พัฒนาล่าสุดนี้มี 11 สาย และคราวนี้เป็นโครมาติคเฟร็ตบน finger board ไม้มะเกลือ การใส่สายและตั้งสาย ส่วนของซึงจะเป็น Double Strings สามสายคู่เหมือนเดิม จูนนิ่ง C (.022) - G (.012) - D (.009) (สายบนลงล่าง) / ในส่วนของ harp มีแปดสาย จูนนิ่ง G (.045) - A (.035) - C (.035) - G (.035) - C (0.12) - D (0.12) - E (0.12) - G (0.12) (จากบนลงล่าง) ส่วนของ harp มีหย่องที่เลื่อนได้ เพิ่มเข้าไปเมื่อต้องการจาก default ที่เป็น Key C ขยับไป D > E > F ได้ สูงกว่านี้เสียงจะบางไปไม่ได้คุณภาพ
    .
    มันเป็นการพัฒนาที่ยาวไกลและจะว่าไปเป็นการปรับปรุงที่ได้ผลดีมากสำหรับผม และนี่น่าจะเป็นเครื่องดนตรีที่ผมจะเล่นในช่วงบั้นปลายชีวิต ใครอยากจะพัฒนาตามนี้ นี่คือข้อมูลสำหรับคุณ ผมยังมีคอร์ดชาร์ตสำหรับซึงรุ่นนี้ด้วย
    .
    อยากให้น้องๆ รุ่นใหม่ อย่าได้ลังเลที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเครื่องดนตรีไทยให้ดีขึ้น บรรพาจารย์ทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วจะยินดีที่เกิดการพัฒนาอย่างแน่นอน ใครที่ต่อต้านการพัฒนา ย่อมเป็นผู้ถ่วงความเจริญครับ
    .
    ซึงพิเศษที่ผมปรับปรุงขึ้นมาใช้นี้มีความเป็นมายาวนานกว่า 15 ปี เริ่มจากตัวแรกให้ช่างทำซึงจากเชียงใหม่ ทำพิเศษให้ผมตามรูปที่วาดไว้ คือมีสาย Double Strings สามสายคู่ (หมายถึงแต่ละสายมีสายสองเส้น) ซึ่งปกติซึงล้านนาจะมีแค่ Double String สองสายคู่ แล้วก็ให้แกะสลักลายตามที่ผมวาดด้วย จากนั้นก็เอาไปให้พี่เชนอลิเซียทำ finger board แรกเริ่มก็วางเฟร็ตสเกลล้านนานั่นแหละ ผมยังขอให้ทำเฟร็ตช่องที่สองสามารถเลื่อนได้ในกรณีที่ต้องการเล่นจูนนิ่งแบบล้านนาสลับกับตะวันตก แต่เล่นไปเล่นมาหลายปี มีข้อจำกัดเรื่องคีย์ที่เป็นอุปสรรค อยากจะเล่นคีย์อื่นได้ ผมก็เติมเฟร็ตไปเรื่อยจนกระทั่งเต็มคอ เล่นได้ทุกคีย์ในที่สุด ในระหว่างนั้นก็เกิดความคิดที่จะปรับปรุงอีก อยากให้มันมี Harp ในตัวด้วย ก็เลยลองออกแบบสเก็ตช์ขึ้นมาตามที่เห็นในรูป แล้วส่งไปให้พี่เชนแห่งร้านกีต้าร์อลิเซียทำให้ . อย่างที่เล่าให้ฟัง พี่เชน อลิเซียเป็นช่างกีต้าร์ที่ยอมทำอะไรประหลาดๆ ให้ผม เช่น พี่เชนโมดิไฟด์กระจับปี่ไทยให้ผม จนเสียงดีในแบบที่ผมต้องการ (ไม่ได้เสียงแบบดั้งเดิมที่ดังแฟ่ดๆ จากหย่องที่ผมไม่ชอบเลย) สามารถเลื่อนเฟร็ตได้ทั้งคอ เพราะ finger board มีร่องที่แต่ละเฟร็ตสามารถสไลด์ไปได้ อย่างที่เราต้องการ ผมซื้อเครื่องสายของภูฏานมาตัวหนึ่งมันเรียกว่า Dramnyen แต่เครื่องผลิตมาด้วยคุณภาพชาวบ้าน วัสดุเป็นไม้เนื้ออ่อนและไม่แข็งแรง ผมให้พี่เชนสร้างให้ใหม่ สวยงามมากและเกรดโปรมาก สามตัวที่เห็นในรูปเป็นฝีมือพี่เชนทั้งหมด . ซึงตัวที่พัฒนาล่าสุดนี้มี 11 สาย และคราวนี้เป็นโครมาติคเฟร็ตบน finger board ไม้มะเกลือ การใส่สายและตั้งสาย ส่วนของซึงจะเป็น Double Strings สามสายคู่เหมือนเดิม จูนนิ่ง C (.022) - G (.012) - D (.009) (สายบนลงล่าง) / ในส่วนของ harp มีแปดสาย จูนนิ่ง G (.045) - A (.035) - C (.035) - G (.035) - C (0.12) - D (0.12) - E (0.12) - G (0.12) (จากบนลงล่าง) ส่วนของ harp มีหย่องที่เลื่อนได้ เพิ่มเข้าไปเมื่อต้องการจาก default ที่เป็น Key C ขยับไป D > E > F ได้ สูงกว่านี้เสียงจะบางไปไม่ได้คุณภาพ . มันเป็นการพัฒนาที่ยาวไกลและจะว่าไปเป็นการปรับปรุงที่ได้ผลดีมากสำหรับผม และนี่น่าจะเป็นเครื่องดนตรีที่ผมจะเล่นในช่วงบั้นปลายชีวิต ใครอยากจะพัฒนาตามนี้ นี่คือข้อมูลสำหรับคุณ ผมยังมีคอร์ดชาร์ตสำหรับซึงรุ่นนี้ด้วย . อยากให้น้องๆ รุ่นใหม่ อย่าได้ลังเลที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเครื่องดนตรีไทยให้ดีขึ้น บรรพาจารย์ทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วจะยินดีที่เกิดการพัฒนาอย่างแน่นอน ใครที่ต่อต้านการพัฒนา ย่อมเป็นผู้ถ่วงความเจริญครับ .
    0 Comments 0 Shares 314 Views 0 Reviews
  • ไลบรารี่เครื่องดนตรีไทยที่ผมทำแล้วเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2021 เพื่อ tribute แก่ในหลวงรัชกาลที่เก้า เนื่องในวาระครบรอบวันสวรรคตในปีนั้น ยังคงสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ https://protrains.com/siamese-instruments/
    .
    ไลบรารี่เครื่องดนตรีไทยที่ผมทำแล้วเปิดให้ดาวน์โหลดฟรีเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2021 เพื่อ tribute แก่ในหลวงรัชกาลที่เก้า เนื่องในวาระครบรอบวันสวรรคตในปีนั้น ยังคงสามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่ https://protrains.com/siamese-instruments/ .
    0 Comments 0 Shares 339 Views 0 Reviews
  • ปปส. จับนักร้องนำ I-ZAX “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” แกนนำขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ

    ปลุกกระแสวงการเพลงร็อกไทยให้สั่นสะเทือน! ข่าวใหญ่ที่ทุกคนไม่คาดคิด นักร้องนำวงร็อกระดับตำนาน “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แซ็ก I-ZAX” ถูกจับในคดีค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยสำนักงาน ป.ป.ส. บุกค้นและยึดของกลาง ยาเสพติดจำนวนมหาศาลที่บ้านพัก สร้างความตกตะลึงให้แฟนเพลง และวงการบันเทิงไทยอีกครั้ง

    จุดเริ่มต้นของการจับกุม ที่สั่นสะเทือนวงการ หน่วยงานความมั่นคงจีน ได้จับกุมคนไทย ที่ลักลอบขนยาเสพติด เข้าไปในประเทศจีน และได้ประสานข้อมูลกับสำนักงาน ป.ป.ส. ไทย อย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่ได้ กลายเป็นกุญแจสำคัญ ในการขยายผลสืบสวน จนพบเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ ที่มีแกนนำเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ในวงการบันเทิงไทย

    เมื่อข้อมูลจากจีนถึงมือ ป.ป.ส. ไทย เจ้าหน้าที่จึงเริ่มดำเนินการสืบสวนขยายผล ในเครือข่ายผู้ซื้อ-ผู้ขายผ่านช่องทางออนไลน์ กระทั่งพบเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ขณะที่แซ็กทำการติดต่อซื้อยาเสพติด ในจังหวะที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้จัดการดารา โดยพบว่าแซ็กมีพฤติกรรมเกี่ยวข้อง กับการค้ายาอย่างต่อเนื่อง และเป็นขาประจำในวงการนี้มานานแล้ว

    ภารกิจบุกค้นจับกุม! พบของกลางยาเสพติดเพียบ ป.ป.ส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของ “แซ็ก I-ZAX” และตรวจยึดของกลาง เป็นยาเสพติดหลายประเภท ทั้ง

    - ยาบ้า
    - ไอซ์ เมทแอมเฟตามีน พิ้งค์โกลด์ สีทอง
    - เอ็กซ์ตาซี
    - เคตามีน
    - MDMA

    รวมไปถึงอุปกรณ์เสพ และชั่งตวงวัดน้ำหนักยา ที่บ่งชี้ถึงการกระจายสินค้า ในระดับแกนนำหัวจ่าย ของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ

    การค้นพบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ชื่อของ “แซ็ก I-ZAX” ติดอันดับข่าวหน้าหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผล เพื่อจับกุมศิลปิน และดาราในวงการบันเทิง ที่เกี่ยวข้องกับการเสพ และค้ายาอีกหลายราย

    จากตำนานวงร็อก สู่ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เส้นทางศิลปินของ I-ZAX วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นยุค 2000 ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545 ในนาม ไอ-แซ็ก (I-ZAX)

    สมาชิกดั้งเดิม 5 คน ได้แก่
    - พัชรพล ปานพุ่ม หรือแซ็ก นักร้องนำ
    - พงศภัค ทองเจริญ หรือเพชร มือกีตาร์
    - ชัชวาล พูลผล หรือชัช มือเบส
    - จาตุรงค์ เนื่องจำนงค์ หรือจา มือกลอง
    - คำรณ เต่าทอง หรือยา มือคีย์บอร์ด

    มีผลงานอัลบั้มดัง เช่น
    คนรักกัน (2545)
    ใจถึงใจ (2547)
    Tag Team (2549)

    เพลงฮิตระดับชาติอย่าง "ดอกไม้กับหัวใจ", "ปวดใจ" และ "เขียนใจให้เป็นเพลง" เคยทำให้ “แซ็ก” กลายเป็นขวัญใจแฟนเพลงทั่วประเทศ

    ความจริงอีกด้าน ที่ซ่อนอยู่หลังไมค์ หลังจากห่างหายไปจากวงการเพลง เนื่องจากอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษ แซ็กได้กลับมาร่วมรายการ The Mask Mirror ในปี 2562 ใต้หน้ากาก “น้ำพริกหมู” พร้อมเล่าประสบการณ์ ที่ทุกข์ทรมานจากโรคร้าย จนแฟนเพลงหลายคน ต่างสงสารและเห็นใจ

    แต่เบื้องหลังชีวิตใหม่ ที่ดูเหมือนจะสดใส กลับมีความลับมืดดำซ่อนอยู่! จากการสืบสวนพบว่า แซ็กกลับเข้าไปพัวพัน กับเครือข่ายยาเสพติดอีกครั้ง และในฐานะ “แกนนำระดับหัวจ่าย” ซึ่งมีเครือข่ายลูกค้ามากมาย รวมถึงศิลปิน และดาราในวงการบันเทิงด้วย

    ผลกระทบต่อวงการบันเทิง และดนตรีไทย การจับกุมแซ็กในครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้วงการเพลงสะเทือนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนแรง ถึงวงการบันเทิงไทยว่า ยาเสพติดยังคงเป็นภัยร้าย ที่แฝงตัวในทุกแวดวงสังคม

    ป.ป.ส. เตรียมขยายผลการจับกุม ไปยังเครือข่ายดารา-ศิลปิน ที่เกี่ยวข้องกับแซ็ก I-ZAX อย่างละเอียด และจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม ในเร็ววันนี้

    ยาเสพติดไม่เพียงแต่ ทำลายชีวิตของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังทำลายอนาคต สังคม และครอบครัวอีกด้วย โทษจำคุกสูงสุดถึง โทษประหารชีวิต การครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เช่น ไอซ์, เฮโรอีน, MDMA การจำหน่ายหรือผลิต มีโทษหนักทั้งจำคุกตลอดชีวิต และโทษปรับมหาศาล

    การเลือกเดินทางผิดของแซ็ก I-ZAX ถือเป็นกรณีศึกษาเตือนใจทุกคน ที่อาจหลงผิดในเส้นทางอันตรายนี้

    สรุปบทเรียนจากคดี “แซ็ก I-ZAX” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
    ไม่มีใครหนีพ้นความยุติธรรม
    ชื่อเสียงและความสำเร็จ ไม่ได้ช่วยปกป้องจากผลของการกระทำผิด
    วงการบันเทิงควรมีการตรวจสอบภายใน และให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และจริยธรรมของศิลปิน

    การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สะท้อนปัญหาลึก ในสังคมบันเทิงไทย วง I-ZAX ที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ กลับกลายเป็นข่าวฉาวระดับชาติ สังคมจึงควรตระหนัก และร่วมมือกันต่อต้านยาเสพติดในทุกมิติ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181605 มี.ค. 2568

    #แซ็กIZAX #ค้ายาเสพติด #ปปสจับแซ็ก #ข่าวดารา #ข่าวดังวันนี้ #IZAXวงร็อก #ข่าววงการเพลง #ยาเสพติดข้ามชาติ #ข่าวด่วนไทย #จับกุมนักร้องดัง
    ปปส. จับนักร้องนำ I-ZAX “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” แกนนำขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🌐⚖️ ปลุกกระแสวงการเพลงร็อกไทยให้สั่นสะเทือน! ข่าวใหญ่ที่ทุกคนไม่คาดคิด นักร้องนำวงร็อกระดับตำนาน “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “แซ็ก I-ZAX” ถูกจับในคดีค้ายาเสพติดข้ามชาติ โดยสำนักงาน ป.ป.ส. บุกค้นและยึดของกลาง ยาเสพติดจำนวนมหาศาลที่บ้านพัก สร้างความตกตะลึงให้แฟนเพลง และวงการบันเทิงไทยอีกครั้ง 😱🎤 📌 จุดเริ่มต้นของการจับกุม ที่สั่นสะเทือนวงการ หน่วยงานความมั่นคงจีน ได้จับกุมคนไทย ที่ลักลอบขนยาเสพติด เข้าไปในประเทศจีน และได้ประสานข้อมูลกับสำนักงาน ป.ป.ส. ไทย อย่างรวดเร็ว ข้อมูลที่ได้ กลายเป็นกุญแจสำคัญ ในการขยายผลสืบสวน จนพบเครือข่ายค้ายาข้ามชาติ ที่มีแกนนำเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ในวงการบันเทิงไทย เมื่อข้อมูลจากจีนถึงมือ ป.ป.ส. ไทย เจ้าหน้าที่จึงเริ่มดำเนินการสืบสวนขยายผล ในเครือข่ายผู้ซื้อ-ผู้ขายผ่านช่องทางออนไลน์ 📱💻 กระทั่งพบเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ขณะที่แซ็กทำการติดต่อซื้อยาเสพติด ในจังหวะที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้จัดการดารา โดยพบว่าแซ็กมีพฤติกรรมเกี่ยวข้อง กับการค้ายาอย่างต่อเนื่อง และเป็นขาประจำในวงการนี้มานานแล้ว 🚨 ภารกิจบุกค้นจับกุม! พบของกลางยาเสพติดเพียบ ป.ป.ส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของ “แซ็ก I-ZAX” และตรวจยึดของกลาง เป็นยาเสพติดหลายประเภท ทั้ง - ยาบ้า - ไอซ์ เมทแอมเฟตามีน พิ้งค์โกลด์ สีทอง - เอ็กซ์ตาซี - เคตามีน - MDMA รวมไปถึงอุปกรณ์เสพ และชั่งตวงวัดน้ำหนักยา ที่บ่งชี้ถึงการกระจายสินค้า ในระดับแกนนำหัวจ่าย ของขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ 🚔📦 การค้นพบครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ชื่อของ “แซ็ก I-ZAX” ติดอันดับข่าวหน้าหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายผล เพื่อจับกุมศิลปิน และดาราในวงการบันเทิง ที่เกี่ยวข้องกับการเสพ และค้ายาอีกหลายราย 🎭💊 🎸 จากตำนานวงร็อก สู่ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ เส้นทางศิลปินของ I-ZAX วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นยุค 2000 ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2545 ในนาม ไอ-แซ็ก (I-ZAX) สมาชิกดั้งเดิม 5 คน ได้แก่ - พัชรพล ปานพุ่ม หรือแซ็ก นักร้องนำ - พงศภัค ทองเจริญ หรือเพชร มือกีตาร์ - ชัชวาล พูลผล หรือชัช มือเบส - จาตุรงค์ เนื่องจำนงค์ หรือจา มือกลอง - คำรณ เต่าทอง หรือยา มือคีย์บอร์ด มีผลงานอัลบั้มดัง เช่น 🎶 คนรักกัน (2545) 🎶 ใจถึงใจ (2547) 🎶 Tag Team (2549) เพลงฮิตระดับชาติอย่าง "ดอกไม้กับหัวใจ", "ปวดใจ" และ "เขียนใจให้เป็นเพลง" เคยทำให้ “แซ็ก” กลายเป็นขวัญใจแฟนเพลงทั่วประเทศ 🕵️‍♂️ ความจริงอีกด้าน ที่ซ่อนอยู่หลังไมค์ หลังจากห่างหายไปจากวงการเพลง เนื่องจากอาการป่วยไทรอยด์เป็นพิษ แซ็กได้กลับมาร่วมรายการ The Mask Mirror ในปี 2562 ใต้หน้ากาก “น้ำพริกหมู” พร้อมเล่าประสบการณ์ ที่ทุกข์ทรมานจากโรคร้าย จนแฟนเพลงหลายคน ต่างสงสารและเห็นใจ ❤️‍🩹 แต่เบื้องหลังชีวิตใหม่ ที่ดูเหมือนจะสดใส กลับมีความลับมืดดำซ่อนอยู่! จากการสืบสวนพบว่า แซ็กกลับเข้าไปพัวพัน กับเครือข่ายยาเสพติดอีกครั้ง และในฐานะ “แกนนำระดับหัวจ่าย” ซึ่งมีเครือข่ายลูกค้ามากมาย รวมถึงศิลปิน และดาราในวงการบันเทิงด้วย 💼💸 ⚖️ ผลกระทบต่อวงการบันเทิง และดนตรีไทย การจับกุมแซ็กในครั้งนี้ ไม่เพียงทำให้วงการเพลงสะเทือนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณเตือนแรง ถึงวงการบันเทิงไทยว่า ยาเสพติดยังคงเป็นภัยร้าย ที่แฝงตัวในทุกแวดวงสังคม 🚫💉 ป.ป.ส. เตรียมขยายผลการจับกุม ไปยังเครือข่ายดารา-ศิลปิน ที่เกี่ยวข้องกับแซ็ก I-ZAX อย่างละเอียด และจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม ในเร็ววันนี้ 📢 ยาเสพติดไม่เพียงแต่ ทำลายชีวิตของผู้ใช้เท่านั้น แต่ยังทำลายอนาคต สังคม และครอบครัวอีกด้วย ❌🧬 โทษจำคุกสูงสุดถึง โทษประหารชีวิต การครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เช่น ไอซ์, เฮโรอีน, MDMA การจำหน่ายหรือผลิต มีโทษหนักทั้งจำคุกตลอดชีวิต และโทษปรับมหาศาล การเลือกเดินทางผิดของแซ็ก I-ZAX ถือเป็นกรณีศึกษาเตือนใจทุกคน ที่อาจหลงผิดในเส้นทางอันตรายนี้ 🛑 🛡️ สรุปบทเรียนจากคดี “แซ็ก I-ZAX” เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ✅ ไม่มีใครหนีพ้นความยุติธรรม ✅ ชื่อเสียงและความสำเร็จ ไม่ได้ช่วยปกป้องจากผลของการกระทำผิด ✅ วงการบันเทิงควรมีการตรวจสอบภายใน และให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต และจริยธรรมของศิลปิน ✍️ การจับกุม “แซ็ก-วัชรพล ปานพุ่ม” ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สะท้อนปัญหาลึก ในสังคมบันเทิงไทย วง I-ZAX ที่เคยเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ กลับกลายเป็นข่าวฉาวระดับชาติ สังคมจึงควรตระหนัก และร่วมมือกันต่อต้านยาเสพติดในทุกมิติ 🚫🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181605 มี.ค. 2568 📌 #แซ็กIZAX #ค้ายาเสพติด #ปปสจับแซ็ก #ข่าวดารา #ข่าวดังวันนี้ #IZAXวงร็อก #ข่าววงการเพลง #ยาเสพติดข้ามชาติ #ข่าวด่วนไทย #จับกุมนักร้องดัง
    0 Comments 0 Shares 1769 Views 0 Reviews
  • ฝนตกฟ้าหลัวอากาศดีดี รื่นรมย์แบบนี้มาสีซอกัน ตีขิมก้อได้ให้ใจสุขสันต์ เล่นเพลินทั้งวันกับ #ดนตรีไทย #ขิม 15/11/24 เพลง #จีนเก็บบุปผา #ซออู้ #ราตรีประดับดาว (พระราชนิพนธ์ร.7)
    ฝนตกฟ้าหลัวอากาศดีดี รื่นรมย์แบบนี้มาสีซอกัน ตีขิมก้อได้ให้ใจสุขสันต์ เล่นเพลินทั้งวันกับ #ดนตรีไทย #ขิม 15/11/24 เพลง #จีนเก็บบุปผา #ซออู้ #ราตรีประดับดาว (พระราชนิพนธ์ร.7)
    0 Comments 0 Shares 797 Views 0 Reviews
  • ขอต่อเพลง #จีนขิมเล็ก กับอ.อภิชาติ อินทร์ยงค์ 2/11/24 #ขิม #ดนตรีไทย
    ขอต่อเพลง #จีนขิมเล็ก กับอ.อภิชาติ อินทร์ยงค์ 2/11/24 #ขิม #ดนตรีไทย
    0 Comments 0 Shares 521 Views 0 Reviews
  • ครูไหวนัดเล่น #ดนตรีไทย ... ครูไหว94 ครูไกร91..เยี่ยมค่ะ ยังเล่นดนตรีจำโนตกันได้หมดนิ ขอคาราวะค่ะ 2/11/24 นัดหน้า 14ธันวาคม บ้านผอ.ไกร เตรียมงาน2เมษา68 #ชมรมดนตรีไทยจังหวัดราชบุรี #โหมโรงจอมสุรางค์(ออกสะบัดสะบิ้ง)#โหมโรงเยี่ยมวิมาน #โหมโรงครอบจักรวาล #อาหนู #แขกมอญ #แขกมอญยาดเล้ #แขกมอญบางช้าง #สารถี #เขมรพวง #เขมรโพธิสัตย์ #ใบ้คลั่ง
    ครูไหวนัดเล่น #ดนตรีไทย ... ครูไหว94 ครูไกร91..เยี่ยมค่ะ ยังเล่นดนตรีจำโนตกันได้หมดนิ ขอคาราวะค่ะ 2/11/24 นัดหน้า 14ธันวาคม บ้านผอ.ไกร เตรียมงาน2เมษา68 #ชมรมดนตรีไทยจังหวัดราชบุรี #โหมโรงจอมสุรางค์(ออกสะบัดสะบิ้ง)#โหมโรงเยี่ยมวิมาน #โหมโรงครอบจักรวาล #อาหนู #แขกมอญ #แขกมอญยาดเล้ #แขกมอญบางช้าง #สารถี #เขมรพวง #เขมรโพธิสัตย์ #ใบ้คลั่ง
    0 Comments 0 Shares 1266 Views 0 Reviews
  • เมื่อวานเจอรุ่นพี่สถาบันเดียวกัน พี่เขาหยิบวุ้นที่เขาทำเองมาให้ lit nit ชิม มันอร่อยกลมกล่อมไม่หวานมาก ความประณีตก็อย่างที่เห็นภาพนี่แหละ แม้จะใช้แม่พิมพ์แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเทวุ้นแต่ละชั้นให้ลงตัวแบบนี้ มันสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถแฝงที่ติดตัวมากับกุลสตรีอย่างเห็นได้ชัด
    ....
    "พี่ทำสวยมากครับ ตอนทำนี่พี่คงเปิดเพลงบรรเลงดนตรีไทยฟังไปด้วยซินะ" lit nit เยินยอหน่อย ๆ พี่ทิพย์หัวเราะก๊ากก่อนจะส่ายหัว
    "พี่ทำตอนดื่มเหล้าและเชียร์มวยไปด้วยน่ะ โฮเมื่อวานแม่งต่อยโคตรมันส์ลิต !"
    #ความสามารถแฝงจริง ๆ คุณพี่เอ๊ย !
    เมื่อวานเจอรุ่นพี่สถาบันเดียวกัน พี่เขาหยิบวุ้นที่เขาทำเองมาให้ lit nit ชิม มันอร่อยกลมกล่อมไม่หวานมาก ความประณีตก็อย่างที่เห็นภาพนี่แหละ แม้จะใช้แม่พิมพ์แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเทวุ้นแต่ละชั้นให้ลงตัวแบบนี้ มันสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถแฝงที่ติดตัวมากับกุลสตรีอย่างเห็นได้ชัด .... "พี่ทำสวยมากครับ ตอนทำนี่พี่คงเปิดเพลงบรรเลงดนตรีไทยฟังไปด้วยซินะ" lit nit เยินยอหน่อย ๆ พี่ทิพย์หัวเราะก๊ากก่อนจะส่ายหัว "พี่ทำตอนดื่มเหล้าและเชียร์มวยไปด้วยน่ะ โฮเมื่อวานแม่งต่อยโคตรมันส์ลิต !" #ความสามารถแฝงจริง ๆ คุณพี่เอ๊ย !
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 525 Views 0 Reviews
  • หนึ่งตัวอย่างของเด็กที่มีความพยายาม ในการแสดงความสามารถด้านดนตรีไทย ของน้อง อนัญญา จาก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายมัธยม)
    #ไทยโหมโรง #สยามเด็กเล่น #เดี่ยวจะเข้ #ศรีวัฒนธรรม #thaitimes #thaitimesวัฒนธรรม
    หนึ่งตัวอย่างของเด็กที่มีความพยายาม ในการแสดงความสามารถด้านดนตรีไทย ของน้อง อนัญญา จาก โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายมัธยม) #ไทยโหมโรง #สยามเด็กเล่น #เดี่ยวจะเข้ #ศรีวัฒนธรรม #thaitimes #thaitimesวัฒนธรรม
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 1886 Views 163 0 Reviews
  • น้องๆจาก วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ รุ่นมัธยมศึกษา ตอนต้น
    ขึ้นโชว์ความสามารถบนเวทีการประกวดเดี่ยวเครื่องดนตรีไทย "ไทยโหมโรง ปี ๒" (ระดับชาติ)
    ฝึกซ้อมโดย นายตะวัน โตเอี่ยม ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ
    #ดนตรีไทยสร้างสรรค์ #สยามเด็กเล่น #ไทยโหมโรง #รับรางวัล #โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ #siamplayground #วงสิงหราช #thaitimes #ศรีวัฒนธรรม #วัฒนธรรม
    น้องๆจาก วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ รุ่นมัธยมศึกษา ตอนต้น ขึ้นโชว์ความสามารถบนเวทีการประกวดเดี่ยวเครื่องดนตรีไทย "ไทยโหมโรง ปี ๒" (ระดับชาติ) ฝึกซ้อมโดย นายตะวัน โตเอี่ยม ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ ศิลปะ #ดนตรีไทยสร้างสรรค์ #สยามเด็กเล่น #ไทยโหมโรง #รับรางวัล #โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ #siamplayground #วงสิงหราช #thaitimes #ศรีวัฒนธรรม #วัฒนธรรม
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 1915 Views 307 0 Reviews
  • เสวนา "ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน" น้อมสำนึกพระอัจฉริยภาพดนตรี กษัตริย์ไทยราชวงศ์จักรี

    โดยสำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม The Publisher ร่วมกับกองดุริยางค์กองบัญชาการกองทัพไทย จัดกิจกรรมแสดงดนตรีและเสวนาหัวข้อ "ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน" เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ในราชวงศ์จักรี ซึ่งทุกพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีไทย-สากล ผ่านแต่ละยุคสมัยลุล่วงจนถึงปัจจุบัน

    ณ หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ถนนวิภาวดีรังสิต
    #จิบกาแฟแลสยาม #สยามโสภา #Thaitimes #ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน #กองบัญชาการกองทัพไทย #จงรักภักดี
    เสวนา "ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน" น้อมสำนึกพระอัจฉริยภาพดนตรี กษัตริย์ไทยราชวงศ์จักรี โดยสำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม The Publisher ร่วมกับกองดุริยางค์กองบัญชาการกองทัพไทย จัดกิจกรรมแสดงดนตรีและเสวนาหัวข้อ "ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน" เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ในราชวงศ์จักรี ซึ่งทุกพระองค์ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีไทย-สากล ผ่านแต่ละยุคสมัยลุล่วงจนถึงปัจจุบัน ณ หอประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร ถนนวิภาวดีรังสิต #จิบกาแฟแลสยาม #สยามโสภา #Thaitimes #ดนตรีของพระเจ้าแผ่นดิน #กองบัญชาการกองทัพไทย #จงรักภักดี
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1637 Views 254 0 Reviews
  • เด็กชาย ศุภวิชญ์ บุรีรัตน์ นักเรียน วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์
    ขึ้นโชว์บนเวที “บิ๊กซีโสตศิลป์ สืบสานดนตรีไทย ปีที่ 3 ” ประจำปี 2567
    ระดับภูมิภาค "ภาคกลางและภาคตะวันออก"
    ซึ่งทำให้ได้เห็นแบบอย่างของการสนับสนุนร่วมกันของทุกคนในครอบครัว ร่วมกับทาง โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพของเด็ก ในทางสร้างสรรค์ เพื่อเป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต

    #ดนตรีไทยสร้างสรรค์ #วัดสิงห์ #สยามเด็กเล่น #ครอบครัว #บิ๊กซีดนตรีไทย #บิ๊กซีพระนครศรีอยุธยา #BigC #ศรีวัฒนธรรม #เยาวชน
    เด็กชาย ศุภวิชญ์ บุรีรัตน์ นักเรียน วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ขึ้นโชว์บนเวที “บิ๊กซีโสตศิลป์ สืบสานดนตรีไทย ปีที่ 3 ” ประจำปี 2567 ระดับภูมิภาค "ภาคกลางและภาคตะวันออก" ซึ่งทำให้ได้เห็นแบบอย่างของการสนับสนุนร่วมกันของทุกคนในครอบครัว ร่วมกับทาง โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพของเด็ก ในทางสร้างสรรค์ เพื่อเป็นบุคคลากรที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต #ดนตรีไทยสร้างสรรค์ #วัดสิงห์ #สยามเด็กเล่น #ครอบครัว #บิ๊กซีดนตรีไทย #บิ๊กซีพระนครศรีอยุธยา #BigC #ศรีวัฒนธรรม #เยาวชน
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 1498 Views 50 0 Reviews
  • ดนตรีไทยสำหรับผู้สูงอายุ
    วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
    College of Music BSRU
    ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการดนตรีไทยสำหรับผู้สูงอายุ โดยที่ผู้เข้าร่วมไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานดนตรีไทยมาก่อน

    #ดนตรีไทย #ผู้สูงอายุ #BSRUMusicCenter #สยามโสภา #อาสาพาสุข #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    See less
    ดนตรีไทยสำหรับผู้สูงอายุ วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา College of Music BSRU ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการดนตรีไทยสำหรับผู้สูงอายุ โดยที่ผู้เข้าร่วมไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานดนตรีไทยมาก่อน #ดนตรีไทย #ผู้สูงอายุ #BSRUMusicCenter #สยามโสภา #อาสาพาสุข #thaitimes #thaitimesสยามโสภา See less
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1453 Views 514 0 Reviews
  • ขอแสดงความยินดีกับน้อง ธนกฤต จุฑาสมควร จาก โรงเรียนวัดแสมดำ เขตบางขุนเทียน ที่ได้เป็นตัวแทนระดับภูมิภาค "ภาคกลางและภาคตะวันออก" เข้าไปแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานฯ ต่อไป

    #ดนตรีไทยสร้างสรรค์ #วัดแสมดำ #สยามเด็กเล่น #ครอบครัว #บิ๊กซีดนตรีไทย #บิ๊กซีพระนครศรีอยุธยา #BigC
    #thaitimes #ศรีวัฒนธรรม #Thaitimesวัฒนธรรม #วัฒนธรรมไทย
    ขอแสดงความยินดีกับน้อง ธนกฤต จุฑาสมควร จาก โรงเรียนวัดแสมดำ เขตบางขุนเทียน ที่ได้เป็นตัวแทนระดับภูมิภาค "ภาคกลางและภาคตะวันออก" เข้าไปแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานฯ ต่อไป #ดนตรีไทยสร้างสรรค์ #วัดแสมดำ #สยามเด็กเล่น #ครอบครัว #บิ๊กซีดนตรีไทย #บิ๊กซีพระนครศรีอยุธยา #BigC #thaitimes #ศรีวัฒนธรรม #Thaitimesวัฒนธรรม #วัฒนธรรมไทย
    Like
    Love
    4
    0 Comments 1 Shares 3123 Views 780 0 Reviews
  • สภานักเรียน โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ : Student Council จะพาไปทำความรู้จักกับ วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ และ ชมรมนาฏศิลป์ โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ที่มีชื่อเสียง

    #ดนตรีไทยสร้างสรรค์ #วัดสิงห์ #สยามเด็กเล่น #ไทยโหมโรง #รับรางวัล #deksiam #นาฏศิลป์ไทย #ดนตรีไทย #สภานักเรียน #siamplayground
    #thaitimesเยาวชน
    สภานักเรียน โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ : Student Council จะพาไปทำความรู้จักกับ วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ และ ชมรมนาฏศิลป์ โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ที่มีชื่อเสียง #ดนตรีไทยสร้างสรรค์ #วัดสิงห์ #สยามเด็กเล่น #ไทยโหมโรง #รับรางวัล #deksiam #นาฏศิลป์ไทย #ดนตรีไทย #สภานักเรียน #siamplayground #thaitimesเยาวชน
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 2504 Views 401 0 Reviews
  • #อาสาพาสุข จะพาทุกคนตาม วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ไปเข้าร่วมการประกวดดนตรีไทยประเภทเดี่ยว ในรายการ ไทยโหมโรง SS2 ระดับชั้นมัธยมศึกษา
    จัดโดย T Classical Music

    #siamplayground #สยามเด็กเล่น #ประกวดดนตรีไทย #ไทยโหมโรง #โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ #thaitimes #thaitimesเยาวชน
    #อาสาพาสุข จะพาทุกคนตาม วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ไปเข้าร่วมการประกวดดนตรีไทยประเภทเดี่ยว ในรายการ ไทยโหมโรง SS2 ระดับชั้นมัธยมศึกษา จัดโดย T Classical Music #siamplayground #สยามเด็กเล่น #ประกวดดนตรีไทย #ไทยโหมโรง #โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ #thaitimes #thaitimesเยาวชน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 2072 Views 145 0 Reviews
  • #อาสาพาสุข จะพาทุกคนตาม วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ไปเข้าร่วมการประกวดดนตรีไทยประเภทเดี่ยว ในรายการ ไทยโหมโรง SS2 ระดับชั้นมัธยมศึกษา
    จัดโดย T Classical Music

    #siamplayground #สยามเด็กเล่น #ประกวดดนตรีไทย #ไทยโหมโรง #โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ #thaitimes
    #อาสาพาสุข จะพาทุกคนตาม วงดนตรีไทย โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ ไปเข้าร่วมการประกวดดนตรีไทยประเภทเดี่ยว ในรายการ ไทยโหมโรง SS2 ระดับชั้นมัธยมศึกษา จัดโดย T Classical Music #siamplayground #สยามเด็กเล่น #ประกวดดนตรีไทย #ไทยโหมโรง #โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ #thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1756 Views 109 0 Reviews
  • สิ้นแล้ว ! เพลิน พรหมแดน ศิลปินแห่งชาติ ปี2555 อดีตนักร้องลูกทุ่งยอดนิยมสมญานาม“ราชาเพลงพูด” สิริอายุ 85ปี

    3 สิงหาคม 2567- นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) แจ้งข่าวว่า ได้รับการประสานงานจากคุณชัยธนา พรมธนารัช เลขานุการของนายสมส่วน พรหมสว่าง (เพลิน พรหมแดน) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย ลูกทุ่ง) พุทธศักราช 2555 ว่า เพลิน พรหมแดน ถึงแก่กรรม ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลศิริราช เวลาประมาณ 11.10 น. โดยเลขานุการของครูเพลิน พรมแดน แจ้งว่า ครูเป็นลมล้มเมื่อช่วง 11.00 น. ที่ผ่านมาของวันนี้ แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช เข้าห้องฉุกเฉิน ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต จนกระทั่งเสียชีวิต ขณะนี้กำลังรอผลการวินิจฉัยถึงการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการของโรงพยาบาลศิริราช และกำลังวางแผนในการนำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นที่ไหนอย่างไร

    สำหรับศิลปินแห่งชาติที่เสียชีวิตจะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ตามกฎกระทรวงกําหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2555 ดังนี้ เงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิต จำนวน 20,000 บาท ค่าเครื่องเคารพศพ จำนวน 3,000 บาท เงินค่าจัดพิมพ์หนังสือเผยแพร่ผลงาน จำนวน 150,000 บาท

    ประวัติจากวิกิพีเดียระบุว่า สมส่วน พรหมสว่าง หรือ เพลิน พรหมแดน เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งชาวไทย
    เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2482 ที่บ้านกิโลสอง อำเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบันแยกออกมาเป็นจังหวัดสระแก้ว ) มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงเป็นที่รู้จักในเพลง "ชมทุ่ง", "บุญพี่ที่น้องรัก", "คนเดินดิน", "คนไม่มีดาว", "อย่าลืมเมืองไทย", "ข่าวสดๆ", "อาตี๋สักมังกร", "ให้พี่รวยเสียก่อน" ซึ่งส่วนมากเป็นเพลงพูด จึงได้รับสมญานาม ราชาเพลงพูด และได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) ประจำปี พ.ศ. 2555

    คลิปเพลงชมทุ่ง https://youtu.be/4O93FAGU6cQ?si=KJ0LagZkagCWA5da

    #Thaitimes

    สิ้นแล้ว ! เพลิน พรหมแดน ศิลปินแห่งชาติ ปี2555 อดีตนักร้องลูกทุ่งยอดนิยมสมญานาม“ราชาเพลงพูด” สิริอายุ 85ปี 3 สิงหาคม 2567- นายประสพ เรียงเงิน อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) แจ้งข่าวว่า ได้รับการประสานงานจากคุณชัยธนา พรมธนารัช เลขานุการของนายสมส่วน พรหมสว่าง (เพลิน พรหมแดน) ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย ลูกทุ่ง) พุทธศักราช 2555 ว่า เพลิน พรหมแดน ถึงแก่กรรม ด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลศิริราช เวลาประมาณ 11.10 น. โดยเลขานุการของครูเพลิน พรมแดน แจ้งว่า ครูเป็นลมล้มเมื่อช่วง 11.00 น. ที่ผ่านมาของวันนี้ แล้วรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช เข้าห้องฉุกเฉิน ปั๊มหัวใจยื้อชีวิต จนกระทั่งเสียชีวิต ขณะนี้กำลังรอผลการวินิจฉัยถึงการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการของโรงพยาบาลศิริราช และกำลังวางแผนในการนำร่างกลับไปบำเพ็ญกุศลซึ่งยังไม่ได้กำหนดว่าเป็นที่ไหนอย่างไร สำหรับศิลปินแห่งชาติที่เสียชีวิตจะได้รับสวัสดิการช่วยเหลือจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ตามกฎกระทรวงกําหนดสาขา คุณสมบัติ หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือก และประโยชน์ตอบแทนของศิลปินแห่งชาติ พ.ศ. 2555 ดังนี้ เงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิต จำนวน 20,000 บาท ค่าเครื่องเคารพศพ จำนวน 3,000 บาท เงินค่าจัดพิมพ์หนังสือเผยแพร่ผลงาน จำนวน 150,000 บาท ประวัติจากวิกิพีเดียระบุว่า สมส่วน พรหมสว่าง หรือ เพลิน พรหมแดน เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งชาวไทย เกิดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2482 ที่บ้านกิโลสอง อำเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี (ปัจจุบันแยกออกมาเป็นจังหวัดสระแก้ว ) มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงเป็นที่รู้จักในเพลง "ชมทุ่ง", "บุญพี่ที่น้องรัก", "คนเดินดิน", "คนไม่มีดาว", "อย่าลืมเมืองไทย", "ข่าวสดๆ", "อาตี๋สักมังกร", "ให้พี่รวยเสียก่อน" ซึ่งส่วนมากเป็นเพลงพูด จึงได้รับสมญานาม ราชาเพลงพูด และได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยลูกทุ่ง) ประจำปี พ.ศ. 2555 คลิปเพลงชมทุ่ง https://youtu.be/4O93FAGU6cQ?si=KJ0LagZkagCWA5da #Thaitimes
    Sad
    1
    1 Comments 0 Shares 1338 Views 0 Reviews