• รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยสำนักงานคดีพิเศษ สั่งฟ้องทนายตั้ม ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ทั้งสำนวนทำผิดในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้งภรรยา พี่สาว และพวก รวมทั้งพนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมขอศาลสั่งให้กลุ่มผู้ต้องหาชดใช้เงินคุณอ้อย ทั้งแอปฯ หวยออนไลน์ ส่วนต่างรถเบนซ์ และสแกมเมอร์ทิพย์ รวม 111 ล้านบาท
    .
    วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 และได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้ สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่ง ได้แก่ สำนวนที่ 1 (สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร กรณีการออกแบบโรงแรม) ที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สารวัตร กก.3 บก.ป. ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยานายษิทรา พนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 และสั่งฟ้อง น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60
    .
    สำนวนที่ 2 น.ส.จตุพร กับพวกรวม 4 คน ผู้กล่าวหา นายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยานายษิทรา, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ กับ น.ส.สารินี นุชนารถ สองสามีภรรยากรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ, น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยานายษิทรา, น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล และ น.ส.วมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ พนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ. 2566 ถึงวันที่ 6 ก.พ. 2567 ในหลายท้องที่ในราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวพันกัน สำนวนคดีนี้เป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอัยการสูงสุด มีคำสั่งดังนี้
    .
    1. สั่งฟ้องนายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกงโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 83, 84, 91, 137, 173, 264, 265, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60, 
    .
    2. สั่งฟ้องนางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60  
    .
    3. สั่งฟ้องนายนุวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 3 และ น.ส.สารินี ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 137, 173, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,        
    .
    4. สั่งฟ้อง น.ส.แก้วสวรรค์ ผู้ต้องหาที่ 6 และ น.ส.มนันพัทธ์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 265 
    .
    5. ขอศาลสั่งให้นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน จำนวน 72,597,764.70 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และกรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400 และขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินอีก จำนวน 39,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009738
    .........
    Sondhi X
    รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยสำนักงานคดีพิเศษ สั่งฟ้องทนายตั้ม ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ทั้งสำนวนทำผิดในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้งภรรยา พี่สาว และพวก รวมทั้งพนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมขอศาลสั่งให้กลุ่มผู้ต้องหาชดใช้เงินคุณอ้อย ทั้งแอปฯ หวยออนไลน์ ส่วนต่างรถเบนซ์ และสแกมเมอร์ทิพย์ รวม 111 ล้านบาท . วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 และได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้ สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่ง ได้แก่ สำนวนที่ 1 (สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร กรณีการออกแบบโรงแรม) ที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สารวัตร กก.3 บก.ป. ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยานายษิทรา พนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 และสั่งฟ้อง น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 . สำนวนที่ 2 น.ส.จตุพร กับพวกรวม 4 คน ผู้กล่าวหา นายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยานายษิทรา, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ กับ น.ส.สารินี นุชนารถ สองสามีภรรยากรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ, น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยานายษิทรา, น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล และ น.ส.วมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ พนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ. 2566 ถึงวันที่ 6 ก.พ. 2567 ในหลายท้องที่ในราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวพันกัน สำนวนคดีนี้เป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอัยการสูงสุด มีคำสั่งดังนี้ . 1. สั่งฟ้องนายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกงโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 83, 84, 91, 137, 173, 264, 265, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,  . 2. สั่งฟ้องนางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60   . 3. สั่งฟ้องนายนุวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 3 และ น.ส.สารินี ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 137, 173, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,         . 4. สั่งฟ้อง น.ส.แก้วสวรรค์ ผู้ต้องหาที่ 6 และ น.ส.มนันพัทธ์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 265  . 5. ขอศาลสั่งให้นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน จำนวน 72,597,764.70 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และกรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400 และขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินอีก จำนวน 39,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009738 ......... Sondhi X
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองปราบนำทีมบุกค้นห้องเช่าในพื้นที่บ้านด่านนอกชายแดนไทย-มาเลเซีย ติดตั้งซิมบ๊อกซ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้โทรฯ หลอกเหยื่อ ยึดซิมบ๊อกซ์ 2 เครื่องและเราเตอร์ ขยายผลมาจากเหยื่อที่ถูกโทรฯ หลอกเสียเงินไป 2 ล้านบาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000007975

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองปราบนำทีมบุกค้นห้องเช่าในพื้นที่บ้านด่านนอกชายแดนไทย-มาเลเซีย ติดตั้งซิมบ๊อกซ์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้โทรฯ หลอกเหยื่อ ยึดซิมบ๊อกซ์ 2 เครื่องและเราเตอร์ ขยายผลมาจากเหยื่อที่ถูกโทรฯ หลอกเสียเงินไป 2 ล้านบาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000007975 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 986 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจกองปราบบุกรวบ "เจ๊ตุ้ม" นายหน้าค้าอาวุธสงครามให้กองทัพกะเหรี่ยงชายแดนตาก พบรับซื้อปืน M 16 ที่ถูกตำรวจนอกรีตขโมยมาจากคลัง ตชด.จำนวน 43 กระบอก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005532

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจกองปราบบุกรวบ "เจ๊ตุ้ม" นายหน้าค้าอาวุธสงครามให้กองทัพกะเหรี่ยงชายแดนตาก พบรับซื้อปืน M 16 ที่ถูกตำรวจนอกรีตขโมยมาจากคลัง ตชด.จำนวน 43 กระบอก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005532 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 994 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองปราบ ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน พี่อ้อย 17/01/68 #กองปราบ #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน #พี่อ้อย
    กองปราบ ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน พี่อ้อย 17/01/68 #กองปราบ #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน #พี่อ้อย
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1041 มุมมอง 51 0 รีวิว
  • ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง
    .
    กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต
    .
    วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา
    .
    พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน
    .
    โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว
    .
    ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป
    .
    ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180
    .........
    Sondhi X
    ส่งสำนวน "ทนายตั้ม-พวก" ฉ้อโกง-ฟอกเงิน 4 คดีให้อัยการแล้ว เคาะสั่งฟ้องต่อศาลก่อนครบฝากขัง . กองปราบฯ ส่งสำนวนคดีทนายตั้มร่วมฉ้อโกง-ฟอกเงิน ให้อัยการพิเศษสั่งฟ้องต่อศาลก่อนสิ้นเดือนนี้ ครบกำหนดฝากขัง 30 ม.ค.นี้ พบมีผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 คน เป็นพนักงานโชว์รูมปลอมเอกสาร ส่วนคดีพินัยกรรมยังไม่พบทุจริต . วันนี้ (17 ม.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชเาภิเษก พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ นามพุทธา ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พร้อมคณะพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนการสอบสวนที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย ผู้เสียหายได้กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม อายุ 44 ปี กับพวกรวม 7 คน คดีร่วมกันฉ้อโกง และฟอกเงิน มีสำนวนรวม 9,317 แผ่น พร้อมความเห็นทางสมควรสั่งฟ้องนายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด อายุ 41 ปี ภรรยาทนายตั้ม, น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ หรือนุ อายุ 34 ปี คนสนิททนายตั้ม, น.ส.สารินี นุชนารถ อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ และพนักงานของโชว์รูมรถยนต์ 2 คน ที่ร่วมมือกับทนายตั้มในการปลอมแปลงเอกสาร รวมผู้ต้องหา 7 คน ในคดีฉ้อโกง, ร่วมกันฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน ไปมอบให้นายณัฐพงษ์ พุฒแก้ว รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีพิเศษ เป็นผู้รับสำนวนการสอบสวนไว้พิจารณา . พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า สำนวนคดีทนายตั้มแบ่งเป็น 2 สำนวน คือ สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร และกระทำผิดนอกราชอาณาจักร โดยการกระทำผิดนอกราชอาณาจักรมี 3 เรื่อง คือ ฉ้อโกงเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสลากออนไลน์ ความเสียหาย 71 ล้านบาทเศษ, คดีกระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ ความเสียหาย 39 ล้านบาทเศษ และสำนวนคดีซื้อรถเบนซ์ จี 400 เพื่อรับประโยชน์จากเงินส่วนต่าง จำนวน 1,530,000 บาท ส่วนการกระทำผิดในราชอาณาจักร คดีการออกแบบโรงแรม ได้ส่วนต่าง 5,500,000 บาท สำหรับการส่งสำนวน 4 เรื่อง มีผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คนที่ร่วมกับทนายตั้มทำการฉ้อโกง ฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน . โดยวันนี้มีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดในการปลอมเอกสารที่จะต้องเข้ามาพบกับพนักงานอัยการ โดยมีการแจ้งความเพิ่มมา 2 คน เป็นการปลอมเอกสารเกี่ยวกับการซื้อรถเบนซ์ โดยผู้ต้องหาทั้งสองกระทำผิดในส่วนของการปลอมใบเสร็จการซื้อรถเบนซ์ แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวน ไม่ขอเปิดเผย ส่วน น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยาของทนายตั้ม ที่ได้รับการประกันตัวอยู่ในอำนาจการควบคุมของศาล จึงไม่ได้ส่งตัววันนี้ ที่ผ่านมาทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนตามที่ทนายตั้มได้ร้องขอให้มีการสอบสวนในพยานหลักฐานเพิ่มเติม ถือว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมแก่ตัวผู้ต้องหาแล้ว . ส่วนคดีพินัยกรรม พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปรากฎข้อเท็จจริงว่ามีการทุจริตเข้ามา แต่ถ้าการสืบสวนพบว่ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำความผิด ก็จะสอบสวนต่อไป . ด้านนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หลังจากการรับมอบสำนวนแล้ว ทางพนักงานอัยการจะส่งมอบให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่าย 1 ไปพิจารณาเพื่อตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาให้เสร็จภายในระยะเวลาฝากขังผัดสุดท้าย วันที่ 30 ม.ค.นี้ สำหรับคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรนั้น เมื่อผลการพิจารณาเสร็จสิ้นแล้วจะต้องส่งให้ทางอัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาอีกครั้งหนึ่งตามขั้นตอนของกฎหมาย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000005180 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1384 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก

    วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี คณะทำงานอัยการเเละพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม ร่วมสอบสวนคดี นอกราชอาณาจักร ในคดีที่ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฉ้อโกงฯร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

    โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงานคดีนอกราชอาณาจักร

    โดยวันนี้ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีพร้อมด้วย น.ส.ปัทมพร แสงฤทธิ์ หรือคุณน้อย เลขานุการส่วนตัวเดินทางมาตามนัดสอบสวนเพิ่มเติม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001772

    #MGROnline #เจ๊อ้อย #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #ฟอกเงิน
    ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก • วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี คณะทำงานอัยการเเละพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม ร่วมสอบสวนคดี นอกราชอาณาจักร ในคดีที่ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฉ้อโกงฯร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง • โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงานคดีนอกราชอาณาจักร • โดยวันนี้ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีพร้อมด้วย น.ส.ปัทมพร แสงฤทธิ์ หรือคุณน้อย เลขานุการส่วนตัวเดินทางมาตามนัดสอบสวนเพิ่มเติม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001772 • #MGROnline #เจ๊อ้อย #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #ฟอกเงิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองปราบเรียก "สจ.จอย" สอบยิบปมสังหาร "สจ.โต้ง" เชื่อรู้ข้อมูลขัดแย้งกับ"โกทร"มากที่สุด เผยอยากให้ผู้เกี่ยวข้องรับโทษทั้งหมด ทนายปัด สจ.โต้งเอี่ยวเว็บพนัน เตรียมพิจารณาดำเนินคดีคนปล่อยข่าว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000407

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กองปราบเรียก "สจ.จอย" สอบยิบปมสังหาร "สจ.โต้ง" เชื่อรู้ข้อมูลขัดแย้งกับ"โกทร"มากที่สุด เผยอยากให้ผู้เกี่ยวข้องรับโทษทั้งหมด ทนายปัด สจ.โต้งเอี่ยวเว็บพนัน เตรียมพิจารณาดำเนินคดีคนปล่อยข่าว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000000407 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1622 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองปราบเรียก "สจ.จอย" สอบยิบปมสังหาร "สจ.โต้ง" เชื่อรู้ข้อมูลขัดแย้งกับ"โกทร"มากที่สุด เผยอยากให้ผู้เกี่ยวข้องรับโทษทั้งหมด ทนายปัด สจ.โต้งเอี่ยวเว็บพนัน เตรียมพิจารณาดำเนินคดีคนปล่อยข่าว

    วันนี้ ( 2 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม น.ส.ภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทรพร้อมด้วยนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งแรกภายหลังจากมีการโอนคดีมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปราม นอกจากนี้ทาง สจ.จอย ยังถือเป็นพยานปากสำคัญที่รู้ถึงความสัมพันธ์ และข้อขัดแย้งระหว่างผู้ตายและนายสุนทร ผู้ต้องหามากที่สุดอีกด้วย

    นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังจากกองปราบปรามรับโอนคดีมาแล้วก็น่าจะมีการตรวจสอบความเรียบร้อยของสำนวนไปบ้างแล้ว ซึ่งน่าจะพบว่ามีประเด็นไหนบ้างที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติม จึงทำให้ต้องเรียกตัว สจ.จอย มาสอบปากคำเพิ่ม ส่วนประเด็นที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมนั้นตนมองว่าเป็นเพราะ สจ.จอย มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ สจ.โต้ง เนื่องจากเป็นภรรยา ก็น่าจะรู้รายละเอียด ข้อมูลในคดีมากกว่าคนอื่น ส่วนประเด็นการสอบสวนยังไม่ได้คุยรายละเอียด แต่หลัก ๆ ก็น่าจะมาจากรูปคดีทั้งหมดว่า มีอะไรเป็นเหตุจูงใจในการฆ่าหรือรู้เห็นในส่วนของการตายของ สจ.โต้ง เรื่องใดบ้าง ก็ต้องดูว่าทางตำรวจติดใจในประเด็นไหนเพิ่มบ้าง หรือมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มหรือไม่ ก็ต้องรอให้กองปราบปรามสรุปคดีให้ชัดเจนก่อน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9680000000407

    #MGROnline #สจจอย #สจโต้ง #โกทร
    กองปราบเรียก "สจ.จอย" สอบยิบปมสังหาร "สจ.โต้ง" เชื่อรู้ข้อมูลขัดแย้งกับ"โกทร"มากที่สุด เผยอยากให้ผู้เกี่ยวข้องรับโทษทั้งหมด ทนายปัด สจ.โต้งเอี่ยวเว็บพนัน เตรียมพิจารณาดำเนินคดีคนปล่อยข่าว • วันนี้ ( 2 ม.ค.) ที่ กองปราบปราม น.ส.ภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของนายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ที่ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพักของนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทรพร้อมด้วยนายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป.เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งแรกภายหลังจากมีการโอนคดีมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบปราม นอกจากนี้ทาง สจ.จอย ยังถือเป็นพยานปากสำคัญที่รู้ถึงความสัมพันธ์ และข้อขัดแย้งระหว่างผู้ตายและนายสุนทร ผู้ต้องหามากที่สุดอีกด้วย • นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า ภายหลังจากกองปราบปรามรับโอนคดีมาแล้วก็น่าจะมีการตรวจสอบความเรียบร้อยของสำนวนไปบ้างแล้ว ซึ่งน่าจะพบว่ามีประเด็นไหนบ้างที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติม จึงทำให้ต้องเรียกตัว สจ.จอย มาสอบปากคำเพิ่ม ส่วนประเด็นที่จะต้องสอบปากคำเพิ่มเติมนั้นตนมองว่าเป็นเพราะ สจ.จอย มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ สจ.โต้ง เนื่องจากเป็นภรรยา ก็น่าจะรู้รายละเอียด ข้อมูลในคดีมากกว่าคนอื่น ส่วนประเด็นการสอบสวนยังไม่ได้คุยรายละเอียด แต่หลัก ๆ ก็น่าจะมาจากรูปคดีทั้งหมดว่า มีอะไรเป็นเหตุจูงใจในการฆ่าหรือรู้เห็นในส่วนของการตายของ สจ.โต้ง เรื่องใดบ้าง ก็ต้องดูว่าทางตำรวจติดใจในประเด็นไหนเพิ่มบ้าง หรือมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มหรือไม่ ก็ต้องรอให้กองปราบปรามสรุปคดีให้ชัดเจนก่อน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000000407 • #MGROnline #สจจอย #สจโต้ง #โกทร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร. เผยสั่งการกองปราบฯ ขยายผลคดียิง "สจ.โต้ง" ให้ถึงที่สุด ส่ง "รองฯ จวบ-ผู้ช่วย อ้อ" รับนโยบายนายกฯ ลุยปราบผู้มีอิทธิพล

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000124864

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร. เผยสั่งการกองปราบฯ ขยายผลคดียิง "สจ.โต้ง" ให้ถึงที่สุด ส่ง "รองฯ จวบ-ผู้ช่วย อ้อ" รับนโยบายนายกฯ ลุยปราบผู้มีอิทธิพล อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000124864 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1188 มุมมอง 0 รีวิว
  • บช.ก.ร่วมอัยการประชุมคดี "ทนายตั้ม"โกง "พี่อ้อย" นัดแรก หารืออุดช่องโหว่ปิดทางไม่ให้ผู้ต้องหาดิ้นหลุด ตั้งกรอบเวลาสรุปสำนวนภายใน 6 ม.ค.นี้ ก่อนส่งอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดี

    วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน ร่วมกับนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รอง อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ประชุมคดี นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ พี่อ้อย เพื่อร่วมกันทำสำนวนคดีเป็นนัดแรก เนื่องจากมีการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาและเล็งเห็นว่าพฤติการณ์ของทนายตั้ม เข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ทำให้ต้องมีคณะทำงานของอัยการร่วมสอบสวน

    นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า จากการตรวจดูสำนวน พิจารณาพยานหลักฐานที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สอบสวนไปแล้วทั้งหมดพบว่ามีความละเอียดเรียบร้อยดี แต่ในความเห็นของอัยการก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนเกิดความสมบูรณ์ รัดกุม และไม่เป็นช่องโหว่ให้ผู้ต้องหานำมาเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลได้ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องมีการเรียก คุณอ้อย และ คุณน้อย เลขาคนสนิท รวมถึงพยานบางส่วนมาสอบปากคำเพิ่มเติม

    นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า กระบวนการทำสำนวนทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จประมาณวันที่ 6 มกราคม ซึ่งเป็นช่วงขึ้นฝากขังผัดที่ 6 ของผู้ต้องหา และสำนวนจะต้องถูกส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้สั่งคดีแต่เพียงผู้เดียว และสุดท้ายหากพบความผิดข้อหาอื่น ๆ ก็จะต้องมีการแจ้งข้อหากับทนายตั้มและผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมในเรือนจำ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000122919

    #MGROnline #ทนายตั้ม #พี่อ้อย
    บช.ก.ร่วมอัยการประชุมคดี "ทนายตั้ม"โกง "พี่อ้อย" นัดแรก หารืออุดช่องโหว่ปิดทางไม่ให้ผู้ต้องหาดิ้นหลุด ตั้งกรอบเวลาสรุปสำนวนภายใน 6 ม.ค.นี้ ก่อนส่งอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดี • วันนี้ (23 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. มนตรี เทศขัน ผบก.ป.พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวน ร่วมกับนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รอง อธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ประชุมคดี นาย ษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ พี่อ้อย เพื่อร่วมกันทำสำนวนคดีเป็นนัดแรก เนื่องจากมีการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณาและเล็งเห็นว่าพฤติการณ์ของทนายตั้ม เข้าข่ายเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ทำให้ต้องมีคณะทำงานของอัยการร่วมสอบสวน • นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า จากการตรวจดูสำนวน พิจารณาพยานหลักฐานที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สอบสวนไปแล้วทั้งหมดพบว่ามีความละเอียดเรียบร้อยดี แต่ในความเห็นของอัยการก็ยังมีอีกหลายประเด็นที่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อให้สำนวนเกิดความสมบูรณ์ รัดกุม และไม่เป็นช่องโหว่ให้ผู้ต้องหานำมาเป็นข้อต่อสู้ในชั้นศาลได้ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องมีการเรียก คุณอ้อย และ คุณน้อย เลขาคนสนิท รวมถึงพยานบางส่วนมาสอบปากคำเพิ่มเติม • นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า กระบวนการทำสำนวนทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จประมาณวันที่ 6 มกราคม ซึ่งเป็นช่วงขึ้นฝากขังผัดที่ 6 ของผู้ต้องหา และสำนวนจะต้องถูกส่งให้อัยการสูงสุดเป็นผู้สั่งคดีแต่เพียงผู้เดียว และสุดท้ายหากพบความผิดข้อหาอื่น ๆ ก็จะต้องมีการแจ้งข้อหากับทนายตั้มและผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมในเรือนจำ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000122919 • #MGROnline #ทนายตั้ม #พี่อ้อย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจกองปราบบุกค้นออฟฟิศลับ“โกทร” ในปราจีนบุรี หาหลักฐานสำคัญเพิ่มเติม คดีร่วมกันฆ่า “สจ.โต้ง” พบพิรุธดึงปลั๊กกล้องวงจรปิด 3 ตัวออก - รอง ผบช.ก.เผย เตรียมหารือย้ายผู้ต้องหามาฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อย่างเร่งด่วนหรือไม่

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122711

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจกองปราบบุกค้นออฟฟิศลับ“โกทร” ในปราจีนบุรี หาหลักฐานสำคัญเพิ่มเติม คดีร่วมกันฆ่า “สจ.โต้ง” พบพิรุธดึงปลั๊กกล้องวงจรปิด 3 ตัวออก - รอง ผบช.ก.เผย เตรียมหารือย้ายผู้ต้องหามาฝากขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อย่างเร่งด่วนหรือไม่ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122711 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1009 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอง ผบช.ก.เผยผลตรวจสอบ "สจ.โต้ง-โกทร"ไม่ใช่พ่อลูกกันจริง ส่ง รอง เอนกรับสำนวนเข้ากองปราบปรามเย็นนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122195

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รอง ผบช.ก.เผยผลตรวจสอบ "สจ.โต้ง-โกทร"ไม่ใช่พ่อลูกกันจริง ส่ง รอง เอนกรับสำนวนเข้ากองปราบปรามเย็นนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122195 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 860 มุมมอง 0 รีวิว
  • รักษาการ ผบช.ภ.2 ส่งมอบสำนวนคดี สจ.โต้งให้กองปราบ ยืนยัน "รองอุ๊" ยังไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องในคดีและผู้ต้องทางคดียังไม่มีเพิ่มเติม เผยที่ผ่านมาตำรวจทำงานเต็มที่แต่คดีมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลกว้างขวางในพื้นที่ กองปราบ จึงเป็นหน่วยงานกลางที่เหมาะทำคดีต่อ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121939

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รักษาการ ผบช.ภ.2 ส่งมอบสำนวนคดี สจ.โต้งให้กองปราบ ยืนยัน "รองอุ๊" ยังไม่ใช่ผู้เกี่ยวข้องในคดีและผู้ต้องทางคดียังไม่มีเพิ่มเติม เผยที่ผ่านมาตำรวจทำงานเต็มที่แต่คดีมีความเกี่ยวข้องกับบุคคลกว้างขวางในพื้นที่ กองปราบ จึงเป็นหน่วยงานกลางที่เหมาะทำคดีต่อ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121939 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 949 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจกองปราบเร่งตรวจสอบความสัมพันธ์ "โกทร-ส.จ.โต้ง" หลังพยานเผยอาจเป็นพ่อลูกในไส้กัน เชื่อโกทรมีส่วนรู้เห็นกับการตายอย่างแน่นอน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121945

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจกองปราบเร่งตรวจสอบความสัมพันธ์ "โกทร-ส.จ.โต้ง" หลังพยานเผยอาจเป็นพ่อลูกในไส้กัน เชื่อโกทรมีส่วนรู้เห็นกับการตายอย่างแน่นอน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121945 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Yay
    Wow
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 934 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนาย "พี่อ้อย" พบกองปราบให้การเพิ่มเติมพร้อมเซ็นรับรองเอกสาร ยันฝ่ายผู้เสียหายทำใจแล้วกรณี ป.ป.ง.ตามยึดทรัพย์ "ทนายตั้ม" คืนได้แค่ 71 ล้าน จากยอดที่โกง 120 ล้าน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121868

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทนาย "พี่อ้อย" พบกองปราบให้การเพิ่มเติมพร้อมเซ็นรับรองเอกสาร ยันฝ่ายผู้เสียหายทำใจแล้วกรณี ป.ป.ง.ตามยึดทรัพย์ "ทนายตั้ม" คืนได้แค่ 71 ล้าน จากยอดที่โกง 120 ล้าน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121868 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 958 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร.ปัดมีใบสั่งการเมืองตั้งธงเอาผิด คดียิง สจ.โต้ง แม้พ่อ รรท.ผบช.ภ.2 เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนละขั้ว สจ.โต้ง สั่งสอบตำรวจรับใช้นักการเมืองท้องถิ่น ชี้ ผลตรวจเขม่าดินปืนมีประโยชน์ต่อรูปคดีส่งให้กองปราบฯ พร้อมสำนวนแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121848

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร.ปัดมีใบสั่งการเมืองตั้งธงเอาผิด คดียิง สจ.โต้ง แม้พ่อ รรท.ผบช.ภ.2 เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนละขั้ว สจ.โต้ง สั่งสอบตำรวจรับใช้นักการเมืองท้องถิ่น ชี้ ผลตรวจเขม่าดินปืนมีประโยชน์ต่อรูปคดีส่งให้กองปราบฯ พร้อมสำนวนแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121848 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 963 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร. อนุมัติโอนสำนวนคดี "สจ.โต้ง" ให้กองปราบแล้ว เตรียมเสนอ ผบช.ก.ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121504

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร. อนุมัติโอนสำนวนคดี "สจ.โต้ง" ให้กองปราบแล้ว เตรียมเสนอ ผบช.ก.ตั้งคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121504 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Haha
    15
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 750 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ตร.คาดมีการโอนสำนวนคดียิง "สจ.โต้ง" มากองปราบเร็วๆ นี้ เตรียมเดินหน้าใช้ปราจีนบุรีโมเดล กวาดล้างผู้มีอิทธิพล บ้านเล็ก-บ้านใหญ่ ยอมไม่ได้เลี้ยงมือปืนไว้กระทำผิด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121168

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร.คาดมีการโอนสำนวนคดียิง "สจ.โต้ง" มากองปราบเร็วๆ นี้ เตรียมเดินหน้าใช้ปราจีนบุรีโมเดล กวาดล้างผู้มีอิทธิพล บ้านเล็ก-บ้านใหญ่ ยอมไม่ได้เลี้ยงมือปืนไว้กระทำผิด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121168 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 863 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สจ.จอย" ได้มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.ขอความเป็นธรรมและให้โอนคดียิง "สจ.โต้ง" มาให้กองปราบรับผิดชอบ เผยหลังยื่นกองปรายเมื่อ 13 ธงค.จนขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาล่าสุดเปลี่ยนใจไม่ถอนตัวจากศึก อบจ.แล้ว หวังทำความฝันของสามีให้สำเร็จ

    วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความส่วนตัวของ สจ.จอย ได้เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและขอให้โอนย้ายคดีมาที่กองบังคับการปราบปรามกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยเจ้าตัวเผยว่าเนื่องจาก ผบ.ตร. เป็นผู้บังคับการสูงสุดของตำรวจ จึงได้ทำหนังสือฉบับเดียวกันกับที่ยื่นให้กองปราบมาถึง ผบ.ตร. อีกฉบับ

    นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากยื่นหนังสือไปที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาว่าสำนวนคดีได้ถูกย้ายมาในความรับผิดชอบของกองปราบ ทำให้ทาง สจ.จอย มีความกังวล เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ปรึกษากับตนว่าควรทำยังไงต่อดี ตนเลยแนะนำว่าให้มายื่นหนังสืออีกรอบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สจ.จอย จึงได้มอบอำนาจให้ตนมาแทน เนื่องจาก สจ.จอย ต้องจัดการเรื่องงานศพ สจ.โต้ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีพิธีใหญ่ในการเก็บร่างไว้ไม่ได้ฌาปนกิจตามกำหนดการเดิม

    ในส่วนของการลงเล่นการเมือง ในวันพรุ่งนี้ทาง สจ.จอย จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ หลังเสร็จสิ้นพิธีเก็บร่าง ซึ่งจากการพูดคุยกับทนายความจับสัญญาณได้ว่าจะไม่ถอนตัวแล้ว เพราะอยากทำตามความฝันของผู้เป็นสามีให้สำเร็จ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000120544

    #MGROnline #สจโต้ง
    "สจ.จอย" ได้มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.ขอความเป็นธรรมและให้โอนคดียิง "สจ.โต้ง" มาให้กองปราบรับผิดชอบ เผยหลังยื่นกองปรายเมื่อ 13 ธงค.จนขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาล่าสุดเปลี่ยนใจไม่ถอนตัวจากศึก อบจ.แล้ว หวังทำความฝันของสามีให้สำเร็จ • วันนี้ (16 ธ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความส่วนตัวของ สจ.จอย ได้เดินทางมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมและขอให้โอนย้ายคดีมาที่กองบังคับการปราบปรามกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) โดยเจ้าตัวเผยว่าเนื่องจาก ผบ.ตร. เป็นผู้บังคับการสูงสุดของตำรวจ จึงได้ทำหนังสือฉบับเดียวกันกับที่ยื่นให้กองปราบมาถึง ผบ.ตร. อีกฉบับ • นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า หลังจากยื่นหนังสือไปที่กองบังคับการปราบปราม เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับมาว่าสำนวนคดีได้ถูกย้ายมาในความรับผิดชอบของกองปราบ ทำให้ทาง สจ.จอย มีความกังวล เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ปรึกษากับตนว่าควรทำยังไงต่อดี ตนเลยแนะนำว่าให้มายื่นหนังสืออีกรอบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สจ.จอย จึงได้มอบอำนาจให้ตนมาแทน เนื่องจาก สจ.จอย ต้องจัดการเรื่องงานศพ สจ.โต้ง ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะมีพิธีใหญ่ในการเก็บร่างไว้ไม่ได้ฌาปนกิจตามกำหนดการเดิม • ในส่วนของการลงเล่นการเมือง ในวันพรุ่งนี้ทาง สจ.จอย จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ หลังเสร็จสิ้นพิธีเก็บร่าง ซึ่งจากการพูดคุยกับทนายความจับสัญญาณได้ว่าจะไม่ถอนตัวแล้ว เพราะอยากทำตามความฝันของผู้เป็นสามีให้สำเร็จ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000120544 • #MGROnline #สจโต้ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 345 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สจ.จอย" ได้มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.โอนคดียิง "สจ.โต้ง" ให้กองปราบรับผิดชอบ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120544

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "สจ.จอย" ได้มอบอำนาจให้ทนายความส่วนตัว ยื่นหนังสือ ผบ.ตร.โอนคดียิง "สจ.โต้ง" ให้กองปราบรับผิดชอบ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120544 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 712 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจกองปราบบุกรวบแก๊งเงินกู้ดอกโหด “โต๊ะแฟลช & ฟลุ๊ค”คากระทรวงวัฒนธรรม สุดเหิมข่มขู่-ทำร้ายลูกหนี้ผิดนัดชำระ ซ้ำประกาศศักดาไม่เกรงกลัวตำรวจ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120340

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตำรวจกองปราบบุกรวบแก๊งเงินกู้ดอกโหด “โต๊ะแฟลช & ฟลุ๊ค”คากระทรวงวัฒนธรรม สุดเหิมข่มขู่-ทำร้ายลูกหนี้ผิดนัดชำระ ซ้ำประกาศศักดาไม่เกรงกลัวตำรวจ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000120340 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 825 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ตร.เผย ผบ.ตร. สั่งทำคดียิง "สจ.โต้ง" ตรงไปตรงมา เด็ดขาด ยุติธรรม เตรียมพิจารณากรณี "สจ.จอย" ภรรยาร้องขอโอนสำนวนให้กองปราบ - สั่งสอบตำรวจพื้นที่ทำตัวเป็นลูกสมุนนักการเมือง-ผู้มีอิทธิพล หากพบไม่เหมาะสม ฟันวินัยและอาญาไม่มีละเว้น

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000119832

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    โฆษก ตร.เผย ผบ.ตร. สั่งทำคดียิง "สจ.โต้ง" ตรงไปตรงมา เด็ดขาด ยุติธรรม เตรียมพิจารณากรณี "สจ.จอย" ภรรยาร้องขอโอนสำนวนให้กองปราบ - สั่งสอบตำรวจพื้นที่ทำตัวเป็นลูกสมุนนักการเมือง-ผู้มีอิทธิพล หากพบไม่เหมาะสม ฟันวินัยและอาญาไม่มีละเว้น อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000119832 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1103 มุมมอง 1 รีวิว
  • "อัจฉริยะ" พาเมีย "ส.จ.โต้ง" ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดีคลี่ปมการตาย พร้อมขอกำลังคุ้มครองพยาน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อ "โกทร" อยู่เบื้องหลังบงการฆ่า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000119808

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "อัจฉริยะ" พาเมีย "ส.จ.โต้ง" ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดีคลี่ปมการตาย พร้อมขอกำลังคุ้มครองพยาน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อ "โกทร" อยู่เบื้องหลังบงการฆ่า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000119808 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Wow
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1101 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อัจฉริยะ" เมีย "ส.จ.โต้ง" ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดีคลี่ปมการตาย พร้อมขอกำลังคุ้มครองพยาน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อ "โกทร" อยู่เบื้องหลังบงการฆ่า

    วันนี้ (13 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมนหรือ ส.จ.จอย ภรรยา นาย​ชัยเมศร์​ สิทธิสนิทพงศ์​ หรือ ส.จ.โต้งที่ถูกยิงเสียชีวิต และ บุตรชาย พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือ ทนายเอี้ยง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอให้รับโอนสำนวนคดีการเสียชีวิตของ นายชัยเมศร์ หรือ ส.จ.โต้ง ที่ถูกยิงตายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี มาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบปรามเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี

    นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า อดีตตนเคยเป็นทนายความให้กับ ส.จ.โต้ง หลังเกิดเหตุ น.ส.ณภาภัช หรือ ส.จ.จอย ได้ติดต่อมาหา เพราะเขาอยู่ในพื้นที่ เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัย และ เกรงว่าคดีจะโดนแทรกแซงทางจากผู้มีอิทธิพล ไม่ใช่ว่าตำรวจท้องที่ทำงานไม่ได้ ซึ่งเราก็ชื่นชมเพราะหลังเกิดเหตุสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันควัน แต่เนื่องจากคดีนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีความคุ้นเคยกับตำรวจท้องที่ ทาง น.ส.ณภาภัช จึงอยากให้กองปราบที่เป็นหน่วยงานจากส่วนกลางรับโอนสำนวนคดีมาดำเนินการแทน ผิดถูกว่าไปตามข้อเท็จจริง ใครที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินคดีให้หมด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000119808

    #MGROnline #สจโต้ง #สจปราจีนบุรี
    "อัจฉริยะ" เมีย "ส.จ.โต้ง" ร้องกองปราบรับโอนสำนวนคดีคลี่ปมการตาย พร้อมขอกำลังคุ้มครองพยาน หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื่อ "โกทร" อยู่เบื้องหลังบงการฆ่า วันนี้ (13 ธ.ค. ) ที่ กองปราบปราม น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมนหรือ ส.จ.จอย ภรรยา นาย​ชัยเมศร์​ สิทธิสนิทพงศ์​ หรือ ส.จ.โต้งที่ถูกยิงเสียชีวิต และ บุตรชาย พร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นายนิติศักดิ์ มีขวด หรือ ทนายเอี้ยง เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุเทพ โตอิ้ม รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ขอให้รับโอนสำนวนคดีการเสียชีวิตของ นายชัยเมศร์ หรือ ส.จ.โต้ง ที่ถูกยิงตายในบ้านพักของ นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี มาอยู่ในความรับผิดชอบของตำรวจกองปราบปรามเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี นายนิติศักดิ์ กล่าวว่า อดีตตนเคยเป็นทนายความให้กับ ส.จ.โต้ง หลังเกิดเหตุ น.ส.ณภาภัช หรือ ส.จ.จอย ได้ติดต่อมาหา เพราะเขาอยู่ในพื้นที่ เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัย และ เกรงว่าคดีจะโดนแทรกแซงทางจากผู้มีอิทธิพล ไม่ใช่ว่าตำรวจท้องที่ทำงานไม่ได้ ซึ่งเราก็ชื่นชมเพราะหลังเกิดเหตุสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันควัน แต่เนื่องจากคดีนี้มีนักการเมืองท้องถิ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีความคุ้นเคยกับตำรวจท้องที่ ทาง น.ส.ณภาภัช จึงอยากให้กองปราบที่เป็นหน่วยงานจากส่วนกลางรับโอนสำนวนคดีมาดำเนินการแทน ผิดถูกว่าไปตามข้อเท็จจริง ใครที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินคดีให้หมด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000119808 • #MGROnline #สจโต้ง #สจปราจีนบุรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 479 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIB RUN 2024 งานวิ่งรวมตำรวจขาแรง

    เป็นงานวิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติฯ CIB RUN 2024 เคียงข้างประชาชน ซีซัน 2 โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 โดยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้สถานที่จัดการแข่งขัน

    กิจกรรมนี้ได้ บริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเคยจัดงานระดับนานาชาติทั้ง Amazing Thailand Marathon, พัทยามาราธอน, ไตรกีฬาโตโยต้าไอรอนแมน ฯลฯ ปีที่แล้วเปิดให้สมัครฟรีปรากฎว่าเจอซื้อ-ขายเบอร์แข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่ต้องการแบบนั้น จึงกำหนดให้มีค่าสมัครทุกระยะ แต่คิดแบบไม่หวังผลกำไร 23 กิโลเมตร (กม.) ค่าสมัคร 350 บาท 10 กม. 300 บาท และ 3 กม. 250 บาท เปิดระบบรับสมัครเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. 2567

    ผลก็คือมีนักวิ่งสนใจลงสมัครล้นหลามจนเว็บล่ม ก่อนเต็มจำนวนเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวม 8,223 คน แบ่งเป็น 23 กม. 3,205 คน, 10 กม. 4,312 คน และ 3 กม. 706 คน

    มาถึงการจัดงาน เปิดสนามตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนปล่อยตัวนักวิ่ง 23 กม. เวลา 05.00 น. โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธาน พร้อมด้วย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม นักร้องชื่อดังมาให้กำลังใจนักวิ่งอีกด้วย ส่วนนักวิ่ง 10 กม. ปล่อยตัวที่ กม.14 ของสนามลู่ปั่น (ทางเข้าสนามบินฯ ด้านถนนบางนา-ตราด) เวลา 05.03 น. โดยพบว่านอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีข้าราชการตำรวจ ที่ถือโอกาสเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้พบกันมานานไปในตัว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม แต่งกายเต็มยศให้กำลังใจก่อนเข้าเส้นชัยอีกด้วย

    สำหรับผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชาย 23 กม. ได้แก่ ร.ต.อ.ปฏิการ เพชรศรีชา ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที ส่วนประเภทบุคคลทั่วไปหญิง 23 กม. ได้แก่ น.ส.อรอนงค์ วงศร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานรางวัลชนะเลิศแก่นักวิ่ง ขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมสมัครในปีนี้อย่างล้นหลาม หลายคนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เชื่อว่าการออกกำลังทุกประเภทส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือสิ่งที่พบเจอในแต่ละวันได้ และขอขอบคุณที่ให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนการออกกำลังกายให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน

    #Newskit
    CIB RUN 2024 งานวิ่งรวมตำรวจขาแรง เป็นงานวิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติฯ CIB RUN 2024 เคียงข้างประชาชน ซีซัน 2 โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 โดยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้สถานที่จัดการแข่งขัน กิจกรรมนี้ได้ บริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเคยจัดงานระดับนานาชาติทั้ง Amazing Thailand Marathon, พัทยามาราธอน, ไตรกีฬาโตโยต้าไอรอนแมน ฯลฯ ปีที่แล้วเปิดให้สมัครฟรีปรากฎว่าเจอซื้อ-ขายเบอร์แข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่ต้องการแบบนั้น จึงกำหนดให้มีค่าสมัครทุกระยะ แต่คิดแบบไม่หวังผลกำไร 23 กิโลเมตร (กม.) ค่าสมัคร 350 บาท 10 กม. 300 บาท และ 3 กม. 250 บาท เปิดระบบรับสมัครเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. 2567 ผลก็คือมีนักวิ่งสนใจลงสมัครล้นหลามจนเว็บล่ม ก่อนเต็มจำนวนเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวม 8,223 คน แบ่งเป็น 23 กม. 3,205 คน, 10 กม. 4,312 คน และ 3 กม. 706 คน มาถึงการจัดงาน เปิดสนามตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนปล่อยตัวนักวิ่ง 23 กม. เวลา 05.00 น. โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธาน พร้อมด้วย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม นักร้องชื่อดังมาให้กำลังใจนักวิ่งอีกด้วย ส่วนนักวิ่ง 10 กม. ปล่อยตัวที่ กม.14 ของสนามลู่ปั่น (ทางเข้าสนามบินฯ ด้านถนนบางนา-ตราด) เวลา 05.03 น. โดยพบว่านอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีข้าราชการตำรวจ ที่ถือโอกาสเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้พบกันมานานไปในตัว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม แต่งกายเต็มยศให้กำลังใจก่อนเข้าเส้นชัยอีกด้วย สำหรับผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชาย 23 กม. ได้แก่ ร.ต.อ.ปฏิการ เพชรศรีชา ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที ส่วนประเภทบุคคลทั่วไปหญิง 23 กม. ได้แก่ น.ส.อรอนงค์ วงศร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานรางวัลชนะเลิศแก่นักวิ่ง ขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมสมัครในปีนี้อย่างล้นหลาม หลายคนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เชื่อว่าการออกกำลังทุกประเภทส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือสิ่งที่พบเจอในแต่ละวันได้ และขอขอบคุณที่ให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนการออกกำลังกายให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 677 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts