• Divergent Paths to Modernity: A Comparative Analysis of Party-Led Development in Singapore and Thailand
    date: 31 December 2025
    ## Introduction

    In the landscape of Southeast Asian political economy, few comparisons are as stark or as instructive as that between Singapore and Thailand. As scholars of comparative politics, we are often tasked with deconstructing how political institutions translate ideology into tangible national prosperity.

    While both nations operate within the same geopolitical sphere, their mechanisms for generating wealth and development have diverged radically. Singapore represents the archetype of a **Hegemonic Party System**, where the People’s Action Party (PAP) utilizes technocratic continuity to drive long-term planning. Conversely, Thailand exhibits a **Fractured Multi-Party System** defined by deep ideological cleavages, where prosperity is often pursued through competing—and often discontinuous—models of populism and structural reform.

    The Singaporean Model: The Technocratic Hegemony of the PAP

    To understand prosperity in Singapore, one must understand that the People's Action Party (PAP) does not operate merely as a political party, but as the architect of the state itself. Since 1959, the PAP has maintained a symbiotic relationship with the bureaucracy, allowing for a development strategy defined by **hyper-long-termism**.

    1. State Capitalism and Meritocracy

    The PAP’s approach to prosperity is rooted in a unique brand of state capitalism. Through entities like Temasek Holdings and GIC, the party manages state reserves with the aggression of a hedge fund but the caution of a central bank. Prosperity is created not by "unleashing" the free market entirely, but by guiding it. The party’s legitimacy rests on a strict social contract: the surrender of certain civil liberties in exchange for world-class efficiency, housing (HDB), and economic growth.

    2. Anticipatory Governance

    Unlike most democracies that plan in four-year election cycles, the PAP plans in decades. The transition from Lee Hsien Loong to Lawrence Wong (the "4G" leadership) was orchestrated years in advance to ensure market stability. The PAP creates prosperity by anticipating global shifts—pivoting from manufacturing to finance, and now to deep tech and AI—before the crisis arrives. The party’s mechanism for wealth creation is **stability as a premium**; by being the most predictable jurisdiction in a volatile region, they attract outsized Foreign Direct Investment (FDI).

    Continue Tomorrow————————————————————————-
    Divergent Paths to Modernity: A Comparative Analysis of Party-Led Development in Singapore and Thailand date: 31 December 2025 ## Introduction In the landscape of Southeast Asian political economy, few comparisons are as stark or as instructive as that between Singapore and Thailand. As scholars of comparative politics, we are often tasked with deconstructing how political institutions translate ideology into tangible national prosperity. While both nations operate within the same geopolitical sphere, their mechanisms for generating wealth and development have diverged radically. Singapore represents the archetype of a **Hegemonic Party System**, where the People’s Action Party (PAP) utilizes technocratic continuity to drive long-term planning. Conversely, Thailand exhibits a **Fractured Multi-Party System** defined by deep ideological cleavages, where prosperity is often pursued through competing—and often discontinuous—models of populism and structural reform. The Singaporean Model: The Technocratic Hegemony of the PAP To understand prosperity in Singapore, one must understand that the People's Action Party (PAP) does not operate merely as a political party, but as the architect of the state itself. Since 1959, the PAP has maintained a symbiotic relationship with the bureaucracy, allowing for a development strategy defined by **hyper-long-termism**. 1. State Capitalism and Meritocracy The PAP’s approach to prosperity is rooted in a unique brand of state capitalism. Through entities like Temasek Holdings and GIC, the party manages state reserves with the aggression of a hedge fund but the caution of a central bank. Prosperity is created not by "unleashing" the free market entirely, but by guiding it. The party’s legitimacy rests on a strict social contract: the surrender of certain civil liberties in exchange for world-class efficiency, housing (HDB), and economic growth. 2. Anticipatory Governance Unlike most democracies that plan in four-year election cycles, the PAP plans in decades. The transition from Lee Hsien Loong to Lawrence Wong (the "4G" leadership) was orchestrated years in advance to ensure market stability. The PAP creates prosperity by anticipating global shifts—pivoting from manufacturing to finance, and now to deep tech and AI—before the crisis arrives. The party’s mechanism for wealth creation is **stability as a premium**; by being the most predictable jurisdiction in a volatile region, they attract outsized Foreign Direct Investment (FDI). Continue Tomorrow————————————————————————-
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/Kn5Qhz8fMWM?si=TNKwJnWwzfHt6fUN
    https://youtu.be/Kn5Qhz8fMWM?si=TNKwJnWwzfHt6fUN
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Game Boy ยักษ์จอ Electroluminescent: โปรเจกต์สุดโรแมนติกของยุคเรโทรที่ทำงานได้จริง

    ม็อดเดอร์ชาวจีนชื่อ LCLDIY สร้างผลงานที่สะดุดตาในโลกเรโทร ด้วยการประกอบ Game Boy ขนาดยักษ์ ที่ใช้จอ Electroluminescent (EL) ซึ่งให้ภาพแบบ “เรโทรฟุ้งนุ่ม” คล้าย CRT แต่ไม่ต้องใช้หลอดภาพขนาดใหญ่ เขาเลือกเทคโนโลยีนี้เพราะไม่ต้องการให้ภาพแตกเป็นพิกเซลหยาบเมื่อขยายจอให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ทำให้ได้ลุคที่ทั้งแปลกตาและชวนคิดถึงในเวลาเดียวกัน

    ความท้าทายสำคัญคือ EL Display ไม่รองรับสัญญาณสมัยใหม่แม้แต่ VGA ทำให้ LCLDIY ต้องสร้าง การ์ดกราฟิกแบบ Custom ของตัวเอง พร้อมเขียน BIOS ใหม่ทั้งหมด โดยใช้ชิป CHIPS 65548/5 เพื่อแปลงสัญญาณ HSync/VSync จาก GPU รุ่นใหม่ให้เข้ากับจอ EL ได้อย่างถูกต้อง เขาใช้เมนบอร์ด Intel 854 เป็นตัวขับกราฟิกหลัก ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่า–ใหม่ที่น่าสนใจมาก

    ตัวเครื่องภายนอกถูกสร้างด้วยการ พิมพ์ 3D ทั้งหมด ใช้เวลาราวหนึ่งสัปดาห์ก่อนประกอบเข้ากับโครงที่ใช้ LEGO จริงบางส่วนเพื่อความแข็งแรง พร้อมปุ่มกดที่ใช้งานได้จริง และยังซ่อนคอนโทรลเลอร์ NES แบบมีสายไว้ด้านข้างเพื่อเล่นเกมจากแพลตฟอร์มอื่นได้ด้วย เขาทดสอบเกมดังหลายเกม เช่น Super Mario Bros., Contra และ Sonic ซึ่งล้วนแสดงผลด้วยแสงเรืองนุ่มแบบเรโทรที่โดดเด่นมาก

    แม้จอ EL จะให้ภาพที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ แต่ก็มีข้อเสีย เช่น ปัญหา Image Retention ที่คล้าย OLED และเป็นจอแบบ Monochrome เท่านั้น อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์นี้เปิดซอร์สทั้งหมด ทำให้ใครที่มีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์สามารถลองสร้างตามได้ ถือเป็นงานม็อดที่ทั้งสร้างสรรค์และเคารพความงามของเทคโนโลยียุคเก่าอย่างแท้จริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์จากโปรเจกต์ Game Boy ยักษ์
    ใช้ Electroluminescent Display ให้ภาพเรโทรแบบนุ่มคล้าย CRT
    ม็อดเดอร์สร้าง การ์ดกราฟิก Custom + BIOS ใหม่ เพื่อให้จอทำงานได้กับ GPU สมัยใหม่
    ตัวเครื่องพิมพ์ 3D ทั้งหมด พร้อมปุ่มใช้งานได้จริงและรองรับคอนโทรลเลอร์ NES
    เปิดซอร์สทั้งหมดให้ผู้สนใจทำตามได้เอง

    ข้อควรระวังและข้อจำกัดของเทคโนโลยีที่ใช้
    จอ EL มี Image Retention คล้าย OLED หากแสดงภาพนิ่งนานเกินไป
    เป็นจอ Monochrome ไม่รองรับสีเต็มรูปแบบเหมือนจอสมัยใหม่
    การสร้างการ์ดกราฟิก Custom ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์สูง
    ต้นทุนจอ EL ค่อนข้างแพงและหายากในตลาดปัจจุบัน

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/modder-builds-giant-game-boy-featuring-a-dreamy-electroluminescent-screen-driven-by-custom-graphics-adapter-diy-retro-console-is-fully-functional-with-working-buttons
    🎮✨ Game Boy ยักษ์จอ Electroluminescent: โปรเจกต์สุดโรแมนติกของยุคเรโทรที่ทำงานได้จริง ม็อดเดอร์ชาวจีนชื่อ LCLDIY สร้างผลงานที่สะดุดตาในโลกเรโทร ด้วยการประกอบ Game Boy ขนาดยักษ์ ที่ใช้จอ Electroluminescent (EL) ซึ่งให้ภาพแบบ “เรโทรฟุ้งนุ่ม” คล้าย CRT แต่ไม่ต้องใช้หลอดภาพขนาดใหญ่ เขาเลือกเทคโนโลยีนี้เพราะไม่ต้องการให้ภาพแตกเป็นพิกเซลหยาบเมื่อขยายจอให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ทำให้ได้ลุคที่ทั้งแปลกตาและชวนคิดถึงในเวลาเดียวกัน ความท้าทายสำคัญคือ EL Display ไม่รองรับสัญญาณสมัยใหม่แม้แต่ VGA ทำให้ LCLDIY ต้องสร้าง การ์ดกราฟิกแบบ Custom ของตัวเอง พร้อมเขียน BIOS ใหม่ทั้งหมด โดยใช้ชิป CHIPS 65548/5 เพื่อแปลงสัญญาณ HSync/VSync จาก GPU รุ่นใหม่ให้เข้ากับจอ EL ได้อย่างถูกต้อง เขาใช้เมนบอร์ด Intel 854 เป็นตัวขับกราฟิกหลัก ซึ่งเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่า–ใหม่ที่น่าสนใจมาก ตัวเครื่องภายนอกถูกสร้างด้วยการ พิมพ์ 3D ทั้งหมด ใช้เวลาราวหนึ่งสัปดาห์ก่อนประกอบเข้ากับโครงที่ใช้ LEGO จริงบางส่วนเพื่อความแข็งแรง พร้อมปุ่มกดที่ใช้งานได้จริง และยังซ่อนคอนโทรลเลอร์ NES แบบมีสายไว้ด้านข้างเพื่อเล่นเกมจากแพลตฟอร์มอื่นได้ด้วย เขาทดสอบเกมดังหลายเกม เช่น Super Mario Bros., Contra และ Sonic ซึ่งล้วนแสดงผลด้วยแสงเรืองนุ่มแบบเรโทรที่โดดเด่นมาก แม้จอ EL จะให้ภาพที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ แต่ก็มีข้อเสีย เช่น ปัญหา Image Retention ที่คล้าย OLED และเป็นจอแบบ Monochrome เท่านั้น อย่างไรก็ตาม โปรเจกต์นี้เปิดซอร์สทั้งหมด ทำให้ใครที่มีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์สามารถลองสร้างตามได้ ถือเป็นงานม็อดที่ทั้งสร้างสรรค์และเคารพความงามของเทคโนโลยียุคเก่าอย่างแท้จริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์จากโปรเจกต์ Game Boy ยักษ์ ➡️ ใช้ Electroluminescent Display ให้ภาพเรโทรแบบนุ่มคล้าย CRT ➡️ ม็อดเดอร์สร้าง การ์ดกราฟิก Custom + BIOS ใหม่ เพื่อให้จอทำงานได้กับ GPU สมัยใหม่ ➡️ ตัวเครื่องพิมพ์ 3D ทั้งหมด พร้อมปุ่มใช้งานได้จริงและรองรับคอนโทรลเลอร์ NES ➡️ เปิดซอร์สทั้งหมดให้ผู้สนใจทำตามได้เอง ‼️ ข้อควรระวังและข้อจำกัดของเทคโนโลยีที่ใช้ ⛔ จอ EL มี Image Retention คล้าย OLED หากแสดงภาพนิ่งนานเกินไป ⛔ เป็นจอ Monochrome ไม่รองรับสีเต็มรูปแบบเหมือนจอสมัยใหม่ ⛔ การสร้างการ์ดกราฟิก Custom ต้องใช้ความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์สูง ⛔ ต้นทุนจอ EL ค่อนข้างแพงและหายากในตลาดปัจจุบัน https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/modder-builds-giant-game-boy-featuring-a-dreamy-electroluminescent-screen-driven-by-custom-graphics-adapter-diy-retro-console-is-fully-functional-with-working-buttons
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • Atari Hotel เปิดระดมทุนสาธารณะ — โรงแรมธีมเกมยุคคลาสสิกมูลค่า $124M ที่คุณเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง $500

    โครงการ Atari Hotel ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากเงียบไปหลายปี โดยตอนนี้โครงการแรกกำลังจะถูกสร้างขึ้นที่ Phoenix, Arizona พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุนผ่าน Regulation A Tier 2 ของ SEC ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง $500 การลงทุนนี้ไม่ใช่การซื้อของที่ระลึก แต่เป็นการถือหุ้นจริงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีธีมเกมยุคเรโทรและวัฒนธรรมป๊อปเป็นแกนกลาง

    แม้ชื่อ Atari จะถูกใช้เป็นแบรนด์หลัก แต่โรงแรมนี้ไม่ได้สร้างโดยบริษัท Atari เอง หากเป็นผลงานของ Intersection Development และดีไซเนอร์ räkkhaus ที่ได้รับสิทธิ์ใช้แบรนด์ Atari เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ “cyberpunk arena” ที่ผสมผสานเกม เทคโนโลยี และศิลปะเข้าด้วยกัน ภาพเรนเดอร์ของโครงการเผยให้เห็นพื้นที่กว่า 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์ ร้านค้า และล็อบบี้ที่เต็มไปด้วย LED walls ขนาดใหญ่

    โครงการนี้มีงบประมาณรวม $124 ล้าน โดยระดมทุนไปแล้ว $14 ล้าน และตั้งเป้าเพิ่มอีก $35–40 ล้าน แต่ตามกฎของ SEC สามารถรับเงินได้สูงสุดถึง $75 ล้าน นักลงทุนจะได้รับสิทธิ์เข้าชมไซต์แบบ virtual ก่อนเปิดจริง และมี “digital brick” ของตัวเองในล็อบบี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนอสังหาฯ กับวัฒนธรรมแฟนคลับในยุคดิจิทัล

    โรงแรมมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และตั้งเป้าเปิดให้บริการช่วงกลางถึงปลายปี 2028 แม้จะมีความเสี่ยงด้านเงินทุนและความไม่แน่นอนของตลาดอสังหาฯ แต่โครงการนี้สะท้อนความพยายามของแบรนด์ Atari ที่กำลังทดลองเส้นทางใหม่ๆ ตั้งแต่ NFT ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อฟื้นบทบาทของตนในโลกสมัยใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    โครงการ Atari Hotel เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุน
    ใช้ Regulation A Tier 2 ของ SEC
    เริ่มลงทุนได้ที่ $500 และสูงสุดกว่า $50,000

    โรงแรมธีมเกมและวัฒนธรรมป๊อปมูลค่า $124 ล้าน
    พื้นที่รวม 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์และร้านค้า
    ล็อบบี้มี LED walls และงานศิลปะตามธีม Atari

    สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน
    virtual tour ก่อนเปิดจริง
    “digital brick” ในล็อบบี้เป็นสัญลักษณ์การมีส่วนร่วม

    ความเสี่ยงด้านเงินทุนและการก่อสร้าง
    ต้องการเงินอย่างน้อย ~$8.7M เพื่อให้ข้อเสนอเดินหน้าต่อ
    แม้จะรับได้สูงสุด $75M แต่ยังต้องหาเงินเพิ่มจากแหล่งอื่น

    ความไม่แน่นอนของแบรนด์ Atari ในยุคใหม่
    เคยทดลองธุรกิจหลากหลาย เช่น crypto และ NFT ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
    โครงการอาจถูกมองว่าใช้แบรนด์ Atari เพื่อดึงดูดนักลงทุนมากกว่าการสร้างคุณค่าจริง

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/you-can-own-a-piece-of-the-first-usd124-million-atari-hotel-in-phoenix-for-as-little-as-usd500-developer-launches-sec-backed-fundraiser-with-construction-set-to-begin-next-year
    🏨 Atari Hotel เปิดระดมทุนสาธารณะ — โรงแรมธีมเกมยุคคลาสสิกมูลค่า $124M ที่คุณเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง $500 โครงการ Atari Hotel ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากเงียบไปหลายปี โดยตอนนี้โครงการแรกกำลังจะถูกสร้างขึ้นที่ Phoenix, Arizona พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุนผ่าน Regulation A Tier 2 ของ SEC ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง $500 การลงทุนนี้ไม่ใช่การซื้อของที่ระลึก แต่เป็นการถือหุ้นจริงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีธีมเกมยุคเรโทรและวัฒนธรรมป๊อปเป็นแกนกลาง แม้ชื่อ Atari จะถูกใช้เป็นแบรนด์หลัก แต่โรงแรมนี้ไม่ได้สร้างโดยบริษัท Atari เอง หากเป็นผลงานของ Intersection Development และดีไซเนอร์ räkkhaus ที่ได้รับสิทธิ์ใช้แบรนด์ Atari เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ “cyberpunk arena” ที่ผสมผสานเกม เทคโนโลยี และศิลปะเข้าด้วยกัน ภาพเรนเดอร์ของโครงการเผยให้เห็นพื้นที่กว่า 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์ ร้านค้า และล็อบบี้ที่เต็มไปด้วย LED walls ขนาดใหญ่ โครงการนี้มีงบประมาณรวม $124 ล้าน โดยระดมทุนไปแล้ว $14 ล้าน และตั้งเป้าเพิ่มอีก $35–40 ล้าน แต่ตามกฎของ SEC สามารถรับเงินได้สูงสุดถึง $75 ล้าน นักลงทุนจะได้รับสิทธิ์เข้าชมไซต์แบบ virtual ก่อนเปิดจริง และมี “digital brick” ของตัวเองในล็อบบี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนอสังหาฯ กับวัฒนธรรมแฟนคลับในยุคดิจิทัล โรงแรมมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และตั้งเป้าเปิดให้บริการช่วงกลางถึงปลายปี 2028 แม้จะมีความเสี่ยงด้านเงินทุนและความไม่แน่นอนของตลาดอสังหาฯ แต่โครงการนี้สะท้อนความพยายามของแบรนด์ Atari ที่กำลังทดลองเส้นทางใหม่ๆ ตั้งแต่ NFT ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อฟื้นบทบาทของตนในโลกสมัยใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โครงการ Atari Hotel เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุน ➡️ ใช้ Regulation A Tier 2 ของ SEC ➡️ เริ่มลงทุนได้ที่ $500 และสูงสุดกว่า $50,000 ✅ โรงแรมธีมเกมและวัฒนธรรมป๊อปมูลค่า $124 ล้าน ➡️ พื้นที่รวม 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์และร้านค้า ➡️ ล็อบบี้มี LED walls และงานศิลปะตามธีม Atari ✅ สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน ➡️ virtual tour ก่อนเปิดจริง ➡️ “digital brick” ในล็อบบี้เป็นสัญลักษณ์การมีส่วนร่วม ‼️ ความเสี่ยงด้านเงินทุนและการก่อสร้าง ⛔ ต้องการเงินอย่างน้อย ~$8.7M เพื่อให้ข้อเสนอเดินหน้าต่อ ⛔ แม้จะรับได้สูงสุด $75M แต่ยังต้องหาเงินเพิ่มจากแหล่งอื่น ‼️ ความไม่แน่นอนของแบรนด์ Atari ในยุคใหม่ ⛔ เคยทดลองธุรกิจหลากหลาย เช่น crypto และ NFT ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ⛔ โครงการอาจถูกมองว่าใช้แบรนด์ Atari เพื่อดึงดูดนักลงทุนมากกว่าการสร้างคุณค่าจริง https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/you-can-own-a-piece-of-the-first-usd124-million-atari-hotel-in-phoenix-for-as-little-as-usd500-developer-launches-sec-backed-fundraiser-with-construction-set-to-begin-next-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • Professional Fire Door Maintenance Services
    City Fire Proofing provides certified fire door maintenance services nationwide, ensuring doors remain compliant, safe, and fully functional. Our experienced team carries out inspections, repairs, and ongoing maintenance for internal and external fire doors in residential and commercial buildings. Regular fire door maintenance helps meet legal requirements, extend door lifespan, and maintain effective fire protection throughout your property. For more visit here - https://www.cityfp.co.uk/fire-doors
    Professional Fire Door Maintenance Services City Fire Proofing provides certified fire door maintenance services nationwide, ensuring doors remain compliant, safe, and fully functional. Our experienced team carries out inspections, repairs, and ongoing maintenance for internal and external fire doors in residential and commercial buildings. Regular fire door maintenance helps meet legal requirements, extend door lifespan, and maintain effective fire protection throughout your property. For more visit here - https://www.cityfp.co.uk/fire-doors
    WWW.CITYFP.CO.UK
    Certified Fire Door Maintenance, Installation and Inspection Companies
    CityFP is one of the trusted fire door maintenance companies, delivering certified fire door maintenance, inspections, and installation to ensure safety, compliance, and long-term durability.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline


    Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI
    Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge
    https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse

    Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน
    Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก
    https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่
    https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover

    หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน
    ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account

    Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows
    ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน
    https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users

    OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon
    มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์
    https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch

    Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19%
    รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์
    https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge

    Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด
    https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining

    Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT
    รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ
    https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures

    “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้
    https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls

    Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม
    กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ
    https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes

    Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ
    นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์
    https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports

    GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner
    เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้
    https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry

    ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที
    Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่
    https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers

    CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains

    แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email
    Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น
    https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit

    SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root
    SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251218 #securityonline 🦊 Mozilla เปิดยุคใหม่: Firefox เตรียมกลายเป็นเบราว์เซอร์พลัง AI Mozilla ประกาศแผนการใหญ่ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ Anthony Enzor-DeMeo ที่จะเปลี่ยน Firefox จากเบราว์เซอร์แบบดั้งเดิมให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI จุดมุ่งหมายคือการทำให้ Firefox ไม่ใช่แค่เครื่องมือท่องเว็บ แต่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่เข้าใจผู้ใช้และสามารถปรับแต่งประสบการณ์ออนไลน์ได้อย่างลึกซึ้ง การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Mozilla ที่จะกลับมาแข่งขันในตลาดเบราว์เซอร์ที่ถูกครอบงำโดย Chrome และ Edge 🔗 https://securityonline.info/mozillas-new-chapter-ceo-anthony-enzor-demeo-to-transform-firefox-into-an-ai-powered-powerhouse 🔒 Let’s Encrypt ปรับระบบ TLS ใหม่: ใบรับรองสั้นลงเหลือ 45 วัน Let’s Encrypt ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบการออกใบรับรอง TLS โดยลดอายุการใช้งานจาก 90 วันเหลือเพียง 45 วัน พร้อมเปิดตัวโครงสร้างใหม่ที่เรียกว่า Generation Y Hierarchy และการรองรับ TLS แบบใช้ IP โดยตรง การเปลี่ยนแปลงนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากใบรับรองที่ถูกขโมยหรือไม่ได้อัปเดต และทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตมีความยืดหยุ่นมากขึ้น แม้จะเพิ่มภาระให้ผู้ดูแลระบบ แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของเว็บทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/the-45-day-era-begins-lets-encrypt-unveils-generation-y-hierarchy-and-ip-based-tls 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Commons Text เสี่ยงถูกยึดเซิร์ฟเวอร์ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใหม่ในไลบรารี Java ที่ชื่อ Apache Commons Text ซึ่งถูกใช้อย่างแพร่หลายในการจัดการข้อความ ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-46295 และมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.8 เต็ม 10 จุดอันตรายอยู่ที่ฟังก์ชัน string interpolation ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ไม่ปลอดภัยเข้ามาและทำให้เกิดการรันคำสั่งจากระยะไกลได้ ลักษณะนี้คล้ายกับเหตุการณ์ Log4Shell ที่เคยสร้างความเสียหายใหญ่ในอดีต ทีมพัฒนา FileMaker Server ได้รีบแก้ไขโดยอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ที่ปลอดภัยแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันทีเพื่อปิดช่องโหว่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-46295-cvss-9-8-critical-apache-commons-text-flaw-risks-total-server-takeover 🚦 หลอกด้วยใบสั่งจราจรปลอม: แอป RTO Challan ดูดข้อมูลและเงิน ในอินเดียมีการโจมตีใหม่ที่ใช้ความกลัวการโดนใบสั่งจราจรมาเป็นเครื่องมือ หลอกให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอป “RTO Challan” ผ่าน WhatsApp โดยอ้างว่าเป็นแอปทางการเพื่อดูหลักฐานการกระทำผิด แต่แท้จริงแล้วเป็นมัลแวร์ที่ซ่อนตัวและสร้าง VPN ปลอมเพื่อส่งข้อมูลออกไปโดยไม่ถูกตรวจจับ มันสามารถขโมยข้อมูลส่วนตัว ตั้งแต่บัตร Aadhaar, PAN ไปจนถึงข้อมูลธนาคาร และยังหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลบัตรเครดิตพร้อมรหัส PIN เพื่อทำธุรกรรมปลอมแบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่ผสมผสานทั้งวิศวกรรมสังคมและเทคนิคขั้นสูง ผู้ใช้ถูกเตือนให้ระวังข้อความจากเบอร์แปลกและไม่ดาวน์โหลดแอปจากลิงก์ที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://securityonline.info/rto-challan-scam-how-a-fake-traffic-ticket-and-a-malicious-vpn-can-drain-your-bank-account 💻 Node.js systeminformation พบช่องโหว่เสี่ยง RCE บน Windows ไลบรารีชื่อดัง systeminformation ที่ถูกดาวน์โหลดกว่า 16 ล้านครั้งต่อเดือน ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรง CVE-2025-68154 โดยเฉพาะบน Windows ฟังก์ชัน fsSize() ที่ใช้ตรวจสอบขนาดดิสก์ไม่ได้กรองข้อมูลอินพุต ทำให้ผู้โจมตีสามารถใส่คำสั่ง PowerShell แทนตัวอักษรไดรฟ์ และรันคำสั่งอันตรายได้ทันที ผลกระทบคือการเข้าควบคุมระบบ อ่านข้อมูลลับ หรือแม้กระทั่งปล่อย ransomware นักพัฒนาถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 5.27.14 ที่แก้ไขแล้วโดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/node-js-alert-systeminformation-flaw-risks-windows-rce-for-16m-monthly-users 💰 OpenAI เจรจา Amazon ขอทุนเพิ่ม 10 พันล้าน พร้อมเงื่อนไขใช้ชิป AI ของ Amazon มีรายงานว่า OpenAI กำลังเจรจากับ Amazon เพื่อระดมทุนมหาศาลถึง 10 พันล้านดอลลาร์ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ OpenAI ต้องใช้ชิป AI ของ Amazon เช่น Trainium และ Inferentia แทนการพึ่งพา NVIDIA ที่ราคาแพงและขาดตลาด หากดีลนี้เกิดขึ้นจริงจะเป็นการพลิกเกมครั้งใหญ่ เพราะจะทำให้ Amazon ได้การยืนยันคุณภาพชิปจากผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในวงการ AI และยังช่วยให้ OpenAI ลดต้นทุนการประมวลผล ขณะเดียวกันก็สร้างสมดุลระหว่าง Microsoft และ Amazon ในการเป็นพันธมิตรด้านคลาวด์ 🔗 https://securityonline.info/the-10b-pivot-openai-in-talks-for-massive-amazon-funding-but-theres-a-silicon-catch 🌐 Cloudflare เผยรายงานปี 2025: สงครามบอท AI และการจราจรอินเทอร์เน็ตพุ่ง 19% รายงานประจำปีของ Cloudflare ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 อินเทอร์เน็ตกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปริมาณการใช้งานเพิ่มขึ้น 19% และเกิด “สงครามบอท AI” ที่แข่งขันกันเก็บข้อมูลออนไลน์ โดย Google ครองอันดับหนึ่งด้านการเก็บข้อมูลผ่าน crawler เพื่อใช้ฝึกโมเดล AI อย่าง Gemini ขณะเดียวกันองค์กรไม่แสวงหากำไรกลับกลายเป็นเป้าหมายโจมตีไซเบอร์มากที่สุด เนื่องจากมีข้อมูลอ่อนไหวแต่ขาดทรัพยากรป้องกัน รายงานยังระบุว่ามีการโจมตี DDoS ครั้งใหญ่กว่า 25 ครั้งในปีเดียว และครึ่งหนึ่งของการหยุดชะงักอินเทอร์เน็ตทั่วโลกเกิดจากการกระทำของรัฐบาล การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนทั้งความก้าวหน้าและความเปราะบางของโลกออนไลน์ 🔗 https://securityonline.info/the-internet-rewired-cloudflare-2025-review-unveils-the-ai-bot-war-and-a-19-traffic-surge 🖥️ Locked Out of the Cloud: เมื่อแฮกเกอร์ใช้ AWS Termination Protection ปล้นพลังประมวลผลไปขุดคริปโต เรื่องนี้เป็นการโจมตีที่ซับซ้อนมากในโลกคลาวด์ แฮกเกอร์เจาะเข้ามาในระบบ AWS โดยใช้บัญชีที่ถูกขโมย แล้วรีบ deploy เครื่องขุดคริปโตภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที จุดที่น่ากลัวคือพวกเขาใช้ฟีเจอร์ DryRun เพื่อตรวจสอบสิทธิ์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และเมื่อเครื่องขุดถูกสร้างขึ้น พวกเขาเปิดการป้องกันการลบ (termination protection) ทำให้เจ้าของระบบไม่สามารถลบเครื่องได้ทันที ต้องปิดการป้องกันก่อนถึงจะจัดการได้ นั่นทำให้แฮกเกอร์มีเวลาขุดคริปโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการสร้าง backdoor ผ่าน AWS Lambda และเตรียมใช้ Amazon SES เพื่อส่งอีเมลฟิชชิ่งต่อไป เหตุการณ์นี้ไม่ใช่การเจาะ AWS โดยตรง แต่เป็นการใช้ credential ที่ถูกขโมยไปอย่างชาญฉลาด 🔗 https://securityonline.info/locked-out-of-the-cloud-hackers-use-aws-termination-protection-to-hijack-ecs-for-unstoppable-crypto-mining 📧 Blurred Deception: กลยุทธ์ฟิชชิ่งของกลุ่ม APT รัสเซียที่ใช้ “เอกสารเบลอ” กลุ่ม APT จากรัสเซียส่งอีเมลปลอมในชื่อคำสั่งจากประธานาธิบดี Transnistria โดยแนบไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารทางการ แต่เนื้อหาถูกทำให้เบลอด้วย CSS filter ผู้รับจึงต้องใส่อีเมลและรหัสผ่านเพื่อ “ปลดล็อก” เอกสาร ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นการหลอกขโมยข้อมูลเข้าสู่ระบบ ฟังก์ชัน JavaScript ที่ใช้ยังมีลูกเล่นคือไม่ว่ารหัสผ่านจะถูกหรือผิดก็ถูกส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ของแฮกเกอร์อยู่ดี แคมเปญนี้ไม่ได้หยุดแค่ Transnistria แต่ยังขยายไปยังประเทศในยุโรปตะวันออกและหน่วยงาน NATO ด้วย ถือเป็นการโจมตีที่ใช้ความเร่งด่วนและความอยากรู้อยากเห็นของเหยื่อเป็นตัวล่อ 🔗 https://securityonline.info/blurred-deception-russian-apt-targets-transnistria-and-nato-with-high-pressure-phishing-lures 🔐 “Better Auth” Framework Alert: ช่องโหว่ Double-Slash ที่ทำให้ระบบป้องกันพัง มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Better Auth ซึ่งเป็น framework ยอดนิยมสำหรับ TypeScript ที่ใช้กันกว้างขวาง ปัญหาคือ router ภายในชื่อ rou3 มอง URL ที่มีหลาย slash เช่น //sign-in/email ว่าเหมือนกับ /sign-in/email แต่ระบบป้องกันบางอย่างไม่ได้ normalize URL แบบเดียวกัน ทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึง path ที่ถูกปิดไว้ หรือเลี่ยง rate limit ได้ง่าย ๆ ช่องโหว่นี้มีคะแนน CVSS สูงถึง 8.6 และกระทบผู้ใช้จำนวนมาก การแก้ไขคืออัปเดตเวอร์ชันใหม่ หรือปรับ proxy ให้ normalize URL ก่อนถึงระบบ หากไม่ทำก็เสี่ยงที่ระบบจะถูกเจาะผ่านช่องโหว่เล็ก ๆ แต่ร้ายแรงนี้ 🔗 https://securityonline.info/better-auth-framework-alert-the-double-slash-trick-that-bypasses-security-controls 🐉 Ink Dragon’s Global Mesh: เมื่อเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลถูกเปลี่ยนเป็นโหนดสอดแนม กลุ่มสอดแนมไซเบอร์จากจีนที่ชื่อ Ink Dragon ใช้เทคนิคใหม่ในการสร้างเครือข่ายสั่งการ โดยเปลี่ยนเซิร์ฟเวอร์รัฐบาลที่ถูกเจาะให้กลายเป็นโหนด relay ส่งต่อคำสั่งและข้อมูลไปยังเป้าหมายอื่น ๆ ผ่านโมดูล ShadowPad IIS Listener ทำให้การติดตามแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะคำสั่งอาจวิ่งผ่านหลายองค์กรก่อนถึงเป้าหมายจริง พวกเขายังใช้ช่องโหว่ IIS ที่รู้จักกันมานานและ misconfiguration ของ ASP.NET เพื่อเข้ามา จากนั้นติดตั้ง malware รุ่นใหม่ที่ซ่อนการสื่อสารผ่าน Microsoft Graph API การขยายเป้าหมายไปยังยุโรปทำให้ภัยนี้ไม่ใช่แค่ระดับภูมิภาค แต่เป็นโครงสร้างสอดแนมข้ามชาติที่ใช้โครงสร้างของเหยื่อเองเป็นเครื่องมือ 🔗 https://securityonline.info/ink-dragons-global-mesh-how-chinese-spies-turn-compromised-government-servers-into-c2-relay-nodes 📚 Academic Ambush: เมื่อกลุ่ม APT ปลอมรายงาน “Plagiarism” เพื่อเจาะระบบนักวิชาการ นี่คือแคมเปญที่ใช้ความกังวลของนักวิชาการเป็นตัวล่อ แฮกเกอร์ส่งอีเมลปลอมในชื่อ “Forum Troll APT” โดยอ้างว่าผลงานของเหยื่อถูกตรวจพบการลอกเลียนแบบ พร้อมแนบไฟล์ Word ที่ดูเหมือนรายงานตรวจสอบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นเอกสารที่ฝังโค้ดอันตราย เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ โค้ดจะถูกเรียกใช้เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เข้ามาในเครื่องทันที การโจมตีนี้เล่นกับความกลัวเรื่องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือในวงวิชาการ ทำให้ผู้รับมีแนวโน้มเปิดไฟล์โดยไม่ระวัง ถือเป็นการใช้ “แรงกดดันทางสังคม” เป็นอาวุธไซเบอร์ 🔗 https://securityonline.info/academic-ambush-how-the-forum-troll-apt-hijacks-scholars-systems-via-fake-plagiarism-reports 🛠️ GitHub ยอมถอย หลังนักพัฒนารวมพลังต้านค่าธรรมเนียม Self-Hosted Runner เรื่องนี้เริ่มจาก GitHub ประกาศว่าจะเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการใช้งาน self-hosted runner ใน GitHub Actions ตั้งแต่มีนาคม 2026 โดยคิดนาทีละ 0.002 ดอลลาร์ แม้ผู้ใช้จะลงทุนเครื่องเองแล้วก็ตาม ข่าวนี้ทำให้ชุมชนนักพัฒนาลุกฮือทันที เสียงวิจารณ์ดังไปทั่วว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ สุดท้าย GitHub ต้องออกมาประกาศเลื่อนการเก็บค่าธรรมเนียมออกไป พร้อมลดราคาสำหรับ runner ที่ GitHub โฮสต์เองลงถึง 39% ตั้งแต่ต้นปี 2026 และย้ำว่าจะกลับไปฟังเสียงนักพัฒนาให้มากขึ้นก่อนปรับแผนใหม่ เรื่องนี้สะท้อนว่าพลังของชุมชนสามารถกดดันให้แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ต้องทบทวนการตัดสินใจได้ 🔗 https://securityonline.info/the-developer-win-github-postpones-self-hosted-runner-fee-after-massive-community-outcry ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรง HPE OneView เปิดทางให้ยึดศูนย์ข้อมูลได้ทันที Hewlett Packard Enterprise (HPE) แจ้งเตือนช่องโหว่ CVE-2025-37164 ที่มีคะแนนความรุนแรงสูงสุด 10.0 ในซอฟต์แวร์ OneView ซึ่งเป็นหัวใจในการจัดการเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีที่ไม่ต้องล็อกอินสามารถสั่งรันโค้ดจากระยะไกลได้ทันที เท่ากับว่าสามารถยึดศูนย์ข้อมูลทั้งระบบได้เลย HPE รีบออกแพตช์ v11.00 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน สำหรับผู้ที่ยังใช้เวอร์ชันเก่า มี hotfix ให้ แต่ต้องระวังว่าหลังอัปเกรดบางเวอร์ชันต้องติดตั้งซ้ำอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะยังเสี่ยงอยู่ 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-37164-cvss-10-0-unauthenticated-hpe-oneview-rce-grants-total-control-over-data-centers 🚨 CISA เตือนด่วน แฮ็กเกอร์จีนใช้ช่องโหว่ Cisco และ SonicWall โจมตีจริงแล้ว หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเพิ่มช่องโหว่ร้ายแรงเข้ารายการ KEV หลังพบว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ Cisco Secure Email Gateway ที่มีคะแนน 10 เต็มในการเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน พร้อมติดตั้งมัลแวร์ AquaShell และ AquaPurge เพื่อซ่อนร่องรอย นอกจากนี้ยังพบการโจมตี SonicWall SMA1000 โดยใช้ช่องโหว่เดิมร่วมกับช่องโหว่ใหม่เพื่อยึดระบบได้ทั้งหมด และยังมีการนำช่องโหว่เก่าใน ASUS Live Update ที่หมดการสนับสนุนแล้วกลับมาใช้โจมตีในลักษณะ supply chain อีกด้วย ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งแพตช์ก่อนเส้นตาย 24 ธันวาคม 2025 🔗 https://securityonline.info/cisa-alert-chinese-hackers-weaponize-cvss-10-cisco-zero-day-sonicwall-exploit-chains 🐚 แฮ็กเกอร์จีน UAT-9686 ใช้มัลแวร์ Aqua เจาะ Cisco Secure Email Cisco Talos เปิดเผยว่ากลุ่ม UAT-9686 กำลังใช้ช่องโหว่ CVE-2025-20393 ใน Cisco Secure Email Gateway และ Web Manager เพื่อเข้าถึงระบบในระดับ root โดยอาศัยการเปิดใช้งานฟีเจอร์ Spam Quarantine ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งหากเปิดไว้จะกลายเป็นช่องทางให้โจมตีได้ทันที เมื่อเข้ามาแล้วพวกเขาติดตั้งมัลแวร์ชุด “Aqua” ได้แก่ AquaShell ที่ฝังตัวในไฟล์เซิร์ฟเวอร์, AquaPurge ที่ลบหลักฐานใน log และ AquaTunnel ที่สร้างการเชื่อมต่อย้อนกลับเพื่อรักษาการเข้าถึง แม้แก้ช่องโหว่แล้วก็ยังไม่พ้นภัย เพราะมัลแวร์ฝังลึกจน Cisco แนะนำว่าหากถูกเจาะแล้วต้อง rebuild เครื่องใหม่เท่านั้น 🔗 https://securityonline.info/cisco-zero-day-siege-chinese-group-uat-9686-deploys-aqua-malware-via-cvss-10-root-exploit 🔒 SonicWall เตือนช่องโหว่ใหม่ถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่เดิม ยึดระบบได้แบบ root SonicWall ออกประกาศด่วนเกี่ยวกับช่องโหว่ CVE-2025-40602 ในอุปกรณ์ SMA1000 แม้คะแนน CVSS เพียง 6.6 แต่เมื่อถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่ CVE-2025-23006 ที่ร้ายแรงกว่า จะกลายเป็นการโจมตีแบบ chain ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบโดยไม่ต้องล็อกอิน และยกระดับสิทธิ์เป็น root ได้ทันที เท่ากับยึดระบบทั้งองค์กรได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่าน SonicWall ได้ออกแพตช์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที หากไม่สามารถทำได้ควรปิดการเข้าถึง AMC และ SSH จากอินเทอร์เน็ตเพื่อป้องกันการโจมตี ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/zero-day-warning-hackers-chain-sonicwall-sma1000-flaws-for-unauthenticated-root-rce
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 650 มุมมอง 0 รีวิว
  • Anti-Acne Dermal Patch – A Modern Solution for Targeted Acne Care

    Anti-acne dermal patches have emerged as a convenient and effective solution for managing individual acne lesions. Designed to adhere directly to the skin, these patches deliver active ingredients precisely where they are needed, offering targeted treatment without affecting surrounding healthy skin.

    Unlike traditional creams or gels that spread across a broader area, dermal patches focus on a single pimple or inflamed spot. Many patches are made using hydrocolloid materials, which absorb excess oil, pus, and impurities from the acne lesion. This creates a clean, protected environment that supports faster healing.

    One of the key advantages of anti-acne dermal patches is their ability to act as a physical barrier. By covering the blemish, the patch prevents picking, scratching, or exposure to external bacteria, all of which can worsen acne and increase the risk of scarring. This protective function is particularly beneficial for individuals prone to touching their face.

    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/anti-acne-dermal-patch-market-11038
    Anti-Acne Dermal Patch – A Modern Solution for Targeted Acne Care Anti-acne dermal patches have emerged as a convenient and effective solution for managing individual acne lesions. Designed to adhere directly to the skin, these patches deliver active ingredients precisely where they are needed, offering targeted treatment without affecting surrounding healthy skin. Unlike traditional creams or gels that spread across a broader area, dermal patches focus on a single pimple or inflamed spot. Many patches are made using hydrocolloid materials, which absorb excess oil, pus, and impurities from the acne lesion. This creates a clean, protected environment that supports faster healing. One of the key advantages of anti-acne dermal patches is their ability to act as a physical barrier. By covering the blemish, the patch prevents picking, scratching, or exposure to external bacteria, all of which can worsen acne and increase the risk of scarring. This protective function is particularly beneficial for individuals prone to touching their face. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/anti-acne-dermal-patch-market-11038
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Anti-Acne Dermal Patch Market Size, Share, Trends, 2035
    Anti-Acne Dermal Patch Market share is projected to reach USD 1.28 Billion By 2035, at a 7.45 % CAGR by driving industry size, top company analysis, segments research, trends and forecast report 2025 to 2035 | MRFR
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 191 มุมมอง 0 รีวิว
  • Epilepsy Surgery – A Life-Changing Option for Drug-Resistant Seizures

    Epilepsy surgery is a specialized medical intervention designed for individuals whose seizures cannot be controlled with medications alone. While most people with epilepsy achieve stability through anti-seizure drugs, nearly one-third continue to experience uncontrolled seizures, a condition known as drug-resistant epilepsy. For these individuals, surgery can offer a transformative path toward seizure reduction or complete freedom.

    The primary goal of epilepsy surgery is to identify and remove or disconnect the area of the brain where seizures originate, without affecting critical functions such as speech, memory, or movement. This process begins with extensive pre-surgical evaluations, including video EEG monitoring, MRI scans, neuropsychological assessments, and functional brain mapping. These tests help physicians pinpoint the seizure focus with precision.

    One of the most common surgical approaches is resective surgery, where the seizure-producing brain tissue is removed. Temporal lobe epilepsy is particularly responsive to this technique, with many patients achieving long-term seizure control. Other surgical options include disconnective procedures, such as corpus callosotomy, which prevents seizures from spreading across brain hemispheres, reducing seizure severity and injury risk.

    ➤➤➤ Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/epilepsy-surgery-market-10676
    Epilepsy Surgery – A Life-Changing Option for Drug-Resistant Seizures Epilepsy surgery is a specialized medical intervention designed for individuals whose seizures cannot be controlled with medications alone. While most people with epilepsy achieve stability through anti-seizure drugs, nearly one-third continue to experience uncontrolled seizures, a condition known as drug-resistant epilepsy. For these individuals, surgery can offer a transformative path toward seizure reduction or complete freedom. The primary goal of epilepsy surgery is to identify and remove or disconnect the area of the brain where seizures originate, without affecting critical functions such as speech, memory, or movement. This process begins with extensive pre-surgical evaluations, including video EEG monitoring, MRI scans, neuropsychological assessments, and functional brain mapping. These tests help physicians pinpoint the seizure focus with precision. One of the most common surgical approaches is resective surgery, where the seizure-producing brain tissue is removed. Temporal lobe epilepsy is particularly responsive to this technique, with many patients achieving long-term seizure control. Other surgical options include disconnective procedures, such as corpus callosotomy, which prevents seizures from spreading across brain hemispheres, reducing seizure severity and injury risk. ➤➤➤ Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/epilepsy-surgery-market-10676
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Epilepsy Surgery Market Size, Share Forecast 2035 MRFR
    Epilepsy surgery market is expected to reach USD 2.33 billion by 2035. The high sensitivity risk of elderly epilepsy is expected to fuel consumer demand.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • Autoimmune Encephalomyelitis and Immune Dysregulation

    Autoimmune encephalomyelitis arises when the immune system attacks components of the central nervous system. This immune dysregulation leads to inflammation and neurological dysfunction.

    Patients may experience recurring symptoms or progressive neurological decline. Fatigue, weakness, cognitive impairment, and sensory changes are common.

    Diagnosis often involves identifying immune markers and ruling out infectious causes. Treatment includes immune-modulating therapies aimed at reducing inflammation and preventing relapses.

    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/encephalomyelitis-market-4874
    Autoimmune Encephalomyelitis and Immune Dysregulation Autoimmune encephalomyelitis arises when the immune system attacks components of the central nervous system. This immune dysregulation leads to inflammation and neurological dysfunction. Patients may experience recurring symptoms or progressive neurological decline. Fatigue, weakness, cognitive impairment, and sensory changes are common. Diagnosis often involves identifying immune markers and ruling out infectious causes. Treatment includes immune-modulating therapies aimed at reducing inflammation and preventing relapses. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/encephalomyelitis-market-4874
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Encephalomyelitis Market Size, Share, Trends, Growth, 2035
    Encephalomyelitis Market share register 1.95 Billion USD in 2024, projected to grow 5.44% CAGR to reach USD 3.49 Billion during the forecast period 2025 - 2035.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • Enhancing Workflow Efficiency with Integrated Cardiology Devices

    Healthcare efficiency is critical in cardiology departments where high patient volumes and complex procedures are common. Integrated cardiology devices play a vital role in streamlining workflows and reducing operational burden.

    By consolidating multiple diagnostic and monitoring functions, integrated systems reduce the need for redundant equipment. Clinicians can access comprehensive cardiac data without switching between devices, saving valuable time.

    Automated data capture and documentation further enhance efficiency. Integrated platforms seamlessly transfer information into electronic health records, reducing manual entry and minimizing errors.

    Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/integrated-cardiology-devices-market-1189
    Enhancing Workflow Efficiency with Integrated Cardiology Devices Healthcare efficiency is critical in cardiology departments where high patient volumes and complex procedures are common. Integrated cardiology devices play a vital role in streamlining workflows and reducing operational burden. By consolidating multiple diagnostic and monitoring functions, integrated systems reduce the need for redundant equipment. Clinicians can access comprehensive cardiac data without switching between devices, saving valuable time. Automated data capture and documentation further enhance efficiency. Integrated platforms seamlessly transfer information into electronic health records, reducing manual entry and minimizing errors. Reference - https://www.marketresearchfuture.com/reports/integrated-cardiology-devices-market-1189
    WWW.MARKETRESEARCHFUTURE.COM
    Integrated Cardiology Devices Market Size, Share, Trends 2035
    Integrated Cardiology Devices Market is projected to grow from 4.92 USD Billion in 2024 to 11.2 USD Billion by 2035.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • PayPal ยื่นขอใบอนุญาตธนาคารอุตสาหกรรม SMEs

    PayPal ไม่ต้องการเป็นเพียง “ตัวกลางโอนเงิน” อีกต่อไป บริษัทได้ยื่นขออนุญาตจัดตั้ง Industrial Bank ในรัฐ Utah และต่อ FDIC เพื่อให้สามารถทำธุรกิจธนาคารเต็มรูปแบบ ทั้งการรับฝากและปล่อยกู้โดยตรง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะลดการพึ่งพาธนาคารคู่ค้า และเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานทางการเงินโดยตรง

    จุดเปลี่ยนสำคัญ: SMEs และการเข้าถึงเงินทุน
    หนึ่งในเหตุผลหลักคือการช่วยเหลือ ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMEs) ที่มักประสบปัญหาเข้าถึงเงินทุนจากธนาคารดั้งเดิมที่มีมาตรฐานการปล่อยกู้เข้มงวด PayPal มองว่าตนเองมีข้อมูลเชิงลึกจากธุรกรรมของผู้ค้าออนไลน์และธุรกิจเล็ก ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นฐานในการประเมินเครดิตได้แม่นยำกว่า ทำให้การปล่อยกู้มีความเสี่ยงต่ำลงและสร้างผลตอบแทนสูงขึ้น

    มิติใหม่: การรองรับคริปโตและ Stablecoin
    นอกจากการปล่อยกู้ PayPal ยังวางแผนใช้ใบอนุญาตนี้เพื่อขยายการดำเนินงานด้าน คริปโตและ Stablecoin (PYUSD) ภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจน การมีสถานะเป็นธนาคารจะช่วยให้ PayPal จัดการการแปลงค่าเงิน Fiat-คริปโตได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการที่ธนาคารคู่ค้าปฏิเสธให้บริการอย่างกะทันหัน

    มุมมองเชิงกลยุทธ์
    การยื่นขอใบอนุญาตนี้ถูกมองว่าเป็น “Endgame” ของ Fintech เพราะจะทำให้ PayPal มีอิสระในการดำเนินงานทางการเงินมากขึ้น คล้ายกับที่ Block (Square) เคยทำสำเร็จมาก่อน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ มีท่าทีระมัดระวังต่อบริษัทเทคโนโลยีที่เข้าสู่ธุรกิจธนาคาร ทำให้การอนุมัติครั้งนี้เป็นบททดสอบสำคัญต่ออนาคตของการกำกับดูแลการเงินในสหรัฐฯ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    PayPal ยื่นขอใบอนุญาต Industrial Bank Charter
    ยื่นต่อรัฐ Utah และ FDIC
    เปลี่ยนจากแพลตฟอร์มโอนเงินเป็นธนาคารเต็มรูปแบบ

    เป้าหมายหลักคือ SMEs
    ลดข้อจำกัดจากธนาคารดั้งเดิม
    ใช้ข้อมูลธุรกรรมออนไลน์ในการประเมินเครดิต

    ขยายสู่คริปโตและ Stablecoin
    รองรับ PYUSD ภายใต้กรอบกฎหมาย
    ลดความเสี่ยงจากการถูกตัดบริการโดยธนาคารคู่ค้า

    ผลเชิงกลยุทธ์
    ลดต้นทุนการดำเนินงาน
    เพิ่มกำไรจากการปล่อยกู้และการจัดการข้อมูล

    คำเตือนและความเสี่ยง
    การอนุมัติขึ้นอยู่กับท่าทีระมัดระวังของหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ
    หากถูกปฏิเสธ อาจกระทบต่อแผนการขยายธุรกิจและการลงทุนด้านคริปโต

    https://securityonline.info/fintech-endgame-paypal-applies-for-industrial-bank-charter-to-fund-smes-and-support-crypto/
    💳 PayPal ยื่นขอใบอนุญาตธนาคารอุตสาหกรรม SMEs PayPal ไม่ต้องการเป็นเพียง “ตัวกลางโอนเงิน” อีกต่อไป บริษัทได้ยื่นขออนุญาตจัดตั้ง Industrial Bank ในรัฐ Utah และต่อ FDIC เพื่อให้สามารถทำธุรกิจธนาคารเต็มรูปแบบ ทั้งการรับฝากและปล่อยกู้โดยตรง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะลดการพึ่งพาธนาคารคู่ค้า และเพิ่มกำไรจากการดำเนินงานทางการเงินโดยตรง 🏦 จุดเปลี่ยนสำคัญ: SMEs และการเข้าถึงเงินทุน หนึ่งในเหตุผลหลักคือการช่วยเหลือ ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMEs) ที่มักประสบปัญหาเข้าถึงเงินทุนจากธนาคารดั้งเดิมที่มีมาตรฐานการปล่อยกู้เข้มงวด PayPal มองว่าตนเองมีข้อมูลเชิงลึกจากธุรกรรมของผู้ค้าออนไลน์และธุรกิจเล็ก ๆ ซึ่งสามารถใช้เป็นฐานในการประเมินเครดิตได้แม่นยำกว่า ทำให้การปล่อยกู้มีความเสี่ยงต่ำลงและสร้างผลตอบแทนสูงขึ้น 🪙 มิติใหม่: การรองรับคริปโตและ Stablecoin นอกจากการปล่อยกู้ PayPal ยังวางแผนใช้ใบอนุญาตนี้เพื่อขยายการดำเนินงานด้าน คริปโตและ Stablecoin (PYUSD) ภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจน การมีสถานะเป็นธนาคารจะช่วยให้ PayPal จัดการการแปลงค่าเงิน Fiat-คริปโตได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการที่ธนาคารคู่ค้าปฏิเสธให้บริการอย่างกะทันหัน 📊 มุมมองเชิงกลยุทธ์ การยื่นขอใบอนุญาตนี้ถูกมองว่าเป็น “Endgame” ของ Fintech เพราะจะทำให้ PayPal มีอิสระในการดำเนินงานทางการเงินมากขึ้น คล้ายกับที่ Block (Square) เคยทำสำเร็จมาก่อน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ มีท่าทีระมัดระวังต่อบริษัทเทคโนโลยีที่เข้าสู่ธุรกิจธนาคาร ทำให้การอนุมัติครั้งนี้เป็นบททดสอบสำคัญต่ออนาคตของการกำกับดูแลการเงินในสหรัฐฯ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ PayPal ยื่นขอใบอนุญาต Industrial Bank Charter ➡️ ยื่นต่อรัฐ Utah และ FDIC ➡️ เปลี่ยนจากแพลตฟอร์มโอนเงินเป็นธนาคารเต็มรูปแบบ ✅ เป้าหมายหลักคือ SMEs ➡️ ลดข้อจำกัดจากธนาคารดั้งเดิม ➡️ ใช้ข้อมูลธุรกรรมออนไลน์ในการประเมินเครดิต ✅ ขยายสู่คริปโตและ Stablecoin ➡️ รองรับ PYUSD ภายใต้กรอบกฎหมาย ➡️ ลดความเสี่ยงจากการถูกตัดบริการโดยธนาคารคู่ค้า ✅ ผลเชิงกลยุทธ์ ➡️ ลดต้นทุนการดำเนินงาน ➡️ เพิ่มกำไรจากการปล่อยกู้และการจัดการข้อมูล ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ การอนุมัติขึ้นอยู่กับท่าทีระมัดระวังของหน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ ⛔ หากถูกปฏิเสธ อาจกระทบต่อแผนการขยายธุรกิจและการลงทุนด้านคริปโต https://securityonline.info/fintech-endgame-paypal-applies-for-industrial-bank-charter-to-fund-smes-and-support-crypto/
    SECURITYONLINE.INFO
    Fintech Endgame: PayPal Applies for Industrial Bank Charter to Fund SMEs and Support Crypto
    PayPal seeks an industrial bank charter in Utah to cut reliance on partners, fund small businesses directly, and consolidate its growing cryptocurrency and PYUSD stablecoin operations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • Scribus 1.6.5: ก้าวใหม่ของซอฟต์แวร์ Desktop Publishing

    ทีมพัฒนา Scribus ได้ปล่อยเวอร์ชัน 1.6.5 ซึ่งเป็นการอัปเดตต่อเนื่องจากสาย 1.6 stable โดยมุ่งเน้นการแก้ไขและปรับปรุงฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องมากที่สุด จุดเด่นคือการปรับปรุง PDF export ให้มีความเสถียรและยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้การสร้างเอกสารสำหรับงานพิมพ์หรือเผยแพร่ดิจิทัลมีคุณภาพสูงขึ้น

    ปรับปรุง Light/Dark Mode และ Eyedropper
    หนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้สมัยใหม่ให้ความสำคัญคือ การรองรับ light/dark mode ซึ่ง Scribus 1.6.5 ได้ปรับปรุงให้ทำงานได้ราบรื่นขึ้นบนหลายแพลตฟอร์ม นอกจากนี้เครื่องมือ color eyedropper ก็ได้รับการปรับปรุงให้แม่นยำและใช้งานง่ายขึ้น ช่วยให้นักออกแบบสามารถเลือกสีจากงานได้ตรงตามต้องการ

    พลังใหม่ของ Scripter Functions
    สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำงานอัตโนมัติ Scribus 1.6.5 ได้เพิ่มและปรับปรุง scripter functions ทำให้สามารถเขียนสคริปต์เพื่อควบคุมการทำงานได้หลากหลายขึ้น เช่น การจัดการเลย์เอาต์ การสร้างเอกสารจำนวนมาก หรือการปรับแต่งการส่งออกไฟล์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานระดับมืออาชีพ

    ความสำคัญต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Scribus ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือ Desktop Publishing แบบโอเพ่นซอร์สที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นทางเลือกแทนซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์อย่าง Adobe InDesign สำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและไม่ต้องพึ่งพา license ที่มีค่าใช้จ่ายสูง

    สรุปประเด็นสำคัญ

    ฟีเจอร์ใหม่ใน Scribus 1.6.5
    ปรับปรุง PDF export ให้เสถียรและยืดหยุ่น
    รองรับ light/dark mode ดีขึ้น
    Eyedropper เลือกสีได้แม่นยำขึ้น
    เพิ่มความสามารถใน scripter functions

    ผลต่อผู้ใช้
    นักออกแบบสามารถสร้างงานพิมพ์คุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น
    ผู้ใช้ที่ทำงานอัตโนมัติสามารถใช้สคริปต์ได้หลากหลาย

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจพลาดฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขบั๊กสำคัญ
    การอัปเดตควรทดสอบกับไฟล์งานจริงเพื่อป้องกันความไม่เข้ากันของปลั๊กอินหรือสคริปต์เดิม

    https://9to5linux.com/scribus-1-6-5-open-source-desktop-publishing-app-released-with-various-changes
    📰 Scribus 1.6.5: ก้าวใหม่ของซอฟต์แวร์ Desktop Publishing ทีมพัฒนา Scribus ได้ปล่อยเวอร์ชัน 1.6.5 ซึ่งเป็นการอัปเดตต่อเนื่องจากสาย 1.6 stable โดยมุ่งเน้นการแก้ไขและปรับปรุงฟีเจอร์ที่ผู้ใช้เรียกร้องมากที่สุด จุดเด่นคือการปรับปรุง PDF export ให้มีความเสถียรและยืดหยุ่นมากขึ้น ทำให้การสร้างเอกสารสำหรับงานพิมพ์หรือเผยแพร่ดิจิทัลมีคุณภาพสูงขึ้น 🌗 ปรับปรุง Light/Dark Mode และ Eyedropper หนึ่งในฟีเจอร์ที่ผู้ใช้สมัยใหม่ให้ความสำคัญคือ การรองรับ light/dark mode ซึ่ง Scribus 1.6.5 ได้ปรับปรุงให้ทำงานได้ราบรื่นขึ้นบนหลายแพลตฟอร์ม นอกจากนี้เครื่องมือ color eyedropper ก็ได้รับการปรับปรุงให้แม่นยำและใช้งานง่ายขึ้น ช่วยให้นักออกแบบสามารถเลือกสีจากงานได้ตรงตามต้องการ ⚙️ พลังใหม่ของ Scripter Functions สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำงานอัตโนมัติ Scribus 1.6.5 ได้เพิ่มและปรับปรุง scripter functions ทำให้สามารถเขียนสคริปต์เพื่อควบคุมการทำงานได้หลากหลายขึ้น เช่น การจัดการเลย์เอาต์ การสร้างเอกสารจำนวนมาก หรือการปรับแต่งการส่งออกไฟล์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานระดับมืออาชีพ 🌍 ความสำคัญต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส การอัปเดตครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Scribus ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือ Desktop Publishing แบบโอเพ่นซอร์สที่แข็งแกร่งที่สุด และเป็นทางเลือกแทนซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์อย่าง Adobe InDesign สำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นและไม่ต้องพึ่งพา license ที่มีค่าใช้จ่ายสูง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน Scribus 1.6.5 ➡️ ปรับปรุง PDF export ให้เสถียรและยืดหยุ่น ➡️ รองรับ light/dark mode ดีขึ้น ➡️ Eyedropper เลือกสีได้แม่นยำขึ้น ➡️ เพิ่มความสามารถใน scripter functions ✅ ผลต่อผู้ใช้ ➡️ นักออกแบบสามารถสร้างงานพิมพ์คุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น ➡️ ผู้ใช้ที่ทำงานอัตโนมัติสามารถใช้สคริปต์ได้หลากหลาย ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากยังใช้เวอร์ชันเก่า อาจพลาดฟีเจอร์ใหม่และการแก้ไขบั๊กสำคัญ ⛔ การอัปเดตควรทดสอบกับไฟล์งานจริงเพื่อป้องกันความไม่เข้ากันของปลั๊กอินหรือสคริปต์เดิม https://9to5linux.com/scribus-1-6-5-open-source-desktop-publishing-app-released-with-various-changes
    9TO5LINUX.COM
    Scribus 1.6.5 Open-Source Desktop Publishing App Released with Various Changes - 9to5Linux
    Scribus 1.6.5 free and open-source desktop publishing software is now available for download with various updates and bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 โครงการที่ถูก Ubuntu ยกเลิก แต่เราก็ยังคิดถึงมันอยู่

    Ubuntu One: ความฝันคลาวด์ที่ไม่ยั่งยืน
    Ubuntu เคยเปิดตัว Ubuntu One เพื่อเป็นบริการคลาวด์เก็บไฟล์และซิงก์ข้อมูล คล้ายกับ iCloud ของ Apple โดยให้พื้นที่ฟรี 5GB และสามารถซื้อเพิ่มได้ รวมถึงมีบริการซื้อเพลงผ่าน Ubuntu One Music Store แต่สุดท้ายถูกยกเลิกในปี 2014 เพราะไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่ให้พื้นที่ฟรีมากกว่า และ Canonical ต้องการโฟกัสไปที่การพัฒนาแพลตฟอร์มอื่น

    Convergence และ Ubuntu Edge: ความพยายามสู่สมาร์ทโฟน
    Canonical เคยมีความฝันที่จะทำให้ Ubuntu รันได้ทั้งบน PC, Tablet และ Smartphone ผ่านแนวคิด Convergence และเปิดตัวโครงการ Ubuntu Edge สมาร์ทโฟนที่ใช้ Ubuntu โดยระดมทุนผ่าน crowdfunding ได้กว่า 12 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่ถึงเป้าหมาย 32 ล้าน ทำให้โครงการต้องปิดตัวไป อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ยังคงถูกนำไปใช้ในเทคโนโลยีอย่าง Samsung DeX ในปัจจุบัน

    Ubuntu Unity และ Mir: การทดลองที่ไม่รอด
    Ubuntu เคยพัฒนา Unity Desktop Environment และ Mir Display Server เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลง และสุดท้าย Canonical ต้องยกเลิก Unity ในปี 2017 และกลับมาใช้ GNOME ที่ปรับแต่งใหม่ ส่วน Mir ก็ถูกลดบทบาทไปใช้กับ IoT แทน ไม่ได้ถูกใช้ในเดสก์ท็อปอีกต่อไป

    Wubi และ Ubuntu Make: เครื่องมือที่ถูกลืม
    Wubi Installer เคยทำให้ผู้ใช้ Windows สามารถติดตั้ง Ubuntu ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องแก้ไขพาร์ทิชัน แต่ถูกยกเลิกเพราะมีปัญหาความเข้ากันได้
    Ubuntu Make เป็น CLI สำหรับติดตั้งเครื่องมือพัฒนา เช่น Atom หรือ VS Code แต่ถูกแทนที่ด้วย Snap ที่ใช้ง่ายกว่าและปลอดภัยกว่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    โครงการที่ถูกยกเลิก
    Ubuntu One (Cloud + Music Store)
    Ubuntu Edge และ Convergence (สมาร์ทโฟน Ubuntu)
    Unity Desktop และ Mir Display Server
    Wubi Installer และ Ubuntu Make

    เหตุผลหลักที่ล้มเหลว
    แข่งขันไม่ได้กับคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่า
    ขาดเงินทุนและการสนับสนุนจากผู้ใช้
    ผู้ใช้ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใหญ่
    เทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา
    การพัฒนาโครงการใหม่โดยไม่ประเมินตลาด อาจทำให้สูญเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์
    การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ อาจนำไปสู่การต่อต้านและความล้มเหลว

    https://itsfoss.com/projects-ditched-by-ubuntu/
    🏗️ 7 โครงการที่ถูก Ubuntu ยกเลิก แต่เราก็ยังคิดถึงมันอยู่ 🗂️ Ubuntu One: ความฝันคลาวด์ที่ไม่ยั่งยืน Ubuntu เคยเปิดตัว Ubuntu One เพื่อเป็นบริการคลาวด์เก็บไฟล์และซิงก์ข้อมูล คล้ายกับ iCloud ของ Apple โดยให้พื้นที่ฟรี 5GB และสามารถซื้อเพิ่มได้ รวมถึงมีบริการซื้อเพลงผ่าน Ubuntu One Music Store แต่สุดท้ายถูกยกเลิกในปี 2014 เพราะไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งที่ให้พื้นที่ฟรีมากกว่า และ Canonical ต้องการโฟกัสไปที่การพัฒนาแพลตฟอร์มอื่น 📱 Convergence และ Ubuntu Edge: ความพยายามสู่สมาร์ทโฟน Canonical เคยมีความฝันที่จะทำให้ Ubuntu รันได้ทั้งบน PC, Tablet และ Smartphone ผ่านแนวคิด Convergence และเปิดตัวโครงการ Ubuntu Edge สมาร์ทโฟนที่ใช้ Ubuntu โดยระดมทุนผ่าน crowdfunding ได้กว่า 12 ล้านดอลลาร์ แต่ไม่ถึงเป้าหมาย 32 ล้าน ทำให้โครงการต้องปิดตัวไป อย่างไรก็ตามแนวคิดนี้ยังคงถูกนำไปใช้ในเทคโนโลยีอย่าง Samsung DeX ในปัจจุบัน 🖥️ Ubuntu Unity และ Mir: การทดลองที่ไม่รอด Ubuntu เคยพัฒนา Unity Desktop Environment และ Mir Display Server เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลง และสุดท้าย Canonical ต้องยกเลิก Unity ในปี 2017 และกลับมาใช้ GNOME ที่ปรับแต่งใหม่ ส่วน Mir ก็ถูกลดบทบาทไปใช้กับ IoT แทน ไม่ได้ถูกใช้ในเดสก์ท็อปอีกต่อไป 💿 Wubi และ Ubuntu Make: เครื่องมือที่ถูกลืม 💠 Wubi Installer เคยทำให้ผู้ใช้ Windows สามารถติดตั้ง Ubuntu ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องแก้ไขพาร์ทิชัน แต่ถูกยกเลิกเพราะมีปัญหาความเข้ากันได้ 💠 Ubuntu Make เป็น CLI สำหรับติดตั้งเครื่องมือพัฒนา เช่น Atom หรือ VS Code แต่ถูกแทนที่ด้วย Snap ที่ใช้ง่ายกว่าและปลอดภัยกว่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โครงการที่ถูกยกเลิก ➡️ Ubuntu One (Cloud + Music Store) ➡️ Ubuntu Edge และ Convergence (สมาร์ทโฟน Ubuntu) ➡️ Unity Desktop และ Mir Display Server ➡️ Wubi Installer และ Ubuntu Make ✅ เหตุผลหลักที่ล้มเหลว ➡️ แข่งขันไม่ได้กับคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่า ➡️ ขาดเงินทุนและการสนับสนุนจากผู้ใช้ ➡️ ผู้ใช้ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ➡️ เทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้และนักพัฒนา ⛔ การพัฒนาโครงการใหม่โดยไม่ประเมินตลาด อาจทำให้สูญเสียทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์ ⛔ การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ฟังเสียงผู้ใช้ อาจนำไปสู่การต่อต้านและความล้มเหลว https://itsfoss.com/projects-ditched-by-ubuntu/
    ITSFOSS.COM
    7 Projects Killed by Ubuntu (But I Still Miss Them)
    Over the span of the past 15 years, Ubuntu started several projects. Not all of them are active today. And yet, they live in our memory.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gleam กลายเป็นดาวเด่นใน Advent of Code 2025

    Advent of Code ปีนี้จัดเพียง 12 วัน แต่ความเข้มข้นไม่ลดลง ผู้เขียนเลือก Gleam เป็นภาษาหลัก และพบว่า compiler ของ Gleam ให้ error message ที่ชัดเจนระดับ Rust ทำให้การเรียนรู้และแก้โจทย์เป็นไปอย่างราบรื่น การใช้ pipeline และ functional style ทำให้การแก้โจทย์ที่ซับซ้อน เช่น parsing และการแปลงข้อมูล มีความชัดเจนและกระชับมากขึ้น

    จุดแข็งที่ทำให้ Gleam น่าสนใจ
    หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือ echo ซึ่งช่วย inspect ค่าได้ทันทีโดยไม่ต้อง format string อีกทั้ง Gleam มีฟังก์ชัน list ที่ครบครัน เช่น list.transpose ที่ช่วยแก้โจทย์ day 6 ได้อย่างง่ายดาย และ list.combination_pairs ที่ทำให้การหาคู่ข้อมูลเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ฟังก์ชัน fold_until ยังช่วยให้การหยุด loop ทำได้อย่างชัดเจนและตรงตามเจตนา

    ความท้าทายและข้อจำกัด
    แม้ Gleam จะมีจุดแข็ง แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ไม่มี file I/O ใน standard library, ต้องใช้ dependency เสริมสำหรับ regex, และ pattern matching บน list ยังไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร อีกทั้งเมื่อ target ไปที่ JavaScript ต้องระวังเรื่อง big integers ที่ไม่รองรับ arbitrary precision เหมือนบน Erlang VM

    บทเรียนและแรงบันดาลใจ
    ผู้เขียนสรุปว่า Gleam เป็นภาษาที่เหมาะกับการเรียนรู้ผ่าน AoC เพราะทำให้การแก้โจทย์ซับซ้อนชัดเจนขึ้น และยังสร้างแรงบันดาลใจให้นำ Gleam ไปใช้ในโปรเจกต์จริง เช่นการเขียน webserver ในอนาคต การทดลองครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการแก้โจทย์ แต่ยังเป็นการค้นพบเครื่องมือใหม่ที่ทรงพลังสำหรับงานจริง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    จุดแข็งของ Gleam
    Syntax สะอาด และ error message ระดับ Rust
    ฟังก์ชัน list เช่น transpose และ combination_pairs ช่วยแก้โจทย์ได้ง่าย
    echo ทำให้ inspect ค่าได้สะดวก
    fold_until ช่วยหยุด loop ได้ตรงตามเจตนา

    ประสบการณ์ Advent of Code 2025
    ปีนี้มีเพียง 12 วัน แต่โจทย์เข้มข้น
    Gleam ทำให้การเรียนรู้ functional programming สนุกและชัดเจน

    ข้อจำกัดของ Gleam
    ไม่มี file I/O ใน standard library
    ต้องใช้ dependency เสริมสำหรับ regex
    Pattern matching บน list ยังไม่ยืดหยุ่น
    Big integers บน JavaScript มีข้อจำกัด ไม่เหมือน Erlang VM

    แรงบันดาลใจต่อยอด
    ผู้เขียนตั้งใจจะลองใช้ Gleam เขียน webserver จริง
    AoC ช่วยให้ค้นพบศักยภาพของ Gleam ในงานจริง

    https://blog.tymscar.com/posts/gleamaoc2025/
    💻 Gleam กลายเป็นดาวเด่นใน Advent of Code 2025 Advent of Code ปีนี้จัดเพียง 12 วัน แต่ความเข้มข้นไม่ลดลง ผู้เขียนเลือก Gleam เป็นภาษาหลัก และพบว่า compiler ของ Gleam ให้ error message ที่ชัดเจนระดับ Rust ทำให้การเรียนรู้และแก้โจทย์เป็นไปอย่างราบรื่น การใช้ pipeline และ functional style ทำให้การแก้โจทย์ที่ซับซ้อน เช่น parsing และการแปลงข้อมูล มีความชัดเจนและกระชับมากขึ้น 🔧 จุดแข็งที่ทำให้ Gleam น่าสนใจ หนึ่งในฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือ echo ซึ่งช่วย inspect ค่าได้ทันทีโดยไม่ต้อง format string อีกทั้ง Gleam มีฟังก์ชัน list ที่ครบครัน เช่น list.transpose ที่ช่วยแก้โจทย์ day 6 ได้อย่างง่ายดาย และ list.combination_pairs ที่ทำให้การหาคู่ข้อมูลเป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ฟังก์ชัน fold_until ยังช่วยให้การหยุด loop ทำได้อย่างชัดเจนและตรงตามเจตนา ⚡ ความท้าทายและข้อจำกัด แม้ Gleam จะมีจุดแข็ง แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ไม่มี file I/O ใน standard library, ต้องใช้ dependency เสริมสำหรับ regex, และ pattern matching บน list ยังไม่ยืดหยุ่นเท่าที่ควร อีกทั้งเมื่อ target ไปที่ JavaScript ต้องระวังเรื่อง big integers ที่ไม่รองรับ arbitrary precision เหมือนบน Erlang VM 🚀 บทเรียนและแรงบันดาลใจ ผู้เขียนสรุปว่า Gleam เป็นภาษาที่เหมาะกับการเรียนรู้ผ่าน AoC เพราะทำให้การแก้โจทย์ซับซ้อนชัดเจนขึ้น และยังสร้างแรงบันดาลใจให้นำ Gleam ไปใช้ในโปรเจกต์จริง เช่นการเขียน webserver ในอนาคต การทดลองครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการแก้โจทย์ แต่ยังเป็นการค้นพบเครื่องมือใหม่ที่ทรงพลังสำหรับงานจริง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ จุดแข็งของ Gleam ➡️ Syntax สะอาด และ error message ระดับ Rust ➡️ ฟังก์ชัน list เช่น transpose และ combination_pairs ช่วยแก้โจทย์ได้ง่าย ➡️ echo ทำให้ inspect ค่าได้สะดวก ➡️ fold_until ช่วยหยุด loop ได้ตรงตามเจตนา ✅ ประสบการณ์ Advent of Code 2025 ➡️ ปีนี้มีเพียง 12 วัน แต่โจทย์เข้มข้น ➡️ Gleam ทำให้การเรียนรู้ functional programming สนุกและชัดเจน ‼️ ข้อจำกัดของ Gleam ⛔ ไม่มี file I/O ใน standard library ⛔ ต้องใช้ dependency เสริมสำหรับ regex ⛔ Pattern matching บน list ยังไม่ยืดหยุ่น ⛔ Big integers บน JavaScript มีข้อจำกัด ไม่เหมือน Erlang VM ✅ แรงบันดาลใจต่อยอด ➡️ ผู้เขียนตั้งใจจะลองใช้ Gleam เขียน webserver จริง ➡️ AoC ช่วยให้ค้นพบศักยภาพของ Gleam ในงานจริง https://blog.tymscar.com/posts/gleamaoc2025/
    BLOG.TYMSCAR.COM
    I Tried Gleam for Advent of Code, and I Get the Hype
    A 12 day Advent of Code year convinced me Gleam is the real deal, thanks to Rust-like errors, great pipes, and surprisingly ergonomic FP.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251214 #TechRadar

    รีวิวคีย์บอร์ด HHKB Professional Classic Type-S
    เรื่องราวของคีย์บอร์ดรุ่นนี้เริ่มจากแนวคิดของศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นที่ต้องการสร้างคีย์บอร์ดสำหรับมืออาชีพ โดยตัดปุ่มที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือเพียง 60 ปุ่มในดีไซน์กะทัดรัด ใช้สวิตช์ Topre ที่ขึ้นชื่อเรื่องสัมผัสนุ่มและเงียบ จุดเด่นคือความเล็กและพกพาง่าย แต่ข้อเสียคือไม่มีปุ่มลูกศร ไม่มีแป้นตัวเลข และต้องใช้ปุ่ม Fn เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมด ราคาก็สูงพอสมควรเกือบ 300 ดอลลาร์ จึงเป็นคีย์บอร์ดที่คนรักความมินิมอลอาจหลงใหล แต่สำหรับคนทั่วไปอาจรู้สึกว่ามันใช้งานยากและไม่คุ้มค่า
    https://www.techradar.com/computing/keyboards/hhkb-professional-classic-type-s-keyboard-review

    มินิพีซี FEVM FAEX1 ขนาด 1 ลิตร
    นี่คือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่อัดพลังมหาศาลไว้ภายใน ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 พร้อมการ์ดจอ Radeon 8060S เทียบเท่า RTX 4070 Laptop รองรับแรมสูงสุด 128GB และมีสล็อต SSD ถึงสามช่อง แม้ตัวเครื่องเล็กเพียง 220 x 133 x 35 มม. แต่ยังคงประสิทธิภาพระดับสูง มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง HDMI, DisplayPort, USB4, และ OCuLink ราคาขายในจีนเริ่มต้นราว 1,550 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในมินิพีซีที่ทรงพลังที่สุดในตลาด แต่ยังไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/this-is-perhaps-the-smallest-mini-pc-with-a-5060-class-gpu-you-can-buy-right-now-but-you-will-have-to-go-all-the-way-to-china-to-get-it

    ที่ชาร์จไร้สาย Qi2.0 จาก IKEA
    IKEA เปิดตัวที่ชาร์จไร้สายใหม่ 3 รุ่นในซีรีส์ VÄSTMÄRKE ทั้งหมดรองรับมาตรฐาน Qi2.0 กำลังชาร์จสูงสุด 15W รุ่นแรกเป็นที่ชาร์จทรงโดนัทสีแดง ราคาเพียง 9.99 ดอลลาร์ มีฟังก์ชันพิเศษเป็นที่จับโทรศัพท์คล้าย PopSocket รุ่นที่สองเป็นแท่นชาร์จทำจากไม้คอร์ก ราคา 24.99 ดอลลาร์ ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ส่วนรุ่นสุดท้ายเป็นที่ชาร์จพร้อมไฟส่องสว่างและถาดเล็ก ๆ สำหรับวางของเล็กน้อย เหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะหรือหัวเตียง ทั้งสามรุ่นเน้นความเรียบง่ายและราคาย่อมเยาในสไตล์ IKEA
    https://www.techradar.com/phones/phone-accessories/ikea-launches-three-new-qi2-0-wireless-phone-chargers-including-one-with-a-hidden-double-function

    6 คำถามสำคัญในการวางแผน AI Enablement
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าในองค์กรยุคใหม่ พนักงานแทบทุกคนใช้เครื่องมือ AI ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ และหลายครั้งมีการนำข้อมูลภายในไปใส่ในระบบโดยไม่รู้ความเสี่ยง ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Shadow AI” ผู้เขียนเสนอว่าองค์กรต้องมีแผน AI Enablement ที่ชัดเจน โดยตั้งคำถามสำคัญ เช่น จะใช้ AI ในงานใดบ้าง จะเลือกเครื่องมือที่ปลอดภัยอย่างไร จะจัดการบัญชีส่วนตัวของพนักงานอย่างไร และจะสอนนโยบายให้พนักงานเข้าใจได้อย่างไร หากไม่มีการกำกับดูแล อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลและความเสียหายทางธุรกิจ
    https://www.techradar.com/pro/six-questions-to-ask-when-crafting-an-ai-enablement-plan

    Tesla Model Y Performance รุ่นใหม่
    ครั้งหนึ่ง Tesla เคยสร้างความตื่นตะลึงด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่ารถสปอร์ต แต่ในรุ่น Model Y Performance ล่าสุด แม้จะยังเร็ว 0-60 ไมล์ใน 3.3 วินาที และวิ่งได้ไกลถึง 360 ไมล์ต่อการชาร์จ แต่ความตื่นเต้นกลับไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะคู่แข่งจากยุโรปและจีนก้าวขึ้นมาเทียบชั้นได้หมด การปรับปรุงช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนช่วยให้ขับนุ่มนวลขึ้น แต่ไม่ได้สร้างความเร้าใจเหมือนเดิม ผู้ทดสอบเล่าว่าลูกชายถึงกับเวียนหัวเมื่อถูกเร่งความเร็วแรง ๆ สุดท้ายจึงสรุปว่า รุ่น Standard และ Long Range อาจคุ้มค่ากว่าด้วยราคาที่ถูกลงและระยะทางวิ่งที่มากกว่า
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-tesla-model-y-performance-and-despite-it-being-a-great-car-it-isnt-anywhere-near-as-exciting-as-it-once-was

    Canva เปิดมุมมองใหม่ สร้างยุคแห่ง “Imagination Era”
    Canva กำลังพลิกโฉมตัวเองจากเครื่องมือออกแบบธรรมดาไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “Creative Operating System” หรือระบบปฏิบัติการด้านการสร้างสรรค์ ที่รวมทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การทำงานร่วมทีม ไปจนถึงการเผยแพร่และวัดผลในที่เดียว จุดเด่นคือการผสาน AI ที่เข้าใจโครงสร้างงานดีไซน์จริง ไม่ใช่แค่สร้างภาพสวย ๆ แต่สามารถแก้ไข ปรับแต่ง และทำงานต่อได้อย่างยืดหยุ่น อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือ Affinity ซึ่งเคยเป็นซอฟต์แวร์ออกแบบระดับโปร ตอนนี้ถูกทำให้ใช้ฟรีตลอดไป เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเครื่องมือคุณภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย Canva ยังเสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Ask @Canva ที่ช่วยให้ AI กลายเป็นเพื่อนร่วมคิด ไม่ใช่ตัวแทนแทนความคิด และการเชื่อมต่อกับ Sheets เพื่อสร้างแอปหรือแดชบอร์ดแบบโต้ตอบได้ทันที ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดว่าโลกกำลังเดินเข้าสู่ “Imagination Era” ที่ความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจสำคัญของการทำงาน
    https://www.techradar.com/pro/software-services/interview-canva-reveals-what-creativity-in-the-age-of-ai-and-why-affinity-is-free-for-all

    EU ถอยแผนแบนรถเครื่องยนต์สันดาปปี 2035
    สหภาพยุโรปเคยประกาศว่าจะยุติการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035 แต่ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเลื่อนเป้าหมายไปเป็นปี 2040 พร้อมปรับเงื่อนไขใหม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ลดการปล่อย CO2 ลง 90% แทนที่จะเป็น 100% เหตุผลหลักคือการรักษางานอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลและตอบรับเสียงจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่มองว่ากำหนดเดิมเร็วเกินไป หลายค่ายอย่าง Porsche และ Ford ก็ปรับแผนกลับมาใช้ทั้งเครื่องยนต์น้ำมันและไฮบริดควบคู่ไปกับรถไฟฟ้า แม้จะเลื่อนเวลาออกไป แต่ทิศทางใหญ่ยังคงมุ่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพียงแต่ให้เวลามากขึ้นในการเปลี่ยนผ่าน
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/the-inevitable-has-happened-the-eu-has-u-turned-on-its-plan-to-ban-the-sale-of-ice-cars-by-2035

    ยุคใหม่ของ AI: จากโมเดลใหญ่สู่ “Agentic AI”
    ที่ผ่านมาโลก AI เน้นการสร้างโมเดลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้นักวิจัยมองว่าทางออกไม่ใช่การเพิ่มขนาด แต่คือการออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ที่เรียกว่า “Agentic AI” แนวคิดนี้คือการใช้กลุ่มตัวแทนเล็ก ๆ หลายตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างมีเหตุผลและต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ตอบคำถามแล้วจบ แต่สามารถเฝ้าสังเกต วิเคราะห์ และปรับตัวตามสถานการณ์จริง เช่น การเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า หรือความผิดปกติเล็ก ๆ ที่มักหลุดจากสายตา ระบบนี้ต้องอาศัยข้อมูลที่เป็นเอกภาพเพื่อไม่ให้ตัวแทนแต่ละตัวตัดสินใจขัดแย้งกัน จุดสำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและเรียนรู้ได้ตลอดเวลา โดยมนุษย์ยังคงมีบทบาทในการกำหนดเป้าหมายและขอบเขต ส่วน AI จะทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนที่ไม่รู้จักเหนื่อย
    https://www.techradar.com/pro/the-next-phase-of-ai-is-agentic-and-it-starts-with-data-architecture

    สหรัฐฯ เตรียมตรวจโซเชียลมีเดียย้อนหลัง 5 ปีในการเข้าประเทศ
    นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ อาจต้องเจอกับมาตรการใหม่ที่เข้มงวดกว่าที่เคย โดยหน่วยงาน CBP เสนอให้ตรวจสอบโพสต์โซเชียลมีเดียย้อนหลังถึง 5 ปี รวมถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างอีเมล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลครอบครัว และข้อมูลชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือ สแกนม่านตา และ DNA แน่นอนว่ามาตรการนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มสิทธิเสรีภาพที่มองว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่ามาตรการนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ง่าย เช่น การลบโพสต์เก่า หรือสร้างบัญชีใหม่ที่สะอาด ทำให้เกิดคำถามว่ามันจะได้ผลจริงหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/social-media/new-us-border-checks-could-involve-scanning-your-last-five-years-of-social-media-history-heres-what-you-need-to-know

    AI พาโลกธุรกิจวิ่งสู่ “Zero Downtime”
    ในยุคดิจิทัล ความน่าเชื่อถือของระบบออนไลน์สำคัญไม่แพ้รายได้ เพราะการหยุดทำงานเพียงไม่กี่นาทีอาจสร้างความเสียหายมหาศาล ปัจจุบัน AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกมด้วยการสร้างระบบที่สามารถคาดการณ์และแก้ไขปัญหาได้เองก่อนที่ผู้ใช้จะรู้ตัว แนวคิด “Self-healing Infrastructure” หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ซ่อมตัวเองได้ กำลังถูกนำมาใช้จริงในองค์กรใหญ่ ๆ ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ผลลัพธ์คือธุรกิจสามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่สะดุด และวิศวกรเองก็มีเวลามากขึ้นในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่แทนที่จะต้องคอยดับไฟ ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในโลกที่ทุกวินาทีมีค่า
    https://www.techradar.com/pro/the-race-to-zero-downtime-is-on-and-ai-is-leading-it



    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251214 #TechRadar 🖥️ รีวิวคีย์บอร์ด HHKB Professional Classic Type-S เรื่องราวของคีย์บอร์ดรุ่นนี้เริ่มจากแนวคิดของศาสตราจารย์ชาวญี่ปุ่นที่ต้องการสร้างคีย์บอร์ดสำหรับมืออาชีพ โดยตัดปุ่มที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือเพียง 60 ปุ่มในดีไซน์กะทัดรัด ใช้สวิตช์ Topre ที่ขึ้นชื่อเรื่องสัมผัสนุ่มและเงียบ จุดเด่นคือความเล็กและพกพาง่าย แต่ข้อเสียคือไม่มีปุ่มลูกศร ไม่มีแป้นตัวเลข และต้องใช้ปุ่ม Fn เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันต่าง ๆ ทำให้ผู้ใช้ต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมด ราคาก็สูงพอสมควรเกือบ 300 ดอลลาร์ จึงเป็นคีย์บอร์ดที่คนรักความมินิมอลอาจหลงใหล แต่สำหรับคนทั่วไปอาจรู้สึกว่ามันใช้งานยากและไม่คุ้มค่า 🔗 https://www.techradar.com/computing/keyboards/hhkb-professional-classic-type-s-keyboard-review 💻 มินิพีซี FEVM FAEX1 ขนาด 1 ลิตร นี่คือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่อัดพลังมหาศาลไว้ภายใน ใช้ชิป Ryzen AI Max+ 395 พร้อมการ์ดจอ Radeon 8060S เทียบเท่า RTX 4070 Laptop รองรับแรมสูงสุด 128GB และมีสล็อต SSD ถึงสามช่อง แม้ตัวเครื่องเล็กเพียง 220 x 133 x 35 มม. แต่ยังคงประสิทธิภาพระดับสูง มีพอร์ตเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง HDMI, DisplayPort, USB4, และ OCuLink ราคาขายในจีนเริ่มต้นราว 1,550 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นหนึ่งในมินิพีซีที่ทรงพลังที่สุดในตลาด แต่ยังไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-is-perhaps-the-smallest-mini-pc-with-a-5060-class-gpu-you-can-buy-right-now-but-you-will-have-to-go-all-the-way-to-china-to-get-it 🔌 ที่ชาร์จไร้สาย Qi2.0 จาก IKEA IKEA เปิดตัวที่ชาร์จไร้สายใหม่ 3 รุ่นในซีรีส์ VÄSTMÄRKE ทั้งหมดรองรับมาตรฐาน Qi2.0 กำลังชาร์จสูงสุด 15W รุ่นแรกเป็นที่ชาร์จทรงโดนัทสีแดง ราคาเพียง 9.99 ดอลลาร์ มีฟังก์ชันพิเศษเป็นที่จับโทรศัพท์คล้าย PopSocket รุ่นที่สองเป็นแท่นชาร์จทำจากไม้คอร์ก ราคา 24.99 ดอลลาร์ ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ส่วนรุ่นสุดท้ายเป็นที่ชาร์จพร้อมไฟส่องสว่างและถาดเล็ก ๆ สำหรับวางของเล็กน้อย เหมาะกับการใช้งานบนโต๊ะหรือหัวเตียง ทั้งสามรุ่นเน้นความเรียบง่ายและราคาย่อมเยาในสไตล์ IKEA 🔗 https://www.techradar.com/phones/phone-accessories/ikea-launches-three-new-qi2-0-wireless-phone-chargers-including-one-with-a-hidden-double-function 🤖 6 คำถามสำคัญในการวางแผน AI Enablement บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าในองค์กรยุคใหม่ พนักงานแทบทุกคนใช้เครื่องมือ AI ไม่ว่าจะได้รับอนุญาตหรือไม่ และหลายครั้งมีการนำข้อมูลภายในไปใส่ในระบบโดยไม่รู้ความเสี่ยง ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Shadow AI” ผู้เขียนเสนอว่าองค์กรต้องมีแผน AI Enablement ที่ชัดเจน โดยตั้งคำถามสำคัญ เช่น จะใช้ AI ในงานใดบ้าง จะเลือกเครื่องมือที่ปลอดภัยอย่างไร จะจัดการบัญชีส่วนตัวของพนักงานอย่างไร และจะสอนนโยบายให้พนักงานเข้าใจได้อย่างไร หากไม่มีการกำกับดูแล อาจนำไปสู่การรั่วไหลของข้อมูลและความเสียหายทางธุรกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/six-questions-to-ask-when-crafting-an-ai-enablement-plan 🚗 Tesla Model Y Performance รุ่นใหม่ ครั้งหนึ่ง Tesla เคยสร้างความตื่นตะลึงด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่ารถสปอร์ต แต่ในรุ่น Model Y Performance ล่าสุด แม้จะยังเร็ว 0-60 ไมล์ใน 3.3 วินาที และวิ่งได้ไกลถึง 360 ไมล์ต่อการชาร์จ แต่ความตื่นเต้นกลับไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะคู่แข่งจากยุโรปและจีนก้าวขึ้นมาเทียบชั้นได้หมด การปรับปรุงช่วงล่างและระบบขับเคลื่อนช่วยให้ขับนุ่มนวลขึ้น แต่ไม่ได้สร้างความเร้าใจเหมือนเดิม ผู้ทดสอบเล่าว่าลูกชายถึงกับเวียนหัวเมื่อถูกเร่งความเร็วแรง ๆ สุดท้ายจึงสรุปว่า รุ่น Standard และ Long Range อาจคุ้มค่ากว่าด้วยราคาที่ถูกลงและระยะทางวิ่งที่มากกว่า 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-tesla-model-y-performance-and-despite-it-being-a-great-car-it-isnt-anywhere-near-as-exciting-as-it-once-was 🖌️ Canva เปิดมุมมองใหม่ สร้างยุคแห่ง “Imagination Era” Canva กำลังพลิกโฉมตัวเองจากเครื่องมือออกแบบธรรมดาไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “Creative Operating System” หรือระบบปฏิบัติการด้านการสร้างสรรค์ ที่รวมทุกขั้นตอนตั้งแต่การออกแบบ การทำงานร่วมทีม ไปจนถึงการเผยแพร่และวัดผลในที่เดียว จุดเด่นคือการผสาน AI ที่เข้าใจโครงสร้างงานดีไซน์จริง ไม่ใช่แค่สร้างภาพสวย ๆ แต่สามารถแก้ไข ปรับแต่ง และทำงานต่อได้อย่างยืดหยุ่น อีกหนึ่งข่าวใหญ่คือ Affinity ซึ่งเคยเป็นซอฟต์แวร์ออกแบบระดับโปร ตอนนี้ถูกทำให้ใช้ฟรีตลอดไป เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงเครื่องมือคุณภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย Canva ยังเสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น Ask @Canva ที่ช่วยให้ AI กลายเป็นเพื่อนร่วมคิด ไม่ใช่ตัวแทนแทนความคิด และการเชื่อมต่อกับ Sheets เพื่อสร้างแอปหรือแดชบอร์ดแบบโต้ตอบได้ทันที ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดว่าโลกกำลังเดินเข้าสู่ “Imagination Era” ที่ความคิดสร้างสรรค์คือหัวใจสำคัญของการทำงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/interview-canva-reveals-what-creativity-in-the-age-of-ai-and-why-affinity-is-free-for-all 🚗 EU ถอยแผนแบนรถเครื่องยนต์สันดาปปี 2035 สหภาพยุโรปเคยประกาศว่าจะยุติการขายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในปี 2035 แต่ล่าสุดมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเลื่อนเป้าหมายไปเป็นปี 2040 พร้อมปรับเงื่อนไขใหม่ให้ผู้ผลิตรถยนต์ลดการปล่อย CO2 ลง 90% แทนที่จะเป็น 100% เหตุผลหลักคือการรักษางานอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลและตอบรับเสียงจากผู้ผลิตรายใหญ่ที่มองว่ากำหนดเดิมเร็วเกินไป หลายค่ายอย่าง Porsche และ Ford ก็ปรับแผนกลับมาใช้ทั้งเครื่องยนต์น้ำมันและไฮบริดควบคู่ไปกับรถไฟฟ้า แม้จะเลื่อนเวลาออกไป แต่ทิศทางใหญ่ยังคงมุ่งสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพียงแต่ให้เวลามากขึ้นในการเปลี่ยนผ่าน 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/the-inevitable-has-happened-the-eu-has-u-turned-on-its-plan-to-ban-the-sale-of-ice-cars-by-2035 🤖 ยุคใหม่ของ AI: จากโมเดลใหญ่สู่ “Agentic AI” ที่ผ่านมาโลก AI เน้นการสร้างโมเดลที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ตอนนี้นักวิจัยมองว่าทางออกไม่ใช่การเพิ่มขนาด แต่คือการออกแบบสถาปัตยกรรมใหม่ที่เรียกว่า “Agentic AI” แนวคิดนี้คือการใช้กลุ่มตัวแทนเล็ก ๆ หลายตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างมีเหตุผลและต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ตอบคำถามแล้วจบ แต่สามารถเฝ้าสังเกต วิเคราะห์ และปรับตัวตามสถานการณ์จริง เช่น การเปลี่ยนพฤติกรรมลูกค้า หรือความผิดปกติเล็ก ๆ ที่มักหลุดจากสายตา ระบบนี้ต้องอาศัยข้อมูลที่เป็นเอกภาพเพื่อไม่ให้ตัวแทนแต่ละตัวตัดสินใจขัดแย้งกัน จุดสำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและเรียนรู้ได้ตลอดเวลา โดยมนุษย์ยังคงมีบทบาทในการกำหนดเป้าหมายและขอบเขต ส่วน AI จะทำหน้าที่เป็นแรงขับเคลื่อนที่ไม่รู้จักเหนื่อย 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-next-phase-of-ai-is-agentic-and-it-starts-with-data-architecture 🛂 สหรัฐฯ เตรียมตรวจโซเชียลมีเดียย้อนหลัง 5 ปีในการเข้าประเทศ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ อาจต้องเจอกับมาตรการใหม่ที่เข้มงวดกว่าที่เคย โดยหน่วยงาน CBP เสนอให้ตรวจสอบโพสต์โซเชียลมีเดียย้อนหลังถึง 5 ปี รวมถึงข้อมูลส่วนตัวอย่างอีเมล เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลครอบครัว และข้อมูลชีวมิติ เช่น ลายนิ้วมือ สแกนม่านตา และ DNA แน่นอนว่ามาตรการนี้ถูกวิจารณ์อย่างหนักจากกลุ่มสิทธิเสรีภาพที่มองว่าเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวและไม่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยจริง ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่ามาตรการนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ง่าย เช่น การลบโพสต์เก่า หรือสร้างบัญชีใหม่ที่สะอาด ทำให้เกิดคำถามว่ามันจะได้ผลจริงหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/social-media/new-us-border-checks-could-involve-scanning-your-last-five-years-of-social-media-history-heres-what-you-need-to-know ⚙️ AI พาโลกธุรกิจวิ่งสู่ “Zero Downtime” ในยุคดิจิทัล ความน่าเชื่อถือของระบบออนไลน์สำคัญไม่แพ้รายได้ เพราะการหยุดทำงานเพียงไม่กี่นาทีอาจสร้างความเสียหายมหาศาล ปัจจุบัน AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนเกมด้วยการสร้างระบบที่สามารถคาดการณ์และแก้ไขปัญหาได้เองก่อนที่ผู้ใช้จะรู้ตัว แนวคิด “Self-healing Infrastructure” หรือโครงสร้างพื้นฐานที่ซ่อมตัวเองได้ กำลังถูกนำมาใช้จริงในองค์กรใหญ่ ๆ ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมงเหลือเพียงไม่กี่นาที ผลลัพธ์คือธุรกิจสามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่สะดุด และวิศวกรเองก็มีเวลามากขึ้นในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่แทนที่จะต้องคอยดับไฟ ระบบเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในโลกที่ทุกวินาทีมีค่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-race-to-zero-downtime-is-on-and-ai-is-leading-it
    WWW.TECHRADAR.COM
    I tested the HHKB Professional Classic Type-S — a niche option for those prepared to learn a new keyboard layout to get Topre key mechanisms
    The HHKB Professional Classic Type-S is a radically deconstructed keyboard design that focuses on compact layout rather than easy adaptability.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 685 มุมมอง 0 รีวิว
  • “To” vs. “Too” vs. “Two”: Two Ways To Always Remember The Difference

    The words to, too, and two sound exactly alike but are used in completely different ways. They are classic examples of what we call homophones—words that are pronounced the same but have different meanings and spellings. Because they’re so similar, they often get mixed up in written language.

    In this article, we’ll give you everything you need to make sure you choose the right to, too, or too every time.

    Quick summary

    The extremely common word to is a preposition that can be used in many different ways, such as to indicate motion or direction toward something, as in Go to the store. The word too is an adverb most commonly meaning “also” (as in I’d like to go, too) or “to an excessive amount or degree” (as in Don’t add too much sugar). The word two is the number 2. The most common mistake involving the three words is using to when it should be too, or vice versa. So when you want to use to, don’t use too many o’s!

    to vs. too vs. two

    To is a very common word that performs many different functions, such as expressing direction (I’m driving to the office) or contact (Pin it to the wall), indicating an object or recipient (Give it to me), or setting a range (9 to 5) or limit (These go to 11).

    Too means “also” (I’m going, too) or “to an excessive degree” (too much). Two is the number 2.

    The words are used in very different ways: to is most commonly used as a preposition, while too is an adverb.

    Two is a number that can be used as a noun (I have two) or an adjective (two wheels).

    When to use to vs. too

    The most common mistake involving all three words is using to when it should be too, or vice versa.

    Here’s the best way to remember whether the spelling should be to or too: if you mean to, don’t use too many o’s!

    You can also remember that too means “also” because an extra o has tagged along, as if it had asked, “Can I come, too?”

    to late vs. too late

    When something doesn’t happen or someone or something doesn’t arrive or do something in time, we indicate this by using the set phrase too late, in which the adverb too indicates that an amount or degree has been exceeded.

    For example:

    - I’m sorry, I’m afraid you’re too late.
    - It was a case of too little too late.

    This doesn’t mean, however, that the words to and late will never appear next to each other in a sentence. It’s uncommon, but it can happen.

    For example: When I’m too late for the afternoon matinées, I like to have lunch, shop for a while, and go to late showings.

    Examples of how to use to, too, and two in a sentence
    - I tried to go to the movie, but I got to the theater too late.
    - My friend missed the show, too.
    - Tickets and popcorn cost too much anyway.
    - We went to get ice cream instead and the two of us both got three scoops—which was two scoops too many!

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    “To” vs. “Too” vs. “Two”: Two Ways To Always Remember The Difference The words to, too, and two sound exactly alike but are used in completely different ways. They are classic examples of what we call homophones—words that are pronounced the same but have different meanings and spellings. Because they’re so similar, they often get mixed up in written language. In this article, we’ll give you everything you need to make sure you choose the right to, too, or too every time. Quick summary The extremely common word to is a preposition that can be used in many different ways, such as to indicate motion or direction toward something, as in Go to the store. The word too is an adverb most commonly meaning “also” (as in I’d like to go, too) or “to an excessive amount or degree” (as in Don’t add too much sugar). The word two is the number 2. The most common mistake involving the three words is using to when it should be too, or vice versa. So when you want to use to, don’t use too many o’s! to vs. too vs. two To is a very common word that performs many different functions, such as expressing direction (I’m driving to the office) or contact (Pin it to the wall), indicating an object or recipient (Give it to me), or setting a range (9 to 5) or limit (These go to 11). Too means “also” (I’m going, too) or “to an excessive degree” (too much). Two is the number 2. The words are used in very different ways: to is most commonly used as a preposition, while too is an adverb. Two is a number that can be used as a noun (I have two) or an adjective (two wheels). When to use to vs. too The most common mistake involving all three words is using to when it should be too, or vice versa. Here’s the best way to remember whether the spelling should be to or too: if you mean to, don’t use too many o’s! You can also remember that too means “also” because an extra o has tagged along, as if it had asked, “Can I come, too?” to late vs. too late When something doesn’t happen or someone or something doesn’t arrive or do something in time, we indicate this by using the set phrase too late, in which the adverb too indicates that an amount or degree has been exceeded. For example: - I’m sorry, I’m afraid you’re too late. - It was a case of too little too late. This doesn’t mean, however, that the words to and late will never appear next to each other in a sentence. It’s uncommon, but it can happen. For example: When I’m too late for the afternoon matinées, I like to have lunch, shop for a while, and go to late showings. Examples of how to use to, too, and two in a sentence - I tried to go to the movie, but I got to the theater too late. - My friend missed the show, too. - Tickets and popcorn cost too much anyway. - We went to get ice cream instead and the two of us both got three scoops—which was two scoops too many! สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251213 #securityonline

    Core Banking System Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Fineract
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยในระบบธนาคารดิจิทัล Apache Fineract ที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีช่องโหว่หลักคือ IDOR (Insecure Direct Object Reference) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ เช่น user ID หรือ account number เพื่อเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าคนอื่นได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ นอกจากนี้ยังพบปัญหานโยบายรหัสผ่านที่อ่อนแอ และการเก็บ server key ที่ไม่ถูกป้องกันอย่างเหมาะสม ทีม Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
    https://securityonline.info/core-banking-system-flaw-apache-fineract-idor-risks-authorization-bypass-customer-data-access

    React Patches Two New Flaws: ช่องโหว่ใหม่ใน React Server Components
    หลังจากที่ React เพิ่งแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงไปไม่นาน นักวิจัยก็พบช่องโหว่ใหม่อีกสองรายการ ช่องโหว่แรกคือการโจมตีแบบ DoS ที่สามารถทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันทีด้วยการส่ง request ที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่วนอีกช่องโหว่หนึ่งคือการเปิดเผย source code ของ server function ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง แม้จะไม่ถึงขั้นยึดระบบได้ แต่ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลภายใน ทีม React ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้วและแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/react-patches-two-new-flaws-risking-server-crashing-dos-and-source-code-disclosure

    Farewell, Tabs: Google เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Disco
    Google Labs กำลังทดลองเบราว์เซอร์ใหม่ชื่อ Disco ที่ใช้ AI มาช่วยจัดการแท็บและสร้าง web apps แบบโต้ตอบได้ทันที จุดเด่นคือระบบ GenTab ที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลจากเว็บให้กลายเป็น Progressive Web Apps เช่น การสร้าง itinerary ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เหมือนแอปจริงๆ เบราว์เซอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบบน macOS และเปิดให้ลงชื่อเข้าร่วมใน waitlist เท่านั้น ถือเป็นการทดลองที่อาจเปลี่ยนวิธีการใช้งานเว็บในอนาคต
    https://securityonline.info/farewell-tabs-googles-experimental-disco-browser-generates-web-apps-with-ai

    YouTube TV Plans: สตรีมมิ่งกำลังกลับไปเป็นเคเบิลอีกครั้ง
    YouTube TV ประกาศว่าจะปรับรูปแบบการสมัครสมาชิกใหม่ในปี 2026 โดยเปลี่ยนจากแพ็กเกจรวมทั้งหมดเป็นการเลือก bundle ตามความสนใจ เช่น Sports, News หรือ Family & Entertainment ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะหมวดที่ต้องการได้ ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเพื่อคอนเทนต์ที่ไม่ดู อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่านี่คือการย้อนกลับไปสู่โมเดลเคเบิลทีวีในอดีตที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่ยืดหยุ่น
    https://securityonline.info/youtube-tvs-new-subscription-bundles-is-streaming-becoming-cable-all-over-again

    The “USB-C of AI”: Google เปิดตัว Managed Servers สำหรับ MCP Protocol
    Google ประกาศสนับสนุนเต็มรูปแบบต่อ MCP (Model Context Protocol) ที่ถูกเรียกว่า “USB-C ของ AI” เพราะเป็นมาตรฐานกลางที่ทำให้ AI เชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดย Google เปิดตัว managed servers ที่รองรับ MCP ทำให้ AI agents สามารถใช้งาน Google Maps, BigQuery และจัดการโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud ได้โดยตรงโดยไม่ต้องสร้าง integration เอง นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI สามารถทำงานเชิงปฏิบัติได้จริงและปลอดภัยมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-usb-c-of-ai-is-here-google-launches-managed-servers-for-mcp-protocol

    The AI Super-App: Photoshop & Adobe Express รวมพลังกับ ChatGPT
    Adobe กำลังยกระดับการใช้งาน AI โดยการรวม Photoshop และ Adobe Express เข้ากับ ChatGPT ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้านการออกแบบและแก้ไขภาพได้ด้วยข้อความ เช่น การปรับแต่งรูปภาพหรือสร้างงานกราฟิกใหม่โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมแยกต่างหาก นี่คือการก้าวสู่ “AI Super-App” ที่รวมเครื่องมือสร้างสรรค์เข้ากับระบบสนทนาอัจฉริยะ เพื่อให้การทำงานด้านครีเอทีฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น
    https://securityonline.info/the-ai-super-app-rises-photoshop-adobe-express-integrate-into-chatgpt

    The IP Wall Falls: Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI
    Disney สร้างความฮือฮาด้วยการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI เพื่อเปิดสิทธิ์ใช้ตัวละครกว่า 200 ตัวในระบบ AI นั่นหมายความว่า AI จะสามารถเข้าถึงและใช้ตัวละครจากจักรวาล Disney ได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกบันเทิงและเทคโนโลยี ที่อาจนำไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ผสมผสานระหว่าง AI และตัวละครที่คนทั่วโลกคุ้นเคย
    https://securityonline.info/the-ip-wall-falls-disney-invests-1b-in-openai-to-license-200-characters-for-ai

    OpenAI Fights Back: เปิดตัว GPT-5.2 ท้าชน Gemini 3 Pro
    OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Gemini 3 Pro ของ Google จุดเด่นคือการปรับปรุงความสามารถในการ reasoning และการทำงานร่วมกับระบบภายนอกได้ดียิ่งขึ้น GPT-5.2 ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ OpenAI เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโมเดลภาษา AI ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด
    https://securityonline.info/openai-fights-back-gpt-5-2-unveiled-to-rival-googles-gemini-3-pro

    Critical React2Shell Vulnerability: ช่องโหว่ใหม่โจมตีบริการ RSC ทั่วโลก
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงชื่อ React2Shell (CVE-2025-55182) ที่กำลังถูกโจมตีเพิ่มขึ้นทั่วโลก ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อบริการที่ใช้ React Server Components (RSC) โดยผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งอัปเดตและติดตั้งแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายรุนแรง
    https://securityonline.info/critical-react2shell-vulnerability-cve-2025-55182-analysis-surge-in-attacks-targeting-rsc-enabled-services-worldwide
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251213 #securityonline 🛡️ Core Banking System Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Fineract เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยในระบบธนาคารดิจิทัล Apache Fineract ที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีช่องโหว่หลักคือ IDOR (Insecure Direct Object Reference) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ เช่น user ID หรือ account number เพื่อเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าคนอื่นได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ นอกจากนี้ยังพบปัญหานโยบายรหัสผ่านที่อ่อนแอ และการเก็บ server key ที่ไม่ถูกป้องกันอย่างเหมาะสม ทีม Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด 🔗 https://securityonline.info/core-banking-system-flaw-apache-fineract-idor-risks-authorization-bypass-customer-data-access ⚠️ React Patches Two New Flaws: ช่องโหว่ใหม่ใน React Server Components หลังจากที่ React เพิ่งแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงไปไม่นาน นักวิจัยก็พบช่องโหว่ใหม่อีกสองรายการ ช่องโหว่แรกคือการโจมตีแบบ DoS ที่สามารถทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันทีด้วยการส่ง request ที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่วนอีกช่องโหว่หนึ่งคือการเปิดเผย source code ของ server function ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง แม้จะไม่ถึงขั้นยึดระบบได้ แต่ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลภายใน ทีม React ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้วและแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/react-patches-two-new-flaws-risking-server-crashing-dos-and-source-code-disclosure 🌐 Farewell, Tabs: Google เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Disco Google Labs กำลังทดลองเบราว์เซอร์ใหม่ชื่อ Disco ที่ใช้ AI มาช่วยจัดการแท็บและสร้าง web apps แบบโต้ตอบได้ทันที จุดเด่นคือระบบ GenTab ที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลจากเว็บให้กลายเป็น Progressive Web Apps เช่น การสร้าง itinerary ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เหมือนแอปจริงๆ เบราว์เซอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบบน macOS และเปิดให้ลงชื่อเข้าร่วมใน waitlist เท่านั้น ถือเป็นการทดลองที่อาจเปลี่ยนวิธีการใช้งานเว็บในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/farewell-tabs-googles-experimental-disco-browser-generates-web-apps-with-ai 📺 YouTube TV Plans: สตรีมมิ่งกำลังกลับไปเป็นเคเบิลอีกครั้ง YouTube TV ประกาศว่าจะปรับรูปแบบการสมัครสมาชิกใหม่ในปี 2026 โดยเปลี่ยนจากแพ็กเกจรวมทั้งหมดเป็นการเลือก bundle ตามความสนใจ เช่น Sports, News หรือ Family & Entertainment ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะหมวดที่ต้องการได้ ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเพื่อคอนเทนต์ที่ไม่ดู อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่านี่คือการย้อนกลับไปสู่โมเดลเคเบิลทีวีในอดีตที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่ยืดหยุ่น 🔗 https://securityonline.info/youtube-tvs-new-subscription-bundles-is-streaming-becoming-cable-all-over-again 🔌 The “USB-C of AI”: Google เปิดตัว Managed Servers สำหรับ MCP Protocol Google ประกาศสนับสนุนเต็มรูปแบบต่อ MCP (Model Context Protocol) ที่ถูกเรียกว่า “USB-C ของ AI” เพราะเป็นมาตรฐานกลางที่ทำให้ AI เชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดย Google เปิดตัว managed servers ที่รองรับ MCP ทำให้ AI agents สามารถใช้งาน Google Maps, BigQuery และจัดการโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud ได้โดยตรงโดยไม่ต้องสร้าง integration เอง นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI สามารถทำงานเชิงปฏิบัติได้จริงและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-usb-c-of-ai-is-here-google-launches-managed-servers-for-mcp-protocol 🎨 The AI Super-App: Photoshop & Adobe Express รวมพลังกับ ChatGPT Adobe กำลังยกระดับการใช้งาน AI โดยการรวม Photoshop และ Adobe Express เข้ากับ ChatGPT ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้านการออกแบบและแก้ไขภาพได้ด้วยข้อความ เช่น การปรับแต่งรูปภาพหรือสร้างงานกราฟิกใหม่โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมแยกต่างหาก นี่คือการก้าวสู่ “AI Super-App” ที่รวมเครื่องมือสร้างสรรค์เข้ากับระบบสนทนาอัจฉริยะ เพื่อให้การทำงานด้านครีเอทีฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-ai-super-app-rises-photoshop-adobe-express-integrate-into-chatgpt 🏰 The IP Wall Falls: Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI Disney สร้างความฮือฮาด้วยการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI เพื่อเปิดสิทธิ์ใช้ตัวละครกว่า 200 ตัวในระบบ AI นั่นหมายความว่า AI จะสามารถเข้าถึงและใช้ตัวละครจากจักรวาล Disney ได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกบันเทิงและเทคโนโลยี ที่อาจนำไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ผสมผสานระหว่าง AI และตัวละครที่คนทั่วโลกคุ้นเคย 🔗 https://securityonline.info/the-ip-wall-falls-disney-invests-1b-in-openai-to-license-200-characters-for-ai 🤖 OpenAI Fights Back: เปิดตัว GPT-5.2 ท้าชน Gemini 3 Pro OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Gemini 3 Pro ของ Google จุดเด่นคือการปรับปรุงความสามารถในการ reasoning และการทำงานร่วมกับระบบภายนอกได้ดียิ่งขึ้น GPT-5.2 ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ OpenAI เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโมเดลภาษา AI ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด 🔗 https://securityonline.info/openai-fights-back-gpt-5-2-unveiled-to-rival-googles-gemini-3-pro 🚨 Critical React2Shell Vulnerability: ช่องโหว่ใหม่โจมตีบริการ RSC ทั่วโลก นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงชื่อ React2Shell (CVE-2025-55182) ที่กำลังถูกโจมตีเพิ่มขึ้นทั่วโลก ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อบริการที่ใช้ React Server Components (RSC) โดยผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งอัปเดตและติดตั้งแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายรุนแรง 🔗 https://securityonline.info/critical-react2shell-vulnerability-cve-2025-55182-analysis-surge-in-attacks-targeting-rsc-enabled-services-worldwide
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ทดสอบเครื่องมือจาก ACM Research

    Intel กำลังประเมินเครื่องมือ wet etch จาก ACM Research สำหรับใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ที่มีแผนเปิดตัวในปี 2027 เครื่องมือประเภทนี้ใช้สารเคมีในการกัดกร่อนวัสดุเพื่อสร้างลวดลายบนเวเฟอร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการผลิตชิป แม้การทดสอบเครื่องมือจากหลายบริษัทเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีนี้ถูกจับตามากเพราะ ACM มีฐานการดำเนินงานใหญ่ในจีน

    ความกังวลด้านความมั่นคง
    ACM Research มีบางหน่วยงานที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเนื่องจากความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC, CXMT และ YMTC การที่ Intel ทดสอบเครื่องมือจากบริษัทที่มีความเสี่ยงเช่นนี้ จึงถูกมองว่าอาจสร้างปัญหาด้านความมั่นคงและการเมือง โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ กำลังเข้มงวดต่อการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีน

    ความเชื่อมโยงกับ Lip-Bu Tan
    Lip-Bu Tan ซึ่งเพิ่งขึ้นเป็น CEO ของ Intel เคยลงทุนใน ACM Research ผ่านกองทุน Walden International และ Walden CEL Global Fund I แม้จะเป็นการลงทุนทางอ้อมและไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Intel อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนหากตัดสินใจใช้เครื่องมือจาก ACM

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    การทดสอบนี้สะท้อนถึงความท้าทายของ Intel ในการหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งการผลิตชิปขั้นสูง หาก Intel เลือกใช้เครื่องมือจาก ACM จริง อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่า จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Intel ทดสอบเครื่องมือใหม่
    เครื่องมือ wet etch จาก ACM Research
    ใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ปี 2027

    ความเชื่อมโยงกับผู้บริหาร
    Lip-Bu Tan เคยลงทุนใน ACM ผ่าน Walden International
    แม้ไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่สร้างข้อสงสัยเรื่องผลประโยชน์

    ความเสี่ยงด้านความมั่นคง
    ACM มีหน่วยงานถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ
    ความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC และ YMTC

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Intel ต้องหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งผลิตชิปขั้นสูง
    จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การใช้เครื่องมือจาก ACM อาจสร้างแรงกดดันทางการเมือง
    ความเสี่ยงต่อความมั่นคงหากมีการพึ่งพาบริษัทที่ถูกคว่ำบาตร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-tests-chipmaking-tools-from-sanctioned-china-focused-tool-maker-report-claims-move-could-raise-political-and-national-security-concerns-firm-was-backed-by-ceo-lip-bu-tans-investment-firm
    🏭 Intel ทดสอบเครื่องมือจาก ACM Research Intel กำลังประเมินเครื่องมือ wet etch จาก ACM Research สำหรับใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ที่มีแผนเปิดตัวในปี 2027 เครื่องมือประเภทนี้ใช้สารเคมีในการกัดกร่อนวัสดุเพื่อสร้างลวดลายบนเวเฟอร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการผลิตชิป แม้การทดสอบเครื่องมือจากหลายบริษัทเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีนี้ถูกจับตามากเพราะ ACM มีฐานการดำเนินงานใหญ่ในจีน ⚠️ ความกังวลด้านความมั่นคง ACM Research มีบางหน่วยงานที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเนื่องจากความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC, CXMT และ YMTC การที่ Intel ทดสอบเครื่องมือจากบริษัทที่มีความเสี่ยงเช่นนี้ จึงถูกมองว่าอาจสร้างปัญหาด้านความมั่นคงและการเมือง โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ กำลังเข้มงวดต่อการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีน 👔 ความเชื่อมโยงกับ Lip-Bu Tan Lip-Bu Tan ซึ่งเพิ่งขึ้นเป็น CEO ของ Intel เคยลงทุนใน ACM Research ผ่านกองทุน Walden International และ Walden CEL Global Fund I แม้จะเป็นการลงทุนทางอ้อมและไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Intel อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนหากตัดสินใจใช้เครื่องมือจาก ACM 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม การทดสอบนี้สะท้อนถึงความท้าทายของ Intel ในการหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งการผลิตชิปขั้นสูง หาก Intel เลือกใช้เครื่องมือจาก ACM จริง อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่า จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Intel ทดสอบเครื่องมือใหม่ ➡️ เครื่องมือ wet etch จาก ACM Research ➡️ ใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ปี 2027 ✅ ความเชื่อมโยงกับผู้บริหาร ➡️ Lip-Bu Tan เคยลงทุนใน ACM ผ่าน Walden International ➡️ แม้ไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่สร้างข้อสงสัยเรื่องผลประโยชน์ ✅ ความเสี่ยงด้านความมั่นคง ➡️ ACM มีหน่วยงานถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ➡️ ความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC และ YMTC ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ Intel ต้องหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งผลิตชิปขั้นสูง ➡️ จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การใช้เครื่องมือจาก ACM อาจสร้างแรงกดดันทางการเมือง ⛔ ความเสี่ยงต่อความมั่นคงหากมีการพึ่งพาบริษัทที่ถูกคว่ำบาตร https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-tests-chipmaking-tools-from-sanctioned-china-focused-tool-maker-report-claims-move-could-raise-political-and-national-security-concerns-firm-was-backed-by-ceo-lip-bu-tans-investment-firm
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 335 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline

    Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่
    ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย
    https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks

    DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero
    https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย
    มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว
    https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism

    EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย
    หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit

    Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO
    OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle

    Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS
    ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports

    Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal
    นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที
    https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass

    GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki
    GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages

    Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO
    มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait

    SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
    SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX
    https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers

    จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure
    มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน
    https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud

    ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน
    มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce

    FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย
    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา
    https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน
    CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication

    ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว
    https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack

    นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ
    Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline 🛡️ Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่ ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks 💻 DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero 🔗 https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism 🪙 EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit 🤝 Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle 🛠️ Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports 🐙 Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที 🔗 https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass 🧩 GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages 📱 Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ 🔗 https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait 🚀 SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX 🔗 https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers 🐼 จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน 🔗 https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud 📡 ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce ⚠️ FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา 🔗 https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis 🎥 ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication 🛡️ ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว 🔗 https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack 🤖 นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 915 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคสสุดล้ำ Frame 4000D LCD RS ARGB ที่มาพร้อมหน้าจอในตัว

    Corsair เปิดตัวเคสคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ Frame 4000D LCD RS ARGB ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัส Xeneon Edge ในตัว ทำให้ผู้ใช้สามารถแสดงข้อมูล, ควบคุมระบบ, หรือแม้แต่ใช้เป็นหน้าจอเสริมได้ ถือเป็นการยกระดับการตกแต่งและการใช้งานเคส PC ให้ล้ำสมัยกว่าที่เคย

    Corsair Frame 4000D LCD RS ARGB เป็นเคสที่รวมเอาหน้าจอสัมผัส Xeneon Edge ขนาด 2560x720 พิกเซลเข้ามาไว้ใต้ห้องหลักของเคส หน้าจอนี้สามารถทำงานเหมือนจอมอนิเตอร์ทั่วไปใน Windows ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดหน้าต่างใด ๆ ก็ได้ เช่น การแสดงสถานะฮาร์ดแวร์, วิดเจ็ต, หรือแม้แต่สตรีมแชท

    ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย
    หน้าจอ Xeneon Edge รองรับการสัมผัสแบบ 5 จุด และสามารถเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ iCUE ของ Corsair เพื่อปรับแต่งการทำงาน เช่น การเปลี่ยนโหมดพลังงาน, การปรับรอบพัดลม, หรือการควบคุมไฟ RGB ได้ในครั้งเดียว นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือเสริมสำหรับเกมเมอร์ เช่น แสดงสถิติการสตรีม หรือควบคุม Spotify ผ่านวิดเจ็ต

    ราคาและการจัดจำหน่าย
    Corsair ตั้งราคาชุด Frame 4000D LCD RS ARGB ที่ 399.99 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมทั้งเคส, ชุดติดตั้ง, และหน้าจอ Xeneon Edge หากซื้อแยกชิ้นส่วนจะมีราคาใกล้เคียงกันแต่ยุ่งยากกว่าในการติดตั้งเอง เคสมีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาวเพื่อให้เข้ากับการจัดธีมของผู้ใช้

    ความหมายต่อวงการ PC
    การเพิ่มหน้าจอสัมผัสในเคสถือเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับการปรับแต่งคอมพิวเตอร์ ไม่เพียงแต่ทำให้เครื่องดูโดดเด่น แต่ยังเพิ่มประโยชน์ใช้สอยจริง เช่น การตรวจสอบอุณหภูมิ, การควบคุมระบบ, หรือการใช้เป็นหน้าจอเสริมสำหรับงานและความบันเทิง แนวคิดนี้สะท้อนถึงการที่ผู้ผลิตเริ่มมองเคสไม่ใช่แค่โครงสร้าง แต่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ใช้งาน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Corsair Frame 4000D LCD RS ARGB
    เคสคอมพิวเตอร์พร้อมหน้าจอสัมผัส Xeneon Edge
    ความละเอียด 2560x720 พิกเซล

    ฟังก์ชันการใช้งาน
    รองรับการสัมผัส 5 จุด
    ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ iCUE
    ควบคุมไฟ RGB, พัดลม, โหมดพลังงาน

    ราคาและการจัดจำหน่าย
    ราคา 399.99 ดอลลาร์สหรัฐ
    มีสีดำและสีขาวให้เลือก

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ราคาสูงเมื่อเทียบกับเคสทั่วไป
    ใช้พลังงานและพื้นที่มากขึ้น
    อาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้เน้นการปรับแต่งหรือโชว์เครื่อง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/corsair-builds-multi-function-touchscreen-lcd-into-a-usd400-case-frame-4000d-enclosure-gets-a-modular-xeneon-edge-upgrade
    🖥️ เคสสุดล้ำ Frame 4000D LCD RS ARGB ที่มาพร้อมหน้าจอในตัว Corsair เปิดตัวเคสคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ Frame 4000D LCD RS ARGB ที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัส Xeneon Edge ในตัว ทำให้ผู้ใช้สามารถแสดงข้อมูล, ควบคุมระบบ, หรือแม้แต่ใช้เป็นหน้าจอเสริมได้ ถือเป็นการยกระดับการตกแต่งและการใช้งานเคส PC ให้ล้ำสมัยกว่าที่เคย Corsair Frame 4000D LCD RS ARGB เป็นเคสที่รวมเอาหน้าจอสัมผัส Xeneon Edge ขนาด 2560x720 พิกเซลเข้ามาไว้ใต้ห้องหลักของเคส หน้าจอนี้สามารถทำงานเหมือนจอมอนิเตอร์ทั่วไปใน Windows ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดหน้าต่างใด ๆ ก็ได้ เช่น การแสดงสถานะฮาร์ดแวร์, วิดเจ็ต, หรือแม้แต่สตรีมแชท 🎮 ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย หน้าจอ Xeneon Edge รองรับการสัมผัสแบบ 5 จุด และสามารถเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ iCUE ของ Corsair เพื่อปรับแต่งการทำงาน เช่น การเปลี่ยนโหมดพลังงาน, การปรับรอบพัดลม, หรือการควบคุมไฟ RGB ได้ในครั้งเดียว นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือเสริมสำหรับเกมเมอร์ เช่น แสดงสถิติการสตรีม หรือควบคุม Spotify ผ่านวิดเจ็ต ⚡ ราคาและการจัดจำหน่าย Corsair ตั้งราคาชุด Frame 4000D LCD RS ARGB ที่ 399.99 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมทั้งเคส, ชุดติดตั้ง, และหน้าจอ Xeneon Edge หากซื้อแยกชิ้นส่วนจะมีราคาใกล้เคียงกันแต่ยุ่งยากกว่าในการติดตั้งเอง เคสมีให้เลือกทั้งสีดำและสีขาวเพื่อให้เข้ากับการจัดธีมของผู้ใช้ 🔍 ความหมายต่อวงการ PC การเพิ่มหน้าจอสัมผัสในเคสถือเป็นการสร้างมิติใหม่ให้กับการปรับแต่งคอมพิวเตอร์ ไม่เพียงแต่ทำให้เครื่องดูโดดเด่น แต่ยังเพิ่มประโยชน์ใช้สอยจริง เช่น การตรวจสอบอุณหภูมิ, การควบคุมระบบ, หรือการใช้เป็นหน้าจอเสริมสำหรับงานและความบันเทิง แนวคิดนี้สะท้อนถึงการที่ผู้ผลิตเริ่มมองเคสไม่ใช่แค่โครงสร้าง แต่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ใช้งาน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Corsair Frame 4000D LCD RS ARGB ➡️ เคสคอมพิวเตอร์พร้อมหน้าจอสัมผัส Xeneon Edge ➡️ ความละเอียด 2560x720 พิกเซล ✅ ฟังก์ชันการใช้งาน ➡️ รองรับการสัมผัส 5 จุด ➡️ ใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ iCUE ➡️ ควบคุมไฟ RGB, พัดลม, โหมดพลังงาน ✅ ราคาและการจัดจำหน่าย ➡️ ราคา 399.99 ดอลลาร์สหรัฐ ➡️ มีสีดำและสีขาวให้เลือก ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ราคาสูงเมื่อเทียบกับเคสทั่วไป ⛔ ใช้พลังงานและพื้นที่มากขึ้น ⛔ อาจไม่จำเป็นสำหรับผู้ใช้ที่ไม่ได้เน้นการปรับแต่งหรือโชว์เครื่อง https://www.tomshardware.com/tech-industry/corsair-builds-multi-function-touchscreen-lcd-into-a-usd400-case-frame-4000d-enclosure-gets-a-modular-xeneon-edge-upgrade
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • FDA รับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกเพื่อเร่งการพัฒนายารักษาโรคตับ

    องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ประกาศรับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแพทย์ประเมินโรคตับชนิดรุนแรงในกระบวนการทดลองยา เครื่องมือนี้มีชื่อว่า AIM-NASH ซึ่งทำงานบนระบบคลาวด์และใช้การวิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับ เพื่อประเมินสัญญาณของโรค เช่น การสะสมไขมัน, การอักเสบ และการเกิดพังผืด

    ปัจจุบันการประเมินโรคตับในผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดลองยามักต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหลายคนตรวจสอบชิ้นเนื้อด้วยตา ซึ่งใช้เวลานานและอาจมีความไม่สอดคล้องกัน AIM-NASH จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ มาตรฐานการประเมินที่แม่นยำและรวดเร็วกว่า โดยผลลัพธ์จาก AI จะถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย

    โรคที่เครื่องมือนี้มุ่งเป้า คือ Metabolic dysfunction-associated steatohepatitis (MASH) ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคนในสหรัฐฯ และอาจนำไปสู่ภาวะตับวายหรือมะเร็งตับได้ การใช้ AI ในการประเมินโรคนี้คาดว่าจะช่วยลดเวลาและต้นทุนในการพัฒนายาใหม่ลงได้ถึงครึ่งหนึ่งภายใน 3–5 ปี

    การรับรองครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะ FDA ยืนยันว่า AIM-NASH ให้ผลลัพธ์ที่ เทียบเคียงได้กับการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ และจะเปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เครื่องมือ AIM-NASH ได้รับการรับรองจาก FDA
    ใช้ AI วิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับเพื่อประเมินโรค
    ผลลัพธ์ถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย

    เป้าหมายการใช้งาน
    มุ่งช่วยเร่งการพัฒนายาสำหรับโรค MASH
    ลดเวลาและต้นทุนการทดลองยาลงได้มาก

    ความสำคัญของการรับรอง
    ผลลัพธ์จาก AIM-NASH เทียบเคียงได้กับผู้เชี่ยวชาญ
    เปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับ

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    แม้ AI จะช่วยเร่งการประเมิน แต่ยังต้องอาศัยแพทย์ตีความขั้นสุดท้าย
    หากพึ่งพา AI โดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อการวินิจฉัยผิดพลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-fda-qualifies-first-ai-tool-to-help-speed-liver-disease-drug-development
    🧪 FDA รับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกเพื่อเร่งการพัฒนายารักษาโรคตับ องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้ประกาศรับรองเครื่องมือ AI ตัวแรกที่ออกแบบมาเพื่อช่วยแพทย์ประเมินโรคตับชนิดรุนแรงในกระบวนการทดลองยา เครื่องมือนี้มีชื่อว่า AIM-NASH ซึ่งทำงานบนระบบคลาวด์และใช้การวิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับ เพื่อประเมินสัญญาณของโรค เช่น การสะสมไขมัน, การอักเสบ และการเกิดพังผืด ปัจจุบันการประเมินโรคตับในผู้ป่วยที่เข้าร่วมการทดลองยามักต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหลายคนตรวจสอบชิ้นเนื้อด้วยตา ซึ่งใช้เวลานานและอาจมีความไม่สอดคล้องกัน AIM-NASH จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อ มาตรฐานการประเมินที่แม่นยำและรวดเร็วกว่า โดยผลลัพธ์จาก AI จะถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย โรคที่เครื่องมือนี้มุ่งเป้า คือ Metabolic dysfunction-associated steatohepatitis (MASH) ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรหลายล้านคนในสหรัฐฯ และอาจนำไปสู่ภาวะตับวายหรือมะเร็งตับได้ การใช้ AI ในการประเมินโรคนี้คาดว่าจะช่วยลดเวลาและต้นทุนในการพัฒนายาใหม่ลงได้ถึงครึ่งหนึ่งภายใน 3–5 ปี การรับรองครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ เพราะ FDA ยืนยันว่า AIM-NASH ให้ผลลัพธ์ที่ เทียบเคียงได้กับการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ และจะเปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เครื่องมือ AIM-NASH ได้รับการรับรองจาก FDA ➡️ ใช้ AI วิเคราะห์ภาพชิ้นเนื้อตับเพื่อประเมินโรค ➡️ ผลลัพธ์ถูกส่งต่อให้แพทย์ตีความขั้นสุดท้าย ✅ เป้าหมายการใช้งาน ➡️ มุ่งช่วยเร่งการพัฒนายาสำหรับโรค MASH ➡️ ลดเวลาและต้นทุนการทดลองยาลงได้มาก ✅ ความสำคัญของการรับรอง ➡️ ผลลัพธ์จาก AIM-NASH เทียบเคียงได้กับผู้เชี่ยวชาญ ➡️ เปิดให้ใช้ในทุกโครงการพัฒนายาที่เกี่ยวข้องกับโรคตับ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง ⛔ แม้ AI จะช่วยเร่งการประเมิน แต่ยังต้องอาศัยแพทย์ตีความขั้นสุดท้าย ⛔ หากพึ่งพา AI โดยไม่มีการตรวจสอบ อาจเสี่ยงต่อการวินิจฉัยผิดพลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-fda-qualifies-first-ai-tool-to-help-speed-liver-disease-drug-development
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US FDA qualifies first AI tool to help speed liver disease drug development
    Dec 8 (Reuters) - The U.S. Food and Drug Administration has qualified the first artificial intelligence tool designed to help doctors assess a severe form of fatty liver disease in drug trials, the agency said on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • การกลับมาของ Jolla Phone หลังทศวรรษ

    ข่าวนี้เล่าถึงการกลับมาของ Jolla Phone หลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2013 โดยรุ่นใหม่ใช้ Sailfish OS 5 เน้นความเป็นส่วนตัว, รองรับ Android apps, มีแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ และเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วในยุโรป

    Jolla ก่อตั้งโดยอดีตวิศวกร Nokia หลัง MeeGo ถูกยกเลิกในปี 2011 และเปิดตัว Jolla Phone รุ่นแรกในปี 2013 ผ่านการระดมทุนสำเร็จ ครั้งนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งด้วย Jolla Phone รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวผ่านแคมเปญ crowdfunding และมียอดจองเกิน 2,000 เครื่องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

    Sailfish OS 5: ระบบที่เคารพความเป็นส่วนตัว
    โทรศัพท์ใหม่นี้ใช้ Sailfish OS 5 ซึ่งแตกต่างจาก Android และ iOS โดยไม่ติดตามผู้ใช้หรือส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ระบบถูกออกแบบให้เคารพความเป็นส่วนตัวโดยค่าเริ่มต้น พร้อมสัญญาการสนับสนุนซอฟต์แวร์อย่างน้อย 5 ปีโดยไม่มีการบังคับให้อัปเกรดเครื่อง นอกจากนี้ยังรองรับ Android apps ผ่าน AppSupport ในสภาพแวดล้อม sandbox ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานแบบ “de-Googled” ได้เต็มที่

    สเปกและฟีเจอร์เด่น
    ชิปเซ็ต: Mediatek 5G platform
    RAM: 12 GB
    Storage: 256 GB + microSDXC
    หน้าจอ: 6.36″ Full-HD AMOLED ~390 ppi พร้อม Gorilla Glass
    กล้อง: 50MP Wide + 13MP Ultrawide, กล้องหน้า wide-lens
    แบตเตอรี่: ~5,500 mAh ถอดเปลี่ยนได้
    การเชื่อมต่อ: WiFi 6, BT 5.4, NFC, 4G + 5G dual SIM
    ฟีเจอร์พิเศษ: ปุ่ม Power รวม fingerprint, สวิตช์ privacy สำหรับปิดไมค์และ Bluetooth

    ราคาและการวางจำหน่าย
    Jolla Phone เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าด้วยเงินมัดจำ €99 (คืนได้) ราคาพิเศษสำหรับผู้สั่งจองคือ €499 รวม VAT และคาดว่าราคาขายจริงจะอยู่ระหว่าง €599–€699 โดยจะเริ่มส่งมอบในครึ่งแรกของปี 2026 รุ่นแรกจะวางจำหน่ายใน EU, UK, สวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์ แต่รองรับการใช้งานทั่วโลกด้วยโมเด็ม roaming

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การกลับมาของ Jolla Phone
    เปิดตัวครั้งแรกปี 2013 และกลับมาอีกครั้งในปี 2025
    เปิดตัวผ่าน crowdfunding และมียอดจองเกิน 2,000 เครื่อง

    จุดเด่นของ Sailfish OS 5
    เคารพความเป็นส่วนตัว ไม่ส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์
    รองรับ Android apps ผ่าน sandbox

    สเปกหลักของเครื่อง
    RAM 12 GB, Storage 256 GB + microSDXC
    กล้องหลัก 50MP + 13MP Ultrawide
    แบตเตอรี่ 5,500 mAh ถอดเปลี่ยนได้

    ข้อควรระวัง
    ราคาขายจริงสูงกว่าราคา pre-order (คาด €599–€699)
    ยังจำกัดการวางจำหน่ายในยุโรปช่วงแรก

    https://itsfoss.com/news/jolla-phone-returns/
    📱 การกลับมาของ Jolla Phone หลังทศวรรษ ข่าวนี้เล่าถึงการกลับมาของ Jolla Phone หลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2013 โดยรุ่นใหม่ใช้ Sailfish OS 5 เน้นความเป็นส่วนตัว, รองรับ Android apps, มีแบตเตอรี่ถอดเปลี่ยนได้ และเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วในยุโรป Jolla ก่อตั้งโดยอดีตวิศวกร Nokia หลัง MeeGo ถูกยกเลิกในปี 2011 และเปิดตัว Jolla Phone รุ่นแรกในปี 2013 ผ่านการระดมทุนสำเร็จ ครั้งนี้พวกเขากลับมาอีกครั้งด้วย Jolla Phone รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวผ่านแคมเปญ crowdfunding และมียอดจองเกิน 2,000 เครื่องตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 🔐 Sailfish OS 5: ระบบที่เคารพความเป็นส่วนตัว โทรศัพท์ใหม่นี้ใช้ Sailfish OS 5 ซึ่งแตกต่างจาก Android และ iOS โดยไม่ติดตามผู้ใช้หรือส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท ระบบถูกออกแบบให้เคารพความเป็นส่วนตัวโดยค่าเริ่มต้น พร้อมสัญญาการสนับสนุนซอฟต์แวร์อย่างน้อย 5 ปีโดยไม่มีการบังคับให้อัปเกรดเครื่อง นอกจากนี้ยังรองรับ Android apps ผ่าน AppSupport ในสภาพแวดล้อม sandbox ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานแบบ “de-Googled” ได้เต็มที่ ⚙️ สเปกและฟีเจอร์เด่น 💠 ชิปเซ็ต: Mediatek 5G platform 💠 RAM: 12 GB 💠 Storage: 256 GB + microSDXC 💠 หน้าจอ: 6.36″ Full-HD AMOLED ~390 ppi พร้อม Gorilla Glass 💠 กล้อง: 50MP Wide + 13MP Ultrawide, กล้องหน้า wide-lens 💠 แบตเตอรี่: ~5,500 mAh ถอดเปลี่ยนได้ 💠 การเชื่อมต่อ: WiFi 6, BT 5.4, NFC, 4G + 5G dual SIM 💠 ฟีเจอร์พิเศษ: ปุ่ม Power รวม fingerprint, สวิตช์ privacy สำหรับปิดไมค์และ Bluetooth 💶 ราคาและการวางจำหน่าย Jolla Phone เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าด้วยเงินมัดจำ €99 (คืนได้) ราคาพิเศษสำหรับผู้สั่งจองคือ €499 รวม VAT และคาดว่าราคาขายจริงจะอยู่ระหว่าง €599–€699 โดยจะเริ่มส่งมอบในครึ่งแรกของปี 2026 รุ่นแรกจะวางจำหน่ายใน EU, UK, สวิตเซอร์แลนด์ และนอร์เวย์ แต่รองรับการใช้งานทั่วโลกด้วยโมเด็ม roaming 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การกลับมาของ Jolla Phone ➡️ เปิดตัวครั้งแรกปี 2013 และกลับมาอีกครั้งในปี 2025 ➡️ เปิดตัวผ่าน crowdfunding และมียอดจองเกิน 2,000 เครื่อง ✅ จุดเด่นของ Sailfish OS 5 ➡️ เคารพความเป็นส่วนตัว ไม่ส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ ➡️ รองรับ Android apps ผ่าน sandbox ✅ สเปกหลักของเครื่อง ➡️ RAM 12 GB, Storage 256 GB + microSDXC ➡️ กล้องหลัก 50MP + 13MP Ultrawide ➡️ แบตเตอรี่ 5,500 mAh ถอดเปลี่ยนได้ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ราคาขายจริงสูงกว่าราคา pre-order (คาด €599–€699) ⛔ ยังจำกัดการวางจำหน่ายในยุโรปช่วงแรก https://itsfoss.com/news/jolla-phone-returns/
    ITSFOSS.COM
    This Could Be The Linux Phone We All Have Been Waiting For
    The Jolla Phone returns over a decade after the original 2013 launch.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 289 มุมมอง 0 รีวิว
  • "DIY Mod ใช้ CPU Air Cooler + น้ำแข็งเย็นจัด เพื่อ Liquid-Cool GPU ได้ถึง -14°C"

    บทความจาก Tom’s Hardware เล่าถึงการทดลองสุดแหวกแนวของ TrashBench นักโมดิฟายฮาร์ดแวร์ ที่นำ CPU air cooler (Thermalright Peerless Assassin) มาดัดแปลงให้กลายเป็นระบบ liquid cooling สำหรับ GPU โดยการ ตัด heatpipes เปิดออก แล้วต่อท่อน้ำบาง ๆ เข้าไป จากนั้นใช้ ปั๊ม + portable ice chiller เพื่อส่งน้ำเย็นจัดไหลผ่าน heatpipes【edge_current_page_context】

    ผลลัพธ์คือ GPU อย่าง MSI RTX 3070 สามารถทำงานที่อุณหภูมิ -14°C และได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% พร้อมโอเวอร์คล็อกเพิ่มอีก +320 MHz ส่วน GTX 960 ยิ่งเห็นผลชัดเจน โดยเกม Cyberpunk 2077 เพิ่ม FPS ได้ถึง 21% และโดยรวมประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 17%【edge_current_page_context】

    แม้ TrashBench จะไม่ได้ประกาศว่าเป็น “ความสำเร็จ” อย่างเป็นทางการ แต่การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า การดัดแปลง air cooler ให้เป็น pseudo-AIO สามารถช่วยโอเวอร์คล็อก GPU ได้โดยไม่ต้องพึ่ง liquid nitrogen หรือระบบ extreme cooling ที่ซับซ้อน ถือเป็นการเพิ่ม “fun” ในการโมดิฟายฮาร์ดแวร์ที่ยังใช้งานได้จริง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    วิธีการโมดิฟาย
    ใช้ Thermalright Peerless Assassin air cooler
    ตัด heatpipes ต่อท่อน้ำ + ปั๊ม + ice chiller
    ส่งน้ำเย็นจัดผ่าน heatpipes สัมผัสกับ GPU die

    ผลลัพธ์
    RTX 3070: อุณหภูมิ -14°C, ประสิทธิภาพ +10%
    GTX 960: FPS เพิ่มสูงสุด 21%, โดยรวม +17%

    ความหมาย
    เป็น pseudo-AIO ที่ช่วยโอเวอร์คล็อก GPU ได้จริง
    ไม่ต้องใช้ LN2 หรือระบบ extreme cooling
    เพิ่มความสนุกและความสร้างสรรค์ในการโมดิฟาย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/cpu-air-cooler-runs-ice-cold-water-through-its-heatpipes-to-liquid-cool-a-gpu-negative-temp-diy-mod-sees-up-to-17-percent-performance-uplift
    ❄️ "DIY Mod ใช้ CPU Air Cooler + น้ำแข็งเย็นจัด เพื่อ Liquid-Cool GPU ได้ถึง -14°C" บทความจาก Tom’s Hardware เล่าถึงการทดลองสุดแหวกแนวของ TrashBench นักโมดิฟายฮาร์ดแวร์ ที่นำ CPU air cooler (Thermalright Peerless Assassin) มาดัดแปลงให้กลายเป็นระบบ liquid cooling สำหรับ GPU โดยการ ตัด heatpipes เปิดออก แล้วต่อท่อน้ำบาง ๆ เข้าไป จากนั้นใช้ ปั๊ม + portable ice chiller เพื่อส่งน้ำเย็นจัดไหลผ่าน heatpipes【edge_current_page_context】 ผลลัพธ์คือ GPU อย่าง MSI RTX 3070 สามารถทำงานที่อุณหภูมิ -14°C และได้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 10% พร้อมโอเวอร์คล็อกเพิ่มอีก +320 MHz ส่วน GTX 960 ยิ่งเห็นผลชัดเจน โดยเกม Cyberpunk 2077 เพิ่ม FPS ได้ถึง 21% และโดยรวมประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นราว 17%【edge_current_page_context】 แม้ TrashBench จะไม่ได้ประกาศว่าเป็น “ความสำเร็จ” อย่างเป็นทางการ แต่การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่า การดัดแปลง air cooler ให้เป็น pseudo-AIO สามารถช่วยโอเวอร์คล็อก GPU ได้โดยไม่ต้องพึ่ง liquid nitrogen หรือระบบ extreme cooling ที่ซับซ้อน ถือเป็นการเพิ่ม “fun” ในการโมดิฟายฮาร์ดแวร์ที่ยังใช้งานได้จริง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ วิธีการโมดิฟาย ➡️ ใช้ Thermalright Peerless Assassin air cooler ➡️ ตัด heatpipes ต่อท่อน้ำ + ปั๊ม + ice chiller ➡️ ส่งน้ำเย็นจัดผ่าน heatpipes สัมผัสกับ GPU die ✅ ผลลัพธ์ ➡️ RTX 3070: อุณหภูมิ -14°C, ประสิทธิภาพ +10% ➡️ GTX 960: FPS เพิ่มสูงสุด 21%, โดยรวม +17% ✅ ความหมาย ➡️ เป็น pseudo-AIO ที่ช่วยโอเวอร์คล็อก GPU ได้จริง ➡️ ไม่ต้องใช้ LN2 หรือระบบ extreme cooling ➡️ เพิ่มความสนุกและความสร้างสรรค์ในการโมดิฟาย https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/cpu-air-cooler-runs-ice-cold-water-through-its-heatpipes-to-liquid-cool-a-gpu-negative-temp-diy-mod-sees-up-to-17-percent-performance-uplift
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • นกดึกดำบรรพ์ที่เสียชีวิตเพราะหิน 800 ก้อน

    นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบฟอสซิลของนกโบราณชื่อ Chromeornis funkyi อายุราว 120 ล้านปี ที่มีหินเล็ก ๆ กว่า 800 ก้อนติดอยู่ในลำคอ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตโดยการสำลักหินก้อนมหึมาในครั้งเดียว

    ปริศนาพฤติกรรมการกินหิน
    โดยทั่วไปนกบางชนิดจะกินหินเล็ก ๆ หรือ gastroliths เพื่อช่วยบดอาหารในกระเพาะ แต่ Chromeornis ไม่มีโครงสร้างกระเพาะแบบนั้น อีกทั้งจำนวนหินที่พบมากเกินไปและมีองค์ประกอบแตกต่างกัน จึงไม่ใช่การกินเพื่อช่วยย่อยอาหาร นักวิจัยตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความผิดปกติทางสุขภาพ เช่น การพยายามกำจัดพยาธิ หรือการขาดสารอาหาร

    หลักฐานจากฟอสซิลที่สมบูรณ์
    ฟอสซิลนี้ถูกค้นพบในจีนและอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากจนยังเห็นร่องรอยเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ขน กล้ามเนื้อ และสีตา ทำให้นักวิจัยสามารถระบุได้ว่า Chromeornis เป็นสมาชิกของตระกูล Longipterygidae ซึ่งเป็นนกขนาดเล็ก มีฟันเฉพาะที่ปลายจะงอยปาก

    ความหมายต่อการศึกษาวิวัฒนาการ
    การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เผยให้เห็นสาเหตุการตายที่แปลกประหลาด แต่ยังช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและความเปราะบางของนกดึกดำบรรพ์ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พวกมันสูญพันธุ์ไปในเหตุการณ์ Cretaceous-Paleogene mass extinction เมื่อ 66 ล้านปีก่อน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบฟอสซิล Chromeornis funkyi
    อายุราว 120 ล้านปี
    พบหินกว่า 800 ก้อนในลำคอ

    พฤติกรรมการกินหินผิดปกติ
    ไม่ใช่ gastroliths สำหรับช่วยย่อยอาหาร
    อาจเกิดจากความเจ็บป่วยหรือขาดสารอาหาร

    หลักฐานจากฟอสซิลสมบูรณ์
    เห็นร่องรอยขน กล้ามเนื้อ และสีตา
    จัดอยู่ในตระกูล Longipterygidae

    ข้อควรระวังในการตีความ
    ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไม Chromeornis กินหินจำนวนมาก
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสมมติฐานทางสุขภาพและพฤติกรรม

    https://www.sciencealert.com/this-prehistoric-bird-choked-to-death-on-800-rocks-and-no-one-knows-why
    🐦 นกดึกดำบรรพ์ที่เสียชีวิตเพราะหิน 800 ก้อน นักบรรพชีวินวิทยาค้นพบฟอสซิลของนกโบราณชื่อ Chromeornis funkyi อายุราว 120 ล้านปี ที่มีหินเล็ก ๆ กว่า 800 ก้อนติดอยู่ในลำคอ ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตโดยการสำลักหินก้อนมหึมาในครั้งเดียว 🪨 ปริศนาพฤติกรรมการกินหิน โดยทั่วไปนกบางชนิดจะกินหินเล็ก ๆ หรือ gastroliths เพื่อช่วยบดอาหารในกระเพาะ แต่ Chromeornis ไม่มีโครงสร้างกระเพาะแบบนั้น อีกทั้งจำนวนหินที่พบมากเกินไปและมีองค์ประกอบแตกต่างกัน จึงไม่ใช่การกินเพื่อช่วยย่อยอาหาร นักวิจัยตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจเกิดจากความผิดปกติทางสุขภาพ เช่น การพยายามกำจัดพยาธิ หรือการขาดสารอาหาร 🧪 หลักฐานจากฟอสซิลที่สมบูรณ์ ฟอสซิลนี้ถูกค้นพบในจีนและอยู่ในสภาพสมบูรณ์มากจนยังเห็นร่องรอยเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ขน กล้ามเนื้อ และสีตา ทำให้นักวิจัยสามารถระบุได้ว่า Chromeornis เป็นสมาชิกของตระกูล Longipterygidae ซึ่งเป็นนกขนาดเล็ก มีฟันเฉพาะที่ปลายจะงอยปาก 🌍 ความหมายต่อการศึกษาวิวัฒนาการ การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เผยให้เห็นสาเหตุการตายที่แปลกประหลาด แต่ยังช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและความเปราะบางของนกดึกดำบรรพ์ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พวกมันสูญพันธุ์ไปในเหตุการณ์ Cretaceous-Paleogene mass extinction เมื่อ 66 ล้านปีก่อน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบฟอสซิล Chromeornis funkyi ➡️ อายุราว 120 ล้านปี ➡️ พบหินกว่า 800 ก้อนในลำคอ ✅ พฤติกรรมการกินหินผิดปกติ ➡️ ไม่ใช่ gastroliths สำหรับช่วยย่อยอาหาร ➡️ อาจเกิดจากความเจ็บป่วยหรือขาดสารอาหาร ✅ หลักฐานจากฟอสซิลสมบูรณ์ ➡️ เห็นร่องรอยขน กล้ามเนื้อ และสีตา ➡️ จัดอยู่ในตระกูล Longipterygidae ‼️ ข้อควรระวังในการตีความ ⛔ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไม Chromeornis กินหินจำนวนมาก ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันสมมติฐานทางสุขภาพและพฤติกรรม https://www.sciencealert.com/this-prehistoric-bird-choked-to-death-on-800-rocks-and-no-one-knows-why
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    This Prehistoric Bird Choked to Death on 800 Rocks, And No One Knows Why
    A prehistoric bird that lived and died 120 million years ago has presented forensic paleontologists with a baffling medical mystery.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve สนับสนุน FEX-Emu เปิดทางใหม่ในการช่วยเหลือโอเพ่นซอร์ส

    การสนับสนุนเบื้องหลัง
    Valve เริ่มสนับสนุนโครงการ FEX-Emu ตั้งแต่ปี 2018 โดยจ้างนักพัฒนาอย่าง Ryan Houdek ให้ทำงานเต็มเวลา จุดมุ่งหมายคือการสร้างตัวจำลอง (emulator) ที่ช่วยให้เกม Windows สามารถทำงานบนอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM ได้ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจาก Proton ที่ Valve เคยทำให้เกม Windows รันบน Linux ได้มาก่อน

    ลดภาระการพอร์ตเกม
    Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่า การพอร์ตเกมไปยังสถาปัตยกรรมใหม่เป็น “งานที่สูญเปล่า” เพราะใช้เวลามากแต่ไม่ได้เพิ่มคุณภาพเกม การมี FEX-Emu ทำให้นักพัฒนาไม่ต้องเสียเวลาไปกับการพอร์ต แต่สามารถโฟกัสไปที่การปรับปรุงเกมหรือสร้างเกมใหม่แทน

    อนาคตของอุปกรณ์ ARM
    Valve มองว่าอุปกรณ์ ARM ไม่จำกัดแค่ SteamOS เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโน้ตบุ๊ก, เครื่องพกพา และเดสก์ท็อปที่ใช้ชิป ARM ได้ด้วย แม้ยังไม่มีแผนดึงผู้ผลิตเข้ามา แต่ Valve ตั้งใจจะปล่อยฮาร์ดแวร์ของตัวเองก่อน แล้วดูว่าตลาดตอบสนองอย่างไร

    ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    แนวทางนี้ถูกมองว่าเป็น “โมเดลที่ดีกว่า” เพราะ Valve ไม่ได้สร้างเครื่องมือปิด แต่เลือกสนับสนุนให้ทีมพัฒนาทำงานแบบเปิด ทำให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้ หากบริษัทอื่นทำเช่นเดียวกัน นักพัฒนาโอเพ่นซอร์สจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการถูกใช้งานหนักแต่ไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม

    สรุปสาระสำคัญ
    Valve สนับสนุน FEX-Emu ตั้งแต่ปี 2018
    จ่ายเงินให้นักพัฒนาเต็มเวลา
    โครงการโอเพ่นซอร์ส ใช้ได้กับทุกคน

    ลดภาระการพอร์ตเกม
    นักพัฒนาไม่ต้องเสียเวลาแปลงเกม
    สามารถโฟกัสไปที่การปรับปรุงเกมใหม่

    อนาคตของอุปกรณ์ ARM
    ครอบคลุมโน้ตบุ๊ก, เครื่องพกพา, เดสก์ท็อป
    Valve จะปล่อยฮาร์ดแวร์ก่อน แล้วดูตลาดตอบสนอง

    ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    โมเดลสนับสนุนที่ยั่งยืน
    ลดปัญหานักพัฒนาโอเพ่นซอร์สถูกใช้งานหนักแต่ไม่ได้ค่าตอบแทน

    คำเตือนในวงการโอเพ่นซอร์ส
    นักพัฒนาหลายคนกำลังเผชิญภาวะหมดแรงและค่าตอบแทนต่ำ
    หากไม่มีการสนับสนุนเพิ่มเติม อาจทำให้โครงการสำคัญหยุดชะงัก

    https://itsfoss.com/news/valve-shows-a-better-way-to-fund-open-source/
    📰 Valve สนับสนุน FEX-Emu เปิดทางใหม่ในการช่วยเหลือโอเพ่นซอร์ส 💻 การสนับสนุนเบื้องหลัง Valve เริ่มสนับสนุนโครงการ FEX-Emu ตั้งแต่ปี 2018 โดยจ้างนักพัฒนาอย่าง Ryan Houdek ให้ทำงานเต็มเวลา จุดมุ่งหมายคือการสร้างตัวจำลอง (emulator) ที่ช่วยให้เกม Windows สามารถทำงานบนอุปกรณ์ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM ได้ ซึ่งถือเป็นการต่อยอดจาก Proton ที่ Valve เคยทำให้เกม Windows รันบน Linux ได้มาก่อน 🎮 ลดภาระการพอร์ตเกม Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่า การพอร์ตเกมไปยังสถาปัตยกรรมใหม่เป็น “งานที่สูญเปล่า” เพราะใช้เวลามากแต่ไม่ได้เพิ่มคุณภาพเกม การมี FEX-Emu ทำให้นักพัฒนาไม่ต้องเสียเวลาไปกับการพอร์ต แต่สามารถโฟกัสไปที่การปรับปรุงเกมหรือสร้างเกมใหม่แทน 🖥️ อนาคตของอุปกรณ์ ARM Valve มองว่าอุปกรณ์ ARM ไม่จำกัดแค่ SteamOS เท่านั้น แต่ยังรวมถึงโน้ตบุ๊ก, เครื่องพกพา และเดสก์ท็อปที่ใช้ชิป ARM ได้ด้วย แม้ยังไม่มีแผนดึงผู้ผลิตเข้ามา แต่ Valve ตั้งใจจะปล่อยฮาร์ดแวร์ของตัวเองก่อน แล้วดูว่าตลาดตอบสนองอย่างไร 🌐 ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส แนวทางนี้ถูกมองว่าเป็น “โมเดลที่ดีกว่า” เพราะ Valve ไม่ได้สร้างเครื่องมือปิด แต่เลือกสนับสนุนให้ทีมพัฒนาทำงานแบบเปิด ทำให้ทุกคนสามารถนำไปใช้ต่อยอดได้ หากบริษัทอื่นทำเช่นเดียวกัน นักพัฒนาโอเพ่นซอร์สจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการถูกใช้งานหนักแต่ไม่ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Valve สนับสนุน FEX-Emu ตั้งแต่ปี 2018 ➡️ จ่ายเงินให้นักพัฒนาเต็มเวลา ➡️ โครงการโอเพ่นซอร์ส ใช้ได้กับทุกคน ✅ ลดภาระการพอร์ตเกม ➡️ นักพัฒนาไม่ต้องเสียเวลาแปลงเกม ➡️ สามารถโฟกัสไปที่การปรับปรุงเกมใหม่ ✅ อนาคตของอุปกรณ์ ARM ➡️ ครอบคลุมโน้ตบุ๊ก, เครื่องพกพา, เดสก์ท็อป ➡️ Valve จะปล่อยฮาร์ดแวร์ก่อน แล้วดูตลาดตอบสนอง ✅ ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส ➡️ โมเดลสนับสนุนที่ยั่งยืน ➡️ ลดปัญหานักพัฒนาโอเพ่นซอร์สถูกใช้งานหนักแต่ไม่ได้ค่าตอบแทน ‼️ คำเตือนในวงการโอเพ่นซอร์ส ⛔ นักพัฒนาหลายคนกำลังเผชิญภาวะหมดแรงและค่าตอบแทนต่ำ ⛔ หากไม่มีการสนับสนุนเพิ่มเติม อาจทำให้โครงการสำคัญหยุดชะงัก https://itsfoss.com/news/valve-shows-a-better-way-to-fund-open-source/
    ITSFOSS.COM
    Valve's FEX-Emu Support Shows a Better Way to Fund Open Source
    The company has quietly funded FEX-Emu since 2018 as an open source project.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts