• 💥แม้งานจะยุ่งแค่ไหน...ชีวิตก็ยัง #EESY เพราะไม่ busy!
    3 ตัวช่วยคู่ครัว ที่แม่บ้านยุคใหม่ต้องมี👇

    🧼 EESY CLEAN ขจัดคราบมัน – คราบแน่นแค่ไหน ก็ออกง่ายในพริบตา
    🍽 EESY CLEAN ล้างจาน – ล้างสะอาด ไม่ต้องเปลืองแรง
    🚿 ไบโอแซน ทีพีไอ – จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์

    ✨ ครบจบเรื่องครัว ชีวิตดีแบบ EESY ทุกวัน!

    #EESYCLEAN #EESYไม่Busy #ของมันต้องมี #ของใช้ในบ้าน #แม่บ้านยุคใหม่ #เคล็ดลับแม่บ้าน #ครัวสะอาด #ล้างจานง่าย #ขจัดคราบมัน #บำบัดน้ำเสีย #ไบโอแซน #ของดีบอกต่อ #รีวิวของใช้ในบ้าน #TPIผลิตภัณฑ์
    #แม่บ้านTikTok #TidyTok #ทำความสะอาดบ้าน #ชีวิตง่ายขึ้น #ชีวิตEESYทุกวัน
    💥แม้งานจะยุ่งแค่ไหน...ชีวิตก็ยัง #EESY เพราะไม่ busy! 3 ตัวช่วยคู่ครัว ที่แม่บ้านยุคใหม่ต้องมี👇 🧼 EESY CLEAN ขจัดคราบมัน – คราบแน่นแค่ไหน ก็ออกง่ายในพริบตา 🍽 EESY CLEAN ล้างจาน – ล้างสะอาด ไม่ต้องเปลืองแรง 🚿 ไบโอแซน ทีพีไอ – จุลินทรีย์บำบัดน้ำเสีย ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ✨ ครบจบเรื่องครัว ชีวิตดีแบบ EESY ทุกวัน! #EESYCLEAN #EESYไม่Busy #ของมันต้องมี #ของใช้ในบ้าน #แม่บ้านยุคใหม่ #เคล็ดลับแม่บ้าน #ครัวสะอาด #ล้างจานง่าย #ขจัดคราบมัน #บำบัดน้ำเสีย #ไบโอแซน #ของดีบอกต่อ #รีวิวของใช้ในบ้าน #TPIผลิตภัณฑ์ #แม่บ้านTikTok #TidyTok #ทำความสะอาดบ้าน #ชีวิตง่ายขึ้น #ชีวิตEESYทุกวัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • **เรื่องราวของสามีภรรยาชาวอินเดียในสมัยพุทธกาล**

    ในเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล มีคู่สามีภรรยาชาวอินเดียคู่หนึ่งที่ชาวเมืองต่างรู้จักดีในความแตกต่างของพวกเขา **สามีชื่อ "สุทัตตะ"** เป็นพ่อค้าขายผ้าไหมผู้พูดน้อย นิ่งๆ แต่มีจิตใจศรัทธาในพระพุทธเจ้า ส่วน **ภรรยาชื่อ "นันทา"** เป็นหญิงขี้บ่น ปากจัด และไม่เชื่อเรื่องการบวชหรือการทำบุญ เธอคิดว่าชีวิตนี้ต้องสะสมทรัพย์เท่านั้น จึงเถียงสามีประจำเรื่องการไปวัด

    ### **วันแรกที่สุทัตตะพานันทาไปฟังธรรม**
    วันหนึ่ง สุทัตตะชวนนันทาไปฟังพระพุทธเจ้าทเทศน์ที่วัดเชตวัน แต่เธอตอบเสียงหลงว่า:
    "อีกแล้วเหรอ?! พ่อบ้านก็ไม่เห็นห่วงสมบัติ ทุกเย็นไม่คิดแต่จะไปวัด ถ้าพระพุทธเจ้าสอนดีจริง ทำไมเรายังไม่รวยล่ะ?!"

    สุทัตตะยิ้มน้อยๆ แล้วพูดเบาๆ: "พระองค์สอนว่า ความร่ำรวยไม่ใช่จุดจบของชีวิต..."

    นันทาตะโกน: "แล้วอะไรล่ะคือจุดจบ?! การยืนตากแดดฟังคนๆหนึ่งพูดเรื่องไม่จริง?!"

    แต่สุดท้าย เธอก็ถูกเพื่อนบ้านชักชวนให้ไปด้วยเพราะอยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าดึงดูดคนได้อย่างไร

    ### **นันทาพบพระพุทธเจ้า**
    เมื่อไปถึง นันทายังบ่นพึมพำว่า "ร้อนจะตาย..." แต่เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเริ่มเทศน์ พระองค์ตรัสด้วยเสียงอันสุขุม:

    "ดูก่อนอุบาสิกา บางคนสะสมทรัพย์แต่ใจจน บางคนมีน้อยแต่ใจเป็นสุข..."

    นันทาซึ่งกำลังนั่งกอดอกอยู่ ก็สะดุ้งเมื่อรู้สึกเหมือนพระองค์ตรัสตรงถึงเธอ! พระพุทธเจ้าตรัสต่อเรื่อง **"ความทุกข์เกิดจากความยึดมั่น"** และเล่านิทานเปรียบเทียบถึงพ่อค้าคนหนึ่งที่โกรธเพราะเรือแตก แต่กลับโชคดีที่ถูกพัดเข้าฝั่ง เพราะไม่ยึดติดกับของที่สูญเสีย

    นันทาค่อยๆ หยุดบ่น เริ่มฟังด้วยความสนใจ แม้จะยังไม่พูดอะไร แต่ใจเธอเริ่มสั่นสะเทือน

    ### **การเปลี่ยนแปลง**
    หลังจากวันนั้น นันทายังเป็นคนปากกล้า แต่เริ่มถามสามีเรื่องธรรมะบ้าง และบางครั้งก็แอบไปวัดคนเดียวโดยไม่บอกสุทัตตะ! เพื่อนบ้านถึงกับตกใจเมื่อเห็นนันทาช่วยตักบาตรพระ แทนที่จะนั่งบ่นเรื่องเสียเงิน

    สุทัตตะยิ้มพอใจ แต่เขาก็ไม่พูดมาก 只是พูดว่า: "วันนี้ภรรยาดูสงบจัง..."

    นันทาหัวเราะแล้วตอบ: "ก็เพราะฉันเริ่มเข้าใจว่า การไม่บ่นทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไง!"

    ### **บทเรียนที่ได้**
    เรื่องราวของทั้งสองสอนให้เห็นว่า **ความศรัทธาไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในทันที** และแม้แต่คนขี้บ่นที่สุด ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อได้พบคำสอนที่ใช่ แม้พระพุทธเจ้าจะไม่ทรงบังคับใครให้เชื่อ แต่พระธรรมย่อมดึงดูดใจผู้ที่พร้อมรับ

    และนั่นคือชีวิตคู่ของสุทัตตะกับนันทา ที่ยังคงเถียงกันบ้าง แต่ครั้งนี้... เธอเริ่มเถียงด้วยหลักธรรมแทน!

    *(จบ)*

    > หมายเหตุ: เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อแสดงวิถีชีวิตและความเชื่อในสมัยพุทธกาลผ่านมุมมองสามัญชน ไม่ได้อ้างอิงจากพระสูตรโดยตรง แต่สอดคล้องกับแนวคิดทางพุทธศาสนาเรื่องการเปลี่ยนแปลงและการละทิ้งความยึดมั่น
    **เรื่องราวของสามีภรรยาชาวอินเดียในสมัยพุทธกาล** ในเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล มีคู่สามีภรรยาชาวอินเดียคู่หนึ่งที่ชาวเมืองต่างรู้จักดีในความแตกต่างของพวกเขา **สามีชื่อ "สุทัตตะ"** เป็นพ่อค้าขายผ้าไหมผู้พูดน้อย นิ่งๆ แต่มีจิตใจศรัทธาในพระพุทธเจ้า ส่วน **ภรรยาชื่อ "นันทา"** เป็นหญิงขี้บ่น ปากจัด และไม่เชื่อเรื่องการบวชหรือการทำบุญ เธอคิดว่าชีวิตนี้ต้องสะสมทรัพย์เท่านั้น จึงเถียงสามีประจำเรื่องการไปวัด ### **วันแรกที่สุทัตตะพานันทาไปฟังธรรม** วันหนึ่ง สุทัตตะชวนนันทาไปฟังพระพุทธเจ้าทเทศน์ที่วัดเชตวัน แต่เธอตอบเสียงหลงว่า: "อีกแล้วเหรอ?! พ่อบ้านก็ไม่เห็นห่วงสมบัติ ทุกเย็นไม่คิดแต่จะไปวัด ถ้าพระพุทธเจ้าสอนดีจริง ทำไมเรายังไม่รวยล่ะ?!" สุทัตตะยิ้มน้อยๆ แล้วพูดเบาๆ: "พระองค์สอนว่า ความร่ำรวยไม่ใช่จุดจบของชีวิต..." นันทาตะโกน: "แล้วอะไรล่ะคือจุดจบ?! การยืนตากแดดฟังคนๆหนึ่งพูดเรื่องไม่จริง?!" แต่สุดท้าย เธอก็ถูกเพื่อนบ้านชักชวนให้ไปด้วยเพราะอยากรู้ว่าพระพุทธเจ้าดึงดูดคนได้อย่างไร ### **นันทาพบพระพุทธเจ้า** เมื่อไปถึง นันทายังบ่นพึมพำว่า "ร้อนจะตาย..." แต่เมื่อพระพุทธเจ้าทรงเริ่มเทศน์ พระองค์ตรัสด้วยเสียงอันสุขุม: "ดูก่อนอุบาสิกา บางคนสะสมทรัพย์แต่ใจจน บางคนมีน้อยแต่ใจเป็นสุข..." นันทาซึ่งกำลังนั่งกอดอกอยู่ ก็สะดุ้งเมื่อรู้สึกเหมือนพระองค์ตรัสตรงถึงเธอ! พระพุทธเจ้าตรัสต่อเรื่อง **"ความทุกข์เกิดจากความยึดมั่น"** และเล่านิทานเปรียบเทียบถึงพ่อค้าคนหนึ่งที่โกรธเพราะเรือแตก แต่กลับโชคดีที่ถูกพัดเข้าฝั่ง เพราะไม่ยึดติดกับของที่สูญเสีย นันทาค่อยๆ หยุดบ่น เริ่มฟังด้วยความสนใจ แม้จะยังไม่พูดอะไร แต่ใจเธอเริ่มสั่นสะเทือน ### **การเปลี่ยนแปลง** หลังจากวันนั้น นันทายังเป็นคนปากกล้า แต่เริ่มถามสามีเรื่องธรรมะบ้าง และบางครั้งก็แอบไปวัดคนเดียวโดยไม่บอกสุทัตตะ! เพื่อนบ้านถึงกับตกใจเมื่อเห็นนันทาช่วยตักบาตรพระ แทนที่จะนั่งบ่นเรื่องเสียเงิน สุทัตตะยิ้มพอใจ แต่เขาก็ไม่พูดมาก 只是พูดว่า: "วันนี้ภรรยาดูสงบจัง..." นันทาหัวเราะแล้วตอบ: "ก็เพราะฉันเริ่มเข้าใจว่า การไม่บ่นทำให้ชีวิตง่ายขึ้นไง!" ### **บทเรียนที่ได้** เรื่องราวของทั้งสองสอนให้เห็นว่า **ความศรัทธาไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในทันที** และแม้แต่คนขี้บ่นที่สุด ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อได้พบคำสอนที่ใช่ แม้พระพุทธเจ้าจะไม่ทรงบังคับใครให้เชื่อ แต่พระธรรมย่อมดึงดูดใจผู้ที่พร้อมรับ และนั่นคือชีวิตคู่ของสุทัตตะกับนันทา ที่ยังคงเถียงกันบ้าง แต่ครั้งนี้... เธอเริ่มเถียงด้วยหลักธรรมแทน! *(จบ)* > หมายเหตุ: เรื่องนี้แต่งขึ้นเพื่อแสดงวิถีชีวิตและความเชื่อในสมัยพุทธกาลผ่านมุมมองสามัญชน ไม่ได้อ้างอิงจากพระสูตรโดยตรง แต่สอดคล้องกับแนวคิดทางพุทธศาสนาเรื่องการเปลี่ยนแปลงและการละทิ้งความยึดมั่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌 ความคิดที่แตกต่าง: เข้าใจและอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ทุกข์

    🔹 1. ความขัดใจจากความคิดที่แตกต่าง
    ✅ มุมมองที่ต่างกัน มาจากประสบการณ์ที่ต่างกัน
    ✅ ความเห็นไม่ตรงกัน ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นศัตรูกัน
    ✅ การแบ่งฝ่ายทางความคิด ทำให้เกิดตัวตนที่เหนียวแน่นขึ้น


    ---

    🔹 2. การแบ่งข้างทางความคิดในทางพุทธ 🛑 จำแนกกรรม → เราคิดแบบนี้เพราะมีเหตุปัจจัยของเรา
    🛑 จำแนกตัวตน → เราเริ่มรู้สึกว่าเป็นพวกหนึ่ง และอีกฝ่ายเป็น "คนละพวก"
    🛑 ตอกย้ำอัตตา → ยิ่งแบ่งข้าง ยิ่งรู้สึกว่าตัวเอง "เป็นใคร" ชัดขึ้น

    👉 ผลลัพธ์:
    ❌ ติดยึดในความคิดของตัวเอง
    ❌ มองอีกฝ่ายเป็นศัตรู
    ❌ สร้างทุกข์ให้ตัวเองโดยไม่จำเป็น


    ---

    🔹 3. วิธีฝึกสติเมื่อรู้สึกขัดใจกับความเห็นที่แตกต่าง ✅ ยอมรับตามจริง – รับรู้ว่าเรากำลังรู้สึกอย่างไร
    ✅ หายใจเข้าลึกๆ – เพื่อปักหมุดให้สติรู้ว่าตัวเองกำลัง "ไม่อยากแบ่งฝ่าย"
    ✅ สังเกตความรู้สึก – ความเบื่อหน่ายและอึดอัดเปลี่ยนแปลงไปไหม?
    ✅ รู้ทันความคิด – ความคิดเป็นเหมือนคลื่นในสมอง เกิดขึ้นแล้วก็หายไป


    ---

    🔹 4. ผลลัพธ์ของการฝึกสติ 🎯 ลดความยึดติดในความคิดของตัวเอง
    🎯 เข้าใจว่าไม่มีตัวตนที่แท้จริงในความคิด
    🎯 มองความคิดเหมือนเมฆหมอก ไม่ใช่ของจริงที่ต้องยึดมั่น
    🎯 ใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ต้องแบ่งฝ่ายให้ตัวเองทุกข์


    ---

    🔹 5. สรุป:
    💡 ความคิดเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านเข้ามา ไม่ใช่ตัวตนของเรา
    💡 ไม่ต้องเอาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง
    💡 สติช่วยให้เรารู้เท่าทัน และเป็นอิสระจากการแบ่งฝ่ายทางความคิด

    📌 ฝึกแค่วันละนิด ก็ช่วยให้ใจสงบขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ!

    📌 ความคิดที่แตกต่าง: เข้าใจและอยู่ร่วมกันได้โดยไม่ทุกข์ 🔹 1. ความขัดใจจากความคิดที่แตกต่าง ✅ มุมมองที่ต่างกัน มาจากประสบการณ์ที่ต่างกัน ✅ ความเห็นไม่ตรงกัน ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นศัตรูกัน ✅ การแบ่งฝ่ายทางความคิด ทำให้เกิดตัวตนที่เหนียวแน่นขึ้น --- 🔹 2. การแบ่งข้างทางความคิดในทางพุทธ 🛑 จำแนกกรรม → เราคิดแบบนี้เพราะมีเหตุปัจจัยของเรา 🛑 จำแนกตัวตน → เราเริ่มรู้สึกว่าเป็นพวกหนึ่ง และอีกฝ่ายเป็น "คนละพวก" 🛑 ตอกย้ำอัตตา → ยิ่งแบ่งข้าง ยิ่งรู้สึกว่าตัวเอง "เป็นใคร" ชัดขึ้น 👉 ผลลัพธ์: ❌ ติดยึดในความคิดของตัวเอง ❌ มองอีกฝ่ายเป็นศัตรู ❌ สร้างทุกข์ให้ตัวเองโดยไม่จำเป็น --- 🔹 3. วิธีฝึกสติเมื่อรู้สึกขัดใจกับความเห็นที่แตกต่าง ✅ ยอมรับตามจริง – รับรู้ว่าเรากำลังรู้สึกอย่างไร ✅ หายใจเข้าลึกๆ – เพื่อปักหมุดให้สติรู้ว่าตัวเองกำลัง "ไม่อยากแบ่งฝ่าย" ✅ สังเกตความรู้สึก – ความเบื่อหน่ายและอึดอัดเปลี่ยนแปลงไปไหม? ✅ รู้ทันความคิด – ความคิดเป็นเหมือนคลื่นในสมอง เกิดขึ้นแล้วก็หายไป --- 🔹 4. ผลลัพธ์ของการฝึกสติ 🎯 ลดความยึดติดในความคิดของตัวเอง 🎯 เข้าใจว่าไม่มีตัวตนที่แท้จริงในความคิด 🎯 มองความคิดเหมือนเมฆหมอก ไม่ใช่ของจริงที่ต้องยึดมั่น 🎯 ใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ต้องแบ่งฝ่ายให้ตัวเองทุกข์ --- 🔹 5. สรุป: 💡 ความคิดเป็นเพียงสิ่งที่ผ่านเข้ามา ไม่ใช่ตัวตนของเรา 💡 ไม่ต้องเอาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง 💡 สติช่วยให้เรารู้เท่าทัน และเป็นอิสระจากการแบ่งฝ่ายทางความคิด 📌 ฝึกแค่วันละนิด ก็ช่วยให้ใจสงบขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌 จิตที่เป็นศัตรูตัวเอง: รู้ทันและแก้ไข

    🔹 1. คนส่วนใหญ่กลั่นแกล้งตัวเองโดยไม่รู้ตัว
    ✅ คิดลบ บั่นทอน ตัวเอง (Self-Sabotage)
    ✅ รู้ว่าทำแล้วไม่ดี แต่ยังทำต่อ
    ✅ ปฏิเสธปัญหา แทนที่จะแก้ไข
    ✅ ใช้อารมณ์ลบ เป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา


    ---

    🔹 2. ตัวอย่างของความคิดที่เป็นศัตรู ❌ กดข่มคนอื่น – คิดว่าถ้าไม่ข่มก่อน จะโดนกดขี่
    ❌ ปฏิเสธความทุกข์ของตัวเอง – คิดว่าตัวเองดีอยู่แล้ว
    ❌ แก้ปัญหาด้วยอารมณ์ลบ – ไม่ยอมใช้สติหรือวิธีสร้างสรรค์

    👉 ผลลัพธ์:
    ❌ ชีวิตวนลูปปัญหา
    ❌ มีแต่ความอึดอัด หนีไม่พ้นทุกข์
    ❌ คนรอบข้างอยู่ด้วยยาก


    ---

    🔹 3. วิธีขจัดศัตรูทางความคิด ✅ รู้ทันความคิดตนเอง – แยกแยะระหว่าง "ความคิดศัตรู" กับ "ความคิดมิตร"
    ✅ เปลี่ยนอารมณ์ลบเป็นอารมณ์บวก – ใช้สติก่อนตอบโต้
    ✅ เผชิญปัญหาอย่างตรงไปตรงมา – แทนที่จะหลอกตัวเอง
    ✅ สร้างนิสัยคิดบวกทีละน้อย – ฝึกคิดในมุมสร้างสรรค์
    ✅ มีสติทุกครั้งที่อารมณ์แรงขึ้นมา – ฝึกหยุดคิดชั่วคราวก่อนพูดหรือทำ


    ---

    🔹 4. ทดลองสังเกตตัวเองเพียงไม่กี่วัน
    🎯 ลองแยกแยะ "ความคิดมิตร" กับ "ความคิดศัตรู"
    🎯 ตัดสินใจให้ชัดว่า จะไม่เดินตามความคิดที่บ่อนทำลายตนเอง
    🎯 เปลี่ยนแปลงทีละนิด – จะเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้นกว่าที่คิด

    👉 ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น:
    ✅ ใช้ชีวิตง่ายขึ้น มีอิสระจากอารมณ์ลบ
    ✅ มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้น กับคนรอบข้าง
    ✅ รู้จัก สร้างเส้นทางใหม่ให้ตัวเอง

    📌 สรุป:
    💡 ความคิดเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่นายของเรา
    💡 รู้ทัน = คุมเกมชีวิตได้
    💡 แค่แยกแยะความคิดที่เป็นศัตรูออก ก็เปลี่ยนชีวิตได้แล้ว!

    📌 จิตที่เป็นศัตรูตัวเอง: รู้ทันและแก้ไข 🔹 1. คนส่วนใหญ่กลั่นแกล้งตัวเองโดยไม่รู้ตัว ✅ คิดลบ บั่นทอน ตัวเอง (Self-Sabotage) ✅ รู้ว่าทำแล้วไม่ดี แต่ยังทำต่อ ✅ ปฏิเสธปัญหา แทนที่จะแก้ไข ✅ ใช้อารมณ์ลบ เป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา --- 🔹 2. ตัวอย่างของความคิดที่เป็นศัตรู ❌ กดข่มคนอื่น – คิดว่าถ้าไม่ข่มก่อน จะโดนกดขี่ ❌ ปฏิเสธความทุกข์ของตัวเอง – คิดว่าตัวเองดีอยู่แล้ว ❌ แก้ปัญหาด้วยอารมณ์ลบ – ไม่ยอมใช้สติหรือวิธีสร้างสรรค์ 👉 ผลลัพธ์: ❌ ชีวิตวนลูปปัญหา ❌ มีแต่ความอึดอัด หนีไม่พ้นทุกข์ ❌ คนรอบข้างอยู่ด้วยยาก --- 🔹 3. วิธีขจัดศัตรูทางความคิด ✅ รู้ทันความคิดตนเอง – แยกแยะระหว่าง "ความคิดศัตรู" กับ "ความคิดมิตร" ✅ เปลี่ยนอารมณ์ลบเป็นอารมณ์บวก – ใช้สติก่อนตอบโต้ ✅ เผชิญปัญหาอย่างตรงไปตรงมา – แทนที่จะหลอกตัวเอง ✅ สร้างนิสัยคิดบวกทีละน้อย – ฝึกคิดในมุมสร้างสรรค์ ✅ มีสติทุกครั้งที่อารมณ์แรงขึ้นมา – ฝึกหยุดคิดชั่วคราวก่อนพูดหรือทำ --- 🔹 4. ทดลองสังเกตตัวเองเพียงไม่กี่วัน 🎯 ลองแยกแยะ "ความคิดมิตร" กับ "ความคิดศัตรู" 🎯 ตัดสินใจให้ชัดว่า จะไม่เดินตามความคิดที่บ่อนทำลายตนเอง 🎯 เปลี่ยนแปลงทีละนิด – จะเห็นผลลัพธ์เร็วขึ้นกว่าที่คิด 👉 ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น: ✅ ใช้ชีวิตง่ายขึ้น มีอิสระจากอารมณ์ลบ ✅ มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีขึ้น กับคนรอบข้าง ✅ รู้จัก สร้างเส้นทางใหม่ให้ตัวเอง 📌 สรุป: 💡 ความคิดเป็นเครื่องมือ ไม่ใช่นายของเรา 💡 รู้ทัน = คุมเกมชีวิตได้ 💡 แค่แยกแยะความคิดที่เป็นศัตรูออก ก็เปลี่ยนชีวิตได้แล้ว!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อคุณใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ
    คุณจะตระหนักได้ว่า
    ...เรื่องร้ายไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่เสมอไป
    เพราะการที่เราพยายามก้าวข้ามอุปสรรคน้อยใหญ่

    จะทำให้เราเข้มแข็งและใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่มากก็น้อย

    จากหนังสือ |อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    เมื่อคุณใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ คุณจะตระหนักได้ว่า ...เรื่องร้ายไม่ได้เป็นสิ่งที่แย่เสมอไป เพราะการที่เราพยายามก้าวข้ามอุปสรรคน้อยใหญ่ จะทำให้เราเข้มแข็งและใช้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่มากก็น้อย จากหนังสือ |อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #อย่านึกถึงอนาคตจนลืมความสุขในปัจจุบัน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อใดที่เรารู้สึกว่าชีวิตยุ่งเหยิงหรือขาดการเรียงลำดับ การจัดระเบียบจิตใจเป็นวิธีเริ่มต้นที่ดีที่สุด เพราะจิตใจเป็นตัวกำหนดการกระทำและความกระตือรือร้นในทุกๆ วัน

    การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนในใจทำให้การจัดการชีวิตง่ายขึ้น เช่น หากตั้งใจจะพัฒนาภายในหรือฝึกจิตใจให้เป็นระเบียบ นั่นจะช่วยให้เราสามารถจัดการกับสภาพแวดล้อมหรือปัญหาที่อยู่รอบๆ ได้ดีขึ้น ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าเป้าหมายนั้นจะเป็นเรื่องภายนอกเสมอไป แต่อยู่ที่ว่าเป้าหมายนั้นทำให้จิตใจเรามั่นคงหรือไม่

    เมื่อใดที่รู้ภสึกฟุ้งซ่านหรือรู้สึกว่าไม่มีอะไรเป็นระเบียบ ลองนึกถึงสิ่งที่จะช่วยให้ใจสงบและเป็นสมาธิ อาจเริ่มด้วยการทำงานตรงหน้าให้ดีที่สุด ไม่เปรียบเทียบ ไม่ใช้อารมณ์ไปตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัว เพราะการคิดว่าใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบจากงานนั้น อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดความฟุ้งซ่านที่ไม่จำเป็น

    จิตใจที่หิวเป้าหมาย มักฟุ้งซ่านเมื่อไม่ได้ทำอะไรที่ชัดเจน การตั้งโจทย์ให้กับจิตใจและมองงานให้เป็นเครื่องมือในการฝึกฝนจิตใจไม่ให้หลงไปกับเรื่องต่างๆ จะทำให้ใจนิ่งและเกิดสมาธิ งานหรือสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบนั้นมีคุณค่าตรงที่ทำให้เราอยู่กับปัจจุบัน เป็นเครื่องช่วยพาจิตใจกลับมาเสมอ

    เมื่อใดที่เรารู้สึกว่าชีวิตยุ่งเหยิงหรือขาดการเรียงลำดับ การจัดระเบียบจิตใจเป็นวิธีเริ่มต้นที่ดีที่สุด เพราะจิตใจเป็นตัวกำหนดการกระทำและความกระตือรือร้นในทุกๆ วัน การตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนในใจทำให้การจัดการชีวิตง่ายขึ้น เช่น หากตั้งใจจะพัฒนาภายในหรือฝึกจิตใจให้เป็นระเบียบ นั่นจะช่วยให้เราสามารถจัดการกับสภาพแวดล้อมหรือปัญหาที่อยู่รอบๆ ได้ดีขึ้น ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าเป้าหมายนั้นจะเป็นเรื่องภายนอกเสมอไป แต่อยู่ที่ว่าเป้าหมายนั้นทำให้จิตใจเรามั่นคงหรือไม่ เมื่อใดที่รู้ภสึกฟุ้งซ่านหรือรู้สึกว่าไม่มีอะไรเป็นระเบียบ ลองนึกถึงสิ่งที่จะช่วยให้ใจสงบและเป็นสมาธิ อาจเริ่มด้วยการทำงานตรงหน้าให้ดีที่สุด ไม่เปรียบเทียบ ไม่ใช้อารมณ์ไปตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัว เพราะการคิดว่าใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบจากงานนั้น อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดความฟุ้งซ่านที่ไม่จำเป็น จิตใจที่หิวเป้าหมาย มักฟุ้งซ่านเมื่อไม่ได้ทำอะไรที่ชัดเจน การตั้งโจทย์ให้กับจิตใจและมองงานให้เป็นเครื่องมือในการฝึกฝนจิตใจไม่ให้หลงไปกับเรื่องต่างๆ จะทำให้ใจนิ่งและเกิดสมาธิ งานหรือสิ่งที่เราต้องรับผิดชอบนั้นมีคุณค่าตรงที่ทำให้เราอยู่กับปัจจุบัน เป็นเครื่องช่วยพาจิตใจกลับมาเสมอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • Aspire Erawan Prime : แอสปาย เอราวัณ ไพร์ม, สมุทรปราการ

    คอนโดนี้ยกระดับการอยู่อาศัยด้วยนวัตกรรมที่ทำให้ทุกจังหวะชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิม ด้วยระบบอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันอัจฉริยะเพื่อชีวิตวิถีใหม่ที่ปลอดภัยจากความกังวล ครอบคลุมพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมยังใส่ใจความต้องการของคนทุกไลฟ์สไตล์ ให้การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเหมือนกับการหลีกหนี

    **สิ่งอำนวยความสะดวก**

    - Serene Pavilion
    - Sunken Seat
    - Free Flow Playground
    - Lawn Court
    - Multi-Sport
    - Running Loop
    - Welcome Zone
    - Private Lobby
    - Meeting Reservation Room
    - Co-Working Cafe
    - Mingle Space
    - Smart Locker
    - Battle Room
    - Board Game
    - Private Theatre
    - Breezing Balcony
    - Heath Complex
    - Sauna/Steam
    - Stretching Plaza
    - Pool Terrace
    - Massage Pond
    - Secret Seat
    - Yoga Deck
    - Jacuzzi
    - Swimming Pool
    - Waterside Pavilion
    - Kids Pool
    - Social Court
    - Sunset Parlor
    - Sky Jogging
    - CCTV
    - Key Card Access
    - รปภ. 24 ชม.
    - Wi-Fi บนพื้นที่ส่วนกลาง

    **สถานที่ใกล้เคียง**

    - ร้านสะดวกซื้อ/ร้านกาแฟ/ร้านอาหาร : พื้นที่ร้านค้าหน้าโครงการ
    - Big C Jumbo สำโรง : 2.4 กม.
    - สำโรงเซ็นเตอร์ : 3.6 กม.
    - อิมพีเรียลเวิร์ล สำโรง : 3.7 กม.
    - ตลาดเอี่ยมเจริญ : 5.1 กม.
    - The Coast Village : 6.2 กม.
    - Lotus Plus Mall ศรีนครินทร์ : 6.5 กม.
    - Bitec บางนา : 8.0 กม.
    - Jas Urban : 8.3 กม.
    - เซ็นทรัล บางนา : 9.6 กม.
    - Big C บางนา : 9.7 กม.
    - ศูนย์การค้า ลาซาลสแควร์ : 9.7 กม.
    - Bangkok Mall : 10 กม.
    - SB Design Square : 10.5 กม.
    - Makro ศรีนครินทร์ : 11.0 กม.
    - Big C ศรีนครินทร์ : 11.1 กม.
    - Chic Republic : 11.2 กม.
    - Index Living Mall : 11.4 กม.
    - Paradise Park : 13.2 กม.
    - Mega&Ikea บางนา : 15.5 กม.
    - Seacon Square : 16.8 กม.
    - รร.นายเรือ : 1.1 กม.
    - รร.สตรีสมุทรปราการ : 4.2 กม.
    - รร.อัสสัมชัน สมุทรปราการ : 4.3 กม.
    - รร.เซนต์โยเซฟ ทิพวัล : 4.5 กม.
    - รร.นานาชาติ เซนต์แอนดรูส์ : 6.1 กม.
    - รร.นานาชาติเบิร์คลีย์ : 7.0 กม.
    - รร.บางกอกพัฒนา : 7.8 กม.
    - รร.เซนต์โยเซฟ บางนา : 7.9 กม.
    - รร.ลาซาล : 9.1 กม.
    - รร.นานาชาติเวลล์ส : 10.7 กม.
    - International Community School : 15.1 กม.
    - รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 16.9 กม.
    - The American School of Bangkok : 17.4 กม.
    - รพ.ยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ : 1.8 กม.
    - รพ.เมืองสมุทรปราการ : 3.2 กม.
    - รพ.สำโรงการแพทย์ : 3.7 กม.
    - รพ.เปาโล เมโมเรียล สมุทรปราการ : 4.6 กม.
    - รพ.มนารมย์ : 5.6 กม.
    - รพ.ไทยนครินทร์ : 10.1 กม.
    - รพ.ศิครินทร์ : 11.1 กม.
    - รพ.บางนา 1 : 11.9 กม.
    - กศน.อำเภอเมืองสมุทรปราการ : 180 ม.
    - ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ : 2.2 กม.
    - สนง.สรรพกร สมุทรปราการ : 2.4 กม.
    - สนง.ที่ดิน สมุทรปราการ : 2.4 กม.
    - ศาลจังหวัดสมุทรปราการ : 2.5 กม.
    - สภ.เมืองสมุทรปราการ : 2.5 กม.
    - การไฟฟ้านครหลวง สมุทรปราการ : 2.8 กม.
    - สถานีตำรวจ สำโรงเหนือ : 3.6 กม.
    - พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ : 3.3 กม.
    - พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ : 3.4 กม.
    - APT Parking : 6.6 กม.

    -------------------------------------------
    สนใจสอบถามข้อมูลที่
    โทร.081-822-6553
    รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์
    ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้
    พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ
    จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    Aspire Erawan Prime : แอสปาย เอราวัณ ไพร์ม, สมุทรปราการ คอนโดนี้ยกระดับการอยู่อาศัยด้วยนวัตกรรมที่ทำให้ทุกจังหวะชีวิตง่ายขึ้นกว่าเดิม ด้วยระบบอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันอัจฉริยะเพื่อชีวิตวิถีใหม่ที่ปลอดภัยจากความกังวล ครอบคลุมพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมยังใส่ใจความต้องการของคนทุกไลฟ์สไตล์ ให้การใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นเหมือนกับการหลีกหนี **สิ่งอำนวยความสะดวก** - Serene Pavilion - Sunken Seat - Free Flow Playground - Lawn Court - Multi-Sport - Running Loop - Welcome Zone - Private Lobby - Meeting Reservation Room - Co-Working Cafe - Mingle Space - Smart Locker - Battle Room - Board Game - Private Theatre - Breezing Balcony - Heath Complex - Sauna/Steam - Stretching Plaza - Pool Terrace - Massage Pond - Secret Seat - Yoga Deck - Jacuzzi - Swimming Pool - Waterside Pavilion - Kids Pool - Social Court - Sunset Parlor - Sky Jogging - CCTV - Key Card Access - รปภ. 24 ชม. - Wi-Fi บนพื้นที่ส่วนกลาง **สถานที่ใกล้เคียง** - ร้านสะดวกซื้อ/ร้านกาแฟ/ร้านอาหาร : พื้นที่ร้านค้าหน้าโครงการ - Big C Jumbo สำโรง : 2.4 กม. - สำโรงเซ็นเตอร์ : 3.6 กม. - อิมพีเรียลเวิร์ล สำโรง : 3.7 กม. - ตลาดเอี่ยมเจริญ : 5.1 กม. - The Coast Village : 6.2 กม. - Lotus Plus Mall ศรีนครินทร์ : 6.5 กม. - Bitec บางนา : 8.0 กม. - Jas Urban : 8.3 กม. - เซ็นทรัล บางนา : 9.6 กม. - Big C บางนา : 9.7 กม. - ศูนย์การค้า ลาซาลสแควร์ : 9.7 กม. - Bangkok Mall : 10 กม. - SB Design Square : 10.5 กม. - Makro ศรีนครินทร์ : 11.0 กม. - Big C ศรีนครินทร์ : 11.1 กม. - Chic Republic : 11.2 กม. - Index Living Mall : 11.4 กม. - Paradise Park : 13.2 กม. - Mega&Ikea บางนา : 15.5 กม. - Seacon Square : 16.8 กม. - รร.นายเรือ : 1.1 กม. - รร.สตรีสมุทรปราการ : 4.2 กม. - รร.อัสสัมชัน สมุทรปราการ : 4.3 กม. - รร.เซนต์โยเซฟ ทิพวัล : 4.5 กม. - รร.นานาชาติ เซนต์แอนดรูส์ : 6.1 กม. - รร.นานาชาติเบิร์คลีย์ : 7.0 กม. - รร.บางกอกพัฒนา : 7.8 กม. - รร.เซนต์โยเซฟ บางนา : 7.9 กม. - รร.ลาซาล : 9.1 กม. - รร.นานาชาติเวลล์ส : 10.7 กม. - International Community School : 15.1 กม. - รร.นานาชาติคอนคอร์เดียน : 16.9 กม. - The American School of Bangkok : 17.4 กม. - รพ.ยุวประสาทไวทโยปถัมภ์ : 1.8 กม. - รพ.เมืองสมุทรปราการ : 3.2 กม. - รพ.สำโรงการแพทย์ : 3.7 กม. - รพ.เปาโล เมโมเรียล สมุทรปราการ : 4.6 กม. - รพ.มนารมย์ : 5.6 กม. - รพ.ไทยนครินทร์ : 10.1 กม. - รพ.ศิครินทร์ : 11.1 กม. - รพ.บางนา 1 : 11.9 กม. - กศน.อำเภอเมืองสมุทรปราการ : 180 ม. - ที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรปราการ : 2.2 กม. - สนง.สรรพกร สมุทรปราการ : 2.4 กม. - สนง.ที่ดิน สมุทรปราการ : 2.4 กม. - ศาลจังหวัดสมุทรปราการ : 2.5 กม. - สภ.เมืองสมุทรปราการ : 2.5 กม. - การไฟฟ้านครหลวง สมุทรปราการ : 2.8 กม. - สถานีตำรวจ สำโรงเหนือ : 3.6 กม. - พิพิธภัณฑ์ทหารเรือ : 3.3 กม. - พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ : 3.4 กม. - APT Parking : 6.6 กม. ------------------------------------------- สนใจสอบถามข้อมูลที่ โทร.081-822-6553 รับซื้อ ฝากขายที่ดิน บ้าน คอนโด อสังหาริมทรัพย์ ทุกชนิด “ฟรี” ค่าใช้จ่ายจนกว่าจะขายได้ พร้อมทั้งทำเรื่องยื่นกู้สินเชื่อ จนถึงโอนกรรมสิทธิ์ ณ กรมที่ดิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1408 มุมมอง 0 รีวิว