• ป้าอัง ไม่มีปัญญาหาแพะ เหมือนไชยชนก 40 ล้าน ขืนไปแจ้งความเรื่องที่กุขึ้นมา อาจโดนข้อหาแจ้งความเท็จ ทำตำรวจเสียพลังงานฟรี
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #อังคณา
    ป้าอัง ไม่มีปัญญาหาแพะ เหมือนไชยชนก 40 ล้าน ขืนไปแจ้งความเรื่องที่กุขึ้นมา อาจโดนข้อหาแจ้งความเท็จ ทำตำรวจเสียพลังงานฟรี #คิงส์โพธิ์แดง #อังคณา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร.เผยยังไม่ได้รับรายงานทางการ ปม “แมรี่ เลาลอว์” ห่วงสวัสดิภาพ “อังคณา” ถูกขู่ฆ่า ยันหากมีจริงให้เข้าแจ้งความ ตร.พร้อมคุ้มครองและดำเนินการตามกฎหมาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000098869

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ผบ.ตร.เผยยังไม่ได้รับรายงานทางการ ปม “แมรี่ เลาลอว์” ห่วงสวัสดิภาพ “อังคณา” ถูกขู่ฆ่า ยันหากมีจริงให้เข้าแจ้งความ ตร.พร้อมคุ้มครองและดำเนินการตามกฎหมาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000098869 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เมื่อวิศวกรซอฟต์แวร์ถูกขอให้ทำสิ่งผิดกฎหมาย — บทเรียนจาก FTX, Frank และ Pollen ที่อาจช่วยคุณไม่ต้องใส่ชุดนักโทษ”

    ในโลกของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยโค้ดและข้อมูล วิศวกรซอฟต์แวร์มักถูกมองว่าเป็นผู้สร้าง ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ แต่เมื่อคำสั่งจากผู้บริหารกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย พวกเขากลับกลายเป็น “ผู้ร่วมกระทำผิด” ได้โดยไม่ตั้งใจ บทความจาก The Pragmatic Engineer ได้รวบรวมกรณีจริง 3 เรื่อง ที่วิศวกรถูกขอให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย — และผลลัพธ์ของการตัดสินใจนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

    กรณีแรกคือ Nishad Singh จาก FTX ซึ่งในปี 2022 ได้รับรู้ว่า Alameda Research กำลังใช้เงินลูกค้าจาก FTX ไปกว่า 13 พันล้านดอลลาร์ เขารู้สึกตกใจและจัดประชุมทันที แต่กลับเลือกที่จะ “อยู่ต่อเพื่อช่วยแก้ไข” แทนที่จะลาออกหรือแจ้งความ สุดท้ายเขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์จากบริษัท และต้องรับโทษทางกฎหมาย แม้จะได้รับการลดโทษเหลือเพียงการควบคุมตัว 3 ปี แต่ก็เป็นบทเรียนที่ชัดเจนว่า “การอยู่ต่อหลังรู้ว่ามีการโกง ไม่ใช่ทางออก”

    กรณีที่สองคือวิศวกรจาก Frank ซึ่งถูก CEO ขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียมกว่า 4.2 ล้านรายเพื่อให้บริษัทดูมีมูลค่ามากขึ้นก่อนขายให้ JPMorgan วิศวกรคนนั้นปฏิเสธทันที และส่งเฉพาะข้อมูลจริงที่มีอยู่ประมาณ 293,000 ราย สุดท้าย CEO ถูกจับและถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ส่วนวิศวกรรอดพ้นจากทุกข้อกล่าวหา

    กรณีสุดท้ายคือบริษัท Pollen ที่มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อให้บริษัทมีเงินจ่ายเงินเดือน วิศวกรคนหนึ่งยอมทำตามคำสั่ง CEO โดยเขียนสคริปต์เพื่อเรียกเก็บเงินซ้ำ และยอมรับในภายหลังว่า “เป็นการตัดสินใจที่แย่มาก” แม้จะยังไม่มีการตั้งข้อหา แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นคดีฉ้อโกงในอนาคต

    บทเรียนจากทั้งสามกรณีคือ — วิศวกรมีสิทธิ์ปฏิเสธ และควรใช้สิทธินั้นเมื่อพบว่าคำสั่งอาจผิดกฎหมาย เพราะการ “ทำตามคำสั่ง” ไม่ได้ปกป้องคุณจากผลทางกฎหมาย หากสิ่งที่คุณทำกลายเป็นหลักฐานในศาล

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Nishad Singh จาก FTX รู้ว่ามีการใช้เงินลูกค้าโดยมิชอบ แต่เลือกอยู่ต่อ
    เขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์หลังรู้เรื่อง และถูกดำเนินคดี
    ศาลลดโทษให้เหลือการควบคุมตัว 3 ปี เพราะเขาให้ความร่วมมือในการสอบสวน
    วิศวกรจาก Frank ถูกขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียม แต่ปฏิเสธทันที
    CEO ของ Frank ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ฐานฉ้อโกง JPMorgan
    ที่ Pollen มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อจ่ายเงินเดือน
    วิศวกรยอมทำตามคำสั่ง CEO และยอมรับภายหลังว่าเป็นการตัดสินใจผิด
    ยังไม่มีการตั้งข้อหาทางอาญาในกรณีของ Pollen ณ ตุลาคม 2025

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    กฎหมายสหรัฐฯ ให้รางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส (whistleblower) สูงถึง 30% ของเงินที่รัฐเรียกคืน
    การลาออกทันทีหลังพบการกระทำผิดอาจช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมาย
    การรับเงินหรือผลประโยชน์หลังรู้ว่ามีการโกง อาจถูกตีความว่า “ร่วมมือ”
    การบันทึกคำสั่งที่อาจผิดกฎหมาย เช่น อีเมลหรือแชท เป็นหลักฐานสำคัญ
    การปรึกษาทนายก่อนตัดสินใจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด

    https://blog.pragmaticengineer.com/asked-to-do-something-illegal-at-work/
    ⚖️ “เมื่อวิศวกรซอฟต์แวร์ถูกขอให้ทำสิ่งผิดกฎหมาย — บทเรียนจาก FTX, Frank และ Pollen ที่อาจช่วยคุณไม่ต้องใส่ชุดนักโทษ” ในโลกของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยโค้ดและข้อมูล วิศวกรซอฟต์แวร์มักถูกมองว่าเป็นผู้สร้าง ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ แต่เมื่อคำสั่งจากผู้บริหารกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย พวกเขากลับกลายเป็น “ผู้ร่วมกระทำผิด” ได้โดยไม่ตั้งใจ บทความจาก The Pragmatic Engineer ได้รวบรวมกรณีจริง 3 เรื่อง ที่วิศวกรถูกขอให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย — และผลลัพธ์ของการตัดสินใจนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กรณีแรกคือ Nishad Singh จาก FTX ซึ่งในปี 2022 ได้รับรู้ว่า Alameda Research กำลังใช้เงินลูกค้าจาก FTX ไปกว่า 13 พันล้านดอลลาร์ เขารู้สึกตกใจและจัดประชุมทันที แต่กลับเลือกที่จะ “อยู่ต่อเพื่อช่วยแก้ไข” แทนที่จะลาออกหรือแจ้งความ สุดท้ายเขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์จากบริษัท และต้องรับโทษทางกฎหมาย แม้จะได้รับการลดโทษเหลือเพียงการควบคุมตัว 3 ปี แต่ก็เป็นบทเรียนที่ชัดเจนว่า “การอยู่ต่อหลังรู้ว่ามีการโกง ไม่ใช่ทางออก” กรณีที่สองคือวิศวกรจาก Frank ซึ่งถูก CEO ขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียมกว่า 4.2 ล้านรายเพื่อให้บริษัทดูมีมูลค่ามากขึ้นก่อนขายให้ JPMorgan วิศวกรคนนั้นปฏิเสธทันที และส่งเฉพาะข้อมูลจริงที่มีอยู่ประมาณ 293,000 ราย สุดท้าย CEO ถูกจับและถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ส่วนวิศวกรรอดพ้นจากทุกข้อกล่าวหา กรณีสุดท้ายคือบริษัท Pollen ที่มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อให้บริษัทมีเงินจ่ายเงินเดือน วิศวกรคนหนึ่งยอมทำตามคำสั่ง CEO โดยเขียนสคริปต์เพื่อเรียกเก็บเงินซ้ำ และยอมรับในภายหลังว่า “เป็นการตัดสินใจที่แย่มาก” แม้จะยังไม่มีการตั้งข้อหา แต่ก็เป็นความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นคดีฉ้อโกงในอนาคต บทเรียนจากทั้งสามกรณีคือ — วิศวกรมีสิทธิ์ปฏิเสธ และควรใช้สิทธินั้นเมื่อพบว่าคำสั่งอาจผิดกฎหมาย เพราะการ “ทำตามคำสั่ง” ไม่ได้ปกป้องคุณจากผลทางกฎหมาย หากสิ่งที่คุณทำกลายเป็นหลักฐานในศาล ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Nishad Singh จาก FTX รู้ว่ามีการใช้เงินลูกค้าโดยมิชอบ แต่เลือกอยู่ต่อ ➡️ เขาได้รับเงินกู้ 3.7 ล้านดอลลาร์หลังรู้เรื่อง และถูกดำเนินคดี ➡️ ศาลลดโทษให้เหลือการควบคุมตัว 3 ปี เพราะเขาให้ความร่วมมือในการสอบสวน ➡️ วิศวกรจาก Frank ถูกขอให้สร้างข้อมูลลูกค้าเทียม แต่ปฏิเสธทันที ➡️ CEO ของ Frank ถูกตัดสินจำคุก 7 ปี ฐานฉ้อโกง JPMorgan ➡️ ที่ Pollen มีการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าซ้ำโดยเจตนาเพื่อจ่ายเงินเดือน ➡️ วิศวกรยอมทำตามคำสั่ง CEO และยอมรับภายหลังว่าเป็นการตัดสินใจผิด ➡️ ยังไม่มีการตั้งข้อหาทางอาญาในกรณีของ Pollen ณ ตุลาคม 2025 ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ กฎหมายสหรัฐฯ ให้รางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแส (whistleblower) สูงถึง 30% ของเงินที่รัฐเรียกคืน ➡️ การลาออกทันทีหลังพบการกระทำผิดอาจช่วยลดความเสี่ยงทางกฎหมาย ➡️ การรับเงินหรือผลประโยชน์หลังรู้ว่ามีการโกง อาจถูกตีความว่า “ร่วมมือ” ➡️ การบันทึกคำสั่งที่อาจผิดกฎหมาย เช่น อีเมลหรือแชท เป็นหลักฐานสำคัญ ➡️ การปรึกษาทนายก่อนตัดสินใจเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด https://blog.pragmaticengineer.com/asked-to-do-something-illegal-at-work/
    BLOG.PRAGMATICENGINEER.COM
    Asked to do something illegal at work? Here’s what these software engineers did
    At FTX, Frank, and Pollen, software engineers were asked to do something potentially illegal, or to go along with what looked like fraud. They obliged in two out of three cases, landed in hot water, and now face jail time. A reminder why it’s never a good idea to go along with such requests.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ChatControl: กฎหมายใหม่ของ EU ที่จะสแกนทุกข้อความส่วนตัว — เมื่อการปกป้องเด็กกลายเป็นข้ออ้างในการสอดแนมประชาชน”

    สหภาพยุโรปกำลังผลักดันกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า “ChatControl” หรือชื่อเต็มคือ CSAR (Child Sexual Abuse Regulation) ซึ่งมีเป้าหมายในการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโลกออนไลน์ แต่เบื้องหลังของเจตนาดีนี้ กลับมีข้อเสนอที่อาจเปลี่ยนแปลงสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนยุโรปกว่า 450 ล้านคนอย่างถาวร

    ChatControl จะบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มที่มีการสื่อสารระหว่างบุคคล — ไม่ว่าจะเป็นแอปแชตอย่าง Signal, WhatsApp, Telegram ไปจนถึงอีเมล, เกม, โซเชียลมีเดีย, แอปหาคู่, และแม้แต่บริการฝากไฟล์ — ต้องติดตั้งระบบ “Client-Side Scanning” ที่จะสแกนข้อความและภาพก่อนถูกเข้ารหัส ส่งผลให้แม้แต่แอปที่ใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-End ก็ไม่สามารถปกป้องข้อมูลได้อีกต่อไป

    ระบบนี้จะตรวจจับ 3 ประเภทของเนื้อหา:
    เนื้อหาที่ผิดกฎหมายที่มีอยู่ในฐานข้อมูล
    เนื้อหาที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายโดยใช้ AI วิเคราะห์ภาพ
    พฤติกรรมการล่อลวงเด็กโดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อความ

    หากพบสิ่งต้องสงสัย ระบบจะรายงานอัตโนมัติไปยังศูนย์กลางของ EU โดยไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ก่อน ซึ่งอาจนำไปสู่การแจ้งความผิดพลาดจำนวนมหาศาล

    แม้จะมีข้ออ้างเรื่องการปกป้องเด็ก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกว่า 600 คนจาก 35 ประเทศได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกคัดค้านกฎหมายนี้ โดยชี้ว่าการสแกนฝั่งผู้ใช้เป็นการทำลายหลักการของการเข้ารหัส และเปิดช่องให้เกิดการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง

    ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ กฎหมายนี้ยังมีข้อยกเว้นให้กับบัญชีของรัฐบาลในกรณี “ความมั่นคงแห่งชาติ” ซึ่งหมายความว่าประชาชนจะถูกสอดแนม แต่รัฐบาลจะไม่ถูกตรวจสอบ

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    ChatControl คือกฎหมายใหม่ของ EU ที่จะบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มสื่อสารต้องสแกนข้อความและภาพของผู้ใช้
    ใช้ระบบ Client-Side Scanning ที่ตรวจสอบเนื้อหาก่อนเข้ารหัส
    ครอบคลุมทุกบริการที่มีการสื่อสาร ไม่ใช่แค่แอปแชต แต่รวมถึงอีเมล, เกม, โซเชียล, ฝากไฟล์ ฯลฯ
    ตรวจจับเนื้อหา 3 ประเภท: เนื้อหาผิดกฎหมาย, เนื้อหาที่อาจผิดกฎหมาย, และพฤติกรรมล่อลวงเด็ก
    หากพบสิ่งต้องสงสัย ระบบจะรายงานอัตโนมัติไปยังศูนย์กลางของ EU
    ไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ก่อนส่งรายงาน
    กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้กับทุกประเทศสมาชิก EU โดยไม่มีข้อยกเว้น
    มีข้อยกเว้นให้กับบัญชีรัฐบาลในกรณีความมั่นคง
    ผู้เชี่ยวชาญกว่า 600 คนร่วมลงนามคัดค้าน โดยชี้ว่าเป็นการทำลายความปลอดภัยของระบบเข้ารหัส

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    การสแกนฝั่งผู้ใช้ (Client-Side Scanning) เป็นเทคนิคที่บริษัทอย่าง Apple เคยเสนอ แต่ถูกวิจารณ์จนต้องยกเลิก
    การสแกนก่อนเข้ารหัสถือเป็นการ “เลี่ยง” การเข้ารหัส ไม่ใช่การ “ทำลาย” โดยตรง แต่ผลลัพธ์เหมือนกัน
    การใช้ AI วิเคราะห์ภาพและข้อความมีอัตราความผิดพลาดสูง โดยเฉพาะกับเนื้อหาทางการแพทย์หรือครอบครัว
    การสอดแนมแบบนี้อาจทำให้ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมการสื่อสาร (chilling effect) และลดเสรีภาพในการแสดงออก
    บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีสแกน เช่น Thorn และ Microsoft PhotoDNA มีผลประโยชน์โดยตรงจากกฎหมายนี้

    https://metalhearf.fr/posts/chatcontrol-wants-your-private-messages/
    🕵️ “ChatControl: กฎหมายใหม่ของ EU ที่จะสแกนทุกข้อความส่วนตัว — เมื่อการปกป้องเด็กกลายเป็นข้ออ้างในการสอดแนมประชาชน” สหภาพยุโรปกำลังผลักดันกฎหมายใหม่ที่ชื่อว่า “ChatControl” หรือชื่อเต็มคือ CSAR (Child Sexual Abuse Regulation) ซึ่งมีเป้าหมายในการป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโลกออนไลน์ แต่เบื้องหลังของเจตนาดีนี้ กลับมีข้อเสนอที่อาจเปลี่ยนแปลงสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนยุโรปกว่า 450 ล้านคนอย่างถาวร ChatControl จะบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มที่มีการสื่อสารระหว่างบุคคล — ไม่ว่าจะเป็นแอปแชตอย่าง Signal, WhatsApp, Telegram ไปจนถึงอีเมล, เกม, โซเชียลมีเดีย, แอปหาคู่, และแม้แต่บริการฝากไฟล์ — ต้องติดตั้งระบบ “Client-Side Scanning” ที่จะสแกนข้อความและภาพก่อนถูกเข้ารหัส ส่งผลให้แม้แต่แอปที่ใช้การเข้ารหัสแบบ End-to-End ก็ไม่สามารถปกป้องข้อมูลได้อีกต่อไป ระบบนี้จะตรวจจับ 3 ประเภทของเนื้อหา: 🔖 เนื้อหาที่ผิดกฎหมายที่มีอยู่ในฐานข้อมูล 🔖 เนื้อหาที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมายโดยใช้ AI วิเคราะห์ภาพ 🔖 พฤติกรรมการล่อลวงเด็กโดยใช้ AI วิเคราะห์ข้อความ หากพบสิ่งต้องสงสัย ระบบจะรายงานอัตโนมัติไปยังศูนย์กลางของ EU โดยไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ก่อน ซึ่งอาจนำไปสู่การแจ้งความผิดพลาดจำนวนมหาศาล แม้จะมีข้ออ้างเรื่องการปกป้องเด็ก แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยกว่า 600 คนจาก 35 ประเทศได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกคัดค้านกฎหมายนี้ โดยชี้ว่าการสแกนฝั่งผู้ใช้เป็นการทำลายหลักการของการเข้ารหัส และเปิดช่องให้เกิดการละเมิดสิทธิอย่างร้ายแรง ที่น่ากังวลยิ่งกว่าคือ กฎหมายนี้ยังมีข้อยกเว้นให้กับบัญชีของรัฐบาลในกรณี “ความมั่นคงแห่งชาติ” ซึ่งหมายความว่าประชาชนจะถูกสอดแนม แต่รัฐบาลจะไม่ถูกตรวจสอบ ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ ChatControl คือกฎหมายใหม่ของ EU ที่จะบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มสื่อสารต้องสแกนข้อความและภาพของผู้ใช้ ➡️ ใช้ระบบ Client-Side Scanning ที่ตรวจสอบเนื้อหาก่อนเข้ารหัส ➡️ ครอบคลุมทุกบริการที่มีการสื่อสาร ไม่ใช่แค่แอปแชต แต่รวมถึงอีเมล, เกม, โซเชียล, ฝากไฟล์ ฯลฯ ➡️ ตรวจจับเนื้อหา 3 ประเภท: เนื้อหาผิดกฎหมาย, เนื้อหาที่อาจผิดกฎหมาย, และพฤติกรรมล่อลวงเด็ก ➡️ หากพบสิ่งต้องสงสัย ระบบจะรายงานอัตโนมัติไปยังศูนย์กลางของ EU ➡️ ไม่มีการตรวจสอบจากมนุษย์ก่อนส่งรายงาน ➡️ กฎหมายนี้จะมีผลบังคับใช้กับทุกประเทศสมาชิก EU โดยไม่มีข้อยกเว้น ➡️ มีข้อยกเว้นให้กับบัญชีรัฐบาลในกรณีความมั่นคง ➡️ ผู้เชี่ยวชาญกว่า 600 คนร่วมลงนามคัดค้าน โดยชี้ว่าเป็นการทำลายความปลอดภัยของระบบเข้ารหัส ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ การสแกนฝั่งผู้ใช้ (Client-Side Scanning) เป็นเทคนิคที่บริษัทอย่าง Apple เคยเสนอ แต่ถูกวิจารณ์จนต้องยกเลิก ➡️ การสแกนก่อนเข้ารหัสถือเป็นการ “เลี่ยง” การเข้ารหัส ไม่ใช่การ “ทำลาย” โดยตรง แต่ผลลัพธ์เหมือนกัน ➡️ การใช้ AI วิเคราะห์ภาพและข้อความมีอัตราความผิดพลาดสูง โดยเฉพาะกับเนื้อหาทางการแพทย์หรือครอบครัว ➡️ การสอดแนมแบบนี้อาจทำให้ผู้คนเปลี่ยนพฤติกรรมการสื่อสาร (chilling effect) และลดเสรีภาพในการแสดงออก ➡️ บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีสแกน เช่น Thorn และ Microsoft PhotoDNA มีผลประโยชน์โดยตรงจากกฎหมายนี้ https://metalhearf.fr/posts/chatcontrol-wants-your-private-messages/
    METALHEARF.FR
    ChatControl wants to scan all your private messages
    The EU is pushing legislation that would scan all our private messages, even in encrypted apps.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำนานคนหนังสือพิมพ์ภูธร สุนทร จันทร์รังสี

    คนรุ่นใหม่อาจไม่รู้จักหนังสือพิมพ์ แต่สำหรับคนรุ่นก่อน หนังสือพิมพ์คือสื่อมวลชนอันทรงพลังในยุคที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต ส่วนวิทยุและโทรทัศน์ 5 ช่อง ถูกควบคุมด้วยกลไกอำนาจรัฐ

    จากครอบครัวร้านขายหนังสือพิมพ์ในตัวเมืองโคราช จ.นครราชสีมา สุนทร จันทร์รังสี ผันตัวจากผู้สื่อข่าวภูมิภาค หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ก่อตั้งหนังสือพิมพ์โคราชสัปดาหวิจารณ์ เมื่อเดือน มี.ค. 2517 ตั้งใจให้เป็นหนังสือพิมพ์แนวใหม่ วิจารณ์การบ้านในท้องถิ่น และการเมืองระดับชาติ ผลจากการตอบรับด้วยดีของผู้อ่าน จึงเปลี่ยนเป็นหนังสือพิมพ์โคราชรายวัน ในเวลาต่อมา

    แต่การทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมามักเกิดแรงเสียดทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในยุคเผด็จการทหาร ครั้งหนึ่งเคยเปิดโปงขบวนการพิมพ์ธนบัตรปลอม โดยพ่อตาของนายทหารระดับสูงในกองทัพภาคที่ 2 ผลก็คือเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2519 ถูกระดมยิงด้วยอาวุธสงครามที่หน้าสำนักงาน มารดาต้องขอร้องให้เลิกอาชีพ แต่ไม่ย่อท้อ จัดตั้งโรงพิมพ์เป็นของตัวเอง

    อีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อโปรโมเตอร์มวยรายหนึ่งแอบอ้างพระบารมีว่าจะทำให้นักมวยของตนชนะแน่ สุนทรท้วงติงว่าไม่เหมาะสม เพราะมวยคือการพนัน การกล่าวเช่นนี้ทำให้สถาบันฯ เสื่อมเสียพระเกียรติ ผลก็คือมีนักข่าวที่ไม่ถูกกันแจ้งความข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 แต่ที่สุดแล้วศาลทหารยกฟ้อง เพราะมีเจตนาปกป้องพระบรมเดชานุภาพจริง

    หลักการทำงานของสุนทรที่แตกต่างจากนักหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นคนอื่นๆ คือ นักข่าวทุกคนจะต้องไม่มีเรื่องซองขาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ครั้งหนึ่งมีนักการเมืองแจกซองให้บรรดานักข่าวที่ไปทำข่าวแถลงงานหนึ่ง เมื่อนักข่าวโคราชรายวันพบว่าในซองมีเงิน ก็นำมาคืนโดยไม่ชักช้า และบอกเล่าเรื่องนี้แก่กองบรรณาธิการ แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์สุจริตในการทำหน้าที่สื่อมวลชน

    โคราชรายวันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2551 เปลี่ยนชื่อเป็น หนังสือพิมพ์โคราชคนอีสาน พร้อมขยายพื้นที่วางแผงไปยัง 10 จังหวัดในภาคอีสาน นอกจากสุนทรเป็นกรรมการในองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ โดยเฉพาะสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติแล้ว ยังได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 โดยร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

    สุนทรเข้ารับการรักษาด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกมาตั้งแต่ปี 2565 ประกอบกับมีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ต้องพบแพทย์และพักฟื้นที่บ้านอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี ก่อนจากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 22 ก.ย. เวลา 09.09 น. ด้วยอายุ 78 ปี

    คำสอนที่ยังเหลือไว้คือ "ความซื่อสัตย์สุจริต" เป็นคุณธรรมสำหรับคนที่ยังมีลมหายใจ

    #Newskit
    ตำนานคนหนังสือพิมพ์ภูธร สุนทร จันทร์รังสี คนรุ่นใหม่อาจไม่รู้จักหนังสือพิมพ์ แต่สำหรับคนรุ่นก่อน หนังสือพิมพ์คือสื่อมวลชนอันทรงพลังในยุคที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ต ส่วนวิทยุและโทรทัศน์ 5 ช่อง ถูกควบคุมด้วยกลไกอำนาจรัฐ จากครอบครัวร้านขายหนังสือพิมพ์ในตัวเมืองโคราช จ.นครราชสีมา สุนทร จันทร์รังสี ผันตัวจากผู้สื่อข่าวภูมิภาค หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ก่อตั้งหนังสือพิมพ์โคราชสัปดาหวิจารณ์ เมื่อเดือน มี.ค. 2517 ตั้งใจให้เป็นหนังสือพิมพ์แนวใหม่ วิจารณ์การบ้านในท้องถิ่น และการเมืองระดับชาติ ผลจากการตอบรับด้วยดีของผู้อ่าน จึงเปลี่ยนเป็นหนังสือพิมพ์โคราชรายวัน ในเวลาต่อมา แต่การทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมามักเกิดแรงเสียดทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในยุคเผด็จการทหาร ครั้งหนึ่งเคยเปิดโปงขบวนการพิมพ์ธนบัตรปลอม โดยพ่อตาของนายทหารระดับสูงในกองทัพภาคที่ 2 ผลก็คือเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2519 ถูกระดมยิงด้วยอาวุธสงครามที่หน้าสำนักงาน มารดาต้องขอร้องให้เลิกอาชีพ แต่ไม่ย่อท้อ จัดตั้งโรงพิมพ์เป็นของตัวเอง อีกเหตุการณ์หนึ่ง เมื่อโปรโมเตอร์มวยรายหนึ่งแอบอ้างพระบารมีว่าจะทำให้นักมวยของตนชนะแน่ สุนทรท้วงติงว่าไม่เหมาะสม เพราะมวยคือการพนัน การกล่าวเช่นนี้ทำให้สถาบันฯ เสื่อมเสียพระเกียรติ ผลก็คือมีนักข่าวที่ไม่ถูกกันแจ้งความข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มาตรา 112 แต่ที่สุดแล้วศาลทหารยกฟ้อง เพราะมีเจตนาปกป้องพระบรมเดชานุภาพจริง หลักการทำงานของสุนทรที่แตกต่างจากนักหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นคนอื่นๆ คือ นักข่าวทุกคนจะต้องไม่มีเรื่องซองขาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ครั้งหนึ่งมีนักการเมืองแจกซองให้บรรดานักข่าวที่ไปทำข่าวแถลงงานหนึ่ง เมื่อนักข่าวโคราชรายวันพบว่าในซองมีเงิน ก็นำมาคืนโดยไม่ชักช้า และบอกเล่าเรื่องนี้แก่กองบรรณาธิการ แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์สุจริตในการทำหน้าที่สื่อมวลชน โคราชรายวันเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2551 เปลี่ยนชื่อเป็น หนังสือพิมพ์โคราชคนอีสาน พร้อมขยายพื้นที่วางแผงไปยัง 10 จังหวัดในภาคอีสาน นอกจากสุนทรเป็นกรรมการในองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนต่างๆ โดยเฉพาะสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติแล้ว ยังได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2550 โดยร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สุนทรเข้ารับการรักษาด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกมาตั้งแต่ปี 2565 ประกอบกับมีโรคประจำตัว คือ ความดันโลหิตสูง ต้องพบแพทย์และพักฟื้นที่บ้านอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปี ก่อนจากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 22 ก.ย. เวลา 09.09 น. ด้วยอายุ 78 ปี คำสอนที่ยังเหลือไว้คือ "ความซื่อสัตย์สุจริต" เป็นคุณธรรมสำหรับคนที่ยังมีลมหายใจ #Newskit
    Like
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 461 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช็อก! “แอนนา ทีวีพูล” คิดสั้นในเรือนจำ หลังญาติแจ้งความ “กันย์ ดอนเมือง” ยักยอกทรัพย์ ทั้งที่กันย์ช่วยเหลือมาตลอด “นิกกี้ ชีเสิร์ฟ” เผยนักโทษช่วยไว้ทัน แอนนาปลอดภัยแต่ยังรักษาตัวในรพ.ราชทัณฑ์ กันย์เตรียมฟ้องกลับญาติแอนนาข้อหาแจ้งความเท็จ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000091108

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ช็อก! “แอนนา ทีวีพูล” คิดสั้นในเรือนจำ หลังญาติแจ้งความ “กันย์ ดอนเมือง” ยักยอกทรัพย์ ทั้งที่กันย์ช่วยเหลือมาตลอด “นิกกี้ ชีเสิร์ฟ” เผยนักโทษช่วยไว้ทัน แอนนาปลอดภัยแต่ยังรักษาตัวในรพ.ราชทัณฑ์ กันย์เตรียมฟ้องกลับญาติแอนนาข้อหาแจ้งความเท็จ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000091108 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่บ้านโทรมาแจ้งขณะขับพาลูกไปทานอาหารช่วงบ่ายรถกระบะขับเฉี่ยวแล้วหนี แต่ขับตามไปจนติดไฟแดง ถ่ายรูปทะเบียนรถไว้แล้ว ผมจึงแจ้งประกันต่อไป ดีที่เรามีรูปจากกล้องเพียงแค่แจ้งความ หากเขารับผิดชอบก้อจบประกันจัดการไป หากปฏิเสธก้ออย่าแจ้งเท็จนะ เดี๋ยวเรื่องจักบาน

    คงต้องเตือนแม่บ้าน และเตือนลูกๆว่าครั้งหน้าไม่ต้องตามนะ แจ้งความ ไว้ เรามีกล้อง หน้ารถ ไว้เฉลยตอนจบ
    แม่บ้านโทรมาแจ้งขณะขับพาลูกไปทานอาหารช่วงบ่ายรถกระบะขับเฉี่ยวแล้วหนี แต่ขับตามไปจนติดไฟแดง ถ่ายรูปทะเบียนรถไว้แล้ว ผมจึงแจ้งประกันต่อไป ดีที่เรามีรูปจากกล้องเพียงแค่แจ้งความ หากเขารับผิดชอบก้อจบประกันจัดการไป หากปฏิเสธก้ออย่าแจ้งเท็จนะ เดี๋ยวเรื่องจักบาน คงต้องเตือนแม่บ้าน และเตือนลูกๆว่าครั้งหน้าไม่ต้องตามนะ แจ้งความ ไว้ เรามีกล้อง หน้ารถ ไว้เฉลยตอนจบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนค้าขายฉิบหาย เพราะระบบ CFR ของ ITMX

    มาตรการอายัดบัญชีของธนาคารพาณิชย์ ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ กำลังทำให้บรรดาผู้ประกอบอาชีพค้าขายจำนวนมากเดือดร้อน เพราะจู่ๆ ถูกอายัดบัญชี ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ ธนาคารอ้างว่าบัญชีและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ถูกระงับการทำธุรกรรมตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CFR) ทำให้มีผู้ค้าส่วนหนึ่งงดรับเงินโอนหรือสแกน QR Code รับเฉพาะเงินสดไปก่อน ขณะเดียวกัน ลูกค้าธนาคารส่วนหนึ่งต่างถอนเงินออกจากบัญชี เพราะไม่ไว้วางใจระบบธนาคาร

    สาเหตุหลักเป็นเพราะกลุ่มมิจฉาชีพเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงประชาชน จากเดิมล่อลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีม้า เป็นการโอนเงินไปยังบัญชีร้านค้าเพื่อแลกสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นลักษณะของการฟอกเงินวิธีหนึ่ง หรือการหลอกให้โอนเงินครั้งแรกจำนวนน้อย เพื่อให้เหยื่อเชื่อใจว่ามีตัวตนจริง ก่อนให้โอนไปยังบัญชีม้า ซึ่งการอายัดบัญชีจะมีอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่ 1. ผู้เสียหายโทร.แจ้งสายด่วน 1441 หรือแจ้งความกับตำรวจ แล้วทำเรื่องแจ้งธนาคารอายัด ซึ่งจะมีเลขอ้างอิง 2. ธนาคารอายัดเองเมื่อสังเกตการทำธุรกรรมแล้วเชื่อว่าผิดปกติ กรณีนี้จะไม่มีเลขอ้างอิง โดยพิจารณาให้เป็นบัญชีม้าแต่ละสีตามความรุนแรงของพฤติกรรม

    เบื้องหลังที่ทำให้บรรดาผู้ค้าต่างพากันวุ่นวาย คือ ระบบ Central Fraud Registry (CFR) เป็นศูนย์กลางรวมรวมข้อมูลรายการธุรกรรมต้องสงสัย และนำข้อมูลไปใช้ในการสอบสวนขยายผลเพื่ออายัดเงินจากบัญชีม้าต่างๆ และเพื่อประโยชน์ในการติดตามเงินคืนแก่ผู้เสียหายเมื่อมีการร้องขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในกระบวนการยุติธรรม โดยให้ธนาคารส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัยนั้นเอง หากเส้นทางการเงินโยงไปยังบัญชีใดก็จะอายัดบัญชี และรายงานไปยังธนาคารสมาชิก เพื่ออายัดบัญชีภายใต้เลขประจำตัวประชาชนเดียวกัน ผลก็คือแม้ธนาคารต้นทางจะปลดอายัดแล้ว แต่ผู้ค้าที่มีบัญชีหลายธนาคาร ต้องไปไล่เบี้ยกับธนาคารอื่นๆ ที่ยังคงอายัดบัญชี

    นอกจากนี้ กรณีตำรวจไซเบอร์ใช้สายด่วน 1441 รับเรื่อง แล้วโยนไปให้ร้อยเวรตามโรงพักต่างๆ ต้องรับภาระทำคดี โดยที่ตำรวจไซเบอร์และธนาคารพาณิชย์ต่างโยนภาระพิสูจน์ความจริงกันไปมา แสดงให้เห็นว่า แม้กระบวนการล็อกบัญชีจะง่ายดายโดยอ้างว่าเพื่อยับยั้งความเสียหาย แต่การปลดล็อกบัญชีหากพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่บัญชีม้ายุ่งยากกว่า จึงเป็นมาตรการที่วุ่นวาย ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในระบบธนาคาร ทำลายเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    #Newskit
    คนค้าขายฉิบหาย เพราะระบบ CFR ของ ITMX มาตรการอายัดบัญชีของธนาคารพาณิชย์ ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ กำลังทำให้บรรดาผู้ประกอบอาชีพค้าขายจำนวนมากเดือดร้อน เพราะจู่ๆ ถูกอายัดบัญชี ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ ธนาคารอ้างว่าบัญชีและช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ถูกระงับการทำธุรกรรมตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CFR) ทำให้มีผู้ค้าส่วนหนึ่งงดรับเงินโอนหรือสแกน QR Code รับเฉพาะเงินสดไปก่อน ขณะเดียวกัน ลูกค้าธนาคารส่วนหนึ่งต่างถอนเงินออกจากบัญชี เพราะไม่ไว้วางใจระบบธนาคาร สาเหตุหลักเป็นเพราะกลุ่มมิจฉาชีพเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงประชาชน จากเดิมล่อลวงให้โอนเงินเข้าบัญชีม้า เป็นการโอนเงินไปยังบัญชีร้านค้าเพื่อแลกสินค้าและบริการ ซึ่งเป็นลักษณะของการฟอกเงินวิธีหนึ่ง หรือการหลอกให้โอนเงินครั้งแรกจำนวนน้อย เพื่อให้เหยื่อเชื่อใจว่ามีตัวตนจริง ก่อนให้โอนไปยังบัญชีม้า ซึ่งการอายัดบัญชีจะมีอยู่ 2 ลักษณะ ได้แก่ 1. ผู้เสียหายโทร.แจ้งสายด่วน 1441 หรือแจ้งความกับตำรวจ แล้วทำเรื่องแจ้งธนาคารอายัด ซึ่งจะมีเลขอ้างอิง 2. ธนาคารอายัดเองเมื่อสังเกตการทำธุรกรรมแล้วเชื่อว่าผิดปกติ กรณีนี้จะไม่มีเลขอ้างอิง โดยพิจารณาให้เป็นบัญชีม้าแต่ละสีตามความรุนแรงของพฤติกรรม เบื้องหลังที่ทำให้บรรดาผู้ค้าต่างพากันวุ่นวาย คือ ระบบ Central Fraud Registry (CFR) เป็นศูนย์กลางรวมรวมข้อมูลรายการธุรกรรมต้องสงสัย และนำข้อมูลไปใช้ในการสอบสวนขยายผลเพื่ออายัดเงินจากบัญชีม้าต่างๆ และเพื่อประโยชน์ในการติดตามเงินคืนแก่ผู้เสียหายเมื่อมีการร้องขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในกระบวนการยุติธรรม โดยให้ธนาคารส่งข้อมูลธุรกรรมต้องสงสัย ที่ผู้เสียหายเป็นผู้แจ้ง หรือธนาคารตรวจพบรายการต้องสงสัยนั้นเอง หากเส้นทางการเงินโยงไปยังบัญชีใดก็จะอายัดบัญชี และรายงานไปยังธนาคารสมาชิก เพื่ออายัดบัญชีภายใต้เลขประจำตัวประชาชนเดียวกัน ผลก็คือแม้ธนาคารต้นทางจะปลดอายัดแล้ว แต่ผู้ค้าที่มีบัญชีหลายธนาคาร ต้องไปไล่เบี้ยกับธนาคารอื่นๆ ที่ยังคงอายัดบัญชี นอกจากนี้ กรณีตำรวจไซเบอร์ใช้สายด่วน 1441 รับเรื่อง แล้วโยนไปให้ร้อยเวรตามโรงพักต่างๆ ต้องรับภาระทำคดี โดยที่ตำรวจไซเบอร์และธนาคารพาณิชย์ต่างโยนภาระพิสูจน์ความจริงกันไปมา แสดงให้เห็นว่า แม้กระบวนการล็อกบัญชีจะง่ายดายโดยอ้างว่าเพื่อยับยั้งความเสียหาย แต่การปลดล็อกบัญชีหากพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่บัญชีม้ายุ่งยากกว่า จึงเป็นมาตรการที่วุ่นวาย ทำให้ประชาชนไม่มั่นใจในระบบธนาคาร ทำลายเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 497 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไปต่อยังไงไหว
    พ่อ แม่ อา ยึดครองที่หลวง
    ส่งลูกชายคุมการรถไฟ
    ใครจะกล้าแจ้งความเอาผิด พ่อง-แม่ม รัฐมนตรี
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ไปต่อยังไงไหว พ่อ แม่ อา ยึดครองที่หลวง ส่งลูกชายคุมการรถไฟ ใครจะกล้าแจ้งความเอาผิด พ่อง-แม่ม รัฐมนตรี #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • รฟท.ถอย! ฝ่ายกฎหมายเลื่อนนัดดีเอสไอ ปมแจ้งความ "คดีเขากระโดง" แบบไร้กำหนด
    https://www.thai-tai.tv/news/21316/
    .
    #ไทยไท #คดีเขากระโดง #รฟท #ดีเอสไอ #ข่าววันนี้
    รฟท.ถอย! ฝ่ายกฎหมายเลื่อนนัดดีเอสไอ ปมแจ้งความ "คดีเขากระโดง" แบบไร้กำหนด https://www.thai-tai.tv/news/21316/ . #ไทยไท #คดีเขากระโดง #รฟท #ดีเอสไอ #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ศุภชัย’ ถอนแจ้งความ ‘ภูมิธรรม’ แล้ว! ชี้บ้านเมืองต้องเดินหน้าด้วยความสามัคคี
    https://www.thai-tai.tv/news/21315/
    .
    #ไทยไท #ศุภชัยใจสมุทร #ภูมิธรรมเวชยชัย #ถอนแจ้งความ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้

    ‘ศุภชัย’ ถอนแจ้งความ ‘ภูมิธรรม’ แล้ว! ชี้บ้านเมืองต้องเดินหน้าด้วยความสามัคคี https://www.thai-tai.tv/news/21315/ . #ไทยไท #ศุภชัยใจสมุทร #ภูมิธรรมเวชยชัย #ถอนแจ้งความ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคลียร์กันแล้ว! ‘อนุทิน’ ยอมรับภูมิใจไทยโหวตกฎหมาย PRTR ไม่ทัน แจงคุยกับพรรคประชาชนแล้ว ขอตรวจสอบก่อน เรื่องแจ้งความ “ภูมิธรรม”
    https://www.thai-tai.tv/news/21313/
    .
    #ไทยไท #อนุทินชาญวีรกูล #ภูมิใจไทย #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    เคลียร์กันแล้ว! ‘อนุทิน’ ยอมรับภูมิใจไทยโหวตกฎหมาย PRTR ไม่ทัน แจงคุยกับพรรคประชาชนแล้ว ขอตรวจสอบก่อน เรื่องแจ้งความ “ภูมิธรรม” https://www.thai-tai.tv/news/21313/ . #ไทยไท #อนุทินชาญวีรกูล #ภูมิใจไทย #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ณัฐพงษ์' ยัน 'ภูมิธรรม' มีอำนาจยุบสภา แต่เรียกร้องความชัดเจน ขอ "สุรทิน- ศุภชัย" ถอนแจ้งความม.112-ม.157
    https://www.thai-tai.tv/news/21312/
    .
    #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ภูมิธรรมเวชยชัย #ยุบสภา #นิติสงคราม #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    'ณัฐพงษ์' ยัน 'ภูมิธรรม' มีอำนาจยุบสภา แต่เรียกร้องความชัดเจน ขอ "สุรทิน- ศุภชัย" ถอนแจ้งความม.112-ม.157 https://www.thai-tai.tv/news/21312/ . #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ภูมิธรรมเวชยชัย #ยุบสภา #นิติสงคราม #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้าราชการรู้งาน
    แค่ลือว่า ไขยชนกคุมคมนาคม
    ผู้ว่าฯ รถไฟรฟท. ขอเลื่อนแจ้งความเอาผิด คดีเขากระโดงแบบไม่มีกำหนด
    #7ดอกจิก
    ข้าราชการรู้งาน แค่ลือว่า ไขยชนกคุมคมนาคม ผู้ว่าฯ รถไฟรฟท. ขอเลื่อนแจ้งความเอาผิด คดีเขากระโดงแบบไม่มีกำหนด #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ศุภชัย’ แจ้งความ ‘ภูมิธรรม’ ปมยื่นยุบสภา หวั่นสร้างความไม่เหมาะสมและระคายเคืองเบื้องสูง
    https://www.thai-tai.tv/news/21298/
    .
    #ไทยไท #ภูมิใจไทย #ศุภชัยใจสมุทร #ภูมิธรรมเวชยชัย #ยุบสภา #ม157 #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘ศุภชัย’ แจ้งความ ‘ภูมิธรรม’ ปมยื่นยุบสภา หวั่นสร้างความไม่เหมาะสมและระคายเคืองเบื้องสูง https://www.thai-tai.tv/news/21298/ . #ไทยไท #ภูมิใจไทย #ศุภชัยใจสมุทร #ภูมิธรรมเวชยชัย #ยุบสภา #ม157 #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘สุรทิน-ไทกร’ แจ้งความ ม.112 เอาผิด ‘ภูมิธรรม’ ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา อ้างทำมิบังควรและดึงสถาบันมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง
    https://www.thai-tai.tv/news/21297/
    .
    #ไทยไท #ภูมิธรรมเวชยชัย #ยุบสภา #แจ้งความ #มาตรา112 #มาตรา157 #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘สุรทิน-ไทกร’ แจ้งความ ม.112 เอาผิด ‘ภูมิธรรม’ ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา อ้างทำมิบังควรและดึงสถาบันมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง https://www.thai-tai.tv/news/21297/ . #ไทยไท #ภูมิธรรมเวชยชัย #ยุบสภา #แจ้งความ #มาตรา112 #มาตรา157 #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลอุทธรณ์รับคำร้อง "ศรายุทธ" ฟ้อง "แพทองธาร-พินทองทา-คุณหญิงพจมาน" คดีแจ้งความเท็จในคดีแพ่ง
    https://www.thai-tai.tv/news/21257/
    .
    #ไทยไท #ศาลอุทธรณ์ #แพทองธารชินวัตร #คุณหญิงพจมาน #คดีแจ้งความเท็จ #คดีที่ดิน #เอสซีแอสเสท #ข่าววันนี้
    ศาลอุทธรณ์รับคำร้อง "ศรายุทธ" ฟ้อง "แพทองธาร-พินทองทา-คุณหญิงพจมาน" คดีแจ้งความเท็จในคดีแพ่ง https://www.thai-tai.tv/news/21257/ . #ไทยไท #ศาลอุทธรณ์ #แพทองธารชินวัตร #คุณหญิงพจมาน #คดีแจ้งความเท็จ #คดีที่ดิน #เอสซีแอสเสท #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 รีวิว
  • ญาติหอบหลักฐานแจ้งความพระครูดังเชียงคำ พะเยา เพิ่มเติม..หลังลงโทษสามเณรวัย 13 ขวบสองรายช้ำทั้งตัวมีทั้งใช้ไม้ไผ่ฟาด-เตะ-ถีบ ต่อหน้าแม่ไม่พอ ยังกักบริเวณอีก 7 วัน ทำให้ไม่ได้รับการรักษาตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น จนเณรทนไม่ไหวสึกแล้ว 1 ย้ายวัดอีก 1

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000083203

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    ญาติหอบหลักฐานแจ้งความพระครูดังเชียงคำ พะเยา เพิ่มเติม..หลังลงโทษสามเณรวัย 13 ขวบสองรายช้ำทั้งตัวมีทั้งใช้ไม้ไผ่ฟาด-เตะ-ถีบ ต่อหน้าแม่ไม่พอ ยังกักบริเวณอีก 7 วัน ทำให้ไม่ได้รับการรักษาตามขั้นตอนที่ควรจะเป็น จนเณรทนไม่ไหวสึกแล้ว 1 ย้ายวัดอีก 1 อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000083203 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งความตำรวจไซเบอร์ เอาผิดช่องยูทูบ "สถาบันทิศทางไทย" และเพจเฟซบุ๊ก "เดอะคริติกส์" เผยแพร่ข่าว "นั่งลงลูก" บิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่สวนของศาล ในคดีคลิปเสียงแพทองธาร
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082262

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งความตำรวจไซเบอร์ เอาผิดช่องยูทูบ "สถาบันทิศทางไทย" และเพจเฟซบุ๊ก "เดอะคริติกส์" เผยแพร่ข่าว "นั่งลงลูก" บิดเบือนข้อเท็จจริงในกระบวนการไต่สวนของศาล ในคดีคลิปเสียงแพทองธาร . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000082262 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 934 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความตำรวจ ปอท.เอาผิด เพจเฟซบุ๊ก The Critics และ YouTube สถาบันทิศทางไทย เผยแพร่ข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงกระบวนการไต่สวนของศาล รธน. ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ และละเมิดอำนาจศาล

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000082246

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความตำรวจ ปอท.เอาผิด เพจเฟซบุ๊ก The Critics และ YouTube สถาบันทิศทางไทย เผยแพร่ข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงกระบวนการไต่สวนของศาล รธน. ผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ และละเมิดอำนาจศาล อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000082246 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 538 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเบื้องหลัง Coinbase: เมื่อภัยไซเบอร์มาในรูปแบบ “สินบน”

    ในเดือนพฤษภาคม 2025 บริษัทคริปโตยักษ์ใหญ่ Coinbase ได้รับอีเมลจากแฮกเกอร์นิรนาม แจ้งว่าพวกเขาได้ข้อมูลลูกค้าจำนวนหนึ่ง พร้อมเอกสารภายในของบริษัท โดยขู่เรียกค่าไถ่ถึง 20 ล้านดอลลาร์เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข้อมูล

    แต่สิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่แค่การขโมยข้อมูล — แต่เป็น “วิธีการ” ที่แฮกเกอร์ใช้: พวกเขาเสนอสินบนให้พนักงาน outsource ที่ศูนย์บริการลูกค้าในอินเดีย (TaskUs) เพื่อให้เข้าถึงระบบภายใน โดยมีการจ่ายเงินสูงถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า

    ข้อมูลที่ถูกขโมยมีทั้งชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชีธนาคารแบบ masked รวมถึงข้อมูลการใช้งานของลูกค้ากว่า 70,000 ราย — คิดเป็น 1% ของผู้ใช้งานรายเดือนของ Coinbase

    Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ และสวนกลับด้วยการตั้งค่าหัวแฮกเกอร์ 20 ล้านดอลลาร์ พร้อมให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงผ่าน social engineering และปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เข้มแข็งขึ้น

    นอกจากนี้ Coinbase ยังไล่พนักงานที่รับสินบนออกทันที และแจ้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศให้ดำเนินคดี ส่วน TaskUs ก็หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงานกว่า 226 คน

    สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญชี้คือ “การติดสินบน” กำลังกลายเป็นช่องทางใหม่ของแฮกเกอร์ในการเจาะระบบองค์กร โดยเฉพาะเมื่อการโจมตีแบบเดิม เช่น phishing เริ่มถูกป้องกันได้ดีขึ้น

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    Coinbase ถูกแฮกเกอร์ขู่เรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลลูกค้าและเอกสารภายใน
    แฮกเกอร์ใช้วิธีติดสินบนพนักงาน outsource ที่บริษัท TaskUs ในอินเดีย
    มีการเสนอเงินสูงถึง $2,500 ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า
    ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชี
    Coinbase ปฏิเสธการจ่ายค่าไถ่ และตั้งค่าหัวแฮกเกอร์เป็นเงินเท่ากัน
    บริษัทให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อ social engineering
    พนักงานที่รับสินบนถูกไล่ออกทันที และถูกแจ้งความดำเนินคดี
    TaskUs หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงาน 226 คน
    Coinbase ประเมินค่าเสียหายและค่าชดเชยอยู่ระหว่าง $180M ถึง $400M
    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฝึกอบรมพนักงานเรื่องการรับมือกับการติดสินบน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    กลุ่มแฮกเกอร์ “The Com” อ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ยังไม่มีการยืนยัน
    การติดสินบนพนักงานเพื่อเข้าถึงข้อมูลภายในเคยเกิดขึ้นกับ Tesla ในปี 2020
    การใช้สินบนเป็นช่องทางโจมตีองค์กรกำลังเพิ่มขึ้นในหลายอุตสาหกรรม
    การฝึกอบรมพนักงานให้รู้เท่าทันการติดสินบนควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนความปลอดภัย
    การตั้งศูนย์บริการใหม่ในสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันของ Coinbase

    https://www.csoonline.com/article/4042522/behind-the-coinbase-breach-bribery-is-an-emerging-enterprise-threat.html
    💸 เรื่องเล่าจากเบื้องหลัง Coinbase: เมื่อภัยไซเบอร์มาในรูปแบบ “สินบน” ในเดือนพฤษภาคม 2025 บริษัทคริปโตยักษ์ใหญ่ Coinbase ได้รับอีเมลจากแฮกเกอร์นิรนาม แจ้งว่าพวกเขาได้ข้อมูลลูกค้าจำนวนหนึ่ง พร้อมเอกสารภายในของบริษัท โดยขู่เรียกค่าไถ่ถึง 20 ล้านดอลลาร์เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข้อมูล แต่สิ่งที่น่าตกใจไม่ใช่แค่การขโมยข้อมูล — แต่เป็น “วิธีการ” ที่แฮกเกอร์ใช้: พวกเขาเสนอสินบนให้พนักงาน outsource ที่ศูนย์บริการลูกค้าในอินเดีย (TaskUs) เพื่อให้เข้าถึงระบบภายใน โดยมีการจ่ายเงินสูงถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า ข้อมูลที่ถูกขโมยมีทั้งชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชีธนาคารแบบ masked รวมถึงข้อมูลการใช้งานของลูกค้ากว่า 70,000 ราย — คิดเป็น 1% ของผู้ใช้งานรายเดือนของ Coinbase Coinbase ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่ และสวนกลับด้วยการตั้งค่าหัวแฮกเกอร์ 20 ล้านดอลลาร์ พร้อมให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงผ่าน social engineering และปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัยให้เข้มแข็งขึ้น นอกจากนี้ Coinbase ยังไล่พนักงานที่รับสินบนออกทันที และแจ้งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศให้ดำเนินคดี ส่วน TaskUs ก็หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงานกว่า 226 คน สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญชี้คือ “การติดสินบน” กำลังกลายเป็นช่องทางใหม่ของแฮกเกอร์ในการเจาะระบบองค์กร โดยเฉพาะเมื่อการโจมตีแบบเดิม เช่น phishing เริ่มถูกป้องกันได้ดีขึ้น 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ Coinbase ถูกแฮกเกอร์ขู่เรียกค่าไถ่ 20 ล้านดอลลาร์จากข้อมูลลูกค้าและเอกสารภายใน ➡️ แฮกเกอร์ใช้วิธีติดสินบนพนักงาน outsource ที่บริษัท TaskUs ในอินเดีย ➡️ มีการเสนอเงินสูงถึง $2,500 ต่อคนเพื่อให้คัดลอกข้อมูลจากระบบสนับสนุนลูกค้า ➡️ ข้อมูลที่ถูกขโมยรวมถึงชื่อ เบอร์โทร อีเมล หมายเลขประกันสังคม และข้อมูลบัญชี ➡️ Coinbase ปฏิเสธการจ่ายค่าไถ่ และตั้งค่าหัวแฮกเกอร์เป็นเงินเท่ากัน ➡️ บริษัทให้คำมั่นว่าจะชดเชยลูกค้าที่ตกเป็นเหยื่อ social engineering ➡️ พนักงานที่รับสินบนถูกไล่ออกทันที และถูกแจ้งความดำเนินคดี ➡️ TaskUs หยุดให้บริการ Coinbase ที่ศูนย์ในอินเดีย และปลดพนักงาน 226 คน ➡️ Coinbase ประเมินค่าเสียหายและค่าชดเชยอยู่ระหว่าง $180M ถึง $400M ➡️ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ฝึกอบรมพนักงานเรื่องการรับมือกับการติดสินบน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ กลุ่มแฮกเกอร์ “The Com” อ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตี แต่ยังไม่มีการยืนยัน ➡️ การติดสินบนพนักงานเพื่อเข้าถึงข้อมูลภายในเคยเกิดขึ้นกับ Tesla ในปี 2020 ➡️ การใช้สินบนเป็นช่องทางโจมตีองค์กรกำลังเพิ่มขึ้นในหลายอุตสาหกรรม ➡️ การฝึกอบรมพนักงานให้รู้เท่าทันการติดสินบนควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนความปลอดภัย ➡️ การตั้งศูนย์บริการใหม่ในสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันของ Coinbase https://www.csoonline.com/article/4042522/behind-the-coinbase-breach-bribery-is-an-emerging-enterprise-threat.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Behind the Coinbase breach: Bribery emerges as enterprise threat
    Coinbase’s breach shows how bribery schemes — long used for SIM swaps — can be a potent enterprise attack vector. Experts urge security leaders to add bribery training and red-teaming to their cyber defense toolkits.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วีระ สมความคิด" นำชาวบ้านหนองจานแจ้งความเอาผิด "ปริญญา โพธิสัตย์" ผู้ว่าฯ สระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ดินและป่าไม้ ละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ชาวเขมรบุกรุก แถมกล่าวว่าคนไทยไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำเขมรเคลมและรื้อลวดหนาม ความผิดสำเร็จแล้ว แถมแจ้งจับแม่ทัพภาคที่ 1 ข้อหาเดียวกัน ไม่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000081455

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    "วีระ สมความคิด" นำชาวบ้านหนองจานแจ้งความเอาผิด "ปริญญา โพธิสัตย์" ผู้ว่าฯ สระแก้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ที่ดินและป่าไม้ ละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ปล่อยให้ชาวเขมรบุกรุก แถมกล่าวว่าคนไทยไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำเขมรเคลมและรื้อลวดหนาม ความผิดสำเร็จแล้ว แถมแจ้งจับแม่ทัพภาคที่ 1 ข้อหาเดียวกัน ไม่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000081455 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 845 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ยอม! "ณัฐพล" ลั่นสั่งทัพบกแจ้งความดำเนินคดี "ชาวกัมพูชา" รื้อรั้วลวดหนามที่สระแก้ว ชี้เป็นการทำลายทรัพย์สินราชการ-ผิดกฎหมาย
    https://www.thai-tai.tv/news/21150/
    .
    #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #ข่าวความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา #รั้วลวดหนาม #ข่าวทหาร #ไทยไท
    ไม่ยอม! "ณัฐพล" ลั่นสั่งทัพบกแจ้งความดำเนินคดี "ชาวกัมพูชา" รื้อรั้วลวดหนามที่สระแก้ว ชี้เป็นการทำลายทรัพย์สินราชการ-ผิดกฎหมาย https://www.thai-tai.tv/news/21150/ . #ณัฐพลนาคพาณิชย์ #ข่าวความมั่นคง #ชายแดนไทยกัมพูชา #รั้วลวดหนาม #ข่าวทหาร #ไทยไท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • ”ณัฐพล“ สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนาม ที่บ้านหนองจาน ด้าน กต.ทำหนังสือประท้วง ย้ำเป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ส่วนพื้นที่พระวิหารพบเขมรเสริมกำลัง หากยิงเข้ามาหรือรุกล้ำให้ยิงได้ทันที

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081289

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ”ณัฐพล“ สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนาม ที่บ้านหนองจาน ด้าน กต.ทำหนังสือประท้วง ย้ำเป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ส่วนพื้นที่พระวิหารพบเขมรเสริมกำลัง หากยิงเข้ามาหรือรุกล้ำให้ยิงได้ทันที อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081289 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผกก.สน.เพชรเกษม เผยเจ้าอาวาสวัดม่วงเข้ารับทราบข้อหาแล้ว หลังถูกดำเนินคดีแจ้งความเท็จ กรณีเงิน-ทองคำ มูลค่ากว่า 22 ล้านบาทหาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000080369

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ผกก.สน.เพชรเกษม เผยเจ้าอาวาสวัดม่วงเข้ารับทราบข้อหาแล้ว หลังถูกดำเนินคดีแจ้งความเท็จ กรณีเงิน-ทองคำ มูลค่ากว่า 22 ล้านบาทหาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000080369 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts