• ไทย เสี่ยง ‘เงินฝืด’!? : [Biz Talk]
    ‘ความเสี่ยงภาวะเงินฝืดของไทย ยังอยู่ในระดับต่ำ’ กนง.แจงสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปหดตัวต่อเนื่อง มาจากการลดลงของราคา พลังงานและอาหารสด เป็นหลัก ยังไม่เห็นการชะลอซื้อสินค้า หรือ ชะลอจับจ่ายใช้สอยของประชาชน /ย้ำเงินเฟ้อต่ำ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการโตของเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน
    ไทย เสี่ยง ‘เงินฝืด’!? : [Biz Talk] ‘ความเสี่ยงภาวะเงินฝืดของไทย ยังอยู่ในระดับต่ำ’ กนง.แจงสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อทั่วไปหดตัวต่อเนื่อง มาจากการลดลงของราคา พลังงานและอาหารสด เป็นหลัก ยังไม่เห็นการชะลอซื้อสินค้า หรือ ชะลอจับจ่ายใช้สอยของประชาชน /ย้ำเงินเฟ้อต่ำ ไม่เป็นอุปสรรคต่อการโตของเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบัน
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 369 Views 0 0 Reviews
  • EP 33

    SET แตะ 1310 แล้วย่อตัวลงปิแดนลบ ส่วนหนึ่งมาจากการคงดอกเบี้ยของ กนง.

    NER side way ปิด 4.26
    VGI ปิด 1.51 แต่ผันผวนมาก
    SISB ปิด 12.5
    TFG ซื้อเมื่อวาน 4.92 ขายออก 5.25

    ซื้อใหม่
    BTS 3.04

    ฺํBY. reporter
    EP 33 SET แตะ 1310 แล้วย่อตัวลงปิแดนลบ ส่วนหนึ่งมาจากการคงดอกเบี้ยของ กนง. NER side way ปิด 4.26 VGI ปิด 1.51 แต่ผันผวนมาก SISB ปิด 12.5 TFG ซื้อเมื่อวาน 4.92 ขายออก 5.25 ซื้อใหม่ BTS 3.04 ฺํBY. reporter
    0 Comments 0 Shares 270 Views 0 0 Reviews
  • EP 32
    SET แตะ 1310 แล้วย่อตัวลงปิแดนลบ ส่วนหนึ่งมาจากการคงดอกเบี้ยของ กนง.


    NER side way ปิด 4.26

    VGI ปิด 1.51 แต่ผันผวนมาก

    SISB ปิด 12.5

    TFG ซื้อเมื่อวาน 4.92 ขายออก 5.25


    ซื้อใหม่

    BTS 3.04


    ฺํBY. reporter
    EP 32 SET แตะ 1310 แล้วย่อตัวลงปิแดนลบ ส่วนหนึ่งมาจากการคงดอกเบี้ยของ กนง. NER side way ปิด 4.26 VGI ปิด 1.51 แต่ผันผวนมาก SISB ปิด 12.5 TFG ซื้อเมื่อวาน 4.92 ขายออก 5.25 ซื้อใหม่ BTS 3.04 ฺํBY. reporter
    0 Comments 0 Shares 191 Views 0 0 Reviews
  • SET หลัง กนง.คงดอกเบี้ย 08/10/68 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #SET #กนง. #ดอกเบี้ย #เศรษฐกิจ
    SET หลัง กนง.คงดอกเบี้ย 08/10/68 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #SET #กนง. #ดอกเบี้ย #เศรษฐกิจ
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 0 Reviews
  • วัฏจักรดอกเบี้ย ขาลง? : [Biz Talk]
    มีผลทันที 13 ส.ค.68 ดอกเบี้ยนโยบายของไทย ลด 0.25% จาก 1.75% มาอยู่ที่ 1.50% พยุงเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง ที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากภาษีสหรัฐ โดยรอบปีที่ผ่านมา กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายแล้ว 4 ครั้ง รวม 1.00% เพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงภายนอก ไม่ใช่ทิศทางดอกเบี้ยขาลง(Easing Cycle) จากภาวะเศรษฐกิจที่แย่!
    วัฏจักรดอกเบี้ย ขาลง? : [Biz Talk] มีผลทันที 13 ส.ค.68 ดอกเบี้ยนโยบายของไทย ลด 0.25% จาก 1.75% มาอยู่ที่ 1.50% พยุงเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง ที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากภาษีสหรัฐ โดยรอบปีที่ผ่านมา กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายแล้ว 4 ครั้ง รวม 1.00% เพื่อบรรเทาผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงภายนอก ไม่ใช่ทิศทางดอกเบี้ยขาลง(Easing Cycle) จากภาวะเศรษฐกิจที่แย่!
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 533 Views 0 0 Reviews
  • ด่วน!!! กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที
    ด่วน!!! กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี โดยให้มีผลทันที
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • คาด กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% หนุน SET 13/08/68 #กนง. #ลดดอกเบี้ย #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #เศรษฐกิจ
    คาด กนง.ลดดอกเบี้ย 0.25% หนุน SET 13/08/68 #กนง. #ลดดอกเบี้ย #SET #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #เศรษฐกิจ
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 364 Views 0 0 Reviews
  • ลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ย หนุน SET 1300 (07/08/68)#news1 #คุยคุ้ยหุ้น #กนง. #หุ้น #ตลาดหุ้น
    ลุ้น กนง.ลดดอกเบี้ย หนุน SET 1300 (07/08/68)#news1 #คุยคุ้ยหุ้น #กนง. #หุ้น #ตลาดหุ้น
    0 Comments 0 Shares 454 Views 0 0 Reviews
  • กนง. มองโลกสวย? หลังคาดGDP/68 โต2.3% (26/06/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #หุ้น #กนง. #GDP
    กนง. มองโลกสวย? หลังคาดGDP/68 โต2.3% (26/06/68) #news1 #คุยคุ้ยหุ้น #หุ้น #กนง. #GDP
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 621 Views 30 0 Reviews
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 3/68 มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.75% และปรับเป้าจีดีพีไทยปี 68 โตเพิ่มเป็น 2.3% หลังเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรก ดีกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนปี 69 โตลดลงเหลือ 1.7% จากผลกระทบสงครามการค้า
    คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 3/68 มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.75% และปรับเป้าจีดีพีไทยปี 68 โตเพิ่มเป็น 2.3% หลังเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีแรก ดีกว่าที่ประเมินไว้ ส่วนปี 69 โตลดลงเหลือ 1.7% จากผลกระทบสงครามการค้า
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 808 Views 29 0 Reviews
  • ‘กนง.’ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ ‘คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย’ ไว้ที่ระดับ 1.75% ต่อปี หลังประเมินเศรษฐกิจไทยครึ่งแรกฟื้นตัวดีกว่าคาด
    https://www.thai-tai.tv/news/19745/
    ‘กนง.’ มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ ‘คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย’ ไว้ที่ระดับ 1.75% ต่อปี หลังประเมินเศรษฐกิจไทยครึ่งแรกฟื้นตัวดีกว่าคาด https://www.thai-tai.tv/news/19745/
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • กนง. มีมติลดดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1.75% จากผลกระทบจาก tariff ต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงKey Highlights:กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบสูงจากสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ กนง. ประเมินผลกระทบเป็น 2 scenario โดย Reference Scenario (Lower Tariffs) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวที่ 2.0% ขณะที่ Alternative Scenario (Higher Tariffs) เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเพียง 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. มองว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากราคาพลังงานที่คาดว่าจะต่ำลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกKrungthai COMPASS ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม สู่ระดับ 1.50% ภายในปี 2025 โดยช่วงเวลาของการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจากับสหรัฐฯ ในการปรับลดภาษีนำเข้า หลังพ้นกรอบระยะเวลายกเว้นการเก็บภาษี 90 วัน และพัฒนาการโดยรวมของเศรษฐกิจไทย
    กนง. มีมติลดดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1.75% จากผลกระทบจาก tariff ต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงKey Highlights:กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบสูงจากสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ กนง. ประเมินผลกระทบเป็น 2 scenario โดย Reference Scenario (Lower Tariffs) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวที่ 2.0% ขณะที่ Alternative Scenario (Higher Tariffs) เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเพียง 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. มองว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากราคาพลังงานที่คาดว่าจะต่ำลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกKrungthai COMPASS ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม สู่ระดับ 1.50% ภายในปี 2025 โดยช่วงเวลาของการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจากับสหรัฐฯ ในการปรับลดภาษีนำเข้า หลังพ้นกรอบระยะเวลายกเว้นการเก็บภาษี 90 วัน และพัฒนาการโดยรวมของเศรษฐกิจไทย
    0 Comments 0 Shares 543 Views 0 Reviews
  • กรุงไทยประเมิน กนง. มีสิทธิลดดอกเบี้ยอีกรอบเหลือ 1.50% ภายในปีนี้
    https://www.thai-tai.tv/news/18522/
    กรุงไทยประเมิน กนง. มีสิทธิลดดอกเบี้ยอีกรอบเหลือ 1.50% ภายในปีนี้ https://www.thai-tai.tv/news/18522/
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • หั่นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% รับมือ Trade War : [Biz Talk]

    ตามคาด คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 2/68 มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.00% เหลือ 1.75 % เพื่อพยุงเศรษฐกิจไทย ที่ชะลอตัวลงมาก จากปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะความเสี่ยงจากสงครามการค้า
    หั่นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% รับมือ Trade War : [Biz Talk] ตามคาด คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 2/68 มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.00% เหลือ 1.75 % เพื่อพยุงเศรษฐกิจไทย ที่ชะลอตัวลงมาก จากปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะความเสี่ยงจากสงครามการค้า
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1135 Views 28 0 Reviews
  • กนง.ย้ำลดดอกเบี้ยพยุงเศรษฐกิจรับแรงกดดันสงครามการค้า ชี้ยังไม่เข้าสู่วัฏจักรขาลง
    https://www.thai-tai.tv/news/18429/
    กนง.ย้ำลดดอกเบี้ยพยุงเศรษฐกิจรับแรงกดดันสงครามการค้า ชี้ยังไม่เข้าสู่วัฏจักรขาลง https://www.thai-tai.tv/news/18429/
    0 Comments 0 Shares 269 Views 0 Reviews
  • คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที่ พร้อมปรับลด เพราะความเสี่ยงจากนโยบายการค้าโลกและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง สินเชื่อหดตัว เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงจะพิจารณาปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าหากมีความรุ่นแรงกว่าที่คาด ส่งผลให้จีดีพีไทยปี 2668 หดเหลือ1.3 %จากที่ประเมินไว้ 2 %

    นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 30 เมษายน 2568

    คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000040531

    #MGROnline #คณะกรรมการนโยบายการเงิน #ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที่ พร้อมปรับลด เพราะความเสี่ยงจากนโยบายการค้าโลกและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง สินเชื่อหดตัว เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงจะพิจารณาปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าหากมีความรุ่นแรงกว่าที่คาด ส่งผลให้จีดีพีไทยปี 2668 หดเหลือ1.3 %จากที่ประเมินไว้ 2 % • นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 30 เมษายน 2568 • คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000040531 • #MGROnline #คณะกรรมการนโยบายการเงิน #ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    0 Comments 0 Shares 583 Views 0 Reviews
  • กนง. มติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จาก 2% เป็น 1.75% ต่อปี โดยให้มีผลทันที
    https://www.thai-tai.tv/news/18423/
    กนง. มติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จาก 2% เป็น 1.75% ต่อปี โดยให้มีผลทันที https://www.thai-tai.tv/news/18423/
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • TDRI เตือนรัฐหยุดแจกเงินดิจิทัล หลังไปไม่ช่วยกระตุ้น ศก. แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน

    (21 มี.ค. 68) ดร.สมชัย จิตสุชน เตือนรัฐ หยุดเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลในเฟสต่อไป แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน ขณะที่เฟส 3 หนุนทบทวนเงื่อนไขเปิดทางใช้เงินหมื่นซื้อคอร์สอัปสกิล-รีสกิลได้ หวังพัฒนาทักษะคน เตือน รัฐบาลรับมือเศรษฐกิจซบเซา จากปัจจัยภายนอก-ในประเทศ โดยเฉพาะความปั่นป่วนจากสงครามการค้า – หนี้ครัวเรือนสูง ห่วงภาระการคลัง ทำเรตติงประเทศตก

    ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัลเฟส 3 ที่ให้กับผู้มีอายุ 16-20 ปีว่า มีการคาดการณ์กันว่าในเฟสที่ 3 นี้อาจได้ผลบ้าง เพราะกลุ่มคนที่แจกยังไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ที่ไม่มากนัก เมื่อได้เงินมาอาจจะใช้เร็ว แต่เชื่อว่าไม่น่าจะได้ผลมากกว่าเฟส 1 ที่มอบให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มเปราะบาง อย่างไรก็ตามหากอยากให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจริง ๆ รัฐบาลควรละทิ้งแนวคิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวมากขึ้น และไม่ควรเปิดทางให้นำเงินจำนวนนี้ไปซื้ออะไรก็ได้ แต่ควรกำหนดให้ใช้ไปกับการหาความรู้ อัปสกิล รีสกิล ซึ่งเหมาะสมกับกลุ่มเยาวชนพอดี เพราะเป็นกลุ่มที่กำลังจะเข้าสู่กำลังแรงงานซึ่งอาจจะนำเงินจำนวนนี้ไปเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติมให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งแม้จะไม่เห็นผลในระยะสั้นมากนัก แต่ผลในระยะยาวจะดีกว่ากันมากเพราะเป็นการดึงศักยภาพของคนซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยได้ประโยชน์

    สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรียืนยันว่าทุกคนที่เข้าเงื่อนไขจะได้รับสิทธิทั้งหมดนั้น ดร.สมชัย กล่าวว่า เป็นการทำให้ตรงกับที่หาเสียงไว้ แต่เห็นชัดแล้วว่าการดำเนินโครงการทั้งเฟส 1- 2 รวมทั้งเฟส 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจไม่ดีจริงอย่างที่หาเสียงไว้ จึงควรทบทวน

    “ตอนที่หาเสียงไว้ และตอนที่เป็นรัฐบาลใหม่ ๆ บอกว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจเฟื่องฟู บางคนบอกจะทำให้ไทยหลุดกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้ด้วยซ้ำ ซึ่งก็ไม่มีคนเชื่อ และวันนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง ในเมื่อมันพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง ก็ไม่ควรจะเดินหน้าต่อ เรามองว่าเงินนี้นำไปทําอย่างอื่นที่มีประโยชน์ได้มากกว่าเยอะ” ดร.สมชัยระบุ

    เตือนหยุดสุรุ่ยสุร่ายแจกเงินหมื่น แนะใช้งบพัฒนาดิจิทัล อินเทอร์เน็ตฟรี ดึงศักยภาพคน หนุนเศรษฐกิจ ดร.สมชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากงบประมาณหลายแสนล้านที่ต้องเสียไปจากการใช้จ่ายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ยังมีต้นทุนค่าเสียโอกาสด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความสูญเสียที่มากกว่าตัวเงินเสียอีก เพราะอย่าลืมว่าวันนี้ภาคการคลังของไทยอ่อนแอมาก ประเทศไทยมีเงินน้อยลง ประชาชนก็มีเงินน้อยลง เพราะฉะนั้นนำเงินงบประมาณไปใช้ต้องคิดอย่างระมัดระวัง ถ้านำไปใช้ในเรื่องที่ไม่สมควรใช้ จนทำให้เรื่องที่สมควรใช้จะถูกตัดทิ้งไปก็น่าเสียดาย เช่น เรื่องการพัฒนาทักษะของคน การปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตโลกร้อน การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งระบบสวัสดิการสังคมของไทยก็ยังมีปัญหาในบางจุด และเรื่องของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและดิจิทัล ซึ่งจะทําให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งกันดีขึ้น ทั้งหมดนี้จําเป็นต้องใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลในการเดินหน้า แต่อาจถูกชะลอออกไปเพราะเอาเงินมาใช้ในเรื่องที่ไม่สมควรใช้แบบนี้ ดังนั้นไม่สนับสนุนให้รัฐบาลเดินหน้าเงินดิจิทัลในเฟสต่อไปอีก

    “รัฐบาลควรนำงบประมาณไปลงทุนในเรื่องของดิจิทัล ทําอินเทอร์เน็ตฟรี ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยได้มาก ในเรื่องของผลิตภาพของประชาชน เพราะเกิดการพัฒนาตัวเองและสร้างรายได้ ผมเชื่อว่ามีอัจฉริยะที่ซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ ของประเทศอยู่มาก เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้รับโอกาส รัฐบาลก็ควรจัดสรรงบประมาณเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่เขามีอยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าทํา แต่คงไม่ได้ทํา ถ้าเกิดว่าต้องมาจ่ายเงินแบบสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ไปเรื่อย ๆ” ดร.สมชัยระบุ

    สงครามการค้าจะทำเศรษฐกิจไทยซบเซา ห่วงภาคการคลังมีปัญหา หนี้รัฐ-ครัวเรือนสูงชนเพดาน ดร.สมชัย ในฐานะอดีตกนง.ยังมีข้อเสนอแนะต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า ต้องพยายามแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างมากขึ้น อย่าเน้นระยะสั้น เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต กาสิโน พนันออนไลน์ แต่ควรเพิ่มน้ำหนักในกลุ่มมาตรการระยะยาวมากขึ้น และจะต้องเตรียมรับมือกับความยากลําบากที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามการค้าที่คาดว่าจะมาแบบเต็มรูปแบบเมื่อเทียบกับยุคทรัมป์ 1.0 ต้องไม่ลืมว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในหลายปีที่ผ่านมาถูกมองว่าดีเกินไปจนน่าจะมาถึงอาจจะซบเซาลงตามวัฏจักร รวมทั้งเรื่องของสงครามยูเครนในยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อไทยในฐานประเทศที่พึ่งพาการส่งออก และท่องเที่ยวมาก ขณะที่ในประเทศเองหนี้ครัวเรือนสูง ความสามารถในการผลิตไม่ได้ดีมากนัก เพราะฉะนั้นจะมีปัจจัยทั้งภายนอกและภายในเข้ามาพร้อมกัน

    “เศรษฐกิจคงซบเซาต่อไป และมองไป 4 ปีถัดไป ภาพก็จะคล้ายกันถ้าไม่ได้มีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว และถ้ามีการใช้จ่ายเงินอย่างไม่ระมัดระวังแบบนี้ ภาคการคลังจะมีปัญหา หนี้สาธารณะก็คงจะถึง 70 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพีภายในไม่กี่ปีนี้ ในขณะที่ภาระการจ่ายหนี้ของรัฐบาล ทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น ก็มีสิทธิ์ที่จะขึ้นไปใกล้ ๆ ชน 15 เปอร์เซ็นต์ที่กําหนดในกฎหมาย ทั้งหมดนี้จะทําให้เรตติ้งของภาครัฐไทยแย่ลงในสายตาของบริษัทประเมินเรตติง ซึ่งเป็นผลเสียระยะยาว เพราะว่าหมายถึง ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาล และจะลามไปถึงภาคเอกชนอาจจะสูงขึ้น ซึ่งก็จะซ้ำเติมเรื่องของเศรษฐกิจเข้าไปอีก” ดร.สมชัยกล่าว

    Cr. #TheStatesTimes
    TDRI เตือนรัฐหยุดแจกเงินดิจิทัล หลังไปไม่ช่วยกระตุ้น ศก. แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน (21 มี.ค. 68) ดร.สมชัย จิตสุชน เตือนรัฐ หยุดเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัลในเฟสต่อไป แนะใช้งบแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวแทน ขณะที่เฟส 3 หนุนทบทวนเงื่อนไขเปิดทางใช้เงินหมื่นซื้อคอร์สอัปสกิล-รีสกิลได้ หวังพัฒนาทักษะคน เตือน รัฐบาลรับมือเศรษฐกิจซบเซา จากปัจจัยภายนอก-ในประเทศ โดยเฉพาะความปั่นป่วนจากสงครามการค้า – หนี้ครัวเรือนสูง ห่วงภาระการคลัง ทำเรตติงประเทศตก ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงนโยบายเงินดิจิทัลเฟส 3 ที่ให้กับผู้มีอายุ 16-20 ปีว่า มีการคาดการณ์กันว่าในเฟสที่ 3 นี้อาจได้ผลบ้าง เพราะกลุ่มคนที่แจกยังไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ที่ไม่มากนัก เมื่อได้เงินมาอาจจะใช้เร็ว แต่เชื่อว่าไม่น่าจะได้ผลมากกว่าเฟส 1 ที่มอบให้กับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มเปราะบาง อย่างไรก็ตามหากอยากให้ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจริง ๆ รัฐบาลควรละทิ้งแนวคิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น และมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในระยะยาวมากขึ้น และไม่ควรเปิดทางให้นำเงินจำนวนนี้ไปซื้ออะไรก็ได้ แต่ควรกำหนดให้ใช้ไปกับการหาความรู้ อัปสกิล รีสกิล ซึ่งเหมาะสมกับกลุ่มเยาวชนพอดี เพราะเป็นกลุ่มที่กำลังจะเข้าสู่กำลังแรงงานซึ่งอาจจะนำเงินจำนวนนี้ไปเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติมให้เป็นไปตามความต้องการของตลาดแรงงาน ซึ่งแม้จะไม่เห็นผลในระยะสั้นมากนัก แต่ผลในระยะยาวจะดีกว่ากันมากเพราะเป็นการดึงศักยภาพของคนซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยได้ประโยชน์ สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรียืนยันว่าทุกคนที่เข้าเงื่อนไขจะได้รับสิทธิทั้งหมดนั้น ดร.สมชัย กล่าวว่า เป็นการทำให้ตรงกับที่หาเสียงไว้ แต่เห็นชัดแล้วว่าการดำเนินโครงการทั้งเฟส 1- 2 รวมทั้งเฟส 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้น ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจไม่ดีจริงอย่างที่หาเสียงไว้ จึงควรทบทวน “ตอนที่หาเสียงไว้ และตอนที่เป็นรัฐบาลใหม่ ๆ บอกว่าโครงการนี้จะทำให้เศรษฐกิจเฟื่องฟู บางคนบอกจะทำให้ไทยหลุดกับดักประเทศรายได้ปานกลางได้ด้วยซ้ำ ซึ่งก็ไม่มีคนเชื่อ และวันนี้พิสูจน์แล้วว่าไม่จริง ในเมื่อมันพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง ก็ไม่ควรจะเดินหน้าต่อ เรามองว่าเงินนี้นำไปทําอย่างอื่นที่มีประโยชน์ได้มากกว่าเยอะ” ดร.สมชัยระบุ เตือนหยุดสุรุ่ยสุร่ายแจกเงินหมื่น แนะใช้งบพัฒนาดิจิทัล อินเทอร์เน็ตฟรี ดึงศักยภาพคน หนุนเศรษฐกิจ ดร.สมชัย กล่าวด้วยว่า นอกจากงบประมาณหลายแสนล้านที่ต้องเสียไปจากการใช้จ่ายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ยังมีต้นทุนค่าเสียโอกาสด้วย ซึ่งถือว่าเป็นความสูญเสียที่มากกว่าตัวเงินเสียอีก เพราะอย่าลืมว่าวันนี้ภาคการคลังของไทยอ่อนแอมาก ประเทศไทยมีเงินน้อยลง ประชาชนก็มีเงินน้อยลง เพราะฉะนั้นนำเงินงบประมาณไปใช้ต้องคิดอย่างระมัดระวัง ถ้านำไปใช้ในเรื่องที่ไม่สมควรใช้ จนทำให้เรื่องที่สมควรใช้จะถูกตัดทิ้งไปก็น่าเสียดาย เช่น เรื่องการพัฒนาทักษะของคน การปรับตัวเพื่อรับมือกับวิกฤตโลกร้อน การเปลี่ยนผ่านไปสู่เศรษฐกิจสีเขียว รวมทั้งระบบสวัสดิการสังคมของไทยก็ยังมีปัญหาในบางจุด และเรื่องของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและดิจิทัล ซึ่งจะทําให้ประเทศไทยมีศักยภาพในการแข่งกันดีขึ้น ทั้งหมดนี้จําเป็นต้องใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลในการเดินหน้า แต่อาจถูกชะลอออกไปเพราะเอาเงินมาใช้ในเรื่องที่ไม่สมควรใช้แบบนี้ ดังนั้นไม่สนับสนุนให้รัฐบาลเดินหน้าเงินดิจิทัลในเฟสต่อไปอีก “รัฐบาลควรนำงบประมาณไปลงทุนในเรื่องของดิจิทัล ทําอินเทอร์เน็ตฟรี ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยได้มาก ในเรื่องของผลิตภาพของประชาชน เพราะเกิดการพัฒนาตัวเองและสร้างรายได้ ผมเชื่อว่ามีอัจฉริยะที่ซ่อนอยู่ตามซอกมุมต่าง ๆ ของประเทศอยู่มาก เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้รับโอกาส รัฐบาลก็ควรจัดสรรงบประมาณเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะได้ใช้ประโยชน์จากศักยภาพที่เขามีอยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าทํา แต่คงไม่ได้ทํา ถ้าเกิดว่าต้องมาจ่ายเงินแบบสุรุ่ยสุร่ายแบบนี้ไปเรื่อย ๆ” ดร.สมชัยระบุ สงครามการค้าจะทำเศรษฐกิจไทยซบเซา ห่วงภาคการคลังมีปัญหา หนี้รัฐ-ครัวเรือนสูงชนเพดาน ดร.สมชัย ในฐานะอดีตกนง.ยังมีข้อเสนอแนะต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า ต้องพยายามแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างมากขึ้น อย่าเน้นระยะสั้น เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต กาสิโน พนันออนไลน์ แต่ควรเพิ่มน้ำหนักในกลุ่มมาตรการระยะยาวมากขึ้น และจะต้องเตรียมรับมือกับความยากลําบากที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามการค้าที่คาดว่าจะมาแบบเต็มรูปแบบเมื่อเทียบกับยุคทรัมป์ 1.0 ต้องไม่ลืมว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในหลายปีที่ผ่านมาถูกมองว่าดีเกินไปจนน่าจะมาถึงอาจจะซบเซาลงตามวัฏจักร รวมทั้งเรื่องของสงครามยูเครนในยุโรป อาจส่งผลกระทบต่อไทยในฐานประเทศที่พึ่งพาการส่งออก และท่องเที่ยวมาก ขณะที่ในประเทศเองหนี้ครัวเรือนสูง ความสามารถในการผลิตไม่ได้ดีมากนัก เพราะฉะนั้นจะมีปัจจัยทั้งภายนอกและภายในเข้ามาพร้อมกัน “เศรษฐกิจคงซบเซาต่อไป และมองไป 4 ปีถัดไป ภาพก็จะคล้ายกันถ้าไม่ได้มีการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัว และถ้ามีการใช้จ่ายเงินอย่างไม่ระมัดระวังแบบนี้ ภาคการคลังจะมีปัญหา หนี้สาธารณะก็คงจะถึง 70 เปอร์เซ็นต์ต่อจีดีพีภายในไม่กี่ปีนี้ ในขณะที่ภาระการจ่ายหนี้ของรัฐบาล ทั้งดอกเบี้ย และเงินต้น ก็มีสิทธิ์ที่จะขึ้นไปใกล้ ๆ ชน 15 เปอร์เซ็นต์ที่กําหนดในกฎหมาย ทั้งหมดนี้จะทําให้เรตติ้งของภาครัฐไทยแย่ลงในสายตาของบริษัทประเมินเรตติง ซึ่งเป็นผลเสียระยะยาว เพราะว่าหมายถึง ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาล และจะลามไปถึงภาคเอกชนอาจจะสูงขึ้น ซึ่งก็จะซ้ำเติมเรื่องของเศรษฐกิจเข้าไปอีก” ดร.สมชัยกล่าว Cr. #TheStatesTimes
    0 Comments 0 Shares 1326 Views 0 Reviews
  • "แพทองธาร" บอก​ต้องดีแน่ หลัง กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ย​ ไม่ตอบ ดึง​ ”ทักษิณ​“ ร่วมทีมเศรษฐกิจหรือไม่​ หลังดอดพบทีมบ้านพิษฯ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019813

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "แพทองธาร" บอก​ต้องดีแน่ หลัง กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ย​ ไม่ตอบ ดึง​ ”ทักษิณ​“ ร่วมทีมเศรษฐกิจหรือไม่​ หลังดอดพบทีมบ้านพิษฯ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019813 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 1212 Views 0 Reviews
  • "อิ๊งค์"ลั่น​ต้องดีแน่! กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ย​เหลือ 2% ปัดตอบดึง​"ทักษิณ"​ร่วมทีมเศรษฐกิจหรือไม่​
    https://www.thai-tai.tv/news/17430/
    "อิ๊งค์"ลั่น​ต้องดีแน่! กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ย​เหลือ 2% ปัดตอบดึง​"ทักษิณ"​ร่วมทีมเศรษฐกิจหรือไม่​ https://www.thai-tai.tv/news/17430/
    0 Comments 0 Shares 234 Views 0 Reviews
  • SCB EIC มอง กนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้
    https://www.thai-tai.tv/news/17405/
    SCB EIC มอง กนง. มีโอกาสลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้ https://www.thai-tai.tv/news/17405/
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • ไม่เอกฉันท์ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 1/68 มีมติ 6 ต่อ 1 ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.25% เป็น 2.00 % เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากปัญหาเชิงโครงสร้าง ,ความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ย้ำประเมินปัจจัยรอบด้าน ไม่ได้เป็นผลจากแรงกดดันทางการเมือง!
    ไม่เอกฉันท์ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ครั้งที่ 1/68 มีมติ 6 ต่อ 1 ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จาก 2.25% เป็น 2.00 % เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ที่มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากปัญหาเชิงโครงสร้าง ,ความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ย้ำประเมินปัจจัยรอบด้าน ไม่ได้เป็นผลจากแรงกดดันทางการเมือง!
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 1616 Views 65 0 Reviews
  • กนง.มีมติ 6 ต่อ 1 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % เหลือ 2 % เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณไว้ 2.9 % และช่วยลดการตึงตัวของภาวะการเงิน โดยไม่กระทบต่อความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ พร้อมประเมินเศรษฐกิจลดลงเหลือ 2.5 % จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ รวมทั้งมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก

    นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % จาก 2.25 % เป็น 2.00 % ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 1 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

    เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ 2.9 % จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ รวมทั้งมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก แม้ว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศและการท่องเที่ยว กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % ต่อปีในการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้ภาวะการเงินสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งรองรับความเสี่ยงด้านต่ำที่ชัดเจนขึ้น ขณะที่กรรมการ 1 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากให้น้ำหนักมากกว่ากับการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นในระยะข้างหน้า

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000019048

    #MGROnline #คณะกรรมการนโยบายการเงิน #กนง.
    กนง.มีมติ 6 ต่อ 1 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % เหลือ 2 % เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณไว้ 2.9 % และช่วยลดการตึงตัวของภาวะการเงิน โดยไม่กระทบต่อความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ พร้อมประเมินเศรษฐกิจลดลงเหลือ 2.5 % จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ รวมทั้งมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก • นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % จาก 2.25 % เป็น 2.00 % ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 1 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย • เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ 2.9 % จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ รวมทั้งมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก แม้ว่าเศรษฐกิจจะได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศและการท่องเที่ยว กรรมการส่วนใหญ่เห็นควรให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % ต่อปีในการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้ภาวะการเงินสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งรองรับความเสี่ยงด้านต่ำที่ชัดเจนขึ้น ขณะที่กรรมการ 1 ท่าน เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากให้น้ำหนักมากกว่ากับการรักษาขีดความสามารถของนโยบายการเงินเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นในระยะข้างหน้า • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000019048 • #MGROnline #คณะกรรมการนโยบายการเงิน #กนง.
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 790 Views 0 Reviews
  • กนง.มีมติ 6 ต่อ 1 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % เหลือ 2 % เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณไว้ 2.9 % และช่วยลดการตึงตัวของภาวะการเงิน โดยไม่กระทบต่อความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ พร้อมประเมินเศรษฐกิจลดลงเหลือ 2.5 % จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ รวมทั้งมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019048

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กนง.มีมติ 6 ต่อ 1 ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 % เหลือ 2 % เนื่องจากเศรษฐกิจขยายตัวต่ำกว่าที่ประมาณไว้ 2.9 % และช่วยลดการตึงตัวของภาวะการเงิน โดยไม่กระทบต่อความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ พร้อมประเมินเศรษฐกิจลดลงเหลือ 2.5 % จากภาคการผลิตอุตสาหกรรมที่ถูกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างและการแข่งขันจากสินค้าต่างประเทศ รวมทั้งมีความเสี่ยงสูงขึ้นจากนโยบายการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000019048 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    5
    0 Comments 0 Shares 1267 Views 0 Reviews
  • ด่วน ที่ประชุม 'กนง.' มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.25 เป็นร้อยละ 2.00 ต่อปี
    https://www.thai-tai.tv/news/17379/
    ด่วน ที่ประชุม 'กนง.' มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 จากร้อยละ 2.25 เป็นร้อยละ 2.00 ต่อปี https://www.thai-tai.tv/news/17379/
    0 Comments 0 Shares 299 Views 0 Reviews
More Results