นี่คือประเทศเอลซัลวาดอร์ เมืองที่เคยเป็นพื้นที่ที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากจำนวนอาชญากรรมมากมาย
แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด สำหรับการอยู่อาศัย และท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในโลกไปแล้ว ภายใต้การบริหารประเทศของ "นายิบ บูเคเล" (Nayib Bukele) ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์
เมื่อความปลอดภัยหวนคืนสู่ประเทศ ชาวเอลซัลวาดอร์บอกว่า พวกเขาสามารถเดินบนถนนได้อย่างอิสระ ขณะที่ร้านรวงต่าง ๆ ไม่บ่นเรื่องถูกกรรโชกทรัพย์อีกต่อไป
“ที่นี่ไม่เคยปลอดภัย จนกระทั่งประธานาธิบดีคนนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉันคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด และเขาเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” หญิงสาวรายหนึ่งกล่าวถึงในย่านหนึ่งที่เคยเป็นแหล่งอันตรายที่สุดของเมืองหลวง
บูเคเล ชนะการเลือกตั้งทั่วไปสมัยแรกในปี 2019 ส่งผลให้เขาเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศด้วยอายุเพียง 37 ปี จากการชูนโยบายต่อต้านการทุจริตและสัญญาว่าจะปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยมากขึ้น (นโยบายใกล้เคียงยูเครนในสมัยที่เซเลนสกีลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ซึ่งก็คือปราบปรามการทุจริต)
บูเคเล ถูกมองจากยุโรปและสหรัฐว่าเป็นเผด็จการ รวบอำนาจการปกครองไว้ที่ตนเอง ขัดต่อรัฐธรรมนูญอันดีงามของประเทศ เนื่องจากเขาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศมาเกือบ 2 ปี เพื่อปราบปรามแก๊งอาชญากรต่าง ๆ ส่งผลให้จำนวนนักโทษในเรือนจำเพิ่มขึ้นกว่ามากกว่า 75,000 คน หรือ 3 เท่า “สมาชิกแก๊งมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น” “คุกหรือตาย ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น” บูเคเล กล่าว
แน่นอนว่ายุโรปและสหรัฐต่อต้านนโยบายเหล่านี้ของบูเคเล ผ่านทางองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์วอทช์และองค์กรพัฒนาเอกชนกล่าวหาว่า บูเคเลละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน และชักชวนให้ประชาชนในพื้นที่ต่อต้านเขา โดยให้ข้อมูลว่ารัฐบาลควบคุมและระงับสิทธิต่างๆที่ประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยควรมี
หลังจากลดความรุนแรงจากอาชญากรรมได้ บูเคเลนำอีเวนต์ที่มีชื่อเสียงมาจัดในเอลซัลวาดอร์อีกครั้ง เช่น การประกวดนางงามจักรวาลครั้งที่ 72 หรือ มิสยูนิเวิร์ส เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศในระดับสากล และนักท่องเที่ยวก็เริ่มแสดงความสนใจ
องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปี 2019 หลายคนเป็นนักกระดานโต้คลื่น
แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด สำหรับการอยู่อาศัย และท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในโลกไปแล้ว ภายใต้การบริหารประเทศของ "นายิบ บูเคเล" (Nayib Bukele) ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์
เมื่อความปลอดภัยหวนคืนสู่ประเทศ ชาวเอลซัลวาดอร์บอกว่า พวกเขาสามารถเดินบนถนนได้อย่างอิสระ ขณะที่ร้านรวงต่าง ๆ ไม่บ่นเรื่องถูกกรรโชกทรัพย์อีกต่อไป
“ที่นี่ไม่เคยปลอดภัย จนกระทั่งประธานาธิบดีคนนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉันคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด และเขาเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” หญิงสาวรายหนึ่งกล่าวถึงในย่านหนึ่งที่เคยเป็นแหล่งอันตรายที่สุดของเมืองหลวง
บูเคเล ชนะการเลือกตั้งทั่วไปสมัยแรกในปี 2019 ส่งผลให้เขาเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศด้วยอายุเพียง 37 ปี จากการชูนโยบายต่อต้านการทุจริตและสัญญาว่าจะปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยมากขึ้น (นโยบายใกล้เคียงยูเครนในสมัยที่เซเลนสกีลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ซึ่งก็คือปราบปรามการทุจริต)
บูเคเล ถูกมองจากยุโรปและสหรัฐว่าเป็นเผด็จการ รวบอำนาจการปกครองไว้ที่ตนเอง ขัดต่อรัฐธรรมนูญอันดีงามของประเทศ เนื่องจากเขาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศมาเกือบ 2 ปี เพื่อปราบปรามแก๊งอาชญากรต่าง ๆ ส่งผลให้จำนวนนักโทษในเรือนจำเพิ่มขึ้นกว่ามากกว่า 75,000 คน หรือ 3 เท่า “สมาชิกแก๊งมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น” “คุกหรือตาย ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น” บูเคเล กล่าว
แน่นอนว่ายุโรปและสหรัฐต่อต้านนโยบายเหล่านี้ของบูเคเล ผ่านทางองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์วอทช์และองค์กรพัฒนาเอกชนกล่าวหาว่า บูเคเลละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน และชักชวนให้ประชาชนในพื้นที่ต่อต้านเขา โดยให้ข้อมูลว่ารัฐบาลควบคุมและระงับสิทธิต่างๆที่ประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยควรมี
หลังจากลดความรุนแรงจากอาชญากรรมได้ บูเคเลนำอีเวนต์ที่มีชื่อเสียงมาจัดในเอลซัลวาดอร์อีกครั้ง เช่น การประกวดนางงามจักรวาลครั้งที่ 72 หรือ มิสยูนิเวิร์ส เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศในระดับสากล และนักท่องเที่ยวก็เริ่มแสดงความสนใจ
องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปี 2019 หลายคนเป็นนักกระดานโต้คลื่น
นี่คือประเทศเอลซัลวาดอร์ เมืองที่เคยเป็นพื้นที่ที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากจำนวนอาชญากรรมมากมาย
แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด สำหรับการอยู่อาศัย และท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในโลกไปแล้ว ภายใต้การบริหารประเทศของ "นายิบ บูเคเล" (Nayib Bukele) ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์
เมื่อความปลอดภัยหวนคืนสู่ประเทศ ชาวเอลซัลวาดอร์บอกว่า พวกเขาสามารถเดินบนถนนได้อย่างอิสระ ขณะที่ร้านรวงต่าง ๆ ไม่บ่นเรื่องถูกกรรโชกทรัพย์อีกต่อไป
“ที่นี่ไม่เคยปลอดภัย จนกระทั่งประธานาธิบดีคนนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉันคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด และเขาเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” หญิงสาวรายหนึ่งกล่าวถึงในย่านหนึ่งที่เคยเป็นแหล่งอันตรายที่สุดของเมืองหลวง
บูเคเล ชนะการเลือกตั้งทั่วไปสมัยแรกในปี 2019 ส่งผลให้เขาเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศด้วยอายุเพียง 37 ปี จากการชูนโยบายต่อต้านการทุจริตและสัญญาว่าจะปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยมากขึ้น (นโยบายใกล้เคียงยูเครนในสมัยที่เซเลนสกีลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ซึ่งก็คือปราบปรามการทุจริต)
บูเคเล ถูกมองจากยุโรปและสหรัฐว่าเป็นเผด็จการ รวบอำนาจการปกครองไว้ที่ตนเอง ขัดต่อรัฐธรรมนูญอันดีงามของประเทศ เนื่องจากเขาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศมาเกือบ 2 ปี เพื่อปราบปรามแก๊งอาชญากรต่าง ๆ ส่งผลให้จำนวนนักโทษในเรือนจำเพิ่มขึ้นกว่ามากกว่า 75,000 คน หรือ 3 เท่า “สมาชิกแก๊งมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น” “คุกหรือตาย ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น” บูเคเล กล่าว
แน่นอนว่ายุโรปและสหรัฐต่อต้านนโยบายเหล่านี้ของบูเคเล ผ่านทางองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์วอทช์และองค์กรพัฒนาเอกชนกล่าวหาว่า บูเคเลละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน และชักชวนให้ประชาชนในพื้นที่ต่อต้านเขา โดยให้ข้อมูลว่ารัฐบาลควบคุมและระงับสิทธิต่างๆที่ประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยควรมี
หลังจากลดความรุนแรงจากอาชญากรรมได้ บูเคเลนำอีเวนต์ที่มีชื่อเสียงมาจัดในเอลซัลวาดอร์อีกครั้ง เช่น การประกวดนางงามจักรวาลครั้งที่ 72 หรือ มิสยูนิเวิร์ส เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศในระดับสากล และนักท่องเที่ยวก็เริ่มแสดงความสนใจ
องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปี 2019 หลายคนเป็นนักกระดานโต้คลื่น
0 Comments
0 Shares
123 Views
0 Reviews