• 06-11-67/01 : หมี CNN / "FCUK DEMOCRAZY" ละครปาหี่ลวงโลก ฝีมือกำกับโดยอียิวเหี้ยไซออนนิสต์! ใครรอฟังผลเลือกตั้งอเมริกา? ไม่ต้องลุ้น เพราะเหี้ยมันจัดวางไว้แล้ว จะให้ละครฉากใหญ่ออกหน้าไหน? เพื่อนำไปสู่การแตกแผ่นดิน อเมริกาไม่แตก อียิวจะไร้บ้านอยู่? จำเอาไว้ว่า ใครสร้างระบบปชต.โกหกตอแหลนี้ขึ้นมากันล่ะ? อียิวทั้งนั้น ดังนั้น ไม่มีดอก อะไรที่มันควบคุมไม่ได้? เลือกตั้งคือเรื่องตอแหล ใครตรวจสอบได้จริง? ทุกครั้งแค่จัดฉาก งานถนัดเหี้ยมัน! ตอแหลตั้งแต่เที่ยงคืน เมืองเล็กติดชายแดนอีแคน เขตนี้เลือกตั้ง มีแค่ 6 ตัว ผลเสมอ หมายังรู้? ทำให้ดูน่าตื่นเต้น ควายอเมริกันลุ้นจนเยี่ยวแตก หารู้ไม่ ใครมาก็ไม่สำคัญ เพราะมันเตรียมแตกอเมริกาต่างหากล่ะ? บ้านเราก็ตอแหลไม่แพ้กัน กระแสปั่นควาย ชอบจุงเบย ขนาด "หมูเด้ง" ยังเลือกอีทรัมปป์ ส่วนอีแม่ เลือกอีกะลา เลือกตั้งมันมีจริงซะที่ไหน? ปชต.หาแดร๊กควาย ตื่นกันหมดแล้ว? ทุกครั้งหากมรึงสังเกตุ จะจับโป๊ะแตกได้ทันที ไม่ว่าใครจะนำ ใครจะตาม แต่พอก่อนเลือกตั้ง ทุกอย่างจะ RESET สูสีกันหมด โพลใคร โพลมัน ปั่นให้ควายตื่นเต้นว่ามีส่วนร่วม? DEEP STATE ที่ว่ากันเนี่ย มันวางหมากให้เดิน อเมริกาไม่มีตัวตน แค่หุ่นกระบอกให้อียิวเชิด ถึงเวลาก็ต้องกลับบ้านเก่า บ้านที่ไปปล้นอินเดียนแดงเค้ามา เวลาบ้านแตก อินเดียนแดงจะเรียกร้องเอาคืนทั้งหมดชัวร์! อเมริกาแตก ใครซวย อีแคนไงจ๊ะ? แต่มันรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอีแคน คือเยรูซาเล็ม แห่งที่ 2 นั่นเอง อียิวมันจัดตั้งรัฐยิวใหม่แน่ เพราะสายพันธุ์เสนียดจัญไรโลกจะไม่มีวันหายสาปสูญ เพราะโลกต้องมี หยิน หยาง! เวลาวิเคราะห์ เกจิ กุนซือ บ้านเรา มักจะดูจากสิ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของขี้ข้าผ่านสื่อตอแหล มรึงจะหลงทางทันที? ให้ดู สิ่งที่อียิวเหี้ยมันต้องการ แล้วมรึงจะได้คำตอบ จุดหมายปลายทาง ว่ามันจะสุดทางตรงไหน? เพราะบอกเลยว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง? ทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ยอมรับอยู่แล้ว เพราะเค้าสั่งมาไงล่ะ? ต้องแตกอเมริกาเท่านั้น คือทางรอดอเมริกา พูดให้ชัดคือ ย่ออเมริกาให้เล็กลง เพราะบ้านใหม่อียิวคือ อีแคนาดา นั่นแหละ! สุดท้ายอาจรวมแผ่นดิน เพื่อตั้งรัฐยิวใหม่ ทวีปอเมริกาเหนือคือดินแดนเหี้ย อีก 20 ปี มรึงจะเข้าใจในสิ่งที่กูพูดวันนี้! หนีหนี้ แค่แผนขั้นต้น แผนการใหญ่มันคือแบ่งโลกออกเป็น 2 ขั้วอำนาจ รอวันฟื้นคืนชีพ แล้วฝั่งขั้วใหม่ไม่รู้เหรอ? รู้ซะยิ่งกว่ารู้ โคตรเหี้ยเก่งแค่ไหน ฉลาดแค่ไหน ก็แค่รองตรีนปูติน สีจิ้นผิง เค้าอ่านมรึงออก 3 ชั้น จนหมดเกลี้ยง อียิวครองโลกผ่านอเมริกา ต่อไปอียิวจะเผยร่างแท้จริงออกมา รัฐยิวใหม่ จะใช้ชื่อเหี้ยอะไรก็ช่าง แต่เจ้าของยังเป็นตัวเดิมเป๊ะเด๊ะ 100 ปี เจอกันใหม่ วังวนจักรวาล มรึงคิดได้ ทำไม ขั้วใหม่จะคิดไม่ได้ สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง คาเมเนอี JOHN KIM ทำวันนี้ คือปูทางอีก 100 ปีเช่นกัน รู้ทางกันดี? CIVIL WAR แค่เครื่องมือผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเหี้ย เมื่อตะวันออกกลางมันไม่ได้ผล ก็ต้องไปตั้งหลักใหม่ที่อเมริกาเหนือ ส่วนอียุโรปหน้าโง่ ก็ต้องล่มสลายไปในที่สุด รวมถึงการแตกสลายของเครือราชอาณาจักรอังกฤษเช่นกัน เมื่อมรึงเห็นภาพใหญ่ทั้งหมดแล้ว ละครปาหี่ ก็ดูกันให้สนุกสนานไปซะ อย่าอิน อย่าซีเรียส เพราะโลกคือละคร ยังไม่ตื่นกันอีกเหรอ? อเมริกาคือเรื่องโกหกตอแหล เหมือนที่มันทำฮอลีวู๊ดเอาไว้หลอกควายนั่นแหละ! อีทรัมปป์อยากเกิด อยากเป็น KING ส่วนอีกะลา แค่อีนู๋โคมแดง หมารับใช้ยิวเหี้ยไซออนนิสต์สุดตัว เครือข่ายบริษัทค้าอาวุธ อเมริกาไม่ขายอาวุธแดร๊ก มันก็ไม่มีเหี้ยอะไรจะขายแล้ว เพราะจีน รัสเซีย เอาไปแดร๊กหมด! มรึงเห็นรึยังล่ะว่า "ปชต.แค่ทางผ่าน" นายทุนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ไม่มีดอก เพื่อประชาชน เพื่อแผ่นดิน มีแค่เพื่อยิวเหี้ยไซออนนิสต์เท่านั้น เพราะขนาดแผ่นดินมรึงก็ยังไปปล้นเค้ามา ประสาอะไรจะมีความมั่นคง ปล้นเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป ความรุนแรง สูญเสีย ต้องมี อียิวมันไม่สนผลลัพธ์ดอก เพราะคนตายไม่ใช่มัน ด้วยเหตุนี้ อิหร่านถึงได้สั่งสอนอียิวไงล่ะ ไล่ฆ่าสายพันธุ์ยิวสัดนรก เพื่อทำให้โลกเบาขึ้น? ยิวมันเหี้ยกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ! ยิ่งแผ่นดินพ่อกูหอมหวาน มันอยากจะแดร๊กใจจะขาด แต่ดันซวย เจอลูกหลานบางระจัน ลูกหลานเสรีไทย 2 ย้อนเกล็ดเหี้ยไปหลายดอก วังจะแข็งแกร่งเพราะศรัทธาเท่านั้น ไม่ว่าอียิวมันจะเล่นแร่แปรวิญญานท่าไหน ก็ไม่สามารถรวบแดร๊กแผ่นดินพ่อได้ เพราะแผ่นดินนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช่ที่ที่เหี้ยจะอยู่ได้ มันคือแผ่นดินแห่งธรรม แสงสว่างไสว เหี้ยไอ้อีหน้าไหนก็อยู่ไม่ได้ หากสังเกตุ ไทยเราเดินตามรัสเซีย จีน โมเดล หลายเรื่อง พึ่งพาตัวเองตามคำสอนพ่อร.9 พอเพียง อดออม ประหยัด คลังไทยถึงมั่งคั่งติด TOP10 โลก อย่าคิดว่าอียุ่นปี่รวย หนี้ทั้งนั้น แบกดอลล่าร์จนหลังหัก เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ไทยเราหนี้น้อยที่สุด แต่เสือกมีทองคำเท่าภูเขา เชื่อมั้ยล่ะ?

    ปล.มาตามสูตร! อีเนรคุณทันยา ไล่รมต.กลาโหมออกทันที ผลงานนต่ำตม ไอ้สัส! ใครจะมาก็แพ้ยับ เพราะเสือกไม่ดูตัวเอง กระจอกแล้วยังเสือกซ่าส์ สุดท้าย แผนหาแพะมาเต็มตรีน โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ชาวยิวกู้แผ่นดิน ขับไล่ทรราชย์? อุปส์! สามัคคีคือพลัง เชิญไปตอแหลแถวช่อง 3 รับยาช่อง 9 ต่อเหอะจ๊ะ? อย่าปฎิเสธ อย่าตีเนียน ทุกการกระทำของอิสราเอล ไอ้อีชาวยิวต้องรับผิดชอบทั้งหมด เพราะเกือบครึ่งศตวรรษ ที่มรึงไปรุกรานดินแดนคานาอันมาโดยตลอด มรึงรู้เห็นเต็มใจ กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ วันนี้ เค้ามาไล่ฆ่ามรึง ลงแขกมรึง เป็นไปตามวิถีแห่งกรรมถูกต้องแล้ว โลกกำลังโฟกัสไปที่เลือกตั้งปาหี่ต้มเปื่อยควาย ความโกลาหลจะเกิดขึ้นแน่ เพราะแต่ละรัฐ มันเตรียมแยกตัวทั้งนั้น ไม่มีใครฟังอำนาจรัฐบาลกลางอีกแล้ว เพราะกูตั้งตนเป็นใหญ่เองได้ จะรองตรีนมรึงไปทำไม? อเมริกาแตก ใครได้ประโยชน์สูงสุดแถวนั้น อีแคนจะรับเละช่วงแรก แบกรับผู้อพยพหนีตาย แต่ในความเป็นจริง อยู่ในแผนรวมชาติพันธุ์เหี้ย ก่อตั้งรัฐยิวใหม่ขึ้นมา หากดูแผนที่ภูมิภาค โลกขั้วเก่าอยู่ดินแดนไกลโพ้น โลกขั้วใหม่คือโลกนั่นเอง แยกกันเดิน แล้วมาดูว่าใครจะรอด? ด้านประเทศกูมี สาละวนอยู่กับเรื่องปาหี่ตอแหล เค้าปล่อยให้มรึงล่อกันเอง กัดกันเอง แฉกันเอง แล้วค่อยเก็บกวาด ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบฟูมฟาย ทุกอย่างมันคือเกมส์ เราสนใจแค่ตัวเราเองก็พอ และให้รู้ไว้ว่า นี่แค่ "เพิ่งจะเริ่มเกมส์ล้างบางโลก" หลังเลือกตั้งปาหี่เหี้ย อะไรใหม่ๆ จะเกิดขึ้นมาอีกเยอะ อะไรที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ มรึงจะได้เห็นเต็ม 2 ตา เพราะแสงทำงานเต็มกำลังเมื่อไหร่ เหี้ยดิ้นพล่านทั่วแผ่นดิน อีตาเพน มันจ้องจะปฎิวัติอยู่แล้ว รอแค่มีตัวชง คนลงถนน แบกปืนไปไล่ฆ่ากันอย่างเมามันส์ ทหารออกจะมีตายห่ากันเป็นแสน เพราะแต่ละรัฐ อาวุธครบมือ ของใหญ่ ของหนัก มาเต็ม ใครหนุนล่ะ? ก็อียิวไงล่ะ จัดฉากทหารฆ่าประชาชน จัดฉาก มะกันโง่ฆ่ากันเอง ทั้งหมดเพื่อ RESET ใครจะตามเก็บหนี้มรึง? คงต้องใช้กำลังเข้ามายึดต่อไงล่ะ? อเมริกามัน NOBODY แล้ว แค่เยเมนยังชนะขาดลอย ไม่ต้องถึงมือปูติน สีจิ้นผิง ให้เสียตรีนดอกน่ะ JOHN KIM ผู้เดียว ก็เอาอยู่หมัด ฉากในหนังกำลังจะกลายเป็นจริง โสมแดงปักธงกลางทำเนียบขาว อยากเกิดต้องได้เกิด! มหากาพย์ละครฉากใหญ่เปลี่ยนแผ่นดินอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่แรงไม่จบ ไม่สุดทางไม่ได้แผ่นดินใหม่ อีทรัมปป์จะอยู่หรือไป คำตอบอยู่ที่ "ปากกระบอกปืน" ประกาศเอกราช แยกดินแดนชัวร์! เอาเลย ให้ว่อง ให้ไว กูอยากเห็นเหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดิน โง่บัดซบทั้งแผ่นดิน อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลก! ตายห่าไปซะน่ะ อเมริกันหน้าควายทั้งหลาย คนดีดี ใครจะไปอยู่? ปิดตำนาน เสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ทั้งหมดคือ "เรื่องตอแหล"

    หมี CNN(ฆ่ากันเหอะ อย่าเสือกเสียเวลามาเลือกเลย ผลออกยังไง มรึงก็จ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว อเมริกันมันเก่งแต่ใช้กำลังกับผู้อ่อนแอกว่า เจอของจริง หมาไม่เลิก ฆ่ากันเองง่ายกว่า เพราะไม่ตายโหงทั้งแผ่นดิน ปูตินไม่ต้อง สีจิ้นผิงไม่ยุ่ง เดี๋ยวกูจะฆ่ากันเองโชว์ให้มรึงดู ถูกใจกด LIKE ให้น่ะจ๊ะ)
    06 พฤศจิกายน 67
    11.05 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    06-11-67/01 : หมี CNN / "FCUK DEMOCRAZY" ละครปาหี่ลวงโลก ฝีมือกำกับโดยอียิวเหี้ยไซออนนิสต์! ใครรอฟังผลเลือกตั้งอเมริกา? ไม่ต้องลุ้น เพราะเหี้ยมันจัดวางไว้แล้ว จะให้ละครฉากใหญ่ออกหน้าไหน? เพื่อนำไปสู่การแตกแผ่นดิน อเมริกาไม่แตก อียิวจะไร้บ้านอยู่? จำเอาไว้ว่า ใครสร้างระบบปชต.โกหกตอแหลนี้ขึ้นมากันล่ะ? อียิวทั้งนั้น ดังนั้น ไม่มีดอก อะไรที่มันควบคุมไม่ได้? เลือกตั้งคือเรื่องตอแหล ใครตรวจสอบได้จริง? ทุกครั้งแค่จัดฉาก งานถนัดเหี้ยมัน! ตอแหลตั้งแต่เที่ยงคืน เมืองเล็กติดชายแดนอีแคน เขตนี้เลือกตั้ง มีแค่ 6 ตัว ผลเสมอ หมายังรู้? ทำให้ดูน่าตื่นเต้น ควายอเมริกันลุ้นจนเยี่ยวแตก หารู้ไม่ ใครมาก็ไม่สำคัญ เพราะมันเตรียมแตกอเมริกาต่างหากล่ะ? บ้านเราก็ตอแหลไม่แพ้กัน กระแสปั่นควาย ชอบจุงเบย ขนาด "หมูเด้ง" ยังเลือกอีทรัมปป์ ส่วนอีแม่ เลือกอีกะลา เลือกตั้งมันมีจริงซะที่ไหน? ปชต.หาแดร๊กควาย ตื่นกันหมดแล้ว? ทุกครั้งหากมรึงสังเกตุ จะจับโป๊ะแตกได้ทันที ไม่ว่าใครจะนำ ใครจะตาม แต่พอก่อนเลือกตั้ง ทุกอย่างจะ RESET สูสีกันหมด โพลใคร โพลมัน ปั่นให้ควายตื่นเต้นว่ามีส่วนร่วม? DEEP STATE ที่ว่ากันเนี่ย มันวางหมากให้เดิน อเมริกาไม่มีตัวตน แค่หุ่นกระบอกให้อียิวเชิด ถึงเวลาก็ต้องกลับบ้านเก่า บ้านที่ไปปล้นอินเดียนแดงเค้ามา เวลาบ้านแตก อินเดียนแดงจะเรียกร้องเอาคืนทั้งหมดชัวร์! อเมริกาแตก ใครซวย อีแคนไงจ๊ะ? แต่มันรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะอีแคน คือเยรูซาเล็ม แห่งที่ 2 นั่นเอง อียิวมันจัดตั้งรัฐยิวใหม่แน่ เพราะสายพันธุ์เสนียดจัญไรโลกจะไม่มีวันหายสาปสูญ เพราะโลกต้องมี หยิน หยาง! เวลาวิเคราะห์ เกจิ กุนซือ บ้านเรา มักจะดูจากสิ่งเกิดขึ้นจากการกระทำของขี้ข้าผ่านสื่อตอแหล มรึงจะหลงทางทันที? ให้ดู สิ่งที่อียิวเหี้ยมันต้องการ แล้วมรึงจะได้คำตอบ จุดหมายปลายทาง ว่ามันจะสุดทางตรงไหน? เพราะบอกเลยว่า ไม่ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง? ทั้ง 2 ฝ่ายต่างไม่ยอมรับอยู่แล้ว เพราะเค้าสั่งมาไงล่ะ? ต้องแตกอเมริกาเท่านั้น คือทางรอดอเมริกา พูดให้ชัดคือ ย่ออเมริกาให้เล็กลง เพราะบ้านใหม่อียิวคือ อีแคนาดา นั่นแหละ! สุดท้ายอาจรวมแผ่นดิน เพื่อตั้งรัฐยิวใหม่ ทวีปอเมริกาเหนือคือดินแดนเหี้ย อีก 20 ปี มรึงจะเข้าใจในสิ่งที่กูพูดวันนี้! หนีหนี้ แค่แผนขั้นต้น แผนการใหญ่มันคือแบ่งโลกออกเป็น 2 ขั้วอำนาจ รอวันฟื้นคืนชีพ แล้วฝั่งขั้วใหม่ไม่รู้เหรอ? รู้ซะยิ่งกว่ารู้ โคตรเหี้ยเก่งแค่ไหน ฉลาดแค่ไหน ก็แค่รองตรีนปูติน สีจิ้นผิง เค้าอ่านมรึงออก 3 ชั้น จนหมดเกลี้ยง อียิวครองโลกผ่านอเมริกา ต่อไปอียิวจะเผยร่างแท้จริงออกมา รัฐยิวใหม่ จะใช้ชื่อเหี้ยอะไรก็ช่าง แต่เจ้าของยังเป็นตัวเดิมเป๊ะเด๊ะ 100 ปี เจอกันใหม่ วังวนจักรวาล มรึงคิดได้ ทำไม ขั้วใหม่จะคิดไม่ได้ สิ่งที่ปูติน สีจิ้นผิง คาเมเนอี JOHN KIM ทำวันนี้ คือปูทางอีก 100 ปีเช่นกัน รู้ทางกันดี? CIVIL WAR แค่เครื่องมือผลัดเปลี่ยนแผ่นดินเหี้ย เมื่อตะวันออกกลางมันไม่ได้ผล ก็ต้องไปตั้งหลักใหม่ที่อเมริกาเหนือ ส่วนอียุโรปหน้าโง่ ก็ต้องล่มสลายไปในที่สุด รวมถึงการแตกสลายของเครือราชอาณาจักรอังกฤษเช่นกัน เมื่อมรึงเห็นภาพใหญ่ทั้งหมดแล้ว ละครปาหี่ ก็ดูกันให้สนุกสนานไปซะ อย่าอิน อย่าซีเรียส เพราะโลกคือละคร ยังไม่ตื่นกันอีกเหรอ? อเมริกาคือเรื่องโกหกตอแหล เหมือนที่มันทำฮอลีวู๊ดเอาไว้หลอกควายนั่นแหละ! อีทรัมปป์อยากเกิด อยากเป็น KING ส่วนอีกะลา แค่อีนู๋โคมแดง หมารับใช้ยิวเหี้ยไซออนนิสต์สุดตัว เครือข่ายบริษัทค้าอาวุธ อเมริกาไม่ขายอาวุธแดร๊ก มันก็ไม่มีเหี้ยอะไรจะขายแล้ว เพราะจีน รัสเซีย เอาไปแดร๊กหมด! มรึงเห็นรึยังล่ะว่า "ปชต.แค่ทางผ่าน" นายทุนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น ไม่มีดอก เพื่อประชาชน เพื่อแผ่นดิน มีแค่เพื่อยิวเหี้ยไซออนนิสต์เท่านั้น เพราะขนาดแผ่นดินมรึงก็ยังไปปล้นเค้ามา ประสาอะไรจะมีความมั่นคง ปล้นเค้ามา ก็ต้องคืนเค้าไป ความรุนแรง สูญเสีย ต้องมี อียิวมันไม่สนผลลัพธ์ดอก เพราะคนตายไม่ใช่มัน ด้วยเหตุนี้ อิหร่านถึงได้สั่งสอนอียิวไงล่ะ ไล่ฆ่าสายพันธุ์ยิวสัดนรก เพื่อทำให้โลกเบาขึ้น? ยิวมันเหี้ยกว่าที่มรึงคิดไว้เยอะ! ยิ่งแผ่นดินพ่อกูหอมหวาน มันอยากจะแดร๊กใจจะขาด แต่ดันซวย เจอลูกหลานบางระจัน ลูกหลานเสรีไทย 2 ย้อนเกล็ดเหี้ยไปหลายดอก วังจะแข็งแกร่งเพราะศรัทธาเท่านั้น ไม่ว่าอียิวมันจะเล่นแร่แปรวิญญานท่าไหน ก็ไม่สามารถรวบแดร๊กแผ่นดินพ่อได้ เพราะแผ่นดินนี้ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ใช่ที่ที่เหี้ยจะอยู่ได้ มันคือแผ่นดินแห่งธรรม แสงสว่างไสว เหี้ยไอ้อีหน้าไหนก็อยู่ไม่ได้ หากสังเกตุ ไทยเราเดินตามรัสเซีย จีน โมเดล หลายเรื่อง พึ่งพาตัวเองตามคำสอนพ่อร.9 พอเพียง อดออม ประหยัด คลังไทยถึงมั่งคั่งติด TOP10 โลก อย่าคิดว่าอียุ่นปี่รวย หนี้ทั้งนั้น แบกดอลล่าร์จนหลังหัก เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ไทยเราหนี้น้อยที่สุด แต่เสือกมีทองคำเท่าภูเขา เชื่อมั้ยล่ะ? ปล.มาตามสูตร! อีเนรคุณทันยา ไล่รมต.กลาโหมออกทันที ผลงานนต่ำตม ไอ้สัส! ใครจะมาก็แพ้ยับ เพราะเสือกไม่ดูตัวเอง กระจอกแล้วยังเสือกซ่าส์ สุดท้าย แผนหาแพะมาเต็มตรีน โยนบาปให้อีเนรคุณทันยา ชาวยิวกู้แผ่นดิน ขับไล่ทรราชย์? อุปส์! สามัคคีคือพลัง เชิญไปตอแหลแถวช่อง 3 รับยาช่อง 9 ต่อเหอะจ๊ะ? อย่าปฎิเสธ อย่าตีเนียน ทุกการกระทำของอิสราเอล ไอ้อีชาวยิวต้องรับผิดชอบทั้งหมด เพราะเกือบครึ่งศตวรรษ ที่มรึงไปรุกรานดินแดนคานาอันมาโดยตลอด มรึงรู้เห็นเต็มใจ กับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ วันนี้ เค้ามาไล่ฆ่ามรึง ลงแขกมรึง เป็นไปตามวิถีแห่งกรรมถูกต้องแล้ว โลกกำลังโฟกัสไปที่เลือกตั้งปาหี่ต้มเปื่อยควาย ความโกลาหลจะเกิดขึ้นแน่ เพราะแต่ละรัฐ มันเตรียมแยกตัวทั้งนั้น ไม่มีใครฟังอำนาจรัฐบาลกลางอีกแล้ว เพราะกูตั้งตนเป็นใหญ่เองได้ จะรองตรีนมรึงไปทำไม? อเมริกาแตก ใครได้ประโยชน์สูงสุดแถวนั้น อีแคนจะรับเละช่วงแรก แบกรับผู้อพยพหนีตาย แต่ในความเป็นจริง อยู่ในแผนรวมชาติพันธุ์เหี้ย ก่อตั้งรัฐยิวใหม่ขึ้นมา หากดูแผนที่ภูมิภาค โลกขั้วเก่าอยู่ดินแดนไกลโพ้น โลกขั้วใหม่คือโลกนั่นเอง แยกกันเดิน แล้วมาดูว่าใครจะรอด? ด้านประเทศกูมี สาละวนอยู่กับเรื่องปาหี่ตอแหล เค้าปล่อยให้มรึงล่อกันเอง กัดกันเอง แฉกันเอง แล้วค่อยเก็บกวาด ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบฟูมฟาย ทุกอย่างมันคือเกมส์ เราสนใจแค่ตัวเราเองก็พอ และให้รู้ไว้ว่า นี่แค่ "เพิ่งจะเริ่มเกมส์ล้างบางโลก" หลังเลือกตั้งปาหี่เหี้ย อะไรใหม่ๆ จะเกิดขึ้นมาอีกเยอะ อะไรที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยเจอ มรึงจะได้เห็นเต็ม 2 ตา เพราะแสงทำงานเต็มกำลังเมื่อไหร่ เหี้ยดิ้นพล่านทั่วแผ่นดิน อีตาเพน มันจ้องจะปฎิวัติอยู่แล้ว รอแค่มีตัวชง คนลงถนน แบกปืนไปไล่ฆ่ากันอย่างเมามันส์ ทหารออกจะมีตายห่ากันเป็นแสน เพราะแต่ละรัฐ อาวุธครบมือ ของใหญ่ ของหนัก มาเต็ม ใครหนุนล่ะ? ก็อียิวไงล่ะ จัดฉากทหารฆ่าประชาชน จัดฉาก มะกันโง่ฆ่ากันเอง ทั้งหมดเพื่อ RESET ใครจะตามเก็บหนี้มรึง? คงต้องใช้กำลังเข้ามายึดต่อไงล่ะ? อเมริกามัน NOBODY แล้ว แค่เยเมนยังชนะขาดลอย ไม่ต้องถึงมือปูติน สีจิ้นผิง ให้เสียตรีนดอกน่ะ JOHN KIM ผู้เดียว ก็เอาอยู่หมัด ฉากในหนังกำลังจะกลายเป็นจริง โสมแดงปักธงกลางทำเนียบขาว อยากเกิดต้องได้เกิด! มหากาพย์ละครฉากใหญ่เปลี่ยนแผ่นดินอเมริกาได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่แรงไม่จบ ไม่สุดทางไม่ได้แผ่นดินใหม่ อีทรัมปป์จะอยู่หรือไป คำตอบอยู่ที่ "ปากกระบอกปืน" ประกาศเอกราช แยกดินแดนชัวร์! เอาเลย ให้ว่อง ให้ไว กูอยากเห็นเหี้ยตายเกลื่อนแผ่นดิน โง่บัดซบทั้งแผ่นดิน อยู่ไปก็หนักแผ่นดินโลก! ตายห่าไปซะน่ะ อเมริกันหน้าควายทั้งหลาย คนดีดี ใครจะไปอยู่? ปิดตำนาน เสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ทั้งหมดคือ "เรื่องตอแหล" หมี CNN(ฆ่ากันเหอะ อย่าเสือกเสียเวลามาเลือกเลย ผลออกยังไง มรึงก็จ้องจะฆ่ากันอยู่แล้ว อเมริกันมันเก่งแต่ใช้กำลังกับผู้อ่อนแอกว่า เจอของจริง หมาไม่เลิก ฆ่ากันเองง่ายกว่า เพราะไม่ตายโหงทั้งแผ่นดิน ปูตินไม่ต้อง สีจิ้นผิงไม่ยุ่ง เดี๋ยวกูจะฆ่ากันเองโชว์ให้มรึงดู ถูกใจกด LIKE ให้น่ะจ๊ะ) 06 พฤศจิกายน 67 11.05 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 Comments 0 Shares 4 Views 0 Reviews
  • ❗️ทรัมป์เป็นผู้นำในรัฐอินเดียนาด้วยคะแนน ๗๐.๗๓%, ขณะที่แฮร์ริสมี ๒๗.๖%, โดยนับคะแนนไปแล้วประมาณ ๑%, ตามรายงานของ Associated Press, โดยอ้างผลคะแนนหลังปิดการลงคะแนน

    ในรัฐเคนตักกี้, ทรัมป์เป็นผู้นำด้วยคะแนน ๖๓.๔% ขณะที่แฮร์ริสมีคะแนน ๓๕.๕%
    .
    ❗️Trump is leading in the state of Indiana with 70.73%, while Harris has 27.6%, with about 1% of the votes counted, reports the Associated Press, citing results after the polls closed.

    In Kentucky, Trump is leading with 63.4%, while Harris has 35.5% of the votes.
    .
    Last edited 6:18 AM · Nov 6, 2024 · 5,775 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1853939951613694348
    ❗️ทรัมป์เป็นผู้นำในรัฐอินเดียนาด้วยคะแนน ๗๐.๗๓%, ขณะที่แฮร์ริสมี ๒๗.๖%, โดยนับคะแนนไปแล้วประมาณ ๑%, ตามรายงานของ Associated Press, โดยอ้างผลคะแนนหลังปิดการลงคะแนน ในรัฐเคนตักกี้, ทรัมป์เป็นผู้นำด้วยคะแนน ๖๓.๔% ขณะที่แฮร์ริสมีคะแนน ๓๕.๕% . ❗️Trump is leading in the state of Indiana with 70.73%, while Harris has 27.6%, with about 1% of the votes counted, reports the Associated Press, citing results after the polls closed. In Kentucky, Trump is leading with 63.4%, while Harris has 35.5% of the votes. . Last edited 6:18 AM · Nov 6, 2024 · 5,775 Views https://x.com/SputnikInt/status/1853939951613694348
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • ⚡️หน่วยเลือกตั้งแรกปิดทำการในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี ๒๐๒๔

    หน่วยเลือกตั้งแรกๆในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มปิดทำการในเวลา ๑๘.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก (๒๓.๐๐ น. GMT) ขณะที่ประเทศกำลังเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป

    หน่วยเลือกตั้งของรัฐแรกที่จะปิดทำการนั้นอยู่ในเขตทางตะวันออกของรัฐอินเดียนาและรัฐเคนตักกี้, ในขณะที่หน่วยเลือกตั้งของรัฐสุดท้ายจะปิดทำการในฮาวาย (เที่ยงคืน) และอลาสก้า (เที่ยงคืน-๐๑.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก)

    รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน, กมลา แฮร์ริส, ซึ่งเป็นพรรคเดโมแครต, และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นพรรครีพับลิกัน, กำลังแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ โดยคาดว่าการแข่งขันที่สูสีนี้จะลงเอยที่รัฐที่เป็นสมรภูมิรบไม่กี่รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, มิชิแกน, แอริโซนา, วิสคอนซิน, และเนวาดา

    ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรทั้ง ๔๓๕ ที่นั่ง และวุฒิสภา ๓๔ ที่นั่งจากทั้งหมด ๑๐๐ ที่นั่ง จะมีการเลือกตั้งในวันที่ ๕ พฤศจิกายนเช่นกัน
    .
    ⚡️FIRST POLLING STATIONS CLOSE IN 2024 US ELECTION

    The first polling stations start closing in the United States at 6:00 p.m. Eastern time (23:00 GMT) as the country is electing its next president.

    The first state polls to close are located in the eastern counties of Indiana and Kentucky, while the final state polls are set to close in Hawaii (midnight) and Alaska (midnight-01:00 a.m. ET).

    The incumbent vice president, Kamala Harris, a Democrat, and former President Donald Trump, a Republican, are vying for the country's top job. The close race is expected to come down to a handful of battleground states - Pennsylvania, North Carolina, Georgia, Michigan, Arizona, Wisconsin, and Nevada.

    All 435 seats in the House of Representatives and 34 of the 100 seats in the Senate are also up for election on November 5.
    .
    6:05 AM · Nov 6, 2024 · 2,090 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1853936673781923945
    ⚡️หน่วยเลือกตั้งแรกปิดทำการในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี ๒๐๒๔ หน่วยเลือกตั้งแรกๆในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มปิดทำการในเวลา ๑๘.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก (๒๓.๐๐ น. GMT) ขณะที่ประเทศกำลังเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป หน่วยเลือกตั้งของรัฐแรกที่จะปิดทำการนั้นอยู่ในเขตทางตะวันออกของรัฐอินเดียนาและรัฐเคนตักกี้, ในขณะที่หน่วยเลือกตั้งของรัฐสุดท้ายจะปิดทำการในฮาวาย (เที่ยงคืน) และอลาสก้า (เที่ยงคืน-๐๑.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก) รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน, กมลา แฮร์ริส, ซึ่งเป็นพรรคเดโมแครต, และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นพรรครีพับลิกัน, กำลังแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ โดยคาดว่าการแข่งขันที่สูสีนี้จะลงเอยที่รัฐที่เป็นสมรภูมิรบไม่กี่รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, มิชิแกน, แอริโซนา, วิสคอนซิน, และเนวาดา ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรทั้ง ๔๓๕ ที่นั่ง และวุฒิสภา ๓๔ ที่นั่งจากทั้งหมด ๑๐๐ ที่นั่ง จะมีการเลือกตั้งในวันที่ ๕ พฤศจิกายนเช่นกัน . ⚡️FIRST POLLING STATIONS CLOSE IN 2024 US ELECTION The first polling stations start closing in the United States at 6:00 p.m. Eastern time (23:00 GMT) as the country is electing its next president. The first state polls to close are located in the eastern counties of Indiana and Kentucky, while the final state polls are set to close in Hawaii (midnight) and Alaska (midnight-01:00 a.m. ET). The incumbent vice president, Kamala Harris, a Democrat, and former President Donald Trump, a Republican, are vying for the country's top job. The close race is expected to come down to a handful of battleground states - Pennsylvania, North Carolina, Georgia, Michigan, Arizona, Wisconsin, and Nevada. All 435 seats in the House of Representatives and 34 of the 100 seats in the Senate are also up for election on November 5. . 6:05 AM · Nov 6, 2024 · 2,090 Views https://x.com/SputnikInt/status/1853936673781923945
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • ฟินต่อเนื่องแบบจุกๆ ด้วยกองทัพ บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด บุกประตูน้ำ! มากันทั้งทะเล กุ้ง กั้ง หอยนานาชนิด ปูม้า ปูทะเล ปูนิ่ม ปลาหมึก แซลมอน หอยนางรมนำเข้าหลากสายพันธุ์ มีให้เลือกลิ้มรสทั้งแบบ on ice และแบบทะเลเผาร้อนๆ รวมไปถึง อาหารอินเดียนเครื่องเทศเข้มข้นรสเลิศ จาก เชฟ Alam สุดยอดเชฟอาหารอินเดีย ทานกันแบบไม่อั้น 4 ชั่วโมง

    ราคา : ราคา 1,599 บาทสุทธิต่อท่าน รวมซอฟต์ดริ้งและน้ำดื่ม (ทานได้ 4 ชม.)
    ระยะเวลาโปรโมชั่น : ทุกวันเสาร์ 18.00 - 22.00 น.
    ที่อยู่ : Amari Watergate Bangkok
    ถนนเพชรบุรี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/69fsWgyZSdNzjohW8

    #บุฟเฟ่ต์โรงแรม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ฟินต่อเนื่องแบบจุกๆ ด้วยกองทัพ บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด บุกประตูน้ำ! มากันทั้งทะเล กุ้ง กั้ง หอยนานาชนิด ปูม้า ปูทะเล ปูนิ่ม ปลาหมึก แซลมอน หอยนางรมนำเข้าหลากสายพันธุ์ มีให้เลือกลิ้มรสทั้งแบบ on ice และแบบทะเลเผาร้อนๆ รวมไปถึง อาหารอินเดียนเครื่องเทศเข้มข้นรสเลิศ จาก เชฟ Alam สุดยอดเชฟอาหารอินเดีย ทานกันแบบไม่อั้น 4 ชั่วโมง ราคา : ราคา 1,599 บาทสุทธิต่อท่าน รวมซอฟต์ดริ้งและน้ำดื่ม (ทานได้ 4 ชม.) ระยะเวลาโปรโมชั่น : ทุกวันเสาร์ 18.00 - 22.00 น. ที่อยู่ : Amari Watergate Bangkok ถนนเพชรบุรี แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/69fsWgyZSdNzjohW8 #บุฟเฟ่ต์โรงแรม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • ปฏิญญา BRICS นับหนึ่งระเบียบโลกหลายขั้ว
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม BRICS ขึ้น โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นเจ้าภาพ กลุ่ม BRICS กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ขึ้นอีกระบบหนึ่งที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว ที่นำโดย 5 ประเทศก่อตั้ง คือ จีน รัสเซีย แอฟริกาใต้ บราซิล และ อินเดีย กับสมาชิกถาวรอีก 4 ประเทศ คือ อิหร่าน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เอธิโอเปีย ได้จับมือรวมกลุ่มกับประเทศซีกโลกใต้ ที่เขาเรียกว่า Global South ที่เป็นประเทศพันธมิตรหุ้นส่วนอีก 13 ประเทศ มีแอลจีเรีย เบราลุส โบลิเวีย คิวบา อินโดนีเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกินสถาน เวียดนาม และ ประเทศไทย
    .
    ด้วยเหตุนี้ นักประวัติศาสตร์และสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล ทอดด์ ได้เรียกการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 16 นี้ว่าเป็นชัยชนะของรัสเซีย และเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับของตะวันตก ซึ่งขณะนี้ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมรับ และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของประเทศที่แสดงความปรารถนาจะใกล้ชิดกับรัสเซีย
    .
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พูดถึงระเบียบโลกใหม่ที่BRICS สร้างเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มความร่วมมือที่หลากหลายในหลายมิติ ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์หรือบูรณาการเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ ให้ความสำคัญ Global South โลกใต้ที่เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน,BRICS Peaceใช้กลไกสันติภาพยุติสงครามความขัดแย้ง,นวัตกรรมของBRICS Innovationเพื่ออนาคตเปิดพรมแดนใหม่ๆเพื่อมนุษยชาติ,Green BRICS ซึ่งจีนเป็นเจ้าโลกเทคโนโลยีสีเขียวและรถไฟฟ้าตอบโจทย์แก้โลกร้อน Climate Change และประเด็น Justices&Humanity BRICSที่ผู้นำจีนเสนอควรต้องให้แต้มต่อประเทศยากจนถึงจะเป็นธรรม
    .
    การประชุมสุดยอดของผู้นำ BRICS ปิดฉากลงด้วยการรับรองปฏิญญาคาซาน 2024 ซึ่งเป็นคำประกาศแถลงการณ์ร่วมของสมาชิก BRICS โดยมีแผนที่จะยื่นเอกสารดังกล่าวต่อสหประชาชาติด้วย เนื้อหาระบุไว้4หัวข้อหลัก
    .
    หนึ่ง-ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลกเช่นองค์การการค้าโลก คัดค้านมาตรการฝ่ายเดียวที่เลือกปฏิบัติและการคุ้มครองทางการค้า รวมทั้งเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ให้เป็นตัวแทนประเทศทั่วโลกมากขึ้น
    .
    สอง-โครงการของ BRICS ริเริ่มใหม่ (BRICS Initiative) ด้านศักยภาพเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลและเปลี่ยนแปลงเพิ่มบทบาทธนาคารพัฒนาแห่งใหม่ (NDB)ของBRICS แทนธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟที่ล้มเหลวต่อการพัฒนาประเทศ Global South รวมถึงการทำแพลตฟอร์มใหม่ๆพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ BRICS ClearแทนระบบSWIFTของตะวันตก และร่วมมือการพัฒนายารักษาโรครวมทั้งวัคซีนและโครงการ เวชศาสตร์นิวเคลียร์
    .
    สาม-การขยายความร่วมมือของ BRICS โดยการใช้สกุลเงินท้องถิ่นประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS+ และพันธมิตรทางการค้า ดำเนินยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
    .
    สี่-วิกฤตการณ์โลกที่ BRICS ต่อต้าน ประณามการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติ คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธ รวมถึงปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติและข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจาเท่านั้น
    .
    ทั้งหมดนี้ จีน รัสเซีย ในฐานะแกนนำมหาอำนาจขั้วโลกใหม่ จะเป็นผู้นำวางกฎระเบียบโลกใหม่ และได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์เชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงสภาพการขับเคี่ยวกันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างเศรษฐกิจกลุ่ม Global North และ Global South สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการนับหนึ่งที่กำลังจะสั่นสะเทือนอนาคตของระเบียบโลกเก่า
    ปฏิญญา BRICS นับหนึ่งระเบียบโลกหลายขั้ว . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 22-24 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม BRICS ขึ้น โดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เป็นเจ้าภาพ กลุ่ม BRICS กำลังสร้างระเบียบโลกใหม่ขึ้นอีกระบบหนึ่งที่มีขั้วอำนาจหลายขั้ว ที่นำโดย 5 ประเทศก่อตั้ง คือ จีน รัสเซีย แอฟริกาใต้ บราซิล และ อินเดีย กับสมาชิกถาวรอีก 4 ประเทศ คือ อิหร่าน อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ เอธิโอเปีย ได้จับมือรวมกลุ่มกับประเทศซีกโลกใต้ ที่เขาเรียกว่า Global South ที่เป็นประเทศพันธมิตรหุ้นส่วนอีก 13 ประเทศ มีแอลจีเรีย เบราลุส โบลิเวีย คิวบา อินโดนีเซีย คาซัคสถาน มาเลเซีย ไนจีเรีย ตุรกี ยูกันดา อุซเบกินสถาน เวียดนาม และ ประเทศไทย . ด้วยเหตุนี้ นักประวัติศาสตร์และสังคมวิทยาชาวฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล ทอดด์ ได้เรียกการประชุมสุดยอด BRICS ครั้งที่ 16 นี้ว่าเป็นชัยชนะของรัสเซีย และเป็นความพ่ายแพ้ย่อยยับของตะวันตก ซึ่งขณะนี้ก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมรับ และแสดงอำนาจบาตรใหญ่ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของประเทศที่แสดงความปรารถนาจะใกล้ชิดกับรัสเซีย . ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน พูดถึงระเบียบโลกใหม่ที่BRICS สร้างเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มความร่วมมือที่หลากหลายในหลายมิติ ไม่ใช่การแสวงหาประโยชน์หรือบูรณาการเฉพาะทางเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ ให้ความสำคัญ Global South โลกใต้ที่เป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน,BRICS Peaceใช้กลไกสันติภาพยุติสงครามความขัดแย้ง,นวัตกรรมของBRICS Innovationเพื่ออนาคตเปิดพรมแดนใหม่ๆเพื่อมนุษยชาติ,Green BRICS ซึ่งจีนเป็นเจ้าโลกเทคโนโลยีสีเขียวและรถไฟฟ้าตอบโจทย์แก้โลกร้อน Climate Change และประเด็น Justices&Humanity BRICSที่ผู้นำจีนเสนอควรต้องให้แต้มต่อประเทศยากจนถึงจะเป็นธรรม . การประชุมสุดยอดของผู้นำ BRICS ปิดฉากลงด้วยการรับรองปฏิญญาคาซาน 2024 ซึ่งเป็นคำประกาศแถลงการณ์ร่วมของสมาชิก BRICS โดยมีแผนที่จะยื่นเอกสารดังกล่าวต่อสหประชาชาติด้วย เนื้อหาระบุไว้4หัวข้อหลัก . หนึ่ง-ความจำเป็นในการปฏิรูปสถาบันระดับโลกเช่นองค์การการค้าโลก คัดค้านมาตรการฝ่ายเดียวที่เลือกปฏิบัติและการคุ้มครองทางการค้า รวมทั้งเสนอให้คณะมนตรีความมั่นคงฯ ให้เป็นตัวแทนประเทศทั่วโลกมากขึ้น . สอง-โครงการของ BRICS ริเริ่มใหม่ (BRICS Initiative) ด้านศักยภาพเทคโนโลยีสารสนเทศดิจิทัลและเปลี่ยนแปลงเพิ่มบทบาทธนาคารพัฒนาแห่งใหม่ (NDB)ของBRICS แทนธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟที่ล้มเหลวต่อการพัฒนาประเทศ Global South รวมถึงการทำแพลตฟอร์มใหม่ๆพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบชำระเงินระหว่างประเทศ BRICS ClearแทนระบบSWIFTของตะวันตก และร่วมมือการพัฒนายารักษาโรครวมทั้งวัคซีนและโครงการ เวชศาสตร์นิวเคลียร์ . สาม-การขยายความร่วมมือของ BRICS โดยการใช้สกุลเงินท้องถิ่นประจำชาติในการทำธุรกรรมระหว่างสมาชิก BRICS+ และพันธมิตรทางการค้า ดำเนินยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ . สี่-วิกฤตการณ์โลกที่ BRICS ต่อต้าน ประณามการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เลือกปฏิบัติ คัดค้านการนำอาวุธไปใช้ในอวกาศ และสนับสนุนการเสริมสร้างระบอบการไม่แพร่ขยายอาวุธ รวมถึงปฏิบัติตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สนับสนุนการเข้าเป็นสมาชิกอย่างเต็มตัวของปาเลสไตน์ในสหประชาชาติและข้อเสนอในการไกล่เกลี่ยยุติความขัดแย้งโดยผ่านการเจรจาเท่านั้น . ทั้งหมดนี้ จีน รัสเซีย ในฐานะแกนนำมหาอำนาจขั้วโลกใหม่ จะเป็นผู้นำวางกฎระเบียบโลกใหม่ และได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงยุทธศาสตร์เชิงภูมิเศรษฐศาสตร์และภูมิรัฐศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงสภาพการขับเคี่ยวกันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่จะทวีความรุนแรงขึ้นระหว่างเศรษฐกิจกลุ่ม Global North และ Global South สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการนับหนึ่งที่กำลังจะสั่นสะเทือนอนาคตของระเบียบโลกเก่า
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews
  • 3 พฤศจิกายน 2567-ชายเดี่ยว วิว กุลวุฒิ ชนะ Lee Cheuk Yiu จากฮ่องกง 3-0 เก็บแต้ม Blitzers นำ 4-2 , ตัดสินคู่สุดท้าย แบด3คน ที่มีสามแต้มเป็นเดิมพันชนะ Blitzers เฉือนแต้ม Sudden Death คว้าแชมป์​ลีคอินโด BDMNTN-XL รับทรัพย์คนละ 2 ล้านบาท

    ทั้งนี้การแข่งขันแบดมินตันรายการพิเศษในรายการ "บีเอ็กซ์แอล แบดมินตัน" ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. - 3 พ.ย.67 ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาร์การ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย

    โดยจะมี 3 นักแบดมินตันไทยลงแข่งขัน อาทิ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชายเดี่ยว ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 , "เมย์" รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยว เจ้าของแชมป์โลก ปี 2013 และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ โดยจะลงเล่นแทน โนโซมิ โอกูฮาระ จากญี่ปุ่น โดยรูปแบบการแข่งขันจะเป็นในรูปแบบ แบ่งเป็น 4 ทีม แต่ละทีมส่งตัวแทนลงแข่ง 5 แมตช์ ได้แก่ ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่ และแบด 3 คน ทีมไหนถึง 5 ก่อน จะเป็นฝ่ายชนะ ไม่มีคะแนนต่ำสุดหรือสูงสุดสำหรับแต่ละเซ็ต - ผู้เล่น/คู่/ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดหลังจากแต่ละ 10 นาทีจะชนะ 1 เซ็ต

    สำหรับ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ จะอยู่ในกลุ่ม Lighting ร่วมกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น (เดนมาร์ก) , อัชวานี่ พอนนัพพา (อินเดีย) , เกรเซี่ย โพลี่ (อินโดนเซีย) , ยูตะ วาตานาเบ้ (ญี่ปุ่น) , ตัง ชุนมาน (ฮ่องกง) และ โซว วุยอิค (มาเลเซีย)

    ส่วน "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะอยู่ในกลุ่ม Bltizers ร่วมกับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ จากเดนมาร์ก , ออง ยิวซิน กับ เตียว อี้เว่ย จากมาเลเซีย , ซาบาร์ คาร์ยามาน กุตมา จากอินโดนีเซีย ,

    https://youtu.be/WeuDCPVG1Yc?si=048h60IuBSTlXRzR

    #Thaitimes
    3 พฤศจิกายน 2567-ชายเดี่ยว วิว กุลวุฒิ ชนะ Lee Cheuk Yiu จากฮ่องกง 3-0 เก็บแต้ม Blitzers นำ 4-2 , ตัดสินคู่สุดท้าย แบด3คน ที่มีสามแต้มเป็นเดิมพันชนะ Blitzers เฉือนแต้ม Sudden Death คว้าแชมป์​ลีคอินโด BDMNTN-XL รับทรัพย์คนละ 2 ล้านบาท ทั้งนี้การแข่งขันแบดมินตันรายการพิเศษในรายการ "บีเอ็กซ์แอล แบดมินตัน" ที่ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 31 ต.ค. - 3 พ.ย.67 ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาร์การ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยจะมี 3 นักแบดมินตันไทยลงแข่งขัน อาทิ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชายเดี่ยว ดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเกมส์ 2024 , "เมย์" รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยว เจ้าของแชมป์โลก ปี 2013 และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ โดยจะลงเล่นแทน โนโซมิ โอกูฮาระ จากญี่ปุ่น โดยรูปแบบการแข่งขันจะเป็นในรูปแบบ แบ่งเป็น 4 ทีม แต่ละทีมส่งตัวแทนลงแข่ง 5 แมตช์ ได้แก่ ชายเดี่ยว หญิงเดี่ยว ชายคู่ หญิงคู่ และแบด 3 คน ทีมไหนถึง 5 ก่อน จะเป็นฝ่ายชนะ ไม่มีคะแนนต่ำสุดหรือสูงสุดสำหรับแต่ละเซ็ต - ผู้เล่น/คู่/ทีมที่มีคะแนนมากที่สุดหลังจากแต่ละ 10 นาทีจะชนะ 1 เซ็ต สำหรับ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ จะอยู่ในกลุ่ม Lighting ร่วมกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น (เดนมาร์ก) , อัชวานี่ พอนนัพพา (อินเดีย) , เกรเซี่ย โพลี่ (อินโดนเซีย) , ยูตะ วาตานาเบ้ (ญี่ปุ่น) , ตัง ชุนมาน (ฮ่องกง) และ โซว วุยอิค (มาเลเซีย) ส่วน "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ และ "หมิว" พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ จะอยู่ในกลุ่ม Bltizers ร่วมกับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ จากเดนมาร์ก , ออง ยิวซิน กับ เตียว อี้เว่ย จากมาเลเซีย , ซาบาร์ คาร์ยามาน กุตมา จากอินโดนีเซีย , https://youtu.be/WeuDCPVG1Yc?si=048h60IuBSTlXRzR #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 276 Views 0 Reviews
  • คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า?
    ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้
    เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล”
    “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น
    ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย
    ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น
    นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล"
    ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา
    เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา
    แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ?
    ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน
    ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก
    ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง
    ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น
    การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989
    ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์
    แต่ยังมีอีก...
    เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน
    ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า
    เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ
    ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร
    เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย
    จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ
    แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง?
    การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง
    ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้!
    บทสรุป
    ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน
    มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม"
    ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้
    https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3...
    ผู้เขียน : Ty Bollinger
    ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี
    🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี)
    🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia
    🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น)
    🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai)
    🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana)
    🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์
    🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero)
    🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste)
    🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน)
    🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี)
    🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz
    🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า
    🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ)
    🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living
    🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ
    🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste)
    🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956
    🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ)
    🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม
    🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile)
    🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒
    🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช
    🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN)
    🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม
    ขอเพิ่มเติม
    🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent)
    🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax)
    🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate)
    🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์
    🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา)
    🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ
    🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์
    (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม)
    เป็นต้น
    https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny
    ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    คุณถูกหลอกมาตลอดเกี่ยวกับฟลูออไรด์หรือเปล่า? ไม่มีอะไรเทียบได้กับน้ำใสๆ เย็นๆ สักแก้วดับกระหายของคุณ แต่คราวหน้าที่คุณเปิดก๊อกน้ำ คุณอาจต้องการตั้งคำถามว่าจริงหรือไม่ น้ำนั้นเป็นพิษเกินกว่าจะดื่มได้ ถ้าน้ำของคุณมีฟลูออไรด์ผสมอยู่ คำตอบน่าจะเป็น "จริง" แม้ว่า "เจ้าหน้าที่" ด้านสุขภาพออกมาประกาศว่า "ปลอดภัย" และ "เป็นธรรมชาติ" ก็ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าความจริงได้ เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เราได้รับคำโกหก คำโกหกที่นำไปสู่การเสียชีวิตของชาวอเมริกันหลายแสนคน และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงอีกหลายสิบล้านคน การโกหกนี้เรียกว่า "การผสมฟลูออไรด์" กระบวนการที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการปกป้องฟันจากฟันผุ อันที่จริงแล้วเป็นการฉ้อโกง ในคำพูดของ Dr. Robert Carton อดีตนักวิทยาศาสตร์ของ EPA “ฟลูออไรด์เป็นกรณีที่ใหญ่ที่สุดของการฉ้อโกงทางวิทยาศาสตร์ของศตวรรษนี้ หรือไม่ก็ตลอดกาล” “กระบวนการปั่น” เริ่มต้นขึ้น ในปี ค.ศ. 1920 การผลิตอะลูมิเนียมซึ่งส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมกระป๋องที่กำลังเฟื่องฟู แต่ก็ยังเป็นผู้ผลิตขยะฟลูออไรด์ที่เป็นพิษรายใหญ่ ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ใหญ่ที่สุดคือค่าใช้จ่ายในการกำจัดของเสียอันตรายอย่างปลอดภัยซึ่งแพงมาก อุตสาหกรรมนี้จึงได้ทำการตลาดและขายของเสียที่เป็นพิษ (โซเดียมฟลูออไรด์) เพื่อใช้ผลิตเป็นยาฆ่าแมลงและยาฆ่าหนู แต่ทว่าพวกเขาต้องการตลาดที่ใหญ่กว่านั้น... มนุษย์ไง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีอุปสรรคอยู่เล็กน้อย ในวารสารสมาคมทันตกรรมอเมริกันวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ADA เตือนว่า “โอกาสที่จะเกิดอันตราย (จากฟลูออไรด์) มีมากกว่าประโยชน์ในทางที่ดี” แต่ในปี 1947 Oscar R. Ewing (ซึ่งเป็นทนายความของ ALCOA มาเป็นเวลานาน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ทำให้เขารับผิดชอบด้านบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา และแล้วภายใต้การนำของเขา แคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ระดับชาติจึงเริ่มต้นขึ้น นักยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์สำหรับแคมเปญ "น้ำผสมฟลูออไรด์" ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Edwin L. Bernays หลานชายของ Sigmund Freud หรือที่รู้จักในชื่อ "เจ้าพ่อแห่งการปั่น" Bernays เป็นผู้บุกเบิกการประยุกต์ใช้ทฤษฎีของ Freud มาใช้กับการโฆษณาและ "ความจริงครึ่งเดียวของรัฐบาล" ในหนังสือ "โฆษณาชวนเชื่อ" ของเขา Bernays ได้อ้างว่าความคิดเห็นสาธารณะซึ่งใช้วิทยาศาสตร์บงการเป็นกุญแจสำคัญ เขากล่าวว่า "คนกลุ่มเล็กๆ กลุ่มหนึ่งมีอิทธิพลควบคุมจิตใจของสาธารณชน" แคมเปญฟลูออไรด์ของรัฐบาลเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่ยั่งยืนที่สุดของเขา เทคนิคของเบอร์เนย์นั้นเรียบง่าย แสร้งทำเป็นว่ามีงานวิจัยที่น่าพอใจโดยใช้วลีเช่น "การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็น ... " หรือ "การวิจัยพิสูจน์แล้ว ... " หรือ "ผู้วิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้พบ ... " (แต่ไม่เคยพูดอ้างอิงถึงสิ่งใดเลย) พูดให้นานพอและดังพอ แล้วในที่สุดผู้คนจะเชื่อมัน หากใครสงสัยหรือซักไซ้เรื่องโกหกนี้ ก็โจมตีหน้าที่การงานและ/หรือสติปัญญาของพวกเขา แล้ว "งานศึกษา" ล่ะ? ไม่มี "งานศึกษาทางวิทยาศาสตร์" ที่พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์ปลอดภัยเลยหรือ? ในช่วงทศวรรษที่ 1940 นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า ผู้คนจะมีสุขภาพฟันโดยรวมที่ดีขึ้น (โดยส่วนใหญ่เป็นฟันผุน้อยกว่า) หากพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณที่มีฟลูออรีนในระดับที่สูงขึ้นตามธรรมชาติ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ได้เกิดคำถามเรื่อง “การศึกษาวิจัย” และมีความกังวลอย่างมากว่าข้อมูลส่วนใหญ่เป็นเพียงการประดิษฐ์ขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ที่มีความผูกพันกับบริษัทที่มีส่วนได้เสียในการขายฟลูออไรด์ การปั้นแต่งข้อมูลในการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับสุขภาพ มีบริษัทจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลประโยชน์จากสุขภาพที่ย่ำแย่ของสาธารณชน ตรงกันข้ามกับความเห็นส่วนใหญ่ ฟลูออไรด์กลับไม่ได้หยุดฟันผุเลย จากการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ได้พิสูจน์แล้วว่าฟลูออไรด์เป็นพิษต่อระบบประสาทและทำให้เกิดความพิการแต่กำเนิด และโรคกระดูกพรุน ฟลูออไรด์ยังทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินหายใจ รวมถึงตับไตและสมอง และอาจนำไปสู่ความบกพร่องทางการเรียนรู้ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องในการอ่าน สมาธิสั้น และออทิสติก ในปี 2012 นักวิจัยของฮาร์วาร์ดรายงานว่าการศึกษา 26 จาก 27 ชิ้นที่พวกเขาทบทวนพบว่าไอคิวในวัยเด็กลดลงเมื่อความเข้มข้นของฟลูออไรด์เพิ่มขึ้น รายงานปี 2006 จากสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติได้ทบทวนการศึกษาหลายร้อยชิ้นที่เชื่อมโยงน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับความเสียหายทางระบบประสาท ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ และ … ใช่แล้ว …. โรคมะเร็ง ในปี 1955 วารสารการแพทย์นิวอิงแลนด์รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยมะเร็งต่อมไทรอยด์เพิ่มขึ้น 400% ในช่วงหลายปีหลังจากที่น้ำในซานฟรานซิสโกเริ่มได้รับการผสมฟลูออไรด์ ต่อมาในปี 1977 สภาคองเกรสได้สั่งให้หน่วยงานบริการสาธารณสุขของสหรัฐอเมริกาดำเนินการศึกษาในสัตว์เพื่อพิจารณาว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดมะเร็งหรือไม่ หลังจากวิเคราะห์ผลการศึกษาในหนูแล้ว พบว่าหนูที่ดื่มน้ำฟลูออไรด์มีเนื้องอกและมะเร็งเพิ่มขึ้นในเซลล์สความัสในช่องปาก ก่อตัวเป็นรูปแบบที่พบได้ยากของมะเร็งกระดูกที่เรียกว่า osteosarcoma และพบว่ามีเนื้องอกในเซลล์ต่อมไทรอยด์ฟอลลิคูลาร์เพิ่มขึ้น การค้นพบที่สำคัญที่สุดคือการเกิดขึ้นของมะเร็งตับรูปแบบที่หายากมาก มะเร็งตับในหนูเพศผู้และเพศเมียที่ได้รับฟลูออไรด์ นอกจากนี้ในปี 1977 ยังแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ทำให้เกิดการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งประมาณ 10,000 รายในการศึกษาทางระบาดวิทยาโดย Dr. Dean Burk อดีตหัวหน้าแผนกไซโตเคมี ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ และ Dr. John Yiamouyiannis แม้จะมีการค้นพบในปี 1977 แต่ก็ไม่ได้เต็มใจที่จะเปิดเผยจนกระทั่งปี 1989 ในปี 2006 ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด นักวิจัยระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างฟลูออไรด์กับ osteosarcoma การศึกษานี้นำโดย Dr. Elise Bassin และตีพิมพ์ออนไลน์ใน Cancer Causes and Control (วารสารทางการของศูนย์ป้องกันมะเร็งฮาร์วาร์ด) พบว่ามีความเชื่อมโยงอย่างมากระหว่างน้ำดื่มที่มีฟลูออไรด์กับ osteocarcoma ซึ่งเป็นมะเร็งกระดูกที่หายากและมักเสียชีวิตในเด็กชาย การศึกษายืนยันโดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) และแผนกสุขภาพของรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งพบอัตราการเกิดมะเร็งกระดูกที่เพิ่มขึ้นในเด็กผู้ชายที่ดื่มน้ำประปาที่มีฟลูออไรด์ ผลการวิจัยยืนยันผลการศึกษาของรัฐบาลก่อนหน้าในปี 1990 ที่เกี่ยวข้องกับหนูที่ได้รับฟลูออไรด์ แต่ยังมีอีก... เมื่อเข้าไปในร่างกายของคุณ ฟลูออไรด์จะทำลายเอนไซม์ของคุณด้วยการเปลี่ยนรูปร่าง ร่างกายของคุณต้องอาศัยเอ็นไซม์หลายพันชนิดเพื่อทำปฏิกิริยาของเซลล์จำนวนมาก ถ้าไม่มีเอ็นไซม์ เราทุกคนคงตายกันหมด เอ็นไซม์เป็นเหมือนกุญแจที่เข้ากับระบบล็อคภายในเซลล์ของคุณ อย่างไรก็ตาม เมื่อฟลูออไรด์ทำลายรูปร่างของ "กุญแจ" มันจะไม่เข้ากับตัวล็อคอีกต่อไป และร่างกายของคุณไม่รู้จักเอ็นไซม์อีกต่อไป เอนไซม์ที่เสียหายเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสลายคอลลาเจน ความเสียหายของดีเอ็นเอ ความเสียหายของเนื้อเยื่อ และการกดภูมิคุ้มกัน ในช่วงต้นปี 2010 มีเรื่องราวสองเรื่องในอินเดียเปิดเผยว่าเด็ก ๆ ตาบอดและพิการบางส่วน อันเป็นผลมาจากการเติมฟลูออไรด์ลงในน้ำดื่มของพวกเขา และในหมู่บ้าน Gaudiyan ของอินเดีย ประชากรมากกว่าครึ่งมีความผิดปกติของกระดูก ทำให้มีความพิการทางร่างกาย เด็กเกิดมาปกติดี แต่หลังจากที่พวกเขาเริ่มดื่มน้ำที่มีฟลูออไรด์ พวกเขาก็เริ่มมีความพิการที่มือและเท้า เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2010 นิตยสาร Time ระบุว่าฟลูออไรด์เป็นหนึ่งใน "สารพิษในครัวเรือน 10 อันดับแรก" และอธิบายว่าฟลูออไรด์ "เป็นพิษต่อระบบประสาทและอาจเกิดเนื้องอกได้หากกลืนเข้าไป" มีการบอกความจริงนี้ในเกือบทุกประเทศในโลก (รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย) มันผิดกฎหมายที่จะ "ให้ยาขนานใหญ่" กับประชากรทั้งหมดด้วยสารที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นพิษ ด้วยความจริงที่ว่าฟลูออไรด์สามารถสะสมในร่างกายได้ จึงเป็นเหตุให้กฎหมายแห่งสหรัฐอเมริกาได้กำหนดให้กรมการแพทย์ทหารตั้งค่า "ระดับสารปนเปื้อนสูงสุด" (MCL) สำหรับปริมาณฟลูออไรด์ในแหล่งน้ำสาธารณะตามที่ EPA กำหนด มันทำให้ผมสับสนจากการที่ทันตแพทย์ที่ถูกล้างสมองหลายพันคนประกาศอย่างภาคภูมิใจว่าฟลูออไรด์เป็น "สารอาหารมหัศจรรย์" ที่ป้องกันฟันผุและส่งเสริมสุขภาพฟันและเหงือก ผมขอตั้งคำถามหน่อยนะ สารพิษสะสมและผลิตภัณฑ์จากขยะพิษจะเรียกว่า “สารอาหาร” ได้อย่างไร เป็นความโชคร้าย หากคุณต้องใช้ชีวิตในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย หรือแคนาดา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจในระดับสูง (มีความเป็นไปได้มากที่การผสมฟลูออไรด์ในน้ำจะเป็นเรื่องปกติ) หมายความว่ามีการตัดสินใจเกี่ยวกับสุขภาพของคุณโดยที่คุณไม่มีส่วนร่วมในกระบวนการนี้เลย จากเกือบ 320 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 72% บริโภคน้ำที่มีฟลูออไรด์อย่างสม่ำเสมอ และจากข้อมูลของ CDC รัฐทั้งหมด 50 รัฐ ได้ผสมฟลูออไรด์ลงในแหล่งน้ำ แล้วคุณจะทำอะไรได้บ้าง? การกรองแบบ Reverse Osmosis ถือว่ามีประสิทธิภาพในการกำจัดฟลูออไรด์ออกจากน้ำ เกลือฟลูออไรด์จะเข้าไปแทนที่ไอโอดีนซึ่งต่อมไทรอยด์จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน การเสริมไอโอดีนในอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ การเสริมด้วยอัตราส่วนแมกนีเซียมต่อแคลเซียมสูงจะให้แร่ธาตุที่ช่วยขจัดฟลูออไรด์ นอกจากนี้ วิตามิน K2 ที่สกัดจากเอนไซม์ในถั่วเน่าญี่ปุ่น ยังช่วยป้องกันการกลายเป็นหินปูนฟลูออไรด์ในอวัยวะที่มีเนื้อเยื่ออ่อน เช่น หลอดเลือดแดงและสมอง ใช่แล้ว... อีกอย่างที่คุณทำได้คือหยุดใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ คุณเคยอ่านฉลากหรือไม่? ผมแนะนำให้คุณอ่านซะ ในปี 1997 องค์การอาหารและยาได้สั่งให้ผู้ผลิตยาสีฟันเพิ่มคำเตือนเกี่ยวกับพิษจากยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ คำเตือนดังกล่าวระบุว่าควรเก็บให้ห่างจากเด็ก ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดกัน อาจเป็นเพราะถ้าเด็กเล็กกินยาสีฟันทั้งหลอด ปริมาณเท่านี้อาจทำให้ถึงตายได้! บทสรุป ในช่วงต้นปี 2010 มีภูเขาไฟระเบิดขนาดใหญ่ในประเทศไอซ์แลนด์ สัตว์ในไอซ์แลนด์ตอนใต้มีความเสี่ยงที่จะเป็นพิษจากฟลูออไรด์ หากพวกมันสูดดมหรือกลืนกินเถ้าจากการปะทุ พิษจากฟลูออไรด์สามารถนำไปสู่การมีเลือดออกภายใน ความเสียหายของกระดูกในระยะยาว และการสูญเสียฟัน ตามข่าวบีบีซี (19 เมษายน 2010): "ฟลูออไรด์ในเถ้าสร้างกรดในกระเพาะของสัตว์ กัดกร่อนลำไส้และทำให้เลือดออก นอกจากนี้ยังจับกับแคลเซียมในกระแสเลือดและหลังจากได้รับสารหนักในช่วงเวลาหลายวันทำให้กระดูกเปราะบางแม้กระทั่งทำให้ฟันผุ" คนส่วนใหญ่ไม่เคย "เชื่อมโยงจุดต่างๆ" ระหว่างพิษอันน่าสลดใจของสัตว์เหล่านี้อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติ กับพิษของมนุษย์จากการได้รับฟลูออไรด์มากเกินไปในแต่ละวัน มีงานศึกษาซึ่งทบทวนโดยคณะผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 500 ชิ้นที่บันทึกถึงผลข้างเคียงของฟลูออไรด์ตั้งแต่มะเร็งไปจนถึงความเสียหายต่อสมอง แต่ถึงกระนั้น เขตเทศบาลต่างๆ ทั่วสหรัฐอเมริกาก็ซื้อผลิตภัณฑ์นี้จริงๆ แล้วหยดลงในแหล่งน้ำสาธารณะ Dr. Charles G. Heyd อดีตประธานของ AMA กล่าวว่า "ผมรู้สึกตกใจที่ได้เห็นการใช้น้ำเป็นพาหนะส่งยา ฟลูออไรด์เป็นสารพิษกัดกร่อนซึ่งจะส่งผลร้ายแรงในระยะยาว ความพยายามใดๆ ที่จะใช้น้ำในลักษณะนี้เป็นสิ่งที่น่าประณาม" ระบบมันเสียหายไปแล้ว ระบบการดูแลสุขภาพของเรา อุตสาหกรรมยา รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแล สื่อของเรา และแม้แต่ภาคเทคโนโลยีล้วนได้รับความเสียหาย เรากำลังอยู่ในระหว่างสงครามข้อมูล โดยมีการปกปิดและการเซ็นเซอร์ในระดับสูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ชมตัวอย่างสารคดีชุดใหม่ของเรา: PROPAGANDA EXPOSED! ค้นพบความจริงที่ Big Pharma และ Mainstream Media ไม่ต้องการให้คุณเห็น ดูฟรี 100%… และอาจช่วยชีวิตคุณได้ https://go.propaganda-exposed.com/?a_bid=f9f117e3... ผู้เขียน : Ty Bollinger ‼ รวมลิสต์รายชื่อยี่ห้อยาสีฟันที่ไม่มี ❌สารฟลูaaไรด์❌ โดยโค๊ชนาตาลี 🦷 1. ยาสีฟัน Doctor V (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี) 🦷 2. ยาสีฟัน Grants Of Australia 🦷 3. ยาสีฟัน Sparkle White (ทุกรุ่น) 🦷 4. ยาสีฟันเอมไทย (AimThai) 🦷 5. ยาสีฟันน้ำมันมะพร้าว (Tropicana) 🦷 6. ยาสีฟันสมุนไพรโครงการหลวง เฮอร์เบิลทูธเพสท์ 🦷 7. ยาสีฟัน Curaprox (Enzycal Zero) 🦷 8. ยาสีฟัน ยาสีฟันโคโค่เมท (Cocomate toothpaste) 🦷 9. ยาสีฟันก๊กเลี้ยง (แก้ไข ยี่ห้อนี้มี สังเกตฝากล่องด้านใน) 🦷 10. ยาสีเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 11. ยาสีฟันดอกบัวคู่ (แก้ไข สูตรดั้งเดิม,สูตรเซนซิที,สูตรเกลือสมุนไพร,สูตรเฟรชแอนด์คูล = ไม่มี สูตรเอเวอร์เฟรชและสูตรฟ้าทลายโจร = มี) 🦷 12. ยาสีฟันสมุนไพรวาซ Wazz 🦷 13. ยาสีฟันใจฟ้า 🦷 14. ยาสีฟัน Dentiste (แค่บางรุ่น ควรอ่านฉลากก่อนซื้อ) 🦷 15. ยาสีฟัน Thieves Young Living 🦷 16. ยาสีฟัน Mama's Choice สูตรธรรมชาติ 🦷 17. ยาสีฟันเพียวรีน (Pureen Maternity Toothpaste) 🦷 18. ยาสีฟันเด็กเพียวรีน Pureen kids (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 19. ยาสีฟันเด็กเอมไทย กรีน คิดส์ ออร์แกนิค (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 20. ยาสีฟันเด็ก Mama's Choice (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 21. ยาสีฟันเด็ก ดอกบัวคู่คิด (ของเด็ก) 👧🧒 🦷 22. ยาสีฟันเจสัน Jason Since 1956 🦷 23. ยาสีฟันซองวิเศษนิยม (มีในร้านสะดวกซื้อ) 🦷 24. ยาสีฟันสมุนไพรทิพย์นิยม 🦷 25. ยาสีฟันวันเดอร์สไมล์ (Wonder Smile) 🦷 26. ยาสีฟันเด็กฟันคินดี้ ออรัล เจล ออร์แกนิค (Kindee Oral Gel Organic ของเด็ก) 👧🧒 🦷 27. ยาสีฟันเทโซโร่ เฟรช 🦷 28. ยาสีฟันไอวิศน์ (IVISN) 🦷 29. ยาสีฟันนกไทย 5 ดาว 4A สูตรดั้งเดิม ขอเพิ่มเติม 🦷 30.ยาสีฟันคอลบาเด้นท์ (Kolbadent) 🦷 31. ยาสีฟันพาโรดอนแทกซ์ (Parodontax) 🦷 32. ยาสีฟันเดนตาเมท (Denta mate) 🦷 33. เกลือสีฟันทรีออร์คิดส์ 🦷 34. ยาสีฟัน Sante ของอ.สันติ มาะดี(หมอนอกกะลา) 🦷 35. ยาสีฟันรุ่งอรุณ 🦷 36. ยาสีฟันไบโอมิเนอรัลส์ (ยี่ห้อนี้ต้องขอขอบคุณครับดร.(ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง) ที่มาช่วยกิจกรรมกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ได้เคลื่อนไหวช่วยคนไทยในการจัดกิจกรรม แอดไลน์ด้วย QR Code ในภาพเมื่อท่านแจ้งแอดมินตอนสั่งซื้อว่ามาจากกลุ่ม คนไทยพิทักษ์สิทธิ์ กำไรจะถูกหักเข้ากองทุนสำหรับกิจกรรมกลุ่ม) เป็นต้น https://youtube.com/shorts/cj_brYDAlBM?si=waEMU4F2I0-CWcny ขอบคุณเจ้าของบทความต่างๆ
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • 01-11-67/01 : หมี CNN / "หมีตะมุตะมิ มุ้งมิ้ง จรรโลงโลก" ตอนที่ 43 ชื่อตอน "FIGHT TILL THE LAST BLOOD" นี่มันศึกบางระจันชัดๆ ฮามาส เฮซบอเลาะห์ ฮูตี ต่างทำหน้าที่ยามเฝ้าแผ่นดินสุดตัว ขนกันมาเพี๊ยบ ดาหน้าถล่มอียิวทุกสัดส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ที่ราบสูงโกลาน เทลอาวีฟ ไฮฟา เยรูซาเล็ม เตรียมเปิดทางให้ทัพใหญ่ ซีเรีย อิรัก ยกพลขึ้นบก ประสานเพ่น้องปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงค์ หลังตอนเหนือแตกยับ เอาไม่อยู่แล้ว ถอยร่นลงมาเรื่อยๆ ดูทรงแล้ว เป็นไปตามคาด ไล่บีบพื้นที่ให้เหี้ยยิวเข้ามากระจุกกันในตอนกลางของแผ่นดิน แล้วค่อยทำการ "แซนวิส" ลงแขกอย่างเมามันส์ ตราบใดที่เหี้ยยิวยังไม่สามารถขยายพื้นที่รบเพิ่มขึ้นได้ นั่นคือถอยอย่างเดียว ตอนนี้ "กำลังพล" แทบไม่มีเหลือ ทหารนาโต้ ทหารรับจ้าง ตายห่าเกลื่อน อย่าถามไอ้อีคนไทยขายชาติที่ไปรับจ้างช่วยอียิวรบ มันตายห่าไปนานแล้ว สาแก่ใจกองแช่ง แผ่นดินเกิดมรึงเองเสือกไม่ปกป้อง แต่ เสือกเสนอหน้าจะไปปกป้องเหี้ยที่คิดล้างบางประเทศไทยแทน มีเหรอมันจะไม่รู้ ว่าอียิวนี่แหละ ที่คิดกลืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่ พศ.2475 แล้ว แผนล้มวัง ล้มเจ้า แยกดินแดน ก่อการร้าย มาจากมันทั้งนั้น ผ่านขี้ข้าอย่างเหี้ย CIA ผ่านกองทุนเงินตอแหลก่อการร้ายโลก NED เลือกตั้งอเมริกา ก็ไม่ได้เปลี่ยนเหี้ยอาไยดอกน่ะ เจ้ามือยังตัวเดิม อีทรัมปป์แค่สีสัน แต่หากแตกแผ่นดินสำเร็จ อีทรัมปป์เนี่ยแหละ จะตั้งตัวเองเป็น KING แห่งรัฐใหม่ยิว อเมริกันควาย เป็นได้แค่ขี้ข้ายิว อินเดียนแดงจะทวงแผ่นดินคืน ลุกเป็นไฟแน่ ยามบ้านเมืองแตกสลาย ไอ้อีตัวไหนก็กลายร่างเป็นหมาได้หมด! มรึงคิดจริงๆ เหรอว่า กะอีแค่ "เลือกตั้ง" มันจะสามารถกู้แผ่นดินสาปแช่งนี้ได้ ตอแหลทั้งนั้น ใครจะไปใครจะมา ก็อยู่ใต้ตรีนยิวทั้งสิ้น อีทรัมปป์อ่านขาด แยกไปเลย ของใคร ของมัน จะแตกได้ต้องทำยังไง? CIVIL WAR ต้องมาก่อนเท่านั้น ไม่แปลก แต่ละรัฐเตรียมอาวุธ ขุมกำลังไว้พร้อม ที่ไม่เพิ่ม ไม่ส่งอาวุธให้ยูเครน อียิว เท่าที่ควรจะเป็น เหตุก็มาจากนี่แหละ สะสมอาวุธเตรียมแยกแผ่นดินไงล่ะ? อีลา อีช้าง มันจ้องตาเป็นมันอยู่แล้ว ใครมันจะไปอุ้มรัฐยากจนไหว อียิวมันเลือกเฉพาะรัฐทำเงินเท่านั้น แล้วไอ้ที่เหลือ ก็ปล่อยให้มันเข่นฆ่ากันเองต่อไป จะยังไงก็ตามที อลาสก้าต้องกลับบ้าน ฮาวายต้องเปลี่ยนมือ เท็กซัสถูกแยกชิ้นส่วน นี่คือชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ศึกตะวันออกกลางมาถึงมหากาพย์ตอนสุดท้ายแล้ว "อิหร่านพร้อมเช็คบิล" เพื่อเปิดทางให้โลกอาหรับเข้ายึดพื้นที่ตามมติสหประชาชาติ อีเหี้ยมะกันถอย เพราะรู้ดีว่า หลังบ้านตัวเองไม่พร้อม สอดคล้องอีทรัมปป์มาแน่ ภายในแตกยับ ตีกันเละเทะ ยังจะมีเวลาไปห่วงไอ้ยิวขาลงอีกเหรอ? เพราะอียิวมันสมยอมเตรียมย้ายบ้านนานแล้ว ที่ผ่านมาแค่จัดฉากละครหลอกควาย? เป้าหมายคือทำลายทิ้งทุกอย่าง ไม่ให้มีเหลือ? สงครามครูเสดไม่มีภาคต่อแล้ว จบในมืออาหรับ เปอร์เซีย ผู้ชนะตัวจริง! จากนี้ ชาวตะวันออกกลางจะบุกยุโรป ขยายชาติเผ่าพันธุ์จนกลืนดินแดนโรแมนติคโลกไปในที่สุด ยุโรปกลายเป็นอดีต ชะตากรรมของชนชาติที่ล่าอาณานิคม มีอันเป็นไปหมด ตามกรรมที่มรึงก่อมาตลอดหลายศตวรรษ ผีซ้ำด้ามพลอย อีไต้หวันเจอพายุใหญ่ถล่ม สเปนน้ำท่วมเมือง ภัยพิบัติธรรมชาติมาเต็ม เดี๋ยวแม่งหาเรื่องว่าเป็นฝีมือจีน รัสเซีย อีก HAARP มีแต่มรึงนั่นแหละที่ใช้ ดีออก? เพราะจีน รัสเซีย เค้าใช้เทคโนโลยีอีกตัว เนียนกว่าเยอะ "คลื่นสนามแม่เหล็ก" น้องๆ CERN ชั้นความลับอยู่ที่สถานีอวกาศนอกโลก มรึงบินตามไปสืบสิ ดีออก? ดาวเทียมนี่แหละ ทำอะไรได้มากกว่าที่มรึงคิด ซ่อนอาวุธไว้เพี๊ยบ? S-500 ในมือรัสเซีย มีไว้เพื่อ ทำลายดาวเทียมทุกดวงของเหี้ยนั่นเอง ยิงครั้งเดียว 10 เป้าหมายหายวับ ไร้ดาวเทียม เหี้ยก็ตาบอด ไฟไม่มา รถไม่วิ่ง คอมไม่เดิน เน็ตไม่มี นี่มันโลกาวินาศชัดๆ 10 ชาติหมายุโรป เตรียมสั่งขึ้นภาษีรถ EV จีน จีนสวนกลับหนัก ชักเงินออก ถอนลงทุน 10 ชาติหมาทันที แล้วมรึงมาดูกันว่า ทิชชู่ขาด มันเป็นยังไง? จีนถอนลงทุน อเมริกา ยุโรป มรึงคือจบทันที G7 แทบไม่เหลือเหี้ยอะไรต่อรองอีกแล้ว ไม่มีอำนาจ ไม่มีกำลังในมือ หลังชาติอาเซียนดาหน้าเข้า BRICS ท่าทีอีปินส์ เริ่มเปลี่ยน รู้ชะตากรรม เผ่าพันธุ์กูได้เป็นทาสรองตรีนเหี้ยยิวไปจนชั่วลูกชั่วหลานแน่ หากยังไม่ติดปลดแอกก่อน อีปินส์คือชาติขายแรงงานส่งออกทั่วโลก ไม่มีพื้นฐานเศรษฐกิจหลักของตัวเอง เหตุผลคือแข่งกับใครไม่ได้ เพราะฝ่ายการเมืองทำหน้าที่รับใช้ตะวันตกมากกว่าปากท้องประชาชน ต่างคนต่างอยู่ ปชช.พึ่งพารัฐไม่ได้จริง ดิ้นรนกันเอง มันน่าสงสารกว่าใครเยอะ? เพราะโง่กว่า ไม่เรียนรู้ จึงได้แต่เป็นผู้ตาม อีกไม่นานอาจตามหลังอีขะแมร์ เพราะยืนผิดฝั่ง สิ่งแรกที่อีปินส์ต้องทำคือ "เปลี่ยนเอาดูเตอร์เต้กลับมาก่อน" ไปกราบตรีนสีจิ้นผิงถึงปักกิ่ง เรื่องถึงจะจบ ไม่งั้น บอกตรง จีนกลืนมรึงแน่? ดีกว่าปล่อยให้มาเป็นหอกข้างแคร่ในอาเซียน ตีงูต้องเอาให้หลังหักตายคาที่ จับไปดองเหล้าแดร๊ก อย่าปล่อยให้กลับมาแว้งกัดได้อีก? เป็นอันแน่ชัด ไทย อิเหนา เหงียน ลาว ขะแมร์ มาเลย์ พม่า บรูไน(หลังเหตุการณ์ยิวไล่ฆ่าชาวปาเลสไตน์ ท่าทีเปลี่ยน ชาติมุสลิมลงขันลงแขกยิว) เลือกขั้วใหม่ แล้วยังจะเหลืออาเซียนกี่ชาติกันล่ะ? ติมอร์ไม่ต้องถาม ตามลูกเดียว ชัดพอมั้ย? อาเซียนของใคร? ศึกเอเซียใต้เกิดยาก เพราะจีนเค้าคุมเกมส์ไว้หมดเกลี้ยงแล้ว แม้แต่ชาติในหมู่เกาะแปซิฟิค ลงทุนกับจีนหมดเกลี้ยง ที่มาเรือรบจีนเข้าออก สบายตรีน อีตงเฟิงขยายพื้นที่ไกลไปถึงเกาะออสเตรเลียแล้ว อีจิงโจ้ถึงได้หมาอยู่ทุกวันนี้ เพราะสั่งใครไม่ได้อีกแล้ว!

    ปล.ขอไว้อาลัยให้เหี้ยเสนียดจัญไร 18 มงกุฎแป๊บ! หลังลุงสนิธิ ประกาศลั่น "เดินสุดซอย เอาถึงปากขุมนรก" ตายห่าไปเลยมรึง ถูกกาหัวหมา ไม่มีรอด! กราบตรีนสำนึกผิดก็สายไปเสียแล้ว เดินหน้าตามกฎหมายอย่างเดียว โดนเพี๊ยบ มีผู้เสียหายอีกเยอะดาหน้าเข้าร่วมวง ไม่ได้ผุดได้เกิดกันล่ะมรึง? เยี่ยว 71 แก้ว กลายเป็นเรื่องกระจอกไปเลย? ช่วงนี้ ศาลงานหนัก! ทั้งเรื่องโกงชาติ โกงแผ่นดิน ขบวนการต้มตุ๋น พรรคจัญไร แยกดินแดน ก่อการร้าย มาครบ กลไกศาลท่านมีพร้อมสรรพ ทุกอย่างเตรียมการรอไว้นานแล้ว เรียงตามลำดับคิวน่ะจ๊ะ อย่าเร่ง เดี๋ยวปั๊ด! ยังไงก็ไม่พ้นคุก โดนกันถ้วนหน้า ยินดีกับไอ้อีไฮโซ ดารา ทั้งหลายที่หาแดร๊กบนความฉิบหายชาวบ้าน ได้ฉลองปีใหม่ในคุกตาราง ผิดถูก ว่ากันอีกยาว แต่มรึงได้แดร๊กข้าวแดงไปก่อนน่ะ ศรีธนญชัย 2024 เดินเกมส์รัดกุม รอใบเสร็จทุกบิล เชิญเหี้ยให้เต็มที่ ทุกกรรม ทุกวาระ ต่างเวลา คิดหมด ไม่มีเล็ดลอด วิธีเดียวที่จะล้างบางสิ่งสกปรกโสมมออกไปจากแผ่นดินนี้ได้จริง คือให้เหี้ยทุกไอ้อีโดนอาญาแผ่นดินซะ ไม่มีจำกัดเวลา เผ่นออกหมดทุกไอ้อี ไม่ต้องมีใครตาย ไม่เปลืองงบไล่ล่า ออกไปให้หมด แล้วไปตายห่านอกแผ่นดิน นี่คือทางรอดเดียวที่เปิดเอาไว้ให้ บัตรประชาชนเซ็นต์โดนใคร แผ่นดินของใคร ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ใครดูแล ทั้งหมดมีผู้ดูแลอยู่แล้ว มรึงไม่ต้องกังวล บ้านเมืองนี้ ไม่ใช่ใครอยากจะทำเหี้ยอะไรก็ได้ แค่เค้าปล่อยให้มรึงออกลายมาจนหมด ไม่ต้องอีแอบอีกต่อไป ใครเป็นใคร รู้ชัดในพศ.นี้ เป้าหมายมีรอไว้แล้ว เก็บไปทีละเรื่อง ด้านพรรคขายชาติ ไม่นานก็ตีกันเอง แย่งกันเอง กัดกันเอง สาวไส้ออกมาหมดเกลี้ยง อสรพิษรองับเหยื่อเสมอ การเมืองมันไปต่อไม่ได้แล้ว ผู้คนต้องการสิ่งใหม่ ปชต.ตอแหลหายศักดิ์สิทธิ์ไปเยอะ เพราะไอ้พวกคลั่งนอนคุกกันหมด คดีความที่หมดอายุ ไม่ใช่สาระ ประเด็นใหม่เปิดได้เสมอ พร้อมหลักฐานชัดใหม่ คนละเรื่อง บทลงโทษหนักกว่า ตากใบยังไม่จบ แค่รอคิวเชือดเท่านั้นเอง สคริปต์เค้ามี ไปตามลำดับคิวเหี้ย ไล่ไปทีละตัว ปีหน้า ยังต้องล้างบางกันอีกเยอะ แดร๊กไก่โสมบำรุงไว้ให้ดีดี ไม่มีใครรู้ ปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แบบฟ้าผ่า! รอดูหลังไทยเข้า BRICS จะมีอะไรเปลี่ยนตามกระแสโลกอีกเยอะ สงครามแตกหักต้องมี ล้มตายต้องมา ไทยเราวางตัวไว้ดีแล้ว จีน รัสเซีย ดูแลอยู่ ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น? เหี้ย C ในไทยเริ่มถูกล่า ส่งกลับไปก็เยอะ ตำหนวดไทยรู้ทุกอย่าง ฉลาดเป็นกรด แต่เลือกจะมองไม่เห็นเอง ล้างบางตำหนวดไทยคือ 1 ในแผนปฎิบัติการณ์เช่นกัน ไม่รอดดอก! ส่วนสื่อ สถาบันการศึกษา วงการแพทย์ กรมคุก จะถูกสังคายนาใหม่หมด ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเยอะ แค่เปลี่ยนหัว ชีวิตเปลี่ยนทันที หัวแรง หางจะกระดิกตามเอง ระบบข้าราชการจะถูก RE-SET ใหม่หมด AI จะเข้ามาช่วย ผลงานตามหน้าจอ เบี้ยพิเศษตามความขยัน แม้แต่ในกองทัพ จะไม่เหลือทหารแตงโมอีก ปลดระวางไปเรื่อยๆ ทีละคน เพราะ 3 เหล่าทัพ กลายเป็นหนึ่งเดียวหมดแล้ว ONE FOR ALL & ALL FOR 1 หลังเลือกตั้งปาหี่อเมริกา ความวุ่นวายจะตามมาหลังปีใหม่ คดีความอีทรัมปป์ อีเอ๋อ จะถูกพลิกกลับ อยู่ที่ใครได้เป็นเจ้ามือ ศาลอเมริกาไม่มีอยู่จริง มีแค่ใบสั่งการเมือง ใครขึ้นก็สั่งได้ สุดท้ายทุกรัฐในอเมริกา จะไม่ยอมรับคำสั่งศาลรัฐบาลกลางอีกต่อไป ตั้งตนเป็นเอกราช มาตามสคริปต์อียิวเหี้ยไซออนนิสต์เป๊ะเด๊ะ อเมริกันควายจะตายห่านับล้าน ไล่ฆ่ากันเอง แผ่นดินเดือดดาล ลุกเป็นไฟ เหมือนตอนอินเดียนแดงบุกนั่นแหละ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต! ตลาดหุ้นที่วินาศ แหล่งฟอกเงินจะฉิบหายหนัก โจรเต็มเมือง ยาเกลื่อนหัวมุมถนน เอาให้สุดซอยกันไปเลย นีโอนาซีใหม่ แห่กันมาอยู่เพี๊ยบ เหี้ยมันเก่งแต่ไล่ฆ่ากันเอง อีลอนดอน สภาพก็ไม่แตกต่าง อีวิสกี้ อีไอร์เหนือ แยกชัวร์ จับตาดู ใครแบ็คอัพ? EU ก็ต้องแตก เพราะฝั่งตะวันออกกลับบ้านเก่ากันหมด ตะวันตกเจ๊งยับ เผ่นหนีออกนอกหมด แห่กันเข้ามาอาเซียน แล้วจะไม่ให้อาเซียนโตได้อย่างไร?

    หมี CNN(หลังคืนฮาโลวีนแตก เป็นไงล่ะ อีผีสาวฉาหลบเป็นแถบ หมดแรง)
    01 พฤศจิกายน 67
    11.59 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    01-11-67/01 : หมี CNN / "หมีตะมุตะมิ มุ้งมิ้ง จรรโลงโลก" ตอนที่ 43 ชื่อตอน "FIGHT TILL THE LAST BLOOD" นี่มันศึกบางระจันชัดๆ ฮามาส เฮซบอเลาะห์ ฮูตี ต่างทำหน้าที่ยามเฝ้าแผ่นดินสุดตัว ขนกันมาเพี๊ยบ ดาหน้าถล่มอียิวทุกสัดส่วนภูมิภาค ตั้งแต่ที่ราบสูงโกลาน เทลอาวีฟ ไฮฟา เยรูซาเล็ม เตรียมเปิดทางให้ทัพใหญ่ ซีเรีย อิรัก ยกพลขึ้นบก ประสานเพ่น้องปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงค์ หลังตอนเหนือแตกยับ เอาไม่อยู่แล้ว ถอยร่นลงมาเรื่อยๆ ดูทรงแล้ว เป็นไปตามคาด ไล่บีบพื้นที่ให้เหี้ยยิวเข้ามากระจุกกันในตอนกลางของแผ่นดิน แล้วค่อยทำการ "แซนวิส" ลงแขกอย่างเมามันส์ ตราบใดที่เหี้ยยิวยังไม่สามารถขยายพื้นที่รบเพิ่มขึ้นได้ นั่นคือถอยอย่างเดียว ตอนนี้ "กำลังพล" แทบไม่มีเหลือ ทหารนาโต้ ทหารรับจ้าง ตายห่าเกลื่อน อย่าถามไอ้อีคนไทยขายชาติที่ไปรับจ้างช่วยอียิวรบ มันตายห่าไปนานแล้ว สาแก่ใจกองแช่ง แผ่นดินเกิดมรึงเองเสือกไม่ปกป้อง แต่ เสือกเสนอหน้าจะไปปกป้องเหี้ยที่คิดล้างบางประเทศไทยแทน มีเหรอมันจะไม่รู้ ว่าอียิวนี่แหละ ที่คิดกลืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่ พศ.2475 แล้ว แผนล้มวัง ล้มเจ้า แยกดินแดน ก่อการร้าย มาจากมันทั้งนั้น ผ่านขี้ข้าอย่างเหี้ย CIA ผ่านกองทุนเงินตอแหลก่อการร้ายโลก NED เลือกตั้งอเมริกา ก็ไม่ได้เปลี่ยนเหี้ยอาไยดอกน่ะ เจ้ามือยังตัวเดิม อีทรัมปป์แค่สีสัน แต่หากแตกแผ่นดินสำเร็จ อีทรัมปป์เนี่ยแหละ จะตั้งตัวเองเป็น KING แห่งรัฐใหม่ยิว อเมริกันควาย เป็นได้แค่ขี้ข้ายิว อินเดียนแดงจะทวงแผ่นดินคืน ลุกเป็นไฟแน่ ยามบ้านเมืองแตกสลาย ไอ้อีตัวไหนก็กลายร่างเป็นหมาได้หมด! มรึงคิดจริงๆ เหรอว่า กะอีแค่ "เลือกตั้ง" มันจะสามารถกู้แผ่นดินสาปแช่งนี้ได้ ตอแหลทั้งนั้น ใครจะไปใครจะมา ก็อยู่ใต้ตรีนยิวทั้งสิ้น อีทรัมปป์อ่านขาด แยกไปเลย ของใคร ของมัน จะแตกได้ต้องทำยังไง? CIVIL WAR ต้องมาก่อนเท่านั้น ไม่แปลก แต่ละรัฐเตรียมอาวุธ ขุมกำลังไว้พร้อม ที่ไม่เพิ่ม ไม่ส่งอาวุธให้ยูเครน อียิว เท่าที่ควรจะเป็น เหตุก็มาจากนี่แหละ สะสมอาวุธเตรียมแยกแผ่นดินไงล่ะ? อีลา อีช้าง มันจ้องตาเป็นมันอยู่แล้ว ใครมันจะไปอุ้มรัฐยากจนไหว อียิวมันเลือกเฉพาะรัฐทำเงินเท่านั้น แล้วไอ้ที่เหลือ ก็ปล่อยให้มันเข่นฆ่ากันเองต่อไป จะยังไงก็ตามที อลาสก้าต้องกลับบ้าน ฮาวายต้องเปลี่ยนมือ เท็กซัสถูกแยกชิ้นส่วน นี่คือชะตากรรมที่ถูกกำหนดไว้แล้ว ศึกตะวันออกกลางมาถึงมหากาพย์ตอนสุดท้ายแล้ว "อิหร่านพร้อมเช็คบิล" เพื่อเปิดทางให้โลกอาหรับเข้ายึดพื้นที่ตามมติสหประชาชาติ อีเหี้ยมะกันถอย เพราะรู้ดีว่า หลังบ้านตัวเองไม่พร้อม สอดคล้องอีทรัมปป์มาแน่ ภายในแตกยับ ตีกันเละเทะ ยังจะมีเวลาไปห่วงไอ้ยิวขาลงอีกเหรอ? เพราะอียิวมันสมยอมเตรียมย้ายบ้านนานแล้ว ที่ผ่านมาแค่จัดฉากละครหลอกควาย? เป้าหมายคือทำลายทิ้งทุกอย่าง ไม่ให้มีเหลือ? สงครามครูเสดไม่มีภาคต่อแล้ว จบในมืออาหรับ เปอร์เซีย ผู้ชนะตัวจริง! จากนี้ ชาวตะวันออกกลางจะบุกยุโรป ขยายชาติเผ่าพันธุ์จนกลืนดินแดนโรแมนติคโลกไปในที่สุด ยุโรปกลายเป็นอดีต ชะตากรรมของชนชาติที่ล่าอาณานิคม มีอันเป็นไปหมด ตามกรรมที่มรึงก่อมาตลอดหลายศตวรรษ ผีซ้ำด้ามพลอย อีไต้หวันเจอพายุใหญ่ถล่ม สเปนน้ำท่วมเมือง ภัยพิบัติธรรมชาติมาเต็ม เดี๋ยวแม่งหาเรื่องว่าเป็นฝีมือจีน รัสเซีย อีก HAARP มีแต่มรึงนั่นแหละที่ใช้ ดีออก? เพราะจีน รัสเซีย เค้าใช้เทคโนโลยีอีกตัว เนียนกว่าเยอะ "คลื่นสนามแม่เหล็ก" น้องๆ CERN ชั้นความลับอยู่ที่สถานีอวกาศนอกโลก มรึงบินตามไปสืบสิ ดีออก? ดาวเทียมนี่แหละ ทำอะไรได้มากกว่าที่มรึงคิด ซ่อนอาวุธไว้เพี๊ยบ? S-500 ในมือรัสเซีย มีไว้เพื่อ ทำลายดาวเทียมทุกดวงของเหี้ยนั่นเอง ยิงครั้งเดียว 10 เป้าหมายหายวับ ไร้ดาวเทียม เหี้ยก็ตาบอด ไฟไม่มา รถไม่วิ่ง คอมไม่เดิน เน็ตไม่มี นี่มันโลกาวินาศชัดๆ 10 ชาติหมายุโรป เตรียมสั่งขึ้นภาษีรถ EV จีน จีนสวนกลับหนัก ชักเงินออก ถอนลงทุน 10 ชาติหมาทันที แล้วมรึงมาดูกันว่า ทิชชู่ขาด มันเป็นยังไง? จีนถอนลงทุน อเมริกา ยุโรป มรึงคือจบทันที G7 แทบไม่เหลือเหี้ยอะไรต่อรองอีกแล้ว ไม่มีอำนาจ ไม่มีกำลังในมือ หลังชาติอาเซียนดาหน้าเข้า BRICS ท่าทีอีปินส์ เริ่มเปลี่ยน รู้ชะตากรรม เผ่าพันธุ์กูได้เป็นทาสรองตรีนเหี้ยยิวไปจนชั่วลูกชั่วหลานแน่ หากยังไม่ติดปลดแอกก่อน อีปินส์คือชาติขายแรงงานส่งออกทั่วโลก ไม่มีพื้นฐานเศรษฐกิจหลักของตัวเอง เหตุผลคือแข่งกับใครไม่ได้ เพราะฝ่ายการเมืองทำหน้าที่รับใช้ตะวันตกมากกว่าปากท้องประชาชน ต่างคนต่างอยู่ ปชช.พึ่งพารัฐไม่ได้จริง ดิ้นรนกันเอง มันน่าสงสารกว่าใครเยอะ? เพราะโง่กว่า ไม่เรียนรู้ จึงได้แต่เป็นผู้ตาม อีกไม่นานอาจตามหลังอีขะแมร์ เพราะยืนผิดฝั่ง สิ่งแรกที่อีปินส์ต้องทำคือ "เปลี่ยนเอาดูเตอร์เต้กลับมาก่อน" ไปกราบตรีนสีจิ้นผิงถึงปักกิ่ง เรื่องถึงจะจบ ไม่งั้น บอกตรง จีนกลืนมรึงแน่? ดีกว่าปล่อยให้มาเป็นหอกข้างแคร่ในอาเซียน ตีงูต้องเอาให้หลังหักตายคาที่ จับไปดองเหล้าแดร๊ก อย่าปล่อยให้กลับมาแว้งกัดได้อีก? เป็นอันแน่ชัด ไทย อิเหนา เหงียน ลาว ขะแมร์ มาเลย์ พม่า บรูไน(หลังเหตุการณ์ยิวไล่ฆ่าชาวปาเลสไตน์ ท่าทีเปลี่ยน ชาติมุสลิมลงขันลงแขกยิว) เลือกขั้วใหม่ แล้วยังจะเหลืออาเซียนกี่ชาติกันล่ะ? ติมอร์ไม่ต้องถาม ตามลูกเดียว ชัดพอมั้ย? อาเซียนของใคร? ศึกเอเซียใต้เกิดยาก เพราะจีนเค้าคุมเกมส์ไว้หมดเกลี้ยงแล้ว แม้แต่ชาติในหมู่เกาะแปซิฟิค ลงทุนกับจีนหมดเกลี้ยง ที่มาเรือรบจีนเข้าออก สบายตรีน อีตงเฟิงขยายพื้นที่ไกลไปถึงเกาะออสเตรเลียแล้ว อีจิงโจ้ถึงได้หมาอยู่ทุกวันนี้ เพราะสั่งใครไม่ได้อีกแล้ว! ปล.ขอไว้อาลัยให้เหี้ยเสนียดจัญไร 18 มงกุฎแป๊บ! หลังลุงสนิธิ ประกาศลั่น "เดินสุดซอย เอาถึงปากขุมนรก" ตายห่าไปเลยมรึง ถูกกาหัวหมา ไม่มีรอด! กราบตรีนสำนึกผิดก็สายไปเสียแล้ว เดินหน้าตามกฎหมายอย่างเดียว โดนเพี๊ยบ มีผู้เสียหายอีกเยอะดาหน้าเข้าร่วมวง ไม่ได้ผุดได้เกิดกันล่ะมรึง? เยี่ยว 71 แก้ว กลายเป็นเรื่องกระจอกไปเลย? ช่วงนี้ ศาลงานหนัก! ทั้งเรื่องโกงชาติ โกงแผ่นดิน ขบวนการต้มตุ๋น พรรคจัญไร แยกดินแดน ก่อการร้าย มาครบ กลไกศาลท่านมีพร้อมสรรพ ทุกอย่างเตรียมการรอไว้นานแล้ว เรียงตามลำดับคิวน่ะจ๊ะ อย่าเร่ง เดี๋ยวปั๊ด! ยังไงก็ไม่พ้นคุก โดนกันถ้วนหน้า ยินดีกับไอ้อีไฮโซ ดารา ทั้งหลายที่หาแดร๊กบนความฉิบหายชาวบ้าน ได้ฉลองปีใหม่ในคุกตาราง ผิดถูก ว่ากันอีกยาว แต่มรึงได้แดร๊กข้าวแดงไปก่อนน่ะ ศรีธนญชัย 2024 เดินเกมส์รัดกุม รอใบเสร็จทุกบิล เชิญเหี้ยให้เต็มที่ ทุกกรรม ทุกวาระ ต่างเวลา คิดหมด ไม่มีเล็ดลอด วิธีเดียวที่จะล้างบางสิ่งสกปรกโสมมออกไปจากแผ่นดินนี้ได้จริง คือให้เหี้ยทุกไอ้อีโดนอาญาแผ่นดินซะ ไม่มีจำกัดเวลา เผ่นออกหมดทุกไอ้อี ไม่ต้องมีใครตาย ไม่เปลืองงบไล่ล่า ออกไปให้หมด แล้วไปตายห่านอกแผ่นดิน นี่คือทางรอดเดียวที่เปิดเอาไว้ให้ บัตรประชาชนเซ็นต์โดนใคร แผ่นดินของใคร ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ใครดูแล ทั้งหมดมีผู้ดูแลอยู่แล้ว มรึงไม่ต้องกังวล บ้านเมืองนี้ ไม่ใช่ใครอยากจะทำเหี้ยอะไรก็ได้ แค่เค้าปล่อยให้มรึงออกลายมาจนหมด ไม่ต้องอีแอบอีกต่อไป ใครเป็นใคร รู้ชัดในพศ.นี้ เป้าหมายมีรอไว้แล้ว เก็บไปทีละเรื่อง ด้านพรรคขายชาติ ไม่นานก็ตีกันเอง แย่งกันเอง กัดกันเอง สาวไส้ออกมาหมดเกลี้ยง อสรพิษรองับเหยื่อเสมอ การเมืองมันไปต่อไม่ได้แล้ว ผู้คนต้องการสิ่งใหม่ ปชต.ตอแหลหายศักดิ์สิทธิ์ไปเยอะ เพราะไอ้พวกคลั่งนอนคุกกันหมด คดีความที่หมดอายุ ไม่ใช่สาระ ประเด็นใหม่เปิดได้เสมอ พร้อมหลักฐานชัดใหม่ คนละเรื่อง บทลงโทษหนักกว่า ตากใบยังไม่จบ แค่รอคิวเชือดเท่านั้นเอง สคริปต์เค้ามี ไปตามลำดับคิวเหี้ย ไล่ไปทีละตัว ปีหน้า ยังต้องล้างบางกันอีกเยอะ แดร๊กไก่โสมบำรุงไว้ให้ดีดี ไม่มีใครรู้ ปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้น แบบฟ้าผ่า! รอดูหลังไทยเข้า BRICS จะมีอะไรเปลี่ยนตามกระแสโลกอีกเยอะ สงครามแตกหักต้องมี ล้มตายต้องมา ไทยเราวางตัวไว้ดีแล้ว จีน รัสเซีย ดูแลอยู่ ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น? เหี้ย C ในไทยเริ่มถูกล่า ส่งกลับไปก็เยอะ ตำหนวดไทยรู้ทุกอย่าง ฉลาดเป็นกรด แต่เลือกจะมองไม่เห็นเอง ล้างบางตำหนวดไทยคือ 1 ในแผนปฎิบัติการณ์เช่นกัน ไม่รอดดอก! ส่วนสื่อ สถาบันการศึกษา วงการแพทย์ กรมคุก จะถูกสังคายนาใหม่หมด ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเยอะ แค่เปลี่ยนหัว ชีวิตเปลี่ยนทันที หัวแรง หางจะกระดิกตามเอง ระบบข้าราชการจะถูก RE-SET ใหม่หมด AI จะเข้ามาช่วย ผลงานตามหน้าจอ เบี้ยพิเศษตามความขยัน แม้แต่ในกองทัพ จะไม่เหลือทหารแตงโมอีก ปลดระวางไปเรื่อยๆ ทีละคน เพราะ 3 เหล่าทัพ กลายเป็นหนึ่งเดียวหมดแล้ว ONE FOR ALL & ALL FOR 1 หลังเลือกตั้งปาหี่อเมริกา ความวุ่นวายจะตามมาหลังปีใหม่ คดีความอีทรัมปป์ อีเอ๋อ จะถูกพลิกกลับ อยู่ที่ใครได้เป็นเจ้ามือ ศาลอเมริกาไม่มีอยู่จริง มีแค่ใบสั่งการเมือง ใครขึ้นก็สั่งได้ สุดท้ายทุกรัฐในอเมริกา จะไม่ยอมรับคำสั่งศาลรัฐบาลกลางอีกต่อไป ตั้งตนเป็นเอกราช มาตามสคริปต์อียิวเหี้ยไซออนนิสต์เป๊ะเด๊ะ อเมริกันควายจะตายห่านับล้าน ไล่ฆ่ากันเอง แผ่นดินเดือดดาล ลุกเป็นไฟ เหมือนตอนอินเดียนแดงบุกนั่นแหละ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต! ตลาดหุ้นที่วินาศ แหล่งฟอกเงินจะฉิบหายหนัก โจรเต็มเมือง ยาเกลื่อนหัวมุมถนน เอาให้สุดซอยกันไปเลย นีโอนาซีใหม่ แห่กันมาอยู่เพี๊ยบ เหี้ยมันเก่งแต่ไล่ฆ่ากันเอง อีลอนดอน สภาพก็ไม่แตกต่าง อีวิสกี้ อีไอร์เหนือ แยกชัวร์ จับตาดู ใครแบ็คอัพ? EU ก็ต้องแตก เพราะฝั่งตะวันออกกลับบ้านเก่ากันหมด ตะวันตกเจ๊งยับ เผ่นหนีออกนอกหมด แห่กันเข้ามาอาเซียน แล้วจะไม่ให้อาเซียนโตได้อย่างไร? หมี CNN(หลังคืนฮาโลวีนแตก เป็นไงล่ะ อีผีสาวฉาหลบเป็นแถบ หมดแรง) 01 พฤศจิกายน 67 11.59 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • #2 กองทัพจีนและอินเดียเริ่มต้นการถอนกำลังออกจากแนวชายแดน หลังจากทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงในระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS เกี่ยวกับการลาดตระเวนตามแนวควบคุมจริง หรือ LAC (Line of Actual Control) ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2020

    ภาพวิดีโอ - กองทัพจีนกำลังถอนทหารออกจากแนวชายแดนเช่นกัน
    #2 กองทัพจีนและอินเดียเริ่มต้นการถอนกำลังออกจากแนวชายแดน หลังจากทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงในระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS เกี่ยวกับการลาดตระเวนตามแนวควบคุมจริง หรือ LAC (Line of Actual Control) ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2020 ภาพวิดีโอ - กองทัพจีนกำลังถอนทหารออกจากแนวชายแดนเช่นกัน
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 83 Views 40 0 Reviews
  • #1 กองทัพจีนและอินเดียเริ่มต้นการถอนกำลังออกจากแนวชายแดน หลังจากทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงในระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS เกี่ยวกับการลาดตระเวนตามแนวควบคุมจริง หรือ LAC (Line of Actual Control) ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2020
    ภาพวิดีโอ - กองทัพอินเดียกำลังถอนทหารออกจากพื้นที่แนวชายแดนเขตติดต่อกับจีน
    #1 กองทัพจีนและอินเดียเริ่มต้นการถอนกำลังออกจากแนวชายแดน หลังจากทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลงในระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS เกี่ยวกับการลาดตระเวนตามแนวควบคุมจริง หรือ LAC (Line of Actual Control) ในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2020 ภาพวิดีโอ - กองทัพอินเดียกำลังถอนทหารออกจากพื้นที่แนวชายแดนเขตติดต่อกับจีน
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 80 Views 38 0 Reviews
  • Benjamin Fulfort:

    แทบไม่มีสิ่งใดเลยที่ Jacob BAUER Rothschild ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือสายเลือดของเขาไม่เกี่ยวข้องด้วย

    การก่อตั้งอิสราเอล

    การบังคับใช้ธนาคารกลาง

    ธงฟาเซล 9/11

    สงครามกับปาเลสไตน์

    กลุ่มล่ามนุษย์

    จักรวรรดิอังกฤษ - รวมถึงต่อไปนี้

    สหราชอาณาจักร

    แคนาดา

    ออสเตรเลีย

    นิวซีแลนด์

    อินเดีย

    ประเทศในแอฟริกา 19 ประเทศ

    แคริบเบียน

    (รวมถึงการที่ไทยต้องเสียดินแดน...)

    โดยคณะลูกขุนใหญ่

    คำพูด: สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในลอนดอนซิตี้ พื้นที่หนึ่งตารางไมล์ที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก ลอนดอนไม่ได้ถูกปกครองโดยรัฐบาลอังกฤษ แต่ในทางกลับกันกลับมีอำนาจเหนือลอนดอน

    ลอนดอนมีศาลและกองกำลังตำรวจเป็นของตัวเอง และไม่เคยถูกท้าทายอำนาจอธิปไตยและการปกครองตนเอง ลอนดอนปกครองทั้งราชวงศ์และโลกเกือบทั้งหมด ชนชั้นสูงของอังกฤษเชื่อว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะกดขี่มนุษย์ที่เหลือซึ่งพวกเขามองว่าเป็น "ปศุสัตว์" ของพวกเขา

    ในมุมมองของพวกเขา พวกเขาเป็นเจ้าของประชากร ทั้งร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ ประชาธิปไตยเป็นเพียงภาพลวงตาที่ปล่อยให้ประชาชนอยู่ตามลำพังในขณะที่ลอนดอนเป็นผู้สั่งการและดึงเชือก ชนชั้นสูงกลุ่มนี้พยายามหลายครั้งเพื่อสร้าง "ระเบียบโลกใหม่" แต่ทั้งหมดล้มเหลว พวกเขาเกือบจะประสบความสำเร็จในการปกครองสหรัฐอเมริกา แต่ก็ล้มเหลวที่นั่นเช่นกัน

    เท็กซัสกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะกำจัดกลุ่มธนาคารกลางสหรัฐออกจากรัฐทั้งหมด ร่วมกับอีกกว่า 40 ประเทศที่กำลังแนะนำระบบการเงินใหม่ หนี้ส่วนบุคคลของเราทั้งหมดอยู่ในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ

    ทันทีที่เราเปลี่ยนไปสู่หน่วยการเงินอื่น เราก็จะไม่ถูกผูกมัดกับระบบหนี้ของภาคธนาคารอีกต่อไป ซึ่งจะล่มสลายลงพร้อมกับตลาดอนุพันธ์ที่เชื่อมโยงกับธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้เข้ามาควบคุมเมื่อหลายปีก่อน

    สิ่งที่เรากำลังเห็นคือการสิ้นสุดของระบอบการปกครองที่แสวงหาการครอบครองโลก บุคคลสำคัญที่มีความรับผิดชอบทั้งหมดกำลังถูกปลดออกทีละน้อย และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของพวกเขาก็สูญเสียการควบคุมรัฐบาลที่พวกเขาไม่ได้ควบคุมอีกต่อไปเช่นกัน

    ต้องขอบคุณเรื่องของ EPA

    ต้องขอบคุณกฎ Basel 3

    ต้องขอบคุณประเทศมากกว่า 40 ประเทศที่กลับมาใช้มาตรฐานทองคำ

    ทำไมคุณคิดว่า Blackrock จึงถอนตัวจากวาระเกี่ยวกับสภาพอากาศ คุณไม่สามารถพึ่งพาหน่วยงาน 3 ตัวอักษรในการขู่กรรโชก จ่ายสินบน รีดไถ หรือขู่กรรโชกนักการเมืองของสหรัฐฯ ให้ร่างกฎหมายที่บังคับให้รัฐบาลของเราปฏิบัติตามวาระที่บ่อนทำลายประเทศนี้ต่อไปได้อีกต่อไป

    คุณไม่รู้สึกแปลกใจหรือที่สหประชาชาติถูกปิดชั่วคราวเพราะจ่ายค่าไฟฟ้าไม่ได้? คุณรู้ไหมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกแค่ไหนสำหรับคนที่อยากครอบครองโลกและไม่สามารถจ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือนได้อีกต่อไป ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นของธนาคารที่พิมพ์เงินออกมาจากอากาศบางๆ

    นั่นคงบอกคุณได้ว่าพระเจ้ามีอารมณ์ขันเช่นกัน ตอนนี้คุณเห็นผู้เล่นหลักคนหนึ่ง ลอร์ดจาคอบ ร็อธส์ไชลด์ ถูกย้ายออกจากโลกใบนี้ ฉันรู้ว่าเรื่องนี้คงทำให้เบนจามิน เนทันยาฮูรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในตอนนี้

    พวกคุณทุกคนต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้ลึกซึ้งแค่ไหน ตั้งแต่ปี 1871 เป็นอย่างน้อย สายเลือดทั้งหมดนี้มีความรับผิดชอบว่าทำไมเราถึงล้าหลังในเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงชีวิตซึ่งเราทุกคนคาดหวังว่าจะได้รับการเผยแพร่ในที่สุดในไม่ช้าและเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล

    เพื่อให้สั้นลง ทุกสิ่งที่เราทำในการสืบสวนการทุจริตที่เกิดจากการผูกขาดของราชวงศ์อังกฤษและเงินของเมืองลอนดอนดูเหมือนจะย้อนกลับไปถึงช่วงเวลานี้ประมาณปี 1870 เมื่อมีการปฏิวัติหลายครั้งโดยชนชั้นนำของอังกฤษ

    🔥 ในนามของไซออน 🔥
    Benjamin Fulfort: แทบไม่มีสิ่งใดเลยที่ Jacob BAUER Rothschild ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือสายเลือดของเขาไม่เกี่ยวข้องด้วย การก่อตั้งอิสราเอล การบังคับใช้ธนาคารกลาง ธงฟาเซล 9/11 สงครามกับปาเลสไตน์ กลุ่มล่ามนุษย์ จักรวรรดิอังกฤษ - รวมถึงต่อไปนี้ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ประเทศในแอฟริกา 19 ประเทศ แคริบเบียน (รวมถึงการที่ไทยต้องเสียดินแดน...) โดยคณะลูกขุนใหญ่ คำพูด: สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในลอนดอนซิตี้ พื้นที่หนึ่งตารางไมล์ที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก ลอนดอนไม่ได้ถูกปกครองโดยรัฐบาลอังกฤษ แต่ในทางกลับกันกลับมีอำนาจเหนือลอนดอน ลอนดอนมีศาลและกองกำลังตำรวจเป็นของตัวเอง และไม่เคยถูกท้าทายอำนาจอธิปไตยและการปกครองตนเอง ลอนดอนปกครองทั้งราชวงศ์และโลกเกือบทั้งหมด ชนชั้นสูงของอังกฤษเชื่อว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะกดขี่มนุษย์ที่เหลือซึ่งพวกเขามองว่าเป็น "ปศุสัตว์" ของพวกเขา ในมุมมองของพวกเขา พวกเขาเป็นเจ้าของประชากร ทั้งร่างกาย จิตใจ และวิญญาณ ประชาธิปไตยเป็นเพียงภาพลวงตาที่ปล่อยให้ประชาชนอยู่ตามลำพังในขณะที่ลอนดอนเป็นผู้สั่งการและดึงเชือก ชนชั้นสูงกลุ่มนี้พยายามหลายครั้งเพื่อสร้าง "ระเบียบโลกใหม่" แต่ทั้งหมดล้มเหลว พวกเขาเกือบจะประสบความสำเร็จในการปกครองสหรัฐอเมริกา แต่ก็ล้มเหลวที่นั่นเช่นกัน เท็กซัสกำลังอยู่ในเส้นทางที่จะกำจัดกลุ่มธนาคารกลางสหรัฐออกจากรัฐทั้งหมด ร่วมกับอีกกว่า 40 ประเทศที่กำลังแนะนำระบบการเงินใหม่ หนี้ส่วนบุคคลของเราทั้งหมดอยู่ในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐ ทันทีที่เราเปลี่ยนไปสู่หน่วยการเงินอื่น เราก็จะไม่ถูกผูกมัดกับระบบหนี้ของภาคธนาคารอีกต่อไป ซึ่งจะล่มสลายลงพร้อมกับตลาดอนุพันธ์ที่เชื่อมโยงกับธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ได้เข้ามาควบคุมเมื่อหลายปีก่อน สิ่งที่เรากำลังเห็นคือการสิ้นสุดของระบอบการปกครองที่แสวงหาการครอบครองโลก บุคคลสำคัญที่มีความรับผิดชอบทั้งหมดกำลังถูกปลดออกทีละน้อย และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของพวกเขาก็สูญเสียการควบคุมรัฐบาลที่พวกเขาไม่ได้ควบคุมอีกต่อไปเช่นกัน ต้องขอบคุณเรื่องของ EPA ต้องขอบคุณกฎ Basel 3 ต้องขอบคุณประเทศมากกว่า 40 ประเทศที่กลับมาใช้มาตรฐานทองคำ ทำไมคุณคิดว่า Blackrock จึงถอนตัวจากวาระเกี่ยวกับสภาพอากาศ คุณไม่สามารถพึ่งพาหน่วยงาน 3 ตัวอักษรในการขู่กรรโชก จ่ายสินบน รีดไถ หรือขู่กรรโชกนักการเมืองของสหรัฐฯ ให้ร่างกฎหมายที่บังคับให้รัฐบาลของเราปฏิบัติตามวาระที่บ่อนทำลายประเทศนี้ต่อไปได้อีกต่อไป คุณไม่รู้สึกแปลกใจหรือที่สหประชาชาติถูกปิดชั่วคราวเพราะจ่ายค่าไฟฟ้าไม่ได้? คุณรู้ไหมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องแปลกแค่ไหนสำหรับคนที่อยากครอบครองโลกและไม่สามารถจ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือนได้อีกต่อไป ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นของธนาคารที่พิมพ์เงินออกมาจากอากาศบางๆ นั่นคงบอกคุณได้ว่าพระเจ้ามีอารมณ์ขันเช่นกัน ตอนนี้คุณเห็นผู้เล่นหลักคนหนึ่ง ลอร์ดจาคอบ ร็อธส์ไชลด์ ถูกย้ายออกจากโลกใบนี้ ฉันรู้ว่าเรื่องนี้คงทำให้เบนจามิน เนทันยาฮูรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในตอนนี้ พวกคุณทุกคนต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้ลึกซึ้งแค่ไหน ตั้งแต่ปี 1871 เป็นอย่างน้อย สายเลือดทั้งหมดนี้มีความรับผิดชอบว่าทำไมเราถึงล้าหลังในเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงชีวิตซึ่งเราทุกคนคาดหวังว่าจะได้รับการเผยแพร่ในที่สุดในไม่ช้าและเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล เพื่อให้สั้นลง ทุกสิ่งที่เราทำในการสืบสวนการทุจริตที่เกิดจากการผูกขาดของราชวงศ์อังกฤษและเงินของเมืองลอนดอนดูเหมือนจะย้อนกลับไปถึงช่วงเวลานี้ประมาณปี 1870 เมื่อมีการปฏิวัติหลายครั้งโดยชนชั้นนำของอังกฤษ 🔥 ในนามของไซออน 🔥
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • UPDATE: เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น
    .
    วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยพัฒนาและทดสอบระบบให้มีความพร้อมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
    .
    รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)
    .
    ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล
    .
    สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่
    .
    1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ
    .
    2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS) โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก Enrollment จากนั้นสแกน Barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบเช่นเดียวกัน
    .
    ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ถือว่าผู้โดยสารให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้นเมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
    .
    ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ จะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา AOT มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ
    .
    ได้แก่ 1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน) 2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ) 3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร และ 5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง
    .
    โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบมีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์
    .
    ดร.กีรติ กล่าวว่า ในส่วนของปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73%
    .
    โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47% ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37%
    .
    ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และญี่ปุ่น
    .
    ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง
    .
    สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02%
    .
    โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00%
    .
    #สนามบิน
    #TheStandardNews
    UPDATE: เริ่ม 1 ธ.ค. นี้ เดินทางผ่าน 6 สนามบินใช้ระบบ Biometric สแกนหน้าเช็กอิน คาดประชาชนได้รับความสะดวกและรวดเร็วขึ้น . วันนี้ (29 ตุลาคม) ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า AOT นำระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System: Biometric) ด้วยเทคโนโลยี Facial Recognition มาใช้ในการระบุตัวตนของผู้โดยสาร โดยพัฒนาและทดสอบระบบให้มีความพร้อมในการใช้งาน เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายและรวดเร็วยิ่งขึ้น . รวมทั้งจะช่วยลดระยะเวลาในการรอคิวของแต่ละจุดบริการภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.), ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.), ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.), ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.), ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) . ซึ่งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ผู้โดยสารภายในประเทศสามารถใช้งานได้ก่อน และในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 พร้อมใช้งานสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้โดยสารจำเป็นต้องยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล . สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการใช้งานระบบ Biometric สามารถลงทะเบียนใช้งานเมื่อมาเช็กอินที่สนามบิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่ . 1. เช็กอินที่เคาน์เตอร์เช็กอิน ผู้โดยสารแจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินให้ลงทะเบียนใบหน้าในระบบ Biometric ผ่านเครื่องตรวจบัตรโดยสาร (เครื่อง CUTE) โดยระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบ . 2. เช็กอินที่เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (เครื่อง CUSS) โดยหลังจากเช็กอินเสร็จแล้วให้ผู้โดยสารเลือกสายการบินที่เดินทาง ต่อด้วยเลือก Enrollment จากนั้นสแกน Barcode จากบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) เสียบหนังสือเดินทาง (Passport) หรือบัตรประชาชน และสแกนใบหน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถือเป็นการเสร็จสิ้นการลงทะเบียน ซึ่งระบบจะดำเนินการจัดเก็บข้อมูลใบหน้าและข้อมูลเอกสารการเดินทางของผู้โดยสารในรูปแบบของ Token ไว้ในระบบเช่นเดียวกัน . ซึ่งเมื่อดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ถือว่าผู้โดยสารให้ความยินยอมให้ใช้ข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ดังนั้นเมื่อผู้โดยสารจะโหลดกระเป๋าสัมภาระผ่านเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (เครื่อง CUBD) ตลอดจนผ่านจุดตรวจค้น รวมทั้งขั้นตอนขึ้นเครื่อง ไม่ต้องแสดง Passport และ Boarding Pass อีกต่อไป ทั้งนี้ เป็นการยินยอมให้ใช้ข้อมูล Biometric สำหรับการเดินทางเพียงครั้งเดียวเท่านั้น . ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า AOT มั่นใจว่าระบบ Biometric มีความพร้อมในการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ทั้งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศ จะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว ใช้เวลาน้อยในแต่ละจุดบริการ ทำให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอที่จะเดินเล่น เลือกซื้อสินค้าปลอดอากรและของฝาก รับประทานอาหาร หรือพักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากที่ผ่านมา AOT มีการติดตั้งระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หรือ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) ที่สนับสนุนการให้บริการทั้งหมด 5 ระบบ . ได้แก่ 1. เครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสารซึ่งใช้งานโดยเจ้าหน้าที่สายการบิน) 2. เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ) 3. เครื่อง CUBD เครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ 4. ระบบ PVS (Passenger Validation System) สำหรับตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร และ 5. ระบบ SBG (Self-Boarding Gate) หรือระบบประตูทางออกขึ้นเครื่อง . โดยทั้ง 5 ระบบดังกล่าวติดตั้งเพื่อรองรับระบบ Biometric ไว้เรียบร้อยแล้ว และเมื่อระบบทั้งหมด 6 ระบบมีการใช้งานและเชื่อมต่อกันอย่างครอบคลุม จะทำให้ข้อมูลต่างๆ ถูกเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายอย่างสมบูรณ์ . ดร.กีรติ กล่าวว่า ในส่วนของปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 - กันยายน 2567) มีผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน เพิ่มขึ้น 34.82% และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.01% ขณะที่มีเที่ยวบินรวม 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 416,190 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 29.63% และเที่ยวบินภายในประเทศ 316,500 เที่ยวบิน ลดลง 0.73% . โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีผู้โดยสาร 60 ล้านคน เพิ่มขึ้น 24.04% และมีเที่ยวบิน 346,680 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 17.88% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมือง มีผู้โดยสาร 29.15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.25% และมีเที่ยวบิน 197,250 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 11.47% ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ มีผู้โดยสาร 8.82 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.14% และมีเที่ยวบิน 57,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.68% สำหรับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย มีผู้โดยสาร 1.9 ล้านคน ลดลง 1.96% และมีเที่ยวบิน 12,260 เที่ยวบิน ลดลง 3.37% . ขณะที่ท่าอากาศยานภูเก็ต มีผู้โดยสาร 16.40 ล้านคน เพิ่มขึ้น 25.94% และมีเที่ยวบิน 98,710 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 19.97% และท่าอากาศยานหาดใหญ่ มีผู้โดยสาร 3.03 ล้านคน ลดลง 5.14% และมีเที่ยวบิน 19,730 เที่ยวบิน ลดลง 5.84% ทั้งนี้ มีผู้โดยสารแยกตามสัญชาติ 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, รัสเซีย และญี่ปุ่น . ดร.กีรติ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลการจัดสรรตารางบินฤดูหนาว 2024/2025 (W2024/2025) ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT มีเที่ยวบินได้รับการจัดสรรเวลารวม 370,239 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากฤดูหนาวในปีที่ผ่านมา (W2023/2024) 22.1% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ 222,780 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 33.1% เที่ยวบินภายในประเทศ 147,459 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.5% ทั้งนี้ มีแนวโน้มจำนวนผู้โดยสารรวมทั้งระหว่างประเทศและในประเทศเพิ่มขึ้น 23% และเส้นทางระหว่างประเทศที่มีผู้โดยสารเดินทางเข้าประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, อินเดีย, สิงคโปร์ และฮ่องกง . สำหรับปริมาณการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ในปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 - กันยายน 2568) AOT คาดว่าจะผู้โดยสารมาใช้บริการรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศประมาณ 78.61 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.17% และผู้โดยสารภายในประเทศประมาณ 51.36 คน เพิ่มขึ้น 10.18% ขณะที่คาดว่าจะมีเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32% แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศประมาณ 453,750 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 9.02% และเที่ยวบินภายในประเทศประมาณ 354,530 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 12.02% . โดยเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิคาดว่าจะมีผู้โดยสารประมาณ 64.44 ล้านคน เพิ่มขึ้น 7.40% และมีเที่ยวบินประมาณ 376,820 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 8.69% ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองมีผู้โดยสารประมาณ 33.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.91% และมีเที่ยวบินประมาณ 223,200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 13.00% . #สนามบิน #TheStandardNews
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • 🇮🇳🇨🇳 กองทัพอินเดียถอนทหารออกจากพื้นที่ชายแดนจีน หลังการประชุมสุดยอด BRICS ตกลงเรื่องการลาดตระเวนร่วมกัน
    .
    🇮🇳🇨🇳 Indian troops withdraw from China border areas after BRICS summit agreement on joint patrols
    .
    10:42 AM · Oct 29, 2024 · 183.9K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1851107212787159140
    🇮🇳🇨🇳 กองทัพอินเดียถอนทหารออกจากพื้นที่ชายแดนจีน หลังการประชุมสุดยอด BRICS ตกลงเรื่องการลาดตระเวนร่วมกัน . 🇮🇳🇨🇳 Indian troops withdraw from China border areas after BRICS summit agreement on joint patrols . 10:42 AM · Oct 29, 2024 · 183.9K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1851107212787159140
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 65 Views 24 0 Reviews
  • ทีมชาติยู 17 เฉือนชนะอินเดีย 29/10/67 #ทีมชาติยู 17 #ฟุตบอลชิงแชมป์ #อินเดีย #ทีมชาติไทย
    ทีมชาติยู 17 เฉือนชนะอินเดีย 29/10/67 #ทีมชาติยู 17 #ฟุตบอลชิงแชมป์ #อินเดีย #ทีมชาติไทย
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 1540 Views 447 0 Reviews
  • 🇮🇳🇪🇺 อินเดียกลายเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันเชื้อเพลิงกลั่นรายใหญ่ที่สุดของยุโรป, แซงหน้าซาอุดีอาระเบีย
    .
    🇮🇳🇪🇺 India has become Europe's largest supplier of refined fuels, surpassing Saudi Arabia.
    .
    10:08 PM · Oct 28, 2024 · 696.1K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1850917635963097335
    🇮🇳🇪🇺 อินเดียกลายเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันเชื้อเพลิงกลั่นรายใหญ่ที่สุดของยุโรป, แซงหน้าซาอุดีอาระเบีย . 🇮🇳🇪🇺 India has become Europe's largest supplier of refined fuels, surpassing Saudi Arabia. . 10:08 PM · Oct 28, 2024 · 696.1K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1850917635963097335
    Haha
    1
    1 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว การเดินทางของรัฐมนตรีเยอรมนีในการเยือนประเทศต่างๆ ถือเป็นเรื่องใหญ่ และจะได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ

    ปัจจุบันเป็นอย่างที่เห็น เมื่ออำนาจเสื่อมลง พรมแดงและเจ้าหน้าที่ที่มาคอยต้อนรับแทบจะไม่มีอีกต่อไป

    นี่คือภาพการมาถึงของ "อันนาเลนา แบร์บ็อค" รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนีในการเยือนอินเดียล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
    ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว การเดินทางของรัฐมนตรีเยอรมนีในการเยือนประเทศต่างๆ ถือเป็นเรื่องใหญ่ และจะได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ ปัจจุบันเป็นอย่างที่เห็น เมื่ออำนาจเสื่อมลง พรมแดงและเจ้าหน้าที่ที่มาคอยต้อนรับแทบจะไม่มีอีกต่อไป นี่คือภาพการมาถึงของ "อันนาเลนา แบร์บ็อค" รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนีในการเยือนอินเดียล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • เทียบกันไปเลย หน้าสดหน้าแต่ง มิสแกรนด์อินเดีย ผู้คว้ามิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 กับมิสมหาชัย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล2024
    เทียบกันไปเลย หน้าสดหน้าแต่ง มิสแกรนด์อินเดีย ผู้คว้ามิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2024 กับมิสมหาชัย #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล2024
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 398 Views 0 Reviews
  • กาเบรียลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย เรียกร้องให้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าเขา "สูญเสียความน่าเชื่อถือไปหมดแล้ว เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เป็นการบ่อนทำลายความเป็นกลางของผู้นำสหประชาชาติ" หลังจากเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS ในรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

    นอกจากนี้ "อินกริดา ซิโมไนเต" นายกรัฐมนตรีลิทัวเนีย ยังวิจารณ์การเดินทางของกูเตอร์เรส ที่เขาจับมือกับผู้นำของจีน รัสเซีย อินเดียและประเทศอื่นๆ ว่าเป็น "เรื่องน่าสมเพช" และ "ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรของเขา"
    กาเบรียลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย เรียกร้องให้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ลาออกจากตำแหน่ง โดยให้เหตุผลว่าเขา "สูญเสียความน่าเชื่อถือไปหมดแล้ว เนื่องจากการกระทำดังกล่าว เป็นการบ่อนทำลายความเป็นกลางของผู้นำสหประชาชาติ" หลังจากเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS ในรัสเซียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ "อินกริดา ซิโมไนเต" นายกรัฐมนตรีลิทัวเนีย ยังวิจารณ์การเดินทางของกูเตอร์เรส ที่เขาจับมือกับผู้นำของจีน รัสเซีย อินเดียและประเทศอื่นๆ ว่าเป็น "เรื่องน่าสมเพช" และ "ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรของเขา"
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • การประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ภายในงานมีการเปิดตัว "ธนบัตรจำลอง" BRICS ที่ออกแบบพิเศษ

    ด้านหน้าเป็นธงชาติ 5 ประเทศผู้ก่อตั้ง BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้) เรียงเป็นวงกลม ส่วนด้านหลังเป็นธงชาติของประเทศที่สนใจเข้าร่วม พร้อมระบุข้อความ "BRICS New Development Bank" สะท้อนความพยายามสร้างทางเลือกใหม่ เพื่อท้าทายดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางสถานะดอลลาร์ที่เสื่อมถอยจากภาระหนี้และการถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

    ประธานาธิบดีปูตินยืนยันชัดเจนว่า ในขณะนี้ ไม่มีแผนในการใช้สกุลเงินร่วมกันแบบยูโร โดยธนบัตรดังกล่าวมีไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของ “การทำงานร่วมกัน” ของประเทศ BRICS"

    "ลวดลายและรูปแบบของธนบัตร BRICS ที่ถูกใช้ในเชิงสัญลักษณ์นี้ เป็นตัวแทนของความเสมอภาคและพหุขั้ว" เอฟเกนี เฟโดรอฟ(Evgeny Fedorov) ซีอีโอของ ARM-Registr ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกแบบธนบัตร กล่าว

    เฟโดรอฟยังกล่าวเสริมอีกว่า ธนบัตรด้านหน้าจะมีรูปธงสมาชิก BRICS เริ่มต้นห้าประเทศ ส่วนด้านหลังจะมีรูปภาพของธงประเทศที่เข้าร่วมการประชุมซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละครั้ง

    ธนบัตร BRICS ในการประชุมมีสามรูปแบบคือ ใบละ 200 100 และ 50
    การประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ภายในงานมีการเปิดตัว "ธนบัตรจำลอง" BRICS ที่ออกแบบพิเศษ ด้านหน้าเป็นธงชาติ 5 ประเทศผู้ก่อตั้ง BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้) เรียงเป็นวงกลม ส่วนด้านหลังเป็นธงชาติของประเทศที่สนใจเข้าร่วม พร้อมระบุข้อความ "BRICS New Development Bank" สะท้อนความพยายามสร้างทางเลือกใหม่ เพื่อท้าทายดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางสถานะดอลลาร์ที่เสื่อมถอยจากภาระหนี้และการถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง ประธานาธิบดีปูตินยืนยันชัดเจนว่า ในขณะนี้ ไม่มีแผนในการใช้สกุลเงินร่วมกันแบบยูโร โดยธนบัตรดังกล่าวมีไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของ “การทำงานร่วมกัน” ของประเทศ BRICS" "ลวดลายและรูปแบบของธนบัตร BRICS ที่ถูกใช้ในเชิงสัญลักษณ์นี้ เป็นตัวแทนของความเสมอภาคและพหุขั้ว" เอฟเกนี เฟโดรอฟ(Evgeny Fedorov) ซีอีโอของ ARM-Registr ซึ่งเป็นบริษัทที่ออกแบบธนบัตร กล่าว เฟโดรอฟยังกล่าวเสริมอีกว่า ธนบัตรด้านหน้าจะมีรูปธงสมาชิก BRICS เริ่มต้นห้าประเทศ ส่วนด้านหลังจะมีรูปภาพของธงประเทศที่เข้าร่วมการประชุมซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละครั้ง ธนบัตร BRICS ในการประชุมมีสามรูปแบบคือ ใบละ 200 100 และ 50
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • 👇BRICS ทำสิ่งที่แพลตฟอร์มตะวันตกอื่นๆไม่สามารถทำได้: รวบรวมผู้นำของสองยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย - อินเดียและจีน 🇮🇳🇨🇳 เข้าด้วยกัน

    BRICS คือพันธมิตรเพื่อสันติภาพ, NATO คืออาณาจักรแห่งความโกลาหล
    .
    👇BRICS did what no other Western platform could: bring together the leaders of two Asian giants - India and China 🇮🇳🇨🇳.

    BRICS is the alliance for peace, NATO is the empire of chaos.
    .
    2:59 PM · Oct 25, 2024 · 2,149 Views
    https://x.com/Sputnik_India/status/1849722528131883138
    👇BRICS ทำสิ่งที่แพลตฟอร์มตะวันตกอื่นๆไม่สามารถทำได้: รวบรวมผู้นำของสองยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย - อินเดียและจีน 🇮🇳🇨🇳 เข้าด้วยกัน BRICS คือพันธมิตรเพื่อสันติภาพ, NATO คืออาณาจักรแห่งความโกลาหล . 👇BRICS did what no other Western platform could: bring together the leaders of two Asian giants - India and China 🇮🇳🇨🇳. BRICS is the alliance for peace, NATO is the empire of chaos. . 2:59 PM · Oct 25, 2024 · 2,149 Views https://x.com/Sputnik_India/status/1849722528131883138
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • 24 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวรอยเตอร์สรุปสั้นๆผลการประชุมสุดยอด BRICS 2024 คาซาน รัสเซียว่า
    * สีจิ้นผิงและโมดี: ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนและนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย พบกันเพียงสองวันหลังจากนิวเดลีประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงกับปักกิ่งในการแก้ปัญหาการเผชิญหน้าทางทหารที่ยืดเยื้อมานานสี่ปีบนพรมแดนหิมาลัยของพวกเขา
    * มีผู้นำเข้าร่วมจำนวนมาก: ปูตินต้องการแสดงให้เห็นว่าความพยายามของชาติตะวันตกในการแยกรัสเซียออกจากกันในสงครามยูเครนล้มเหลว แต่สามารถดึงดูดผู้นำสำคัญๆ เช่น สี จิ้นผิง และโมดี รวมถึงผู้นำอีกเกือบ 20 คน รวมถึงไตยิป เออร์โดกันของตุรกี อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
    * รายชื่อรอของกลุ่ม BRICS: ปูตินกล่าวว่ามีมากกว่า 30 ประเทศแสดงความปรารถนาที่จะเข้าร่วมกลุ่ม BRICS แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนในทันทีว่าการขยายตัวดังกล่าวจะดำเนินการอย่างไร
    * สงครามยูเครน: ผู้นำกลุ่ม BRICS หยิบยกสงครามยูเครนกับปูตินขึ้นมาในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่มีสัญญาณว่าจะมีการดำเนินการใดที่เจาะจงเพื่อยุติความขัดแย้ง
    * เงินของกลุ่ม BRICS: กลุ่ม BRICS คาดการณ์ว่าอิทธิพลของกลุ่มจะเติบโตขึ้นและได้ร่างโครงการร่วมกันตั้งแต่การแลกเปลี่ยนธัญพืชไปจนถึงระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน ต่อไปนี้คือประเด็นหลัก
    * ตะวันออกกลาง: ปูตินกล่าวกับผู้นำกลุ่ม BRICS ว่าตะวันออกกลางอยู่บนขอบเหวของสงครามเต็มรูปแบบ หลังจากความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ที่มา https://www.reuters.com/world/main-takeaways-brics-summit-2024-10-24/

    #Thaitimes
    24 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวรอยเตอร์สรุปสั้นๆผลการประชุมสุดยอด BRICS 2024 คาซาน รัสเซียว่า * สีจิ้นผิงและโมดี: ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนและนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย พบกันเพียงสองวันหลังจากนิวเดลีประกาศว่าได้บรรลุข้อตกลงกับปักกิ่งในการแก้ปัญหาการเผชิญหน้าทางทหารที่ยืดเยื้อมานานสี่ปีบนพรมแดนหิมาลัยของพวกเขา * มีผู้นำเข้าร่วมจำนวนมาก: ปูตินต้องการแสดงให้เห็นว่าความพยายามของชาติตะวันตกในการแยกรัสเซียออกจากกันในสงครามยูเครนล้มเหลว แต่สามารถดึงดูดผู้นำสำคัญๆ เช่น สี จิ้นผิง และโมดี รวมถึงผู้นำอีกเกือบ 20 คน รวมถึงไตยิป เออร์โดกันของตุรกี อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติก็เข้าร่วมด้วยเช่นกัน * รายชื่อรอของกลุ่ม BRICS: ปูตินกล่าวว่ามีมากกว่า 30 ประเทศแสดงความปรารถนาที่จะเข้าร่วมกลุ่ม BRICS แม้ว่าจะยังไม่มีความชัดเจนในทันทีว่าการขยายตัวดังกล่าวจะดำเนินการอย่างไร * สงครามยูเครน: ผู้นำกลุ่ม BRICS หยิบยกสงครามยูเครนกับปูตินขึ้นมาในรูปแบบต่างๆ แต่ไม่มีสัญญาณว่าจะมีการดำเนินการใดที่เจาะจงเพื่อยุติความขัดแย้ง * เงินของกลุ่ม BRICS: กลุ่ม BRICS คาดการณ์ว่าอิทธิพลของกลุ่มจะเติบโตขึ้นและได้ร่างโครงการร่วมกันตั้งแต่การแลกเปลี่ยนธัญพืชไปจนถึงระบบการชำระเงินข้ามพรมแดน ต่อไปนี้คือประเด็นหลัก * ตะวันออกกลาง: ปูตินกล่าวกับผู้นำกลุ่ม BRICS ว่าตะวันออกกลางอยู่บนขอบเหวของสงครามเต็มรูปแบบ หลังจากความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่มา https://www.reuters.com/world/main-takeaways-brics-summit-2024-10-24/ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 708 Views 0 Reviews
  • 🤝รัสเซียกำลังถูกโดดเดี่ยว?

    ๓๖ ประเทศร่วมโต๊ะเจรจาที่เมืองคาซานของรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุม Outreach/BRICS Plus:

    🇷🇺รัสเซีย
    🇧🇷บราซิล
    🇨🇳จีน
    🇪🇬อียิปต์
    🇪🇹เอธิโอเปีย
    🇮🇳อินเดีย
    🇮🇷อิหร่าน
    🇸🇦ซาอุดีอาระเบีย
    🇿🇦แอฟริกาใต้
    🇦🇪ยูเออี
    🇦🇲อาร์เมเนีย
    🇦🇿อาเซอร์ไบจาน
    🇧🇭บาห์เรน
    🇧🇩บังกลาเทศ
    🇧🇾เบลารุส
    🇧🇴โบลิเวีย
    🇨🇬คองโก
    🇨🇺คิวบา
    🇮🇩อินโดนีเซีย
    🇰🇿คาซัคสถาน
    🇰🇬คีร์กีซสถาน
    🇱🇦ลาว
    🇲🇾มาเลเซีย
    🇲🇷มอริเตเนีย
    🇲🇳มองโกเลีย
    🇳🇮นิการากัว
    🇵🇸ปาเลสไตน์
    🇷🇸เซอร์เบีย
    🇱🇰ศรีลังกา
    🇹🇯ทาจิกิสถาน
    🇹🇭ไทย
    🇹🇷ตุรกี
    🇹🇲เติร์กเมนิสถาน
    🇺🇿อุซเบกิสถาน
    🇻🇪เวเนซุเอลา
    🇻🇳เวียดนาม

    #BRICS2024
    .
    🤝RUSSIA'S ISOLATION?

    36 countries united around the table in Russia's Kazan attending the Outreach/BRICS Plus meeting:

    🇷🇺Russia
    🇧🇷Brazil
    🇨🇳China
    🇪🇬Egypt
    🇪🇹Ethiopia
    🇮🇳India
    🇮🇷Iran
    🇸🇦Saudi Arabia
    🇿🇦South Africa
    🇦🇪UAE
    🇦🇲Armenia
    🇦🇿Azerbaijan
    🇧🇭Bahrain
    🇧🇩Bangladesh
    🇧🇾Belarus
    🇧🇴Bolivia
    🇨🇬Congo
    🇨🇺Cuba
    🇮🇩Indonesia
    🇰🇿Kazakhstan
    🇰🇬Kyrgyzstan
    🇱🇦Laos
    🇲🇾Malaysia
    🇲🇷Mauritania
    🇲🇳Mongolia
    🇳🇮Nicaragua
    🇵🇸Palestine
    🇷🇸Serbia
    🇱🇰Sri Lanka
    🇹🇯Tajikistan
    🇹🇭Thailand
    🇹🇷Turkiye
    🇹🇲Turkmenistan
    🇺🇿Uzbekistan
    🇻🇪Venezuela
    🇻🇳Vietnam

    #BRICS2024
    .
    4:36 PM · Oct 24, 2024 · 6,827 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1849384466851983750
    🤝รัสเซียกำลังถูกโดดเดี่ยว? ๓๖ ประเทศร่วมโต๊ะเจรจาที่เมืองคาซานของรัสเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุม Outreach/BRICS Plus: 🇷🇺รัสเซีย 🇧🇷บราซิล 🇨🇳จีน 🇪🇬อียิปต์ 🇪🇹เอธิโอเปีย 🇮🇳อินเดีย 🇮🇷อิหร่าน 🇸🇦ซาอุดีอาระเบีย 🇿🇦แอฟริกาใต้ 🇦🇪ยูเออี 🇦🇲อาร์เมเนีย 🇦🇿อาเซอร์ไบจาน 🇧🇭บาห์เรน 🇧🇩บังกลาเทศ 🇧🇾เบลารุส 🇧🇴โบลิเวีย 🇨🇬คองโก 🇨🇺คิวบา 🇮🇩อินโดนีเซีย 🇰🇿คาซัคสถาน 🇰🇬คีร์กีซสถาน 🇱🇦ลาว 🇲🇾มาเลเซีย 🇲🇷มอริเตเนีย 🇲🇳มองโกเลีย 🇳🇮นิการากัว 🇵🇸ปาเลสไตน์ 🇷🇸เซอร์เบีย 🇱🇰ศรีลังกา 🇹🇯ทาจิกิสถาน 🇹🇭ไทย 🇹🇷ตุรกี 🇹🇲เติร์กเมนิสถาน 🇺🇿อุซเบกิสถาน 🇻🇪เวเนซุเอลา 🇻🇳เวียดนาม #BRICS2024 . 🤝RUSSIA'S ISOLATION? 36 countries united around the table in Russia's Kazan attending the Outreach/BRICS Plus meeting: 🇷🇺Russia 🇧🇷Brazil 🇨🇳China 🇪🇬Egypt 🇪🇹Ethiopia 🇮🇳India 🇮🇷Iran 🇸🇦Saudi Arabia 🇿🇦South Africa 🇦🇪UAE 🇦🇲Armenia 🇦🇿Azerbaijan 🇧🇭Bahrain 🇧🇩Bangladesh 🇧🇾Belarus 🇧🇴Bolivia 🇨🇬Congo 🇨🇺Cuba 🇮🇩Indonesia 🇰🇿Kazakhstan 🇰🇬Kyrgyzstan 🇱🇦Laos 🇲🇾Malaysia 🇲🇷Mauritania 🇲🇳Mongolia 🇳🇮Nicaragua 🇵🇸Palestine 🇷🇸Serbia 🇱🇰Sri Lanka 🇹🇯Tajikistan 🇹🇭Thailand 🇹🇷Turkiye 🇹🇲Turkmenistan 🇺🇿Uzbekistan 🇻🇪Venezuela 🇻🇳Vietnam #BRICS2024 . 4:36 PM · Oct 24, 2024 · 6,827 Views https://x.com/SputnikInt/status/1849384466851983750
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลอินเดียคาดว่าภายในปี ค.ศ. 2030 จะมีพนักงานชั่วคราวในอินเดียเพิ่มขึ้นมากกว่า 23 ล้านคน (จากเดิม 8 ล้านคนในปี 2024) ซึ่งแรงงานเหล่านี้ต้องทำงานอย่างหนัก ค่าจ้างต่ำ เหนื่อยล้า และขาดความมั่นคง ทั้งยังมีรายงานด้วยว่า วัยทำงานกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับการโดนเหยียด ดูหมิ่น และการกีดกันการเข้าถึงสาธารณะประโยชน์ในทุก ๆ ทาง เหตุเพราะการแบ่งชนชั้นวรรณะในสังคมอินเดียยังฝังรากลึก

    ยกตัวอย่างกรณีล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ มีการแชร์เรื่องราวของไรเดอร์บริษัทแห่งหนึ่งบนโลกออนไลน์ เขาโดนเหยียดในขณะปฏิบัติหน้าที่ เพียงแค่จะมาส่งของให้ลูกค้า แต่กลับโดนยามหน้าตึกขวางไล่ไม่ให้ขึ้นลิฟต์ ซึ่งไรเดอร์คนดังกล่าว แท้จริงแล้วคือซีอีโอบริษัทส่งของปลอมตัวมาเป็นพนักงาน เพื่อพิสูจน์ข้อร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากพนักงานว่าโดนเหยียดจนทำงานไม่ได้

    ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1150262

    #Thaitimes
    รัฐบาลอินเดียคาดว่าภายในปี ค.ศ. 2030 จะมีพนักงานชั่วคราวในอินเดียเพิ่มขึ้นมากกว่า 23 ล้านคน (จากเดิม 8 ล้านคนในปี 2024) ซึ่งแรงงานเหล่านี้ต้องทำงานอย่างหนัก ค่าจ้างต่ำ เหนื่อยล้า และขาดความมั่นคง ทั้งยังมีรายงานด้วยว่า วัยทำงานกลุ่มนี้ต้องเผชิญกับการโดนเหยียด ดูหมิ่น และการกีดกันการเข้าถึงสาธารณะประโยชน์ในทุก ๆ ทาง เหตุเพราะการแบ่งชนชั้นวรรณะในสังคมอินเดียยังฝังรากลึก ยกตัวอย่างกรณีล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ มีการแชร์เรื่องราวของไรเดอร์บริษัทแห่งหนึ่งบนโลกออนไลน์ เขาโดนเหยียดในขณะปฏิบัติหน้าที่ เพียงแค่จะมาส่งของให้ลูกค้า แต่กลับโดนยามหน้าตึกขวางไล่ไม่ให้ขึ้นลิฟต์ ซึ่งไรเดอร์คนดังกล่าว แท้จริงแล้วคือซีอีโอบริษัทส่งของปลอมตัวมาเป็นพนักงาน เพื่อพิสูจน์ข้อร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากพนักงานว่าโดนเหยียดจนทำงานไม่ได้ ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1150262 #Thaitimes
    WWW.BANGKOKBIZNEWS.COM
    วัยทำงานอินเดียโดนเหยียดแรง คนส่งของถูกไล่ไม่ให้นั่งพักในที่สาธารณะ
    วัยทำงานอินเดียโดนเหยียดรุนแรง โดยเฉพาะคนงานชั่วคราว คนส่งของ-แม่บ้าน ถูกมองว่าเป็นคนชนชั้นล่าง โดนไล่ไม่ให้แม้แต่นั่งพักหรือขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกับคนรวย
    Like
    Sad
    5
    1 Comments 0 Shares 503 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ กู้เงิน ๒.๒ ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง ๑๒ เดือนที่ผ่านมา เป็นเงินฟรี - เหมือนบัตรเครดิตขนาดยักษ์, ที่ไม่ต้องชำระคืน (🤣ทั้งหมดนั้นคือดอลลาร์กงเต้กที่พิมพ์ออกมา โดยไม่ต้องมีทองค้ำไงล่ะ🤣)

    ในอินเดีย, ทั้งประเทศต้องทำงาน ๖ เดือน จึงจะได้เงินจำนวนนั้น

    ระบบที่ทุจริตนี้คือสาเหตุที่ BRICS และ การลดการใช้เงินดอลลาร์กำลังเกิดขึ้น
    .
    US borrowed $2.2 trillion over the last 12 months. It’s free money - like a giant credit card, which you never have to pay back.

    In India, the entire country must work for 6 months to earn that kind of money.

    This rigged system is why BRICS & de-dollarization are happening.
    .
    11:45 PM · Oct 23, 2024 · 40.9K Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1849129926521446413
    สหรัฐฯ กู้เงิน ๒.๒ ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง ๑๒ เดือนที่ผ่านมา เป็นเงินฟรี - เหมือนบัตรเครดิตขนาดยักษ์, ที่ไม่ต้องชำระคืน (🤣ทั้งหมดนั้นคือดอลลาร์กงเต้กที่พิมพ์ออกมา โดยไม่ต้องมีทองค้ำไงล่ะ🤣) ในอินเดีย, ทั้งประเทศต้องทำงาน ๖ เดือน จึงจะได้เงินจำนวนนั้น ระบบที่ทุจริตนี้คือสาเหตุที่ BRICS และ การลดการใช้เงินดอลลาร์กำลังเกิดขึ้น . US borrowed $2.2 trillion over the last 12 months. It’s free money - like a giant credit card, which you never have to pay back. In India, the entire country must work for 6 months to earn that kind of money. This rigged system is why BRICS & de-dollarization are happening. . 11:45 PM · Oct 23, 2024 · 40.9K Views https://x.com/Kanthan2030/status/1849129926521446413
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • ปูตินปลุกเร้าสร้าง “ระเบียบโลกแบบมีหลายขั้วอำนาจ” ในงานประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ที่มีผู้นำจากนานาประเทศเข้าร่วมหารือ และประมุขทำเนียบเครมลินมุ่งใช้เป็นบทพิสูจน์ว่า ความพยายามโดดเดี่ยวมอสโกของฝ่ายตะวันตกล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สี จิ้นผิง พันธมิตรสำคัญซึ่งเข้าประชุมครั้งนี้ด้วย เรียกร้องบริกส์กระชับความร่วมมือด้านการเงินและเศรษฐกิจ ชี้จำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างระบบการเงินระหว่างประเทศอย่างเร่งด่วนยิ่งขึ้น
    .
    การประชุมสุดยอดคราวนี้ที่จัดขึ้นที่เมืองคาซาน ทางด้านตะวันตกกลางของแดนหมีขาว ถือเป็นการประชุมทางการทูตใหญ่ที่สุดซึ่งรัสเซียเป็นเจ้าภาพ นับจากที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งยกทัพบุกยูเครนในปี 2022 ส่งผลให้รัสเซียถูกตะวันตกรุมประณามและแซงก์ชัน
    .
    มีผู้นำราว 20 คนจากนานาชาติ รวมทั้งประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่อย่าง จีน อินเดีย ตุรกี และอิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าร่วมการประชุมที่เมืองคาซานครั้งนี้ ในหัวข้อต่างๆ เช่น การพัฒนาระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนของบริกส์ และความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
    .
    มอสโกมองว่า ที่ประชุมนี้เป็นทางเลือกซึ่งกำลังทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับพวกองค์การระหว่างประเทศรุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเย็นที่นำโดยฝ่ายตะวันตก เช่น กลุ่มจี7 และนี่ก็เป็นจุดยืนที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญของปูติน
    .
    ปูตินกล่าวเปิดประชุมอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธ (23 ต.ค.) ว่า การสร้างระเบียบโลกแบบที่ยอมรับให้มีหลายขั้วอำนาจนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และเป็นขั้นตอนที่มีพลวัตและไม่อาจย้อนกลับได้ พร้อมกับเรียกร้องให้เหล่าชาติสมาชิกของบริกส์ พิจารณาว่าจะช่วยแก้ปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดได้อย่างไร ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงระดับภูมิภาค
    .
    ก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันอังคาร (22) ปูตินยังได้ประชุมข้างเคียงกับพวกผู้นำของหลายประเทศที่มารวมการประชุมซัมมิตบริกส์ รวมทั้ง สี และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย ซึ่งผู้นำรัสเซียได้กล่าวยกย่องความสัมพันธ์ใกล้ชิดและการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน
    .
    ขณะที่ สี ก็กล่าวยกย่องความสัมพันธ์แนบแน่นที่จีนมีอยู่กับรัสเซีย ในโลกที่ “วุ่นวาย” และเสริมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนา การฟื้นฟู และการปรับปรุงให้ทันสมัยสำหรับทั้งสองประเทศ
    .
    ด้านปูตินขานรับว่า ความสัมพันธ์กับปักกิ่งเป็นรากฐานเสถียรภาพของโลก
    .
    ในวันพุธ ระหว่างกล่าวปราศรัยกับที่ประชุมซัมมิตกลุ่มบริกส์ สี ได้กล่าวเรียกร้องให้สมาชิกบริกส์กระชับความร่วมมือด้านการเงินและเศรษฐกิจ พร้อมชี้ว่าจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างระบบการเงินระหว่างประเทศอย่างเร่งด่วนยิ่งขึ้น รวมทั้งยังเรียกร้องให้ปลดชนวนความขัดแย้งในวิกฤตยูเครน และให้มีการหยุดยิงในเลบานอนและกาซา
    .
    กลุ่มบริกส์ (BRICS) ตอนแรกใช้ชื่อว่า บริก (BRIC) ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยมีสมาชิกเพียง 4 ประเทศ ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน จากนั้นจึงขยายเป็นบริกส์ เมื่อรับแอฟริกาใต้เข้าเป็นสมาชิกรายที่ 5 และในปีที่แล้ว ก็ได้เปิดกว้างรับพวกประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่อีกหลายราย เป็นต้นว่า อียิปต์ เอธิโอเปีย เวเนซุเอลา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิหร่าน ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียก็ได้สมัครและได้รับเชิญเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ทว่ายังไม่ได้ทำกระบวนการรับรองให้สัตยาบัน ขณะที่อาร์เจนตินา ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม หลังจากมีการเลือกตั้งและประธานาธิบดีคนใหม่เป็นพวกโปรตะวันตกเข้มข้น
    .
    เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการท้าทายตะวันตก ในวันพุธปูตินยังมีนัดหมายหารือแบบประชุมข้างเคียงกับประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียนของอิหร่าน และประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรของเวเนซุเอลา รวมทั้งจะพบกับประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ซึ่งกำลังแสดงความสนใจขอสมัครเป็นสมาชิกของบริกส์ ตลอดจนหารือกับอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ในวันพฤหัสฯ (24 ต.ค.) ในประเด็นความขัดแย้งในยูเครน
    .
    รายงานระบุว่า กูเตอร์เรสเดินทางถึงรัสเซียในวันพุธ ซึ่งเป็นการเยือนรัสเซียครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี และสร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้แก่ยูเครน
    .
    กระทรวงการต่างประเทศยูเครนโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ต่อว่ากูเตอร์เรสว่า ปฏิเสธคำเชิญร่วมงานประชุมสุดยอดสันติภาพโลกครั้งแรกของเคียฟที่จัดขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อหลายเดือนก่อน แต่กลับรับคำเชิญจากอาชญากรอย่างปูติน
    .
    ทางด้านโฆษกกูเตอร์เรสอธิบายว่า ทริปนี้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมงานประชุมในองค์กรที่มีชาติสมาชิกจำนวนมากที่ถือเป็นแนวทางปฏิบัติปกติของกูเตอร์เรส อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีในการย้ำจุดยืนเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและเงื่อนไขสำหรับสันติภาพที่เป็นธรรม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102300
    ..............
    Sondhi X
    ปูตินปลุกเร้าสร้าง “ระเบียบโลกแบบมีหลายขั้วอำนาจ” ในงานประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ที่มีผู้นำจากนานาประเทศเข้าร่วมหารือ และประมุขทำเนียบเครมลินมุ่งใช้เป็นบทพิสูจน์ว่า ความพยายามโดดเดี่ยวมอสโกของฝ่ายตะวันตกล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สี จิ้นผิง พันธมิตรสำคัญซึ่งเข้าประชุมครั้งนี้ด้วย เรียกร้องบริกส์กระชับความร่วมมือด้านการเงินและเศรษฐกิจ ชี้จำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างระบบการเงินระหว่างประเทศอย่างเร่งด่วนยิ่งขึ้น . การประชุมสุดยอดคราวนี้ที่จัดขึ้นที่เมืองคาซาน ทางด้านตะวันตกกลางของแดนหมีขาว ถือเป็นการประชุมทางการทูตใหญ่ที่สุดซึ่งรัสเซียเป็นเจ้าภาพ นับจากที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน สั่งยกทัพบุกยูเครนในปี 2022 ส่งผลให้รัสเซียถูกตะวันตกรุมประณามและแซงก์ชัน . มีผู้นำราว 20 คนจากนานาชาติ รวมทั้งประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่และประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่อย่าง จีน อินเดีย ตุรกี และอิหร่าน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าร่วมการประชุมที่เมืองคาซานครั้งนี้ ในหัวข้อต่างๆ เช่น การพัฒนาระบบการชำระเงินข้ามพรมแดนของบริกส์ และความขัดแย้งในตะวันออกกลาง . มอสโกมองว่า ที่ประชุมนี้เป็นทางเลือกซึ่งกำลังทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับพวกองค์การระหว่างประเทศรุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเย็นที่นำโดยฝ่ายตะวันตก เช่น กลุ่มจี7 และนี่ก็เป็นจุดยืนที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ผู้เป็นพันธมิตรสำคัญของปูติน . ปูตินกล่าวเปิดประชุมอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธ (23 ต.ค.) ว่า การสร้างระเบียบโลกแบบที่ยอมรับให้มีหลายขั้วอำนาจนั้นเป็นสิ่งที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ และเป็นขั้นตอนที่มีพลวัตและไม่อาจย้อนกลับได้ พร้อมกับเรียกร้องให้เหล่าชาติสมาชิกของบริกส์ พิจารณาว่าจะช่วยแก้ปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดได้อย่างไร ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งรุนแรงระดับภูมิภาค . ก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันอังคาร (22) ปูตินยังได้ประชุมข้างเคียงกับพวกผู้นำของหลายประเทศที่มารวมการประชุมซัมมิตบริกส์ รวมทั้ง สี และนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย ซึ่งผู้นำรัสเซียได้กล่าวยกย่องความสัมพันธ์ใกล้ชิดและการเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกัน . ขณะที่ สี ก็กล่าวยกย่องความสัมพันธ์แนบแน่นที่จีนมีอยู่กับรัสเซีย ในโลกที่ “วุ่นวาย” และเสริมว่า ความสัมพันธ์ระหว่างกันเป็นแรงผลักดันสำคัญในการพัฒนา การฟื้นฟู และการปรับปรุงให้ทันสมัยสำหรับทั้งสองประเทศ . ด้านปูตินขานรับว่า ความสัมพันธ์กับปักกิ่งเป็นรากฐานเสถียรภาพของโลก . ในวันพุธ ระหว่างกล่าวปราศรัยกับที่ประชุมซัมมิตกลุ่มบริกส์ สี ได้กล่าวเรียกร้องให้สมาชิกบริกส์กระชับความร่วมมือด้านการเงินและเศรษฐกิจ พร้อมชี้ว่าจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างระบบการเงินระหว่างประเทศอย่างเร่งด่วนยิ่งขึ้น รวมทั้งยังเรียกร้องให้ปลดชนวนความขัดแย้งในวิกฤตยูเครน และให้มีการหยุดยิงในเลบานอนและกาซา . กลุ่มบริกส์ (BRICS) ตอนแรกใช้ชื่อว่า บริก (BRIC) ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดยมีสมาชิกเพียง 4 ประเทศ ได้แก่ บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน จากนั้นจึงขยายเป็นบริกส์ เมื่อรับแอฟริกาใต้เข้าเป็นสมาชิกรายที่ 5 และในปีที่แล้ว ก็ได้เปิดกว้างรับพวกประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่อีกหลายราย เป็นต้นว่า อียิปต์ เอธิโอเปีย เวเนซุเอลา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิหร่าน ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบียก็ได้สมัครและได้รับเชิญเข้าเป็นสมาชิกแล้ว ทว่ายังไม่ได้ทำกระบวนการรับรองให้สัตยาบัน ขณะที่อาร์เจนตินา ปฏิเสธที่จะเข้าร่วม หลังจากมีการเลือกตั้งและประธานาธิบดีคนใหม่เป็นพวกโปรตะวันตกเข้มข้น . เพื่อตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการท้าทายตะวันตก ในวันพุธปูตินยังมีนัดหมายหารือแบบประชุมข้างเคียงกับประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียนของอิหร่าน และประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโรของเวเนซุเอลา รวมทั้งจะพบกับประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ซึ่งกำลังแสดงความสนใจขอสมัครเป็นสมาชิกของบริกส์ ตลอดจนหารือกับอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ในวันพฤหัสฯ (24 ต.ค.) ในประเด็นความขัดแย้งในยูเครน . รายงานระบุว่า กูเตอร์เรสเดินทางถึงรัสเซียในวันพุธ ซึ่งเป็นการเยือนรัสเซียครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี และสร้างความไม่พอใจอย่างยิ่งให้แก่ยูเครน . กระทรวงการต่างประเทศยูเครนโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ต่อว่ากูเตอร์เรสว่า ปฏิเสธคำเชิญร่วมงานประชุมสุดยอดสันติภาพโลกครั้งแรกของเคียฟที่จัดขึ้นในสวิตเซอร์แลนด์เมื่อหลายเดือนก่อน แต่กลับรับคำเชิญจากอาชญากรอย่างปูติน . ทางด้านโฆษกกูเตอร์เรสอธิบายว่า ทริปนี้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมงานประชุมในองค์กรที่มีชาติสมาชิกจำนวนมากที่ถือเป็นแนวทางปฏิบัติปกติของกูเตอร์เรส อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีในการย้ำจุดยืนเกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนและเงื่อนไขสำหรับสันติภาพที่เป็นธรรม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102300 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    7
    0 Comments 1 Shares 1663 Views 1 Reviews
  • 🇮🇳 อินเดียได้ประโยชน์จากทุกคนอย่างไร?

    อินเดียเพิ่งปรากฏตัวในการประชุมสุดยอด BRICS ร่วมกับปูตินและสีจิ้นผิง, ขณะที่จีนขู่ว่าจะทำสงครามในไต้หวัน และรัสเซียยังคงทำสงครามในยูเครน

    อย่างไรก็ตาม, อินเดียกำลังฝ่ามรสุมโลกครั้งนี้และได้รับประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย

    ตั้งแต่ปี ๒๐๒๒, อินเดียได้นำเข้าน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียในขณะที่ยังคงรักษาข้อตกลงทางทหารจำนวนมาก—โดยฮาร์ดแวร์ป้องกันประเทศ ๗๐% มาจากรัสเซีย

    อย่างไรก็ตาม, อินเดียยังกระชับความสัมพันธ์กับตะวันตก, โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านความร่วมมือ เช่น Quad เพื่อต่อต้านจีนในอินโด-แปซิฟิก

    จุดสำคัญคืออะไร? อินเดียยังสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับอิหร่าน, ซึ่งเป็นประเทศที่ตะวันตกต้องการควบคุมอย่างยิ่ง

    พวกเขากำลังทำงานร่วมกับอิหร่านเพื่อพัฒนาท่าเรือชบาฮาร์เชิงยุทธศาสตร์, เข้าถึงเส้นทางการค้า และเพิ่มอิทธิพลในตะวันออกกลาง

    ในขณะที่อิหร่านยังคงขัดแย้งกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์และความตึงเครียดกับอิสราเอล

    อินเดียกำลังเล่นทั้งสองฝ่ายอย่างเชี่ยวชาญ—สร้างสมดุลระหว่างความสัมพันธ์กับรัสเซีย, เสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ, และจัดแนวยุทธศาสตร์ร่วมกับผู้เล่นหลัก เช่น อิหร่าน

    อินเดียกำลังใช้กลุ่ม BRICS เป็นแพลตฟอร์มเพื่อเสริมสร้างสถานะของตนในระดับโลกในขณะที่เดินอยู่บนเส้นแบ่งบางๆระหว่างตะวันออกและตะวันตก

    อินเดียกำลังทำสิ่งนี้ได้อย่างไร—และจะนำไปสู่จุดใดต่อไป?
    .
    🇮🇳 HOW IS INDIA PROFITING FROM EVERYONE?

    India just showed up at the BRICS summit alongside Putin and Xi, while China threatens war over Taiwan and Russia continues its war in Ukraine.

    But somehow, India is navigating this global storm and benefiting from both sides.

    Since 2022, India’s been importing cheap Russian oil while maintaining massive military deals—70% of its defense hardware comes from Russia.

    Yet, India’s also deepening ties with the West, especially through partnerships like the Quad to counter China in the Indo-Pacific.

    The kicker? India is also forging stronger ties with Iran, a country the West is desperate to control.

    They’re working with Iran to develop the strategic Chabahar port, gaining access to trade routes and increasing influence in the Middle East.

    All while Iran remains at odds with the U.S. over nuclear ambitions and tensions with Israel.

    India is playing both sides expertly—balancing ties with Russia, strengthening partnerships with the U.S., and strategically aligning with key players like Iran.

    It’s using BRICS as a platform to boost its global standing while walking the fine line between East and West.

    How is India doing this—and where does it lead next?
    .
    3:39 AM · Oct 23, 2024 · 600.7K Views
    https://x.com/MarioNawfal/status/1848826559316021664
    🇮🇳 อินเดียได้ประโยชน์จากทุกคนอย่างไร? อินเดียเพิ่งปรากฏตัวในการประชุมสุดยอด BRICS ร่วมกับปูตินและสีจิ้นผิง, ขณะที่จีนขู่ว่าจะทำสงครามในไต้หวัน และรัสเซียยังคงทำสงครามในยูเครน อย่างไรก็ตาม, อินเดียกำลังฝ่ามรสุมโลกครั้งนี้และได้รับประโยชน์จากทั้งสองฝ่าย ตั้งแต่ปี ๒๐๒๒, อินเดียได้นำเข้าน้ำมันราคาถูกจากรัสเซียในขณะที่ยังคงรักษาข้อตกลงทางทหารจำนวนมาก—โดยฮาร์ดแวร์ป้องกันประเทศ ๗๐% มาจากรัสเซีย อย่างไรก็ตาม, อินเดียยังกระชับความสัมพันธ์กับตะวันตก, โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านความร่วมมือ เช่น Quad เพื่อต่อต้านจีนในอินโด-แปซิฟิก จุดสำคัญคืออะไร? อินเดียยังสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับอิหร่าน, ซึ่งเป็นประเทศที่ตะวันตกต้องการควบคุมอย่างยิ่ง พวกเขากำลังทำงานร่วมกับอิหร่านเพื่อพัฒนาท่าเรือชบาฮาร์เชิงยุทธศาสตร์, เข้าถึงเส้นทางการค้า และเพิ่มอิทธิพลในตะวันออกกลาง ในขณะที่อิหร่านยังคงขัดแย้งกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์และความตึงเครียดกับอิสราเอล อินเดียกำลังเล่นทั้งสองฝ่ายอย่างเชี่ยวชาญ—สร้างสมดุลระหว่างความสัมพันธ์กับรัสเซีย, เสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ, และจัดแนวยุทธศาสตร์ร่วมกับผู้เล่นหลัก เช่น อิหร่าน อินเดียกำลังใช้กลุ่ม BRICS เป็นแพลตฟอร์มเพื่อเสริมสร้างสถานะของตนในระดับโลกในขณะที่เดินอยู่บนเส้นแบ่งบางๆระหว่างตะวันออกและตะวันตก อินเดียกำลังทำสิ่งนี้ได้อย่างไร—และจะนำไปสู่จุดใดต่อไป? . 🇮🇳 HOW IS INDIA PROFITING FROM EVERYONE? India just showed up at the BRICS summit alongside Putin and Xi, while China threatens war over Taiwan and Russia continues its war in Ukraine. But somehow, India is navigating this global storm and benefiting from both sides. Since 2022, India’s been importing cheap Russian oil while maintaining massive military deals—70% of its defense hardware comes from Russia. Yet, India’s also deepening ties with the West, especially through partnerships like the Quad to counter China in the Indo-Pacific. The kicker? India is also forging stronger ties with Iran, a country the West is desperate to control. They’re working with Iran to develop the strategic Chabahar port, gaining access to trade routes and increasing influence in the Middle East. All while Iran remains at odds with the U.S. over nuclear ambitions and tensions with Israel. India is playing both sides expertly—balancing ties with Russia, strengthening partnerships with the U.S., and strategically aligning with key players like Iran. It’s using BRICS as a platform to boost its global standing while walking the fine line between East and West. How is India doing this—and where does it lead next? . 3:39 AM · Oct 23, 2024 · 600.7K Views https://x.com/MarioNawfal/status/1848826559316021664
    Haha
    2
    1 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • 🚨 ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า "ความสัมพันธ์ของเราดีมากจนนายกรัฐมนตรีโมดีสามารถเข้าใจฉันได้โดยไม่ต้องมีล่าม" 💙🔥

    "เราให้คุณค่าอย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างอินเดียและรัสเซีย" - ปูติน ไม่แยแสต่อชาติตะวันตก

    นายกรัฐมนตรีโมดี กล่าวว่า "การเชื่อมต่อที่ไม่เหมือนใคร!"

    "การเยือนรัสเซีย ๒ ครั้งใน ๓ เดือน แสดงให้เห็นถึงการประสานงานที่ใกล้ชิดและมิตรภาพอันลึกซึ้งของเรา" - นายกรัฐมนตรีโมดี

    มิตรภาพอินเดีย-รัสเซียก้าวสู่ระดับใหม่
    .
    BIG NEWS 🚨 Russian President Vladmir Putin said "Our relations are so good that PM Modi can understand me without a translator." 💙🔥

    "We greatly value India-Russia cooperation" - PUTIN snubs west

    PM MODI said "A connect like no other!"

    "2 visits to Russia in 3 months shows our close coordination, deep friendship" - PM MODI

    India-Russia friendship reaches New heights.
    .
    8:27 PM · Oct 22, 2024 · 936K Views
    https://x.com/TimesAlgebraIND/status/1848717870026371221
    🚨 ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวว่า "ความสัมพันธ์ของเราดีมากจนนายกรัฐมนตรีโมดีสามารถเข้าใจฉันได้โดยไม่ต้องมีล่าม" 💙🔥 "เราให้คุณค่าอย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างอินเดียและรัสเซีย" - ปูติน ไม่แยแสต่อชาติตะวันตก นายกรัฐมนตรีโมดี กล่าวว่า "การเชื่อมต่อที่ไม่เหมือนใคร!" "การเยือนรัสเซีย ๒ ครั้งใน ๓ เดือน แสดงให้เห็นถึงการประสานงานที่ใกล้ชิดและมิตรภาพอันลึกซึ้งของเรา" - นายกรัฐมนตรีโมดี มิตรภาพอินเดีย-รัสเซียก้าวสู่ระดับใหม่ . BIG NEWS 🚨 Russian President Vladmir Putin said "Our relations are so good that PM Modi can understand me without a translator." 💙🔥 "We greatly value India-Russia cooperation" - PUTIN snubs west PM MODI said "A connect like no other!" "2 visits to Russia in 3 months shows our close coordination, deep friendship" - PM MODI India-Russia friendship reaches New heights. . 8:27 PM · Oct 22, 2024 · 936K Views https://x.com/TimesAlgebraIND/status/1848717870026371221
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • 🚨 รัฐบาลอินเดียจะเปิดเผยรายชื่อผู้ก่อการร้ายคา*ลิสต์ ที่หลบภัยในแคนาดาให้กับ Five Eye Nations

    ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, แคนาดา, นิวซีแลนด์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

    รัฐบาลอินเดียจะเปิดโปง จัสติน ทรูโด ไม้เด็ดโดยนายกรัฐมนตรีโมดี

    จากผลสำรวจพบว่า ทรูโดไม่เป็นที่นิยมอย่างมากในแคนาดา
    ความโกรธแค้นจะเพิ่มมากขึ้น

    รัฐบาลในสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในอีก ๒ สัปดาห์ข้างหน้า ปัญหาจะเพิ่มมากขึ้นสำหรับทรูโด
    .
    BIG BREAKING NEWS 🚨 Indian Govt will share list of Kha*listani terr0rists enjoying safe harbour in Canada to Five Eye Nations.

    They comprise Australia, Canada, New Zealand, UK & US.

    Indian Govt will now expose Justin Trudeau. MASTERSTROKE by PM Modi.

    Trudeau has already become highly unpopular across Canada as per surveys. Anger will further increase.

    Govt in US is also likely to change in 2 weeks. Troubles will increase for Trudeau.
    .
    12:48 PM · Oct 23, 2024 · 321.4K Views
    https://x.com/TimesAlgebraIND/status/1848964619089363262
    🚨 รัฐบาลอินเดียจะเปิดเผยรายชื่อผู้ก่อการร้ายคา*ลิสต์ ที่หลบภัยในแคนาดาให้กับ Five Eye Nations ประกอบด้วย ออสเตรเลีย, แคนาดา, นิวซีแลนด์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา รัฐบาลอินเดียจะเปิดโปง จัสติน ทรูโด ไม้เด็ดโดยนายกรัฐมนตรีโมดี จากผลสำรวจพบว่า ทรูโดไม่เป็นที่นิยมอย่างมากในแคนาดา ความโกรธแค้นจะเพิ่มมากขึ้น รัฐบาลในสหรัฐฯมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงในอีก ๒ สัปดาห์ข้างหน้า ปัญหาจะเพิ่มมากขึ้นสำหรับทรูโด . BIG BREAKING NEWS 🚨 Indian Govt will share list of Kha*listani terr0rists enjoying safe harbour in Canada to Five Eye Nations. They comprise Australia, Canada, New Zealand, UK & US. Indian Govt will now expose Justin Trudeau. MASTERSTROKE by PM Modi. Trudeau has already become highly unpopular across Canada as per surveys. Anger will further increase. Govt in US is also likely to change in 2 weeks. Troubles will increase for Trudeau. . 12:48 PM · Oct 23, 2024 · 321.4K Views https://x.com/TimesAlgebraIND/status/1848964619089363262
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • 🚨 จัสติน ทรูโด : "ผมมีโอกาสที่จะทำให้การประชุม G20 เป็นการประชุมสุดยอดที่สร้างความอึดอัดให้กับอินเดีย หากผมเปิดเผยข้อกล่าวหาต่อสาธารณะ"

    สองคำสำหรับทรูโด? (🤣ฝัก ยุ🤣)
    .
    🚨 JUSTIN TRUDEAU : "I had the opportunity to make the G20 an uncomfortable summit for India if I went public with the allegations"

    Two words for Trudeau?
    .
    4:25 PM · Oct 22, 2024 · 866K Views
    https://x.com/TimesAlgebraIND/status/1848656793750143181
    🚨 จัสติน ทรูโด : "ผมมีโอกาสที่จะทำให้การประชุม G20 เป็นการประชุมสุดยอดที่สร้างความอึดอัดให้กับอินเดีย หากผมเปิดเผยข้อกล่าวหาต่อสาธารณะ" สองคำสำหรับทรูโด? (🤣ฝัก ยุ🤣) . 🚨 JUSTIN TRUDEAU : "I had the opportunity to make the G20 an uncomfortable summit for India if I went public with the allegations" Two words for Trudeau? . 4:25 PM · Oct 22, 2024 · 866K Views https://x.com/TimesAlgebraIND/status/1848656793750143181
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • IMF จัดอันดับรัสเซียเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก

    23 ตุลาคม 2567- รายงานกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศว่ารัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกตามความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ (PPP) รองจากสหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย โดยเศรษฐกิจรัสเซียแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ของโลกในแง่ PPP (ความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ) ตามข้อมูลแก้ไขของธนาคารโลกที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนมิถุนายน

    IMF คาดการณ์ว่ารัสเซียจะคงสถานะนี้ไว้ได้อย่างน้อยจนถึงปี 2029 นอกจากนี้ กองทุนยังได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ของรัสเซีย โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% ภายในสิ้นปีนี้

    #Thaitimes
    IMF จัดอันดับรัสเซียเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก 23 ตุลาคม 2567- รายงานกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศว่ารัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกตามความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ (PPP) รองจากสหรัฐอเมริกา จีน และอินเดีย โดยเศรษฐกิจรัสเซียแซงหน้าญี่ปุ่นขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 ของโลกในแง่ PPP (ความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ) ตามข้อมูลแก้ไขของธนาคารโลกที่เผยแพร่เมื่อต้นเดือนมิถุนายน IMF คาดการณ์ว่ารัสเซียจะคงสถานะนี้ไว้ได้อย่างน้อยจนถึงปี 2029 นอกจากนี้ กองทุนยังได้ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ของรัสเซีย โดยคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 3.6% ภายในสิ้นปีนี้ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 241 Views 0 Reviews
  • "สี จิ้นผิง" พบ "ปูติน" ในการประชุมสุดยอดผู้นำ ซัมมิต BRICS ครั้งที่ 16 ที่เมืองโบราณ คาซานของรัสเซีย

    โกลบอลไทมส์สื่อของทางการจีนรายงานว่า ระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมผู้นำชาติกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สถานของรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) นั้น

    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้กล่าวยกย่องการก่อตั้งกลไกความร่วมมือบริกส์ ซึ่งมีชาติทั้งสองเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ว่า จีนและรัสเซียได้พบหนทางที่ถูกต้องแล้วในการอยู่ร่วมกันระหว่างชาติใหญ่ๆ ในลักษณะที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีการเผชิญหน้า และไม่มีการล็อกเป้าหมายใดๆ ทั้งสิ้นกับฝ่ายที่สาม

    ผู้นำจีนระบุว่า กลไกความร่วมมือบริกส์ถือเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมโลกที่มีหลายขั้วอำนาจอย่างเท่าเทียมกันและเป็นระเบียบ ตลอดจนส่งเสริมการสร้างโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์อย่างครอบคลุมทั่วโลก

    นอกจากนั้น สี จิ้นผิงยังกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียเดินมาไกลและบุกเบิกสร้างความสำเร็จมาด้วยกันหลายประการ

    ด้านรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ สี จิ้นผิงได้กล่าวกับผู้นำรัสเซียว่า ขณะนี้โลกกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบหนึ่งร้อยปี สถานการณ์ระหว่างประเทศพัวพันกันยุ่งเหยิงวุ่นวาย “แต่ผมเชื่อมั่นหนักแน่นว่า มิตรภาพระหว่างจีนกับรัสเซียจะดำเนินต่อไปหลายชั่วอายุคน และชาติที่ยิ่งใหญ่จะมีความรับผิดชอบต่อประชาชนของตนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง”

    ขณะที่ปูตินเรียกสี จิ้นผิงว่า “เพื่อนรัก” และกล่าวว่า ความร่วมมือรัสเซีย-จีนบนเวทีโลกเป็นปัจจัยหลักอันหนึ่งในการสร้างเสถียรภาพในโลก

    ทั้งนี้ กลุ่มบริกส์ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ โดยคำว่า BRICS เป็นอักษรตัวแรกของชื่อชาติสมาชิกเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จีนมองคำว่า BRICS นี้คือ “ก้อนทองคำ” (gold bricks) สำหรับจีน ซึ่งบ่งบอกถึงการมองศักยภาพและอนาคตอันสดใสของกลุ่มบริกส์ในแง่ดีนั่นเอง

    ภาพประกอบข่าว
    1ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ: ซินหัว
    2 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ : รอยเตอร์
    3 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ชมคอนเสิร์ตก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน รัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 - ภาพ : รอยเตอร์

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/oFBNCmDeuDCUXw9G/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    "สี จิ้นผิง" พบ "ปูติน" ในการประชุมสุดยอดผู้นำ ซัมมิต BRICS ครั้งที่ 16 ที่เมืองโบราณ คาซานของรัสเซีย โกลบอลไทมส์สื่อของทางการจีนรายงานว่า ระหว่างพบปะกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมผู้นำชาติกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 ที่เมืองคาซาน สาธารณรัฐตาตาร์สถานของรัสเซีย เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) นั้น ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้กล่าวยกย่องการก่อตั้งกลไกความร่วมมือบริกส์ ซึ่งมีชาติทั้งสองเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ว่า จีนและรัสเซียได้พบหนทางที่ถูกต้องแล้วในการอยู่ร่วมกันระหว่างชาติใหญ่ๆ ในลักษณะที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีการเผชิญหน้า และไม่มีการล็อกเป้าหมายใดๆ ทั้งสิ้นกับฝ่ายที่สาม ผู้นำจีนระบุว่า กลไกความร่วมมือบริกส์ถือเป็นกำลังหลักในการส่งเสริมโลกที่มีหลายขั้วอำนาจอย่างเท่าเทียมกันและเป็นระเบียบ ตลอดจนส่งเสริมการสร้างโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์อย่างครอบคลุมทั่วโลก นอกจากนั้น สี จิ้นผิงยังกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์จีน-รัสเซียเดินมาไกลและบุกเบิกสร้างความสำเร็จมาด้วยกันหลายประการ ด้านรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ สี จิ้นผิงได้กล่าวกับผู้นำรัสเซียว่า ขณะนี้โลกกำลังประสบกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบหนึ่งร้อยปี สถานการณ์ระหว่างประเทศพัวพันกันยุ่งเหยิงวุ่นวาย “แต่ผมเชื่อมั่นหนักแน่นว่า มิตรภาพระหว่างจีนกับรัสเซียจะดำเนินต่อไปหลายชั่วอายุคน และชาติที่ยิ่งใหญ่จะมีความรับผิดชอบต่อประชาชนของตนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง” ขณะที่ปูตินเรียกสี จิ้นผิงว่า “เพื่อนรัก” และกล่าวว่า ความร่วมมือรัสเซีย-จีนบนเวทีโลกเป็นปัจจัยหลักอันหนึ่งในการสร้างเสถียรภาพในโลก ทั้งนี้ กลุ่มบริกส์ประกอบด้วยบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ โดยคำว่า BRICS เป็นอักษรตัวแรกของชื่อชาติสมาชิกเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม จีนมองคำว่า BRICS นี้คือ “ก้อนทองคำ” (gold bricks) สำหรับจีน ซึ่งบ่งบอกถึงการมองศักยภาพและอนาคตอันสดใสของกลุ่มบริกส์ในแง่ดีนั่นเอง ภาพประกอบข่าว 1ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ: ซินหัว 2 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน พบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดกลุ่มบริกส์ (BRICS) ครั้งที่ 16 เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 - ภาพ : รอยเตอร์ 3 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ชมคอนเสิร์ตก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำอย่างไม่เป็นทางการระหว่างการประชุมสุดยอด BRICS ที่เมืองคาซาน รัสเซีย เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 - ภาพ : รอยเตอร์ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/oFBNCmDeuDCUXw9G/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • ลอยกระทง..เพิ่มวิกฤตแหล่งน้ำ

    ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีศาสนาฮินดู(อินเดียโบราณ)
    ที่ ชาวพุทธไทย(ปัญญาอ่อน) งมงาย รับเข้ามาปฏิบัติ
    มโน..ว่า เพื่อขอขมา #พระแม่คงคา(เทพแห่งสายน้ำ)
    ผู้ดูแลรักษาแม่น้ำคงคา

    ชาวอินเดีย ดื่ม กิน อาบ ใช้ น้ำในแม่น้ำคงคา พร้อมกับอุจจาระ ปัสสาวะ ทิ้งขยะ เผาคนตาย โยนซากสัตว์ ลงไปด้วย

    นักวิจัยได้ค้นพบว่า น้ำในแม่น้ำคงคามีลักษณะพิเศษกว่าแม่น้ำอื่นใด คือ มีปริมาณของออกซิเจนละลายในน้ำสูง และยังมีจุลินทรีย์ที่สามารถกินไวรัสรวมถึงเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย

    #ยิ่งมีปริมาณของเสียปล่อยลงน้ำเท่าใด_ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์เท่านั้น

    ทำให้น้ำปรับตัวไปสู่สภาพปกติได้มากกว่าแม่น้ำทั่วไป 25 เท่า

    แต่..แม่น้ำทุกสายในเมืองไทย(ไม่มีคุณสมบัติพิเศษนั้น)

    #ยิ่งทิ้งอะไรลงไป_ยิ่งเน่า

    แล้ว เราจะ "ลอยกระทง" ไปทำไม?
    .
    .
    Pachäree Wõng
    October23, 2024
    Sausalito, CA94965
    ลอยกระทง..เพิ่มวิกฤตแหล่งน้ำ ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีศาสนาฮินดู(อินเดียโบราณ) ที่ ชาวพุทธไทย(ปัญญาอ่อน) งมงาย รับเข้ามาปฏิบัติ มโน..ว่า เพื่อขอขมา #พระแม่คงคา(เทพแห่งสายน้ำ) ผู้ดูแลรักษาแม่น้ำคงคา ชาวอินเดีย ดื่ม กิน อาบ ใช้ น้ำในแม่น้ำคงคา พร้อมกับอุจจาระ ปัสสาวะ ทิ้งขยะ เผาคนตาย โยนซากสัตว์ ลงไปด้วย นักวิจัยได้ค้นพบว่า น้ำในแม่น้ำคงคามีลักษณะพิเศษกว่าแม่น้ำอื่นใด คือ มีปริมาณของออกซิเจนละลายในน้ำสูง และยังมีจุลินทรีย์ที่สามารถกินไวรัสรวมถึงเชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วย #ยิ่งมีปริมาณของเสียปล่อยลงน้ำเท่าใด_ก็ยิ่งเพิ่มจำนวนของจุลินทรีย์เท่านั้น ทำให้น้ำปรับตัวไปสู่สภาพปกติได้มากกว่าแม่น้ำทั่วไป 25 เท่า แต่..แม่น้ำทุกสายในเมืองไทย(ไม่มีคุณสมบัติพิเศษนั้น) #ยิ่งทิ้งอะไรลงไป_ยิ่งเน่า แล้ว เราจะ "ลอยกระทง" ไปทำไม? . . Pachäree Wõng October23, 2024 Sausalito, CA94965
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • สำรองทองคำของโลกที่อยู่ในครอบครองของประเทศ BRICS มีมากเพียงใด?

    ประเทศ BRICS ถือครองสำรองทองคำของโลกมากกว่า ๒๐ เปอร์เซ็นต์, โดยรัสเซียและจีนครองส่วนแบ่งมากที่สุด, ตามการคำนวณของ Sputnik ซึ่งใช้ข้อมูลของ World Gold Council

    ในไตรมาสที่ ๒ ของปี ๒๐๒๔, สำรองทองคำของโลกมีทั้งหมด ๒๙,๐๓๐ ตัน, โดยประเทศ BRICS (ไม่รวมอิหร่านและเอธิโอเปีย) ถือครอง ๖,๒๐๐ ตัน, หรือ ๒๑.๔ เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดของโลก รัสเซียเป็นผู้นำในกลุ่ม BRICS โดยมี ๒,๓๔๐ ตัน หรือ ๘.๑ เปอร์เซ็นต์ของทองคำทั้งหมดของโลก, รองลงมาคือจีน ซึ่งมี ๒,๒๖๐ ตัน (๗.๘ เปอร์เซ็นต์)

    ประเทศสมาชิก BRICS อื่นๆ—อินเดีย, ซาอุดีอาระเบีย, บราซิล, อียิปต์, แอฟริกาใต้, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์—มีส่วนแบ่งน้อยกว่า, โดยรวมกันมีสัดส่วนน้อยกว่า ๓ เปอร์เซ็นต์ของสำรองทองคำทั่วโลก อินเดียมี ๘๔๐.๗๖ ตัน, ซาอุดีอาระเบีย ๓๒๓ ตัน, บราซิล ๑๒๙.๗ ตัน, อียิปต์ ๑๒๖.๕๗ ตัน, แอฟริกาใต้ ๑๒๕.๔๔ ตัน, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ๗๔.๕ ตัน

    📊 สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม, โปรดดูอินโฟกราฟิกของ Sputnik!
    .
    HOW MUCH OF THE WORLD’S GOLD RESERVES ARE HELD BY BRICS NATIONS?

    Over 20 percent of the world's gold reserves are held by BRICS countries, with Russia and China leading the field, according to Sputnik’s calculations based on World Gold Council data.

    As of the second quarter of 2024, global gold reserves totaled 29,030 tons, with BRICS (excluding Iran and Ethiopia) holding 6,200 tons, or 21.4 percent of the world's total. Russia leads within BRICS with 2,340 tons or 8.1 percent of the world's gold, followed by China with 2,260 tons (7.8 percent).

    Other BRICS members—India, Saudi Arabia, Brazil, Egypt, South Africa, and the UAE—hold smaller shares, collectively less than 3 percent of global reserves. India has 840.76 tons, Saudi Arabia 323 tons, Brazil 129.7 tons, Egypt 126.57 tons, South Africa 125.44 tons and the UAE 74.5 tons.

    📊 For more details, check out Sputnik’s infographic!
    .
    2:39 AM · Oct 22, 2024 · 3,729 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1848449111307001975
    สำรองทองคำของโลกที่อยู่ในครอบครองของประเทศ BRICS มีมากเพียงใด? ประเทศ BRICS ถือครองสำรองทองคำของโลกมากกว่า ๒๐ เปอร์เซ็นต์, โดยรัสเซียและจีนครองส่วนแบ่งมากที่สุด, ตามการคำนวณของ Sputnik ซึ่งใช้ข้อมูลของ World Gold Council ในไตรมาสที่ ๒ ของปี ๒๐๒๔, สำรองทองคำของโลกมีทั้งหมด ๒๙,๐๓๐ ตัน, โดยประเทศ BRICS (ไม่รวมอิหร่านและเอธิโอเปีย) ถือครอง ๖,๒๐๐ ตัน, หรือ ๒๑.๔ เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดของโลก รัสเซียเป็นผู้นำในกลุ่ม BRICS โดยมี ๒,๓๔๐ ตัน หรือ ๘.๑ เปอร์เซ็นต์ของทองคำทั้งหมดของโลก, รองลงมาคือจีน ซึ่งมี ๒,๒๖๐ ตัน (๗.๘ เปอร์เซ็นต์) ประเทศสมาชิก BRICS อื่นๆ—อินเดีย, ซาอุดีอาระเบีย, บราซิล, อียิปต์, แอฟริกาใต้, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์—มีส่วนแบ่งน้อยกว่า, โดยรวมกันมีสัดส่วนน้อยกว่า ๓ เปอร์เซ็นต์ของสำรองทองคำทั่วโลก อินเดียมี ๘๔๐.๗๖ ตัน, ซาอุดีอาระเบีย ๓๒๓ ตัน, บราซิล ๑๒๙.๗ ตัน, อียิปต์ ๑๒๖.๕๗ ตัน, แอฟริกาใต้ ๑๒๕.๔๔ ตัน, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ๗๔.๕ ตัน 📊 สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม, โปรดดูอินโฟกราฟิกของ Sputnik! . HOW MUCH OF THE WORLD’S GOLD RESERVES ARE HELD BY BRICS NATIONS? Over 20 percent of the world's gold reserves are held by BRICS countries, with Russia and China leading the field, according to Sputnik’s calculations based on World Gold Council data. As of the second quarter of 2024, global gold reserves totaled 29,030 tons, with BRICS (excluding Iran and Ethiopia) holding 6,200 tons, or 21.4 percent of the world's total. Russia leads within BRICS with 2,340 tons or 8.1 percent of the world's gold, followed by China with 2,260 tons (7.8 percent). Other BRICS members—India, Saudi Arabia, Brazil, Egypt, South Africa, and the UAE—hold smaller shares, collectively less than 3 percent of global reserves. India has 840.76 tons, Saudi Arabia 323 tons, Brazil 129.7 tons, Egypt 126.57 tons, South Africa 125.44 tons and the UAE 74.5 tons. 📊 For more details, check out Sputnik’s infographic! . 2:39 AM · Oct 22, 2024 · 3,729 Views https://x.com/SputnikInt/status/1848449111307001975
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 34 Views 0 Reviews
  • ที่ประชุมซัมมิต BRICS ในสัปดาห์นี้ ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย จะดึงดูดอีกหลายประเทศเข้าร่วมกลุ่มเพิ่มเติม ท่ามกลางสัญญาณว่ากลุ่ม BRICS กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และสถานการณ์เช่นนี้ วอชิงตัน ไม่อาจโทษใครอื่นได้ยกเว้นตนเอง จากความเห็นของ ไมเคิล มาลูฟ อดีตนักวิเคราะห์กระทรวงกลาโหมอเมริกา(เพนตากอน)
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายงานมาเธอร์ ออฟ ออล ทอล์ค โชว์ (MOATS) ของจอร์จ กัลโลเวย์ อดีตสมาชิกรัฐสภาสหราชอาณาจักรเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาลูฟ ชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย สำหรับการตระหนักว่าประเทศต่างๆทั่วโลกเหลือคณานับ ต่างกำลังเสาะหาระบบเศรษฐกิจที่มีความครอบคลุมมากกว่าเดิมและหาทางในสิ่งที่ มาลูฟ บอกว่า "ออกจากการอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรอันน่ารังเกียจของตะวันตก และระบบการเงินที่กีดขวางพวกเขา"
    .
    "สหรัฐฯควบคุมระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา(rules-based order) ซึ่งนั่นหมายความว่า พวกเขาไม่ใช่แค่เพียงเป็นคนสร้างกฏขึ้นมา แต่ยังสามารถละเมิดมันได้ตามความต้องการ และเราพบเห็นสิ่งนี้มาอย่างต่อเนื่อง ในการตัดสินใจทำสิ่งต่างๆของพวกเขา และโลกกำลังบอกว่าเราไม่เอาแล้ว พอแล้วสำหรับเรื่องแบบนี้" มาลูปบอกกับกัลโลเวย์
    .
    "สิ่งที่เรากำลังพบเห็นคือการท้าทายความเป็นเจ้าโลกของดอลลาร์ และการท้าทายการใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธและระบบตะวันตก และเราได้พบเห็นกลไกต่างๆนานา ที่จะถูกนำเสนอ ณ ที่ประชุมซัมมิตครั้งนี้ ในสัปดาห์นี้"
    .
    หลังจากเสมือนถูกตัดขาดจากระบบการเงินของตะวันตก ต่อกรณีเปิดฉากรุกรานยูเครนในปี 2022 รัสเซียยกระดับความพยายามชำระการค้าต่างประเทศด้วยสกุลเงินรูเบิลและสกุลเงินอื่นๆ "เราไม่ได้เป็นคนปฏิเสธการทำธุรกรรมในรูปแบบของดอลลาร์ แต่เราถูกปฏิเสธ และเราถูกบีบให้มองหาทางเลือกอื่นๆ" ปูติน อธิบายระหว่างร่วมบรรยาย ณ เวที อิสเทิร์น อีโคโนมิค ฟอรัม ในเมืองวลาดิวอสตอค เมื่อเดือนที่แล้ว
    .
    ปูติน เน้นว่า รัสเซียและพันธมิตรในกลุ่ม BRICS เวลานี้กำลังใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าขายระหว่างกัน คิดเป็นสัดส่วนแล้วกว่า 65% และอ้างอิงจากรายงานของรอยเตอร์ รัสเซีย จะเสนอระบบการเงินระหว่างประเทศใหม่ที่อยู่บนพื้นฐาของบล็อคเชน ณ ที่ประชุมในสัปดาห์นี้
    .
    แม้มอสโกไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานของรอยเตอร์ แต่ อันทอน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับอาร์ทีนิวส์ ว่ามอสโกและประเทศอื่นๆในกลุ่ม BRICS กำลังหาทางจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินข้ามชาติใหม่ ที่ไม่ต้องพึ่งพิงระบบ SWIFT ของตะวันตกอีกต่อไป
    .
    มาลูฟ กล่าวกับ กัลโลเวย์ ว่า "ความตั้งใจของสหรัฐฯและพันธมิตรที่ในการใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธ และปิดตายมหาอำนาจคู่อริไม่ให้เข้าถึงระบบของตะวันตก กลับกลายเป็นการผลักดันให้บรรดาประเทศที่เป็นมิตรกับวอชิงตัน อย่างบราซิล อินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กำลังหาทางเลือกอื่น"
    .
    "ประกอบกับที่ข้อเท็จจริงที่ว่า มาตรการคว่ำบาตรผลักให้รัสเซียและจีน เข้าสู่ความเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดเท่าที่เคยมีมาก มันพิสูจน์แล้วว่า คุณไม่อาจพบเห็นความคิดเชิงกลยุทธ์ออกมาจากสหรัฐฯอีกต่อไปแล้ว" เขาบอกกับกัลโลเวย์
    .
    BRICS เดิมทีก่อตั้งโดย บราซิล จีน อินเดียและจีน ก่อนแอฟริกาเข้าร่วมในปี 2011 ขณะที่ล่าสุด อียิปต์, เอธิโอเปีย อิหร่านและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าร่วมในปี 2024 ส่วน ซาอุดีอาระเบีย ยังไม่ได้ให้สัตยาบันความเป็นรัฐสมาชิก หลังจากได้รับเชิญให้เข้าร่วม
    .
    ปัจจุบัน รัสเซีย ดำรงตำแหน่งประธาน BRICS และมีมากกว่า 30 ประเทศ ในนั้นรวมถึงสมาชิกนาโตอย่างตุรกี ที่ยื่นสมัครเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101624
    ..............
    Sondhi X
    ที่ประชุมซัมมิต BRICS ในสัปดาห์นี้ ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย จะดึงดูดอีกหลายประเทศเข้าร่วมกลุ่มเพิ่มเติม ท่ามกลางสัญญาณว่ากลุ่ม BRICS กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และสถานการณ์เช่นนี้ วอชิงตัน ไม่อาจโทษใครอื่นได้ยกเว้นตนเอง จากความเห็นของ ไมเคิล มาลูฟ อดีตนักวิเคราะห์กระทรวงกลาโหมอเมริกา(เพนตากอน) . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับรายงานมาเธอร์ ออฟ ออล ทอล์ค โชว์ (MOATS) ของจอร์จ กัลโลเวย์ อดีตสมาชิกรัฐสภาสหราชอาณาจักรเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มาลูฟ ชื่นชมประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย สำหรับการตระหนักว่าประเทศต่างๆทั่วโลกเหลือคณานับ ต่างกำลังเสาะหาระบบเศรษฐกิจที่มีความครอบคลุมมากกว่าเดิมและหาทางในสิ่งที่ มาลูฟ บอกว่า "ออกจากการอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรอันน่ารังเกียจของตะวันตก และระบบการเงินที่กีดขวางพวกเขา" . "สหรัฐฯควบคุมระเบียบระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา(rules-based order) ซึ่งนั่นหมายความว่า พวกเขาไม่ใช่แค่เพียงเป็นคนสร้างกฏขึ้นมา แต่ยังสามารถละเมิดมันได้ตามความต้องการ และเราพบเห็นสิ่งนี้มาอย่างต่อเนื่อง ในการตัดสินใจทำสิ่งต่างๆของพวกเขา และโลกกำลังบอกว่าเราไม่เอาแล้ว พอแล้วสำหรับเรื่องแบบนี้" มาลูปบอกกับกัลโลเวย์ . "สิ่งที่เรากำลังพบเห็นคือการท้าทายความเป็นเจ้าโลกของดอลลาร์ และการท้าทายการใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธและระบบตะวันตก และเราได้พบเห็นกลไกต่างๆนานา ที่จะถูกนำเสนอ ณ ที่ประชุมซัมมิตครั้งนี้ ในสัปดาห์นี้" . หลังจากเสมือนถูกตัดขาดจากระบบการเงินของตะวันตก ต่อกรณีเปิดฉากรุกรานยูเครนในปี 2022 รัสเซียยกระดับความพยายามชำระการค้าต่างประเทศด้วยสกุลเงินรูเบิลและสกุลเงินอื่นๆ "เราไม่ได้เป็นคนปฏิเสธการทำธุรกรรมในรูปแบบของดอลลาร์ แต่เราถูกปฏิเสธ และเราถูกบีบให้มองหาทางเลือกอื่นๆ" ปูติน อธิบายระหว่างร่วมบรรยาย ณ เวที อิสเทิร์น อีโคโนมิค ฟอรัม ในเมืองวลาดิวอสตอค เมื่อเดือนที่แล้ว . ปูติน เน้นว่า รัสเซียและพันธมิตรในกลุ่ม BRICS เวลานี้กำลังใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการค้าขายระหว่างกัน คิดเป็นสัดส่วนแล้วกว่า 65% และอ้างอิงจากรายงานของรอยเตอร์ รัสเซีย จะเสนอระบบการเงินระหว่างประเทศใหม่ที่อยู่บนพื้นฐาของบล็อคเชน ณ ที่ประชุมในสัปดาห์นี้ . แม้มอสโกไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรายงานของรอยเตอร์ แต่ อันทอน ซิลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับอาร์ทีนิวส์ ว่ามอสโกและประเทศอื่นๆในกลุ่ม BRICS กำลังหาทางจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินข้ามชาติใหม่ ที่ไม่ต้องพึ่งพิงระบบ SWIFT ของตะวันตกอีกต่อไป . มาลูฟ กล่าวกับ กัลโลเวย์ ว่า "ความตั้งใจของสหรัฐฯและพันธมิตรที่ในการใช้ดอลลาร์เป็นอาวุธ และปิดตายมหาอำนาจคู่อริไม่ให้เข้าถึงระบบของตะวันตก กลับกลายเป็นการผลักดันให้บรรดาประเทศที่เป็นมิตรกับวอชิงตัน อย่างบราซิล อินเดียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กำลังหาทางเลือกอื่น" . "ประกอบกับที่ข้อเท็จจริงที่ว่า มาตรการคว่ำบาตรผลักให้รัสเซียและจีน เข้าสู่ความเป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดเท่าที่เคยมีมาก มันพิสูจน์แล้วว่า คุณไม่อาจพบเห็นความคิดเชิงกลยุทธ์ออกมาจากสหรัฐฯอีกต่อไปแล้ว" เขาบอกกับกัลโลเวย์ . BRICS เดิมทีก่อตั้งโดย บราซิล จีน อินเดียและจีน ก่อนแอฟริกาเข้าร่วมในปี 2011 ขณะที่ล่าสุด อียิปต์, เอธิโอเปีย อิหร่านและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าร่วมในปี 2024 ส่วน ซาอุดีอาระเบีย ยังไม่ได้ให้สัตยาบันความเป็นรัฐสมาชิก หลังจากได้รับเชิญให้เข้าร่วม . ปัจจุบัน รัสเซีย ดำรงตำแหน่งประธาน BRICS และมีมากกว่า 30 ประเทศ ในนั้นรวมถึงสมาชิกนาโตอย่างตุรกี ที่ยื่นสมัครเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101624 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 Comments 1 Shares 832 Views 0 Reviews
  • 🇷🇺🇮🇷 เรือรบของรัสเซียและอิหร่านฝึกซ้อมทางทะเลในมหาสมุทรอินเดีย
    .
    JUST IN: 🇷🇺🇮🇷 Russian and Iranian warships conduct naval drills in the Indian Ocean.
    .
    11:41 PM · Oct 21, 2024 · 224.4K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1848404183793471584
    🇷🇺🇮🇷 เรือรบของรัสเซียและอิหร่านฝึกซ้อมทางทะเลในมหาสมุทรอินเดีย . JUST IN: 🇷🇺🇮🇷 Russian and Iranian warships conduct naval drills in the Indian Ocean. . 11:41 PM · Oct 21, 2024 · 224.4K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1848404183793471584
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 58 Views 36 0 Reviews
  • 🇮🇳🇨🇳 อินเดียและจีนบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติวิกฤตชายแดน
    .
    JUST IN: 🇮🇳🇨🇳 India and China reach agreement to end the border crisis.
    .
    9:31 PM · Oct 21, 2024 · 884.9K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1848371523989414204
    🇮🇳🇨🇳 อินเดียและจีนบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติวิกฤตชายแดน . JUST IN: 🇮🇳🇨🇳 India and China reach agreement to end the border crisis. . 9:31 PM · Oct 21, 2024 · 884.9K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1848371523989414204
    Like
    2
    1 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews

  • *นักรบอเมริกันและอังกฤษเข้าพม่าแล้ว*
    โดย นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย

    จะควบคุมไม่ให้จีนมีความสงบที่จะพัฒนาจนกลายเป็นมหาอำนาจแข่งกับตัวเอง สหรัฐฯและตะวันตกต้องหนุนไต้หวัน

    จะให้รัสเซียเสียสมาธิในการพัฒนาประเทศใหญ่และมีทรัพยากรมากที่สุดในโลก

    สหรัฐฯและตะวันตกต้องหนุนอูเครน จอร์เจีย และประเทศทั้งหลายที่มีพรมแดนประชิดติดกับรัสเซีย สร้างสงครามเพื่อฉุดรัสเซียให้ลงมา

    อิหร่านเป็นประเทศใหญ่และมีท่าทีเป็นศัตรูต่อสหรัฐฯ สหรัฐฯและตะวันตกจำเป็นต้องหนุนอาเซอร์ไบจาน ต่อไปในอนาคต

    สหรัฐฯจะเผชิญกับมหาอำนาจใหม่อย่างจีน รัสเซีย และอินเดีย

    มีอยู่ประเทศหนึ่งซึ่งถ้าสหรัฐฯและตะวันตกสามารถเข้าไปมีอิทธิพลได้ ก็สามารถสร้างความหงุดหงิดกังวลใจให้ทั้งจีนและอินเดียได้ ประเทศนั้นคือ “สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า”

    พม่ามีพื้นที่มากกว่าไทย คือมีมากถึง 676,578 ตร.กม. มีพรมแดนติดกับจีนยาว 2,129 กิโลเมตร และติดอินเดีย 1,468 กิโลเมตร หากสหรัฐฯและตะวันตกมีอิทธิพลต่อรัฐบาลใหม่ของพม่า ก็สามารถใช้พม่าเป็นฐานก่อกวนได้ทั้งอินเดียและจีน ยิงปืนนัดเดียว นกตกลงมาทั้ง 2 ตัว

    สำนักข่าวเดอะบิสซิเนสสแตนดาร์ดและสำนักข่าวอัลจาซีราห์ยืนยันตรงกันว่า มีอาสาสมัครจากตะวันตก สัญชาติอเมริกันและอังกฤษ เข้าร่วมรบต่อต้านรัฐบาลพม่า

    เมื่อถามว่า พวกคุณมารบทำไม ทหารตะวันตกพวกนี้ตอบว่า พวกตนได้แรงบันดาลใจจากความกล้าหาญของพวกต่อต้านรัฐประหาร จึงต้องมาช่วยรบ

    นักรบอเมริกันและอังกฤษพวกนี้เคยปฏิบัติงานทั้งในอัฟกานิสถานและอูเครน ขณะกำลังสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าก็มีการถ่ายคลิปวิดีโอกระจายออกไป เพื่อดึงคนที่สนใจให้เข้ามาช่วยกันรบ

    ขณะนี้มีการเตรียมตั้งทีมทหารที่เคยผ่านสงครามในหลายสมรภูมิ ชาวสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย ฯลฯ เพื่อเข้ามาช่วยฝ่ายต่อต้าน

    พม่าประกอบด้วย 7 ภาค และ 7 รัฐ แต่ละภาคและรัฐมีเมืองเอก หรือเมืองหลวงเป็นของตนเอง เช่น ภาคสะกาย ภาคมัณฑะเลย์ ภาคมะเกว ภาคพะโค ภาคย่างกุ้ง ทั้ง 5 ภาค มีเมืองหลวงชื่อเดียวกับชื่อภาค

    ยกเว้นภาคเอยาวดีที่มีเมืองหลวงชื่อพะสิม และภาคตะนาวศรีที่มีเมืองหลวงชื่อทวาย

    ประชาชนคนในภาคส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า หากประชากรส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยก็จะถูกตั้งเป็นรัฐ

    รัฐคะฉิ่น (เมืองหลวงคือมิตจินา) รัฐคะยา (ลอยก่อ) รัฐกะเหรี่ยง (พะอัน) รัฐชิน (ฮะคา) รัฐมอญ (เมาะลำไย) รัฐยะไข่ (ชิตตเว) และรัฐฉาน (ตองจี) รัฐเหล่านี้มีทหารตะวันตกเข้าไปฝังตัวแล้ว

    หลายคนเปิดเผยตัวตนผ่านคลิป บางคนบอกว่า อ้า ข้าพเจ้ามาจากสหรัฐฯตอนใต้ บางคนมาจากอังกฤษที่เคยช่วยกองกำลังวายพีจีที่นำโดยชาวเคิร์ดในซีเรีย ทุกคนบอกว่าที่ตนมาปฏิบัติการนี้ เป็นการปฏิบัติการเพื่อชาวโลกอย่างเดียวกับที่ช่วยซีเรียกับอูเครน

    กลุ่มศาสนาก็เอากับเขาด้วย นอกจากกลุ่มมนุษยธรรมคริสเตียน (เอฟบีอาร์) จะให้สิ่งของและการรักษาพยาบาลแล้ว ยังมีภาพและคลิปของสมาชิกเอฟบีอาร์แต่งชุดติดอาวุธ

    พม่าจะเป็นพื้นที่แห่งใหม่ที่มหาอำนาจใหญ่ใช้ประลองกำลัง ขณะที่ตะวันตกส่งทหารรับจ้างมาปฏิบัติงาน มีข่าวที่ไม่ได้ยืนยันว่า รัสเซียส่งครูมาสอนวิธีการใช้อาวุธรัสเซียให้กับทหารพม่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลพม่าก็เดินทางไปเยือนจีนกับรัสเซียเพื่อจัดหาโดรนมาใช้ในการสู้รบ

    ไทยมีพรมแดนประชิดติดกับพม่า 2,416 กิโลเมตร เป็นพรมแดนที่ยาวที่สุดที่พม่ามีกับประเทศอื่น นอกจากนั้นยังมีชาวพม่าเข้ามาทำงานในประเทศไทยหลายล้านคน แน่นอนว่าหายนภัยที่มาจากการสู้รบ ต้องกระทบกับประเทศไทยของเราอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

    โลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงรุนแรง ทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองระหว่างประเทศ ตอนที่เกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน หลายท่านก็เฉยๆ เพราะคิดว่าสถานที่สู้รบอยู่ห่างไกลจากประเทศไทย

    ตอนที่เกิดความขัดแย้งจีน-ไต้หวัน หลายคนก็บอก โอย ไกลจากไทยเยอะแยะ อย่าไปสนใจ

    อ้าว เฮ้ย วันนี้ สงครามใหญ่ใกล้ประชิดติดพรมแดนของเราแล้ว..
    *นักรบอเมริกันและอังกฤษเข้าพม่าแล้ว* โดย นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย จะควบคุมไม่ให้จีนมีความสงบที่จะพัฒนาจนกลายเป็นมหาอำนาจแข่งกับตัวเอง สหรัฐฯและตะวันตกต้องหนุนไต้หวัน จะให้รัสเซียเสียสมาธิในการพัฒนาประเทศใหญ่และมีทรัพยากรมากที่สุดในโลก สหรัฐฯและตะวันตกต้องหนุนอูเครน จอร์เจีย และประเทศทั้งหลายที่มีพรมแดนประชิดติดกับรัสเซีย สร้างสงครามเพื่อฉุดรัสเซียให้ลงมา อิหร่านเป็นประเทศใหญ่และมีท่าทีเป็นศัตรูต่อสหรัฐฯ สหรัฐฯและตะวันตกจำเป็นต้องหนุนอาเซอร์ไบจาน ต่อไปในอนาคต สหรัฐฯจะเผชิญกับมหาอำนาจใหม่อย่างจีน รัสเซีย และอินเดีย มีอยู่ประเทศหนึ่งซึ่งถ้าสหรัฐฯและตะวันตกสามารถเข้าไปมีอิทธิพลได้ ก็สามารถสร้างความหงุดหงิดกังวลใจให้ทั้งจีนและอินเดียได้ ประเทศนั้นคือ “สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า” พม่ามีพื้นที่มากกว่าไทย คือมีมากถึง 676,578 ตร.กม. มีพรมแดนติดกับจีนยาว 2,129 กิโลเมตร และติดอินเดีย 1,468 กิโลเมตร หากสหรัฐฯและตะวันตกมีอิทธิพลต่อรัฐบาลใหม่ของพม่า ก็สามารถใช้พม่าเป็นฐานก่อกวนได้ทั้งอินเดียและจีน ยิงปืนนัดเดียว นกตกลงมาทั้ง 2 ตัว สำนักข่าวเดอะบิสซิเนสสแตนดาร์ดและสำนักข่าวอัลจาซีราห์ยืนยันตรงกันว่า มีอาสาสมัครจากตะวันตก สัญชาติอเมริกันและอังกฤษ เข้าร่วมรบต่อต้านรัฐบาลพม่า เมื่อถามว่า พวกคุณมารบทำไม ทหารตะวันตกพวกนี้ตอบว่า พวกตนได้แรงบันดาลใจจากความกล้าหาญของพวกต่อต้านรัฐประหาร จึงต้องมาช่วยรบ นักรบอเมริกันและอังกฤษพวกนี้เคยปฏิบัติงานทั้งในอัฟกานิสถานและอูเครน ขณะกำลังสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าก็มีการถ่ายคลิปวิดีโอกระจายออกไป เพื่อดึงคนที่สนใจให้เข้ามาช่วยกันรบ ขณะนี้มีการเตรียมตั้งทีมทหารที่เคยผ่านสงครามในหลายสมรภูมิ ชาวสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย ฯลฯ เพื่อเข้ามาช่วยฝ่ายต่อต้าน พม่าประกอบด้วย 7 ภาค และ 7 รัฐ แต่ละภาคและรัฐมีเมืองเอก หรือเมืองหลวงเป็นของตนเอง เช่น ภาคสะกาย ภาคมัณฑะเลย์ ภาคมะเกว ภาคพะโค ภาคย่างกุ้ง ทั้ง 5 ภาค มีเมืองหลวงชื่อเดียวกับชื่อภาค ยกเว้นภาคเอยาวดีที่มีเมืองหลวงชื่อพะสิม และภาคตะนาวศรีที่มีเมืองหลวงชื่อทวาย ประชาชนคนในภาคส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า หากประชากรส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยก็จะถูกตั้งเป็นรัฐ รัฐคะฉิ่น (เมืองหลวงคือมิตจินา) รัฐคะยา (ลอยก่อ) รัฐกะเหรี่ยง (พะอัน) รัฐชิน (ฮะคา) รัฐมอญ (เมาะลำไย) รัฐยะไข่ (ชิตตเว) และรัฐฉาน (ตองจี) รัฐเหล่านี้มีทหารตะวันตกเข้าไปฝังตัวแล้ว หลายคนเปิดเผยตัวตนผ่านคลิป บางคนบอกว่า อ้า ข้าพเจ้ามาจากสหรัฐฯตอนใต้ บางคนมาจากอังกฤษที่เคยช่วยกองกำลังวายพีจีที่นำโดยชาวเคิร์ดในซีเรีย ทุกคนบอกว่าที่ตนมาปฏิบัติการนี้ เป็นการปฏิบัติการเพื่อชาวโลกอย่างเดียวกับที่ช่วยซีเรียกับอูเครน กลุ่มศาสนาก็เอากับเขาด้วย นอกจากกลุ่มมนุษยธรรมคริสเตียน (เอฟบีอาร์) จะให้สิ่งของและการรักษาพยาบาลแล้ว ยังมีภาพและคลิปของสมาชิกเอฟบีอาร์แต่งชุดติดอาวุธ พม่าจะเป็นพื้นที่แห่งใหม่ที่มหาอำนาจใหญ่ใช้ประลองกำลัง ขณะที่ตะวันตกส่งทหารรับจ้างมาปฏิบัติงาน มีข่าวที่ไม่ได้ยืนยันว่า รัสเซียส่งครูมาสอนวิธีการใช้อาวุธรัสเซียให้กับทหารพม่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐบาลพม่าก็เดินทางไปเยือนจีนกับรัสเซียเพื่อจัดหาโดรนมาใช้ในการสู้รบ ไทยมีพรมแดนประชิดติดกับพม่า 2,416 กิโลเมตร เป็นพรมแดนที่ยาวที่สุดที่พม่ามีกับประเทศอื่น นอกจากนั้นยังมีชาวพม่าเข้ามาทำงานในประเทศไทยหลายล้านคน แน่นอนว่าหายนภัยที่มาจากการสู้รบ ต้องกระทบกับประเทศไทยของเราอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง โลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงรุนแรง ทั้งด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองระหว่างประเทศ ตอนที่เกิดสงครามรัสเซีย-อูเครน หลายท่านก็เฉยๆ เพราะคิดว่าสถานที่สู้รบอยู่ห่างไกลจากประเทศไทย ตอนที่เกิดความขัดแย้งจีน-ไต้หวัน หลายคนก็บอก โอย ไกลจากไทยเยอะแยะ อย่าไปสนใจ อ้าว เฮ้ย วันนี้ สงครามใหญ่ใกล้ประชิดติดพรมแดนของเราแล้ว..
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • กระทู้ที่ 1 วันที่ 21 ตุลาคม 2567
    แรม 4 ค่ำ เดือน 11 ปีมะโรง
    เรื่อง ความเป็นมาของ คาถาอาคม ในประเทศไทย
    ในอดีตทียังไม่เป็นประเทศไทยเหมือนในปัจจุบันอิทธิพลศาสนาฮินดูได้มีอิทธิพลต่อผู้นำในอดีต ผู้นำในอดีตได้รับเอาพิธีกรรมทางศาสนาฮินดูมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว วัฒนธรรมฮินดูในประเทศอินเดียมีมาช้านานก่อนศสนาพุทธ จะเห็นได้ในยุคขอมเรืองอำนาจ จะเห็นได้จากปราสาทขอมที่ทิ้งไว้ให้ปรากฎในปัจจุบัน เมื่อพระพุทธศาสนาได้เข้าในยุคที่พระเจ้าอโศกส่งพระธรรมทูตเข้าเผยแพร่ในแผ่นดินที่เรียกว่าประเทศไทยในปัจจุบันผู้ปกครองในยุคต่อมาค่อยเปลี่ยนแปลงและนำเอาพระพุทธศาสนามาผสมประสานเข้ากับศาสนาฮินดู ในศาสนาฮินดูมีพิธีกรรมต่างๆมีบทสวดมากมายเป็นการร้องขอความช่วยเหลือต่างๆกับเทพเจ้าที่เชื่อว่าจะดลบันดาลให้สมความปรารถนา ต่อมาพระสงฆ์ทางพระพุทธศาสนาผู้ทรงภูมปัญญาได้คิดวิธีการโดยอาศัยแบบอย่างของศาสนาฮินดูแต่แตกต่างโดยการแต่งมนต์โดยใช้บทสวดในทางพระพุทธศาสนามาเป็นมนต์คาถา ซึ่งเรียกว่าพระพุทธมนต์ การจะแต่งพระพุทธมนต์นั้นไม่ใช่จับแพะชนแกะ บูรพาจารผู้แต่งต้องแตกฉานในปริยัติ และต้องเข้าถึงการปฏิบัติจนได้ฌาณสมาบัติ ซึ่งเป็นความรู้ขั้นสูงจึงสามารถร้อยเรียงพุทธมนต์ขึ้นมาได้ แม้แต่การลงอักขระเลขยันต์ล้วนแล้วแต่ผ่านการคิดค้นออกมาจากบูรพาจารย์ผู้ทรงฌาณทั้งสิ้น พระพุทธมนต์เลขยันต์ต่างๆที่มีการจดบันทึกมานั้นนับเป็นพันตำหรับ การจะเขียนยันต์ในแต่ละตัวเขามีสูตรการลงไว้ไม่ใช่เขียนส่งเดชแล้วก็ใช้ได้ วันนี้ทดลองเขียนกระทู้ใน thaitimes ครั้งแรก เอาไว้ตอนต่อไปค่อยว่ากันใหม่ สวัสดี
    กระทู้ที่ 1 วันที่ 21 ตุลาคม 2567 แรม 4 ค่ำ เดือน 11 ปีมะโรง เรื่อง ความเป็นมาของ คาถาอาคม ในประเทศไทย ในอดีตทียังไม่เป็นประเทศไทยเหมือนในปัจจุบันอิทธิพลศาสนาฮินดูได้มีอิทธิพลต่อผู้นำในอดีต ผู้นำในอดีตได้รับเอาพิธีกรรมทางศาสนาฮินดูมาเป็นที่ยึดเหนี่ยว วัฒนธรรมฮินดูในประเทศอินเดียมีมาช้านานก่อนศสนาพุทธ จะเห็นได้ในยุคขอมเรืองอำนาจ จะเห็นได้จากปราสาทขอมที่ทิ้งไว้ให้ปรากฎในปัจจุบัน เมื่อพระพุทธศาสนาได้เข้าในยุคที่พระเจ้าอโศกส่งพระธรรมทูตเข้าเผยแพร่ในแผ่นดินที่เรียกว่าประเทศไทยในปัจจุบันผู้ปกครองในยุคต่อมาค่อยเปลี่ยนแปลงและนำเอาพระพุทธศาสนามาผสมประสานเข้ากับศาสนาฮินดู ในศาสนาฮินดูมีพิธีกรรมต่างๆมีบทสวดมากมายเป็นการร้องขอความช่วยเหลือต่างๆกับเทพเจ้าที่เชื่อว่าจะดลบันดาลให้สมความปรารถนา ต่อมาพระสงฆ์ทางพระพุทธศาสนาผู้ทรงภูมปัญญาได้คิดวิธีการโดยอาศัยแบบอย่างของศาสนาฮินดูแต่แตกต่างโดยการแต่งมนต์โดยใช้บทสวดในทางพระพุทธศาสนามาเป็นมนต์คาถา ซึ่งเรียกว่าพระพุทธมนต์ การจะแต่งพระพุทธมนต์นั้นไม่ใช่จับแพะชนแกะ บูรพาจารผู้แต่งต้องแตกฉานในปริยัติ และต้องเข้าถึงการปฏิบัติจนได้ฌาณสมาบัติ ซึ่งเป็นความรู้ขั้นสูงจึงสามารถร้อยเรียงพุทธมนต์ขึ้นมาได้ แม้แต่การลงอักขระเลขยันต์ล้วนแล้วแต่ผ่านการคิดค้นออกมาจากบูรพาจารย์ผู้ทรงฌาณทั้งสิ้น พระพุทธมนต์เลขยันต์ต่างๆที่มีการจดบันทึกมานั้นนับเป็นพันตำหรับ การจะเขียนยันต์ในแต่ละตัวเขามีสูตรการลงไว้ไม่ใช่เขียนส่งเดชแล้วก็ใช้ได้ วันนี้ทดลองเขียนกระทู้ใน thaitimes ครั้งแรก เอาไว้ตอนต่อไปค่อยว่ากันใหม่ สวัสดี
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • ก่อนสิ้นสุดการปกครองแบบอาณานิคมในปี 1947 ซีริล แรดคลิฟฟ์ ทนายความชาวอังกฤษผู้ไม่เคยมาเยือนอินเดียมาก่อน มีเวลา 5 สัปดาห์ในการแบ่งอนุทวีปอินเดียในปกครองอังกฤษออกเป็น 2 ประเทศ (1.อินเดีย ที่ปชก.ส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู และ 2.ปากีสถาน ที่มีชาวมุสลิมเป็นปชก.ส่วนใหญ่) (1) #อินเดีย
    ก่อนสิ้นสุดการปกครองแบบอาณานิคมในปี 1947 ซีริล แรดคลิฟฟ์ ทนายความชาวอังกฤษผู้ไม่เคยมาเยือนอินเดียมาก่อน มีเวลา 5 สัปดาห์ในการแบ่งอนุทวีปอินเดียในปกครองอังกฤษออกเป็น 2 ประเทศ (1.อินเดีย ที่ปชก.ส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู และ 2.ปากีสถาน ที่มีชาวมุสลิมเป็นปชก.ส่วนใหญ่) (1) #อินเดีย
    Like
    1
    11 Comments 0 Shares 657 Views 0 Reviews
  • กลุ่มประเทศ BRICS มีทองคำสำรองทั่วโลก ๒๐%, โดยรัสเซียและจีนเป็นผู้นำ

    ประเทศ BRICS ปัจจุบันมีทองคำสำรองทั่วโลกมากกว่า 20%, จากการคำนวณของ Sputnik, โดยอ้างอิงจากข้อมูลจากสภาทองคำโลก

    รัสเซียครองอันดับหนึ่งของรายชื่อด้วยทองคำสำรอง ๒,๓๔๐ ตัน คิดเป็น ๘.๑% ของทองคำสำรองทั่วโลก, ขณะที่จีนตามมาติดๆ ด้วยทองคำสำรอง ๒.๒๖๐ ตัน รวมกันแล้ว, คิดเป็น ๗๔% ของทองคำสำรองของกลุ่ม BRICS

    สมาชิก BRICS ที่เหลือ — อินเดีย, ซาอุดีอาระเบีย, บราซิล, อียิปต์, แอฟริกาใต้, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ — แต่ละประเทศมีทองคำสำรองรวมกันไม่ถึง ๓% ของทองคำสำรองทั่วโลก, โดยอินเดียครองอันดับหนึ่งของกลุ่มด้วยทองคำสำรอง ๘๔๐ ตัน
    .
    BRICS POSSESSES 20% OF GLOBAL GOLD RESERVES, RUSSIA AND CHINA LEAD PACK

    BRICS countries now control over 20% of the world's gold reserves, according to calculations by Sputnik, based on data from the World Gold Council.

    Russia tops the list with 2.34 thousand tons, holding 8.1% of global reserves, while China follows closely with 2.26 thousand tons. Together, they make up 74% of BRICS' gold reserves.

    The remaining BRICS members — India, Saudi Arabia, Brazil, Egypt, South Africa, and the UAE — each account for less than 3% of global reserves, with India leading the group at 840 tons.
    .
    4:06 PM · Oct 20, 2024 · 6,274 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1847927434538086490
    กลุ่มประเทศ BRICS มีทองคำสำรองทั่วโลก ๒๐%, โดยรัสเซียและจีนเป็นผู้นำ ประเทศ BRICS ปัจจุบันมีทองคำสำรองทั่วโลกมากกว่า 20%, จากการคำนวณของ Sputnik, โดยอ้างอิงจากข้อมูลจากสภาทองคำโลก รัสเซียครองอันดับหนึ่งของรายชื่อด้วยทองคำสำรอง ๒,๓๔๐ ตัน คิดเป็น ๘.๑% ของทองคำสำรองทั่วโลก, ขณะที่จีนตามมาติดๆ ด้วยทองคำสำรอง ๒.๒๖๐ ตัน รวมกันแล้ว, คิดเป็น ๗๔% ของทองคำสำรองของกลุ่ม BRICS สมาชิก BRICS ที่เหลือ — อินเดีย, ซาอุดีอาระเบีย, บราซิล, อียิปต์, แอฟริกาใต้, และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ — แต่ละประเทศมีทองคำสำรองรวมกันไม่ถึง ๓% ของทองคำสำรองทั่วโลก, โดยอินเดียครองอันดับหนึ่งของกลุ่มด้วยทองคำสำรอง ๘๔๐ ตัน . BRICS POSSESSES 20% OF GLOBAL GOLD RESERVES, RUSSIA AND CHINA LEAD PACK BRICS countries now control over 20% of the world's gold reserves, according to calculations by Sputnik, based on data from the World Gold Council. Russia tops the list with 2.34 thousand tons, holding 8.1% of global reserves, while China follows closely with 2.26 thousand tons. Together, they make up 74% of BRICS' gold reserves. The remaining BRICS members — India, Saudi Arabia, Brazil, Egypt, South Africa, and the UAE — each account for less than 3% of global reserves, with India leading the group at 840 tons. . 4:06 PM · Oct 20, 2024 · 6,274 Views https://x.com/SputnikInt/status/1847927434538086490
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่าง “ทรัมป์บ้า” ได้ประกาศตอกย้ำเอาไว้อีกครั้ง ว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” กำลังใกล้นำพาประเทศอเมริกาเข้าสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกแค่ไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าว่ากันโดยคำพูดแบบ “คำต่อคำ” ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสำนักข่าวต่างๆ ก็คือ... “เรากำลังมีปัญหา ที่ทำให้ผมรู้สึกวิตกกังวลเอาจริงๆ ต่อเหตุการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมกังวลว่าเราอาจต้องจบลงด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยเหตุเพราะรัฐบาลที่กำลังเป็นอยู่” หรือถึงขั้นถ้าตัวเองเกิดชนะเลือกตั้งขึ้นมา มีแต่ต้อง “ลงมืออย่างเร่งด่วนและด้วยความรวดเร็ว...ถึงจะช่วยปกปักรักษาประเทศอเมริกา ช่วยกอบกู้ประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียให้พ้นไปจากเงื้อมมือของพรรคการเมืองตรงกันข้าม ด้วยการหยุดสงครามยูเครน ยุติความสับสนอลหม่านในตะวันออกกลาง และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ให้จงได้!!!” นี่...เป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นจริง-เป็นจัง ไปได้ถึงขั้นนั้น...

    เหตุที่ “ทรัมป์บ้า” ต้องนำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาพูดจาหาเสียงกันอีกครั้ง แม้ว่าเคยพูดจาทำนองนี้มาแล้วหลายครั้งหลายหน มันออกจะเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านั้น...หนังสือพิมพ์ “The Washington Post” เขาได้นำเสนอรายงานข่าวเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ว่าประธานาธิบดีอเมริกันอย่าง “โจ ซึมเซา” ได้บอกกับที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว ให้ไป “เตือนอิหร่าน” ว่าความพยายามลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” นั้น เท่ากับเป็นการ “ประกาศสงคราม” กับอเมริกา อันอาจถือเป็นการแสดงความห่วงใย ความต้องการปกป้องชาวอเมริกัน แม้จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองของตัวเองก็ตาม แต่ปัญหามีอยู่ว่า...ทำไมการคิดลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มันดันถูกโยงไปยังคู่กัด-คู่อาฆาตของอเมริกาและพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอล เช่นประเทศอิหร่านจนได้??? ทั้งที่น่าจะเป็น “คนละเรื่อง” แท้ๆ...

    ส่วนที่อาจเกี่ยวข้องอยู่บ้างนิดๆ ก็คือ...กรณีเกิดการลอบสังหารผู้นำทางทหารอิหร่าน อย่าง “พลเอกQassem Soleimani” เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 อันเป็นช่วงเดียวกับที่ “ทรัมป์บ้า” ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และอาจมีส่วนรับทราบ รู้เห็นต่อการกระทำเช่นนี้ แต่นั่นก็ยากที่จะนำมาเกี่ยวข้องโยงใยกับบรรดา “ผู้ต้องหา” หรือ “มือปืน” ที่พยายามลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” คราวแล้ว คราวเล่า ซึ่งออกจะหนักไปทางพวก “สาวกเดโมแครต” นั่นแหละเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวกับมุสลิม อิสลาม หรือกับอิหร่านด้วยเลย อีกทั้งในคำประกาศแก้แค้น-เอาคืนของอิหร่านต่อกรณีดังกล่าว ก็ดูจะเน้นหนักไปในทาง “ยุทธศาสตร์” ไม่ได้คิดจะอาศัยเพียงแค่ “ยุทธวิธี” แบบโง่ๆ-ง่ายๆ หรือมุ่งที่คิดจะเสือกไสไล่ส่ง บรรดาทหารอเมริกาทั้งมวลไม่ให้เหลือติดอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางแม้แต่รายเดียว...อะไรประมาณนั้น...

    และก็แน่ล่ะว่า...ทางการอิหร่านเขาได้ออกมาปฏิเสธแบบหัวเด็ด-ตีนขาด ต่อ “ข้อกล่าวหา” เรื่องคิดจะลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาแล้วตั้งแต่ต้น หรือตั้งแต่ถูก “ยิงเฉี่ยวหู” เมื่อช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน “นายNasser Kanaani” ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่าอิหร่านไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย และ “สิ่งที่อิหร่านต้องการก็คือการอาศัยการกระทำที่ถูกต้องตามตัวบทกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนรู้เห็น รับผิดชอบ การลอบสังหารพลเอกSoleimani” ด้วยเหตุนี้การนำเอาเรื่องการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาเกี่ยวโยงกับอิหร่าน หรือมาใช้เป็น “ข้ออ้าง” ในการ “ประกาศสงคราม” ของอเมริกา มันเลยออกจะคล้ายๆ การประกาศสงครามกับ “ซัดดัม ฮุสเซน” แห่งอิรัก อันเนื่องมาจากมี “อาวุธทำลายล้าง” อยู่ในครอบครอง อะไรทำนองนั้น คือแม้จะมาจาก “การข่าว” ใดๆ ก็เถอะ แต่หนักไปทาง “ข่าวลวง-ข่าวลือ” ที่หาหลักฐาน-ข้อพิสูจน์ใดๆ แทบไม่ได้ ชนิดเผลอๆ... “ทรัมป์บ้า” อาจต้อง “ตายฟรี” พร้อมๆ กับการเปิดฉากสงครามกับอิหร่าน แบบยิงปืนนัดเดียวนกหล่นลงมาทั้งพวง เอาเลยก็ไม่แน่!!!

    การโยงเอาอิหร่านกับการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” ให้กลายเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ถึงขั้นที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง “โจ ซึมเซา” ถึงกับออกมาประกาศว่าเป็นการ “ประกาศสงครามโดยตรงกับอเมริกา” ขณะที่พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอลก็กำลังกระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะแก้แค้น-เอาคืนกับอิหร่านเต็มที โดยหวังจะฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาเข้ามาร่วมรุมถล่มอิหร่านอีกด้วยต่างหาก อันอาจนำไปสู่ฉากเหตุการณ์ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังที่ “ทรัมป์บ้า” ออกมาแสดงความวิตกกังวลในเวทีปราศรัยคราวล่าสุด อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยชักจะเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” อย่างแทบไม่น่าเชื่อแต่ก็คงต้องเชื่อจนได้...

    เพราะแม้ว่าอเมริกาภายใต้การนำของ “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ ล้างเผ่าพันธุ์” ก็แล้วแต่จะเรียก พยายามแสดงท่าทีภายนอกว่าไม่อยากเห็นสงครามในตะวันออกกลาง ไม่ว่าอิสราเอลกับฮามาส กับเฮซบอลเลาะห์หรือกับอิหร่านก็ตามที แต่โดยความเคลื่อนไหวลึกๆ ลงไปแล้ว มันออกจะขัดแย้งและสวนทางกับการแสดงออกภายนอกอย่างเห็นได้โดยชัดเจน ไม่ว่าการมุ่ง “เติมเงิน-เติมอาวุธ” ให้กับรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลแบบไม่ได้คิดยับยั้งชั่งใจใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แม้บรรดาประเทศต่างๆ นับเป็นร้อยๆ ต่างออกมาตำหนิประณามอิสราเอล คราวแล้ว-คราวเล่า ไม่ว่าเรื่องการประกาศให้เลขาธิการยูเอ็นเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติโดยใคร่ครวญเอาไว้ก่อน รวมทั้งการมุ่งหน้า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวปาเลสไตน์อย่างไม่คิดจะยั้งมือ ฯลฯ แต่บรรดาสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลให้ผู้สนับสนุนอิสราเอลแบบ “มากกว่าประธานาธิบดีอเมริกันรายใดเท่าที่เคยมีมา” ดังที่ผู้ประกาศตัวเป็น “Zionist” อย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ได้ออกมาอวดโชว์คุณสมบัติของตัวเอง เกิดอาการคิดหน้า-คิดหลังต่อการสนับสนุนอิสราเอลแต่อย่างใด แต่กลับพร้อมที่จะกระพือฮือโหม “ไฟสงคราม”

    ไม่ว่าในแนวรบยุโรปตะวันออก หรือตะวันออกกลาง อย่างเป็นระบบและกิจการ...

    ล่าสุด...เห็นว่ากำลังคิดจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ “THAAD” ที่ว่ากันว่าสามารถสกัดกั้นการโจมตีจากจรวดที่มีความเร็วระดับ Mach 7.5 ไปให้กับอิสราเอล แถม “พลตรีPat Ryder” โฆษกเพนตากอนแสดงท่าทีว่าคิดจะส่งกำลังทหารอเมริกาและอังกฤษเพิ่มเติมเข้าไปในตะวันออกกลาง ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 ต.ค.) รวมทั้งผู้บัญชาการ “CENTCOM” (The Commander of the US Central Command) “พลเอกMichale Kurilla” ยังอุตส่าห์ถ่อไปถึงประเทศอิสราเอลเพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือกับกองทัพอิสราเอลในการวางแผนโจมตีอิหร่านอีกต่างหาก อันนี้นี่แหละ...เลยทำให้สิ่งที่เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่ 3” อาจระเบิดเถิดเทิงขึ้นในอีก “ไม่กี่เดือนข้างหน้า” จนส่งผลให้ “ทรัมป์บ้า” อดไม่ได้ต้องออกมาแสดงความวิตกกังวล ขณะปราศรัยหาเสียง ณ เวทีแคลิฟอร์เนีย...

    โดยเฉพาะสำหรับใครก็ตาม ที่มีโอกาสได้อ่านข้อเขียนบทความชิ้นล่าสุด ของอดีตทูตอินเดีย “M.K. Bhadrakumar” เรื่อง “Russia aligns with Iran, war cloud scatter” ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮานำมาแปลและถ่ายทอดไปเมื่อวัน-สองวันมานี้ ก็น่าจะพอมองเห็นถึง “ความเป็นไปได้” ของ “อภิมหาสงคราม” อันเนื่องมาจากการบ่งชี้ถึงการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือทางความมั่นคงระหว่าง “อิหร่าน-รัสเซีย” หรือที่เรียกๆ กันว่า “The Big Treaty” ที่อาจทำให้การโจมตีอิหร่านย่อมหมายถึงการเผชิญหน้าโดยตรงกับคุณน้ารัสเซียควบคู่ไปด้วย และคงไม่ต่างอะไรไปจากคุณพี่จีนที่นักยุทธศาสตร์การทหารของจีนเขาเคยพูดๆ เอาไว้ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ว่าจีนพร้อมที่จะปกป้องอิหร่าน...แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ตามที...

    ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้...เลยคงต้องขออนุญาตแนะนำให้ลองไปหาอ่านข้อเขียน บทความชิ้นล่าสุดของ “นายRon Paul” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัส และผู้เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกามาแล้ว 3 ครั้ง ว่าด้วยเรื่อง “American Neocons Get Their Iran War as Congress Sleeps” หรือในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสอเมริกันกำลังนอนหลับคร่อกฟี้ๆ อยู่นั้น พวก “ขวาใหม่” หรือพวก “Neoconservative” ในอเมริกา อันเต็มไปด้วยลูกหลานชาวยิวยุ่มย่ามยั้วเยี้ยไปหมด อีกทั้งยังมีบทบาทอิทธิพลต่อรัฐบาลอเมริกันในแทบทุกยุค-ทุกสมัยกำลังประสบความสำเร็จในการฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาต้องเปิดศึกสงครามกับอิหร่านจนได้ โดยย้ำให้เห็นว่า...สงครามเช่นนี้แทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลใดๆ ต่อชาวอเมริกันและประเทศอเมริกาเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยเหตุเพราะ... “เรา(ชาวอเมริกัน)กำลังเดินละเมอไปสู่สงครามแห่งกลียุค ที่ถูกกล่อมเกลาโดยการโฆษณาของบรรดาสื่อมวลชน อันจะมีผลให้ผู้คนนับพันๆ ล้านต้องประสบกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และผู้บริสุทธิ์อีกมากกว่านั้นจะต้องสูญเสียชีวิตไปกับความบ้าคลั่งแห่งสงคราม...”

    ในบทความชิ้นนี้ยังได้สรุปไว้ในตอนท้ายอย่างน่าคิดสะกิดใจเอามากๆ ด้วยข้อความที่ว่า... “มากกว่าครึ่งศตวรรษมาแล้วที่เรายังคงไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนแห่งเหตุการณ์ 9/11 เมื่อเราออกไปสร้างความฉิบหายวายวอดให้กับผู้คนนอกประเทศที่ไม่เคยทำร้ายอะไรเราเลย นั่นก็คือเราได้สร้าง...ศัตรู ผู้ที่คิดจะแก้แค้น-เอาคืน หรือนั่นก็คือเราได้ทำร้ายตัวเราเอง เราสร้างความเสี่ยงให้กับการโต้กลับ ด้วยเหตุนี้...ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาคัดค้านและปฏิเสธสงครามที่กำลังใกล้เข้ามา นับตั้งแต่...เดี๋ยวนี้!!!” นี่...เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ อันนี้คงต้องขึ้นอยู่กับบรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย ว่าจะ “ฟัง...แล้วได้ยิน” ต่อคำเตือนของอดีตนักการเมืองรายนี้หรือไม่? อย่างไร? นั่นแล...

    ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/daily/detail/9670000100145

    #Thaitimes
    ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่าง “ทรัมป์บ้า” ได้ประกาศตอกย้ำเอาไว้อีกครั้ง ว่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” กำลังใกล้นำพาประเทศอเมริกาเข้าสู่ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกแค่ไม่กี่เดือนข้างหน้า ถ้าว่ากันโดยคำพูดแบบ “คำต่อคำ” ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสำนักข่าวต่างๆ ก็คือ... “เรากำลังมีปัญหา ที่ทำให้ผมรู้สึกวิตกกังวลเอาจริงๆ ต่อเหตุการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ผมกังวลว่าเราอาจต้องจบลงด้วยสงครามโลกครั้งที่ 3 ด้วยเหตุเพราะรัฐบาลที่กำลังเป็นอยู่” หรือถึงขั้นถ้าตัวเองเกิดชนะเลือกตั้งขึ้นมา มีแต่ต้อง “ลงมืออย่างเร่งด่วนและด้วยความรวดเร็ว...ถึงจะช่วยปกปักรักษาประเทศอเมริกา ช่วยกอบกู้ประชาชนชาวแคลิฟอร์เนียให้พ้นไปจากเงื้อมมือของพรรคการเมืองตรงกันข้าม ด้วยการหยุดสงครามยูเครน ยุติความสับสนอลหม่านในตะวันออกกลาง และป้องกันไม่ให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ให้จงได้!!!” นี่...เป็นเรื่อง-เป็นราว เป็นจริง-เป็นจัง ไปได้ถึงขั้นนั้น... เหตุที่ “ทรัมป์บ้า” ต้องนำเอาเรื่องราวเหล่านี้มาพูดจาหาเสียงกันอีกครั้ง แม้ว่าเคยพูดจาทำนองนี้มาแล้วหลายครั้งหลายหน มันออกจะเป็นอะไรที่น่าคิด น่าสะกิดใจ อยู่พอสมควรเหมือนกัน เพราะก่อนหน้านั้น...หนังสือพิมพ์ “The Washington Post” เขาได้นำเสนอรายงานข่าวเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (11 ต.ค.) ว่าประธานาธิบดีอเมริกันอย่าง “โจ ซึมเซา” ได้บอกกับที่ปรึกษาความมั่นคงทำเนียบขาว ให้ไป “เตือนอิหร่าน” ว่าความพยายามลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” นั้น เท่ากับเป็นการ “ประกาศสงคราม” กับอเมริกา อันอาจถือเป็นการแสดงความห่วงใย ความต้องการปกป้องชาวอเมริกัน แม้จะเป็นคู่แข่งทางการเมืองของตัวเองก็ตาม แต่ปัญหามีอยู่ว่า...ทำไมการคิดลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มันดันถูกโยงไปยังคู่กัด-คู่อาฆาตของอเมริกาและพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอล เช่นประเทศอิหร่านจนได้??? ทั้งที่น่าจะเป็น “คนละเรื่อง” แท้ๆ... ส่วนที่อาจเกี่ยวข้องอยู่บ้างนิดๆ ก็คือ...กรณีเกิดการลอบสังหารผู้นำทางทหารอิหร่าน อย่าง “พลเอกQassem Soleimani” เมื่อช่วงเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2020 อันเป็นช่วงเดียวกับที่ “ทรัมป์บ้า” ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และอาจมีส่วนรับทราบ รู้เห็นต่อการกระทำเช่นนี้ แต่นั่นก็ยากที่จะนำมาเกี่ยวข้องโยงใยกับบรรดา “ผู้ต้องหา” หรือ “มือปืน” ที่พยายามลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” คราวแล้ว คราวเล่า ซึ่งออกจะหนักไปทางพวก “สาวกเดโมแครต” นั่นแหละเป็นหลัก ไม่ได้เกี่ยวกับมุสลิม อิสลาม หรือกับอิหร่านด้วยเลย อีกทั้งในคำประกาศแก้แค้น-เอาคืนของอิหร่านต่อกรณีดังกล่าว ก็ดูจะเน้นหนักไปในทาง “ยุทธศาสตร์” ไม่ได้คิดจะอาศัยเพียงแค่ “ยุทธวิธี” แบบโง่ๆ-ง่ายๆ หรือมุ่งที่คิดจะเสือกไสไล่ส่ง บรรดาทหารอเมริกาทั้งมวลไม่ให้เหลือติดอยู่ในภูมิภาคตะวันออกกลางแม้แต่รายเดียว...อะไรประมาณนั้น... และก็แน่ล่ะว่า...ทางการอิหร่านเขาได้ออกมาปฏิเสธแบบหัวเด็ด-ตีนขาด ต่อ “ข้อกล่าวหา” เรื่องคิดจะลอบฆ่า ลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาแล้วตั้งแต่ต้น หรือตั้งแต่ถูก “ยิงเฉี่ยวหู” เมื่อช่วงกรกฎาคมที่ผ่านมา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน “นายNasser Kanaani” ได้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการว่าอิหร่านไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย และ “สิ่งที่อิหร่านต้องการก็คือการอาศัยการกระทำที่ถูกต้องตามตัวบทกฎหมายต่อผู้ที่มีส่วนรู้เห็น รับผิดชอบ การลอบสังหารพลเอกSoleimani” ด้วยเหตุนี้การนำเอาเรื่องการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” มาเกี่ยวโยงกับอิหร่าน หรือมาใช้เป็น “ข้ออ้าง” ในการ “ประกาศสงคราม” ของอเมริกา มันเลยออกจะคล้ายๆ การประกาศสงครามกับ “ซัดดัม ฮุสเซน” แห่งอิรัก อันเนื่องมาจากมี “อาวุธทำลายล้าง” อยู่ในครอบครอง อะไรทำนองนั้น คือแม้จะมาจาก “การข่าว” ใดๆ ก็เถอะ แต่หนักไปทาง “ข่าวลวง-ข่าวลือ” ที่หาหลักฐาน-ข้อพิสูจน์ใดๆ แทบไม่ได้ ชนิดเผลอๆ... “ทรัมป์บ้า” อาจต้อง “ตายฟรี” พร้อมๆ กับการเปิดฉากสงครามกับอิหร่าน แบบยิงปืนนัดเดียวนกหล่นลงมาทั้งพวง เอาเลยก็ไม่แน่!!! การโยงเอาอิหร่านกับการลอบสังหาร “ทรัมป์บ้า” ให้กลายเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” ถึงขั้นที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง “โจ ซึมเซา” ถึงกับออกมาประกาศว่าเป็นการ “ประกาศสงครามโดยตรงกับอเมริกา” ขณะที่พันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอลก็กำลังกระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะแก้แค้น-เอาคืนกับอิหร่านเต็มที โดยหวังจะฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาเข้ามาร่วมรุมถล่มอิหร่านอีกด้วยต่างหาก อันอาจนำไปสู่ฉากเหตุการณ์ “สงครามโลกครั้งที่ 3” อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังที่ “ทรัมป์บ้า” ออกมาแสดงความวิตกกังวลในเวทีปราศรัยคราวล่าสุด อันนี้นี่แหละ...ที่มันเลยชักจะเป็น “คนละเรื่องเดียวกัน” อย่างแทบไม่น่าเชื่อแต่ก็คงต้องเชื่อจนได้... เพราะแม้ว่าอเมริกาภายใต้การนำของ “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ ล้างเผ่าพันธุ์” ก็แล้วแต่จะเรียก พยายามแสดงท่าทีภายนอกว่าไม่อยากเห็นสงครามในตะวันออกกลาง ไม่ว่าอิสราเอลกับฮามาส กับเฮซบอลเลาะห์หรือกับอิหร่านก็ตามที แต่โดยความเคลื่อนไหวลึกๆ ลงไปแล้ว มันออกจะขัดแย้งและสวนทางกับการแสดงออกภายนอกอย่างเห็นได้โดยชัดเจน ไม่ว่าการมุ่ง “เติมเงิน-เติมอาวุธ” ให้กับรัฐบาลและกองทัพอิสราเอลแบบไม่ได้คิดยับยั้งชั่งใจใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แม้บรรดาประเทศต่างๆ นับเป็นร้อยๆ ต่างออกมาตำหนิประณามอิสราเอล คราวแล้ว-คราวเล่า ไม่ว่าเรื่องการประกาศให้เลขาธิการยูเอ็นเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติโดยใคร่ครวญเอาไว้ก่อน รวมทั้งการมุ่งหน้า “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ชาวปาเลสไตน์อย่างไม่คิดจะยั้งมือ ฯลฯ แต่บรรดาสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลให้ผู้สนับสนุนอิสราเอลแบบ “มากกว่าประธานาธิบดีอเมริกันรายใดเท่าที่เคยมีมา” ดังที่ผู้ประกาศตัวเป็น “Zionist” อย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ได้ออกมาอวดโชว์คุณสมบัติของตัวเอง เกิดอาการคิดหน้า-คิดหลังต่อการสนับสนุนอิสราเอลแต่อย่างใด แต่กลับพร้อมที่จะกระพือฮือโหม “ไฟสงคราม” ไม่ว่าในแนวรบยุโรปตะวันออก หรือตะวันออกกลาง อย่างเป็นระบบและกิจการ... ล่าสุด...เห็นว่ากำลังคิดจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ “THAAD” ที่ว่ากันว่าสามารถสกัดกั้นการโจมตีจากจรวดที่มีความเร็วระดับ Mach 7.5 ไปให้กับอิสราเอล แถม “พลตรีPat Ryder” โฆษกเพนตากอนแสดงท่าทีว่าคิดจะส่งกำลังทหารอเมริกาและอังกฤษเพิ่มเติมเข้าไปในตะวันออกกลาง ช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (13 ต.ค.) รวมทั้งผู้บัญชาการ “CENTCOM” (The Commander of the US Central Command) “พลเอกMichale Kurilla” ยังอุตส่าห์ถ่อไปถึงประเทศอิสราเอลเพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือกับกองทัพอิสราเอลในการวางแผนโจมตีอิหร่านอีกต่างหาก อันนี้นี่แหละ...เลยทำให้สิ่งที่เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่ 3” อาจระเบิดเถิดเทิงขึ้นในอีก “ไม่กี่เดือนข้างหน้า” จนส่งผลให้ “ทรัมป์บ้า” อดไม่ได้ต้องออกมาแสดงความวิตกกังวล ขณะปราศรัยหาเสียง ณ เวทีแคลิฟอร์เนีย... โดยเฉพาะสำหรับใครก็ตาม ที่มีโอกาสได้อ่านข้อเขียนบทความชิ้นล่าสุด ของอดีตทูตอินเดีย “M.K. Bhadrakumar” เรื่อง “Russia aligns with Iran, war cloud scatter” ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮานำมาแปลและถ่ายทอดไปเมื่อวัน-สองวันมานี้ ก็น่าจะพอมองเห็นถึง “ความเป็นไปได้” ของ “อภิมหาสงคราม” อันเนื่องมาจากการบ่งชี้ถึงการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือทางความมั่นคงระหว่าง “อิหร่าน-รัสเซีย” หรือที่เรียกๆ กันว่า “The Big Treaty” ที่อาจทำให้การโจมตีอิหร่านย่อมหมายถึงการเผชิญหน้าโดยตรงกับคุณน้ารัสเซียควบคู่ไปด้วย และคงไม่ต่างอะไรไปจากคุณพี่จีนที่นักยุทธศาสตร์การทหารของจีนเขาเคยพูดๆ เอาไว้ตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ว่าจีนพร้อมที่จะปกป้องอิหร่าน...แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ก็ตามที... ภายใต้บรรยากาศเช่นนี้...เลยคงต้องขออนุญาตแนะนำให้ลองไปหาอ่านข้อเขียน บทความชิ้นล่าสุดของ “นายRon Paul” อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐเท็กซัส และผู้เคยลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกามาแล้ว 3 ครั้ง ว่าด้วยเรื่อง “American Neocons Get Their Iran War as Congress Sleeps” หรือในขณะที่สมาชิกสภาคองเกรสอเมริกันกำลังนอนหลับคร่อกฟี้ๆ อยู่นั้น พวก “ขวาใหม่” หรือพวก “Neoconservative” ในอเมริกา อันเต็มไปด้วยลูกหลานชาวยิวยุ่มย่ามยั้วเยี้ยไปหมด อีกทั้งยังมีบทบาทอิทธิพลต่อรัฐบาลอเมริกันในแทบทุกยุค-ทุกสมัยกำลังประสบความสำเร็จในการฉุดกระชากลากถูให้อเมริกาต้องเปิดศึกสงครามกับอิหร่านจนได้ โดยย้ำให้เห็นว่า...สงครามเช่นนี้แทบไม่ก่อให้เกิดประโยชน์โพดผลใดๆ ต่อชาวอเมริกันและประเทศอเมริกาเอาเลยแม้แต่น้อย แต่ด้วยเหตุเพราะ... “เรา(ชาวอเมริกัน)กำลังเดินละเมอไปสู่สงครามแห่งกลียุค ที่ถูกกล่อมเกลาโดยการโฆษณาของบรรดาสื่อมวลชน อันจะมีผลให้ผู้คนนับพันๆ ล้านต้องประสบกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจ และผู้บริสุทธิ์อีกมากกว่านั้นจะต้องสูญเสียชีวิตไปกับความบ้าคลั่งแห่งสงคราม...” ในบทความชิ้นนี้ยังได้สรุปไว้ในตอนท้ายอย่างน่าคิดสะกิดใจเอามากๆ ด้วยข้อความที่ว่า... “มากกว่าครึ่งศตวรรษมาแล้วที่เรายังคงไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนแห่งเหตุการณ์ 9/11 เมื่อเราออกไปสร้างความฉิบหายวายวอดให้กับผู้คนนอกประเทศที่ไม่เคยทำร้ายอะไรเราเลย นั่นก็คือเราได้สร้าง...ศัตรู ผู้ที่คิดจะแก้แค้น-เอาคืน หรือนั่นก็คือเราได้ทำร้ายตัวเราเอง เราสร้างความเสี่ยงให้กับการโต้กลับ ด้วยเหตุนี้...ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาคัดค้านและปฏิเสธสงครามที่กำลังใกล้เข้ามา นับตั้งแต่...เดี๋ยวนี้!!!” นี่...เป็นไปได้-เป็นไปไม่ได้ อันนี้คงต้องขึ้นอยู่กับบรรดาอเมริกันชนทั้งหลาย ว่าจะ “ฟัง...แล้วได้ยิน” ต่อคำเตือนของอดีตนักการเมืองรายนี้หรือไม่? อย่างไร? นั่นแล... ที่มา ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/daily/detail/9670000100145 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อีกไม่เกิน 3 เดือน...สงครามโลกครั้งที่ 3???
    ปิดท้ายสัปดาห์นี้...คงต้องแวะไปดู “เลือกตั้งอเมริกา” ไว้สักหน่อยแล้วล่ะทั่น!!! เพราะไม่เพียงเขาจะเลือกกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า (5 พ.ย.) แต่เห็นว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งพรรครีพับลิกัน อย่าง “ทรัมป์บ้า”
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 283 Views 0 Reviews
  • 🔥🔥ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย
    ได้แสดงวิสัยทัศน์ และ แนวทางของกลุ่ม BRICS
    เมื่อวันศุกร์ 18/10/2567 ที่ผ่านมาว่า

    🚩ปูตินมองว่ากลุ่ม BRICS จะถ่วงดุลอำนาจกับชาติตะวันตก
    และมีความ 'เปิดกว้าง' ที่จะรับสมาชิกใหม่ เพิ่มเติม
    กลุ่ม BRICS มุ่งเน้นส่งเสริมการใช้สกุลเงินประจำชาติ
    ในการแลกเปลี่ยน เพื่อทดแทนการใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
    การพูดคุยถึงสกุลเงินร่วมของ BRICS ถือเป็นเรื่อง 'ยังไม่ถึงเวลา'
    ณ ตอนนี้ แต่ได้มีการพัฒนาระบบธนาคารกลางของกลุ่ม BRICS
    อยู่ตลอดเวลา ปูตินกล่าวว่าสมาชิกในกลุ่มกำลังทำงาน
    เกี่ยวกับระบบการส่งข้อความทางการเงินแบบ SWIFT
    ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก

    🚩กลุ่ม BRICS จะเป็นผู้สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก
    ส่วนใหญ่ในปีต่อๆ ไป เนื่องจากมีขนาดใหญ่และการเติบโต
    ที่ค่อนข้างเร็ว เมื่อเทียบกับกลุ่มชาติตะวันตกที่พัฒนาแล้ว
    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

    🚩ปูตินหวังที่จะสร้างกลุ่ม BRICS ซึ่งได้ขยายตัวไปรวมถึงอียิปต์
    เอธิโอเปีย อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งบราซิล
    รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ให้เป็นประเทศที่มี
    ความแข็งแกร่งในการถ่วงดุลอำนาจกับชาติตะวันตก
    ในด้านการเมืองและการค้าโลก

    ที่มา : Reuters

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #BRICS #thaitimes
    🔥🔥ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้แสดงวิสัยทัศน์ และ แนวทางของกลุ่ม BRICS เมื่อวันศุกร์ 18/10/2567 ที่ผ่านมาว่า 🚩ปูตินมองว่ากลุ่ม BRICS จะถ่วงดุลอำนาจกับชาติตะวันตก และมีความ 'เปิดกว้าง' ที่จะรับสมาชิกใหม่ เพิ่มเติม กลุ่ม BRICS มุ่งเน้นส่งเสริมการใช้สกุลเงินประจำชาติ ในการแลกเปลี่ยน เพื่อทดแทนการใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ การพูดคุยถึงสกุลเงินร่วมของ BRICS ถือเป็นเรื่อง 'ยังไม่ถึงเวลา' ณ ตอนนี้ แต่ได้มีการพัฒนาระบบธนาคารกลางของกลุ่ม BRICS อยู่ตลอดเวลา ปูตินกล่าวว่าสมาชิกในกลุ่มกำลังทำงาน เกี่ยวกับระบบการส่งข้อความทางการเงินแบบ SWIFT ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตก 🚩กลุ่ม BRICS จะเป็นผู้สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลก ส่วนใหญ่ในปีต่อๆ ไป เนื่องจากมีขนาดใหญ่และการเติบโต ที่ค่อนข้างเร็ว เมื่อเทียบกับกลุ่มชาติตะวันตกที่พัฒนาแล้ว ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา 🚩ปูตินหวังที่จะสร้างกลุ่ม BRICS ซึ่งได้ขยายตัวไปรวมถึงอียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ ให้เป็นประเทศที่มี ความแข็งแกร่งในการถ่วงดุลอำนาจกับชาติตะวันตก ในด้านการเมืองและการค้าโลก ที่มา : Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #BRICS #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 350 Views 0 Reviews
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เดือดดาลสุดขีด ตอบโต้กลับ เอ็มมานูเอล มาครง หลังไม่พอใจคำพูดของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่เตือนความทรงจำว่าการก่อตั้งประเทศอิสราเอล เป็นผลลัพธ์จากมติของสหประชาชาติ และเรียกร้องรัฐยิวปฏิบัติตามการตัดสินใจต่างๆ ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ศึกวาทกรรมรอบใหม่ที่เกิดขึ้นท่ามกลางเหตุกระทบกระทั่ง ทหารอิสราเอลยิงใส่กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในเลบานอน
    .
    มีรายงานข่าวว่า มาครง พูดกับคณะรัฐมนตรีฝรั่งเศส ระหว่างการประชุมหนึ่งเมื่อวันอังคาร (15 ต.ค.) ว่า "เนทันยาฮูต้องไม่ลืมว่าประเทศของเขาก่อตั้งโดยการตัดสินใจของสหประชาชาติ" อ้างถึงมติหนึ่งที่รับรองโดยที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ 1947 ให้แบ่งปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐของชาวยิวและชาวอาหรับแยกกัน
    .
    เอเอฟพีรายงานอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้เข้าร่วมประชุมรายหรึ่ง อ้างว่า มาครง ยังพูดด้วยว่า "นี่ไม่ใช่เวลาตัดขาดตัวเองจากการตัดสินใจต่างๆ ของยูเอ็น" ดูเหมือนเป็นการพาดพิงถึงกรณีที่อิสราเอลยกพลบุกเลบานอน เพื่อเล่นงานพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ แม้มีเสียงเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อสหประชาชาติที่ขอให้หยุดความเป็นปรปักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้รับบาดเจ็บในพื้นที่
    .
    เนทันยาฮู ตอบโต้กลับความเห็นของมาครง ยืนยันว่าประเทศของเขาก่อตั้งโดยเลือดของทหารอิสราเอลในสงครามอาหรับ-อิสราเอล ปี 1948 ความขัดแย้งที่ปะทะขึ้นหลังจากปาเลสไตน์ปฏิเสธมติของสหประชาชาติ และโจมตีรัฐยิว ซึ่งเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะหลังการสู้รบลากยาวประมาณ 1 ปี
    .
    "ขอเตือนความทรงจำประธานาธิบดีฝรั่งเศสหน่อย มันไม่ใช่มติของสหประชาชาติที่ก่อตั้งประเทศอิสราเอล แต่มันคือการบรรลุเป้าหมายแห่งชัยชนะในสงครามเอกราช ที่นองไปด้วยเลือดนักรบวีรชน หลายคนในนั้นคือผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว" เนทันยาฮูระบุในถ้อยแถลง ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไทม์ออฟอินเดีย
    .
    ถ้อยแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่า เนทันยาฮู และ มาครง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์ในเวลาต่อมา โดยที่ทางนายกรัฐมนตรีอิสราเอลบอกกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ว่าเขาจะไม่เห็นพ้องใดๆ กับ "ข้อตกลงหยุดยิงแต่เพียงฝ่ายเดียว" ในเลบานอน
    .
    มาครงและเนทันยาฮู เปิดศึกวาทกรรมมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ครั้งที่ผู้นำฝรั่งเศสเรียกร้องให้ตะวันตกระงับส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอล โดยชี้ว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะบีบให้รัฐยิวหยุดความขัดแย้งในกาซาและเลบานอน นอกจากนี้ เขายังกล่าวหาอิสราเอล จงใจทำให้กองกำลังสันติภาพของสหประชาชาติ ที่มีกำลังมากกว่า 10,000 นายทางใต้ของเลบานอน ตกอยู่ในความเสี่ยง ในนั้นราว 700 นาย เป็นทหารฝรั่งเศส
    .
    เนทันยาฮู ประณามคำชี้แนะของมาครง เกี่ยวกับมาตรการปิดล้อมทางอาวุธ ว่า "น่าอดสู" และประกาศว่าอิสราเอลจะคว้าชัยไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกหรือไม่ก็ตาม ในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ผู้นำอิสราเอลเรียกร้องสหประชาชาติ อพยพกองกำลังรักษาสันติภาพออกจากเลบานอน อ้างว่าพวกฮิซบอลเลาะห์กำลังใช้พวกเขาเป็นโล่มนุษย์ อย่างไรก็ตามทาง ฌอง-ปิแอร์ ลาครัวซ์ หัวหน้ากองกำลังรักษาสันติภาพ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (14 ต.ค.) ว่ากองกำลังรักษาสันติภาพจะปักหลักอยู่ตามที่มั่นต่างๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
    .
    ก่อนหน้านี้ อิสราเอลเพิ่งก่อความขุ่นเคืองแก่ประชาคมนานาชาติ ด้วยการประกาศให้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ หลังจากผู้นำยูเอ็นประณามความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างในตะวันออกกลาง และเรียกร้องหยุดยิง แต่เบื้องต้นไม่ประณามอิหร่าน ตามหลังเตหะรานยิงห่าขีปนาวุธโจมตีแก้รัฐยิว
    .
    อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวก่อความเคลื่อนไหวของบรรดารัฐสมาชิกของสหประชาชาติมากกว่า 100 ประเทศ ที่ร่วมลงนามในหนังสือแสดงจุดยืนสนับสนุน กูเตอร์เรส ก่อนต่อมา กูเตอร์เรส ได้กล่าวปราศรัยกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประณามการโจมตีของอิหร่านที่เล่นงานอิสราเอล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เดือดดาลสุดขีด ตอบโต้กลับ เอ็มมานูเอล มาครง หลังไม่พอใจคำพูดของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่เตือนความทรงจำว่าการก่อตั้งประเทศอิสราเอล เป็นผลลัพธ์จากมติของสหประชาชาติ และเรียกร้องรัฐยิวปฏิบัติตามการตัดสินใจต่างๆ ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ศึกวาทกรรมรอบใหม่ที่เกิดขึ้นท่ามกลางเหตุกระทบกระทั่ง ทหารอิสราเอลยิงใส่กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในเลบานอน . มีรายงานข่าวว่า มาครง พูดกับคณะรัฐมนตรีฝรั่งเศส ระหว่างการประชุมหนึ่งเมื่อวันอังคาร (15 ต.ค.) ว่า "เนทันยาฮูต้องไม่ลืมว่าประเทศของเขาก่อตั้งโดยการตัดสินใจของสหประชาชาติ" อ้างถึงมติหนึ่งที่รับรองโดยที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ 1947 ให้แบ่งปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐของชาวยิวและชาวอาหรับแยกกัน . เอเอฟพีรายงานอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้เข้าร่วมประชุมรายหรึ่ง อ้างว่า มาครง ยังพูดด้วยว่า "นี่ไม่ใช่เวลาตัดขาดตัวเองจากการตัดสินใจต่างๆ ของยูเอ็น" ดูเหมือนเป็นการพาดพิงถึงกรณีที่อิสราเอลยกพลบุกเลบานอน เพื่อเล่นงานพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ แม้มีเสียงเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อสหประชาชาติที่ขอให้หยุดความเป็นปรปักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ . เนทันยาฮู ตอบโต้กลับความเห็นของมาครง ยืนยันว่าประเทศของเขาก่อตั้งโดยเลือดของทหารอิสราเอลในสงครามอาหรับ-อิสราเอล ปี 1948 ความขัดแย้งที่ปะทะขึ้นหลังจากปาเลสไตน์ปฏิเสธมติของสหประชาชาติ และโจมตีรัฐยิว ซึ่งเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะหลังการสู้รบลากยาวประมาณ 1 ปี . "ขอเตือนความทรงจำประธานาธิบดีฝรั่งเศสหน่อย มันไม่ใช่มติของสหประชาชาติที่ก่อตั้งประเทศอิสราเอล แต่มันคือการบรรลุเป้าหมายแห่งชัยชนะในสงครามเอกราช ที่นองไปด้วยเลือดนักรบวีรชน หลายคนในนั้นคือผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว" เนทันยาฮูระบุในถ้อยแถลง ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไทม์ออฟอินเดีย . ถ้อยแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่า เนทันยาฮู และ มาครง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์ในเวลาต่อมา โดยที่ทางนายกรัฐมนตรีอิสราเอลบอกกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ว่าเขาจะไม่เห็นพ้องใดๆ กับ "ข้อตกลงหยุดยิงแต่เพียงฝ่ายเดียว" ในเลบานอน . มาครงและเนทันยาฮู เปิดศึกวาทกรรมมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ครั้งที่ผู้นำฝรั่งเศสเรียกร้องให้ตะวันตกระงับส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอล โดยชี้ว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะบีบให้รัฐยิวหยุดความขัดแย้งในกาซาและเลบานอน นอกจากนี้ เขายังกล่าวหาอิสราเอล จงใจทำให้กองกำลังสันติภาพของสหประชาชาติ ที่มีกำลังมากกว่า 10,000 นายทางใต้ของเลบานอน ตกอยู่ในความเสี่ยง ในนั้นราว 700 นาย เป็นทหารฝรั่งเศส . เนทันยาฮู ประณามคำชี้แนะของมาครง เกี่ยวกับมาตรการปิดล้อมทางอาวุธ ว่า "น่าอดสู" และประกาศว่าอิสราเอลจะคว้าชัยไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกหรือไม่ก็ตาม ในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ผู้นำอิสราเอลเรียกร้องสหประชาชาติ อพยพกองกำลังรักษาสันติภาพออกจากเลบานอน อ้างว่าพวกฮิซบอลเลาะห์กำลังใช้พวกเขาเป็นโล่มนุษย์ อย่างไรก็ตามทาง ฌอง-ปิแอร์ ลาครัวซ์ หัวหน้ากองกำลังรักษาสันติภาพ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (14 ต.ค.) ว่ากองกำลังรักษาสันติภาพจะปักหลักอยู่ตามที่มั่นต่างๆ ไม่เปลี่ยนแปลง . ก่อนหน้านี้ อิสราเอลเพิ่งก่อความขุ่นเคืองแก่ประชาคมนานาชาติ ด้วยการประกาศให้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ หลังจากผู้นำยูเอ็นประณามความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างในตะวันออกกลาง และเรียกร้องหยุดยิง แต่เบื้องต้นไม่ประณามอิหร่าน ตามหลังเตหะรานยิงห่าขีปนาวุธโจมตีแก้รัฐยิว . อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวก่อความเคลื่อนไหวของบรรดารัฐสมาชิกของสหประชาชาติมากกว่า 100 ประเทศ ที่ร่วมลงนามในหนังสือแสดงจุดยืนสนับสนุน กูเตอร์เรส ก่อนต่อมา กูเตอร์เรส ได้กล่าวปราศรัยกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประณามการโจมตีของอิหร่านที่เล่นงานอิสราเอล . อ่านเพิ่มเติม.. .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    0 Comments 0 Shares 737 Views 0 Reviews
  • คิดถึงสมัยเกือบสิบกว่าปีแล้วที่ยังทำงานเป็นหัวหน้าแผนกร้านขายของเล่นสัญชาติอเมริกา ที่มีเจ้าของเป็นยิว ตอนนั้นมีครอบครัวชาวอิสราเอลมาถามว่าเขาซื้อบอร์ดเกมมาจากสาขาอื่นต่างประเทศมาหลายเดือนแล้ว อยากจะ refund เพราะไม่ได้เล่นแล้ว เราก็บอกไม่ได้ เพราะคุณใช้งานมาหลายเดือนแล้ว และคุณก็ไม่เหลือหลักฐานอะไรที่บอกว่าซื้อจากเราที่ประเทศไหน เขาตอบกลับมาว่า “แต่พวกฉันคือคนอิสราเอลนะ” ....เล่นเอาผมสตันท์สักพัก และถามเขากลับว่า 🤨 so.....? เขาก็ทำหน้าอึ้งๆที่เราตอบแบบนั้น เพราะเหมือนว่าทำไมไม่ตอบสนองเขานะ อุตส่าห์พูดคำศักสิทธิ์แล้วนะ แล้วเขาก็บอก ok และเดินจากไป....

    ผมว่าคนอิสราเอลมีแนวคิด และการสั่งสอนจากรุ่นสู่รุ่นที่ไม่ธรรมดาทีเดียว ทั้งในเรื่องการเจรจาต่อรอง และทัศนคติที่สูงส่งของพวกเขา 🤔

    ประเทศที่น่ากลัวในเรื่องเจรจาค้าขายก็คงเป็น อินเดีย สิงค์โปร และอิสราเอล เพราะทุกเรื่องเขาคุยนั้นจะไม่ win/win กับเรา แต่เขาจะต้อง win win/lose หรืออย่างน้อยก็ win win/win
    คิดถึงสมัยเกือบสิบกว่าปีแล้วที่ยังทำงานเป็นหัวหน้าแผนกร้านขายของเล่นสัญชาติอเมริกา ที่มีเจ้าของเป็นยิว ตอนนั้นมีครอบครัวชาวอิสราเอลมาถามว่าเขาซื้อบอร์ดเกมมาจากสาขาอื่นต่างประเทศมาหลายเดือนแล้ว อยากจะ refund เพราะไม่ได้เล่นแล้ว เราก็บอกไม่ได้ เพราะคุณใช้งานมาหลายเดือนแล้ว และคุณก็ไม่เหลือหลักฐานอะไรที่บอกว่าซื้อจากเราที่ประเทศไหน เขาตอบกลับมาว่า “แต่พวกฉันคือคนอิสราเอลนะ” ....เล่นเอาผมสตันท์สักพัก และถามเขากลับว่า 🤨 so.....? เขาก็ทำหน้าอึ้งๆที่เราตอบแบบนั้น เพราะเหมือนว่าทำไมไม่ตอบสนองเขานะ อุตส่าห์พูดคำศักสิทธิ์แล้วนะ แล้วเขาก็บอก ok และเดินจากไป.... ผมว่าคนอิสราเอลมีแนวคิด และการสั่งสอนจากรุ่นสู่รุ่นที่ไม่ธรรมดาทีเดียว ทั้งในเรื่องการเจรจาต่อรอง และทัศนคติที่สูงส่งของพวกเขา 🤔 ประเทศที่น่ากลัวในเรื่องเจรจาค้าขายก็คงเป็น อินเดีย สิงค์โปร และอิสราเอล เพราะทุกเรื่องเขาคุยนั้นจะไม่ win/win กับเรา แต่เขาจะต้อง win win/lose หรืออย่างน้อยก็ win win/win
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • ## รัฐเถื่อน อิสราเอล โจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN ใน เลบานอน ##
    ..
    ..
    ข่าวเมื่อวันที่ 11/10/2567
    .
    กองทัพอิสราเอลยิงถล่มกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน 2 ครั้งในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ตามที่ UN ระบุ
    .
    เมื่อวันพฤหัสบดี กองกำลังอิสราเอลได้ยิงปืนใส่หอคอยรักษาความปลอดภัยที่สำนักงานใหญ่กองกำลังชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในเลบานอน (UNIFIL) ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    .
    ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
    .
    และเมื่อวันศุกร์ ก็ได้ยิงปืนใส่หอคอยเฝ้าระวัง อีกครั้ง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
    .
    ประเทศสมาชิก UN เล็งเป้าและโจมตีไปที่กองกำลังรักษาสันติภาพของ UN ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
    .
    เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี กองกำลังอิสราเอลได้ใช้รถถัง Merkava ยิงใส่หอสังเกตการณ์ที่เป็นของ UNIFIL ในเมืองนาคูรา ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ บริเวณชายแดนทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ UNIFIL ตั้งแต่ปี 1978
    .
    เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวอินโดนีเซีย 2 นายถูกยิงโดยตรงจนตกลงมา
    .
    “โชคดีที่คราวนี้อาการบาดเจ็บไม่ร้ายแรง แต่ยังคงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล” แถลงการณ์ของ UN ที่ออกเมื่อวันพฤหัสบดีระบุ
    .
    แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อวันพุธ ทหารอิสราเอลได้ “ยิงใส่และปิดใช้งานกล้องวงจรปิดที่สำนักงานใหญ่ของ UNIFIL โดยเจตนา”
    .
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา UNIFIL ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่สอง โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด 2 ครั้งที่เกิดขึ้นใกล้กับหอสังเกตการณ์
    .
    โดยนายหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองไทร์ของเลบานอน ขณะที่อีกนายกำลังเข้ารับการรักษาในเมืองนาคูรา
    .
    การโจมตีของอิสราเอลได้รับการประณามจากสมาชิกในชุมชนระหว่างประเทศ รวมถึงอินโดนีเซีย อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน ไอร์แลนด์ ตุรกี สหภาพยุโรป และแคนาดา
    .
    UNIFIL เป็นกองกำลังรักษาสันติภาพในเลบานอน จัดตั้งขึ้นโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2521 หลังจากที่อิสราเอลรุกรานเลบานอนเป็นครั้งแรก ในสิ่งที่ต่อมาเรียกว่าความขัดแย้งในเลบานอนใต้
    .
    ในปีพ.ศ. 2521 อิสราเอลได้ส่งกองกำลังไปตามแนวชายแดนที่ติดกับเลบานอน หลังจากสมาชิกองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์เข้าสู่อิสราเอลจากเลบานอนทางทะเล
    .
    UNIFIL ก่อตั้งขึ้นเพื่อดูแลการถอนทหารของอิสราเอลออกจากเลบานอนและฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงในพื้นที่
    .
    ภายหลังสงคราม 34 วันในเลบานอนระหว่างกลุ่มฮิซบัลเลาะห์กับอิสราเอลในปี 2549 ซึ่งมีชาวเลบานอนเสียชีวิต 1,100 ราย อำนาจหน้าที่ของ UNIFIL จึงขยายออกไปเพื่อติดตามการยุติการสู้รบและสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธของเลบานอนที่ส่งกำลังไปประจำการทั่วเลบานอนตอนใต้
    .
    ณ วันที่ 2 กันยายน มีทหาร UNIFIL จำนวน 10,058 นายที่ประจำการอยู่ในเลบานอน โดยมาจาก 50 ประเทศ
    .
    กองกำลังรักษาสันติภาพของ UNIFIL มีจำนวนมากที่สุด คือ 1,231 นาย มาจากอินโดนีเซีย อิตาลี อินเดีย เนปาล และจีน ต่างก็ส่งทหารจำนวนมากเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพเช่นกัน
    .
    สถานะทางกฎหมายในการกำหนดเป้าหมายกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเป็นอย่างไร?
    .
    การจงใจกำหนดเป้าหมายภารกิจของ UN ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ผู้สังเกตการณ์กล่าว...
    .
    รายงานจากฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) อธิบายว่า “ตามกฎหมายสงคราม เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการรักษาสันติภาพ รวมถึงสมาชิกติดอาวุธ ถือเป็นพลเรือน และการโจมตีโดยเจตนาต่อพวกเขาและสถานที่รักษาสันติภาพถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและถือเป็นอาชญากรรมสงคราม”
    .
    ฮิวแมนไรท์วอทช์อ้างมาตรา 8(2)(b)(iii)ของธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งจัดตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮก โดยระบุว่าการกำหนดเป้าหมายโดยเจตนาต่อภารกิจด้านมนุษยธรรมและการรักษาสันติภาพเป็นอาชญากรรมสงคราม
    .
    แถลงการณ์ของสหประชาชาติที่รายงานเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่าไม่เพียงแต่การโจมตีโดยเจตนาเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 อีกด้วย
    .
    หลังจากที่อิสราเอลโจมตีสำนักงานใหญ่ของ UNIFIL เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหประชาชาติกล่าวว่า “นี่เป็นพัฒนาการที่สำคัญ และ UNIFIL ขอย้ำว่าต้องรับประกันความปลอดภัยของบุคลากรและทรัพย์สินของสหประชาชาติ และต้องเคารพต่อหลักปฏิบัติของสหประชาชาติอย่างไม่ละเมิดในทุกกรณี”
    .
    “การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพโดยเจตนาถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 (2006) อย่างร้ายแรง”
    .
    อิสราเอลเคยโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN มาก่อนหรือไม่?
    .
    เอไลจาห์ แม็กเนียร์ นักวิเคราะห์ทางการทหาร กล่าวกับอัลจาซีราว่าเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ UNIFIL ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากอิสราเอล
    .
    ในปีพ.ศ. 2530 หมู่รถถังของอิสราเอลเปิดฉากยิงในหมู่บ้านซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานบัญชาการของ UNIFIL ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวไอริชเสียชีวิต
    .
    ในปี 1996 อิสราเอลได้โจมตีกองพันฟิจิของ UNIFIL ในเมืองคานา ทางตอนใต้ของเลบานอน ทำให้พลเรือนเลบานอนเสียชีวิตมากกว่า 120 ราย และบาดเจ็บอีกประมาณ 500 ราย นอกจากนี้ ยังมีทหารของ UN อีก 4 นายที่ได้รับบาดเจ็บ
    .
    ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 กองกำลังอิสราเอลได้ยิงถล่มหน่วยลาดตระเวนของ UNIFIL ใกล้กับเมือง Aitaroun ทางตอนใต้ของเลบานอน แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพได้รับบาดเจ็บ
    .
    แมกเนียร์กล่าวว่าการโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้น "เพราะอิสราเอลจำเป็นต้องผ่านตำแหน่งของ UNIFIL ในนาคูราและเริ่มการรุกรานเลบานอน แกนนี้มีความสำคัญต่อกองทัพอิสราเอล" และเสริมว่าทหารอิสราเอลจำนวนมากพร้อมที่จะบุกเลบานอน
    .
    สามารถระบุกำลังทหาร UNIFIL ได้ชัดเจน เนื่องจากพวกเขาสวมหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน และตำแหน่งของพวกเขาเป็นที่ทราบกันดีในกองทัพอิสราเอล
    .
    อ่านข่าวเต็มๆได้ที่ ลิงค์
    .
    https://www.aljazeera.com/news/2024/10/11/israel-attacks-un-peacekeepers-in-lebanon-why-its-such-a-big-deal
    .
    ***
    โพสข่าวแบบนี้บ่อยๆ เฟซบุ๊ค มันถึงได้ "ปิดบัญชี" เอาซะหล่ะมั้ง...🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    ## รัฐเถื่อน อิสราเอล โจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN ใน เลบานอน ## .. .. ข่าวเมื่อวันที่ 11/10/2567 . กองทัพอิสราเอลยิงถล่มกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน 2 ครั้งในเวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมง ตามที่ UN ระบุ . เมื่อวันพฤหัสบดี กองกำลังอิสราเอลได้ยิงปืนใส่หอคอยรักษาความปลอดภัยที่สำนักงานใหญ่กองกำลังชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในเลบานอน (UNIFIL) ซ้ำแล้วซ้ำเล่า . ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย . และเมื่อวันศุกร์ ก็ได้ยิงปืนใส่หอคอยเฝ้าระวัง อีกครั้ง ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บเช่นกัน . ประเทศสมาชิก UN เล็งเป้าและโจมตีไปที่กองกำลังรักษาสันติภาพของ UN ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน . เมื่อเช้าวันพฤหัสบดี กองกำลังอิสราเอลได้ใช้รถถัง Merkava ยิงใส่หอสังเกตการณ์ที่เป็นของ UNIFIL ในเมืองนาคูรา ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ บริเวณชายแดนทางตอนใต้ของเลบานอน ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ UNIFIL ตั้งแต่ปี 1978 . เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวอินโดนีเซีย 2 นายถูกยิงโดยตรงจนตกลงมา . “โชคดีที่คราวนี้อาการบาดเจ็บไม่ร้ายแรง แต่ยังคงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล” แถลงการณ์ของ UN ที่ออกเมื่อวันพฤหัสบดีระบุ . แถลงการณ์ดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อวันพุธ ทหารอิสราเอลได้ “ยิงใส่และปิดใช้งานกล้องวงจรปิดที่สำนักงานใหญ่ของ UNIFIL โดยเจตนา” . เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา UNIFIL ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่สอง โดยระบุว่าเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิด 2 ครั้งที่เกิดขึ้นใกล้กับหอสังเกตการณ์ . โดยนายหนึ่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองไทร์ของเลบานอน ขณะที่อีกนายกำลังเข้ารับการรักษาในเมืองนาคูรา . การโจมตีของอิสราเอลได้รับการประณามจากสมาชิกในชุมชนระหว่างประเทศ รวมถึงอินโดนีเซีย อิตาลี ฝรั่งเศส สเปน ไอร์แลนด์ ตุรกี สหภาพยุโรป และแคนาดา . UNIFIL เป็นกองกำลังรักษาสันติภาพในเลบานอน จัดตั้งขึ้นโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UN ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2521 หลังจากที่อิสราเอลรุกรานเลบานอนเป็นครั้งแรก ในสิ่งที่ต่อมาเรียกว่าความขัดแย้งในเลบานอนใต้ . ในปีพ.ศ. 2521 อิสราเอลได้ส่งกองกำลังไปตามแนวชายแดนที่ติดกับเลบานอน หลังจากสมาชิกองค์กรปลดปล่อยปาเลสไตน์เข้าสู่อิสราเอลจากเลบานอนทางทะเล . UNIFIL ก่อตั้งขึ้นเพื่อดูแลการถอนทหารของอิสราเอลออกจากเลบานอนและฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงในพื้นที่ . ภายหลังสงคราม 34 วันในเลบานอนระหว่างกลุ่มฮิซบัลเลาะห์กับอิสราเอลในปี 2549 ซึ่งมีชาวเลบานอนเสียชีวิต 1,100 ราย อำนาจหน้าที่ของ UNIFIL จึงขยายออกไปเพื่อติดตามการยุติการสู้รบและสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธของเลบานอนที่ส่งกำลังไปประจำการทั่วเลบานอนตอนใต้ . ณ วันที่ 2 กันยายน มีทหาร UNIFIL จำนวน 10,058 นายที่ประจำการอยู่ในเลบานอน โดยมาจาก 50 ประเทศ . กองกำลังรักษาสันติภาพของ UNIFIL มีจำนวนมากที่สุด คือ 1,231 นาย มาจากอินโดนีเซีย อิตาลี อินเดีย เนปาล และจีน ต่างก็ส่งทหารจำนวนมากเข้าร่วมกองกำลังรักษาสันติภาพเช่นกัน . สถานะทางกฎหมายในการกำหนดเป้าหมายกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติเป็นอย่างไร? . การจงใจกำหนดเป้าหมายภารกิจของ UN ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม ผู้สังเกตการณ์กล่าว... . รายงานจากฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) อธิบายว่า “ตามกฎหมายสงคราม เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการรักษาสันติภาพ รวมถึงสมาชิกติดอาวุธ ถือเป็นพลเรือน และการโจมตีโดยเจตนาต่อพวกเขาและสถานที่รักษาสันติภาพถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและถือเป็นอาชญากรรมสงคราม” . ฮิวแมนไรท์วอทช์อ้างมาตรา 8(2)(b)(iii)ของธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งจัดตั้งศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮก โดยระบุว่าการกำหนดเป้าหมายโดยเจตนาต่อภารกิจด้านมนุษยธรรมและการรักษาสันติภาพเป็นอาชญากรรมสงคราม . แถลงการณ์ของสหประชาชาติที่รายงานเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันพฤหัสบดีระบุว่าไม่เพียงแต่การโจมตีโดยเจตนาเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 อีกด้วย . หลังจากที่อิสราเอลโจมตีสำนักงานใหญ่ของ UNIFIL เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหประชาชาติกล่าวว่า “นี่เป็นพัฒนาการที่สำคัญ และ UNIFIL ขอย้ำว่าต้องรับประกันความปลอดภัยของบุคลากรและทรัพย์สินของสหประชาชาติ และต้องเคารพต่อหลักปฏิบัติของสหประชาชาติอย่างไม่ละเมิดในทุกกรณี” . “การโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพโดยเจตนาถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1701 (2006) อย่างร้ายแรง” . อิสราเอลเคยโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพของ UN มาก่อนหรือไม่? . เอไลจาห์ แม็กเนียร์ นักวิเคราะห์ทางการทหาร กล่าวกับอัลจาซีราว่าเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ UNIFIL ตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากอิสราเอล . ในปีพ.ศ. 2530 หมู่รถถังของอิสราเอลเปิดฉากยิงในหมู่บ้านซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานบัญชาการของ UNIFIL ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพชาวไอริชเสียชีวิต . ในปี 1996 อิสราเอลได้โจมตีกองพันฟิจิของ UNIFIL ในเมืองคานา ทางตอนใต้ของเลบานอน ทำให้พลเรือนเลบานอนเสียชีวิตมากกว่า 120 ราย และบาดเจ็บอีกประมาณ 500 ราย นอกจากนี้ ยังมีทหารของ UN อีก 4 นายที่ได้รับบาดเจ็บ . ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 กองกำลังอิสราเอลได้ยิงถล่มหน่วยลาดตระเวนของ UNIFIL ใกล้กับเมือง Aitaroun ทางตอนใต้ของเลบานอน แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพได้รับบาดเจ็บ . แมกเนียร์กล่าวว่าการโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้น "เพราะอิสราเอลจำเป็นต้องผ่านตำแหน่งของ UNIFIL ในนาคูราและเริ่มการรุกรานเลบานอน แกนนี้มีความสำคัญต่อกองทัพอิสราเอล" และเสริมว่าทหารอิสราเอลจำนวนมากพร้อมที่จะบุกเลบานอน . สามารถระบุกำลังทหาร UNIFIL ได้ชัดเจน เนื่องจากพวกเขาสวมหมวกกันน็อกสีน้ำเงิน และตำแหน่งของพวกเขาเป็นที่ทราบกันดีในกองทัพอิสราเอล . อ่านข่าวเต็มๆได้ที่ ลิงค์ . https://www.aljazeera.com/news/2024/10/11/israel-attacks-un-peacekeepers-in-lebanon-why-its-such-a-big-deal . *** โพสข่าวแบบนี้บ่อยๆ เฟซบุ๊ค มันถึงได้ "ปิดบัญชี" เอาซะหล่ะมั้ง...🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    WWW.ALJAZEERA.COM
    Israel attacks UN peacekeepers in Lebanon: Why it’s such a big deal
    The international community considers Israel’s attack on UNIFIL’s headquarters a violation of international law.
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • ฟังแล้วทำให้คิดถึงครับ.

    วันที่ 13 ตุลาคมปีนี้
    เรามาร่วมกันแชร์ คลิปนี้เพื่อ
    แสดงความจงรักภักดีถึง
    พ่อ ร.9 ของพวกเรากัน
    จะมีสักกี่ครั้งที่นักร้องระดับโลกจะแต่งและร้องเพลงให้กับใครสักคน ยิ่งมาจากประเทศเล็กๆที่หลายคนๆในโลกนี้ไม่รู้จัก
    ฟังแล้วน้ำตาซึมเลย เพลง..ที่ชาวต่างชาติ ได้แก่
    1. อเมริกัน
    2.ฝรั่งเศส
    3.อังกฤษ
    4.เนเธอร์แลนด์
    5.ไอร์แลนด์
    6. ญี่ปุ่น
    7. อินเดีย
    8.ฟิลิปปินส์
    และอีกมากฯลฯ
    ร่วมกันแต่งและร่วมกันร้องล่าสุด!
    ร้องได้ไพเราะและภาพประกอบก็สุดซึ้ง ยอดเยี่ยมจริง ๆ เลยครับ
    https://youtu.be/Ra2LG-nbBAo
    ฟังแล้วทำให้คิดถึงครับ. วันที่ 13 ตุลาคมปีนี้ เรามาร่วมกันแชร์ คลิปนี้เพื่อ แสดงความจงรักภักดีถึง พ่อ ร.9 ของพวกเรากัน จะมีสักกี่ครั้งที่นักร้องระดับโลกจะแต่งและร้องเพลงให้กับใครสักคน ยิ่งมาจากประเทศเล็กๆที่หลายคนๆในโลกนี้ไม่รู้จัก ฟังแล้วน้ำตาซึมเลย เพลง..ที่ชาวต่างชาติ ได้แก่ 1. อเมริกัน 2.ฝรั่งเศส 3.อังกฤษ 4.เนเธอร์แลนด์ 5.ไอร์แลนด์ 6. ญี่ปุ่น 7. อินเดีย 8.ฟิลิปปินส์ และอีกมากฯลฯ ร่วมกันแต่งและร่วมกันร้องล่าสุด! ร้องได้ไพเราะและภาพประกอบก็สุดซึ้ง ยอดเยี่ยมจริง ๆ เลยครับ https://youtu.be/Ra2LG-nbBAo
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • ทุ่งดอกมัสตาร์ด (เครื่องเทศ)เหลืองอร่ามงามตา ณ ที่ดินผืนกว้างไกลสุดตาในเมืองหนึ่งของอินเดีย ถ่ายไว้เมื่อคราวติดตามสมณะไปอินเดียเพื่อกราบสังเวชยียสถาน ก.พ.ปี 2555

    #ทุ่งมัสตาร์ด
    #thaitimes
    #ดอกไม้
    #ท่องแดนพุทธภูมิ
    ทุ่งดอกมัสตาร์ด (เครื่องเทศ)เหลืองอร่ามงามตา ณ ที่ดินผืนกว้างไกลสุดตาในเมืองหนึ่งของอินเดีย ถ่ายไว้เมื่อคราวติดตามสมณะไปอินเดียเพื่อกราบสังเวชยียสถาน ก.พ.ปี 2555 #ทุ่งมัสตาร์ด #thaitimes #ดอกไม้ #ท่องแดนพุทธภูมิ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 264 Views 0 Reviews
  • "…ว่าไปแล้ว...สิ่งที่กำลังอุบัติขึ้นมาในตะวันออกกลาง ก็แทบไม่ต่างอะไรไปจากสิ่งที่อุบัติขึ้นมาในยุโรปตะวันออกหรือในความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนนั่นเอง คือไม่ว่าโลกแทบจะทั้งโลกต่างพยายามหาทางออกโดยหวังจะให้ทั้งสองฝ่าย “นั่งโต๊ะเจรจา” ระหว่างกันและกันมาโดยตลอด ไม่ว่าโดยความพยายามของตุรเคียที่อาสาเป็น “ตัวกลาง” มาตั้งแต่แรก ความพยายามของบรรดาผู้นำชาติแอฟริกานับสิบๆชาติ ที่อุตส่าห์เดินทางไปเยือนทั้งรัสเซียและยูเครน เพื่อเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวให้หันมาหาข้อยุติด้วยการพูดคุยเจรจาให้จงได้ ไปจนถึงคุณพี่จีน อินเดีย บราซิล ฯลฯ ที่ต่างพยายามออกเรี่ยวออกแรงกันไปมิใช่น้อย แต่ก็ด้วยเหตุเพราะคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าอียูอีกนั่นแหละ ที่โดดเข้ามาล้มโต๊ะเจรจา เพื่อหวังที่จะให้ “ตัวแทน” อย่างยูเครนช่วยบั่นทอน ทำลาย “ระบอบปกครองปูติน” ให้อ่อนปวกเปียก ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จนประเทศรัสเซียอาจต้องแตกสลายออกไปเป็นชิ้นเล็ก-ชิ้นน้อย เหมือนอย่างที่เคยแหลกลาญครั้งที่ยังดำรงสถานะเป็นสหภาพโซเวียต...นั่นแล...

    ด้วยเหตุนี้... “การไร้ความสามารถอย่างละอาย” ของโลกทั้งโลก มันจึงมีที่มา-ที่ไปอันเนื่องมาจากประมุขโลกอย่างคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าอียูในแต่ละรายนั่นเอง ที่เป็น “อุปสรรค” ขัดขวางสำคัญที่สุด จนทำให้ชาวโลกแต่ละรายหนีไม่พ้นต้องหา “ปี๊บ” แต่ละใบมาคลุมหัวตัวเองกันไปตามสภาพ แม้ว่าบรรดาปวงชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยในแต่ละประเทศ จะออกมาเรียกร้องให้เลิกสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในตะวันออกกลาง เลิกเป็นศัตรูหรือให้หาทางอยู่ร่วมกันโดยสันติกับรัสเซีย แต่กระทั่งรัฐบาลประชาธิปไตยแท้ๆ ที่ดันตกอยู่ภายใต้อำนาจ อิทธิพลของอเมริกา ต่างก็หนีไม่พ้นต้องหันมาอมสากกะเบือ ต้องเดินสวนทางกับความปรารถนา-ต้องการของประชาชนตัวเอง ต้องยอมละทิ้ง “อำนาจอธิปไตย” เพียงเพื่อให้มีโอกาสอยู่รอดปลอดภัยเอาไว้ก่อน ดังนั้น....สิ่งที่น่าจับตากันต่อไป ก็คือโลกจะสามารถ “เอาชนะอุปสรรค” ดังกล่าวได้ด้วยวิธีไหน? อย่างไร? และเมื่อไหร่? หรือได้แต่กลัวๆ-กล้าๆ กันไปโดยตลอด.."

    ที่มา คอลัมน์ มันเป็นเช่นนั้นเอง โดย ทับทิม พญาไท
    https://mgronline.com/daily/detail/9670000098281

    #Thaitimes
    "…ว่าไปแล้ว...สิ่งที่กำลังอุบัติขึ้นมาในตะวันออกกลาง ก็แทบไม่ต่างอะไรไปจากสิ่งที่อุบัติขึ้นมาในยุโรปตะวันออกหรือในความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนนั่นเอง คือไม่ว่าโลกแทบจะทั้งโลกต่างพยายามหาทางออกโดยหวังจะให้ทั้งสองฝ่าย “นั่งโต๊ะเจรจา” ระหว่างกันและกันมาโดยตลอด ไม่ว่าโดยความพยายามของตุรเคียที่อาสาเป็น “ตัวกลาง” มาตั้งแต่แรก ความพยายามของบรรดาผู้นำชาติแอฟริกานับสิบๆชาติ ที่อุตส่าห์เดินทางไปเยือนทั้งรัสเซียและยูเครน เพื่อเกลี้ยกล่อมโน้มน้าวให้หันมาหาข้อยุติด้วยการพูดคุยเจรจาให้จงได้ ไปจนถึงคุณพี่จีน อินเดีย บราซิล ฯลฯ ที่ต่างพยายามออกเรี่ยวออกแรงกันไปมิใช่น้อย แต่ก็ด้วยเหตุเพราะคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าอียูอีกนั่นแหละ ที่โดดเข้ามาล้มโต๊ะเจรจา เพื่อหวังที่จะให้ “ตัวแทน” อย่างยูเครนช่วยบั่นทอน ทำลาย “ระบอบปกครองปูติน” ให้อ่อนปวกเปียก ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ จนประเทศรัสเซียอาจต้องแตกสลายออกไปเป็นชิ้นเล็ก-ชิ้นน้อย เหมือนอย่างที่เคยแหลกลาญครั้งที่ยังดำรงสถานะเป็นสหภาพโซเวียต...นั่นแล... ด้วยเหตุนี้... “การไร้ความสามารถอย่างละอาย” ของโลกทั้งโลก มันจึงมีที่มา-ที่ไปอันเนื่องมาจากประมุขโลกอย่างคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตรพรมเช็ดเท้าอียูในแต่ละรายนั่นเอง ที่เป็น “อุปสรรค” ขัดขวางสำคัญที่สุด จนทำให้ชาวโลกแต่ละรายหนีไม่พ้นต้องหา “ปี๊บ” แต่ละใบมาคลุมหัวตัวเองกันไปตามสภาพ แม้ว่าบรรดาปวงชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยในแต่ละประเทศ จะออกมาเรียกร้องให้เลิกสนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในตะวันออกกลาง เลิกเป็นศัตรูหรือให้หาทางอยู่ร่วมกันโดยสันติกับรัสเซีย แต่กระทั่งรัฐบาลประชาธิปไตยแท้ๆ ที่ดันตกอยู่ภายใต้อำนาจ อิทธิพลของอเมริกา ต่างก็หนีไม่พ้นต้องหันมาอมสากกะเบือ ต้องเดินสวนทางกับความปรารถนา-ต้องการของประชาชนตัวเอง ต้องยอมละทิ้ง “อำนาจอธิปไตย” เพียงเพื่อให้มีโอกาสอยู่รอดปลอดภัยเอาไว้ก่อน ดังนั้น....สิ่งที่น่าจับตากันต่อไป ก็คือโลกจะสามารถ “เอาชนะอุปสรรค” ดังกล่าวได้ด้วยวิธีไหน? อย่างไร? และเมื่อไหร่? หรือได้แต่กลัวๆ-กล้าๆ กันไปโดยตลอด.." ที่มา คอลัมน์ มันเป็นเช่นนั้นเอง โดย ทับทิม พญาไท https://mgronline.com/daily/detail/9670000098281 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    โลกที่ไร้ความสามารถอย่างน่าละอาย!!!
    สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสต้องเรียกว่า...ฟังแล้ว “สะอึก!!!” ชนิดอาจต้องเหลียวซ้าย แลขวา หันไปมองหา “ปี๊บ” เพื่อที่จะเอามาใช้คลุมหัวเป็นใบๆ เอาเลยทีเดียว สำหรับคำตำหนิติติงของประมุขทางจิตวิญญาณแห่งศาสนจักรคาทอลิก “พระสันตะปาปาฟรานซิ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 376 Views 0 Reviews
  • จัดการ ‘นิคมมลพิษ’ รอ ‘เอกนัฏ’ จะทำงานกี่โมง
    .
    เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมป้ายแดง คุณรับรู้รับทราบเรื่องปัญหานิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยางหรือยังครับ นิคมนี้กำลังสร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นพื้นที่สีเขียวจริงๆ คือมันเป็นปอดขนาดใหญ่ของชาวระยอง แล้วนิคมอุตสาหกรรมมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 8 ตำบล 20 หมู่บ้าน โรงเรียน สถานศึกษา วัดวาอาราม สำนักสงฆ์อีก 7 แห่ง รวมไปจนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ต้องเดือดร้อนจากนิคมฯ นี้อีก 9 แห่ง
    .
    บริษัทที่อยู่ในนิคมฯ ทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นนายทุนจีน นายทุนอินเดีย นายทุนญี่ปุ่น แทบทั้งสิ้น ผมจะถามท่านกลับว่า ประชาชนแถวนั้นเขาได้ประโยชน์อะไรจากนิคมฯ จนป่านนี้ชาวบ้านทนทุกข์ทรมานกับนิคมฯนี้มา 9 ปีแล้ว พวกคุณยังนิ่งดูดายกันอยู่ได้อย่างไร
    .
    ผมจะฝากถามคำถามไปถึงคน 3 คน คนแรก คือ คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีป้ายแดงค่าย กปปส. ลูกบุญธรรมคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ,คนที่สองที่ผมจะพูดถึง คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติที่ดันคุณเอกณัฐเป็น รมต. และคนที่สาม คุณอนุทิน ชาญวีรกูล คนที่ถูกวางตัวว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากอุ๊งอิ๊งค์ ที่เกี่ยวข้องในมุม รมว.มหาดไทยของบรรดานักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่เอื้ออำนวยนายทุนและนักการเมืองท้องถิ่นเลวๆที่กดหัวชาวบ้าน
    .
    วันนี้ชาวบ้านเมืองระยองเขาจะล้มหายตายจากกันแล้ว แต่คุณก็ยังนิ่งเฉย ไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา คุณลองไปเยี่ยมเขาหน่อยสิครับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ คุณสบายดีอยู่หรือเปล่า หรือว่าคุณแค่โกหกพกลมให้ชาวบ้านเขาเชื่อว่าคุณเข้ามาเพื่อตั้งใจทำงานจริงๆ แต่ผลงานคุณมันไม่ได้ออกมาในรูปแบบนี้ คนละเรื่อง
    .
    นี่ไงประชาชน แล้วคุณทำประโยชน์อะไรกับเขาได้บ้าง ผมยังไม่เห็นคุณทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ท่านผู้ชมครับ เห็นด้วยกับผมไหม เรื่องนี้
    จัดการ ‘นิคมมลพิษ’ รอ ‘เอกนัฏ’ จะทำงานกี่โมง . เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมป้ายแดง คุณรับรู้รับทราบเรื่องปัญหานิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยางหรือยังครับ นิคมนี้กำลังสร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นพื้นที่สีเขียวจริงๆ คือมันเป็นปอดขนาดใหญ่ของชาวระยอง แล้วนิคมอุตสาหกรรมมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 8 ตำบล 20 หมู่บ้าน โรงเรียน สถานศึกษา วัดวาอาราม สำนักสงฆ์อีก 7 แห่ง รวมไปจนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ต้องเดือดร้อนจากนิคมฯ นี้อีก 9 แห่ง . บริษัทที่อยู่ในนิคมฯ ทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นนายทุนจีน นายทุนอินเดีย นายทุนญี่ปุ่น แทบทั้งสิ้น ผมจะถามท่านกลับว่า ประชาชนแถวนั้นเขาได้ประโยชน์อะไรจากนิคมฯ จนป่านนี้ชาวบ้านทนทุกข์ทรมานกับนิคมฯนี้มา 9 ปีแล้ว พวกคุณยังนิ่งดูดายกันอยู่ได้อย่างไร . ผมจะฝากถามคำถามไปถึงคน 3 คน คนแรก คือ คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีป้ายแดงค่าย กปปส. ลูกบุญธรรมคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ,คนที่สองที่ผมจะพูดถึง คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติที่ดันคุณเอกณัฐเป็น รมต. และคนที่สาม คุณอนุทิน ชาญวีรกูล คนที่ถูกวางตัวว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากอุ๊งอิ๊งค์ ที่เกี่ยวข้องในมุม รมว.มหาดไทยของบรรดานักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่เอื้ออำนวยนายทุนและนักการเมืองท้องถิ่นเลวๆที่กดหัวชาวบ้าน . วันนี้ชาวบ้านเมืองระยองเขาจะล้มหายตายจากกันแล้ว แต่คุณก็ยังนิ่งเฉย ไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา คุณลองไปเยี่ยมเขาหน่อยสิครับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ คุณสบายดีอยู่หรือเปล่า หรือว่าคุณแค่โกหกพกลมให้ชาวบ้านเขาเชื่อว่าคุณเข้ามาเพื่อตั้งใจทำงานจริงๆ แต่ผลงานคุณมันไม่ได้ออกมาในรูปแบบนี้ คนละเรื่อง . นี่ไงประชาชน แล้วคุณทำประโยชน์อะไรกับเขาได้บ้าง ผมยังไม่เห็นคุณทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ท่านผู้ชมครับ เห็นด้วยกับผมไหม เรื่องนี้
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 590 Views 0 Reviews
  • 🇮🇳🇷🇺 อินเดียเป็นซัพพลายเออร์ทางเทคโนโลยีที่จำกัด รายใหญ่เป็นอันดับสองของรัสเซีย, ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและสหภาพยุโรป
    .
    JUST IN: 🇮🇳🇷🇺 India is Russia's second-largest supplier of restricted technology, according to US and EU officials.
    .
    4:19 AM · Oct 13, 2024 · 83.2K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1845212669881532665
    🇮🇳🇷🇺 อินเดียเป็นซัพพลายเออร์ทางเทคโนโลยีที่จำกัด รายใหญ่เป็นอันดับสองของรัสเซีย, ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและสหภาพยุโรป . JUST IN: 🇮🇳🇷🇺 India is Russia's second-largest supplier of restricted technology, according to US and EU officials. . 4:19 AM · Oct 13, 2024 · 83.2K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1845212669881532665
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
More Results