• ขันติที่แท้จริง – ไม่ใช่แค่การอดพูด แต่คือการรู้ทันใจ

    ---

    1. อารมณ์ “อดพูดไม่ได้” คืออะไร?

    เป็นอาการของ ใจเปราะบาง

    เกิดจากแรงกระตุ้นภายในที่ไม่สามารถระงับคำพูดไม่เหมาะสมได้

    ---

    2. คนที่อดกลั้นไม่พูดเรื่องไม่ควรพูดได้

    กำลังเปลี่ยน จุดอ่อนทางใจ ให้กลายเป็น ความเข้มแข็งที่ลึกซึ้ง

    ไม่ใช่แค่ระงับปาก แต่คือการพัฒนาจิตใจให้มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ

    ---

    3. ความเข้มแข็งที่แท้จริงคืออะไร?

    ไม่ใช่การเก็บกดอารมณ์ หรืออึดอัดฝืนทน

    แต่คือ จิตที่สงบ ปลอดโปร่ง เย็น สบาย

    ใจที่ไม่ระเบิด เพราะไม่สะสมแรงอัด

    ---

    4. เป้าหมายของการฝึก “ขันติบารมี”

    > ไม่ใช่แค่ สกัดคำพูด แต่ต้อง รู้เท่าทันอารมณ์ข้างในด้วย

    สังเกตลมหายใจ:

    อึดอัดมากหรือน้อย?

    ลมหายใจต่อไปคลายลงหรือไม่?

    เมื่อเห็นว่าอารมณ์อึดอัด “ไม่เที่ยง”
    จิตจะเริ่มคลาย และไม่ต้อง “ฝืน” อีกต่อไป

    ---

    5. นิยามใหม่ของขันติบารมีแบบมีปัญญา:

    > คือ “สะกดใจได้” + “มีสติรู้ความไม่เที่ยง”
    นำไปสู่ใจที่วางเฉยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ฝืนกล้ำกลืน

    ---

    Essence สั้นๆ:

    ขันติบารมี ไม่ใช่แค่ฝืนเงียบ
    แต่คือการรู้เท่าทันอารมณ์ จนใจวางเฉยอย่างมีอิสรภาพ
    ขันติที่แท้จริง – ไม่ใช่แค่การอดพูด แต่คือการรู้ทันใจ --- 1. อารมณ์ “อดพูดไม่ได้” คืออะไร? เป็นอาการของ ใจเปราะบาง เกิดจากแรงกระตุ้นภายในที่ไม่สามารถระงับคำพูดไม่เหมาะสมได้ --- 2. คนที่อดกลั้นไม่พูดเรื่องไม่ควรพูดได้ กำลังเปลี่ยน จุดอ่อนทางใจ ให้กลายเป็น ความเข้มแข็งที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ระงับปาก แต่คือการพัฒนาจิตใจให้มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ --- 3. ความเข้มแข็งที่แท้จริงคืออะไร? ไม่ใช่การเก็บกดอารมณ์ หรืออึดอัดฝืนทน แต่คือ จิตที่สงบ ปลอดโปร่ง เย็น สบาย ใจที่ไม่ระเบิด เพราะไม่สะสมแรงอัด --- 4. เป้าหมายของการฝึก “ขันติบารมี” > ไม่ใช่แค่ สกัดคำพูด แต่ต้อง รู้เท่าทันอารมณ์ข้างในด้วย สังเกตลมหายใจ: อึดอัดมากหรือน้อย? ลมหายใจต่อไปคลายลงหรือไม่? เมื่อเห็นว่าอารมณ์อึดอัด “ไม่เที่ยง” จิตจะเริ่มคลาย และไม่ต้อง “ฝืน” อีกต่อไป --- 5. นิยามใหม่ของขันติบารมีแบบมีปัญญา: > คือ “สะกดใจได้” + “มีสติรู้ความไม่เที่ยง” นำไปสู่ใจที่วางเฉยอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ฝืนกล้ำกลืน --- Essence สั้นๆ: ขันติบารมี ไม่ใช่แค่ฝืนเงียบ แต่คือการรู้เท่าทันอารมณ์ จนใจวางเฉยอย่างมีอิสรภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 2สาว เดินผ่านกล้อง ดูแลตัวเองนะ
    2สาว เดินผ่านกล้อง ดูแลตัวเองนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มีเหตุผลกลใดมั่งไหมนะ
    ที่ใจจะแจ้งใจมิให้เหงา
    ใช้หักห้ามความรักทั้งหนักเบา
    ให้ทุเลาความหลงลดลงไป
    โอ้ดวงเอ๋ยดวงจิตจริตรัก
    ยากห้ามหักหัวอกอันหมกไหม้
    ครั้นพอหลงหลุดหลักไปรักใคร
    ก็ทุ่มใจจนหมดไม่ลดรา
    โดนเขาหลอกชอกช้ำอย่างซ้ำซาก
    ใจโดนฝากแผลรักเจ็บหนักหนา
    ไม่เคยหลาบไม่เคยจำในน้ำตา
    อันอาบหน้าเนืองนองมีร่องรอย
    มีเหตุผลแห่งใจอะไรนะ
    ที่ใจจะจ้องสู้มิรู้ถอย
    เจ็บมิจำทำเหมือนคนเลื่อนลอย
    เอาแต่คอยแคร์เขาอย่างเมามาย
    มีเหตุผลกลใดมั่งไหมนะ ที่ใจจะแจ้งใจมิให้เหงา ใช้หักห้ามความรักทั้งหนักเบา ให้ทุเลาความหลงลดลงไป โอ้ดวงเอ๋ยดวงจิตจริตรัก ยากห้ามหักหัวอกอันหมกไหม้ ครั้นพอหลงหลุดหลักไปรักใคร ก็ทุ่มใจจนหมดไม่ลดรา โดนเขาหลอกชอกช้ำอย่างซ้ำซาก ใจโดนฝากแผลรักเจ็บหนักหนา ไม่เคยหลาบไม่เคยจำในน้ำตา อันอาบหน้าเนืองนองมีร่องรอย มีเหตุผลแห่งใจอะไรนะ ที่ใจจะจ้องสู้มิรู้ถอย เจ็บมิจำทำเหมือนคนเลื่อนลอย เอาแต่คอยแคร์เขาอย่างเมามาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้นำเสนอคำศัพท์สำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ควรรู้ โดยให้คำอธิบายที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับ 10 คำที่มีความสำคัญในวงการ AI ได้แก่:

    1) Artificial Intelligence (AI) - ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบความฉลาดของมนุษย์ เช่น การตัดสินใจ การแปลภาษา และการเรียนรู้จากประสบการณ์

    2)Machine Learning - กระบวนการที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูลและพัฒนาตัวเอง

    3) Large Language Models (LLMs) - โมเดลภาษาใหญ่ที่ใช้การเรียนรู้ของเครื่องช่วยให้สื่อสารเหมือนมนุษย์

    4) Generative AI - AI ที่สามารถสร้างสิ่งใหม่ เช่น ภาพ เพลง หรือเนื้อหา

    5) Hallucinations - การที่ AI ให้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือไม่ตรงกับความจริง

    6) Responsible AI - หลักการในการพัฒนา AI ให้มีความปลอดภัยและยุติธรรม

    7) Multimodal Models - โมเดลที่ทำงานกับข้อมูลหลายรูปแบบพร้อมกัน เช่น ข้อความและภาพ

    8) Prompts - คำแนะนำหรือคำสั่งที่ใช้บอก AI ให้ทำงาน

    9) Copilots - ระบบช่วยเหลือส่วนตัวที่ใช้งานในโปรแกรมดิจิทัลต่าง ๆ

    10) Plugins - ส่วนเสริมที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับระบบ AI

    บทความยังเน้นถึงความสำคัญของการใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมโดยรวม คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft!

    https://news.microsoft.com/10-ai-terms/?OCID=lock-con2&msclkid=68c92cae3153103dcf824b5986a814df
    บทความนี้นำเสนอคำศัพท์สำคัญเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ควรรู้ โดยให้คำอธิบายที่เข้าใจง่ายเกี่ยวกับ 10 คำที่มีความสำคัญในวงการ AI ได้แก่: 1) Artificial Intelligence (AI) - ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบความฉลาดของมนุษย์ เช่น การตัดสินใจ การแปลภาษา และการเรียนรู้จากประสบการณ์ 2)Machine Learning - กระบวนการที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้จากข้อมูลและพัฒนาตัวเอง 3) Large Language Models (LLMs) - โมเดลภาษาใหญ่ที่ใช้การเรียนรู้ของเครื่องช่วยให้สื่อสารเหมือนมนุษย์ 4) Generative AI - AI ที่สามารถสร้างสิ่งใหม่ เช่น ภาพ เพลง หรือเนื้อหา 5) Hallucinations - การที่ AI ให้ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือไม่ตรงกับความจริง 6) Responsible AI - หลักการในการพัฒนา AI ให้มีความปลอดภัยและยุติธรรม 7) Multimodal Models - โมเดลที่ทำงานกับข้อมูลหลายรูปแบบพร้อมกัน เช่น ข้อความและภาพ 8) Prompts - คำแนะนำหรือคำสั่งที่ใช้บอก AI ให้ทำงาน 9) Copilots - ระบบช่วยเหลือส่วนตัวที่ใช้งานในโปรแกรมดิจิทัลต่าง ๆ 10) Plugins - ส่วนเสริมที่ช่วยเพิ่มความสามารถให้กับระบบ AI บทความยังเน้นถึงความสำคัญของการใช้งาน AI อย่างรับผิดชอบ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสังคมโดยรวม คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ของ Microsoft! https://news.microsoft.com/10-ai-terms/?OCID=lock-con2&msclkid=68c92cae3153103dcf824b5986a814df
    NEWS.MICROSOFT.COM
    10 AI terms everyone should know
    We help break down some AI buzzwords so you can better understand artificial intelligence and be part of the global conversation.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รัฐบาลทรัมป์ได้เสนอร่างงบประมาณปี 2026 ที่มีการลดงบประมาณของ NASA ลงถึง 20% หรือประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการวิทยาศาสตร์และความเป็นผู้นำด้านอวกาศของสหรัฐฯ

    ✅ การลดงบประมาณของ NASA:
    - งบประมาณของ NASA จะลดลงจาก 25 พันล้านดอลลาร์เหลือ 20 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในส่วนของ Science Mission Directorate
    - การลดงบประมาณนี้จะส่งผลให้โครงการวิทยาศาสตร์ เช่น Astrophysics, Planetary Science และ Earth Science ถูกลดงบประมาณลงถึง 50%

    ✅ โครงการที่อาจถูกยกเลิก:
    - Nancy Grace Roman Space Telescope ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับ Hubble และ James Webb อาจถูกยกเลิก
    - โครงการสำคัญอื่น ๆ เช่น Mars Sample Return และ DAVINCI Mission to Venus ก็อาจได้รับผลกระทบ

    ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ NASA:
    - การลดงบประมาณอาจนำไปสู่การปิดศูนย์ Goddard Space Flight Center ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 10,000 คน

    ✅ การตอบสนองของนักวิจารณ์:
    - นักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์เรียกการลดงบประมาณนี้ว่าเป็น "เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์" สำหรับโครงการวิทยาศาสตร์ของ NASA

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ℹ️ การรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศ:
    - สหรัฐฯ ควรพิจารณาเพิ่มงบประมาณเพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศและสนับสนุนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์

    ℹ️ การสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์:
    - ควรมีการสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้นพบใหม่ ๆ และการพัฒนาทางเทคโนโลยี

    ℹ️ การสื่อสารกับสาธารณะ:
    - NASA ควรสื่อสารกับสาธารณะเกี่ยวกับความสำคัญของโครงการวิทยาศาสตร์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลดงบประมาณ

    https://www.neowin.net/news/trump-white-houses-proposed-huge-nasa-budget-cut-could-decimate-american-space-leadership/
    รัฐบาลทรัมป์ได้เสนอร่างงบประมาณปี 2026 ที่มีการลดงบประมาณของ NASA ลงถึง 20% หรือประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการวิทยาศาสตร์และความเป็นผู้นำด้านอวกาศของสหรัฐฯ ✅ การลดงบประมาณของ NASA: - งบประมาณของ NASA จะลดลงจาก 25 พันล้านดอลลาร์เหลือ 20 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในส่วนของ Science Mission Directorate - การลดงบประมาณนี้จะส่งผลให้โครงการวิทยาศาสตร์ เช่น Astrophysics, Planetary Science และ Earth Science ถูกลดงบประมาณลงถึง 50% ✅ โครงการที่อาจถูกยกเลิก: - Nancy Grace Roman Space Telescope ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับ Hubble และ James Webb อาจถูกยกเลิก - โครงการสำคัญอื่น ๆ เช่น Mars Sample Return และ DAVINCI Mission to Venus ก็อาจได้รับผลกระทบ ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ NASA: - การลดงบประมาณอาจนำไปสู่การปิดศูนย์ Goddard Space Flight Center ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 10,000 คน ✅ การตอบสนองของนักวิจารณ์: - นักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์เรียกการลดงบประมาณนี้ว่าเป็น "เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์" สำหรับโครงการวิทยาศาสตร์ของ NASA == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ℹ️ การรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศ: - สหรัฐฯ ควรพิจารณาเพิ่มงบประมาณเพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศและสนับสนุนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ℹ️ การสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์: - ควรมีการสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้นพบใหม่ ๆ และการพัฒนาทางเทคโนโลยี ℹ️ การสื่อสารกับสาธารณะ: - NASA ควรสื่อสารกับสาธารณะเกี่ยวกับความสำคัญของโครงการวิทยาศาสตร์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลดงบประมาณ https://www.neowin.net/news/trump-white-houses-proposed-huge-nasa-budget-cut-could-decimate-american-space-leadership/
    WWW.NEOWIN.NET
    Trump White House's proposed huge NASA budget cut could "decimate American space leadership"
    A massive cut to the budget spending for NASA science research has been proposed by The White House that "could decimate American leadership in space".
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • Whisky ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้เล่นเกม Windows บน Mac ได้ฟรี กำลังจะหยุดพัฒนา เนื่องจากนักพัฒนาที่เป็นนักศึกษาเพียงคนเดียวได้ประกาศยุติโครงการนี้

    ✅ การทำงานของ Whisky:
    - Whisky ใช้ Apple Game Porting Toolkit (GPTK) และ Wine compatibility layer เพื่อรันเกม Windows บน macOS
    - เป็นตัวเลือกฟรีที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้งาน Mac ที่ต้องการเล่นเกม Windows

    ✅ การยุติโครงการ:
    - นักพัฒนาประกาศยุติโครงการเนื่องจากขาดความสนใจและไม่มีรายได้จากการทำงาน
    - Whisky จะไม่ได้รับการอัปเดตในอนาคต ยกเว้นในกรณีที่ macOS อัปเดตแล้วทำให้แอปใช้งานไม่ได้

    ✅ ความสัมพันธ์กับ CrossOver:
    - Whisky ถูกพัฒนาบนพื้นฐานของ CrossOver และไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ
    - นักพัฒนามองว่า Whisky มีความสัมพันธ์แบบ parasitic กับ CrossOver ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของ CrossOver

    ✅ โครงการในอนาคตของนักพัฒนา:
    - นักพัฒนากำลังมุ่งเน้นไปที่โครงการใหม่ เช่น การพอร์ตเกม Sonic Unleashed Recompiled ไปยัง macOS



    https://www.neowin.net/news/whisky-a-popular-tool-for-playing-windows-games-on-mac-is-almost-dead/
    Whisky ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่วยให้เล่นเกม Windows บน Mac ได้ฟรี กำลังจะหยุดพัฒนา เนื่องจากนักพัฒนาที่เป็นนักศึกษาเพียงคนเดียวได้ประกาศยุติโครงการนี้ ✅ การทำงานของ Whisky: - Whisky ใช้ Apple Game Porting Toolkit (GPTK) และ Wine compatibility layer เพื่อรันเกม Windows บน macOS - เป็นตัวเลือกฟรีที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้งาน Mac ที่ต้องการเล่นเกม Windows ✅ การยุติโครงการ: - นักพัฒนาประกาศยุติโครงการเนื่องจากขาดความสนใจและไม่มีรายได้จากการทำงาน - Whisky จะไม่ได้รับการอัปเดตในอนาคต ยกเว้นในกรณีที่ macOS อัปเดตแล้วทำให้แอปใช้งานไม่ได้ ✅ ความสัมพันธ์กับ CrossOver: - Whisky ถูกพัฒนาบนพื้นฐานของ CrossOver และไม่ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญ - นักพัฒนามองว่า Whisky มีความสัมพันธ์แบบ parasitic กับ CrossOver ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของ CrossOver ✅ โครงการในอนาคตของนักพัฒนา: - นักพัฒนากำลังมุ่งเน้นไปที่โครงการใหม่ เช่น การพอร์ตเกม Sonic Unleashed Recompiled ไปยัง macOS https://www.neowin.net/news/whisky-a-popular-tool-for-playing-windows-games-on-mac-is-almost-dead/
    WWW.NEOWIN.NET
    Whisky, a popular tool for playing Windows games on Mac, is almost dead
    The solo developer behind the popular open source tool Whisky, who was keeping the light burning, ends the project, and offers some suggestions.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple Maps บนเว็บได้ออกจากสถานะเบต้าและเปิดให้ใช้งานสำหรับทุกคน โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขยายการเข้าถึงบริการของ Apple

    ✅ การออกจากสถานะเบต้า:
    - Apple Maps บนเว็บเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2024 ในสถานะเบต้า และตอนนี้ได้ออกจากสถานะเบต้าแล้ว
    - ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Apple Maps บนเว็บได้ที่ maps.apple.com

    ✅ การรองรับอุปกรณ์มือถือ:
    - Apple Maps บนเว็บสามารถใช้งานได้ทั้งบน Android และ iPhone ซึ่งก่อนหน้านี้รองรับเฉพาะเดสก์ท็อปและแท็บเล็ต

    ✅ ฟีเจอร์ Look Around:
    - ฟีเจอร์ Look Around ช่วยให้ผู้ใช้งานสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงในมุมมองพาโนรามา 360 องศา โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านไอคอนกล้องส่องทางไกล

    ✅ ข้อจำกัดของฟีเจอร์:
    - ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น แผนที่ขนส่งอัตโนมัติ อาคาร 3D และการลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Apple เพื่อเข้าถึงสถานที่ที่บันทึกไว้ ยังไม่พร้อมใช้งาน

    https://www.neowin.net/news/apple-maps-on-the-web-leaves-beta-and-launches-with-support-for-mobile-devices/
    Apple Maps บนเว็บได้ออกจากสถานะเบต้าและเปิดให้ใช้งานสำหรับทุกคน โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขยายการเข้าถึงบริการของ Apple ✅ การออกจากสถานะเบต้า: - Apple Maps บนเว็บเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2024 ในสถานะเบต้า และตอนนี้ได้ออกจากสถานะเบต้าแล้ว - ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง Apple Maps บนเว็บได้ที่ maps.apple.com ✅ การรองรับอุปกรณ์มือถือ: - Apple Maps บนเว็บสามารถใช้งานได้ทั้งบน Android และ iPhone ซึ่งก่อนหน้านี้รองรับเฉพาะเดสก์ท็อปและแท็บเล็ต ✅ ฟีเจอร์ Look Around: - ฟีเจอร์ Look Around ช่วยให้ผู้ใช้งานสำรวจพื้นที่ใกล้เคียงในมุมมองพาโนรามา 360 องศา โดยสามารถเข้าถึงได้ผ่านไอคอนกล้องส่องทางไกล ✅ ข้อจำกัดของฟีเจอร์: - ฟีเจอร์บางอย่าง เช่น แผนที่ขนส่งอัตโนมัติ อาคาร 3D และการลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Apple เพื่อเข้าถึงสถานที่ที่บันทึกไว้ ยังไม่พร้อมใช้งาน https://www.neowin.net/news/apple-maps-on-the-web-leaves-beta-and-launches-with-support-for-mobile-devices/
    WWW.NEOWIN.NET
    Apple Maps on the web leaves beta and launches with support for mobile devices
    While Apple Maps previously worked only on desktop and tablet web browsers in beta, it now supports mobile devices.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • JUNE' 💗
    JUNE' 💗
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta Platforms ได้ประกาศเพิ่มสมาชิกใหม่สองคนเข้าสู่คณะกรรมการบริหาร ได้แก่ Dina Powell McCormick และ Patrick Collison โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับโครงสร้างและการขยายมุมมองของบริษัทในด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ

    ✅ การเพิ่มสมาชิกใหม่ในคณะกรรมการ:
    - Dina Powell McCormick เคยดำรงตำแหน่งรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในรัฐบาลของ Donald Trump และมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้นำที่ Goldman Sachs
    - Patrick Collison เป็น CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Stripe ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคที่มีชื่อเสียง และเคยเป็นสมาชิกของ Meta Advisory Group

    ✅ การขยายคณะกรรมการ:
    - Meta ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกในคณะกรรมการเป็น 15 คน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนานโยบายใหม่ ๆ

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Meta:
    - ก่อนหน้านี้ Meta ได้ยกเลิกโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงในสหรัฐฯ และยุติโครงการด้านความหลากหลาย

    ✅ ความคิดเห็นจาก Mark Zuckerberg:
    - Zuckerberg กล่าวถึงสมาชิกใหม่ว่า Dina มีประสบการณ์ในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและผู้ประกอบการ ส่วน Patrick มีความมุ่งมั่นในการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/meta-to-add-dina-powell-mccormick-patrick-collison-to-board
    Meta Platforms ได้ประกาศเพิ่มสมาชิกใหม่สองคนเข้าสู่คณะกรรมการบริหาร ได้แก่ Dina Powell McCormick และ Patrick Collison โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับโครงสร้างและการขยายมุมมองของบริษัทในด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ ✅ การเพิ่มสมาชิกใหม่ในคณะกรรมการ: - Dina Powell McCormick เคยดำรงตำแหน่งรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในรัฐบาลของ Donald Trump และมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้นำที่ Goldman Sachs - Patrick Collison เป็น CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Stripe ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคที่มีชื่อเสียง และเคยเป็นสมาชิกของ Meta Advisory Group ✅ การขยายคณะกรรมการ: - Meta ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกในคณะกรรมการเป็น 15 คน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนานโยบายใหม่ ๆ ✅ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Meta: - ก่อนหน้านี้ Meta ได้ยกเลิกโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงในสหรัฐฯ และยุติโครงการด้านความหลากหลาย ✅ ความคิดเห็นจาก Mark Zuckerberg: - Zuckerberg กล่าวถึงสมาชิกใหม่ว่า Dina มีประสบการณ์ในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและผู้ประกอบการ ส่วน Patrick มีความมุ่งมั่นในการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/meta-to-add-dina-powell-mccormick-patrick-collison-to-board
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta to add Dina Powell McCormick, Patrick Collison to board
    (Reuters) - Meta Platforms will add former Republican official Dina Powell McCormick and fintech firm Stripe's CEO Patrick Collison to its board, effective April 15, the social media company said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีอดีตพนักงาน OpenAI จำนวนสิบสองคนตัดสินใจยื่นเอกสารเพื่อสนับสนุนการฟ้องร้องของ Elon Musk ว่า OpenAI ควรรักษาสถานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรไว้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดการลงทุน แต่มันกลับทำให้เกิดคำถามว่าองค์กรยังยึดมั่นในเป้าหมายเดิมหรือไม่ Musk กล่าวหาว่า OpenAI หลุดจากเส้นทางเดิมที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเป็นการพัฒนา AI เพื่อมนุษยชาติแทนที่จะเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ

    เมื่อย้อนมาดูต้นเรื่อง OpenAI ก่อตั้งโดย Musk และ Sam Altman ในปี 2015 โดยมีเป้าหมายในการสร้าง AI อย่างมีความรับผิดชอบ แต่ Musk ออกจาก OpenAI ก่อนที่มันจะเติบโตเป็นองค์กรชั้นนำในเทคโนโลยี AI และต่อมาได้จัดตั้งบริษัท AI ของเขาเองชื่อ xAI ในปี 2023

    ✅ อดีตพนักงาน OpenAI สนับสนุน Musk ในคดีฟ้องร้อง อดีตพนักงาน 12 คนจาก OpenAI สนับสนุน Elon Musk ในความพยายามรักษาสถานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของ OpenAI

    ✅ ข้อกล่าวหาจาก Musk Musk อ้างว่า OpenAI ละเลยเป้าหมายเดิมและมุ่งเน้นที่ผลกำไร

    ✅ จุดประสงค์การเปลี่ยนแปลง OpenAI ชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลงมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มทรัพยากรเพื่อสนับสนุนเป้าหมายเดิม

    ✅ ความสำคัญของโครงสร้างองค์กร อดีตพนักงานระบุว่าการรักษาโครงสร้างองค์กรเดิมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ

    ℹ️ ข้อกังวลเรื่องเป้าหมาย การเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรอาจทำให้ OpenAI สูญเสียการควบคุม AI เพื่อประโยชน์สาธารณะ

    ℹ️ แรงกดดันด้านการลงทุน OpenAI ต้องเผชิญแรงกดดันในการระดมทุน 40 พันล้านเหรียญ ซึ่งอาจเร่งให้ต้องเปลี่ยนโครงสร้าง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/group-of-ex-openai-employees-back-musk039s-lawsuit-to-halt-openai-restructure
    มีอดีตพนักงาน OpenAI จำนวนสิบสองคนตัดสินใจยื่นเอกสารเพื่อสนับสนุนการฟ้องร้องของ Elon Musk ว่า OpenAI ควรรักษาสถานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรไว้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดการลงทุน แต่มันกลับทำให้เกิดคำถามว่าองค์กรยังยึดมั่นในเป้าหมายเดิมหรือไม่ Musk กล่าวหาว่า OpenAI หลุดจากเส้นทางเดิมที่ตั้งใจไว้ ซึ่งเป็นการพัฒนา AI เพื่อมนุษยชาติแทนที่จะเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เมื่อย้อนมาดูต้นเรื่อง OpenAI ก่อตั้งโดย Musk และ Sam Altman ในปี 2015 โดยมีเป้าหมายในการสร้าง AI อย่างมีความรับผิดชอบ แต่ Musk ออกจาก OpenAI ก่อนที่มันจะเติบโตเป็นองค์กรชั้นนำในเทคโนโลยี AI และต่อมาได้จัดตั้งบริษัท AI ของเขาเองชื่อ xAI ในปี 2023 ✅ อดีตพนักงาน OpenAI สนับสนุน Musk ในคดีฟ้องร้อง อดีตพนักงาน 12 คนจาก OpenAI สนับสนุน Elon Musk ในความพยายามรักษาสถานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรของ OpenAI ✅ ข้อกล่าวหาจาก Musk Musk อ้างว่า OpenAI ละเลยเป้าหมายเดิมและมุ่งเน้นที่ผลกำไร ✅ จุดประสงค์การเปลี่ยนแปลง OpenAI ชี้แจงว่าการเปลี่ยนแปลงมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มทรัพยากรเพื่อสนับสนุนเป้าหมายเดิม ✅ ความสำคัญของโครงสร้างองค์กร อดีตพนักงานระบุว่าการรักษาโครงสร้างองค์กรเดิมเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเป้าหมายเพื่อมนุษยชาติ ℹ️ ข้อกังวลเรื่องเป้าหมาย การเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรอาจทำให้ OpenAI สูญเสียการควบคุม AI เพื่อประโยชน์สาธารณะ ℹ️ แรงกดดันด้านการลงทุน OpenAI ต้องเผชิญแรงกดดันในการระดมทุน 40 พันล้านเหรียญ ซึ่งอาจเร่งให้ต้องเปลี่ยนโครงสร้าง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/group-of-ex-openai-employees-back-musk039s-lawsuit-to-halt-openai-restructure
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Group of ex-OpenAI employees back Musk's lawsuit to halt OpenAI restructure
    SAN FRANCISCO (Reuters) - A dozen former OpenAI employees filed a legal brief on Friday backing co-founder Elon Musk's lawsuit aimed at keeping the non-profit status of OpenAI, marking the latest development in the dispute over the future of the artificial intelligence firm.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการลงทุนครั้งสำคัญในบริษัท Safe Superintelligence (SSI) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI โดยมีบริษัทใหญ่เช่น Alphabet และ Nvidia เข้าร่วมลงทุน มาฟังกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง:

    SSI ได้รับการสนับสนุนจาก Alphabet และ Nvidia ซึ่งเป็นการแสดงถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสตาร์ทอัพที่พัฒนา AI ขั้นสูงที่ต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล Alphabet ยังได้ทำข้อตกลงผ่านแผนกคลาวด์คอมพิวติ้งของตนเพื่อขายชิปประมวลผล AI (TPUs) ให้กับ SSI ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานด้าน AI โดยเฉพาะ

    SSI ถูกประเมินมูลค่าล่าสุดที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ AI เนื่องจากความสำเร็จของ Sutskever ในการพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัย

    ✅ การลงทุนใน SSI Alphabet และ Nvidia ร่วมลงทุนใน SSI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever

    ✅ ข้อตกลงด้านชิปประมวลผล AI Alphabet ขายชิป TPUs ให้กับ SSI เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา AI

    ✅ มูลค่าของ SSI SSI ถูกประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพ AI ที่มีชื่อเสียง

    ℹ️ ความต้องการพลังการประมวลผล การพัฒนา AI ขั้นสูงต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับสตาร์ทอัพที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอ

    ℹ️ การแข่งขันในตลาดชิป AI ตลาดชิป AI มีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นหลักเช่น Nvidia, Alphabet และ Amazon ที่พัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/exclusive-alphabet-nvidia-invest-in-openai-co-founder-sutskever039s-ssi-source-says
    ข่าวนี้เล่าถึงการลงทุนครั้งสำคัญในบริษัท Safe Superintelligence (SSI) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever อดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ OpenAI โดยมีบริษัทใหญ่เช่น Alphabet และ Nvidia เข้าร่วมลงทุน มาฟังกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง: SSI ได้รับการสนับสนุนจาก Alphabet และ Nvidia ซึ่งเป็นการแสดงถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นในสตาร์ทอัพที่พัฒนา AI ขั้นสูงที่ต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล Alphabet ยังได้ทำข้อตกลงผ่านแผนกคลาวด์คอมพิวติ้งของตนเพื่อขายชิปประมวลผล AI (TPUs) ให้กับ SSI ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบมาเพื่อการทำงานด้าน AI โดยเฉพาะ SSI ถูกประเมินมูลค่าล่าสุดที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในวงการ AI เนื่องจากความสำเร็จของ Sutskever ในการพัฒนาโมเดล AI ที่ล้ำสมัย ✅ การลงทุนใน SSI Alphabet และ Nvidia ร่วมลงทุนใน SSI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้าน AI ที่ก่อตั้งโดย Ilya Sutskever ✅ ข้อตกลงด้านชิปประมวลผล AI Alphabet ขายชิป TPUs ให้กับ SSI เพื่อสนับสนุนการวิจัยและพัฒนา AI ✅ มูลค่าของ SSI SSI ถูกประเมินมูลค่าที่ 32 พันล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพ AI ที่มีชื่อเสียง ℹ️ ความต้องการพลังการประมวลผล การพัฒนา AI ขั้นสูงต้องการพลังการประมวลผลมหาศาล ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำหรับสตาร์ทอัพที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอ ℹ️ การแข่งขันในตลาดชิป AI ตลาดชิป AI มีการแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นหลักเช่น Nvidia, Alphabet และ Amazon ที่พัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/exclusive-alphabet-nvidia-invest-in-openai-co-founder-sutskever039s-ssi-source-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-Alphabet, Nvidia invest in OpenAI co-founder Sutskever's SSI, source says
    SAN FRANCISCO (Reuters) - Alphabet and Nvidia have joined prominent venture capital investors to back Safe Superintelligence (SSI), a startup co-founded by OpenAI's former chief scientist Ilya Sutskever that has quickly risen to become one of the most valuable artificial intelligence startups months after its launch, a source familiar with the matter said.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวใน Windows 11 ชื่อว่า Windows Recall ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีความสามารถในการบันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมที่ผู้ใช้ทำบนคอมพิวเตอร์ Copilot+ PC เพื่อให้สามารถค้นหากิจกรรมย้อนหลังได้ ฟีเจอร์นี้มีการเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย

    Microsoft ได้ประกาศว่าฟีเจอร์ Windows Recall จะเริ่มเปิดตัวในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้งาน Windows Insiders ใน Release Preview Channel โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหากิจกรรมที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้นผ่านการบันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว

    Microsoft ได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เช่น การให้ผู้ใช้เลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และการใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถกรองแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้บันทึกภาพหน้าจอ และสามารถลบภาพที่บันทึกไว้ได้

    ✅ Windows Recall คืออะไร ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่บันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมบน Copilot+ PC เพื่อช่วยค้นหากิจกรรมย้อนหลัง

    ✅ การเปิดตัวในรูปแบบพรีวิว Microsoft เริ่มเปิดตัว Windows Recall ในรูปแบบพรีวิวสำหรับ Windows Insiders ใน Release Preview Channel

    ✅ มาตรการความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล

    ℹ️ ความกังวลด้านความปลอดภัย ฟีเจอร์นี้อาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว

    ℹ️ การตอบรับจากผู้ใช้ ผู้ใช้มีความคิดเห็นที่หลากหลายต่อฟีเจอร์นี้ ตั้งแต่ชื่นชอบไปจนถึงวิจารณ์อย่างหนัก

    https://www.techspot.com/news/107508-windows-recall-finally-nearing-launch-microsoft-suggests.html
    ข่าวนี้เล่าถึงฟีเจอร์ใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวใน Windows 11 ชื่อว่า Windows Recall ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีความสามารถในการบันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมที่ผู้ใช้ทำบนคอมพิวเตอร์ Copilot+ PC เพื่อให้สามารถค้นหากิจกรรมย้อนหลังได้ ฟีเจอร์นี้มีการเลื่อนเปิดตัวหลายครั้งเนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย Microsoft ได้ประกาศว่าฟีเจอร์ Windows Recall จะเริ่มเปิดตัวในรูปแบบพรีวิวสำหรับผู้ใช้งาน Windows Insiders ใน Release Preview Channel โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหากิจกรรมที่เคยทำบนคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้นผ่านการบันทึกภาพหน้าจออย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์นี้ได้รับเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้และนักวิจัยด้านความปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงในการบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว Microsoft ได้พยายามแก้ไขปัญหาโดยเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เช่น การให้ผู้ใช้เลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และการใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถกรองแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้บันทึกภาพหน้าจอ และสามารถลบภาพที่บันทึกไว้ได้ ✅ Windows Recall คืออะไร ฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่บันทึกภาพหน้าจอของทุกกิจกรรมบน Copilot+ PC เพื่อช่วยค้นหากิจกรรมย้อนหลัง ✅ การเปิดตัวในรูปแบบพรีวิว Microsoft เริ่มเปิดตัว Windows Recall ในรูปแบบพรีวิวสำหรับ Windows Insiders ใน Release Preview Channel ✅ มาตรการความปลอดภัย ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้เอง และใช้ Windows Hello เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูล ℹ️ ความกังวลด้านความปลอดภัย ฟีเจอร์นี้อาจบันทึกข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น หมายเลขบัตรเครดิตและข้อมูลส่วนตัว ℹ️ การตอบรับจากผู้ใช้ ผู้ใช้มีความคิดเห็นที่หลากหลายต่อฟีเจอร์นี้ ตั้งแต่ชื่นชอบไปจนถึงวิจารณ์อย่างหนัก https://www.techspot.com/news/107508-windows-recall-finally-nearing-launch-microsoft-suggests.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Windows Recall is finally nearing launch, Microsoft suggests
    Microsoft wrote in a post yesterday that a preview version of Recall is being rolled out to Insiders in the Release Preview Channel on Windows 11, version...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ:

    Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา"

    ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้

    แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด

    ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger
    - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์

    ✅ การทำงานของแอป Nate
    - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า
    - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า

    ✅ การระดมทุนของ Nate
    - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์
    - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI
    - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI

    ℹ️ ผลกระทบต่อนักลงทุน
    - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง

    https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    Albert Saniger ผู้ก่อตั้งและอดีต CEO ของแอป Nate ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอปของเขาใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้าออนไลน์ แต่แท้จริงแล้วกลับใช้แรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้าในฟิลิปปินส์และโรมาเนีย มาฟังรายละเอียดกันค่ะ: Saniger เปิดตัวแอป Nate ในปี 2018 โดยโฆษณาว่าเป็นแอปที่ใช้ AI ในการทำงาน เช่น การกรอกข้อมูลการชำระเงินและการจัดส่งสินค้า รวมถึงการยืนยันการซื้อ แต่จากการสอบสวนของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พบว่าแอปนี้พึ่งพาแรงงานมนุษย์เป็นหลักในการดำเนินการซื้อสินค้า ซึ่งขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของ Saniger ที่ว่าแอปนี้ไม่ใช้ "บอทที่โง่เขลา" ในปี 2021 Saniger ได้สั่งให้ทีมวิศวกรของเขาพัฒนาบอทเพื่อช่วยดำเนินการซื้อสินค้า แต่บอทเหล่านี้ยังคงทำงานร่วมกับทีมมนุษย์ และไม่ได้เป็น AI ที่ทำงานอัตโนมัติอย่างที่โฆษณาไว้ แอป Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์จากนักลงทุนตั้งแต่เปิดตัว โดยในปี 2021 ระดมทุนได้ถึง 38 ล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2023 บริษัทถูกบังคับให้ขายทรัพย์สินหลังจากหมดเงินทุน ทำให้นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมด ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Albert Saniger - Saniger ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงจากการอ้างว่าแอป Nate ใช้ AI แต่แท้จริงแล้วใช้แรงงานมนุษย์ ✅ การทำงานของแอป Nate - แอป Nate โฆษณาว่าใช้ AI ในการดำเนินการซื้อสินค้า - แต่กลับพึ่งพาแรงงานมนุษย์ในศูนย์บริการลูกค้า ✅ การระดมทุนของ Nate - Nate ระดมทุนได้กว่า 50 ล้านดอลลาร์ - แต่ต้องขายทรัพย์สินในปี 2023 หลังหมดเงินทุน ℹ️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของ AI - กรณีนี้อาจทำให้ผู้คนตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่อ้างว่าใช้ AI ℹ️ ผลกระทบต่อนักลงทุน - นักลงทุนสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดจากการลงทุนใน Nate เนื่องจากข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง https://www.techspot.com/news/107510-founder-nate-app-faces-fraud-charge-using-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Founder of Nate app faces fraud charge for using "AI" that was really human call center workers
    Saniger launched the Nate app in 2018. It promises to act as a universal shopping cart that simplifies online shopping by enabling users to skip the checkout...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล

    Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี

    Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน

    การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน

    ✅ การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace
    - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71%
    - ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025

    ✅ การรับรองความปลอดภัย
    - Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High
    - การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง

    ✅ เป้าหมายของการลดราคา
    - Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล
    - คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน
    - การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์
    - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว

    ℹ️ ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT
    - การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง
    - อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย

    https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.html
    Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% เพื่อแข่งขันกับ Microsoft ในตลาดซอฟต์แวร์สำหรับรัฐบาล Google ได้ประกาศข้อตกลงใหม่ที่มุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล โดยเสนอราคาที่ลดลงอย่างมากสำหรับ Google Workspace Enterprise Plus และ Assured Controls Plus Editions ข้อตกลงนี้จะมีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 และคาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 3 ปี Google ยังเน้นย้ำถึงความปลอดภัยของระบบ โดย Google Workspace ได้รับการรับรอง FedRAMP High ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับระบบ IT ของรัฐบาล นอกจากนี้ Gemini ซึ่งเป็น AI Assistant ของ Google ก็ได้รับการรับรองนี้เช่นกัน การลดราคาครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังผลักดันการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT เพื่อประหยัดงบประมาณและลดความซ้ำซ้อน ✅ การลดราคาครั้งใหญ่ของ Google Workspace - Google ลดราคาชุดเครื่องมือ Google Workspace สำหรับหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ ถึง 71% - ข้อตกลงนี้มีผลจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2025 ✅ การรับรองความปลอดภัย - Google Workspace และ Gemini ได้รับการรับรอง FedRAMP High - การรับรองนี้ช่วยให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัยสูง ✅ เป้าหมายของการลดราคา - Google ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าในหน่วยงานรัฐบาล - คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณของรัฐบาลได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์ใน 3 ปี ℹ️ ความเสี่ยงด้านการแข่งขัน - การลดราคาครั้งนี้อาจเพิ่มแรงกดดันให้ Microsoft ต้องปรับกลยุทธ์ - การแข่งขันที่รุนแรงอาจส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมในระยะยาว ℹ️ ผลกระทบต่อการรวมศูนย์การจัดซื้อ IT - การรวมศูนย์การจัดซื้อ IT อาจลดความยืดหยุ่นของหน่วยงานรัฐบาลบางแห่ง - อาจเกิดความเสี่ยงหากระบบที่รวมศูนย์มีปัญหาด้านความปลอดภัย https://www.techspot.com/news/107516-google-undercuts-microsoft-71-workspace-discount-us-government.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google Workspace undercuts Microsoft offer with 71% discount for US government agencies
    Tony Orlando, GM of specialty sales for Google Public Sector, positioned Workspace as a secure, AI-powered alternative to Microsoft's offerings.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้ โดยใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งที่เคยใช้ในเทคโนโลยีโฮโลแกรมแบบเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสและโต้ตอบกับโฮโลแกรมได้โดยไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น การหมุนหรือการบีบโฮโลแกรมเหมือนที่ทำบนหน้าจอสมาร์ทโฟน

    การทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ เนื่องจากรู้สึกว่าการสัมผัสมีความแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า

    เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่มีศักยภาพในการนำไปใช้ในหลากหลายด้าน เช่น การศึกษาและพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่

    ✅ ความก้าวหน้าของโฮโลแกรมแบบ 3 มิติ
    - ทีมนักวิทยาศาสตร์พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้
    - ใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งเพื่อความปลอดภัย

    ✅ การทดลองและผลตอบรับ
    - ผู้เข้าร่วมการทดลองชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ
    - การสัมผัสให้ความรู้สึกแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า

    ✅ ศักยภาพในการใช้งาน
    - เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการนำไปใช้ในด้านการศึกษาและพิพิธภัณฑ์
    - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่

    ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา
    - เทคโนโลยียังต้องการการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความแม่นยำและความสมบูรณ์ของภาพ

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - การใช้งานในวงกว้างอาจต้องมีมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

    https://www.techspot.com/news/107514-touchable-3d-holograms-now-reality-world-first-breakthrough.html
    ทีมนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้ โดยใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งที่เคยใช้ในเทคโนโลยีโฮโลแกรมแบบเดิม การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสและโต้ตอบกับโฮโลแกรมได้โดยไม่เกิดอันตรายต่อร่างกาย เช่น การหมุนหรือการบีบโฮโลแกรมเหมือนที่ทำบนหน้าจอสมาร์ทโฟน การทดลองพบว่าผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ เนื่องจากรู้สึกว่าการสัมผัสมีความแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่มีศักยภาพในการนำไปใช้ในหลากหลายด้าน เช่น การศึกษาและพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่ ✅ ความก้าวหน้าของโฮโลแกรมแบบ 3 มิติ - ทีมนักวิทยาศาสตร์พัฒนาโฮโลแกรมแบบ 3 มิติที่สามารถสัมผัสได้ - ใช้วัสดุยืดหยุ่นแทนพื้นผิวแข็งเพื่อความปลอดภัย ✅ การทดลองและผลตอบรับ - ผู้เข้าร่วมการทดลองชื่นชอบการสัมผัสโฮโลแกรมมากกว่าการใช้เมาส์ 3 มิติ - การสัมผัสให้ความรู้สึกแม่นยำและเป็นธรรมชาติมากกว่า ✅ ศักยภาพในการใช้งาน - เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการนำไปใช้ในด้านการศึกษาและพิพิธภัณฑ์ - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโต้ตอบกับวัตถุในรูปแบบใหม่ ℹ️ ความท้าทายในการพัฒนา - เทคโนโลยียังต้องการการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความแม่นยำและความสมบูรณ์ของภาพ ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - การใช้งานในวงกว้างอาจต้องมีมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน https://www.techspot.com/news/107514-touchable-3d-holograms-now-reality-world-first-breakthrough.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Touchable 3D holograms are now a reality in world-first breakthrough
    As New Atlas explains, traditional holograms are created using swept volumetric displays. Images are projected at varying heights onto a rigid oscillating surface known as a diffuser...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • John Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

    ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ

    แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที

    ✅ การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง
    - John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ
    - ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง

    ✅ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ
    - ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้
    - โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ

    ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    - Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
    - ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ
    - การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว

    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้
    - ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์
    - การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา

    https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.html
    John Tucker ผู้ก่อตั้งบริษัท Secure Annex ได้ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขณะช่วยลูกค้าตรวจสอบความปลอดภัย โดยพบว่ามีส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะผ่าน URL โดยตรง ซึ่งเป็นวิธีที่มักใช้โดยผู้ไม่หวังดีเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์ คุกกี้ และ API การจัดการ ซึ่งเป็นระดับการเข้าถึงที่สูงผิดปกติ นอกจากนี้ โค้ดของส่วนขยายยังถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ แม้ว่าจะยังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าส่วนขยายเหล่านี้ขโมยข้อมูล แต่ก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจถูกใช้ในทางที่ผิด Tucker แนะนำให้ผู้ใช้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันที ✅ การค้นพบเครือข่ายส่วนขยาย Chrome ที่เสี่ยง - John Tucker ค้นพบส่วนขยาย Chrome ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจำนวน 35 รายการ - ส่วนขยายบางตัวไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store และต้องดาวน์โหลดผ่าน URL โดยตรง ✅ สิทธิ์การเข้าถึงที่ผิดปกติ - ส่วนขยายเหล่านี้ขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น แท็บเบราว์เซอร์และคุกกี้ - โค้ดของส่วนขยายถูกเข้ารหัสอย่างหนักเพื่อป้องกันการตรวจสอบ ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ - Tucker แนะนำให้ลบส่วนขยายเหล่านี้ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย - ส่วนขยายที่ไม่ได้แสดงใน Chrome Web Store อาจถูกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ - การขอสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอาจนำไปสู่การละเมิดความเป็นส่วนตัว ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ - ผู้ใช้ที่ติดตั้งส่วนขยายเหล่านี้อาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ - การเข้ารหัสโค้ดทำให้ยากต่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหา https://www.techspot.com/news/107515-researcher-uncovers-network-risky-chrome-extensions-over-4.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Researcher uncovers network of risky Chrome extensions with over 4 million installs
    John Tucker, founder of browser security firm Secure Annex, discovered the suspicious extensions while assisting a client who had installed one or more for security monitoring. The...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • จีนได้เปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิป โดยกำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป ซึ่งหมายความว่าชิปที่ผลิตในไต้หวันจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ที่จีนกำหนดสำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ ในขณะที่ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีดังกล่าว

    การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ เช่น Intel, GlobalFoundries และ Texas Instruments ซึ่งผลิตชิปในสหรัฐฯ และต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้

    นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของจีนในการสนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเอง รวมถึงการแสดงจุดยืนว่าจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน

    ✅ การเปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิปของจีน
    - กำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป
    - ชิปที่ผลิตในไต้หวันได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125%

    ✅ ผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์
    - บริษัทในสหรัฐฯ เช่น Intel และ Texas Instruments ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น
    - บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้

    ✅ จุดยืนของจีน
    - จีนแสดงจุดยืนว่าถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน
    - สนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อบริษัทในสหรัฐฯ
    - บริษัทในสหรัฐฯ อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตชิปเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

    ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ
    - อาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinas-new-semiconductor-rule-spares-taiwan-fabs-punishes-intel-globalfoundries-and-texas-instruments
    จีนได้เปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิป โดยกำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป ซึ่งหมายความว่าชิปที่ผลิตในไต้หวันจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ที่จีนกำหนดสำหรับสินค้าจากสหรัฐฯ ในขณะที่ชิปที่ผลิตในสหรัฐฯ จะต้องเสียภาษีดังกล่าว การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ เช่น Intel, GlobalFoundries และ Texas Instruments ซึ่งผลิตชิปในสหรัฐฯ และต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของจีนในการสนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเอง รวมถึงการแสดงจุดยืนว่าจีนถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน ✅ การเปลี่ยนแปลงกฎการนำเข้าชิปของจีน - กำหนดให้สถานที่ผลิตแผ่นเวเฟอร์เป็นตัวกำหนดประเทศต้นกำเนิดของชิป - ชิปที่ผลิตในไต้หวันได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้า 125% ✅ ผลกระทบต่อบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ - บริษัทในสหรัฐฯ เช่น Intel และ Texas Instruments ต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น - บริษัทในไต้หวัน เช่น TSMC และ UMC ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงนี้ ✅ จุดยืนของจีน - จีนแสดงจุดยืนว่าถือว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของตน - สนับสนุนบริษัทในไต้หวันและจีนเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ℹ️ ความเสี่ยงต่อบริษัทในสหรัฐฯ - บริษัทในสหรัฐฯ อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตชิปเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่สูงขึ้น - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ - อาจส่งผลต่อการเจรจาทางการค้าและความร่วมมือในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinas-new-semiconductor-rule-spares-taiwan-fabs-punishes-intel-globalfoundries-and-texas-instruments
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • เสียงเริ่มต้นของ Windows 95 ซึ่งมีความยาวเพียง 6 วินาที ได้รับการออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดังในยุค 90 เสียงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเสียงแจ้งเตือนว่าคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

    Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเป็นระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการนำเสนอ Graphical User Interface (GUI) ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น

    เสียงนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้าง โดย Eno ได้ออกแบบเสียงนี้บนคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Microsoft ในขณะนั้น

    ✅ การยกย่องเสียงเริ่มต้นของ Windows 95
    - เสียงนี้ได้รับการบันทึกใน National Recording Registry ของหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ
    - เป็นการยกย่องความสำคัญทางวัฒนธรรมของเสียง

    ✅ การออกแบบเสียงโดย Brian Eno
    - เสียงนี้ถูกออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีชื่อดัง
    - ใช้คอมพิวเตอร์ Mac ในการสร้างเสียง

    ✅ ความสำคัญของ Windows 95
    - Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์
    - นำเสนอ GUI ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น

    ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเสียง
    - การออกแบบเสียงที่มีความยาวเพียง 6 วินาทีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง
    - การใช้ Mac ในการสร้างเสียงอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องขัดแย้ง

    ℹ️ ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี
    - Windows 95 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการคอมพิวเตอร์
    - การบันทึกเสียงนี้ใน National Recording Registry ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในวัฒนธรรม

    https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-windows-95-startup-sound-has-been-immortalized-in-the-library-of-congress
    เสียงเริ่มต้นของ Windows 95 ซึ่งมีความยาวเพียง 6 วินาที ได้รับการออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีและโปรดิวเซอร์ชื่อดังในยุค 90 เสียงนี้ไม่ได้เป็นเพียงเสียงแจ้งเตือนว่าคอมพิวเตอร์พร้อมใช้งาน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเป็นระบบปฏิบัติการที่เปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการนำเสนอ Graphical User Interface (GUI) ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่ายขึ้น เสียงนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับการสร้าง โดย Eno ได้ออกแบบเสียงนี้บนคอมพิวเตอร์ Mac ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Microsoft ในขณะนั้น ✅ การยกย่องเสียงเริ่มต้นของ Windows 95 - เสียงนี้ได้รับการบันทึกใน National Recording Registry ของหอสมุดรัฐสภาสหรัฐฯ - เป็นการยกย่องความสำคัญทางวัฒนธรรมของเสียง ✅ การออกแบบเสียงโดย Brian Eno - เสียงนี้ถูกออกแบบโดย Brian Eno นักดนตรีชื่อดัง - ใช้คอมพิวเตอร์ Mac ในการสร้างเสียง ✅ ความสำคัญของ Windows 95 - Windows 95 เปิดตัวในปี 1995 และเปลี่ยนแปลงวงการคอมพิวเตอร์ - นำเสนอ GUI ที่ใช้งานง่าย ทำให้ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเสียง - การออกแบบเสียงที่มีความยาวเพียง 6 วินาทีต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์สูง - การใช้ Mac ในการสร้างเสียงอาจถูกมองว่าเป็นเรื่องขัดแย้ง ℹ️ ผลกระทบต่อวงการเทคโนโลยี - Windows 95 เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในวงการคอมพิวเตอร์ - การบันทึกเสียงนี้ใน National Recording Registry ช่วยเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในวัฒนธรรม https://www.tomshardware.com/software/windows/microsofts-windows-95-startup-sound-has-been-immortalized-in-the-library-of-congress
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Microsoft's Windows 95 startup sound has been immortalized in the Library of Congress
    The National Recording Registry has officially added the Windows 95 startup sound.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว