• "หลานสาวทักษิณ" ฟ้องกลับ! แจ้งความเอาผิดคนโพสต์-แชร์...กล่าวหาเป็น "ไส้ศึกเขมร" พร้อมยืนยันทุกคนในครอบครัว "เป็นคนไทยที่รักชาติ"!
    https://www.thai-tai.tv/news/20749/
    .
    #ชยิกาวงศ์นภาจันทร์ #ไส้ศึกเขมร #ข่าวปลอม #แจ้งความ #ครอบครัวชินวัตร #ความรักชาติ #ไทยไท
    "หลานสาวทักษิณ" ฟ้องกลับ! แจ้งความเอาผิดคนโพสต์-แชร์...กล่าวหาเป็น "ไส้ศึกเขมร" พร้อมยืนยันทุกคนในครอบครัว "เป็นคนไทยที่รักชาติ"! https://www.thai-tai.tv/news/20749/ . #ชยิกาวงศ์นภาจันทร์ #ไส้ศึกเขมร #ข่าวปลอม #แจ้งความ #ครอบครัวชินวัตร #ความรักชาติ #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงินหมื่นสุดทางแล้ว เฟส 3 ไปไม่รอด หวังประชาชนจะเข้าใจ
    .
    แม้เรื่องการชะลอโครงการแจกเงินหมื่น จะเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญ แต่ปรากฎนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังเลือกที่จะให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงแทน จึงไม่แปลกที่เวลานี้คำถามเกี่ยวภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯครอบครัวชินวัตรคนที่ 3 นี้ ดังกระหึ่มอีกครั้ง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000046937

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เงินหมื่นสุดทางแล้ว เฟส 3 ไปไม่รอด หวังประชาชนจะเข้าใจ . แม้เรื่องการชะลอโครงการแจกเงินหมื่น จะเป็นเรื่องใหญ่และเรื่องสำคัญ แต่ปรากฎนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังเลือกที่จะให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นผู้ชี้แจงแทน จึงไม่แปลกที่เวลานี้คำถามเกี่ยวภาวะความเป็นผู้นำของนายกฯครอบครัวชินวัตรคนที่ 3 นี้ ดังกระหึ่มอีกครั้ง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000046937 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1586 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดือด! “เพื่อไทย” ดาหน้าป้อง “ครอบครัวชินวัตร” หลัง “วิโรจน์” ถามหาศักดิ์ศรี “สส.พท.” เปรียบเป็นบริวาร
    https://www.thai-tai.tv/news/17788/
    เดือด! “เพื่อไทย” ดาหน้าป้อง “ครอบครัวชินวัตร” หลัง “วิโรจน์” ถามหาศักดิ์ศรี “สส.พท.” เปรียบเป็นบริวาร https://www.thai-tai.tv/news/17788/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รมว.ยุติธรรม” ป้อง “ครอบครัวชินวัตร” ยันไม่มีดีลแลกผลประโยชน์ประเทศ
    https://www.thai-tai.tv/news/17765/
    “รมว.ยุติธรรม” ป้อง “ครอบครัวชินวัตร” ยันไม่มีดีลแลกผลประโยชน์ประเทศ https://www.thai-tai.tv/news/17765/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณหมดสเน่ห์ ภูมิใจไทย ประชาชน ได้ส่วนแบ่งการตลาดเกินครึ่ง
    ผลการเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่เสร็จสิ้นแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นสัญญาณที่ทําให้ภาพการเมืองของประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีความชัดเจนระดับหนึ่งโดยเฉพาะขั้วการเมืองสามสี แดง ส้ม น้ําเงิน แม้ว่าถ้ามองในตัวเลขของจํานวนเก้าอี้ที่เพื่อไทยได้มาถึง 10 เก้าอี้นั้น เมื่อพิจารณาถึงจุดคุ้มทุนแล้วต้องยอมรับว่าด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทยก็ขาดทุนไปไม่น้อยเช่นกัน
    เพราะแต่ละสนามที่เพื่อไทยลงแข่งขันนั้นทักษิณชินวัตรนายใหญ่ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปราศรัยด้วยท่าทีดุดัน แต่ก็สามารถชนะคู่แข่งได้เพียงหนึ่งที่นั่งเท่านั้น
    โดยอันดับสองอย่างภาคภูมิใจไทยที่ไม่ได้ประกาศส่งผู้สมัครอย่างเป็นทางการแต่ใช้วิธีกาสนับสนุนอยู่แบบห่างห่างอย่างห่วงห่วงกลับได้เก้าอี้มาถึงเก้าที่นั่ง ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็นคําถามตัวใหญ่ขึ้นมาว่าทักษิณเสื่อมมนต์ขลังแล้วหรือไม่
    ย้อนกลับไปที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมามักจะประกาศว่าต้องการชนะในทุกพื้นที่ที่ได้ส่งผู้สมัครเพื่อจะประกาศชัยชนะ แบบแลนด์สไลด์ก่อนไปศึกใหญ่อย่างการเลือกตั้งระดับประเทศ จึงเป็นที่มาที่ทําให้ครอบครัวชินวัตรต้องลงแรงหาเสียงให้สมศักดิ์ศรีกับการกลับมาประเทศไทยของทักษิณ เพราะหากทักษิณลงสนามแล้วแพ้ แน่นอนว่าขวัญและกําลังใจของเหล่าสาวกในพรรคเพื่อไทยน่าจะกระเจิง
    แต่ดูเหมือนที่ผ่านมาทักษิณและพรรคเพื่อไทยเองก็เดินเกมผิดพลาดมาตลอดเพราะแต่ละเวทีปราศรัยของทักษิณมักจะเน้นไปที่นโยบายของรัฐบาล
    เพื่ออวยแพทองธารชินวัตร มากกว่าการช่วยโปรโมทสรรพคุณผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยและนโยบายการทํางานเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัวใจของการเลือกตั้งท้องถิ่น
    ก่อนเข้าสู่ศึกใหญ่ในปี ๒๕๗๐การเมืองไทยนับจากนี้จะเป็นลักษณะของ ๓ ขั้วใหญ่แดง ส้ม น้ําเงิน ถึงผลการเลือกตั้งท้องถิ่น อาจจะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดอนาคตทางการเมืองอย่างเด็ดขาด แต่ทุกขั้วการเมือง มีการบ้านที่ต้องรับไปทําอย่างลึกซึ้ง แน่นอน
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทักษิณหมดสเน่ห์ ภูมิใจไทย ประชาชน ได้ส่วนแบ่งการตลาดเกินครึ่ง ผลการเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่เสร็จสิ้นแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็นสัญญาณที่ทําให้ภาพการเมืองของประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มีความชัดเจนระดับหนึ่งโดยเฉพาะขั้วการเมืองสามสี แดง ส้ม น้ําเงิน แม้ว่าถ้ามองในตัวเลขของจํานวนเก้าอี้ที่เพื่อไทยได้มาถึง 10 เก้าอี้นั้น เมื่อพิจารณาถึงจุดคุ้มทุนแล้วต้องยอมรับว่าด้านหนึ่งพรรคเพื่อไทยก็ขาดทุนไปไม่น้อยเช่นกัน เพราะแต่ละสนามที่เพื่อไทยลงแข่งขันนั้นทักษิณชินวัตรนายใหญ่ผู้เป็นทุกสิ่งทุกอย่างให้กับพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับปราศรัยด้วยท่าทีดุดัน แต่ก็สามารถชนะคู่แข่งได้เพียงหนึ่งที่นั่งเท่านั้น โดยอันดับสองอย่างภาคภูมิใจไทยที่ไม่ได้ประกาศส่งผู้สมัครอย่างเป็นทางการแต่ใช้วิธีกาสนับสนุนอยู่แบบห่างห่างอย่างห่วงห่วงกลับได้เก้าอี้มาถึงเก้าที่นั่ง ด้วยเหตุนี้เองจึงกลายเป็นคําถามตัวใหญ่ขึ้นมาว่าทักษิณเสื่อมมนต์ขลังแล้วหรือไม่ ย้อนกลับไปที่เป้าหมายของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมามักจะประกาศว่าต้องการชนะในทุกพื้นที่ที่ได้ส่งผู้สมัครเพื่อจะประกาศชัยชนะ แบบแลนด์สไลด์ก่อนไปศึกใหญ่อย่างการเลือกตั้งระดับประเทศ จึงเป็นที่มาที่ทําให้ครอบครัวชินวัตรต้องลงแรงหาเสียงให้สมศักดิ์ศรีกับการกลับมาประเทศไทยของทักษิณ เพราะหากทักษิณลงสนามแล้วแพ้ แน่นอนว่าขวัญและกําลังใจของเหล่าสาวกในพรรคเพื่อไทยน่าจะกระเจิง แต่ดูเหมือนที่ผ่านมาทักษิณและพรรคเพื่อไทยเองก็เดินเกมผิดพลาดมาตลอดเพราะแต่ละเวทีปราศรัยของทักษิณมักจะเน้นไปที่นโยบายของรัฐบาล เพื่ออวยแพทองธารชินวัตร มากกว่าการช่วยโปรโมทสรรพคุณผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยและนโยบายการทํางานเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัวใจของการเลือกตั้งท้องถิ่น ก่อนเข้าสู่ศึกใหญ่ในปี ๒๕๗๐การเมืองไทยนับจากนี้จะเป็นลักษณะของ ๓ ขั้วใหญ่แดง ส้ม น้ําเงิน ถึงผลการเลือกตั้งท้องถิ่น อาจจะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดอนาคตทางการเมืองอย่างเด็ดขาด แต่ทุกขั้วการเมือง มีการบ้านที่ต้องรับไปทําอย่างลึกซึ้ง แน่นอน ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 985 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชี้ช่องจบปัญหา 'อัลไพน์' กฤษฎีกา เสนอสองทาง 'งบเยียวยา-ออกกฎหมาย'
    .
    กรณีพิพาทที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่เหมือนจบแต่ไม่จบ เพราะด้านหนึ่งถูกโฟกัสไปในเรื่องทางการเมืองที่ว่าด้วยการเอาคืนพรรคเพื่อไทยของพรรคภูมิใจไทยในฐานะเจ้ากระทรวงมหาดไทย แต่ในแง่มุมของกฎหมายนั้นเป็นประเด็นที่สำคัญที่กำลังรอการดำเนินการว่าครอบครัวชินวัตรในฐานะเจ้าของที่ดินจะต้องดำเนินการอย่างไร
    .
    นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า มีแนวคำวินิจฉัยการเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ของคณะกรรมการกฤษฎีกามาตั้งแต่ปี 2544 และหลักของคำวินิจฉัย คือ ที่ดินที่ได้มาโดยมรดกต้องทำเป็นไปตามที่เจ้าของมรดกกำหนด เมื่อต้องการให้ตกแก่วัดก็ต้องตกแก่วัด ซึ่งการเพิกถอนที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ขอให้ไปถามจากกระทรวงมหาดไทยว่าจะหาทางแก้ไขเยียวยาให้กับประชาชนที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างไร ซึ่งต้องไปว่ากันอีกรอบหนึ่ง
    .
    "ต้องตรวจสอบว่ามีการจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอะไรหรือไม่ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว เราต้องเสียเงินชดเชยให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ได้มาโดยสุจริต ต้องไปดูว่าคำสั่งทางปกครองออกมาและถูกยกเลิกไปนั้นชอบหรือไม่ และประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ"
    .
    นายปกรณ์ ยอมรับว่า งบประมาณที่จะนำมาเยียวยานั้นส่วนตัวไม่ทราบว่าจะต้องนำเงินมาจากส่วนใด แต่หากจำเป็นจะต้องแก้ไขเยียวยาก็สามารถของบประมาณจากรัฐบาลได้ ซึ่งงบปกติน่าจะไม่มี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งงบไว้ และไม่มีใครคิดว่าจะเกิด จึงต้องหารือกับสำนักงบประมาณว่ามีแหล่งเงินจากที่ใดบ้าง อย่างไรก็ตาม คิดว่ามีหลายวิธีที่จะแก้ไข ซึ่งต้องรอ รมว.มหาดไทย และอธิบดีกรมที่ดิน มาแนะนำว่าจะหาทางแก้อย่างไร
    .
    นายปกรณ์ ส่วนประเด็นปัญหาด้านกฎหมายมีเพียงว่า ถ้าคำสั่งทางปกครองไม่ชอบก็เพิกถอนเสีย และหากเพิกถอนคำสั่งทางปกครองไปแล้ว และมีผลกระทบต่อบุคคลที่สุจริตก็ต้องเยียวยากันในทางกฎหมายมีเพียงแค่นั้น ส่วนในทางบริหารก็ไปว่ากัน
    .
    สำหรับข้อเสนอที่ว่าให้ออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนเป็นที่ดินเอกชนนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า การโอนที่ดินซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ต้องตามเป็นตามกฏหมายอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร ซึ่งก็แล้วแต่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยว่าจะพิจารณาว่าทางใดเหมาะสมหรือสมควร ควรรอถาม รมว.มหาดไทยจะเหมาะสมกว่า
    .............
    Sondhi X
    ชี้ช่องจบปัญหา 'อัลไพน์' กฤษฎีกา เสนอสองทาง 'งบเยียวยา-ออกกฎหมาย' . กรณีพิพาทที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่เหมือนจบแต่ไม่จบ เพราะด้านหนึ่งถูกโฟกัสไปในเรื่องทางการเมืองที่ว่าด้วยการเอาคืนพรรคเพื่อไทยของพรรคภูมิใจไทยในฐานะเจ้ากระทรวงมหาดไทย แต่ในแง่มุมของกฎหมายนั้นเป็นประเด็นที่สำคัญที่กำลังรอการดำเนินการว่าครอบครัวชินวัตรในฐานะเจ้าของที่ดินจะต้องดำเนินการอย่างไร . นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า มีแนวคำวินิจฉัยการเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ของคณะกรรมการกฤษฎีกามาตั้งแต่ปี 2544 และหลักของคำวินิจฉัย คือ ที่ดินที่ได้มาโดยมรดกต้องทำเป็นไปตามที่เจ้าของมรดกกำหนด เมื่อต้องการให้ตกแก่วัดก็ต้องตกแก่วัด ซึ่งการเพิกถอนที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ขอให้ไปถามจากกระทรวงมหาดไทยว่าจะหาทางแก้ไขเยียวยาให้กับประชาชนที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างไร ซึ่งต้องไปว่ากันอีกรอบหนึ่ง . "ต้องตรวจสอบว่ามีการจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอะไรหรือไม่ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว เราต้องเสียเงินชดเชยให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ได้มาโดยสุจริต ต้องไปดูว่าคำสั่งทางปกครองออกมาและถูกยกเลิกไปนั้นชอบหรือไม่ และประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ" . นายปกรณ์ ยอมรับว่า งบประมาณที่จะนำมาเยียวยานั้นส่วนตัวไม่ทราบว่าจะต้องนำเงินมาจากส่วนใด แต่หากจำเป็นจะต้องแก้ไขเยียวยาก็สามารถของบประมาณจากรัฐบาลได้ ซึ่งงบปกติน่าจะไม่มี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งงบไว้ และไม่มีใครคิดว่าจะเกิด จึงต้องหารือกับสำนักงบประมาณว่ามีแหล่งเงินจากที่ใดบ้าง อย่างไรก็ตาม คิดว่ามีหลายวิธีที่จะแก้ไข ซึ่งต้องรอ รมว.มหาดไทย และอธิบดีกรมที่ดิน มาแนะนำว่าจะหาทางแก้อย่างไร . นายปกรณ์ ส่วนประเด็นปัญหาด้านกฎหมายมีเพียงว่า ถ้าคำสั่งทางปกครองไม่ชอบก็เพิกถอนเสีย และหากเพิกถอนคำสั่งทางปกครองไปแล้ว และมีผลกระทบต่อบุคคลที่สุจริตก็ต้องเยียวยากันในทางกฎหมายมีเพียงแค่นั้น ส่วนในทางบริหารก็ไปว่ากัน . สำหรับข้อเสนอที่ว่าให้ออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนเป็นที่ดินเอกชนนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า การโอนที่ดินซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ต้องตามเป็นตามกฏหมายอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร ซึ่งก็แล้วแต่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยว่าจะพิจารณาว่าทางใดเหมาะสมหรือสมควร ควรรอถาม รมว.มหาดไทยจะเหมาะสมกว่า ............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2045 มุมมอง 0 รีวิว
  • 10/1/68

    รวย..อย่างชินวัตร
    ตอน ๑ : “รวยลับๆร่อๆ”
    แก้วสรร อติโพธิ

    ถาม มาดามแพ ผู้เป็นนายกฯ ทำมาหากินอะไร พอแจ้งทรัพย์สินแล้ว พบว่ารวยถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท
    ตอบ ทรัพย์สินกองนี้ ในฐานะที่เคยตรวจสอบทรัพย์สินเมื่อครั้งเป็น คตส.มาก่อน ผมพบว่าที่น่าสนใจเป็นกองแรกเลยคือ หนี้สินกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ที่ปรากฏตัวเจ้าหนี้เป็น คนในครอบครัวชินวัตร แทบทั้งนั้น จึงต้องตรวจสอบต่อไปให้ชัดว่ามาจากการซุกหุ้ น เหมือนคราวทักษิณซุกหุ้ นชินคอร์ป แล้ว
    ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๔๔ หรือไม่
    ถาม ซุกหุ้นคราวขึ้นเป็น นายกฯ นั้น ทักษิณเขาทำอย่างไร

    ตอบ เขาทำเป็นขายหุ้นชินคอร์ปที่ชินวัตรถืออยู่ ๔๙.๖ % ให้ลูกและน้องสาวจนหมด ราคาตลาดหุ้นละ ๑๕๐ บาท แต่ขายให้ในราคาทุน ๑๐ บาท ผู้ซื้อก็ทำหลักฐานว่าไม่มีตังค์ ต้องกู้นเงินผู้ขายมาให้

    ผู้ขาย จากนั้นผู้ซื้อก็เปิดบัญชีรับเงินปันผลขึ้นมาโดยเฉพาะ เงินเข้าเมื่อใดก็ส่งให้ผู้ขายหมด
    อ้างว่าเป็นการผ่อนชำระค่าหุ้น ผ่อนไปทุกปีจนท่วมยอดเงินกู้ เลย ภาพทางบัญชีอย่างนี้ คุณ
    เชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้ นจริงไหม

    ถาม ไม่เชื่อครับ มันเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นชินคอร์ปในหมู่ชินวัตร เพื่อให้หัวหน้าครอบครัวขึ้นเป็นนายกฯ โดยไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีชื่อถือหุ้นสัมปทานอีกต่อไปเท่านั้น

    ตอบ ในสภาพซุกหุ้นกันอย่างนี้ คุณว่าถ้าลูกทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ เขาจะต้องแจ้ งทรัพย์สินอย่างไร
    ถาม แจ้งว่าถือหุ้นชินคอร์ป ขณะเดียวกันก็เป็นลูกหนี้เงินกู้ จากพ่อด้วย

    ตอบ ถูกต้องครับ แจ้งเมื่อไหร่ภาพเด็กรวยเละ ที่ขึ้นเป็น นายกฯ ก็จะปรากฏให้งงกันทั้งประเทศว่ารวยได้อย่างไรกันในที่สุดถ้าชินวัตรยังรวยแบบลับๆร่อๆอยู่จนทุกวันนี้ จริงอย่างที่ผมสงสัย ยอดหนี้สิน ๔,๐๐๐ ล้าน ในบัญชีทรัพย์สินวันนี้ของ มาดามแพ ที่ปรากฏเคียงข้างคู่กับยอดเงินลงทุนกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้าน จึงน่าสงสัยมากๆ ว่าทรัพย์สินสองยอดนี้แท้ที่จริงแล้ว มาจากพฤติการณ์ที่มาดามแพถูกชินวัตรใช้ชื่อ

    ซุกหุ้นเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้คุณว่าใช่หรือไม่
    ถาม ถ้าเป็นอย่างนี้ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้ เป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือ เป็นลูกหนี้ใครเลยก็ได้ปปช.มีอำนาจตรวจสอบไหมครับว่า บัญชีนี้จริงเท็จหรือไม่ ประการใด

    ตอบ ต้องตรวจหมดทุกกรณี ว่าได้หุ้นแต่ละก้อนมาอย่างไรจากใคร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใช่เงินกู้ กู้อนนี้หรือไม่ คนให้กู้คือคนที่ขายหุ้นให้ ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ ซตพ.ว่าซุกหุ้นแน่นอน


    ถาม มาดามแพ ยังมีชื่อถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์อยู่หรือไม่ครับ
    ตอบ ทราบข่าวว่าขายไปแล้ว ต้องสอบว่าคนซื้อเป็น นอมินีหรือเปล่า หุ้นอัลไพน์นี้โดนชินวัตรฟอกมาตลอด ตอนแรกเมื่อซื้อจากนายเสนาะ ก็ใช้ชื่อคนใช้คนขับรถ ถือหุ้นก่อน หลังเกิดคดีซุกหุ้นชิน คอร์ป และลูกบรรลุนิติภาวะ ถึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อมาดามแพ แล้วเปลี่ยนไปอีกเมื่อมาดามโผล่มาเล่นการเมืองในที่สุด
    ถาม นอกจากหุ้นชินคอร์ป หุ้นอัลไพน์แล้ว มีหุ้นอื่นอีกไหมครับ

    ตอบ ก็มีหุ้นธนาคารทหารไทยอีกก้อน ที่พอธนาคารซวดเซในปี ๒๕๔๕ จนกระทรวงการคลังต้องวางแผนอัดเงินเพิ่มให้หมื่นล้าน โดยจะให้ควบรวมกับไอเอฟซีทีด้วย แต่ปรากฏว่าก่อนจะลงมือจริง ก็มีการนำเงินปันผลชินคอร์ปของชินวัตร ๔๐๐ ล้านบาท ที่อยู่ในบัญชีธนาคารของโอ๊ค ไปช้อนซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยขนานใหญ่ ในชื่อโอ๊คเสียก่อน จากนั้นพอ กระทรวงคลังอัดเงินและ
    ควบรวมแล้ว ราคาหุ้นก็พุ่งสูงลิ่ว แต่ครั้นผลการประเมินภายใน พบว่าผลประกอบการธนาคารไม่กระเตื้อง ชินวัตรก็ออกตัวเร่งทะยอยขายหุ้นธนาคารทหารไทยของชินวัตรในชื่อโอ๊คจนหมด พอหุ้นร่วง แมงเม่าปีกไหม้หมด ก็มีแต่ชินวัตรกำไรอยู่เจ้าเดียวรวม ๗๐ ล้านบาท

    ถาม เห็นตอนควบไอเอฟซีที ก็มีการขายตึกไอเอฟซีที ให้คุณหญิงชินวัตร ด้วยใช่ไหมครับ

    ตอบ ครับ เขาซื้อไปในราคา ๔๒๐ ล้านบาท ต่ำกว่าตลาด ๑๐๐ ล้าน แล้วเอามาให้พรรคชินวัตร ชื่อไทยรักไทยเช่าอยู่จนทุกวันนี้

    ถาม ทราบว่าตอนขายหุ้นชินคอร์ปยกล๊อต ให้เทมาเส็คเมื่อปี ๒๕๔๙ นั้น ก็รวยลับๆร่อๆ กันอีกหรือครับ

    ตอบ ชินวัตรเขาไปจดทะเบียนตั้งบริษัทที่เกาะฟอกเงินชื่อ บริติชเวอร์จิ้น ตั้งเป็นบริษัทชื่อ “วินมาร์ค” คอยเล่นหุ้นไทยอยู่ต่างประเทศผ่านธนาคารสิงค์โปร์ มาตลอด มาในปลายปี ๒๕๔๘ เมื่อให้ สส.ข้าทาสในสภาแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นโทรคมนาคมได้ ๔๙% จนทักษิณเจรจาตกลงเป็นการลับขายหุ้นยกล้อตให้เทมาเส็ค ในราคาหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาท

    จะได้เงินขายหุ้นโดยเปิดเผยกว่า ๗.๓ หมื่นล้านแล้ว ถึงตรงมกราคม ๒๕๔๙ นี้ ก็มีการลงมือรวย ลับๆร่อๆอีก จนได้เงินไปเฉยๆอีกก้อนหนึ่ง เป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท
    ถาม เขาทำอย่างไรครับ

    ตอบ ตามกฎหมายนั้น เมื่อเทมาเส็คซื้อหุ้นก้อนใหญ่ จนหุ้นเปลี่ยนมือถึง ๔๙% อย่างนี้ ก็หุ้นชินคอร์ปจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาที่ซื้อจากชินวัตร คือหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาทด้วย แต่เมื่อชินวัตรทราบล่วงหน้า ก็เลยให้วินมาร์ค กว้านซื้อหุ้ นชินคอร์ป เข้าบัญชีธนาคารในสิงค์โปร์ก่อนเป็นการใหญ่ ในราคาตลาดขณะนั้น ที่หุ้นละ ๓๙ บาท กว้านอยู่ ๑ เดือน จนถือหุ้นชินคอร์ปในมือได้ ๑๑๔ ล้านหุ้น พอประกาศซื้อขายและเปิดรับซื้อ เขาก็เอาหุ้ นที่กวาดไว้ ล่วงหน้ามาขายได้เงินที่รวยลับๆร่อๆ ฉกฉวยเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยไป รวมเป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ในที่สุด

    ถาม เห็นทักษิณเขาคุยที่เวทีเชียงรายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า ก่อนมาเล่นการเมืองเขาก็รวยที่สุดในประเทศไทย มีสินทรัพย์กว่า ๖ หมื่นล้านอยู่แล้ว
    ตอบ เมื่อขึ้นเป็นรองนายกฯในรัฐบาล พลเอก ชวลิต เมื่อ ปี ๒๕๔๐ ผมเห็นเขาแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ ๔ หมื่นล้านบาท นี่แสดงว่าเงินพร่องไป ๒ หมื่นบาทเลยเชียวหรือ
    ถาม อาจลดลง เพราะซุกหุ้นชินคอร์ปไว้ กับคนรถ คนใช้แล้วก็ได้

    ตอบ เอาเถอะครับ เขาจะรวยมาก่อน รวยอย่างไร เห็นเขาลือกันว่ารวยมาจากคราวลดค่าเงินบาทก็ได้
    จริงเท็จ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ หลังตั้งพรรคลงเล่นการเมืองแล้ว เขาไม่ได้จนลงอย่างที่พูดเลย ก็
    แล้วกันครับ มันมีทั้งรวยโดยเปิดเผยและลับๆร่อๆ มาวันนี้ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างลับๆร่อๆอีก

    ถาม หมายความว่า นอกจากซุกหุ้นแล้ว มาวันนี้ทักษิณเขายังซุกตำแหน่งนายกฯ ไว้ ในชื่อลูกด้วยอย่างนั้นหรือ มีประเทศไหนที่ผู้นำเป็นนายกฯโดยปกปิดชื่อไว้ ครับ

    ตอบ มีประเทศไทยนี่แหละครับ นี่ผมก็รอดูผลสอบของ กกต.อยู่ทุกวันนะครับว่า ข้อหาทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยนี่ เขาสอบสวนกันไปถึงไหนแล้ว
    ถาม กกต.นี่น่าจะย่อมาจาก “กูกลอกตา ” ไม่รู้ไม่เห็นซะดีกว่า ไม่ไหวเลยทำงานกันช้าเหลือเกินครับ

    แล้ววนี่บ้านเมืองจะไปทางไหนได้มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี คนมีอำนาจก็ไม่ต้องรับผิดชอบ คนรับผิดชอบก็ไม่มีอำนาจ ให้สัมภาษณ์ทีไรก็เป็นเช่นสโนว์ไวท์ ต้องให้ พี่เลี้ยงทั้ง ๗ ยืนลุ้นตาลุกโพลงคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา มาวันนี้ สโนว์ไวท์ปลาสติกนี้ก็ยังรวยลับๆร่อๆอีก

    ตอบ คุณรออ่าน “รวย..อย่างชินวัตร” ตอน ๒ : “ รวย โดยมิชอบ” กับ ตอน ๓ : “ รวยจนบ้านเมือง ชิบหาย” ก็แล้วกันครับ
    10/1/68 รวย..อย่างชินวัตร ตอน ๑ : “รวยลับๆร่อๆ” แก้วสรร อติโพธิ ถาม มาดามแพ ผู้เป็นนายกฯ ทำมาหากินอะไร พอแจ้งทรัพย์สินแล้ว พบว่ารวยถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท ตอบ ทรัพย์สินกองนี้ ในฐานะที่เคยตรวจสอบทรัพย์สินเมื่อครั้งเป็น คตส.มาก่อน ผมพบว่าที่น่าสนใจเป็นกองแรกเลยคือ หนี้สินกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ที่ปรากฏตัวเจ้าหนี้เป็น คนในครอบครัวชินวัตร แทบทั้งนั้น จึงต้องตรวจสอบต่อไปให้ชัดว่ามาจากการซุกหุ้ น เหมือนคราวทักษิณซุกหุ้ นชินคอร์ป แล้ว ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๔๔ หรือไม่ ถาม ซุกหุ้นคราวขึ้นเป็น นายกฯ นั้น ทักษิณเขาทำอย่างไร ตอบ เขาทำเป็นขายหุ้นชินคอร์ปที่ชินวัตรถืออยู่ ๔๙.๖ % ให้ลูกและน้องสาวจนหมด ราคาตลาดหุ้นละ ๑๕๐ บาท แต่ขายให้ในราคาทุน ๑๐ บาท ผู้ซื้อก็ทำหลักฐานว่าไม่มีตังค์ ต้องกู้นเงินผู้ขายมาให้ ผู้ขาย จากนั้นผู้ซื้อก็เปิดบัญชีรับเงินปันผลขึ้นมาโดยเฉพาะ เงินเข้าเมื่อใดก็ส่งให้ผู้ขายหมด อ้างว่าเป็นการผ่อนชำระค่าหุ้น ผ่อนไปทุกปีจนท่วมยอดเงินกู้ เลย ภาพทางบัญชีอย่างนี้ คุณ เชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้ นจริงไหม ถาม ไม่เชื่อครับ มันเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นชินคอร์ปในหมู่ชินวัตร เพื่อให้หัวหน้าครอบครัวขึ้นเป็นนายกฯ โดยไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีชื่อถือหุ้นสัมปทานอีกต่อไปเท่านั้น ตอบ ในสภาพซุกหุ้นกันอย่างนี้ คุณว่าถ้าลูกทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ เขาจะต้องแจ้ งทรัพย์สินอย่างไร ถาม แจ้งว่าถือหุ้นชินคอร์ป ขณะเดียวกันก็เป็นลูกหนี้เงินกู้ จากพ่อด้วย ตอบ ถูกต้องครับ แจ้งเมื่อไหร่ภาพเด็กรวยเละ ที่ขึ้นเป็น นายกฯ ก็จะปรากฏให้งงกันทั้งประเทศว่ารวยได้อย่างไรกันในที่สุดถ้าชินวัตรยังรวยแบบลับๆร่อๆอยู่จนทุกวันนี้ จริงอย่างที่ผมสงสัย ยอดหนี้สิน ๔,๐๐๐ ล้าน ในบัญชีทรัพย์สินวันนี้ของ มาดามแพ ที่ปรากฏเคียงข้างคู่กับยอดเงินลงทุนกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้าน จึงน่าสงสัยมากๆ ว่าทรัพย์สินสองยอดนี้แท้ที่จริงแล้ว มาจากพฤติการณ์ที่มาดามแพถูกชินวัตรใช้ชื่อ ซุกหุ้นเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้คุณว่าใช่หรือไม่ ถาม ถ้าเป็นอย่างนี้ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้ เป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือ เป็นลูกหนี้ใครเลยก็ได้ปปช.มีอำนาจตรวจสอบไหมครับว่า บัญชีนี้จริงเท็จหรือไม่ ประการใด ตอบ ต้องตรวจหมดทุกกรณี ว่าได้หุ้นแต่ละก้อนมาอย่างไรจากใคร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใช่เงินกู้ กู้อนนี้หรือไม่ คนให้กู้คือคนที่ขายหุ้นให้ ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ ซตพ.ว่าซุกหุ้นแน่นอน ถาม มาดามแพ ยังมีชื่อถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์อยู่หรือไม่ครับ ตอบ ทราบข่าวว่าขายไปแล้ว ต้องสอบว่าคนซื้อเป็น นอมินีหรือเปล่า หุ้นอัลไพน์นี้โดนชินวัตรฟอกมาตลอด ตอนแรกเมื่อซื้อจากนายเสนาะ ก็ใช้ชื่อคนใช้คนขับรถ ถือหุ้นก่อน หลังเกิดคดีซุกหุ้นชิน คอร์ป และลูกบรรลุนิติภาวะ ถึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อมาดามแพ แล้วเปลี่ยนไปอีกเมื่อมาดามโผล่มาเล่นการเมืองในที่สุด ถาม นอกจากหุ้นชินคอร์ป หุ้นอัลไพน์แล้ว มีหุ้นอื่นอีกไหมครับ ตอบ ก็มีหุ้นธนาคารทหารไทยอีกก้อน ที่พอธนาคารซวดเซในปี ๒๕๔๕ จนกระทรวงการคลังต้องวางแผนอัดเงินเพิ่มให้หมื่นล้าน โดยจะให้ควบรวมกับไอเอฟซีทีด้วย แต่ปรากฏว่าก่อนจะลงมือจริง ก็มีการนำเงินปันผลชินคอร์ปของชินวัตร ๔๐๐ ล้านบาท ที่อยู่ในบัญชีธนาคารของโอ๊ค ไปช้อนซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยขนานใหญ่ ในชื่อโอ๊คเสียก่อน จากนั้นพอ กระทรวงคลังอัดเงินและ ควบรวมแล้ว ราคาหุ้นก็พุ่งสูงลิ่ว แต่ครั้นผลการประเมินภายใน พบว่าผลประกอบการธนาคารไม่กระเตื้อง ชินวัตรก็ออกตัวเร่งทะยอยขายหุ้นธนาคารทหารไทยของชินวัตรในชื่อโอ๊คจนหมด พอหุ้นร่วง แมงเม่าปีกไหม้หมด ก็มีแต่ชินวัตรกำไรอยู่เจ้าเดียวรวม ๗๐ ล้านบาท ถาม เห็นตอนควบไอเอฟซีที ก็มีการขายตึกไอเอฟซีที ให้คุณหญิงชินวัตร ด้วยใช่ไหมครับ ตอบ ครับ เขาซื้อไปในราคา ๔๒๐ ล้านบาท ต่ำกว่าตลาด ๑๐๐ ล้าน แล้วเอามาให้พรรคชินวัตร ชื่อไทยรักไทยเช่าอยู่จนทุกวันนี้ ถาม ทราบว่าตอนขายหุ้นชินคอร์ปยกล๊อต ให้เทมาเส็คเมื่อปี ๒๕๔๙ นั้น ก็รวยลับๆร่อๆ กันอีกหรือครับ ตอบ ชินวัตรเขาไปจดทะเบียนตั้งบริษัทที่เกาะฟอกเงินชื่อ บริติชเวอร์จิ้น ตั้งเป็นบริษัทชื่อ “วินมาร์ค” คอยเล่นหุ้นไทยอยู่ต่างประเทศผ่านธนาคารสิงค์โปร์ มาตลอด มาในปลายปี ๒๕๔๘ เมื่อให้ สส.ข้าทาสในสภาแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นโทรคมนาคมได้ ๔๙% จนทักษิณเจรจาตกลงเป็นการลับขายหุ้นยกล้อตให้เทมาเส็ค ในราคาหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาท จะได้เงินขายหุ้นโดยเปิดเผยกว่า ๗.๓ หมื่นล้านแล้ว ถึงตรงมกราคม ๒๕๔๙ นี้ ก็มีการลงมือรวย ลับๆร่อๆอีก จนได้เงินไปเฉยๆอีกก้อนหนึ่ง เป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ถาม เขาทำอย่างไรครับ ตอบ ตามกฎหมายนั้น เมื่อเทมาเส็คซื้อหุ้นก้อนใหญ่ จนหุ้นเปลี่ยนมือถึง ๔๙% อย่างนี้ ก็หุ้นชินคอร์ปจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาที่ซื้อจากชินวัตร คือหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาทด้วย แต่เมื่อชินวัตรทราบล่วงหน้า ก็เลยให้วินมาร์ค กว้านซื้อหุ้ นชินคอร์ป เข้าบัญชีธนาคารในสิงค์โปร์ก่อนเป็นการใหญ่ ในราคาตลาดขณะนั้น ที่หุ้นละ ๓๙ บาท กว้านอยู่ ๑ เดือน จนถือหุ้นชินคอร์ปในมือได้ ๑๑๔ ล้านหุ้น พอประกาศซื้อขายและเปิดรับซื้อ เขาก็เอาหุ้ นที่กวาดไว้ ล่วงหน้ามาขายได้เงินที่รวยลับๆร่อๆ ฉกฉวยเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยไป รวมเป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ในที่สุด ถาม เห็นทักษิณเขาคุยที่เวทีเชียงรายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า ก่อนมาเล่นการเมืองเขาก็รวยที่สุดในประเทศไทย มีสินทรัพย์กว่า ๖ หมื่นล้านอยู่แล้ว ตอบ เมื่อขึ้นเป็นรองนายกฯในรัฐบาล พลเอก ชวลิต เมื่อ ปี ๒๕๔๐ ผมเห็นเขาแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ ๔ หมื่นล้านบาท นี่แสดงว่าเงินพร่องไป ๒ หมื่นบาทเลยเชียวหรือ ถาม อาจลดลง เพราะซุกหุ้นชินคอร์ปไว้ กับคนรถ คนใช้แล้วก็ได้ ตอบ เอาเถอะครับ เขาจะรวยมาก่อน รวยอย่างไร เห็นเขาลือกันว่ารวยมาจากคราวลดค่าเงินบาทก็ได้ จริงเท็จ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ หลังตั้งพรรคลงเล่นการเมืองแล้ว เขาไม่ได้จนลงอย่างที่พูดเลย ก็ แล้วกันครับ มันมีทั้งรวยโดยเปิดเผยและลับๆร่อๆ มาวันนี้ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างลับๆร่อๆอีก ถาม หมายความว่า นอกจากซุกหุ้นแล้ว มาวันนี้ทักษิณเขายังซุกตำแหน่งนายกฯ ไว้ ในชื่อลูกด้วยอย่างนั้นหรือ มีประเทศไหนที่ผู้นำเป็นนายกฯโดยปกปิดชื่อไว้ ครับ ตอบ มีประเทศไทยนี่แหละครับ นี่ผมก็รอดูผลสอบของ กกต.อยู่ทุกวันนะครับว่า ข้อหาทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยนี่ เขาสอบสวนกันไปถึงไหนแล้ว ถาม กกต.นี่น่าจะย่อมาจาก “กูกลอกตา ” ไม่รู้ไม่เห็นซะดีกว่า ไม่ไหวเลยทำงานกันช้าเหลือเกินครับ แล้ววนี่บ้านเมืองจะไปทางไหนได้มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี คนมีอำนาจก็ไม่ต้องรับผิดชอบ คนรับผิดชอบก็ไม่มีอำนาจ ให้สัมภาษณ์ทีไรก็เป็นเช่นสโนว์ไวท์ ต้องให้ พี่เลี้ยงทั้ง ๗ ยืนลุ้นตาลุกโพลงคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา มาวันนี้ สโนว์ไวท์ปลาสติกนี้ก็ยังรวยลับๆร่อๆอีก ตอบ คุณรออ่าน “รวย..อย่างชินวัตร” ตอน ๒ : “ รวย โดยมิชอบ” กับ ตอน ๓ : “ รวยจนบ้านเมือง ชิบหาย” ก็แล้วกันครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1359 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๗ ม.ค.๖๘ - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "รวย..อย่างชินวัตร" มีเนื้อหาดังนี้

    ตอน ๑ : “รวยลับๆร่อๆ”
    ถาม
    มาดามแพ ผู้เป็นนายกฯ ทำมาหากินอะไร พอแจ้งทรัพย์สินแล้ว พบว่ารวยถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท
    ตอบ
    ทรัพย์สินกองนี้ ในฐานะที่เคยตรวจสอบทรัพย์สินเมื่อครั้งเป็น คตส.มาก่อน ผมพบว่าที่น่าสนใจเป็นกองแรกเลยคือ หนี้สินกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ที่ปรากฏตัวเจ้าหนี้เป็น คนในครอบครัวชินวัตร แทบทั้งนั้น จึงต้องตรวจสอบต่อไปให้ชัดว่ามาจากการซุกหุ้น เหมือนคราวทักษิณซุกหุ้นชินคอร์ป แล้วขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๔๔ หรือไม่

    ถาม
    ซุกหุ้นคราวขึ้นเป็น นายกฯ นั้น ทักษิณเขาทำอย่างไร
    ตอบ
    เขาทำเป็นขายหุ้นชินคอร์ปที่ชินวัตรถืออยู่ ๔๙.๖ % ให้ลูกและน้องสาวจนหมด ราคาตลาดหุ้นละ ๑๕๐ บาท แต่ขายให้ในราคาทุน ๑๐ บาท ผู้ซื้อก็ทำหลักฐานว่าไม่มีตังค์ ต้องกู้เงินผู้ขายมาให้ผู้ขาย จากนั้นผู้ซื้อก็เปิดบัญชีรับเงินปันผลขึ้นมาโดยเฉพาะ เงินเข้าเมื่อใดก็ส่งให้ผู้ขายหมด อ้างว่าเป็นการผ่อนชำระค่าหุ้น ผ่อนไปทุกปีจนท่วมยอดเงินกู้เลย ภาพทางบัญชีอย่างนี้ คุณเชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้นจริงไหม

    ถาม
    ไม่เชื่อครับ มันเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นชินคอร์ปในหมู่ชินวัตร เพื่อให้หัวหน้าครอบครัวขึ้นเป็นนายกฯ โดยไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีชื่อถือหุ้นสัมปทานอีกต่อไปเท่านั้น
    ตอบ
    ในสภาพซุกหุ้นกันอย่างนี้ คุณว่าถ้าลูกทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ เขาจะต้องแจ้งทรัพย์สินอย่างไร

    ถาม
    แจ้งว่าถือหุ้นชินคอร์ป ขณะเดียวกันก็เป็นลูกหนี้เงินกู้จากพ่อด้วย
    ตอบ
    ถูกต้องครับ แจ้งเมื่อไหร่ภาพเด็กรวยเละ ที่ขึ้นเป็น นายกฯ ก็จะปรากฏให้งงกันทั้งประเทศว่ารวยได้อย่างไรกันในที่สุด
    ถ้าชินวัตรยังรวยแบบลับๆร่อๆอยู่จนทุกวันนี้ จริงอย่างที่ผมสงสัย ยอดหนี้สิน ๔,๐๐๐ ล้าน ในบัญชีทรัพย์สินวันนี้ของ มาดามแพ ที่ปรากฏเคียงข้างคู่กับยอดเงินลงทุนกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้าน จึงน่าสงสัยมากๆ ว่า ทรัพย์สินสองยอดนี้แท้ที่จริงแล้ว มาจากพฤติการณ์ที่มาดามแพถูกชินวัตรใช้ชื่อซุกหุ้นเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้ คุณว่าใช่หรือไม่

    ถาม
    ถ้าเป็นอย่างนี้ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือ เป็นลูกหนี้ใครเลยก็ได้ ปปช.มีอำนาจตรวจสอบไหมครับว่า บัญชีนี้จริงเท็จหรือไม่ ประการใด
    ตอบ
    ต้องตรวจหมดทุกกรณี ว่าได้หุ้นแต่ละก้อนมาอย่างไรจากใคร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใช่เงินกู้ก้อนนี้หรือไม่ คนให้กู้คือคนที่ขายหุ้นให้ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ ซตพ.ว่าซุกหุ้นแน่นอน

    ถาม
    มาดามแพ ยังมีชื่อถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์อยู่หรือไม่ครับ
    ตอบ
    ทราบข่าวว่าขายไปแล้ว ต้องสอบว่าคนซื้อเป็น นอมินีหรือเปล่า หุ้นอัลไพน์นี้โดนชินวัตรฟอกมาตลอด ตอนแรกเมื่อซื้อจากนายเสนาะ ก็ใช้ชื่อคนใช้ คนขับรถ ถือหุ้นก่อน หลังเกิดคดีซุกหุ้นชินคอร์ป และลูกบรรลุนิติภาวะ ถึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อมาดามแพ แล้วเปลี่ยนไปอีกเมื่อมาดามโผล่มาเล่นการเมืองในที่สุด

    ถาม
    นอกจากหุ้นชินคอร์ป หุ้นอัลไพน์แล้ว มีหุ้นอื่นอีกไหมครับ
    ตอบ
    ก็มีหุ้นธนาคารทหารไทยอีกก้อน ที่พอธนาคารซวดเซในปี ๒๕๔๕ จนกระทรวงการคลังต้องวางแผนอัดเงินเพิ่มให้หมื่นล้าน โดยจะให้ควบรวมกับไอเอฟซีทีด้วย แต่ปรากฏว่าก่อนจะลงมือจริง ก็มีการนำเงินปันผลชินคอร์ปของชินวัตร ๔๐๐ ล้านบาท ที่อยู่ในบัญชีธนาคารของโอ๊ค ไปช้อนซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยขนานใหญ่ ในชื่อโอ๊คเสียก่อน จากนั้นพอกระทรวงคลังอัดเงินและควบรวมแล้ว ราคาหุ้นก็พุ่งสูงลิ่ว แต่ครั้นผลการประเมินภายใน พบว่าผลประกอบการธนาคารไม่กระเตื้อง ชินวัตรก็ออกตัวเร่งทะยอยขายหุ้นธนาคารทหารไทยของชินวัตรในชื่อโอ๊คจนหมด พอหุ้นร่วง แมงเม่าปีกไหม้หมด ก็มีแต่ชินวัตรกำไรอยู่เจ้าเดียวรวม ๗๐ ล้านบาท

    ถาม
    เห็นตอนควบไอเอฟซีที ก็มีการขายตึกไอเอฟซีที ให้คุณหญิงชินวัตร ด้วยใช่ไหมครับ
    ตอบ
    ครับ เขาซื้อไปในราคา ๔๒๐ ล้านบาท ต่ำกว่าตลาด ๑๐๐ ล้าน แล้วเอามาให้พรรคชินวัตร ชื่อไทยรักไทยเช่าอยู่จนทุกวันนี้

    ถาม
    ทราบว่าตอนขายหุ้นชินคอร์ปยกล้อต ให้เทมาเส็คเมื่อปี ๒๕๔๙ นั้น ก็รวยลับๆร่อๆ กันอีกหรือครับ
    ตอบ
    ชินวัตรเขาไปจดทะเบียนตั้งบริษัทที่เกาะฟอกเงินชื่อ บริติชเวอร์จิ้น ตั้งเป็นบริษัทชื่อ “วินมาร์ค”คอยเล่นหุ้นไทยอยู่ต่างประเทศผ่านธนาคารสิงค์โปร์ มาตลอด
    มาในปลายปี ๒๕๔๘ เมื่อให้ สส.ข้าทาสในสภาแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นโทรคมนาคมได้ ๔๙% จนทักษิณเจรจาตกลงเป็นการลับขายหุ้นยกล้อตให้เทมาเส็ค ในราคาหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาท จะได้เงินขายหุ้นโดยเปิดเผยกว่า ๗.๓ หมื่นล้านแล้ว ถึงตรงมกราคม ๒๕๔๙ นี้ ก็มีการลงมือรวยลับๆร่อๆอีก จนได้เงินไปเฉยๆอีกก้อนหนึ่ง เป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท

    ถาม
    เขาทำอย่างไรครับ
    ตอบ
    ตามกฎหมายนั้น เมื่อเทมาเส็คซื้อหุ้นก้อนใหญ่ จนหุ้นเปลี่ยนมือถึง ๔๙% อย่างนี้ ก็ต้องตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นชินคอร์ปจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาที่ซื้อจากชินวัตร คือหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาทด้วย แต่เมื่อชินวัตรทราบล่วงหน้า ก็เลยให้วินมาร์ค กว้านซื้อหุ้นชินคอร์ป เข้าบัญชีธนาคารในสิงค์โปร์ก่อนเป็นการใหญ่ ในราคาตลาดขณะนั้น ที่หุ้นละ ๓๙ บาท กว้านอยู่ ๑ เดือน จนถือหุ้นชินคอร์ปในมือได้ ๑๑๔ ล้านหุ้น พอประกาศซื้อขายและเปิดรับซื้อ เขาก็เอาหุ้นที่กวาดไว้ล่วงหน้ามาขาย ได้เงินที่รวยลับๆร่อๆ ฉกฉวยเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยไป รวมเป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ในที่สุด

    ถาม
    เห็นทักษิณเขาคุยที่เวทีเชียงรายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า ก่อนมาเล่นการเมืองเขาก็รวยที่สุดในประเทศไทย มีสินทรัพย์กว่า ๖ หมื่นล้านอยู่แล้ว
    ตอบ
    เมื่อขึ้นเป็นรองนายกฯในรัฐบาล พลเอก ชวลิต เมื่อ ปี ๒๕๔๐ ผมเห็นเขาแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ ๔ หมื่นล้านบาท นี่แสดงว่าเงินพร่องไป ๒ หมื่นบาทเลยเชียวหรือ

    ถาม
    อาจลดลง เพราะซุกหุ้นชินคอร์ปไว้กับคนรถ คนใช้แล้วก็ได้
    ตอบ
    เอาเถอะครับ เขาจะรวยมาก่อน รวยอย่างไร เห็นเขาลือกันว่ารวยมาจากคราวลดค่าเงินบาทก็ได้ จริงเท็จ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ หลังตั้งพรรคลงเล่นการเมืองแล้ว เขาไม่ได้จนลงอย่างที่พูดเลย ก็แล้วกันครับ มันมีทั้งรวยโดยเปิดเผยและลับๆร่อๆ มาวันนี้ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างลับๆร่อๆอีก

    ถาม
    หมายความว่า นอกจากซุกหุ้นแล้ว มาวันนี้ทักษิณเขายังซุกตำแหน่งนายกฯ ไว้ในชื่อลูกด้วย อย่างนั้นหรือ มีประเทศไหนที่ผู้นำเป็นนายกฯโดยปกปิดชื่อไว้ครับ
    ตอบ
    มีประเทศไทยนี่แหละครับ นี่ผมก็รอดูผลสอบของ กกต.อยู่ทุกวันนะครับว่า ข้อหาทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยนี่ เขาสอบสวนกันไปถึงไหนแล้ว

    ถาม
    กกต.นี่น่าจะย่อมาจาก “กูกลอกตา ” ไม่รู้ไม่เห็นซะดีกว่า ไม่ไหวเลยทำงานกันช้าเหลือเกินครับ แล้วนี่บ้านเมืองจะไปทางไหนได้ มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี คนมีอำนาจก็ไม่ต้องรับผิดชอบ คนรับผิดชอบก็ไม่มีอำนาจ ให้สัมภาษณ์ทีไรก็เป็นเช่นสโนวไวท์ ต้องให้พี่เลี้ยงทั้ง ๗ ยืนลุ้นตาลุกโพลงคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา มาวันนี้ สโนว์ไวท์ปลาสติกนี้ก็ยังรวยลับๆร่อๆอีก
    ตอบ
    คุณรออ่าน “รวย..อย่างชินวัตร” ตอน ๒ : “รวยโดยมิชอบ” กับ ตอน ๓ : “รวยจนบ้านเมืองชิบหาย”
    แล้วกันครับ.
    ๗ ม.ค.๖๘ - นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง "รวย..อย่างชินวัตร" มีเนื้อหาดังนี้ ตอน ๑ : “รวยลับๆร่อๆ” ถาม มาดามแพ ผู้เป็นนายกฯ ทำมาหากินอะไร พอแจ้งทรัพย์สินแล้ว พบว่ารวยถึง ๑๖,๐๐๐ ล้านบาท ตอบ ทรัพย์สินกองนี้ ในฐานะที่เคยตรวจสอบทรัพย์สินเมื่อครั้งเป็น คตส.มาก่อน ผมพบว่าที่น่าสนใจเป็นกองแรกเลยคือ หนี้สินกว่า ๔,๐๐๐ ล้านบาท ที่ปรากฏตัวเจ้าหนี้เป็น คนในครอบครัวชินวัตร แทบทั้งนั้น จึงต้องตรวจสอบต่อไปให้ชัดว่ามาจากการซุกหุ้น เหมือนคราวทักษิณซุกหุ้นชินคอร์ป แล้วขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี ๒๕๔๔ หรือไม่ ถาม ซุกหุ้นคราวขึ้นเป็น นายกฯ นั้น ทักษิณเขาทำอย่างไร ตอบ เขาทำเป็นขายหุ้นชินคอร์ปที่ชินวัตรถืออยู่ ๔๙.๖ % ให้ลูกและน้องสาวจนหมด ราคาตลาดหุ้นละ ๑๕๐ บาท แต่ขายให้ในราคาทุน ๑๐ บาท ผู้ซื้อก็ทำหลักฐานว่าไม่มีตังค์ ต้องกู้เงินผู้ขายมาให้ผู้ขาย จากนั้นผู้ซื้อก็เปิดบัญชีรับเงินปันผลขึ้นมาโดยเฉพาะ เงินเข้าเมื่อใดก็ส่งให้ผู้ขายหมด อ้างว่าเป็นการผ่อนชำระค่าหุ้น ผ่อนไปทุกปีจนท่วมยอดเงินกู้เลย ภาพทางบัญชีอย่างนี้ คุณเชื่อว่ามีการซื้อขายหุ้นจริงไหม ถาม ไม่เชื่อครับ มันเป็นแค่การเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นชินคอร์ปในหมู่ชินวัตร เพื่อให้หัวหน้าครอบครัวขึ้นเป็นนายกฯ โดยไม่ผิดกฎหมายเพราะไม่มีชื่อถือหุ้นสัมปทานอีกต่อไปเท่านั้น ตอบ ในสภาพซุกหุ้นกันอย่างนี้ คุณว่าถ้าลูกทักษิณ ขึ้นเป็นนายกฯ เขาจะต้องแจ้งทรัพย์สินอย่างไร ถาม แจ้งว่าถือหุ้นชินคอร์ป ขณะเดียวกันก็เป็นลูกหนี้เงินกู้จากพ่อด้วย ตอบ ถูกต้องครับ แจ้งเมื่อไหร่ภาพเด็กรวยเละ ที่ขึ้นเป็น นายกฯ ก็จะปรากฏให้งงกันทั้งประเทศว่ารวยได้อย่างไรกันในที่สุด ถ้าชินวัตรยังรวยแบบลับๆร่อๆอยู่จนทุกวันนี้ จริงอย่างที่ผมสงสัย ยอดหนี้สิน ๔,๐๐๐ ล้าน ในบัญชีทรัพย์สินวันนี้ของ มาดามแพ ที่ปรากฏเคียงข้างคู่กับยอดเงินลงทุนกว่า ๑๐,๐๐๐ ล้าน จึงน่าสงสัยมากๆ ว่า ทรัพย์สินสองยอดนี้แท้ที่จริงแล้ว มาจากพฤติการณ์ที่มาดามแพถูกชินวัตรใช้ชื่อซุกหุ้นเป็นหมื่นล้านก็เป็นได้ คุณว่าใช่หรือไม่ ถาม ถ้าเป็นอย่างนี้ แท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือ เป็นลูกหนี้ใครเลยก็ได้ ปปช.มีอำนาจตรวจสอบไหมครับว่า บัญชีนี้จริงเท็จหรือไม่ ประการใด ตอบ ต้องตรวจหมดทุกกรณี ว่าได้หุ้นแต่ละก้อนมาอย่างไรจากใคร เอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใช่เงินกู้ก้อนนี้หรือไม่ คนให้กู้คือคนที่ขายหุ้นให้ใช่หรือเปล่า ถ้าใช่ ก็ ซตพ.ว่าซุกหุ้นแน่นอน ถาม มาดามแพ ยังมีชื่อถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์อยู่หรือไม่ครับ ตอบ ทราบข่าวว่าขายไปแล้ว ต้องสอบว่าคนซื้อเป็น นอมินีหรือเปล่า หุ้นอัลไพน์นี้โดนชินวัตรฟอกมาตลอด ตอนแรกเมื่อซื้อจากนายเสนาะ ก็ใช้ชื่อคนใช้ คนขับรถ ถือหุ้นก่อน หลังเกิดคดีซุกหุ้นชินคอร์ป และลูกบรรลุนิติภาวะ ถึงเปลี่ยนมาเป็นชื่อมาดามแพ แล้วเปลี่ยนไปอีกเมื่อมาดามโผล่มาเล่นการเมืองในที่สุด ถาม นอกจากหุ้นชินคอร์ป หุ้นอัลไพน์แล้ว มีหุ้นอื่นอีกไหมครับ ตอบ ก็มีหุ้นธนาคารทหารไทยอีกก้อน ที่พอธนาคารซวดเซในปี ๒๕๔๕ จนกระทรวงการคลังต้องวางแผนอัดเงินเพิ่มให้หมื่นล้าน โดยจะให้ควบรวมกับไอเอฟซีทีด้วย แต่ปรากฏว่าก่อนจะลงมือจริง ก็มีการนำเงินปันผลชินคอร์ปของชินวัตร ๔๐๐ ล้านบาท ที่อยู่ในบัญชีธนาคารของโอ๊ค ไปช้อนซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยขนานใหญ่ ในชื่อโอ๊คเสียก่อน จากนั้นพอกระทรวงคลังอัดเงินและควบรวมแล้ว ราคาหุ้นก็พุ่งสูงลิ่ว แต่ครั้นผลการประเมินภายใน พบว่าผลประกอบการธนาคารไม่กระเตื้อง ชินวัตรก็ออกตัวเร่งทะยอยขายหุ้นธนาคารทหารไทยของชินวัตรในชื่อโอ๊คจนหมด พอหุ้นร่วง แมงเม่าปีกไหม้หมด ก็มีแต่ชินวัตรกำไรอยู่เจ้าเดียวรวม ๗๐ ล้านบาท ถาม เห็นตอนควบไอเอฟซีที ก็มีการขายตึกไอเอฟซีที ให้คุณหญิงชินวัตร ด้วยใช่ไหมครับ ตอบ ครับ เขาซื้อไปในราคา ๔๒๐ ล้านบาท ต่ำกว่าตลาด ๑๐๐ ล้าน แล้วเอามาให้พรรคชินวัตร ชื่อไทยรักไทยเช่าอยู่จนทุกวันนี้ ถาม ทราบว่าตอนขายหุ้นชินคอร์ปยกล้อต ให้เทมาเส็คเมื่อปี ๒๕๔๙ นั้น ก็รวยลับๆร่อๆ กันอีกหรือครับ ตอบ ชินวัตรเขาไปจดทะเบียนตั้งบริษัทที่เกาะฟอกเงินชื่อ บริติชเวอร์จิ้น ตั้งเป็นบริษัทชื่อ “วินมาร์ค”คอยเล่นหุ้นไทยอยู่ต่างประเทศผ่านธนาคารสิงค์โปร์ มาตลอด มาในปลายปี ๒๕๔๘ เมื่อให้ สส.ข้าทาสในสภาแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นโทรคมนาคมได้ ๔๙% จนทักษิณเจรจาตกลงเป็นการลับขายหุ้นยกล้อตให้เทมาเส็ค ในราคาหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาท จะได้เงินขายหุ้นโดยเปิดเผยกว่า ๗.๓ หมื่นล้านแล้ว ถึงตรงมกราคม ๒๕๔๙ นี้ ก็มีการลงมือรวยลับๆร่อๆอีก จนได้เงินไปเฉยๆอีกก้อนหนึ่ง เป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ถาม เขาทำอย่างไรครับ ตอบ ตามกฎหมายนั้น เมื่อเทมาเส็คซื้อหุ้นก้อนใหญ่ จนหุ้นเปลี่ยนมือถึง ๔๙% อย่างนี้ ก็ต้องตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นชินคอร์ปจากผู้ถือหุ้นทั่วไป ในราคาที่ซื้อจากชินวัตร คือหุ้นละ ๔๙.๒๕ บาทด้วย แต่เมื่อชินวัตรทราบล่วงหน้า ก็เลยให้วินมาร์ค กว้านซื้อหุ้นชินคอร์ป เข้าบัญชีธนาคารในสิงค์โปร์ก่อนเป็นการใหญ่ ในราคาตลาดขณะนั้น ที่หุ้นละ ๓๙ บาท กว้านอยู่ ๑ เดือน จนถือหุ้นชินคอร์ปในมือได้ ๑๑๔ ล้านหุ้น พอประกาศซื้อขายและเปิดรับซื้อ เขาก็เอาหุ้นที่กวาดไว้ล่วงหน้ามาขาย ได้เงินที่รวยลับๆร่อๆ ฉกฉวยเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยไป รวมเป็นเงิน ๕๐๐ ล้านบาท ในที่สุด ถาม เห็นทักษิณเขาคุยที่เวทีเชียงรายเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่า ก่อนมาเล่นการเมืองเขาก็รวยที่สุดในประเทศไทย มีสินทรัพย์กว่า ๖ หมื่นล้านอยู่แล้ว ตอบ เมื่อขึ้นเป็นรองนายกฯในรัฐบาล พลเอก ชวลิต เมื่อ ปี ๒๕๔๐ ผมเห็นเขาแจ้งบัญชีทรัพย์สินไว้ ๔ หมื่นล้านบาท นี่แสดงว่าเงินพร่องไป ๒ หมื่นบาทเลยเชียวหรือ ถาม อาจลดลง เพราะซุกหุ้นชินคอร์ปไว้กับคนรถ คนใช้แล้วก็ได้ ตอบ เอาเถอะครับ เขาจะรวยมาก่อน รวยอย่างไร เห็นเขาลือกันว่ารวยมาจากคราวลดค่าเงินบาทก็ได้ จริงเท็จ ผมไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ หลังตั้งพรรคลงเล่นการเมืองแล้ว เขาไม่ได้จนลงอย่างที่พูดเลย ก็แล้วกันครับ มันมีทั้งรวยโดยเปิดเผยและลับๆร่อๆ มาวันนี้ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างลับๆร่อๆอีก ถาม หมายความว่า นอกจากซุกหุ้นแล้ว มาวันนี้ทักษิณเขายังซุกตำแหน่งนายกฯ ไว้ในชื่อลูกด้วย อย่างนั้นหรือ มีประเทศไหนที่ผู้นำเป็นนายกฯโดยปกปิดชื่อไว้ครับ ตอบ มีประเทศไทยนี่แหละครับ นี่ผมก็รอดูผลสอบของ กกต.อยู่ทุกวันนะครับว่า ข้อหาทักษิณครอบงำพรรคเพื่อไทยนี่ เขาสอบสวนกันไปถึงไหนแล้ว ถาม กกต.นี่น่าจะย่อมาจาก “กูกลอกตา ” ไม่รู้ไม่เห็นซะดีกว่า ไม่ไหวเลยทำงานกันช้าเหลือเกินครับ แล้วนี่บ้านเมืองจะไปทางไหนได้ มีรัฐบาลก็เหมือนไม่มี คนมีอำนาจก็ไม่ต้องรับผิดชอบ คนรับผิดชอบก็ไม่มีอำนาจ ให้สัมภาษณ์ทีไรก็เป็นเช่นสโนวไวท์ ต้องให้พี่เลี้ยงทั้ง ๗ ยืนลุ้นตาลุกโพลงคอยปกป้องอยู่ตลอดเวลา มาวันนี้ สโนว์ไวท์ปลาสติกนี้ก็ยังรวยลับๆร่อๆอีก ตอบ คุณรออ่าน “รวย..อย่างชินวัตร” ตอน ๒ : “รวยโดยมิชอบ” กับ ตอน ๓ : “รวยจนบ้านเมืองชิบหาย” แล้วกันครับ.
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1421 มุมมอง 0 รีวิว