• เครื่องบิน Su-57 ของรัสเซีย และ F-35A ของอเมริกา เตรียมเข้าแสดงในงาน Aero India 2025 ที่เมืองเบงกาลูรู เพื่อชิงความสนใจจากกองทัพอากาศอินเดีย

    รัสเซียเสนอ Su-57 ให้กับอินเดียในราคาลดพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และยกระดับฝูงบินของอินเดียที่ใกล้ปลดประจำการ

    มีรายงานว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯยกเลิกการบินโชว์ของ F-35 โดยจะเปลี่ยนเป็นเครื่องบิน F-16 รุ่นอัปเกรดทำการบินแทน ส่วนเครื่องบิน F-35 จะถูกนำมาจอดโชว์ และอาจมีการบินโชว์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    เครื่องบิน Su-57 ของรัสเซีย และ F-35A ของอเมริกา เตรียมเข้าแสดงในงาน Aero India 2025 ที่เมืองเบงกาลูรู เพื่อชิงความสนใจจากกองทัพอากาศอินเดีย รัสเซียเสนอ Su-57 ให้กับอินเดียในราคาลดพิเศษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์และยกระดับฝูงบินของอินเดียที่ใกล้ปลดประจำการ มีรายงานว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯยกเลิกการบินโชว์ของ F-35 โดยจะเปลี่ยนเป็นเครื่องบิน F-16 รุ่นอัปเกรดทำการบินแทน ส่วนเครื่องบิน F-35 จะถูกนำมาจอดโชว์ และอาจมีการบินโชว์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 213 Views 20 0 Reviews
  • 35 ปี สัญญาณเริ่มล่มสลาย “สหภาพโซเวียต” เปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ จุดสิ้นสุดพรรคคอมมิวนิสต์

    📅 ย้อนไปเมื่อ 35 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2533 (1990) เป็นวันที่เปรียบเสมือน “ระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลง” ของสหภาพโซเวียต (USSR) เมื่อคณะกรรมาธิการกลาง ของพรรคคอมมิวนิสต์ ประกาศยุติการผูกขาดอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญ ที่นำไปสู่การล่มสลาย ของมหาอำนาจยุคสงครามเย็น ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี

    จากการปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ เพียงพรรคเดียว มายาวนานกว่า 70 ปี สหภาพโซเวียต ต้องเผชิญกับปัญหาภายใน อย่างหนักหน่วง ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ การเมืองที่เริ่มไร้เสถียรภาพ และขบวนการชาตินิยม ในสาธารณรัฐต่างๆ ที่ต้องการแยกตัวออก ในที่สุด ระบบที่เคยแข็งแกร่ง ก็ต้องถึงกาลอวสาน

    🔴 จากการปฏิวัติ สู่มหาอำนาจโลก ต้นกำเนิดของ USSR 📌
    สหภาพโซเวียต (Union of Soviet Socialist Republics: USSR) ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 30 ธันวาคม 2465 หลังการปฏิวัติเดือนตุลาคม (1917) ที่พรรคบอลเชวิค ภายใต้การนำของ วลาดีมีร์ เลนิน (Vladimir Lenin) โค่นล้มระบอบกษัตริย์ และรัฐบาลเฉพาะกาลของรัสเซีย

    USSR ประกอบด้วย 15 สาธารณรัฐย่อย ได้แก่ รัสเซีย ยูเครน เบลารุส เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย มอลโดวา จอร์เจีย อาร์มีเนีย อาเซอร์ไบจาน คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน คีร์กีซสถาน และทาจิกิสถาน

    👉 เมืองหลวงของสหภาพโซเวียตคือ มอสโก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม

    📌 สมัยแห่งอำนาจของสหภาพโซเวียต
    หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหภาพโซเวียตกลายเป็น หนึ่งในสองมหาอำนาจของโลก คู่กับสหรัฐอเมริกา นำไปสู่สงครามเย็น (Cold War) ที่กินเวลายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ

    พรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการปกครอง ควบคุมทุกด้านของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในขณะเดียวกัน สหภาพโซเวียตมีบทบาทสำคัญ ในวงการอวกาศ เช่น ส่ง ยูริ กาการิน (Yuri Gagarin) เป็นมนุษย์คนแรก ที่ขึ้นสู่อวกาศในปี 2504

    🔥 สัญญาณแห่งการล่มสลาย ปัจจัยที่ทำให้ USSR พังทลาย
    แม้ว่าสหภาพโซเวียต จะดูแข็งแกร่งจากภายนอก แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยรอยร้าว ที่ค่อยๆ ก่อตัวจนถึงจุดแตกหัก

    📉 1. วิกฤตเศรษฐกิจ ระบบเศรษฐกิจแบบรวมศูนย์ที่ล้มเหลว
    เศรษฐกิจของสหภาพโซเวียต เป็นระบบวางแผนจากส่วนกลาง (Centralized Economy) ซึ่งรัฐบาลควบคุมทุกอย่าง ตั้งแต่การผลิต ไปจนถึงการจัดสรรทรัพยากร แต่ระบบนี้ เริ่มประสบปัญหาหนักในช่วงปี 2523

    - ขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ประชาชนต้องต่อแถวซื้อขนมปัง เป็นชั่วโมง
    - ประสิทธิภาพการผลิตต่ำ ไม่มีแรงจูงใจให้แรงงานทำงานหนัก
    - ค่าใช้จ่ายทางทหารสูงลิ่ว ต้องใช้เงินจำนวนมาก ในการแข่งขันอาวุธกับสหรัฐฯ

    ⚔️ 2. สงครามอัฟกานิสถาน (1979-1989) บาดแผลที่ยากจะสมาน
    การส่งทหาร เข้าไปช่วยรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ในอัฟกานิสถาน กลายเป็นสงครามเวียดนาม ของโซเวียต เนื่องจากถูกกองกำลังมูจาฮิดีน ต่อต้านอย่างหนัก สงครามนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้โซเวียต สูญเสียทหารจำนวนมาก แต่ยังทำลายขวัญกำลังใจ ของประชาชนอีกด้วย

    🌍 3. ขบวนการแยกตัว ของสาธารณรัฐต่างๆ
    หลายสาธารณรัฐภายใน USSR เริ่มมีความต้องการเป็นอิสระ เช่น
    - กลุ่มบอลติก (เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย) ประกาศเอกราชในปี 2533
    - ยูเครนและจอร์เจีย มีการเคลื่อนไหวเพื่อแยกตัว

    เมื่อรัฐบาลกลาง ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทำให้เกิดการล่มสลายในที่สุด

    🛑 4. การปฏิรูปของกอร์บาชอฟ กลัสนอสต์ & เปเรสตรอยคา
    เมื่อ มีฮาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail Gorbachev) ขึ้นเป็นผู้นำในปี 2528 เขาพยายามปฏิรูปประเทศผ่านนโยบายสำคัญ 2 ข้อ

    - กลัสนอสต์ (Glasnost) การเปิดเผยข้อมูล และให้เสรีภาพแก่ประชาชนมากขึ้น
    - เปเรสตรอยคา (Perestroika) การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ แบบตลาดเสรี

    แม้ว่านโยบายเหล่านี้ มีเป้าหมายที่ดี แต่กลับทำให้ปัญหาภายในปะทุเร็วขึ้น ประชาชนเริ่มเรียกร้องเสรีภาพมากขึ้น และในที่สุดพรรคคอมมิวนิสต์ ก็สูญเสียการควบคุม

    💥 วันที่พรรคคอมมิวนิสต์สูญเสียอำนาจ จุดจบของ USSR
    📆 7 กุมภาพันธ์ 2533 (1990) คณะกรรมาธิการกลาง ของพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งสหภาพโซเวียตประกาศ ยกเลิกการผูกขาดอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ

    📆 25 ธันวาคม 2534 (1991) กอร์บาชอฟลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และ USSR ยุติการดำรงอยู่ โดยรัสเซียกลายเป็นรัฐเอกราช

    👉 บอริส เยลต์ซิน (Boris Yeltsin) กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของรัสเซีย และอดีตสาธารณรัฐต่างๆ ก็แยกตัวเป็นเอกราช

    🎭 บทเรียนจากการล่มสลาย ของสหภาพโซเวียต
    - การรวมศูนย์อำนาจมากเกินไป อาจเป็นจุดอ่อน แทนที่จะเป็นจุดแข็ง
    - เศรษฐกิจที่ไร้ประสิทธิภาพ นำไปสู่ความไม่พอใจของประชาชน
    - การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเกินไป อาจทำให้เกิดความไม่แน่นอน

    📢 35 ปี หลังจากวันที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่ง USSR สูญเสียอำนาจ โลกยังคงเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ การล่มสลายของโซเวียต ไม่ใช่แค่เรื่องของอดีต แต่มันเป็นบทเรียนสำหรับทุกประเทศ ที่ต้องการคงไว้ซึ่งเสถียรภาพ และอำนาจ 📌

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 071329 ก.พ. 2568

    #สหภาพโซเวียต #USSR #โซเวียตล่มสลาย #สงครามเย็น #คอมมิวนิสต์ #Gorbachev #เยลต์ซิน #ColdWar
    35 ปี สัญญาณเริ่มล่มสลาย “สหภาพโซเวียต” เปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ จุดสิ้นสุดพรรคคอมมิวนิสต์ 📅 ย้อนไปเมื่อ 35 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2533 (1990) เป็นวันที่เปรียบเสมือน “ระฆังแห่งการเปลี่ยนแปลง” ของสหภาพโซเวียต (USSR) เมื่อคณะกรรมาธิการกลาง ของพรรคคอมมิวนิสต์ ประกาศยุติการผูกขาดอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญ ที่นำไปสู่การล่มสลาย ของมหาอำนาจยุคสงครามเย็น ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี จากการปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ เพียงพรรคเดียว มายาวนานกว่า 70 ปี สหภาพโซเวียต ต้องเผชิญกับปัญหาภายใน อย่างหนักหน่วง ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจ การเมืองที่เริ่มไร้เสถียรภาพ และขบวนการชาตินิยม ในสาธารณรัฐต่างๆ ที่ต้องการแยกตัวออก ในที่สุด ระบบที่เคยแข็งแกร่ง ก็ต้องถึงกาลอวสาน 🔴 จากการปฏิวัติ สู่มหาอำนาจโลก ต้นกำเนิดของ USSR 📌 สหภาพโซเวียต (Union of Soviet Socialist Republics: USSR) ถือกำเนิดขึ้นในวันที่ 30 ธันวาคม 2465 หลังการปฏิวัติเดือนตุลาคม (1917) ที่พรรคบอลเชวิค ภายใต้การนำของ วลาดีมีร์ เลนิน (Vladimir Lenin) โค่นล้มระบอบกษัตริย์ และรัฐบาลเฉพาะกาลของรัสเซีย USSR ประกอบด้วย 15 สาธารณรัฐย่อย ได้แก่ รัสเซีย ยูเครน เบลารุส เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย มอลโดวา จอร์เจีย อาร์มีเนีย อาเซอร์ไบจาน คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน คีร์กีซสถาน และทาจิกิสถาน 👉 เมืองหลวงของสหภาพโซเวียตคือ มอสโก ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม 📌 สมัยแห่งอำนาจของสหภาพโซเวียต หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สหภาพโซเวียตกลายเป็น หนึ่งในสองมหาอำนาจของโลก คู่กับสหรัฐอเมริกา นำไปสู่สงครามเย็น (Cold War) ที่กินเวลายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ พรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการปกครอง ควบคุมทุกด้านของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ในขณะเดียวกัน สหภาพโซเวียตมีบทบาทสำคัญ ในวงการอวกาศ เช่น ส่ง ยูริ กาการิน (Yuri Gagarin) เป็นมนุษย์คนแรก ที่ขึ้นสู่อวกาศในปี 2504 🔥 สัญญาณแห่งการล่มสลาย ปัจจัยที่ทำให้ USSR พังทลาย แม้ว่าสหภาพโซเวียต จะดูแข็งแกร่งจากภายนอก แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยรอยร้าว ที่ค่อยๆ ก่อตัวจนถึงจุดแตกหัก 📉 1. วิกฤตเศรษฐกิจ ระบบเศรษฐกิจแบบรวมศูนย์ที่ล้มเหลว เศรษฐกิจของสหภาพโซเวียต เป็นระบบวางแผนจากส่วนกลาง (Centralized Economy) ซึ่งรัฐบาลควบคุมทุกอย่าง ตั้งแต่การผลิต ไปจนถึงการจัดสรรทรัพยากร แต่ระบบนี้ เริ่มประสบปัญหาหนักในช่วงปี 2523 - ขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภค ประชาชนต้องต่อแถวซื้อขนมปัง เป็นชั่วโมง - ประสิทธิภาพการผลิตต่ำ ไม่มีแรงจูงใจให้แรงงานทำงานหนัก - ค่าใช้จ่ายทางทหารสูงลิ่ว ต้องใช้เงินจำนวนมาก ในการแข่งขันอาวุธกับสหรัฐฯ ⚔️ 2. สงครามอัฟกานิสถาน (1979-1989) บาดแผลที่ยากจะสมาน การส่งทหาร เข้าไปช่วยรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ในอัฟกานิสถาน กลายเป็นสงครามเวียดนาม ของโซเวียต เนื่องจากถูกกองกำลังมูจาฮิดีน ต่อต้านอย่างหนัก สงครามนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้โซเวียต สูญเสียทหารจำนวนมาก แต่ยังทำลายขวัญกำลังใจ ของประชาชนอีกด้วย 🌍 3. ขบวนการแยกตัว ของสาธารณรัฐต่างๆ หลายสาธารณรัฐภายใน USSR เริ่มมีความต้องการเป็นอิสระ เช่น - กลุ่มบอลติก (เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย) ประกาศเอกราชในปี 2533 - ยูเครนและจอร์เจีย มีการเคลื่อนไหวเพื่อแยกตัว เมื่อรัฐบาลกลาง ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทำให้เกิดการล่มสลายในที่สุด 🛑 4. การปฏิรูปของกอร์บาชอฟ กลัสนอสต์ & เปเรสตรอยคา เมื่อ มีฮาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail Gorbachev) ขึ้นเป็นผู้นำในปี 2528 เขาพยายามปฏิรูปประเทศผ่านนโยบายสำคัญ 2 ข้อ - กลัสนอสต์ (Glasnost) การเปิดเผยข้อมูล และให้เสรีภาพแก่ประชาชนมากขึ้น - เปเรสตรอยคา (Perestroika) การปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ แบบตลาดเสรี แม้ว่านโยบายเหล่านี้ มีเป้าหมายที่ดี แต่กลับทำให้ปัญหาภายในปะทุเร็วขึ้น ประชาชนเริ่มเรียกร้องเสรีภาพมากขึ้น และในที่สุดพรรคคอมมิวนิสต์ ก็สูญเสียการควบคุม 💥 วันที่พรรคคอมมิวนิสต์สูญเสียอำนาจ จุดจบของ USSR 📆 7 กุมภาพันธ์ 2533 (1990) คณะกรรมาธิการกลาง ของพรรคคอมมิวนิสต์ แห่งสหภาพโซเวียตประกาศ ยกเลิกการผูกขาดอำนาจทางการเมือง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ 📆 25 ธันวาคม 2534 (1991) กอร์บาชอฟลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และ USSR ยุติการดำรงอยู่ โดยรัสเซียกลายเป็นรัฐเอกราช 👉 บอริส เยลต์ซิน (Boris Yeltsin) กลายเป็นผู้นำคนใหม่ของรัสเซีย และอดีตสาธารณรัฐต่างๆ ก็แยกตัวเป็นเอกราช 🎭 บทเรียนจากการล่มสลาย ของสหภาพโซเวียต - การรวมศูนย์อำนาจมากเกินไป อาจเป็นจุดอ่อน แทนที่จะเป็นจุดแข็ง - เศรษฐกิจที่ไร้ประสิทธิภาพ นำไปสู่ความไม่พอใจของประชาชน - การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเกินไป อาจทำให้เกิดความไม่แน่นอน 📢 35 ปี หลังจากวันที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่ง USSR สูญเสียอำนาจ โลกยังคงเรียนรู้จากเหตุการณ์นี้ การล่มสลายของโซเวียต ไม่ใช่แค่เรื่องของอดีต แต่มันเป็นบทเรียนสำหรับทุกประเทศ ที่ต้องการคงไว้ซึ่งเสถียรภาพ และอำนาจ 📌 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 071329 ก.พ. 2568 #สหภาพโซเวียต #USSR #โซเวียตล่มสลาย #สงครามเย็น #คอมมิวนิสต์ #Gorbachev #เยลต์ซิน #ColdWar
    0 Comments 0 Shares 108 Views 0 Reviews
  • Qualcomm ได้ออกมาเคลมว่าได้เข้าครองตลาดส่วนแบ่งตลาด 10% ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2025 ของ Windows PC ในสหรัฐฯ สำหรับอุปกรณ์ที่มีราคา 800 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2024

    ตามการวิเคราะห์ของ Sravan Kundojjala นักวิเคราะห์ของ Qualcomm ได้ระบุว่า 10% ของยอดขาย Windows PC ในสหรัฐฯ ที่มีราคา 800 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ใช้ชิป Snapdragon X ของบริษัท ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ท้าทายโดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าในไตรมาสที่สามของปี 2024 บริษัทเพิ่งครอบครองส่วนแบ่งตลาดเพียง 0.8% เท่านั้น

    การเติบโตของ Qualcomm นี้สามารถเห็นได้จากการเปิดตัวชิป Snapdragon X แบบ 8 คอร์ ซึ่งสามารถทำให้ราคาของอุปกรณ์ลดลงมาที่ประมาณ 600 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัวพีซีขนาดเล็กที่ใช้ชิปนี้ในอีกไม่กี่เดือนหลังจากที่บริษัทได้ยกเลิกชุดพัฒนาราคา 899 ดอลลาร์สหรัฐไป

    แม้ว่า Windows on Arm PC จะยังคงต้องพัฒนาต่อไปเพื่อให้สามารถแข่งขันกับอุปกรณ์ที่ใช้ x86_64 ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์และการเล่นเกม แต่ก็มีข้อดีในด้านประสิทธิภาพ โดยมีการทดสอบว่าพีซีที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 15 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งทำให้ Windows devices สามารถแข่งขันกับ MacBooks ของ Apple ได้

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/qualcomm-claims-it-owns-10-percent-of-u-s-windows-pc-retail-market-for-devices-priced-usd800-and-up
    Qualcomm ได้ออกมาเคลมว่าได้เข้าครองตลาดส่วนแบ่งตลาด 10% ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2025 ของ Windows PC ในสหรัฐฯ สำหรับอุปกรณ์ที่มีราคา 800 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2024 ตามการวิเคราะห์ของ Sravan Kundojjala นักวิเคราะห์ของ Qualcomm ได้ระบุว่า 10% ของยอดขาย Windows PC ในสหรัฐฯ ที่มีราคา 800 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป ใช้ชิป Snapdragon X ของบริษัท ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ท้าทายโดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าในไตรมาสที่สามของปี 2024 บริษัทเพิ่งครอบครองส่วนแบ่งตลาดเพียง 0.8% เท่านั้น การเติบโตของ Qualcomm นี้สามารถเห็นได้จากการเปิดตัวชิป Snapdragon X แบบ 8 คอร์ ซึ่งสามารถทำให้ราคาของอุปกรณ์ลดลงมาที่ประมาณ 600 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดตัวพีซีขนาดเล็กที่ใช้ชิปนี้ในอีกไม่กี่เดือนหลังจากที่บริษัทได้ยกเลิกชุดพัฒนาราคา 899 ดอลลาร์สหรัฐไป แม้ว่า Windows on Arm PC จะยังคงต้องพัฒนาต่อไปเพื่อให้สามารถแข่งขันกับอุปกรณ์ที่ใช้ x86_64 ได้ โดยเฉพาะในเรื่องของความเข้ากันได้กับซอฟต์แวร์และการเล่นเกม แต่ก็มีข้อดีในด้านประสิทธิภาพ โดยมีการทดสอบว่าพีซีที่ใช้ชิป Snapdragon X Elite สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 15 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งทำให้ Windows devices สามารถแข่งขันกับ MacBooks ของ Apple ได้ https://www.tomshardware.com/tech-industry/qualcomm-claims-it-owns-10-percent-of-u-s-windows-pc-retail-market-for-devices-priced-usd800-and-up
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • ว่าด้วยเรื่องตีกลองร้องฎีกา

    สวัสดีค่ะ ขออภัยที่หายเงียบไปสองสัปดาห์เพราะ Storyฯ งานเข้าและไม่สบายไปหลายวัน วันนี้ยังคงมีเกร็ดเรื่องเล่าจากละครเรื่อง <ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์> มาคุยกัน เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้คงจำได้ว่ามีฉากหนึ่งที่มู่ปา น้องสาวของนางเอกเข้าเมืองหลวงมาตีกลองร้องฎีกาและต้องถูกโบยสามสิบพลองเพราะตีกลองนั้น

    และหากเพื่อนเพจได้ดูละครเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน> ก็จะเคยเห็นฉากที่นางเอกตีกลองร้องฎีกาแล้วต้องถูกโบยยี่สิบพลองก่อนเช่นกัน แต่ในเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นั้น นางเอกก็เคยตีกลองร้องฎีกาแต่ไม่ต้องถูกโบย ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่เรื่อง <ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์> เป็นราชวงศ์สมมุติที่อิงจากสมัยถัง

    เรื่องการถูกโบยก่อนได้ร้องทุกข์จึงเป็นที่มาของความ ‘เอ๊ะ’ ในวันนี้

    ในสมัยโบราณ ชาวบ้านต้องการร้องทุกข์ก็จะไปดักรอขบวนเสด็จ แต่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และเพื่อแสดงความห่วงใยในประชาชนของกษัตริย์ จึงมีการกำหนดจุดร้องฎีกาขึ้นเพื่อให้มีขั้นตอนที่ชัดเจน วัตถุประสงค์ไม่เพียงเพื่อให้ประชาชนร้องทุกข์ แต่เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนออกความเห็นในเรื่องต่างๆ ได้อีกด้วย

    จากบันทึกโจวหลี่ การตีกลองร้องทุกข์มีมาแต่สมัยราชวงศ์โจว (1046 - 256 ปีก่อนคริสตกาล) โดยมีการวางกลองไว้ข้างถนน มีทหารเวรยามดูแล เมื่อมีคนมาตีกลอง ทหารต้องรายงานเบื้องบนจนถึงพระกรรณ

    นอกจากนี้ ยังมีการร้องทุกข์ด้วยการไปยืนอย่างเงียบๆ ข้างหินสีแดงสูงประมาณ 8-9 ฟุต เรียกว่า ‘หินเฟ่ยสือ’ (肺石 แปลตรงตัวว่า ปอดที่ทำจากหิน) สำหรับคนที่ต้องการร้องทุกข์แบบไม่โพนทะนา ยืนสามวัน ทหารที่เฝ้าอยู่ก็จะพาตัวไปรับเรื่องอย่างเงียบๆ

    มีการใช้ระบบร้องทุกข์ทั้งสองแบบนี้ต่อเนื่องกันมาโดยกำหนดสถานที่และหน่วยงานผู้ดูแลแตกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัย และในสมัยถังได้มีการพัฒนาระบบการร้องทุกข์อย่างเข้มข้น มีการแยกกลองร้องทุกข์ออกมาเป็นสองแบบ กลองร้องฎีกาต่อฮ่องเต้เรียกว่ากลอง ‘เติงเหวินกู่’ (登闻鼓 แปลตรงตัวได้ประมาณว่ากลองที่เสียงดังไปถึงราชบัลลังก์ในท้องพระโรง) แตกต่างจากกลองร้องทุกข์ทั่วไปที่ชาวบ้านในตีหน้าศาลหรือหน้าสถานที่ว่าการท้องถิ่นที่เรียกว่า ‘หมิงเยวียนกู่’ (鸣冤鼓)

    มีการบันทึกว่าในสมัยถังนั้น มีการตั้งกลองเติงเหวินกู่และหินเฟ่ยสือที่หน้าประตูอาคารนอกท้องพระโรง และมีทหารยามเฝ้าเพื่อคอยรับเรื่อง (แต่ไม่ได้บอกว่ายังต้องยืนข้างหินเฟ่ยสือนานถึงสามวันหรือไม่) ต่อมาในสมัยจักรพรรดินีบูเช็กเทียนยกเลิกการเฝ้าโดยทหาร ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความกลัว และให้มีเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจสอบขุนนางหรือที่เรียกว่า ‘อวี้สื่อไถ’ (御史台) มารับคำร้องโดยตรง

    ในยุคสมัยต่อมายังคงมีการใช้กลองเติงเหวินกู่ แต่นานวันเข้า เรื่องที่ได้รับการร้องทุกข์ผ่านการตีกลองเติงเหวินกู่ดูจะพร่ำเพรื่อขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นเรื่องร้องเรียนขุนนางระดับสูงหรือเรื่องระดับชาติบ้านเมือง จนทำให้ฮ่องเต้ต้องทรงหมดเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ในสมัยซ่งมีคดีร้องทุกข์ที่โด่งดังจนถูกจารึกไว้ในสมัยองค์ซ่งไท่จงว่า มีชาวบ้านมาตีกลองร้องฎีกาตามหาหมูที่หายไป จึงทรงพระราชทานเงินให้เป็นการชดเชย เป็นเรื่องเล่าที่แสดงถึงความ ‘เข้าถึง’ และความใส่พระทัยองค์ฮ่องเต้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความยิบย่อยของเรื่องที่มีการร้องฏีกา

    ในรัชสมัยต่อมาในราชวงศ์ซ่งจึงมีการพัฒนาระบบการร้องฎีกายิ่งขึ้น โดยกำหนดที่ตั้งกลองเติงเหวินกู่ไว้สามจุด ต่อมายุบเหลือสองจุด โดยมีหน่วยงานที่ดูแลแต่ละจุดและกลั่นกรองเรื่องต่างกัน

    ต่อมาในยุคหมิงและชิงยิ่งมีข้อกำหนดที่เข้มข้นมากขึ้นเกี่ยวกับการตีกลองเติงเหวินกู่ โดยกำหนดให้ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการทหารและการบริหารบ้านเมืองที่สำคัญ การทุจริตในระดับสูง หรือเรื่องที่ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างผิดแปลกมากเท่านั้น และในสมัยชิงนี่เองที่มีการกำหนดไว้ว่า ผู้ที่ตีกลองเติงเหวินกู่นั้น ต้องถูกโบยสามสิบพลองก่อน จึงจะยื่นฎีกาได้

    เมื่อกลองเติงเหวินกู่ดัง องค์ราชันมิอาจเพิกเฉย

    เนื่องด้วยเป็นเรื่องที่รู้ถึงพระเนตรพระกรรณ องค์ฮ่องเต้จึงทรงสามารถเข้าร่วมกระบวนการไต่สวนของหน่วยงานต่างๆ หรือทรงไต่สวนด้วยองค์เองก็ย่อมได้ และท้ายสุดจะทรงเป็นผู้ตัดสินคดีเอง แต่ในความเป็นจริงนั้นกระบวนการร้องฎีกานี้มีการรับเรื่องและตรวจสอบผ่านหน่วยงานต่างๆ ตามขั้นตอน ดังนั้น หนทางสู่การได้รับความยุติธรรมของผู้ที่ร้องทุกข์ก็ไม่ได้ง่ายหรือตรงไปตรงมาอย่างที่เราเห็นในละคร

    แต่ทั้งนี้ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ชาวบ้านยังสามารถตีกลองร้องทุกข์ปกติหน้าที่ว่าการอำเภอหรือหน้าศาลได้ โดยมีบทกำหนดขั้นตอนและเนื้อหาของเรื่องที่ร้องเรียน ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุและชนชั้นของผู้ที่ต้องการร้องทุกข์อีกด้วย อีกทั้งยังมีบทลงโทษรุนแรงสำหรับผู้ที่ร้องเรียนด้วยข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จ

    สรุปได้ว่า ในบริบทของสมัยถังนั้น Stoyฯ ไม่พบข้อมูลว่ามีการโบยผู้ตีกลองร้องฏีกาแต่อย่างใด

    ส่วนในสมัยซ่งซึ่งเป็นฉากหลังของละครเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน> และ <ตำนานหมิงหลัน> นั้น Storyฯ อ่านพบบทวิเคราะห์ว่า ในเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน> นั้น นางเอกตีกลองร้องทุกข์ว่าถูกผู้ชายหลอกว่าจะแต่งงานด้วยและพยายามหลอกเงิน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วอย่างชัดเจน (คือยังไม่ได้แต่งงานและเงินก็ไม่ได้ถูกเอาไป) อีกทั้งนางเป็นบุตรีของขุนนางที่เคยต้องโทษ จึงต้องถูกโบยยี่สิบพลองก่อนเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้กล่าวหาเท็จ แต่ในเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นั้น นางเอกไม่ต้องถูกโบยเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับราชสำนักโดยตรงและเป็นการร้องเรียนโดยตัวนางเอกซึ่งมียศสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Storyฯ หาไม่พบข้อมูลอื่นที่มายืนยันว่าในสมัยซ่งมีการโบยผู้ตีกลองร้องฎีกาจริงๆ หากท่านใดเคยผ่านตาผ่านหูมาก็บอกกล่าวกันได้ค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.wpzysq.com/thread-137854.htm
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/登闻鼓/9859346
    https://baike.baidu.com/item/肺石/5742166
    https://www.bj148.org/wh/bl/zh/201907/t20190718_1521655.html
    https://www.163.com/dy/article/GB17LQI20543L1MM.html
    https://www.gugong.net/wenhua/39062.html
    https://www.youtube.com/watch?v=O06IQj2yGKk

    #ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์ #ตำนานหมิงหลัน #สามบุปผาลิขิตฝัน #กระบวนการร้องทุกข์ #ตีกลองร้องทุกข์
    ว่าด้วยเรื่องตีกลองร้องฎีกา สวัสดีค่ะ ขออภัยที่หายเงียบไปสองสัปดาห์เพราะ Storyฯ งานเข้าและไม่สบายไปหลายวัน วันนี้ยังคงมีเกร็ดเรื่องเล่าจากละครเรื่อง <ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์> มาคุยกัน เพื่อนเพจที่ได้ดูละครเรื่องนี้คงจำได้ว่ามีฉากหนึ่งที่มู่ปา น้องสาวของนางเอกเข้าเมืองหลวงมาตีกลองร้องฎีกาและต้องถูกโบยสามสิบพลองเพราะตีกลองนั้น และหากเพื่อนเพจได้ดูละครเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน> ก็จะเคยเห็นฉากที่นางเอกตีกลองร้องฎีกาแล้วต้องถูกโบยยี่สิบพลองก่อนเช่นกัน แต่ในเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นั้น นางเอกก็เคยตีกลองร้องฎีกาแต่ไม่ต้องถูกโบย ซึ่งทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง แต่เรื่อง <ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์> เป็นราชวงศ์สมมุติที่อิงจากสมัยถัง เรื่องการถูกโบยก่อนได้ร้องทุกข์จึงเป็นที่มาของความ ‘เอ๊ะ’ ในวันนี้ ในสมัยโบราณ ชาวบ้านต้องการร้องทุกข์ก็จะไปดักรอขบวนเสด็จ แต่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และเพื่อแสดงความห่วงใยในประชาชนของกษัตริย์ จึงมีการกำหนดจุดร้องฎีกาขึ้นเพื่อให้มีขั้นตอนที่ชัดเจน วัตถุประสงค์ไม่เพียงเพื่อให้ประชาชนร้องทุกข์ แต่เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนออกความเห็นในเรื่องต่างๆ ได้อีกด้วย จากบันทึกโจวหลี่ การตีกลองร้องทุกข์มีมาแต่สมัยราชวงศ์โจว (1046 - 256 ปีก่อนคริสตกาล) โดยมีการวางกลองไว้ข้างถนน มีทหารเวรยามดูแล เมื่อมีคนมาตีกลอง ทหารต้องรายงานเบื้องบนจนถึงพระกรรณ นอกจากนี้ ยังมีการร้องทุกข์ด้วยการไปยืนอย่างเงียบๆ ข้างหินสีแดงสูงประมาณ 8-9 ฟุต เรียกว่า ‘หินเฟ่ยสือ’ (肺石 แปลตรงตัวว่า ปอดที่ทำจากหิน) สำหรับคนที่ต้องการร้องทุกข์แบบไม่โพนทะนา ยืนสามวัน ทหารที่เฝ้าอยู่ก็จะพาตัวไปรับเรื่องอย่างเงียบๆ มีการใช้ระบบร้องทุกข์ทั้งสองแบบนี้ต่อเนื่องกันมาโดยกำหนดสถานที่และหน่วยงานผู้ดูแลแตกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัย และในสมัยถังได้มีการพัฒนาระบบการร้องทุกข์อย่างเข้มข้น มีการแยกกลองร้องทุกข์ออกมาเป็นสองแบบ กลองร้องฎีกาต่อฮ่องเต้เรียกว่ากลอง ‘เติงเหวินกู่’ (登闻鼓 แปลตรงตัวได้ประมาณว่ากลองที่เสียงดังไปถึงราชบัลลังก์ในท้องพระโรง) แตกต่างจากกลองร้องทุกข์ทั่วไปที่ชาวบ้านในตีหน้าศาลหรือหน้าสถานที่ว่าการท้องถิ่นที่เรียกว่า ‘หมิงเยวียนกู่’ (鸣冤鼓) มีการบันทึกว่าในสมัยถังนั้น มีการตั้งกลองเติงเหวินกู่และหินเฟ่ยสือที่หน้าประตูอาคารนอกท้องพระโรง และมีทหารยามเฝ้าเพื่อคอยรับเรื่อง (แต่ไม่ได้บอกว่ายังต้องยืนข้างหินเฟ่ยสือนานถึงสามวันหรือไม่) ต่อมาในสมัยจักรพรรดินีบูเช็กเทียนยกเลิกการเฝ้าโดยทหาร ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความกลัว และให้มีเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจสอบขุนนางหรือที่เรียกว่า ‘อวี้สื่อไถ’ (御史台) มารับคำร้องโดยตรง ในยุคสมัยต่อมายังคงมีการใช้กลองเติงเหวินกู่ แต่นานวันเข้า เรื่องที่ได้รับการร้องทุกข์ผ่านการตีกลองเติงเหวินกู่ดูจะพร่ำเพรื่อขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นเรื่องร้องเรียนขุนนางระดับสูงหรือเรื่องระดับชาติบ้านเมือง จนทำให้ฮ่องเต้ต้องทรงหมดเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ในสมัยซ่งมีคดีร้องทุกข์ที่โด่งดังจนถูกจารึกไว้ในสมัยองค์ซ่งไท่จงว่า มีชาวบ้านมาตีกลองร้องฎีกาตามหาหมูที่หายไป จึงทรงพระราชทานเงินให้เป็นการชดเชย เป็นเรื่องเล่าที่แสดงถึงความ ‘เข้าถึง’ และความใส่พระทัยองค์ฮ่องเต้ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความยิบย่อยของเรื่องที่มีการร้องฏีกา ในรัชสมัยต่อมาในราชวงศ์ซ่งจึงมีการพัฒนาระบบการร้องฎีกายิ่งขึ้น โดยกำหนดที่ตั้งกลองเติงเหวินกู่ไว้สามจุด ต่อมายุบเหลือสองจุด โดยมีหน่วยงานที่ดูแลแต่ละจุดและกลั่นกรองเรื่องต่างกัน ต่อมาในยุคหมิงและชิงยิ่งมีข้อกำหนดที่เข้มข้นมากขึ้นเกี่ยวกับการตีกลองเติงเหวินกู่ โดยกำหนดให้ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการทหารและการบริหารบ้านเมืองที่สำคัญ การทุจริตในระดับสูง หรือเรื่องที่ได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างผิดแปลกมากเท่านั้น และในสมัยชิงนี่เองที่มีการกำหนดไว้ว่า ผู้ที่ตีกลองเติงเหวินกู่นั้น ต้องถูกโบยสามสิบพลองก่อน จึงจะยื่นฎีกาได้ เมื่อกลองเติงเหวินกู่ดัง องค์ราชันมิอาจเพิกเฉย เนื่องด้วยเป็นเรื่องที่รู้ถึงพระเนตรพระกรรณ องค์ฮ่องเต้จึงทรงสามารถเข้าร่วมกระบวนการไต่สวนของหน่วยงานต่างๆ หรือทรงไต่สวนด้วยองค์เองก็ย่อมได้ และท้ายสุดจะทรงเป็นผู้ตัดสินคดีเอง แต่ในความเป็นจริงนั้นกระบวนการร้องฎีกานี้มีการรับเรื่องและตรวจสอบผ่านหน่วยงานต่างๆ ตามขั้นตอน ดังนั้น หนทางสู่การได้รับความยุติธรรมของผู้ที่ร้องทุกข์ก็ไม่ได้ง่ายหรือตรงไปตรงมาอย่างที่เราเห็นในละคร แต่ทั้งนี้ อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ชาวบ้านยังสามารถตีกลองร้องทุกข์ปกติหน้าที่ว่าการอำเภอหรือหน้าศาลได้ โดยมีบทกำหนดขั้นตอนและเนื้อหาของเรื่องที่ร้องเรียน ซึ่งขึ้นอยู่กับอายุและชนชั้นของผู้ที่ต้องการร้องทุกข์อีกด้วย อีกทั้งยังมีบทลงโทษรุนแรงสำหรับผู้ที่ร้องเรียนด้วยข้อกล่าวหาอันเป็นเท็จ สรุปได้ว่า ในบริบทของสมัยถังนั้น Stoyฯ ไม่พบข้อมูลว่ามีการโบยผู้ตีกลองร้องฏีกาแต่อย่างใด ส่วนในสมัยซ่งซึ่งเป็นฉากหลังของละครเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน> และ <ตำนานหมิงหลัน> นั้น Storyฯ อ่านพบบทวิเคราะห์ว่า ในเรื่อง <สามบุปผาลิขิตฝัน> นั้น นางเอกตีกลองร้องทุกข์ว่าถูกผู้ชายหลอกว่าจะแต่งงานด้วยและพยายามหลอกเงิน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วอย่างชัดเจน (คือยังไม่ได้แต่งงานและเงินก็ไม่ได้ถูกเอาไป) อีกทั้งนางเป็นบุตรีของขุนนางที่เคยต้องโทษ จึงต้องถูกโบยยี่สิบพลองก่อนเพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้กล่าวหาเท็จ แต่ในเรื่อง <ตำนานหมิงหลัน> นั้น นางเอกไม่ต้องถูกโบยเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับราชสำนักโดยตรงและเป็นการร้องเรียนโดยตัวนางเอกซึ่งมียศสูง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Storyฯ หาไม่พบข้อมูลอื่นที่มายืนยันว่าในสมัยซ่งมีการโบยผู้ตีกลองร้องฎีกาจริงๆ หากท่านใดเคยผ่านตาผ่านหูมาก็บอกกล่าวกันได้ค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.wpzysq.com/thread-137854.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/登闻鼓/9859346 https://baike.baidu.com/item/肺石/5742166 https://www.bj148.org/wh/bl/zh/201907/t20190718_1521655.html https://www.163.com/dy/article/GB17LQI20543L1MM.html https://www.gugong.net/wenhua/39062.html https://www.youtube.com/watch?v=O06IQj2yGKk #ยอดขุนนางหญิงเจ้าเสน่ห์ #ตำนานหมิงหลัน #สามบุปผาลิขิตฝัน #กระบวนการร้องทุกข์ #ตีกลองร้องทุกข์
    WWW.WPZYSQ.COM
    灼灼风流4K[全40集]古装/爱情/2023-4K专区-网盘资源社
    灼灼风流4K[全40集]古装/爱情/2023的网盘资源剧集简介该剧改编自随宇而安的小说《曾风流》。反抗传统婚姻制度、一心考取功名的事业脑女官慕灼华(景甜饰)与沙场沐血折戟、背负国仇家恨的美强惨战神刘衍(冯绍峰饰)彼此救赎、相知相爱,携手攘外安内、守卫国家,终成一代风流人物的故事。[ttreply]2023.灼灼风流4K
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • 67 ปี หายนะเที่ยวบิน 609 ไถลหิมะรันเวย์มิวนิค-รีม โยนความผิดนักบิน เสียชีวิตรวมทีมแมนยู 23 ศพ

    ย้อนรอยเหตุการณ์สุดเศร้า 67 ปี ที่ผ่านมา เที่ยวบิน 609 ของสายการบินบริติชยูโรเปียนแอร์เวย์ส ไถลออกนอกรันเวย์ ท่ามกลางหิมะ ณ สนามบินมิวนิค-รีม คร่าชีวิตนักเตะ และสตาฟฟ์ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวม 23 ศห พร้อมการสืบสวน ที่เต็มไปด้วยปริศนา และข้อครหา

    วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 คือวันแห่งโศกนาฏกรรม ที่สะเทือนวงการฟุตบอลโลก เที่ยวบินเช่าเหมาลำ British European Airways Flight 609 ซึ่งนำพาเหล่านักเตะ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ พร้อมสตาฟฟ์โค้ชและนักข่าว กลับจากการแข่งขันยูโรเปียนคัพ ที่ยูโกสลาเวีย ต้องแวะเติมน้ำมัน ที่สนามบินมิวนิค-รีม ประเทศเยอรมนีตะวันตก

    แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น...
    เครื่องบินพยายามเทคออฟถึง 3 ครั้ง ก่อนจะลื่นไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนอาคารและระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 คน นี่คือเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ "ปีศาจแดง" ไปตลอดกาล

    📌 แต่เหตุใด เครื่องบินถึงไม่สามารถขึ้นบินได้?
    📌 ใครต้องรับผิดชอบ ต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้?
    📌 เกิดอะไรขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้น?

    ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์?
    เครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนี้คือ Airspeed AS.57 Ambassador ของสายการบิน British European Airways (BEA) โดยมี กัปตันเจมส์ เทรนต์ (James Thain) และผู้ช่วยนักบิน เคนเนตต์ เรย์เมนต์ (Kenneth Rayment) เป็นผู้ควบคุมเที่ยวบิน

    เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึง สนามบินมิวนิค-รีม ในช่วงบ่ายของวันนั้น สภาพอากาศเต็มไปด้วยหิมะ อุณหภูมิใกล้ 0 องศาเซลเซียส ส่งผลให้รันเวย์ เต็มไปด้วยน้ำแข็งบางๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการบิน

    กัปตันเทรนต์ พยายามนำเครื่องขึ้นบินถึง 3 ครั้ง แต่ประสบปัญหาทุกครั้ง

    1️⃣ ครั้งแรก เครื่องยนต์มีอาการกระตุก ทำให้กัปตันตัดสินใจ ยกเลิกการเทคออฟ
    2️⃣ ครั้งที่สอง ปัญหาเดิมเกิดขึ้น กัปตันต้องหยุดเที่ยวบินอีกครั้ง
    3️⃣ ครั้งที่สาม เครื่องบินเร่งความเร็วถึงระดับ V1 (ความเร็วที่ไม่สามารถหยุดบินได้) และเข้าสู่จุด Vrotate (จุดยกหัวเครื่อง) แต่ทันใดนั้น ความเร็วลดลงกะทันหัน ก่อนที่เครื่องจะสูญเสียแรงยก และไถลออกนอกรันเวย์

    ข้อสันนิษฐานสาเหตุที่แท้จริง
    ❄️ "น้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน?"
    มีการกล่าวหาในตอนแรกว่า น้ำแข็งเกาะบนปีกเครื่องบิน ทำให้เกิดแรงต้านอากาศ และไม่สามารถยกตัวขึ้นบินได้ อย่างไรก็ตาม กัปตันเทรนต์ยืนยันว่า เขาได้ตรวจสอบปีกแล้ว และไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่

    🏁 "หิมะบนรันเวย์?"
    การสืบสวนในเวลาต่อมาชี้ว่า หิมะที่หนาถึง 5 เซนติเมตร บนปลายรันเวย์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ลดความเร็วเครื่องบินลงทันที ส่งผลให้เครื่องบิน ไม่สามารถบินขึ้นได้

    🔥 "ความผิดพลาดของนักบิน?"
    ทางการเยอรมนีกลับชี้ว่า กัปตันเทรนต์ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากไม่ได้ละลายน้ำแข็ง บนปีกเครื่องบิน ทั้งที่หลักฐานชี้ว่า ปัญหาเกิดจาก สภาพรันเวย์มากกว่า

    ในที่สุด กัปตันเทรนต์ถูกไล่ออกจาก BEA แม้ต่อมาจะได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่มีความผิด แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างตราบาป ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตได้

    23 ชีวิตที่ต้องสูญเสีย บาดแผลที่ไม่มีวันลืม
    ในจำนวน 44 คน ที่โดยสารบนเครื่อง มี 23 ราย เสียชีวิตทันที หรือหลังจากนั้นไม่นาน รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โลกฟุตบอลต้องสูญเสีย ได้แก่

    ⚽ 8 นักเตะ "ปีศาจแดง" ที่จากไป
    โรเจอร์ ไบรน์ (Roger Byrne) กัปตันทีม
    เจฟฟ์ เบนท์ (Geoff Bent)
    เดวิด เพ็กก์ (David Pegg)
    มาร์ก โจนส์ (Mark Jones)
    บิลลี่ วีแลน (Billy Whelan)
    เอ็ดดี้ โคลแมน (Eddie Colman)
    ทอมมี่ เทย์เลอร์ (Tommy Taylor)
    ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (Duncan Edwards) เสียชีวิตหลังจากนั้น 15 วัน

    📍 นักข่าวกีฬา 8 คน และทีมงานของแมนฯ ยูไนเต็ด 3 คน
    📍 ลูกเรือ 1 คน และผู้โดยสารอื่นๆ 2 คน

    💔 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ส่งผลกระทบมหาศาล ต่อวงการฟุตบอล โดยเฉพาะสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องสูญเสียแข้งดาวรุ่ง ที่มีอนาคตไกล

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโศกนาฏกรรม
    แม้จะเสียผู้เล่นหลักไปถึง 8 ราย แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงสู้ต่อไป ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง
    🔴 สโมสรได้รับความช่วยเหลือ จากลิเวอร์พูล ที่ยืมนักเตะให้ใช้งาน
    🔴 เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (Sir Matt Busby) กุนซือผู้รอดชีวิต สร้างทีมใหม่ ด้วยดาวรุ่งอย่าง จอร์จ เบสต์, น็อบบี้ สไตล์ส และไบรอัน คิดด์
    🔴 ปี 1968 ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ ได้สำเร็จ เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ทำได้

    💡 นี่คือสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ และจิตวิญญาณของ "ปีศาจแดง" ที่ยังคงสืบทอด มาจนถึงปัจจุบัน

    โศกนาฏกรรมที่เป็นบทเรียน
    เหตุการณ์มิวนิค ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ ของอุตสาหกรรมการบิน

    ✈️ การพัฒนาเทคโนโลยีการบิน มีการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เกี่ยวกับการตรวจสอบรันเวย์ และน้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน
    ⚖️ ความยุติธรรมที่ล่าช้า กัปตันเทรนต์ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง

    🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

    67 ปีผ่านไป แต่ "โศกนาฏกรรมมิวนิค" ยังคงเป็นเรื่องราว ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืม 🕊️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062132 ก.พ. 2568

    #Munich1958 #ManchesterUnited #NeverForget #BusbyBabes #MUFC
    67 ปี หายนะเที่ยวบิน 609 ไถลหิมะรันเวย์มิวนิค-รีม โยนความผิดนักบิน เสียชีวิตรวมทีมแมนยู 23 ศพ ย้อนรอยเหตุการณ์สุดเศร้า 67 ปี ที่ผ่านมา เที่ยวบิน 609 ของสายการบินบริติชยูโรเปียนแอร์เวย์ส ไถลออกนอกรันเวย์ ท่ามกลางหิมะ ณ สนามบินมิวนิค-รีม คร่าชีวิตนักเตะ และสตาฟฟ์ ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวม 23 ศห พร้อมการสืบสวน ที่เต็มไปด้วยปริศนา และข้อครหา วันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501 คือวันแห่งโศกนาฏกรรม ที่สะเทือนวงการฟุตบอลโลก เที่ยวบินเช่าเหมาลำ British European Airways Flight 609 ซึ่งนำพาเหล่านักเตะ ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังจากอังกฤษ พร้อมสตาฟฟ์โค้ชและนักข่าว กลับจากการแข่งขันยูโรเปียนคัพ ที่ยูโกสลาเวีย ต้องแวะเติมน้ำมัน ที่สนามบินมิวนิค-รีม ประเทศเยอรมนีตะวันตก แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น... เครื่องบินพยายามเทคออฟถึง 3 ครั้ง ก่อนจะลื่นไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนอาคารและระเบิด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 ศพ รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 8 คน นี่คือเหตุการณ์ ที่เปลี่ยนโฉมหน้าของ "ปีศาจแดง" ไปตลอดกาล 📌 แต่เหตุใด เครื่องบินถึงไม่สามารถขึ้นบินได้? 📌 ใครต้องรับผิดชอบ ต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้? 📌 เกิดอะไรขึ้นกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากนั้น? ต้นเหตุของโศกนาฏกรรม อุบัติเหตุหรือข้อผิดพลาดของมนุษย์? เครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนี้คือ Airspeed AS.57 Ambassador ของสายการบิน British European Airways (BEA) โดยมี กัปตันเจมส์ เทรนต์ (James Thain) และผู้ช่วยนักบิน เคนเนตต์ เรย์เมนต์ (Kenneth Rayment) เป็นผู้ควบคุมเที่ยวบิน เมื่อเครื่องบินเดินทางมาถึง สนามบินมิวนิค-รีม ในช่วงบ่ายของวันนั้น สภาพอากาศเต็มไปด้วยหิมะ อุณหภูมิใกล้ 0 องศาเซลเซียส ส่งผลให้รันเวย์ เต็มไปด้วยน้ำแข็งบางๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ ในการบิน กัปตันเทรนต์ พยายามนำเครื่องขึ้นบินถึง 3 ครั้ง แต่ประสบปัญหาทุกครั้ง 1️⃣ ครั้งแรก เครื่องยนต์มีอาการกระตุก ทำให้กัปตันตัดสินใจ ยกเลิกการเทคออฟ 2️⃣ ครั้งที่สอง ปัญหาเดิมเกิดขึ้น กัปตันต้องหยุดเที่ยวบินอีกครั้ง 3️⃣ ครั้งที่สาม เครื่องบินเร่งความเร็วถึงระดับ V1 (ความเร็วที่ไม่สามารถหยุดบินได้) และเข้าสู่จุด Vrotate (จุดยกหัวเครื่อง) แต่ทันใดนั้น ความเร็วลดลงกะทันหัน ก่อนที่เครื่องจะสูญเสียแรงยก และไถลออกนอกรันเวย์ ข้อสันนิษฐานสาเหตุที่แท้จริง ❄️ "น้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน?" มีการกล่าวหาในตอนแรกว่า น้ำแข็งเกาะบนปีกเครื่องบิน ทำให้เกิดแรงต้านอากาศ และไม่สามารถยกตัวขึ้นบินได้ อย่างไรก็ตาม กัปตันเทรนต์ยืนยันว่า เขาได้ตรวจสอบปีกแล้ว และไม่มีน้ำแข็งเกาะอยู่ 🏁 "หิมะบนรันเวย์?" การสืบสวนในเวลาต่อมาชี้ว่า หิมะที่หนาถึง 5 เซนติเมตร บนปลายรันเวย์ อาจเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ลดความเร็วเครื่องบินลงทันที ส่งผลให้เครื่องบิน ไม่สามารถบินขึ้นได้ 🔥 "ความผิดพลาดของนักบิน?" ทางการเยอรมนีกลับชี้ว่า กัปตันเทรนต์ต้องรับผิดชอบ เนื่องจากไม่ได้ละลายน้ำแข็ง บนปีกเครื่องบิน ทั้งที่หลักฐานชี้ว่า ปัญหาเกิดจาก สภาพรันเวย์มากกว่า ในที่สุด กัปตันเทรนต์ถูกไล่ออกจาก BEA แม้ต่อมาจะได้รับการพิสูจน์ว่า ไม่มีความผิด แต่นั่นก็ไม่สามารถลบล้างตราบาป ที่ติดตัวไปตลอดชีวิตได้ 23 ชีวิตที่ต้องสูญเสีย บาดแผลที่ไม่มีวันลืม ในจำนวน 44 คน ที่โดยสารบนเครื่อง มี 23 ราย เสียชีวิตทันที หรือหลังจากนั้นไม่นาน รวมถึงนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โลกฟุตบอลต้องสูญเสีย ได้แก่ ⚽ 8 นักเตะ "ปีศาจแดง" ที่จากไป โรเจอร์ ไบรน์ (Roger Byrne) กัปตันทีม เจฟฟ์ เบนท์ (Geoff Bent) เดวิด เพ็กก์ (David Pegg) มาร์ก โจนส์ (Mark Jones) บิลลี่ วีแลน (Billy Whelan) เอ็ดดี้ โคลแมน (Eddie Colman) ทอมมี่ เทย์เลอร์ (Tommy Taylor) ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ (Duncan Edwards) เสียชีวิตหลังจากนั้น 15 วัน 📍 นักข่าวกีฬา 8 คน และทีมงานของแมนฯ ยูไนเต็ด 3 คน 📍 ลูกเรือ 1 คน และผู้โดยสารอื่นๆ 2 คน 💔 โศกนาฏกรรมครั้งนี้ ส่งผลกระทบมหาศาล ต่อวงการฟุตบอล โดยเฉพาะสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ต้องสูญเสียแข้งดาวรุ่ง ที่มีอนาคตไกล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังโศกนาฏกรรม แม้จะเสียผู้เล่นหลักไปถึง 8 ราย แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงสู้ต่อไป ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่ง 🔴 สโมสรได้รับความช่วยเหลือ จากลิเวอร์พูล ที่ยืมนักเตะให้ใช้งาน 🔴 เซอร์ แมตต์ บัสบี้ (Sir Matt Busby) กุนซือผู้รอดชีวิต สร้างทีมใหม่ ด้วยดาวรุ่งอย่าง จอร์จ เบสต์, น็อบบี้ สไตล์ส และไบรอัน คิดด์ 🔴 ปี 1968 ยูไนเต็ดสามารถคว้าแชมป์ ยูโรเปียนคัพ ได้สำเร็จ เป็นสโมสรแรกของอังกฤษ ที่ทำได้ 💡 นี่คือสัญลักษณ์ของการไม่ยอมแพ้ และจิตวิญญาณของ "ปีศาจแดง" ที่ยังคงสืบทอด มาจนถึงปัจจุบัน โศกนาฏกรรมที่เป็นบทเรียน เหตุการณ์มิวนิค ไม่เพียงเป็นโศกนาฏกรรม ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ ของอุตสาหกรรมการบิน ✈️ การพัฒนาเทคโนโลยีการบิน มีการบังคับใช้มาตรฐานใหม่ เกี่ยวกับการตรวจสอบรันเวย์ และน้ำแข็งบนปีกเครื่องบิน ⚖️ ความยุติธรรมที่ล่าช้า กัปตันเทรนต์ใช้เวลากว่า 10 ปี ในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง 🔴 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง 67 ปีผ่านไป แต่ "โศกนาฏกรรมมิวนิค" ยังคงเป็นเรื่องราว ที่แฟนบอลทั่วโลกไม่มีวันลืม 🕊️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 062132 ก.พ. 2568 #Munich1958 #ManchesterUnited #NeverForget #BusbyBabes #MUFC
    0 Comments 0 Shares 141 Views 0 Reviews
  • ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากที่ดินผืนนี้ จากรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่หลงเชื่อกลุ่มทุนให้โยกย้ายออกจากผืนนาที่ทำกินกันมาแต่ดั้งเดิม โดยหลอกล่อชาวบ้านว่ามีที่อยู่แปลงใหม่ให้ มีโฉนดที่ดินสามารถซื้อขายได้ถูกต้องตามกฏหมาย ปัจจุบันศาลชี้ชัดแล้วว่า ที่ดินผืนนี้ไม่ชอบด้วยกฏหมายโฉนดที่ชาวบ้านถือครองถูกยกเลิก
    ผลกระทบที่ตามมามีมากมาย ชาวบ้านที่ถูกหลอกให้ย้ายออกจากพื้นที่ ทำให้ลูกหลานและครอบครัวเสียโอกาสในการประกอบอาชีพทางเกษตรตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า30ปี และปัจจุบันก็ยังมาเสียโอกาสในโฉนดที่ดินที่ถืออยู่ในมือของชาวบ้านอีก หลอกซ้ำหลอกซากนะกลุ่มนายทุน
    #ลุงสนธิช่วยชาวบ้านด้วยครับ
    ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากที่ดินผืนนี้ จากรุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายที่หลงเชื่อกลุ่มทุนให้โยกย้ายออกจากผืนนาที่ทำกินกันมาแต่ดั้งเดิม โดยหลอกล่อชาวบ้านว่ามีที่อยู่แปลงใหม่ให้ มีโฉนดที่ดินสามารถซื้อขายได้ถูกต้องตามกฏหมาย ปัจจุบันศาลชี้ชัดแล้วว่า ที่ดินผืนนี้ไม่ชอบด้วยกฏหมายโฉนดที่ชาวบ้านถือครองถูกยกเลิก ผลกระทบที่ตามมามีมากมาย ชาวบ้านที่ถูกหลอกให้ย้ายออกจากพื้นที่ ทำให้ลูกหลานและครอบครัวเสียโอกาสในการประกอบอาชีพทางเกษตรตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า30ปี และปัจจุบันก็ยังมาเสียโอกาสในโฉนดที่ดินที่ถืออยู่ในมือของชาวบ้านอีก หลอกซ้ำหลอกซากนะกลุ่มนายทุน #ลุงสนธิช่วยชาวบ้านด้วยครับ
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • ทาง Qualcomm โดยประธานบริหารของบริษัท Cristiano Amon ได้ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า Arm Holdings ได้ยกเลิกการขู่ที่จะยุติสัญญาการใช้เทคโนโลยีระหว่างสองบริษัทนี้แล้ว และไม่มีแผนที่จะยุติสัญญาดังกล่าวในขณะนี้

    เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อ Arm ขู่ที่จะยุติสัญญาการใช้เทคโนโลยีของ Qualcomm เนื่องจากข้อพิพาทเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในชิปของ Qualcomm สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Qualcomm ชนะการพิจารณาคดีในข้อพิพาทนี้

    ในระหว่างการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของ Qualcomm เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Amon ได้กล่าวว่า Arm ได้ยกเลิกการขู่และไม่มีแผนที่จะยุติสัญญากับ Qualcomm ในขณะนี้ นั่นหมายความว่าทั้งสองบริษัทยังคงมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและพร้อมที่จะทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคต

    Qualcomm ชนะการพิจารณาคดีในข้อพิพาทนี้ทำให้บริษัทสามารถใช้เทคโนโลยีของ Arm ต่อไปได้อย่างไม่ต้องกังวล ซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาชิปใหม่ ๆ และการขยายตลาดของ Qualcomm ในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/qualcomm-says-arm-has-withdrawn-breach-claims-has-no-plans-to-terminate-license-deal
    ทาง Qualcomm โดยประธานบริหารของบริษัท Cristiano Amon ได้ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า Arm Holdings ได้ยกเลิกการขู่ที่จะยุติสัญญาการใช้เทคโนโลยีระหว่างสองบริษัทนี้แล้ว และไม่มีแผนที่จะยุติสัญญาดังกล่าวในขณะนี้ เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อ Arm ขู่ที่จะยุติสัญญาการใช้เทคโนโลยีของ Qualcomm เนื่องจากข้อพิพาทเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใช้ในชิปของ Qualcomm สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา Qualcomm ชนะการพิจารณาคดีในข้อพิพาทนี้ ในระหว่างการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสของ Qualcomm เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Amon ได้กล่าวว่า Arm ได้ยกเลิกการขู่และไม่มีแผนที่จะยุติสัญญากับ Qualcomm ในขณะนี้ นั่นหมายความว่าทั้งสองบริษัทยังคงมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและพร้อมที่จะทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคต Qualcomm ชนะการพิจารณาคดีในข้อพิพาทนี้ทำให้บริษัทสามารถใช้เทคโนโลยีของ Arm ต่อไปได้อย่างไม่ต้องกังวล ซึ่งมีผลกระทบเชิงบวกต่อการพัฒนาชิปใหม่ ๆ และการขยายตลาดของ Qualcomm ในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/06/qualcomm-says-arm-has-withdrawn-breach-claims-has-no-plans-to-terminate-license-deal
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Qualcomm says Arm has withdrawn breach claims, has no plans to terminate license deal
    (Reuters) - Qualcomm's Chief Executive Officer Cristiano Amon on Wednesday said Arm Holdings has withdrawn a threat to terminate Qualcomm's license agreement with the technology provider.
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • ไปรษณีย์สหรัฐ (USPS) ประกาศหยุดรับพัสดุจากจีนและฮ่องกงเมื่อช่วงปลายวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024 เนื่องจากผลกระทบจากภาษีใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เพิ่มขึ้นกับจีนและประเทศอื่น ๆ รวมถึงการยกเลิก 'de minimis exemption' ซึ่งหมายความว่าพัสดุที่มีมูลค่าน้อยกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ จะไม่ได้รับการยกเว้นจากภาษีนำเข้าและการตรวจสอบอีกต่อไป

    การยกเลิกนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อชิ้นส่วนพีซีราคาถูกจากจีนและฮ่องกง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ต้องการสร้างสถานีทำงานและชุดเล่นเกมต้องจ่ายมากขึ้น รวมถึงระยะเวลาการส่งของที่นานขึ้นเนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบจากศุลกากร

    ผู้ใช้ทั่วไปในอเมริกาจะต้องจ่ายแพงขึ้นและใช้เวลารอนานขึ้นสำหรับสินค้าเทคโนโลยีจากจีน นอกจากนี้ การที่ USPS กลับมารับพัสดุอีกครั้งไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะหายไป เพราะยังต้องรอให้มีการพัฒนาระบบการเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/usps-had-ceased-accepting-parcels-from-china-and-hong-kong-late-tuesday-potentially-affecting-numerous-pc-parts-service-was-restored-by-early-wednesday
    ไปรษณีย์สหรัฐ (USPS) ประกาศหยุดรับพัสดุจากจีนและฮ่องกงเมื่อช่วงปลายวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024 เนื่องจากผลกระทบจากภาษีใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เพิ่มขึ้นกับจีนและประเทศอื่น ๆ รวมถึงการยกเลิก 'de minimis exemption' ซึ่งหมายความว่าพัสดุที่มีมูลค่าน้อยกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ จะไม่ได้รับการยกเว้นจากภาษีนำเข้าและการตรวจสอบอีกต่อไป การยกเลิกนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อชิ้นส่วนพีซีราคาถูกจากจีนและฮ่องกง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ต้องการสร้างสถานีทำงานและชุดเล่นเกมต้องจ่ายมากขึ้น รวมถึงระยะเวลาการส่งของที่นานขึ้นเนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบจากศุลกากร ผู้ใช้ทั่วไปในอเมริกาจะต้องจ่ายแพงขึ้นและใช้เวลารอนานขึ้นสำหรับสินค้าเทคโนโลยีจากจีน นอกจากนี้ การที่ USPS กลับมารับพัสดุอีกครั้งไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะหายไป เพราะยังต้องรอให้มีการพัฒนาระบบการเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/usps-had-ceased-accepting-parcels-from-china-and-hong-kong-late-tuesday-potentially-affecting-numerous-pc-parts-service-was-restored-by-early-wednesday
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง หาทางห้ามนักกีฬาคนข้ามเพศจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาประเภทหญิง ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาในการเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนข้ามเพศ นับตั้งแต่กลับเข้าสู่เก้าอี้ทำเนียบขาว
    .
    "ภายใต้คำสั่งบริหารนี้ สงครามในด้านกีฬาของผู้หญิงสิ้นสุดลงแล้ว" ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้าลงนามคำสั่งที่ทำเนียบขาว ล้อมรอบด้วยนักกีฬาเด็กและนักกีฬาหญิงหลายสิบคน ในขณะที่บรรดาสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันหลายคน ในนั้นรวมถึง ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ และส.ส.มาร์โจรี กรีน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมชมพิธีลงนามครั้งนี้ด้วย
    .
    "เราจะปกป้องความภาคภูมิใจของนักกีฬาหญิงดั้งเดิม และเราจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายทำร้าย ก่ออาการบาดเจ็บ โกงคุณผู้หญิงและเด็กผู้หญิงของเรา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กีฬาประเภทหญิงจะมีไว้เฉพาะกับผู้หญิง" ทรัมป์ กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ
    .
    คำสั่งนี้ให้อำนาจหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ปฏิเสธจัดสรรเงินทุนต่างๆของรัฐบาลกลาง มอบแก่โรงเรียนทั้งหลายที่อนุญาตให้พวกกลุ่มคนข้ามเพศเข้าแข่งขันกับนักกีฬาหญิง "มันคือนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่จะยกเลิกเงินทุนทั้งหมดจากโปรแกรมด้านการศึกษาต่างๆนานา ที่กีดกันโอกาสแข่งขันกีฬาอย่างยุติธรรมของพวกผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งผลลัพธ์คือก่ออันตราย เป็นการลบหลู่และปิดปากผู้หญิงและเด็ก รวมถึงลิดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัวของพวกเขา"
    .
    นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขากำลังกดดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับนักกีฬาคนข้ามเพศ ก่อนที่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะหวนคืนสู่แผ่นดินสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิส ปี 2028
    .
    ทรัมป์ เผยว่าเขาได้ออกคำสั่งถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ว่า "เราต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างที่ต้องทำเกี่ยวกับโอลิมปิก และดำเนินการกับประเด็นอันไร้สาระนี้"
    .
    ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ ระบุเพิ่มเติมว่าเขาสั่งการให้ . คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ปฏิเสธวีซ่า "พวกผู้ชายที่พยายามหาทางตลบตะแลงเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นนักกีฬาหญิง เดินทางมาเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์"
    .
    ทรัมป์ จากรีพับลิกัน เล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนที่แสดงออก ทางเพศไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการออกคำสั่งแบบสายฟ้าแลบผลักดันวาระนโยบายขวาจัดสุดขั้วของเขา นับตั้งแต่เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัย 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม
    .
    ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้ลงนามกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า "อุดมการณ์คนข้ามเพศ" ออกจากกองทัพ ผลก็คือการแบนกำลังพลคนข้ามเพศ นอกจากนี้แล้วเขายังได้ออกคำสั่งห้ามผ่าตัดแปลงเพศสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 19 ปี
    .
    ความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้มีขึ้นแม้ในข้อเท็จจริงที่ว่ากลุ่มคนข้ามเพศ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยมากๆในประชากรสหรัฐฯ
    .
    คำสั่้งบริหารของทรัมป์ในวันพุธ(5ก.พ.) มีขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน เมื่อเดือนมกราคม ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จำกัดอย่างรุนแรงขวางนักกีฬาข้ามเพศจากการแข่งขันกีฬากับเด็กผู้หญิงและผู้หญิง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011934
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งบริหารฉบับหนึ่ง หาทางห้ามนักกีฬาคนข้ามเพศจากการเข้าร่วมแข่งขันกีฬาประเภทหญิง ในความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขาในการเล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนข้ามเพศ นับตั้งแต่กลับเข้าสู่เก้าอี้ทำเนียบขาว . "ภายใต้คำสั่งบริหารนี้ สงครามในด้านกีฬาของผู้หญิงสิ้นสุดลงแล้ว" ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้าลงนามคำสั่งที่ทำเนียบขาว ล้อมรอบด้วยนักกีฬาเด็กและนักกีฬาหญิงหลายสิบคน ในขณะที่บรรดาสมาชิกระดับสูงของรีพับลิกันหลายคน ในนั้นรวมถึง ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯ และส.ส.มาร์โจรี กรีน เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมชมพิธีลงนามครั้งนี้ด้วย . "เราจะปกป้องความภาคภูมิใจของนักกีฬาหญิงดั้งเดิม และเราจะไม่ปล่อยให้ผู้ชายทำร้าย ก่ออาการบาดเจ็บ โกงคุณผู้หญิงและเด็กผู้หญิงของเรา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กีฬาประเภทหญิงจะมีไว้เฉพาะกับผู้หญิง" ทรัมป์ กล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ . คำสั่งนี้ให้อำนาจหน่วยงานต่างๆของรัฐบาล ปฏิเสธจัดสรรเงินทุนต่างๆของรัฐบาลกลาง มอบแก่โรงเรียนทั้งหลายที่อนุญาตให้พวกกลุ่มคนข้ามเพศเข้าแข่งขันกับนักกีฬาหญิง "มันคือนโยบายของสหรัฐอเมริกา ที่จะยกเลิกเงินทุนทั้งหมดจากโปรแกรมด้านการศึกษาต่างๆนานา ที่กีดกันโอกาสแข่งขันกีฬาอย่างยุติธรรมของพวกผู้หญิงและเด็กผู้หญิง ซึ่งผลลัพธ์คือก่ออันตราย เป็นการลบหลู่และปิดปากผู้หญิงและเด็ก รวมถึงลิดรอนสิทธิความเป็นส่วนตัวของพวกเขา" . นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์ ยังเผยด้วยว่าเขากำลังกดดันให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับนักกีฬาคนข้ามเพศ ก่อนที่กีฬาโอลิมปิกเกมส์ จะหวนคืนสู่แผ่นดินสหรัฐฯ ในลอสแองเจลิส ปี 2028 . ทรัมป์ เผยว่าเขาได้ออกคำสั่งถึง มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ว่า "เราต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงทุกๆอย่างที่ต้องทำเกี่ยวกับโอลิมปิก และดำเนินการกับประเด็นอันไร้สาระนี้" . ยิ่งไปกว่านั้น ทรัมป์ ระบุเพิ่มเติมว่าเขาสั่งการให้ . คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ปฏิเสธวีซ่า "พวกผู้ชายที่พยายามหาทางตลบตะแลงเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วยการแอบอ้างตัวเป็นนักกีฬาหญิง เดินทางมาเข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์" . ทรัมป์ จากรีพับลิกัน เล็งเป้าเล่นงานกลุ่มคนที่แสดงออก ทางเพศไม่ตรงตามบรรทัดฐานของสังคมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในการออกคำสั่งแบบสายฟ้าแลบผลักดันวาระนโยบายขวาจัดสุดขั้วของเขา นับตั้งแต่เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งสมัย 2 เมื่อวันที่ 20 มกราคม . ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ ได้ลงนามกำจัดสิ่งที่เขาเรียกว่า "อุดมการณ์คนข้ามเพศ" ออกจากกองทัพ ผลก็คือการแบนกำลังพลคนข้ามเพศ นอกจากนี้แล้วเขายังได้ออกคำสั่งห้ามผ่าตัดแปลงเพศสำหรับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 19 ปี . ความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้มีขึ้นแม้ในข้อเท็จจริงที่ว่ากลุ่มคนข้ามเพศ ถือเป็นสัดส่วนเล็กน้อยมากๆในประชากรสหรัฐฯ . คำสั่้งบริหารของทรัมป์ในวันพุธ(5ก.พ.) มีขึ้นหลังจากสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯที่นำโดยรีพับลิกัน เมื่อเดือนมกราคม ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่จำกัดอย่างรุนแรงขวางนักกีฬาข้ามเพศจากการแข่งขันกีฬากับเด็กผู้หญิงและผู้หญิง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011934 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    22
    0 Comments 0 Shares 1237 Views 0 Reviews
  • จีนแถลงวันพุธ (5 ก.พ.) ยืนกรานคัดค้านสหรัฐฯ ประกาศมาตรการรีดภาษีศุลกากรจากสินค้าเข้าแดนมังกร พร้อมเรียกร้องเปิดเจรจาเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้า ทว่า ทำเนียบขาวระบุทรัมป์ยังไม่รีบร้อนหารือสี จิ้นผิง ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์จากจีนและฮ่องกง ซึ่งคาดหมายกันว่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมของจีนอย่าง “ชีอิน” และ “เทมู” โดยที่ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า วอชิงตันกำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำยักษ์ใหญ่แดนมังกรทั้งสองเจ้านี้ว่าเป็นบริษัทที่มีการบังคับใช้แรงงาน
    .
    ในวันพุธ ซึ่งเป็นวันแรกที่หน่วยราชการของจีนเปิดทำการหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศออกมาแถลงว่า จีนไม่พอใจอย่างมากและคัดค้านถึงที่สุดต่อมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของอเมริกา และเรียกร้องให้เปิดการเจรจาอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ก่อนทิ้งท้ายว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามภาษีศุลกากร
    .
    ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นคือเมื่อวันอังคาร (4) จีนประกาศตอบโต้อเมริกา โดยจะขึ้นภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งส่งมาจากสหรัฐฯสูงขึ้น 15% จากน้ำมันดิบ อุปกรณ์เกษตรกรรม รถบรรทุก รถซีดาน 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.
    .
    นอกจากนั้น จีนยังประกาศเริ่มการสอบสวนที่มุ่งต่อต้านพฤติการณ์การผูกขาดของกูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบต รวมทั้งขึ้นบัญชีพีวีเอช คอร์ป บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของแบรนด์แคลวิน ไคลน์ และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ อิลลูมินา เอาไว้ในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกแซงก์ชันในจีน โดยบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นกิจการของอเมริกา
    .
    เวลาเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรจีนยังสั่งควบคุมการส่งออกโลหะบางรายการที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางทหาร และแผงพลังงานแสงอาทิตย์
    .
    การประกาศมาตรการตอบโต้ของจีนเช่นนี้ เกิดขึ้นแทบจะทันที หลังจากการมีผลบังคับใช้ของมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของฝ่ายอเมริกา ซึ่งเป็นการบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรจัดเก็บจากสินค้านำเข้าจีนทุกรายการขึ้นอีก 10% โดยที่ทรัมป์ย้ำข้อกล่าวหาของเขาที่ว่า ปักกิ่งไม่พยายามมากพอในการสกัดการลักลอบขนยาเสพติดแฟนทานิลเข้าสู่อเมริกา
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (3) ทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่า ทรัมป์จะมีการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ในตอนบ่ายวันอังคาร (4) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับบอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ไม่รีบร้อนที่จะคุยกับผู้นำจีน
    .
    แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงในวันเดียวกันว่า การหารือระหว่างทรัมป์กับสีที่ถูกมองว่า เป็นกุญแจสำคัญที่อาจผ่อนปรนหรือชะลอการบังคับใช้ภาษีศุลกากรนั้น จำเป็นต้องมีการตกลงกันเรื่องตารางเวลา ทว่า ขณะนี้ผู้นำจีนยังไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด
    .
    นอกจากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาแล้ว เมื่อวันอังคาร สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ (ยูเอสพีเอส) ได้ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์ที่ส่งจากจีนและฮ่องกง หลังจากทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกข้อยกเว้นการเก็บภาษีอากรกับพัสดุที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ ที่เรียกกันว่า ข้อยกเว้น de minimis
    .
    ยูเอสพีเอสยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่กระทบจดหมายและจดหมายขนาดใหญ่ (ความยาวไม่เกิน 38 ซม. หรือหนาไม่เกิน 1.9 ซม.) จากจีนและฮ่องกง แต่ไม่ได้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับการยกเลิกข้อยกเว้น de minimis หรือไม่
    .
    ตามรายงานของคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ระบุว่าพัสดุภัณฑ์เกือบครึ่งหนึ่งที่จัดส่งภายใต้ข้อยกเว้น de minimis นั้นส่งมาจากจีน
    .
    รายงานดังกล่าวยังระบุว่า “ชีอิน” แพลตฟอร์มฟาสต์แฟชั่น และ “เทมู” แพลตฟอร์มขายสินค้าราคาถูก ซึ่งต่างก็เป็นของจีนและขายสินค้าทุกอย่างตั้งแต่ของเล่นจนถึงสมาร์ทโฟนนั้น เติบโตเร็วมากในอเมริกา ส่วนหนึ่งเนื่องจากข้อยกเว้น de minimis โดยทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มเป็นเจ้าของพัสดุกว่า 30% ที่จัดส่งไปยังอเมริกาในแต่ละวันภายใต้ข้อยกเว้นดังกล่าว
    .
    แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า การยกเลิกข้อยกเว้น de minimis อาจทำให้สินค้าบนแพลตฟอร์มชีอินและเทมูแพงขึ้น แต่ไม่มีแนวโน้มว่า จะทำให้ยอดจัดส่งของทั้งสองบริษัทลดลงแต่อย่างใด
    .
    กระนั้น แพลตฟอร์มทั้งสองแห่งอาจหนีไม่พ้นการเล่นงานเพิ่มเติมของคณะบริหารทรัมป์ โดยเมื่อวันอังคาร เว็บไซต์เซมาฟอร์รายงานว่า อเมริกากำลังพิจารณาขึ้นบัญชีเทมูและชีอินในรายชื่อบริษัทที่บังคับใช้แรงงานของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011929
    ..............
    Sondhi X
    จีนแถลงวันพุธ (5 ก.พ.) ยืนกรานคัดค้านสหรัฐฯ ประกาศมาตรการรีดภาษีศุลกากรจากสินค้าเข้าแดนมังกร พร้อมเรียกร้องเปิดเจรจาเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้า ทว่า ทำเนียบขาวระบุทรัมป์ยังไม่รีบร้อนหารือสี จิ้นผิง ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์จากจีนและฮ่องกง ซึ่งคาดหมายกันว่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมของจีนอย่าง “ชีอิน” และ “เทมู” โดยที่ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า วอชิงตันกำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำยักษ์ใหญ่แดนมังกรทั้งสองเจ้านี้ว่าเป็นบริษัทที่มีการบังคับใช้แรงงาน . ในวันพุธ ซึ่งเป็นวันแรกที่หน่วยราชการของจีนเปิดทำการหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศออกมาแถลงว่า จีนไม่พอใจอย่างมากและคัดค้านถึงที่สุดต่อมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของอเมริกา และเรียกร้องให้เปิดการเจรจาอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ก่อนทิ้งท้ายว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามภาษีศุลกากร . ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นคือเมื่อวันอังคาร (4) จีนประกาศตอบโต้อเมริกา โดยจะขึ้นภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งส่งมาจากสหรัฐฯสูงขึ้น 15% จากน้ำมันดิบ อุปกรณ์เกษตรกรรม รถบรรทุก รถซีดาน 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. . นอกจากนั้น จีนยังประกาศเริ่มการสอบสวนที่มุ่งต่อต้านพฤติการณ์การผูกขาดของกูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบต รวมทั้งขึ้นบัญชีพีวีเอช คอร์ป บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของแบรนด์แคลวิน ไคลน์ และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ อิลลูมินา เอาไว้ในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกแซงก์ชันในจีน โดยบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นกิจการของอเมริกา . เวลาเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรจีนยังสั่งควบคุมการส่งออกโลหะบางรายการที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางทหาร และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ . การประกาศมาตรการตอบโต้ของจีนเช่นนี้ เกิดขึ้นแทบจะทันที หลังจากการมีผลบังคับใช้ของมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของฝ่ายอเมริกา ซึ่งเป็นการบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรจัดเก็บจากสินค้านำเข้าจีนทุกรายการขึ้นอีก 10% โดยที่ทรัมป์ย้ำข้อกล่าวหาของเขาที่ว่า ปักกิ่งไม่พยายามมากพอในการสกัดการลักลอบขนยาเสพติดแฟนทานิลเข้าสู่อเมริกา . ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (3) ทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่า ทรัมป์จะมีการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ในตอนบ่ายวันอังคาร (4) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับบอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ไม่รีบร้อนที่จะคุยกับผู้นำจีน . แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงในวันเดียวกันว่า การหารือระหว่างทรัมป์กับสีที่ถูกมองว่า เป็นกุญแจสำคัญที่อาจผ่อนปรนหรือชะลอการบังคับใช้ภาษีศุลกากรนั้น จำเป็นต้องมีการตกลงกันเรื่องตารางเวลา ทว่า ขณะนี้ผู้นำจีนยังไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด . นอกจากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาแล้ว เมื่อวันอังคาร สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ (ยูเอสพีเอส) ได้ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์ที่ส่งจากจีนและฮ่องกง หลังจากทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกข้อยกเว้นการเก็บภาษีอากรกับพัสดุที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ ที่เรียกกันว่า ข้อยกเว้น de minimis . ยูเอสพีเอสยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่กระทบจดหมายและจดหมายขนาดใหญ่ (ความยาวไม่เกิน 38 ซม. หรือหนาไม่เกิน 1.9 ซม.) จากจีนและฮ่องกง แต่ไม่ได้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับการยกเลิกข้อยกเว้น de minimis หรือไม่ . ตามรายงานของคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ระบุว่าพัสดุภัณฑ์เกือบครึ่งหนึ่งที่จัดส่งภายใต้ข้อยกเว้น de minimis นั้นส่งมาจากจีน . รายงานดังกล่าวยังระบุว่า “ชีอิน” แพลตฟอร์มฟาสต์แฟชั่น และ “เทมู” แพลตฟอร์มขายสินค้าราคาถูก ซึ่งต่างก็เป็นของจีนและขายสินค้าทุกอย่างตั้งแต่ของเล่นจนถึงสมาร์ทโฟนนั้น เติบโตเร็วมากในอเมริกา ส่วนหนึ่งเนื่องจากข้อยกเว้น de minimis โดยทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มเป็นเจ้าของพัสดุกว่า 30% ที่จัดส่งไปยังอเมริกาในแต่ละวันภายใต้ข้อยกเว้นดังกล่าว . แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า การยกเลิกข้อยกเว้น de minimis อาจทำให้สินค้าบนแพลตฟอร์มชีอินและเทมูแพงขึ้น แต่ไม่มีแนวโน้มว่า จะทำให้ยอดจัดส่งของทั้งสองบริษัทลดลงแต่อย่างใด . กระนั้น แพลตฟอร์มทั้งสองแห่งอาจหนีไม่พ้นการเล่นงานเพิ่มเติมของคณะบริหารทรัมป์ โดยเมื่อวันอังคาร เว็บไซต์เซมาฟอร์รายงานว่า อเมริกากำลังพิจารณาขึ้นบัญชีเทมูและชีอินในรายชื่อบริษัทที่บังคับใช้แรงงานของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011929 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    11
    0 Comments 0 Shares 1247 Views 0 Reviews
  • ค่ายมือถือ MVNO ไทยมืดมน ล็อกซเล่ย์อำลา NT ไม่ขอไปต่อ

    ใบอนุญาตคลื่นความถี่ 850, 2100 และ 2300 MHz. ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน ส.ค. 2568 แม้ว่าลูกค้า NT Mobile มีแผนโอนย้ายลูกค้าคลื่น 850 MHz. จำนวน 1.6 ล้านเลขหมายไปยังคลื่น 700 MHz. แต่ลูกค้าผู้ให้บริการโครงข่ายเสมือน (MVNO) ของ NT ที่มีหลักแสนราย กลับไม่มีแผนดำเนินการด้านเทคนิคเพื่อโอนย้ายลูกค้าไปยังโครงข่ายใหม่ของ NT ประกอบกับต้นทุนการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บางค่ายอาจหายไปจากตลาด

    เช่น บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ i-Kool 3G ประกาศว่าจะยุติให้บริการ โดยมีแผนที่จะสิ้นสุดบริการในวันที่ 30 มิ.ย. 2568 ลูกค้า i-Kool 3G ต้องย้ายค่ายเบอร์เดิมไปยังผู้ให้บริการรายอื่น หรือปิดเบอร์ ยกเลิกการใช้บริการ แล้วขอรับเงินคืนค่าใช้บริการทั้งหมด ภายในวันที่ 31 พ.ค. 2568 นับเป็นการปิดฉากธุรกิจ MVNO หลังล็อกซเล่ย์เช่าใช้โครงข่ายและทำตลาดในระบบ 3G บนเครือข่ายของ TOT เมื่อปี 2552 เป็นระยะเวลา 16 ปี

    ขณะที่บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด หรือ redONE หนึ่งใน MVNO ของ NT กำลังเจรจากับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อเปลี่ยนมาทำธุรกิจในฐานะ MVNO โดยใช้เครือข่าย True แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเงื่อนไขทางธุรกิจ เช่น ราคาความจุ มาตรฐานคุณภาพบริการ ซึ่งเรดวันเป็นแบรนด์ MVNO ของมาเลเซีย ใช้เครือข่าย Celcom Axiata ก่อนเปิดให้บริการในสิงคโปร์ ใช้เครือข่าย StarHub และให้บริการในไทยเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2564

    MVNO ของ NT นอกจาก i-Kool 3G และ redONE แล้ว ยังมี บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ จำกัด (Penguin) บริษัท บางกอกเทลลิ้ง จำกัด (Infinite) บริษัท ฟีล เทเลคอม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Feels) และบริษัท เคโฟร์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (K4) ปัญหาก็คือ นอกจากต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเลขหมายแก่ กสทช. เดือนละ 1.50 บาทต่อเบอร์แล้ว ยังต้องจ่ายค่าบริการอื่น ซึ่งเป็นระบบหลังบ้านของ NT เช่น ระบบ MVNE และการใช้งานอุปกรณ์ HLR เดือนละ 10 บาทต่อเบอร์ ทำให้แข่งขันได้ยาก

    พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ให้บริการ MVNO หลายรายขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่สามารถชำระค่าบริการให้ NT ได้ ประกอบกับต้นทุนค่าโรมมิ่งที่สูง กระทบความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ขณะที่ใบอนุญาตคลื่นความถี่ของ NT กำลังจะหมดอายุ จึงตัดสินใจถอนตัวจากตลาด MVNO ไม่เข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ของ กสทช. หากไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาสนับสนุน

    #Newskit
    ค่ายมือถือ MVNO ไทยมืดมน ล็อกซเล่ย์อำลา NT ไม่ขอไปต่อ ใบอนุญาตคลื่นความถี่ 850, 2100 และ 2300 MHz. ของบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน ส.ค. 2568 แม้ว่าลูกค้า NT Mobile มีแผนโอนย้ายลูกค้าคลื่น 850 MHz. จำนวน 1.6 ล้านเลขหมายไปยังคลื่น 700 MHz. แต่ลูกค้าผู้ให้บริการโครงข่ายเสมือน (MVNO) ของ NT ที่มีหลักแสนราย กลับไม่มีแผนดำเนินการด้านเทคนิคเพื่อโอนย้ายลูกค้าไปยังโครงข่ายใหม่ของ NT ประกอบกับต้นทุนการให้บริการที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้บางค่ายอาจหายไปจากตลาด เช่น บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ i-Kool 3G ประกาศว่าจะยุติให้บริการ โดยมีแผนที่จะสิ้นสุดบริการในวันที่ 30 มิ.ย. 2568 ลูกค้า i-Kool 3G ต้องย้ายค่ายเบอร์เดิมไปยังผู้ให้บริการรายอื่น หรือปิดเบอร์ ยกเลิกการใช้บริการ แล้วขอรับเงินคืนค่าใช้บริการทั้งหมด ภายในวันที่ 31 พ.ค. 2568 นับเป็นการปิดฉากธุรกิจ MVNO หลังล็อกซเล่ย์เช่าใช้โครงข่ายและทำตลาดในระบบ 3G บนเครือข่ายของ TOT เมื่อปี 2552 เป็นระยะเวลา 16 ปี ขณะที่บริษัท เรดวัน เน็ตเวิร์ค (ประเทศไทย) จำกัด หรือ redONE หนึ่งใน MVNO ของ NT กำลังเจรจากับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อเปลี่ยนมาทำธุรกิจในฐานะ MVNO โดยใช้เครือข่าย True แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเงื่อนไขทางธุรกิจ เช่น ราคาความจุ มาตรฐานคุณภาพบริการ ซึ่งเรดวันเป็นแบรนด์ MVNO ของมาเลเซีย ใช้เครือข่าย Celcom Axiata ก่อนเปิดให้บริการในสิงคโปร์ ใช้เครือข่าย StarHub และให้บริการในไทยเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2564 MVNO ของ NT นอกจาก i-Kool 3G และ redONE แล้ว ยังมี บริษัท เดอะ ไวท์สเปซ จำกัด (Penguin) บริษัท บางกอกเทลลิ้ง จำกัด (Infinite) บริษัท ฟีล เทเลคอม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Feels) และบริษัท เคโฟร์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (K4) ปัญหาก็คือ นอกจากต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเลขหมายแก่ กสทช. เดือนละ 1.50 บาทต่อเบอร์แล้ว ยังต้องจ่ายค่าบริการอื่น ซึ่งเป็นระบบหลังบ้านของ NT เช่น ระบบ MVNE และการใช้งานอุปกรณ์ HLR เดือนละ 10 บาทต่อเบอร์ ทำให้แข่งขันได้ยาก พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ให้บริการ MVNO หลายรายขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่สามารถชำระค่าบริการให้ NT ได้ ประกอบกับต้นทุนค่าโรมมิ่งที่สูง กระทบความสามารถในการดำเนินธุรกิจ ขณะที่ใบอนุญาตคลื่นความถี่ของ NT กำลังจะหมดอายุ จึงตัดสินใจถอนตัวจากตลาด MVNO ไม่เข้าร่วมการประมูลคลื่นความถี่รอบใหม่ของ กสทช. หากไม่มีพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาสนับสนุน #Newskit
    Like
    3
    0 Comments 1 Shares 126 Views 0 Reviews
  • เอเอฟพี - ความพยายามของรัฐบาลทหารพม่าในการเปิดประมูลบ้านริมทะเลสาบของอองซานซูจีในวันพุธ (5) ยังคงไม่ประสบความสำเร็จเช่นเคย เนื่องจากไม่มีผู้ยื่นประมูลบ้านของอดีตผู้นำประชาธิปไตยรายนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

    บ้านสองชั้นในย่างกุ้งที่มีพื้นที่ราว 0.8 เฮกตาร์ ถูกนำออกประมูลขายด้วยราคาขั้นต่ำที่ 140 ล้านดอลลาร์ หลังจากมีข้อพิพาทเรื่องทรัพย์สินระหว่างอองซานซูจีและพี่ชายของเธอมายาวนานนับสิบปี

    ซูจีที่ถูกกักบริเวณในบ้านเป็นเวลาหลายปีภายใต้รัฐบาลทหารชุดก่อน ถูกคุมขังนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจอีกครั้งเมื่อเดือนก.พ. 2564

    นักข่าวราว 12 คน ได้เข้าร่วมชมการประมูลที่จัดขึ้นริมถนนหน้าบ้านที่ตั้งอยู่บนบนถนนยูนิเวอร์ซิตี้ ที่มีต้นไม้ปกคลุมร่มรื่น และอยู่ห่างจากสถานทูตสหรัฐฯ ไม่ไกลนัก

    หลังจากเจ้าหน้าที่เปิดเรียกประมูลที่เริ่มต้นที่ 297,000 ล้านจ๊าต หรือประมาณ 140 ล้านดอลลาร์ตามอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการ กลับไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ทำให้ผู้จัดประมูลยกเลิกการประมูลดังกล่าว ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีที่อยู่ในสถานที่ระบุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000011775

    #MGROnline #รัฐบาลทหารพม่า #บ้านริมทะเลสาบ #อองซานซูจี
    เอเอฟพี - ความพยายามของรัฐบาลทหารพม่าในการเปิดประมูลบ้านริมทะเลสาบของอองซานซูจีในวันพุธ (5) ยังคงไม่ประสบความสำเร็จเช่นเคย เนื่องจากไม่มีผู้ยื่นประมูลบ้านของอดีตผู้นำประชาธิปไตยรายนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 แล้ว • บ้านสองชั้นในย่างกุ้งที่มีพื้นที่ราว 0.8 เฮกตาร์ ถูกนำออกประมูลขายด้วยราคาขั้นต่ำที่ 140 ล้านดอลลาร์ หลังจากมีข้อพิพาทเรื่องทรัพย์สินระหว่างอองซานซูจีและพี่ชายของเธอมายาวนานนับสิบปี • ซูจีที่ถูกกักบริเวณในบ้านเป็นเวลาหลายปีภายใต้รัฐบาลทหารชุดก่อน ถูกคุมขังนับตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจอีกครั้งเมื่อเดือนก.พ. 2564 • นักข่าวราว 12 คน ได้เข้าร่วมชมการประมูลที่จัดขึ้นริมถนนหน้าบ้านที่ตั้งอยู่บนบนถนนยูนิเวอร์ซิตี้ ที่มีต้นไม้ปกคลุมร่มรื่น และอยู่ห่างจากสถานทูตสหรัฐฯ ไม่ไกลนัก • หลังจากเจ้าหน้าที่เปิดเรียกประมูลที่เริ่มต้นที่ 297,000 ล้านจ๊าต หรือประมาณ 140 ล้านดอลลาร์ตามอัตราแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการ กลับไม่ได้รับการตอบรับใดๆ ทำให้ผู้จัดประมูลยกเลิกการประมูลดังกล่าว ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีที่อยู่ในสถานที่ระบุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000011775 • #MGROnline #รัฐบาลทหารพม่า #บ้านริมทะเลสาบ #อองซานซูจี
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • ท่าขี้เหล็ก - ชาวบ้านโกลาหลกันทั้งเมือง..หลังไทยปิดการจ่ายกระแสไฟฟ้าข้ามแดนหวังตัดเส้นเลือดหล่อเลี้ยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์ท่าขี้เหล็ก ไม่พอ งดส่งออกน้ำมันซ้ำ ทำผู้คนแห่นำรถราต่อคิวเข้าปั๊มเนืองแน่น จนบางปั๊มไม่มีน้ำมันให้เติมแล้ว

    กรณีทางการไทยได้ตัดการส่งกระแสไฟฟ้าไปให้ประเทศเมียนมาจำนวน 5 จุด ประกอบด้วย ชายแดนด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย 2 จุด อ.แม่สอด จ.ตาก 2 จุด และ จ.กาญจนบุรี 1 จุด ตั้งแต่ 09.00 น.เศษ (5 ก.พ.) ที่ผ่านมานั้น พบว่าพื้นที่พรมแดนฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกับ อ.แม่สาย นอกจากจะงดการส่งกระแสไฟฟ้าแล้วยังงดการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงข้ามฝั่งไปอีกด้วย

    โดยมีรถยนต์บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงจอดอยู่บริเวณหน้าด่านพรมแดนสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 หลายคัน และแต่ละคันได้รับแจ้งว่าให้งดการส่งออกไปก่อน ทำให้มีการจอดรอเพราะหวังว่าจะมีการยกเลิกในเร็ววัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000011739

    #MGROnline #ท่าขี้เหล็ก #ปิดการจ่ายกระแสไฟฟ้า #งดส่งออกน้ำมัน #แก๊งคอลเซ็นเตอร์
    ท่าขี้เหล็ก - ชาวบ้านโกลาหลกันทั้งเมือง..หลังไทยปิดการจ่ายกระแสไฟฟ้าข้ามแดนหวังตัดเส้นเลือดหล่อเลี้ยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์ท่าขี้เหล็ก ไม่พอ งดส่งออกน้ำมันซ้ำ ทำผู้คนแห่นำรถราต่อคิวเข้าปั๊มเนืองแน่น จนบางปั๊มไม่มีน้ำมันให้เติมแล้ว • กรณีทางการไทยได้ตัดการส่งกระแสไฟฟ้าไปให้ประเทศเมียนมาจำนวน 5 จุด ประกอบด้วย ชายแดนด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย 2 จุด อ.แม่สอด จ.ตาก 2 จุด และ จ.กาญจนบุรี 1 จุด ตั้งแต่ 09.00 น.เศษ (5 ก.พ.) ที่ผ่านมานั้น พบว่าพื้นที่พรมแดนฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกับ อ.แม่สาย นอกจากจะงดการส่งกระแสไฟฟ้าแล้วยังงดการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงข้ามฝั่งไปอีกด้วย • โดยมีรถยนต์บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงจอดอยู่บริเวณหน้าด่านพรมแดนสะพานข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 2 หลายคัน และแต่ละคันได้รับแจ้งว่าให้งดการส่งออกไปก่อน ทำให้มีการจอดรอเพราะหวังว่าจะมีการยกเลิกในเร็ววัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000011739 • #MGROnline #ท่าขี้เหล็ก #ปิดการจ่ายกระแสไฟฟ้า #งดส่งออกน้ำมัน #แก๊งคอลเซ็นเตอร์
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน
    .
    รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ
    .
    รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง
    .
    หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด
    .
    เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า
    .
    ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้
    .
    “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ”
    .
    พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น”
    .
    ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ
    .
    เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน
    .
    โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ
    .
    เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง
    .
    นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2)
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา
    .
    และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา
    .
    แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศ มาร์โก รูบิโอ ออกมายินดีหลังปานามาจะไม่ต่ออายุโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง BRI ของจีนหลังข้อตกลงหมดอายุเพื่อถอยห่างจากปักกิ่ง และยินยอมให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านตลอดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ผู้เชี่ยวชาญออกมาชี้ ทรัมป์อาจบีบปานามาให้ออกจาก BRI ได้ แต่อาจยังไม่ได้กับชาติในเอเชียที่หวังพึ่งทุนจีนพัฒนาประเทศหลังนายกฯ ไทยเพิ่งแสดงความยินดี ครม.อนุมัติไฮสปีดเทรนโคราช-หนองคาย 357 กม.เชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ คาด เสร็จปี 73 ชี้เร่งเฟส 1 ยังช้ากว่าแผน . รอยเตอร์รายงานวันอังคาร (4 ก.พ.) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) วานนี้ (3) ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของผู้นำปานามาที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน BRI ด้วยการไม่ต่ออายุข้อตกลงหลังหมดอายุ . รูบิโอกล่าวชื่นชมว่า เป็นความเคลื่อนไหวที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ . รอยเตอร์รายงานว่า เป็นความเคลื่อนไหวใดๆของปานามาในการถอยห่างจากโครงการ BRI ของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิงนั้นเป็นชัยชนะของวอชิงตัน ซึ่งสหรัฐฯ นั้นยืนยันมาโดยตลอดว่า ปักกิ่งใช้ยุทธวิธีกับดักเงินกู้ทางการทูต (debt trap diplomacy) เพื่อสร้างอิทธิพลระดับโลกของตัวเอง . หลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ ราอูล มูลิโน (Jose Raul Mulino) ออกมาแถลงยืนยันว่า สหรัฐฯ ตกลงปานามาในข้อตกลงแบบกว้างที่ปานามาจะไม่ต่อสัญญาข้อตกลงโครงสร้างพื้นฐานจีน BRI และสามารถยกเลิกได้ก่อนกำหนด . เขาเปิดเผยว่า ข้อตกลงนั้นมีกำหนดจะสิ้นสุดในอีกราว 2-3 ปีข้างหน้า . ทั้งนี้ ปานามากลายเป็นชาติแรกในดินแดนละตินอเมริกากระโดดเข้าร่วมโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของปักกิ่งเมื่อพฤศจิกายนปี 2017 หรือ 5 เดือนหลังจากตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันและเป็นพันธมิตรกับจีนแทน . เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่ ศาสตราจารย์ เหยียนจง ฮวง (Yanzhong Huang) ผู้เชี่ยวชาญประจำ Council on Foreign Relations สถาบันธิงแทงก์ชื่อดังของสหรัฐฯ ออกมาฟันธงว่า สหรัฐฯ และจีนกำลังเล่นเกมทางการทูตอยู่ และการที่ปานามาประกาศตัวจะถอนตัวจากโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของประธานาธิบดีสีได้ถือเป็นชัยชนะเริ่มแรกของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ชุดใหม่ในการทูตแบบใครกะพริบตาก่อนแพ้ . “สหรัฐฯ ปัจจุบันดูเหมือนให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นไปที่หลังบ้านตัวเองคือละตินอเมริกาซึ่งประเทศเหล่านี้ยังคงต้องพึ่งการสนับสนุนและการค้ากับสหรัฐฯ” . พร้อมเสริมว่า “แต่ผมไม่มั่นใจว่าอเมริกาจะสามารถใช้อิทธิพลที่คล้ายกันในการบีบประเทศเอเชีย ตัวอย่างเช่น เพื่อให้มีการยอมอ่อนข้อในลักษณะที่คล้ายกัน จากการที่จีนได้กลายเป็นผู้เล่นทรงอิทธิพลในภูมิภาคนั้น” . ทั้งนี้ ปักกิ่งได้ออกมาปฏิเสธเสียงวิจารณ์จากโลกตะวันตกเกี่ยวกับโครงการโครงสร้างพื้นฐาน BRI ของจีน โดยชี้ว่ามีมากกว่า 100 ประเทศได้เข้าร่วมที่จะเป็นการกระตุ้นการพัฒนาระดับโลกที่มีทั้งท่าเรือใหม่ สะพาน ทางรถไฟและโปรเจกต์อื่นๆ . เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีวันอังคาร (4) ออกมาเปิดเผยคณะรัฐมนตรีไทยได้ไฟเขียวอนุมัติรถไฟความเร็วสูงเฟส 2 โคราช-หนองคาย 357 กม. โดย เรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟเพื่อเชื่อมรถไฟลาวที่เวียงจันทน์ ให้สามารถเดินทางเข้าจีน คาดสามารถเสร็จสิ้นลงในปี 2573 MGRออนไลน์รายงาน . โดยเรื่องนี้เป็นการดำเนินการตามร่างบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยและจีนว่าด้วยการกระชับความร่วมมือในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟ . เกิดขึ้นหลังวันที่ 4 กันยายน ปี 2017 ระหว่างการประชุมสุดยอดเซียะเหมิน BRICS ที่มีประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง และนายกรัฐมนตรีไทยในเวลานั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมกันเป็นสักขีพยาน อดีตกระทรวงการรถไฟจีน ปัจจุบันเป็นในเครือของบริษัท การรถไฟแห่งชาติจีน กรุ๊ป จำกัด (China National Railway Group Limited) และบริษัทในเครือบริษัทในเครือของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงนามในสัญญาจ้างออกแบบวิศวกรรมโยธาระยะแรก (เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา) และสัญญาจ้างเป็นที่ปรึกษา อ้างอิงจากเว็บไซต์สถานทูตไทยประจำกรุงปักกิ่ง . นอกจากนี้ ในชัยชนะพบว่าปานามายอมอนุญาตให้เรือรบอเมริกันสามารถวิ่งผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม สื่อด้านขนส่งทางทะเล maritime executive รายงานโดยอ้างอิงจากบลูมเบิร์กที่รายงานเป็นเจ้าแรกในวันอาทิตย์ (2) . รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ ได้ไปเยือนคลองปานามาวันอาทิตย์ (2) และสังเกตการปฏิบัติการด่าน Miraflores locks ภายในคลองปานามา . และหลังการเยือนเจ้าหน้าที่ปานามาได้ออกมายืนยันว่า จะให้ความสำคัญสูงสุดต่อการเรือรบสหรัฐฯ ในการล่องผ่านตลอดคลองปานามา . แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่อเมริกันได้เปิดเผยกับบลูมเบิร์กตามการรายงานของสื่อ TradeWinds วันจันทร์ (3) ว่า ประธานาธิบดีปานามารับปากรูบิโอว่า เรือรบอเมริกันสามารถผ่านคลองปานามาได้โดยเสรีไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011539 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    7
    0 Comments 0 Shares 1459 Views 0 Reviews
  • บริษัท Intel ได้รับเงินชดเชยจำนวน 536 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่มีการยกเลิกค่าปรับเรื่องการผูกขาดที่ย้อนกลับไปถึงปี 2009

    ในอดีต คณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับ Intel จำนวน 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าใช้ส่วนลดเพื่อกีดกันผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ไม่ให้ซื้อชิปจากคู่แข่งอย่าง AMD ในช่วงปี 2002 ถึง 2007 แต่ในปี 2022 ศาลสูงของสหภาพยุโรปได้พบข้อผิดพลาดในวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจของคณะกรรมาธิการและยกเลิกค่าปรับเป็นส่วนใหญ่ โดยเหลือเพียง 386 ล้านดอลลาร์

    Intel ได้ทวงเงินชดเชยจากดอกเบี้ยของเงินที่จ่ายไป และคณะกรรมาธิการยุโรปได้ยืนยันว่า Intel จะได้รับชดเชยจำนวน 536 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นชัยชนะทางกฎหมายที่สำคัญของบริษัท

    การยกเลิกค่าปรับนี้เป็นการสิ้นสุดคดีผูกขาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหภาพยุโรป และยังเป็นการตั้งแบบอย่างในการจัดการค่าปรับและการทวงเงินดอกเบี้ยในอนาคต แม้ว่า Intel จะประสบความสำเร็จทางกฎหมาย แต่บริษัทยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่เข้มข้นจากคู่แข่งอย่าง AMD และบริษัทอื่น ๆ ที่เข้ามาในตลาด

    การที่ Intel ได้รับชดเชยในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาภาระทางการเงินในอดีต แต่ยังเป็นการตั้งตัวอย่างในการจัดการกับค่าปรับทางกฎหมายในอนาคตอีกด้วย

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-receives-usd536-million-from-eu-following-antitrust-fine-reversal
    บริษัท Intel ได้รับเงินชดเชยจำนวน 536 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่มีการยกเลิกค่าปรับเรื่องการผูกขาดที่ย้อนกลับไปถึงปี 2009 ในอดีต คณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับ Intel จำนวน 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าใช้ส่วนลดเพื่อกีดกันผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ไม่ให้ซื้อชิปจากคู่แข่งอย่าง AMD ในช่วงปี 2002 ถึง 2007 แต่ในปี 2022 ศาลสูงของสหภาพยุโรปได้พบข้อผิดพลาดในวิเคราะห์ทางเศรษฐกิจของคณะกรรมาธิการและยกเลิกค่าปรับเป็นส่วนใหญ่ โดยเหลือเพียง 386 ล้านดอลลาร์ Intel ได้ทวงเงินชดเชยจากดอกเบี้ยของเงินที่จ่ายไป และคณะกรรมาธิการยุโรปได้ยืนยันว่า Intel จะได้รับชดเชยจำนวน 536 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นชัยชนะทางกฎหมายที่สำคัญของบริษัท การยกเลิกค่าปรับนี้เป็นการสิ้นสุดคดีผูกขาดที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหภาพยุโรป และยังเป็นการตั้งแบบอย่างในการจัดการค่าปรับและการทวงเงินดอกเบี้ยในอนาคต แม้ว่า Intel จะประสบความสำเร็จทางกฎหมาย แต่บริษัทยังคงต้องเผชิญกับการแข่งขันในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ที่เข้มข้นจากคู่แข่งอย่าง AMD และบริษัทอื่น ๆ ที่เข้ามาในตลาด การที่ Intel ได้รับชดเชยในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาภาระทางการเงินในอดีต แต่ยังเป็นการตั้งตัวอย่างในการจัดการกับค่าปรับทางกฎหมายในอนาคตอีกด้วย https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-receives-usd536-million-from-eu-following-antitrust-fine-reversal
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • ออนแทรีโอของแคนาดาตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญามูลค่า 100 ล้านดอลลาร์แคนาดากับบริษัท Starlink ของอีลอน มัสก์ การตัดสินใจนี้เป็นการตอบโต้ภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดขึ้นมาใหม่จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    ภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแคนาดา โดยมีแผนที่จะเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาทั้งหมด ยกเว้นน้ำมันที่ต้องเสียภาษี 10% มาตรการเหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจแคนาดาเข้าสู่ภาวะถดถอยหากยังคงดำเนินต่อไป โดยบริษัทในสหรัฐฯ จะสูญเสียรายได้หลายพันล้านดอลลาร์และมีเพียงโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะต้องรับผิดชอบ

    จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศว่าจะเก็บภาษี 25% จากสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 155 พันล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อตอบโต้ หากมาตรการภาษียังคงดำเนินต่อไป แคนาดาอาจตกลงเจรจากับสหรัฐฯ แต่ไม่มีการคาดหวังว่าจะได้ยืดหยุ่นเหมือนที่ได้รับการยืดหยุ่นชั่วคราวจากเม็กซิโก

    การตัดสินใจของออนแทรีโอแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในระดับนานาชาติที่เกิดขึ้นจากการกำหนดภาษีและการตอบโต้ซึ่งกันและกัน โดยบริษัทในสหรัฐฯ และแคนาดาต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่ซับซ้อน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/04/ontario-cancels-starlink-contract-in-latest-canadian-tariffs-protest
    ออนแทรีโอของแคนาดาตัดสินใจที่จะยกเลิกสัญญามูลค่า 100 ล้านดอลลาร์แคนาดากับบริษัท Starlink ของอีลอน มัสก์ การตัดสินใจนี้เป็นการตอบโต้ภาษีที่สหรัฐฯ กำหนดขึ้นมาใหม่จากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแคนาดา โดยมีแผนที่จะเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากแคนาดาทั้งหมด ยกเว้นน้ำมันที่ต้องเสียภาษี 10% มาตรการเหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจแคนาดาเข้าสู่ภาวะถดถอยหากยังคงดำเนินต่อไป โดยบริษัทในสหรัฐฯ จะสูญเสียรายได้หลายพันล้านดอลลาร์และมีเพียงโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะต้องรับผิดชอบ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาประกาศว่าจะเก็บภาษี 25% จากสินค้าสหรัฐฯ มูลค่า 155 พันล้านดอลลาร์แคนาดา เพื่อตอบโต้ หากมาตรการภาษียังคงดำเนินต่อไป แคนาดาอาจตกลงเจรจากับสหรัฐฯ แต่ไม่มีการคาดหวังว่าจะได้ยืดหยุ่นเหมือนที่ได้รับการยืดหยุ่นชั่วคราวจากเม็กซิโก การตัดสินใจของออนแทรีโอแสดงให้เห็นถึงความท้าทายในระดับนานาชาติที่เกิดขึ้นจากการกำหนดภาษีและการตอบโต้ซึ่งกันและกัน โดยบริษัทในสหรัฐฯ และแคนาดาต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจและการเมืองที่ซับซ้อน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/04/ontario-cancels-starlink-contract-in-latest-canadian-tariffs-protest
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Ontario cancels Starlink contract in latest Canadian tariffs protest
    OTTAWA (Reuters) - The Canadian province of Ontario on Monday announced it was cancelling a C$100 million ($68.12 million) contract with Elon Musk's Starlink, the latest retaliatory move against tariffs announced by U.S. President Donald Trump.
    0 Comments 0 Shares 131 Views 0 Reviews
  • "Doug Ford" ผู้ว่าการรัฐออนทาริโอ (Ontario) ของแคนาดา ประกาศว่ารัฐออนแทรีโอจะยกเลิกสัญญามูลค่า 100 ล้านเหรียญกับ Starlink ของอีลอน มัสก์ หลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีแคนาดา 25% โดยให้เหตุผลว่า “เราจะไม่ทำธุรกิจกับคนที่มุ่งทำลายเศรษฐกิจของเรา”

    นอกจากนี้ Ford ยังประกาศห้ามบริษัทอเมริกันทั้งหมดทำสัญญากับเมืองอื่นจนกว่าจะมีการยกเลิกมาตรการภาษี
    "Doug Ford" ผู้ว่าการรัฐออนทาริโอ (Ontario) ของแคนาดา ประกาศว่ารัฐออนแทรีโอจะยกเลิกสัญญามูลค่า 100 ล้านเหรียญกับ Starlink ของอีลอน มัสก์ หลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีแคนาดา 25% โดยให้เหตุผลว่า “เราจะไม่ทำธุรกิจกับคนที่มุ่งทำลายเศรษฐกิจของเรา” นอกจากนี้ Ford ยังประกาศห้ามบริษัทอเมริกันทั้งหมดทำสัญญากับเมืองอื่นจนกว่าจะมีการยกเลิกมาตรการภาษี
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 133 Views 0 Reviews
  • 158 ปี ยุคเมจิญี่ปุ่น เมื่อมกุฎราชกุมารมุตสึฮิโตะ ขึ้นครองราชย์ ปฏิรูปประเทศเพียง 2 ทศวรรษ จากด้อยพัฒนา สู่ประเทศอุตสาหกรรม

    📅 ย้อนกลับไปเมื่อ 158 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2410 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เมื่อ "มกุฎราชกุมารมุตสึฮิโตะ" ขึ้นครองราชบัลลังก์ กลายเป็น "จักรพรรดิเมจิ" (Meiji Emperor) และนำพาญี่ปุ่นเข้าสู่ ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่ยิ่งใหญ่

    ในระยะเวลาเพียง 20 ปี ญี่ปุ่นสามารถเปลี่ยนแปลง จากรัฐศักดินาที่ล้าหลัง ไปสู่ประเทศอุตสาหกรรม ที่ทรงอิทธิพลในภูมิภาคเอเชีย ได้อย่างน่าทึ่ง! 📈✨

    👑 จากมกุฎราชกุมาร สู่ผู้นำจักรวรรดิญี่ปุ่น 👑
    "มุตสึฮิโตะ" หรือที่รู้จักกันในพระนาม "จักรพรรดิเมจิ" (明治天皇, Meiji Tennō) เป็นจักรพรรดิ องค์ที่ 122 ของญี่ปุ่น ทรงครองราชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2410 - 2455 (ค.ศ. 1867 - 1912) ถือเป็นยุคเปลี่ยนผ่าน ที่สำคัญที่สุด ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

    ก่อนขึ้นครองราชย์ ญี่ปุ่นยังคงเป็นรัฐศักดินา ภายใต้การปกครอง ของโชกุนโทกูงาวะ (Tokugawa Shogunate) ซึ่งดำเนินนโยบาย "ซะโกกุ" (鎖国, Sakoku) หรือการปิดประเทศมากว่า 250 ปี ทำให้ญี่ปุ่นล้าหลัง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยี

    แต่เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์ การปฏิรูปครั้งใหญ่ ได้เริ่มต้นขึ้น 🏗️⚙️

    🔻 การล่มสลายของโชกุน และระบบซามูไร ⚔️
    หลังจากที่จักรพรรดิเมจิ ขึ้นครองราชย์ รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ ถูกโค่นล้มในปี พ.ศ. 2411 โดยกองกำลัง ของกลุ่มแคว้นศักดินา ซัตสึมะ (Satsuma) และโชชู (Chōshū) ในสงครามโบชิน (Boshin War)

    การสิ้นสุดของโชกุน ส่งผลให้ระบบซามูไร ถูกยกเลิก ประชาชนทุกคน ได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่มีชนชั้นสูง ที่ได้รับอภิสิทธิ์ เหนือกว่าคนทั่วไปอีกต่อไป

    📍 ย้ายเมืองหลวงจากเกียวโต สู่โตเกียว
    จักรพรรดิเมจิ ได้ย้ายเมืองหลวงจากเกียวโต มายังเอโดะ และเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น "โตเกียว" (Tokyo, 東京) กลายเป็นศูนย์กลาง อำนาจทางการเมือง และเศรษฐกิจของญี่ปุ่น

    🏛️ ปฏิรูปประเทศปูทางสู่มหาอำนาจโลก
    📜 ปฏิรูประบบการเมือง จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สู่รัฐธรรมนูญ
    รัฐบาลเมจิประกาศใช้ "รัฐธรรมนูญเมจิ" (Meiji Constitution) ในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) ซึ่งได้รับอิทธิพลจาก รัฐธรรมนูญของเยอรมนี ทำให้ญี่ปุ่นมีระบบรัฐสภา (Diet, 国会) ที่ประกอบด้วย
    ✅ สภาขุนนาง (House of Peers)
    ✅ สภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives)

    แต่ถึงแม้จะมีระบบรัฐสภา อำนาจสูงสุด ยังคงอยู่ที่จักรพรรดิ และขุนนางชั้นสูง ซึ่งแตกต่างจากประชาธิปไตยตะวันตก

    🏭 ปฏิรูปเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม
    ก่อนการปฏิรูป ญี่ปุ่นพึ่งพาเกษตรกรรม และมีระบบศักดินา ที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่หลังจากการปฏิรูป ประเทศญี่ปุ่นได้กลายเป็น ศูนย์กลางอุตสาหกรรมของเอเชีย

    📌 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
    🔹 ยกเลิกระบบศักดินา นำที่ดินคืนจากไดเมียว (ขุนนางศักดินา) และจัดสรรให้เกษตรกร 📜
    🔹 ก่อตั้งระบบธนาคารและเงินตรา ใช้เงินเยน (¥) เป็นสกุลเงินหลัก 💴
    🔹 สร้างทางรถไฟ และระบบคมนาคม ทำให้เศรษฐกิจเติบโตเร็วขึ้น 🚄
    🔹 ลงทุนในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเหล็กกล้า สิ่งทอ และเรือเดินสมุทร 🏭

    🎓 ปฏิรูประบบการศึกษา สร้างชาติด้วยความรู้
    ในปี พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) รัฐบาลเมจิออกกฎหมาย การศึกษาภาคบังคับ ให้เด็กทุกคน ต้องเรียนหนังสือ 👨‍🎓📚

    หลักสูตรการศึกษา
    📌 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามแบบตะวันตก
    📌 ลัทธิขงจื๊อ และความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิ
    📌 ส่งนักเรียนไปศึกษาต่อต่างประเทศ

    ผลลัพธ์คือ ญี่ปุ่นมีประชากร ที่มีการศึกษาสูงสุดในเอเชีย ภายในเวลาไม่กี่สิบปี

    ⚔️ สงครามและชัยชนะ ที่เปลี่ยนชะตาญี่ปุ่น
    ⚔️ สงครามจีน-ญี่ปุ่น (Sino-Japanese War, 1894-1895)
    ญี่ปุ่นสามารถเอาชนะจีน และยึดครองไต้หวัน 🇹🇼

    ⚔️ สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (Russo-Japanese War, 1904-1905)
    ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศเอเชียชาติแรก ที่สามารถเอาชนะ มหาอำนาจยุโรปได้! 🇯🇵💥

    🔚 20 ปี แห่งการเปลี่ยนแปลง สู่มหาอำนาจโลก
    ✅ จากรัฐศักดินา สู่รัฐอุตสาหกรรม
    ✅ จากระบบซามูไร สู่ระบบทหารสมัยใหม่
    ✅ จากประเทศปิดตัวเอง สู่ประเทศมหาอำนาจระดับโลก

    ยุคเมจิพิสูจน์ให้เห็นว่า "การเปลี่ยนแปลง" คือกุญแจสู่ความก้าวหน้า! 🔑🚀

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 031455 ก.พ. 2568

    🔗 #MeijiEra #JapanHistory #จักรพรรดิเมจิ #ปฏิรูปญี่ปุ่น #ยุคเมจิ #ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น #MeijiRestoration #JapanEmpire #JapaneseIndustry #ModernizationJapan
    158 ปี ยุคเมจิญี่ปุ่น เมื่อมกุฎราชกุมารมุตสึฮิโตะ ขึ้นครองราชย์ ปฏิรูปประเทศเพียง 2 ทศวรรษ จากด้อยพัฒนา สู่ประเทศอุตสาหกรรม 📅 ย้อนกลับไปเมื่อ 158 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2410 นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น เมื่อ "มกุฎราชกุมารมุตสึฮิโตะ" ขึ้นครองราชบัลลังก์ กลายเป็น "จักรพรรดิเมจิ" (Meiji Emperor) และนำพาญี่ปุ่นเข้าสู่ ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ที่ยิ่งใหญ่ ในระยะเวลาเพียง 20 ปี ญี่ปุ่นสามารถเปลี่ยนแปลง จากรัฐศักดินาที่ล้าหลัง ไปสู่ประเทศอุตสาหกรรม ที่ทรงอิทธิพลในภูมิภาคเอเชีย ได้อย่างน่าทึ่ง! 📈✨ 👑 จากมกุฎราชกุมาร สู่ผู้นำจักรวรรดิญี่ปุ่น 👑 "มุตสึฮิโตะ" หรือที่รู้จักกันในพระนาม "จักรพรรดิเมจิ" (明治天皇, Meiji Tennō) เป็นจักรพรรดิ องค์ที่ 122 ของญี่ปุ่น ทรงครองราชย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2410 - 2455 (ค.ศ. 1867 - 1912) ถือเป็นยุคเปลี่ยนผ่าน ที่สำคัญที่สุด ในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ก่อนขึ้นครองราชย์ ญี่ปุ่นยังคงเป็นรัฐศักดินา ภายใต้การปกครอง ของโชกุนโทกูงาวะ (Tokugawa Shogunate) ซึ่งดำเนินนโยบาย "ซะโกกุ" (鎖国, Sakoku) หรือการปิดประเทศมากว่า 250 ปี ทำให้ญี่ปุ่นล้าหลัง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง และเทคโนโลยี แต่เมื่อพระองค์ขึ้นครองราชย์ การปฏิรูปครั้งใหญ่ ได้เริ่มต้นขึ้น 🏗️⚙️ 🔻 การล่มสลายของโชกุน และระบบซามูไร ⚔️ หลังจากที่จักรพรรดิเมจิ ขึ้นครองราชย์ รัฐบาลโชกุนโทกูงาวะ ถูกโค่นล้มในปี พ.ศ. 2411 โดยกองกำลัง ของกลุ่มแคว้นศักดินา ซัตสึมะ (Satsuma) และโชชู (Chōshū) ในสงครามโบชิน (Boshin War) การสิ้นสุดของโชกุน ส่งผลให้ระบบซามูไร ถูกยกเลิก ประชาชนทุกคน ได้รับสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่มีชนชั้นสูง ที่ได้รับอภิสิทธิ์ เหนือกว่าคนทั่วไปอีกต่อไป 📍 ย้ายเมืองหลวงจากเกียวโต สู่โตเกียว จักรพรรดิเมจิ ได้ย้ายเมืองหลวงจากเกียวโต มายังเอโดะ และเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น "โตเกียว" (Tokyo, 東京) กลายเป็นศูนย์กลาง อำนาจทางการเมือง และเศรษฐกิจของญี่ปุ่น 🏛️ ปฏิรูปประเทศปูทางสู่มหาอำนาจโลก 📜 ปฏิรูประบบการเมือง จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สู่รัฐธรรมนูญ รัฐบาลเมจิประกาศใช้ "รัฐธรรมนูญเมจิ" (Meiji Constitution) ในปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) ซึ่งได้รับอิทธิพลจาก รัฐธรรมนูญของเยอรมนี ทำให้ญี่ปุ่นมีระบบรัฐสภา (Diet, 国会) ที่ประกอบด้วย ✅ สภาขุนนาง (House of Peers) ✅ สภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) แต่ถึงแม้จะมีระบบรัฐสภา อำนาจสูงสุด ยังคงอยู่ที่จักรพรรดิ และขุนนางชั้นสูง ซึ่งแตกต่างจากประชาธิปไตยตะวันตก 🏭 ปฏิรูปเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม ก่อนการปฏิรูป ญี่ปุ่นพึ่งพาเกษตรกรรม และมีระบบศักดินา ที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่หลังจากการปฏิรูป ประเทศญี่ปุ่นได้กลายเป็น ศูนย์กลางอุตสาหกรรมของเอเชีย 📌 การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 🔹 ยกเลิกระบบศักดินา นำที่ดินคืนจากไดเมียว (ขุนนางศักดินา) และจัดสรรให้เกษตรกร 📜 🔹 ก่อตั้งระบบธนาคารและเงินตรา ใช้เงินเยน (¥) เป็นสกุลเงินหลัก 💴 🔹 สร้างทางรถไฟ และระบบคมนาคม ทำให้เศรษฐกิจเติบโตเร็วขึ้น 🚄 🔹 ลงทุนในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเหล็กกล้า สิ่งทอ และเรือเดินสมุทร 🏭 🎓 ปฏิรูประบบการศึกษา สร้างชาติด้วยความรู้ ในปี พ.ศ. 2415 (ค.ศ. 1872) รัฐบาลเมจิออกกฎหมาย การศึกษาภาคบังคับ ให้เด็กทุกคน ต้องเรียนหนังสือ 👨‍🎓📚 หลักสูตรการศึกษา 📌 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามแบบตะวันตก 📌 ลัทธิขงจื๊อ และความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิ 📌 ส่งนักเรียนไปศึกษาต่อต่างประเทศ ผลลัพธ์คือ ญี่ปุ่นมีประชากร ที่มีการศึกษาสูงสุดในเอเชีย ภายในเวลาไม่กี่สิบปี ⚔️ สงครามและชัยชนะ ที่เปลี่ยนชะตาญี่ปุ่น ⚔️ สงครามจีน-ญี่ปุ่น (Sino-Japanese War, 1894-1895) ญี่ปุ่นสามารถเอาชนะจีน และยึดครองไต้หวัน 🇹🇼 ⚔️ สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น (Russo-Japanese War, 1904-1905) ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศเอเชียชาติแรก ที่สามารถเอาชนะ มหาอำนาจยุโรปได้! 🇯🇵💥 🔚 20 ปี แห่งการเปลี่ยนแปลง สู่มหาอำนาจโลก ✅ จากรัฐศักดินา สู่รัฐอุตสาหกรรม ✅ จากระบบซามูไร สู่ระบบทหารสมัยใหม่ ✅ จากประเทศปิดตัวเอง สู่ประเทศมหาอำนาจระดับโลก ยุคเมจิพิสูจน์ให้เห็นว่า "การเปลี่ยนแปลง" คือกุญแจสู่ความก้าวหน้า! 🔑🚀 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 031455 ก.พ. 2568 🔗 #MeijiEra #JapanHistory #จักรพรรดิเมจิ #ปฏิรูปญี่ปุ่น #ยุคเมจิ #ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น #MeijiRestoration #JapanEmpire #JapaneseIndustry #ModernizationJapan
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 296 Views 0 Reviews
  • เที่ยวบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (United Airlines) จากฮุสตัน (Houston) ไปนิวยอร์ก (New York) ต้องอพยพผู้โดยสารออกจากพื้นที่หลังจากเครื่องยนต์เกิดไฟไหม้จนลูกเรือต้องยกเลิกเที่ยวบินขึ้นบิน

    ตามรายงานของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) เที่ยวบิน 1382 ของยูไนเต็ดแอร์ไลน์กำลังเตรียมออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติจอร์จ บุช เมื่อเวลาประมาณ 8.35 น. ของวันอาทิตย์

    ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
    เที่ยวบินของสายการบินยูไนเต็ดแอร์ไลน์ (United Airlines) จากฮุสตัน (Houston) ไปนิวยอร์ก (New York) ต้องอพยพผู้โดยสารออกจากพื้นที่หลังจากเครื่องยนต์เกิดไฟไหม้จนลูกเรือต้องยกเลิกเที่ยวบินขึ้นบิน ตามรายงานของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) เที่ยวบิน 1382 ของยูไนเต็ดแอร์ไลน์กำลังเตรียมออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติจอร์จ บุช เมื่อเวลาประมาณ 8.35 น. ของวันอาทิตย์ ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 227 Views 23 0 Reviews
  • เสื่อมและเสียชื่อฝรั่งเศส เจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก

    ฝ่ายจัดแข่งขันการันตีว่าจะมีการเปลี่ยนเหรียญรางวัลใหม่ให้กับนักกีฬาและได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทที่จัดทำเหรียญรางวัลไปแล้ว โดยหนังสือพิมพ์ La Lettre ในประเทศฝรั่งเศส รายงานว่า สาเหตุของปัญญาดังกล่าวเป็นเพราะขาดเวลาในการทดสอบเหรียญ และวัสดุบางอย่างที่ใช้ในการผลิต ไม่ตรงไปตามที่ต้องการ
    เสื่อมและเสียชื่อฝรั่งเศส เจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก ฝ่ายจัดแข่งขันการันตีว่าจะมีการเปลี่ยนเหรียญรางวัลใหม่ให้กับนักกีฬาและได้ยกเลิกสัญญากับบริษัทที่จัดทำเหรียญรางวัลไปแล้ว โดยหนังสือพิมพ์ La Lettre ในประเทศฝรั่งเศส รายงานว่า สาเหตุของปัญญาดังกล่าวเป็นเพราะขาดเวลาในการทดสอบเหรียญ และวัสดุบางอย่างที่ใช้ในการผลิต ไม่ตรงไปตามที่ต้องการ
    0 Comments 0 Shares 92 Views 0 Reviews
  • ข่าวนักศึกษาหญิงชาวจีน "Liu Lijun" ของ UCLA ถูกยกเลิกวีซา ซึ่งเป็นผลจากคำสั่งบริหารของทรัมป์ เนื่องจากเข้าร่วมการชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์ และต่อต้านชาวยิว ที่มีการแชร์อย่างมากมายในโซเชียลตอนนี้

    "ขอยังไม่เชื่อไว้ก่อน"

    เนื่องจากมันแปลกๆ ทำไมมีข่าวแค่คนเดียว และเจาะจงว่าเป็นชาวจีน ทั้งที่มีนักศึกษาเข้าร่วมการชุมนุมมากมาย

    และภาพวิดีโอที่แชร์กันอยู่ตอนนี้ เป็นภาพเก่าเมื่อพฤษภาคม 2024

    ที่สำคัญ ทาง UCLA ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงใดๆ

    ข่าวนักศึกษาหญิงชาวจีน "Liu Lijun" ของ UCLA ถูกยกเลิกวีซา ซึ่งเป็นผลจากคำสั่งบริหารของทรัมป์ เนื่องจากเข้าร่วมการชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์ และต่อต้านชาวยิว ที่มีการแชร์อย่างมากมายในโซเชียลตอนนี้ "ขอยังไม่เชื่อไว้ก่อน" เนื่องจากมันแปลกๆ ทำไมมีข่าวแค่คนเดียว และเจาะจงว่าเป็นชาวจีน ทั้งที่มีนักศึกษาเข้าร่วมการชุมนุมมากมาย และภาพวิดีโอที่แชร์กันอยู่ตอนนี้ เป็นภาพเก่าเมื่อพฤษภาคม 2024 ที่สำคัญ ทาง UCLA ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงใดๆ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • Intel ได้ประกาศเลื่อนการเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Xeon สำหรับศูนย์ข้อมูลที่มีชื่อรหัสว่า "Clearwater Forest" ไปเป็นครึ่งแรกของปี 2026 ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมหนึ่งถึงสองไตรมาส การเลื่อนนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Intel ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สี่ของปี 2024 และผลประกอบการทั้งปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขาดทุนอย่างมาก

    โปรเซสเซอร์ "Clearwater Forest" เป็นโปรเซสเซอร์ศูนย์ข้อมูลตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A (1.8nm-class) และมีชิปเล็ทคอมพิวต์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Foveros 3D base die การเลื่อนการเปิดตัวนี้จะส่งผลกระทบต่อสถานะการแข่งขันของ Intel ในตลาดศูนย์ข้อมูลและเลื่อนการชนะการออกแบบที่คาดหวังกับลูกค้าที่สนใจ

    นอกจากนี้ Intel ยังประกาศยกเลิกการผลิต GPU AI ที่มีชื่อรหัสว่า "Falcon Shores" ซึ่งทำให้สถานะการแข่งขันของ Intel ในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอ่อนแอลง ผลประกอบการของ Intel ในปี 2024 มีรายได้รวม 53.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ขาดทุนสุทธิสูงถึง 18.8 พันล้านดอลลาร์

    การเลื่อนการเปิดตัวโปรเซสเซอร์ "Clearwater Forest" และการยกเลิก GPU AI "Falcon Shores" ทำให้ Intel ต้องพึ่งพาโปรเซสเซอร์ Xeon 6 'Sierra Forest' และ 'Granite Rapids' ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดในปีนี้ อย่างไรก็ตาม Intel ยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี 18A และเชื่อว่าการผลิตโปรเซสเซอร์ "Clearwater Forest" จะเป็นการพิสูจน์ความสำเร็จของเทคโนโลยีนี้

    Intel เคยโม้ไว้ในงาน CES 2025 เกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการผลิต Intel 18A แถมยังมีข่าวออกมาว่ามีเทคโนโลยี 3D-Stacked Cache ที่คล้ายกับ 3D V-Cache ของ AMD แต่ข่าวนี้เหมือนว่า Intel หลอกลวงผู้ลงทุนไหมนะ ??

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-delays-key-xeon-data-center-processor-amid-massive-losses-clearwater-forest-pushed-back-to-1h-2026
    Intel ได้ประกาศเลื่อนการเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Xeon สำหรับศูนย์ข้อมูลที่มีชื่อรหัสว่า "Clearwater Forest" ไปเป็นครึ่งแรกของปี 2026 ซึ่งล่าช้ากว่ากำหนดการเดิมหนึ่งถึงสองไตรมาส การเลื่อนนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Intel ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่สี่ของปี 2024 และผลประกอบการทั้งปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขาดทุนอย่างมาก โปรเซสเซอร์ "Clearwater Forest" เป็นโปรเซสเซอร์ศูนย์ข้อมูลตัวแรกที่ใช้เทคโนโลยีการผลิต Intel 18A (1.8nm-class) และมีชิปเล็ทคอมพิวต์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี Foveros 3D base die การเลื่อนการเปิดตัวนี้จะส่งผลกระทบต่อสถานะการแข่งขันของ Intel ในตลาดศูนย์ข้อมูลและเลื่อนการชนะการออกแบบที่คาดหวังกับลูกค้าที่สนใจ นอกจากนี้ Intel ยังประกาศยกเลิกการผลิต GPU AI ที่มีชื่อรหัสว่า "Falcon Shores" ซึ่งทำให้สถานะการแข่งขันของ Intel ในตลาด AI ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วอ่อนแอลง ผลประกอบการของ Intel ในปี 2024 มีรายได้รวม 53.1 พันล้านดอลลาร์ ลดลง 2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ขาดทุนสุทธิสูงถึง 18.8 พันล้านดอลลาร์ การเลื่อนการเปิดตัวโปรเซสเซอร์ "Clearwater Forest" และการยกเลิก GPU AI "Falcon Shores" ทำให้ Intel ต้องพึ่งพาโปรเซสเซอร์ Xeon 6 'Sierra Forest' และ 'Granite Rapids' ที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดในปีนี้ อย่างไรก็ตาม Intel ยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับเทคโนโลยี 18A และเชื่อว่าการผลิตโปรเซสเซอร์ "Clearwater Forest" จะเป็นการพิสูจน์ความสำเร็จของเทคโนโลยีนี้ Intel เคยโม้ไว้ในงาน CES 2025 เกี่ยวกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการผลิต Intel 18A แถมยังมีข่าวออกมาว่ามีเทคโนโลยี 3D-Stacked Cache ที่คล้ายกับ 3D V-Cache ของ AMD แต่ข่าวนี้เหมือนว่า Intel หลอกลวงผู้ลงทุนไหมนะ ?? https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-delays-key-xeon-data-center-processor-amid-massive-losses-clearwater-forest-pushed-back-to-1h-2026
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel delays key Xeon data center processor amid massive losses — Clearwater Forest pushed back to 1H 2026
    The latest News,/news,,news, breaking news, comment, reviews and features from the experts at Tom's Hardware
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • Intel ได้ประกาศยกเลิกการเปิดตัว GPU Falcon Shores สำหรับงาน AI และ HPC โดยจะใช้เป็นชิปทดสอบภายในเพื่อพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับรุ่นต่อไปที่ชื่อว่า Jaguar Shores แทน การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาด้านซอฟต์แวร์ที่ทำให้ Gaudi 3 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ AI ของ Intel มีการใช้งานจำกัด

    Michelle Johnston Holthaus รักษาการ CEO ของ Intel กล่าวว่าการตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากความคิดเห็นของอุตสาหกรรม และ Falcon Shores จะถูกใช้เป็นชิปทดสอบภายในเพื่อพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับศูนย์ข้อมูล AI โดยใช้ Jaguar Shores แทน

    Falcon Shores ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิภาพต่อวัตต์เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ AI และ HPC ของ Intel แต่ Intel ตัดสินใจไม่เปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้เชิงพาณิชย์เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท

    Falcon Shores เป็นการออกแบบแบบ multi-chiplet ที่มี Xe-HPC GPU chiplets สำหรับงาน AI และ HPC ที่มีการประมวลผลแบบขนานสูง การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Intel ในการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับงาน AI และ HPC ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-cancels-falcon-shores-gpu-for-ai-workloads-jaguar-shores-to-be-successor
    Intel ได้ประกาศยกเลิกการเปิดตัว GPU Falcon Shores สำหรับงาน AI และ HPC โดยจะใช้เป็นชิปทดสอบภายในเพื่อพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับรุ่นต่อไปที่ชื่อว่า Jaguar Shores แทน การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาด้านซอฟต์แวร์ที่ทำให้ Gaudi 3 ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ AI ของ Intel มีการใช้งานจำกัด Michelle Johnston Holthaus รักษาการ CEO ของ Intel กล่าวว่าการตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากความคิดเห็นของอุตสาหกรรม และ Falcon Shores จะถูกใช้เป็นชิปทดสอบภายในเพื่อพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับศูนย์ข้อมูล AI โดยใช้ Jaguar Shores แทน Falcon Shores ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิภาพต่อวัตต์เมื่อเทียบกับโปรเซสเซอร์ AI และ HPC ของ Intel แต่ Intel ตัดสินใจไม่เปิดตัวผลิตภัณฑ์นี้เชิงพาณิชย์เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท Falcon Shores เป็นการออกแบบแบบ multi-chiplet ที่มี Xe-HPC GPU chiplets สำหรับงาน AI และ HPC ที่มีการประมวลผลแบบขนานสูง การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Intel ในการพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับงาน AI และ HPC ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/intel-cancels-falcon-shores-gpu-for-ai-workloads-jaguar-shores-to-be-successor
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • Facebook ได้ยอมรับว่าการบล็อกเนื้อหาเกี่ยวกับ Linux เป็นความผิดพลาดและได้แก้ไขปัญหานี้แล้ว โดย Facebook ได้ติดต่อกับ PCMag เพื่อชี้แจงว่าการบังคับใช้นี้เป็นความผิดพลาดและได้แก้ไขแล้ว ขณะนี้การสนทนาเกี่ยวกับ Linux ได้รับอนุญาตบนแพลตฟอร์มของพวกเขา

    เหตุการณ์นี้เริ่มต้นเมื่อ DistroWatch ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เน้นการแจกจ่าย Linux ถูกบล็อกโดย Facebook เมื่อวันที่ 19 มกราคม DistroWatch ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อการบล็อกนี้และได้รับการตอบกลับจาก Facebook เมื่อวันที่ 28 มกราคมว่าเป็นความผิดพลาดและได้ยกเลิกการบล็อกแล้ว

    แม้ว่า Facebook จะยกเลิกการบล็อก DistroWatch แต่บัญชีของ DistroWatch ยังคงถูกล็อกอยู่ในบางส่วน อย่างไรก็ตาม โพสต์เกี่ยวกับการเปิดตัว BSD ใหม่ที่เผยแพร่ในวันเดียวกันดูเหมือนจะประสบความสำเร็จ

    สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ การเปลี่ยนแปลงของ Facebook ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปสู่โมเดล Community Notes แบบ X อาจเป็นสาเหตุของปัญหานี้ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกิดปัญหาในช่วงเริ่มต้น และการโพสต์ข้อมูลจำนวนมากบนแพลตฟอร์มของ Facebook ทุกนาทีอาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้

    การยอมรับความผิดพลาดและการแก้ไขปัญหาของ Facebook เป็นสิ่งที่ดี แต่การขอโทษต่อ DistroWatch และผู้ใช้อื่นๆ อย่างเป็นทางการอาจช่วยให้สถานการณ์นี้ดีขึ้น

    แต่ลุงยังงอนอยู่นะ FB !!! 🤣🤣

    https://www.tomshardware.com/software/linux/facebook-admits-that-the-linux-topic-crackdown-was-in-error-and-has-been-fixed
    Facebook ได้ยอมรับว่าการบล็อกเนื้อหาเกี่ยวกับ Linux เป็นความผิดพลาดและได้แก้ไขปัญหานี้แล้ว โดย Facebook ได้ติดต่อกับ PCMag เพื่อชี้แจงว่าการบังคับใช้นี้เป็นความผิดพลาดและได้แก้ไขแล้ว ขณะนี้การสนทนาเกี่ยวกับ Linux ได้รับอนุญาตบนแพลตฟอร์มของพวกเขา เหตุการณ์นี้เริ่มต้นเมื่อ DistroWatch ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เน้นการแจกจ่าย Linux ถูกบล็อกโดย Facebook เมื่อวันที่ 19 มกราคม DistroWatch ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อการบล็อกนี้และได้รับการตอบกลับจาก Facebook เมื่อวันที่ 28 มกราคมว่าเป็นความผิดพลาดและได้ยกเลิกการบล็อกแล้ว แม้ว่า Facebook จะยกเลิกการบล็อก DistroWatch แต่บัญชีของ DistroWatch ยังคงถูกล็อกอยู่ในบางส่วน อย่างไรก็ตาม โพสต์เกี่ยวกับการเปิดตัว BSD ใหม่ที่เผยแพร่ในวันเดียวกันดูเหมือนจะประสบความสำเร็จ สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ การเปลี่ยนแปลงของ Facebook ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปสู่โมเดล Community Notes แบบ X อาจเป็นสาเหตุของปัญหานี้ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้เกิดปัญหาในช่วงเริ่มต้น และการโพสต์ข้อมูลจำนวนมากบนแพลตฟอร์มของ Facebook ทุกนาทีอาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้ การยอมรับความผิดพลาดและการแก้ไขปัญหาของ Facebook เป็นสิ่งที่ดี แต่การขอโทษต่อ DistroWatch และผู้ใช้อื่นๆ อย่างเป็นทางการอาจช่วยให้สถานการณ์นี้ดีขึ้น แต่ลุงยังงอนอยู่นะ FB !!! 🤣🤣 https://www.tomshardware.com/software/linux/facebook-admits-that-the-linux-topic-crackdown-was-in-error-and-has-been-fixed
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Facebook admits that the Linux topic crackdown was 'in error' and has been fixed
    'Discussions of Linux are allowed on our services,' insists the social media giant.
    0 Comments 0 Shares 170 Views 0 Reviews
  • ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Aurora ของ Argonne National Laboratory ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกประกาศครั้งแรกในปี 2015 และเผชิญกับความล่าช้ามากมาย แต่ตอนนี้สามารถให้บริการได้มากกว่า 1 ExaFLOPS สำหรับการจำลองและ 11.6 ExaFLOPS สำหรับการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง

    Michael Papka ผู้อำนวยการ Argonne Leadership Computing Facility (ALCF) กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เปิดตัว Aurora สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์" และเสริมว่า "ผู้ใช้เริ่มแรกได้แสดงให้เราเห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของ Aurora เรารอคอยที่จะเห็นว่าชุมชนวิทยาศาสตร์จะใช้ระบบนี้ในการเปลี่ยนแปลงการวิจัยของพวกเขาอย่างไร"

    การเปิดตัว Aurora สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นการยอมรับระบบอย่างเป็นทางการโดย ARNL ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับเครื่องที่มีปัญหานี้ Aurora ถูกวางแผนไว้สำหรับปี 2018 แต่พลาดเป้าหมายเนื่องจากการตัดสินใจของ Intel ที่จะยกเลิกโปรเซสเซอร์ Xeon Phi หลังจากที่เครื่องถูกออกแบบใหม่ โครงการก็เผชิญกับความล่าช้าเพิ่มเติมเนื่องจากการล่าช้าของเทคโนโลยีการผลิต 7nm ของ Intel ทำให้วันที่เสร็จสมบูรณ์ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2021 และอีกครั้งในปี 2023

    แม้ว่าอุปกรณ์จะถูกติดตั้งในเดือนมิถุนายน 2023 แต่ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าระบบจะสามารถทำงานได้เต็มที่และบรรลุประสิทธิภาพระดับ exascale ซึ่งในที่สุดก็สำเร็จในเดือนพฤษภาคม 2024 แต่ระบบนี้ยังคงเปิดให้บริการเฉพาะนักวิจัยบางกลุ่มเท่านั้นเป็นเวลานานกว่าครึ่งปี

    Aurora ไม่ใช่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับการจำลอง เนื่องจากประสิทธิภาพ FP64 ของมันเพียงแค่เกิน 1 ExaFLOPS แต่เป็นระบบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับ AI เนื่องจากสามารถบรรลุ 11.6 ExaFLOPS ตามการทดสอบ HPL-MxP

    Rick Stevens ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการ Argonne กล่าวว่า "เป้าหมายใหญ่ของ Aurora คือการฝึกอบรมโมเดลภาษาขนาดใหญ่สำหรับวิทยาศาสตร์" และเสริมว่า "ด้วยโครงการ AuroraGPT เรากำลังสร้างโมเดลพื้นฐานที่เน้นวิทยาศาสตร์ที่สามารถสกัดความรู้จากหลายโดเมน ตั้งแต่ชีววิทยาถึงเคมี หนึ่งในเป้าหมายของ Aurora คือการช่วยให้นักวิจัยสร้างเครื่องมือ AI ใหม่ที่ช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าได้เร็วเท่าที่พวกเขาคิด ไม่ใช่แค่เร็วเท่าที่การคำนวณของพวกเขา"

    โครงการวิจัยแรกๆ ที่ใช้ Aurora รวมถึงการจำลองระบบที่ซับซ้อน เช่น ระบบหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และการระเบิดของซูเปอร์โนวา ประสิทธิภาพที่ล้นหลามของเครื่องนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการประมวลผลข้อมูลจากศูนย์วิจัยใหญ่ๆ เช่น Argonne's Advanced Photon Source (APS) และ CERN's Large Hadron Collider

    Aurora ประกอบด้วย 166 แร็ค แต่ละแร็คมี 64 เบลด รวมทั้งหมด 10,624 เบลด แต่ละเบลดมีโปรเซสเซอร์ Xeon Max สองตัวพร้อมหน่วยความจำ HBM2E ขนาด 64 GB และ GPU Intel Data Center Max 'Ponte Vecchio' หกตัว ทั้งหมดนี้ถูกทำความเย็นด้วยระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวเฉพาะ

    Aurora มี CPU 21,248 ตัวพร้อมคอร์ x86 ประสิทธิภาพสูงกว่า 1.1 ล้านคอร์ หน่วยความจำ DDR5 ขนาด 19.9 PB และหน่วยความจำ HBM2E ขนาด 1.36 PB ที่เชื่อมต่อกับ CPU นอกจากนี้ยังมี GPU 63,744 ตัวที่ปรับแต่งสำหรับ AI และ HPC พร้อมหน่วยความจำ HBM2E ขนาด 8.16 PB Aurora ใช้โหนด 1,024 โหนดที่มีไดรฟ์โซลิดสเตตสำหรับการจัดเก็บข้อมูล รวมความจุทั้งหมด 220 PB และแบนด์วิดท์ 31 TB/s ระบบนี้ใช้สถาปัตยกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Shasta ของ HPE พร้อมการเชื่อมต่อ Slingshot

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/aurora-supercomputer-is-now-fully-operational-available-to-researchers
    ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Aurora ของ Argonne National Laboratory ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ถูกประกาศครั้งแรกในปี 2015 และเผชิญกับความล่าช้ามากมาย แต่ตอนนี้สามารถให้บริการได้มากกว่า 1 ExaFLOPS สำหรับการจำลองและ 11.6 ExaFLOPS สำหรับการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่อง Michael Papka ผู้อำนวยการ Argonne Leadership Computing Facility (ALCF) กล่าวว่า "เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เปิดตัว Aurora สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์" และเสริมว่า "ผู้ใช้เริ่มแรกได้แสดงให้เราเห็นถึงศักยภาพอันมหาศาลของ Aurora เรารอคอยที่จะเห็นว่าชุมชนวิทยาศาสตร์จะใช้ระบบนี้ในการเปลี่ยนแปลงการวิจัยของพวกเขาอย่างไร" การเปิดตัว Aurora สำหรับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นการยอมรับระบบอย่างเป็นทางการโดย ARNL ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับเครื่องที่มีปัญหานี้ Aurora ถูกวางแผนไว้สำหรับปี 2018 แต่พลาดเป้าหมายเนื่องจากการตัดสินใจของ Intel ที่จะยกเลิกโปรเซสเซอร์ Xeon Phi หลังจากที่เครื่องถูกออกแบบใหม่ โครงการก็เผชิญกับความล่าช้าเพิ่มเติมเนื่องจากการล่าช้าของเทคโนโลยีการผลิต 7nm ของ Intel ทำให้วันที่เสร็จสมบูรณ์ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2021 และอีกครั้งในปี 2023 แม้ว่าอุปกรณ์จะถูกติดตั้งในเดือนมิถุนายน 2023 แต่ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าระบบจะสามารถทำงานได้เต็มที่และบรรลุประสิทธิภาพระดับ exascale ซึ่งในที่สุดก็สำเร็จในเดือนพฤษภาคม 2024 แต่ระบบนี้ยังคงเปิดให้บริการเฉพาะนักวิจัยบางกลุ่มเท่านั้นเป็นเวลานานกว่าครึ่งปี Aurora ไม่ใช่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับการจำลอง เนื่องจากประสิทธิภาพ FP64 ของมันเพียงแค่เกิน 1 ExaFLOPS แต่เป็นระบบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับ AI เนื่องจากสามารถบรรลุ 11.6 ExaFLOPS ตามการทดสอบ HPL-MxP Rick Stevens ผู้อำนวยการห้องปฏิบัติการ Argonne กล่าวว่า "เป้าหมายใหญ่ของ Aurora คือการฝึกอบรมโมเดลภาษาขนาดใหญ่สำหรับวิทยาศาสตร์" และเสริมว่า "ด้วยโครงการ AuroraGPT เรากำลังสร้างโมเดลพื้นฐานที่เน้นวิทยาศาสตร์ที่สามารถสกัดความรู้จากหลายโดเมน ตั้งแต่ชีววิทยาถึงเคมี หนึ่งในเป้าหมายของ Aurora คือการช่วยให้นักวิจัยสร้างเครื่องมือ AI ใหม่ที่ช่วยให้พวกเขาก้าวหน้าได้เร็วเท่าที่พวกเขาคิด ไม่ใช่แค่เร็วเท่าที่การคำนวณของพวกเขา" โครงการวิจัยแรกๆ ที่ใช้ Aurora รวมถึงการจำลองระบบที่ซับซ้อน เช่น ระบบหมุนเวียนเลือดของมนุษย์ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และการระเบิดของซูเปอร์โนวา ประสิทธิภาพที่ล้นหลามของเครื่องนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการประมวลผลข้อมูลจากศูนย์วิจัยใหญ่ๆ เช่น Argonne's Advanced Photon Source (APS) และ CERN's Large Hadron Collider Aurora ประกอบด้วย 166 แร็ค แต่ละแร็คมี 64 เบลด รวมทั้งหมด 10,624 เบลด แต่ละเบลดมีโปรเซสเซอร์ Xeon Max สองตัวพร้อมหน่วยความจำ HBM2E ขนาด 64 GB และ GPU Intel Data Center Max 'Ponte Vecchio' หกตัว ทั้งหมดนี้ถูกทำความเย็นด้วยระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวเฉพาะ Aurora มี CPU 21,248 ตัวพร้อมคอร์ x86 ประสิทธิภาพสูงกว่า 1.1 ล้านคอร์ หน่วยความจำ DDR5 ขนาด 19.9 PB และหน่วยความจำ HBM2E ขนาด 1.36 PB ที่เชื่อมต่อกับ CPU นอกจากนี้ยังมี GPU 63,744 ตัวที่ปรับแต่งสำหรับ AI และ HPC พร้อมหน่วยความจำ HBM2E ขนาด 8.16 PB Aurora ใช้โหนด 1,024 โหนดที่มีไดรฟ์โซลิดสเตตสำหรับการจัดเก็บข้อมูล รวมความจุทั้งหมด 220 PB และแบนด์วิดท์ 31 TB/s ระบบนี้ใช้สถาปัตยกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Shasta ของ HPE พร้อมการเชื่อมต่อ Slingshot https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/aurora-supercomputer-is-now-fully-operational-available-to-researchers
    0 Comments 0 Shares 300 Views 0 Reviews
More Results