• จีดีพีไทยโต 2.8% แต่ชะลอตัวลง หวังท่องเที่ยวช่วยดันเศรษฐกิจ แม้ลงทุนพุ่ง ภาคบริการยังไม่ฟื้น สภาพัฒน์ฯปรับคาดการณ์จีดีพีปีนี้เป็น 1.8-2.3% ไทยโตช้าสุดในอาเซียน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078771

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    จีดีพีไทยโต 2.8% แต่ชะลอตัวลง หวังท่องเที่ยวช่วยดันเศรษฐกิจ แม้ลงทุนพุ่ง ภาคบริการยังไม่ฟื้น สภาพัฒน์ฯปรับคาดการณ์จีดีพีปีนี้เป็น 1.8-2.3% ไทยโตช้าสุดในอาเซียน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078771 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 585 มุมมอง 0 รีวิว
  • Amazon ทุ่มงบ $100 พันล้านในศูนย์ข้อมูล: มากกว่าจีดีพีของประเทศทั้งประเทศ

    ลองจินตนาการว่า Amazon ไม่ใช่แค่ร้านค้าออนไลน์หรือผู้ให้บริการคลาวด์ แต่กลายเป็น “ประเทศแห่งศูนย์ข้อมูล” ที่มีงบลงทุนสูงกว่าจีดีพีของประเทศอย่างลักเซมเบิร์ก ลิทัวเนีย หรือแม้แต่คอสตาริกา

    ข้อมูลล่าสุดจาก Omdia ระบุว่า Amazon Web Services (AWS) ใช้งบลงทุนในศูนย์ข้อมูลทะลุ $100 พันล้าน ซึ่งมากกว่าคู่แข่งอย่าง Google ($82B), Microsoft ($75B) และ Meta ($69B) อย่างชัดเจน และคาดว่าภายในปี 2025 การลงทุนทั่วโลกในศูนย์ข้อมูลจะพุ่งถึง $657 พันล้าน—เกือบสองเท่าจากปี 2023

    AWS ยังครองส่วนแบ่งตลาดคลาวด์โลกถึง 32% ในไตรมาสแรกของปี 2025 มากกว่ารวมกันของ Microsoft (23%) และ Google (12%) โดยมีการเร่งขยายบริการ AI เช่น Bedrock ที่รองรับโมเดลใหม่อย่าง Claude 3.7 และ Llama 4 พร้อมเปิดภูมิภาคคลาวด์ใหม่ในชิลีด้วยงบ $4 พันล้าน และลงทุนอีก $30 พันล้านในสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านเทคโนโลยีของรัฐบาล

    แม้จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีคำเตือนจากนักวิเคราะห์ว่า การลงทุนมหาศาลนี้อาจไม่ให้ผลตอบแทนในระยะสั้น และอาจกลายเป็นภาระทางเศรษฐกิจ หากการใช้งาน AI ไม่เติบโตตามที่คาดไว้

    การลงทุนของ Amazon ในศูนย์ข้อมูล
    AWS ใช้งบลงทุนในศูนย์ข้อมูลทะลุ $100 พันล้าน
    มากกว่าจีดีพีของประเทศอย่างคอสตาริกา ลักเซมเบิร์ก และลิทัวเนีย
    คู่แข่งอย่าง Google, Microsoft และ Meta ลงทุนน้อยกว่าชัดเจน
    คาดว่าการลงทุนทั่วโลกในปี 2025 จะพุ่งถึง $657 พันล้าน

    ส่วนแบ่งตลาดและการเติบโตของ AWS
    AWS ครองตลาดคลาวด์โลก 32% ใน Q1 2025
    รายได้ AWS โต 17.5% จากปีก่อน รวม $30.9 พันล้าน
    ขยายบริการ Bedrock รองรับ Claude 3.7 และ Llama 4
    ลงทุน $4 พันล้านเปิดภูมิภาคคลาวด์ใหม่ในชิลี
    ลงทุนเพิ่ม $30 พันล้านในสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายรัฐบาล

    ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม AI
    การลงทุนในศูนย์ข้อมูลมีผลต่อจีดีพีมากกว่าการบริโภคของประชาชน
    ความต้องการ compute สำหรับ AI ยังสูงกว่าซัพพลาย
    การพัฒนาโมเดลใหม่ เช่น GPT-5 ทำให้ต้องใช้พลังงานและพื้นที่มากขึ้น
    ผู้ให้บริการต้องลงทุนในระบบพลังงานและการระบายความร้อนใหม่

    นักวิเคราะห์บางรายกังวลว่า AI ยังไม่ให้ผลตอบแทนที่ชัดเจนในระยะสั้น
    Meta ระบุว่าระบบแนะนำแบบดั้งเดิมยังทำเงินมากกว่า generative AI
    การลงทุนมหาศาลอาจกลายเป็นภาระหาก AI ไม่เติบโตตามที่คาด
    ความหนาแน่นของ compute ใน data hall สูงขึ้น อาจกระทบระบบพลังงาน
    ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ เช่น microgrid-as-a-service เพื่อรองรับการใช้พลังงาน

    https://www.techradar.com/pro/amazons-data-center-spend-tops-usd100bn-more-than-the-gdp-of-most-countries
    🏗️ Amazon ทุ่มงบ $100 พันล้านในศูนย์ข้อมูล: มากกว่าจีดีพีของประเทศทั้งประเทศ ลองจินตนาการว่า Amazon ไม่ใช่แค่ร้านค้าออนไลน์หรือผู้ให้บริการคลาวด์ แต่กลายเป็น “ประเทศแห่งศูนย์ข้อมูล” ที่มีงบลงทุนสูงกว่าจีดีพีของประเทศอย่างลักเซมเบิร์ก ลิทัวเนีย หรือแม้แต่คอสตาริกา ข้อมูลล่าสุดจาก Omdia ระบุว่า Amazon Web Services (AWS) ใช้งบลงทุนในศูนย์ข้อมูลทะลุ $100 พันล้าน ซึ่งมากกว่าคู่แข่งอย่าง Google ($82B), Microsoft ($75B) และ Meta ($69B) อย่างชัดเจน และคาดว่าภายในปี 2025 การลงทุนทั่วโลกในศูนย์ข้อมูลจะพุ่งถึง $657 พันล้าน—เกือบสองเท่าจากปี 2023 AWS ยังครองส่วนแบ่งตลาดคลาวด์โลกถึง 32% ในไตรมาสแรกของปี 2025 มากกว่ารวมกันของ Microsoft (23%) และ Google (12%) โดยมีการเร่งขยายบริการ AI เช่น Bedrock ที่รองรับโมเดลใหม่อย่าง Claude 3.7 และ Llama 4 พร้อมเปิดภูมิภาคคลาวด์ใหม่ในชิลีด้วยงบ $4 พันล้าน และลงทุนอีก $30 พันล้านในสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านเทคโนโลยีของรัฐบาล แม้จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีคำเตือนจากนักวิเคราะห์ว่า การลงทุนมหาศาลนี้อาจไม่ให้ผลตอบแทนในระยะสั้น และอาจกลายเป็นภาระทางเศรษฐกิจ หากการใช้งาน AI ไม่เติบโตตามที่คาดไว้ ✅ การลงทุนของ Amazon ในศูนย์ข้อมูล ➡️ AWS ใช้งบลงทุนในศูนย์ข้อมูลทะลุ $100 พันล้าน ➡️ มากกว่าจีดีพีของประเทศอย่างคอสตาริกา ลักเซมเบิร์ก และลิทัวเนีย ➡️ คู่แข่งอย่าง Google, Microsoft และ Meta ลงทุนน้อยกว่าชัดเจน ➡️ คาดว่าการลงทุนทั่วโลกในปี 2025 จะพุ่งถึง $657 พันล้าน ✅ ส่วนแบ่งตลาดและการเติบโตของ AWS ➡️ AWS ครองตลาดคลาวด์โลก 32% ใน Q1 2025 ➡️ รายได้ AWS โต 17.5% จากปีก่อน รวม $30.9 พันล้าน ➡️ ขยายบริการ Bedrock รองรับ Claude 3.7 และ Llama 4 ➡️ ลงทุน $4 พันล้านเปิดภูมิภาคคลาวด์ใหม่ในชิลี ➡️ ลงทุนเพิ่ม $30 พันล้านในสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายรัฐบาล ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม AI ➡️ การลงทุนในศูนย์ข้อมูลมีผลต่อจีดีพีมากกว่าการบริโภคของประชาชน ➡️ ความต้องการ compute สำหรับ AI ยังสูงกว่าซัพพลาย ➡️ การพัฒนาโมเดลใหม่ เช่น GPT-5 ทำให้ต้องใช้พลังงานและพื้นที่มากขึ้น ➡️ ผู้ให้บริการต้องลงทุนในระบบพลังงานและการระบายความร้อนใหม่ ⛔ นักวิเคราะห์บางรายกังวลว่า AI ยังไม่ให้ผลตอบแทนที่ชัดเจนในระยะสั้น ⛔ Meta ระบุว่าระบบแนะนำแบบดั้งเดิมยังทำเงินมากกว่า generative AI ⛔ การลงทุนมหาศาลอาจกลายเป็นภาระหาก AI ไม่เติบโตตามที่คาด ⛔ ความหนาแน่นของ compute ใน data hall สูงขึ้น อาจกระทบระบบพลังงาน ⛔ ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีใหม่ เช่น microgrid-as-a-service เพื่อรองรับการใช้พลังงาน https://www.techradar.com/pro/amazons-data-center-spend-tops-usd100bn-more-than-the-gdp-of-most-countries
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศรษฐกิจไทย ได้ไปต่อ!? : [Biz Talk]

    ขานรับอัตราภาษีสหรัฐ 19% หนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รักษาขีดแข่งขันไทย/กระทรวงการคลัง เพิ่มเป้าส่งออกไทยทั้งปี 68 จาก 2.3% เป็น 5.5% ,เพิ่มเป้าจีดีพีปี 68 จาก 2.1 % เป็น 2.2% สอดคล้องคาดการณ์ของไอเอ็มเอฟ ที่เพิ่มเป้าจีดีพีไทยปี 68 จาก 1.8% เป็น 2.0 %
    เศรษฐกิจไทย ได้ไปต่อ!? : [Biz Talk] ขานรับอัตราภาษีสหรัฐ 19% หนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ รักษาขีดแข่งขันไทย/กระทรวงการคลัง เพิ่มเป้าส่งออกไทยทั้งปี 68 จาก 2.3% เป็น 5.5% ,เพิ่มเป้าจีดีพีปี 68 จาก 2.1 % เป็น 2.2% สอดคล้องคาดการณ์ของไอเอ็มเอฟ ที่เพิ่มเป้าจีดีพีไทยปี 68 จาก 1.8% เป็น 2.0 %
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 348 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ปัญหาการค้าโลก ยังไม่สุด มาเจอปัญหาการเมืองภายใน คลิปสนทนาปมกัมพูชา ฉุดอีก /ทำเสถียรภาพรัฐบาล สั่นคลอน นำมาซึ่งการนัดชุมนุมใหญ่ ขับไล่ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ออกจากตำแหน่ง นายกฯ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ม.หอการค้า ประเมินกรณีฐาน นายกฯอยู่ถึงสิ้นปี 68 จีดีพีโต 1.7 % กรณีแย่สุด ‘ยุบสภา’ จีดีพีปี 68 อาจโตเพียง 0.9%
    ปัญหาการค้าโลก ยังไม่สุด มาเจอปัญหาการเมืองภายใน คลิปสนทนาปมกัมพูชา ฉุดอีก /ทำเสถียรภาพรัฐบาล สั่นคลอน นำมาซึ่งการนัดชุมนุมใหญ่ ขับไล่ ‘แพทองธาร ชินวัตร’ ออกจากตำแหน่ง นายกฯ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ม.หอการค้า ประเมินกรณีฐาน นายกฯอยู่ถึงสิ้นปี 68 จีดีพีโต 1.7 % กรณีแย่สุด ‘ยุบสภา’ จีดีพีปี 68 อาจโตเพียง 0.9%
    Like
    Love
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 836 มุมมอง 66 0 รีวิว
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 3/68 มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.75% และปรับเป้าจีดีพีไทยปี 68 โตเพิ่มเป็น 2.3% หลังเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรก ดีกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนปี 69 โตลดลงเหลือ 1.7% จากผลกระทบสงครามการค้า
    คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 3/68 มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.75% และปรับเป้าจีดีพีไทยปี 68 โตเพิ่มเป็น 2.3% หลังเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรก ดีกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนปี 69 โตลดลงเหลือ 1.7% จากผลกระทบสงครามการค้า
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 620 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • ใกล้เส้นตาย! ภาษีทรัมป์ : [Biz Talk]

    มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะสิ้นสุดช่วงผ่อนปรน ต้น ก.ค.68 ขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอน ยังไม่มีความชัดเจนว่า ไทย จะถูกเรียกเก็บภาษีอัตราใด? ทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง เสี่ยงเกิดภาวะถดถอยทางเทคนิค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองจีดีพีไทยทั้งปี 68 โตเพียง 1.4%
    ใกล้เส้นตาย! ภาษีทรัมป์ : [Biz Talk] มาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะสิ้นสุดช่วงผ่อนปรน ต้น ก.ค.68 ขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอน ยังไม่มีความชัดเจนว่า ไทย จะถูกเรียกเก็บภาษีอัตราใด? ทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง เสี่ยงเกิดภาวะถดถอยทางเทคนิค ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองจีดีพีไทยทั้งปี 68 โตเพียง 1.4%
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 549 มุมมอง 32 0 รีวิว
  • ศึกใน ศึกนอก รุมยำ เศรษฐกิจไทย น่วม! : [Biz Talk]
    เศรษฐกิจไทย เหนื่อย!! เจอสารพัดปัจจัยลบ ทำจีดีพี 68-69 ตกต่ำโตไม่ถึง 2% จากสงครามการค้า&แผลเป็นเศรษฐกิจเรื้อรัง แรงส่งสำคัญแผ่ว ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธ.ไทยพาณิชย์(SCB EIC) คงมุมมองเศรษฐกิจไทยปี68 โต 1.5% ต่ำต่อเนื่องไปปี 69 ที่โตเพียง 1.4%
    ศึกใน ศึกนอก รุมยำ เศรษฐกิจไทย น่วม! : [Biz Talk] เศรษฐกิจไทย เหนื่อย!! เจอสารพัดปัจจัยลบ ทำจีดีพี 68-69 ตกต่ำโตไม่ถึง 2% จากสงครามการค้า&แผลเป็นเศรษฐกิจเรื้อรัง แรงส่งสำคัญแผ่ว ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธ.ไทยพาณิชย์(SCB EIC) คงมุมมองเศรษฐกิจไทยปี68 โต 1.5% ต่ำต่อเนื่องไปปี 69 ที่โตเพียง 1.4%
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 805 มุมมอง 42 0 รีวิว
  • เลขาธิการนาโต้กดดันให้สมาชิกเพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร หรือไม่ก็เตรียมตัวเรียนภาษารัสเซียรอได้เลย!!

    มาร์ก รุตเต้ (Mark Rutte) เลขาธิการนาโต้ กล่าวปราศรัยที่ London’s Chatham House ในระหว่างการเยือนอังกฤษ โดยพยายามผลักดันให้ชาติสมาชิกนาโต้เพิ่มงบประมาณด้านการทหารไปที่ 5% ของจีดีพี

    รุตเต้ยกตัวอย่างของอังกฤษ หากไม่ยอมเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารให้มากว่าปัจจุบันแบบก้าวกระโดด ชาวอังกฤษควรไปหัดพูดภาษารัสเซียกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย (ปัจจุบัน งบฯการทหารของอังกฤษอยู่ที่ 2.3%)


    เลขธิการนาโต้ยังเตือนถึงภัยคุกคามด้านขีปนาวุธของรัสเซียที่มีศักยภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเรียกร้องให้เพิ่มงบฯในด้านการป้องกันทางอากาศอีก 400%


    รุตเต้ ยังให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า ปัจจุบัน รัสเซียสามารถผลิตกระสุนปืนใหญ่ได้มากกว่าชาติสมาชิกนาโต้ทั้งหมดรวมกันถึง 3 เท่า เครื่องกระสุนมากกว่า 4 เท่า โดยมีต้นทุนน้อยกว่า 10 เท่า

    “รัสเซียผลิตได้ภายใน 3 เดือน เท่ากับที่นาโต้ผลิตได้ใน 1 ปี คาดว่ารัสเซียจะผลิตรถถังได้ 1,500 คัน ยานยนต์ 3,000 คัน และขีปนาวุธ Iskander 200 ลูกภายในปีเดียว และรัสเซียอาจพร้อมใช้กำลังทหารโจมตีนาโต้ได้ภายใน 5 ปี” รุตเต้กล่าว
    เลขาธิการนาโต้กดดันให้สมาชิกเพิ่มการใช้จ่ายทางทหาร หรือไม่ก็เตรียมตัวเรียนภาษารัสเซียรอได้เลย!! มาร์ก รุตเต้ (Mark Rutte) เลขาธิการนาโต้ กล่าวปราศรัยที่ London’s Chatham House ในระหว่างการเยือนอังกฤษ โดยพยายามผลักดันให้ชาติสมาชิกนาโต้เพิ่มงบประมาณด้านการทหารไปที่ 5% ของจีดีพี รุตเต้ยกตัวอย่างของอังกฤษ หากไม่ยอมเพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหารให้มากว่าปัจจุบันแบบก้าวกระโดด ชาวอังกฤษควรไปหัดพูดภาษารัสเซียกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย (ปัจจุบัน งบฯการทหารของอังกฤษอยู่ที่ 2.3%) เลขธิการนาโต้ยังเตือนถึงภัยคุกคามด้านขีปนาวุธของรัสเซียที่มีศักยภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเรียกร้องให้เพิ่มงบฯในด้านการป้องกันทางอากาศอีก 400% รุตเต้ ยังให้ข้อมูลเพิ่มอีกว่า ปัจจุบัน รัสเซียสามารถผลิตกระสุนปืนใหญ่ได้มากกว่าชาติสมาชิกนาโต้ทั้งหมดรวมกันถึง 3 เท่า เครื่องกระสุนมากกว่า 4 เท่า โดยมีต้นทุนน้อยกว่า 10 เท่า “รัสเซียผลิตได้ภายใน 3 เดือน เท่ากับที่นาโต้ผลิตได้ใน 1 ปี คาดว่ารัสเซียจะผลิตรถถังได้ 1,500 คัน ยานยนต์ 3,000 คัน และขีปนาวุธ Iskander 200 ลูกภายในปีเดียว และรัสเซียอาจพร้อมใช้กำลังทหารโจมตีนาโต้ได้ภายใน 5 ปี” รุตเต้กล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ เตือนภัยคุกคามยุคใหม่ร้ายแรงยิ่งกว่าสมัยสงครามเย็น เร่งปฏิรูปกองทัพ เตรียมพร้อมรบเต็มรูปแบบ เน้นบทบาทนาโต-เร่งผลิตอาวุธ เสริมงบกลาโหมสู่ 2.5% ของจีดีพีภายในปี 2027 พร้อมเดินหน้าสร้างเรือดำน้ำ AUKUS และกองบัญชาการไซเบอร์รับมือภัยคุกคามจากรัสเซียและสงครามอนาคต
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051825

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ เตือนภัยคุกคามยุคใหม่ร้ายแรงยิ่งกว่าสมัยสงครามเย็น เร่งปฏิรูปกองทัพ เตรียมพร้อมรบเต็มรูปแบบ เน้นบทบาทนาโต-เร่งผลิตอาวุธ เสริมงบกลาโหมสู่ 2.5% ของจีดีพีภายในปี 2027 พร้อมเดินหน้าสร้างเรือดำน้ำ AUKUS และกองบัญชาการไซเบอร์รับมือภัยคุกคามจากรัสเซียและสงครามอนาคต . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051825 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    11
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1222 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามการค้าป่วนโลก ทางลงจบแจกเงินหมื่น : [NEWS UPDATE]

    นายพิชัย ชุณวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบชะลอโครงการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะเหมาะสม ยืนยัน งบประมาณมีอยู่แล้วเพียงแต่จะใช้อย่างไรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ตอนที่คิดเรื่องเงินดิจิทัลคาดว่าจีดีพีอยู่ที่ 3.3-3.5% แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนมีข้อจำกัดปัจจัยนอกประเทศ สงครามการค้า ซึ่งกระทบในประเทศ จึงต้องปรับแผนการใช้เงิน เพื่อนำงบประมาณที่เคยกันไว้ 157,000 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการจำเป็นเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค การคมนาคม รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ถนนหนทางให้ดีขึ้น และใช้กระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ช่วยเหลือการส่งออก

    -ทิดแย้มเปย์ 100 ล้าน

    -เตือนใช้จ่ายรอบคอบ

    -ห่วงมรสุมเป็นไซโคลน

    -70 คำร้องจริยธรรม
    สงครามการค้าป่วนโลก ทางลงจบแจกเงินหมื่น : [NEWS UPDATE] นายพิชัย ชุณวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบชะลอโครงการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตไว้ก่อน จนกว่าสถานการณ์จะเหมาะสม ยืนยัน งบประมาณมีอยู่แล้วเพียงแต่จะใช้อย่างไรให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ตอนที่คิดเรื่องเงินดิจิทัลคาดว่าจีดีพีอยู่ที่ 3.3-3.5% แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนมีข้อจำกัดปัจจัยนอกประเทศ สงครามการค้า ซึ่งกระทบในประเทศ จึงต้องปรับแผนการใช้เงิน เพื่อนำงบประมาณที่เคยกันไว้ 157,000 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการจำเป็นเร่งด่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค การคมนาคม รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ ถนนหนทางให้ดีขึ้น และใช้กระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ช่วยเหลือการส่งออก -ทิดแย้มเปย์ 100 ล้าน -เตือนใช้จ่ายรอบคอบ -ห่วงมรสุมเป็นไซโคลน -70 คำร้องจริยธรรม
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 961 มุมมอง 19 0 รีวิว
  • ‘กระสุนการเงิน’ รับมือเหตุ Shockโลก! : [Biz Talk]
    ‘ลงทุนชะลอ’ ต้นตอฉุด ศักยภาพเศรษฐกิจ ธปท.จำเป็นต้องเก็บกระสุนนโยบายการเงิน ไว้รับมือความเสี่ยงจากสงครามการค้า ที่ไม่แน่นอนสูง  ประเมินจีดีพีไทยไตรมาสแรกปี68 ยังออกมาดี ขณะที่พิษสงครามการค้า จะส่งผลตั้งแต่ไตรมาส 2
    ‘กระสุนการเงิน’ รับมือเหตุ Shockโลก! : [Biz Talk] ‘ลงทุนชะลอ’ ต้นตอฉุด ศักยภาพเศรษฐกิจ ธปท.จำเป็นต้องเก็บกระสุนนโยบายการเงิน ไว้รับมือความเสี่ยงจากสงครามการค้า ที่ไม่แน่นอนสูง  ประเมินจีดีพีไทยไตรมาสแรกปี68 ยังออกมาดี ขณะที่พิษสงครามการค้า จะส่งผลตั้งแต่ไตรมาส 2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 899 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • ภาษีทรัมป์ ทำการค้าโลก ปั่นป่วน! : [Biz Talk]

    เศรษฐกิจโลกเปราะบาง ท่ามกลางความเสี่ยงนโยบายภาษีสหรัฐ ภาคเอกชน ประเมินหากไทย ถูกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ที่ 10% จีดีพีปี68โตลดลงเหลือ 2-2.2% แต่หากถูกเรียกเก็บภาษี 36% จีดีพีไทยปีนี้ โตเพียง 0.7-1.4% มูลค่าส่งออกไทยไปสหรัฐฯ อาจหายไป 1.4 ล้านล้านบาท ภายใน 10 ปี
    ภาษีทรัมป์ ทำการค้าโลก ปั่นป่วน! : [Biz Talk] เศรษฐกิจโลกเปราะบาง ท่ามกลางความเสี่ยงนโยบายภาษีสหรัฐ ภาคเอกชน ประเมินหากไทย ถูกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ที่ 10% จีดีพีปี68โตลดลงเหลือ 2-2.2% แต่หากถูกเรียกเก็บภาษี 36% จีดีพีไทยปีนี้ โตเพียง 0.7-1.4% มูลค่าส่งออกไทยไปสหรัฐฯ อาจหายไป 1.4 ล้านล้านบาท ภายใน 10 ปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 729 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที่ พร้อมปรับลด เพราะความเสี่ยงจากนโยบายการค้าโลกและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง สินเชื่อหดตัว เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงจะพิจารณาปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าหากมีความรุ่นแรงกว่าที่คาด ส่งผลให้จีดีพีไทยปี 2668 หดเหลือ1.3 %จากที่ประเมินไว้ 2 %

    นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 30 เมษายน 2568

    คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000040531

    #MGROnline #คณะกรรมการนโยบายการเงิน #ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที่ พร้อมปรับลด เพราะความเสี่ยงจากนโยบายการค้าโลกและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง สินเชื่อหดตัว เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงจะพิจารณาปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าหากมีความรุ่นแรงกว่าที่คาด ส่งผลให้จีดีพีไทยปี 2668 หดเหลือ1.3 %จากที่ประเมินไว้ 2 % • นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 30 เมษายน 2568 • คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000040531 • #MGROnline #คณะกรรมการนโยบายการเงิน #ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 493 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทย เกิดจากนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 29 เม.ย. มูดี้ส์ลดอันดับอนาคตของไทยจากสถานะ “ทรงตัว” เป็น “โน้มลง” ถึงแม้ระดับเรตติ้งจะคงเดิมก็ตาม (Baa1)นักวิเคราะห์บางคนเข้าใจว่า เกิดจากปัจจัยภาษีทรัมป์ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาล โดยอาจดูจากคำบรรยาย[The already announced US tariffs are likely to weigh significantly on global trade and global economic growth, and which will affect Thailand's open economy. In addition, there remains significant uncertainty as to whether the US will implement additional tariffs on Thailand and other countries, after the 90-day pause elapse.][ภาษีทรัมป์จะกระทบเศรษฐกิจการค้าโลก และจะกระทบไทยเนื่องจากมีการส่งออกมาก รวมทั้งไม่ชัดเจนว่า เมื่อครบ 90 วัน สหรัฐจะยังเก็บภาษีตอบโต้เท่าใด]**แต่ในข้อเท็จจริง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ใช้พิจารณานั้น อยู่ที่นโยบายรัฐบาล ดังเห็นได้ว่า คำอธิบายเหตุผลเริ่มต้นว่า[The decision to change the outlook to negative from stable captures the risks that Thailand's economic and fiscal strength will weaken further.][เหตุผลที่เราลดอันดับ เนื่องจากไทยมีความเสี่ยงทั้งด้านเศรษฐกิจและฐานะการคลังมีแนวโน้มจะเลวลง][This shock exacerbates Thailand's already sluggish economic recovery post-pandemic, and risk aggravating the trend decline in the country's potential growth. Material downward pressures on Thailand's growth raises risks of further weakening in the government's fiscal position, which has already deteriorated since the pandemic.][เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวหลังวิกฤตโควิดอย่างอืดอาด และศักยภาพการเติบโตมีแนวโน้มต่ำลง ซึ่งจะยิ่งทำให้ฐานะการคลังที่อ่อนแออยู่แล้วตั้งแต่โควิด จะเลวลงไปอีก]**นี่เอง ปัจจัยหลักที่ มูดี้ส์ ลดอันดับอนาคตไทย ก็เนื่องจากความเป็นห่วงในฐานะการคลัง **ซึ่งรัฐบาลมีรายจ่ายเกินรายได้ > ทำให้ขาดดุลงบประมาณทุกปี > ประกอบกับรัฐบาลนี้และรัฐบาลก่อนหน้ากู้เงินมาแจกหมื่น > เพื่อกินใช้รายวัน > โดยไม่กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน > ถึงแม้ จีดีพีเพิ่มบ้างเล็กน้อยก็เป็นแบบไฟไหม้ฟาง วูบเดียวก็หมดไป**อย่างไรก็ดี มูดี้ส์ ให้คะแนน 3 ปัจจัยบวกหนึ่ง แบงค์ชาติและระบบราชการน่าเชื่อถือ[The affirmation of the Baa1 ratings reflects the country's moderately strong institutions and governance which support sound monetary and macroeconomic policies.][เรายังคงอันดับเครดิตไว้ที่ Baa1 เพราะองค์กรด้านนโยบายการเงินและพัฒนาเศรษฐกิจยังพอจะสามารถประคองความน่าเชื่อถือ]**ผมเพิ่มเติมว่า คือสังคมไทยยังช่วยกันคัดค้านการแทรกแซงที่ไม่ถูกต้องสอง มีการพัฒนาตลาดพันธบัตรดี[The Baal ratings also take into account Thailand's moderately strong debt affordability - despite the sharp increase in government debt since the pandemic - supported by its deep domestic markets and the fact that its government debt is almost entirely denominated in local currency.][และถึงแม้รัฐบาลจะกู้เงินมากแล้วตั้งแต่วิกฤตโควิด ตลาดพันธบัตรไทยได้พัฒนาจนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับการกู้เพิ่มได้ การที่หนี้สาธารณะเกือบทั้งหมดเป็นสกุลบาท (ทำให้รัฐบาลไม่มีความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน)]**ผมเพิ่มเติมว่า บุคคลหลักที่สร้างรากฐานตลาดพันธบัตรไทยคือ 2 อดีตผู้ว่าฯ ม.ร.ว.จตุมงคล และ ม.ร.ว.ปรีดียาธร โดยผมรับลูกในตำแหน่งเลขา ก.ล.ต.สาม มีทุนสำรองมั่นคง[Moreover, Thailand has a strong external position, with ample foreign exchange reserves buffer.][และไทยมีทุนสำรองมากพอ ฐานะหนี้สกุลต่างประเทศต่ำ]ผมจึงขอแนะนำให้รัฐบาลนำข้อวิเคราะห์เหล่านี้ไปปรับปรุงนโยบายเป็นการด่วนวันที่ 30 เมษายน 2568นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรคฝ่ายเศรษฐกิจ พรรคพลังประชารัฐ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 945 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จุลพันธ์" ยัน เอนเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการพนัน โต้เวิลด์แบงก์ มองลดจีดีพีไทยเร็วเกินไป
    https://www.thai-tai.tv/news/18404/
    "จุลพันธ์" ยัน เอนเตอร์เมนต์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการพนัน โต้เวิลด์แบงก์ มองลดจีดีพีไทยเร็วเกินไป https://www.thai-tai.tv/news/18404/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เวิลด์แบงก์" หั่น "จีดีพี" ไทยปี 68 โตชะลอเหลือ 1.6% ต่ำสุดในภูมิภาค
    https://www.thai-tai.tv/news/18385/
    "เวิลด์แบงก์" หั่น "จีดีพี" ไทยปี 68 โตชะลอเหลือ 1.6% ต่ำสุดในภูมิภาค https://www.thai-tai.tv/news/18385/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฐานะการคลังของไทย แย่แล้ว!? : [Biz Talk]

    ‘ฐานะการคลังแน่นปึ้ก’คำยืนยันจาก ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ระบุแม้เศรษฐกิจชะลอตัว ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน แต่ฐานะการคลังของไทย ยังแข็งแกร่ง และยังไม่จำเป็นต้องขยายกรอบเพดานหนี้สาธารณะ /หากรัฐบาล มีแนวคิดกู้เงินเพิ่ม และทำให้หนี้สาธารณะเกินเพดาน 70% ต่อจีดีพี กฎหมายระบุชัด มีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง?
    ฐานะการคลังของไทย แย่แล้ว!? : [Biz Talk] ‘ฐานะการคลังแน่นปึ้ก’คำยืนยันจาก ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ระบุแม้เศรษฐกิจชะลอตัว ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน แต่ฐานะการคลังของไทย ยังแข็งแกร่ง และยังไม่จำเป็นต้องขยายกรอบเพดานหนี้สาธารณะ /หากรัฐบาล มีแนวคิดกู้เงินเพิ่ม และทำให้หนี้สาธารณะเกินเพดาน 70% ต่อจีดีพี กฎหมายระบุชัด มีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง?
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 840 มุมมอง 46 0 รีวิว
  • รัฐบาลถึงเวลา แก้เกมสหรัฐ ก่อนจีดีพีไทยวูบ
    .
    ยิ่งนานวันเริ่มมีกระแสกดดันมายังรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ภายหลังผู้นำสหรัฐอเมริกาเล่นเกมแรงด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเทศไทยถึง 36% ล่าสุด นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) แสดงความคิดเห็นว่า ไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อม สำหรับผลกระทบทางตรง คือ การส่งออกไทยอาจจะลดลงเนื่องสหรัฐฯ หันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งที่ขายราคาถูกและมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าไทย และสหรัฐฯ อาจลดนำเข้าจากทุประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ด้วย ทั้งนี้ไทยพึ่งสหรัฐฯ สูงถึง 18% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง โทรศัพท์

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033299

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รัฐบาลถึงเวลา แก้เกมสหรัฐ ก่อนจีดีพีไทยวูบ . ยิ่งนานวันเริ่มมีกระแสกดดันมายังรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ภายหลังผู้นำสหรัฐอเมริกาเล่นเกมแรงด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเทศไทยถึง 36% ล่าสุด นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) แสดงความคิดเห็นว่า ไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อม สำหรับผลกระทบทางตรง คือ การส่งออกไทยอาจจะลดลงเนื่องสหรัฐฯ หันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งที่ขายราคาถูกและมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าไทย และสหรัฐฯ อาจลดนำเข้าจากทุประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ด้วย ทั้งนี้ไทยพึ่งสหรัฐฯ สูงถึง 18% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง โทรศัพท์ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033299 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 837 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลถึงเวลา แก้เกมสหรัฐ ก่อนจีดีพีไทยวูบ
    .
    ยิ่งนานวันเริ่มมีกระแสกดดันมายังรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ภายหลังผู้นำสหรัฐอเมริกาเล่นเกมแรงด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเทศไทยถึง 36% ล่าสุด นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) แสดงความคิดเห็นว่า ไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อม สำหรับผลกระทบทางตรง คือ การส่งออกไทยอาจจะลดลงเนื่องสหรัฐฯ หันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งที่ขายราคาถูกและมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าไทย และสหรัฐฯ อาจลดนำเข้าจากทุประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ด้วย ทั้งนี้ไทยพึ่งสหรัฐฯ สูงถึง 18% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง โทรศัพท์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033297

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รัฐบาลถึงเวลา แก้เกมสหรัฐ ก่อนจีดีพีไทยวูบ . ยิ่งนานวันเริ่มมีกระแสกดดันมายังรัฐบาลไทยอย่างต่อเนื่อง ภายหลังผู้นำสหรัฐอเมริกาเล่นเกมแรงด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าประเทศไทยถึง 36% ล่าสุด นายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) แสดงความคิดเห็นว่า ไทยจะได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและอ้อม สำหรับผลกระทบทางตรง คือ การส่งออกไทยอาจจะลดลงเนื่องสหรัฐฯ หันไปนำเข้าจากประเทศคู่แข่งที่ขายราคาถูกและมีภาษีนำเข้าต่ำกว่าไทย และสหรัฐฯ อาจลดนำเข้าจากทุประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้ด้วย ทั้งนี้ไทยพึ่งสหรัฐฯ สูงถึง 18% โดยสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยาง โทรศัพท์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000033297 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1969 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พิชัย' โต้ 'ศิริกัญญา' พูดให้ดูเศรษฐกิจแย่ไปหมด รับโตช้าแต่มั่นใจ 'จีดีพี' ถึงเป้า
    https://www.thai-tai.tv/news/17827/
    'พิชัย' โต้ 'ศิริกัญญา' พูดให้ดูเศรษฐกิจแย่ไปหมด รับโตช้าแต่มั่นใจ 'จีดีพี' ถึงเป้า https://www.thai-tai.tv/news/17827/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • TDRI เตือนรัฐหยุดแจกเงินดิจิทัล หลังไปไม่ช่วยกระตุ้น ศก. แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน

    (21 มี.ค. 68) ดร.สมชัย จิตสุชน เตือนรัฐ หยุดเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลในเฟสต่อไป แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน ขณะที่เฟส 3 หนุนทบทวนเงื่อนไขเปิดทางใช้เงินหมื่นซื้อคอร์สอัปสกิล-รีสกิลได้ หวังพัฒนาทักษะคน เตือน รัฐบาลรับมือเศรษฐกิจซบเซา จากปัจจัยภายนอก-ในประเทศ โดยเฉพาะความปั่นป่วนจากสงครามการค้า – หนี้ครัวเรือนสูง ห่วงภาระการคลัง ทำเรตติงประเทศตก

    ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัลเฟส 3 ที่ให้กับผู้มีอายุ 16-20 ปีว่า มีการคาดการณ์กันว่าในเฟสที่ 3 นี้อาจได้ผลบ้าง เพราะกลุ่มคนที่แจกยังไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ที่ไม่มากนัก เมื่อได้เงินมาอาจจะใช้เร็ว แต่เชื่อว่าไม่น่าจะได้ผลมากกว่าเฟส 1 ที่มอบให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มเปราะบาง อย่างไรก็ตามหากอยากให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจริง ๆ รัฐบาลควรละทิ้งแนวคิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวมากขึ้น และไม่ควรเปิดทางให้นำเงินจำนวนนี้ไปซื้ออะไรก็ได้ แต่ควรกำหนดให้ใช้ไปกับการหาความรู้ อัปสกิล รีสกิล ซึ่งเหมาะสมกับกลุ่มเยาวชนพอดี เพราะเป็นกลุ่มที่กำลังจะเข้าสู่กำลังแรงงานซึ่งอาจจะนำเงินจำนวนนี้ไปเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติมให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งแม้จะไม่เห็นผลในระยะสั้นมากนัก แต่ผลในระยะยาวจะดีกว่ากันมากเพราะเป็นการดึงศักยภาพของคนซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยได้ประโยชน์

    สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรียืนยันว่าทุกคนที่เข้าเงื่อนไขจะได้รับสิทธิทั้งหมดนั้น ดร.สมชัย กล่าวว่า เป็นการทำให้ตรงกับที่หาเสียงไว้ แต่เห็นชัดแล้วว่าการดำเนินโครงการทั้งเฟส 1- 2 รวมทั้งเฟส 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจไม่ดีจริงอย่างที่หาเสียงไว้ จึงควรทบทวน

    “ตอนที่หาเสียงไว้ และตอนที่เป็นรัฐบาลใหม่ ๆ บอกว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจเฟื่องฟู บางคนบอกจะทำให้ไทยหลุดกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้ด้วยซ้ำ ซึ่งก็ไม่มีคนเชื่อ และวันนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง ในเมื่อมันพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง ก็ไม่ควรจะเดินหน้าต่อ เรามองว่าเงินนี้นำไปทําอย่างอื่นที่มีประโยชน์ได้มากกว่าเยอะ” ดร.สมชัยระบุ

    เตือนหยุดสุรุ่ยสุร่ายแจกเงินหมื่น แนะใช้งบพัฒนาดิจิทัล อินเทอร์เน็ตฟรี ดึงศักยภาพคน หนุนเศรษฐกิจ ดร.สมชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากงบประมาณหลายแสนล้านที่ต้องเสียไปจากการใช้จ่ายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ยังมีต้นทุนค่าเสียโอกาสด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความสูญเสียที่มากกว่าตัวเงินเสียอีก เพราะอย่าลืมว่าวันนี้ภาคการคลังของไทยอ่อนแอมาก ประเทศไทยมีเงินน้อยลง ประชาชนก็มีเงินน้อยลง เพราะฉะนั้นนำเงินงบประมาณไปใช้ต้องคิดอย่างระมัดระวัง ถ้านำไปใช้ในเรื่องที่ไม่สมควรใช้ จนทำให้เรื่องที่สมควรใช้จะถูกตัดทิ้งไปก็น่าเสียดาย เช่น เรื่องการพัฒนาทักษะของคน การปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตโลกร้อน การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งระบบสวัสดิการสังคมของไทยก็ยังมีปัญหาในบางจุด และเรื่องของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและดิจิทัล ซึ่งจะทําให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งกันดีขึ้น ทั้งหมดนี้จําเป็นต้องใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลในการเดินหน้า แต่อาจถูกชะลอออกไปเพราะเอาเงินมาใช้ในเรื่องที่ไม่สมควรใช้แบบนี้ ดังนั้นไม่สนับสนุนให้รัฐบาลเดินหน้าเงินดิจิทัลในเฟสต่อไปอีก

    “รัฐบาลควรนำงบประมาณไปลงทุนในเรื่องของดิจิทัล ทําอินเทอร์เน็ตฟรี ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยได้มาก ในเรื่องของผลิตภาพของประชาชน เพราะเกิดการพัฒนาตัวเองและสร้างรายได้ ผมเชื่อว่ามีอัจฉริยะที่ซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ ของประเทศอยู่มาก เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้รับโอกาส รัฐบาลก็ควรจัดสรรงบประมาณเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่เขามีอยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าทํา แต่คงไม่ได้ทํา ถ้าเกิดว่าต้องมาจ่ายเงินแบบสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ไปเรื่อย ๆ” ดร.สมชัยระบุ

    สงครามการค้าจะทำเศรษฐกิจไทยซบเซา ห่วงภาคการคลังมีปัญหา หนี้รัฐ-ครัวเรือนสูงชนเพดาน ดร.สมชัย ในฐานะอดีตกนง.ยังมีข้อเสนอแนะต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า ต้องพยายามแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างมากขึ้น อย่าเน้นระยะสั้น เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต กาสิโน พนันออนไลน์ แต่ควรเพิ่มน้ำหนักในกลุ่มมาตรการระยะยาวมากขึ้น และจะต้องเตรียมรับมือกับความยากลําบากที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามการค้าที่คาดว่าจะมาแบบเต็มรูปแบบเมื่อเทียบกับยุคทรัมป์ 1.0 ต้องไม่ลืมว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในหลายปีที่ผ่านมาถูกมองว่าดีเกินไปจนน่าจะมาถึงอาจจะซบเซาลงตามวัฏจักร รวมทั้งเรื่องของสงครามยูเครนในยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อไทยในฐานประเทศที่พึ่งพาการส่งออก และท่องเที่ยวมาก ขณะที่ในประเทศเองหนี้ครัวเรือนสูง ความสามารถในการผลิตไม่ได้ดีมากนัก เพราะฉะนั้นจะมีปัจจัยทั้งภายนอกและภายในเข้ามาพร้อมกัน

    “เศรษฐกิจคงซบเซาต่อไป และมองไป 4 ปีถัดไป ภาพก็จะคล้ายกันถ้าไม่ได้มีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว และถ้ามีการใช้จ่ายเงินอย่างไม่ระมัดระวังแบบนี้ ภาคการคลังจะมีปัญหา หนี้สาธารณะก็คงจะถึง 70 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพีภายในไม่กี่ปีนี้ ในขณะที่ภาระการจ่ายหนี้ของรัฐบาล ทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น ก็มีสิทธิ์ที่จะขึ้นไปใกล้ ๆ ชน 15 เปอร์เซ็นต์ที่กําหนดในกฎหมาย ทั้งหมดนี้จะทําให้เรตติ้งของภาครัฐไทยแย่ลงในสายตาของบริษัทประเมินเรตติง ซึ่งเป็นผลเสียระยะยาว เพราะว่าหมายถึง ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาล และจะลามไปถึงภาคเอกชนอาจจะสูงขึ้น ซึ่งก็จะซ้ำเติมเรื่องของเศรษฐกิจเข้าไปอีก” ดร.สมชัยกล่าว

    Cr. #TheStatesTimes
    TDRI เตือนรัฐหยุดแจกเงินดิจิทัล หลังไปไม่ช่วยกระตุ้น ศก. แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน (21 มี.ค. 68) ดร.สมชัย จิตสุชน เตือนรัฐ หยุดเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลในเฟสต่อไป แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน ขณะที่เฟส 3 หนุนทบทวนเงื่อนไขเปิดทางใช้เงินหมื่นซื้อคอร์สอัปสกิล-รีสกิลได้ หวังพัฒนาทักษะคน เตือน รัฐบาลรับมือเศรษฐกิจซบเซา จากปัจจัยภายนอก-ในประเทศ โดยเฉพาะความปั่นป่วนจากสงครามการค้า – หนี้ครัวเรือนสูง ห่วงภาระการคลัง ทำเรตติงประเทศตก ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัลเฟส 3 ที่ให้กับผู้มีอายุ 16-20 ปีว่า มีการคาดการณ์กันว่าในเฟสที่ 3 นี้อาจได้ผลบ้าง เพราะกลุ่มคนที่แจกยังไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ที่ไม่มากนัก เมื่อได้เงินมาอาจจะใช้เร็ว แต่เชื่อว่าไม่น่าจะได้ผลมากกว่าเฟส 1 ที่มอบให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มเปราะบาง อย่างไรก็ตามหากอยากให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจริง ๆ รัฐบาลควรละทิ้งแนวคิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวมากขึ้น และไม่ควรเปิดทางให้นำเงินจำนวนนี้ไปซื้ออะไรก็ได้ แต่ควรกำหนดให้ใช้ไปกับการหาความรู้ อัปสกิล รีสกิล ซึ่งเหมาะสมกับกลุ่มเยาวชนพอดี เพราะเป็นกลุ่มที่กำลังจะเข้าสู่กำลังแรงงานซึ่งอาจจะนำเงินจำนวนนี้ไปเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติมให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งแม้จะไม่เห็นผลในระยะสั้นมากนัก แต่ผลในระยะยาวจะดีกว่ากันมากเพราะเป็นการดึงศักยภาพของคนซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยได้ประโยชน์ สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรียืนยันว่าทุกคนที่เข้าเงื่อนไขจะได้รับสิทธิทั้งหมดนั้น ดร.สมชัย กล่าวว่า เป็นการทำให้ตรงกับที่หาเสียงไว้ แต่เห็นชัดแล้วว่าการดำเนินโครงการทั้งเฟส 1- 2 รวมทั้งเฟส 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจไม่ดีจริงอย่างที่หาเสียงไว้ จึงควรทบทวน “ตอนที่หาเสียงไว้ และตอนที่เป็นรัฐบาลใหม่ ๆ บอกว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจเฟื่องฟู บางคนบอกจะทำให้ไทยหลุดกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้ด้วยซ้ำ ซึ่งก็ไม่มีคนเชื่อ และวันนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง ในเมื่อมันพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง ก็ไม่ควรจะเดินหน้าต่อ เรามองว่าเงินนี้นำไปทําอย่างอื่นที่มีประโยชน์ได้มากกว่าเยอะ” ดร.สมชัยระบุ เตือนหยุดสุรุ่ยสุร่ายแจกเงินหมื่น แนะใช้งบพัฒนาดิจิทัล อินเทอร์เน็ตฟรี ดึงศักยภาพคน หนุนเศรษฐกิจ ดร.สมชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากงบประมาณหลายแสนล้านที่ต้องเสียไปจากการใช้จ่ายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ยังมีต้นทุนค่าเสียโอกาสด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความสูญเสียที่มากกว่าตัวเงินเสียอีก เพราะอย่าลืมว่าวันนี้ภาคการคลังของไทยอ่อนแอมาก ประเทศไทยมีเงินน้อยลง ประชาชนก็มีเงินน้อยลง เพราะฉะนั้นนำเงินงบประมาณไปใช้ต้องคิดอย่างระมัดระวัง ถ้านำไปใช้ในเรื่องที่ไม่สมควรใช้ จนทำให้เรื่องที่สมควรใช้จะถูกตัดทิ้งไปก็น่าเสียดาย เช่น เรื่องการพัฒนาทักษะของคน การปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตโลกร้อน การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งระบบสวัสดิการสังคมของไทยก็ยังมีปัญหาในบางจุด และเรื่องของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและดิจิทัล ซึ่งจะทําให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งกันดีขึ้น ทั้งหมดนี้จําเป็นต้องใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลในการเดินหน้า แต่อาจถูกชะลอออกไปเพราะเอาเงินมาใช้ในเรื่องที่ไม่สมควรใช้แบบนี้ ดังนั้นไม่สนับสนุนให้รัฐบาลเดินหน้าเงินดิจิทัลในเฟสต่อไปอีก “รัฐบาลควรนำงบประมาณไปลงทุนในเรื่องของดิจิทัล ทําอินเทอร์เน็ตฟรี ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยได้มาก ในเรื่องของผลิตภาพของประชาชน เพราะเกิดการพัฒนาตัวเองและสร้างรายได้ ผมเชื่อว่ามีอัจฉริยะที่ซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ ของประเทศอยู่มาก เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้รับโอกาส รัฐบาลก็ควรจัดสรรงบประมาณเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่เขามีอยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าทํา แต่คงไม่ได้ทํา ถ้าเกิดว่าต้องมาจ่ายเงินแบบสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ไปเรื่อย ๆ” ดร.สมชัยระบุ สงครามการค้าจะทำเศรษฐกิจไทยซบเซา ห่วงภาคการคลังมีปัญหา หนี้รัฐ-ครัวเรือนสูงชนเพดาน ดร.สมชัย ในฐานะอดีตกนง.ยังมีข้อเสนอแนะต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า ต้องพยายามแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างมากขึ้น อย่าเน้นระยะสั้น เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต กาสิโน พนันออนไลน์ แต่ควรเพิ่มน้ำหนักในกลุ่มมาตรการระยะยาวมากขึ้น และจะต้องเตรียมรับมือกับความยากลําบากที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามการค้าที่คาดว่าจะมาแบบเต็มรูปแบบเมื่อเทียบกับยุคทรัมป์ 1.0 ต้องไม่ลืมว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในหลายปีที่ผ่านมาถูกมองว่าดีเกินไปจนน่าจะมาถึงอาจจะซบเซาลงตามวัฏจักร รวมทั้งเรื่องของสงครามยูเครนในยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อไทยในฐานประเทศที่พึ่งพาการส่งออก และท่องเที่ยวมาก ขณะที่ในประเทศเองหนี้ครัวเรือนสูง ความสามารถในการผลิตไม่ได้ดีมากนัก เพราะฉะนั้นจะมีปัจจัยทั้งภายนอกและภายในเข้ามาพร้อมกัน “เศรษฐกิจคงซบเซาต่อไป และมองไป 4 ปีถัดไป ภาพก็จะคล้ายกันถ้าไม่ได้มีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว และถ้ามีการใช้จ่ายเงินอย่างไม่ระมัดระวังแบบนี้ ภาคการคลังจะมีปัญหา หนี้สาธารณะก็คงจะถึง 70 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพีภายในไม่กี่ปีนี้ ในขณะที่ภาระการจ่ายหนี้ของรัฐบาล ทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น ก็มีสิทธิ์ที่จะขึ้นไปใกล้ ๆ ชน 15 เปอร์เซ็นต์ที่กําหนดในกฎหมาย ทั้งหมดนี้จะทําให้เรตติ้งของภาครัฐไทยแย่ลงในสายตาของบริษัทประเมินเรตติง ซึ่งเป็นผลเสียระยะยาว เพราะว่าหมายถึง ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาล และจะลามไปถึงภาคเอกชนอาจจะสูงขึ้น ซึ่งก็จะซ้ำเติมเรื่องของเศรษฐกิจเข้าไปอีก” ดร.สมชัยกล่าว Cr. #TheStatesTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1113 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เศรษฐกิจคงซบเซาต่อไป และมองไป 4 ปีถัดไป ภาพก็จะคล้ายกันถ้าไม่ได้มีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว และถ้ามีการใช้จ่ายเงินอย่างไม่ระมัดระวังแบบนี้ ภาคการคลังจะมีปัญหา หนี้สาธารณะก็คงจะถึง 70 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพีภายในไม่กี่ปีนี้ ในขณะที่ภาระการจ่ายหนี้ของรัฐบาล ทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น ก็มีสิทธิ์ที่จะขึ้นไปใกล้ ๆ ชน 15 เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดนี้จะทําให้เรตติ้งของภาครัฐไทยแย่ลง”
    .
    เป็นข้อห่วงใยของดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ต่อการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเลต ที่ยังคงยืนยันว่าจะมอบเงินหมื่นให้กับทุกคนที่เข้าเงื่อนไขในเฟสต่อไป
    .
    ทีดีอาร์ไอ ชวนอ่าน “สมชัย จิตสุชน”เตือนรัฐ หยุดเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลในเฟสต่อไป แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน https://tdri.or.th/2025/03/somchai-digital-wallet-opinion/
    “เศรษฐกิจคงซบเซาต่อไป และมองไป 4 ปีถัดไป ภาพก็จะคล้ายกันถ้าไม่ได้มีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว และถ้ามีการใช้จ่ายเงินอย่างไม่ระมัดระวังแบบนี้ ภาคการคลังจะมีปัญหา หนี้สาธารณะก็คงจะถึง 70 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพีภายในไม่กี่ปีนี้ ในขณะที่ภาระการจ่ายหนี้ของรัฐบาล ทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น ก็มีสิทธิ์ที่จะขึ้นไปใกล้ ๆ ชน 15 เปอร์เซ็นต์ ทั้งหมดนี้จะทําให้เรตติ้งของภาครัฐไทยแย่ลง” . เป็นข้อห่วงใยของดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ต่อการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเลต ที่ยังคงยืนยันว่าจะมอบเงินหมื่นให้กับทุกคนที่เข้าเงื่อนไขในเฟสต่อไป . ทีดีอาร์ไอ ชวนอ่าน “สมชัย จิตสุชน”เตือนรัฐ หยุดเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลในเฟสต่อไป แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน https://tdri.or.th/2025/03/somchai-digital-wallet-opinion/
    TDRI.OR.TH
    "สมชัย จิตสุชน"เตือนรัฐ หยุดเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลในเฟสต่อไป แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน - TDRI: Thailand Development Research Institute
    ดร.สมชัย จิตสุชน เตือนรัฐ หยุดเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลในเฟสต่อไป แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน ขณะที่เฟส 3 หนุนทบทวนเงื่อนไขเปิดทางใช้เงินหมื่นซื้อคอร์สอัพสกิล-รีสกิลได้ หวังพัฒนาทักษะคน เตือน รัฐบาลรับมือเศรษฐกิจซบเซา จากปัจจัยภายนอก-ในประเทศ โดยเฉพาะความปั่นป่วนจากสงครามการค้า – หนี้ครัวเรือนสูง ห่วงภาระการคลัง ทำเรตติ้งประเทศตก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 519 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้างนอกอ่อนไหว! ข้างในอ่อนแอ! ‘เศรษฐกิจไทย’ : [Biz Talk]

    ‘ปีแห่งความท้าทาย 2568’ หลายสำนักวิจัย ทยอยปรับลดเป้าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย เพราะยังเผชิญหลายปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะผลกระทบจากนโยบายการค้าโลก และปัญหาเชิงโครงสร้างภายใน /แม้การขยายตัวปี68 จะเร่งขึ้นจากปี67 แต่ก็ยังต่ำศักยภาพ /ไม่ง่าย ที่จะเข็นจีดีพีปีนี้ ให้โตตามเป้ารัฐบาล 3.5%
    ข้างนอกอ่อนไหว! ข้างในอ่อนแอ! ‘เศรษฐกิจไทย’ : [Biz Talk] ‘ปีแห่งความท้าทาย 2568’ หลายสำนักวิจัย ทยอยปรับลดเป้าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย เพราะยังเผชิญหลายปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะผลกระทบจากนโยบายการค้าโลก และปัญหาเชิงโครงสร้างภายใน /แม้การขยายตัวปี68 จะเร่งขึ้นจากปี67 แต่ก็ยังต่ำศักยภาพ /ไม่ง่าย ที่จะเข็นจีดีพีปีนี้ ให้โตตามเป้ารัฐบาล 3.5%
    Sad
    Like
    Love
    Haha
    Angry
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1559 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • "นายกฯ" นั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดกระตุ้น ศก. เชื่อปี 68 จีดีพีโตมากกว่า 3 %
    https://www.thai-tai.tv/news/17572/
    "นายกฯ" นั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดกระตุ้น ศก. เชื่อปี 68 จีดีพีโตมากกว่า 3 % https://www.thai-tai.tv/news/17572/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัญญาณวิกฤต! "เรย์ ดาลิโอ" เตือนสหรัฐเสี่ยงหนี้ล้นภายใน 3 ปี ขณะที่ทรัมป์เดินหน้าลดภาษี-ขาดดุลงบประมาณทะลุ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ ชี้ต้องลดการขาดดุลจาก 7.5% เหลือ 3% ของจีดีพีก่อน "หัวใจวาย" ทางเศรษฐกิจ"เรย์ ดาลิโอ" ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates เผย ชี้สหรัฐฯ เสี่ยงเจอวิกฤตหนี้ภายใน 3 ปี หากไม่ลดการใช้จ่ายที่เกินตัว "มันเหมือนกับอาการหัวใจวาย" หลังพบการขาดดุลงบประมาณพุ่งสูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณล่าสุด ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์อเมริกาด้านหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ทะลุ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ทรัมป์เดินหน้านโยบายลดภาษีครั้งใหญ่ จากล่าสุดที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านกรอบงบประมาณให้: ตัดการใช้จ่าย 2 ล้านล้านดอลลาร์ อนุญาตลดภาษี 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ใน 10 ปีข้างหน้าเพิ่มเพดานหนี้อีก 4 ล้านล้านดอลลาร์ดาลิโอคาดการณ์ว่าการขาดดุลจะพุ่งถึง 7.5% ของจีดีพี แต่ควรลดให้เหลือ 3% เพื่อรักษาเสถียรภาพการเงิน #imctnews รายงาน
    สัญญาณวิกฤต! "เรย์ ดาลิโอ" เตือนสหรัฐเสี่ยงหนี้ล้นภายใน 3 ปี 📌ขณะที่ทรัมป์เดินหน้าลดภาษี-ขาดดุลงบประมาณทะลุ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ ชี้ต้องลดการขาดดุลจาก 7.5% เหลือ 3% ของจีดีพีก่อน "หัวใจวาย" ทางเศรษฐกิจ👉"เรย์ ดาลิโอ" ผู้ก่อตั้ง Bridgewater Associates เผย ชี้สหรัฐฯ เสี่ยงเจอวิกฤตหนี้ภายใน 3 ปี หากไม่ลดการใช้จ่ายที่เกินตัว "มันเหมือนกับอาการหัวใจวาย" หลังพบการขาดดุลงบประมาณพุ่งสูงถึง 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณล่าสุด ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์อเมริกาด้านหนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ทะลุ 36.2 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ทรัมป์เดินหน้านโยบายลดภาษีครั้งใหญ่ จากล่าสุดที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านกรอบงบประมาณให้: ตัดการใช้จ่าย 2 ล้านล้านดอลลาร์ อนุญาตลดภาษี 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ใน 10 ปีข้างหน้าเพิ่มเพดานหนี้อีก 4 ล้านล้านดอลลาร์ดาลิโอคาดการณ์ว่าการขาดดุลจะพุ่งถึง 7.5% ของจีดีพี แต่ควรลดให้เหลือ 3% เพื่อรักษาเสถียรภาพการเงิน #imctnews รายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts