• บทความนี้รายงานเกี่ยวกับคดีการล่วงละเมิดทางอีเมลที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ โดยผู้กระทำผิดชื่อ Douglas Arthur Merkle II ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน หลังจากที่เขาได้ส่งอีเมลล่วงละเมิดผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเวลานานกว่า 3 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 การกระทำของเขารวมถึงการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมไปยังที่ปรึกษาด้านการศึกษาของผู้หญิง และการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของเธอบนเว็บไซต์ ซึ่งสร้างความเสียหายทางจิตใจและความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับผู้เสียหาย

    ✅ Douglas Arthur Merkle II ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน
    - ผู้กระทำผิดถูกตัดสินจำคุกหลังจากล่วงละเมิดผู้หญิงผ่านอีเมลเป็นเวลานานกว่า 3 ปี
    - การกระทำของเขารวมถึงการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมไปยังที่ปรึกษาด้านการศึกษาของผู้เสียหาย

    ✅ การล่วงละเมิดเริ่มต้นในปี 2018 และสิ้นสุดในปี 2021
    - Merkle ใช้อีเมลที่ไม่ระบุตัวตนในการติดต่อผู้เสียหายและโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของเธอบนเว็บไซต์

    ✅ ผู้เสียหายได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง
    - เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยและมีความสงสัยในทุกคนรอบตัว

    ✅ Merkle ถูกจับกุมในปี 2023
    - FBI ได้จับกุมเขาและยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/19/email-stalkers-039monstrous039-harassment-of-woman-in-the-us-leads-judge-to-nearly-double-sentence
    บทความนี้รายงานเกี่ยวกับคดีการล่วงละเมิดทางอีเมลที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ โดยผู้กระทำผิดชื่อ Douglas Arthur Merkle II ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน หลังจากที่เขาได้ส่งอีเมลล่วงละเมิดผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเวลานานกว่า 3 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2018 ถึง 2021 การกระทำของเขารวมถึงการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมไปยังที่ปรึกษาด้านการศึกษาของผู้หญิง และการโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของเธอบนเว็บไซต์ ซึ่งสร้างความเสียหายทางจิตใจและความรู้สึกไม่ปลอดภัยให้กับผู้เสียหาย ✅ Douglas Arthur Merkle II ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 3 เดือน - ผู้กระทำผิดถูกตัดสินจำคุกหลังจากล่วงละเมิดผู้หญิงผ่านอีเมลเป็นเวลานานกว่า 3 ปี - การกระทำของเขารวมถึงการส่งภาพที่ไม่เหมาะสมไปยังที่ปรึกษาด้านการศึกษาของผู้เสียหาย ✅ การล่วงละเมิดเริ่มต้นในปี 2018 และสิ้นสุดในปี 2021 - Merkle ใช้อีเมลที่ไม่ระบุตัวตนในการติดต่อผู้เสียหายและโพสต์ข้อมูลส่วนตัวของเธอบนเว็บไซต์ ✅ ผู้เสียหายได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง - เธอรู้สึกไม่ปลอดภัยและมีความสงสัยในทุกคนรอบตัว ✅ Merkle ถูกจับกุมในปี 2023 - FBI ได้จับกุมเขาและยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/19/email-stalkers-039monstrous039-harassment-of-woman-in-the-us-leads-judge-to-nearly-double-sentence
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Email stalker’s 'monstrous' harassment of woman in the US leads judge to nearly double sentence
    The victim was worried that the stalker would disrupt her marriage, her education, her job and friendships.
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/7e8rKnXXl2M?si=0fbiRqTqkQWPOSsP
    https://youtu.be/7e8rKnXXl2M?si=0fbiRqTqkQWPOSsP
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมผู้เสียหายยื่นหนังสือให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัท SCT วันนึ้ และจะประชุมคดีเพื่อดำเนินการในรายละเอียดต่อไป

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ในฐานะประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    18 เมษายน 2568

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1202527974574234&id=100044511276276
    อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมผู้เสียหายยื่นหนังสือให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาดำเนินคดีความอาญากับผู้เกี่ยวข้องในคดีที่ผู้เสียหาย ซื้อทองไม่ได้ทอง ขายทองไม่ได้เงิน ฝากทองไม่ได้คืน ลงทุนไม่ได้อะไร กับบริษัท SCT วันนึ้ และจะประชุมคดีเพื่อดำเนินการในรายละเอียดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน 18 เมษายน 2568 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1202527974574234&id=100044511276276
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0mm2vnscMFYqjAtQxGUdCQabBtTrcpydEGA49dEDf6QBax95tx1zgzYnkDTAfnJvzl&id=100053293273655
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0mm2vnscMFYqjAtQxGUdCQabBtTrcpydEGA49dEDf6QBax95tx1zgzYnkDTAfnJvzl&id=100053293273655
    0 Comments 0 Shares 90 Views 0 Reviews
  • Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยใหม่สำหรับ Android ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ของคุณ รีบูตอัตโนมัติ หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google Play Services update

    ✅ โทรศัพท์ Android จะรีบูตอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้งาน 3 วัน
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยบังคับให้ผู้ใช้ต้อง ป้อน PIN หลังจากรีบูต
    - ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ การปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า หลังจากรีบูต

    ✅ การทำงานของระบบล็อก BFU และ AFU
    - โทรศัพท์มี สองสถานะล็อก คือ Before First Unlock (BFU) และ After First Unlock (AFU)
    - ในสถานะ BFU ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสอย่างแน่นหนา ทำให้ ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้ใช้เครื่องมือแฮกขั้นสูง

    ✅ ผลกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมาย
    - ฟีเจอร์นี้อาจทำให้ ตำรวจหรือ FBI มีเวลาจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบนโทรศัพท์ที่ถูกยึดเป็นหลักฐาน
    - Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์คล้ายกันสำหรับ iPhone เมื่อปีที่แล้ว

    ✅ การเปิดใช้งานและข้อจำกัด
    - ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google System release notes เดือนเมษายน 2025
    - ใช้ได้กับ โทรศัพท์และแท็บเล็ต Android แต่ ไม่รองรับ Pixel Watch, Android Auto และทีวี

    https://www.zdnet.com/article/your-android-phone-is-getting-a-new-security-secret-weapon-how-it-works/
    Google ได้เปิดตัว ฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยใหม่สำหรับ Android ซึ่งจะทำให้โทรศัพท์ของคุณ รีบูตอัตโนมัติ หากไม่ได้ใช้งานเป็นเวลา 3 วันติดต่อกัน โดยฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google Play Services update ✅ โทรศัพท์ Android จะรีบูตอัตโนมัติหากไม่ได้ใช้งาน 3 วัน - ฟีเจอร์นี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยโดยบังคับให้ผู้ใช้ต้อง ป้อน PIN หลังจากรีบูต - ระบบจะไม่อนุญาตให้ใช้ การปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า หลังจากรีบูต ✅ การทำงานของระบบล็อก BFU และ AFU - โทรศัพท์มี สองสถานะล็อก คือ Before First Unlock (BFU) และ After First Unlock (AFU) - ในสถานะ BFU ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสอย่างแน่นหนา ทำให้ ไม่สามารถเข้าถึงได้แม้ใช้เครื่องมือแฮกขั้นสูง ✅ ผลกระทบต่อการบังคับใช้กฎหมาย - ฟีเจอร์นี้อาจทำให้ ตำรวจหรือ FBI มีเวลาจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลบนโทรศัพท์ที่ถูกยึดเป็นหลักฐาน - Apple ได้เปิดตัวฟีเจอร์คล้ายกันสำหรับ iPhone เมื่อปีที่แล้ว ✅ การเปิดใช้งานและข้อจำกัด - ฟีเจอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google System release notes เดือนเมษายน 2025 - ใช้ได้กับ โทรศัพท์และแท็บเล็ต Android แต่ ไม่รองรับ Pixel Watch, Android Auto และทีวี https://www.zdnet.com/article/your-android-phone-is-getting-a-new-security-secret-weapon-how-it-works/
    WWW.ZDNET.COM
    Your Android phone is getting a new security secret weapon - how it works
    This new security feature from Google will make your Android phone more difficult to access if you haven't used it in a while.
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • Oracle ได้ยืนยันว่ามีการละเมิดข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัย แต่ยืนยันว่าแพลตฟอร์มหลักอย่าง Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ไม่ได้รับผลกระทบ โดยเหตุการณ์นี้ยังคงสร้างความสงสัยในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย

    ✅ การละเมิดข้อมูล:
    - Oracle ยืนยันว่าการละเมิดข้อมูลเกิดขึ้นในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัยสองเครื่อง ซึ่งไม่ได้เชื่อมโยงกับ OCI หรือระบบคลาวด์ของลูกค้า
    - ไม่มีข้อมูลลูกค้าถูกเข้าถึงหรือขโมย และไม่มีบริการ OCI ถูกขัดจังหวะ

    ✅ การตอบสนองของ Oracle:
    - Oracle ได้ส่งอีเมลถึงลูกค้าเพื่อชี้แจงว่าไม่มีการละเมิดในแพลตฟอร์ม OCI
    - ข้อมูลที่ถูกขโมยประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งอาจถูกใช้ในการโจมตีแบบเจาะจง

    ✅ การสืบสวน:
    - FBI และ CrowdStrike กำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ โดย Oracle ระบุว่าข้อมูลที่ถูกขโมยมาจากระบบ Oracle Classic ที่เลิกใช้งานตั้งแต่ปี 2017

    ✅ ความสงสัยในคำชี้แจง:
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคำชี้แจงของ Oracle โดยชี้ว่าข้อมูลบางส่วนที่ถูกขโมยดูเหมือนจะเป็นข้อมูลล่าสุด

    https://www.csoonline.com/article/3959636/oracle-admits-breach-of-obsolete-servers-denies-main-cloud-platform-affected.html
    Oracle ได้ยืนยันว่ามีการละเมิดข้อมูลในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัย แต่ยืนยันว่าแพลตฟอร์มหลักอย่าง Oracle Cloud Infrastructure (OCI) ไม่ได้รับผลกระทบ โดยเหตุการณ์นี้ยังคงสร้างความสงสัยในหมู่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ✅ การละเมิดข้อมูล: - Oracle ยืนยันว่าการละเมิดข้อมูลเกิดขึ้นในเซิร์ฟเวอร์ที่ล้าสมัยสองเครื่อง ซึ่งไม่ได้เชื่อมโยงกับ OCI หรือระบบคลาวด์ของลูกค้า - ไม่มีข้อมูลลูกค้าถูกเข้าถึงหรือขโมย และไม่มีบริการ OCI ถูกขัดจังหวะ ✅ การตอบสนองของ Oracle: - Oracle ได้ส่งอีเมลถึงลูกค้าเพื่อชี้แจงว่าไม่มีการละเมิดในแพลตฟอร์ม OCI - ข้อมูลที่ถูกขโมยประกอบด้วยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ อีเมล และหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งอาจถูกใช้ในการโจมตีแบบเจาะจง ✅ การสืบสวน: - FBI และ CrowdStrike กำลังสืบสวนเหตุการณ์นี้ โดย Oracle ระบุว่าข้อมูลที่ถูกขโมยมาจากระบบ Oracle Classic ที่เลิกใช้งานตั้งแต่ปี 2017 ✅ ความสงสัยในคำชี้แจง: - ผู้เชี่ยวชาญบางคนตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับคำชี้แจงของ Oracle โดยชี้ว่าข้อมูลบางส่วนที่ถูกขโมยดูเหมือนจะเป็นข้อมูลล่าสุด https://www.csoonline.com/article/3959636/oracle-admits-breach-of-obsolete-servers-denies-main-cloud-platform-affected.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Oracle admits breach of ‘obsolete servers,’ denies main cloud platform affected
    “No OCI customer environment has been penetrated,” the company insisted, but the hacker says otherwise.
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • Europol ได้ดำเนินการติดตามผลจากปฏิบัติการ Operation Endgame ซึ่งเป็นการปราบปรามเครือข่ายบ็อตเน็ตครั้งใหญ่ในปี 2024 โดยมีการจับกุมผู้ใช้งาน Smokeloader และตรวจค้นบ้านของพวกเขา

    ✅ การติดตามผลจาก Operation Endgame:
    - Europol ได้จับกุมผู้ใช้งาน Smokeloader ซึ่งเป็นบริการมัลแวร์แบบจ่ายเงินเพื่อใช้งาน
    - Smokeloader ถูกใช้ในการโจมตีหลายรูปแบบ เช่น การบันทึกการกดแป้นพิมพ์ การเข้าถึงกล้องเว็บแคม การปล่อยแรนซัมแวร์ และการขุดคริปโต

    ✅ การตรวจสอบฐานข้อมูล:
    - ผู้ใช้งาน Smokeloader ถูกติดตามจากฐานข้อมูลที่ถูกยึดใน Operation Endgame
    - หลายคนให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอุปกรณ์ดิจิทัล และบางคนยอมรับว่ามีการขายบริการ Smokeloader ต่อในราคาที่สูงขึ้น

    ✅ การดำเนินการในหลายประเทศ:
    - ปฏิบัติการนี้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายแห่ง เช่น FBI, Secret Service, RCMP และตำรวจในยุโรป

    ✅ การดำเนินการในอนาคต:
    - Europol ระบุว่าปฏิบัติการยังไม่สิ้นสุด และจะมีการประกาศการดำเนินการใหม่ในเว็บไซต์ operation-endgame.com

    https://www.techradar.com/pro/security/operation-endgame-follow-up-leads-to-detentions-across-smoakloader-ecosystem
    Europol ได้ดำเนินการติดตามผลจากปฏิบัติการ Operation Endgame ซึ่งเป็นการปราบปรามเครือข่ายบ็อตเน็ตครั้งใหญ่ในปี 2024 โดยมีการจับกุมผู้ใช้งาน Smokeloader และตรวจค้นบ้านของพวกเขา ✅ การติดตามผลจาก Operation Endgame: - Europol ได้จับกุมผู้ใช้งาน Smokeloader ซึ่งเป็นบริการมัลแวร์แบบจ่ายเงินเพื่อใช้งาน - Smokeloader ถูกใช้ในการโจมตีหลายรูปแบบ เช่น การบันทึกการกดแป้นพิมพ์ การเข้าถึงกล้องเว็บแคม การปล่อยแรนซัมแวร์ และการขุดคริปโต ✅ การตรวจสอบฐานข้อมูล: - ผู้ใช้งาน Smokeloader ถูกติดตามจากฐานข้อมูลที่ถูกยึดใน Operation Endgame - หลายคนให้ความร่วมมือในการตรวจสอบอุปกรณ์ดิจิทัล และบางคนยอมรับว่ามีการขายบริการ Smokeloader ต่อในราคาที่สูงขึ้น ✅ การดำเนินการในหลายประเทศ: - ปฏิบัติการนี้เกี่ยวข้องกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหลายแห่ง เช่น FBI, Secret Service, RCMP และตำรวจในยุโรป ✅ การดำเนินการในอนาคต: - Europol ระบุว่าปฏิบัติการยังไม่สิ้นสุด และจะมีการประกาศการดำเนินการใหม่ในเว็บไซต์ operation-endgame.com https://www.techradar.com/pro/security/operation-endgame-follow-up-leads-to-detentions-across-smoakloader-ecosystem
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • Oracle ยอมรับว่ากำลังเผชิญกับเหตุละเมิดข้อมูลครั้งที่สองภายในเดือนเดียว โดยข้อมูลล็อกอินของลูกค้าถูกขโมยและเสนอขายบนดาร์กเว็บ แม้บริษัทระบุว่า ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นของระบบที่ไม่ได้ใช้งานมา 8 ปี แต่ยังพบข้อมูลล็อกอินจากปี 2024 ซึ่งอาจนำไปใช้ในการโจมตีแบบ Credential Stuffing นักวิเคราะห์เตือนว่า องค์กรและผู้ใช้ควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง

    ✅ Oracle แจ้ง FBI และว่าจ้าง CrowdStrike เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์
    - บริษัทได้แจ้งให้หน่วยงาน FBI ทราบ และให้ทีมงาน CrowdStrike เข้ามาช่วยตรวจสอบการโจมตี
    - Oracle ยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้แตกต่างจากเหตุละเมิดข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าด้านสุขภาพเมื่อเดือนมีนาคม

    ✅ ผู้โจมตีพยายามเรียกค่าไถ่จาก Oracle เพื่อแลกกับข้อมูลที่ถูกขโมย
    - นอกจากการนำข้อมูลไปขายบนดาร์กเว็บ ยังมีรายงานว่าผู้โจมตีเรียกร้องเงินจาก Oracle เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมย

    ✅ Oracle ระบุว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นของระบบที่ไม่ได้ใช้งานมา 8 ปี
    - บริษัทกล่าวว่า ข้อมูลที่ถูกขโมยนั้นเป็นของระบบที่ไม่ได้ใช้งานมาเป็นเวลานาน
    - อย่างไรก็ตาม พบว่าข้อมูลล็อกอินบางส่วนมาจากปี 2024 ซึ่งอาจยังมีความเสี่ยงต่อการนำไปใช้โจมตี

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าข้อมูลล็อกอินเก่าอาจถูกนำมาใช้ในการโจมตีแบบ Credential Stuffing
    - แม้ว่าข้อมูลจะเก่า แต่หากลูกค้าไม่ได้เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นเวลานาน ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกใช้โจมตีบัญชีอื่นได้
    - หลายองค์กรมีแนวโน้มใช้รหัสผ่านซ้ำกันในหลายระบบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้ข้อมูลเก่ามากระทำการโจมตีได้

    https://www.techradar.com/pro/security/oracle-admits-second-major-security-breach-user-login-data-stolen
    Oracle ยอมรับว่ากำลังเผชิญกับเหตุละเมิดข้อมูลครั้งที่สองภายในเดือนเดียว โดยข้อมูลล็อกอินของลูกค้าถูกขโมยและเสนอขายบนดาร์กเว็บ แม้บริษัทระบุว่า ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นของระบบที่ไม่ได้ใช้งานมา 8 ปี แต่ยังพบข้อมูลล็อกอินจากปี 2024 ซึ่งอาจนำไปใช้ในการโจมตีแบบ Credential Stuffing นักวิเคราะห์เตือนว่า องค์กรและผู้ใช้ควรเปลี่ยนรหัสผ่านอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันความเสี่ยง ✅ Oracle แจ้ง FBI และว่าจ้าง CrowdStrike เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์ - บริษัทได้แจ้งให้หน่วยงาน FBI ทราบ และให้ทีมงาน CrowdStrike เข้ามาช่วยตรวจสอบการโจมตี - Oracle ยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้แตกต่างจากเหตุละเมิดข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อกลุ่มลูกค้าด้านสุขภาพเมื่อเดือนมีนาคม ✅ ผู้โจมตีพยายามเรียกค่าไถ่จาก Oracle เพื่อแลกกับข้อมูลที่ถูกขโมย - นอกจากการนำข้อมูลไปขายบนดาร์กเว็บ ยังมีรายงานว่าผู้โจมตีเรียกร้องเงินจาก Oracle เพื่อไม่ให้เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมย ✅ Oracle ระบุว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นของระบบที่ไม่ได้ใช้งานมา 8 ปี - บริษัทกล่าวว่า ข้อมูลที่ถูกขโมยนั้นเป็นของระบบที่ไม่ได้ใช้งานมาเป็นเวลานาน - อย่างไรก็ตาม พบว่าข้อมูลล็อกอินบางส่วนมาจากปี 2024 ซึ่งอาจยังมีความเสี่ยงต่อการนำไปใช้โจมตี ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าข้อมูลล็อกอินเก่าอาจถูกนำมาใช้ในการโจมตีแบบ Credential Stuffing - แม้ว่าข้อมูลจะเก่า แต่หากลูกค้าไม่ได้เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นเวลานาน ข้อมูลที่รั่วไหลอาจถูกใช้โจมตีบัญชีอื่นได้ - หลายองค์กรมีแนวโน้มใช้รหัสผ่านซ้ำกันในหลายระบบ ทำให้แฮกเกอร์สามารถใช้ข้อมูลเก่ามากระทำการโจมตีได้ https://www.techradar.com/pro/security/oracle-admits-second-major-security-breach-user-login-data-stolen
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังพัฒนายุทธศาสตร์ใหม่ด้านความปลอดภัยภายใน "ProtectEU" โดยมีเป้าหมาย ป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ อาชญากรรม และการก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม หนึ่งในข้อเสนอที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือ แนวคิดให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว

    ✅ ProtectEU ตั้งเป้าปรับปรุงระบบข่าวกรองและขยายอำนาจ Europol
    - มีการเสนอให้ สร้างแพลตฟอร์ม Single Intelligence Analysis Capacity เพื่อช่วยให้ประเทศสมาชิกแบ่งปันข้อมูลกันได้ง่ายขึ้น
    - Europol อาจถูกพัฒนาเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทคล้าย FBI ของยุโรป

    ✅ ข้อถกเถียงเกี่ยวกับช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส
    - คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้มี "การเข้าถึงข้อมูลอย่างถูกกฎหมาย" สำหรับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย
    - นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า การสร้างช่องทางพิเศษ (backdoor) ให้รัฐบาล อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์ได้

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแนวคิดนี้มีข้อบกพร่องทางเทคนิค
    - ช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส ไม่สามารถทำให้ปลอดภัยได้ 100%
    - มีกรณีในอดีตที่ช่องโหว่ดังกล่าวถูกกลุ่มแฮกเกอร์และอาชญากรไซเบอร์ใช้โจมตี

    ✅ ProtectEU ยังรวมข้อเสนออื่น เช่น การควบคุมอาชญากรรมออนไลน์และความร่วมมือกับประเทศนอก EU
    - มีแผน สร้างระบบป้องกันภัยไซเบอร์ให้แข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มกฎระเบียบที่เข้มงวดกับเครือข่ายอาชญากรรม
    - ความร่วมมือจะขยายไปยัง ละตินอเมริกาและเมดิเตอร์เรเนียน แต่ไม่มีการกล่าวถึงสหรัฐฯ

    https://www.techspot.com/news/107408-europe-proposes-backdoors-encrypted-platforms-under-new-security.html
    คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) กำลังพัฒนายุทธศาสตร์ใหม่ด้านความปลอดภัยภายใน "ProtectEU" โดยมีเป้าหมาย ป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ อาชญากรรม และการก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม หนึ่งในข้อเสนอที่ถูกวิจารณ์มากที่สุดคือ แนวคิดให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัว ✅ ProtectEU ตั้งเป้าปรับปรุงระบบข่าวกรองและขยายอำนาจ Europol - มีการเสนอให้ สร้างแพลตฟอร์ม Single Intelligence Analysis Capacity เพื่อช่วยให้ประเทศสมาชิกแบ่งปันข้อมูลกันได้ง่ายขึ้น - Europol อาจถูกพัฒนาเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทคล้าย FBI ของยุโรป ✅ ข้อถกเถียงเกี่ยวกับช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส - คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้มี "การเข้าถึงข้อมูลอย่างถูกกฎหมาย" สำหรับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย - นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า การสร้างช่องทางพิเศษ (backdoor) ให้รัฐบาล อาจเปิดช่องให้แฮกเกอร์ใช้ประโยชน์ได้ ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าแนวคิดนี้มีข้อบกพร่องทางเทคนิค - ช่องทางเข้าถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส ไม่สามารถทำให้ปลอดภัยได้ 100% - มีกรณีในอดีตที่ช่องโหว่ดังกล่าวถูกกลุ่มแฮกเกอร์และอาชญากรไซเบอร์ใช้โจมตี ✅ ProtectEU ยังรวมข้อเสนออื่น เช่น การควบคุมอาชญากรรมออนไลน์และความร่วมมือกับประเทศนอก EU - มีแผน สร้างระบบป้องกันภัยไซเบอร์ให้แข็งแกร่งขึ้น และเพิ่มกฎระเบียบที่เข้มงวดกับเครือข่ายอาชญากรรม - ความร่วมมือจะขยายไปยัง ละตินอเมริกาและเมดิเตอร์เรเนียน แต่ไม่มีการกล่าวถึงสหรัฐฯ https://www.techspot.com/news/107408-europe-proposes-backdoors-encrypted-platforms-under-new-security.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Europe proposes backdoors in encrypted platforms under new security strategy
    The recently announced ProtectEU plan aims to safeguard Europe from internal threats, European Commission President Ursula von der Leyen stated, emphasizing that security is a fundamental pillar...
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • Oracle Health ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Oracle กำลังเผชิญกับกรณีละเมิดข้อมูลด้านสุขภาพที่อาจส่งผลกระทบต่อข้อมูลลูกค้าหลายราย แม้ว่าทางบริษัทจะยังคงปฏิเสธเหตุการณ์ดังกล่าวต่อสาธารณะ แต่ในจดหมายที่ส่งถึงลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ Oracle Health ยอมรับว่ามีการละเมิดเกิดขึ้นบน เซิร์ฟเวอร์ Cerner รุ่นเก่า ซึ่งยังไม่ได้ถูกย้ายไป Oracle Cloud

    ข้อมูลถูกขโมยจากเซิร์ฟเวอร์ Cerner ก่อนถูกย้ายไป Oracle Cloud
    - Oracle ระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นราววันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งมีผู้บุกรุกเข้าถึงข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้ถูกย้ายไป Oracle Cloud
    - แม้เหตุการณ์นี้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการละเมิด Oracle Cloud เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ก็เกิดขึ้นใกล้เคียงกันมาก

    FBI เข้าแทรกแซงและเริ่มการสอบสวน
    - รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า FBI กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพบว่าแฮกเกอร์มีเป้าหมายเพื่อ ขู่กรรโชกผู้ให้บริการด้านสุขภาพในสหรัฐฯ
    - ขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนข้อมูลผู้ป่วยที่ถูกขโมย รวมถึงจำนวนองค์กรด้านสุขภาพที่ถูกขู่กรรโชก

    ข้อมูลถูกขโมยผ่าน Credentials ที่รั่วไหล
    - หลักฐานที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีใช้ ข้อมูลล็อกอินที่ถูกขโมย เพื่อเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของ Oracle Health
    - นี่เป็นประเด็นสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความ อ่อนแอของระบบจัดการสิทธิ์การเข้าถึงของ Oracle

    Oracle Cloud ถูกกล่าวหาว่ามีการละเมิดข้อมูล—แต่บริษัทปฏิเสธ
    - CloudSEK รายงานว่ามีแฮกเกอร์ที่ชื่อ "rose87168" ขายข้อมูล 6 ล้านรายการ จากระบบ Single Sign-On (SSO) และ Lightweight Directory Access Protocol (LDAP) ของ Oracle Cloud
    - แม้ว่าข้อมูลที่ถูกแฮกจะได้รับการตรวจสอบจากลูกค้าของ Oracle แต่บริษัทได้ปฏิเสธเหตุการณ์ดังกล่าว

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยวิจารณ์การตอบสนองของ Oracle
    - นักวิจัยด้านไซเบอร์มองว่าการปฏิเสธเหตุการณ์จาก Oracle ไม่ช่วยลดความเสี่ยง โดย CEO ของ CloudSEK ระบุว่า "ในการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ การปฏิเสธไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงหายไป ความโปร่งใสต่างหากที่ช่วยลดอันตราย"

    https://www.csoonline.com/article/3951683/oracle-warns-customers-of-health-data-breach-amid-public-denial.html
    Oracle Health ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Oracle กำลังเผชิญกับกรณีละเมิดข้อมูลด้านสุขภาพที่อาจส่งผลกระทบต่อข้อมูลลูกค้าหลายราย แม้ว่าทางบริษัทจะยังคงปฏิเสธเหตุการณ์ดังกล่าวต่อสาธารณะ แต่ในจดหมายที่ส่งถึงลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ Oracle Health ยอมรับว่ามีการละเมิดเกิดขึ้นบน เซิร์ฟเวอร์ Cerner รุ่นเก่า ซึ่งยังไม่ได้ถูกย้ายไป Oracle Cloud ข้อมูลถูกขโมยจากเซิร์ฟเวอร์ Cerner ก่อนถูกย้ายไป Oracle Cloud - Oracle ระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นราววันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งมีผู้บุกรุกเข้าถึงข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ที่ยังไม่ได้ถูกย้ายไป Oracle Cloud - แม้เหตุการณ์นี้จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการละเมิด Oracle Cloud เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ก็เกิดขึ้นใกล้เคียงกันมาก FBI เข้าแทรกแซงและเริ่มการสอบสวน - รายงานจาก Bloomberg ระบุว่า FBI กำลังตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพบว่าแฮกเกอร์มีเป้าหมายเพื่อ ขู่กรรโชกผู้ให้บริการด้านสุขภาพในสหรัฐฯ - ขณะนี้ยังไม่ทราบจำนวนข้อมูลผู้ป่วยที่ถูกขโมย รวมถึงจำนวนองค์กรด้านสุขภาพที่ถูกขู่กรรโชก ข้อมูลถูกขโมยผ่าน Credentials ที่รั่วไหล - หลักฐานที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีใช้ ข้อมูลล็อกอินที่ถูกขโมย เพื่อเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของ Oracle Health - นี่เป็นประเด็นสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความ อ่อนแอของระบบจัดการสิทธิ์การเข้าถึงของ Oracle Oracle Cloud ถูกกล่าวหาว่ามีการละเมิดข้อมูล—แต่บริษัทปฏิเสธ - CloudSEK รายงานว่ามีแฮกเกอร์ที่ชื่อ "rose87168" ขายข้อมูล 6 ล้านรายการ จากระบบ Single Sign-On (SSO) และ Lightweight Directory Access Protocol (LDAP) ของ Oracle Cloud - แม้ว่าข้อมูลที่ถูกแฮกจะได้รับการตรวจสอบจากลูกค้าของ Oracle แต่บริษัทได้ปฏิเสธเหตุการณ์ดังกล่าว นักวิจัยด้านความปลอดภัยวิจารณ์การตอบสนองของ Oracle - นักวิจัยด้านไซเบอร์มองว่าการปฏิเสธเหตุการณ์จาก Oracle ไม่ช่วยลดความเสี่ยง โดย CEO ของ CloudSEK ระบุว่า "ในการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ การปฏิเสธไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงหายไป ความโปร่งใสต่างหากที่ช่วยลดอันตราย" https://www.csoonline.com/article/3951683/oracle-warns-customers-of-health-data-breach-amid-public-denial.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Oracle warns customers of health data breach amid public denial
    Oracle continues to publicly deny two separate data breaches despite emerging evidence of the breaches.
    0 Comments 0 Shares 207 Views 0 Reviews
  • FBI กำลังสอบสวนเหตุการณ์แฮกระบบของ Oracle ที่ส่งผลให้ข้อมูลผู้ป่วยถูกขโมยและใช้ในการเรียกเงินจากผู้ให้บริการสุขภาพ โดยเหตุเกิดจากการใช้บัญชีผู้ใช้ที่ถูกขโมย Oracle ระบุว่าข้อมูลที่ได้รับผลกระทบมาจากระบบเก่าของ Cerner และกำลังดำเนินการปรับปรุงระบบเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต

    ข้อมูลที่ได้รับผลกระทบ:
    - ข้อมูลผู้ป่วยถูกขโมยจากเซิร์ฟเวอร์ Cerner ซึ่งเป็นบริษัทที่ Oracle เข้าซื้อกิจการในปี 2022 ระบบที่ถูกโจมตีเป็นระบบที่ยังไม่ได้ถูกย้ายไปยังบริการคลาวด์ของ Oracle.

    จุดอ่อนที่แฮกเกอร์ใช้โจมตี:
    - บริษัทแจ้งว่าผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้โดยใช้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานที่ถูกขโมย ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลเข้าสู่ระบบ.

    ผลกระทบในวงกว้าง:
    - Oracle มีลูกค้าในแวดวงการแพทย์เป็นจำนวนมาก หลังการซื้อ Cerner รวมถึงสัญญามูลค่า 16 พันล้านดอลลาร์กับกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ความเสียหายนี้จึงอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในธุรกิจของ Oracle.

    มาตรการป้องกันในอนาคต:
    - Oracle ระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงหลังวันที่ 22 มกราคม และบริษัทได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยของระบบเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตีลักษณะเดียวกันในอนาคต.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/fbi-investigating-cyberattack-at-oracle-bloomberg-news-reports
    FBI กำลังสอบสวนเหตุการณ์แฮกระบบของ Oracle ที่ส่งผลให้ข้อมูลผู้ป่วยถูกขโมยและใช้ในการเรียกเงินจากผู้ให้บริการสุขภาพ โดยเหตุเกิดจากการใช้บัญชีผู้ใช้ที่ถูกขโมย Oracle ระบุว่าข้อมูลที่ได้รับผลกระทบมาจากระบบเก่าของ Cerner และกำลังดำเนินการปรับปรุงระบบเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต ข้อมูลที่ได้รับผลกระทบ: - ข้อมูลผู้ป่วยถูกขโมยจากเซิร์ฟเวอร์ Cerner ซึ่งเป็นบริษัทที่ Oracle เข้าซื้อกิจการในปี 2022 ระบบที่ถูกโจมตีเป็นระบบที่ยังไม่ได้ถูกย้ายไปยังบริการคลาวด์ของ Oracle. จุดอ่อนที่แฮกเกอร์ใช้โจมตี: - บริษัทแจ้งว่าผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้โดยใช้ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งานที่ถูกขโมย ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของการปกป้องข้อมูลเข้าสู่ระบบ. ผลกระทบในวงกว้าง: - Oracle มีลูกค้าในแวดวงการแพทย์เป็นจำนวนมาก หลังการซื้อ Cerner รวมถึงสัญญามูลค่า 16 พันล้านดอลลาร์กับกระทรวงกิจการทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ความเสียหายนี้จึงอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นในธุรกิจของ Oracle. มาตรการป้องกันในอนาคต: - Oracle ระบุว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงหลังวันที่ 22 มกราคม และบริษัทได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงการรักษาความปลอดภัยของระบบเพื่อลดความเสี่ยงจากการโจมตีลักษณะเดียวกันในอนาคต. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/29/fbi-investigating-cyberattack-at-oracle-bloomberg-news-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    FBI investigating cyberattack at Oracle, Bloomberg News reports
    (Reuters) -The Federal Bureau of Investigation (FBI) is probing the cyberattack at Oracle as the hackers broke into the cloud computing company's computer systems and stole patient data, Bloomberg News reported on Friday, citing a person familiar with the matter.
    0 Comments 0 Shares 267 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/stQVWiXWnz8?si=E8jb5qLzIfBI8GXS
    https://youtu.be/stQVWiXWnz8?si=E8jb5qLzIfBI8GXS
    0 Comments 0 Shares 56 Views 0 Reviews
  • Edward Coristine สมาชิกวัย 19 ปีของทีม DOGE ที่นำโดย Elon Musk ตกเป็นประเด็นร้อนในโลกไซเบอร์ หลังเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ในอดีต กรณีนี้นำมาสู่ข้อถกเถียงว่าบุคคลที่มีประวัติเช่นนี้ควรได้รับบทบาทในทีมงานสำคัญของรัฐบาลหรือไม่ เรื่องราวนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการคัดเลือกบุคลากรในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการเมืองและความมั่นคง

    ความเกี่ยวข้องกับ EGodly:
    - บริษัท DiamondCDN ของ Coristine ให้บริการป้องกัน DDoS และระบบ caching ให้แก่ EGodly ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น การแฮกอีเมลของเจ้าหน้าที่รัฐในละตินอเมริกา การขโมยคริปโตเคอเรนซี และการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ FBI ผ่าน Telegram.

    การวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการคัดเลือกของ DOGE:
    - Coristine ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมที่จะเข้าร่วมทีมงานที่มีการเข้าถึงเครือข่ายสำคัญของรัฐบาล เนื่องจากเขาเคยถูกปลดจากงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปีที่ผ่านมา โดยมีข้อกล่าวหาเรื่องการเปิดเผยข้อมูลลับให้คู่แข่ง.

    ภูมิหลังที่เชื่อมโยงกับการเมืองโลก:
    - Coristine ยังมีความเกี่ยวพันกับอดีตสายลับโซเวียต โดยปู่ของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ KGB ที่เคยถูกจับกุมในฐานะสายลับสองหน้า.

    ผลกระทบในวงกว้าง:
    - กรณีนี้จุดประกายข้อถกเถียงเรื่องการคัดกรองบุคลากรในตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผู้เกี่ยวข้องอาจมีอดีตที่ขัดแย้งกับหลักการด้านความปลอดภัยไซเบอร์.

    https://www.techspot.com/news/107297-report-19-year-old-doge-team-member-big.html
    Edward Coristine สมาชิกวัย 19 ปีของทีม DOGE ที่นำโดย Elon Musk ตกเป็นประเด็นร้อนในโลกไซเบอร์ หลังเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรรมไซเบอร์ในอดีต กรณีนี้นำมาสู่ข้อถกเถียงว่าบุคคลที่มีประวัติเช่นนี้ควรได้รับบทบาทในทีมงานสำคัญของรัฐบาลหรือไม่ เรื่องราวนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการคัดเลือกบุคลากรในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับการเมืองและความมั่นคง ความเกี่ยวข้องกับ EGodly: - บริษัท DiamondCDN ของ Coristine ให้บริการป้องกัน DDoS และระบบ caching ให้แก่ EGodly ซึ่งเป็นกลุ่มที่เคยก่อเหตุอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น การแฮกอีเมลของเจ้าหน้าที่รัฐในละตินอเมริกา การขโมยคริปโตเคอเรนซี และการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ FBI ผ่าน Telegram. การวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการคัดเลือกของ DOGE: - Coristine ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมที่จะเข้าร่วมทีมงานที่มีการเข้าถึงเครือข่ายสำคัญของรัฐบาล เนื่องจากเขาเคยถูกปลดจากงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปีที่ผ่านมา โดยมีข้อกล่าวหาเรื่องการเปิดเผยข้อมูลลับให้คู่แข่ง. ภูมิหลังที่เชื่อมโยงกับการเมืองโลก: - Coristine ยังมีความเกี่ยวพันกับอดีตสายลับโซเวียต โดยปู่ของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ KGB ที่เคยถูกจับกุมในฐานะสายลับสองหน้า. ผลกระทบในวงกว้าง: - กรณีนี้จุดประกายข้อถกเถียงเรื่องการคัดกรองบุคลากรในตำแหน่งสำคัญ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผู้เกี่ยวข้องอาจมีอดีตที่ขัดแย้งกับหลักการด้านความปลอดภัยไซเบอร์. https://www.techspot.com/news/107297-report-19-year-old-doge-team-member-big.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Report: 19-year-old DOGE team member "Big Balls" provided network support to cybercrime gang
    According to records reviewed by Reuters, Coristine ran a company called DiamondCDN that provided network services from around 2022, while he was still in high school. Among...
    0 Comments 0 Shares 395 Views 0 Reviews
  • FBI เตือนว่าการใช้เว็บไซต์แปลงไฟล์ฟรีอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัวและการติดมัลแวร์ แฮ็กเกอร์ใช้กลยุทธ์หลอกลวงโดยทำให้เว็บไซต์ดูเหมือนปลอดภัย แต่กลับแฝงภัยไว้เบื้องหลัง ผู้ใช้งานควรเลือกเครื่องมือจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและหลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลสำคัญไปยังเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก

    ลักษณะการหลอกลวง:
    - เครื่องมือแปลงไฟล์ เช่น การแปลง .doc เป็น .pdf หรือรวมไฟล์ .jpg หลายไฟล์เป็น .pdf อาจดูเหมือนใช้งานได้ตามปกติ แต่เบื้องหลังมีการติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลจากไฟล์ที่อัปโหลด.

    เป้าหมายของแฮ็กเกอร์:
    - แฮ็กเกอร์ใช้ข้อมูลที่ได้จากการหลอกลวงนี้เพื่อสร้างความเสียหาย เช่น การขโมยตัวตน ข้อมูลการเงิน หรือทำกิจกรรมไซเบอร์อื่น ๆ.

    คำแนะนำจาก FBI:
    - หน่วยงานเน้นย้ำความสำคัญของการศึกษาให้ผู้ใช้ระมัดระวังและไม่ใช้งานเครื่องมือออนไลน์ฟรีจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือ.

    การแก้ปัญหาและความปลอดภัย:
    - FBI สนับสนุนให้รายงานเหตุการณ์การหลอกลวงผ่านศูนย์รับข้อร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (www.ic3.gov) เพื่อช่วยหยุดกิจกรรมเหล่านี้.

    https://www.techradar.com/pro/security/fake-file-converters-are-stealing-info-pushing-ransomware-fbi-warns
    FBI เตือนว่าการใช้เว็บไซต์แปลงไฟล์ฟรีอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลส่วนตัวและการติดมัลแวร์ แฮ็กเกอร์ใช้กลยุทธ์หลอกลวงโดยทำให้เว็บไซต์ดูเหมือนปลอดภัย แต่กลับแฝงภัยไว้เบื้องหลัง ผู้ใช้งานควรเลือกเครื่องมือจากแหล่งที่น่าเชื่อถือและหลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลสำคัญไปยังเว็บไซต์ที่ไม่รู้จัก ลักษณะการหลอกลวง: - เครื่องมือแปลงไฟล์ เช่น การแปลง .doc เป็น .pdf หรือรวมไฟล์ .jpg หลายไฟล์เป็น .pdf อาจดูเหมือนใช้งานได้ตามปกติ แต่เบื้องหลังมีการติดตั้งมัลแวร์หรือขโมยข้อมูลจากไฟล์ที่อัปโหลด. เป้าหมายของแฮ็กเกอร์: - แฮ็กเกอร์ใช้ข้อมูลที่ได้จากการหลอกลวงนี้เพื่อสร้างความเสียหาย เช่น การขโมยตัวตน ข้อมูลการเงิน หรือทำกิจกรรมไซเบอร์อื่น ๆ. คำแนะนำจาก FBI: - หน่วยงานเน้นย้ำความสำคัญของการศึกษาให้ผู้ใช้ระมัดระวังและไม่ใช้งานเครื่องมือออนไลน์ฟรีจากแหล่งที่ไม่เชื่อถือ. การแก้ปัญหาและความปลอดภัย: - FBI สนับสนุนให้รายงานเหตุการณ์การหลอกลวงผ่านศูนย์รับข้อร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (www.ic3.gov) เพื่อช่วยหยุดกิจกรรมเหล่านี้. https://www.techradar.com/pro/security/fake-file-converters-are-stealing-info-pushing-ransomware-fbi-warns
    WWW.TECHRADAR.COM
    Fake file converters are stealing info, pushing ransomware, FBI warns
    Be careful with web-based file management services, FBI says
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
  • ร.อ.อิบราฮิม ตราโอเร่ ประธานาธิบดีเปลี่ยนผ่านแห่งบูร์กินาฟาโซ ประเทศในแอฟริกา ปฎิเสธ MBS มกุฎราชกุมารซาอุฯ ที่เสนอจะสร้างมัสยิด 200 แห่งให้บูร์กินาฟาโซ บอกว่าประเทศเค้ามีมัสยิดเพียงพอแล้ว แล้วขอให้ซาอุฯลงทุนในโครงการที่จะสร้างประโยชน์แก่ชาวบูร์กินาฟาโซโดยตรงแทน อย่าง โรงเรียน โรงพยาบาล โครงการที่จะสร้างงานให้แก่ชาวบูร์กินาฟาโซ ฯลฯ
    .
    ร.อ.อิบราฮิม ตราโอเร่ ปัจจุบันอายุ 37 ปี ขึ้นเป็นผู้นำฯจากการยึดอำนาจจาก ปธน.รักษาการ พ.ท.Paul-Henri Sandaogo Damiba ในปี 2022 (ที่ก็ไปยึดอำนาจจากผู้นำฯคนก่อน)
    หลังจากนั้นก็นำบูร์กินาฟาโซถอยห่างจากฝรั่งเศสอดีตเจ้าอาณานิคม ยึดเหมืองทองกลับมาเป็นของรัฐ ระงับการส่งออก"unrefined gold"ไปยังยุโรป

    ยกเลิกข้อตกลงทางทหารและเชิญทหารฝรั่งเศสออกไป ถอนตัวจากกลุ่ม ECOWAS ที่ใช้สกุลเงิน CFA Franc โดยมีเป้ามหายที่จะเลิกใช้ CFA Franc ฯลฯ

    หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ฝรั่งเศสยังมีอิทธิพลและบทบาทในแอฟริกาสูงมาก ความขัดแย้งภายในหลายประเทศในทวีปแอฟฟริกาก็มีฝรั่งเศสเป็นผู้เข้าไปสนับสนุนคู่ขัดแย้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

    หลายประเทศในแอฟริกาใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการหรือภาษาที่สอง กลุ่มประเทศในแอฟริกากลางและตะวันตกสิบกว่าประเทศ ใช้สกุลเงินกลางที่เรียกว่า CFA Franc ซึ่งควบคุมโดยฝรั่งเศส มีธนาคารกลางฝรั่งเศสเป็นผู้พิมพ์ธนบัติที่ใช้หมุนเวียน ทุนสำรองระหว่างประเทศราวๆครึ่งนึงของประเทศเหล่านี้จึงฝากไว้กับฝรั่งเศส
    .
    ผู้กองตราโอเร่เป็นผู้นำที่ได้รับความนิยมสูงมากโดยเฉพาะกับคนในวัยหนุ่มสาวทั้งในประเทศและในทวีปแอฟฟริกา
    เค้ามีนโยบายนำประเทศพึ่งพาตัวเอง(self sufficient) พยายามนำประเทศปลดแอกจากอิทธิพลตะวันตก ฯลฯ
    ปฎิเสธเงินกู้จาก IMF และ ธนาคารโลก โดยบอกว่า ไม่ต้องการให้ประเทศเป็นทาสทางการเงินขององค์กรเหล่านี้ บูร์กินาฟาโซสามารถพัฒนาได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินกู้ที่มาพร้อมเงื่อนไขจากทางตะวันตก
    เค้าบอกว่าโครงสร้างฯที่เป็นอยู่มีปัญหา ทรัพยากรของแอฟฟริกาถูกผ่องถ่ายไปยังทวีปอื่นโดยได้รับค่าตอบแทนอย่างไม่เป็นธรรมมานานแล้ว ฯลฯ
    .
    อย่างไรก็ตามผู้นำบูร์กินาฟาโซที่ยังกินเงินเดือนทหารยศร้อยเอกมาจนถึงตอนนี้ แค่ในระยะสองปีกว่าที่ผ่านมาเคยถูกพยายามลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง ตัวเลขสูงหน่อยก็ 16 ครั้ง ..... แล้วก็เคยมีข่าวว่าบริษัทใหญ่ๆของต่างประเทศไปจนถึงระดับรัฐบาลต่างประเทศพยายามติดสินบนเค้า แต่โดนตะเพิดหมดเลย


    https://web.facebook.com/SiriuS.is.A.Star/posts/pfbid0VDcG4SWpyvfaLPv7HqEaamAS6Nryssc8GjFUrg7jzXoAs1vu8vK53q83xnFQbjy9l
    ร.อ.อิบราฮิม ตราโอเร่ ประธานาธิบดีเปลี่ยนผ่านแห่งบูร์กินาฟาโซ ประเทศในแอฟริกา ปฎิเสธ MBS มกุฎราชกุมารซาอุฯ ที่เสนอจะสร้างมัสยิด 200 แห่งให้บูร์กินาฟาโซ บอกว่าประเทศเค้ามีมัสยิดเพียงพอแล้ว แล้วขอให้ซาอุฯลงทุนในโครงการที่จะสร้างประโยชน์แก่ชาวบูร์กินาฟาโซโดยตรงแทน อย่าง โรงเรียน โรงพยาบาล โครงการที่จะสร้างงานให้แก่ชาวบูร์กินาฟาโซ ฯลฯ . ร.อ.อิบราฮิม ตราโอเร่ ปัจจุบันอายุ 37 ปี ขึ้นเป็นผู้นำฯจากการยึดอำนาจจาก ปธน.รักษาการ พ.ท.Paul-Henri Sandaogo Damiba ในปี 2022 (ที่ก็ไปยึดอำนาจจากผู้นำฯคนก่อน) หลังจากนั้นก็นำบูร์กินาฟาโซถอยห่างจากฝรั่งเศสอดีตเจ้าอาณานิคม ยึดเหมืองทองกลับมาเป็นของรัฐ ระงับการส่งออก"unrefined gold"ไปยังยุโรป ยกเลิกข้อตกลงทางทหารและเชิญทหารฝรั่งเศสออกไป ถอนตัวจากกลุ่ม ECOWAS ที่ใช้สกุลเงิน CFA Franc โดยมีเป้ามหายที่จะเลิกใช้ CFA Franc ฯลฯ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ฝรั่งเศสยังมีอิทธิพลและบทบาทในแอฟริกาสูงมาก ความขัดแย้งภายในหลายประเทศในทวีปแอฟฟริกาก็มีฝรั่งเศสเป็นผู้เข้าไปสนับสนุนคู่ขัดแย้งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หลายประเทศในแอฟริกาใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการหรือภาษาที่สอง กลุ่มประเทศในแอฟริกากลางและตะวันตกสิบกว่าประเทศ ใช้สกุลเงินกลางที่เรียกว่า CFA Franc ซึ่งควบคุมโดยฝรั่งเศส มีธนาคารกลางฝรั่งเศสเป็นผู้พิมพ์ธนบัติที่ใช้หมุนเวียน ทุนสำรองระหว่างประเทศราวๆครึ่งนึงของประเทศเหล่านี้จึงฝากไว้กับฝรั่งเศส . ผู้กองตราโอเร่เป็นผู้นำที่ได้รับความนิยมสูงมากโดยเฉพาะกับคนในวัยหนุ่มสาวทั้งในประเทศและในทวีปแอฟฟริกา เค้ามีนโยบายนำประเทศพึ่งพาตัวเอง(self sufficient) พยายามนำประเทศปลดแอกจากอิทธิพลตะวันตก ฯลฯ ปฎิเสธเงินกู้จาก IMF และ ธนาคารโลก โดยบอกว่า ไม่ต้องการให้ประเทศเป็นทาสทางการเงินขององค์กรเหล่านี้ บูร์กินาฟาโซสามารถพัฒนาได้โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินกู้ที่มาพร้อมเงื่อนไขจากทางตะวันตก เค้าบอกว่าโครงสร้างฯที่เป็นอยู่มีปัญหา ทรัพยากรของแอฟฟริกาถูกผ่องถ่ายไปยังทวีปอื่นโดยได้รับค่าตอบแทนอย่างไม่เป็นธรรมมานานแล้ว ฯลฯ . อย่างไรก็ตามผู้นำบูร์กินาฟาโซที่ยังกินเงินเดือนทหารยศร้อยเอกมาจนถึงตอนนี้ แค่ในระยะสองปีกว่าที่ผ่านมาเคยถูกพยายามลอบสังหารมาแล้วหลายครั้ง ตัวเลขสูงหน่อยก็ 16 ครั้ง ..... แล้วก็เคยมีข่าวว่าบริษัทใหญ่ๆของต่างประเทศไปจนถึงระดับรัฐบาลต่างประเทศพยายามติดสินบนเค้า แต่โดนตะเพิดหมดเลย https://web.facebook.com/SiriuS.is.A.Star/posts/pfbid0VDcG4SWpyvfaLPv7HqEaamAS6Nryssc8GjFUrg7jzXoAs1vu8vK53q83xnFQbjy9l
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 620 Views 0 Reviews
  • **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม**

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ

    ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2)

    นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น!

    ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู

    เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร

    แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s

    เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html
    https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424
    https://j.021east.com/p/1652758642049238
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html
    https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯
    https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725
    https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990
    https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s
    https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s
    https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html

    #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    **ผ้าไหมทอลายสูจิ่น เทคนิคการทออันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาวัฒนธรรม** สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราตามรอย <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ไปยังแหล่งผลิตของผ้าไหมสูจิ่น (蜀锦) หรือเมืองอี้โจวในเรื่องซึ่งก็คือเมืองเฉิงตูนั่นเอง Storyฯ ได้กล่าวไว้ว่าผ้าไหมสูจิ่นเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดผ้าไหมทอลายของจีน และเทคนิคการทอผ้าสูจิ่นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของจีนเมื่อปี 2006 วันนี้มาคุยกันต่อค่ะ ประวัติการทอผ้าไหมจีนมีมายาวนานหลายพันปี แต่เทคนิคการทอผ้าสูจิ่นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมนี้มีมาอย่างน้อยตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น (ปี 206 ก่อนคริสตกาล - ปีค.ศ. 220) โดยมีหลักฐานจากการขุดพบเครื่องทอโบราณจากหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ฮั่น และใช้เวลานานมากในการทำความเข้าใจวิธีการทำงานของมัน เนื่องจากเอกสารข้อมูลที่หลงเหลือเกี่ยวกับมันมีน้อยมากอันสืบเนื่องจากเมืองเฉิงตูและเขตพื้นที่ทอผ้าได้รับความเสียหายจากไฟสงครามเมื่อแมนจูเข้ายึด ปัจจุบันมีการจำลองขึ้นใหม่จนใช้การได้จริง จัดเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู (Chengdu Shu Brocade And Embroidery Museum) (ดูรูปประกอบ 2) นอกจากนี้ยังมีการขุดพบผ้าไหมทอลายสูจิ่นในพื้นที่แถบซินเกียงที่สะท้อนถึงความสามารถในการทอผ้าลายซับซ้อนในสมัยฮั่น โดยผลงานที่โด่งดังมากที่สุดคือผ้าหุ้มข้อมือที่มีชื่อเรียกว่า ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่จงกั๋ว’ (五星出东方利中国/ Five Stars Rising in the East) ผ้าผืนนี้มีสีสันสดใสโดยเน้นสีที่เป็นตัวแทนของห้าดาว (ห้าธาตุ) มีลายสัตว์มงคลและตัวอักษร ‘อู่ซิงชูตงฟางลี่ตงกั๋ว’ และเนื่องด้วยมีการค้นพบเศษผ้าอื่นที่มีลายต่อเนื่องกัน ผู้เชี่ยวชาญจึงวิเคราะห์ไว้ว่าผ้าผืนเต็มประกอบด้วยตัวอักษรยี่สิบอักษร เป็นผ้าทอเนื้อละเอียดมาก ภายในผ้าหนึ่งตารางเซ็นติเมตรมีด้ายยืนทับซ้อนกันทั้งสิ้นกว่า 200 เส้น! ต่อมาในสมัยถังและซ่ง เครื่องทอผ้าถูกพัฒนาให้ทอลายที่หลากหลายได้มากยิ่งขึ้นและมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น โดยมีการบรรยายลักษณะไว้ในบันทึก ‘เทียนกงคายอู้’ (天工开物 /The Exploitation of the Works of Nature) ซึ่งเป็นหนังสือสมัยหมิงจัดทำขึ้นโดยซ่งอิงซิงเมื่อปีค.ศ. 1637 เพื่อบันทึกถึงกว่า 300 อาชีพที่เกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและกรรมวิธีการผลิตที่เกี่ยวข้อง (ดูรูปประกอบ 3) ปัจจุบันมีเครื่องโบราณจริงจากสมัยชิงแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ผ้าทอและงานปักสูจิ่นเมืองเฉิงตู เครื่องทอที่ว่านี้ต้องใช้ช่างทอสองคนพร้อมกัน คนหนึ่งนั่งข้างบนบังคับกลุ่มเส้นไหมเพื่อจัดลายทอ อีกคนหนึ่งนั่งข้างล่างทำหน้าที่ทอและดูแลเรื่องเฉดสี รวมแล้วมีเส้นไหมกว่าหมื่นเส้นที่ต้องบังคับ มีขนาดเล็กคือ ‘เสี่ยวฮวาโหลว’ และขนาดใหญ่คือ ‘ต้าฮวาโหลว’ โดยต้าฮวาโหลวมีความสูงถึงห้าเมตร แม้แต่อาจารย์ผู้มีประสบการณ์มาหลายสิบปียังสามารถทอได้เพียงไม่เกินสิบเซ็นติเมตรต่อวันด้วยมันต้องใช้แรงและโฟกัสมาก และความยากที่สุดของการทอผ้าไหมสูจิ่นด้วยเครื่องอย่างนี้คือการเอาลายที่ดีไซน์บนภาพวาดแปลงออกมาเป็นการเรียงเส้นไหมนั่งเอง เล่าอย่างนี้อาจนึกภาพไม่ออก เพื่อนเพจลองดูคลิปสั้นนี้ก็จะพอเห็นภาพค่ะ https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M และหากใครพอมีเวลาก็ลองดูสาระคดียาวประมาณ 15 นาทีมีซับภาษาอังกฤษ ก็จะเห็นความซับซ้อนของการทอผ้าสูจิ่นอย่างเต็มรูปแบบ... https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s เอกลักษณ์ของผ้าสูจิ่นคือลายทอพื้นเมือง เทคนิคการทอลายทับซ้อนได้หลายชั้นและมีสีสันที่สดใส โดยมีชื่อเรียกจำแนกชนิดย่อยไปได้อีกตามลายทอ อธิบายเช่นนี้ก็คงจะยังไม่ค่อยเห็นความแตกต่าง แต่ในรูปประกอบ 1 ก็พอจะเห็นบางส่วนของลายทอต่างๆ ที่ถูกนำมาใช้ในซีรีส์ <ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ> ได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://m.bjnews.com.cn/detail/1732938607168793.html https://www.facebook.com/permalink.php/?story_fbid=1083381463798209&id=100063790956424 https://j.021east.com/p/1652758642049238 https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html https://www.ccmapp.cn/news/detail?id=bd8d36d9-2b59-4fa0-b8e9-7d8b65852db3&categoryid=&categoryname=最新资讯 https://www.chinasilkmuseum.com/cs/info_164.aspx?itemid=26725 https://www.researchgate.net/figure/Traditional-Chinese-drawbar-silk-loom-Roads-to-Zanadu_fig4_284551990 https://news.qq.com/rain/a/20241229A059DQ00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.youtube.com/shorts/fPzQzevjD2M https://www.youtube.com/watch?v=uYHbELbospQ&t=609s https://www.youtube.com/watch?v=1zNDpGNh_Z4&t=1197s https://sichuan.scol.com.cn/ggxw/202102/58058065.html #ต้นตํานานอาภรณ์จักรพรรดิ #ผ้าไหมจีน #ผ้าไหมจิ่น #สูจิ่น #เฉิงตู #สามก๊ก #สี่สุดยอดผ้าไหมจีน #เครื่องทอผ้าจีนโบราณ #สาระจีน
    3 Comments 0 Shares 916 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้พูดถึงการโจมตีของแรนซัมแวร์กลุ่ม Medusa ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อองค์กรกว่า 300 แห่งในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การแพทย์ การศึกษา กฎหมาย เทคโนโลยี และการผลิต โดยการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การใช้ข้อมูลที่ขโมยมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกร้องค่าไถ่

    Medusa ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2021 ในฐานะแรนซัมแวร์ประเภทปิด ที่พัฒนาและดำเนินการโดยกลุ่มเดียว แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนเป็นรูปแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งอนุญาตให้เครือข่ายพันธมิตรร่วมดำเนินการโจมตี โดยมีการเปิดตัว Medusa Blog สำหรับเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมยเพื่อกดดันเหยื่อให้จ่ายเงิน

    Medusa ใช้วิธีการจ้างบุคคลที่เรียกว่า Initial Access Brokers (IABs) ผ่านฟอรัมในโลกไซเบอร์เพื่อหาช่องทางเข้าถึงเครือข่ายของเหยื่อ โดยมีการเสนอค่าตอบแทนตั้งแต่ $100 ถึง $1 ล้าน เพื่อล่อลวงผู้ร่วมมือ การโจมตีครั้งสำคัญของ Medusa รวมถึงโรงเรียนในเมืองมินนิอาโปลิสและ Toyota Financial Services ซึ่งเสียหายหลายล้านดอลลาร์จากการปฏิเสธจ่ายค่าไถ่

    มาตรการป้องกันที่แนะนำ CISA, FBI และ MS-ISAC แนะนำให้ทุกองค์กรดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น:
    - อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยเสมอ
    - แยกเครือข่ายเพื่อลดการแพร่กระจายของการโจมตีภายในองค์กร
    - กรองการเชื่อมต่อเครือข่ายจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

    ความท้าทายใหม่ ข่าวยังเน้นถึงความสับสนเกี่ยวกับชื่อ "Medusa" เนื่องจากมีกลุ่มมัลแวร์หลายกลุ่มใช้ชื่อนี้ เช่น Botnet และมัลแวร์ Android ในอดีต ซึ่งอาจทำให้มีการรายงานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับตัวตนของแรนซัมแวร์นี้

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/cisa-medusa-ransomware-hit-over-300-critical-infrastructure-orgs/
    ข่าวนี้พูดถึงการโจมตีของแรนซัมแวร์กลุ่ม Medusa ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อองค์กรกว่า 300 แห่งในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การแพทย์ การศึกษา กฎหมาย เทคโนโลยี และการผลิต โดยการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การใช้ข้อมูลที่ขโมยมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกร้องค่าไถ่ Medusa ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2021 ในฐานะแรนซัมแวร์ประเภทปิด ที่พัฒนาและดำเนินการโดยกลุ่มเดียว แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนเป็นรูปแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งอนุญาตให้เครือข่ายพันธมิตรร่วมดำเนินการโจมตี โดยมีการเปิดตัว Medusa Blog สำหรับเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมยเพื่อกดดันเหยื่อให้จ่ายเงิน Medusa ใช้วิธีการจ้างบุคคลที่เรียกว่า Initial Access Brokers (IABs) ผ่านฟอรัมในโลกไซเบอร์เพื่อหาช่องทางเข้าถึงเครือข่ายของเหยื่อ โดยมีการเสนอค่าตอบแทนตั้งแต่ $100 ถึง $1 ล้าน เพื่อล่อลวงผู้ร่วมมือ การโจมตีครั้งสำคัญของ Medusa รวมถึงโรงเรียนในเมืองมินนิอาโปลิสและ Toyota Financial Services ซึ่งเสียหายหลายล้านดอลลาร์จากการปฏิเสธจ่ายค่าไถ่ มาตรการป้องกันที่แนะนำ CISA, FBI และ MS-ISAC แนะนำให้ทุกองค์กรดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น: - อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยเสมอ - แยกเครือข่ายเพื่อลดการแพร่กระจายของการโจมตีภายในองค์กร - กรองการเชื่อมต่อเครือข่ายจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ความท้าทายใหม่ ข่าวยังเน้นถึงความสับสนเกี่ยวกับชื่อ "Medusa" เนื่องจากมีกลุ่มมัลแวร์หลายกลุ่มใช้ชื่อนี้ เช่น Botnet และมัลแวร์ Android ในอดีต ซึ่งอาจทำให้มีการรายงานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับตัวตนของแรนซัมแวร์นี้ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/cisa-medusa-ransomware-hit-over-300-critical-infrastructure-orgs/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    CISA: Medusa ransomware hit over 300 critical infrastructure orgs
    CISA says the Medusa ransomware operation has impacted over 300 organizations in critical infrastructure sectors in the United States until last month.
    0 Comments 0 Shares 462 Views 0 Reviews
  • เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยจำได้ว่า Storyฯ เคยเขียนว่าพระเอกในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> ‘ลู่อี้’ นั้นมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ วันนี้มาคุยกันกับเกร็ดประวัติศาสตร์จากละครเรื่องนี้ที่ Storyฯ เพิ่งได้กลับมาตั้งใจดูอีกครั้งและพบว่าตัวเองตกหล่นรายละเอียดไปไม่น้อย

    เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้อาจพอจำได้ว่าในเนื้อเรื่องมีตัวร้ายคือ ‘เหยียนซื่อฟาน’ ซึ่งเป็นลูกชายของขุนนางตัวโกงนาม ‘เหยียนซง’ ซึ่งทั้งสองคนนี้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในรัชสมัยขององค์หมิงซื่อจงแห่งราชวง์หมิง โดยเหยียนซงรับตำแหน่งหัวหน้าของคณะขุนนางสูงสุดหรือที่เรียกว่า ‘เน่ยเก๋อ’ (内阁 จึงเป็นที่มาของการเรียกขาน เหยียนซื่อฟานว่า ‘เสี่ยวเก๋อเหล่า’) ในละครมีฉากที่เหยียนซื่อฟานได้ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาและมีการถกกันว่าเป็นภาพของแท้หรือไม่

    Storyฯ เคยเขียนถึงภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาแล้วตอนที่คุยกันเกี่ยวกับละคร <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่วันนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติม ขอถอดบทสนทนาจากในละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> มาดังนี้
    ... “ได้ยินมาว่าจางเจ๋อตวนใช้เวลาหนึ่งปีก็วาดภาพม้วนยาวนี้เสร็จ นับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถหายาก... ท่านใต้เท่าสวี่... เชิญท่านลองคุยๆ ดูภาพนี้จริงปลอมหรือไม่อย่างไร” เหยียนซงกล่าว
    ใต้เท้าสวี่เอ่ย “...ตามที่ข้าน้อยทราบมา ภาพนี้ควรมีลายพระอักษรรูปแบบโซ่วจินขององค์ซ่งฮุยจงเป็นคำว่า ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ห้าอักษร... และมีตราประทับมังกรคู่ อีกทั้งมีบทกลอนนำ ภาพนี้ดูแล้วไม่คล้ายเป็นภาพวาดเลียนแบบ” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ยาว 528 ซม. สูง 24.8 ซม. เป็นหนึ่งในสิบของภาพโบราณที่มีค่าที่สุดของจีน ถูกวาดขึ้นโดยจางเจ๋อตวน เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการวาดภาพนี้จริงหรือไม่ ไม่ปรากฏหลักฐานหรือบันทึกใดกล่าวชัด แต่ภาพนี้เคยตกอยู่ในมือของเหยียนซงจริง! ตอนที่ตระกูลเหยียนถูกลงทัณฑ์และยึดสมบัตินั้น รายชื่อของสมบัติที่ริบได้นั้นยาวถึง 140 หน้ากระดาษและหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ นี้

    จากบันทึกที่พอแกะรอยกันได้ ว่ากันว่าภาพนี้แรกเริ่มถูกนำถวายองค์ซ่งฮุยจง (ค.ศ. 1522-1566) และพระองค์ทรงเขียนชื่อ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ขึ้นบนภาพด้วยอักษรในรูปแบบ ‘โซ่วจิน’ ซึ่งเป็นรูปแบบอักษรที่ทรงคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง (ดูตัวอย่างจากรูป2 ขวา) เป็นที่ถกเถียงกันต่อมาว่าทรงโปรดภาพนี้หรือไม่เพราะมันไม่ได้ถูกเก็บไว้ในท้องพระคลังแต่ถูกพระราชทานให้ขุนนาง

    หลังจากนั้น ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ผ่านการเดินทางอย่างโชกโชน ในช่วงที่ราชวงศ์จินยึดแผ่นดินซ่งได้สำเร็จนั้น ว่ากันว่ามันถูกเก็บเข้าท้องพระคลังและถูกยักยอกออกมาขายทอดตลาด เป็นช่วงที่มีการเขียนบทนำลงไปหน้าภาพ ต่อมาในสมัยหยวนก็ถูกซื้อเก็บเข้าท้องพระคลังอีกครั้งและถูกยักยอกออกมาขายอีก มีการเสาะหามันเรื่อยมาจนตกมาอยู่ในมือของเหยียนซงในสมัยหมิง โดยที่ก่อนหน้านั้นปรากฏงานลอกเลียนแบบออกมาจำนวนไม่น้อย ต่อมามันถูกริบเป็นสมบัติหลวงอีกครั้งโดยมีการลบตราประทับที่แสดงความเป็นเจ้าของของตระกูลเหยียนออกจากภาพ หลังจากนั้นมันถูกเปลี่ยนมือไปมาในแวดวงขุนนาง โดยไม่แน่ว่าเป็นการได้รับพระราชทานหรือยักยอก และปรากฏบทความนำหน้าภาพขึ้นมาเพิ่มอีก โดยที่ลายพระหัตถ์ขององค์หมิงซื่อจงไม่ทราบว่าหายไปจากภาพตั้งแต่เมื่อใด ผู้ที่ถือครองครั้งสุดท้ายว่ากันว่าคือขันทีนามว่า ‘เฝิงเป่า’ ซึ่งต่อมาถูกลงทัณฑ์ริบสมบัติ

    ภาพนี้หายสาบสูญไปนานกว่าสองร้อยปี แน่นอนว่ามีภาพปลอมจำนวนไม่น้อยปรากฏขึ้น และภาพที่เชื่อว่าเป็นฉบับจริงนี้ปรากฏในตลาดและมาถึงมือของพิพิธภัณฑ์มณฑลเหลียวหนิงในปีค.ศ. 1950 ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับลู่อี้: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0QA8xxCRgWSD6jP6PexAdnrZmEdGAHVxGTu3UXj3CpZfkovdY37ft9rQbauD6KfQzl
    บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับชิงหมิงซ่างเหอถู: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid01MbyBtawx6X9xEHogRvHY8NesM2MVWHUBgYeuujQnFrPFA39dgddSihm4jjXrfiPl

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    http://www.zgsshh.com/Works_body.asp?id=1190&amp;qx=137
    http://www.fengxuelin.com/tougao/16546.html
    http://ent.sina.com.cn/v/m/2017-10-12/doc-ifymviyp0369720.shtml
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2010/06-21/2352544.shtml
    http://collection.sina.com.cn/jczs/2016-10-26/doc-ifxwztrt0466746.shtml
    https://baike.baidu.com/item/瘦金体/884949

    #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ชิงหมิงซ่างเหอถู #เหยียนซื่อฟาน #ซ่งฮุยจง #อักษรโซ่วจิน
    เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยจำได้ว่า Storyฯ เคยเขียนว่าพระเอกในเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> ‘ลู่อี้’ นั้นมีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ วันนี้มาคุยกันกับเกร็ดประวัติศาสตร์จากละครเรื่องนี้ที่ Storyฯ เพิ่งได้กลับมาตั้งใจดูอีกครั้งและพบว่าตัวเองตกหล่นรายละเอียดไปไม่น้อย เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้อาจพอจำได้ว่าในเนื้อเรื่องมีตัวร้ายคือ ‘เหยียนซื่อฟาน’ ซึ่งเป็นลูกชายของขุนนางตัวโกงนาม ‘เหยียนซง’ ซึ่งทั้งสองคนนี้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในรัชสมัยขององค์หมิงซื่อจงแห่งราชวง์หมิง โดยเหยียนซงรับตำแหน่งหัวหน้าของคณะขุนนางสูงสุดหรือที่เรียกว่า ‘เน่ยเก๋อ’ (内阁 จึงเป็นที่มาของการเรียกขาน เหยียนซื่อฟานว่า ‘เสี่ยวเก๋อเหล่า’) ในละครมีฉากที่เหยียนซื่อฟานได้ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาและมีการถกกันว่าเป็นภาพของแท้หรือไม่ Storyฯ เคยเขียนถึงภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ มาแล้วตอนที่คุยกันเกี่ยวกับละคร <สามบุปผาลิขิตฝัน> แต่วันนี้มีรายละเอียดเพิ่มเติม ขอถอดบทสนทนาจากในละครเรื่อง <ยอดองครักษ์เสื้อแพร> มาดังนี้ ... “ได้ยินมาว่าจางเจ๋อตวนใช้เวลาหนึ่งปีก็วาดภาพม้วนยาวนี้เสร็จ นับว่าเป็นผู้ที่มีความสามารถหายาก... ท่านใต้เท่าสวี่... เชิญท่านลองคุยๆ ดูภาพนี้จริงปลอมหรือไม่อย่างไร” เหยียนซงกล่าว ใต้เท้าสวี่เอ่ย “...ตามที่ข้าน้อยทราบมา ภาพนี้ควรมีลายพระอักษรรูปแบบโซ่วจินขององค์ซ่งฮุยจงเป็นคำว่า ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ห้าอักษร... และมีตราประทับมังกรคู่ อีกทั้งมีบทกลอนนำ ภาพนี้ดูแล้วไม่คล้ายเป็นภาพวาดเลียนแบบ” (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ภาพวาด ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ยาว 528 ซม. สูง 24.8 ซม. เป็นหนึ่งในสิบของภาพโบราณที่มีค่าที่สุดของจีน ถูกวาดขึ้นโดยจางเจ๋อตวน เขาใช้เวลาหนึ่งปีในการวาดภาพนี้จริงหรือไม่ ไม่ปรากฏหลักฐานหรือบันทึกใดกล่าวชัด แต่ภาพนี้เคยตกอยู่ในมือของเหยียนซงจริง! ตอนที่ตระกูลเหยียนถูกลงทัณฑ์และยึดสมบัตินั้น รายชื่อของสมบัติที่ริบได้นั้นยาวถึง 140 หน้ากระดาษและหนึ่งในนั้นก็คือ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ นี้ จากบันทึกที่พอแกะรอยกันได้ ว่ากันว่าภาพนี้แรกเริ่มถูกนำถวายองค์ซ่งฮุยจง (ค.ศ. 1522-1566) และพระองค์ทรงเขียนชื่อ ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ขึ้นบนภาพด้วยอักษรในรูปแบบ ‘โซ่วจิน’ ซึ่งเป็นรูปแบบอักษรที่ทรงคิดประดิษฐ์ขึ้นเอง (ดูตัวอย่างจากรูป2 ขวา) เป็นที่ถกเถียงกันต่อมาว่าทรงโปรดภาพนี้หรือไม่เพราะมันไม่ได้ถูกเก็บไว้ในท้องพระคลังแต่ถูกพระราชทานให้ขุนนาง หลังจากนั้น ‘ชิงหมิงซ่างเหอถู’ ผ่านการเดินทางอย่างโชกโชน ในช่วงที่ราชวงศ์จินยึดแผ่นดินซ่งได้สำเร็จนั้น ว่ากันว่ามันถูกเก็บเข้าท้องพระคลังและถูกยักยอกออกมาขายทอดตลาด เป็นช่วงที่มีการเขียนบทนำลงไปหน้าภาพ ต่อมาในสมัยหยวนก็ถูกซื้อเก็บเข้าท้องพระคลังอีกครั้งและถูกยักยอกออกมาขายอีก มีการเสาะหามันเรื่อยมาจนตกมาอยู่ในมือของเหยียนซงในสมัยหมิง โดยที่ก่อนหน้านั้นปรากฏงานลอกเลียนแบบออกมาจำนวนไม่น้อย ต่อมามันถูกริบเป็นสมบัติหลวงอีกครั้งโดยมีการลบตราประทับที่แสดงความเป็นเจ้าของของตระกูลเหยียนออกจากภาพ หลังจากนั้นมันถูกเปลี่ยนมือไปมาในแวดวงขุนนาง โดยไม่แน่ว่าเป็นการได้รับพระราชทานหรือยักยอก และปรากฏบทความนำหน้าภาพขึ้นมาเพิ่มอีก โดยที่ลายพระหัตถ์ขององค์หมิงซื่อจงไม่ทราบว่าหายไปจากภาพตั้งแต่เมื่อใด ผู้ที่ถือครองครั้งสุดท้ายว่ากันว่าคือขันทีนามว่า ‘เฝิงเป่า’ ซึ่งต่อมาถูกลงทัณฑ์ริบสมบัติ ภาพนี้หายสาบสูญไปนานกว่าสองร้อยปี แน่นอนว่ามีภาพปลอมจำนวนไม่น้อยปรากฏขึ้น และภาพที่เชื่อว่าเป็นฉบับจริงนี้ปรากฏในตลาดและมาถึงมือของพิพิธภัณฑ์มณฑลเหลียวหนิงในปีค.ศ. 1950 ปัจจุบันถูกเก็บอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้าม (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับลู่อี้: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0QA8xxCRgWSD6jP6PexAdnrZmEdGAHVxGTu3UXj3CpZfkovdY37ft9rQbauD6KfQzl บทความของ Storyฯ เกี่ยวกับชิงหมิงซ่างเหอถู: https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid01MbyBtawx6X9xEHogRvHY8NesM2MVWHUBgYeuujQnFrPFA39dgddSihm4jjXrfiPl Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://www.zgsshh.com/Works_body.asp?id=1190&amp;qx=137 http://www.fengxuelin.com/tougao/16546.html http://ent.sina.com.cn/v/m/2017-10-12/doc-ifymviyp0369720.shtml Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.chinanews.com.cn/cul/news/2010/06-21/2352544.shtml http://collection.sina.com.cn/jczs/2016-10-26/doc-ifxwztrt0466746.shtml https://baike.baidu.com/item/瘦金体/884949 #ยอดองครักษ์เสื้อแพร #ชิงหมิงซ่างเหอถู #เหยียนซื่อฟาน #ซ่งฮุยจง #อักษรโซ่วจิน
    0 Comments 0 Shares 846 Views 0 Reviews
  • สัปดาห์ที่แล้ว Storyฯ คุยถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ จากเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid036pXf9b2bDT6Pj7hz6t8U4hTYrJTrubWu3xRGJ26wogVFFnWAsTm6iQm7PECsHvbFl) วันนี้มาคุยต่อกันเกี่ยวกับอีกหนึ่งวลีเด็ดจากเรื่องเดียวกัน คือ ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วง... ตามเวลาของมัน’ (ฮวาคายฮวาลั่วจื้อโหย่วสือ / 花开花落自有时)

    จริงๆ แล้วความหมายของมันค่อนข้างตรงตัวเพราะสะท้อนถึงวัฏจักรแห่งชีวิต และเชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนคงคิดว่ามันมาจากกลอนรัก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ

    วลีนี้ผันแปรมาจากวรรคหนึ่งในบทกวีในสมัยซ่งใต้ เป็นบทกวีของนางคณิกาหลวงเหยียนหรุ่ยผู้เลื่องชื่อด้านบทกวี มีชื่อว่า ‘ปู๋ซื่ออ้ายเฟิงเฉิน’ (不是爱风尘 / มิได้รักในชีวิตนางคณิกา) และประโยคดั้งเดิมคือ ‘บุปผาโรยร่วงและผลิบานตามเวลาของมัน’ (คือร่วงก่อนแล้วค่อยบาน ไม่ใช่บานแล้วจึงร่วงแบบที่เราคุ้นเคย)

    ประวัติของเหยียนหรุ่ยไม่แน่ชัด บ้างว่านางถูกพ่อเลี้ยงหลอกมาขาย บ้างว่าพ่อของนางเคยเป็นขุนนางชั้นผู้น้อยที่ต้องโทษ แต่ที่ชัดเจนคือนางได้รับการศึกษามาอย่างดีก่อนจะกลายมาเป็นนางคณิกาหลวง (คือถูกเรียกใช้ร้องรำทำเพลงในงานเลี้ยงต่างๆ ของขุนนาง) ชีวิตของนางผ่านร้อนผ่านหนาวไม่น้อย นางได้รับการชื่นชมจากขุนนางและผู้มีหน้ามีตาในสังคมไม่น้อยด้วยบทกวีที่โดดเด่น หนึ่งในนั้นคือถังจงโหย่วผู้ว่าราชการเขตเจ๋อตง จนต่อมานางถูกจับเข้าคุกไปทรมานด้วยข้อหาที่ว่านางค้างคืนในจวนของถังจงโหย่ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเอาผิดถังจงโหย่ว (ซึ่งเป็นการผิดกฎการใช้บริการนางคณิกาหลวง) แต่นางไม่ยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา จนสุดท้ายเรื่องถึงในวังและได้มีการแต่งตั้งเยวี่ยหลิน (ลูกชายของเยวี่ยเฟยหรืองักฮุย) มาไต่สวนจนพบว่าจริงแล้วมันเป็นการแย่งชิงอำนาจของขุนนางโดยมีนางเป็นหมากตาหนึ่ง นางจึงได้รับการปลดปล่อย และต่อมาในบั้นปลายชีวิตนางกินดีอยู่ดีในฐานะอนุภรรยาอันเป็นที่รักของพ่อม่ายเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง

    เรื่องราวตอนที่นางถูกใส่ร้ายจนจำคุกและถูกทรมานเจียนตายนั้น เป็นคดีความที่โด่งดัง เกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1182 และตอนที่นางถูกนำมาไต่สวนอีกครั้งโดยเยวี่ยหลินนั้น ด้วยความที่เยวี่ยหลินได้ยินกิตติศัพท์ความสามารถด้านโคลงกลอนของนางและสืบรู้เรื่องราวที่แท้จริงจนตั้งใจจะปล่อยนางอยู่แล้ว จึงตั้งเงื่อนไขให้นางเล่าความจริงผ่านบทกวีเพื่อแลกกับอิสรภาพ และ ‘ปู๋ซื่ออ้ายเฟิงเฉิน’ คือบทกวีบทนั้น

    ‘ปู๋ซื่ออ้ายเฟิงเฉิน’ มีแปดวรรค เป็นบทกลอนที่ใช้การเปรียบเปรยและอุปมาอุไมยไม่น้อย สาระใจความสรุปได้ว่า: อย่าได้คิดดูถูกว่านางเป็นสตรีใฝ่ต่ำ นางไม่ได้ต้องการมาเป็นนางคณิกา แต่มีเหตุผิดพลาดทำให้ชีวิตผกผัน ชะตาชีวิตของนางตอนนี้ขึ้นอยู่กับเยวี่ยหลินแล้ว นางอยากหลุดพ้นจากชีวิตนางคณิกานี้ แต่ยังจำต้องทนแม้ฝืนใจเต็มที และสิ่งที่โหยหาคืออิสรภาพ

    ฟังดูเหมือนไม่น่ามีอะไรเกี่ยวกับ ‘บุปผาโรยร่วงฯ’ ใช่ไหม?

    ประโยค ‘บุปผาโรยร่วงฯ’ นี้ ในบทกวีเดิมเขียนไว้ว่า ‘บุปผาโรยร่วงและผลิบานตามเวลาของมัน ล้วนแล้วแต่สุริยเทพจะกำหนด’ (花落花开自有时, 总赖东君主) เป็นการอุปมาอุปไมยว่า ไม่ว่านางจะตกอับจำคุก (บุปผาโรยร่วง) หรือจะพ้นคุกยืนหยัดขึ้นได้ใหม่ (บุปผาผลิบาน) อาจดูคล้ายเป็นเรื่องที่ชะตาชีวิตกำหนดไว้แล้ว แต่จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับเยวี่ยหลิน (สุริยเทพ) ดังนั้นประโยคนี้ในความหมายดั้งเดิมของมันคือการรำพันถึงชะตาชีวิตที่ตกอยู่ในมือคนอื่น ตนเองไม่อาจกำหนดได้ สะท้อนถึงความท้อแท้ในใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยอมรับในธรรมชาติของมันและอ้อนวอนขอความเห็นใจ

    ว่ากันว่าบทกวีนี้มิเพียงทำให้นางหลุดจากคุกแต่ยังได้รับการปลดชื่อออกจากทะเบียนทาสซึ่งเป็นสถานะของนางคณิกาหลวงอีกด้วย (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงสถานะทาสของนางคณิกาหลวงแล้วในเรื่องของ ซ่งอิ่นจาง ในเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน>) เป็นการได้รับอิสรภาพสองแบบเลยทีเดียว

    วรรคที่ใช้ดอกไม้อุปมาอุปไมยถึงชะตาชีวิตนี้ เป็นที่นิยมแพร่หลายด้วยความไพเราะของมัน และต่อมาถูกผันเปลี่ยนมาเป็น ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน’ (คือบานแล้วจึงโรย ตามวัฏจักรธรรมชาติ) และมีการแต่งวรรคต่ออีกหลากหลาย เช่น ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน รักเกิดรักดับไม่มีผู้ใดบังคับได้’ เป็นต้น แต่ล้วนเป็นประโยคที่กล่าวถึงการดับการเกิดตามครรลองธรรมชาติเพื่อสะท้อนความไม่จีรัง และนิยมนำมาใช้กับความรักหรือความสัมพันธ์ระหว่างคน และนี่ก็เป็นบริบทและความหมายที่ถูกนำมาใช้ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> นี่เอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.vogue.com.tw/culture/content-42286
    https://kknews.cc/history/5x9gyb8.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/严蕊/892616
    http://www.gaosan.com/gaokao/262749.html
    https://so.gushiwen.cn/mingju/juv_753d1a95cd9e.aspx
    http://book.sina.com.cn/excerpt/rwws/2017-04-14/1446/doc-ifyeimqc3679324-p2.shtml

    #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #เหยียนหรุ่ย #บุปผาผลิบาน #ปู๋ซื่ออ้ายเฟิงเฉิน
    สัปดาห์ที่แล้ว Storyฯ คุยถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ จากเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid036pXf9b2bDT6Pj7hz6t8U4hTYrJTrubWu3xRGJ26wogVFFnWAsTm6iQm7PECsHvbFl) วันนี้มาคุยต่อกันเกี่ยวกับอีกหนึ่งวลีเด็ดจากเรื่องเดียวกัน คือ ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วง... ตามเวลาของมัน’ (ฮวาคายฮวาลั่วจื้อโหย่วสือ / 花开花落自有时) จริงๆ แล้วความหมายของมันค่อนข้างตรงตัวเพราะสะท้อนถึงวัฏจักรแห่งชีวิต และเชื่อว่าเพื่อนเพจหลายคนคงคิดว่ามันมาจากกลอนรัก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ วลีนี้ผันแปรมาจากวรรคหนึ่งในบทกวีในสมัยซ่งใต้ เป็นบทกวีของนางคณิกาหลวงเหยียนหรุ่ยผู้เลื่องชื่อด้านบทกวี มีชื่อว่า ‘ปู๋ซื่ออ้ายเฟิงเฉิน’ (不是爱风尘 / มิได้รักในชีวิตนางคณิกา) และประโยคดั้งเดิมคือ ‘บุปผาโรยร่วงและผลิบานตามเวลาของมัน’ (คือร่วงก่อนแล้วค่อยบาน ไม่ใช่บานแล้วจึงร่วงแบบที่เราคุ้นเคย) ประวัติของเหยียนหรุ่ยไม่แน่ชัด บ้างว่านางถูกพ่อเลี้ยงหลอกมาขาย บ้างว่าพ่อของนางเคยเป็นขุนนางชั้นผู้น้อยที่ต้องโทษ แต่ที่ชัดเจนคือนางได้รับการศึกษามาอย่างดีก่อนจะกลายมาเป็นนางคณิกาหลวง (คือถูกเรียกใช้ร้องรำทำเพลงในงานเลี้ยงต่างๆ ของขุนนาง) ชีวิตของนางผ่านร้อนผ่านหนาวไม่น้อย นางได้รับการชื่นชมจากขุนนางและผู้มีหน้ามีตาในสังคมไม่น้อยด้วยบทกวีที่โดดเด่น หนึ่งในนั้นคือถังจงโหย่วผู้ว่าราชการเขตเจ๋อตง จนต่อมานางถูกจับเข้าคุกไปทรมานด้วยข้อหาที่ว่านางค้างคืนในจวนของถังจงโหย่ว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเอาผิดถังจงโหย่ว (ซึ่งเป็นการผิดกฎการใช้บริการนางคณิกาหลวง) แต่นางไม่ยอมรับผิดตามข้อกล่าวหา จนสุดท้ายเรื่องถึงในวังและได้มีการแต่งตั้งเยวี่ยหลิน (ลูกชายของเยวี่ยเฟยหรืองักฮุย) มาไต่สวนจนพบว่าจริงแล้วมันเป็นการแย่งชิงอำนาจของขุนนางโดยมีนางเป็นหมากตาหนึ่ง นางจึงได้รับการปลดปล่อย และต่อมาในบั้นปลายชีวิตนางกินดีอยู่ดีในฐานะอนุภรรยาอันเป็นที่รักของพ่อม่ายเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง เรื่องราวตอนที่นางถูกใส่ร้ายจนจำคุกและถูกทรมานเจียนตายนั้น เป็นคดีความที่โด่งดัง เกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1182 และตอนที่นางถูกนำมาไต่สวนอีกครั้งโดยเยวี่ยหลินนั้น ด้วยความที่เยวี่ยหลินได้ยินกิตติศัพท์ความสามารถด้านโคลงกลอนของนางและสืบรู้เรื่องราวที่แท้จริงจนตั้งใจจะปล่อยนางอยู่แล้ว จึงตั้งเงื่อนไขให้นางเล่าความจริงผ่านบทกวีเพื่อแลกกับอิสรภาพ และ ‘ปู๋ซื่ออ้ายเฟิงเฉิน’ คือบทกวีบทนั้น ‘ปู๋ซื่ออ้ายเฟิงเฉิน’ มีแปดวรรค เป็นบทกลอนที่ใช้การเปรียบเปรยและอุปมาอุไมยไม่น้อย สาระใจความสรุปได้ว่า: อย่าได้คิดดูถูกว่านางเป็นสตรีใฝ่ต่ำ นางไม่ได้ต้องการมาเป็นนางคณิกา แต่มีเหตุผิดพลาดทำให้ชีวิตผกผัน ชะตาชีวิตของนางตอนนี้ขึ้นอยู่กับเยวี่ยหลินแล้ว นางอยากหลุดพ้นจากชีวิตนางคณิกานี้ แต่ยังจำต้องทนแม้ฝืนใจเต็มที และสิ่งที่โหยหาคืออิสรภาพ ฟังดูเหมือนไม่น่ามีอะไรเกี่ยวกับ ‘บุปผาโรยร่วงฯ’ ใช่ไหม? ประโยค ‘บุปผาโรยร่วงฯ’ นี้ ในบทกวีเดิมเขียนไว้ว่า ‘บุปผาโรยร่วงและผลิบานตามเวลาของมัน ล้วนแล้วแต่สุริยเทพจะกำหนด’ (花落花开自有时, 总赖东君主) เป็นการอุปมาอุปไมยว่า ไม่ว่านางจะตกอับจำคุก (บุปผาโรยร่วง) หรือจะพ้นคุกยืนหยัดขึ้นได้ใหม่ (บุปผาผลิบาน) อาจดูคล้ายเป็นเรื่องที่ชะตาชีวิตกำหนดไว้แล้ว แต่จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับเยวี่ยหลิน (สุริยเทพ) ดังนั้นประโยคนี้ในความหมายดั้งเดิมของมันคือการรำพันถึงชะตาชีวิตที่ตกอยู่ในมือคนอื่น ตนเองไม่อาจกำหนดได้ สะท้อนถึงความท้อแท้ในใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยอมรับในธรรมชาติของมันและอ้อนวอนขอความเห็นใจ ว่ากันว่าบทกวีนี้มิเพียงทำให้นางหลุดจากคุกแต่ยังได้รับการปลดชื่อออกจากทะเบียนทาสซึ่งเป็นสถานะของนางคณิกาหลวงอีกด้วย (หมายเหตุ Storyฯ เคยเขียนถึงสถานะทาสของนางคณิกาหลวงแล้วในเรื่องของ ซ่งอิ่นจาง ในเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน>) เป็นการได้รับอิสรภาพสองแบบเลยทีเดียว วรรคที่ใช้ดอกไม้อุปมาอุปไมยถึงชะตาชีวิตนี้ เป็นที่นิยมแพร่หลายด้วยความไพเราะของมัน และต่อมาถูกผันเปลี่ยนมาเป็น ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน’ (คือบานแล้วจึงโรย ตามวัฏจักรธรรมชาติ) และมีการแต่งวรรคต่ออีกหลากหลาย เช่น ‘บุปผาผลิบานแล้วโรยร่วงตามเวลาของมัน รักเกิดรักดับไม่มีผู้ใดบังคับได้’ เป็นต้น แต่ล้วนเป็นประโยคที่กล่าวถึงการดับการเกิดตามครรลองธรรมชาติเพื่อสะท้อนความไม่จีรัง และนิยมนำมาใช้กับความรักหรือความสัมพันธ์ระหว่างคน และนี่ก็เป็นบริบทและความหมายที่ถูกนำมาใช้ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> นี่เอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.vogue.com.tw/culture/content-42286 https://kknews.cc/history/5x9gyb8.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/严蕊/892616 http://www.gaosan.com/gaokao/262749.html https://so.gushiwen.cn/mingju/juv_753d1a95cd9e.aspx http://book.sina.com.cn/excerpt/rwws/2017-04-14/1446/doc-ifyeimqc3679324-p2.shtml #หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์ #เหยียนหรุ่ย #บุปผาผลิบาน #ปู๋ซื่ออ้ายเฟิงเฉิน
    0 Comments 0 Shares 829 Views 0 Reviews
  • กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาต่อบุคคล 12 คน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์ต่อองค์กรและหน่วยงานกว่า 100 แห่งในสหรัฐฯ รวมถึงกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ (US Treasury) คดีนี้เผยให้เห็นถึงการโจมตีของแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐบาลจีน ซึ่งอาจมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการควบคุมและเซ็นเซอร์ในประเด็น "เสรีภาพในการแสดงออก" และ "ศาสนา"

    ในกลุ่มบุคคลที่ถูกตั้งข้อหา มีสองคนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกว่า Silk Typhoon ซึ่ง Microsoft ระบุว่าเป็นผู้โจมตีหลักในเหตุการณ์แฮกกระทรวงการคลังช่วงปลายปี 2024 การโจมตีครั้งนั้นถูกมองว่าเป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้กลยุทธ์แบบ "รัฐสนับสนุน" ในการขโมยข้อมูลสำคัญระดับประเทศ

    ผู้กระทำผิดบางรายทำงานในลักษณะของ แฮกเกอร์รับจ้าง โดยถูกว่าจ้างจากองค์กร Anxum Information Technology Co. Ltd. (หรือที่เรียกกันว่า “i-Soon”) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (MPS) และกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ (MSS) ของจีน ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับการตอบแทนสูงถึง 75,000 ดอลลาร์ต่ออีเมลที่ถูกแฮกสำเร็จ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแหล่งเงินทุนที่รัฐบาลจีนมอบให้กับการดำเนินการไซเบอร์นี้

    FBI และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ยังคงทำงานอย่างหนักในการปกป้องระบบไซเบอร์ของประเทศ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ Bryan Vorndran จากฝ่ายไซเบอร์ของ FBI ได้กล่าวถึงความสำคัญในการป้องกันภัยคุกคามจากต่างประเทศ พร้อมทั้งเสนอรางวัลสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์สำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลนำไปสู่การจับกุมแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง

    สิ่งที่น่ากังวลคือ การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อองค์กรหรือรัฐบาลในเชิงเทคนิค แต่ยังเกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงระดับโลกอีกด้วย การเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเป็นสัญญาณเตือนให้ทั่วโลกต้องร่วมมือกันในด้านกฎหมายและเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับปัญหาในระดับสากล

    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-who-targeted-key-us-infrastructure-charged-by-justice-department
    กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้ตั้งข้อหาต่อบุคคล 12 คน ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการโจมตีไซเบอร์ต่อองค์กรและหน่วยงานกว่า 100 แห่งในสหรัฐฯ รวมถึงกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ (US Treasury) คดีนี้เผยให้เห็นถึงการโจมตีของแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของรัฐบาลจีน ซึ่งอาจมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนการควบคุมและเซ็นเซอร์ในประเด็น "เสรีภาพในการแสดงออก" และ "ศาสนา" ในกลุ่มบุคคลที่ถูกตั้งข้อหา มีสองคนที่เชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่เรียกว่า Silk Typhoon ซึ่ง Microsoft ระบุว่าเป็นผู้โจมตีหลักในเหตุการณ์แฮกกระทรวงการคลังช่วงปลายปี 2024 การโจมตีครั้งนั้นถูกมองว่าเป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้กลยุทธ์แบบ "รัฐสนับสนุน" ในการขโมยข้อมูลสำคัญระดับประเทศ ผู้กระทำผิดบางรายทำงานในลักษณะของ แฮกเกอร์รับจ้าง โดยถูกว่าจ้างจากองค์กร Anxum Information Technology Co. Ltd. (หรือที่เรียกกันว่า “i-Soon”) ซึ่งมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ (MPS) และกระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐ (MSS) ของจีน ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับการตอบแทนสูงถึง 75,000 ดอลลาร์ต่ออีเมลที่ถูกแฮกสำเร็จ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแหล่งเงินทุนที่รัฐบาลจีนมอบให้กับการดำเนินการไซเบอร์นี้ FBI และหน่วยงานอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ยังคงทำงานอย่างหนักในการปกป้องระบบไซเบอร์ของประเทศ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ Bryan Vorndran จากฝ่ายไซเบอร์ของ FBI ได้กล่าวถึงความสำคัญในการป้องกันภัยคุกคามจากต่างประเทศ พร้อมทั้งเสนอรางวัลสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์สำหรับผู้ที่ให้ข้อมูลนำไปสู่การจับกุมแฮกเกอร์ที่เกี่ยวข้อง สิ่งที่น่ากังวลคือ การโจมตีครั้งนี้ไม่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อองค์กรหรือรัฐบาลในเชิงเทคนิค แต่ยังเกี่ยวข้องกับประเด็นสิทธิมนุษยชนและความมั่นคงระดับโลกอีกด้วย การเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเป็นสัญญาณเตือนให้ทั่วโลกต้องร่วมมือกันในด้านกฎหมายและเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับปัญหาในระดับสากล https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-who-targeted-key-us-infrastructure-charged-by-justice-department
    WWW.TECHRADAR.COM
    Chinese hackers who targeted key US infrastructure charged by Justice Department
    12 individuals accused of playing a ‘key role’ in recent cyberattacks
    0 Comments 0 Shares 485 Views 0 Reviews
  • ผ่านกันมานานเป็นเดือนกับบทความชุดเรื่องราวสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) จากละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ยังคุยกันไม่ครบสิบสองภาพ แต่ขอคั่นเปลี่ยนเรื่องคุยกันบ้าง เรื่องที่จะคุยในวันนี้ไม่เกี่ยวกับละครหรือนวนิยาย แต่เป็นเรื่องเล่าจากเพลงที่ Storyฯ ชอบมากเพลงหนึ่ง

    เพลงนี้โด่งดังในประเทศจีนมาตั้งแต่ปี 2018 เป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์เพราะมีกลิ่นอายของงิ้วแฝงอยู่ มีชื่อว่า ‘ชึหลิง’ (赤伶) หรือ ‘นักแสดงสีชาด’ ร้องโดย HITA แต่งเนื้อร้องโดย ชิงเยี่ยน (清彦) ดนตรีโดย หลี่เจี้ยนเหิง (李建衡) ต่อมามีหลายคนนำมาขับร้อง ทั้งที่เปลี่ยนเนื้อร้องและทั้งที่ใช้เนื้อร้องเดิม เชื่อว่าคงมีเพื่อนเพจบางท่านเคยได้ยิน แต่ Storyฯ มั่นใจว่าน้อยคนนักจะทราบถึงเรื่องราวที่แฝงไว้ในเพลงนี้

    ‘หลิง’ หมายถึงนักแสดงละครงิ้ว ส่วน ‘ชึ’ แปลตรงตัวว่าสีแดงชาด และอาจย่อมาจากคำว่า ‘ชึซิน’ ที่แปลว่าใจที่จงรักภักดีหรือปณิธานแรงกล้า ชื่อเพลงที่สั้นเพียงสองอักษรแต่มีความหมายสองชั้น เนื้อเพลงก็แฝงความหมายสองสามชั้นเช่นกัน เนื้อเพลงค่อนข้างยาว Storyฯ ขอแปลไว้ในรูปภาพที่สองแทน บางคำแปลอย่างตรงตัวเพื่อให้เพื่อนเพจได้ตีความและเห็นถึงเสน่ห์ของความหมายหลายชั้นของเพลงนี้

    เรื่องราวเบื้องหลังของเนื้อเพลง ‘นักแสดงสีชาด’ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นอิงประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่ญี่ปุ่นเข้าบุกและยึดครองหลายพื้นที่ของจีน กล่าวถึงนักแสดงงิ้วนามว่า เผยเยี่ยนจือ ที่โด่งดังในเมืองอันหย่วน เขาถูกทหารญี่ปุ่นเชิญแกมบังคับให้ขึ้นแสดงงิ้ว โดยขู่ว่าหากเขาไม่ยอมแสดง ทหารก็จะเผาโรงละครทิ้ง แต่เผยเยี่ยนจือรับคำอย่างไม่อิดออดและรับจัดแสดงเรื่อง ‘พัดดอกท้อ’ (桃花扇 / เถาฮวาซ่าน) ในคืนที่แสดงนั้น เผยเยี่ยนจืออยู่บนเวทีร้องออกมาว่า “จุดไฟ” กว่าทหารญี่ปุ่นจะรู้ตัวก็ถูกกักอยู่ในโรงละครที่ลุกเป็นไฟ เพราะก่อนหน้านี้คณะละครได้ราดน้ำมันเตรียมวางเพลิงไว้แล้ว ไฟลามไปเรื่อยๆ ทหารญี่ปุ่นพยายามหนีตายแต่หนีไม่พ้น ละครงิ้วก็แสดงไปเรื่อยๆ จวบจนลมหายใจเฮือกสุดท้ายของคณะละคร

    มันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดยใช้เผยเยี่ยนจือเป็นตัวแทนความรักชาติของประชาชนคนธรรมดา แต่เสน่ห์ของเพลงนี้คือความหมายหลายชั้นของคำที่ใช้ ยังมีอีกสองประเด็นที่จะทำให้เราเข้าใจเพลงนี้ได้ดียิ่งขึ้น

    ประเด็นแรกคือปูมหลังทางวัฒนธรรม มีวลีจีนโบราณกล่าวไว้ว่า ‘นางคณิกาไร้ใจ นักแสดงไร้คุณธรรม’ ซึ่งมีบริบททางสังคมที่ดูถูกนักแสดงว่าเป็นชนชั้นต่ำ ทำทุกอย่างได้เพื่อความอยู่รอด เราจะเห็นในเนื้อเพลงนี้ว่า นักแสดงละครรำพันว่าแม้ตัวเองด้อยค่า แต่มิใช่ไร้ใจภักดีต่อชาติบ้านเมือง

    ประเด็นที่สองคือเรื่องราวของ ‘พัดดอกท้อ’ มันเป็นละครงิ้วในสมัยชิงที่นิยมแสดงกันมาจวบปัจจุบัน เป็นเรื่องราวรักรันทดของหลี่เซียงจวินและโหวฟางอวี้

    หลี่เซียงจวินเป็นคณิกาชื่อดังสมัยปลายราชวงศ์หมิง อันเป็นช่วงเวลาที่ราชสำนักวุ่นวาย ขุนนางทุจริตมากมาย ชาวบ้านเดือดร้อน ทั้งยังถูกรุกรานจากแมนจู นางเป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาแห่งแม่น้ำฉินหวย เช่นเดียวกับหลิ่วหรูซื่อที่ Storyฯ เคยเขียนถึง (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0yKKz9BJs6VheqVhGF7RAW67QKyFaA3PEVX5j9zxCpdd4VCaNpFdXo3pbB2xkAS2wl)

    หลี่เซียงจวินเป็นลูกขุนนางที่ได้รับโทษเพราะไปมีส่วนพัวพันกับขบวนการต่อต้านขุนนางทุจริต ถูกเชื่อมโยงกลายเป็นต่อต้านราชสำนัก จึงถูกขายไปอยู่หอนางโลมเมื่ออายุเพียงแปดขวบ แต่ยังโชคดีที่แม่เล้ารับเป็นบุตรบุญธรรม จึงโตมาอย่างเพียบพร้อมด้านการศึกษาและความสามารถทางดนตรี เน้นขายศิลปะไม่ขายตัว นางพบรักกับโหวฟางอวี้ซึ่งเป็นราชบัณฑิตมาจากตระกูลขุนนาง แต่เพราะพ่อของเขามีส่วนพัวพันกับขบวนการต่อต้านขุนนางทุจริตและถูกกวาดล้างเช่นกัน ทางบ้านจึงตกอับยากจน ถึงขนาดต้องยืมเงินเพื่อนมาประมูลซื้อ ‘คืนแรก’ ของหลี่เซียงจวินเมื่อนางอายุครบสิบหกปี (เป็นธรรมเนียมของนางคณิกาสมัยนั้น เมื่ออายุสิบหกหากยังเป็นสาวพรหมจรรย์จะต้องเปิดประมูลซื้อตัว เป็นโอกาสที่จะได้แต่งงานเป็นฝั่งฝาไปกับผู้ชนะการประมูล แม้ว่าส่วนใหญ่เป็นได้เพียงอนุภรรยา) ต่อมาทั้งสองใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในหอนางโลมนั้นเอง

    พวกเขามารู้ความจริงทีหลังว่า เงินก้อนที่ยืมเพื่อนมานั้น จริงๆ แล้วเป็นเงินของหร่วนต้าเฉิง ขุนนางใจโหดที่กวาดล้างขบวนการต่อต้านราชสำนัก หร่วนต้าเฉิงประสงค์ใช้เงินก้อนนี้มาดึงโหวฟางอวี้เข้าเป็นพวกเพราะชื่นชมในความรู้ความสามารถของเขา แต่ทั้งคู่ไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับหร่วนต้าเฉิง หลี่เซียงจวินจึงขายเครื่องประดับเอาเงินมาใช้หนี้ สร้างความโกรธแค้นให้หร่วนต้าเฉิงไม่น้อย เขาแก้แค้นด้วยการยัดเยียดข้อหาจับกลุ่มเพื่อนของโหวฟางอวี้ขังคุก โหวฟางอวี้ตัดสินใจหนีไปเข้าร่วมกับกองกำลังรักชาติ ก่อนไปเขามอบพัดเป็นของแทนใจให้นาง หร่วนต้าเฉิงจึงเอาความแค้นมาลงที่หลี่เซียงจวินแทน เขาวางแผนบีบให้นางแต่งไปเป็นอนุของขุนนางใกล้ชิดของฮ่องเต้ แต่นางเอาหัวชนเสาจนเลือดสาดไปบนพัดสลบไป เกิดเป็นคดีความใหญ่โตแต่ก็นับว่าหนีรอดจากการแต่งงานครั้งนี้ได้ ต่อมาเพื่อนของโหวฟางอวี้ได้วาดลายดอกท้อทับไปบนรอยเลือดบนพัด เกิดเป็นชื่อ ‘พัดดอกท้อ’ นี้ขึ้นมา

    แต่เรื่องยังไม่จบ สุดท้ายหร่วนต้าเฉิงวางแผนทำให้หลี่เซียงจวินถูกรับเข้าวังเป็นสนม เมื่อพระราชวังถูกตีแตก นางหนีรอดออกมาได้แต่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้คลาดกันกับโหวฟางอวี้ที่ย้อนกลับมาหานาง เรื่องเล่าบั้นปลายชีวิตของนางมีหลายเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นหนึ่งคือต่อมานางป่วยหนักจนตาย ทิ้งไว้เพียงพัดที่เปื้อนเลือดให้โหวฟางอวี้ดูต่างหน้า

    ส่วนโหวฟางอวี้นั้นอยู่กับกองกำลังรักชาติ แต่สุดท้ายชาติล่มสลาย บั้นปลายชีวิตไม่เหลือใคร จึงปลงผมออกบวช วรรคที่ถูกพูดเป็นงิ้วในเพลงนักแสดงสีชาดนี้ สื่อถึงการปล่อยวางความรักหญิงชาย เป็นวรรคที่ยกมาจากบทละครงิ้วเรื่องพัดดอกท้อในตอนที่เขาออกบวชนี้เอง

    เพลงหนึ่งเพลงกับเรื่องราวซ้อนกันสองชั้น บนเวทีแสดงเรื่องราวรักรันทดพลัดพรากให้คนชม นักแสดงอยู่บนเวทีก็มองดูเรื่องราวบ้านเมืองที่เกิดขึ้นข้างล่างเวที ส่วนคนฟังอย่างเราก็ดูทั้งเรื่องราวบนและล่างเวที คงจะกล่าวได้ว่า ‘นักแสดงสีชาด’ เป็นเพลงที่สะท้อนถึงสัจธรรมชีวิต... แท้จริงแล้วโลกเรานี้คือละคร เรามองคนอื่น คนอื่นก็มองเรา

    เข้าใจความหมายและเรื่องราวแล้ว ลองอ่านคำแปลเนื้อเพลงอีกครั้งและเชิญเพื่อนเพจอินกับเพลงกันได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=wIyq_jTZsBY&list=WL&index=245 หรือหาฟังเวอร์ชั่นอื่นได้ด้วยชื่อเพลง 赤伶 ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.jitapuji.com/5258.html
    https://www.art-mate.net/doc/63311?name=千珊粵劇工作坊《桃花扇》
    https://ppfocus.com/0/en57cfaab.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://kknews.cc/news/8yly6nl.html
    https://www.sohu.com/a/475761718_120934298#google_vignette
    https://baike.baidu.com/item/侯方域/380394
    https://baike.baidu.com/item/桃花扇/5499
    https://shidian.baike.com/wikiid/7245205732429414461?prd=mobile&anchor=lj2jc6p91rp7
    https://so.gushiwen.cn/guwen/bookv_46653FD803893E4F8F70CCD565152E14.aspx

    #ชึหลิง #HITA #หลี่เซียงจวิน #โหวเซียงอวี้ #พัดดอกท้อ #เถาฮวาซ่าน
    ผ่านกันมานานเป็นเดือนกับบทความชุดเรื่องราวสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) จากละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ยังคุยกันไม่ครบสิบสองภาพ แต่ขอคั่นเปลี่ยนเรื่องคุยกันบ้าง เรื่องที่จะคุยในวันนี้ไม่เกี่ยวกับละครหรือนวนิยาย แต่เป็นเรื่องเล่าจากเพลงที่ Storyฯ ชอบมากเพลงหนึ่ง เพลงนี้โด่งดังในประเทศจีนมาตั้งแต่ปี 2018 เป็นเพลงที่มีเอกลักษณ์เพราะมีกลิ่นอายของงิ้วแฝงอยู่ มีชื่อว่า ‘ชึหลิง’ (赤伶) หรือ ‘นักแสดงสีชาด’ ร้องโดย HITA แต่งเนื้อร้องโดย ชิงเยี่ยน (清彦) ดนตรีโดย หลี่เจี้ยนเหิง (李建衡) ต่อมามีหลายคนนำมาขับร้อง ทั้งที่เปลี่ยนเนื้อร้องและทั้งที่ใช้เนื้อร้องเดิม เชื่อว่าคงมีเพื่อนเพจบางท่านเคยได้ยิน แต่ Storyฯ มั่นใจว่าน้อยคนนักจะทราบถึงเรื่องราวที่แฝงไว้ในเพลงนี้ ‘หลิง’ หมายถึงนักแสดงละครงิ้ว ส่วน ‘ชึ’ แปลตรงตัวว่าสีแดงชาด และอาจย่อมาจากคำว่า ‘ชึซิน’ ที่แปลว่าใจที่จงรักภักดีหรือปณิธานแรงกล้า ชื่อเพลงที่สั้นเพียงสองอักษรแต่มีความหมายสองชั้น เนื้อเพลงก็แฝงความหมายสองสามชั้นเช่นกัน เนื้อเพลงค่อนข้างยาว Storyฯ ขอแปลไว้ในรูปภาพที่สองแทน บางคำแปลอย่างตรงตัวเพื่อให้เพื่อนเพจได้ตีความและเห็นถึงเสน่ห์ของความหมายหลายชั้นของเพลงนี้ เรื่องราวเบื้องหลังของเนื้อเพลง ‘นักแสดงสีชาด’ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นอิงประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่ญี่ปุ่นเข้าบุกและยึดครองหลายพื้นที่ของจีน กล่าวถึงนักแสดงงิ้วนามว่า เผยเยี่ยนจือ ที่โด่งดังในเมืองอันหย่วน เขาถูกทหารญี่ปุ่นเชิญแกมบังคับให้ขึ้นแสดงงิ้ว โดยขู่ว่าหากเขาไม่ยอมแสดง ทหารก็จะเผาโรงละครทิ้ง แต่เผยเยี่ยนจือรับคำอย่างไม่อิดออดและรับจัดแสดงเรื่อง ‘พัดดอกท้อ’ (桃花扇 / เถาฮวาซ่าน) ในคืนที่แสดงนั้น เผยเยี่ยนจืออยู่บนเวทีร้องออกมาว่า “จุดไฟ” กว่าทหารญี่ปุ่นจะรู้ตัวก็ถูกกักอยู่ในโรงละครที่ลุกเป็นไฟ เพราะก่อนหน้านี้คณะละครได้ราดน้ำมันเตรียมวางเพลิงไว้แล้ว ไฟลามไปเรื่อยๆ ทหารญี่ปุ่นพยายามหนีตายแต่หนีไม่พ้น ละครงิ้วก็แสดงไปเรื่อยๆ จวบจนลมหายใจเฮือกสุดท้ายของคณะละคร มันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดยใช้เผยเยี่ยนจือเป็นตัวแทนความรักชาติของประชาชนคนธรรมดา แต่เสน่ห์ของเพลงนี้คือความหมายหลายชั้นของคำที่ใช้ ยังมีอีกสองประเด็นที่จะทำให้เราเข้าใจเพลงนี้ได้ดียิ่งขึ้น ประเด็นแรกคือปูมหลังทางวัฒนธรรม มีวลีจีนโบราณกล่าวไว้ว่า ‘นางคณิกาไร้ใจ นักแสดงไร้คุณธรรม’ ซึ่งมีบริบททางสังคมที่ดูถูกนักแสดงว่าเป็นชนชั้นต่ำ ทำทุกอย่างได้เพื่อความอยู่รอด เราจะเห็นในเนื้อเพลงนี้ว่า นักแสดงละครรำพันว่าแม้ตัวเองด้อยค่า แต่มิใช่ไร้ใจภักดีต่อชาติบ้านเมือง ประเด็นที่สองคือเรื่องราวของ ‘พัดดอกท้อ’ มันเป็นละครงิ้วในสมัยชิงที่นิยมแสดงกันมาจวบปัจจุบัน เป็นเรื่องราวรักรันทดของหลี่เซียงจวินและโหวฟางอวี้ หลี่เซียงจวินเป็นคณิกาชื่อดังสมัยปลายราชวงศ์หมิง อันเป็นช่วงเวลาที่ราชสำนักวุ่นวาย ขุนนางทุจริตมากมาย ชาวบ้านเดือดร้อน ทั้งยังถูกรุกรานจากแมนจู นางเป็นหนึ่งในสุดยอดแปดนางคณิกาแห่งแม่น้ำฉินหวย เช่นเดียวกับหลิ่วหรูซื่อที่ Storyฯ เคยเขียนถึง (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0yKKz9BJs6VheqVhGF7RAW67QKyFaA3PEVX5j9zxCpdd4VCaNpFdXo3pbB2xkAS2wl) หลี่เซียงจวินเป็นลูกขุนนางที่ได้รับโทษเพราะไปมีส่วนพัวพันกับขบวนการต่อต้านขุนนางทุจริต ถูกเชื่อมโยงกลายเป็นต่อต้านราชสำนัก จึงถูกขายไปอยู่หอนางโลมเมื่ออายุเพียงแปดขวบ แต่ยังโชคดีที่แม่เล้ารับเป็นบุตรบุญธรรม จึงโตมาอย่างเพียบพร้อมด้านการศึกษาและความสามารถทางดนตรี เน้นขายศิลปะไม่ขายตัว นางพบรักกับโหวฟางอวี้ซึ่งเป็นราชบัณฑิตมาจากตระกูลขุนนาง แต่เพราะพ่อของเขามีส่วนพัวพันกับขบวนการต่อต้านขุนนางทุจริตและถูกกวาดล้างเช่นกัน ทางบ้านจึงตกอับยากจน ถึงขนาดต้องยืมเงินเพื่อนมาประมูลซื้อ ‘คืนแรก’ ของหลี่เซียงจวินเมื่อนางอายุครบสิบหกปี (เป็นธรรมเนียมของนางคณิกาสมัยนั้น เมื่ออายุสิบหกหากยังเป็นสาวพรหมจรรย์จะต้องเปิดประมูลซื้อตัว เป็นโอกาสที่จะได้แต่งงานเป็นฝั่งฝาไปกับผู้ชนะการประมูล แม้ว่าส่วนใหญ่เป็นได้เพียงอนุภรรยา) ต่อมาทั้งสองใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในหอนางโลมนั้นเอง พวกเขามารู้ความจริงทีหลังว่า เงินก้อนที่ยืมเพื่อนมานั้น จริงๆ แล้วเป็นเงินของหร่วนต้าเฉิง ขุนนางใจโหดที่กวาดล้างขบวนการต่อต้านราชสำนัก หร่วนต้าเฉิงประสงค์ใช้เงินก้อนนี้มาดึงโหวฟางอวี้เข้าเป็นพวกเพราะชื่นชมในความรู้ความสามารถของเขา แต่ทั้งคู่ไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับหร่วนต้าเฉิง หลี่เซียงจวินจึงขายเครื่องประดับเอาเงินมาใช้หนี้ สร้างความโกรธแค้นให้หร่วนต้าเฉิงไม่น้อย เขาแก้แค้นด้วยการยัดเยียดข้อหาจับกลุ่มเพื่อนของโหวฟางอวี้ขังคุก โหวฟางอวี้ตัดสินใจหนีไปเข้าร่วมกับกองกำลังรักชาติ ก่อนไปเขามอบพัดเป็นของแทนใจให้นาง หร่วนต้าเฉิงจึงเอาความแค้นมาลงที่หลี่เซียงจวินแทน เขาวางแผนบีบให้นางแต่งไปเป็นอนุของขุนนางใกล้ชิดของฮ่องเต้ แต่นางเอาหัวชนเสาจนเลือดสาดไปบนพัดสลบไป เกิดเป็นคดีความใหญ่โตแต่ก็นับว่าหนีรอดจากการแต่งงานครั้งนี้ได้ ต่อมาเพื่อนของโหวฟางอวี้ได้วาดลายดอกท้อทับไปบนรอยเลือดบนพัด เกิดเป็นชื่อ ‘พัดดอกท้อ’ นี้ขึ้นมา แต่เรื่องยังไม่จบ สุดท้ายหร่วนต้าเฉิงวางแผนทำให้หลี่เซียงจวินถูกรับเข้าวังเป็นสนม เมื่อพระราชวังถูกตีแตก นางหนีรอดออกมาได้แต่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้คลาดกันกับโหวฟางอวี้ที่ย้อนกลับมาหานาง เรื่องเล่าบั้นปลายชีวิตของนางมีหลายเวอร์ชั่น เวอร์ชั่นหนึ่งคือต่อมานางป่วยหนักจนตาย ทิ้งไว้เพียงพัดที่เปื้อนเลือดให้โหวฟางอวี้ดูต่างหน้า ส่วนโหวฟางอวี้นั้นอยู่กับกองกำลังรักชาติ แต่สุดท้ายชาติล่มสลาย บั้นปลายชีวิตไม่เหลือใคร จึงปลงผมออกบวช วรรคที่ถูกพูดเป็นงิ้วในเพลงนักแสดงสีชาดนี้ สื่อถึงการปล่อยวางความรักหญิงชาย เป็นวรรคที่ยกมาจากบทละครงิ้วเรื่องพัดดอกท้อในตอนที่เขาออกบวชนี้เอง เพลงหนึ่งเพลงกับเรื่องราวซ้อนกันสองชั้น บนเวทีแสดงเรื่องราวรักรันทดพลัดพรากให้คนชม นักแสดงอยู่บนเวทีก็มองดูเรื่องราวบ้านเมืองที่เกิดขึ้นข้างล่างเวที ส่วนคนฟังอย่างเราก็ดูทั้งเรื่องราวบนและล่างเวที คงจะกล่าวได้ว่า ‘นักแสดงสีชาด’ เป็นเพลงที่สะท้อนถึงสัจธรรมชีวิต... แท้จริงแล้วโลกเรานี้คือละคร เรามองคนอื่น คนอื่นก็มองเรา เข้าใจความหมายและเรื่องราวแล้ว ลองอ่านคำแปลเนื้อเพลงอีกครั้งและเชิญเพื่อนเพจอินกับเพลงกันได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=wIyq_jTZsBY&list=WL&index=245 หรือหาฟังเวอร์ชั่นอื่นได้ด้วยชื่อเพลง 赤伶 ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.jitapuji.com/5258.html https://www.art-mate.net/doc/63311?name=千珊粵劇工作坊《桃花扇》 https://ppfocus.com/0/en57cfaab.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://kknews.cc/news/8yly6nl.html https://www.sohu.com/a/475761718_120934298#google_vignette https://baike.baidu.com/item/侯方域/380394 https://baike.baidu.com/item/桃花扇/5499 https://shidian.baike.com/wikiid/7245205732429414461?prd=mobile&anchor=lj2jc6p91rp7 https://so.gushiwen.cn/guwen/bookv_46653FD803893E4F8F70CCD565152E14.aspx #ชึหลิง #HITA #หลี่เซียงจวิน #โหวเซียงอวี้ #พัดดอกท้อ #เถาฮวาซ่าน
    0 Comments 0 Shares 1098 Views 0 Reviews
  • ลุงงงมากว่าทำไม Apple ที่เคยแข็งมาตลอดแม้แต่ FBI ก็ยังไม่เคยยอมให้ แต่ทำไมกรณีนี้ถึงได้ยอมง่ายจัง

    Apple ประกาศยกเลิกฟีเจอร์ Advanced Data Protection (ADP) สำหรับผู้ใช้ใหม่ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานการเข้ารหัสแบบ end-to-end ของข้อมูล iCloud การตัดสินใจนี้มีสาเหตุมาจากการร้องขอจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรให้ Apple สร้างช่องทาง (backdoor) เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสของผู้ใช้ Apple ทั่วโลก

    Apple กล่าวว่าฟีเจอร์ ADP ทำให้ข้อมูล iCloud ถูกเข้ารหัสและสามารถถอดรหัสได้เพียงแค่ผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของเท่านั้น บริษัทแสดงความผิดหวังว่าไม่สามารถให้การป้องกันที่มีความปลอดภัยสูงให้กับผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การรั่วไหลของข้อมูลและภัยคุกคามต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    นอกจากนี้ Apple ยังระบุว่า บริษัทไม่เคยสร้าง backdoor หรือ master key สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการใด ๆ และไม่เคยให้รัฐบาลเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์โดยตรง และจะไม่ทำเช่นนั้นในอนาคต ผู้ใช้ที่พยายามเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้จะเห็นข้อความแจ้งว่า “Apple ไม่สามารถให้บริการ ADP ในสหราชอาณาจักรได้สำหรับผู้ใช้ใหม่”

    แม้ว่าบริษัทจะไม่สามารถปิดฟีเจอร์ ADP สำหรับผู้ใช้ปัจจุบันในสหราชอาณาจักรได้ทันที แต่ผู้ใช้จะต้องปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เพื่อใช้งานบัญชี iCloud ต่อไปโดยทำตามคำแนะนำที่ Apple จะให้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม บริการสื่อสารของ Apple เช่น iMessage และ FaceTime รวมถึงข้อมูล Health และ iCloud Keychain จะยังคงใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end ในสหราชอาณาจักร

    ฟีเจอร์ ADP ยังคงสามารถใช้ได้สำหรับลูกค้าทั่วโลกที่ต้องการความปลอดภัยในการเข้ารหัสข้อมูล iCloud ของพวกเขา

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/apple-pulls-icloud-end-to-end-encryption-feature-in-the-uk/
    ลุงงงมากว่าทำไม Apple ที่เคยแข็งมาตลอดแม้แต่ FBI ก็ยังไม่เคยยอมให้ แต่ทำไมกรณีนี้ถึงได้ยอมง่ายจัง Apple ประกาศยกเลิกฟีเจอร์ Advanced Data Protection (ADP) สำหรับผู้ใช้ใหม่ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เปิดใช้งานการเข้ารหัสแบบ end-to-end ของข้อมูล iCloud การตัดสินใจนี้มีสาเหตุมาจากการร้องขอจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรให้ Apple สร้างช่องทาง (backdoor) เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่เข้ารหัสของผู้ใช้ Apple ทั่วโลก Apple กล่าวว่าฟีเจอร์ ADP ทำให้ข้อมูล iCloud ถูกเข้ารหัสและสามารถถอดรหัสได้เพียงแค่ผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของเท่านั้น บริษัทแสดงความผิดหวังว่าไม่สามารถให้การป้องกันที่มีความปลอดภัยสูงให้กับผู้ใช้ในสหราชอาณาจักรได้ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่การรั่วไหลของข้อมูลและภัยคุกคามต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Apple ยังระบุว่า บริษัทไม่เคยสร้าง backdoor หรือ master key สำหรับผลิตภัณฑ์หรือบริการใด ๆ และไม่เคยให้รัฐบาลเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์โดยตรง และจะไม่ทำเช่นนั้นในอนาคต ผู้ใช้ที่พยายามเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้จะเห็นข้อความแจ้งว่า “Apple ไม่สามารถให้บริการ ADP ในสหราชอาณาจักรได้สำหรับผู้ใช้ใหม่” แม้ว่าบริษัทจะไม่สามารถปิดฟีเจอร์ ADP สำหรับผู้ใช้ปัจจุบันในสหราชอาณาจักรได้ทันที แต่ผู้ใช้จะต้องปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เพื่อใช้งานบัญชี iCloud ต่อไปโดยทำตามคำแนะนำที่ Apple จะให้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม บริการสื่อสารของ Apple เช่น iMessage และ FaceTime รวมถึงข้อมูล Health และ iCloud Keychain จะยังคงใช้การเข้ารหัสแบบ end-to-end ในสหราชอาณาจักร ฟีเจอร์ ADP ยังคงสามารถใช้ได้สำหรับลูกค้าทั่วโลกที่ต้องการความปลอดภัยในการเข้ารหัสข้อมูล iCloud ของพวกเขา https://www.bleepingcomputer.com/news/security/apple-pulls-icloud-end-to-end-encryption-feature-in-the-uk/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Apple pulls iCloud end-to-end encryption feature in the UK
    Apple will no longer offer iCloud end-to-end encryption in the United Kingdom after the government requested a backdoor to access Apple customers' encrypted cloud data.
    0 Comments 0 Shares 316 Views 0 Reviews
  • วันนี้มาคุยกันต่อถึงสิบสองภาพวาดที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดามเหสี เรียกรวมว่า ‘กงซวิ่นถู’ (宫训图 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+ภาพ) พร้อมป้ายอักษรอันเป็นตัวแทนของบทกวี ‘กงซวิ่นซือ’ (宫训诗 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+บทกวี) ภาพเหล่านี้ล้วนเป็นภาพฮองเฮา / มเหสี / พระชายาที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ว่ามีคุณงามความดี

    สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงภาพแรกคือภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ ที่ทรงพระราชทานให้ฮองเฮาเซี่ยวเสียนฉุน (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0Ery63dJM9QctgcUQWchqzEPMugvq12HANhduAUpojWfR2GjQctaJRpxAjBzsD6NWl)

    แต่พอ Storyฯ จะเขียนถึงภาพถัดไปก็เริ่มเกิดความยาก... ปัญหาคือว่า ละครเรื่องนี้แม้อ้างอิงจากเรื่องจริงแต่ตัวละครและชื่อตำหนักที่ประทับได้ถูกปรับเปลี่ยนไปบ้าง และข้อมูลเกี่ยวกับภาพวาดที่ Storyฯ หาเจอจะอิงตามชื่อตำหนัก

    Storyฯ เลยคิดว่า ก่อนจะไปกันต่อ เอาภาพมาให้เพื่อนเพจดูกันก่อนว่าพระราชวังต่างๆ ตั้งอยู่ที่ไหนกันบ้าง (ดูรูปประกอบ3) ซึ่งที่บอกว่าฮองเฮากุมอำนาจหกวังหรือ ‘ลิ่วกง’ แห่งวังหลังนั้น ‘หกวัง’ นั้นจริงๆ หมายถึงสิบสองวังหรือตำหนัก แบ่งเป็นหกตำหนักฝั่งตะวันออกและหกตำหนักตะวันตก ตรงกลางของวังหลังคือพระตำหนักเฉียนชิงกง ซึ่งเป็นที่ประทับและทรงงานของฮ่องเต้ (แต่ตั้งแต่รัชสมัยของยงเจิ้งเป็นต้นมา ฮ่องเต้จะเสด็จไปบรรทมที่พระที่นั่งหยั่งซินแทน) ตำหนักไหนอยู่ตรงไหนดูจากภาพประกอบกันได้เลยนะคะ

    วันนี้คุยกันเรื่องภาพที่สอง คือภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 ) แปลได้ว่าประมาณว่า ปันจีผู้งามมารยาท ภาพนี้ในนิยายต้นฉบับของ <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ได้ถูกพระราชทานไปให้เกากุ้ยเฟย (ในนิยายคือฮุ่ยกุ้ยเฟย) ที่พระตำหนักฉู่ซิ่วกง (ในซีรีย์บอกเป็นอีกภาพหนึ่ง) แต่ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> เกากุ้ยเฟยประทับที่พระตำหนักเสียนฝูกง ท่ามกลางความสับสนของชื่อภาพและชื่อพระตำหนักนี้ Storyฯ ยึดตามที่มีกล่าวถึงจากข้อมูลที่หาได้ว่า ภาพนี้ถูกแขวนไว้ที่พระตำหนักหย่งโซ่วกง (พระตำหนักของพระนางฮุ่ยเสียนหวงกุ้ยเฟย ผู้ซึ่งว่ากันว่าเป็นต้นแบบของเกากุ้ยเฟยในละคร)

    ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ ที่องค์เฉียนหลงทรงให้จัดวาดขึ้นนั้นหน้าตาที่แท้จริงเป็นอย่างไร Storyฯ ก็หาไม่พบ พบแต่ภาพดั้งเดิมของเรื่อง ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (ดูรูปประกอบ1) ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของภาพม้วนยาวที่มีชื่อเรียกว่าภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ ดูรูปประกอบ2) อันเป็นผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งเดิมมี 12 ตอนแต่สูญหายไปแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอก 9 ตอนสองชุด ชุดหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม เป็นภาพที่จัดทำขึ้นสมัยซ่ง และอีกชุดหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum) เป็นภาพที่จัดทำในสมัยถัง ภาพทั้งสองมีความยาวเกือบ 3.5 เมตร เป็นภาพที่ถูกยกย่องว่านำเสนอวิถีชีวิตเหล่านางในตำแหน่งต่างๆ ออกมาได้ดี ไม่ว่าจะการวางตัวหรือสีหน้าสีตา

    ทั้งนี้ ภาพเต็ม ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นภาพที่วาดขึ้นในสมัยราชวงศ์จิ้น โดยมีเนื้อหาเป็นเรื่องเล่าในรัชสมัยฮั่นเฉิงตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ปี 52-7 ก่อนคริสตกาล) กล่าวถึงเมื่อครั้งฮั่นเฉิงตี้เสด็จประพาสทอดพระเนตรสัตว์สู้กัน โดยมีนางในและพระโอรสตามเสด็จ

    ‘ปันจี’ คือใคร? นางคือพระนางปันเจี๋ยอวี๋ (หมายเหตุ ตำแหน่งเจี๋ยอวี๋นี้ บางคนเคยแปลว่าอัครเทวี บางคนแปลว่าราชเทวี Storyฯ ก็ไม่สันทัดว่าควรเรียกว่าอย่างไรจึงจะถูกต้อง) ชื่อเดิมว่า ‘ปันเถียน’ เริ่มเข้าวังทำหน้าที่เป็นข้าราชสำนักหญิงหรือที่เรียกว่าตำแหน่ง ‘หนีว์สื่อ’ มีหน้าที่ถวายงานด้านอักษรให้แก่ฮองเฮา รวมถึงงานบันทึกผลงานและความผิดของสตรีฝ่ายในและงานด้านพิธีการฝ่ายใน ต่อมาได้เป็นสนมรับใช้ฮั่นเฉิงตี้และสุดท้ายได้รับตำแหน่งเจี๋ยอวี๋ นางถูกจารึกไว้ว่าเป็นกวีและนักอักษรศาสตร์ที่เลื่องชื่อ มีผลงานตกทอดมาจนปัจจุบันหลายชิ้น

    ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ นี้เป็นตอนที่สองของภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นเรื่องราวสมัยที่พระนางยังเป็นที่โปรดปรานของฮั่นเฉิงตี้ ใจความคือองค์ฮั่นเฉิงตี้ทรงโปรดให้ใช้พระราชรถม้าขนาดใหญ่มากในการประพาสครั้งนี้เพื่อจะได้ให้พระนางปันโดยเสด็จด้วยบนรถ แต่พระนางทรงปฏิเสธ โดยอธิบายว่าแต่ไหนแต่ไรมา คนอื่นๆ ต้องเดินตามเสด็จอยู่ด้านข้างขบวน และในประวัติศาสตร์แม้มีกษัตริย์บางพระองค์ที่ให้พระภรรยาหรือสนมประทับร่วมบนพระราชรถ แต่กษัตริย์เหล่านั้นสุดท้ายล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย พระนางทรงไม่ต้องการให้ผู้ใดไปเล่ากันต่อในทางที่ไม่ดีว่าองค์ฮั่นเฉิงตี้มัวเมาในสตรีจนอาจเป็นเหตุให้บ้านเมืองต้องอับจนในอนาคต เหตุการณ์นี้ทำให้พระนางถูกยกย่องว่าเป็นคนที่สงบเสงี่ยมแม้จะได้รับความโปรดปรานจากองค์ฮ่องเต้ วางพระองค์ได้ดี รู้ขนบทำเนียมหน้าที่และรู้ว่าอะไรควรไม่ควร

    ภาพนี้ถูกชื่นชมว่าสามารถบรรยายความรู้สึกหลากหลายออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอพระทัยแต่จำยอมขององค์ฮั่นเฉิงตี้หรือการเบือนพักตร์ลอบไม่พอพระทัยของฮองเฮา โดยฉพาะภาพลักษณ์ของปันเจี๋ยอวี๋ในภาพนี้ ดูสูงส่งเรียบร้อย สมกับที่พระนางถูกยกย่องให้เป็นแบบอย่างแห่งสตรีผู้มีจริยวัตรงดงาม

    ส่วนป้ายอักษรที่องค์เฉียนหลงทรงพระราชทานคู่กับป้ายนี้คือ ‘ลิ่งอี๋ซูเต๋อ’ (令仪淑德) แปลได้ประมาณว่า เคารพพิธีการและวางตนให้ดีมีจริยวัตรงดงาม

    ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> นี้ เกากุ้ยเฟยตีความจากภาพนี้ว่า เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงตำหนิที่นางวางองค์ไม่ดีจึงทรงพระราชทานภาพนี้มาเตือนสติ แต่เจียผินปลอบพระนางว่า จริงๆ แล้วภาพทั้งสิบสองสะท้อนถึงคุณสมบัติที่เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงคาดหวังจากเหล่ามเหสีและสนมทั้งหมด เพื่อนเพจคิดว่าไงคะ?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.sohu.com/a/242329927_100034915
    https://zhuanlan.zhihu.com/p/44523682
    https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=5c29a1b9368965f14d877c95
    http://www.obj.cc/thread-69013-1-1.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.takungpao.com/culture/237140/2019/1207/387125.html
    https://baike.baidu.com/item/女史箴图
    https://baike.baidu.com/item/班姬辞辇/360901

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เกากุ้ยเฟย #ปันจีฉือเหนี่ยน #ปันเจวี๋ยอี๋ #กงซวิ่นถู #หกตำหนักวังหลัง #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    วันนี้มาคุยกันต่อถึงสิบสองภาพวาดที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดามเหสี เรียกรวมว่า ‘กงซวิ่นถู’ (宫训图 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+ภาพ) พร้อมป้ายอักษรอันเป็นตัวแทนของบทกวี ‘กงซวิ่นซือ’ (宫训诗 แปลตรงตัวว่า พระราชวัง+คำสอน+บทกวี) ภาพเหล่านี้ล้วนเป็นภาพฮองเฮา / มเหสี / พระชายาที่มีชื่อในประวัติศาสตร์ว่ามีคุณงามความดี สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึงภาพแรกคือภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ ที่ทรงพระราชทานให้ฮองเฮาเซี่ยวเสียนฉุน (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid0Ery63dJM9QctgcUQWchqzEPMugvq12HANhduAUpojWfR2GjQctaJRpxAjBzsD6NWl) แต่พอ Storyฯ จะเขียนถึงภาพถัดไปก็เริ่มเกิดความยาก... ปัญหาคือว่า ละครเรื่องนี้แม้อ้างอิงจากเรื่องจริงแต่ตัวละครและชื่อตำหนักที่ประทับได้ถูกปรับเปลี่ยนไปบ้าง และข้อมูลเกี่ยวกับภาพวาดที่ Storyฯ หาเจอจะอิงตามชื่อตำหนัก Storyฯ เลยคิดว่า ก่อนจะไปกันต่อ เอาภาพมาให้เพื่อนเพจดูกันก่อนว่าพระราชวังต่างๆ ตั้งอยู่ที่ไหนกันบ้าง (ดูรูปประกอบ3) ซึ่งที่บอกว่าฮองเฮากุมอำนาจหกวังหรือ ‘ลิ่วกง’ แห่งวังหลังนั้น ‘หกวัง’ นั้นจริงๆ หมายถึงสิบสองวังหรือตำหนัก แบ่งเป็นหกตำหนักฝั่งตะวันออกและหกตำหนักตะวันตก ตรงกลางของวังหลังคือพระตำหนักเฉียนชิงกง ซึ่งเป็นที่ประทับและทรงงานของฮ่องเต้ (แต่ตั้งแต่รัชสมัยของยงเจิ้งเป็นต้นมา ฮ่องเต้จะเสด็จไปบรรทมที่พระที่นั่งหยั่งซินแทน) ตำหนักไหนอยู่ตรงไหนดูจากภาพประกอบกันได้เลยนะคะ วันนี้คุยกันเรื่องภาพที่สอง คือภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 ) แปลได้ว่าประมาณว่า ปันจีผู้งามมารยาท ภาพนี้ในนิยายต้นฉบับของ <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ได้ถูกพระราชทานไปให้เกากุ้ยเฟย (ในนิยายคือฮุ่ยกุ้ยเฟย) ที่พระตำหนักฉู่ซิ่วกง (ในซีรีย์บอกเป็นอีกภาพหนึ่ง) แต่ในเรื่อง <หรูอี้จอมนางเคียงบัลลังก์> เกากุ้ยเฟยประทับที่พระตำหนักเสียนฝูกง ท่ามกลางความสับสนของชื่อภาพและชื่อพระตำหนักนี้ Storyฯ ยึดตามที่มีกล่าวถึงจากข้อมูลที่หาได้ว่า ภาพนี้ถูกแขวนไว้ที่พระตำหนักหย่งโซ่วกง (พระตำหนักของพระนางฮุ่ยเสียนหวงกุ้ยเฟย ผู้ซึ่งว่ากันว่าเป็นต้นแบบของเกากุ้ยเฟยในละคร) ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ ที่องค์เฉียนหลงทรงให้จัดวาดขึ้นนั้นหน้าตาที่แท้จริงเป็นอย่างไร Storyฯ ก็หาไม่พบ พบแต่ภาพดั้งเดิมของเรื่อง ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (ดูรูปประกอบ1) ซึ่งเป็นตอนหนึ่งของภาพม้วนยาวที่มีชื่อเรียกว่าภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ (女史箴图 / ข้าราชสำนักหญิงเตือนสติ ดูรูปประกอบ2) อันเป็นผลงานของกู้ข่ายจือ ซึ่งเดิมมี 12 ตอนแต่สูญหายไปแล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงฉบับคัดลอก 9 ตอนสองชุด ชุดหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วังต้องห้าม เป็นภาพที่จัดทำขึ้นสมัยซ่ง และอีกชุดหนึ่งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์บริติช (British Museum) เป็นภาพที่จัดทำในสมัยถัง ภาพทั้งสองมีความยาวเกือบ 3.5 เมตร เป็นภาพที่ถูกยกย่องว่านำเสนอวิถีชีวิตเหล่านางในตำแหน่งต่างๆ ออกมาได้ดี ไม่ว่าจะการวางตัวหรือสีหน้าสีตา ทั้งนี้ ภาพเต็ม ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นภาพที่วาดขึ้นในสมัยราชวงศ์จิ้น โดยมีเนื้อหาเป็นเรื่องเล่าในรัชสมัยฮั่นเฉิงตี้แห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันตก (ปี 52-7 ก่อนคริสตกาล) กล่าวถึงเมื่อครั้งฮั่นเฉิงตี้เสด็จประพาสทอดพระเนตรสัตว์สู้กัน โดยมีนางในและพระโอรสตามเสด็จ ‘ปันจี’ คือใคร? นางคือพระนางปันเจี๋ยอวี๋ (หมายเหตุ ตำแหน่งเจี๋ยอวี๋นี้ บางคนเคยแปลว่าอัครเทวี บางคนแปลว่าราชเทวี Storyฯ ก็ไม่สันทัดว่าควรเรียกว่าอย่างไรจึงจะถูกต้อง) ชื่อเดิมว่า ‘ปันเถียน’ เริ่มเข้าวังทำหน้าที่เป็นข้าราชสำนักหญิงหรือที่เรียกว่าตำแหน่ง ‘หนีว์สื่อ’ มีหน้าที่ถวายงานด้านอักษรให้แก่ฮองเฮา รวมถึงงานบันทึกผลงานและความผิดของสตรีฝ่ายในและงานด้านพิธีการฝ่ายใน ต่อมาได้เป็นสนมรับใช้ฮั่นเฉิงตี้และสุดท้ายได้รับตำแหน่งเจี๋ยอวี๋ นางถูกจารึกไว้ว่าเป็นกวีและนักอักษรศาสตร์ที่เลื่องชื่อ มีผลงานตกทอดมาจนปัจจุบันหลายชิ้น ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ นี้เป็นตอนที่สองของภาพ ‘หนีว์สื่อเจิน’ เป็นเรื่องราวสมัยที่พระนางยังเป็นที่โปรดปรานของฮั่นเฉิงตี้ ใจความคือองค์ฮั่นเฉิงตี้ทรงโปรดให้ใช้พระราชรถม้าขนาดใหญ่มากในการประพาสครั้งนี้เพื่อจะได้ให้พระนางปันโดยเสด็จด้วยบนรถ แต่พระนางทรงปฏิเสธ โดยอธิบายว่าแต่ไหนแต่ไรมา คนอื่นๆ ต้องเดินตามเสด็จอยู่ด้านข้างขบวน และในประวัติศาสตร์แม้มีกษัตริย์บางพระองค์ที่ให้พระภรรยาหรือสนมประทับร่วมบนพระราชรถ แต่กษัตริย์เหล่านั้นสุดท้ายล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่ทำให้ราชวงศ์ล่มสลาย พระนางทรงไม่ต้องการให้ผู้ใดไปเล่ากันต่อในทางที่ไม่ดีว่าองค์ฮั่นเฉิงตี้มัวเมาในสตรีจนอาจเป็นเหตุให้บ้านเมืองต้องอับจนในอนาคต เหตุการณ์นี้ทำให้พระนางถูกยกย่องว่าเป็นคนที่สงบเสงี่ยมแม้จะได้รับความโปรดปรานจากองค์ฮ่องเต้ วางพระองค์ได้ดี รู้ขนบทำเนียมหน้าที่และรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ภาพนี้ถูกชื่นชมว่าสามารถบรรยายความรู้สึกหลากหลายออกมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอพระทัยแต่จำยอมขององค์ฮั่นเฉิงตี้หรือการเบือนพักตร์ลอบไม่พอพระทัยของฮองเฮา โดยฉพาะภาพลักษณ์ของปันเจี๋ยอวี๋ในภาพนี้ ดูสูงส่งเรียบร้อย สมกับที่พระนางถูกยกย่องให้เป็นแบบอย่างแห่งสตรีผู้มีจริยวัตรงดงาม ส่วนป้ายอักษรที่องค์เฉียนหลงทรงพระราชทานคู่กับป้ายนี้คือ ‘ลิ่งอี๋ซูเต๋อ’ (令仪淑德) แปลได้ประมาณว่า เคารพพิธีการและวางตนให้ดีมีจริยวัตรงดงาม ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> นี้ เกากุ้ยเฟยตีความจากภาพนี้ว่า เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงตำหนิที่นางวางองค์ไม่ดีจึงทรงพระราชทานภาพนี้มาเตือนสติ แต่เจียผินปลอบพระนางว่า จริงๆ แล้วภาพทั้งสิบสองสะท้อนถึงคุณสมบัติที่เฉียนหลงฮ่องเต้ทรงคาดหวังจากเหล่ามเหสีและสนมทั้งหมด เพื่อนเพจคิดว่าไงคะ? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/242329927_100034915 https://zhuanlan.zhihu.com/p/44523682 https://baike.baidu.com/tashuo/browse/content?id=5c29a1b9368965f14d877c95 http://www.obj.cc/thread-69013-1-1.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.takungpao.com/culture/237140/2019/1207/387125.html https://baike.baidu.com/item/女史箴图 https://baike.baidu.com/item/班姬辞辇/360901 #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เกากุ้ยเฟย #ปันจีฉือเหนี่ยน #ปันเจวี๋ยอี๋ #กงซวิ่นถู #หกตำหนักวังหลัง #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    0 Comments 0 Shares 974 Views 0 Reviews
  • Kash Patel ได้รับการรับรองจากรัฐสภาสหรัฐฯให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ FBI คนใหม่แล้ว ด้วยผลโหวต 51-49 คะแนน ท่ามกลางความกังวลจากฝ่ายเดโมแครตว่าเขาอาจจะใช้ FBI เป็นเครื่องมือล้างแค้นทางการเมืองให้กับทรัมป์

    ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับผู้อำนวยการคนที่ 9 ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือ FBI
    Kash Patel ได้รับการรับรองจากรัฐสภาสหรัฐฯให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ FBI คนใหม่แล้ว ด้วยผลโหวต 51-49 คะแนน ท่ามกลางความกังวลจากฝ่ายเดโมแครตว่าเขาอาจจะใช้ FBI เป็นเครื่องมือล้างแค้นทางการเมืองให้กับทรัมป์ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ลงนามในแต่งตั้งอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับผู้อำนวยการคนที่ 9 ของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ หรือ FBI
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 520 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้มัลแวร์ประเภท Infostealer ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานทหารและผู้รับเหมาด้านกลาโหมของสหรัฐฯ เช่น Lockheed Martin, BAE Systems, Boeing, Honeywell, L3Harris, และ Leidos โดยมัลแวร์นี้มีความสามารถในการขโมยข้อมูลที่สำคัญจากอุปกรณ์ของผู้ที่ถูกโจมตี

    จากรายงานของ Hudson Rock ระบุว่า อาชญากรสามารถซื้อข้อมูลที่ขโมยจากพนักงานที่ทำงานในภาคการป้องกันและกองทัพได้ในราคาประมาณ $10 ต่อคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่ถูกขโมยนั้นรวมถึงรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบของระบบสำคัญ เช่น Active Directory Federation Services (ADFS), Identity and Access Management (IAM) ของ Honeywell รวมถึงการแทรกซึมเข้าสู่ระบบ intranet ภายในองค์กร

    นอกจากนี้ยังพบการโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานภาครัฐ เช่น US Army, US Navy, FBI และ Government Accountability Office (GAO) โดยผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลการยืนยันตัวตนภายในระบบเช่น OWA, Confluence, Citrix, และ FTP ทำให้ผู้โจมตีสามารถเคลื่อนย้ายภายในระบบทหารได้

    Infostealer เป็นมัลแวร์ที่อาศัยความผิดพลาดของผู้ใช้ เช่น การดาวน์โหลดไฟล์ PDF ที่ติดไวรัส หรือการคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ดังนั้นการมีการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับพนักงานทุกระดับขององค์กรเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อป้องกันการโจมตีในลักษณะนี้

    การโจมตีแบบ Infostealer ไม่ได้ใช้การโจมตีแบบ brute-force แต่เน้นการใช้ความผิดพลาดของมนุษย์เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ ทำให้เห็นว่าการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน

    https://www.techradar.com/pro/security/us-military-and-defense-contractors-hit-with-infostealer-malware
    ข่าวนี้เกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้มัลแวร์ประเภท Infostealer ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานทหารและผู้รับเหมาด้านกลาโหมของสหรัฐฯ เช่น Lockheed Martin, BAE Systems, Boeing, Honeywell, L3Harris, และ Leidos โดยมัลแวร์นี้มีความสามารถในการขโมยข้อมูลที่สำคัญจากอุปกรณ์ของผู้ที่ถูกโจมตี จากรายงานของ Hudson Rock ระบุว่า อาชญากรสามารถซื้อข้อมูลที่ขโมยจากพนักงานที่ทำงานในภาคการป้องกันและกองทัพได้ในราคาประมาณ $10 ต่อคอมพิวเตอร์ ข้อมูลที่ถูกขโมยนั้นรวมถึงรหัสผ่านและข้อมูลการเข้าสู่ระบบของระบบสำคัญ เช่น Active Directory Federation Services (ADFS), Identity and Access Management (IAM) ของ Honeywell รวมถึงการแทรกซึมเข้าสู่ระบบ intranet ภายในองค์กร นอกจากนี้ยังพบการโจมตีที่ส่งผลกระทบต่อหน่วยงานภาครัฐ เช่น US Army, US Navy, FBI และ Government Accountability Office (GAO) โดยผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลการยืนยันตัวตนภายในระบบเช่น OWA, Confluence, Citrix, และ FTP ทำให้ผู้โจมตีสามารถเคลื่อนย้ายภายในระบบทหารได้ Infostealer เป็นมัลแวร์ที่อาศัยความผิดพลาดของผู้ใช้ เช่น การดาวน์โหลดไฟล์ PDF ที่ติดไวรัส หรือการคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ดังนั้นการมีการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้กับพนักงานทุกระดับขององค์กรเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อป้องกันการโจมตีในลักษณะนี้ การโจมตีแบบ Infostealer ไม่ได้ใช้การโจมตีแบบ brute-force แต่เน้นการใช้ความผิดพลาดของมนุษย์เพื่อเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ ทำให้เห็นว่าการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในทุกองค์กร ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน https://www.techradar.com/pro/security/us-military-and-defense-contractors-hit-with-infostealer-malware
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 451 Views 0 Reviews
More Results