• โฆษกอุตฯกางผลตรวจเหล็กเส้น'สตง.'รอบแรกก่อนตรวจเพิ่ม 21เม.ย.ย้ำผิดคือผิด'ผู้ผลิต-จนท.'มีเอี่ยวเตรียมรับโทษ
    http://thai-tai.tv/news/18240/
    โฆษกอุตฯกางผลตรวจเหล็กเส้น'สตง.'รอบแรกก่อนตรวจเพิ่ม 21เม.ย.ย้ำผิดคือผิด'ผู้ผลิต-จนท.'มีเอี่ยวเตรียมรับโทษ http://thai-tai.tv/news/18240/
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • ผลสอบการเสียชีวิต"อดีตผกก.โจ้"ออกแล้ว! 19/04/68 #ผู้กำกับโจ้ #โจ้ถุงดำ #เรือนจำกลางคลองเปรม #ผลตรวจ DNA
    ผลสอบการเสียชีวิต"อดีตผกก.โจ้"ออกแล้ว! 19/04/68 #ผู้กำกับโจ้ #โจ้ถุงดำ #เรือนจำกลางคลองเปรม #ผลตรวจ DNA
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 479 Views 18 0 Reviews
  • บริษัท Laboratory Services Cooperative (LSC) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าเกิดเหตุ ข้อมูลรั่วไหล ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของ 1.6 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง ข้อมูลทางการแพทย์, ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลระบุตัวตน

    ✅ LSC ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยในระบบเมื่อเดือนตุลาคม 2024
    - บริษัทแจ้งตำรวจและนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้ามาตรวจสอบ
    - การสอบสวนเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจได้รับผลกระทบ

    ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยมีหลายประเภท
    - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล
    - ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น วันที่รับบริการ, การวินิจฉัยโรค, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
    - ข้อมูลประกันสุขภาพ เช่น ชื่อแผนประกัน, หมายเลขสมาชิก
    - ข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร, รายละเอียดบัตรเครดิต

    ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ
    - ผู้ที่เข้ารับการตรวจผ่าน Planned Parenthood ซึ่งใช้บริการของ LSC อาจได้รับผลกระทบ
    - ข้อมูลของพนักงาน LSC และบุคคลในครอบครัวของพนักงานอาจถูกขโมยด้วย

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ข้อมูลยังไม่ถูกเผยแพร่บน Dark Web
    - ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปขายหรือเผยแพร่
    - แต่ผู้ใช้ควรเฝ้าระวังการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านการเงินและการฉ้อโกง
    - ข้อมูลการชำระเงินที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้ในการฉ้อโกง
    - ผู้ใช้ควรตรวจสอบบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ

    ℹ️ แนวโน้มของภัยคุกคามไซเบอร์ในอุตสาหกรรมสุขภาพ
    - การโจมตีทางไซเบอร์ต่อองค์กรด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
    - บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลมากขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/top-us-lab-testing-firm-hit-with-major-data-leak-exposes-health-info-on-1-6-million-users
    บริษัท Laboratory Services Cooperative (LSC) ซึ่งเป็นหนึ่งในห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่าเกิดเหตุ ข้อมูลรั่วไหล ส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนตัวของ 1.6 ล้านคน โดยข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง ข้อมูลทางการแพทย์, ข้อมูลการชำระเงิน และข้อมูลระบุตัวตน ✅ LSC ตรวจพบกิจกรรมต้องสงสัยในระบบเมื่อเดือนตุลาคม 2024 - บริษัทแจ้งตำรวจและนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เข้ามาตรวจสอบ - การสอบสวนเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 และพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจได้รับผลกระทบ ✅ ข้อมูลที่ถูกขโมยมีหลายประเภท - ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์, อีเมล - ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น วันที่รับบริการ, การวินิจฉัยโรค, ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ - ข้อมูลประกันสุขภาพ เช่น ชื่อแผนประกัน, หมายเลขสมาชิก - ข้อมูลการชำระเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร, รายละเอียดบัตรเครดิต ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ - ผู้ที่เข้ารับการตรวจผ่าน Planned Parenthood ซึ่งใช้บริการของ LSC อาจได้รับผลกระทบ - ข้อมูลของพนักงาน LSC และบุคคลในครอบครัวของพนักงานอาจถูกขโมยด้วย ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ข้อมูลยังไม่ถูกเผยแพร่บน Dark Web - ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าข้อมูลที่ถูกขโมยถูกนำไปขายหรือเผยแพร่ - แต่ผู้ใช้ควรเฝ้าระวังการโจรกรรมข้อมูลส่วนตัว ℹ️ ความเสี่ยงด้านการเงินและการฉ้อโกง - ข้อมูลการชำระเงินที่ถูกขโมยอาจถูกนำไปใช้ในการฉ้อโกง - ผู้ใช้ควรตรวจสอบบัญชีธนาคารและบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ ℹ️ แนวโน้มของภัยคุกคามไซเบอร์ในอุตสาหกรรมสุขภาพ - การโจมตีทางไซเบอร์ต่อองค์กรด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น - บริษัทต่างๆ ต้องลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยข้อมูลมากขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/top-us-lab-testing-firm-hit-with-major-data-leak-exposes-health-info-on-1-6-million-users
    0 Comments 0 Shares 307 Views 0 Reviews
  • กรมโยธาฯ สรุปผลตรวจสอบอาคารทั่วประเทศหลังแผ่นดินไหว พบโครงสร้างเสียหายอย่างหนักระงับใช้งาน 52 แห่ง รวมอาคารสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคาร 30 ชั้นและกรมสรรพากร 27 ชั้น


    https://www.thansettakij.com/general-news/624318
    กรมโยธาฯ สรุปผลตรวจสอบอาคารทั่วประเทศหลังแผ่นดินไหว พบโครงสร้างเสียหายอย่างหนักระงับใช้งาน 52 แห่ง รวมอาคารสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคาร 30 ชั้นและกรมสรรพากร 27 ชั้น https://www.thansettakij.com/general-news/624318
    WWW.THANSETTAKIJ.COM
    "กรมโยธาฯ" สั่งห้ามใช้ 52 ตึก รวมอาคารตม. 30 ชั้น-สรรพากร 27 ชั้น
    กรมโยธาฯ สรุปผลตรวจสอบอาคารทั่วประเทศหลังแผ่นดินไหว 6,276 อาคาร พบโครงสร้างเสียหายอย่างหนักระงับใช้งาน (สีแดง) 52 แห่ง รวมอาคาร ตม.30 ชั้น และกรมสรรพากร 27 ชั้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • โยธาฯ สรุปผลตรวจอาคารหลังแผ่นดินไหว 6,276 แห่ง สั่งห้ามใช้ 52 ตึก รวม ตม.-สรรพากร
    https://www.thai-tai.tv/news/18057/
    โยธาฯ สรุปผลตรวจอาคารหลังแผ่นดินไหว 6,276 แห่ง สั่งห้ามใช้ 52 ตึก รวม ตม.-สรรพากร https://www.thai-tai.tv/news/18057/
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • “พิชัย”เผยผลตรวจสอบเบื้องต้น “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย)” คู่สัญญาสร้างตึก สตง. ถล่ม ส่อเป็นนอมินี เหตุพบความผิดปกติมาก นัดแถลงรายละเอียดทั้งหมด 4 เม.ย.นี้ ลั่นดำเนินการเอาผิดถึงที่สุด ไม่มีเกี่ยเซี้ย หรือฮั้วแน่นอน พร้อมส่งข้อมูลให้ดีเอสไอสาวต่อ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031102
    “พิชัย”เผยผลตรวจสอบเบื้องต้น “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย)” คู่สัญญาสร้างตึก สตง. ถล่ม ส่อเป็นนอมินี เหตุพบความผิดปกติมาก นัดแถลงรายละเอียดทั้งหมด 4 เม.ย.นี้ ลั่นดำเนินการเอาผิดถึงที่สุด ไม่มีเกี่ยเซี้ย หรือฮั้วแน่นอน พร้อมส่งข้อมูลให้ดีเอสไอสาวต่อ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000031102
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 449 Views 0 Reviews
  • ผลตรวจเหล็กตึก สตง.ไม่ได้มาตรฐาน! : [NEWS UPDATE]

    น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม เผยผลการสุ่มตรวจเก็บตัวอย่างเหล็กเส้น 28 ท่อน จากตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ซึ่งถล่มเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา จากเหตุแผ่นดินไหว พบมีทั้งได้และไม่ได้มาตรฐาน โดยเหล็กที่นำมาตรวจสอบ 28 ท่อน 7 ไซส์ ได้มาตรฐาน 15 ท่อน 5 ไซส์ ไม่ได้มาตรฐาน 13 ท่อน 2 ไซส์ คือ ไซส์ 20 มิลลิเมตร และ 32 มิลลิเมตร ซึ่งทั้ง 2 ไซส์ มาจากบริษัทเดียวกัน ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ได้สั่งปิดเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งหลังจากนี้จะกลับไปนำตัวอย่างมาตรวจสอบเพิ่ม เพื่อให้มีหลักฐานเพียงพอ ส่วนเหล็กที่ไม่ผ่านมาตรฐานจะตรวจสอบเชิงลึกว่าผลิตระหว่างที่สั่งปิดหรือไม่ เพราะดูจากเหล็กน่าจะประมาณ 5 เดือน หากพบลักลอบนำเหล็กไม่ได้มาตรฐานมาใช้ จะโดนดำเนินคดี ยอมรับการเข้าพื้นที่เพื่อนำตัวอย่างมาตรวจสอบไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร

    -ซ่อมรอยร้าวศูนย์ราชการ

    -ช่วยเต็มที่ทุกสัญชาติ

    -เร่งตรวจรายงานผลนายก

    -ความหวังเริ่มริบหรี่
    ผลตรวจเหล็กตึก สตง.ไม่ได้มาตรฐาน! : [NEWS UPDATE] น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม เผยผลการสุ่มตรวจเก็บตัวอย่างเหล็กเส้น 28 ท่อน จากตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ซึ่งถล่มเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ที่ผ่านมา จากเหตุแผ่นดินไหว พบมีทั้งได้และไม่ได้มาตรฐาน โดยเหล็กที่นำมาตรวจสอบ 28 ท่อน 7 ไซส์ ได้มาตรฐาน 15 ท่อน 5 ไซส์ ไม่ได้มาตรฐาน 13 ท่อน 2 ไซส์ คือ ไซส์ 20 มิลลิเมตร และ 32 มิลลิเมตร ซึ่งทั้ง 2 ไซส์ มาจากบริษัทเดียวกัน ที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) ได้สั่งปิดเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งหลังจากนี้จะกลับไปนำตัวอย่างมาตรวจสอบเพิ่ม เพื่อให้มีหลักฐานเพียงพอ ส่วนเหล็กที่ไม่ผ่านมาตรฐานจะตรวจสอบเชิงลึกว่าผลิตระหว่างที่สั่งปิดหรือไม่ เพราะดูจากเหล็กน่าจะประมาณ 5 เดือน หากพบลักลอบนำเหล็กไม่ได้มาตรฐานมาใช้ จะโดนดำเนินคดี ยอมรับการเข้าพื้นที่เพื่อนำตัวอย่างมาตรวจสอบไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร -ซ่อมรอยร้าวศูนย์ราชการ -ช่วยเต็มที่ทุกสัญชาติ -เร่งตรวจรายงานผลนายก -ความหวังเริ่มริบหรี่
    Like
    10
    0 Comments 0 Shares 585 Views 31 0 Reviews
  • ผลตรวจสอบเหล็กตึก สตง.ถล่ม พบเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 2 ไซส์ ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุ-จ่อเก็บตัวอย่างเพิ่ม
    https://www.thai-tai.tv/news/17954/
    ผลตรวจสอบเหล็กตึก สตง.ถล่ม พบเหล็กไม่ได้มาตรฐาน 2 ไซส์ ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุ-จ่อเก็บตัวอย่างเพิ่ม https://www.thai-tai.tv/news/17954/
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • ผลตรวจเหล็กเส้นจากซากตึก สตง.28 ท่อน ออกแล้ว พบได้มาตรฐาน 26 ท่อน ไม่ได้มาตรฐาน 2 ท่อน แต่ยังไม่เปิดเผยเป็นของบริษัทใดบ้าง เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบขั้นต่อไป และยังไม่ปรักปรำบริษัทใด แต่ทั้งหมดที่เก็บไปตรยวจสอบส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อ “ซินเคอหยวน” จากจีน 18 ท่อน ที่เหลือเป็นของ TATA และ YTS

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030770
    ผลตรวจเหล็กเส้นจากซากตึก สตง.28 ท่อน ออกแล้ว พบได้มาตรฐาน 26 ท่อน ไม่ได้มาตรฐาน 2 ท่อน แต่ยังไม่เปิดเผยเป็นของบริษัทใดบ้าง เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบขั้นต่อไป และยังไม่ปรักปรำบริษัทใด แต่ทั้งหมดที่เก็บไปตรยวจสอบส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อ “ซินเคอหยวน” จากจีน 18 ท่อน ที่เหลือเป็นของ TATA และ YTS อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030770
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 547 Views 0 Reviews
  • “พิชัย”สั่งการคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มี “ร.ต.จักรา” ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หลังมีข้อสงสัยเป็นนอมินี เผยผลตรวจสอบ สำนักงานปิด ไม่มีเจ้าหน้าที่ ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ ทั้งเบอร์พื้นฐาน เบอร์มือถือ เตรียมลุยตรวจสอบบริษัทอื่นอีก 13 บริษัท ที่มีที่ตั้งที่เดียวกัน และมีกรรมการและผู้ถือหุ้นคนเดียวกันต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030709
    “พิชัย”สั่งการคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มี “ร.ต.จักรา” ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด หลังมีข้อสงสัยเป็นนอมินี เผยผลตรวจสอบ สำนักงานปิด ไม่มีเจ้าหน้าที่ ติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้ ทั้งเบอร์พื้นฐาน เบอร์มือถือ เตรียมลุยตรวจสอบบริษัทอื่นอีก 13 บริษัท ที่มีที่ตั้งที่เดียวกัน และมีกรรมการและผู้ถือหุ้นคนเดียวกันต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030709
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 1 Shares 600 Views 0 Reviews
  • 58 ปี "คดีตุ๊กตา" ขืนใจสาวรับใช้ บันทึกแห่งประวัติศาสตร์ “หญิงข่มขืนหญิง” ได้หรือไม่? 📚⚖️

    ✨ย้อนรอย “คดีตุ๊กตา” ในประวัติศาสตร์กฎหมายไทย กับคำพิพากษาศาลฎีกา ที่เปิดประเด็นการข่มขืนโดย “ผู้หญิงต่อผู้หญิง” ครั้งแรกของไทย ศึกษาเหตุการณ์รายละเอียดคดี บทสรุปทางกฎหมาย ที่ยังสะเทือนวงการกฎหมายถึงปัจจุบัน ✨

    เมื่อ “หญิงข่มขืนหญิง” ไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป หากเอ่ยถึงคดีข่มขืน หลายคนอาจนึกถึงภาพของชายกระทำต่อหญิง แต่ในประวัติศาสตร์กฎหมายไทย กลับมีคำพิพากษาหนึ่ง ที่เปิดโลกความเข้าใจในมุมมองใหม่ ⚖️

    โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2510 กับ “คดีตุ๊กตา” ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาอันลือลั่นว่า “หญิงก็เป็นตัวการร่วม ในการข่มขืนหญิงได้” คำวินิจฉัยครั้งนั้น ไม่เพียงเขย่าระบบยุติธรรมไทย แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ ให้สังคมไทยในเวลานั้น

    “คดีตุ๊กตา” เป็นชื่อที่สื่อมวลชนในยุคนั้นตั้งขึ้น เนื่องจากจำเลยที่ 1 คือ "พิมล กาฬสีห์" นักเขียนการ์ตูนชื่อดังในนามปากกา “ตุ๊กตา” ถูกอัยการยื่นฟ้อง ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราร่วมกับภรรยา "นภาพันธ์ กาฬสีห์" ต่อ "เพ็ชร ทัวิพัฒน์" หญิงสาวคนรับใช้ในบ้าน ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 ที่บ้านพักในตำบลปากคลอง อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ปัจจุบันคือ กรุงเทพมหานคร

    แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 58 ปี แต่คำพิพากษาในคดีนี้ยั งคงได้รับการกล่าวขานในวงการกฎหมาย และสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกรณีแรกที่ “ศาลฎีกา” ของไทยยืนยันว่า หญิงสามารถร่วมเป็นตัวการข่มขืนหญิงได้

    📌 ทำไมคดีนี้จึงสำคัญ? ประเด็นที่สั่นคลอนสังคม คดีนี้แสดงให้เห็นถึงอำนาจและอิทธิพล ที่บุคคลมีชื่อเสียงอาจมีต่อผู้ด้อยโอกาส เปิดประเด็นว่า “ข่มขืน” ไม่จำเป็นต้องเกิดจากเพศชายเท่านั้น

    ศาลยืนยันว่า ผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วม ในการกระทำผิดฐานข่มขืนได้ แม้จะไม่ได้ลงมือข่มขืนเองก็ตาม

    📌 จุดเปลี่ยนด้านกฎหมาย คำพิพากษานี้ทำให้เกิดการตีความ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ว่า “ผู้ใด” หมายรวมถึงบุคคลทุกเพศ ไม่ใช่จำกัดแค่เพศชาย

    ลำดับเหตุการณ์สำคัญในคดีตุ๊กตา
    🗓️ คืนวันอาทิตย์ที่่28 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 "เพ็ชร์ ทิวาพัฒน์" หญิงสาวผู้เสียหายวัย 23 ปี ซึ่งทำงานเป็นสาวรับใช้ ในคืนนั้น เพ็ชรถูกนภาพันธ์เรียกขึ้นไปนวดให้พิมล บนชั้นสองของบ้าน

    นภาพันธ์ช่วยจับมือของเพ็ชร ไปจับอวัยวะเพศของพิมล และร่วมกดร่างเพ็ชรไว้ให้สามีข่มขืน เหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศ เกิดขึ้นซ้ำถึง 5 ครั้ง ในคืนนั้น

    🗓️ เช้ามืดวันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 เพ็ชรหนีออกจากบ้าน และไปแจ้งความที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมสองสามีภรรยา และส่งเพ็ชรตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลตรวจพิสูจน์พบร่องรอยการข่มขืนอย่างชัดเจน อัยการจึงเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสอง

    ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำให้การของผู้เสียหายมีน้ำหนักเพียงพอ ประกอบกับพยานหลักฐาน และผลตรวจทางการแพทย์ จำเลยที่ 1 ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี 1 เดือน จำเลยที่ 2 ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี

    ➡️ แต่... จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์

    ศาลอุทธรณ์:ยกฟ้องเพราะเชื่อว่า “ยินยอม” กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ด้วยเหตุผลว่า เชื่อว่าผู้เสียหาย สมัครใจร่วมประเวณีเอง เห็นว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้หญิง ไม่ควรถูกลงโทษในฐานะตัวการร่วมข่มขืน

    ➡️ อัยการในฐานะโจทก์ ฎีกาต่อ...

    ศาลฎีกา:พลิกคำพิพากษา ตอกย้ำ “หญิงก็เป็นตัวการข่มขืนได้” ในการพิจารณาครั้งสำคัญ ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา
    ✅ พิพากษาว่า ผู้เสียหายไม่ได้สมัครใจ
    ✅ การมีส่วนร่วมของจำเลยที่ 2 ในการจับผู้เสียหาย และบังคับให้สามีข่มขืน ถือเป็นการ “ร่วมกันข่มขืน”
    ✅ ศาลฎีกายืนยันว่า ตามกฎหมายไทย หญิงก็เป็นตัวการข่มขืนหญิงได้

    ➡️ จำเลยที่ 1 ถูกลงโทษจำคุก 3 ปี 1 เดือน
    ➡️ จำเลยที่ 2 ถูกลงโทษจำคุก 2 ปี

    การตีความทางกฎหมายที่สำคัญ มาตรา 276 แห่งประมวลกฎหมายอาญา “ผู้ใด” ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น...
    🔹 คำว่า “ผู้ใด” ไม่ได้ระบุเพศ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง หากมีพฤติการณ์ร่วมกันในการข่มขืน ก็ถือว่ามีความผิดฐาน “ตัวการ” ได้
    🔹 แม้ไม่ได้เป็นผู้ลงมือข่มขืนเอง แต่หากช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก หรือบังคับเหยื่อ ก็ถือว่า “ร่วมกันกระทำผิด”

    ทำไมศาลฎีกาจึงพิพากษาเช่นนั้น?
    ✅ พฤติกรรมของจำเลยที่ 2 แสดงชัดว่า ร่วมกดขาและจับผู้เสียหาย เพื่อให้จำเลยที่ 1 ข่มขืน
    ✅ ข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้ร้อง หรือบอกว่าจะ “เพิ่มเงินเดือน” หากไม่ต่อต้าน
    ✅ บังคับผู้เสียหายให้อมอวัยวะเพศ และสั่งให้กลืนน้ำอสุจิของสามี

    ✨ ผลกระทบต่อสังคม และวงการกฎหมาย เปลี่ยนแปลงความเข้าใจ ก่อนหน้านั้น สังคมมองว่า “ข่มขืน” เป็นอาชญากรรมที่มีแต่เพศชาย เป็นผู้กระทำ

    ✨ คดีตุ๊กตาสร้างการตระหนักใหม่ว่า อาชญากรรมทางเพศ เกิดจากผู้กระทำได้ทุกเพศ อิทธิพลต่อการตีความกฎหมาย ศาลไทยขยายขอบเขตความผิดของมาตรา 276 ให้ครอบคลุมบุคคลทุกเพศ สร้างบรรทัดฐานใหม่ ในคดีอาญาเกี่ยวกับเพศที่ซับซ้อนมากขึ้น

    “คดีตุ๊กตา” กับมรดกทางกฎหมายที่ยั่งยืน ผ่านมา 58 ปี คดีตุ๊กตายังเป็นกรณีศึกษา ในวงการกฎหมายและสังคม ที่สอนให้เข้าใจถึง ความซับซ้อนของความรุนแรงทางเพศ และบทบาทของกฎหมาย ในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน คดีนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องราวในอดีต แต่เป็นบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ในสังคมไทยอีกต่อไป

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221140 มี.ค. 2568

    🏷️ #คดีตุ๊กตา #ข่มขืนในไทย #หญิงข่มขืนหญิงได้ #พิมลกาฬสีห์ #ศาลฎีกาไทย #กฎหมายอาญา #สิทธิมนุษยชน #ข่มขืนกระทำชำเรา #ข่าวดังในอดีต #คดีอาชญากรรมไทย
    58 ปี "คดีตุ๊กตา" ขืนใจสาวรับใช้ บันทึกแห่งประวัติศาสตร์ “หญิงข่มขืนหญิง” ได้หรือไม่? 📚⚖️ ✨ย้อนรอย “คดีตุ๊กตา” ในประวัติศาสตร์กฎหมายไทย กับคำพิพากษาศาลฎีกา ที่เปิดประเด็นการข่มขืนโดย “ผู้หญิงต่อผู้หญิง” ครั้งแรกของไทย ศึกษาเหตุการณ์รายละเอียดคดี บทสรุปทางกฎหมาย ที่ยังสะเทือนวงการกฎหมายถึงปัจจุบัน ✨ เมื่อ “หญิงข่มขืนหญิง” ไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป หากเอ่ยถึงคดีข่มขืน หลายคนอาจนึกถึงภาพของชายกระทำต่อหญิง แต่ในประวัติศาสตร์กฎหมายไทย กลับมีคำพิพากษาหนึ่ง ที่เปิดโลกความเข้าใจในมุมมองใหม่ ⚖️ โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2510 กับ “คดีตุ๊กตา” ที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาอันลือลั่นว่า “หญิงก็เป็นตัวการร่วม ในการข่มขืนหญิงได้” คำวินิจฉัยครั้งนั้น ไม่เพียงเขย่าระบบยุติธรรมไทย แต่ยังเปิดมุมมองใหม่ ให้สังคมไทยในเวลานั้น “คดีตุ๊กตา” เป็นชื่อที่สื่อมวลชนในยุคนั้นตั้งขึ้น เนื่องจากจำเลยที่ 1 คือ "พิมล กาฬสีห์" นักเขียนการ์ตูนชื่อดังในนามปากกา “ตุ๊กตา” ถูกอัยการยื่นฟ้อง ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราร่วมกับภรรยา "นภาพันธ์ กาฬสีห์" ต่อ "เพ็ชร ทัวิพัฒน์" หญิงสาวคนรับใช้ในบ้าน ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 ที่บ้านพักในตำบลปากคลอง อำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ปัจจุบันคือ กรุงเทพมหานคร แม้จะผ่านมาแล้วกว่า 58 ปี แต่คำพิพากษาในคดีนี้ยั งคงได้รับการกล่าวขานในวงการกฎหมาย และสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นกรณีแรกที่ “ศาลฎีกา” ของไทยยืนยันว่า หญิงสามารถร่วมเป็นตัวการข่มขืนหญิงได้ 📌 ทำไมคดีนี้จึงสำคัญ? ประเด็นที่สั่นคลอนสังคม คดีนี้แสดงให้เห็นถึงอำนาจและอิทธิพล ที่บุคคลมีชื่อเสียงอาจมีต่อผู้ด้อยโอกาส เปิดประเด็นว่า “ข่มขืน” ไม่จำเป็นต้องเกิดจากเพศชายเท่านั้น ศาลยืนยันว่า ผู้หญิงสามารถมีส่วนร่วม ในการกระทำผิดฐานข่มขืนได้ แม้จะไม่ได้ลงมือข่มขืนเองก็ตาม 📌 จุดเปลี่ยนด้านกฎหมาย คำพิพากษานี้ทำให้เกิดการตีความ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 ว่า “ผู้ใด” หมายรวมถึงบุคคลทุกเพศ ไม่ใช่จำกัดแค่เพศชาย ลำดับเหตุการณ์สำคัญในคดีตุ๊กตา 🗓️ คืนวันอาทิตย์ที่่28 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 "เพ็ชร์ ทิวาพัฒน์" หญิงสาวผู้เสียหายวัย 23 ปี ซึ่งทำงานเป็นสาวรับใช้ ในคืนนั้น เพ็ชรถูกนภาพันธ์เรียกขึ้นไปนวดให้พิมล บนชั้นสองของบ้าน นภาพันธ์ช่วยจับมือของเพ็ชร ไปจับอวัยวะเพศของพิมล และร่วมกดร่างเพ็ชรไว้ให้สามีข่มขืน เหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศ เกิดขึ้นซ้ำถึง 5 ครั้ง ในคืนนั้น 🗓️ เช้ามืดวันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 เพ็ชรหนีออกจากบ้าน และไปแจ้งความที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมสองสามีภรรยา และส่งเพ็ชรตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลตรวจพิสูจน์พบร่องรอยการข่มขืนอย่างชัดเจน อัยการจึงเป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสอง ศาลชั้นต้นเห็นว่า คำให้การของผู้เสียหายมีน้ำหนักเพียงพอ ประกอบกับพยานหลักฐาน และผลตรวจทางการแพทย์ จำเลยที่ 1 ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี 1 เดือน จำเลยที่ 2 ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี ➡️ แต่... จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์:ยกฟ้องเพราะเชื่อว่า “ยินยอม” กลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ด้วยเหตุผลว่า เชื่อว่าผู้เสียหาย สมัครใจร่วมประเวณีเอง เห็นว่า จำเลยที่ 2 เป็นผู้หญิง ไม่ควรถูกลงโทษในฐานะตัวการร่วมข่มขืน ➡️ อัยการในฐานะโจทก์ ฎีกาต่อ... ศาลฎีกา:พลิกคำพิพากษา ตอกย้ำ “หญิงก็เป็นตัวการข่มขืนได้” ในการพิจารณาครั้งสำคัญ ของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ✅ พิพากษาว่า ผู้เสียหายไม่ได้สมัครใจ ✅ การมีส่วนร่วมของจำเลยที่ 2 ในการจับผู้เสียหาย และบังคับให้สามีข่มขืน ถือเป็นการ “ร่วมกันข่มขืน” ✅ ศาลฎีกายืนยันว่า ตามกฎหมายไทย หญิงก็เป็นตัวการข่มขืนหญิงได้ ➡️ จำเลยที่ 1 ถูกลงโทษจำคุก 3 ปี 1 เดือน ➡️ จำเลยที่ 2 ถูกลงโทษจำคุก 2 ปี การตีความทางกฎหมายที่สำคัญ มาตรา 276 แห่งประมวลกฎหมายอาญา “ผู้ใด” ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น... 🔹 คำว่า “ผู้ใด” ไม่ได้ระบุเพศ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง หากมีพฤติการณ์ร่วมกันในการข่มขืน ก็ถือว่ามีความผิดฐาน “ตัวการ” ได้ 🔹 แม้ไม่ได้เป็นผู้ลงมือข่มขืนเอง แต่หากช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก หรือบังคับเหยื่อ ก็ถือว่า “ร่วมกันกระทำผิด” ทำไมศาลฎีกาจึงพิพากษาเช่นนั้น? ✅ พฤติกรรมของจำเลยที่ 2 แสดงชัดว่า ร่วมกดขาและจับผู้เสียหาย เพื่อให้จำเลยที่ 1 ข่มขืน ✅ ข่มขู่ผู้เสียหายไม่ให้ร้อง หรือบอกว่าจะ “เพิ่มเงินเดือน” หากไม่ต่อต้าน ✅ บังคับผู้เสียหายให้อมอวัยวะเพศ และสั่งให้กลืนน้ำอสุจิของสามี ✨ ผลกระทบต่อสังคม และวงการกฎหมาย เปลี่ยนแปลงความเข้าใจ ก่อนหน้านั้น สังคมมองว่า “ข่มขืน” เป็นอาชญากรรมที่มีแต่เพศชาย เป็นผู้กระทำ ✨ คดีตุ๊กตาสร้างการตระหนักใหม่ว่า อาชญากรรมทางเพศ เกิดจากผู้กระทำได้ทุกเพศ อิทธิพลต่อการตีความกฎหมาย ศาลไทยขยายขอบเขตความผิดของมาตรา 276 ให้ครอบคลุมบุคคลทุกเพศ สร้างบรรทัดฐานใหม่ ในคดีอาญาเกี่ยวกับเพศที่ซับซ้อนมากขึ้น “คดีตุ๊กตา” กับมรดกทางกฎหมายที่ยั่งยืน ผ่านมา 58 ปี คดีตุ๊กตายังเป็นกรณีศึกษา ในวงการกฎหมายและสังคม ที่สอนให้เข้าใจถึง ความซับซ้อนของความรุนแรงทางเพศ และบทบาทของกฎหมาย ในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน คดีนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องราวในอดีต แต่เป็นบทเรียนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย ในสังคมไทยอีกต่อไป ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221140 มี.ค. 2568 🏷️ #คดีตุ๊กตา #ข่มขืนในไทย #หญิงข่มขืนหญิงได้ #พิมลกาฬสีห์ #ศาลฎีกาไทย #กฎหมายอาญา #สิทธิมนุษยชน #ข่มขืนกระทำชำเรา #ข่าวดังในอดีต #คดีอาชญากรรมไทย
    0 Comments 0 Shares 887 Views 0 Reviews
  • ผลตรวจผ้าผกก.โจ้ ไม่พบดีเอ็นเอคนอื่น : [NEWS UPDATE]
    พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เผยผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์คดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ออกแล้ว ซึ่งจะส่งผลทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อ
    ทั้งนี้ มีรายงานว่ามีการพิสูจน์หลักฐาน 2 ชิ้น คือ ผ้าขนหนูที่ใช้ผูกคอ จากการตรวจดีเอ็นเอไม่พบความผิดปกติ ไม่พบดีเอ็นเอบุคคลอื่น โดยผ้าขนหนูผืนนี้เป็นของใช้ส่วนตัวของอดีตผู้กำกับโจ้ ที่ใช้ตั้งแต่อยู่แดน 7 และเชื่อว่านำมาใช้ต่อเนื่อง ส่วนรอยหยดเลือดที่ปรากฏบนพื้นห้องขัง เชื่อว่าเป็นเลือดของอดีตผู้กำกับโจ้ เป็นบาดแผลคล้ายรอยสัตว์กัด


    หา รมต. วิญญูชนยาก

    ดักคออย่าขวางอภิปราย

    ห่วงเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอม

    สงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจ
    ผลตรวจผ้าผกก.โจ้ ไม่พบดีเอ็นเอคนอื่น : [NEWS UPDATE] พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง เผยผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์คดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ ออกแล้ว ซึ่งจะส่งผลทั้งหมดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อ ทั้งนี้ มีรายงานว่ามีการพิสูจน์หลักฐาน 2 ชิ้น คือ ผ้าขนหนูที่ใช้ผูกคอ จากการตรวจดีเอ็นเอไม่พบความผิดปกติ ไม่พบดีเอ็นเอบุคคลอื่น โดยผ้าขนหนูผืนนี้เป็นของใช้ส่วนตัวของอดีตผู้กำกับโจ้ ที่ใช้ตั้งแต่อยู่แดน 7 และเชื่อว่านำมาใช้ต่อเนื่อง ส่วนรอยหยดเลือดที่ปรากฏบนพื้นห้องขัง เชื่อว่าเป็นเลือดของอดีตผู้กำกับโจ้ เป็นบาดแผลคล้ายรอยสัตว์กัด หา รมต. วิญญูชนยาก ดักคออย่าขวางอภิปราย ห่วงเด็กจมน้ำช่วงปิดเทอม สงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจ
    Like
    Love
    Haha
    5
    1 Comments 0 Shares 1609 Views 50 0 Reviews
  • ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสอบสวนการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับ สภ.นครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ตำรวจยังตั้งแนวทางการสอบสวน 2 ประเด็น คือ 1.ฆ่าตัวตาย และ 2.ถูกทำให้ตาย โดยพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้สอบปากคำพยาบาลเรือนจำที่เข้าไปตรวจสอบร่าง ส่วนอดีตผู้คุมแดน 7 ที่มีข้อพิพาทกับ ผกก.โจ้ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ต้องสอบปากคำเพราะเป็นคดีทำร้ายร่างกาย แต่ก็จะทำงานควบคู่กัน สำหรับภาพกล้องวงจรปิดในแดน 5 ที่ ผกก.โจ้ ถูกคุมขัง ตำรวจรับเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งได้ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกตัดต่อหรือไม่ สำหรับประเด็นที่มีหยดเลือดในที่เกิดเหตุและผ้าขนหนู อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน คาดใช้เวลาตรวจสอบ 30 วัน

    -3 เดือนรู้ผลคดีฮั้วเลือก สว.
    -แสลงใจล้มเหลวดับไฟใต้
    -ตรวจรุกป่าปลูกทุเรียน
    -เข็นเศรษฐกิจไทยโต 3.5%
    ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสอบสวนการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับ สภ.นครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ตำรวจยังตั้งแนวทางการสอบสวน 2 ประเด็น คือ 1.ฆ่าตัวตาย และ 2.ถูกทำให้ตาย โดยพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้สอบปากคำพยาบาลเรือนจำที่เข้าไปตรวจสอบร่าง ส่วนอดีตผู้คุมแดน 7 ที่มีข้อพิพาทกับ ผกก.โจ้ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ต้องสอบปากคำเพราะเป็นคดีทำร้ายร่างกาย แต่ก็จะทำงานควบคู่กัน สำหรับภาพกล้องวงจรปิดในแดน 5 ที่ ผกก.โจ้ ถูกคุมขัง ตำรวจรับเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งได้ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกตัดต่อหรือไม่ สำหรับประเด็นที่มีหยดเลือดในที่เกิดเหตุและผ้าขนหนู อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน คาดใช้เวลาตรวจสอบ 30 วัน -3 เดือนรู้ผลคดีฮั้วเลือก สว. -แสลงใจล้มเหลวดับไฟใต้ -ตรวจรุกป่าปลูกทุเรียน -เข็นเศรษฐกิจไทยโต 3.5%
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 Comments 0 Shares 1315 Views 45 0 Reviews
  • Empirical Health เปิดบริการใหม่ซึ่งเป็นการผสมผสานข้อมูลด้านสุขภาพจากสมาร์ทวอทช์และผลตรวจเลือด เพื่อสร้าง "คะแนนสุขภาพ" ที่ครอบคลุมและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

    Empirical Health Radar สามารถรวบรวมข้อมูลชีวภาพ (biomarkers) มากกว่า 40 ชนิดจากสมาร์ทวอทช์ เช่น Apple Watch หรืออุปกรณ์ Wear OS แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลร่วมกับผลการตรวจเลือด เพื่อวิเคราะห์สุขภาพใน 6 ด้านสำคัญ ได้แก่ หัวใจ การนอนหลับ การออกกำลังกาย สุขภาพจิต ปอด และไต/ตับ โดยแอปพลิเคชันนี้มีเป้าหมายที่จะเสริมความสามารถของสมาร์ทวอทช์ในการติดตามสุขภาพ ให้ครอบคลุมในจุดที่อุปกรณ์เหล่านี้ยังไม่สามารถทำได้

    ที่สำคัญคือ ระบบนี้ออกแบบมาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น Dr. Raquel Rodriguez โดยยึดมาตรฐานจากองค์กรทางการแพทย์ชั้นนำอย่าง American Heart Association และ American College of Cardiology เพื่อความแม่นยำและน่าเชื่อถือ

    นอกจากการวัดค่าทั่วไปอย่างอัตราการเต้นของหัวใจหรือความดันโลหิต ระบบยังมีฟีเจอร์ให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดผลตรวจเลือดที่มีอยู่แล้ว หรือจองการตรวจเลือดใหม่ผ่านแอปในราคา $97 รวมถึงสามารถใช้ได้แม้ไม่มีผลตรวจเลือดล่าสุด แต่จะได้คะแนนสุขภาพแบบบางส่วน

    https://www.techradar.com/health-fitness/this-new-health-protocol-combines-40-smartwatch-biomarkers-and-blood-tests-to-give-you-a-health-score
    Empirical Health เปิดบริการใหม่ซึ่งเป็นการผสมผสานข้อมูลด้านสุขภาพจากสมาร์ทวอทช์และผลตรวจเลือด เพื่อสร้าง "คะแนนสุขภาพ" ที่ครอบคลุมและลึกซึ้งยิ่งขึ้น Empirical Health Radar สามารถรวบรวมข้อมูลชีวภาพ (biomarkers) มากกว่า 40 ชนิดจากสมาร์ทวอทช์ เช่น Apple Watch หรืออุปกรณ์ Wear OS แล้วนำข้อมูลเหล่านี้มาประมวลผลร่วมกับผลการตรวจเลือด เพื่อวิเคราะห์สุขภาพใน 6 ด้านสำคัญ ได้แก่ หัวใจ การนอนหลับ การออกกำลังกาย สุขภาพจิต ปอด และไต/ตับ โดยแอปพลิเคชันนี้มีเป้าหมายที่จะเสริมความสามารถของสมาร์ทวอทช์ในการติดตามสุขภาพ ให้ครอบคลุมในจุดที่อุปกรณ์เหล่านี้ยังไม่สามารถทำได้ ที่สำคัญคือ ระบบนี้ออกแบบมาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น Dr. Raquel Rodriguez โดยยึดมาตรฐานจากองค์กรทางการแพทย์ชั้นนำอย่าง American Heart Association และ American College of Cardiology เพื่อความแม่นยำและน่าเชื่อถือ นอกจากการวัดค่าทั่วไปอย่างอัตราการเต้นของหัวใจหรือความดันโลหิต ระบบยังมีฟีเจอร์ให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดผลตรวจเลือดที่มีอยู่แล้ว หรือจองการตรวจเลือดใหม่ผ่านแอปในราคา $97 รวมถึงสามารถใช้ได้แม้ไม่มีผลตรวจเลือดล่าสุด แต่จะได้คะแนนสุขภาพแบบบางส่วน https://www.techradar.com/health-fitness/this-new-health-protocol-combines-40-smartwatch-biomarkers-and-blood-tests-to-give-you-a-health-score
    0 Comments 0 Shares 530 Views 0 Reviews
  • #ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ตรวจสอบบ้านไฟไหม้เงินหาย 10 ล้านบาท จ่อออกหมายจับ 2 สามีภรรยา พิสูจน์หลักฐานส่งผลตรวจ ชี้สาเหตุไฟไหม้ไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เร่งสอบเส้นเงิน 6.5 ล้านที่ยึดมาพัวพันบัญชีม้าหรือฟอกเงิน

    จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านพัก 2 ชั้น ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเพลิงลุกไหม้ห้องนอนชั้นล่างได้รับความเสียหาย ภายหลังจากเหตุเพลิงไหม้สงบลง เจ้าของบ้านได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน อ้างว่าได้นำเงินสด จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของเจ้านาย เก็บไว้ในห้องนอน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ตรวจสอบรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลขทะเบียน ฆฐ 2492 กทม. ภายในรถพบเงินสด จำนวน 6.5 ล้านบาท บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำมาตรวจสอบ

    ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 มี.ค. 68 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุบ้านพักที่เกิดเพลิงไหม้ ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุในจุดที่มีข้อสงสัย และสรุปคดี โดยพบว่าประตูบ้านถูกล็อคกุญแจ มีรถจยย. และกล่องพัสดุวางอยู่บริเวณหน้าบ้าน สอบถามชาวบ้านยังไม่มีใครพบเห็นทางครอบครัวน.ส.นิตยา กลับมาที่บ้านหลังจากเกิดเหตุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021019

    #MGROnline #ไฟไหม้ #เงินหาย #10ล้านบาท
    #ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ตรวจสอบบ้านไฟไหม้เงินหาย 10 ล้านบาท จ่อออกหมายจับ 2 สามีภรรยา พิสูจน์หลักฐานส่งผลตรวจ ชี้สาเหตุไฟไหม้ไม่ได้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เร่งสอบเส้นเงิน 6.5 ล้านที่ยึดมาพัวพันบัญชีม้าหรือฟอกเงิน • จากกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้บ้านพัก 2 ชั้น ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเพลิงลุกไหม้ห้องนอนชั้นล่างได้รับความเสียหาย ภายหลังจากเหตุเพลิงไหม้สงบลง เจ้าของบ้านได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน อ้างว่าได้นำเงินสด จำนวน 10 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินของเจ้านาย เก็บไว้ในห้องนอน ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ต่อมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ตรวจสอบรถยนต์ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ ปาเจโร หมายเลขทะเบียน ฆฐ 2492 กทม. ภายในรถพบเงินสด จำนวน 6.5 ล้านบาท บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อนำมาตรวจสอบ • ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 4 มี.ค. 68 พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุบ้านพักที่เกิดเพลิงไหม้ ภายในบ้านพักกรมชลประทาน ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุในจุดที่มีข้อสงสัย และสรุปคดี โดยพบว่าประตูบ้านถูกล็อคกุญแจ มีรถจยย. และกล่องพัสดุวางอยู่บริเวณหน้าบ้าน สอบถามชาวบ้านยังไม่มีใครพบเห็นทางครอบครัวน.ส.นิตยา กลับมาที่บ้านหลังจากเกิดเหตุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021019 • #MGROnline #ไฟไหม้ #เงินหาย #10ล้านบาท
    0 Comments 0 Shares 590 Views 0 Reviews
  • "ดีเอสไอ" ลงเรือเก็บหลักฐานคดี "แตงโม" สำรวจ 8 จุดสงสัย “อ.ปานเทพ-อัจฉริยะ” แฉเครือข่ายยาเสพติด เตรียมเปิดข้อมูลเด็ดเป็นฆาตกรรม

    วันนี้ (17 ก.พ.) เวลา 8.30 น. บ้านเรือเล็ก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วย นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมปฏิบัติการลงพื้นที่สำรวจแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางจุดเกิดเหตุที่ยังมีข้อสงสัย 8 จุด หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ โดยมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต , นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน

    นายอัจฉริยะ เผยว่า ส่วนข้อมูลจากโทรศัพท์ที่กู้คืนได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และยังต้องตรวจสอบว่าเป็นเครื่องเดียวกับที่ส่งให้ตำรวจหรือไม่ โดยหลักฐานที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของน้องแตงโม ซึ่งส่งไปยังบังแจ็คที่สหรัฐฯ อาจมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง และพบว่าผู้เขียนที่อยู่บนกล่องไม่ใช่นางภนิดา นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบโทรศัพท์ที่ตำรวจคืนให้มารดาว่าเป็นเครื่องเดิมหรือไม่ โดยผลตรวจ DNA จะออกภายในสัปดาห์นี้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015651

    #MGROnline #ดีเอสไอ #คดีแตงโม

    "ดีเอสไอ" ลงเรือเก็บหลักฐานคดี "แตงโม" สำรวจ 8 จุดสงสัย “อ.ปานเทพ-อัจฉริยะ” แฉเครือข่ายยาเสพติด เตรียมเปิดข้อมูลเด็ดเป็นฆาตกรรม • วันนี้ (17 ก.พ.) เวลา 8.30 น. บ้านเรือเล็ก ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมด้วย นายไกรศรี สว่างศรี ผู้อำนวยการส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมปฏิบัติการลงพื้นที่สำรวจแม่น้ำเจ้าพระยาตามเส้นทางจุดเกิดเหตุที่ยังมีข้อสงสัย 8 จุด หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568 เพื่อสำรวจเส้นทาง GPS รวมถึงนำ ข้อมูลของภูมิประเทศ และ สภาพใต้น้ำมาประกอบ โดยใช้เรือทั้งสิ้น 8 ลำ เป็นเรือของกรมชลประทาน 2 ลำ และเรือของดีเอสไอ 6 ลำ โดยมี นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต , นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ และ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มาในฐานะผู้ร่วมสังเกตการณ์และเป็นสักขีพยาน • นายอัจฉริยะ เผยว่า ส่วนข้อมูลจากโทรศัพท์ที่กู้คืนได้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง และยังต้องตรวจสอบว่าเป็นเครื่องเดียวกับที่ส่งให้ตำรวจหรือไม่ โดยหลักฐานที่นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของน้องแตงโม ซึ่งส่งไปยังบังแจ็คที่สหรัฐฯ อาจมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง และพบว่าผู้เขียนที่อยู่บนกล่องไม่ใช่นางภนิดา นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบโทรศัพท์ที่ตำรวจคืนให้มารดาว่าเป็นเครื่องเดิมหรือไม่ โดยผลตรวจ DNA จะออกภายในสัปดาห์นี้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015651 • #MGROnline #ดีเอสไอ #คดีแตงโม
    0 Comments 0 Shares 673 Views 0 Reviews
  • AI (ปัญญาประดิษฐ์) มีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติวงการการรักษาพยาบาลของมนุษย์โลกในหลายด้าน ตั้งแต่การช่วยวินิจฉัยโรคไปจนถึงการพัฒนายาใหม่ ๆ และการปรับปรุงการดูแลผู้ป่วย นี่คือบางส่วนของบทบาทที่ AI มีต่อการรักษาพยาบาล:

    ### 1. **การวินิจฉัยโรค**
    - AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น ภาพเอ็กซ์เรย์, CT scan, MRI และผลตรวจเลือด ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
    - ตัวอย่างเช่น AI ช่วยวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมจากภาพแมมโมแกรมได้ดีกว่าแพทย์ในบางกรณี
    - AI ยังช่วยระบุโรคตา เช่น เบาหวานขึ้นจอตา จากภาพถ่ายจอประสาทตา

    ### 2. **การพัฒนายาและวัคซีน**
    - AI ช่วยเร่งกระบวนการค้นหายาใหม่ ๆ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลทางเคมีและชีวภาพจำนวนมาก
    - ในช่วงการระบาดของ COVID-19 AI ช่วยนักวิจัยในการพัฒนาวัคซีนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

    ### 3. **การดูแลผู้ป่วย**
    - AI ช่วยติดตามอาการผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ผ่านอุปกรณ์สวมใส่ (wearable devices) เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ
    - ระบบ AI สามารถเตือนแพทย์หรือพยาบาลเมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ

    ### 4. **การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์**
    - หุ่นยนต์ผ่าตัดที่ใช้ AI ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง ลดความเสี่ยงและเวลาในการฟื้นตัวของผู้ป่วย
    - ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ da Vinci ที่ใช้ในการผ่าตัดมะเร็ง

    ### 5. **การจัดการข้อมูลทางการแพทย์**
    - AI ช่วยจัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยจำนวนมาก ทำให้แพทย์สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น
    - ระบบ AI ยังช่วยลดข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลทางการแพทย์

    ### 6. **การให้คำปรึกษาและบริการสุขภาพทางไกล**
    - แชทบอทที่ใช้ AI สามารถให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ และแนะนำให้ผู้ป่วยไปพบแพทย์เมื่อจำเป็น
    - เทคโนโลยี Telemedicine ที่ใช้ AI ช่วยให้ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น

    ### 7. **การพยากรณ์โรค**
    - AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์การแพร่ระบาดของโรค เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือ COVID-19
    - ระบบ AI ยังช่วยคาดการณ์ความเสี่ยงในการเกิดโรคในผู้ป่วยแต่ละคน

    ### 8. **การปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงพยาบาล**
    - AI ช่วยจัดการทรัพยากรในโรงพยาบาล เช่น การจัดตารางการทำงานของแพทย์และพยาบาล
    - ระบบ AI ยังช่วยลดเวลารอคอยและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ

    ### 9. **การวิจัยทางการแพทย์**
    - AI ช่วยนักวิจัยในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกและงานวิจัยต่าง ๆ
    - เทคโนโลยี Machine Learning ช่วยค้นพบรูปแบบใหม่ ๆ ในข้อมูลทางการแพทย์ที่มนุษย์อาจมองไม่เห็น

    ### 10. **การดูแลสุขภาพส่วนบุคคล**
    - AI ช่วยให้การดูแลสุขภาพเป็นไปตามลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล (Personalized Medicine)
    - ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อแนะนำการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน

    ### ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่ก็มีข้อท้าทาย เช่น:
    - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: ข้อมูลสุขภาพเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน จึงต้องมีการปกป้องอย่างเคร่งครัด
    - **ความน่าเชื่อถือ**: AI ต้องได้รับการฝึกฝนด้วยข้อมูลที่มีคุณภาพเพื่อหลีกเลี่ยงการวินิจฉัยผิดพลาด
    - **จริยธรรม**: การใช้ AI ในการตัดสินใจทางการแพทย์ต้องคำนึงถึงจริยธรรมและความรับผิดชอบ

    AI กำลังเปลี่ยนแปลงการรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว และในอนาคตคาดว่าจะมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์โลก
    AI (ปัญญาประดิษฐ์) มีบทบาทสำคัญในการปฏิวัติวงการการรักษาพยาบาลของมนุษย์โลกในหลายด้าน ตั้งแต่การช่วยวินิจฉัยโรคไปจนถึงการพัฒนายาใหม่ ๆ และการปรับปรุงการดูแลผู้ป่วย นี่คือบางส่วนของบทบาทที่ AI มีต่อการรักษาพยาบาล: ### 1. **การวินิจฉัยโรค** - AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางการแพทย์ เช่น ภาพเอ็กซ์เรย์, CT scan, MRI และผลตรวจเลือด ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ - ตัวอย่างเช่น AI ช่วยวินิจฉัยโรคมะเร็งเต้านมจากภาพแมมโมแกรมได้ดีกว่าแพทย์ในบางกรณี - AI ยังช่วยระบุโรคตา เช่น เบาหวานขึ้นจอตา จากภาพถ่ายจอประสาทตา ### 2. **การพัฒนายาและวัคซีน** - AI ช่วยเร่งกระบวนการค้นหายาใหม่ ๆ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลทางเคมีและชีวภาพจำนวนมาก - ในช่วงการระบาดของ COVID-19 AI ช่วยนักวิจัยในการพัฒนาวัคซีนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ### 3. **การดูแลผู้ป่วย** - AI ช่วยติดตามอาการผู้ป่วยแบบเรียลไทม์ผ่านอุปกรณ์สวมใส่ (wearable devices) เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ - ระบบ AI สามารถเตือนแพทย์หรือพยาบาลเมื่อผู้ป่วยมีอาการผิดปกติ ### 4. **การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์** - หุ่นยนต์ผ่าตัดที่ใช้ AI ช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูง ลดความเสี่ยงและเวลาในการฟื้นตัวของผู้ป่วย - ตัวอย่างเช่น หุ่นยนต์ da Vinci ที่ใช้ในการผ่าตัดมะเร็ง ### 5. **การจัดการข้อมูลทางการแพทย์** - AI ช่วยจัดระเบียบและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยจำนวนมาก ทำให้แพทย์สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น - ระบบ AI ยังช่วยลดข้อผิดพลาดในการบันทึกข้อมูลทางการแพทย์ ### 6. **การให้คำปรึกษาและบริการสุขภาพทางไกล** - แชทบอทที่ใช้ AI สามารถให้คำแนะนำเบื้องต้นเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ และแนะนำให้ผู้ป่วยไปพบแพทย์เมื่อจำเป็น - เทคโนโลยี Telemedicine ที่ใช้ AI ช่วยให้ผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้ง่ายขึ้น ### 7. **การพยากรณ์โรค** - AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคาดการณ์การแพร่ระบาดของโรค เช่น ไข้หวัดใหญ่ หรือ COVID-19 - ระบบ AI ยังช่วยคาดการณ์ความเสี่ยงในการเกิดโรคในผู้ป่วยแต่ละคน ### 8. **การปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงพยาบาล** - AI ช่วยจัดการทรัพยากรในโรงพยาบาล เช่น การจัดตารางการทำงานของแพทย์และพยาบาล - ระบบ AI ยังช่วยลดเวลารอคอยและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ ### 9. **การวิจัยทางการแพทย์** - AI ช่วยนักวิจัยในการวิเคราะห์ข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกและงานวิจัยต่าง ๆ - เทคโนโลยี Machine Learning ช่วยค้นพบรูปแบบใหม่ ๆ ในข้อมูลทางการแพทย์ที่มนุษย์อาจมองไม่เห็น ### 10. **การดูแลสุขภาพส่วนบุคคล** - AI ช่วยให้การดูแลสุขภาพเป็นไปตามลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล (Personalized Medicine) - ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อแนะนำการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน ### ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้ AI จะมีศักยภาพสูง แต่ก็มีข้อท้าทาย เช่น: - **ความเป็นส่วนตัวของข้อมูล**: ข้อมูลสุขภาพเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน จึงต้องมีการปกป้องอย่างเคร่งครัด - **ความน่าเชื่อถือ**: AI ต้องได้รับการฝึกฝนด้วยข้อมูลที่มีคุณภาพเพื่อหลีกเลี่ยงการวินิจฉัยผิดพลาด - **จริยธรรม**: การใช้ AI ในการตัดสินใจทางการแพทย์ต้องคำนึงถึงจริยธรรมและความรับผิดชอบ AI กำลังเปลี่ยนแปลงการรักษาพยาบาลอย่างรวดเร็ว และในอนาคตคาดว่าจะมีบทบาทมากขึ้นในการช่วยชีวิตและยกระดับคุณภาพชีวิตของมนุษย์โลก
    0 Comments 0 Shares 593 Views 0 Reviews
  • เบี้ยวนัดครั้งที่ 3 สาวบีเอ็มชน 3 แม่ลูกดับ หลังเกิดเหตุหายไป 8 ชั่วโมง ก่อนมอบตัว ผลตรวจเลือดหมอไม่รับรองผล แต่ผู้กำกับฯยันยังมีผลจากการเป่า คำนวณย้อนหลังได้ ด้านพ่อเหยื่อ ยันเจรจาอีก ฟ้องตามกฎหมาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123852

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เบี้ยวนัดครั้งที่ 3 สาวบีเอ็มชน 3 แม่ลูกดับ หลังเกิดเหตุหายไป 8 ชั่วโมง ก่อนมอบตัว ผลตรวจเลือดหมอไม่รับรองผล แต่ผู้กำกับฯยันยังมีผลจากการเป่า คำนวณย้อนหลังได้ ด้านพ่อเหยื่อ ยันเจรจาอีก ฟ้องตามกฎหมาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000123852 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Angry
    11
    0 Comments 0 Shares 1049 Views 0 Reviews
  • ชุมพร - เบี้ยวนัดครั้งที่ 3 สาวบีเอ็มชน 3 แม่ลูกดับ หลังเกิดเหตุหายไป 8 ชั่วโมง ก่อนมอบตัว ผลตรวจเลือดหมอไม่รับรองผล แต่ผู้กำกับฯยันยังมีผลจากการเป่า คำนวณย้อนหลังได้ ด้านพ่อเหยื่อ ยันเจรจาอีก ฟ้องตามกฎหมาย

    จากกรณี นางสาวจิรันธนิน แตงขาว อายุ 30 ปี ขับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW ป้ายประมูล หมายเลขทะเบียน กจ 44 นครศรีธรรมราช มาด้วยความเร็สูง 207 กม./ชม. พุ่งชนท้ายจักรยานยนต์ของ 3 แม่ลูก อย่างจัง ทำให้ นางเย็นจิตร รัตนภา อายุ 52 ปี นายกฤตเมธ รัตนภา อาบุ 16 ปี นักเรียชั้น ม.4 และ ด.ญ.บุณยานุช รัตนาภา อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ได้เสียชีวิต ขณะแม่ขับไปรับกลับจากเรียนพิเศษ ส่วนสาวที่เป็นคนขับรถ BMW ได้ขอให้ชาวบ้านละแวกเกิดเหตุช่วยหาแมวจนเจอ ก่อนจะทิ้งรถเก๋งคันหรู อุ้มพาแมวหลบหนีหายไปกับความมืด เหตุเกิดเชิงสะพานถนนสาย จ. หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อค่ำวันที่ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิต ได้เก็บศพ ทั้ง 3 แม่ลูกไว้ที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ จนกว่าคดีจะได้รับความเป็นธรรม

    ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 ธันวาคม 2567 นายประกฤษณ์ รัตนภา อายุ 50 ปี ผู้สูญเสียลูกและเมีย 3 ศพ พร้อมกับญาติ ได้เดินทางมาที่จัดเก็บศพลูกและเมียทั้ง 3 ศพ ณ มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ โดยซื้อข้าวมันไก่ร้านที่เมียลูกชอบทานมาให้ พร้อมจุดธูปบอกกล่าวถึงการในครั้งนี้ ว่า ได้มาเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี เป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่ นายณัฐพงศ์ บุญทองคง อัยการ คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ชุมพร ได้ทำหนังสือถึงน.ส.จิรธนิน แตงกวา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 67 ให้มาประนีประนอมข้อพิพาท เรียกค่าสินไหมทดแทนความเสียหาย จากการกระทำความผิดทางอาญา โดยระบุวันนัดหมาย เวลา 13.30 น.ของวันที่ 25 ธันวาคม 67 ณ สำนักงานอัยการจังหวัดชุมพร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/south/detail/9670000123852

    #MGROnline #คนขับรถ #BMW #ชน3แม่ลูกดับ
    ชุมพร - เบี้ยวนัดครั้งที่ 3 สาวบีเอ็มชน 3 แม่ลูกดับ หลังเกิดเหตุหายไป 8 ชั่วโมง ก่อนมอบตัว ผลตรวจเลือดหมอไม่รับรองผล แต่ผู้กำกับฯยันยังมีผลจากการเป่า คำนวณย้อนหลังได้ ด้านพ่อเหยื่อ ยันเจรจาอีก ฟ้องตามกฎหมาย • จากกรณี นางสาวจิรันธนิน แตงขาว อายุ 30 ปี ขับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อ BMW ป้ายประมูล หมายเลขทะเบียน กจ 44 นครศรีธรรมราช มาด้วยความเร็สูง 207 กม./ชม. พุ่งชนท้ายจักรยานยนต์ของ 3 แม่ลูก อย่างจัง ทำให้ นางเย็นจิตร รัตนภา อายุ 52 ปี นายกฤตเมธ รัตนภา อาบุ 16 ปี นักเรียชั้น ม.4 และ ด.ญ.บุณยานุช รัตนาภา อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.2 ได้เสียชีวิต ขณะแม่ขับไปรับกลับจากเรียนพิเศษ ส่วนสาวที่เป็นคนขับรถ BMW ได้ขอให้ชาวบ้านละแวกเกิดเหตุช่วยหาแมวจนเจอ ก่อนจะทิ้งรถเก๋งคันหรู อุ้มพาแมวหลบหนีหายไปกับความมืด เหตุเกิดเชิงสะพานถนนสาย จ. หมู่ 9 ต.ตากแดด อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อค่ำวันที่ 27 พ.ย.67 ที่ผ่านมา โดยขณะนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิต ได้เก็บศพ ทั้ง 3 แม่ลูกไว้ที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ จนกว่าคดีจะได้รับความเป็นธรรม • ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 ธันวาคม 2567 นายประกฤษณ์ รัตนภา อายุ 50 ปี ผู้สูญเสียลูกและเมีย 3 ศพ พร้อมกับญาติ ได้เดินทางมาที่จัดเก็บศพลูกและเมียทั้ง 3 ศพ ณ มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ โดยซื้อข้าวมันไก่ร้านที่เมียลูกชอบทานมาให้ พร้อมจุดธูปบอกกล่าวถึงการในครั้งนี้ ว่า ได้มาเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี เป็นครั้งที่ 3 หลังจากที่ นายณัฐพงศ์ บุญทองคง อัยการ คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.ชุมพร ได้ทำหนังสือถึงน.ส.จิรธนิน แตงกวา เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 67 ให้มาประนีประนอมข้อพิพาท เรียกค่าสินไหมทดแทนความเสียหาย จากการกระทำความผิดทางอาญา โดยระบุวันนัดหมาย เวลา 13.30 น.ของวันที่ 25 ธันวาคม 67 ณ สำนักงานอัยการจังหวัดชุมพร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/south/detail/9670000123852 • #MGROnline #คนขับรถ #BMW #ชน3แม่ลูกดับ
    0 Comments 0 Shares 708 Views 0 Reviews
  • รอง ผบช.ก.เผยผลตรวจสอบ "สจ.โต้ง-โกทร"ไม่ใช่พ่อลูกกันจริง ส่ง รอง เอนกรับสำนวนเข้ากองปราบปรามเย็นนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122195

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รอง ผบช.ก.เผยผลตรวจสอบ "สจ.โต้ง-โกทร"ไม่ใช่พ่อลูกกันจริง ส่ง รอง เอนกรับสำนวนเข้ากองปราบปรามเย็นนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000122195 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 Comments 0 Shares 1096 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร.ปัดมีใบสั่งการเมืองตั้งธงเอาผิด คดียิง สจ.โต้ง แม้พ่อ รรท.ผบช.ภ.2 เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนละขั้ว สจ.โต้ง สั่งสอบตำรวจรับใช้นักการเมืองท้องถิ่น ชี้ ผลตรวจเขม่าดินปืนมีประโยชน์ต่อรูปคดีส่งให้กองปราบฯ พร้อมสำนวนแล้ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121848

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผบ.ตร.ปัดมีใบสั่งการเมืองตั้งธงเอาผิด คดียิง สจ.โต้ง แม้พ่อ รรท.ผบช.ภ.2 เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย คนละขั้ว สจ.โต้ง สั่งสอบตำรวจรับใช้นักการเมืองท้องถิ่น ชี้ ผลตรวจเขม่าดินปืนมีประโยชน์ต่อรูปคดีส่งให้กองปราบฯ พร้อมสำนวนแล้ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000121848 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 Comments 0 Shares 1166 Views 0 Reviews
  • “เอ็ม”เว็บโหด ฉุนไม่พอใจนักข่าวดักสัมภาษณ์ กระชากมือดึงตัวนักข่าวหนุ่ม ก่อนใช้หัวโขกปากแตก ขณะนำตัวเข้าห้องขัง ก่อนตะโกนต่อว่า ถามไม่ให้เกียรติ

    วันนี้( 10 ธ.ค.)เมื่อเวลา 11.35 น.ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี นายนครินทร์ โคตรศรี อายุ 25 ปี ผู้สื่อข่าวช่องอมรินทร์ TV34 เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ หลังจากถูกนายจักรกฤษณ์ หรือเอ็ม ผู้ต้องหาใช้หัวโขกไปที่ริมฝีปาก ขณะที่นายนครินทร์ กำลังขอสัมภาษณ์จักรกฤษณ์ ในประเด็นเรื่องพบสารเสพติดในร่างกาย ขณะตำรวจจะนำตัวเข้าห้องผู้ต้องขัง หลังจากกลับมาจากตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาล

    นายนครินทร์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาที่ สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ขณะที่มาถึงโรงพัก ทางผู้ต้องหานั้นได้ถูกตำรวจควบคุมตัวไปยืนยันผลตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาล ขณะที่ผู้ต้องหากลับถึงโรงพักเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 5 นาย ได้เดินควบคุมตัวนายจักรกฤษณ์ เข้าห้องผู้ต้องขัง ระหว่างทางตนได้พยายามสอบถามสาเหตุของการตรวจเจอสารเสพติดกับผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหานั้นมีการกระชากมือให้เข้าไปใกล้ แล้วใช้ศีรษะโขกเข้ามาที่บริเวณริมฝีปากของตนอย่างแรง ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณผีปากบนแตก จึงแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายจักรกฤษณ์ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000118592

    #MGROnline #เอ็มเว็บโหด #หัวโขกปากแตก #นักข่าวช่องดัง
    “เอ็ม”เว็บโหด ฉุนไม่พอใจนักข่าวดักสัมภาษณ์ กระชากมือดึงตัวนักข่าวหนุ่ม ก่อนใช้หัวโขกปากแตก ขณะนำตัวเข้าห้องขัง ก่อนตะโกนต่อว่า ถามไม่ให้เกียรติ • วันนี้( 10 ธ.ค.)เมื่อเวลา 11.35 น.ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี นายนครินทร์ โคตรศรี อายุ 25 ปี ผู้สื่อข่าวช่องอมรินทร์ TV34 เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ หลังจากถูกนายจักรกฤษณ์ หรือเอ็ม ผู้ต้องหาใช้หัวโขกไปที่ริมฝีปาก ขณะที่นายนครินทร์ กำลังขอสัมภาษณ์จักรกฤษณ์ ในประเด็นเรื่องพบสารเสพติดในร่างกาย ขณะตำรวจจะนำตัวเข้าห้องผู้ต้องขัง หลังจากกลับมาจากตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาล • นายนครินทร์ เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาที่ สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ขณะที่มาถึงโรงพัก ทางผู้ต้องหานั้นได้ถูกตำรวจควบคุมตัวไปยืนยันผลตรวจสารเสพติดที่โรงพยาบาล ขณะที่ผู้ต้องหากลับถึงโรงพักเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 5 นาย ได้เดินควบคุมตัวนายจักรกฤษณ์ เข้าห้องผู้ต้องขัง ระหว่างทางตนได้พยายามสอบถามสาเหตุของการตรวจเจอสารเสพติดกับผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหานั้นมีการกระชากมือให้เข้าไปใกล้ แล้วใช้ศีรษะโขกเข้ามาที่บริเวณริมฝีปากของตนอย่างแรง ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณผีปากบนแตก จึงแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับนายจักรกฤษณ์ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000118592 • #MGROnline #เอ็มเว็บโหด #หัวโขกปากแตก #นักข่าวช่องดัง
    0 Comments 0 Shares 476 Views 0 Reviews
  • "บิ๊กเต่า" เผยผลตรวจสอบรีสอร์ต “ไร่ภูนับดาว” พบมีทุจริตออกเอกสารสิทธิจริง โดยมีรองผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.เกี่ยวข้อง และพบเส้นเงินโยงผู้ใหญ่พรรคการเมือง 10 ล้านบาท และเชื่อมไปถึง "หวานใจ" เตรียมพิจารณาออกหมายเรียกหรือหมายจับ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115310

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "บิ๊กเต่า" เผยผลตรวจสอบรีสอร์ต “ไร่ภูนับดาว” พบมีทุจริตออกเอกสารสิทธิจริง โดยมีรองผู้ว่าฯ และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.เกี่ยวข้อง และพบเส้นเงินโยงผู้ใหญ่พรรคการเมือง 10 ล้านบาท และเชื่อมไปถึง "หวานใจ" เตรียมพิจารณาออกหมายเรียกหรือหมายจับ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000115310 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    10
    1 Comments 0 Shares 1636 Views 0 Reviews
  • ตำรวจกองปราบนัดหมาย"เชน ธนา-ภรรยา"ส่งสำนวนคดีฉ้อโกง 79 ล้านบาท ให้พนักงานอัยการ 26 พ.ย. นี้

    วันนี้ (19 พ.ย. ) ที่กองปราบปรามพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีบริษัทรับผลิตอาหารเสริมแห่งหนึ่ง แจ้งความดำเนินคดีกับ นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือเชน ธนาอดีตนักแสดงและนักร้องบอยแบนด์วง Nice 2 Meet U และ นางกณิการ์ ภูศรี ภรรยา ในความผิดฐานฉ้อโกงเงินค่าผลิตจำนวน 79 ล้านบาทว่า เมื่อวานที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา กับ นายธนาตรัยฉัตร กับ นางกณิการ์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ อยู่ระหว่างรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือกองทะเบียนประวัติอาชญากร จากนั้นจะนัดให้ผู้ต้องหาทั้งสองมาพบอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ย. เพื่อนำตัวพร้อมสำนวนส่งอัยการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ ไว้ครบถ้วนหมดแล้ว

    #MGROnline #เชนธนา
    ตำรวจกองปราบนัดหมาย"เชน ธนา-ภรรยา"ส่งสำนวนคดีฉ้อโกง 79 ล้านบาท ให้พนักงานอัยการ 26 พ.ย. นี้ • วันนี้ (19 พ.ย. ) ที่กองปราบปรามพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีบริษัทรับผลิตอาหารเสริมแห่งหนึ่ง แจ้งความดำเนินคดีกับ นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือเชน ธนาอดีตนักแสดงและนักร้องบอยแบนด์วง Nice 2 Meet U และ นางกณิการ์ ภูศรี ภรรยา ในความผิดฐานฉ้อโกงเงินค่าผลิตจำนวน 79 ล้านบาทว่า เมื่อวานที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา กับ นายธนาตรัยฉัตร กับ นางกณิการ์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ อยู่ระหว่างรอผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือกองทะเบียนประวัติอาชญากร จากนั้นจะนัดให้ผู้ต้องหาทั้งสองมาพบอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ย. เพื่อนำตัวพร้อมสำนวนส่งอัยการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เนื่องจากก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ ไว้ครบถ้วนหมดแล้ว • #MGROnline #เชนธนา
    0 Comments 0 Shares 502 Views 0 Reviews
  • 17 พ.ย. 2567 – นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง จับหมาไปขังได้แล้ว!!! ผ่านเว็บไซต์ www.thaipost.net มีเนื้อหาดังนี้ถาม เห็นตัวแทนราชทัณฑ์ตอบคณะกรรมาธิการสภาว่า รับตัวทักษิณเข้าเรือนจำแล้ว ก็ส่งตัวไป รพ.ตำรวจเลย โดยอธิบายว่าทางพยาบาลได้โทรศัพท์ปรึกษากับหมอของเรือนจำแล้ว ซึ่งทางกรรมาธิการตรวจสอบข้อมูลแล้วบอกว่า ทั้งหมดนี้ทักษิณใช้เวลาอยู่ในเรือนจำแค่ ๔ นาทีเท่านั้นตรงจุดนี้ผมข้องใจจริงๆครับ อาจารย์ค้นกฎกระทรวงว่าด้วยการส่งตัวผู้ต้องขัง พ.ศ.๒๕๖๓ แล้ว เขาเปิดให้ทำกันง่ายๆอย่างนี้หรือตอบ ไม่จริงครับ ข้อ ๒ ของกฎกระทรวงระบุชัดเจนว่า นักโทษต้องรับการตรวจทางการแพทย์ก่อน“ข้อ ๒ เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำได้รับรายงานจากเจ้าพนักงานเรือนจำว่า ผู้ต้องขังคนใดป่วย ให้ส่งตัวผู้ต้องขังคนนั้นไปรับการตรวจในสถานพยาบาล ของเรือนจำ” เมื่อไม่มีการตรวจเลยเช่นนี้ นี่จึงเป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อแรก ที่ ปปช.จะขอเวชระเบียน ขอใบส่งตัวอะไรของหมอเรือนจำนั่น มันก็ไม่มีหรอกครับถาม ตามกฎกระทรวงนี้ ตรวจแล้วต้องทำยังไงต่อครับตอบ กฎกระทรวงกำหนดว่า ถ้าตรวจแล้วฝ่ายการแพทย์ของเรือนจำรายงานว่า รักษาในโรงพยาบาลเรือนจำจะไม่ทุเลาดีขึ้น ให้ดำเนินการดังนี้“(๑) กรณีผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาต ให้เจ้าพนักงานเรือนจำพาผู้ต้องขังคนนั้นไปและกลับในวันเดียวกัน(๒) หากแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษามีความเห็นว่า สมควรรับตัวผู้ต้องขังคนนั้นไว้รักษา ให้เจ้าพนักงาน เรือนจำซึ่งพาผู้ต้องขังคนนั้นไปตรวจรักษาขอหลักฐานและความเห็นของแพทย์ผู้ทำาการตรวจรักษา ประกอบการจัดทำรายงานเสนอผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา ถ้าผู้บัญชาการเรือนจำเห็นด้วยกับ ความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้มีคำสั่งอนุญาตให้รับตัวไว้รักษา”ถาม อ้าว..ตามพฤติการณ์จริงที่ปรากฏนั้น เมื่อส่งทักษิณไปถึงโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เขาก็รับตัวไว้ ยาวไป ๖ เดือนเลยนี่ครับ โดยไม่มีการสื่อสารให้ทางราชทัณฑ์อนุญาตหรือไม่อนุญาตเลย จะอยู่จริงหรือไม่นานแค่ไหนก็ไม่มีใครยืนยันได้ตอบ นี่เป็นการละเว้นหน้าที่อย่างชัดเจนเป็นข้อที่ ๒ ดังนั้น ปปช.จะไปขอเวชระเบียน ใบส่งตัว ใบรับตัวพร้อมบันทึกการตรวจร่างกายอะไรก็ไม่มีหรอกครับ ขั้นตอนอนุญาตของ ผบ.เรือนจำข้อนี้สำคัญมากขาดไม่ได้ กฎกระทรวงระบุชัดว่า“กรณีผู้บัญชาการเรือนจำไม่เห็นด้วยกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้เจ้าพนักงาน นำตัวผู้ต้องขังคนนั้นกลับเข้ารักษาพยาบาลภายในเรือนจำ”ตอบ กฎกระทรวงระบุไว้รัดกุมครับว่า“เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้จัดเจ้าพนักงานเรือนจำอย่างน้อยจำนวนสองคนควบคุมผู้ต้องขังป่วยหนึ่งคนให้อยู่ภายใน เขตที่กำหนดให้เจ้าพนักงานเรือนจำซึ่งมีหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยม และเวลา เข้าเยี่ยมโดยละเอียด และดูแลให้ผู้เข้าเยี่ยมปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำใช้สิทธิของผู้ต้องขังตามที่ทางราชการจัดให้และห้ามเข้าอยู่ในห้องพักพิเศษแยกจากผู้ป่วยทั่วไปรับประทานอาหารตามที่สถานที่รักษา ๓ จัดให้”ถาม เห็นพลตำรวจเอกเสรี เตมียเวส ท่านให้การต่อ ปปช.ว่า เมื่อไปเยี่ยมทักษิณสองครั้งนั้น ท่านไม่เห็นมีพนักงานอยู่ประจำเลย ห้องพักก็เป็นห้องพิเศษ ชั้น ๑๔ ทั้งชั้นเห็นเปิดอยู่ห้องเดียว อาหารการกินสมบูรณ์มีข้าวเหนียวมะม่วงเลี้ยงแขกด้วยนะครับตอบ นี่ก็เป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อที่สามครับ พวกเขาทำจน รพ.ตำรวจกลายเป็นโรงแรมไปเลย มีนักโทษคนเดียวในประวัติศาสตร์ไทยเท่านั้นได้รับบริการอย่างนี้ถาม พอส่ง โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ในกฎกระทรวงไม่มีการตรวจสอบอะไรอีกเลยหรือครับ อยู่นอกเรือนจำตั้ง ๖ เดือน แล้วก็พักโทษไปเลย ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือตอบ กฎหมายเขากำหนดการตรวจสอบทางบริหารไว้อย่างนี้ครับ“- หากพักรักษาตัวเกินกว่าสามสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องหากพักรักษาตัวเกินกว่าหกสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ-หากพักรักษาตัวเกินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบ”ถาม แล้วเขามีหนังสือและรายงานอย่างที่ว่านี้ไหมครับตอบ รัฐมนตรี บอกว่ามี และได้เห็นผลตรวจ MRI ด้วย ผมเข้าใจได้ว่าเป็นผลการตรวจก่อนผ่าซ่อมเอ็นหัวไหล่เท่านั้น ซึ่งอาการอย่างนี้ผู้สูงอายุเป็นกันทั่วไป ผ่าวันเดียวก็กลับเรือนจำได้แล้ว เอามาอ้างอยู่นอกเรือนจำเป็น ๖ เดือนไม่ได้หรอกครับ รายงานและหลักฐานที่ว่านี้จะมีจริงไหม ถูกต้องหรือไม่ ทั้ง ปปช.และ กมธ ก็ยังไม่มีใครได้มาวิเคราะห์เลยถาม แล้วที่คุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ท่านร้องให้ศาลไต่สวนว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ราชทัณฑ์ต้องขอให้ศาลออกคำสั่งทุเลาการลงโทษก่อน จึงจะนอนโรงพยาบาลตำรวจได้ ถ้าไม่ผ่านศาลก็ต้องถือว่าไม่ถูกต้อง ศาลต้องออกหมายจับทักษิณมาขังให้ครบ ๑ ปี นั้น คำร้องนี้ถูกต้องให้ศาลรับวินิจฉัยได้ไหมครับตอบ มาตรานั้น ให้ศาลสั่งได้เมื่อญาติ หรือเรือนจำ ร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นเองว่า จำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก ก็ให้ส่งไปบำบัดรักษานอกคุกได้ แต่กรณีทักษิณนี่ เขาอธิบายว่าเป็นการรักษาตามความจำเป็น ตามอำนาจของราชทัณฑ์ ศาลไม่เกี่ยว จริงๆแล้วกฎกระทรวงน่าจะจำกัดเวลาไว้เลยว่า ถ้าต้องรักษาเกิน ๓๐ วันให้ราชทัณฑ์ไปขอคำสั่งทุเลาการลงโทษ ถ้ากำหนดอย่างนี้ศาลก็จะตรวจสอบได้ตามอำนาจในกฎหมาย โอกาสติดคุกทิพย์ก็จะจำกัดอีกมากถาม แต่เฉพาะปัญหาว่าราชทัณฑ์ทำถูกต้องหรือไม่นี่ มันพอแล้วหรือยังครับที่ ปปช.จะมีมติตั้งข้อกล่าวหาผู้รับผิดชอบว่ากระทำผิดอาญา และมีมติส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจผู้บังคับบัญชา สั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลให้ออกหมายขัง นำตัวนักโทษกลับเข้าคุกด้วยตอบ เห็นเขาบอกให้หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน ผมว่าเมื่อปล่อยออกมาโดยไม่ชอบชัดเจนจะๆ และยังพองขนอหังการคับบ้านเมืองอยู่นอกกรงอย่างนี้ ก็ควรจับไปขังได้แล้วครับ
    17 พ.ย. 2567 – นายแก้วสรร อติโพธิ เผยแพร่บทความเรื่อง จับหมาไปขังได้แล้ว!!! ผ่านเว็บไซต์ www.thaipost.net มีเนื้อหาดังนี้ถาม เห็นตัวแทนราชทัณฑ์ตอบคณะกรรมาธิการสภาว่า รับตัวทักษิณเข้าเรือนจำแล้ว ก็ส่งตัวไป รพ.ตำรวจเลย โดยอธิบายว่าทางพยาบาลได้โทรศัพท์ปรึกษากับหมอของเรือนจำแล้ว ซึ่งทางกรรมาธิการตรวจสอบข้อมูลแล้วบอกว่า ทั้งหมดนี้ทักษิณใช้เวลาอยู่ในเรือนจำแค่ ๔ นาทีเท่านั้นตรงจุดนี้ผมข้องใจจริงๆครับ อาจารย์ค้นกฎกระทรวงว่าด้วยการส่งตัวผู้ต้องขัง พ.ศ.๒๕๖๓ แล้ว เขาเปิดให้ทำกันง่ายๆอย่างนี้หรือตอบ ไม่จริงครับ ข้อ ๒ ของกฎกระทรวงระบุชัดเจนว่า นักโทษต้องรับการตรวจทางการแพทย์ก่อน“ข้อ ๒ เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำได้รับรายงานจากเจ้าพนักงานเรือนจำว่า ผู้ต้องขังคนใดป่วย ให้ส่งตัวผู้ต้องขังคนนั้นไปรับการตรวจในสถานพยาบาล ของเรือนจำ” เมื่อไม่มีการตรวจเลยเช่นนี้ นี่จึงเป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อแรก ที่ ปปช.จะขอเวชระเบียน ขอใบส่งตัวอะไรของหมอเรือนจำนั่น มันก็ไม่มีหรอกครับถาม ตามกฎกระทรวงนี้ ตรวจแล้วต้องทำยังไงต่อครับตอบ กฎกระทรวงกำหนดว่า ถ้าตรวจแล้วฝ่ายการแพทย์ของเรือนจำรายงานว่า รักษาในโรงพยาบาลเรือนจำจะไม่ทุเลาดีขึ้น ให้ดำเนินการดังนี้“(๑) กรณีผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาต ให้เจ้าพนักงานเรือนจำพาผู้ต้องขังคนนั้นไปและกลับในวันเดียวกัน(๒) หากแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษามีความเห็นว่า สมควรรับตัวผู้ต้องขังคนนั้นไว้รักษา ให้เจ้าพนักงาน เรือนจำซึ่งพาผู้ต้องขังคนนั้นไปตรวจรักษาขอหลักฐานและความเห็นของแพทย์ผู้ทำาการตรวจรักษา ประกอบการจัดทำรายงานเสนอผู้บัญชาการเรือนจำพิจารณา ถ้าผู้บัญชาการเรือนจำเห็นด้วยกับ ความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้มีคำสั่งอนุญาตให้รับตัวไว้รักษา”ถาม อ้าว..ตามพฤติการณ์จริงที่ปรากฏนั้น เมื่อส่งทักษิณไปถึงโรงพยาบาลตำรวจแล้ว เขาก็รับตัวไว้ ยาวไป ๖ เดือนเลยนี่ครับ โดยไม่มีการสื่อสารให้ทางราชทัณฑ์อนุญาตหรือไม่อนุญาตเลย จะอยู่จริงหรือไม่นานแค่ไหนก็ไม่มีใครยืนยันได้ตอบ นี่เป็นการละเว้นหน้าที่อย่างชัดเจนเป็นข้อที่ ๒ ดังนั้น ปปช.จะไปขอเวชระเบียน ใบส่งตัว ใบรับตัวพร้อมบันทึกการตรวจร่างกายอะไรก็ไม่มีหรอกครับ ขั้นตอนอนุญาตของ ผบ.เรือนจำข้อนี้สำคัญมากขาดไม่ได้ กฎกระทรวงระบุชัดว่า“กรณีผู้บัญชาการเรือนจำไม่เห็นด้วยกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการตรวจรักษา ให้เจ้าพนักงาน นำตัวผู้ต้องขังคนนั้นกลับเข้ารักษาพยาบาลภายในเรือนจำ”ตอบ กฎกระทรวงระบุไว้รัดกุมครับว่า“เมื่อผู้บัญชาการเรือนจำอนุญาตให้ส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้จัดเจ้าพนักงานเรือนจำอย่างน้อยจำนวนสองคนควบคุมผู้ต้องขังป่วยหนึ่งคนให้อยู่ภายใน เขตที่กำหนดให้เจ้าพนักงานเรือนจำซึ่งมีหน้าที่ควบคุมผู้ต้องขังจดบันทึกข้อมูลผู้เข้าเยี่ยม และเวลา เข้าเยี่ยมโดยละเอียด และดูแลให้ผู้เข้าเยี่ยมปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการเยี่ยมผู้ต้องขังในเรือนจำใช้สิทธิของผู้ต้องขังตามที่ทางราชการจัดให้และห้ามเข้าอยู่ในห้องพักพิเศษแยกจากผู้ป่วยทั่วไปรับประทานอาหารตามที่สถานที่รักษา ๓ จัดให้”ถาม เห็นพลตำรวจเอกเสรี เตมียเวส ท่านให้การต่อ ปปช.ว่า เมื่อไปเยี่ยมทักษิณสองครั้งนั้น ท่านไม่เห็นมีพนักงานอยู่ประจำเลย ห้องพักก็เป็นห้องพิเศษ ชั้น ๑๔ ทั้งชั้นเห็นเปิดอยู่ห้องเดียว อาหารการกินสมบูรณ์มีข้าวเหนียวมะม่วงเลี้ยงแขกด้วยนะครับตอบ นี่ก็เป็นการละเว้นหน้าที่เป็นข้อที่สามครับ พวกเขาทำจน รพ.ตำรวจกลายเป็นโรงแรมไปเลย มีนักโทษคนเดียวในประวัติศาสตร์ไทยเท่านั้นได้รับบริการอย่างนี้ถาม พอส่ง โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ในกฎกระทรวงไม่มีการตรวจสอบอะไรอีกเลยหรือครับ อยู่นอกเรือนจำตั้ง ๖ เดือน แล้วก็พักโทษไปเลย ง่ายๆอย่างนี้เลยหรือตอบ กฎหมายเขากำหนดการตรวจสอบทางบริหารไว้อย่างนี้ครับ“- หากพักรักษาตัวเกินกว่าสามสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องหากพักรักษาตัวเกินกว่าหกสิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวงทราบ-หากพักรักษาตัวเกินกว่าหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบ”ถาม แล้วเขามีหนังสือและรายงานอย่างที่ว่านี้ไหมครับตอบ รัฐมนตรี บอกว่ามี และได้เห็นผลตรวจ MRI ด้วย ผมเข้าใจได้ว่าเป็นผลการตรวจก่อนผ่าซ่อมเอ็นหัวไหล่เท่านั้น ซึ่งอาการอย่างนี้ผู้สูงอายุเป็นกันทั่วไป ผ่าวันเดียวก็กลับเรือนจำได้แล้ว เอามาอ้างอยู่นอกเรือนจำเป็น ๖ เดือนไม่ได้หรอกครับ รายงานและหลักฐานที่ว่านี้จะมีจริงไหม ถูกต้องหรือไม่ ทั้ง ปปช.และ กมธ ก็ยังไม่มีใครได้มาวิเคราะห์เลยถาม แล้วที่คุณชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ท่านร้องให้ศาลไต่สวนว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ราชทัณฑ์ต้องขอให้ศาลออกคำสั่งทุเลาการลงโทษก่อน จึงจะนอนโรงพยาบาลตำรวจได้ ถ้าไม่ผ่านศาลก็ต้องถือว่าไม่ถูกต้อง ศาลต้องออกหมายจับทักษิณมาขังให้ครบ ๑ ปี นั้น คำร้องนี้ถูกต้องให้ศาลรับวินิจฉัยได้ไหมครับตอบ มาตรานั้น ให้ศาลสั่งได้เมื่อญาติ หรือเรือนจำ ร้องขอ หรือเมื่อศาลเห็นเองว่า จำเลยจะถึงอันตรายแก่ชีวิตถ้าต้องจำคุก ก็ให้ส่งไปบำบัดรักษานอกคุกได้ แต่กรณีทักษิณนี่ เขาอธิบายว่าเป็นการรักษาตามความจำเป็น ตามอำนาจของราชทัณฑ์ ศาลไม่เกี่ยว จริงๆแล้วกฎกระทรวงน่าจะจำกัดเวลาไว้เลยว่า ถ้าต้องรักษาเกิน ๓๐ วันให้ราชทัณฑ์ไปขอคำสั่งทุเลาการลงโทษ ถ้ากำหนดอย่างนี้ศาลก็จะตรวจสอบได้ตามอำนาจในกฎหมาย โอกาสติดคุกทิพย์ก็จะจำกัดอีกมากถาม แต่เฉพาะปัญหาว่าราชทัณฑ์ทำถูกต้องหรือไม่นี่ มันพอแล้วหรือยังครับที่ ปปช.จะมีมติตั้งข้อกล่าวหาผู้รับผิดชอบว่ากระทำผิดอาญา และมีมติส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจผู้บังคับบัญชา สั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลให้ออกหมายขัง นำตัวนักโทษกลับเข้าคุกด้วยตอบ เห็นเขาบอกให้หมาอยู่ส่วนหมา คนอยู่ส่วนคน ผมว่าเมื่อปล่อยออกมาโดยไม่ชอบชัดเจนจะๆ และยังพองขนอหังการคับบ้านเมืองอยู่นอกกรงอย่างนี้ ก็ควรจับไปขังได้แล้วครับ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 918 Views 0 Reviews
More Results