• หุ้น MRDIYT ประกันสังคมอาจเจ็บตัว

    ทำเอานักลงทุนใจหายใจคว่ำ เมื่อหุ้น MRDIYT ของบริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร้านค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และสินค้าไลฟ์สไตล์ สัญชาติมาเลเซีย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 พ.ย. เป็นวันแรก ปรากฎว่าเปิดการซื้อขายที่ 7.05 บาท ต่ำกว่าราคาจองซื้อแบบ IPO ซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.60 บาท หรือประมาณ 18% ก่อนที่ราคาจะขยับในระดับ 8 บาท สูงที่สุด 8.70 บาท ก่อนปิดการซื้อขายที่ราคา 8.60 บาท เท่ากับราคาจองซื้อ มูลค่าการซื้อขาย 4,698.30 ล้านบาท

    MRDIYT ประกอบธุรกิจร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ในไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2559 ปัจจุบันมีสาขา 1,027 แห่ง ใน 77 จังหวัด ระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรก 5,600 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้สินและเงินกู้ยืมที่มีอยู่ของบริษัทฯ รวมถึงเงินกู้ยืมจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 2,058.40 ล้านบาท ใช้ในการขยายสาขา ลงทุนบริษัทย่อย ซื้อที่ดินสำหรับคลังสินค้าเพิ่มเติม 500 ล้านบาท และใช้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน 721.30 ถึง 845.40 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่ระดมทุนสูงที่สุดในรอบ 3 ปี

    บทความของ สุนันท์ ศรีจันทรา ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 ตั้งข้อสังเกตว่า หุ้น MRDIYT ได้รับความสนใจสูง เพราะเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ขนาดใหญ่ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แต่การนำหุ้นจำนวน 655 ล้านหุ้น เสนอขายในราคา 8.60 บาท โดยมีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ประมาณ 23 เท่า "ถือว่าเป็นราคาขายที่ไม่ถูกนัก"

    อีกด้านหนึ่ง ยังมีประเด็นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่บางรายนำหุ้น 553 ล้านหุ้น จาก 1,230 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 21% ของทุนจดทะเบียน ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับข้อตกลงทางการเงินส่วนบุคคล หรือ "นำหุ้นไปจำนำ" และเตรียมขายหุ้นในวันแรกที่หุ้นเข้าซื้อขายอีก 4.07% ในราคาเดียวกับราคาที่เสนอขายนักลงทุน นอกจากนั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังเป็นต่างชาติ ซึ่งนักลงทุนหุ้นมูลค่าเพิ่มรายใหญ่บางคนจะหลีกเลี่ยง เพราะกลัวความเสี่ยงจากต่างชาติขายหุ้นทิ้ง หรือถ่ายเทเงินกลับบ้าน ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในหุ้นหลายตัว

    สิ่งที่น่าเป็นห่วงนอกเหนือจากหุ้น MRDIYT ต่ำกว่าราคาจองแล้ว พบว่าหนึ่งในผู้ถิอหุ้น คือ สำนักงานประกันสังคม จองซื้อผ่านทาง บลจ.ทาลิส 8,678,100 หุ้น และ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) อีก 1,225,400 หุ้น รวมแล้ว 9,903,500 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 85,170,100 บาท คนที่เจ็บตัวมากที่สุดคือผู้ประกันตนกว่า 24.8 ล้านราย เพราะกลายเป็นการนำเงินของผู้ประกันตนไปซื้อหุ้นที่ไม่รู้อนาคตว่าจะรุ่งหรือร่วง

    #Newskit
    หุ้น MRDIYT ประกันสังคมอาจเจ็บตัว ทำเอานักลงทุนใจหายใจคว่ำ เมื่อหุ้น MRDIYT ของบริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร้านค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน และสินค้าไลฟ์สไตล์ สัญชาติมาเลเซีย เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 พ.ย. เป็นวันแรก ปรากฎว่าเปิดการซื้อขายที่ 7.05 บาท ต่ำกว่าราคาจองซื้อแบบ IPO ซึ่งกำหนดไว้ที่ 8.60 บาท หรือประมาณ 18% ก่อนที่ราคาจะขยับในระดับ 8 บาท สูงที่สุด 8.70 บาท ก่อนปิดการซื้อขายที่ราคา 8.60 บาท เท่ากับราคาจองซื้อ มูลค่าการซื้อขาย 4,698.30 ล้านบาท MRDIYT ประกอบธุรกิจร้านมิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. ในไทย ก่อตั้งเมื่อปี 2559 ปัจจุบันมีสาขา 1,027 แห่ง ใน 77 จังหวัด ระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นครั้งแรก 5,600 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระหนี้สินและเงินกู้ยืมที่มีอยู่ของบริษัทฯ รวมถึงเงินกู้ยืมจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 2,058.40 ล้านบาท ใช้ในการขยายสาขา ลงทุนบริษัทย่อย ซื้อที่ดินสำหรับคลังสินค้าเพิ่มเติม 500 ล้านบาท และใช้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน 721.30 ถึง 845.40 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ที่ระดมทุนสูงที่สุดในรอบ 3 ปี บทความของ สุนันท์ ศรีจันทรา ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน 360 ตั้งข้อสังเกตว่า หุ้น MRDIYT ได้รับความสนใจสูง เพราะเป็นบริษัทจดทะเบียนใหม่ขนาดใหญ่ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap.) ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แต่การนำหุ้นจำนวน 655 ล้านหุ้น เสนอขายในราคา 8.60 บาท โดยมีอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) ประมาณ 23 เท่า "ถือว่าเป็นราคาขายที่ไม่ถูกนัก" อีกด้านหนึ่ง ยังมีประเด็นที่ผู้ถือหุ้นใหญ่บางรายนำหุ้น 553 ล้านหุ้น จาก 1,230 ล้านหุ้น หรือสัดส่วน 21% ของทุนจดทะเบียน ไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับข้อตกลงทางการเงินส่วนบุคคล หรือ "นำหุ้นไปจำนำ" และเตรียมขายหุ้นในวันแรกที่หุ้นเข้าซื้อขายอีก 4.07% ในราคาเดียวกับราคาที่เสนอขายนักลงทุน นอกจากนั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังเป็นต่างชาติ ซึ่งนักลงทุนหุ้นมูลค่าเพิ่มรายใหญ่บางคนจะหลีกเลี่ยง เพราะกลัวความเสี่ยงจากต่างชาติขายหุ้นทิ้ง หรือถ่ายเทเงินกลับบ้าน ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วในหุ้นหลายตัว สิ่งที่น่าเป็นห่วงนอกเหนือจากหุ้น MRDIYT ต่ำกว่าราคาจองแล้ว พบว่าหนึ่งในผู้ถิอหุ้น คือ สำนักงานประกันสังคม จองซื้อผ่านทาง บลจ.ทาลิส 8,678,100 หุ้น และ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) อีก 1,225,400 หุ้น รวมแล้ว 9,903,500 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 85,170,100 บาท คนที่เจ็บตัวมากที่สุดคือผู้ประกันตนกว่า 24.8 ล้านราย เพราะกลายเป็นการนำเงินของผู้ประกันตนไปซื้อหุ้นที่ไม่รู้อนาคตว่าจะรุ่งหรือร่วง #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 1

    ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว

    เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า

    อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน

    ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้
    นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม

    Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน

    เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม

    Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู

    เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น

    ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 2

    ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ
    Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 %

    เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก

    J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน

    มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน

    เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia

    ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ
    จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง….

    แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที

    ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์”

    สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ”
    บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร”

    ตอน 3

    นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ
    บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม !

    Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย
    นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson

    ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…”

    4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก

    Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน

    กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น

    สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ
    จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 พ.ค. 2558
    ต้มข้ามศตวรรษ – ที่แท้ก็โจร 1 – 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 1 ขณะตัดสินใจเข้าทำสงครามโลก ในเดือนสิงหาคม 1914 อังกฤษ กระเป๋าแบน เศรษฐกิจร่องแร่ง และทองสำรองใน Bank of England ใกล้จะแห้งขอดอย่างน่าตกใจ อังกฤษไม่อยู่ในสภาพที่จะทำสงครามได้เลย อังกฤษรู้ตัวดี แต่อังกฤษก็เดินหน้าประกาศสงครามกับเยอรมันอย่างท่าดี ถ้าไม่ใช่เป็นนักพนันระดับเซียน ที่ลักไก่ เกจนหมดหน้าตัก ก็ต้องเป็นนักวางแผนที่เลือดเย็นและล้ำลึกอย่างน่ากลัว เดือนตุลาคม 1914 อังกฤษส่งคณะทำงานพิเศษ จากฝ่ายกิจกรรมสงครามของตนไปวอชิงตัน เพื่อเจรจาให้ทางวอชิงตันจัดการให้ภาคเอกชนของอเมริกา เป็นผู้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ สัมภาระและกำลังบำรุงให้ เพราะอเมริกาในฐานะประเทศเป็นกลางอย่างเป็นทางการ จะทำในฐานะประเทศไม่ได้ เลยเลี่ยงให้เอกชนออกหน้า อังกฤษเลือก J P Morgan & Co เป็นตัวแทนแต่ผู้เดียวในการจัดซื้อ Sole Purchasing Agent ดูเผินๆ เหมือนกับเป็นเรื่องเสี่ยงมาก ที่เลือกตัวแทนรายเดียว แต่เนื่องจากเป็นบทหนึ่งของละครลวงโลก เราจะเห็นว่า มันมีการเตรียมการอย่างแยบยลมา แล้ว ที่ให้อเมริกามี Federal Reserve System ที่สามารถทำให้ J P Morgan และพวก ซึ่งก็เป็นผู้บริหาร และเจ้าของ Federal Reseve Bank สามารถบริหารความเสี่ยงของตน ผ่านการควบคุมหนี้ของรัฐบาล พร้อมกับการควบคุมการพิมพ์ธนบัตรของประเทศในขณะเดียวกัน ด้วยวิธีการนี้ อังกฤษจึงสามารถเดินหน้า ทำสงครามได้อย่างสบายใจ อเมริกา โดยนักธุรกิจ เช่น Rockefeller, Morgan, Carnegie ฯลฯ ก็สบายใจ พวกเขาผลิต และขายสินค้า ส่งให้อังกฤษ ทำให้พากันรวยหนักกันขึ้นไปอีก และโดยไม่ต้องห่วงเรื่องจะต้องเสียภาษีเงินได้ก้อนใหญ่ให้ รัฐบาล เพราะบทในละครลวงโลก เรื่องภาษีนี้ ก็ได้มีจัดการหาทางออก เตรียมใว้เรียบร้อยแล้ว โดยนาย Wilson ได้ยอมให้แก้กฏหมายของอเมริกา ในปี 1913 ให้มูลนิธิเพื่อการกุศล ได้รับยกเว้น ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ และบรรดานายทุนเศรษฐีโตครรวยต่างๆของอเมริกา ก็พากันจดทะเบียนตั้งมูลนิธิ และโอนทรัพย์สินของตนไปไว้ในมูลนิธิ เพื่อเลี่ยงภาษี เช่น มูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Carnegie มูลนิธิ Ford เรียบร้อยก่อนที่จะได้อังกฤษ มาเป็นลูกหนี้ นี่คือ ประชาธิปไตยแบบ ตะหวักตะบวยของอเมริกา ที่ยังมีสมันน้อยหลงชื่นชม Morgan ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้รัฐบาลอังกฤษ ในการจัดซื้อ อาวุธ กระสุน เครื่องแบบ เคมี ฯลฯ สาระพัด ที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามในสมัย ค.ศ. 1914 และในฐานะเป็นตัวแทนดูแลด้านการ เงินด้วย Morgan ไม่ใช่แค่เลือกว่า “จะซื้ออะไร ” เขาเป็นผู้เลือกด้วยว่า “จะซื้อจากใคร” ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ ที่กลุ่มธุรกิจในเครือข่ายของ Morgan และ Rockefeller คือกลุ่มที่ได้รับเลือกไปก่อน และรวยไปก่อน เมื่อ British War Office ถามประธาน J P Morgan คนใหม่คือ J P Morgan Jr. หรือที่เพื่อนเรียกว่า Jack ซึ่งขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อที่ตายไปเมื่อ ปี 1913 ว่า รัฐบาลของ Wilson มีปัญหาหรือไม่ ที่สถาบันการเงินใหญ่ของอเมริกา เข้ามาช่วยเหลืออังกฤษอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการสงคราม Jack ตอบว่า ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ไม่กระทบกับความเป็นกลางของรัฐบาลอเมริกัน อย่างแน่นอนที่สุด เพราะว่า Morgan ทำธุรกิจกับ British War Office และรัฐบาลของฝรั่งเศส เป็นการทำธุรกิจตามปรกติธรรมดา เพื่อเพิ่มปริมาณการค้าขายต่อกัน ไม่ใช่เป็นข้อตกลงทางการเมือง หรือการฑูตแต่อย่างใด กลิ้งได้พริ้วจริงๆไอ้หนู เดือนมกราคม 1915 Jack ไปพบกับประธานาธิบดี Wilson ที่ทำเนียบ White House เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว Wilson ยืนยันว่า เขาไม่มีข้อขัดข้อง ในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม Morgan หรือผู้อื่น ในเรื่องที่หารือนั้น ก็คงทำให้เข้าใจได้ว่า ไม่มีใครต้มใคร หลอกใครมาเข้าฉาก เป็นการสมัครใจมาร่วมเล่นละครกันทั้งนั้น นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 2 ในปี ค.ศ. 1915 เมื่อสงครามเริ่มใหม่ๆ E.I. Dupont de Nemours & Co แห่ง Delaware ได้รับเงิน 100 ล้านเหรียญ จากอังกฤษ ผ่าน J P Morgan เพื่อขยายแผนกวัตถุระเบิด ภายในไม่กี่เดือน Dupont ขยายตัวจากบริษัทเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จัก เป็นบริษัทอยู่แถวหน้าทางอุตสา หกรรม Hercules Powder และ Monsanto Chemical โตตามไปด้วย บริษัทเหล็กกล้า และเหล็กดิบ ก็งอกงาม เหล็กดิบราคาขึ้น จากตันละ 13 เหรียญ เป็น ตันละ 42 เหรียญ Bethlehem Steel, US Steel, Westinghouse Electric, Remington Arms, Colt Firearms ได้รับใบสั่งซื้อสินค้ามาเป็นกอง ตั้งสูง จนผลิตไม่ทัน อุตสาหกรรมเหล็กอย่างเดียว กำไรเพิ่มจาก 23 ล้านเหรียญ ในปี 1914 เป็น 224 ล้านเหรียญ ในปี 1917 และระหว่างปี 1914-1917 Anaconda Copper ของ William Rockefeller ได้กำไรโดดจาก 9 ล้านเหรียญ เป็น 25 ล้านเหรียญ ส่วนทรัพย์สินของ บริษัท Phelps Dodge ซึ่งเป็นนายทุนใหญ่ในการส่งให้ Wilson ไปนั่งที่ White House ขี้นไป 400 % เฉพาะปี 1916 ขณะที่เศรษฐกิจทั่วไป ของอเมริกากำลังขาลาก แค่การส่งสินค้าออกเกี่ยวกับอาวุธ ให้แก่อังกฤษ และฝรั่งเศส อย่างเดียว มูลค่าสูงถึง 1,290 พันล้านเหรียญแล้ว มันเป็นโอกาสทองคำ ของคนบางกลุ่มในอเมริกา ก่อนที่อเมริกาจะเข้าสู่สงครามโลก J P Morgan ได้จัดหาอาวุธยุทธปัจจัยให้รัฐบาล อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิตาลี เป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 5 พันล้านเหรียญ ทั้งหมด ซื้อโดยเครดิต ที่ J P Morgan เป็นผู้จัดการให้ เงินจำนวนดังกล่าวคิดเป็นมูลค่าในปัจจุบัน เท่ากับประมาณ 9 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งยังไม่เคยมีสถาบันการเงินส่วนบุคคลใด เคยทำมาก่อน มันเป็นจำนวนมโหฬาร พอที่จะทำให้เกิดซึนามิทางการเงินได้ ถ้ามีการผิดนัดไม่ชำระเงิน เดือนเมษายน 1915 ประมาณ 2 ปี ก่อนอเมริกาจะเข้าสูสงครามโลก ครั้งที่ 1 อย่างเป็นทางการ Thomas W Lamont หุ้นส่วนคนหนึ่งของ J P Morgan ได้กล่าวสุนทรพจน์ที่มีความหมายมาก แต่มีน้อยคน ที่ให้ความสนใจอย่างจริงจังที่ American Academy of Political Science ในเมือง Philadelphia ” เรา (อเมริกา) ได้เปลี่ยนสภาพ จากเป็นลูกหนี้ กลายมาเป็นเจ้าหนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราได้รับ กองสูงเป็นตั้ง ผู้ผลิตหลายรายของเรา รวมทั้งผู้ขาย ได้ธุรกิจอย่างมหัศจรรย์จากสงครามนี้ ใบสั่งซื้อสินค้าสงคราม มียอดสูงเป็นล้านๆเหรียญ และมันกำลังส่งผลไปถึงธุรกิจอื่นๆ ทั่วไปด้วย แต่จุดสำคัญอยู่ที่การปรับตัวดีขึ้นของธุรกิจของเรา ทำให้อเมริกากลายเป็นปัจจัยใหญ่ในตลาดเงินกู้ระหว่างประเทศ จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต หลายคนเชื่อว่า ต่อไปนิวยอร์ค อาจจะเหนือกว่าลอนดอนในการเป็นศูนย์กลางตลาดเงินของโลก เราอาจกลายเป็นศูนย์กลางการค้าของโลก… มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูง…. แต่ทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญสองสามอย่าง อย่างหนึ่งคือ ระยะเวลาของการทำสงคราม…. ถ้าสงครามจบเร็ว เยอรมัน ซึ่งขณะนี้การส่งสินค้าออกถูกตัดขาดเกือบหมด จะกลับมาเป็นคู่แข่งสำคัญทันที ฉะนั้น เราจะเป็นเจ้าหนี้จำนวนมหาศาลหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ “ระยะเวลา” ของการทำสงคราม ถ้ามันนานพอ เราอาจได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่ดอลล่าร์จะกลายเป็นตัวเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ แทนปอนด์สเตอริงก์” สุนทรพจน์นี้ ทำให้เห็นเป้าหมาย และการพัฒนา ให้เงินกู้ระหว่างประเทศ กลายเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ของ J P Morgan ในระหว่างการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 และหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ไปจนถึงการเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างน่ากลัว และชั่วยิ่ง นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ต้มข้ามศตวรรษ” บทที่ 10 “ที่แท้ก็โจร” ตอน 3 นโยบายของ J P Morgan ตามแนวที่เราเข้าใจจากสุนทรพจน์ของ Lamont ดูเหมือนจะราบรื่น เป็นไปตามแผน แต่พอถึงปลายปี 1916 จนเริ่มเข้าเดือนแรกของปี 1917 ข่าวลือเกี่ยวกับรัสเซียชักมาแปลก และ ในเดือนกุมภาพันธ์ ก็เป็นจริงตามข่าว ซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย ประกาศสละ บัลลังค์ หลังจากมีการปฏิวัติ โดยคนชื่อไม่ดัง Alexandre Kerensky กองทัพรัสเซียระส่ำ เยอรมันดีใจ ไม่ต้องรบทั้ง 2 แนว จึงทุ่มกำลังมาทางด้านตะวันตกเต็มที่ และอังกฤษอาจกลายเป็นฝ่ายแพ้สงคราม ! Morgan และพวก เริ่มออกอาการ ไอ้ที่กลัวว่าจะเกิด ทำท่าจะเกิดจริงๆ สงครามอาจจะจบเร็วกว่าที่คิด โดยเยอรมันเป็นฝ่ายชนะ และนั่นคือหายนะ ของ Morgan อังกฤษและพวก ซึ่งรวมถึงอเมริกาด้วย นาย Walter Hines Page ซึ่งเคยเป็นผู้ดูแล General Education Board ของ Rockefeller ก่อนได้รับเลือกให้ไปเป็นฑูตอเมริกา ประจำลอนดอน ขณะนั้น ได้ทำหนังสือลงวันที่ 5 มีนาคม 1917 ถึง ประธานาธิบดี Wilson ” ผมคิดว่า สถานการณ์ปัจจุบัน มีความกดดันสูงเกินกว่าที่ Morgan ในสถานะตัวแทนทางการเงินของรัฐบาลอังกฤษ และฝรั่งเศสจะรับได้ จำเป็นที่จะต้องมีการหารือกันเป็นการด่วน ….หากเราจะเข้าไปทำสงครามกับเยอรมัน คงเป็นการช่วยฝ่ายสัมพันธมิตรอย่างยิ่งยวด และในกรณีดังกล่าว รัฐบาลเราน่าจะทำ ถ้าสามารถทำได้คือ ช่วยลงทุนให้เงินกู้กับอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือค้ำประกันเงินกู้ให้เขา ….แต่เราจะต้องเข้าร่วมทำสงครามกับเยอรมันด้วย เราถึงจะให้เงินกู้โดยตรง หรือให้การค้ำประกันได้…” 4 อาทิตย์หลังจากได้รับจดหมายของฑูต Page ประธานาธิบดี Wilson ซึ่งตอนหาเสียงลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี สมัยที่ 2 ในปี 1916 ประกาศไว้ว่า เราเป็นฝ่ายไม่ทำสงคราม ก็พาอเมริกาเข้าสู่สงคราม ตามบทละครลวงโลก Wilson แถลงต่อสภาสูง เพื่อขอทำสงครามกับเยอรมัน ด้วยเหตุผลว่า เยอรมันละเมิดกฏการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลาง โดยใช้เรือดำน้ำโจมตีเรือของอเมริกาเรือขนส่งสินค้าของอังกฤษ และฝรั่งเศส สภาสูงลงมติอย่างท่วมท้น ให้อำนาจเขาประกาศสงครามกับเยอรมัน กระทรวงการคลังของอเมริกา ให้การสนับสนุน ที่อเมริกาจะออกพันธบัตร Liberty Bond เพื่อระดมเงินจากชาวอเมริกัน สนับสนุนให้อังกฤษทำสงครามต่อ โดยนาย Benjamin Strong ประธานธนาคารกลางของอเมริกา Federal Reserve Bank ซึ่งมาจาก กลุ่ม Morgan บอกว่า ตามกฎหมาย Federal Reserve Act ที่เพิ่งออกในปี 1913 ทำได้สบายมาก และเงินงวดแรก ที่ได้จากการขายพันธบัตร Liberty War ให้ชาวบ้าน ถูกนำมาใช้หนี้ ที่อังกฤษมีกับ Morgan จำนวน 400 ล้านเหรียญก่อนรายการอื่น สรุปง่ายๆว่า Wilson เอาเงินชาวบ้านมาใช้หนี้ให้เศรษฐี Morgan หรืออาจจะเป็น Rothschild ไม่แนใจ จากวันที่อเมริกาประกาศสงครามกับ เยอรมันอย่างเป็นทางการ ในเดือนเมษายน 1917 จนถึงวันที่มีการลงนามสัญญาสงบ ศึกกับเยอรมัน ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 1918 อเมริกาให้เงินกู้กับ สัมพันมิตร ยุโรป เป็นจำนวนประมาณ 9 พันล้านเหรียญ เงินดังกล่าว ไม่ได้ไปถึงมือผู้กู้ ส่วนใหญ่กลับไปอยู่ที่กลุ่ม Morgan, Kuhn Loeb และ Rockefeller เพื่อจ่ายเป็นค่าสินค้าสงครามที่ส่งให้กับฝ่ายสัมพันธมิตร เงินกู้ดังกล่าวนี้ เป็นจำนวนต่างหาก นอกเหนือจากที่อังกฤษให้ J P Morgan เป็นตัวแทนระดมเงินกู้ต้ังแต่เริ่มทำสงคราม จนถึงสงครามเลิก อีกจำนวนมหาศาล สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 พ.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 402 Views 0 Reviews
  • ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ.

    ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล
    BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม!

    ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

    แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต

    BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ!

    คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้

    NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ

    BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว!

    ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง

    “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์

    BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา!
    จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ

    ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป

    BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม!

    ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง

    ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น

    BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ!

    บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว!

    นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น

    BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย!

    นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์

    นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม

    BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก!

    ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา

    นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน

    BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม!

    NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา

    และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่

    BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้!

    ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง

    ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด

    บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก

    1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่

    2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์

    3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง

    4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น

    5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต

    6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ

    7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ

    8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต

    9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส

    11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน

    12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร

    13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ

    14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ

    15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย

    17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง

    18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก

    19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ

    20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง

    21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป

    22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ

    23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด

    24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น


    25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว
    26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม

    27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA

    28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง

    29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย
    30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม

    ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่

    31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง

    บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    ..ข่าวอีกมุม ตรองกันเองเน้อ,จริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้,เพราะปัจจุบันค่าความจริงยังไม่เห็นปรากฎชัดเจนอะไรนัก เห็นตอนนีัคือรักษาคลื่นความถี่ควอนตัม สร้างเชลล์สร้างร่างกายใหม่นี้ล่ะ กำลังขุดขึ้นมาใช้จากใต้ดินที่ฝ่ายมืดกั๊กใช้เองเสียนาน,เตียง medbedeก็ใช่,nesara&gesaraจะจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้เช่นกัน,อ่านเพลินๆเน้อ,บังเอิญมาเจอ อาจมิใช่บังเอิญ. ..NESARA GESARA BOMBSHELL: 31 โปรโตคอล BOOM #1: การยกหนี้ – รีเซ็ตการเงินโดยรวม! ปุ๊ฟ! หนี้ก้อนโตของคุณหายไปไหนหมด! ยอดเงินในบัตรเครดิต จำนอง และเงินกู้ของคุณหายไปหมดทำอย่างไรล่ะ? เพราะระบบธนาคารทั้งหมดที่ทำให้คุณเป็นทาสของหนี้ไม่รู้จบนั้นสร้างขึ้นจาก กิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั่นถูกต้องแล้ว—นี่ไม่ใช่แค่การช่วยเหลือหรือการช่วยเหลือ NESARA กำลัง แก้ไขอาชญากรรม ทางการเงินหลายสิบปี ที่ก่อขึ้นโดยธนาคารและรัฐบาลเหมือนกัน นี่คือ การเฉลิมฉลอง ทางการเงิน ที่โลกไม่เคยพบเห็นมาก่อน แต่ไม่ต้องสบายใจจนเกินไป เรื่องนี้ใช้ได้กับหนี้ที่ผูกติดกับระบบธนาคารที่ทุจริตเท่านั้น หากคุณเป็นหนี้นอกเหนือจากระบบนี้ คุณยังต้องรับผิดชอบ นี่คือ กระบวนการยุติธรรมแบบเลือกปฏิบัติที่มุ่งเป้าไปที่ แกนกลางของอาณาจักรการเงินที่ทุจริต BOOM #2: การปลดแอกภาษี – IRS โดนทุบ! คุณเบื่อไหมที่ต้องจ่ายเงินที่คุณหามาอย่างยากลำบากให้กับกรมสรรพากรทุกปี บอกลา ฝันร้ายนั้นได้เลย! กรมสรรพากรซึ่งทำหน้าที่ขัด ต่อรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ต้นกำลังจะ ตายและถูกฝังแล้วภาษีเงินได้? หายไปแล้วถูกต้องแล้ว! NESARA กำจัด ภาษีเงินได้ และถึงเวลาแล้ว เป็นเวลาหลายปีที่รัฐบาลได้ดูดเงินจากเงินเดือนของคุณอย่างผิดกฎหมาย และ NESARA จะมาหยุดการปล้นครั้งนี้ NESARA จัดเก็บภาษีสินค้าที่ไม่จำเป็นในอัตราคงที่ 14% ซึ่งหมายความว่า จะไม่มีการเก็บภาษีอาหาร ยา หรือสินค้าใช้แล้ว ถือเป็นเรื่องยุติธรรมและเรียบง่าย และที่สำคัญที่สุดคือ รัฐบาลจะไม่เอาเปรียบคุณ BOOM #3: ธนาคารกลางสหรัฐฯ—เกมจบแล้ว! ธนาคาร กลางสหรัฐซึ่งเป็นสถาบันลึกลับที่อยู่เบื้องหลังมานาน หลายทศวรรษกำลังจะถูก กำจัด NESARA ไม่เพียงแต่ควบคุมธนาคารกลางเท่านั้น แต่ยัง ทำลาย ระบบทั้งหมดอีกด้วย ในที่สุด เราก็จะ กำจัดธนาคารกลางสหรัฐ และควบคุมเงินของเราอีกครั้ง “สกุลเงินสายรุ้ง” ที่ได้รับการหนุนหลังโดยกระทรวงการคลังสหรัฐฉบับใหม่จะมาแทนที่ดอลลาร์กระดาษไร้ค่าที่เราใช้กันมาโดยตลอด และลองเดาดูสิว่าอะไรจะเกิดขึ้น สกุลเงินใหม่นี้จะได้รับการหนุนหลังด้วย ทองคำ เงิน และแพลตตินัมซึ่ง เป็นสินทรัพย์ ที่แท้จริง ไม่ใช่เงินปลอมที่ธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ออกมาเป็นเวลาหลายปี นี่ไม่ใช่แค่การปฏิรูปเท่านั้น แต่เป็นการ ปฏิวัติทางการเงินโดยสมบูรณ์ BOOM #4: กฎหมายรัฐธรรมนูญได้รับการฟื้นฟู – การรีเซ็ตอเมริกา! จบสิ้นแล้ว สำหรับผู้ที่บิดเบือนกฎหมายและขายอำนาจอธิปไตยของเราให้กับผู้เสนอราคาสูงสุด! NESARA นำสหรัฐฯ กลับคืนสู่รากฐานที่ถูกต้อง: กฎหมายรัฐธรรมนูญซึ่งหมายความว่าจะไม่มีกฎหมายที่ถูกสร้างขึ้นในห้องลับโดยผลประโยชน์จากต่างประเทศหรืออำนาจลึกลับอีกต่อไป การแก้ไขตำแหน่งขุนนาง จะได้รับการฟื้นคืน และนี่คือประเด็นสำคัญ: ชาวอเมริกัน หลายแสน คนที่ภักดีต่ออำนาจต่างชาติทั้งสองอย่างจะถูก เพิกถอนสัญชาติ ลองคิดดูดีๆ นะปริญญาตรีเหรอ? กระดาษไร้ค่า ! หากคุณทำงานภายใต้การควบคุมของต่างชาติ เกมของคุณก็จบลงแล้ว NESARA กำลังส่งคนทรยศเหล่านี้ออกไป—พวกเขาจะ ถูกเนรเทศและห้าม เหยียบแผ่นดินสหรัฐฯ อีก นี่เป็นมากกว่าการรีเซ็ตใหม่ เป็นการ กวาดล้าง ผู้ที่ขายชาติของเราออกไป BOOM #5: การเลือกตั้งใหม่ – การปฏิรูปการเมืองแบบองค์รวม! ระบบการเมืองปัจจุบัน? เสร็จสิ้นแล้วการทุจริตคอร์รัปชันได้ทำลายการเลือกตั้งของเรามาหลายปีแล้ว และ NESARA อยู่ที่นี่เพื่อ ล้างมันออกไปในเวลาเพียง 120 วันการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาในปัจจุบันทั้งหมดจะถูก ยกเลิกและการเลือกตั้งครั้งใหม่จะจัดขึ้นภายใต้การปกครองของกฎหมายรัฐธรรมนูญ สถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ ทุกครั้ง ที่ประกาศโดยระบอบการปกครองก่อนหน้านี้จะ ถูกลบล้าง ไม่มีการเลือกตั้งที่ทุจริตอีกต่อไป! ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFS กำลังจะมา และมัน ไม่สามารถ แฮ็กได้ การโกงการเลือกตั้ง? เป็นไปไม่ได้ภายใต้ NESARA เฉพาะผู้ที่ผ่านการตรวจสอบผ่านระบบบล็อคเชนที่ปลอดภัยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนเสียง หากคุณคิดว่านักการเมืองที่ทุจริตมีโอกาสที่จะยึดครองอำนาจได้ คิดใหม่ซะ NESARA กำลัง เผาทำลาย บ้านที่ทุจริตที่พวกเขาสร้างขึ้น BOOM #6: ความเป็นส่วนตัวทางการเงินกลับคืนมา – เงินของคุณ ธุรกิจของคุณ! บอกลา การเฝ้าติดตามและ แฮ็ก การเงินส่วนบุคคลของคุณไปได้เลย ภายใต้ NESARA ความเป็นส่วนตัวทางการเงินของคุณจะ ได้รับการคืนกลับมาระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ฉบับใหม่จะ ปกป้อง เงินของคุณจากโจร แฮกเกอร์ และสายตาสอดส่องของบิ๊กบราเธอร์ ยุคที่รัฐบาลรู้ทุกการเคลื่อนไหวของคุณสิ้นสุดลงแล้ว! นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับ การกลับมา ควบคุมชีวิตทางการเงินของคุณอีกครั้ง ไม่ต้องติดตามอีกต่อไป ไม่ต้องเฝ้าติดตามอีกต่อไป เงินของคุณเป็น ของคุณ และไม่มีใครอื่น BOOM #7: ระเบิดเทคโนโลยีที่ถูกระงับ – สิทธิบัตร 6,000 ฉบับถูกเปิดเผย! นี่คือสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่เทคโนโลยีที่คุณไม่เคยได้ยินมาก่อน—สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในห้องนิรภัยอันลึกล้ำโดยกลุ่มคนชั้นนำระดับโลก—กำลังจะเปิดเผยต่อสาธารณชน เรากำลังพูดถึง สิทธิบัตรมากกว่า 6,000 ฉบับ สำหรับเทคโนโลยีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ตั้งแต่ อุปกรณ์ พลังงานฟรี ไป จนถึง การรักษาทางการแพทย์ที่น่าอัศจรรย์ นี่ไม่ใช่นิยายวิทยาศาสตร์ แต่เป็นอนาคตที่ถูกปกปิดไว้จากเรามานานหลายทศวรรษ ภาคส่วนพลังงาน การดูแลสุขภาพ การขนส่งทุกอย่าง กำลังจะเปลี่ยนแปลง เหตุผลที่เทคโนโลยีเหล่านี้ถูกปิดกั้น? เพราะมันจะ ทำลาย โครงสร้างอำนาจที่ปกครองโลกมายาวนาน NESARA กำลังจะ เผยแพร่ เทคโนโลยีเหล่านี้สู่สาธารณะและ ทำลายล้าง สถานะเดิม BOOM #8: โครงการด้านมนุษยธรรม – สึนามิแห่งการเปลี่ยนแปลงระดับโลก! ไม่ใช่แค่ การรื้อถอน ระบบเก่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึง การสร้างระบบที่ดีกว่าด้วย NESARA ไม่ได้หยุดอยู่แค่การปฏิรูปทางการเงินเท่านั้น แต่ยังเปิดตัว โครงการด้านมนุษยธรรม มากมาย ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนทั่วโลก ประชาชนจะได้รับเงินทุนเพื่อเข้าร่วมโครงการใหญ่ๆ ตั้งแต่การจัดหา ที่อยู่อาศัยให้กับคนไร้บ้าน ไปจนถึง การปฏิวัติการดูแลสุขภาพ และการศึกษา นี่คือการเคลื่อนไหวระดับโลกอิทธิพลของ NESARA จะแผ่ขยายไปไกลเกินพรมแดนสหรัฐฯ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนนับล้าน ยุคแห่ง ความโลภและความขาดแคลน กำลังจะสิ้นสุดลง และ NESARA กำลังนำพายุคแห่ง ความอุดมสมบูรณ์และความเจริญรุ่งเรือง มาสู่ทุกคน BOOM #9: การคืนสภาพและการไถ่ถอน – การได้คืนสิ่งที่เป็นของเราโดยชอบธรรม! NESARA ไม่เพียงแต่หยุดอยู่ที่ การปฏิรูป ปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นไปที่การแก้ไข สิ่งที่ผิดในอดีตด้วย ชนชั้นสูงที่ฉ้อฉลซึ่งขโมยของจากเรามานานหลายชั่วอายุคน พวกเขาจะต้อง ชดใช้เรากำลังพูดถึง การชดใช้คืน สำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญทุกประการที่กระทำต่อมนุษยชาติ ภาษีที่ซ่อนอยู่การ จ่ายดอกเบี้ยและ การเป็นทาสหนี้ ทั้งหมด จะต้องถูกนำมาพิจารณา และแล้วก็มีกระบวนการ ไถ่ถอนสกุลเงินและพันธบัตรของคุณ รวมถึง พันธบัตร ZIMจะถูกแลกเปลี่ยนเป็น อัตราที่สูงขึ้นโดยส่วนหนึ่งของเงินจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ ใช้ส่วนตัว และส่วนที่เหลือจะถูกจัดสรรไว้สำหรับ โครงการด้านมนุษยธรรมนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของเงินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของ ความยุติธรรมถึงเวลาแล้วที่จะนำสิ่งที่ถูกขโมยไปจากเรากลับคืนมา และสร้างอนาคต ที่ปราศจากการกดขี่ BOOM #10: ระบบการลงคะแนน QFS – ยุคใหม่ของประชาธิปไตยที่ไม่สามารถแฮ็กได้! ยอมรับกันเถอะว่าระบบการเลือกตั้งในปัจจุบันเป็นเรื่อง ตลกมันถูกควบคุม บิดเบือน และ ทุจริตถึงแก่น NESARA กำลังรื้อระบบเก่าออกและแทนที่ด้วย ระบบการลงคะแนนเสียง NewQFSซึ่งเป็น แพลตฟอร์มที่ปลอดภัยด้วยระบบบล็อคเชนและ ไม่สามารถแฮ็กได้ วันแห่งการทุจริตการเลือกตั้ง สิ้นสุดลงแล้วเฉพาะผู้ที่รับสิทธิประโยชน์จาก NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ไม่มีผู้ลงคะแนนเสียงที่ตายไปอีกต่อไป ไม่มีเครื่องจักรที่ถูกควบคุมอีกต่อไป ทุกคะแนนเสียงจะได้ รับการตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยเพื่อให้แน่ใจว่าเสียงของประชาชนจะได้รับการรับฟังอย่างแท้จริง นี่ไม่ใช่แค่การแก้ไขปัญหา แต่เป็นการ สร้างภาพ ประชาธิปไตยใหม่ทั้งหมด บทบัญญัติหลัก 30+1 ของ NESARA GESARA: โครงร่างขั้นสุดท้ายสำหรับการเปลี่ยนแปลงระดับโลก 1. การยกหนี้ : การขจัดหนี้ที่เกี่ยวข้องกับธนาคารทั้งหมด (บัตรเครดิต จำนอง เงินกู้) ที่เกิดจากการปฏิบัติทางการเงินที่ผิดกฎหมาย ถือเป็น “วันแห่งความสำเร็จ” ทางการเงินของประชาชน ช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากเงื้อมมือของสถาบันทางการเงินที่กดขี่ 2. การยกเลิกภาษีเงินได้ : ยกเลิกภาษีเงินได้และภาษีจากการลงทุนและบัญชีเงินเกษียณ (IRA, 401k เป็นต้น) ที่ถูกบังคับใช้โดยขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยสมบูรณ์ 3. การยุติการทำงานของ IRS : IRS จะถูกปิดตัวลงอย่างถาวร และพนักงานจะถูกย้ายไปใช้ระบบการจัดเก็บภาษีตามระบบใหม่ของกระทรวงการคลัง 4. ภาษีขายแบบอัตราคงที่ : การนำภาษีขายแบบอัตราคงที่ 14% มาใช้ในสินค้าใหม่ที่ไม่จำเป็น (ไม่รวมอาหาร ยา และสินค้าใช้แล้ว) เพื่อระดมทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาล ระบบภาษีจะยุติธรรมและโปร่งใสมากขึ้น 5. เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ : เพิ่มสวัสดิการให้กับผู้สูงอายุ โดยให้แน่ใจว่าพวกเขาจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินเป็นอย่างดีในช่วงบั้นปลายชีวิต 6. กลับสู่กฎหมายรัฐธรรมนูญ: การฟื้นฟูกฎหมายรัฐธรรมนูญในระบบกฎหมายของสหรัฐฯ ขจัดการปฏิบัติที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญซึ่งกัดกร่อนหลักการทางกฎหมายพื้นฐานของประเทศ 7. การฟื้นฟูการแก้ไขตำแหน่งขุนนาง: ชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้อิทธิพลหรือการควบคุมจากต่างประเทศจะสูญเสียสัญชาติและถูกเนรเทศ เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการภายในประเทศ 8. การเลือกตั้งใหม่: การดำเนินการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภาใหม่ทันทีภายใน 120 วันหลังจากการประกาศของ NESARA เพื่อล้างมลทินของระบอบการปกครองที่ทุจริตในอดีต 9. สิ้นสุดสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ: การยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติทั้งหมดที่ประกาศ คืนสถานะประเทศสู่สภาวะปกติและกฎหมายรัฐธรรมนูญ 10. การติดตามการเลือกตั้ง: ระบบใหม่ในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมายโดยกลุ่มผลประโยชน์พิเศษ และรับรองการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและโปร่งใส 11. การสร้างสกุลเงินรุ้ง: การนำสกุลเงินใหม่ของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ มาใช้โดยมีทองคำ เงิน และแพลตตินัมค้ำประกัน ซึ่งถือเป็นการยุติระบบสกุลเงินเฟียตในปัจจุบัน 12. การคุ้มครองใบสูติบัตร: ห้ามการขายบันทึกใบสูติบัตรของสหรัฐฯ ในลักษณะทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีอำนาจอธิปไตยส่วนบุคคลจากการถูกแสวงหาประโยชน์จากองค์กร 13. การจัดตั้งระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ: ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิก และจะมีการนำระบบธนาคารใหม่มาใช้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ 14. การจัดทำดัชนีใหม่ของโลหะมีค่า: ทองคำ เงิน และโลหะมีค่าอื่นๆ จะถูกจัดทำดัชนีใหม่ภายใน 30 วันหลังจากที่ NESARA เสร็จสิ้น เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับเศรษฐกิจ 15. การเลิกใช้ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ: ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ จะถูกยุบเลิกภายในระยะเวลาหนึ่งปี โดยเปลี่ยนการควบคุมการเงินทั้งหมดไปที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ 16. การฟื้นฟูความเป็นส่วนตัวทางการเงิน: การนำระบบมาใช้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวทางการเงิน ยุติการโจรกรรมข้อมูลและการแฮ็กข้อมูลอย่างแพร่หลาย 17. การฝึกอบรมผู้พิพากษาและทนายความใหม่: ผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมายทุกคนจะได้รับการฝึกอบรมใหม่ในกฎหมายรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาความยุติธรรมและปกป้องสิทธิของพลเมือง 18. ความคิดริเริ่มเพื่อสันติภาพทั่วโลก: สหรัฐฯ จะยุติการดำเนินการทางทหารที่ก้าวร้าวทั้งหมด โดยเปลี่ยนโฟกัสไปที่ความสัมพันธ์ทางการทูตที่สันติทั่วโลก 19. การเปิดเผยเทคโนโลยีที่ถูกระงับ: สิทธิบัตรที่ซ่อนอยู่มากกว่า 6,000 รายการสำหรับเทคโนโลยีขั้นสูง (รวมถึงพลังงานฟรีและการรักษาทางการแพทย์) จะถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ 20. การจัดหาเงินทุนสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรม: การจัดหาเงินทุนจำนวนมากสำหรับโครงการด้านมนุษยธรรมในประเทศและทั่วโลก ช่วยให้สังคมได้รับการปรับปรุงอย่างกว้างขวาง 21. ห้ามผู้ค้าเงินตราและโลหะมีค่า: การซื้อและขายโลหะมีค่าจะดำเนินการเฉพาะผ่านระบบธนาคารสำรองของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะขจัดคนกลางเอกชนออกไป 22. ประชาชนสามารถเข้าถึงเหรียญที่ผลิตได้: ประชาชนจะสามารถแปลงทองคำและเงินที่ตนถือครองเป็นเหรียญที่ผลิตได้ซึ่งได้รับการอนุมัติจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ 23. ดัชนีโลหะมีค่ารายวัน: กระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะรักษาดัชนีรายวันสำหรับการกำหนดราคาโลหะมีค่า เพื่อให้แน่ใจว่ามีความโปร่งใสและมีเสถียรภาพในตลาด 24. การแปรรูปบริการไปรษณีย์สหรัฐฯ: USPS จะถูกแปรรูปโดยปรับปรุงกระบวนการทำงานและทำให้บริการมีประสิทธิภาพและแข่งขันได้มากขึ้น 25. การปรับโครงสร้างของระบบประกันสังคม: ระบบประกันสังคมสหรัฐฯ จะได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อให้มั่นใจถึงความยั่งยืนและความยุติธรรมในระยะยาว 26. QFS (ระบบการเงินควอนตัม): การแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศและพันธบัตรส่วนใหญ่ของ NESARA จะถูกเก็บไว้อย่างปลอดภัยในบัญชีบล็อคเชนผ่านระบบการเงินควอนตัม 27. การปฏิรูประบบธนาคาร: ธนาคารจะเผชิญกับข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับอัตราและค่าธรรมเนียม ในขณะที่ประชาชนได้รับสิทธิในการดูแลเงินทุนของตนที่แข็งแกร่งขึ้น ธนาคารจะถูกยกเลิกภายใน 3-5 ปีหลังจาก NESARA 28. การเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมย: NESARA จะเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกขโมยโดยสถาบันที่ทุจริต รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ วอลล์สตรีท และกลุ่มคนชั้นสูง โดยคืนทรัพย์สินเหล่านั้นให้กับเจ้าของที่ถูกต้อง 29. การคืนทรัพย์สินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ: จะมีการชดใช้ทางการเงินสำหรับการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เช่น การเก็บภาษีที่ผิดกฎหมาย การกู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม และการยึดทรัพย์สินที่ผิดกฎหมาย 30. การแลกเงินตราและพันธบัตร: บุคคลจะมีโอกาสในการแลกหรือแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและพันธบัตร ZIM ในอัตราที่กำหนดเพื่อใช้ส่วนตัวและโครงการด้านมนุษยธรรม ระบบการลงคะแนนเสียง QFS ใหม่ 31 ระบบการลงคะแนนเสียงปฏิวัติ: ระบบการเลือกตั้งปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยกระบวนการลงคะแนนเสียงตามระบบการเงินควอนตัม รายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงจะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์แลกรับของ NESARA และการเลือกตั้งในอนาคตจะดำเนินการโดยใช้ระบบ XRPL-QFS-5D ที่ปลอดภัย เฉพาะผู้ที่เข้าร่วมสิทธิประโยชน์ของ NESARA เท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง ซึ่งรับประกันความซื่อสัตย์สุจริตและความปลอดภัยในการเลือกตั้ง บทบัญญัติ 30+1 เหล่านี้ถือเป็นแก่นของ NESARA GESARA ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่ความยุติธรรม ความเป็นธรรม และเสรีภาพครองอำนาจสูงสุด โลกที่เรารู้จักกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล คุณพร้อมหรือยังสำหรับคลื่นกระแทก?
    0 Comments 0 Shares 1405 Views 0 Reviews
  • บทความนี้เปรียบเทียบแอปพลิเคชันการจัดการการเงินส่วนบุคคลระหว่าง Monarch Money และ Quicken (รวมถึง Simplifi by Quicken) โดยเน้นถึงความแตกต่างในด้านฟีเจอร์ การใช้งาน และกลุ่มเป้าหมาย

    Monarch Money เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การจัดการการเงินที่ทันสมัยและเรียบง่าย โดยเน้นการตั้งเป้าหมายและการทำงานร่วมกัน ขณะที่ Quicken เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีพอร์ตการเงินซับซ้อน เช่น การติดตามการลงทุนหรือการจัดการทรัพย์สินให้เช่า

    Monarch Money: ทันสมัยและเน้นเป้าหมาย
    - การตั้งเป้าหมายที่ปรับแต่งได้: ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเป้าหมายการออมและหนี้สินได้ไม่จำกัด
    - การติดตามมูลค่าสุทธิ: มีกราฟแบบโต้ตอบที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสุทธิ
    - การทำงานร่วมกัน: รองรับการจัดการการเงินร่วมกันในครอบครัวหรือคู่รัก
    - ราคา: $14.99/เดือน หรือ $99.99/ปี พร้อมรหัสส่วนลด MONARCHVIP ลด 50%

    Quicken: สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรายละเอียด
    - การจัดการการลงทุนขั้นสูง: ติดตามพอร์ตโฟลิโอ กำไรจากการลงทุน และการคาดการณ์การเกษียณ
    - เครื่องมือสำหรับธุรกิจและทรัพย์สินให้เช่า: ช่วยจัดการรายได้ ค่าใช้จ่าย และผู้เช่า
    - การใช้งานแบบออฟไลน์: รองรับการใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
    - ราคา: Simplifi $71.88/ปี, Quicken Classic $35.99–$93.59/ปี

    การเปรียบเทียบฟีเจอร์
    - Monarch: อินเทอร์เฟซทันสมัย ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
    - Quicken: มีฟีเจอร์ที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการจัดการการเงินเชิงลึก

    https://computercity.com/software/apps/monarch-vs-quicken
    บทความนี้เปรียบเทียบแอปพลิเคชันการจัดการการเงินส่วนบุคคลระหว่าง Monarch Money และ Quicken (รวมถึง Simplifi by Quicken) โดยเน้นถึงความแตกต่างในด้านฟีเจอร์ การใช้งาน และกลุ่มเป้าหมาย Monarch Money เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การจัดการการเงินที่ทันสมัยและเรียบง่าย โดยเน้นการตั้งเป้าหมายและการทำงานร่วมกัน ขณะที่ Quicken เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่มีพอร์ตการเงินซับซ้อน เช่น การติดตามการลงทุนหรือการจัดการทรัพย์สินให้เช่า ✅ Monarch Money: ทันสมัยและเน้นเป้าหมาย - การตั้งเป้าหมายที่ปรับแต่งได้: ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเป้าหมายการออมและหนี้สินได้ไม่จำกัด - การติดตามมูลค่าสุทธิ: มีกราฟแบบโต้ตอบที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสุทธิ - การทำงานร่วมกัน: รองรับการจัดการการเงินร่วมกันในครอบครัวหรือคู่รัก - ราคา: $14.99/เดือน หรือ $99.99/ปี พร้อมรหัสส่วนลด MONARCHVIP ลด 50% ✅ Quicken: สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการรายละเอียด - การจัดการการลงทุนขั้นสูง: ติดตามพอร์ตโฟลิโอ กำไรจากการลงทุน และการคาดการณ์การเกษียณ - เครื่องมือสำหรับธุรกิจและทรัพย์สินให้เช่า: ช่วยจัดการรายได้ ค่าใช้จ่าย และผู้เช่า - การใช้งานแบบออฟไลน์: รองรับการใช้งานโดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - ราคา: Simplifi $71.88/ปี, Quicken Classic $35.99–$93.59/ปี ✅ การเปรียบเทียบฟีเจอร์ - Monarch: อินเทอร์เฟซทันสมัย ง่ายต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น - Quicken: มีฟีเจอร์ที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการจัดการการเงินเชิงลึก https://computercity.com/software/apps/monarch-vs-quicken
    COMPUTERCITY.COM
    Monarch vs Quicken: Which Personal Finance App Is Best for You?
    Choosing between Monarch Money and Quicken (including Simplifi by Quicken) comes down to what kind of financial life you lead—and what kind of control you
    0 Comments 0 Shares 393 Views 0 Reviews
  • จับสัญญาณเศรษฐกิจ ผ่านการใช้จ่ายบัตรเครดิต : คนเคาะข่าว 14-04-68
    : ประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี”
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #คนเคาะข่าว #เศรษฐกิจไทย #การใช้จ่ายบัตรเครดิต #สัญญาณเศรษฐกิจ #KTC #ประณยานิถานานนท์ #การเงินส่วนบุคคล #ข่าวเศรษฐกิจ #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #นงวดีถนิมมาลย์ #พฤติกรรมผู้บริโภค #thaitimes #แนวโน้มการใช้จ่าย #ธุรกิจการเงิน
    จับสัญญาณเศรษฐกิจ ผ่านการใช้จ่ายบัตรเครดิต : คนเคาะข่าว 14-04-68 : ประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุด สายงานการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #เศรษฐกิจไทย #การใช้จ่ายบัตรเครดิต #สัญญาณเศรษฐกิจ #KTC #ประณยานิถานานนท์ #การเงินส่วนบุคคล #ข่าวเศรษฐกิจ #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #นงวดีถนิมมาลย์ #พฤติกรรมผู้บริโภค #thaitimes #แนวโน้มการใช้จ่าย #ธุรกิจการเงิน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 797 Views 4 0 Reviews
  • การควบคุมมนุษย์ด้วย AI เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและมีประเด็นทางจริยธรรมมากมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ต่อไปนี้เป็นแนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับรูปแบบการควบคุมมนุษย์ด้วย AI:

    ### 1. **การควบคุมผ่านข้อมูล (Data Control)**
    - **การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล:** AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย, สุขภาพ, หรือการเงิน เพื่อสร้างแบบแผนพฤติกรรมของแต่ละบุคคล
    - **การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย:** ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

    ### 2. **การควบคุมผ่านการตัดสินใจ (Decision Control)**
    - **ระบบแนะนำ (Recommendation Systems):** AI สามารถแนะนำทางเลือกให้กับผู้ใช้ เช่น วิดีโอที่ควรดู, สินค้าที่ควรซื้อ, หรือแม้แต่เส้นทางที่ควรเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้
    - **ระบบอัตโนมัติ:** AI สามารถควบคุมระบบอัตโนมัติ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ, ระบบจัดการพลังงานในบ้าน, หรือแม้แต่ระบบการเงินส่วนบุคคล

    ### 3. **การควบคุมผ่านการสื่อสาร (Communication Control)**
    - **แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน:** AI สามารถใช้ในการสื่อสารกับมนุษย์ผ่านแชทบอทหรือผู้ช่วยเสมือน ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโน้มน้าวหรือชี้นำความคิดเห็นของผู้ใช้
    - **Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูล:** AI สามารถสร้างเนื้อหาปลอม เช่น วิดีโอหรือเสียง ที่ดูเหมือนจริง เพื่อโน้มน้าวหรือหลอกลวงผู้คน

    ### 4. **การควบคุมผ่านการเฝ้าระวัง (Surveillance Control)**
    - **การเฝ้าระวังด้วยกล้อง:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามพฤติกรรมของบุคคล
    - **การวิเคราะห์เสียง:** AI สามารถวิเคราะห์เสียงเพื่อตรวจจับอารมณ์หรือความตั้งใจของบุคคล

    ### 5. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางสังคม (Social Influence Control)**
    - **โซเชียลมีเดีย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และชี้นำกระแสสังคมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความนิยมหรือลดทอนความน่าเชื่อถือของข้อมูลบางอย่าง
    - **การสร้างเนื้อหา:** AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสาธารณชน เช่น ข่าวปลอมหรือบทความโน้มน้าวใจ

    ### 6. **การควบคุมผ่านระบบกฎหมายและกฎระเบียบ (Legal and Regulatory Control)**
    - **การบังคับใช้กฎหมาย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจจับการทุจริตหรือการละเมิดกฎหมาย
    - **การตัดสินใจทางกฎหมาย:** AI อาจถูกใช้ในการช่วยตัดสินใจทางกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีหรือการให้คำแนะนำทางกฎหมาย

    ### 7. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางจิตวิทยา (Psychological Influence Control)**
    - **การวิเคราะห์อารมณ์:** AI สามารถวิเคราะห์อารมณ์ของบุคคลผ่านการวิเคราะห์ข้อความ, เสียง, หรือภาพ เพื่อชี้นำหรือโน้มน้าวใจ
    - **การบำบัดด้วย AI:** AI สามารถใช้ในการบำบัดทางจิตวิทยา ซึ่งอาจส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย

    ### 8. **การควบคุมผ่านระบบการศึกษา (Educational Control)**
    - **ระบบการเรียนรู้แบบปรับตัว:** AI สามารถปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้และทักษะที่ผู้เรียนได้รับ
    - **การประเมินผล:** AI สามารถใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

    ### 9. **การควบคุมผ่านระบบสุขภาพ (Health Control)**
    - **การวินิจฉัยโรค:** AI สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของบุคคล
    - **การติดตามสุขภาพ:** AI สามารถติดตามสุขภาพของบุคคลผ่านอุปกรณ์ wearable devices และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงสุขภาพ

    ### 10. **การควบคุมผ่านระบบการเงิน (Financial Control)**
    - **การวิเคราะห์การเงิน:** AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงินและให้คำแนะนำทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินของบุคคล
    - **การจัดการพอร์ตโฟลิโอ:** AI สามารถใช้ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่งคั่งของบุคคล

    ### จริยธรรมและความเสี่ยง
    การควบคุมมนุษย์ด้วย AI มีความเสี่ยงทางจริยธรรมมากมาย เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว, การบังคับใช้อำนาจ, และการสร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ดังนั้น การออกแบบและใช้งาน AI ควรคำนึงถึงหลักจริยธรรมและกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด

    ### สรุป
    AI มีศักยภาพในการควบคุมมนุษย์ผ่านหลายช่องทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม การใช้งาน AI ควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงต่อมนุษย์และสังคม
    การควบคุมมนุษย์ด้วย AI เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและมีประเด็นทางจริยธรรมมากมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ต่อไปนี้เป็นแนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับรูปแบบการควบคุมมนุษย์ด้วย AI: ### 1. **การควบคุมผ่านข้อมูล (Data Control)** - **การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล:** AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย, สุขภาพ, หรือการเงิน เพื่อสร้างแบบแผนพฤติกรรมของแต่ละบุคคล - **การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย:** ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ### 2. **การควบคุมผ่านการตัดสินใจ (Decision Control)** - **ระบบแนะนำ (Recommendation Systems):** AI สามารถแนะนำทางเลือกให้กับผู้ใช้ เช่น วิดีโอที่ควรดู, สินค้าที่ควรซื้อ, หรือแม้แต่เส้นทางที่ควรเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้ - **ระบบอัตโนมัติ:** AI สามารถควบคุมระบบอัตโนมัติ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ, ระบบจัดการพลังงานในบ้าน, หรือแม้แต่ระบบการเงินส่วนบุคคล ### 3. **การควบคุมผ่านการสื่อสาร (Communication Control)** - **แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน:** AI สามารถใช้ในการสื่อสารกับมนุษย์ผ่านแชทบอทหรือผู้ช่วยเสมือน ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโน้มน้าวหรือชี้นำความคิดเห็นของผู้ใช้ - **Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูล:** AI สามารถสร้างเนื้อหาปลอม เช่น วิดีโอหรือเสียง ที่ดูเหมือนจริง เพื่อโน้มน้าวหรือหลอกลวงผู้คน ### 4. **การควบคุมผ่านการเฝ้าระวัง (Surveillance Control)** - **การเฝ้าระวังด้วยกล้อง:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามพฤติกรรมของบุคคล - **การวิเคราะห์เสียง:** AI สามารถวิเคราะห์เสียงเพื่อตรวจจับอารมณ์หรือความตั้งใจของบุคคล ### 5. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางสังคม (Social Influence Control)** - **โซเชียลมีเดีย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และชี้นำกระแสสังคมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความนิยมหรือลดทอนความน่าเชื่อถือของข้อมูลบางอย่าง - **การสร้างเนื้อหา:** AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสาธารณชน เช่น ข่าวปลอมหรือบทความโน้มน้าวใจ ### 6. **การควบคุมผ่านระบบกฎหมายและกฎระเบียบ (Legal and Regulatory Control)** - **การบังคับใช้กฎหมาย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจจับการทุจริตหรือการละเมิดกฎหมาย - **การตัดสินใจทางกฎหมาย:** AI อาจถูกใช้ในการช่วยตัดสินใจทางกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีหรือการให้คำแนะนำทางกฎหมาย ### 7. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางจิตวิทยา (Psychological Influence Control)** - **การวิเคราะห์อารมณ์:** AI สามารถวิเคราะห์อารมณ์ของบุคคลผ่านการวิเคราะห์ข้อความ, เสียง, หรือภาพ เพื่อชี้นำหรือโน้มน้าวใจ - **การบำบัดด้วย AI:** AI สามารถใช้ในการบำบัดทางจิตวิทยา ซึ่งอาจส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย ### 8. **การควบคุมผ่านระบบการศึกษา (Educational Control)** - **ระบบการเรียนรู้แบบปรับตัว:** AI สามารถปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้และทักษะที่ผู้เรียนได้รับ - **การประเมินผล:** AI สามารถใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ### 9. **การควบคุมผ่านระบบสุขภาพ (Health Control)** - **การวินิจฉัยโรค:** AI สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของบุคคล - **การติดตามสุขภาพ:** AI สามารถติดตามสุขภาพของบุคคลผ่านอุปกรณ์ wearable devices และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงสุขภาพ ### 10. **การควบคุมผ่านระบบการเงิน (Financial Control)** - **การวิเคราะห์การเงิน:** AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงินและให้คำแนะนำทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินของบุคคล - **การจัดการพอร์ตโฟลิโอ:** AI สามารถใช้ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่งคั่งของบุคคล ### จริยธรรมและความเสี่ยง การควบคุมมนุษย์ด้วย AI มีความเสี่ยงทางจริยธรรมมากมาย เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว, การบังคับใช้อำนาจ, และการสร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ดังนั้น การออกแบบและใช้งาน AI ควรคำนึงถึงหลักจริยธรรมและกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด ### สรุป AI มีศักยภาพในการควบคุมมนุษย์ผ่านหลายช่องทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม การใช้งาน AI ควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงต่อมนุษย์และสังคม
    0 Comments 0 Shares 829 Views 0 Reviews
  • การควบคุมมนุษย์ด้วย AI เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและมีประเด็นทางจริยธรรมมากมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ต่อไปนี้เป็นแนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับรูปแบบการควบคุมมนุษย์ด้วย AI:

    ### 1. **การควบคุมผ่านข้อมูล (Data Control)**
    - **การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล:** AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย, สุขภาพ, หรือการเงิน เพื่อสร้างแบบแผนพฤติกรรมของแต่ละบุคคล
    - **การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย:** ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

    ### 2. **การควบคุมผ่านการตัดสินใจ (Decision Control)**
    - **ระบบแนะนำ (Recommendation Systems):** AI สามารถแนะนำทางเลือกให้กับผู้ใช้ เช่น วิดีโอที่ควรดู, สินค้าที่ควรซื้อ, หรือแม้แต่เส้นทางที่ควรเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้
    - **ระบบอัตโนมัติ:** AI สามารถควบคุมระบบอัตโนมัติ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ, ระบบจัดการพลังงานในบ้าน, หรือแม้แต่ระบบการเงินส่วนบุคคล

    ### 3. **การควบคุมผ่านการสื่อสาร (Communication Control)**
    - **แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน:** AI สามารถใช้ในการสื่อสารกับมนุษย์ผ่านแชทบอทหรือผู้ช่วยเสมือน ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโน้มน้าวหรือชี้นำความคิดเห็นของผู้ใช้
    - **Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูล:** AI สามารถสร้างเนื้อหาปลอม เช่น วิดีโอหรือเสียง ที่ดูเหมือนจริง เพื่อโน้มน้าวหรือหลอกลวงผู้คน

    ### 4. **การควบคุมผ่านการเฝ้าระวัง (Surveillance Control)**
    - **การเฝ้าระวังด้วยกล้อง:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามพฤติกรรมของบุคคล
    - **การวิเคราะห์เสียง:** AI สามารถวิเคราะห์เสียงเพื่อตรวจจับอารมณ์หรือความตั้งใจของบุคคล

    ### 5. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางสังคม (Social Influence Control)**
    - **โซเชียลมีเดีย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และชี้นำกระแสสังคมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความนิยมหรือลดทอนความน่าเชื่อถือของข้อมูลบางอย่าง
    - **การสร้างเนื้อหา:** AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสาธารณชน เช่น ข่าวปลอมหรือบทความโน้มน้าวใจ

    ### 6. **การควบคุมผ่านระบบกฎหมายและกฎระเบียบ (Legal and Regulatory Control)**
    - **การบังคับใช้กฎหมาย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจจับการทุจริตหรือการละเมิดกฎหมาย
    - **การตัดสินใจทางกฎหมาย:** AI อาจถูกใช้ในการช่วยตัดสินใจทางกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีหรือการให้คำแนะนำทางกฎหมาย

    ### 7. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางจิตวิทยา (Psychological Influence Control)**
    - **การวิเคราะห์อารมณ์:** AI สามารถวิเคราะห์อารมณ์ของบุคคลผ่านการวิเคราะห์ข้อความ, เสียง, หรือภาพ เพื่อชี้นำหรือโน้มน้าวใจ
    - **การบำบัดด้วย AI:** AI สามารถใช้ในการบำบัดทางจิตวิทยา ซึ่งอาจส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย

    ### 8. **การควบคุมผ่านระบบการศึกษา (Educational Control)**
    - **ระบบการเรียนรู้แบบปรับตัว:** AI สามารถปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้และทักษะที่ผู้เรียนได้รับ
    - **การประเมินผล:** AI สามารถใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

    ### 9. **การควบคุมผ่านระบบสุขภาพ (Health Control)**
    - **การวินิจฉัยโรค:** AI สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของบุคคล
    - **การติดตามสุขภาพ:** AI สามารถติดตามสุขภาพของบุคคลผ่านอุปกรณ์ wearable devices และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงสุขภาพ

    ### 10. **การควบคุมผ่านระบบการเงิน (Financial Control)**
    - **การวิเคราะห์การเงิน:** AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงินและให้คำแนะนำทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินของบุคคล
    - **การจัดการพอร์ตโฟลิโอ:** AI สามารถใช้ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่งคั่งของบุคคล

    ### จริยธรรมและความเสี่ยง
    การควบคุมมนุษย์ด้วย AI มีความเสี่ยงทางจริยธรรมมากมาย เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว, การบังคับใช้อำนาจ, และการสร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ดังนั้น การออกแบบและใช้งาน AI ควรคำนึงถึงหลักจริยธรรมและกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด

    ### สรุป
    AI มีศักยภาพในการควบคุมมนุษย์ผ่านหลายช่องทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม การใช้งาน AI ควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงต่อมนุษย์และสังคม
    การควบคุมมนุษย์ด้วย AI เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและมีประเด็นทางจริยธรรมมากมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ต่อไปนี้เป็นแนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับรูปแบบการควบคุมมนุษย์ด้วย AI: ### 1. **การควบคุมผ่านข้อมูล (Data Control)** - **การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล:** AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย, สุขภาพ, หรือการเงิน เพื่อสร้างแบบแผนพฤติกรรมของแต่ละบุคคล - **การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย:** ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ### 2. **การควบคุมผ่านการตัดสินใจ (Decision Control)** - **ระบบแนะนำ (Recommendation Systems):** AI สามารถแนะนำทางเลือกให้กับผู้ใช้ เช่น วิดีโอที่ควรดู, สินค้าที่ควรซื้อ, หรือแม้แต่เส้นทางที่ควรเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้ - **ระบบอัตโนมัติ:** AI สามารถควบคุมระบบอัตโนมัติ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ, ระบบจัดการพลังงานในบ้าน, หรือแม้แต่ระบบการเงินส่วนบุคคล ### 3. **การควบคุมผ่านการสื่อสาร (Communication Control)** - **แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน:** AI สามารถใช้ในการสื่อสารกับมนุษย์ผ่านแชทบอทหรือผู้ช่วยเสมือน ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโน้มน้าวหรือชี้นำความคิดเห็นของผู้ใช้ - **Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูล:** AI สามารถสร้างเนื้อหาปลอม เช่น วิดีโอหรือเสียง ที่ดูเหมือนจริง เพื่อโน้มน้าวหรือหลอกลวงผู้คน ### 4. **การควบคุมผ่านการเฝ้าระวัง (Surveillance Control)** - **การเฝ้าระวังด้วยกล้อง:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามพฤติกรรมของบุคคล - **การวิเคราะห์เสียง:** AI สามารถวิเคราะห์เสียงเพื่อตรวจจับอารมณ์หรือความตั้งใจของบุคคล ### 5. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางสังคม (Social Influence Control)** - **โซเชียลมีเดีย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และชี้นำกระแสสังคมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความนิยมหรือลดทอนความน่าเชื่อถือของข้อมูลบางอย่าง - **การสร้างเนื้อหา:** AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสาธารณชน เช่น ข่าวปลอมหรือบทความโน้มน้าวใจ ### 6. **การควบคุมผ่านระบบกฎหมายและกฎระเบียบ (Legal and Regulatory Control)** - **การบังคับใช้กฎหมาย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจจับการทุจริตหรือการละเมิดกฎหมาย - **การตัดสินใจทางกฎหมาย:** AI อาจถูกใช้ในการช่วยตัดสินใจทางกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีหรือการให้คำแนะนำทางกฎหมาย ### 7. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางจิตวิทยา (Psychological Influence Control)** - **การวิเคราะห์อารมณ์:** AI สามารถวิเคราะห์อารมณ์ของบุคคลผ่านการวิเคราะห์ข้อความ, เสียง, หรือภาพ เพื่อชี้นำหรือโน้มน้าวใจ - **การบำบัดด้วย AI:** AI สามารถใช้ในการบำบัดทางจิตวิทยา ซึ่งอาจส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย ### 8. **การควบคุมผ่านระบบการศึกษา (Educational Control)** - **ระบบการเรียนรู้แบบปรับตัว:** AI สามารถปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้และทักษะที่ผู้เรียนได้รับ - **การประเมินผล:** AI สามารถใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ### 9. **การควบคุมผ่านระบบสุขภาพ (Health Control)** - **การวินิจฉัยโรค:** AI สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของบุคคล - **การติดตามสุขภาพ:** AI สามารถติดตามสุขภาพของบุคคลผ่านอุปกรณ์ wearable devices และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงสุขภาพ ### 10. **การควบคุมผ่านระบบการเงิน (Financial Control)** - **การวิเคราะห์การเงิน:** AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงินและให้คำแนะนำทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินของบุคคล - **การจัดการพอร์ตโฟลิโอ:** AI สามารถใช้ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่งคั่งของบุคคล ### จริยธรรมและความเสี่ยง การควบคุมมนุษย์ด้วย AI มีความเสี่ยงทางจริยธรรมมากมาย เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว, การบังคับใช้อำนาจ, และการสร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ดังนั้น การออกแบบและใช้งาน AI ควรคำนึงถึงหลักจริยธรรมและกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด ### สรุป AI มีศักยภาพในการควบคุมมนุษย์ผ่านหลายช่องทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม การใช้งาน AI ควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงต่อมนุษย์และสังคม
    0 Comments 0 Shares 860 Views 0 Reviews
  • 6 ขั้นตอนจัดการการเงินส่วนบุคคล
    6 ขั้นตอนจัดการการเงินส่วนบุคคล
    0 Comments 0 Shares 290 Views 3 1 Reviews
  • 9 ตัววัดผลความก้าวหน้าทางการเงินส่วนบุคคล
    9 ตัววัดผลความก้าวหน้าทางการเงินส่วนบุคคล
    0 Comments 0 Shares 233 Views 24 0 Reviews