• คุณเคยเปิดเกมแล้วเจอฉากสวยๆ ที่ทำให้การ์ดจอคุณ “ทรุด” เพราะ VRAM เต็มไหมครับ? ข่าวดีคือ NTC หรือ Neural Texture Compression อาจเปลี่ยนเกมนี้ไปทั้งวงการ เพราะมันช่วยให้เรนเดอร์ texture ที่สมจริงได้โดยใช้หน่วยความจำกราฟิกน้อยลงมาก — ถึง 20 เท่าในบางกรณี!

    หลักการคือการใช้ AI neural network ที่ฝึกมาล่วงหน้าเพื่อบีบอัด (compress) และถอดรหัส (decompress) texture ใน real-time โดยคงรายละเอียดที่สายตามองเห็นว่า “คมเหมือนต้นฉบับ” แม้ข้อมูลต้นทางจะถูกลดทอนอย่างหนัก

    สื่อเทคโนโลยีชื่อ Compusemble ทำการทดสอบเทคโนโลยีนี้จาก Intel และ Nvidia แล้วพบผลลัพธ์น่าทึ่ง: จาก 272MB เหลือเพียง 11.37MB บน GPU และ ลดเวลาสร้างเฟรมจาก 5.77ms เหลือแค่ 0.11ms เมื่อใช้ Cooperative Vectors — ฟีเจอร์ใหม่ใน DirectX 12 ที่ช่วยเร่งการทำงาน AI บน GPU โดยไม่ล็อกอยู่กับค่ายใดค่ายหนึ่ง

    แม้ตอนนี้ยังไม่มีเกมพาณิชย์ที่รองรับ NTC เต็มตัว แต่การทดสอบนี้อาจเร่งให้ Unreal Engine, Unity หรือผู้ผลิตเกมอื่นนำไปใช้จริงในอนาคตอันใกล้

    ✅ Neural Texture Compression (NTC) คือเทคโนโลยีที่ใช้ AI ลดขนาด texture โดยแทบไม่ลดคุณภาพภาพ  
    • ใช้ neural network ที่ฝึกมาเฉพาะ  
    • บีบอัดและคืนค่าข้อมูล texture ระหว่างเรนเดอร์แบบ real-time

    ✅ NTC สามารถลดการใช้ VRAM ได้อย่างมหาศาล  
    • จากตัวอย่าง: 272MB → 11.37MB  
    • มีผลต่อความลื่นไหลในเกมระดับ 4K

    ✅ ต้องใช้พลังประมวลผลสูง จึงต้องอาศัยฟีเจอร์อย่าง Cooperative Vectors เพื่อให้รันได้เร็ว  
    • เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน DirectX 12  
    • ช่วยเร่งงาน matrix computation ข้าม GPU หลายค่าย (cross-vendor)

    ✅ ผลทดสอบจริงจาก Compusemble พบว่าการใช้ Cooperative Vectors ลดเวลาสร้างเฟรมได้สูงถึง 98%  
    • จาก 5.77ms เหลือ 0.11ms ใน demo จาก Intel  
    • จาก 1.44ms เหลือ 0.74ms ใน demo จาก Nvidia

    ✅ เปิดโอกาสให้ GPU ที่มี VRAM จำกัดรันเกมระดับสูงได้ดีขึ้นในอนาคต  
    • เหมาะกับทั้งเกมใหม่ และการอัปเดตเกมเก่าเพื่อประสิทธิภาพดีขึ้น

    ‼️ เทคโนโลยี NTC ยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในเกมจริง  
    • ปัจจุบันยังอยู่ใน demo/research stage เท่านั้น  
    • ต้องรอดูว่า engine ใหญ่ ๆ จะนำไปใช้ไหม

    ‼️ ต้องการการ์ดจอที่รองรับฟีเจอร์เฉพาะ (เช่น Cooperative Vectors)  
    • ยังไม่ชัดว่าการ์ดรุ่นใดบ้างจะรองรับในระยะยาว

    ‼️ การแปลง texture แบบ neural อาจลดความเที่ยงตรงในบางประเภทภาพ  
    • โดยเฉพาะกับเนื้อหาที่มีลวดลายซับซ้อน, เส้นคม, หรือเนื้อสัมผัสปลีกย่อย

    ‼️ ยังไม่มีมาตรฐานกลางสำหรับ NTC ข้ามค่ายระหว่าง Intel–Nvidia–AMD  
    • นักพัฒนาอาจต้องเลือกใช้ฟีเจอร์แบบล็อก vendor หรือสร้างระบบของตนเอง

    https://www.techspot.com/news/108371-neural-texture-compression-can-do-wonders-vram-usage.html
    คุณเคยเปิดเกมแล้วเจอฉากสวยๆ ที่ทำให้การ์ดจอคุณ “ทรุด” เพราะ VRAM เต็มไหมครับ? ข่าวดีคือ NTC หรือ Neural Texture Compression อาจเปลี่ยนเกมนี้ไปทั้งวงการ เพราะมันช่วยให้เรนเดอร์ texture ที่สมจริงได้โดยใช้หน่วยความจำกราฟิกน้อยลงมาก — ถึง 20 เท่าในบางกรณี! หลักการคือการใช้ AI neural network ที่ฝึกมาล่วงหน้าเพื่อบีบอัด (compress) และถอดรหัส (decompress) texture ใน real-time โดยคงรายละเอียดที่สายตามองเห็นว่า “คมเหมือนต้นฉบับ” แม้ข้อมูลต้นทางจะถูกลดทอนอย่างหนัก สื่อเทคโนโลยีชื่อ Compusemble ทำการทดสอบเทคโนโลยีนี้จาก Intel และ Nvidia แล้วพบผลลัพธ์น่าทึ่ง: จาก 272MB เหลือเพียง 11.37MB บน GPU และ ลดเวลาสร้างเฟรมจาก 5.77ms เหลือแค่ 0.11ms เมื่อใช้ Cooperative Vectors — ฟีเจอร์ใหม่ใน DirectX 12 ที่ช่วยเร่งการทำงาน AI บน GPU โดยไม่ล็อกอยู่กับค่ายใดค่ายหนึ่ง แม้ตอนนี้ยังไม่มีเกมพาณิชย์ที่รองรับ NTC เต็มตัว แต่การทดสอบนี้อาจเร่งให้ Unreal Engine, Unity หรือผู้ผลิตเกมอื่นนำไปใช้จริงในอนาคตอันใกล้ ✅ Neural Texture Compression (NTC) คือเทคโนโลยีที่ใช้ AI ลดขนาด texture โดยแทบไม่ลดคุณภาพภาพ   • ใช้ neural network ที่ฝึกมาเฉพาะ   • บีบอัดและคืนค่าข้อมูล texture ระหว่างเรนเดอร์แบบ real-time ✅ NTC สามารถลดการใช้ VRAM ได้อย่างมหาศาล   • จากตัวอย่าง: 272MB → 11.37MB   • มีผลต่อความลื่นไหลในเกมระดับ 4K ✅ ต้องใช้พลังประมวลผลสูง จึงต้องอาศัยฟีเจอร์อย่าง Cooperative Vectors เพื่อให้รันได้เร็ว   • เป็นฟีเจอร์ใหม่ใน DirectX 12   • ช่วยเร่งงาน matrix computation ข้าม GPU หลายค่าย (cross-vendor) ✅ ผลทดสอบจริงจาก Compusemble พบว่าการใช้ Cooperative Vectors ลดเวลาสร้างเฟรมได้สูงถึง 98%   • จาก 5.77ms เหลือ 0.11ms ใน demo จาก Intel   • จาก 1.44ms เหลือ 0.74ms ใน demo จาก Nvidia ✅ เปิดโอกาสให้ GPU ที่มี VRAM จำกัดรันเกมระดับสูงได้ดีขึ้นในอนาคต   • เหมาะกับทั้งเกมใหม่ และการอัปเดตเกมเก่าเพื่อประสิทธิภาพดีขึ้น ‼️ เทคโนโลยี NTC ยังไม่ถูกใช้อย่างแพร่หลายในเกมจริง   • ปัจจุบันยังอยู่ใน demo/research stage เท่านั้น   • ต้องรอดูว่า engine ใหญ่ ๆ จะนำไปใช้ไหม ‼️ ต้องการการ์ดจอที่รองรับฟีเจอร์เฉพาะ (เช่น Cooperative Vectors)   • ยังไม่ชัดว่าการ์ดรุ่นใดบ้างจะรองรับในระยะยาว ‼️ การแปลง texture แบบ neural อาจลดความเที่ยงตรงในบางประเภทภาพ   • โดยเฉพาะกับเนื้อหาที่มีลวดลายซับซ้อน, เส้นคม, หรือเนื้อสัมผัสปลีกย่อย ‼️ ยังไม่มีมาตรฐานกลางสำหรับ NTC ข้ามค่ายระหว่าง Intel–Nvidia–AMD   • นักพัฒนาอาจต้องเลือกใช้ฟีเจอร์แบบล็อก vendor หรือสร้างระบบของตนเอง https://www.techspot.com/news/108371-neural-texture-compression-can-do-wonders-vram-usage.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Neural Texture Compression demo shows it can do wonders for VRAM usage
    Neural Texture Compression (NTC) is a new technique that improves texture quality while reducing VRAM usage. It relies on a specialized neural network trained to compress and...
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • IMCT News:ทรัมป์เลื่อนการโจมตีอิหร่านเพราะเกรงผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่แผนทำลายอิหร่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
    ในบทความล่าสุดบน Substack ซีมัวร์ เฮิร์ช ซึ่งเป็นนักข่าวอวุโสที่มีชื่อเสียงรายงานว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯ จะเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ต่ออิหร่านภายในสุดสัปดาห์นี้ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวอิสราเอลและอเมริกันที่เขาเชื่อถือได้
    การโจมตีซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ จะมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารและโครงการนิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหร่าน รวมถึงศูนย์ฟอร์โดว์ (Fordow) ที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งอย่างแน่นหนา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเครื่องหมุนเหวี่ยงรุ่นล่าสุดของอิหร่านไว้ใต้ดินลึก
    เฮิร์ชรายงานว่า เหตุผลของการชะลอการโจมตี มาจากความต้องการของทรัมป์ที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อตลาดการเงินของสหรัฐฯ เมื่อตลาดเปิดทำการในวันจันทร์
    แต่ แผนปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายมากกว่าการทำลายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน – มันมุ่งหวังจะสร้างความไม่มั่นคงให้กับรัฐบาลของประเทศด้วย ผู้วางแผนชาวอเมริกันและอิสราเอลต่างคาดหวังว่าจะเกิดความไม่สงบภายใน โดยการโจมตีฐานทัพ สถานีตำรวจ และศูนย์ราชการจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลที่กว้างขึ้น
    เฮิร์ชระบุว่า มีรายงาน (ยังไม่ได้รับการยืนยัน) ว่า อายะตุลลอฮ์ คาเมเนอี อาจได้เดินทางออกจากกรุงเตหะรานแล้ว
    ในขณะที่บางฝ่ายในกรุงวอชิงตันเสนอแนวคิดว่าจะ ตั้งผู้นำทางศาสนาในสายกลางขึ้นเป็นผู้นำชั่วคราวของประเทศ เจ้าหน้าที่อิสราเอลกลับไม่เห็นด้วย และต้องการให้มีการควบคุมทางการเมืองอย่างเต็มรูปแบบโดยผ่านบุคคลที่ภักดีต่ออิสราเอล ความเห็นที่แตกต่างนี้สะท้อนถึงความขัดแย้งในเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของอิหร่านหลังจากการโจมตี
    นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้ชนกลุ่มน้อยในอิหร่าน เช่น ชาวอาเซอรี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ CIA เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการลุกฮือครั้งใหญ่
    เฮิร์ชเตือนว่า แผนการนี้มีลักษณะคล้ายกับ การแทรกแซงของชาติตะวันตกในลิเบียและซีเรีย ซึ่งนำไปสู่ความไม่มั่นคงและความทุกข์ทรมานในระยะยาว เขาชี้ว่า การโจมตีอิหร่านอาจส่งผลคล้ายคลึงกัน เสี่ยงที่จะทำให้ประเทศแตกแยกและจุดชนวนความรุนแรงทั่วทั้งภูมิภาค ทั้งหมดนี้ถูกผลักดันโดย เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเนทันยาฮู และความปรารถนาของทรัมป์ที่จะสร้างชัยชนะในเวทีภูมิรัฐศาสตร์
    https://seymourhersh.substack.com/p/what-i-have-been-told-is-coming-in
    20/6/2025
    IMCT News:ทรัมป์เลื่อนการโจมตีอิหร่านเพราะเกรงผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่แผนทำลายอิหร่านยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในบทความล่าสุดบน Substack ซีมัวร์ เฮิร์ช ซึ่งเป็นนักข่าวอวุโสที่มีชื่อเสียงรายงานว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐฯ จะเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ต่ออิหร่านภายในสุดสัปดาห์นี้ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวอิสราเอลและอเมริกันที่เขาเชื่อถือได้ การโจมตีซึ่งได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ จะมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานทางทหารและโครงการนิวเคลียร์ที่สำคัญของอิหร่าน รวมถึงศูนย์ฟอร์โดว์ (Fordow) ที่ได้รับการเสริมความแข็งแกร่งอย่างแน่นหนา ซึ่งเป็นสถานที่เก็บเครื่องหมุนเหวี่ยงรุ่นล่าสุดของอิหร่านไว้ใต้ดินลึก เฮิร์ชรายงานว่า เหตุผลของการชะลอการโจมตี มาจากความต้องการของทรัมป์ที่จะหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อตลาดการเงินของสหรัฐฯ เมื่อตลาดเปิดทำการในวันจันทร์ แต่ แผนปฏิบัติการครั้งนี้มีเป้าหมายมากกว่าการทำลายขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน – มันมุ่งหวังจะสร้างความไม่มั่นคงให้กับรัฐบาลของประเทศด้วย ผู้วางแผนชาวอเมริกันและอิสราเอลต่างคาดหวังว่าจะเกิดความไม่สงบภายใน โดยการโจมตีฐานทัพ สถานีตำรวจ และศูนย์ราชการจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดกระแสต่อต้านรัฐบาลที่กว้างขึ้น เฮิร์ชระบุว่า มีรายงาน (ยังไม่ได้รับการยืนยัน) ว่า อายะตุลลอฮ์ คาเมเนอี อาจได้เดินทางออกจากกรุงเตหะรานแล้ว ในขณะที่บางฝ่ายในกรุงวอชิงตันเสนอแนวคิดว่าจะ ตั้งผู้นำทางศาสนาในสายกลางขึ้นเป็นผู้นำชั่วคราวของประเทศ เจ้าหน้าที่อิสราเอลกลับไม่เห็นด้วย และต้องการให้มีการควบคุมทางการเมืองอย่างเต็มรูปแบบโดยผ่านบุคคลที่ภักดีต่ออิสราเอล ความเห็นที่แตกต่างนี้สะท้อนถึงความขัดแย้งในเชิงลึกเกี่ยวกับอนาคตของอิหร่านหลังจากการโจมตี นอกจากนี้ หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ยังพิจารณาใช้ชนกลุ่มน้อยในอิหร่าน เช่น ชาวอาเซอรี ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับ CIA เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นการลุกฮือครั้งใหญ่ เฮิร์ชเตือนว่า แผนการนี้มีลักษณะคล้ายกับ การแทรกแซงของชาติตะวันตกในลิเบียและซีเรีย ซึ่งนำไปสู่ความไม่มั่นคงและความทุกข์ทรมานในระยะยาว เขาชี้ว่า การโจมตีอิหร่านอาจส่งผลคล้ายคลึงกัน เสี่ยงที่จะทำให้ประเทศแตกแยกและจุดชนวนความรุนแรงทั่วทั้งภูมิภาค ทั้งหมดนี้ถูกผลักดันโดย เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ของเนทันยาฮู และความปรารถนาของทรัมป์ที่จะสร้างชัยชนะในเวทีภูมิรัฐศาสตร์ https://seymourhersh.substack.com/p/what-i-have-been-told-is-coming-in 20/6/2025
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • หากไม่มีการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลจะใช้งานได้นาน 10 วัน WP เขียน

    ศักยภาพในการโจมตีของทั้งสองฝ่ายลดลงเรื่อยๆ พวกเขากำลังเก็บทั้งขีปนาวุธและกระสุนไว้สำหรับระบบป้องกันทางอากาศ นักสังเกตการณ์ตะวันตกเชื่อว่าสงครามระยะยาวระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอาจเป็นไปไม่ได้ - อย่างน้อยก็ด้วยความรุนแรงของการสู้รบในปัจจุบัน

    ขีปนาวุธสกัดกั้นเป็นประเด็นอ่อนไหวมากสำหรับอิสราเอล และนี่อาจกลายเป็น "ปัจจัยการสงบศึก" กับอิหร่านได้ หากเทลอาวีฟไม่ได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน

    ในระหว่างนี้ สถานการณ์บนพื้นดินไม่เอื้ออำนวยต่อเวอร์ชันนี้ เป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้วที่กองทัพอิสราเอลทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารที่สำคัญและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในอิหร่านอย่าง "เล่นๆ" ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสียหายจากทั้งสองฝ่าย แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าความเสียหายนี้มหาศาลอยู่แล้วนั้นไม่อาจโต้แย้งได้ และจำนวนพลเรือนเสียชีวิตในปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยคนแล้ว
    หากไม่มีการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ระบบป้องกันขีปนาวุธของอิสราเอลจะใช้งานได้นาน 10 วัน WP เขียน ศักยภาพในการโจมตีของทั้งสองฝ่ายลดลงเรื่อยๆ พวกเขากำลังเก็บทั้งขีปนาวุธและกระสุนไว้สำหรับระบบป้องกันทางอากาศ นักสังเกตการณ์ตะวันตกเชื่อว่าสงครามระยะยาวระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอาจเป็นไปไม่ได้ - อย่างน้อยก็ด้วยความรุนแรงของการสู้รบในปัจจุบัน ขีปนาวุธสกัดกั้นเป็นประเด็นอ่อนไหวมากสำหรับอิสราเอล และนี่อาจกลายเป็น "ปัจจัยการสงบศึก" กับอิหร่านได้ หากเทลอาวีฟไม่ได้รับการสนับสนุนจากวอชิงตัน ในระหว่างนี้ สถานการณ์บนพื้นดินไม่เอื้ออำนวยต่อเวอร์ชันนี้ เป็นเวลาเกือบสัปดาห์แล้วที่กองทัพอิสราเอลทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกทางทหารที่สำคัญและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในอิหร่านอย่าง "เล่นๆ" ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับความเสียหายจากทั้งสองฝ่าย แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าความเสียหายนี้มหาศาลอยู่แล้วนั้นไม่อาจโต้แย้งได้ และจำนวนพลเรือนเสียชีวิตในปัจจุบันก็เพิ่มขึ้นเป็นร้อยคนแล้ว
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 0 Reviews
  • เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา Honda จัดการทดสอบ “ยิงจรวดขึ้น – ลงจอดสำเร็จ” อย่างสวยงามในเมืองไทกิ จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งมีฉายาว่า “เมืองอวกาศของญี่ปุ่น” เพราะเป็นฐานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศของหลายบริษัท

    จรวดต้นแบบของ Honda มีความยาว 6.3 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 85 เซนติเมตร หนักรวม 1.3 ตันเมื่อเติมเชื้อเพลิง ตัวเล็กกว่าจรวด Falcon 9 ของ SpaceX มาก แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือ… มัน สามารถขึ้นไปที่ความสูง 271.4 เมตร และลงจอดกลับมาที่เป้าหมายได้ภายในระยะห่างเพียง 37 เซนติเมตร! ใช้เวลาบินรวมแค่ 56.6 วินาทีเท่านั้น

    Honda บอกว่าเป้าหมายของการทดสอบครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อความสูงหรือระยะทาง แต่เพื่อพิสูจน์ว่าเทคโนโลยี “ขึ้นลงอย่างมีเสถียรภาพ” และ “ลงจอดแบบควบคุมได้” พร้อมทั้งโชว์ระบบความปลอดภัย เช่น การปิดการขับดันอัตโนมัติถ้าทิศทางผิดเพี้ยน

    ทั้งหมดนี้เป็นก้าวแรกเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ: ทำ suborbital launch ได้ภายในปี 2029

    ✅ Honda ทดสอบยิงจรวดต้นแบบแบบ reusable สำเร็จในญี่ปุ่น  
    • ความสูงสูงสุด 271.4 เมตร / ใช้เวลา 56.6 วินาที / ลงจอดห่างจากเป้าแค่ 37 ซม.  
    • ทดสอบที่ Taiki Town, Hokkaido — เมืองที่มีศักยภาพด้าน space tech

    ✅ จรวดมีขนาดเล็ก: 6.3 ม. / 85 ซม. / น้ำหนักเต็ม 1,312 กก.  
    • เปรียบเทียบแล้วเป็นระดับ subscale test model แต่ครอบคลุมเทคโนโลยีหลัก

    ✅ ตั้งเป้าทำ suborbital launch ได้ภายในปี 2029  
    • หลังจากเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2024 ด้วยการทดสอบเผาไหม้และ hover

    ✅ เน้นทดสอบเทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพและระบบลงจอดแบบมี precision  
    • แสดงให้เห็นความพร้อมด้านระบบนำทางและระบบความปลอดภัย

    ✅ สร้างโซนจำกัดรัศมี 1 กม. ระหว่างการทดสอบ พร้อมระบบหยุดฉุกเฉิน  
    • แสดงความใส่ใจต่อความปลอดภัยของสาธารณชน

    ✅ เป็นหนึ่งในโครงการด้านอวกาศที่เปิดเผยของ Honda หลังเงียบมานาน  
    • ต่อจากโครงการพัฒนา hydrogen system สำหรับใช้บนสถานีอวกาศ ISS

    ‼️ แม้การทดสอบสำเร็จ แต่ Honda ยังตามหลัง SpaceX และ Blue Origin หลายปีแสง  
    • ทั้งสองบริษัทมีประสบการณ์การบิน suborbital และ orbital หลายสิบเที่ยวแล้ว

    ‼️ จรวดที่ทดสอบยังอยู่ระดับต้นแบบย่อย (subscale)  
    • ยังไม่พิสูจน์ว่าระบบสามารถนำไปใช้งานจริงหรือรับ payload ได้ในระดับ commercial

    ‼️ ยังไม่ชัดเจนว่าฮอนด้าจะพัฒนาด้วยทรัพยากรของตัวเองทั้งหมด หรือจับมือกับพันธมิตรในวงการอวกาศ  
    • ความยั่งยืนของโครงการขึ้นกับการจัดหาเงินทุนระยะยาว

    ‼️ การแข่งขันในวงการ reusable rocket เข้มข้นและต้นทุนสูงมาก  
    • อาจไม่ใช่ตลาดที่ทุกคนจะอยู่รอดได้แม้มีเทคโนโลยี

    https://www.techspot.com/news/108365-honda-celebrates-first-successful-test-reusable-rocket-bid.html
    เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา Honda จัดการทดสอบ “ยิงจรวดขึ้น – ลงจอดสำเร็จ” อย่างสวยงามในเมืองไทกิ จังหวัดฮอกไกโด ซึ่งมีฉายาว่า “เมืองอวกาศของญี่ปุ่น” เพราะเป็นฐานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศของหลายบริษัท จรวดต้นแบบของ Honda มีความยาว 6.3 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 85 เซนติเมตร หนักรวม 1.3 ตันเมื่อเติมเชื้อเพลิง ตัวเล็กกว่าจรวด Falcon 9 ของ SpaceX มาก แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือ… มัน สามารถขึ้นไปที่ความสูง 271.4 เมตร และลงจอดกลับมาที่เป้าหมายได้ภายในระยะห่างเพียง 37 เซนติเมตร! ใช้เวลาบินรวมแค่ 56.6 วินาทีเท่านั้น Honda บอกว่าเป้าหมายของการทดสอบครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อความสูงหรือระยะทาง แต่เพื่อพิสูจน์ว่าเทคโนโลยี “ขึ้นลงอย่างมีเสถียรภาพ” และ “ลงจอดแบบควบคุมได้” พร้อมทั้งโชว์ระบบความปลอดภัย เช่น การปิดการขับดันอัตโนมัติถ้าทิศทางผิดเพี้ยน ทั้งหมดนี้เป็นก้าวแรกเพื่อไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้คือ: ทำ suborbital launch ได้ภายในปี 2029 ✅ Honda ทดสอบยิงจรวดต้นแบบแบบ reusable สำเร็จในญี่ปุ่น   • ความสูงสูงสุด 271.4 เมตร / ใช้เวลา 56.6 วินาที / ลงจอดห่างจากเป้าแค่ 37 ซม.   • ทดสอบที่ Taiki Town, Hokkaido — เมืองที่มีศักยภาพด้าน space tech ✅ จรวดมีขนาดเล็ก: 6.3 ม. / 85 ซม. / น้ำหนักเต็ม 1,312 กก.   • เปรียบเทียบแล้วเป็นระดับ subscale test model แต่ครอบคลุมเทคโนโลยีหลัก ✅ ตั้งเป้าทำ suborbital launch ได้ภายในปี 2029   • หลังจากเริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2024 ด้วยการทดสอบเผาไหม้และ hover ✅ เน้นทดสอบเทคโนโลยีควบคุมเสถียรภาพและระบบลงจอดแบบมี precision   • แสดงให้เห็นความพร้อมด้านระบบนำทางและระบบความปลอดภัย ✅ สร้างโซนจำกัดรัศมี 1 กม. ระหว่างการทดสอบ พร้อมระบบหยุดฉุกเฉิน   • แสดงความใส่ใจต่อความปลอดภัยของสาธารณชน ✅ เป็นหนึ่งในโครงการด้านอวกาศที่เปิดเผยของ Honda หลังเงียบมานาน   • ต่อจากโครงการพัฒนา hydrogen system สำหรับใช้บนสถานีอวกาศ ISS ‼️ แม้การทดสอบสำเร็จ แต่ Honda ยังตามหลัง SpaceX และ Blue Origin หลายปีแสง   • ทั้งสองบริษัทมีประสบการณ์การบิน suborbital และ orbital หลายสิบเที่ยวแล้ว ‼️ จรวดที่ทดสอบยังอยู่ระดับต้นแบบย่อย (subscale)   • ยังไม่พิสูจน์ว่าระบบสามารถนำไปใช้งานจริงหรือรับ payload ได้ในระดับ commercial ‼️ ยังไม่ชัดเจนว่าฮอนด้าจะพัฒนาด้วยทรัพยากรของตัวเองทั้งหมด หรือจับมือกับพันธมิตรในวงการอวกาศ   • ความยั่งยืนของโครงการขึ้นกับการจัดหาเงินทุนระยะยาว ‼️ การแข่งขันในวงการ reusable rocket เข้มข้นและต้นทุนสูงมาก   • อาจไม่ใช่ตลาดที่ทุกคนจะอยู่รอดได้แม้มีเทคโนโลยี https://www.techspot.com/news/108365-honda-celebrates-first-successful-test-reusable-rocket-bid.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Honda joins space race with first successful reusable rocket test
    The historic flight took place on June 17 at the Honda facility in Taiki Town, Hiroo District, Hokkaido Prefecture, Japan, which has been dubbed as a "space...
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • ใครจะเชื่อว่า “โบนัสเซ็นสัญญา” สำหรับนักวิจัย AI ตอนนี้อาจแตะตัวเลข 100 ล้านเหรียญ! Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของน้องชายตัวเองว่า Meta เสนอตัวเลขนี้จริง ๆ เพื่อดึงคนจาก OpenAI ไป

    Altman บอกว่า “Meta เริ่มแจกข้อเสนอระดับไม่ธรรมดากับหลายคนในทีมเรา...ยังดีที่ตอนนี้ไม่มีใครตัดสินใจย้ายไปนะ” ข้อเสนอนี้รวมทั้งโบนัสและค่าตอบแทนรายปีซึ่งรวม ๆ กันก็ทำให้หลายคน “ตาค้าง”

    เบื้องหลังเรื่องนี้คือ Meta ตั้งทีม AI “superintelligence” ใหม่ โดยมี Alexandr Wang (อดีตซีอีโอของ Scale AI) มาเป็นผู้นำ ซึ่งนั่งทำงานใกล้กับ Mark Zuckerberg เลย แถม Meta ก็เพิ่งเทเงิน $14.3 พันล้านลงทุนใน Scale AI ไปหมาด ๆ ถือว่าจัดหนักในสนามนี้

    Altman ยังวิจารณ์เบา ๆ ว่า “Meta ไม่ใช่บริษัทที่เก่งเรื่องนวัตกรรม” และเตือนว่า ถ้าบริษัทไหนมองแค่เรื่องเงินมากกว่าภารกิจ AI ระดับ AGI (Artificial General Intelligence) อาจสร้างวัฒนธรรมที่ไม่เหมาะกับการเกิด “การค้นพบครั้งใหญ่”

    ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $100 ล้าน เพื่อดึงนักวิจัย AI จากคู่แข่ง  
    • รวมทั้งโบนัสเซ็นสัญญาและค่าตอบแทนรวมรายปี  
    • จุดมุ่งหมายเพื่อเร่งสร้างทีม AI ระดับ “superintelligence”

    ✅ Sam Altman เผยเรื่องนี้ในพอดแคสต์ โดยระบุว่า Meta เสนอให้หลายคนใน OpenAI  
    • ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีใครรับข้อเสนอ  
    • มองว่า OpenAI มีโอกาสบรรลุ AGI ได้มากกว่า Meta

    ✅ ผู้นำทีมใหม่ของ Meta คือ Alexandr Wang (อดีต CEO ของ Scale AI)  
    • ทำงานใกล้ชิดกับ Mark Zuckerberg  
    • Meta ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อสนับสนุนทิศทางนี้

    ✅ Meta ได้ตัวนักวิจัยดังบางคนจาก Google DeepMind และ Sesame AI แล้ว  
    • เช่น Jack Rae และ Johan Schalkwyk  
    • แต่ยังไม่สำเร็จในการดึง Noam Brown จาก OpenAI หรือ Koray Kavukcuoglu จาก Google

    ✅ มีมุมมองจากผู้บริหาร AI คนอื่นว่าการล่าคนต้องมีทั้งเงินและทรัพยากร GPU  
    • CEO ของ Perplexity เผยนักวิจัยจาก Meta บอก “มี 10,000 H100 เมื่อไหร่ ค่อยกลับมาคุย”

    ‼️ การล่าพนักงานแบบ “เงินนำหน้า” อาจทำลายวัฒนธรรมองค์กร  
    • คนที่เข้ามาเพราะเงิน อาจไม่ยึดมั่นในเป้าหมายระยะยาวขององค์กร  
    • ยิ่งในการวิจัย AI แบบ AGI ที่ต้องการการร่วมมือและความมุ่งมั่นสูง

    ‼️ Meta ถูกวิจารณ์ว่านวัตกรรมโอเพ่นซอร์สของตัวเอง “สะดุด” หลังเลื่อนปล่อยโมเดลใหม่  
    • ทำให้คู่แข่งอย่าง Google, DeepSeek และ OpenAI นำหน้าไปก่อน

    ‼️ การแย่งบุคลากร AI อาจทำให้ช่องว่างเทคโนโลยีระหว่างบริษัทยิ่งถ่างออก  
    • บริษัทเล็กหรือประเทศกำลังพัฒนาจะเสียเปรียบอย่างมาก

    ‼️ การเสนอค่าตัวระดับเกิน 100 ล้านดอลลาร์อาจผลักดันค่าจ้างในวงการขึ้นแบบไม่ยั่งยืน  
    • กระทบ ecosystem ของ startup และการวิจัยสาธารณะ

    https://www.techspot.com/news/108357-meta-offering-up-100-million-lure-ai-talent.html
    ใครจะเชื่อว่า “โบนัสเซ็นสัญญา” สำหรับนักวิจัย AI ตอนนี้อาจแตะตัวเลข 100 ล้านเหรียญ! Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ให้สัมภาษณ์ในพอดแคสต์ของน้องชายตัวเองว่า Meta เสนอตัวเลขนี้จริง ๆ เพื่อดึงคนจาก OpenAI ไป Altman บอกว่า “Meta เริ่มแจกข้อเสนอระดับไม่ธรรมดากับหลายคนในทีมเรา...ยังดีที่ตอนนี้ไม่มีใครตัดสินใจย้ายไปนะ” ข้อเสนอนี้รวมทั้งโบนัสและค่าตอบแทนรายปีซึ่งรวม ๆ กันก็ทำให้หลายคน “ตาค้าง” เบื้องหลังเรื่องนี้คือ Meta ตั้งทีม AI “superintelligence” ใหม่ โดยมี Alexandr Wang (อดีตซีอีโอของ Scale AI) มาเป็นผู้นำ ซึ่งนั่งทำงานใกล้กับ Mark Zuckerberg เลย แถม Meta ก็เพิ่งเทเงิน $14.3 พันล้านลงทุนใน Scale AI ไปหมาด ๆ ถือว่าจัดหนักในสนามนี้ Altman ยังวิจารณ์เบา ๆ ว่า “Meta ไม่ใช่บริษัทที่เก่งเรื่องนวัตกรรม” และเตือนว่า ถ้าบริษัทไหนมองแค่เรื่องเงินมากกว่าภารกิจ AI ระดับ AGI (Artificial General Intelligence) อาจสร้างวัฒนธรรมที่ไม่เหมาะกับการเกิด “การค้นพบครั้งใหญ่” ✅ Meta เสนอค่าตอบแทนสูงถึง $100 ล้าน เพื่อดึงนักวิจัย AI จากคู่แข่ง   • รวมทั้งโบนัสเซ็นสัญญาและค่าตอบแทนรวมรายปี   • จุดมุ่งหมายเพื่อเร่งสร้างทีม AI ระดับ “superintelligence” ✅ Sam Altman เผยเรื่องนี้ในพอดแคสต์ โดยระบุว่า Meta เสนอให้หลายคนใน OpenAI   • ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีใครรับข้อเสนอ   • มองว่า OpenAI มีโอกาสบรรลุ AGI ได้มากกว่า Meta ✅ ผู้นำทีมใหม่ของ Meta คือ Alexandr Wang (อดีต CEO ของ Scale AI)   • ทำงานใกล้ชิดกับ Mark Zuckerberg   • Meta ลงทุน $14.3 พันล้านใน Scale AI เพื่อสนับสนุนทิศทางนี้ ✅ Meta ได้ตัวนักวิจัยดังบางคนจาก Google DeepMind และ Sesame AI แล้ว   • เช่น Jack Rae และ Johan Schalkwyk   • แต่ยังไม่สำเร็จในการดึง Noam Brown จาก OpenAI หรือ Koray Kavukcuoglu จาก Google ✅ มีมุมมองจากผู้บริหาร AI คนอื่นว่าการล่าคนต้องมีทั้งเงินและทรัพยากร GPU   • CEO ของ Perplexity เผยนักวิจัยจาก Meta บอก “มี 10,000 H100 เมื่อไหร่ ค่อยกลับมาคุย” ‼️ การล่าพนักงานแบบ “เงินนำหน้า” อาจทำลายวัฒนธรรมองค์กร   • คนที่เข้ามาเพราะเงิน อาจไม่ยึดมั่นในเป้าหมายระยะยาวขององค์กร   • ยิ่งในการวิจัย AI แบบ AGI ที่ต้องการการร่วมมือและความมุ่งมั่นสูง ‼️ Meta ถูกวิจารณ์ว่านวัตกรรมโอเพ่นซอร์สของตัวเอง “สะดุด” หลังเลื่อนปล่อยโมเดลใหม่   • ทำให้คู่แข่งอย่าง Google, DeepSeek และ OpenAI นำหน้าไปก่อน ‼️ การแย่งบุคลากร AI อาจทำให้ช่องว่างเทคโนโลยีระหว่างบริษัทยิ่งถ่างออก   • บริษัทเล็กหรือประเทศกำลังพัฒนาจะเสียเปรียบอย่างมาก ‼️ การเสนอค่าตัวระดับเกิน 100 ล้านดอลลาร์อาจผลักดันค่าจ้างในวงการขึ้นแบบไม่ยั่งยืน   • กระทบ ecosystem ของ startup และการวิจัยสาธารณะ https://www.techspot.com/news/108357-meta-offering-up-100-million-lure-ai-talent.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Meta is offering up to $100 million to lure AI talent, says OpenAI's Sam Altman
    The recruitment drive has a personal element: former Scale AI CEO Alexandr Wang heads Meta's new AI group, and some new hires are said to be working...
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • Data centre คือหัวใจของยุค AI เพราะใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลจากทั้งแอปฯ แชต, รูป, โมเดลปัญญาประดิษฐ์ยักษ์ ๆ อย่าง GPT, Gemini และ Llama — และมันกินไฟมหาศาล!

    ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลใหญ่ ๆ ของยุโรปกระจุกอยู่ใน 5 เมืองหลัก: แฟรงก์เฟิร์ต, ลอนดอน, อัมสเตอร์ดัม, ปารีส และดับลิน แต่ปัญหาคือ... จะเชื่อมศูนย์ข้อมูลใหม่เข้ากับระบบไฟฟ้าในเมืองเหล่านี้ ต้องใช้เวลา 7–13 ปี! ทำให้ผู้พัฒนาจำนวนมากหันไปหาประเทศที่วางแผนโครงสร้างพื้นฐานได้เร็วกว่า เช่น อิตาลี เชื่อมไฟได้ภายใน 3 ปีเท่านั้น

    รายงานเตือนว่า ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ภายในปี 2035 มีโอกาสสูงที่ศูนย์ข้อมูล ครึ่งหนึ่ง ของยุโรปจะย้ายไปอยู่นอกฮับหลักเดิมเลย — นี่หมายถึงการสูญเสียการลงทุนระดับพันล้านยูโรต่อประเทศ และตำแหน่งงานจำนวนมาก เช่นในเยอรมนี ปี 2024 ศูนย์ข้อมูลสร้าง GDP ได้กว่า €10.4B และคาดว่าจะมากกว่าสองเท่าในปี 2029 หากไม่มีอุปสรรค

    เฉพาะฝรั่งเศสเท่านั้นที่ยังรักษาเสถียรภาพได้ เพราะระบบสายส่งไฟยังไม่ติดคอขวดมากเท่าประเทศอื่น

    ✅ Ember ชี้การวางแผนระบบไฟฟ้าช้า กระทบการกระจายศูนย์ข้อมูลในยุโรป  
    • การเชื่อม Data Centre เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าใช้เวลานาน 7–13 ปีในฮับหลัก  
    • ทำให้นักลงทุนเบนเข็มไปยังประเทศที่เชื่อมได้เร็ว เช่น อิตาลี ใช้แค่ 3 ปี

    ✅ คาดว่าภายในปี 2035 ครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลยุโรปจะอยู่นอกฮับหลักเดิม  
    • อาจกระทบเศรษฐกิจในประเทศอย่างเยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ

    ✅ ฝรั่งเศสอาจเป็นประเทศเดียวที่รักษาการลงทุนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง  
    • เพราะระบบไฟฟ้าไม่ติดปัญหาขัดข้องเหมือนชาติอื่นในกลุ่ม

    ✅ ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในยุโรปเหนือและตะวันออก  
    • เช่น สวีเดน, นอร์เวย์, เดนมาร์ก: คาดว่า demand จะ เพิ่ม 3 เท่าภายในปี 2030  
    • ออสเตรีย, กรีซ, ฟินแลนด์, ฮังการี, อิตาลี, โปรตุเกส, สโลวาเกีย: คาดว่า ไฟที่ใช้กับ data centre จะเพิ่ม 3–5 เท่าในปี 2035

    ✅ Ember ระบุว่า “โครงข่ายไฟ” คือเครื่องมือดึงดูดการลงทุนระดับชาติในยุค AI  
    • ไม่ใช่แค่ data centre — อุตสาหกรรมทุกชนิดที่ต้องการใช้พลังงานสูงจะได้รับผล

    ‼️ หากประเทศไม่เร่งลงทุนในโครงข่ายไฟและระบบอนุมัติ จะสูญเสียโอกาสหลายพันล้านยูโร  
    • ประเทศที่การเชื่อมไฟฟ้าช้า อาจถูกมองข้ามโดยผู้พัฒนา AI/data centre

    ‼️ การกระจุกตัวของ data centre ในไม่กี่เมืองกำลังถึงทางตัน  
    • เกิดปัญหาคอขวด การใช้ไฟฟ้าเกินพิกัด และต้นทุนที่สูงขึ้น

    ‼️ หากปล่อยให้ผู้พัฒนาเลือกที่ตั้งตามความสะดวกเรื่องไฟ โดยไม่มีแผนระดับภูมิภาค อาจเกิดการกระจายตัวแบบไม่สมดุล  
    • กระทบภาระด้านพลังงาน–สิ่งแวดล้อม และแผนเมืองในระยะยาว

    ‼️ ศูนย์ข้อมูลต้องใช้ไฟฟ้าอย่างมั่นคง หากไม่มีแผนสำรองอาจกลายเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์  
    • โดยเฉพาะเมื่อระบบ cloud และ AI เข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจภาครัฐและการเงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/poor-grid-planning-could-shift-europe039s-data-centre-geography-report-says
    Data centre คือหัวใจของยุค AI เพราะใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลจากทั้งแอปฯ แชต, รูป, โมเดลปัญญาประดิษฐ์ยักษ์ ๆ อย่าง GPT, Gemini และ Llama — และมันกินไฟมหาศาล! ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลใหญ่ ๆ ของยุโรปกระจุกอยู่ใน 5 เมืองหลัก: แฟรงก์เฟิร์ต, ลอนดอน, อัมสเตอร์ดัม, ปารีส และดับลิน แต่ปัญหาคือ... จะเชื่อมศูนย์ข้อมูลใหม่เข้ากับระบบไฟฟ้าในเมืองเหล่านี้ ต้องใช้เวลา 7–13 ปี! ทำให้ผู้พัฒนาจำนวนมากหันไปหาประเทศที่วางแผนโครงสร้างพื้นฐานได้เร็วกว่า เช่น อิตาลี เชื่อมไฟได้ภายใน 3 ปีเท่านั้น รายงานเตือนว่า ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ภายในปี 2035 มีโอกาสสูงที่ศูนย์ข้อมูล ครึ่งหนึ่ง ของยุโรปจะย้ายไปอยู่นอกฮับหลักเดิมเลย — นี่หมายถึงการสูญเสียการลงทุนระดับพันล้านยูโรต่อประเทศ และตำแหน่งงานจำนวนมาก เช่นในเยอรมนี ปี 2024 ศูนย์ข้อมูลสร้าง GDP ได้กว่า €10.4B และคาดว่าจะมากกว่าสองเท่าในปี 2029 หากไม่มีอุปสรรค เฉพาะฝรั่งเศสเท่านั้นที่ยังรักษาเสถียรภาพได้ เพราะระบบสายส่งไฟยังไม่ติดคอขวดมากเท่าประเทศอื่น ✅ Ember ชี้การวางแผนระบบไฟฟ้าช้า กระทบการกระจายศูนย์ข้อมูลในยุโรป   • การเชื่อม Data Centre เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าใช้เวลานาน 7–13 ปีในฮับหลัก   • ทำให้นักลงทุนเบนเข็มไปยังประเทศที่เชื่อมได้เร็ว เช่น อิตาลี ใช้แค่ 3 ปี ✅ คาดว่าภายในปี 2035 ครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลยุโรปจะอยู่นอกฮับหลักเดิม   • อาจกระทบเศรษฐกิจในประเทศอย่างเยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ ✅ ฝรั่งเศสอาจเป็นประเทศเดียวที่รักษาการลงทุนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง   • เพราะระบบไฟฟ้าไม่ติดปัญหาขัดข้องเหมือนชาติอื่นในกลุ่ม ✅ ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในยุโรปเหนือและตะวันออก   • เช่น สวีเดน, นอร์เวย์, เดนมาร์ก: คาดว่า demand จะ เพิ่ม 3 เท่าภายในปี 2030   • ออสเตรีย, กรีซ, ฟินแลนด์, ฮังการี, อิตาลี, โปรตุเกส, สโลวาเกีย: คาดว่า ไฟที่ใช้กับ data centre จะเพิ่ม 3–5 เท่าในปี 2035 ✅ Ember ระบุว่า “โครงข่ายไฟ” คือเครื่องมือดึงดูดการลงทุนระดับชาติในยุค AI   • ไม่ใช่แค่ data centre — อุตสาหกรรมทุกชนิดที่ต้องการใช้พลังงานสูงจะได้รับผล ‼️ หากประเทศไม่เร่งลงทุนในโครงข่ายไฟและระบบอนุมัติ จะสูญเสียโอกาสหลายพันล้านยูโร   • ประเทศที่การเชื่อมไฟฟ้าช้า อาจถูกมองข้ามโดยผู้พัฒนา AI/data centre ‼️ การกระจุกตัวของ data centre ในไม่กี่เมืองกำลังถึงทางตัน   • เกิดปัญหาคอขวด การใช้ไฟฟ้าเกินพิกัด และต้นทุนที่สูงขึ้น ‼️ หากปล่อยให้ผู้พัฒนาเลือกที่ตั้งตามความสะดวกเรื่องไฟ โดยไม่มีแผนระดับภูมิภาค อาจเกิดการกระจายตัวแบบไม่สมดุล   • กระทบภาระด้านพลังงาน–สิ่งแวดล้อม และแผนเมืองในระยะยาว ‼️ ศูนย์ข้อมูลต้องใช้ไฟฟ้าอย่างมั่นคง หากไม่มีแผนสำรองอาจกลายเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์   • โดยเฉพาะเมื่อระบบ cloud และ AI เข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจภาครัฐและการเงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/poor-grid-planning-could-shift-europe039s-data-centre-geography-report-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Poor grid planning could shift Europe's data centre geography, report says
    PARIS (Reuters) -Europe's leading data centre hubs face a major shift as developers will go wherever connection times are shortest, unless there is more proactive electricity grid planning, a report on Thursday by energy think-tank Ember showed.
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • หลายคนอาจไม่ค่อยรู้จักชื่อ Nat Friedman เท่า Elon หรือ Altman แต่เบื้องหลังเขาคือหนึ่งใน “คนสร้างแรงกระเพื่อม” แห่งโลกโอเพ่นซอร์สและนักลงทุนยุค AI-first ตัวจริง โดยเคยเป็น CEO ของ GitHub (ช่วงที่ Microsoft ซื้อมา) และหลังออกจากตำแหน่ง ก็หันมาเป็น VC เปิดกองทุนร่วมกับ Daniel Gross (อดีตผู้บริหาร Apple และผู้ร่วมก่อตั้ง Cue ที่ถูก Google ซื้อกิจการ)

    ข่าวจาก The Information และ Reuters บอกว่า Meta กำลังเจรจาทาบทามทั้งคู่มาเสริมทัพโปรเจกต์ AI ของบริษัท และอาจถึงขั้น ซื้อหุ้นบางส่วนของกองทุน NFDG ที่พวกเขาร่วมกันตั้งขึ้น เพื่อ “ดึงทรัพยากร AI ทั้งคนและเทคโนโลยี” เข้ามาอยู่ในมือ Meta

    ช่วงนี้ Meta ขยับเร็วมาก—หลังเพิ่งเทเงินกว่า 14.8 พันล้านดอลลาร์ลงทุนใน Scale AI และดึงตัวซีอีโอของ Scale อย่าง Alexandr Wang มานำแผนก “Superintelligence” ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่

    เป้าหมายของ Meta คือสร้างโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่แข่งกับ OpenAI, Google และ Anthropic ให้ได้ โดยมี Llama เป็นแกนหลัก และตอนนี้ต้องการทีมระดับ “ผู้ปั้น ecosystem” มาเสริม ไม่ใช่แค่นักวิจัย

    Nat Friedman เคยอยู่ในคณะที่ปรึกษา Meta มาก่อนด้วย ทำให้คาดว่าดีลนี้มีโอกาสเกิดขึ้นจริงสูง และน่าจะเชื่อมโยงกับทิศทาง AI ด้าน Developer Tools หรือแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สของ Meta ในอนาคต

    ✅ Meta อยู่ระหว่างการเจรจากับ Nat Friedman (อดีต CEO GitHub) และ Daniel Gross ให้เข้าร่วมภารกิจ AI  
    • ทั้งสองคนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน NFDG ซึ่งลงทุนในสตาร์ตอัปสาย AI  
    • Meta เคยดึง Friedman เข้าเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีมาแล้วก่อนหน้านี้

    ✅ มีการพูดคุยถึงการซื้อหุ้นบางส่วนของ NFDG เพื่อควบรวมกำลังด้าน AI  
    • Meta ต้องการเชื่อมโยงแหล่งบุคลากรและบริษัท AI ที่กองทุนสนับสนุนอยู่

    ✅ การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลัง Meta เทเงิน $14.8B ลงทุนใน Scale AI  
    • และดึง CEO ของ Scale (Alexandr Wang) มานำทีม Superintelligence Unit

    ✅ เป้าหมายระยะยาวของ Meta คือเร่งพัฒนา Open-Source AI ให้แข่งขันกับคู่แข่งอย่าง OpenAI, Google, Anthropic ได้  
    • โดยเฉพาะผ่านโมเดล Llama และแพลตฟอร์มที่เน้น Developer เป็นศูนย์กลาง

    ‼️ หาก Meta ซื้อหุ้นใน NFDG จริง อาจเกิดความกังวลเรื่อง “การผูกขาดบุคลากร AI”  
    • Meta อาจเข้าถึง startup และนักพัฒนา AI รุ่นใหม่ก่อนใครในตลาด  
    • ส่งผลต่อความเป็นอิสระของระบบนิเวศโอเพ่นซอร์ส

    ‼️ แผน “เร่งเกม AI” ของ Meta ยังไม่มีโมเดลที่ใช้งานเชิงพาณิชย์เทียบเท่า GPT-4 หรือ Claude 3  
    • แม้จะเปิดตัว Llama และชุด weights ฟรี แต่ยังเน้นด้านนักพัฒนา มากกว่าผู้ใช้งานทั่วไป

    ‼️ การจ้างบุคคลระดับสูงจำนวนมากในระยะสั้น อาจส่งผลกระทบต่อความสอดคล้องของวิสัยทัศน์องค์กร  
    • โดยเฉพาะหากมีหลายทีมที่พัฒนา AI ไปคนละทิศ

    ‼️ ตลาด AI มีการแข่งขันสูง และเคลื่อนไหวเร็ว—อาจทำให้ Meta ต้องทบทวนแผนลงทุนและโครงสร้างบ่อยครั้ง  
    • ส่งผลต่อเสถียรภาพของแพลตฟอร์มและเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/meta-in-talks-to-hire-former-github-ceo-nat-friedman-to-join-ai-efforts-the-information-reports
    หลายคนอาจไม่ค่อยรู้จักชื่อ Nat Friedman เท่า Elon หรือ Altman แต่เบื้องหลังเขาคือหนึ่งใน “คนสร้างแรงกระเพื่อม” แห่งโลกโอเพ่นซอร์สและนักลงทุนยุค AI-first ตัวจริง โดยเคยเป็น CEO ของ GitHub (ช่วงที่ Microsoft ซื้อมา) และหลังออกจากตำแหน่ง ก็หันมาเป็น VC เปิดกองทุนร่วมกับ Daniel Gross (อดีตผู้บริหาร Apple และผู้ร่วมก่อตั้ง Cue ที่ถูก Google ซื้อกิจการ) ข่าวจาก The Information และ Reuters บอกว่า Meta กำลังเจรจาทาบทามทั้งคู่มาเสริมทัพโปรเจกต์ AI ของบริษัท และอาจถึงขั้น ซื้อหุ้นบางส่วนของกองทุน NFDG ที่พวกเขาร่วมกันตั้งขึ้น เพื่อ “ดึงทรัพยากร AI ทั้งคนและเทคโนโลยี” เข้ามาอยู่ในมือ Meta ช่วงนี้ Meta ขยับเร็วมาก—หลังเพิ่งเทเงินกว่า 14.8 พันล้านดอลลาร์ลงทุนใน Scale AI และดึงตัวซีอีโอของ Scale อย่าง Alexandr Wang มานำแผนก “Superintelligence” ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ เป้าหมายของ Meta คือสร้างโมเดล AI แบบโอเพ่นซอร์สที่แข่งกับ OpenAI, Google และ Anthropic ให้ได้ โดยมี Llama เป็นแกนหลัก และตอนนี้ต้องการทีมระดับ “ผู้ปั้น ecosystem” มาเสริม ไม่ใช่แค่นักวิจัย Nat Friedman เคยอยู่ในคณะที่ปรึกษา Meta มาก่อนด้วย ทำให้คาดว่าดีลนี้มีโอกาสเกิดขึ้นจริงสูง และน่าจะเชื่อมโยงกับทิศทาง AI ด้าน Developer Tools หรือแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์สของ Meta ในอนาคต ✅ Meta อยู่ระหว่างการเจรจากับ Nat Friedman (อดีต CEO GitHub) และ Daniel Gross ให้เข้าร่วมภารกิจ AI   • ทั้งสองคนเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน NFDG ซึ่งลงทุนในสตาร์ตอัปสาย AI   • Meta เคยดึง Friedman เข้าเป็นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีมาแล้วก่อนหน้านี้ ✅ มีการพูดคุยถึงการซื้อหุ้นบางส่วนของ NFDG เพื่อควบรวมกำลังด้าน AI   • Meta ต้องการเชื่อมโยงแหล่งบุคลากรและบริษัท AI ที่กองทุนสนับสนุนอยู่ ✅ การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลัง Meta เทเงิน $14.8B ลงทุนใน Scale AI   • และดึง CEO ของ Scale (Alexandr Wang) มานำทีม Superintelligence Unit ✅ เป้าหมายระยะยาวของ Meta คือเร่งพัฒนา Open-Source AI ให้แข่งขันกับคู่แข่งอย่าง OpenAI, Google, Anthropic ได้   • โดยเฉพาะผ่านโมเดล Llama และแพลตฟอร์มที่เน้น Developer เป็นศูนย์กลาง ‼️ หาก Meta ซื้อหุ้นใน NFDG จริง อาจเกิดความกังวลเรื่อง “การผูกขาดบุคลากร AI”   • Meta อาจเข้าถึง startup และนักพัฒนา AI รุ่นใหม่ก่อนใครในตลาด   • ส่งผลต่อความเป็นอิสระของระบบนิเวศโอเพ่นซอร์ส ‼️ แผน “เร่งเกม AI” ของ Meta ยังไม่มีโมเดลที่ใช้งานเชิงพาณิชย์เทียบเท่า GPT-4 หรือ Claude 3   • แม้จะเปิดตัว Llama และชุด weights ฟรี แต่ยังเน้นด้านนักพัฒนา มากกว่าผู้ใช้งานทั่วไป ‼️ การจ้างบุคคลระดับสูงจำนวนมากในระยะสั้น อาจส่งผลกระทบต่อความสอดคล้องของวิสัยทัศน์องค์กร   • โดยเฉพาะหากมีหลายทีมที่พัฒนา AI ไปคนละทิศ ‼️ ตลาด AI มีการแข่งขันสูง และเคลื่อนไหวเร็ว—อาจทำให้ Meta ต้องทบทวนแผนลงทุนและโครงสร้างบ่อยครั้ง   • ส่งผลต่อเสถียรภาพของแพลตฟอร์มและเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/meta-in-talks-to-hire-former-github-ceo-nat-friedman-to-join-ai-efforts-the-information-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta in talks to hire former GitHub CEO Nat Friedman to join AI efforts, The Information reports
    (Reuters) -Meta Platforms is in talks to hire former GitHub CEO Nat Friedman to join the Facebook parent's AI efforts, The Information reported on Wednesday, citing a person familiar with the matter.
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • ที่ผ่านมา เวลาพูดถึงเทคโนโลยีในกองทัพ คนก็มักนึกถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า เช่น Lockheed Martin หรือ Palantir แต่ Oracle ตอนนี้กำลังเปิดประตูใหม่ให้ “บริษัทเล็ก ๆ ที่มีของดี” ได้เข้าถึงโอกาสในวงการนี้ผ่านโครงการใหม่ชื่อ Oracle Defense Ecosystem

    ใจความหลักคือ Oracle จะสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีเล็ก-กลางให้มีโอกาสเข้าร่วมประกวดราคา (bidding) ในโครงการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD) โดยช่วยตั้งแต่ที่ทำงาน, เครื่องมือ, การให้คำปรึกษา และแม้แต่ส่วนลดในการใช้แพลตฟอร์มจาก Oracle และ Palantir

    เป้าหมายคือทำให้บริษัทที่เคยหมดหวังกับความยุ่งยากของระบบจัดซื้อของรัฐ – มีทางลัด มีคนแนะนำ และเข้าใจวิธีการเข้าถึงตลาดมูลค่าสูงระดับชาติ ที่เดิมเคยสงวนไว้แค่กับบริษัท “สายตรงเพนตากอน” เท่านั้น

    เบื้องหลังของความเคลื่อนไหวนี้ยังบอกถึงการปรับตัวครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการเลิกพึ่งพาเจ้าเดิม ๆ และเปิดรับนวัตกรรมจากภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความหลากหลายของเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

    ✅ Oracle เปิดตัวโปรแกรม “Defense Ecosystem” สำหรับบริษัทเทคโนโลยี SMB  
    • ช่วยเข้าถึงสัญญาโครงการจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD)  
    • เริ่มต้นมี 10 บริษัทเข้าร่วม เช่น Blackshar.ai, SensusQ, Arqit

    ✅ สิทธิประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมโปรแกรม  
    • ใช้พื้นที่สำนักงานของ Oracle  
    • ได้ส่วนลดการใช้งาน Palantir Cloud/AI Tools และ Oracle NetSuite  
    • รับคำปรึกษาเฉพาะจากผู้เชี่ยวชาญด้านจัดซื้อของรัฐบาล

    ✅ เป้าหมายของโครงการ  
    • ปรับสมดุลให้บริษัทเล็กสามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี-กลาโหม  
    • ผลักดัน Oracle Cloud ให้แทรกซึมในการใช้งานของภาครัฐโดยอ้อม

    ✅ รัฐบาลสหรัฐกำลังปฏิรูประบบจัดซื้อเทคโนโลยีภาครัฐ  
    • ยกเลิกแนวโน้มผูกขาดกับรายเดิม ๆ  
    • สนับสนุนการประหยัดงบประมาณและเพิ่มความคล่องตัวในนโยบายความมั่นคง

    ✅ Oracle วางตัวเป็นแกนกลางใหม่ของ AI และ Defense Tech Ecosystem  
    • ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนและหน่วยงานพันธมิตรของสหรัฐฯ

    ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง:
    ‼️ แม้จะเปิดรับบริษัทเล็ก แต่ขั้นตอนจัดซื้อของกระทรวงกลาโหมยังซับซ้อนมาก  
    • ต้องเข้าใจขั้นตอนการขออนุญาต ความปลอดภัย และ compliance ขั้นสูง  
    • บริษัทที่ขาดแผนงานระยะยาวอาจเสียเวลาโดยไม่ประสบผลสำเร็จ

    ‼️ การผูกความร่วมมือกับ Oracle อาจสร้างความผูกพันทางเทคโนโลยี (vendor lock-in)  
    • บริษัทอาจต้องพึ่งพาเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มเฉพาะมากเกินไป  
    • ควรวางแผนใช้เทคโนโลยีแบบเปิดเพื่อยืดหยุ่นในอนาคต

    ‼️ การแข่งขันภายในโปรแกรมอาจสูงขึ้นเรื่อย ๆ  
    • หากบริษัทเข้าร่วมมากขึ้น ความโดดเด่นของแต่ละรายอาจลดลง  
    • จำเป็นต้องมีจุดขายเฉพาะที่ชัดเจน

    https://www.techradar.com/pro/oracle-wants-to-help-smaller-firms-sell-their-tech-to-the-us-government
    ที่ผ่านมา เวลาพูดถึงเทคโนโลยีในกองทัพ คนก็มักนึกถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า เช่น Lockheed Martin หรือ Palantir แต่ Oracle ตอนนี้กำลังเปิดประตูใหม่ให้ “บริษัทเล็ก ๆ ที่มีของดี” ได้เข้าถึงโอกาสในวงการนี้ผ่านโครงการใหม่ชื่อ Oracle Defense Ecosystem ใจความหลักคือ Oracle จะสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีเล็ก-กลางให้มีโอกาสเข้าร่วมประกวดราคา (bidding) ในโครงการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD) โดยช่วยตั้งแต่ที่ทำงาน, เครื่องมือ, การให้คำปรึกษา และแม้แต่ส่วนลดในการใช้แพลตฟอร์มจาก Oracle และ Palantir เป้าหมายคือทำให้บริษัทที่เคยหมดหวังกับความยุ่งยากของระบบจัดซื้อของรัฐ – มีทางลัด มีคนแนะนำ และเข้าใจวิธีการเข้าถึงตลาดมูลค่าสูงระดับชาติ ที่เดิมเคยสงวนไว้แค่กับบริษัท “สายตรงเพนตากอน” เท่านั้น เบื้องหลังของความเคลื่อนไหวนี้ยังบอกถึงการปรับตัวครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการเลิกพึ่งพาเจ้าเดิม ๆ และเปิดรับนวัตกรรมจากภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความหลากหลายของเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ✅ Oracle เปิดตัวโปรแกรม “Defense Ecosystem” สำหรับบริษัทเทคโนโลยี SMB   • ช่วยเข้าถึงสัญญาโครงการจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD)   • เริ่มต้นมี 10 บริษัทเข้าร่วม เช่น Blackshar.ai, SensusQ, Arqit ✅ สิทธิประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมโปรแกรม   • ใช้พื้นที่สำนักงานของ Oracle   • ได้ส่วนลดการใช้งาน Palantir Cloud/AI Tools และ Oracle NetSuite   • รับคำปรึกษาเฉพาะจากผู้เชี่ยวชาญด้านจัดซื้อของรัฐบาล ✅ เป้าหมายของโครงการ   • ปรับสมดุลให้บริษัทเล็กสามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี-กลาโหม   • ผลักดัน Oracle Cloud ให้แทรกซึมในการใช้งานของภาครัฐโดยอ้อม ✅ รัฐบาลสหรัฐกำลังปฏิรูประบบจัดซื้อเทคโนโลยีภาครัฐ   • ยกเลิกแนวโน้มผูกขาดกับรายเดิม ๆ   • สนับสนุนการประหยัดงบประมาณและเพิ่มความคล่องตัวในนโยบายความมั่นคง ✅ Oracle วางตัวเป็นแกนกลางใหม่ของ AI และ Defense Tech Ecosystem   • ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนและหน่วยงานพันธมิตรของสหรัฐฯ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง: ‼️ แม้จะเปิดรับบริษัทเล็ก แต่ขั้นตอนจัดซื้อของกระทรวงกลาโหมยังซับซ้อนมาก   • ต้องเข้าใจขั้นตอนการขออนุญาต ความปลอดภัย และ compliance ขั้นสูง   • บริษัทที่ขาดแผนงานระยะยาวอาจเสียเวลาโดยไม่ประสบผลสำเร็จ ‼️ การผูกความร่วมมือกับ Oracle อาจสร้างความผูกพันทางเทคโนโลยี (vendor lock-in)   • บริษัทอาจต้องพึ่งพาเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มเฉพาะมากเกินไป   • ควรวางแผนใช้เทคโนโลยีแบบเปิดเพื่อยืดหยุ่นในอนาคต ‼️ การแข่งขันภายในโปรแกรมอาจสูงขึ้นเรื่อย ๆ   • หากบริษัทเข้าร่วมมากขึ้น ความโดดเด่นของแต่ละรายอาจลดลง   • จำเป็นต้องมีจุดขายเฉพาะที่ชัดเจน https://www.techradar.com/pro/oracle-wants-to-help-smaller-firms-sell-their-tech-to-the-us-government
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • ปกติเราเข้าใจว่าแผงโซลาร์เซลล์ต้องใช้พื้นที่มาก เพราะวัสดุที่แปลงแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า (เช่น ซิลิคอน หรือแบเรียมไทเทเนต) ยังมีประสิทธิภาพไม่สูงมาก แต่ที่เยอรมนี ทีมวิจัยจาก Martin Luther University กลับค้นพบว่า ถ้านำผลึกบางเฉียบ (แค่ 200 นาโนเมตร) ของวัสดุบางชนิดมาเรียงซ้อนกันอย่างแม่นยำ ผลลัพธ์คือ “กระแสไฟฟ้าที่แรงขึ้นเป็นพันเท่า” จากวัสดุปริมาณเท่าเดิม

    หัวใจของเทคนิคนี้คือการสลับชั้นของ แบเรียมไทเทเนต (BaTiO₃) กับผลึกอื่นอย่าง สตรอนเชียมไทเทเนต และ แคลเซียมไทเทเนต ทำให้พฤติกรรมของอิเล็กตรอนเปลี่ยนไป เสมือนว่าสร้าง “ทางด่วน” ให้ประจุไฟฟ้าไหลผ่านได้ง่ายขึ้น

    ยิ่งกว่านั้น พวกเขาทำโครงสร้างซ้อนชั้นแบบนี้ 500 ชั้นในแต่ละแผ่น แต่ใช้วัสดุแบบเดิมน้อยลงถึง 2 ใน 3! ประสิทธิภาพก็ยังคงเสถียรต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 เดือน—แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจปฏิวัติการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในเมืองที่พื้นที่จำกัด หรือในอุปกรณ์พกพา เช่น โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่เซ็นเซอร์ IoT ในอนาคต

    ✅ เทคนิคใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าจากแสงได้ถึง 1,000 เท่า  
    • โดยวางชั้นผลึกบางพิเศษของ BaTiO₃ สลับกับวัสดุอื่นอย่าง SrTiO₃ และ CaTiO₃  
    • โครงสร้างแบบ “แซนด์วิชผลึก” นี้มีความสามารถดูดซับแสงและกระตุ้นอิเล็กตรอนสูงมาก

    ✅ ใช้ปริมาณวัสดุหลักน้อยลง แต่ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น  
    • ใช้ BaTiO₃ น้อยลงถึง 2/3 แต่ได้กระแสไฟมากขึ้น  
    • ทำให้แผงมีขนาดเล็กลง ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับการใช้งานในเมือง

    ✅ เสถียรภาพสูง – ประสิทธิภาพคงที่นาน 6 เดือนในการทดสอบ  
    • ไม่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์พิเศษ  
    • ง่ายต่อการผลิตและทนทานต่อสภาพแวดล้อม

    ✅ ใช้เทคนิค “Laser Deposition” สร้างชั้นผลึกได้แม่นยำระดับนาโน  
    • แต่ละชั้นบางเพียง 200 nm รวมทั้งหมด 500 ชั้น

    ✅ เหมาะสำหรับแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กหรืออุปกรณ์พกพา  
    • เช่น เซ็นเซอร์, อุปกรณ์ IoT, โน้ตบุ๊ก หรือมือถือในอนาคต

    ‼️ ยังอยู่ในขั้นวิจัย – ไม่ใช่เทคโนโลยีพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์  
    • ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเรื่องความทนทานระยะยาวและต้นทุนการผลิต

    ‼️ กระบวนการผลิตระดับนาโนต้องใช้ความแม่นยำสูง  
    • อาจทำให้ต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าการผลิตแบบดั้งเดิม

    ‼️ ศักยภาพขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่คุมได้เฉพาะในห้องทดลอง  
    • ยังไม่ชัดว่าจะให้ประสิทธิภาพเท่าเดิมภายใต้แสงธรรมชาติหรือแสงอาทิตย์เต็มสเปกตรัม

    ‼️ ประสิทธิภาพสูงมากในสภาพแสงเลเซอร์ แต่ต้องรอดูผลกับแสงแดดจริง  
    • ต้องรอการทดสอบภาคสนามเพื่อวัดประสิทธิภาพเชิงพาณิชย์

    https://www.techspot.com/news/108338-scientists-achieve-1000-fold-increase-solar-electricity-using.html
    ปกติเราเข้าใจว่าแผงโซลาร์เซลล์ต้องใช้พื้นที่มาก เพราะวัสดุที่แปลงแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า (เช่น ซิลิคอน หรือแบเรียมไทเทเนต) ยังมีประสิทธิภาพไม่สูงมาก แต่ที่เยอรมนี ทีมวิจัยจาก Martin Luther University กลับค้นพบว่า ถ้านำผลึกบางเฉียบ (แค่ 200 นาโนเมตร) ของวัสดุบางชนิดมาเรียงซ้อนกันอย่างแม่นยำ ผลลัพธ์คือ “กระแสไฟฟ้าที่แรงขึ้นเป็นพันเท่า” จากวัสดุปริมาณเท่าเดิม หัวใจของเทคนิคนี้คือการสลับชั้นของ แบเรียมไทเทเนต (BaTiO₃) กับผลึกอื่นอย่าง สตรอนเชียมไทเทเนต และ แคลเซียมไทเทเนต ทำให้พฤติกรรมของอิเล็กตรอนเปลี่ยนไป เสมือนว่าสร้าง “ทางด่วน” ให้ประจุไฟฟ้าไหลผ่านได้ง่ายขึ้น ยิ่งกว่านั้น พวกเขาทำโครงสร้างซ้อนชั้นแบบนี้ 500 ชั้นในแต่ละแผ่น แต่ใช้วัสดุแบบเดิมน้อยลงถึง 2 ใน 3! ประสิทธิภาพก็ยังคงเสถียรต่อเนื่องยาวนานกว่า 6 เดือน—แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจปฏิวัติการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ในเมืองที่พื้นที่จำกัด หรือในอุปกรณ์พกพา เช่น โน้ตบุ๊ก หรือแม้แต่เซ็นเซอร์ IoT ในอนาคต ✅ เทคนิคใหม่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าจากแสงได้ถึง 1,000 เท่า   • โดยวางชั้นผลึกบางพิเศษของ BaTiO₃ สลับกับวัสดุอื่นอย่าง SrTiO₃ และ CaTiO₃   • โครงสร้างแบบ “แซนด์วิชผลึก” นี้มีความสามารถดูดซับแสงและกระตุ้นอิเล็กตรอนสูงมาก ✅ ใช้ปริมาณวัสดุหลักน้อยลง แต่ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น   • ใช้ BaTiO₃ น้อยลงถึง 2/3 แต่ได้กระแสไฟมากขึ้น   • ทำให้แผงมีขนาดเล็กลง ประหยัดพื้นที่ เหมาะกับการใช้งานในเมือง ✅ เสถียรภาพสูง – ประสิทธิภาพคงที่นาน 6 เดือนในการทดสอบ   • ไม่ต้องใช้บรรจุภัณฑ์พิเศษ   • ง่ายต่อการผลิตและทนทานต่อสภาพแวดล้อม ✅ ใช้เทคนิค “Laser Deposition” สร้างชั้นผลึกได้แม่นยำระดับนาโน   • แต่ละชั้นบางเพียง 200 nm รวมทั้งหมด 500 ชั้น ✅ เหมาะสำหรับแผงโซลาร์เซลล์ขนาดเล็กหรืออุปกรณ์พกพา   • เช่น เซ็นเซอร์, อุปกรณ์ IoT, โน้ตบุ๊ก หรือมือถือในอนาคต ‼️ ยังอยู่ในขั้นวิจัย – ไม่ใช่เทคโนโลยีพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์   • ต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเรื่องความทนทานระยะยาวและต้นทุนการผลิต ‼️ กระบวนการผลิตระดับนาโนต้องใช้ความแม่นยำสูง   • อาจทำให้ต้นทุนเริ่มต้นสูงกว่าการผลิตแบบดั้งเดิม ‼️ ศักยภาพขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่คุมได้เฉพาะในห้องทดลอง   • ยังไม่ชัดว่าจะให้ประสิทธิภาพเท่าเดิมภายใต้แสงธรรมชาติหรือแสงอาทิตย์เต็มสเปกตรัม ‼️ ประสิทธิภาพสูงมากในสภาพแสงเลเซอร์ แต่ต้องรอดูผลกับแสงแดดจริง   • ต้องรอการทดสอบภาคสนามเพื่อวัดประสิทธิภาพเชิงพาณิชย์ https://www.techspot.com/news/108338-scientists-achieve-1000-fold-increase-solar-electricity-using.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists achieve 1,000-fold increase in solar electricity using ultra-thin layers
    At the core of this discovery, published in Science Advances, is barium titanate (BaTiO₃), a material known for its ability to convert light into electricity, though not...
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • หลังยุคโควิด บริษัทต่าง ๆ เคยสัญญาว่าเราจะได้ “Work-life balance” ที่ดีขึ้น แต่ผลจากรายงานล่าสุดของ Microsoft กลับพบว่า… ทุกอย่างกลับตาลปัตร

    คนทำงานจำนวนมากกำลังเผชิญ “วันทำงานไร้จุดจบ” ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า ลากยาวไปถึง หลัง 2 ทุ่ม และลามไปจนถึง วันเสาร์-อาทิตย์ โดยไม่รู้ตัว!

    ข้อมูลจาก Microsoft 365 แสดงว่า
    - 40% ของคนเริ่มเช็กอีเมลตั้งแต่ 6 โมงเช้า
    - เกินครึ่งของการประชุมทั้งหมดเกิดช่วง 9–11 โมงเช้าและ 1–3 บ่าย (ซึ่งเป็นช่วงพีคของ productivity)
    - มีพนักงานถึง 29% เช็กอีเมลตอน 4 ทุ่ม
    - วันเสาร์–อาทิตย์ก็ไม่เว้น: 20% เช็กเมลช่วงเช้าสองวันนั้น และ 5% ยังทำงานตอนค่ำวันอาทิตย์

    แถม Microsoft พบว่าแต่ละวัน พนักงานถูกขัดจังหวะ ทุก ๆ 2 นาที ด้วยอีเมล ประชุม หรือ Teams message โดยเฉลี่ย

    แล้ว AI มีคำตอบไหม? Microsoft มองว่า “ถ้าใช้ถูกทาง” AI อาจช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน โดยเฉพาะงานที่มีค่าน้อย เช่น ประชุมที่ไม่จำเป็น การสรุปรายงาน หรือจัดลำดับอีเมลสำคัญ แต่ก็เตือนว่า…ถ้าใช้ผิด AI ก็อาจยิ่งเร่งให้เราทำงานหนักกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว

    ✅ Microsoft เปิดรายงานชี้ว่า “Infinite Workday” กำลังกลายเป็นเรื่องปกติของคนทำงาน  
    • เริ่มงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า และลากยาวไปถึงหลัง 20.00 น.  
    • วันหยุดสุดสัปดาห์ก็มีพนักงานยังเช็กเมล–ทำงานอย่างต่อเนื่อง

    ✅ Microsoft 365 เผยพฤติกรรมการใช้งานจากผู้ใช้ทั่วโลก  
    • ประชุมหลัง 20.00 น. เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน  
    • พนักงานเฉลี่ยได้รับอีเมลวันละ 117 ฉบับ และข้อความ Teams อีก 153 ข้อความ

    ✅ ผลกระทบ: เกือบครึ่งของพนักงานรู้สึกว่างานวุ่นวายและ “แตกเป็นเสี่ยง”  
    • โดยเฉพาะพนักงานในตำแหน่งผู้นำยิ่งรู้สึกชัด

    ✅ Microsoft แนะนำว่า AI อาจช่วยได้ ถ้ามุ่งใช้กับงานที่ค่าน้อย (Low-value task)  
    • เช่น สรุปอีเมล จัดลำดับสิ่งที่ต้องทำ  
    • หรือใช้ “AI Agent” เป็นผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อรับมือกับภาระงาน

    ✅ แนวคิด “80/20 Rule” กลับมาอีกครั้งในบริบทยุค AI  
    • มุ่งเน้นทำงาน 20% ที่ให้ผลลัพธ์ 80% แทนที่จะพยายามทำทุกอย่างเอง

    ✅ มีการอ้างงานวิจัยอื่นที่แนะนำ work-rest ratio 75/33  
    • คือทำงาน 75 นาที แล้วพัก 33 นาที จะให้ productivity สูงกว่า

    ‼️ Infinite Workday กำลังกลืนเวลาส่วนตัวโดยที่ผู้คนไม่รู้ตัว  
    • การตอบอีเมล–ประชุมนอกเวลาทำงานกลายเป็น “นิวนอร์ม” โดยไม่มีค่าตอบแทนเพิ่ม

    ‼️ การใช้ AI แบบผิดวิธีอาจเร่งให้วงจรนี้แย่ลง  
    • หากผู้บริหารใช้ AI เพื่อ “รีด productivity” โดยไม่จัดสมดุล อาจทำให้พนักงานหมดไฟได้

    ‼️ จำนวนคอนเทนต์และการแจ้งเตือนมากเกินไป ทำให้สมอง ‘ล้าโดยไม่รู้ตัว’  
    • ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ลดลง และคุณภาพการตัดสินใจแย่ลงในระยะยาว

    ‼️ องค์กรที่ยังใช้โครงสร้างการทำงานแบบเดิม จะเสี่ยงสูงที่สุด  
    • ต้องปรับสู่ทีมที่ยืดหยุ่น (agile) และมี outcome เป็นตัวนำ มากกว่าการวัดด้วยชั่วโมงงาน

    https://www.techspot.com/news/108343-microsoft-study-finds-infinite-workday-hurting-productivity.html
    หลังยุคโควิด บริษัทต่าง ๆ เคยสัญญาว่าเราจะได้ “Work-life balance” ที่ดีขึ้น แต่ผลจากรายงานล่าสุดของ Microsoft กลับพบว่า… ทุกอย่างกลับตาลปัตร คนทำงานจำนวนมากกำลังเผชิญ “วันทำงานไร้จุดจบ” ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า ลากยาวไปถึง หลัง 2 ทุ่ม และลามไปจนถึง วันเสาร์-อาทิตย์ โดยไม่รู้ตัว! ข้อมูลจาก Microsoft 365 แสดงว่า - 40% ของคนเริ่มเช็กอีเมลตั้งแต่ 6 โมงเช้า - เกินครึ่งของการประชุมทั้งหมดเกิดช่วง 9–11 โมงเช้าและ 1–3 บ่าย (ซึ่งเป็นช่วงพีคของ productivity) - มีพนักงานถึง 29% เช็กอีเมลตอน 4 ทุ่ม - วันเสาร์–อาทิตย์ก็ไม่เว้น: 20% เช็กเมลช่วงเช้าสองวันนั้น และ 5% ยังทำงานตอนค่ำวันอาทิตย์ แถม Microsoft พบว่าแต่ละวัน พนักงานถูกขัดจังหวะ ทุก ๆ 2 นาที ด้วยอีเมล ประชุม หรือ Teams message โดยเฉลี่ย แล้ว AI มีคำตอบไหม? Microsoft มองว่า “ถ้าใช้ถูกทาง” AI อาจช่วยลดภาระงานซ้ำซ้อน โดยเฉพาะงานที่มีค่าน้อย เช่น ประชุมที่ไม่จำเป็น การสรุปรายงาน หรือจัดลำดับอีเมลสำคัญ แต่ก็เตือนว่า…ถ้าใช้ผิด AI ก็อาจยิ่งเร่งให้เราทำงานหนักกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว ✅ Microsoft เปิดรายงานชี้ว่า “Infinite Workday” กำลังกลายเป็นเรื่องปกติของคนทำงาน   • เริ่มงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า และลากยาวไปถึงหลัง 20.00 น.   • วันหยุดสุดสัปดาห์ก็มีพนักงานยังเช็กเมล–ทำงานอย่างต่อเนื่อง ✅ Microsoft 365 เผยพฤติกรรมการใช้งานจากผู้ใช้ทั่วโลก   • ประชุมหลัง 20.00 น. เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน   • พนักงานเฉลี่ยได้รับอีเมลวันละ 117 ฉบับ และข้อความ Teams อีก 153 ข้อความ ✅ ผลกระทบ: เกือบครึ่งของพนักงานรู้สึกว่างานวุ่นวายและ “แตกเป็นเสี่ยง”   • โดยเฉพาะพนักงานในตำแหน่งผู้นำยิ่งรู้สึกชัด ✅ Microsoft แนะนำว่า AI อาจช่วยได้ ถ้ามุ่งใช้กับงานที่ค่าน้อย (Low-value task)   • เช่น สรุปอีเมล จัดลำดับสิ่งที่ต้องทำ   • หรือใช้ “AI Agent” เป็นผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อรับมือกับภาระงาน ✅ แนวคิด “80/20 Rule” กลับมาอีกครั้งในบริบทยุค AI   • มุ่งเน้นทำงาน 20% ที่ให้ผลลัพธ์ 80% แทนที่จะพยายามทำทุกอย่างเอง ✅ มีการอ้างงานวิจัยอื่นที่แนะนำ work-rest ratio 75/33   • คือทำงาน 75 นาที แล้วพัก 33 นาที จะให้ productivity สูงกว่า ‼️ Infinite Workday กำลังกลืนเวลาส่วนตัวโดยที่ผู้คนไม่รู้ตัว   • การตอบอีเมล–ประชุมนอกเวลาทำงานกลายเป็น “นิวนอร์ม” โดยไม่มีค่าตอบแทนเพิ่ม ‼️ การใช้ AI แบบผิดวิธีอาจเร่งให้วงจรนี้แย่ลง   • หากผู้บริหารใช้ AI เพื่อ “รีด productivity” โดยไม่จัดสมดุล อาจทำให้พนักงานหมดไฟได้ ‼️ จำนวนคอนเทนต์และการแจ้งเตือนมากเกินไป ทำให้สมอง ‘ล้าโดยไม่รู้ตัว’   • ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ลดลง และคุณภาพการตัดสินใจแย่ลงในระยะยาว ‼️ องค์กรที่ยังใช้โครงสร้างการทำงานแบบเดิม จะเสี่ยงสูงที่สุด   • ต้องปรับสู่ทีมที่ยืดหยุ่น (agile) และมี outcome เป็นตัวนำ มากกว่าการวัดด้วยชั่วโมงงาน https://www.techspot.com/news/108343-microsoft-study-finds-infinite-workday-hurting-productivity.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft study finds "infinite workday" is hurting productivity
    Microsoft's June 2025 Work Trend Index Special Report warns that more people are now trapped in a seemingly infinite workday. It starts at 6 am, goes on...
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • Microsoft ออกมาประกาศจับมือกับ AMD แบบ “ระยะยาวหลายปี” เพื่อร่วมกันพัฒนา Xbox รุ่นถัดไปและอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่จะออกในอนาคต โดย Sarah Bond (ประธาน Xbox) บอกว่า เขาไม่ได้ต้องการแค่ทำกราฟิกให้สวยขึ้น แต่ต้องการ “ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้สมจริงกว่าเดิม” ผ่านการใช้ AI ผสานเข้ากับชิปประมวลผล

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Microsoft ยังยืนยันว่า Xbox ใหม่ยังคงเล่นเกมเก่าได้ (Backward Compatibility) นั่นหมายความว่าคนที่ลงทุนเกมดิจิทัลไว้เยอะ ๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะเสียเงินเปล่า

    และไม่ใช่แค่คอนโซล เพราะ Microsoft ส่งสัญญาณชัดว่า Xbox จะไม่ผูกกับเครื่องอีกต่อไป แต่จะพัฒนาให้ “เล่นเกมได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์” — เหมือนจะมุ่งเป้าไปยังโลกแบบ cloud gaming หรือ hybrid system มากขึ้น

    นอกจากนี้เขายังพูดถึง “Xbox Ally” เครื่องเกมพกพาที่รัน Windows 11 รุ่นเบา ซึ่งก็มาพร้อมชิป AMD เช่นกัน แปลว่าพาร์ตเนอร์รายนี้กำลังมีบทบาททั้งในคอนโซล เกมพกพา และแม้แต่บนพีซีเกมมิ่ง

    ✅ Microsoft ประกาศความร่วมมือหลายปีกับ AMD  
    • ร่วมกันพัฒนาชิปรุ่นใหม่เพื่อ Xbox และฮาร์ดแวร์เกมรุ่นถัดไป  
    • เน้นกราฟิกขั้นสูง, การผสาน AI และความสมจริงในการเล่นเกม

    ✅ เป้าหมาย: Xbox ที่ “ไร้พรมแดน” เล่นได้ทุกอุปกรณ์  
    • ไม่จำกัดเฉพาะเครื่องคอนโซลอีกต่อไป  
    • มีแนวโน้มพัฒนาแพลตฟอร์มแบบ cross-device และ cloud-based

    ✅ รองรับเกมเก่า (Backward Compatibility) ต่อเนื่อง  
    • ผู้เล่นสามารถนำคลังเกมเก่ามาใช้กับเครื่องใหม่ได้  
    • เป็นจุดแข็งสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้ฐานลูกค้าเดิม

    ✅ Windows คือเป้าหมายใหม่ของ Xbox  
    • Sarah Bond ระบุชัดว่ากำลังทำให้ Windows เป็น “แพลตฟอร์มเกมอันดับหนึ่ง”  
    • อาจเป็นสัญญาณของการลดบทบาทคอนโซล หรือเปลี่ยนทิศไปยัง Game-as-a-platform มากขึ้น

    ✅ Xbox Ally เครื่องเล่นเกมพกพารัน Windows ก็ใช้ชิป AMD เช่นกัน  
    • ชูจุดเด่นเล่นเกม PC ได้ในรูปแบบพกพา  
    • ใช้ Windows 11 รุ่นพิเศษที่เบาและไม่มี bloatware

    ‼️ อนาคตของ Xbox อาจไม่ใช่คอนโซลแบบเดิมอีกต่อไป  
    • ผู้ที่ชอบประสบการณ์คอนโซลแบบ “เสียบเล่นได้เลย” อาจต้องปรับตัว  
    • หาก Xbox กลายเป็น platform มากกว่า product การเข้าถึงอาจซับซ้อนขึ้น

    ‼️ การใช้ AI ในฮาร์ดแวร์เกมต้องจับตาด้านความเป็นส่วนตัว  
    • ยังไม่มีรายละเอียดว่า AI จะใช้ทำอะไรบ้างในฝั่งผู้เล่น  
    • หากวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เล่นเพื่อปรับประสบการณ์แบบ dynamic ก็อาจกระทบเรื่อง Privacy

    ‼️ AMD อาจถือความลับด้านเทคโนโลยีเกมไว้มากเกินไป  
    • ทั้ง Xbox, Windows handheld, และ PC gaming ต่างก็ใช้ AMD  
    • การพึ่งพา supplier เจ้าเดียวมากเกินไปอาจมีความเสี่ยงในระยะยาว

    https://www.neowin.net/news/microsoft-announces-multi-year-partnership-with-amd-for-future-of-xbox-consoles-and-hardware/
    Microsoft ออกมาประกาศจับมือกับ AMD แบบ “ระยะยาวหลายปี” เพื่อร่วมกันพัฒนา Xbox รุ่นถัดไปและอุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่จะออกในอนาคต โดย Sarah Bond (ประธาน Xbox) บอกว่า เขาไม่ได้ต้องการแค่ทำกราฟิกให้สวยขึ้น แต่ต้องการ “ยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้สมจริงกว่าเดิม” ผ่านการใช้ AI ผสานเข้ากับชิปประมวลผล สิ่งที่น่าสนใจคือ Microsoft ยังยืนยันว่า Xbox ใหม่ยังคงเล่นเกมเก่าได้ (Backward Compatibility) นั่นหมายความว่าคนที่ลงทุนเกมดิจิทัลไว้เยอะ ๆ ไม่ต้องห่วงว่าจะเสียเงินเปล่า และไม่ใช่แค่คอนโซล เพราะ Microsoft ส่งสัญญาณชัดว่า Xbox จะไม่ผูกกับเครื่องอีกต่อไป แต่จะพัฒนาให้ “เล่นเกมได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์” — เหมือนจะมุ่งเป้าไปยังโลกแบบ cloud gaming หรือ hybrid system มากขึ้น นอกจากนี้เขายังพูดถึง “Xbox Ally” เครื่องเกมพกพาที่รัน Windows 11 รุ่นเบา ซึ่งก็มาพร้อมชิป AMD เช่นกัน แปลว่าพาร์ตเนอร์รายนี้กำลังมีบทบาททั้งในคอนโซล เกมพกพา และแม้แต่บนพีซีเกมมิ่ง ✅ Microsoft ประกาศความร่วมมือหลายปีกับ AMD   • ร่วมกันพัฒนาชิปรุ่นใหม่เพื่อ Xbox และฮาร์ดแวร์เกมรุ่นถัดไป   • เน้นกราฟิกขั้นสูง, การผสาน AI และความสมจริงในการเล่นเกม ✅ เป้าหมาย: Xbox ที่ “ไร้พรมแดน” เล่นได้ทุกอุปกรณ์   • ไม่จำกัดเฉพาะเครื่องคอนโซลอีกต่อไป   • มีแนวโน้มพัฒนาแพลตฟอร์มแบบ cross-device และ cloud-based ✅ รองรับเกมเก่า (Backward Compatibility) ต่อเนื่อง   • ผู้เล่นสามารถนำคลังเกมเก่ามาใช้กับเครื่องใหม่ได้   • เป็นจุดแข็งสำคัญที่สร้างความมั่นใจให้ฐานลูกค้าเดิม ✅ Windows คือเป้าหมายใหม่ของ Xbox   • Sarah Bond ระบุชัดว่ากำลังทำให้ Windows เป็น “แพลตฟอร์มเกมอันดับหนึ่ง”   • อาจเป็นสัญญาณของการลดบทบาทคอนโซล หรือเปลี่ยนทิศไปยัง Game-as-a-platform มากขึ้น ✅ Xbox Ally เครื่องเล่นเกมพกพารัน Windows ก็ใช้ชิป AMD เช่นกัน   • ชูจุดเด่นเล่นเกม PC ได้ในรูปแบบพกพา   • ใช้ Windows 11 รุ่นพิเศษที่เบาและไม่มี bloatware ‼️ อนาคตของ Xbox อาจไม่ใช่คอนโซลแบบเดิมอีกต่อไป   • ผู้ที่ชอบประสบการณ์คอนโซลแบบ “เสียบเล่นได้เลย” อาจต้องปรับตัว   • หาก Xbox กลายเป็น platform มากกว่า product การเข้าถึงอาจซับซ้อนขึ้น ‼️ การใช้ AI ในฮาร์ดแวร์เกมต้องจับตาด้านความเป็นส่วนตัว   • ยังไม่มีรายละเอียดว่า AI จะใช้ทำอะไรบ้างในฝั่งผู้เล่น   • หากวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เล่นเพื่อปรับประสบการณ์แบบ dynamic ก็อาจกระทบเรื่อง Privacy ‼️ AMD อาจถือความลับด้านเทคโนโลยีเกมไว้มากเกินไป   • ทั้ง Xbox, Windows handheld, และ PC gaming ต่างก็ใช้ AMD   • การพึ่งพา supplier เจ้าเดียวมากเกินไปอาจมีความเสี่ยงในระยะยาว https://www.neowin.net/news/microsoft-announces-multi-year-partnership-with-amd-for-future-of-xbox-consoles-and-hardware/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft announces multi-year partnership with AMD for future of Xbox consoles and hardware
    Microsoft has entered a partnership with chipmaker AMD to co-develop the next generation of Xbox gaming devices. There seems to be a strategy shift happening for Xbox as well.
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • ศก.ทก. ไหวไหมทีมไทยแลนด์

    เมื่อนายกฯ ฟันน้ำนม แพทองธาร ชินวัตร ถูกสังคมก่นด่าที่ไทยเสียท่ากัมพูชาต่อปัญหาชายแดนหลายครั้ง แบบไม่ทันเกมไม่ทันใจ มีอะไรเคลือบแคลงสงสัย ที่สุดแล้วจึงตัดสินใจใช้บริการน้องรักลุงตู่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม สร้าง "ทีมไทยแลนด์" มอนิเตอร์ข่าวสารทั้งหมดและดำเนินการต่างๆ เพื่อย้ำว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่มีปัญหากัน ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนกองทัพและรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้านหนึ่งหวังให้คนกลุ่มหนึ่งคลายความหวาดระแวง ที่ตระกูลชินวัตรมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตระกูลฮุนของกัมพูชา อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนว่า แพทองธารทำงานไม่เป็น ฮุน เซนเย้ยหยันว่าคุมกองทัพไม่ได้

    ในที่สุดทีมไทยแลนด์ของบิ๊กเล็กจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศก.ทก) ประชุมทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ตอนเช้า ยกเว้นวันประชุม ครม. จะประชุมตอนบ่าย แล้วแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางช่องเอ็นบีที เหมือนสมัยรัฐบาลลุงตู่รายงานสถานการณ์โควิด-19 เปี๊ยบ เพียงแต่วันเสาร์-อาทิตย์ไม่มีประชุม ถ้ามีอะไรให้ทุกคนสแตนบายคุยผ่านออนไลน์แทน ส่วนกรอบการทำงานเน้นบูรณาการและขับเคลื่อนงานระยะสั้น ติดตามและให้ข้อเสนอแนะและสนับสนุนงานระยะยาว แต่ย้ำว่าไม่ใช่ส่วนการบังคับบัญชา ทำงานระบบโต๊ะกลม เมื่อถึงเวลาก็จะจบภารกิจ

    ศก.ทก. มีบทบาทให้ข้อเสนอแนะ ข้อพิจารณา และประสานการสื่อสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างไทยและกัมพูชา จะเร่งกำหนดแนวทางที่ชัดเจน กำหนดเวลาเผยแพร่ข่าวสารอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สื่อมวลชนและสาธารณชนได้รับข้อมูลตรงกัน ลดความสับสนที่อาจส่งผลต่อความเข้าใจระหว่างสองประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน

    พล.อ.ณัฐพล ยังเห็นว่าในอนาคตอยากให้จัดเวทีสัมมนา ประสานงานกับสมาคมสื่อฯ เชิญนักวิชาการมาแลกเปลี่ยนถึงการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะตอนนี้มุมมองความคิดเห็นไปคนละทิศทาง รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะประชาชนเชื่อนักวิชาการ พอรัฐบาลทำตามนักวิชาการก็ถูกต่อว่า จึงอยากได้ความคิดเห็นจากนักวิชาการหลายคนมาเป็นข้อสรุป เพื่อเป็นทิศทางเดียวกัน นำมาเป็นแนวทางในการทำงานต่อไป

    อย่างไรก็ตาม บทบาทของบิ๊กเล็กในช่วงที่ผ่านมาไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่เคยจำขี้ปากนายใหญ่ว่าแผ่นดินไทยคือ No Man's Land มาแล้ว นับจากนี้ต้องดูว่าการทำงานจะราบรื่นและสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ด้วยความหวังว่าสุดท้าย ศก.ทก. จะไม่กลายเป็นศูนย์โศกทุกข์ เพราะไทยแพ้คดีและเสียดินแดน

    #Newskit
    ศก.ทก. ไหวไหมทีมไทยแลนด์ เมื่อนายกฯ ฟันน้ำนม แพทองธาร ชินวัตร ถูกสังคมก่นด่าที่ไทยเสียท่ากัมพูชาต่อปัญหาชายแดนหลายครั้ง แบบไม่ทันเกมไม่ทันใจ มีอะไรเคลือบแคลงสงสัย ที่สุดแล้วจึงตัดสินใจใช้บริการน้องรักลุงตู่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม สร้าง "ทีมไทยแลนด์" มอนิเตอร์ข่าวสารทั้งหมดและดำเนินการต่างๆ เพื่อย้ำว่ารัฐบาลกับกองทัพไม่มีปัญหากัน ขอให้ทุกคนช่วยกันสนับสนุนกองทัพและรัฐบาลให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ด้านหนึ่งหวังให้คนกลุ่มหนึ่งคลายความหวาดระแวง ที่ตระกูลชินวัตรมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับตระกูลฮุนของกัมพูชา อีกด้านหนึ่งก็สะท้อนว่า แพทองธารทำงานไม่เป็น ฮุน เซนเย้ยหยันว่าคุมกองทัพไม่ได้ ในที่สุดทีมไทยแลนด์ของบิ๊กเล็กจึงได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า ศูนย์เฉพาะกิจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศก.ทก) ประชุมทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ตอนเช้า ยกเว้นวันประชุม ครม. จะประชุมตอนบ่าย แล้วแถลงข่าวถ่ายทอดสดทางช่องเอ็นบีที เหมือนสมัยรัฐบาลลุงตู่รายงานสถานการณ์โควิด-19 เปี๊ยบ เพียงแต่วันเสาร์-อาทิตย์ไม่มีประชุม ถ้ามีอะไรให้ทุกคนสแตนบายคุยผ่านออนไลน์แทน ส่วนกรอบการทำงานเน้นบูรณาการและขับเคลื่อนงานระยะสั้น ติดตามและให้ข้อเสนอแนะและสนับสนุนงานระยะยาว แต่ย้ำว่าไม่ใช่ส่วนการบังคับบัญชา ทำงานระบบโต๊ะกลม เมื่อถึงเวลาก็จะจบภารกิจ ศก.ทก. มีบทบาทให้ข้อเสนอแนะ ข้อพิจารณา และประสานการสื่อสารให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างไทยและกัมพูชา จะเร่งกำหนดแนวทางที่ชัดเจน กำหนดเวลาเผยแพร่ข่าวสารอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สื่อมวลชนและสาธารณชนได้รับข้อมูลตรงกัน ลดความสับสนที่อาจส่งผลต่อความเข้าใจระหว่างสองประเทศ ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ใช้มาตรการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน และจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน พล.อ.ณัฐพล ยังเห็นว่าในอนาคตอยากให้จัดเวทีสัมมนา ประสานงานกับสมาคมสื่อฯ เชิญนักวิชาการมาแลกเปลี่ยนถึงการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา เพราะตอนนี้มุมมองความคิดเห็นไปคนละทิศทาง รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะประชาชนเชื่อนักวิชาการ พอรัฐบาลทำตามนักวิชาการก็ถูกต่อว่า จึงอยากได้ความคิดเห็นจากนักวิชาการหลายคนมาเป็นข้อสรุป เพื่อเป็นทิศทางเดียวกัน นำมาเป็นแนวทางในการทำงานต่อไป อย่างไรก็ตาม บทบาทของบิ๊กเล็กในช่วงที่ผ่านมาไม่โดดเด่น เมื่อเทียบกับภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่เคยจำขี้ปากนายใหญ่ว่าแผ่นดินไทยคือ No Man's Land มาแล้ว นับจากนี้ต้องดูว่าการทำงานจะราบรื่นและสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ด้วยความหวังว่าสุดท้าย ศก.ทก. จะไม่กลายเป็นศูนย์โศกทุกข์ เพราะไทยแพ้คดีและเสียดินแดน #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • จีนใช้ฮาร์ดไดรฟ์ขนส่งข้อมูล AI เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านชิป
    บริษัท AI ในจีนกำลังใช้ ฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง เพื่อขนส่งข้อมูลฝึกสอนโมเดล AI ข้ามพรมแดน หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI เช่น Nvidia H100 ซึ่งเป็นชิปที่สำคัญสำหรับการประมวลผล AI.

    รายละเอียดกลยุทธ์ใหม่
    ✅ บริษัทจีนใช้ฮาร์ดไดรฟ์แทนการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานสหรัฐฯ.
    ✅ นักวิจัยจีนเดินทางไปมาเลเซียพร้อมฮาร์ดไดรฟ์ 15 ลูก ซึ่งมีข้อมูลรวมกว่า 4.8 เพตะไบต์ สำหรับฝึกโมเดล AI.
    ✅ ศูนย์ข้อมูลในมาเลเซียกลายเป็นศูนย์กลางการประมวลผล AI ของจีน เนื่องจากมีเซิร์ฟเวอร์ที่มี GPU ประสิทธิภาพสูง.
    ✅ บริษัทจีนใช้บริษัทลูกในสิงคโปร์เพื่อเซ็นสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูล แต่ต้องลงทะเบียนในมาเลเซียเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันทางกฎหมาย.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ‼️ การขนส่งข้อมูลด้วยฮาร์ดไดรฟ์อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การสูญหายหรือถูกขโมยระหว่างการเดินทาง.
    ‼️ การใช้ฮาร์ดไดรฟ์แทนการส่งข้อมูลออนไลน์อาจทำให้กระบวนการฝึกโมเดลล่าช้า เนื่องจากต้องรอการขนส่ง.
    ‼️ สหรัฐฯ อาจเพิ่มมาตรการตรวจสอบการขนส่งฮาร์ดไดรฟ์ เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านชิป.

    แนวทางการรับมือและการพัฒนา
    ✅ บริษัทจีนอาจต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ.
    ✅ การใช้เทคโนโลยีบีบอัดข้อมูลอาจช่วยลดขนาดไฟล์ ทำให้สามารถส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น.
    ✅ การพัฒนา AI ที่ใช้พลังงานต่ำและไม่ต้องพึ่งพา GPU ระดับสูง อาจเป็นทางออกในระยะยาว.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านชิปและ AI
    ✅ Nvidia กำลังพัฒนา GPU รุ่นพิเศษสำหรับตลาดจีน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ.
    ✅ Huawei เปิดตัวชิป AI ที่เร็วที่สุดของบริษัท หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ แบน Nvidia H20 ในจีน.
    ‼️ ตลาดศูนย์ข้อมูล AI ในจีนกำลังเผชิญกับปัญหาความต้องการที่ลดลง เนื่องจากข้อจำกัดด้านชิปและการลงทุนที่ชะลอตัว.

    https://www.techradar.com/pro/no-ai-gpu-no-problem-ai-firms-from-china-skirt-around-us-chip-restrictions-by-moving-petabytes-of-data-on-good-ol-hard-drives-but-why-not-use-tape
    จีนใช้ฮาร์ดไดรฟ์ขนส่งข้อมูล AI เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านชิป บริษัท AI ในจีนกำลังใช้ ฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง เพื่อขนส่งข้อมูลฝึกสอนโมเดล AI ข้ามพรมแดน หลังจากที่สหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI เช่น Nvidia H100 ซึ่งเป็นชิปที่สำคัญสำหรับการประมวลผล AI. รายละเอียดกลยุทธ์ใหม่ ✅ บริษัทจีนใช้ฮาร์ดไดรฟ์แทนการส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากหน่วยงานสหรัฐฯ. ✅ นักวิจัยจีนเดินทางไปมาเลเซียพร้อมฮาร์ดไดรฟ์ 15 ลูก ซึ่งมีข้อมูลรวมกว่า 4.8 เพตะไบต์ สำหรับฝึกโมเดล AI. ✅ ศูนย์ข้อมูลในมาเลเซียกลายเป็นศูนย์กลางการประมวลผล AI ของจีน เนื่องจากมีเซิร์ฟเวอร์ที่มี GPU ประสิทธิภาพสูง. ✅ บริษัทจีนใช้บริษัทลูกในสิงคโปร์เพื่อเซ็นสัญญาเช่าศูนย์ข้อมูล แต่ต้องลงทะเบียนในมาเลเซียเพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันทางกฎหมาย. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ การขนส่งข้อมูลด้วยฮาร์ดไดรฟ์อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การสูญหายหรือถูกขโมยระหว่างการเดินทาง. ‼️ การใช้ฮาร์ดไดรฟ์แทนการส่งข้อมูลออนไลน์อาจทำให้กระบวนการฝึกโมเดลล่าช้า เนื่องจากต้องรอการขนส่ง. ‼️ สหรัฐฯ อาจเพิ่มมาตรการตรวจสอบการขนส่งฮาร์ดไดรฟ์ เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านชิป. แนวทางการรับมือและการพัฒนา ✅ บริษัทจีนอาจต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายในประเทศ เพื่อลดการพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ. ✅ การใช้เทคโนโลยีบีบอัดข้อมูลอาจช่วยลดขนาดไฟล์ ทำให้สามารถส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้น. ✅ การพัฒนา AI ที่ใช้พลังงานต่ำและไม่ต้องพึ่งพา GPU ระดับสูง อาจเป็นทางออกในระยะยาว. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านชิปและ AI ✅ Nvidia กำลังพัฒนา GPU รุ่นพิเศษสำหรับตลาดจีน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดของสหรัฐฯ. ✅ Huawei เปิดตัวชิป AI ที่เร็วที่สุดของบริษัท หนึ่งวันหลังจากสหรัฐฯ แบน Nvidia H20 ในจีน. ‼️ ตลาดศูนย์ข้อมูล AI ในจีนกำลังเผชิญกับปัญหาความต้องการที่ลดลง เนื่องจากข้อจำกัดด้านชิปและการลงทุนที่ชะลอตัว. https://www.techradar.com/pro/no-ai-gpu-no-problem-ai-firms-from-china-skirt-around-us-chip-restrictions-by-moving-petabytes-of-data-on-good-ol-hard-drives-but-why-not-use-tape
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • จีนเปิดตัวการทดลองทางคลินิก BCI แบบฝังครั้งแรก
    ศูนย์วิจัย Center for Excellence in Brain Science and Intelligence Technology (CEBSIT) ในเซี่ยงไฮ้ ได้เริ่มการทดลองทางคลินิกของ อินเทอร์เฟซสมอง-คอมพิวเตอร์ (BCI) แบบฝัง ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตสี่แขนขาสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์และเล่นเกมแข่งรถได้ภายในเวลาเพียงสามสัปดาห์.

    รายละเอียดการทดลอง
    ✅ ผู้ป่วยอัมพาตสี่แขนขาได้รับการปลูกถ่าย BCI เมื่อวันที่ 25 มีนาคม และสามารถควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยความคิดได้ภายใน 2-3 สัปดาห์.
    ✅ BCI ของ CEBSIT มีขนาดเล็กและยืดหยุ่นกว่าของ Neuralink โดยมีพื้นที่หน้าตัดเพียง 1/5 ถึง 1/7 ของอิเล็กโทรดของ Neuralink และมีความยืดหยุ่นมากกว่า 100 เท่า.
    ✅ ไม่มีรายงานการติดเชื้อหรือความล้มเหลวของอิเล็กโทรดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการทดลองระยะยาว.
    ✅ แผนระยะยาวของ CEBSIT รวมถึงการควบคุมแขนกลและการฝึกฝนกับอุปกรณ์อัจฉริยะ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ‼️ BCI แบบฝังต้องได้รับการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อเนื้อเยื่อสมอง.
    ‼️ การทดลองทางคลินิกต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ก่อนที่จะสามารถนำไปใช้ในตลาดได้.
    ‼️ BCI อาจมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้กับระบบประสาทของผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งต้องมีการปรับแต่งเฉพาะบุคคล.

    แนวทางการพัฒนาและการนำไปใช้
    ✅ BCI สามารถช่วยผู้ป่วยอัมพาตให้มีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มคุณภาพชีวิต.
    ✅ การพัฒนา BCI ที่มีขนาดเล็กและยืดหยุ่นช่วยลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อสมอง และเพิ่มโอกาสในการใช้งานระยะยาว.
    ✅ การทดลองขนาดใหญ่ได้รับการอนุมัติแล้ว และคาดว่า BCI จะได้รับการรับรองและเข้าสู่ตลาดจีนภายในปี 2028.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BCI และเทคโนโลยีสมอง
    ✅ Neuralink ของ Elon Musk กำลังพัฒนา BCI ที่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตควบคุมคอมพิวเตอร์และแขนกล.
    ✅ Beinao-2 ซึ่งเป็น BCI อีกตัวหนึ่งของจีน กำลังถูกทดสอบในลิง และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการทดลองในมนุษย์ภายในสิ้นปี 2025.
    ‼️ BCI ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้ และต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน.

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/china-launches-first-ever-invasive-brain-computer-interface-clinical-trial-tetraplegic-patient-could-skillfully-operate-racing-games-after-just-three-weeks
    จีนเปิดตัวการทดลองทางคลินิก BCI แบบฝังครั้งแรก ศูนย์วิจัย Center for Excellence in Brain Science and Intelligence Technology (CEBSIT) ในเซี่ยงไฮ้ ได้เริ่มการทดลองทางคลินิกของ อินเทอร์เฟซสมอง-คอมพิวเตอร์ (BCI) แบบฝัง ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตสี่แขนขาสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์และเล่นเกมแข่งรถได้ภายในเวลาเพียงสามสัปดาห์. รายละเอียดการทดลอง ✅ ผู้ป่วยอัมพาตสี่แขนขาได้รับการปลูกถ่าย BCI เมื่อวันที่ 25 มีนาคม และสามารถควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ด้วยความคิดได้ภายใน 2-3 สัปดาห์. ✅ BCI ของ CEBSIT มีขนาดเล็กและยืดหยุ่นกว่าของ Neuralink โดยมีพื้นที่หน้าตัดเพียง 1/5 ถึง 1/7 ของอิเล็กโทรดของ Neuralink และมีความยืดหยุ่นมากกว่า 100 เท่า. ✅ ไม่มีรายงานการติดเชื้อหรือความล้มเหลวของอิเล็กโทรดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการทดลองระยะยาว. ✅ แผนระยะยาวของ CEBSIT รวมถึงการควบคุมแขนกลและการฝึกฝนกับอุปกรณ์อัจฉริยะ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ BCI แบบฝังต้องได้รับการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อเนื้อเยื่อสมอง. ‼️ การทดลองทางคลินิกต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ก่อนที่จะสามารถนำไปใช้ในตลาดได้. ‼️ BCI อาจมีข้อจำกัดด้านความเข้ากันได้กับระบบประสาทของผู้ป่วยแต่ละราย ซึ่งต้องมีการปรับแต่งเฉพาะบุคคล. แนวทางการพัฒนาและการนำไปใช้ ✅ BCI สามารถช่วยผู้ป่วยอัมพาตให้มีความสามารถในการควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มคุณภาพชีวิต. ✅ การพัฒนา BCI ที่มีขนาดเล็กและยืดหยุ่นช่วยลดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อสมอง และเพิ่มโอกาสในการใช้งานระยะยาว. ✅ การทดลองขนาดใหญ่ได้รับการอนุมัติแล้ว และคาดว่า BCI จะได้รับการรับรองและเข้าสู่ตลาดจีนภายในปี 2028. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BCI และเทคโนโลยีสมอง ✅ Neuralink ของ Elon Musk กำลังพัฒนา BCI ที่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยอัมพาตควบคุมคอมพิวเตอร์และแขนกล. ✅ Beinao-2 ซึ่งเป็น BCI อีกตัวหนึ่งของจีน กำลังถูกทดสอบในลิง และคาดว่าจะพร้อมสำหรับการทดลองในมนุษย์ภายในสิ้นปี 2025. ‼️ BCI ที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างเข้มงวดอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้ และต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ชัดเจน. https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/china-launches-first-ever-invasive-brain-computer-interface-clinical-trial-tetraplegic-patient-could-skillfully-operate-racing-games-after-just-three-weeks
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • ดราม่ากลาง Paris Air Show 2025 บูธอิสราเอลถูกปิดกั้น ฝรั่งเศสสั่งถอดยุทโธปกรณ์- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - .งานแสดงอากาศยานระดับโลก “Paris Air Show 2025” เปิดฉากด้วยกระแสดราม่า เมื่อบูธของบริษัทด้านกลาโหมจากอิสราเอลถูกเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสสั่งปิดล้อมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า พร้อมข้อจำกัดในการจัดแสดงยุทโธปกรณ์บางรายการ ส่งผลให้บริษัทใหญ่ทั้ง Israel Aerospace Industries (IAI), Rafael และ Elbit Systems ประกาศถอนตัวจากงานทันที.โบอาซ เลวี ซีอีโอของ IAI ระบุว่า หลังจากตั้งบูธเสร็จในคืนก่อนเปิดงาน ทางการฝรั่งเศสกลับมีคำสั่งให้ถอดอาวุธบางระบบออก และเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาก็พบว่าบูธถูกกั้นด้วยกำแพงผ้าสีดำโดยไม่มีคำชี้แจง พร้อมกล่าวเปรียบเทียบว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนภาพ “ความแบ่งแยกทางประวัติศาสตร์” ที่ชาวยิวเคยเผชิญในยุโรป.ด้านบริษัท Rafael ผู้อยู่เบื้องหลังระบบ Iron Dome ก็ประสบเหตุการณ์เดียวกัน โดยทีมงานพบบูธถูกปิดล้อมและไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ “ไม่มีคำเตือน ไม่มีการสื่อสาร” ตัวแทนบริษัทกล่าว พร้อมเผยว่ากำลังพิจารณาแนวทางทางกฎหมายเพื่อท้าทายคำสั่งดังกล่าว.Elbit Systems ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจในยุโรปอย่างกว้างขวางก็ถูกจำกัดพื้นที่จัดแสดงเช่นกัน โดยซีอีโอกล่าวว่า ความสำเร็จของบริษัทในตลาดยุโรปอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแรงกดดันจากภายในประเทศเจ้าภาพเอง.แม้ผู้จัดงานจะยืนยันว่าทำตามคำสั่งรัฐบาลฝรั่งเศสและอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อหาทางออก แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนความตึงเครียดเชิงการเมืองที่เริ่มแทรกซึมสู่วงการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และอาจส่งผลระยะยาวต่อความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับยุโรปในอนาคต. https://www.facebook.com/share/p/1FuCJsrYuE/?mibextid=wwXIfr
    ดราม่ากลาง Paris Air Show 2025 บูธอิสราเอลถูกปิดกั้น ฝรั่งเศสสั่งถอดยุทโธปกรณ์- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - .งานแสดงอากาศยานระดับโลก “Paris Air Show 2025” เปิดฉากด้วยกระแสดราม่า เมื่อบูธของบริษัทด้านกลาโหมจากอิสราเอลถูกเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสสั่งปิดล้อมโดยไม่แจ้งล่วงหน้า พร้อมข้อจำกัดในการจัดแสดงยุทโธปกรณ์บางรายการ ส่งผลให้บริษัทใหญ่ทั้ง Israel Aerospace Industries (IAI), Rafael และ Elbit Systems ประกาศถอนตัวจากงานทันที.โบอาซ เลวี ซีอีโอของ IAI ระบุว่า หลังจากตั้งบูธเสร็จในคืนก่อนเปิดงาน ทางการฝรั่งเศสกลับมีคำสั่งให้ถอดอาวุธบางระบบออก และเช้าวันรุ่งขึ้นพวกเขาก็พบว่าบูธถูกกั้นด้วยกำแพงผ้าสีดำโดยไม่มีคำชี้แจง พร้อมกล่าวเปรียบเทียบว่าเหตุการณ์นี้สะท้อนภาพ “ความแบ่งแยกทางประวัติศาสตร์” ที่ชาวยิวเคยเผชิญในยุโรป.ด้านบริษัท Rafael ผู้อยู่เบื้องหลังระบบ Iron Dome ก็ประสบเหตุการณ์เดียวกัน โดยทีมงานพบบูธถูกปิดล้อมและไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ “ไม่มีคำเตือน ไม่มีการสื่อสาร” ตัวแทนบริษัทกล่าว พร้อมเผยว่ากำลังพิจารณาแนวทางทางกฎหมายเพื่อท้าทายคำสั่งดังกล่าว.Elbit Systems ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจในยุโรปอย่างกว้างขวางก็ถูกจำกัดพื้นที่จัดแสดงเช่นกัน โดยซีอีโอกล่าวว่า ความสำเร็จของบริษัทในตลาดยุโรปอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดแรงกดดันจากภายในประเทศเจ้าภาพเอง.แม้ผู้จัดงานจะยืนยันว่าทำตามคำสั่งรัฐบาลฝรั่งเศสและอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อหาทางออก แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนความตึงเครียดเชิงการเมืองที่เริ่มแทรกซึมสู่วงการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และอาจส่งผลระยะยาวต่อความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับยุโรปในอนาคต. https://www.facebook.com/share/p/1FuCJsrYuE/?mibextid=wwXIfr
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • รัฐสภาอิหร่านเพิ่งประชุมด่วนวันนี้เพื่ออนุมัติ "ข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านกับรัสเซีย"

    👉ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ของอิหร่านได้ลงนามในระดับผู้นำประเทศของทั้งสองฝ่ายในสนธิสัญญาความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านเมื่อวันที่17 ม.ค. 2025 

    👉หลังจากนั้นสภาดูมาของรัสเซีย (สภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง) ได้มีมติอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2025

    👉ต่อมาสภาสหพันธรัฐ (วุฒิสภา หรือสภาสูง) มีมติอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2025

    👉แต่ทางอิหร่านที่นำโดยประธานาธิบดีเปเซชเคียน ไม่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการส่งเรื่องต่อให้รัฐสภาอิหร่านอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าว

    👉หลังจากอิหร่านถูกโจมตีจากอิสราเอลมาได้สามวัน จนกระทั่งวันนี้จึงได้มีการนัดประชุมวาระเร่งด่วนเพื่อให้สภาอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว

    👉หลังการลงนามในระดับผู้นำทั้งสองเมื่อเดือนม.ค. ปธน.ปูตินได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสนธิสัญญาดังกล่าว ซึ่งระบุถึง “เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่” ในการกระชับความร่วมมือในระยะยาว พร้อมกับเสริมว่าสนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างเงื่อนไขที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสองชาติและของภูมิภาคยูเรเชียทั้งหมด

    👉เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวไว้เมื่อเดือนเมษายนว่า “ปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอิหร่านคือสนธิสัญญาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมระหว่างรัสเซียและอิหร่าน สนธิสัญญาดังกล่าวจะยืนยันความปรารถนาของทั้งสองฝ่ายในการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านการป้องกันประเทศและการโต้ตอบเพื่อผลประโยชน์ของสันติภาพและความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก”

    👉ภายใต้สนธิสัญญาดังกล่าว จะเป็นการกระชับและขยายความสัมพันธ์ในทุก ๆ ด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ รวมถึงประสานงานกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกอย่างใกล้ชิด โดยสอดคล้องกับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านในระยะยาว



    รัฐสภาอิหร่านเพิ่งประชุมด่วนวันนี้เพื่ออนุมัติ "ข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านกับรัสเซีย" 👉ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ของอิหร่านได้ลงนามในระดับผู้นำประเทศของทั้งสองฝ่ายในสนธิสัญญาความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมรอบด้านเมื่อวันที่17 ม.ค. 2025  👉หลังจากนั้นสภาดูมาของรัสเซีย (สภาผู้แทนราษฎร หรือสภาล่าง) ได้มีมติอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2025 👉ต่อมาสภาสหพันธรัฐ (วุฒิสภา หรือสภาสูง) มีมติอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2025 👉แต่ทางอิหร่านที่นำโดยประธานาธิบดีเปเซชเคียน ไม่มีการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการส่งเรื่องต่อให้รัฐสภาอิหร่านอนุมัติสนธิสัญญาดังกล่าว 👉หลังจากอิหร่านถูกโจมตีจากอิสราเอลมาได้สามวัน จนกระทั่งวันนี้จึงได้มีการนัดประชุมวาระเร่งด่วนเพื่อให้สภาอนุมัติสนธิสัญญาฉบับดังกล่าว 👉หลังการลงนามในระดับผู้นำทั้งสองเมื่อเดือนม.ค. ปธน.ปูตินได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสนธิสัญญาดังกล่าว ซึ่งระบุถึง “เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่” ในการกระชับความร่วมมือในระยะยาว พร้อมกับเสริมว่าสนธิสัญญาดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างเงื่อนไขที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสองชาติและของภูมิภาคยูเรเชียทั้งหมด 👉เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย กล่าวไว้เมื่อเดือนเมษายนว่า “ปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและอิหร่านคือสนธิสัญญาความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมระหว่างรัสเซียและอิหร่าน สนธิสัญญาดังกล่าวจะยืนยันความปรารถนาของทั้งสองฝ่ายในการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นในด้านการป้องกันประเทศและการโต้ตอบเพื่อผลประโยชน์ของสันติภาพและความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก” 👉ภายใต้สนธิสัญญาดังกล่าว จะเป็นการกระชับและขยายความสัมพันธ์ในทุก ๆ ด้านที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศ รวมถึงประสานงานกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกอย่างใกล้ชิด โดยสอดคล้องกับความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านในระยะยาว
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • 🔧 Micron เตรียมยุติการผลิต DDR4 แม้ยังมีความต้องการสูง
    Micron ได้แจ้งลูกค้าว่า ผลิตภัณฑ์หน่วยความจำ DDR4 จะเข้าสู่ช่วงสิ้นสุดอายุการใช้งาน โดยคาดว่าการจัดส่งจะลดลงภายใน 6-9 เดือนข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับแผนของ Samsung และ SK Hynix ที่จะยุติการผลิต DDR4 และมุ่งเน้นไปที่ DDR5, LPDDR5 และหน่วยความจำความเร็วสูง (HBM)

    ✅ เหตุผลที่ Micron ยุติการผลิต DDR4
    - แม้ว่าความต้องการ DDR4 จะยังสูง แต่ ตลาดกำลังเปลี่ยนไปสู่ DDR5
    - ราคาของ DDR4 และ LPDDR4 ในตลาดจุดสูงกว่าราคา DDR5 ในบางกรณี
    - Micron จะให้ความสำคัญกับ ลูกค้าระยะยาวในอุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรม และเครือข่าย ซึ่งต้องการความเสถียรของผลิตภัณฑ์

    ‼️ ข้อควรระวัง
    - การขาดแคลน DDR4 อาจทำให้ราคาสูงขึ้น ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ DDR5
    - ผู้ใช้แพลตฟอร์มเก่า เช่น AM4 และ LGA 1700 อาจได้รับผลกระทบ เนื่องจาก DDR4 จะหายไปจากตลาด
    - ผู้ผลิตชิปจีนอาจเข้ามาแทนที่ แต่คุณภาพและการสนับสนุนระยะยาวอาจไม่เทียบเท่าผู้ผลิตรายใหญ่

    🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหน่วยความจำ
    ✅ แนวโน้มตลาดหน่วยความจำ
    - AMD และ Intel กำลังผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ DDR5 โดยแพลตฟอร์มใหม่รองรับเฉพาะ DDR5
    - ตลาดเซิร์ฟเวอร์และอุตสาหกรรมกำลังปรับตัว ไปสู่ LPDDR5 และ HBM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
    - ผู้ผลิตเมนบอร์ดอาจลดการผลิตรุ่นที่รองรับ DDR4 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาด

    ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่าน
    - ผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดระบบอาจต้องซื้อ DDR4 ล่วงหน้า ก่อนที่สินค้าจะหมดตลาด
    - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของเมนบอร์ด หากต้องการเปลี่ยนไปใช้ DDR5
    - อาจเกิดปัญหาด้านราคาของ DDR5 หากความต้องการเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการผลิต

    🔍 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดหน่วยความจำ
    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่
    - Micron ได้เปิดตัว LPDDR5X รุ่นใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - SK Hynix กำลังพัฒนา GDDR7 ที่สามารถโอเวอร์คล็อกได้ถึง 34 Gbps
    - Samsung กำลังพัฒนา HBM4 เพื่อรองรับการประมวลผล AI และกราฟิกขั้นสูง

    ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่
    - ต้องมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์เพื่อรองรับหน่วยความจำใหม่ เช่น เมนบอร์ดและซีพียู
    - ราคาของหน่วยความจำรุ่นใหม่อาจสูงในช่วงแรก ก่อนที่ตลาดจะปรับตัว
    - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบก่อนเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีใหม่

    https://www.techpowerup.com/338005/micron-announces-ddr4-sunset-amid-stronger-than-ever-demand
    🔧 Micron เตรียมยุติการผลิต DDR4 แม้ยังมีความต้องการสูง Micron ได้แจ้งลูกค้าว่า ผลิตภัณฑ์หน่วยความจำ DDR4 จะเข้าสู่ช่วงสิ้นสุดอายุการใช้งาน โดยคาดว่าการจัดส่งจะลดลงภายใน 6-9 เดือนข้างหน้า ซึ่งสอดคล้องกับแผนของ Samsung และ SK Hynix ที่จะยุติการผลิต DDR4 และมุ่งเน้นไปที่ DDR5, LPDDR5 และหน่วยความจำความเร็วสูง (HBM) ✅ เหตุผลที่ Micron ยุติการผลิต DDR4 - แม้ว่าความต้องการ DDR4 จะยังสูง แต่ ตลาดกำลังเปลี่ยนไปสู่ DDR5 - ราคาของ DDR4 และ LPDDR4 ในตลาดจุดสูงกว่าราคา DDR5 ในบางกรณี - Micron จะให้ความสำคัญกับ ลูกค้าระยะยาวในอุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรม และเครือข่าย ซึ่งต้องการความเสถียรของผลิตภัณฑ์ ‼️ ข้อควรระวัง - การขาดแคลน DDR4 อาจทำให้ราคาสูงขึ้น ในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ DDR5 - ผู้ใช้แพลตฟอร์มเก่า เช่น AM4 และ LGA 1700 อาจได้รับผลกระทบ เนื่องจาก DDR4 จะหายไปจากตลาด - ผู้ผลิตชิปจีนอาจเข้ามาแทนที่ แต่คุณภาพและการสนับสนุนระยะยาวอาจไม่เทียบเท่าผู้ผลิตรายใหญ่ 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหน่วยความจำ ✅ แนวโน้มตลาดหน่วยความจำ - AMD และ Intel กำลังผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ DDR5 โดยแพลตฟอร์มใหม่รองรับเฉพาะ DDR5 - ตลาดเซิร์ฟเวอร์และอุตสาหกรรมกำลังปรับตัว ไปสู่ LPDDR5 และ HBM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ - ผู้ผลิตเมนบอร์ดอาจลดการผลิตรุ่นที่รองรับ DDR4 เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาด ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่าน - ผู้ใช้ที่ต้องการอัปเกรดระบบอาจต้องซื้อ DDR4 ล่วงหน้า ก่อนที่สินค้าจะหมดตลาด - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของเมนบอร์ด หากต้องการเปลี่ยนไปใช้ DDR5 - อาจเกิดปัญหาด้านราคาของ DDR5 หากความต้องการเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการผลิต 🔍 ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตลาดหน่วยความจำ ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ - Micron ได้เปิดตัว LPDDR5X รุ่นใหม่ ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงขึ้น - SK Hynix กำลังพัฒนา GDDR7 ที่สามารถโอเวอร์คล็อกได้ถึง 34 Gbps - Samsung กำลังพัฒนา HBM4 เพื่อรองรับการประมวลผล AI และกราฟิกขั้นสูง ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ - ต้องมีการอัปเกรดฮาร์ดแวร์เพื่อรองรับหน่วยความจำใหม่ เช่น เมนบอร์ดและซีพียู - ราคาของหน่วยความจำรุ่นใหม่อาจสูงในช่วงแรก ก่อนที่ตลาดจะปรับตัว - ต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ของระบบก่อนเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีใหม่ https://www.techpowerup.com/338005/micron-announces-ddr4-sunset-amid-stronger-than-ever-demand
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Micron Announces DDR4 Sunset Amid Stronger‑Than‑Ever Demand
    Micron has informed its customers that its DDR4 memory products will reach the end of life in the coming quarters, with shipments expected to taper off over the next six to nine months. This announcement aligns Micron with the earlier plans of Samsung and SK Hynix to discontinue DDR4 production and ...
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • 🚗 Pirelli เปิดตัว Cyber Tyre: ยางอัจฉริยะที่ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์
    Pirelli ร่วมมือกับรัฐบาลภูมิภาค Apulia ในอิตาลี เพื่อเปิดตัว โครงการนำร่องที่ใช้ยางอัจฉริยะ Cyber Tyre ซึ่งสามารถ ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ โดยใช้ เซ็นเซอร์ในตัวยางและกล้องวิเคราะห์ภาพ

    ✅ เซ็นเซอร์ในตัวยางช่วยตรวจสอบสภาพถนน
    - Cyber Tyre มีเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งภายในยาง ซึ่งสามารถ วัดอุณหภูมิและแรงดันลมยาง
    - เซ็นเซอร์สามารถทนต่อแรงกระแทกสูงถึง 3,500G และใช้ แบตเตอรี่ขนาดเล็กที่มีอายุการใช้งานเท่ากับอายุของยาง

    ✅ ระบบวิเคราะห์ภาพช่วยตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน
    - ใช้กล้องจาก Univrses บริษัทเทคโนโลยีจากสวีเดน เพื่อ ตรวจสอบพื้นผิวถนนและป้ายจราจร
    - ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังระบบคลาวด์เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ได้

    ✅ ใช้รถยนต์เฉพาะทางเพื่อเก็บข้อมูล
    - โครงการนำร่องใช้รถยนต์จาก Ayvens ซึ่งเป็นบริษัทจัดการรถเช่าในยุโรป
    - การใช้รถเฉพาะทางช่วยลดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลจากรถยนต์ส่วนบุคคล

    🔥 ผลกระทบต่อการบำรุงรักษาถนนและความปลอดภัย
    ‼️ ช่วยให้หน่วยงานสามารถซ่อมแซมถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ข้อมูลจาก Cyber Tyre ช่วยให้สามารถระบุจุดที่ต้องซ่อมแซมได้อย่างแม่นยำ

    ‼️ ลดต้นทุนการบำรุงรักษาถนนในระยะยาว
    - การตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและซ่อมแซม

    ‼️ ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในประเทศอื่น ๆ ได้หรือไม่
    - หากโครงการนำร่องประสบความสำเร็จ อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระดับสากล

    🚀 อนาคตของ Cyber Tyre และเทคโนโลยียางอัจฉริยะ
    ✅ Pirelli กำลังพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ Bosch เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ในยาง ✅ Cyber Tyre อาจถูกนำไปใช้ในรถยนต์ระดับหรู เช่น Pagani Utopia Roadster

    https://www.techspot.com/news/108301-pirelli-new-sensor-equipped-tires-monitor-road-conditions.html
    🚗 Pirelli เปิดตัว Cyber Tyre: ยางอัจฉริยะที่ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ Pirelli ร่วมมือกับรัฐบาลภูมิภาค Apulia ในอิตาลี เพื่อเปิดตัว โครงการนำร่องที่ใช้ยางอัจฉริยะ Cyber Tyre ซึ่งสามารถ ตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ โดยใช้ เซ็นเซอร์ในตัวยางและกล้องวิเคราะห์ภาพ ✅ เซ็นเซอร์ในตัวยางช่วยตรวจสอบสภาพถนน - Cyber Tyre มีเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งภายในยาง ซึ่งสามารถ วัดอุณหภูมิและแรงดันลมยาง - เซ็นเซอร์สามารถทนต่อแรงกระแทกสูงถึง 3,500G และใช้ แบตเตอรี่ขนาดเล็กที่มีอายุการใช้งานเท่ากับอายุของยาง ✅ ระบบวิเคราะห์ภาพช่วยตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐาน - ใช้กล้องจาก Univrses บริษัทเทคโนโลยีจากสวีเดน เพื่อ ตรวจสอบพื้นผิวถนนและป้ายจราจร - ข้อมูลทั้งหมดถูกส่งไปยังระบบคลาวด์เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ได้ ✅ ใช้รถยนต์เฉพาะทางเพื่อเก็บข้อมูล - โครงการนำร่องใช้รถยนต์จาก Ayvens ซึ่งเป็นบริษัทจัดการรถเช่าในยุโรป - การใช้รถเฉพาะทางช่วยลดปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลจากรถยนต์ส่วนบุคคล 🔥 ผลกระทบต่อการบำรุงรักษาถนนและความปลอดภัย ‼️ ช่วยให้หน่วยงานสามารถซ่อมแซมถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ข้อมูลจาก Cyber Tyre ช่วยให้สามารถระบุจุดที่ต้องซ่อมแซมได้อย่างแม่นยำ ‼️ ลดต้นทุนการบำรุงรักษาถนนในระยะยาว - การตรวจสอบสภาพถนนแบบเรียลไทม์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและซ่อมแซม ‼️ ต้องติดตามว่าระบบนี้จะสามารถนำไปใช้ในประเทศอื่น ๆ ได้หรือไม่ - หากโครงการนำร่องประสบความสำเร็จ อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในระดับสากล 🚀 อนาคตของ Cyber Tyre และเทคโนโลยียางอัจฉริยะ ✅ Pirelli กำลังพัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับ Bosch เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเซ็นเซอร์ในยาง ✅ Cyber Tyre อาจถูกนำไปใช้ในรถยนต์ระดับหรู เช่น Pagani Utopia Roadster https://www.techspot.com/news/108301-pirelli-new-sensor-equipped-tires-monitor-road-conditions.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Pirelli's new sensor-equipped tires to monitor road conditions in real time
    At the heart of the project is Pirelli's Cyber Tyre, a high-tech solution that embeds sensors within the tire itself. These sensors track a range of critical...
    0 Comments 0 Shares 91 Views 0 Reviews
  • 🌏 จีนเร่งผลิตบุคลากร AI และชิปท่ามกลางข้อจำกัดทางการค้า
    จีนกำลัง เร่งผลิตบุคลากรด้าน AI และชิป เพื่อรับมือกับ ข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ โดยมหาวิทยาลัยในจีน เพิ่มหลักสูตรด้าน AI และไมโครอิเล็กทรอนิกส์อย่างรวดเร็ว ทำให้ จำนวนผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าของสหรัฐฯ

    จีน มีมหาวิทยาลัยกว่า 535 แห่งที่เปิดสอนหลักสูตรด้าน AI และ มีนักวิจัย AI ชั้นนำเกือบครึ่งหนึ่งของโลก

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - จีนมีมหาวิทยาลัยกว่า 535 แห่งที่เปิดสอนหลักสูตรด้าน AI
    - นักวิจัย AI ชั้นนำเกือบครึ่งหนึ่งของโลกมาจากจีน
    - จำนวนผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ในจีนเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าของสหรัฐฯ
    - บริษัทเทคโนโลยีจีน เช่น Huawei และ Xiaomi กำลังขยายทีมวิจัย AI อย่างรวดเร็ว
    - จีนเป็นผู้นำด้านสิทธิบัตร AI และเทคโนโลยีคลัสเตอร์ระดับโลก

    🔥 ผลกระทบต่อการแข่งขันด้านเทคโนโลยี
    แม้ว่าจีน จะมีบุคลากรด้าน AI จำนวนมาก แต่ ยังคงเผชิญกับข้อจำกัดด้านการลงทุนและการแปลงงานวิจัยเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานจริง

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - จีนยังมีข้อจำกัดด้านการลงทุนใน AI เนื่องจากเงินทุนส่วนใหญ่มาจากรัฐ
    - การแปลงงานวิจัยเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานจริงยังคงเป็นความท้าทาย
    - สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำด้านการลงทุนระยะยาวใน AI และมีความอดทนต่อความเสี่ยงสูงกว่า
    - ต้องติดตามว่าจีนจะสามารถพัฒนา AI ให้แข่งขันกับสหรัฐฯ ได้หรือไม่

    🚀 อนาคตของ AI และชิปในจีน
    จีน กำลังเร่งพัฒนา AI และชิปเพื่อแข่งขันในตลาดโลก โดย ต้องปรับปรุงการแปลงงานวิจัยเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานจริง และเพิ่มความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/chinas-orchard-of-ai-chip-grads-now-ripe-for-the-pickin-as-tech-trade-sours
    🌏 จีนเร่งผลิตบุคลากร AI และชิปท่ามกลางข้อจำกัดทางการค้า จีนกำลัง เร่งผลิตบุคลากรด้าน AI และชิป เพื่อรับมือกับ ข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ โดยมหาวิทยาลัยในจีน เพิ่มหลักสูตรด้าน AI และไมโครอิเล็กทรอนิกส์อย่างรวดเร็ว ทำให้ จำนวนผู้เชี่ยวชาญด้าน AI เพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าของสหรัฐฯ จีน มีมหาวิทยาลัยกว่า 535 แห่งที่เปิดสอนหลักสูตรด้าน AI และ มีนักวิจัย AI ชั้นนำเกือบครึ่งหนึ่งของโลก ✅ ข้อมูลจากข่าว - จีนมีมหาวิทยาลัยกว่า 535 แห่งที่เปิดสอนหลักสูตรด้าน AI - นักวิจัย AI ชั้นนำเกือบครึ่งหนึ่งของโลกมาจากจีน - จำนวนผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ในจีนเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าของสหรัฐฯ - บริษัทเทคโนโลยีจีน เช่น Huawei และ Xiaomi กำลังขยายทีมวิจัย AI อย่างรวดเร็ว - จีนเป็นผู้นำด้านสิทธิบัตร AI และเทคโนโลยีคลัสเตอร์ระดับโลก 🔥 ผลกระทบต่อการแข่งขันด้านเทคโนโลยี แม้ว่าจีน จะมีบุคลากรด้าน AI จำนวนมาก แต่ ยังคงเผชิญกับข้อจำกัดด้านการลงทุนและการแปลงงานวิจัยเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานจริง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - จีนยังมีข้อจำกัดด้านการลงทุนใน AI เนื่องจากเงินทุนส่วนใหญ่มาจากรัฐ - การแปลงงานวิจัยเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานจริงยังคงเป็นความท้าทาย - สหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำด้านการลงทุนระยะยาวใน AI และมีความอดทนต่อความเสี่ยงสูงกว่า - ต้องติดตามว่าจีนจะสามารถพัฒนา AI ให้แข่งขันกับสหรัฐฯ ได้หรือไม่ 🚀 อนาคตของ AI และชิปในจีน จีน กำลังเร่งพัฒนา AI และชิปเพื่อแข่งขันในตลาดโลก โดย ต้องปรับปรุงการแปลงงานวิจัยเป็นเทคโนโลยีที่ใช้งานจริง และเพิ่มความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมและมหาวิทยาลัย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/13/chinas-orchard-of-ai-chip-grads-now-ripe-for-the-pickin-as-tech-trade-sours
    WWW.THESTAR.COM.MY
    China’s orchard of AI, chip grads now ripe for the pickin’ as tech trade sours
    Many who entered university during Trump's first trade war with China are ready to become key cogs in China's hi-tech engine.
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • 🔧 ปัญหาความเข้ากันได้ของ RTX 50 Series กับเมนบอร์ด EVGA
    ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 กำลังเผชิญกับ ปัญหาการบูตเครื่องเมื่อใช้กับการ์ดจอ RTX 50 Series โดยพบว่า SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia

    EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลงอย่างมาก ส่งผลให้ การสนับสนุนซอฟต์แวร์ลดลง และอาจเป็น สาเหตุของปัญหาความเข้ากันได้กับการ์ดจอรุ่นใหม่

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 พบปัญหาบูตเครื่องเมื่อใช้กับ RTX 50 Series
    - SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia
    - EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลง
    - ผู้ใช้บางรายแก้ปัญหาโดยใช้เทป Kapton ปิด SMBUS pins บน PCIe connector ของ GPU
    - เมนบอร์ด EVGA รุ่นอื่น ๆ เช่น Z790 ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้

    🔥 วิธีแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ค้นพบ
    ผู้ใช้บางราย ใช้เทป Kapton กว้าง 2 มม. ปิด SMBUS pins (pins 5 และ 6) บน PCIe connector ของ GPU เพื่อ หยุดสัญญาณ SMBUS ไม่ให้ส่งไปยังการ์ดจอ

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้เทป Kapton ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออื่น ๆ
    - EVGA ยังไม่มีการประกาศแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นทางการ
    - การแก้ไขด้วยเทปเป็นเพียงวิธีชั่วคราว และอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในระยะยาว
    - ต้องติดตามว่า Nvidia หรือ EVGA จะออกอัปเดต BIOS เพื่อแก้ไขปัญหานี้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evga-motherboard-owners-furious-over-modern-gpu-issues-diy-users-resort-to-taping-over-pins-to-fix-rtx-50-series-problem-on-z690-boards
    🔧 ปัญหาความเข้ากันได้ของ RTX 50 Series กับเมนบอร์ด EVGA ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 กำลังเผชิญกับ ปัญหาการบูตเครื่องเมื่อใช้กับการ์ดจอ RTX 50 Series โดยพบว่า SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลงอย่างมาก ส่งผลให้ การสนับสนุนซอฟต์แวร์ลดลง และอาจเป็น สาเหตุของปัญหาความเข้ากันได้กับการ์ดจอรุ่นใหม่ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ผู้ใช้เมนบอร์ด EVGA Z690 พบปัญหาบูตเครื่องเมื่อใช้กับ RTX 50 Series - SMBUS pins บนเมนบอร์ดทำให้เกิดความขัดแย้งกับ GPU ของ Nvidia - EVGA ถอนตัวจากตลาด GPU ในปี 2022 และลดขนาดธุรกิจลง - ผู้ใช้บางรายแก้ปัญหาโดยใช้เทป Kapton ปิด SMBUS pins บน PCIe connector ของ GPU - เมนบอร์ด EVGA รุ่นอื่น ๆ เช่น Z790 ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้ 🔥 วิธีแก้ปัญหาที่ผู้ใช้ค้นพบ ผู้ใช้บางราย ใช้เทป Kapton กว้าง 2 มม. ปิด SMBUS pins (pins 5 และ 6) บน PCIe connector ของ GPU เพื่อ หยุดสัญญาณ SMBUS ไม่ให้ส่งไปยังการ์ดจอ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้เทป Kapton ต้องทำอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการเชื่อมต่ออื่น ๆ - EVGA ยังไม่มีการประกาศแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นทางการ - การแก้ไขด้วยเทปเป็นเพียงวิธีชั่วคราว และอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดในระยะยาว - ต้องติดตามว่า Nvidia หรือ EVGA จะออกอัปเดต BIOS เพื่อแก้ไขปัญหานี้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/evga-motherboard-owners-furious-over-modern-gpu-issues-diy-users-resort-to-taping-over-pins-to-fix-rtx-50-series-problem-on-z690-boards
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • 📉 อัตราว่างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5
    รายงานล่าสุดจาก Janco Associates ระบุว่า อัตราว่างงานของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 5.5% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5

    🔍 สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของอัตราว่างงาน
    การเติบโตของ AI และระบบอัตโนมัติ ส่งผลให้ ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นในอุตสาหกรรม IT ลดลง โดยเฉพาะใน ภาคโทรคมนาคม, การรายงานข้อมูล และการสนับสนุนด้านเทคนิค

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - อัตราว่างงานของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 5.5% ในเดือนพฤษภาคม
    - ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับ AI, Blockchain และ Omnichannel Commerce ยังคงมีความต้องการสูง
    - ตำแหน่งงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือในภาคโทรคมนาคมและการรายงานข้อมูล
    - ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ "Legacy" ในเมืองเล็ก เช่น Nashville และ Tulsa ได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ที่อยู่ในเมืองใหญ่ เช่น New York และ Dallas
    - AI ถูกใช้แทนพนักงานในงานด้านการรายงานและการตรวจสอบข้อมูล

    🔥 ผลกระทบของ AI ต่อการจ้างงาน
    แม้ว่าผู้บริหารหลายคนจะกล่าวว่า AI มีไว้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ใช่แทนที่พนักงาน แต่ในทางปฏิบัติ AI ได้เข้ามาแทนที่งานระดับเริ่มต้นจำนวนมาก

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI อาจทำให้ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นในอุตสาหกรรม IT ลดลงอย่างต่อเนื่อง
    - บริษัทต่าง ๆ กำลังใช้ AI เพื่อแทนที่พนักงานในงานที่เกี่ยวข้องกับการรายงานและการตรวจสอบข้อมูล
    - Sebastian Siemiatkowski ซีอีโอของ Klarna เชื่อว่า AI อาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
    - Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic คาดการณ์ว่า AI อาจทำให้ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นหายไปถึง 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า

    แม้ว่าตำแหน่งงานบางประเภทจะลดลง แต่ความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยังคงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงานในระยะยาวอย่างไร

    https://www.techspot.com/news/108275-us-unemployment-rate-climbs-fifth-consecutive-month-55.html
    📉 อัตราว่างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 รายงานล่าสุดจาก Janco Associates ระบุว่า อัตราว่างงานของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 5.5% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 🔍 สาเหตุของการเพิ่มขึ้นของอัตราว่างงาน การเติบโตของ AI และระบบอัตโนมัติ ส่งผลให้ ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นในอุตสาหกรรม IT ลดลง โดยเฉพาะใน ภาคโทรคมนาคม, การรายงานข้อมูล และการสนับสนุนด้านเทคนิค ✅ ข้อมูลจากข่าว - อัตราว่างงานของผู้เชี่ยวชาญด้าน IT ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 5.5% ในเดือนพฤษภาคม - ตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องกับ AI, Blockchain และ Omnichannel Commerce ยังคงมีความต้องการสูง - ตำแหน่งงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือในภาคโทรคมนาคมและการรายงานข้อมูล - ผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะ "Legacy" ในเมืองเล็ก เช่น Nashville และ Tulsa ได้รับผลกระทบมากกว่าผู้ที่อยู่ในเมืองใหญ่ เช่น New York และ Dallas - AI ถูกใช้แทนพนักงานในงานด้านการรายงานและการตรวจสอบข้อมูล 🔥 ผลกระทบของ AI ต่อการจ้างงาน แม้ว่าผู้บริหารหลายคนจะกล่าวว่า AI มีไว้เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ไม่ใช่แทนที่พนักงาน แต่ในทางปฏิบัติ AI ได้เข้ามาแทนที่งานระดับเริ่มต้นจำนวนมาก ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI อาจทำให้ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นในอุตสาหกรรม IT ลดลงอย่างต่อเนื่อง - บริษัทต่าง ๆ กำลังใช้ AI เพื่อแทนที่พนักงานในงานที่เกี่ยวข้องกับการรายงานและการตรวจสอบข้อมูล - Sebastian Siemiatkowski ซีอีโอของ Klarna เชื่อว่า AI อาจทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย - Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic คาดการณ์ว่า AI อาจทำให้ตำแหน่งงานระดับเริ่มต้นหายไปถึง 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า แม้ว่าตำแหน่งงานบางประเภทจะลดลง แต่ความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยังคงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดแรงงานในระยะยาวอย่างไร https://www.techspot.com/news/108275-us-unemployment-rate-climbs-fifth-consecutive-month-55.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Tech unemployment in the US climbs for fifth consecutive month to 5.5%, AI blamed for job losses
    The report, from IT management consulting company Janco, states that the unemployment rate for IT pros in the United States jumped 0.9% from 4.6% in April to 5.5% in May.
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • 🏭 Besi ปรับเป้าหมายทางการเงินระยะยาว คาดการณ์ความต้องการชิปเพิ่มขึ้น
    BE Semiconductor Industries (Besi) ปรับเป้าหมายทางการเงินระยะยาว โดยคาดการณ์ว่า ตลาดสำหรับเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปขั้นสูงจะเติบโตอย่างมาก เนื่องจาก การพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูล

    Besi เป็นผู้ผลิต เครื่องมือ Hybrid Bonding ที่แม่นยำที่สุดในโลก ซึ่งช่วยให้ สามารถเชื่อมต่อชิปหลายตัวเข้าด้วยกันโดยตรง ทำให้ ชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่ต้องลดขนาดทรานซิสเตอร์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Besi ปรับเป้าหมายรายได้ระยะยาวเป็น 1.5-1.9 พันล้านยูโร จากเดิม 1 พันล้านยูโร
    - อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 40%-55% จากเดิม 35%-50%
    - การพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูลช่วยเพิ่มความต้องการเทคโนโลยี Hybrid Bonding
    - หุ้นของ Besi เพิ่มขึ้น 7.5% หลังประกาศปรับเป้าหมาย
    - นักวิเคราะห์จาก ING ระบุว่าตลาดสำหรับเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปเติบโตขึ้นอย่างมาก

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    เมื่อการลดขนาดทรานซิสเตอร์ เริ่มถึงขีดจำกัดทางกายภาพ ผู้ผลิตชิป ต้องหาทางเพิ่มประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปขั้นสูง

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ Hybrid Bonding จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ซับซ้อน
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตชิปรายใหญ่ เช่น TSMC และ Intel จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้มากน้อยแค่ไหน
    - ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและซัพพลายเชน
    - ต้องรอดูว่า Besi จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่

    Besi เชื่อว่า เทคโนโลยี Hybrid Bonding จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาชิปที่เร็วขึ้นและทรงพลังขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าตลาดจะตอบรับเทคโนโลยีนี้อย่างไร

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/besi-lifts-its-forecast-expects-higher-demand-for-its-advanced-solutions
    🏭 Besi ปรับเป้าหมายทางการเงินระยะยาว คาดการณ์ความต้องการชิปเพิ่มขึ้น BE Semiconductor Industries (Besi) ปรับเป้าหมายทางการเงินระยะยาว โดยคาดการณ์ว่า ตลาดสำหรับเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปขั้นสูงจะเติบโตอย่างมาก เนื่องจาก การพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูล Besi เป็นผู้ผลิต เครื่องมือ Hybrid Bonding ที่แม่นยำที่สุดในโลก ซึ่งช่วยให้ สามารถเชื่อมต่อชิปหลายตัวเข้าด้วยกันโดยตรง ทำให้ ชิปมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่ต้องลดขนาดทรานซิสเตอร์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Besi ปรับเป้าหมายรายได้ระยะยาวเป็น 1.5-1.9 พันล้านยูโร จากเดิม 1 พันล้านยูโร - อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 40%-55% จากเดิม 35%-50% - การพัฒนา AI และศูนย์ข้อมูลช่วยเพิ่มความต้องการเทคโนโลยี Hybrid Bonding - หุ้นของ Besi เพิ่มขึ้น 7.5% หลังประกาศปรับเป้าหมาย - นักวิเคราะห์จาก ING ระบุว่าตลาดสำหรับเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปเติบโตขึ้นอย่างมาก 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เมื่อการลดขนาดทรานซิสเตอร์ เริ่มถึงขีดจำกัดทางกายภาพ ผู้ผลิตชิป ต้องหาทางเพิ่มประสิทธิภาพผ่านเทคโนโลยีการจัดเรียงชิปขั้นสูง ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ Hybrid Bonding จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังต้องใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ซับซ้อน - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตชิปรายใหญ่ เช่น TSMC และ Intel จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้มากน้อยแค่ไหน - ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจและซัพพลายเชน - ต้องรอดูว่า Besi จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้หรือไม่ Besi เชื่อว่า เทคโนโลยี Hybrid Bonding จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาชิปที่เร็วขึ้นและทรงพลังขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าตลาดจะตอบรับเทคโนโลยีนี้อย่างไร https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/12/besi-lifts-its-forecast-expects-higher-demand-for-its-advanced-solutions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Besi lifts long-term financial targets, eyeing demand growth
    AMSTERDAM (Reuters) -BE Semiconductor Industries (Besi) raised its long-term financial targets on Thursday ahead of its investor day, saying the future is bright for its advanced chip stacking tools.
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • 1/4 รวมลิงค์ข้อมูล อ.หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/thiravat.h
    เทเลแกรม DrThiravatFc https://t.me/DrThiravatFc
    รวมคลิป https://t.me/DrThiravatFc/10
    ✅วัคซีนป้องกันไวรัส RSV ปลอดภัยจริงหรือ
    ✍️วางแผนจะนำมาฉีดในเด็ก ปรากฏว่าฉีดไปแล้ว โรคกลับรุนแรงกว่าที่ไม่ฉีด VRBPAC สั่งระงับ 12 ธันวาคม 2024
    https://www.facebook.com/share/p/19wLKQmfRL/
    ✍️หมอดื้อแนะ อย่าประสาทไปกับ HMPV RSV FluA/B โควิด ออกข่าวครึกโครม ลวงโลก
    https://www.facebook.com/share/p/18qguCWUet/
    ✍️วัคซีนไม่ใช่ทางออกที่ปลอดภัย หมอดื้อแจงยาที่ถูกมองข้าม
    https://www.facebook.com/share/p/1QLPq56GZK/
    ✍️อย สหรัฐให้ประกาศคำเตือนหลังฉีดวัคซีน RSV เกิด เส้นประสาทอักเสบทั้งตัว GBS
    https://www.facebook.com/share/p/18srXSRN6U/
    ✍️วัคซีน RSV ที่ทดสอบในเด็กอายุเกินหกเดือน พบว่าเมื่อติดเชื้อกลับมีอาการของโรครุนแรงขึ้นต้องเข้าโรงพยาบาล
    https://www.fda.gov/vaccines-blood-biologics/safety-availability-biologics/fda-requires-guillain-barre-syndrome-gbs-warning-prescribing-information-rsv-vaccines-abrysvo-and?mtm_source=25

    ✅กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​โควิด
    ✍️รายงาน​วิจัยจากสิงคโปร์​พบว่าอัตราการเป็นกล้ามเนื้อ​หัวใจ​อักเสบ​ในเด็กหนุ่ม​เพิ่มขึ้น​หลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122114046446647289/?
    ✍️ข้อมูล mRNA มีผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ | หมอชลธวัช
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115966158647289/?
    ✍️หัวใจอักเสบคุกรุ่น “แม้ไม่มีอาการ”หลังฉีด
    https://www.facebook.com/share/p/1AAfM5BcE6/
    ✍️มะเร็งหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจหลังจากวัคซีนโควิด mRNA (ตอน 1) หมอดื้อ
    https://www.thairath.co.th/life.../health-and-beauty/2857516
    ✅มะเร็งเกิดขึ้นหรือถูกกระตุ้นให้กลับมาหลังฉีดวัคซีน
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02FVi4WuRgef8kC5f71Qw3tubcgMbEFau3mPMAiThsK4agnxC6N4J5NKYaUQi5vFDgl&id=61569418676886
    ✍️มะเร็งเทอร์โบ
    https://www.facebook.com/share/v/15bc7uQxNE/
    ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189
    ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444
    ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574
    ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
    https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347
    ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY
    https://liff.line.me/1454988218.../v2/article/WBMQJxa...
    ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512
    ✍️ มะเร็งเทอร์โบในเด็ก
    1. https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116607024647289/?
    2. https://fb.watch/xgObb-ReDH/?
    ✍️ มะเร็งปะทุใหม่หลังฉีดวัคซีนจากที่สงบไปนาน | หมอดื้อ
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115654266647289/?
    ✍️ มะเร็งกลับมาจากที่สงบหลังฉีดวัคซีนโควิด | หมอดื้อ
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115654266647289/?
    ✍️ตัวอย่างเคส
    https://www.facebook.com/share/v/1E2AH3CWc4/
    ✍️ กราฟข้อมูลมะเร็งในคนไทย
    https://www.facebook.com/share/p/1AedfWoHFe/
    ✅เส้นเลือด ตีบ แตก หลังฉีดวัคซีนโควิด
    ✍️นพ.ธีระวัฒน์ ยกงานวิจัย ชี้ชัดวัคซีนโควิด ทำเส้นเลือดอุดตัน การเสียชีวิตเพิ่มขึ้นแปรตามการฉีดวัคซีน
    https://youtu.be/JFwdcP39MnM?si=7QPRmcaWOANYMJ87
    ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2771028?fbclid=IwAR1pkyxDX_jFkVEQbzXjfGtceZzJ2mJE03F3MQRJnzU38cqYXvISepZSd_Q_aem_AZrEdPuBNjgPV7MJ4YsCNlQdS6JfmK9SPSAsH1-_vYAWA1vdDg2EVOLz8hIq-Nevma4
    ตอนที่ 2 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2772908?fbclid=IwAR13RoEjgxf3CrrgF51ohoVxNhLK3yURY7dpOLy13mzqW9ol2A4-PYBZ-RA_aem_AZoGDrOXN2rMfSOoqsup5ND7MgibhvqyTau7W7IHunslXHmzdppoFuhBkbdhlBadsdI
    ✍️แฉ แท่งย้วย ในเส้นเลือด โดย อ.หมอธีระวัฒน์ ในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122101484966647289/?
    ✍️“หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/945435006950200/?
    ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912
    ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยพบปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เห็นมาก่อนในคนฉีดวัคซีน mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000015334
    ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136
    ✍️White Clot ยังไม่จบ “หมอธีระวัฒน์” พร้อมตอบแบบจัดเต็ม ในงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว” 17 มี.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000020769
    ✍️เลือดปนเปื้อนด้วยโปรตีนหนาม
    https://www.facebook.com/share/p/14dqeCPBP8/
    ✍️ลิ่มเลือดอุด เส้นเลือดใหญ่สมอง ทนเหนียวไม่สลายง่าย
    https://www.facebook.com/share/p/1CHifW8D4G/
    ✍️การฉีดวัคซีนโควิด ทำให้เกิดผลระยะยาว โดย อ.หมอธีระวัฒน์
    https://www.facebook.com/share/p/18SXM79N29/
    ✍️แท่งย้วยสีขาวในหลอดเลือด เกิดขึ้น “ก่อน”ตายเท่านั้น รีบช่วยชมและแชร์ก่อนถูกลบ
    https://fb.watch/s0hNc3DymZ/?
    https://fb.watch/s0hJ12wEyq/?

    ✅ฝีดาษลิง
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653
    ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767
    ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903
    ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178
    1/4 รวมลิงค์ข้อมูล อ.หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เฟสบุ๊ก https://www.facebook.com/thiravat.h เทเลแกรม DrThiravatFc https://t.me/DrThiravatFc รวมคลิป https://t.me/DrThiravatFc/10 ✅วัคซีนป้องกันไวรัส RSV ปลอดภัยจริงหรือ ✍️วางแผนจะนำมาฉีดในเด็ก ปรากฏว่าฉีดไปแล้ว โรคกลับรุนแรงกว่าที่ไม่ฉีด VRBPAC สั่งระงับ 12 ธันวาคม 2024 https://www.facebook.com/share/p/19wLKQmfRL/ ✍️หมอดื้อแนะ อย่าประสาทไปกับ HMPV RSV FluA/B โควิด ออกข่าวครึกโครม ลวงโลก https://www.facebook.com/share/p/18qguCWUet/ ✍️วัคซีนไม่ใช่ทางออกที่ปลอดภัย หมอดื้อแจงยาที่ถูกมองข้าม https://www.facebook.com/share/p/1QLPq56GZK/ ✍️อย สหรัฐให้ประกาศคำเตือนหลังฉีดวัคซีน RSV เกิด เส้นประสาทอักเสบทั้งตัว GBS https://www.facebook.com/share/p/18srXSRN6U/ ✍️วัคซีน RSV ที่ทดสอบในเด็กอายุเกินหกเดือน พบว่าเมื่อติดเชื้อกลับมีอาการของโรครุนแรงขึ้นต้องเข้าโรงพยาบาล https://www.fda.gov/vaccines-blood-biologics/safety-availability-biologics/fda-requires-guillain-barre-syndrome-gbs-warning-prescribing-information-rsv-vaccines-abrysvo-and?mtm_source=25 ✅กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​โควิด ✍️รายงาน​วิจัยจากสิงคโปร์​พบว่าอัตราการเป็นกล้ามเนื้อ​หัวใจ​อักเสบ​ในเด็กหนุ่ม​เพิ่มขึ้น​หลัง​จากมีการฉีดวัคซีน​ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122114046446647289/? ✍️ข้อมูล mRNA มีผลทำให้กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ | หมอชลธวัช https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115966158647289/? ✍️หัวใจอักเสบคุกรุ่น “แม้ไม่มีอาการ”หลังฉีด https://www.facebook.com/share/p/1AAfM5BcE6/ ✍️มะเร็งหัวใจ และเยื่อหุ้มหัวใจหลังจากวัคซีนโควิด mRNA (ตอน 1) หมอดื้อ https://www.thairath.co.th/life.../health-and-beauty/2857516 ✅มะเร็งเกิดขึ้นหรือถูกกระตุ้นให้กลับมาหลังฉีดวัคซีน https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02FVi4WuRgef8kC5f71Qw3tubcgMbEFau3mPMAiThsK4agnxC6N4J5NKYaUQi5vFDgl&id=61569418676886 ✍️มะเร็งเทอร์โบ https://www.facebook.com/share/v/15bc7uQxNE/ ✍️ วัคซีนโควิดกับการเกิดมะเร็ง โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ตอนที่ 1 https://mgronline.com/qol/detail/9670000048189 ตอนที่ 2 https://mgronline.com/qol/detail/9670000049444 ตอนที่ 3 https://mgronline.com/qol/detail/9670000051574 ✍️วันที่ 22 ก.ย. 2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยรายงานพบมะเร็งกลับมาปะทุหลังฉีดวัคซีนชนิด mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000090347 ✍️"หมอธีระวัฒน์"ยกเคสมะเร็ง "อ๋อม อรรคพันธ์" อ้างวัคซีนเป็นตัวแปรสำคัญ | TNews | LINE TODAY https://liff.line.me/1454988218.../v2/article/WBMQJxa... ✍️ มะเร็งเพิ่มหลังฉีดวัคซีนโควิดในญี่ปุ่น : กรณีศึกษาในไทย https://mgronline.com/qol/detail/9670000034512 ✍️ มะเร็งเทอร์โบในเด็ก 1. https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116607024647289/? 2. https://fb.watch/xgObb-ReDH/? ✍️ มะเร็งปะทุใหม่หลังฉีดวัคซีนจากที่สงบไปนาน | หมอดื้อ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115654266647289/? ✍️ มะเร็งกลับมาจากที่สงบหลังฉีดวัคซีนโควิด | หมอดื้อ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115654266647289/? ✍️ตัวอย่างเคส https://www.facebook.com/share/v/1E2AH3CWc4/ ✍️ กราฟข้อมูลมะเร็งในคนไทย https://www.facebook.com/share/p/1AedfWoHFe/ ✅เส้นเลือด ตีบ แตก หลังฉีดวัคซีนโควิด ✍️นพ.ธีระวัฒน์ ยกงานวิจัย ชี้ชัดวัคซีนโควิด ทำเส้นเลือดอุดตัน การเสียชีวิตเพิ่มขึ้นแปรตามการฉีดวัคซีน https://youtu.be/JFwdcP39MnM?si=7QPRmcaWOANYMJ87 ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ตอนที่ 1 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2771028?fbclid=IwAR1pkyxDX_jFkVEQbzXjfGtceZzJ2mJE03F3MQRJnzU38cqYXvISepZSd_Q_aem_AZrEdPuBNjgPV7MJ4YsCNlQdS6JfmK9SPSAsH1-_vYAWA1vdDg2EVOLz8hIq-Nevma4 ตอนที่ 2 https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2772908?fbclid=IwAR13RoEjgxf3CrrgF51ohoVxNhLK3yURY7dpOLy13mzqW9ol2A4-PYBZ-RA_aem_AZoGDrOXN2rMfSOoqsup5ND7MgibhvqyTau7W7IHunslXHmzdppoFuhBkbdhlBadsdI ✍️แฉ แท่งย้วย ในเส้นเลือด โดย อ.หมอธีระวัฒน์ ในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122101484966647289/? ✍️“หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพ“ แจงละเอียดยิบ “แท่งย้วยขาวในหลอดเลือด” (White Clot) และโปรตีนหนามทั่วร่างกายไปไกลถึงลูกอัณฑะ / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://www.facebook.com/100044511276276/posts/945435006950200/? ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694 ✍️“หมอธีระวัฒน์” ย้ำแท่งย้วยสีขาวเริ่มพบกลางปี 2021 หลังมีการใช้วัคซีน mRNA ยันไม่ใช่นักต่อต้านวัคซีน https://mgronline.com/qol/detail/9670000015912 ✍️ปรากฏการณ์แท่งย้วยสีขาวตันเส้นเลือด https://mgronline.com/qol/detail/9670000015694 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เผยพบปรากฏการณ์ที่ไม่ได้เห็นมาก่อนในคนฉีดวัคซีน mRNA https://mgronline.com/qol/detail/9670000015334 ✍️นวัตกรรมสุดยอดของวัคซีนเลื้อยดุ ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา https://mgronline.com/daily/detail/9670000023136 ✍️White Clot ยังไม่จบ “หมอธีระวัฒน์” พร้อมตอบแบบจัดเต็ม ในงาน “ความจริงมีหนึ่งเดียว” 17 มี.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000020769 ✍️เลือดปนเปื้อนด้วยโปรตีนหนาม https://www.facebook.com/share/p/14dqeCPBP8/ ✍️ลิ่มเลือดอุด เส้นเลือดใหญ่สมอง ทนเหนียวไม่สลายง่าย https://www.facebook.com/share/p/1CHifW8D4G/ ✍️การฉีดวัคซีนโควิด ทำให้เกิดผลระยะยาว โดย อ.หมอธีระวัฒน์ https://www.facebook.com/share/p/18SXM79N29/ ✍️แท่งย้วยสีขาวในหลอดเลือด เกิดขึ้น “ก่อน”ตายเท่านั้น รีบช่วยชมและแชร์ก่อนถูกลบ https://fb.watch/s0hNc3DymZ/? https://fb.watch/s0hJ12wEyq/? ✅ฝีดาษลิง ✍️“หมอธีระวัฒน์” ชี้ฝีดาษลิงติดไม่ง่าย ไม่ต้องประสาทกินหาวัคซีนมาฉีด เผยไทยมีของดี “ขมิ้นชัน” สู้ไวรัสได้ https://mgronline.com/qol/detail/9670000077653 ✍️วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต ออกแถลงการณ์แนะคนไทยตั้งสติ อย่าตื่นตระหนกฝีดาษวานร 23ส.ค.2567 https://mgronline.com/qol/detail/9670000078027 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะคนไทยไม่กระพือ “ฝีดาษลิง” ให้เป็นสถานกาณ์ฉุกเฉินเพื่อฉีดวัคซีน ชี้ควบคุมได้ด้วยการปฏิบัติตัว https://mgronline.com/qol/detail/9670000079767 ✍️ “หมอธีระวัฒน์” เผยเบื้องหลังที่มาวัคซีนฝีดาษลิง ที่กำลังจะประกาศใช้ทั่วโลก https://mgronline.com/qol/detail/9670000073435 ✍️“หมอธีระวัฒน์” เปิดผลสอบสวน “ฝีดาษลิง” ธรรมชาติสร้างหรือมนุษยฺ์ประดิษฐ์ https://mgronline.com/qol/detail/9670000082903 ✍️“หมอธีระวัฒน์” แนะจับตาพวกกระพือข่าวให้ตื่นกลัวฝีดาษลิง หวังค้าวัคซีน หลังกรมควบคุมโรคยืนยันแล้วอัตราระบาดต่ำ https://mgronline.com/qol/detail/9670000083178
    0 Comments 0 Shares 279 Views 0 Reviews
  • 🔄 Linux Foundation เปิดตัวแพลตฟอร์มกลางเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในชุมชน WordPress
    Linux Foundation (LF) ได้เปิดตัว Fair Package Manager Project ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับ จัดการและเผยแพร่ปลั๊กอิน, ธีม และเครื่องมือของ WordPress โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความขัดแย้งระหว่าง WordPress.org และ WP Engine

    🔍 เหตุผลที่ Linux Foundation เข้ามาแทรกแซง
    Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress และ WP Engine มีข้อพิพาทเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรของ WordPress.org ซึ่งส่งผลให้ ชุมชน WordPress อาจแตกแยก LF จึงเสนอ แพลตฟอร์มกลางที่เป็นกลางและไม่ขึ้นกับบริษัทใด เพื่อให้ นักพัฒนาและผู้ใช้สามารถเข้าถึงปลั๊กอินและธีมได้อย่างเสรี

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Linux Foundation เปิดตัว Fair Package Manager Project เพื่อจัดการปลั๊กอินและธีมของ WordPress
    - แพลตฟอร์มนี้เป็นทางเลือกแทน WordPress.org ที่มีการควบคุมแบบรวมศูนย์
    - Fair สามารถใช้เป็นปลั๊กอินแยก หรือเป็น WordPress เวอร์ชันที่ติดตั้งปลั๊กอินนี้มาแล้ว
    - ช่วยลดการพึ่งพาแหล่งเดียวในการอัปเดต WordPress และปลั๊กอิน
    - แพลตฟอร์มนี้ออกแบบให้สอดคล้องกับ GDPR และลดการส่งข้อมูลไปยังบริษัทเชิงพาณิชย์

    🔥 ความขัดแย้งระหว่าง WordPress.org และ WP Engine
    ในปี 2024 Mullenweg วิจารณ์ WP Engine ว่าใช้ทรัพยากรของ WordPress.org เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจโดยไม่จ่ายค่าตอบแทน ทำให้เกิดความขัดแย้งในชุมชน WordPress

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Fair Package Manager Project อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบนิเวศของ WordPress
    - ต้องติดตามว่าผู้ใช้และนักพัฒนาจะยอมรับแพลตฟอร์มใหม่นี้หรือไม่
    - WP Engine อาจตอบโต้ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อแข่งขัน
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อธุรกิจที่พึ่งพา WordPress.org ในการจัดการปลั๊กอินและธีม

    🚀 ผลกระทบต่ออนาคตของ WordPress
    Fair Package Manager Project อาจช่วยให้ WordPress มีความเป็นกลางมากขึ้น และ ลดความขัดแย้งภายในชุมชน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อการพัฒนา WordPress ในระยะยาวอย่างไร

    https://www.techspot.com/news/108233-linux-foundation-steps-neutral-solution-wordpress-crisis.html
    🔄 Linux Foundation เปิดตัวแพลตฟอร์มกลางเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในชุมชน WordPress Linux Foundation (LF) ได้เปิดตัว Fair Package Manager Project ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกลางสำหรับ จัดการและเผยแพร่ปลั๊กอิน, ธีม และเครื่องมือของ WordPress โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดความขัดแย้งระหว่าง WordPress.org และ WP Engine 🔍 เหตุผลที่ Linux Foundation เข้ามาแทรกแซง Matt Mullenweg ผู้ก่อตั้ง WordPress และ WP Engine มีข้อพิพาทเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรของ WordPress.org ซึ่งส่งผลให้ ชุมชน WordPress อาจแตกแยก LF จึงเสนอ แพลตฟอร์มกลางที่เป็นกลางและไม่ขึ้นกับบริษัทใด เพื่อให้ นักพัฒนาและผู้ใช้สามารถเข้าถึงปลั๊กอินและธีมได้อย่างเสรี ✅ ข้อมูลจากข่าว - Linux Foundation เปิดตัว Fair Package Manager Project เพื่อจัดการปลั๊กอินและธีมของ WordPress - แพลตฟอร์มนี้เป็นทางเลือกแทน WordPress.org ที่มีการควบคุมแบบรวมศูนย์ - Fair สามารถใช้เป็นปลั๊กอินแยก หรือเป็น WordPress เวอร์ชันที่ติดตั้งปลั๊กอินนี้มาแล้ว - ช่วยลดการพึ่งพาแหล่งเดียวในการอัปเดต WordPress และปลั๊กอิน - แพลตฟอร์มนี้ออกแบบให้สอดคล้องกับ GDPR และลดการส่งข้อมูลไปยังบริษัทเชิงพาณิชย์ 🔥 ความขัดแย้งระหว่าง WordPress.org และ WP Engine ในปี 2024 Mullenweg วิจารณ์ WP Engine ว่าใช้ทรัพยากรของ WordPress.org เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจโดยไม่จ่ายค่าตอบแทน ทำให้เกิดความขัดแย้งในชุมชน WordPress ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Fair Package Manager Project อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบนิเวศของ WordPress - ต้องติดตามว่าผู้ใช้และนักพัฒนาจะยอมรับแพลตฟอร์มใหม่นี้หรือไม่ - WP Engine อาจตอบโต้ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มของตนเองเพื่อแข่งขัน - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อธุรกิจที่พึ่งพา WordPress.org ในการจัดการปลั๊กอินและธีม 🚀 ผลกระทบต่ออนาคตของ WordPress Fair Package Manager Project อาจช่วยให้ WordPress มีความเป็นกลางมากขึ้น และ ลดความขัดแย้งภายในชุมชน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อการพัฒนา WordPress ในระยะยาวอย่างไร https://www.techspot.com/news/108233-linux-foundation-steps-neutral-solution-wordpress-crisis.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Linux Foundation steps in with neutral solution to WordPress crisis
    While Matt Mullenweg and WP Engine are fighting for the heart (and money) of WordPress, the Linux Foundation (LF) is trying to bring some semblance of order...
    0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • 📈 กองทุนคริปโตทำสถิติสูงสุด นักลงทุนใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง
    สินทรัพย์ที่ถือครองโดย กองทุนคริปโต ทำสถิติสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยมี เงินไหลเข้าสุทธิ 7.05 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ทำให้ มูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 167 พันล้านดอลลาร์

    🔍 เหตุผลที่นักลงทุนหันมาใช้คริปโต
    การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า ช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง และนักลงทุนบางส่วน ใช้คริปโตเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด รวมถึง กระจายพอร์ตการลงทุนออกจากสินทรัพย์ในสหรัฐฯ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - กองทุนคริปโตมีเงินไหลเข้าสุทธิ 7.05 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม
    - มูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 167 พันล้านดอลลาร์
    - Bitcoin เพิ่มขึ้นกว่า 15% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
    - Bitcoin มีผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี MSCI World (+3.6%) และทองคำ (+13.3%)
    - การอนุมัติ ETF ของ Bitcoin และ Ether ในสหรัฐฯ ช่วยเพิ่มการลงทุนจากสถาบัน

    🔥 การเปลี่ยนแปลงในพอร์ตการลงทุน
    ในขณะที่กองทุนคริปโตมีเงินไหลเข้า กองทุนหุ้นทั่วโลกมีเงินไหลออกสุทธิ 5.9 พันล้านดอลลาร์ และ กองทุนทองคำมีเงินไหลออกครั้งแรกในรอบ 15 เดือน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ Bitcoin จะมีผลตอบแทนสูง แต่ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง
    - การลดลงของเงินไหลเข้าสู่กองทุนหุ้นและทองคำ อาจสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาด
    - ต้องติดตามว่าการลงทุนในคริปโตจะยังคงแข็งแกร่งหรือไม่ หลังจากกระแส ETF เริ่มนิ่ง
    - นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงของคริปโตในระยะยาว แม้ว่าจะมีการใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/09/crypto-funds039-assets-hit-record-high-as-investors-hedge-and-diversify
    📈 กองทุนคริปโตทำสถิติสูงสุด นักลงทุนใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง สินทรัพย์ที่ถือครองโดย กองทุนคริปโต ทำสถิติสูงสุดในเดือนพฤษภาคม 2025 โดยมี เงินไหลเข้าสุทธิ 7.05 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024 ทำให้ มูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 167 พันล้านดอลลาร์ 🔍 เหตุผลที่นักลงทุนหันมาใช้คริปโต การผ่อนคลายความตึงเครียดทางการค้า ช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง และนักลงทุนบางส่วน ใช้คริปโตเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด รวมถึง กระจายพอร์ตการลงทุนออกจากสินทรัพย์ในสหรัฐฯ ✅ ข้อมูลจากข่าว - กองทุนคริปโตมีเงินไหลเข้าสุทธิ 7.05 พันล้านดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม - มูลค่ารวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 167 พันล้านดอลลาร์ - Bitcoin เพิ่มขึ้นกว่า 15% ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา - Bitcoin มีผลตอบแทนสูงกว่าดัชนี MSCI World (+3.6%) และทองคำ (+13.3%) - การอนุมัติ ETF ของ Bitcoin และ Ether ในสหรัฐฯ ช่วยเพิ่มการลงทุนจากสถาบัน 🔥 การเปลี่ยนแปลงในพอร์ตการลงทุน ในขณะที่กองทุนคริปโตมีเงินไหลเข้า กองทุนหุ้นทั่วโลกมีเงินไหลออกสุทธิ 5.9 พันล้านดอลลาร์ และ กองทุนทองคำมีเงินไหลออกครั้งแรกในรอบ 15 เดือน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ Bitcoin จะมีผลตอบแทนสูง แต่ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง - การลดลงของเงินไหลเข้าสู่กองทุนหุ้นและทองคำ อาจสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาด - ต้องติดตามว่าการลงทุนในคริปโตจะยังคงแข็งแกร่งหรือไม่ หลังจากกระแส ETF เริ่มนิ่ง - นักลงทุนควรพิจารณาความเสี่ยงของคริปโตในระยะยาว แม้ว่าจะมีการใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/09/crypto-funds039-assets-hit-record-high-as-investors-hedge-and-diversify
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Crypto funds' assets hit record high as investors hedge and diversify
    (Reuters) -Assets held in crypto funds hit a record high in May as easing trade tensions lifted risk appetite and some investors used the digital currencies to hedge against market volatility and diversify from their U.S. holdings.
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
More Results