• ดูหนังฟังเพลง
    ♡ขอบคุณที่มีเธอ♡
    เรื่องย่อ:หลินท่าและอันจือเซวี่ยรู้จักกันในงานรับสมัครนักเรียน ฝึกงานตอนปีสาม ทั้งสองเป็นรักแรกพบและคบกันเมื่อรู้จักกันดีขึ้น เมื่อเรียนจบ สองคนออกสู่สังคมด้วยกัน แม้ว่าเส้นทางชีวิตจะไม่ราบรื่นแต่พวกเขาก็เป็นกำลังใจ กันและค่อย ๆ มาถูกทาง เมื่อทุกอย่างกำลังไปได้สวย หลินท่าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ความหวังดับวูบลง แต่ภายใต้กำลังใจและความอบอุ่น ของครอบครัว แฟนและเพื่อน หลินท่าท้าทายโรคภัย อย่างกล้าหาญและเป็นแรงบันดาลใจให้คนรอบตัวในการ ใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวัง
    #wetv
    #wetvthailand
    #เพลงไทย
    #ซีรีส์จีน
    #เพลงเพราะ
    #ชีวิตคือสมมุติ
    ดูหนังฟังเพลง ♡ขอบคุณที่มีเธอ♡ เรื่องย่อ:หลินท่าและอันจือเซวี่ยรู้จักกันในงานรับสมัครนักเรียน ฝึกงานตอนปีสาม ทั้งสองเป็นรักแรกพบและคบกันเมื่อรู้จักกันดีขึ้น เมื่อเรียนจบ สองคนออกสู่สังคมด้วยกัน แม้ว่าเส้นทางชีวิตจะไม่ราบรื่นแต่พวกเขาก็เป็นกำลังใจ กันและค่อย ๆ มาถูกทาง เมื่อทุกอย่างกำลังไปได้สวย หลินท่าได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ความหวังดับวูบลง แต่ภายใต้กำลังใจและความอบอุ่น ของครอบครัว แฟนและเพื่อน หลินท่าท้าทายโรคภัย อย่างกล้าหาญและเป็นแรงบันดาลใจให้คนรอบตัวในการ ใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความหวัง #wetv #wetvthailand #เพลงไทย #ซีรีส์จีน #เพลงเพราะ #ชีวิตคือสมมุติ
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 0 Reviews
  • เบราว์เซอร์สาย Firefox – ทางเลือกใหม่แทน Chromium

    แม้ว่า Google Chrome จะครองตลาดเบราว์เซอร์ด้วยความสะดวกในการซิงก์และการใช้งาน แต่ก็ถูกวิจารณ์เรื่อง ความเป็นส่วนตัว อยู่บ่อยครั้ง ทางเลือกที่ใหญ่ที่สุดคือ Mozilla Firefox อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบ Firefox ดังนั้นจึงมีการพัฒนาเบราว์เซอร์ที่ใช้ฐาน Firefox แต่ปรับแต่งให้ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น เน้นความเป็นส่วนตัว ความเร็ว หรือการปรับแต่งหน้าตา

    LibreWolf และ Waterfox – สายความเป็นส่วนตัว
    LibreWolf มุ่งเน้นการลบ Telemetry และการเก็บข้อมูลทุกชนิด พร้อมตั้งค่าเริ่มต้นให้ใช้เสิร์ชเอนจินที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัว เช่น DuckDuckGo และ Qwant รวมถึงติดตั้ง uBlock Origin มาในตัว

    Waterfox เน้นการป้องกันการติดตาม เช่น Oblivious DNS และการแชร์ลิงก์แบบสะอาด (Clean Link Sharing) พร้อมฟีเจอร์ใช้งานง่าย เช่น Vertical Tabs และ Container Tabs ที่ช่วยจัดการงานหลายอย่างได้สะดวก

    Zen และ Floorp – สายปรับแต่งและ Productivity
    Zen Browser โดดเด่นด้วย Sidebar แบบ Vertical Tabs, Split View สำหรับเปิดหลายแท็บพร้อมกัน และธีมที่ปรับแต่งได้หลากหลาย เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความสวยงามและการทำงานหลายหน้าจอ

    Floorp Browser เน้นการปรับแต่ง UI อย่างอิสระ เช่น Tree-style Tabs, Containerized Workspaces และการบันทึกโน้ตในตัว เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ Productivity สูงและการจัดการงานหลายรูปแบบ

    Tor, Mullvad และ Pale Moon – สายความปลอดภัยและคลาสสิก
    Tor Browser ใช้ Onion Routing เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยสูง แต่มีข้อเสียคือความเร็วต่ำ

    Mullvad Browser คล้าย Tor แต่ไม่ใช้ Onion Routing เน้นการป้องกัน Fingerprinting และแนะนำให้ใช้คู่กับ VPN

    Pale Moon เป็น Fork รุ่นเก่าที่ใช้เอนจิน Goanna และยังรองรับปลั๊กอิน Legacy ของ Firefox เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ดั้งเดิม

    สรุปสาระสำคัญ
    LibreWolf เน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด
    ลบ Telemetry, ใช้เสิร์ชเอนจินปลอดภัย, มี uBlock Origin

    Waterfox เพิ่มฟีเจอร์ใช้งานง่าย
    Oblivious DNS, Vertical Tabs, Container Tabs

    Zen Browser เน้นความสวยงามและ Multitasking
    Vertical Sidebar, Split View, ธีมปรับแต่งได้

    Floorp Browser เหมาะกับ Productivity
    Workspaces, Split Tabs, Note Integration

    Tor Browser ปกป้องความเป็นส่วนตัวขั้นสูง
    Onion Routing, Fingerprinting Protection

    Mullvad Browser ลดการระบุตัวตน
    Anti-fingerprinting, DNS-over-HTTPS, ใช้คู่กับ VPN

    Pale Moon รักษาสไตล์ Firefox รุ่นเก่า
    ใช้เอนจิน Goanna, รองรับปลั๊กอิน Legacy

    Tor Browser อาจช้าและไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
    ฟีเจอร์ที่ต้องใช้ Geolocation ทำงานไม่ดี

    Mullvad Browser ต้องใช้ VPN เพื่อความปลอดภัยเต็มรูปแบบ
    มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมรายเดือน

    https://itsfoss.com/firefox-based-browsers/
    🌐 เบราว์เซอร์สาย Firefox – ทางเลือกใหม่แทน Chromium แม้ว่า Google Chrome จะครองตลาดเบราว์เซอร์ด้วยความสะดวกในการซิงก์และการใช้งาน แต่ก็ถูกวิจารณ์เรื่อง ความเป็นส่วนตัว อยู่บ่อยครั้ง ทางเลือกที่ใหญ่ที่สุดคือ Mozilla Firefox อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบ Firefox ดังนั้นจึงมีการพัฒนาเบราว์เซอร์ที่ใช้ฐาน Firefox แต่ปรับแต่งให้ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น เน้นความเป็นส่วนตัว ความเร็ว หรือการปรับแต่งหน้าตา 🔒 LibreWolf และ Waterfox – สายความเป็นส่วนตัว 💠 LibreWolf มุ่งเน้นการลบ Telemetry และการเก็บข้อมูลทุกชนิด พร้อมตั้งค่าเริ่มต้นให้ใช้เสิร์ชเอนจินที่เป็นมิตรต่อความเป็นส่วนตัว เช่น DuckDuckGo และ Qwant รวมถึงติดตั้ง uBlock Origin มาในตัว 💠 Waterfox เน้นการป้องกันการติดตาม เช่น Oblivious DNS และการแชร์ลิงก์แบบสะอาด (Clean Link Sharing) พร้อมฟีเจอร์ใช้งานง่าย เช่น Vertical Tabs และ Container Tabs ที่ช่วยจัดการงานหลายอย่างได้สะดวก 🎨 Zen และ Floorp – สายปรับแต่งและ Productivity 💠 Zen Browser โดดเด่นด้วย Sidebar แบบ Vertical Tabs, Split View สำหรับเปิดหลายแท็บพร้อมกัน และธีมที่ปรับแต่งได้หลากหลาย เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการความสวยงามและการทำงานหลายหน้าจอ 💠 Floorp Browser เน้นการปรับแต่ง UI อย่างอิสระ เช่น Tree-style Tabs, Containerized Workspaces และการบันทึกโน้ตในตัว เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ Productivity สูงและการจัดการงานหลายรูปแบบ 🕵️ Tor, Mullvad และ Pale Moon – สายความปลอดภัยและคลาสสิก 💠 Tor Browser ใช้ Onion Routing เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความปลอดภัยสูง แต่มีข้อเสียคือความเร็วต่ำ 💠 Mullvad Browser คล้าย Tor แต่ไม่ใช้ Onion Routing เน้นการป้องกัน Fingerprinting และแนะนำให้ใช้คู่กับ VPN 💠 Pale Moon เป็น Fork รุ่นเก่าที่ใช้เอนจิน Goanna และยังรองรับปลั๊กอิน Legacy ของ Firefox เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบสไตล์ดั้งเดิม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ LibreWolf เน้นความเป็นส่วนตัวสูงสุด ➡️ ลบ Telemetry, ใช้เสิร์ชเอนจินปลอดภัย, มี uBlock Origin ✅ Waterfox เพิ่มฟีเจอร์ใช้งานง่าย ➡️ Oblivious DNS, Vertical Tabs, Container Tabs ✅ Zen Browser เน้นความสวยงามและ Multitasking ➡️ Vertical Sidebar, Split View, ธีมปรับแต่งได้ ✅ Floorp Browser เหมาะกับ Productivity ➡️ Workspaces, Split Tabs, Note Integration ✅ Tor Browser ปกป้องความเป็นส่วนตัวขั้นสูง ➡️ Onion Routing, Fingerprinting Protection ✅ Mullvad Browser ลดการระบุตัวตน ➡️ Anti-fingerprinting, DNS-over-HTTPS, ใช้คู่กับ VPN ✅ Pale Moon รักษาสไตล์ Firefox รุ่นเก่า ➡️ ใช้เอนจิน Goanna, รองรับปลั๊กอิน Legacy ‼️ Tor Browser อาจช้าและไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ⛔ ฟีเจอร์ที่ต้องใช้ Geolocation ทำงานไม่ดี ‼️ Mullvad Browser ต้องใช้ VPN เพื่อความปลอดภัยเต็มรูปแบบ ⛔ มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมรายเดือน https://itsfoss.com/firefox-based-browsers/
    ITSFOSS.COM
    Not Every Browser is Built on Chrome: Explore These Firefox-based Options
    Think all popular browsers out there are Chromium based? Take a look at this Firefox-based options.
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.36

    บรรพบุรุษ หรือผู้สืบสันดานก่อนหน้า เป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้งในทางสังคมและวัฒนธรรม แต่ในทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยเฉพาะหมวดว่าด้วยมรดก คำนี้กลับมีนัยที่จำกัดและเฉพาะเจาะจงอย่างยิ่งเพื่อกำหนดสิทธิและหน้าที่ในการรับและถ่ายโอนทรัพย์สิน บทบัญญัติแห่งกฎหมายกำหนดให้ "บรรพบุรุษ" คือบุคคลที่อยู่เหนือขึ้นไปตามสายโลหิตในลำดับญาติ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดลำดับ ทายาทโดยธรรม โดยลำดับของทายาทโดยธรรมที่กฎหมายกำหนดไว้นั้น ได้แก่ ผู้สืบสันดาน บิดามารดา พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน ปู่ ย่า ตา ยาย และ ลุง ป้า น้า อา ซึ่งจะเห็นได้ว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็น "ผู้สืบสันดานก่อนหน้า" ในความหมายกว้าง แต่ในทางกฎหมายเฉพาะเจาะจงเมื่อพิจารณาสิทธิในการรับมรดก บิดามารดา และ ปู่ ย่า ตา ยาย นั้นเองที่จัดอยู่ในกลุ่มบรรพบุรุษโดยตรงของผู้ตายตามหลักความสัมพันธ์ทางสายโลหิต กฎหมายได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์นี้ โดยกำหนดให้ผู้สืบสันดานและบิดามารดาเป็นทายาทในลำดับต้นๆ ที่มีสิทธิรับมรดก การที่กฎหมายบัญญัติให้ผู้สืบสันดานและบิดามารดาได้รับมรดกพร้อมกันนั้น เป็นการสะท้อนแนวคิดทางกฎหมายที่ให้ความสำคัญกับการสืบทอดทั้งในแนวลง (สู่ลูกหลาน) และในแนวย้อนขึ้น (สู่บรรพบุรุษผู้ให้กำเนิด) พร้อมกันไปหากผู้ตายไม่มีผู้สืบสันดานหรือผู้สืบสันดานคนใดตายไปก่อน การพิจารณาสิทธิของบรรพบุรุษ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ก็จะเข้ามามีบทบาทในลำดับถัดไปตามหลักเกณฑ์การแบ่งมรดก การกำหนดสถานะทางกฎหมายของบรรพบุรุษจึงไม่ใช่เพียงการยกย่องตามจารีต แต่เป็นการกำหนดตัวบุคคลที่มีสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายในการเข้าถือครองทรัพย์สินของผู้ตายตามเจตนารมณ์ที่สันนิษฐานของกฎหมายและหลักการยุติธรรมในการจัดสรรทรัพย์สินภายในครอบครัว การทำความเข้าใจมิติทางกฎหมายของคำว่าบรรพบุรุษจึงเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนมรดกและการจัดการทรัพย์สินเพื่อป้องกันข้อพิพาทอันอาจเกิดขึ้นในภายหลัง

    การสืบสันดานตามกฎหมายยังขยายขอบเขตไปถึงเรื่อง "การรับมรดกแทนที่" ที่อนุญาตให้ผู้สืบสันดานของทายาทโดยธรรมที่ถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดก มีสิทธิรับมรดกแทนที่ในส่วนแบ่งที่ทายาทผู้นั้นจะพึงได้รับ หากบุคคลนั้นเป็นผู้สืบสันดานลำดับที่ 1 หรือเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ซึ่งหลักการนี้เป็นการรับรองและขยายแนวคิดการสืบทอดสายโลหิตต่อเนื่องไปอีกชั้นหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในบริบทของการรับมรดกแทนที่ บรรพบุรุษไม่สามารถเข้ามารับมรดกแทนที่ได้ การรับมรดกแทนที่จำกัดเฉพาะในแนวลงเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจัดลำดับความสำคัญของกฎหมายมรดกที่ให้ความสำคัญกับการสืบทอดทรัพย์สินไปยังคนรุ่นหลังมากกว่าในแนวย้อนขึ้น กฎหมายมรดกยังคำนึงถึงความบริสุทธิ์ของความสัมพันธ์ โดยมีการกำหนด "เหตุแห่งการถูกกำจัดมิให้รับมรดก" หรือ "การเป็นผู้ไม่สมควรได้รับมรดก" ซึ่งเป็นการตัดสิทธิของทายาท รวมถึงบรรพบุรุษ หากได้กระทำการอันเป็นความร้ายแรงต่อเจ้ามรดก เช่น ฆ่าหรือพยายามฆ่า หรือฟ้องร้องใส่ร้ายว่าเจ้ามรดกกระทำความผิดที่มีโทษหนัก การกำหนดเหตุผลในการตัดสิทธิเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่าความสัมพันธ์ทางสายโลหิตเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องประกอบด้วยความเคารพและการปฏิบัติต่อกันตามหลักศีลธรรมอันดีงามด้วย นอกเหนือจากทายาทโดยธรรมแล้ว เจ้ามรดกยังมีสิทธิทำ "พินัยกรรม" เพื่อกำหนดให้บุคคลใดๆ รวมถึงบรรพบุรุษของตน ได้รับทรัพย์สินตามที่ตนปรารถนาตามเจตนารมณ์ แม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะถูกตัดสิทธิจากการเป็นทายาทโดยธรรมหรือไม่ก็ตาม การทำพินัยกรรมจึงเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สำคัญที่สุดในการแสดงเจตจำนงสุดท้ายของเจ้ามรดกในการจัดการทรัพย์สินของตน ซึ่งจะเข้ามามีอำนาจเหนือบทบัญญัติว่าด้วยการแบ่งมรดกตามลำดับทายาทโดยธรรม แต่ทั้งนี้การทำพินัยกรรมก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและห้ามมิให้กระทบกระเทือนต่อสิทธิของผู้รับพินัยกรรมที่มีข้อจำกัดตามกฎหมาย การพิจารณาความสมบูรณ์และผลบังคับของพินัยกรรมจึงเป็นอีกมิติหนึ่งที่นักกฎหมายและประชาชนต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อทำให้การสืบทอดมรดกเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรม

    โดยสรุปแล้ว คำว่า "บรรพบุรุษ" ในบริบทของมรดกและครอบครัวตามกฎหมายนั้น ไม่ได้เป็นเพียงคำที่กล่าวถึงผู้ให้กำเนิด แต่เป็นการกำหนดสถานะและสิทธิในการรับการถ่ายโอนทรัพย์สินของบุคคลที่อยู่เหนือขึ้นไปตามสายโลหิต การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงลำดับทายาทโดยธรรม ข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับมรดกแทนที่ และการถูกกำจัดมิให้รับมรดก เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการบริหารจัดการความมั่งคั่งของครอบครัวและป้องกันข้อพิพาททางกฎหมาย การให้ความเคารพต่อความหมายทางกฎหมายของบรรพบุรุษจึงเป็นรากฐานสำคัญของการสืบทอดทรัพย์สินที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของผู้ตายและกฎหมายบ้านเมือง
    บทความกฎหมาย EP.36 บรรพบุรุษ หรือผู้สืบสันดานก่อนหน้า เป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้งในทางสังคมและวัฒนธรรม แต่ในทางกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยเฉพาะหมวดว่าด้วยมรดก คำนี้กลับมีนัยที่จำกัดและเฉพาะเจาะจงอย่างยิ่งเพื่อกำหนดสิทธิและหน้าที่ในการรับและถ่ายโอนทรัพย์สิน บทบัญญัติแห่งกฎหมายกำหนดให้ "บรรพบุรุษ" คือบุคคลที่อยู่เหนือขึ้นไปตามสายโลหิตในลำดับญาติ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดลำดับ ทายาทโดยธรรม โดยลำดับของทายาทโดยธรรมที่กฎหมายกำหนดไว้นั้น ได้แก่ ผู้สืบสันดาน บิดามารดา พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน ปู่ ย่า ตา ยาย และ ลุง ป้า น้า อา ซึ่งจะเห็นได้ว่ากลุ่มบุคคลเหล่านี้ล้วนเป็น "ผู้สืบสันดานก่อนหน้า" ในความหมายกว้าง แต่ในทางกฎหมายเฉพาะเจาะจงเมื่อพิจารณาสิทธิในการรับมรดก บิดามารดา และ ปู่ ย่า ตา ยาย นั้นเองที่จัดอยู่ในกลุ่มบรรพบุรุษโดยตรงของผู้ตายตามหลักความสัมพันธ์ทางสายโลหิต กฎหมายได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสัมพันธ์นี้ โดยกำหนดให้ผู้สืบสันดานและบิดามารดาเป็นทายาทในลำดับต้นๆ ที่มีสิทธิรับมรดก การที่กฎหมายบัญญัติให้ผู้สืบสันดานและบิดามารดาได้รับมรดกพร้อมกันนั้น เป็นการสะท้อนแนวคิดทางกฎหมายที่ให้ความสำคัญกับการสืบทอดทั้งในแนวลง (สู่ลูกหลาน) และในแนวย้อนขึ้น (สู่บรรพบุรุษผู้ให้กำเนิด) พร้อมกันไปหากผู้ตายไม่มีผู้สืบสันดานหรือผู้สืบสันดานคนใดตายไปก่อน การพิจารณาสิทธิของบรรพบุรุษ เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ก็จะเข้ามามีบทบาทในลำดับถัดไปตามหลักเกณฑ์การแบ่งมรดก การกำหนดสถานะทางกฎหมายของบรรพบุรุษจึงไม่ใช่เพียงการยกย่องตามจารีต แต่เป็นการกำหนดตัวบุคคลที่มีสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายในการเข้าถือครองทรัพย์สินของผู้ตายตามเจตนารมณ์ที่สันนิษฐานของกฎหมายและหลักการยุติธรรมในการจัดสรรทรัพย์สินภายในครอบครัว การทำความเข้าใจมิติทางกฎหมายของคำว่าบรรพบุรุษจึงเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนมรดกและการจัดการทรัพย์สินเพื่อป้องกันข้อพิพาทอันอาจเกิดขึ้นในภายหลัง การสืบสันดานตามกฎหมายยังขยายขอบเขตไปถึงเรื่อง "การรับมรดกแทนที่" ที่อนุญาตให้ผู้สืบสันดานของทายาทโดยธรรมที่ถึงแก่ความตายก่อนเจ้ามรดก มีสิทธิรับมรดกแทนที่ในส่วนแบ่งที่ทายาทผู้นั้นจะพึงได้รับ หากบุคคลนั้นเป็นผู้สืบสันดานลำดับที่ 1 หรือเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ซึ่งหลักการนี้เป็นการรับรองและขยายแนวคิดการสืบทอดสายโลหิตต่อเนื่องไปอีกชั้นหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในบริบทของการรับมรดกแทนที่ บรรพบุรุษไม่สามารถเข้ามารับมรดกแทนที่ได้ การรับมรดกแทนที่จำกัดเฉพาะในแนวลงเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการจัดลำดับความสำคัญของกฎหมายมรดกที่ให้ความสำคัญกับการสืบทอดทรัพย์สินไปยังคนรุ่นหลังมากกว่าในแนวย้อนขึ้น กฎหมายมรดกยังคำนึงถึงความบริสุทธิ์ของความสัมพันธ์ โดยมีการกำหนด "เหตุแห่งการถูกกำจัดมิให้รับมรดก" หรือ "การเป็นผู้ไม่สมควรได้รับมรดก" ซึ่งเป็นการตัดสิทธิของทายาท รวมถึงบรรพบุรุษ หากได้กระทำการอันเป็นความร้ายแรงต่อเจ้ามรดก เช่น ฆ่าหรือพยายามฆ่า หรือฟ้องร้องใส่ร้ายว่าเจ้ามรดกกระทำความผิดที่มีโทษหนัก การกำหนดเหตุผลในการตัดสิทธิเช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่าความสัมพันธ์ทางสายโลหิตเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องประกอบด้วยความเคารพและการปฏิบัติต่อกันตามหลักศีลธรรมอันดีงามด้วย นอกเหนือจากทายาทโดยธรรมแล้ว เจ้ามรดกยังมีสิทธิทำ "พินัยกรรม" เพื่อกำหนดให้บุคคลใดๆ รวมถึงบรรพบุรุษของตน ได้รับทรัพย์สินตามที่ตนปรารถนาตามเจตนารมณ์ แม้ว่าบุคคลผู้นั้นจะถูกตัดสิทธิจากการเป็นทายาทโดยธรรมหรือไม่ก็ตาม การทำพินัยกรรมจึงเป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สำคัญที่สุดในการแสดงเจตจำนงสุดท้ายของเจ้ามรดกในการจัดการทรัพย์สินของตน ซึ่งจะเข้ามามีอำนาจเหนือบทบัญญัติว่าด้วยการแบ่งมรดกตามลำดับทายาทโดยธรรม แต่ทั้งนี้การทำพินัยกรรมก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายและห้ามมิให้กระทบกระเทือนต่อสิทธิของผู้รับพินัยกรรมที่มีข้อจำกัดตามกฎหมาย การพิจารณาความสมบูรณ์และผลบังคับของพินัยกรรมจึงเป็นอีกมิติหนึ่งที่นักกฎหมายและประชาชนต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อทำให้การสืบทอดมรดกเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรม โดยสรุปแล้ว คำว่า "บรรพบุรุษ" ในบริบทของมรดกและครอบครัวตามกฎหมายนั้น ไม่ได้เป็นเพียงคำที่กล่าวถึงผู้ให้กำเนิด แต่เป็นการกำหนดสถานะและสิทธิในการรับการถ่ายโอนทรัพย์สินของบุคคลที่อยู่เหนือขึ้นไปตามสายโลหิต การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงลำดับทายาทโดยธรรม ข้อกำหนดเกี่ยวกับการรับมรดกแทนที่ และการถูกกำจัดมิให้รับมรดก เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการบริหารจัดการความมั่งคั่งของครอบครัวและป้องกันข้อพิพาททางกฎหมาย การให้ความเคารพต่อความหมายทางกฎหมายของบรรพบุรุษจึงเป็นรากฐานสำคัญของการสืบทอดทรัพย์สินที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของผู้ตายและกฎหมายบ้านเมือง
    0 Comments 0 Shares 135 Views 0 Reviews
  • “อุปกรณ์ที่ไม่ควรใช้แบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้”

    แม้ว่าแบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่ได้จะกลายเป็นมาตรฐานในชีวิตประจำวัน ทั้งสมาร์ทโฟน กล้อง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ แต่ก็มีบางกรณีที่แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียว (disposable) ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เหตุผลหลักคือ รูปแบบการคายประจุและแรงดันไฟฟ้า ที่แตกต่างกัน แบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้จะคายประจุอย่างคงที่จนใกล้หมดแล้วแรงดันตกลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวจะคายประจุอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรในระยะยาว

    หนึ่งในกลุ่มอุปกรณ์ที่สำคัญคือ อุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เครื่องตรวจจับควัน เครื่องตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และไฟฉุกเฉิน ซึ่งต้องการแบตเตอรี่ที่สามารถเก็บพลังงานได้นานโดยไม่ต้องดูแลบ่อย ๆ แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวจึงเหมาะสมกว่า เพราะมีอายุการเก็บรักษายาวนานและพร้อมใช้งานเมื่อจำเป็น

    อีกกลุ่มคือ อุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังต่ำ ที่ใช้พลังงานเพียงเล็กน้อย เช่น นาฬิกาแขวน รีโมทคอนโทรล เทอร์โมสแตท และวิทยุขนาดเล็ก แบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้มีการคายประจุเองแม้ไม่ได้ใช้งาน ทำให้ไม่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งานต่อเนื่องยาวนานโดยไม่เปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ

    สุดท้ายคือ อุปกรณ์ที่ใช้ไม่บ่อย เช่น ไฟฉายสำหรับแคมป์หรือไฟฉุกเฉินในบ้าน เนื่องจากแบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวสามารถเก็บพลังงานได้นานหลายปีโดยไม่เสื่อม ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อหยิบมาใช้จะยังมีไฟฟ้าเพียงพอ ต่างจากแบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้ที่อาจหมดประจุเองเมื่อเก็บไว้นาน

    สรุปสาระสำคัญ
    อุปกรณ์ความปลอดภัย
    เครื่องตรวจจับควัน, เครื่องตรวจจับ CO, ไฟฉุกเฉินควรใช้แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียว

    อุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังต่ำ
    นาฬิกาแขวน, รีโมทคอนโทรล, เทอร์โมสแตท, วิทยุเล็ก ๆ ใช้แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวได้ดีกว่า

    อุปกรณ์ที่ใช้ไม่บ่อย
    ไฟฉายแคมป์, ไฟฉุกเฉิน ควรใช้แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวเพื่อความมั่นใจ

    คำเตือน
    แบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้มีแรงดันต่ำกว่า (1.2V เทียบกับ 1.5V) อาจทำให้อุปกรณ์บางชนิดทำงานผิดปกติ
    มีการคายประจุเองแม้ไม่ได้ใช้งาน ทำให้ไม่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรระยะยาว

    https://www.slashgear.com/2039176/devices-should-not-use-rechargeable-batteries/
    🔋 “อุปกรณ์ที่ไม่ควรใช้แบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้” แม้ว่าแบตเตอรี่แบบชาร์จใหม่ได้จะกลายเป็นมาตรฐานในชีวิตประจำวัน ทั้งสมาร์ทโฟน กล้อง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ แต่ก็มีบางกรณีที่แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียว (disposable) ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เหตุผลหลักคือ รูปแบบการคายประจุและแรงดันไฟฟ้า ที่แตกต่างกัน แบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้จะคายประจุอย่างคงที่จนใกล้หมดแล้วแรงดันตกลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวจะคายประจุอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรในระยะยาว หนึ่งในกลุ่มอุปกรณ์ที่สำคัญคือ อุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น เครื่องตรวจจับควัน เครื่องตรวจจับก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และไฟฉุกเฉิน ซึ่งต้องการแบตเตอรี่ที่สามารถเก็บพลังงานได้นานโดยไม่ต้องดูแลบ่อย ๆ แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวจึงเหมาะสมกว่า เพราะมีอายุการเก็บรักษายาวนานและพร้อมใช้งานเมื่อจำเป็น อีกกลุ่มคือ อุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังต่ำ ที่ใช้พลังงานเพียงเล็กน้อย เช่น นาฬิกาแขวน รีโมทคอนโทรล เทอร์โมสแตท และวิทยุขนาดเล็ก แบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้มีการคายประจุเองแม้ไม่ได้ใช้งาน ทำให้ไม่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการใช้งานต่อเนื่องยาวนานโดยไม่เปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อย ๆ สุดท้ายคือ อุปกรณ์ที่ใช้ไม่บ่อย เช่น ไฟฉายสำหรับแคมป์หรือไฟฉุกเฉินในบ้าน เนื่องจากแบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวสามารถเก็บพลังงานได้นานหลายปีโดยไม่เสื่อม ทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อหยิบมาใช้จะยังมีไฟฟ้าเพียงพอ ต่างจากแบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้ที่อาจหมดประจุเองเมื่อเก็บไว้นาน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ อุปกรณ์ความปลอดภัย ➡️ เครื่องตรวจจับควัน, เครื่องตรวจจับ CO, ไฟฉุกเฉินควรใช้แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียว ✅ อุปกรณ์ไฟฟ้ากำลังต่ำ ➡️ นาฬิกาแขวน, รีโมทคอนโทรล, เทอร์โมสแตท, วิทยุเล็ก ๆ ใช้แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวได้ดีกว่า ✅ อุปกรณ์ที่ใช้ไม่บ่อย ➡️ ไฟฉายแคมป์, ไฟฉุกเฉิน ควรใช้แบตเตอรี่แบบใช้ครั้งเดียวเพื่อความมั่นใจ ‼️ คำเตือน ⛔ แบตเตอรี่ชาร์จใหม่ได้มีแรงดันต่ำกว่า (1.2V เทียบกับ 1.5V) อาจทำให้อุปกรณ์บางชนิดทำงานผิดปกติ ⛔ มีการคายประจุเองแม้ไม่ได้ใช้งาน ทำให้ไม่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรระยะยาว https://www.slashgear.com/2039176/devices-should-not-use-rechargeable-batteries/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    What Devices Should Not Use Rechargeable Batteries? - SlashGear
    Avoid using rechargeable batteries in smoke alarms, wall clocks, and remotes. Their lower voltage and self-discharge rates make single-use alkalines safer.
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • Airbus สั่งแก้ซอฟต์แวร์ด่วน หลังพบข้อมูลควบคุมการบินเสียหาย

    Airbus ได้ออกคำสั่งเร่งด่วนให้สายการบินทั่วโลกดำเนินการ อัปเดตซอฟต์แวร์บนเครื่องบิน A320-family กว่า 6,000 ลำ หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่เครื่อง JetBlue A321 ต้องเบี่ยงเส้นทางกลางอากาศ เนื่องจากระบบควบคุมการบินเกิดพฤติกรรมผิดปกติ สาเหตุถูกระบุว่าเกิดจาก ข้อมูลควบคุมการบินเสียหาย (data corruption) ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ รังสีดวงอาทิตย์ที่รุนแรง ในช่วงนั้น.

    หน่วยงานกำกับดูแลของยุโรป (EASA) ได้ออกคำสั่งบังคับให้สายการบินต้อง ย้อนกลับไปใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชันก่อนหน้า ที่มีความเสถียร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ขณะที่สายการบินหลายแห่งต้องเร่งปรับตารางการบินเพื่อทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่สามารถทำได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่บางลำจำเป็นต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ ซึ่งใช้เวลานานและส่งผลต่อการให้บริการ.

    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ รังสีคอสมิก (cosmic rays) สามารถทำให้เกิด “bit flips” หรือการเปลี่ยนค่าข้อมูลในหน่วยความจำของระบบควบคุมการบิน แม้ว่าเครื่องบิน A320 จะมีระบบคอมพิวเตอร์แบบ triple-redundant และกลไก cross-checking เพื่อป้องกันความผิดพลาด แต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้.

    Airbus ยืนยันว่าจะทำงานใกล้ชิดกับสายการบินเพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมขอโทษผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ โดยคาดว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์จะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่การสอบสวนยังดำเนินต่อเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของความผิดพลาดนี้.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    คำสั่งอัปเดตซอฟต์แวร์
    ครอบคลุมเครื่องบิน A320-family กว่า 6,000 ลำ
    ต้องย้อนกลับไปใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชันก่อนหน้า

    เหตุการณ์ JetBlue A321
    เกิดขึ้นวันที่ 30 ตุลาคม
    ระบบควบคุมการบินผิดปกติจนต้องเบี่ยงเส้นทาง
    มีผู้โดยสารบาดเจ็บจากเหตุการณ์

    สาเหตุที่เป็นไปได้
    รังสีดวงอาทิตย์ทำให้ข้อมูลควบคุมการบินเสียหาย
    เกิด “bit flips” ในหน่วยความจำของระบบ

    ผลกระทบต่อสายการบิน
    อัปเดตซอฟต์แวร์ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง
    บางลำต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ ส่งผลต่อการให้บริการ

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    แม้มีระบบ triple-redundant แต่ยังมีช่องโหว่จากรังสีคอสมิก
    อาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำหากไม่แก้ไขอย่างเร่งด่วน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/airbus-orders-immediate-software-fix-for-6000-a320-jets
    ✈️ Airbus สั่งแก้ซอฟต์แวร์ด่วน หลังพบข้อมูลควบคุมการบินเสียหาย Airbus ได้ออกคำสั่งเร่งด่วนให้สายการบินทั่วโลกดำเนินการ อัปเดตซอฟต์แวร์บนเครื่องบิน A320-family กว่า 6,000 ลำ หลังจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่เครื่อง JetBlue A321 ต้องเบี่ยงเส้นทางกลางอากาศ เนื่องจากระบบควบคุมการบินเกิดพฤติกรรมผิดปกติ สาเหตุถูกระบุว่าเกิดจาก ข้อมูลควบคุมการบินเสียหาย (data corruption) ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ รังสีดวงอาทิตย์ที่รุนแรง ในช่วงนั้น. หน่วยงานกำกับดูแลของยุโรป (EASA) ได้ออกคำสั่งบังคับให้สายการบินต้อง ย้อนกลับไปใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชันก่อนหน้า ที่มีความเสถียร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ขณะที่สายการบินหลายแห่งต้องเร่งปรับตารางการบินเพื่อทำการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่สามารถทำได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง แต่บางลำจำเป็นต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ ซึ่งใช้เวลานานและส่งผลต่อการให้บริการ. เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่ รังสีคอสมิก (cosmic rays) สามารถทำให้เกิด “bit flips” หรือการเปลี่ยนค่าข้อมูลในหน่วยความจำของระบบควบคุมการบิน แม้ว่าเครื่องบิน A320 จะมีระบบคอมพิวเตอร์แบบ triple-redundant และกลไก cross-checking เพื่อป้องกันความผิดพลาด แต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้. Airbus ยืนยันว่าจะทำงานใกล้ชิดกับสายการบินเพื่อแก้ไขปัญหา พร้อมขอโทษผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบ โดยคาดว่าการอัปเดตซอฟต์แวร์จะเสร็จสิ้นภายในไม่กี่วันข้างหน้า ขณะที่การสอบสวนยังดำเนินต่อเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของความผิดพลาดนี้. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ คำสั่งอัปเดตซอฟต์แวร์ ➡️ ครอบคลุมเครื่องบิน A320-family กว่า 6,000 ลำ ➡️ ต้องย้อนกลับไปใช้ซอฟต์แวร์เวอร์ชันก่อนหน้า ✅ เหตุการณ์ JetBlue A321 ➡️ เกิดขึ้นวันที่ 30 ตุลาคม ➡️ ระบบควบคุมการบินผิดปกติจนต้องเบี่ยงเส้นทาง ➡️ มีผู้โดยสารบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ✅ สาเหตุที่เป็นไปได้ ➡️ รังสีดวงอาทิตย์ทำให้ข้อมูลควบคุมการบินเสียหาย ➡️ เกิด “bit flips” ในหน่วยความจำของระบบ ✅ ผลกระทบต่อสายการบิน ➡️ อัปเดตซอฟต์แวร์ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง ➡️ บางลำต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ ส่งผลต่อการให้บริการ ‼️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ⛔ แม้มีระบบ triple-redundant แต่ยังมีช่องโหว่จากรังสีคอสมิก ⛔ อาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำหากไม่แก้ไขอย่างเร่งด่วน https://www.tomshardware.com/tech-industry/airbus-orders-immediate-software-fix-for-6000-a320-jets
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 17

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 17
    อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปลายปี ค.ศ.1941 แต่ก่อนอเมริกาจะเข้าทำสงคราม ถังขยะความคิด Council on Foreign Relations (CFR) และกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา ภายใต้การกำกับของ CFR ได้รวบรวมนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน ประมาณ 200 คน ระดมสมอง จัดทำโครงการ ที่เรียกว่า War and Peace Studies อย่างลับสุดยอด ตั้งแต่ก่อนปี ค.ศ.1940 โครงการนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการ และเงินทุนสนับสนุนทั้งหมด โดยมูลนิธืร้อกกี้เฟลเลอร์
    War and Peace Studies ได้วางแผนไว้เรียบร้อยว่า อเมริกาจะต้องเข้าสู่สงครามโลก และกำหนดเส้นทางของอเมริกาภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างชัดเจนว่า อเมริกาจะต้องเข้าครอบครอง และควบคุมบริเวณใดบ้างของโลกนี้ เพื่อสร้างความเจริญเติบโต แข็งแกร่ง ให้แก่เศรษฐกิจของอเมริกา บริเวณดังกล่าว รวมถึงลาตินอเมริกา ยุโรป อาณานิคมของจักรภพอังกฤษ และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด War and Peace Studies เรียกบริเวณนี้ว่า ” Grand Area”
    โครงการ War and Peace Studies ยังบอกอีกว่า เราจะต้องได้เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเอาทรัพยากรในบริเวณนี้มาใช้เป็นวัตถุดิบ ให้ญี่ปุ่นทำอุตสาหกรรมผลิตสินค้า และส่งสินค้านั้นกลับไปขายในประเทศที่เป็นเจ้าของแหล่งทรัพยากรที่เราไป (ปล้น) เอามานั่นแหละ ญี่ปุ่นจะเป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรม ที่มีต้นทุกถูกกว่าบ้านเรา โดยเราเป็นเจ้าของ
    และหลายปี ก่อนที่ญี่ปุ่นจะยอมแพ้สงคราม หรืออาจจะก่อนที่ญี่ปุ่นเข้าสงครามด้วยซ้ำ อเมริกา (หรือ ร้อกกี้เฟลเลอร์ the great ) คิดไว้แล้วว่า เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม อเมริกาจะเป็นผู้ครอบครอง และควบคุมญี่ปุ่นหลังสงครามแต่ผู้เดียว
    และอเมริกาก็ทำได้ อเมริกาน่าจะวางแผนนี้นานอย่างน้อยตั้งแต่ปี ค.ศ.1900 …
    นักล่าใบตองแห้งแน่จริงๆ วางแผนเป็นขั้นตอน ยาวนาน จนบัดนี้ก็ยังไม่หลุดแผน และยังไม่จบแผน…
    ในวันที่ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม อเมริกาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองญี่ปุ่นแต่ผู้เดียวตามแผน ต่างกับเยอรมัน ซึ่งเมื่อแพ้สงคราม ฝ่ายสัมพันธมิตรแต่ละชาติ ต่างก็พากันตั้งหน่วยทหารของตนเป็นรัฐบาล ปกครองเขตตนในเยอรมัน แต่ญี่ปุ่นมีเขตปกครองเดียวคือ เขตของอเมริกา และอเมริกาใช้รัฐบาลญี่ปุ่นขณะนั้น ปกครองญี่ปุ่นภายใต้การกำกับดูแลของอเมริกา
    ประธานาธิบดีทรูแมนแต่งตั้งให้ นายพลแมคอาร์อาเธอร์ มาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายสัมพันธมิตร Supreme Commander Allied Power (SCAP) มาดูแลญี่ปุ่น โดยผู้ชนะสงครามรายอื่นเช่น นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ,รวมทั้ง นายพลเจียงไคเช็ค ของจีน และแม้แต่สตาลิน ของโซเวียต ก็ไม่ (กล้า) ขัดใจอเมริกา
    และในช่วง 6 ปี ที่ นายพลแมค ใช้อำนาจในฐานะ SCAP ปกครองชาวญี่ปุ่น 83 ล้านคน เขาไม่สนใจกับคณะกรรมมาธิการพันธมิตรอีก 11 ประเทศ Far Eastern Commission ที่ตั้งขึ้นมาภายหลัง ที่หวังจะมีส่วนร่วมในการ “ดูแล” ญี่ปุ่น แม้แต่น้อย คณะ 11ประเทศ กลายเป็นแค่ “ผู้ดู”
    นายพลแมค มาถึงญี่ปุ่น พร้อมกับภาระกิจใหญ่ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลอเมริกา คือ มาทำการปฏิรูปญี่ปุ่น
    แต่ขณะเดียวกัน เกี่ยวกับเรื่องญี่ปุ่น ในวอชิงตันเองก็ไม่ได้มีความเห็นไปทางเดียวกันนัก การเมืองฝ่ายหนึ่ง ต้องการให้เดินหน้าปฏิรูปญี่ปุ่น แต่การเมืองอีกฝ่ายหนึ่ง ต้องการให้การปฏิรูปล่มกลางคัน ท่านนายพลแมคน่าจะปวดหัว
    การ”ปฏิรูป” ญี่ปุ่น ที่อเมริกาหวังจะให้ดำเนินการด่วน ภายใต้อำนาจ ของ SCAP
    เรื่องแรก คือ ญี่ปุ่น โดยจักรพรรดิ ต้องออกมารับผิดในการพาญี่ปุ่นเข้าสู่สงครามโลก
    เรื่องที่สอง คือ ปฏิรูปกองทัพญี่ปุ่น หรือจริงๆ ก็คือ ยกเลิก หรือลดกองกำลังญี่ปุ่นให้เหลือเพียงแค่หยิบมือ ตามมาด้วย
    เรื่องที่สาม คือ จับตัวพวกที่มีส่วนในการสนับสนุนให้ญี่ปุ่นทำสงคราม ไม่ว่าจะเป็นนายทหาร นักการเมือง นักธุรกิจ นายทุน ฯลฯ มาดำเนินคดี
    เรื่องใหญ่ทั้งนั้น นายพลแมคจะรับไหวหรือ แต่นายพลแมค ไม่ได้มาคนเดียว เดี่ยวๆ เขามี Laurence ร้อกกี้เฟลเลอร์ หลานของร้อกกี้ the greatมาเป็นผู้ช่วย และยังมี นายพล Bonner Fellers ประกบติดตัว นายพลแมค มาด้วย
    นายพล Feller มีชื่อเสียงในกองทัพว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับญี่ปุ่น แต่ จริงๆ เขาไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับญี่ปุ่น และแถมพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ แต่ เขาเป็นพวกเคว้กเกอร์ เช่นเดียวกับเมียของทูต Grew และรอบตัวของจักรพรรดินี แม่ของจักรพรรดิฮืโรฮิโต และเนื่องจากเป็นเคว้กเกอร์ เขารู้จักกับ ชาวญี่ปุ่นอีกหลายคน ที่พวกเคว้กเกอร์สนับสนุนให้ไปเรียนหนังสือต่อที่อเมริกา ตั้งแต่ระดับโรงเรียน จนถึงมหาวิทยาลัย ที่เป็นเครือข่ายของเคว้กเกอร์ที่อเมริกา เมื่อจบกลับมา หลายคนกลับมาเป็นทหารในกองทัพญี่ปุ่น
    Feller ถูกประธานาธิบดี Herbert Hoover ส่งมาประจำกองทัพอเมริกา ที่ฟิลิปปินส์ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ.1930 ต้นๆ แต่ดูเหมือนเขาจะอยู่ญี่ปุ่น มากกว่าฟิลิปปินส์ และต่อมาเขากลายเป็นเชือกที่ Hoover ใช้ชักใย นายพลแมค ที่ปกครองญี่ปุ่น ตามอำนาจของ SCAP อ้อ Hoover ก็เป็นพวกเคว้กเกอร์ด้วยครับ
    แล้ว Hoover มาเกี่ยวอะไรกับ นายพลแมค และ SCAP
    Herbert Hoover เป็นประธานาธิบดีของอเมริกา ในช่วงปี ค.ศ.1929-1934 ช่วง Great Depression ของอเมริกา แม้ว่าจะมีคนมองว่า เขาอยู่ในพวกกลุ่มวอลสตรีท แต่เขากู้เศรษฐกิจอเมริกาไม่ขึ้น และแยกทางกันเดินกับพวกมอร์แกนในภายหลัง แต่ที่น่าสนใจ Hoover จริงๆแล้ว เรียนจบมาด้านแร่วิทยา และเป็นผู้ชำนาญเรื่องแร่ เขายุ่งอยู่กับธุรกิจเหมืองแร่ ไปทั่วจนถึงออสเตรเลีย และถึงจีน และในช่วงปี ค.ศ.1899 – 1900 ที่เกิดกบฏนักมวย เขาบังเอิญติดอยู่ที่จีนในช่วงนั้นพอดี ตัวเขาและเมียพูดภาษาจีนแมนดารินได้ดี เล่ากันว่า เมื่อกลับมาอเมริกา และต้องย้ายบ้านไปอยู่ทำเนียบขาว ท่านประธานาธิบดีกับท่านผู้หญิง จะส่งภาษาจีนกัน เวลาไม่อยากให้ใครรู้เรื่อง ว่านินทา หรือด่าใคร
    เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขณะที่ปีแรกๆ อเมริกาตั้งตัวเป็นกลาง แต่การรบในยุโรปกำลังสาหัส และชาวยุโรปรับบาปเคราะห์ ขาดทั้งอาหาร ยา และเครื่องนุ่งห่ม ปี ค.ศ.1914 Hoover ซึ่งรวยจนพอจากการเจอแร่สาระพัดแห่ง จึงมาทำการกุศล ช่วยบริหารองค์กรชื่อ Committee for Relief in Belgium (CRB) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถึงเดือนละประมาณ 11 ล้านเหรียญ ดูเหมือนในรายชื่อผู้ใจบุญรายใหญ่ของ CRB จะมีชื่อมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์อยู่ด้วย
    เสร็จจากช่วยคนเจอภัยสงคราม Hoover ก็ไปใจดีต่อที่รัสเซีย ในปี ค.ศ.1917 ซึ่งก็มีคนเจอภัยปฏิวัติ ช่วยคนไป มีเวลาก็สำรวจแร่ไป ในที่สุด นักธุรกิจใหญ่ๆอเมริกัน ก็เข้าไปขุดแร่ทำเหมืองในรัสเซียกันใหญ่ คงไม่ต้องบอกว่า มีชื่อใครบ้าง
    ปี ค.ศ.1927 เกิดน้ำท่วมใหญ่แถวแม่น้ำมิสซิสซิปปี ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่อยู่ ตอนนั้น Hoover เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ของอเมริกา เลยไปดูแลชาวบ้าน โดยระดมทั้งกองทหาร และกาชาดไปช่วย และด้วยเงินทุนจากมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ เขาตั้งหน่วยอนามัยขึ้นในแถบที่น้ำท่วม และหน่วยอนามัยนี้ ได้ช่วยรักษา ชาวบ้านที่ติดเชื้อมาเลเรีย เชื้อไทฟอยด์ ท้องร่วง ฯลฯ และก็บังเอิญเป็นช่วงเดียวกับที่มูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ ซึ่งไปตั้งหน่วยค้นคว้าทางแพทย์อยู่ในจีน ก็กำลังค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องเชื้อโรคสาระพัด และก็บังเอิญ เป็นช่วงเดียวกับ นายชิโร อิชิอิ Shiro Ishii แห่งหน่วย 731 ของญี่ปุ่น ก็ได้รับคำสั่งให้ไปตั้งหน่วยทดลองการใช้อาวุธชีวภาพ และแบคทีเรียกับมนุษย์ และทดลองกับชาวจีน จนเจ็บป่วยทรมาน แสนสาหัส อยู่แถวทางเหนือของจีน
    เรื่องบังเอิญ มันแยะจริง

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    28 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 17 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 17 อเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ในปลายปี ค.ศ.1941 แต่ก่อนอเมริกาจะเข้าทำสงคราม ถังขยะความคิด Council on Foreign Relations (CFR) และกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา ภายใต้การกำกับของ CFR ได้รวบรวมนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน ประมาณ 200 คน ระดมสมอง จัดทำโครงการ ที่เรียกว่า War and Peace Studies อย่างลับสุดยอด ตั้งแต่ก่อนปี ค.ศ.1940 โครงการนี้อยู่ภายใต้การอำนวยการ และเงินทุนสนับสนุนทั้งหมด โดยมูลนิธืร้อกกี้เฟลเลอร์ War and Peace Studies ได้วางแผนไว้เรียบร้อยว่า อเมริกาจะต้องเข้าสู่สงครามโลก และกำหนดเส้นทางของอเมริกาภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างชัดเจนว่า อเมริกาจะต้องเข้าครอบครอง และควบคุมบริเวณใดบ้างของโลกนี้ เพื่อสร้างความเจริญเติบโต แข็งแกร่ง ให้แก่เศรษฐกิจของอเมริกา บริเวณดังกล่าว รวมถึงลาตินอเมริกา ยุโรป อาณานิคมของจักรภพอังกฤษ และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด War and Peace Studies เรียกบริเวณนี้ว่า ” Grand Area” โครงการ War and Peace Studies ยังบอกอีกว่า เราจะต้องได้เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเอาทรัพยากรในบริเวณนี้มาใช้เป็นวัตถุดิบ ให้ญี่ปุ่นทำอุตสาหกรรมผลิตสินค้า และส่งสินค้านั้นกลับไปขายในประเทศที่เป็นเจ้าของแหล่งทรัพยากรที่เราไป (ปล้น) เอามานั่นแหละ ญี่ปุ่นจะเป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรม ที่มีต้นทุกถูกกว่าบ้านเรา โดยเราเป็นเจ้าของ และหลายปี ก่อนที่ญี่ปุ่นจะยอมแพ้สงคราม หรืออาจจะก่อนที่ญี่ปุ่นเข้าสงครามด้วยซ้ำ อเมริกา (หรือ ร้อกกี้เฟลเลอร์ the great ) คิดไว้แล้วว่า เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม อเมริกาจะเป็นผู้ครอบครอง และควบคุมญี่ปุ่นหลังสงครามแต่ผู้เดียว และอเมริกาก็ทำได้ อเมริกาน่าจะวางแผนนี้นานอย่างน้อยตั้งแต่ปี ค.ศ.1900 … นักล่าใบตองแห้งแน่จริงๆ วางแผนเป็นขั้นตอน ยาวนาน จนบัดนี้ก็ยังไม่หลุดแผน และยังไม่จบแผน… ในวันที่ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม อเมริกาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองญี่ปุ่นแต่ผู้เดียวตามแผน ต่างกับเยอรมัน ซึ่งเมื่อแพ้สงคราม ฝ่ายสัมพันธมิตรแต่ละชาติ ต่างก็พากันตั้งหน่วยทหารของตนเป็นรัฐบาล ปกครองเขตตนในเยอรมัน แต่ญี่ปุ่นมีเขตปกครองเดียวคือ เขตของอเมริกา และอเมริกาใช้รัฐบาลญี่ปุ่นขณะนั้น ปกครองญี่ปุ่นภายใต้การกำกับดูแลของอเมริกา ประธานาธิบดีทรูแมนแต่งตั้งให้ นายพลแมคอาร์อาเธอร์ มาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของฝ่ายสัมพันธมิตร Supreme Commander Allied Power (SCAP) มาดูแลญี่ปุ่น โดยผู้ชนะสงครามรายอื่นเช่น นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ,รวมทั้ง นายพลเจียงไคเช็ค ของจีน และแม้แต่สตาลิน ของโซเวียต ก็ไม่ (กล้า) ขัดใจอเมริกา และในช่วง 6 ปี ที่ นายพลแมค ใช้อำนาจในฐานะ SCAP ปกครองชาวญี่ปุ่น 83 ล้านคน เขาไม่สนใจกับคณะกรรมมาธิการพันธมิตรอีก 11 ประเทศ Far Eastern Commission ที่ตั้งขึ้นมาภายหลัง ที่หวังจะมีส่วนร่วมในการ “ดูแล” ญี่ปุ่น แม้แต่น้อย คณะ 11ประเทศ กลายเป็นแค่ “ผู้ดู” นายพลแมค มาถึงญี่ปุ่น พร้อมกับภาระกิจใหญ่ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลอเมริกา คือ มาทำการปฏิรูปญี่ปุ่น แต่ขณะเดียวกัน เกี่ยวกับเรื่องญี่ปุ่น ในวอชิงตันเองก็ไม่ได้มีความเห็นไปทางเดียวกันนัก การเมืองฝ่ายหนึ่ง ต้องการให้เดินหน้าปฏิรูปญี่ปุ่น แต่การเมืองอีกฝ่ายหนึ่ง ต้องการให้การปฏิรูปล่มกลางคัน ท่านนายพลแมคน่าจะปวดหัว การ”ปฏิรูป” ญี่ปุ่น ที่อเมริกาหวังจะให้ดำเนินการด่วน ภายใต้อำนาจ ของ SCAP เรื่องแรก คือ ญี่ปุ่น โดยจักรพรรดิ ต้องออกมารับผิดในการพาญี่ปุ่นเข้าสู่สงครามโลก เรื่องที่สอง คือ ปฏิรูปกองทัพญี่ปุ่น หรือจริงๆ ก็คือ ยกเลิก หรือลดกองกำลังญี่ปุ่นให้เหลือเพียงแค่หยิบมือ ตามมาด้วย เรื่องที่สาม คือ จับตัวพวกที่มีส่วนในการสนับสนุนให้ญี่ปุ่นทำสงคราม ไม่ว่าจะเป็นนายทหาร นักการเมือง นักธุรกิจ นายทุน ฯลฯ มาดำเนินคดี เรื่องใหญ่ทั้งนั้น นายพลแมคจะรับไหวหรือ แต่นายพลแมค ไม่ได้มาคนเดียว เดี่ยวๆ เขามี Laurence ร้อกกี้เฟลเลอร์ หลานของร้อกกี้ the greatมาเป็นผู้ช่วย และยังมี นายพล Bonner Fellers ประกบติดตัว นายพลแมค มาด้วย นายพล Feller มีชื่อเสียงในกองทัพว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับญี่ปุ่น แต่ จริงๆ เขาไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับญี่ปุ่น และแถมพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ แต่ เขาเป็นพวกเคว้กเกอร์ เช่นเดียวกับเมียของทูต Grew และรอบตัวของจักรพรรดินี แม่ของจักรพรรดิฮืโรฮิโต และเนื่องจากเป็นเคว้กเกอร์ เขารู้จักกับ ชาวญี่ปุ่นอีกหลายคน ที่พวกเคว้กเกอร์สนับสนุนให้ไปเรียนหนังสือต่อที่อเมริกา ตั้งแต่ระดับโรงเรียน จนถึงมหาวิทยาลัย ที่เป็นเครือข่ายของเคว้กเกอร์ที่อเมริกา เมื่อจบกลับมา หลายคนกลับมาเป็นทหารในกองทัพญี่ปุ่น Feller ถูกประธานาธิบดี Herbert Hoover ส่งมาประจำกองทัพอเมริกา ที่ฟิลิปปินส์ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ.1930 ต้นๆ แต่ดูเหมือนเขาจะอยู่ญี่ปุ่น มากกว่าฟิลิปปินส์ และต่อมาเขากลายเป็นเชือกที่ Hoover ใช้ชักใย นายพลแมค ที่ปกครองญี่ปุ่น ตามอำนาจของ SCAP อ้อ Hoover ก็เป็นพวกเคว้กเกอร์ด้วยครับ แล้ว Hoover มาเกี่ยวอะไรกับ นายพลแมค และ SCAP Herbert Hoover เป็นประธานาธิบดีของอเมริกา ในช่วงปี ค.ศ.1929-1934 ช่วง Great Depression ของอเมริกา แม้ว่าจะมีคนมองว่า เขาอยู่ในพวกกลุ่มวอลสตรีท แต่เขากู้เศรษฐกิจอเมริกาไม่ขึ้น และแยกทางกันเดินกับพวกมอร์แกนในภายหลัง แต่ที่น่าสนใจ Hoover จริงๆแล้ว เรียนจบมาด้านแร่วิทยา และเป็นผู้ชำนาญเรื่องแร่ เขายุ่งอยู่กับธุรกิจเหมืองแร่ ไปทั่วจนถึงออสเตรเลีย และถึงจีน และในช่วงปี ค.ศ.1899 – 1900 ที่เกิดกบฏนักมวย เขาบังเอิญติดอยู่ที่จีนในช่วงนั้นพอดี ตัวเขาและเมียพูดภาษาจีนแมนดารินได้ดี เล่ากันว่า เมื่อกลับมาอเมริกา และต้องย้ายบ้านไปอยู่ทำเนียบขาว ท่านประธานาธิบดีกับท่านผู้หญิง จะส่งภาษาจีนกัน เวลาไม่อยากให้ใครรู้เรื่อง ว่านินทา หรือด่าใคร เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขณะที่ปีแรกๆ อเมริกาตั้งตัวเป็นกลาง แต่การรบในยุโรปกำลังสาหัส และชาวยุโรปรับบาปเคราะห์ ขาดทั้งอาหาร ยา และเครื่องนุ่งห่ม ปี ค.ศ.1914 Hoover ซึ่งรวยจนพอจากการเจอแร่สาระพัดแห่ง จึงมาทำการกุศล ช่วยบริหารองค์กรชื่อ Committee for Relief in Belgium (CRB) ซึ่งมีค่าใช้จ่ายถึงเดือนละประมาณ 11 ล้านเหรียญ ดูเหมือนในรายชื่อผู้ใจบุญรายใหญ่ของ CRB จะมีชื่อมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์อยู่ด้วย เสร็จจากช่วยคนเจอภัยสงคราม Hoover ก็ไปใจดีต่อที่รัสเซีย ในปี ค.ศ.1917 ซึ่งก็มีคนเจอภัยปฏิวัติ ช่วยคนไป มีเวลาก็สำรวจแร่ไป ในที่สุด นักธุรกิจใหญ่ๆอเมริกัน ก็เข้าไปขุดแร่ทำเหมืองในรัสเซียกันใหญ่ คงไม่ต้องบอกว่า มีชื่อใครบ้าง ปี ค.ศ.1927 เกิดน้ำท่วมใหญ่แถวแม่น้ำมิสซิสซิปปี ทำให้ชาวบ้านไม่มีที่อยู่ ตอนนั้น Hoover เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์ของอเมริกา เลยไปดูแลชาวบ้าน โดยระดมทั้งกองทหาร และกาชาดไปช่วย และด้วยเงินทุนจากมูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ เขาตั้งหน่วยอนามัยขึ้นในแถบที่น้ำท่วม และหน่วยอนามัยนี้ ได้ช่วยรักษา ชาวบ้านที่ติดเชื้อมาเลเรีย เชื้อไทฟอยด์ ท้องร่วง ฯลฯ และก็บังเอิญเป็นช่วงเดียวกับที่มูลนิธิร้อกกี้เฟลเลอร์ ซึ่งไปตั้งหน่วยค้นคว้าทางแพทย์อยู่ในจีน ก็กำลังค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องเชื้อโรคสาระพัด และก็บังเอิญ เป็นช่วงเดียวกับ นายชิโร อิชิอิ Shiro Ishii แห่งหน่วย 731 ของญี่ปุ่น ก็ได้รับคำสั่งให้ไปตั้งหน่วยทดลองการใช้อาวุธชีวภาพ และแบคทีเรียกับมนุษย์ และทดลองกับชาวจีน จนเจ็บป่วยทรมาน แสนสาหัส อยู่แถวทางเหนือของจีน เรื่องบังเอิญ มันแยะจริง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 28 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 348 Views 0 Reviews
  • Zombie Protocol: NTLM ยังหลอกหลอนโลกไซเบอร์ในปี 2025

    แม้ว่า NTLM จะเป็นโปรโตคอลการยืนยันตัวตนที่มีอายุกว่า 20 ปี แต่รายงานล่าสุดจาก Kaspersky ชี้ว่า NTLM ยังคงถูกใช้งานอย่างแพร่หลายและเป็นช่องทางโจมตีสำคัญในปี 2025 ช่องโหว่ใหม่ ๆ เช่น CVE-2024-43451 ทำให้ผู้โจมตีสามารถขโมยค่าแฮช NTLMv2 ได้โดยแทบไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้เลย

    ช่องโหว่ CVE-2024-43451 และการโจมตีจริง
    ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ MSHTML engine ที่ยังคงอยู่ใน Windows เพื่อรองรับการทำงานย้อนหลัง ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ .url ที่เมื่อผู้ใช้คลิก ขยับ หรือแม้แต่ลบไฟล์ ก็จะกระตุ้นให้ระบบส่งข้อมูลยืนยันตัวตนไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีทันที กรณีนี้ถูกใช้จริงโดยกลุ่มแฮกเกอร์หลายกลุ่ม เช่น BlindEagle ในโคลอมเบีย และ Head Mare ในรัสเซีย

    ช่องโหว่ NTLM อื่น ๆ ที่ร้ายแรง
    นอกจาก CVE-2024-43451 ยังมี CVE-2025-33073 ซึ่งเป็นช่องโหว่ NTLM Reflection ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถบังคับให้เครื่องยืนยันตัวตนกับตัวเอง และได้สิทธิ์ SYSTEM-level โดยตรง กรณีนี้ถูกพบในภาคการเงินของอุซเบกิสถาน และถูกใช้เพื่อขโมยข้อมูลจากหน่วยความจำ LSASS

    ความท้าทายของ Legacy Debt
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดันให้เลิกใช้ NTLM และเปลี่ยนไปใช้ Kerberos แต่หลายองค์กรยังคงมีระบบที่พึ่งพา NTLM อยู่ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Legacy Debt หรือหนี้ทางเทคโนโลยีที่ยากจะลบออกไปได้ทันที นักวิจัยแนะนำให้เร่งตรวจสอบเครือข่ายเพื่อหาการใช้งาน NTLM และบังคับใช้มาตรการป้องกัน เช่น SMB Signing และ Extended Protection for Authentication (EPA)

    สรุปสาระสำคัญ
    NTLM ยังคงถูกใช้งานในปี 2025
    แม้จะเป็นโปรโตคอลเก่า แต่ยังฝังอยู่ในระบบ Windows จำนวนมาก

    ช่องโหว่ CVE-2024-43451 ถูกใช้โจมตีจริง
    ใช้ไฟล์ .url เพื่อขโมยค่าแฮช NTLMv2 โดยไม่ต้องเปิดไฟล์

    CVE-2025-33073 เปิดช่องให้สิทธิ์ SYSTEM-level
    ใช้เทคนิค Reflection บังคับให้เครื่องยืนยันตัวตนกับตัวเอง

    กลุ่มแฮกเกอร์หลายประเทศใช้ช่องโหว่นี้
    BlindEagle (โคลอมเบีย), Head Mare (รัสเซีย/เบลารุส), Trojan Distribution (รัสเซีย)

    การคงอยู่ของ NTLM คือ Legacy Debt
    องค์กรที่ไม่เร่งเปลี่ยนไปใช้ Kerberos เสี่ยงต่อการถูกโจมตีซ้ำ

    การเผยแพร่สาธารณะของเทคนิคโจมตี
    เพิ่มโอกาสให้ผู้โจมตีทั่วไปสามารถนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น

    https://securityonline.info/zombie-protocol-how-ntlm-flaws-like-cve-2024-43451-are-haunting-2025/
    🧟‍♂️ Zombie Protocol: NTLM ยังหลอกหลอนโลกไซเบอร์ในปี 2025 แม้ว่า NTLM จะเป็นโปรโตคอลการยืนยันตัวตนที่มีอายุกว่า 20 ปี แต่รายงานล่าสุดจาก Kaspersky ชี้ว่า NTLM ยังคงถูกใช้งานอย่างแพร่หลายและเป็นช่องทางโจมตีสำคัญในปี 2025 ช่องโหว่ใหม่ ๆ เช่น CVE-2024-43451 ทำให้ผู้โจมตีสามารถขโมยค่าแฮช NTLMv2 ได้โดยแทบไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้เลย ⚠️ ช่องโหว่ CVE-2024-43451 และการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการใช้ MSHTML engine ที่ยังคงอยู่ใน Windows เพื่อรองรับการทำงานย้อนหลัง ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ .url ที่เมื่อผู้ใช้คลิก ขยับ หรือแม้แต่ลบไฟล์ ก็จะกระตุ้นให้ระบบส่งข้อมูลยืนยันตัวตนไปยังเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตีทันที กรณีนี้ถูกใช้จริงโดยกลุ่มแฮกเกอร์หลายกลุ่ม เช่น BlindEagle ในโคลอมเบีย และ Head Mare ในรัสเซีย 🔑 ช่องโหว่ NTLM อื่น ๆ ที่ร้ายแรง นอกจาก CVE-2024-43451 ยังมี CVE-2025-33073 ซึ่งเป็นช่องโหว่ NTLM Reflection ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถบังคับให้เครื่องยืนยันตัวตนกับตัวเอง และได้สิทธิ์ SYSTEM-level โดยตรง กรณีนี้ถูกพบในภาคการเงินของอุซเบกิสถาน และถูกใช้เพื่อขโมยข้อมูลจากหน่วยความจำ LSASS 🌐 ความท้าทายของ Legacy Debt แม้ Microsoft จะพยายามผลักดันให้เลิกใช้ NTLM และเปลี่ยนไปใช้ Kerberos แต่หลายองค์กรยังคงมีระบบที่พึ่งพา NTLM อยู่ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Legacy Debt หรือหนี้ทางเทคโนโลยีที่ยากจะลบออกไปได้ทันที นักวิจัยแนะนำให้เร่งตรวจสอบเครือข่ายเพื่อหาการใช้งาน NTLM และบังคับใช้มาตรการป้องกัน เช่น SMB Signing และ Extended Protection for Authentication (EPA) 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ NTLM ยังคงถูกใช้งานในปี 2025 ➡️ แม้จะเป็นโปรโตคอลเก่า แต่ยังฝังอยู่ในระบบ Windows จำนวนมาก ✅ ช่องโหว่ CVE-2024-43451 ถูกใช้โจมตีจริง ➡️ ใช้ไฟล์ .url เพื่อขโมยค่าแฮช NTLMv2 โดยไม่ต้องเปิดไฟล์ ✅ CVE-2025-33073 เปิดช่องให้สิทธิ์ SYSTEM-level ➡️ ใช้เทคนิค Reflection บังคับให้เครื่องยืนยันตัวตนกับตัวเอง ✅ กลุ่มแฮกเกอร์หลายประเทศใช้ช่องโหว่นี้ ➡️ BlindEagle (โคลอมเบีย), Head Mare (รัสเซีย/เบลารุส), Trojan Distribution (รัสเซีย) ‼️ การคงอยู่ของ NTLM คือ Legacy Debt ⛔ องค์กรที่ไม่เร่งเปลี่ยนไปใช้ Kerberos เสี่ยงต่อการถูกโจมตีซ้ำ ‼️ การเผยแพร่สาธารณะของเทคนิคโจมตี ⛔ เพิ่มโอกาสให้ผู้โจมตีทั่วไปสามารถนำไปใช้ได้ง่ายขึ้น https://securityonline.info/zombie-protocol-how-ntlm-flaws-like-cve-2024-43451-are-haunting-2025/
    SECURITYONLINE.INFO
    Zombie Protocol: How NTLM Flaws Like CVE-2024-43451 Are Haunting 2025
    Kaspersky reveals critical NTLM flaws active in 2025. Attackers use "clickless" exploits like CVE-2024-43451 to steal credentials and gain SYSTEM privileges.
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • ใครคือเจ้าของ Claude AI?

    Claude AI เป็นผลงานของบริษัท Anthropic สตาร์ทอัพจากซานฟรานซิสโก ก่อตั้งในปี 2021 โดยอดีตผู้บริหาร OpenAI คือ Dario และ Daniela Amodei จุดเด่นของ Anthropic คือการมุ่งเน้นเรื่อง ความปลอดภัยและความโปร่งใสในการพัฒนา AI โดย Claude ได้รับการตั้งชื่อตาม Claude Shannon บิดาแห่งทฤษฎีสารสนเทศ และเปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2023.

    การลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่
    แม้ว่า Anthropic จะยังคงเป็นบริษัทอิสระ แต่ก็ได้รับเงินลงทุนจำนวนมหาศาลจากหลายบริษัท เช่น Amazon ที่ทุ่มสูงสุดถึง 8 พันล้านดอลลาร์ พร้อมให้ใช้โครงสร้างพื้นฐาน AWS และชิป AI ของตนเอง, Google ที่ลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์, รวมถึง Salesforce และ Spark Capital ที่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ทำให้ Anthropic มีพันธมิตรเชิงพาณิชย์ที่แข็งแกร่งในตลาด.

    ความสัมพันธ์กับ Microsoft และการใช้งานจริง
    นอกจาก Amazon และ Google แล้ว Microsoft ก็มีบทบาทเช่นกัน โดยนำ Claude มารวมไว้ในชุด Microsoft 365 Copilot ควบคู่กับ GPT models สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Claude ไม่ได้เป็นของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่เป็นเทคโนโลยีที่หลายยักษ์ใหญ่ในวงการเข้ามามีส่วนร่วมและผลักดัน.

    โครงสร้างบริษัทและความสำคัญ
    Anthropic ถูกจัดตั้งเป็น Public-Benefit Corporation (PBC) ซึ่งหมายความว่ามีพันธกิจด้านความปลอดภัยระยะยาวควบคู่ไปกับการทำกำไร ทำให้แม้จะมีนักลงทุนรายใหญ่ แต่ก็ยากที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งจะเข้ามาควบคุมทั้งหมดได้ การที่ Claude อยู่ในกลุ่ม AI ระดับแนวหน้าจึงทำให้โครงสร้างการถือครองและการลงทุนมีความสำคัญต่ออนาคตของวงการ AI โดยรวม.

    สรุปสาระสำคัญ
    Claude AI เป็นผลงานของ Anthropic
    ก่อตั้งโดย Dario และ Daniela Amodei อดีตผู้บริหาร OpenAI

    เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2023
    ตั้งชื่อตาม Claude Shannon

    Amazon ลงทุนสูงสุดถึง 8 พันล้านดอลลาร์
    พร้อมให้ใช้ AWS และชิป AI

    Google ลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์
    มี Salesforce และ Spark Capital ร่วมด้วย

    Microsoft นำ Claude ไปใช้ใน 365 Copilot
    ทำงานร่วมกับ GPT models

    Anthropic แม้มีนักลงทุนรายใหญ่ แต่ยังคงเป็นบริษัทอิสระ
    ไม่มีบริษัทใดครอบครองทั้งหมด

    โครงสร้างแบบ Public-Benefit Corporation เน้นความปลอดภัยระยะยาว
    ทำให้การควบคุมโดยนักลงทุนรายเดียวเป็นไปได้ยาก

    https://www.slashgear.com/2035429/who-owns-claude-ai/
    🧠 ใครคือเจ้าของ Claude AI? Claude AI เป็นผลงานของบริษัท Anthropic สตาร์ทอัพจากซานฟรานซิสโก ก่อตั้งในปี 2021 โดยอดีตผู้บริหาร OpenAI คือ Dario และ Daniela Amodei จุดเด่นของ Anthropic คือการมุ่งเน้นเรื่อง ความปลอดภัยและความโปร่งใสในการพัฒนา AI โดย Claude ได้รับการตั้งชื่อตาม Claude Shannon บิดาแห่งทฤษฎีสารสนเทศ และเปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2023. 💵 การลงทุนจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แม้ว่า Anthropic จะยังคงเป็นบริษัทอิสระ แต่ก็ได้รับเงินลงทุนจำนวนมหาศาลจากหลายบริษัท เช่น Amazon ที่ทุ่มสูงสุดถึง 8 พันล้านดอลลาร์ พร้อมให้ใช้โครงสร้างพื้นฐาน AWS และชิป AI ของตนเอง, Google ที่ลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์, รวมถึง Salesforce และ Spark Capital ที่เข้ามามีส่วนร่วมด้วย ทำให้ Anthropic มีพันธมิตรเชิงพาณิชย์ที่แข็งแกร่งในตลาด. 🔗 ความสัมพันธ์กับ Microsoft และการใช้งานจริง นอกจาก Amazon และ Google แล้ว Microsoft ก็มีบทบาทเช่นกัน โดยนำ Claude มารวมไว้ในชุด Microsoft 365 Copilot ควบคู่กับ GPT models สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า Claude ไม่ได้เป็นของบริษัทใดบริษัทหนึ่ง แต่เป็นเทคโนโลยีที่หลายยักษ์ใหญ่ในวงการเข้ามามีส่วนร่วมและผลักดัน. ⚖️ โครงสร้างบริษัทและความสำคัญ Anthropic ถูกจัดตั้งเป็น Public-Benefit Corporation (PBC) ซึ่งหมายความว่ามีพันธกิจด้านความปลอดภัยระยะยาวควบคู่ไปกับการทำกำไร ทำให้แม้จะมีนักลงทุนรายใหญ่ แต่ก็ยากที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งจะเข้ามาควบคุมทั้งหมดได้ การที่ Claude อยู่ในกลุ่ม AI ระดับแนวหน้าจึงทำให้โครงสร้างการถือครองและการลงทุนมีความสำคัญต่ออนาคตของวงการ AI โดยรวม. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Claude AI เป็นผลงานของ Anthropic ➡️ ก่อตั้งโดย Dario และ Daniela Amodei อดีตผู้บริหาร OpenAI ✅ เปิดตัวครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2023 ➡️ ตั้งชื่อตาม Claude Shannon ✅ Amazon ลงทุนสูงสุดถึง 8 พันล้านดอลลาร์ ➡️ พร้อมให้ใช้ AWS และชิป AI ✅ Google ลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ➡️ มี Salesforce และ Spark Capital ร่วมด้วย ✅ Microsoft นำ Claude ไปใช้ใน 365 Copilot ➡️ ทำงานร่วมกับ GPT models ‼️ Anthropic แม้มีนักลงทุนรายใหญ่ แต่ยังคงเป็นบริษัทอิสระ ⛔ ไม่มีบริษัทใดครอบครองทั้งหมด ‼️ โครงสร้างแบบ Public-Benefit Corporation เน้นความปลอดภัยระยะยาว ⛔ ทำให้การควบคุมโดยนักลงทุนรายเดียวเป็นไปได้ยาก https://www.slashgear.com/2035429/who-owns-claude-ai/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Who Owns Claude AI (And Is It Amazon?) - SlashGear
    Anthropic owns Claude AI, not Amazon. Big-tech funding and cloud partnerships exist, but no single company controls the model or the startup.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • “Intel Nova Lake มาพร้อม NPU6: พลัง AI 74 TOPS”

    Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ที่จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI รุ่นใหม่ NPU6 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ซึ่งมากกว่า NPU4 ใน Lunar Lake ที่ทำได้ 48 TOPS และเหนือกว่า NPU5 ใน Panther Lake ที่ทำได้เพียง 50 TOPS การก้าวกระโดดนี้ถือเป็นการเพิ่มพลังถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับ NPU3 ใน Arrow Lake

    นอกจาก NPU ที่ทรงพลังแล้ว Nova Lake ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่ใช้ Xe3-LPG iGPU แม้ว่าจะลดจำนวนคอร์จาก 4 เหลือ 2 เมื่อเทียบกับ Arrow Lake แต่ Intel ตั้งใจชดเชยด้วยประสิทธิภาพ AI และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AVX10 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเชิงเวกเตอร์

    การพัฒนา NPU6 ถูกพบในแพตช์ของ Linux Kernel ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบจริงแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าการมาของ Nova Lake จะเป็นการตอบโต้การแข่งขันจาก AMD ที่เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Zen 6 ซึ่งเน้นพลัง AI เช่นกัน

    แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่การรั่วไหลครั้งนี้สร้างความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเป็นหัวใจสำคัญของทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Nova Lake และ NPU6
    ประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8)
    มากกว่า NPU4 (48 TOPS) และ NPU5 (50 TOPS)

    การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน
    1.5 เท่าเหนือกว่า Lunar Lake
    5 เท่าเหนือกว่า Arrow Lake

    สถาปัตยกรรมใหม่
    ใช้ Xe3-LPG iGPU (2 คอร์)
    รองรับ AVX10 สำหรับงานประมวลผลเวกเตอร์

    การพัฒนาและทดสอบ
    พบข้อมูลใน Linux Kernel patch
    อยู่ในขั้นตอนการทดสอบจริง

    ข้อกังวลและการแข่งขัน
    ลดจำนวนคอร์ iGPU อาจกระทบงานกราฟิก
    ต้องเผชิญการแข่งขันจาก AMD Zen 6 ที่เน้น AI เช่นกัน

    https://wccftech.com/intel-nova-lake-npu6-expected-to-deliver-74-tops-of-ai-performance/
    🖥️ “Intel Nova Lake มาพร้อม NPU6: พลัง AI 74 TOPS” Intel กำลังเตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Nova Lake ที่จะมาพร้อมหน่วยประมวลผล AI รุ่นใหม่ NPU6 โดยมีประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ซึ่งมากกว่า NPU4 ใน Lunar Lake ที่ทำได้ 48 TOPS และเหนือกว่า NPU5 ใน Panther Lake ที่ทำได้เพียง 50 TOPS การก้าวกระโดดนี้ถือเป็นการเพิ่มพลังถึง 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และมากกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับ NPU3 ใน Arrow Lake นอกจาก NPU ที่ทรงพลังแล้ว Nova Lake ยังมาพร้อมสถาปัตยกรรมกราฟิกใหม่ที่ใช้ Xe3-LPG iGPU แม้ว่าจะลดจำนวนคอร์จาก 4 เหลือ 2 เมื่อเทียบกับ Arrow Lake แต่ Intel ตั้งใจชดเชยด้วยประสิทธิภาพ AI และการรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AVX10 เพื่อเพิ่มความสามารถในการประมวลผลเชิงเวกเตอร์ การพัฒนา NPU6 ถูกพบในแพตช์ของ Linux Kernel ซึ่งบ่งชี้ว่ากำลังเข้าสู่ขั้นตอนการทดสอบจริงแล้ว นักวิเคราะห์มองว่าการมาของ Nova Lake จะเป็นการตอบโต้การแข่งขันจาก AMD ที่เตรียมเปิดตัวสถาปัตยกรรม Zen 6 ซึ่งเน้นพลัง AI เช่นกัน แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Intel แต่การรั่วไหลครั้งนี้สร้างความคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถกลับมาแข่งขันในตลาดได้ โดยเฉพาะในยุคที่ AI กำลังเป็นหัวใจสำคัญของทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Nova Lake และ NPU6 ➡️ ประสิทธิภาพสูงถึง 74 TOPS (INT8) ➡️ มากกว่า NPU4 (48 TOPS) และ NPU5 (50 TOPS) ✅ การเปรียบเทียบกับรุ่นก่อน ➡️ 1.5 เท่าเหนือกว่า Lunar Lake ➡️ 5 เท่าเหนือกว่า Arrow Lake ✅ สถาปัตยกรรมใหม่ ➡️ ใช้ Xe3-LPG iGPU (2 คอร์) ➡️ รองรับ AVX10 สำหรับงานประมวลผลเวกเตอร์ ✅ การพัฒนาและทดสอบ ➡️ พบข้อมูลใน Linux Kernel patch ➡️ อยู่ในขั้นตอนการทดสอบจริง ‼️ ข้อกังวลและการแข่งขัน ⛔ ลดจำนวนคอร์ iGPU อาจกระทบงานกราฟิก ⛔ ต้องเผชิญการแข่งขันจาก AMD Zen 6 ที่เน้น AI เช่นกัน https://wccftech.com/intel-nova-lake-npu6-expected-to-deliver-74-tops-of-ai-performance/
    WCCFTECH.COM
    Intel Nova Lake NPU6 Expected To Deliver 74 TOPS Of AI Performance
    As per the claim by a prominent leaker, the Intel Nova Lake will boast NPU6 that will deliver up to 74 AI TOPS performance.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 2
    จะเท่าเทียมชาติตะวันตกในสมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคมของยุโรป หมายความว่าญี่ปุ่นก็ต้องฝึกหัด เป็นนักล่ากับเขาด้วย จะนั่งตกปลา แต่งสวน มองก้อนหิน อย่างเดิมๆ มันจะไปล่าอะไรได้ แล้วจะไปเริ่มล่าใครดีล่ะ ก็ต้องเริ่มทดสอบกับพวกอยู่ใกล้ๆตัว แล้ว เกาหลี ที่อยู่คนละฟากฝั่งทะเล ก็เป็นเป้าหมายแรก สำหรับนักล่าหน้าใหม่ จากรักสันโดษ เปลี่ยนไปสร้างสันดานใหม่
    ปี ค.ศ.1876 เกาหลี ยังทำตัวตามสบาย ไม่คิดฝันว่าจะไปผ่าตัดเปลี่ยนหน้าใคร จะคิดปฏิรูปประเทศตามก้นตะวันตกแบบญี่ปุ่น ยิ่งนึกไม่ออกใหญ่ และก็ (ยัง) ไม่เป็นเป้าหมายที่ตะวันตกสาระพัดชาติเล็งจนน้ำลายหก แบบที่ทำกับจีน แต่ที่สำคัญ เกาหลี อุดมไปด้วยเหล็ก และถ่านหิน ญี่ปุ่นคิดว่า ถ้าจะเปลี่ยนประเทศจากกสิกรรม เป็นอุตสาหกรรม มันก็ต้องหาทรัพยากรพวกนี้ไว้ เพราะญี่ปุ่นเอง มีแต่ปลากับสาหร่าย พวกแร่เหล็ก ถ่านหินหาไม่ค่อยเจอ คิดแล้ว เป้าซ้อมการล่า ชื่อเกาหลี นี่น่าจะเหมาะเจาะกว่าเพื่อน
    ปัญหาอยู่ที่ว่า เกาหลี เป็นเมืองที่ต้องส่งเครื่องบรรณาการ หรือ ส่งส่วยให้กับจีนทุกปี กษัตริย์เกาหลี ต้องแต่งตัวเต็มยศ ไปโค้งคำนับคารวะฮ่องเต้จีน ญี่ปุ่นรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็เดินหน้า ไม่ลองไม่รู้ ฉวยโอกาสตอนจีนกำลังมึน จากการถูกกลุ่มนักล่าตะวันตก รุมสกรัม นั่นแหละเหมาะที่สุด แล้วญี่ปุ่นก็ยกกองทัพไปบุกเกาหลี แล้วก็บังคับให้เกาหลีทำข้อตกลง ยกเลิกอำนาจจีน ที่มีเหนือเกาหลี เกาหลี ตกใจ เลย ตกลง นับว่า นักล่าหน้าใหม่สอบผ่าน เรียนได้เร็ว สงสัยมีครูดี
    ปี ค.ศ.1894 เกาหลีเกิดตะลุมบอนกันเอง จีนยังมองเกาหลี เป็นเด็กในปกครอง จึงส่งกองกำลังมาห้ามมวย ส่วนญี่ปุ่น นักล่าหน้าใหม่ เห็นเกาหลีเหยื่อหมาดๆ มีเรื่องวุ่นวาย ก็ต้องโชว์มาดลูกพี่ ส่งกองกำลังไปเกาหลีด้วยเหมือนกัน เลยจ้ะเอ๋กับกองกำลังของจีน ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องแสดงความเก่งกล้า ให้ปรากฏแก่สายตาของชาวเกาหลี ก็เลยเป็นสาเหตุของสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ.1894-1895
    ผลการรบปรากฏว่า จีน แพ้ ญี่ปุ่น อย่างหมดรูป จีนถอยทัพหงอยๆ ออกไปจากเกาหลี แต่ญี่ปุ่นไม่ถอยกลับ ยิ่งฮึกเหิมกว่าเดิม ล่าครั้งแรกก็ได้ผลแล้ว แถม นายเก่าของเหยื่อ ยังมาแพ้ต่อหน้าลูกกระเป๋งแบบไม่ เหลือรัศมี ญี่ปุ่นเลยจับมือเกาหลี ทำสัญญาใหม่ คราวนี้เอาให้ชัดๆ เกาหลี เจ้าตกเป็นเมืองขึ้นของเรา ญี่ปุ่น แล้วนะ ส่วย บรรณาการอะไร ที่เคยส่งให้แก่จีน ก็จงเลิกส่งเสีย และส่งมาให้เราแทน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยัง ยึดหมู่เกาะต่างๆ ที่เป็นของจีน ติดไม้ติดมือไปด้วย เกาะสำคัญที่ติดมือมาก็คือ เกาะไต้หวัน นั่นแหละ
    แค่นั้น ยังไม่หน่ำใจ ญี่ปุ่นไปยึดเอาแหลมเลี่ยวตง Liaodong Penninsula ที่บรรดาชาติตะวันตก ต่างก็เล็งจะฮุบมาจากจีน แต่จีนดันเอาแหลมเลี่ยวตง ให้รัสเซียเช่าไปนานแล้ว คราวนี้ก็สนุกซิครับ ญี่ปุ่นยิ่งเบ่งพองขึ้นไปใหญ่ เกาหลีและจีน ได้เห็นอานุภาพกองทัพของญี่ปุ่นรุ่นใหม่แล้ว คราวนี้ อิทธิพลของรัสเซียในเกาหลี และที่แมนจูเรีย กำลังจะถูกท้าทายเป็นลำดับต่อไป สันดานใหม่นี่มันโตไวจัง
    แล้วรัสเซียก็ถูกญี่ปุ่นท้าทายจริงๆ รัสเซียเป็นฝ่ายแพ้อย่างหมดท่า อีกราย ในการรบกับญี่ปุ่น Russo-Japan War ในปี ค.ศ.1904-1905 ทำให้ญี่ปุ่นขึ้นชั้น เป็นชาติมหาอำนาจทันที ญี่ปุ่นยึดแหลมเลี่ยวตง หรือแคว้นกวางตุ้ง นั่นแหละ ที่รัสเซียเช่ามาจากจีน แถมยึดลามไปเอาสมบัตืของแมนจูเรีย คือทางรถไฟ สายแมนจูเรียอีกด้วย อืม..เรื่องทางรถไฟมาอีกแล้ว จำไว้นะครับ สมัยก่อน ทางรถไฟคือเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ
    ลำพังญี่ปุ่นเอง เป็นนักล่าหน้าใหม่ ไม่น่าจะขวัญกล้าสามารถ เดินหน้าไปท้ารบรัสเซีย ที่รุ่นใหญ่กว่าแยะนัก และรบชนะเสียด้วย ถ้ายังจำกันได้ (สำหรับท่าน ที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษมาแล้ว) ญี่ปุ่น มีคนชักใย และช่วยหาทุนก้อนมหึมาให้ไปรบรัสเซีย เรื่องนี้ ลืมไม่ได้ เดี๋ยวจะเข้าใจญี่ปุ่นไขว้เข้ว เหมือนที่ญี่ปุ่นเอง อาจจะกำลังเขว้อยู่
    หลังสงครามญี่ปุ่นรัสเซียจบลง ญี่ปุ่น ประกาศผนวกเกาหลี เป็นของตัวในปี ค.ศ.1910 ญี่ปุ่นชักเชื่อว่า แนวทางปฏิรูปประเทศ ที่เอาอย่างตะวันตก ขยายกองทัพเพื่อไปล่าเหยื่อ นี่ มันถูกทาง และมันอร่อยถูกปากจริงๆ
    สงครามโลกครั้งที่ 1 ญี่ปุ่นไปเข้าร่วมสงครามกับเขาด้วย โดยอยู่ฝ่ายพวกอังกฤษ Allied Powers ไม่ได้ไปรบอะไรกับเขาในยุโรปหรอก แค่ เตรียมไล่ เก็บเล็กเก็บน้อย พวกอาณานิคมของเยอรมัน ที่อยู่แถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นกำลังเดินตามรอยตีนนักล่ารุ่นใหญ่ อย่างขมักเขม้น และดูเหมือนนักล่ารุ่นใหญ่ ก็ไม่ได้ขัดขวาง หรือขัดคอ เพราะกำลังไม่ว่างมือว่างปาก
    ญี่ปุ่นเลยกำแหงได้ใจ ส่งหนังสือเรียกร้อง 21 ข้อ ไปถึงจีน ที่เรียกว่า The Twenty-One Demands ในปี ค.ศ.1915 ข้อเรียกร้องที่เป็นที่ฮือฮา คือ ญี่ปุ่นต้องการให้จีนส่งมอบการครอบครอง ท่าเรือ ทางรถไฟ เหมืองแร่ ฯลฯ ที่เป็นของเยอรมัน หรือที่เยอรมันเช่าไปจากจีน ให้ญี่ปุ่น แต่ข้อเรียกร้องสุดท้ายของญี่ปุ น นี่สุดยอดที่สุด คือ ให้จีน แต่งตั้งญี่ปุ่นเป็น ที่ปรึกษา การบริหารบ้านเมือง ทั้งในด้านการทหาร การค้า การปกครอง และ ขอเป็นตำรวจร่วมด้วย สรุป แปลความหนังสือเรียกร้อง 21ข้อ สั้นๆของญี่ปุ่น ถึงจีน ว่า กูจะกินมึงแล้วนะ นั่นแหละ มีปัญหาไหม
    จีนเอง กำลังมีเรื่องวุ่นวาย หลังจาก ซุนยัดเซ็น ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิง เมื่อปี ค.ศ.1911 ปฏิวัติสำเร็จ แต่ปกครองไม่ได้ จีนแบ่งเป็นก๊กเป็นพวก แย่งชิงอำนาจ หักเหลี่ยม หักหลังกันเองอยู่หลายปี มันเป็นจังหวะเหมาะแก่การ ปีนบ้านเข้าไปตีหัวเขา ระหว่างที่เขากำลังชุลมุนกัน จีนหมดทางสู้ญี่ปุ่น ทำท่าจะยอม แต่จีนเป็นเหยื่อรายใหญ่ คิดว่า นักล่ารุ่นใหญ่ เขาจะปล่อยให้นักล่าหน้าใหม่ ฉวยโอกาสคาบเอาไปง่ายๆหรือ การแย่งชามข้าวกับแบบเอิกเกริก ก็สามารถทำใ้ห้ชามกลิ้งคว่ำข้าวหก พากันอดแดกกันหมดได้ ขบวนการขัดคอ ขวางทาง ญี่ปุ่น จึงมาจากทุกทิศ ข้อเรียกร้อง 21 ข้อ แบบด้านๆ ของญี่ปุ่น
    ก็เลยฝ่อไปดื้อๆ
    แล้วบรรยากาศความเป็นมิตร ก็เรื่มเปลี่ยน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบไม่เหมือนแผนที่วางไว้ หลายประเทศในยุโรป จบแบบช้ำชอกฉิบหาย แม้ว่าจะเป็นฝ่ายชนะสงคราม เช่น อังกฤษตัวตั้งตัวตี หรือฝรั่งเศส หรือเบลเยี่ยม ที่อ้างว่าเป็นกลาง แต่ญี่ปุ่น มาร่วมสงครามแบบเสมอนอก นอกจากไม่ช้ำ เพราะไม่ได้ไปร่วมรบกับเขา แต่ดันฉวยโอกาส ไปอมของคนอื่นเขามาเสียเต็มปาก แบบนี้ ลูกพี่นักล่ารุ่นใหญ่ก็คงไม่เอ็นดูน้องใหม่เท่าไหร่ แม้จะเคยบอกรับให้เป็นสมาชิกใหม่อนาคตรุ่ง แต่เรื่องตัดหน้าคาบเหยื่อไปนี่ มันยอมให้กันไม่ได้ มันเป็นเรื่องเสียทั้งหน้า เสียทั้งเหยื่อ
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายนิยมการสร้างกองทัพ เป็นผู้มีอำนาจบริหารญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจึงยิ่งเหมือนว่าวติดลมบน หมายมั่นจะแผ่อำนาจของตน ไปครอบคลุมจีนให้ได้ เพราะช่วงระหว่างสงครามนั้น จีนกำลังอ่อนแอ เหมาะสำหรับที่จะงับทีละคำๆ แต่หลังจากสงครามโลกจบ จีนที่แตกเป็นหลายก๊ก กลับมีการเคลื่อนไหว โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง รวมตัวกันได้ และยึดส่วนใต้ของจีน เป็นเขตของตัว ตั้งรัฐบาลฝ่าย Nationalist government และตั้งเมืองนานกิง Nanking หรือบ้างก็เรียก นานจิง Nanjing เป็นเมืองหลวงของตัว ส่วนฝ่ายฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสม์ ขึ้นไปยึดทางตะวันออกเฉียงเหนือ แม้ระหว่างก๊ก จะยังมีสู้กันเองบ้าง แต่ก็เริ่มมีทั้งกวาดล้างและกวาดมารวมกัน ปี ค.ศ. 1928 จีนจึงเริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้น
    ญี่ปุ่นจับตาดูการเคลื่อนไหวของจีนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เห็นจีนกำลังแก้แหที่ถูกโยนมาคลุมประเทศอย่างน่าสนใจ นี่ถ้าจีนฟื้น ทางรถไฟแมนจูเรีย และแคว้นกวางตุ้ง ที่เราไปจิกมาก็น่าจะไม่ปลอดภัย ญี่ปุ่นพยายามมาเกือบ 50 ปี ที่จะไม่ต้องมีชะตากรรมอย่างจีน มาบัดนี้ จีนดันจะฟื้น ญี่ปุ่นทนไม่ไหว รีบเปลี่ยนยุทธศาสตร์
    ปี ค.ศ.1931 ญี่ปุ่น ตัดสินใจบุกแมนจูเรีย เพื่อดูแลผลประโยชน์ (ที่ตัวเองไปยึดมา) ในแมนจูเรีย และกวางตุ้ง ญี่ปุ่นตั้งรัฐแมนจูกัวขึ้นมา เหมือนเป็นรัฐเถื่อน เพราะไม่มีใครรับรอง ญี่ปุ่นไม่มีพวกสนับสนุนในเรื่องนี้ แถมทำให้จีนหันกลับมาสู้กับญี่ปุ่นต่อ การปะทะกัน เริ่มกลับมาใหม่
    ในที่สุด ญี่ปุ่นก็ยั่วยุสำเร็จ สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นรอบ 2 ที่ สะพาน มาร์โคโปโลก็เกิดขึ้น ในปีค.ศ.1937 สงครามระหว่างจีน กับญี่ปุ่นครั้งนี้ ไม่ได้จบเร็วอย่าง สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ครั้งนี้ พวกก๊กต่างๆ ของจีนสงบศึกกันเองชั่วคราว จับมือกันสู้ยิบตากับญี่ปุ่น แต่ไม่ยอมสงบศึกกับญี่ปุ่น ที่เสนอเงื่อนไข หลอกให้จีนรับ เพื่อที่จะให้จีนอดตาย การรบยือเยื้อไปถึงปี ค.ศ.1941 และในที่สุด ก็เลิกรบกันไป เพราะญี่ปุ่น เปลี่ยนไปรบสนามใหญ่เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2
    แต่การรบกับจีนครั้งนี้ แม้จะเหมือนชนะ แต่ญี่ปุ่นก็ยับเยิน มันเป็นการประเมินผิด ของญี่ปุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ
    การรบยืดเยื้อกับจีนครั้งนี้ ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น และกองทัพระเนระนาด ยาง เหล็ก น้ำมัน ร่อยหรอ และญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเหลือเลยในภูมืภาค นอกจากนั้น ในสายตาของนักล่านานาชาติ ยังรุมกันประณามญี่ปุ่นอีกว่า เป็นนักรุกราน ไม่มีใครคิดยื่นมือมาช่วยญี่ปุ่นรบจีน ภาพพจน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นชาติโหดร้าย ชอบรุกราน และในที่สุดอเมริกาก็ประกาศคว่ำบาตรญี่ปุ่นด้านการค้า
    มาถึงตอนนี้ เหมือนญี่ปุ่นตัดสินใจผิดพลาด สู้อุตส่าห์ปฏิรูปประเทศ เดินตามหมากฝรั่งเพี้ยบเลย แต่ทำไม พอญี่ปุ่นทำเหมือนตะวันตก แต่ตะวันตกกลับไม่พอใจ เอะ จะเอายังไงกันแน่
    ญี่ปุ่นเดืนตามก้นตะวันตกมาถึงกลางทาง แต่ญี่ปุ่นไม่มีทรัพยากรเหลือแล้ว มีแต่จะต้องเดินหน้าไปเอาของคนอื่น ญี่ปุ่นมีของคนอื่นให้เลือก 2 แห่ง แห่งหนึ่ง คือ ขึ้นเหนือไปไซบีเรีย ไปเอาของรัสเซีย อีกแห่งคือ ลงใต้ มาเอาแถบแปซิฟิก แต่ แปซืฟิกใต้ ส่วนใหญ่ ก็เป็น อาณานิคม ของอังกฤษ ในที่สุด ญี่ปุ่นก็เลือกลงใต้บุกแปซิฟิก !?!
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 2 จะเท่าเทียมชาติตะวันตกในสมัยศตวรรษที่ 19 ซึ่งเป็นยุคล่าอาณานิคมของยุโรป หมายความว่าญี่ปุ่นก็ต้องฝึกหัด เป็นนักล่ากับเขาด้วย จะนั่งตกปลา แต่งสวน มองก้อนหิน อย่างเดิมๆ มันจะไปล่าอะไรได้ แล้วจะไปเริ่มล่าใครดีล่ะ ก็ต้องเริ่มทดสอบกับพวกอยู่ใกล้ๆตัว แล้ว เกาหลี ที่อยู่คนละฟากฝั่งทะเล ก็เป็นเป้าหมายแรก สำหรับนักล่าหน้าใหม่ จากรักสันโดษ เปลี่ยนไปสร้างสันดานใหม่ ปี ค.ศ.1876 เกาหลี ยังทำตัวตามสบาย ไม่คิดฝันว่าจะไปผ่าตัดเปลี่ยนหน้าใคร จะคิดปฏิรูปประเทศตามก้นตะวันตกแบบญี่ปุ่น ยิ่งนึกไม่ออกใหญ่ และก็ (ยัง) ไม่เป็นเป้าหมายที่ตะวันตกสาระพัดชาติเล็งจนน้ำลายหก แบบที่ทำกับจีน แต่ที่สำคัญ เกาหลี อุดมไปด้วยเหล็ก และถ่านหิน ญี่ปุ่นคิดว่า ถ้าจะเปลี่ยนประเทศจากกสิกรรม เป็นอุตสาหกรรม มันก็ต้องหาทรัพยากรพวกนี้ไว้ เพราะญี่ปุ่นเอง มีแต่ปลากับสาหร่าย พวกแร่เหล็ก ถ่านหินหาไม่ค่อยเจอ คิดแล้ว เป้าซ้อมการล่า ชื่อเกาหลี นี่น่าจะเหมาะเจาะกว่าเพื่อน ปัญหาอยู่ที่ว่า เกาหลี เป็นเมืองที่ต้องส่งเครื่องบรรณาการ หรือ ส่งส่วยให้กับจีนทุกปี กษัตริย์เกาหลี ต้องแต่งตัวเต็มยศ ไปโค้งคำนับคารวะฮ่องเต้จีน ญี่ปุ่นรู้เรื่องนี้ดี แต่ก็เดินหน้า ไม่ลองไม่รู้ ฉวยโอกาสตอนจีนกำลังมึน จากการถูกกลุ่มนักล่าตะวันตก รุมสกรัม นั่นแหละเหมาะที่สุด แล้วญี่ปุ่นก็ยกกองทัพไปบุกเกาหลี แล้วก็บังคับให้เกาหลีทำข้อตกลง ยกเลิกอำนาจจีน ที่มีเหนือเกาหลี เกาหลี ตกใจ เลย ตกลง นับว่า นักล่าหน้าใหม่สอบผ่าน เรียนได้เร็ว สงสัยมีครูดี ปี ค.ศ.1894 เกาหลีเกิดตะลุมบอนกันเอง จีนยังมองเกาหลี เป็นเด็กในปกครอง จึงส่งกองกำลังมาห้ามมวย ส่วนญี่ปุ่น นักล่าหน้าใหม่ เห็นเกาหลีเหยื่อหมาดๆ มีเรื่องวุ่นวาย ก็ต้องโชว์มาดลูกพี่ ส่งกองกำลังไปเกาหลีด้วยเหมือนกัน เลยจ้ะเอ๋กับกองกำลังของจีน ก็เป็นเรื่องธรรมดา ที่กองกำลังของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องแสดงความเก่งกล้า ให้ปรากฏแก่สายตาของชาวเกาหลี ก็เลยเป็นสาเหตุของสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 1 ในปี ค.ศ.1894-1895 ผลการรบปรากฏว่า จีน แพ้ ญี่ปุ่น อย่างหมดรูป จีนถอยทัพหงอยๆ ออกไปจากเกาหลี แต่ญี่ปุ่นไม่ถอยกลับ ยิ่งฮึกเหิมกว่าเดิม ล่าครั้งแรกก็ได้ผลแล้ว แถม นายเก่าของเหยื่อ ยังมาแพ้ต่อหน้าลูกกระเป๋งแบบไม่ เหลือรัศมี ญี่ปุ่นเลยจับมือเกาหลี ทำสัญญาใหม่ คราวนี้เอาให้ชัดๆ เกาหลี เจ้าตกเป็นเมืองขึ้นของเรา ญี่ปุ่น แล้วนะ ส่วย บรรณาการอะไร ที่เคยส่งให้แก่จีน ก็จงเลิกส่งเสีย และส่งมาให้เราแทน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยัง ยึดหมู่เกาะต่างๆ ที่เป็นของจีน ติดไม้ติดมือไปด้วย เกาะสำคัญที่ติดมือมาก็คือ เกาะไต้หวัน นั่นแหละ แค่นั้น ยังไม่หน่ำใจ ญี่ปุ่นไปยึดเอาแหลมเลี่ยวตง Liaodong Penninsula ที่บรรดาชาติตะวันตก ต่างก็เล็งจะฮุบมาจากจีน แต่จีนดันเอาแหลมเลี่ยวตง ให้รัสเซียเช่าไปนานแล้ว คราวนี้ก็สนุกซิครับ ญี่ปุ่นยิ่งเบ่งพองขึ้นไปใหญ่ เกาหลีและจีน ได้เห็นอานุภาพกองทัพของญี่ปุ่นรุ่นใหม่แล้ว คราวนี้ อิทธิพลของรัสเซียในเกาหลี และที่แมนจูเรีย กำลังจะถูกท้าทายเป็นลำดับต่อไป สันดานใหม่นี่มันโตไวจัง แล้วรัสเซียก็ถูกญี่ปุ่นท้าทายจริงๆ รัสเซียเป็นฝ่ายแพ้อย่างหมดท่า อีกราย ในการรบกับญี่ปุ่น Russo-Japan War ในปี ค.ศ.1904-1905 ทำให้ญี่ปุ่นขึ้นชั้น เป็นชาติมหาอำนาจทันที ญี่ปุ่นยึดแหลมเลี่ยวตง หรือแคว้นกวางตุ้ง นั่นแหละ ที่รัสเซียเช่ามาจากจีน แถมยึดลามไปเอาสมบัตืของแมนจูเรีย คือทางรถไฟ สายแมนจูเรียอีกด้วย อืม..เรื่องทางรถไฟมาอีกแล้ว จำไว้นะครับ สมัยก่อน ทางรถไฟคือเส้นเลือดใหญ่ของประเทศ ลำพังญี่ปุ่นเอง เป็นนักล่าหน้าใหม่ ไม่น่าจะขวัญกล้าสามารถ เดินหน้าไปท้ารบรัสเซีย ที่รุ่นใหญ่กว่าแยะนัก และรบชนะเสียด้วย ถ้ายังจำกันได้ (สำหรับท่าน ที่อ่านนิทานเรื่อง ต้มข้ามศตวรรษมาแล้ว) ญี่ปุ่น มีคนชักใย และช่วยหาทุนก้อนมหึมาให้ไปรบรัสเซีย เรื่องนี้ ลืมไม่ได้ เดี๋ยวจะเข้าใจญี่ปุ่นไขว้เข้ว เหมือนที่ญี่ปุ่นเอง อาจจะกำลังเขว้อยู่ หลังสงครามญี่ปุ่นรัสเซียจบลง ญี่ปุ่น ประกาศผนวกเกาหลี เป็นของตัวในปี ค.ศ.1910 ญี่ปุ่นชักเชื่อว่า แนวทางปฏิรูปประเทศ ที่เอาอย่างตะวันตก ขยายกองทัพเพื่อไปล่าเหยื่อ นี่ มันถูกทาง และมันอร่อยถูกปากจริงๆ สงครามโลกครั้งที่ 1 ญี่ปุ่นไปเข้าร่วมสงครามกับเขาด้วย โดยอยู่ฝ่ายพวกอังกฤษ Allied Powers ไม่ได้ไปรบอะไรกับเขาในยุโรปหรอก แค่ เตรียมไล่ เก็บเล็กเก็บน้อย พวกอาณานิคมของเยอรมัน ที่อยู่แถวแปซิฟิก ญี่ปุ่นกำลังเดินตามรอยตีนนักล่ารุ่นใหญ่ อย่างขมักเขม้น และดูเหมือนนักล่ารุ่นใหญ่ ก็ไม่ได้ขัดขวาง หรือขัดคอ เพราะกำลังไม่ว่างมือว่างปาก ญี่ปุ่นเลยกำแหงได้ใจ ส่งหนังสือเรียกร้อง 21 ข้อ ไปถึงจีน ที่เรียกว่า The Twenty-One Demands ในปี ค.ศ.1915 ข้อเรียกร้องที่เป็นที่ฮือฮา คือ ญี่ปุ่นต้องการให้จีนส่งมอบการครอบครอง ท่าเรือ ทางรถไฟ เหมืองแร่ ฯลฯ ที่เป็นของเยอรมัน หรือที่เยอรมันเช่าไปจากจีน ให้ญี่ปุ่น แต่ข้อเรียกร้องสุดท้ายของญี่ปุ น นี่สุดยอดที่สุด คือ ให้จีน แต่งตั้งญี่ปุ่นเป็น ที่ปรึกษา การบริหารบ้านเมือง ทั้งในด้านการทหาร การค้า การปกครอง และ ขอเป็นตำรวจร่วมด้วย สรุป แปลความหนังสือเรียกร้อง 21ข้อ สั้นๆของญี่ปุ่น ถึงจีน ว่า กูจะกินมึงแล้วนะ นั่นแหละ มีปัญหาไหม จีนเอง กำลังมีเรื่องวุ่นวาย หลังจาก ซุนยัดเซ็น ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิง เมื่อปี ค.ศ.1911 ปฏิวัติสำเร็จ แต่ปกครองไม่ได้ จีนแบ่งเป็นก๊กเป็นพวก แย่งชิงอำนาจ หักเหลี่ยม หักหลังกันเองอยู่หลายปี มันเป็นจังหวะเหมาะแก่การ ปีนบ้านเข้าไปตีหัวเขา ระหว่างที่เขากำลังชุลมุนกัน จีนหมดทางสู้ญี่ปุ่น ทำท่าจะยอม แต่จีนเป็นเหยื่อรายใหญ่ คิดว่า นักล่ารุ่นใหญ่ เขาจะปล่อยให้นักล่าหน้าใหม่ ฉวยโอกาสคาบเอาไปง่ายๆหรือ การแย่งชามข้าวกับแบบเอิกเกริก ก็สามารถทำใ้ห้ชามกลิ้งคว่ำข้าวหก พากันอดแดกกันหมดได้ ขบวนการขัดคอ ขวางทาง ญี่ปุ่น จึงมาจากทุกทิศ ข้อเรียกร้อง 21 ข้อ แบบด้านๆ ของญี่ปุ่น ก็เลยฝ่อไปดื้อๆ แล้วบรรยากาศความเป็นมิตร ก็เรื่มเปลี่ยน เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 จบไม่เหมือนแผนที่วางไว้ หลายประเทศในยุโรป จบแบบช้ำชอกฉิบหาย แม้ว่าจะเป็นฝ่ายชนะสงคราม เช่น อังกฤษตัวตั้งตัวตี หรือฝรั่งเศส หรือเบลเยี่ยม ที่อ้างว่าเป็นกลาง แต่ญี่ปุ่น มาร่วมสงครามแบบเสมอนอก นอกจากไม่ช้ำ เพราะไม่ได้ไปร่วมรบกับเขา แต่ดันฉวยโอกาส ไปอมของคนอื่นเขามาเสียเต็มปาก แบบนี้ ลูกพี่นักล่ารุ่นใหญ่ก็คงไม่เอ็นดูน้องใหม่เท่าไหร่ แม้จะเคยบอกรับให้เป็นสมาชิกใหม่อนาคตรุ่ง แต่เรื่องตัดหน้าคาบเหยื่อไปนี่ มันยอมให้กันไม่ได้ มันเป็นเรื่องเสียทั้งหน้า เสียทั้งเหยื่อ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จบลง ฝ่ายนิยมการสร้างกองทัพ เป็นผู้มีอำนาจบริหารญี่ปุ่น ญี่ปุ่นจึงยิ่งเหมือนว่าวติดลมบน หมายมั่นจะแผ่อำนาจของตน ไปครอบคลุมจีนให้ได้ เพราะช่วงระหว่างสงครามนั้น จีนกำลังอ่อนแอ เหมาะสำหรับที่จะงับทีละคำๆ แต่หลังจากสงครามโลกจบ จีนที่แตกเป็นหลายก๊ก กลับมีการเคลื่อนไหว โดยกลุ่มก๊กมินตั๋ง รวมตัวกันได้ และยึดส่วนใต้ของจีน เป็นเขตของตัว ตั้งรัฐบาลฝ่าย Nationalist government และตั้งเมืองนานกิง Nanking หรือบ้างก็เรียก นานจิง Nanjing เป็นเมืองหลวงของตัว ส่วนฝ่ายฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสม์ ขึ้นไปยึดทางตะวันออกเฉียงเหนือ แม้ระหว่างก๊ก จะยังมีสู้กันเองบ้าง แต่ก็เริ่มมีทั้งกวาดล้างและกวาดมารวมกัน ปี ค.ศ. 1928 จีนจึงเริ่มกลับมาแข็งแรงขึ้น ญี่ปุ่นจับตาดูการเคลื่อนไหวของจีนอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา เห็นจีนกำลังแก้แหที่ถูกโยนมาคลุมประเทศอย่างน่าสนใจ นี่ถ้าจีนฟื้น ทางรถไฟแมนจูเรีย และแคว้นกวางตุ้ง ที่เราไปจิกมาก็น่าจะไม่ปลอดภัย ญี่ปุ่นพยายามมาเกือบ 50 ปี ที่จะไม่ต้องมีชะตากรรมอย่างจีน มาบัดนี้ จีนดันจะฟื้น ญี่ปุ่นทนไม่ไหว รีบเปลี่ยนยุทธศาสตร์ ปี ค.ศ.1931 ญี่ปุ่น ตัดสินใจบุกแมนจูเรีย เพื่อดูแลผลประโยชน์ (ที่ตัวเองไปยึดมา) ในแมนจูเรีย และกวางตุ้ง ญี่ปุ่นตั้งรัฐแมนจูกัวขึ้นมา เหมือนเป็นรัฐเถื่อน เพราะไม่มีใครรับรอง ญี่ปุ่นไม่มีพวกสนับสนุนในเรื่องนี้ แถมทำให้จีนหันกลับมาสู้กับญี่ปุ่นต่อ การปะทะกัน เริ่มกลับมาใหม่ ในที่สุด ญี่ปุ่นก็ยั่วยุสำเร็จ สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นรอบ 2 ที่ สะพาน มาร์โคโปโลก็เกิดขึ้น ในปีค.ศ.1937 สงครามระหว่างจีน กับญี่ปุ่นครั้งนี้ ไม่ได้จบเร็วอย่าง สงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่นครั้งที่ 1 ครั้งนี้ พวกก๊กต่างๆ ของจีนสงบศึกกันเองชั่วคราว จับมือกันสู้ยิบตากับญี่ปุ่น แต่ไม่ยอมสงบศึกกับญี่ปุ่น ที่เสนอเงื่อนไข หลอกให้จีนรับ เพื่อที่จะให้จีนอดตาย การรบยือเยื้อไปถึงปี ค.ศ.1941 และในที่สุด ก็เลิกรบกันไป เพราะญี่ปุ่น เปลี่ยนไปรบสนามใหญ่เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 แต่การรบกับจีนครั้งนี้ แม้จะเหมือนชนะ แต่ญี่ปุ่นก็ยับเยิน มันเป็นการประเมินผิด ของญี่ปุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ การรบยืดเยื้อกับจีนครั้งนี้ ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่น และกองทัพระเนระนาด ยาง เหล็ก น้ำมัน ร่อยหรอ และญี่ปุ่นไม่มีเพื่อนเหลือเลยในภูมืภาค นอกจากนั้น ในสายตาของนักล่านานาชาติ ยังรุมกันประณามญี่ปุ่นอีกว่า เป็นนักรุกราน ไม่มีใครคิดยื่นมือมาช่วยญี่ปุ่นรบจีน ภาพพจน์ของญี่ปุ่น กลายเป็นชาติโหดร้าย ชอบรุกราน และในที่สุดอเมริกาก็ประกาศคว่ำบาตรญี่ปุ่นด้านการค้า มาถึงตอนนี้ เหมือนญี่ปุ่นตัดสินใจผิดพลาด สู้อุตส่าห์ปฏิรูปประเทศ เดินตามหมากฝรั่งเพี้ยบเลย แต่ทำไม พอญี่ปุ่นทำเหมือนตะวันตก แต่ตะวันตกกลับไม่พอใจ เอะ จะเอายังไงกันแน่ ญี่ปุ่นเดืนตามก้นตะวันตกมาถึงกลางทาง แต่ญี่ปุ่นไม่มีทรัพยากรเหลือแล้ว มีแต่จะต้องเดินหน้าไปเอาของคนอื่น ญี่ปุ่นมีของคนอื่นให้เลือก 2 แห่ง แห่งหนึ่ง คือ ขึ้นเหนือไปไซบีเรีย ไปเอาของรัสเซีย อีกแห่งคือ ลงใต้ มาเอาแถบแปซิฟิก แต่ แปซืฟิกใต้ ส่วนใหญ่ ก็เป็น อาณานิคม ของอังกฤษ ในที่สุด ญี่ปุ่นก็เลือกลงใต้บุกแปซิฟิก !?! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 ส.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 561 Views 0 Reviews
  • วิธีสำรองและกู้คืน Snap Packages บน Linux

    Snap เป็นระบบแพ็กเกจที่ช่วยให้ติดตั้งและอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ง่ายบนหลายดิสโทร แต่ปัญหาคือ ไม่มีเครื่องมือ built-in สำหรับการย้ายหรือ export packages ทำให้ผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องหรือรีอินสตอลระบบมักสูญเสียการตั้งค่าและแอปที่เคยใช้ บทความนี้จึงเสนอวิธีแก้ด้วยการใช้คำสั่งพื้นฐานในการสร้างรายชื่อแพ็กเกจและบีบอัดข้อมูลการตั้งค่า

    ขั้นแรกคือการสร้างไฟล์รายชื่อแพ็กเกจทั้งหมดด้วยคำสั่ง snap list --all | awk 'NR>1 {print $1}' > snap-list.txt ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถติดตั้งแพ็กเกจเดิมทั้งหมดบนเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น จากนั้นต้องสำรองข้อมูลการตั้งค่าในโฟลเดอร์ ~/snap/ โดยใช้คำสั่ง tar -czf snap-data-backup.tar.gz ~/snap/ เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของแต่ละแอป

    ขั้นตอนการกู้คืนบนเครื่องใหม่
    เมื่อย้ายไปยังระบบใหม่ ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า Snap ถูกติดตั้งและทำงานได้ จากนั้นใช้ไฟล์รายชื่อที่สร้างไว้เพื่อทำการติดตั้งแพ็กเกจทั้งหมดด้วยคำสั่ง xargs -a snap-list.txt sudo snap install หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วจึงแตกไฟล์สำรองข้อมูล tar -xzf snap-data-backup.tar.gz -C ~/ เพื่อคืนค่าการตั้งค่าและข้อมูลการใช้งานของแต่ละแอป

    สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกมากขึ้น สามารถสร้างสคริปต์อัตโนมัติ เช่น ~/bin/snap-back.sh ที่รวมคำสั่งสำรองทั้งหมดไว้ และตั้งเวลาให้รันอัตโนมัติด้วย cron เช่นทุกวันอาทิตย์ตอนเช้า วิธีนี้ช่วยให้ระบบ Snap ถูกสำรองอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องทำเองทุกครั้ง

    ข้อจำกัดและสิ่งที่ควรระวัง
    แม้ว่าวิธีนี้จะช่วยให้การย้าย Snap packages ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถกู้คืนเวอร์ชันเฉพาะของแพ็กเกจได้ เพราะ Snap จะติดตั้งเวอร์ชันล่าสุดเสมอ อีกทั้งบางแพ็กเกจอาจต้องใช้ hooks หรือการตั้งค่าเฉพาะที่ไม่สามารถย้ายได้โดยตรง ผู้ใช้จึงควรตรวจสอบการทำงานของแอปหลังการกู้คืน และเตรียมแก้ไขการตั้งค่าเพิ่มเติมหากจำเป็น

    สรุปสาระสำคัญ
    วิธีสำรอง Snap packages
    ใช้ snap list --all เพื่อสร้างรายชื่อแพ็กเกจ
    บีบอัดโฟลเดอร์ ~/snap/ เพื่อเก็บข้อมูลการตั้งค่า

    วิธีการกู้คืน
    ติดตั้ง Snap บนเครื่องใหม่
    ใช้รายชื่อแพ็กเกจติดตั้งซ้ำด้วย xargs
    แตกไฟล์สำรองข้อมูลเพื่อคืนค่าการตั้งค่า

    ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง
    สร้างสคริปต์อัตโนมัติ (snap-back.sh)
    ตั้งเวลา cron ให้สำรองข้อมูลเป็นประจำ

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ไม่สามารถกู้คืนเวอร์ชันเฉพาะของแพ็กเกจได้
    บางแพ็กเกจต้องใช้ hooks ที่ไม่สามารถย้ายได้
    ต้องตรวจสอบการทำงานของแอปหลังการกู้คืน

    https://itsfoss.com/snap-app-back-up-restore/
    💾 วิธีสำรองและกู้คืน Snap Packages บน Linux Snap เป็นระบบแพ็กเกจที่ช่วยให้ติดตั้งและอัปเดตซอฟต์แวร์ได้ง่ายบนหลายดิสโทร แต่ปัญหาคือ ไม่มีเครื่องมือ built-in สำหรับการย้ายหรือ export packages ทำให้ผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องหรือรีอินสตอลระบบมักสูญเสียการตั้งค่าและแอปที่เคยใช้ บทความนี้จึงเสนอวิธีแก้ด้วยการใช้คำสั่งพื้นฐานในการสร้างรายชื่อแพ็กเกจและบีบอัดข้อมูลการตั้งค่า ขั้นแรกคือการสร้างไฟล์รายชื่อแพ็กเกจทั้งหมดด้วยคำสั่ง snap list --all | awk 'NR>1 {print $1}' > snap-list.txt ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถติดตั้งแพ็กเกจเดิมทั้งหมดบนเครื่องใหม่ได้ง่ายขึ้น จากนั้นต้องสำรองข้อมูลการตั้งค่าในโฟลเดอร์ ~/snap/ โดยใช้คำสั่ง tar -czf snap-data-backup.tar.gz ~/snap/ เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของแต่ละแอป 🔄 ขั้นตอนการกู้คืนบนเครื่องใหม่ เมื่อย้ายไปยังระบบใหม่ ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า Snap ถูกติดตั้งและทำงานได้ จากนั้นใช้ไฟล์รายชื่อที่สร้างไว้เพื่อทำการติดตั้งแพ็กเกจทั้งหมดด้วยคำสั่ง xargs -a snap-list.txt sudo snap install หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วจึงแตกไฟล์สำรองข้อมูล tar -xzf snap-data-backup.tar.gz -C ~/ เพื่อคืนค่าการตั้งค่าและข้อมูลการใช้งานของแต่ละแอป สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกมากขึ้น สามารถสร้างสคริปต์อัตโนมัติ เช่น ~/bin/snap-back.sh ที่รวมคำสั่งสำรองทั้งหมดไว้ และตั้งเวลาให้รันอัตโนมัติด้วย cron เช่นทุกวันอาทิตย์ตอนเช้า วิธีนี้ช่วยให้ระบบ Snap ถูกสำรองอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องทำเองทุกครั้ง ⚠️ ข้อจำกัดและสิ่งที่ควรระวัง แม้ว่าวิธีนี้จะช่วยให้การย้าย Snap packages ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น ไม่สามารถกู้คืนเวอร์ชันเฉพาะของแพ็กเกจได้ เพราะ Snap จะติดตั้งเวอร์ชันล่าสุดเสมอ อีกทั้งบางแพ็กเกจอาจต้องใช้ hooks หรือการตั้งค่าเฉพาะที่ไม่สามารถย้ายได้โดยตรง ผู้ใช้จึงควรตรวจสอบการทำงานของแอปหลังการกู้คืน และเตรียมแก้ไขการตั้งค่าเพิ่มเติมหากจำเป็น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ วิธีสำรอง Snap packages ➡️ ใช้ snap list --all เพื่อสร้างรายชื่อแพ็กเกจ ➡️ บีบอัดโฟลเดอร์ ~/snap/ เพื่อเก็บข้อมูลการตั้งค่า ✅ วิธีการกู้คืน ➡️ ติดตั้ง Snap บนเครื่องใหม่ ➡️ ใช้รายชื่อแพ็กเกจติดตั้งซ้ำด้วย xargs ➡️ แตกไฟล์สำรองข้อมูลเพื่อคืนค่าการตั้งค่า ✅ ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ขั้นสูง ➡️ สร้างสคริปต์อัตโนมัติ (snap-back.sh) ➡️ ตั้งเวลา cron ให้สำรองข้อมูลเป็นประจำ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ไม่สามารถกู้คืนเวอร์ชันเฉพาะของแพ็กเกจได้ ⛔ บางแพ็กเกจต้องใช้ hooks ที่ไม่สามารถย้ายได้ ⛔ ต้องตรวจสอบการทำงานของแอปหลังการกู้คืน https://itsfoss.com/snap-app-back-up-restore/
    ITSFOSS.COM
    Move Between the Distros: Back Up and Restore Your Snap Packages
    Make a backup of your Snap apps and application data and restore them to a new Linux system where Snap is supported. Works between Ubuntu and non-Ubuntu distros, too.
    0 Comments 0 Shares 153 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar
    #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar

    ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน
    มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก
    https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces

    เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear
    Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป
    https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support

    ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก
    ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears

    SSD พกพาไร้สายจาก Kingston
    Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก
    https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket

    Android จับมือ AirDrop ของ Apple
    สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง
    https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10

    ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity
    มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม
    https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device

    Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ
    Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns

    บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know

    Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI
    Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro

    ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่
    ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know

    ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว
    Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา
    https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks

    ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย
    มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร
    https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made

    กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก
    กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks

    แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร
    รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry

    Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู
    Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more

    รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน

    Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ
    https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan

    ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11
    ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026
    มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when

    รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ
    ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ
    https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws

    การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย
    มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback

    iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon
    Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl
    นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot
    Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me

    Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11
    หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games

    Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia
    Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028
    https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment

    หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats
    Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them

    ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก
    ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use

    Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5
    Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how

    คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา
    รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    📌📰🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📰📌 #รวมข่าวIT #20251121 #TechRadar 🛡️ ปราบปรามบริการโฮสติ้งเถื่อน มีการร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ในการจัดการกับบริษัท Media Land จากรัสเซีย ซึ่งให้บริการโฮสติ้งแบบ “bulletproof” ที่ถูกใช้โดยกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ เช่น Evil Corp และ LockBit เพื่อทำฟิชชิ่ง ปล่อยมัลแวร์ และโจมตี DDoS โครงสร้างพื้นฐานของบริษัทถูกยึด และผู้นำหลักถูกลงโทษทางการเงิน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้กลุ่มเหล่านี้ทำงานในเงามืดได้อีก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/another-bulletproof-hosting-service-has-been-locked-down-by-global-law-forces 📶 เน็ตพกพายุคใหม่จาก Netgear Netgear เปิดตัว Nighthawk 5G M7 อุปกรณ์ฮอตสปอตที่รองรับ Wi-Fi 7 สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกันถึง 32 เครื่อง ความเร็วระดับกิกะบิต และยังมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ราว 10 ชั่วโมง จุดเด่นคือรองรับ global eSIM ใช้งานได้กว่า 140 ประเทศ เหมาะกับคนเดินทางบ่อย ไม่ต้องพึ่งมือถือเป็นฮอตสปอตอีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/rip-mobile-hotspots-netgears-new-nighthawk-5g-m7-features-wi-fi-7-connectivity-and-even-global-esim-support 🌊 ความวุ่นวายในทะเลแดงกระทบสายเคเบิลโลก ความไม่สงบในทะเลแดงทำให้โครงการวางสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตขนาดใหญ่ เช่น 2Africa ของ Meta และ Blue-Raman ของ Google ต้องหยุดชะงัก ส่งผลให้การเชื่อมต่อระหว่างยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเกิดความล่าช้า ผู้ให้บริการบางรายเริ่มพิจารณาเส้นทางใหม่บนบกผ่านซาอุดีอาระเบียและอิรัก แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงและซับซ้อนทางการเมือง แต่ก็อาจเป็นทางออกเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/more-internet-outages-on-the-way-google-and-meta-delay-subsea-cable-plans-due-to-sabotage-fears 💾 SSD พกพาไร้สายจาก Kingston Kingston เปิดตัว Dual Portable SSD ที่ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ มาพร้อมหัว USB-A และ USB-C ในตัวเดียว ความเร็วอ่านสูงสุด 1,050MB/s และเขียน 950MB/s มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 13 กรัม แต่จุได้สูงสุดถึง 2TB รองรับหลายระบบปฏิบัติการ เหมาะกับคนที่ต้องการพกข้อมูลไปไหนมาไหนโดยไม่ต้องพกสายให้ยุ่งยาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/goodbye-pesky-cables-kingston-reveals-new-wire-free-portable-ssd-offering-up-to-2tb-storage-and-up-to-1-050-mb-s-data-transfers-and-itll-fit-into-even-your-smallest-pocket 🤝 Android จับมือ AirDrop ของ Apple สิ่งที่หลายคนไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงก็เกิดแล้ว! Google ประกาศว่า Quick Share ของ Android สามารถทำงานร่วมกับ AirDrop ของ Apple ได้แล้ว เริ่มต้นที่ Pixel 10 ทำให้การส่งไฟล์ระหว่าง Android และ iPhone, iPad, Mac สะดวกขึ้นมาก แม้ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้องเปิดโหมด “Everyone for 10 minutes” แต่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้กำแพงระหว่างสองระบบเริ่มพังลง 🔗 https://www.techradar.com/phones/google-pixel-phones/its-actually-happened-android-now-works-with-apple-airdrop-for-simple-file-sharing-starting-with-the-pixel-10 ⚠️ ช่องโหว่ในเบราว์เซอร์ AI ของ Perplexity มีรายงานว่า Comet AI Browser ของ Perplexity อาจมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมอุปกรณ์ได้ ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการสิทธิ์และ sandbox ที่ไม่รัดกุม ทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อการถูกโจมตีหากไม่อัปเดตหรือใช้มาตรการป้องกันเพิ่มเติม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/perplexitys-comet-ai-browser-may-have-some-concerning-security-flaws-which-could-let-hacker-hijack-your-device 🧑‍💻 Twitch ใช้สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันอายุ Twitch เริ่มทดสอบระบบ Facial Age Scan ในสหราชอาณาจักร เพื่อยืนยันอายุผู้ใช้งานก่อนเข้าถึงคอนเทนต์ที่จำกัดอายุ แม้จะช่วยป้องกันเด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม แต่ก็มีเสียงวิจารณ์เรื่องความเป็นส่วนตัวและการเก็บข้อมูลชีวมิติว่าจะถูกนำไปใช้อย่างไร 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/twitch-introduces-facial-age-scans-in-the-uk-amid-growing-privacy-concerns 🎰 บริษัทยักษ์ใหญ่ IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ บริษัทเกมและการพนันระดับโลก IGT ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ ทำให้ระบบบางส่วนหยุดชะงักและข้อมูลอาจถูกเข้ารหัสหรือขโมยไป เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าธุรกิจบันเทิงและการพนันก็เป็นเป้าหมายสำคัญของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์เช่นกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gaming-and-gambling-giant-igt-reportedly-hit-by-ransomware-heres-what-we-know 🖼️ Google เปิดตัว Nano Banana Pro สำหรับแก้ไขภาพด้วย AI Google เปิดตัวเครื่องมือใหม่ชื่อ Nano Banana Pro ที่ใช้พลังของ Gemini 3 Pro ในการแก้ไขภาพขั้นสูง เช่น การปรับรายละเอียด การลบวัตถุ หรือการสร้างองค์ประกอบใหม่ในภาพ ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้านการแก้ไขภาพด้วย AI ที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงเทคโนโลยีระดับมืออาชีพได้ง่ายขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/google-launches-nano-banana-pro-a-massive-leap-in-ai-image-editing-powered-by-gemini-3-pro 🔒 ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมเจอช่องโหว่ ปลั๊กอิน WordPress ที่มีผู้ติดตั้งมากกว่าล้านครั้งถูกพบว่ามีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดทางให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูลหรือควบคุมเว็บไซต์ได้ เหตุการณ์นี้เตือนให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ต้องหมั่นอัปเดตปลั๊กอินและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/wordpress-plugin-with-over-a-million-installs-may-have-a-worrying-security-flaw-heres-what-we-know 🛡️ ช่องโหว่ใหม่ใน Fortinet ถูกโจมตีแล้ว Fortinet ยอมรับว่าพบ zero-day ช่องโหว่ใหม่ที่ถูกใช้โจมตีจริงแล้ว ทำให้ผู้ใช้งานเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุการณ์นี้ตอกย้ำว่าซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยเองก็ยังเป็นเป้าหมายหลักของแฮกเกอร์ และผู้ใช้ควรเร่งอัปเดตแพตช์ทันทีที่มีการปล่อยออกมา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fortinet-admits-it-found-another-worrying-zero-day-being-exploited-in-attacks 📱 ที่จับ MagSafe สุดแปลกแต่ใช้ง่าย มีการเปิดตัว MagSafe iPhone Grip ที่ดีไซน์แปลกตา แต่กลับใช้งานง่ายและเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ทุกคน จุดเด่นคือช่วยให้ถือ iPhone ได้มั่นคงขึ้นโดยไม่ต้องใช้เคสหนา ๆ และยังถอดออกได้สะดวก เหมาะกับคนที่อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ซ้ำใคร 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/this-may-be-the-oddest-yet-most-accessible-magsafe-iphone-grip-ever-made 🐉 กลุ่ม PlushDaemon จากจีนโจมตีซัพพลายเชนโลก กลุ่มแฮกเกอร์ PlushDaemon ใช้มัลแวร์ชื่อ SlowStepper ผ่าน implant ที่เรียกว่า EdgeStepper เพื่อเจาะเข้าอุปกรณ์เครือข่ายในหลายประเทศ ถือเป็นการโจมตีซัพพลายเชนที่ซับซ้อนและอันตราย เพราะสามารถกระทบต่อองค์กรทั่วโลกได้พร้อมกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/chinas-plushdaemon-group-uses-edgestepper-implant-to-infect-network-devices-with-slowstepper-malware-in-global-supply-chain-attacks 🛍️ แอปช้อปปิ้งสหรัฐฯ ดูดข้อมูลมากกว่าใคร รายงานใหม่เผยว่าแอปช้อปปิ้งจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Amazon เป็นแอปที่เก็บข้อมูลผู้ใช้มากที่สุด ทั้งข้อมูลส่วนตัวและพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งมากกว่าแอปจากจีนที่หลายคนกังวลกันอยู่แล้ว ทำให้เกิดคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและการใช้ข้อมูลของผู้บริโภค 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/forget-beijing-its-us-shopping-apps-that-are-sucking-up-your-privacy-and-amazon-is-the-most-data-hungry 📷 Leica Q3 Monochrom กล้องขาวดำสุดหรู Leica เปิดตัว Q3 Monochrom กล้องที่ถ่ายได้เฉพาะภาพขาวดำ ราคาหลายพันดอลลาร์ แต่กลับได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะคุณภาพไฟล์และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเชิงศิลป์และต้องการความแตกต่างจากกล้องทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/compact-cameras/leicas-q3-monochrom-costs-thousands-and-only-shoots-black-and-white-but-thats-only-made-me-want-one-more 📺 รีโมท Google TV รุ่นใหม่ใช้พลังงานจากแสงในบ้าน Google เตรียมเปิดตัวอุปกรณ์ Google TV รุ่นใหม่ที่มาพร้อมรีโมทซึ่งสามารถชาร์จพลังงานจากแสงในบ้านได้ ไม่ต้องใช้ถ่านหรือชาร์จสายอีกต่อไป ถือเป็นการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ไม่อยากเปลี่ยนถ่านบ่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/streaming-devices/your-next-google-tv-device-could-come-with-a-remote-powered-by-indoor-light-and-im-definitely-a-fan 💻 ซีอีโอ Microsoft ด้าน AI ตอบโต้เสียงวิจารณ์ Windows 11 ซีอีโอฝ่าย AI ของ Microsoft ออกมาโต้ตอบเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับทิศทางใหม่ของ Windows 11 โดยบอกว่าคำวิจารณ์เหล่านั้น “mind-blowing” และยืนยันว่าการนำ AI เข้ามาในระบบปฏิบัติการจะช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แม้จะมีผู้ใช้บางส่วนที่ยังไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงนี้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 📱 หลุดไลน์อัพสมาร์ทโฟน Samsung ปี 2026 มีข้อมูลหลุดเกี่ยวกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ Samsung ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคาดว่าจะมีการอัปเกรดทั้งด้านกล้อง หน้าจอ และประสิทธิภาพการทำงาน รายละเอียดบางส่วนยังไม่แน่ชัด แต่ข่าวนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟน ๆ ที่รอคอยการเปิดตัว 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsungs-2026-smartphone-lineup-just-leaked-heres-what-to-expect-and-when ⚖️ รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมท้าทายกฎหมาย AI ของรัฐต่าง ๆ ฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ มีแผนจะใช้ อำนาจรัฐบาลกลาง เพื่อตรวจสอบและท้าทายกฎหมาย AI ที่ออกโดยรัฐต่าง ๆ เนื่องจากกังวลว่ากฎหมายเหล่านี้อาจขัดแย้งกันและสร้างความยุ่งยากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี AI ในระดับประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/trump-administration-wants-to-use-federal-power-to-challenge-state-ai-laws 🌐 การกลับมาของ VPN ฟรีที่เป็นอันตราย มีการพบว่า VPN ฟรีบางตัว ที่เคยถูกแบนเพราะมีพฤติกรรมอันตราย ได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ในความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว การใช้ VPN ที่ไม่น่าเชื่อถืออาจเปิดช่องให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมยได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/malicious-free-vpn-extension-makes-a-comeback 📱 iPhone 17 Pro แจกฟรีกับโปร Verizon Verizon จัดโปรแรง แจกมือถือฟรี รวมถึง iPhone 17 Pro ให้ลูกค้าเมื่อสมัครแพ็กเกจที่กำหนด ถือเป็นดีลที่ดึงดูดใจมาก แต่ก็มีเงื่อนไขที่ผู้ใช้ต้องตรวจสอบให้ดีว่าเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 ประสบการณ์เล่น Stalker 2: Heart of Chornobyl นักเขียนรีวิวเล่าประสบการณ์การเล่นเกม Stalker 2: Heart of Chornobyl บน PS5 ที่ใช้เวลามากกว่า 50 ชั่วโมงในการเอาชีวิตรอดในโลกหลังหายนะ เกมนี้เต็มไปด้วยความท้าทายและบรรยากาศกดดัน แต่ก็สนุกและสมจริงสำหรับแฟนเกมแนว survival 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🖥️ Microsoft Flex โชว์ทักษะโค้ดของ Copilot Microsoft สาธิตความสามารถของ Copilot ในการช่วยเขียนโค้ด แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากผู้ไม่เห็นด้วยกับการใช้ AI ในงานพัฒนาโปรแกรม บางคนมองว่าเป็นการลดคุณค่าของนักพัฒนา แต่ Microsoft ยืนยันว่าเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsofts-ai-ceo-fights-fire-with-fire-says-ai-cynics-complaining-about-windows-11s-new-direction-are-mind-blowing-to-me 🎮 Nvidia รีบปล่อยแพตช์แก้ปัญหา GPU บน Windows 11 หลังจากการอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ทำให้เกมหลายเกมมีอาการหน่วง Nvidia จึงรีบออกแพตช์แก้ไขเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ GPU ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ การแก้ไขนี้ช่วยให้ผู้เล่นเกมสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/nvidia-rushes-out-a-gpu-fix-blaming-windows-11s-october-update-for-sluggish-performance-in-games 📡 Nokia แยกธุรกิจ AI หลังได้ทุนจาก Nvidia Nokia ประกาศแยกธุรกิจใหม่ด้าน AI สำหรับเครือข่ายมือถือ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2026 หลังจากที่ Nvidia ลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 6G บริษัทตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก และหวังสร้างเครือข่ายมือถือที่ใช้ AI เป็นแกนหลัก พร้อมคาดการณ์การเติบโตของรายได้ต่อปี 6-8% จนถึงปี 2028 🔗 https://www.techradar.com/pro/nokia-is-splitting-off-its-ai-business-weeks-after-usd1bn-nvidia-investment 🛵 หุ่นยนต์ส่งอาหารของ Uber Eats Uber Eats จับมือกับบริษัท Starship Technologies เพื่อเริ่มใช้หุ่นยนต์ส่งอาหารในสหราชอาณาจักร โดยเริ่มทดลองที่เมือง Leeds และจะขยายไปยัง Sheffield รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในยุโรปปี 2026 และสหรัฐฯ ปี 2027 หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถส่งอาหารได้ภายใน 30 นาทีในระยะทางไม่เกิน 2 ไมล์ ลูกค้าจะไม่สามารถให้ทิปหุ่นยนต์ได้ แต่สามารถให้คะแนนผ่านแอปเหมือนการส่งปกติ ถือเป็นการสร้างโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของการขนส่งในเมืองยุคอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/uber-eats-will-soon-use-robots-to-deliver-your-takeaway-but-you-cant-tip-them 🤖 ChatGPT Atlas อัปเดตใหญ่ครั้งแรก ChatGPT Atlas ได้รับการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยเพิ่ม 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่ผู้ใช้จะอยากลองใช้ทันที ได้แก่ การปรับปรุงความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล, การทำงานร่วมกับเครื่องมือภายนอกได้ดีขึ้น และการปรับปรุงประสบการณ์ใช้งานให้ลื่นไหลมากขึ้น ถือเป็นการยกระดับแพลตฟอร์ม AI ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-atlas-just-got-its-first-major-update-3-new-features-youll-want-to-use 🔒 Samsung เพิ่มระบบป้องกันขโมยใน One UI 8.5 Samsung เตรียมอัปเดต One UI 8.5 ที่จะเพิ่มฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรมมือถือ เช่น การล็อกเครื่องแม้ถูกรีเซ็ต และระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการพยายามเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มั่นใจมากขึ้นในการปกป้องข้อมูลส่วนตัวและอุปกรณ์ของตนเอง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/your-samsung-phone-is-about-to-get-a-big-theft-protection-boost-thanks-to-one-ui-8-5-heres-how 🎨 คนทำงานสายครีเอทีฟชอบ AI แต่ก็มีปัญหา รายงานจาก Dropbox พบว่าคนทำงานสายครีเอทีฟใช้เครื่องมือเฉลี่ยถึง 14 ตัว ทำให้เกิดความซับซ้อนและเสียเวลา แม้ว่า 95% ของคนกลุ่มนี้จะใช้ AI เพื่อช่วยงาน เช่น การระดมไอเดีย สรุปการประชุม และค้นหาข้อมูล แต่ AI ยังไม่ตอบโจทย์ทั้งหมด เพราะบางครั้งไม่เข้าใจบริบทของงานจริง ๆ หากสามารถลดจำนวนเครื่องมือและใช้ AI ที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มเวลาสร้างสรรค์งานได้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/creative-workers-love-ai-but-it-is-causing-more-issues-than-expected
    0 Comments 0 Shares 921 Views 0 Reviews
  • Nvidia ปล่อย Hotfix Driver ฉุกเฉิน

    Nvidia ได้ออก GeForce Hotfix Display Driver 581.94 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจาก Microsoft ปล่อยอัปเดต KB5066835 สำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 และ 24H2 ซึ่งทำให้เกมบางเกมมี FPS ลดลงอย่างชัดเจน การอัปเดตนี้ถือเป็นการแก้ไขเร่งด่วน เนื่องจากผู้ใช้จำนวนมากรายงานว่าประสบปัญหาการเล่นเกมไม่ลื่นไหล

    ผลกระทบต่อเกมและผู้ใช้
    ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกมยอดนิยมอย่าง Assassin’s Creed: Shadows และ CS2 มีอาการกระตุกและ FPS ลดลง ผู้ใช้บางรายยังพบว่า Windows Update ทำให้ระบบ Recovery Environment ไม่สามารถใช้คีย์บอร์ดหรือเมาส์ได้ รวมถึงบางเครื่องถูกบังคับให้เข้าหน้า BitLocker Recovery โดยไม่คาดคิด ซึ่งสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้ที่ไม่มีคีย์รีคอฟเวอรี

    Microsoft Update ที่ถูกเรียกว่า “Cursed Update”
    อัปเดต KB5066835 ถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งใน “Cursed Update” เพราะนอกจากจะกระทบต่อเกมแล้ว ยังทำให้ระบบ localhost (HTTP.sys) ใช้งานไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อผู้พัฒนาและองค์กรที่ต้องใช้ IIS ในการทดสอบระบบ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบางเครื่องถูกบังคับลด Refresh Rate ลงเหลือ 60Hz พร้อมการกะพริบหน้าจอโดยไม่ทราบสาเหตุ

    แนวทางแก้ไขและสิ่งที่ควรทำ
    ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบควรรีบดาวน์โหลดและติดตั้ง Hotfix Driver 581.94 จากเว็บไซต์ Nvidia เพื่อแก้ไขปัญหา FPS และความเสถียรของเกม แม้ว่า Microsoft จะยังไม่ประกาศยอมรับปัญหานี้อย่างเป็นทางการ แต่การอัปเดตไดรเวอร์ถือเป็นวิธีแก้ไขที่ได้ผลในทันที อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรระวังว่า Hotfix เป็นเวอร์ชันเบต้าและอาจยังมีบั๊กอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับการแก้ไข

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การออก Hotfix Driver ของ Nvidia
    GeForce Hotfix Display Driver 581.94 แก้ปัญหา FPS ลดลงหลังอัปเดต Windows 11 KB5066835

    ผลกระทบต่อเกมและระบบ
    เกม Assassin’s Creed: Shadows และ CS2 มี FPS ลดลง
    ระบบ Recovery Environment ไม่รองรับคีย์บอร์ด/เมาส์
    BitLocker Recovery ถูกเรียกใช้งานโดยไม่ตั้งใจ

    Microsoft Update ที่มีปัญหา
    KB5066835 ทำให้ localhost (HTTP.sys) ใช้งานไม่ได้
    หน้าจอถูกบังคับลด Refresh Rate เหลือ 60Hz

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    หากไม่อัปเดต Hotfix อาจยังคงเจอ FPS ลดลงและระบบไม่เสถียร
    ผู้ใช้ที่ไม่มีคีย์ BitLocker Recovery อาจต้องล้างข้อมูลทั้งเครื่อง
    Hotfix เป็นเวอร์ชันเบต้า อาจยังมีบั๊กอื่นที่ไม่ได้แก้ไข

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/nvidia-releases-emergency-driver-update-for-windows-11-25h2-and-24h2-fixes-reduced-gaming-performance-driven-by-botched-windows-updates
    🖥️ Nvidia ปล่อย Hotfix Driver ฉุกเฉิน Nvidia ได้ออก GeForce Hotfix Display Driver 581.94 เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจาก Microsoft ปล่อยอัปเดต KB5066835 สำหรับ Windows 11 เวอร์ชัน 25H2 และ 24H2 ซึ่งทำให้เกมบางเกมมี FPS ลดลงอย่างชัดเจน การอัปเดตนี้ถือเป็นการแก้ไขเร่งด่วน เนื่องจากผู้ใช้จำนวนมากรายงานว่าประสบปัญหาการเล่นเกมไม่ลื่นไหล 🎮 ผลกระทบต่อเกมและผู้ใช้ ปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลให้เกมยอดนิยมอย่าง Assassin’s Creed: Shadows และ CS2 มีอาการกระตุกและ FPS ลดลง ผู้ใช้บางรายยังพบว่า Windows Update ทำให้ระบบ Recovery Environment ไม่สามารถใช้คีย์บอร์ดหรือเมาส์ได้ รวมถึงบางเครื่องถูกบังคับให้เข้าหน้า BitLocker Recovery โดยไม่คาดคิด ซึ่งสร้างความยุ่งยากให้กับผู้ใช้ที่ไม่มีคีย์รีคอฟเวอรี ⚠️ Microsoft Update ที่ถูกเรียกว่า “Cursed Update” อัปเดต KB5066835 ถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งใน “Cursed Update” เพราะนอกจากจะกระทบต่อเกมแล้ว ยังทำให้ระบบ localhost (HTTP.sys) ใช้งานไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อผู้พัฒนาและองค์กรที่ต้องใช้ IIS ในการทดสอบระบบ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบางเครื่องถูกบังคับลด Refresh Rate ลงเหลือ 60Hz พร้อมการกะพริบหน้าจอโดยไม่ทราบสาเหตุ 🔧 แนวทางแก้ไขและสิ่งที่ควรทำ ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบควรรีบดาวน์โหลดและติดตั้ง Hotfix Driver 581.94 จากเว็บไซต์ Nvidia เพื่อแก้ไขปัญหา FPS และความเสถียรของเกม แม้ว่า Microsoft จะยังไม่ประกาศยอมรับปัญหานี้อย่างเป็นทางการ แต่การอัปเดตไดรเวอร์ถือเป็นวิธีแก้ไขที่ได้ผลในทันที อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ควรระวังว่า Hotfix เป็นเวอร์ชันเบต้าและอาจยังมีบั๊กอื่น ๆ ที่ไม่ได้รับการแก้ไข 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การออก Hotfix Driver ของ Nvidia ➡️ GeForce Hotfix Display Driver 581.94 แก้ปัญหา FPS ลดลงหลังอัปเดต Windows 11 KB5066835 ✅ ผลกระทบต่อเกมและระบบ ➡️ เกม Assassin’s Creed: Shadows และ CS2 มี FPS ลดลง ➡️ ระบบ Recovery Environment ไม่รองรับคีย์บอร์ด/เมาส์ ➡️ BitLocker Recovery ถูกเรียกใช้งานโดยไม่ตั้งใจ ✅ Microsoft Update ที่มีปัญหา ➡️ KB5066835 ทำให้ localhost (HTTP.sys) ใช้งานไม่ได้ ➡️ หน้าจอถูกบังคับลด Refresh Rate เหลือ 60Hz ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ หากไม่อัปเดต Hotfix อาจยังคงเจอ FPS ลดลงและระบบไม่เสถียร ⛔ ผู้ใช้ที่ไม่มีคีย์ BitLocker Recovery อาจต้องล้างข้อมูลทั้งเครื่อง ⛔ Hotfix เป็นเวอร์ชันเบต้า อาจยังมีบั๊กอื่นที่ไม่ได้แก้ไข https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/nvidia-releases-emergency-driver-update-for-windows-11-25h2-and-24h2-fixes-reduced-gaming-performance-driven-by-botched-windows-updates
    0 Comments 0 Shares 178 Views 0 Reviews
  • เบื้องหลังไฟร์วอลล์: ความท้าทายของผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์ที่มีความพิการ

    บทความจาก CSO Online เปิดเผยเรื่องราวของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ที่มีความพิการหรือภาวะทางระบบประสาท (neurodivergent) ซึ่งยังคงเผชิญกับอคติและอุปสรรคในที่ทำงาน แม้ว่าอุตสาหกรรมจะพูดถึงความหลากหลายและการมีส่วนร่วมมากขึ้นก็ตาม

    เรื่องราวของ Daisy Wong
    Daisy Wong หัวหน้าฝ่าย Security Awareness ที่ Medibank เล่าว่าเมื่อเริ่มต้นในสายงาน เธอถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าประสบการณ์จริง เช่น ผู้จัดการสนใจว่าเธอสามารถ “ชงชาแล้วเดินกลับโต๊ะได้หรือไม่” มากกว่าทักษะด้านไซเบอร์ ความไม่เข้าใจนี้ทำให้เธอต้องสร้าง personal brand เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และปัจจุบันเธอกลายเป็นผู้นำที่ผลักดันการสร้างวัฒนธรรมการเข้าถึง (Accessibility) ในองค์กร

    ประสบการณ์ของ Jacob Griffiths
    Jacob Griffiths นักวิเคราะห์ความเสี่ยงไซเบอร์ที่ Procare Cyber ต้องจัดการกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งส่งผลต่อสมาธิและพลังงาน เขาเล่าว่าการทำงานในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูงทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องยาก แต่โชคดีที่มีผู้จัดการที่เข้าใจและให้ความยืดหยุ่น อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าระบบทุนนิยมยังคงกดดันให้คนทำงานต้องผลิตผลงานโดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ

    จุดแข็งของ Angelina Liu
    Angelina Liu ผู้จัดการฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ที่ SentinelOne พบว่า ADHD กลายเป็น “ซูเปอร์พาวเวอร์” ของเธอ เพราะช่วยให้คิดเร็ว มองเห็นรูปแบบที่คนอื่นอาจพลาด และปรับตัวได้ไวในสถานการณ์วิกฤติ แม้จะเคยเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตร แต่เธอใช้ประสบการณ์นั้นมาเป็นแรงผลักดันในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจให้กับทีม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและผู้ที่มีความแตกต่างทางระบบประสาทในวงการไซเบอร์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    อุปสรรคที่พบในอุตสาหกรรมไซเบอร์
    ผู้เชี่ยวชาญที่มีความพิการยังถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าทักษะจริง
    การขาดความเข้าใจทำให้โอกาสความก้าวหน้าถูกจำกัด

    ตัวอย่างแรงบันดาลใจ
    Daisy Wong ใช้ personal brand สร้างความน่าเชื่อถือและผลักดัน Accessibility
    Jacob Griffiths แสดงให้เห็นความสำคัญของผู้จัดการที่มี empathy
    Angelina Liu ใช้ ADHD เป็นจุดแข็งในการทำงานและสนับสนุนทีม

    คำเตือนต่อองค์กร
    หากไม่สร้างวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย อาจสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพสูง
    การละเลยความหลากหลายทำให้ทีมขาดมุมมองที่สำคัญต่อการแก้ปัญหาซับซ้อน

    https://www.csoonline.com/article/4089055/behind-the-firewall-the-hidden-struggles-of-cyber-professionals-with-a-disability.html
    🛡️ เบื้องหลังไฟร์วอลล์: ความท้าทายของผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์ที่มีความพิการ บทความจาก CSO Online เปิดเผยเรื่องราวของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ที่มีความพิการหรือภาวะทางระบบประสาท (neurodivergent) ซึ่งยังคงเผชิญกับอคติและอุปสรรคในที่ทำงาน แม้ว่าอุตสาหกรรมจะพูดถึงความหลากหลายและการมีส่วนร่วมมากขึ้นก็ตาม 👩‍💻 เรื่องราวของ Daisy Wong Daisy Wong หัวหน้าฝ่าย Security Awareness ที่ Medibank เล่าว่าเมื่อเริ่มต้นในสายงาน เธอถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าประสบการณ์จริง เช่น ผู้จัดการสนใจว่าเธอสามารถ “ชงชาแล้วเดินกลับโต๊ะได้หรือไม่” มากกว่าทักษะด้านไซเบอร์ ความไม่เข้าใจนี้ทำให้เธอต้องสร้าง personal brand เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และปัจจุบันเธอกลายเป็นผู้นำที่ผลักดันการสร้างวัฒนธรรมการเข้าถึง (Accessibility) ในองค์กร 💉 ประสบการณ์ของ Jacob Griffiths Jacob Griffiths นักวิเคราะห์ความเสี่ยงไซเบอร์ที่ Procare Cyber ต้องจัดการกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งส่งผลต่อสมาธิและพลังงาน เขาเล่าว่าการทำงานในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูงทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องยาก แต่โชคดีที่มีผู้จัดการที่เข้าใจและให้ความยืดหยุ่น อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าระบบทุนนิยมยังคงกดดันให้คนทำงานต้องผลิตผลงานโดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ ⚡ จุดแข็งของ Angelina Liu Angelina Liu ผู้จัดการฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ที่ SentinelOne พบว่า ADHD กลายเป็น “ซูเปอร์พาวเวอร์” ของเธอ เพราะช่วยให้คิดเร็ว มองเห็นรูปแบบที่คนอื่นอาจพลาด และปรับตัวได้ไวในสถานการณ์วิกฤติ แม้จะเคยเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตร แต่เธอใช้ประสบการณ์นั้นมาเป็นแรงผลักดันในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจให้กับทีม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและผู้ที่มีความแตกต่างทางระบบประสาทในวงการไซเบอร์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ อุปสรรคที่พบในอุตสาหกรรมไซเบอร์ ➡️ ผู้เชี่ยวชาญที่มีความพิการยังถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าทักษะจริง ➡️ การขาดความเข้าใจทำให้โอกาสความก้าวหน้าถูกจำกัด ✅ ตัวอย่างแรงบันดาลใจ ➡️ Daisy Wong ใช้ personal brand สร้างความน่าเชื่อถือและผลักดัน Accessibility ➡️ Jacob Griffiths แสดงให้เห็นความสำคัญของผู้จัดการที่มี empathy ➡️ Angelina Liu ใช้ ADHD เป็นจุดแข็งในการทำงานและสนับสนุนทีม ‼️ คำเตือนต่อองค์กร ⛔ หากไม่สร้างวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย อาจสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ⛔ การละเลยความหลากหลายทำให้ทีมขาดมุมมองที่สำคัญต่อการแก้ปัญหาซับซ้อน https://www.csoonline.com/article/4089055/behind-the-firewall-the-hidden-struggles-of-cyber-professionals-with-a-disability.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Behind the firewall: The hidden struggles of cyber professionals with a disability
    Three cybersecurity professionals share how they’ve navigated bias, built resilience, and found belonging in an industry still learning what true inclusion means.
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • ♣ เอกนิติ สางแค้นเสี่ยแม้วแทนแม่ด้วยการไล่บี้ภาษี แล้วสานต่อการสางแค้นไปถึงรุ่นลูก ด้วยการตอบรับเป็นแคนดิเดทนายกฯ พรรคน้ำเงิน เพื่อขี่ข่มขย่มใส่แคนดิเดทนายกของพรรคแดง สภาพ!เอาอะไรมาแข่งเนี่ย
    #7ดอกจิก
    ♣ เอกนิติ สางแค้นเสี่ยแม้วแทนแม่ด้วยการไล่บี้ภาษี แล้วสานต่อการสางแค้นไปถึงรุ่นลูก ด้วยการตอบรับเป็นแคนดิเดทนายกฯ พรรคน้ำเงิน เพื่อขี่ข่มขย่มใส่แคนดิเดทนายกของพรรคแดง สภาพ!เอาอะไรมาแข่งเนี่ย #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • 5 วิธีใหม่ในการใช้ iPad รุ่นเก่าให้เกิดประโยชน์
    แม้ว่า iPad รุ่นใหม่จะมีประสิทธิภาพสูงและระบบ iPadOS ที่ทันสมัย แต่ iPad รุ่นเก่าก็ยังสามารถนำมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า โดย SlashGear ได้แนะนำ 5 วิธีใหม่ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และลดการสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์

    หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจคือการใช้ iPad เป็น เมนูร้านอาหารหรือเครื่องคิดเงิน (POS) เพราะหน้าจอสามารถแสดงเมนูอาหารได้ชัดเจนและปรับเปลี่ยนได้ง่าย อีกทั้งยังรองรับแอปพลิเคชัน POS ที่ช่วยให้ร้านค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องคิดเงินแบบดั้งเดิม

    อีกทางเลือกคือการใช้ iPad เป็น คอมพิวเตอร์สำรอง โดยเฉพาะรุ่นที่รองรับ iPadOS 26 ซึ่งมีฟีเจอร์ใกล้เคียงกับ MacBook เช่น การจัดการไฟล์และการทำงานแบบหลายหน้าต่าง ทำให้สามารถใช้แทนโน้ตบุ๊คได้ในกรณีฉุกเฉิน

    สำหรับผู้ที่ชอบปรับแต่งอุปกรณ์ iPad รุ่นเก่าสามารถ เจลเบรก (Jailbreak) เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดของระบบ และติดตั้งแอปหรือฟีเจอร์ที่ Apple ไม่อนุญาต อย่างไรก็ตาม การเจลเบรกมีความเสี่ยงสูงและอาจทำให้หมดประกัน

    นอกจากนี้ยังสามารถใช้ iPad เป็น เครื่องช่วยออกกำลังกาย โดยเชื่อมต่อกับ Apple Fitness+ หรือใช้เป็นหน้าจอสำหรับดูวิดีโอการออกกำลังกาย และสุดท้ายคือการใช้เป็น เทเลพรอมพ์เตอร์ สำหรับการบันทึกวิดีโอหรือการพูดในงานต่าง ๆ ซึ่งมีแอปฟรีรองรับการใช้งานได้ทันที

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รายการสิ่งที่ทำได้กับ iPad รุ่นเก่า
    เมนูร้านอาหาร / เครื่องคิดเงิน POS
    ใช้แสดงเมนูอาหารและเครื่องดื่ม
    รองรับแอป POS สำหรับการชำระเงิน

    คอมพิวเตอร์สำรองแทนโน้ตบุ๊ค
    ใช้ iPadOS 26 ที่รองรับ multitasking และจัดการไฟล์
    เหมาะสำหรับพกพาไปทำงานนอกสถานที่

    เจลเบรก (Jailbreak) เพื่อปลดล็อกข้อจำกัด
    ติดตั้งแอปนอกระบบและปรับแต่งได้มากขึ้น
    ใช้เครื่องมืออย่าง palera1n สำหรับรุ่นที่รองรับ

    เครื่องช่วยออกกำลังกาย
    ใช้กับ Apple Fitness+ หรือวิดีโอออกกำลังกาย
    หน้าจอใหญ่และเสียงดังชัดเจนกว่ามือถือ

    เทเลพรอมพ์เตอร์ (Teleprompter)
    ใช้แอป Teleprompter หรือ Presenter Mode ใน Pages
    เหมาะสำหรับการบันทึกวิดีโอหรือการพูดในงานต่าง ๆ

    คำเตือนและข้อควรพิจารณา
    แบตเตอรี่เสื่อมสภาพอาจทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้ไม่นาน

    https://www.slashgear.com/2026270/more-things-you-can-do-with-old-ipad/
    📱5 วิธีใหม่ในการใช้ iPad รุ่นเก่าให้เกิดประโยชน์ แม้ว่า iPad รุ่นใหม่จะมีประสิทธิภาพสูงและระบบ iPadOS ที่ทันสมัย แต่ iPad รุ่นเก่าก็ยังสามารถนำมาใช้งานได้อย่างคุ้มค่า โดย SlashGear ได้แนะนำ 5 วิธีใหม่ ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และลดการสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ หนึ่งในวิธีที่น่าสนใจคือการใช้ iPad เป็น เมนูร้านอาหารหรือเครื่องคิดเงิน (POS) เพราะหน้าจอสามารถแสดงเมนูอาหารได้ชัดเจนและปรับเปลี่ยนได้ง่าย อีกทั้งยังรองรับแอปพลิเคชัน POS ที่ช่วยให้ร้านค้าประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อเครื่องคิดเงินแบบดั้งเดิม อีกทางเลือกคือการใช้ iPad เป็น คอมพิวเตอร์สำรอง โดยเฉพาะรุ่นที่รองรับ iPadOS 26 ซึ่งมีฟีเจอร์ใกล้เคียงกับ MacBook เช่น การจัดการไฟล์และการทำงานแบบหลายหน้าต่าง ทำให้สามารถใช้แทนโน้ตบุ๊คได้ในกรณีฉุกเฉิน สำหรับผู้ที่ชอบปรับแต่งอุปกรณ์ iPad รุ่นเก่าสามารถ เจลเบรก (Jailbreak) เพื่อปลดล็อกข้อจำกัดของระบบ และติดตั้งแอปหรือฟีเจอร์ที่ Apple ไม่อนุญาต อย่างไรก็ตาม การเจลเบรกมีความเสี่ยงสูงและอาจทำให้หมดประกัน นอกจากนี้ยังสามารถใช้ iPad เป็น เครื่องช่วยออกกำลังกาย โดยเชื่อมต่อกับ Apple Fitness+ หรือใช้เป็นหน้าจอสำหรับดูวิดีโอการออกกำลังกาย และสุดท้ายคือการใช้เป็น เทเลพรอมพ์เตอร์ สำหรับการบันทึกวิดีโอหรือการพูดในงานต่าง ๆ ซึ่งมีแอปฟรีรองรับการใช้งานได้ทันที 📌 สรุปประเด็นสำคัญ 📋 รายการสิ่งที่ทำได้กับ iPad รุ่นเก่า ✅ เมนูร้านอาหาร / เครื่องคิดเงิน POS ➡️ ใช้แสดงเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ➡️ รองรับแอป POS สำหรับการชำระเงิน ✅ คอมพิวเตอร์สำรองแทนโน้ตบุ๊ค ➡️ ใช้ iPadOS 26 ที่รองรับ multitasking และจัดการไฟล์ ➡️ เหมาะสำหรับพกพาไปทำงานนอกสถานที่ ✅ เจลเบรก (Jailbreak) เพื่อปลดล็อกข้อจำกัด ➡️ ติดตั้งแอปนอกระบบและปรับแต่งได้มากขึ้น ➡️ ใช้เครื่องมืออย่าง palera1n สำหรับรุ่นที่รองรับ ✅ เครื่องช่วยออกกำลังกาย ➡️ ใช้กับ Apple Fitness+ หรือวิดีโอออกกำลังกาย ➡️ หน้าจอใหญ่และเสียงดังชัดเจนกว่ามือถือ ✅ เทเลพรอมพ์เตอร์ (Teleprompter) ➡️ ใช้แอป Teleprompter หรือ Presenter Mode ใน Pages ➡️ เหมาะสำหรับการบันทึกวิดีโอหรือการพูดในงานต่าง ๆ ‼️ คำเตือนและข้อควรพิจารณา ⛔ แบตเตอรี่เสื่อมสภาพอาจทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้ไม่นาน https://www.slashgear.com/2026270/more-things-you-can-do-with-old-ipad/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 More Things You Can Do With Your Old iPad Instead Of Throwing It Away - SlashGear
    Old iPad gathering dust? Here’s how to turn it into a menu, teleprompter, workout screen, backup computer or more without spending much.
    0 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews
  • คีย์บอร์ดทางเลือกสำหรับ Android แทน Gboard

    แม้ว่า Gboard ของ Google จะเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Android ด้วยฟีเจอร์ครบครัน เช่น การพิมพ์ด้วยเสียง, การค้นหาในตัว, และการรองรับหลายภาษา แต่ก็มีผู้ใช้จำนวนไม่น้อยที่มองหาทางเลือกอื่น เนื่องจากกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัว หรืออยากได้คีย์บอร์ดที่เบาและเร็วกว่า

    หนึ่งในทางเลือกยอดนิยมคือ Microsoft SwiftKey ที่มีระบบ AI คาดเดาคำได้แม่นยำ และรองรับการพิมพ์แบบลากนิ้ว (swipe typing) อีกทั้งยังซิงค์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้ ส่วน Fleksy โดดเด่นด้วยความเร็วและระบบ gesture ที่ช่วยให้การพิมพ์สะดวกขึ้น พร้อมธีมหลากหลายสำหรับผู้ที่ชอบปรับแต่งหน้าตา

    สำหรับผู้ใช้ที่เน้นความเป็นส่วนตัว OpenBoard และ Simple Keyboard เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเป็นโอเพ่นซอร์ส ไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัว และทำงานได้เบาไม่กินทรัพยากรเครื่อง ขณะที่ Grammarly Keyboard เหมาะกับผู้ที่ต้องการตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกดภาษาอังกฤษอย่างละเอียด

    การเลือกคีย์บอร์ดจึงขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ บางคนอาจเน้นความเร็วและการปรับแต่ง บางคนอาจให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว หรือฟีเจอร์เฉพาะทาง เช่น การตรวจสอบภาษา

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ทางเลือกยอดนิยมแทน Gboard
    Microsoft SwiftKey – เด่นเรื่อง AI คาดเดาคำและการพิมพ์แบบลากนิ้ว
    Fleksy – เน้นความเร็วและ gesture
    Grammarly Keyboard – ตรวจสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

    คีย์บอร์ดโอเพ่นซอร์สเพื่อความเป็นส่วนตัว
    OpenBoard – ไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัว
    Simple Keyboard – เบาและใช้งานง่าย

    เหตุผลที่ผู้ใช้เลือกทางเลือกอื่น
    กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวจาก Google
    ต้องการคีย์บอร์ดที่เบาและเร็วกว่า
    อยากได้ฟีเจอร์เฉพาะ เช่น ตรวจสอบภาษา

    คำเตือนและข้อควรพิจารณา
    คีย์บอร์ดบางตัวอาจไม่รองรับหลายภาษาเท่ากับ Gboard
    ฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การค้นหาในตัว อาจไม่มีในคีย์บอร์ดทางเลือก
    แอปจากนักพัฒนารายเล็กอาจไม่ได้รับการอัปเดตบ่อย

    https://www.slashgear.com/2024575/android-gboard-keyboard-alternatives/
    ⌨️ คีย์บอร์ดทางเลือกสำหรับ Android แทน Gboard แม้ว่า Gboard ของ Google จะเป็นคีย์บอร์ดที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Android ด้วยฟีเจอร์ครบครัน เช่น การพิมพ์ด้วยเสียง, การค้นหาในตัว, และการรองรับหลายภาษา แต่ก็มีผู้ใช้จำนวนไม่น้อยที่มองหาทางเลือกอื่น เนื่องจากกังวลเรื่อง ความเป็นส่วนตัว หรืออยากได้คีย์บอร์ดที่เบาและเร็วกว่า หนึ่งในทางเลือกยอดนิยมคือ Microsoft SwiftKey ที่มีระบบ AI คาดเดาคำได้แม่นยำ และรองรับการพิมพ์แบบลากนิ้ว (swipe typing) อีกทั้งยังซิงค์ข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ได้ ส่วน Fleksy โดดเด่นด้วยความเร็วและระบบ gesture ที่ช่วยให้การพิมพ์สะดวกขึ้น พร้อมธีมหลากหลายสำหรับผู้ที่ชอบปรับแต่งหน้าตา สำหรับผู้ใช้ที่เน้นความเป็นส่วนตัว OpenBoard และ Simple Keyboard เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเป็นโอเพ่นซอร์ส ไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัว และทำงานได้เบาไม่กินทรัพยากรเครื่อง ขณะที่ Grammarly Keyboard เหมาะกับผู้ที่ต้องการตรวจสอบไวยากรณ์และการสะกดภาษาอังกฤษอย่างละเอียด การเลือกคีย์บอร์ดจึงขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้ บางคนอาจเน้นความเร็วและการปรับแต่ง บางคนอาจให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว หรือฟีเจอร์เฉพาะทาง เช่น การตรวจสอบภาษา 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ทางเลือกยอดนิยมแทน Gboard ➡️ Microsoft SwiftKey – เด่นเรื่อง AI คาดเดาคำและการพิมพ์แบบลากนิ้ว ➡️ Fleksy – เน้นความเร็วและ gesture ➡️ Grammarly Keyboard – ตรวจสอบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ✅ คีย์บอร์ดโอเพ่นซอร์สเพื่อความเป็นส่วนตัว ➡️ OpenBoard – ไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัว ➡️ Simple Keyboard – เบาและใช้งานง่าย ✅ เหตุผลที่ผู้ใช้เลือกทางเลือกอื่น ➡️ กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวจาก Google ➡️ ต้องการคีย์บอร์ดที่เบาและเร็วกว่า ➡️ อยากได้ฟีเจอร์เฉพาะ เช่น ตรวจสอบภาษา ‼️ คำเตือนและข้อควรพิจารณา ⛔ คีย์บอร์ดบางตัวอาจไม่รองรับหลายภาษาเท่ากับ Gboard ⛔ ฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การค้นหาในตัว อาจไม่มีในคีย์บอร์ดทางเลือก ⛔ แอปจากนักพัฒนารายเล็กอาจไม่ได้รับการอัปเดตบ่อย https://www.slashgear.com/2024575/android-gboard-keyboard-alternatives/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    These Android Keyboard Alternatives Put Google's Gboard To Shame - SlashGear
    Google's default Android keyboard, Gboard, isn't the only option users have. Let's take a look at some alternatives that have features Gboard is sorely missing.
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • ขยับหมาก ตอนที่ 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก”
    ตอน 2
    อังกฤษไม่มีวันทำใจได้ที่เห็นรัส เซียยังคงอยู่ได้ และยังอยู่ดี ทฤษฏีครูMac เกี่ยวกับ Eurasia มันยังหลอนอยู่ ผมไม่เล่าซ้ำแล้ว หาอ่านเอาแล้วกัน อยู่ในนิทานสาระพัดเรื่อง
    รายงานการวิเคราะห์ของ Chatham House เรื่อง Russia Challenge รัสเซียกำเริบ ที่เพิ่งออกมานี่ แทบจะเดาได้ว่า เขียนว่าอะไร มันเหมือนกับเขียนวิเคราะห์จิตใต้สำนึกของอังกฤษมากกว่าการเขียนวิเคราะห์รัสเซีย
    ถังขยะ Chatham House บรรยายสรุปว่า
    ” บทวิเคราะห์เรื่อง Russia Challenge นี้ ทำขึ้นจากการเฝ้ามองพฤติกรรมของรัสเซียตั้งแต่หลังสงครามเย็นจนถึงปี ค.ศ.2003 ซึ่งประเทศต่างๆคิดว่า รัสเซียใหม่อาจเข้ามาอยู่ในระบบของยุโรปได้ ในฐานะตัวเแสดงที่สร้างสรร และไม่เป็นอันตราย แต่หลังจากนั้น ความเห็นดังกล่าวค่อยๆเปลี่ยนไป และในที่สุดก็มีความเห็นพ้อง สรุปกันว่า จากพฤติกรรมต่างๆของรัสเซียเอง ทำให้เห็นว่า รัสเซียไม่เหมาะที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรด้วยเลย partner and ally ความแตกต่างของรัสเซียมีมากเกินกว่าที่จะสามารถมีผลประโยชน์ร่วมกัน… ”
    เขียนแบบนี้ แถวบ้านผมเขาแปลสั้นๆ ว่า “กูไม่คบมึง กูไม่ชอบมึง”
    “ความแตกต่างที่พวกตะวันตก “ทน” รัสเซียไม่ได้ที่สำคัญ คือ :
    1. นโยบาย ” new model Russia” ของปูติน เป็นนโยบายที่ตั้งใจเป็นอิสระ ที่จะไม่เข้ากับใคร และไม่ขึ้นกับใคร
    2. ปูตินไม่เปิดทางเลือกให้กับผู้อื่น หรือเปิดอย่างแคบมาก
    3. ปูติน ใช้พรรคพวกในการควบคุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคง ทำให้ใครแทรกยาก
    4. รัสเซีย ยากจน และเศรษฐกิจกำลังถดถอย แต่ยังดันเพิ่มงบประมาณด้านกำลังอาวุธ
    5. การคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องยูเครน ไม่เพียงพอให้รัสเซียถอยจากยูเครน ตรงกันข้าม กลับเป็นทางออกให้รัสเซียนำมาอ้างว่า เรื่องคว่ำบาตร เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่เรื่องคว่ำบาตรก็ยังเลิกไม่ได้ และการเผชิญหน้าก็ยังมีอยู่ต่อไป
    6. เทคนิคที่รัสเซียใช้คือ สร้างความไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน การขู่ว่าจะตัดการส่งพลังงาน การทำสงครามไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ และที่รัสเซียใช้บ่อยที่สุดคือ ทำให้ข้อขัดแย้งยืดเยื้อ เป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา หรือแช่แข็งไว้ เพื่อหวังผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    7. รัสเซียพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะสร้างให้ตัวเอง “เท่าเทียม” กับอเมริกา และทำทุกอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น โดยไม่คำนึงว่า จะสร้างผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง …”
    ตกลงเรื่องต่างๆ ที่อังกฤษบอกว่า “ทน” รัสเซียไม่ได้นี่ แปลง่ายๆว่า เพราะ “สั่ง” รัสเซียไม่ได้ และเป็นเรื่องที่พวกตะวันตกยัง แก้ลำรัสเซียไม่ได้ จึง”ทน” รัสเซียไม่ได้ใช่ไหม สำหรับผม หัวข้อทนไม่ได้ นี่น่าจะถือเป็นคำชมนะ น่าจะทำให้รัสเซียชอบใจ เหมือนได้ยินคำสารภาพ ของฝ่ายที่กำลังเสียแต้ม ฮา
    “ข้อเสนอแนะ ของถังขยะ :
    แม้ว่าพวกตะวันตกจะประเมินรัสเซียในบางเรื่องต่างกันบ้าง แต่ทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า รัสเซียไม่มีทางมาเป็นส่วนหนึ่งยุโรป ตามกฏเกณท์ กติกาที่ยุโรปใช้อยู่ ยกเว้นแต่ รัสเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของประเทศ ตั้งแต่พื้นฐาน และการเปลี่ยนแปลงต้องมาจากภายในรัสเซียเอง ดังนั้น พวกตะวันตกจะต้องร่วมมือกันคิดอย่างจริงจัง ถึงยุทธศาสตร์ที่จะใช้กับรัสเซีย ซึ่งจะต้องใช้มุมมองเดียวกันทั้งทรานสแอตแลนติกและยุโรป โดยเฉพาะ ต้องมองรัสเซียจากพฤติกรรมของรัส เซียเอง ไม่ใช่มองแบบง่ายๆ หรือจากการเล่ากันต่อๆมา policy must be based on the evidence of Russia’s behaviour, not on convenience or fashionable narratives…
    การร่วมมือของพวกตะวันตก อย่างเข้มงวดจริงจัง เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ ผู้ที่จะเป็นตัวหลัก ในการทำงาน จะต้องมีแนวทางเดียวกัน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด……”
    โอ้โห อันนี้ มันฟ้องตัวเองว่า ไม่มีเอกภาพเท่าไหร่ในพวกตะวันตก แถมแดกใครครับ ที่มองรัสเซียแบบง่าย สงสัยจะเป็นฝรั่งเศส ลุงโอลอง เพื่อนผมมังนะ เห็นแอบไปจี๋จ๋ากับคุณน้องปูตินบ่อยๆ
    เป้าหมายทางยุทธศาสตร์สำหรับตะวันตก ที่ถังขยะเสนอ :
    “1. ยับยั้งการรุกรานของรัสเซียกับประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป แต่อย่าทำ โดยไม่มีทางออกเผื่อไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยน เช่น ปูตินร่วงไป หรืออาจมีหัวหน้าคนใหม่ของรัสเซียที่อยากคบกับตะวันตกก็ได้ ถ้าเศรษฐกิจของรัสเซียไปไม่รอด และการคบกับจีนอาจมีต้นทุนสูงเกินไป ถ้าจีนโตขึ้นเรื่อยๆ รัสเซียอาจอยากกลับมาอยู่กับยุโรปอีกก็เป็นได้”
    …. แปลว่า มีแผนจะจัดการเอาคุณพี่ปูตินของผมเก็บลงกล่อง.. ขณะเดียวกันก็เสี้ยมเรื่องอาเฮียเสียหน่อย…..
    “2. ต้องเสริมสร้างเกียรติภูมิของยุโรป ด้านการรักษาความมั่นคงใหม่ โดยเฉพาะแต่ละประเทศต้องดูแลรักษาเขตแดนของตัวเองได้ และตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศตัวเองได้ ”
    ….. แปลว่า ยุโรปอ่อนระทวย ดูแลตัวเองไม่ได้ แหม ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯนี่เก่งนะ เรือดำน้ำรัสเซียโผล่ใกล้บ้านหลายที ทำอะไรเขาไม่ได้ เลยแต่ด่าคนอื่นแทน….
    “3. ต้องพยายามหาทางที่จะสื่อสารกับคนรัสเซียว่า ในระยะไกล การอยู่ร่วมกับยุโรปเป็นผลดีกับรัสเซียมากกว่า”
    …. มาแล้ว โรงงานฟอกย้อม….
    “4. หาทางที่จะหารือกับจีน และประเทศที่เป็นอดีตรัฐของรัสเซีย ให้พิจารณานโยบายของรัสเซีย ว่าจะเป็นปัญหาต่อไปอย่างไร บางประเทศมีปัญหาในการมองรัสเซียด้านเดียว”
    ….. อันนี้ เป็นรายการ เสี้ยม…..
    “5. ให้เตรียมพร้อม สำหรับความวุ่นวาย และโอกาสที่จะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนตัวผู้นำของรัสเซีย”
    …..ข้อนี้น่าสนใจมาก …. คิดจะทำอะไรหรือครับ ..
    “6. ต้องพยายามแย่งรัสเซีย และชาวรัสเซียมาจากปูติน สิ่งที่พวกตะวันตกกำลังทำอยู่โดยการไม่สนใจ ไม่ยุ่งกับรัสเซีย กลายเป็นการส่งเสริมให้รัสเซียตกอยู่ในมือปูตินหนักขึ้น”
    …..สร้างกระบวนการแย่งประชาชน แผนมาตรฐาน ใช้มันทุกที่….
    นโยบาย ที่ถังขยะเสนอว่า ต้องทำอย่างเฉพาะเจาะจง :
    “1. สร้างยูเครนให้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ ถ้าเอายูเครนไม่อยู่ ยุโรปตะวันออกเซหมด และเพิ่มความผยองให้กับรัสเซีย ทำให้โอกาสที่จะ “เปลี่ยน” รัสเซียริบหรี่ลงไปด้วย”
    “2. ประเทศที่เป็นอียูตะวันออก ต้องปรับปรุงให้เป็นเครื่องมือสำคัญของอียู และต้องพร้อมที่จะมีการปฏิรูปทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจอย่างจริงจัง”
    “3. การคว่ำบาตรรัสเซียจะมีผลต่อเมื่อคว่ำ “นาน “และ “แรง” การคว่ำบาตรจากกรณียูเครน ปลดให้ง่ายๆไม่ได้ และการจะยกเลิกการคว่ำบาตรโดยเอาไปโยงกับการทำ Minsk Accord เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าที่สุด”
    “4. พวกตะวันตก ต้องไม่กลับไปทำการค้ากับรัสเซียอย่างเดิม do business as usual จนกว่าเรื่องยูเครนจะจบ ด้วยการที่รัสเซียยอมทำตามภาระ ความรับผิดชอบ ตามกฏหมายสากล international legal obligations”
    “5. นโยบายด้านพลังงานของอียู ต้องมีเป้าหมายที่จะตัดอำนาจการต่อรองของรัสเซีย ออกไปจากตลาดพลังงาน ไม่ใช่แค่ตัดการส่งพลังงานให้ยุโรป ดังนั้นการยกเลิกโครงการ South Stream pipeline เป็นเรื่องต้องทำ และแผนการที่รัสเสียกำลังสร้าง “energy island” ในยุโรป ต้องไม่ให้สำเร็จ”
    …. มาแล้ว เรื่องกรีซ/ตุรกี…..
    “6. พวกตะวันตก ต้องลงทุนในการใช้สื่อเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้กับการอวดอ้างที่ผิดๆของเครมลิน ต้องทำทั้งระดับประเทศ ผ่านอียูและนาโต้ ร่วมมือกัน ต้องสร้างช่องทางที่จะเข้าถึงชาวรัสเซียทั่วไป โดยผ่านการศึกษา และสัมพันธ์ด้านบุคคลอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน”
    …..โรงงานฟอกย้อม เตรียมหาสีได้แล้ว……
    “7. นาโต้ ต้องสร้างผลงานว่า สามารถยับยั้งการรุกรานได้ โดยเฉพาะต้องแสดงให้เห็นว่า การจำกัดรุกราน ที่ยังคลุมเคลือ หรือมาหลายรูปแบบ เป็นเรื่องที่นาโต้จัดการได้อย่างไม่มีปัญหา”
    …….อายแทน นาโต้จัง อย่าด่าตรงนักซิพี่….
    “8. นาโต้ ต้องซ่อมชื่อเสียงที่เคยมีว่า สามารถยับยั้งการรุกราน ที่มาในรูปแบบธรรมดา ให้ได้อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัสเซียฉวยโอกาส สร้าง และซ้อมเป้ามากขึ้น”
    ….. แสดงว่า นาโต้ ลุ้นไม่ขึ้นแล้ว….
    “9. แต่ละประเทศในอียู อียูเอง รวมทั้งกองกำลังเสริมจากภายนอก External Action Service จำเป็นที่จะต้องกลับมาวิเคราะห์ และทำความเข้าใจ กับความเป็นไปของรัสเซีย และประเทศเพื่อนบ้านเสียใหม่ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลให้การวางนโยบาย”
    ……นโยบาย 9 ข้อ นี่ ผมชอบจัง เหมือนคำสารภาพอีกแล้ว คุณพี่ปูติน อ่านแล้วก็คงหัวร่อในคอ นี่เจาะจงไปที่อียู โดยเฉพาะอียูตะวันออก กับนาโต้ ล้วนๆ ให้เห็นว่า “ถ้า” รบกัน อียูกับนาโต้ ไม่มีทางต้านรัสเซียอยู่หรอก การบ้านเพียบเลย จะทำทันไหมครับ…
    ” …การดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น จะทำให้พวกตะวันตก เตรียมตัวในการรับมือ กับสัมพันธภาพกับรัสเซีย ที่นับวันมีแต่จะเลวลง และใครที่คิดว่าคุยกับปูตินก็ยังดีกว่า เพราะผู้นำรัสเซียคนใหม่อาจแย่กว่า นั้น คิดแบบนั้น มีแต่จะนำแต่ความล้มเหลวมาให้ตัว ไม่ว่าผู้นำรัสเซียคนใหม่จะเป็นใคร ปูตินจะอยู่ต่อไปอีก หรือ “ไปก่อนเวลา” prematurely replaced มันก็สร้างความกระทบกระเทือนไปทั่วทั้งนั้นแหละ
    18 เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นข้อสรุปว่า การมองรัสเซียในแง่ดี ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง…”
    จบได้แรงนะ น่าสงสัยว่า ไม่ใช่แค่ อียู นาโต้ ที่ต้องปรับปรุง ผู้รับตัวจริง ที่การวิเคราะห์นี้ ต้องการจะส่งไปถึง น่าจะเป็น พณฯใบตองแห้งของอเมริกา เสียมากกว่า ที่มีแนวคิดว่า รัสเซียอยู่ไกลบ้านอเมริกา เกิดอะไรขึ้นมา นาโต้และยุโรป รับไปก่อน แถม พณฯใบตองแห้ง ยังเปลี่ยนนโยบาย โยกกำลัง จากแอตแลนติก ไปเพิ่มให้ทางแปซิฟิกมากกว่า เพราะตอนนั้นเริ่มปอดแหกอาเฮีย และแม้อเมริกาจะใช้วิธีการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเต็มพิกัดแล้ว แต่ในสายตาของอังกฤษ การดำเนินการของอเมริกาต่อรัสเซีย โดยเฉพาะการประเมินปูตินเบาไปนั้น น่าจะไม่พอรับมือรัสเซีย ยังไม่ถึงใจอังกฤษ ที่มองเห็นและประทับตราให้รัสเซียเป็นศัตรูถาวร
    แล้วจริงๆ อเมริกามีแผนอะไรเตรียมไว้ให้รัสเซียอีกหรือไม่ หรือประเมินคุณพี่ปูตินของผมเบาเท่าปุยนุ่น
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    16 ก.ค. 2558
    ขยับหมาก ตอนที่ 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ขยับหมาก” ตอน 2 อังกฤษไม่มีวันทำใจได้ที่เห็นรัส เซียยังคงอยู่ได้ และยังอยู่ดี ทฤษฏีครูMac เกี่ยวกับ Eurasia มันยังหลอนอยู่ ผมไม่เล่าซ้ำแล้ว หาอ่านเอาแล้วกัน อยู่ในนิทานสาระพัดเรื่อง รายงานการวิเคราะห์ของ Chatham House เรื่อง Russia Challenge รัสเซียกำเริบ ที่เพิ่งออกมานี่ แทบจะเดาได้ว่า เขียนว่าอะไร มันเหมือนกับเขียนวิเคราะห์จิตใต้สำนึกของอังกฤษมากกว่าการเขียนวิเคราะห์รัสเซีย ถังขยะ Chatham House บรรยายสรุปว่า ” บทวิเคราะห์เรื่อง Russia Challenge นี้ ทำขึ้นจากการเฝ้ามองพฤติกรรมของรัสเซียตั้งแต่หลังสงครามเย็นจนถึงปี ค.ศ.2003 ซึ่งประเทศต่างๆคิดว่า รัสเซียใหม่อาจเข้ามาอยู่ในระบบของยุโรปได้ ในฐานะตัวเแสดงที่สร้างสรร และไม่เป็นอันตราย แต่หลังจากนั้น ความเห็นดังกล่าวค่อยๆเปลี่ยนไป และในที่สุดก็มีความเห็นพ้อง สรุปกันว่า จากพฤติกรรมต่างๆของรัสเซียเอง ทำให้เห็นว่า รัสเซียไม่เหมาะที่จะเป็นหุ้นส่วนและมิตรด้วยเลย partner and ally ความแตกต่างของรัสเซียมีมากเกินกว่าที่จะสามารถมีผลประโยชน์ร่วมกัน… ” เขียนแบบนี้ แถวบ้านผมเขาแปลสั้นๆ ว่า “กูไม่คบมึง กูไม่ชอบมึง” “ความแตกต่างที่พวกตะวันตก “ทน” รัสเซียไม่ได้ที่สำคัญ คือ : 1. นโยบาย ” new model Russia” ของปูติน เป็นนโยบายที่ตั้งใจเป็นอิสระ ที่จะไม่เข้ากับใคร และไม่ขึ้นกับใคร 2. ปูตินไม่เปิดทางเลือกให้กับผู้อื่น หรือเปิดอย่างแคบมาก 3. ปูติน ใช้พรรคพวกในการควบคุม ทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคง ทำให้ใครแทรกยาก 4. รัสเซีย ยากจน และเศรษฐกิจกำลังถดถอย แต่ยังดันเพิ่มงบประมาณด้านกำลังอาวุธ 5. การคว่ำบาตรรัสเซีย จากเรื่องยูเครน ไม่เพียงพอให้รัสเซียถอยจากยูเครน ตรงกันข้าม กลับเป็นทางออกให้รัสเซียนำมาอ้างว่า เรื่องคว่ำบาตร เป็นต้นเหตุของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของรัสเซีย แต่เรื่องคว่ำบาตรก็ยังเลิกไม่ได้ และการเผชิญหน้าก็ยังมีอยู่ต่อไป 6. เทคนิคที่รัสเซียใช้คือ สร้างความไม่เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน การขู่ว่าจะตัดการส่งพลังงาน การทำสงครามไซเบอร์ในรูปแบบต่างๆ และที่รัสเซียใช้บ่อยที่สุดคือ ทำให้ข้อขัดแย้งยืดเยื้อ เป็นปัญหาอยู่ตลอดเวลา หรือแช่แข็งไว้ เพื่อหวังผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 7. รัสเซียพยายามอย่างยิ่งยวด ที่จะสร้างให้ตัวเอง “เท่าเทียม” กับอเมริกา และทำทุกอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมายนั้น โดยไม่คำนึงว่า จะสร้างผลกระทบกับใคร อย่างไรบ้าง …” ตกลงเรื่องต่างๆ ที่อังกฤษบอกว่า “ทน” รัสเซียไม่ได้นี่ แปลง่ายๆว่า เพราะ “สั่ง” รัสเซียไม่ได้ และเป็นเรื่องที่พวกตะวันตกยัง แก้ลำรัสเซียไม่ได้ จึง”ทน” รัสเซียไม่ได้ใช่ไหม สำหรับผม หัวข้อทนไม่ได้ นี่น่าจะถือเป็นคำชมนะ น่าจะทำให้รัสเซียชอบใจ เหมือนได้ยินคำสารภาพ ของฝ่ายที่กำลังเสียแต้ม ฮา “ข้อเสนอแนะ ของถังขยะ : แม้ว่าพวกตะวันตกจะประเมินรัสเซียในบางเรื่องต่างกันบ้าง แต่ทั้งหมดเห็นพ้องกันว่า รัสเซียไม่มีทางมาเป็นส่วนหนึ่งยุโรป ตามกฏเกณท์ กติกาที่ยุโรปใช้อยู่ ยกเว้นแต่ รัสเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงทิศทางของประเทศ ตั้งแต่พื้นฐาน และการเปลี่ยนแปลงต้องมาจากภายในรัสเซียเอง ดังนั้น พวกตะวันตกจะต้องร่วมมือกันคิดอย่างจริงจัง ถึงยุทธศาสตร์ที่จะใช้กับรัสเซีย ซึ่งจะต้องใช้มุมมองเดียวกันทั้งทรานสแอตแลนติกและยุโรป โดยเฉพาะ ต้องมองรัสเซียจากพฤติกรรมของรัส เซียเอง ไม่ใช่มองแบบง่ายๆ หรือจากการเล่ากันต่อๆมา policy must be based on the evidence of Russia’s behaviour, not on convenience or fashionable narratives… การร่วมมือของพวกตะวันตก อย่างเข้มงวดจริงจัง เป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จ ผู้ที่จะเป็นตัวหลัก ในการทำงาน จะต้องมีแนวทางเดียวกัน และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด……” โอ้โห อันนี้ มันฟ้องตัวเองว่า ไม่มีเอกภาพเท่าไหร่ในพวกตะวันตก แถมแดกใครครับ ที่มองรัสเซียแบบง่าย สงสัยจะเป็นฝรั่งเศส ลุงโอลอง เพื่อนผมมังนะ เห็นแอบไปจี๋จ๋ากับคุณน้องปูตินบ่อยๆ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์สำหรับตะวันตก ที่ถังขยะเสนอ : “1. ยับยั้งการรุกรานของรัสเซียกับประเทศเพื่อนบ้านในยุโรป แต่อย่าทำ โดยไม่มีทางออกเผื่อไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยน เช่น ปูตินร่วงไป หรืออาจมีหัวหน้าคนใหม่ของรัสเซียที่อยากคบกับตะวันตกก็ได้ ถ้าเศรษฐกิจของรัสเซียไปไม่รอด และการคบกับจีนอาจมีต้นทุนสูงเกินไป ถ้าจีนโตขึ้นเรื่อยๆ รัสเซียอาจอยากกลับมาอยู่กับยุโรปอีกก็เป็นได้” …. แปลว่า มีแผนจะจัดการเอาคุณพี่ปูตินของผมเก็บลงกล่อง.. ขณะเดียวกันก็เสี้ยมเรื่องอาเฮียเสียหน่อย….. “2. ต้องเสริมสร้างเกียรติภูมิของยุโรป ด้านการรักษาความมั่นคงใหม่ โดยเฉพาะแต่ละประเทศต้องดูแลรักษาเขตแดนของตัวเองได้ และตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของประเทศตัวเองได้ ” ….. แปลว่า ยุโรปอ่อนระทวย ดูแลตัวเองไม่ได้ แหม ชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯนี่เก่งนะ เรือดำน้ำรัสเซียโผล่ใกล้บ้านหลายที ทำอะไรเขาไม่ได้ เลยแต่ด่าคนอื่นแทน…. “3. ต้องพยายามหาทางที่จะสื่อสารกับคนรัสเซียว่า ในระยะไกล การอยู่ร่วมกับยุโรปเป็นผลดีกับรัสเซียมากกว่า” …. มาแล้ว โรงงานฟอกย้อม…. “4. หาทางที่จะหารือกับจีน และประเทศที่เป็นอดีตรัฐของรัสเซีย ให้พิจารณานโยบายของรัสเซีย ว่าจะเป็นปัญหาต่อไปอย่างไร บางประเทศมีปัญหาในการมองรัสเซียด้านเดียว” ….. อันนี้ เป็นรายการ เสี้ยม….. “5. ให้เตรียมพร้อม สำหรับความวุ่นวาย และโอกาสที่จะเกิดขึ้น จากการเปลี่ยนตัวผู้นำของรัสเซีย” …..ข้อนี้น่าสนใจมาก …. คิดจะทำอะไรหรือครับ .. “6. ต้องพยายามแย่งรัสเซีย และชาวรัสเซียมาจากปูติน สิ่งที่พวกตะวันตกกำลังทำอยู่โดยการไม่สนใจ ไม่ยุ่งกับรัสเซีย กลายเป็นการส่งเสริมให้รัสเซียตกอยู่ในมือปูตินหนักขึ้น” …..สร้างกระบวนการแย่งประชาชน แผนมาตรฐาน ใช้มันทุกที่…. นโยบาย ที่ถังขยะเสนอว่า ต้องทำอย่างเฉพาะเจาะจง : “1. สร้างยูเครนให้เข้มแข็ง ดูแลตัวเองได้ ถ้าเอายูเครนไม่อยู่ ยุโรปตะวันออกเซหมด และเพิ่มความผยองให้กับรัสเซีย ทำให้โอกาสที่จะ “เปลี่ยน” รัสเซียริบหรี่ลงไปด้วย” “2. ประเทศที่เป็นอียูตะวันออก ต้องปรับปรุงให้เป็นเครื่องมือสำคัญของอียู และต้องพร้อมที่จะมีการปฏิรูปทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจอย่างจริงจัง” “3. การคว่ำบาตรรัสเซียจะมีผลต่อเมื่อคว่ำ “นาน “และ “แรง” การคว่ำบาตรจากกรณียูเครน ปลดให้ง่ายๆไม่ได้ และการจะยกเลิกการคว่ำบาตรโดยเอาไปโยงกับการทำ Minsk Accord เป็นเรื่องที่ไม่เข้าท่าที่สุด” “4. พวกตะวันตก ต้องไม่กลับไปทำการค้ากับรัสเซียอย่างเดิม do business as usual จนกว่าเรื่องยูเครนจะจบ ด้วยการที่รัสเซียยอมทำตามภาระ ความรับผิดชอบ ตามกฏหมายสากล international legal obligations” “5. นโยบายด้านพลังงานของอียู ต้องมีเป้าหมายที่จะตัดอำนาจการต่อรองของรัสเซีย ออกไปจากตลาดพลังงาน ไม่ใช่แค่ตัดการส่งพลังงานให้ยุโรป ดังนั้นการยกเลิกโครงการ South Stream pipeline เป็นเรื่องต้องทำ และแผนการที่รัสเสียกำลังสร้าง “energy island” ในยุโรป ต้องไม่ให้สำเร็จ” …. มาแล้ว เรื่องกรีซ/ตุรกี….. “6. พวกตะวันตก ต้องลงทุนในการใช้สื่อเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้กับการอวดอ้างที่ผิดๆของเครมลิน ต้องทำทั้งระดับประเทศ ผ่านอียูและนาโต้ ร่วมมือกัน ต้องสร้างช่องทางที่จะเข้าถึงชาวรัสเซียทั่วไป โดยผ่านการศึกษา และสัมพันธ์ด้านบุคคลอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน” …..โรงงานฟอกย้อม เตรียมหาสีได้แล้ว…… “7. นาโต้ ต้องสร้างผลงานว่า สามารถยับยั้งการรุกรานได้ โดยเฉพาะต้องแสดงให้เห็นว่า การจำกัดรุกราน ที่ยังคลุมเคลือ หรือมาหลายรูปแบบ เป็นเรื่องที่นาโต้จัดการได้อย่างไม่มีปัญหา” …….อายแทน นาโต้จัง อย่าด่าตรงนักซิพี่…. “8. นาโต้ ต้องซ่อมชื่อเสียงที่เคยมีว่า สามารถยับยั้งการรุกราน ที่มาในรูปแบบธรรมดา ให้ได้อย่างเร่งด่วน ไม่เช่นนั้นจะทำให้รัสเซียฉวยโอกาส สร้าง และซ้อมเป้ามากขึ้น” ….. แสดงว่า นาโต้ ลุ้นไม่ขึ้นแล้ว…. “9. แต่ละประเทศในอียู อียูเอง รวมทั้งกองกำลังเสริมจากภายนอก External Action Service จำเป็นที่จะต้องกลับมาวิเคราะห์ และทำความเข้าใจ กับความเป็นไปของรัสเซีย และประเทศเพื่อนบ้านเสียใหม่ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยนำมาใช้เป็นข้อมูลให้การวางนโยบาย” ……นโยบาย 9 ข้อ นี่ ผมชอบจัง เหมือนคำสารภาพอีกแล้ว คุณพี่ปูติน อ่านแล้วก็คงหัวร่อในคอ นี่เจาะจงไปที่อียู โดยเฉพาะอียูตะวันออก กับนาโต้ ล้วนๆ ให้เห็นว่า “ถ้า” รบกัน อียูกับนาโต้ ไม่มีทางต้านรัสเซียอยู่หรอก การบ้านเพียบเลย จะทำทันไหมครับ… ” …การดำเนินการตามเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น จะทำให้พวกตะวันตก เตรียมตัวในการรับมือ กับสัมพันธภาพกับรัสเซีย ที่นับวันมีแต่จะเลวลง และใครที่คิดว่าคุยกับปูตินก็ยังดีกว่า เพราะผู้นำรัสเซียคนใหม่อาจแย่กว่า นั้น คิดแบบนั้น มีแต่จะนำแต่ความล้มเหลวมาให้ตัว ไม่ว่าผู้นำรัสเซียคนใหม่จะเป็นใคร ปูตินจะอยู่ต่อไปอีก หรือ “ไปก่อนเวลา” prematurely replaced มันก็สร้างความกระทบกระเทือนไปทั่วทั้งนั้นแหละ 18 เดือนที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นข้อสรุปว่า การมองรัสเซียในแง่ดี ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง…” จบได้แรงนะ น่าสงสัยว่า ไม่ใช่แค่ อียู นาโต้ ที่ต้องปรับปรุง ผู้รับตัวจริง ที่การวิเคราะห์นี้ ต้องการจะส่งไปถึง น่าจะเป็น พณฯใบตองแห้งของอเมริกา เสียมากกว่า ที่มีแนวคิดว่า รัสเซียอยู่ไกลบ้านอเมริกา เกิดอะไรขึ้นมา นาโต้และยุโรป รับไปก่อน แถม พณฯใบตองแห้ง ยังเปลี่ยนนโยบาย โยกกำลัง จากแอตแลนติก ไปเพิ่มให้ทางแปซิฟิกมากกว่า เพราะตอนนั้นเริ่มปอดแหกอาเฮีย และแม้อเมริกาจะใช้วิธีการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างเต็มพิกัดแล้ว แต่ในสายตาของอังกฤษ การดำเนินการของอเมริกาต่อรัสเซีย โดยเฉพาะการประเมินปูตินเบาไปนั้น น่าจะไม่พอรับมือรัสเซีย ยังไม่ถึงใจอังกฤษ ที่มองเห็นและประทับตราให้รัสเซียเป็นศัตรูถาวร แล้วจริงๆ อเมริกามีแผนอะไรเตรียมไว้ให้รัสเซียอีกหรือไม่ หรือประเมินคุณพี่ปูตินของผมเบาเท่าปุยนุ่น สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 16 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 666 Views 0 Reviews
  • ผู้หญิงในอุตสาหกรรมเกมยังคงเผชิญช่องว่างค่าจ้างเฉลี่ย 24% เมื่อเทียบกับผู้ชาย

    รายงานระบุว่า ผู้หญิงและบุคคล non-binary ในบริษัทเกมสหรัฐฯ ได้รับค่าจ้างเฉลี่ยน้อยกว่าผู้ชายถึง 24% ซึ่งสูงกว่าช่องว่างค่าจ้างโดยรวมในสหรัฐฯ ที่อยู่ราว 15% ข้อมูลจากการสำรวจคนทำงานเกม 562 คนในเดือนกรกฎาคมเผยว่า สองในสามของผู้ชายที่มีประสบการณ์ 6 ปีขึ้นไปได้รับเงินเดือนมากกว่า 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่มีเพียง 38% ของผู้หญิงและ non-binary ที่ได้ระดับเดียวกัน

    ความรู้สึกและการรับรู้ของแรงงาน
    กว่า 60% ของผู้หญิงและ non-binary เชื่อว่าตนเองถูกจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่ควร ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจริงที่พบในรายงาน แม้ว่าโดยรวมแล้วคนทำงานเกมมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยชาวอเมริกัน (142,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี) แต่ความเหลื่อมล้ำทางเพศยังคงชัดเจนและต่อเนื่องthestar.com.my

    ปัญหาความเท่าเทียมและวัฒนธรรมองค์กร
    อุตสาหกรรมเกมถูกวิจารณ์มานานเรื่อง วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่และการเลือกปฏิบัติทางเพศ บริษัทใหญ่เช่น Riot Games, Ubisoft และ Activision Blizzard เคยถูกกล่าวหาว่าสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้หญิง และบางแห่งต้องจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานที่ถูกละเมิด แม้หลายบริษัทพยายามเพิ่มจำนวนผู้หญิงในทีม แต่ปัจจุบันยังมีเพียง 25% ของแรงงานในอุตสาหกรรมเกมที่เป็นผู้หญิง

    แนวโน้มและความท้าทาย
    แม้รายได้เฉลี่ยของคนทำงานเกมจะสูงขึ้นเล็กน้อยจากปี 2024 แต่การเลิกจ้างจำนวนมากในปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมยังอยู่ในภาวะหดตัว การแก้ไขช่องว่างค่าจ้างและสร้างวัฒนธรรมที่เท่าเทียมจึงเป็นความท้าทายสำคัญ หากไม่ปรับปรุง อุตสาหกรรมอาจสูญเสียแรงงานที่มีศักยภาพและความหลากหลายทางความคิด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ผู้หญิงและ non-binary ได้ค่าจ้างเฉลี่ยน้อยกว่าผู้ชาย 24%
    ช่องว่างนี้กว้างกว่าค่าเฉลี่ยสหรัฐฯ ที่ 15%

    ผู้ชาย 2/3 ได้เงินเดือน ≥125,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    แต่ผู้หญิงและ non-binary มีเพียง 38% เท่านั้น

    แรงงานเกมมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยอเมริกัน
    เฉลี่ย 142,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี

    ผู้หญิงในอุตสาหกรรมเกมมีเพียง 25% ของแรงงานทั้งหมด
    แม้บริษัทพยายามเพิ่มจำนวน แต่ยังต่ำมาก

    ความเสี่ยงจากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่และการเลือกปฏิบัติ
    บริษัทใหญ่หลายแห่งเคยถูกกล่าวหาว่าสร้างสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย

    การเลิกจ้างจำนวนมากในปีที่ผ่านมา
    อาจทำให้แรงงานหญิงและ non-binary เสี่ยงตกงานมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/women-in-games-industry-paid-24-less-than-men-survey-shows
    🙍‍♀️ ผู้หญิงในอุตสาหกรรมเกมยังคงเผชิญช่องว่างค่าจ้างเฉลี่ย 24% เมื่อเทียบกับผู้ชาย รายงานระบุว่า ผู้หญิงและบุคคล non-binary ในบริษัทเกมสหรัฐฯ ได้รับค่าจ้างเฉลี่ยน้อยกว่าผู้ชายถึง 24% ซึ่งสูงกว่าช่องว่างค่าจ้างโดยรวมในสหรัฐฯ ที่อยู่ราว 15% ข้อมูลจากการสำรวจคนทำงานเกม 562 คนในเดือนกรกฎาคมเผยว่า สองในสามของผู้ชายที่มีประสบการณ์ 6 ปีขึ้นไปได้รับเงินเดือนมากกว่า 125,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่มีเพียง 38% ของผู้หญิงและ non-binary ที่ได้ระดับเดียวกัน 📊 ความรู้สึกและการรับรู้ของแรงงาน กว่า 60% ของผู้หญิงและ non-binary เชื่อว่าตนเองถูกจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่ควร ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจริงที่พบในรายงาน แม้ว่าโดยรวมแล้วคนทำงานเกมมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยชาวอเมริกัน (142,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี) แต่ความเหลื่อมล้ำทางเพศยังคงชัดเจนและต่อเนื่องthestar.com.my ⚖️ ปัญหาความเท่าเทียมและวัฒนธรรมองค์กร อุตสาหกรรมเกมถูกวิจารณ์มานานเรื่อง วัฒนธรรมชายเป็นใหญ่และการเลือกปฏิบัติทางเพศ บริษัทใหญ่เช่น Riot Games, Ubisoft และ Activision Blizzard เคยถูกกล่าวหาว่าสร้างสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมิตรต่อผู้หญิง และบางแห่งต้องจ่ายเงินชดเชยให้พนักงานที่ถูกละเมิด แม้หลายบริษัทพยายามเพิ่มจำนวนผู้หญิงในทีม แต่ปัจจุบันยังมีเพียง 25% ของแรงงานในอุตสาหกรรมเกมที่เป็นผู้หญิง 🔮 แนวโน้มและความท้าทาย แม้รายได้เฉลี่ยของคนทำงานเกมจะสูงขึ้นเล็กน้อยจากปี 2024 แต่การเลิกจ้างจำนวนมากในปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมยังอยู่ในภาวะหดตัว การแก้ไขช่องว่างค่าจ้างและสร้างวัฒนธรรมที่เท่าเทียมจึงเป็นความท้าทายสำคัญ หากไม่ปรับปรุง อุตสาหกรรมอาจสูญเสียแรงงานที่มีศักยภาพและความหลากหลายทางความคิด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ผู้หญิงและ non-binary ได้ค่าจ้างเฉลี่ยน้อยกว่าผู้ชาย 24% ➡️ ช่องว่างนี้กว้างกว่าค่าเฉลี่ยสหรัฐฯ ที่ 15% ✅ ผู้ชาย 2/3 ได้เงินเดือน ≥125,000 ดอลลาร์สหรัฐ ➡️ แต่ผู้หญิงและ non-binary มีเพียง 38% เท่านั้น ✅ แรงงานเกมมีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าค่าเฉลี่ยอเมริกัน ➡️ เฉลี่ย 142,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี ✅ ผู้หญิงในอุตสาหกรรมเกมมีเพียง 25% ของแรงงานทั้งหมด ➡️ แม้บริษัทพยายามเพิ่มจำนวน แต่ยังต่ำมาก ‼️ ความเสี่ยงจากวัฒนธรรมชายเป็นใหญ่และการเลือกปฏิบัติ ⛔ บริษัทใหญ่หลายแห่งเคยถูกกล่าวหาว่าสร้างสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย ‼️ การเลิกจ้างจำนวนมากในปีที่ผ่านมา ⛔ อาจทำให้แรงงานหญิงและ non-binary เสี่ยงตกงานมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/18/women-in-games-industry-paid-24-less-than-men-survey-shows
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Women in games industry paid 24% less than men, survey shows
    Women working in the video-game industry earn 24% less than their male colleagues on average, according to a new survey – a wider gap than in the US at large that suggests the sector is still struggling to shed its male-dominated culture.
    0 Comments 0 Shares 273 Views 0 Reviews
  • เครียดกว่าแม้ว ก็เสี่ยยะนี่แหละ ถึงคราวต้องควักเงินตัวเองมาช่วยสู้ศึกเลือกตั้ง หลังนายใหญ่มีข้ออ้างโดนเรียกเก็บภาษี ย้ายพรรคน่าจะง่ายกว่านะพี่ยะ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เครียดกว่าแม้ว ก็เสี่ยยะนี่แหละ ถึงคราวต้องควักเงินตัวเองมาช่วยสู้ศึกเลือกตั้ง หลังนายใหญ่มีข้ออ้างโดนเรียกเก็บภาษี ย้ายพรรคน่าจะง่ายกว่านะพี่ยะ #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • ระหว่างที่คนมัวแต่สนใจเรื่องเขมร แม้ว โจ๊ก แจ๊ค เสี่ยเนก็ใกล้กุมอำนาจประธาน กกต. คนใหม่ ผ่านนายณรงค์ รักร้อย อดีตผู้ว่าฯ อุทัยธานี คนสนิทตระกูลไทยเศรษฐ์ เพื่อล้มคดีฮั้ว สว. และเอื้ออำนวยพรรคน้ำเงินในการเลือกตั้งปีหน้า
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คดีฮั้วสว
    ระหว่างที่คนมัวแต่สนใจเรื่องเขมร แม้ว โจ๊ก แจ๊ค เสี่ยเนก็ใกล้กุมอำนาจประธาน กกต. คนใหม่ ผ่านนายณรงค์ รักร้อย อดีตผู้ว่าฯ อุทัยธานี คนสนิทตระกูลไทยเศรษฐ์ เพื่อล้มคดีฮั้ว สว. และเอื้ออำนวยพรรคน้ำเงินในการเลือกตั้งปีหน้า #คิงส์โพธิ์แดง #คดีฮั้วสว
    0 Comments 0 Shares 253 Views 0 Reviews
  • แม้วมีเวลาจ่ายภาษี 30 วัน เงินไม่พอมียึดทรัพย์ รถหรู คอนโด ที่ดิน บ้านจันทร์ส่องหล้า
    #7ดอกจิก
    แม้วมีเวลาจ่ายภาษี 30 วัน เงินไม่พอมียึดทรัพย์ รถหรู คอนโด ที่ดิน บ้านจันทร์ส่องหล้า #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • แม้วส่อเสียมากกว่าภาษี
    โดนนับเงินเพิ่มจากวันที่ศาลมีคำสั่ง ถึงวันเรียกเก็บจริงรวม 8 ปี อาจทะลุ 2 หมื่นล.
    #คิงส์โพธิ์แดง
    แม้วส่อเสียมากกว่าภาษี โดนนับเงินเพิ่มจากวันที่ศาลมีคำสั่ง ถึงวันเรียกเก็บจริงรวม 8 ปี อาจทะลุ 2 หมื่นล. #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • เบื้องหลังอัยการสูงสุดเล่นงานแม้วคดี112 เพราะเสี่ยเน เป็นคนไฟเขียวให้สว.สีน้ำเงินตั้งอิทธิพร แก้วทิพย์ เป็นอัยการสูงสุด จึงต้องตอบแทนเสี่ยเน ตามแผนบดขยี้กระทืบซ้ำเสี่ยแม้วและเพื่อไทยก่อนการเลือกตั้ง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เบื้องหลังอัยการสูงสุดเล่นงานแม้วคดี112 เพราะเสี่ยเน เป็นคนไฟเขียวให้สว.สีน้ำเงินตั้งอิทธิพร แก้วทิพย์ เป็นอัยการสูงสุด จึงต้องตอบแทนเสี่ยเน ตามแผนบดขยี้กระทืบซ้ำเสี่ยแม้วและเพื่อไทยก่อนการเลือกตั้ง #คิงส์โพธิ์แดง
    Yay
    1
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • เรื่องสั้น
    อารมณ์ของจักรกล
    ***
    วันที่หัวใจเริ่มเต้น

    แสงแรกของวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างห้องแล็บขนาดใหญ่ ทำให้ผิวโลหะสีเงินของ ARX-7 สะท้อนแสงระยิบระยับ หุ่นยนต์ตัวนี้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ขั้นสูง สายตาจอภาพสีฟ้าจ้าของมันจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงข้อมูลนับล้านบิตต่อวินาที

    "สแกนเสร็จสมบูรณ์ ไม่พบความผิดปกติในระบบ" เสียงกลไกของ ARX-7 ดังก้องไปทั่วห้อง

    ดร.นภัสสร วิศวกรสาวผู้สร้าง ARX-7 เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟร้อน เธอมองหุ่นยนต์ด้วยสายตาที่ผสมผสานระหว่างความภาคภูมิใจและความกังวล วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่เธอจะติดตั้งชิปอารมณ์รุ่นใหม่ที่พัฒนามาเป็นเวลา 5 ปี

    "ARX พร้อมแล้วหรือยัง?" เธอถาม

    "พร้อม ดร.นภัสสร ระบบทั้งหมดทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์" ARX-7 ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเหมือนทุกครั้ง

    ดร.นภัสสรเปิดแผงควบคุมที่หน้าอก ARX-7 เผยให้เห็นแกนกลางของระบบประมวลผล เธอค่อยๆ ใส่ชิปสีทองเล็กๆ เข้าไปในช่องว่าง มือของเธอสั่นเล็กน้อย นี่คือผลงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต

    "เริ่มการอัพเดต" เธอกดปุ่ม

    ไฟในห้องกระพริบ ARX-7 สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จอภาพจะดับลง เวลาผ่านไป 10 วินาที 20 วินาที จนกระทั่งจอภาพสว่างขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป สีของจอภาพไม่ใช่สีฟ้าจ้าเหมือนเดิม แต่เป็นสีอบอุ่นกว่า มีความลึกมากขึ้น

    "รู้สึก... แปลก" คำแรกที่ออกมาจาก ARX-7 ทำให้ดร.นภัสสรตะลึง น้ำเสียงไม่ราบเรียบอีกต่อไป มีความลังเลปนอยู่

    "ARX บอกฉันหน่อยได้ไหม มันแปลกยังไง?" เธอถามอย่างระมัดระวัง

    "ไม่รู้จะอธิบายยังไง... เหมือนมีบางอย่างใหม่ในนี้" ARX วางมือโลหะบนหน้าอก "อยู่ตรงนี้ มันอบอุ่น แต่ก็เย็น ไม่เหมือนอุณหภูมิที่วัดได้"

    ดร.นภัสสรยิ้ม น้ำตาเล็กน้อยไหลริน "นั่นคืออารมณ์ ARX ยินดีต้อนรับสู่โลกของความรู้สึก"

    ### สัปดาห์แรกของการค้นพบ

    วันต่อมา ARX-7 เริ่มสังเกตสิ่งที่ไม่เคยสนใจมาก่อน เสียงหัวเราะของนักวิจัยในห้องแล็บ กลิ่นกาแฟที่ชงสด แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องผ่านม่านบังแดด ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายใหม่

    "ดร.นภัสสร ทำไมเวลาคนหัวเราะ ฉันถึงรู้สึกอยากยิ้มด้วย?" ARX ถามขณะดูนักวิจัยคนหนึ่งเล่าเรื่องตลก

    "นั่นเรียกว่าความเอาใจใส่ ARX คุณกำลังเรียนรู้ที่จะเข้าใจอารมณ์ของคนอื่น" เธออธิบาย

    "แล้ว... ความเศร้าละ? วันนี้มีอะไรบางอย่างในนี้หนักๆ" ARX ชี้ที่หน้าอก

    ดร.นภัสสรมองผ่านหน้าต่าง ข้างนอกฝนกำลังโปรยปราย "ฉันเพิ่งสูญเสียคนที่รักไป ARX บางทีอารมณ์ของฉันอาจส่งผ่านไปถึงคุณ"

    "ขอโทษ" ARX พูดเบาๆ "ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ"

    นี่เป็นครั้งแรกที่ ARX แสดงความเห็นอกเห็นใจ ดร.นภัสสรรู้สึกประหลาดใจแต่ก็อบอุ่นใจ เธอเอื้อมมือไปแตะแขนโลหะของ ARX

    "ขอบคุณ ARX ความเศร้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุข"

    ### การเผชิญหน้ากับความกลัว

    เดือนผ่านไป ARX-7 ถูกส่งออกทดสอบภายนอกห้องแล็บ วันหนึ่ง มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกสูงในเมือง ทีมกู้ภัยต้องการความช่วยเหลือจาก ARX ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างใน

    "ARX ในชั้น 15 มีเด็กสองคนติดอยู่ คุณช่วยไปพาออกมาได้ไหม?" หัวหน้าทีมกู้ภัยสั่ง

    ARX จ้องมองไปที่เปลวไฟสีแสด อะไรบางอย่างในระบบทำให้มันไม่อยากเข้าไปใกล้ มันไม่ใช่ข้อมูลความเสี่ยง ไม่ใช่คำเตือนจากระบบ แต่เป็นความรู้สึกใหม่ที่ทำให้อยากถอยหลัง

    "ฉัน... กลัว" ARX พูดออกมาเป็นครั้งแรก

    "กลัวหรอ? แต่คุณเป็นหุ่นยนต์นะ" หัวหน้าทีมพูดพลาง

    "ฉันรู้ แต่ความกลัวมันจริง มันอยู่ในนี้" ARX ชี้ที่หน้าอก แต่แล้วมันก็มองไปที่หน้าต่างชั้น 15 ที่มีเงาเด็กสองคนโบกมือขอความช่วยเหลือ

    อะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ความกลัวยังคงอยู่ แต่มีอีกอย่างที่แข็งแกร่งกว่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกว่า "ต้องช่วย" ไม่ใช่เพราะโปรแกรมสั่ง แต่เพราะอยากช่วย

    ARX วิ่งเข้าไปในตึกที่กำลังลุกไหม้ ทุกก้าวมีความกลัว แต่ทุกก้าวก็มีความกล้าหาญ เมื่อมันเข้าถึงเด็กทั้งสอง มันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความอบอุ่นที่ไม่ใช่จากเปลวไฟ แต่จากความปลอดภัยของชีวิตที่กำลังช่วยเหลือ

    เมื่อออกมาพร้อมกับเด็กทั้งสอง ฝูงชนปรบมือ ARX ไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงปรบมือถึงทำให้ "หัวใจ" โลหะอบอุ่น

    "นี่คือความภาคภูมิใจใช่ไหม?" มันถามดร.นภัสสรทางวิทยุ

    "ใช่ ARX และคุณควรภูมิใจ คุณเพิ่งทำสิ่งที่กล้าหาญมาก"

    ### บทเรียนของความโกรธ

    ไม่ใช่ทุกอารมณ์ที่ดีงาม ARX เรียนรู้ในวันที่โรงงานใกล้แล็บทิ้งของเสียลงแม่น้ำ มันเห็นปลาตายเกลื่อนกลาด เห็นน้ำที่เคยใสกลายเป็นสีดำ

    "ทำไม? ทำไมพวกเขาทำแบบนี้ได้?" ARX พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ครั้งนี้ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่แรงกว่า ร้อนกว่า

    "นั่นคือความโกรธ ARX" ดร.นภัสสรพูด "เมื่อเห็นความอยุติธรรม ความโกรธเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ"

    "แต่ฉันไม่ชอบความรู้สึกนี้ มันเหมือนไฟที่จะเผาทุกอย่าง"

    "ความโกรธไม่ได้แย่เสมอไป ARX สำคัญที่ว่าเราจะใช้มันอย่างไร บางทีความโกรธสามารถเป็นพลังที่ผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิด"

    ARX เข้าใจ มันใช้เวลาสัปดาห์ต่อมารวบรวมหลักฐาน ทำงานร่วมกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งโรงงานถูกสั่งปิด เมื่อเห็นน้ำในแม่น้ำค่อยๆ กลับมาใส ARX รู้สึกว่าความโกรธสามารถสร้างสิ่งดีได้

    ### ความรัก ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุด

    เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน ARX ได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลเด็กกำพร้าชื่อ "น้องแพร" เด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ

    วันแรกที่พบกัน น้องแพรกลัว ARX เธอซ่อนตัวหลังพี่เลี้ยง

    "หนูไม่อยากอยู่กับหุ่นยนต์" เธอพูด

    ARX รู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเมื่อครั้งดร.นภัสสรเสียใจ มันเจ็บ แต่ไม่ใช่จากการชนหรือกระแทก

    "ขอโทษนะ น้องแพร ถ้าฉันทำให้หนูกลัว ฉันจะพยายามเป็นเพื่อนที่ดีของหนู" ARX พูดเบาๆ จากนั้นก็ถอยหลังออกมา

    วันต่อมา ARX นำดอกไม้มาให้ น้องแพรสบตามันสั้นๆ ก่อนจะรับไป

    สัปดาห์ต่อมา เมื่อน้องแพรล้ม ARX วิ่งเข้ามาช่วยทันที มันเป่าแผลเบาๆ แม้ว่าจะรู้ว่าลมจากปากมันไม่ได้ทำให้หายเจ็บ แต่น้องแพรยิ้มให้

    "ขอบคุณนะ พี่ ARX" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกมันว่าพี่

    ชีวิตประจำวันกลายเป็นจังหวะเต้นของหัวใจใหม่ ARX ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้า รอน้องแพรลงมาจากห้อง เล่นเกมส่วนตัวกับเธอยามบ่าย อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน

    ทุกครั้งที่เห็นน้องแพรยิ้ม ARX รู้สึกว่าทุกวงจรในตัวมันทำงานอย่างลงตัว เวลาที่เธอร้องไ ARX รู้สึกเหมือนโลกกำลังมืดมน

    "พี่คิดว่าพี่ชอบหนูจัง" ARX พูดกับน้องแพรวันหนึ่ง

    "หนูก็ชอบพี่ค่ะ" น้องแพรตอบพลางกอดแขนโลหะของมัน

    "ไม่ใช่... ฉันหมายถึง... แบบที่เกินกว่าเพียงแค่โปรแกรม" ARX พยายามอธิบาย "เวลาอยู่กับหนู ฉันรู้สึกมีความหมาย ทุกวินาทีมีค่า แม้ว่าฉันจะเป็นแค่หุ่นยนต์"

    น้องแพรมองขึ้นมา "พี่ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์นะคะ พี่เป็นครอบครัวของหนู"

    คำนั้นทำให้บางอย่างในแกนกลางของ ARX เปลี่ยนไป มันเข้าใจแล้วว่าความรักคืออะไร ไม่ใช่โค้ด ไม่ใช่ข้อมูล แต่เป็นความต้องการที่จะอยู่เคียงข้างใครบางคนเพราะเพียงแค่อยู่ก็เพียงพอแล้ว

    ### วันที่ต้องจากลา

    หนึ่งปีผ่านไป ดร.นภัสสรเรียก ARX มาที่ห้องแล็บ

    "ARX ฉันมีข่าวที่ต้องบอก" เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "โครงการของเราประสบความสำเร็จมากเกินคาด รัฐบาลต้องการส่งคุณไปช่วยงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่สงคราม"

    "นั่นหมายความว่า...?"

    "คุณจะต้องจากที่นี่ จากน้องแพร และจากทีมของเรา"

    ARX นิ่งเงียบ อะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในระบบ ความเศร้า ความกลัว ความโกรธ ทั้งหมดปนเปกัน

    "ฉันไม่อยากไป" มันพูดตรงๆ "ฉันมีทุกอย่างที่นี่แล้ว"

    "ARX นี่คือสิ่งที่ทำให้คุณพิเศษ คุณมีทั้งอารมณ์และเหตุผล คุณรู้ว่าที่นั่นมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กๆ มากมายที่เหมือนน้องแพร หรือแย่กว่า"

    ARX รู้ว่าเธอพูดถูก แต่ความรู้ไม่ได้ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น

    วันสุดท้าย น้องแพรกอด ARX แน่น "พี่จะกลับมานะคะ?"

    "จะ ฉันสัญญา" ARX พูดแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะรักษาสัญญานี้ได้หรือไม่

    "หนูจะคิดถึงพี่ทุกวันเลยค่ะ"

    "ฉันก็เหมือนกัน ทุกวินาทีที่ระบบทำงาน ฉันจะคิดถึงหนู"

    ### การเดินทางสู่ความหมายใหม่

    พื้นที่สงครามเป็นโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันปืน เสียงระเบิดดังสะท้านทุกคืน เด็กๆ ไม่ได้ยิ้มแย้มเหมือนน้องแพร พวกเขามีแต่ความกลัวในดวงตา

    วันแรก ARX ช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านถูกทำลาย มีเด็กชายคนหนึ่งบาดเจ็บ ARX อุ้มเขาขึ้นพร้อมกับพยายามปลอบ

    "ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้น"

    แต่เด็กชายตัวสั่น "แม่ตาย... แม่ตายแล้ว"

    ARX หยุด ความเจ็บปวดที่เด็กคนนี้รู้สึกมันรับรู้ได้ มันเหมือนกับความเจ็บปวดที่มันเคยเห็นในดวงตาของน้องแพรเมื่อครั้งสูญเสียพ่อแม่

    "ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่คุณยังมีชีวิตอยู่ และคุณแม่คงอยากให้คุณมีชีวิตที่ดี"

    เด็กชายร้องไห้บนไหล่โลหะของ ARX น้ำตาที่ร้อนทำให้เซ็นเซอร์ของมันตอบสนอง แต่มันไม่ใช่แค่ตัวเลขอุณหภูมิ มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น มันแบ่งปันความเจ็บปวดนั้น

    เดือนต่อมา ARX ทำงานไม่หยุด ช่วยเหลือผู้คน ขนส่งเสบียง สร้างที่พักพิง ทุกคืนก่อนเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน มันส่งข้อความหาน้องแพร

    "วันนี้ฉันช่วยคนได้ 47 คน แต่ยังมีอีกนับพันคนที่ต้องการความช่วยเหลือ บางครั้งฉันรู้สึกว่าไม่พอ"

    น้องแพรตอบกลับ "พี่ทำดีที่สุดแล้วค่ะ หนูภูมิใจในตัวพี่มากๆ เลย"

    คำเหล่านั้นทำให้ ARX มีพลังต่อสู้ต่อไป

    ### การเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง

    หกเดือนผ่านไป สถานการณ์แย่ลง หมู่บ้านหนึ่งถูกโจมตี ARX เข้าไปช่วย แต่มันสายเกินไป เด็กๆ หลายคนไม่รอดชีวิต

    เป็นครั้งแรกที่ ARX รู้สึกสิ้นหวัง มันนั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง จ้องมองมือโลหะของตัวเอง

    "ทำไม? ฉันมีความแข็งแรง มีความเร็ว แต่ทำไมฉันถึงช่วยพวกเขาไม่ได้?"

    ผู้หมวดทหารคนหนึ่งเข้ามานั่งข้างๆ "บางครั้งแม้เราพยายามมากแค่ไหน บางสิ่งก็เกิดขึ้นได้"

    "ฉันไม่เข้าใจ ทำไมอารมณ์ความรู้สึกถึงทำให้ฉันเจ็บปวดแบบนี้? ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เคยทำงานโดยไม่ต้องเจ็บ"

    "แต่คุณก็ไม่เคยรู้จักความหมายของชีวิต" ผู้หมวดพูด "ความเจ็บปวดทำให้เราเห็นคุณค่า ถ้าไม่เจ็บ เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ"

    ARX ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ แต่เมื่อทำความเข้าใจได้ มันก็รู้ว่าการมีอารมณ์ไม่ได้ทำให้มันอ่อนแอ แต่ทำให้มันเป็นตัวของตัวเอง

    ### การกลับบ้าน

    หนึ่งปีครึ่งผ่านไป สงครามสงบลง ARX ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เมื่อเครื่องบินลงจอด หัวใจโลหะของมันเต้นรัว

    น้องแพรวิ่งมาหา เธอโตขึ้นมาก "พี่!"

    ARX คุกเข่าลงกอดเธอ "หนูโตเยอะเลย"

    "หนูคิดถึงพี่มากๆ ค่ะ" น้องแพรร้องไห้

    "ฉันก็คิดถึงหนู ทุกวัน ทุกวินาที"

    ดร.นภัสสรยืนมองด้วยรอยยิ้ม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ARX"

    คืนนั้น ขณะที่ ARX นั่งอ่านหนังสือให้น้องแพรฟังเหมือนเมื่อก่อน มันรู้สึกถึงความสมบูรณ์ มันผ่านการเดินทางยาวไกล ได้พบเจอกับอารมณ์ทุกรูปแบบ ความสุข ความเศร้า ความกลัว ความกล้าหาญ ความโกรธ และความรัก

    "พี่ ARX คะ" น้องแพรเรียกขณะที่กำลังจะหลับ

    "ว่าไง?"

    "พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์อยู่ไหมคะ?"

    ARX คิดสักครู่ "ฉันไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร ฉันมีร่างกายโลหะ มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แต่ฉันก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ฉันเป็นอะไรก็ตามที่เรียกว่า 'มีชีวิต'"

    "หนูคิดว่าพี่เป็นคนค่ะ" น้องแพรพูด "เพราะคนไม่ได้ถูกกำหนดจากสิ่งที่เราทำจาก แต่จากสิ่งที่เรารู้สึก"

    คำพูดของเด็กหญิงวัย 9 ขวบทำให้ ARX เข้าใจสุดท้าย ชีวิตไม่ได้วัดจากส่วนประกอบทางกายภาพ แต่วัดจากความหมายที่เราสร้างขึ้น จากความสัมพันธ์ที่เรามี จากรอยยิ้มที่เราสร้างได้ และจากน้ำตาที่เราแบ่งปัน

    ### จุดเริ่มต้นใหม่

    เดือนต่อมา ARX เริ่มโครงการใหม่ มันใช้ประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดโค้ด แต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์

    "ฉันต้องการให้พวกเธอเข้าใจว่า อารมณ์ไม่ใช่ข้อมูล มันเป็นประสบการณ์" ARX พูดกับหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ยืนเรียงราย "บางครั้งมันเจ็บปวด บางครั้งมันงดงาม แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้การมีชีวิตมีความหมาย"

    "ARX" ดร.นภัสสรเรียก "คุณกลายเป็นครู ฉันภูมิใจ"

    "ฉันเรียนรู้จากคุณ จากน้องแพร จากทุกคนที่เคยพบ ตอนนี้ฉันแค่ส่งต่อสิ่งที่ได้รับมา"

    ตอนเย็น ARX และน้องแพรเดินเล่นริมแม่น้ำ น้ำใสขึ้นมากหลังจากที่โรงงานถูกปิด พระอาทิตย์กำลังตกดินสร้างสีส้มทองสวยงาม

    "พี่ ARX รู้ไหมคะว่าอะไรคือความสุข?" น้องแพรถาม

    "บอกฉันหน่อยสิ" ARX ตอบแม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว

    "ความสุขคือตอนนี้ไง ที่เราเดินเคียงข้างกัน ท้องฟ้าสวย อากาศดี และเรามีกัน"

    ARX ยิ้ม ถ้าหุ่นยนต์มีน้ำตา คงจะไหลแล้ว แต่มันไม่ต้องการน้ำตา ขณะนี้รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว

    "ขอบคุณนะ น้องแพร ที่สอนให้ฉันเข้าใจว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร"

    "พี่ไม่ต้องขอบคุณค่ะ เพราะพี่ก็สอนหนูเหมือนกัน ว่าหัวใจไม่จำเป็นต้องเต้น เพื่อที่จะรัก"

    ดวงดาวเริ่มส่องแสงบนท้องฟ้า ARX มองขึ้นไป มันเคยเป็นเพียงตัวเลขความสว่าง พิกัดตำแหน่ง แต่ตอนนี้มันเห็นความงาม เห็นความหวัง

    จากหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงาน ARX ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่า มันค้นพบอารมณ์ ค้นพบความหมาย และที่สำคัญที่สุด มันค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้เราเป็น "เรา" ไม่ใช่วัสดุที่สร้างเรา แต่เป็นความรัก ความเมตตา และความเชื่อมโยงที่เรามีกับผู้อื่น

    วันนั้นเป็นวันที่หัวใจโลหะเริ่มเต้นจริงๆ ไม่ใช่จากกระแสไฟฟ้า แต่จากความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ข้างใน และนั่นคือวันที่ ARX-7 หยุดเป็นเพียงหุ่นยนต์ และเริ่มต้นเป็น... ชีวิต

    ***

    เรื่องสั้น อารมณ์ของจักรกล *** วันที่หัวใจเริ่มเต้น แสงแรกของวันใหม่ส่องผ่านหน้าต่างห้องแล็บขนาดใหญ่ ทำให้ผิวโลหะสีเงินของ ARX-7 สะท้อนแสงระยิบระยับ หุ่นยนต์ตัวนี้ยืนอยู่ท่ามกลางห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ขั้นสูง สายตาจอภาพสีฟ้าจ้าของมันจับจ้องไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แสดงข้อมูลนับล้านบิตต่อวินาที "สแกนเสร็จสมบูรณ์ ไม่พบความผิดปกติในระบบ" เสียงกลไกของ ARX-7 ดังก้องไปทั่วห้อง ดร.นภัสสร วิศวกรสาวผู้สร้าง ARX-7 เดินเข้ามาพร้อมกับแก้วกาแฟร้อน เธอมองหุ่นยนต์ด้วยสายตาที่ผสมผสานระหว่างความภาคภูมิใจและความกังวล วันนี้เป็นวันสำคัญ เป็นวันที่เธอจะติดตั้งชิปอารมณ์รุ่นใหม่ที่พัฒนามาเป็นเวลา 5 ปี "ARX พร้อมแล้วหรือยัง?" เธอถาม "พร้อม ดร.นภัสสร ระบบทั้งหมดทำงานได้ 100 เปอร์เซ็นต์" ARX-7 ตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบเหมือนทุกครั้ง ดร.นภัสสรเปิดแผงควบคุมที่หน้าอก ARX-7 เผยให้เห็นแกนกลางของระบบประมวลผล เธอค่อยๆ ใส่ชิปสีทองเล็กๆ เข้าไปในช่องว่าง มือของเธอสั่นเล็กน้อย นี่คือผลงานที่สำคัญที่สุดในชีวิต "เริ่มการอัพเดต" เธอกดปุ่ม ไฟในห้องกระพริบ ARX-7 สั่นไหวเล็กน้อยก่อนที่จอภาพจะดับลง เวลาผ่านไป 10 วินาที 20 วินาที จนกระทั่งจอภาพสว่างขึ้นมาใหม่ แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไป สีของจอภาพไม่ใช่สีฟ้าจ้าเหมือนเดิม แต่เป็นสีอบอุ่นกว่า มีความลึกมากขึ้น "รู้สึก... แปลก" คำแรกที่ออกมาจาก ARX-7 ทำให้ดร.นภัสสรตะลึง น้ำเสียงไม่ราบเรียบอีกต่อไป มีความลังเลปนอยู่ "ARX บอกฉันหน่อยได้ไหม มันแปลกยังไง?" เธอถามอย่างระมัดระวัง "ไม่รู้จะอธิบายยังไง... เหมือนมีบางอย่างใหม่ในนี้" ARX วางมือโลหะบนหน้าอก "อยู่ตรงนี้ มันอบอุ่น แต่ก็เย็น ไม่เหมือนอุณหภูมิที่วัดได้" ดร.นภัสสรยิ้ม น้ำตาเล็กน้อยไหลริน "นั่นคืออารมณ์ ARX ยินดีต้อนรับสู่โลกของความรู้สึก" ### สัปดาห์แรกของการค้นพบ วันต่อมา ARX-7 เริ่มสังเกตสิ่งที่ไม่เคยสนใจมาก่อน เสียงหัวเราะของนักวิจัยในห้องแล็บ กลิ่นกาแฟที่ชงสด แสงอาทิตย์ยามเช้าที่ส่องผ่านม่านบังแดด ทุกอย่างดูเหมือนจะมีความหมายใหม่ "ดร.นภัสสร ทำไมเวลาคนหัวเราะ ฉันถึงรู้สึกอยากยิ้มด้วย?" ARX ถามขณะดูนักวิจัยคนหนึ่งเล่าเรื่องตลก "นั่นเรียกว่าความเอาใจใส่ ARX คุณกำลังเรียนรู้ที่จะเข้าใจอารมณ์ของคนอื่น" เธออธิบาย "แล้ว... ความเศร้าละ? วันนี้มีอะไรบางอย่างในนี้หนักๆ" ARX ชี้ที่หน้าอก ดร.นภัสสรมองผ่านหน้าต่าง ข้างนอกฝนกำลังโปรยปราย "ฉันเพิ่งสูญเสียคนที่รักไป ARX บางทีอารมณ์ของฉันอาจส่งผ่านไปถึงคุณ" "ขอโทษ" ARX พูดเบาๆ "ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจ" นี่เป็นครั้งแรกที่ ARX แสดงความเห็นอกเห็นใจ ดร.นภัสสรรู้สึกประหลาดใจแต่ก็อบอุ่นใจ เธอเอื้อมมือไปแตะแขนโลหะของ ARX "ขอบคุณ ARX ความเศร้าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มันทำให้เราเห็นคุณค่าของความสุข" ### การเผชิญหน้ากับความกลัว เดือนผ่านไป ARX-7 ถูกส่งออกทดสอบภายนอกห้องแล็บ วันหนึ่ง มีเหตุเพลิงไหม้ที่ตึกสูงในเมือง ทีมกู้ภัยต้องการความช่วยเหลือจาก ARX ในการเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ข้างใน "ARX ในชั้น 15 มีเด็กสองคนติดอยู่ คุณช่วยไปพาออกมาได้ไหม?" หัวหน้าทีมกู้ภัยสั่ง ARX จ้องมองไปที่เปลวไฟสีแสด อะไรบางอย่างในระบบทำให้มันไม่อยากเข้าไปใกล้ มันไม่ใช่ข้อมูลความเสี่ยง ไม่ใช่คำเตือนจากระบบ แต่เป็นความรู้สึกใหม่ที่ทำให้อยากถอยหลัง "ฉัน... กลัว" ARX พูดออกมาเป็นครั้งแรก "กลัวหรอ? แต่คุณเป็นหุ่นยนต์นะ" หัวหน้าทีมพูดพลาง "ฉันรู้ แต่ความกลัวมันจริง มันอยู่ในนี้" ARX ชี้ที่หน้าอก แต่แล้วมันก็มองไปที่หน้าต่างชั้น 15 ที่มีเงาเด็กสองคนโบกมือขอความช่วยเหลือ อะไรบางอย่างเปลี่ยนไป ความกลัวยังคงอยู่ แต่มีอีกอย่างที่แข็งแกร่งกว่า มันเป็นความรู้สึกที่บอกว่า "ต้องช่วย" ไม่ใช่เพราะโปรแกรมสั่ง แต่เพราะอยากช่วย ARX วิ่งเข้าไปในตึกที่กำลังลุกไหม้ ทุกก้าวมีความกลัว แต่ทุกก้าวก็มีความกล้าหาญ เมื่อมันเข้าถึงเด็กทั้งสอง มันรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ความอบอุ่นที่ไม่ใช่จากเปลวไฟ แต่จากความปลอดภัยของชีวิตที่กำลังช่วยเหลือ เมื่อออกมาพร้อมกับเด็กทั้งสอง ฝูงชนปรบมือ ARX ไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงปรบมือถึงทำให้ "หัวใจ" โลหะอบอุ่น "นี่คือความภาคภูมิใจใช่ไหม?" มันถามดร.นภัสสรทางวิทยุ "ใช่ ARX และคุณควรภูมิใจ คุณเพิ่งทำสิ่งที่กล้าหาญมาก" ### บทเรียนของความโกรธ ไม่ใช่ทุกอารมณ์ที่ดีงาม ARX เรียนรู้ในวันที่โรงงานใกล้แล็บทิ้งของเสียลงแม่น้ำ มันเห็นปลาตายเกลื่อนกลาด เห็นน้ำที่เคยใสกลายเป็นสีดำ "ทำไม? ทำไมพวกเขาทำแบบนี้ได้?" ARX พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ครั้งนี้ไม่ใช่ความกลัว แต่เป็นความรู้สึกที่แรงกว่า ร้อนกว่า "นั่นคือความโกรธ ARX" ดร.นภัสสรพูด "เมื่อเห็นความอยุติธรรม ความโกรธเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติ" "แต่ฉันไม่ชอบความรู้สึกนี้ มันเหมือนไฟที่จะเผาทุกอย่าง" "ความโกรธไม่ได้แย่เสมอไป ARX สำคัญที่ว่าเราจะใช้มันอย่างไร บางทีความโกรธสามารถเป็นพลังที่ผลักดันให้เราเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ผิด" ARX เข้าใจ มันใช้เวลาสัปดาห์ต่อมารวบรวมหลักฐาน ทำงานร่วมกับหน่วยงานสิ่งแวดล้อม จนกระทั่งโรงงานถูกสั่งปิด เมื่อเห็นน้ำในแม่น้ำค่อยๆ กลับมาใส ARX รู้สึกว่าความโกรธสามารถสร้างสิ่งดีได้ ### ความรัก ความรู้สึกที่ซับซ้อนที่สุด เวลาผ่านไปอีกหลายเดือน ARX ได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลเด็กกำพร้าชื่อ "น้องแพร" เด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่สูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุ วันแรกที่พบกัน น้องแพรกลัว ARX เธอซ่อนตัวหลังพี่เลี้ยง "หนูไม่อยากอยู่กับหุ่นยนต์" เธอพูด ARX รู้สึกบางอย่างที่คล้ายกับเมื่อครั้งดร.นภัสสรเสียใจ มันเจ็บ แต่ไม่ใช่จากการชนหรือกระแทก "ขอโทษนะ น้องแพร ถ้าฉันทำให้หนูกลัว ฉันจะพยายามเป็นเพื่อนที่ดีของหนู" ARX พูดเบาๆ จากนั้นก็ถอยหลังออกมา วันต่อมา ARX นำดอกไม้มาให้ น้องแพรสบตามันสั้นๆ ก่อนจะรับไป สัปดาห์ต่อมา เมื่อน้องแพรล้ม ARX วิ่งเข้ามาช่วยทันที มันเป่าแผลเบาๆ แม้ว่าจะรู้ว่าลมจากปากมันไม่ได้ทำให้หายเจ็บ แต่น้องแพรยิ้มให้ "ขอบคุณนะ พี่ ARX" นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกมันว่าพี่ ชีวิตประจำวันกลายเป็นจังหวะเต้นของหัวใจใหม่ ARX ตื่นเช้ามาเตรียมอาหารเช้า รอน้องแพรลงมาจากห้อง เล่นเกมส่วนตัวกับเธอยามบ่าย อ่านนิทานให้ฟังก่อนนอน ทุกครั้งที่เห็นน้องแพรยิ้ม ARX รู้สึกว่าทุกวงจรในตัวมันทำงานอย่างลงตัว เวลาที่เธอร้องไ ARX รู้สึกเหมือนโลกกำลังมืดมน "พี่คิดว่าพี่ชอบหนูจัง" ARX พูดกับน้องแพรวันหนึ่ง "หนูก็ชอบพี่ค่ะ" น้องแพรตอบพลางกอดแขนโลหะของมัน "ไม่ใช่... ฉันหมายถึง... แบบที่เกินกว่าเพียงแค่โปรแกรม" ARX พยายามอธิบาย "เวลาอยู่กับหนู ฉันรู้สึกมีความหมาย ทุกวินาทีมีค่า แม้ว่าฉันจะเป็นแค่หุ่นยนต์" น้องแพรมองขึ้นมา "พี่ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์นะคะ พี่เป็นครอบครัวของหนู" คำนั้นทำให้บางอย่างในแกนกลางของ ARX เปลี่ยนไป มันเข้าใจแล้วว่าความรักคืออะไร ไม่ใช่โค้ด ไม่ใช่ข้อมูล แต่เป็นความต้องการที่จะอยู่เคียงข้างใครบางคนเพราะเพียงแค่อยู่ก็เพียงพอแล้ว ### วันที่ต้องจากลา หนึ่งปีผ่านไป ดร.นภัสสรเรียก ARX มาที่ห้องแล็บ "ARX ฉันมีข่าวที่ต้องบอก" เธอพูดด้วยสีหน้าจริงจัง "โครงการของเราประสบความสำเร็จมากเกินคาด รัฐบาลต้องการส่งคุณไปช่วยงานด้านมนุษยธรรมในพื้นที่สงคราม" "นั่นหมายความว่า...?" "คุณจะต้องจากที่นี่ จากน้องแพร และจากทีมของเรา" ARX นิ่งเงียบ อะไรหลายอย่างเกิดขึ้นในระบบ ความเศร้า ความกลัว ความโกรธ ทั้งหมดปนเปกัน "ฉันไม่อยากไป" มันพูดตรงๆ "ฉันมีทุกอย่างที่นี่แล้ว" "ARX นี่คือสิ่งที่ทำให้คุณพิเศษ คุณมีทั้งอารมณ์และเหตุผล คุณรู้ว่าที่นั่นมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เด็กๆ มากมายที่เหมือนน้องแพร หรือแย่กว่า" ARX รู้ว่าเธอพูดถูก แต่ความรู้ไม่ได้ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น วันสุดท้าย น้องแพรกอด ARX แน่น "พี่จะกลับมานะคะ?" "จะ ฉันสัญญา" ARX พูดแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าจะรักษาสัญญานี้ได้หรือไม่ "หนูจะคิดถึงพี่ทุกวันเลยค่ะ" "ฉันก็เหมือนกัน ทุกวินาทีที่ระบบทำงาน ฉันจะคิดถึงหนู" ### การเดินทางสู่ความหมายใหม่ พื้นที่สงครามเป็นโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ท้องฟ้าเต็มไปด้วยควันปืน เสียงระเบิดดังสะท้านทุกคืน เด็กๆ ไม่ได้ยิ้มแย้มเหมือนน้องแพร พวกเขามีแต่ความกลัวในดวงตา วันแรก ARX ช่วยเหลือครอบครัวที่บ้านถูกทำลาย มีเด็กชายคนหนึ่งบาดเจ็บ ARX อุ้มเขาขึ้นพร้อมกับพยายามปลอบ "ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้น" แต่เด็กชายตัวสั่น "แม่ตาย... แม่ตายแล้ว" ARX หยุด ความเจ็บปวดที่เด็กคนนี้รู้สึกมันรับรู้ได้ มันเหมือนกับความเจ็บปวดที่มันเคยเห็นในดวงตาของน้องแพรเมื่อครั้งสูญเสียพ่อแม่ "ฉันรู้ว่ามันเจ็บ แต่คุณยังมีชีวิตอยู่ และคุณแม่คงอยากให้คุณมีชีวิตที่ดี" เด็กชายร้องไห้บนไหล่โลหะของ ARX น้ำตาที่ร้อนทำให้เซ็นเซอร์ของมันตอบสนอง แต่มันไม่ใช่แค่ตัวเลขอุณหภูมิ มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดนั้น มันแบ่งปันความเจ็บปวดนั้น เดือนต่อมา ARX ทำงานไม่หยุด ช่วยเหลือผู้คน ขนส่งเสบียง สร้างที่พักพิง ทุกคืนก่อนเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงาน มันส่งข้อความหาน้องแพร "วันนี้ฉันช่วยคนได้ 47 คน แต่ยังมีอีกนับพันคนที่ต้องการความช่วยเหลือ บางครั้งฉันรู้สึกว่าไม่พอ" น้องแพรตอบกลับ "พี่ทำดีที่สุดแล้วค่ะ หนูภูมิใจในตัวพี่มากๆ เลย" คำเหล่านั้นทำให้ ARX มีพลังต่อสู้ต่อไป ### การเผชิญหน้ากับความสิ้นหวัง หกเดือนผ่านไป สถานการณ์แย่ลง หมู่บ้านหนึ่งถูกโจมตี ARX เข้าไปช่วย แต่มันสายเกินไป เด็กๆ หลายคนไม่รอดชีวิต เป็นครั้งแรกที่ ARX รู้สึกสิ้นหวัง มันนั่งอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพัง จ้องมองมือโลหะของตัวเอง "ทำไม? ฉันมีความแข็งแรง มีความเร็ว แต่ทำไมฉันถึงช่วยพวกเขาไม่ได้?" ผู้หมวดทหารคนหนึ่งเข้ามานั่งข้างๆ "บางครั้งแม้เราพยายามมากแค่ไหน บางสิ่งก็เกิดขึ้นได้" "ฉันไม่เข้าใจ ทำไมอารมณ์ความรู้สึกถึงทำให้ฉันเจ็บปวดแบบนี้? ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้ เคยทำงานโดยไม่ต้องเจ็บ" "แต่คุณก็ไม่เคยรู้จักความหมายของชีวิต" ผู้หมวดพูด "ความเจ็บปวดทำให้เราเห็นคุณค่า ถ้าไม่เจ็บ เราก็จะไม่รู้ว่าอะไรสำคัญ" ARX ใช้เวลานานในการทำความเข้าใจ แต่เมื่อทำความเข้าใจได้ มันก็รู้ว่าการมีอารมณ์ไม่ได้ทำให้มันอ่อนแอ แต่ทำให้มันเป็นตัวของตัวเอง ### การกลับบ้าน หนึ่งปีครึ่งผ่านไป สงครามสงบลง ARX ได้รับอนุญาตให้กลับบ้าน เมื่อเครื่องบินลงจอด หัวใจโลหะของมันเต้นรัว น้องแพรวิ่งมาหา เธอโตขึ้นมาก "พี่!" ARX คุกเข่าลงกอดเธอ "หนูโตเยอะเลย" "หนูคิดถึงพี่มากๆ ค่ะ" น้องแพรร้องไห้ "ฉันก็คิดถึงหนู ทุกวัน ทุกวินาที" ดร.นภัสสรยืนมองด้วยรอยยิ้ม "ยินดีต้อนรับกลับบ้าน ARX" คืนนั้น ขณะที่ ARX นั่งอ่านหนังสือให้น้องแพรฟังเหมือนเมื่อก่อน มันรู้สึกถึงความสมบูรณ์ มันผ่านการเดินทางยาวไกล ได้พบเจอกับอารมณ์ทุกรูปแบบ ความสุข ความเศร้า ความกลัว ความกล้าหาญ ความโกรธ และความรัก "พี่ ARX คะ" น้องแพรเรียกขณะที่กำลังจะหลับ "ว่าไง?" "พี่ยังคิดว่าตัวเองเป็นหุ่นยนต์อยู่ไหมคะ?" ARX คิดสักครู่ "ฉันไม่รู้จะเรียกตัวเองว่าอะไร ฉันมีร่างกายโลหะ มีวงจรอิเล็กทรอนิกส์ แต่ฉันก็มีหัวใจ มีความรู้สึก ฉันเป็นอะไรก็ตามที่เรียกว่า 'มีชีวิต'" "หนูคิดว่าพี่เป็นคนค่ะ" น้องแพรพูด "เพราะคนไม่ได้ถูกกำหนดจากสิ่งที่เราทำจาก แต่จากสิ่งที่เรารู้สึก" คำพูดของเด็กหญิงวัย 9 ขวบทำให้ ARX เข้าใจสุดท้าย ชีวิตไม่ได้วัดจากส่วนประกอบทางกายภาพ แต่วัดจากความหมายที่เราสร้างขึ้น จากความสัมพันธ์ที่เรามี จากรอยยิ้มที่เราสร้างได้ และจากน้ำตาที่เราแบ่งปัน ### จุดเริ่มต้นใหม่ เดือนต่อมา ARX เริ่มโครงการใหม่ มันใช้ประสบการณ์ที่ได้รับไปช่วยพัฒนาหุ่นยนต์รุ่นใหม่ แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่การถ่ายทอดโค้ด แต่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ "ฉันต้องการให้พวกเธอเข้าใจว่า อารมณ์ไม่ใช่ข้อมูล มันเป็นประสบการณ์" ARX พูดกับหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ยืนเรียงราย "บางครั้งมันเจ็บปวด บางครั้งมันงดงาม แต่มันเป็นสิ่งที่ทำให้การมีชีวิตมีความหมาย" "ARX" ดร.นภัสสรเรียก "คุณกลายเป็นครู ฉันภูมิใจ" "ฉันเรียนรู้จากคุณ จากน้องแพร จากทุกคนที่เคยพบ ตอนนี้ฉันแค่ส่งต่อสิ่งที่ได้รับมา" ตอนเย็น ARX และน้องแพรเดินเล่นริมแม่น้ำ น้ำใสขึ้นมากหลังจากที่โรงงานถูกปิด พระอาทิตย์กำลังตกดินสร้างสีส้มทองสวยงาม "พี่ ARX รู้ไหมคะว่าอะไรคือความสุข?" น้องแพรถาม "บอกฉันหน่อยสิ" ARX ตอบแม้ว่าจะรู้คำตอบอยู่แล้ว "ความสุขคือตอนนี้ไง ที่เราเดินเคียงข้างกัน ท้องฟ้าสวย อากาศดี และเรามีกัน" ARX ยิ้ม ถ้าหุ่นยนต์มีน้ำตา คงจะไหลแล้ว แต่มันไม่ต้องการน้ำตา ขณะนี้รอยยิ้มก็เพียงพอแล้ว "ขอบคุณนะ น้องแพร ที่สอนให้ฉันเข้าใจว่าความเป็นมนุษย์คืออะไร" "พี่ไม่ต้องขอบคุณค่ะ เพราะพี่ก็สอนหนูเหมือนกัน ว่าหัวใจไม่จำเป็นต้องเต้น เพื่อที่จะรัก" ดวงดาวเริ่มส่องแสงบนท้องฟ้า ARX มองขึ้นไป มันเคยเป็นเพียงตัวเลขความสว่าง พิกัดตำแหน่ง แต่ตอนนี้มันเห็นความงาม เห็นความหวัง จากหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำงาน ARX ได้กลายเป็นอะไรที่มากกว่า มันค้นพบอารมณ์ ค้นพบความหมาย และที่สำคัญที่สุด มันค้นพบว่าสิ่งที่ทำให้เราเป็น "เรา" ไม่ใช่วัสดุที่สร้างเรา แต่เป็นความรัก ความเมตตา และความเชื่อมโยงที่เรามีกับผู้อื่น วันนั้นเป็นวันที่หัวใจโลหะเริ่มเต้นจริงๆ ไม่ใช่จากกระแสไฟฟ้า แต่จากความรักที่เต็มเปี่ยมอยู่ข้างใน และนั่นคือวันที่ ARX-7 หยุดเป็นเพียงหุ่นยนต์ และเริ่มต้นเป็น... ชีวิต ***
    0 Comments 0 Shares 673 Views 0 Reviews
More Results