• แฉสถานการณ์ 'ฮุนเซน' เริ่มแย่หนัก! อยากเลิกทะเลาะไทยแต่หาทางลงไม่ได้
    https://www.thai-tai.tv/news/20048/
    .
    #ฮุนเซน #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #การเมืองกัมพูชา #สินค้าไทย #ชาตินิยม #เศรษฐกิจกัมพูชา #พลโทนันทเดช #ศรภ
    แฉสถานการณ์ 'ฮุนเซน' เริ่มแย่หนัก! อยากเลิกทะเลาะไทยแต่หาทางลงไม่ได้ https://www.thai-tai.tv/news/20048/ . #ฮุนเซน #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #ความสัมพันธ์ไทยกัมพูชา #การเมืองกัมพูชา #สินค้าไทย #ชาตินิยม #เศรษฐกิจกัมพูชา #พลโทนันทเดช #ศรภ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตบรางวัล! จ่าสมครกวัย72 ฮีโร่เขมรขู่ยิงทหารไทย ได้กาแฟ 1ถุง เงิน 88บาท
    https://www.thai-tai.tv/news/20047/
    .
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทหารกัมพูชา #ปะทะคารม #ภูผี #กันทรลักษ์ #ศรีสะเกษ #RPG #จ่าสิบโทสมครก #รางวัลกล้าหาญ #ชาตินิยม #โซเชียลมีเดีย #ข่าวชายแดน
    ตบรางวัล! จ่าสมครกวัย72 ฮีโร่เขมรขู่ยิงทหารไทย ได้กาแฟ 1ถุง เงิน 88บาท https://www.thai-tai.tv/news/20047/ . #ชายแดนไทยกัมพูชา #ทหารกัมพูชา #ปะทะคารม #ภูผี #กันทรลักษ์ #ศรีสะเกษ #RPG #จ่าสิบโทสมครก #รางวัลกล้าหาญ #ชาตินิยม #โซเชียลมีเดีย #ข่าวชายแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิตามาร์ เบน กวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล นักการเมืองชาตินิยมหัวรุนแรง ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (3 กรกฎาคม 2025) ประกาศไม่ยอมรับข้อตกลงสันติภาพใดๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับฮามาสอย่างแข็งขัน พร้อมยืนยันจะยึดครองดินแดนในฉนวนกาซา
    อิตามาร์ เบน กวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติอิสราเอล นักการเมืองชาตินิยมหัวรุนแรง ให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ (3 กรกฎาคม 2025) ประกาศไม่ยอมรับข้อตกลงสันติภาพใดๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับฮามาสอย่างแข็งขัน พร้อมยืนยันจะยึดครองดินแดนในฉนวนกาซา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ความตกต่ำของกระทรวงการต่างประเทศ

    กระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้การนำของ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ คนใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีผลงานโดดเด่น นอกจากไปเป็นพยานให้ทักษิณ ผู้ต้องหาคดี 112 ขออนุญาตศาลออกนอกประเทศ ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ที่สองพ่อลูก ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต ปลุกกระแสชาตินิยม นำปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย และช่องบก ร้องต่อศาลโลก ขอให้ตกเป็นของกัมพูชา นอกจากจะแถลงข่าวรายวันก็ไม่มีอะไรโดดเด่น

    การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นำโดย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเจบีซีฝ่ายไทย เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย นอกจากจะเป็นคู่กรณีนายวีระ สมความคิด เคยบีบบังคับให้ยอมรับผิดว่าบุกรุกดินแดนกัมพูชาและด่าว่าเป็นตัวปัญหาแล้ว ในการประชุมเจบีซีมีไลน์หลุดออกมาว่า นายประศาสน์ พยายามโน้มน้าวให้ไทยยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่ทำให้ไทยเสียดินแดน ทำให้เจ้าตัวถึงกับโกรธและไม่คุยด้วย หนำซ้ำ กัมพูชายังสรุปผลการประชุมว่าตกลงใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ทำให้คนไทยโกรธแค้นเพราะเสียเปรียบ ร้อนถึงกระทรวงต้องออกแถลงการณ์ตอนดึก ยืนยันว่าไม่ได้หารือ พร้อมแสดงความผิดหวังที่กัมพูชาเดินหน้านำพื้นที่ 4 จุดขึ้นสู่ศาลโลก

    สนธิ ลิ้มทองกุล ตั้งคำถามว่า ตั้งแต่ MOU 2543 ถึง MOU 2544 รู้อยู่แล้วว่าเป็นตัวการที่จะทำให้ไทยเสียดินแดน มีการระบุว่าต้องใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ไม่ใช่ 1 ต่อ 50,000 เคยถามตัวเองหรือไม่ว่าทำไมกัมพูชาเจรจากับเวียดนามใช้แผนที่ 1 ต่อ 50,000 ทำไมไทยถึงยอมใช้มาตรา 1 ต่อ 200,000 ส่วนนายประศาสน์ นับตั้งแต่ไปประชุมเจบีซี 3 สัปดาห์แล้วกลับมา ไม่เคยบอกคนไทยว่าไปพูดอะไรบ้าง และไม่บอกว่าไปลงนามข้อตกลงอะไรไว้ เปรียบเป็นไส้ศึกของกัมพูชา

    ที่น่าสนใจ คือ บทความหัวข้อ Thai diplomacy is now in need of a reset เขียนโดย กวี จงกิจถาวร ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ระบุในตอนหนึ่งว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำผิดพลาดทางการทูตร้ายแรงจากคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน แม้กระทรวงการต่างประเทศพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้สถานการณ์ทางการทูตที่เหลืออยู่ แต่ขวัญกำลังใจตกต่ำเป็นประวัติการณ์ นักการทูตและเจ้าหน้าที่รู้สึกว่าถูกละเลยและเพิกเฉย นับตั้งแต่แพทองธารเข้ารับตำแหน่ง การตัดสินใจเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศก็ดำเนินการโดยทักษิณ และกลุ่มคนใกล้ชิด

    "นับตั้งแต่ ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีต รมว.ต่างประเทศ ก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงฯ ก็ไร้ทิศทาง ไม่มีผู้นำที่เข้มแข็งมาควบคุม และไม่มีผู้ใดมีอำนาจที่จะควบคุมความเสียหายหรือวางแผนกลยุทธ์"

    #Newskit
    ความตกต่ำของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้การนำของ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ คนใกล้ชิดอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ไม่มีผลงานโดดเด่น นอกจากไปเป็นพยานให้ทักษิณ ผู้ต้องหาคดี 112 ขออนุญาตศาลออกนอกประเทศ ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ที่สองพ่อลูก ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต ปลุกกระแสชาตินิยม นำปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาควาย และช่องบก ร้องต่อศาลโลก ขอให้ตกเป็นของกัมพูชา นอกจากจะแถลงข่าวรายวันก็ไม่มีอะไรโดดเด่น การประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นำโดย นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเจบีซีฝ่ายไทย เป็นที่เคลือบแคลงสงสัย นอกจากจะเป็นคู่กรณีนายวีระ สมความคิด เคยบีบบังคับให้ยอมรับผิดว่าบุกรุกดินแดนกัมพูชาและด่าว่าเป็นตัวปัญหาแล้ว ในการประชุมเจบีซีมีไลน์หลุดออกมาว่า นายประศาสน์ พยายามโน้มน้าวให้ไทยยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่ทำให้ไทยเสียดินแดน ทำให้เจ้าตัวถึงกับโกรธและไม่คุยด้วย หนำซ้ำ กัมพูชายังสรุปผลการประชุมว่าตกลงใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ทำให้คนไทยโกรธแค้นเพราะเสียเปรียบ ร้อนถึงกระทรวงต้องออกแถลงการณ์ตอนดึก ยืนยันว่าไม่ได้หารือ พร้อมแสดงความผิดหวังที่กัมพูชาเดินหน้านำพื้นที่ 4 จุดขึ้นสู่ศาลโลก สนธิ ลิ้มทองกุล ตั้งคำถามว่า ตั้งแต่ MOU 2543 ถึง MOU 2544 รู้อยู่แล้วว่าเป็นตัวการที่จะทำให้ไทยเสียดินแดน มีการระบุว่าต้องใช้แผนที่ 1 ต่อ 200,000 ไม่ใช่ 1 ต่อ 50,000 เคยถามตัวเองหรือไม่ว่าทำไมกัมพูชาเจรจากับเวียดนามใช้แผนที่ 1 ต่อ 50,000 ทำไมไทยถึงยอมใช้มาตรา 1 ต่อ 200,000 ส่วนนายประศาสน์ นับตั้งแต่ไปประชุมเจบีซี 3 สัปดาห์แล้วกลับมา ไม่เคยบอกคนไทยว่าไปพูดอะไรบ้าง และไม่บอกว่าไปลงนามข้อตกลงอะไรไว้ เปรียบเป็นไส้ศึกของกัมพูชา ที่น่าสนใจ คือ บทความหัวข้อ Thai diplomacy is now in need of a reset เขียนโดย กวี จงกิจถาวร ในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ระบุในตอนหนึ่งว่า แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำผิดพลาดทางการทูตร้ายแรงจากคลิปเสียงสนทนากับ ฮุน เซน แม้กระทรวงการต่างประเทศพยายามอย่างหนักเพื่อกอบกู้สถานการณ์ทางการทูตที่เหลืออยู่ แต่ขวัญกำลังใจตกต่ำเป็นประวัติการณ์ นักการทูตและเจ้าหน้าที่รู้สึกว่าถูกละเลยและเพิกเฉย นับตั้งแต่แพทองธารเข้ารับตำแหน่ง การตัดสินใจเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศก็ดำเนินการโดยทักษิณ และกลุ่มคนใกล้ชิด "นับตั้งแต่ ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีต รมว.ต่างประเทศ ก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา กระทรวงฯ ก็ไร้ทิศทาง ไม่มีผู้นำที่เข้มแข็งมาควบคุม และไม่มีผู้ใดมีอำนาจที่จะควบคุมความเสียหายหรือวางแผนกลยุทธ์" #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • การปราศรัยของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" เมื่อวันก่อน ทำให้ "ฮุน เซน" ประธานวุฒิสภากัมพูชา ถึงกับดิ้น ป้ายสีว่าจะลงเลือกตั้ง ยึดดินแดนกัมพูชาถ้ามีอำนาจ วอนชาวเขมรทุกคนสร้างขบวนการชาตินิยม เสริมความแข็งแกร่งกองทัพ และเร่งเจรจาเขตแดนกับไทยโดยเร็ว หวั่นเสี่ยงต่อสงครามชายแดน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000061531

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    การปราศรัยของ "สนธิ ลิ้มทองกุล" เมื่อวันก่อน ทำให้ "ฮุน เซน" ประธานวุฒิสภากัมพูชา ถึงกับดิ้น ป้ายสีว่าจะลงเลือกตั้ง ยึดดินแดนกัมพูชาถ้ามีอำนาจ วอนชาวเขมรทุกคนสร้างขบวนการชาตินิยม เสริมความแข็งแกร่งกองทัพ และเร่งเจรจาเขตแดนกับไทยโดยเร็ว หวั่นเสี่ยงต่อสงครามชายแดน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000061531 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1057 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## เต็มเหนี่ยว ปกป้องเพื่อนรัก ยอมเปลี่ยน เปลี่ยนชื่อพรรคไปเลย...!!! ##
    ..
    ..
    พลเมืองไทย ฟังคลิป อังเคิล แล้วควันออกหู...!!!
    .
    นี่ชาติกูมี "ไส้ศึก" ขายชาติเหรอวะเนี่ย...!!!
    .
    ประชาชน มารวมพลังชุมนุม เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจ ปกป้องผืนแผ่นดินไทย...
    .
    พรรคประชาชน ส้มจี๊ด ด่าประชาชนทันที มาเรียก "รัฐประหาร"...!!!
    .
    เป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ไม่ทำหน้าที่ อภิปราย "ไส้ศึก"...!!!
    .
    กลับกระโดดตัวยาว ปกป้อง "เพื่อนรัก" เต็มเหนี่ยว...!!!
    .
    แถมเบี่ยงประเด็น ด่าประชาชน คลั่งชาตินิยม...!!!
    .
    อ้างประชาชน...
    ที่ไม่ฟังเสียงประชาชน...!!!
    ....
    ....
    เปลี่ยนชื่อพรรคไปเถอะ เป็น...
    .
    "จักรพรรดิวาทะกรรม ทำงานไม่เป็น ประโยชน์กูมาก่อน ประโยชน์ชาติประชาชน ไว้ท้ายสุด"...!!!
    ## เต็มเหนี่ยว ปกป้องเพื่อนรัก ยอมเปลี่ยน เปลี่ยนชื่อพรรคไปเลย...!!! ## .. .. พลเมืองไทย ฟังคลิป อังเคิล แล้วควันออกหู...!!! . นี่ชาติกูมี "ไส้ศึก" ขายชาติเหรอวะเนี่ย...!!! . ประชาชน มารวมพลังชุมนุม เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจ ปกป้องผืนแผ่นดินไทย... . พรรคประชาชน ส้มจี๊ด ด่าประชาชนทันที มาเรียก "รัฐประหาร"...!!! . เป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน ไม่ทำหน้าที่ อภิปราย "ไส้ศึก"...!!! . กลับกระโดดตัวยาว ปกป้อง "เพื่อนรัก" เต็มเหนี่ยว...!!! . แถมเบี่ยงประเด็น ด่าประชาชน คลั่งชาตินิยม...!!! . อ้างประชาชน... ที่ไม่ฟังเสียงประชาชน...!!! .... .... เปลี่ยนชื่อพรรคไปเถอะ เป็น... . "จักรพรรดิวาทะกรรม ทำงานไม่เป็น ประโยชน์กูมาก่อน ประโยชน์ชาติประชาชน ไว้ท้ายสุด"...!!!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝ่ายค้านเขมรซัดฮุนเซนสองมาตรฐานปลุกปั่นชาตินิยมต้านไทย แต่ปิดปากเงียบกับเวียดนามทั้งที่รุกล้ำดินแดนทั้งบก-ทะเล
    https://www.thai-tai.tv/news/19869/
    ฝ่ายค้านเขมรซัดฮุนเซนสองมาตรฐานปลุกปั่นชาตินิยมต้านไทย แต่ปิดปากเงียบกับเวียดนามทั้งที่รุกล้ำดินแดนทั้งบก-ทะเล https://www.thai-tai.tv/news/19869/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาได้กล่าวหา "ฮุนเซน" ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ว่าปลุกปั่นกระแสชาตินิยมต่อต้านไทย แต่เพิกเฉยต่อเวียดนาม แม้ถูกรุกล้ำดินแดนเช่นกัน ทำให้เกิดคำถามเรื่องสองมาตรฐานในจุดยืนด้านนโยบายต่างประเทศของฮุนเซน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061225

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นักการเมืองฝ่ายค้านกัมพูชาได้กล่าวหา "ฮุนเซน" ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ว่าปลุกปั่นกระแสชาตินิยมต่อต้านไทย แต่เพิกเฉยต่อเวียดนาม แม้ถูกรุกล้ำดินแดนเช่นกัน ทำให้เกิดคำถามเรื่องสองมาตรฐานในจุดยืนด้านนโยบายต่างประเทศของฮุนเซน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061225 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 502 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เป็นครั้งแรกที่จะเขียนบทความนี้ทุกตัวอักษรจากหัวใจล้วนๆ ไม่มีอ้างอิงข้อมูลใดๆ ไม่มีการหาข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม เพราะส่วนตัวคิดว่า คงถึงเวลาที่เราต้องเรียก "สติ" กัน แม้ว่าการส่งเสียงผ่านกลุ่มนี้ อาจจะเงียบกริบ แต่อย่างน้อยๆ คนที่แวะผ่านมาเห็น ขอจงโปรดใช้วิจารณญานในการ ค.ว.ย. กรณีตระกูลฮุน

    ผมหมายถึง "คิด . วิเคระห์ . แยกแยะ" โปรดอย่างคิดเป็นอื่น

    คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่คุณอุ๊งอิ๊งได้ทำลงเป็น เป็นความผิดพลาดที่ไม่สมควรอภัยอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีหรือร้ายอย่างใด สิ่งที่ทำลงไป ไม่อาจเรียกว่าเป็น "การกระทำที่ผ่านการคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว" ได้เลย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะผู้นำประเทศที่ทุกๆ การกระทำ คือสิ่งแสดงสถานะตัวแทนและผู้นำประเทศ และไม่ว่าจะด้วยการกล่าวอ้างใดๆ ของคนที่เห็นว่านายกฯ ทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ยิ่งช่วย ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ลูกสาวคนสุดท้อง ของคุณทักษิณ ยังไม่มีวุฒิภาวะ และความสามารถเพียงพอใจการเป็นผู้นำประเทศ

    โดยเฉพาะการนำเรื่อง "ประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ" ไปคุยผ่าน "ความสัมพันธ์ส่วนตัว" ไม่ว่าคนที่คุยด้วยนั้น จะเป็นผู้นำประเทศคู่กรณีตัวจริง หรือ ตัวจริง ก็ตาม (ผมหมายถึง เป็นโดยตำแหน่ง หรือเป็นโดยการยอมรับ) หรือแม้กระทั่ง เป็นการคุยเพื่อหวังดีต่อประเทศจริงๆ หรือเพียงหวังดีต่อเก้าอี้ตนเองก็ตาม

    นี่คือเรื่องของ "ประเทศ" ที่ไม่ใช่ "ธุรกิจส่วนตัว" ที่ไปคุยกันบนกรีนสนามกอล์ฟ หรือจบที่คลับหรือเลานจ์สักที่่ คุยนอกรอบให้ลงตัว แล้วค่อยไปจบในห้องประชุม การพูดคุยในฐานะประเทศ ต่อให้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ก็พึงมีคนระวังหลังให้เสมอ ไม่ว่าจะมีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ ก็ต้องมีคนช่วยเวลาคุย ไม่ใช่ กำลังจะนอนแล้ว โทรหาอังเคิลซะหน่อย เผื่อเคลียร์ได้

    ผมไม่เคยเชื่อว่าระหว่าง Donald Trump และ Vladimir Putin จะโทรคุยกันโดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือแม้แต่ระหว่าง Vladimir Putin กับ 习近平 (สีจิ้นผิง) จะคุยกันบนความสัมพันธ์ส่วนตัว

    และเมื่อตัดสินใจผิดพลาด เปลี่ยนการพูดคุยที่ควรจะมีแบบแผนและจริงจัง เป็นวาทกรรมก่อนนอน ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา เมื่อคู่สนทนา จริงจังในทุกๆ บริบท

    สรุป ไม่ว่าสายซัพพอร์ตของ น้องอิ๊ง จะพยายามแก้ต่างด้วยเหตุความหวังดีต่อประเทศอย่างไร มันก็ยิ่งตอกย้ำว่า น้องอิ๊ง ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำอยู่ดี - รู้สึกอย่างไรบ้างครับ เมื่อบทสนทนาหนักๆ กลายเป็นเรื่องคุยก่อนนอน

    แต่!!

    สิ่งที่น่ากลัวกว่าท่านนายกฯ ก็คือ ท่านพ่อนายกฯ ที่ไม่ใช่พ่อนายกฯ เมืองไทย แต่เป็นพ่อนายกฯ เขมร ผู้นำตระกูลฮุน ที่กำลัง "เซาะกร่อนบ่อนทำลาย" ความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบนเวทีโลกไปทุกวัน ดูจากสิ่งที่กำลังตามต่อมาจากหลังจาก คลิปเสียงเวอร์ชั่นเต็ม 17 นาทีถูกปล่อยออกมา

    สิ่งที่ท่านผู้นำฮุนกระทำ และบัญชาการให้องคาพยบของเหล่าชนชั้นนำของกัมพูชาทำก็คือ การเขย่าประเทศไทยให้แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้ เพื่อสร้างแต้มต่อไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพียงใดให้กับการต่ออายุการกดขี่ข่มเหงคนกัมพูชาให้นานที่สุด

    โดยมีเป้าหมายในการเป็น "คิมอิลซุง" หรือ "คิมจองอิล" ของราชวงศ์กัมพูชาให้จงได้ โดยอาศัยเพียงความชาตินิยมของคนกัมพูชา ที่ยังไม่หลุดพ้นจากภาพจำของการตกเป็นเมืองขึ้นของสยามตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ตั้งแต่นครวัดนครธมถูกอโยธยาเผา เรื่อยมาจนกระทั่งเขมรได้รับการปลดปล่อยจากไทย ด้วยปลายกระบอกปืนของฝรั่งเศส แต่ก็ถูกกดโดยเหล่าเสนาอำมาตย์ที่คอยยกไทยให้เป็นศัตรูผ่านตำราเรียนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับที่ตำราเรียนประวัติศาสตร์ไทย ยังคงตอกย้ำการเสียกรุงให้พม่า 2 ครั้งมาโดยตลอด

    ยังดีที่คนไทย ได้รับโอกาสมากกว่า เราจึงหลุดพ้นการกดขี่และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพจากผู้ปกครองได้มากกว่าคนกัมพูชา แม้ว่าไทยจะลุ่มๆ ดอนๆ ทางด้านประชาธิปไตยมาตลอด 92 ปี จนถึงวันที่เขียนเรื่องนี้

    แต่คนกัมพูชา ยังไม่หลุดพ้นจากเรื่องนั้น ทั้งปัญหาสงครามกลางเมืองและการช่วงชิงอำนาจที่พึ่งยุติไปเมื่อก่อนโลโซปกแดงไม่กี่ปี แถมซ้ำด้วยการที่กลุ่มชนชั้นนำของประเทศกัมพูขากดหัวประชาชนตัวเองต่อเนื่องยาวนาน ยิ่งทำให้คนกัมพูชายังมองภาพรวมไม่ออก

    ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างกันคนไทยเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็มีเสรีมากกว่าในการพูด พรรคฝ่ายค้านของประเทศเรา ก็ยังด่ารัฐบาลได้ทุกวัน ไม่ต้องติดคุก หรือไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ไหน

    ดูได้จาก ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ "ไทย" ได้ดิบได้ดี ชาวกัมพูชาบางส่วน ก็จะแปลงสัญชาติเป็น "เคลมโบเดีย" ทันที และเป็นกับไทย และไทยเท่านั้น ไม่มีลาว ไม่มีเวียดนามที่มีพรมแดนติดกับกัมพูชาเหมือนกัน และเจริญกว่ากัมพูชาเหมือนกันแม้แต่น้อย

    ตราบใดก็ตามที่ คนกัมพูชา ยังไม่หลุดกับดักของชนชั้้นนำ ที่พยายามเอาเรื่องความรู้สึกต่ำต้อยทางเชื่อชาติเมื่อเทียบกับไทย มาเป็นอาวุธเหนี่ยวไกฝังกระสุนลงหัวประชาชนกัมพูชา ตราบนั้น การที่ตระกูลฮุน และชนชั้นนำของกัมพูชา จะใช้ไทยเป็นเครื่องมือก็จะไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น

    และวันนี้ คนไทย กำลังเล่นเกมตระกูลฮุนอยู่

    เรากำลังเสริมภาพลักษณ์ให้ "ฮุนเซน" กลายเป็นรัฐบุรุษแห่งชาติกัมพูชา ดังที่คนกัมพูชากำลังได้ชม "ลูกชายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ" (หรือบางคนเรียกว่า "ลูกชายใต้เดือนเพ็ญ") ผ่านทางสถานีโทรทัศน์กัมพูชาในทุกวัน

    คนไทยเรา แค่ต้องฟังเพลง "เราจะทำตามสัญญา" ก็ปิดทีวี เปิด YouTube หรือ Netflix ดูกันหมดแล้ว แต่นี่ละครทั้งเรื่อง คนกัมพูชามีทางเลือกอะไรบ้าง?

    สิ่งที่เราควรทำในนาทีนี้คือ Status Quo หรือ ตรึงทุกอย่างไว้กับที่ให้นานที่สุด เพราะตระกูลฮุน กำลังเล่นเกมที่เรียกว่า Rally Round the Flag หรือการสร้างภาพการคลั่งชาติ ประคองคะแนนนิยม

    ยิ่งฝ่ายตรงข้ามในเกม ร้อนระอุเท่าไหร่ ตระกูลฮุน ก็จะยิ่งได้ ได้ และ ได้ ได้โดยไม่หยุดหย่อน และหากผันเกมให้เป็นความบาดหมางระหว่างเชื้อชาติได้ ตระกูลฮุนจะยิ่งครอง และกดหัวคนกัมพูชาไปได้อีกหลาย Generation

    และเราก็จะเดือดร้อนไปอีกหลาย Generation เช่นกัน และไม่เพียงแต่ชีวิตประชาชนและทหารหาญที่จะต้องเสียไปในวันนี้ หากการปั่นกระแสเพื่อรักษาอำนาจของตระกูลฮุน จุดติดขึ้นมาจริงๆ ประชาชนและทหารหาญที่ คนรักอิ๊ง นำมากล่าวอ้างว่า ต้องการปกป้องนัก ปกป้องหนา ก็จะยิ่งต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามทีจะไม่มีวันสิ้นสุด

    ไม่ต่างจาก ฉนวนกาซ่า ที่ ปาเลสไตน์ ปะทะกับ อิสราเอล ตามที่ ฮุนเซน กล่าวและหวังไว้ว่ามันจะเกิด

    สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้จึงควรเป็นการตั้งสติอย่างมาก และมากที่สุด หยุดเต้นตามเพลงกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาร้องเพลง เต้นรำ ปิดปราสาทในเขตพื้นที่พิพาท หรือการกระทำใดๆ ก็ตาม แม้กระทั่งทหารไทยที่กำลังได้รับแรงเชียร์อย่างมหาศาลให้รบ ก็ควรทิ้งกระบอกปืนไว้ที่ต้้ง แล้วจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยความอดทนอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะทนไม่ได้ ทนไม่ไหว ก็ต้องทน

    ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้กระสุนไทย ฝังในร่างกายคนกัมพูชาได้เท่าไร่

    ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้หมัดทหารไทย อัดหน้านักแสดงตุ๊กตาทองรักชาติกัมพูชาที่พยายามยั่วยุในพื้นที่พิพาทรายวันได้เท่าไหร่

    ฮุนเซนก็จะยิ่งอึดอัดกับกระแสที่จะค่อยๆ ตีกลับมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

    เมื่อใดก็ตามที่คนไทยสามารถสร้างภาพให้คนกัมพูชาเห็นได้ว่า ฮุนเซน ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้ดี ไม่ได้เจ๋ง ซ้ำยังอ่อนด้อย เพราะไม่เคยสร้างความเจริญใดๆ ให้ประเทศเค้าเอง นอกจากความมั่งคั่งของตัวเอง และเป็นเพียงนายใหม่ที่มากดหัวคนกัมพูชามากกว่า สยามในประวัติศาสตร์ และฝรั่งเศสในอดีต

    เพราะฮุนเซนเป็นคนชาติเดียวกันกับคนกัมพูชา ที่ต้องระเหเร่ร่อนมาหางานทำในเมืองไทยเพื่อชีวิตที่่ดีกว่า ไม่สามารถมีชีวิตที่ดีในประเทศตัวเองได้

    ยิ่งภาพความ "ไร้สมรรถภาพ" และ "ไร้ฝีมือ" เกิดขึ้นกับ ฮุนเซน และตระกูลฮุนมากเท่าไหร่ ...เราก็จะใกล้กับความสงบมากขึ้นเท่านั้น

    ณ เวลานี้ จึงไม่ใช่เวลา ส่งทหารเป็นผู้มีอำนาจ หรือต่อให้ส่งอำนาจให้ทหาร ก็ไม่ใช่เวลาที่ทหารจะใช้อำนาจ แต่ต้องเป็นการใช้โอบกอดคนกัมพูชา

    ถ้าเค้าส่งคมมาร้องรำ เราก็เนียนร้องเพลงไทยไปข้างๆ เขาเลย ถือธงชาติ 2 ประเทศเคียงกัน ทำให้รู้สึกว่า คนที่อยู่บริเวณนั้น คือ "คน" เหมือนๆ กัน ที่ต่างก็พูดเขมรได้ พูดไทยเป็นด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนคนที่ทำผิดพลาดไป ในตอนนี้ จะลงดาบประหารเลย หรือว่าจะเก็บเอาไว้ด่าเล่นเพลินๆ ก่อน ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา

    แต่ได้โปรด อย่าหยิบยื่นกระสุนให้ทหารเลย

    หวังว่าเสียงนี้จะเพียงพอที่จะทำให้คนที่แวะเข้ามาอ่าน ได้หยุดความสะใจ และเลือกทางเดินให้กับประเทศอย่างมีวิจารณญาน
    วันนี้เป็นครั้งแรกที่จะเขียนบทความนี้ทุกตัวอักษรจากหัวใจล้วนๆ ไม่มีอ้างอิงข้อมูลใดๆ ไม่มีการหาข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม เพราะส่วนตัวคิดว่า คงถึงเวลาที่เราต้องเรียก "สติ" กัน แม้ว่าการส่งเสียงผ่านกลุ่มนี้ อาจจะเงียบกริบ แต่อย่างน้อยๆ คนที่แวะผ่านมาเห็น ขอจงโปรดใช้วิจารณญานในการ ค.ว.ย. กรณีตระกูลฮุน ผมหมายถึง "คิด . วิเคระห์ . แยกแยะ" โปรดอย่างคิดเป็นอื่น คงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่คุณอุ๊งอิ๊งได้ทำลงเป็น เป็นความผิดพลาดที่ไม่สมควรอภัยอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะด้วยเจตนาดีหรือร้ายอย่างใด สิ่งที่ทำลงไป ไม่อาจเรียกว่าเป็น "การกระทำที่ผ่านการคิดไตร่ตรองอย่างรอบคอบแล้ว" ได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฐานะผู้นำประเทศที่ทุกๆ การกระทำ คือสิ่งแสดงสถานะตัวแทนและผู้นำประเทศ และไม่ว่าจะด้วยการกล่าวอ้างใดๆ ของคนที่เห็นว่านายกฯ ทำอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ยิ่งช่วย ก็ยิ่งตอกย้ำว่า ลูกสาวคนสุดท้อง ของคุณทักษิณ ยังไม่มีวุฒิภาวะ และความสามารถเพียงพอใจการเป็นผู้นำประเทศ โดยเฉพาะการนำเรื่อง "ประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ" ไปคุยผ่าน "ความสัมพันธ์ส่วนตัว" ไม่ว่าคนที่คุยด้วยนั้น จะเป็นผู้นำประเทศคู่กรณีตัวจริง หรือ ตัวจริง ก็ตาม (ผมหมายถึง เป็นโดยตำแหน่ง หรือเป็นโดยการยอมรับ) หรือแม้กระทั่ง เป็นการคุยเพื่อหวังดีต่อประเทศจริงๆ หรือเพียงหวังดีต่อเก้าอี้ตนเองก็ตาม นี่คือเรื่องของ "ประเทศ" ที่ไม่ใช่ "ธุรกิจส่วนตัว" ที่ไปคุยกันบนกรีนสนามกอล์ฟ หรือจบที่คลับหรือเลานจ์สักที่่ คุยนอกรอบให้ลงตัว แล้วค่อยไปจบในห้องประชุม การพูดคุยในฐานะประเทศ ต่อให้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ก็พึงมีคนระวังหลังให้เสมอ ไม่ว่าจะมีอำนาจตัดสินใจหรือไม่ ก็ต้องมีคนช่วยเวลาคุย ไม่ใช่ กำลังจะนอนแล้ว โทรหาอังเคิลซะหน่อย เผื่อเคลียร์ได้ ผมไม่เคยเชื่อว่าระหว่าง Donald Trump และ Vladimir Putin จะโทรคุยกันโดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือแม้แต่ระหว่าง Vladimir Putin กับ 习近平 (สีจิ้นผิง) จะคุยกันบนความสัมพันธ์ส่วนตัว และเมื่อตัดสินใจผิดพลาด เปลี่ยนการพูดคุยที่ควรจะมีแบบแผนและจริงจัง เป็นวาทกรรมก่อนนอน ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา เมื่อคู่สนทนา จริงจังในทุกๆ บริบท สรุป ไม่ว่าสายซัพพอร์ตของ น้องอิ๊ง จะพยายามแก้ต่างด้วยเหตุความหวังดีต่อประเทศอย่างไร มันก็ยิ่งตอกย้ำว่า น้องอิ๊ง ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำอยู่ดี - รู้สึกอย่างไรบ้างครับ เมื่อบทสนทนาหนักๆ กลายเป็นเรื่องคุยก่อนนอน แต่!! สิ่งที่น่ากลัวกว่าท่านนายกฯ ก็คือ ท่านพ่อนายกฯ ที่ไม่ใช่พ่อนายกฯ เมืองไทย แต่เป็นพ่อนายกฯ เขมร ผู้นำตระกูลฮุน ที่กำลัง "เซาะกร่อนบ่อนทำลาย" ความน่าเชื่อถือของประเทศไทยบนเวทีโลกไปทุกวัน ดูจากสิ่งที่กำลังตามต่อมาจากหลังจาก คลิปเสียงเวอร์ชั่นเต็ม 17 นาทีถูกปล่อยออกมา สิ่งที่ท่านผู้นำฮุนกระทำ และบัญชาการให้องคาพยบของเหล่าชนชั้นนำของกัมพูชาทำก็คือ การเขย่าประเทศไทยให้แรงที่สุดเท่าที่จะแรงได้ เพื่อสร้างแต้มต่อไม่ว่าจะมากหรือน้อยเพียงใดให้กับการต่ออายุการกดขี่ข่มเหงคนกัมพูชาให้นานที่สุด โดยมีเป้าหมายในการเป็น "คิมอิลซุง" หรือ "คิมจองอิล" ของราชวงศ์กัมพูชาให้จงได้ โดยอาศัยเพียงความชาตินิยมของคนกัมพูชา ที่ยังไม่หลุดพ้นจากภาพจำของการตกเป็นเมืองขึ้นของสยามตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา ตั้งแต่นครวัดนครธมถูกอโยธยาเผา เรื่อยมาจนกระทั่งเขมรได้รับการปลดปล่อยจากไทย ด้วยปลายกระบอกปืนของฝรั่งเศส แต่ก็ถูกกดโดยเหล่าเสนาอำมาตย์ที่คอยยกไทยให้เป็นศัตรูผ่านตำราเรียนอยู่ตลอดเวลา เหมือนกับที่ตำราเรียนประวัติศาสตร์ไทย ยังคงตอกย้ำการเสียกรุงให้พม่า 2 ครั้งมาโดยตลอด ยังดีที่คนไทย ได้รับโอกาสมากกว่า เราจึงหลุดพ้นการกดขี่และเรียกร้องสิทธิเสรีภาพจากผู้ปกครองได้มากกว่าคนกัมพูชา แม้ว่าไทยจะลุ่มๆ ดอนๆ ทางด้านประชาธิปไตยมาตลอด 92 ปี จนถึงวันที่เขียนเรื่องนี้ แต่คนกัมพูชา ยังไม่หลุดพ้นจากเรื่องนั้น ทั้งปัญหาสงครามกลางเมืองและการช่วงชิงอำนาจที่พึ่งยุติไปเมื่อก่อนโลโซปกแดงไม่กี่ปี แถมซ้ำด้วยการที่กลุ่มชนชั้นนำของประเทศกัมพูขากดหัวประชาชนตัวเองต่อเนื่องยาวนาน ยิ่งทำให้คนกัมพูชายังมองภาพรวมไม่ออก ซึ่งก็ไม่ค่อยต่างกันคนไทยเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ เราก็มีเสรีมากกว่าในการพูด พรรคฝ่ายค้านของประเทศเรา ก็ยังด่ารัฐบาลได้ทุกวัน ไม่ต้องติดคุก หรือไปตั้งรัฐบาลพลัดถิ่นที่ไหน ดูได้จาก ไม่ว่าอะไรก็ตามที่ "ไทย" ได้ดิบได้ดี ชาวกัมพูชาบางส่วน ก็จะแปลงสัญชาติเป็น "เคลมโบเดีย" ทันที และเป็นกับไทย และไทยเท่านั้น ไม่มีลาว ไม่มีเวียดนามที่มีพรมแดนติดกับกัมพูชาเหมือนกัน และเจริญกว่ากัมพูชาเหมือนกันแม้แต่น้อย ตราบใดก็ตามที่ คนกัมพูชา ยังไม่หลุดกับดักของชนชั้้นนำ ที่พยายามเอาเรื่องความรู้สึกต่ำต้อยทางเชื่อชาติเมื่อเทียบกับไทย มาเป็นอาวุธเหนี่ยวไกฝังกระสุนลงหัวประชาชนกัมพูชา ตราบนั้น การที่ตระกูลฮุน และชนชั้นนำของกัมพูชา จะใช้ไทยเป็นเครื่องมือก็จะไม่มีวันจบไม่มีวันสิ้น และวันนี้ คนไทย กำลังเล่นเกมตระกูลฮุนอยู่ เรากำลังเสริมภาพลักษณ์ให้ "ฮุนเซน" กลายเป็นรัฐบุรุษแห่งชาติกัมพูชา ดังที่คนกัมพูชากำลังได้ชม "ลูกชายใต้แสงจันทร์วันเพ็ญ" (หรือบางคนเรียกว่า "ลูกชายใต้เดือนเพ็ญ") ผ่านทางสถานีโทรทัศน์กัมพูชาในทุกวัน คนไทยเรา แค่ต้องฟังเพลง "เราจะทำตามสัญญา" ก็ปิดทีวี เปิด YouTube หรือ Netflix ดูกันหมดแล้ว แต่นี่ละครทั้งเรื่อง คนกัมพูชามีทางเลือกอะไรบ้าง? สิ่งที่เราควรทำในนาทีนี้คือ Status Quo หรือ ตรึงทุกอย่างไว้กับที่ให้นานที่สุด เพราะตระกูลฮุน กำลังเล่นเกมที่เรียกว่า Rally Round the Flag หรือการสร้างภาพการคลั่งชาติ ประคองคะแนนนิยม ยิ่งฝ่ายตรงข้ามในเกม ร้อนระอุเท่าไหร่ ตระกูลฮุน ก็จะยิ่งได้ ได้ และ ได้ ได้โดยไม่หยุดหย่อน และหากผันเกมให้เป็นความบาดหมางระหว่างเชื้อชาติได้ ตระกูลฮุนจะยิ่งครอง และกดหัวคนกัมพูชาไปได้อีกหลาย Generation และเราก็จะเดือดร้อนไปอีกหลาย Generation เช่นกัน และไม่เพียงแต่ชีวิตประชาชนและทหารหาญที่จะต้องเสียไปในวันนี้ หากการปั่นกระแสเพื่อรักษาอำนาจของตระกูลฮุน จุดติดขึ้นมาจริงๆ ประชาชนและทหารหาญที่ คนรักอิ๊ง นำมากล่าวอ้างว่า ต้องการปกป้องนัก ปกป้องหนา ก็จะยิ่งต้องสังเวยชีวิตให้กับสงครามทีจะไม่มีวันสิ้นสุด ไม่ต่างจาก ฉนวนกาซ่า ที่ ปาเลสไตน์ ปะทะกับ อิสราเอล ตามที่ ฮุนเซน กล่าวและหวังไว้ว่ามันจะเกิด สิ่งที่ต้องทำในเวลานี้จึงควรเป็นการตั้งสติอย่างมาก และมากที่สุด หยุดเต้นตามเพลงกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาร้องเพลง เต้นรำ ปิดปราสาทในเขตพื้นที่พิพาท หรือการกระทำใดๆ ก็ตาม แม้กระทั่งทหารไทยที่กำลังได้รับแรงเชียร์อย่างมหาศาลให้รบ ก็ควรทิ้งกระบอกปืนไว้ที่ต้้ง แล้วจัดการกับปัญหาต่างๆ ด้วยความอดทนอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะทนไม่ได้ ทนไม่ไหว ก็ต้องทน ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้กระสุนไทย ฝังในร่างกายคนกัมพูชาได้เท่าไร่ ยิ่งฮุนเซน ไม่สามารถบีบให้หมัดทหารไทย อัดหน้านักแสดงตุ๊กตาทองรักชาติกัมพูชาที่พยายามยั่วยุในพื้นที่พิพาทรายวันได้เท่าไหร่ ฮุนเซนก็จะยิ่งอึดอัดกับกระแสที่จะค่อยๆ ตีกลับมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เมื่อใดก็ตามที่คนไทยสามารถสร้างภาพให้คนกัมพูชาเห็นได้ว่า ฮุนเซน ไม่เท่าไหร่ ไม่ได้ดี ไม่ได้เจ๋ง ซ้ำยังอ่อนด้อย เพราะไม่เคยสร้างความเจริญใดๆ ให้ประเทศเค้าเอง นอกจากความมั่งคั่งของตัวเอง และเป็นเพียงนายใหม่ที่มากดหัวคนกัมพูชามากกว่า สยามในประวัติศาสตร์ และฝรั่งเศสในอดีต เพราะฮุนเซนเป็นคนชาติเดียวกันกับคนกัมพูชา ที่ต้องระเหเร่ร่อนมาหางานทำในเมืองไทยเพื่อชีวิตที่่ดีกว่า ไม่สามารถมีชีวิตที่ดีในประเทศตัวเองได้ ยิ่งภาพความ "ไร้สมรรถภาพ" และ "ไร้ฝีมือ" เกิดขึ้นกับ ฮุนเซน และตระกูลฮุนมากเท่าไหร่ ...เราก็จะใกล้กับความสงบมากขึ้นเท่านั้น ณ เวลานี้ จึงไม่ใช่เวลา ส่งทหารเป็นผู้มีอำนาจ หรือต่อให้ส่งอำนาจให้ทหาร ก็ไม่ใช่เวลาที่ทหารจะใช้อำนาจ แต่ต้องเป็นการใช้โอบกอดคนกัมพูชา ถ้าเค้าส่งคมมาร้องรำ เราก็เนียนร้องเพลงไทยไปข้างๆ เขาเลย ถือธงชาติ 2 ประเทศเคียงกัน ทำให้รู้สึกว่า คนที่อยู่บริเวณนั้น คือ "คน" เหมือนๆ กัน ที่ต่างก็พูดเขมรได้ พูดไทยเป็นด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนคนที่ทำผิดพลาดไป ในตอนนี้ จะลงดาบประหารเลย หรือว่าจะเก็บเอาไว้ด่าเล่นเพลินๆ ก่อน ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา แต่ได้โปรด อย่าหยิบยื่นกระสุนให้ทหารเลย หวังว่าเสียงนี้จะเพียงพอที่จะทำให้คนที่แวะเข้ามาอ่าน ได้หยุดความสะใจ และเลือกทางเดินให้กับประเทศอย่างมีวิจารณญาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามโลกครั้งที่ 3: ตระกูลรอธส์ไชลด์เพิ่งจุดชนวนความขัดแย้งผ่านอิสราเอล
    การโจมตีอิหร่านไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นพิธีกรรม

    นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับอิสราเอลกับอิหร่าน แต่เป็นเรื่องของพวกโลกาภิวัตน์ที่ดึงคันโยกสุดท้าย ชนชั้นสูงสายเลือดเดียวกันกับที่วางแผนสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 และ "ความขัดแย้ง" ทั้งหมดนับแต่นั้นมา 17 มิถุนายน 2025 — วันที่ลัทธิความตายของตระกูลรอธส์ไชลด์-ไซออนิสต์ประกาศสงครามกับมนุษยชาติ

    การโจมตีของอิสราเอลได้รับการสนับสนุนเงินทุนล่วงหน้า ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า และวางแผนไว้ล่วงหน้า การโจมตีทางอากาศที่กำหนดเป้าหมายที่นาตันซ์และฟอร์โดว์ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกัน แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลทั่วโลกเพื่อทำลายระบบ พลเรือน 60 คน เด็ก 20 คน ถูกเผาในเตหะราน นั่นไม่ใช่การกระทำโดยอ้อม แต่เป็นนามบัตร ข้อความจากกลุ่มผู้มีอำนาจลูซิเฟอร์ที่แสวงหากำไรจากเลือด

    แหล่งข่าววงในของ CENTCOM ยืนยันว่าดาวเทียมทหารของสหรัฐฯ ถูกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสนับสนุนอิสราเอลไม่กี่วันก่อนที่ระเบิดลูกแรกจะถูกทิ้ง นี่ไม่ใช่การป้องกัน แต่เป็นการประสานงาน เป็นกับดักที่ตั้งใจจะบีบให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าสู่สงครามที่เขาไม่เคยต้องการ

    ศัตรูของทรัมป์เปิดฉากสงครามครั้งนี้เพื่อทำลายเขา พวกเขาไม่สามารถหยุดเขาในการเลือกตั้ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมเขาด้วยโควิด การถอดถอน และการต่อสู้ทางกฎหมาย ตอนนี้พวกเขาต้องการบีบให้เขาสนับสนุนเครื่องจักรสงคราม เขาไม่ได้หวั่นไหว แต่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น

    เนทันยาฮูไม่ได้รับใช้อิสราเอล เขารับใช้คลาอุส ชวาบ แลร์รี ฟิงค์ และกลุ่มค้ายาในดาวอส อิสราเอลคือหุ่นเชิด ขีปนาวุธคือข้อความ

    การตอบสนองของอิหร่าน? โดรนและขีปนาวุธ 370 ลำ ไม่ใช่การแก้แค้น ความยุติธรรม การก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร และการคว่ำบาตรหลายปี ตอนนี้? ตึกอพาร์ตเมนต์ของอิสราเอลถูกทำลาย โดมเหล็กล้นหลาม — ถูกรบกวนทางไซเบอร์โดยกองกำลังที่สนับสนุน BRICS รัสเซียและจีนกำลังเฝ้าดู — และพร้อมแล้ว

    ทำไมตอนนี้ เพราะกลุ่มโลกาภิวัตน์กำลังผลักดันขั้นตอนสุดท้าย:

    – ทำลายเปโตรดอลลาร์
    – เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลพร้อมการระบุตัวตนแบบไบโอเมตริก
    – ระงับบัญชีเงินเกษียณ “เพื่อความมั่นคงของชาติ”

    – อ้างเหตุผลในการเฝ้าระวังและเซ็นเซอร์ AI ภายใต้กฎอัยการศึก
    – ท่วมยุโรปด้วยผู้อพยพเพื่อทำลายการต่อต้านของชาตินิยม
    – ใช้สงครามโลกครั้งที่ 3 เพื่อลบล้างอำนาจอธิปไตยของชาติ — ตลอดไป

    กาซ่าเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ ภารกิจที่แท้จริง: รีเซ็ตโลก บังคับให้มนุษยชาติควบคุมทั้งหมด แต่ความจริงกลับรั่วไหล:

    – ข่าวกรองของรัสเซียยืนยันว่าระเบิดของอิสราเอลกำหนดเป้าหมายพลเรือน
    – บุคคลภายในของ Mossad กำลังรั่วไหลแผนดังกล่าว
    – ผู้แจ้งเบาะแสของ CENTCOM ยอมรับว่าไม่เคยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์

    ตอนนี้ทรัมป์กำลังทำงานร่วมกับ BRICS เบื้องหลัง การประชุมสุดยอดสันติภาพคู่ขนาน ไม่มี NATO ไม่มี UN ไม่มี WEF เป้าหมายคืออะไร? ยุติการสังหารหมู่ ทำลายระบบ ปลดปล่อยโลก

    ถึงชนชั้นสูง: พิธีกรรมของคุณล้มเหลว มนุษย์มองเห็นคุณ และพายุที่คุณต้องการ? มันกำลังหันกลับมาต่อต้านคุณ

    นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการกบฏเพื่อรีเซ็ตโลก
    และครั้งนี้ คุณแพ้
    สงครามโลกครั้งที่ 3: ตระกูลรอธส์ไชลด์เพิ่งจุดชนวนความขัดแย้งผ่านอิสราเอล การโจมตีอิหร่านไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นพิธีกรรม นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับอิสราเอลกับอิหร่าน แต่เป็นเรื่องของพวกโลกาภิวัตน์ที่ดึงคันโยกสุดท้าย ชนชั้นสูงสายเลือดเดียวกันกับที่วางแผนสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 และ "ความขัดแย้ง" ทั้งหมดนับแต่นั้นมา 17 มิถุนายน 2025 — วันที่ลัทธิความตายของตระกูลรอธส์ไชลด์-ไซออนิสต์ประกาศสงครามกับมนุษยชาติ การโจมตีของอิสราเอลได้รับการสนับสนุนเงินทุนล่วงหน้า ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า และวางแผนไว้ล่วงหน้า การโจมตีทางอากาศที่กำหนดเป้าหมายที่นาตันซ์และฟอร์โดว์ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกัน แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลทั่วโลกเพื่อทำลายระบบ พลเรือน 60 คน เด็ก 20 คน ถูกเผาในเตหะราน นั่นไม่ใช่การกระทำโดยอ้อม แต่เป็นนามบัตร ข้อความจากกลุ่มผู้มีอำนาจลูซิเฟอร์ที่แสวงหากำไรจากเลือด แหล่งข่าววงในของ CENTCOM ยืนยันว่าดาวเทียมทหารของสหรัฐฯ ถูกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสนับสนุนอิสราเอลไม่กี่วันก่อนที่ระเบิดลูกแรกจะถูกทิ้ง นี่ไม่ใช่การป้องกัน แต่เป็นการประสานงาน เป็นกับดักที่ตั้งใจจะบีบให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าสู่สงครามที่เขาไม่เคยต้องการ ศัตรูของทรัมป์เปิดฉากสงครามครั้งนี้เพื่อทำลายเขา พวกเขาไม่สามารถหยุดเขาในการเลือกตั้ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมเขาด้วยโควิด การถอดถอน และการต่อสู้ทางกฎหมาย ตอนนี้พวกเขาต้องการบีบให้เขาสนับสนุนเครื่องจักรสงคราม เขาไม่ได้หวั่นไหว แต่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น เนทันยาฮูไม่ได้รับใช้อิสราเอล เขารับใช้คลาอุส ชวาบ แลร์รี ฟิงค์ และกลุ่มค้ายาในดาวอส อิสราเอลคือหุ่นเชิด ขีปนาวุธคือข้อความ การตอบสนองของอิหร่าน? โดรนและขีปนาวุธ 370 ลำ ไม่ใช่การแก้แค้น ความยุติธรรม การก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร และการคว่ำบาตรหลายปี ตอนนี้? ตึกอพาร์ตเมนต์ของอิสราเอลถูกทำลาย โดมเหล็กล้นหลาม — ถูกรบกวนทางไซเบอร์โดยกองกำลังที่สนับสนุน BRICS รัสเซียและจีนกำลังเฝ้าดู — และพร้อมแล้ว ทำไมตอนนี้ เพราะกลุ่มโลกาภิวัตน์กำลังผลักดันขั้นตอนสุดท้าย: – ทำลายเปโตรดอลลาร์ – เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลพร้อมการระบุตัวตนแบบไบโอเมตริก – ระงับบัญชีเงินเกษียณ “เพื่อความมั่นคงของชาติ” – อ้างเหตุผลในการเฝ้าระวังและเซ็นเซอร์ AI ภายใต้กฎอัยการศึก – ท่วมยุโรปด้วยผู้อพยพเพื่อทำลายการต่อต้านของชาตินิยม – ใช้สงครามโลกครั้งที่ 3 เพื่อลบล้างอำนาจอธิปไตยของชาติ — ตลอดไป กาซ่าเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ ภารกิจที่แท้จริง: รีเซ็ตโลก บังคับให้มนุษยชาติควบคุมทั้งหมด แต่ความจริงกลับรั่วไหล: – ข่าวกรองของรัสเซียยืนยันว่าระเบิดของอิสราเอลกำหนดเป้าหมายพลเรือน – บุคคลภายในของ Mossad กำลังรั่วไหลแผนดังกล่าว – ผู้แจ้งเบาะแสของ CENTCOM ยอมรับว่าไม่เคยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ ตอนนี้ทรัมป์กำลังทำงานร่วมกับ BRICS เบื้องหลัง การประชุมสุดยอดสันติภาพคู่ขนาน ไม่มี NATO ไม่มี UN ไม่มี WEF เป้าหมายคืออะไร? ยุติการสังหารหมู่ ทำลายระบบ ปลดปล่อยโลก ถึงชนชั้นสูง: พิธีกรรมของคุณล้มเหลว มนุษย์มองเห็นคุณ และพายุที่คุณต้องการ? มันกำลังหันกลับมาต่อต้านคุณ นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการกบฏเพื่อรีเซ็ตโลก และครั้งนี้ คุณแพ้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุดมการณ์ชาตินิยม คือ ความอยู่รอดและความมั่นคงของประเทศ : คนเคาะข่าว 17-06-68
    : ทูตสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    #คนเคาะข่าว #อุดมการณ์ชาตินิยม #ความมั่นคงของประเทศ #ความอยู่รอดของชาติ #ทูตสุรพงษ์ชัยนาม #การเมืองไทย #นโยบายความมั่นคง #วิเคราะห์การเมือง #ภูมิรัฐศาสตร์ #ข่าวต่างประเทศ #thaitimes #Geopolitics #ความมั่นคงแห่งรัฐ #แนวคิดชาตินิยม #นงวดีถนิมมาลย์
    อุดมการณ์ชาตินิยม คือ ความอยู่รอดและความมั่นคงของประเทศ : คนเคาะข่าว 17-06-68 : ทูตสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #อุดมการณ์ชาตินิยม #ความมั่นคงของประเทศ #ความอยู่รอดของชาติ #ทูตสุรพงษ์ชัยนาม #การเมืองไทย #นโยบายความมั่นคง #วิเคราะห์การเมือง #ภูมิรัฐศาสตร์ #ข่าวต่างประเทศ #thaitimes #Geopolitics #ความมั่นคงแห่งรัฐ #แนวคิดชาตินิยม #นงวดีถนิมมาลย์
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 312 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 'ทั่นเต้น' หนุนรัฐบาลเจรจาเขมร ไม่เอากระแสกระสุนชาตินิยมสุดขั้ว
    https://www.thai-tai.tv/news/19477/
    'ทั่นเต้น' หนุนรัฐบาลเจรจาเขมร ไม่เอากระแสกระสุนชาตินิยมสุดขั้ว https://www.thai-tai.tv/news/19477/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.สมิทธ์ ตุงคะสมิต รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต แสดงทัศนะผ่านเฟซบุ๊ก ถึงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ชี้ประชาชนสองฝ่ายไร้ชาตินิยมสุดโต่ง แต่กลับเป็น "สองตระกูล" ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ต่างตอบแทน จนทำให้ทั้งสองประเทศต้องประสบปัญหา ถึงกระนั้น ประชาชนยังคงยึดมั่นในความสัมพันธ์อันดีและหวังเห็นความสงบสุขร่วมกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056011

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ดร.สมิทธ์ ตุงคะสมิต รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต แสดงทัศนะผ่านเฟซบุ๊ก ถึงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ชี้ประชาชนสองฝ่ายไร้ชาตินิยมสุดโต่ง แต่กลับเป็น "สองตระกูล" ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ต่างตอบแทน จนทำให้ทั้งสองประเทศต้องประสบปัญหา ถึงกระนั้น ประชาชนยังคงยึดมั่นในความสัมพันธ์อันดีและหวังเห็นความสงบสุขร่วมกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056011 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 571 มุมมอง 1 รีวิว
  • 'ปิยบุตร' ปลุก! อย่าปล่อยให้พวกล้าหลัง คลั่งชาติ กระหายเลือด กระหายสงคราม เอา 'ชาตินิยม' ไปใช้ฝ่ายเดียว
    https://www.thai-tai.tv/news/19297/
    'ปิยบุตร' ปลุก! อย่าปล่อยให้พวกล้าหลัง คลั่งชาติ กระหายเลือด กระหายสงคราม เอา 'ชาตินิยม' ไปใช้ฝ่ายเดียว https://www.thai-tai.tv/news/19297/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก บก.ทท.ซัดผู้นำกัมพูชาทะเลาะไทย หวังปลุกชาตินิยมเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แนะชาวเขมรตาสว่างเห็นความจริง
    https://www.thai-tai.tv/news/19260/
    โฆษก บก.ทท.ซัดผู้นำกัมพูชาทะเลาะไทย หวังปลุกชาตินิยมเพื่อประโยชน์ส่วนตัว แนะชาวเขมรตาสว่างเห็นความจริง https://www.thai-tai.tv/news/19260/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามหลังความขัดแย้งระหว่างอาร์เซอร์ไบจานกับอาร์เมเนีย และเหตุปะทะช่วงสั้นๆแต่หนักหน่วงระหว่างอินเดียกับปากีสถาน อีกหนึ่งความขัดแย้งในเอเชียที่ถูกแช่แข็งมานาน ได้โหมกระพือความร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง และมันเป็นเหตุปะทะที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นั่นเพราะมันเป็นศึกระหว่าง กัมพูชา พันธมิตรของจีน และไทย คู่หูตามสนธิสัญญาของสหรัฐฯ ตามรายงานข่าวของยูเรเซียไทม์ส

    ยูเรเซียไทม์ส รายงานว่าการปะทะเมื่อเร็วๆนี้ระหว่างไทยกับกัมพูชา ถือเป็นการดวลปืนครั้งร้ายแรงที่สุดตามแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาทนับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งคราวนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 28 ราย เวลานี้กัมพูชาตัดสินใจจะยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) เกี่ยวกับแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาทกับไทย อ้างอิงคำพูดของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต

    รายงานข่าวระบุว่าข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา หลักๆมีแก่นกลางอยู่ที่ประสาทเขาพระวิหารและคำกล่าวอ้างทางทะเลในอ่าวไทย ซึ่งมีต้นตอจากสนธิสัญญาต่างๆในอดีตและความคลุมเครือในยุคล่าอาณานิคม ประสาทพระวิหารที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่บนเขาแดงเกร็ก ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยกให้เป็นของกัมพูชาในปี 1962 อย่างไรก็ตามข้อพิพาทเกี่ยวกับดินแดนที่อยู่ใกล้เคียงยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง และโหมกระพือหนักหน่วงขึ้นโดยกระแสชาตินิยมในทั้ง 2 ประเทศ หนังสือพิมพ์ยูเรเซียไทม์สรายงาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000052095

    #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    ตามหลังความขัดแย้งระหว่างอาร์เซอร์ไบจานกับอาร์เมเนีย และเหตุปะทะช่วงสั้นๆแต่หนักหน่วงระหว่างอินเดียกับปากีสถาน อีกหนึ่งความขัดแย้งในเอเชียที่ถูกแช่แข็งมานาน ได้โหมกระพือความร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง และมันเป็นเหตุปะทะที่น่าสนใจอย่างยิ่ง นั่นเพราะมันเป็นศึกระหว่าง กัมพูชา พันธมิตรของจีน และไทย คู่หูตามสนธิสัญญาของสหรัฐฯ ตามรายงานข่าวของยูเรเซียไทม์ส • ยูเรเซียไทม์ส รายงานว่าการปะทะเมื่อเร็วๆนี้ระหว่างไทยกับกัมพูชา ถือเป็นการดวลปืนครั้งร้ายแรงที่สุดตามแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาทนับตั้งแต่ปี 2008 ซึ่งคราวนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 28 ราย เวลานี้กัมพูชาตัดสินใจจะยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) เกี่ยวกับแนวชายแดนที่เป็นข้อพิพาทกับไทย อ้างอิงคำพูดของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเน็ต • รายงานข่าวระบุว่าข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา หลักๆมีแก่นกลางอยู่ที่ประสาทเขาพระวิหารและคำกล่าวอ้างทางทะเลในอ่าวไทย ซึ่งมีต้นตอจากสนธิสัญญาต่างๆในอดีตและความคลุมเครือในยุคล่าอาณานิคม ประสาทพระวิหารที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 ตั้งอยู่บนเขาแดงเกร็ก ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศยกให้เป็นของกัมพูชาในปี 1962 อย่างไรก็ตามข้อพิพาทเกี่ยวกับดินแดนที่อยู่ใกล้เคียงยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง และโหมกระพือหนักหน่วงขึ้นโดยกระแสชาตินิยมในทั้ง 2 ประเทศ หนังสือพิมพ์ยูเรเซียไทม์สรายงาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000052095 • #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลูกไม้เดิมสไตล์ 'ฮุนเซน' ปลุกกระแสชาตินิยม กลบรอยแผลตัวเอง : ข่าวลึกปมลับ 02-06-68
    ลูกไม้เดิมสไตล์ 'ฮุนเซน' ปลุกกระแสชาตินิยม กลบรอยแผลตัวเอง : ข่าวลึกปมลับ 02-06-68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • คาร์โรล นาวร็อคกี (Karol Nawrocki) ผู้นำฝ่ายขวา หรืออนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีโปแลนด์ด้วยคะแนนเสียง 50.89% แซงหน้าราฟาล ทรัสคอฟสกี (Rafał Trzaskowski) นายกเทศมนตรีเมืองวอร์ซอ ผู้นำซ้าย หรือเสรีนิยม ที่ได้รับคะแนนเสียง 49.11%


    ก่อนการเลือกตั้ง ทรัสคอฟสกี มีคะแนนนำมาตลอด แต่เป็นคะแนนที่นำอย่างสูสี หลังการเลือกตั้ง นาวร็อคกี กลับมาพลิกชนะไปได้อย่างหวุดหวิด

    สำหรับนาวร็อคกี เป็นที่รับรู้กันดีว่า เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่จะนำพาโปแลนด์ไปสู่ทิศทางชาตินิยมมากขึ้น และอาจทำให้ความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่นั่นอาจทำให้สหภาพยุโรปไม่พอใจ

    อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของนาวร็อคกีอาจไม่ราบรื่น เนื่องจากนายกรัฐมนตรี โดนัลด็ ทรัสก์ เป็นเอนเอียงไปทาฝ่ายซ้าย หรือเสรีนิยมเต็มตัว ประกอบกับสมาชิกในรัฐสภาโปแลนด์ ยังเป็นพวกฝ่ายซ้ายอีกด้วย

    เขาจะสืบทอดตำแหน่งต่อจากอันเดรจ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์คนปัจจุบัน หลังจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 6 สิงหาคม 2025

    แนวคิดเกี่ยวกับยูเครน นาวร็อคกีเคยวิจารณ์เซเลนสกีและยูเครนอย่างดุเดือด และเคยสัญญาว่าหากเขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำโปแลนด์ จะยืนหยัดขัดขวางการเข้าร่วม NATO ของยูเครนอย่างถึงที่สุด และไม่เห็นด้วยที่โปแลนด์ให้ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนมากเกินไป

    แนวคิดเกี่ยวกับรัสเซีย ยังไงซะ เขาก็คือชาวโปแลนด์อีกคนที่เกลียดรัสเซีย!!!

    คาร์โรล นาวร็อคกี (Karol Nawrocki) ผู้นำฝ่ายขวา หรืออนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีโปแลนด์ด้วยคะแนนเสียง 50.89% แซงหน้าราฟาล ทรัสคอฟสกี (Rafał Trzaskowski) นายกเทศมนตรีเมืองวอร์ซอ ผู้นำซ้าย หรือเสรีนิยม ที่ได้รับคะแนนเสียง 49.11% ก่อนการเลือกตั้ง ทรัสคอฟสกี มีคะแนนนำมาตลอด แต่เป็นคะแนนที่นำอย่างสูสี หลังการเลือกตั้ง นาวร็อคกี กลับมาพลิกชนะไปได้อย่างหวุดหวิด สำหรับนาวร็อคกี เป็นที่รับรู้กันดีว่า เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่จะนำพาโปแลนด์ไปสู่ทิศทางชาตินิยมมากขึ้น และอาจทำให้ความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่นั่นอาจทำให้สหภาพยุโรปไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของนาวร็อคกีอาจไม่ราบรื่น เนื่องจากนายกรัฐมนตรี โดนัลด็ ทรัสก์ เป็นเอนเอียงไปทาฝ่ายซ้าย หรือเสรีนิยมเต็มตัว ประกอบกับสมาชิกในรัฐสภาโปแลนด์ ยังเป็นพวกฝ่ายซ้ายอีกด้วย เขาจะสืบทอดตำแหน่งต่อจากอันเดรจ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์คนปัจจุบัน หลังจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 6 สิงหาคม 2025 👉แนวคิดเกี่ยวกับยูเครน นาวร็อคกีเคยวิจารณ์เซเลนสกีและยูเครนอย่างดุเดือด และเคยสัญญาว่าหากเขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำโปแลนด์ จะยืนหยัดขัดขวางการเข้าร่วม NATO ของยูเครนอย่างถึงที่สุด และไม่เห็นด้วยที่โปแลนด์ให้ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนมากเกินไป 👉แนวคิดเกี่ยวกับรัสเซีย ยังไงซะ เขาก็คือชาวโปแลนด์อีกคนที่เกลียดรัสเซีย!!!
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชื่อคิงส์เถอะว่า ไอ่แม้วนี่แหละ ขอให้ไอ่ฮวยเซ็งช่วยปั่นป่วนชายแดน ดึงกำลังพลไทยไปเฝ้าระวัง ดึงความสนใจผู้คน ปั่นกระแสชาตินิยม แล้วมันค่อยสวมบทฮีโร่มัยซิน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ทักษิณ
    #รู้ทันนะจ๊ะ
    เชื่อคิงส์เถอะว่า ไอ่แม้วนี่แหละ ขอให้ไอ่ฮวยเซ็งช่วยปั่นป่วนชายแดน ดึงกำลังพลไทยไปเฝ้าระวัง ดึงความสนใจผู้คน ปั่นกระแสชาตินิยม แล้วมันค่อยสวมบทฮีโร่มัยซิน #คิงส์โพธิ์แดง #ทักษิณ #รู้ทันนะจ๊ะ
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปราสาทตาเมือนธมเครื่องมือสร้าง 'ชาตินิยม'ไทยระวังหลงเหลี่ยมกัมพูชา : ข่าวลึกปมลับ 05/05/68
    ปราสาทตาเมือนธมเครื่องมือสร้าง 'ชาตินิยม'ไทยระวังหลงเหลี่ยมกัมพูชา : ข่าวลึกปมลับ 05/05/68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • 2/
    เมื่อวานนี้ ในระหว่างการชุมนุมหาเสียงของ Grzegorz Braun ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ ในเมืองเบียลา พอดลาสกา (Biala Podlaska) เขาสังเกตเห็นว่านอกจากธงชาติโปแลนด์แล้ว ยังมีธงชาติยูเครนแขวนอยู่ที่อาคารศาลากลางเมืองอีกด้วย

    ผู้ช่วยของ Braun ปีนขึ้นไปถอดธงชาติยูเครนออก และส่งต่อให้กับ Braun ท่ามกลางเสียงเชียร์และความสะใจของชาวโปแลนด์ดังสนั่น และตะโกนว่า “ที่นี่คือโปแลนด์!”

    แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามหยุดการกระทำนั้นแต่ก็ไร้ผล

    "ผู้ช่วยของผม เขาทำตามคำสั่งที่ชัดเจนของผม ดังนั้น ผมเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมดเอง" บราวน์กล่าว

    Grzegorz Braun เป็นนักการเมืองที่มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก ต่อต้านการช่วยเหลือด้านการทหารของรัฐบาลโปแลนด์ที่มีต่อยูเครน รวมทั้งต่อต้านอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีเหนือรัฐบาลโปแลนด์ในขณะนี้

    จากการข้อมูล ธงชาติยูเครนถูกติดตั้งไว้ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย
    2/ เมื่อวานนี้ ในระหว่างการชุมนุมหาเสียงของ Grzegorz Braun ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ ในเมืองเบียลา พอดลาสกา (Biala Podlaska) เขาสังเกตเห็นว่านอกจากธงชาติโปแลนด์แล้ว ยังมีธงชาติยูเครนแขวนอยู่ที่อาคารศาลากลางเมืองอีกด้วย ผู้ช่วยของ Braun ปีนขึ้นไปถอดธงชาติยูเครนออก และส่งต่อให้กับ Braun ท่ามกลางเสียงเชียร์และความสะใจของชาวโปแลนด์ดังสนั่น และตะโกนว่า “ที่นี่คือโปแลนด์!” แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามหยุดการกระทำนั้นแต่ก็ไร้ผล "ผู้ช่วยของผม เขาทำตามคำสั่งที่ชัดเจนของผม ดังนั้น ผมเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมดเอง" บราวน์กล่าว Grzegorz Braun เป็นนักการเมืองที่มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก ต่อต้านการช่วยเหลือด้านการทหารของรัฐบาลโปแลนด์ที่มีต่อยูเครน รวมทั้งต่อต้านอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีเหนือรัฐบาลโปแลนด์ในขณะนี้ จากการข้อมูล ธงชาติยูเครนถูกติดตั้งไว้ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 1/
    เมื่อวานนี้ ในระหว่างการชุมนุมหาเสียงของ Grzegorz Braun ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ ในเมืองเบียลา พอดลาสกา (Biala Podlaska) เขาสังเกตเห็นว่านอกจากธงชาติโปแลนด์แล้ว ยังมีธงชาติยูเครนแขวนอยู่ที่อาคารศาลากลางเมืองอีกด้วย

    ผู้ช่วยของ Braun ปีนขึ้นไปถอดธงชาติยูเครนออก และส่งต่อให้กับ Braun ท่ามกลางเสียงเชียร์และความสะใจของชาวโปแลนด์ดังสนั่น และตะโกนว่า “ที่นี่คือโปแลนด์!”

    แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามหยุดการกระทำนั้นแต่ก็ไร้ผล

    "ผู้ช่วยของผม เขาทำตามคำสั่งที่ชัดเจนของผม ดังนั้น ผมเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมดเอง" บราวน์กล่าว

    Grzegorz Braun เป็นนักการเมืองที่มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก ต่อต้านการช่วยเหลือด้านการทหารของรัฐบาลโปแลนด์ที่มีต่อยูเครน รวมทั้งต่อต้านอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีเหนือรัฐบาลโปแลนด์ในขณะนี้

    จากการข้อมูล ธงชาติยูเครนถูกติดตั้งไว้ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย
    1/ เมื่อวานนี้ ในระหว่างการชุมนุมหาเสียงของ Grzegorz Braun ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ ในเมืองเบียลา พอดลาสกา (Biala Podlaska) เขาสังเกตเห็นว่านอกจากธงชาติโปแลนด์แล้ว ยังมีธงชาติยูเครนแขวนอยู่ที่อาคารศาลากลางเมืองอีกด้วย ผู้ช่วยของ Braun ปีนขึ้นไปถอดธงชาติยูเครนออก และส่งต่อให้กับ Braun ท่ามกลางเสียงเชียร์และความสะใจของชาวโปแลนด์ดังสนั่น และตะโกนว่า “ที่นี่คือโปแลนด์!” แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามหยุดการกระทำนั้นแต่ก็ไร้ผล "ผู้ช่วยของผม เขาทำตามคำสั่งที่ชัดเจนของผม ดังนั้น ผมเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมดเอง" บราวน์กล่าว Grzegorz Braun เป็นนักการเมืองที่มีความเป็นชาตินิยมสูงมาก ต่อต้านการช่วยเหลือด้านการทหารของรัฐบาลโปแลนด์ที่มีต่อยูเครน รวมทั้งต่อต้านอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่มีเหนือรัฐบาลโปแลนด์ในขณะนี้ จากการข้อมูล ธงชาติยูเครนถูกติดตั้งไว้ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • มาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ขี่กระแสชาตินิยมที่พลุ่งพล่านจากการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศสงครามการค้าและขู่ยึดแดนใบเมเปิลเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันจันทร์ (28 เม.ย.) แถมผู้นำฝ่ายค้าน ปีแอร์ โพลิเอฟ ซึ่งรณรงค์หาเสียงด้วยสไตล์ปากกล้าท้าตีท้าต่อยแบบทรัมป์ ยังพ่ายแพ้ขนาดรักษาเก้าอี้ ส.ส.ของตัวเองไม่ได้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000040306

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ขี่กระแสชาตินิยมที่พลุ่งพล่านจากการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศสงครามการค้าและขู่ยึดแดนใบเมเปิลเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันจันทร์ (28 เม.ย.) แถมผู้นำฝ่ายค้าน ปีแอร์ โพลิเอฟ ซึ่งรณรงค์หาเสียงด้วยสไตล์ปากกล้าท้าตีท้าต่อยแบบทรัมป์ ยังพ่ายแพ้ขนาดรักษาเก้าอี้ ส.ส.ของตัวเองไม่ได้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000040306 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1417 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้มีกระแสดังในจีนที่มีแบรนด์ดังนานาชาติระดับโอตกูตูร์แบรนด์หนึ่งวางขายกระโปรงจีบยาวในราคาสูงลิ่วพร้อมคำบรรยายว่ากระโปรงนี้มีโครงเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ก่อเกิดเป็นกระแสต่อต้านอย่างแรงเนื่องจากมันเหมือนมากกับกระโปรงจีนโบราณ ถึงขนาดมีคนลงทุนไปซื้อมาเปรียบเทียบแจกแจงให้ฟังเพื่อพิสูจน์ว่าแบรนด์ดังฉกฉวยมรดกทางวัฒนธรรมจีนมาเป็นของตน (cultural appropriation)

    เพื่อนเพจอาจเคยผ่านตาข่าวนี้มาบ้างแล้ว กระโปรงที่ว่านี้มีชื่อเรียกทางภาษาจีนว่า ‘หม่าเมี่ยนฉวิน’ (马面裙 แปลตรงตัวว่า หน้าม้า+กระโปรง) กระโปรงนี้เคยสร้างกระแสความขัดแย้งทางชาตินิยมกันมาแล้วเมื่อครั้งซีรีส์ <คีตาแห่งวสันต์> ออนแอร์ เพราะมีคนเกาหลีท้วงติงว่าเอาชุดเกาหลีมาแอบอ้างว่าเป็นชุดของจีน

    Storyฯ ไปเห็นรูปส่วนประกอบของกระโปรงหม่าเมี่ยนเลยเอามาฝาก พร้อมรูปตัวอย่างจากในละคร (ดูรูปประกอบที่ 1)

    จะเห็นจากรูปว่า กระโปรงหม่าเมี่ยนทำจากผ้าหกชิ้น ต่อเป็นสองชิ้นใหญ่ (บางบันทึกบอกว่าเจ็ดชิ้นแบ่งเป็นสองชิ้นใหญ่เท่าๆ กัน และในช่วงปลายหมิงมีการพูดถึงผ้าต่อสิบชิ้น) แน่นอนว่าเขามีเกณฑ์ความยาวและหน้ากว้าง แต่เกณฑ์นี้เปลี่ยนแปลงไปบ้างตามยุคสมัย แต่ละชิ้นจะมีส่วนที่จับจีบและส่วนที่แบนเรียบ ส่วนที่แบนเรียบนี้เรียกว่า ‘หม่าเมี่ยน’ ตอนนำมาประกอบให้เอาหม่าเมี่ยนซ้อนกันแล้วเย็บส่วนคาดเอวเพื่อตรึงผ้าไว้ด้วยกัน สุดท้ายก็จะเป็นกระโปรงยาวที่มีรอยแยกเปิดสี่จุดคือหน้าและหลังตรงแนวติดกับส่วนจีบสองข้าง (ดูรูปประกอบที่ 1) ตามบันทึกโบราณระบุว่ารอยแยกสี่จุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของกระโปรงหม่าเมี่ยน

    ทำไมต้องมีรอยแยกสี่จุด? คำตอบคือไว้สำหรับขี่ม้าค่ะ กระโปรงหม่าเมี่ยนมีใส่กันตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง และแท้จริงแล้วเป็นอิทธิพลที่ได้รับมาจากชนเผ่าคีตัน (ชี่ตัน) แห่งจักรวรรดิเหลียว ซึ่งนิยมสวมกระโปรงผ่าสี่แฉก เพื่อสะดวกต่อการขี่ม้า

    ต่อมาในสมัยหยวน หมิง และชิงกระโปรงนี้เป็นที่นิยมอย่างมากและกลายมาเป็นแบบกระโปรงพื้นฐานที่ใส่กันในแทบจะทุกสถานการณ์ ไม่ใช่แค่เพียงขี่ม้า ในสมัยหมิงนั้นนิยมใส่คู่กับเสื้อสาบไขว้ปิดสูงแขนยาว (ดูภาพจากในละคร) เรียกว่า ‘เสื้ออ่าว’ (袄 และปัจจุบันเรียกรวมท่อนบนและล่างแบบนี้ว่า ‘อ่าวฉวิน’) ตัวกระโปรงเน้นลายปักที่ชายกระโปรง เช่นลายเมฆ ลายเส้น ลายงูใหญ่ (หม่าง หรือที่เรามักเรียกว่าเป็นมังกรสี่เล็บ) ฯลฯ ต่อมาเมื่อถึงยุคสมัยชิงลวดลายและสีสันมีมากขึ้น

    คำว่า ‘หม่าเมี่ยน’ หากแปลตรงตัวว่า ‘ใบหน้าของม้า’ ก็จะฟังดูตลก แต่จริงๆ แล้วเป็นคำที่ใช้มาแต่โบราณเพื่อเรียกแนวกำแพงเมืองส่วนที่แบนราบ (ดูรูปประกอบ 2) ถามว่านี่คือที่มาของชื่อกระโปรงนี้หรือไม่? ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดค่ะ แต่จะเห็นว่ามีส่วนคล้ายคลึงอย่างมาก

    Storyฯ ยังไม่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ แต่ดูจากภาพตัวอย่างแล้วเสื้อผ้าและเครื่องประดับดูเนี๊ยบมาก อ่านเจอว่าใช้ช่างฝีมือระดับอาจารย์มาจากซูโจวเลยทีเดียว เพื่อนเพจท่านใดได้เคยดูแล้วมาบอกกันหน่อยว่าสวยงามละมุนตาไหม

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.juqingke.com/drama/l0fgpncm
    https://sunnews.cc/entertainment/376897.html
    https://m.aihanfu.com/wen/3546/
    https://www.aihanfu.com/wen/2902/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.52shijing.com/ctwh/87725.html
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/98833845
    https://baike.baidu.com/item/%E9%A9%AC%E9%9D%A2/2872717

    #คีตาแห่งวสันต์ #กระโปรงจีนโบราณ #ชุดราชวงศ์หมิง #หม่าเมี่ยนฉวิน #หม่าเมี่ยน #กระโปรงจีบ #อ่าวฉวิน
    ช่วงนี้มีกระแสดังในจีนที่มีแบรนด์ดังนานาชาติระดับโอตกูตูร์แบรนด์หนึ่งวางขายกระโปรงจีบยาวในราคาสูงลิ่วพร้อมคำบรรยายว่ากระโปรงนี้มีโครงเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ก่อเกิดเป็นกระแสต่อต้านอย่างแรงเนื่องจากมันเหมือนมากกับกระโปรงจีนโบราณ ถึงขนาดมีคนลงทุนไปซื้อมาเปรียบเทียบแจกแจงให้ฟังเพื่อพิสูจน์ว่าแบรนด์ดังฉกฉวยมรดกทางวัฒนธรรมจีนมาเป็นของตน (cultural appropriation) เพื่อนเพจอาจเคยผ่านตาข่าวนี้มาบ้างแล้ว กระโปรงที่ว่านี้มีชื่อเรียกทางภาษาจีนว่า ‘หม่าเมี่ยนฉวิน’ (马面裙 แปลตรงตัวว่า หน้าม้า+กระโปรง) กระโปรงนี้เคยสร้างกระแสความขัดแย้งทางชาตินิยมกันมาแล้วเมื่อครั้งซีรีส์ <คีตาแห่งวสันต์> ออนแอร์ เพราะมีคนเกาหลีท้วงติงว่าเอาชุดเกาหลีมาแอบอ้างว่าเป็นชุดของจีน Storyฯ ไปเห็นรูปส่วนประกอบของกระโปรงหม่าเมี่ยนเลยเอามาฝาก พร้อมรูปตัวอย่างจากในละคร (ดูรูปประกอบที่ 1) จะเห็นจากรูปว่า กระโปรงหม่าเมี่ยนทำจากผ้าหกชิ้น ต่อเป็นสองชิ้นใหญ่ (บางบันทึกบอกว่าเจ็ดชิ้นแบ่งเป็นสองชิ้นใหญ่เท่าๆ กัน และในช่วงปลายหมิงมีการพูดถึงผ้าต่อสิบชิ้น) แน่นอนว่าเขามีเกณฑ์ความยาวและหน้ากว้าง แต่เกณฑ์นี้เปลี่ยนแปลงไปบ้างตามยุคสมัย แต่ละชิ้นจะมีส่วนที่จับจีบและส่วนที่แบนเรียบ ส่วนที่แบนเรียบนี้เรียกว่า ‘หม่าเมี่ยน’ ตอนนำมาประกอบให้เอาหม่าเมี่ยนซ้อนกันแล้วเย็บส่วนคาดเอวเพื่อตรึงผ้าไว้ด้วยกัน สุดท้ายก็จะเป็นกระโปรงยาวที่มีรอยแยกเปิดสี่จุดคือหน้าและหลังตรงแนวติดกับส่วนจีบสองข้าง (ดูรูปประกอบที่ 1) ตามบันทึกโบราณระบุว่ารอยแยกสี่จุดนี้เป็นเอกลักษณ์ของกระโปรงหม่าเมี่ยน ทำไมต้องมีรอยแยกสี่จุด? คำตอบคือไว้สำหรับขี่ม้าค่ะ กระโปรงหม่าเมี่ยนมีใส่กันตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง และแท้จริงแล้วเป็นอิทธิพลที่ได้รับมาจากชนเผ่าคีตัน (ชี่ตัน) แห่งจักรวรรดิเหลียว ซึ่งนิยมสวมกระโปรงผ่าสี่แฉก เพื่อสะดวกต่อการขี่ม้า ต่อมาในสมัยหยวน หมิง และชิงกระโปรงนี้เป็นที่นิยมอย่างมากและกลายมาเป็นแบบกระโปรงพื้นฐานที่ใส่กันในแทบจะทุกสถานการณ์ ไม่ใช่แค่เพียงขี่ม้า ในสมัยหมิงนั้นนิยมใส่คู่กับเสื้อสาบไขว้ปิดสูงแขนยาว (ดูภาพจากในละคร) เรียกว่า ‘เสื้ออ่าว’ (袄 และปัจจุบันเรียกรวมท่อนบนและล่างแบบนี้ว่า ‘อ่าวฉวิน’) ตัวกระโปรงเน้นลายปักที่ชายกระโปรง เช่นลายเมฆ ลายเส้น ลายงูใหญ่ (หม่าง หรือที่เรามักเรียกว่าเป็นมังกรสี่เล็บ) ฯลฯ ต่อมาเมื่อถึงยุคสมัยชิงลวดลายและสีสันมีมากขึ้น คำว่า ‘หม่าเมี่ยน’ หากแปลตรงตัวว่า ‘ใบหน้าของม้า’ ก็จะฟังดูตลก แต่จริงๆ แล้วเป็นคำที่ใช้มาแต่โบราณเพื่อเรียกแนวกำแพงเมืองส่วนที่แบนราบ (ดูรูปประกอบ 2) ถามว่านี่คือที่มาของชื่อกระโปรงนี้หรือไม่? ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดค่ะ แต่จะเห็นว่ามีส่วนคล้ายคลึงอย่างมาก Storyฯ ยังไม่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ แต่ดูจากภาพตัวอย่างแล้วเสื้อผ้าและเครื่องประดับดูเนี๊ยบมาก อ่านเจอว่าใช้ช่างฝีมือระดับอาจารย์มาจากซูโจวเลยทีเดียว เพื่อนเพจท่านใดได้เคยดูแล้วมาบอกกันหน่อยว่าสวยงามละมุนตาไหม (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.juqingke.com/drama/l0fgpncm https://sunnews.cc/entertainment/376897.html https://m.aihanfu.com/wen/3546/ https://www.aihanfu.com/wen/2902/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.52shijing.com/ctwh/87725.html https://zhuanlan.zhihu.com/p/98833845 https://baike.baidu.com/item/%E9%A9%AC%E9%9D%A2/2872717 #คีตาแห่งวสันต์ #กระโปรงจีนโบราณ #ชุดราชวงศ์หมิง #หม่าเมี่ยนฉวิน #หม่าเมี่ยน #กระโปรงจีบ #อ่าวฉวิน
    玉楼春剧情介绍(1-43全集)大结局_电视剧_剧情客
    电视剧玉楼春剧情介绍,父亲遭人陷害,家道中落流离市井的官家千金林少春(白鹿饰)与当朝首辅之子孙玉楼(王一哲饰)相爱,嫁入了钟鸣鼎食的孙家。因出身问题,林少春屡遭排挤,但她凭着自身的智慧和善良,拯救濒临危机的家族财政、帮助不睦的兄嫂们重归于好,并使各怀心思的家人团...
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 613 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อว่ากองทัพรัสเซียจะจัดการกับกองกำลังยูเครนให้สิ้นซาก”
    -- ประธานาธิบดีปูตินกล่าวระหว่างการสนทนากับลูกเรือของเรือดำน้ำอาร์คันเกลสค์ (Arkhangelsk submarine)
    “เราจะค่อยๆดำเนินการไปทีละน้อย ไม่เร่งรีบอย่างที่หลายคนคาดหวัง เพราะเราต้องการเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงและมั่นใจ เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งหมดที่ประกาศไว้ในช่วงเริ่มต้นปฏิบัติการพิเศษทางทหารครั้งนี้ กองกำลังของเรามีแผนยุทธศาสตร์ตลอดทั้งแนวรบ ผมเพิ่งพูดไปเมื่อไม่นานนี้ว่า “เราจะจัดการกับพวกเขาให้สิ้นซาก” มันมีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อได้ว่าเราจะต้องจัดการกับพวกเขา และกองกำลังยูเครนจะต้องยอมรับถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น”

    นอกจากนี้ ยังมีคำพูดอื่นๆที่น่าสนใจของปูติน:
    ปูตินเสนอให้หารือเรื่องการนำการปกครองชั่วคราวมาใช้ในยูเครนภายใต้การรับรองของสหประชาชาติและประเทศต่างๆ เพื่อจัดการเลือกตั้งที่นั่น
    หากเซเลนสกีดำรงตำแหน่งโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เกิดจากการแต่งตั้งของเซเลนสกีก็เช่นกัน โดยรวมแล้วน่าจะทั้งหมด
    รัสเซียยังไม่รู้เลยว่า ควรลงนามอะไรกับใครในยูเครน
    "พวกนาซี" มีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน "เราจะคุยกับคนพวกนี้ได้อย่างไร" เช่นพวก “อาซอฟ” (Azov) (องค์กรก่อการร้ายที่ถูกห้ามในสหพันธรัฐรัสเซีย) และหน่วยชาตินิยมอื่นๆ กำลังมีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน
    รัสเซียพร้อมที่จะทำงานเพื่อยุติปัญหายูเครนกับยุโรป แต่ "พวกเขาพยายามจะมีอิทธิพลสั่งให้เราทำตาม" ซึ่งมันไม่ถูกต้อง
    กองทัพรัสเซียได้ปลดปล่อยดินแดนลูฮันสก์ (LPR) ไปแล้ว 99%
    รัสเซียต้องการความจริงใจโดยไม่มีอะไรแอบแฝงจากทรัมป์ในการยุติความขัดแย้งในยูเครน
    รัสเซียจะไม่ทำผิดพลาดอีกต่อไป ในเรื่องความไว้วางใจที่มากเกินไปกับพันธมิตร
    รัสเซียต้องการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี แต่มีเงื่อนไขว่าต้อง "กำจัดสาเหตุที่แท้จริง" ให้หมดไปด้วย
    รัสเซียของเราเป็นหนึ่งในสี่ของโลกในด้านเศรษฐกิจ รองจากจีน สหรัฐฯ และอินเดีย
    เศรษฐกิจและการเงินของรัสเซียอยู่ในสภาพที่มั่นคงและน่าพอใจ แม้ว่าเราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเม็ดเงินอยู่บ้าง
    อังกฤษ ชาติที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อรัสเซีย แต่เศรษฐกิจของพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 9-10 ของโลก และมีกองทัพที่ขนาดเล็กมาก
    “มีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อว่ากองทัพรัสเซียจะจัดการกับกองกำลังยูเครนให้สิ้นซาก” -- ประธานาธิบดีปูตินกล่าวระหว่างการสนทนากับลูกเรือของเรือดำน้ำอาร์คันเกลสค์ (Arkhangelsk submarine) “เราจะค่อยๆดำเนินการไปทีละน้อย ไม่เร่งรีบอย่างที่หลายคนคาดหวัง เพราะเราต้องการเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคงและมั่นใจ เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งหมดที่ประกาศไว้ในช่วงเริ่มต้นปฏิบัติการพิเศษทางทหารครั้งนี้ กองกำลังของเรามีแผนยุทธศาสตร์ตลอดทั้งแนวรบ ผมเพิ่งพูดไปเมื่อไม่นานนี้ว่า “เราจะจัดการกับพวกเขาให้สิ้นซาก” มันมีเหตุผลหลายประการที่จะเชื่อได้ว่าเราจะต้องจัดการกับพวกเขา และกองกำลังยูเครนจะต้องยอมรับถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น” นอกจากนี้ ยังมีคำพูดอื่นๆที่น่าสนใจของปูติน: 👉 ปูตินเสนอให้หารือเรื่องการนำการปกครองชั่วคราวมาใช้ในยูเครนภายใต้การรับรองของสหประชาชาติและประเทศต่างๆ เพื่อจัดการเลือกตั้งที่นั่น 👉 หากเซเลนสกีดำรงตำแหน่งโดยไม่มีกฎหมายรองรับ ส่งผลให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ที่เกิดจากการแต่งตั้งของเซเลนสกีก็เช่นกัน โดยรวมแล้วน่าจะทั้งหมด 👉รัสเซียยังไม่รู้เลยว่า ควรลงนามอะไรกับใครในยูเครน 👉"พวกนาซี" มีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน "เราจะคุยกับคนพวกนี้ได้อย่างไร" เช่นพวก “อาซอฟ” (Azov) (องค์กรก่อการร้ายที่ถูกห้ามในสหพันธรัฐรัสเซีย) และหน่วยชาตินิยมอื่นๆ กำลังมีอิทธิพลอย่างมากในยูเครน 👉รัสเซียพร้อมที่จะทำงานเพื่อยุติปัญหายูเครนกับยุโรป แต่ "พวกเขาพยายามจะมีอิทธิพลสั่งให้เราทำตาม" ซึ่งมันไม่ถูกต้อง 👉กองทัพรัสเซียได้ปลดปล่อยดินแดนลูฮันสก์ (LPR) ไปแล้ว 99% 👉รัสเซียต้องการความจริงใจโดยไม่มีอะไรแอบแฝงจากทรัมป์ในการยุติความขัดแย้งในยูเครน 👉รัสเซียจะไม่ทำผิดพลาดอีกต่อไป ในเรื่องความไว้วางใจที่มากเกินไปกับพันธมิตร 👉รัสเซียต้องการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี แต่มีเงื่อนไขว่าต้อง "กำจัดสาเหตุที่แท้จริง" ให้หมดไปด้วย 👉รัสเซียของเราเป็นหนึ่งในสี่ของโลกในด้านเศรษฐกิจ รองจากจีน สหรัฐฯ และอินเดีย 👉เศรษฐกิจและการเงินของรัสเซียอยู่ในสภาพที่มั่นคงและน่าพอใจ แม้ว่าเราต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเม็ดเงินอยู่บ้าง 👉อังกฤษ ชาติที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวต่อรัสเซีย แต่เศรษฐกิจของพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 9-10 ของโลก และมีกองทัพที่ขนาดเล็กมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 689 มุมมอง 11 0 รีวิว
Pages Boosts