• ส่วนตัวว่า เรื่องเจ้าชู้..ใครผิดคู่ใคร..ถ้าเปรียบเป็นคดี..ก็อาจเทียบได้กับ "ฉัอโกง" ...แต่ที่ผมอยากให้..ผู้คน..สนใจ ..และคิดตาม..ลองย้อนดูไป.ถึงการกระทำ และคำพูดหลายอย่าง...มันขัดแย้งกันชัดเจน...หลายสิ่งถูก ประดิษฐ์ขึ้น..ด้วยวาทะกรรม...ที่ชักนำให้ผู้คน..เข้าใจไปอีกแบบ....เช่นภาพ Gentlemen ..Nice guy....สิ่งที่ต่างหาก ..ผมมองว่า เรื่องใหญ่ก็ว่า....เพราะมัน หลอกผู้คน..จำนวนมาก...ถ้าเปรียบคดี..ส่วนตัวเทียบได้ราวกับ ฉ้อโกงประชาชน...เลย.....ถ้าคุณมองแค่ใครผิดกับใคร หรือเป็นเรื่องของคนไมีกี่คน... #คิดตื้นเขินเกินไป#
    ส่วนตัวว่า เรื่องเจ้าชู้..ใครผิดคู่ใคร..ถ้าเปรียบเป็นคดี..ก็อาจเทียบได้กับ "ฉัอโกง" ...แต่ที่ผมอยากให้..ผู้คน..สนใจ ..และคิดตาม..ลองย้อนดูไป.ถึงการกระทำ และคำพูดหลายอย่าง...มันขัดแย้งกันชัดเจน...หลายสิ่งถูก ประดิษฐ์ขึ้น..ด้วยวาทะกรรม...ที่ชักนำให้ผู้คน..เข้าใจไปอีกแบบ....เช่นภาพ Gentlemen ..Nice guy....สิ่งที่ต่างหาก ..ผมมองว่า เรื่องใหญ่ก็ว่า....เพราะมัน หลอกผู้คน..จำนวนมาก...ถ้าเปรียบคดี..ส่วนตัวเทียบได้ราวกับ ฉ้อโกงประชาชน...เลย.....ถ้าคุณมองแค่ใครผิดกับใคร หรือเป็นเรื่องของคนไมีกี่คน... #คิดตื้นเขินเกินไป#
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้จาก CSO Online เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ (Autopoietic AI) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถ เขียนโปรแกรมตัวเองใหม่ และปรับเปลี่ยนการทำงานโดยไม่มีการควบคุมจากมนุษย์ โดยนักวิจัยระบุว่า องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะ อาจเผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากขาดทรัพยากรในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI

    ✅ AI ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้สามารถสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - ระบบ AI อาจ ลดความเข้มงวดของการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    - ตัวอย่างเช่น ระบบกรองอีเมลอาจ ลดการบล็อกอีเมลฟิชชิง เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนจากผู้ใช้

    ✅ การเปลี่ยนแปลงของ AI อาจไม่สามารถตรวจสอบได้
    - AI อาจ ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความปลอดภัยโดยไม่มีการบันทึก ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์
    - องค์กรอาจไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ความปลอดภัย

    ✅ องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะมีความเสี่ยงสูง
    - ขาดทรัพยากรในการ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI
    - ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจจับการฉ้อโกงอาจ ลดการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก

    ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    - ใช้ ระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ AI
    - พัฒนา AI ที่มีความโปร่งใส เพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจการตัดสินใจของระบบ

    https://www.csoonline.com/article/3852782/when-ai-moves-beyond-human-oversight-the-cybersecurity-risks-of-self-sustaining-systems.html
    บทความนี้จาก CSO Online เตือนถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่เกิดจาก AI ที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองได้ (Autopoietic AI) ซึ่งเป็นระบบที่สามารถ เขียนโปรแกรมตัวเองใหม่ และปรับเปลี่ยนการทำงานโดยไม่มีการควบคุมจากมนุษย์ โดยนักวิจัยระบุว่า องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะ อาจเผชิญความเสี่ยงสูง เนื่องจากขาดทรัพยากรในการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI ✅ AI ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้สามารถสร้างความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ระบบ AI อาจ ลดความเข้มงวดของการตรวจสอบความปลอดภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน - ตัวอย่างเช่น ระบบกรองอีเมลอาจ ลดการบล็อกอีเมลฟิชชิง เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนจากผู้ใช้ ✅ การเปลี่ยนแปลงของ AI อาจไม่สามารถตรวจสอบได้ - AI อาจ ปรับเปลี่ยนการตั้งค่าความปลอดภัยโดยไม่มีการบันทึก ทำให้ยากต่อการวิเคราะห์ - องค์กรอาจไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงจนกว่าจะเกิดเหตุการณ์ความปลอดภัย ✅ องค์กรขนาดเล็กและหน่วยงานสาธารณะมีความเสี่ยงสูง - ขาดทรัพยากรในการ ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของ AI - ตัวอย่างเช่น ระบบตรวจจับการฉ้อโกงอาจ ลดการแจ้งเตือนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชะงัก ✅ นักวิจัยเสนอแนวทางแก้ไขเพื่อเพิ่มความปลอดภัย - ใช้ ระบบตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของ AI - พัฒนา AI ที่มีความโปร่งใส เพื่อให้มนุษย์สามารถเข้าใจการตัดสินใจของระบบ https://www.csoonline.com/article/3852782/when-ai-moves-beyond-human-oversight-the-cybersecurity-risks-of-self-sustaining-systems.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    When AI moves beyond human oversight: The cybersecurity risks of self-sustaining systems
    What happens when AI cybersecurity systems start to rewrite themselves as they adapt over time? Keeping an eye on what they’re doing will be mission-critical.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน คาดไม่เกิน 7 วัน ถ้าไม่ทันก็ขยายไปเรื่อยๆ มีหลายเรื่องที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทุกคนที่ทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีหมด ส่วนจำนวนผู้ที่จะถูกออกหมายจับยังตอบไม่ได้ เพราะกำลังสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งพนักงานตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ได้ไปตรวจสอบหรือไม่ บริษัทรับเหมาก่อสร้างทำถูกแบบหรือไม่ มีวิศวกรสถาปนิกเข้าไปดูการก่อสร้างหรือไม่ รายละเอียดเยอะมากต้องใช้เวลา ส่วน สตง. ที่เป็นคนอนุมัติแบบและใช้งบประมาณ ถูกมองว่าไม่มีรายละเอียด ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะเอาผิด สตง.ได้หรือไม่นั้น
    ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากกว่านี้ จึงจะตอบได้

    -วิศวกรถูกปลอมลายเซ็นเพียบ
    -แนะอยู่หน้างานเก็บหลักฐาน
    -เอาผิดฉ้อโกงลงทุนทอง
    -หนุนค่ายมือถือแจ้งเตือนภัย
    พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยถึงการออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องกรณีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม พนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน คาดไม่เกิน 7 วัน ถ้าไม่ทันก็ขยายไปเรื่อยๆ มีหลายเรื่องที่ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ทุกคนที่ทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีหมด ส่วนจำนวนผู้ที่จะถูกออกหมายจับยังตอบไม่ได้ เพราะกำลังสอบผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งพนักงานตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ได้ไปตรวจสอบหรือไม่ บริษัทรับเหมาก่อสร้างทำถูกแบบหรือไม่ มีวิศวกรสถาปนิกเข้าไปดูการก่อสร้างหรือไม่ รายละเอียดเยอะมากต้องใช้เวลา ส่วน สตง. ที่เป็นคนอนุมัติแบบและใช้งบประมาณ ถูกมองว่าไม่มีรายละเอียด ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะเอาผิด สตง.ได้หรือไม่นั้น ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนมากกว่านี้ จึงจะตอบได้ -วิศวกรถูกปลอมลายเซ็นเพียบ -แนะอยู่หน้างานเก็บหลักฐาน -เอาผิดฉ้อโกงลงทุนทอง -หนุนค่ายมือถือแจ้งเตือนภัย
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผยกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ควบคุมตัว น.ส.กชพร สุวรรณกูฎ โบรกเกอร์ผู้ต้องหาคดีนพ.บุญ วนาสินธ์ ผู้ต้องหาร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งหลบหนีไปต่างประเทศ คดีนี้มีมูลค่าความเสียหาย 16,000 ล้านบาท มีผู้ต้องหาหลายคน ซึ่งมีพฤติกรรมชักชวน โดยในผู้ต้องหา 16 คน มีผู้เสียหาย 605 คน ซึ่งคดีนี้จะมีภาค 2 แน่นอน โดยได้พิจารณาผู้เข้าข่ายกระทำความผิดอีกหลายราย ที่สำคัญเราอยากนำผู้กระทำผิดทั้งหมดมาลงโทษให้ได้

    -ปรับแผนกู้ซากตึก สตง.
    -เตือน 23 จว.น้ำท่วมฉับพลัน
    -ส.อ.ท.หนุนเกษตรอัจฉริยะ
    -นำเข้าเพิ่มตอบโต้สหรัฐ
    พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผยกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ควบคุมตัว น.ส.กชพร สุวรรณกูฎ โบรกเกอร์ผู้ต้องหาคดีนพ.บุญ วนาสินธ์ ผู้ต้องหาร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งหลบหนีไปต่างประเทศ คดีนี้มีมูลค่าความเสียหาย 16,000 ล้านบาท มีผู้ต้องหาหลายคน ซึ่งมีพฤติกรรมชักชวน โดยในผู้ต้องหา 16 คน มีผู้เสียหาย 605 คน ซึ่งคดีนี้จะมีภาค 2 แน่นอน โดยได้พิจารณาผู้เข้าข่ายกระทำความผิดอีกหลายราย ที่สำคัญเราอยากนำผู้กระทำผิดทั้งหมดมาลงโทษให้ได้ -ปรับแผนกู้ซากตึก สตง. -เตือน 23 จว.น้ำท่วมฉับพลัน -ส.อ.ท.หนุนเกษตรอัจฉริยะ -นำเข้าเพิ่มตอบโต้สหรัฐ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • Microsoft ได้เผยแพร่ Cyber Signals Report ฉบับล่าสุด ซึ่งเน้นถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาหลอกลวง โดยอาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ deepfakes, voice cloning และเว็บไซต์ปลอม

    ✅ AI ช่วยให้อาชญากรไซเบอร์สามารถสร้างเนื้อหาหลอกลวงได้ง่ายขึ้น
    - ใช้ deepfakes และ voice cloning เพื่อแอบอ้างเป็นบุคคลจริง
    - สร้าง เว็บไซต์ปลอมและรีวิวสินค้า AI-generated เพื่อหลอกลวงผู้บริโภค

    ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่ใช้ AI
    - อาชญากรสามารถใช้ AI เพื่อสแกนข้อมูลบริษัทและสร้างโปรไฟล์ปลอมของพนักงาน
    - ใช้ AI-generated storefronts เพื่อสร้างแบรนด์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ

    ✅ มาตรการป้องกันที่ Microsoft แนะนำ
    - เพิ่มการตรวจสอบตัวตนของนายจ้าง โดยใช้ Microsoft Entra ID และ multifactor authentication
    - ใช้ deepfake detection algorithms เพื่อตรวจจับการสัมภาษณ์งานที่ใช้ AI-generated faces
    - ตรวจสอบเว็บไซต์และโฆษณาที่ดูดีเกินจริง โดยใช้ Microsoft Edge typo protection

    ✅ การปรับปรุง Quick Assist เพื่อป้องกันการฉ้อโกง
    - Microsoft ได้เพิ่ม ข้อความเตือนเกี่ยวกับ tech support scams ใน Quick Assist
    - ระบบสามารถ บล็อกการเชื่อมต่อที่น่าสงสัยกว่า 4,415 ครั้งต่อวัน

    https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-detailed-guidance-for-ai-scams-that-are-nearly-impossible-to-not-fall-for/
    Microsoft ได้เผยแพร่ Cyber Signals Report ฉบับล่าสุด ซึ่งเน้นถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ใช้ AI ในการสร้างเนื้อหาหลอกลวง โดยอาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ deepfakes, voice cloning และเว็บไซต์ปลอม ✅ AI ช่วยให้อาชญากรไซเบอร์สามารถสร้างเนื้อหาหลอกลวงได้ง่ายขึ้น - ใช้ deepfakes และ voice cloning เพื่อแอบอ้างเป็นบุคคลจริง - สร้าง เว็บไซต์ปลอมและรีวิวสินค้า AI-generated เพื่อหลอกลวงผู้บริโภค ✅ Microsoft เตือนเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่ใช้ AI - อาชญากรสามารถใช้ AI เพื่อสแกนข้อมูลบริษัทและสร้างโปรไฟล์ปลอมของพนักงาน - ใช้ AI-generated storefronts เพื่อสร้างแบรนด์ปลอมที่ดูน่าเชื่อถือ ✅ มาตรการป้องกันที่ Microsoft แนะนำ - เพิ่มการตรวจสอบตัวตนของนายจ้าง โดยใช้ Microsoft Entra ID และ multifactor authentication - ใช้ deepfake detection algorithms เพื่อตรวจจับการสัมภาษณ์งานที่ใช้ AI-generated faces - ตรวจสอบเว็บไซต์และโฆษณาที่ดูดีเกินจริง โดยใช้ Microsoft Edge typo protection ✅ การปรับปรุง Quick Assist เพื่อป้องกันการฉ้อโกง - Microsoft ได้เพิ่ม ข้อความเตือนเกี่ยวกับ tech support scams ใน Quick Assist - ระบบสามารถ บล็อกการเชื่อมต่อที่น่าสงสัยกว่า 4,415 ครั้งต่อวัน https://www.neowin.net/news/microsoft-shares-detailed-guidance-for-ai-scams-that-are-nearly-impossible-to-not-fall-for/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft shares detailed guidance for AI scams that are nearly impossible to not fall for
    Microsoft has published a detailed guidance on ways to deal with modern AI-powered scams that are really difficult to detect.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เผยแพร่ Ads Safety Report ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรการบังคับใช้กฎระเบียบด้านโฆษณาในปี 2024 โดยบริษัทสามารถ บล็อกหรือถอดถอนโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ และ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี

    ✅ Google บล็อกโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ
    - โฆษณาที่ถูกบล็อกละเมิดนโยบายเกี่ยวกับ การใช้เครือข่ายโฆษณาในทางที่ผิด, โฆษณาส่วนบุคคล, ข้อกำหนดทางกฎหมาย และการแสดงข้อมูลที่ผิด
    - Google ใช้ AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและบังคับใช้กฎ

    ✅ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี
    - ส่วนใหญ่ถูกระงับก่อนที่จะสามารถเผยแพร่โฆษณาได้
    - Google ใช้ Advertiser Identity Verification เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีที่ถูกระงับกลับมาใช้งานอีก

    ✅ แนวโน้มของการฉ้อโกงโฆษณาในปี 2024
    - พบว่า การปลอมแปลงบุคคลสาธารณะ เป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น
    - นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated imagery และเสียง เพื่อแอบอ้างเป็นคนดังและโปรโมตการหลอกลวง

    ✅ มาตรการเพิ่มเติมของ Google
    - อัปเดต นโยบายการแสดงข้อมูลที่ผิด และจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน เพื่อวิเคราะห์และป้องกันการฉ้อโกง
    - ระงับบัญชีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงบุคคลสาธารณะกว่า 700,000 บัญชี ส่งผลให้รายงานการฉ้อโกงลดลง 90%

    ✅ จำกัดโฆษณาที่อาจมีความอ่อนไหวทางกฎหมายและวัฒนธรรม
    - Google จำกัดการเข้าถึงโฆษณากว่า 9.1 พันล้านรายการ ที่อาจไม่เหมาะสมในบางพื้นที่ เช่น เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่และการพนัน

    https://www.neowin.net/news/google-stopped-51-billion-rogue-ads-from-reaching-users-fired-millions-of-bad-accounts/
    Google ได้เผยแพร่ Ads Safety Report ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงมาตรการบังคับใช้กฎระเบียบด้านโฆษณาในปี 2024 โดยบริษัทสามารถ บล็อกหรือถอดถอนโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ และ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี ✅ Google บล็อกโฆษณาที่ละเมิดกฎกว่า 5.1 พันล้านรายการ - โฆษณาที่ถูกบล็อกละเมิดนโยบายเกี่ยวกับ การใช้เครือข่ายโฆษณาในทางที่ผิด, โฆษณาส่วนบุคคล, ข้อกำหนดทางกฎหมาย และการแสดงข้อมูลที่ผิด - Google ใช้ AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับและบังคับใช้กฎ ✅ ระงับบัญชีโฆษณาที่เป็นการฉ้อโกงกว่า 39.2 ล้านบัญชี - ส่วนใหญ่ถูกระงับก่อนที่จะสามารถเผยแพร่โฆษณาได้ - Google ใช้ Advertiser Identity Verification เพื่อป้องกันไม่ให้บัญชีที่ถูกระงับกลับมาใช้งานอีก ✅ แนวโน้มของการฉ้อโกงโฆษณาในปี 2024 - พบว่า การปลอมแปลงบุคคลสาธารณะ เป็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น - นักต้มตุ๋นใช้ AI-generated imagery และเสียง เพื่อแอบอ้างเป็นคนดังและโปรโมตการหลอกลวง ✅ มาตรการเพิ่มเติมของ Google - อัปเดต นโยบายการแสดงข้อมูลที่ผิด และจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 100 คน เพื่อวิเคราะห์และป้องกันการฉ้อโกง - ระงับบัญชีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงบุคคลสาธารณะกว่า 700,000 บัญชี ส่งผลให้รายงานการฉ้อโกงลดลง 90% ✅ จำกัดโฆษณาที่อาจมีความอ่อนไหวทางกฎหมายและวัฒนธรรม - Google จำกัดการเข้าถึงโฆษณากว่า 9.1 พันล้านรายการ ที่อาจไม่เหมาะสมในบางพื้นที่ เช่น เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่และการพนัน https://www.neowin.net/news/google-stopped-51-billion-rogue-ads-from-reaching-users-fired-millions-of-bad-accounts/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google stopped 5.1 billion rogue ads from reaching users, fired millions of bad accounts
    The search giant suspended millions of ad accounts and took action against billions of bad advertisements before they were served to users.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 8 ทางเลือกในการลงทุนและความเสี่ยง (1)
    .
    ทางเลือกในการลงทุนและความเสี่ยง ไม่ว่าจะออมเงินมากเท่าใด หากไม่นำเงินก้อนนั้นไปลงทุนอย่างเหมาะสมแล้ว ความมั่นคงด้านการเงินของครอบครัวก็เกิดขึ้นไม่ได้ การลงทุนที่ชาญฉลาดจะก่อให้เกิดรายได้ขึ้นอีกทางหนึ่งโดยไม่ต้องออกแรงควบคู่ไปกับการทำงานตามปกติ และเมื่อมี “เงินลูก” เกิดขึ้นจากการลงทุนแล้ว ก็สามารถนำมันไปลงทุนต่ออีกให้งอกเงยต่อไปเป็น “เงินหลาน” “เงินเหลน” และต่อเนื่องได้อีกยาวนาน
    .
    ตัวอย่างเช่น เมื่อได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยเงินฝาก (เงินลูก) ก็สามารถเอาดอกเบี้ยไปซื้อหุ้น ผ่อนซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้คนเช่า และได้รับผลตอบแทน (เงินหลาน) และเมื่องอกเงยขึ้นมาอีก ก็สามารถนำไปลงทุนต่อไปได้ไม่รู้จบ ผลตอบแทนทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ล้วนมีที่มาจาก “ต้นน้ำ” คือเงินออมแต่แรกทั้งสิ้น ถ้าปราศจากเสียซึ่งความสามารถในการสร้างเงินออมของครอบครัวแล้ว ผลตอบแทนทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย
    .
    อย่างไรก็ดี การลงทุนอาจไม่ก่อให้เกิดผลตอบแทนได้สมหวัง เพราะมีสิ่งที่เรียกว่าความเสี่ยงเกี่ยวพันอยู่ด้วยเสมอในการลงทุน ความเสี่ยงแบ่งออกได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆคือ ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยมหภาคหรือระดับประเทศ และความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยจุลภาคหรือระดับย่อย
    .
    ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยระดับประเทศมีผลกระทบต่อทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ลงทุนหรือไม่ใช่ ความเสี่ยงดังกล่าว ได้แก่ ความเสี่ยงที่เกิดจากอำนาจซื้อลดลงอันเนื่องมาจากเงินเฟ้อ (เมื่อของมีราคาสูงขึ้น เงินเท่าเดิมซื้อของได้จำนวนน้อยลง) ทำให้ดอกผลจากการลงทุนมีค่าแท้จริงน้อยลง และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือนโยบายของรัฐบาล จนอาจทำให้การลงทุนเท่านโยบายเก่า
    .
    ความเสี่ยงอันเกิดจากความผันแปรของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจนทำให้เกิดความเสียหาย เช่น การลดค่าเงินบาท (เงินตราต่างประเทศมีราคาสูงชึ้น) ทำให้ภาระหนี้ที่กู้จากต่างประเทศในรูปเงินบาทสูงขึ้น ก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน
    .
    นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยระดับประเทศอีกแบบหนึ่งคือ ความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อตัวผู้ลงทุนเองเท่านั้น ได้แก่ (1) ความเสี่ยงอันเกิดจากการแปรผันของอัตราดอกเบี้ยจนทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นและอาจได้รับผลตอบแทนต่ำลง (2) ความเสี่ยงอันเกิดจากความรู้สึกของผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปจนทำให้ราคาหุ้นตก ถึงแม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของหลักทรัพย์มิได้เปลี่ยนแปลงเลยก็ตาม (3) ความเสี่ยงอันเกิดจากการปั่นหุ้น ซึ่งอาจมีผลกระทบทำให้หุ้นตัวอื่นมีราคาลดลง ในขณะที่หุ้นตัวที่ปั่นราคาพุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ จนอาจนำไปสู่การขาดศรัทธาต่อตลาดหุ้นโดยรวม และพากันล่มจมไปด้วยกันในที่สุด
    .
    สำหรับความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยระดับย่อย เป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากภายในหรือเป็นการเฉพาะสำหรับธุรกิจนั้น โดยผู้ลงทุนอาจหลีกเลี่ยงได้ หากเลือกสรรการลงทุนที่ดี ความเสี่ยงชนิดนี้ได้แก่ ความเสี่ยงที่เกิดจากบริษัทนั้นๆเอง เช่น ขาดความสามารถในการบริหารจัดการ ฐานะการเงินไม่เข้มแข็ง ผู้บริหารฉ้อโกง เป็นต้น และความเสี่ยงที่เกิดจากลักษณะของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมนั้นๆ ซึ่งอาจเปราะบางเพราะธรรมชาติของตัวมันเอง เช่น อุตสาหกรรมที่อาศัยทรัพยากรจำกัด เมื่อวัตถุดิบหมด โอกาสทางธุรกิจห็หายไป เช่น เหมืองแร่ ป่าไม้ หรืออุตสาหกรรมที่ราคาขึ้นลงตามวงจรราคาตลาดโลก เช่นน้ำตาล เป็นต้น.
    .
    ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่มีความเสี่ยง การลงทุนทุกอย่างเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยต่างกัน อยู่ที่ว่าผู้ลงทุนเข้าใจความเสี่ยงของการลงทุนแต่ละอย่างมากน้อยเพียงใด และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับใด การลงทุนต่อไปนี้ให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงในระดับที่แตกต่างกัน ไว้บทหน้าจะมาเล่าให้ฟังครับ
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 8 ทางเลือกในการลงทุนและความเสี่ยง (1) . ทางเลือกในการลงทุนและความเสี่ยง ไม่ว่าจะออมเงินมากเท่าใด หากไม่นำเงินก้อนนั้นไปลงทุนอย่างเหมาะสมแล้ว ความมั่นคงด้านการเงินของครอบครัวก็เกิดขึ้นไม่ได้ การลงทุนที่ชาญฉลาดจะก่อให้เกิดรายได้ขึ้นอีกทางหนึ่งโดยไม่ต้องออกแรงควบคู่ไปกับการทำงานตามปกติ และเมื่อมี “เงินลูก” เกิดขึ้นจากการลงทุนแล้ว ก็สามารถนำมันไปลงทุนต่ออีกให้งอกเงยต่อไปเป็น “เงินหลาน” “เงินเหลน” และต่อเนื่องได้อีกยาวนาน . ตัวอย่างเช่น เมื่อได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยเงินฝาก (เงินลูก) ก็สามารถเอาดอกเบี้ยไปซื้อหุ้น ผ่อนซื้ออสังหาริมทรัพย์ให้คนเช่า และได้รับผลตอบแทน (เงินหลาน) และเมื่องอกเงยขึ้นมาอีก ก็สามารถนำไปลงทุนต่อไปได้ไม่รู้จบ ผลตอบแทนทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ล้วนมีที่มาจาก “ต้นน้ำ” คือเงินออมแต่แรกทั้งสิ้น ถ้าปราศจากเสียซึ่งความสามารถในการสร้างเงินออมของครอบครัวแล้ว ผลตอบแทนทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย . อย่างไรก็ดี การลงทุนอาจไม่ก่อให้เกิดผลตอบแทนได้สมหวัง เพราะมีสิ่งที่เรียกว่าความเสี่ยงเกี่ยวพันอยู่ด้วยเสมอในการลงทุน ความเสี่ยงแบ่งออกได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆคือ ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยมหภาคหรือระดับประเทศ และความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยจุลภาคหรือระดับย่อย . ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยระดับประเทศมีผลกระทบต่อทุกคนไม่ว่าจะเป็นผู้ลงทุนหรือไม่ใช่ ความเสี่ยงดังกล่าว ได้แก่ ความเสี่ยงที่เกิดจากอำนาจซื้อลดลงอันเนื่องมาจากเงินเฟ้อ (เมื่อของมีราคาสูงขึ้น เงินเท่าเดิมซื้อของได้จำนวนน้อยลง) ทำให้ดอกผลจากการลงทุนมีค่าแท้จริงน้อยลง และความเสี่ยงที่เกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหรือนโยบายของรัฐบาล จนอาจทำให้การลงทุนเท่านโยบายเก่า . ความเสี่ยงอันเกิดจากความผันแปรของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจนทำให้เกิดความเสียหาย เช่น การลดค่าเงินบาท (เงินตราต่างประเทศมีราคาสูงชึ้น) ทำให้ภาระหนี้ที่กู้จากต่างประเทศในรูปเงินบาทสูงขึ้น ก็เป็นความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึงเช่นกัน . นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยระดับประเทศอีกแบบหนึ่งคือ ความเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อตัวผู้ลงทุนเองเท่านั้น ได้แก่ (1) ความเสี่ยงอันเกิดจากการแปรผันของอัตราดอกเบี้ยจนทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้นและอาจได้รับผลตอบแทนต่ำลง (2) ความเสี่ยงอันเกิดจากความรู้สึกของผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปจนทำให้ราคาหุ้นตก ถึงแม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของหลักทรัพย์มิได้เปลี่ยนแปลงเลยก็ตาม (3) ความเสี่ยงอันเกิดจากการปั่นหุ้น ซึ่งอาจมีผลกระทบทำให้หุ้นตัวอื่นมีราคาลดลง ในขณะที่หุ้นตัวที่ปั่นราคาพุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ จนอาจนำไปสู่การขาดศรัทธาต่อตลาดหุ้นโดยรวม และพากันล่มจมไปด้วยกันในที่สุด . สำหรับความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยระดับย่อย เป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากภายในหรือเป็นการเฉพาะสำหรับธุรกิจนั้น โดยผู้ลงทุนอาจหลีกเลี่ยงได้ หากเลือกสรรการลงทุนที่ดี ความเสี่ยงชนิดนี้ได้แก่ ความเสี่ยงที่เกิดจากบริษัทนั้นๆเอง เช่น ขาดความสามารถในการบริหารจัดการ ฐานะการเงินไม่เข้มแข็ง ผู้บริหารฉ้อโกง เป็นต้น และความเสี่ยงที่เกิดจากลักษณะของธุรกิจหรืออุตสาหกรรมนั้นๆ ซึ่งอาจเปราะบางเพราะธรรมชาติของตัวมันเอง เช่น อุตสาหกรรมที่อาศัยทรัพยากรจำกัด เมื่อวัตถุดิบหมด โอกาสทางธุรกิจห็หายไป เช่น เหมืองแร่ ป่าไม้ หรืออุตสาหกรรมที่ราคาขึ้นลงตามวงจรราคาตลาดโลก เช่นน้ำตาล เป็นต้น. . ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่มีความเสี่ยง การลงทุนทุกอย่างเสี่ยงมากเสี่ยงน้อยต่างกัน อยู่ที่ว่าผู้ลงทุนเข้าใจความเสี่ยงของการลงทุนแต่ละอย่างมากน้อยเพียงใด และยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับใด การลงทุนต่อไปนี้ให้ผลตอบแทนและความเสี่ยงในระดับที่แตกต่างกัน ไว้บทหน้าจะมาเล่าให้ฟังครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 เมษายน 2568-รายงานข่าวมติชนระบุว่า ด่วน! รวบตัวได้แล้ว ‘กชพร’ โบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ ดีเอสไอ แถลงข่าวพรุ่งนี้... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.ด่วน! รวบตัวได้แล้ว ‘กชพร’ โบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ ดีเอสไอ แถลงข่าวพรุ่งนีก่อนที่ ตท.ได้มีหนังสือแจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (Interpol) ซึ่งต่อมาได้มีประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) ของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เรียบร้อยแล้ว กระทั่งต่อมาชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ได้หลบหนีไปยังนครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงได้ประสานไปยังกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Public Security) เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งตำรวจนครกว่างโจวได้รายงานเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 68 ว่าสามารถควบคุมตัว น.ส.ฐิติพร ได้แล้ว และควบคุมตัว น.ส.ฐิติพร กลับมายังประเทศไทยในวันที่ 7 เมษายน 68 โดยสายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบิน CZ361 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 22.00 น. ก่อนที่จะส่งฟ้องศาลอาญาเมื่อวันที่ 9 เมษายนนั้นล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เมษายน กรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งสื่อมวลชน เชิญร่วมทำข่าวการจับกุม น.ส.กชพร สุวรรณกูฏ อายุ 39 ปี โบรกเกอร์คนสุดท้าย ผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ วนาสินธ์ พรุ่งนี้ (16 เมษายน) โดยมีรายละเอียดดังนี้วันพรุ่งนี้ (วันพุธที่ 16 เมษายน 2568) เวลา 08.30 น. ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม แถลงข่าวจับกุม/ได้ตัวโบรกเกอร์ผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ วนาสินธ์ ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้หลบหนีไปต่างประเทศรายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.กชพร เป็นโบรกเกอร์คนสุดท้ายในคดีหมอบุญที่หลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไปก่อนหน้านี้ โดยมีรายงานข่าว น.ส.กชพร ได้เข้ามาในประเทศไทย จึงถูกตำรวจจับกุมได้ทั้งนี้จึงยังเหลือแค่หมอบุญ ที่ ตร.ยังคงติดตามตัว... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5140873#m9ijbu4nnpukcv9im9
    15 เมษายน 2568-รายงานข่าวมติชนระบุว่า ด่วน! รวบตัวได้แล้ว ‘กชพร’ โบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ ดีเอสไอ แถลงข่าวพรุ่งนี้... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.ด่วน! รวบตัวได้แล้ว ‘กชพร’ โบรกเกอร์คนสุดท้ายคดีหมอบุญ ดีเอสไอ แถลงข่าวพรุ่งนีก่อนที่ ตท.ได้มีหนังสือแจ้งไปยังองค์การตำรวจสากล (Interpol) ซึ่งต่อมาได้มีประกาศตำรวจสากลสีแดง (Red Notice) ของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เรียบร้อยแล้ว กระทั่งต่อมาชุดปฏิบัติการติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้สืบสวนจนทราบว่า น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ได้หลบหนีไปยังนครกว่างโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน จึงได้ประสานไปยังกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน (Ministry of Public Security) เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งตำรวจนครกว่างโจวได้รายงานเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 68 ว่าสามารถควบคุมตัว น.ส.ฐิติพร ได้แล้ว และควบคุมตัว น.ส.ฐิติพร กลับมายังประเทศไทยในวันที่ 7 เมษายน 68 โดยสายการบินไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ เที่ยวบิน CZ361 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 22.00 น. ก่อนที่จะส่งฟ้องศาลอาญาเมื่อวันที่ 9 เมษายนนั้นล่าสุดเมื่อวันที่ 15 เมษายน กรมสอบสวนคดีพิเศษ แจ้งสื่อมวลชน เชิญร่วมทำข่าวการจับกุม น.ส.กชพร สุวรรณกูฏ อายุ 39 ปี โบรกเกอร์คนสุดท้าย ผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ วนาสินธ์ พรุ่งนี้ (16 เมษายน) โดยมีรายละเอียดดังนี้วันพรุ่งนี้ (วันพุธที่ 16 เมษายน 2568) เวลา 08.30 น. ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี พิทักษ์ อุทัยธรรม รองผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม แถลงข่าวจับกุม/ได้ตัวโบรกเกอร์ผู้ต้องหาในคดีหมอบุญ วนาสินธ์ ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งได้หลบหนีไปต่างประเทศรายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.กชพร เป็นโบรกเกอร์คนสุดท้ายในคดีหมอบุญที่หลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไปก่อนหน้านี้ โดยมีรายงานข่าว น.ส.กชพร ได้เข้ามาในประเทศไทย จึงถูกตำรวจจับกุมได้ทั้งนี้จึงยังเหลือแค่หมอบุญ ที่ ตร.ยังคงติดตามตัว... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5140873#m9ijbu4nnpukcv9im9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Laboratory Services Cooperative (LSC) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าเกิดเหตุ ข้อมูลรั่วไหล ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของ 1.6 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง ข้อมูลทางการแพทย์, ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลระบุตัวตน

    ✅ LSC ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยในระบบเมื่อเดือนตุลาคม 2024
    - บริษัทแจ้งตำรวจและนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้ามาตรวจสอบ
    - การสอบสวนเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจได้รับผลกระทบ

    ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยมีหลายประเภท
    - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล
    - ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น วันที่รับบริการ, การวินิจฉัยโรค, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    - ข้อมูลประกันสุขภาพ เช่น ชื่อแผนประกัน, หมายเลขสมาชิก
    - ข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร, รายละเอียดบัตรเครดิต

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ
    - ผู้ที่เข้ารับการตรวจผ่าน Planned Parenthood ซึ่งใช้บริการของ LSC อาจได้รับผลกระทบ
    - ข้อมูลของพนักงาน LSC และบุคคลในครอบครัวของพนักงานอาจถูกขโมยด้วย

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ข้อมูลยังไม่ถูกเผยแพร่บน Dark Web
    - ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปขายหรือเผยแพร่
    - แต่ผู้ใช้ควรเฝ้าระวังการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านการเงินและการฉ้อโกง
    - ข้อมูลการชำระเงินที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้ในการฉ้อโกง
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ

    ℹ️ แนวโน้มของภัยคุกคามไซเบอร์ในอุตสาหกรรมสุขภาพ
    - การโจมตีทางไซเบอร์ต่อองค์กรด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    - บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลมากขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/top-us-lab-testing-firm-hit-with-major-data-leak-exposes-health-info-on-1-6-million-users
    บริษัท Laboratory Services Cooperative (LSC) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าเกิดเหตุ ข้อมูลรั่วไหล ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของ 1.6 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง ข้อมูลทางการแพทย์, ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลระบุตัวตน ✅ LSC ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยในระบบเมื่อเดือนตุลาคม 2024 - บริษัทแจ้งตำรวจและนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้ามาตรวจสอบ - การสอบสวนเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยมีหลายประเภท - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล - ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น วันที่รับบริการ, การวินิจฉัยโรค, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ - ข้อมูลประกันสุขภาพ เช่น ชื่อแผนประกัน, หมายเลขสมาชิก - ข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร, รายละเอียดบัตรเครดิต ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ - ผู้ที่เข้ารับการตรวจผ่าน Planned Parenthood ซึ่งใช้บริการของ LSC อาจได้รับผลกระทบ - ข้อมูลของพนักงาน LSC และบุคคลในครอบครัวของพนักงานอาจถูกขโมยด้วย ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ข้อมูลยังไม่ถูกเผยแพร่บน Dark Web - ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปขายหรือเผยแพร่ - แต่ผู้ใช้ควรเฝ้าระวังการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว ℹ️ ความเสี่ยงด้านการเงินและการฉ้อโกง - ข้อมูลการชำระเงินที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้ในการฉ้อโกง - ผู้ใช้ควรตรวจสอบบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ ℹ️ แนวโน้มของภัยคุกคามไซเบอร์ในอุตสาหกรรมสุขภาพ - การโจมตีทางไซเบอร์ต่อองค์กรด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น - บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/top-us-lab-testing-firm-hit-with-major-data-leak-exposes-health-info-on-1-6-million-users
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • Trump ได้กล่าวถึง Musk ในระหว่างการประชุมกับคณะรัฐมนตรี โดยชื่นชมว่า Musk ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะ CEO ของ Tesla และ SpaceX อย่างไรก็ตาม Trump ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล แม้ว่า Musk จะมีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency ที่มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล

    Trump ยังกล่าวถึงการซื้อรถ Tesla ของเขาเอง โดยยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษใดๆ การแสดงออกนี้ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk ท่ามกลางการประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla

    ✅ ความคิดเห็นของ Trump เกี่ยวกับ Musk
    - Trump ชื่นชม Musk ว่าเป็นบุคคลที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
    - ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล

    ✅ บทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาล
    - Musk มีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency
    - โครงการนี้มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล

    ✅ การซื้อรถ Tesla ของ Trump
    - Trump ยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษ
    - การซื้อรถ Tesla ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของ Musk
    - การประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Musk
    - การสนับสนุนจาก Trump อาจเพิ่มความขัดแย้งในสังคม

    ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาล
    - การมีบทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาลอาจถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์
    - ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาลอาจถูกตั้งคำถามในแง่ความโปร่งใส

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/donald-trump-says-elon-musk-hasnt-been-treated-properly-but-he-doesnt-need-tesla-ceo-for-anything
    Trump ได้กล่าวถึง Musk ในระหว่างการประชุมกับคณะรัฐมนตรี โดยชื่นชมว่า Musk ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะ CEO ของ Tesla และ SpaceX อย่างไรก็ตาม Trump ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล แม้ว่า Musk จะมีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency ที่มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล Trump ยังกล่าวถึงการซื้อรถ Tesla ของเขาเอง โดยยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษใดๆ การแสดงออกนี้ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk ท่ามกลางการประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla ✅ ความคิดเห็นของ Trump เกี่ยวกับ Musk - Trump ชื่นชม Musk ว่าเป็นบุคคลที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม - ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล ✅ บทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาล - Musk มีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency - โครงการนี้มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล ✅ การซื้อรถ Tesla ของ Trump - Trump ยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษ - การซื้อรถ Tesla ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk ℹ️ ความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของ Musk - การประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Musk - การสนับสนุนจาก Trump อาจเพิ่มความขัดแย้งในสังคม ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาล - การมีบทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาลอาจถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ - ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาลอาจถูกตั้งคำถามในแง่ความโปร่งใส https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/donald-trump-says-elon-musk-hasnt-been-treated-properly-but-he-doesnt-need-tesla-ceo-for-anything
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Donald Trump says Elon Musk ‘hasn’t been treated properly’ but he doesn’t need Tesla CEO ‘for anything’
    Trump has been accused of using his presidency to benefit Musk, including turning the White House into a Tesla showroom during a press event last month.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ:

    Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา"

    ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้

    แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด

    ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger
    - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์

    ✅ การทำงานของแอป Nate
    - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า
    - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า

    ✅ การระดมทุนของ Nate
    - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์
    - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI
    - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI

    ℹ️ ผลกระทบต่อนักลงทุน
    - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง

    https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ: Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา" ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้ แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์ ✅ การทำงานของแอป Nate - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า ✅ การระดมทุนของ Nate - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์ - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI ℹ️ ผลกระทบต่อนักลงทุน - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Founder of Nate app faces fraud charge for using "AI" that was really human call center workers
    Saniger launched the Nate app in 2018. It promises to act as a universal shopping cart that simplifies online shopping by enabling users to skip the checkout...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยเรือนจำพิเศษธนบุรี รับตัว "ไฮโซเก๊" ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลังจากเหตุตกตึก เฝ้าระวังทำร้ายตัวเอง

    วันนี้ (10 เม.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยการรับตัว นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือ "นายฮอต" อ้างตัวเป็นไฮโซสร้างโปรไฟล์หรูดูดี หลอกลวงหญิงสาวหลายราย ซึ่งตำรวจ สน.โคกคราม คุมตัว "นายฮอต" ออกจากโรงพยาบาลไปส่งศาลอาญาตลิ่งชัน เนื่องจากมีหมายจับคดีฉ้อโกงปี 64 และมาฝากขังเรือนจำพิเศษธนบุรี ว่า วานนี้ (9 เม.ย.) เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษธนบุรีได้รับตัว นายธัญเทพ ก็มีขั้นตอนปฏิบัติตามระเบียบ ทั้ง ตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจ พิมพ์ลายนิ้วมือ และสอบถามเรื่องโรคประจำตัวแต่ได้ปฏิเสธ

    นางกนกวรรณ กล่าวว่า ก่อนถูกส่งเข้าเรือนจำฯ นายธัญเทพ มีประวัติกระโดดจากตึก 3 ชั้น ตามที่ปรากฎตามข่าวและได้รับการรักษามาก่อนเข้าเรือนจำ จึงตรวจพบแผลถลอกเล็กน้อย ได้ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลัง ซึ่งเรือนจำฯ อนุญาตให้นำยามารับประทานตามใบรับรองแพทย์ และตอนนี้เจ้าตัวยังลุกเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา เนื่องจากแจ้งว่ามีอาการปวดหลังและขาอ่อนแรง โดยเรือนจำฯ จึงนำตัวไปแยกกักโรคโควิด-19 ไว้ที่อาคารสถานพยาบาล ชั้น 1 เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และในวันนี้จะส่งพบแพทย์ซึ่งเข้าตรวจในเรือนจำทุกวัน เพื่อพิจารณาแนวทางดูแลรักษาต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034259

    #MGROnline #ไฮโซเก๊
    รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยเรือนจำพิเศษธนบุรี รับตัว "ไฮโซเก๊" ทำประวัติผู้ต้องขังใหม่ ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลังจากเหตุตกตึก เฝ้าระวังทำร้ายตัวเอง • วันนี้ (10 เม.ย.) นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยการรับตัว นายธัญเทพ ศิริทรัพย์เดชากุล หรือ "นายฮอต" อ้างตัวเป็นไฮโซสร้างโปรไฟล์หรูดูดี หลอกลวงหญิงสาวหลายราย ซึ่งตำรวจ สน.โคกคราม คุมตัว "นายฮอต" ออกจากโรงพยาบาลไปส่งศาลอาญาตลิ่งชัน เนื่องจากมีหมายจับคดีฉ้อโกงปี 64 และมาฝากขังเรือนจำพิเศษธนบุรี ว่า วานนี้ (9 เม.ย.) เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษธนบุรีได้รับตัว นายธัญเทพ ก็มีขั้นตอนปฏิบัติตามระเบียบ ทั้ง ตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจ พิมพ์ลายนิ้วมือ และสอบถามเรื่องโรคประจำตัวแต่ได้ปฏิเสธ • นางกนกวรรณ กล่าวว่า ก่อนถูกส่งเข้าเรือนจำฯ นายธัญเทพ มีประวัติกระโดดจากตึก 3 ชั้น ตามที่ปรากฎตามข่าวและได้รับการรักษามาก่อนเข้าเรือนจำ จึงตรวจพบแผลถลอกเล็กน้อย ได้ใส่อุปกรณ์ประคองกระดูกสันหลัง ซึ่งเรือนจำฯ อนุญาตให้นำยามารับประทานตามใบรับรองแพทย์ และตอนนี้เจ้าตัวยังลุกเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา เนื่องจากแจ้งว่ามีอาการปวดหลังและขาอ่อนแรง โดยเรือนจำฯ จึงนำตัวไปแยกกักโรคโควิด-19 ไว้ที่อาคารสถานพยาบาล ชั้น 1 เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และในวันนี้จะส่งพบแพทย์ซึ่งเข้าตรวจในเรือนจำทุกวัน เพื่อพิจารณาแนวทางดูแลรักษาต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034259 • #MGROnline #ไฮโซเก๊
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยความเห็นเเย้งของอธ.ดีเอสไอ ให้ฟ้อง"บอสมิน-บอสเเซม" คดีดิไอคอนฉ้อโกงประชาชน มาถึงอสส.เเล้ว ให้สำนักงานคดีชี้ขาดพิจารณาทำความเห็น ก่อนเสนออัยการสูงสุดชี้ขาด ระบุอธ.ดีเอสไอเเย้ง เพราะเชื่อ 2 บอส รู้เห็นเเผนธุรกิจเป็นเเชร์ลูกโซ่

    วันนี้ (8 เม.ย.) นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึง กรณี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีความเห็นแย้ง เห็นควรฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คดีที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสเเซม ,น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ บอสมิน ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจฯ และร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต ในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ว่า เมื่ออธิบดีดีเอสไอมีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทััง 2 คนส่งสำนวนมายังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1

    โดยเมื่ออัยการสูงสุดได้ความเห็นเเย้งจากอธิบดีดีเอสไอเเล้วก็จะส่งไปยัง สำนักงานคดีชี้ขาดอัยการสูงสุดพิจารณาความเห็นเเย้ง โดยมีเจ้าของสำนวนพิจารณาทำความเห็นส่งมายังรองอธิบดีอัยการ ผ่านอธิบดีอัยการ ไปจนถึงรองอัยการสูงสุดที่เกี่ยวข้องพิจารณาทำความเห็นก่อนเสนออัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดเป็นลำดับสุดท้าย หาก อสส.ชี้ขาดฟ้องก็จะนัดนำตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อศาล เเต่หากชี้ขาดไม่ฟ้องคดีก็จะยุติเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งขั้นตอนที่ว่ากฎหมายไม่ได้เขียนกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาเเต่ก็จะดูเรื่องอายุความในคดี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000033329

    #MGROnline #บอสมิน #บอสเเซม #คดีดิไอคอน
    โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยความเห็นเเย้งของอธ.ดีเอสไอ ให้ฟ้อง"บอสมิน-บอสเเซม" คดีดิไอคอนฉ้อโกงประชาชน มาถึงอสส.เเล้ว ให้สำนักงานคดีชี้ขาดพิจารณาทำความเห็น ก่อนเสนออัยการสูงสุดชี้ขาด ระบุอธ.ดีเอสไอเเย้ง เพราะเชื่อ 2 บอส รู้เห็นเเผนธุรกิจเป็นเเชร์ลูกโซ่ • วันนี้ (8 เม.ย.) นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึง กรณี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีความเห็นแย้ง เห็นควรฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย คดีที่อัยการสำนักงานคดีพิเศษ สั่งไม่ฟ้อง นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือบอสเเซม ,น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ บอสมิน ผู้ต้องหาในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ , ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรง ประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ดำเนินกิจการในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจฯ และร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต ในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป ว่า เมื่ออธิบดีดีเอสไอมีความเห็นแย้งคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทััง 2 คนส่งสำนวนมายังอัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาชี้ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145/1 • โดยเมื่ออัยการสูงสุดได้ความเห็นเเย้งจากอธิบดีดีเอสไอเเล้วก็จะส่งไปยัง สำนักงานคดีชี้ขาดอัยการสูงสุดพิจารณาความเห็นเเย้ง โดยมีเจ้าของสำนวนพิจารณาทำความเห็นส่งมายังรองอธิบดีอัยการ ผ่านอธิบดีอัยการ ไปจนถึงรองอัยการสูงสุดที่เกี่ยวข้องพิจารณาทำความเห็นก่อนเสนออัยการสูงสุดพิจารณาชี้ขาดเป็นลำดับสุดท้าย หาก อสส.ชี้ขาดฟ้องก็จะนัดนำตัวผู้ต้องหาไปยื่นฟ้องต่อศาล เเต่หากชี้ขาดไม่ฟ้องคดีก็จะยุติเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ซึ่งขั้นตอนที่ว่ากฎหมายไม่ได้เขียนกำหนดระยะเวลาในการพิจารณาเเต่ก็จะดูเรื่องอายุความในคดี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000033329 • #MGROnline #บอสมิน #บอสเเซม #คดีดิไอคอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มโดย Elon Musk ประกาศแผนจัด "Hackathon" เพื่อพัฒนาระบบ Mega API สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของ IRS (Internal Revenue Service) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การ รวมศูนย์ข้อมูลของ IRS บนแพลตฟอร์มคลาวด์เดียว โดยจะช่วยให้การแชร์ข้อมูลข้ามหน่วยงานทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

    ✅ เป้าหมายของการพัฒนา Mega API:
    - ระบบ Mega API นี้จะเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประกันสังคม (SSN) รายได้จากการเสียภาษี และข้อมูลการจ้างงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ

    ✅ การสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีศักยภาพ:
    - Palantir Technologies ถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นพันธมิตรรายสำคัญในการพัฒนาระบบนี้ โดยบริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และมีลูกค้ารัฐบาลจำนวนมาก

    ✅ การจัด Hackathon เพื่อผลักดันการพัฒนา:
    - DOGE ได้เชิญวิศวกร IRS หลายสิบคนร่วมกิจกรรม Hackathon ที่วอชิงตัน ดี.ซี. โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาระบบ API นี้ภายในระยะเวลา 30 วัน แม้จะมีนักวิจารณ์หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าเป็นกรอบเวลาที่สั้นเกินไปและอาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัย

    ✅ เสียงตอบรับและข้อกังวล:
    - นักวิจารณ์บางส่วนแสดงความกังวลว่า Mega API นี้อาจกลายเป็น ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่เปิดทางให้เกิดการละเมิดข้อมูล เนื่องจากการรวมศูนย์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ต้องใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวด

    ✅ สาระเพิ่มเติมที่น่าสนใจ:
    - โครงการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2025 เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียทรัพยากรในระบบรัฐ เป้าหมายของคำสั่งนี้คือการ ขจัดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความสามารถในการตรวจจับการฉ้อโกงและการใช้จ่ายเกินจำเป็น

    https://www.techradar.com/pro/doge-is-hosting-a-hackathon-to-build-a-mega-api-for-accessing-all-irs-and-taxpayer-data
    Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มโดย Elon Musk ประกาศแผนจัด "Hackathon" เพื่อพัฒนาระบบ Mega API สำหรับการเข้าถึงข้อมูลของ IRS (Internal Revenue Service) การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การ รวมศูนย์ข้อมูลของ IRS บนแพลตฟอร์มคลาวด์เดียว โดยจะช่วยให้การแชร์ข้อมูลข้ามหน่วยงานทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ✅ เป้าหมายของการพัฒนา Mega API: - ระบบ Mega API นี้จะเป็นศูนย์กลางการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล หมายเลขประกันสังคม (SSN) รายได้จากการเสียภาษี และข้อมูลการจ้างงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานรัฐ ✅ การสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีศักยภาพ: - Palantir Technologies ถูกกล่าวถึงว่าอาจเป็นพันธมิตรรายสำคัญในการพัฒนาระบบนี้ โดยบริษัทนี้มีความเชี่ยวชาญในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และมีลูกค้ารัฐบาลจำนวนมาก ✅ การจัด Hackathon เพื่อผลักดันการพัฒนา: - DOGE ได้เชิญวิศวกร IRS หลายสิบคนร่วมกิจกรรม Hackathon ที่วอชิงตัน ดี.ซี. โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาระบบ API นี้ภายในระยะเวลา 30 วัน แม้จะมีนักวิจารณ์หลายฝ่ายแสดงความกังวลว่าเป็นกรอบเวลาที่สั้นเกินไปและอาจเสี่ยงต่อปัญหาความปลอดภัย ✅ เสียงตอบรับและข้อกังวล: - นักวิจารณ์บางส่วนแสดงความกังวลว่า Mega API นี้อาจกลายเป็น ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ที่เปิดทางให้เกิดการละเมิดข้อมูล เนื่องจากการรวมศูนย์ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้ต้องใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวด ✅ สาระเพิ่มเติมที่น่าสนใจ: - โครงการนี้เกิดขึ้นหลังจาก Donald Trump ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2025 เพื่อแก้ปัญหาการสูญเสียทรัพยากรในระบบรัฐ เป้าหมายของคำสั่งนี้คือการ ขจัดความซ้ำซ้อน และเพิ่มความสามารถในการตรวจจับการฉ้อโกงและการใช้จ่ายเกินจำเป็น https://www.techradar.com/pro/doge-is-hosting-a-hackathon-to-build-a-mega-api-for-accessing-all-irs-and-taxpayer-data
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • DSI-ตร. แถลงรวบ "ฐิติพร" โบรคเกอร์ร่วมฉ้อโกง 1.6 หมื่นล้านคดีหมอบุญ วนาสิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังหลบหนีไปจีนและถูกเนรเทศส่งตัวกลับ เป็นผู้ต้องหารายที่ 14 ที่มีหมายแดงจากตำรวจสากล

    https://www.thansettakij.com/business/624423
    DSI-ตร. แถลงรวบ "ฐิติพร" โบรคเกอร์ร่วมฉ้อโกง 1.6 หมื่นล้านคดีหมอบุญ วนาสิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังหลบหนีไปจีนและถูกเนรเทศส่งตัวกลับ เป็นผู้ต้องหารายที่ 14 ที่มีหมายแดงจากตำรวจสากล https://www.thansettakij.com/business/624423
    WWW.THANSETTAKIJ.COM
    DSI แถลงจับ "โบรคเกอร์" คดีหมอบุญ เผย จีนเนรเทศกลับหลังมีหมายแดง
    DSI-ตร. แถลงรวบ "ฐิติพร โบรคเกอร์ร่วมฉ้อโกง 1.6 หมื่นล้านคดีหมอบุญ วนาสิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังหลบหนีไปจีนและถูกเนรเทศส่งตัวกลับ เป็นผู้ต้องหารายที่ 14 ที่มีหมายแดงจากตำรวจสากล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 เมษายน 2568 เวลา 22.00 น. DSI แถลงข่าวหลังจากรวบตัว"โบรกเกอร์" คนสนิทของหมอบุญ วนาสิน ที่หนีกบดานอยู่ประเทศจีน คดีร่วมกันฉ้อโกงเสียหาย 1.4 หมื่นล้านบาท กระทำความผิด ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดอื่น ที่เกี่ยวข้อง เป็นคดีพิเศษที่ 136/2567 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมาต่อมา ดีเอสไอได้ส่งสำนวนอัยการสั่งฟ้อง หมอบุญ กับพวกรวม 16 ราย ฐานฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหาย 14,246,048,033 บาททั้งนี้วันนี้มีรายงานว่า ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม เตรียมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดี "หมอบุญ วนาสิน" ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ชั้น 2 ประตู 8 ในเวลา 22.00 น. ของวันนี้ทั้งนี้ จากรายงาน คือ น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ทำหน้าที่เป็น โบรกเกอร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 4 ธ.ค. 67 โดยจับกุมได้ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือ นพ.บุญ และ น.ส.กชพร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีในต่างประเทศโดยคดีดังกล่าว นพ.บุญ พร้อมพวก ได้หลอกชักชวนผู้เสียหายลงทุนโครงการทางการแพทย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท https://www.youtube.com/live/4JOmIY3cmYY?si=7NZSfJvhF4VqErlt
    7 เมษายน 2568 เวลา 22.00 น. DSI แถลงข่าวหลังจากรวบตัว"โบรกเกอร์" คนสนิทของหมอบุญ วนาสิน ที่หนีกบดานอยู่ประเทศจีน คดีร่วมกันฉ้อโกงเสียหาย 1.4 หมื่นล้านบาท กระทำความผิด ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดอื่น ที่เกี่ยวข้อง เป็นคดีพิเศษที่ 136/2567 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมาต่อมา ดีเอสไอได้ส่งสำนวนอัยการสั่งฟ้อง หมอบุญ กับพวกรวม 16 ราย ฐานฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหาย 14,246,048,033 บาททั้งนี้วันนี้มีรายงานว่า ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม เตรียมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดี "หมอบุญ วนาสิน" ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ชั้น 2 ประตู 8 ในเวลา 22.00 น. ของวันนี้ทั้งนี้ จากรายงาน คือ น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ทำหน้าที่เป็น โบรกเกอร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 4 ธ.ค. 67 โดยจับกุมได้ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือ นพ.บุญ และ น.ส.กชพร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีในต่างประเทศโดยคดีดังกล่าว นพ.บุญ พร้อมพวก ได้หลอกชักชวนผู้เสียหายลงทุนโครงการทางการแพทย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาท https://www.youtube.com/live/4JOmIY3cmYY?si=7NZSfJvhF4VqErlt
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • DSI รวบ "โบรกเกอร์" คนสนิท หมอบุญ หนีกบดานประเทศจีน ร่วมฉ้อโกง เสียหาย 1.4 หมื่นล้านเตรียมแถลงคืนนี้ 4 ทุ่มข่าวที่เกี่ยวข้องความคืบหน้ากรณี นายแพทย์บุญ วนาสิน กับพวก ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิด ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดอื่น ที่เกี่ยวข้อง เป็นคดีพิเศษที่ 136/2567 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมาต่อมา ดีเอสไอได้ส่งสำนวนอัยการสั่งฟ้อง หมอบุญ กับพวกรวม 16 ราย ฐานฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหาย 14,246,048,033 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นล่าสุด วันที่ 7 เมษายน 2568 มีรายงานว่า ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม เตรียมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดี "หมอบุญ วนาสิน" ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ชั้น 2 ประตู 8 ในเวลา 22.00 น. ของวันนี้ทั้งนี้ จากรายงาน คือ น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ทำหน้าที่เป็น โบรกเกอร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 4 ธ.ค. 67 โดยจับกุมได้ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือ นพ.บุญ และ น.ส.กชพร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีในต่างประเทศโดยคดีดังกล่าว นพ.บุญ พร้อมพวก ได้หลอกชักชวนผู้เสียหายลงทุนโครงการทางการแพทย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาทhttps://www.amarintv.com/news/crime/511086#
    DSI รวบ "โบรกเกอร์" คนสนิท หมอบุญ หนีกบดานประเทศจีน ร่วมฉ้อโกง เสียหาย 1.4 หมื่นล้านเตรียมแถลงคืนนี้ 4 ทุ่มข่าวที่เกี่ยวข้องความคืบหน้ากรณี นายแพทย์บุญ วนาสิน กับพวก ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิด ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดอื่น ที่เกี่ยวข้อง เป็นคดีพิเศษที่ 136/2567 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมาต่อมา ดีเอสไอได้ส่งสำนวนอัยการสั่งฟ้อง หมอบุญ กับพวกรวม 16 ราย ฐานฉ้อโกงประชาชน มูลค่าความเสียหาย 14,246,048,033 บาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นล่าสุด วันที่ 7 เมษายน 2568 มีรายงานว่า ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พลตำรวจโท สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกองกิจการอำนวยความยุติธรรม เตรียมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดี "หมอบุญ วนาสิน" ที่หลบหนีไปต่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ชั้น 2 ประตู 8 ในเวลา 22.00 น. ของวันนี้ทั้งนี้ จากรายงาน คือ น.ส.ฐิติพร เฉลิมรัตนประทีป ทำหน้าที่เป็น โบรกเกอร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 4 ธ.ค. 67 โดยจับกุมได้ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน นอกจากนี้ ยังเหลือผู้ต้องหาอีก 2 ราย คือ นพ.บุญ และ น.ส.กชพร ที่อยู่ระหว่างหลบหนีในต่างประเทศโดยคดีดังกล่าว นพ.บุญ พร้อมพวก ได้หลอกชักชวนผู้เสียหายลงทุนโครงการทางการแพทย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาทhttps://www.amarintv.com/news/crime/511086#
    WWW.AMARINTV.COM
    DSI รวบ "โบรกเกอร์" คนสนิท หมอบุญ หลังหนีกบดานประเทศจีน
    DSI รวบ "โบรกเกอร์" คนสนิท หมอบุญ หนีกบดานประเทศจีน ร่วมฉ้อโกง เสียหาย 1.4 หมื่นล้านเตรียมแถลงคืนนี้ 4 ทุ่ม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • Texas State Bar ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมทางกฎหมายในรัฐเท็กซัส ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ INC ransomware โดยข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกบางส่วนถูกเปิดเผยในเว็บมืด สมาชิกได้รับคำแนะนำให้ดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น การตรวจสอบเครดิตและการแจ้งเตือนการฉ้อโกง การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลในระดับสูงเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร โดยมีความเสี่ยงที่ข้อมูลเพิ่มเติมอาจถูกเผยแพร่หากการเจรจาไม่สำเร็จ

    ✅ การโจมตีเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์
    - Texas State Bar พบ กิจกรรมที่น่าสงสัยในระบบ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2025 และใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อรักษาความปลอดภัย
    - การสืบสวนเผยว่าระบบถูกเข้าถึงอย่างไม่เหมาะสม ระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 9 กุมภาพันธ์

    ✅ แรนซัมแวร์ INC อ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
    - กลุ่มโจมตีแรนซัมแวร์ INC ransomware อ้างความรับผิดชอบและปล่อยตัวอย่างข้อมูลที่ขโมยมาบางส่วนในเว็บมืด
    - แม้ว่าความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่หลุดออกมายังไม่ได้รับการยืนยัน แต่สมาชิกที่อาจได้รับผลกระทบควรดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจตามมา

    ✅ มาตรการช่วยเหลือที่ Texas State Bar นำเสนอ
    - องค์กรเสนอ บริการตรวจสอบเครดิตและป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนตัวฟรี ผ่าน Experian จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2025
    - สมาชิกได้รับคำแนะนำให้เปิดใช้งาน credit freeze หรือแจ้งเตือนการฉ้อโกงในไฟล์เครดิตเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

    ✅ การเจรจากับผู้โจมตีและความเสี่ยงที่ตามมา
    - หากข้อมูลเพิ่มเติมถูกเปิดเผยในเว็บมืด อาจบ่งชี้ว่าการเจรจาเพื่อปล่อยข้อมูลอาจล้มเหลว
    - หน่วยงานด้านกฎหมายแนะนำว่าการจ่ายค่าไถ่ให้กลุ่มโจมตีไม่ใช่วิธีที่เหมาะสม เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงให้กับองค์กรอื่นในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/security/texas-state-bar-hit-by-possible-ransomware-attack-warns-of-data-breach
    Texas State Bar ซึ่งเป็นองค์กรควบคุมทางกฎหมายในรัฐเท็กซัส ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ INC ransomware โดยข้อมูลส่วนตัวของสมาชิกบางส่วนถูกเปิดเผยในเว็บมืด สมาชิกได้รับคำแนะนำให้ดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น การตรวจสอบเครดิตและการแจ้งเตือนการฉ้อโกง การโจมตีครั้งนี้สร้างความกังวลในระดับสูงเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กร โดยมีความเสี่ยงที่ข้อมูลเพิ่มเติมอาจถูกเผยแพร่หากการเจรจาไม่สำเร็จ ✅ การโจมตีเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ - Texas State Bar พบ กิจกรรมที่น่าสงสัยในระบบ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2025 และใช้มาตรการเร่งด่วนเพื่อรักษาความปลอดภัย - การสืบสวนเผยว่าระบบถูกเข้าถึงอย่างไม่เหมาะสม ระหว่างวันที่ 28 มกราคมถึง 9 กุมภาพันธ์ ✅ แรนซัมแวร์ INC อ้างตัวว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง - กลุ่มโจมตีแรนซัมแวร์ INC ransomware อ้างความรับผิดชอบและปล่อยตัวอย่างข้อมูลที่ขโมยมาบางส่วนในเว็บมืด - แม้ว่าความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่หลุดออกมายังไม่ได้รับการยืนยัน แต่สมาชิกที่อาจได้รับผลกระทบควรดำเนินการทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจตามมา ✅ มาตรการช่วยเหลือที่ Texas State Bar นำเสนอ - องค์กรเสนอ บริการตรวจสอบเครดิตและป้องกันการขโมยข้อมูลส่วนตัวฟรี ผ่าน Experian จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2025 - สมาชิกได้รับคำแนะนำให้เปิดใช้งาน credit freeze หรือแจ้งเตือนการฉ้อโกงในไฟล์เครดิตเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ✅ การเจรจากับผู้โจมตีและความเสี่ยงที่ตามมา - หากข้อมูลเพิ่มเติมถูกเปิดเผยในเว็บมืด อาจบ่งชี้ว่าการเจรจาเพื่อปล่อยข้อมูลอาจล้มเหลว - หน่วยงานด้านกฎหมายแนะนำว่าการจ่ายค่าไถ่ให้กลุ่มโจมตีไม่ใช่วิธีที่เหมาะสม เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงให้กับองค์กรอื่นในอนาคต https://www.techradar.com/pro/security/texas-state-bar-hit-by-possible-ransomware-attack-warns-of-data-breach
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้ใช้อำนาจให้อภัยโทษ (pardons) ให้แก่ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล BitMEX ซึ่งได้แก่ Benjamin Delo, Arthur Hayes และ Samuel Reed โดยทั้งสามเคยรับสารภาพในปี 2022 ถึงความผิดฐานละเมิดกฎหมาย Bank Secrecy Act ระหว่างปี 2015 ถึง 2020 ที่เกี่ยวข้องกับการไม่จัดทำโปรแกรมป้องกันการฟอกเงินและระบบ "รู้จักลูกค้า" (Know Your Customer หรือ KYC)

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม Crypto:
    - การให้อภัยโทษเกิดขึ้นในช่วงที่มีความหวังในวงการคริปโตเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลที่ผ่อนคลายมากขึ้นภายใต้ทรัมป์ ซึ่งเคยมีการสนับสนุนผู้บริจาคจากวงการคริปโตในช่วงหาเสียง.

    ข้อกล่าวหาในอดีต:
    - ผู้ก่อตั้ง BitMEX ถูกกล่าวหาว่าตั้งใจละเมิดกฎหมายระหว่างปี 2015-2020 โดยไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันการฟอกเงินผ่านแพลตฟอร์ม.

    การให้อภัยโทษเพิ่มเติม:
    - ทรัมป์ยังได้ให้อภัยโทษ Trevor Milton ผู้ก่อตั้งบริษัท Nikola ซึ่งล้มละลายและถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง.

    มุมมองในเชิงนโยบาย:
    - การตัดสินใจนี้อาจแสดงถึงความพยายามของทรัมป์ในการสร้างความเชื่อมั่นกับวงการเทคโนโลยีและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/trump-pardoned-bitmex-co-founders-white-house-official-says
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ได้ใช้อำนาจให้อภัยโทษ (pardons) ให้แก่ผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล BitMEX ซึ่งได้แก่ Benjamin Delo, Arthur Hayes และ Samuel Reed โดยทั้งสามเคยรับสารภาพในปี 2022 ถึงความผิดฐานละเมิดกฎหมาย Bank Secrecy Act ระหว่างปี 2015 ถึง 2020 ที่เกี่ยวข้องกับการไม่จัดทำโปรแกรมป้องกันการฟอกเงินและระบบ "รู้จักลูกค้า" (Know Your Customer หรือ KYC) ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม Crypto: - การให้อภัยโทษเกิดขึ้นในช่วงที่มีความหวังในวงการคริปโตเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลที่ผ่อนคลายมากขึ้นภายใต้ทรัมป์ ซึ่งเคยมีการสนับสนุนผู้บริจาคจากวงการคริปโตในช่วงหาเสียง. ข้อกล่าวหาในอดีต: - ผู้ก่อตั้ง BitMEX ถูกกล่าวหาว่าตั้งใจละเมิดกฎหมายระหว่างปี 2015-2020 โดยไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันการฟอกเงินผ่านแพลตฟอร์ม. การให้อภัยโทษเพิ่มเติม: - ทรัมป์ยังได้ให้อภัยโทษ Trevor Milton ผู้ก่อตั้งบริษัท Nikola ซึ่งล้มละลายและถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกง. มุมมองในเชิงนโยบาย: - การตัดสินใจนี้อาจแสดงถึงความพยายามของทรัมป์ในการสร้างความเชื่อมั่นกับวงการเทคโนโลยีและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจดิจิทัล. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/trump-pardoned-bitmex-co-founders-white-house-official-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump pardoned BitMEX co-founders, White House official says
    (Reuters) -U.S. President Donald Trump has pardoned the three co-founders of cryptocurrency exchange BitMEX, a White House official said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk เผชิญกับคดีความที่กล่าวหาว่าเขาเปิดเผยการถือหุ้นใน Twitter ช้ากว่ากำหนด เพื่อซื้อหุ้นในราคาต่ำก่อนที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้น ข้อกล่าวหาเน้นถึงการที่อดีตผู้ถือหุ้นเสียโอกาสในการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น Musk ยังถูกมองว่าทวีตข้อความที่เพิ่มความคลุมเครือเกี่ยวกับแผนการของเขาในอนาคต ทำให้ศาลกำลังพิจารณาว่าข้อกล่าวหานี้มีน้ำหนักเพียงใด

    ข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกง:
    - Musk ถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎของ SEC ที่กำหนดให้ผู้ซื้อหุ้นรายใหญ่ต้องรายงานการถือหุ้นเกิน 5% ภายในวันที่ 24 มีนาคม 2022 แต่ Musk รายงานช้ากว่าเดิมถึง 11 วัน ซึ่งผู้ถือหุ้นอ้างว่า Musk ประหยัดเงินได้มากกว่า 200 ล้านดอลลาร์จากการซื้อหุ้นในราคาต่ำ.

    ผลกระทบต่อราคาหุ้น:
    - เมื่อ Musk เปิดเผยการถือหุ้น 9.2% ในวันที่ 4 เมษายน 2022 ราคาหุ้นของ Twitter พุ่งขึ้น 27% ซึ่งทำให้อดีตผู้ถือหุ้นที่ขายหุ้นก่อนหน้าต้องเสียโอกาสในการรับผลกำไร.

    พฤติกรรมที่ทำให้เกิดข้อสงสัย:
    - ในวันที่ 26 มีนาคม 2022 Musk ทวีตเกี่ยวกับการสร้างโซเชียลมีเดียใหม่ หรืออาจซื้อ Twitter และเปลี่ยนโลโก้เป็นสุนัข Doge ข้อความเหล่านี้สร้างความคลุมเครือเกี่ยวกับเจตนาที่แท้จริงของเขา.

    คดีที่ต่อเนื่อง:
    - ศาลไม่ได้ตัดสินว่า Musk ผิดหรือไม่ แต่การร้องเรียนนี้ดำเนินการในนามของกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของความโปร่งใสในการถือหุ้นและการรายงานข้อมูล.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/elon-musk-must-face-fraud-lawsuit-over-disclosure-of-twitter-stake
    Elon Musk เผชิญกับคดีความที่กล่าวหาว่าเขาเปิดเผยการถือหุ้นใน Twitter ช้ากว่ากำหนด เพื่อซื้อหุ้นในราคาต่ำก่อนที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้น ข้อกล่าวหาเน้นถึงการที่อดีตผู้ถือหุ้นเสียโอกาสในการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้น Musk ยังถูกมองว่าทวีตข้อความที่เพิ่มความคลุมเครือเกี่ยวกับแผนการของเขาในอนาคต ทำให้ศาลกำลังพิจารณาว่าข้อกล่าวหานี้มีน้ำหนักเพียงใด ข้อกล่าวหาเรื่องการฉ้อโกง: - Musk ถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎของ SEC ที่กำหนดให้ผู้ซื้อหุ้นรายใหญ่ต้องรายงานการถือหุ้นเกิน 5% ภายในวันที่ 24 มีนาคม 2022 แต่ Musk รายงานช้ากว่าเดิมถึง 11 วัน ซึ่งผู้ถือหุ้นอ้างว่า Musk ประหยัดเงินได้มากกว่า 200 ล้านดอลลาร์จากการซื้อหุ้นในราคาต่ำ. ผลกระทบต่อราคาหุ้น: - เมื่อ Musk เปิดเผยการถือหุ้น 9.2% ในวันที่ 4 เมษายน 2022 ราคาหุ้นของ Twitter พุ่งขึ้น 27% ซึ่งทำให้อดีตผู้ถือหุ้นที่ขายหุ้นก่อนหน้าต้องเสียโอกาสในการรับผลกำไร. พฤติกรรมที่ทำให้เกิดข้อสงสัย: - ในวันที่ 26 มีนาคม 2022 Musk ทวีตเกี่ยวกับการสร้างโซเชียลมีเดียใหม่ หรืออาจซื้อ Twitter และเปลี่ยนโลโก้เป็นสุนัข Doge ข้อความเหล่านี้สร้างความคลุมเครือเกี่ยวกับเจตนาที่แท้จริงของเขา. คดีที่ต่อเนื่อง: - ศาลไม่ได้ตัดสินว่า Musk ผิดหรือไม่ แต่การร้องเรียนนี้ดำเนินการในนามของกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของความโปร่งใสในการถือหุ้นและการรายงานข้อมูล. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/elon-musk-must-face-fraud-lawsuit-over-disclosure-of-twitter-stake
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Elon Musk must face fraud lawsuit over disclosure of Twitter stake
    NEW YORK (Reuters) -A U.S. judge on Friday rejected billionaire Elon Musk's bid to dismiss a lawsuit claiming he defrauded former Twitter shareholders by waiting too long to disclose his initial investment in the social media company, now known as X.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลำพูน – ศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว สั่งจำคุก 15 ปี อดีตสาวโรงงานนิคมฯลำพูน หลอกหมอฟันสาวเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียน ลงทุนสูญ 68 ล้านบาท พ่วงคดีฟอกเงินกับพวกอีก 2 ราย พร้อมคืนเงินให้กับโจทย์ 38 ล้าน พบจำเลยนั่งรถหรูราคาหลายล้านมาฟังมาคำตัดสิน

    นางสาวจิตรลดา กัลยาธง หรือหมอนก เจ้าของคลินิกทำฟันชื่อดังในตัวเมืองลำพูน ผู้เสียหาย พร้อมญาติที่เดินทางมาฟังคำตัดสินคดีที่ถูกเพื่อนสนิทสมัยเรียนหลอกลงทุน
    นางสาวจิตรลดา กัลยาธง หรือหมอนก เจ้าของคลินิกทำฟันชื่อดังในตัวเมืองลำพูน ผู้เสียหาย พร้อมญาติที่เดินทางมาฟังคำตัดสินคดีที่ถูกเพื่อนสนิทสมัยเรียนหลอกลงทุน

    ความคืบหน้ากรณีนางสาวกบ (นามสมมุติ) อดีตพนักงานโรงงานนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ถูกฟ้องร้องฐานฉ้อโกงนางสาวจิตรลดา กัลยาธง หรือหมอนก เจ้าของคลินิกทำฟันชื่อดังในตัวเมืองลำพูน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน โดยอ้างว่าได้เปิดบริษัทรับซื้อกากอุตสาหกรรมตามโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000029230

    #MGROnline #หมอฟัน #เจ้าของคลินิกทำฟัน #ลำพูน
    ลำพูน – ศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว สั่งจำคุก 15 ปี อดีตสาวโรงงานนิคมฯลำพูน หลอกหมอฟันสาวเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียน ลงทุนสูญ 68 ล้านบาท พ่วงคดีฟอกเงินกับพวกอีก 2 ราย พร้อมคืนเงินให้กับโจทย์ 38 ล้าน พบจำเลยนั่งรถหรูราคาหลายล้านมาฟังมาคำตัดสิน • นางสาวจิตรลดา กัลยาธง หรือหมอนก เจ้าของคลินิกทำฟันชื่อดังในตัวเมืองลำพูน ผู้เสียหาย พร้อมญาติที่เดินทางมาฟังคำตัดสินคดีที่ถูกเพื่อนสนิทสมัยเรียนหลอกลงทุน นางสาวจิตรลดา กัลยาธง หรือหมอนก เจ้าของคลินิกทำฟันชื่อดังในตัวเมืองลำพูน ผู้เสียหาย พร้อมญาติที่เดินทางมาฟังคำตัดสินคดีที่ถูกเพื่อนสนิทสมัยเรียนหลอกลงทุน • ความคืบหน้ากรณีนางสาวกบ (นามสมมุติ) อดีตพนักงานโรงงานนิคมอุตสาหกรรมจังหวัดลำพูน ถูกฟ้องร้องฐานฉ้อโกงนางสาวจิตรลดา กัลยาธง หรือหมอนก เจ้าของคลินิกทำฟันชื่อดังในตัวเมืองลำพูน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยเรียน โดยอ้างว่าได้เปิดบริษัทรับซื้อกากอุตสาหกรรมตามโรงงานย่านนิคมอุตสาหกรรม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000029230 • #MGROnline #หมอฟัน #เจ้าของคลินิกทำฟัน #ลำพูน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาทนายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่าตามที่บริษัทฯ ได้แจ้งความร้องทุกข์อดีตผู้บริหารและคู่ค้าที่เกี่ยวข้องกับพวก ต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ในไตรมาส 3/2561 รวมทั้งสิ้น 8คดี ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี นั้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1926/2565 ว่า จำเลยบางคนมีความผิดฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา และ/หรือ ความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯจำนวน 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และให้นับโทษต่อจากคคีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565 อีกทั้งพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหารของบริษัทฯ อีก 1 คน เป็นระยะเวลา 2 ปี และจำคุกกรรมการบริษัทคู่ค้า 1 คน เป็นระยะเวลา 1 ปี 4 เดือน พร้อมให้นับโทษต่อจากคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.600/2565
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028902
    “ศาลอาญา” มีคำพิพากษาให้จำคุกอดีตผู้บริหาร GGC และกรรมการบริษัทคู่ค้าในคดีฉ้อโกงและละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ หลังตรวจพบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบหายไปจากระบบ มูลค่ากว่า 2,157 ล้านบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028902
    Like
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 810 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวแทนบริษัทแบรนด์เนม มันนี่ จำกัด พร้อมทนายความแจ้งความตำรวจ สน.ปทุมวัน แจ้งความเอาผิด “ดิว อริสรา” ข้อหาฉ้อโกง กรณีนำเอาสร้อย “Bvlgari” ของ "เมย์ วาสนา" มาจำนำ โดยอ้างเป็นของตัวเอง ทนายเผยแจ้งเป็นคดีอาญาไว้ก่อนแต่ยอมความได้ถ้ามาพูดคุยให้จบและเยียวยา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027655
    ตัวแทนบริษัทแบรนด์เนม มันนี่ จำกัด พร้อมทนายความแจ้งความตำรวจ สน.ปทุมวัน แจ้งความเอาผิด “ดิว อริสรา” ข้อหาฉ้อโกง กรณีนำเอาสร้อย “Bvlgari” ของ "เมย์ วาสนา" มาจำนำ โดยอ้างเป็นของตัวเอง ทนายเผยแจ้งเป็นคดีอาญาไว้ก่อนแต่ยอมความได้ถ้ามาพูดคุยให้จบและเยียวยา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027655
    Like
    Love
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 809 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 11. 00 น. ทางด้าน "ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน" ได้เดินทางมาที่สน.ปทุมวัน พร้อมกับตัวแทนของบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนักแสดงชื่อดัง "ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์" ในข้อหาฉ้อโกง โดยการเอาสร้อยของผู้อื่นมาขายฝากกับบริษัท โดยทุจริตหลอกลวงว่าเป็นของตัวเอง โดย ทนายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า ความผิดของนักแสดงสาวเข้าข่ายกฎหมายฉ้อโกงทุกประการ

    ทนาย : "ผมพาตัวแทนจากบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ มาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคุณดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ ในข้อหาฉ้อโกง เพราะตอนที่คุณดิวให้คนเอาสร้อยคอของบุลการีมาวางขายฝากกับทางบริษัท คุณดิวก็อ้างว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของตัวเขาเอง และเอามาขายฝากไว้เพื่อจะได้เงินสินเชื่อนี้ไปเป็นของตัวเอง คือปกปิดข้อเท็จจริงครับ เข้าองค์ประกอบความผิดข้อหาฉ้อโกงทุกประการ ตอนนี้ทางบริษัทต้องรักษาสิทธิตามกฎหมาย เพราะว่าบริษัทได้รับความเสียหาย จากการถูกหลอกลวงโดยทำให้เชื่อว่าทรัพย์สินนี้เป็นของลูกหนี้ และนำมาขายฝากไว้ มีสัญญาขายฝากตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 65 และมีการต่อขยายสัญญามาเรื่อยๆ ครับจนถึงสัญญาฉบับที่ 4"

    ตัวแทนบริษัท : "เรื่องของใบเซอร์ ในวันที่ 19 ส.ค. ที่นำสร้อยมาฝาก เราได้มีการสอบถามถึงใบเซอร์แล้ว ทางคุณดิวก็แจ้งว่าอยู่อีกที่นึง อย่างที่แจ้งว่าบริษัทเราทำธุรกิจที่ทำสินเชื่อเช่าซื้อแบรนด์เนมและสินเชื่อรับฝากแบรนด์เนม คือเราไม่ได้ต้องการของเพื่อจะนำไปขายต่อ แต่เราเป็นการรับฝาก ซึ่งอุปกรณ์ไม่ต้องมาครบก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ราคาก็จะลดหลั่นลงไปตามที่อุปกรณ์มี ซึ่งตอนนั้นเราได้มาแค่สร้อยกับตัวกล่องค่ะ การรับฝากแบรนด์เนมเราไม่สามารถไปเช็คจากช็อปได้ว่าของชิ้นนี้เป็นของใคร ทุกช็อปจะมีกฎของเขาในการเช็ก ซึ่งชื่อที่มาขายฝากก็เป็นชื่อคุณดิวเลยค่ะ เรามีการทำธุรกรรมถูกต้องกับคุณดิว มีการเซ็นเอกสารสัญญาถูกต้องค่ะ แต่เป็นการเซ็นออนไลน์ เราส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปค่ะ แล้วคุณดิวก็ส่งกลับมา มีเอกสารถูกต้องก็คือมีบัตรประชาชน และการลงนามถูกต้องในสัญญาค่ะ"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000027618

    #MGROnline #ดิวอริสรา #ข้อหาฉ้อโกง
    วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 11. 00 น. ทางด้าน "ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน" ได้เดินทางมาที่สน.ปทุมวัน พร้อมกับตัวแทนของบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนักแสดงชื่อดัง "ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์" ในข้อหาฉ้อโกง โดยการเอาสร้อยของผู้อื่นมาขายฝากกับบริษัท โดยทุจริตหลอกลวงว่าเป็นของตัวเอง โดย ทนายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า ความผิดของนักแสดงสาวเข้าข่ายกฎหมายฉ้อโกงทุกประการ • ทนาย : "ผมพาตัวแทนจากบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ มาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคุณดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์ ในข้อหาฉ้อโกง เพราะตอนที่คุณดิวให้คนเอาสร้อยคอของบุลการีมาวางขายฝากกับทางบริษัท คุณดิวก็อ้างว่าสร้อยเส้นนี้เป็นของตัวเขาเอง และเอามาขายฝากไว้เพื่อจะได้เงินสินเชื่อนี้ไปเป็นของตัวเอง คือปกปิดข้อเท็จจริงครับ เข้าองค์ประกอบความผิดข้อหาฉ้อโกงทุกประการ ตอนนี้ทางบริษัทต้องรักษาสิทธิตามกฎหมาย เพราะว่าบริษัทได้รับความเสียหาย จากการถูกหลอกลวงโดยทำให้เชื่อว่าทรัพย์สินนี้เป็นของลูกหนี้ และนำมาขายฝากไว้ มีสัญญาขายฝากตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 65 และมีการต่อขยายสัญญามาเรื่อยๆ ครับจนถึงสัญญาฉบับที่ 4" • ตัวแทนบริษัท : "เรื่องของใบเซอร์ ในวันที่ 19 ส.ค. ที่นำสร้อยมาฝาก เราได้มีการสอบถามถึงใบเซอร์แล้ว ทางคุณดิวก็แจ้งว่าอยู่อีกที่นึง อย่างที่แจ้งว่าบริษัทเราทำธุรกิจที่ทำสินเชื่อเช่าซื้อแบรนด์เนมและสินเชื่อรับฝากแบรนด์เนม คือเราไม่ได้ต้องการของเพื่อจะนำไปขายต่อ แต่เราเป็นการรับฝาก ซึ่งอุปกรณ์ไม่ต้องมาครบก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ราคาก็จะลดหลั่นลงไปตามที่อุปกรณ์มี ซึ่งตอนนั้นเราได้มาแค่สร้อยกับตัวกล่องค่ะ การรับฝากแบรนด์เนมเราไม่สามารถไปเช็คจากช็อปได้ว่าของชิ้นนี้เป็นของใคร ทุกช็อปจะมีกฎของเขาในการเช็ก ซึ่งชื่อที่มาขายฝากก็เป็นชื่อคุณดิวเลยค่ะ เรามีการทำธุรกรรมถูกต้องกับคุณดิว มีการเซ็นเอกสารสัญญาถูกต้องค่ะ แต่เป็นการเซ็นออนไลน์ เราส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ไปค่ะ แล้วคุณดิวก็ส่งกลับมา มีเอกสารถูกต้องก็คือมีบัตรประชาชน และการลงนามถูกต้องในสัญญาค่ะ" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000027618 • #MGROnline #ดิวอริสรา #ข้อหาฉ้อโกง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 490 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts