• อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ)หรือโอฆนิตถรณะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 749
    ชื่อบทธรรม :- อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?”
    --อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดย ประจักษ์ดังนี้ว่า
    “กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย,
    รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย,
    อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย,
    อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย,
    เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย,
    นั่นล้วนแต่เป็นสักกายะ เป็นแต่เพียงสักกายะ (เป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือด้วยอุปาทาน) ;
    ส่วนอมตธรรมนั้น ได้แก่ วิโมกข์แห่งจิต เพราะไม่มี #อุปาทานในสักกายะนั้น ๆ นี่เอง”.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อุปาทา

    --อานนท์ ! ด้วยเหตุนี้แหละ เป็นอันว่า
    อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราได้แสดงแล้ว,
    อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว,
    เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว,
    การอาศัยปฏิปทานั้นๆ ตามลำดับๆ แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราได้แสดงแล้ว,
    นั่นแหละคือ #อริยวิโมกข์​.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อริโย+วิโมกฺ

    --อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว
    จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย.
    --อานนท์ ! นั่นโคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย.
    --อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท.
    พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย.
    นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. 14/60/90 - 92.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. ๑๔/๗๘/๙๐ - ๙๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90
    ศึกษา​เพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=749
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ)หรือโอฆนิตถรณะ สัทธรรมลำดับที่ : 749 ชื่อบทธรรม :- อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749 เนื้อความทั้งหมด :- --อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?” --อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดย ประจักษ์ดังนี้ว่า “กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย, อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, นั่นล้วนแต่เป็นสักกายะ เป็นแต่เพียงสักกายะ (เป็นที่ตั้งแห่งความยึดถือด้วยอุปาทาน) ; ส่วนอมตธรรมนั้น ได้แก่ วิโมกข์แห่งจิต เพราะไม่มี #อุปาทานในสักกายะนั้น ๆ นี่เอง”. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อุปาทา --อานนท์ ! ด้วยเหตุนี้แหละ เป็นอันว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราได้แสดงแล้ว, อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, การอาศัยปฏิปทานั้นๆ ตามลำดับๆ แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราได้แสดงแล้ว, นั่นแหละคือ #อริยวิโมกข์​. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อริโย+วิโมกฺ --อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย. --อานนท์ ! นั่นโคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย. --อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท. พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. 14/60/90 - 92. http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ.ม. ๑๔/๗๘/๙๐ - ๙๒. http://etipitaka.com/read/pali/14/78/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%90 ศึกษา​เพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=749 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=749 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ
    -(คำว่า โอฆนิตถรณะ ในที่นี้ คือ การถอนตนขึ้นจากโอฆะ (ความตกจมอยู่ในกิเลสและความทุกข์ ด้วยกาม-ทิฏฐิ-ภพ-อวิชชา) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน กล่าวคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นทั้งหลาย อันมีเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นสิ่งสูงสุดสำหรับการยึดมั่นถือมั่น และไม่ยึดมั่นแม้แต่ในการบรรลุธรรมของตน; เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ดับเย็น เป็นปรินิพพาน นี้เรียกว่า โอฆนิตถรณะ หรือ อริยวิโมกข์ ก็เรียก (ดูได้ในหัวข้อหรือเรื่องถัดไป) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน). อริยวิโมกข์ หรือโอฆนิตถรณะ “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อริยวิโมกข์ (ความพ้นพิเศษอันประเสริฐ) เป็นอย่างไรเล่า ?” อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นโทษโดย ประจักษ์ดังนี้ว่า “กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, กามสัญญาที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใดด้วย, รูปทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพปัจจุบันนี้ เหล่าใด ด้วย, รูปสัญญาทั้งหลายที่เป็นไปในภพเบื้องหน้า เหล่าใดด้วย อาเนญชสัญญา เหล่าใดด้วย, อากิญจัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, เนวสัญญานาสัญญายตนสัญญา เหล่าใดด้วย, นั่นล้วนแต่เป็นสักกายะ เป็นแต่เพียงสักกายะ (เป็นที่ตั้งแห่งความ ยึดถือด้วยอุปาทาน) ; ส่วนอมตธรรมนั้น ได้แก่วิโมกข์แห่งจิต เพราะไม่มี อุปาทานในสักกายะนั้น ๆ นี่เอง”. อานนท์ ! ด้วยเหตุนี้แหละ เป็นอันว่า อาเนญชสัปปายปฏิปทา เราได้แสดงแล้ว, อากิญจัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, เนวสัญญานาสัญญายตนสัปปายปฏิปทา เราก็ได้แสดงแล้ว, การอาศัยปฏิปทานั้นๆ ตามลำดับๆ แล้วข้ามโอฆะเสียได้ เราได้แสดงแล้ว, นั่นแหละคืออริยวิโมกข์. อานนท์ ! กิจอันใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจอันนั้นเราได้ทำแล้วแก่พวกเธอทั้งหลาย. อานนท์ ! นั่นโคนไม้ทั้งหลาย, นั่น เรือนว่างทั้งหลาย. อานนท์ ! พวกเธอทั้งหลายจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท. พวกเธอทั้งหลาย อย่าได้เป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. นี่แหละ เป็นวาจาเครื่องพร่ำสอนแก่พวกเธอทั้งหลายของเรา.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การปฏิบัติอย่างมีสัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 748
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=748
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    --อานนท์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ
    (ในปฏิปทาอันเป็นที่สบาย
    (สัปปายปฏิปทา)
    แก่อาเนญชามาตามลำดับๆ
    )
    อย่างนี้แล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา(ความเข้าไปเพ่งอยู่) ว่า

    “ถ้า (ปัจจัย) ไม่เคยมี (ผล) ก็ต้องไม่มีอยู่แก่เรา;
    ถ้า (ปัจจัยเพื่ออนาคต) จักไม่มีอยู่ (ผลในอนาคต) ก็ต้องไม่มีแก่เรา.
    สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดเป็นแล้ว เราย่อมละได้ซึ่งสิ่งนั้น”
    ดังนี้.

    ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่.
    เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่,
    วิญญาณนั้นเป็นวิญญาณอันตัณหาไม่อาศัยแล้ว นั่นคือ #ภาวะไม่มีอุปาทาน.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อนุปาทาโน

    --อานนท์ ! ภิกษุ #ผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน (ดับเย็น).
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=ปรินิพฺพายตีติ
    +--“น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า !
    ไม่เคยมีแล้ว พระเจ้าข้า !
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
    ได้ทราบมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยแล้ว
    ทรงอาศัยแล้ว (ซึ่งปฏิปทาอันทรงแสดงมาแล้วตามลำดับ)
    ตรัสบอกซึ่งโอฆนิตถรณะ(การถอนตนขึ้นจากโอฆะ*--๑)
    แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว”.-

    *--๑​
    (คำว่า โอฆนิตถรณะ ในที่นี้ คือ การถอนตนขึ้นจากโอฆะ
    (ความตกจมอยู่ในกิเลสและความทุกข์ ด้วยกาม-ทิฏฐิ-ภพ-อวิชชา)
    เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน กล่าวคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นทั้งหลาย อันมีเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นสิ่งสูงสุดสำหรับการยึดมั่นถือมั่น และไม่ยึดมั่นแม้แต่ในการบรรลุธรรมของตน; เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ดับเย็น เป็นปรินิพพาน
    นี้เรียกว่า โอฆนิตถรณะ หรือ อริยวิโมกข์ ก็เรียก
    (ศึกษาได้ในข้อสัทธรรมหรือเรื่องถัดไป)
    เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน
    )

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/60/91.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๙/๙๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=748
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57
    ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​การปฏิบัติอย่างมีสัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ สัทธรรมลำดับที่ : 748 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=748 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ --อานนท์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ (ในปฏิปทาอันเป็นที่สบาย (สัปปายปฏิปทา) แก่อาเนญชามาตามลำดับๆ ) อย่างนี้แล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา(ความเข้าไปเพ่งอยู่) ว่า “ถ้า (ปัจจัย) ไม่เคยมี (ผล) ก็ต้องไม่มีอยู่แก่เรา; ถ้า (ปัจจัยเพื่ออนาคต) จักไม่มีอยู่ (ผลในอนาคต) ก็ต้องไม่มีแก่เรา. สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดเป็นแล้ว เราย่อมละได้ซึ่งสิ่งนั้น” ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่. เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่, วิญญาณนั้นเป็นวิญญาณอันตัณหาไม่อาศัยแล้ว นั่นคือ #ภาวะไม่มีอุปาทาน. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=อนุปาทาโน --อานนท์ ! ภิกษุ #ผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน (ดับเย็น). http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=ปรินิพฺพายตีติ +--“น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า ! ไม่เคยมีแล้ว พระเจ้าข้า ! ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ได้ทราบมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยแล้ว ทรงอาศัยแล้ว (ซึ่งปฏิปทาอันทรงแสดงมาแล้วตามลำดับ) ตรัสบอกซึ่งโอฆนิตถรณะ(การถอนตนขึ้นจากโอฆะ*--๑) แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว”.- *--๑​ (คำว่า โอฆนิตถรณะ ในที่นี้ คือ การถอนตนขึ้นจากโอฆะ (ความตกจมอยู่ในกิเลสและความทุกข์ ด้วยกาม-ทิฏฐิ-ภพ-อวิชชา) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน กล่าวคือไม่ยึดมั่นถือมั่นในสิ่งอันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นทั้งหลาย อันมีเนวสัญญานาสัญญายตนะเป็นสิ่งสูงสุดสำหรับการยึดมั่นถือมั่น และไม่ยึดมั่นแม้แต่ในการบรรลุธรรมของตน; เมื่อไม่ยึดมั่นถือมั่นก็ดับเย็น เป็นปรินิพพาน นี้เรียกว่า โอฆนิตถรณะ หรือ อริยวิโมกข์ ก็เรียก (ศึกษาได้ในข้อสัทธรรมหรือเรื่องถัดไป) เป็นสิ่งที่มีได้ในภพปัจจุบัน ) #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/60/91. http://etipitaka.com/read/thai/14/60/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๗๙/๙๑. http://etipitaka.com/read/pali/14/79/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%91 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57&id=748 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=57 ลำดับสาธยายธรรม : 57 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_57.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ
    -สัมมาทิฏฐิ ต่อโอฆนิตถรณะ อานนท์ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ปฏิบัติ (ในปฏิปทาอันเป็นที่สบาย (สัปปายปฏิปทา) แก่อาเนญชามาตามลำดับๆ) อย่างนี้แล้ว ย่อมได้เฉพาะซึ่งอุเบกขา(ความเข้าไปเพ่งอยู่) ว่า “ถ้า (ปัจจัย) ไม่เคยมี (ผล) ก็ต้องไม่มีอยู่แก่เรา; ถ้า (ปัจจัยเพื่ออนาคต) จักไม่มีอยู่ (ผลในอนาคต) ก็ต้องไม่มีแก่เรา. สิ่งใดมีอยู่ สิ่งใดเป็นแล้ว เราย่อมละได้ซึ่งสิ่งนั้น” ดังนี้. ภิกษุนั้น ย่อมไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่. เมื่อภิกษุนั้น ไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งอุเบกขานั้น ดำรงอยู่, วิญญาณนั้นเป็นวิญญาณอันตัณหาไม่อาศัยแล้ว นั่นคือภาวะไม่มีอุปาทาน. อานนท์ ! ภิกษุผู้ไม่มีอุปาทานย่อมปรินิพพาน (ดับเย็น). “น่าอัศจรรย์ พระเจ้าข้า ! ไม่เคยมีแล้ว พระเจ้าข้า ! ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ได้ทราบมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงอาศัยแล้ว ทรงอาศัยแล้ว (ซึ่งปฏิปทาอันทรงแสดงมาแล้วตามลำดับ) ตรัสบอกซึ่งโอฆนิตถรณะ(การถอนตนขึ้นจากโอฆะ) แก่ข้าพระองค์ทั้งหลายแล้ว”.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความปลอดจากอวิชชาโยคะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 376
    ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากอวิชชาโยคะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=376
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความปลอดจากอวิชชาโยคะ
    --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากอวิชชาโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง
    ซึ่งความก่อขึ้นแห่งผัสสายตนะหกด้วย
    ซึ่งความดับไปแห่งผัสสายตนะหกด้วย
    ซึ่งรสอร่อยแห่งผัสสายตนะหกด้วย
    ซึ่งโทษแห่งผัสสายตนะหกด้วย
    ซึ่งอุบายเครื่องพ้นไปจากผัสสายตนะหกด้วย ;
    เมื่อเขารู้ชัดตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น,
    อวิชชาและอัญญาณใด ๆ ในผัสสายตนะหก
    อวิชชาและอัญญาณนั้น ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดภัยจากอวิชชาโยคะ.

    --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละจึงรวมเป็น
    ๑.การไม่ประกอบอยู่ด้วยกามโยคะ ๑
    ๒.การไม่ประกอบอยู่ด้วยภวโยคะ ๑
    ๓.การไม่ประกอบอยู่ด้วยทิฏฐิโยคะ ๑ และ
    ๔.การไม่ประกอบอยู่ด้วยอวิชชาโยคะ ๑.
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลไม่ประกอบด้วยกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพโดยเด็ดขาด
    อันเป็นอกุศลธรรมอันลามกเศร้าหมอง เป็นเหตุให้มีภพใหม่
    อันกระสับกระส่าย มีผลเป็นทุกข์ มีชาติชราและมรณะต่อไป ;
    เพราะฉะนั้น เราจึงเรียกว่า “ผู้มีปกติเกษมจากโยคะ (โยคกฺเขมี)” ดังนี้.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/15/?keywords=โยคกฺเขมี
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้คือ #ความปลอดจากกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ ไว้ในภพ ๔ อย่าง
    แล.

    (คาถาผนวกท้ายพระสูตร)
    --สัตว์ทั้งหลาย ประกอบพร้อมแล้วด้วยกามโยคะ ด้วยภวโยคะ ด้วยทิฏฐิโยคะ
    และถูกอวิชชากระทำในเบื้องหน้าแล้ว, มีปกติไปสู่ชาติและมรณะ ; ย่อมไปสู่สังสารวัฏ.
    ส่วนสัตว์เหล่าใดรอบรู้แล้ว ซึ่งกามและภวโยคะ โดยประการทั้งปวง,
    ถอนขึ้นได้แล้วซึ่งทิฏฐิโยคะ,และพรากออกได้โดยเด็ดขาดซึ่งอวิชชา,
    สัตว์เหล่านั้นแล ไม่ประกอบแล้วด้วยกิเลสอันประกอบสัตว์ไว้ในภพทั้งปวง,
    เป็นมุนี ล่วงเสียได้ซึ่งโยคะกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ;
    ดังนี้แล.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/10/10.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/10/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๕/๑๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/14/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=376
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=376
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าความปลอดจากอวิชชาโยคะ สัทธรรมลำดับที่ : 376 ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากอวิชชาโยคะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=376 เนื้อความทั้งหมด :- --ความปลอดจากอวิชชาโยคะ --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากอวิชชาโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งความดับไปแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งโทษแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งอุบายเครื่องพ้นไปจากผัสสายตนะหกด้วย ; เมื่อเขารู้ชัดตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, อวิชชาและอัญญาณใด ๆ ในผัสสายตนะหก อวิชชาและอัญญาณนั้น ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดภัยจากอวิชชาโยคะ. --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละจึงรวมเป็น ๑.การไม่ประกอบอยู่ด้วยกามโยคะ ๑ ๒.การไม่ประกอบอยู่ด้วยภวโยคะ ๑ ๓.การไม่ประกอบอยู่ด้วยทิฏฐิโยคะ ๑ และ ๔.การไม่ประกอบอยู่ด้วยอวิชชาโยคะ ๑. --ภิกษุ ท. ! บุคคลไม่ประกอบด้วยกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพโดยเด็ดขาด อันเป็นอกุศลธรรมอันลามกเศร้าหมอง เป็นเหตุให้มีภพใหม่ อันกระสับกระส่าย มีผลเป็นทุกข์ มีชาติชราและมรณะต่อไป ; เพราะฉะนั้น เราจึงเรียกว่า “ผู้มีปกติเกษมจากโยคะ (โยคกฺเขมี)” ดังนี้. http://etipitaka.com/read/pali/21/15/?keywords=โยคกฺเขมี --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้คือ #ความปลอดจากกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ ไว้ในภพ ๔ อย่าง แล. (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) --สัตว์ทั้งหลาย ประกอบพร้อมแล้วด้วยกามโยคะ ด้วยภวโยคะ ด้วยทิฏฐิโยคะ และถูกอวิชชากระทำในเบื้องหน้าแล้ว, มีปกติไปสู่ชาติและมรณะ ; ย่อมไปสู่สังสารวัฏ. ส่วนสัตว์เหล่าใดรอบรู้แล้ว ซึ่งกามและภวโยคะ โดยประการทั้งปวง, ถอนขึ้นได้แล้วซึ่งทิฏฐิโยคะ,และพรากออกได้โดยเด็ดขาดซึ่งอวิชชา, สัตว์เหล่านั้นแล ไม่ประกอบแล้วด้วยกิเลสอันประกอบสัตว์ไว้ในภพทั้งปวง, เป็นมุนี ล่วงเสียได้ซึ่งโยคะกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ; ดังนี้แล.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/10/10. http://etipitaka.com/read/thai/21/10/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๕/๑๐. http://etipitaka.com/read/pali/21/14/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=376 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=376 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความปลอดจากอวิชชาโยคะ
    -ความปลอดจากอวิชชาโยคะ ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากอวิชชาโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งความดับไปแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่ง รสอร่อยแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งโทษแห่งผัสสายตนะหกด้วย ซึ่งอุบายเครื่องพ้นไปจากผัสสายตนะหกด้วย ; เมื่อเขารู้ชัดตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, อวิชชาและอัญญาณใด ๆ ในผัสสายตนะหก อวิชชาและอัญญาณนั้น ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความปลอดภัยจากอวิชชาโยคะ. ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละจึงรวมเป็น การไม่ประกอบอยู่ด้วยกามโยคะ ๑ การไม่ประกอบอยู่ด้วยภวโยคะ ๑ การไม่ประกอบอยู่ด้วยทิฏฐิโยคะ ๑ และการไม่ประกอบอยู่ด้วยอวิชชาโยคะ ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคลไม่ประกอบด้วยกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพโดยเด็ดขาด อันเป็นอกุศลธรรมอันลามกเศร้าหมอง เป็นเหตุให้มีภพใหม่ อันกระสับกระส่าย มีผลเป็นทุกข์ มีชาติชราและมรณะต่อไป ; เพราะฉะนั้น เราจึงเรียกว่า “ผู้มีปกติเกษมจากโยคะ (โยคกฺเขมี)” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้คือ ความปลอดจากกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ ไว้ในภพ ๔ อย่าง แล. (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) สัตว์ทั้งหลาย ประกอบพร้อมแล้วด้วยกามโยคะ ด้วยภวโยคะ ด้วยทิฏฐิโยคะ และถูกอวิชชากระทำในเบื้องหน้าแล้ว, มีปกติไปสู่ชาติและมรณะ ; ย่อมไปสู่สังสารวัฏ. ส่วนสัตว์เหล่าใดรอบรู้แล้ว ซึ่งกามและภวโยคะ โดยประการทั้งปวง, ถอนขึ้นได้แล้วซึ่งทิฏฐิโยคะ, และพราก ออกได้โดยเด็ดขาดซึ่งอวิชชา, สัตว์เหล่านั้นแล ไม่ประกอบแล้วด้วยกิเลสอันประกอบสัตว์ไว้ในภพทั้งปวง, เป็นมุนี ล่วงเสียได้ซึ่งโยคะกิเลสเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ; ดังนี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า ความปลอดจากกามโยคะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 373
    ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากกามโยคะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=373
    เนื้อความทั้งหมด :-
    ความปลอดจากกามโยคะ
    --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกิเลส อันเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ มี ๔ อย่างเหล่านี้.
    สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ
    ความปลอดจากกามโยคะ,
    ความปลอดจากภวโยคะ,
    ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ,
    ความปลอดจากอวิชชาโยคะ.
    --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกามโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง
    ซึ่งความก่อขึ้นแห่งกามทั้งหลายด้วย
    ซึ่งความดับไปแห่งกามทั้งหลายด้วย
    ซึ่งรสอร่อยแห่งกามทั้งหลายด้วย
    ซึ่งโทษแห่งกามทั้งหลายด้วย
    ซึ่งอุบายเป็นเครื่องออกพ้นไปได้จากกามทั้งหลายด้วย ;

    เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น,
    ความกำหนัดในกาม
    ความเพลิดเพลินในกาม
    ความเสน่หาในกาม
    ความสยบอยู่ในกาม
    ความหิว กระหายในกาม
    ความเร่าร้อนเพราะกาม
    ความเมาหมกในกาม
    และกามตัณหา, ในกามทั้งหลาย
    เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดจากกามโยคะ.-
    http://etipitaka.com/read/pali/21/14/?keywords=กามโยควิสํโยโค

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/9/10.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๔/๑๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90
    ศึกษาเพ้่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=373
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=373
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า ความปลอดจากกามโยคะ สัทธรรมลำดับที่ : 373 ชื่อบทธรรม :- ความปลอดจากกามโยคะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=373 เนื้อความทั้งหมด :- ความปลอดจากกามโยคะ --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกิเลส อันเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ มี ๔ อย่างเหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ ความปลอดจากกามโยคะ, ความปลอดจากภวโยคะ, ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ, ความปลอดจากอวิชชาโยคะ. --ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกามโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งความดับไปแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งโทษแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งอุบายเป็นเครื่องออกพ้นไปได้จากกามทั้งหลายด้วย ; เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, ความกำหนัดในกาม ความเพลิดเพลินในกาม ความเสน่หาในกาม ความสยบอยู่ในกาม ความหิว กระหายในกาม ความเร่าร้อนเพราะกาม ความเมาหมกในกาม และกามตัณหา, ในกามทั้งหลาย เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า #ความปลอดจากกามโยคะ.- http://etipitaka.com/read/pali/21/14/?keywords=กามโยควิสํโยโค #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/9/10. http://etipitaka.com/read/thai/21/9/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๔/๑๐. http://etipitaka.com/read/pali/21/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90 ศึกษาเพ้่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=373 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=373 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความปลอดจากกามโยคะ
    -ความปลอดจากกามโยคะ ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกิเลส อันเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ มี ๔ อย่างเหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ ความปลอดจากกามโยคะ, ความปลอดจากภวโยคะ, ความปลอดจากทิฏฐิโยคะ, ความปลอดจากอวิชชาโยคะ. ภิกษุ ท. ! ความปลอดจากกามโยคะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในโลกนี้ ย่อมรู้แจ้งชัดตามที่เป็นจริง ซึ่งความก่อขึ้นแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งความดับไปแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งรสอร่อยแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งโทษแห่งกามทั้งหลายด้วย ซึ่งอุบายเป็นเครื่องออกพ้นไปได้จากกามทั้งหลายด้วย ; เมื่อเขารู้ตามที่เป็นจริงอยู่เช่นนั้น, ความกำหนัดในกาม ความเพลิดเพลินในกาม ความเสน่หาในกาม ความสยบอยู่ในกาม ความหิว กระหายในกาม ความเร่าร้อนเพราะกาม ความเมาหมกในกาม และกามตัณหา, ในกามทั้งหลาย เหล่านี้ย่อมไม่นอนเนื่องอยู่ในบุคคลนั้น. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ความปลอดจากกามโยคะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน”
    แห่งชราและมรณะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 369
    ชื่อบทธรรม :- ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน”
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=369
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน”
    --นั่น สงบจริง ! นั่น ประณีตจริง ! ที่นี้เอง
    เป็นที่สงบสังขารทั้งปวง,
    เป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง,
    เป็นที่สิ้นตัณหา,
    เป็นที่คลายความกำหนัด,
    เป็นที่ดับกิเลส.​ #นี่คือนิพพานแล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/18/17/?keywords=อภินิพฺพตฺติ

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/12/21.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/12/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๗/๒๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/17/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=369
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=369
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่าธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน” แห่งชราและมรณะ สัทธรรมลำดับที่ : 369 ชื่อบทธรรม :- ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน” https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=369 เนื้อความทั้งหมด :- --ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน” --นั่น สงบจริง ! นั่น ประณีตจริง ! ที่นี้เอง เป็นที่สงบสังขารทั้งปวง, เป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง, เป็นที่สิ้นตัณหา, เป็นที่คลายความกำหนัด, เป็นที่ดับกิเลส.​ #นี่คือนิพพานแล.- http://etipitaka.com/read/pali/18/17/?keywords=อภินิพฺพตฺติ #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/12/21. http://etipitaka.com/read/thai/18/12/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๗/๒๑. http://etipitaka.com/read/pali/18/17/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=369 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=369 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน”
    -ธรรมที่ชื่อว่า “นิพพาน” นั่น สงบจริง ! นั่น ประณีตจริง ! ที่นี้เอง เป็นที่สงบสังขารทั้งปวง, เป็นที่สละคืนอุปธิทั้งปวง, เป็นที่สิ้นตัณหา, เป็นที่คลายความกำหนัด, เป็นที่ดับกิเลส. นี่คือนิพพาน แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • กิเลส คุย 🪷 วันพระ อาทิตย์ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๘ . พระพุทธทาสภิกขุ . ฝึกเจริญสติให้เป็นนิสัย
    กิเลส คุย 🪷 วันพระ อาทิตย์ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๘ . พระพุทธทาสภิกขุ . ฝึกเจริญสติให้เป็นนิสัย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อนัตตสัญญาเป็นไปโดยสะดวก
    สัทธรรมลำดับที่ : 732
    ชื่อบทธรรม :- อนัตตสัญญาเป็นไปโดยสะดวก เมื่อผู้เจริญมุ่งอานิสงส์หกประการ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=732
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อนัตตสัญญาเป็นไปโดยสะดวก เมื่อผู้เจริญมุ่งอานิสงส์หกประการ
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ หวังอยู่ซึ่งอานิสงส์ ๖ ประการ ย่อมสมควร โดยแท้
    เพื่อจะเข้าไปตั้งไว้ซึ่ง #อนัตตสัญญา ในธรรมทั้งปวงอย่างไม่จำกัดขอบเขต.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/493/?keywords=อนตฺตสญฺญํ
    หวังอยู่ซึ่งอานิสงส์ ๖ ประการเหล่าไหนเล่า ?
    หกประการคือ :-
    ๑--เราจักเป็นอตัมมโย*--๑ ในโลกทั้งปวง ;
    ๒--อหังการ*--๒ ทั้งหลายของเราจักเข้าถึงการดับ ;
    ๓--มมังการ*--๓ ทั้งหลายของเราจักเข้าถึงการดับ ;
    ๔--เราจักเป็นผู้ประกอบด้วยอสาธารณญาณ (ความรู้อันไม่ทั่วไปแก่ปุถุชน) ;
    ๕--ธรรมอันเป็นเหตุ จักเป็นสิ่งที่เราเห็นแล้วด้วยดี ; และ
    ๖--ธรรมทั้งหลายอันเกิดแต่เหตุ จักเป็นสิ่งที่เราเห็นด้วยดี.
    (ทั้งอหังการและมมังการ
    เป็นความรู้สึกที่มีอยู่ในสันดานของคนเรา เป็นกิเลสประเภทอนุสัย
    ทำงานร่วมกันทั้งสองอย่าง เรียกว่า อหังการะมมังการะมานานุสัย ;
    ผู้ใดถอนเสียได้เด็ดขาด #ผู้นั้นเป็นพระอรหันต์.
    )​
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุหวังอยู่ซึ่งอานิสงส์ ๖ ประการเหล่านี้แล
    ย่อมสมควรโดยแท้ เพื่อจะเข้าไปตั้งไว้ซึ่ง #อนัตตสัญญา
    http://etipitaka.com/read/pali/22/494/?keywords=อนตฺตสญฺญํ
    ในธรรมทั้งปวงอย่างไม่จำกัดขอบเขต.-

    *--๑. อตัมมโย คือผู้ไม่สำเร็จมาแต่ปัจจัยนั้น ๆ
    กล่าวคือ ปัจจัยนั้น ๆ ไม่อาจปรุงแต่งได้ หมายถึง ผู้หลุดพ้นนั่นเอง.
    *--๒. อหังการ คือการกระทำในใจด้วยความยึดถือว่าเรา ว่าตน.
    *--๓. มมังการ คือการกระทำในใจด้วยความยึดถือว่าของเรา ว่าของตน.

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก#พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/397/375.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/397/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๓/๓๗๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/493/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%95
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=732
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=54&id=732
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=54
    ลำดับสาธยายธรรม : 54​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_54.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อนัตตสัญญาเป็นไปโดยสะดวก สัทธรรมลำดับที่ : 732 ชื่อบทธรรม :- อนัตตสัญญาเป็นไปโดยสะดวก เมื่อผู้เจริญมุ่งอานิสงส์หกประการ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=732 เนื้อความทั้งหมด :- --อนัตตสัญญาเป็นไปโดยสะดวก เมื่อผู้เจริญมุ่งอานิสงส์หกประการ --ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ หวังอยู่ซึ่งอานิสงส์ ๖ ประการ ย่อมสมควร โดยแท้ เพื่อจะเข้าไปตั้งไว้ซึ่ง #อนัตตสัญญา ในธรรมทั้งปวงอย่างไม่จำกัดขอบเขต. http://etipitaka.com/read/pali/22/493/?keywords=อนตฺตสญฺญํ หวังอยู่ซึ่งอานิสงส์ ๖ ประการเหล่าไหนเล่า ? หกประการคือ :- ๑--เราจักเป็นอตัมมโย*--๑ ในโลกทั้งปวง ; ๒--อหังการ*--๒ ทั้งหลายของเราจักเข้าถึงการดับ ; ๓--มมังการ*--๓ ทั้งหลายของเราจักเข้าถึงการดับ ; ๔--เราจักเป็นผู้ประกอบด้วยอสาธารณญาณ (ความรู้อันไม่ทั่วไปแก่ปุถุชน) ; ๕--ธรรมอันเป็นเหตุ จักเป็นสิ่งที่เราเห็นแล้วด้วยดี ; และ ๖--ธรรมทั้งหลายอันเกิดแต่เหตุ จักเป็นสิ่งที่เราเห็นด้วยดี. (ทั้งอหังการและมมังการ เป็นความรู้สึกที่มีอยู่ในสันดานของคนเรา เป็นกิเลสประเภทอนุสัย ทำงานร่วมกันทั้งสองอย่าง เรียกว่า อหังการะมมังการะมานานุสัย ; ผู้ใดถอนเสียได้เด็ดขาด #ผู้นั้นเป็นพระอรหันต์. )​ --ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุหวังอยู่ซึ่งอานิสงส์ ๖ ประการเหล่านี้แล ย่อมสมควรโดยแท้ เพื่อจะเข้าไปตั้งไว้ซึ่ง #อนัตตสัญญา http://etipitaka.com/read/pali/22/494/?keywords=อนตฺตสญฺญํ ในธรรมทั้งปวงอย่างไม่จำกัดขอบเขต.- *--๑. อตัมมโย คือผู้ไม่สำเร็จมาแต่ปัจจัยนั้น ๆ กล่าวคือ ปัจจัยนั้น ๆ ไม่อาจปรุงแต่งได้ หมายถึง ผู้หลุดพ้นนั่นเอง. *--๒. อหังการ คือการกระทำในใจด้วยความยึดถือว่าเรา ว่าตน. *--๓. มมังการ คือการกระทำในใจด้วยความยึดถือว่าของเรา ว่าของตน. #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก​ #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/397/375. http://etipitaka.com/read/thai/22/397/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๙๓/๓๗๕. http://etipitaka.com/read/pali/22/493/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%95 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=732 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=54&id=732 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=54 ลำดับสาธยายธรรม : 54​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_54.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อนัตตสัญญาเป็นไปโดยสะดวก เมื่อผู้เจริญมุ่งอานิสงส์หกประการ
    -อนัตตสัญญาเป็นไปโดยสะดวก เมื่อผู้เจริญมุ่งอานิสงส์หกประการ ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุ หวังอยู่ซึ่งอานิสงส์ ๖ ประการ ย่อมสมควร โดยแท้ เพื่อจะเข้าไปตั้งไว้ซึ่ง อนัตตสัญญา ในธรรมทั้งปวงอย่างไม่จำกัดขอบเขต. หวังอยู่ซึ่งอานิสงส์ ๖ ประการเหล่าไหนเล่า ? หกประการคือ : เราจักเป็นอตัมมโย๑ ในโลกทั้งปวง ; อหังการ๒ ทั้งหลายของเราจักเข้าถึงการดับ ; มมังการ๓ ทั้งหลายของเราจักเข้าถึงการดับ ; เราจักเป็นผู้ประกอบด้วยอสาธารณญาณ (ความรู้อันไม่ทั่วไปแก่ปุถุชน) ; ๑. อตัมมโย คือผู้ไม่สำเร็จมาแต่ปัจจัยนั้น ๆ กล่าวคือ ปัจจัยนั้น ๆ ไม่อาจปรุงแต่งได้ หมายถึงผู้หลุดพ้นนั่นเอง. ๒. อหังการ คือการกระทำในใจด้วยความยึดถือว่าเรา ว่าตน. ๓. มมังการ คือการกระทำในใจด้วยความยึดถือว่าของเรา ว่าของตน. ทั้งอหังการและมมังการ เป็นความรู้สึกที่มีอยู่ในสันดานของคนเรา เป็นกิเลสประเภทอนุสัย ทำงานร่วมกันทั้งสองอย่าง เรียกว่า อหังการะมมังการะมานานุสัย ; ผู้ใดถอนเสียได้เด็ดขาด ผู้นั้นเป็นพระอรหันต์. ธรรมอันเป็นเหตุ จักเป็นสิ่งที่เราเห็นแล้วด้วยดี ; และธรรมทั้งหลายอันเกิดแต่เหตุ จักเป็นสิ่งที่เราเห็นด้วยดี. ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุหวังอยู่ซึ่งอานิสงส์ ๖ ประการเหล่านี้แล ย่อมสมควรโดยแท้ เพื่อจะเข้าไปตั้งไว้ซึ่งอนัตตสัญญา ในธรรมทั้งปวงอย่างไม่จำกัดขอบเขต.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่ากิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ
    สัทธรรมลำดับที่ : 361
    ชื่อบทธรรม :- กิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=361
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --กิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ
    --ราธะ ! ความพอใจก็ดี
    ความกำหนัด ก็ดี; ความเพลิน ก็ดี;ตัณหา ก็ดี;
    อุปายะ (กิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ) ก็ดี​ และอุปาทาน ก็ดี
    http://etipitaka.com/read/pali/17/237/?keywords=อุปายุปาทาน
    อันเป็นเครื่องตั้งทับ เครื่องเข้าไปอาศัย และเครื่องนอนเนื่องแห่งจิต
    มีอยู่ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ ใด ๆ ;

    พวกเธอทั้งหลายจงละกิเลสนั้นๆเสีย.
    ด้วยการทำอย่างนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขารทั้งหลาย วิญญาณนั้นๆ
    จักเป็นสิ่งที่พวกเธอละได้แล้ว
    เป็นสิ่งที่มีมูลรากอันตัดขาดเสียแล้ว
    ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า
    ทำให้มีอยู่ไม่ได้
    ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป.-

    #ทุกขนิโรธ#อริยสัจสี่#ไทยสุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/196/376.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/196/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๓๗/๓๗๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/237/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%96
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=361
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=361
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่ากิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ สัทธรรมลำดับที่ : 361 ชื่อบทธรรม :- กิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=361 เนื้อความทั้งหมด :- --กิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ --ราธะ ! ความพอใจก็ดี ความกำหนัด ก็ดี; ความเพลิน ก็ดี;ตัณหา ก็ดี; อุปายะ (กิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ) ก็ดี​ และอุปาทาน ก็ดี http://etipitaka.com/read/pali/17/237/?keywords=อุปายุปาทาน อันเป็นเครื่องตั้งทับ เครื่องเข้าไปอาศัย และเครื่องนอนเนื่องแห่งจิต มีอยู่ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ ใด ๆ ; พวกเธอทั้งหลายจงละกิเลสนั้นๆเสีย. ด้วยการทำอย่างนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขารทั้งหลาย วิญญาณนั้นๆ จักเป็นสิ่งที่พวกเธอละได้แล้ว เป็นสิ่งที่มีมูลรากอันตัดขาดเสียแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป.- #ทุกขนิโรธ​ #อริยสัจสี่​ #ไทยสุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/196/376. http://etipitaka.com/read/thai/17/196/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๓๗/๓๗๖. http://etipitaka.com/read/pali/17/237/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=361 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=361 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ราธะ ! ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความเพลินก็ดี ตัณหาก็ดี อุปายะ (กิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ) ก็ดี และอุปาทานก็ดี อันเป็นเครื่องตั้งทับ เครื่องเข้าไปอาศัย และเครื่องนอนเนื่องแห่งจิต มีอยู่ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ ใด ๆ ; พวกเธอทั้งหลายจงละกิเลสนั้นๆเสีย. ด้วยการทำอย่างนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขารทั้งหลาย วิญญาณนั้นๆ จักเป็นสิ่งที่พวก
    -ราธะ ! ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความเพลินก็ดี ตัณหาก็ดี อุปายะ (กิเลสเป็นเหตุให้เข้าไปสู่ภพ) ก็ดี และอุปาทานก็ดี อันเป็นเครื่องตั้งทับ เครื่องเข้าไปอาศัย และเครื่องนอนเนื่องแห่งจิต มีอยู่ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในวิญญาณ ใด ๆ ; พวกเธอทั้งหลายจงละกิเลสนั้นๆเสีย. ด้วยการทำอย่างนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขารทั้งหลาย วิญญาณนั้นๆ จักเป็นสิ่งที่พวก เธอละได้แล้ว เป็นสิ่งที่มีมูลรากอันตัดขาดเสียแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้
    สัทธรรมลำดับที่ : 360
    ชื่อบทธรรม :- ละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=360
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้
    --ภิกษุ ท.!
    ความพอใจ (ฉันทะ) ก็ดี ,
    ความกำหนัด (ราคะ) ก็ดี ,
    ความเพลิน (นันทิ) ก็ดี ,
    ความอยาก(ตัณหา) ก็ดี ,
    มีอยู่ ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย ในวิญญาณ ใดๆ,
    พวกเธอทั้งหลาย จงละกิเลส นั้นๆ เสีย.
    ด้วยการทำอย่างนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขารทั้งหลาย วิญญาณ(เบญจขันธ์) นั้นๆ
    http://etipitaka.com/read/pali/17/236/?keywords=อุปาทานกฺขนฺธ
    #จักเป็นสิ่งที่พวกเธอละได้แล้ว
    เป็นสิ่งที่มีมูลรากอันตัดเสียแล้ว
    ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า
    ทำให้มีอยู่ไม่ได้
    ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป.-

    #ทุกขนิโรธ#อริยสัจสี่#ไทยสุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก

    อ้างอิงไทนสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/195/375.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/195/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๓๖/๓๗๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/236/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=360
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=360
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24
    ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้ สัทธรรมลำดับที่ : 360 ชื่อบทธรรม :- ละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=360 เนื้อความทั้งหมด :- --ละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้ --ภิกษุ ท.! ความพอใจ (ฉันทะ) ก็ดี , ความกำหนัด (ราคะ) ก็ดี , ความเพลิน (นันทิ) ก็ดี , ความอยาก(ตัณหา) ก็ดี , มีอยู่ ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย ในวิญญาณ ใดๆ, พวกเธอทั้งหลาย จงละกิเลส นั้นๆ เสีย. ด้วยการทำอย่างนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขารทั้งหลาย วิญญาณ(เบญจขันธ์) นั้นๆ http://etipitaka.com/read/pali/17/236/?keywords=อุปาทานกฺขนฺธ #จักเป็นสิ่งที่พวกเธอละได้แล้ว เป็นสิ่งที่มีมูลรากอันตัดเสียแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป.- #ทุกขนิโรธ​ #อริยสัจสี่​ #ไทยสุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก อ้างอิงไทนสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/195/375. http://etipitaka.com/read/thai/17/195/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๓๖/๓๗๕. http://etipitaka.com/read/pali/17/236/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=360 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24&id=360 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=24 ลำดับสาธยายธรรม : 24 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_24.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้
    -ละกิเลสตัณหาได้ คือละเบญจขันธ์ได้ ภิกษุ ท.! ความพอใจ (ฉันทะ) ก็ดี ความกำหนัด (ราคะ) ก็ดี ความเพลิน (นันทิ) ก็ดี ตัณหาก็ดี มีอยู่ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย ในวิญญาณ ใดๆ, พวกเธอทั้งหลาย จงละกิเลสนั้นๆเสีย. ด้วยการทำอย่างนี้ รูป เวทนา สัญญา สังขารทั้งหลาย วิญญาณ นั้นๆ จักเป็นสิ่งที่พวกเธอละได้แล้ว เป็นสิ่งที่มีมูลรากอันตัดเสียแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดเน่า ทำให้มีอยู่ไม่ได้ ทำให้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้อีกต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส
    สัทธรรมลำดับที่ : 720
    ชื่อบทธรรม :- อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=720
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำที่กล่าวกันอยู่ว่า
    ‘เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม’
    ดังนี้
    นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า ?”
    --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ !
    ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงาม คำถามสวยสลวย.
    +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า เป็นพหูสูต ทรงธรรม กันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ! เราแสดงธรรมแล้ว มากมายครบถ้วนขบวนความ เป็น
    สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ
    +--ภิกษุ ! ผู้รู้อรรถรู้ธรรมแห่งคาถา
    แม้เพียง สี่บท แล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
    นั่นแหละควรจะเรียกว่า เป็น #พหูสูตผู้ทรงธรรม(พหุสฺสุโต+ธมฺมธโร).
    http://etipitaka.com/read/pali/21/241/?keywords=พหุสฺสุโต+ธมฺมธโร

    “สาธุ พระเจ้าข้า !”
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า
    “ผู้มีการศึกษามีปัญญา เครื่องเจาะแทงกิเลส
    ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส”
    ดังนี้
    นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอพระเจ้าข้า ?”
    --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณ งดงามคำถามสวยสลวย.
    +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า
    ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส (นิพเพธิกปัญญา)
    เป็นกันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ?
    “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ภิกษุ มี
    ๑.การศึกษาอยู่ว่า
    “อย่างนี้ เป็น ความทุกข์”
    ดังนี้
    แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี;
    ๒.มีการศึกษาอยู่ว่า
    “อย่างนี้ เป็นเหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์”
    ดังนี้
    แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี;
    ๓.มีการศึกษาอยู่ว่า
    “อย่างนี้ เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
    ดังนี้
    แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี;
    ๔.มีการศึกษาอยู่ว่า
    “อย่างนี้ เป็นหนทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
    ดังนี้
    แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี.
    +--ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า “#ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส.”
    http://etipitaka.com/read/pali/21/242/?keywords=นิพฺเพธิกปญฺโญ

    “สาธุ พระเจ้าข้า !”
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า
    “ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก“
    ดังนี้
    นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า !”
    --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงามคำถามสวยสลวย.
    +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก
    เป็นกัน ได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ! ในกรณีนี้
    ++-ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก
    ย่อมไม่รู้ไป ในทางทำตนเองให้ลำบากเลย
    ไม่รู้ไปในทางทำผู้อื่นให้ลำบาก ไม่รู้ไปในทางทำทั้งสองฝ่ายให้ลำบาก;
    ++-เมื่อจะรู้ ย่อมรู้แจ้งอย่างเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ตนเอง เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น
    เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ทั้งสองฝ่าย คือเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกทั้งปวงนั่นเอง.
    +--ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า #ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก.-
    http://etipitaka.com/read/pali/21/243/?keywords=มหาปญฺโญ

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ .21/171/186.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/171/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ .๒๑/๒๔๑/๑๘๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/241/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%96
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=720
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=720
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส สัทธรรมลำดับที่ : 720 ชื่อบทธรรม :- อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=720 เนื้อความทั้งหมด :- --อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำที่กล่าวกันอยู่ว่า ‘เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม’ ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า ?” --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงาม คำถามสวยสลวย. +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า เป็นพหูสูต ทรงธรรม กันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ! เราแสดงธรรมแล้ว มากมายครบถ้วนขบวนความ เป็น สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ +--ภิกษุ ! ผู้รู้อรรถรู้ธรรมแห่งคาถา แม้เพียง สี่บท แล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นั่นแหละควรจะเรียกว่า เป็น #พหูสูตผู้ทรงธรรม(พหุสฺสุโต+ธมฺมธโร). http://etipitaka.com/read/pali/21/241/?keywords=พหุสฺสุโต+ธมฺมธโร “สาธุ พระเจ้าข้า !” --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า “ผู้มีการศึกษามีปัญญา เครื่องเจาะแทงกิเลส ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส” ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอพระเจ้าข้า ?” --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณ งดงามคำถามสวยสลวย. +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส (นิพเพธิกปัญญา) เป็นกันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ภิกษุ มี ๑.การศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็น ความทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; ๒.มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นเหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; ๓.มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; ๔.มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นหนทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี. +--ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า “#ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส.” http://etipitaka.com/read/pali/21/242/?keywords=นิพฺเพธิกปญฺโญ “สาธุ พระเจ้าข้า !” --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า “ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก“ ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า !” --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงามคำถามสวยสลวย. +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก เป็นกัน ได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ++-ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ย่อมไม่รู้ไป ในทางทำตนเองให้ลำบากเลย ไม่รู้ไปในทางทำผู้อื่นให้ลำบาก ไม่รู้ไปในทางทำทั้งสองฝ่ายให้ลำบาก; ++-เมื่อจะรู้ ย่อมรู้แจ้งอย่างเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ตนเอง เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ทั้งสองฝ่าย คือเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกทั้งปวงนั่นเอง. +--ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า #ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก.- http://etipitaka.com/read/pali/21/243/?keywords=มหาปญฺโญ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ .21/171/186. http://etipitaka.com/read/thai/21/171/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ .๒๑/๒๔๑/๑๘๖. http://etipitaka.com/read/pali/21/241/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%96 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=720 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=720 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะ ของกาม
    -(ความรู้ที่ทำให้รู้จักกลัวต่อสิ่งที่ควรกลัว จัดเป็นสัมมาทิฏฐิในชั้นต้นๆ ได้ จึงนำมาใส่ไว้ในที่นี้). ๑ .ดูรายละเอียดของการกระทำกรรมกรณ์เหล่านี้ ที่เชิงอรรถแห่งหน้า ๙๓๗ - ๙๓๘ แห่งหนังสือเล่มนี้ ที่หัวข้อว่า “อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะ ของกาม.” อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำที่กล่าวกันอยู่ว่า ‘เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม’ ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า ?” ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงาม คำถามสวยสลวย. ภิกษุ ! เธอถามเราว่า เป็นพหูสูต ทรงธรรม กันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ! เราแสดงธรรมแล้ว มากมายครบถ้วนขบวนความ เป็น สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ ภิกษุ ! ผู้รู้อรรถรู้ธรรมแห่งคาถาแม้เพียงสี่บท แล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นั่นแหละควรจะเรียกว่า เป็น พหูสูตผู้ทรงธรรม. “สาธุ พระเจ้าข้า !” “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า “ผู้มีการศึกษามีปัญญา เครื่องเจาะแทงกิเลส ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส” ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอพระเจ้าข้า ?” ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณ งดงามคำถามสวยสลวย. ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส (นิพเพธิกปัญญา) เป็นกันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !” ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ภิกษุ มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็น ความทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นเหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่ง เนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นหนทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี. ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า “ผู้มีการศึกษา มีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส.” “สาธุ พระเจ้าข้า !” “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า “ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก“ ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า !” ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงามคำถามสวยสลวย. ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก เป็นกัน ได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ย่อมไม่คิดไป ในทางทำตนเองให้ลำบากเลย ไม่คิดไปในทางทำผู้อื่นให้ลำบาก ไม่คิดไปในทางทำทั้งสองฝ่ายให้ลำบาก; เมื่อจะคิด ย่อมคิดอย่างเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ตนเอง เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ทั้งสองฝ่าย คือเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกทั้งปวงนั่นเอง. ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในพระพุทธศาสนา "กาม" และ "กิเลส" มีความหมายที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน กาม หมายถึง ความใคร่ ความปรารถนา หรือสิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งความใคร่ ซึ่งมี 2 ประเภท คือ กิเลสกาม (กิเลสที่ทำให้เกิดความใคร่) และ วัตถุกาม (สิ่งที่เป็นที่ตั้งของความใคร่). ส่วน "กิเลส" คือ สภาพธรรมที่เศร้าหมองของจิตใจ ทำให้เกิดความทุกข์.
    กาม (Kāma) ตามความหมายในพระพุทธศาสนา หมายถึง ความใคร่ ความปรารถนา หรือสิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งความใคร่ ซึ่งมี 2 ประเภท:
    กิเลสกาม (Kilesa-kāma):
    เป็นกิเลสที่ทำให้เกิดความใคร่ เช่น ราคะ (ความกำหนัดยินดี), โลภะ (ความอยากได้), ตัณหา (ความอยาก), มานะ (ความถือตัว) เป็นต้น.
    วัตถุกาม (Vatthu-kāma):
    หมายถึง รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สิ่งที่กายสัมผัส) และสิ่งอื่นๆ ที่เป็นที่ตั้งแห่งความใคร่.
    กิเลส (Kilesa): หมายถึง สภาพธรรมที่เศร้าหมองของจิตใจ ทำให้จิตใจเกิดความทุกข์ เป็นเหตุให้เกิดการกระทำที่ไม่ดีงาม. กิเลสต่างๆ เช่น โลภะ, โทสะ, โมหะ เป็นต้น.
    ดังนั้น กิเลสจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดกาม (ความใคร่) และทำให้เกิดความทุกข์ การดับกิเลสจึงเป็นหนทางในการดับความทุกข์.
    ในพระพุทธศาสนา "กาม" และ "กิเลส" มีความหมายที่เกี่ยวข้องแต่ไม่ใช่สิ่งเดียวกัน กาม หมายถึง ความใคร่ ความปรารถนา หรือสิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งความใคร่ ซึ่งมี 2 ประเภท คือ กิเลสกาม (กิเลสที่ทำให้เกิดความใคร่) และ วัตถุกาม (สิ่งที่เป็นที่ตั้งของความใคร่). ส่วน "กิเลส" คือ สภาพธรรมที่เศร้าหมองของจิตใจ ทำให้เกิดความทุกข์. กาม (Kāma) ตามความหมายในพระพุทธศาสนา หมายถึง ความใคร่ ความปรารถนา หรือสิ่งที่เป็นที่ตั้งแห่งความใคร่ ซึ่งมี 2 ประเภท: กิเลสกาม (Kilesa-kāma): เป็นกิเลสที่ทำให้เกิดความใคร่ เช่น ราคะ (ความกำหนัดยินดี), โลภะ (ความอยากได้), ตัณหา (ความอยาก), มานะ (ความถือตัว) เป็นต้น. วัตถุกาม (Vatthu-kāma): หมายถึง รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ (สิ่งที่กายสัมผัส) และสิ่งอื่นๆ ที่เป็นที่ตั้งแห่งความใคร่. กิเลส (Kilesa): หมายถึง สภาพธรรมที่เศร้าหมองของจิตใจ ทำให้จิตใจเกิดความทุกข์ เป็นเหตุให้เกิดการกระทำที่ไม่ดีงาม. กิเลสต่างๆ เช่น โลภะ, โทสะ, โมหะ เป็นต้น. ดังนั้น กิเลสจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดกาม (ความใคร่) และทำให้เกิดความทุกข์ การดับกิเลสจึงเป็นหนทางในการดับความทุกข์.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน
    สัทธรรมลำดับที่ : 716
    ชื่อบทธรรม :- ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน
    --ท่านทั้งหลาย จงตัดป่าเถิด อย่าตัดต้นไม้ ;
    เพราะว่าภัยย่อมเกิด จากป่าต่างหาก.
    --ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงตัดป่าและความรกแห่งป่าเสีย แล้วเป็นคนไม่มีป่าเถิด.
    +--เพราะว่า #ตลอดเวลาที่กิเลสเพียงดังความรกของป่า ยังไม่ถูกตัดขาด
    เหลืออยู่แก่นระแม้สักว่าอณูเดียว ในนารีทั้งหลาย ;
    นระนั้น จักมีจิตปฏิพัทธ์ในนารีนั้น ตลอดกาลเพียงนั้น
    http://etipitaka.com/read/pali/25/52/?keywords=นรสฺส+นาริสุ
    เหมือนลูกวัวที่ยังกินนมแม่ ติดพันแม่วัวอยู่ ฉันใด ก็ฉันนั้น.
    ท่านจงถอนเยื่อใยแห่งจิตใจของตนเสีย เหมือนเขาถอนบัวสายในฤดูสารทด้วยมือ
    จงพอกพูนทางแห่งสันติเถิด เพราะว่านิพพานเป็นสิ่งที่พระสุคตแสดงไว้แล้ว.
    +--คนพาลย่อมคิดผิดว่า
    เราจักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูฝน จักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูหนาว และฤดูร้อน ดังนี้
    ย่อมไม่รู้อันตราย มัจจุย่อมพาเอาคนผู้มัวเมาในบุตรและปสุสัตว์
    มีมนัสข้องติดในอารมณ์ต่างๆ เหมือนห้วงน้ำใหญ่พาเอาชาวบ้านผู้หลับไป ฉะนั้น
    +--เมื่อบุคคลถูกมัจจุผู้ทำซึ่งที่สุดครอบงำแล้ว
    บุตรทั้งหลาย ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทานบิดา
    ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ถึงพวกพ้องทั้งหลาย
    ก็ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ความเป็นผู้ต้านทานไม่มีในญาติทั้งหลาย
    +--บัณฑิตทราบอำนาจประโยชน์นี้แล้ว
    พึงเป็นผู้สำรวมแล้วด้วยศีล
    พึงรีบชำระทางเป็นที่ไปสู่นิพพานพลันทีเดียว

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/36/30.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/36/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๕๑/๓๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/51/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=716
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน สัทธรรมลำดับที่ : 716 ชื่อบทธรรม :- ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716 เนื้อความทั้งหมด :- --ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน --ท่านทั้งหลาย จงตัดป่าเถิด อย่าตัดต้นไม้ ; เพราะว่าภัยย่อมเกิด จากป่าต่างหาก. --ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงตัดป่าและความรกแห่งป่าเสีย แล้วเป็นคนไม่มีป่าเถิด. +--เพราะว่า #ตลอดเวลาที่กิเลสเพียงดังความรกของป่า ยังไม่ถูกตัดขาด เหลืออยู่แก่นระแม้สักว่าอณูเดียว ในนารีทั้งหลาย ; นระนั้น จักมีจิตปฏิพัทธ์ในนารีนั้น ตลอดกาลเพียงนั้น http://etipitaka.com/read/pali/25/52/?keywords=นรสฺส+นาริสุ เหมือนลูกวัวที่ยังกินนมแม่ ติดพันแม่วัวอยู่ ฉันใด ก็ฉันนั้น. ท่านจงถอนเยื่อใยแห่งจิตใจของตนเสีย เหมือนเขาถอนบัวสายในฤดูสารทด้วยมือ จงพอกพูนทางแห่งสันติเถิด เพราะว่านิพพานเป็นสิ่งที่พระสุคตแสดงไว้แล้ว. +--คนพาลย่อมคิดผิดว่า เราจักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูฝน จักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูหนาว และฤดูร้อน ดังนี้ ย่อมไม่รู้อันตราย มัจจุย่อมพาเอาคนผู้มัวเมาในบุตรและปสุสัตว์ มีมนัสข้องติดในอารมณ์ต่างๆ เหมือนห้วงน้ำใหญ่พาเอาชาวบ้านผู้หลับไป ฉะนั้น +--เมื่อบุคคลถูกมัจจุผู้ทำซึ่งที่สุดครอบงำแล้ว บุตรทั้งหลาย ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทานบิดา ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ถึงพวกพ้องทั้งหลาย ก็ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ความเป็นผู้ต้านทานไม่มีในญาติทั้งหลาย +--บัณฑิตทราบอำนาจประโยชน์นี้แล้ว พึงเป็นผู้สำรวมแล้วด้วยศีล พึงรีบชำระทางเป็นที่ไปสู่นิพพานพลันทีเดียว #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/36/30. http://etipitaka.com/read/thai/25/36/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๕๑/๓๐. http://etipitaka.com/read/pali/25/51/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=716 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - [สำหรับสิ่งที่เรียกว่า “ไม่ใช่ของเธอ” นั้น ในสูตรอื่น (๑๘/๑๖๒ /๒๒๐) ทรงแสดงด้วย อาตนะภายนอกหก คือ รูปะ .... สัททะ .... คันธะ .... รสะ .... โผฏฐัพพะ .... ธัมมารัมมณะ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๒/๒๗๙/๒๘๗; ๑๗/๔๒/๗๑-๗๒) ทรงแสดงด้วย เบญจขันธ์ คือ รูป .... เวทนา .... สัญญา .... สังขาร .... วิญญาณ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๘/๑๐๐/๑๔๙) ทรงแสดงด้วย อายตนิกธรรมห้าหมวด คืออายตนะภายในหก .... อายตนะภายนอกหก .... วิญญาณหก .... สัมผัสหก .... เวทนาหก.... รวมเป็นสามสิบ ดังนี้ก็มี].
    -[สำหรับสิ่งที่เรียกว่า “ไม่ใช่ของเธอ” นั้น ในสูตรอื่น (๑๘/๑๖๒ /๒๒๐) ทรงแสดงด้วย อาตนะภายนอกหก คือ รูปะ .... สัททะ .... คันธะ .... รสะ .... โผฏฐัพพะ .... ธัมมารัมมณะ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๒/๒๗๙/๒๘๗; ๑๗/๔๒/๗๑-๗๒) ทรงแสดงด้วย เบญจขันธ์ คือ รูป .... เวทนา .... สัญญา .... สังขาร .... วิญญาณ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๘/๑๐๐/๑๔๙) ทรงแสดงด้วย อายตนิกธรรมห้าหมวด คืออายตนะภายในหก .... อายตนะภายนอกหก .... วิญญาณหก .... สัมผัสหก .... เวทนาหก.... รวมเป็นสามสิบ ดังนี้ก็มี]. ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน ท่านทั้งหลาย จงตัดป่าเถิด อย่าตัดต้นไม้ ; เพราะว่าภัยย่อมเกิด จากป่าต่างหาก. ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงตัดป่าและความรกแห่งป่าเสีย แล้วเป็นคนไม่มีป่าเถิด. เพราะว่า ตลอดเวลาที่กิเลสเพียงดังความรกของป่า ยังไม่ถูกตัดขาด เหลืออยู่แก่นระแม้สักว่าอณูเดียว ในนารีทั้งหลาย ; นระนั้น จักมีจิตปฏิพัทธ์ในนารีนั้น ตลอดกาลเพียงนั้น เหมือนลูกวัวที่ยังกินนมแม่ ติดพันแม่วัวอยู่ ฉันใด ก็ฉันนั้น. ท่านจงถอนเยื่อใยแห่งจิตใจของตนเสีย เหมือนเขาถอนบัวสายในฤดูสารทด้วยมือ จงพอกพูนทางแห่งสันติเถิด เพราะว่านิพพานเป็นสิ่งที่พระสุคตแสดงไว้แล้ว.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว
    สัทธรรมลำดับที่ : 714
    ชื่อบทธรรม :- อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=714
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว
    --ภิกษุ ท. ! นักรบอาชีพที่ประกอบด้วยองค์ ๔ ประการ
    ย่อมเป็นผู้ ควรแก่พระราชา เป็นผู้ที่พระราชาควรใช้สอย
    ถึงการนับว่าเป็นองค์อวัยวะของพระราชา.
    องค์สี่ประการ อย่างไรเล่า ? สี่ประการคือ นักรบอาชีพในกรณีนี้
    ๑.เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง (ศีล-ปาติโมกขสังวร)
    ๒.เป็นผู้ยิงได้ไกล (ปัญญา-ญาณ)
    ๓.เป็นผู้ยิงได้เร็ว (อริยสัจจ)และ
    ๔.เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ๆ(อวิชชา)ได้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่ประกอบด้วยธรรมสี่ประการ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน คือ
    เป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล
    เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.
    ธรรมสี่ประการ อย่างไรเล่า? สี่ประการคือ ภิกษุในกรณีนี้
    เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นผู้ยิงได้เร็ว และเป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นอย่างไรเล่า ?
    คือภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยปาติโมกขสังวร
    http://etipitaka.com/read/pali/21/231/?keywords=สีลวา+โหติ
    ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร
    มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้ว่าเป็นโทษเล็กน้อย
    สมาทานศึกษา อยู่ในสิกขาบททั้งหลาย.
    นี้แล #ภิกษุผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นอย่างไรเล่า ?
    คือภิกษุในกรณีนี้
    ย่อมเห็นตามที่เป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ
    ซึ่งรูปใดๆอันเป็นอดีตอนาคตและปัจจุบัน
    ที่เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด
    เลวหรือประณีตมีในที่ใกล้หรือในที่ไกล อย่างนี้ว่า
    “รูปทั้งปวงนั้นไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา”
    ดังนี้.

    (ในกรณีแห่งเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน).

    นี้แล #ภิกษุผู้ยิงได้ไกล.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้เร็ว เป็นอย่างไรเล่า ?
    คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า
    “นี้ทุกข์
    นี้เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์
    นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
    นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
    ดังนี้.
    นี้แล #ภิกษุผู้ยิงได้เร็ว.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ?
    คือ ภิกษุในกรณีนี้
    ย่อมทำลายกองอวิชชาใหญ่ได้.
    นี้แล #ภิกษุผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรมสี่ประการเหล่านี้แล
    ย่อมเป็นอาหุเนยยบุคคล
    ปาหุเนยยบุคคล
    ทักขิเณยยบุคคล
    อัญชลิกรณียบุคคล
    เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.-
    (การรู้อริยสัจทั้งสี่ ท่านจัดเป็นสัมมาทิฏฐิ
    แต่เป็นสัมมาทิฏฐิที่รวดเร็วกว่าสัมมาทิฏฐิอื่นๆ
    ในการทำลายกิเลส บรรลุนิพพาน
    ดังนั้นจึงเรียกในที่นี้ว่า #ญาณประเภทยิงเร็ว
    ).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/165/181.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/165/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๓๑/๑๘๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/231/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=714
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=714
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52
    ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว สัทธรรมลำดับที่ : 714 ชื่อบทธรรม :- อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=714 เนื้อความทั้งหมด :- --อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว --ภิกษุ ท. ! นักรบอาชีพที่ประกอบด้วยองค์ ๔ ประการ ย่อมเป็นผู้ ควรแก่พระราชา เป็นผู้ที่พระราชาควรใช้สอย ถึงการนับว่าเป็นองค์อวัยวะของพระราชา. องค์สี่ประการ อย่างไรเล่า ? สี่ประการคือ นักรบอาชีพในกรณีนี้ ๑.เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง (ศีล-ปาติโมกขสังวร) ๒.เป็นผู้ยิงได้ไกล (ปัญญา-ญาณ) ๓.เป็นผู้ยิงได้เร็ว (อริยสัจจ)และ ๔.เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ๆ(อวิชชา)ได้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่ประกอบด้วยธรรมสี่ประการ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน คือ เป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า. ธรรมสี่ประการ อย่างไรเล่า? สี่ประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นผู้ยิงได้เร็ว และเป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยปาติโมกขสังวร http://etipitaka.com/read/pali/21/231/?keywords=สีลวา+โหติ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้ว่าเป็นโทษเล็กน้อย สมาทานศึกษา อยู่ในสิกขาบททั้งหลาย. นี้แล #ภิกษุผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเห็นตามที่เป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ ซึ่งรูปใดๆอันเป็นอดีตอนาคตและปัจจุบัน ที่เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีตมีในที่ใกล้หรือในที่ไกล อย่างนี้ว่า “รูปทั้งปวงนั้นไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้. (ในกรณีแห่งเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน). นี้แล #ภิกษุผู้ยิงได้ไกล. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้เร็ว เป็นอย่างไรเล่า ? คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้. นี้แล #ภิกษุผู้ยิงได้เร็ว. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ? คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมทำลายกองอวิชชาใหญ่ได้. นี้แล #ภิกษุผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรมสี่ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.- (การรู้อริยสัจทั้งสี่ ท่านจัดเป็นสัมมาทิฏฐิ แต่เป็นสัมมาทิฏฐิที่รวดเร็วกว่าสัมมาทิฏฐิอื่นๆ ในการทำลายกิเลส บรรลุนิพพาน ดังนั้นจึงเรียกในที่นี้ว่า #ญาณประเภทยิงเร็ว ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/165/181. http://etipitaka.com/read/thai/21/165/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๓๑/๑๘๑. http://etipitaka.com/read/pali/21/231/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=714 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=714 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52 ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว
    -อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว ภิกษุ ท. ! นักรบอาชีพที่ประกอบด้วยองค์ ๔ ประการ ย่อมเป็นผู้ ควรแก่พระราชา เป็นผู้ที่พระราชาควรใช้สอย ถึงการนับว่าเป็นองค์อวัยวะของพระราชา. องค์สี่ประการ อย่างไรเล่า ? สี่ประการคือ นักรบอาชีพในกรณีนี้เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นผู้ยิงได้เร็ว และเป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ๆได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่ประกอบด้วยธรรมสี่ประการ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน คือ เป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า. ธรรมสี่ประการ อย่างไรเล่า? สี่ประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นผู้ยิงได้เร็ว และเป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้ว่าเป็นโทษเล็กน้อย สมาทานศึกษา อยู่ในสิกขาบททั้งหลาย. นี้แล ภิกษุผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเห็นตามที่เป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ ซึ่งรูปใดๆอันเป็นอดีตอนาคตและปัจจุบัน ที่เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีตมีในที่ใกล้หรือในที่ไกล อย่างนี้ว่า “รูปทั้งปวงนั้นไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้. (ในกรณีแห่งเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน). นี้แล ภิกษุผู้ยิงได้ไกล. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้เร็ว เป็นอย่างไรเล่า ? คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”ดังนี้. นี้แล ภิกษุผู้ยิงได้เร็ว. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ? คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมทำลายกองอวิชชาใหญ่ได้. นี้แล ภิกษุผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรมสี่ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ฉันเคยอยากออกบวชเพื่อทำที่สุดทุกข์ให้ได้.." เคยถามแม่ตอนเด็กเล็กๆ6-7ขวบ."ว่าสุดขอบฟ้าอยู่ตรงไหนเราเดินออกจากโลกนี้กันเถอะ แม่นิ่ง..ฉันแสวงหาความหมายของชีวิตว่าเกิดมาทำไม?ไปโบถส์เรียนคำสอนอื่นๆ เป็นพุทธแค่ในทะเบียนบ้านแต่ใจไม่มีศาสนาอะไรเลย อายุยี่สิบก่วาอยากมีลูกเพื่อให้เขาบวชแทนฉันทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ"..คืนหนึ่งนอนหลับและฝันไปว่าผู้คนมากมายเบียดกันแทบไม่มีช่องว่างและฆ่าฟันกันกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันสำคัญว่าเป็นเนื้อสัตว์เท่านั้น"..ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพูดกับฉันว่าเธออยากให้ลูกเธอเกิดมาในกาลียุคเช่นนี้หรือ..เห็นเลือดท่วมข้อเท้าช้างนองไปทั่วพื้น"ตื่นจากฝันเลยเปลี่ยนความคิดว่าไม่ดีก่วาและการจะให้ใครมาทำความฝันให้มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลย.ความคิดพับเก็บ..แต่การอยากมีลูกของฉันนั้นคือต้องไม่มีแฟนนะทำเด็กหลอดแก้วประมาณนั้น"...แม่เคยเล่าว่าฉันเกิดมาเกือบทำให้แม่ต้องตายเจ็บท้องทรมานถึง7วัน7คืนมีเสียงปริศนามาบอกให้แม่ไปคลอดฉันที่ใต้ต้นมะขามใหญ่หน้าหมู่บ้านแม่ไม่ไปทนเจ็บอยู่บ้านหลังหนึ่งอยู่นาน ในที่สุดก็ต้องขนย้ายกันไปบ้านอีกหลังแล้วก็คลอดฉันออกมาลูกหลงสุดท้องอย่างฉันเป็นความหวังของพี่ว่าจะได้น้องชายแต่กับเป็นผู้หญิงเขาก็พากันผิดหวัง "แต่ฉันเป็นผู้หญิงแต่ใจแมนมาก"แม่ฉันชอบสร้างหนังสือพระไตรปิฎกถวายวัดเสมอเลยสงสัยถามแม่ว่าดียังไงเหรอ แม่บอกอยากรู้ก็อ่านเองซิ แต่ฉันอ่านหนังสือตัวกูของกูของหลวงพ่อพุทธทาสก่อนเลยเกิดศรัธทา เลยลองอ่านพระไตรปิฎกดูอ่านแล้ววางไม่ลงเลยเป็นอะไรที่น่าสนใจมากหลายอย่างไม่เข้าใจหรอกไม่มีสภาวะ(ประสบการณ์ตรง)แต่ก็อ่านจบใช้เวลา3เดือน6วันครั้งแรกและอ่านจนครบ9รอบมันน่าทึ่งมากที่มีอัจฉริยะมนุษย์อย่างพระพุทธเจ้าเกิดมาตรัสรู้อะไรแบบนี้ได้สุดยอดมากๆยังไม่ค่อยเข้าใจก็ค่อยๆเรียนรู้คู่ไปกับการปฎิบัติด้วยตัวเองหัดนั่งสมาธิที่บ้านนั่งทั้งวันโดยไม่กินข้าวไม่อาบน้ำทำอยู่แบบนั้นมันเจ็บปวดทรมานร่างกายสุดๆเหมือนตัวจะระเบิดตัวร้อนเหมือนไฟเหงื่อออกมาไหลเป็นน้ำร้อนกระเพาะก็ร้องหิวแต่จิตฉันไม่หิวร่างกายเจ็บปวดแต่จิตไม่เจ็บปวดใดๆเลยตัวเริ่มแข็งคอแข็งจากนั้นกลางระหว่างคิ้วมีแสงพุ่งออกมาคล้ายตาที่สามเปิดความรู้ๆทุกอย่างแล้วกาย&จิต ก็แยกออกจากกันให้รู้ในคราวนั้น ฉันก็ฝึกเองมาเรื่อยๆต่อมาฉันนั่งสมาธิจากตัวแข็งรับรู้ตรงกลางระห่วางคิ้วจากนั้นหัวตึงไปหมดความรู้สึกสุดท้ายตรงกลางกระหม่อมเหมือนจิตพุ่งหลุดออกจากกายๆฉันหายไปพร้อมเวทนาทางกายหายไปจนหมดสิ้น มีแต่รู้ๆว่างๆอยู่แบบนั้น นั่งสมาธิคราวใดก็จะเข้าสมาธิเร็วและกายหายไปเป็นแบบนั้นอยู่2ปีเลยเลิกนั่งสมาธิเพราะไม่รู้จะถามใครได้ จนกระทั่งได้ฟังคำบรรยายธรรมของหลวงปูดุลย์ อตุโล จึงเข้าใจและไปต่อได้ หลวงปู่สอนว่ามีตัวรู้ในขันธ์5 และธาตุรู้โดยธรรมชาติไม่เกี่ยวกับขันธ์5ใดๆเลย"ฉันได้เกิดใหม่อีกครั้งโดยธรรมบุญในครี้งนี้ได้มาเพราะ"แม่ของฉันเธอคือแสงสว่างและความรักที่ไร้เงื่อนไขใดๆไม่คาดหวัง ไม่เรียกร้อง อ้อมกอดของแม่เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด.."ฉันรู้ว่าถ้าฉันมีลูกฉันจะต้องตายเพราะฉะนั้นฉันจึงตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าเมื่อต้องเอาชีวิตเข้าแรก เด็กคนนั้นต้องเป็นอัจฉริยะมนุษย์มีบุญญาธิการเพื่อมาช่วยปลุกสัตว์ให้ตื่นเท่านั้นถ้าไม่ได้เช่นนั้นฉันจะไม่รับเด็ดขาดฉันยังมีความคาดหวังแต่ไม่ใช่กิเลสแต่เป็นกุศล..บุญใดที่ลูกคนนี้ได้ทำแล้วและจะทำต่อไปบุญนั้นแม่พ่อบรรพบุรุษตลอดทั้งผู้ดูแลรักษาข้าพเจ้ามีส่วนในบุญนั้นๆด้วยเสมอสาธุ(บุญเป็นชื่อของความสุขเมื่อทำแล้วสุขใจก็เป็นบุญแล้ว"หลวงพ่อพุทธทาสได้กล่าวไว้.
    🧘‍♀️..ฉันเคยอยากออกบวชเพื่อทำที่สุดทุกข์ให้ได้.." เคยถามแม่ตอนเด็กเล็กๆ6-7ขวบ."ว่าสุดขอบฟ้าอยู่ตรงไหนเราเดินออกจากโลกนี้กันเถอะ แม่นิ่ง..ฉันแสวงหาความหมายของชีวิตว่าเกิดมาทำไม?ไปโบถส์เรียนคำสอนอื่นๆ เป็นพุทธแค่ในทะเบียนบ้านแต่ใจไม่มีศาสนาอะไรเลย อายุยี่สิบก่วาอยากมีลูกเพื่อให้เขาบวชแทนฉันทำในสิ่งที่ฉันอยากทำ"..คืนหนึ่งนอนหลับและฝันไปว่าผู้คนมากมายเบียดกันแทบไม่มีช่องว่างและฆ่าฟันกันกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันสำคัญว่าเป็นเนื้อสัตว์เท่านั้น"..ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงพูดกับฉันว่าเธออยากให้ลูกเธอเกิดมาในกาลียุคเช่นนี้หรือ..เห็นเลือดท่วมข้อเท้าช้างนองไปทั่วพื้น"ตื่นจากฝันเลยเปลี่ยนความคิดว่าไม่ดีก่วาและการจะให้ใครมาทำความฝันให้มันไม่ยุติธรรมกับเขาเลย.ความคิดพับเก็บ..แต่การอยากมีลูกของฉันนั้นคือต้องไม่มีแฟนนะทำเด็กหลอดแก้วประมาณนั้น"...แม่เคยเล่าว่าฉันเกิดมาเกือบทำให้แม่ต้องตายเจ็บท้องทรมานถึง7วัน7คืนมีเสียงปริศนามาบอกให้แม่ไปคลอดฉันที่ใต้ต้นมะขามใหญ่หน้าหมู่บ้านแม่ไม่ไปทนเจ็บอยู่บ้านหลังหนึ่งอยู่นาน ในที่สุดก็ต้องขนย้ายกันไปบ้านอีกหลังแล้วก็คลอดฉันออกมาลูกหลงสุดท้องอย่างฉันเป็นความหวังของพี่ว่าจะได้น้องชายแต่กับเป็นผู้หญิงเขาก็พากันผิดหวัง "แต่ฉันเป็นผู้หญิงแต่ใจแมนมาก"แม่ฉันชอบสร้างหนังสือพระไตรปิฎกถวายวัดเสมอเลยสงสัยถามแม่ว่าดียังไงเหรอ แม่บอกอยากรู้ก็อ่านเองซิ แต่ฉันอ่านหนังสือตัวกูของกูของหลวงพ่อพุทธทาสก่อนเลยเกิดศรัธทา เลยลองอ่านพระไตรปิฎกดูอ่านแล้ววางไม่ลงเลยเป็นอะไรที่น่าสนใจมากหลายอย่างไม่เข้าใจหรอกไม่มีสภาวะ(ประสบการณ์ตรง)แต่ก็อ่านจบใช้เวลา3เดือน6วันครั้งแรกและอ่านจนครบ9รอบมันน่าทึ่งมากที่มีอัจฉริยะมนุษย์อย่างพระพุทธเจ้าเกิดมาตรัสรู้อะไรแบบนี้ได้สุดยอดมากๆยังไม่ค่อยเข้าใจก็ค่อยๆเรียนรู้คู่ไปกับการปฎิบัติด้วยตัวเองหัดนั่งสมาธิที่บ้านนั่งทั้งวันโดยไม่กินข้าวไม่อาบน้ำทำอยู่แบบนั้นมันเจ็บปวดทรมานร่างกายสุดๆเหมือนตัวจะระเบิดตัวร้อนเหมือนไฟเหงื่อออกมาไหลเป็นน้ำร้อนกระเพาะก็ร้องหิวแต่จิตฉันไม่หิวร่างกายเจ็บปวดแต่จิตไม่เจ็บปวดใดๆเลยตัวเริ่มแข็งคอแข็งจากนั้นกลางระหว่างคิ้วมีแสงพุ่งออกมาคล้ายตาที่สามเปิดความรู้ๆทุกอย่างแล้วกาย&จิต ก็แยกออกจากกันให้รู้ในคราวนั้น ฉันก็ฝึกเองมาเรื่อยๆต่อมาฉันนั่งสมาธิจากตัวแข็งรับรู้ตรงกลางระห่วางคิ้วจากนั้นหัวตึงไปหมดความรู้สึกสุดท้ายตรงกลางกระหม่อมเหมือนจิตพุ่งหลุดออกจากกายๆฉันหายไปพร้อมเวทนาทางกายหายไปจนหมดสิ้น มีแต่รู้ๆว่างๆอยู่แบบนั้น นั่งสมาธิคราวใดก็จะเข้าสมาธิเร็วและกายหายไปเป็นแบบนั้นอยู่2ปีเลยเลิกนั่งสมาธิเพราะไม่รู้จะถามใครได้ จนกระทั่งได้ฟังคำบรรยายธรรมของหลวงปูดุลย์ อตุโล จึงเข้าใจและไปต่อได้ หลวงปู่สอนว่ามีตัวรู้ในขันธ์5 และธาตุรู้โดยธรรมชาติไม่เกี่ยวกับขันธ์5ใดๆเลย"ฉันได้เกิดใหม่อีกครั้งโดยธรรมบุญในครี้งนี้ได้มาเพราะ"แม่ของฉันเธอคือแสงสว่างและความรักที่ไร้เงื่อนไขใดๆไม่คาดหวัง ไม่เรียกร้อง อ้อมกอดของแม่เป็นอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุด.."ฉันรู้ว่าถ้าฉันมีลูกฉันจะต้องตายเพราะฉะนั้นฉันจึงตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าเมื่อต้องเอาชีวิตเข้าแรก เด็กคนนั้นต้องเป็นอัจฉริยะมนุษย์มีบุญญาธิการเพื่อมาช่วยปลุกสัตว์ให้ตื่นเท่านั้นถ้าไม่ได้เช่นนั้นฉันจะไม่รับเด็ดขาดฉันยังมีความคาดหวังแต่ไม่ใช่กิเลสแต่เป็นกุศล..บุญใดที่ลูกคนนี้ได้ทำแล้วและจะทำต่อไปบุญนั้นแม่พ่อบรรพบุรุษตลอดทั้งผู้ดูแลรักษาข้าพเจ้ามีส่วนในบุญนั้นๆด้วยเสมอสาธุ🔆🙇‍♀️(บุญเป็นชื่อของความสุขเมื่อทำแล้วสุขใจก็เป็นบุญแล้ว"หลวงพ่อพุทธทาสได้กล่าวไว้.
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 368 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ดีอยู่ธรรมงาม
    ตามความเป็นจริง
    นำมาพึ่งพิง
    ยิ่งพาสว่าง

    จิตนี้มีจริง
    ยิ่งเดินตามทาง
    สมาธิสร้าง
    ทางวิถีธรรม

    จิตนิ่งแน่วแน่
    แก้ไขบาปกรรม
    กิเลสมืดดำ
    ชำระหลุดพ้น

    จิตบริสุทธิ์
    ผุดผ่องแยบยล
    ไม่พาวกวน
    พ้นทุกข์เหตุดับ

    กิเลสตัณหา
    ราคะถมทับ
    ยึดติดทุกข์จับ
    ดับได้ทุกข์ไกล

    ขอให้พบฑรรมความดี ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมงคลชัย

    นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    ดีอยู่ธรรมงาม ตามความเป็นจริง นำมาพึ่งพิง ยิ่งพาสว่าง จิตนี้มีจริง ยิ่งเดินตามทาง สมาธิสร้าง ทางวิถีธรรม จิตนิ่งแน่วแน่ แก้ไขบาปกรรม กิเลสมืดดำ ชำระหลุดพ้น จิตบริสุทธิ์ ผุดผ่องแยบยล ไม่พาวกวน พ้นทุกข์เหตุดับ กิเลสตัณหา ราคะถมทับ ยึดติดทุกข์จับ ดับได้ทุกข์ไกล ขอให้พบฑรรมความดี ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมงคลชัย นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ✍กราบสวัสดีคะอ.สนธิที่เคารพ...#การกำเนิด"MOU43-44"เกิดขึ้นตั้งแต่การเจรจาปี2542(ค.ศ.1999)สมัยคุณชวน หลีกภัย&หม่อมสุขุมพันธุ์!!!!"ในเวลานั้นลุงตู่ยังเป็นผู้บังคับกองพันทหารรักษาพระองค์อยู่เลย ในกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับ"ท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา .ด้วยนะคะหนูไม่ได้เป็นติ่งลุงตู่ สมัยพันธมิตรชุมนุมหนูเองยังตามืดบอดชอบนายทักกี้อยู่เลย "แต่หนูฝันถึงพลเอกเปรมท่านบอกหนูว่าเธอชอบอสรพิษหรือ? "หนูเลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองจากหลายแหล่งข่าวไม่ดูทีวีเลยหนูติดตามอ่านเพจของ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา,อ.ปฐมพงษ์"ท่านให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก อย่างอ.สมเกียรติ หนูนับถือเหมือนพ่อคนหนึ่งเลยสอบถามอะไรท่านก็จะตอบเสมอมาบางครั้งหนูถามคำถามแบบโง่ๆนะคะว่าทำไมประเทศ'USมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำไมเขาไม่ทำฝนหลวงให้ประชาชนล่ะคะแม้แต่ในฝรั่งเศสออกกฎหมายว่าถ้าใครเอาน้ำไปรดต้นไม้ที่ปลูกไว้กินจะผิดกฎหมาย อาจารย์บอกมาว่าประเทศพวกนั้นเขาไม่ทำฝนหลวงแบบพ่อหลวง ร.9เราหรอก"เขาศึกษาวิจัยไว้ใช้ในสงครามเท่านั้นหนูยังถามต่ออีกว่าอาวุธต่างๆที่เราสั่งมาเก็บไว้นานๆจะไม่หมดอายุหรือแล้วใครจะเป็นคนซ่อมบำรุงเขารับประกันกี่ปีแล้วเราจะ"QA..อย่างไร?คุยกันล่าสุดก็ปี2019ช่วงมีโควิดหนูถามท่านว่าไวรัสโคโรน่ามันไม่สามารถติดต่อข้ามสปีชีส์มนุษย์ได้เพราะโคโรน่าไวรัสตัวนี้มันมีในอยู่สัตว์ตามปกติอยู่แล้วมันจะไม่ติดต่อข้ามสายพันธ ุ์อีกอย่างมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตคุณสมบัติมันไม่พอมันมีเชลล์เดียวไปโทษค้างคาวจึงไม่ถูกต้องหนูบอกท่านไปว่า(พระโพธิสัตว์กวนอิมความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)บอกหนูว่ามันเป็นอาวุธชีวภาพตัดต่อในห้องแล๊บทำออกมา4สายพันธุ์ใหญ่ๆเวลาจะใช้ต้องแยกใช้ทีละตัวมันใช้วิธีสำเนาไปทั่วอวัยวะสัตว์ๆตายมันก็อยู่ไม่ได้ แต่สามารถสำเนาต่อได้("ความจริงมันอยู่ในเข็ม"ว.ซ)แต่ตอนนั้นคนก็เข้ามาเถียงเยอะเลย แต่หนูก็ไม่มีความรู้อะไรแค่ฟังเฉยๆตัวหนูเองน้ำตื้นเงาก็ตื้นด้วยหนูบอกว่าเขาต้องการทำลายเศรษฐกิจโลก และต่อไปจะเกิดสงครามใหญ่ ตอนนั้นหนูเองยังไม่เชื่อเลยเพราะยังไม่มีสงครามยูเครนด้วยซ้ำท่านบอกว่าให้เตรียมพื้นที่ทำแบบที่ในหลวงร.9"สอนไว้เราจะรอด ต่อมาหนูก็ไม่ได้อ่านเพจท่านเพราะรู้สึกเนื้อหาเปลี่ยนไปมาก และมาทราบว่าท่านเสียชีวิตแล้วหนูอยากไปกราบลาท่านสักครั้งนะแต่สอบถามไปเขาบอกจัดเป็นการภายในก็ลาท่านในใจ ท่านมักจะให้คะแนนคำถามของหนู" A+,AA,AAA+...หนูก็ไม่เข้าใจหรอกคะเพราะหนูไม่ได้เรียนมหาลัยเรียนแค่ปวส.เองความรู้ไม่มี งูๆปลาๆยังไม่ถึงเลย "เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะตอนที่จัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ฯอ.สนธิได้เอาชื่อลุงตู่ขึ้นไปแขวนด่าเลยทำให้เสียแนวร่วมไปเยอะเลยหนูว่า"ป..ไหนชั่วก็ตัดไปเป็นคนๆไปจะดีกว่าไหมคะคนที่มีส่วนในการสั่งการลอบยิงอ.สนธิก็รู้ว่าเป็นใครเราก็ตัดเขาออกไป✍ส่วนคนหัวล้านนิดๆเราก็ตัดออกไปเขาเคยสั่งย้ายผู้ว่าหมูป่า..เราก็ตัดไป..ลุงตู่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอ.สนธิอย่าเอามาแขวนเลยยามนี้เราควรสามัคคีกันสู้ไส้ศึกภายในและภายนอกซึ้งก็หนักมากอยู่แล้วเราจะสูญเสียความสามัคคีไปไม่ได้วันที่2เพื่อนๆตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเขาดูรายการแล้วด่าลุงตู่เขาบอกเขาไม่ไปหนูก็พูดอะไรไม่ได้"รายการอ.ปานเทพคุยกับพล.โท กนกก็ดูนะมันก็ชัดเจนคะแต่เราต้องรู้ว่ามันมีคนใหญ่กว่าลุงตู่อยู่อีกนะคะ"ถ้าลุงตู่ ดิวทักกี้กลับมาก็คงไม่ใช่ท่านทำเองหรอกคะ หนูเห็นอ.สนธิพูดเสมอเลยว่าสักวันฟ้าจะเปลี่ยนสีก็ไม่ค่อยเข้าใจ "แต่สื่อต่างชาติเขาเขียนชัดเจนเลยนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่กลุ่มพันธุ์มิตรเริ่มชุมนุมแล้ว ภาพบางอย่างเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆอะไรที่มันซุกไว้ใต้พรมยังไงก็ต้องเผยตัวออกมาเองจริงไหมคะ"เราต้องให้ความเป็นธรรมกับลุงตู่บ้างว่าสมัยท่านเป็นนายกบ้านเมืองเราก็เจริญแบบกว้ากระโดดจนต่างชาติยังอึ้งเลย#อีกประการหนึ่งลุงตู่ขึ้นเป็นองคมนตรีแล้วถ้าเราดึงท่านมาว่าต่างๆนานา #แล้วเราจะต่างอะไรกับพวก"นปช.ที่ล่วงเกินพลเอกเปรมละ่คะ หนูนับถือการทำงานของบ้านพระอาทิตย์ทุกคน "คุณอาสนธิก็อายุเท่าแม่หนูเลยหนูก็นับถือเหมือนพ่อหนูคนหนึ่งเลยคะ "เหตุสงครามปะทะกันระหว่างกัมพูชากับไทยเหมือนเป็นบทละครที่ถูกวางไว้หมดแล้วจากคนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากขายแผ่นดินกิน เรามาร่วมมือร่วมใจกันขับไล่คนจัญไรให้พ้นแผ่นดินกันดีกว่าพวกมันน่าจะมีจำนวนมากพอสมควรเลยล่ะมีหลายระดับด้วยคนอัปรีย์พวกนี้นะ "ถ้าหนูมีอำนาจจะจับมากุดหัว7ชั่วโคตรเลยแต่ก่อนมันจะตายจะหลอมเงินทองแล้วกรอกปากมันให้กินให้อิ่มเลยอยากได้ไม่ใช่เหรอหิวมากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะฉะนั้นจะให้มันตายอย่างทรมานที่สุดแค่ตัดหัวหรือยิงเป้ามันง่ายเกินไปคนพวกนี้ต้องลองนรกบนดินก่อนจะไปลงนรกอเวจีจริงๆเพราะตอนนั้นมันคงจำไม่ได้แม้แต่ตัวมันเองว่าได้ทำชั่วอะไรมาถึงต้องถูกลงโทษเช่นนั้น..."ทรัพยากรในไทยมีมากมายเลยมีแต่คนอยากได้ ประเทศไหนอยากได้ก็ต้องเสนอประมูลมาที่ไทยซิกัมพูชาไม่เกี่ยว#ใครเสนอผลประโยชน์ให้ประเทศไทยสูงสุดคนนั้นก็จะได้ไปไม่ใช่ดิวลับจ่ายเข้ากระเป๋าใคร ชาติบ้านเมืองไม่ได้อะไรเลย เหมือนเราใช้น้ำมันราคาแพงก่วาเพื่อนบ้านที่ซื้อจากเราๆต้องจ่ายค่า FT ทำไมในเมื่อกำไรคุณเอาไปเต็มๆแต่ความเสี่ยงมาโยนให้ประชาชนจ่ายเราต้องจ่ายค่าไฟแพงเพื่อชดเชยให้โรงงานที่ไม่เคยผลิตไฟเลยทำไม?"กฝผ.เสนอสามารถผลิตไฟให้คนไทยใช้ได้ในหน่วยล่ะ1.50-2บาท.แล้วเราต้องใช้ไฟแพงจากเอกชนยูนิตล่ะ5-6บ.ทำไม?"อ.สนธิ,อ.ปานเทพคะรักษาสุขภาพด้วยนะเป็นห่วงจริงๆจากใจ#ประเทศไทยคนเก่งเยอะมากแต่คนกล้าหายากจริงๆเพราะชนตอม่อเยอะสะกิดไปตรงไหนก็มีแต่ตอภัยอันตรายมันจึงเยอะมาก ถ้ามีอะไรล่วงเกินกราบขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย#หนูเคยถามลุงตู่ว่าอยู่มา8ปีทำไมไม่ยกเลิกMOU43-44พี่สาวหนูบอกว่าเหนือฟ้ามีฟ้าหรือเปล่าให้เขาจัดการกันเองเถอะเราเป็นแค่เม็ดทรายทำอะไรไม่ได้หรอกพี่สาวว่าๆทำไมอินจังเครียดนอนไม่ค่อยหลับหนูบอกก็ที่นี่มันคือแผ่นดินของเราๆจะทิ้งลมหายใจไว้ที่นี่ จะตายที่นี้ไม่ไปไหน ความตายไม่เคยกลัวเพราะตายและเกิดมานับร่างไม่ถ้วนแล้วแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แค่นั้น ตราบใดยังไม่สิ้นกิเลสก็ยังต้องเกิดอีกแน่นอน กราบสวัสดีคะพี่น้อง..Thaitime#Truth from Thailand✍"แผ่นดินนี้มีบุญคุณยิ่งใหญ่นักให้บ้านร่มเงาหลบแดดฝนภัยนาๆอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา
    ✍กราบสวัสดีคะอ.สนธิที่เคารพ...#การกำเนิด"MOU43-44"เกิดขึ้นตั้งแต่การเจรจาปี2542(ค.ศ.1999)สมัยคุณชวน หลีกภัย&หม่อมสุขุมพันธุ์!!!!"ในเวลานั้นลุงตู่ยังเป็นผู้บังคับกองพันทหารรักษาพระองค์อยู่เลย ในกรณีนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับ"ท่านนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา .ด้วยนะคะหนูไม่ได้เป็นติ่งลุงตู่ สมัยพันธมิตรชุมนุมหนูเองยังตามืดบอดชอบนายทักกี้อยู่เลย "แต่หนูฝันถึงพลเอกเปรมท่านบอกหนูว่าเธอชอบอสรพิษ🐍หรือ? "หนูเลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆด้วยตัวเองจากหลายแหล่งข่าวไม่ดูทีวีเลยหนูติดตามอ่านเพจของ อ.ดร.สมเกียรติ โอสถสภา,อ.ปฐมพงษ์"ท่านให้ความรู้และข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก อย่างอ.สมเกียรติ หนูนับถือเหมือนพ่อคนหนึ่งเลยสอบถามอะไรท่านก็จะตอบเสมอมาบางครั้งหนูถามคำถามแบบโง่ๆนะคะว่าทำไมประเทศ'USมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเกิดภัยแล้งขาดแคลนน้ำทำไมเขาไม่ทำฝนหลวงให้ประชาชนล่ะคะแม้แต่ในฝรั่งเศสออกกฎหมายว่าถ้าใครเอาน้ำไปรดต้นไม้ที่ปลูกไว้กินจะผิดกฎหมาย อาจารย์บอกมาว่าประเทศพวกนั้นเขาไม่ทำฝนหลวงแบบพ่อหลวง ร.9เราหรอก"เขาศึกษาวิจัยไว้ใช้ในสงครามเท่านั้นหนูยังถามต่ออีกว่าอาวุธต่างๆที่เราสั่งมาเก็บไว้นานๆจะไม่หมดอายุหรือแล้วใครจะเป็นคนซ่อมบำรุงเขารับประกันกี่ปีแล้วเราจะ"QA..อย่างไร?คุยกันล่าสุดก็ปี2019ช่วงมีโควิดหนูถามท่านว่าไวรัสโคโรน่ามันไม่สามารถติดต่อข้ามสปีชีส์มนุษย์ได้เพราะโคโรน่าไวรัสตัวนี้มันมีในอยู่สัตว์ตามปกติอยู่แล้วมันจะไม่ติดต่อข้ามสายพันธ ุ์อีกอย่างมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตคุณสมบัติมันไม่พอมันมีเชลล์เดียวไปโทษค้างคาวจึงไม่ถูกต้องหนูบอกท่านไปว่า(พระโพธิสัตว์กวนอิมความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ)บอกหนูว่ามันเป็นอาวุธชีวภาพตัดต่อในห้องแล๊บทำออกมา4สายพันธุ์ใหญ่ๆเวลาจะใช้ต้องแยกใช้ทีละตัวมันใช้วิธีสำเนาไปทั่วอวัยวะสัตว์ๆตายมันก็อยู่ไม่ได้ แต่สามารถสำเนาต่อได้("ความจริงมันอยู่ในเข็ม"ว.ซ)แต่ตอนนั้นคนก็เข้ามาเถียงเยอะเลย แต่หนูก็ไม่มีความรู้อะไรแค่ฟังเฉยๆตัวหนูเองน้ำตื้นเงาก็ตื้นด้วยหนูบอกว่าเขาต้องการทำลายเศรษฐกิจโลก และต่อไปจะเกิดสงครามใหญ่ ตอนนั้นหนูเองยังไม่เชื่อเลยเพราะยังไม่มีสงครามยูเครนด้วยซ้ำท่านบอกว่าให้เตรียมพื้นที่ทำแบบที่ในหลวงร.9"สอนไว้เราจะรอด ต่อมาหนูก็ไม่ได้อ่านเพจท่านเพราะรู้สึกเนื้อหาเปลี่ยนไปมาก และมาทราบว่าท่านเสียชีวิตแล้วหนูอยากไปกราบลาท่านสักครั้งนะแต่สอบถามไปเขาบอกจัดเป็นการภายในก็ลาท่านในใจ ท่านมักจะให้คะแนนคำถามของหนู" A+,AA,AAA+...หนูก็ไม่เข้าใจหรอกคะเพราะหนูไม่ได้เรียนมหาลัยเรียนแค่ปวส.เองความรู้ไม่มี งูๆปลาๆยังไม่ถึงเลย "เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่านะคะตอนที่จัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ฯอ.สนธิได้เอาชื่อลุงตู่ขึ้นไปแขวนด่าเลยทำให้เสียแนวร่วมไปเยอะเลยหนูว่า"ป..ไหนชั่วก็ตัดไปเป็นคนๆไปจะดีกว่าไหมคะคนที่มีส่วนในการสั่งการลอบยิงอ.สนธิก็รู้ว่าเป็นใครเราก็ตัดเขาออกไป👉✍ส่วนคนหัวล้านนิดๆเราก็ตัดออกไปเขาเคยสั่งย้ายผู้ว่าหมูป่า..เราก็ตัดไป..ลุงตู่ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องอ.สนธิอย่าเอามาแขวนเลยยามนี้เราควรสามัคคีกันสู้ไส้ศึกภายในและภายนอกซึ้งก็หนักมากอยู่แล้วเราจะสูญเสียความสามัคคีไปไม่ได้วันที่2เพื่อนๆตอนแรกเขาตั้งใจจะไปเขาดูรายการแล้วด่าลุงตู่เขาบอกเขาไม่ไปหนูก็พูดอะไรไม่ได้"รายการอ.ปานเทพคุยกับพล.โท กนกก็ดูนะมันก็ชัดเจนคะแต่เราต้องรู้ว่ามันมีคนใหญ่กว่าลุงตู่อยู่อีกนะคะ"ถ้าลุงตู่ ดิวทักกี้กลับมาก็คงไม่ใช่ท่านทำเองหรอกคะ หนูเห็นอ.สนธิพูดเสมอเลยว่าสักวันฟ้าจะเปลี่ยนสีก็ไม่ค่อยเข้าใจ "แต่สื่อต่างชาติเขาเขียนชัดเจนเลยนะคะว่าเกิดอะไรขึ้นในประเทศไทยตั้งแต่กลุ่มพันธุ์มิตรเริ่มชุมนุมแล้ว ภาพบางอย่างเริ่มเห็นชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆอะไรที่มันซุกไว้ใต้พรมยังไงก็ต้องเผยตัวออกมาเองจริงไหมคะ"เราต้องให้ความเป็นธรรมกับลุงตู่บ้างว่าสมัยท่านเป็นนายกบ้านเมืองเราก็เจริญแบบกว้ากระโดดจนต่างชาติยังอึ้งเลย#อีกประการหนึ่งลุงตู่ขึ้นเป็นองคมนตรีแล้วถ้าเราดึงท่านมาว่าต่างๆนานา #แล้วเราจะต่างอะไรกับพวก"นปช.ที่ล่วงเกินพลเอกเปรมละ่คะ หนูนับถือการทำงานของบ้านพระอาทิตย์ทุกคน "คุณอาสนธิก็อายุเท่าแม่หนูเลยหนูก็นับถือเหมือนพ่อหนูคนหนึ่งเลยคะ "เหตุสงครามปะทะกันระหว่างกัมพูชากับไทยเหมือนเป็นบทละครที่ถูกวางไว้หมดแล้วจากคนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากขายแผ่นดินกิน เรามาร่วมมือร่วมใจกันขับไล่คนจัญไรให้พ้นแผ่นดินกันดีกว่าพวกมันน่าจะมีจำนวนมากพอสมควรเลยล่ะมีหลายระดับด้วยคนอัปรีย์พวกนี้นะ "ถ้าหนูมีอำนาจจะจับมากุดหัว7ชั่วโคตรเลยแต่ก่อนมันจะตายจะหลอมเงินทองแล้วกรอกปากมันให้กินให้อิ่มเลยอยากได้ไม่ใช่เหรอหิวมากมีเท่าไหร่ก็ไม่พอเพราะฉะนั้นจะให้มันตายอย่างทรมานที่สุดแค่ตัดหัวหรือยิงเป้ามันง่ายเกินไปคนพวกนี้ต้องลองนรกบนดินก่อนจะไปลงนรกอเวจีจริงๆเพราะตอนนั้นมันคงจำไม่ได้แม้แต่ตัวมันเองว่าได้ทำชั่วอะไรมาถึงต้องถูกลงโทษเช่นนั้น😡👿👇🔥..."ทรัพยากรในไทยมีมากมายเลยมีแต่คนอยากได้ ประเทศไหนอยากได้ก็ต้องเสนอประมูลมาที่ไทยซิกัมพูชาไม่เกี่ยว#ใครเสนอผลประโยชน์ให้ประเทศไทยสูงสุดคนนั้นก็จะได้ไปไม่ใช่ดิวลับจ่ายเข้ากระเป๋าใคร🙄 ชาติบ้านเมืองไม่ได้อะไรเลย เหมือนเราใช้น้ำมันราคาแพงก่วาเพื่อนบ้านที่ซื้อจากเราๆต้องจ่ายค่า FT ทำไมในเมื่อกำไรคุณเอาไปเต็มๆแต่ความเสี่ยงมาโยนให้ประชาชนจ่ายเราต้องจ่ายค่าไฟแพงเพื่อชดเชยให้โรงงานที่ไม่เคยผลิตไฟเลยทำไม?"กฝผ.เสนอสามารถผลิตไฟให้คนไทยใช้ได้ในหน่วยล่ะ1.50-2บาท.แล้วเราต้องใช้ไฟแพงจากเอกชนยูนิตล่ะ5-6บ.ทำไม?"อ.สนธิ,อ.ปานเทพคะรักษาสุขภาพด้วยนะเป็นห่วงจริงๆจากใจ🤍#ประเทศไทยคนเก่งเยอะมากแต่คนกล้าหายากจริงๆเพราะชนตอม่อเยอะสะกิดไปตรงไหนก็มีแต่ตอภัยอันตรายมันจึงเยอะมาก ถ้ามีอะไรล่วงเกินกราบขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วย🙇‍♀️#หนูเคยถามลุงตู่ว่าอยู่มา8ปีทำไมไม่ยกเลิกMOU43-44พี่สาวหนูบอกว่าเหนือฟ้ามีฟ้าหรือเปล่าให้เขาจัดการกันเองเถอะเราเป็นแค่เม็ดทรายทำอะไรไม่ได้หรอกพี่สาวว่าๆทำไมอินจังเครียดนอนไม่ค่อยหลับหนูบอกก็ที่นี่มันคือแผ่นดินของเราๆจะทิ้งลมหายใจไว้ที่นี่ จะตายที่นี้ไม่ไปไหน ความตายไม่เคยกลัวเพราะตายและเกิดมานับร่างไม่ถ้วนแล้วแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แค่นั้น ตราบใดยังไม่สิ้นกิเลสก็ยังต้องเกิดอีกแน่นอน กราบสวัสดีคะพี่น้อง..Thaitime#Truth from Thailand🇹🇭✍"แผ่นดินนี้มีบุญคุณยิ่งใหญ่นักให้บ้านร่มเงาหลบแดดฝนภัยนาๆอยู่ที่ไหนก็ไม่สุขใจเท่าบ้านเรา🙆‍♀️💛
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 0 รีวิว


  • มามองมิตินี้ร่วมด้วยก็ไม่ผิด,สิ่งที่รัฐบาลขายชาติยุคทำmou43และmou44กำลังทำสำเร็จในยุคนี้นี้เอง,โดยมีอเมริกาและฝรั่งเศสนำทัพออกหน้าโชว์เปิดเผยชัดเจนแล้วนั้นเอง กระสั่นอยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเต็มที่ ยิ่งข่าวจ่ายฮุนเซนล่วงหน้าก่อนชัดเจนกับจ่ายคนทรยศฝั่งไทยด้วยจริง,ฝรั่งพวกเดอะแก๊งนี้ตัดสินโดยใช้mou43 :44นี้แน่นอนล่ะ,เพราะรัฐบาลในไทยชุดนี้อเมริกาสั่งได้นั้นเอง,พร้อมเป็นไปใน1:200,000แน่นอน.

    ..ประเด็นคือ แม้จะเป็นการแทรกแซงจากต่างชาติหรือไม่มี,ทหารไทยรออะไร ทำไมไม่กล้าตัดสินใจยึดอำนาจ,หรือศาลไทยเราที่ตัดสินคดีทรยศขายชาติไทยทำไมไม่ตัดสินตัดตอนจบอำนาจรัฐบาลชุดนี้,แผ่นดินไทยจะเสียอีกก็ไม่เป็นไร บ่อน้ำมันไทยใครจะยึดจะแย่งชิงจะเอาอ่าวไทยไปเท่าไรก็ไม่เป็นไรใช่หรือไม่,เขมรกรุณายึดดินแดนรุกล้ำรุกรานไทยเต็มที่ตามสบายได้เลย,อนาคตทำลายสถาบันแบบพวกสามกีบเสรีก็ตามสบาย,นักวิชาการสามกีบใดๆจะแสดงออกบริบทใดๆเข้าข้างเดอะแก๊งสามกีบก็ตามสบาย,ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ไม่สะดวกต่อการรุกรานไทยประมาณนั้นด้วย,

    ..ทำไมทหารไทยไม่ยึดอำนาจนะ รอโหรทำนายว่าดวงถึงเวลาจึงค่อยลงมีทำเหรอ,โหรไม่ฟันธงทำไม่ได้,ดวงบ้านดวงเมืองสำคัญ อเมริกาและฝรั่งเศสแทรกแซงให้ไทยใช้1:200,000โหรก็บอกว่ารับๆไปเถอะ ยังไม่ถึงเวลาพะนะ,พังงาก็โหรทำนายอีกว่าให้ๆอเมริกาตั้งกองทัพเถอะ จังหวะเวลาทหารไทยยังไม่ถึงเวลาพะนะ,ถ้าเช่นนั้นตอนนี้ทหารไทยรอรับคำสั่งจากโหรสินะ,ยึดอำนาจเพื่อตัดตอนภัยร้ายต่อบ้านต่อเมือง โหรบอกว่าไม่ใช่จังหวะเวลานะ,อเมริกาจะตั้งทัพที่พังงามันให้โหรทำนายมั้ยนะ.
    ..ทหารไทยไม่ยึดอำนาจตัดตอนรัฐบาลเขมรสาขา1อาจเชื่อตามฤกษ์ตามยามมั้ยนะ,แบบมีหมอดูบางคนทำนายทายทักไว้จึงไม่กล้า,หมอดูยังแข่งขันกันโหนกระแสความแม่นเลย,กิเลสเพียวๆมีนัยยะชื่อเสียงเพื่อเป็นที่รู้จักลูกค้าก็จะมาเยอะล่ะ.

    https://youtube.com/watch?v=swbgQ9MzeWI&si=x-ATzngg1zCvwx1t
    มามองมิตินี้ร่วมด้วยก็ไม่ผิด,สิ่งที่รัฐบาลขายชาติยุคทำmou43และmou44กำลังทำสำเร็จในยุคนี้นี้เอง,โดยมีอเมริกาและฝรั่งเศสนำทัพออกหน้าโชว์เปิดเผยชัดเจนแล้วนั้นเอง กระสั่นอยากได้บ่อน้ำมันในอ่าวไทยเต็มที่ ยิ่งข่าวจ่ายฮุนเซนล่วงหน้าก่อนชัดเจนกับจ่ายคนทรยศฝั่งไทยด้วยจริง,ฝรั่งพวกเดอะแก๊งนี้ตัดสินโดยใช้mou43 :44นี้แน่นอนล่ะ,เพราะรัฐบาลในไทยชุดนี้อเมริกาสั่งได้นั้นเอง,พร้อมเป็นไปใน1:200,000แน่นอน. ..ประเด็นคือ แม้จะเป็นการแทรกแซงจากต่างชาติหรือไม่มี,ทหารไทยรออะไร ทำไมไม่กล้าตัดสินใจยึดอำนาจ,หรือศาลไทยเราที่ตัดสินคดีทรยศขายชาติไทยทำไมไม่ตัดสินตัดตอนจบอำนาจรัฐบาลชุดนี้,แผ่นดินไทยจะเสียอีกก็ไม่เป็นไร บ่อน้ำมันไทยใครจะยึดจะแย่งชิงจะเอาอ่าวไทยไปเท่าไรก็ไม่เป็นไรใช่หรือไม่,เขมรกรุณายึดดินแดนรุกล้ำรุกรานไทยเต็มที่ตามสบายได้เลย,อนาคตทำลายสถาบันแบบพวกสามกีบเสรีก็ตามสบาย,นักวิชาการสามกีบใดๆจะแสดงออกบริบทใดๆเข้าข้างเดอะแก๊งสามกีบก็ตามสบาย,ทหารเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ไม่สะดวกต่อการรุกรานไทยประมาณนั้นด้วย, ..ทำไมทหารไทยไม่ยึดอำนาจนะ รอโหรทำนายว่าดวงถึงเวลาจึงค่อยลงมีทำเหรอ,โหรไม่ฟันธงทำไม่ได้,ดวงบ้านดวงเมืองสำคัญ อเมริกาและฝรั่งเศสแทรกแซงให้ไทยใช้1:200,000โหรก็บอกว่ารับๆไปเถอะ ยังไม่ถึงเวลาพะนะ,พังงาก็โหรทำนายอีกว่าให้ๆอเมริกาตั้งกองทัพเถอะ จังหวะเวลาทหารไทยยังไม่ถึงเวลาพะนะ,ถ้าเช่นนั้นตอนนี้ทหารไทยรอรับคำสั่งจากโหรสินะ,ยึดอำนาจเพื่อตัดตอนภัยร้ายต่อบ้านต่อเมือง โหรบอกว่าไม่ใช่จังหวะเวลานะ,อเมริกาจะตั้งทัพที่พังงามันให้โหรทำนายมั้ยนะ. ..ทหารไทยไม่ยึดอำนาจตัดตอนรัฐบาลเขมรสาขา1อาจเชื่อตามฤกษ์ตามยามมั้ยนะ,แบบมีหมอดูบางคนทำนายทายทักไว้จึงไม่กล้า,หมอดูยังแข่งขันกันโหนกระแสความแม่นเลย,กิเลสเพียวๆมีนัยยะชื่อเสียงเพื่อเป็นที่รู้จักลูกค้าก็จะมาเยอะล่ะ. https://youtube.com/watch?v=swbgQ9MzeWI&si=x-ATzngg1zCvwx1t
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อุทเทสและนิทเทสแห่งอัฏฐังคิกมรรคแต่ละองค์
    สัทธรรมลำดับที่ : 705
    ชื่อบทธรรม :- อุทเทสและนิทเทสแห่งอัฏฐังคิกมรรคแต่ละองค์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=705
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อุทเทสและนิทเทสแห่งอัฏฐังคิกมรรคแต่ละองค์
    --ภิกษุ ท. ! เราจัก แสดง จัก จำแนก ซึ่ง อริยอัฏฐังคิกมรรค แก่เธอทั้งหลาย.
    เธอทั้งหลายจงฟังความข้อนั้น จงทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าว.
    --ภิกษุ ท. ! อริยอัฏฐังคิกมรรค เป็นอย่างไรเล่า ?
    #อริยอัฏฐังคิกมรรค ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ
    http://etipitaka.com/read/pali/19/10/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค
    สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ,
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ,
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.
    --ภิกษุ ท. ! สัมมาทิฏฐิ เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์
    +เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์
    +เป็นความรู้ในความดับแห่งทุกข์
    +เป็นความรู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับแห่งทุกข์.
    +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาทิฏฐิ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/10/?keywords=สมฺมาทิฏฺฐิ
    --ภิกษุ ท. ! สัมมาสังกัปปะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    +ความดำริในการออกจากกาม
    +ความดำริในการไม่มุ่งร้าย
    +ความดำริในการไม่เบียดเบียน.
    +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาสังกัปปะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมาสงฺกปฺ
    --ภิกษุ ท. ! สัมมาวาจา เป็นอย่างไรเล่า ?
    +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดไม่จริง
    +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดส่อเสียด
    +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดหยาบ
    +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ.
    +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาวาจา.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมาวาจา
    --ภิกษุ ท. ! สัมมากัมมันตะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฆ่า
    +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้ว
    +เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากกรรมอันมิใช่พรหมจรรย์.*--๑
    +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมากัมมันตะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมากมฺมนฺ
    --ภิกษุ ท. ! สัมมาอาชีวะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! สาวกของพระอริยเจ้า ในกรณีนี้
    +ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิดเสีย
    +ย่อมสำเร็จความเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบ.
    +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาอาชีวะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมาอาชี
    --ภิกษุ ท. ! สัมมาวายามะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    +ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
    ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น ;
    +ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
    ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะละอกุศลธรรม อันเป็นบาป ที่เกิดขึ้นแล้ว ;
    +ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
    ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น ;
    +ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร
    ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งอยู่ ความไม่เลอะเลือน
    ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ
    ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว.
    +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาวายามะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมาวายา
    --ภิกษุ ท. ! สัมมาสติ เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    +ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ
    มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ
    มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
    +ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
    มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ
    มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
    +ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ
    มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ
    มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
    +ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ
    มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ
    มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ;
    +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาสติ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/12/?keywords=สมฺมาสติ
    --ภิกษุ ท. ! สัมมาสมาธิ เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    +สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรมที่เป็นอกุศลทั้งหลาย
    =เข้าถึงปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตกวิจาร มีปิติและสุขอันเกิดจากวิเวก แล้วแลอยู่ ;
    +เพราะความที่วิตกวิจารทั้งสองระงับลง
    =เข้าถึงทุติยฌาน เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดมีขึ้น
    ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปิติและสุข อันเกิดจากสมาธิ แล้วแลอยู่ ;
    +อนึ่ง เพราะความจางคลายไปแห่งปิติ ย่อมเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติและสัมปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย ชนิดที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ย่อมสรรเสริญผู้นั้นว่า
    “เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้
    =เข้าถึงตติยฌาน แล้วแลอยู่ ;
    +เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้
    เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสทั้งสอง ในกาลก่อน
    =เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์
    เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่.
    +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาสมาธิ.-
    http://etipitaka.com/read/pali/19/12/?keywords=สมฺมาสมาธิ

    *--๑. ในที่บางแห่ง (มากแห่ง) ท่านใช้คำว่า “เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย”.

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร.สํ. 19/8-10/33-41.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/8/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร.สํ. ๑๙/๑๐-๑๒/๓๓-๔๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/10/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=705
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51&id=705
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51
    ลำดับสาธยายธรรม : 51 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_51.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​อุทเทสและนิทเทสแห่งอัฏฐังคิกมรรคแต่ละองค์ สัทธรรมลำดับที่ : 705 ชื่อบทธรรม :- อุทเทสและนิทเทสแห่งอัฏฐังคิกมรรคแต่ละองค์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=705 เนื้อความทั้งหมด :- --อุทเทสและนิทเทสแห่งอัฏฐังคิกมรรคแต่ละองค์ --ภิกษุ ท. ! เราจัก แสดง จัก จำแนก ซึ่ง อริยอัฏฐังคิกมรรค แก่เธอทั้งหลาย. เธอทั้งหลายจงฟังความข้อนั้น จงทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าว. --ภิกษุ ท. ! อริยอัฏฐังคิกมรรค เป็นอย่างไรเล่า ? #อริยอัฏฐังคิกมรรค ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ http://etipitaka.com/read/pali/19/10/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ, สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ, สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. --ภิกษุ ท. ! สัมมาทิฏฐิ เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์ +เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์ +เป็นความรู้ในความดับแห่งทุกข์ +เป็นความรู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับแห่งทุกข์. +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาทิฏฐิ. http://etipitaka.com/read/pali/19/10/?keywords=สมฺมาทิฏฺฐิ --ภิกษุ ท. ! สัมมาสังกัปปะ เป็นอย่างไรเล่า ? +ความดำริในการออกจากกาม +ความดำริในการไม่มุ่งร้าย +ความดำริในการไม่เบียดเบียน. +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาสังกัปปะ. http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมาสงฺกปฺ --ภิกษุ ท. ! สัมมาวาจา เป็นอย่างไรเล่า ? +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดไม่จริง +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดส่อเสียด +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดหยาบ +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ. +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาวาจา. http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมาวาจา --ภิกษุ ท. ! สัมมากัมมันตะ เป็นอย่างไรเล่า ? +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฆ่า +เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้ว +เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากกรรมอันมิใช่พรหมจรรย์.*--๑ +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมากัมมันตะ. http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมากมฺมนฺ --ภิกษุ ท. ! สัมมาอาชีวะ เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! สาวกของพระอริยเจ้า ในกรณีนี้ +ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิดเสีย +ย่อมสำเร็จความเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบ. +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาอาชีวะ. http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมาอาชี --ภิกษุ ท. ! สัมมาวายามะ เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ +ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น ; +ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะละอกุศลธรรม อันเป็นบาป ที่เกิดขึ้นแล้ว ; +ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น ; +ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งอยู่ ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว. +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาวายามะ. http://etipitaka.com/read/pali/19/11/?keywords=สมฺมาวายา --ภิกษุ ท. ! สัมมาสติ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ +ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; +ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; +ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; +ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาสติ. http://etipitaka.com/read/pali/19/12/?keywords=สมฺมาสติ --ภิกษุ ท. ! สัมมาสมาธิ เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ +สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรมที่เป็นอกุศลทั้งหลาย =เข้าถึงปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตกวิจาร มีปิติและสุขอันเกิดจากวิเวก แล้วแลอยู่ ; +เพราะความที่วิตกวิจารทั้งสองระงับลง =เข้าถึงทุติยฌาน เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดมีขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปิติและสุข อันเกิดจากสมาธิ แล้วแลอยู่ ; +อนึ่ง เพราะความจางคลายไปแห่งปิติ ย่อมเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติและสัมปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย ชนิดที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ย่อมสรรเสริญผู้นั้นว่า “เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้ =เข้าถึงตติยฌาน แล้วแลอยู่ ; +เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสทั้งสอง ในกาลก่อน =เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์ เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่. +--ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า #สัมมาสมาธิ.- http://etipitaka.com/read/pali/19/12/?keywords=สมฺมาสมาธิ *--๑. ในที่บางแห่ง (มากแห่ง) ท่านใช้คำว่า “เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย”. #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร.สํ. 19/8-10/33-41. http://etipitaka.com/read/thai/19/8/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร.สํ. ๑๙/๑๐-๑๒/๓๓-๔๑. http://etipitaka.com/read/pali/19/10/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=705 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51&id=705 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51 ลำดับสาธยายธรรม : 51 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_51.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - นิทเทศ ๑๓
    -นิทเทศ ๑๓ ว่าด้วย ข้อความนำเรื่องมรรค จบ อุทเทสและนิทเทสแห่งอัฏฐังคิกมรรคแต่ละองค์ ภิกษุ ท. ! เราจัก แสดง จัก จำแนก ซึ่ง อริยอัฏฐังคิกมรรค แก่เธอทั้งหลาย. เธอทั้งหลายจงฟังความข้อนั้น จงทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าว. ภิกษุ ท. ! อริยอัฏฐังคิกมรรค เป็นอย่างไรเล่า ? อริยอัฏฐังคิกมรรค ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! สัมมาทิฏฐิ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ความรู้อันใดเป็นความรู้ในทุกข์ เป็นความรู้ในเหตุให้เกิดทุกข์ เป็นความรู้ในความดับแห่งทุกข์ เป็นความรู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับแห่งทุกข์. ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า สัมมาทิฏฐิ. ภิกษุ ท. ! สัมมาสังกัปปะ เป็นอย่างไรเล่า ? ความดำริในการออกจากกาม ความดำริในการไม่มุ่งร้าย ความดำริในการไม่เบียดเบียน. ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า สัมมาสังกัปปะ. ภิกษุ ท. ! สัมมาวาจา เป็นอย่างไรเล่า ? เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดไม่จริง เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดส่อเสียด เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดหยาบ เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ. ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า สัมมาวาจา. ภิกษุ ท. ! สัมมากัมมันตะ เป็นอย่างไรเล่า ? เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการฆ่า เจตนาเป็นเครื่องเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้ว เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากกรรมอันมิใช่พรหมจรรย์.๑ ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า สัมมากัมมันตะ. ภิกษุ ท. ! สัมมาอาชีวะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! สาวกของพระอริยเจ้า ในกรณีนี้ ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิดเสีย ย่อมสำเร็จความเป็นอยู่ด้วยการเลี้ยงชีวิตที่ชอบ. ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า สัมมาอาชีวะ. ภิกษุ ท. ! สัมมาวายามะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังอกุศลธรรม อันเป็นบาปที่ยังไม่เกิดไม่ให้เกิดขึ้น ; ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะละอกุศลธรรม อันเป็นบาป ที่เกิดขึ้นแล้ว ; ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อจะยังกุศลธรรมที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้น ; ย่อมทำความพอใจให้เกิดขึ้น ย่อมพยายาม ปรารภความเพียร ประคองตั้งจิตไว้ เพื่อความตั้งอยู่ ความไม่เลอะเลือน ความงอกงามยิ่งขึ้น ความไพบูลย์ ความเจริญ ความเต็มรอบ แห่งกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว. ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า สัมมาวายามะ. ภิกษุ ท. ! สัมมาสติ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นกายในกายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผา ๑. ในที่บางแห่ง (มากแห่ง) ท่านใช้คำว่า “เว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย”. กิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; ย่อมเป็นผู้พิจารณาเห็นธรรมในธรรมทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเครื่องเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจและความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ ; ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่า สัมมาสติ. ภิกษุ ท. ! สัมมาสมาธิ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ สงัดแล้วจากกามทั้งหลาย สงัดแล้วจากธรรมที่เป็นอกุศลทั้งหลาย เข้าถึงปฐมฌาน ประกอบด้วยวิตกวิจาร มีปิติและสุขอันเกิดจากวิเวก แล้วแลอยู่ ; เพราะความที่วิตกวิจารทั้งสองระงับลง เข้าถึงทุติยฌาน เป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน ให้สมาธิเป็นธรรมอันเอกผุดมีขึ้น ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีแต่ปิติและสุข อันเกิดจากสมาธิ แล้วแลอยู่ ; อนึ่ง เพราะความจางคลายไปแห่งปิติ ย่อมเป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติและสัมปชัญญะ และย่อมเสวยความสุขด้วยนามกาย ชนิดที่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ย่อมสรรเสริญผู้นั้นว่า “เป็นผู้อยู่อุเบกขา มีสติ อยู่เป็นปกติสุข” ดังนี้ เข้าถึงตติยฌาน แล้วแลอยู่ ; เพราะละสุขเสียได้ และเพราะละทุกข์เสียได้ เพราะความดับไปแห่งโสมนัสและโทมนัสทั้งสอง ในกาลก่อน เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีแต่ความที่สติเป็นธรรมชาติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่. ภิกษุ ท. ! อันนี้เรากล่าวว่าสัมมาสมาธิ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวอัพขึ้นสดๆร้อนๆ

    ..แปลกแต่จริงช่วงนี้หมอดูและหรือโหร เกาะกระแสการหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ดีมากโดยเฉพาะมาทำนายทายทักเรื่องระดับชาติระดับสงครามนี้,จริงๆควรพูดคุยกันเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในบริบทสั่งการสงครามดีที่สุดเพื่อถ้าจริงก็มีลูกผ่อนหนักให้เบาช่วยเหลือประชาชนและทหารแนวหน้างานต่อสู้รบจริงๆได้,ตลอดสามารถใช้ความสามารถเหนือมนุษย์ตนเป็นกำลังร่วมปกป้องมาตุภูมิท้องถิ่นแผ่นดินตนที่มาเกิดบนแผ่นดินไทยนี้ร่วมด้วยได้อีก,เอาชนะศัตรูผู้รุกรานความสงบสุขของประชาชนคนไทยตนทั้งประเทศด้วย,
    ..หมอดูทำนายแม่นจริงมีจริงบนแผ่นดินไทย,แต่แทบไม่มีในการกระทำมุ่งหวังโลกธรรม4-8นั้น,จะสะกดกิเลสอยากตนทางโลกเสียมาก ชื่อเสียงหิวแสงหิวสื่อยิ่งพยายามหลบหนี,ถ้าแม้นสัมมาอาชีพเลี้ยงชีพชอบก็เพียงพออยู่พอกิน วัตถุธาตุแทบไม่สะสม.
    ..แม้โลกจะเป็นไปตามกฎแห่งกรรมจริง แต่ละคนก็มีมิติรับผลของกรรมใครกรรมมันตามจังหวะชีวิตของแต่ละคน,พลังแตกตื่นหวาดกลัวอย่าลืมว่านั้นเป็นอาหารอันยอดเยี่ยมของหมู่มารปีศาจหมายกระทำต่อเหยื่อก่อนลงมีสังหารเหยื่อกลืนกินพลังงานลบที่ปีศาจมารชื่นชมยิ่งนักนั้นก็ว่า,อย่าเอาประชาชนพลังงานบวกลบของประชาชนไปตอนสนองหมู่มารปีศาจไปเพิ่มพลังงานให้มันอีกเลย,หมอดูโหรแม้ปราถนาดีต่อผู้คน สามารถบอกกล่าวเล่าเรื่องได้หลากหลายช่องทาง ส่วนจริงเท็จ หากเท็จเสียมากก็อย่าออกมาทำนายล่วงหน้าเลย, จริงส่วนมากอาจสามารถส่งตรงแก้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินเพื่อบ้านเพื่อเมืองก็ได้,โหรหมอดูพากันโหนกระแสทำนายเรื่องสงครามที่เป็นระดับชาติกันมากมายจริงๆผิดปกติมาก,หากหมายยอดวิวยอดยอดชอบยอดรายได้ผ่านคลิปก็เลิกเถอะ,เอาพอประมาณเถอะ,ปัจจุบันผุดยิ่งกว่าผีหลอกอีก.

    https://youtube.com/watch?v=JhUYpDfh8Yw&si=7HZO-kOc7gg7u3c0
    ข่าวอัพขึ้นสดๆร้อนๆ ..แปลกแต่จริงช่วงนี้หมอดูและหรือโหร เกาะกระแสการหยั่งรู้ล่วงหน้าได้ดีมากโดยเฉพาะมาทำนายทายทักเรื่องระดับชาติระดับสงครามนี้,จริงๆควรพูดคุยกันเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องในบริบทสั่งการสงครามดีที่สุดเพื่อถ้าจริงก็มีลูกผ่อนหนักให้เบาช่วยเหลือประชาชนและทหารแนวหน้างานต่อสู้รบจริงๆได้,ตลอดสามารถใช้ความสามารถเหนือมนุษย์ตนเป็นกำลังร่วมปกป้องมาตุภูมิท้องถิ่นแผ่นดินตนที่มาเกิดบนแผ่นดินไทยนี้ร่วมด้วยได้อีก,เอาชนะศัตรูผู้รุกรานความสงบสุขของประชาชนคนไทยตนทั้งประเทศด้วย, ..หมอดูทำนายแม่นจริงมีจริงบนแผ่นดินไทย,แต่แทบไม่มีในการกระทำมุ่งหวังโลกธรรม4-8นั้น,จะสะกดกิเลสอยากตนทางโลกเสียมาก ชื่อเสียงหิวแสงหิวสื่อยิ่งพยายามหลบหนี,ถ้าแม้นสัมมาอาชีพเลี้ยงชีพชอบก็เพียงพออยู่พอกิน วัตถุธาตุแทบไม่สะสม. ..แม้โลกจะเป็นไปตามกฎแห่งกรรมจริง แต่ละคนก็มีมิติรับผลของกรรมใครกรรมมันตามจังหวะชีวิตของแต่ละคน,พลังแตกตื่นหวาดกลัวอย่าลืมว่านั้นเป็นอาหารอันยอดเยี่ยมของหมู่มารปีศาจหมายกระทำต่อเหยื่อก่อนลงมีสังหารเหยื่อกลืนกินพลังงานลบที่ปีศาจมารชื่นชมยิ่งนักนั้นก็ว่า,อย่าเอาประชาชนพลังงานบวกลบของประชาชนไปตอนสนองหมู่มารปีศาจไปเพิ่มพลังงานให้มันอีกเลย,หมอดูโหรแม้ปราถนาดีต่อผู้คน สามารถบอกกล่าวเล่าเรื่องได้หลากหลายช่องทาง ส่วนจริงเท็จ หากเท็จเสียมากก็อย่าออกมาทำนายล่วงหน้าเลย, จริงส่วนมากอาจสามารถส่งตรงแก้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินเพื่อบ้านเพื่อเมืองก็ได้,โหรหมอดูพากันโหนกระแสทำนายเรื่องสงครามที่เป็นระดับชาติกันมากมายจริงๆผิดปกติมาก,หากหมายยอดวิวยอดยอดชอบยอดรายได้ผ่านคลิปก็เลิกเถอะ,เอาพอประมาณเถอะ,ปัจจุบันผุดยิ่งกว่าผีหลอกอีก. https://youtube.com/watch?v=JhUYpDfh8Yw&si=7HZO-kOc7gg7u3c0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​​ปรารภสติปัฏฐานแล้ว มรรคก็เป็นอันปรารภด้วย
    สัทธรรมลำดับที่ : 704
    ชื่อบทธรรม :- ปรารภสติปัฏฐานแล้ว มรรคก็เป็นอันปรารภด้วย
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=704
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ปรารภสติปัฏฐานแล้ว มรรคก็เป็นอันปรารภด้วย
    --ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่าง อันบุคคลใดใครก็ตาม ปรารภผิดแล้ว,
    อริยอัฏฐังคิกมรรคอันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ของบุคคลเหล่านั้น
    ก็เป็นอันปรารภผิดด้วย.
    --ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่าง อันบุคคลใดใครก็ตาม ปรารภถูกต้องแล้ว,
    อริยอัฏฐังคิกมรรคอันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ของบุคคลเหล่านั้น
    ก็เป็นอันปรารภถูกต้องแล้วด้วย.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/240/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค
    +--สติปัฏฐาน ๔ อย่าง อย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณี นี้ย่อมเป็นผู้
    มีปกติ ตามเห็นกายในกาย อยู่เป็นประจำ.....
    มีปกติ ตามเห็นเวทนาในเวทนา ทั้งหลายอยู่เป็นประจำ....
    มีปกติ ตามเห็นจิตในจิต อยู่เป็นประจำ....
    มีปกติ ตามเห็นธรรมในธรรม ทั้งหลายอยู่เป็นประจำ....
    มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำออกเสียได้ซึ่งอภิชฌาและโทมนัสในโลก.
    --ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่าง เหล่านี้
    อันบุคคลใดใครก็ตามปรารภผิดแล้ว,
    อริยอัฏฐังคิกมรรค อันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบของบุคคลเหล่านั้น
    ก็เป็นอันปรารภผิดแล้วด้วย.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/241/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค
    --ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่างเหล่านี้
    อันบุคคลใดใครก็ตามปรารภถูกต้องแล้ว,
    #อริยอัฏฐังคิกมรรค อันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์
    โดยชอบของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นอัน ปรารภถูกต้องแล้วด้วย.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/198/801.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/198/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%90%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๔๐/๘๐๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/240/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%90%E0%B9%91
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=704
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51&id=704
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51
    ลำดับสาธยายธรรม : 51 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_51.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​​ปรารภสติปัฏฐานแล้ว มรรคก็เป็นอันปรารภด้วย สัทธรรมลำดับที่ : 704 ชื่อบทธรรม :- ปรารภสติปัฏฐานแล้ว มรรคก็เป็นอันปรารภด้วย https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=704 เนื้อความทั้งหมด :- --ปรารภสติปัฏฐานแล้ว มรรคก็เป็นอันปรารภด้วย --ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่าง อันบุคคลใดใครก็ตาม ปรารภผิดแล้ว, อริยอัฏฐังคิกมรรคอันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นอันปรารภผิดด้วย. --ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่าง อันบุคคลใดใครก็ตาม ปรารภถูกต้องแล้ว, อริยอัฏฐังคิกมรรคอันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นอันปรารภถูกต้องแล้วด้วย. http://etipitaka.com/read/pali/19/240/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค +--สติปัฏฐาน ๔ อย่าง อย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณี นี้ย่อมเป็นผู้ มีปกติ ตามเห็นกายในกาย อยู่เป็นประจำ..... มีปกติ ตามเห็นเวทนาในเวทนา ทั้งหลายอยู่เป็นประจำ.... มีปกติ ตามเห็นจิตในจิต อยู่เป็นประจำ.... มีปกติ ตามเห็นธรรมในธรรม ทั้งหลายอยู่เป็นประจำ.... มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำออกเสียได้ซึ่งอภิชฌาและโทมนัสในโลก. --ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลใดใครก็ตามปรารภผิดแล้ว, อริยอัฏฐังคิกมรรค อันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นอันปรารภผิดแล้วด้วย. http://etipitaka.com/read/pali/19/241/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค --ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่างเหล่านี้ อันบุคคลใดใครก็ตามปรารภถูกต้องแล้ว, #อริยอัฏฐังคิกมรรค อันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์ โดยชอบของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นอัน ปรารภถูกต้องแล้วด้วย.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/198/801. http://etipitaka.com/read/thai/19/198/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%90%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๔๐/๘๐๑. http://etipitaka.com/read/pali/19/240/?keywords=%E0%B9%98%E0%B9%90%E0%B9%91 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=704 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51&id=704 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51 ลำดับสาธยายธรรม : 51 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_51.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ปรารภสติปัฏฐานแล้ว มรรคก็เป็นอันปรารภด้วย
    -ปรารภสติปัฏฐานแล้ว มรรคก็เป็นอันปรารภด้วย ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่าง อันบุคคลใดใครก็ตาม ปรารภผิดแล้ว, อริยอัฏฐังคิกมรรคอันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นอันปรารภผิดด้วย. ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่าง อันบุคคลใดใครก็ตาม ปรารภถูกต้องแล้ว, อริยอัฏฐังคิกมรรคอันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบ ของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นอันปรารภถูกต้องแล้วด้วย. สติปัฏฐาน ๔ อย่าง อย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณี นี้ย่อมเป็นผู้มีปกติ ตามเห็นกายในกาย อยู่เป็นประจำ.... มีปกติ ตามเห็นเวทนาในเวทนา ทั้งหลายอยู่เป็นประจำ.... มีปกติ ตามเห็นจิตในจิต อยู่เป็นประจำ.... มีปกติ ตามเห็นธรรมในธรรม ทั้งหลายอยู่เป็นประจำ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ นำออกเสียได้ซึ่งอภิชฌาและโทมนัสในโลก. ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่าง เหล่านี้ อันบุคคลใดใครก็ตามปรารภผิดแล้ว, อริยอัฏฐังคิกมรรค อันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นอันปรารภผิดแล้วด้วย. ภิกษุ ท. ! สติปัฏฐาน ๔ อย่างเหล่านี้ อันบุคคลใดใครก็ตามปรารภถูกต้องแล้ว, อริยอัฏฐังคิกมรรค อันเป็นทางให้ถึงความสิ้นทุกข์โดยชอบของบุคคลเหล่านั้น ก็เป็นอัน ปรารภถูกต้องแล้วด้วย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​โพชฌงค์ในฐานะเป็นมรรค
    สัทธรรมลำดับที่ : 702
    ชื่อบทธรรม :- โพชฌงค์ในฐานะเป็นมรรค
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=702
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --โพชฌงค์ในฐานะเป็นมรรค
    --ภิกษุ ท. ! มรรคใด #ปฏิปทาใดเป็นไปเพื่อความสิ้นแห่งตัณหา ;
    http://etipitaka.com/read/pali/19/124/?keywords=ตณฺหานิโรธ
    พวกเธอจงเจริญซึ่งมรรคนั้นปฏิปทานั้น.
    --ภิกษุ ท. ! มรรคนั้น ปฏิปทานั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    นั้นคือ โพชฌงค์เจ็ด ; กล่าวคือ
    สติสัมโพชฌงค์ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์
    ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์
    อุเบกขาสัมโพชฌงค์.
    (ประโยชน์แห่งมรรคและปฏิปทาในสูตรนี้
    ทรงแสดงเป็น ความสิ้นแห่งตัณหา ;
    ในสูตรอื่นทรงแสดงเป็น ความดับแห่งตัณหา ก็มี
    ).
    --เมื่อตรัสดังนี้แล้ว ท่านพระอุทายิทูลถามว่า
    เจริญโพชฌงค์เจ็ดนั้น ด้วยวิธีอย่างไร ?
    ตรัสว่า :-
    --อุทายิ ! ภิกษุในกรณีนี้ เจริญ
    สติสัมโพชฌงค์ ....ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ....วิริยะสัมโพชฌงค์ ....
    ปิติสัมโพชฌงค์ ....ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์....สมาธิสัมโพชฌงค์ ....
    อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ....ชนิดที่
    อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ
    เป็นโพชฌงค์อันไพบูลย์ ถึงซึ่งคุณอันใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีความลำบาก.
    เมื่อเจริญสติสัมโพชฌงค์ (... เป็นต้น) อย่างนี้อยู่,
    #ตัณหาย่อมละไป.
    เพราะตัณหาละไป กรรมก็ละไป ;
    เพราะกรรมละไป ทุกข์ก็ละไป.

    --อุทายิ ! ด้วยอาการอย่างนี้แล
    ความสิ้นกรรมย่อมมีเพราะความสิ้นตัณหา
    ความสิ้นทุกข์ย่อมมีเพราะความสิ้นกรรม
    แล.

    (นอกจากจะทรงแสดงโพชฌงค์เจ็ดในฐานะเป็นมรรคปฏิปทา
    เพื่อความสิ้นตัณหา เพื่อความดับตัณหา ดังนี้แล้ว
    ยังทรงแสดงไว้โดยนัยอื่นอีก คือ :-
    )

    --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงมรรคอันเป็นส่วนเจาะแทงกิเลส (นิพฺเพธภาคิย) ; http://etipitaka.com/read/pali/19/124/?keywords=นิพฺเพธภาคิย
    เธอทั้งหลายจงฟังให้ดี.
    มรรคอันมีส่วนเจาะแทงกิเลส นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? คือสัมโพชฌงค์เจ็ด.
    เจ็ดคืออะไรเล่า ? เจ็ดคือ
    สติสัมโพชฌงค์ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์
    ปิติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์
    อุเบกขาสัมโพชฌงค์.
    --ตรัสดังนี้แล้ว ท่านอุทายิได้ทูลถามว่า
    “การเจริญทำให้มาก ซึ่งโพชฌงค์เจ็ด อันมีส่วนแห่งการเจาะแทงกิเลส
    นั้นเจริญอย่างชนิดไหนกันเล่า พระเจ้าข้า ?” ตรัสว่า :-
    --อุทายิ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเจริญ
    สติสัมโพชฌงค์ ....ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ....วิริยะสัมโพชฌงค์ ....
    ปิติสัมโพชฌงค์ ....ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ .... สมาธิสัมโพชฌงค์ ....
    อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ....
    ชนิดที่ อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ เป็นโพชฌงค์อันไพบูลย์
    ถึงซึ่งคุณอันใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีความลำบาก.
    ภิกษุนั้น ด้วยจิตมี
    สติสัมโพชฌงค์ .....ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ....วิริยะสัมโพชฌงค์ ....
    ปิติสัมโพชฌงค์ .....ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ....สมาธิสัมโพชฌงค์ ....
    อุเบกขาสัมโพชฌงค์....
    อันเจริญแล้ว
    ย่อมเจาะแทง ย่อมทำลาย ซึ่งกองแห่งโลภะ
    อันยังไม่เคยเจาะแทง อันยังไม่เคยทำลาย;
    ย่อมเจาะแทง ย่อมทำลาย ซึ่งกองแห่งโทสะ
    อันยังไม่เคยเจาะแทง อันยังไม่เคยทำลาย;
    ย่อมเจาะแทง ย่อมทำลาย ซึ่งกองแห่งโมหะ
    อันยังไม่เคยเจาะแทง อันยังไม่เคยทำลาย.
    --อุทายิ ! โพชฌงค์เจ็ด เจริญอย่างนี้แล
    ทำให้มากอย่างนี้แล #ย่อมเป็นไปเพื่อการเจาะแทงกิเลส
    แล.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/123-124/449-454.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/114/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%94%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๒๓-๑๒๔/๔๔๙-๔๕๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/123/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%94%E0%B9%99
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=702
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50&id=702
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50
    ลำดับสาธยายธรรม : 50 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_50.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​โพชฌงค์ในฐานะเป็นมรรค สัทธรรมลำดับที่ : 702 ชื่อบทธรรม :- โพชฌงค์ในฐานะเป็นมรรค https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=702 เนื้อความทั้งหมด :- --โพชฌงค์ในฐานะเป็นมรรค --ภิกษุ ท. ! มรรคใด #ปฏิปทาใดเป็นไปเพื่อความสิ้นแห่งตัณหา ; http://etipitaka.com/read/pali/19/124/?keywords=ตณฺหานิโรธ พวกเธอจงเจริญซึ่งมรรคนั้นปฏิปทานั้น. --ภิกษุ ท. ! มรรคนั้น ปฏิปทานั้น เป็นอย่างไรเล่า ? นั้นคือ โพชฌงค์เจ็ด ; กล่าวคือ สติสัมโพชฌงค์ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ อุเบกขาสัมโพชฌงค์. (ประโยชน์แห่งมรรคและปฏิปทาในสูตรนี้ ทรงแสดงเป็น ความสิ้นแห่งตัณหา ; ในสูตรอื่นทรงแสดงเป็น ความดับแห่งตัณหา ก็มี ). --เมื่อตรัสดังนี้แล้ว ท่านพระอุทายิทูลถามว่า เจริญโพชฌงค์เจ็ดนั้น ด้วยวิธีอย่างไร ? ตรัสว่า :- --อุทายิ ! ภิกษุในกรณีนี้ เจริญ สติสัมโพชฌงค์ ....ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ....วิริยะสัมโพชฌงค์ .... ปิติสัมโพชฌงค์ ....ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์....สมาธิสัมโพชฌงค์ .... อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ....ชนิดที่ อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ เป็นโพชฌงค์อันไพบูลย์ ถึงซึ่งคุณอันใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีความลำบาก. เมื่อเจริญสติสัมโพชฌงค์ (... เป็นต้น) อย่างนี้อยู่, #ตัณหาย่อมละไป. เพราะตัณหาละไป กรรมก็ละไป ; เพราะกรรมละไป ทุกข์ก็ละไป. --อุทายิ ! ด้วยอาการอย่างนี้แล ความสิ้นกรรมย่อมมีเพราะความสิ้นตัณหา ความสิ้นทุกข์ย่อมมีเพราะความสิ้นกรรม แล. (นอกจากจะทรงแสดงโพชฌงค์เจ็ดในฐานะเป็นมรรคปฏิปทา เพื่อความสิ้นตัณหา เพื่อความดับตัณหา ดังนี้แล้ว ยังทรงแสดงไว้โดยนัยอื่นอีก คือ :- ) --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงมรรคอันเป็นส่วนเจาะแทงกิเลส (นิพฺเพธภาคิย) ; http://etipitaka.com/read/pali/19/124/?keywords=นิพฺเพธภาคิย เธอทั้งหลายจงฟังให้ดี. มรรคอันมีส่วนเจาะแทงกิเลส นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? คือสัมโพชฌงค์เจ็ด. เจ็ดคืออะไรเล่า ? เจ็ดคือ สติสัมโพชฌงค์ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ ปิติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ อุเบกขาสัมโพชฌงค์. --ตรัสดังนี้แล้ว ท่านอุทายิได้ทูลถามว่า “การเจริญทำให้มาก ซึ่งโพชฌงค์เจ็ด อันมีส่วนแห่งการเจาะแทงกิเลส นั้นเจริญอย่างชนิดไหนกันเล่า พระเจ้าข้า ?” ตรัสว่า :- --อุทายิ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเจริญ สติสัมโพชฌงค์ ....ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ....วิริยะสัมโพชฌงค์ .... ปิติสัมโพชฌงค์ ....ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ .... สมาธิสัมโพชฌงค์ .... อุเบกขาสัมโพชฌงค์ .... ชนิดที่ อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ เป็นโพชฌงค์อันไพบูลย์ ถึงซึ่งคุณอันใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีความลำบาก. ภิกษุนั้น ด้วยจิตมี สติสัมโพชฌงค์ .....ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ....วิริยะสัมโพชฌงค์ .... ปิติสัมโพชฌงค์ .....ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ....สมาธิสัมโพชฌงค์ .... อุเบกขาสัมโพชฌงค์.... อันเจริญแล้ว ย่อมเจาะแทง ย่อมทำลาย ซึ่งกองแห่งโลภะ อันยังไม่เคยเจาะแทง อันยังไม่เคยทำลาย; ย่อมเจาะแทง ย่อมทำลาย ซึ่งกองแห่งโทสะ อันยังไม่เคยเจาะแทง อันยังไม่เคยทำลาย; ย่อมเจาะแทง ย่อมทำลาย ซึ่งกองแห่งโมหะ อันยังไม่เคยเจาะแทง อันยังไม่เคยทำลาย. --อุทายิ ! โพชฌงค์เจ็ด เจริญอย่างนี้แล ทำให้มากอย่างนี้แล #ย่อมเป็นไปเพื่อการเจาะแทงกิเลส แล.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/123-124/449-454. http://etipitaka.com/read/thai/19/114/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%94%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑๒๓-๑๒๔/๔๔๙-๔๕๔. http://etipitaka.com/read/pali/19/123/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%94%E0%B9%99 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=702 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50&id=702 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50 ลำดับสาธยายธรรม : 50 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_50.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - โพชฌงค์ในฐานะเป็นมรรค
    -โพชฌงค์ในฐานะเป็นมรรค ภิกษุ ท. ! มรรคใด ปฏิปทาใด เป็นไปเพื่อความสิ้นแห่งตัณหา พวกเธอจงเจริญซึ่งมรรคนั้นปฏิปทานั้น. ภิกษุ ท. ! มรรคนั้น ปฏิปทานั้น เป็นอย่างไรเล่า ? นั้นคือ โพชฌงค์เจ็ด ; กล่าวคือ สติสัมโพชฌงค์ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ อุเบกขาสัมโพชฌงค์. (ประโยชน์แห่งมรรคและปฏิปทาในสูตรนี้ ทรงแสดงเป็น ความสิ้นแห่งตัณหา ; ในสูตรอื่นทรงแสดงเป็น ความดับแห่งตัณหา ก็มี). เมื่อตรัสดังนี้แล้ว ท่านพระอุทายิทูลถามว่า เจริญโพชฌงค์เจ็ดนั้น ด้วยวิธีอย่างไร ? ตรัสว่า : อุทายิ ! ภิกษุในกรณีนี้ เจริญสติสัมโพชฌงค์ ....ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ....วิริยะสัมโพชฌงค์ ....ปิติสัมโพชฌงค์ ....ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ ....สมาธิสัมโพชฌงค์ ....อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ชนิดที่ อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ เป็นโพชฌงค์อันไพบูลย์ ถึงซึ่งคุณอันใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีความลำบาก. เมื่อเจริญสติสัมโพชฌงค์ (เป็นต้น) อย่างนี้อยู่, ตัณหาย่อมละไป. เพราะตัณหาละไป กรรมก็ละไป ; เพราะกรรมละไป ทุกข์ก็ละไป. อุทายิ ! ด้วยอาการอย่างนี้แล ความสิ้นกรรมย่อมมีเพราะความสิ้นตัณหา ความสิ้นทุกข์ย่อมมีเพราะความสิ้นกรรม แล. (นอกจากจะทรงแสดงโพชฌงค์เจ็ดในฐานะเป็นมรรคปฏิปทาเพื่อความสิ้นตัณหา เพื่อความดับตัณหา ดังนี้แล้ว ยังทรงแสดงไว้โดยนัยอื่นอีก คือ :-) ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงมรรคอันเป็นส่วนเจาะแทงกิเลส (นิพฺเพธภาคิย) ; เธอทั้งหลายจงฟังให้ดี. มรรคอันมีส่วนเจาะแทงกิเลส นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? คือสัมโพชฌงค์เจ็ด. เจ็ดคืออะไรเล่า ? เจ็ดคือ สติสัมโพชฌงค์ ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ วิริยะสัมโพชฌงค์ ปิติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สมาธิสัมโพชฌงค์ อุเบกขาสัมโพชฌงค์. ตรัสดังนี้แล้ว ท่านอุทายิได้ทูลถามว่า “การเจริญทำให้มาก ซึ่งโพชฌงค์เจ็ด อันมีส่วนแห่งการเจาะแทงกิเลส นั้นเจริญอย่างชนิดไหนกันเล่า พระเจ้าข้า ?” ตรัสว่า : อุทายิ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเจริญสติสัมโพชฌงค์ ....ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ....วิริยะสัมโพชฌงค์ ....ปิติสัมโพชฌงค์ ....ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ .... สมาธิสัมโพชฌงค์ .... อุเบกขาสัมโพชฌงค์ ชนิดที่ อาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ เป็นโพชฌงค์อันไพบูลย์ ถึงซึ่งคุณอันใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีความลำบาก. ภิกษุนั้น ด้วยจิตมีสติสัมโพชฌงค์ .....ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ ....วิริยะสัมโพชฌงค์ ....ปิติสัมโพชฌงค์ .....ปัสสัทธิ สัมโพชฌงค์ ....สมาธิสัมโพชฌงค์ ....อุเบกขาสัมโพชฌงค์อันเจริญแล้ว ย่อมเจาะแทง ย่อมทำลาย ซึ่งกองแห่งโลภะ อันยังไม่เคยเจาะแทง อันยังไม่เคยทำลาย; ย่อมเจาะแทง ย่อมทำลาย ซึ่งกองแห่งโทสะ อันยังไม่เคยเจาะแทง อันยังไม่เคยทำลาย; ย่อมเจาะแทง ย่อมทำลาย ซึ่งกองแห่งโมหะ อันยังไม่เคยเจาะแทง อันยังไม่เคยทำลาย. อุทายิ ! โพชฌงค์เจ็ด เจริญอย่างนี้แล ทำให้มากอย่างนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อการเจาะแทงกิเลส แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่ารายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับอาสวะ
    สัทธรรมลำดับที่ : 333
    ชื่อบทธรรม :- รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับอาสวะ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=333
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับอาสวะ
    --ภิกษุ ท. ! ที่เรากล่าวว่า
    “อาสวะ
    นิทานสัมภวะแห่งอาสวะ
    เวมัตตตาแห่งอาสวะ
    วิบากแห่งอาสวะ
    นิโรธแห่งอาสวะ
    ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ
    เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง”
    นั้น เรากล่าวหมายถึงอาสวะไหนกันเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! อาสวะ ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่ คือ
    กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/461/?keywords=กามา

    --ภิกษุ ท. ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็น @นิทานสัมภวะแห่งอาสวะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/462/?keywords=นิทานสมฺภว
    --ภิกษุ ท. ! เวมัตตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. !
    อาสวะนำไปสู่นรกก็มี
    อาสวะนำไปสู่กำเนิดเดรัจฉานก็มี
    อาสวะนำไปสู่เปรตวิสัยก็มี
    อาสวะนำไปสู่มนุสสโลกก็มี
    อาสวะนำไปสู่เทวโลกก็มี.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตตาแห่งอาสวะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/462/?keywords=เวมตฺตตา

    --ภิกษุ ท. ! วิบากแห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ข้อที่บุคคลถึงซึ่งอวิชชาแล้ว
    เขากระทำอัตตภาพอันเกิดจากอวิชชานั้น ๆ ให้เกิดขึ้น*--๑
    เป็นอัตตภาพมีส่วนแห่งบุญก็ดี มีส่วนแห่งอบุญก็ดี.
    --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งอาสวะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/463/?keywords=วิบาก

    --ภิกษุ ท. ! นิโรธ (ความดับ) แห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า?
    --ภิกษุ ท. !
    ความดับแห่งอาสวะมี #เพราะความดับแห่งอวิชชา.
    อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้นั่นแล เป็นปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ ;
    ปฏิปทานั้นได้แก่
    สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.

    --ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อม
    รู้ชัดซึ่ง อาสวะ อย่างนี้,
    รู้ชัดซึ่ง นิทานสัมภวะแห่งอาสวะ อย่างนี้,
    รู้ชัดซึ่ง เวมัตตตาแห่งอาสวะ อย่างนี้,
    รู้ชัดซึ่ง วิบากแห่งอาสวะ อย่างนี้,
    รู้ชัดซึ่ง นิโรธแห่งอาสวะ อย่างนี้,
    รู้ชัดซึ่ง ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ อย่างนี้ ;
    ในกาลนั้น
    อริยสาวกนั้นย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้
    อันเป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ว่า เป็นนิโรธแห่งอาสวะ.-
    http://etipitaka.com/read/pali/22/464/?keywords=อาสวนิโรธ

    *--๑. ข้อความนี้ใช้ได้ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม :
    ภาษาคนก็คือ เกิดใหม่หลังจากตายแล้ว ดังที่ทราบกันอยู่;
    ถ้าเป็น
    ภาษาธรรมก็คือ อัตภาพปัจจุบันของเขานั้นเกิดเปลี่ยนเป็นบุญหรือบาป
    ตามสมควรแก่อุปาทานที่เกิดขึ้นจากอวิชชานั้นๆ โดยที่ยังไม่ต้องตาย;
    ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ศึกษาจะถือเอาความหมายไหน.

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #ตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/369-370/334.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/369/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๖๒-๔๖๓/๓๓๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/462/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=333
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=333
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่ารายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับอาสวะ สัทธรรมลำดับที่ : 333 ชื่อบทธรรม :- รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับอาสวะ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=333 เนื้อความทั้งหมด :- --รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับอาสวะ --ภิกษุ ท. ! ที่เรากล่าวว่า “อาสวะ นิทานสัมภวะแห่งอาสวะ เวมัตตตาแห่งอาสวะ วิบากแห่งอาสวะ นิโรธแห่งอาสวะ ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง” นั้น เรากล่าวหมายถึงอาสวะไหนกันเล่า ? --ภิกษุ ท. ! อาสวะ ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่ คือ กามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ. http://etipitaka.com/read/pali/22/461/?keywords=กามา --ภิกษุ ท. ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็น @นิทานสัมภวะแห่งอาสวะ. http://etipitaka.com/read/pali/22/462/?keywords=นิทานสมฺภว --ภิกษุ ท. ! เวมัตตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! อาสวะนำไปสู่นรกก็มี อาสวะนำไปสู่กำเนิดเดรัจฉานก็มี อาสวะนำไปสู่เปรตวิสัยก็มี อาสวะนำไปสู่มนุสสโลกก็มี อาสวะนำไปสู่เทวโลกก็มี. --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตตาแห่งอาสวะ. http://etipitaka.com/read/pali/22/462/?keywords=เวมตฺตตา --ภิกษุ ท. ! วิบากแห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ข้อที่บุคคลถึงซึ่งอวิชชาแล้ว เขากระทำอัตตภาพอันเกิดจากอวิชชานั้น ๆ ให้เกิดขึ้น*--๑ เป็นอัตตภาพมีส่วนแห่งบุญก็ดี มีส่วนแห่งอบุญก็ดี. --ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งอาสวะ. http://etipitaka.com/read/pali/22/463/?keywords=วิบาก --ภิกษุ ท. ! นิโรธ (ความดับ) แห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า? --ภิกษุ ท. ! ความดับแห่งอาสวะมี #เพราะความดับแห่งอวิชชา. อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้นั่นแล เป็นปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ ; ปฏิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. --ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อม รู้ชัดซึ่ง อาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง นิทานสัมภวะแห่งอาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง เวมัตตตาแห่งอาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง วิบากแห่งอาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง นิโรธแห่งอาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่ง ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ อย่างนี้ ; ในกาลนั้น อริยสาวกนั้นย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้ อันเป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ว่า เป็นนิโรธแห่งอาสวะ.- http://etipitaka.com/read/pali/22/464/?keywords=อาสวนิโรธ *--๑. ข้อความนี้ใช้ได้ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม : ภาษาคนก็คือ เกิดใหม่หลังจากตายแล้ว ดังที่ทราบกันอยู่; ถ้าเป็น ภาษาธรรมก็คือ อัตภาพปัจจุบันของเขานั้นเกิดเปลี่ยนเป็นบุญหรือบาป ตามสมควรแก่อุปาทานที่เกิดขึ้นจากอวิชชานั้นๆ โดยที่ยังไม่ต้องตาย; ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ศึกษาจะถือเอาความหมายไหน. #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #ตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/369-370/334. http://etipitaka.com/read/thai/22/369/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๖๒-๔๖๓/๓๓๔. http://etipitaka.com/read/pali/22/462/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=333 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=333 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับอาสวะ
    -รายละเอียดที่ควรศึกษาเกี่ยวกับอาสวะ ภิกษุ ท. ! ที่เรากล่าวว่า “อาสวะ นิทานสัมภวะแห่งอาสวะ เวมัตตตาแห่งอาสวะ วิบากแห่งอาสวะ นิโรธแห่งอาสวะ ปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ เป็นสิ่งที่ควรรู้แจ้ง” นั้น เรากล่าวหมายถึงอาสวะไหนกันเล่า ? ภิกษุ ท. ! อาสวะ ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่ คือกามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ. ภิกษุ ท. ! นิทานสัมภวะ (เหตุเป็นแดนเกิด) แห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นนิทานสัมภวะแห่งอาสวะ. ภิกษุ ท. ! เวมัตตตา (ประมาณต่าง ๆ) แห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! อาสวะนำไปสู่นรกก็มี อาสวะนำไปสู่กำเนิดเดรัจฉานก็มี อาสวะนำไปสู่เปรตวิสัยก็มี อาสวะนำไปสู่มนุสสโลกก็มี อาสวะนำไปสู่เทวโลกก็มี. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า เวมัตตตาแห่งอาสวะ. ภิกษุ ท. ! วิบากแห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ข้อที่บุคคลถึงซึ่งอวิชชาแล้ว เขากระทำอัตตภาพอันเกิดจากอวิชชานั้น ๆ ให้เกิดขึ้น๑ เป็นอัตตภาพมีส่วนแห่งบุญก็ดี มีส่วนแห่งอบุญก็ดี. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า วิบากแห่งอาสวะ. ภิกษุ ท. ! นิโรธ (ความดับ) แห่งอาสวะ เป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุ ท. ! ความดับแห่งอาสวะมี เพราะความดับแห่งอวิชชา. อริยอัฏฐังคิกมรรค นี้นั่นแล เป็นปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ ; ปฏิปทานั้นได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! ในกาลใดแล อริยสาวกย่อมรู้ชัดซึ่งอาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิทานสัมภวะแห่งอาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งเวมัตตตาแห่งอาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งวิบากแห่งอาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ อย่างนี้, รู้ชัดซึ่งปฏิปทาให้ถึงซึ่งนิโรธแห่งอาสวะ อย่างนี้ ; ในกาลนั้น อริยสาวกนั้น ๑. ข้อความนี้ใช้ได้ทั้งภาษาคนและภาษาธรรม : ภาษาคนก็คือเกิดใหม่หลังจากตายแล้ว ดังที่ทราบกันอยู่; ถ้าเป็นภาษาธรรมก็คือ อัตภาพปัจจุบันของเขานั้นเกิดเปลี่ยนเป็นบุญหรือบาป ตามสมควรแก่อุปาทานที่เกิดขึ้นจากอวิชชานั้นๆ โดยที่ยังไม่ต้องตาย; ทั้งนี้แล้วแต่ผู้ศึกษาจะถือเอาความหมายไหน. ย่อมรู้ชัดซึ่งพรหมจรรย์นี้อันเป็นเครื่องเจาะแทงกิเลส ว่า เป็นนิโรธแห่งอาสวะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศีลคือเครื่องพิสูจน์ใจ ไม่ใช่แค่พฤติกรรมภายนอก”

    ศีลที่แท้ ต้องมี “ตัวพิสูจน์ใจ”

    ไม่ใช่แค่ตั้งใจจะไม่ทำผิด
    แต่ต้อง เจอสิ่งยั่วยุ แล้วใจยังมั่นคง ไม่ไหลตามกิเลส
    นั่นแหละจึงเรียกว่า “ศีลสมบูรณ์แบบ”

    ตั้งใจรักษาศีล แต่ยังไม่เคยถูกทดสอบ
    เหมือนอาวุธที่ยังไม่เคยผ่านสนามรบ
    ยังไม่รู้ว่าแกร่งจริงไหม

    ไม่ตั้งใจไว้ล่วงหน้า แต่พอถึงเหตุแล้ว “ห้ามใจได้”

    นั่นก็เกิดบุญเหมือนกัน
    แม้ไม่เคยประกาศว่าจะรักษาศีล
    แต่เมื่อถึงเวลาจริง
    กลับ “เลือกที่จะไม่ทำบาป”
    ก็เป็นกุศลจิต เป็นศีลโดยเจตนาเช่นกัน

    ถ้าไม่มีการยั่วยุ…

    ชีวิตอาจดูเรียบร้อย แต่ไม่มี การฝึกใจจริง
    ไม่ได้ทำผิดก็จริง
    แต่ก็ไม่ได้บุญจากการ “ต่อสู้ในใจ”
    นั่นคือโอกาสฝึกตนที่ยังไม่เกิดขึ้น

    ศีล = เข็มทิศของใจ

    เมื่อ ไม่มีการกำหนดเป้าหมายทางใจไว้
    วันนี้อาจอยากเป็นคนดี พรุ่งนี้อาจอยากตามอารมณ์
    จิตจะโลเล เพราะไม่มีเส้นทางที่มั่นคง

    ศีล คือการกำหนดทิศให้ใจ
    ศีล คือเข็มทิศป้องกันใจไม่ให้หลงไปกับเหยื่อล่อของโลก

    ทำไมพุทธเจ้าจึงให้ตั้งใจรักษาศีลไว้ตลอดชีวิต?

    เพราะศีลคือพื้นฐานของ “ความไม่เดือดเนื้อร้อนใจ”
    ทั้งในชาตินี้ และอนาคต
    คือ “ใบประกัน” ว่าใจจะไม่ตกต่ำ
    คือ “ทางด่วน” สู่สมาธิและปัญญา
    และเมื่อ ต่อยอดด้วยสติ อย่างถูกทาง
    ก็อาจไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปเลย

    ศีล คือของจริงสำหรับผู้จริง
    ไม่ใช่แค่สิ่งภายนอก
    แต่เป็น “หัวใจ” ที่เลือกจะไม่ทำร้ายตนเองและผู้อื่น
    ในทุกห้วงของความโลเล
    🌿 “ศีลคือเครื่องพิสูจน์ใจ ไม่ใช่แค่พฤติกรรมภายนอก” ✳️ ศีลที่แท้ ต้องมี “ตัวพิสูจน์ใจ” ไม่ใช่แค่ตั้งใจจะไม่ทำผิด แต่ต้อง เจอสิ่งยั่วยุ แล้วใจยังมั่นคง ไม่ไหลตามกิเลส นั่นแหละจึงเรียกว่า “ศีลสมบูรณ์แบบ” ตั้งใจรักษาศีล แต่ยังไม่เคยถูกทดสอบ เหมือนอาวุธที่ยังไม่เคยผ่านสนามรบ ยังไม่รู้ว่าแกร่งจริงไหม ✳️ ไม่ตั้งใจไว้ล่วงหน้า แต่พอถึงเหตุแล้ว “ห้ามใจได้” นั่นก็เกิดบุญเหมือนกัน แม้ไม่เคยประกาศว่าจะรักษาศีล แต่เมื่อถึงเวลาจริง กลับ “เลือกที่จะไม่ทำบาป” ก็เป็นกุศลจิต เป็นศีลโดยเจตนาเช่นกัน ✳️ ถ้าไม่มีการยั่วยุ… ชีวิตอาจดูเรียบร้อย แต่ไม่มี การฝึกใจจริง ไม่ได้ทำผิดก็จริง แต่ก็ไม่ได้บุญจากการ “ต่อสู้ในใจ” นั่นคือโอกาสฝึกตนที่ยังไม่เกิดขึ้น ✳️ ศีล = เข็มทิศของใจ เมื่อ ไม่มีการกำหนดเป้าหมายทางใจไว้ วันนี้อาจอยากเป็นคนดี พรุ่งนี้อาจอยากตามอารมณ์ จิตจะโลเล เพราะไม่มีเส้นทางที่มั่นคง ศีล คือการกำหนดทิศให้ใจ ศีล คือเข็มทิศป้องกันใจไม่ให้หลงไปกับเหยื่อล่อของโลก ✳️ ทำไมพุทธเจ้าจึงให้ตั้งใจรักษาศีลไว้ตลอดชีวิต? เพราะศีลคือพื้นฐานของ “ความไม่เดือดเนื้อร้อนใจ” ทั้งในชาตินี้ และอนาคต คือ “ใบประกัน” ว่าใจจะไม่ตกต่ำ คือ “ทางด่วน” สู่สมาธิและปัญญา และเมื่อ ต่อยอดด้วยสติ อย่างถูกทาง ก็อาจไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไปเลย 🌿 ศีล คือของจริงสำหรับผู้จริง ไม่ใช่แค่สิ่งภายนอก แต่เป็น “หัวใจ” ที่เลือกจะไม่ทำร้ายตนเองและผู้อื่น ในทุกห้วงของความโลเล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอนุสัยเนื่องอยู่กับเวทนา
    สัทธรรมลำดับที่ : 331
    ชื่อบทธรรม :- อนุสัยเนื่องอยู่กับเวทนา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=331
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อนุสัยเนื่องอยู่กับเวทนา
    --ภิกษุ ท. ! เวทนา ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่.
    สามอย่างเหล่าไหนเล่า ? สามอย่างคือ
    สุขเวทนา
    ทุกขเวทนา
    อทุกขมสุขเวทนา.
    --ภิกษุ ท. !
    ราคานุสัยอันเกิดจากสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ควรละเสีย.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/254/?keywords=ราคา
    ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากทุกขเวทนา เป็นสิ่งที่ควรละเสีย.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/255/?keywords=ปฏิฆา
    อวิชชานุสัยอันเกิด จากอทุกขมสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ควรละเสีย.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/255/?keywords=อวิชฺชา
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อใด
    ราคานุสัยอันเกิดจากสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว,
    ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากทุกขเวทนา เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว.
    อวิชชานุสัยอันเกิดจากอทุกขมสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว ;
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนี้ เรากล่าวว่า
    เป็นผู้ไม่มีอนุสัย เป็นผู้เห็นชอบ
    ตัดตัณหาได้ขาด แล้ว
    รื้อถอนสังโยชน์ได้ แล้ว
    กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ แล้ว
    เพราะรู้เฉพาะซึ่งมานะโดยชอบ.

    (คาถาผนวกท้ายพระสูตร)
    --เมื่อบุคคลเสวยสุขเวทนาอยู่ ไม่รู้จักชัดซึ่งเวทนานั้น
    ราคานุสัยย่อมมีแก่เขาผู้มองไม่เห็นทางออกจากอำนาจของเวทนานั้น.
    --เมื่อบุคคลเสวยทุกขเวทนาอยู่ ไม่รู้จักชัดซึ่งเวทนานั้น
    ปฏิฆานุสัยย่อมมีแก่เขาผู้มองไม่เห็นทางออกจากอำนาจของเวทนานั้น.
    --บุคคลเพลิดเพลินแม้ในอทุกขมสุข
    อันพระภูริปัญญาพุทธเจ้าทรงแสดงว่าเป็นธรรมอันรำงับ ก็หาพ้นจากทุกข์ไปได้ไม่.
    --เมื่อใดภิกษุ มีความเพียรเผากิเลส ไม่ทอดทิ้งสัมปชัญญะ
    ก็เป็นบัณฑิต รอบรู้เวทนาทั้งปวง.
    ภิกษุนั้น เพราะรอบรู้ซึ่งเวทนา จึงเป็นผู้ไม่มีอาสวะในทิฏฐธรรม
    เป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม จนกระทั่งกายแตก จบเวท ไม่เข้าถึงซึ่งการนับ (ว่าเป็นอะไร)
    แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/220/363-364.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/220/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๒๕๔/๓๖๓-๓๖๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/254/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%93
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=331
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=331
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22
    ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอนุสัยเนื่องอยู่กับเวทนา สัทธรรมลำดับที่ : 331 ชื่อบทธรรม :- อนุสัยเนื่องอยู่กับเวทนา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=331 เนื้อความทั้งหมด :- --อนุสัยเนื่องอยู่กับเวทนา --ภิกษุ ท. ! เวทนา ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่างเหล่าไหนเล่า ? สามอย่างคือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา. --ภิกษุ ท. ! ราคานุสัยอันเกิดจากสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ควรละเสีย. http://etipitaka.com/read/pali/18/254/?keywords=ราคา ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากทุกขเวทนา เป็นสิ่งที่ควรละเสีย. http://etipitaka.com/read/pali/18/255/?keywords=ปฏิฆา อวิชชานุสัยอันเกิด จากอทุกขมสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ควรละเสีย. http://etipitaka.com/read/pali/18/255/?keywords=อวิชฺชา --ภิกษุ ท. ! เมื่อใด ราคานุสัยอันเกิดจากสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว, ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากทุกขเวทนา เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว. อวิชชานุสัยอันเกิดจากอทุกขมสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว ; --ภิกษุ ท. ! ภิกษุนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้ไม่มีอนุสัย เป็นผู้เห็นชอบ ตัดตัณหาได้ขาด แล้ว รื้อถอนสังโยชน์ได้ แล้ว กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ แล้ว เพราะรู้เฉพาะซึ่งมานะโดยชอบ. (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) --เมื่อบุคคลเสวยสุขเวทนาอยู่ ไม่รู้จักชัดซึ่งเวทนานั้น ราคานุสัยย่อมมีแก่เขาผู้มองไม่เห็นทางออกจากอำนาจของเวทนานั้น. --เมื่อบุคคลเสวยทุกขเวทนาอยู่ ไม่รู้จักชัดซึ่งเวทนานั้น ปฏิฆานุสัยย่อมมีแก่เขาผู้มองไม่เห็นทางออกจากอำนาจของเวทนานั้น. --บุคคลเพลิดเพลินแม้ในอทุกขมสุข อันพระภูริปัญญาพุทธเจ้าทรงแสดงว่าเป็นธรรมอันรำงับ ก็หาพ้นจากทุกข์ไปได้ไม่. --เมื่อใดภิกษุ มีความเพียรเผากิเลส ไม่ทอดทิ้งสัมปชัญญะ ก็เป็นบัณฑิต รอบรู้เวทนาทั้งปวง. ภิกษุนั้น เพราะรอบรู้ซึ่งเวทนา จึงเป็นผู้ไม่มีอาสวะในทิฏฐธรรม เป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม จนกระทั่งกายแตก จบเวท ไม่เข้าถึงซึ่งการนับ (ว่าเป็นอะไร) แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/220/363-364. http://etipitaka.com/read/thai/18/220/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๒๕๔/๓๖๓-๓๖๔. http://etipitaka.com/read/pali/18/254/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=331 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22&id=331 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=22 ลำดับสาธยายธรรม : 22 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_22.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อนุสัยเนื่องอยู่กับเวทนา
    -อนุสัยเนื่องอยู่กับเวทนา ภิกษุ ท. ! เวทนา ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่างเหล่าไหนเล่า ? สามอย่างคือ สุขเวทนา ทุกขเวทนา อทุกขมสุขเวทนา. ภิกษุ ท. ! ราคานุสัยอันเกิดจากสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ควรละเสีย. ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากทุกขเวทนา เป็นสิ่งที่ควรละเสีย. อวิชชานุสัยอันเกิด จากอทุกขมสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ควรละเสีย. ภิกษุ ท. ! เมื่อใด ราคานุสัยอันเกิดจากสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว, ปฏิฆานุสัยอันเกิดจากทุกขเวทนา เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว. อวิชชานุสัยอันเกิดจากอทุกขมสุขเวทนา เป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว ; ภิกษุ ท. ! ภิกษุนี้ เรากล่าวว่า เป็นผู้ไม่มีอนุสัย เป็นผู้เห็นชอบ ตัดตัณหาได้ขาดแล้ว รื้อถอนสังโยชน์ได้แล้ว กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้แล้วเพราะรู้เฉพาะซึ่งมานะโดยชอบ. (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) เมื่อบุคคลเสวยสุขเวทนาอยู่ ไม่รู้จักชัดซึ่งเวทนานั้น ราคานุสัยย่อมมีแก่เขาผู้มองไม่เห็นทางออกจากอำนาจของเวทนานั้น. เมื่อบุคคลเสวยทุกขเวทนาอยู่ ไม่รู้จักชัดซึ่งเวทนานั้น ปฏิฆานุสัยย่อมมีแก่เขาผู้มองไม่เห็นทางออกจากอำนาจของเวทนานั้น. บุคคลเพลิดเพลินแม้ในอทุกขมสุข อันพระภูริปัญญาพุทธเจ้าทรงแสดงว่าเป็นธรรมอันรำงับ ก็หาพ้นจากทุกข์ไปได้ไม่. เมื่อใดภิกษุ มีความเพียรเผากิเลส ไม่ทอดทิ้งสัมปชัญญะ ก็เป็นบัณฑิต รอบรู้เวทนาทั้งปวง. ภิกษุนั้น เพราะรอบรู้ซึ่งเวทนา จึงเป็นผู้ไม่มีอาสวะในทิฏฐธรรม เป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม จนกระทั่งกายแตก จบเวท ไม่เข้าถึงซึ่งการนับ (ว่าเป็นอะไร) แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรค ในฐานะธรรมเครื่องข้ามฝั่ง
    สัทธรรมลำดับที่ : 697
    ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรค ในฐานะธรรมเครื่องข้ามฝั่ง
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=697
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อัฏฐังคิกมรรค ในฐานะธรรมเครื่องข้ามฝั่ง
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๘ ประการ เหล่านี้
    http://etipitaka.com/read/pali/19/29/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค
    อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว
    ย่อมเป็นไปเพื่อการไปจากที่มิใช่ฝั่ง (วัฏฏสงสาร)
    สู่ที่อันเป็นฝั่ง (นิพพาน).
    แปดประการ อย่างไรเล่า ? แปดประการคือ
    สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ (ปัญญา)​
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ (ศีล)​
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. (สมาธิ)​
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๘ ประการเหล่านี้แล อันบุคคลเจริญ
    กระทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อการไปจากที่มิใช่ฝั่ง (วัฏฏสงสาร) #สู่ที่อันเป็นฝั่ง (นิพพาน).

    --(คาถาผนวกท้ายพระสูตร)
    --ในหมู่มนุษย์ทั้งหลาย ผู้ที่ถึงฝั่งแห่งพระนิพพานมีน้อยนัก
    หมู่มนุษย์นอกนั้น ย่อมวิ่งเลาะอยู่ตามฝั่งในนี่เอง.
    --ก็ชนเหล่าใดประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม
    ในธรรมที่ตรัสไว้ชอบแล้ว ชนเหล่านั้นจักถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน
    ข้ามพ้นบ่วงแห่งมัจจุที่ข้ามได้ยากนัก.
    --จงเป็นบัณฑิตละธรรมดำเสีย แล้วเจริญธรรมขาว
    จงมาถึงที่ไม่มีน้ำจากที่มีน้ำ จงละกามเสีย
    เป็นผู้ไม่มีความกังวล จงยินดีเฉพาะต่อพระนิพพานอันเป็นที่สงัด
    ซึ่งสัตว์ยินดีได้โดยยาก.
    --บัณทิตพึงชำระตนให้หมดจด จากกิเลสแห่งจิต
    เหมือนจิตของพวกที่อบรมดีแล้วโดยชอบ
    ในองค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้พร้อมทั้งหลาย.
    --ชนเหล่าใด ไม่ยึดมั่นแล้ว ยินดีในความสลัดคืนซึ่งความยึดมั่น
    ไม่มีอาสวะ มีความรุ่งเรืองด้วยปัญญา.
    #ชนเหล่านั้นเป็นผู้ดับเย็น (ปรินิพฺพุตา) ในโลก.-
    http://etipitaka.com/read/pali/19/30/?keywords=ปรินิพฺพุตา
    อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ เย ชนา ปารคามิโน
    อถายํ อิตรา ปชา ตีรเมวานุธาวติ ฯ
    เย จ โข สมฺมทกฺขาเต ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน
    เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ ฯ
    กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต
    โอกา อโนกมาคมฺม วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ
    ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย หิตฺวา กาเม อกิญฺจโน
    ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ จิตฺตเกฺลเสหิ ปณฺฑิโต
    เยสํ สมฺโพธิยงฺเคสุ สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ
    อาทานปฏินิสฺสคฺเค อนุปาทาย เย รตา
    ขีณาสวา ชุติมนฺโต เต โลเก ปรินิพฺพุตาติ ฯ

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/23/96-98.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/23/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๙/๙๖-๙๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/29/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%96
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=697
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50&id=697
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50
    ลำดับสาธยายธรรม : 50​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_50.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรค ในฐานะธรรมเครื่องข้ามฝั่ง สัทธรรมลำดับที่ : 697 ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรค ในฐานะธรรมเครื่องข้ามฝั่ง https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=697 เนื้อความทั้งหมด :- --อัฏฐังคิกมรรค ในฐานะธรรมเครื่องข้ามฝั่ง --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๘ ประการ เหล่านี้ http://etipitaka.com/read/pali/19/29/?keywords=อริโย+อฏฺฐงฺคิโก+มคฺโค อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อการไปจากที่มิใช่ฝั่ง (วัฏฏสงสาร) สู่ที่อันเป็นฝั่ง (นิพพาน). แปดประการ อย่างไรเล่า ? แปดประการคือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ (ปัญญา)​ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ (ศีล)​ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. (สมาธิ)​ --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๘ ประการเหล่านี้แล อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อการไปจากที่มิใช่ฝั่ง (วัฏฏสงสาร) #สู่ที่อันเป็นฝั่ง (นิพพาน). --(คาถาผนวกท้ายพระสูตร) --ในหมู่มนุษย์ทั้งหลาย ผู้ที่ถึงฝั่งแห่งพระนิพพานมีน้อยนัก หมู่มนุษย์นอกนั้น ย่อมวิ่งเลาะอยู่ตามฝั่งในนี่เอง. --ก็ชนเหล่าใดประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม ในธรรมที่ตรัสไว้ชอบแล้ว ชนเหล่านั้นจักถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน ข้ามพ้นบ่วงแห่งมัจจุที่ข้ามได้ยากนัก. --จงเป็นบัณฑิตละธรรมดำเสีย แล้วเจริญธรรมขาว จงมาถึงที่ไม่มีน้ำจากที่มีน้ำ จงละกามเสีย เป็นผู้ไม่มีความกังวล จงยินดีเฉพาะต่อพระนิพพานอันเป็นที่สงัด ซึ่งสัตว์ยินดีได้โดยยาก. --บัณทิตพึงชำระตนให้หมดจด จากกิเลสแห่งจิต เหมือนจิตของพวกที่อบรมดีแล้วโดยชอบ ในองค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้พร้อมทั้งหลาย. --ชนเหล่าใด ไม่ยึดมั่นแล้ว ยินดีในความสลัดคืนซึ่งความยึดมั่น ไม่มีอาสวะ มีความรุ่งเรืองด้วยปัญญา. #ชนเหล่านั้นเป็นผู้ดับเย็น (ปรินิพฺพุตา) ในโลก.- http://etipitaka.com/read/pali/19/30/?keywords=ปรินิพฺพุตา อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ เย ชนา ปารคามิโน อถายํ อิตรา ปชา ตีรเมวานุธาวติ ฯ เย จ โข สมฺมทกฺขาเต ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ ฯ กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต โอกา อโนกมาคมฺม วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย หิตฺวา กาเม อกิญฺจโน ปริโยทเปยฺย อตฺตานํ จิตฺตเกฺลเสหิ ปณฺฑิโต เยสํ สมฺโพธิยงฺเคสุ สมฺมา จิตฺตํ สุภาวิตํ อาทานปฏินิสฺสคฺเค อนุปาทาย เย รตา ขีณาสวา ชุติมนฺโต เต โลเก ปรินิพฺพุตาติ ฯ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/23/96-98. http://etipitaka.com/read/thai/19/23/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๒๙/๙๖-๙๘. http://etipitaka.com/read/pali/19/29/?keywords=%E0%B9%99%E0%B9%96 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=697 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50&id=697 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=50 ลำดับสาธยายธรรม : 50​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_50.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัฏฐังคิกมรรค ในฐานะธรรมเครื่องข้ามฝั่ง
    -อัฏฐังคิกมรรค ในฐานะธรรมเครื่องข้ามฝั่ง ภิกษุ ท. ! ธรรม ๘ ประการ เหล่านี้ อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อการไปจากที่มิใช่ฝั่ง (วัฏฏสงสาร) สู่ที่อันเป็นฝั่ง (นิพพาน). แปดประการ อย่างไรเล่า ? แปดประการคือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! ธรรม ๘ ประการเหล่านี้แล อันบุคคลเจริญ กระทำให้มากแล้วย่อมเป็นไปเพื่อการไปจากที่มิใช่ฝั่ง (วัฏฏสงสาร) สู่ที่อันเป็นฝั่ง (นิพพาน). (คาถาผนวกท้ายพระสูตร) ในหมู่มนุษย์ทั้งหลาย ผู้ที่ถึงฝั่งแห่งพระนิพพานมีน้อยนัก หมู่มนุษย์นอกนั้น ย่อมวิ่งเลาะอยู่ตามฝั่งในนี่เอง. ก็ชนเหล่าใดประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม ในธรรมที่ตรัสไว้ชอบแล้ว ชนเหล่านั้นจักถึงฝั่งแห่งพระนิพพาน ข้ามพ้นบ่วงแห่งมัจจุที่ข้ามได้ยากนัก. จงเป็นบัณฑิตละธรรมดำเสีย แล้วเจริญธรรมขาว จงมาถึงที่ไม่มีน้ำจากที่มีน้ำ จงละกามเสีย เป็นผู้ไม่มีความกังวล จงยินดีเฉพาะต่อพระนิพพานอันเป็นที่สงัด ซึ่งสัตว์ยินดีได้โดยยาก. บัณทิตพึงชำระตนให้หมดจด จากกิเลสแห่งจิต เหมือนจิตของพวกที่อบรมดีแล้วโดยชอบ ในองค์แห่งปัญญาเครื่องตรัสรู้พร้อมทั้งหลาย. ชนเหล่าใด ไม่ยึดมั่นแล้ว ยินดีในความสลัดคืนซึ่งความยึดมั่น ไม่มีอาสวะ มีความรุ่งเรืองด้วยปัญญา. ชนเหล่านั้นเป็นผู้ดับเย็น (ปรินิพฺพุตา) ในโลก.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts