MGROnlineLive
MGROnlineLive
ไม่พลาดทุกข่าวสารประเด็นร้อนกับ MGR Online Live
  • 103 คนติดตามเรื่องนี้
  • 22 โพสต์
  • 66 รูปภาพ
  • 0 วิดีโอ
  • 2 รีวิว 5.0
  • Lifestyle
อัปเดตล่าสุด
  • รรท.อธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมมีมติเอาผิด 18 บอส "ดิไอคอน" ข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ ส่วนฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน

    วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีพิจารณาแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กับผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน"

    พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเปิดเผยหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 ได้ประชุมร่วมกันและมีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 โดยจะแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้และต่อเนื่องสัปดาห์ เพราะความพร้อมของผู้ต้องหาและทนายความแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ยังมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่และแบ่งมอบหมายงานเพิ่มประสิทธิภาพ และอาจมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย ตาม ม.33 หรือ ตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตาม ม.30 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เรื่องงบดุล งบบัญชี รวมถึง แต่งตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย

    พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในชั้นนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนมา รวมทั้งมีการสอบพยานเพิ่มเติมจนมีหลักฐานตามสมควร ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง 2 ข้อหาดังกล่าว ส่วนรายละเอียดผู้ต้องหาแต่ละบุคคลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบอสดาราแม้อาจจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการสร้างธุรกิจแต่ก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน และแต่ละคนมีจุดประสงค์เดียวกันจึงเข้าความผิดตามองค์ประกอบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000106265

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    รรท.อธิบดีดีเอสไอ เผย ผลประชุมมีมติเอาผิด 18 บอส "ดิไอคอน" ข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรงฯ ส่วนฟอกเงินอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน • วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 14.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณีพิจารณาแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 กับผู้ต้องหาคดี "ดิไอคอน" • พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวเปิดเผยหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 119/2567 ได้ประชุมร่วมกันและมีมติเอกฉันท์เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือแชร์ลูกโซ่ รวมทั้งความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2560 โดยจะแจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้และต่อเนื่องสัปดาห์ เพราะความพร้อมของผู้ต้องหาและทนายความแต่ละคนไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ยังมีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์เพื่อปฏิบัติหน้าที่และแบ่งมอบหมายงานเพิ่มประสิทธิภาพ และอาจมีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย ตาม ม.33 หรือ ตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตาม ม.30 ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เรื่องงบดุล งบบัญชี รวมถึง แต่งตั้งอัยการเป็นที่ปรึกษาด้วย • พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ในชั้นนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนมา รวมทั้งมีการสอบพยานเพิ่มเติมจนมีหลักฐานตามสมควร ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้ง 2 ข้อหาดังกล่าว ส่วนรายละเอียดผู้ต้องหาแต่ละบุคคลยังไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยบอสดาราแม้อาจจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับโครงการสร้างธุรกิจแต่ก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน และแต่ละคนมีจุดประสงค์เดียวกันจึงเข้าความผิดตามองค์ประกอบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000106265 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำความรู้จัก อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ซินแสชื่อดัง ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ และได้รับการฝึกฝนจากพ่อตั้งแต่อายุ 12 ปี

    “ฮวงจุ้ย” ถือเป็นอีกศาสตร์ของชาวจีน ที่ “ฮวงจุ้ย” หรือในภาษาจีนกลางคือ Feng Shui (เฟิงสุ่ย) มาจากคำสองคำคือ ‘เฟิง’ แปลว่า ‘ลม’ และ ‘สุ่ย’ แปลว่า ‘น้ำ’ ความหมายโดยรวมคือการสร้างสภาพแวดล้อมในธรรมชาติกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้มีความสมดุลและนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต

    สำหรับในไทย หมอดูฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงนั้นมีหลายคนมาก หนึ่งในนั้นคือ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” หรือ อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ นับเป็นบุตรคนเดียวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจากอาจารย์พ่อ (อ.จิระ จิระเจริญเวศน์) ผู้เป็นบิดามาตั้งแต่ อ.ธนวันต์อายุเพียง 12 ปีเท่านั้น

    โดยคำว่า ตี่ลี่ มีความหมายว่า พื้นที่ ทำเล ภูมิศาสตร์ ซึ่งจริงๆ แล้วก็หมายถึงที่อยู่ของเรา โดยจะครอบคลุมในส่วน “ภายในทั้งหมดของตัวบ้านเรา” ซึ่งจุดนี้แหละที่อาจารย์จะต้องจัดบ้านภายในให้เหมาะสม และส่งเสริมคนในบ้าน ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

    นอกจากนี้ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ยังได้ให้ความรู้เรื่องฮวงจุ้ยในรายการทีวีช่องดังอีกด้วย ทั้งยังมีช่องยูทูบให้ความรู้เรื่อง “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ที่มีวิดีโอให้ความรู้มากถึง 1.8 พันคลิป และมีผู้ติดตามมากถึง 2.6 แสนคน

    #MGROnline #อาจารย์ตี่ลี่ #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดู #หมอดูฮวงจุ้ย #ฮวงจุ้ย #ดูดวง
    ทำความรู้จัก อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ซินแสชื่อดัง ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ และได้รับการฝึกฝนจากพ่อตั้งแต่อายุ 12 ปี • “ฮวงจุ้ย” ถือเป็นอีกศาสตร์ของชาวจีน ที่ “ฮวงจุ้ย” หรือในภาษาจีนกลางคือ Feng Shui (เฟิงสุ่ย) มาจากคำสองคำคือ ‘เฟิง’ แปลว่า ‘ลม’ และ ‘สุ่ย’ แปลว่า ‘น้ำ’ ความหมายโดยรวมคือการสร้างสภาพแวดล้อมในธรรมชาติกับความเป็นอยู่ของมนุษย์ให้มีความสมดุลและนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต • สำหรับในไทย หมอดูฮวงจุ้ยที่มีชื่อเสียงนั้นมีหลายคนมาก หนึ่งในนั้นคือ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” หรือ อ.ธนวันต์ จิรเจริญเวศน์ ทายาทเป็นผู้สืบทอดสายตรงศาสตร์ตี่ลี่ฮวงจุ้ย รุ่นที่ 15 มาจากบรรพบุรุษ นับเป็นบุตรคนเดียวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างเข้มข้นจากอาจารย์พ่อ (อ.จิระ จิระเจริญเวศน์) ผู้เป็นบิดามาตั้งแต่ อ.ธนวันต์อายุเพียง 12 ปีเท่านั้น • โดยคำว่า ตี่ลี่ มีความหมายว่า พื้นที่ ทำเล ภูมิศาสตร์ ซึ่งจริงๆ แล้วก็หมายถึงที่อยู่ของเรา โดยจะครอบคลุมในส่วน “ภายในทั้งหมดของตัวบ้านเรา” ซึ่งจุดนี้แหละที่อาจารย์จะต้องจัดบ้านภายในให้เหมาะสม และส่งเสริมคนในบ้าน ทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด • นอกจากนี้ “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ยังได้ให้ความรู้เรื่องฮวงจุ้ยในรายการทีวีช่องดังอีกด้วย ทั้งยังมีช่องยูทูบให้ความรู้เรื่อง “ตี่ลี่ ฮวงจุ้ย” ที่มีวิดีโอให้ความรู้มากถึง 1.8 พันคลิป และมีผู้ติดตามมากถึง 2.6 แสนคน • #MGROnline #อาจารย์ตี่ลี่ #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดู #หมอดูฮวงจุ้ย #ฮวงจุ้ย #ดูดวง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" ร้องโอ้โห! "กิตติรัตน์" ถูกมองแทรกแซงแบงค์ชาติ ถูกส่งมาจากฝ่ายการเมือง หลังเคยเป็นสมาชิกเพื่อไทย - มองเป็นคนมีความรู้การเงินการคลัง หากเข้าไปได้ จะเต็มเติม - ชี้ยังไม่เห็นประเด็นที่ต้องคัดค้าน

    วันนี้ (4พ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเลื่อนประชุมคัดเลือกประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท. หลังมีชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหนึ่งในแคนดิเดต ว่า ตนได้ยินว่าวันนี้เขาเลื่อน ต้องไปถาม นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ุ ประธานคัดเลือกประธานกรรมการคัดเลือกและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ธปท. ว่าทำไมถึงเลื่อน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล และไม่ใช่เรื่องของตน

    ส่วนที่มีกระแสโจมตีว่านายกิตติรัตน์ มาจากฝ่ายการเมืองนั้น ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทยแล้วนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปหาข้อสรุป และต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ตัวบทกฎหมาย เมื่อนายกิตติรัตน์อยากสมัคร เมื่อมีโอกาสและเงื่อนไขอยากสมัครก็สมัคร แต่ถ้าตามกฎระเบียบ มันเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องถูกปฏิเสธไปแต่ถ้าเป็นได้ก็ไปว่ากัน แล้วจริงๆ ตนยังไม่เห็นประเด็น ว่าทำไมต้องคัดค้านนายกิตติรัตน์

    เมื่อถามว่าเพราะมองว่านายกิตติรัตน์มาจากฝ่ายการเมืองอาจจะมีการแทรกแซง ผู้ว่า ธปท.เกิดขึ้น นายธรรม ร้อง โอ้โห ถ้าวันนี้รัฐธรรมนูญบอกว่าทุกคน เป็นสมาชิกพรรคการเมือง เสร็จแล้วก็ไปทำงานไม่ได้เลย ซึ่งตนคิดว่าการที่นายกิตติรัตน์เข้าไป ก็เป็นมืออาชีพมีความรู้เรื่องทางการเงินและการคลัง หากนายกิตติรัตน์เข้าไปก็เป็นมองว่าเป็นการเข้าไปเติมเต็มให้มีการพูดคุยกัน ในมุมมองที่กว้างขึ้น แต่ก็ต้องไปถามนายกิตติรัตน์ ตนตอบแทนไม่ได้ แต่คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเข้าสู่กระบวนการ และกระบวนการตัดสินใจ เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ก็อยู่ที่บอร์ดของแบงค์ชาติ ที่ตั้งคณะกรรมการสรรหาขึ้นมา ก็ต้องไปถามทางนั้น

    #MGROnline #ภูมิธรรม #กิตติรัตน์ #แบงค์ชาติ
    "ภูมิธรรม" ร้องโอ้โห! "กิตติรัตน์" ถูกมองแทรกแซงแบงค์ชาติ ถูกส่งมาจากฝ่ายการเมือง หลังเคยเป็นสมาชิกเพื่อไทย - มองเป็นคนมีความรู้การเงินการคลัง หากเข้าไปได้ จะเต็มเติม - ชี้ยังไม่เห็นประเด็นที่ต้องคัดค้าน • วันนี้ (4พ.ย.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการเลื่อนประชุมคัดเลือกประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ ธปท. หลังมีชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหนึ่งในแคนดิเดต ว่า ตนได้ยินว่าวันนี้เขาเลื่อน ต้องไปถาม นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ุ ประธานคัดเลือกประธานกรรมการคัดเลือกและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ธปท. ว่าทำไมถึงเลื่อน เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล และไม่ใช่เรื่องของตน • ส่วนที่มีกระแสโจมตีว่านายกิตติรัตน์ มาจากฝ่ายการเมืองนั้น ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกของพรรคเพื่อไทยแล้วนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปหาข้อสรุป และต้องว่ากันไปตามกระบวนการ ตัวบทกฎหมาย เมื่อนายกิตติรัตน์อยากสมัคร เมื่อมีโอกาสและเงื่อนไขอยากสมัครก็สมัคร แต่ถ้าตามกฎระเบียบ มันเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องถูกปฏิเสธไปแต่ถ้าเป็นได้ก็ไปว่ากัน แล้วจริงๆ ตนยังไม่เห็นประเด็น ว่าทำไมต้องคัดค้านนายกิตติรัตน์ • เมื่อถามว่าเพราะมองว่านายกิตติรัตน์มาจากฝ่ายการเมืองอาจจะมีการแทรกแซง ผู้ว่า ธปท.เกิดขึ้น นายธรรม ร้อง โอ้โห ถ้าวันนี้รัฐธรรมนูญบอกว่าทุกคน เป็นสมาชิกพรรคการเมือง เสร็จแล้วก็ไปทำงานไม่ได้เลย ซึ่งตนคิดว่าการที่นายกิตติรัตน์เข้าไป ก็เป็นมืออาชีพมีความรู้เรื่องทางการเงินและการคลัง หากนายกิตติรัตน์เข้าไปก็เป็นมองว่าเป็นการเข้าไปเติมเต็มให้มีการพูดคุยกัน ในมุมมองที่กว้างขึ้น แต่ก็ต้องไปถามนายกิตติรัตน์ ตนตอบแทนไม่ได้ แต่คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเข้าสู่กระบวนการ และกระบวนการตัดสินใจ เป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ก็อยู่ที่บอร์ดของแบงค์ชาติ ที่ตั้งคณะกรรมการสรรหาขึ้นมา ก็ต้องไปถามทางนั้น • #MGROnline #ภูมิธรรม #กิตติรัตน์ #แบงค์ชาติ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายวัย 69 ขับเก๋งพลาดเหยียบคันเร่งแทนเบรก รถพุ่งตกจากชั้น 2 ลานจอดในคอนโด ย่านบางกอกน้อย พังยับเยิน ส่วนคนขับบาดเจ็บเล็กน้อย

    วันนี้ (4 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.พรรณพงศ์ จีนโน รอง สว.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์พลัดตกคอนโดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณคอนโดรัตนโกสินทร์ไอซ์แลนด์​ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน

    ที่เกิดเป็นคอนโด สูง 39 ชั้น ตรวจสอบบริเวณอาคารจอดรถชั้นล่างสุด พบรถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นคิกซ์ สีขาว ทะเบียน ฌค 4004 กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า หลังคายุบพังยับเยินทั้งคัน ชนเข้ากับกำแพงมีรอยแตกร้าวเสียหาย ภายในรถพบนายสุเมธ ศิริคุณโชติ อายุ 69 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถามตอบรู้เรื่อง โดยรถคันดังกล่าวตกลงมาจากชั้น 2 ของอาคารจอดรถ เนื่องจากกำแพงด้านบนอาคาร มีร่องรอยเฉี่ยวชนกำแพงพังเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวนายสุเมธ ส่งรักษาตัวที่รพ.เจ้าพระยา เป็นการด่วน

    จากการสอบสวน นายสุเมธคนขับให้การว่า สาเหตุเกิดจากเพราะเหยียบคันเร่งแทนเหยียบเบรค จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น

    เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และรอสอบปากคำผู้ขับขี่เพิ่มเติม ก่อนประสานเจ้าของอาคารมาไกล่เกลี่ยเพื่อชดใช้ค่าเสียหายดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

    #MGROnline #ย่านบางกอกน้อย #อาคารจอดรถ
    ชายวัย 69 ขับเก๋งพลาดเหยียบคันเร่งแทนเบรก รถพุ่งตกจากชั้น 2 ลานจอดในคอนโด ย่านบางกอกน้อย พังยับเยิน ส่วนคนขับบาดเจ็บเล็กน้อย • วันนี้ (4 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.พรรณพงศ์ จีนโน รอง สว.(สอบสวน) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์พลัดตกคอนโดมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณคอนโดรัตนโกสินทร์ไอซ์แลนด์​ แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.สน.บางยี่ขัน • ที่เกิดเป็นคอนโด สูง 39 ชั้น ตรวจสอบบริเวณอาคารจอดรถชั้นล่างสุด พบรถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นคิกซ์ สีขาว ทะเบียน ฌค 4004 กรุงเทพมหานคร สภาพพลิกคว่ำล้อชี้ฟ้า หลังคายุบพังยับเยินทั้งคัน ชนเข้ากับกำแพงมีรอยแตกร้าวเสียหาย ภายในรถพบนายสุเมธ ศิริคุณโชติ อายุ 69 ปี เป็นผู้ขับขี่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถามตอบรู้เรื่อง โดยรถคันดังกล่าวตกลงมาจากชั้น 2 ของอาคารจอดรถ เนื่องจากกำแพงด้านบนอาคาร มีร่องรอยเฉี่ยวชนกำแพงพังเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวนายสุเมธ ส่งรักษาตัวที่รพ.เจ้าพระยา เป็นการด่วน • จากการสอบสวน นายสุเมธคนขับให้การว่า สาเหตุเกิดจากเพราะเหยียบคันเร่งแทนเหยียบเบรค จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น • เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และรอสอบปากคำผู้ขับขี่เพิ่มเติม ก่อนประสานเจ้าของอาคารมาไกล่เกลี่ยเพื่อชดใช้ค่าเสียหายดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป • #MGROnline #ย่านบางกอกน้อย #อาคารจอดรถ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทนายบอสพอล" พาพยาน 20 ปาก "ดิไอคอน" ให้ปากคำดีเอสไอ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ซื้อขายสินค้าจริง แจงไม่มีการจัดฉากเพราะไม่คุ้มกับอนาคต

    วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 12.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป พาพยาน 20 คน ในฝั่ง "ดิไอคอน" เข้าพบ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ “กองคดีฮั้วประมูล” ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำยืนยันว่าดำเนินธุรกิจซื้อขายสินค้ากับบริษัทฯ จริง

    น.ส.มลญ่า (หนึ่งในพยาน) กล่าวว่า ตนและพยานจำนวนนึงเดินทางมาเป็นพยานให้กับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป แล้วยังคงทำธุรกิจขายสินค้ากับบริษัทฯ อยู่ เพื่อแสดงเหรียญอีกนึงด้านยืนยันความบริสุทธิ์กับตัวแทนทุกคน โดยส่วนตัวเคยได้รับความดูแลเป็นอย่างดีกับทางบริษัทฯ และบริษัทมีเมตตาถ่ายทอดวิชาการทำธุรกิจแบบออนไลน์ให้กับตนเองจนสามารถต่อยอดในหลายด้าน นำไปแบ่งปันความรู้ให้กับคนได้อีกจำนวนมาก ซึ่งตนเป็นคนสายธรรมะก็อยากตอบแทนบริษัทที่เคยช่วยเหลือตนมาก่อน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000106195

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    "ทนายบอสพอล" พาพยาน 20 ปาก "ดิไอคอน" ให้ปากคำดีเอสไอ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ซื้อขายสินค้าจริง แจงไม่มีการจัดฉากเพราะไม่คุ้มกับอนาคต • วันนี้ (4 พ.ย.) เวลา 12.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป พาพยาน 20 คน ในฝั่ง "ดิไอคอน" เข้าพบ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ “กองคดีฮั้วประมูล” ดีเอสไอ เพื่อให้ปากคำยืนยันว่าดำเนินธุรกิจซื้อขายสินค้ากับบริษัทฯ จริง • น.ส.มลญ่า (หนึ่งในพยาน) กล่าวว่า ตนและพยานจำนวนนึงเดินทางมาเป็นพยานให้กับ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป แล้วยังคงทำธุรกิจขายสินค้ากับบริษัทฯ อยู่ เพื่อแสดงเหรียญอีกนึงด้านยืนยันความบริสุทธิ์กับตัวแทนทุกคน โดยส่วนตัวเคยได้รับความดูแลเป็นอย่างดีกับทางบริษัทฯ และบริษัทมีเมตตาถ่ายทอดวิชาการทำธุรกิจแบบออนไลน์ให้กับตนเองจนสามารถต่อยอดในหลายด้าน นำไปแบ่งปันความรู้ให้กับคนได้อีกจำนวนมาก ซึ่งตนเป็นคนสายธรรมะก็อยากตอบแทนบริษัทที่เคยช่วยเหลือตนมาก่อน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000106195 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • แจ้งจับหมอดูฮวงจุ้ย หลังยายวัย 77 ปี ถูกหมอดูฮวงจุ้ยหลอกทำพิธี สูญ 66 ล้าน ทั้งโรยผงกระดูกผี แก้คุณไสย ลั่น หลงคำพูดจา ลั่น “ทำกับคนแก่ได้อย่างไร เงินที่เอาไปหมดจนเกลี้ยงบัญชี“

    วันนี้ (4 พ.ย.) เพจ “บิ๊กเกรียน” ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่คุณยายวัย 77 ปี ท่านหนึ่ง ถูกหลอก ดูฮวงจุ้ย และ ค่าเช่าวัตถุมงคล รวมทั้งค่าทำพิธีเป็นเงินสูงถึง 66 ล้าน โดยโพสต์ระบุว่า หมอดูฮวงจุ้ยช่องดังป้ายยาคุณยายกับลูกสาวรวม66ล้านบาทเกลี้ยงบัญชี โดยคุณยายวัย 77 ปีเห็น หมอดู ฮวงจุ้ย ในทีวีดิจิทัล ช่องดัง หลงเชื่อ เลยติดต่อให้มาดูฮวงจุ้ย ที่บ้าน เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2567 แค่เรียกมาดูแต่คุณยายกับลูกสาวเหมือนถูกป้ายยา โดนค่าต่างๆ เพื่อใช้ ดูฮวงจุ้ย และ ค่า วัตถุมงคล ค่าทำพิธี ครั้งแรกรวมแล้ว 1.3 ล้านบาท

    จากนั้น จ่ายยิบจ่ายย่อย หมอดูฮวงจุ้ย อ้างเป็นค่า ค่าทำพิธี 9 แสน ค่าภาษีอากร นำเข้า 6 แสน ค่าพระผงกระดูกผี 4.4 ล้าน ค่านิมนต์ ค่าพระทำพิธี 6 หมื่น ค่าพิธีล่มศาล 2 ล้าน ค่าซื้อที่ดิน สุสาน 4 แสน ค่าสิงห์ 2 ตัว 1.2 ล้าน โดยที่แพงสุด ค่าหินแกะสลักศักดิ์ นำเข้าจากเมื่องจีน 38 ล้านบาท แต่ไม่เห็นของ ซึ่งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม ยอมรวม จ่ายไป 66 ล้านบาท

    โดยคุณยาย เผยว่ามาทุกครั้ง ต้องโอนเงินจ่ายทุกครั้ง อ้างต้องปรับเปลี่ยน ฮวงจุ้ย แก้ คุณไสย ทำพิธีต่างๆ พอทวงถาม ว่าพิธีจะเริ่มเมื่อไร ของเซ่นไหว้ วัตถุ มงคลที่สั่งไปจะมาวันไหน กลับสร้างความไม่พอใจ ให้หมอดูฮวงจุ้นช่องดัง เกิดอารมณ์ เกรี้ยวกราด จึงรู้ว่า โดนหลอกแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000106138

    #MGROnline #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดูฮวงจุ้ย
    แจ้งจับหมอดูฮวงจุ้ย หลังยายวัย 77 ปี ถูกหมอดูฮวงจุ้ยหลอกทำพิธี สูญ 66 ล้าน ทั้งโรยผงกระดูกผี แก้คุณไสย ลั่น หลงคำพูดจา ลั่น “ทำกับคนแก่ได้อย่างไร เงินที่เอาไปหมดจนเกลี้ยงบัญชี“ • วันนี้ (4 พ.ย.) เพจ “บิ๊กเกรียน” ได้โพสต์ภาพเหตุการณ์ที่คุณยายวัย 77 ปี ท่านหนึ่ง ถูกหลอก ดูฮวงจุ้ย และ ค่าเช่าวัตถุมงคล รวมทั้งค่าทำพิธีเป็นเงินสูงถึง 66 ล้าน โดยโพสต์ระบุว่า หมอดูฮวงจุ้ยช่องดังป้ายยาคุณยายกับลูกสาวรวม66ล้านบาทเกลี้ยงบัญชี โดยคุณยายวัย 77 ปีเห็น หมอดู ฮวงจุ้ย ในทีวีดิจิทัล ช่องดัง หลงเชื่อ เลยติดต่อให้มาดูฮวงจุ้ย ที่บ้าน เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2567 แค่เรียกมาดูแต่คุณยายกับลูกสาวเหมือนถูกป้ายยา โดนค่าต่างๆ เพื่อใช้ ดูฮวงจุ้ย และ ค่า วัตถุมงคล ค่าทำพิธี ครั้งแรกรวมแล้ว 1.3 ล้านบาท • จากนั้น จ่ายยิบจ่ายย่อย หมอดูฮวงจุ้ย อ้างเป็นค่า ค่าทำพิธี 9 แสน ค่าภาษีอากร นำเข้า 6 แสน ค่าพระผงกระดูกผี 4.4 ล้าน ค่านิมนต์ ค่าพระทำพิธี 6 หมื่น ค่าพิธีล่มศาล 2 ล้าน ค่าซื้อที่ดิน สุสาน 4 แสน ค่าสิงห์ 2 ตัว 1.2 ล้าน โดยที่แพงสุด ค่าหินแกะสลักศักดิ์ นำเข้าจากเมื่องจีน 38 ล้านบาท แต่ไม่เห็นของ ซึ่งตลอดเดือนกุมภาพันธ์ถึงตุลาคม ยอมรวม จ่ายไป 66 ล้านบาท • โดยคุณยาย เผยว่ามาทุกครั้ง ต้องโอนเงินจ่ายทุกครั้ง อ้างต้องปรับเปลี่ยน ฮวงจุ้ย แก้ คุณไสย ทำพิธีต่างๆ พอทวงถาม ว่าพิธีจะเริ่มเมื่อไร ของเซ่นไหว้ วัตถุ มงคลที่สั่งไปจะมาวันไหน กลับสร้างความไม่พอใจ ให้หมอดูฮวงจุ้นช่องดัง เกิดอารมณ์ เกรี้ยวกราด จึงรู้ว่า โดนหลอกแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000106138 • #MGROnline #ตี่ลี่ฮวงจุ้ย #หมอดูฮวงจุ้ย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประมวลภาพ : ฌาปนกิจ "โสภณ องค์การณ์" สื่อมวลชนอาวุโส เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง

    บุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ และแฟนคลับแห่เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจ ส่งดวงวิญญาณ "โสภณ องค์การณ์" เป็นครั้งสุดท้าย เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะมาใครจะไป ชี้สื่อมวลชนไม่มีวันเกษียณ สิ่งที่ต้องมีคือความน่าเชื่อถือ

    วันนี้ (29 ต.ค.) ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ได้มีพิธีฌาปนกิจ นายโสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส อดีตบรรณาธิการบริหาร และผู้ดำเนินรายการ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนิวส์วัน ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่สถาบันประสาทวิทยา ถนนราชวิถี กรุงเทพฯ ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกที่ก้านสมอง รวมอายุได้ 75 ปี โดยมีบุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ เพื่อนร่วมงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งแฟนคลับที่ติดตามผลงานทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจอย่างเนืองแน่น เพื่อร่วมกันส่งดวงวิญญาณของนายโสภณเป็นครั้งสุดท้าย

    ภายในงานมีพิธีทอดผ้าบังสกุล อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ นายธะนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ อดีตประธานกรรมการเครือเนชั่น นายเทพชัย หย่อง อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และอดีตบรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กรุงเทพมหานคร นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต น.ส.สุดากาญจน์ กลีบบัว กรรมการบริหาร บริษัท พี.อี. คอนเทนเนอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายถังน้ำตราดอกบัว นายพันเทพ ชวาลา เป็นต้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000104288

    #MGROnline #โสภณองค์การณ์
    ประมวลภาพ : ฌาปนกิจ "โสภณ องค์การณ์" สื่อมวลชนอาวุโส เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง • บุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ และแฟนคลับแห่เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจ ส่งดวงวิญญาณ "โสภณ องค์การณ์" เป็นครั้งสุดท้าย เผยฝากให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง ไม่ว่าใครจะมาใครจะไป ชี้สื่อมวลชนไม่มีวันเกษียณ สิ่งที่ต้องมีคือความน่าเชื่อถือ • วันนี้ (29 ต.ค.) ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ ได้มีพิธีฌาปนกิจ นายโสภณ องค์การณ์ สื่อมวลชนอาวุโส อดีตบรรณาธิการบริหาร และผู้ดำเนินรายการ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมนิวส์วัน ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่สถาบันประสาทวิทยา ถนนราชวิถี กรุงเทพฯ ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกที่ก้านสมอง รวมอายุได้ 75 ปี โดยมีบุคคลในแวดวงสื่อมวลชน นักการเมือง นักธุรกิจ เพื่อนร่วมงานทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมทั้งแฟนคลับที่ติดตามผลงานทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ เข้าร่วมพิธีฌาปนกิจอย่างเนืองแน่น เพื่อร่วมกันส่งดวงวิญญาณของนายโสภณเป็นครั้งสุดท้าย • ภายในงานมีพิธีทอดผ้าบังสกุล อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ นายธะนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ อดีตประธานกรรมการเครือเนชั่น นายเทพชัย หย่อง อดีตนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และอดีตบรรณาธิการบริหารเครือเนชั่น นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กรุงเทพมหานคร นายเกียรติ สิทธีอมร อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต น.ส.สุดากาญจน์ กลีบบัว กรรมการบริหาร บริษัท พี.อี. คอนเทนเนอร์ ผู้ผลิตและจำหน่ายถังน้ำตราดอกบัว นายพันเทพ ชวาลา เป็นต้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000104288 • #MGROnline #โสภณองค์การณ์
    Love
    Like
    Yay
    Sad
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สามารถ” ชิงลาออกพ้นพรรค​ พปชร.​ เซ่นปมคลิปฉาว เรียกรับทรัพย์ดิไอคอน​ “ไพบูลย์” บอกยื่นตั้งแต่ 25 ต.ค.แต่ไม่ได้แจ้งพรรค

    วันนี้ (29 ต.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐรัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ถึงกรณี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช​ อดีตรองโฆษกพรรค พปชร.ถูกพาดพิงเรื่องคลิปเสียงคดีดิไอคอน ว่า นายสามารถ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต. ได้ส่งหนังสือลาออกมาแล้ว ยืนยันว่า นายสามารถ ลาออกเอง

    ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.เปิดเผยว่า นายสามารถ​ ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคต่​อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว​ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. โดยที่ไม่ได้แจ้งพรรค ขณะที่หนังสือลาออกได้มาถึงพรรคในวันนี้

    ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยในที่ประชุมพรรคได้มีการพูดคุยถึงนายสามารถ แต่เนื่องจากมีหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคของนายสามารถส่งมา พรรคจึงมีมติรับทราบ ทำให้พรรคไม่ต้องใช้มติพรรคในการขับนายสามารถ

    #MGROnline #พรรคพลังประชารัฐ
    “สามารถ” ชิงลาออกพ้นพรรค​ พปชร.​ เซ่นปมคลิปฉาว เรียกรับทรัพย์ดิไอคอน​ “ไพบูลย์” บอกยื่นตั้งแต่ 25 ต.ค.แต่ไม่ได้แจ้งพรรค • วันนี้ (29 ต.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐรัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ถึงกรณี นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช​ อดีตรองโฆษกพรรค พปชร.ถูกพาดพิงเรื่องคลิปเสียงคดีดิไอคอน ว่า นายสามารถ ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.แล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กกต. ได้ส่งหนังสือลาออกมาแล้ว ยืนยันว่า นายสามารถ ลาออกเอง • ด้าน นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร.เปิดเผยว่า นายสามารถ​ ได้ยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคต่​อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว​ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. โดยที่ไม่ได้แจ้งพรรค ขณะที่หนังสือลาออกได้มาถึงพรรคในวันนี้ • ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยในที่ประชุมพรรคได้มีการพูดคุยถึงนายสามารถ แต่เนื่องจากมีหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรคของนายสามารถส่งมา พรรคจึงมีมติรับทราบ ทำให้พรรคไม่ต้องใช้มติพรรคในการขับนายสามารถ • #MGROnline #พรรคพลังประชารัฐ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย (อย.) ได้เผยแพร่ผลการตรวจสอบองุ่นพันธุ์ไชน์มัสแคท (Shine Muscat) ที่สุ่มตัวอย่างจากตลาดภายในประเทศ พบว่ามีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐานถึง 95.8% จากตัวอย่างที่ตรวจสอบทั้งหมด 24 ตัวอย่าง

    รายงานระบุว่า ในจำนวนนี้ 9 ตัวอย่างถูกยืนยันว่าเป็นองุ่นนำเข้าจากประเทศจีน ส่วนอีก 15 ตัวอย่างยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน เหตุการณ์นี้ได้สร้างความกังวลในด้านความปลอดภัยของอาหารในหมู่ผู้บริโภคอย่างมาก

    องุ่นไชน์มัสแคทเป็นพันธุ์องุ่นที่ได้รับการพัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยรสชาติหวานหอมและเนื้อกรอบ ทำให้ได้รับความนิยมสูงในตลาดผลไม้พรีเมียม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “Hermès แห่งวงการองุ่น” ด้วยราคาที่สูงและคุณภาพที่โดดเด่น

    องุ่นไชน์มัสแคทได้รับการนำเข้าไปเพาะปลูกในหลายประเทศ รวมถึงจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในจีนที่มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกอย่างมาก ส่งผลให้ราคาขององุ่นพันธุ์นี้ลดลงตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม การเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนสุกเต็มที่ ทำให้ระดับความหวานไม่เพียงพอ และมีการใช้สารเคมีเพื่อเร่งการเติบโตของผลผลิต

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยอาหารในจีนระบุว่า ในกระบวนการปลูกองุ่นไชน์มัสแคทนั้น มีการใช้สารเคมีเพื่อควบคุมศัตรูพืชและโรคต่างๆ ประมาณ 5-10 ครั้งในช่วงการเจริญเติบโตขององุ่น โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นองุ่นกำลังออกดอกและมีผลอ่อน ทั้งนี้ หากใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและเว้นระยะห่างการเก็บเกี่ยวให้เหมาะสม จะทำให้สารเคมีตกค้างอยู่ในระดับที่ปลอดภัย โดยระยะห่างระหว่างการฉีดพ่นสารเคมีกับการเก็บเกี่ยวจะช่วยให้สารเคมีสลายตัวในระยะเวลาที่เหมาะสม

    นายหวังเฉียง ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์เกษตรจากจีนกล่าวว่า หากมีการใช้สารเคมีตามระเบียบที่กำหนด และเว้นระยะเวลาการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม สารตกค้างในองุ่นไชน์มัสแคทจะไม่เกินมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการบริโภค โดยเสริมว่า "สารเคมีหลายชนิดมีครึ่งชีวิต (half-life) ที่สลายตัวภายใน 7-14 วัน และสามารถถูกชะล้างออกไปด้วยน้ำฝนหรือแสงแดด ซึ่งจะช่วยลดสารตกค้างได้"

    #MGROnline #องุ่นไชน์มัสแคท
    สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของไทย (อย.) ได้เผยแพร่ผลการตรวจสอบองุ่นพันธุ์ไชน์มัสแคท (Shine Muscat) ที่สุ่มตัวอย่างจากตลาดภายในประเทศ พบว่ามีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐานถึง 95.8% จากตัวอย่างที่ตรวจสอบทั้งหมด 24 ตัวอย่าง • รายงานระบุว่า ในจำนวนนี้ 9 ตัวอย่างถูกยืนยันว่าเป็นองุ่นนำเข้าจากประเทศจีน ส่วนอีก 15 ตัวอย่างยังไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้อย่างชัดเจน เหตุการณ์นี้ได้สร้างความกังวลในด้านความปลอดภัยของอาหารในหมู่ผู้บริโภคอย่างมาก • องุ่นไชน์มัสแคทเป็นพันธุ์องุ่นที่ได้รับการพัฒนาจากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยรสชาติหวานหอมและเนื้อกรอบ ทำให้ได้รับความนิยมสูงในตลาดผลไม้พรีเมียม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “Hermès แห่งวงการองุ่น” ด้วยราคาที่สูงและคุณภาพที่โดดเด่น • องุ่นไชน์มัสแคทได้รับการนำเข้าไปเพาะปลูกในหลายประเทศ รวมถึงจีนและเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้ปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในจีนที่มีการขยายพื้นที่เพาะปลูกอย่างมาก ส่งผลให้ราคาขององุ่นพันธุ์นี้ลดลงตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม การเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนสุกเต็มที่ ทำให้ระดับความหวานไม่เพียงพอ และมีการใช้สารเคมีเพื่อเร่งการเติบโตของผลผลิต • นักวิจัยด้านความปลอดภัยอาหารในจีนระบุว่า ในกระบวนการปลูกองุ่นไชน์มัสแคทนั้น มีการใช้สารเคมีเพื่อควบคุมศัตรูพืชและโรคต่างๆ ประมาณ 5-10 ครั้งในช่วงการเจริญเติบโตขององุ่น โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นองุ่นกำลังออกดอกและมีผลอ่อน ทั้งนี้ หากใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและเว้นระยะห่างการเก็บเกี่ยวให้เหมาะสม จะทำให้สารเคมีตกค้างอยู่ในระดับที่ปลอดภัย โดยระยะห่างระหว่างการฉีดพ่นสารเคมีกับการเก็บเกี่ยวจะช่วยให้สารเคมีสลายตัวในระยะเวลาที่เหมาะสม • นายหวังเฉียง ผู้เชี่ยวชาญด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์เกษตรจากจีนกล่าวว่า หากมีการใช้สารเคมีตามระเบียบที่กำหนด และเว้นระยะเวลาการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม สารตกค้างในองุ่นไชน์มัสแคทจะไม่เกินมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการบริโภค โดยเสริมว่า "สารเคมีหลายชนิดมีครึ่งชีวิต (half-life) ที่สลายตัวภายใน 7-14 วัน และสามารถถูกชะล้างออกไปด้วยน้ำฝนหรือแสงแดด ซึ่งจะช่วยลดสารตกค้างได้" • #MGROnline #องุ่นไชน์มัสแคท
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายรัชพล ศิริสาคร เผย ไม่หนักใจกระแสข่าว ทนายตั้มเรียกรัยเงินบอสพอล ชี้ เป็นเรื่องปกติ ทนายเรียกเงินให้ลูกความ แคลงใจ ทำไมตำรวจไม่ตั้งข้อหา แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง

    วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดใจถึงกรณีกระแสข่าวทนายต้้มเรียกรับเงินบอสพอล ว่า เบื้องต้นตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน มาทราบอีกทีเมื่อมีข่าว แต่ถึงอย่างไรพอทราบเรื่อง ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ หรือคิดอะไรมาก เพราะทราบว่าเป็นการเรียกเงินเพื่อนำมาให้ผู้เสียหาย เพราะว่ามันเป็นการทำงานของทนายความในการที่จะไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีสามารถที่จะตกลงกันได้ หรือว่าชดใช้ค่าเสียหายเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องดูเป็นเป็นรายละเอียดไป

    และสำหรับประเด็นตอนที่ทนายตั้ม ประสานมาช่วยงาน ตอนนั้นตนอยู่ต่างประเทศ ก็ได้รับการประสานจากทนายตั้ม พอเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็ได้เดินทางไปช่วยทันที เพราะทนายตั้มแจ้งว่าเป็นเคสใหญ่ มีผู้เสียหายกว่า 100 คน จึงได้ไปช่วยดูแลให้คำแนะนำผู้เสียหายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปบ้าง

    ทนายรัชพล ยังบอกอีกว่า มีประเด็นที่น่ากังวลใจ คือ เรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา บอสแต่ละคนซึ่งมีการแจ้งข้อกล่าวหา ข้อหาฉ้อโกง ประชาชน และข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละบอสออกมาแถลงข่าวว่าตนเองเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ แต่เมื่อใดถ้าเกิดขึ้นศาล แล้วพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นบอสจริง ก็อาจจะหลุดข้อหาได้ และตั้งข้อสงสัยว่าทำไมกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ตั้งข้อหาเอาผิดเรื่อง แชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง ซึ่งเป็นประเด็นที่เห็นชัดอยู่แล้ว

    #MGROnline #ทนายรัชพล #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    ทนายรัชพล ศิริสาคร เผย ไม่หนักใจกระแสข่าว ทนายตั้มเรียกรัยเงินบอสพอล ชี้ เป็นเรื่องปกติ ทนายเรียกเงินให้ลูกความ แคลงใจ ทำไมตำรวจไม่ตั้งข้อหา แชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง • วันนี้ (28 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายรัชพล ศิริสาคร เปิดใจถึงกรณีกระแสข่าวทนายต้้มเรียกรับเงินบอสพอล ว่า เบื้องต้นตนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน มาทราบอีกทีเมื่อมีข่าว แต่ถึงอย่างไรพอทราบเรื่อง ก็ไม่ได้รู้สึกตกใจ หรือคิดอะไรมาก เพราะทราบว่าเป็นการเรียกเงินเพื่อนำมาให้ผู้เสียหาย เพราะว่ามันเป็นการทำงานของทนายความในการที่จะไกล่เกลี่ยให้คู่กรณีสามารถที่จะตกลงกันได้ หรือว่าชดใช้ค่าเสียหายเป็นเรื่องปกติ แต่ว่าถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องดูเป็นเป็นรายละเอียดไป • และสำหรับประเด็นตอนที่ทนายตั้ม ประสานมาช่วยงาน ตอนนั้นตนอยู่ต่างประเทศ ก็ได้รับการประสานจากทนายตั้ม พอเดินทางกลับมาจากต่างประเทศก็ได้เดินทางไปช่วยทันที เพราะทนายตั้มแจ้งว่าเป็นเคสใหญ่ มีผู้เสียหายกว่า 100 คน จึงได้ไปช่วยดูแลให้คำแนะนำผู้เสียหายว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปบ้าง • ทนายรัชพล ยังบอกอีกว่า มีประเด็นที่น่ากังวลใจ คือ เรื่องการแจ้งข้อกล่าวหา บอสแต่ละคนซึ่งมีการแจ้งข้อกล่าวหา ข้อหาฉ้อโกง ประชาชน และข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่ละบอสออกมาแถลงข่าวว่าตนเองเป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์ แต่เมื่อใดถ้าเกิดขึ้นศาล แล้วพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นบอสจริง ก็อาจจะหลุดข้อหาได้ และตั้งข้อสงสัยว่าทำไมกรณีนี้เจ้าหน้าที่ไม่ตั้งข้อหาเอาผิดเรื่อง แชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรง ซึ่งเป็นประเด็นที่เห็นชัดอยู่แล้ว • #MGROnline #ทนายรัชพล #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัตตานี - ญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบร่วมกับเครือข่ายอ่านแถงการณ์ 20 ปีตากใบ ชี้ไม่พอใจ-หมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องยูเอ็น-ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใหม่

    วานนี้ (25 ต.ค.) เวลา 17.00 น. ที่ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนที่คดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จะหมดอายุความ ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พร้อมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ร่วมจัดงาน เช่น สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ รำลึก 20 ปี ตากใบ

    ad

    แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “คดีตากใบ: การสร้างความยุติธรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นต่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างสันติที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 คืออาชญากรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและไม่มีผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว

    “เป็นเวลา 20 ปีที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ผู้บงการกลับลอยนวลพ้นผิด ทำให้พี่น้องและญาติผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชน ปาตานี/ชายแดนภาคใต้ มีความไม่พอใจและหมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม”

    ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ในวาระครบรอบ 20 ปี แถลงการณ์ฉบับในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีความหมดอายุ จึงมีข้อเรียกร้องสำคัญดังนี้

    1.ให้รัฐบาลสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบ หรือขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน

    2.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง

    3.ให้รัฐบาลประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่าความล้มเหลวในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย

    “เราขอยืนยันข้อเรียกร้องเหล่านี้ ด้วยเจตจำนงที่มุ่งมั่นและเปิดกว้างต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลและผู้บริหารข้าราชการในพื้นที่ โดยเรามีความเชื่อมั่นว่า การแสวงหาความยุติธรรมในกรณีนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการลงโทษผู้กระทำผิด แต่คือการสร้างระบบที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ

    “เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและ ความเท่าเทียมของทุกฝ่าย”

    #MGROnline #ตากใบ
    ปัตตานี - ญาติผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบร่วมกับเครือข่ายอ่านแถงการณ์ 20 ปีตากใบ ชี้ไม่พอใจ-หมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม เรียกร้องยูเอ็น-ศาลอาญาระหว่างประเทศเข้ามาตรวจสอบ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงใหม่ วานนี้ (25 ต.ค.) เวลา 17.00 น. ที่ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ก่อนที่คดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2547 จะหมดอายุความ ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์พร้อมกับเครือข่ายภาคประชาสังคมที่ร่วมจัดงาน เช่น สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ รำลึก 20 ปี ตากใบ ad แถลงการณ์ดังกล่าว ระบุว่า “คดีตากใบ: การสร้างความยุติธรรมและความรับผิดชอบร่วมกัน” โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นต่อประชาชนผู้ชุมนุมอย่างสันติที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2547 คืออาชญากรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและไม่มีผู้รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนดังกล่าว “เป็นเวลา 20 ปีที่ประชาชนไม่ได้รับความยุติธรรม แต่ผู้บงการกลับลอยนวลพ้นผิด ทำให้พี่น้องและญาติผู้สูญเสีย รวมถึงประชาชน ปาตานี/ชายแดนภาคใต้ มีความไม่พอใจและหมดศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม” ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์จากเหตุการณ์ที่ตากใบ ในวาระครบรอบ 20 ปี แถลงการณ์ฉบับในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีความหมดอายุ จึงมีข้อเรียกร้องสำคัญดังนี้ 1.ให้รัฐบาลสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบ หรือขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน 2.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและเป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง 3.ให้รัฐบาลประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่าความล้มเหลวในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของไทย “เราขอยืนยันข้อเรียกร้องเหล่านี้ ด้วยเจตจำนงที่มุ่งมั่นและเปิดกว้างต่อผู้มีอำนาจในรัฐบาลและผู้บริหารข้าราชการในพื้นที่ โดยเรามีความเชื่อมั่นว่า การแสวงหาความยุติธรรมในกรณีนี้ ไม่ใช่เพียงเรื่องของการลงโทษผู้กระทำผิด แต่คือการสร้างระบบที่เข้มแข็งเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประเทศชาติ “เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความยุติธรรมที่แท้จริง พร้อมทั้งสร้างความเปลี่ยนแปลงในการบริหารจัดการในพื้นที่ภาคใต้ ที่เคารพต่อสิทธิมนุษยชนและ ความเท่าเทียมของทุกฝ่าย” #MGROnline #ตากใบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจคุม "นัตตี้" ยูทูบเบอร์ดัง พร้อมมารดา ถึงสนามบินดอนเมือง หลังหนีคดีโกงเทรดหุ้น 2 พันล้านกบดานอินโดฯ ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

    วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว น.ส.สุชาตา คงจักร์หรือ นัตตี้ อายุ 31 ปี และนางธานิยา คงจักร์ อายุ 66 ปี มารดาของนัทตี้ ผู้ต้องหาคดีหลอกลงทุนเทรดหุ้นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท เดินทางถึงประเทศไทย หลังถูกจับกุมตัวได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2, พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมแถลงผลการจับกุม

    สืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ได้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ณ ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับเน็ตไอดอลสาว ชื่อ น.ส.สุชาตา คงจักร์ หรือ นัตตี้ Nutty Diary ยูทูบเบอร์ชื่อดัง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท และมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 6,000 คน ซึ่งในเวลาต่อมาจำนวนผู้เสียหายได้เพิ่มขึ้น และมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายหน่วยงาน เช่น บช.สอท. และสถานีตำรวจในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000102950

    #MGROnline #NuttyDiary #เทรดหุ้น
    ตำรวจคุม "นัตตี้" ยูทูบเบอร์ดัง พร้อมมารดา ถึงสนามบินดอนเมือง หลังหนีคดีโกงเทรดหุ้น 2 พันล้านกบดานอินโดฯ ส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย • วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว น.ส.สุชาตา คงจักร์หรือ นัตตี้ อายุ 31 ปี และนางธานิยา คงจักร์ อายุ 66 ปี มารดาของนัทตี้ ผู้ต้องหาคดีหลอกลงทุนเทรดหุ้นมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท เดินทางถึงประเทศไทย หลังถูกจับกุมตัวได้ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยมี พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2, พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. และ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมแถลงผลการจับกุม • สืบเนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ได้มีผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ณ ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง , กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อดำเนินคดีกับเน็ตไอดอลสาว ชื่อ น.ส.สุชาตา คงจักร์ หรือ นัตตี้ Nutty Diary ยูทูบเบอร์ชื่อดัง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท และมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 6,000 คน ซึ่งในเวลาต่อมาจำนวนผู้เสียหายได้เพิ่มขึ้น และมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกหลายหน่วยงาน เช่น บช.สอท. และสถานีตำรวจในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000102950 • #MGROnline #NuttyDiary #เทรดหุ้น
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรรชัย ต่อสายเคลียร์ สนธิ
    .
    จากกรณที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวตอนหนึ่งในรายการ sondhitalk ระบุว่า หนุ่ม กรรชัย ต้องระวัง ไม่ใช่ใครให้เงินซี้ซั้ว ให้เขาออกรายการฟอกตัว อย่าพลาดนะ เพราะช่วงหลังเริ่มหลงตัวเอง คุณกับผมรู้จักกันดี คุณมีคุณูปการกับสังคม เช่น กรณีของดิไอคอน ตนชื่นชม แต่การเอานายษิทรา (นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม) มาฟอกแบบนี้ มันด้อยค่า ทำให้ตนมองคุณหนุ่มด้อยลงไปเยอะมาก
    .
    ทั้งนี้ นายษิทรา หรือทนายต้ม และนายสนธิ มีข้อพิพาทกัน หลังจากที่ทนายตั้มออกรายการโหนกระแสเคลียร์ดราม่าเรื่องเป็นทนายสีเทา โดยช่วงหนึ่งบอกว่า ตนได้มีการรับเงิน 71 ล้าน จากลูกความมหาเศรษฐี จนเกิดการท้าทายใครหน้าแหกกินเยี่ยว 71 แก้วนั้น
    .
    เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนุ่ม กรรชัย ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ระบุว่า คุณสนธิและทนายตั้มไฟต์กันอยู่ ก็มีสะเก็ดระเบิดกระเด็นมาโดนผมด้วย เพราะทนายตั้มมาออกโหนกระแส และบางช่วงบางตอนที่คุณสนธิไลฟ์ บอกว่าทนายตั้มมาออกโหนกระแสเพื่อฟอกขาว
    .
    “ผมไม่สบายใจ ยืนยันว่าไม่รู้มาก่อนเลย ผมไม่รู้มาก่อนว่าทนายตั้มจะตอบเรื่องราวแบบนี้ แต่หลังจากที่คุณสนธิเปิดเรื่องมาแล้วว่าทนายตั้มได้รับเงิน 71 ล้านบาท ซึ่งทนายตั้มสวนมาคำหนึ่งที่คุณสนธิรู้สึกไม่โอเคมาก คือ ‘ไอ้ลิ้มมาเจอกูที่โหนกระแส’ ซึ่งทำให้คุณสนธิไม่โอเคมาก เหมือนเป็นการท้าทาย”
    .
    หนุ่ม กรรชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเรียน “ทนายตั้ม” ขอตำหนิหน่อย ว่าเรื่องนี้เป็นข้อพิพาทระหว่างสองคน หากจะไปดึงโหนกระแสไปเกี่ยวด้วย ทำให้มีประเด็นเกิดขึ้น เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่
    .
    “ผมได้ต่อสาย บอกว่าไม่ได้ฟอกขาว คุณสนธิบอกว่าไม่มีอะไรเลยหนุ่ม ที่อาพูดไปไม่ได้บอกว่าหนุ่มไปฟอกขาวให้เขา แต่ขอให้หนุ่มระวังว่าจะมีคนมาฟอกขาวในรายการ”
    .
    #MGRInfographics #หนุ่มกรรชัย #สนธิลิ้มทองกุล #ทนายตั้ม
    กรรชัย ต่อสายเคลียร์ สนธิ . จากกรณที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวตอนหนึ่งในรายการ sondhitalk ระบุว่า หนุ่ม กรรชัย ต้องระวัง ไม่ใช่ใครให้เงินซี้ซั้ว ให้เขาออกรายการฟอกตัว อย่าพลาดนะ เพราะช่วงหลังเริ่มหลงตัวเอง คุณกับผมรู้จักกันดี คุณมีคุณูปการกับสังคม เช่น กรณีของดิไอคอน ตนชื่นชม แต่การเอานายษิทรา (นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม) มาฟอกแบบนี้ มันด้อยค่า ทำให้ตนมองคุณหนุ่มด้อยลงไปเยอะมาก . ทั้งนี้ นายษิทรา หรือทนายต้ม และนายสนธิ มีข้อพิพาทกัน หลังจากที่ทนายตั้มออกรายการโหนกระแสเคลียร์ดราม่าเรื่องเป็นทนายสีเทา โดยช่วงหนึ่งบอกว่า ตนได้มีการรับเงิน 71 ล้าน จากลูกความมหาเศรษฐี จนเกิดการท้าทายใครหน้าแหกกินเยี่ยว 71 แก้วนั้น . เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนุ่ม กรรชัย ได้พูดถึงประเด็นดังกล่าวในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ระบุว่า คุณสนธิและทนายตั้มไฟต์กันอยู่ ก็มีสะเก็ดระเบิดกระเด็นมาโดนผมด้วย เพราะทนายตั้มมาออกโหนกระแส และบางช่วงบางตอนที่คุณสนธิไลฟ์ บอกว่าทนายตั้มมาออกโหนกระแสเพื่อฟอกขาว . “ผมไม่สบายใจ ยืนยันว่าไม่รู้มาก่อนเลย ผมไม่รู้มาก่อนว่าทนายตั้มจะตอบเรื่องราวแบบนี้ แต่หลังจากที่คุณสนธิเปิดเรื่องมาแล้วว่าทนายตั้มได้รับเงิน 71 ล้านบาท ซึ่งทนายตั้มสวนมาคำหนึ่งที่คุณสนธิรู้สึกไม่โอเคมาก คือ ‘ไอ้ลิ้มมาเจอกูที่โหนกระแส’ ซึ่งทำให้คุณสนธิไม่โอเคมาก เหมือนเป็นการท้าทาย” . หนุ่ม กรรชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเรียน “ทนายตั้ม” ขอตำหนิหน่อย ว่าเรื่องนี้เป็นข้อพิพาทระหว่างสองคน หากจะไปดึงโหนกระแสไปเกี่ยวด้วย ทำให้มีประเด็นเกิดขึ้น เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ . “ผมได้ต่อสาย บอกว่าไม่ได้ฟอกขาว คุณสนธิบอกว่าไม่มีอะไรเลยหนุ่ม ที่อาพูดไปไม่ได้บอกว่าหนุ่มไปฟอกขาวให้เขา แต่ขอให้หนุ่มระวังว่าจะมีคนมาฟอกขาวในรายการ” . #MGRInfographics #หนุ่มกรรชัย #สนธิลิ้มทองกุล #ทนายตั้ม
    Like
    Yay
    10
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1351 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในหลวง-พระราชินี ทรงวางพวงมาลา เนื่องในวันปิยมหาราช พุทธศักราช 2567
    .
    วันนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 17.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระลานพระราชวังดุสิต เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันปิยมหาราช พุทธศักราช 2567 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
    .
    ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย
    .
    เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระลานพระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียน เครื่องราชสักการะทองทิศ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองทิศ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ เสร็จแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันปิยมหาราช พุทธศักราช ๒๕๖๗ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
    .
    #MGROnline #วันปิยมหาราช
    ในหลวง-พระราชินี ทรงวางพวงมาลา เนื่องในวันปิยมหาราช พุทธศักราช 2567 . วันนี้ (23 ต.ค.) เมื่อเวลา 17.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน โดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปทรงวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระลานพระราชวังดุสิต เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันปิยมหาราช พุทธศักราช 2567 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง . ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โดยเสด็จในการนี้ด้วย . เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึงพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระลานพระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียน เครื่องราชสักการะทองทิศ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพวงมาลาส่วนพระองค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะทองทิศ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงวางพวงมาลาส่วนพระองค์ และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ทรงกราบ เสร็จแล้ว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศล วันปิยมหาราช พุทธศักราช ๒๕๖๗ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง . #MGROnline #วันปิยมหาราช
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ดร.ตฤณห์โพธิรักษา’ นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาฯ ม.มหิดล เจาะลึกพฤติกรรม ‘บอสพอล’ และ ‘บอสดารา’ ดิไอคอน กรุ๊ป พบจุดเด่น ‘บอสพอล’ จีเนียส คุมอารมณ์ได้เยี่ยม แต่มีอาการทั้ง ‘นาร์ซีซิสติก-ไซโคพาธี’ แถมอาการหัวเราะแบบ ‘Duchenne Smile’ ที่จริงใจและมีความสุขเขารู้คนเดียวว่าสุขจากเหตุใด หรือสะใจที่ทุกคนเป็นลูกไก่ในกำมือบีบเมื่อไหร่ตายเรียบ ชี้ถ้าสมองปกติ บอสพอลคือคนน่ากลัวมาก ส่วนบอสดารา ‘บอสมิน’ รู้ดีที่สุดเพราะมีประสบการณ์ตรง แถมมี Self-Esteem สูงอารมณ์เด่น ‘ไม่พอใจ โกรธ และเครียด’ ตามมา ‘บอสกันต์’ เครียดและกลัวการอวดรวยแค่ผลพลอยได้ ขณะที่ ‘บอสแซม’ รู้น้อยและไม่อยากรู้ ยืนยันบอสทั้ง 18 คน รู้หมดว่าทำอะไรอยู่ ‘ถูก-ผิด-เทา-ขาว-ดำ’ ระบุ 3 องค์ประกอบของการก่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000102025

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    ‘ดร.ตฤณห์โพธิรักษา’ นักอาชญาวิทยาเชิงจิตวิทยาฯ ม.มหิดล เจาะลึกพฤติกรรม ‘บอสพอล’ และ ‘บอสดารา’ ดิไอคอน กรุ๊ป พบจุดเด่น ‘บอสพอล’ จีเนียส คุมอารมณ์ได้เยี่ยม แต่มีอาการทั้ง ‘นาร์ซีซิสติก-ไซโคพาธี’ แถมอาการหัวเราะแบบ ‘Duchenne Smile’ ที่จริงใจและมีความสุขเขารู้คนเดียวว่าสุขจากเหตุใด หรือสะใจที่ทุกคนเป็นลูกไก่ในกำมือบีบเมื่อไหร่ตายเรียบ ชี้ถ้าสมองปกติ บอสพอลคือคนน่ากลัวมาก ส่วนบอสดารา ‘บอสมิน’ รู้ดีที่สุดเพราะมีประสบการณ์ตรง แถมมี Self-Esteem สูงอารมณ์เด่น ‘ไม่พอใจ โกรธ และเครียด’ ตามมา ‘บอสกันต์’ เครียดและกลัวการอวดรวยแค่ผลพลอยได้ ขณะที่ ‘บอสแซม’ รู้น้อยและไม่อยากรู้ ยืนยันบอสทั้ง 18 คน รู้หมดว่าทำอะไรอยู่ ‘ถูก-ผิด-เทา-ขาว-ดำ’ ระบุ 3 องค์ประกอบของการก่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000102025 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นอีกหนึ่งสาวที่มักจะเสิร์ฟรูปภาพสวยๆ ผ่านทางอินสตาแกรมให้ได้ติดตามอยู่บ่อยๆ สำหรับ "จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย" ที่เรียกได้ว่ามีมาให้เห็นหลากหลายมุมของชีวิตเลยก็ว่าได้

    ล่าสุดสาว "จันจิ" เล่นเอาอินสตาแกรมไฟลุก เมื่อเจ้าตัวออกมาเปิดโหมดเซ็กซี่ ด้วยการหยิบแฟชั่นสุดเซ็กซี่ ธีมนางฟ้าวิคตอเรีย อวดเอวเอสอกอึ๋มสวยฉ่ำงดงาม ทำแฟนคลับและเพื่อนดาราพาร้องว้าว เข้ามากดไลค์มือเป็นระวิงให้กับความแซ่บแบบเต็มตา จนอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่แล้ว

    #MGROnline #จันจิ #นางฟ้าวิคตอเรีย
    เป็นอีกหนึ่งสาวที่มักจะเสิร์ฟรูปภาพสวยๆ ผ่านทางอินสตาแกรมให้ได้ติดตามอยู่บ่อยๆ สำหรับ "จันจิ จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย" ที่เรียกได้ว่ามีมาให้เห็นหลากหลายมุมของชีวิตเลยก็ว่าได้ • ล่าสุดสาว "จันจิ" เล่นเอาอินสตาแกรมไฟลุก เมื่อเจ้าตัวออกมาเปิดโหมดเซ็กซี่ ด้วยการหยิบแฟชั่นสุดเซ็กซี่ ธีมนางฟ้าวิคตอเรีย อวดเอวเอสอกอึ๋มสวยฉ่ำงดงาม ทำแฟนคลับและเพื่อนดาราพาร้องว้าว เข้ามากดไลค์มือเป็นระวิงให้กับความแซ่บแบบเต็มตา จนอะไรมาฉุดก็ไม่อยู่แล้ว • #MGROnline #จันจิ #นางฟ้าวิคตอเรีย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • ๒๓ ตุลาคม วันปิยมหาราช
    น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕

    ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
    ข้าพระพุทธเจ้า บริษัท ไทย เวิลด์ มีเดีย จำกัด
    ๒๓ ตุลาคม วันปิยมหาราช น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า บริษัท ไทย เวิลด์ มีเดีย จำกัด
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • MGR Online - รองโฆษกราชทัณฑ์ เผยขั้นตอนครบกักโรคบอสหญิง 5 วัน ส่งควบคุมต่อแดนพิจารณาคดีแต่แยกคู่คดีออกจากกัน ส่วนเยี่ยมญาติวันแรก มีคนลงชื่อ 3 ราย หนึ่งในนั้น "แฟนบอสมิน"

    วันนี้ (22 ต.ค.) บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยหลังครบกำหนดกักโรค 5 วันของบอสหญิง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 7 ราย ว่า ผู้ต้องขังทั้งหมดจะย้ายไปที่แดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ส่วนเรื่องสุขภาพจิตใจยังไม่มีสิ่งใดต้องเฝ้าระวัง แต่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักระยะ โดย น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ "บอสมิน" ยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ค่อนข้างปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงขนาดปกติมากนักเพราะการเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็ต้องใช้เวลาพอสมควร

    นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ทางทัณฑสถานหญิงกลาง มีการให้เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในเรือนจำและเเนะนำการปรับตัวการใช้ชีวิต ยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ คอยดูแลเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะประจำอยู่แต่ละเรือนนอนเพื่อที่จะดูแลทั้งสุขภาพกายสุขภาพใจ อีกทั้งต้องดูทั้งความปลอดภัยและมาตรการการดูแล เช่น หากเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ก็จะให้อยู่ชั้นล่าง แต่ถ้าเป็นผู้ต้องขังตั้งครรภ์ก็จะให้อยู่ในส่วนที่เหมาะสมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ คงไม่ได้ให้บอสหญิงได้อยู่รวมกันทั้งหมด คงต้องแยกคู่คดีออกจากกัน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000101809

    #MGROnline #รองโฆษกราชทัณฑ์ #ทัณฑสถานหญิงกลาง #บอสดารา #บอสมิน #มินพีชญา #บอสพอล #ดิไอค่อน #ดิไอค่อนกรุ๊ป #ดิไอคอน
    MGR Online - รองโฆษกราชทัณฑ์ เผยขั้นตอนครบกักโรคบอสหญิง 5 วัน ส่งควบคุมต่อแดนพิจารณาคดีแต่แยกคู่คดีออกจากกัน ส่วนเยี่ยมญาติวันแรก มีคนลงชื่อ 3 ราย หนึ่งในนั้น "แฟนบอสมิน" • วันนี้ (22 ต.ค.) บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยหลังครบกำหนดกักโรค 5 วันของบอสหญิง บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำนวน 7 ราย ว่า ผู้ต้องขังทั้งหมดจะย้ายไปที่แดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ส่วนเรื่องสุขภาพจิตใจยังไม่มีสิ่งใดต้องเฝ้าระวัง แต่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักระยะ โดย น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ "บอสมิน" ยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ค่อนข้างปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงขนาดปกติมากนักเพราะการเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็ต้องใช้เวลาพอสมควร • นางกนกวรรณ เผยอีกว่า ทางทัณฑสถานหญิงกลาง มีการให้เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในเรือนจำและเเนะนำการปรับตัวการใช้ชีวิต ยังมีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ คอยดูแลเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะประจำอยู่แต่ละเรือนนอนเพื่อที่จะดูแลทั้งสุขภาพกายสุขภาพใจ อีกทั้งต้องดูทั้งความปลอดภัยและมาตรการการดูแล เช่น หากเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ก็จะให้อยู่ชั้นล่าง แต่ถ้าเป็นผู้ต้องขังตั้งครรภ์ก็จะให้อยู่ในส่วนที่เหมาะสมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ คงไม่ได้ให้บอสหญิงได้อยู่รวมกันทั้งหมด คงต้องแยกคู่คดีออกจากกัน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000101809 • #MGROnline #รองโฆษกราชทัณฑ์ #ทัณฑสถานหญิงกลาง #บอสดารา #บอสมิน #มินพีชญา #บอสพอล #ดิไอค่อน #ดิไอค่อนกรุ๊ป #ดิไอคอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศเช้านี้ปรับเพิ่มขึ้นรวม 3 ครั้ง รวม 150 บาท ตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นไปทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

    โดยสมาคมค้าทองคำ รายงานว่า เปิดตลาดเช้านี้เมื่อเวลา 09.04 น. ราคาทองขายปลีกในประเทศทรงตัวจากวานนี้ โดยทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 43,150 บาท ขายออกบาททองคำละ 43,250 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 42,372.20 บาท ขายออกบาททองคำละ 43,750 บาท

    จากนั้นทยอยปรับขึ้นรวม 3 ครั้ง ครั้งละ 50 บาท โดยเมื่อเวลา 11.13 น. ทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 43,300 บาท ขายออกบาททองคำละ 43,400 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 42,523.80 บาท ขายออกบาททองคำละ 43,900 บาท

    บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-time high ที่ระดับ 2,740 ดอลลาร์ เนื่องจากสถานการณ์ตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ UBS คาดว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและการคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,900 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า

    อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์จะแข็งค่าต่อเนื่อง และ Bond Yield พุ่งขึ้นกดดันราคาทองคำ ทำให้ราคาทองคำได้ปิดตลาดลบเล็กน้อย ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม

    ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ปรับตัวขึ้นแรงทะลุ 43,000 บาท และทำ All-time high อีกครั้งที่ราคา 43,250 บาท จากราคาทองคำโลกที่ทำ All-time high และเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว โดยเงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาค ตามแรงซื้อดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มราคาทองคำแท่งมีทิศทางปรับตัวขึ้น

    #MGROnline #ราคาทอง
    ราคาทอง (96.5%) ขายปลีกในประเทศเช้านี้ปรับเพิ่มขึ้นรวม 3 ครั้ง รวม 150 บาท ตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นไปทำสถิติใหม่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ • โดยสมาคมค้าทองคำ รายงานว่า เปิดตลาดเช้านี้เมื่อเวลา 09.04 น. ราคาทองขายปลีกในประเทศทรงตัวจากวานนี้ โดยทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 43,150 บาท ขายออกบาททองคำละ 43,250 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 42,372.20 บาท ขายออกบาททองคำละ 43,750 บาท • จากนั้นทยอยปรับขึ้นรวม 3 ครั้ง ครั้งละ 50 บาท โดยเมื่อเวลา 11.13 น. ทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาททองคำละ 43,300 บาท ขายออกบาททองคำละ 43,400 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาททองคำละ 42,523.80 บาท ขายออกบาททองคำละ 43,900 บาท • บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องทำ All-time high ที่ระดับ 2,740 ดอลลาร์ เนื่องจากสถานการณ์ตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มรุนแรง ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำ UBS คาดว่าสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางและการคาดการณ์ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,900 ดอลลาร์/ออนซ์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า • อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์จะแข็งค่าต่อเนื่อง และ Bond Yield พุ่งขึ้นกดดันราคาทองคำ ทำให้ราคาทองคำได้ปิดตลาดลบเล็กน้อย ส่วนกองทุน SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิม • ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ปรับตัวขึ้นแรงทะลุ 43,000 บาท และทำ All-time high อีกครั้งที่ราคา 43,250 บาท จากราคาทองคำโลกที่ทำ All-time high และเงินบาทอ่อนค่าอย่างรวดเร็ว โดยเงินบาทอ่อนค่าตามภูมิภาค ตามแรงซื้อดอลลาร์ ทำให้แนวโน้มราคาทองคำแท่งมีทิศทางปรับตัวขึ้น • #MGROnline #ราคาทอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
เรื่องราวเพิ่มเติม